Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือแพทย์ประจำบ้าน 2561

คู่มือแพทย์ประจำบ้าน 2561

Published by charee26, 2018-11-09 03:17:57

Description: คู่มือแพทย์ประจำบ้าน 2561

Search

Read the Text Version

๕๑บันทึกข้อความ RC-FO-001 ปรับปรุง : เม.ย. 61สว่ นราชการ……………………………………………………… โทร ………………………………………………………….ที่ ……………………………………………………………………… วนั ที่ ………………………………………………………..เรอื่ ง ขออนุญาตทาํ การวจิ ัยเรยี น ประธาน คณก. ศูนย์วิจยั และพัฒนาสิง่ ประดษิ ฐ์คดิ ค้นทางการแพทย์ รพ.ภมู ิพลอดุลยเดช พอ. ข้าพเจา้ ……………………………………………………… สงั กดั หน่วยงาน ……………………………………………ขออนุญาตทําการวจิ ัยเรอ่ื ง ………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….การดาํ เนนิ การทาํ วิจัย เร่มิ ต้งั แต่ เดอื น …………………. ปี ……………… ถึง เดือน …………………. ปี ………………….รวมระยะเวลาดาํ เนินการวจิ ัย …………… ปี …………… เดือน ข้าพเจา้ ได้รบั ทราบขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ระเบียบขอ้ บงั คับของ คณก.ศนู ย์วจิ ัยฯ และยินยอมทจี่ ะปฏบิ ัตติ ามระเบยี บข้อบงั คับของ คณก.ศูนย์วจิ ยั ฯ ทุกประการทง้ั น้ีได้แนบโครงร่างงานวจิ ยั จํานวน ๑ ชุดมาเรยี บรอ้ ยแล้ว จงึ เรียนมาเพอ่ื พจิ ารณาและดําเนินการต่อไปลงชอ่ื ………………………………………………… ผูท้ ําวจิ ยั (.........................................................)ลงชื่อ ………………………………………………..ผคู้ วบคมุ การวจิ ยั (........................................................) ………../………..../……………คาํ รับรอง ของผูบ้ งั คบั บัญชา (ขอให้ผ้บู ังคับบญั ชา เขียนเหน็ สมควรทําการวิจยั ให้ด้วย).................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ลงช่ือ : น.อ. ............................................. ผบู้ งั คบั บัญชา ( ........................................... ) ………../………..../……………

๕๒บนั ทกึ ขอ้ ความ RC-FO-002 ปรับปรุง : เม.ย. 61ส่วนราชการ……………………………………………………… โทร ………………………………………………………….ท่ี ……………………………………………………………………… วนั ท่ี ………………………………………………………..เร่ือง ขอรับการรบั รองจรยิ ธรรมการทาํ วจิ ยัเรียน ประธานคณะกรรมการจรยิ ธรรม รพ.ภมู พิ ลอดุลยเดช พอ. ข้าพเจ้า ……………………………………………………… สงั กดั หนว่ ยงาน ……………………………………………ขออนญุ าตทําการวิจยั เรือ่ ง ………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….การดาํ เนนิ การทําวิจยั เร่มิ ตงั้ แต่ เดอื น …………………. ปี ……………… ถึง เดอื น …………………. ปี ………………….รวมระยะเวลาดาํ เนนิ การวจิ ยั …………… ปี …………… เดือน ข้าพเจ้า ไดร้ ับทราบข้อมลู ทเี่ ป็นระเบยี บข้อบังคับของคณะกรรมการจรยิ ธรรมฯ และยนิ ยอมที่จะปฏิบตั ติ ามระเบยี บข้อบังคับของคณะกรรมการจริยธรรมฯ ทกุ ประการ ทั้งน้ีได้แนบโครงร่างงานวิจัย จํานวน๑ ชดุ มาเรียบร้อยแลว้ จงึ เรียนมาเพ่ือพิจารณาและดาํ เนินการต่อไปลงช่อื ………………………………………………… ผู้ทําวจิ ัย (.........................................................)ลงชอ่ื ………………………………………………..ผู้ควบคุมการวจิ ยั (........................................................) ………../………..../……………คํารบั รองของผู้บงั คับบัญชา (ขอใหผ้ ้บู งั คับบัญชา เขียนเหน็ สมควรการทําการวิจัยใหด้ ว้ ย).................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ลงช่ือ : น.อ. ............................................. ผบู้ ังคับบญั ชา ( ........................................... ) ………../………..../……………

๕๓ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ RC-FO-003 ศนู ย์วิจัยและพฒั นาสง่ิ ประดิษฐ์คดิ คน้ ทางการแพทย์ ปรับปรงุ : เม.ย. 61 แบบเสนอโครงการวิจัย เพ่ือการพจิ ารณารบั รอง๑. ช่อื โครงการวิจยั( ภาษาไทย ) ………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………(ภาษาอังกฤษ)………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………ประเภทของโครงการวิจัย Drug trial Non-Drug trialจาํ นวนสถานพยาบาลทรี่ ว่ มวิจยั Single center Multicenters (ในประเทศ) International Multicenters (ร่วมกบั ต่างประเทศ)๒. ชื่อ-หัวหนา้ โครงการวิจยั และท่ีอยู่ ท่สี ามารถติดต่อไดส้ ะดวกชอ่ื หวั หนา้ โครงการ (ภาษาไทย) …………………………………………………………………………………………………ชื่อ ภาษาองั กฤษ ……………………………………………………………………………………………………………………..คุณวฒุ ิ ………………………………………………………………… ตําแหนง่ ………………………………………………….สงั กดั หน่วยงาน …………………………………….…………………โทรศพั ท์มือถือ ……………………….………………..๓. แหล่งเงินทุนสนับสนุนงานวิจัย…………………………………………………………………………………………………๔. บทนาํ๔.๑ ความเปน็ มาของปัญหา และการทบทวนวรรณกรรม๔.๒ คาํ ถามวิจัย และวตั ถุประสงคข์ องการทําวิจยั๔.๓ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ๕. การดาํ เนนิ การวิจยั๕.๑ รปู แบบการทาํ วิจัย๕.๒ ประชากร กลมุ่ ตัวอย่าง และเกณฑ์การคัดเลือก๕.๓ ขนาดตวั อย่าง๕.๔ วธิ ีการ หรอื ส่งิ แทรกแซง๕.๕ เครือ่ งมอื ในการสงั เกตและการวัด๕.๖ วธิ ีดาํ เนนิ การทาํ วิจยั๕.๗ ผลขา้ งเคยี งความเสีย่ งท่ีอาจเกิดขน้ึ มาตรฐานในการป้องกนั หรือแก้ไข เกณฑ์การใหเ้ ลกิ จากการศกึ ษา๕.๘ การวเิ คราะหข์ ้อมลู๖. การบริหารงานวิจัย และความเปน็ ไปได้ทจ่ี ะทาํ วจิ ยั ได้สาํ เรจ็๗. การบรหิ ารงานวจิ ัย และตารางเวลาการปฏบิ ตั ิงาน๘. งบประมาณ และแหลง่ ทุน๙. คําอธบิ ายโครงการทําวิจยั๑๐. หนงั สอื ใหค้ วามยนิ ยอม๑๑. ข้อพิจารณา ดา้ นจริยธรรม๑๑.๑ เหตผุ ล และความจาํ เป็นทต่ี ้องทําวิจัยในคน๑๑.๒ ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รับจากการทําวิจัยน้ี รวมทง้ั ประโยชน์ตอ่ ประชากรทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการวิจยั๑๑.๓ ความเส่ียงของประชากรท่ีเขา้ รว่ มการทาํ วจิ ัยจะไดร้ ับ

๕๔โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ RC-FO-003ศนู ยว์ จิ ัยและพฒั นาสง่ิ ประดิษฐ์คิดค้นทางการแพทย์ ปรับปรุง : เม.ย. 61แบบเสนอโครงการวจิ ัย เพ่ือการพจิ ารณารับรอง ๑๑.๔ หลกั ฐานหรือขอ้ มลู (เอกสารอา้ งอิง) ท่แี สดงให้เห็นวา่ การทาํ วจิ ยั น้นี ่าจะมีความปลอดภัยต่อประชากรทเ่ี ข้าร่วมการทําวิจัย ๑๑.๕ แบบหนังสือยินยอม ของประชากรที่เข้ารว่ มในการทาํ วิจยั (แบบยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจยั ) โดยระบขุ ้อมลู ต่างๆ ตามแบบทีค่ ณะกรรมการดา้ นจรยิ ธรรมฯ กาํ หนด๑๒. รายชื่อ ท่ีอยู่ และคุณวฒุ ิของผรู้ ่วมทําวจิ ยั ทุกคน ชื่อ - นามสกุล ………………………………………………………....คุณวฒุ ิ..................................................... ทอี่ ยู่ ................................................................................................................................................... โทรศัพท์มือถือ............................................. E-mail ………………………………………………..................๑๓. ใหเ้ ติมข้อความต่อไปนี้ พร้อมลงลายมือ ช่ือ-หัวหน้าโครงการวจิ ยั และผรู้ ว่ มวจิ ัย ทุกคน ผเู้ สนอโครงการทาํ วิจัย สัญญาว่า คณะผู้วิจัยจะดําเนินการทําวิจัยตามรายละเอยี ดท่รี ะบไุ วใ้ นข้อเสนอโครงการวิจัยอย่างเคร่งครดั หากมีการแก้ไขข้อเสนอโครงการทาํ วจิ ยั ผเู้ สนอโครงการจะแจง้ ให้คณะกรรมการจริยธรรม ทราบโดยเรว็ เพอื่ การพิจารณาอนมุ ตั ิ ให้ดําเนินการวจิ ัยตอ่ ไปนอกจากนีห้ ากประชากรที่รับไวใ้ นโครงการวิจัย เกิดผลข้างเคยี งหรอื ได้รับอันตรายจากการทําวจิ ัย หรอื หากมีข้อมูลองค์ความรู้ใหม่ เกย่ี วกับประโยชน์หรอื โทษจากแหล่งอืน่ ในระหวา่ งทาํ การวิจยั หวั หน้าโครงการวจิ ยั จะรายงานใหค้ ณะกรรมการจริยธรรมโรงพยาบาลภูมพิ ลอดลุ ยเดชกรมแพทย์ทหารอากาศ โดยจะสง่ รายงานการวจิ ยั จาํ นวน ๑ ชุด ให้คณะกรรมการ ฯภายใน ๓ เดอื น เม่อื การทําวิจัยสน้ิ สดุ ลง หรือเมอ่ื การทําวิจยั ถูกยกเลิก๑๔. ใหห้ วั หนา้ หน่วยงานของหวั หน้าโครงการ ลงลายมือช่อื อนุมัตใิ ห้ดาํ เนนิ การทําวจิ ัย ในกรณเี ป็นโครงการวิจยั ท่เี ปน็ วิทยานิพนธ์ จะตอ้ งมี ชอ่ื ประวัติ และผลงาน พร้อมลายมอื ชื่อของผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์ด้วย๑๕. ให้ระบุ-ช่ือ ของผู้ทจ่ี ะเป็นผู้ตดิ ตามประเมนิ ผล (Research monitor) โครงการทาํ วิจัยนี้ ซึ่งอาจจะเป็นหวั หนา้ หนว่ ยงาน หรือผคู้ วบคุมโครงการวิจยั หรือผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย จากผใู้ หท้ ุนสนับสนุนการวจิ ยั เพ่ือทําหน้าที่ติดตามโครงการวิจยั วา่ ได้ดาํ เนนิ งานจริงตามท่ีระบไุ วใ้ นแบบเสนอโครงการวิจยัผูต้ ิดตามประเมนิ ผล (Research monitor) โครงการวจิ ัยน้ี คือ.................................................................……………………………………………………………………………………………………………………………………………….๑. ลงช่อื ………………………………………….. หน.หน่วยงาน ของหน.โครงการวิจยั (ผอ.กอง/หน.กอง) ()๒. ลงช่อื ……………………………………………หน.โครงการวจิ ัย (ผทู้ าํ วิจัย) ()๓. ลงชอื่ ……………………………………………ผู้รว่ มทาํ วจิ ัย (อจ.ท่ีปรกึ ษา) ()๔. ลงชื่อ……………………………………………ผู้ร่วมทาํ วจิ ัย ()

โรงพยาบาลภูมพิ ลอดลุ ยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ๕๕ศูนย์วิจัยและพฒั นาสิ่งประดิษฐ์คิดคน้ ทางการแพทย์ RC-FO-004 แบบยนิ ยอมเข้ารว่ มโครงการทาํ วิจัย ปรบั ปรงุ : เม.ย. 61สว่ นของผเู้ ข้าร่วมงานวจิ ัยเทา่ นน้ั วนั ท่ี…………….เดอื น……………..………พ.ศ......……………ข้าพเจา้ …………………….……….………………..นามสกลุ …………………..………….……………อายุ……………………..ปีทีอ่ ยู่…………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไดร้ ับทราบ ข้อมูลรายละเอยี ดของโครงการทาํ วจิ ัยเร่ือง …………………………………………………………………….ดงั ตอ่ ไปนคี้ ือ ก. วัตถปุ ระสงค์ของการทาํ วจิ ยั ข. รายละเอียดที่ปฏิบัติต่อผู้เข้าร่วมโครงการ (ขัน้ ตอนการทําวิจยั ) ค. ประโยชน์ท่ีจะเกิดขน้ึ จากการทาํ วิจยั (รวมท้งั คา่ ใชจ้ ่ายและค่าชดเชย) ง. ความเสี่ยงหรอื ผลขา้ งเคียงที่อาจจะเกิดข้ึน จ. แนวทางป้องกนั /แก้ไข ความเสย่ี งหรือการแกไ้ ขผลขา้ งเคยี งที่อาจจะเกดิ ขนึ้ ฉ. สําหรบั ผู้ปว่ ยใน กรณที มี่ ีปัญหา (ตลอด 24 ชวั่ โมง) หากข้าพเจา้ มีข้อสงสยั ประการใด หรอื เม่ือเกดิ ผลข้างเคยี งจากการทําวจิ ยั ข้ึน ข้าพเจา้ จะตดิ ต่อกบั ชอ่ื –นามสกลุ ………………………………………………………………….……..ได้ ท่ีอยู่……………………………………..……………………………………………………………………………………………… โทรศัพท์…………….………………………………… โรงพยาบาล …………………………………………………………… ช. หากขา้ พเจ้าได้รับผลข้างเคยี ง หรอื ฤทธไิ์ ม่พึงประสงค์ หรอื อนั ตรายจากการทําวิจัย ข้าพเจ้าจะไดร้ ับการปฏบิ ตั ิ/ การชดเชยดังน้ี …………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… หากผู้ทาํ วิจัย มีข้อมูลเพ่ิมเตมิ ทั้งดา้ นประโยชน์และโทษที่เก่ียวขอ้ งกบั การวจิ ยั นี้ ผวู้ ิจัยจะแจ้งให้ขา้ พเจ้าทราบอย่างรวดเรว็ โดยไมป่ ดิ บงั ข้าพเจ้า มีสิทธิ์ทจี่ ะขอ งดการเขา้ ร่วมโครงการทําวจิ ัย โดยมิต้องแจ้งใหท้ ราบล่วงหน้าโดยการงดการเข้ารว่ มโครงการทําวจิ ัยนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการไดร้ บั บรกิ าร หรือการรกั ษาทข่ี ้าพเจ้าไดร้ ับแตป่ ระการใด ขา้ พเจ้า ไดร้ ับทราบจากผู้ทําวิจัยวา่ จะไมเ่ ปิดเผยข้อมูล หรือผลการทําวิจัยของข้าพเจ้าเปน็ รายบุคคล ต่อสาธารณะชน ข้าพเจ้า ได้รับทราบและไดซ้ กั ถามผู้ทาํ วจิ ยั จนหมดขอ้ สงสยั โดยตลอดแลว้ และยนิ ยอมเข้าร่วมในโครงการทําวจิ ัย จึงไดล้ งลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานตอ่ หน้าพยาน ๑. ลงช่อื ………………………………………….….. ผูย้ ินยอมหรือผู้แทนโดยชอบธรรม () ๒. ลงชือ่ ………………………………………….….. หน.โครงการวจิ ยั (ผทู้ าํ วจิ ยั ) () ๓. ลงชอ่ื ………………………………………….….. พยาน () ๔. ลงช่ือ ………………………………………….….. พยาน ()

๕๖ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ RC-FO-005 ศูนยว์ ิจัยและพัฒนาสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางการแพทย์ ปรบั ปรุง : เม.ย. 61 แบบรายงานความก้าวหน้า รหัสโครงการงานสําเร็จตามเปา้ หมายทีเ่ สนอไว้ หรือไม่ (ถ้าไม่ เพราะเหตุใด)……………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..คาํ ชแี้ จง เกีย่ วกับอปุ สรรคหรือปญั หา ………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………แนวทางในการแก้ไขปญั หาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..รายละเอยี ดงบประมาณ (ระบุรายละเอียดในแตล่ ะหมวดอย่างชดั เจน)งบประมาณ ปที ี่ ................................ จาํ นวนเงิน .............................. บาทงบประมาณ งวดทไ่ี ด้รบั งวดท่ี ......................... จาํ นวนเงิน .............................. บาท รายละเอียด งบประมาณ ใชจ้ ่าย ยอดคงเหลือ ทีไ่ ดร้ บั (บาท) (บาท) (บาท)๑. คา่ ตอบแทน คณะผู้วจิ ยั เป็นรายบคุ คล๒. คา่ จ้างผ้ชู ่วยวิจัย และเจา้ หนา้ ทอ่ี ื่น ๆ๓. ค่าวัสดุ๔. ค่าเดินทางระหวา่ งปฏบิ ัติการในโครงการ๕. ค่าจดั หาข้อมูล๖. ค่าทาํ รายงาน๗. ค่าจ้างวิเคราะห์ตัวอย่าง๘. ค่าบรหิ ารโครงการ รวมสรปุ ผลงานการทาํ วิจัย ท่ไี ด้ดําเนนิ การมาแล้ว (ไมเ่ กนิ ๑ หน้ากระดาษ) ลงชื่อ.................................................................. ผ้ทู ําวิจยั (................................................................) วนั ท่ี ............./......................./.................... ลงชื่อ.................................................................อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา (................................................................) วนั ที่ ............./......................./.....................

๕๗ โรงพยาบาลภูมพิ ลอดลุ ยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ RC-FO-006 ศนู ยว์ จิ ยั และพัฒนาส่ิงประดิษฐ์คดิ คน้ ทางการแพทย์ ปรบั ปรงุ : เม.ย. 61 แบบฟอร์ม การขอรหัสโครงการทาํ วิจยั(สําหรับงานวิจัยทีต่ ้องใชย้ าของ รพ.ฯ และการตรวจวินิจฉัยหรอื ทําหัตถการต่าง ซึ่งต้องทาํ การจ่ายคนื ให้กบั รพ.ฯ)๑. ชอื่ -โครงการวิจัย (ภาษาไทย)....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................๒. ชื่อ-ยอ่ โครงการ (ข้อความสนั้ ๆ เข้าใจงา่ ย ความหมายตรงกับงานวิจยั ) ตัวอยา่ งเชน่ โครงการผา่ ตดั ขอ้ เข่าเทยี ม เปน็ ต้น .....................................................................................................................................................๓. ระยะเวลาการทาํ วจิ ัย (บอกวันเรมิ่ ต้นและสนิ้ สดุ โครงการ)......................................................................................................................................................................๔. ชือ่ -ผทู้ าํ วจิ ัย และผรู้ ว่ มทําวิจัย๔.๑ ช่อื -สกลุ (ผู้ทําวิจัย) ..............................................................................กอง ...................................เบอรโ์ ทรศัพทม์ ือถือ ......................................................................๔.๒ ชื่อ-สกลุ (ผูร้ ่วมทําวิจยั ) .......................................................................กอง ...................................เบอรโ์ ทรศัพท์มือถือ ......................................................................๔.๓ ช่ือ-สกุล (ผรู้ ่วมทําวิจยั ) .......................................................................กอง ...................................เบอรโ์ ทรศัพท์มือถือ ......................................................................๕. ประเภทผู้ปว่ ย-โครงการทําวจิ ัย ผู้ป่วยนอก ผู้ปว่ ยใน จํานวน........................คน๖. รายการที่ต้องการขอสนบั สนุน สาํ หรับผปู้ ว่ ยท่ีเข้ารว่ มโครงการวิจัย เช่น ยาและการตรวจต่างๆ รายการ ยา รายการตรวจตา่ งๆ กอง/หน่วยงานที่เกีย่ วข้อง รหัสกจิ กรรมตวั อยา่ ง CXR กรส. 0902 ลงชื่อ.................................................................. ผู้ทําวิจัย (................................................................) วันท่ี ............./......................./..................

๕๘โรงพยาบาลภมู ิพลอดลุ ยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ RC-FO-007ศูนยว์ ิจยั และพัฒนาส่งิ ประดิษฐ์คิดค้นทางการแพทย์ ปรับปรุง : เม.ย. 61 แบบฟอร์ม การรายงานผลงานวจิ ยัช่อื ผู้ทําวจิ ยั ………………………………………………………………………………………………………………………………เร่อื งทท่ี ําวิจัย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………ยงั ไม่ได้ทําวจิ ัย เพราะ...........................................................................................................ยังไม่เสร็จ อยู่ในข้ันตอน......................................................................................................ดําเนนิ การวิจยั เสร็จสิน้ แล้ว ขอทราบผลการดาํ เนินงาน หลงั เสรจ็ สิน้ งานวจิ ัย ดังนี้๑. ยงั ไม่ไดต้ ีพมิ พ์ เพราะ..............................................................................................................................................................................................................................................................................................๒. ตีพมิ พ์แลว้ ลง (ชือ่ ) วารสาร...............................................................................................................ปที ่ี......................เดอื น.............................. (แนบหลกั ฐาน)๓. ได้เคยนาํ ไปเสนอผลงานวจิ ัย ขอหลักฐานแนบOral presentation ในการประชมุ ............................................................................................สถานท่ี....................................................................วันที่.................เดือน........................ปี................Poster presentation สถานที่…………………………………………………………………………………………..วันท่ี.................เดือน........................ป.ี .................๔. ผลงานวิจยั ไดร้ บั การนําไปใช้ ดงั นี้ ขอหลกั ฐานแนบภายใน รพ. OPD OR WARDอื่นๆโปรดระบุสถานท่ี..........................................................................................วนั ท่ี...........เดือน......................ป.ี ..........................ภายนอก รพ. (ระบุสถานท่ี)..................................................................................วันที่...........เดือน......................ป.ี ..........................๕. ผลงานวจิ ัยน้ไี ดร้ บั การเผยแพร่ส่สู ังคม ขอหลกั ฐานแนบวทิ ยุคลน่ื ........................ รายการ....................................................................................วนั ท่ี...........เดือน......................ปี...........................ทีวชี ่อง............................ รายการ....................................................................................วนั ที่...........เดอื น......................ปี...........................แผ่นพบั ในงานนิทรรศการ(ช่ืองาน)....................................................................สถานท…ี่ ………………………………………………..วันที่..........เดือน......................ป.ี ..................อื่นๆ โปรดระบสุ ถานท่ี........................................................................................................วนั ที่..........เดือน........................ปี........................ ลงชื่อ.................................................................. ผทู้ ําวจิ ยั (................................................................) ............./......................./..................

๕๙ ผนวก ซ ระเบียบปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั แฟม้ ประวตั ิผปู้ ว่ ยการบันทึกเวชระเบียนผ้ปู ่วย อ้างอิงตามแนวทางการบันทึกเวชระเบียนของแพทย์สภาและแนวทางปฏบิ ตั ิการบันทึกเวชระเบียนผู้ป่วย ของ รพ.ภมู ิพลอดุลยเดช พอ. (MR-QP-008) ๑. การบันทึกเวชระเบียนผ้ปู ว่ ยนอก ขอ้ มูลท่ีตอ้ งมบี นั ทึกในเวชระเบียน - อาการสําคัญ และประวัตกิ ารเจ็บปว่ ยที่สําคญั - ประวัตกิ ารแพย้ า สารเคมี หรอื สารอ่นื ๆ - บนั ทึกสญั ญาณชีพ (Record of vital sign) - ผลการตรวจรา่ งกายผปู้ ว่ ยทีผ่ ดิ ปกติ หรือมคี วามสาํ คญั ตอ่ การวินจิ ฉยั โรค หรือการใหก้ ารรกั ษาแกผ่ ู้ป่วย - ปญั หาของผูป้ ว่ ย หรอื การวนิ ิจฉัยโรค หรอื การแยกโรค - การส่ังการรักษาพยาบาล รวมตลอดถงึ จาํ นวนและชนิดของยา - ในกรณีมีการทําหัตถการควรมี บันทึกเหตุผล ความจําเป็นของการทําหัตถการ ใบยินยอมของผู้ป่วยหรือผู้แทนภายหลงั ที่ได้รับทราบ และเขา้ ใจถงึ ข้นั ตอน ผลดี และอาการแทรกซ้อนทอ่ี าจเกิดจากการทาํ หัตถการ - คําแนะนําอืน่ ๆ ทใ่ี ห้แกผ่ ปู้ ว่ ย ๒. การบนั ทึกเวชระเบียนผปู้ ่วยใน ความรบั ผิดชอบของแพทย์ในการบนั ทกึ แฟ้มเวชระเบยี นผู้ปว่ ยใน ๒.๑ ใบ IN PATIENT SUMMARY รายละเอยี ดในการบนั ทึก ต้องมขี ้อมูลดงั ต่อไปน้ี Principal diagnosis หมายถงึ การวินจิ ฉยั โรคหลักที่ทาํ ให้ผูป้ ่วยได้รับการตรวจรักษาหรือเข้ารับการรักษาครัง้ น้นั ถกู ต้องสอดคล้องกบั ขอ้ มลู หลักฐานในเวชระเบยี น องคป์ ระกอบท่ีสําคญั ไดแ้ ก่ - การวินจิ ฉยั หลกั มไี ด้เพียงการวนิ ิจฉัยเดียวเท่าน้ัน - การวินิจฉัยว่าโรคใดเป็นการวินิจฉัยหลักให้กระทําเมื่อสิ้นสุดการรักษาแล้วเท่าน้ัน เพื่อให้ได้คําวินิจฉัยโรคข้ันสุดท้าย (Final diagnosis) ดังนั้น การวินิจฉัยหลักอาจแตกต่างไปจากการวินิจฉัยเมื่อแรกรับ(Provisional diagnosis) - ต้องเป็นโรคที่เกิดข้ึนต้ังแต่ก่อนรับไว้ในโรงพยาบาล มิใช่โรคแทรกท่ีเกิดขึ้นภายหลัง ถึงแม้โรคแทรกน้นั จะทําใหส้ ญู เสยี ทรัพยากรหรือค่าใชจ้ า่ ยในการรักษามากกว่ากต็ าม - ผู้ปว่ ยท่ีมีโรคหลายโรคปรากฏข้ึนพร้อมกัน ตั้งแต่ก่อนรับเข้าไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้เลือกโรคทไี่ ดท้ ําการรกั ษาเป็นการวินิจฉัยหลัก หากรักษาหลายโรคพร้อมกัน ให้เลือกโรคท่ีรุนแรงท่ีสุดเป็นการวินิจฉัยหลกั หากโรคมีความรนุ แรงใกล้เคียงกัน ใหเ้ ลอื กโรคท่ีใช้ทรพั ยากรในการรกั ษาสูงสดุ เป็นการวนิ จิ ฉยั หลัก - กรณีที่วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดไม่ได้จนสิ้นสุดการรักษาแล้ว ( ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วยเองโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือผู้ป่วยเสียชีวิตโดยยังวินิจฉัยโรคไม่ได้ หรือส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลอื่น) ให้บันทึกอาการ ( Symptom) หรอื อาการแสดง ( Sign) หรือกลมุ่ อาการที่สาํ คัญเปน็ การวนิ จิ ฉัยหลกั Comorbidity ( Pre-Admission comorbidity การวินิจฉัยร่วม ) หมายถึง โรคที่ปรากฏร่วมกับโรคทเ่ี ปน็ การวินจิ ฉยั หลัก และเป็นโรคท่ีมคี วามรุนแรงของโรคมากพอทีจ่ ะทําใหผ้ ู้ปว่ ยมคี วามเสี่ยงต่อชีวิตสูงมากขึ้น หรอื มกี ารตรวจวนิ ิจฉัยหรอื การรักษาเพมิ่ ข้ึนระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งนี้ องค์ประกอบที่สําคัญไดแ้ ก่ - เปน็ โรคทีเ่ กิดขึ้นก่อน หรอื พรอ้ มกับโรคทีเ่ ปน็ การวนิ จิ ฉัยหลกั มิใชโ่ รคแทรกทีเ่ กิดข้ึนมาภายหลงั - เป็นโรคที่ทีความรุนแรงมากพอ ท่ีทําให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรก เส่ียงต่อการเสียชีวิตหรือพิการ ทําให้ต้องเพ่ิมการตรวจพิเศษ เพิ่มยาหรือเวชภัณฑ์ ต้องได้รับการดูแลเพ่ิมจากแพทย์ผ้เู ชีย่ วชาญสาขาอ่ืน ต้องทําการรกั ษาเพม่ิ เตมิ - การบันทึกวนิ จิ ฉัยโรครว่ ม สามารถบันทกึ ไดม้ ากกวา่ ๑ โรค โดยไม่จาํ กัดจํานวนสงู สดุ

๖๐ Complication ( Post-Admission )หมายถึง โรคแทรกที่ไม่ปรากฏร่วมกับโรคที่เป็นการวินิจฉัยหลักแต่แรก แต่เกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และเป็นโรคที่มีความรุนแรงของโรคมากพอที่จะทําให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อชีวิตสูงมากขึ้นหรือใช้ทรัพยากรในการรักษาเพิ่มข้ึนระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลครงั้ น้ี องค์ประกอบท่ีสาํ คัญ ได้แก่ - เป็นโรคทเี่ กิดขึ้นภายหลังไม่เกิดข้ึนก่อน หรือ ไม่เกิดพร้อมกับโรคที่เป็นการวินิจฉัยหลัก เป็นโรคท่ีเกดิ ข้นึ หลงั จากผ้ปู ว่ ยเข้ารับการรกั ษาในโรงพยาบาลแลว้ - เป็นโรคท่ีมีความรุนแรงมากพอที่ทําให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรก เส่ียงต่อการเสียชีวิต หรือพิการระหว่างรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หรือทําให้ต้องเพ่ิมการตรวจพิเศษ เพิ่มยาหรือเวชภัณฑ์ตอ้ งได้รับการดแู ลเพิม่ เติมจากแพทย์ผู้เชีย่ วชาญแผนกอื่นๆ - โรคแทรกอาจเป็นโรคต่างระบบกับโรคท่ีเป็นการวินิจฉัยหลัก และอาจไม่เกี่ยวเนื่องกับการวนิ จิ ฉยั หลกั - แพทยส์ ามารถบนั ทึกโรคแทรกได้มากกว่า ๑ โรค Other diagnosis หมายถึง โรคหรือภาวะของผู้ป่วยท่ีไม่เข้าข่ายคําจํากัดความของการวินิจฉัยหลักการวินิจฉยั ร่วม หรือโรคแทรก กล่าวคือเป็นโรคท่ีความรุนแรงของโรคไม่มากพอท่ีจะทําให้ผู้ป่วยมีความเส่ียงต่อชีวิตสูงมากข้ึน หรือเป็นโรคที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรในการรักษาเพ่ิมขึ้นระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งนี้ อาจเป็นโรคที่พบร่วมกับโรคที่เป็นการวนิ ิจฉยั หลัก หรอื พบหลังจากเขา้ รกั ษาตัวในโรงพยาบาลแล้วกไ็ ด้ External cause ( External cause of injury and poisoning) หมายถึง สาเหตุการบาดเจ็บ(กรณีอุบัติเหตุ) หรือเป็นพิษจากสารเคมี คือ ข้อมูลที่ได้จากการซักประวัติผู้ป่วย เพื่อให้ทราบว่าบาดเจ็บมาอย่างไร เป็นอุบัติเหตุ ถูกทําร้าย หรือฆ่าตัวตาย โดยต้องบอกกลไกการบาดเจ็บอย่างละเอียด เช่น บรรยายว่าเป็นอะไร ท่ไี หน ขณะทําอะไรอยู่ เป็นต้น OR Procedure/ Non OR Procedure (ถ้ามี) หมายถึง หัตถการท่ีทําในขณะท่ีผู้ป่วยรักษาเป็นผู้ป่วยใน ในคร้ังน้ัน รวมถึงกรณีท่ีโรงพยาบาลส่งผู้ป่วยไปทําหัตถการท่ีหน่วยบริการอ่ืนและโรงพยาบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายนั้น โดยระบุรายละเอียด อวัยวะ ตําแหน่ง ข้างท่ีทํา คร้ังท่ีทํา วันเวลาท่ีทําและต้องสอดคล้องกบั ขอ้ มูลหลกั ฐานในเวชระเบียน Clinical summary หมายถงึ การสรุปสาเหตุหรือปัญหาผู้ป่วยแรกรับหรือการวินิจฉัยโรคเมื่อส้ินสุดการรักษาการ investigation การรักษา (การดําเนินของโรค) ผลการรักษา แผนการรักษาฟ้ืนฟูและสร้างเสริมสขุ ภาพหลงั จาํ หน่ายผู้ป่วยโดยย่อ Discharge status / type หมายถึง สถานภาพผ้ปู ว่ ยขณะจําหน่าย/ประเภทการจําหน่ายผู้ป่วย โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ (เลขหน้าคอื รหสั ทใี่ ชใ้ นการบันทึกข้อมูลทางสถติ ิและต้องเป็นตัวเลข standard ทใ่ี ช้อยู่)Discharge status: 1 หมายถงึ complete recovery 2 หมายถึง improved 3 หมายถึง not improved 4 หมายถงึ normal delivery 5 หมายถึง un-delivery 6 หมายถึง normal child discharged with mother 7 หมายถึง normal child discharged separately 8 หมายถงึ stillbirths 9 หมายถึง dead

๖๑Discharge type : 1 หมายถึง with approval 2 หมายถึง against advice 3 หมายถงึ by escape 4 หมายถึง by transfer 5 หมายถึง other (specify) 8 หมายถึง dead, autopsy 9 หมายถงึ dead, no autopsy - ลงช่ือพร้อมหมายเลขใบประกอบโรคศิลป์ในช่อง Attending Physician &License รวมถึงกรณีท่ีการพิมพใ์ บสรปุ การรักษาจากระบบคอมพิวเตอร์ จะตอ้ งลงลายมือชอ่ื แพทยท์ ่รี กั ษา/แพทยท์ ่ีสรปุ การรกั ษาด้วย - ผปู้ ่วยถึงแกก่ รรมต้องเขยี นรายงาน Medical certificate of cause of death และลงช่ือ วนั เดือน ปีใน Attending physician ๒.๒ Discharge summary เขียนให้ละเอยี ดครบถ้วนจะเป็นประโยชน์เม่ือผปู้ ว่ ยมา follow up - Clinical data ผล lab X-RAY special investigation เช่น ECHO EKG - Operation or finding - Hospital causeรวมท้งั complicationและการรกั ษาสําคญั ทีใ่ ห้ระหว่างadmit - Medical on discharge - การนัด Follow up - ลงการวนิ ิจฉยั โรคและหัตถการ - ลงช่ือในช่อง Doctor signature ๒.๓ ใบ Informed consent - เมื่อรบั ผปู้ ว่ ยไวเ้ ปน็ ผูป้ ่วยใน แพทยเ์ จ้าของไข้หรือแพทย์เวรต้องอธิบายถึงความจําเป็นท่ีต้อง รับไว้ทําการรักษาและการวินิจฉัยเบื้องต้นให้ผู้ป่วยหรือญาติทราบ และลงชื่อไว้ในช่องแพทย์ผู้ให้ คําอธบิ าย - หากผู้ป่วยจําเป็นต้องได้รับการผ่าตัด การตรวจพิเศษ/การทําหัตถการ ต้องอธิบายแผนการ ตรวจวินิจฉัย การรักษาพยาบาลของโรค การทําผ่าตัด การตรวจพิเศษ/การทําหัตถการ รวมถึงความ เส่ียง ภาวะแทรกซ้อน ผลข้างเคียง หรือผลที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง รวมท้ังทางเลือกแก่ผู้ป่วยทุกราย และลงชอ่ื ไว้ในชอ่ งแพทย์ผู้ให้คําอธิบาย - เมอ่ื ผู้ป่วยและญาตยิ นิ ยอม ให้ลงชือ่ ไว้ในช่องผ้ปู ว่ ย/ผู้มอี าํ นาจทาํ การแทน - หากผู้ป่วยหรือญาติไม่ยินยอม ต้องลงช่ือไว้ในช่องแพทย์ผู้ให้คําอธิบายในหนังสือแสดงความ ไมย่ ินยอมรับการตรวจรกั ษา การทาํ หตั ถการ และ/หรือรับการผ่าตัด ๒.๔ Medical history report รายละเอียดทีต่ ้องบนั ทึก - Chief complaint : อาการ/ปญั หาท่ผี ูป้ ่วยตอ้ งมาโรงพยาบาล - Present illness : what, where, when, why, who, how, how many การรักษาท่ีได้มา แล้ว - Past illness ทสี่ าํ คญั และเก่ยี วข้องกับปญั หาทมี่ า หรือสอดคลอ้ งกบั ปญั หาท่ีสงสัย - History : ประวัติการแพ้ยา,family history, personal history, social history, growth and development/vaccination(กรณีผู้ป่วยเป็นเด็ก), ประวัติประจําเดือน (กรณีผู้ป่วยเป็นผู้หญิง) และประวตั ิอ่ืนที่เก่ยี วขอ้ ง - Review of system : ศีรษะ ถึง เทา้ - ระบุแหล่งท่ีมา และความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล

๖๒ - ลายมือชอื่ แพทย์ ทีส่ ามารถสอ่ื ถึงแพทยเ์ จ้าของลายมือชื่อได้ ๒.๕ Physical examination reportการบันทึกผลท่ีไดจ้ ากการตรวจร่างกายคร้ังแรกเม่ือรบั ผูป้ ว่ ย - บันทึก vital signs ครบถ้วน (T,P,R,BP) กรณีเด็กอายุ ๐ – ๓ ปี ให้บันทึกอย่างน้อย T,P,R สว่ นการบนั ทกึ BP พจิ ารณาตามสภาพปัญหาของผู้ปว่ ย - การตรวจรา่ งกายตําแหนง่ ท่ีนาํ ไปส่กู ารวินิจฉัยทสี่ อดคลอ้ งกบั chief complaint โดยละเอียด - การตรวจร่างกายทกุ ระบบ (ดู คลํา เคาะ ฟัง) - สรปุ ข้อวินิจฉัยขน้ั ตน้ (provisional diagnosis) ท่เี กี่ยวข้อง / สอดคล้องกบั ผลการตรวจ - ระบุเหตผุ ลในการรับไว้เป็นผู้ป่วยใน (Indication for Admission) - ลงนามแพทย์ ท่ีรับผิดชอบในการตรวจร่างกาย ๒.๖ Progress note - บันทึกรายงานการติดตามผู้ป่วยทุกวันใน ๓ วันแรก และบันทึกทุกครั้งที่มีการเปล่ียนแปลงการรักษา/ เปล่ียนแปลงแพทย์ผู้ดูแล/ปรึกษาระหว่างแผนก หรือได้รับผลการตรวจที่สําคัญเช่นผล CT SCAN,ผล C/S หรอื เมือ่ มกี ารทาํ หตั ถการ/การผ่าตดั รวมท้งั การงดหรอื เลอื่ นทําผา่ ตดั หรอื หตั ถการด้วย - S.O.A.P.format ๒.๗ ใบสงั่ การรกั ษา - ไม่ควรสั่งการรกั ษาดว้ ยวาจา หากจําเป็นต้องกลบั มาเขยี นคาํ สัง่ การรักษาภายใน ๒๔ ชว่ั โมง - เขยี นคาํ ส่งั ให้ชัดเจน หลกี เลย่ี งการใชต้ ัวยอ่ ลงช่อื และวนั เดือน ปี ท่ีสงั่ ทกุ คร้งั - เมื่อตอ้ งการ Off คําสัง่ การรักษาเดิม - เขียน Off หลงั คาํ สงั่ การรกั ษาเดิม พร้อม ลงช่อื วัน เดือน ปที ี่ OFF ดว้ ย - เขียน Off คําสั่งการรักษา ท่ีต้องการ OFF ในช่องคําส่ังต่อเน่ืองพร้อม ลงชื่อ วัน เดือน ปี ที ส่ัง off ๒.๘ Operation report - ลงรายละเอียดวิธีการผ่าตัด ส่ิงท่ีตรวจพบ สิ่งที่ตัดออก การส่งชิ้นเน้ือทางพยาธิวิทยา ภาวะแทรกซอ้ น จาํ นวนเลือดทส่ี ูญเสียระหวา่ งผา่ ตดั - ชื่อการผ่าตัด / หัตถการ ระบุตําแหน่ง ข้าง วิธีที่ใช้ระงับความรู้สึก วันท่ี, เวลาที่เร่ิมและ สิน้ สดุ การผ่าตดั (ทงั้ LA และ GA) - Pre-op Dx : การวนิ จิ ฉัยโรคกอ่ นผา่ ตัด - Post-op Dx : การวนิ จิ ฉยั โรคหลงั ผา่ ตัด ให้ระบชุ อื่ โรค หา้ มใชค้ ําวา่ “same” - ช่อื - สกลุ ผู้ปว่ ย ชอ่ื แพทย์ผูผ้ า่ ตดั , Assistant, Scrub nurse ๒.๙ Consultation request - ผูข้ อคาํ ปรกึ ษาเขยี นใหช้ ดั เจน ระบุเหตผุ ลทข่ี อปรึกษา ลาํ ดับความเร่งดว่ น - แพทยท์ ตี่ ้องการปรกึ ษา : ระบวุ ันท่ี เวลาท่ีปรึกษา ปญั หา เรอื่ งทต่ี อ้ งการปรกึ ษา - แพทย์ผู้รับปรึกษาบันทึกผลการซักประวัติ ผลการตรวจที่เก่ียวข้องกับเรื่องที่ปรึกษา ตาม แนวทางการซกั ประวัตแิ ละตรวจร่างกาย - แพทย์ผู้รับปรึกษาบันทึกคําวินิจฉัยโรค การรักษาที่ให้หรือคําแนะนําการทําหัตถการ (ถ้ามี) แผนการรกั ษา การให้ความเห็นแพทยผ์ ู้ปรึกษา - แพทย์ผู้รับปรึกษาบันทึกแผนการดูรักษา และกําหนดความถี่ในการตรวจติดตามซํ้า บันทึก ผลการติดตามการตอบสนองต่อการดแู ล ผลลัพธข์ องการดูแล วนั เวลาที่จําหน่าย การสง่ ตอ่ (ถา้ มี)

๖๓ ๒.๑๐ หนงั สือรบั รองการตาย (ท.ร.4/1) - กรณีที่ผู้ป่วยถึงแก่ความตายแพทย์เวรท่ีรับผิดชอบต้องเป็นผู้ออกหนังสือรับรองการตาย ยกเวน้ ในผปู้ ว่ ยคดีแพทยน์ ติ เิ วชจะเปน็ ผู้ออกใบรบั รองให้ - โรคที่เป็นสาเหตุการตายต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่(ข้อ ๒.๓และ๒.๔) โดย บันทึกลําดับเหตุการณ์ของโรคต่างๆที่เกิดข้ึนตั้งแต่แรก โรคแทรกที่เกิดจนถึงโรคสุดท้ายโดยบันทึกโรค หรอื กลไกการบาดเจบ็ ท่เี กิดข้ึนเร่ิมแรกไว้ในบรรทดั ล่างสดุ - อยา่ ใช้Mode of deathหรอื principal diagnosis เปน็ สาเหตกุ ารตาย - โรคหรอื ภาวะท่ีให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์คัดลอกลงในช่องสาเหตุการตายในใบมรณะบัตร ต้องเขียนเป็นภาษาไทย (ข้อ ๒.๕) - ถา้ ผเู้ สียชีวติ เปน็ สตรีตอ้ งระบเุ รือ่ งภาวการณต์ ั้งครรภ์ (ข้อ ๒.๖)การบรหิ ารความเส่ียงของบุคลากรทางการแพทย์เกีย่ วกับงานเวชระเบียน - เมื่อต้องการแก้ไขข้อความในเวชระเบียนให้ใช้วิธีขีดฆ่าข้อความท่ีผิดแล้วเขียนข้อความใหม่ที่ถูกต้องและลงนามผแู้ ก้ไขตลอดจนวนั เวลาท่แี ก้ไข อย่าใชน้ ้าํ ยาลบคําผดิ ลบแล้วเขยี นทบั - ทกุ ลายมือทีบ่ นั ทึกลงในเวชระเบียนต้องมีการลงนามกํากบั แนบท้าย - แพทย์ควรบันทกึ คําแนะนาํ ท่ีให้ผ้ปู ว่ ยท้งั ด้วยวาจา และลายลกั ษณอ์ กั ษรเข้าในเวชระเบียน - แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ควรหลีกเล่ียงการใช้ถ้อยคําที่ไม่เหมาะสม หรืออาจเป็นการหม่ินประมาทผู้ป่วยในการบนั ทึกเวชระเบียน - แพทย์จะต้องเป็นผู้เขียนใบขอส่งตรวจหรือใบขอคําปรึกษาและต้องเป็นผู้อ่านเมื่อได้รับคําตอบก่อนนําเขา้ เกบ็ ในเวชระเบียนการสรุปแฟม้ เวชระเบียน - ควรสรุปให้เรียบร้อยทันทีท่ีผู้ป่วยจําหน่าย อย่างช้าไม่ควรเกิน ๓ วัน ทําการ แฟ้มเวชระเบียนจะอยู่บนหอผู้ป่วย ๗ วัน หากไม่สามารถทําได้ต้องมาทําการสรุปที่ห้องสรุปเวชระเบียนช้ัน ๓ ภายใน ๑๐ วัน หลังผู้ป่วยจําหน่าย เวลาเปดิ ทาํ การของห้องเวชระเบยี นชน้ั ๓ o วนั จันทร์- วันศกุ ร์ เวลา ๐๘๐๐-๑๙๐๐ o วันหยุดราชการ เวลา ๐๘๐๐-๑๖๐๐ - หา้ มนําแฟ้มเวชระเบยี นออกมาสรุปนอกหอ้ งเวชระเบียนการขอยมื แฟ้มเวชระเบยี น - กรณตี ้องการทําวิจยั หรอื การศึกษากรอกแบบฟอร์มใบยืม ว.03 (ยืมไม่เกนิ ๔ แฟม้ ) หรือ ว.04(ยืมมากกว่า ๔ แฟ้ม) ยื่นแบบฟอร์มขอยืมแฟ้มได้ที่ห้องทะเบียนเวชสถิติชั้น ๓ ในเวลาราชการ และย่ืนใบยืมลว่ งหนา้ อย่างน้อย ๒ วนั - หากจําเป็นต้องใชแ้ ฟม้ เวชระเบยี น เกนิ ๕ แฟม้ ต้องทําเร่อื งขออนุญาตจาก ผอ.กองต้นสงั กดั กอ่ น - การขอยมื แฟ้มเวชระเบียนผู้ป่วยใน ให้ยืมไดเ้ ฉพาะแฟม้ ท่ีสรปุ เรียบรอ้ ยและผา่ นขน้ั ตอนของทางเวชระเบียนเรียบร้อยแล้ว - ระบุชื่อ – นามสกุล HN และAN คร้ังที่ต้องการยืมให้ชัดเจน และระบุว่าเป็นแฟ้มผู้ป่วยใน หรือ OPDcard หรือทั้ง ๒ อย่าง - แฟ้มเวชระเบียนผู้ป่วยในขอยืมได้ครั้งละ ๑๕ แฟ้ม ส่งคืนภายใน ๗ วันหากมีความจําเป็นต้องใช้ต่อต้องแจ้งใหเ้ จา้ หน้าทที่ ราบ - OPD card ยืมได้ครั้งละ ๕๐ แฟ้ม ส่งคืนภายใน ๓ วันหากมีความจําเป็นต้องใช้ต่อต้องแจ้งให้เจา้ หนา้ ที่ทราบ

๖๔ - ห้ามนําเอกสารในแฟ้มเวชระเบียน ออกนอกแฟ้ม หรือดึงออกจากแฟ้ม เน่ืองจากแฟ้มได้ถูกเรียงไว้ตามมาตรฐาน ของการจดั เก็บแฟม้ เวชระเบียนแลว้ Flow การยมื แฟ้มเวชระเบยี นในเพื่อการศกึ ษาวจิ ยัจํานวน ≤ 5 แฟม้ ผทู้ าํ การวจิ ัย ต้องการยืมแฟ้ม เขยี นใบยืม ว 03 เขยี นใบยมื ว 04 (ผา่ น ผอ.กอง) เจ้าหนา้ ทบี่ ันทึกยืมแฟม้ เจา้ หน้าทีบ่ นั ทึกยืมแฟ้ม รบั CD ในวันถดั ไปกอ่ น 10.00 น.รบั CD 14.00 น.หลัง 10.00 น.รับ CD ในวนั ถดั ไป คนื CD ทย่ี มื ภายใน 7 วนั

๖๕Flow การยืมแฟ้มเวชระเบยี นนอก (OPD CARD) เพอื่ การศกึ ษาวิจัย ผูท้ าํ การวจิ ัย ต้องการยืมแฟ้มจํานวนไม่เกนิ 5 แฟม้ จาํ นวน 6 - 50 แฟ้มเขยี นใบยมื ว 03 (ยืมครัง้ ละ 50 แฟม้ ต่อการยืม 1 ครัง้ ) เขยี นใบยืม ว 04 (ผา่ น ผอ.กอง)เจ้าหน้าท่ี ผทส.ฯ ค้น สง่ ใบยืมท่ี ผทส.ฯ กอ่ น 1100 น. ส่งใบยมื ท่ี ผทส.ฯ หลัง 1100 น. (10 นาที) รบั แฟ้มเวลา 1400 น. รบั แฟม้ วันรุ่งขนึ้ เวลา 1400 น.ผทส.ฯลงบันทึกการยืมในระบบ Comp. คืน ผทส.ฯ ภายใน 3 วนัหมายเหตุ หากไมม่ ารบั แฟม้ ทย่ี มื ภายใน ๓ วนั ผทส.ฯ จะดําเนินการดังนี้ ๑. ตดิ ตอ่ ผยู้ ืมให้มารบั แฟม้ ตามเบอร์โทรศัพท์ท่แี จง้ ไว้ ๒. หากหลงั จากการติดต่อผ้ยู ืมไม่มารับภายใน ๑ วนั ผทส.ฯ จะจดั เก็บแฟ้มดังกลา่ ว หากผ้ยู ืมยังมีความประสงค์ยมื ใหเ้ ขียนเรื่องขอยืมใหม่ วันท่ี ๒๕ เม.ย. ๕๕ โดย ผทส.กรก. รพ.ภมู ิพลอดลุ ยเดช พอ.

๖๖ ผนวก ฌการประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คลของแพทย์ประจําบา้ น โรงพยาบาลภูมพิ ลอดลุ ยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ประจาํ เดือน.....................................................ชื่อ – นามสกลุ ............................................สาขาวชิ า..........................................ช้ันปีที่...................ปฏิบตั ิงานในกอง...........................ลากิจรวม........วนั ลาปว่ ยรวม...........วัน คะแนน ควรปรับปรงุ พอใช้ ดี ดีมาก 1 2 34ความรู้(Knowledge)เจตนคติ( Attitude)การปฏบิ ตั ิงาน (Practice)ความคิดเหน็ เพม่ิ เติม .............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.............................................. ผปู้ ระเมิน วนั ท่ี.................................หมายเหตุกากบาทลงในช่องคะแนนท่ีเหน็ วา่ ตรงกับแพทย์ประจําบา้ นฟอร์มนี้ 1 แผน่ สาํ หรบั แพทย์ประจําบ้าน 1 คนเท่านั้นการสง่ คะแนนเฉลี่ยให้คณะกรรมการ การศกึ ษาแพทย์หลงั ปริญญา ทุก 3 เดือน

๖๗ ผนวก ญแนวทางการลงโทษแพทยป์ ระจําบา้ นโรงพยาบาลภูมพิ ลอดุลยเดช คาํ สั่งโรงพยาบาลภูมิพลอดลุ ยเดช กรมแพทยท์ หารอากาศ กองบัญชาการสนบั สนนุ ทหารอากาศ (เฉพาะ) ท่ี ๒๓/๕๐ เรอ่ื ง กาํ หนดแนวทางการลงโทษแพทยป์ ระจําบา้ น รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ.บนอ. ---------------------------------------------------------------- เพ่ือให้การพิจารณาลงโทษแพทย์ประจําบ้านของ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ.บนอ. ท่ีกระทําผิดในกรณีต่าง ๆ ของทุก นขต.รพ.ภูมพิ ลอดลุ ยเดช พอ.บนอ. ถือปฏิบตั ิตามแนวทางการลงโทษแพทย์ ประจําบ้าน รพ.ภูมิพลอดลุ ยเดช พอ.บนอ. ตามผนวกคําส่งั ฯ ที่แนบ ท้งั น้ี ตง้ั แต่บดั นเี้ ปน็ ตน้ ไป ส่งั ณ วันท่ี ๒๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๐ พล.อ.ต. (อภชิ าต โกยสขุ โข) ผอ.รพ.ภูมพิ ลอดลุ ยเดช พอ.บนอ.

๖๘ แนวทางการลงโทษแพทยป์ ระจาํ บา้ น รพ.ภูมพิ ลอดลุ ยเดช พอ.บนอ. ประกอบคาํ สง่ั รพ.(เฉพาะ) ที่ ๒๓ ลง ๒๒ มี.ค. ๕๐๑. หลักการและเหตผุ ล แนวทางการลงโทษฯ นี้มีขึ้นเพื่อความสงบเรียบร้อยและยุติธรรมในการปกครอง บังคับบัญชาและมีมาตรฐานในการลงโทษแพทย์ประจําบ้าน ของ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช พอ.บนอ. ท่ีกระทําความผิดโดยมีจุดมุ่งหมายให้แพทย์ประจําบ้านท่ีกระทําความผิดได้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไขตนเอง เพ่ือเป็นแพทย์ท่ีมีความรู้ความสามารถโดยสมบรู ณ์๒. การพิจารณาความผิด การพิจารณาไต่สวนหรือลงโทษ ในกรณีท่ีแพทย์ประจําบ้านกระทําผิดให้คณะกรรมการผู้ดูแลแพทย์ประจําบ้านของแต่ละกอง จํานวนไม่ตํ่ากว่า ๓ คน เป็นกรรมการไต่สวนและพิจารณาโทษ และเสนอผลการพิจารณาต่อท่ีประชุมกองเพื่อพิจารณาอนุมัติลงโทษ, แจ้งให้แพทย์ประจําบ้านทราบ และทํารายานเสนอต่อคณก.แพทยห์ ลงั ปรญิ ญาฯ ให้ทราบทกุ ครงั้๓. เกณฑ์การลงโทษ เรยี งตามลําดบั ความรุนแรงของการลงโทษจากข้นั ต่ําสดุ จนถึงข้นึ สูงสุด ๓.๑ ตักเตือนเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร ๓.๒ ภาคทัณฑ์ ๓.๓ จาํ กัดสิทธ์ิ หรอื เพ่มิ การปฏบิ ัตงิ าน ๓.๔ เพิ่มระยะเวลาการฝกึ อบรม (๑ เดือน ถึง ๑๒ เดอื น) ๓.๕ ให้ออกจากการฝึกอบรม หรือสง่ ตัวกลบั ต้นสงั กดั๔. หลกั เกณฑค์ วามผิด ๔.๑ ความผดิ เก่ยี วกับการปฏบิ ตั หิ น้าที่และการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่เี วร ๔.๑.๑ ปฏบิ ตั งิ านไม่ตรงตามเวลาที่กําหนด หรือการลาไม่ถูกต้องตามข้อบังคับโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ๔.๑.๒ ปฏบิ ัตงิ านบกพร่องผิดพลาด หรือประมาทเลินเล่อจนน่าจะทําให้เกิดความเสียหายต่อผปู้ ว่ ย หรอื ทางราชการ ๔.๑.๓ ละทงิ้ หนา้ ที่ขณะปฏบิ ัตงิ าน ๔.๒ ความผดิ เก่ียวกับการปฏิบัตติ นในฐานะแพทย์ ๔.๒.๑ ขดั คําสง่ั ผบู้ งั คับบญั ชา หรอื แพทย์อาวุโส ๔.๒.๒ ประพฤติตนไม่เหมาะสมในหมู่คณะ อาทิเช่น การแต่งกาย วาจา การทะเลาะวิวาทและการพนัน เปน็ ตน้ ๔.๓ การกระทาํ อื่นใดนอกเหนอื จากความผิดในขอ้ ๔.๑ และ ๔.๒ ท่ีคณะกรรมการผู้ดูแลแพทย์ประจําบ้านของแต่ละกองพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความผิด หากละเลยไม่มีบทลงโทษจะส่งให้เกิดผลเสียหายต่อส่วนรวมได้

๖๙๕. บทลงโทษ การลงโทษ กรณีท่ี เกณฑ์ความผดิ ๑. ตักเตอื นเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร๕.๑ ความผิดเก่ียวกับการปฏบิ ัติ ๕.๑.๑ ปฏิบตั งิ านไมต่ รงตามเวลาท่ี ๒. ภาคทัณฑ์หนา้ ทแี่ ละการปฏิบัตหิ นา้ ท่เี วร กําหนด หรอื การลาไม่ถกู ต้องตาม ๓. จํากดั สิทธ์ิ หรือเพ่ิมการ ปฏิบัตงิ าน ขอ้ บังคับโดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควร ๔. เพิ่มระยะเวลาการฝึกอบรม ( ๑ เดือน-๑๒ เดอื น) ๕.๑.๒ ปฏบิ ตั ิงานบกพร่องผดิ พลาด หรอื ประมาทเลินเลอ่ จนนา่ จะทําให้ ๑. ตักเตือนเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร เกดิ ความเสยี หายต่อผปู้ ่วย หรือทาง ๒. ภาคทณั ฑ์ ราชการ ๓. จาํ กัดสิทธิ์ หรือเพิม่ การ ปฏิบัตงิ าน ๔. เพม่ิ ระยะเวลาการฝกึ อบรม ( ๑ เดือน-๑๒ เดือน) ๕. ใหอ้ อกจากการฝกึ อบรม หรือส่ง ตวั กลับต้นสงั กดั ๕.๑.๓ ละทงิ้ หนา้ ทขี่ ณะปฏิบัติงาน ๑. ตักเตอื นเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร ๒. ภาคทณั ฑ์ ๓. จํากัดสทิ ธิ์ หรอื เพิม่ การ ปฏิบัตงิ าน ๔. เพ่ิมระยะเวลาการฝกึ อบรม ( ๑ เดอื น-๑๒ เดือน) ๕. ให้ออกจากการฝกึ อบรม หรอื สง่ ตัวกลบั ต้นสงั กดั๕.๒ ความผดิ เก่ียวกับการปฏิบัติ ๕.๒.๑ ขัดคาํ สง่ั ผู้บงั คบั บญั ชา หรือ ๑. ตักเตือนเปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร ๒. ภาคทณั ฑ์ตนในฐานะแพทย์ แพทย์อาวุโส ๓. จาํ กดั สทิ ธิ์ หรือเพมิ่ การ ปฏิบตั งิ าน ๕.๒.๒ ประพฤตติ นไมเ่ หมาะสมในหมู่ ๑. ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร คณะ อาทเิ ชน่ การแตง่ กาย วาจา การ ๒. ภาคทณั ฑ์ ทะเลาะวิวาทและการพนัน ๓. จาํ กดั สิทธิ์ หรือเพิ่มการ ปฏิบัติงาน๕.๓ การกระทําอื่นใด ๕.๓ การกระทาํ อนื่ ใดนอกเหนือจาก ๑. ตักเตือนเปน็ ลายลักษณ์อกั ษรนอกเหนือจากความผดิ ในข้อ ๒. ภาคทัณฑ์๕.๑ และ ๕.๒ ฯ ความผิดในข้อ ๕.๑ และ ๕.๒ ฯ ๓. จาํ กัดสิทธ์ิ หรอื เพิ่มการปฏบิ ตั งิ าน ๔. เพ่มิ ระยะเวลาการฝึกอบรม ( ๑ เดอื น-๑๒ เดือน) ๕. ใหอ้ อกจากการฝกึ อบรม หรือสง่ ตัว กลับต้นสงั กดั

๗๐๖. วธิ ีการลงโทษ ๖.๑ ตกั เตือนเป็นลายลักษณ์อกั ษร ๖.๑.๑ ให้อาจารย์ประจํากองฯ บันทึกเป็นหนังสือ และรับรองโดย หก.กองฯหรือผอ.กองฯ ท่ีแพทย์ประจาํ บา้ นสงั กัดอยู่ ๖.๑.๒ หก.กองฯ หรอื ผอ.กองฯ ส่งเอกสารให้ คณอก.การศึกษาแพทย์หลงั ปริญญาฯ ๖.๒ ภาคทัณฑ์ ๖.๒.๑ โดยความเห็นชอบของ หก.กองฯ หรือ ผอ.กองฯ ให้แพทย์ประจําบา้ นทํารายงานชแ้ี จงเหตกุ ารณ์ และแนวทางการแกไ้ ข ๖.๒.๒ ใหอ้ าจารยผ์ ู้ดูแลลงบันทกึ เปน็ หมายเหตไุ วท้ า้ ยหนังสอื และรายงาน หก.กองฯ หรือผอ.กองฯ รับทราบ ๖.๒.๓ หก.กองฯ หรอื ผอ.กองฯ ส่งเอกสารให้ คณอก.การศึกษาแพทยห์ ลงั ปริญญาฯ ๖.๓ จาํ กัดสทิ ธิ์ หรือ เพิ่มการปฏิบตั งิ าน ๖.๓.๑ โดยความเหน็ ชอบของกรรมการฝึกอบรมของกองฯ และทาํ บันทึกเป็นหนังสือให้กบัหน.กองฯ หรอื ผอ.กองฯ รบั ทราบ ๖.๓.๒ หก.กองฯ หรอื ผอ.กองฯ ส่งเอกสารให้ คณอก.การศกึ ษาแพทยห์ ลังปรญิ ญาฯ ๖.๔ เพ่ิมระยะเวลาการฝึกอบรม (๑ เดอื น ถึง ๑๒ เดือน) ๖.๔.๑ โดยความเหน็ ชอบของ หก.กองฯ หรอื ผอ.กองฯ (ผ่านกรรมการึกอบรมของกองฯ) ๖.๔.๒ หก.กองฯ หรือ ผอ.กองฯ สง่ เอกสารให้ คณอก.การศึกษาแพทยห์ ลังปรญิ ญาฯ ๖.๕ ให้ออกจากการฝกึ อบรม หรือส่งตัวกลับต้นสังกัด ๖.๕.๑ โดยความเห็นชอบของ หก.กองฯหรือ ผอ.กองฯ(ผ่านกรรมการฝึกอบรมของกองฯ) ๖.๕.๒ หก.กองฯ ผอ.กองฯ สง่ เอกสารให้ คณอก.การศึกษาแพทย์หลังปริญญาฯ๗. การพจิ ารณา และข้นั ตอนการลงโทษ ๗.๑ การพจิ ารณาโทษสําหรบั ความผิดครงั้ แรก ใหด้ าํ เนินการลาํ ดับจากข้ึนตาํ่ สุดก่อน ๗.๒ ความผิดท่ีอาจดําเนินการลงโทษได้ เช่น ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับการเป็นแพทย์ท่ีดี (ตามหลกั เกณฑข์ องแพทยสภา) เป็นตน้ ๗.๓ ในกรณที ่มี ีความผดิ อย่างร้ายแรง อาจพิจารณาลงโทษขั้นสงู ได้ โดยไม่ต้องผ่านการลงโทษในขั้นตํ่ากอ่ น ๗.๔ การลงโทษ ในพิจารณาตามความผิดนั้นๆ ถ้าทําความผิดเกิดขึ้นซ้ําคร้ังต่อไปอีก ให้ลงโทษไม่ต่ํากวาการลงโทษคร้ังก่อน ๗.๕ กรณีความผิดบางข้อ ทเี่ ปน็ เหตุใหเ้ สยี หายตอ่ ผู้ป่วย หรอื ผู้ร่วมงาน หรือทางราชการผู้บังคับบัญชาสามารถพิจารณาลงโทษสูงกว่า ท่กี ําหนดไว้ในหลักเกณฑ์การพจิ ารณาความผิดและการลงโทษได้ ๗.๖ กรณีทค่ี ณะกรรมการพิจารณาโทษ มคี วามเหน็ วา่ น่าจะเป็นความผดิ ท่รี า้ ยแรง และมีผลกระทบต่อผู้ปว่ ย อาจจะพิจาณาลงโทษในขั้นทสี่ ูงได้ โดยไมผ่ า่ นการลงโทษในขัน้ ต่ํา ๗.๗ กรณีท่ีผู้ถูกลงโทษ พิจารณาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ผู้ถูกลงโทษ สามารถย่ืนอุทธรณ์ต่อคณอก.การศึกษาแพทย์หลังปริญญาฯ ภายในระยะเวลา ๑๕ วันหลังจากได้รับการพิจารณาจาก กองฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ๗.๘ ให้ คณอก.การศกึ ษาแพทยห์ ลังปริญญา เป็นผู้รักษาการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดเมื่อมแี พทย์ประจาํ บ้านกระทําผดิ แลว้ รายงานผลการดาํ เนนิ การตอ่ ผอ.รพ.ภมู พิ ลอดุลยเดชฯ โดยมิชักชา้ ๗.๙ ผอ.รพ.ภมู พิ ลอดุลยเดชฯ มสี ิทธย์ิ งั้ การลงโทษโดยการเรียกประชุมร่วมระหว่างกรรมการฝึกอบรมของกองฯ / ผอ.กอง.ฯ / ประธาน คณอก.การศกึ ษาแพทย์หลังปริญญาฯ / หก.กพศ.ฯ และผอ.รพ.ฯ

๗๑ ผนวก ฎ ระเบยี บการพักอาศัยในหอพักแพทย์ โรงพยาบาลภูมพิ ลอดลุ ยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ พ.ศ.๒๕๕๙ ----------------------------------------๑. หอ้ งพักและสถานทีส่ ่วนรวม ๑.๑ ผเู้ ข้าพกั อาศัยต้องรกั ษาความสะอาดเรียบร้อยภายในห้องของตน ๑.๒ ผู้พกั อาศยั เป็นผทู้ ําความสะอาดห้องนอน ระเบียง ห้องนา้ํ ของตนอย่างสม่ําเสมอ ๑.๓ หา้ มประกอบอาหารในห้องพัก ๑.๔ ใหใ้ ช้ไฟฟา้ และนํ้าประปาโดยประหยัด ๑.๕ ห้ามดัดแปลง แก้ไขหรือต่อเติมห้องพัก ห้ามติดส่ิงต่าง ๆ บนทุกพื้นผิว ห้ามทําให้เกิดร่องรอยความเสยี หายสกปรกของทกุ พ้ืนผิว รวมถงึ อปุ กรณ์และเฟอรน์ ิเจอร์ ๑.๖ ห้ามวางส่ิงของบริเวณหน้าห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง หากตรวจพบจะเก็บท้ิงโดยมิต้องแจ้งผู้พักอาศัย ๑.๗ ห้ามตากเส้ือผา้ เกนิ ระดับของราวระเบยี งหรอื ทรี่ าวระเบียง ๑.๘ หา้ มเสพสุรา เลน่ การพนันและสบู บุหร่ีในห้องพัก ๑.๙ ห้ามเคลอ่ื นย้ายพสั ดุทุกชนิดภายในห้องออกนอกห้องพกั หรือสบั เปลย่ี นกบั หอ้ งอืน่ หากมคี วามจาํ เป็นให้แจ้งเจ้าหน้าท่ีทกุ ครั้ง ๑.๑๐ ห้ามเปล่ียนห้องพักโดยไม่แจ้งเจ้าหนา้ ท่ี ๑.๑๑ ใหช้ ว่ ยกนั ดูแลรักษาเคร่ืองใช้สว่ นรวมของหอพัก หากเกิดความชํารุดเสยี หาย ตอ้ งชดใช้ค่าเสยี หาย ตามราคาปจั จุบนั ถ้าไม่ปรากฏวา่ ผใู้ ดกระทาํ ผูเ้ ข้าพกั อาศัยท้ังหมดต้องรับผิดชอบชดใชค้ ่าเสยี หายร่วมกนั ๑.๑๒ คณะกรรมการหอพักแพทย์ จะทาํ การตรวจความเรียบรอ้ ยหอพักทุก ๓ เดือน ๑.๑๓ อนุญาตใหน้ ําพัดลม คอมพิวเตอร์ ไดร์เป่าผม มาใช้ภายในห้องพักได้ คนละ ๑ เครือ่ ง เครื่องรบัโทรทัศนใ์ ห้ใชไ้ ด้ห้องละ ๑ เครือ่ ง ๑.๑๔ การแจ้งซ่อมบํารุงต่าง ๆ เก่ียวกับหอพัก ขอให้แจ้งผ่านกองแพทยศาสตร์ศึกษา โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พอ. ทุกครั้ง ยกเว้นกรณีเร่งด่วน นอกเวลาทําการให้ผู้พักแจ้งโดยตรงท่ีหน่วยงานช่างโยธาโรงพยาบาล ประปา เบ็ดเตลด็ โทร.๒๗๐๐๓ ๒๗๐๐๖ หรือ ไฟฟา้ ๒๗๐๐๔-๕ ๑.๑๕ หา้ มเปลีย่ นลกู บิดประตูห้อง ถ้าชํารดุ ใหแ้ จ้งซ่อมโดยผา่ นกองแพทยศาสตรศ์ ึกษา โรงพยาบาลภมู ิพลอดุลเดช พอ. ถ้าจําเป็นเร่งดว่ นตอ้ งเปลยี่ นเองต้องให้ลูกกญุ แจกับเจา้ หน้าท่ีหอพัก จํานวน ๔ ดอกทคี่ ุณลกั ขณา ๒๗๔๖๕ (ในเวลาราชการ)๒. การรบั รองแขก ๒.๑ หา้ มบคุ คลภายนอกเขา้ หอพัก โดยไม่ได้รบั อนุญาต ๒.๒ หากบุคคลภายนอกต้องการพบผู้พักอาศัยให้ลงช่ือในสมุดพร้อมแลกบัตรประชาชนท่ี รปภ.หน้าอาคารหอพักแพทย์เพ่ือ เข้า-ออก หอพักแพทย์ และอนุญาตให้น่ังรอบริเวณห้องรับแขกช้ัน ๑ เท่านั้น ในช่วงเวลา ๑๖๐๐ – ๒๒๐๐ น. หรือวนั หยุดราชการทาํ การ เวลา ๐๗๐๐ – ๒๒๐๐ ๒.๓ การรบั รองบุคคลภายนอก ให้ใช้ห้องรบั แขกชน้ั ๑ เทา่ นัน้ และให้อย่ใู นชว่ งเวลา ๐๗๐๐ – ๒๒๐๐ ๒.๔ หอพกั จะปดิ ไม่ให้บคุ คลภายนอกผ่าน เขา้ -ออก ตง้ั แต่เวลา ๒๒๐๐ เปน็ ตน้ ไป

๗๒๓. การปฏบิ ัติอน่ื ๆ ๓.๑ ใหผ้ ู้พกั อาศัยตดิ บัตรประจาํ ตัวหมายเลข ๑ ทกุ ครั้ง ขณะเข้า-ออก หอพัก ๓.๒ แสดงบัตรประจาํ ตัวทกุ คร้งั เม่อื เจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยขอตรวจสอบ ๓.๓ ใหล้ งช่อื ในสมุดเพื่อ เข้า-ออก หอพกั แพทย์ทกุ คร้ัง หากไม่มบี ัตรประจาํ ตัวหมายเลข ๑ หรือบัตรอน่ื เพ่ือแสดงตน ๓.๔ แพทยแ์ ละนิสิตแพทย์ที่จ้างบุคคลภายนอกทําความสะอาดและซักเสื้อผ้า ให้แจ้งชื่อและทําประวัติบคุ คลภายนอกทก่ี องแพทยศาสตร์ศึกษา โรงพยาบาลภมู พิ ลอดุลยเดช พอ. ๓.๕ ห้ามจดั งานทุกชนดิ ในบริเวณหอพัก ยกเวน้ ในกรณที ี่ได้รบั อนุญาตเป็นครง้ั คราว ๓.๖ ผ้เู ข้าพกั อาศัยพึงรักษามารยาท และศลี ธรรมอนั ดงี ามในการอย่รู ่วมกนั ๓.๗ การกระทําท่ีผิดระเบียบหอพัก เม่ือถูกตักเตือนเกิน ๒ ครั้งแล้ว จะต้องถูกลงโทษตามธรรมเนียมของทหาร และพ้นจากการเข้าพักอาศัย และการกระทําผิดระเบียบหอพักท่ีร้ายแรงอาจถูกให้ออกจากหอพักทันที ๓.๘ ใหผ้ ้พู กั อาศัยปฏบิ ัติตามระเบยี บแบบธรรมเนยี มของทหาร และขอ้ บงั คับอืน่ ๆ ทที่ างราชการกําหนด๔. การใช้บัตรผ่าน เข้า-ออก ๔.๑ ใช้ระบบบตั รสแกนในการผ่าน เขา้ -ออก ตลอด ๒๔ ชว่ั โมง ๔.๒ ในกรณี ระบบบตั รสแกนเสยี แจง้ ไดท้ ่ีกองแพทยศาสตร์ศึกษา โรงพยาบาลภมู พิ ลอดุลเดช พอ. น.อ.หญิง (จุฑารัตน์ เมฆมลั ลกิ า) ประธานคณะอนุกรรมการหอพักแพทย์ โรงพยาบาลภมู พิ ลอดุลยเดช

๗๓ ระเบยี บปฏิบัติหอพกั แพทย์ท่ีควรทราบและต้องปฏิบตั ิสําหรบั ผู้พกั อาศยัคยี ก์ ารด์1. ผู้พกั อาศัยจะได้รบั คีย์การ์ดอันแรก ฟรี2. คีย์การ์ดหาย เสียค่าปรับ 300 บาท ผู้พักอาศยั จะไดร้ ับคยี ์การ์ดใบใหม่กุญแจหอ้ งพัก1. ผพู้ ักอาศัยจะได้รับกุญแจดอกแรก ฟรี2. กุญแจหาย เสียค่าปรบั 300 บาท ผพู้ ักอาศยั จะไดร้ บั กุญแจหอ้ งใหม่3. หา้ ม มใิ ห้ผ้พู ักอาศยั เปลีย่ นกญุ แจห้องพัก หากมีความจาํ เปน็ ตอ้ งแจ้ง จนท.ดแู ลหอพัก เพราะหากทรัพยส์ นิทางราชการมีความเสยี หายผู้พักอาศัยต้องรบั ผิดชอบการรกั ษาความสะอาด1. ผ้พู กั อาศยั ตอ้ งดูแลความสะอาดห้องพกั และระเบยี งหอ้ งพกั ให้สะอาดเรยี บร้อยอย่เู สมอ2. หา้ มวางสิ่งของต่างๆไว้บริเวณหน้าห้องพักและทางหนีไฟ3. จนท.ดแู ลหอพกั จะทาํ การสมุ่ ตรวจหอพักแพทย์ทุก 3 เดอื น โดยจะมีการแจ้งชว่ งเวลาใหท้ ราบบทลงโทษการไม่ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของหอพักแพทย์ มโี ทษตัง้ แต่ ตักเตือน ทาํ ทณั ฑ์บนและโทษสูงสดุ คอื การให้พ้นสภาพจากการเปน็ ผู้พกั อาศยั โดยเฉพาะกรณี1. นําบุคคลภายนอกเข้าหอพักโดยไม่ได้รับอนุญาต2. การเปลีย่ นแปลงห้องพักโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต3. การประพฤตผิ ดิ จารตี และขนบธรรมเนยี มอนั ดีงามของไทยหมายเหตุ1. ยืมกญุ แจห้องพัก ปรบั 300 บาท ทุกกรณี (ยกเวน้ กรณีฉกุ เฉนิ ต้องเปดิ เพื่อไปเพ่ือช่วยชีวิตผพู้ กั อาศยั )2. ยมื คียก์ าร์ดเขา้ หอพัก ปรับ 300 บาท ทุกกรณี (ยกเว้น กรณฉี ุกเฉินต้องเปิดเพือ่ ไปเพ่ือช่วยชวี ิตผู้พกั อาศยั )3. เมื่อผพู้ ักอาศยั คนื ห้องพักเม่ือจบการศึกษา /ฝึกอบรม/ดูงาน จะต้องนาํ คยี ์การด์ มาคืนกบั จนท.ดแู ลหอพกัหากไม่นํามาคนื จะไม่ได้รับเงินมัดจําคืนขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่าไดอ้ ่านและทําความเข้าใจระเบยี บปฏิบตั ิหอพักแพทยเ์ รยี บร้อยแล้วหากข้าพเจา้ ไม่ปฏบิ ัติตามข้าพเจ้ายนิ ยอมรับโทษตามระเบยี บลงชอ่ื …………………………………………………………… นามสกลุ ............................................................................แพทย์ประจําบา้ น ชน้ั ปที ่ี........... กอง........................./แพทยป์ ระจาํ บา้ นดงู าน กอง.....................................นสิ ิตแพทย์ชนั้ ปีที่.....................นิสิตแพทยด์ งู านกอง...................วนั /เดือน/ปี ท่รี ับทราบ............................... **อยใู่ นระหวา่ งการปรับปรงุ ข้อมลู **

๗๔ ผนวก ฏ คู่มอื การใช้ห้องสมุด รพ.ภูมิพลอดลุ ยเดช พอ.๑. ประวตั ิหอ้ งสมุด ห้องสมุดโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พัฒนามาจากห้องเก็บหนังสือขนาดเล็กในอาคาร ๑๒ ของโรงพยาบาล ซึ่งมีหนังสือและวารสารทางการแพทย์จํานวนไม่มากนัก ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ ได้มีการบรรจุตําแหนง่ บรรณารักษ์ประจาํ หอ้ งสมดุ จงึ มกี ารจัดหมวดหมู่และทําบตั รรายการของหนังสือข้ึน รวมท้ังมีการบอกรับวารสารจากต่างประเทศ และสงั่ ซ้อื หนังสือทางการแพทย์เพ่ิมข้ึนด้วย จนกระทั่ง พ.ศ.๒๕๑๗ ได้ย้ายห้องสมุดมาต้ังอยู่ท่ีชั้น ๓ ของอาคารสลากกินแบ่งรัฐบาล จากน้ันในปี ๒๕๒๘ -๒๕๕๘ ห้องสมุดเปิดให้บริการ ณ ชั้น ๓ อาคารคุ้มเกล้าฯ ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และในปัจจุบันห้องสมุดได้ย้ายที่ทําการมาอยู่ท่ี ช้ัน ๕ อาคารศูนย์มะเร็ง โดยมีหนังสือตําราทางการแพทย์ภาษาไทยจํานวน ๖,๑๖๒ เล่มภาษาอังกฤษจํานวน ๗,๓๘๔ เลม่ และนวนยิ ายจํานวน ๓,๙๑๖ เลม่๒. ภารกจิ ของห้องสมดุ ๒.๑ เตรยี มทรัพยากรสารสนเทศสนบั สนุนการรกั ษาพยาบาล การเรียน การสอน การฝึกอบรมการประชุมของแพทย์ นิสติ แพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทยข์ อง รพ.ฯ ๒.๑ จัดหา รวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นแหลง่ ค้นคว้าวจิ ัย ประกอบการรักษาพยาบาลของแพทย์ นสิ ิตแพทย์พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ๒.๓ สง่ เสรมิ และพฒั นาทางวิชาการใหแ้ ก่แพทย์ นิสติ แพทย์ ตลอดจนบคุ ลากรใน รพ.ได้ศกึ ษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง ๒.๔ แนะนําและช่วยเหลือ แพทย์ นสิ ติ แพทย์ พยาบาล และบคุ ลากรทางการแพทย์ในการสืบคน้ ข้อมลูสารสนเทศ จากหนงั สอื สิง่ พิมพ์และโสตทศั นวัสดุอนื่ ๆ ท้ังภายในและภายนอกห้องสมุด รพ.ฯ ๒.๕ ศกึ ษาพฒั นา และจดั ทาํ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือให้การบรกิ ารทรัพยากรสารสนเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ ๒.๖ ใหบ้ รกิ าร ๒.๖.๑ บริการยืม – คนื ทรัพยากรสารสนเทศ ๒.๖.๒ บริการสบื ค้นข้อมลู สารสนเทศ ๒.๖.๓ บรกิ ารตอบคาํ ถามและชว่ ยคน้ คว้า ๒.๖.๔ บรกิ ารสง่ โทรสาร ๒.๖.๕ บริการจองหอ้ งประชุม ๒.๖.๖ บริการให้อา่ น ๒.๖.๗ บริการห้องอา่ นหนังสือเปน็ กลมุ่ ๒.๖.๘ บรกิ ารวารสารและหนงั สอื พิมพ์ ๒.๖.๙ บรกิ าร E-Library ๒.๖.๑๐ บริการพิมพ์เอกสาร๓. เวลาทาํ การ เปิดบริการวนั จนั ทร์ – ศุกร์ เวลา ๐๗๓๐ – ๑๗๓๐ (เว้นวนั หยดุ ราชการ)

๗๕๔. ระเบียบการใช้ห้องสมุด ๔.๑ ผู้ใช้ตอ้ งแต่งกายให้เรยี บรอ้ ย สํารวมกิรยิ า วาจา และปฏบิ ัติตนมิให้เป็นทีร่ บกวนผู้อื่น ๔.๒ ห้ามนํากระเปา๋ ใสห่ นงั สือหรือหบี ห่อเขา้ ไปในห้องสมดุ แตใ่ หฝ้ ากไว้ ณ ทร่ี บั ฝาก ยกเว้นส่ิงของท่มี ีค่า ๔.๓ หา้ มนําอาหาร เครือ่ งดม่ื หรอื ของขบเคยี้ วเขา้ ไป รับประทานในห้องสมุด ๔.๔ หา้ มสูบบุหร่ีภายในห้องสมดุ ๔.๕ การใชท้ รพั ยากรสารสนเทศ ผู้เข้าใชต้ ้องแสดงหลักฐานการเป็นสมาชกิ ตอ่ เจา้ หนา้ ที่ทุกครั้ง และหา้ มใช้บัตรของผอู้ ่นื ยืมสิ่งพมิ พ์ ๔.๖ หา้ มตดั ฉกี ทําลาย หรือทาํ ให้ทรัพยากรสารนเิ ทศของห้องสมุดเส่อื มสภาพผู้ฝา่ ฝืนจะไดร้ บั การพิจารณาโทษสถานหนกั ๔.๗ ให้ระมัดระวังทรัพย์สินและของมีค่าที่นําติดตัวมา หากสูญหายห้องสมุดจะไม่รับผิดชอบใดๆทงั้ สิ้น ๔.๘ ห้ามนําทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุด ออกไปภายนอกโดยมิได้ยืม ผู้จงใจฝ่าฝืนจะได้รับการพจิ ารณาโทษสถานหนัก ๔.๙ การใชท้ รัพยากรสารสนเทศภายในห้องสมดุ ผู้ใชจ้ ะตอ้ งใช้ ณ ทีซ่ ่งึ จดั ไว้ให้โดยเฉพาะและปฏบิ ัติตามขอ้ ปฏิบตั ซิ ่ึงแต่ละฝา่ ยกําหนดไว้ ๔.๑๐ ทุกคร้งั ท่ีลกุ จากเก้าอ้ี ต้องเลื่อนเก้าอี้ใหพ้ นกั เกา้ อ้ชี ดิ กบั ขอบโตะ๊ ทัง้ นี้ เพ่อื ความเป็นระเบียบและสวยงามของหอ้ งสมดุ ๔.๑๑ เม่อื อ่านหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ เสรจ็ ให้วางไวบ้ นโตะ๊ อย่างเรยี บรอ้ ย อย่าเก็บหนังสอื นน้ั ขึน้ ชนั้หนังสือหรือต้หู นังสือดว้ ยตนเองยกเว้น วารสาร นิตยสาร และหนังสอื พิมพ์๕. การจดั ระบบห้องสมดุ ห้องสมุดโรงพยาบาลภมู พิ ลอดุลยเดช จําแนกหนังสอื ในห้องสมุดด้วยระบบ หอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมรกิ นั (National Library of Medicine Classification) ซ่งึ ได้แก่ QS กายวิภาคศาสตรม์ นุษย์ Human Anatomy QT สรรี วทิ ยา Physiology QU ชวี เคมี Biochemistry QV เภสัชวทิ ยา Pharmacology QW จุลชีววิทยาและวิทยาภมู คิ ุ้มกัน Microbiology and Immunology QX ปรสติ วิทยา Parasitology QY พยาธวิ ทิ ยาคลนิ ิก Clinical Pathology QZ พยาธวิ ิทยา Pathology W อาชพี ทางดา้ นสุขภาพ Health Professions WA สาธารณสขุ ศาสตร์ Public Health WB เวชปฏิบตั ิ Practice of Medicine WC โรคติดต่อ Communicable Diseases WD ๑๐๐ โภชนาการผดิ ปกติ Nutrition Disorders WD ๒๐๐ โรคท่ีเก่ียวกับการเผาผลาญอาหาร Metabolic Diseases WD ๓๐๐ โรคทเ่ี ก่ียวกบั ภมู ิคุ้มกนั และเน้ือเยื่อคอลลาเจนภมู ิไวเกิน Immunologic and Collagen Diseases, Hypersensitivity WD ๔๐๐ อาการพิษเน่ืองจากสตั ว์ Animal Poisoning WD ๕๐๐ อาการพิษเน่ืองจากพชื Plant Poisons WD ๖๐๐ โรคและการบาดเจบ็ สาเหตจุ ากตวั กระทําทางกายภาพ Diseases and Injuries Caused by Physical Agents WD ๗๐๐ เวชศาสตรก์ ารบินและการแพทย์อากาศ Aviation and Space Medicine

๗๖ WE ระบบกลา้ มเน้ือกระดูก Musculoskeletal System WF ระบบทางเดนิ หายใจ Respiratory System WG ระบบหัวใจรว่ มหลอดเลอื ด Cardiovascular System WH ระบบเกีย่ วกบั เลือดและต่อมน้าํ เหลอื ง Hemato and Lymphatic Systems WI ระบบเกย่ี วกับการย่อยอาหาร Digestive System WJ ระบบปสั สาวะและอวัยวะสบื พนั ธ์ุ Urogenital System WK ระบบต่อมไร้ท่อ Endocrine System WL ระบบประสาท Nervous System WM จิตเวชศาสตร์ Psychiatry WN รังสวี ทิ ยา, รังสีวนิ จิ ฉัย Radiology, Diagnostic Imaging WO ศัลยศาสตร์ Surgery WP นรเี วชวิทยา Gynecology WQ สตู ศิ าสตร์ Obstetrics WR ตจวทิ ยา Dermatology WS กุมารเวชศาสตร์ Pediatrics WT เวชศาสตรผ์ ูส้ งู อายุ, โรคเร้ือรัง Geriatrics, Chronic Disease WU ทนั ตแพทย์ศาสตร์, ศัลยกรรมช่องปาก Dentistry, Oral Surgery WV โสต ศอ นาศิก ลารงิ ซว์ ิทยา Otolaryngology WW จักษวุ ทิ ยา Ophthalmology WX โรงพยาบาลและสง่ิ อาํ นวยความสะดวกอื่นๆต่อสุขภาพ Hospitals and Other Health Facilities WY การพยาบาล Nursing WZ ประวัติศาสตร์การแพทย์ History of Medicine๖. งานห้องสมดุ ๖.๑ งานบรหิ ารและธรุ การ - งานบุคลากร - งานธรุ การ - งานสถิติและรายงาน - งานการเงนิ - งานประชาสมั พันธ์ ๖.๒ งานพัฒนาทรพั ยากรสารสนเทศ - งานจดั หาจดั ซื้อทรพั ยากรสารสนเทศ - งานลงทะเบียนประทบั ตราทรัพยากรสารสนเทศ - การรับบรจิ าคและการได้มาซึ่งสิง่ พิมพ์ - งานซอ่ มบาํ รงุ ทรัพยากรสารสนเทศ ๖.๓ งานวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ - งานวิเคราะหห์ มวดหมู่ - การเตรียมหนงั สือออกบริการ - การจัดชั้นหนังสือ ๖.๔ งานบริการ - บริการยมื – คนื หนังสอื - บริการตอบคาํ ถามและช่วยค้นคว้า - บริการใหอ้ ่าน

๗๗- บรกิ ารวารสารและหนังสอื พมิ พ์- บรกิ าร E - Library- บรกิ ารจองห้องประชมุ- บรกิ ารส่งโทรสาร๗. ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนนุ การศึกษา๗.๑ เครื่องคอมพิวเตอรส์ าํ หรบั การศึกษาและค้นควา้ ขอ้ มลู จาํ นวน….๑๐๐….. เครือ่ ง๗.๒ ระบบ LAN……๓๑….. จุด๗.๓ เครือข่าย Wifi …ภายในหอ้ งสมุด……จํานวนจุดเชอื่ มตอ่ สญั ญาณ …๓… จดุ๘. ระบบกายภาพ (ห้องประชุม / ห้องเรียน/ ห้องอ่านหนังสือ ทั้งหมดที่ใช้ทําการเรียนการสอนภายในศูนย์แพทย์/โรงพยาบาล)๘.๑ หอ้ งประชมุ ขนาด……๓๐๐-๕๐๐……ท่นี ัง่ /ตร.ม.จํานวน…..๑……หอ้ ง๘.๒ หอ้ งประชมุ ขนาด……๒๐๐……..…… ท่ีน่ัง/ตร.ม. จํานวน…..๑……หอ้ ง๘.๓ หอ้ งประชุมขนาด……๑๐๐………….. ทีน่ ง่ั /ตร.ม. จํานวน…..๑……ห้อง๘.๔ ห้องประชุมขนาด……๓๐-๕๐…..……ที่นงั่ /ตร.ม. จาํ นวน…..๕……หอ้ ง๘.๕ หอ้ งประชมุ ขนาด……๑๕-๒๐…..……ทีน่ งั่ /ตร.ม. จาํ นวน…..๒……ห้อง๘.๖ หอ้ งสมุดขนาด…๒๕๖……….ตร.ม.๙. ทรพั ยากรการเรยี นการสอนท่มี อี ยู่๙.๑ หนังสือ ตําราแพทย์ภาษาไทย / อังกฤษ วทิ ยานิพนธ์ รายงานการวจิ ยั จํานวน.๑๓,๕๔๖…..เลม่๙.๒ ส่ือโสตทัศนปู กรณ์ (ซีดี) จาํ นวน..….๓๔๑…....แผ่น๙.๓ วารสารการแพทยภ์ าษาไทย จาํ นวน……๔๕………ชื่อเรือ่ ง๙.๔ ฐานขอ้ มูลต่างประเทศ จาํ นวน…....๑……ฐานขอ้ มูลได้แก่ ฐานข้อมูล Uptodate

๗๘ ผนวก ฐ ระเบยี บการใช้บรกิ ารศูนยว์ ิทยบรกิ าร ๑. การขอใชบ้ ริการต้องมาติดตอ่ ด้วยตนเอง และเขยี นใบขอใช้บริการ ๒. การขอใช้บริการงาน กราฟิก ถา้ วสั ดุบางชนิดทศี่ นู ย์ไม่มี ผู้ใชบ้ รกิ ารต้องจัดหามาเอง ๓. การยืมอปุ กรณโ์ สตทัศนปู กรณ์ ตอ้ งมาเซ็นยืม - คืน กบั เจ้าหนา้ ท่ี ๔. การถา่ ยวิดโี อ ๔.๑ ตอ้ งการตดั ต่อภาพและมีการบรรยายประกอบ ต้องแจ้งเจ้าหน้าทล่ี ่วงหนา้ ๑ สัปดาห์ หรืออย่างน้อย ๓ วนั ๔.๒ ถา่ ยภาพประชมุ วชิ าการ, กิจกรรมของแพทย์ พยาบาล และนสิ ิตแพทย์ ตอ้ งแจ้งเจา้ หน้าท่ีลว่ งหน้า ๑ สปั ดาห์ หรอื อย่างน้อย ๓ วัน ๔.๓ ถ่ายภาพผ้ปู ่วย ตดิ ต่อเจ้าหนา้ ที่ไดโ้ ดยไมต่ ้องแจง้ ล่วงหน้า ๕. ถ่ายภาพสไลด์ ๕.๑ การถา่ ยภาพผปู้ ่วย ๐๘๐๐ - ๑๒๐๐ ถา่ ยภาพผูป้ ว่ ย ตามห้องตรวจและห้องผา่ ตดั ๑๓๐๐ - ๑๖๐๐ ถ่ายภาพผู้ป่วยตามหอผปู้ ่วย ๕.๒ การถา่ ยสไลดเ์ พื่อบรรยาย ตอ้ งพิมพ์ตน้ ฉบบั ใหเ้ จ้าหน้าที่ ๕.๓ การถา่ ยภาพจากหนังสือต้องเลือกภาพเฉพาะท่ีต้องการใช้ ๖. การใช้ LCD ๖.๑ เคร่ือง LCD ทศี่ ูนยว์ ิทยบรกิ าร - ตดิ ตอ่ เจ้าหน้าทีล่ งสมุดจอง วันและเวลาที่ใช้ ๖.๒ เคร่อื ง LCD ที่แพทยศาสตร์ฯ / ศูนยว์ จิ ยั - ติดต่อเจ้าหน้าท่เี พื่อกรอกแบบฟอร์มการใช้***การขอใช้ห้องประชุมสัมมนาและจนท.นอกเวลาราชการ(มีคา่ ใช้จา่ ย)ใช้ตามระเบยี บประกาศของรพ.ฯติดต่อ๒๗๘๕๐***

๗๙ ผนวก ฑหมายเลขโทรศัพท์ท่ีควรทราบหมายเลขโทรศัพทก์ ลาง รพ.ฯ ๐๒-๕๓๔๗๐๐๐หมายเลข FAX ธุรการ ๐๒-๕๒๓๘๘๗๓หมายเลข FAX ห้องสมดุ ๐๒-๕๒๓๖๙๓๒สารวตั รทหารโรงพยาบาล ๒๗๐๐๑หอ้ งฉกุ เฉิน ๒๗๑๔๑, ๒๗๑๔๒,๒๗๑๔๗,๒๗๑๔๓-๕หอ้ งอุบัติเหตุ ๒๗๑๔๗ห้องพักดูอาการ ๒๗๐๗๕,๒๗๗๕๙ศนู ย์ประสาน ๒๗๖๖๑-๒เวชระเบียน ๑ ๒๗๔๒๐หออภบิ าลศัลยกรรมทว่ั ไป ๒๗๐๖๕,๒๗๐๖๑หออภิบาลศัลยกรรมประสาท ๒๗๐๗๓,๒๗๐๗๑หออภบิ าลศลั ยกรรมอุบัติเหตุ ๒๗๐๖๐หออภิบาลศัลยกรรมไฟไหม้-น้าํ รอ้ นลวก ๒๗๐๖๔หอ้ งผ่าตัด ๒๗๐๓๕, ๒๗๐๓๙, ๒๗๐๔๐, ๒๗๖๐๗กองบริการโลหติ ๒๗๘๓๐,๒๗๘๓๘หอ้ งคลอด ๒๗๐๕๑, ๒๗๐๕๕, ๒๗๐๕๗หอ้ งตรวจสตู นิ รกี รรม ๒๗๑๕๖ - ๘หอ้ งตรวจกมุ ารเวชกรรม ๒๗๑๕๑ - ๓ห้องตรวจออรโ์ ธปดิ กิ ส์ ๒๗๑๖๓ - ๖๕ห้องตรวจศลั ยกรรม ๒๗๑๖๖ - ๗๐ห้องตรวจจกั ษุกรรม ๒๗๙๕๑, ๒๗๙๕๓ห้องตรวจโสต ศอ นาสกิ กรรม ๒๗๑๗๕ - ๘๐ห้องเอ็กซเรยค์ อมพิวเตอร์ ๒๗๒๑๕,๒๗๒๐๐ห้องตรวจอัลตรา้ ซาวด์ ๒๗๒๑๒หออภบิ าลอายรุ กรรม ๒๗๒๘๙,๒๗๖๒๘หออภิบาลโรคหัวใจ ๒๗๒๙๒,๒๗๓๘๙ห้องไตเทยี ม ๒๗๒๘๔,๒๗๒๘๐ห้องสมุด ๒๗๘๕๓, ๒๗๘๕๔ศนู ย์วทิ ยบรกิ าร(คุ้มเกลา้ ฯ) ๒๗๒๖๔, ๒๗๒๕๖กองอายุรกรรม ช้นั ๔ ๒๗๓๒๒, ๒๗๓๓๗กองศัลยกรรม ช้นั ๔ ๒๗๓๓๖, ๒๗๓๓๘กองสูตนิ รีกรรม ชนั้ ๔ ๒๗๓๑๔, ๒๗๓๑๗กองกมุ ารเวชกรรม ชนั้ ๔ ๒๗๓๐๖, ๒๗๓๐๗กองออรโ์ ธปดิ กิ ส์ ชน้ั ๔ ๒๗๓๖๕, ๒๗๓๖๖กองจักษุกรรม ช้นั ๔ ๒๗๓๔๙, ๒๗๓๕๐กองโสต ศอ นาสิกกรรม ช้ัน ๔ ๒๗๓๖๔, ๒๗๓๖๘หอผู้ปว่ ยต้งั แต่ช้ันที่ ๕ - ๑๒ หมายเลขแรก = ๒เช่น หอผู้ป่วย ๕/๒ หมายเลขที่ ๒ = ๗ หมายเลขที่ ๓ = เลขช้นั หอผู้ป่วย ๘/๔ หมายเลขที่ ๔ = เลขมมุ หอผู้ป่วย ๑๒/๑ หมายเลขท่ี ๕ = เลขเครอื่ ง ๒๗๕๒๑, ๒๗๕๒๒ ๒๗๘๔๑, ๒๗๘๔๒ ๒๗๑๒๑

๘๐กองแพทยศาสตร์ศึกษา ๒๗๔๖๑, ๒๗๔๖๓หก.กพศ. 0 2159 0554 FAXธรุ การ ๒๗๒๕๕ศูนย์วิจยั ๒๗๔๖๕,๒๗๔๖๓แพทย์หลงั ปริญญา ๒๗๖๓๗ศูนย์พฒั นาคุณภาพการศึกษา ๑๙๑, ๒๗๑๙๑รปภ., เหตดุ ่วน-เหตุรา้ ย ๑๒๓, ๑๙๒, ๒๗๙๗๗เพลงิ ไหม้ ๒๗๓๓๓รถพยาบาล ๒๗๙๙๙โทรศัพทแ์ จ้งแพทย์กรณีผูป้ ว่ ยฉกุ เฉิน ๒๗๔๘๒หอ้ งตรวจข้าราชการอาคาร ๘ ช้ันอาคารคมุ้ เกศคลังยา ๒๗๙๐๘หอ้ งตรวจอายุรกรรม ๒๗๙๑๕หอ้ งตรวจข้าราชการ ๒๗๙๖๑ห้องตรวจ MRI ๒๗๙๖๗ห้องจา่ ยยารวม ๒๗๙๑๗กองเวชศาสตร์ฟ้นื ฟู ๒๗๙๒๐ประชาสมั พนั ธ์ ๒๗๙๗๗หอ้ งจา่ ยยา ขา้ ราชการ ๒๗๙๗๒หอ้ งตรวจทันตกรรม ๒๗๙๓๓หน่วยไตเทียม ๒๗๙๓๗หอ้ งตรวจพเิ ศษ(ระบบทางเดินอาหาร) ๒๗๙๘๖ศูนย์ปอ้ งกันและพัฒนาการรักษาโรคหัวใจ ๒๗๙๔๕หนว่ ยเวชศาสตร์มารดาและทารก และเวชศาสตรก์ ารเจริญพนั ธุ์ ๒๗๙๔๗อาคารศูนยม์ ะเร็ง 27808หน่วยรงั สีรักษา ชน้ั ๑ 27813หอ้ งตรวจ ๒ 27814หอ้ งปฏบิ ตั ิการแพทย์ 27815ห้องตรวจ 3 27816-7ห้องหตั ถการ 27818เคานเ์ ตอร์ 27819ธุรการกอง 27820ห้องปฏิบัติการแพทย์ 2 27823ศูนยม์ ะเรง็ ช้นั 2 27824แฟกซ์สํานกั งาน 27825หอ้ งให้คําปรกึ ษา 27826เคานเ์ ตอร์ 27827คดั กรอง 27829หอ้ งประชุมผสมยาเภสชัหน.ศูนย์

๘๑กองบริการโลหิต ชน้ั 3 27839หัวหน้ากองหอ้ งธรุ การ 27830หอ้ งรบั บรจิ าคโลหิต 27837,38ห้องเตรยี มสว่ นประกอบโลหิต 27836ห้องทดสอบความเขา้ กันได้ของโลหิต (ห้องรับ-จา่ ย โลหติ ) 27833,34กองการพยาบาล ชน้ั 4แฟกซ์ 0 2534 7844ผอ.กอง 27840รอง ผอ.กอง 27843น.การศึกษา+ศนู ยก์ ารศกึ ษา 27844ธรุ การ 27845น.การเงนิ 27846น.กําลงั พล 27881ผู้ตรวจการพยาบาล 27882หน.แผนก 27883น.พยาบาลอวโุ ส 27884น.ธรุ การ 27885ศูนยพ์ ฒั นาคุณภาพ ช้ัน 4หน.ศูนย์/คณก.บรหิ ารและพัฒนากาํ ลังพล 27849คณะทํางานศนู ย์/คณก.บริหารความเสี่ยง 27847-48ศูนย์การจัดความรู้ 27847ศูนย์วทิ ยบริการ ชั้น ๕ 27850,52,55ห้องสมดุ ชน้ั 5 27853,54ห้องแม่บ้าน 27860อาคาร 14 27407ช้นั 1 27๑๙๒,๒๗๔๐๗,๒๗๑๑๘แผนกนิติเวช 27119หอ้ งตรวจโลหติ วิทยา 27574หอ้ งตรวจนิตพิ ิษวทิ ยาและชีวโมเลกุล 27409หอ้ งตรวจพิสจู น์และเกบ็ ศพ 27395ช้ัน 2ห้องธุรการหอ้ งตรวจอิมมโู นวิทยาห้องตรวจวิทยาการวิภาค


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook