Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore unit1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไ

unit1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไ

Published by saratoolpechkomkam, 2020-07-19 11:48:03

Description: unit1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไ

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 1 ความรพู้ ้นื ฐานเกี่ยวกบั เว็บไซต์

หน่วยที่ 1 ความร้เู บอื้ งตน้ เกี่ยวกับเวบ็ ไซต์ หัวข้อ (Topics) 1.1 ความหมายและความสาคัญของเวบ็ ไซต์ 1.2 ทม่ี าของเว็บไซต์ 1.3 ประเภทของเวบ็ ไซต์ 1.4 คาศพั ท์พน้ื ฐานท่เี กยี่ วข้องกับเวบ็ ไซต์ 1.5 โปรแกรมท่ีนิยมในการพัฒนาเว็บไซต์ แนวคิด (Main Idea) ปัจจุบันเป็นยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักนิยมใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้น ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เว็บไซต์จึงเป็นอีกหน่ึงทางเลือกท่ีหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ นิยมสร้าง ข้ึนมาเพ่ือจัดเก็บข้อมูล ประชาสัมพันธ์ข้อมูล เป็นต้น ก่อนที่จะสร้างเว็บไซต์ส่ิงสาคัญท่ีจะต้องเรียนรู้ ในบทนี้คือความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับเว็บไซต์ ซึ่งประกอบไปด้วย ความหมายและความสาคัญของ เว็บไซต์ท่ีมาของเว็บไซต์ ประเภทของเว็บไซต์ คาศัพท์พ้ืนฐานท่ีเก่ียวข้องกับเว็บไซต์ และโปรแกรม ทน่ี ยิ มในการพฒั นาเว็บไซต์ เพอ่ื เป็นความร้พู ื้นฐานในการออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซตต์ ่อไป สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แสดงความรเู้ บื้องต้นเก่ียวกบั เว็บไซต์ จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม (Behavioral Objectives) 1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของเวบ็ ไซตไ์ ด้ 2. บอกทม่ี าของเว็บไซต์ได้ 3. บอกประเภทของเว็บไซตไ์ ด้ 4. บอกคาศัพทพ์ ้ืนฐานทเี่ กย่ี วข้องกับเวบ็ ไซต์ได้ 5. บอกโปรแกรมทน่ี ิยมในการพฒั นาเว็บไซตไ์ ด้

5 1.1 ความหมายและความสาคัญของเว็บไซต์ เว็บไซต์ (website) หมายถึง เอกสารหน้าเว็บเพจหลายหน้าท่ีเช่ือมโยงกัน ส่วนใหญ่จัดทา ขึ้นเพ่ือนาเสนอข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต หน้าแรกของเว็บไซต์จะเรียกว่า โฮมเพจ เว็บไซต์โดยทั่วไป จะให้บริการต่อผู้ใช้ฟรี แต่ในขณะเดียวกันบางเว็บไซต์จาเป็นต้องมีการสมัครสมาชิกและเสีย ค่าบริการเพื่อที่จะดูข้อมูล หรือดาวน์โหลดข้อมูลในเว็บไซต์นั้น ซึ่งได้แก่ข้อมูลทางวิชาการข้อมูล ตลาดหลักทรัพย์ ภาพยนตร์ เพลง หรือข้อมูลส่ืออื่น ๆ ผู้ทาเว็บไซต์มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่สร้าง เว็บไซต์ส่วนตัว จนถึงระดับเว็บไซต์สาหรับธุรกิจหรือองค์กรต่างๆ การเรียกดูเว็บไซต์โดยท่ัวไปนิยม เรียกดูผ่านซอฟต์แวร์ในลักษณะของ เว็บเบราวเซอร์ ซึ่งในยุคปัจจุบันเว็บไซต์ได้กลายเป็นสื่อที่มี ความสาคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโฆษณาและประชาสัมพันธ์หน่วยงาน การติดต่อ ประสานงาน การเก็บรวบรวมข้อมูลการนาเสนอข้อมูล ทั้งนี้เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถนาเสนอ เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารได้อย่างไร้ขีดจากัด ท้ังในเร่ืองเวลาและระยะทาง โดยสามารถคลิกเปิดดูได้ ตลอดเวลา 24 ช่ัวโมง ไม่ว่าจะอยู่ท่ีใดในโลกก็ตาม ด้วยข้อดีดังกล่าว บริษัท ห้างร้าน สถานศึกษา สถานประกอบการเกือบทุกแห่งท้ังภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป ต่างก็มีความต้องการ จัดทาเว็บไซต์ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารรูปแบบใหม่และเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เช่น การโฆษณาขายสินค้าและบริการในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีจุดมุ่งหมาย ในเชิงธุรกิจ หรือการใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารขององค์กร เพื่อประชาสัมพันธ์ องค์กรให้เป็นที่รู้จักเพื่อหวังผลในการสร้างภาพลักษณ์ ขององค์กรให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งเว็บไซต์ เป็นส่ือที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการสนองภารกิจดังกล่าว รูปที่ 1.1 เว็บไซต์ในงานธุรกิจ (ท่มี า : http://www.cpall.co.th)

6 1.2 ท่ีมาของเว็บไซต์ เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee, OM, KBE, FRS, FREng, FRSA) เกิดเม่ือวันท่ี 8 มิถุนายน พ.ศ. 2498 เป็นผู้คิดค้นและประดิษฐ์ เวิลด์ไวด์เว็บ โดยเริ่มจากการ จัดทาโครงการหนึ่งท่ีใช้แนวคิด \"ข้อความหลายมิติ\" หรือ hypertext มาใช้สาหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างนักวิจัยด้วยกัน ขณะที่ เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลีทางานอยู่ที่ \"เซิร์น\" เขาได้สร้างระบบ ต้นแบบไว้แล้วเรียกชื่อว่า ENQUIRE หลังจากออกจากเซิร์น เมื่อ พ.ศ. 2523 เบอร์เนิร์ส-ลี ไปร่วมงานกับ บริษัท \"อิมเมจคอมพิวเตอร์ซิสเต็ม\" ของจอห์น พุล เบอร์เนิร์ส-ลี และได้กลับมาทางานที่เซิร์นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2527 ในตาแหน่งสิกขบัณฑิต (Fellow) เมื่อถึง พ.ศ. 2532 เซิร์นได้กลายเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ต ท่ีใหญ่ท่ีสุดในยุโรป ซึ่งเบอร์เนิร์ส-ลี ได้เล็งเห็นโอกาสในการใช้ \"ข้อความหลายมิติ\" ผนวกเข้ากับ อินเทอร์เน็ต โดยเอาความคิดเรื่องข้อความหลายมิตินี้เช่ือมต่อเข้ากับความคิด \"ทีซีพี\" และ \"DNS\" จึงกลายเป็น \"เวิลด์ไวด์เว็บ\" และได้ใช้ความคิดเดียวกับระบบเอ็นไควร์มาใช้สร้างเวิลด์ไวด์เว็บ ซึ่งได้ อ อ ก แ บ บ พั ฒ น า ส ร้ า ง เ ว็ บ เ บ ร า ว เ ซ อ ร์ แ ล ะ เ อ ดิ เ ต อ ร์ ตั ว แ ร ก ข อ ง โ ล ก ชื่ อ ว่ า ”WorldWideWeb” บนระบบปฏิบัติการ NEXTSTEP ของสตีฟ จอบส์ และสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์ข้ึน เรียกว่า httpd (ย่อมาจาก HyperText Transfer Protocal Deamon) เว็บไซต์แรกสุดสร้างข้ึนที่เซิร์น นาข้ึนออนไลน์ เม่ือวันท่ี 6 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ให้คาอธิบายว่าเวิลด์ไวด์เว็บคืออะไร การท่ีจะเป็นเจ้าของเบราว์เซอร์ทาได้อย่างไร และจะติดต้ังเว็บเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างไร นอกจากนี้ยังนับเป็นเว็บไดเร็กทอรี่อันแรกของโลกด้วยเน่ืองจาก เบอร์เนริ ส์ -ลี ดแู ลรายชอ่ื ของเวบ็ ไซต์อ่นื ๆ ท้งั หมดนอกจากเว็บไซต์ของตนเองดว้ ย ในปี พ.ศ. 2537 เบอร์เนิร์ส-ลี ได้ก่อต้ังกลุ่มบริษัทเวิลด์ไวด์เว็บ (W3C) ขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยี แมสซาชูเซตส์ หรือเอ็มไอที ประกอบด้วยบริษัทหลายบริษัทท่ียินยอมพร้อมใจมาร่วมสร้างมาตรฐานและ ขอ้ เสนอแนะสาหรบั ใชเ้ ป็นหลกั ในการปรับปรุงคุณภาพของเว็บในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2547 เบอร์เนิร์ส-ลี ยอมรั บต าแหน่ งประธานสา ขาวิ ทยาศาสตร์ คอมพิ วเตอร์ ท่ี คณะอิ เล็ กทรอนิ กส์ และวิ ทยาศาสตร์ คอมพวิ เตอรข์ องมหาวทิ ยาลัยเซาทแ์ ธมตันสหราชอาณาจักรเพ่ือดาเนินโครงการใหม่ น่ันคือ\"ซีแมนติกเว็บ\" (Semantic Web) เบอร์เนิร์ส-ลี ไม่ทาการจดทะเบียนลิขสิทธ์ิการค้นคิด รวมทั้งไม่เรียกค่าตอบแทนหรือ รางวัลจากองค์กรใด ดังน้ัน กลุ่มบริษัทเวิลด์ไวด์เว็บจึงตัดสินใจไม่คิดมูลค่าใด ๆ จากการนามาตรฐาน ของกลุ่มบริษัทไปใช้ ทั้งน้ีเพ่ือให้ผู้ประกอบการทุกรายยอมรับมาตรฐานเดียวกันได้บนพ้ืนฐานทาง เทคโนโลยีตอ่ ไป รูปท่ี 1.2 เซอร์ทิม เบอร์เนิรส์ -ลี (ทีม่ า : https://th.wikipedia.org)

7 1.3 ประเภทของเว็บไซต์ การออกแบบเว็บไซต์เพ่ือใช้ในงานต่าง ๆ ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดน้ันจาเป็นอย่างย่ิง ที่จะต้องเข้าใจถึงลักษณะของเว็บไซต์แต่ละประเภทเพื่อท่ีจะสามารถแยกแยะข้อแตกต่างของเว็บไซต์ แต่ละประเภทและนามาออกแบบเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้โดยเว็บไซต์ในปัจจุบันสามารถ แบ่งเป็นกลมุ่ ใหญ่ ๆ ได้ 9 ประเภทตามลักษณะของเนื้อหาและรูปแบบของเว็บไซต์ ได้แก่ 1.3.1 เว็บธุรกิจหรือการตลาด (Business/ Marketing site) เป็นเว็บไซต์ที่มักสร้างขึ้นโดยองค์กร ธรุ กจิ ต่าง ๆ มีจุดม่งุ หมายหลักเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะนาเสนอข้อมูล ท่มี คี วามนา่ สนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากทสี่ ุด ทงั้ นี้เพ่ือผลกาไรทางธรุ กิจนั่นเอง รูปที่ 1.3 ตัวอยา่ งเว็บธุรกิจหรือการตลาด (ท่ีมา : http://www.lazada.co.th ) 1.3.2 เว็บหน่วยงานการศึกษา (Education site) เป็นเว็บท่ีสร้างขึ้นเพ่ือเผยแพร่ความรู้และให้ โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพ่ือการศึกษาโดยจะให้บริการข้อมูลเก่ียวกับการเรียนรู้ทั้งหมดเว็บไซต์ ที่ให้บริการเรียนรู้แบบออนไลน์ท่ีเรียกว่า อี-เลิร์นนิ่ง (e-learning) รวมถึงเว็บไซต์ที่สอนหรือให้ความรู้ เก่ยี วกับเรือ่ งต่าง ๆ เชน่ เว็บไซตก์ ารทาอาหาร เว็บไซต์เขียนโปรแกรม ฯลฯ รูปที่ 1.4 ตัวอย่างเว็บหน่วยงานการศึกษา (ท่มี า:http://www.technictani.ac.th)

8 1.3.3 เว็บบันเทิง (Entertainment site) เป็นเว็บท่ีนาเสนอและให้บริการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้าง ความบันเทิง เชน่ ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เร่ืองขาขัน เว็บประเภทน้ีอาจมี รปู แบบทใี่ ช้เทคโนโลยมี ัลติมีเดียที่น่าตน่ื ตาตน่ื ใจมากกว่าเวบ็ ประเภทอื่น รปู ที่ 1.5 ตัวอย่างเว็บบนั เทิง (ที่มา : https://www.tvpoolonline.com) 1.3.4 เว็บท่า (Portal site) เว็บท่ีให้บริการท่ีเก่ียวกับเร่ืองราวที่มีสาระและบันเทิงหลากหลาย ประเภท เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ดูดวง ท่องเท่ียว IT เกม สุขภาพ หรืออ่ืน ๆ และเป็นแหล่งแลกเปล่ียนความ คิดเห็นของผู้คนในสังคมในเรื่องเก่ียวกับประเด็นต่าง ๆ ซ่ึงเรียกว่าเว็บชุมชน (community web) คือ เว็บท่ีให้บริการพื้นที่แก่กลุ่มคนผู้ท่ีมีความสนใจในเร่ืองเดียวกันได้เข้ามาแลกเปล่ียนและแสดง ความคิดเห็นกัน รปู ที่ 1.6 ตวั อย่างเว็บท่า (ทมี่ า : https://www.sanook.com)

9 1.3.5 เว็บข่าว (News site) เป็นเว็บที่สร้างข้ึนโดยองค์กรข่าวหรือสถาบันสื่อสารมวลชนต่าง ๆ เพื่อนาเสนอข่าวและสาระที่เป็นการสรุปใจความสาคัญ ซ่ึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและติดตาม ข่าวสารได้ทุกท่ีทุกเวลา แม้ว่าจะอยู่ท่ีใดก็ตาม เช่น สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแมก้ ระทั่งกระทรวง ทบวง กรมตา่ ง ๆ เปน็ ต้น รปู ท่ี 1.7 ตัวอย่างเว็บข่าว (ทมี่ า : https://www.thairath.co.th/news) 1.3.6 เวบ็ ข้อมูล (Information site) เป็นเว็บท่ีให้บริการเกย่ี วกบั การสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร หรอื ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เป็นช่องทางใหป้ ระชาชนหรือกลุ่มบุคคลท่สี นใจไดเ้ ขา้ มาศึกษาค้นคว้าข้อมูลทีเ่ ก่ียวข้อง กับองค์กรของตนได้ อีกท้ังยังเปน็ การสร้างโอกาสในการประชาสมั พันธ์และสร้างความเข้าใจ อนั ดีให้เกิด แก่ประชาชนในสังคมอีกดว้ ย รปู ท่ี 1.8 ตัวอย่างเว็บข้อมูล (ท่ีมา : http://www.vec.go.th)

10 1.3.7 เว็บองค์กรท่ีไม่แสวงหาผลกาไร (None-profit Organization Site) เป็นเว็บที่สร้างข้ึน โดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรต่าง ๆ ที่มีนโยบายในการสร้างสรรค์ท่ีช่วยเหลือสังคมโดยที่ไม่หวังผลกาไรหรือ ค่าตอบแทน เช่น สมาคม ชมรม มูลนิธิ และโครงการต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์เฉพาะท่ีแตกต่างกัน เชน่ พิทักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื ทาความดี สร้างสรรค์สังคม รณรงค์ เปน็ ตน้ รปู ท่ี 1.9 ตวั อย่างเว็บองค์กรท่ีไม่แสวงหาผลกาไร (ท่มี า : https://www.redcross.or.th) 1.3.8 เวบ็ สว่ นตัว (Personal Site) เป็นเว็บท่ีจัดทาขึ้นด้วยเหตุผลท่ีแตกต่างกัน เช่น แนะนากลุ่ม เพ่ือน โชว์รูปภาพ แสดงความคิดเห็น เขียนไดอาร่ีประจาวัน นาเสนอผลงาน ถ่ายทอดประสบการณ์ เก่ียวกับสงิ่ ที่เชีย่ วชาญหรือสนใจ โดยท้ังหมดนอ้ี าจทาเปน็ เว็บไซตห์ รือเปน็ เพียงเว็บเพจหน้าเดียวก็ได้ รปู ท่ี 1.10 ตวั อย่างเว็บสว่ นตวั (ท่มี า : https://gg.gg/saratoolp)

11 1.3.9 เวบ็ สงั คมออนไลน์ (Social Network) เป็นเว็บท่ีรวบรวมข้อมูลของบุคคลหลาย ๆ เชื่อมโยง ถึงกัน ทาความรจู้ กั กนั ผา่ นระบบอินเทอร์เน็ตโดยเว็บไซต์เหล่าน้ีจะมีพื้นที่ให้บุคคลเข้ามาทาความรู้จักกัน มีเครื่องมือต่าง ๆ เพื่ออานวยความสะดวกในการสร้างเครือข่าย สร้างเน้ือหาตามความสนใจของผู้ใช้และ เช่ือมโยงอินเทอร์เน็ตท่ีผู้ใช้คุ้นเคย จนกลายเป็นชุมชนที่ผู้ใช้สามารถแชร์ตัวตนและทุก ๆ ส่ิงที่สนใจ เช่ือมโยงกับคนในเครือข่ายเน็ตเวิร์กด้วยวิธีการต่าง ๆ สังคมออนไลน์ช่วยให้คนสามารถรู้จักกัน เปิดเผย ข้อมูลส่วนตัว รูปภาพ วิดีโอ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความสนใจร่วมกันได้ง่ายข้ึน เช่น Facebook, MySpace, LinkedIn, Line เป็นตน้ รปู ท่ี 1.11 ตวั อย่างเวบ็ สังคมออนไลน์ (ทมี่ า : https://www.facebook.com) 1.4 คาศพั ท์พน้ื ฐานท่ีเกี่ยวขอ้ งกับเว็บไซต์ ก่อนท่ีจะออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์น้ัน จาเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับคาศัพท์ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง เพอ่ื เป็นพนื้ ฐานความรู้ในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซตซ์ ึ่งคาศัพท์ทีส่ าคัญดังน้ี 1.4.1 โฮมเพจ (Home page) หมายถึง เว็บเพจหน้าแรกท่ีปรากฏของแต่ละเว็บไซต์โดยเป็น ทางเข้าหลักของเว็บไซต์ เมื่อเปิดเว็บไซต์น้ันข้ึนมาจะเป็นหน้าแรกท่ีปรากฏข้ึนเมื่อเปิดโปรแกรมเว็บ เบราว์เซอร์ 1.4.2 เว็บเพจ (Web page) หมายถึง หน้าเอกสารหนึ่งหน้า ภายในเว็บเพจประกอบด้วย ข้อความ ภาพลิงก์ เว็บเพจแต่ละหน้าจะเช่ือมโยงกัน เพื่อให้เรียกดูเอกสารหน้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ อย่างสะดวก 1.4.3 เว็บไซต์ (WebSite) หมายถึง หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งเช่ือมโยงกันผ่านทางไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนใหญจ่ ดั ทาขึน้ เพื่อนาเสนอข้อมูลผา่ นคอมพวิ เตอร์ โดยถกู จดั เกบ็ ไวใ้ นเวลิ ด์ไวด์เวบ็ 1.4.4 เว็บเบราวเซอร์ (Web Browser) หมายถึง โปรแกรมสาหรับเรียกดูเว็บเพจ โดยจะแปล คาสั่ง HTML แล้วประมวลผลแสดงผลออกมาเป็นเว็บเพจ เช่น Google Chrome, Internet Explorer, Mozilla Firefox , Safari , Opera และ Netscape Navigator เปน็ ต้น

12 1.4.5 เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) หมายถึง เคร่ืองคอมพิวเตอร์ซึ่งให้บริการเว็บไซต์ ซ่ึงผู้ใช้ เรยี กชมหน้าเว็บไซต์ได้โดยใชโ้ ปรโทคอล HTTP ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ 1.4.6 URL (Uniform Resource Locator) หมายถึง ข้อความที่บอกตาแหน่งของข้อมูล ใน Internet ไม่วา่ จะเป็น เวบ็ เพจ ไฟล์ประเภทต่าง ๆ เช่น รูปภาพ เสียง URL ประกอบด้วย โปรโตคอล + domain name + (directory ทเี่ ก็บไฟล)์ ชอ่ื ไฟล์ 1.4.7 www (World Wide Web) เป็นบริการข้อมูล โดยข้อมูลของ www จะอยู่ในรูปเอกสาร แบบ Hypertext ซ่ึงภายในเอกสารจะมีจุดเชื่อมโยง (link) ไปยังเอกสารอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เอกสารต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันเหมือนใยแมงมุม เป็นทีม่ าของคาว่า Web 1.4.8 อัปโหลด (Upload) และดาวน์โหลด (Download) หมายถึง เป็นการส่งผ่านข้อมูลทาง อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เคร่ือง การส่งข้อมูล แฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์ เคร่ืองท่ีใช้อยู่ขึ้นไปเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่าย (Server) เรียกว่าการอัปโหลด ขณะเดียวกันการดึงข้อมูลจาก แฟ้มข้อมูลที่เก็บอยู่ในเคร่ืองแม่ข่าย (Server) ลงมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่เรียกว่าการ ดาวนโ์ หลด 1.4.9 โดเมนเนม (Domain name) หมายถึง ช่ือเว็บไซต์ซึ่งโดยปกติเป็นช่ือที่สื่อถึงหน่วยงาน องคก์ รทตี่ ัง้ ข้ึน เพอื่ ให้จดจาและนาไปใช้งานได้ง่าย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. โดเมนเนม 2 ระดับประกอบด้วย www.ชื่อโดเมน.ประเภทของโดเมน เช่น www.sanook.com ประเภทของโดเมนเนม คือคายอ่ ขององค์กร ทพ่ี บบอ่ ยมีดังนี้ ประเภทของโดเมน คอื คาย่อขององค์กร โดยประเภทขององค์กรท่ีพบบ่อย ๆ มีดังนี้ * .com คือ บริษัท หรอื องค์กรพาณชิ ย์ * .org คือ องคก์ รเอกชนที่ไม่แสวงผลกาไร * .net คอื องคก์ รที่เป็นเกตเวย์ หรือ จุดเช่อื มตอ่ เครือขา่ ย * .edu คอื สถาบันการศึกษา * .gov คอื องคก์ รของรัฐบาล * .mil คอื องคก์ รทางทหาร 2. โดเมนเนม 3 ระดับ จะประกอบด้วย www.ชื่อโดเมน.ประเภทของโดเมน.ประเทศ เช่น www.google.co.th ประเภทขององค์กรที่พบบ่อยคือ * .co คือ บรษิ ัท หรอื องค์กรพาณิชย์ * .ac คอื สถาบนั การศึกษา * .go คือ องคก์ รของรัฐบาล * .net คือ องค์กรทใ่ี หบ้ ริการเครือข่าย * .or คือ องคก์ รเอกชนที่ไม่แสวงผลกาไร ตวั ยอ่ ของประเทศที่ต้ังขององค์กร * .th คอื ประเทศไทย * .cn คอื ประเทศจนี * .uk คอื ประเทศอังกฤษ * .jp คอื ประเทศญ่ปี ุ่น

13 ตวั อยา่ งการเรยี กใชข้ ้อมูลเว็บไซต์ผา่ นโปรแกรมเวบ็ เบราวเซอร์โดยพมิ พ์ URL (Uniform Resource Locator) ซึ่งเปน็ ท่ีอยขู่ องเว็บไซต์ท่ผี ู้ใช้บรกิ ารจะเขา้ ไปเรียกดูข้อมลู ซึง่ รปู แบบของ URL จะประกอบดว้ ย 3 ส่วนหลัก ๆ ไดแ้ ก่ 1) สว่ นของช่ือโปรโตคอล http, https 2) สว่ นของช่ือโดเมน เชน่ www.kruparisa.com 3) ส่วนของช่อื ไฟลเ์ ว็บเพจ เช่น file.php , file.html ซึ่งก่อนจะถึงไฟลเ์ อกสารน้นั บางครั้งอาจตอ้ งผา่ นไดเร็คทอรี่ รูปที่ 1.12 ตัวอยา่ งการเรยี กใชข้ ้อมลู ผา่ นโปรแกรมเว็บเบราวเซอร์ (ที่มา : http://www.kruparisa.com) จากภาพ http://www.kruparisa.com/index.php อธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจไดด้ งั นี้ http เป็นช่อื ของโปรโตคอล ซ่ึงในตวั อย่างจะเป็น Hypertext Transfer Protocol www เปน็ เครอื ข่าย World Wide Web kruparisa เปน็ ชอ่ื ของเว็บไซตท์ ีต่ ้งั ขน้ึ (โดเมนเนม) com เป็นสว่ นอธิบายลกั ษณะของเว็บไซต์ index.php เป็นชื่อไฟล์เว็บเพจ ซึง่ บรรจเุ นอ้ื หาความรู้ หรือข้อมลู ตา่ ง ๆ 1.5 โปรแกรมทน่ี ิยมในการพฒั นาเวบ็ ไซต์ 1.5.1 โปรแกรม Adobe Dreamweaver คือ โปรแกรมสร้างเว็บเพจแบบเสมือนจริง ของค่าย Adobe ซ่ึงช่วยให้ผู้ที่ต้องการสร้างเว็บเพจไม่ต้องเขียนภาษา HTML หรือโค้ดโปรแกรมเอง หรือท่ีเรียกว่า \"WYSIWYG\" ย่อมาจาก \" what you see is what you get\" หมายความว่าส่ิงท่ีเห็นในมุมมองออกแบบ จะเหมือนกับลักษณะของเพจท่ีปรากฏในเว็บเบราเซอร์ของโปรแกรม Dreamweaver มีฟังก์ช่ันท่ีทาให้ ผู้ใช้สามารถจัดวางข้อความ รูปภาพ ตาราง ฟอร์ม วีดีโอ รวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ภายในเว็บเพจได้ อย่างสวยงามตามที่ผู้ใช้ต้องการ และเป็นโปรแกรมตัวหนึ่งที่นิยมและเหมาะสาหรับนักพัฒนาเว็บไซต์

14 มือใหม่มีเคร่ืองมือช่วยเหลือในการทางานมากและสามารถดูผลลัพธ์ได้เลยโดยที่ไม่ต้องเปิดโปรแกรมเว็บ เบราเซอร์ 1.5.2 โปรแกรม JOOMLA คือ CMS ซึ่งย่อมาจาก \"Content Management System ตัวหน่ึงที่ ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ ระบบบริหารจัดการเน้ือหาของเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มบทความ การเพิ่ม รูปภาพ หรือการปรับแต่งโยกย้ายโมดูลต่าง ๆ ไม่จาเป็นจะต้องเขียน Code ด้วยภาษา HTML, PHP, SQL เพยี งแต่เรยี นรวู้ ธิ ีการติดตั้ง การปรับแต่ง การใชง้ าน CMS เทา่ นั้น 1.5.3 โปรแกรม WordPress คือ โปรแกรมสาเร็จรูปที่ใช้สาหรับสร้างบล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสาเร็จรูปท่ีมีไว้สาหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ ซ่ึงเป็นโปรแกรม สาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าท่ีเก็บ เรียกดู แก้ไข เพ่ิมและลบข้อมูล การใช้งาน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU (General Public License) ปัจจุบันน้ี WordPress ได้รับความนิยมเพ่ิมข้ึนอย่างรวดเรว็ 1.5.4 Web Page Maker คือโปรแกรมช่วยออกแบบเว็บ และสร้างเว็บได้ง่าย ๆ ด้วยภาษา HTML มีรูปแบบเว็บสาเร็จรูปที่หลากหลาย ใช้หลักการลากแล้ววาง เลือกโค้ดสี HTML ได้ สนับสนุน JavaScript และมี FTP อัพโหลดไฟล์ในตวั ได้อีกด้วย 1.5.5 Google Site คือโปรแกรมที่ให้บริการต่อยอดมาจาก Google ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บเพจได้ ในแบบท่ีต้องการ ด้วยเครื่องมือในการสร้างเว็บไซต์อย่างง่ายเหมือนกับโปรแกรม Microsoft FrontPage หรือโปรแกรม Dreamweaver แต่ Google Site สามารถออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายกว่า สามารถเพ่ิม ลูกเล่นได้มากกว่าและสามารถ Add Google Gadgets ได้นอกจากนั้นยังทางานบน Web Service การสร้างเว็บไซต์บน Google Site ให้พ้ืนที่ในการเก็บเว็บไซต์ไว้บน Google Site ฟรี 100 MB และ สาหรับลกู ค้าประเภทอื่น ๆ จะไดร้ ับสิทธ์ิตามท่สี มัครใชง้ านไว้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook