แผนการจัดการเรียนรู้นายชัยกาญจน์ บุญตะไนย์

แผนการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้และผลการเรยี นรู้ กลมุ่ สารการเรยี นรศู้ ิลปะ ( ฉบับปรับปรุง 2560 ) จัดทำโดย นายชยั กาญจน์ บุญตะไนย์ รหัสนักศกึ ษา 5981125010 รายวชิ าวิทยาการจดั การเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายภาคเรียน 1/2564 รายวชิ า ศ 14101 ช้ันประถมศึกษาปที 4ี่ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ จดั ทำโดย นายชัยกาญจน์ บุญตะไนย์ รหสั นกั ศึกษา 5981125010 สาขาวิชาศลิ ปศึกษา เสนอ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พชั รีภรณ์ บางเขยี ว ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเด็จเจ้าพระยา แผนการจดั การเรยี นรู้ ฉบับน้ีเป็นสว่ นหนง่ึ ของรายวิชา วทิ ยาการจดั การเรยี นรู้

ก คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาทัศนศิลป์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการ จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560) แผนการจัดการเรียนรปู้ ระกอบดว้ ยเนื้อหาสาระดงั ต่อไปนี้ แผนการจัดการเรียนรรู้ ายภาคเรียนซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานและผลการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมงทั้งหมด 3 หน่วยจดั การเรียนรู้ ประกอบดว้ ย พ้ืนฐานงานศิลป์ สรา้ งสรรค์งานศิลป์ และงานศลิ ป์กับวัฒนธรรม ซง่ึ แตล่ ะแผนการ จัดการเรียนรู้ได้ระบุ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ ที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละรูปแบบมีวิธีการจัดการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดนำมาซึ่งการ บรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีใบงานและเกณฑ์การประเมินผล เพื่อใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของ นักเรียนแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จส้ินการเรียน นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เนื้อหาสาระมากน้อยเพียงใด ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ หรอื ไม่ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พัชรีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้คำปรึกษาและ คำแนะนำตลอดระยะเวลาการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ เป็นประโยชน์กับการจัดการเรียนรูใ้ นห้องเรยี น ทำให้ผเู้ รยี นสามารถพฒั นาการเรียนรู้ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพตอ่ ไป ชัยกาญจน์ บญุ ตะไนย์ ผู้จดั ทำ

สารบัญ ข เร่อื ง หนา้ คำนำ สารบญั ก แผนการจัดการเรยี นรู้ ข คำอธบิ ายรายวชิ า 1 ตารางโครงสรา้ งรายวชิ า 4 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 : พน้ื ฐานงานศลิ ป์ 5 6 ทศั นธาตุ 7 การจดั ภาพ 10 อทิ ธิพลของวรรณสี 11 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 : สรา้ งสรรคง์ านศลิ ป์ 30 การวาดภาพระบายสี 30 การพิมพภ์ าพดว้ ยแม่พมิ พก์ ระดาษ 33 ความเหมือนและความแตกตา่ งทางความคิดในและความรูส้ กึ ท่ถี า่ ยทอดในงานทศั นศลิ ป์ 35 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 : งานศลิ ปก์ ับวฒั นธรรม 52 งานทศั นศิลป์ ในวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน 53 งานทศั นศิลป์ จากวฒั นธรรมต่างๆ 56 เอกสารอา้ งอิง ค

1 แผนการจดั การเรยี นรู้ โรงเรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ . รหัสวิชา ชั้น ประถมศึกษาปีที่4 . ภาคเรียนที่ ศ14101 รายวิชา ทัศนศิลป์ ชั่วโมง ครูผ้สู อน เวลา 40 . 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 นายชัยกาญจน์ บญุ ตะไนย์ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลปะตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชม และ ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มารฐาน ศ 1.2 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นงานทัศนศิลป์ ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล 2. ตัวช้วี ัด 1. เปรียบเทยี บรปู ลกั ษณะของรปู ร่างรูปทรงในธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ 2. อภปิ รายเกยี่ วกบั อทิ ธิพลของสีวรรณะอนุ่ และสวี รรณะเย็นที่มตี ่ออารมณ์ของมนุษย์ 3. จำแนกทศั นธาตุของสง่ิ ตา่ ง ๆในธรรมชาติ สิง่ แวดล้อมและงานทศั นศลิ ป์ โดยเน้นเรอ่ื งเสน้ ส่ี รูปร่าง รูปทรง พ้ืนผิวและพนื้ ท่วี า่ ง 4. บรรยายลกั ษณะของภาพ โดยเนน้ เรอ่ื งการจดั ระยะ ความลกึ นำ้ หนักและแสงเงาในภาพ 5. มีทักษะฟน้ื ฐานในการให้วสั ดุ อปุ กรณส์ ร้างสรรคง์ านพมิ พ์ภาพ 6. มีทกั ษะพน้ื ฐานในการใหว้ ัสดุ อปุ กรณ์สร้างสรรคง์ านวาดภาพระบายสี 7. วาดภาพระบายสี โดยใชส้ วี รรณะอ่นุ และสวี รรณะเย็น ถา่ ยทอดความรู้สึกและจินตนาการ 8. เปรียบเทยี บความคิด ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านงานทัคนศลิ ปข์ องตนเองและบุคคลอื่น 9. เลือกใชว้ รรณะสีเพอื่ ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรูส้ ึกในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ 10. ระบุและอภิปรายเก่ยี วกับงานทัศนศลิ ป์ ในเหตุการณแ์ ละงานเฉลิมฉลองของวฒั นธรรมในท้องถนิ่ 11. บรรยายเกย่ี วกับงานทัศนศลิ ปะทมี่ าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ รวม 11 ตวั ชี้วัด

2 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถเปรยี บเทียบรูปลกั ษณะของรปู ร่างรูปทรงในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ ( K ) 2. สามารถอภปิ รายเกยี่ วกบั อิทธพิ ลของสวี รรณะอุ่นและสวี รรณะเย็นท่ีมตี ่ออารมณ์ของมนษุ ย์ ( K ) 3. สามารถจำแนกทัศนธาตขุ องส่ิงต่าง ๆในธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ โดยเน้นเร่ืองเส้น สี่ รูปรา่ งรปู ทรง พ้ืนผิวและพืน้ ทีว่ า่ ง ( P ) 4. มีทกั ษะฟ้นื ฐานในการให้วสั ดุ อุปกรณ์สรา้ งสรรคง์ านพิมพ์ภาพ ( P ) 5. มีทกั ษะพนื้ ฐานในการใหว้ ัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรค์งานวาดภาพระบายสี ( P ) 6.มคี วามขยนั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ( A ) 7. สามารถบรรยายลกั ษณะของภาพเน้นเรื่องการจัดระยะ ความลึก น้ำหนกั และแสงเงาในภาพ ( K ) 8. สามารถวาดภาพระบายสี โดยใช้สวี รรณะอนุ่ และสวี รรณะเยน็ ถา่ ยทอดความรู้สกึ จนิ ตนาการ ( P ) 9. สามารถเปรยี บเทียบความคิด ความรูส้ ึก ถ่ายทอดผา่ นงานทัคนศลิ ป์ของตนเองและบุคคลอน่ื ( P ) 10. มีความตรงต่อเวลา สง่ งานตามเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา( A ) 11.เลอื กใช้วรรณะสีเพ่อื ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรู้สกึ ในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ ( P ) 12. สามารถอภปิ รายเก่ยี วกับงานทศั นศิลป์ ในเหตุการณ์และงานฉลองของวฒั นธรรมในท้องถน่ิ ( K ) 13. สามารถบรรยายเกี่ยวกับงานทัศนศลิ ปะทมี่ าจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ( K ) 14.มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ การทำงาน ( A ) 4. สาระการสำคญั สร้างสรรค์งานทัศนศิลปะตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่า งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความร้สู กึ ความคดิ ต่องานศิลปะอยา่ งอสิ ระช่ืนชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างทศั นศิลป์ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นงานทัศนศลิ ปท์ ี่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล 5. สาระการเรียนรู้ ㆍรปู ร่าง รูปทรง ในธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ ม งานทศั นศิลปอ์ ทิ ธพิ ลของสวรรณะอนุ่ และสวี รรณะเย็น ㆍ เสน้ สี รปู รา่ ง รปู ทรง พืน้ ผิวและพนื้ ทีว่ ่าง ในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และงานทศั นศลิ ป์ ㆍ การให้วัสดุ อปุ กรณ์ สรา้ งงานพมิ พภ์ าพ ㆍ การให้วัสดุ คปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี ㆍ การจัดระยะความลึก น้ำหนกั และแสงเงาในการวาดภาพ ㆍ การใชส้ ีวรรณะอุ่นและใช้สวี รรณะเยน็ วาดภาพถ่ายทอดความรู้สึกและจนิ ตนาการ

3 ㆍ ความเหมือนและความแตกต่างในงานทัศนศลิ ป์ ความคดิ ความร้สู กึ ท่ถี า่ ยทอดในงานทศั นศลิ ปะ ㆍงานทัศนศิลป์ในวัฒนธรรมท้องถ่นิ ㆍงานทัศนศลิ ปจ์ ากวฒั นธรรมต่าง ๆ

4 คำอธิบายรายวิชา รายวิชา พน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ . รหัสวิชา ภาคเรยี นที่ ศ14101 รายวิชา ทัศนศิลป์ ชั้น ประถมศึกษาปีที่4 . ครูผ้สู อน 1 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต นายชัยกาญจน์ บุญตะไนย์ . ศิลปะ เป็นคำที่มีความหมายทั้งกว้างและจำเพาะเจาะจง ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ ทัศนะของนัก ปราชญ์แต่ละคน รวมทั้งความเชื่อแนวคิด ในแต่ละยุค แต่ละสมัย มีความแตกต่างกัน หรือแล้วแต่ว่า จะนำศิลปะไปใช้ ในแวดวงท่ี กวา้ งขวาง หรอื จำกดั อย่างไร แตจ่ ากทัศนะของนักปราชญ์ ทัง้ หลายจะ เหน็ ว่าศลิ ปะมีคณุ ลกั ษณะ ทเี่ ป็นตวั รว่ ม สำคัญ ที่สุดการเรียนศิลปะ คือ การเรียนรู้ในศาสตร์ที่จะทำให้มนุษย์มีความอ่อนโยน มีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการ ฝึก ให้เป็นคนช่างคิดช่างฝัน ช่างสังเกต และสามารถนาศิลปะที่ได้เรียนรู้ไปพัฒนาตนเองในทุกๆ ด้านได้อย่างเหมาะส ม สรา้ งคุณคำและความมรี สนยิ มให้ตนเอง ศิลปะ คือ สิง่ ท่มี นุษยส์ ร้างข้ึนเพ่ือแสดงออกซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก ปัญญา ความคิดและหรือ ความงามทั้งนี้จะ กล่าว โดยรวม ก็คือ ศิลปะ จะประกอบไปด้วย ส่วนประกอบ 3 ประการ คือ มีความงาม มีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน และมีความคดิ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์งานทัศนศิลปะตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างาน ทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระชนื่ ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นงานทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล รหสั ตวั ชว้ี ดั ศ 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9 ศ 1.2 ป.4/1, ป.4/2 รวมทัง้ หมด : 2 มาตรฐาน 11 ตวั ชวี้ ัด

5 ตารางโครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า พืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ . รหัสวิชา ภาคเรยี นท่ี ศ14101 รายวิชา ทัศนศิลป์ ชั้น ประถมศึกษาปีที่4 . ครูผู้สอน 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1. หน่วยกิต นายชัยกาญจน์ บญุ ตะไนย์ . หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ เวลา (ช่ัวโมง) 1 2 พ้นื ฐานงานศิลป์ 15 1.1 ทศั นธาตุ 5 3 1.2 การจัดภาพ 5 1.3 อทิ ธิพลของวรรณะสี 5 15 สร้างสรรคง์ านศิลป์ 5 2.1 การวาดภาพระบายสี 5 2.2 การพิมพ์ภาพด้วยแม่พิมพ์กระดาษ 5 2.3 ความเหมือนและความแตกตา่ งทางความคิดและความรศู้ ึกท่ีถ่ายทอดใน งานทัศนศลิ ป์ 10 5 งานศลิ ป์กบั วัฒนธรรม 5 3.1 งานทศั นศลิ ป์ในวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ 40 3.2 งานทศั นศลิ ป์จากวฒั นธรรมต่างๆ รวมทั้งหมด

6 แผนการจดั การเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้และผลการเรยี นรู้ กล่มุ สารการศลิ ปะ ( ฉบับปรับปรุง 2560 ) แผนการเรยี นรู้หน่วยท่ี1 เร่อื งพนื้ ฐานงานศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี1 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ รหัสวิชา ศ14101 รายวิชา ทัศนศิลป์ เวลา. 15 ชว่ั โมง ชั้น ประถมศกึ ษาปีท4ี่ .ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 . เรื่อง พน้ื ฐานงานศิลป์ ครผู ู้สอน นายชัยกาญจน์ บุญตะไนย์ 1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปะตามจินตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชม และ ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน ตวั ชว้ี ดั 1. เปรยี บเทียบรปู ลักษณะของรปู ร่างรปู ทรงในธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อมและงานทศั นศิลป์ 2. อภปิ รายเกีย่ วกับอิทธิพลของสวี รรณะอุ่นและสวี รรณะเยน็ ที่มีต่ออารมณ์ของมนุษย์ 3. จำแนกทัศนธาตุของสิง่ ต่าง ๆในธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและงานทัศนศิลป์ โดยเนน้ เร่ืองเสน้ ส่ี รปู ร่าง รูปทรง พ้ืนผวิ และพน้ื ที่ว่าง 4. บรรยายลักษณะของภาพ โดยเนน้ เรอ่ื งการจัดระยะ ความลกึ น้ำหนกั และแสงเงาในภาพ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถเปรียบเทยี บรปู ลักษณะของรูปร่างรปู ทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ ( K ) 2. สามารถอภิปรายเก่ียวกบั อิทธพิ ลของสวี รรณะอุ่นและสีวรรณะเยน็ ท่ีมีต่ออารมณ์ของมนุษย์ ( K ) 3. สามารถจำแนกทัศนธาตุของส่งิ ตา่ ง ๆในธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ โดยเนน้ เรอื่ งเส้น สี รูปรา่ งรูปทรง พ้ืนผวิ และพื้นทวี่ ่าง ( P ) 4. สามารถบรรยายลกั ษณะของภาพเนน้ เรื่องการจดั ระยะ ความลึก น้ำหนกั และแสงเงาในภาพ ( K ) 5.มีความขยนั ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ท่ีได้รับมอบหมาย ( A ) 3.สาระสำคัญ เส้น สี รปู รา่ ง พน้ื ผิว พ้ืนทว่ี า่ ง ปรากฏอยใู่ นธรรมชาติ ส้ิงแวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ ระยะความลกึ สามารถกำหนดไดด้ ว้ ยขนาด นำ้ หนกั และรายละเอียดของผิว น้ำหนักและแสงเงาสามารถนำมาใช้ในงานทัศนศิลป์ ทำให้ภาพมีลักษณะดู 3 มิติ มีระยะ มีรายละเอยี ด และอารมณืความรู้สึก อิทธิพลของวรรณะสีมผี ลต่อความรู้สึกของมนุษย์ เพราะสีทำให้เกิดความรู้สึก โศกเศรา้ แจ่มใส หรือ ร่ืนเรงิ ได้

8 4. สาระการเรยี นรู้ - ทศั นธาตุ -การจัดภาพ -อิทธิพลของวรรณะสี 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ทกั ษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น)  ทักษะการอา่ น (Reading)  ทกั ษะการ เขียน (Writing)  ทักษะการ คิดคาํ นวณ (Arithmetic)  ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปญั หา (Critical thinking and problem solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทาํ งานเปน็ ทมี และภาวะผู้นาํ (Collaboration , teamwork and leadership)  ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะด้าน การสอ่ื สาร สารสนเทศ และร้เู ท่าทันส่อื (Communication information and media literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing) ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change)  ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Skills) ภาวะผู้นํา (Leadership)

9 6. ชน้ิ งานหรือภาระงาน -แบบฝึกหัดเรอื่ งทัศนธาตุ -แบบฝกึ หัดเร่อื งการจดั ภาพ -แบบฝึกหัดอทิ ธิพลของวรรณะสี 7. การจดั การเรยี นรู้ หน่วยยอ่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ทศั นธาตุ ชว่ั โมงที่ 1 ใช้รูปแบบการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นท่ี 1 : ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement) 1.ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้เร่ืองทศั นธาตุให้นักเรียนทราบ 2.จากนนั้ ครูพูดคยุ กบั นกั เรียน เพื่อตรวจสอบความร้เู ดมิ ของนกั เรยี นเป็นรายบุคคลก่อนเขา้ สกู่ ิจกรรม 3.ครพู ดู ถงึ เส้น จดุ สี เงา ว่านักเรยี นรจู้ กั ส่งิ เหล่าน้หี รือไม่ ข้นั ท่ี 2 : ขัน้ สาํ รวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรยี นศึกษา เรอ่ื ง ทศั นธาตตุ ามหนงั สือเรียน 2. นักเรยี นศึกษา เรื่อง ทัศนธาตุ จากส่ือการสอน PowerPoint 3.ครใู ห้นักเรียนจับกลมุ่ เพอ่ื แลกเปลย่ี นความรู้จากการการสบื ค้น พร้อมกับต้งั คำถามวา่ จะนำเสน้ สี จดุ ฯลฯ ไปสร้างสรรค์งานศิลปะได้อยา่ งไร ช่วั โมงที่ 3 ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นที่ 3 : ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 1. ครูใหค้ วามรู้เกีย่ วกับทัศนธาตุตามรายละเอียดในหนังสือเรียน 2. ครอู ธิบายความหมายของทัศนธาตใุ ห้นกั เรียนฟงั และอธิบายให้นักเรยี นฟังวา่ ทศั นธาตุ ประกอบด้วย จุด เส้น รูปรา่ ง รปู ทรง ขนาด สัดสว่ น แสงเงา สี ท่วี ่าง และพ้ืนผิว พร้อม กบั ใหน้ กั เรียน 3. ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นฟงั ว่า จดุ หมายถงึ รอยหรือแต้มท่ีมลี ักษณะกลม ๆ ปรากฎทผี่ วิ พ้นื ไมม่ ีขนาด ความกว้าง ความยาว ความหนา แบ่งแยกไมไ่ ด้ เปน็ สงิ่ ทเ่ี ดก็ ทีส่ ดุ สามารถ เคล่ือนไหวไปในทีว่ า่ งได้ จุดเป็นธาตุเรมิ่ แรกทีท่ ำใหเ้ กิดธาตุอื่น ๆ ข้ึน จดุ แบ่งออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื จดุ ในสง่ิ แวดล้อมและจดุ ในงานทัศนศลิ ป์ 4. ครูอธบิ ายจดุ ในสิง่ แวดล้อมและจดุ ในงานทัศนสลิ ป์ใหน้ ักเรยี นฟงั และนำภาพตัวอยา่ งมา ให้นกั เรยี นสงั เกต แลว้ อธิบายภาพใหน้ กั เรยี นฟัง พร้อมกับใหน้ ักเรยี นซักถาม 5.ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นฟงั วา่ เส้น หมายถงึ จุดหลาย ๆ จดุ ตอ่ กนั เป็นสาย

10 ชั่วโมงท่ี 4 ใชร้ ูปแบบการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ข้นั ท่ี 4 : ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู ห้ตัวแทนนักเรยี นอธิบายเรอ่ื งทศั นธาตุตามท่ีตนเองเขา้ ใจโดยอิงรายละเอียดใน หนังสอื เรยี น 2. ครพู ูดสรุปเกย่ี วกับส่งิ ท่ีนกั เรยี นอธิบาย พรอ้ มท้ังอธบิ ายเพ่ิมเติมเพ่ือขยายความรขู้ อง นักเรยี น 3. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามเน้ือหาที่ไดศ้ ึกษาผา่ นมาแลว้ วา่ มสี ่วนไหนท่ียังไม่เข้าใจ แล้วให้ความรู้เพมิ่ เตมิ ในสว่ นนั้น โดยทคี่ รอู าจจะใช้ PowerPoint เรือ่ ง ทัศนธาตุ ชั่วโมงท่ี 5 ใชร้ ปู แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ขัน้ ประเมนิ (Evaluation) ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบฝกึ หัดตรวจสอบความเข้าใจ เรอ่ื งทศั นธาตุ เพ่อื ทบทวนความ เขา้ ใจของนักเรียน หน่วยยอ่ ยท่ี 2 เรอื่ ง การจดั ภาพ ชั่วโมงท่ี 1 ใชร้ ูปแบบการเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ที่ 1 : ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1.ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้เรื่องแรงแม่เหล็กให้นกั เรียนทราบ 2.ครูและนักเรียนร่วมสนทนา เกยี่ วกบั เร่ืองการจัดภาพ 3.ครถู ามประสบการณ์นักเรยี นว่ามีประสมการณ์ในการองค์ประกอบหรือไม่ เช่นการจดั หอ้ งเรยี น การวาดรปู ลงในกระดาษ ข้ันท่ี 2 : ขั้นสาํ รวจและค้นหา (Exploration) 1. นกั เรียนศกึ ษา เร่ือง การจัดภาพ จากหนังสอื เรียน 2. นกั เรียนศึกษา เรื่อง การจัดภาพ จากสอ่ื การสอน PowerPoint 3. ให้นักเรียนเขา้ กลุ่มสบื คน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั การจัดภาพจากแหล่งข้อมลู ตา่ งๆ ชวั่ โมงที่ ใช้รปู แบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ที่ 3 : ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. นกั เรียนนำข้อมูลที่ได้จากการสบื ค้น มาอภิปรายรว่ มกับครู 2. นักเรียนซักถาม ครอุ ธิบายเกีย่ วกบั การจดั ภาพพรอ้ มท้งั แสดงตัวอย่างใหน้ กั เรยี นดู เพ่อื ให้นักเรียนสรปุ สาระสำคัญลงในสมุดจดบันทกึ

11 ช่วั โมงท่ี 3 ใช้รปู แบบการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ที่ 4 : ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู หต้ วั แทนนักเรยี นออกมาสรุปสาระสำคญั ของเร่ืองการจัดภาพ และซกั ถามขอ้ สงสยั พร้อมทงั้ หาความร้เู พ่ิมเติม 2. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเนอ้ื หาทีไ่ ดศ้ ึกษาผ่านมาแลว้ วา่ มสี ว่ นไหนทีย่ ังไม่เข้าใจ แลว้ ใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมในสว่ นนน้ั โดยทีค่ รอู าจจะใช้ PowerPoint เรอื่ ง การจดั ภาพ มาชว่ ย ในการอธิบาย ชั่วโมงท่ี 5 ใช้รูปแบบการเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 1. ครูใหน้ กั เรยี นทาํ แบบฝึกหัดตรวจสอบความเข้าใจ เรื่อง การจดั ภาพ เพือ่ ทบทวนความ เขา้ ใจของนักเรียนครปู ระเมินจากการตอบคําถาม การร่วมกจิ กรรม การอภิปราย และการ ทาํ แบบฝกึ หัดเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ ของนกั เรยี น หน่วยย่อยท่ี 3 เรอื่ ง อิทธพิ ลของวรรณะสี ชั่วโมงท่ี 1 ใช้รูปแบบการเรียนรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ข้นั ท่ี 1 : ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement) 1.ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้เรอื่ งอิทธิพลของวรรณะสีใหน้ กั เรยี นทราบ 2. ครใู หน้ ักเรยี นสงั เกตธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มรอบตัว แล้วสอบถามว่าเห็นสีอะไรบา้ ง และสีทเี่ ห็นใหค้ วามรู้สกึ อย่างไร เพือ่ ประเมนิ ความรู้ของนกั เรียนเกย่ี วกบั อิทธิพลของ วรรณะสี 3. ครูสนทนากับนกั เรียนเพ่อื เชือ่ มโยงความร้เู ก่ยี วกบั อทิ ธิพลของวรรณะสที ม่ี ตี ่อจติ ใจ มนษุ ยเ์ พื่อใหน้ ักเรยี นเห็นถึงการนำสีไปใชใ้ นงานทัศนศิลป์ 4.ครูและนกั เรียนรว่ มสนทนา เกี่ยวกบั เร่ือง อทิ ธิพลของวรรณะสี ขัน้ ที่ 2 : ข้ันสาํ รวจและคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นศกึ ษา อิทธพิ ลของวรรณะสี จากหนงั สอื เรยี น 2. นกั เรยี นศกึ ษา เร่ืองอิทธพิ ลของวรรณะสีจากสอื่ การสอน PowerPoint 3. ให้นักเรียนเขา้ กลุ่มสืบคน้ ข้อมูลเกย่ี วกบั อทิ ธิพลของวรรณะสีจากแหล่งข้อมูลต่างๆ

12 ชว่ั โมงที่ 2 ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ท่ี 3 : ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. นกั เรียนนำข้อมูลที่ได้จากการสบื ค้น มาอภิปรายร่วมกับครู 2. ครูนำผลงานภาพวาดท่ใี หอ้ ารมณค์ วามรู้สึกตา่ ง ๆ ทัง้ โศกเศร้า แจ่มใส และรื่นเรงิ ให้ นักเรยี นสังเกตและจำแนกอิทธิพลของสีที่ให้ความร้สู ึกต่อมนษุ ย์แตกตา่ งกัน 3.ครตู ง้ั คำถามวา่ นกั เรียนมองภาพแล้วรสู้ ึกอยา่ งไร ( แนวคำตอบ ) นกั เรยี นมีความรสู้ ึกต่างกันเพราะมสี ีทแ่ี ตกตา่ งใหค้ วามรู้สกึ หลากหลาย อารมณ์ 4. ครูอธบิ ายเกย่ี วกับอิทธพิ ลของวรรณะสเี พ่ือใหน้ ักเรียนร้วู า่ สีให้ความรสู้ กึ ต่อจิตใจมนุษย์ การใช้สีจึงจำเปน็ ต้องมีความรูเ้ พื่อสามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้อยา่ งถูกตอ้ ง 5. แบ่งนกั เรยี นเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกนั ศกึ ษานดว้าอทิ ธิพลของวรรณะสี จด บันทกึ และวาดภาพประกอบ แลว้ สรา้ งสรรคผ์ ลงานที่แสดงอิทธพิ ลของวรรณะสตี าม จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 6. แต่ละกล่มุ ออกมาอภปิ รายผลการศกึ ษาอทิ ธพิ ลของวรรณะสี โดยดรูคอยอธบิ ายเสรมิ ถึง การระบายสีวรรณะสีอนุ่ และวรรณะสเี ย็นทใี่ ห้ความรสู้ กึ ตอ่ จติ ใจมนุษยแ์ ละสามารถ นำมาใช้ในการสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ 7. ดรูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เร่อื งอิทธพิ ลของวรรณะสที ่ีมีผลตอ่ จติ ใจมนุษยว์ า่ ทำให้รู้สึกโศกเศร้า แจม่ ใส หรือรน่ื เริงได้ การใช้สจี ึงจำเป็นต้องมคี วามรเู้ พอื่ สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ อย่างถกู ต้อง 8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเรอื่ ง อทิ ธิพลของวรรณะสี ซึง่ มคี วามสำคญั ตอ่ ความรูส้ ึก ความคดิ จินตนาการ และการสร้างสรรค์ โดยครคู อยให้ความรเู้ สรมิ ในส่วนท่ี นกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรือสรุปไม่ตรงกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 4 ใชร้ ปู แบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ท่ี 4 : ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู ห้ตวั แทนนักเรยี นออกมาสรปุ สาระสำคัญเรือ่ งอิทธพิ ลของวรรณสีและซักถามข้อสงสยั พรอ้ มท้งั หาความรูเ้ พิ่มเติม 2. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามเน้ือหาทไ่ี ด้ศึกษาผา่ นมาแลว้ วา่ มีส่วนไหนท่ียังไมเ่ ขา้ ใจ แลว้ ให้ความรู้เพิ่มเตมิ ในสว่ นนัน้ โดยทค่ี รูอาจจะใช้ PowerPoint เร่ือง อิทธิพลของวรรณ สีมาชว่ ยในการอธิบาย 3. นักเรียนปฏบิ ตั ิ กจิ กรรม เสอื้ สวยของฉัน แล้วให้นักเรยี นนำเสนอผลงานให้ครูและ

13 เพอ่ื น ๆ รว่ มกันติชม 4. ให้นกั เรยี นทำชิ้นงานตามความสนใจ ชัว่ โมงที่ 5 ใช้รปู แบบการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 1. ครูให้นกั เรียนทาํ แบบฝกึ หัดตรวจสอบความเข้าใจ อิทธิพลของวรรณะสีเพื่อทบทวน ความเขา้ ใจของนกั เรยี นครูประเมินจากการตอบคาํ ถาม การร่วมกิจกรรม การอภปิ ราย และการทาํ แบบฝึกหัดเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจ 8. ส่ือการสอน 1. หนังสือเรยี นทัศนศลิ ป์ 2. สอ่ื การสอน PowerPoint ของครผู ู้สอน 3. แบบฝึกหดั ตรวจสอบความเข้าใจเรอื่ งทัศนธาตุ 4.แบบฝึกหัดตรวจสอบความเข้าใจเร่อื งการจดั ภาพ 5.แบบฝกึ หัดตรวจสอบความเขา้ ใจเรอ่ื งอทิ ธิพลของวรรณะสี 9. แหลง่ การเรียนรู้ 1. ห้องเรยี น 2. ห้องสมุด 3.แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

14 10.การวัดและประเมินผล ตารางเกณฑ์การประเมนิ ใบงาน ชน้ิ งาน/ภาระงาน วิธกี ารวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ใบงานเรื่องทัศนธาตุ ตรวจใบงานท่ี แบบประเมินใบงาน คะแนน 4 = ดีมาก ผ่านเกณฑ์อยา่ งน้อยใน เร่ืองทัศนธาตุ คะแนน 3 = ดี ระดับ ดี ใบงานเรื่องการจัดภาพ คะแนน 2 = พอใช้ ตรวจใบงาน เรอ่ื ง แบบประเมนิ ใบงาน คะแนน 1 = ปรบั ปรงุ ผา่ นเกณฑอ์ ย่างน้อยใน ใบงาน เรอ่ื งอิทธิพลของ การจดั ภาพ คะแนน 4 = ดมี าก ระดับ ดี วรรณะสี คะแนน 3 = ดี ตรวจใบงาน เรื่อง แบบประเมนิ ใบงาน คะแนน 2 = พอใช้ ผา่ นเกณฑ์อยา่ งน้อยใน อทิ ธิพลของวรรณะ คะแนน 1 = ปรับปรงุ ระดบั ดี สี คะแนน 4 = ดมี าก คะแนน 3 = ดี คะแนน 2 = พอใช้ คะแนน 1 = ปรบั ปรุง

ตรารางการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 15 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน วิธีวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ60 ขึ้น ความสามารถในการสือ่ สาร ประเมินจาก แบบประเมนิ ไป พฤติกรรมของ คุณลกั ษณะอันพึง ผเู้ รียน ประสงค์ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ60 ข้ึน (รายบุคคล) ไป ความสามารถในการคิด ประเมินจาก แบบประเมนิ พฤติกรรมของ คุณลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ60 ขึน้ ผเู้ รยี น ประสงค์ ไป (รายบุคคล) ความสามารถในการแกป้ ัญหา ประเมนิ จาก แบบประเมนิ พฤตกิ รรมของ คณุ ลักษณะอันพงึ ผู้เรียน ประสงค์ (รายบคุ คล) เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับคะแนน 80-100% ให้ ดีมาก ระดับคะแนน 70-79% ให้ ดี ระดับคะแนน 60-69 % ให้พอใช้ ระดับคะแนน 0 -59% ให้ ปรับปรุง

16 แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี นและการมีสว่ นร่วมในช้นั เรียน คําชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมและการมสี ว่ นร่วมในช้ันเรียนของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอก เวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 12 1 34 2 3 การแสดงความคดิ เห็น การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ น่ื 4 การทาํ งานตามหนา้ ที่ ทไ่ี ด้รับ 5 มอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ การตรงต่อเวลา ลงชือ่ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ ................../................/............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั หรือไม่เคยปฏิบัติเลย ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 0-7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรับปรุง 8-10 คะแนน ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้ 11-13 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี 14-15 คะแนน ระดับคุณภาพ 4 หมายถึง ดีมาก

แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 17 คำอธบิ ายคณุ ภาพ ปรับปรุง (1) สง่ิ ท่ตี ้องการวัด/ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ประเมนิ ผล 1. เข้าเรยี นตรงต่อ เข้าเรียนตรงต่อเวลา เข้าเรียนสายไมเ่ กิน เข้าเรียนสาย เข้าเรยี นสาย เวลา เกนิ 15นาที มากกวา่ 30นาที 2. ความสนใจเรียน สมำ่ เสมอดีมาก ไมเ่ ขา้ 10นาที 3. มีระเบยี บวินยั สายเลยสกั ครง้ั 4. ความรบั ผดิ ชอบ มีความกระตือรือร้น มีควากระตือรือร้น มกี ารตอบ ไมต่ อบคำถาม คำถามบ้าง เลย ในการเรียนดมี าก ในการเรียนดีมีการ เลก็ น้อย มีการให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมือใน ในการทำกิจกรรม การทำกิจกรรม ตลอดจนจบกจิ กรรม บ่อยครัง้ ทำงานเปน็ ระเบยี บ ทำงานเป็นระเบียบ ท ำ ง า น เ ป็ น ทำงานไมเ่ ปน็ ร ะ เ บ ี ย บ ระเบยี บและไม่ และถูกต้องมากกว่า แ ล ะ ถ ู ก ต ้ อ ง มากกว่า50% ถูกต้อง ทำงานที่ได้รับ ไม่ทำงานที่ได้รับ 90% มากกว่า70% มอบหมายดี มี ม อ บ ห ม า ย ความถูกต้อง ทำงานไม่แล้ว ทำงานที่ได้รับ ท ำ ง า น ท ี ่ ไ ด ้ รั บ มากกว่า50% เสร็จ มอบหมายดี มีความถกู ม อ บ ห ม า ย ด ี มี ตอ้ ง ตรงเวลามากกว่า ค ว า ม ถ ู ก ต ้ อ ง 90% มากกวา่ 70% เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 5-8 ปรับปรุง 0-4

18 ตารางเกณฑ์การประเมนิ ทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 สมรรถะสำคัญของผ้เู รยี น วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ 1. ทกั ษะการอา่ น สงั เกต แบบสังเกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดมี าก ผ่านเกณฑ์อย่างน้อยใน พฤติกรรม ระดบั พอใช้ คะแนน 3 = ดี 2. ทกั ษะการเขยี น สังเกต คะแนน 2 = พอใช้ ผา่ นเกณฑอ์ ย่างน้อยใน พฤติกรรม คะแนน 1 = ปรบั ปรงุ ระดับ พอใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก 3. ทักษะความเข้าใจต่าง สังเกต คะแนน 3 = ดี ผ่านเกณฑ์อยา่ งน้อยใน คะแนน 2 = พอใช้ ระดบั พอใช้ วฒั นธรรม พฤติกรรม คะแนน 1 = ปรบั ปรุง แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดมี าก ผา่ นเกณฑอ์ ยา่ งน้อยใน 4. ทักษะด้านความร่วมมือ สังเกต คะแนน 3 = ดี ระดบั พอใช้ การทำงานเป็นทีม และ พฤติกรรม คะแนน 2 = พอใช้ ภาวะผู้นำ คะแนน 1 = ปรับปรุง ผา่ นเกณฑ์อยา่ งน้อยใน แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก ระดับ พอใช้ 5. ทกั ษะการเรียนรู้ สงั เกต คะแนน 3 = ดี พฤติกรรม คะแนน 2 = พอใช้ คะแนน 1 = ปรับปรุง แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดมี าก คะแนน 3 = ดี คะแนน 2 = พอใช้ คะแนน 1 = ปรับปรงุ

19 แบบประเมินใบงาน ชอ่ื -สกลุ เลขท่ี . ลำดบั ท่ี ประเด็นการประเมนิ 4 คณุ ภาพการปฏบิ ัตกิ าร (ดมี าก) 321 (ดี) (ปานกลาง) (พอใช)้ 1 เน้อื หาตรงตามจดุ ประสงคท์ ก่ี ำหนด 2 เนือ้ หามคี วามถูกต้องสมบรู ณ์ 3 ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 4 ผลงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย 5 ส่งงานตรงตอ่ เวลา รวม ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน ./ /.

20 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงาน คณุ ภาพการปฏิบัตกิ าร ประเดน็ ท่ีประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (พอใช้) 1. เนื้อหาตรงตาม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานไม่มีคว าม จุดประสงค์ท่ี ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ กำหนด จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ เนื้อหาที่เรียนทุก เนื้อหาที่เรียนเป็น เนื้อหาที่เรียนบาง เน้ือหาทเ่ี รยี น ประเดน็ สว่ นใหญ่ ประเด็น 2. เนื้อหามีความ เนื้อหาสาระของ เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานมคี วามถูกต้อง ผลงานมีความถูกต้อง ผลงานไม่มีคว าม ถูกต้องครบถ้วน เปน็ ส่วนใหญ่ บางประเดน็ ถูกต้องบางประเดน็ สมบรู ณ์ 3. ผ ล ง า น มี ผลงานมีความคิด ผลงานมีคว ามคิด ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานไม่มีความคิด ค ว า ม คิ ด สร้างสรรค์ แปลก สร้างสรรค์ แปลก น่าสนใจ แต่ยังไม่มี สร้างสรรค์ แปลก สรา้ งสรรค์ ใหม่ และมีความ ใหม่ แต่ไม่มีความ ความคิดที่แปลกใหม่ ใหม่ และไม่มีความ เป็นระบบ เป็นระบบ เทา่ ทคี่ วร เป็นระบบ 4. ผลงานมีความ ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานส่วนใหญ่ไม่มี เ ป ็ น ร ะ เ บ ี ย บ ระเบียบเรียบร้อย ระเบียบเรียบร้อย แต่ ความเป็นระเบียบ ความเป็นระเบียบ เรยี บร้อย และมีความจูงใจน่า ย ั ง ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อง เรียบร้อย และ มี เรียบร้อย และ มี อ่านเป็นอย่างมาก ปรากฏเล็กนอ้ ย ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง เ ป็ น ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง เ ป็ น ปรากฏบางสว่ น ปรากฏอย่างมาก 5. ส่งงานตรงต่อ ส่งงานตามเวลาท่ี ส่งงานเกินเวลาที่ครู ส่งงานเกินเวลาที่ครู ส่งงานเกินเวลาที่ครู เวลา ครกู ำหนด กำหนด 1-2 วัน กำหนด 3-4 วัน กำหนดเวลามากกว่า 5 วนั เกณฑก์ ารประเมิน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 16 - 20 ดมี าก 11 - 15 ดี 6 -10 1-5 ปานกลาง ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 21 กลุ่มที่ ช่ือกลุ่ม . . . ช่อื สมาชิกในกลุ่ม 1. เลขที่ . 2. เลขท่ี . 3. เลขที่ . 4. เลขท่ี 5. เลขที่ ลำดับที่ พฤติกรรมที่สังเกต คุณภาพการปฏิบัติการ 3 21 (สมำ่ เสมอ) (บ่อยคร้ัง) (นอ้ ยครงั้ ) 1 มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น 2 มคี วามกระตอื รือร้นในการทำงาน 3 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4 มขี ้นั ตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบและ เป็นระเบยี บเรยี บร้อย 5 ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม รวม ลงชื่อ / ผู้ประเมนิ . /. ช่วงคะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ 13 - 15 8 - 12 ระดับคุณภาพ ตำ่ กว่า 8 ดี พอใช้ ปานกลาง

22 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เลขท่ี ช่อื - สกุล มีวินยั ใฝ่ความรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 543 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 ลงชื่อ / ผู้ประเมิน . /.

23 เกณฑ์การใหค้ ะแนนทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 พฤติกรรมบ่งชี้ คะแนน 1. ทักษะการอา่ น ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 2. ทักษะการเขียน 3. ทักษะการความแตกตา่ งทาง อ ่ า น ไ ด ้ อ ย ่ า ง อ่านได้ถูกต้องแต่ อ่านได้ถูกต้อง อ่านไม่ถูกต้อง วัฒนธรรม ถูกต้อง และไม่ ตดิ ขัดเล็กน้อย บางตัวแปร แต่ ต้อง สับสนตัว ติดขดั ตดิ ขดั แปร เขยี นไดถ้ ูกต้อง เขียนได้ถกู ต้อง เขียนไดถ้ กู ต้อง เขยี นผดิ ทัง้ หมด ทงั้ หมด เป็นส่วนใหญ่ บางตัว มคี วามเขา้ ใจ มีความเข้าใจผู้อ่ืน มีความเข้าใจ ไม่มีความเข้าใจ ผอู้ น่ื ได้ดีเย่ยี ม ได้ดี ผอู้ น่ื ได้ ในความแตกตา่ ง 4. ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การ ให้ความร่วมมือ ใหค้ วามรว่ มมือใน ไ ม ่ ใ ห ้ ค ว า ม ไม่ให้ความร่วมมือ ทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ ใ น ก า ร ท ำ ง า น การทำงาน เป็น ร่วมมือในการ ในการทำงานเป็น เป็นกล่มุ ทุกครัง้ กล่มุ บางครง้ั ทำงานเป็นกลุ่ม กล่มุ เลย 5. ทักษะการเรียนรู้ บางคร้งั คะแนนใบงานได้ คะแนนใบงานได้ คะแนนใบงาน คะแนนใบงานได้ รอ้ ยละ 90 - 100 ร้อยละ 70 - 89 ได้รอ้ ยละ ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50 50 - 69 เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ➢ ตอ้ งผ่านเกณฑ์ในระดับคะแนน พอใช้ ข้นึ ไป

24 11. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... 12.บันทึกผลหลังการสอน สรุปผลการเรยี นการสอน นกั เรยี นท้ังหมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ น จำนวนนักเรยี นทไี่ ม่ผ่าน ข้อท่ี จำนวนคน รอ้ ยละ จำนวนคน รอ้ ยละ 1 2 3 13. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. .................................. 14. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................................. ......................... ......................................................................................................... ....................................................... ....... ............................................................................................................................. ......................................... ลงช่ือ........................................................................ () ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ....................................... ลงช่ือ................................................................ หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ () ลงช่อื .......................................................... รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ (………………………………………..)

25 ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา ได้ทำการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดงั น้ี 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม  ยงั ไม่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป 3. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ลงชอื่ ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผ้อู ำนวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

26 แบบฝึกหัดเร่ืองทศั นธาตุ คำชีแ้ จง : ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกตอ้ งอย่างระเอยี ด 1.ทศั นศลิ ปห์ มายถึงอะไร และมีองคป์ ระกอบอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2.ให้นกั เรยี นนำสว่ นประกอบของทัศนศิลป์มาสร้างเป็นภาพ

27 แบบฝึกหดั เรื่องการจัดภาพ คำช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นวาดภาพการจดั องค์ประกอบของภาพให้สวยงาม

28 แบบฝึกหดั เรื่องอิทธพิ ลของวรรณะสี คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนวาดภาพพร้อมบอกอารมณคื วามร้สู ึกของภาพน้นั ๆ

29 . ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี แผนการเรยี นรหู้ น่วยท่ี 2 เร่อื งสร้างสรรค์งานศิลป์

แผนการจดั การเรยี นรู้ท2่ี 30 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ รหัสวิชา ศ14101 รายวิชา ทัศนศิลป์ เวลา. 15 ชวั่ โมง ช้ัน ประถมศึกษาปีที4่ .ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 . เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านศลิ ป์ ครผู ้สู อน นายชัยกาญจน์ บุญตะไนย์ 1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปะตามจนิ ตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระชื่นชม และ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวนั ตวั ชว้ี ดั 1. มที กั ษะพืน้ ฐานในการให้วสั ดุ อุปกรณ์สรา้ งสรรค์งานพมิ พ์ภาพ 2. มที กั ษะพืน้ ฐานในการใหว้ ัสดุ อุปกรณส์ รา้ งสรรคง์ านวาดภาพระบายสี 3. วาดภาพระบายสี โดยใชส้ ีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเย็น ถา่ ยทอดความรสู้ กึ และจินตนาการ 4. เปรียบเทียบความคดิ ความรู้สกึ ท่ถี า่ ยทอดผา่ นงานทคั นศิลป์ของตนเองและบุคคลอนื่ 5. เลอื กใช้วรรณะสีเพ่อื ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรู้สึกในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. มที กั ษะฟืน้ ฐานในการให้วสั ดุ อุปกรณ์สรา้ งสรรค์งานพมิ พ์ภาพ ( P ) 2. มที ักษะพน้ื ฐานในการให้วสั ดุ อุปกรณ์สรา้ งสรรค์งานวาดภาพระบายสี ( P ) 3. มคี วามขยันในการปฏบิ ัติหน้าทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ( A ) 4. สามารถบรรยายลกั ษณะของภาพเนน้ เรอ่ื งการจัดระยะ ความลึก น้ำหนกั และแสงเงาในภาพ ( K ) 5. สามารถวาดภาพระบายสี โดยใชส้ ีวรรณะอนุ่ และสวี รรณะเย็น ถา่ ยทอดความรู้สกึ จนิ ตนาการ ( P ) 6. สามารถเปรยี บเทยี บความคิด ความรสู้ กึ ถา่ ยทอดผา่ นงานทัคนศิลป์ของตนเองและบุคคลอนื่ ( P ) 7.เลือกใช้วรรณะสีเพ่อื ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรู้สกึ ในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ ( P ) 3.สาระสำคัญ การสร้างสรรค์ เปน็ สิ่งที่เกดิ จากความคดิ สรา้ งสรรค์ เป็นการดำเนินการในลกั ษณะต่าง ๆเพ่ือให้เกิด สงิ่ แปลกใหม่ทไ่ี มเ่ คยปรากฏมาก่อน สง่ิ ที่มชี วี ติ เทา่ น้นั ทจ่ี ะมีความคิดอย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้

31 4. สาระการเรยี นรู้ - การวาดภาะระบายสี -การพมิ พ์ภาพด้วยแม่พิมพก์ ระดาษ -ความเหมือนและความแตกต่างทางความคดิ และความรู้ศกึ ที่ถ่ายทอดใน งานทัศนศิลป์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จดุ เนน้ สู่การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการ เขียน (Writing)  ทักษะการ คิดคาํ นวณ (Arithmetic)  ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทาํ งานเป็นทีม และภาวะผูน้ าํ (Collaboration , teamwork and leadership)  ทักษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันส่อื (Communication information and media literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing) ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change)  ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผนู้ าํ (Leadership)

32 6. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน -แบบฝึกหดั เร่ืองการวาดภาพระบายสี -แบบฝึกหดั เรอ่ื งการพิมพภ์ าพดว้ ยแม่พมิ พก์ ระดาษ -แบบฝกึ หัดความเหมือนและความแตกตา่ งทางความคดิ และความรศู้ ึกที่ถ่ายทอดในงานทัศนศิลป์ 7. การจดั การเรยี นรู้ หน่วยย่อยท่ี 1 เร่อื ง การวาดภาพระบายสี ช่ัวโมงท่ี 1 ใชร้ ปู แบบการเรียนร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นที่ 1 : ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1.ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรู้เรอ่ื งการวาดภาพระบายสีให้นกั เรียนทราบ 2.จากนนั้ ครูพดู คุยกบั นกั เรียน เพื่อตรวจสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คลก่อนเขา้ สกู่ ิจกรรม 3.ครนู ำอปุ กรณ์การวาดภาพระบายสีมาให้นักเรียนดู ขัน้ ที่ 2 : ขั้นสํารวจและคน้ หา (Exploration) 1. ดรใู หน้ ักเรียนปฏิบตั กิ ิจกรรม รจู้ ักวัสดุ อปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสี เพอื่ ประเมนิ ความรูแ้ ละประสบการณเ์ ก่ยี วกับวัสด อปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสีของนักเรียน 2. ครใู หน้ กั เรียนสังเกตวัสดุ อปุ กรณ์ สิง่ ของรอบตัววา่ มีอะไรบ้างที่คิดว่าสามารถนำมา สร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสีได้ 3. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเพอ่ื เชอื่ มโยงความรเู้ กยี่ วกับวัสดุ อุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี ท่ีสามารถนำมาใช้สร้างสรรคผ์ ลงานศลิ ปะ 4. นักเรยี นศึกษา เร่ือง การวาดภาะระบายสี 5. นกั เรยี นศึกษา เรื่อง ทศั นธาตุ จากสอ่ื การสอน PowerPoint ชว่ั โมงที่ 3 ใชร้ ูปแบบการเรียนรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นท่ี 3 : ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูอธิบายถึงวัสดุ อปุ กรณ์ ท่ีสามารถนำมาสรา้ งสรรคผ์ ลงานวาดภาพระบายสีให้นักเรยี น รู้จกั พรอ้ มกับสนทนาเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้วสั ดุ อปุ กรณข์ องนกั เรียน และสปี ระเภทต่าง ๆ มาสาธิตวธิ กี ารใชใ้ นการวาดภาพระบายสีใหน้ กั เรียนดู จนสำเร็จเปน็ ผลงานวาดภาพ 2. ครนู ำวสั ดุ อุปกรณ์ ได้แก่ ดนิ สอ ยางลบ กระดาษวาดเขียน พกู่ ัน จานสี ภาชนะใส่น้ำ ระบายสี 3. ครนู ำตวั อย่างภาพผลงานการวาดภาพระบายสที ่ีใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ ไดแ้ ก่ ดนิ สอ ยางลบ

33 กระดาษวาดเขียน พ่กู นั จานสี ภาชนะใสน่ ำ้ และสปี ระเภทต่าง ๆ ใหน้ กั เรียนสังเกต โดยครู อธบิ ายเชื่อมโยงการใช้วัสดุ อุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสีในสว่ นต่าง ๆ ใหน้ กั เรียนเหน็ 4.ครใู หน้ กั เรยี นทดลองใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ ไดแ้ ก่ ดินสอ ยางลบ กระดาษวาดเขยี น พกู่ นั จานสี สีน้ำ สิโปสเตอร์ ภาชนะใสน่ ำ้ และสีประเภทตา่ ง ๆ โดยครูดอยดแู ลและแนะนำ วธิ ีการใชว้ ัสดุอปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสีท่ถี ูกตอ้ งเป็นรายบุคคล 5. ครูให้นักเรยี นนำเสนอผลงานโดยบอกคณุ สมบัตขิ องวัสดุ อุปกรณใ์ นการวาดภาพระบาย สชี ้นิ นนั้ และการเก็บรักษาวัสดุ อปุ กรณอ์ ยา่ งถูกต้องใหค้ รูและเพ่ือน ๆ ฟัง ชวั่ โมงท่ี 4 ใช้รปู แบบการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ที่ 4 : ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู ห้ตัวแทนนักเรียนอธิบายเรื่องการวาดภาพระบายสีตามทีต่ นเองเข้าใจโดยอิง รายละเอียดใน หนังสือเรยี น 2. ครใู ห้นกั เรียนแสดงผลงานของตนเอง พรอ้ มท้ังอธิบายเพ่ิมเติมเพอ่ื ขยายความรู้ของ นกั เรยี น 3. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเน้ือหาท่ีไดศ้ ึกษาผา่ นมาแลว้ ว่ามีสว่ นไหนท่ยี งั ไม่เข้าใจ แลว้ ให้ความรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนั้น โดยทค่ี รูอาจจะใช้ PowerPoint เรอ่ื ง การวาดภาพ ระบายสี ชั่วโมงท่ี 5 ใชร้ ูปแบบการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ข้ันประเมิน (Evaluation) ครูใหน้ ักเรียนทาํ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งการวาดภาพระบายสี เพอ่ื ทบทวนความเข้าใจของนักเรียน ครูประเมนิ จากการตอบคําถาม การรว่ มกิจกรรม การอภิปราย และการทาํ แบบฝึกหัดเพื่อ ตรวจสอบความเขา้ ใจ ของนกั เรียน หนว่ ยย่อยที่ 2 เรือ่ ง การพมิ พภ์ าพด้วยแม่พมิ พ์กระดาษ ชั่วโมงที่ 1 ใชร้ ปู แบบการเรียนร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ที่ 1 : ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1.ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้เรอื่ งแรงแม่เหลก็ ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ดรูให้นกั เรียนสงั เกตธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมรอบตัวแลว้ สุ่มนักเรยี นใหอ้ อกมาอธิบายว่า เราสามารถนำส่งิ ใดมาทำเปน็ แมพ่ ิมพไ์ ดบ้ ้าง ครูสนทนาเสรมิ ถึงเศษกระดาษทมี่ ลี กั ษณะ และคุณสมบัตทิ ่แี ตกต่างกนั ใหน้ กั เรียนฟงั 3.ครสู นทนากับนักเรยี นถึงกระดาษท่สี ามารถนำมาใชใ้ นการพิมพ์ภาพด้วยแม่พิมพ์กระดาษ

34 เพ่ือเชอื่ มโยงความรูเ้ กยี่ วกับการพิมพ์ภาพดว้ ยแมพ่ ิมพ์กระดาษ ขนั้ ที่ 2 : ขนั้ สํารวจและคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนศึกษา เรือ่ ง การพมิ พ์ภาพดว้ ยแมพ่ มิ พ์กระดาษจากหนังสือเรยี น 2. นักเรียนศกึ ษา เร่อื ง การพิมพภ์ าพด้วยแมพ่ มิ พ์กระดาษ จากสื่อการสอน PowerPoint 3. ให้นกั เรยี นเข้ากลมุ่ สืบค้นขอ้ มูลเกยี่ วกับการการพิมพ์ภาพด้วยแม่พิมพก์ ระดาษ แหล่งขอ้ มลู ต่างๆ ชั่วโมงที่ ใช้รปู แบบการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ที่ 3 : ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. ครูนำตัวอย่างผลงานการพิมพภ์ าพดว้ ยแม่พิมพ์กระดาษให้นักเรยี นสงั เกต พร้อมกบั อธิบายเน้อื หาเก่ียวกบั การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และชนั้ ตอนการพิมพภ์ าพดว้ ยแม่พิมพ์กระดาษ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ 2. ครสู าธิตการพมิ พภ์ าพดว้ ยแมพ่ ิมพ์กระดาษใหน้ ักเรียนสังเกตการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และ ทบทวนการพมิ พภ์ าพดว้ ยแม่พมิ พ์กระดาษ โดยครูอธบิ ายเสรมิ ถึงการถา่ ยทอดจนิ ตนาการ ความคิดสรา้ งสรรค์ในผลงาน 3. ดรใู หน้ กั เรยี นศึกษาด้นคว้าความหมายของการพิมพ์ภาพดว้ ยแมพ่ ิมพ์กระดาษ และ สรา้ งสรรคก์ ารพิมพภ์ าพด้วยแม่พิมพ์กระดาษตามข้นั ตอน โดยเขียนอธบิ ายความรสู้ กึ ลงใน ใบแนวความคดิ 4. นักเรียนนำเสนอผลงานการพิมพ์ภาพดว้ ยแม่พมิ พ์กระดาษ์ โดยครสู นทนากับนักเรยี น เพมิ่ เติมเกย่ี วกับการถ่ายทอดความคิด อารมณ์ ความรสู้ ึกในภาพ และการใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ ท่ีจะต้องปรับปรุงให้ผลงานสมบรู ณย์ ง่ิ ขึน้ 5. ครลู ุ่มสอบถามนักเรียนให้อธบิ ายถึงการพิมพ์ภาพด้วยแมพ่ มิ พก์ ระดาษของตนเองกบั ผลงานของเพื่อน ๆ วา่ มีความเหมอื นหรือแตกต่างกนั ในการถ่ายทอดความคิดอารมณ์ ความรสู้ ึกอยา่ งไรบา้ งและจำแนกผลงานออกเป็นกลมุ่ ๆ เพอ่ื เปรียบเทียบความเหมือนหรือ ใกลเ้ คียงกนั ให้นกั เรยี นสังเกตสอบถาม ช่ัวโมงที่ 3 ใชร้ ปู แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขัน้ ท่ี 4 : ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู หต้ ัวแทนนกั เรียนออกมาสรุปสาระสำคญั ของเรื่องการพิมพ์ภาพด้วยแม่พมิ พก์ ระดาษ และซักถามขอ้ สงสยั พรอ้ มท้ังหาความรเู้ พ่ิมเตมิ 2. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามเนอื้ หาท่ีได้ศกึ ษาผ่านมาแลว้ ว่ามสี ว่ นไหนทีย่ งั ไม่เข้าใจ แล้วใหค้ วามร้เู พิ่มเติมในสว่ นนัน้ โดยที่ครูอาจจะใช้ PowerPoint เรื่อง การจดั ภาพ มาชว่ ย

35 ในการอธิบาย 3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เร่อื ง การพมิ พ์ภาพดว้ ยแมพ่ ิมพ์กระดาษ ซึง่ เปน็ การ ใชก้ ระดาษมาทำเปน็ แม่พิมพ์ด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ โดยนำมาจุ่มสหี รือทาสี แล้วกดทับลงบนวสั ดุ รองรับ โดยครูคอยให้ความรเู้ สริมในส่วนทีน่ ักเรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไม่ตรงกบั จดุ ประสงค์ การเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 5 ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ข้ันประเมิน (Evaluation) 1. ครูใหน้ ักเรยี นทาํ แบบฝกึ หดั ตรวจสอบความเข้าใจ เร่ืองการพิมพภ์ าพดว้ ยแม่พิมพ์ กระดาษ เพอ่ื ทบทวนความเข้าใจของนักเรียนครูประเมินจากการตอบคาํ ถาม การรว่ ม กจิ กรรม การอภิปราย และการทําแบบฝึกหัดเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ ของนกั เรียน หน่วยยอ่ ยท่ี 3 เรื่องความเหมือนและความแตกต่างทางความคิดและความร้สู ึกท่ีถา่ ยทอดในงาน ทศั นศลิ ป์ ช่ัวโมงที่ 1 ใช้รปู แบบการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5E ) ขนั้ ท่ี 1 : ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1.ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้เรอื่ งแรงแมเ่ หลก็ ให้นักเรยี นทราบ 2. ครใู หน้ กั เรยี นเลา่ ถึงวฒั นธรรมในชุมชนของตนเองตามที่นักเรียนรูจ้ กั 3. ครูสนทนากับนกั เรียนเพอ่ื เชอื่ มโยงความรู้เกี่ยวกบั ความเหมือนและความแตกต่างทาง ความคิดและการถา่ ยทอดในงานทัศนศลิ ป์ ข้ันท่ี 2 : ขนั้ สํารวจและคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นศึกษาเรือ่ งความเหมอื นและความแตกตา่ งทางความคดิ และการถ่ายทอดในงาน ทัศนศิลป์ จากหนงั สือเรยี น 2. นักเรียนศึกษา เร่ืองความเหมอื นและความแตกตา่ งทางความคดิ และการถ่ายทอดในงาน ทัศนศิลป์จากสือ่ การสอน PowerPoint 3. ให้นักเรยี นเข้ากล่มุ สืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกบั ความเหมือนและความแตกต่างทางความคดิ และ การถา่ ยทอดในงานทัศนศลิ ป์จากแหล่งขอ้ มลู ตา่ งๆ

36 ชั่วโมงที่ 2 ใช้รูปแบบการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ข้ันที่ 3 : ขน้ั อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 1. นกั เรียนนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น มาอภปิ รายรว่ มกับครู 2. ครูอธิบายเกย่ี วกบั ความเหมอื นและความแตกต่างทางความคดิ และการถ่ายทอดในงาน ทศั นศิลป์ 8. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรปุ เรือ่ ง ความเหมือนและความแตกตา่ งทาง ความคดิ และการถา่ ยทอดในงานทศั นศิลป์ตามทีน่ ักเรียนเขา้ ใจพร้อมกับเขียนบนั ทึกลงใน สมุด ชัว่ โมงที่ 4 ใช้รูปแบบการเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) ขั้นที่ 4 : ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1.ครใู หต้ ัวแทนนกั เรยี นออกมาสรปุ สาระสำคญั เรื่องความเหมือนและความแตกต่างทาง ความคิดและการถ่ายทอดในงานทศั นศิลป์และซักถามข้อสงสัย พรอ้ มทัง้ หาความรูเ้ พม่ิ เตมิ 2. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามเน้อื หาทไ่ี ดศ้ ึกษาผา่ นมาแลว้ ว่ามีสว่ นไหนทยี่ ังไมเ่ ขา้ ใจ แลว้ ใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นน้นั โดยทีค่ รอู าจจะใช้ PowerPoint เร่อื ง ความเหมอื นและ ความแตกตา่ งทางความคิดและการถ่ายทอดในงานทัศนศลิ ป์ ชวั่ โมงที่ 5 ใช้รูปแบบการเรียนรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ ( 5E ) 5. ขั้นประเมิน (Evaluation) 1. ครูให้นักเรียนทําแบบฝกึ หัดตรวจสอบความเข้าใจเรือ่ งความเหมือนและความแตกต่าง ทางความคดิ และการถ่ายทอดในงานทัศนศิลป์เพ่ือทบทวนความ เขา้ ใจของนกั เรยี นครปู ระเมนิ จากการตอบคําถาม การร่วมกจิ กรรม การอภปิ ราย และการ ทําแบบฝกึ หัดเพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจ 8. สื่อการสอน 1. หนังสือเรยี นทศั นศิลป์ 2. สอื่ การสอน PowerPoint ของครผู ู้สอน 3. แบบฝึกหดั ตรวจสอบความเข้าใจเรอ่ื งการวาดภาพระบายสี 4.แบบฝกึ หดั ตรวจสอบความเขา้ ใจเรือ่ งการพมิ พภ์ าพด้วยแม่พมิ พก์ ระดาษ 5.แบบฝึกหัดตรวจสอบความเขา้ ใจเร่อื งความเหมือนและความแตกตา่ งทางความคิดและการถ่ายทอดใน งานทัศนศิลป์

37 9. แหล่งการเรียนรู้ 1. หอ้ งเรยี น 2. ห้องสมุด 3.แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 10.การวดั และประเมินผล ตารางเกณฑก์ ารประเมินใบงาน ชน้ิ งาน/ภาระงาน วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ใบงานเรอื่ งการวาดภาพ ตรวจใบงานที่ แบบประเมนิ ใบงาน คะแนน 4 = ดมี าก ผา่ นเกณฑ์อยา่ งน้อยใน ระบายสี เร่ืองการวาดภาพ คะแนน 3 = ดี ระดับ ดี ระบายสี แบบประเมินใบงาน คะแนน 2 = พอใช้ ใบงานเรอ่ื งการพิมพ์ภาพ คะแนน 1 = ปรับปรุง ผ่านเกณฑอ์ ย่างน้อยใน ด้วยแม่พมิ พ์กระดาษ ตรวจใบงาน เรื่อง แบบประเมนิ ใบงาน คะแนน 4 = ดีมาก ระดับ ดี การพิมพภ์ าพดว้ ย คะแนน 3 = ดี ใบงาน เร่อื งความเหมอื น แม่พิมพ์กระดา คะแนน 2 = พอใช้ ผ่านเกณฑ์อยา่ งน้อยใน และความแตกต่างทาง คะแนน 1 = ปรบั ปรงุ ระดบั ดี ความคิดและความร้สู ึกที่ ตรวจใบงาน เรอื่ ง คะแนน 4 = ดมี าก ถ่ายทอดในงานทศั นศิลป์ ความเหมือนและ คะแนน 3 = ดี ความแตกตา่ งทาง คะแนน 2 = พอใช้ ความคดิ และ คะแนน 1 = ปรับปรุง ความรูส้ กึ ที่ ถา่ ยทอดในงาน ทัศนศิลป์

ตรารางการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 38 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน วิธีวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ60 ขึ้น ความสามารถในการสือ่ สาร ประเมินจาก แบบประเมนิ ไป พฤติกรรมของ คุณลกั ษณะอันพึง ผเู้ รียน ประสงค์ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ60 ข้ึน (รายบุคคล) ไป ความสามารถในการคิด ประเมินจาก แบบประเมนิ พฤติกรรมของ คุณลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ60 ขึน้ ผเู้ รยี น ประสงค์ ไป (รายบุคคล) ความสามารถในการแกป้ ัญหา ประเมนิ จาก แบบประเมนิ พฤตกิ รรมของ คณุ ลักษณะอันพงึ ผู้เรียน ประสงค์ (รายบคุ คล) เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับคะแนน 80-100% ให้ ดีมาก ระดับคะแนน 70-79% ให้ ดี ระดับคะแนน 60-69 % ให้พอใช้ ระดับคะแนน 0 -59% ให้ ปรับปรุง

39 แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนและการมสี ว่ นร่วมในช้นั เรียน คําชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมและการมสี ่วนร่วมในชั้นเรียนของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอก เวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 12 1 34 2 3 การแสดงความคดิ เห็น การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 4 การทาํ งานตามหนา้ ที่ท่ไี ด้รับ 5 มอบหมาย ความมนี ำ้ ใจ การตรงต่อเวลา ลงชอื่ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ ................../................/............... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั หรือไม่เคยปฏิบตั ิเลย ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 0-7 คะแนน ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ 8-10 คะแนน ระดบั คุณภาพ 2 หมายถงึ พอใช้ 11-13 คะแนน ระดับคุณภาพ 3 หมายถงึ ดี 14-15 คะแนน ระดับคุณภาพ 4 หมายถึง ดีมาก

แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 40 คำอธบิ ายคณุ ภาพ ปรับปรุง (1) สง่ิ ท่ตี ้องการวัด/ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ประเมนิ ผล 1. เข้าเรยี นตรงต่อ เข้าเรียนตรงต่อเวลา เข้าเรียนสายไมเ่ กิน เข้าเรียนสาย เข้าเรยี นสาย เวลา เกนิ 15นาที มากกวา่ 30นาที 2. ความสนใจเรียน สมำ่ เสมอดีมาก ไมเ่ ขา้ 10นาที 3. มีระเบยี บวินยั สายเลยสกั ครง้ั 4. ความรบั ผดิ ชอบ มีความกระตือรือร้น มีควากระตือรือร้น มกี ารตอบ ไมต่ อบคำถาม คำถามบ้าง เลย ในการเรียนดมี าก ในการเรียนดีมีการ เลก็ น้อย มีการให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมือใน ในการทำกิจกรรม การทำกิจกรรม ตลอดจนจบกจิ กรรม บ่อยครัง้ ทำงานเปน็ ระเบยี บ ทำงานเป็นระเบียบ ท ำ ง า น เ ป็ น ทำงานไมเ่ ปน็ ร ะ เ บ ี ย บ ระเบยี บและไม่ และถูกต้องมากกว่า แ ล ะ ถ ู ก ต ้ อ ง มากกว่า50% ถูกต้อง ทำงานที่ได้รับ ไม่ทำงานที่ได้รับ 90% มากกว่า70% มอบหมายดี มี ม อ บ ห ม า ย ความถูกต้อง ทำงานไม่แล้ว ทำงานที่ได้รับ ท ำ ง า น ท ี ่ ไ ด ้ รั บ มากกว่า50% เสร็จ มอบหมายดี มีความถกู ม อ บ ห ม า ย ด ี มี ตอ้ ง ตรงเวลามากกว่า ค ว า ม ถ ู ก ต ้ อ ง 90% มากกวา่ 70% เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 5-8 ปรับปรุง 0-4

41 ตารางเกณฑก์ ารประเมนิ ทักษะของผ้เู รียนในศตวรรษท่ี 21 สมรรถะสำคัญของผ้เู รยี น วธิ ีการวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ 6. ทกั ษะการอ่าน สังเกต แบบสังเกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก ผ่านเกณฑ์อย่างน้อยใน พฤติกรรม ระดับ พอใช้ คะแนน 3 = ดี 7. ทกั ษะการเขยี น สังเกต คะแนน 2 = พอใช้ ผา่ นเกณฑอ์ ย่างน้อยใน พฤติกรรม คะแนน 1 = ปรับปรุง ระดับ พอใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก 8. ทักษะความเข้าใจต่าง สงั เกต คะแนน 3 = ดี ผ่านเกณฑอ์ ยา่ งน้อยใน คะแนน 2 = พอใช้ ระดับ พอใช้ วฒั นธรรม พฤติกรรม คะแนน 1 = ปรบั ปรงุ แบบสังเกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก ผา่ นเกณฑ์อยา่ งน้อยใน 9. ทักษะด้านความร่วมมือ สงั เกต คะแนน 3 = ดี ระดบั พอใช้ การทำงานเป็นทีม และ พฤติกรรม คะแนน 2 = พอใช้ ภาวะผนู้ ำ คะแนน 1 = ปรบั ปรงุ ผ่านเกณฑ์อยา่ งน้อยใน แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดีมาก ระดับ พอใช้ 10. ทกั ษะการเรยี นรู้ สงั เกต คะแนน 3 = ดี พฤติกรรม คะแนน 2 = พอใช้ คะแนน 1 = ปรับปรุง แบบสงั เกตพฤติกรรม คะแนน 4 = ดมี าก คะแนน 3 = ดี คะแนน 2 = พอใช้ คะแนน 1 = ปรับปรงุ

42 แบบประเมินใบงาน ชอ่ื -สกลุ เลขท่ี . ลำดบั ท่ี ประเด็นการประเมนิ 4 คณุ ภาพการปฏบิ ัตกิ าร (ดมี าก) 321 (ดี) (ปานกลาง) (พอใช)้ 1 เน้อื หาตรงตามจดุ ประสงคท์ ก่ี ำหนด 2 เนือ้ หามคี วามถูกต้องสมบรู ณ์ 3 ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 4 ผลงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย 5 ส่งงานตรงตอ่ เวลา รวม ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน ./ /.

43 เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงาน คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิการ ประเด็นท่ปี ระเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (พอใช้) 6. เนื้อหาตรงตาม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานไม่มีคว าม จุดประสงค์ที่ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ กำหนด จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ จุดประสงค์ของ เนื้อหาที่เรียนทุก เนื้อหาที่เรียนเป็น เนื้อหาที่เรียนบาง เนื้อหาทเ่ี รยี น ประเด็น ส่วนใหญ่ ประเดน็ 7. เนื้อหามีความ เนื้อหาสาระของ เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง เ น ื ้ อ ห า ส า ร ะ ข อ ง ถูกต้องสมบรู ณ์ ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานมคี วามถูกต้อง ผลงานมคี วามถูกต้อง ผลงานไม่มีคว าม ถูกต้องครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ บางประเด็น ถกู ต้องบางประเดน็ สมบรู ณ์ 8. ผ ล ง า น มี ผลงานมีความคิด ผลงานมีคว ามคิด ผ ล ง า น ม ี ค ว า ม ผลงานไม่มีความคิด ค ว า ม คิ ด สร้างสรรค์ แปลก สร้างสรรค์ แปลก น่าสนใจ แต่ยังไม่มี สร้างสรรค์ แปลก สร้างสรรค์ ใหม่ และมีความ ใหม่ แต่ไม่มีความ ความคิดที่แปลกใหม่ ใหม่ และไม่มีความ เปน็ ระบบ เปน็ ระบบ เท่าทค่ี วร เปน็ ระบบ 9. ผลงานมีความ ผลงานมีความเป็น ผลงานมีความเป็น ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานส่วนใหญ่ไม่มี เ ป ็ น ร ะ เ บ ี ย บ ระเบียบเรียบร้อย ระเบียบเรียบร้อย แต่ ความเป็นระเบียบ ความเป็นระเบียบ เรยี บร้อย และมีความจูงใจน่า ย ั ง ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อง เรียบร้อย และ มี เรียบร้อย และ มี อ่านเป็นอย่างมาก ปรากฏเล็กน้อย ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง เ ป็ น ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง เ ป็ น ปรากฏบางส่วน ปรากฏอย่างมาก 10. ส่งงานตรงต่อ ส่งงานตามเวลาท่ี ส่งงานเกินเวลาที่ครู ส่งงานเกินเวลาที่ครู ส่งงานเกินเวลาที่ครู เวลา ครกู ำหนด กำหนด 1-2 วัน กำหนด 3-4 วัน กำหนดเวลามากกว่า 5 วนั เกณฑก์ ารประเมิน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 16 - 20 ดีมาก 11 - 15 ดี 6 -10 1-5 ปานกลาง ปรบั ปรุง

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 44 กลุ่มที่ ช่ือกลุ่ม . . . ช่อื สมาชิกในกลุ่ม 1. เลขที่ . 2. เลขท่ี . 3. เลขที่ . 4. เลขท่ี 5. เลขที่ ลำดับที่ พฤติกรรมที่สังเกต คุณภาพการปฏิบัติการ 3 21 (สมำ่ เสมอ) (บ่อยคร้ัง) (นอ้ ยครงั้ ) 1 มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็น 2 มคี วามกระตอื รือร้นในการทำงาน 3 รบั ผดิ ชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 4 มขี ้นั ตอนในการทำงานอยา่ งเป็นระบบและ เป็นระเบยี บเรยี บร้อย 5 ใช้เวลาในการทำงานอยา่ งเหมาะสม รวม ลงชื่อ / ผู้ประเมนิ . /. ช่วงคะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ 13 - 15 8 - 12 ระดับคุณภาพ ตำ่ กว่า 8 ดี พอใช้ ปานกลาง

45 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เลขท่ี ช่อื - สกุล มีวินยั ใฝ่ความรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน 5 4 3 2 1 5 4 3 2 1 543 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 ลงชื่อ / ผู้ประเมิน . /.

46 เกณฑ์การให้คะแนนทักษะของผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 พฤติกรรมบ่งชี้ คะแนน 6. ทักษะการอา่ น ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 7. ทักษะการเขียน 8. ทกั ษะการความแตกตา่ งทาง อ ่ า น ไ ด ้ อ ย ่ า ง อา่ นได้ถกู ต้องแต่ อ่านได้ถูกต้อง อ่านไม่ถูกต้อง วฒั นธรรม ถูกต้อง และไม่ ติดขดั เลก็ น้อย บางตัวแปร แต่ ต้อง สับสนตัว ติดขัด ติดขดั แปร เขียนไดถ้ ูกต้อง เขียนได้ถกู ต้อง เขียนไดถ้ กู ต้อง เขยี นผดิ ทง้ั หมด ท้งั หมด เปน็ สว่ นใหญ่ บางตวั มีความเข้าใจ มีความเข้าใจผู้อ่ืน มีความเข้าใจ ไม่มีความเข้าใจ ผอู้ นื่ ได้ดเี ยย่ี ม ได้ดี ผอู้ นื่ ได้ ในความแตกตา่ ง 9. ทักษะด้านความรว่ มมือ การ ให้ความร่วมมือ ใหค้ วามร่วมมือใน ไ ม ่ ใ ห ้ ค ว า ม ไมใ่ หค้ วามร่วมมอื ทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ ใ น ก า ร ท ำ ง า น การทำงาน เป็น ร่วมมือในการ ในการทำงานเป็น เป็นกล่มุ ทกุ ครงั้ กลมุ่ บางครัง้ ทำงานเป็นกลุ่ม กลุม่ เลย 10. ทักษะการเรียนรู้ บางครง้ั คะแนนใบงานได้ คะแนนใบงานได้ คะแนนใบงาน คะแนนใบงานได้ ร้อยละ 90 - 100 รอ้ ยละ 70 - 89 ได้ร้อยละ ต่ำกว่ารอ้ ยละ 50 50 - 69 เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ➢ ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ในระดับคะแนน พอใช้ ข้ึนไป