Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E_Book เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิ

E_Book เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิ

Published by s.petnark, 2017-09-16 18:51:39

Description: E_Book เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิ

Search

Read the Text Version

เง่ือนไขการคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี

1. สาระการเรียนรู้ 1.1. เง่ือนไขการคานวณกาไรสุทธิดา้ นรายได้ 1.2. เงื่อนไขการคานวณกาไรสุทธิดา้ นรายจ่าย2. สาระสาคัญ การคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี เป็นการปรับปรุงรายการทางบญั ชีเกี่ยวกบั รายไดแ้ ละราจ่ายเฉพาะรายการที่ขดั แยง้ กบั กฎหมายภาษีที่กาหนดไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ 65ตรี และ 70 ตรี โดยใชก้ าไรสุทธิทางบญั ชีการเงินเป็ นตวั ต้งั แลว้ บวกหรือหกั ดว้ ยรายไดห้ รือรายจ่ายตามมาตรา 65 ทวิ 65ตรี และ70 ตรี3. สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ 3.1. ดา้ นความรู้ 3.1.1.อธิบายเก่ียวกบั เงื่อนไขการคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีดา้ นรายได้ ไดู้ ูกตอ้ ง 3.1.2.อธิบายเกี่ยวกบั เง่ือนไขการคานวณกาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษีดา้ นรายจา่ ยไดู้ ูกตอ้ ง 3.2. ดา้ นทกั ษะ สามารูวเิ คราะห์รายการทางบญั ชีการเงินท่ีขดั แยง้ กบั กฎหมายภาษีตามมาตรา 65 และมาตรา 65 ตรี แลว้ ทาการปรับปรุงกาไรสุทธิทางภาษีไดู้ ูกตอ้ ง 3.3. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3.3.1.มีความซื่อสัตยส์ ุจริต 3.3.2.มีความรับผดิ ชอบ 3.3.3. มีความตรงต่อเวลา 3.3.4.มีมนุษยสมั พนั ธ์4. เนื้อหา การคานวณกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิตามปกติของกิจการเป็นการคานวณจากรายรับหกั ดว้ ยรายจา่ ยตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับโดยทว่ั ไป ซ่ึงอาจมีการบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั รายไดแ้ ละรายจา่ ยที่ขดั แยง้ กบั เง่ือนไขที่กาหนดไวใ้ นประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ทวิ มาตรา 65 ตรี และมาตรา 70 ตรีโดยแยกพิจารณาเป็นสองดา้ นคือ (1) เง่ือนไขดา้ นรายได้ (2) เงื่อนไขดา้ นรายจ่าย ดงั น้ี 4.1. เง่ือนไขการคานวณกาไรสุทธิด้านรายได้ 4.1.1. การโอนทรัพยส์ ิน ใหบ้ ริการ หรือใหก้ ูย้ มื เงินโดยไมม่ ีค่าตอบแทน ค่าบริการหรือดอกเบ้ีย หรือมีค่าตอบแทน คา่ บริการหรือดอกเบ้ียต่ากวา่ ราคาตลาดโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร เจา้พนกั งานประเมินมีอานาจประเมินค่าตอบแทน คา่ บริการ หรือดอกเบ้ียน้นั ตามราคาตลาดในวนั ที่โอน หรือใหบ้ ริการ หรือให้กูย้ มื เงิน (มาตรา 65 ทว(ิ 4))

ตวั อย่างที่ 1 บริษทั ก. จากดั มีกาไรสุทธิทางการบญั ชีการเงิน 500,000 บาท จากการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงปรากฏวา่ บริษทั ไดข้ ายสินคา้ ใหญ้ าติผจู้ ดั การในราคา 30,000 บาท ซ่ึงราคาตลาดในขณะน้นั 38,000 บาท จากโจทยต์ วั อยา่ งที่ 1 บริษทั ขายสินคา้ ต่ากวา่ ราคาตลาดโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควรดงั น้นัจะตอ้ งนาราคาขายมาบวกเป็ นกาไรสุทธิเพม่ิ อีก 8,000 บาท 4.1.2.สาหรับบริษัทจากดั ทตี่ ้งั ขนึ้ ตามกฎหมายไทย ให้นาเงินปันผลท่ีได้จากบริษทั จากดั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย กองทุนรวม หรือสูาบนั การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจดั ต้งั ข้ึนสาหรับใหก้ ยู้ มื เงินเพ่อื ส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรมและเงินส่วนแบ่งกาไรท่ีไดจ้ ากกิจการร่วมคา้ มารวมคานวณเป็นรายได้เพยี งกง่ึ หน่ึงของจานวนที่ได้ เว้นแต่บริษทัจากดั ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยดงั ตอ่ ไปน้ี ไม่ต้องนาเงินปันผลท่ีไดจ้ ากบริษทั จากดั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย กองทุนรวม หรือสูาบนั การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจดั ต้งั ข้ึนสาหรับใหก้ ูย้ มื เงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม และเงินส่วนแบง่ กาไรท่ีไดจ้ ากกิจการร่วมคา้ มารวมคานวณเป็ นรายได้ (ก) บริษทั จดทะเบียน (ข) บริษทั จากดั นอกจาก (ก) ซ่ึงูือหุน้ ในบริษัทจากดั ผ้จู ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นท้งั หมดที่มีสิทธิออกเสียงในบริษทั จากดั ผจู้ ่ายเงินปันผล และบริษทั จากดั ผจู้ ่ายเงินปันผลไม่ไดู้ ือหุน้ ในบริษทั จากดั ผรู้ ับเงินปันผลไม่วา่ โดยทางตรงหรือโดยทางออ้ ม (มาตรา 65ทว(ิ 10)) การยกเวน้ ภาษีดงั กล่าวบริษทั จากดั หรือบริษทั จดทะเบียน น้นั จะตอ้ งเป็ นเงินปันผลที่ไดจ้ ากกการูือหุน้ หรือหน่วยลงทุนก่อนและหลงั ไดร้ ับเงินปันดงั กล่าวไมก่ วา่ 3 เดือน ตวั อย่างท่ี 2 ในวนั ที่ 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2549 บริษทั รักประเทศไทย จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมาย ไทย ซ้ือหุน้ ของบริษทั ก่อไก่ จากดั ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยเช่นเดียวกนั และในวนั ที่ 1ตุลาคม 2549 ไดร้ ับเงินปันผลจากการูือหุน้ ในบริษทั กอไก่ จากดั ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย100,000 บาท และยงั คงูือหุน้ ดงั กล่าวต่อไป ทางบญั ชีการเงินบนั ทึกเป็นรายไดแ้ ลว้ ท้งั จานวน ในรอบระยะเวลาบญั ชี 2549 บริษทั รักเทศไทย จากดั มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงินจานวน2,000,000 บาท ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษีซ้ือ/รับหุน้ วนั ท่ีรับเงินปันผล ขาย/โอนหุน้จากต1วั4อกย.า่พง.ท25่ี 249บร5ิษเดทั ือรนักป1ร6ะวเนทั ศไทย จาก1ดั กไ.คด.ู้ 2ือ5ห4ุ้น9ก่อนไดร้ ับเงินปันผลเป-็น--เ-วลาเกิน 3

เดือน และยงั คงูือหุน้ ต่อไป ดงั น้นั บริษทั รักประเทศไทย จึงมีสิทธิไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลเป็นเงิน 50,000 บาท ดงั น้ีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงิน = 2,000,000 บาทหกั รายไดเ้ งินปันผล = 50,000 บาทกาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษี = 1,950,000 บาท ตวั อย่างที่ 3 ในวนั ที่ 1 สิงหาคม 2550 บริษทั เสริมสุข จากดั (มหาชน) ซ่ึงเป็ นบริษทัจดทะเบียนไดซ้ ้ือหุน้ ของบริษทั ทะเลไทย จากดั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2550ไดร้ ับเงินปันผลจากบริษทั ทะเลไทย จากดั เป็นเงิน 200,000 บาท และไดโ้ อนขายหุน้ ออกไปในวนั ท่ี28 กุมภาพนั ธ์ 2551 ทางบญั ชีการเงินไดบ้ นั ทึกเป็นรายไดแ้ ลว้ ท้งั จานวน ในรอบระยะเวลาบญั ชี2550 บริษทั เสริมสุข จากดั (มหาชน) มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงินจานวน 5,000,000 บาทซ้ือ/รับหุน้ วนั ที่รับเงินปันผล ขาย/โอนหุน้ 5 เมษายน 2551 5 เดือน 2 เดือน1 สิงหาคม 2550 20 ธนั วาคม 2550 จากตวั อยา่ งที่ 3 บริษทั เสริมสุข ไดู้ ือหุน้ ก่อนไดร้ ับเงินปันผลเกิน 3 เดือนแตห่ ลงั จากไดร้ ับเงินปันผลแลว้ ูือหุน้ ต่อไปเพียง 2 เดือน ดงั น้นั จึงไมไ่ ดร้ ับยกเวน้ ภาษีตามมาตรา 65 ทว(ิ 10) 4.1.3.ดอกเบีย้ เงินกู้ยืม ที่อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งููกหกั ภาษีไว้ ณ ท่ีจ่าย ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม ตามมาตรา 65 ทวิ (11) ใหน้ ามารวมคานวณเป็นรายไดเ้ พยี งเทา่ ท่ีเหลือจากููกหกัภาษีไว้ ณ ท่ีจ่าย ตัวอย่างที่ 4 บริษทั เงินทุนหลกั ทรัพยต์ ะวนั ออก จากดั (มหาชน) ไดร้ ับดอกเบ้ียเงินกูย้ มื จากบริษทั อ่าวไทยแกส๊ จากดั เป็ นเงิน 100,000 บาท บริษทั อ่าวไทยแกส๊ จากดั ไดหกั ภาษีเงินไดไ้ ว้ ณ ท่ีจ่ายตามกฎหมายภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม เป็นเงิน 20,000บาท ทางบญั ชีการเงินไดบ้ นั ทึกเป็นรายไดแ้ ลว้ท้งั จานวน ในรอบบญั ชีน้ีบริษทั เงินทุนหลกั ทรัพยต์ ะวนั ออก จากดั (มหาชน) มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงิน 200,000 บาท ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษีวธิ ีทา = 200,000 บาท กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 20,000 บาท หัก ดอกเบ้ียรับ = 180,000 บาท กาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษี

จากตวั อยา่ งท่ี 4 บริษทั เงินทุนหลกั ทรัพยต์ ะวนั ออก จากดั (มหาชน)จะตอ้ งนาดอกเบ้ียเงินกูย้ มื (ดอกเบ้ียรับ) มารวมคานวณเป็นรายไดเ้ พื่อเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลเพยี ง 80,000 บาทเพราะฉะน้นั ในการคานวณกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษีจะตอ้ งนาดอกเบ้ียเงินกูย้ มื จานวน 20,000 บาทมาหกัออกจากกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 4.1.4. เงนิ ปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกาไรทอี่ ย่ใู นบังคับต้องถูกหักภาษไี ว้ ณ ทจี่ ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิ โตรเลยี ม ตามมาตรา 65 ทวิ (12) ใหน้ ามารวมคานวณเป็นรายไดเ้ พยี งเท่าทเี่ หลือจากููกหกั ภาษีไว้ ณ ที่จา่ ยตามกฎหมายดงั กล่าว และูา้ ผรู้ ับเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือเป็นบริษัททตี่ ้งั ขนึ้ ตามกฎหมายไทยและเข้าถือหุ้นในบริษัทจากดั ผู้จ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ25 ของหุ้นท้งั หมด ใหไ้ ดร้ ับยกเวน้ ภาษีตาม มาตรา 65 ทวิ (10) ตัวอย่างที่ 5 วนั ที่ 30 ตุลาคม 2550 บริษทั บูรพา จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ไดร้ ับเงินปันผลจากการูือหุ้นใน บริษทั อา่ วไทยแก๊ส จากดั เป็นเงิน 80,000 บาท บริษทั อ่าวไทยแกส๊ จากดัไดหกั ภาษีเงินไดไ้ ว้ ณ ท่ีจา่ ยตามกฎหมายภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม เป็นเงิน 17,400บาท ทางบัญชีการเงินได้บันทกึ เป็ นรายได้แล้วท้งั จานวน ในรอบระยะเวลาบญั ชีปี 2550 บริษทั บูรพา จากดั มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงิน 500,000 บาท บริษทั บูรพา จากดั เขา้ ูือหุน้ ในบริษทั อา่ วไทยแก๊ส จากดั ในวนั ที่ 1 กนั ยายน 2549 และยงั คงูือหุน้ อยูต่ อ่ ไป ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษีวธิ ีทา การบนั ทึกรายการทางการบญั ชีภาษีอากรม.65ทวิ (12) รับรู้รายไดเ้ พยี ง 62,600 บาทแต่เนื่องจากบริษทั บูรพา จากดั เป็นบริษทั ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย จึงมีสิทธิไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ก่ึงหน่ึงของเงินได้ ตามมาตรา 65 ทวิ (10) ดงั น้นั จึงใหน้ าเงินปันผลมาหกั ออกจากกาไรสุทธิ40,000 บาท เพราะฉะน้ันกาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษีคานวณดงั น้ี กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 500,000 บาท หัก รายไดเ้ งินปันผล = 40,000 บาท กาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษี = 460,000 บาท 4.1.4 บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลใด ส่งสินคา้ ออกไปตา่ งประเทศใหแ้ ก่หรือตามคาสัง่ของสานกั งานใหญ่ สาขา บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกนั ตวั การ ตวั แทนนายจา้ ง ใหู้ ือวา่ การที่ไดส้ ่งสินคา้ ไปน้นั เป็นการขายในประเทศด้วยและให้ถือราคาสินค้าตามราคาตลาดในวนั ท่ีส่งไปเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีส่งไปน้นั (มาตรา 70 ตรี) ยกเวน้ กรณีดงั ตอ่ ไปน้ี 1) เป็นของที่ส่งไปเป็ นตวั อยา่ งหรือเพื่อการวจิ ยั โดยเฉพาะ 2) เป็นของผา่ นแดน 3) เป็นของท่ีนาเขา้ มาในราชอาณาจกั ร แลว้ ส่งกลบั ออกใหผ้ สู้ ่งเขา้ มาภายในหนึ่งปี นบัแต่วนั ที่สินคา้ น้นั เขา้ มาในราชอาณาจกั ร

4) เป็นของที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจกั รแลว้ ส่งกลบั คืนเข้ามาใหผ้ สู้ ่งในราชอาณาจกั รภายในหนึ่งปี นบั แตว่ นั ท่ีส่งสินคา้ ออกไปนอกราชอาณาจกั ร 4.2. เงื่อนไขการคานวณกาไรสุทธิด้านรายจ่ายตามมาตรา 65 ทวิ 4.2.1.การหกั ค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคาใหห้ กั ไดต้ ามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการเง่ือนไขและอตั ราท่ีกาหนดโดยพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 65 ทวิ (2)) ตามพระราชกฤษฎี (ฉบบั ที่ 145) ไดก้ าหนดหลกั เกณฑ์ วกี าร เง่ือนไขและอตั ราค่าสึกหรอและค่าเส่ือมาราคา ดงั น้ี 4.2.1.1 อตั ราคา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาจะตอ้ งไม่เกินอตั ราร้อยละของมูลค่าตน้ ทุน ตามประเภทของทรัพยส์ ินดงั ตารางท่ี 1ตารางที่ 1 อตั ราค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ประเภททรัพยส์ ิน อตั ราค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคา (ร้อยละ)อาคาร - อาคารูาวร 5 - อาคารชว่ั คราว 100 5ตน้ ทุนเพ่อื การไดม้ า ซ่ึงแหลง่ ทรพั ยากรธรรมชาติที่สูญสิ้นไปได้ตน้ ทุนเพื่อการไดม้ าซ่ึงสิทธิการเช่า 10 - กรณีไมม่ ีหนงั สือสญั ญาเช่า หรือมีหนงั สือสญั ญาเช่าท่ีมีขอ้ กาหนด 100 ใหต้ ่ออายกุ ารเช่าไดโ้ ดยเงื่อนไขในการตอ่ อายนุ ้นั เปิ ดโอกาสใหต้ ่อ หารดว้ ยจานวนปี อายกุ ารเช่าและอายุ อายกุ ารเช่าไดต้ ่อ ๆ ไป ที่ต่อไดร้ วมกนั - กรณีมีหนงั สือสญั ญาเช่าที่ไมม่ ีขอ้ กาหนดใหต้ ่ออายกุ ารเช่าไดห้ รือมี 10 ขอ้ กาหนดใหต้ ่ออายกุ ารเช่าไดเ้ พยี งระยะเวลาอนั จากดั แน่นอน 100 หารดว้ ยจานวนปี อายกุ ารใช้ตน้ ทุนเพ่ือการไดม้ า ซ่ึงสิทธิในกรรมวธิ ี สูตร กดู๊ วลิ เครื่องหมายการคา้ 20สิทธิประกอบกิจการตามใบอนุญาต สิทธิบตั ร ลิขสิทธ์ิหรือสิทธิอยา่ งอื่น - กรณีไมจ่ ากดั อายกุ ารใช้ - กรณีจากดั อายกุ ารใช้ทรัพยส์ ินอยา่ งอื่น ซ่ึงโดยสภาพของทรัพยส์ ินน้นั สึกหรอหรือเส่ือมราคาได้นอกจากท่ีดินและสินคา้ กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลหกั คา่ สึกหรอและค่าเส่ือมราคาโดยใชว้ ธิ ีการทางบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไป ซ่ึงมีอตั ราการหกั ค่าสึกหรอและคา่ เสื่อมราคาไมเ่ ท่ากนั ในแต่ละปี ระหวา่ งอายกุ ารใช้ทรัพยส์ ินบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะหกั ค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามวิธีน้นั ในบางปี

เกินอตั ราที่กาหนดขา้ งตน้ ก็ไดจ้ านวนปี อายกุ ารใชข้ องทรัพยส์ ินเพ่ือการหกั คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาตอ้ งไม่น้อยกว่า 100 หารด้วยจานวนร้อยละทกี่ าหนดข้างต้น การหกั ค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคาของทรัพยส์ ินอื่น ซ่ึงมิใช่รูยนตโ์ ดยสารท่ีมีที่นงั่ ไม่เกินสิบคน หรือรูยนตน์ งั่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล จะใช่วธิ ีการทางบญั ชีที่รับรองทว่ั ไป ซ่ึงมีอตั ราการหกั ค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคาในปี แรกเป็ นสองเท่าของอตั ราที่กาหนดขา้ งตน้ และสาหรับปี ูดั ไปใหห้ กั ตามอตั ราสองเทา่ ดงั กล่าว โดยคานวณจากมูลค่าตน้ ทุนส่วนท่ีเหลือในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชีกไ็ ด้ แต่จานวนปี การใชท้ รัพยส์ ินเพื่อการหกั ค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคาตอ้ งไม่นอ้ ยกวา่ 100 หารด้วยจานวนร้อยละทก่ี าหนดข้างต้น ท้งั น้ีในรอบระยะเวลาบญั ชีสุดทา้ ยของอายกุ ารใช้ของทรัพยส์ ินดงั กล่าว บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลจะหกั ค่าสึกหรอและคา่ เสื่อมราคาโดยรวมจานวนมูลคา่ ตน้ ทุนส่วนท่ีเหลืออยู่ ท้งั หมดก็ได้ การคานวณหกั คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพยส์ ินใหค้ านวณหักตามระยะเวลาท่ีได้ทรัพยส์ ินน้นั มาในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชีเป็ นรายวัน (ประกาศกรมสรรพากรท่ี ป3/2537) ตัวอย่างที่ 6 บริษทั เพียงพอ จากดั มีรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีสิ้นสุดเพยี งวนั ที่ 31 ธนั วาคม ได้ซ้ือเคร่ืองจกั รเพ่อื ใชใ้ นการผลิตสินคา้ 1 เครื่องเป็ นเงิน 856,000 บาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7)ในวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2550 บริษทั ฯคานวณคา่ เส่ือมราคาโดยวธิ ีเส้นตรง (Straight Line Meth0d) ใหค้ านวณหกั ค่าเส่ือมราคา วธิ ีคานวณตน้ ทุนของทรัพยส์ ินต้องไม่รวมภาษีมูลคา่ เพมิ่ = 800,000 บาท = 80,657.53 บาทค่าเส่ือมราคาปี ท่ี 1 = 800,000 x 20 x 184 = 160,000 บาท 100 365 = 79,342.47 บาทค่าเส่ือมราคาปี ที่ 2 = 800,000 x 20 100คา่ เสื่อมราคาปี สุดทา้ ย = 800,000 x 20 x 181 100 365 4.2.1.2 การหกั สึกหรอและค่าเส่ือมราคาเป็ นกรณพี เิ ศษ ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบบั ที่ 145) นอกจากไดก้ าหนดอตั ราคา่ สึกหรอและคา่ เส่ือมราคาไวใ้ นมาตรา 4 ดงั ท่ีไดก้ ล่าวขา้ งตน้ แลว้ ยงั ไดม้ ีการกาหนดอตั ราค่าสึกหรอและคา่ เส่ือมราคาสาหรับทรัพยส์ ินบางประเภทเป็นกรณีพิเศษ ดงั ตารางท่ี 2

ตารางท่ี 2 อตั ราคา่ สึกหรอและคา่ เสื่อมราคาทรัพยส์ ินบางประเภทเป็ นกรณีพิเศษ ประเภททรัพยส์ ิน อตั ราค่าเส่ือมราคาและเงื่อนไข1. เครื่องจกั รและอุปกรณ์ของ อตั ราค่าเสื่อมราคา เครื่องจกั รท่ีใชส้ าหรับการ 1) วนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา หกั ค่าเส่ือมราคาร้อยละ 40 วิจยั และพฒั นาเทคโนโลยี 2) ณ วนั สิ้นงวดบญั ชี หกั ค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 ของมูลค่าตน้ ทุนส่วนที่ เหลือ เง่ือนไขและหลกั เกณฑ์ ก. ตอ้ งไม่เป็นเคร่ืองจกั รและอุปกรณ์ของเคร่ืองท่ีใชผ้ ลิตสินคา้ และ บริการ เวน้ แต่ไดใ้ ชเ้ พื่อเคร่ืองจกั รฯดงั กล่าวเพื่อ การวิจยั อตุ สาหกรรมข้นั พ้ืนฐาน การวิจยั เชิงประยกุ ต์ การทดสอบคุณภาพ ผลิตภณั ฑ์ หรือการปรับปรุงกรรมวธิ ีการผลิตเพื่อลดตน้ ทุนการผลิต หรือเพ่ิมผลผลิตท้งั น้ีไม่วา่ จะใชเ้ พ่ือการวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยี ของตนเองหรือของผอู้ ่ืน ข. ตอ้ งไมเ้ ป็นเครื่องจกั รและอุปกรณ์ของเคร่ืองจกั รที่ไม่เคยผา่ นการใช้ งานมาก่อน และสามารถนาไปใช้งานได้ต้งั แต่สองปี ขึน้ ไป มลู ค่า ต้นทุนไม่ต่ากว่า 100,000บาท2. เครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงิน อตั ราค่าเสื่อมราคา 1) ร้อยละ 100 ของมูลค่าตน้ ทุน หรือ 2) ร้อยละ 40 ของมลู ค่าตน้ ทุนในวนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา และสาหรับมลู ค่า ตน้ ทุนส่วนท่ีเหลือใหห้ กั ค่าเส่ือมราคาร้อยละ 20 เงื่อนไขและหลกั เกณฑ์ 1) ตอ้ งเป็นทรัพยส์ ินของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนท่ีเสียภาษีมูลค่าเพ่ิมโดย คานวณจากภาษขี ายหักด้วยภาษซี ื้อ ซ่ึงประกอบกิจการคา้ ปลีก ซ่ึง ประกอบกิจการคา้ ปลีกหรือประกอบกิจอยา่ งอ่ืนซ่ึงมิใช่การคา้ ปลีกที่ อธิบดีกรมสรรพากรอนุมตั ิใหใ้ ชเ้ ครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงินในการออก ใบกากบั ภาษีอยา่ งยอ่ 2) ตอ้ งเป็นเคร่ืองบนั ทึกการเกบ็ เงินที่มีลกั ษณะตามที่อธิบดีกรมสรรพากร ประกาศกาหนด แต่ไม่รวมูึงส่วนระบบควบคุมกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ 3) ตอ้ งแจง้ การใชเ้ ครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงินในการออกใบกากบั ภาษีอยา่ งยอ่ ต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายในเวลาสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับอนุมตั ิให้ ใชเ้ ครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงิน

ตารางท่ี 2 (ตอ่ ) อตั ราค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคาทรัพยส์ ินบางประเภทเป็นกรณีพเิ ศษ ประเภททรัพยส์ ิน อตั ราค่าเส่ือมราคาและเง่ือนไข3. ทรัพยส์ ินประเภทเคร่ือง - หกั ค่าเส่ือมราคาภายในสามรอบระยะเวลาบัญชีนบั แต่วนั ที่ไดท้ รัพยส์ ิน คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของ น้นั มา คอมพิวเตอร์ - ในกรณีท่ีรอบระยะเวลาบญั ชีใดไม่เตม็ สิบสองเดือนใหเ้ ฉลย่ี ตามส่วน4. ทรัพยส์ ินประเภทเคร่ือง สาหรับรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั โดยจะเลือกใชว้ ธิ ีการทางบญั ชีท่ีรับรอง คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ของ ทวั่ ไปวิธีใดกไ็ ด้ คอมพวิ เตอร์ ของบริษทั หรือ - หกั ค่าเสื่อมราคาเบ้ืองตน้ ในวนั ที่ไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา ร้อยละ 40 ของมลู ค่า หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่มี ตน้ ทุน สินทรัพยู์ าวรซ่ึงไม่รวมท่ีดนิ - มลู ค่าตน้ ทุนท่ีเหลือในวนั สิ้นงวด หกั ค่าเส่ือมราคาภายในสามรอบ ไม่เกนิ สองร้อยล้านบาทและมี ระยะเวลาบญั ชี การจา้ งแรงงานไม่เกนิ สองร้อยคน - หกั ค่าเสื่อมราคาเบ้ืองตน้ ในวนั ที่ไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา ร้อยละ 25 ของมลู ค่า ตน้ ทุน5. ทรัพยส์ ินประเภทอาคาร โรงงาน ของบริษทั หรือหา้ ง - มลู ค่าตน้ ทุนท่ีเหลือในวนั สิ้นงวด หกั ค่าเส่ือมราคาร้อยละ 5 หุน้ ส่วนนิติบุคคลที่มี สินทรัพยู์ าวรซ่ึงไม่รวมทีด่ นิ - หกั ค่าเสื่อมราคาเบ้ืองตน้ ในวนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา ร้อยละ 40 ของมลู ค่า ไม่เกนิ สองร้อยล้านบาทและมี ตน้ ทุน การจา้ งแรงงานไม่เกนิ สองร้อยคน - มูลค่าตน้ ทุนท่ีเหลือในวนั สิ้นงวด หกั ค่าเส่ือมราคาร้อยละ 206. ทรัพยส์ ินประเภทเคร่ืองจกั ร - หกั ค่าเสื่อมราคาเบ้ืองตน้ ในวนั ที่ไดท้ รัพยส์ ินน้นั มา ร้อยละ 25 ของมูลค่า และอปุ กรณ์ ของบริษทั หรือ ตน้ ทุน หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีมี สินทรัพยู์ าวรซ่ึงไม่รวมที่ดนิ - มูลค่าตน้ ทุนท่ีเหลือในวนั สิ้นงวด หกั ค่าเส่ือมราคาร้อยละ 5 ไม่เกนิ สองร้อยล้านบาทและมี การจา้ งแรงงานไม่เกนิ สองร้อยคน7. ทรัพยส์ ินประเภทอาคารที่ บริษทั ท่เี ป็ นสานกั งาน ปฏิบตั กิ ารภูมภิ าค

ตารางที่ 2 (ตอ่ ) อตั ราค่าสึกหรอและคา่ เส่ือมราคาทรัพยส์ ินบางประเภทเป็นกรณีพิเศษประเภททรัพยส์ ิน อตั ราคา่ เส่ือมราคาและเงื่อนไข8. ทรัพยส์ ินประเภทรูยนต์ อตั ราค่าเส่ือมราคาโดยสารท่ีมีที่นง่ั ไม่เกินสิบคน - หกั ค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 ของมลู ค่าตน้ ทุนเฉพาะส่วนที่ไม่เกินหรือรูยนตน์ งั่ 1,000,000 บาท 4.1.2.3. กรณีที่ทรัพยส์ ินที่ไดม้ าโดยการเช่าซื้อ หรือโดยการซ้ือขายเงินผอ่ นมูลคา่ ตน้ ทุนของทรัพยส์ ินน้นั ใหู้ ือตามราคาท่ีพึงตอ้ งชาระท้งั หมด แต่คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาท่ีจะนามาหกั ในรอบระยะเวลาบญั ชีตอ้ งไม่เกินค่าเช่าซื้อหรือราคาที่ตอ้ งผอ่ นชาระในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั 4.1.2.4. การหกั คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาสาหรับทรัพยส์ ินไมว่ า่ กรณีใด จะหกั จนหมดมูลค่าต้นทนุ ของทรัพย์สินน้ันไม่ได้ตวั อย่างท่ี 7 บริษทั ก. จากดั ซ้ือเคร่ืองจกั รเพ่อื ใชใ้ นการวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยี (ทดสอบคุณภาพผลิตภณั ฑ)์ เป็นเงิน 500,000 บาท ใหค้ านวณหาคา่ เส่ือมราคาในปี ท่ี 1วธิ ีทา 40 = 200,000 บาท - คา่ เสื่อมราคาในวนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินมา = 500,000 x 100- วนั สิ้นงวด : ตน้ ทุนคงเหลือ (5000,000 – 200,000) = 300,000 บาท ค่าเส่ือมราคา (300,000 x 20 ) = 60,000 บาท = 360,000 บาท 100รวมค่าเสื่อมราคาเคร่ืองจกั รในปี ท่ี 1 ตัวอย่างท่ี 8 บริษทั เอบี จากดั ไดซ้ ้ือเครื่องบนั ทึกการเก็บเงินเพ่ือใชใ้ นการออกใบกากบั ภาษีอยา่ งยอ่ 1 เครื่องเป็นเงิน 96,300 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพม่ิ 7%) ในวนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2551 รอบระยะเวลาบญั ชีเริ่มตน้ วนั ท่ี 1 ธนั วาคม และสิ้นสุดวนั ท่ี 31 ธนั วาคม ใหค้ านวณหาคา่ เส่ือมราคาของเครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงิน ข้อสังเกต 1) มูลคา่ ตน้ ทุนของเครื่องบนั ทึกการเกบ็ เงินในการคานวณค่าเสื่อมราคาจะตอ้ งไม่รวมภาษีมูลคา่ เพิ่ม เพราะฉะน้นั มูลค่าตน้ ทุนในการคานวณค่าเส่ือมราคาเท่ากบั 96,300 x 100 ÷107= 90,000 บาท

2) ระยะเวลาที่ใชง้ านในรอบบญั ชี ปี 2551 ไมเ่ ตม็ สิบสองเดือน เพราะฉะน้นั จึงตอ้ งเฉลี่ยค่าเสื่อมราคาเป็ นวนัวธิ ีการคานวณ: โดยวธิ ีเส้นตรงกรณีท่ี 1 ูา้ หากคิดค่าเส่ือมราคาร้อยละ 100 100 x 245 = 60,410.96 บาทค่าเส่ือมราคาในรอบระยะเวลาบญั ชี 2551 = 90,000 x 100 365คา่ เสื่อมราคาในรอบระยะเวลาบญั ชี 2552 = 90,000 x 100 x 120 = 29,589.04 บาท 100 365กรณีท่ี 2 ูา้ หากคิดคา่ เสื่อมราคาเบ้ืองตน้ ในวนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินมา ร้อยละ 40 และสาหรับมูลค่าตน้ ทุนที่เหลือคิดคา่ เสื่อมราคาร้อยละ 20- คา่ เสื่อมราคาในปี ท่ี 1 คานวณดงั น้ีo คา่ เสื่อมราคาในวนั ท่ีไดท้ รัพยส์ ินมา (90,000 x 40%) = 36,000 บาทo ณ วนั สิ้นงวดคิดคา่ เสื่อมราคาร้อยละ 20 ของตน้ ทุนส่วนที่เหลือ ค่าเส่ือมราคา = (90,000 –36,000) x 20% x 245/365 = 54,000 x 20% x 245/365 = 7,249.32 บาท- คา่ เส่ือมราคาในปี ท่ี 2 : 54,000 x 20% = 10,800 บาท- ค่าเส่ือมราคาในปี สุดทา้ ย : 54,000 x 20% x120/365 = 3,550.68 บาทตวั อยา่ งท่ี 9 บริษทั ข. จากดั ซ้ือรูยนตน์ งั่ เพ่อื ใชใ้ นกิจการของบริษทั 1 คนั ราคา 1,200,000บาท (รวมภาษีมูลค่าเพม่ิ ร้อยละ 7) ในวนั ท่ี 12 พฤษภาคม 25x1 ใหค้ านวณหาค่าเสื่อมราคารูยนต์ดงั กล่าวตามหลกั การภาษีอากรวธิ ีคานวณ (วธิ ีเส้นตรง)- คา่ เส่ือมราคาในปี ที่ 1 = 1,000,000 x 20 % x 234/365 = 128,219.18 บาท- คา่ เสื่อมราคาในปี ท่ี 2 = 1,000,000 x 20 % = 200,000 บาท- ค่าเสื่อมราคาในปี สุดทา้ ย = 1,000,000 x 20% x 131/365 = 71,780.82บาทข้อสังเกต : มูลคา่ รูยนตน์ ง่ั 1,200,000บาทเป็นราคาท่ีไดร้ วมภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากภาษีซ้ือที่หา้ มนาไปหกั ออกจากภาษีขายแต่ใหน้ าไปรวมเป็นมูลค่าตน้ ทุนของรูยนตน์ ง่ั แลว้ คานวณค่าเสื่อมราคาตามกฎหมายภาษี4.2.2.ราคาทรัพย์สินอื่นนอกจากสินค้าคงเหลือ ใหู้ ือตามราคาที่พงึ ซ้ือทรัพยส์ ินน้นั ได้ตามปกติและในกรณีที่มีการตีราคาทรัพยส์ ินเพ่มิ ข้ึน หา้ มมิใหน้ าราคาท่ีตีราคาเพ่ิมมารวมคานวณกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ส่วนทรัพยส์ ินรายการใดมีสิทธิหกั คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคา กใ็ หห้ กัค่าสึกหรอและคา่ เส่ือมราคาในการคานวณกาไรสุทธิ หรือขาดทุนสุทธิตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ

เงื่อนไข และอตั ราเดิมท่ีใชอ้ ยกู่ ่อนตีราคาทรัพยส์ ินเพ่มิ ข้ึน โดยใหห้ กั เพียงเท่าท่ีระยะเวลาและมูลค่าตน้ ทุนท่ีเหลืออยสู่ าหรับทรัพยส์ ินน้นั เท่าน้นั (มาตรา 65 ทวิ (10))ตวั อย่างที่ 10 บริษทั ไดต้ ีราคาเคร่ืองจกั รเพมิ่ ข้ึนเป็ น 1,500,000บาท จากเดิม 1,200,000บาทแลว้ ฝ่ ายบญั ชีไดบ้ นั ทึกบญั ชีคา่ เสื่อมราคาดงั น้ีเดบิต ค่าเส่ือมราคาเคร่ืองจกั ร –ทุนเดิม 240,000 -ส่วนที่ตีเพ่ิม 60,000เครดิต ค่าเสื่อมราคาเครื่องจกั สะสม –ทุนเดิม 240,000 -ส่วนท่ีตีเพ่ิม 60,000จากตวั อยา่ งที่ 10 ค่าเส่ือมราคาเครื่องจกั รส่วนที่ตีเพ่ิม 60,000 บาทไม่ใหบ้ นั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการคานวณกาไรสุทธิ ูา้ หากไดบ้ นั ทึกคา่ ใชจ้ า่ ยไปแลว้ จะตอ้ งบวกกลบั เป็นกาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = xxxxx บาทบวก คา่ เส่ือมราคาเครื่องจกั รท่ีตีเพ่ิม = 60,000 บาทกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี = xxxxx บาท 4.2.3.เงนิ ตรา ทรัพย์สิน หรือหนีส้ ิน ซ่ึงมีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศท่ีเหลืออยใู่ นวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหค้ านวณคา่ หรือราคาเป็นเงินตราไทย ดงั น้ี (ก) กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนอกจาก (ข) ใหค้ านวณคา่ หรือราคาของเงินตรา หรือทรัพยส์ ินเป็นเงินตราไทย ตามอตั ราถวั เฉลย่ี ทธี่ นาคารพาณชิ ย์รับซื้อซ่ึงธนาคารแห่งประเทศไทยไดค้ านวณไว้ และใหค้ านวณคา่ หรือราคาของหน้ีสินเป็นเงินตราไทยตามอตั ราูวั เฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชยข์ าย ซ่ึงธนาคารแห่งประเทศไทยไดค้ านวณไว้ (ข) กรณีธนาคารพาณชิ ย์ หรือสถาบันการเงนิ อ่ืนตามท่ีรัฐมนตรีกาหนดใหค้ านวณคา่หรือราคาของเงินตรา ทรัพยส์ ินหรือหน้ีสินเป็นเงินตราไทยตามอตั ราูวั เฉล่ียระหวา่ งอตั ราซื้อและอตั ราขายของธนาคารพาณชิ ย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คานวณให้ เงินตรา ทรัพยส์ ิน หรือหน้ีสินซ่ึงมีคา่ หรือราคาเป็ นเงินตราตา่ งประเทศท่ีรับมาหรือจา่ ยไป ในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี ใหค้ านวณค่า หรือราคาเป็ นเงินตราไทยตามราคาตลาดในวนั ท่ีรับมาหรือจ่ายไปน้นั (มาตรา 65 ทวิ (5)) 4.2.4.ราคาสินค้าคงเหลือในวนั สุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ใหค้ านวณตามราคาทุนหรือราคาตลาด แลว้ แต่อย่างใดจะน้อยกว่า และใหู้ ือราคาน้ีเป็นราคาสินคา้ คงเหลือยกมาสาหรับรอบระยะเวลาบญั ชีใหมด่ ว้ ย (มาตรา 65 ทวิ (6)) การคานวณราคาทุนน้นั เมื่อไดค้ านวณตามหลกั เกณฑใ์ ด ตามวชิ าการบญั ชี ใหใ้ ช้หลกั เกณฑน์ ้นั ตลอดไป เวน้ แตจ่ ะไดร้ ับอนุมตั ิจากอธิบดีจึงเปลี่ยนหลกั เกณฑไ์ ด้

ตัวอย่างที่ 11 มีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 800,000บาท ในการคานวณตน้ ทุนขายฝ่ ายบญั ชีไดค้ านวณตามราคาทุน 20,000บาท แตร่ าคาตลาดในขณะน้นั 15,000บาท ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษี วธิ ีคานวณ กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 800,000 บาท หัก ราคาสินคา้ คงเหลือท่ีตีไวส้ ูงไป = 5,000 บาท กาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษี = 795,000 บาท 4.2.5.การคานวณราคาทุนของสินค้าทสี่ ่งเข้ามาจากต่างประเทศน้นั เจา้ พนกั งานประเมินอานาจประเมินโดยเทยี บเคียงกบั ราคาทุนของสินคา้ ประเภทและชนิดเดียวกบั ที่ส่งเขา้ ไปในประเทศอื่นได้ (มาตรา 65 ทวิ (7)) 4.2.6.ูา้ ราคาทนุ ของสินค้าเป็ นเงนิ ตราต่างประเทศ ใหค้ านวณเป็นเงินตราไทยตามอตั ราแลกเปล่ียนในทอ้ งตลาดของวนั ท่ีไดส้ ินคา้ น้นั มา เวน้ แต่เงินตราต่างประเทศน้นั จะแลกไดใ้ นอตั ราทางราชการ กใ็ หค้ านวณเป็ นเงินตราไทยตามอตั ราทางราชการน้นั (มาตรา 65 ทวิ (8)) 4.2.7.การจาหน่ายหนีส้ ูญจากบญั ชีลูกหน้ีจะกระทาไดต้ ่อเม่ือเป็ นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเงื่อนไขที่กาหนดโดยกฎกระทรวง แตู่า้ ไดร้ ับชาระหน้ีในรอบระยะเวลาบญั ชีใดใหน้ ามาคานวณเป็ นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั หน้ีสูญรายใดไดน้ ามาคานวณเป็นรายได้ หากไดร้ ับชาระในภายหลงั กม็ ิใหน้ ามาคานวณเป็ นรายไดอ้ ีก(มาตรา 65 ทวิ (9)) หลกั เกณฑก์ ารจาหน่ายหน้ีสูญตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ 186 (พ.ศ.2534) มีสาระสาคญั สรุปได้ดงั น้ี ขอ้ 1 ลกั ษณะของลูกหน้ี (1) ตอ้ งเป็ นหน้ีจากการประกอบกิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการ หรือหน้ีที่ได้รวมเป็ นเงินไดใ้ นการคานวณกาไรสุทธิ ท้งั น้ี ไม่รวมูึงหน้ีที่ผเู้ ป็นหรือเคยเป็นกรรมการหรือหุน้ ส่วนผจู้ ดั การเป็ นลูกหน้ีน้นั จะเกิดข้ึนก่อนหรือในขณะที่ผนู้ ้นั เป็ นกรรมการหรือหุน้ ส่วนผจู้ ดั การ (2) ตอ้ งเป็ นหน้ีที่ยงั ไมข่ าดอายคุ วามและมีหลกั ฐาน โดยชดั แจง้ ที่สามารูฟ้องลูกหน้ีได้ ขอ้ 2 หลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนในการจาหน่ายหน้ีสูญจากบญั ชีลูกหน้ี ในการจาหน่ายลูกหน้ีหรือหน้ีสงสัยจะสูญเป็นหน้ีสูญน้นั ตามกฎกระทรวงใหพ้ จิ ารณาจากลูกหน้ีเป็นราย ๆ ไป ซ่ึงแตล่ ะรายอาจมีจานวนหน้ีไม่เทา่ กนั จึงตอ้ งปฏิบตั ิตามเงื่อนไขและหลกั เกณฑท์ ี่แตกตา่ งกนั ดงั ท่ีไดส้ รุปไวใ้ นตารางท่ี 3

ตารางท่ี 3 สรุปหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขในการจาหน่ายหน้ีสูญตามกฎกระทรวงจานวนหนี(้ ต่อราย) หลกั เกณฑ์และเง่ือนไข1. จานวนหน้ีไม่เกิน 100,000บาท - ดาเนินการติดตามทวงูามใหช้ าระหน้ีตามสมแก่กรณีแลว้ โดยไมต่ อ้ ง สาหรับบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติ ฟ้องร้องตอ่ ศาล แตไ่ ม่ไดร้ ับชาระหน้ี บุคคล และจานวนหน้ีไมเ่ กิน 200,000บาท สาหรับธนาคาร หรือ ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลกั ทรัพย์ และ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์2. จานวนหน้ีไม่เกิน 500,000บาท (1) ดาเนินการติดตามทวงูามใหช้ าระหน้ีตามสมแก่กรณีแลว้ โดยมีหลกั ฐาน การติดตามทวงูามอยา่ งชดั แจง้ และไมไ่ ดร้ ับชาระหน้ี โดยปรากฏว่าหมายเหตุ ในกรณี (2) หรือ (3) ลกู หน้ีูึงแก่ความตาย เป็ นคนสาบสูญ หรือมีหลกั ฐานวา่ หายสาบสูญไปกรรมการหรือหุน้ ส่วนผจู้ ดั การของ ไม่มีทรัพยส์ ินใด ๆ จะชาระหน้ีได้ ลกู หน้ีเลิกกิจการและมีเจา้ หน้ีเหนือบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลผเู้ ป็น ทรัพยส์ ินท้งั หมดของลกู หน้ีอยใู่ นลาดบั ก่อนเป็ นจานวนมากกวา่ ทรัพยส์ ินเจา้ หน้ีตอ้ งมคี าสง่ั อนุมตั ิใหจ้ าหน่ายหน้ี ของลูกหน้ีน้นั เป็ นหน้ีสูญจากบญั ชีลกู หน้ีภายใน30 วนั นบั แตว่ นั สิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี (2) ไดด้ าเนินการฟ้องลูกหน้ีในคดีแพง่ และศาลไดม้ ีคาสง่ั รับคาฟ้องน้นั แลว้น้นั หรือไดย้ น่ื คาขอเฉลี่ยหน้ีในคดีที่ลูกหน้ีููกเจา้ หน้ีรายอื่นฟ้องในคดีแพง่ และ ศาลไดม้ ีคาสง่ั รับคาขอน้นั แลว้ (3) ไดด้ าเนินการฟ้องลูกหน้ีในคดีลม้ ละลายและศาลไดม้ ีคาสงั่ รับคาฟ้องน้นั แลว้ หรือไดย้ นื่ คาขอรับชาระหน้ีในคดีท่ีูกู เจา้ หน้ีรายอื่นฟ้องในคดี ลม้ ละลาย และศาลไดม้ ีคาสง่ั รับคาขอรับชาระหน้ีน้นั แลว้3. จานวนหน้ีเกนิ 500,000บาท (1) ไดด้ าเนินการตามขอ้ 2 (1) แลว้ (2) ไดด้ าเนินการฟ้องลกู หน้ีในคดีแพง่ หรือไดย้ นื่ คาขอเฉล่ียหน้ีในคดีท่ี ลกู หน้ีูกู เจา้ หน้ีรายอ่ืนฟ้องในคดีแพง่ และในกรณีน้นั ๆ ไดม้ ีคาบงั คบั หรือคาสั่งของศาลแล้วแตล่ กู หน้ีไม่มีทรัพยส์ ินใด ๆ จะชาระหน้ีได้ หรือ (3) ไดด้ าเนินการฟ้องลูกหน้ีในคดีลม้ ละลายหรือไดย้ นื่ คาขอรับชาระหน้ีใน คดีที่ลกู หน้ีููกเจา้ หน้ีรายอื่นฟ้องในคดีลม้ ละลาย และในกรณีน้นั ๆ ไดม้ ี การประนอมหน้ีกบั ลกู หน้ี โดยศาลมคี าส่ังเหน็ ชอบดว้ ยกบั การประนอม หน้ีน้นั หรือลกู หน้ีููกศาลพิพากษาใหเ้ ป็ นบุคคลลม้ ละลายและไดม้ ีการ แบ่งทรัพยส์ ินของลูกหน้ีคร้ังแรกแลว้

ในกรณีท่ีทางบญั ชีการเงินมีการจาหน่ายหน้ีสูญโดยไม่เขา้ เง่ือนไขและหลกั เกณฑท์ ี่กาหนดโดยกฎกระทรวง จะบนั ทึกบญั ชีเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการคานวณกาไรสุทธิไม่ได้ ดงั น้นั ูา้ หากไดบ้ นั ทึกบญั ชีเป็นค่าใชจ้ ่ายไปแลว้ จะตอ้ งนามาบวกกลบั ท้งั จานวน เม่ือไดด้ าเนินการตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวงครบูว้ นแลว้ในรอบระยะเวลาบญั ชีใดใหจ้ าหน่ายเป็นหน้ีสูญจากบญั ชีลูกหน้ีและูือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั ยกเว้นในกรณีท่ีจานวนหน้ีไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อไดด้ าเนินการฟ้องร้องต่อศาลแลว้ ให้ถือเป็ นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีที่ศาลไดม้ ีคาสง่ั รับคาฟ้อง คาขอเฉลี่ยหน้ี หรือคาขอรับชาระหน้ี ตวั อย่างที่ 12 บริษทั ก. จากดั มีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 1,200,000 บาท จากการตรวจขอ้ เทจ็ จริง ปรากฏวา่ ในการคานวณกาไรสุทธิ มีรายการหน้ีสูญรวมอยดู่ ว้ ย 300,000 บาท ซ่ึงประกอบดว้ ยลูกหน้ีจานวน 2 ราย ๆ ที่หน่ึงมีจานวนหน้ี 80,000 บาท รายที่ 2 มีจานวนหน้ี 220,000บาท ลูกหน้ีท้งั สองรายน้นั บริษทั ฯไดต้ ิดตามทวงูามโดยมีหลกั ฐานสมควรแลว้ แตไ่ ม่ไดร้ ับชาระหน้ีจึงตดั เป็นหน้ีสูญ ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี วธิ ีคานวณ กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 1,200,000 บาท บวก หน้ีสูญ = 220,000 บาท กาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี = 1,420,000 บาท ข้อสังเกต ในกรณีท่ีจานวนหน้ีรายหน่ึง ๆ เกิน 100,000 บาท จะตอ้ งติดตามทวงูามโดยมีหลกั ฐานพอสมควรและไดฟ้ ้องร้องต่อศาลแลว้ แต่ไม่ไดร้ ับชาระหน้ีจึงตดั เป็นหน้ีสูญได้ สาหรับลูกหน้ีรายท่ี 2 จานวนหน้ีเกนิ 100,000 บาทและยงั ไม่ฟ้องร้องตอ่ ศาลจะตดั เป็นหนีส้ ูญไม่ได้ ต้องบวกกลบั ท้งั จานวน ขอ้ 3 การจาหน่ายหน้ีสูญโดยไม่ต้องดาเนินการหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขในขอ้ 2 ตารางที่ 3ไดแ้ ก่ (1) การปลดหน้ีใหแ้ ก่ลูกหน้ีของเจา้ หน้ีท่ีเป็นสถาบันการเงนิ ในระหวา่ งวนั ที่ 1 มกราคม2548 ูึงวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2549 เนื่องจากการปรับโครงสร้างหน้ีตามหลกั เกณฑก์ ารปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสูาบนั การเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกาหนด (2) การปลดหน้ีหรือประนอมหน้ีใหล้ ูกหน้ีตามแผนฟ้ื นฟูกิจการของลกู หนี้ทศ่ี าลได้มีคาสั่งเห็นชอบตามกฎหมายว่าด้วยการล้มละลาย โดยใหู้ ือเป็นรายจา่ ยในการคานวณกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีที่ศาลไดส้ ัง่ เห็นชอบแผนฟ้ื นฟูกิจการของลูกหน้ี

(3) การปลดหน้ีใหแ้ ก่ลูกหน้ีของสถาบนั การเงินในส่วนของลูกหนีท้ ป่ี ระสบธรณพี บิ ตั ภิ ัยในระหวา่ งวนั ที่ วนั ท่ี 1 มกราคม 2548 ูึงวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2549 อนั เนื่องจากการปรับปรุงโครงสร้างหนีต้ ามหลกั เกณฑก์ ารปรับปรุงโครงสร้างหน้ีท่ีธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด “ลูกหนี้ทปี่ ระสบธรณพี บิ ตั ิภยั ” หมายความวา่ ลูกหน้ีซ่ึงไดร้ ับความเสียหายจากธรณีพิบตั ิภยั เม่ือวนั ที่ 26 ธนั วาคม พ.ศ. 2547 ในทอ้ งท่ีจงั หวดั กระบี่ จงั หวดั ตรัง จงั หวดั พงั งา จงั หวดั ภูเก็ตจงั หวดั ระนอง และจงั หวดั สตูล ท่ีไดล้ งทะเบียนกบั ศูนยห์ รือหน่วยงานช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั ของทางราชการและใหห้ มายความรวมูึงผคู้ ้าประกนั ของลูกหน้ีน้นั ดว้ ย (4) การปลดหน้ีใหแ้ ก่ลูกหน้ีของเจา้ หน้ีอื่นท่ีมิใช่สูาบนั การเงินในส่วนของลูกหน้ีที่ประสบธรณพี บิ ัตภิ ัยในระหวา่ งวนั ที่ วนั ที่ 1 มกราคม 2548 ูึงวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2549 อนั เน่ืองจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลกั เกณฑก์ ารปรับปรุงโครงสร้างหน้ีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด (5) การปลดหน้ีใหแ้ ก่ลูกหน้ีของเจ้าหนีอ้ ื่นที่มิใช่สูาบนั การเงิน ในระหวา่ งวนั ที่ 1 มกราคม2548 ูึงวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2549 อนั เนื่องจากการปรับปรุงโครงสร้างหนีข้ องเจา้ หน้ีอ่ืน ซ่ึงได้ดาเนินการปรับปรุงโครงหน้ีโดยนาหลกั เกณฑก์ ารปรับปรุงโครงสร้างหน้ีของสูาบนั การเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศกาหนด (6) การจาหน่ายหน้ีสูญจากบญั ชีลูกหน้ีของสูาบนั การเงินในส่วนของหน้ีท่ีเป็นลูกหน้ีจดัช้นั สูญและลูกหน้ีจดั ช้นั หน้ีสงสัยจะสูญท่ีไดก้ นั เงินสารองครบร้อยละ 100 ตามหลกั เกณฑท์ ี่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกาหนด สาหรับหน้ีในส่วนที่ไดก้ นั เงินสารองไวใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีที่สิ้นสุดในหรือหลงั วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2540 เป็นตน้ ไป (7) การปลดหน้ีใหแ้ ก่เกษตรกรของเจา้ หน้ีที่เป็ นสถาบันการเงินตามกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทุนฟ้ื นฟูและพฒั นาเกษตรกร ต้งั แต่วนั ท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2549 เป็นตน้ ไป “เกษตรกร” หมายความวา่ เกษตรกรตามท่ีกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทุนฟ้ื นฟูและพฒั นาเกษตรกรที่เขา้ กระบวนการฟ้ื นฟูและพฒั นาเกษตรตามระเบียบที่คณะกรรมการกองทุนฟ้ื นฟูและพฒั นาเกษตรกรกาหนด 4.2.8.ภาษีขายซ่ึงบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ไดร้ ับหรือพึงไดร้ ับ และภาษีมูลคา่ เพมิ่ ท่ีมิใช่ภาษีตามมาตรา 82/16 ซ่ึงไดร้ ับคืนเนื่องจากการขอคืน(มาตรา 65 ทวิ (14)) 4.3. เง่ือนไขการคานวณกาไรสุทธิด้านรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี 4.3.1.เงนิ สารองต่าง ๆ ยกเว้น ก. เงินสารองจากเบ้ียประกนั ภยั เพื่อสมทบทุนประกนั ชีวติ ที่กนั ไวก้ ่อนคานวณกาไรเฉพาะส่วนท่ีไมเ่ กินร้อยละ 65 ของจานวนเบ้ียประกนั ภยั ท่ีไดร้ ับในรอบระยะเวลาบญั ชีหลงั จากหกัเบ้ียประกนั ภยั ซ่ึงออกประกนั ตอ่ ออกแลว้

ในกรณีตอ้ งใชเ้ งินตามจานวนซ่ึงเอาประกนั ภยั สาหรับกรมธรรมป์ ระกนั ชีวิตรายใดไม่วา่ เตม็ จานวนหรือบางส่วนเงินที่ใชไ้ ปเฉพาะส่วนท่ีไม่เกนิ เงนิ สารองดงั กล่าว จะูือเป็นรายจ่ายไม่ได้ ในกรณีเลิกสญั ญาตามกรมธรรมป์ ระกนั ชีวติ รายใด ใหน้ าเงินสารองท่ีกนั ไวส้ าหรับการประกนั ชีวติ รายน้นั กลบั มารวมคานวณเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีที่เลิกสญั ญา ตวั อยา่ งท่ี 13 บริษทั ประกนั ภยั ไทยแลนด์ จากดั ไดร้ ับเงินค่าเบ้ียประกนั ชีวิตเป็นจานวนเงิน32,500 บาท ใหค้ านวณหาเงินสารองจ่ายจากเบ้ียประกนั และกาไรข้นั ตน้ บริษทั ฯจะต้งั สารองจา่ ยตามกฎหมายภาษีไดไ้ มเ่ กิน (32,500 x 65%) = 21,125 บาท กาไรข้นั ตน้ (32,500 – 21,125) = 11,375 บาท ตวั อยา่ งที่ 14 บริษทั สัมพนั ธ์ประกนั ภยั จากดั ไดร้ ับเงินค่าเบ้ียประกนั ชีวติ เป็นจานวนเงิน100,000 บาท ฝ่ ายบญั ชีไดต้ ้งั สารองจ่ายจากเบ้ียประกนั ชีวิต 80,000 บาทและไดบ้ นั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการคานวณกาไรสุทธิแลว้ ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี วธิ ีทา กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = xxxx บาท บวก สารองจา่ ยส่วนท่ีเกิน 65 %: (80,000 – 65,000) = 15,000 บาท กาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษี = xxxx บาท ข. เงินสารองจากเบ้ียประกนั ภยั เพ่อื สมทบทุนประกนั ภัยอ่ืนที่กนั ไวก้ ่อนคานวณกาไรเฉพาะส่วนที่ไม่เกนิ ร้อยละ 40 ของจานวนเบ้ียประกนั ภยั ท่ีไดร้ ับในรอบระยะเวลาบญั ชีหลงั จากหกัเบ้ียประกนั ภยั ซ่ึงเอาประกนั ภยั ต่อออกแลว้ และเงินสารองท่ีกนั ไวน้ ้ีจะตอ้ งูือเป็นรายไดใ้ นการคานวณกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษีในรอบระยะเวลาบญั ชีปี ูดั ไป ตวั อยา่ งท่ี 15 บริษทั สัมพนั ธ์ประกนั ภยั จากดั ไดร้ ับเงินค่าเบ้ียประกนั วนิ าศภยั เป็ นเงิน50,000 บาทใหค้ านวณหาเงินสารองจ่ายตามกฎหมายและกาไรข้นั ตน้ วธิ ีทา ค่าเบ้ียประกนั วนิ าศภยั = 50,000 บาท หกั สารองจา่ ยตามกฎหมาย (50,000 x 40%) = 20,000 บาท กาไรข้นั ตน้ = 30,000 บาท ค. เงินสารองที่กนั ไวเ้ ป็นคา่ เผ่ือหน้ีสูญหรือหน้ีสงสัยจะสูญสาหรับหน้ีจากการให้สินเช่ือท่ีธนาคารพาณิชย์ บริษทั เงินทุน หรือบริษทั หลกั ทรัพย์ หรือบริษทั เครดิตฟองซิเอร์ ไดก้ นั ไว้ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการธนาคารพาณิชย์ หรือกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจ

หลกั ทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ แลว้ แตก่ รณีท้งั น้ีเฉพาะส่วนที่ต้งั เพมิ่ ข้ึนจากเงินสารองประเภทดงั กล่าวท่ีปรากฏในงบดุลของรอบระยะเวลาบญั ชีก่อน เงินสารองท่ีไดต้ ้งั เพิม่ ข้ึนและไดน้ ามาูือเป็นรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ไปแลว้ ในรอบระยะเวลาบญั ชีใด ต่อมาหากมีการต้งั เงินสารองประเภทดงั กล่าวลดลงใหน้ าเงินสารองส่วนท่ีต้งั ลดลงซ่ึงไดู้ ือเป็นรายจา่ ยไปแลว้ น้นั มารวมคานวณเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีต้งั เงินสารองลดลงน้นั 4.3.2.เงนิ กองทนุ เว้นแต่กองทุนสารองเล้ียงชีพซ่ึงเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่กาหนดโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 183 กองทุนสารองเลยี้ งชีพ หมายูึงกองทุนท่ีมีสูานะเป็นนิติบุคคลซ่ึงลูกจา้ งและบริษทั ท่ีเป็นนายจา้ งร่วมกนั จดั ต้งั ข้ึนเพอ่ื ประโยชน์ของลูกจา้ ง จานวนเงินกองทุนไดม้ าจากเงินท่ีลูกจา้ งจา่ ยสะสม และเงินที่บริษทั นายจา้ งจา่ ยสมทบ และรวมูึงประโยชน์ท่ีเกิดจากเงินดงั กล่าว สาหรับเงินที่บริษทั นายจา้ งจา่ ยสมทบเขา้ กองทุนดงั กล่าวใหู้ ือเป็นรายจ่ายตามหลกั เกณฑว์ ธิ ีการและเง่ือนไขที่กาหนดไวโ้ ดยกฎกระทรวง 4.3.3.รายจ่ายอนั มลี กั ษณะเป็ นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศล เวน้ แต่การกศุ ลสาธารณะหรือการสาธารณะประโยชน์ตามท่ีอธิบดีกาหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรี ในส่วนท่ีไม่เกนิ ร้อยละ 2 กาไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามที่อธิบดีกาหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรีให้หกั ไดอ้ ีกในส่วนท่ีไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ รายเพ่ือการสาธารณะประโยชน์ ไดแ้ ก่รายจา่ ยที่จ่ายใหแ้ ก่หรือเพอ่ื กิจการดงั ตอ่ ไปน้ี (1) การส่งเสริม อนุรักษ์ และรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าสงวนและสตั วป์ ่ าคุม้ ครอง ตามกฎหมายวา่ดว้ ยการสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า (2) การคุม้ ครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอุทยานแห่งชาติ (3) การคุม้ ครองและรักษาป่ าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายวา่ ดว้ ยป่ าสงวนแห่งชาติ (4) การส่งเสริม คุม้ ครอง และรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (5) การควบคุม ป้องกนั แกไ้ ข ตลอดจนการลดและขจดั อนั ตรายอนั เกิดจากการแพร่กระจายของมลพษิ หรือภาวะมลพิษและของเสียอนั ตราย ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ (6) กองทุนส่ิงแวดลอ้ ม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ (7) การบูรณะโบราณสูาน โบราณวตั ูุ และศิลปวตั ูุ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโบราณสูานโบราณวตั ูุ ศิลปวตั ูุ และพพิ ธิ ภณั ฑส์ ูานแห่งชาติ

(8) การก่อสร้างูนนและไดโ้ อนกรรมสิทธ์ิใหแ้ ก่ส่วนราชการหรือองคก์ ารของรัฐบาลโดยไมม่ ีคา่ ตอบแทน ท้งั น้ี เฉพาะกรณีที่ส่วนราชการหรือองคก์ ารของรัฐบาลผรู้ ับโอนไดใ้ หป้ ระชาชนใช้ประโยชนใ์ นงานดงั กล่าว (9) การบริจาคทรัพยส์ ินหรือสินคา้ ใหแ้ ก่ส่วนราชการ เพื่อช่วยเหลือผปู้ ระสบอุทกภยั วาตภยัอคั คีภยั หรือภยั ธรรมชาติในลกั ษณะทานองเดียวกนั (10) การบริจาคทรัพยส์ ินที่ใชใ้ นการประกอบกิจการใหแ้ ก่ส่วนราชการ เพือ่ บริจาคให้แก่สูานศึกษาของทางราชการ สูาบนั อุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสูาบนั อุดมศึกษาเอกชนหรือสูานศึกษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน “ท้งั น้ี รายจา่ ยตามวรรคหน่ึง ตอ้ งเป็ นการจา่ ยใหแ้ ก่กิจการตามโครงการพระราชดาริ หรือของทางราชการ หรือองคก์ ารของรัฐบาล หรือองคก์ ารกุศลสาธารณะที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร” รายจ่ายเพ่ือการศึกษา ไดแ้ ก่ รายจ่ายในการบริจาคเงินหรือทรัพยส์ ินที่จา่ ยใหแ้ ก่หรือเพื่อกิจการดงั ต่อไปน้ี (1) สูานศึกษา หอสมุดหรือหอ้ งสมุด หรือสูาบนั วิจยั ท้งั น้ี เฉพาะของทางราชการ (2) การใหท้ ุนการศึกษาแก่นกั เรียน นิสิต นกั ศึกษา เป็นการทวั่ ไป (3) กระทรวง ทบวง กรม เทศบาล สุขาภิบาล หรือองคก์ ารบริหารราชการ ส่วน ทอ้ งูิ่น เพื่อสร้างสูานศึกษาหอสมุดหรือหอ้ งสมุดของทางราชการ (4) สูานศึกษาท่ีต้งั ข้ึน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชนโดยบริษทั หรือหา้ ง หุน้ ส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นและสูานศึกษาท่ีเป็นสูานบนั อุดมศึกษา เอกชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสูาบนั อุดมศึกษาเอกชน” รายจ่ายเพื่อการกฬี า ไดแ้ ก่รายจา่ ยในการบริจาคเงินหรือทรัพยส์ ิน ใหแ้ ก่หรือเพื่อกิจการดงั ต่อไปน้ี การกีฬาแห่งประเทศไทย เพ่อื ส่งเสริมการกีฬา (1) คณะกรรมการกีฬาจงั หวดั ท่ีจดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการกีฬาแห่งประเทศ ไทย เพือ่ ส่งเสริมกีฬาในจงั หวดั (2) กรมพลศึกษาเพื่อการจดั การแข่งขนั กีฬานกั เรียน (3) สมาคมกีฬาสมคั รเล่นท่ีไดร้ ับอนุญาตจากการกีฬาแห่งประเทศไทย 4.3.4.ค่ารับรองหรือค่าบริการ ส่วนท่ีไม่เป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีกาหนดโดยกฎกระทรวงค่ารับรองที่จะหกั เป็ นรายจา่ ยไดต้ อ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ี่กาหนดโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 143ดงั น้ี (ก) ค่ารับรองหรือคา่ บริการน้นั ตอ้ งเป็ นค่ารับรองหรือค่าบริการอนั จาเป็นตามธรรม

เนียมประเพณีทางธุรกิจทว่ั ไป และบุคคลซ่ึงไดร้ ับการรับรองหรือรับบริการตอ้ งมิใช่ลูกจา้ งของบริษทัหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลเวน้ แตล่ ูกจา้ งดงั กล่าวจะมีหนา้ ที่เขา้ ร่วมในการรับรองหรือการบริการน้นัดว้ ย (ข) ค่ารับรองหรือคา่ บริการ ตอ้ ง (1) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยอนั เก่ียวเน่ืองโดยตรงกบั การรับรองหรือการบริการท่ีจะอานวยประโยชนแ์ ก่กิจการ เช่น ค่าที่พกั ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม คา่ ดูมหรสพ ค่าใชจ้ า่ ยเกี่ยวกบั การกีฬาเป็นตน้ หรือ (2) เป็นคา่ สิ่งของที่ใหแ้ ก่บุคคลซ่ึงไดร้ ับการรับรองหรือรับบริการไมเ่ กินคนละ2,000 บาท ในแต่ละคราวที่มีการรับรองหรือการบริการ (ค) จานวนเงินคา่ รับรองและค่าบริการใหน้ ามาหกั เป็นรายจา่ ยไดเ้ ทา่ กบั จานวนที่ตอ้ งจ่าย แต่รวมกนั ตอ้ งไม่เกินร้อยละ 0.3 ของจานวนเงินยอดรายไดห้ รือยอดขายท่ีตอ้ งนามารวมคานวณกาไรสุทธิก่อนหกั รายจ่ายใด ในรอบระยะเวลาบญั ชีหรือของจานวนเงินทุนท่ีไดร้ ับชาระแลวู้ึงวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี แลว้ แตจ่ านวนใดจะมากกวา่ ท้งั น้ีรายจา่ ยที่จะนามาหกั ได้จะตอ้ งมีจานวนสูงสุดไม่เกิน 10 ลา้ นบาท (ง) คา่ รับรองหรือคา่ บริการน้นั ตอ้ งมีกรรมการหรือผเู้ ป็ นหุน้ ส่วนหรือผจู้ ดั การหรือผไู้ ดร้ ับมอบหมายจากบุคคลดงั กล่าวเป็นผอู้ นุมตั ิหรือสง่ั จา่ ยคา่ รับรอง หรือค่าบริการน้นั ดว้ ย และตอ้ งมีใบรับหรือหลกั ฐานของผรู้ ับสาหรับเงินท่ีจา่ ยเป็ นค่ารับรองหรือเป็นคา่ บริการเวน้ แต่ในกรณีที่ผรู้ ับเงินไมม่ ีหนา้ ท่ีตอ้ งออกใบรับตามประมวลรัษฎากร ค่ารับรองหรือค่าบริการที่หกั เป็นค่าใชจ้ า่ ยใหร้ วมภาษีซ้ือของคา่ รับรองหรือค่าบริการดว้ ยแต่ตอ้ งไมเ่ กินคา่ รับรองหรือคา่ บริการที่กาหนดไวข้ า้ งตน้ ตวั อยา่ งท่ี บริษทั มีกาไรสุทธิทางทางบญั ชีการเงิน 3,000,000 บาท จากการตรวจสอบขอ้ เทจ็จริงปรากฏวา่ มีค่ารับรองลูกคา้ จานวน 21,400 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพ่มิ 7%) รวมอยดู่ ว้ ย บริษทั มีรายรับก่อนหกั รายจา่ ย 6,000,000 บาท ทุนชาระแลว้ 4,000,000บาท ใหค้ านวณหากาไรสุทธิทางภาษี วเิ คราะห์รายการ - ค่ารับรองตามกฎหมายภาษี (6,000,000 x 0.3 %) = 18,000 บาท - คา่ รับรองทางบญั ชีการเงิน = 21,400 บาท เม่ือเปรียบเทียบค่ารับรองทางบญั ชีการเงินกบั คา่ รับรองตามกฎหมายภาษีแลว้ ปรากฏวา่ค่ารับรองทางบญั ชีการเงินมากกวา่ คา่ รับตามกฎหมายภาษี ดงั น้นั จะตอ้ งนาค่ารับส่วนเกินไปบวกกลบั - ค่ารับรองส่วนเกิน (21,400 – 18,000) = 3,400 บาท คานวณหากาไรสุทธิ กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 3,000,000 บาท บวก ค่ารับรองส่วนเกิน = 3,400 บาท กาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษี = 3,003,400 บาท

4.3.5.รายจา่ ยอนั มีลกั ษณะเป็นการลงทุน หรือรายจา่ ยในการต่อเติมเปลี่ยนแปลง ขยายออกหรือทาใหด้ ีข้ึนซ่ึงทรัพยส์ ิน แตไ่ มใ่ ช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม 4.3.6.เบ้ียปรับและหรือเงินเพม่ิ ภาษีอากร ค่าปรับทางอาญา ภาษีเงินไดข้ องบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วน(มาตรา 65 ตรี (6)) ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชาระหรือพงึ ชาระและภาษีซ้ือของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียน เวน้ แต่ภาษีมูลคา่ เพม่ิ และภาษีซ้ือของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนซ่ึงตอ้ งเสียภาษีมูลค่าเพิม่ ภาษีซ้ือท่ีตอ้ งหา้ มนามาหกั ในการคานวณภาษีมูลคา่ เพม่ิ หรือภาษีอ่ืนที่กาหนดโดยพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 65 ตรี (6ทว)ิ ) 4.3.7.การูอนเงินโดยปราศจากค่าตอบแทนของผเู้ ป็นหุ้นส่วนในหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล 4.3.8.เงินเดือนของผูู้ ือหุน้ หรือผูเ้ ป็นหุน้ ส่วนเฉพาะส่วนจ่ายเกินสมควร 4.3.9.รายจ่ายซ่ึงกาหนดข้ึนเองโดยไม่มีการจา่ ยจริง หรือรายจา่ ยซ่ึงควรจะไดจ้ ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีอ่ืน เวน้ แต่ในกรณีท่ีไม่สามารูจะลงรายจ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีใดกอ็ าจลงรายจา่ ยในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีูดั ไปได้ 4.3.10. คา่ ตอบแทนแก่ทรัพยส์ ินซ่ึงบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นเจา้ ของเองและใชเ้ อง 4.3.11. ดอกเบ้ียท่ีคิดใหส้ าหรับเงินทุน เงินสารองตา่ ง ๆ หรือเงินกองทุนของตนเอง 4.3.12. ผลเสียหาอนั อาจไดก้ ลบั คืน เนื่องจากการประกนั หรือสญั ญาคุม้ กนั ใด ๆ หรือผลขาดทุนสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีก่อน ๆ เวน้ แตผ่ ลขาดทุนสุทธิยกมาไมเ่ กินหา้ ปี ก่อนรอบระยะเวลาบญั ชีปี ปัจจุบนั 4.3.13. รายจ่ายซ่ึงมิใช่รายจา่ ยเพอื่ หากาไรหรือเพ่ือกิจการโดยเฉพาะ 4.3.14. รายจ่ายซ่ึงมิใช่รายจา่ ยเพ่ือกิจการในประเทศไทยโดยเฉพาะ 4.3.15. คา่ ซ้ือทรัพยส์ ินและรายจา่ ยเกี่ยวกบั การซ้ือหรือขายทรัพยส์ ินในส่วนที่เกินปกติโดยไมม่ ีเหตุผลอนั สมควร 4.3.16. ค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่สูญหรือสิ้นไปเน่ืองจากกิจการที่ทา 4.3.17. ค่าของทรัพยส์ ินนอกจากสินคา้ ท่ีตีราคาต่าลง 4.3.18. รายจา่ ยซ่ึงผจู้ ่ายพสิ ูจนไ์ มไ่ ดว้ า่ ใครเป็นผูร้ ับ 4.3.19. รายจา่ ยใด ๆ ที่กาหนดจ่ายจากผลกาไรที่ไดเ้ มื่อสิ้นสุดรอบระยะเวลาบญั ชีแลว้ 4.3.20. รายจา่ ยท่ีมีลกั ษณะทานองเดียวกบั ท่ีระบุไวใ้ น (1) ูึง (19) ตามที่จะไดก้ าหนดโดยพระราชกฤษฎีกา ปัจจุบนั มีพระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบบั ท่ี 315) พ.ศ. 2540 กาหนดวา่ รายจ่ายตอ่ ไปน้ี ไมใ่ หู้ ือเป็นรายจา่ ยในการคานวณ กาไรสุทธิ (ใชบ้ งั คบั สาหรับทรัพยส์ ินที่ไดม้ า หรือที่ไดท้ าสัญญาเช่าเป็นหนงั สือต้งั แตว่ นั ท่ี 29 พฤษภาคม 2539 เป็นตน้ ไป) 1. มูลค่าตน้ ทุนของทรัพยส์ ินประเภทรูยนตน์ ง่ั และรูยนตโ์ ดยสารที่มีที่นงั่ ไมเ่ กินสิบคน

ตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยพิกดั อตั ราภาษีสรรพสามิตเฉพาะส่วนท่ีเกินคนั ละหน่ึงลา้ นบาท ท้งั น้ี ไม่รวมูึงกรณีท่ี ก. ผปู้ ระกอบธุรกิจซ้ือขายหรือใหเ้ ช่าซ้ือรูยนต์ มีรูยนตป์ ระเภทดงั กล่าวไดเ้ พ่อื เป็ นสินคา้ หรือ ข. ผปู้ ระกอบธุรกิจใหเ้ ช่ารูยนตม์ ีรูยนตป์ ระเภทดงั กล่าวไว้ เพ่ือการใหเ้ ช่าเฉพาะ มูลค่าที่เหลือหลงั จากหกั ค่า สึกหรอและค่าเส่ือมราคาตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร คาวา่ \"ทรัพยส์ ิน\" หมายความรวมูึง ทรัพยส์ ินท่ีไดม้ าโดยการซ้ือ รวมูึงการเช่าซ้ือหรือการซ้ือขาย เงินผอ่ นดว้ ย 2. ค่าเช่าทรัพยส์ ินประเภทรูยนตน์ งั่ และรูยนตโ์ ดยสารท่ีมีท่ีนงั่ ไม่เกินสิบคนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยพกิ ดั อตั ราภาษีสรรพสามิต เฉพาะค่าเช่าส่วนท่ีเกินคนั ละสามหมื่นหกพนั บาทต่อเดือนในกรณีท่ีเช่าเป็นรายเดือนหรือรายปี หรือค่าเช่าส่วนที่เกินคนั ละหน่ึงพนั สองร้อยบาทต่อวนั ในกรณีท่ีเช่าเป็ นรายวนั เศษของเดือนใหค้ ิดเป็ นวนั หากเช่าไมู่ึงหน่ึงวนั ใหค้ านวณค่าเช่าตามส่วนของระยะเวลาที่เช่าท้งั น้ี โดยรวมภาษีมูลค่าเพม่ิ ดว้ ย ………………………………………………………………………..


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook