|กิตก์ วิเคราะหใ์ นกิตกิจจปจ จยั อ ปจจยั (ปฏสิ มฺภิทา, หิตกฺกโร, นิสสฺ โย, สกิ ขฺ า, วินโย, ปภโว) ปฏิ สํ ภชิ ชฺ ตีติ ปฏิสมภฺ ทิ า. (ปญ ญาใด) ยอมแตกฉาน ดี โดยตาง เหตุนัน้ (ปญญานัน้ ) ช่อื วา แตกฉาน ดโี ดยตาง หิตํ กโรตตี ิ หิตกฺกโร. (ชนใด) ยอ มทำ� ซ่งึ ประโยชน เก้ือกูล เหตุนัน้ (ชนชัน้ ) ช่อื วา ผูท�ำ ซ่งึ ประโยชนเก้อื กูล นิสสฺ าย นํ วสตตี ิ นิสสฺ โย. (ศษิ ย) ยอมอาศยั ซ่งึ อาจารยน ัน้ อยู เหตนุ ัน้ (อาจารยน ัน้ ) ช่อื วา เปนท่อี าศัยอยู (ของศิษย) สิกขฺ ิยตีติ สกิ ขฺ า. (ธรรมชาติใด) อันเขาศึกษา เหตนุ ัน้ (ธรรมชาตินัน้ ) ช่อื วา อันเขา ศึกษา สกิ ฺขนํ สิกขฺ า. ความศึกษา ช่อื วา สิกขา วเิ นติ เตนาติ วินโย. (บัณฑิต) ยอ มแนะน�ำ ดวยอบุ ายนัน้ เหตุนัน้ (อุบายนัน้ ) ช่อื วา เปน เคร่ืองแนะน�ำ (ของบัณฑติ ) ปมํ ภวติ เอตสฺมาติ ปภโว. (แมน ้�ำ) ยอ มเกดิ กอ น แตป ระเทศนัน่ เหตนุ ัน้ (ประเทศนัน่ ) ช่อื วา เปน แดนเกิดกอ น (แหง แมน้�ำ) 100
อิ ปจ จยั (อุทธ,ิ สนธฺ ิ, นธิ )ิ อุทกํ ทธาตีติ อทุ ธิ. (ประเทศใด) ยอ มทรงไว ซ่งึ น้�ำ เหตนุ ัน้ (ประเทศนัน้ ) ช่อื วา ผทู้ รง ไวซ ่ึงน้�ำ (ทะเล) สนฺธิยตีติ สนธฺ ิ. (วาจาใด) อันเขาตอ เหตนุ ัน้ (วาจานัน้ ) ช่อื วา อนั เขาตอ นิธิยตตี ิ นิธิ. (สมบตั ใิ ด) อนั เขาฝง ไว เหตุนัน้ (สมบัตินัน้ ) ช่อื วา อนั เขาฝงไว ณ ปจ จัย (กมฺมกาโร, โรโค, วาโห, ปาโก, โทโส, อาวาโส) กมฺมํ กโรตตี ิ กมฺมกาโร. (ชนใด) ยอ มกระท�ำ ซ่ึงกรรม เหตุนัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผกู ระทำ� ซ่ึงกรรม รุชฺชตีติ โรโค. (อาพาธใด) ยอ มเสยี ดแทง เหตนุ ัน้ (อาพาธนัน้ ) ช่อื วา ผเู สยี ดแทง วหิตพโฺ พติ วาโห. (ภาระใด) อนั เขา พงึ น�ำไป เหตนุ ัน้ (ภาระนัน้ ) ช่อื วา อนั เขาพงึ น�ำไป ปจนํ ปาโก. ความหงุ ช่อื วา ปากะ ทสุ ฺสติ เตนาติ โทโส. (ชนใด) ยอมประทษุ ราย ดว ยกิเลสนัน้ เหตนุ ัน้ (กเิ ลสนัน้ ) ช่ือวา เปน เคร่ืองประทษุ ราย (แหงชน) อาวสนตฺ ิ เอตฺถาติ อาวาโส. กิตก์| (ภิกษุ ท.) ยอมอาศัยอยู ในประเทศนัน่ เหตุนัน้ (ประเทศนัน่ ) ช่อื วา เปน ทอ่ี าศยั อยู (แหง ภกิ ษุ ท.) 101
|กิตก์ ตเว ปจจยั กาตเว เพ่อื อันท�ำ คนตฺ เว เพ่อื อันไป ปจ จัยนี้ลงในจตุตถีวิภตั ตินาม ติ ปจ จยั (มติ, สติ, สมปฺ ตฺติ, คต)ิ มญฺตีติ มต.ิ (ปญ ญาใด) ยอมรู เหตุนัน้ (ปญ ญานัน้ ) ช่ือวา ผรู ู มญฺ ติ เอตายาติ มต.ิ (ชน) ยอ มรู ดว ยปญ ญานัน่ เหตุนัน้ (ปญ ญานัน่ ) ช่ือวา เปน เหตุรู (แหง ชน) มนนํ มติ. ความรู ช่ือวา มติ สรตตี ิ สติ. (ธรรมชาตใิ ด) ยอ มระลึก เหตนุ ัน้ (ธรรมชาตินัน้ ) ช่อื วา ผูระลึก สรติ เอตายาติ สต.ิ (ชน) ยอมระลึกดวยธรรมชาตินั่น เหตุนั้น (ธรรมชาตินั่น) ช่ือวาเปน เหตุระลกึ (แหงชน) สรณํ สติ ความระลกึ ช่อื วา สติ สมปฺ ชฺชิตพฺพาติ สมฺปตฺต.ิ (ธรรมชาตใิ ด) อันเขาพึงถงึ พรอ ม เหตุนัน้ (ธรรมชาตนิ ัน้ ) ช่ือวา อันเขาพึงถงึ พรอม คจฺฉนตฺ ิ เอตถฺ าติ คติ. (ชน ท.) ยอมไป ในภูมินั่น เหตุนัน้ (ภูมินัน่ ) ช่ือวา เปนท่ีไป 102 (แหง ชน ท.)
ตุํ ปจ จยั กาตํุ เพ่อื จะทำ� คนฺตุํ เพ่ือจะไป ปจ จยั นี้ลงในปฐมาวภิ ตั ตแิ ละจตุตถีวภิ ตั ตนิ าม ยุ ปจจัย (เจตนา, โกธโน, โภชนํ, คมนํ, กรณํ, สวํ ณณฺ นา, สยนํ) เจตยตตี ิ เจตนา. (ธรรมชาตใิ ด) ยอมคดิ เหตนุ ัน้ (ธรรมชาตนิ ัน้ ) ช่ือวา ผคู ิด กุชฌฺ ติ สีเลนาติ โกธโน. (ชนใด) ยอ มโกรธ โดยปกติ เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูโกรธโดยปกติ ภุญชฺ ติ พพฺ นฺติ โภชนํ. (สิ่งใด) อนั เขา พงึ กิน เหตนุ ัน้ (ส่ิงนัน้ ) ช่ือวา อนั เขาพงึ กิน คจฉฺ ิยเตติ คมนํ. (อนั เขา) ยอ มไป เหตุนัน้ ช่อื วาความไป กโรติ เตนาติ กรณํ. (เขา) ยอมท�ำ ดวยส่ิงนัน้ เหตุนัน้ สิ่งนัน้ ช่ือวา เปนเคร่ืองท�ำ (แหงเขา) สวํ ณณฺ ิยติ เอตายาติ สํวณณฺ นา. (เน้ือความ) อันท่านยอมพรรณนาพรอม ดวยวาจานั่น เหตุนัน้ (วาจานนั่ ) ช่อื วา เปน เคร่อื งอนั ทา่ นพรรณนาพรอ ม (แหง เน้ือความ) สยนตฺ ิ เอตถฺ าติ สยนํ. (เขา ท.) ยอมนอนในท่ีนั่น เหตุนั้น (ที่นั่น) ช่ือวาเปนท่ีนอน (แหง เขา ท.) ยุ ปจจยั นี้ ถาลงหลงั ธาตทุ ี่มี ม และ ร เป็นที่สุด ให้แปลงเป็น อณ, ลง กิตก์| หลังธาตทุ มี่ ี ห เป็นท่สี ดุ ใหแ้ ปลงเป็น อณ หรือ อน, ถ้าลงหลังธาตุนอกนี้ ใหแ้ ปลงเป็น อน 103
|สมาส สมาส นามศัพทต งั้ แต ๒ บทข้นึ ไป ทยี่ อเขาเปนบทเดยี วกนั เรยี กวา สมาส สมาส วาโดยกิจมี ๒ อยาง คือ สมาสที่ลบวิภัตติเสยี แลว้ เรียกวา ลุตตสมาส เชน่ กนิ ทสุ ฺสํ สมาสที่ยังมิไดลบวภิ ัตต ิ เรยี กวา อลุตตสมาส เช่น ทูเรนิทานํ สมาส วาโดยช่อื มี ๖ อยาง คือ กัมมธารโย ทคิ ุ ตัปปุรโิ ส ทวันทโว อพั ยยภี าโว พหุพพหิ ิ กัมมธารยสมาส นามศพั ท ๒ บท มีวภิ ตั ติและวจนะเดียวกัน บทหน่ึงเปน ประธาน คือ เปนนามนาม บทหน่ึงเปนวิเสสนะ คือเปนคุณนาม หรือเปนคุณนามทัง้ ๒ บท มบี ทอ่นื เปน ประธาน ทยี่ อ เขาเปน บทเดยี วกนั เรยี กวา่ กมั มธารยสมาส มี ๖ อยาง คือ วิเสสนบุพพบท วิเสสนตุ ตรบท วเิ สสโนภยบท วเิ สสโนปมบท สมั ภาวนบพุ พบท อวธารณบุพพบท วเิ สสนบพุ พบท มีบทวิเสสนะอยหู นา บทประธานอยูหลัง ดงั นี้ มหนโฺ ต ปุรโิ ส มหาปุรโิ ส บรุ ุษใหญ่ ขตตฺ ิยา กญฺา ขตฺติยกญฺา นางกษตั ริย นีลํ อปุ ฺปลํ นีลปุ ปฺ ล ํ ดอกอุบลเขยี ว มหนโฺ ต ราชา มหาราชา พระราชาผใู้ หญ 104 มหนฺตี ธานี มหาธานี เมืองใหญ
มหนฺตํ วนํ มหาวนํ ปา ใหญ กจุ ฺฉิตา ทิฏิ กุทิฏฺ ิ ทฏิ ฐิอนั บนั ฑติ เกลยี ด ปธานํ วจนํ ปาวจนํ ค�ำเปนประธาน สนโฺ ต ปุริโส สปปฺ ุรโิ ส บุรษุ ระงบั แลว วิเสสนุตตรบท มีบทวเิ สสนะอยหู ลงั บทประธานอยูหนา ดังนี้ สตโฺ ต วเิ สโส สตตฺ วิเสโส สตั วว ิเศษ นโร วโร นรวโร นระประเสรฐิ มนุสโฺ ส ทลทิ ฺโท มนุสฺสทลิทโฺ ท มนษุ ย์ขดั สน วิเสสโนภยบท มีบททงั้ ๒ เปน วิเสสนะ บทอ่นื เปน ประธาน ดงั นี้ สตี ญฺจ สมฏญฺจ สีตสมฏํ (านํ) (ท่ี) ทงั้ เยน็ ทัง้ เกลีย้ ง อนฺโธ จ วธโิ ร จ อนฺธวธิโร (ปุรโิ ส) (บรุ ษุ ) ทงั้ บอดทงั้ หนวก ขญฺโช จ ขชุ โฺ ช จ ขญฺชขชุ ฺโช (ปุริโส) (บรุ ษุ ) ทัง้ งอ ยทัง้ คอ ม วิเสสโนปมบท มีบทวิเสสนะเปนอปุ มา จัดเปน ๒ ตามวเิ สสนะอยูหนาและหลัง ดงั นี้ สมาสท่มี ีอปุ มาอยูห นา เรียกวา อุปมาบุพพบท ดังนี้ สงฺขํ อวิ ปณฺฑรํ สงขฺ ปณฑฺ รํ (ขรี ํ) (น้�ำนม) ขาวเพียงดงั สังข กาโก อิว สโู ร กากสูโร (นโร) (คน) กลาเพยี งดังกา ทิพพฺ ํ อวิ จกฺขุ ทิพฺพจกฺขุ จักษุเพยี งดังทิพย สมาสทีม่ อี ปุ มาอยหู ลัง เรียกวา อปุ มานุตตรบท ดังนี้ นโร สโี ห อวิ นรสโี ห นระเพียงดังสหี ะ สมาส| าณํ จกขฺ ุ อิว าณจกขฺ ุ ญาณเพยี งดงั จกั ษุ ปญฺ า ปาสาโท อิว ปญฺาปาสาโท ปญญาเพียงดังปราสาท 105
สมั ภาวนบุพพบท มีบทหนาท่ีประกอบดว ย อิติ ศัพท บทหลังเปน ประธาน ดงั นี้ ขตฺติโย (อหํ) อิติ มาโน ขตฺติยมาโน มานะ วา (เรา) เปนกษตั รยิ สตโฺ ต อติ ิ สญฺ า สตตฺ สญฺ า ความสำ� คญั วา สตั ว สมโณ (อห)ํ อิติ ปฏิญฺา สมณปฏญิ ฺา ความปฏิญญา วา (เรา) เปน สมณะ อวธารณบพุ พบท มบี ทหนาทป่ี ระกอบดว ย เอว ศพั ท บทหลงั เปนประธาน ดังนี้ ปญฺ า เอว ปโชโต ปญฺาปโชโต (ปทโี ป) (ประทปี ) อนั โพลงทวั่ คอื ปญ ญา พทุ ฺโธ เอว รตนํ พทุ ฺธรตนํ รัตนะ คือ พระพุทธเจา สทธฺ า เอว ธนํ สทฺธาธนํ ทรพั ย คอื ศรทั ธา ทคิ ุสมาส กัมมธารยสมาสท่ีมีสังขยาอยูหนา เรียกว่า ทิคุสมาส มี ๒ อยาง คือ สมาหาร ๑ อสมาหาร ๑ ทิคุสมาส ท่ีรวมนามศัพท มีเน้ือความเป็ นพหุวจนะ ให้เป็ นเอกวจนะ นปงุ สกลิงค ช่อื สมาหารทคิ ุ ดังนี้ ตโย โลกา ตโิ ลกํ โลก ๓ จตสฺโส ทิสา จตุทฺทสิ ํ ทิศ ๔ |สมาส ปญฺจ อินฺทรฺ ยิ านิ ปญจฺ ินทฺ รฺ ยิ ํ อินทรยี ๕ ทคิ ุสมาส ทไี่ มไดทำ� อยางนี้ ช่อื อสมาหารทิคุ ดงั นี้ เอโก ปุคฺคโล เอกปคุ คฺ โล บุคคลผเู้ ดยี ว 106
จตสโฺ ส ทิสา จตทุ ทฺ ิสา ทิศ ๔ ท. ปญฺจ พลานิ ปญจฺ พลานิ ก�ำลงั ๕ ท. ตปั ปรุ สิ สมาส นามศพั ทม ี อํ วภิ ตั ตเิ ปน ตน ทยี่ อ เขากบั บทหลงั เรยี กวา่ ตปั ปรุ สิ สมาส มี ๖ อยาง คือ ทุตยิ าตปั ปรุ ิโส ตติยาตัปปรุ โิ ส จตตุ ถีตปั ปุรโิ ส ปัญจมตี ปั ปรุ ิโส ฉฏั ฐีตปั ปรุ ิโส สตั ตมตี ปั ปุริโส ทุตยิ าตัปปรุ สิ สมาส มีบทหน้าประกอบด้วยทุติยาวภิ ตั ติ ดังนี้ สขุ ํ ปตฺโต สขุ ปปฺ ตโฺ ต (ปรุ โิ ส) (บรุ ุษ) ถงึ แลว ซ่งึ สขุ คามํ คโต คามคโต (ปรุ โิ ส) (บรุ ษุ ) ไปแลวสบู าน สพพฺ รตตฺ ึ โสภโณ สพพฺ รตตฺ ิโสภโณ (จนฺโท) (พระจนั ทร) งามตลอดราตรีทงั้ ปวง ตตยิ าตปั ปุรสิ สมาส มีบทหน้าประกอบดว้ ยตตยิ าวภิ ตั ติ ดงั นี้ อสเฺ สน (ยตุ โฺ ต) รโถ อสฺสรโถ รถ (เทียมแลว ) ดวยมา สลฺเลน วทิ โฺ ธ สลลฺ วิทฺโธ (สตโฺ ต) (สตั ว) อนั ลูกศรแทงแลว อสนิ า กลโห อสิกลโห ความทะเลาะเพราะดาบ จตุตถตี ัปปรุ สิ สมาส มบี ทหน้าประกอบด้วยจตตุ ถวี ิภัตติ ดงั นี้ กนิ สสฺ ทุสสฺ ํ กนิ ทุสฺสํ ผาเพ่ือกฐนิ สมาส| อาคนตฺ ุกสฺส ภตฺตํ อาคนตฺ ุกภตตฺ ํ ภัตรเพ่อื ผูม า คลิ านสสฺ เภสชฺชํ คิลานเภสชฺช ํ ยาเพ่ือคนไข 107
ปญจมีตัปปรุ สิ สมาส มบี ทหน้าประกอบด้วยปัญจมีวิภัตติ ดงั นี้ โจรมหฺ า ภยํ โจรภยํ ภัยแตโจร มรณสฺมา ภยํ มรณภย ํ ความกลวั แตค วามตาย พนฺธนา มุตฺโต พนฺธนมุตโฺ ต (สตโฺ ต) (สตั ว) พนแลว จากเคร่ืองผูก ฉัฏฐตี ัปปุรสิ สมาส มีบทหน้าประกอบด้วยฉฏั ฐวี ิภัตติ ดงั นี้ รญฺโ ปตุ โฺ ต ราชปตุ ฺโต บุตรแหง พระราชา ธญฺ านํ ราสิ ธญฺ ราส ิ กองแหง ขาวเปลอื ก รุกขฺ สสฺ สาขา รกุ ขฺ สาขา ก่ิงแหง ตน ไม สัตตมีตปั ปรุ สิ สมาส มีบทหน้าประกอบด้วยสัตตมีวภิ ัตติ ดังนี้ รูเป สญฺา รูปสญฺา ความส�ำคัญในรปู สสํ าเร ทกุ ฺขํ สสํ ารทุกฺขํ ทุกขใ นสงสาร วเน ปุปผฺ ํ วนปุปผฺ ํ ดอกไมใ นปา สมาสท่ีมี น อยูหนา เรียกว่า น บุพพบทกัมมธารยะ หรือ อุภย- ตปั ปรุ สิ ะ ดงั นี้ น พรฺ าหฺมโณ อพฺราหมฺ โณ (อยํ ชโน) (ชนนี้) มใิ ชพ ราหมณ น วสโล อวสโล (อยํ ชโน) (ชนนี้) มใิ ชค นถอ ย น อสฺโส อนสฺโส (อยํ สตโฺ ต) (สตั วน ี้) มใิ ชม า น อรโิ ย อนรโิ ย (อยํ ชโน) (ชนนี้) มใิ ชพ ระอรยิ เจา |สมาส ในสมาสนี้ ถาพยัญชนะอยูหลัง น เอา น เปน อ เหมือนค�ำว่า อพฺราหฺมโณ เปนตน, ถาสระอยูหลัง น เอา น เปน อน เหมือนค�ำว่า 108 อนสโฺ ส เปนตน
ทวนั ทวสมาส นามนามตงั้ แต ๒ บทข้นึ ไป ที่ยอเขาเปนบทเดียวกัน เรยี กวา่ ทวันทว สมาส มี ๒ อยาง คือ สมาหาร ๑ อสมาหาร ๑ สมาหารทวันทวสมาส ไดแ้ ก่ การรวมนามนามตัง้ แต่ ๒ บทข้นึ ไปให้ เป็นเอกวจนะ นปงุ สกลงิ ค์ ดังนี้ สมโถ จ วปิ สฺสนา จ สมถวิปสสฺ นํ สมถะดว ย วปิ ส สนาดว ย ช่อื วา่ สมถะและวปิ ส สนา สงโฺ ข จ ปณโว จ สงขฺ ปณวํ สังขดวย บัณเฑาะวดว ย ช่อื วา่ สงั ขและบณั เฑาะว ปตฺโต จ จวี รญฺจ ปตตฺ จีวรํ บาตรดว ย จวี รดว ย ช่อื วา่ บาตรและจีวร หตถฺ ี จ อสโฺ ส จ รโถ จ ปตฺตโิ ก จ หตถฺ ีอสสฺ รถปตตฺ ิกํ ชางดวย มาดวย รถดวย คนเดนิ เทาดว ย ช่อื วา่ ชางและมาและ รถและคนเดนิ เทา อสมาหารทวันทวสมาส ไมไ่ ด้ทำ� อย่างนัน้ ดังนี้ สมาส| จนฺทมิ า จ สรุ โิ ย จ จนทฺ ิมสุรยิ า พระจนั ทรดวย พระอาทิตยด ว ย ช่อื วา่ พระจนั ทรและ 109 พระอาทติ ย ท. สมโณ จ พฺราหมฺ โณ จ สมณพฺราหมฺ ณา สมณะดว ย พราหมณดวย ช่อื ว่า สมณะและพราหมณ ท. สารปี ตุ โฺ ต จ โมคฺคลลฺ าโน จ สารปี ุตฺตโมคฺคลฺลานา พระสารีบตุ รดวย พระโมคคลั ลานะดวย ช่อื ว่า พระสารีบุตรและ พระโมคคลั ลานะ ท. ปณณฺ ญจฺ ปปุ ผฺ ญฺจ ผลญฺจ ปณณฺ ปุปฺผผลานิ ใบไมดว ย ดอกไมด ว ย ผลไมด วย ช่อื ว่า ใบไมแ ละดอกไมแ ละ ผลไม ท.
อัพยยภี าวสมาส สมาสท่ีมีอุปสัคหรือนิบาตอยูขางหนา เรียกว่า อัพยยีภาวสมาส มี ๒ อยาง คือ อุปสคั ปุพพกะ ๑ นิบาตปพุ พกะ ๑ อปุ สัคคปุพพกะ มีอปุ สัคอยหู นา ดังนี้ นครสฺส สมปี ํ อปุ นครํ ที่ใกลเ คยี งแหง เมอื ง ช่อื ว่า ใกลเมอื ง ทรถสฺส อภาโว นิทฺทรถํ ความไมมแี หงความกระวนกระวาย ช่อื วา่ ความไมมคี วาม กระวนกระวาย วาตํ อนวุ ตตฺ ตีติ อนวุ าตํ (ยํ วตถฺ ุ สิง่ ใด) ยอมเปน ไปตามซ่ึงลม เหตนุ ัน้ (ตํ วตฺถุ สิ่งนัน้ ) ช่อื วา ตามลม วาตสฺส ปฏิวตตฺ ตตี ิ ปฏวิ าตํ (ยํ วตถฺ ุ สงิ่ ใด) ยอ มเปน ไปทวนแกลม เหตนุ ัน้ (ตํ วตฺถุ สง่ิ นัน้ ) ช่อื วา ทวนลม อตตฺ านํ อธวิ ตตฺ ตีติ อชฌฺ ตฺตํ (ยํ วตถฺ ุ ส่ิงใด) ยอ มเปน ไปทับซ่งึ ตน เหตุนัน้ (ตํ วตถฺ ุ ส่ิงนัน้ ) ช่อื วา ทับตน นิปาตปุพพกะ มนี ิบาตอยหู นา ดังนี้ วุฑฒฺ านํ ปฏปิ าฏิ ยถาวฑุ ฺฒํ ล�ำดบั แหง คนเจรญิ แลว ท. ช่อื วา ตามคนเจริญแลว ชวี สฺส ยตฺตโก ปรจิ เฺ ฉโท ยาวชีวํ |สมาส กำ� หนด เพยี งไร แหงชวี ติ ช่อื วา เพยี งไรแหง ชีวติ ปพฺพตสฺส ติโร ตโิ รปพพฺ ต ํ ภายนอก แหง ภเู ขา 110 นครสฺส พหิ พหินคร ํ ภายนอก แหง เมือง
ปาสาทสสฺ อนโฺ ต อนโฺ ตปาสาทํ ภายใน แหง ปราสาท ภตตฺ สฺส ปจฉฺ า ปจฉฺ าภตฺตํ ภายหลัง แหงภัตร พหุพพิหสิ มาส หรือ ตุลยาธกิ รณพหุพพิหิสมาส สมาสที่มบี ทอ่นื เปน ประธาน เรยี กวา่ พหพุ พิหสิ มาส มี ๖ อยาง คอื ทตุ ยิ าพหพุ พิหิ ตติยาพหพุ พิห ิ จตตุ ถพี หพุ พิหิ ปญจมีพหุพพหิ ิ ฉฏั ฐีพหุพพหิ ิ สัตตมีพหพุ พหิ ิ ทุตยิ าพหพุ พิหิ ทุตยิ าพหพุ พิหิ เอาบทท่เี ปน ทตุ ยิ าวภิ ตั ติ (ย ศพั ท)์ ในรูปวิเคราะหเ ปน ประธานของบทสมาส ดงั นี้ อาคตา สมณา ยํ โส อาคตสมโณ (อาราโม) สมณะ ท. มาแลว สูอารามใด อารามนัน้ ช่ือวา มสี มณะมาแลว รุฬหฺ า ลตา ยํ โส รฬุ ฺหลโต (รุกฺโข) เถาวัลย ข้ึนแลว สตู นไมใ ด ตน ไมนัน้ ช่อื วา มีเถาวลั ยข ้ึนแลว สมปฺ ตฺตา ภกิ ขฺ ู ยํ โส สมฺปตตฺ ภกิ ฺขุ (อาวาโส) ภกิ ษุ ท. ถึงพรอมแลว ซ่งึ อาวาสใด อาวาสนัน้ ช่ือวา มภี กิ ษถุ งึ พรอมแลว ตติยาพหุพพิหิ ตตยิ าพหุพพหิ ิ เอาบทท่เี ปนตติยาวิภตั ติ (ย ศพั ท)์ ในรูปวเิ คราะหเปน ประธานของบทสมาส ดงั นี้ ชติ านิ อินทฺ ฺรยิ านิ เยน โส ชติ นิ ฺทรฺ โิ ย (สมโณ) อนิ ทรยี ท. อันสมณะใด ชนะแลว สมณะ นัน้ ช่อื วา สมาส| มอี ินทรยี อ ันชนะแลว กตํ ปุญญฺ ํ เยน โส กตปุญโฺ (ปุรโิ ส) 111 บุญ อนั บุรษุ ใดท�ำแลว บุรษุ นัน้ ช่อื วา มบี ญุ อันท�ำแลว
|สมาส อาหิโต อคฺคิ เยน โส อาหติ คฺคิ (พฺราหฺมโณ) ไฟ อันพราหมณใ ด บูชาแลว พราหมณน ัน้ ช่ือวา มีไฟอันบูชาแลว้ วิสํ ปตํ เยน โส วสิ ปโ ต (สโร) ยาพษิ อันลูกศรใด ด่มื แลว ลูกศรนัน้ ช่ือวา มียาพิษอันด่มื แลว อีกอยางหน่ึง บทวเิ สสนะอยหู ลงั ดังนี้ อคฺคิ อาหิโต เยน โส อคฺยาหิโต (พรฺ าหฺมโณ) ไฟ อนั พราหมณใด บูชาแลว พราหมณนัน้ ช่ือวา มไี ฟอันบชู าแลว จตตุ ถีพหุพพิหิ จตตุ ถพี หพุ พหิ ิ เอาบททเ่ี ปน จตตุ ถวี ภิ ตั ติ (ย ศพั ท)์ ในรปู วเิ คราะห เปน ประธานของบทสมาส ดงั นี้ ทินโฺ น สงุ ฺโก ยสฺส โส ทินฺนสงุ โฺ ก (ราชา) สวย (อันชาวเมอื ง ท.) ถวายแลว แดพระราชาใด พระราชานัน้ ช่ือวา มีสวยอันชาวเมอื ง ท. ถวายแลว กตํ ทณฑฺ กมฺมํ ยสสฺ โส กตทณฑฺ กมโฺ ม (สสิ ฺโส) ทัณฑกรรม (อนั อาจารย) ท�ำแลว แกศษิ ยใด ศษิ ยนัน้ ช่ือวา มที ณั ฑกรรม อนั อาจารยก ระทำ� แลว สญฺชาโต สเํ วโค ยสสฺ โส สญฺชาตสํเวโค (ชโน) ความสังเวช เกิดพรอมแลว แกชนใด ชนนัน้ ช่ือวา มคี วาม สงั เวชเกิดพรอ มแลว ปญจมพี หพุ พหิ ิ ปญ จมพี หพุ พหิ ิ เอาบททเ่ี ปน ปญ จมวี ภิ ตั ติ (ย ศพั ท)์ ในรปู วเิ คราะห เปน ประธานของบทสมาส ดังนี้ นคิ ฺคตา ชนา ยสมฺ า โส นิคฺคตชโน (คาโม) 112 ชน ท. ออกไปแลว จากบานใด บานนัน้ ช่ือวา มชี นออกไปแลว
ปติตานิ ผลานิ ยสฺมา โส ปตติ ผโล (รกุ โฺ ข) ผล ท. หลนแลว จากตน ไมใด ตน ไมน ัน้ ช่อื วา มผี ลหลนแลว วโี ต ราโค ยสมฺ า โส วีตราโค (ภิกขฺ ุ) ราคะ ไปปราศแลว จากภิกษุใด ภิกษุนัน้ ช่อื วา มีราคะไปปราศแลว ฉัฏฐพี หพุ พิหิ ฉฏั ฐีพหุพพหิ ิ เอาบททเ่ี ปน ฉฏั ฐีวภิ ัตติ (ย ศัพท)์ ในรปู วเิ คราะห เปน ประธานของบทสมาส ดงั นี้ ขีณา อาสวา ยสสฺ โส ขีณาสโว (ภกิ ขฺ )ุ อาสวะ ท. ของภกิ ษใุ ด สนิ้ แลว ภิกษุนัน้ ช่อื วา มอี าสวะสิน้ แลว สนฺตํ จติ ตฺ ํ ยสสฺ โส สนตฺ จิตฺโต (ภกิ ฺขุ) จติ ของภิกษใุ ด ระงบั แลว ภิกษนุ ัน้ ช่อื วา มจี ติ ระงบั แลว ฉินนฺ า หตฺถา ยสสฺ โส ฉินนฺ หตโฺ ถ (ปุรโิ ส) มือ ท. ของบุรษุ ใด ขาดแลว บรุ ษุ นัน้ ช่อื วามี มอื ขาดแลว้ บทวิเสสนะอยูห ลงั ดงั นี้ หตถฺ า ฉินฺนา ยสฺส โส หตถฺ จฺฉินโฺ น (ปุรโิ ส) มอื ท. ของบรุ ษุ ใด ขาดแลว บรุ ษุ นัน้ ช่ือวา มมี ือขาดแลว ฉัฏฐอี ุปมาพหพุ พิหิ สมาส| รูปวิเคราะห์แห่งฉฏั ฐีพหพุ พหิ ิทมี่ เี น้ือความเปรยี บเทยี บ (อิว) ดงั นี้ 113 สวุ ณฺณสสฺ วณโฺ ณ อิว วณฺโณ ยสฺส โส สวุ ณณฺ วณฺโณ (ภควา) วรรณะ ของ พระผูม พี ระภาคใด เพียงดงั วรรณะแหง ทอง พระผมู ีพระภาคนัน้ ช่อื วา มวี รรณะเพียงดงั วรรณะแหง ทอง พฺรหมฺ ุโน สโร อิว สโร ยสฺส โส พรฺ หมฺ สสฺ โร (ภควา) เสยี งของพระผมู ีพระภาคใด เพยี งดังเสียงแหง พรหม พระผูมีพระภาคนัน้ ช่อื วา มีเสียงเพียงดงั เสยี งแหงพรหม
|สมาส สตั ตมพี หพุ พหิ ิ สตั ตมพี หพุ พหิ ิ เอาบททเี่ ปน สตั ตมวี ภิ ตั ติ (ย ศพั ท)์ ในรปู วเิ คราะห์ เปน ประธานของบทสมาส ดังนี้ สมฺปนฺนานิ สสฺสานิ ยสฺมึ โส สมปฺ นนฺ สสฺโส (ชนปโท) ขาวกลา ท. ในชนบทใด ถึงพรอ มแลว ชนบทนัน้ ช่ือวา มขี าวกลา ถงึ พรอ มแลว พหู นทโิ ย ยสมฺ ึ โส พหนุ ทิโก (ชนปโท) แมน้�ำ ท. ในชนบทใด มาก ชนบทนัน้ ช่อื วา มแี มน ้�ำมาก ติ า สริ ิ ยสมฺ ึ โส ติ สิริ (ชโน) ศรี ตัง้ อยู ในชนใด ชนนัน้ ช่อื วา มศี รีตงั้ อยู ภนิ นาธิกรณพหพุ พหิ ิสมาส รูปวิเคราะหแห่งพหุพพิหิท่ีบททั้ง ๒ มีวิภัตติตางกัน เรียกวา ภินนาธิกรณพหพุ พหิ ิ ดงั นี้ เอกรตตฺ ึ วาโส อสฺสาติ เอกรตตฺ ิวาโส (ชโน) การอยูของชนนัน้ (มอี ยู) สนิ้ คืนเดยี ว เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มกี ารอยสู ิน้ คืนเดยี ว อรุ สิ โลมานิ ยสฺส โส อรุ สิโลโม (พฺราหมฺ โณ) ขน ท. ทอี่ กของพราหมณใด (มอี ยู) พราหมณนัน้ ช่ือวา มีขนที่อก อสิ หตเฺ ถ ยสฺส โส อสิหตโฺ ถ (โยโธ) ดาบ (ม)ี ในมือของทหารใด ทหารนัน้ ช่ือวา มดี าบในมือ ฉตฺตํ ปาณมิ ฺหิ ยสสฺ โส ฉตฺตปาณิ (ปรุ โิ ส) รม (มี) ในมอื ของบรุ ุษใด บรุ ษุ นัน้ ช่อื วา มีรม ในมือ มณิ กณเฺ ยสสฺ โส มณิกณฺโ (นาคราชา) แกว (มี) ที่คอของนาคราชใด นาคราชนัน้ ช่ือวา มแี กว ที่คอ 114
กตํ กุสลํ เยหิ เต กตกสุ ลา (ชนา) สมาส| กศุ ล อันชน ท. เหลาใด ท�ำแลว ชน ท. เหลานัน้ ช่อื วา มกี ุศล อันท�ำแลว อาวุธา หตเฺ ถสุ เยสํ เต อาวธุ หตฺถา (โยธา) อาวุธ ท.(ม)ี ในมอื ท.ของทหาร ท.เหลาใด ทหาร ท. เหลานัน้ ช่อื วา มอี าวธุ ในมือ น บุพพบทพหุพพหิ ิ พหุพพิหิที่มีเน้ือความปฏิเสธ เรียกวา น บุพพบทพหุพพิหิ แปลว่า มี...หามไิ ด้ ดังนี้ นตถฺ ิ ตสฺส สโมติ อสโม (ภควา) ผูเสมอ ไมมแี กพระผมู พี ระภาคนัน้ เหตุนัน้ (พระผูม ีพระภาค นัน้ ) ช่อื วา มีผเู สมอหามไิ ด นตฺถิ ตสสฺ ปฏิปุคฺคโลติ อปปฺ ฏิปคุ ฺคโล (ภควา) บุคคลเปรียบไมมีแกพระผมู พี ระภาคนัน้ เหตนุ ัน้ (พระผูม ีพระ ภาคนัน้ ) ช่อื วา มีบุคคลเปรียบหามไิ ด หรือไมมีบคุ คลเปรียบ นตฺถิ ตสสฺ ปตุ ตฺ าติ อปตุ ฺตโก (ชโน) บตุ ร ท. ของชนนัน้ ไมม ี เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มบี ุตรหามไิ ด สหบพุ พบทพหพุ พหิ สิ มาส สมาสท่มี ี สห ศัพท์ เป็นบทหน้า เรียกวา่ สหบพุ บทพหุพพิหิ เม่ือเขา้ สมาสแลว้ ลบ ห ดังนี้ สห ปตุ ฺเตน โย วตตฺ ตีติ สปุตโฺ ต (ปิตา) บิดาใด ยอ มเปนไป กบั ดวยบุตร เหตนุ ัน้ บิดานัน้ ช่อื วา เปนไป กับดวยบตุ ร 115
|สมาส สห รญฺา ยา วตฺตตตี ิ สราชิกา (ปรสิ า) บริษทั ใด ยอ มเปน ไป กบั ดว ยพระราชา เหตุนัน้ บริษทั นัน้ ช่อื วา เปน ไปกับดวยพระราชา สห มจฺเฉเรน ยํ วตฺตตีติ สมจเฺ ฉรํ (จิตฺตํ) จติ ใด ยอมเปนไป กับ ดวยความตระหนี่ เหตนุ ัน้ จติ นัน้ ช่อื วา เปน ไปกับดว ยความตระหน่ี สมาสทอง สมาสที่มสี มาสอ่นื เป็นภายใน เรยี กว่า สมาสทอ้ ง ดังนี้ - ปวตฺติตปปฺ วรธมฺมจกโฺ ก ธมฺโม เอว จกฺกํ ธมฺมจกกฺ ํ จกั รคือธรรม (อว.กมั .) ปวรํ ธมมฺ จกฺกํ ปวรธมฺมจกฺกํ ธรรมจกั รบวร (วิ.กมั .) ปวตตฺ ิตํ ปวรธมฺมจกฺกํ เยน โส ปวตฺตติ ปปฺ วรธมฺมจกฺโก (ภควา) ธรรมจกั รบวร อันพระผูมพี ระภาคใด ใหเ ปน ไปทวั่ แลว พระผมู ี พระภาคนัน้ ช่อื วามีธรรมจักรบวรอันพระองค์ใหเ ปนไปทัว่ แลว สมาสนี้เรียกวา ตติยาตุลยาธิกรณพหุพพิหิ มี อวธารณบุพพบท กัมมธารยสมาส และวเิ สสนบพุ พบท กัมมธารยสมาส เปน ทอ ง - คนฺธมาลาทหิ ตถฺ า คนโฺ ธ จ มาลา จ คนธฺ มาลา ของหอมดวย ระเบียบดวย ช่อื วา ของหอมและระเบียบ ท. (อสมาหาร ทวนั ทว.) ตา อาทโย เยสํ ตานิ คนธฺ มาลาทีนิ (วตถฺ ูนิ) ของหอมและระเบียบ ท. เปน ตน เหลานัน้ ของวัตถุ ท.เหลาใด (มอี ย)ู วัตถุ ท. เหลานัน้ ช่อื วา มขี องหอมและระเบียบ เปน ตน สมาสนี้เรียกวา่ ฉฏั ฐีตุลยาธิกรณพหพุ พหิ ิ มี ทวัทวสมาส เป็นท้อง 116
คนฺโธ จ มาลา จ คนฺธมาลา ของหอมดวย ระเบียบดว ย ช่อื วา ของหอมและระเบยี บ ท. (อสมาหาร ทวันทว.) ตา อาทโย เยสํ ตานิ คนธฺ มาลาทนี ิ (วตถฺ นู )ิ ของหอมและระเบียบ ท. เปนตน เหลานัน้ ของวตั ถุ ท.เหลาใด (มอี ยู) วตั ถุ ท. เหลานัน้ ช่อื วา มขี องหอมและระเบียบ เปนตน (ฉฏั ฐตี ลุ ยาธิกรณพหหุ พิหิ) คนฺธมาลาทีนิ หตเฺ ถสุ เยสํ เต คนฺธมาลาทหิ ตถฺ า (มนุสสฺ า) (วัตถุ ท.) มีของหอมและระเบยี บเปน ตน (มี) ในมือ ท. ของ มนุษย ท.เหลาใด มนษุ ย ท.เหลานัน้ ช่อื วา มวี ตั ถมุ ีของหอม และระเบยี บเปนตนในมือ สมาสนี้เรียกวา ฉฏั ฐีภินนาธิกรณพหุพพิหิ มี อสมาหารทวันทวสมาส และฉฏั ฐตี ุลยาธกิ รณพหุพพหิ ิสมาส เปน ทอง สมาสทีแ่ ตกตา งกัน ๑. ตปั ปุรสิ สมาส ต่างจาก กัมมธารยสมาส คอื กมั มธารยสมาส มีวภิ ัตติ และวจนะเสมอกัน บทหน่ึงเปนประธาน บทหน่ึงเปนวิเสสนะหรือเปน วิเสสนะ ทงั้ สองบท สว่ นตปั ปุริสสมาส มีวิภัตติและวจนะไมเ สมอกนั ๒. ทวันทวสมาส ต่างจาก วิเสสโนภยบทกัมมธารยสมาส คอื วเิ สสโนภย บทกัมมธารยสมาส เปนบทวิเสสนะทัง้ สองบท สวนทวันทวสมาส เปนบท ประธานทงั้ สนิ้ ๓. อพั ยยภี าวสมาส ตา่ งจาก ตปั ปรุ สิ สมาส คอื ตปั ปรุ สิ สมาส มบี ทหลงั เปน ประธาน ไมนิยมลิงคและวจนะ ส่วนอัพยยีภาวสมาส มีบทหนาเปนประธาน เปนอุปสคั และนิบาต บทหลงั เปนนปุงสกลิงค เอกวจนะ ๔. น บุพพบทพหุพพิหิสมาส ต่างจาก น บุพพบทกัมมธารยสมาส คือ น บุพพบทพหุพพิหิสมาส ปฏิเสธคุณนาม แปลวา “มี....หามิได” ส่วน สมาส| น บุพพบทกัมมธารยสมาส ปฏิเสธนามนาม แปลวา “ไมใช...” ๕. ทคิ สุ มาส ตา่ งจาก ทวนั ทวสมาส คอื ทคิ สุ มาส มสี งั ขยาเป็นบทหนา บท หลังเป็นนามนาม ส่วนทวนั ทวสมาสเปน บทนามนามทงั้ สองบท 117
ตัทธติ ปจ จยั หมหู น่ึง เปน ประโยชนเ ก้อื กลู แกเ น้ือความยอ สำ� หรบั ใหแ ทนศพั ท ยอ คำ� พดู ใหสนั้ ลง เรยี กวา ตทั ธติ ว่าโดยยอ่ แบง เปน ๓ คอื สามญั ญตัทธิต ภาวตทั ธิต อพั ยยตทั ธติ สามญั ญตัทธิต สามัญญตัทธิต แบง ออกเปน ๑๓ อยาง คอื โคตตตัทธติ ตรตั ยาทติ ัทธติ ราคาทติ ัทธติ ชาตาทติ ัทธิต สมุหตัทธิต ฐานตทั ธิต พหุลตัทธติ เสฏฐตัทธติ ตทสั สตั ถติ ทั ธติ ปกติตทั ธิต สงั ขยาตัทธิต ปรู ณตทั ธติ วิภาคตัทธิต โคตตตัทธิต โคตตตัทธติ มปี จจัย ๘ ตวั คือ ณ ณายน ณาน เณยยฺ ณิ ณิก ณว เณร ณ ปจ จยั วสิฏสฺส อปจฺจํ วาสฏิ โ เหลากอแหง วสฏิ ฐะ ช่ือว่า วาสฏิ ฐะ โคตมสสฺ อปจฺจํ โคตโม เหลากอแหงโคตมะ ช่อื วา่ โคตมะ วสุเทวสสฺ อปจจฺ ํ วาสเุ ทโว เหลากอแหงวสุเทวะ ช่อื วา่ วาสเุ ทวะ |ตัทธิต ณายน ปจจัย กจจฺ สฺส อปจจฺ ํ กจฺจายโน เหลากอแหงกัจจะ ช่อื ว่า กจั จายนะ 118 วจฉฺ สสฺ อปจฺจํ วจฉฺ ายโน เหลากอแหงวัจฉะ ช่อื วา่ วจั ฉายนะ
โมคฺคลลฺ ิยา อปจจฺ ํ โมคคฺ ลฺลายโน เหลากอแหง นางโมคคลั ลี ช่อื วา่ โมคคลั ลายนะ ณาน ปจ จยั กจฺจาโน, วจฺฉาโน, โมคคฺ ลฺลาโน วิเคราะหแ ละค�ำแปลเหมอื นใน ณายน ปจ จัย เณยฺย ปจ จยั ภคินิยา อปจจฺ ํ ภาคิเนยโฺ ย เหลากอแหง พนี่ อ งหญงิ ช่อื วา่ ภาคเิ นยยะ วินตาย อปจจฺ ํ เวนเตยฺโย เหลอ กอแหง นางวินตา ช่ือว่า เวนเตยยะ โรหณิ ิยา อปจฺจํ โรหเิ ณยฺโย เหลากอแหงนางโรหิณี ช่อื วา่ โรหเิ ณยยะ ณิ ปจจัย ทกขฺ สสฺ อปจฺจํ ทกฺข ิ เหลากอแหงทกั ขะ ช่อื วา่ ทกั ขิ วสวสสฺ อปจจฺ ํ วาสวิ เหลากอแหง วสวะ ช่อื วา่ วาสวิ วรณุ สสฺ อปจจฺ ํ วารุณิ เหลากอแหงวรณุ ะ ช่อื ว่า วารณุ ิ ณิก ปจ จยั สกยฺ ปุตฺตสสฺ อปจจฺ ํ สากฺยปตุ ฺตโิ ก เหลากอแหงบตุ รแหงสักยะ ช่อื ว่า สากยปตุ ติกะ นาฏปุตฺตสสฺ อปจฺจํ นาฏปุตฺตโิ ก เหลากอแหงบุตรแหงชนร�ำ ช่อื วา่ นาฏปตุ ตกิ ะ ชนิ ทตฺตสสฺ อปจฺจ ํ เชนทตฺติโก เหลากอแหงชนิ ทัตตะ ช่อื วา่ เชนทัตตกิ ะ ณว ปจจยั ตัทธิต| อุปกสุ สฺ อปจฺจํ โอปกโว เหลากอแหงอุปกุ ช่อื ว่า โอปกวะ 119
|ตัทธิต มนุโน อปจจฺ ํ มานโว เหลากอแหงมนุ ช่อื วา่ มานวะ ภคคฺ ุโน อปจฺจํ ภคคฺ โว เหลากอแหง ภัคคุ ช่ือว่า ภคั ควะ เณร ปจ จยั วิธวาย อปจจฺ ํ เวธเวโร เหลากอแหง หญงิ หมาย ช่อื ว่า เวธเวระ สมณสสฺ อปจฺจํ สามเณโร เหลากอแหง สมณะ ช่ือว่า สามเณร ตรัตยาทิตัทธิต ตรัตยาทิตัทธิต ลง ณิก ปจ จยั ดังนี้ นาวาย ตรตตี ิ นาวโิ ก (ชนใด) ยอมขาม ดว ยเรอื เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา่ นาวกิ ะ (ผูขามดวยเรอื ) ติเลหิ สสํ ฏํ โภชน ํ เตลกิ ํ โภชนะ ระคนพรอ มแลว ดวยเมลด็ งา ท. ช่ือวา่ เตลิกะ (ระคน แลวดว ยงา) สกเฏน จรตตี ิ สากฏโิ ก (ชนใด) ยอมเท่ียวไป ดวยเกวยี น เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื ว่า สากฏกิ ะ (ผูเทีย่ วไปดว ยเกวียน) ราชคเห ชาโต ราชคหิโก (ชน) เกดิ แลว ในเมืองราชคฤห ช่อื วา่ ราชคหกิ ะ (ผเู กดิ ในเมือง ราชคฤห) ตสมฺ ึ วสตตี ิ ราชคหโิ ก (ชนใด) ยอมอยใู นเมอื งราชคฤห นัน้ เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื ว่า ราชคหิกะ (ผอู ยใู นมอื งราชคฤห) กาเยน กตํ กมมฺ ํ กายกิ ํ 120 กรรม อนั ชนทำ� แลว ดว ยกาย ช่ือว่า กายกิ ะ (อนั ชนทำ� แลว ดวยกาย)
ตสฺมึ วตฺตตตี ิ กายกิ ํ (กรรมใด) ยอ มเปน ไปในกายนัน้ เหตนุ ัน้ (กรรมนัน้ ) ช่ือว่า กายิกะ (เปนไปในกาย) ทวฺ าเร นยิ ุตฺโต โทวารโิ ก (ชน) ประกอบในประตู ช่อื ว่า โทวาริกะ (ผปู ระกอบในประต)ู สกเุ ณ หนตฺ วฺ า ชีวตีติ สากุณิโก (ชนใด) ฆา ซ่งึ นก ท. เปน อยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื ว่า สากุณิกะ (ผูฆาซ่งึ นกเปนอย)ู สงฆฺ สฺส สนตฺ ก ํ สงฺฆิกํ (ของใด) เปน ของมีอยู แหง สงฆ (ของนัน้ ) ช่อื วา่ สงั ฆิกะ (ของมอี ยูแหง สงฆ) อกฺเขน ทพิ ฺพตีติ อกฺขโิ ก (ชนใด) ยอมเลน ดว ยสะกา เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา่ อกั ขกิ ะ (ผูเลนดว ยสะกา) ราคาทติ ัทธิต ราคาทิตัทธิต ลง ณ ปจ จยั ดงั นี้ กสาเวน รตฺตํ วตถฺ ํ กาสาวํ ผา (อนั บุคคล) ยอมแลว ดวยรสฝาด ช่อื วา่ กาสาวะ (ผาอนั บคุ คล ยอมแลว ดว ยรสฝาด) มหิสสสฺ อิทํ มสํ ํ มาหิสํ เน้ือนี้ ของกระบอื ช่อื ว่า มาหสิ ะ (ของกระบือ) มคเธ ชาโต มาคโธ (ชน) เกดิ แลว ในแวนแควนมคธ ช่อื วา่ มาคธะ (ผูเกดิ ในแวน ตัทธิต| แควน มคธ) ตสฺมึ วสตตี ิ มาคโธ 121 (ชนใด) ยอมอยูในแวนแควน มคธนัน้ เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือว่า
มาคธะ (ผอู ยใู นแวน แควน มคธ) ตตรฺ อิสสฺ โร มาคโธ (ชน) เปนอสิ ระ ในแวนแควนมคธนัน้ ช่ือว่า มาคธะ (เปนอสิ ระ ในแวนแควนมคธ) กตฺติกาย นยิ ตุ ฺโต มาโส กตตฺ ิโก เดือน ประกอบดวยฤกษกตั ตกิ า ช่อื ว่า กัตตกิ า (เดอื นประกอบ ดวยฤกษกัตตกิ า) วยฺ ากรณํ อธเิ ตต ิ เวยฺยากรโณ (ชนใด) ยอ มเรียนซ่งึ พยากรณ เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือว่า เวยยากรณะ (ผเู รียนซ่งึ พยากรณ) ชาตาทติ ัทธิต ชาตาทติ ัทธติ มีปจจัย ๓ ตัว คือ อมิ อยิ กยิ |ตัทธิต อิม ปจ จัย ปเุ ร ชาโต ปุรโิ ม (ชน) เกดิ แลว ในกอ น ช่อื วา่ ปุริมะ (เกดิ แลว ในกอ น) มชฺเฌ ชาโต มชฌฺ ิโม (ชน) เกิดแลว ในทามกลาง ช่อื วา่ มชั ฌมิ ะ (เกิดแลว ในทามกลาง) ปจฺฉา ชาโต ปจฺฉิโม (ชน) เกิดแลว ในภายหลงั ช่อื ว่า ปจฉิมะ (เกิดแลวในภายหลัง) ปตุ โฺ ต อสสฺ อตฺถตี ิ ปตุ ฺตโิ ม (บตุ ร) ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวามีบตุ ร อนเฺ ต นยิ ตุ ฺโต อนตฺ โิ ม (ชน) ประกอบในทส่ี ดุ ช่อื ว่า อันติมะ (ประกอบในที่สดุ ) 122
อยิ ปจจยั มนุสฺสชาตยิ า ชาโต มนสุ ฺสชาติโย (ชน) เกดิ แลว โดยชาตแิ หงมนุษย ช่อื ว่า มนุสสชาตยิ ะ (เกดิ แลว โดยชาติแหง มนษุ ย) อสสฺ ชาตยิ า ชาโต อสสฺ ชาตโิ ย (สัตว)์ เกดิ แลว โดยชาตแิ หงมา ช่อื วา่ อัสสชาติยะ (เกดิ แลว โดยชาติแหงมา) ปณฺฑติ ชาติยา ชาโต ปณฺฑิตชาติโย (ชน) เกดิ แลว โดยชาติแหง บัณฑติ ช่ือวา่ ปณ ฑติ ชาติยะ (เกดิ แลวโดยชาติแหง บณั ฑติ ) ปณฺฑิตชาติ อสฺส อตถฺ ีติ ปณฺฑิตชาติโย ชาติแหงบัณฑติ ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีชาติ แหง บณั ฑิต กิย ปจ จยั อนฺเธ นิยตุ โฺ ต อนฺธกโิ ย (ชน) ประกอบ ในที่มดื ช่อื อันธกยิ ะ (ประกอบในท่ีมืด) สมุหตัทธิต สมุหตทั ธิต มีปจจัย ๓ ตัว คอื กณฺ ณ ตา กณฺ ปจ จัย มนุสฺสานํ สมโุ ห มานุสโก ตัทธิต| ประชมุ แหงมนษุ ย ท. ช่อื ว่า มานสุ กะ (ประชุมแหง มนษุ ยห รอื หมแู หง มนษุ ย) 123
มยรุ านํ สมุโห มายรุ โก ประชุม แหง นกยูง ท. ช่อื วา่ มายุรกะ (ประชมุ แหง นกยูงหรอื ฝูง แหง นกยงู ) กโปตานํ สมโุ ห กาโปตโก ประชมุ แหงนกพิราบ ท. ช่อื ว่า กาโปตกะ (ประชมุ แหง นกพิราบ หรอื ฝงู แหงนกพิราบ) ณ ปจจยั มานโุ ส, มายโุ ร, กาโปโต วิเคราะหแ ละคำ� แปลเหมือนใน กณฺ ปจจัย |ตัทธิต ตา ปจจัย คามานํ สมโุ ห คามตา ประชมุ แหงชาวบาน ท. ช่อื วา่ คามตา (ประชุมแหง ชาวบาน) ชนานํ สมุโห ชนตา ประชุม แหง ชน ท. ช่อื ว่า ชนตา (ประชุมแหงชน) สหายานํ สมโุ ห สหายตา ประชมุ แหงสหาย ท. ช่อื วา่ สหายตา (ประชุมแหง สหาย) ฐานตทั ธติ ฐานตทั ธติ ลง อยี ปจ จัย ดงั นี้ มทนสฺส านํ มทนียํ ที่ตัง้ แหงความเมา ช่อื ว่า มทนียะ (ที่ตงั้ แหง ความเมา) พนฺธนสสฺ านํ พนฺธนียํ ท่ตี ัง้ แหง ความผูก ช่อื วา่ พันธนียะ (ทีต่ ัง้ แหงความผกู ) 124
โมจนสสฺ าน ํ โมจนียํ ทต่ี งั้ แหงความแก ช่อื วา่ โมจนียะ (ท่ตี ัง้ แหงความแก) อยี เอยยฺ ปจ จัย ลงในอรรถ คือ อรห (ควร) ดงั นี้ ทสฺสนํ อรหตตี ิ ทสสฺ นีโย (ชนใด) ยอมควร ซ่งึ การเห็น เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา่ ทสั สนียะ (ผคู วรซ่งึ การเหน็ หรือนาด)ู ปูชนํ อรหตตี ิ ปูชนีโย, ปชู เนยฺโย (ชนใด) ยอ มควรซ่งึ การบูชา เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา่ ปูชนียะ ปูชเนยยะ (ผคู วรซ่งึ การบชู า) ทกฺขิณํ อรหตีต ิ ทกขฺ ิเณยโฺ ย (ชนใด) ยอ มควร ซ่งึ ทกั ษณิ า เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื ว่า ทักขเิ ณยยะ (ผูค วรซ่งึ ทกั ษณิ า) ในสทั ทนีติวา อีย ปจ จยั ลงในอรรถอ่นื ไดบาง ดงั นี้ อปุ าทานานํ หติ ํ อุปาทานียํ (กรรม) อนั เก้อื กลู แกอ ปุ าทาน ท. ช่ือวา่ อปุ าทานียะ (เก้อื กูล แกอปุ าทาน) อุทเร ภวํ อุทรยี ํ (โภชนะ) มใี นทอง ช่อื วา่ อุทรียะ (โภชนะมีในทอ ง) พหุลตทั ธติ พหลุ ตทั ธิต ลง อาลุ ปจ จัย ดังนี้ อภชิ ฌฺ า อสฺส ปกต ิ อภชิ ฺฌาลุ อภชิ ฌา เปน ปกติ ของชนนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มอี ภิชฌาเปน ปกติ ตัทธิต| อภชิ ฺฌา อสฺส พหลุ า อภิชฌฺ าลุ อภชิ ฌา ของชนนัน้ มาก (ชนนัน้ ) ช่ือวา มอี ภชิ ฌามาก 125
สีตํ อสฺส ปกติ สีตาลุ หนาว เปน ปกติ ของประเทศนัน้ (ประเทศนัน้ ) ช่ือวา มีหนาวเป็นปกติ สีตํ เอตถฺ พหลุ ํ สีตาลุ หนาว ในประเทศนัน้ มาก (ประเทศนัน้ ) ช่ือวามหี นาวมาก ทยา อสสฺ ปกติ ทยาลุ ความเอ็นดู เปน ปกติ ของชนนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีความเอน็ ดเู ปนปกติ ทยา อสสฺ พหลุ า ทยาลุ ความเอน็ ดู ของชนนัน้ มาก (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีความเอ็นดมู าก เสฏฐตทั ธิต เสฏฐตัทธิต มีปจ จัย ๕ ตวั คอื ตร ตม อิยสิ ฺสก อิย อฏิ ตร ปจ จยั ปาปตโร เปน บาปกวา ปณฑฺ ติ ตโร เปน บณั ฑติ กวา หีนตโร เลวกวา ปณี ตตโร ประณีตกวา ตม ปจ จยั ปาปตโม เปน บาปท่ีสดุ ปณฑฺ ติ ตโม เปน บัณฑิตท่สี ดุ หนี ตโม เลวทส่ี ดุ ปณีตตโม ประณีตทส่ี ุด อิยิสฺสก ปจ จยั ปาปิ ยิสสฺ โก เปน บาปกวา |ตัทธิต อิย ปจจยั ปาปิ โย เปนบาปกวา กนิ โย นอยกวา เชยฺโย เจริญกวา 126 เสยโฺ ย ประเสริฐกวา
อิฏ ปจ จัย ปาปิ ฏฺโ เปนบาปท่ีสุด กนิฏฺโ นอ ยท่สี ดุ เสฏโ ประเสริฐทส่ี ุด เชฏโ เจรญิ ทีส่ ดุ ในปัจจัยทัง้ ๕ ตวั นี้ ตร และ อิย ลงในวิเสสคุณศัพท ตม และ อิฏ ลง ใน อติวเิ สสคณุ ศัพท มีวเิ คราะหเปน แบบเดยี ว ดังนี้ สพเฺ พ อิเม ปาปา, อยมเิ มสํ วเิ สเสน ปาโปติ ปาปตโร, ปาปตโม ชน ท. เหลานี้ ทัง้ ปวง เปนบาป, ชนนี้เปน บาป โดยวิเศษ กวา ชน ท. เหลานี้ เหตุนัน้ (ชนนี้) ช่ือว่า ปาปตระ, ปาปตมะ ตทสั สัตถิตัทธติ ตทสั สัตถติ ทั ธติ มีปจ จยั ๙ ตัว คือ วี ส สี อิก อี ร วนตฺ ุ มนฺตุ ณ วี ปจ จยั เมธา อสสฺ อตถฺ ีต ิ เมธาวี ปญญา ของชนนัน้ มีอยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มปี ญ ญา มายา อสสฺ อตฺถตี ิ มายาวี มายา ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มมี ายา ส ปจจัย สุเมธา อสฺส อตฺถตี ิ สุเมธโส ปญญาดี ของชนนัน้ มีอยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา ปญญาดี สี ปจจัย ตัทธิต| ตโป อสฺส อตถฺ ตี ิ ตปสี 127 ตบะ ของชนนัน้ มีอยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มตี บะ
|ตัทธิต เตโช อสฺส อตถฺ ตี ิ เตชสี เดช ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มเี ดช 128 อกิ ปจจยั ทณฺโฑ อสสฺ อตถฺ ีติ ทณฺฑิโก ไมเทา ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีไมเ ทา อตฺโถ อสสฺ อตถฺ ีติ อตฺถิโก ความตอ งการ ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีความ ตองการ อี ปจจัย ทณโฺ ฑ อสฺส อตถฺ ตี ิ ทณฺฑี ไมเทา ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีไมเทา สุขํ อสสฺ อตถฺ ีติ สุขี สขุ ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีสขุ โภโค อสสฺ อตถฺ ตี ิ โภคี โภคะ ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มโี ภคะ ร ปจจัย มธุ อสสฺ อตถฺ ีต ิ มธโุ ร น้�ำผ้ึง ของขนมนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ขนมนัน้ ) ช่อื วา มนี ้�ำผ้ึง (มรี ส หวาน) มุขํ อสสฺ อตถฺ ีติ มขุ โร ปาก ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มปี าก (คนปากกลา) วนตฺ ุ ปจ จยั คโุ ณ อสฺส อตถฺ ีต ิ คุณวา คุณ ของชนนัน้ มีอยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีคณุ
ธนํ อสสฺ อตถฺ ีต ิ ธนวา ทรัพย ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มที รัพย ปญฺ า อสสฺ อตฺถีต ิ ปญฺ วา ปญ ญา ของชนนัน้ มอี ยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีปญ ญา ปุญญฺ ํ อสฺส อตฺถีต ิ ปุญฺ วา บุญ ของชนนัน้ มีอยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีบญุ มนฺตุ ปจจัย อายุ อสฺส อตฺถตี ิ อายสฺมา อายุ ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มีอายุ สติ อสฺส อตถฺ ีต ิ สติมา สติ ของชนนัน้ มอี ยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มสี ติ จกขฺ ุ อสฺส อตถฺ ีติ จกฺขุมา จกั ษุ ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่อื วา มจี กั ษุ ชุติ อสสฺ อตถฺ ตี ิ ชตุ มิ า ความโพลง ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีความโพลง ในสทั ทนีติวา ปุตตฺ ิมา ชนมบี ุตร ปาปม า ชนมบี าป (มาร) ลง อิมนตฺ ุ ปจจยั ณ ปจ จัย ตัทธิต| สทฺธา อสฺส อตถฺ ตี ิ สทฺโธ ศรัทธา ของชนนัน้ มอี ยู เหตุนัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีศรัทธา มจฺเฉรํ อสสฺ อตถฺ ีต ิ มจฺเฉโร ความตระหน่ี ของชนนัน้ มีอยู เหตนุ ัน้ (ชนนัน้ ) ช่ือวา มีความ ตระหนี่ 129
|ตัทธิต ปกติตทั ธติ ปกติตัทธิต ลง มย ปจ จัย ดังนี้ สุวณเฺ ณน ปกตํ โสวณฺณมยํ (ภาชนะ) อันบุคคลทำ� แลว ดวยทอง ช่อื ว่า โสวัณณมยะ (อันบุคคลทำ� แลว ดว ยทอง) สวุ ณณฺ สฺส วกิ าโร โสวณณฺ มยํ (ภาชนะ) เปน วกิ ารแหง ทอง ช่อื วา่ โสวัณณมยะ (เปน วกิ าร แหง ทอง) มตตฺ กิ าย ปกต ํ มตฺตกิ ามยํ (ภาชนะ) อนั บคุ คลทำ� แลวดวยดิน ช่ือว่า มัตตกิ ามยะ (อนั บคุ คล ท�ำแลว ดว ยดนิ ) มตตฺ กิ าย วกิ าโร มตฺตกิ ามยํ (ภาชนะ) เปนวิการแหงดนิ ช่อื วา่ มตั ติกามยะ (เปน วิการ แหงดิน) อยสา ปกต ํ อโยมยํ (ภาชนะ) อนั บุคคลทำ� แลว ดว ยเหล็ก ช่อื ว่า อโยมยะ (อนั บคุ คล ทำ� แลวดว ยเหลก็ ) อยโส วกิ าโร อโยมยํ (ภาชนะ) เปนวกิ ารแหง เหล็ก ช่อื วา่ อโยมยะ (เปน วกิ าร แหงเหลก็ ) ปูรณตัทธิต ปูรณตัทธติ มปี จ จัย ๕ ตัว คอื ติย ถ ม อี ติย ปจ จัย ทฺวินฺนํ ปรู โณ ทุติโย (ชน) เปน ทเี่ ต็ม (แหงชน ท.) ๒ ช่ือวา ที่ ๒ 130 ตณิ ฺณํ ปรู โณ ตติโย (ชน) เปน ที่เตม็ (แหง ชน ท.) ๓ ช่อื วา ท่ี ๓
ถ ปจ จยั จตุนฺนํ ปรู โณ จตตุ โฺ ถ (ชน) เปน ทีเ่ ต็ม (แหง ชน ท.) ๔ ช่ือวา ที่ ๔ ฉนนฺ ํ ปรู โณ ฉฏโ ปจ จยั (ชน) เปนทเ่ี ต็ม (แหง ชน ท.) ๖ ช่ือวา ท่ี ๖ ม ปจ จัย ปญจฺ นนฺ ํ ปูรโณ ปญจฺ โม (ชน) เปน ทเี่ ตม็ (แหงชน ท.) ๕ ช่ือวา ท่ี ๕ สตตฺ นฺนํ ปูรโณ สตตฺ โม (ชน) เปนที่เตม็ (แหงชน ท.) ๗ ช่ือวา ท่ี ๗ อี ปั จจยั ในอิตถลี ิงค ตงั้ แต เอกาทส ถึง อฏ ารส ลง อี ปจ จัย เช่น เอกาทสนฺนํ ปูรณ ี เอกาทสี (หญิง) เปน ทีเ่ ตม็ (แหง หญงิ ท.) ๑๑ ช่อื วา ที่ ๑๑ ทวฺ าทสนฺนํ ปูรณ ี ทวฺ าทสี (หญงิ ) เปน ทเี่ ตม็ (แหง หญงิ ท.) ๑๒ ช่อื วา ท่ี ๑๒ ในปงุ ลิงคแ์ ละนปุงสกลิงค์ ให้ลง ม ปัจจัย เช่น เอกาทสโม, เอกาทสมํ ในปูรณตทั ธติ นี้ ยงั มี อฑฒฺ ศพั ท์ ใช้บอกจ�ำนวนก่งึ หน่ึง ดังนี้ ตัทธิต| อฑฺเฒน ทตุ ิโย ทิวฑโฺ ฒ, ทิยฑโฺ ฒ (ชน) ที่ ๒ ทงั้ ก่งึ ช่ือว่า ทิวฑั ฒะ,ทยิ ฑั ฒะ (๑ คร่งึ ) อฑฺเฒน ตตโิ ย อฑฒฺ ตโิ ย, อฑฒฺ เตยโฺ ย (ชน) ท่ี ๓ ทงั้ ก่ึง ช่อื วา่ อฑั ฒตยิ ะ, อฑั ฒเตยยะ (๒ คร่ึง) อฑฺเฒน จตุตฺโถ อฑฺฒฑุ ฺโฒ (ชน) ท่ี ๔ ทงั้ ก่ึง ช่ือวา อฑั ฒฑุ ฒะ (๓ คร่งึ ) 131
|ตัทธิต สงั ขยาตัทธติ สังขยาตัทธติ ลง ก ปจ จยั ดังนี้ เทวฺ ปรมิ าณานิ อสสฺ าต ิ ทวฺ กิ ํ ปรมิ าณ ท. ของวตั ถนุ ัน้ ๒ เหตุนัน้ (วัตถนุ ัน้ ) ช่อื วา มปี ริมาณ ๒ ตณี ิ ปรมิ าณานิ อสฺสาติ ตกิ ํ ปรมิ าณ ท. ของวตั ถนุ ัน้ ๓ เหตนุ ัน้ (วัตถนุ ัน้ ) ช่อื วา มีปริมาณ ๓ วิภาคตทั ธติ วภิ าคตัทธิต มีปจจัย ๒ ตวั คือ ธา โส ธา ปจ จยั เอเกน วิภาเคน เอกธา โดยสว นเดียว ช่อื ว่า เอกธา ทวฺ ีหิ วภิ าเคหิ ทวฺ ธิ า โดยสว น ท. ๒ ช่ือวา่ ทฺวธิ า โส ปจ จัย ปเทน วภิ าเคน ปทโส โดยความจ�ำแนก โดยบท ช่ือว่า ปทโส สตุ เฺ ตน วิภาเคน สตุ ตฺ โส โดยความจ�ำแนก โดยสูตร ช่ือวา่ สุตตโส ภาวตทั ธติ ภาวตัทธติ มีปจจัย ๖ ตัว คือ ตตฺ ณยฺ ตตฺ น ตา ณ กณฺ ตฺต ปจ จัย (ช่ือ) จนฺทสสฺ ภาโว จนฺทตตฺ ํ ความเปน แหงพระจันทร ช่อื วา่ จันทัตตะ (ชาต)ิ มนสุ สฺ สฺส ภาโว มนุสสฺ ตฺตํ ความเปน แหง มนุษย ช่ือว่า มนสุ สตั ตะ (ทัพพะ) ทณฑฺ ิโน ภาโว ทณฺฑิตฺตํ 132 ความเปนแหง คนมไี มเทา ช่อื ว่า ทัณฑติ ตะ
(กิริยา) ปาจกสฺส ภาโว ปาจกตตฺ ํ ความเปนแหงคนหุง ช่อื วา่ ปาจกตั ตะ (คุณ) นีลสสฺ ภาโว นีลตฺตํ ความเปน แหง ของเขียว ช่อื ว่า นีลตั ตะ ณยฺ ปจ จัย ปณฑฺ ติ สสฺ ภาโว ปณฑฺ จิ ฺจ ํ ความเปน แหง บัณฑิต ช่ือว่า ปณ ฑจิ จะ กสุ ลสสฺ ภาโว โกสลลฺ ํ ความเปนแหงคนฉลาด ช่อื วา่ โกสัลละ สมณสฺส ภาโว สามญฺญํ ความเปนแหง สมณะ ช่ือว่า สามัญญะ สหุ ทสฺส ภาโว โสหชชฺ ํ ความเปนแหงเพ่ือน (คนมใี จดี) ช่ือว่า โสหัชชะ ปรุ สิ สฺส ภาโว โปรสิ ฺส ํ ความเปน แหง บรุ ษุ ช่อื วา่ โปรสิ สะ นิปกสฺส ภาโว เนปกกฺ ํ ความเปน แหงคนมีปญ ญา (รกั ษาไว ซ่ึงตน) ช่อื วา่ เนปกกะ อุปมาย ภาโว โอปมมฺ ํ ความเปนแหง อปุ มา ช่อื ว่า โอปม มะ ในสทั ทนีตวิ า ศพั ทค อื วริ ยิ ํ ความเปน ผกู ลา (ความเพยี ร) และ อาลสยิ ํ ความเปนผเู กยี จคราน ลง ณิย ปจ จยั , โสเจยฺยํ ความเปน ของสะอาด ลง เณยฺย ปจจัย, ทาสพฺยํ ความเปน ทาส ลง พฺย ปจจยั ศพั ททล่ี ง ตฺตน ปจจัย มี ๒ ศพั ทเ ทานัน้ คือ ปถุ ชุ ชฺ นตฺตนํ ความเปน ปุถชุ น, เวทนตตฺ นํ ความเปน ผมู ีเวทนา ตา ปจจัย มุทโุ น ภาโว มุทุตา ความเปนแหงคนออ น (คนใจออน) ช่ือวา่ มทุ ุตา นิททฺ ารามสสฺ ภาโว นิทฺทารามตา ตัทธิต| ความเปน แหง คนมีความหลบั เปนที่มายนิ ดี ช่อื ว่า นิททารามตา สหายสฺส ภาโว สหายตา 133 ความเปนแหง สหาย ช่อื วา่ สหายตา
ณ ปจ จัย วสิ มสฺส ภาโว เวสม ํ ความเปน แหง ของเสมอปราศ (ไมเ สมอ) ช่อื ว่า เวสมะ สจุ โิ น ภาโว โสจ ํ ความเปนแหง ของสะอาด ช่อื วา่ โสจะ มุทโุ น ภาโว มททฺ ว ํ ความเปนแหง คนออน ช่อื ว่า มทั ทวะ กณฺ ปจจยั รมณยี สฺส ภาโว รามณียกํ ความเปนแหงของอันบคุ คลพึงยินดี ช่ือว่า รามณียกะ มนุญฺ สฺส ภาโว มานญุ ฺกํ ความเปนแหง ของอนั เปนท่ฟี ใู จ ช่อื ว่า มานญุ ญกะ อพั ยยตทั ธติ อพั ยยตัทธิต มีปจจัย ๒ ตัว คือ ถา ถํ ถา ปจ จัย ลงในประการ หลงั สพั พนาม ดังนี้ ยถา ประการใด ตถา ประการนัน้ สพพฺ ถา ประการทงั้ ปวง ถํ ปจจยั ลงใน ประการ หลัง กึ และ อมิ ศพั ท์ ดงั นี้ กถํ ประการไร, อยางไร อิตฺถ ํ ประการนี้, อยางนี้ |ตัทธิต จบบาลีไวยากรณ์ 134
หลักสมั พันธ์ หลักสมพันธ์| บทคณุ 1. แปลวา ผ,ู ม,ี อนั เรียกวา วเิ สสน 2. แปลว่า เปน (เข้ากบั หุ, ภ,ู ชนฺ ธาตุ) เรยี กว่า วิกตกิ ตตฺ า 3. แปลว่า ใหเ ปน (ประกอบดวยทตุ ยิ าวภิ ตั ติ อยหู นา กร,ฺ จรฺ ธาตุ) เรยี กวา่ วกิ ติกมฺม บทนามศพั ท ปฐมาวภิ ัตติ 1. เปนประธานของประโยค กตั ตวุ าจก เรยี กว่า สยกตตฺ า 2. เปน ประธานของประโยค กัมมวาจก และ เหตกุ มั มวาจก เรียกวา่ วตุ ตฺ กมฺม 3. เปนประธานของประโยคเหตกุ ัตตวุ าจก เรียกว่า เหตกุ ตตฺ า 4. เปนประธานของประโยคกริ ยิ าปธานนัย (ตฺวา ปจจัยคมุ พากย) เรยี กว่า ปกตกิ ตตฺ า 5. เปนประธานของประโยคท่ีไมม กี ริ ยิ าคุมพากย์ เรียกวา่ ลงิ ฺคตถฺ 6. เปน ประธานของประโยคอุปมา (ควบดวย วยิ หรือ อวิ ศพั ท) เรยี กว่า อุปมาลงิ คฺ ตถฺ 135
|หลักสมพันธ์ ทตุ ิยาวภิ ัตติ [เขากบั กริ ยิ า] 1. แปลวา ซ่งึ เรยี กวา อวุตฺตกมมฺ 2. แปลว่า ส ู เรยี กว่า สมฺปาปณุ ิยกมมฺ 3. แปลว่า ยงั เรยี กว่า การติ กมมฺ 4. แปลว่า สนิ้ , ตลอด เรียกว่า อจฺจนตฺ สํโยค 5. แปลวา่ กะ, เฉพาะ เรียกว่า อกถิตกมมฺ 6. แปลวา่ ใหเ ปน (อยหู นา กรฺ ธาตุ) เรียกวา่ วกิ ตกิ มฺม 7. แปลวา่ วา่ เปน , ให้ช่อื ว่า เรยี กวา่ สมภฺ าวน 8. แปลไมออกสำ� เนียงอายตนิบาต (หลงั กิริยา) เรียกวา่ กริ ยิ าวเิ สสน ตติยาวภิ ัตติ [เขากบั นาม กริ ยิ า และอัพยยศัพท] 1. แปลวา ดว ย เรียกวา กรณ 2. แปลว่า โดย, ตาม, ขาง เรยี กว่า ตตยิ าวิเสสน 3. แปลว่า อัน เรียกวา่ อนภิหติ กตฺตา 4. แปลว่า เพราะ เรียกวา่ เหตุ 5. แปลว่า มี, ดว ยทัง้ เรยี กวา่ อิตฺถมฺภตู (แปลวา มี สัมพันธเ ขากับ นาม, แปลวา ดวยทงั้ สมั พันธเ ขากบั กิรยิ า) 6. แปลวา่ กบั , ดว ย (เขากบั สห, สทธฺ ึ ศัพท) เรยี กวา่ สหตฺถตตยิ า 7. แปลว่า ยัง (แปลหกั ตตยิ า. เปน ทุตยิ า.) เรียกวา่ ตตยิ าการติ กมฺม จตตุ ถวี ภิ ตั ติ [เขากบั กริ ิยา, เข้ากบั นามได้ในประโยคที่ไม่มกี ริ ยิ าคมุ พากย]์ 1. แปลวา แก, เพ่ือ, ตอ เรียกว่า สมปฺ ทาน 136 2. ตํุ ปจจยั แปลว่า เพ่อื อัน... เรยี กว่า ตุมตฺถสมฺปทาน
ปญ จมีวภิ ตั ติ [เขากบั กิรยิ า] 1. แปลวา แต, จาก, กว่า เรยี กวา่ อปาทาน 2. แปลว่า เหต,ุ เพราะ เรียกวา่ เหตุ ฉัฏฐีวิภัตติ [เขากบั นามและกริ ิยานาม] 1. แปลวา แหง (ในหม)ู เรียกวา สมหุ สมฺพนธฺ 2. แปลว่า แหง (ใน ภาว, ยุ ปจ จยั ) เรียกวา่ ภาวาทิสมพฺ นฺธ 3. แปลวา่ แหง, ของ เรียกวา่ สามสี มฺพนฺธ 4. แปลว่า เม่อื (ประธานในประโยคแทรก) เรียกว่า อนาทร (อนาทรกิรยิ า รบั ) 5. แปลว่า แหง–หนา เรยี กวา่ นิทฺธารณ (นิทฺธารณีย รับ) 6. แปลว่า ซ่งึ (แปลหกั ฉฏั ฐี. เปน ทุตยิ า.) เรียกว่า ฉฏฺ กี มมฺ 7. แปลวา่ อนั (แปลหัก ฉฏั ฐี. เปน ตติยา.) เรียกวา่ ฉฏอี นภหิ ติ กตตฺ า 8. แปลว่า ดว ย (อยูหนา ปรู ฺ ธาต)ุ เรยี กวา่ ฉฏกี รณ สตั ตมวี ิภตั ติ หลักสมพันธ์| [เขากบั นามและกิรยิ า] 137 1. แปลวา่ ใน (ปกปด, ก�ำบัง) เรียกว่า ปฏิจฺฉนนฺ าธาร 2. แปลวา่ ใน (ซึมซาบไป) เรียกว่า พฺยาปก าธาร 3. แปลว่า ใน (เปน ทีอ่ าศัยอยู) เรียกวา่ วิสยาธาร 4. แปลว่า ใกล, ณ (ที่ใกลเ คียง) เรยี กวา่ สมีปาธาร 5. แปลวา่ ใน, ณ (บอกกาล) เรยี กวา่ กาลสตตฺ มี 6. แปลวา่ ในเพราะ เรียกว่า นิมติ ฺตสตฺตมี 7. แปลวา่ ใน - หนา เรยี กวา่ นิทฺธารณ (นิทธฺ ารณีย รับ)
8. แปลวา่ ใน (เขากบั นาม) เรียกว่า ภนิ ฺนาธาร 9. แปลว่า ใน (เขากบั กิรยิ า) เรียกวา่ อาธาร 10. แปลวา่ เหนือ, บน, ท่ี เรียกวา่ อปุ สิเลสกิ าธาร 11. แปลวา่ ครนั้ เม่ือ (เป็นประธานในประโยคแทรก) เรยี กวา่ ลกขฺ ณวนฺต (ลกขฺ วนฺตกริ ยิ า รับ) 12. แปลว่า อันวา่ (เปนประธาน) เรียกวา่ สตฺตมีปจจฺ ตฺตสยกตฺตา |หลักสมพันธ์ อาลปนะ เปนคำ� รอ งเรยี ก เรยี กวา อาลปนะ ประธานพเิ ศษ [ไมแจกวภิ ตั ตนิ าม] 1. เอว ํ อ.อยางนัน้ เรียกวา สจฺจวาจกลงิ ฺคตถฺ 2. อลํ อ.อยาเลย เรยี กวา่ ปฏิเสธลิงคฺ ตถฺ 3. อลํ อ.พอละ, สกฺกา อ.อนั อาจ, สาธุ อ.ดลี ะ, ตถา อ.เหมือนอยางนัน้ เรยี กว่า ลงิ คฺ ตฺถ 4. กิมงฺคํ ปน ก็ อ.องคอะไรเปน เหตุ เลา กิมงคฺ ํ เรยี กวา่ ลงิ ฺคตถฺ ปน ศัพท เรียกว่า ปุจฺฉนตฺถ 5. อชฺช อ.วนั นี้, อิทานิ อ.กาลนี้, ตทา อ.กาลนัน้ เรยี กว่า สตฺตมปี จจฺ ตตฺ สยกตฺตา 6. ตุํ ปัจจัย แปลว่า อ.อัน... (เป็นประธาน) เรยี กว่า ตมุ ตฺถกตตฺ า กิริยาคมุ พากย์ 138 1. กริยาอาขยาต เรียกวา่ อาขฺยาตบท 2. กิริยากิตก์ (ต, อนิย, ตพฺพ ปัจจัย) คมุ พากย์ เรียกวา่ กติ บท
3. อล,ํ สกกฺ า คุมพากย์ เรยี กวา่ กิรยิ าบท 4. ตฺวา ปัจจยั คุมพากย เรยี กวา่ กิรยิ าปธานนัย หมายเหตุ : - ต ปจจัย เปน ได ๕ วาจก - อนีย, ตพพฺ , อลํ, สกกฺ า เปน ได ๒ วาจก คือ กมมฺ ., ภาว. กิริยาในระหว่าง อนตฺ มาน ปจ จยั เป็ นปฐมาวภิ ตั ติ 1. อยูหนาบทประธาน เรยี กวา วเิ สสน 2. อยหู ลงั บทประธาน เรยี กว่า อพฺภนฺตรกิรยิ า 3. แปลพรอ้ มกับกิรยิ าอ่นื เรียกว่า อพภฺ นฺตรกิรยิ า (ในกิรยิ าท่ีแปลรว่ ม) เป็ นทตุ ิยาวิภัตต ิ แปลวา ใหเ ปน เรยี กวา่ วิกติกมฺม (ใน กรฺ ธาต)ุ เป็ นวภิ ตั ตอิ ่นื (จากปฐมาและทุตยิ าวภิ ัตต)ิ 1. จะอยหู นาหรือหลงั ก็ตาม เรียกวา่ วิเสสน 2. เปน กริ ยิ าในประโยคอนาทร เรียกว่า อนาทรกริ ยิ า 3. เปนกริ ิยาในประโยคลกั ขณะ เรียกวา่ ลกขฺ ณวนฺตกิรยิ า ตูนาทิปั จจยั หลักสมพันธ์| 1. แปลวา แลว (ตามลำ� ดบั กิรยิ า) เรยี กวา ปุพพฺ กาลกริ ยิ า 139 2. แปลวา เพราะ (หลังกริ ิยา) เรยี กวา่ เหตุกาลกิรยิ า 3. แปลวา ครัน้ แลว เรียกว่า ปรโิ ยสานกาลกิรยิ า 4. แปลวา แลว (หลังกริ ิยาคมุ พากย) เรยี กวา่ อปรกาลกริ ยิ า 5. แปลไมออกส�ำเนียงปจจยั หรือแปลพรอ้ มกบั กริ ิยาตัวหลงั เรียกว่า สมานกาลกิรยิ า
6. แปลไมอ อกสำ� เนียงปจ จยั หลังนาม เรยี กว่า วิเสสน 7. แปลไมอ อกสำ� เนียงปจ จัย หลงั กิรยิ าคุมพากย ์ เรยี กว่า กริ ยิ าวิเสสน ต อนยี ตพฺพ 1. มีลิงค, วจนะ, วภิ ตั ติ เสมอกบั นามนาม เรยี กวา วิเสสน 2. แปลวา เปน (ใน ห,ุ ภู, ชนฺ ธาต)ุ เรยี กว่า วกิ ตกิ ตตฺ า อติ ิ ศพั ท 1. แปลวา ดังนี้ (ปดเลขใน) - เขากับกริ ยิ า เรียกวา อาการ - เขากับนาม เรียกว่า สรูป 2. แปลวา่ ดงั นี้เปน ตน (เขากับนาม) เรียกวา่ อาทฺยตฺถ 3. แปลว่า ช่อื วา (เขากับศพั ทภ ายในอิติ) เรียกวา่ สญฺาโชตก 4. แปลวา่ ดวยประการฉะนี้ เรียกว่า ปการตฺถ 5. แปลวา่ เพราะเหตนุ ัน้ (รูปวิเคราะห) เรยี กว่า เหตฺวตฺถ 6. แปลวา่ เพราะเหตุนี้ เรียกวา่ นิทสสฺ น 7. แปลว่า ดังนี้แล (เม่อื จบเร่อื ง) เรียกว่า สมาปนนฺ 8. แปลว่า ดงั นี้แล (เม่อื จบ อิติ ตวั ท่ี ๒) เรียกว่า ปรสิ มาปนฺน 9. แปลว่า คอื (เขากบั นาม) เรยี กว่า สรูป |หลักสมพันธ์ นบิ าตประเภทตางๆ 140 1. นิบาตบอกอาลปนะ เรยี กวา อาลปนะ 2. นิบาตบอกกาล เรยี กว่า กาลสตฺตมี (ในกริ ยิ า) 3. นิบาตบอกท่ี เรียกว่า อาธาร (ในกิรยิ า) 4. นิบาตบอกปรจิ เฉท เรียกว่า ปรจิ ฺเฉทนตถฺ
5. นิบาตบอกอุปมา–อุปมัย หลักสมพันธ์| - ยถา, อิว (ฉนั ใด) เรียกว่า อปุ มาโชตก - ตถา, เอวํ (ฉนั นัน้ ) เรยี กว่า อุปเมยฺยโชตก 141 6. นิบาตบอกปฏิเสธ - แปลเขากบั กริ ยิ า เรียกว่า ปฏิเสธ - แปลเดย่ี ว เรยี กวา่ ปฏเิ สธนตถฺ 7. นิบาตบอกประการ เรียกว่า ปการตถฺ 8. นิบาตบอกความไดยินเลาลอื เรยี กวา่ อนุสสฺ วนตฺถ 9. นิบาตบอกค�ำถาม เรียกว่า ปจุ ฉฺ นตฺถ 10. นิบาตบอกปริกปั เรยี กว่า ปรกิ ปปฺ ตฺถ 11. นิบาตบอกความรบั เรียกว่า สมปฺ ฏจิ ฺฉนตถฺ 12. นิบาตบอกความเตือน เรยี กวา่ อุยฺโยชนตฺถ 13. นิบาตสักวาเปน เคร่อื งท�ำบทใหเตม็ - อยใู นคาถา เรยี กวา่ ปทปูรณ - อยูน อกคาถา เรียกว่า วจนาลงกฺ าร 14. นิบาตมเี น้ือความตางๆ เรียกวา่ กริ ยิ าวเิ สสน นบิ าตเบด็ เตล็ด หิ ดังจะกลาวโดยพิสดาร เรยี กวา วติ ฺถารโชตก หิ ดังจะกลาวโดยยอ เรยี กว่า สงฺเขปโชตก หิ, จ, ปน, ตุ ก,็ แล, กแ็ ล เรยี กวา่ วากฺยารมภฺ โชตก ห,ิ จ, ปน, ตุ เพราะวา เรียกว่า เหตุโชตก ห,ิ จ, ปน, ต ุ เหตุวา เรยี กวา่ กรณโชตก หิ, จ, ปน, ต ุ ดวยวา เรียกว่า ผลโชตก หิ, จ, ปน, ต ุ แตว า เรียกว่า วเิ สสโชตก หิ, จ, ปน, ต ุ เหมือนอยางวา (ใกล ยถา) เรียกว่า ตปฺปาฏกิ รณโชตก
|หลักสมพันธ์ หิ, จ, ปน, ตุ จริงอย,ู แทจ ริง เรียกวา่ ทฬหฺ กี รณโชตก ห,ิ จ, ปน, ตุ สวนวา เรียกว่า ปกฺขนฺตรโชตก 142 นุ, วต, หิ, สุ, โข, เว, หเว, โว หนอ, แล, ส,ิ เวย , โวย - อยูใ นคาถา เรียกวา่ ปทปูรณ - อยูนอกคาถา เรียกว่า วจนาลงกฺ าร หิ, จ, ปน, ตุ, อโถ, ตถา อน่ึง เรยี กว่า สมปฺ ณ ฺฑนตฺถ ตถา เหมือนอยางนัน้ , เอวํ อยางนี้, สกกฺ จฺจํ โดยเคารพ, สจจฺ ํ จรงิ เรียกวา่ กิรยิ าวิเสสน สาธุ ดงั ขาพเจาขอโอกาส เรียกว่า อายาจนตถฺ จ ดวย (ควบบท) เรยี กวา่ ปทสมุจจฺ ยตฺถ จ ดวย (ควบพากย) เรยี กว่า วากยฺ สมุจฺจยตถฺ วา หรือ (ควบบท) เรยี กวา่ ปทวกิ ปฺปตถฺ วา หรือ (ควบพากย) เรียกว่า วากยฺ วกิ ปปฺ ตถฺ เตนหิ ถาอยางนัน้ เรียกว่า วภิ ตตฺ ิปฏริ ูปก ว, เอว เทยี ว, นัน่ เทยี ว เรียกว่า อวธารณ ป, อป แม, บาง, ก็ดี เรยี กวา่ อเปกฺขตฺถ ป, อป แมบาง - ใชแ สดงการชมเชย เรียกว่า สมฺภาวนตถฺ - ใชแ สดงการตำ� หนิ เรยี กว่า ครหตฺถ สห, สทฺธึ พรอม, กบั - เขากบั นาม เรยี กวา่ ทพฺพสมวาย - เขากับกิริยา เรียกว่า กิรยิ าสมวาย อถวา, อปจ , วา อกี อยางหน่ึง เรียกวา่ อปรนัย ปจฺฉา ภายหลัง, อถโข ครัง้ นัน้ แล เรยี กวา่ กาลสตตฺ มี กญิ ฺจาป แมก็จริง, ยทิป แมโ ดยแท, อญฺ ทตฺถุ, กาม,ํ กามญจฺ โดยแท เรียกว่า อนคุ คฺ หตฺถ
ปน ถงึ อยางนัน้ , อถโข โดยที่แทแ ล, ตถาป แมถึงอยางนัน้ หลักสมพันธ์| เรียกวา่ อรุจิสจู นตถฺ ตถา ห ิ จรงิ อยางนัน้ , จ ปน ก็ แล เรยี กวา่ นิปาตสมุห 143 อโห โอ (แสดงอาการดีใจ) เรยี กว่า อจฉฺ รยิ ตฺถ อโห โอ (แสดงอาการเสียใจ) เรยี กวา่ สํเวคตฺถ นีจ,ํ อจุ จฺ ํ ต่ำ� , สูง เรียกวา่ วเิ สสน ปุนปปฺ ุนํ บอ ยๆ เรยี กวา ปุนปฺปนุ ตถฺ , กิรยิ าวิเสสน ธ ิ นาตเิ ตียน เรยี กว่า ครหตฺถโชตก, ครหตฺถโชตกลงิ คตฺถ ชอื่ สมั พันธเ บ็ดเตล็ด 1. อลํ, สกกฺ า แปลวา เปน ... (เขากับ หุ, ภู ธาต)ุ เรยี กวา วกิ ตกิ ตตฺ า 2. กึการณา เพราะเหตุอะไร เรยี กวา่ เหตุ 3. อติ ิ าปนเหตกุ ํ แปลว่า มีอนั ใหร ูวา...ดังนี้ เปน เหต ุ อิติ ศัพท เรียกวา่ สรูป ใน าปน– าปนเหตกุ ํ เรียกวา่ กริ ยิ าวิเสสน 4. ยาว เพียงใด, อญฺตร เว้น (แปลเดย่ี ว) เรยี กวา่ กิรยิ าวเิ สสน 5. ยญเฺ จ เสยโฺ ย แปลรวมกนั เรยี กวา่ กิรยิ าวิเสสน 6. ยํ ใด, ยสมฺ า, หิ เหตใุ ด เรียกวา่ กริ ยิ าปรามาส 7. มญฺเ เห็นจะ เรยี กว่า สํสยตฺถ 8. นาม ช่ือวา เรยี กว่า สญฺาโชตก 9. ช่ือวา (ติสฺโส สามเณโร) เรียกว่า สญฺาวิเสสน 10. ช่อื วา - บทอธิบาย (อยหู นา) เรียกว่า สญฺญี - บทมาในคาถา (อยหู ลงั ) เรียกว่า สญฺา 11. คอื วา - บทมาในคาถา (อยูหนา) เรียกว่า ววิ รยิ - บทอธิบาย (อยูหลงั ) เรียกวา่ ววิ รณ
|หลักสมพันธ์12. คือ - นามที่มีวภิ ัตติ และวจนะเสมอกับนาม เรียกวา่ วเิ สสลาภี - นามท่มี ีวิภัตติ และวจนะไมเสมอกบั นาม เรยี กว่า สรูป วเิ สสนวปิ ลฺลาส คณุ นามและสรรพนาม 1. เปน วเิ สสนะของนามท่ตี า งลงิ คกัน เรียกวา่ วิเสสนลิงคฺ วิปลลฺ าส 1. เปนวิเสสนะของนามทตี่ า งวจนะกนั เรียกวา่ วิเสสนวจนวิปลลฺ าส 1. เปน วเิ สสนะของนามทีม่ ีทัง้ ลงิ คและวจนะตา งกนั เรียกว่า วเิ สสนลิงคฺ วจนวปิ ลฺลาส สมั พนั ธผ สม วภิ ตั ตนิ ามใดแปลออกสำ� เนยี งอายตนบิ าตหมวดอ่นื เม่อื สมั พนั ธ ใหบ อก ช่อื หมวดวภิ ตั ตขิ องศพั ทน์ ัน้ ไวห นา แลว ตามดว้ ยช่อื สมั พนั ธข์ องสำ� เนียง อายตนิบาตที่แปล เชน อทิ ธฺ มิ ยรปู ํ ทฏิ กาลโต แปลวา แตก าล-แหง รปู อนั สำ� เรจ็ ดว ยฤทธ์ิ -อันตน เหน็ แลว อิทฺธิมยรปู ํ (ทตุ ยิ าวิภตั ตแิ ปลเปนฉฏั ฐีวิภัตติ) สัมพันธว า ทตุ ิยาสามีสมฺพนธฺ จบหลกั สัมพันธ 144
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145