สงั ขยาคุณนาม ศพั ทท เ่ี ปนเคร่อื งกำ� หนดนับนามนาม ช่ือ สังขยา สงั ขยา แบง เปน ๒ คือ ปกตสิ ังขยา ๑ ปูรณสังขยา ๑ ปกตสิ ังขยา นับโดยปกติ เปน ตนวา หน่ึง สอง สาม ส่ี หา สำ� หรับนับ นามนาม ใหรูว ามีประมาณเทาใด ปูรณสังขยา ส�ำหรับนับนามนามท่ีเต็มจ�ำนวน คือ นับเปนชั้นๆ เปนตนวา ทหี่ น่ึง ท่ีสอง ทส่ี าม ที่ส่ี ที่หา วิธีนั บปกติสังขยา เอก ๑ สตตฺ รส ๑๗ ทวฺ ิ ๒ อฏฺารส ๑๘ ติ ๓ เอกูนวสี ติ, อนู วีส ๑๙ จตุ ๔ วีส, วสี ติ ๒๐ ปญจฺ ๕ เอกวีสต ิ ๒๑ ฉ ๖ ทวฺ าวสี ติ, พาวีสต ิ ๒๒ สตฺต ๗ เตวสี ติ ๒๓ อฏฺ ๘ จตุวสี ต ิ ๒๔ นว ๙ ปญฺจวสี ต ิ ๒๕ ทส ๑๐ ฉพฺพสี ต ิ ๒๖ เอกาทส ๑๑ สตตฺ วสี ต ิ ๒๗ ทฺวาทส, พารส ๑๒ อฏฺวสี ต ิ ๒๘ เตรส ๑๓ เอกนู ตตฺ ึส, อูนตฺตสึ ๒๙ จตทุ ทฺ ส, จุททฺ ส ๑๔ ตสึ , ตสึ ต ิ ๓๐ |นาม ปญจฺ ทส, ปณฺณรส ๑๕ เอกตฺตสึ ๓๑ 50 โสฬส ๑๖ ทฺวตฺตึส, พตตฺ ึส ๓๒
เตตตฺ ึส ๓๓ สตฺตจตฺตาฬีส ๔๗ จตตุ ตฺ ึส ๓๔ อฏฺจตตฺ าฬสี ๔๘ เอกูนปญฺาส, อูนปญฺ าส ๔๙ ปญฺจตฺตึส ๓๕ ฉตฺตึส ๓๖ ปญฺ าส, ปณณฺ าส ๕๐ สตตฺ ตตฺ สึ ๓๗ สฏฺ ี ๖๐ สตตฺ ติ ๗๐ อฏฺตตฺ สึ ๓๘ เอกูนจตตฺ าฬีส, อูนจตฺตาฬสี ๓๙ อสีติ ๘๐ จตฺตาฬีส, ตาฬสี ๔๐ นวตุ ิ ๙๐ เอกจตฺตาฬีส ๔๑ สตํ รอ้ ย เทวฺ จตตฺ าฬสี ๔๒ สหสสฺ ํ พัน เตจตฺตาฬีส ๔๓ ทสสหสฺสํ หม่ืน จตุจตตฺ าฬีส ๔๔ สตสหสฺส,ํ ลกขฺ ํ แสน ปญฺจจตฺตาฬสี ๔๕ ทสสตสหสฺสํ ล้าน ฉจตตฺ าฬีส ๔๖ โกฏิ โกฏิ ปกติสังขยา จดั เปน นาม ลงิ ค วจนะ ดงั นี ้ นาม เปน สพั พนาม ตัง้ แต เอก (๑) - จตุ (๔) เปน คณุ นาม ตงั้ แต ปญจฺ (๕) - อฏ นวตุ ิ (๙๘) เปน นามนาม ตัง้ แต เอกูนสตํ (๙๙) - โกฏิ ลิงค ตัง้ แต เอก (๑) - อฏารส (๑๘) เปน ได ๓ ลงิ ค ตัง้ แต เอกนู วีสติ (๑๙) - อฏนวตุ ิ (๙๘) เปน อติ ถีลงิ ค นาม| ตัง้ แต เอกนู สตํ (๙๙) - ทสสตสหสฺสํ (ลาน) เปน นปุงสกลิงค โกฏิ เปน อิตถลี งิ ค 51
วจนะ เอก (๑) เปน เอกวจนะ ทวฺ ิ (๒) - อฏารส (๑๘) เปน พหวุ จนะ เอกูนวีสติ (๑๙) - อฏ นวุติ (๙๘) เปน เอกวจนะ เอกูนสตํ (๙๙) - โกฏ ิ เปนไดท งั้ ๒ วจนะ วิธีแจกปกตสิ งั ขยา เอก ศัพท แจกอยางนี ้ ปุงลิงค์ เอกวจนะ อิตถีลิงค์ เอกวจนะ ป. เอโก ป. เอกา ท.ุ เอกํ ทุ. เอกํ ต. เอเกน ต. เอกาย จ. เอกสฺส จ. เอกาย ปญ.ฺ เอกสฺมา เอกมฺหา ปญฺ. เอกาย ฉ. เอกสฺส ฉ. เอกาย ส. เอกสมฺ ึ เอกมหฺ ิ ส. เอกาย เอก ศัพท ในนปงุ สกลงิ ค แจกเหมือนปุงลิงค แปลกแต ป.เอกํ เทานัน้|นาม และเอก ศพั ท ถาเปน สงั ขยาแจกแบบนี้ ถาเปน สพั พนาม แจกไดท งั้ ๒ วจนะ เหมอื น ย ศพั ท 52
ทฺวิ ศพั ท และ อภุ ศัพท ใน ๓ ลงิ ค แจกอยางนี ้ พหวุ จนะ ป. เทฺว ป. อุโภ ท.ุ เทวฺ ทุ. อโุ ภ ต. ทฺวีหิ ต. อุโภหิ จ. ทวฺ ินนฺ ํ จ. อภุ ินนฺ ํ ปญฺ. ทฺวีหิ ปญ.ฺ อโุ ภหิ ฉ. ทวฺ ินนฺ ํ ฉ. อุภนิ ฺนํ ส. ทวฺ ีสุ ส. อุโภสุ ติ ศัพท แจกอยา งนี ้ ปุงลงิ ค์ พหวุ จนะ อติ ถลี ิงค์ พหวุ จนะ ป. ตโย ป. ตสิ ฺโส ทุ. ตโย ท.ุ ติสฺโส ต. ตีหิ ต. ตหี ิ จ. ตณิ ฺณํ ตณิ ฺณนฺนํ จ. ตสิ สฺ นนฺ ํ ปญฺ. ตหี ิ ปญฺ. ตหี ิ ฉ. ติณณฺ ํ ติณฺณนฺนํ ฉ. ติสสฺ นฺนํ ส. ตีสุ ส. ตสี ุ ติ ศพั ทท ่ีเปน นปุงสกลิงค แจกเหมอื นปุงลิงคแปลกแต ป.ท.ุ ตณี ิ นาม| 53
จตุ ศพั ท แจกอยา งนี ้ ปงุ ลิงค์ พหวุ จนะ อติ ถลี งิ ค์ พหวุ จนะ ป. จตตฺ าโร จตโุ ร ป. จตสโฺ ส ท.ุ จตฺตาโร จตุโร ท.ุ จตสโฺ ส ต. จตูหิ ต. จตูหิ จ. จตุนนฺ ํ จ. จตสสฺ นนฺ ํ ปญฺ. จตหู ิ ปญ.ฺ จตหู ิ ฉ. จตนุ นฺ ํ ฉ. จตสสฺ นนฺ ํ ส. จตสู ุ ส. จตสู ุ จตุ ศพั ทท ีเ่ ปน นปุงสกลิงค แจกเหมือนปงุ ลิงค แปลกแต ป.ท.ุ จตตฺ าริ ปญจฺ ศพั ท ใน ๓ ลิงค แจกอยางนี ้ พหวุ จนะ ป. ปญจฺ ท.ุ ปญจฺ ต. ปญจฺ หิ จ. ปญจฺ นฺนํ ปญฺ. ปญฺจหิ ฉ. ปญฺจนฺนํ ส. ปญจฺ สุ ตงั้ แต ฉ ถึง อฏารส แจกเหมอื น ปญฺจ ศพั ท์ |นาม 54
เอกนู วีส แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ ป. เอกูนวีสํ ท.ุ เอกนู วสี ํ ต. เอกูนวสี าย จ. เอกนู วสี าย ปญ.ฺ เอกูนวีสาย ฉ. เอกูนวสี าย ส. เอกนู วีสาย ตงั้ แต วสี - ปญฺาส แจกตาม เอกนู วสี ตงั้ แต เอกูนวีสติ - อฏตฺตสึ ติ และ ตัง้ แต เอกนู สตฺตติ - อฏนวตุ ิ แจกตาม รตตฺ ิ ฝา ยเอกวจนะ ตงั้ แต เอกูนสฏ ี - อฏ สฏ ี แจกตาม นารี ฝายเอกวจนะ ตัง้ แต เอกูนสตํ - ทสสตสหสสฺ ํ แจกตาม กุล ทงั้ ๒ วจนะ โกฏิ แจกตาม รตตฺ ิ ทัง้ ๒ วจนะ ปูรณสังขยา นับในลิงคทงั้ ๓ ดังนี ้ ปงุ ลงิ ค อติ ถลี ิงค นปงุ สกลิงค ค�ำแปล นาม| ปโม ปมา ปมํ ท่ี ๑ ทุติโย ทตุ ิยา ทตุ ยิ ํ ท่ี ๒ 55 ตติโย ตติยา ตตยิ ํ ที่ ๓ จตุตฺโถ จตตุ ฺถี – ถา จตตุ ถฺ ํ ท่ี ๔ ปญฺจโม ปญจฺ มี – มา ปญจฺ มํ ท่ี ๕
ปุงลิงค อิตถีลงิ ค นปุงสกลงิ ค คำ� แปล ฉฏโ ฉฏ ี– า ฉฏํ ที่ ๖ สตตฺ โม สตตฺ มี – มา สตฺตมํ ที่ ๗ อฏ โม อฏม ี – มา อฏ มํ ท่ี ๘ นวโม นวมี – มา นวมํ ที่ ๙ ทสโม ทสมี – มา ทสมํ ที่ ๑๐ เอกาทสโม เอกาทสี – มา เอกาทสมํ ที่ ๑๑ ทวฺ าทสโม, พารสโม ทฺวาทสี, พารสี ทฺวาทสม,ํ พารสมํ ท่ี ๑๒ เตรสโม เตรสี เตรสมํ ท่ี ๑๓ จตุททฺ สโม จตทุ ฺทสี – มา จตทุ ฺทสมํ ที่ ๑๔ ปณณฺ รสโม ปณณฺ รส ี – มา ปณฺณรสมํ ที่ ๑๕ โสฬสโม โสฬสี โสฬสมํ ท่ี ๑๖ สตตฺ รสโม สตตฺ รสี สตตฺ รสมํ ท่ี ๑๗ อฏารสโม อฏารสี อฏารสมํ ท่ี ๑๘ เอกูนวีสตโิ ม เอกูนวีสตมิ า เอกูนวสี ตมิ ํ ท่ี ๑๙ วสี ติโม วสี ติมา วสี ติมํ ท่ี ๒๐ |นาม 56
สัพพนาม สพั พนาม แบง เปน ๒ คือ ปรุ สิ สพั พนาม ๑ วิเสสนสัพพนาม ๑ ปุริสสัพพนาม เปนศัพท์ส�ำหรับใชแทนช่ือคน และสิ่งของท่ีออกช่ือ มาแลว ขางตน เพ่อื ไมใ หซ ้ำ� ซาก แบง เปน ๓ ตามบรุ ษุ ทจี่ ดั ไวใ นอาขยาต คอื ต ตมุ ฺห อมฺห ต ศัพท เปน ประถมบุรุษ ส�ำหรับใช้แทนช่ือคนและสิ่งของท่ีผูพูด ออกช่ือถึง เชนคำ� วา “เขา” เปนได ๓ ลงิ ค ตุมหฺ ศัพท เปน มธั ยมบรุ ุษ สำ� หรบั ใชแทนช่อื คนท่ผี ูพดู พดู กบั คนใด ใชแ ทนช่อื ของคนนัน้ เชน คำ� วา “เจา – ทาน – สู – เอง็ – มึง” อมฺห ศัพท เปน อุตตมบุรุษ ส�ำหรับใชแทนช่ือของผูพูด เชนค�ำวา “ฉนั – ขา – กู” ตามค�ำทีส่ งู และต่ำ� สัพพนามไมม อี าลปนะ วธิ ีแจกปุริสสัพพนาม ต ศพั ท (นัน้ ) ในปุงลิงค แจกอยางนี ้ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. โส เต ท.ุ ตํ นํ เต เน ต. เตน เตหิ จ. ตสสฺ อสฺส เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ ปญฺ. ตสมฺ า อสฺมา ตมฺหา เตหิ ฉ. ตสฺส อสสฺ เตสํ เตสานํ เนสํ เนสานํ นาม| ส. ตสมฺ ึ อสฺมึ ตมฺหิ เตสุ 57
ต ศพั ท (นัน้ ) ในอิตถีลงิ ค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. สา นํ ตา ตาสานํ ทุ. ตํ ตา ตาสานํ ต. ตาย อสสฺ า ตาหิ จ. ตสสฺ า ติสฺสาย ตาสํ ตสิ ฺสา อสสฺ า ตาหิ ปญ.ฺ ตาย ติสสฺ าย ตาสํ ฉ. ตสสฺ า ตสฺสํ ติสฺสํ ตาสุ ตสิ สฺ า ส. ตายํ อสฺสํ ต ศพั ท ในนปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นในปงุ ลงิ ค แปลกแต ป.เอก. ต,ํ ป.ท.ุ พห.ุ ตานิ ตมุ หฺ (ทาน) ทงั้ สองลิงค (ปุง., อิต.) แจกอยางนี ้ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป.|นามตฺวํ ตุวํ เต ตมุ เฺ ห โว ทุ. ตํ ตวฺ ํ ตุวํ เต ตมุ เฺ ห โว ต. ตยา ตฺวยา เต ตุมเฺ หหิ โว จ. ตุยหฺ ํ ตุมหฺ ํ ตว ตุมฺหากํ โว ปญ.ฺ ตยา ตุมเฺ หหิ ฉ. ตยุ หฺ ํ ตุมฺหํ ตว ตมุ หฺ ากํ โว ตยิ ตวฺ ยิ ตุมเฺ หสุ 58 ส.
อมฺห (ขา ) ทัง้ สองลงิ ค (ปุง., อิต.) แจกอยางนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อหํ มยํ โน โน ทุ. มํ มมํ อมเฺ ห โน ต. มยา เม อมฺเหหิ โน จ. มยฺหํ อมหฺ ํ มม อมฺหากํ อสมฺ ากํ มมํ เม อมฺเหหิ โน ปญ.ฺ มยา อมฺหากํ อสมฺ ากํ ฉ. มยฺหํ อมฺหํ มม อมฺเหสุ มมํ เม ส. มยิ วเิ สสนสพั พนามคลายกบั คณุ นาม แตว ธิ แี จกไมเ หมอื นคณุ นาม แบง เปน ๒ คอื อนิยม ๑ นิยม ๑ ศพั ท์ ๑๓ ศัพท์ คอื ย อญฺ อญฺ ตร อญฺตม ปร อปร กตร กตม เอก เอกจฺจ สพฺพ กึ อภุ ย เปน อนิยม ศพั ท ๔ ศัพท์ คอื ต เอต อิม อม ุ เปน นิยม ย ศพั ท ไมเ ปน อนิยมแท เพราะเขากับ ตุมหฺ อมหฺ ได แตถาแปล ย วา “ใด” เปนอนิยมแท้ วเิ สสนสพั พนามเปน ไดทงั้ ๓ ลงิ ค นาม| 59
วธิ ีแจกวเิ สสนสัพพนาม ย ศัพท (ใด) ในปงุ ลิงค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. โย ยมฺหา เย ท.ุ ยํ ยมฺหิ เย ต. เยน เยหิ จ. ยสฺส เยสํ เยสานํ ปญฺ. ยสฺมา เยหิ ฉ. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ส. ยสฺมึ เยสุ ย ศพั ท (ใด) ในอิตถลี ิงค แจกอยางนี ้ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. ยา ยา ท.ุ ยํ ยา ต. ยาย ยาหิ จ. ยสสฺ า ยาสํ ยาสานํ ปญฺ. ยาย ยาหิ ฉ. ยสฺสา ยาสํ ยาสานํ ส. ยสสฺ ํ ยาสุ ย ศัพททเ่ี ปน นปุงสกลิงค แจกเหมือนใน ปุงลงิ ค แปลกแต ป.ท.ุ เอก.|นาม ย,ํ พห.ุ ยานิ 60
ศพั ทท แ่ี จกเหมอื น ย ศัพท อญฺ อ่ืน กตม คนไหน อญฺตร คนใดคนหน่ึง เอก คนหน่ึง-พวกหน่ึง อญฺ ตม คนใดคนหน่ึง เอกจฺจ บางคน-บางพวก ปร อ่ืน อุภย ทงั้ สอง อปร อ่ืนอีก สพฺพ ทงั้ ปวง กตร คนไหน กึ ใคร-อะไร กึ ศพั ท แปลวา ใคร – อะไร ถามี จิ ตอ ทาย แปลวา นอย – บางคน – บางสง่ิ ใหแ ปลซ้ำ� กัน ๒ หน เหมอื นค�ำวา โกจิ อ.ใคร ๆ, กาจิ อติ ฺถี อ.หญงิ ไรๆ, กญิ จฺ ิ วตถฺ ุ อ.วัตถุไรๆ ถาเปนพหุวจนะ แปลวา บางพวก – บางเหลา เหมือนค�ำวา เกจิ ชนา อ.ชน ท. บางพวก, กาจิ อิตฺถิโย อ.หญิง ท. บางพวก, กานิจิ กุลานิ อ.ตระกลู ท. บางเหลา ถามี ย น�ำหนา มี จิ ตอทาย แปลวา คนใดคนหน่ึง – ส่ิงใดส่ิงหน่ึง อุทาหรณวา โย โกจิ ปุริโส อ.บุรุษ คนใดคนหน่ึง, ยา กาจิ อิตฺถี อ.หญิง คนใด คนหน่ึง, ยานิ กานิจิ กมมฺ านิ อ.กรรม ท. เหลาใดเหลาหน่ึง เปน ตน กึ ศพั ท ทีเ่ ปนสพั พนามนี้เปนได้ ๓ ลิงค แปลง กึ เปน ก ในปุงลงิ ค์, เป็น กา ในอิตถลี งิ ค, คงรูป กึ ในนปงุ สกลิงค ปฐมาและทุตยิ าวิภัตตเิ อก วจนะเทา่ นัน้ แลว้ แจกตาม ย ศพั ท์ ทงั้ ๓ ลงิ ค์ นาม| 61
เอต ศัพท (น่ัน) ในปงุ ลิงค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. เอโส เอเต ทุ. เอตํ เอนํ เอเต ต. เอเตน เอเตหิ จ. เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ ปญ.ฺ เอตสมฺ า เอตมฺหา เอเตหิ ฉ. เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ส. เอตสมฺ ึ เอตมฺหิ เอเตสุ เอต ศพั ท (น่ัน) ในอิตถลี งิ ค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. เอสา เอตา ทุ. เอตํ เอนํ เอตา ต. เอตาย เอตาหิ จ. เอตสสฺ า เอติสฺสา เอตาสํ เอตาสานํ เอตสิ สฺ าย ปญ.ฺ เอตาย เอตาหิ ฉ. เอตสฺสา เอตสิ ฺสา เอตาสํ เอตาสานํ เอติสสฺ าย ส. เอตสสฺ ํ เอตสิ สฺ ํ เอตาสุ |นาม เอต ศัพท ท่ีเปนนปุงสกลิงคแจกเหมือนปุงลิงค แปลกแต ป.ทุ.เอก. เอต,ํ พหุ. เอตานิ 62
อิม ศพั ท (นี)้ ในปงุ ลิงค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. อยํ อิเม ทุ. อิมํ อเิ ม ต. อมิ ินา อเนน อิเมหิ จ. อิมสสฺ อสฺส อเิ มสํ อเิ มสานํ ปญ.ฺ อมิ สมฺ า อมิ มฺหา อสฺมา อเิ มหิ ฉ. อิมสสฺ อสฺส อเิ มสํ อเิ มสานํ ส. อมิ สมฺ ึ อมิ มหฺ ิ อสฺมึ อเิ มสุ อมิ ศัพท (นี)้ ในอิตถีลงิ ค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อยํ อมิ า อมิ าสานํ ทุ. อิมํ อิมา ต. อมิ าย อมิ าหิ จ. อิมสิ สฺ า อมิ ิสฺสาย อิมาสํ อสฺสา อิมาหิ อิมาสานํ ปญ.ฺ อมิ าย อิมาสํ ฉ. อมิ สิ ฺสา อมิ ิสฺสาย อิมาสุ อสฺสา ส. อมิ สิ ฺสํ อสสฺ ํ อมิ ศพั ทท เี่ ปน นปงุ สกลงิ ค แจกเหมอื นในปงุ ลงิ คแ ปลกแต ป.เอก. นาม| อิท,ํ ทุ.เอก.อิทํ อมิ ,ํ ป.ท.ุ พหุ. อิมานิ 63
อมุ ศัพท (โนน) ในปุงลงิ ค แจกอยางนี ้ เอกวจนะ พหวุ จนะ ป. อมุ อมู ทุ. อมํุ อมู ต. อมนุ า อมูหิ จ. อมุสสฺ อมโุ น อมสู ํ อมสู านํ อมสู านํ ปญฺ. อมสุ มฺ า อมมุ ฺหา อมูหิ ฉ. อมสุ ฺส อมโุ น อมูสํ ส. อมุสฺมึ อมุมหฺ ิ อมสู ุ อมุ ศัพท (โนน ) ในอิตถีลิงค แจกอยา งนี ้ เอกวจนะ พหุวจนะ ป. อมุ อมู ทุ. อมุํ อมู ต. อมุยา อมูหิ จ. อมุสสฺ า อมสู ํ อมสู านํ ปญฺ. อมุยา อมูหิ ฉ. อมสุ ฺสา อมูสํ อมสู านํ ส. อมสุ ฺสํ อมสู ุ อมุ ศพั ท ทเ่ี ปนนปงุ สกลงิ ค แจกหมอื นในปงุ ลงิ ค แปลกแต ป.ท.ุ เอก.|นาม อทํุ, ป.ท.ุ พห.ุ อมูนิ อมุ ศัพทนี้ อาเทสเปน อสุ ไดบาง ลง ก ท้ายศัพท มีรูปเปน อมุก, อสุก บาง แจกตาม ย ศัพท ทงั้ ๓ ลงิ ค 64
อพั ยยศัพท อัพยยศัพท์| ศพั ทท ไี่ มแ่ จกวภิ ตั ตทิ งั้ ๗ เหมือนนามทัง้ ๓ คงรูปของตนอยูอยางนัน้ เรยี กวา อัพยยศัพท อพั ยยศพั ท์ แบง เปน ๓ คอื อุปสัค นิบาต ปจ จัย อุปสัค อปุ สคั ใชน �ำหนานามและกริ ยิ าใหว เิ ศษข้นึ เม่อื น�ำหนานามนามมอี าการ คลายคณุ ศพั ท เม่ือน�ำหนากิรยิ ามอี าการคลายกิริยาวเิ สสนะ มี ๒๐ ตวั ดงั นี้ อต ิ ยง่ิ , เกิน, ลวง อธ ิ ยงิ่ , ใหญ, ทับ อนุ นอ ย, ภายหลัง, ตาม อป ปราศ, หลีก อป หรอื ป ใกล, บน อภิ ย่งิ , ใหญ, จำ� เพาะ, ขางหนา อว หรือ โอ ลง อา ทวั่ , ย่ิง, กลับความ อ ุ ข้ึน, นอก อุป เขาไป, ใกล, มนั่ ท ุ ชวั่ , ยาก 65
นิ เขา, ลง นิ ไมม,ี ออก ป ทวั่ , ขางหนา, กอ น, ออก ปฏิ เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลบั ปรา กลบั ความ ปร ิ รอบ วิ วิเศษ, แจง, ตาง สํ พรอม, กบั , ดี ส ุ ดี, งาม, งาย นบิ าต นิบาต ใชลงระหวางนามศัพทบาง กิริยาศัพทบาง บอกอาลปนะ กาล ท่ี ปรเิ ฉท อุปมาอุปไมย ปฏเิ สธ ความไดย ินเลาลอื ความปรกิ ัป ความรบั ความถาม ความเตือน เปน ตน ดงั นี้ นิ บาตบอกอาลปนะ ยคฺเฆ ใชสำ� หรบั บคุ คลทอ่ี ยใู ตบงั คบั รอ งเรียกคนสูงกวาตน แปลวา ขอเดชะ ภนเฺ ต, ภทนฺเต ใชส�ำหรบั คฤหัสถเ รยี กบรรพชติ หรอื บรรพชติ ผอู อ น พรรษากวา เรยี กบรรพชติ ผูม พี รรษาสูงกวา แปลวา |อัพยยศัพท์ ผูเจรญิ ภเณ ใชส �ำหรับคนที่สงู กวาเรยี กคนรบั ใชท ่ตี ่�ำกวาตน แปลวา พนาย อมฺโภ ใชสำ� หรับคนทัว่ ไปรอ งเรยี กบุรษุ แปลวา ผเู จริญ 66
อาวุโส ใชสำ� หรับบรรพชิตเรียกคฤหัสถ หรอื บรรพชิตท่ี แกก วาเรียกบรรพชติ ท่อี อนกวาตน แปลวา ผูมอี ายุ เร, อเร ใชส�ำหรบั รอ งเรียกคนเลวทรามทัว่ ไป แปลวา เวย , โวย เห ใชสำ� หรับรองเรียกคนเลวทรามทัว่ ไป แปลวา เฮย เช ใชส �ำหรบั นายเรยี กสาวใช แปลวา แม นิ บาตบอกกาล อถ ครัง้ นัน้ หิยโฺ ย วนั วาน ปาโต เช้า เสวฺ วนั พรุง่ ทิวา วนั สมปฺ ติ บดั เด๋ียวนี้ สายํ เย็น อายตึ ต่อไป สเุ ว ในวัน นิ บาตบอกท่ี อทุ ธฺ ํ เบ้ืองบน อโธ เบ้ืองต่�ำ อัพยยศัพท์| อุปริ เบ้ืองบน เหฏฺ า ภายใต้ อนฺตรา ระหวา่ ง โอรํ ฝั่งใน อนฺโต ภายใน ปารํ ฝั่งนอก ติโร ภายนอก หุรํ โลกอ่นื พหิ ภายนอก สมมฺ ุขา ตอ่ หน้า พหทิ ธฺ า ภายนอก ปรมมฺ ุขา ลับหลัง พาหริ า ภายนอก รโห ทล่ี ับ 67
นิบาตบอกปรเิ ฉท กีว เพียงไร ยาวตา มปี ระมาณเพียงใด ยาว มปี ระมาณเพยี งนนั้ ตาว เพียงใด ตาวตา มปี ระมาณเท่าใด ยาวเทว มปี ระมาณเท่านัน้ ตาวเทว เพียงนัน้ กติ ตฺ าวตา รอบคอบ, โดยรอบ วิย เพียงใดนัน่ เทยี ว เอตฺตาวตา อิว ยถา เพยี งนัน้ นัน่ เทียว สมนฺตา ยถา นิบาตบอกอปุ มาอปุ ไมย ตถา, เอวํ ราวกะ เสยยฺ ถา ฉนั ใด น โน เพยี งดัง ตถา ฉนั นัน้ มา ว ฉนั ใด เอวํ ฉนั นัน้ กริ นิ บาตบอกประการ ขลุ โดยประการใด กถํ โดยประการไร 68 โดยประการนัน้ นิบาตบอกปฏเิ สธ นัน่ เทียว ไม่ เอว เวน้ ไม่ วินา พอ, อยา่ เลย อยา่ อลํ เทยี ว |อัพยยศัพท์ นิบาตบอกความไดยินคำ� เลา ลือ ได้ยนิ วา่ สทุ ํ ได้ยินว่า ไดย้ นิ ว่า
นิบาตบอกปรกิ ัป เจ หากวา่ อถ ถ้าว่า ยทิ ผวิ า่ สเจ ถ้าวา่ อปฺเปว นาม ช่ือแมไ้ ฉน ยนนฺ นู กระไรหนอ นิ บาตบอกความถาม กึ หรอื , อะไร นนุ มิใช่หรือ กถํ อยา่ งไร อุทาหุ หรือว่า กจจฺ ิ แลหรือ อาทู หรอื วา่ นุ หนอ เสยฺยถที ํ อย่างไรนี้ นิ บาตบอกความรบั อาม เออ อามนตฺ า เออ นิบาตบอกความเตอื น องิ ฺฆ เชญิ เถดิ หนฺท เอาเถิด ตคฆฺ เอาเถดิ นิบาตสำ� หรบั ผูกศพั ทแ ละประโยคมอี ัตถะเปนอเนก จ ด้วย, อน่ึง ปน สว่ นว่า, ก็ ก,็ จรงิ อยู่ อัพยยศัพท์| อปิ แม้, บ้าง, ก็ดี วา หรือ, บ้าง หิ ก,็ จรงิ อย,ู่ เพราะวา่ อปิจ เออก็ ตุ สว่ นว่า, ก็ อถวา อีกอยา่ งหน่ึง 69
นิบาตสักวาเปน เคร่อื งท�ำบทใหเต็ม นุ หนอ โข แล สุ สิ วต หนอ เว เวย หเว เวย โว โวย นิบาตมีเนื้อความตา งๆ อญฺทตถฺ ุ โดยแท้ อาวี แจง้ อโถ สูง อทฺธา|อัพยยศัพท์อน่ึง อจุ จฺ ํ แน่แท้ อติ ิ แน่แท้ อวสสฺ ํ โอ เพราะเหตนุ ัน้ , อโห กิญฺจาปิ ว่า...ดงั นี้, ไกล ดว้ ยประการนี้, ช่อื อารา กฺวจิ แมน้ ้อยหน่ึง, ต่�ำ มจิ ฺฉา แมก้ ็จรงิ นีจํ แน่ มุธา บ้าง นูน ตา่ งๆ มสุ า ผดิ นานา ภายหลงั สกึ เปล่า ปจฉฺ า ตัง้ ก่อน, จำ� เดมิ สตกขฺ ตฺตํุ เทจ็ ปฏฺาย จ�ำเดิม สทฺธึ คราวเดยี ว ปภูติ อีก สณกิ ํ ร้อยคราว ปุน บ่อยๆ สยํ พร้อม, กับ ปนุ ปปฺ ุนํ ยง่ิ สห ค่อยๆ ภิยโฺ ย โดยยง่ิ เอง ภิยโฺ ยโส 70 สามํ กับ เอง
ปจ จยั ปจจัย ใชลงทายนามศัพทเปนเคร่ืองหมายวิภัตติ ลงทายธาตุเปน เคร่ืองหมายกิริยา โต ปจ จยั เปน เคร่อื งหมาย ตตยิ าวภิ ตั ติ แปลวา “ขา ง” เปน เคร่อื งหมาย ปญจมวี ภิ ตั ติ แปลวา “แต” เปนตน ดงั นี้ สพพฺ โต แต...ทงั้ ปวง ปุรโต ขางหนา อญฺโต แต...อ่นื ปจฺฉโต ขางหลัง อญฺ ตรโต แต. ..อันใดอันหน่ึง ทกขฺ ิณโต ขางขวา อิตรโต แต. ..นอกนี้ วามโต ขางซาย เอกโต ขางเดยี ว อุตตฺ รโต ขางเหนือ อุภโต สองขาง อธรโต ขางลาง ปรโต ขางอ่ืน ยโต แต...ใด ตโต แต. ..นัน้ อมุโต แต...โนน เอโต, อโต แต. ..นัน่ กตรโต แต. ..อะไร อโิ ต แต...นี้ กุโต แต...ไหน อปรโต ขางอ่นื อีก ปจจัย คอื ตรฺ ตฺถ ห ธ ธิ หึ หํ หญิ จฺ นํ ว เปน เคร่อื งหมาย สตั ตมี วภิ ัตติ แปลวา “ใน” ดังนี้ สพพฺ ตฺร ใน...ทัง้ ปวง อตฺถ ใน...นี้ สพพฺ ตถฺ ใน...ทงั้ ปวง เอกตรฺ ใน...เดยี ว อัพยยศัพท์| สพฺพธิ ใน...ทงั้ ปวง เอกตถฺ ใน...เดียว อญฺตฺร ใน...อ่ืน อุภยตรฺ ใน...สอง 71 อญฺตถฺ ใน...อ่นื อภุ ยตถฺ ใน...สอง ยตฺร ใน...ใด เอตฺถ ใน...นี้
ยตฺถ ใน...ใด อธิ ใน...นี้ ยหึ ใน...ใด อหิ ใน...นี้ ยหํ ใน...ใด กตรฺ ใน...ไหน ตตรฺ ใน...นัน้ กตฺถ ใน...ไหน ตตฺถ ใน...นัน้ กหุ ึ ใน...ไหน ตหึ ใน...นัน้ กหุ ํ ใน...ไหน ตหํ ใน...นัน้ กุหิญฺจนํ ใน...ไหน อตรฺ ใน...นี้ กฺว ใน...ไหน ปจจัย คอื ทา ทานิ รหิ ธนุ า ทาจนํ ชชฺ ชฺชุ เปนเคร่อื งหมายสตั ตมี วภิ ตั ติ แปลวา “ใน” ลงในกาล ดังนี้ สพพฺ ทา ในกาลทงั้ ปวง เอตรหิ ในกาลนี้, เด๋ยี วนี้ สทา ในกาลทกุ เม่อื กรหจิ ในกาลไหนๆ, บางครงั้ เอกทา ในกาลหน่ึง, บางที อธนุ า ในกาลนี้, เม่อื กี้ ยทา ในกาลใด, เม่อื ใด กทุ าจนํ ในกาลไหน ตทา ในกาลนัน้ , เม่อื นัน้ อชชฺ ในวนั นี้ กทา ในกาลไร, เม่อื ไร สชชฺ ุ ในวันมอี ยู, วันนี้ กทาจิ ในกาลไหน, บางคราว ปรชฺชุ ในวันอ่ืน อิทานิ ในกาลนี้, เด๋ยี วนี้ อปรชชฺ ุ ในวันอ่ืนอกี ปจจยั ทเี่ ปน กิรยิ ากิตก ๕ ตัว คอื ตเว ตุํ ตนู ตวฺ า ตวฺ าน และปจจยั ท่ี อาเทศออกจาก ตฺวา เปน อพั ยยะ แจกดวยวิภตั ตทิ ัง้ ๗ ไมไ ด ดังนี้ |อัพยยศัพท์ กาตเว เพ่ืออนั ท�ำ กตฺวา ท�ำแลว กาตุํ ความท�ำ, เพ่อื อันท�ำ กตฺวาน ท�ำแลว กาตูน ทำ� แลว 72
อาขยาต ศัพทก ลาวกริ ยิ าคือความทำ� เปนตนวา ยืน เดนิ นัง่ นอน กิน ด่ืม ทำ� พดู คดิ ช่อื วา อาขยาต อาขยาต ประกอบดวย วภิ ตั ติ กาล บท วจนะ บรุ ุษ ธาตุ วาจก ปจจัย เพ่ือเปน เคร่อื งหมายทำ� เน้ือความใหช ดั เจน วิภัตติ วิภัตติ จ�ำแนกไวเพ่ือเปนเคร่ืองหมายใหรู กาล บท วจนะ บุรุษ จดั เปน ๘ หมวด ในแต่ละหมวด มี ๑๒ วิภัตติ ดังนี้ ๑. วตฺตมานา แปลว่า ...อยู,่ ย่อม..., จะ... ปรัสสบท อตั ตโนบท เอก. พหุ. บุรษุ เอก. พหุ. ป. ติ อนตฺ ิ เต อนเฺ ต ม. สิ ถ เส วเฺ ห อุ. มิ ม เอ มเฺ ห ๒. ปญฺจม ี แปลว่า จง..., ...เถิด, ขอจง... ปรัสสบท อตั ตโนบท เอก. พหุ. บุรุษ เอก. พห.ุ อาขยาต| ป. ตุ อนตฺ ุ ตํ อนฺตํ ม. หิ ถ สสฺ ุ วฺโห 73 อ.ุ มิ ม เอ อามฺหเส
๓. สตฺตม ี แปลว่า ควร..., พงึ ... ปรัสสบท อตั ตโนบท เอก. พหุ. บุรษุ เอก. พห.ุ ป. เอยฺย เอยฺยํุ เอถ เอรํ ม. เอยยฺ าสิ เอยฺยาถ เอโถ เอยฺยวโฺ ห อุ. เอยฺยามิ เอยฺยาม เอยยฺ ํ เอยยฺ ามฺเห ๔. ปโรกขฺ า แปลว่า ...แลว้ ปรัสสบท อัตตโนบท เอก. พหุ. บุรษุ เอก. พหุ. ป. อ อุ ตถฺ เร ม. เอ ตฺถ ตโฺ ถ วฺโห อ.ุ อํ มหฺ อึ มเฺ ห ๕. หิยตตฺ นี แปลวา่ ...แลว้ , มี อ น�ำหน้า แปลวา่ ได.้ ..แล้ว ปรัสสบท อตั ตโนบท เอก. พห.ุ บรุ ษุ เอก. พห.ุ ป. อา อู ตถฺ ตฺถํุ ม. โอ ตถฺ เส วฺหํ อ.ุ อํ มฺห อึ มฺหเส ๖. อชชฺ ตฺตนี แปลว่า ...แลว้ , มี อ น�ำหน้า แปลว่า ได.้ ..แล้ว ปรสั สบท อตั ตโนบท เอก. พห.ุ บรุ ุษ เอก. พหุ. ป. อี อุํ อา อู |อาขยาต ม. โอ ตฺถ เส วหฺ ํ อุ. อึ มฺหา อํ มฺเห 74
๗. ภวิสฺสนตฺ ิ แปลวา่ จกั ... ปรัสสบท อัตตโนบท เอก. พห.ุ บรุ ุษ เอก. พหุ. ป. สฺสติ สสฺ นฺติ สสฺ เต สสฺ นฺเต ม. สสฺ สิ สฺสถ สสฺ เส สฺสวฺเห อุ. สสฺ ามิ สสฺ าม สฺสํ สฺสามฺเห ๘. กาลาติปตฺติ แปลว่า จกั ...แล้ว, มี อ น�ำหน้า แปลว่า จกั ได.้ ..แล้ว ปรสั สบท อัตตโนบท เอก. พหุ. บุรษุ เอก. พหุ. ป. สฺสา สฺสสํ ุ สสฺ ถ สฺสสึ ุ ม. สเฺ ส สสฺ ถ สฺสเส สฺสวเฺ ห อุ. สสฺ ํ สฺสามหฺ า สฺสํ สสฺ ามฺหเส กาล ในอาขยาต แบงเป็น ๓ กาล คือ กาลทเ่ี กิดข้นึ จำ� เพาะหนา เรียกวา ปจจบุ ันกาล กาลท่ีลวงแลว เรียกวา อดีตกาล กาลทย่ี งั ไมม าถงึ เรยี กวา อนาคตกาล ปจ จบุ ันกาล จัดเปน ๓ คือ ปจ จบุ ันแท ๑ ปจจุบันใกลอดีต ๑ ปจจุบันใกลอ นาคต ๑ อดตี กาล จดั เปน ๓ คอื อาขยาต| ลวงแลวไมม กี �ำหนด ๑ ลว งแลว วานนี้ ๑ ลว งแลว วนั นี้ ๑ อนาคตกาล จดั เปน ๒ คอื 75 อนาคตของปจ จุบนั ๑ อนาคตของอดีต ๑
|อาขยาต ๑. วตฺตมานา บอกปจ จุบันกาล ปจจุบันแท แปลวา “อย”ู อุ. ภิกขฺ ุ ธมมฺ ํ เทเสติ. ภิกษุ แสดงอยู ซ่งึ ธรรม ปัจจุบันใกลอ ดตี แปลวา “ยอ ม” อ.ุ กโุ ต นุ ตฺวํ อาคจฉฺ สิ. ทาน ยอมมา แตที่ไหน หนอ ปัจจุบันใกลอนาคต แปลวา “จะ” อุ. กึ กโรมิ. (ขา) จะทำ� ซ่งึ อะไร ๒. ปญจฺ มี บอกความบงั คับ ความหวัง และความออนวอน เปนตน บอกความบังคับ แปลวา “จง” อุ. เอวํ วเทหิ. (เจา) จงกลาว อยางนี้ บอกความหวงั แปลวา “เถดิ ” อ.ุ สพเฺ พ สตตฺ า อเวรา โหนตฺ ุ. สัตว ท. ทงั้ ปวง เปนผูมเี วรหามไิ ดเถิด บอกความออ นวอน แปลวา “ขอ...จง” อุ. ปพพฺ าเชถ มํ ภนฺเต. ขาแตท านผเู จรญิ ขอ (ทาน ท.) จงยังขาพเจา ใหบวช ๓. สตตฺ มี บอกความยอมตาม ความก�ำหนด และความรำ� พึง เปนตน บอกความยอมตาม แปลวา “ควร” อ.ุ ภเชถ ปุรสิ ุตฺตเม. (ชน) ควรคบ ซ่งึ บุรษุ สูงสุด ท. บอกความกำ� หนด แปลวา “พึง” 76 อ.ุ ปญุ ฺญฺเจ ปรุ โิ ส กยิรา. ถาวา บุรษุ พึงท�ำ ซ่งึ บุญไซร
บอกความร�ำพงึ แปลวา “พงึ ” อุ. ยนฺนูนาหํ ปพฺพชฺเชยฺยํ. ไฉนหนอ เรา พงึ บวช ๔. ปโรกขา บอกอดีตกาล ไมมกี ำ� หนด แปลวา “แลว” อ.ุ เตนาห ภควา. ดว ยเหตุนัน้ พระผูม พี ระภาค ตรัสแลว เตนาหุ โปราณา. ดวยเหตนุ ัน้ อาจารยม ใี นปางกอ น ท. กลาวแลว ๕. หิยตฺตนี บอกอดตี กาล ตงั้ แตว านนี้ แปลวา “แลว ” ถามี “อ” อยหู นา แปลวา “ได. ..แลว ” อ.ุ ขโณ โว มา อปุ จจฺ คา. ขณะ อยาไดเ ขาไปลว งแลว ซ่งึ ทาน ท. เอวํ อวจ.ํ ขา ไดกลาวแลว อยางนี้ ๖. อชฺชตฺตนี บอกอดตี กาล ตงั้ แตวนั นี้ แปลวา “แลว” ถามี “อ” อยหู นา แปลวา “ได...แลว” อุ. เถโร คามํ ปณ ฺฑาย ปาวสิ ิ. พระเถระ เขาไปแลว สบู าน เพ่อื กอ นขาว เอวรปู ํ กมมฺ ํ อกาส.ึ (ขา) ไดท ำ� แลว ซ่งึ กรรม มอี ยางนี้ เปนรปู ๗. ภวสิ สฺ นตฺ ิ อาขยาต| บอกอนาคตกาลแหงปจ จบุ ัน แปลวา “จกั ” 77 อุ. ธมมฺ ํ สุณิสฺสาม. (ขา ท.) จักฟง ซ่ึงธรรม
๘. กาลาตปิ ตฺติ บอกอนาคตกาลแหง อดตี แปลวา “จกั ...แลว ” ถามี “อ” อยหู นา แปลวา “จกั ได...แลว ” อ.ุ โส เจ ยานํ ลภิสฺสา อคจฺฉิสสฺ า. ถาวา เขา จกั ไดแลว ซ่ึงยานไซร (เขา) จักไดไปแลว บท บท คอื ฝ่ายหรอื ส่วนของวิภตั ติ แบง เปน ๒ คือ ปรสั สบท บทเพ่อื ผูอ่นื เปน เคร่อื งหมายใหรูกิรยิ าทเ่ี ปน กัตตุวาจก และเหตกุ ตั ตุวาจก อตั ตโนบท บทเพ่อื ตน เปน เคร่ืองหมายใหรกู ิริยาท่เี ปน กมั มวาจก เหตกุ มั มวาจก และภาววาจก วจนะ วจนะ คอื วภิ ตั ตบิ อกจำ� นวนนามนามทเี่ ป็นประธาน มี ๒ คอื เอกวจนะ ๑ พหุวจนะ ๑ ถาประธานเปนเอกวจนะ ตองประกอบกิรยิ าเปน เอกวจนะ ถาประธาน เปน พหวุ จนะ ตองประกอบกริ ยิ าเปนพหุวจนะ ดังนี้ เอกวจนะ อ.ุ ว่า โส คจฉฺ ต ิ เขา ไปอยู พหุวจนะ อุ.ว่า เต คจฉฺ นตฺ ิ เขาทงั้ หลาย ไปอยู ยกเว้นประธานที่เปนเอกวจนะหลายศัพท ควบดวย จ ศัพท ต้อง ใชกิริยาเปนพหุวจนะ |อาขยาต บุรษุ บรุ ษุ คอื ชนั้ ของกริ ยิ าอาขยาต มี ๓ คอื ประถมบรุ ษุ ๑ มธั ยมบรุ ษุ ๑ 78 อุตตมบุรุษ ๑ เหมือนปุริสสัพพนาม ถาปุริสสัพพนามใดเปนประธาน
ตองใชก ริ ยิ าประกอบวิภตั ตใิ หถูกตองตามปรุ สิ สัพพนามนัน้ ดังนี้ ปฐมบุรษุ อุ.วา่ โส ยาติ เขา ไป มัธยมบรุ ุษ อุ.ว่า ตฺวํ ยาสิ เจา ไป อตุ ตมบรุ ุษ อ.ุ วา่ อหํ ยามิ ขา ไป ธาตุ ธาตุ คอื ศพั ททเ่ี ปนมูลราก จัดเปน ๘ หมวด ตามทลี่ งปจจัยเดียวกนั ดังนี้ ๑. หมวด ภู ธาตุ (ลง อ, เอ ปจจยั ) ภู ธาตุ เปนไปในความมี, ความเปน ภวติ ยอ มม,ี ยอมเปน หุ ธาต ุ เปน ไปในความม,ี ความเปน โหติ ยอ มมี, ยอ มเปน สี ธาต ุ เปน ไปในความนอน เสต,ิ สยติ ยอ มนอน มรฺ ธาต ุ เปนไปในความตาย มรติ ยอ มตาย ปจฺ ธาตุ เปน ไปในความหงุ , ความตม ปจติ ยอมหงุ , ยอมตม อิกฺขฺ ธาต ุ เปน ไปในความเหน็ อิกฺขติ ยอมเห็น ลภฺ ธาต ุ เปนไปในความได ลภติ ยอ มได คมฺ ธาต ุ เปนไปในความไป คจฺฉติ ย่อมไป ๒. หมวด รุธฺ ธาตุ (ลง อ, เอ ปจจัย และลงนิคคหิตทต่ี น้ ธาต)ุ รุธฺ ธาต ุ เปนไปในความกนั้ , ในความปด รนุ ธฺ ต,ิ รนุ เฺ ธติ ยอ มกนั้ , ยอ มปด มจุ ฺ ธาตุ เปนไปในความปลอ ย มุญจฺ ติ ยอ มปลอย ภุชฺ ธาตุ เปนไปในความกิน ภญุ ชฺ ติ ยอ มกิน อาขยาต| ภทิ ฺ ธาต ุ เปนไปในความตอย ภินฺทติ ยอ มตอย ลิปฺ ธาต ุ เปน ไปในความฉาบ ลิมปฺ ติ ยอ มฉาบ 79
๓. หมวด ทิวฺ ธาตุ (ลง ย ปจ จยั ) ทิวฺ ธาต ุ เปน ไปในความเลน ทพิ พฺ ติ ยอมเลน สิวฺ ธาต ุ เปน ไปในความเยบ็ สิพพฺ ติ ยอ มเยบ็ พุธฺ ธาต ุ เปน ไปในความตรัสรู้ พชุ ฌฺ ติ ยอมตรสั รู ขี ธาต ุ เปนไปในความสนิ้ ขยี ติ ยอ มสิน้ มุหฺ ธาต ุ เปน ไปในความหลง มุยฺหติ ยอ มหลง มุสฺ ธาต ุ เปน ไปในความลมื มสุ ฺสติ ยอ มลมื รชฺ ธาต ุ เปน ไปในความยอ ม รชฺชติ ยอ มยอ ม ๔. หมวด สุ ธาตุ (ลง ณ,ุ ณา ปจจัย) สุ ธาต ุ เปน ไปในความฟง สณุ าติ ยอ มฟง วุ ธาต ุ เปน ไปในความรอย วณุ าติ ยอ มรอ ย สิ ธาตุ เปนไปในความผกู สโิ ณติ ยอ มผูก ๕. หมวด กี ธาตุ (ลง นา ปจจัย) กี ธาตุ เปน ไปในความซ้อื กนี าติ ยอมซ้อื ชิ ธาตุ เปนไปในความชนะ ชินาติ ยอมชนะ ธุ ธาต ุ เปน ไปในความก�ำจดั ธนุ าติ ยอมก�ำจดั จิ ธาต ุ เปนไปในความกอ, ความสัง่ สม จินาติ ยอ มกอ, ยอ มสัง่ สม ลุ ธาต ุ เปนไปในความเกย่ี ว, ความตดั ลนุ าติ ยอ มเก่ียว, ยอ มตดั |อาขยาต า ธาตุ เปนไปในความรู ชานาติ ยอ มรู ผุ ธาต ุ เปน ไปในความฝด , ความโปรย ผนุ าติ ยอมฝด , ยอ มโปรย 80
๖. หมวด คหฺ ธาตุ (ลง ณหฺ า ปจจยั ) คหฺ ธาต ุ เปนไปในความถือเอา คณหฺ าติ ยอมถอื เอา ๗. หมวด ตนฺ ธาตุ (ลง โอ ปจจยั ) ตนฺ ธาต ุ เปน ไปในความแผไป ตโนติ ยอ มแผไป กรฺ ธาต ุ เปน ไปในความท�ำ กโรติ ยอ มทำ� สกกฺ ฺ ธาต ุ เปนไปในความอาจ สกฺโกติ ยอ มอาจ ชาครฺ ธาตุ เปน ไปในความต่นื ชาคโรติ ยอ มต่นื ๘. หมวด จรุ ฺ ธาตุ (ลง เณ, ณย ปจจัย) จุรฺ ธาต ุ เปน ไปในความลัก โจเรต,ิ โจรยติ ยอ มลกั ตกกฺ ฺ ธาตุ เปนไปในความตรกึ ตกฺเกต,ิ ตกฺกยติ ยอ มตรกึ ลกขฺ ฺ ธาต ุ เปนไปในความก�ำหนด ลกเฺ ขติ, ลกขฺ ยติ ยอมก�ำหนด มนตฺ ฺ ธาต ุ เปนไปในความปรึกษา มนเฺ ตต,ิ มนฺตยติ ยอ มปรกึ ษา จนิ ฺตฺ ธาต ุ เปน ไปในความคดิ จนิ เฺ ตต,ิ จนิ ตฺ ยติ ยอมคิด สกัมมธาต–ุ อกัมมธาตุ ธาตุทัง้ หมด จัดเป็น ๒ คอื สกัมมธาตุ ๑ อกัมมธาตุ ๑ สกัมมธาตุ ธาตุเรยี กหากรรม ได้แกส่ ิ่งท่ีบุคคลพึงท�ำ เป็นได้ ๔ วาจก ยกเวน้ ภาววาจก อกมั มธาตุ ธาตไุ มเ่ รยี กหากรรม เป็นได้ ๓ วาจก คอื กัตตุวาจก เหตุกัตตวุ าจก และภาววาจก วาจก อาขยาต| กิริยาศัพทท่ีประกอบดวย วิภัตติ กาล บท วจนะ บุรุษ ธาตุ ปจจัย 81 จดั เปน วาจก คอื บง่ ให้ทราบบทท่เี ปน ประธานของกริ ิยา ๕ ชนิด ไดแ้ ก่ กัตตุวาจก กมั มวาจก ภาววาจก เหตุกัตตุวาจก และเหตกุ ัมมวาจก
|อาขยาต กตั ตุวาจก กิริยาศัพทที่กลาวผูท�ำ คือแสดงวาเปนกิริยาของผูท�ำนั้น ช่ือวา กตั ตุวาจก อ.ุ วา่ สูโท โอทนํ ปจต.ิ พอ ครวั หุงอยู ซ่ึงขาวสกุ กัมมวาจก กิริยาศัพทท่ีกลาวกรรม ส่ิงที่ถูกท�ำ คือแสดงวาเปนกิริยาของสิ่งนั้น ช่อื วา กัมมวาจก อ.ุ ว่า สเู ทน โอทโน ปจยิ เต. ขาวสุก อันพอครัว หุงอยู ภาววาจก กริ ยิ าศพั ทท กี่ ลาวสกั วา่ ความมคี วามเปน ไมก ลาวกตั ตา (ประธาน) และ กรรม ช่อื วา ภาววาจก อุ.ว่า เตน ภูยเต. อนั เขา เปน อยู เหตุกัตตุวาจก กริ ยิ าศัพทท่ีกลาวผูใ ชใหคนอ่นื ท�ำ คือเปนกริ ิยาของผใู ชใ หผ ู้อ่ืนท�ำนัน้ ช่ือวา เหตกุ ัตตุวาจก อุ.วา่ สามิโก สทู ํ โอทนํ ปาเจต.ิ นาย ยงั พอครัว ใหห งุ อยู ซ่งึ ขาวสกุ เหตกุ ัมมวาจก กิริยาศัพทที่กลาวสิ่งซ่ึงถูกเขาใชใหคนอ่ืนท�ำ คือเปนกิริยาของส่ิงนัน้ ช่ือวา เหตุกมั มวาจก อุ.วา่ สามเิ กน สูเทน โอทโน ปาจาปย เต. ขาวสกุ อันนาย ยังพอ ครวั ใหห ุงอยู 82
ปจจยั ปัจจัย เป็นเคร่ืองหมายกำ� หนดวาจก จดั เปน ๕ หมวด ตามวาจก ดงั นี้ กัตตุวาจก ลงปจจัย ๑๐ ตัว คือ อ เอ ย ณุ ณา นา ณฺหา โอ เณ ณย ปจจัยในกตั ตุวาจกทงั้ ๑๐ ตัว แบง ลงในธาตุทัง้ ๘ หมวด ดังนี้ อ, เอ ปจจัย ลงในหมวด ภู ธาต,ุ รธุ ฺ ธาตุ แตในหมวด รุธฺ ธาตุ ลงนิคคหิตอาคมหนา พยญั ชนะทีส่ ดุ ธาตุดวย เชน่ ภวต,ิ รุนฺเธติ ย ปจจัย ลงในหมวด ทวิ ฺ ธาตุ (ทิพฺพต)ิ ณุ, ณา ปจ จัย ลงในหมวด สุ ธาตุ (สณุ าติ) นา ปจจยั ลงในหมวด กี ธาตุ (กนี าติ) ณฺหา ปจ จยั ลงในหมวด คหฺ ธาตุ (คณหฺ าติ) โอ ปจจยั ลงในหมวด ตนฺ ธาตุ (ตโนต)ิ เณ, ณย ปจจยั ลงในหมวด จรุ ฺ ธาตุ (โจเรต,ิ โจรยต)ิ กัมมวาจก ลงปั จจัย ๑ ตัว คือ ย กับลง อิ อาคม หน้า ย ด้วย เช่น ปจิยเต, สวิ ยิ เต ภาววาจก ลงปัจจัย ๑ ตัว คอื ย เช่น ภยู เต เหตุกัตตุวาจก ลงปั จจัย ๔ ตัว คือ เณ ณย ณาเป ณาปย เชน่ ปาเจติ, ปาจยต,ิ ปาจาเปติ, ปาจาปยติ เหตุกมั มวาจก ลงปจ จัย ๑๐ ตัวในกตั ตุวาจก ตวั ใดตัวหน่ึงนัน้ ดวย ลง เหตุปจจัย คือ ณาเป และลง ย ปจจัย กับ อิ อาคม หนา ย ดวย เช่น ปาจาปิ ยเต ปจั จัยพิเศษ อาขยาต| ปจ จยั ทีส่ ำ� หรบั ประกอบกบั ธาตุอีก ๓ ตวั คือ ข ฉ ส เปนไปในความ ปรารถนา ดังนี้ 83
ภชุ ฺ ธาต ุ เปน ไปในความกนิ ลง ข ปจ จัย อ.ุ ว่า พุภุกขฺ ติ (ภุช+ฺ ข=พภุ กุ ขฺ +ติ) ปรารถนาจะกนิ ฆสฺ ธาตุ เปนไปในความกิน ลง ฉ ปจ จยั อุ.ว่า ชิฆจฺฉติ (ฆส+ฺ ฉ=ชฆิ จฺฉ+ต)ิ ปรารถนาจะกิน หรฺ ธาต ุ เปน ไปในความน�ำไป ลง ส ปจจยั อุ.ว่า ชคิ สึ ติ (หรฺ+ส=ชคิ สิํ +ติ) ปรารถนาจะน�ำไป ปจจัยท่ีส�ำหรับประกอบกับนามศัพท ท�ำใหเปนกิริยาศัพท ๒ ตัว คือ อาย อยิ เปน ไปในความประพฤติ อุทาหรณ์วา จริ ายติ (จริ +อาย+ต)ิ ประพฤติชาอยู ปุตตฺ ิยติ (ปตุ ตฺ +อยิ +ต)ิ ยอมประพฤติใหเ ปน เพียงดงั บตุ ร อสฺ ธาตุ อสฺ ธาตุ เปน ไปในความม,ี ความเปน อยหู นา แปลงวภิ ตั ตทิ งั้ หลายแลว ลบพยัญชนะตนธาตุบาง ที่สุดธาตุบาง ดงั นี้ ติ เปน ตถฺ ิ ลบท่สี ุดธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อตถฺ ิ อนฺติ คงรูป ลบตน ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน สนตฺ ิ ส ิ คงรปู ลบท่ีสุดธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อสิ ถ เปน ตถฺ ลบท่สี ุดธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อตถฺ ม ิ เปน มฺหิ ลบท่ีสดุ ธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อมหฺ ิ ม เปน มหฺ ลบท่ีสุดธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อมฺห ตุ เปน ตถฺ ุ ลบท่สี ุดธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อตฺถุ |อาขยาต เอยยฺ เปน อยิ า ลบตน ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน สยิ า เอยฺย กับทงั้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อสสฺ เอยฺย ํุ กบั ทงั้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อสฺสํุ 84 เอยยฺ ุํ เปน อิย ํุ ลบตน ธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน สยิ ํุ
เอยฺยาสิ กบั ทงั้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อสสฺ กบั ทัง้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อสสฺ ถ เอยยฺ าถ กับทงั้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อสสฺ ํ กบั ทงั้ ธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อสฺสาม เอยฺยามิ ทฆี ะตนธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อาสิ ทฆี ะตนธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อาสํุ เอยยฺ าม ทีฆะตนธาตุ ส�ำเรจ็ รปู เปน อาสติ ถฺ ทฆี ะตนธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อาสึ อ ิ คงรปู ทฆี ะตนธาตุ ส�ำเรจ็ รูปเปน อาสมิ หฺ า อุํ คงรปู ตถฺ คงรปู อึ คงรูป มฺหา คงรปู อาขยาต| 85
|กิตก์ กติ ก กิตก เปนช่ือของศัพทที่ประกอบปจจัยหมูหน่ึง ซ่ึงเปนเคร่ืองหมาย กำ� หนดเน้ือความของนามศพั ทและกริ ยิ าศพั ทที่แตกตางกนั แบ่งเป็น ๒ คอื นามกิตก์ ๑ กิริยากติ ก์ ๑ กติ ก์ทัง้ ๒ มีธาตเุ ป็นที่ตงั้ ทัง้ สิน้ กิริยากิตก กิตกท์ ่ีเปน กริ ยิ า เรยี กวา กิรยิ ากติ ก์ ประกอบดวย วภิ ัตติ วจนะ กาล ธาตุ วาจก ปจ จยั วิภัตตแิ ละวจนะ วิภตั ติ วภิ ตั ตขิ องกริ ยิ ากติ กใ์ ชว ภิ ตั ตนิ าม ถานามศพั ทเ ปน วภิ ตั ตแิ ละวจนะใด กริ ยิ ากิตกก็เปนวภิ ัตติและวจนะนัน้ ตาม ดงั นี้ ภกิ ขฺ ุ คามํ ปณฑฺ าย ปวฏิ โ. ภกิ ษุ เขาไปแลว สูบาน เพ่อื กอนขาว เย เกจิ พทุ ฺธํ สรณํ คตา เส. ชน ท. เหลาใดเหลาหน่ึง ถงึ แลว ซ่งึ พระพทุ ธเจา วาเปนทร่ี ะลกึ สิ เอกํ ปรุ สิ ํ ฉตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตํ ปสสฺ าม.ิ เรา เหน็ ซ่งึ บรุ ษุ คนหน่ึง ถือ ซ่ึงรม ไปอยู กาล 86 กาลของกิรยิ ากติ ก แบง เป็น ๒ คือ ปจ จุบนั กาล ๑ อดตี กาล ๑
ปจจุบนั กาล จดั เปน ๒ คือ ปจ จบุ ันแท ๑ ปจจบุ นั ใกลอ นาคต ๑ อดีตกาล จัดเปน ๒ คือ ลวงแลว ๑ ลว งแลว เสร็จ ๑ กาลนี้ ตองหมายรดู วยปจจัย ปจจบุ นั กาล ปจ จุบนั แท แปลวา “อยู” อุ. อหํ ธมฺมํ สุณนฺโต ปตึ ลภามิ. เรา ฟง อยู ซ่ึงธรรม ยอ มได ซ่งึ ปติ ปจ จบุ นั ใกลอนาคต แปลวา “เม่ือ” อุ. อนุสนฺธึ ฆเฏตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห. พระศาสดา เม่อื – ทรงสบื ตอ ซ่งึ อนสุ นธิ –แสดง ซ่งึ ธรรม ตรสั แลว ซ่งึ พระคาถา นี้ อดตี กาล ลวงแลว แปลวา “แลว ” อุ. ตโย มาสา อตกิ ฺกนตฺ า. เดือน ท. ๓ กาวลว งแลว ลว งแลวเสร็จ แปลวา “ครนั้ ...แลว ” อ.ุ เยน ภควา, เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา, เอกมนตฺ ํ นิสีทิ. (พระเถระรูปหน่ึง) พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยู โดยสวนแหง ทิศใด เขาไปเฝาแลวโดยสวนแหงทิศนัน้ ครนั้ เขาไปเฝาแลว อภิวาทแลว ซ่ึงพระผมู พี ระภาคเจา นัง่ แลว ณ ท่สี ุดสว นขางหน่ึง วาจก วาจกในกิริยากิตก์ มี ๕ เหมือนวาจกในอาขยาต ตางกันเพียงรูป กิตก์| แหง กิรยิ าศพั ทเ ท่านัน้ 87
|กิตก์ ๑. กตั ตุวาจก อ.ุ ว่า ภกิ ฺขุ คามํ ปณ ฑฺ าย ปวฏิ โ . ภกิ ษุ เขา ไปแลว สูบ าน เพ่ือกอ นขาว ๒. กมั มวาจก อ.ุ วา่ อธิคโต โข มยายํ ธมโฺ ม. ธรรมนี้ อันเรา ถงึ ทับแลว แล ๓. ภาววาจก อุ. วา่ การเณเนตฺถ ภวติ พฺพ.ํ อนั เหตุ ในสิง่ นี้ พึงมี ๔. เหตกุ ัตตุวาจก อ.ุ ว่า สเทวกํ ตารยนฺโต. (ทาน) ยงั โลกนี้ กับทงั้ เทวโลก ใหขา มอยู ๕. เหตกุ ัมมวาจก อ.ุ วา่ อยํ ถูโป ปติฏ าปโ ต. พระสถปู นี้ (อนั เขา) ใหต งั้ เฉพาะแลว ปจจยั แหงกิริยากติ ก ปจจัยในกิริยากติ ก์ จดั เปน ๓ หมวด ดังนี้ กิตปจจัย มปี ัจจยั ๓ ตัว คอื อนฺต ตวนตฺ ุ ตาวี เป็นเคร่อื งหมายกัตตุวาจก และเหตุกัตตวุ าจก กจิ จปจจยั มปี ัจจัย ๒ ตัว คือ อนีย ตพฺพ เป็นเคร่อื งหมายกัมมวาจก เหตกุ ัมมวาจก และภาววาจก กติ กจิ จปจจัย มีปัจจัย ๕ ตวั คือ มาน ต ตูน ตวฺ า ตฺวาน เป็นเคร่อื งหมายบอกวาจกทัง้ ๕ ในปจจัยทัง้ ๓ หมวดนัน้ อนฺต, มาน บอกปจจุบันกาล ตวนฺตุ, 88 ตาวี, ต, ตูน, ตฺวา, ตฺวาน บอกอดีตกาล อนีย, ตพฺพ บอกความจำ� เปน
กิตปจ จยั อนตฺ ปจ จัย สณุ นโฺ ต ฟงอยู กโรนฺโต ทำ� อยู กเถนฺโต กลาวอยู ถาเปนอิตถลี งิ ค ลง อี เปน สณุ นฺตี กโรนตฺ ี กเถนตฺ ี ตวนตฺ ุ ปจจยั สตุ วา ฟง แลว ภุตฺตวา กินแลว วสุ ติ วา อยูแ ลว ถาเปน อิตถีลิงค ลง อี เปน สตุ วตี ภตุ ฺตวตี วุสติ วตี ตาวี ปจจยั ปุงลิงค อติ ถลี ิงค นปุงสกลิงค คำ� แปล สตุ าว ี สตุ าวินี สุตาวิ ฟงแลว ภตุ ฺตาว ี ภุตฺตาวินี ภตุ ตฺ าวิ กนิ แลว วุสติ าว ี วุสิตาวินี วสุ ติ าว ิ อยแู ลว กิจจปจ จัย อนีย ปจจัย กรณียํ อันเขาพึงท�ำ วจนียํ อนั เขาพึงกลาว โภชนียํ อันเขาพึงกนิ ศัพทท ปี่ ระกอบดวยปจ จัยนี้ บางศัพทใชเปน นามกิตกไ ด เชน่ ปณี เตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปรวิ ิสิ. เขา เลี้ยงแลว ดวยของ ควรเคยี้ ว ดว ยของควรบรโิ ภค อันประณีต ตพพฺ ปจ จยั กิตก์| กตฺตพพฺ ํ อนั เขาพึงทำ� วตฺตพฺพํ อนั เขาพงึ กลาว ภุญฺชติ พฺพํ อันเขาพึงกิน 89
กิตกจิ จปจจยั มาน ปจ จยั มาน ปจ จัย เป็นกัตตวุ าจก ถาเป็นกัมมวาจก ลง ย ปัจจยั อิ อาคมหน้า ย ดังนี้ กัตตวุ าจก กัมมวาจก กุรมุ าโน ท�ำอยู กรยิ มาโน อนั เขาทำ� อยู ภุญฺชมาโน กนิ อยู ภญุ ชฺ ิยมาโน อนั เขากนิ อยู วทมาโน กลาวอยู วจุ ฺจมาโน อนั เขากลาวอยู ต ปจจยั ๑. ธาตุมี มฺ และ นฺ เปน ทีส่ ดุ ลบท่สี ุดธาตุ คโต ไปแลว , ถงึ แลว้ คมฺ ธาตุในความไป, ความถึง รโต ยนิ ดีแลว รมฺ ธาตใุ นความยินดี ขโต อันเขาขุดแลว ขนฺ ธาตใุ นความขุด หโต อนั เขาฆาแลว หนฺ ธาตุในความฆ่า ๒. ธาตมุ ี จฺ, ชฺ และ ปฺ เปนทส่ี ดุ เอาทีส่ ดุ ธาตเุ ปน ตฺ สติ ฺโต อนั เขารดแลว สจิ ฺ ธาตใุ นความรด ววิ ติ ฺโต สงดั แลว วิ บทหนา วิจฺ ธาตใุ นความสงัด ภตุ ฺโต อันเขากินแลว ภชุ ฺ ธาตใุ นความกิน จตฺโต อันเขาสละแลว จชฺ ธาตุในความสละ คุตฺโต อันเขาคมุ ครองแลว คปุ ฺ ธาตใุ นความค้มุ ครอง ตตโฺ ต รอ นแลว ตปฺ ธาตุในความร้อน |กิตก์ ๓. ธาตมุ ี อา เปนท่สี ุดก็ดี ต เปนกัมมวาจกก็ดี ลง อิ ทีส่ ุดธาตุ โิ ต ยนื แลว า ธาตใุ นความยนื 90 ปโต อนั เขาด่ืมแลว ปา ธาตใุ นความด่มื
อภิชฌฺ โิ ต อนั เขาเพงจ�ำเพาะแลว ฌา ธาตใุ นความเพ่ง ภาสโิ ต อันเขากลาวแลว ภาสฺ ธาตุในความกล่าว ๔. ธาตมุ ี ทฺ เปน ทสี่ ดุ แปลง ต เปน นฺน แลว ลบทส่ี ดุ ธาตุ ฉนฺโน อันเขามุงแลว ฉทฺ ธาตุในความมุง สนฺโน จมแลว สทิ ฺ ธาตุในความจม รนุ โฺ น รองไหแ ลว รทุ ฺ ธาตใุ นความรอ้ งให้ ฉินโฺ น อนั เขาตัดแลว ฉิทฺ ธาตุในความตดั ภินฺโน แตกแลว ภทิ ฺ ธาตใุ นความแตก ทินโฺ น อนั เขาใหแ ลว ทา ธาตุในความให้ ๕. ธาตมุ ี รฺ เปนที่สดุ แปลง ต เปน ณฺณ แลว ลบที่สดุ ธาตุ ชิณฺโณ แกแ ลว ชริ ฺ ธาตุในความแก่ ตณิ ฺโณ ขามแลว ตรฺ ธาตใุ นความข้าม ปณุ ฺโณ เตม็ แลว ปูรฺ ธาตุในความเต็ม ๖. ธาตุมี สฺ เปน ทส่ี ุด แปลง ต เปน ฏ แลวลบทส่ี ุดธาตุ ตฏุ โ ยินดแี ลว ตุสฺ ธาตใุ นความยนิ ดี หฏโ ราเริงแลว หสฺ ธาตใุ นความรา่ เรงิ ปวิฏโ เขาไปแลว วิสฺ ธาตใุ นความเข้าไป ๗. ธาตมุ ี ธฺ และ ภฺ เปนท่สี ุด แปลง ต เปน ทธฺ แลวลบท่ีสดุ ธาตุ พทุ โฺ ธ รแู ลว พุธฺ ธาตใุ นความรู้ กุทฺโธ โกรธแลว กธุ ฺ ธาตุในความโกรธ รทุ ฺโธ ปด แลว รธุ ธาตุในความปิด, ความกนั้ ลทฺโธ อันเขาไดแลว ลภฺ ธาตุในความได้ อารทฺโธ อันเขาปรารภแลว รภฺ ธาตุในความเรม่ิ ๘. ธาตมุ ี มฺ เปนทสี่ ุด แปลง ต เปน นตฺ แลว ลบที่สดุ ธาตุ กิตก์| ปกฺกนโฺ ต หลีกไปแลว กมฺ ธาตุในความกา้ วไป 91 ทนโฺ ต ทรมานแลว ทมฺ ธาตใุ นความทรมาน
สนฺโต ระงบั แลว สมฺ ธาตุในความสงบ ๙. ธาตุมี หฺ เปนทส่ี ดุ แปลง ต เปน ฬหฺ แลว ลบทสี่ ดุ ธาตุ รุฬโฺ ห งอกแลว รุหฺ ธาตใุ นความงอก มฬุ โฺ ห หลงแลว มหุ ฺ ธาตใุ นความหลง วฬุ ฺโห อันน้�ำพดั ไปแลว วุหฺ ธาตุในความลอย ตูนาทิ ปจจัย (ตูน, ตฺวา, ตฺวาน) ตนู ตฺวา ตวฺ าน คำ� แปล กาตูน กตวฺ า กตวฺ าน ท�ำแลว คนตฺ ูน คนตฺ วฺ า คนฺตวฺ าน ไปแลว หนตฺ นู หนตฺ วฺ า หนตฺ วฺ าน ฆาแลว อปุ สัคอยหู นา แปลงปจจัยทงั้ ๓ เปน ย อาทาย ถอื เอาแลว ทา ธาตใุ นความถือเอา ปหาย ละแลว หา ธาตุในความละ นิสสฺ าย อาศัยแลว สี ธาตใุ นความอาศัย ธาตมุ ี มฺ เปน ท่ีสุด แปลง ย กับทสี่ ุดธาตุ เปน มมฺ อาคมฺม มาแลว คมฺ ธาตุในความไป นิกขฺ มฺม ออกไปแลว ขมฺ ธาตุในความอดทน อภริ มฺม ยินดยี ่งิ แลว รมฺ ธาตใุ นความยินดี ธาตมุ ี ทฺ เปนทสี่ ุด แปลง ย กับทส่ี ดุ ธาตุ เปน ชฺช อปุ ปฺ ชชฺ เกิดแลว ปทฺ ธาตใุ นความถึง ปมชฺช ประมาทแลว มทฺ ธาตใุ นความประมาท |กิตก์ อจฺฉิชชฺ ชงิ เอาแลว ฉิทฺ ธาตุในความชิงเอา ธาตุมี ธฺ และ ภฺ เปนที่สุด แปลง ย กบั ที่สุดธาตุ เปน ทธฺ า และ พฺภ 92 วทิ ฺธา แทงแลว วธิ ฺ ธาตใุ นความแทง
ลทฺธา ไดแ ลว ลภฺ ธาตุในความได้ อารพภฺ ปรารภแลว รภฺ ธาตุในความเรม่ิ ธาตมุ ี หฺ เปน ที่สุด แปลง ย กับที่สดุ ธาตุ เปน ยฺห ปคคฺ ยหฺ ประคองแลว คหฺ ธาตุในความถอื เอา สนนฺ ยหฺ ผูกแลว นหฺ ธาตุในความผกู อารยุ ฺห ข้ึนแลว รหุ ฺ ธาตุในความข้นึ เฉพาะ ทสิ ฺ ธาตุ แปลง ตฺวา เปน สฺวา, ตฺวาน เปน สฺวาน นามกติ ก กิตกท เี่ ปน นามนามหรือเปน คณุ นาม เรยี กวา นามกิตก นามกิตกจัดเปนสาธนะ มีปจจัยเปนเคร่ืองหมายวาศัพทนี้เปนสาธนะ นัน้ ๆ เพ่ือใหม ีเน้ือความแปลกกัน สาธนะ ศัพทท่ีส�ำเร็จมาจากรปู วเิ คราะห ช่อื สาธนะ มี ๗ อยา่ ง คือ กตั ตุสาธนะ กัมมสาธนะ ภาวสาธนะ กรณสาธนะ สัมปทานสาธนะ อปาทานสาธนะ อธกิ รณสาธนะ รปู วเิ คราะหแ หงสาธนะจดั เปน ๓ คือ กัตตรุ ปู กมั มรปู ภาวรปู สาธนะที่เปนกัตตรุ ปู มีรูปวเิ คราะหเ ปนกตั ตุวาจกและเหตุกตั ตุวาจก สาธนะทเี่ ปนกมั มรปู มรี ปู วเิ คราะหเปน กมั มวาจกและเหตุกัมมวาจก สาธนะท่ีเปน ภาวรปู มรี ปู วิเคราะหเ ปน ภาววาจก กัตตสุ าธนะ กิตก์| ศัพท์ท่ีส�ำเร็จมาจากรูปวิเคราะห์อันมีผู้ท�ำเองเป็ นประธานในกิริยา 93 เม่ือสำ� เรจ็ เป็นสาธนะแลว้ มผี ้ทู �ำเองนัน้ เป็นประธาน เรยี กวา่ กัตตสุ าธนะ
|กิตก์ กัตตุสาธนะ แปลว่า “ผู้...” ถ้าลงในอรรถแห่งตัสสีละ แปลว่า “ผ้.ู .. โดยปกต”ิ เชน่ กมุ ภฺ กาโร (ชน) ผูท�ำซ่งึ หมอ, ทายโก (ชน) ผูใ ห, โอวาทโก (ชน) ผูกลาวสอน, สาวโก (ชน) ผูฟง กมั มสาธนะ ศัพท์ที่ส�ำเร็จมาจากรูปวิเคราะห์อันมีสิ่งที่ถูกท�ำบ้าง ผู้ท�ำเองบ้าง เป็ น ประธานในกริ ยิ า เม่อื สำ� เรจ็ เป็นสาธนะแลว้ มกี รรมคอื สงิ่ ทถ่ี กู ทำ� เทา่ นัน้ เป็น ประธาน เรียกวา่ กมั มสาธนะ กมั มสาธนะ ท่เี ปน กัตตรุ ปู แปลวา “เปน ท่.ี ..” ท่ีเปน กมั มรูป แปลวา “เปน ท่อี นั เขา...” เช่น ปโย (บตุ ร) เปนท่รี กั , รโส (วสิ ัย) เปน ทยี่ นิ ดี, กจิ ฺจํ (กรรม) อนั เขาพึงท�ำ, ทานํ (สง่ิ ของ) อนั เขาพึงให ภาวสาธนะ ศพั ทท์ สี่ ำ� เรจ็ มาจากรปู วเิ คราะหอ์ นั เป็นภาววาจก เม่อื สำ� เรจ็ เป็นสาธนะ แลว้ ไมม่ ีประธาน เรียกวา ภาวสาธนะ ภาวสาธนะเปน ภาวรปู อยางเดยี ว แปลวา “ความ...” กไ็ ด้ “การ...” กไ็ ด้ เชน่ คมนํ ความไป, านํ ความยืน, นิสชชฺ า ความนัง่ , สยนํ ความนอน กรณสาธนะ ศัพท์ที่ส�ำเร็จมาจากรูปวิเคราะห์อันมี ต สัพพนาม โยกวัตถุเคร่ืองท�ำ เป็นตตยิ าวภิ ตั ติ เขา้ ในกริ ยิ า เม่อื สำ� เรจ็ เป็นสาธนะแลว้ มวี ตั ถเุ คร่อื งทำ� นัน้ เป็นประธาน เรยี กว่า กรณสาธนะ กรณสาธนะท่ีเปนกัตตรุ ูป แปลวา “เปน เคร่อื ง...” ก็ได้ “เปนเหตุ...” กไ็ ด้ ทเ่ี ปน กมั มรปู แปลวา “เปน เคร่อื งอนั เขา...” กไ็ ด้ “เปน เหตอุ นั เขา...” กไ็ ด ้ เชน่ พนธฺ นํ วตั ถเุ ปน เคร่อื งผกู , ปหรณํ วตั ถเุ ปน เคร่อื งประหาร, วชิ ฌฺ นํ 94 วัตถุเปนเคร่อื งเจาะ
สัมปทานสาธนะ ศพั ทท์ ่สี ำ� เร็จมาจากรปู วเิ คราะหอ์ นั มี ต สัพพนาม โยกผู้รับ เป็นจตุตถี วภิ ัตติ เขา้ ในกิรยิ า เม่ือสำ� เร็จเป็นสาธนะแล้ว มีผรู้ ับนัน้ เป็นประธาน เรียก วา่ สัมปทานสาธนะ สัมปทานสาธนะท่ีเปนกัตตุรูป แปลวา “เปนท่ี...” ที่เปนกัมมรูป แปลวา “เปนท่ีอนั เขา...” เช่น สมฺปทานํ วัตถเุ ปนที่มอบให อปาทานสาธนะ ศพั ทท์ สี่ ำ� เรจ็ มาจากรปู วเิ คราะหอ์ ันมี ต สัพพนาม โยกส่งิ ท่จี ากไป เป็น ปั ญจมีวิภัตติ เข้าในกิริยา เม่ือส�ำเร็จเป็ นสาธนะแล้ว มีที่จากไปนัน้ เป็ น ประธาน เรียกวา่ อปาทานสาธนะ อปาทานสาธนะเป็ นกัตตุรูปอย่างเดียว แปลวา “เปนแดน...” เช่น ปภสสฺ โร (กายเทวดา) แดนสรานออกแหง รศั ม,ี ปภโว (ภเู ขา) แดนเกดิ กอ น, ภีโม (ยักษ) แดนกลวั อธิกรณสาธนะ ศัพทท์ ่ีส�ำเร็จมาจากรปู วิเคราะหอ์ นั มี ต สัพพนาม โยกสถานท่ีทำ� เป็น สัตตมีวิภัตติ เข้าในกิริยา เม่ือส�ำเร็จเป็ นสาธนะแล้ว มีสถานที่ท�ำนัน้ เป็ น ประธาน เรียกวา่ อธกิ รณสาธนะ อธิกรณสาธนะทเี่ ป็นกัตตุรปู แปลวา “เปน ท่ี...” ที่เปน กมั มรูป แปล วา “เปน ท่อี ันเขา...” เชน่ านํ ทต่ี งั้ , ทย่ี นื , อาสนํ ท่นี ัง่ , สยนํ ทนี่ อน นามกิตก์ท่ีเป็นภาวสาธนะ เป็นนามนาม ไมต่ ้องโยกอญั ญบท สว่ นนา กิตก์| มกติ กท์ เ่ี ป็นสาธนะอ่นื เป็นคณุ นาม แปลออกสำ� เนียงอายตนิบาตแหง่ วภิ ตั ติ นามไมไ่ ด้ ต้องโยกอัญญบท 95
|กิตก์ ปจ จัยแหงนามกติ ก ปจ จัยนามกิตก มี ๓ หมวด คือ กติ ปั จจยั มี ๕ ตัว คือ กฺวิ, ณี, ณวฺ ,ุ ตุ, รู ส�ำหรบั ประกอบศัพท์ท่เี ป็นกัตตรุ ปู เป็นเคร่ืองหมายกตั ตุสาธนะ กจิ จปั จจัย มี ๒ ตวั คือ ข, ณยฺ ส�ำหรับประกอบศัพท์ที่เป็ นกัมมรูปและภาวรูป เป็ นเคร่ืองหมาย กัมมสาธนะและภาวสาธนะ กติ กิจจปั จจัย มี ๗ ตัว คือ อ, อ,ิ ณ, ตเว, ต,ิ ตุ,ํ ยุ ส�ำหรบั ประกอบศพั ทท์ ัง้ ๓ รูป เป็นเคร่ืองหมายสาธนะ ทัง้ ๗ วิเคราะหใ นกิตปจจยั กวฺ ิ ปจ จยั (สยมฺภู, อรุ โค, สงโฺ ข) สยํ ภวตตี ิ สยมฺภู. (ชนใด) ยอมเปนเอง เหตนุ ัน้ (ชนชัน้ ) ช่อื วาผูเ ปนเอง อุเรน คจฺฉตตี ิ อุรโค. (สัตวใ ด) ยอมไปดว ยอก เหตุนัน้ (สัตวน ัน้ ) ช่อื วา ผไู ปดวยอก สํ สุฏฐุ ขนตีติ สงโฺ ข. (สตั วใ ด) ยอมขุด (ซ่งึ แผน ดนิ ) ดี คอื วา ดว ยดี เหตุนัน้ (สัตวน ัน้ ) ช่ือวาผูขดุ ดี ณี ปจจัย (ธมฺมวาท,ี ปาปการ,ี ธมมฺ จาร)ี ธมมฺ ํ วทติ สีเลนาติ ธมมฺ วาท.ี (ชนใด) ยอ มกลาวซ่งึ ธรรม โดยปกติ เหตนุ นั้ (ชนชนั้ ) ช่อื วาผกู ลาว 96 ซ่งึ ธรรมโดยปกติ
ธมฺมํ วตตฺ ํุ สีลมสฺสาติ ธมมฺ วาที. ความกลาว ซ่งึ ธรรม เปน ปกติ ของเขา เหตุนัน้ (เขา) ช่ือวา ผมู ี ความกลาว ซ่งึ ธรรมเปน ปกติ ปาปํ กโรติ สเี ลนาติ ปาปการ.ี (ชนใด) ยอ มท�ำ ซ่ึงบาป โดยปกติ เหตุนัน้ (ชนชัน้ ) ช่ือวา ผูท ำ� ซ่ึง บาปโดยปกติ ธมฺมํ จรติ สีเลนาติ ธมฺมจาร.ี (ชนใด) ยอมประพฤตซิ ่งึ ธรรม โดยปกติ เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่ือวา ผูประพฤติ ซ่งึ ธรรมโดยปกติ ณวฺ ุ ปจจัย (ทายโก, นายโก, อนสุ าสโก, สาวโก) เทตตี ิ ทายโก. (ชนใด) ยอมให เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูให เนตีติ นายโก. (ชนใด) ยอมน�ำไป เหตุนัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผนู �ำไป อนสุ าสตตี ิ อนุสาสโก. (ชนใด) ยอ มตามสอน เหตุนัน้ (ชนชัน้ ) ช่อื วา ผตู ามสอน สุณาตีติ สาวโก. (ชนใด) ยอ มฟง เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่ือวา ผูฟง ตุ ปจจัย (กตตฺ า, วตฺตา, าตา, ธาตา) กโรตีติ กตฺตา. กิตก์| (ชนใด) ยอมท�ำ เหตุนัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูท �ำ 97 กโรติ สีเลนาติ กตฺตา. (ชนใด) ยอมท�ำ โดยปกติ เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วาผทู �ำโดยปกติ
|กิตก์ วทตตี ิ วตตฺ า. (ชนใด) ยอมกลาว เหตุนัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผกู ลาว ชานาตีติ าตา. (ชนใด) ยอ มรู เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูรู ธาเรตตี ิ ธาตา. (ชนใด) ยอ มทรงไว เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูทรงไว รู ปจจยั (ปารค,ู วิญฺญู, ภกิ ขฺ )ุ ปารํ คจฺฉติ สีเลนาติ ปารค.ู (ชนใด) ยอ มถงึ ซ่งึ ฝง โดยปกติ เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผถู งึ ซ่งึ ฝง โดยปกติ วชิ านาติ สีเลนาติ วิญญฺ ู. (ชนใด) ยอ มรวู เิ ศษ โดยปกติ เหตนุ นั้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผรู วู เิ ศษโดยปกติ ภกิ ฺขติ สีเลนาติ ภกิ ฺขุ. (ชนใด) ยอมขอ โดยปกติ เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูขอโดยปกติ วเิ คราะหในกจิ จปจจัย ข ปจจยั (ทุกฺกรํ, สภุ โร, ทุรกขฺ ํ) ทกุ ฺเขน กรยิ ตีติ ทุกกฺ ร.ํ (กรรมใด) อันเขาท�ำไดโดยยาก เหตนุ ัน้ (กรรมนัน้ ) ช่ือวา อันเขา ท�ำไดโ ดยยาก สุเขน ภรยิ ตตี ิ สภุ โร. (ชนใด) อันเขาเลยี้ งได โดยงาย เหตุนัน้ (ชนชนั้ ) ช่อื วา ผูอนั เขา 98 เลีย้ งไดโดยงาย
ทุกเฺ ขน รกฺขิยตีติ ทุรกฺข.ํ กิตก์| (จิตใด) อนั เขารกั ษาได โดยยาก เหตุนัน้ (จิตนัน้ ) ช่อื วา อันเขา รกั ษาไดโ ดยยาก ณฺย ปจจยั (การิยํ, เนยยฺ ํ, วชฺชํ, ทมฺโม, โยคคฺ ํ, คารยหฺ ,ํ เทยยฺ ํ) กาตพพฺ นตฺ ิ การยิ ํ. (กรรมใด) อนั เขาพงึ ท�ำ เหตนุ ัน้ (กรรมนัน้ ) ช่ือวา อันเขาพงึ ทำ� เนตพฺพนฺติ เนยฺย.ํ (วตั ถใุ ด) อันเขาพงึ น�ำไป เหตนุ ัน้ (วตั ถุนัน้ ) ช่อื วา อนั เขาพึงน�ำไป วตฺตพฺพนตฺ ิ วชชฺ ํ. (ค�ำใด) อันเขาพึงกลาว เหตุนัน้ (ค�ำนัน้ ) ช่อื วา อนั เขาพงึ กลาว ทมิตพโฺ พติ ทมฺโม. (ชนใด) อันเขาพงึ ฝึกได เหตนุ ัน้ (ชนชนั้ ) ช่ือวา อนั เขาพึงฝึกได ยญุ ชฺ ติ พฺพนตฺ ิ โยคค.ํ (สิ่งใด) อันเขาพึงประกอบ เหตุนั้น (สิ่งนั้น) ช่ือวา อันเขาพึง ประกอบ ครหติ พฺพนฺติ คารยหฺ ํ. (กรรมใด) อันเขาพงึ ตเิ ตยี น เหตุนัน้ (กรรมนัน้ ) ช่อื วา อนั เขาพึง ติเตียน ทาตพฺพนตฺ ิ เทยยฺ .ํ (สงิ่ ใด) อันเขาพงึ ให เหตนุ ัน้ (สงิ่ นัน้ ) ช่ือวา อนั เขาพึงให ศัพทท่ีประกอบดวย ณฺย ปจจัยนี้ บางศัพท์ก็ใชเปนกิริยากิตก์ เช่น คารยฺห อุทาหรณ์ว่า เต จ ภิกฺขู คารยฺหา. อน่ึง ภิกษุ ท. เหลานั้น อนั บคุ คล พงึ ตเิ ตียน 99
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145