Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรปฐมวัยศูนย์อุดร ปีการศึกษา 2565

หลักสูตรปฐมวัยศูนย์อุดร ปีการศึกษา 2565

Published by ต้นน้ำ ดุ๊กดิ๊ก, 2022-05-20 10:13:06

Description: หลักสูตรปฐมวัยศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2565

Search

Read the Text Version

ความนา สำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษได้พัฒนำหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัย สำหรับเด็กท่ีมีควำมต้องกำร จำเปน็ พเิ ศษ พทุ ธศักรำช ๒๕๖๐ เพ่ือใช้ในกำรจัดกำรศกึ ษำในศูนย์กำรศึกษำพิเศษ ทกุ แหง่ โดยเพ่ิมทักษะจำเป็น เฉพำะควำมพิกำรสำหรับเดก็ พกิ ำรแต่ละประเภท ให้มพี ฒั นำกำรดำ้ นรำ่ งกำย อำรมณ์ จติ ใจ สังคม และสตปิ ัญญำ ท่เี หมำะสมกับวัย ควำมสำมำรถ และควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลเปน็ กำรเตรยี มควำมพร้อมท่ีจะเรยี นรูแ้ ละสร้ำง รำกฐำนชีวิตใช้พัฒนำเด็กปฐมวัยไปสู่ควำมเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในตนเอง และมีควำม รับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สังคม และประเทศชำติ ดังนั้นเพ่ือให้กำรจัดกำรศึกษำสำหรับเด็กท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ ได้รับกำรพัฒนำตั้งแต่แรกเกิด ถึง ๖ ปีให้มีพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคมและมีสติปัญญำท่ีเหมำะสมเต็มศักยภำพ ศูนย์กำรศึกษำ พิเศษประจำจังหวัดอุดรธำนี จึงได้พัฒนำและปรับปรุงหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยสำหรับเด็กท่ีมีควำมต้องกำร จำเปน็ พิเศษ ศนู ยก์ ำรศึกษำพิเศษประจำจงั หวัดอุดรธำนพี ุทธศกั รำช ๒๕๖4 (ฉบับปรบั ปรงุ 2565) โดยปรบั ปรุง จำกหลักสูตรกำรศกึ ษำปฐมวัยสำหรับเดก็ ที่มีควำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ พทุ ธศักรำช ๒๕๖2 ของสำนกั บริหำรงำน กำรศึกษำพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกบั สภำพควำมพิกำร และศักยภำพของแต่ละบุคคล สำมำรถนำไปใช้เป็นกรอบ และแนวทำงในกำรพัฒนำเด็กที่มีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษระดับปฐมวัย ให้มีพัฒนำกำรด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคมสติปัญญำและทักษะท่ีจำเป็นสำหรับเด็กพิกำรแต่ละประเภท เพ่ือให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่ำงมี ควำมสขุ

๒ ปรชั ญาการศึกษาปฐมวัยสาหรบั เดก็ ทม่ี ีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ กำรศึกษำปฐมวัยสำหรับเด็กท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ เป็นกำรพัฒนำเด็กต้ังแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี บรบิ ูรณ์ อยำ่ งเปน็ องค์รวมบนพ้ืนฐำนกำรอบรมเลย้ี งดูและกำรสง่ เสริมกระบวนกำรเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชำติและ พฒั นำกำรตำมสภำพควำมพิกำรของเดก็ แตล่ ะบุคคลใหเ้ ต็มศกั ยภำพ ภำยใตบ้ ริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอำศัย อยู่ ดว้ ยควำมรัก ควำมเออ้ื อำทร และควำมเข้ำใจของทกุ คน เพอื่ สร้ำงรำกฐำน คณุ ภำพชวี ติ ให้เด็กพฒั นำไปสคู่ วำม เปน็ มนุษยท์ สี่ มบูรณ์ เกิดคณุ คำ่ ตอ่ ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชำติ วสิ ยั ทัศน์ หลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยสำหรับเด็กที่มีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ มุ่งพัฒนำเด็กทุกคนให้ได้รับกำร พัฒนำด้ำนร่ำงกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญำ และทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กพิกำร แต่ละประเภท อย่ำงมี คุณภำพและต่อเนื่อง ได้รับกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้อย่ำงมีควำมสุข และเหมำะสมตำมศักยภำพ มีทักษะชีวิต และปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัย และสำนึกควำมเป็นไทย โดยควำมร่วมมือ ระหว่ำงสถำนศึกษำ พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทกุ ฝ่ำยที่เก่ยี วขอ้ งกบั กำรพฒั นำเด็ก หลกั การ เด็กทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับกำรอบรมเลี้ยงดู และกำรส่งเสริมพัฒนำกำรตำมอนุสัญญำว่ำด้วยสิทธิเด็ก ตลอดจนได้รับกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้อย่ำงเหมำะสม ด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดี ระหว่ำงเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับ ผ้สู อน เดก็ กบั ผู้เลยี้ งดู หรือผูท้ เี่ ก่ียวข้องกับกำรอบรมเล้ยี งดู กำรพัฒนำ และใหก้ ำรศกึ ษำแกเ่ ด็กปฐมวัย เพื่อใหเ้ ด็ก มีโอกำสพัฒนำตนเองตำมลำดับขั้นของพัฒนำกำรทุกด้ำน อย่ำงเป็นองค์รวม มีคุณภำพ และเต็มตำมศักยภำพ โดยกำหนดหลกั กำร ดงั น้ี ๑. สง่ เสรมิ กระบวนกำรเรียนรแู้ ละพัฒนำกำรที่ครอบคลุมเด็กปฐมวัยทม่ี ีควำมต้องกำรจำเปน็ พิเศษทกุ คน ๒. ยึดหลักกำรอบรมเล้ียงดูและให้กำรศึกษำที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำง บุคคล และวถิ ชี ีวิตของเด็กตำมบริบทของชมุ ชน สงั คม และวัฒนธรรมไทย ๓. ยึดพัฒนำกำรและกำรพัฒนำเด็กโดยองค์รวม ผ่ำนกำรเล่นอย่ำงมีควำมหมำย มีกิจกรรม ที่หลำกหลำย ได้รับเทคโนโลยี ส่ือ สิ่งอำนวยควำมสะดวก บริกำร และควำมช่วยเหลืออื่นใดทำงกำรศึกษำ ได้ลงมือ กระทำในสภำพแวดล้อมท่ีเอ้อื ต่อกำรเรียนรู้ เหมำะสมกบั สภำพควำมพิกำร และมีกำรพักผอ่ นเพยี งพอ ๔. จัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวิต และสำมำรถปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ คนดี มีวินยั และมีควำมสุข ๕. สรำ้ งควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และประสำนควำมรว่ มมือในกำรพัฒนำเด็ก ระหว่ำงสถำนศึกษำกับพอ่ แม่ ครอบครวั ชมุ ชน และทุกฝ่ำยที่เกยี่ วขอ้ งกบั กำรพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ทม่ี ีควำมต้องกำรจำเปน็ พเิ ศษ

๓ หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยสาหรบั เด็กท่ีมคี วามต้องการจาเปน็ พเิ ศษ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวดั อดด ราานี พทด าศักราช ๒๕๖4 (ฉบบั ปรับปรงด พดทาศกั ราช 2565) หลักสูตรกำรศกึ ษำปฐมวัยสำหรบั เด็กที่มีควำมต้องกำรจำเปน็ พิเศษ ศนู ย์กำรศึกษำพเิ ศษประจำจงั หวัด อุดรธำนี พุทธศักรำช ๒๕๖4 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักรำช 2565) เป็นกำรจัดกำรศึกษำในลักษณะของกำรอบรม เลย้ี งดแู ละใหก้ ำรศึกษำ เดก็ จะไดร้ ับกำรพฒั นำท้ังดำ้ นรำ่ งกำย อำรมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ญั ญำ และทักษะทจ่ี ำเป็น สำหรบั เด็กพิกำรแตล่ ะประเภทตำมสภำพควำมพกิ ำร และควำมสำมำรถของแตล่ ะบุคคล จดดหมาย หลกั สูตรกำรศกึ ษำปฐมวยั สำหรับเดก็ ที่มีควำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ ศนู ย์กำรศกึ ษำพเิ ศษประจำจงั หวัด อดุ รธำนี พุทธศกั รำช ๒๕๖4 (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั รำช 2565) มุง่ ใหเ้ ดก็ ทีม่ คี วำมต้องกำรจำเปน็ พิเศษมีพฒั นำกำร เต็มตำมศักยภำพ และมคี วำมพร้อมในกำรเรียนรู้ต่อไป จึงกำหนดจดุ หมำยเพื่อให้เกิดกับเดก็ เม่ือจบกำรศกึ ษำระดับ ปฐมวยั ดังนี้ ๑. รำ่ งกำยเจริญเติบโตตำมวัย แขง็ แรง และมสี ุขนสิ ยั ท่ีดี ๒. สุขภำพจติ ดี มสี ุนทรยี ภำพ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และจติ ใจทดี่ งี ำม ๓. มีทักษะชีวิต และปฏิบัติตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ อย่ำงมคี วำมสุข ๔. มีทกั ษะกำรคดิ กำรใชภ้ ำษำสื่อสำร และกำรแสวงหำควำมรู้ได้เหมำะสมกบั วัย ๕. มีทักษะท่ีจำเป็นเฉพำะควำมพิกำรสำหรับเดก็ พิกำรแต่ละประเภท กล่ดมเปา้ หมาย กลุ่มเป้ำหมำยตำมหลักสูตรปฐมวัยสำหรับเด็กท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพิเศษ ตำมประกำศ กระทรวงศึกษำธกิ ำร เรอื่ งกำหนดประเภทและหลกั เกณฑข์ องคนพกิ ำรทำงกำรศึกษำ พ.ศ.๒๕๕๒ ๑. บุคคลท่ีมีควำมบกพร่องทำงกำรเห็น ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียกำรเห็นตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงตำ บอดสนิท ซ่ึงแบง่ เป็น ๒ ประเภทดังน้ี ๑.๑ คนตำบอด หมำยถงึ บุคคลทส่ี ญู เสยี กำรเห็นมำก จนต้องใชส้ อ่ื สมั ผัสและส่ือเสยี งหำกตรวจวัด ควำมชัดของสำยตำข้ำงดีเมอื่ แกไ้ ขแล้ว อยู่ในระดับ ๖ ส่วน ๖๐ (๖/๖๐) หรือ ๒๐ ส่วน ๒๐๐ (๒๐/๒๐๐) จนถึง ไม่สำมำรถรบั รู้เรอ่ื งแสง ๑.๒ คนเหน็ เลือนรำง หมำยถงึ บคุ คลที่สูญเสียกำรเหน็ แต่ยังสำมำรถอ่ำนอักษรตัวพิมพ์ขยำยใหญ่ ด้วยอุปกรณ์เครื่องช่วยควำมพิกำร หรือเทคโนโลยีส่ิงอำนวยควำมสะดวก หำกวัดควำมชัดเจนของสำยตำข้ำงดี เมอ่ื แก้ไขแลว้ อยู่ในระดับ ๖ สว่ น ๑๘ (๖/๑๘) หรอื ๒๐ สว่ น ๗๐ (๒๐/๗๐) ๒. บุคคลที่มีควำมบกพร่องทำงกำรได้ยิน ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียกำรได้ยินตั้งแต่ระดับหูตึงน้อยจนถึง หหู นวก ซ่งึ แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ดังน้ี ๒.๑ คนหูหนวก หมำยถึง บุคคลท่ีสูญเสียกำรได้ยินมำกจนไม่สำมำรถเข้ำใจกำรพูดผ่ำนทำงกำรได้ยิน ไมว่ ่ำจะใส่หรือไมใ่ ส่เครือ่ งช่วยฟัง ซ่งึ โดยทวั่ ไปหำกตรวจกำรได้ยินจะมีกำรสูญเสียกำรได้ยนิ ๙๐ เดซิเบลขนึ้ ไป

๔ ๒.๒ คนหูตึง หมำยถึง บุคคลที่มีกำรได้ยินเหลืออยู่เพียงพอท่ีจะได้ยินกำรพูดผ่ำนทำงกำรได้ยิน โดยทว่ั ไปจะใส่เครอ่ื งชว่ ยฟงั ซง่ึ หำกตรวจวัดกำรได้ยนิ จะมกี ำรสูญเสียกำรไดย้ ินนอ้ ยกว่ำ ๙๐ เดซเิ บลลงมำ ถึง ๒๖ เดซิเบล ๓. บคุ คลทมี่ ีควำมบกพร่องทำงสติปญั ญำ ได้แก่ บุคคลทม่ี ีควำมจำกัดอย่ำงชัดเจน ในกำรปฏบิ ัตติ นใน ปัจจบุ ัน ซ่ึงมลี กั ษณะเฉพำะ คือ ควำมสำมำรถทำงสติปัญญำตำ่ กว่ำเกณฑเ์ ฉลี่ยอย่ำงมีนยั สำคญั รว่ มกบั ควำมจำกัด ของทักษะกำรปรับตัวอีกอย่ำงน้อย ๒ ทักษะ จำก ๑๐ ทักษะ ได้แก่ กำรส่ือควำมหมำย กำรดูแลตนเอง กำรดำรงชีวิต ภำยในบำ้ น ทักษะทำงสงั คม / กำรมปี ฏสิ มั พันธก์ บั ผู้อืน่ กำรรจู้ ักใชท้ รพั ยำกรในชมุ ชน กำรรจู้ ักดแู ลควบคุมตนเอง กำรนำควำมรู้มำใช้ในชีวิตประจำวัน กำรทำงำน กำรใช้เวลำว่ำง กำรรักษำสุขภำพอนำมัย และควำมปลอดภัย ท้งั นไี้ ดแ้ สดงอำกำรดงั กลำ่ วก่อนอำยุ ๑๘ ปี ๔. บุคคลที่มีควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยหรอื กำรเคล่ือนไหวหรือสุขภำพ ซึ่งแบ่งเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ๔.๑ บุคคลท่ีมีควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยหรือกำรเคลื่อนไหว ได้แก่ บุคคลท่ีมีอวัยวะไม่สมส่วน หรือขำดหำยไป กระดูกหรือกล้ำมเน้ือผิดปกติ มีอุปสรรคในกำรเคล่ือนไหว ควำมบกพร่องดังกล่ำวอำจเกิดจำก โรคทำงระบบประสำท โรคของระบบกล้ำมเนื้อและกระดกู กำรไมส่ มประกอบมำแตก่ ำเนิด อุบัตเิ หตแุ ละโรคติดต่อ ๔.๒ บุคคลทมี่ คี วำมบกพรอ่ งทำงสุขภำพ ได้แก่ บุคคลทมี่ ีควำมเจบ็ ปว่ ยเรื้อรัง หรือมีโรคประจำตัว ซึ่งจำเป็นต้องได้รบั กำรรักษำอย่ำงตอ่ เนอ่ื ง และเป็นอปุ สรรคต่อกำรศึกษำ ซ่งึ มผี ลทำให้เกิดควำมจำเปน็ ต้องได้รับ กำรศึกษำพเิ ศษ ๕. บุคคลท่ีมีควำมบกพร่องทำงกำรเรียนรู้ ได้แก่ บุคคลท่ีมีควำมผิดปกติในกำรทำงำนของสมอง บำงส่วน ท่ีแสดงถึงควำมบกพร่องในกระบวนกำรเรียนรู้ที่อำจเกิดข้ึนเฉพำะควำมสำมำรถด้ำนใดด้ำนหนึ่ง หรือ หลำยด้ำน คือ กำรอำ่ น กำรเขียน กำรคิดคำนวณ ซ่งึ ไม่สำมำรถเรยี นรู้ในด้ำนท่ีบกพร่องได้ ทง้ั ทมี่ ีระดบั สติปญั ญำปกติ ๖. บุคคลที่มีควำมบกพร่องทำงกำรพูดและภำษำ ได้แก่ บุคคลท่ีมีควำมบกพร่องในกำรเปล่งเสยี งพดู เช่น เสยี งผดิ ปกติ อัตรำควำมเร็ว และจงั หวะกำรพูดผิดปกติ หรอื บคุ คลท่ีมีควำมบกพรอ่ งในเรอ่ื งควำมเข้ำใจหรือ กำรใช้ภำษำพูด กำรเขียน หรือระบบสัญลักษณ์อ่ืนท่ีใช้ในกำรติดต่อสื่อสำร ซ่ึงอำจเกี่ยวกับรูปแบบ เน้ือหำ และ หนำ้ ทข่ี องภำษำ ๗. บคุ คลทม่ี คี วำมบกพรอ่ งทำงพฤติกรรมหรอื อำรมณ์ ไดแ้ ก่ บุคคลทีม่ พี ฤตกิ รรมเบี่ยงเบนไปจำกปกติ เป็นอย่ำงมำก และปัญหำทำงพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่ำงต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นผลจำกควำมบกพร่องหรือควำมผิดปกติ ทำงจิตใจ หรอื สมองในสว่ นของกำรรับรู้ อำรมณ์หรอื ควำมคดิ เชน่ โรคจติ เภท โรคซึมเศร้ำ โรคสมองเส่อื ม เป็นตน้ ๘. บุคคลออทิสติก ได้แก่ บุคคลท่ีมีควำมผิดปกติของระบบกำรทำงำนของสมองบำงส่วน ซึ่งส่งผลต่อ ควำมบกพร่องทำงพัฒนำกำรด้ำนภำษำ ด้ำนสังคม และกำรปฏิสัมพันธ์ทำงสังคม และมีข้อจำกัดด้ำนพฤติกรรม หรือมคี วำมสนใจจำกดั เฉพำะเร่ืองใดเรื่องหน่งึ โดยควำมผิดปกตนิ นั้ ค้นพบได้ก่อนอำยุ ๓๐ เดอื น ๙. บุคคลพิกำรซ้อน ได้แก่ บุคคลท่ีมีสภำพควำมบกพร่องหรือควำมพิกำรมำกกว่ำหนึ่งประเภท ในบคุ คลเดียวกนั

๕ มาตรฐานคณด ลักษณะท่พี ึงประสงค์ หลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยสำหรบั เด็กท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ กำหนดมำตรฐำนคุณลักษณะทพี่ ึง ประสงคจ์ ำนวน ๑๓ มำตรฐำน ประกอบดว้ ย ๑. พัฒนาการดา้ นร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มำตรฐำน คือ มำตรฐำนที่ ๑ รำ่ งกำยเจรญิ เตบิ โตและมีสุขนิสยั ที่ดี มำตรฐำนท่ี ๒ กลำ้ มเน้ือใหญแ่ ละกลำ้ มเนื้อเล็กแขง็ แรง ใช้ไดอ้ ย่ำงคลอ่ งแคล่วและประสำนสมั พันธก์ นั ๒. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำน คอื มำตรฐำนท่ี ๓ มีสขุ ภำพจติ ดีและมีควำมสุข มำตรฐำนท่ี ๔ ช่นื ชมและแสดงออกทำงศลิ ปะ ดนตรี และกำรเคลอ่ื นไหว มำตรฐำนที่ ๕ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และมีจิตใจที่ดีงำม ๓. พฒั นาการดา้ นสังคม ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำน คอื มำตรฐำนที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏบิ ตั ิตนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง มำตรฐำนที่ ๗ รกั ธรรมชำติ สงิ่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรมและควำมเป็นไทย มำตรฐำนท่ี ๘ อยรู่ ว่ มกบั ผู้อื่นได้อยำ่ งมคี วำมสขุ และปฏิบัติตนเปน็ สมำชิกทด่ี ีของสังคมในระบอบ ประชำธิปไตยอนั มพี ระมหำกษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ ๔. พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา ประกอบด้วย ๔ มำตรฐำน คอื มำตรฐำนท่ี ๙ ใช้ภำษำสอ่ื สำรไดเ้ หมำะสมตำมศักยภำพ มำตรฐำนที่ ๑๐ มีควำมสำมำรถในกำรคิดท่ีเป็นพื้นฐำนในกำรเรียนรตู้ ำมศกั ยภำพ มำตรฐำนที่ ๑๑ มีจินตนำกำรและควำมคดิ สร้ำงสรรค์ตำมศักยภำพ มำตรฐำนที่ ๑๒ มีเจตคติท่ีดีต่อกำรเรียนรู้และมีควำมสำมำรถในกำรแสวงหำควำมรู้ไดต้ ำมศักยภำพ ๕. พัฒนาการด้านทกั ษะท่จี าเป็นเฉพาะความพกิ าร ประกอบด้วย ๑ มำตรฐำน คอื มำตรฐำนที่ ๑๓ มีกำรพัฒนำทกั ษะจำเป็นเฉพำะควำมพิกำรแตล่ ะประเภท ในมำตรฐำนน้ี แบง่ มำตรฐำนได้ ๘ ประเภทควำมพกิ ำร คอื มำตรฐำนที่ ๑๓.๑ มีกำรพฒั นำทักษะจำเปน็ เฉพำะควำมบกพรอ่ งทำงกำรเห็น มำตรฐำนท่ี ๑๓.๒ มีกำรพัฒนำทกั ษะจำเปน็ เฉพำะควำมบกพร่องทำงกำรไดย้ นิ มำตรฐำนที่ ๑๓.๓ มกี ำรพัฒนำทักษะจำเปน็ เฉพำะควำมบกพร่องทำงสตปิ ัญญำ มำตรฐำนที่ ๑๓.๔ มีกำรพัฒนำทักษะจำเป็นเฉพำะควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยหรือกำร เคลื่อนไหว หรอื สขุ ภำพ มำตรฐำนที่ ๑๓.๕ มกี ำรพัฒนำทกั ษะจำเปน็ เฉพำะควำมบกพรอ่ งทำงกำรเรียนรู้ มำตรฐำนท่ี ๑๓.๖ มกี ำรพฒั นำทักษะจำเป็นเฉพำะควำมบกพรอ่ งทำงกำรพดู และภำษำ มำตรฐำนท่ี ๑๓.๗ มกี ำรพัฒนำทกั ษะจำเป็นเฉพำะควำมบกพร่องทำงพฤตกิ รรมหรอื อำรมณ์ มำตรฐำนท่ี ๑๓.๘ มกี ำรพัฒนำทักษะจำเปน็ เฉพำะบคุ คลออทิสติก

๖ โครงสรา้ งหลกั สตู ร กำรพัฒนำศักยภำพเดก็ พิกำร ตำมหลักสูตรกำรศึกษำปฐมวัยสำหรบั เดก็ ท่ีมีควำมตอ้ งกำรจำเป็นพิเศษ ศนู ย์กำรศึกษำพเิ ศษประจำจังหวัดอุดรธำนี พทุ ธศกั รำช ๒๕๖4 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักรำช 2565) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทกั ษะท่จี าเปน็ เฉพาะความพกิ าร ๑. พฒั นาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐาน คือ ๕. พัฒนาการด้านทักษะท่จี าเป็นเฉพาะความพิการ มาตรฐานที่ ๑ รา่ งกายเจริญเตบิ โตและมีสุขนิสัยท่ีดี มาตรฐานท่ี ๑๓ มกี ารพฒั นาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพิการแต่ละ มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเนื้อใหญ่และกลา้ มเนือ้ เล็กแขง็ แรง ใช้ได้อยา่ ง ประเภท คล่องแคลว่ และประสานสมั พนั ธ์กัน มาตรฐานท่ี ๑๓.๑ มีการพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ ง ๒. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คอื ทางการเห็น มาตรฐานท่ี ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสขุ มาตรฐานที่ ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว มาตรฐานที่ ๑๓.๒ มกี ารพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะความความ มาตรฐานที่ ๕ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ิตใจที่ดงี าม บกพร่องทางการไดย้ ิน ๓. พฒั นาการด้านสงั คม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐาน คือ มาตรฐานท่ี ๑๓.๓ มีการพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ ง มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวติ และปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ ทางสตปิ ัญญา พอเพยี ง มาตรฐานที่ ๑๓.๔ มีการพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่อง มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม วฒั นธรรมและความเปน็ ไทย ทางรา่ งกายหรือการ เคลื่อนไหวหรือสุขภาพ มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผ้อู ่นื ได้อย่างมคี วามสุขและปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิก มาตรฐานท่ี ๑๓.๕ มีการพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่อง ทีด่ ีของสงั คมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทางการเรยี นรู้ ๔. พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐาน คอื มาตรฐานท่ี ๑๓.๖ มกี ารพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่อง มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาสอื่ สารไดเ้ หมาะสมตามศักยภาพ ทางการพดู และภาษา มาตรฐานที่ ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดท่ีเปน็ พน้ื ฐานในการเรียนร้ตู าม มาตรฐานท่ี ๑๓.๗ มกี ารพฒั นาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่อง ศักยภาพ ทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ มาตรฐานที่ ๑๑ มจี ินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรคต์ ามศกั ยภาพ มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคตทิ ีด่ ีต่อการเรยี นรแู้ ละมีความสามารถในการ มาตรฐานที่ ๑๓.๘ มีการพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะบคุ คลออทิสตกิ แสวงหาความรไู้ ด้ตามศักยภาพ เวลาเรยี น การจัดประสบการณใ์ หก้ บั เดก็ ใน ๑ ปกี ารศึกษาโดยประมาณ มีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกว่า ๑๘๐ วัน ในแตล่ ะวันจะใช้เวลาไม่นอ้ ยกวา่ ๕ ชัว่ โมง ท้ังน้ี ขึน้ อย่กู บั อายุของเดก็ ที่เริ่มเขา้ สถานศึกษาหรือศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษ เวลาเรยี นจึงขน้ึ อยู่กับความพร้อม พฒั นาการและศกั ยภาพของเด็กพกิ ารตามประเภทและ สภาพความพิการของแต่ละบุคคล กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๑. กจิ กรรมวิชาการ ๓. กิจกรรมทศั นศกึ ษา บริการเสรมิ หลักสตู ร ๒. กจิ กรรมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ๔. กจิ กรรมการบริการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร (ICT) ตวั บง่ ชี้ ๑. กายภาพบาบดั ๔. แพทย์แผนไทย ๒. กจิ กรรรมบาบัด ๕. การบรกิ ารจิตวทิ ยา ๓. แก้ไขการพูดโดยครู ตวั บง่ ชี้เปน็ เป้ำหมำยในกำรพัฒนำเดก็ ท่มี คี วำมสมั พันธ์สอดคลอ้ งกับมำตรฐำนคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

๗ สภาพท่ีพึงประสงค์ สภำพที่พึงประสงค์เปน็ พฤติกรรมหรือควำมสำมำรถตำมวยั ที่คำดหวังให้เด็กเกิด บนพื้นฐำนพัฒนำกำร ตำมวัยหรือควำมสำมำรถตำมธรรมชำติในแต่ละระดับอำยุ เพ่ือนำไปใช้ในกำรกำหนดสำระกำรเรียนรู้ในกำรจัด ประสบกำรณ์ และประเมินพัฒนำกำรเดก็ โดยมีรำยละเอียดของมำตรฐำน คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ ตัวบง่ ช้ี และ สภำพท่พี งึ ประสงค์ ดงั นี้ มาตรฐานท่ี ๑ รา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามวัยและมสี ขด นสิ ยั ทด่ี ี ตัวบง่ ชี้ ๑.๑ นา้ หนัก ส่วนสูงและเสน้ รอบศรี ษะตามเกณฑ์ อายด สภาพทีพ่ ึงประสงค์ แรกเกิด – ๓ ปี ๑. นำ้ หนกั และสว่ นสงู ตำมเกณฑ์ ๒. เส้นรอบศีรษะตำมเกณฑ์ ๓ – ๖ ปี ๑. นำ้ หนักและส่วนสงู ตำมเกณฑข์ องกรมอนำมัย ตัวบง่ ช้ี ๑.๒ มสี ขด ภาพอนามยั สดขนสิ ัยที่ดี อายด สภาพทพี่ ึงประสงค์ แรกเกดิ – ๓ ปี ๑. มภี มู ิต้ำนทำนโรค ไมป่ ว่ ยบ่อย ขับถ่ำยเปน็ เวลำ รบั ประทำนอำหำร นอนและ พกั ผ่อนเหมำะสมกบั วัย ๒. กจิ กรรมกำรเคล่อื นไหวสอดคล้องตำมพัฒนำกำร ๓ – ๔ ปี ๑. ยอมรับประทำนอำหำรทม่ี ีประโยชน์และด่ืมนำ้ ทีส่ ะอำดเมือ่ มีผู้ช้แี นะ ๒. ล้ำงมือก่อน-หลังรบั ประทำนอำหำรและหลงั จำกขับถำ่ ย กำรใชห้ ้องน้ำ ห้องสว้ มเม่ือ มีผู้ช้ีแนะ ๓. ดแู ลสุขภำพช่องปำกและฟนั โดยมผี ู้ชีแ้ นะ ๔. นอนพักผ่อนเป็นเวลำ ๕. ออกกำลงั กำยอยำ่ งสมำ่ เสมอ ๔ – ๕ ปี ๑. รับประทำนอำหำรท่ีมปี ระโยชนแ์ ละด่ืมน้ำสะอำดดว้ ยตนเอง ๒. ล้ำงมือกอ่ น-หลังรับประทำนอำหำรและหลงั จำกขบั ถำ่ ย กำรใช้ห้องน้ำ ห้องส้วมได้ ด้วยตนเอง ๓. ดูแลสขุ ภำพช่องปำกและฟนั โดยกำรบว้ นปำก/แปรงฟันได้ด้วยตนเอง ๔. นอนพักผอ่ นเป็นเวลำ ๕. ออกกำลงั กำยเป็นเวลำ ๕ – ๖ ปี ๑. รบั ประทำนอำหำรทม่ี ปี ระโยชนต์ ำมหลกั โภชนำกำรอำหำรหลัก ๕ หมแู่ ละด่ืมน้ำ สะอำดได้ด้วยตนเอง ๒. ล้ำงมอื กอ่ น-หลงั รับประทำนอำหำรและหลงั จำกขบั ถำ่ ย กำรใชห้ ้องนำ้ หอ้ งสว้ มได้ ด้วยตนเอง ๓. ดูแลสขุ ภำพชอ่ งปำกและฟันโดยกำรแปรงฟนั ไดด้ ว้ ยตนเอง ๔.นอนพักผอ่ นเปน็ เวลำ ๕. ออกกำลังกำยเปน็ เวลำ

๘ ตวั บง่ ช้ี ๑.๓ รักษาความปลอดภยั ของตนเองและผู้อน่ื อายด สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. เล่นและทำกิจกรรมอย่ำงปลอดภยั เมื่อมีผู้ชีแ้ นะ ๔ – ๕ ปี ๑. เลน่ และทำกิจกรรมอยำ่ งปลอดภัยด้วยตนเอง ๕ – ๖ ปี ๑. เล่น ทำกิจกรรมและปฏิบตั ติ ่อผู้อ่ืนอยำ่ งปลอดภยั มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเน้อื ใหญแ่ ละกลา้ มเนอ้ื เลก็ แขง็ แรง ใชไ้ ด้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมพนั า์กนั ตวั บง่ ชี้ ๒.๑ เคล่ือนไหวรา่ งกายอยา่ งคลอ่ งแคล่วประสานสมั พนั าแ์ ละทรงตวั ได้ อายด สภาพทพี่ ึงประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดือน ๑. นอนควำ่ ยกศีรษะและหันไปข้ำงใดข้ำงหนง่ึ ได้ ๒ – ๔ เดือน ๑. นอนควำ่ ยกศรี ษะและอกพน้ พน้ื ๒. เม่อื จับยนื เริม่ ลงน้ำหนกั ทเ่ี ท้ำทัง้ สองข้ำงได้ ๔ – ๖ เดือน ๑. ยันหนำ้ อกพ้นพนื้ โดยใชแ้ ขนช่วย ๒. น่งั ได้ โดยต้องมีผปู้ ระคอง น่งั โดยใชม้ อื ยนั พ้นื ด้วยตนเอง ๖ – ๙ เดือน ๑. น่งั หลังตรงและเอ้ยี วตัวใชม้ อื เล่นได้อย่ำงอสิ ระ ๒. คลำนโดยใชม้ ือและเข่ำ ๓. ยนื เกำะเครอื่ งเรือนสูงระดบั อกได้ ๙ เดอื น – ๑ ปี ๑. ยืนทรงตวั (ตั้งไข)่ ได้ชว่ งสั้น ๆ ๒. หย่อนตัวลงนัง่ จำกท่ำยืน ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดือน ๑. ลุกข้นึ ยืนดว้ ยตนเอง ๒. ยนื ไดเ้ องอย่ำงอิสระ ๓. ยืนแลว้ ก้มลงหยิบของทพ่ี ื้นได้ ๔. เดนิ ได้เองโดยปล่อยแขนเป็นอสิ ระและแกว่งแขนตำมสบำย ๕. เริ่มว่ิงหรือเดินเร็ว ๆ ได้ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี ๑. เดินขึน้ บนั ได โดยมอื ข้ำงหนึง่ จบั รำวบนั ไดอีกมอื จับมอื ผู้ใหญ่กำ้ วเทำ้ โดยมกี ำรพกั เทำ้ ในขั้นเดยี วกนั ๒. ว่งิ และหยุดไดท้ ันที และเร่มิ วิ่งใหม่ ๒ – ๓ ปี ๑. นง่ั ยอง ๆ เลน่ โดยไม่เสียกำรทรงตวั ๒. เดินถอยหลงั ได้ ๓. เดินขึ้นลงบันได โดยมอื ข้ำงหนึ่งจับรำวและก้ำวเทำ้ โดยมีกำรพกั เท้ำในข้นั เดียวกนั ๔. กระโดดอยู่กับท่ี โดยเทำ้ ท้งั สองขำ้ งลอยพน้ พนื้ ๕. ยนื ขำเดยี วได้ ๓ – ๔ ปี ๑. เดินตำมทิศทำงที่กำหนดได้ ๒. กระโดดสองขำขนึ้ ลงบนพน้ื ตำ่ งระดบั ได้ ๓. กระโดดขำ้ มสิง่ กีดขวำงได้ ๔. วิ่งแลว้ หยดุ ได้ตำมทกี่ ำหนด

๙ อายด สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๔ – ๕ ปี ๕. รับลูกบอลโดยใช้มอื และลำตวั ช่วย ๕ – ๖ ปี ๑. เดนิ ตอ่ เทำ้ ไปข้ำงหนำ้ เปน็ เส้นตรงได้โดยไมต่ ้องกำงแขน ๒. กระโดดขำเดยี วอย่กู บั ทไ่ี ด้ โดยไม่เสียกำรทรงตัว ๓. ว่งิ หลบหลกี สงิ่ กดี ขวำงได้ ๔. รับลกู บอลโดยใช้มอื ทงั้ สองข้ำง ๑. เดนิ ตอ่ เทำ้ ถอยหลงั เปน็ เส้นตรงไดโ้ ดยไมต่ ้องกำงแขน ๒. กระโดดขำเดยี วไปข้ำงหนำ้ ไดอ้ ยำ่ งต่อเนอ่ื งโดยไม่เสียกำรทรงตวั ๓. วง่ิ หลบหลกี สิ่งกีดขวำงได้อย่ำงคล่องแคลว่ ๔. รบั ลกู บอลที่กระดอนขนึ้ จำกพน้ื ได้ ตวั บง่ ช้ี ๒.๒ ใชม้ อื -ตาประสานสัมพนั า์กัน อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น ๑. จอ้ งมองได้ มองเหน็ ในระยะหำ่ ง ๘-๑๒ นิว้ ๒ – ๔ เดอื น ๑. มองตำมวัตถุท่ีเคล่อื นไหว ๒. กำหรอื จบั สง่ิ ของท่ีใสใ่ ห้ในมือ ๔ – ๖ เดอื น ๑. เอือ้ มควำ้ ใกล้ ๆ ตวั ได้ ๒. เปล่ียนมอื ถือของไดท้ ีละมอื ๖ – ๙ เดอื น ๑. มองตำมของตก ๒. จบั ของมำกระทบกันด้วยมือ ๒ ข้ำง ๓. เริม่ ใชน้ ้วิ หวั แม่มอื น้ิวชแี้ ละน้วิ กลำงหยบิ ของชนิ้ เลก็ ๆ ๙ เดือน – ๑ ปี ๑. หยบิ ของใส่และเอำออกจำกภำชนะได้ ๒. ถือ กัด และเคยี้ วอำหำรไดด้ ว้ ยตนเอง ๑ ปี – ๑ปี ๖ เดือน ๑. วำงก้อนไมซ้ อ้ นกนั ได้ ๒ กอ้ น ๒. เปดิ หนังสือทีละ ๓-๔ หนำ้ ๑ ปี ๖ เดอื น – ๒ ปี ๑. วำงกอ้ นไมซ้ อ้ นกนั ได้ ๔-๖ ก้อน ๒. เปิดพลกิ หน้ำหนงั สอื ไดท้ ลี ะแผน่ ๒ – ๓ ปี ๑. จับสีเทียนแท่งใหญ่เพอื่ ขดี เขียนได้ ๒. เลยี นแบบลำกเสน้ เปน็ วงตอ่ เนอื่ งหรือเสน้ ตรงแนวดงิ่ ๓ – ๔ ปี ๑. ใช้กรรไกรตัดกระดำษขำดจำกกนั ได้โดยใช้มือเดียว ๔ – ๕ ปี ๒. เขยี นรูปวงกลมตำมแบบได้ ๓. ร้อยวัสดุทม่ี ีรขู นำดเสน้ ผ่ำนศูนย์กลำง ๑ ซม. ได้ ๑. ใช้กรรไกรตดั กระดำษตำมแนวเสน้ ตรงได้ ๒. เขยี นรูปสี่เหล่ียมตำมแบบได้อยำ่ งมีมุมชัดเจน ๓. รอ้ ยวสั ดุที่มีรขู นำดเสน้ ผำ่ นศนู ยก์ ลำง ๐.๕ ซม. ได้

๑๐ อายด สภาพที่พงึ ประสงค์ ๕ – ๖ ปี ๑. ใช้กรรไกรตัดกระดำษตำมแนวเสน้ โค้งได้ ๒. เขียนรูปสำมเหลีย่ มตำมแบบได้อยำ่ งมมี มุ ชดั เจน ๓. รอ้ ยวัสดทุ ี่มีรขู นำดเสน้ ผ่ำนศนู ยก์ ลำง ๐.๒๕ ซม. ได้ มาตรฐานที่ ๓ มีสขด ภาพจิตดแี ละมคี วามสขด ตวั บง่ ช้ี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม อายด สภาพท่ีพึงประสงค์ แรกเกิด – ๓ ปี ๑. อำรมณด์ ี ยมิ้ แยม้ หัวเรำะงำ่ ย แววตำมคี วำมสขุ ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงอำรมณค์ วำมร้สู ึกไดเ้ หมำะสมกบั บำงสถำนกำรณ์ ๔ – ๕ ปี ๑. แสดงอำรมณค์ วำมรู้สึกไดต้ ำม สถำนกำรณ์ ๕ – ๖ ปี ๑. แสดงอำรมณ์ ควำมรสู้ ึกไดส้ อดคลอ้ งกบั สถำนกำรณอ์ ยำ่ งเหมำะสม ตัวบง่ ช้ี ๓.๒ มคี วามรสู้ ึกทีด่ ีตอ่ ตนเองและผ้อู ่ืน อายด สภาพท่พี ึงประสงค์ แรกเกิด – ๒ เดือน ๑. ย้ิมและหัวเรำะไดเ้ มื่อพอใจ ๒. สบตำ จ้องหน้ำพ่อแม่หรอื ผเู้ ลย้ี งดู ๒ – ๔ เดอื น ๑. ผกู พันกับพอ่ แม่ หรอื ผู้เลยี้ งดูใกล้ชิด ๒. ยม้ิ ทกั ทำยเม่ือเหน็ หนำ้ คนคุ้นเคย ๔ – ๖ เดือน ๖ – ๙ เดือน ๑. แสดงอำรมณท์ ี่หลำกหลำยผำ่ นกำรสง่ เสียง ๙ เดือน – ๑ ปี ๑. แสดงอำรมณ์ตำมควำมรสู้ กึ ๒. แสดงอำกำรกลวั คนแปลกหน้ำ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดือน ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี ๑. แสดงควำมสนใจติดผูเ้ ลย้ี งดตู นเองมำกกวำ่ คนอน่ื ๒. แสดงควำมต้องกำรของตนเองมำกข้นึ ๒ – ๓ ปี ๑. แสดงควำมชอบไม่ชอบส่วนตัวอย่ำงชดั เจน ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงควำมรกั ต่อผูอ้ ่ืน ๔ – ๕ ปี ๒. แสดงควำมกังวลเมอื่ แยกจำกคนใกล้ชดิ ๕ – ๖ ปี ๑. แสดงควำมภำคภมู ใิ จเมือ่ ทำส่งิ ต่ำง ๆ สำเรจ็ ๑. กล้ำพดู กล้ำแสดงออก ๒. แสดงควำมพอใจในผลงำนตนเอง ๑. กลำ้ พดู กล้ำแสดงออกอย่ำงเหมำะสมบำงสถำนกำรณ์ ๒. แสดงควำมพอใจในผลงำนและควำมสำมำรถของตนเอง ๑. กลำ้ พูดกล้ำแสดงออกอยำ่ งเหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ ๒. แสดงควำมพอใจในผลงำนและควำมสำมำรถของตนเองและผ้อู นื่

๑๑ มาตรฐานที่ ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลอื่ นไหว ตวั บ่งชี้ ๔.๑ สนใจ มคี วามสขด และแสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี และการเคลื่อนไหว อายด สภาพทพ่ี ึงประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดอื น ๑. หยดุ รอ้ งไห้เม่ือมีคนอุ้ม ๒ – ๔ เดอื น ๑. มปี ฏกิ ริ ิยำโต้ตอบด้วยกำรเคล่อื นไหวรำ่ งกำยเมือ่ เห็นหรอื ไดย้ นิ เสยี งคนและส่ิงท่ี คุน้ เคย ๔ – ๖ เดอื น ๑. ยม้ิ ทกั ทำยแสดงอำกำรดีใจ เมือ่ เหน็ ส่ิงทีต่ วั เองพอใจ ๖ – ๙ เดอื น ๒. จำหนำ้ แมแ่ ละคนคุ้นเคยได้ ๓. เลน่ ของเลน่ ทีม่ เี สียงได้ ๙ เดอื น – ๑ ปี ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดือน ๑. แสดงออกถงึ กำรรบั ร้อู ำรมณแ์ ละควำมรสู้ ึกของผู้อืน่ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี ๒. เลยี นแบบกริ ยิ ำท่ำทำงของผอู้ ื่นอยำ่ งงำ่ ย ๆ ๒ – ๓ ปี ๑. มองผู้ใหญ่หรอื เด็กคนอื่น ๆ ทำกิจกรรมอย่ำงใกล้ชิด ๓ – ๔ ปี ๑. เร่ิมคุ้นเคยกบั คนอ่ืน ๒. ขอควำมช่วยเหลือ เม่ือตอ้ งกำร ๑. ชอบกำรออกไปเท่ียวนอกบำ้ น ๒. แสดงควำมเปน็ เจำ้ ของ ๑. สนใจหรือมคี วำมสุขเมอื่ ไดย้ นิ เสียงดนตรี ๑. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงออกผ่ำนงำนศิลปะ ๒. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงออกผำ่ นเสยี งเพลง ดนตรี ๓. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงท่ำทำง/เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรี ๔ – ๕ ปี ๑. สนใจ มีควำมสุข และแสดงออกผ่ำนงำนศลิ ปะ ๒. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงออกผำ่ นเสียงเพลง ดนตรี ๓. สนใจ มีควำมสุข และแสดงท่ำทำง/เคล่อื นไหวประกอบเพลงและดนตรี ๕ – ๖ ปี ๑. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงออกผ่ำนงำนศิลปะ ๒. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงออกผ่ำนเสียงเพลง ดนตรี ๓. สนใจ มีควำมสขุ และแสดงท่ำทำง/เคล่ือนไหวประกอบเพลงจังหวะ และดนตรี

๑๒ มาตรฐานที่ ๕ มคี ณด ารรม จริยารรม และมจี ติ ใจท่ดี งี าม ตวั บง่ ชี้ ๕.๑ ซื่อสัตยส์ จด ริต อายด สภาพที่พงึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. บอกหรือชไ้ี ดว้ ่ำสงิ่ ใดเปน็ ของตนเองและสิง่ ใดเปน็ ของผ้อู ื่น ๔ – ๕ ปี ๑. ขออนุญำตหรอื รอคอยเม่อื ตอ้ งกำรส่ิงของของผู้อืน่ เม่อื มีผูช้ ้ีแนะ ๕ – ๖ ปี ๑. ขออนุญำตหรือรอคอยเม่อื ตอ้ งกำรสิ่งของของผู้อื่นด้วยตนเอง ตวั บ่งช้ี ๕.๒ มคี วามเมตตากรดณา มนี ้าใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปนั อายด สภาพท่พี ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงควำมรักเพอ่ื น และมเี มตตำต่อสัตวเ์ ลยี้ ง ๒. แสดงควำมมนี ้ำใจ ช่วยเหลอื แบง่ ปัน บุคคลอ่ืน ๔ – ๕ ปี ๑. แสดงควำมรกั เพือ่ น และมเี มตตำตอ่ สตั ว์เลี้ยง อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๒. แสดงควำมมนี ำ้ ใจ ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั บุคคลอ่ืน ๕ – ๖ ปี ๑. แสดงควำมรกั เพื่อน และมเี มตตำต่อสตั ว์เลี้ยง ๒. แสดงควำมมีนำ้ ใจ ช่วยเหลือ แบง่ ปนั บุคคลอื่น ตวั บง่ ช้ี ๕.๓ มีความเห็นอกเหน็ ใจผู้อืน่ อายด สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงสหี นำ้ หรือท่ำทำงรบั รู้ควำมรู้สกึ ผ้อู ่นื ๔ – ๕ ปี ๑. แสดงสหี นำ้ และท่ำทำงรบั รคู้ วำมรสู้ กึ ผ้อู นื่ ๕ – ๖ ปี ๑. แสดงสหี น้ำและท่ำทำงรับรคู้ วำมรู้สกึ ผู้อน่ื อยำ่ งสอดคล้องกบั สถำนกำรณ์ ตวั บง่ ช้ี ๕.๔ มีความรบั ผิดชอบ อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ทำงำนที่ไดร้ ับมอบหมำยจนสำเร็จ เม่ือมผี ้ชู ว่ ยเหลอื ๔ – ๕ ปี ๑. ทำงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยจนสำเรจ็ เมอ่ื มีผ้ชู ี้แนะ ๕ – ๖ ปี ๑. ทำงำนทไ่ี ดร้ ับมอบหมำยจนสำเรจ็ ดว้ ยตนเอง มาตรฐานท่ี ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏบิ ัตติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวบง่ ช้ี ๖.๑ ชว่ ยเหลือตนเองในการปฏิบตั ิกจิ วตั รประจาวัน อายด สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๖ – ๙ เดือน ๑. ต้องกำรถือขวดนมด้วยตนเอง ๙ เดอื น – ๑ ปี ๑. หยิบอำหำรกินได้ ๒. ดมื่ น้ำจำกแก้ว ๓. ให้ควำมร่วมมือเวลำแตง่ ตัว ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น ๑. ถอดเสอื้ ผำ้ ง่ำย ๆ ได้

๑๓ อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๑ ปี ๖ เดอื น – ๒ ปี ๒. เริม่ ชว่ ยเหลอื ตนเองในกำรแปรงฟนั ล้ำงมือ โดยมีผ้ใู หญ่ดแู ล ๒ – ๓ ปี ๓. เรมิ่ ฝึกขับถ่ำย ๓ – ๔ ปี ๑. ใชช้ อ้ นตักอำหำรเข้ำปำก แต่หกบ้ำง ๔ – ๕ ปี ๒. ชอบชว่ ยเหลืองำนบำ้ นง่ำย ๆ ๕ – ๖ ปี ๑. สวมเสื้อผ้ำโดยมีคนชว่ ย ๒. บอกได้วำ่ ตนเองต้องกำรขบั ถ่ำย ๑. แต่งตัวโดยมผี ชู้ ่วยเหลอื ๒. รบั ประทำนอำหำรด้วยตนเอง ๓. ใชห้ ้องนำ้ หอ้ งส้วม โดยมผี ู้ชว่ ยเหลอื ๑. แตง่ ตัวดว้ ยตนเอง ๒. รับประทำนอำหำรดว้ ยตนเอง ๓. ใช้ห้องน้ำห้องสว้ มด้วยตนเอง ๑. แต่งตวั ดว้ ยตนเองได้อยำ่ งคลอ่ งแคล่ว ๒. รบั ประทำนอำหำรดว้ ยตนเองอย่ำงถูกวิธี ๓. ใช้และทำควำมสะอำดหลังใชห้ ้องน้ำหอ้ งส้วม ดว้ ยตนเอง ตัวบ่งช้ี ๖.๒ มวี ินัยในตนเอง อายด สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขำ้ ทเี่ มอื่ มีผชู้ แ้ี นะ ๒. เข้ำแถวตำมลำดบั กอ่ นหลังไดเ้ ม่อื มีผู้ช้ีแนะ ๔ – ๕ ปี ๑. เกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้ำที่ดว้ ยตนเอง ๒. เขำ้ แถวตำมลำดบั กอ่ นหลังได้ด้วยตนเอง ๕ – ๖ ปี ๑. เก็บของเลน่ ของใช้เข้ำท่ีอย่ำงเรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง ๒. เขำ้ แถวตำมลำดับกอ่ นหลงั ได้ดว้ ยตนเอง ตวั บง่ ชี้ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง อายด สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ใช้สงิ่ ของเครือ่ งใชอ้ ย่ำงประหยดั และพอเพียง โดยกำรช่วยเหลอื ๔ – ๕ ปี ๑. ใช้สง่ิ ของเครอ่ื งใชอ้ ย่ำงประหยัดและพอเพยี ง เมอ่ื มีผู้ชแี้ นะ ๕ – ๖ ปี ๑. ใชส้ ิ่งของเครอ่ื งใช้อย่ำงประหยดั และพอเพียง ดว้ ยตนเอง

๑๔ มาตรฐานท่ี ๗ รกั ารรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม วฒั นารรมและความเปน็ ไทย ตัวบ่งชี้ ๗.๑ สนใจและเรียนร้สู ิ่งต่าง ๆ รอบตัว อายด สภาพที่พึงประสงค์ แรกเกิด – ๒ เดอื น ๑. สนใจมอง ใบหน้ำคนมำกกว่ำสงิ่ ของ ๒ – ๔ เดือน ๑. กรอกตำมองตำมสิง่ ของหรอื สงิ่ ท่ีมเี สยี ง ๔ – ๖ เดอื น ๑. มองส่ิงของท่อี ยรู่ อบ ๆ และในระยะใกล้ ๒. แสดงควำมอยำกรอู้ ยำกเหน็ เก่ียวกับส่ิงต่ำง ๆ และพยำยำมหยิบของในระยะท่ีเอ้อื มถงึ อายด สภาพที่พึงประสงค์ ๖ – ๙ เดือน ๑. เริม่ รจู้ กั สิ่งของในชวี ติ ประจำวัน ๙ เดือน – ๑ ปี ๑. รบั ร้แู ละแสดงออกถึงกำรกลับมำของบคุ คลหรือสง่ิ ของ ๑ ปี – ๑ปี ๖ เดอื น ๑. สำรวจสง่ิ ของ โดยใช้หลำย ๆ วธิ ี ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี ๑. สังเกต สำรวจลองผดิ ลองถูกกบั คุณสมบตั ิของสิ่งต่ำง ๆ ๒ – ๓ ปี ๑. อยำกเรยี นรสู้ ิง่ ตำ่ ง ๆ ๒. ถำมบอ่ ยถำมซ้ำ ๓. จดจอ่ ตอ่ สิ่งใดสง่ิ หน่ึงไดย้ ำวนำนขนึ้ ตัวบง่ ช้ี ๗.๒ ดแู ลรกั ษาารรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม อายด สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. มีสว่ นรว่ มดูแลรักษำธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดล้อมโดยกำรช่วยเหลือ ๒. เกบ็ และทง้ิ ขยะได้ถกู ทโี่ ดยกำรช่วยเหลอื ๔ – ๕ ปี ๑. มีส่วนรว่ มดแู ลรักษำธรรมชำติและส่งิ แวดล้อม เมอื่ มผี ู้ชแ้ี นะ ๒. เกบ็ และทิง้ ขยะไดถ้ ูกทีเ่ ม่ือมผี ู้ชแี้ นะ ๕ – ๖ ปี ๑. ดแู ลรกั ษำธรรมชำติและสง่ิ แวดล้อมด้วยตนเองและเป็นแบบอย่ำง ๒. เก็บและทิ้งขยะไดถ้ ูกทีด่ ว้ ยตนเองและเปน็ แบบอย่ำง ตวั บง่ ชี้ ๗.๓ มีมารยาทตามวัฒนารรมไทย และรักความเปน็ ไทย อายด สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ปฏบิ ัติตนตำมมำรยำทไทยไดเ้ มอ่ื มผี ู้ชแี้ นะ ๒. กล่ำวคำขอบคุณและขอโทษเม่อื มีผู้ชีแ้ นะ ๓. หยดุ ยนื เม่อื ไดย้ ินเพลงชำตไิ ทยและเพลงสรรเสรญิ พระบำรมี ๔ – ๕ ปี ๑. ปฏิบัติตนตำมมำรยำทไทยไดด้ ว้ ยตนเอง ๒. กล่ำวคำขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง ๓. ยนื ตรงเมือ่ ได้ยินเพลงชำตไิ ทยและเพลงสรรเสรญิ พระบำรมี ๕ – ๖ ปี ๑. ปฏบิ ตั ิตนตำมมำรยำทไทยไดต้ ำมกำลเทศะ ๒. กลำ่ วคำขอบคุณและขอโทษดว้ ยตนเอง ๓. ยืนตรงและร่วมรอ้ งเพลงชำติไทยและเพลงสรรเสรญิ พระบำรมี

๑๕ มาตรฐานที่ ๘ อยูร่ ว่ มกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสดขและปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของสังคม ในระบอบประชาาิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขด ตวั บง่ ช้ี ๘.๑ ยอมรับความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งบดคคล อายด สภาพท่ีพึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. เล่นและทำกิจกรรมรว่ มกบั เดก็ ท่ีแตกต่ำงไปจำกตน ๔ – ๕ ปี ๑. เลน่ และทำกิจกรรมร่วมกบั เดก็ ท่แี ตกตำ่ งไปจำกตน ๕ – ๖ ปี ๑. เล่นและทำกิจกรรมรว่ มกับเดก็ ที่แตกต่ำงไปจำกตน ตวั บ่งชี้ ๘.๒ มีปฏสิ ัมพนั าท์ ี่ดกี บั ผู้อน่ื อายด สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. เลน่ ร่วมกบั เพื่อนเมอ่ื มผี ชู้ ี้แนะ ๒. ยิ้มหรือทักทำยผู้ใหญแ่ ละบคุ คลทีค่ ุ้นเคย เมอื่ มีผชู้ ี้แนะ ๔ – ๕ ปี ๑. เล่นหรือทำงำนรว่ มกับเพื่อนเป็นกลมุ่ เมื่อมีผู้ชี้แนะ ๒. ยม้ิ ทกั ทำยหรอื พูดคุยกบั ผู้ใหญแ่ ละบุคคลท่คี ุ้นเคยไดด้ ้วยตนเอง ๕ – ๖ ปี ๑. เล่นหรอื ทำงำนร่วมมือกับเพ่อื นอย่ำงมีเป้ำหมำย ๒. ยม้ิ ทกั ทำยและพูดคุยกับผใู้ หญแ่ ละบุคคลทค่ี ุ้นเคยไดเ้ หมำะสมกบั สถำนกำรณ์ ตัวบง่ ชี้ ๘.๓ ปฏิบตั ติ นเบอื้ งตน้ ในการเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสังคม อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ปฏิบตั ิตำมข้อตกลงเม่ือมีผชู้ ้แี นะ ๒. ปฏิบัตติ นเปน็ ผนู้ ำและผ้ตู ำมเม่ือมีผู้ช้ีแนะ ๓. ยอมรับกำรประนปี ระนอมแกไ้ ขปญั หำเมอ่ื มผี ูช้ ้แี นะ ๔ – ๕ ปี ๑. มีส่วนรว่ มสร้ำงขอ้ ตกลงและปฏบิ ตั ิตำมขอ้ ตกลงเม่อื มีผชู้ แี้ นะ ๒. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้นำและผ้ตู ำมได้ดว้ ยตนเองเมื่อมีผู้ชี้แนะ ๓. ประนีประนอมแกไ้ ขปัญหำโดยปรำศจำกกำรใชค้ วำมรุนแรง เมื่อมีผชู้ ้ีแนะ ๕ – ๖ ปี ๑. มีสว่ นร่วมสร้ำงขอ้ ตกลงและปฏบิ ัตติ ำมข้อตกลงดว้ ยตนเอง ๒. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผนู้ ำและผู้ตำมได้เหมำะสมกบั สถำนกำรณ์ ๓. ประนีประนอมแก้ไขปัญหำโดยปรำศจำกกำรใช้ควำมรนุ แรงด้วยตนเอง

๑๖ มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสอ่ื สารไดเ้ หมาะสมตามศักยภาพ ตวั บ่งชี้ ๙.๑ รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อายด สภาพท่ีพึงประสงค์ แรกเกดิ – ๒ เดือน ๑. ตอบสนองต่อเสยี ง ๒ – ๔ เดอื น ๑. หยุดฟงั เสยี ง และหันตำมเสยี งเคำะ ๔ – ๖ เดือน ๑. หันตำมเสียงจ้องมองปำกคน ๖ – ๙ เดอื น ๑. รบั รู้ภำษำและแสดงสหี น้ำท่ำทำง ๒. หันหำเมือ่ เรียกช่ือ ๓. ตอบสนองต่อคำส่งั งำ่ ย ๆ ๙ เดือน – ๑ ปี ๑. รวู้ ำ่ คำ แต่ละคำมีควำมหมำยต่ำงกนั อย่ำงนอ้ ย ๓-๕ คำ ๒. ปฏิบตั ิตำมคำสัง่ ง่ำย ๆ โดยใช้ท่ำทำงประกอบ ๓. ตอบสนองต่อคำโดยใช้ทำ่ ทำงประกอบคำ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น ๑. หยบิ หรือช้ตี ำมคำบอก ๒. ชส้ี ่วนตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำยตำมคำบอกอยำ่ งน้อย ๑ ส่วน ๑ ปี ๖ เดอื น – ๒ ปี ๑. ปฏบิ ัตติ ำมคำสัง่ ได้ ทลี ะ ๑ คำส่ัง ๒. สนใจของจำลองหรือรูปภำพตำมระยะเวลำทค่ี รกู ำหนดไว้ ๒ – ๓ ปี ๑. ฟังและสนใจดหู นังสือนิทำนภำพ ๒. แสดงทำ่ ทำงประกอบเพลง ๓. ชส้ี ว่ นต่ำง ๆ ของรำ่ งกำยตำมคำบอกอยำ่ งน้อย ๗ สว่ น ตัวบ่งช้ี ๙.๒ แสดงออกและ/หรอื พดู เพอื่ สอื่ ความหมายได้ อายด สภาพทีพ่ ึงประสงค์ แรกเกิด – ๒ เดอื น ๑. สง่ เสียงในคอ ๒ – ๔ เดอื น ๑. ส่งเสยี ง ออ้ แอ้ โต้ตอบ ๔ – ๖ เดือน ๑. ส่งเสียงที่ไม่มคี วำมหมำย ๒. ส่งเสยี งไดห้ ลำยเสียง ๖ – ๙ เดอื น ๑. พยำยำมเลยี นเสียงตำ่ ง ๆ ๒. ทำเสยี งซำ้ ๆ เช่น หม่ำ หม่ำ ๙ เดอื น – ๑ ปี ๑. รจู้ กั เชื่อมโยงคำพูดกับกำรกระทำ เช่น ไม่จะสน่ั หัว ๒. พดู คำพยำงค์เดียวได้อย่ำงนอ้ ย ๒ คำ ๑ ปี – ๑ ปี ๖ เดอื น ๑. พดู คำพยำงคเ์ ดียว ทมี่ ีควำมหมำยไดอ้ ยำ่ งนอ้ ย ๒ คำ ๑ ปี ๖ เดือน – ๒ ปี ๑. พูดคำตำมพยำงคท์ ำ้ ย ๒ – ๓ ปี ๑. พดู เป็นวลสี ้นั ๆ เชน่ ไปเที่ยว กินขำ้ ว ๒. มกั จะถำมคำถำม “อะไร” และ “ทำไม”

๑๗ ตัวบง่ ช้ี ๙.๓ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรือ่ งใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจ อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. แสดงอำกำรรับรหู้ รอื เขำ้ ใจจำกเร่อื งที่ฟัง ๒. ตอบคำถำมงำ่ ย ๆ เกยี่ วกบั ตนเองได้ ๔ – ๕ ปี ๑. แสดงอำกำรรับรูห้ รอื เข้ำใจและสนทนำโต้ตอบจำกเรือ่ งทฟ่ี งั ๒. ตอบคำถำมเกีย่ วกบั เรื่องรอบตัว ๕ – ๖ ปี ๑. บอกควำมต้องกำรของตนเองได้ ๒. ตอบคำถำมเก่ยี วกบั เรื่องเล่ำหรอื นทิ ำน ๓. เล่ำเร่อื งเปน็ ประโยคอยำ่ งต่อเนื่อง ตวั บง่ ชี้ ๙.๔ อ่าน เขียนภาพและสัญลักษณ์ได้ อายด สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. อำ่ นภำพ และเข้ำใจควำมหมำยของภำพ ๒. เขียนขดี เขยี่ อย่ำงอิสระ ๔ – ๕ ปี ๑. อ่ำนภำพ สัญลักษณ์ คำ พรอ้ มท้งั ชห้ี รือกวำดตำมองขอ้ ควำมตำมบรรทัด ๒. เขียนเสน้ พื้นฐำน ๑๓ เสน้ ๓. เขยี นคลำ้ ยตัวอกั ษร ๕ – ๖ ปี ๑. อำ่ นภำพสัญลักษณ์ คำ ด้วยกำรชหี้ รอื กวำดตำมอง จดุ เรม่ิ ตน้ และจดุ จบของ ข้อควำม ๒. เขยี นตวั อกั ษรตำมรอยปะ ๓. กำรเขยี นชือ่ ของตนเองตำมแบบ เขยี นขอ้ ควำมดว้ ยวิธที ่ีคิดข้นึ เอง มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคดิ ทีเ่ ปน็ พนื้ ฐานในการเรยี นรู้ตามศกั ยภาพ ตวั บ่งช้ี ๑๐.๑ มีความสามารถในการคดิ รวบยอด อายด สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. บอกลกั ษณะของสง่ิ ตำ่ ง ๆ จำกกำรสงั เกตโดยใชป้ ระสำทสัมผัส ๒. จบั คหู่ รอื เปรยี บเทยี บสิง่ ต่ำง ๆ โดยใช้ลักษณะหรือหนำ้ ที่กำรใชง้ ำน เพียงลักษณะเดยี ว ๓. คัดแยกสงิ่ ตำ่ ง ๆ ตำมลกั ษณะหรือหนำ้ ทก่ี ำรใชง้ ำน ๔ – ๕ ปี ๑. บอกลักษณะ และส่วนประกอบของสง่ิ ตำ่ ง ๆ จำกกำรสงั เกตโดยใช้ประสำท สมั ผัส ๒. จับคู่และเปรียบเทยี บควำมแตกตำ่ งหรอื ควำมเหมือนของสง่ิ ต่ำง ๆ โดยใช้ ลกั ษณะที่สงั เกตพบเพยี งลักษณะเดียว ๓. จำแนกและจัดกลุ่มสง่ิ ตำ่ ง ๆ โดยใชอ้ ย่ำงนอ้ ยหน่ึงลกั ษณะเป็นเกณฑ์ ๔. เรยี งลำดับขนำดของส่ิงของ อยำ่ งนอ้ ย ๓ ลำดับ ๕ – ๖ ปี ๑. บอกลักษณะส่วนประกอบ กำรเปลี่ยนแปลงหรอื ควำมสมั พนั ธข์ องส่ิงต่ำง ๆ จำก กำรสังเกตโดยใช้ประสำทสัมผสั

๑๘ อายด สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๒. จบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บควำมแตกตำ่ งและควำมเหมือนของส่ิงตำ่ ง ๆ โดยใช้ ลกั ษณะท่สี ังเกตพบสองลกั ษณะข้นึ ไป ๓. จำแนกและจัดกลมุ่ สิ่งต่ำง ๆ โดยใชต้ ัง้ แต่สองลกั ษณะขึ้นไปเปน็ เกณฑ์ ๔. เรยี งลำดับขนำดของสง่ิ ของอยำ่ งนอ้ ย ๔ ลำดับ ตัวบ่งช้ี ๑๐.๒ มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตดผล อายด สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ระบผุ ลทเ่ี กดิ ขึน้ ในเหตกุ ำรณห์ รอื กำรกระทำเมื่อมีผชู้ ้ีแนะ ๔ – ๕ ปี ๑. ระบุสำเหตหุ รือผลที่เกดิ ขน้ึ ในเหตุกำรณห์ รือกำรกระทำเมอื่ มผี ูช้ แ้ี นะ ๒. คำดเดำ หรอื คำดคะเนสง่ิ ทอี่ ำจจะเกดิ ข้นึ ๕ – ๖ ปี ๑. อธิบำยเชื่อมโยงสำเหตแุ ละผลทเ่ี กิดขึน้ ในเหตุกำรณ์หรอื กำรกระทำด้วยตนเอง ๒. คำดเดำ หรือคำดคะเน สิง่ ท่ีอำจจะเกิดขึ้น หรือมสี ว่ นรว่ มในกำรลงควำมเห็นจำก ขอ้ มลู ตวั บง่ ชี้ ๑๐.๓ มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและตดั สินใจ อายด สภาพท่พี ึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ตดั สนิ ใจในเรื่องง่ำย ๆ ๒. แกป้ ญั หำโดยลองผดิ ลองถูก ๔ – ๕ ปี ๑. ตัดสินใจในเรื่องง่ำย ๆ และเร่ิมเรยี นรผู้ ลท่ีเกิดขน้ึ ๒. ระบปุ ญั หำ และแกป้ ัญหำโดยลองผิดลองถกู ๕ – ๖ ปี ๑. ตัดสินใจในเรือ่ งงำ่ ย ๆ และยอมรบั ผลทเี่ กดิ ข้ึน ๒. ระบุปัญหำสร้ำงทำงเลอื กและเลือกวิธีแก้ปัญหำ มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สร้างสรรคต์ ามศกั ยภาพ ตัวบ่งชี้ ๑๑.๑ ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ อายด สภาพที่พึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. สรำ้ งผลงำนศลิ ปะเพ่ือสือ่ สำรควำมคดิ อยำ่ งอสิ ระ ๔ – ๕ ปี ๑. สรำ้ งผลงำนศลิ ปะเพอ่ื ส่อื สำรควำมคิด ควำมรู้สึกของตนเอง ๕ – ๖ ปี ๑. สร้ำงผลงำนศิลปะเพื่อสอ่ื สำรควำมคดิ ควำมรู้สกึ ของตนเองโดยมกี ำรดัดแปลง แปลกใหม่จำกเดิม

๑๙ ตวั บง่ ชี้ ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ อายด สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. เคล่ือนไหวท่ำทำงเพ่ือส่อื สำรควำมคดิ ควำมรู้สึกของตนเอง ๔ – ๕ ปี ๑. เคลอื่ นไหวทำ่ ทำงเพื่อสื่อสำรควำมคดิ ควำมรู้สึกของตนเองอย่ำงหลำกหลำยหรือ แปลกใหม่ ๕ – ๖ ปี ๑. เคล่ือนไหวท่ำทำงเพอ่ื สอ่ื สำรควำมคดิ ควำมรู้สกึ ของตนเองอย่ำงหลำกหลำยและ แปลกใหม่ มาตรฐานท่ี ๑๒ มีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรแู้ ละมคี วามสามารถในการแสวงหาความรไู้ ด้ ตามศกั ยภาพ ตัวบ่งชี้ ๑๒.๑ มเี จตคติท่ดี ีต่อการเรยี นรู้ อายด สภาพท่ีพึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. กระตอื รอื ร้นในกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม ๒. สนใจฟงั ดว้ ยตนเอง ๔ – ๕ ปี ๑. กระตือรือรน้ ในกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรม ๒. สนใจเกี่ยวกบั สญั ลักษณห์ รือตัวหนงั สือทพ่ี บเห็น ๕ – ๖ ปี ๑. กระตือรอื รน้ ในกำรร่วมกิจกรรมตง้ั แต่ต้นจนจบ ๒. สนใจหยบิ หนงั สือมำอำ่ นส่ือควำมคดิ ด้วยตนเอง ตวั บ่งชี้ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ อายด สภาพที่พึงประสงค์ ๓ – ๔ ปี ๑. ใช้ประโยคคำถำมว่ำ “ใคร” “อะไร” ในกำรคน้ หำคำตอบ ๔ – ๕ ปี ๑. ค้นหำคำตอบของข้อสงสยั ตำ่ ง ๆ ตำมวธิ ีกำรท่ีมีผชู้ ้แี นะ ๒. ใชป้ ระโยคคำถำมว่ำ “ทไ่ี หน” “ทำไม” ในกำรค้นหำคำตอบ ๕ – ๖ ปี ๑. ค้นหำคำตอบของขอ้ สงสยั ต่ำง ๆ ตำมวิธีกำรของตนเอง ๒. ใช้ประโยคคำถำมวำ่ “เมอื่ ไร” “อยำ่ งไร” ในกำรคน้ หำคำตอบ

๒๐ มาตรฐาน ๑๓ มกี ารพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ ารแต่ละประเภท มาตรฐาน ๑๓.๑ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางการเห็น ตวั บง่ ช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ๑. มคี วำมสำมำรถในกำรบูรณำกำร ๑.๑ รบั รู้ต่อกำรใช้ประสำทสัมผัสทำงกำรเหน็ ท่ีเหลืออยู่ ประสำทสัมผสั ท่เี หลอื อยใู่ นกำร (สำหรับบุคคลสำยตำเลือนรำง) ในกำรมองสิ่งตำ่ ง ๆ รอบตวั ได้ ดำรงชวี ติ ๑.๒ รับรู้ตอ่ กำรใช้ประสำทสมั ผัสทำงกำรได้ยนิ เสียงตำ่ ง ๆ ใน ๒. มีควำมสำมำรถในกำรสร้ำง สภำพแวดล้อมได้ ควำมคุ้นเคยกับสภำพแวดล้อม ๑.๓ รบั รู้ต่อกำรใชป้ ระสำทสัมผัสทำงกำรดมกลิน่ สง่ิ ตำ่ ง ๆ และกำรเคลอ่ื นไหวของคนตำบอด รอบตัวได้ ๓. มีกำรเตรียมควำมพรอ้ มในกำรอ่ำน ๑.๔ รับรู้ต่อกำรใช้ประสำทสัมผัสทำงกำรชมิ รสสิ่งต่ำง ๆ ใน อักษรเบรลล์ ชีวิตประจำวนั ได้ ๔. มกี ำรเตรยี มควำมพร้อมในกำรเขยี น ๑.๕ รบั รู้ตอ่ กำร ใช้ประสำทสัมผสั ทำงผวิ กำยสมั ผัสสงิ่ ต่ำง ๆ อักษรเบรลล์ ๕. มีควำมสำมำรถในกำรอ่ำนอกั ษรเบรลล์ รอบตัวและในสภำพแวดลอ้ มได้ ๑.๖ รบั รู้ตอ่ กำรใชป้ ระสำทกำรรบั รู้กำรทรงตัวได้ พยัญชนะไทยที่มเี ซลลเ์ ดยี วและตวั เลข ๑.๗ รบั รู้ต่อกำรใช้ประสำทกำรรบั รู้กำรเคล่อื นไหวเอ็นและข้อต่อได้ ๖. มีควำมสำมำรถในกำรเขยี นอกั ษรเบรลล์ ๑.๘ ใชป้ ระสำทสมั ผสั ในกำรรบั ประทำนอำหำร พยัญชนะไทยท่ีมีเซลล์เดียวและตัวเลข ๒.๑ มคี วำมคดิ รวบยอดท่เี ก่ียวข้องกบั กำรสรำ้ งควำมคุน้ เคยกบั ๗. มีควำมสำมำรถในกำรใช้ลูกคิด สภำพแวดล้อม และกำรเคล่อื นไหวของคนตำบอด ๘. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีส่ิงอำนวยควำม ๒.๒ เดินทำงกับผ้นู ำทำงได้อย่ำง เหมำะสมและปลอดภยั สะดวก เครอ่ื งช่วยในกำรเรียนรู้ ๒.๓ เดนิ โดยอสิ ระในสถำนที่ค้นุ เคยได้อยำ่ งอสิ ระและและ ปลอดภยั ๓.๑ เคล่อื นท่มี อื และนว้ิ มือในกำรสัมผสั จุดนูน เส้นนนู และภำพ นูนไดต้ ำมแบบ ๔.๑ ใสแ่ ละเลื่อนกระดำษในสเลส (Slate) ได้อยำ่ งถูกวิธี ๔.๒ จบั สไตลัส (Stulus) ในกำรเขยี นจดุ นนู ได้อย่ำงถกู วิธี ๕.๑ กำรอำ่ นอกั ษรเบรลล์ไทยท่ีเปน็ พยญั ชนะเซลล์เดยี วและ ตวั เลข ๖.๑ กำรเขยี นอกั ษรเบรลลท์ ี่เปน็ พยญั ชนะไทยเซลล์เดียว และ ตัวเลข ๗.๑ กำรใช้ลูกคดิ ในกำรบวกลบงำ่ ย ๆ ๘.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในกำรสือ่ สำรทำงเลือก ๘.๒. ใช้อุปกรณช์ ่วยในกำรเข้ำถงึ คอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื กำรเรียนรู้ ๘.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผ่ำนคอมพิวเตอรเ์ พ่อื ชว่ ยในกำรเรียนรู้

๒๑ มาตรฐาน ๑๓.๒ การพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางการได้ยนิ ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๑. สำมำรถใช้และดูแลเครือ่ งชว่ ยฟงั หรอื ๑.๑ บอกสว่ นต่ำง ๆ ของเครือ่ งชว่ ยฟังหรือเครือ่ งประสำทหูเทียม เครอื่ งประสำทหูเทยี ม ๑.๒ ใช้เครอ่ื งชว่ ยฟงั ได้ถูกต้องหรอื เครอื่ งประสำทหเู ทียม ๒. สำมำรถใชก้ ำรได้ยินทห่ี ลงเหลืออยใู่ น ๑.๓ ดูแลรักษำเครือ่ งช่วยฟังหรือเครอื่ งประสำทหูเทียม ชวี ิตประจำวัน ๒.๑ รู้ว่ำมเี สยี ง/ไมม่ ีเสียง ๓. สำมำรถเปลง่ เสยี งหรือพดู ตำมแบบ ๒.๒ บอกเสียงทไ่ี ด้ยนิ ๒.๓ บอกแหลง่ ท่มี ำของเสียง ๔. สำมำรถอำ่ นริมฝีปำก ๓.๑ เปลง่ เสยี งคำท่ไี ม่มคี วำมหมำยตำมแบบ ๕. สำมำรถใช้ภำษำท่ำทำงและภำษำมอื ๓.๒ พดู คำงำ่ ย ๆ ทีม่ ีควำมหมำยตำมแบบ ในกำรส่อื สำร ๓.๓ พูดเปน็ วลีง่ำย ๆ ตำมแบบ ๓.๔ พูดเป็นประโยคง่ำย ๆตำมแบบ ๖. สำมำรถสะกดนิว้ มอื ๔.๑ อำ่ นรมิ ฝปี ำกและเข้ำใจควำมหมำย ๗. สำมำรถใช้เทคโนโลยีสิ่งอำนวยควำม ๔.๒ ทำรูปปำกเป็นคำทม่ี ีควำมหมำยและผ้อู ่ืนเข้ำใจได้ สะดวก เคร่อื งชว่ ยในกำรเรียนรู้ ๔.๓ ทำรูปปำกเป็นวลีง่ำย ๆ และผู้อน่ื เขำ้ ใจได้ ๔.๔ ทำรปู ปำกเปน็ ประโยคง่ำย ๆ และผู้อืน่ เข้ำใจได้ ๕.๑ ใช้ภำษำท่ำทำงในกำรสื่อสำร ๕.๒ ใช้ภำษำมอื บอกชอ่ื สิง่ ต่ำง ๆ รอบตวั ๕.๓ ใชภ้ ำษำมือเพอื่ กำรสนทนำและสื่อสำร ๖.๑ สะกดนว้ิ มอื พยญั ชนะไทย ๖.๒ สะกดนิ้วมอื สระและสระเปลยี่ นรปู ๖.๓ สะกดนิ้วมอื วรรณยุกต์ ๖.๔ สะกดนิ้วมือชอื่ ตนเอง ๖.๕ สะกดนิ้วมือคำงำ่ ย ๆ ๖.๖ สะกดนว้ิ มอื อักษรภำษำอังกฤษ ๗.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ช่วยในกำรส่ือสำรทำงเลอื ก ๗.๒. ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในกำรเข้ำถงึ คอมพิวเตอรเ์ พื่อกำรเรียนรู้ ๗.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผำ่ นคอมพิวเตอรเ์ พ่อื ช่วยในกำรเรียนรู้

๒๒ มาตรฐาน ๑๓.๓ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสติปัญญา ตัวบ่งชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๑. สำมำรถสอื่ สำรไดเ้ หมำะสมกบั ๑.๑ ส่ือสำรได้เหมำะสมกับสถำนกำรณ์ สถำนกำรณ์ ๒. สำมำรถดูแลตนเองและควำมปลอดภัย ๒.๑ ดแู ลตนเองและควำมปลอดภัยในชีวิตประจำวนั ในชวี ิตประจำวัน ๓. มีปฏสิ มั พันธท์ ำงสงั คมกับผูอ้ น่ื อยำ่ ง ๓.๑ มีปฏสิ ัมพันธ์ทำงสังคมกบั ผู้อืน่ อยำ่ งเหมำะสม เหมำะสม ๔. รู้จักใชท้ รัพยำกรในชมุ ชน ๔.๑ ใชส้ ง่ิ ของสำธำรณะอยำ่ งเหมำะสม ๕. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีสง่ิ อำนวยควำม ๕.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในกำรสอ่ื สำรทำงเลือก สะดวก เครื่องช่วยในกำรเรียนรู้ ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในกำรเข้ำถึงคอมพวิ เตอร์เพ่อื กำรเรียนรู้ ๕.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพิวเตอร์เพอ่ื ช่วยในกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ๑๓.๔ การพฒั นาทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางรา่ งกายหรือการเคลอ่ื นไหวหรอื สขด ภาพ ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๑. ดแู ลสุขอนำมัยเพอ่ื ปอ้ งกัน ๑.๑ ดแู ลหรอื ทำควำมสะอำดแผลกดทับได้ ภำวะแทรกซ้อน ๑.๒ บรหิ ำรกลำ้ มเนือ้ และขอ้ ตอ่ เพ่ือคงสภำพได้ ๑.๓ จดั ท่ำน่งั ทำ่ นอน หรือทำกิจกรรมในท่ำทำงทีถ่ ูกต้อง ๑.๔ ดแู ลอุปกรณ์ เครือ่ งช่วยสว่ นตวั ได้ ๒. สำมำรถใช้และดแู ลรักษำอปุ กรณ์ ๒.๑ เคล่อื นย้ำยตนเองในกำรใช้อุปกรณ์เครื่องชว่ ย เครือ่ งช่วยในกำรเคลอื่ นย้ำยตนเอง ๒.๒ ทรงตวั อย่ใู นอุปกรณ์เครอื่ งชว่ ยในกำรเคลอ่ื นยำ้ ยตนเองได้ (Walker รถเข็น ไมเ้ ทำ้ ไมค้ ำ้ ยัน ฯลฯ) ๒.๓ เคลอ่ื นยำ้ ยตนเองดว้ ยอปุ กรณเ์ ครอ่ื งชว่ ย บนทำงรำบและทำง ลำดได้ ๒.๔ เก็บรกั ษำและดแู ลอปุ กรณเ์ ครื่องช่วยในกำรเคล่ือนยำ้ ยตนเองได้ ๓. สำมำรถใช้และดูแลรักษำกำย ๓.๑ ถอดและใส่กำยอุปกรณเ์ สรมิ กำยอุปกรณ์ อปุ กรณ์ดัดแปลง อปุ กรณเ์ สริม กำยอุปกรณ์ อุปกรณ์ ๓.๒ ใช้กำยอปุ กรณ์เสริม กำยอปุ กรณ์ อปุ กรณ์ดัดแปลงในกำรทำ ดัดแปลง กิจกรรม ๓.๓ เก็บรักษำและดแู ลกำยอุปกรณ์เสรมิ กำยอปุ กรณ์ อุปกรณ์ ดัดแปลง ๔. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีสงิ่ อำนวยควำม ๔.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในกำรสื่อสำรทำงเลอื ก สะดวก เคร่อื งชว่ ยในกำรเรยี นรู้ ๔.๒. ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในกำรเขำ้ ถงึ คอมพวิ เตอร์เพ่ือกำรเรยี นรู้ ๔.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพิวเตอรเ์ พือ่ ช่วยในกำรเรียนรู้ ๕. ควบคุมอวยั วะที่ใช้ในกำรพดู กำรเค้ียว ๕.๑ ควบคมุ กล้ำมเน้อื รอบปำกได้ และกำรกลนื ๕.๒ ควบคมุ กำรใชล้ นิ้ ได้ ๕.๓ เป่ำและดูดได้

๒๓ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๕.๔ เคีย้ วและกลืนได้ ๕.๕ ควบคมุ น้ำลำยได้ มาตรฐาน ๑๓.๕ การพัฒนาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางการเรยี นรู้ ตวั บง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ๑. มีควำมสำมำรถในกำรรบั รู้กำรไดย้ ิน ๑.๑ จำเสยี งจำกสงิ่ ทีไ่ ดย้ นิ ในชีวิตประจำวนั ๒. มีควำมสำมำรถในกำรรบั รู้กำรเห็น ๑.๒ จำแนกเสียงท่ีแตกต่ำง ๑.๓ แยกเสียงท่กี ำหนดใหอ้ อกจำกเสยี งอ่ืน ๆ ได้ ๒.๑ กำรจำภำพท่ีเหน็ ในชีวิตประจำวัน ๒.๒. กำรแยกวัตถุ ภำพ ตัวพยัญชนะทกี่ ำหนดให้อยูใ่ นพนื้ ฉำกท่ี ตำ่ งกนั ๒.๓ ตำกับมือเคล่อื นไหวสัมพันธก์ ัน ๒.๔ กำรบอกสว่ นทห่ี ำยไปของรูปภำพท่กี ำหนด ๒.๕ บอกควำมสมั พนั ธข์ องคุณลักษณะตำแหนง่ ลำดบั รูปร่ำงของ สงิ่ ที่อยู่รอบตวั ๓. มคี วำมสำมำรถในกำรจัดลำดับควำมคิด ๓.๑ เรียงลำดับเหตกุ ำรณ์ ขนั้ ตอนในกำรเลน่ หรอื กำรทำกิจกรรมได้ ๔. มคี วำมสำมำรถในกำรจดั ระเบยี บ ๔.๑ จดั กำรตนเองได้ ตนเอง ๔.๒ จดั ลำดับกจิ กรรมตนเองได้ ๕. มีควำมสำมำรถในกำรบอกตำแหน่ง/ ๕.๑ บอกทศิ ทำงหรือตำแหนง่ ของสง่ิ ต่ำง ๆ ทศิ ทำง ๖. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีส่ิงอำนวยควำม ๖.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำรสือ่ สำรทำงเลอื ก สะดวก เครอื่ งชว่ ยในกำรเรยี นรู้ ๖.๒. ใช้อปุ กรณ์ช่วยในกำรเขำ้ ถงึ คอมพิวเตอรเ์ พื่อกำรเรียนรู้ ๖.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพิวเตอร์เพ่อื ช่วยในกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ๑๓.๖ การพัฒนาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางการพดู และภาษา ตวั บง่ ช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๑. สำมำรถควบคมุ อวยั วะในกำรออกเสยี ง ๑.๑ เคลอื่ นไหวอวยั วะในกำรพูด ๑.๒ ควบคุมอวยั วะในกำรพดู ๒. สำมำรถออกเสยี งตำมหนว่ ยเสียงได้ ๒.๑ กำรออกเสยี ง หนว่ ยเสยี งสระได้ชัดเจน ชดั เจน ๒.๒ กำรออกเสยี ง หนว่ ยเสียงพยัญชนะได้ชัดเจน ๒.๓ กำรออกเสยี งคำไดช้ ัดเจน ๓. สำมำรถเปลง่ เสยี งให้เหมำะสมกบั ธรรมชำติของแต่ละคน ๓.๑ เปล่งเสยี งในระดับเสยี งที่ทำให้ผอู้ ่ืนฟงั ได้

๒๔ ตวั บ่งช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๔. สำมำรถควบคุมจงั หวะกำรพูด ๔.๑ ควบคุมจังหวะกำรพดู ไดเ้ ปน็ จังหวะปกติ ๕. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีส่ิงอำนวยควำม (๗๐-๑๐๐ คำตอ่ นำท)ี สะดวก เคร่ืองช่วยในกำรเรยี นรู้ ๔.๒ พดู ไดค้ ล่องหรือลดภำวะกำรติดอ่ำง ๔.๓ พูดเวน้ วรรคตอนได้ถกู ต้อง ๕.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในกำรสื่อสำรทำงเลือก ๕.๒. ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำรเข้ำถึงคอมพวิ เตอรเ์ พือ่ กำรเรียนรู้ ๕.๓ ใช้โปรแกรมเสรมิ ผำ่ นคอมพิวเตอร์เพ่ือชว่ ยในกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๗ การพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางพฤติกรรมหรอื อารมณ์ ตวั บ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๑. สำมำรถจดั กำรกบั อำรมณ์ของตนเองได้ ๑.๑ ควบคุมควำมรสู้ กึ หรอื อำรมณ์ของตนเองได้ ๒. สำมำรถควบคุมพฤติกรรมของตนเอง ๑.๒ แสดงออกทำงอำรมณ์อย่ำงเหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ ได้อย่ำงเหมำะสม ตัวบ่งช้ี ๒.๑ ควบคุมตนเองในกำรทำกจิ กรรมร่วมกับเพ่อื นได้อยำ่ ง เหมำะสม ๓. สำมำรถปรับตัวในกำรอย่รู ว่ มกบั สงั คม สภาพที่พงึ ประสงค์ ๔. สำมำรถใชเ้ ทคโนโลยีสิง่ อำนวยควำม ๓.๑ กำรปฏิบัติตำมกฎกตกิ ำและมำรยำททำงสงั คมได้อย่ำงถูกต้อง สะดวก เครื่องช่วยในกำรเรียนรู้ ๔.๑ ใช้อปุ กรณ์ช่วยในกำรสอ่ื สำรทำงเลอื ก ๔.๒. ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในกำรเข้ำถงึ คอมพวิ เตอรเ์ พ่ือกำรเรยี นรู้ ๔.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผ่ำนคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ ชว่ ยในกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ๑๓.๘ การพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะบดคคลออทิสติก ตัวบง่ ชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ๑. ตอบสนองต่อสิง่ เรำ้ จำกประสำทสัมผัส ๑.๑ ตอบสนองตอ่ กำรทรงตวั ได้เหมำะสม ไดเ้ หมำะสม ๑.๒ ตอบสนองต่อกำรเคล่อื นไหวเอ็นและขอ้ ตอ่ ไดเ้ หมำะสม ๑.๓ ตอบสนองตอ่ กำยสมั ผัสไดเ้ หมำะสม ๑.๔ ตอบสนองต่อกำรดมกลิน่ ไดเ้ หมำะสม ๑.๕ ตอบสนองตอ่ เสียงท่ไี ด้ยินได้เหมำะสม ๑.๖ ตอบสนองต่อกำรเห็นไดเ้ หมำะสม ๑.๗ ตอบสนองต่อกำรลิ้มรสได้เหมำะสม ๒. เข้ำใจภำษำและแสดงออกทำงภำษำได้ ๒.๑ ปฏบิ ัตติ ำมคำสัง่ ได้ อย่ำงเหมำะสม ๒.๒ สือ่ สำรโดยกำรใช้ท่ำทำง รูปภำพ สญั ลักษณ์คำพูดใน ชวี ติ ประจำวนั ๓. แสดงพฤติกรรมทเี่ หมำะสมตำม ๓.๑ รับรแู้ ละแสดงอำรมณข์ องตนเองและบคุ คลอื่นอยำ่ งเหมำะสม สถำนกำรณ์ ๓.๒ ปฏิบัติตำมข้อตกลงของห้องเรยี นและโรงเรียน ๓.๓ ปฏิบัตติ นเหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ ตำ่ ง ๆ

ตัวบง่ ช้ี ๒๕ ๔. สำมำรถใช้เทคโนโลยีสงิ่ อำนวยควำม สภาพที่พงึ ประสงค์ สะดวก เครอ่ื งช่วยในกำรเรยี นรู้ ๓.๔ สำมำรถรอคอยในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ได้ ๓.๕ เขำ้ ใจและยอมรับกำรเปลยี่ นแปลงในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ได้ ๓.๖ สำมำรถควบคมุ ตนเองในสถำนกำรณ์ตำ่ ง ๆ ได้ ๔.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำรสอื่ สำรทำงเลอื ก ๔.๒. ใช้อปุ กรณ์ชว่ ยในกำรเขำ้ ถึงคอมพิวเตอรเ์ พ่ือกำรเรียนรู้ ๔.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผ่ำนคอมพวิ เตอร์เพอื่ ช่วยในกำรเรียนรู้ การจดั เวลาเรียน หลักสตู รกำรศึกษำปฐมวยั สำหรบั เด็กท่ีมีควำมต้องกำรจำเป็นพเิ ศษ กำหนดกรอบโครงสรำ้ งเวลำในกำร จดั ประสบกำรณ์ใหก้ ับเด็กใน ๑ ปกี ำรศึกษำโดยประมำณ มีเวลำเรียนไม่นอ้ ยกว่ำ ๑๘๐ วนั ในแตล่ ะวันจะใช้เวลำ ไม่นอ้ ยกว่ำ ๕ ชัว่ โมง ท้ังนี้ ข้ึนอยู่กบั อำยุของเด็กทเ่ี รม่ิ เขำ้ สถำนศกึ ษำหรือศนู ยก์ ำรศกึ ษำพิเศษ เวลำเรยี นจึงขึ้นอยู่กับ ควำมพร้อม พฒั นำกำร และศกั ยภำพของเดก็ พกิ ำรตำมประเภท และสภำพควำมพกิ ำรของแต่ละบุคคล สาระการเรียนรู้ สำระกำรเรียนรู้ เป็นสื่อกลำงในกำรจัดประสบกำรณ์กำรเรยี นรู้ใหก้ ับเด็ก เพ่อื ส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กทุกด้ำน ให้เป็นไปตำมจดุ หมำยของหลกั สตู รทกี่ ำหนด ประกอบด้วย ประสบกำรณ์สำคัญ และสำระทค่ี วรเรียนรู้ ดังน้ี ๑. ประสบการณส์ าคัญ ประสบกำรณ์สำคัญเป็นแนวทำงสำหรับผู้สอนนำไปใช้ในกำรออกแบบกำรจัด ประสบกำรณใ์ หเ้ ด็กปฐมวัยเรียนรู้ ลงมอื ปฏบิ ัติ และไดร้ บั กำรสง่ เสรมิ พัฒนำกำรครอบคลมุ ทกุ ด้ำน ดังน้ี ๑.๑ ประสบการณ์สาคัญท่ีส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย เป็นกำรสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกำส พัฒนำกำรใช้กล้ำมเนอ้ื ใหญ่ กล้ำมเน้ือเล็ก และกำรประสำนสัมพนั ธ์ระหวำ่ งกล้ำมเนอื้ และระบบประสำท ในกำร ทำกิจวัตรประจำวันหรือทำกิจกรรมต่ำง ๆ และสนับสนุนให้เด็กมีโอกำสดูแลสุขภำพและสุขอนำมัย สุขนิสัยและ กำรรักษำควำมปลอดภัย ดงั นี้ ด้านรา่ งกาย ประสบการณ์สาคัญ ๑.๑.๑ การใช้กล้ามเนอื้ ใหญ่ (๑) กำรเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ที่ ๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนอ้ื เลก็ (๒) กำรเคล่ือนไหวเคล่อื นท่ี (๓) กำรเคลื่อนไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์ (๔) กำรเคลอ่ื นไหวที่ใช้กำรประสำนสมั พันธ์ของกำรใชก้ ลำ้ มเน้ือ ใหญ่ในกำรขว้ำง กำรจบั กำรโยน กำรเตะ (๕) กำรเลน่ เครือ่ งเลน่ สนำมอยำ่ งอิสระ (๑) กำรเลน่ เคร่อื งเลน่ สัมผสั และกำรสรำ้ งจำกแทง่ ไม้ บลอ็ ก (๒) กำรเขียนภำพและกำรเลน่ กับสี (๓) กำรปนั้ (๔) กำรประดิษฐส์ ง่ิ ต่ำง ๆ ด้วย เศษวสั ดุ (๕) กำรหยบิ จับ กำรใชก้ รรไกร กำรฉกี กำรตดั กำรปะ และ กำรรอ้ ยวสั ดุ

๒๖ ดา้ นรา่ งกาย ประสบการณ์สาคัญ ๑.๑.๓ การรักษาสขด ภาพ (๑) กำรปฏิบัติตนตำมสขุ อนำมัย สุขนสิ ัยทดี่ ีในกิจวัตรประจำวนั อนามยั สว่ นตน ๑.๑.๔ การรกั ษาความ (๑) กำรปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั ในกิจวัตรประจำวนั ปลอดภยั (๒) กำรฟงั นิทำน เร่อื งรำว เหตุกำรณ์ เก่ียวกับกำรป้องกนั และ รกั ษำควำมปลอดภยั (๓) กำรเล่นเครือ่ งเลน่ อยำ่ งปลอดภยั (๔) กำรเลน่ บทบำทสมมติเหตกุ ำรณต์ ำ่ ง ๆ ๑.๑.๕ การตระหนกั รู้เกยี่ วกบั (๑) กำรเคล่ือนไหวโดยควบคมุ ตนเองไปในทิศทำง ระดับ และ ร่างกายตนเอง พ้นื ท่ี (๒) กำรเคลอ่ื นไหวขำ้ มสิง่ กดี ขวำง ๑.๒. ประสบการณ์สาคัญทสี่ ่งเสริมพฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ เปน็ กำรสนบั สนุนให้เด็ก ได้แสดงออกทำงอำรมณ์และควำมรู้สึกของตนเองที่เหมำะสมกับวัย ตระหนักถึงลักษณะพิเศษเฉพำะท่ีเป็นอัตลักษณ์ ควำมเป็นตัวของตัวเอง มีควำมสุข ร่ำเริงแจ่มใส กำรเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน ได้พัฒนำคุณธรรมจริยธรรม สุนทรียภำพ ควำมรู้สึกทด่ี ีตอ่ ตนเอง และควำมเชื่อมนั่ ในตนเองขณะปฏิบัติกิจกรรมต่ำง ๆ ดังนี้ ดา้ นอารมณ์ ประสบการณ์สาคัญ ๑.๒.๑ สนด ทรยี ภาพ ดนตรี (๑) กำรฟังเพลง กำรรอ้ งเพลง และกำรแสดงปฏกิ ิริยำโตต้ อบ ๑.๒.๒ การเล่น (๒) เสยี งดนตรี (๓) กำรเลน่ เคร่อื งดนตรีประกอบจงั หวะ ๑.๒.๓ คณด ารรม จริยารรม (๔) กำรเคลือ่ นไหวตำมเสียงเพลง/ดนตรี ๑.๒.๔ การแสดงออกทาง (๕) กำรเลน่ บทบำทสมมติ (๖) กำรทำกิจกรรมศลิ ปะต่ำง ๆ อารมณ์ (๗) กำรสร้ำงสรรคส์ ิง่ สวยงำม (๑) กำรเลน่ อิสระ (๒) กำรเลน่ รำยบคุ คล กลมุ่ ย่อย กล่มุ ใหญ่ (๓) กำรเล่นตำมมุมประสบกำรณ์ (๔) กำรเลน่ นอกหอ้ งเรียน (๑) กำรปฏบิ ตั ิตนตำมหลกั ศำสนำทน่ี บั ถือ (๒) กำรฟังนทิ ำนเก่ียวกบั คุณธรรม จริยธรรม (๓) กำรร่วมสนทนำและแลกเปล่ยี นควำมคิดเหน็ เชิงจริยธรรม (๑) กำรพูดสะทอ้ นควำมรสู้ กึ ของตนเองและผูอ้ ื่น (๒) กำรเล่นบทบำทสมมติ (๓) กำรเคลอื่ นไหวตำมเสยี งเพลง/ดนตรี (๔) กำรรอ้ งเพลง (๕) กำรทำงำนศิลปะ

๒๗ ดา้ นอารมณ์ ประสบการณส์ าคญั ๑.๒.๕ การมีอตั ลักษณเ์ ฉพาะ (๑) กำรปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่ำง ๆ ตำมควำมสำมำรถของตนเอง ตนและเชื่อวา่ ตนเองมี ความสามารถ ๑.๒.๖ การเห็นอกเห็นใจผอู้ ่ืน (๑) กำรแสดงควำมยนิ ดเี มือ่ ผอู้ ืน่ มคี วำมสุข เห็นใจเมื่อผอู้ ่นื เศร้ำ (๒) หรอื เสยี ใจและกำรช่วยเหลอื ปลอบโยนเมือ่ ผู้อนื่ ไดร้ บั บำดเจ็บ ๑.๓ ประสบการณ์สาคญั ทสี่ ่งเสริมพัฒนาการด้านสงั คม เป็นกำรสนับสนนุ ให้เด็กได้มีโอกำสปฏสิ ัมพันธ์ กบั บคุ คลและส่ิงแวดล้อมต่ำง ๆ รอบตวั จำกกำรปฏิบัติกจิ กรรมต่ำง ๆ ผ่ำนกำรเรียนรู้ทำงสังคม เช่น กำรเล่น กำรทำงำนกับผู้อืน่ กำรปฏบิ ัติกจิ วัตรประจำวนั กำรแก้ปญั หำข้อขัดแย้งตำ่ ง ๆ ด้านสงั คม ประสบการณส์ าคัญ ๑.๓.๑ การปฏบิ ตั ิกิจวัตร (๑) กำรช่วยเหลอื ตนเองในกิจวตั รประจำวนั ประจาวัน (๒) กำรปฏิบัติตนตำมแนวทำงหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจ ๑.๓.๒ การดูแลรักษา พอเพียง ารรมชาติและ สงิ่ แวดล้อม (๑) กำรมีสว่ นรว่ มรับผิดชอบดูแลรักษำสิง่ แวดลอ้ มทง้ั ภำยในและ ภำยนอกหอ้ งเรยี น ๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ติ าม วฒั นารรมท้องถ่ิน (๒) กำรใช้วสั ดุและสง่ิ ของเครื่องใช้อย่ำงคุ้มค่ำ และความเปน็ ไทย (๓) กำรทำงำนศิลปะทีน่ ำวัสดุหรือสง่ิ ของเครื่องใช้ท่ีใช้แลว้ มำใช้ ๑.๓.๔ การมปี ฏิสัมพนั า์ ซ้ำหรอื แปรรูปแล้วนำกลับมำใชใ้ หม่ มีวนิ ยั มสี ่วนรว่ ม (๔) กำรเพำะปลูกและดแู ลต้นไม้ และบทบาทสมาชกิ (๕) กำรเล้ียงสตั ว์ ของสงั คม (๖) กำรสนทนำข่ำวและเหตุกำรณท์ เี่ กี่ยวกับธรรมชำติและ ๑.๓.๕ การเล่นและทางาน สงิ่ แวดล้อมในชีวติ ประจำวนั แบบรว่ มมอื ร่วมใจ (๑) กำรเลน่ บทบำทสมมตกิ ำรปฏิบตั ิตนในควำมเป็นคนไทย (๒) กำรปฏิบตั ติ นตำมวฒั นธรรมท้องถิ่นที่อำศยั และประเพณไี ทย (๓) กำรประกอบอำหำรไทย (๔) กำรศกึ ษำนอกสถำนท่ี (๕) กำรละเล่นพืน้ บำ้ นของไทย (๑) กำรรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของห้องเรยี น (๒) กำรปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมำชกิ ท่ีดีของห้องเรียน (๓) กำรให้ควำมรว่ มมอื ในกำรปฏิบตั ิกิจกรรมต่ำง ๆ (๔) กำรดแู ลหอ้ งเรยี นรว่ มกัน (๕) กำรร่วมกิจกรรมวันสำคญั (๑) กำรร่วมสนทนำและแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็น (๒) กำรเลน่ และทำงำนรว่ มกับผูอ้ ืน่ (๓) กำรทำศิลปะแบบรว่ มมอื

๒๘ ดา้ นสังคม ประสบการณส์ าคัญ ๑.๓.๖ การแกป้ ญั หา (๑) กำรมีสว่ นร่วมในกำรเลือกวิธกี ำรแกป้ ญั หำ ความขดั แย้ง (๒) กำรมสี ่วนร่วมในกำรแกป้ ญั หำควำมขดั แย้ง ๑.๓.๗ การยอมรับในความ (๑) กำรเลน่ หรอื ทำกิจกรรมรว่ มกับกล่มุ เพอ่ื น เหมือนและความ แตกต่างระหวา่ ง บดคคล ๑.๔. ประสบการณ์สาคัญท่ีส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นกำรสนับสนุนให้เด็ก ได้รับรู้และเรียนรู้ส่ิงต่ำง ๆ รอบตัวผ่ำนกำรมีปฏิสัมพันธ์กับส่ิงแวดล้อม บุคคลและสื่อต่ำง ๆ ด้วยกระบวนกำร เรียนรู้ที่หลำกหลำย เพื่อเปิดโอกำสให้เด็กพฒั นำกำรใช้ภำษำ จินตนำกำรควำมคิดสร้ำงสรรค์ กำรแก้ปัญหำ กำร คดิ เชิงเหตุผล และกำรคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่ำง ๆ รอบตวั และมคี วำมคิดรวบยอดทำงคณิตศำสตรท์ ่ีเปน็ พื้นฐำน ของกำรเรียนร้ใู นระดบั ท่ีสูงขึน้ ตอ่ ไป การพัฒนาดา้ น ประสบการณส์ าคัญ ๑.๔.๑ การใช้ภาษา (๑) กำรฟงั เสียงตำ่ ง ๆ ในสิ่งแวดลอ้ ม (๒) กำรฟังและปฏบิ ตั ติ ำมคำแนะนำ (๓) กำรฟงั เพลง นิทำน คำคลอ้ งจอง บทร้อยกรองหรอื เรื่องรำว ตำ่ ง ๆ (๔) กำรพดู แสดงควำมคิด ควำมรู้สกึ และควำมต้องกำร (๕) กำรพดู กับผู้อน่ื เกี่ยวกบั ประสบกำรณ์ของตนเอง หรอื พดู เลำ่ เรอื่ งรำวเกี่ยวกบั ตนเอง (๖) กำรพดู อธิบำยเก่ยี วกบั สงิ่ ของ เหตุกำรณ์ และควำมสัมพันธ์ ของสง่ิ ต่ำง ๆ (๗) กำรพดู อย่ำงสร้ำงสรรค์ในกำรเลน่ และกำรกระทำตำ่ ง ๆ (๘) กำรรอจงั หวะทเ่ี หมำะสมในกำรพดู (๙) กำรพูดเรียงลำดบั คำเพ่ือใช้ในกำรสื่อสำร (๑๐) กำรอำ่ นหนงั สือภำพ นิทำน หลำกหลำยประเภท/รูปแบบ (๑๑) กำรอ่ำนอยำ่ งอิสระตำมลำพงั กำรอ่ำนรว่ มกัน กำรอำ่ นโดย มผี ้ชู ีแ้ นะ (๑๒) กำรเห็นแบบอยำ่ งของกำรอ่ำนท่ีถูกตอ้ ง (๑๓) กำรสงั เกตทิศทำงกำรอ่ำนตวั อกั ษร คำ และข้อควำม (๑๔) กำรอำ่ นและชี้ข้อควำม โดยกวำดสำยตำตำมบรรทดั จำกซ้ำยไปขวำ และจำกบนลงลำ่ ง (๑๕) กำรสังเกตตวั อักษรในช่อื ของตน หรอื คำคุน้ เคย (๑๖) กำรสังเกตตวั อักษรท่ีประกอบเป็นคำผ่ำนกำรอ่ำนหรือเขียน ของผู้ใหญ่

๒๙ การพัฒนาด้าน ประสบการณส์ าคญั ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด (๑๗) กำรคำดเดำคำ วลี หรือประโยค ทีม่ ีโครงสร้ำงซำ้ ๆ กัน การคิดเชงิ เหตผด ล จำกนิทำน เพลง คำคลอ้ งจอง การตดั สินใจและ แกป้ ญั หา (๑๘) กำรเล่นเกมภำษำ (๑๙) กำรเห็นแบบอยำ่ งของกำรเขยี นทถ่ี กู ตอ้ ง (๒๐) กำรเขยี นร่วมกนั ตำมโอกำส และกำรเขียนอิสระ (๒๑) กำรเขียนคำที่มีควำมหมำยกับตวั เดก็ /คำคุ้นเคย (๒๒) กำรคดิ สะกดคำและเขียนเพ่อื สื่อควำมหมำยดว้ ยตนเอง อยำ่ งอสิ ระ (๑) กำรสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ กำรเปล่ียนแปลง และ ควำมสัมพนั ธ์ของสงิ่ ต่ำง ๆ โดยใช้ประสำทสัมผัสอย่ำง เหมำะสม (๒) กำรสังเกตส่งิ ต่ำง ๆ และสถำนท่จี ำกมมุ มองท่ตี ่ำงกัน (๓) กำรบอกและแสดงตำแหน่ง ทศิ ทำง และระยะทำงของสิ่ง ตำ่ ง ๆ ดว้ ยกำรกระทำ ภำพวำด ภำพถ่ำย และรูปภำพ (๔) กำรเลน่ กบั สื่อต่ำง ๆ ท่ีเป็นทรงกลม ทรงส่เี หล่ยี มมมุ ฉำก ทรงกระบอก กรวย (๕) กำรคดั แยก กำรจัดกลุ่ม และกำรจำแนกสิ่งต่ำง ๆ ตำม ลักษณะ และรูปรำ่ ง รูปทรง (๖) กำรตอ่ ของชิน้ เล็กเติมในช้นิ ใหญใ่ หส้ มบรู ณ์ และกำรแยก ชน้ิ สว่ น (๗) กำรทำซำ้ กำรตอ่ เติม และกำรสร้ำงแบบรปู (๘) กำรนับและแสดงจำนวนของส่งิ ต่ำง ๆ ในชีวติ ประจำวัน (๙) กำรเปรียบเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนของสง่ิ ต่ำง ๆ (๑๐) กำรรวมและกำรแยกสิ่งตำ่ ง ๆ (๑๑) กำรบอกและแสดงอนั ดบั ท่ีของสง่ิ ตำ่ ง ๆ (๑๒) กำรชง่ั ตวง วดั สงิ่ ตำ่ ง ๆ โดยใช้เคร่ืองมอื และหน่วยทีไ่ มใ่ ช่ หน่วยมำตรฐำน (๑๓) กำรจบั คู่ กำรเปรียบเทียบ และกำรเรียงลำดับ สิ่งต่ำง ๆ ตำมลักษณะควำมยำว/ควำมสูง นำ้ หนกั ปรมิ ำตร (๑๔) กำรบอกและเรียงลำดบั กิจกรรมหรือเหตกุ ำรณต์ ำม ช่วงเวลำ (๑๕) กำรใชภ้ ำษำทำงคณิตศำสตรก์ ับเหตุกำรณ์ในชีวิตประจำวัน (๑๖) กำรอธิบำยเชอ่ื มโยงสำเหตแุ ละผลท่ีเกดิ ขน้ึ ในเหตุกำรณ์ หรือกำรกระทำ (๑๗) กำรคำดเดำหรอื กำรคำดคะเนส่ิงทอ่ี ำจจะเกิดขน้ึ อยำ่ งมี เหตุผล

๓๐ การพฒั นาด้าน ประสบการณ์สาคญั ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและ (๑๘) กำรมีสว่ นรว่ มในกำรลงควำมเหน็ จำกข้อมูลอยำ่ งมเี หตุผล ความคิดสรา้ งสรรค์ (๑๙) กำรตดั สินใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนกำรแกป้ ญั หำ ๑.๔.๔ เจตคตทิ ด่ี ีต่อการ (๑) กำรรบั รู้ และแสดงควำมคิดควำมรู้สกึ ผ่ำนสือ่ วสั ดุ ของเลน่ เรียนรแู้ ละการ และชนิ้ งำน แสวงหาความรู้ (๒) กำรแสดงควำมคิดสรำ้ งสรรค์ผ่ำนภำษำ ท่ำทำง กำร เคลอ่ื นไหวและศิลปะ (๓) กำรสร้ำงสรรค์ช้นิ งำนโดยใชร้ ปู รำ่ งรปู ทรงจำกวัสดทุ ี่ หลำกหลำย (๑) กำรสำรวจส่ิงต่ำง ๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตัว (๒) กำรต้ังคำถำมในเรื่องทีส่ นใจ (๓) กำรสืบเสำะหำควำมร้เู พ่อื ค้นหำคำตอบของขอ้ สงสัยตำ่ ง ๆ (๔) กำรมีสว่ นร่วมในกำรรวบรวมข้อมูลและนำเสนอข้อมลู จำกกำร สบื เสำะหำควำมรู้ในรูปแบบต่ำง ๆ และแผนภมู ิอย่ำงง่ำย ๑.๕ ประสบการณส์ าคัญที่สง่ เสริมการพัฒนาทกั ษะจาเป็นเฉพาะความพิการ ๑.๕.๑ ประสบการณ์สาคญั ทสี่ ่งเสริมการพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางการเหน็ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณ์สาคญั บกพร่องทางการเหน็ ๑. มคี วามสามารถในการ บรู ณาการประสาทสัมผัสที่ เหลืออยใู่ นการดารงชวี ติ ๑.๑ รับรู้ต่อกำรใช้ประสำทสัมผัส (๑) กำรมองแสงในทศิ ทำงตำ่ ง ๆ ทำงกำรเหน็ ท่ีเหลืออยู่ (สำหรับ (๒) กำรมองวัตถทุ ่ีมีสีสนั สดใสท่ีอย่กู ับที่ บุคคลสำยตำเลอื นรำง) ในกำร (๓) กำรมองตำมวัตถทุ ี่มสี สี ันสดใสทีเ่ คล่ือนไหว (๔) กำรมองหำวตั ถุกำหนดให้ มองส่งิ ต่ำง ๆรอบตวั ได้ (๕) กำรหยบิ สงิ่ ของทม่ี ีขนำดและสีท่ีแตกตำ่ งกนั (๖) กำรสำรวจสิ่งตำ่ ง ๆ รอบตัว (๗) กำรโยงเส้นไปตำมตำแหนง่ ทก่ี ำหนดให้ (๘) กำรมองภำพตำมท่กี ำหนด (๙) กำรมองของจรงิ แล้วใหเ้ ลอื กภำพทีต่ รงกับสิ่งที่มองเหน็ (๑๐) กำรบรรยำยภำพจำกสิ่งทเ่ี ห็น (๑๑) กำรเลยี นแบบสีหน้ำท่ำทำง (๑๒) กำรบอกรำยละเอียดของวตั ถทุ เ่ี หน็

๓๑ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณส์ าคัญ บกพรอ่ งทางการเหน็ (๑) กำรบอกเสียงจำกสิ่งท่ีไดย้ ิน ๑.๒ รบั รตู้ อ่ กำรใช้ประสำทสมั ผัส (๒) กำรบอกแหลง่ ทมี่ ำของเสียง ทำงกำรได้ยินเสียงต่ำง ๆ ใน (๓) กำรแยกควำมแตกต่ำงของเสยี งชนิดต่ำง ๆ สภำพแวดลอ้ มได้ (๔) กำรบอกจังหวะของเสยี ง (๑) กำรดมกลน่ิ ของใชป้ ระเภทตำ่ ง ๆ ๑.๓ รับร้ตู อ่ กำรใช้ประสำทสมั ผัส (๒) กำรดมกล่ินอำหำรประเภทตำ่ ง ๆ ทำงกำรดมกลิ่นสง่ิ ต่ำง ๆ (๓) กำรดมกลิน่ ผลไมป้ ระเภทตำ่ ง ๆ รอบตัวได้ (๔) กำรดมกลน่ิ ดอกไมป้ ระเภทต่ำง ๆ (๕) กำรดมกล่นิ ต่ำง ๆ ในสภำพแวดล้อม ๑.๔ รับรตู้ อ่ กำรใชป้ ระสำทสัมผัส (๑) กำรชมิ และบอกรสชำตขิ องอำหำรชนิดต่ำง ๆ ทำงกำรชิมรสสิง่ ตำ่ ง ๆ ใน (๒) กำรชิมและบอกชือ่ อำหำร ผกั ผลไม้ประเภทตำ่ ง ๆ ชวี ติ ประจำวนั ได้ (๓) กำรชมิ และบอกลักษณะของอำหำร ประเภทตำ่ ง ๆ (๑) กำรบอกช่อื สง่ิ ของตำ่ ง ๆ ดว้ ยกำรสัมผัสทำงผวิ กำย ๑.๕ รับรู้ตอ่ กำร ใช้ประสำทสัมผสั (๒) กำรบอกลกั ษณะรูปรำ่ งของส่งิ ตำ่ ง ๆ ดว้ ยกำรสมั ผสั ทำงผวิ กำย ทำงผวิ กำยสมั ผสั สิง่ ต่ำง ๆ (๓) กำรบอกลกั ษณะพ้ืนผิวของสง่ิ ตำ่ ง ๆ ดว้ ยกำรสัมผสั ทำงผิวกำย รอบตัวและในสภำพแวดล้อม (๔) กำรบอกสภำพแวดล้อมโดยกำรรบั รทู้ ำงผิวกำย ได้ (๕) กำรสัมผัสสิง่ ต่ำง ๆ ทีม่ อี ณุ หภมู ิทีแ่ ตกตำ่ งกัน (๖) กำรบอกสถำนะของส่งิ ตำ่ ง ๆ ๑.๖ รับรู้ตอ่ กำรใชป้ ระสำทกำร (๑) กำรเลน่ เครอ่ื งเลน่ ท่ีใช้กำรปนี ป่ำย หอ้ ย โหน กระโดด รบั รกู้ ำรทรงตวั ได้ (๒) กำรเล่นเครอ่ื งเล่นทมี่ กี ำรเคลอื่ นไหวไปในระนำบทแ่ี ตกต่ำงกัน (๓) กำรน่งั เครื่องเลน่ หรอื อุปกรณท์ ีม่ กี ำรเคล่ือนไหว (๔) กำรยืนทรงตวั ในรูปแบบต่ำง ๆ (๕) กำรเดินทรงตวั (๖) กำรหมนุ ศีรษะและกำรเคล่ือนไหวไปในระนำบที่แตกตำ่ งกัน (๗) กำรน่งั ทรงตวั (๘) กำรเคลอื่ นไหวแบบรำบเรยี บและทศิ ทำงต่ำง ๆ

๓๒ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณ์สาคัญ บกพรอ่ งทางการเห็น (๑) กำรกระโดดในรปู แบบตำ่ ง ๆ ๑.๗ รบั รตู้ อ่ กำรใช้ประสำทกำร (๒) กำรเล่นเครื่องเล่นท่ีมีกำรโหนหรือปนี ป่ำย รบั ร้กู ำรเคลอ่ื นไหวเอน็ และ (๓) กำรหิ้ว ลำก ผลัก ดงึ ยก ส่ิงของหรือวตั ถุทีม่ นี ำ้ หนัก ขอ้ ตอ่ ได้ (๔) กำรออกกำลังกำยในทำ่ ตำ่ ง ๆ (๕) กำรคลำนบนสภำพแวดลอ้ มทแ่ี ตกตำ่ งกัน ๑.๘ กำรรบั รตู้ ่อกำรใชป้ ระสำท (๖) กำรทำทำ่ ประกอบเพลงทม่ี ีจงั หวะเบำ ๆ สบำย ๆ สมั ผสั ในกำรรบั ประทำน (๗) กำรเค้ียวอำหำรหรอื วตั ถทุ มี่ ีควำมเหนียว อำหำร (๘) กำรนวดทม่ี กี ำรลงน้ำหนักที่ขอ้ ตอ่ ๒. การสรา้ งความคนด้ เคยกบั (๑) ตำแหน่งของภำชนะใสอ่ ำหำร สภาพแวดล้อม และการ (๒) ตำแหนง่ ของอปุ กรณ์ใชส้ ำหรับรับประทำนอำหำร เคลอ่ื นไหวของคนตาบอด (๑) กำรรบั รู้เกี่ยวกับเวลำ ๒.๑ ควำมคิดรวบยอดที่ (๒) กำรรับรเู้ กี่ยวกบั ทศิ ทำง เก่ียวขอ้ งกับกำรสร้ำง (๓) กำรรบั รู้เกย่ี วกับระยะทำง ควำมคุ้นเคยกบั (๔) กำรรับรู้เก่ียวกับพื้นผวิ สภำพแวดลอ้ ม และกำร (๕) กำรรบั รู้เกีย่ วกบั อุณหภูมิ เคลอื่ นไหว (๖) กำรรบั รู้เกี่ยวกับกล่ิน (๗) กำรรับรูเ้ กย่ี วกบั เสียง (๘) กำรรับรเู้ ก่ียวกับสภำพแวดล้อม (๙) กำรเรยี งลำดับของสถำนที่ เหตุกำรณ์ หรือเวลำ ๒.๒ กำรเดนิ ทำงกบั ผู้นำทำง (๑) กำรยืนก่อนกำรเดินกับผู้นำทำงเมอ่ื ผู้นำทำง ๒.๒.๑ กำรแตะนำ และกำร (๒) กำรรับรสู้ ัญลกั ษณ์ก่อนกำรเดินทำง (๓) กำรเล่ือนมือและจับแขนของผูน้ ำทำง จบั แขนผ้นู ำทำง ๒.๒.๒ กำรกำ้ วเดนิ โดยมี (๑) กำรก้ำวเดินกบั ผู้นำทำง (๒) กำรรจู้ งั หวะกำรเดินกับผู้นำทำง ผนู้ ำทำง (๑) กำรเลอ่ื นมอื ก่อนกำรเปลย่ี นข้ำง ๒.๒.๓ กำรเปลยี่ นข้ำง (๒) กำรจบั แขนผนู้ ำทำงขณะเปล่ียนขำ้ ง ๒.๒.๔ กำรหมุนกลับตัว (๑) กำรหมุนตวั เข้ำหำกัน (๒) กำรยน่ื มือไปจับแขนอีกข้ำงของผู้นำทำง (๓) กำรปล่อยแขนและเดนิ ต่อ

๓๓ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณส์ าคัญ บกพร่องทางการเหน็ (๑) กำรตอบรับกำรนำทำง ๒.๒.๕ กำรตอบรับหรอื (๒) กำรปฏเิ สธกำรนำทำง ปฏิเสธกำรนำทำง ๒.๒.๖ กำรเดนิ ทำงแคบโดยมี (๑) กำรใชส้ ัญลักษณเ์ มือ่ ต้องกำรเดนิ ในทำงแคบ ผู้นำทำง (๒) กำรจบั แขนผู้นำทำงเมื่อเดนิ ในทำงแคบ (๓) กำรกำ้ วเดินกับผูน้ ำทำงเมือ่ เดนิ ในทำงแคบ (๔) กำรกลับมำเดินในเส้นทำงปกติ ๒.๒.๗ กำรเดนิ กบั (๑) กำรขน้ึ -ลงบันไดกับผนู้ ำทำงโดยไมจ่ บั รำว ผนู้ ำทำง ขึ้นลงบันไดได้ (๒) กำรขนึ้ -ลงบนั ไดกับผูน้ ำทำงและจับรำวบันได (๑) กำรเขำ้ -ออกประตูทเ่ี ป็นประตูชนดิ ผลักออกจำกตัว ๒.๒.๘ กำรเดินกบั (๒) กำรเขำ้ -ออกประตูทเ่ี ป็นประตชู นิดเปิดเขำ้ หำตัว ผนู้ ำทำง ในกำรเข้ำ-ออกประตู (๓) กำรเข้ำ-ออกประตทู ่เี ปน็ ประตชู นิดเลือ่ น (๑) กำรสำรวจ กำรจับ และกำรน่งั เกำ้ อ้ีท่ไี ม่มพี นักพงิ ๒.๒.๙ กำรน่ังเก้ำอี้ (๒) กำรสำรวจ กำรจับ และกำรนงั่ เกำ้ อ้ที ม่ี พี นักพงิ (๓) กำรนั่งเก้ำอี้ท่ไี มม่ ีโต๊ะ ๒.๒.๑๐ กำรหำของ (๔) กำรน่ังเกำ้ อ้ีทมี่ ีโตะ๊ (๑) กำรหำของบนโต๊ะ ๒.๒.๑๑ กำรขึน้ -ลง (๒) กำรหำของที่พน้ื ยำนพำหนะ (๑) กำรขึน้ รถ (๒) กำรลงรถ ๒.๒.๑๒ กำรเขำ้ -ออกลิฟต์ (๑) กำรเขำ้ ลิฟต์ (๒) กำรออกลฟิ ต์ ๒.๓ การเดนิ โดยอิสระใน สถานทคี่ ้นด เคย (๑) กำรใชแ้ ขนในกำรปอ้ งกันตนเองสว่ นบน ๒.๓.๑ กำรเดนิ โดยกำร (๑) กำรใชแ้ ขนในกำรป้องกนั ตนเองสว่ นลำ่ ง ป้องกันตนเองสว่ นบน ๒.๓.๒ กำรเดินโดยกำร (๑) กำรยน่ื มอื จับรำวในกำรเดิน ป้องกันตนเองส่วนลำ่ ง (๑) กำรยืน่ มอื แตะผนังหรือรำวในกำรเดนิ ละเลำะ ๒.๓.๓ กำรเดนิ โดยกำรเกำะ (๑) กำรจบั ไมเ้ ทำ้ รำว (๒) กำรแกว่งไม้เท้ำ ๒.๓.๔ กำรเดนิ โดยกำร (๓) กำรเดนิ รว่ มกบั ไมเ้ ทำ้ ละเลำะ ๒.๓.๕ กำรเดินโดยใช้ไมเ้ ท้ำ ขำว

๓๔ ทักษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณส์ าคญั บกพร่องทางการเหน็ (๔) กำรเดินบนพืน้ ตำ่ งระดับโดยใชไ้ ม้เท้ำขำว ๓. การเตรยี มความพร้อมการ อา่ นอกั ษรเบรลล์ (๑) กำรเคลอ่ื นมอื และนวิ้ มอื ขำ้ งเดียว สมั ผัสภำพนนู เส้นนนู จดุ นนู ใน ๓.๑ กำรเคลอื่ นทข่ี องมอื และ ทศิ ทำงตำ่ ง ๆ นิ้วมอื ในกำรสมั ผสั (๒) กำรเคลอ่ื นมอื และนิ้วมอื ทงั้ สองข้ำงสัมผัสภำพนนู เสน้ นูน จุดนนู ใน ทศิ ทำงตำ่ ง ๆ ๔. การเตรียมความพร้อมการ เขียนอกั ษรเบรลล์ (๓) กำรเคล่ือนมือบนเส้นจุดนนู อักษรเบรลล์ ๔.๑ กำรใส่และเลอ่ื นกระดำษ (๑) กำรรู้จักอปุ กรณก์ ำรเขยี นอักษรเบรลล์ ๔.๒ กำรจบั สไตลสั (๒) กำรใสแ่ ละเลอื่ นกระดำษ (Stylus) ในกำรเขยี นจดุ (๑) กำรจบั สไตลสั ในกำรเขียน ๕. มคี วามสามารถในการอา่ น (๒) กำรกดจุดอกั ษรเบรลล์ อักษรเบรลลพ์ ยัญชนะไทย (๑) กำรอ่ำนอกั ษรเบรลล์ พยญั ชนะภำษำไทย ทมี่ ีเซลล์เดียวและตวั เลข กลุม่ จุด ๑, ๒, ๔, ๕ ๕.๑ กำรอำ่ นอักษรเบรลล์ไทย ที่เปน็ พยญั ชนะเซลล์เดยี วและ (๒) กำรอ่ำนอกั ษรเบรลลพ์ ยัญชนะภำษำไทย ตวั เลข กลุ่มจุด ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ (๓) กำรอำ่ นอกั ษรเบรลลพ์ ยัญชนะภำษำไทย กล่มุ จดุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ (๔) กำรอ่ำนตวั เลขอกั ษรเบรลล์ จำนวน ๑-๑๐ ๖.มคี วามสามารถในการเขยี น (๑) กำรเขียนพยญั ชนะ กลุ่มจดุ ๑, ๒, ๔, ๕ อักษรเบรลล์พยัญชนะไทย (๒) กำรเขียนพยญั ชนะ กลุม่ จดุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ทม่ี เี ซลล์เดียวและตวั เลข (๓) กำรเขียนพยญั ชนะ กลมุ่ จดุ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๖.๑ กำรเขยี นอักษรเบรลลท์ ี่ (๔) กำรเขยี นตวั เลขอักษรเบรลล์ จำนวน ๑-๑๐ เปน็ พยัญชนะไทยเซลล์เดียวและ ตวั เลข ๖.๒ กำรเขยี นอกั ษรเบรลล์ที่ (๑) กำรเขียนพยัญชนะภำษำอังกฤษ A-Z เปน็ พยัญชนะภำษำองั กฤษระดบั ๑ (๒) กำรเขยี นพยัญชนะภำษำองั กฤษ a-z

๓๕ ทักษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณ์สาคัญ บกพรอ่ งทางการเหน็ (๑) กำรตั้งค่ำและอ่ำนคำ่ ลกู คิด ๗. มีความสามารถในการใช้ (๒) กำรบวกจำนวนทีม่ ีผลลัพธ์ไม่เกนิ สบิ ลกู คิด (๓) กำรลบจำนวนท่มี ีตวั ตั้งไมเ่ กินสบิ ๗.๑ กำรใช้ลูกคิดในกำรบวกลบ (๑) กำรใช้อปุ กรณ์ชว่ ยในกำรสอ่ื สำรทำงเลือก งำ่ ย ๆ (๑) กำรใช้อปุ กรณช์ ่วยในกำรเขำ้ ถงึ คอมพิวเตอร์ ๘. สามารถใช้เทคโนโลยสี ่ิง อานวยความสะดวก เคร่ืองช่วยในการเรียนรู้ ๘.๑ ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในกำร สอ่ื สำรทำงเลอื ก ๘.๒ ใชอ้ ปุ กรณช์ ่วยในกำร เขำ้ ถึงคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื กำรเรียนรู้ ๘.๓ ใช้โปรแกรมเสรมิ ผำ่ น (๑) กำรใช้โปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพิวเตอร์เพือ่ ช่วยในกำรเรียนรู้ คอมพิวเตอรเ์ พอ่ื ช่วยในกำรเรียนรู้ ๑.๕.๒ ประสบการณ์สาคญั ทส่ี ่งเสริมการพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางการได้ยิน ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณ์ทส่ี าคัญ บกพร่องทางการได้ยิน ๑. สามารถใชแ้ ละดแู ล (๑) กำรบอกส่วนต่ำง ๆ ของเครอ่ื งชว่ ยฟงั หรอื เครือ่ งประสำทหเู ทียมจำก เคร่อื งช่วยฟงั ของจริง ๑.๑ บอกส่วนต่ำง ๆ ของ เครอ่ื งชว่ ยฟงั หรือเคร่อื งประสำท (๑) กำรใสแ่ ละถอดเครื่องช่วยฟงั หรือเครอ่ื งประสำทหูเทียม หูเทยี ม (๒) กำรเปิด-ปดิ เคร่อื งช่วยฟังหรือเคร่ืองประสำทหเู ทียม ๑.๒ ใช้เคร่อื งช่วยฟงั หรอื (๓) กำรปรบั ระดบั เสยี งเครอ่ื งช่วยฟังหรอื เคร่ืองประสำทหูเทียม เคร่ืองประสำทหูเทยี มไดถ้ กู ต้อง (๔) กำรตรวจสอบกำรทำงำนของเครื่องชว่ ยฟังหรอื เครื่องประสำทหูเทียม (๑) กำรทำควำมสะอำดเครื่องช่วยฟงั หรอื เครอ่ื งประสำทหเู ทียม ๑.๓ ดูแลรกั ษำเคร่ืองชว่ ยฟัง (๒) กำรเก็บรักษำเคร่ืองช่วยฟงั หรือเครอ่ื งประสำทหูเทยี ม หรือเครื่องประสำทหูเทยี ม ๒. สามารถใชก้ ารไดย้ ินที่ หลงเหลืออยใู่ น ชวี ติ ประจาวนั

๓๖ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณท์ ีส่ าคญั บกพร่องทางการไดย้ นิ ๒.๑ รู้ว่ำมเี สียง/ไม่มีเสยี ง (๑) กำรเคำะ ดดี สี ตี เป่ำ เขย่ำ เคร่อื งดนตรี (๒) กำรฟงั เสียงจำกเครื่องเลน่ (๓) กำรฟงั เสียงจำกสิง่ แวดลอ้ ม ๒.๒ บอกเสียงท่ีไดย้ ิน (๑) กำรบอกเสยี งทไ่ี ดย้ นิ จำกเคร่อื งดนตรี (๒) กำรบอกเสียงที่ได้ยินจำกเครอื่ งเล่น (๓) กำรบอกเสียงท่ไี ด้ยินจำกส่ิงแวดลอ้ ม (๔) กำรจำแนกเสียง (๕) กำรเปรยี บเทยี บเสียง ๒.๓ บอกแหล่งทมี่ ำของเสยี ง (๑) กำรฟงั เสยี งส่ิงตำ่ ง ๆ รอบตวั และบอกแหล่งที่มำของเสยี ง ๓. สามารถเปล่งเสียงหรือพดู ตามแบบ ๓.๑ เปล่งเสียงคำทีไ่ มม่ ี (๑) กำรกำหนดลมหำยใจเข้ำออก ควำมหมำยตำมแบบ (๒) กำรกลนั้ /กักลมหำยใจ (๓) กำรเปล่งเสยี งคำทไี่ มม่ คี วำมหมำยตำมแบบ (๔) กำรเปลง่ เสียงพยัญชนะตำมฐำนกำรเกิดเสียงตำมแบบ (๕) กำรเปล่งเสยี งสระ และเปรียบเทียบเสยี งสระสนั้ -ยำว ตำมแบบ (๖) กำรเปลง่ เสียงวรรณยุกต์ และเปรยี บเทยี บเสยี งวรรณยกุ ต์ สูง-ตำ่ ตำมแบบ (๗) กำรจดั รปู ริมฝปี ำกตำมฐำนกำรเกดิ เสียงตำมแบบ ๓.๒ พูดคำงำ่ ย ๆ (๑) กำรพดู เป็นคำง่ำย ๆ เกี่ยวกบั ตนเองตำมแบบ ทม่ี ีควำมหมำยตำมแบบ (๒) กำรพูดเปน็ คำง่ำย ๆ เกย่ี วกับบุคคลและสถำนท่ีแวดล้อมตำมแบบ (๓) กำรพดู เป็นคำง่ำย ๆ เก่ยี วกับธรรมชำติรอบตัวตำมแบบ (๔) กำรพูดเปน็ คำงำ่ ย ๆ เกีย่ วกับสิ่งต่ำง ๆรอบตวั ตำมแบบ ๓.๓ พดู เปน็ วลีง่ำย ๆ ตำม (๑) กำรพดู เป็นวลีงำ่ ย ๆ ตำมแบบ แบบ ๓.๔ พูดเป็นประโยคงำ่ ย ๆ (๑) กำรพดู เป็นประโยคง่ำย ๆ ตำมแบบ ตำมแบบ ๔. สามารถอ่านรมิ ฝปี าก ๔.๑ อ่ำนรมิ ฝปี ำกและเขำ้ ใจ (๑) กำรอ่ำนริมฝีปำกและปฏิบตั ิตำม ควำมหมำย ๔.๒ ทำรูปปำกเปน็ คำที่มี (๑) กำรทำรปู ปำกเป็นคำทม่ี ีควำมหมำยง่ำย ๆ ควำมหมำยและผ้อู ื่นเข้ำใจได้ ๔.๓ ทำรูปปำกเป็นวลีงำ่ ย ๆ (๑) กำรทำรูปปำกเป็นวลีง่ำย ๆ และผู้อน่ื เขำ้ ใจได้

๓๗ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณ์ที่สาคญั บกพรอ่ งทางการได้ยนิ ๔.๔ ทำรูปปำกเป็นประโยค (๑) กำรทำรูปปำกเป็นประโยคงำ่ ย ๆ ง่ำย ๆ และผู้อ่ืนเข้ำใจได้ ๕. สามารถใชภ้ าษามือในการ (๑) กำรจัดท่ำและกำรเคลอ่ื นไหวของมอื พนื้ ฐำนในกำรใช้ภำษำมือ ส่ือสาร กำรใช้สหี นำ้ ประกอบท่ำทำงในกำรส่ือสำร ๕.๑ ใช้ภำษำท่ำทำงในกำร สอ่ื สำร (๑) กำรใชภ้ ำษำมอื บอกชอื่ บุคคล ๕.๒ ใชภ้ ำษำมอื บอกช่อื ส่งิ (๒) กำรใชภ้ ำษำมือบอกช่ืออำหำร ผักและผลไม้ ตำ่ ง ๆ รอบตัว (๓) กำรใชภ้ ำษำมอื บอกชื่อสัตว์ (๔) กำรใช้ภำษำมือบอกชอ่ื สิง่ ของ ๕.๓ ใช้ภำษำมอื เพื่อกำร (๕) กำรใชภ้ ำษำมือบอกชอ่ื สิ่งแวดล้อมรอบตวั สนทนำและส่อื สำร (๑) กำรใช้ภำษำมอื เพอ่ื กำรสื่อสำรเก่ียวกบั ตนเอง (๒) กำรใชภ้ ำษำมอื เพื่อกำรสอ่ื สำรเก่ยี วกับบุคคลและสถำนที่ ๖. สามารถสะกดน้วิ มือ (๓) กำรใช้ภำษำมอื เพือ่ กำรสอ่ื สำรเก่ียวกบั ธรรมชำตริ อบตวั ๖.๑ สะกดน้วิ มอื พยัญชนะไทย (๔) กำรใช้ภำษำมอื เพอ่ื กำรสอื่ สำรเกยี่ วกบั ส่งิ ตำ่ ง ๆ รอบตวั ๖.๒ สะกดนิว้ มอื สระและ (๑) กำรฝึกสะกดนว้ิ มอื พยญั ชนะไทยชดุ ก ข ค ฆ สระเปลี่ยนรปู (๒) กำรฝึกสะกดน้ิวมือพยัญชนะไทยชุด ต ถ ฐ ฒ ฑ ฏ (๓) กำรฝกึ สะกดนว้ิ มอื พยัญชนะไทยชดุ ส ศ ษ ๖.๓ สะกดนิว้ มือ วรรณยุกต์ (๔) กำรฝึกสะกดนิ้วมอื พยัญชนะไทยชดุ พ ป ผ ภ ๖.๔ สะกดน้วิ มือชอื่ ตนเอง (๕) กำรฝกึ สะกดนิ้วมอื พยัญชนะไทยชุด ห ฮ ๖.๕ สะกดน้วิ มอื คำงำ่ ย ๆ (๖) กำรฝกึ สะกดน้ิวมอื พยัญชนะไทยชดุ ด ฎ (๗) กำรฝึกสะกดนิ้วมือพยัญชนะไทยชุด ฟ ฝ (๘) กำรฝึกสะกดนว้ิ มอื พยญั ชนะไทยชดุ ล ฬ (๙) กำรฝึกสะกดนว้ิ มอื พยญั ชนะไทยชดุ ย ญ (๑๐) กำรฝึกสะกดน้ิวมอื พยัญชนะไทยชุด น ณ ง (๑๑) กำรฝึกสะกดนวิ้ มือพยัญชนะไทยชุด ท ธ (๑๒) กำรฝึกสะกดน้วิ มือพยัญชนะไทยชดุ ฉ ช ฌ (๑๓) กำรฝึกสะกดนว้ิ มือพยญั ชนะไทย จ ซ บ ร ม ว อ (๑) กำรสะกดนว้ิ มอื สระ อิ อี อึ อือ โอ ไอ ใอ (๒) กำรสะกดนิว้ มอื สระ อะ อำ อุ อู เอ แอ อำ ไม้ไต่คู้ (๓) ไมห้ ันอำกำศ กำรันต์ ฤ และ เคร่ืองหมำย ฯ (๑) กำรสะกดนิ้วมือ วรรณยกุ ต์ (๑) กำรสะกดน้ิวมอื ชอ่ื ตนเอง (๑) กำรสะกดนว้ิ มือคำง่ำย ๆ เกย่ี วตนเอง

๓๘ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณท์ ีส่ าคญั บกพร่องทางการได้ยนิ (๒) กำรสะกดน้ิวมอื คำง่ำย ๆ เกยี่ วกับบคุ คลและสถำนทแี่ วดล้อม (๓) กำรสะกดน้ิวมอื คำงำ่ ย ๆ เกีย่ วกบั ธรรมชำตริ อบตวั (๔) กำรสะกดนวิ้ มอื คำงำ่ ย ๆ เก่ยี วกับสง่ิ ต่ำง ๆรอบตัว ๖.๖ สะกดนวิ้ มืออักษร (๑) กำรสะกดนว้ิ มืออักษรภำษำองั กฤษ A B C D E F ภำษำอังกฤษ (๒) กำรสะกดน้วิ มอื อักษรภำษำอังกฤษ G H I J K (๓) กำรสะกดน้ิวมอื อกั ษรภำษำอังกฤษ L M N O P (๔) กำรสะกดน้วิ มืออกั ษรภำษำองั กฤษ Q R S T U (๕) กำรสะกดนว้ิ มอื อกั ษรภำษำอังกฤษ V W X Y Z ๗. สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ่งิ อานวยความสะดวก เคร่อื งชว่ ยในการเรียนรู้ ๗.๑ ใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยในกำร (๑) กำรใช้อุปกรณช์ ว่ ยในกำรส่ือสำรทำงเลือก สือ่ สำรทำงเลือก ๗.๒ ใช้อปุ กรณช์ ่วยในกำร (๑) กำรใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในกำรเขำ้ ถงึ คอมพวิ เตอร์ เขำ้ ถงึ คอมพิวเตอร์เพอ่ื กำรเรยี นรู้ ๗.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผ่ำน (๑) กำรใชโ้ ปรแกรมเสริมผำ่ นคอมพิวเตอร์เพือ่ ช่วยในกำรเรยี นรู้ คอมพวิ เตอร์เพื่อชว่ ยในกำร เรยี นรู้ ๑.๕.๓ ประสบการณ์สาคญั ที่สง่ เสรมิ การพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญา ทักษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณ์สาคัญ บกพรอ่ งทางสติปัญญา ๑. สามารถส่อื สารได้เหมาะสม (๑) กำรใช้ภำษำท่ำทำงบอกควำมตอ้ งกำร กับสถานการณ์ (๒) กำรใช้ภำษำไดเ้ หมำะสมกับสถำนกำรณ์ ๑.๑ สอื่ สำรไดเ้ หมำะสมกบั (๓) กำรสนทนำโตต้ อบ/เล่ำเรอ่ื งดว้ ยประโยคสนั้ ๆ ได้ สถำนกำรณ์

๓๙ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณ์สาคัญ บกพร่องทางสตปิ ัญญา ๒. สามารถดูแลตนเองและความ (๑) กำรทำกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวันด้วยตนเอง ปลอดภยั ในชีวิตประจาวนั (๒) กำรเลือกรับประทำนอำหำรทเี่ ปน็ ประโยชน์ ๒.๑ ดแู ลตนเองและควำม (๓) กำรระมัดระวงั เรื่องควำมปลอดภยั ตนเอง ปลอดภัยในชีวติ ประจำวัน (๔) กำรทำงำนบ้ำนง่ำย ๆ ๓. มปี ฏิสัมพันาท์ างสงั คมกบั ผูอ้ ่นื อย่างเหมาะสม ๓.๑ กำรมปี ฏิสัมพนั ธ์ทำง (๑) กำรมปี ฏิสัมพันธ์กบั ผู้อน่ื สงั คมกบั ผอู้ น่ื อยำ่ งเหมำะสม (๒) กำรเลน่ กับเพอื่ น (๓) กำรเล่นเลยี นแบบผอู้ ื่น (๔) กำรเลน่ ตำมกตกิ ำ (๕) กำรเลน่ บทบำทสมมติ (๖) กำรปฏบิ ตั ิตำมกฎกติกำทำงสงั คม ๔. รูจ้ ักใชท้ รพั ยากรในชมด ชน (๑) กำรใช้สิ่งของสำธำรณะอย่ำงเหมำะสม ๔.๑ กำรรู้จกั ใช้ทรพั ยำกรใน (๒) กำรปฏิบตั ติ ำมขอ้ ตกลงกำรใช้สงิ่ ของสำธำรณะอย่ำงเหมำะสม (๓) กำรดูแลรกั ษำสิ่งของสำธำรณะไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ชุมชน (๑) กำรใชอ้ ปุ กรณช์ ่วยในกำรสื่อสำรทำงเลือก ๕. สามารถใช้เทคโนโลยสี งิ่ อานวยความสะดวก เครือ่ งชว่ ยในการเรยี นรู้ ๕.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำร สอื่ สำรทำงเลือก ๕.๒ ใชอ้ ปุ กรณช์ ่วยในกำร (๑) กำรใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในกำรเข้ำถงึ คอมพวิ เตอร์ เขำ้ ถึงคอมพิวเตอร์เพอ่ื กำรเรียนรู้ ๕.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผำ่ น (๑) กำรใช้โปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพิวเตอร์เพอื่ ช่วยในกำรเรยี นรู้ คอมพิวเตอรเ์ พอ่ื ช่วยในกำรเรยี นรู้

๔๐ ๑.๕.๔ ประสบการณ์สาคัญท่ีสง่ เสริมการพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางร่างกายหรอื การเคล่อื นไหวหรอื สดขภาพ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณ์ทส่ี าคัญ บกพรอ่ งทางรา่ งกาย ๑. ดูแลสขด อนามัยของตนเอง เพือ่ ปอ้ งกันภาวะแทรกซ้อน ๑.๑ กำรปอ้ งกัน ดูแลและ (๑) กำรใช้อุปกรณช์ ่วยป้องกนั แผลกดทบั รักษำควำมสะอำดแผลกดทบั (๒) กำรพลกิ ตะแคงตวั (๓) กำรยกตัวขณะอย่ใู นท่ำนง่ั (๔) กำรดแู ลและรักษำควำมสะอำดผวิ หนงั ๑.๒ บรหิ ำรกลำ้ มเนอื้ และ (๑) กำรยดื เหยียดกล้ำมเนื้อ ขอ้ ต่อเพ่อื คงสภำพ (๒) กำรลงน้ำหนัก (๓) กำรเพม่ิ กำลงั กลำ้ มเน้อื ๑.๓ จดั ท่ำนอน ทำ่ นั่ง และ (๑) กำรจัดท่ำนอนท่ีถูกต้อง ทำกิจกรรมในท่ำทำงท่ีถกู ต้อง (๒) กำรจัดทำ่ นั่งที่ถกู ตอ้ ง (๓) กำรจัดทำ่ ขณะทำกจิ กรรมท่ถี กู ตอ้ ง ๑.๔ ดแู ลอุปกรณ์ (๑) กำรดูแลและกำรปฏบิ ัติตนเม่ือใส่อุปกรณ์เคร่ืองช่วยส่วนตัวได้ เชน่ สำย เครอ่ื งช่วยส่วนตัวได้ สวนปสั สำวะ ถุงขบั ถ่ำยบรเิ วณหนำ้ ท้อง ทอ่ อำหำร ฯลฯ ๒. สามารถใช้อดปกรณ์ เคร่ืองชว่ ยในการ เคล่ือนย้ายตนเอง (Walker รถเขน็ ไม้เท้า ไม้ค้ายนั ๒.๑ เคลอ่ื นย้ำยตนเองใน กำรใชอ้ ปุ กรณเ์ ครือ่ งชว่ ย (๑) กำรเคลือ่ นย้ำยตนเองเขำ้ ไปจับ Walker (๒) กำรเคลือ่ นย้ำยตนเองเข้ำไปนัง่ เกำ้ อ้ีรถเข็น (๓) กำรเคลือ่ นยำ้ ยตนเองเข้ำไปจับไมเ้ ท้ำ (๔) กำรเคลอ่ื นย้ำยตนเองเข้ำไปใชไ้ ม้คำ้ ยนั ๒.๒ ทรงตัวอยูใ่ นอุปกรณ์ (๑) กำรทรงตวั อย่ใู นอปุ กรณเ์ ครอื่ งชว่ ยในกำรเคลอื่ นยำ้ ยตนเอง เครอื่ งช่วยและปอ้ งกันตนเอง (๒) กำรทรงตวั อยใู่ นอปุ กรณ์เครื่องช่วยในกำรเคล่อื นยำ้ ยตนเองเมื่อมีแรงต้ำน ขณะเคล่อื นย้ำยตนเองได้ (๓) กำรทรงตวั อย่ใู นอปุ กรณ์เคร่ืองชว่ ยในกำรเคลื่อนย้ำยตนเองโดยมกี ำรถำ่ ย น้ำหนกั ไปในทิศทำงตำ่ ง ๆ (๔) ป้องกันตนเองขณะล้มจำกกำรใช้อปุ กรณเ์ ครอื่ งช่วยในกำรเคลื่อนย้ำย ตนเอง ๒.๓ เคลอื่ นย้ำยตนเองด้วย (๑) กำรเคลอื่ นยำ้ ยตนเองโดยใชอ้ ปุ กรณ์เครอ่ื งช่วยบนทำงรำบ อุปกรณเ์ ครื่องชว่ ยได้ (๒) กำรเคลอ่ื นยำ้ ยตนเองโดยใชอ้ ุปกรณ์เครือ่ งช่วยบนทำงลำด (๓) กำรเคลอื่ นยำ้ ยตนเองโดยใชอ้ ปุ กรณเ์ ครอื่ งชว่ ยบนทำงต่ำงระดบั

๔๑ ทักษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณท์ ี่สาคัญ บกพรอ่ งทางร่างกาย (๑) กำรเก็บรักษำและดูแลอุปกรณ์เครื่องช่วยในกำรเคล่อื นย้ำยตนเอง ๒.๔ เกบ็ รักษำและดแู ล (๑) กำรถอดและใส่กำยอปุ กรณเ์ สรมิ อุปกรณ์เคร่ืองชว่ ยในกำร (๒) กำรถอดและใส่กำยอปุ กรณเ์ ทยี ม เคล่ือนยำ้ ยตนเอง (๓) กำรถอดและใสอ่ ุปกรณ์ดดั แปลง ๓. สามารถใชแ้ ละดูแลรักษา (๑) กำรใชก้ ำยอปุ กรณ์เสริมในกำรทำกจิ กรรม หรือเมื่อมแี รง กายอปด กรณเ์ สริม ต้ำนต่ำง ๆ กายอปด กรณเ์ ทียม (๒) กำรใช้กำยอปุ กรณ์เทียมในกำรทำกิจกรรมหรือเม่ือมแี รง อปด กรณ์ดัดแปลง ๓.๑ ถอดและใสก่ ำย ต้ำนตำ่ ง ๆ อปุ กรณ์เสริม กำยอุปกรณ์เทยี ม (๓) กำรใชอ้ ปุ กรณด์ ัดแปลงในกำรทำกิจกรรมหรอื เม่ือมีแรง หรืออปุ กรณด์ ัดแปลง ต้ำนต่ำง ๆ ๓.๒ ใชก้ ำยอุปกรณเ์ สรมิ (๑) กำรเกบ็ รักษำและดูแลกำยอปุ กรณเ์ สรมิ กำยอปุ กรณเ์ ทยี ม หรอื อุปกรณ์ (๒) กำรเกบ็ รักษำและดูแลกำยอปุ กรณ์เทยี ม ดัดแปลงในกำรทำกิจกรรม (๓) กำรเก็บรกั ษำและดูแลอุปกรณ์ดัดแปลง ๓.๓ เก็บรักษำและดูแล (๑) กำรใช้อปุ กรณช์ ว่ ยในกำรสอื่ สำรทำงเลอื ก กำยอปุ กรณ์เสริม กำยอุปกรณ์ (๑) กำรใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำรเข้ำถงึ คอมพวิ เตอร์ อุปกรณเ์ ทยี ม หรืออุปกรณ์ ดดั แปลง (๑) กำรใช้โปรแกรมเสรมิ ผ่ำนคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื ชว่ ยในกำรเรียนรู้ ๔. สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี งิ่ (๑) กำรเคลื่อนไหวริมฝปี ำก อานวยความสะดวก เคร่ืองช่วยในการเรยี นรู้ ๔.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในกำร สอื่ สำรทำงเลอื ก ๔.๒ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำร เขำ้ ถึงคอมพวิ เตอร์เพื่อกำร เรียนรู้ ๔.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่ำน คอมพวิ เตอร์เพอื่ ช่วยในกำร เรียนรู้ ๕. ควบคดมอวยั วะท่ใี ชใ้ น การพดู การเคี้ยว และการ กลืน

๔๒ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณ์ทสี่ าคัญ บกพรอ่ งทางรา่ งกาย ๕.๑ ควบคมุ กลำ้ มเน้ือรอบ (๒) กำรควบคุมกลำ้ มเนื้อรอบปำก ปำก (๑) กำรเคล่ือนไหวลิ้นตำมทีก่ ำหนด ๕.๒ ควบคุมกำรใช้ลิ้น (๑) กำรเปำ่ ลมออกจำกปำก ๕.๓ เปำ่ และดูด (๒) กำรดูดของเหลว ๕.๔ กำรกลนื และเคีย้ วได้ (๑) กำรขยบั ขำกรรไกร (๒) กำรกลนื นำ้ ลำย ๕.๔ กำรควบคมุ นำ้ ลำย (๓) กำรกลนื อำหำรข้น (๔) กำรกลืนอำหำรเหลว (๕) กำรกัดอำหำรประเภทต่ำง ๆ (๖) กำรเคยี้ วอำหำรประเภทต่ำง ๆ (๑) กำรปดิ รมิ ฝีปำก (๒) กำรใชร้ ิมฝปี ำกคำบ (๓) กำรบริหำรริมฝปี ำก ๑.๕.๕ ประสบการณส์ าคญั ทีส่ ง่ เสริมการพัฒนาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณท์ ส่ี าคัญ บกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ๑. มคี วามสามารถในการรับรู้ การได้ยิน ๑.๑ จำเสยี งทไี่ ดย้ นิ ใน (๑) กำรพูดตำมเสียงที่ได้ยิน ชวี ิตประจำวนั (๒) กำรพูดยอ้ นกลบั จำกเสียงทไ่ี ดย้ นิ (๓) กำรบอกเสยี งที่เคยได้ยนิ ๑.๒ จำแนกเสยี งที่แตกต่ำง (๑) กำรแยกเสยี งบคุ คล เสียงสัตว์ เสียงในชีวิตประจำวัน (๒) กำรแยกเสียงธรรมชำติ (๓) กำรแยกเสียงเหมอื น - ต่ำง ดงั – เบำ ๑.๓ แยกเสยี งท่ีกำหนดให้ (๑) กำรบอกเสียงทก่ี ำหนดออกจำกเสียงอ่นื ๆ ออกจำกเสียงอื่น ๆ ได้ ๒. มคี วามสามารถในการรบั รู้ การเหน็ ๒.๑. กำรจำภำพที่เหน็ ใน (๑) กำรบอกภำพจำกกำรจดจำ ชวี ติ ประจำวนั (๒) กำรบอกภำพสัญลักษณ์จำกกำรจดจำ

๔๓ ทักษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณท์ ่ีสาคญั บกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ๒.๒. กำรแยกวตั ถุ ภำพ ตวั (๑) กำรแยกวัตถทุ ี่กำหนดให้ออกจำกส่งิ ต่ำง ๆ ทีต่ ำ่ งกัน พยญั ชนะทกี่ ำหนดใหอ้ ยู่ในพน้ื (๒) กำรแยกภำพทกี่ ำหนดให้ออกจำกฉำกหลังที่ตำ่ งกัน ฉำกท่ีตำ่ งกัน (๓) กำรแยกตวั อกั ษรท่ีกำหนดให้ออกจำกฉำกหลงั ที่ต่ำงกนั (๔) กำรแยกสญั ลกั ษณ์ทกี่ ำหนดใหอ้ อกจำกฉำกหลงั ที่ต่ำงกนั ๒.๓ ตำกับมือเคลอ่ื นไหว (๑) กำรสร้ำงสรรคส์ ่ิงสวยงำม สมั พันธ์กนั (๒) กำรเขยี นภำพและกำรเลน่ กับสี (๓) กำรปน้ั (๔) กำรประดษิ ฐ์ส่งิ ตำ่ ง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ (๕)กำรหยิบจับกำรใช้กรรไกร กำรฉีก กำรตดั กำรปะและกำรรอ้ ยวสั ดุ ๒.๔ กำรบอกสว่ นท่หี ำยไป (๑) กำรบอกสว่ นทีห่ ำยไปของรปู ภำพ ของรูปภำพที่กำหนด (๒) เติมองค์ประกอบของรูปภำพทหี่ ำยไปให้สมบูรณ์ (๓) เติมสว่ นของรูปเรขำคณิตที่หำยไป ๒.๕ บอกควำมสมั พันธ์ของ (๑) กำรจัดกำรเรยี นรูค้ วำมสัมพันธ์ของตำแหน่ง ลำดับ รปู รำ่ ง คณุ ลกั ษณะตำแหน่ง ลำดบั ของสิง่ ที่อยู่รอบตัว ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม รปู รำ่ งของสิ่งทีอ่ ยรู่ อบตัว (๒) กำรบอกควำมสมั พันธข์ องส่ิงต่ำง ๆ รอบตัว (๓) กำรบอกตำแหนง่ ของส่งิ ตำ่ ง ๆตำมที่กำหนด (๔) กำรวำงวัตถุหรอื สิ่งของตำมตำแหน่งที่กำหนด (๕) กำรเรียงลำดบั รูปรำ่ ง ตวั เลข พยญั ชนะ คำศัพท์ตำมแบบ (๖) กำรประกอบรปู ร่ำงเรขำคณิตเป็นสงิ่ ของ เครอ่ื งใช้ สัตว์ คน (๗) กำรตอ่ เตมิ และกำรสรำ้ งแบบรูปตำมจินตนำกำร (๘) กำรคดั ลอกรูปภำพ (๙) สรำ้ งภำพวำดดว้ ยตนเอง ๓. มีความสามารถในการ (๑) กำรบอกและเรยี งลำดบั กิจกรรม จัดลาดบั ความคิด (๒) กำรบอกและเรียงลำดับเหตุกำรณต์ ำมช่วงเวลำ ๓.๑. เรยี งลำดับเหตกุ ำรณ์ (๓) กำรบอกข้ันตอนในกำรเลน่ หรือกำรทำกจิ กรรม ขั้นตอนในกำรเลน่ หรอื กำรทำ (๔) กำรเลำ่ นิทำน กจิ กรรมได้ (๕) กำรเล่ำเรอ่ื งเกย่ี วกับชีวติ ประจำวัน ๔. มีความสามารถในการจดั (๑) กำรรับผดิ ชอบงำนทไี่ ด้รบั มอบหมำย ระเบียบตนเอง (๒) กำรรว่ มมอื ในกำรทำงำนรว่ มกับผูอ้ นื่ ๔.๑ จัดกำรตนเองได้

๔๔ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณ์ทส่ี าคญั บกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ (๑) กำรจดั ลำดับกจิ กรรมตนเองในชีวติ ประจำวนั ๔.๒ จดั ลำดับกิจกรรม (๒) กำรปฏิบตั ิกจิ รรมประจำวนั ตำมตำรำงทกี่ ำหนด ตนเองได้ ๕. มคี วามสามารถในการบอก ตาแหน่ง/ทิศทาง ๕.๑ บอกทศิ ทำงหรอื (๑) กำรวำงส่งิ ของทอ่ี ย่ทู ำงซ้ำย-ขวำ บน-ล่ำง หนำ้ -หลงั ตำแหน่งของส่งิ ตำ่ ง ๆ (๒) กำรบอกหรอื ชี้ตำแหนง่ ส่ิงของหรือวัตถุ (๓) กำรจัดตำแหนง่ ของภำพ สญั ลกั ษณ์ สิง่ ของหรือวัตถตุ ำมทกี่ ำหนด (๔) กำรจัดตำแหน่งหรอื ทศิ ทำงสง่ิ ของหรือวตั ถุให้อยู่ทศิ ทำงเดียวกัน (๕) กำรจัดตำแหน่งหรือทิศทำงรูปภำพให้อยทู่ ิศทำงเดียวกัน (๖) กำรบอกตำแหนง่ ทศิ ทำงของสถำนทท่ี ี่คุ้นเคย ๖. สามารถใช้เทคโนโลยี (๑) กำรใชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ยในกำรส่อื สำรทำงเลอื ก สิ่งอานวยความสะดวก (๑) กำรใช้อปุ กรณช์ ่วยในกำรเข้ำถึงคอมพวิ เตอร์ เคร่อื งชว่ ยในการเรยี นรู้ ๖.๑ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำร (๑) กำรใช้โปรแกรมเสรมิ ผำ่ นคอมพวิ เตอร์เพ่ือช่วยในกำรเรียนรู้ สอื่ สำรทำงเลือก ๖.๒ ใช้อปุ กรณช์ ่วยในกำร เข้ำถึงคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื กำร เรยี นรู้ ๖.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผำ่ น คอมพิวเตอรเ์ พ่ือชว่ ยในกำร เรยี นรู้ ๑.๕.๖ ประสบการณส์ าคัญทส่ี ง่ เสริมการพฒั นาทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางการพดู และภาษา ทกั ษะจาเป็นเฉพาะความ ประสบการณส์ าคัญ บกพร่องทางการพูดและภาษา ๑.สามารถควบคดมอวัยวะใน การออกเสยี ง ๑.๑ ควบคุมอวยั วะใน (๑) กำรควบคมุ อวัยวะในปำก กำรพดู (๒) กำรบริหำรควำมแขง็ แรงของกล้ำมเนื้อท่ีเกย่ี วข้องกับกำรพดู (๓) กำรควบคมุ ลมหำยใจ (๔) กำรกกั และพน่ ลม ๑.๒ เคลือ่ นไหวอวัยวะใน (๑) กำรเคลอื่ นไหวลนิ้ กำรพูด (๒) กำรอำ้ หบุ หอ่ ปำก (๓) กำรยิงฟันและพน่ ลมผำ่ นไรฟัน

๔๕ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณส์ าคัญ บกพร่องทางการพูดและภาษา ๒. สามารถออกเสยี งตาม หน่วยเสียงได้ชัดเจน ๒.๑ ออกเสียงให้ชัดเจน (๑) กำรออกเสียงพยญั ชนะตำมหนว่ ยเสยี ง (๒) กำรออกเสยี งตำมฐำนที่เกิดเสียงจำกง่ำยไปหำยำก (๓) กำรออกเสียงคำควบกล้ำ (๔) กำรออกเสยี งคำทข่ี ำดหำย ๓. เปลง่ เสียงใหเ้ หมาะสมกบั ารรมชาติของแตล่ ะคน ๓.๑ เปลง่ เสียงในระดับ (๑) กำรเปลง่ เสยี งสงู ตำ่ ประกอบจงั หวะ เสียงทที่ ำใหผ้ ู้อืน่ ฟังได้ (๒) กำรเปลง่ เสียงพดู โดยใช้คำงำ่ ย ๆ ในระยะใกล้-ไกล (๓) กำรเปลง่ เสยี งดังหรือเบำ ๔. สามารถควบคดมจังหวะ (๑) กำรพูดตำมจังหวะทก่ี ำหนด การพูด (๒) กำรออกเสยี งตำมจังหวะทเ่ี คำะ ช้ำ-เรว็ ๔.๑ ควบคุมจังหวะกำรพูด (๓) กำรกำหนดกำรหำยใจเข้ำ-ออก/ทอ้ งโปง่ -แฟบ (๔) กำรเลำ่ เรอื่ งกบั กับตนเอง ได้เปน็ จงั หวะปกติ (๕) กำรเลำ่ นทิ ำนสัน้ ๆ (๗๐-๑๐๐ คำต่อนำท)ี (๑) กำรผ่อนคลำยกล้ำมเนื้อขำกรรไกรและอวยั วะในกำรพดู (๒) กำรลำกเสยี งสระและพยัญชนะใหย้ ำวจนสุดลมหำยใจ ๔.๒ พูดไดค้ ล่องหรือลด (๓) กำรเคลอ่ื นไหวอวัยวะของกำรพดู หนงึ่ ชว่ งลมหำยใจ ภำวะกำรตดิ อ่ำง (๔) กำรหำยใจและกำรผอ่ นลมหำยใจ (๑) กำรพูดหรอื เล่ำเรื่องรำวเกี่ยวกับตนเอง ๔.๓ พูดเว้นวรรคตอนได้ (๒) กำรอำ่ นขอ้ ควำมโดยทำเคร่อื งหมำยวรรคตอน ถูกตอ้ ง ๕. สามารถใช้เทคโนโลยี (๑) กำรใช้อุปกรณ์ช่วยในกำรส่อื สำรทำงเลอื ก ส่งิ อานวยความสะดวก (๑) กำรใช้อปุ กรณ์ชว่ ยในกำรเข้ำถงึ คอมพิวเตอร์ เครอื่ งชว่ ยในการเรียนรู้ ๕.๑ ใช้อปุ กรณ์ช่วยในกำร (๑) กำรใชโ้ ปรแกรมเสริมผ่ำนคอมพวิ เตอร์เพ่ือช่วยในกำร สอื่ สำรทำงเลือก เรยี นรู้ ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในกำร เข้ำถึงคอมพิวเตอรเ์ พื่อกำร เรยี นรู้ ๕.๓ ใช้โปรแกรมเสริมผำ่ น คอมพิวเตอร์เพอื่ ช่วยในกำร เรยี นรู้

๔๖ ๑.๕.๗ ประสบการณ์สาคัญที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพร่องทางพฤติกรรมหรอื อารมณ์ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ บกพร่องทางพฤตกิ รรมหรือ ประสบการณส์ าคัญ อารมณ์ ๑. สามารถจัดการกบั อารมณ์ ของตนเอง (๑) กำรพดู สะท้อนควำมรู้สึกของตนเองและผู้อ่นื ๑.๑ ควบคมุ ควำมรสู้ ึกหรอื (๒) กำรเลน่ บทบำทสมมติ อำรมณข์ องตนเองได้ (๓) กำรได้ทำในส่ิงทน่ี ักเรียนชอบ (๔) กำรทำงำนศลิ ปะ (๕) กำรเลน่ เปน็ กลมุ่ ๑.๒ แสดงออกทำงอำรมณ์ (๑) กำรเลน่ บทบำทสมมติ อย่ำงเหมำะสมตำมสถำนกำรณ์ (๒) กำรทำกจิ กรรมดนตรี (๓) กำรทำกิจกรรมศลิ ปะ (๔) กำรฟงั นิทำนและเลำ่ เรอ่ื ง (๕) กำรนัง่ สมำธิ ทำกจิ กรรมฝึกสมำธิ (๖) กำรออกกำลังกำย (๗) กำรทำกิจกรรมนันทนำกำร (๘) กำรทำกจิ กรรมในชมุ ชน (๙) กำรเดินเลน่ (๑๐)กำรทำกจิ กรรมทำงสงั คมร่วมกับเพ่ือน ๒. สามารถควบคดมพฤตกิ รรม (๑) กำรมอบหมำยงำนใหท้ ำร่วมกบั เพ่อื น ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม (๒) กำรเล่นกับเพอ่ื นแบบมีกติกำ (๓) กำรปฏบิ ัติตนตำมกฎกตกิ ำของชั้นเรยี น ๒.๑ ควบคมุ ตนเองในกำร (๔) กำรฝกึ ระเบียบวินัย ทำกจิ กรรมร่วมกับเพื่อนได้ (๕) กำรรับผิดชอบงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำย อยำ่ งเหมำะสม (๖) กำรเล่นบทบำทสมมติ (๗) กำรปรับตวั ใหเ้ ข้ำกับผอู้ ืน่ และสง่ิ แวดลอ้ ม ๓. สามารถปรบั ตวั ในการอยู่ รว่ มกับสงั คม (๑) กำรรบั ผดิ ชอบงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำย (๒) กำรปฏิบตั ิตำมขอ้ ตกลงของห้องเรียนและโรงเรยี น ๓.๑ กำรปฏิบตั ิตำมกฎกตกิ ำ (๓) กำรปฏบิ ัตติ ำมกตกิ ำกำรเล่น และมำรยำททำงสังคมไดอ้ ยำ่ ง เหมำะสม

๔๗ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความ ประสบการณส์ าคัญ บกพรอ่ งทางพฤติกรรมหรือ (๔) กำรปฏบิ ตั ติ นในสถำนทีต่ ่ำง ๆ อย่ำงเหมำะสม อารมณ์ (๕) กำรปฏบิ ตั ติ นตำมมำรยำททำงสังคม ๑.๕.๘ ประสบการณส์ าคญั ท่สี ง่ เสริมการพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะบคด คลออทิสตกิ ทักษะจาเป็นเฉพาะสาหรับบดคคล ประสบการณส์ าคญั ออทสิ ติก (๑) กำรเลน่ เครื่องเลน่ ทที่ ำใหเ้ กิดกำรเปลีย่ นแปลงตำแหนง่ ของศีรษะ ๑. ตอบสนองต่อสิง่ เรา้ จาก กำรปีนปำ่ ย ห้อย โหน ประสาทสัมผัสได้เหมาะสม ๑.๑ ตอบสนองตอ่ กำรทรงตวั (๒) กำรเลน่ เคร่ืองเลน่ ทีม่ กี ำรเคลื่อนไหวไปในระนำบที่แตกต่ำงกนั (๓) กำรนั่งเครื่องเล่นหรอื อุปกรณ์ทมี่ กี ำรเคลื่อนไหว ไดเ้ หมำะสม (๔) กำรยืนทรงตัวบนอปุ กรณห์ รือในรปู แบบต่ำง ๆ (๕) กำรเดนิ ทรงตวั (๖) กำรหมุนศรี ษะและกำรเคล่อื นไหวไปในระนำบท่ีแตกต่ำงกนั (๗) กำรเคลอ่ื นไหวแบบรำบเรยี บและทศิ ทำงตำ่ ง ๆ ๑.๒ ตอบสนองตอ่ กำร (๑) กำรกระโดดในรปู แบบตำ่ ง ๆ เคลื่อนไหวกล้ำมเนื้อเอ็นและข้อ (๒) กำรเล่นเครื่องเลน่ ท่มี กี ำรโหนหรอื ปีนป่ำย ต่อได้เหมำะสม (๓) กำรห้วิ ลำก ผลกั ดึง ยก สิ่งของหรือวตั ถุท่มี นี ้ำหนัก (๔) กำรออกกำลงั กำยในท่ำตำ่ ง ๆ ๑.๓ ตอบสนองตอ่ กำยสมั ผสั (๕) กำรคลำนบนสภำพแวดล้อมท่ีแตกต่ำงกัน ได้เหมำะสม (๖) กำรทำท่ำประกอบเพลงที่มีจงั หวะชำ้ หรอื เร็ว (๗) กำรเค้ยี วอำหำรหรอื วัตถทุ ่มี ีควำมเหนียว (๘) กำรลงน้ำหนกั ทข่ี อ้ ตอ่ (๑) กำรเพมิ่ แรงกดลงบริเวณผิวหนงั ร่ำงกำย (๒) กำรกอดรดั หรือใสอ่ ุปกรณท์ ม่ี กี ำรลงน้ำหนักบนรำ่ งกำยของเดก็ (๓) กำรทำกจิ กรรมศลิ ปะท่ีใชว้ ัสดทุ ่ีมพี ้ืนผวิ หรือลักษณะท่ีแตกตำ่ งกนั (๔) กำรเลน่ อสิ ระบนพืน้ ผวิ หรอื ลกั ษณะท่ีแตกต่ำงกนั (๕) กำรนวดสมั ผสั แบบตำ่ ง ๆ (๖) กำรสมั ผัสส่งิ ต่ำง ๆ ท่ีมอี ุณหภมู แิ ละลกั ษณะทแี่ ตกต่ำงกัน

๔๘ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรบั บคด คล ประสบการณส์ าคัญ ออทสิ ติก (๑) กำรดมกลิน่ สิ่งตำ่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ๑.๔ ตอบสนองต่อกำรดมกล่นิ (๒) กำรไปทัศนศกึ ษำ นอกสถำนที่ทมี่ กี ล่ินต่ำง ๆ (๓) กำรปรับตัวตอ่ สภำพแวดลอ้ มทีม่ ีกลิ่นต่ำง ๆ ไดเ้ หมำะสม ๑.๕ ตอบสนองตอ่ เสียงทีไ่ ด้ (๑) กำรฟงั เสยี งท่ีมรี ะดับควำมดงั ทแี่ ตกต่ำงกัน ยินได้เหมำะสม (๒) กำรเลน่ เครอื่ งดนตรี (๓) กำรเคลื่อนไหวตำมเสยี งเพลง ๑.๖ ตอบสนองตอ่ กำรเห็นได้ (๔) กำรรอ้ งเพลง เหมำะสม (๕) กำรเล่นของเลน่ ท่ีมีเสียง (๖) กำรทศั นศึกษำนอกสถำนที่ทมี่ ีเสยี งตำ่ ง ๆ ๑.๗ ตอบสนองตอ่ กำรล้มิ รส (๑) กำรลดแสงสว่ำงป้องกนั กำรหนั เหควำมสนใจ ไดเ้ หมำะสม (๒) กำรทำกจิ กรรมทอ่ี ย่ใู นสภำพแวดลอ้ มทมี่ ีแสงสวำ่ ง หรอื แสงสี แตกตำ่ งกนั ๒. เขา้ ใจภาษาและแสดงออก (๓) กำรเล่นของเลน่ ที่ตอ้ งใช้สำยตำ ทางภาษาได้อย่างเหมาะสม (๔) กำรเลน่ ของเล่นทมี่ แี สงและสีสนั สดใส ๒.๑ ปฏบิ ัติตำมคำส่ังได้ (๕) กำรทำกจิ กรรมที่ใช้วัสดุท่มี ีแสงสวำ่ ง หรอื แสงสีกระตุ้นควำมสนใจ ๒.๒ ส่อื สำรโดยกำรใช้ทำ่ ทำง (๑) กำรชมิ อำหำรที่มีรสชำติต่ำง ๆ (๒) กำรชมิ อำหำรทมี่ ีอุณหภูมิต่ำง ๆ รูปภำพ สัญลกั ษณ์คำพูดใน (๓) กำรชิมอำหำรที่มีลกั ษณะต่ำง ๆ ชวี ิตประจำวัน (๔) กำรประกอบอำหำรงำ่ ย ๆ (๑) กำรปฏบิ ตั ิตำมคำสั่งง่ำย ๆ (๒) กำรปฏบิ ตั ติ นตำมตำรำงกิจกรรม (๑) กำรบอกควำมต้องกำรโดยใช้ทำ่ ทำง ชรี้ ปู ภำพหรือพูด (๒) กำรตอบคำถำมโดยใชท้ ำ่ ทำง ชีร้ ปู ภำพหรอื พดู (๓) กำรพูดโดยใชส้ ือ่ (๔) กำรใชว้ ธิ กี ำรสื่อสำรทำงเลอื ก (๕) กำรเล่นบทบำทสมมตเิ ก่ยี วกบั กำรส่ือสำร (๖) กำรทศั นศกึ ษำแหลง่ เรยี นรู้ (๗) กำรรว่ มกิจกรรมกับผ้อู ่ืน ๓. แสดงพฤตกิ รรมท่ี เหมาะสมตามสถานการณ์

๔๙ ทกั ษะจาเป็นเฉพาะสาหรับบคด คล ประสบการณส์ าคญั ออทสิ ตกิ ๓.๑ รบั รู้และแสดงอำรมณ์ (๑) กำรใช้สือ่ ที่ส่งเสรมิ กำรเรียนรูผ้ ่ำนกำรเหน็ เก่ียวกบั อำรมณ์ ของตนเองและบุคคลอ่ืน (๒) กำรบอกหรอื เลอื กภำพอำรมณจ์ ำกกำรดภู ำพสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ อยำ่ งเหมำะสม (๓) กำรฟังนิทำน (๔) กำรดูวดี ที ัศน์นทิ ำนสนั้ ๆ (๕) กำรเคล่ือนไหวตำมเสยี งเพลง ดนตรี (๖) กำรแสดงสีหน้ำ ท่ำทำงเกี่ยวกับอำรมณ์หน้ำกระจก (๗) กำรเล่นหรอื ทำกจิ กรรมรว่ มกับเพือ่ น (๘) กำรรว่ มกจิ กรรมกับผอู้ ่ืนในชมุ ชน ๓.๒ ปฏิบัติตำมขอ้ ตกลงของ (๑) กำรร่วมกำหนดข้อตกลง กติกำและเง่ือนไขของหอ้ งเรียนและ ห้องเรียนและโรงเรียน โรงเรยี น (๒) กำรปฏิบตั ติ นเป็นสมำชกิ ทด่ี ีของหอ้ งเรยี นและโรงเรยี น (๓) กำรให้ควำมรว่ มมือในกำรปฏิบตั กิ ิจกรรมต่ำง ๆ ในหอ้ งเรียนและ โรงเรยี น ๓.๓ ปฏบิ ตั ิตนเหมำะสมตำม (๑) กำรปฏิบัตติ นตำมมำรยำทของสังคม สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ (๒) กำรแสดงบทบำทสมมติ (๓) กำรใชส้ อ่ื ทสี่ ง่ เสรมิ กำรเรียนร้ผู ่ำนกำรเห็นช้บี อกพฤตกิ รรมที่ เหมำะสม (๔) กำรรว่ มกิจกรรมวนั สำคัญต่ำง ๆ (๕) กำรศกึ ษำนอกสถำนท่ี (๖) กำรทำกิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ื่น (๗) กำรไปในสถำนท่ีตำ่ ง ๆ (๘) กำรทำกิจกรรมตำมมมุ ต่ำง ๆ ๔. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีสิง่ อานวยความสะดวก เครื่องช่วย ในการเรยี นรู้ ๔.๑ ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในกำร (๑) กำรใชอ้ ุปกรณช์ ว่ ยในกำรส่ือสำรทำงเลอื ก สอ่ื สำรทำงเลือก ๔.๒ ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในกำร (๑) กำรใชอ้ ปุ กรณช์ ว่ ยในกำรเข้ำถึงคอมพวิ เตอร์ เข้ำถึงคอมพวิ เตอร์เพื่อกำรเรยี นรู้ ๔.๓ ใชโ้ ปรแกรมเสรมิ ผำ่ น (๑) กำรใชโ้ ปรแกรมเสริมผำ่ นคอมพวิ เตอรเ์ พอื่ ชว่ ยในกำรเรียนรู้ คอมพิวเตอร์เพอื่ ช่วยในกำรเรยี นรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook