https://ncfund.oncb.go.th/ https://www.oncb.go.th
วสิ ัยทศั น์/พันธกิจ จุดประสงค์การจดั ตงั้ เพือ่ ใช้ประโยชน์ในการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ โดยการจ่ายเงนิ หรือทรัพย์สินของกองทนุ ให้ ดาเนินการได้ในกรณีดงั ตอ่ ไปนี ้ 1. สนบั สนนุ การปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ การบาบดั รักษา และการฟืน้ ฟู สมรรถภาพผ้ตู ดิ ยาเสพติด 2. สนบั สนนุ หรือจดั ให้มกี ารศกึ ษา ฝึกอบรม หรือสมั มนาเก่ียวกบั การปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด การ บาบดั รักษา และการฟืน้ ฟสู มรรถภาพผ้ตู ิดยาเสพติด 3. สนบั สนนุ หรือจดั ให้มวี ิทยากรซง่ึ มคี วามรู้หรือเชยี่ วชาญในด้านตา่ งๆ ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศเพื่อทาหน้าท่ใี ห้ คาปรึกษาแนะนา ฝึกอบหรือสมั มนาเกี่ยวกบั การป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด การบาบดั รักษา และการฟืน้ ฟู สมรรถภาพผ้ตู ดิ ยาเสพติด 4. สนบั สนนุ หรือจดั ให้มีการบริหารหรือจดั กิจกรรมอนั ก่อให้เกดิ ประโยชน์ต่อการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด การบาบดั รักษา และการฟืน้ ฟสู มรรถภาพผ้ตู ิดยาเสพติด 5. สนบั สนนุ การประสานงานระหวา่ งหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องหรือมีสว่ นชว่ ยเหลือหรือสนบั สนนุ การป้องกนั และ ปราบปรามยาเสพติด การบาบดั รักษา และการฟืน้ ฟสู มรรถภาพผ้ตู ดิ ยาเสพติดทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ 6. กิจการอน่ื ทจ่ี าเป็น เพื่อให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผ้กู ระทาความผิด เกี่ยวกบั ยาเสพติด วสิ ัยทศั น์ เป็นกองทนุ ที่สนบั สนุนการดาเนนิ งานด้านการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด ท่มี ีประสิทธิภาพและยงั่ ยืน พนั ธกจิ 1.การตดิ ตามทรัพย์สินที่ตกเป็นของกองทนุ 2.บริหารจดั การกองทนุ ให้เกิดประโยชน์ในการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ อย่างมปี ระสิทธิภาพ 3.สนบั สนนุ แผนงานโครงการเกี่ยวกบั การป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด การบาบดั รักษา และการฟืน้ ฟูสมรรถภาพ ผ้ตู ดิ ยาเสพติดภายใต้สถานการณ์ปัญหายาเสพติดทเ่ี ปลี่ยนแปลงได้อยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
พระราชบัญญตั ิ มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผิด เกยี่ วกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ __________________________ ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันท่ี ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ เปน็ ปีท่ี ๔๖ ในรัชกาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยที่เปน็ การสมควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ยมาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผดิ เกีย่ วกับยาเสพตดิ ( ๑)พระราชบัญญตั ินมี้ ีบทบัญญัตบิ างประการเกย่ี วกับการจากดั สิทธิและเสรภี าพของบคุ คล ซึง่ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๔๘ ของรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยบญั ญัตใิ ห้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตาม บทบญั ญัติแหง่ กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไว้ โดยคาแนะนาและยนิ ยอมของสภานติ บิ ัญญัติ แห่งชาติ ดังตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตนิ เ้ี รียกว่า “พระราชบัญญัตมิ าตรการในการปราบปรามผ้กู ระทาความผดิ เกีย่ วกับยา เสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔” มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั นิ ใ้ี หใ้ ช้บงั คับตัง้ แตว่ ันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป(๒) มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตนิ ้ี “ยาเสพติด” หมายความว่า ยาเสพติดใหโ้ ทษตามกฎหมายวา่ ด้วยยาเสพตดิ ให้โทษและยาเสพตดิ ตาม กฎหมายวา่ ด้วยการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ทง้ั นี้ ตามที่รัฐมนตรกี าหนดในกฎกระทรวง(๓) “กฎหมายเก่ียวกับยาเสพติด” หมายความว่า กฎหมายว่าด้วยยาเสพตดิ ให้โทษและกฎหมายว่าด้วยวตั ถุที่ออก ฤทธิ์ต่อจิตและประสาท __________________________ (๑) ข้อความดังกล่าวเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญัตมิ าตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผิดเกยี่ วกับยาเสพ ติด (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ซ่ึงประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเล่ม ๑๑๗ ตอนท่ี ๓๗ ก ลงวนั ท่ี ๒๘ เมษายน ๒๕๔๓
(๒) ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ฉบับพเิ ศษ เลม่ ท่ี ๑๐๘ ตอนท่ี ๑๗๐ ลงวันท่ี ๑๗๐ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๓๔ (๓) ดกู ฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญตั มิ าตรการในการปราบปราม ผู้กระทาความผิดเกีย่ วกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ “ความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ” หมายความวา่ การผลิต นาเขา้ ส่งออก จาหนา่ ยหรอื มไี ว้ในครอบครองเพอ่ื จาหนา่ ยซึง่ ยาเสพตดิ และใหห้ มายความรวมถึง การสมคบ สนบั สนุน ชว่ ยเหลอื หรอื พยายามกระทาความผิด ดังกลา่ วดว้ ย “ทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนือ่ งกบั การกระทาความผิด” หมายความวา่ เงนิ หรือทรัพย์สนิ ท่ีได้รบั มาเนื่องจากการ กระทาความผดิ เกีย่ วกับยาเสพติด และใหห้ มายความรวมถงึ เงนิ หรอื ทรัพย์สนิ ทีไ่ ด้มาโดยการใช้เงินหรือ ทรพั ยส์ ินดังกลา่ ว ซ้อื หรือกระทาไม่วา่ ดว้ ยประการใดๆ ใหเ้ งนิ หรือทรัพยส์ นิ นัน้ เปลีย่ นสภาพไปจากเดิมไม่ว่า จะมกี ารเปลย่ี นแปลงสภาพก่คี รัง้ และไมว่ า่ เงนิ หรอื ทรพั ยส์ ินนั้นจะอยใู่ นความครอบครองของบุคคลอนื่ โอนไป เปน็ ของบุคคลอ่ืนหรอื ปรากฏตามหลกั ฐานทางทะเบยี นว่าเปน็ ของบคุ คลอนื่ กต็ าม “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สิน “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการตรวจสอบทรพั ยส์ ินและให้หมายความรวมถึงประธานกรรมการ ตรวจสอบทรัพย์สินดว้ ย “กองทนุ ” หมายความวา่ กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด “พนกั งานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผ้ซู ึ่งรัฐมนตรแี ต่งต้ังใหป้ ฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี “เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ “สานกั งาน” หมายความว่า สานักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ “รัฐมนตร”ี หมายความว่า รัฐมนตรผี ู้รกั ษาการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี มาตรา ๔ ใหร้ ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ิธรรม (๔)รักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ และให้มีอานาจแตง่ ตงั้ พนักงานเจ้าหน้าทกี่ บั ออกกฎกระทรวงและระเบียบเพ่อื ปฏบิ ัติการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี กฎกระทรวงและระเบียบนน้ั เม่อื ได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา แลว้ ให้ใช้บงั คับได้ หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๕ ผ้ใู ดกระทาความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพติด แม้จะกระทานอกราชอาณาจักร ผนู้ น้ั จะตอ้ งรับโทษใน ราชอาณาจกั ร ถ้าปรากฏว่า (๑) ผูก้ ระทาความผดิ หรือผรู้ ่วมกระทาความผิดคนใดคนหน่งึ เปน็ คนไทย หรอื มีถิ่นทอ่ี ย่ใู นประเทศไทย หรอื (๒) ผกู้ ระทาความผดิ เปน็ คนต่างดา้ ว และได้กระทาโดยประสงค์ให้ความผิดเกิดขน้ึ ใน ราชอาณาจักรหรอื รัฐบาลไทยเปน็ ผู้เสียหาย หรอื (๓) ผู้กระทาความผิดเปน็ คนตา่ งดา้ วและการกระทาน้นั เป็นความผิดตามกฎหมายของรฐั ทก่ี ารกระทาเกดิ ข้ึน ในเขตอานาจของรัฐนัน้ หากผนู้ ้นั ได้ปรากฏตัวอยใู่ นราชอาณาจกั รและมไิ ดม้ ีการส่งตวั ผ้นู ้ันออกไปตาม กฎหมายว่าด้วยการส่งผู้รา้ ยข้ามแดน ทัง้ น้ี ให้นามาตรา ๑๐ แหง่ ประมวลกฎหมายอาญามาใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม
__________________________ (๔) เปลี่ยนแปลงเป็นรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยุตธิ รรม โดยมาตรา ๑๑๓ (๒) แห่งพระราชกฤษฎีกาโอนกจิ การ บริหารและอานาจหนา้ ที่ของส่วนราชการใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ิปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๔๙ และพระราชกฤษฎีกาแกไ้ ขบทบญั ญัตใิ ห้สอดคลอ้ งกับการโอน อานาจหน้าทีข่ องส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบญั ญตั ปิ รับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๘๗ ซ่งึ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ ตอน ๑๐๒ ก วนั ท่ี ๘ ตลุ าคม ๒๕๒๕ มาตรา ๖ ในความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ ผใู้ ดกระทาการอยา่ งใดอย่างหนึง่ ดงั ต่อไปนี้ ตอ้ งระวางโทษ เชน่ เดยี วกับตัวการในความผิดน้นั (๑) สนบั สนุนหรอื ช่วยเหลือผกู้ ระทาความผดิ กอ่ นหรือขณะกระทาความผิด (๒) จดั หาหรือใหเ้ งนิ หรือทรัพย์สนิ ยานพาหนะ สถานท่หี รอื วตั ถุใดๆ เพ่ือประโยชน์ หรือใหค้ วามสะดวกแก่ การกระทาความผิด หรือเพือ่ มใิ ห้ผู้กระทาความผิดถกู ลงโทษ (๓) จัดหาหรือใหเ้ งนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ทปี่ ระชมุ ทีพ่ านกั หรือท่ีซ่อนเรน้ หรอื ชว่ ยเหลือหรอื ให้ความสะดวกแก่ ผ้กู ระทาความผิด หรอื เพือ่ ช่วยให้ผู้กระทาความผิดพน้ จากการถูกจบั กมุ (๔) รบั เงิน ทรพั ยส์ ิน หรือประโยชนอ์ น่ื ใดจากผู้กระทาความผิดเพอ่ื ประโยชนห์ รอื ให้ความสะดวกแก่การ กระทาความผดิ หรือเพ่อื มใิ หผ้ ้กู ระทาความผิดถูกลงโทษ (๕) ปกปิด ซ่อนเร้นหรือเอาไปเสียซงึ่ ยาเสพติดหรือวตั ถใุ ดๆ ทใ่ี ช้ในการกระทาความผิดเพอื่ ช่วยเหลือผูก้ ระทา ความผดิ (๖) ชี้แนะ หรือตดิ ตอ่ บคุ คลอ่นื เพื่อประโยชน์ในการกระทาความผดิ ผใู้ ดจัดหาหรอื ให้เงนิ หรือทรัพย์สนิ ท่ีพานกั หรอื ท่ซี อ่ นเร้นเพ่ือช่วยบิดา มารดา บุตร สามี หรอื ภรยิ าของตนให้ พน้ จากการถกู จับกุม ศาลจะไมล่ งโทษผนู้ ้ันหรือลงโทษผู้นนั้ นอ้ ยกว่าทก่ี ฎหมายกาหนดไว้สาหรับความผิดนน้ั เพียงใดก็ได้ มาตรา ๗ ผู้ใดพยายามกระทาความผดิ เกีย่ วกับยาเสพตดิ ต้องระวางโทษตามทีก่ าหนดไว้สาหรับความผิดน้ัน เชน่ เดยี วกับผู้กระทาความผิดสาเรจ็ มาตรา ๘ ผ้ใู ดสมคบโดยการตกลงกนั ต้ังแตส่ องคนขนึ้ ไปเพอื่ กระทาความผิดเก่ยี วกับยาเสพติด ผนู้ นั้ สมคบกนั กระทาความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพติด ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หา้ ปหี รอื ปรบั ไม่เกนิ หา้ หมื่นบาท หรอื ท้งั จาทง้ั ปรบั ถา้ ไดม้ ีการกระทาความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มกี ารสมคบกันตามวรรคหนึง่ ผู้สมคบกันน้นั ตอ้ ง ระวางโทษตามทก่ี าหนดไว้สาหรับความผิดนน้ั มาตรา ๙ ผู้ใดกระทาความผดิ เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ โดยแต่งเครอื่ งแบบหรอื โดยแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นเจ้า พนักงาน ขา้ ราชการ พนักงานสว่ นทอ้ งถน่ิ พนักงานองคก์ าร หรอื หนว่ ยงานของรัฐหรอื พนักงานรฐั วสิ าหกิจ ตอ้ งระวางโทษหนกั กว่าโทษตามทีก่ าหนดไว้สาหรับความผิดน้นั อีกกึ่งหนงึ่ มาตรา ๑๐ กรรมการหรอื อนุกรรมการตามพระราชบัญญตั นิ ห้ี รอื ตามกฎหมายเกยี่ วกบั ยาเสพตดิ เจา้ พนักงาน สมาชิกสภานิตบิ ญั ญตั แิ ห่งรัฐ สมาชกิ สภาจงั หวดั สมาชิกสภาเทศบาล หรือสภาทอ้ งถิ่นอ่นื ขา้ ราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น พนักงานองคก์ ารหรอื หนว่ ยงานของรฐั หรือพนกั งานรัฐวิสาหกิจผใู้ ด กระทาความผิด เก่ยี วกบั ยาเสพตดิ หรอื กระทาความผดิ ตามมาตรา ๔๒ ต้องระวางโทษเปน็ สามเทา่ ของโทษท่กี าหนดไวส้ าหรบั ความผิดนน้ั
มาตรา ๑๑ กรรมการหรืออนุกรรมการตามพระราชบัญญตั ิน้ีหรือกฎหมายเกี่ยวกบั ยาเสพติด เจา้ พนักงานหรอื ข้าราชการผู้ใดกระทาความผดิ ต่อตาแหนง่ หน้าที่ราชการ หรอื กระทาความผดิ ตอ่ ตาแหนง่ หนา้ ทีใ่ นการ ยุติธรรมตามท่บี ญั ญัตไิ ว้ในประมวลกฎหมายอาญา อนั เกย่ี วเนื่องกบั การกระทาความผิดเกยี่ วกบั ยาเสพติด ตอ้ งระวางโทษสามเทา่ ของโทษทกี่ าหนดไว้สาหรบั ความผิดนน้ั มาตรา ๑๒ การกาหนดโทษจาคกุ ท่จี ะลงแก่ผกู้ ระทาความผิดตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรอื มาตรา ๑๑ ให้ กาหนดโทษจาคกุ อย่างสูงทสี่ ุดได้ไม่เกนิ หา้ สิบปี มาตรา ๑๓ ในการปฏบิ ัติการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ ใหก้ รรมการ อนกุ รรมการ เลขาธกิ าร และพนกั งาน เจา้ หน้าท่ีเป็นเจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔ การจบั กมุ หรือการแจง้ ข้อหาแก่ผ้กู ระทาความผดิ ตามมาตรา ๖ หรอื ตามมาตรา ๘ ตอ้ งได้รับ อนุมตั จิ ากเลขาธกิ ารกอ่ น และเม่ือดาเนนิ การตามที่ได้รับอนมุ ตั แิ ลว้ ใหร้ ายงานใหเ้ ลขาธิการทราบทันที การขออนุมตั ิ การอนุมัติ และการรายงานตามวรรคหน่ึงใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงือ่ นไขทก่ี าหนด ในกฎกระทรวง (๕) หมวด ๒ คณะกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สิน (๖) มาตรา ๑๕ ใหม้ ีคณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ นิ คณะหนงึ่ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุตธิ รรมเปน็ ประธานกรรมการ อยั การสูงสดุ เป็นรองประธานกรรมการ ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ อธิบดกี รมที่ดิน อธบิ ดี กรมบงั คบั คดี อธิบดีกรมศุลกากร อธบิ ดกี รมสรรพากร และผ้วู ่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเปน็ กรรมการ และเลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการจะแตง่ ตั้งขา้ ราชการคนใดคนหน่งึ ในสานกั งาน เป็นผ้ชู ่วยเลขานกุ ารก็ได้ ในกรณที ี่กรรมการตามวรรคหนง่ึ นอกจากประธานกรรมการไมอ่ าจมาประชุมได้ อาจมอบหมายให้ ผดู้ ารง ตาแหน่งรองหรอื เทยี บเท่าหรือผู้ที่มีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การปฏิบัตหิ น้าท่ีในคณะกรรมการมาประชมุ แทนเฉพาะคร้งั นนั้ กไ็ ด ้ มาตรา ๑๖ ใหค้ ณะกรรมการมีอานาจหนา้ ทดี่ งั ต่อไปน้ี (๑) เสนอแนะต่อรัฐมนตรเี กย่ี วกบั การออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๓๓ (๒) ตรวจสอบทรัพย์สนิ ทเี่ กย่ี วเนอื่ งกบั การกระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (๓) วินิจฉยั วา่ ทรัพยส์ นิ ใดของผตู้ อ้ งหาหรอื ผูอ้ ื่นเป็นทรัพยส์ ินทเ่ี กยี่ วเนือ่ งกับการกระทา ความผิดเกี่ยวกับยา เสพตดิ หรอื ไม่ (๔) ยดึ หรืออายดั ทรัพยส์ นิ ตามมาตรา ๒๒ (๕) วางระเบียบเก่ยี วกับการเกบ็ รกั ษา การนาทรพั ย์สนิ ออกขายทอดตลาดและการนาทรัพยส์ นิ ไปใช้ประโยชน์ ตามมาตรา ๒๔ และระเบียบเกี่ยวกับกองทนุ ตามมาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๘ คณะกรรมการอาจมอบหมายให้อนกุ รรมการหรอื เลขาธิการดาเนินการตรวจสอบทรัพยส์ ินตาม (๒) หรือ ดาเนินการยดึ หรืออายดั ตาม (๔) แล้วรายงานให้ทราบก็ได้ มาตรา ๗ ผูใ้ ดพยายามกระทาความผิดเกีย่ วกบั ยาเสพตดิ ตอ้ งระวางโทษตามทกี่ าหนดไว้สาหรับความผิดนนั้ เชน่ เดยี วกับผูก้ ระทาความผดิ สาเรจ็ มาตรา ๘ ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกนั ตัง้ แตส่ องคนขนึ้ ไปเพื่อกระทาความผิดเกย่ี วกับยาเสพติด ผูน้ น้ั สมคบกนั
กระทาความผดิ เก่ียวกบั ยาเสพติด ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหา้ ปีหรือปรับไม่เกนิ ห้าหม่ืนบาท หรอื ทั้งจาทง้ั ปรับ ถ้าได้มกี ารกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพติดเพราะเหตทุ ีไ่ ดม้ ีการสมคบกนั ตามวรรคหนง่ึ ผสู้ มคบกันนนั้ ต้อง ระวางโทษตามทีก่ าหนดไว้สาหรบั ความผดิ น้ัน มาตรา ๙ ผู้ใดกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพตดิ โดยแตง่ เครอ่ื งแบบหรอื โดยแต่งกายใหเ้ ข้าใจว่าเป็นเจ้า พนักงาน ขา้ ราชการ พนักงานส่วนท้องถนิ่ พนกั งานองค์การ หรอื หน่วยงานของรฐั หรอื พนกั งานรัฐวสิ าหกจิ ตอ้ งระวางโทษหนักกวา่ โทษตามทก่ี าหนดไวส้ าหรับความผิดน้นั อีกก่งึ หนง่ึ มาตรา ๑๐ กรรมการหรอื อนุกรรมการตามพระราชบญั ญัตินห้ี รอื ตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพตดิ เจ้าพนกั งาน สมาชกิ สภานติ ิบญั ญัตแิ หง่ รฐั สมาชกิ สภาจงั หวดั สมาชิกสภาเทศบาล หรือสภาทอ้ งถ่ินอืน่ ข้าราชการ พนกั งานสว่ นทอ้ งถิน่ พนักงานองคก์ ารหรือหนว่ ยงานของรัฐหรือพนกั งานรัฐวสิ าหกิจผู้ใด กระทาความผดิ เกีย่ วกับยาเสพตดิ หรอื กระทาความผดิ ตามมาตรา ๔๒ ตอ้ งระวางโทษเป็นสามเทา่ ของโทษที่กาหนดไวส้ าหรบั ความผดิ นัน้ มาตรา ๑๑ กรรมการหรอื อนุกรรมการตามพระราชบญั ญัตินีห้ รอื กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าพนกั งานหรอื ขา้ ราชการผู้ใดกระทาความผิดต่อตาแหนง่ หน้าทีร่ าชการ หรอื กระทาความผดิ ต่อตาแหน่งหนา้ ท่ใี นการ ยตุ ิธรรมตามทบี่ ญั ญตั ิไว้ในประมวลกฎหมายอาญา อันเกีย่ วเนอื่ งกบั การกระทาความผดิ เกี่ยวกบั ยาเสพตดิ ตอ้ งระวางโทษสามเท่าของโทษท่ีกาหนดไวส้ าหรับความผิดนนั้ มาตรา ๑๒ การกาหนดโทษจาคุกท่จี ะลงแกผ่ ูก้ ระทาความผิดตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรอื มาตรา ๑๑ ให้ กาหนดโทษจาคุกอย่างสงู ที่สดุ ไดไ้ ม่เกนิ ห้าสิบปี มาตรา ๑๓ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญตั ินี้ ใหก้ รรมการ อนุกรรมการ เลขาธิการ และพนักงาน เจา้ หนา้ ท่ีเปน็ เจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔ การจบั กมุ หรือการแจง้ ข้อหาแก่ผู้กระทาความผดิ ตามมาตรา ๖ หรอื ตามมาตรา ๘ ต้องไดร้ ับ อนมุ ตั จิ ากเลขาธกิ ารก่อน และเม่อื ดาเนินการตามทีไ่ ด้รบั อนุมัตแิ ลว้ ใหร้ ายงานให้เลขาธิการทราบทันที การขออนมุ ตั ิ การอนุมตั ิ และการรายงานตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงอื่ นไขทีก่ าหนด ในกฎกระทรวง (๕) หมวด ๒ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพยส์ นิ (๖) มาตรา ๑๕ ให้มคี ณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สนิ คณะหน่งึ ประกอบด้วย ปลดั กระทรวงยุติธรรมเป็น ประธานกรรมการ อยั การสงู สดุ เป็นรองประธานกรรมการ ผู้บัญชาการตารวจแหง่ ชาติ อธิบดกี รมท่ีดนิ อธิบดี กรมบังคบั คดี อธบิ ดกี รมศุลกากร อธิบดกี รมสรรพากร และผ้วู า่ การธนาคารแห่งประเทศไทยเปน็ กรรมการ และเลขาธกิ ารเป็นกรรมการและเลขานกุ าร คณะกรรมการจะแต่งตัง้ ข้าราชการคนใดคนหน่ึงในสานักงาน เปน็ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารก็ได้ ในกรณีทีก่ รรมการตามวรรคหนึง่ นอกจากประธานกรรมการไมอ่ าจมาประชุมได้ อาจมอบหมายให้ ผ้ดู ารง ตาแหนง่ รองหรอื เทียบเท่าหรือผู้ท่ีมีความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการปฏิบตั ิหน้าท่ีในคณะกรรมการมาประชมุ แทนเฉพาะครงั้ น้นั กไ็ ด ้ มาตรา ๑๖ ให้คณะกรรมการมอี านาจหนา้ ทดี่ งั ต่อไปนี้ (๑) เสนอแนะตอ่ รัฐมนตรเี ก่ียวกับการออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓
และมาตรา ๓๓ (๒) ตรวจสอบทรพั ยส์ ินทีเ่ ก่ยี วเน่อื งกบั การกระทาความผดิ เกี่ยวกบั ยาเสพติด (๓) วนิ จิ ฉยั ว่าทรัพย์สินใดของผู้ตอ้ งหาหรอื ผ้อู ่นื เป็นทรัพย์สินที่เก่ยี วเนอ่ื งกบั การกระทา ความผิดเกี่ยวกับยา เสพติดหรอื ไม่ (๔) ยึดหรืออายัดทรพั ยส์ นิ ตามมาตรา ๒๒ (๕) วางระเบยี บเกย่ี วกบั การเก็บรกั ษา การนาทรพั ย์สินออกขายทอดตลาดและการนาทรพั ย์สนิ ไปใช้ประโยชน์ ตามมาตรา ๒๔ และระเบยี บเกีย่ วกับกองทนุ ตามมาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๘ คณะกรรมการอาจมอบหมายใหอ้ นกุ รรมการหรอื เลขาธกิ ารดาเนนิ การตรวจสอบทรพั ยส์ ินตาม (๒) หรือ ดาเนินการยึดหรอื อายดั ตาม (๔) แลว้ รายงานใหท้ ราบก็ได้ มาตรา ๑๗ การประชมุ ของคณะกรรมการต้องมกี รรมการมาประชมุ ไมน่ อ้ ยกวา่ สองในสามของจานวน กรรมการท้งั หมดจงึ จะเป็นองคป์ ระชุม ใหป้ ระธานกรรมการเปน็ ประธานในท่ีประชุม ในกรณีท่ีประธานกรรมการไม่มาประชุมหรอื ไมอ่ าจปฏบิ ัติ หนา้ ที่ได้ ใหร้ องประธานกรรมการเปน็ ประธานในทป่ี ระชุม หากรองประธานไม่มาประชุมหรอื ไม่อาจปฏบิ ตั ิ หนา้ ท่ไี ด้ ให้กรรมการซึง่ มาประชมุ เลือกกรรมการคนหน่ึงเปน็ ประธานในที่ประชมุ การวนิ ิจฉัยช้ีขาดของที่ประชมุ ให้ถือเสียงสองในสามของกรรมการที่มาประชมุ กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสียงหน่ึง ในการลงคะแนน มาตรา ๑๘ คณะกรรมการจะแตง่ ตั้งคณะอนุกรรมการเพ่อื พจิ ารณาและเสนอความเหน็ ในเรื่องใดเร่ืองหนง่ึ หรือปฏบิ ัตกิ ารอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ตามท่ไี ด้รับมอบหมายกไ็ ด้และใหน้ าความในมาตรา ๑๗ มาใช้บงั คับโดย อนโุ ลม __________________________ (๕) ดูกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบญั ญัติมาตรการในการปราบปราม ผู้กระทาความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ (๖) ขอ้ ความเดิมถูกยกเลกิ โดยพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผิดเกย่ี วกับยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๓ และใหใ้ ช้ขอ้ ความท่ีพมิ พ์ไวน้ ้ีแทน มาตรา ๑๙ ในกรณที ี่มเี หตุอนั ควรสงสยั ว่าทรพั ย์สินของผูต้ ้องหารายใดเป็นทรัพย์สนิ ท่เี กย่ี วเนื่องกบั การ กระทาความผดิ เก่ยี วกับยาเสพติด ให้คณะกรรมการสง่ั ใหม้ กี ารตรวจสอบทรพั ยส์ ินของผู้นน้ั ในกรณที ม่ี คี วามจาเป็นเรง่ ดว่ น เลขาธกิ ารอาจสั่งใหม้ ีการตรวจสอบทรัพยส์ ินของผูต้ ้องหาไปก่อน แล้วรายงาน ให้คณะกรรมการทราบกไ็ ด้ มาตรา ๒๐ ในการตรวจสอบทรัพยส์ ินของผ้ตู อ้ งหา หากมหี ลักฐานเป็นที่เชือ่ ได้วา่ ทรัพย์สินใดของผู้อ่ืนเปน็ ทรพั ย์สินทเ่ี กยี่ วเนอ่ื งกบั การกระทาความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ของผู้ต้องหา โดยได้รับทรัพย์สนิ นนั้ มาโดย เสน่หา กใ็ หค้ ณะกรรมการมีอานาจสง่ั ให้มกี ารตรวจสอบทรัพย์สินของผู้น้ันด้วย และใหน้ าความในมาตรา ๑๙ วรรคสอง มาใช้บงั คับโดยอนุโลม มาตรา ๒๑ คณะกรรมการ หรือเลขาธิการอาจมอบหมายใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ท่ดี าเนนิ การตรวจสอบทรพั ย์สนิ แทนแลว้ รายงานใหท้ ราบก็ได้ โดยใหป้ ระกาศเพ่อื ใหผ้ ้ซู ึ่งอาจอา้ งวา่ เปน็ เจ้าของทรัพยส์ นิ ย่นื คารอ้ งพร้อมท้ัง เอกสารหลกั ฐานตอ่ คณะกรรมการเพ่อื ขอรับทรัพย์สนิ คนื ไดด้ ้วย การตรวจสอบทรพั ย์สนิ และการประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการและเงอ่ื นไขทก่ี าหนด
ในกฎกระทรวง (๗) มาตรา ๒๒ ในการตรวจสอบทรพั ยส์ นิ ถ้าผูถ้ ูกตรวจสอบหรอื ผู้ซึง่ อา้ งว่าเปน็ เจ้าของทรพั ย์สิน ไมส่ ามารถแสดง หลกั ฐานไดว้ า่ ทรพั ยส์ ินท่ถี ูกตรวจสอบไม่เกย่ี วเนือ่ งกบั การกระทาความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพติด หรือได้รบั โอน ทรพั ยส์ นิ นั้นมาโดยสจุ รติ และมีค่าตอบแทน หรอื เปน็ ทรพั ยส์ ินทีไ่ ด้มาตามสมควรในทางศลี ธรรมอันดี หรือ ในทางกศุ ลสาธารณ ใหค้ ณะกรรมการสั่งยึดหรืออายดั ทรัพยส์ ินนั้นไวจ้ นกว่าจะมีคาสั่งเด็ดขาด ไม่ฟอ้ งคดีซงึ่ ต้องไมช่ ้ากว่าหนึ่งปนี บั แตว่ ันยึดหรืออายัด หรือจนกวา่ จะมคี าพพิ ากษาถงึ ท่สี ดุ ให้ยกฟอ้ งในคดที ี่ตอ้ งหาน้นั เพ่อื ประโยชนใ์ นการตรวจสอบทรพั ยส์ นิ หากมีเหตุอนั ควรเชอื่ ไดว้ า่ ทรพั ย์สนิ รายใดอาจมีการโอน ยกั ยา้ ย ซกุ ซ่อน หรอื เป็นกรณที ่มี ีเหตผุ ลและความจาเป็นอย่างอื่น ใหค้ ณะกรรมการมอี านาจสง่ั ยึดหรอื อายัดทรัพยส์ นิ ราย นัน้ ไว้ชว่ั คราวจนกวา่ จะมีการวนิ จิ ฉัยตามมาตรา ๑๖(๓) ท้งั นี้ ไมต่ ัดสิทธผิ ู้ถูกตรวจสอบหรอื ผ้ซู ึ่งอา้ งวา่ เป็น เจ้าของทรัพยส์ นิ ท่ีจะยืน่ คาร้องขอผ่อนผนั เพ่อื ขอรบั ทรัพยส์ นิ นั้นไปใช้ประโยชนโ์ ดยไมม่ ีประกนั หรอื มีประกัน และหลกั ประกันกไ็ ด้ และให้นาความในมาตรา ๑๙ วรรคสอง มาใช้บงั คับโดยอนุโลม เมือ่ มกี ารยึดหรืออายดั ทรัพยส์ นิ ช่วั คราวแล้ว ใหค้ ณะกรรมการจดั ใหม้ กี ารพสิ จู นต์ ามวรรคหน่ึงโดยเร็ว และใน กรณที ี่ผู้ถูกตรวจสอบหรือผูซ้ ง่ึ อา้ งว่าเปน็ เจา้ ของทรัพยส์ นิ สามารถพิสจู นต์ ามวรรคหน่งึ ได้ ก็ใหค้ นื ทรัพย์สนิ ให้แก่ผ้นู ั้น แตถ่ ้าไมส่ ามารถพิสูจนไ์ ด้ ใหถ้ ือว่าการยึดหรอื อายดั ตามวรรคสองเปน็ การยดึ หรอื อายัดตามวรรค หนง่ึ การยืน่ คารอ้ งขอผอ่ นผันตามวรรคสองใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงอื่ นไขท่กี าหนดใน กฎกระทรวง(๘) เพอ่ื ประโยชนต์ ามมาตราน้ี คาวา่ “ทรัพย์สนิ ” ให้หมายความรวมถึง (๑) ทรัพยส์ ินที่เปล่ียนสภาพไป สทิ ธิเรยี กร้อง ผลประโยชน์ และดอกผลของทรัพยส์ ิน ดงั กลา่ ว (๒) หนท้ี ี่บคุ คลภายนอกถงึ กาหนดชาระแก่ผู้ตอ้ งหา (๓) ทรพั ย์สนิ ทเี่ กีย่ วเนอื่ งกับการกระทาความผดิ เกยี่ วกับยาเสพติดของผู้ต้องหาทไี่ ดร้ ับ ขาย จาหนว่ ย โอนหรอื ยักยา้ ยไปเสยี ในระหว่างระยะเวลาสบิ ปีก่อนมีคาสั่งยึดหรอื อายัด และภายหลงั น้นั เว้นแต่ผรู้ บั โอนหรอื ผูร้ ับ ประโยชนจ์ ะพสิ ูจนต์ ่อ (๗) ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิมาตรการในการปราบปราม ผู้กระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๓๔ (๘) ดูกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบญั ญตั มิ าตรการในการปราบปราม ผกู้ ระทาความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ คณะกรรมการไดว้ า่ การโอนหรือการกระทานัน้ ได้กระทาไปโดยสจุ ริตและมคี ่าตอบแทน มาตรา ๒๓ เมือ่ คณะกรรมการหรอื เลขาธกิ าร แล้วแตก่ รณี ได้มีคาสั่งใหย้ ึดหรอื อายดั ทรพั ยส์ นิ ใดแล้วให้ พนักงานเจา้ หน้าทที่ ่ีได้รับมอบหมายดาเนนิ การยึดหรอื อายดั ทรพั ย์สินและประเมนิ ราคาทรัพยส์ ินน้ันโดยเร็ว แลว้ รายงานใหท้ ราบ การยึดหรืออายัดทรพั ยส์ ินและการประเมนิ ราคาทรัพยส์ ินที่ยดึ หรืออายัดไวใ้ ห้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขท่กี าหนดในกฎกระทรวง (๙) ทงั้ นี้ ใหน้ าประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความแพง่ มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๒๔ การเก็บรกั ษาทรัพยส์ นิ ทค่ี ณะกรรมการไดม้ คี าสั่งให้ยดึ หรอื อายดั ไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกาหนด ในกรณที ีท่ รัพย์สนิ ตามวรรคหนงึ่ ไมเ่ หมาะสมท่ีจะเก็บรกั ษาไว้หรอื หากเก็บรักษาไวจ้ ะ เปน็ ภาระแกท่ างราชการมากกวา่ การนาไปใช้ประโยชนอ์ ย่างอน่ื เลขาธกิ ารอาจสง่ั ใหน้ าทรัพย์สนิ น้ันออกขาย ทอดตลาดหรอื ไปใช้เพอ่ื ประโยชนข์ องทางราชการ แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบก็ได้ การนาทรัพย์สนิ ออกขายทอดตลาดหรอื การนาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ตามวรรคสองให้เปน็ ไปตามระเบยี บที่ คณะกรรมการกาหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั ถา้ ความปรากฏในภายหลังวา่ ทรพั ย์สินท่ี นาไปใช้ตามวรรคสองมใิ ช่เปน็ ทรพั ยส์ นิ ท่เี กย่ี วเนื่องกบั การกระทาความผิดเกยี่ วกับยาเสพตดิ ใหค้ ืนทรพั ย์สิน น้ันพร้อมท้ังชดใชค้ ่าเสียหายและค่าเสอ่ื มสภาพตามจานวนทค่ี ณะกรรมการกาหนด โดยใช้จากเงนิ กองทนุ ให้แกเ่ จา้ ของหรอื ผคู้ รอบครอง ถา้ ไม่อาจคนื ทรพั ยส์ ินไดใ้ ห้ชดใชร้ าคาทรพั ยส์ นิ น้ันตามราคาที่ประเมนิ ไดใ้ น วันที่ยึดหรืออายัดทรพั ย์สิน หรอื ตามราคาทีไ่ ด้จากการขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ นนั้ แลว้ แตก่ รณี การประเมินคา่ เสยี หายและคา่ เสอื่ มสภาพตามวรรคส่ี ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๕ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการพิจารณาและตรวจสอบทรัพยส์ นิ ยดึ หรอื อายดั ทรัพยส์ ินตาม พระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหก้ รรมการ อนกุ รรมการและเลขาธิการ มีอานาจดังต่อไปน้ี (๑) มีหนงั สอื สอบถามหรือเรยี กเจ้าหนา้ ที่ของสว่ นราชการ องคก์ ารหรือหน่วยงานของรัฐ หรอื รัฐวิสาหกจิ มา เพ่ือให้ถอ้ ยคา สง่ คาช้แี จงเปน็ หนังสอื หรือสง่ บญั ชเี อกสารหรือหลกั ฐานใดมาเพอ่ื ตรวจสอบหรอื เพื่อ ประกอบการพจิ ารณา (๒) มีหนงั สือสอบถามหรือเรยี กบุคคลใดท่เี ก่ยี วขอ้ งมาเพอื่ ให้ถ้อยคา ส่งคาช้ีแจงเปน็ หนังสอื หรือสง่ บัญชี เอกสารหรอื หลกั ฐานใดมาเพ่ือตรวจสอบ หรือเพือ่ ประกอบการพิจารณา ท้งั นี้ รวมถึงการตรวจสอบจาก ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์และสถาบันการเงินด้วย (๓) เขา้ ไปในเคหสถาน สถานท่ี หรอื ยานพาหนะใดที่มเี หตอุ ันควรสงสัยวา่ มกี ารกระทาความผิด หรือมี ทรัพย์สินตามมาตรา ๒๒ ซกุ ซอ่ นอยู่ เพอ่ื ทาการตรวจคน้ หรือเพ่อื ประโยชน์ในการตรวจสอบ ยดึ หรืออายดั ทรพั ยส์ นิ ในเวลากลางวันระหว่างพระอาทิตยข์ ึน้ ถึงพระอาทติ ยต์ ก ในกรณที ่ีมีเหตอุ ันควรเช่ือได้วา่ หากไม่ ดาเนินการในทนั ทที รัพยส์ ินนนั้ จะถกู ยักยา้ ย กใ็ ห้มอี านาจเขา้ ไปในเวลากลางคนื ในกรณีตาม (๓) ประธานกรรมการ หรอื เลขาธกิ ารจะมอบหมายใหพ้ นักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแทนแล้ว รายงานใหท้ ราบก็ได ้ ในการปฏบิ ตั ิหน้าทขี่ องพนกั งานเจ้าหน้าท่ผี ไู้ ดร้ ับมอบหมายตามวรรคสอง ตอ้ งแสดง เอกสาร มอบหมายต่อบคุ คลที่เกยี่ วขอ้ งทกุ คร้งั (๙) ดูกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบญั ญัตมิ าตรการในการปราบปราม ผกู้ ระทาความผิดเกีย่ วกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๒๖ การยึดหรืออายดั ทรัพย์สินตามมาตรา ๒๒ ซ่งึ กระทาโดยชอบดว้ ยกฎหมาย หากกอ่ ให้เกิดความ เสยี หายแก่ผู้ใด ผูก้ ระทาไม่ตอ้ งรบั ผดิ ใช้ค่าสนิ ไหมทดแทนเปน็ สว่ นตวั (๑๐)มาตรา ๒๗ เม่อื พนักงานอยั การมี คาสั่งฟ้องและทรพั ยส์ ินทีค่ ณะกรรมการมคี าส่งั ให้ยดึ หรืออายัดตามมาตรา ๒๒ เป็นทรัพยส์ นิ ทเ่ี กี่ยวเนื่องกบั การกระทาความผิดเกยี่ วกบั ยาเสพตดิ ก็ให้พนกั งานอัยการย่นื คารอ้ งเพอื่ ขอใหศ้ าลสง่ั ริบทรัพย์สนิ นนั้ โดยจะ ยืน่ คาร้องไปพรอ้ มกับคาฟอ้ งหรอื ในเวลาใดๆ ก่อนศาลช้ันตน้ มีคาพพิ ากษากไ็ ด้ แตถ่ ้ามเี หตุอนั สมควรแสดงได้ วา่ ไมส่ ามารถย่ืนคาร้องกอ่ นศาลชน้ั ตน้ มีคาพิพากษา จะย่นื คาร้องภายในหน่ึงปนี บั แตว่ ันท่ีศาลชั้นต้นมคี า พพิ ากษาก็ได้ เวน้ แต่จะมีคาพิพากษาถงึ ทีส่ ุดใหย้ กฟ้อง
ในกรณีทพี่ บว่ามที รพั ย์สนิ ท่เี กย่ี วเน่ืองกบั การกระทาความผดิ เกยี่ วกับยาเสพตดิ เพิม่ เตมิ อีก ให้ยน่ื คารอ้ งเพ่ือ ขอให้ศาลส่งั ริบทรพั ย์สินนัน้ ภายในหน่ึงปีนบั แต่วันที่ศาลช้ันต้นมีคาพพิ ากษา เวน้ แต่มคี าพพิ ากษาถึงทสี่ ดุ ให้ยก ฟ้อง (๑๑)มาตรา ๒๘ เมอื่ ศาลสัง่ รับคารอ้ งของพนกั งานอัยการตามมาตรา ๒๗ แลว้ ใหศ้ าลส่ังใหป้ ระกาศใน หนงั สอื พิมพ์ทีม่ ีจาหน่ายแพรห่ ลายในท้องถน่ิ สองวันตดิ ต่อกนั เพ่ือใหผ้ ้ซู งึ่ อาจอ้างเป็นเจา้ ของทรพั ย์สินมายืน่ คารอ้ งขอเขา้ มาในคดกี อ่ นคดถี ึงท่ีสดุ ในกรณีทีม่ ีหลกั ฐานแสดงว่าผู้ใดอาจอ้างเปน็ เจ้าของทรพั ยส์ นิ ได้ กใ็ ห้ เลขาธกิ ารมหี นงั สือแจ้งให้ผนู้ น้ั ทราบเพ่ือใช้สิทธดิ ังกลา่ ว โดยแจ้งทางไปรษณียล์ งทะเบยี นตอบรบั ตามทอี่ ยคู่ รั้ง หลงั สดุ ของผนู้ นั้ เท่าท่ปี รากฏหลักฐานในสานวนการสอบสวน คา่ ใช้จา่ ยในการประกาศและในการแจง้ ให้จา่ ยจากเงินของกองทุน มาตรา ๒๙ บรรดาทรพั ยส์ นิ ซ่ึงพนกั งานอัยการไดย้ ่ืนคาร้องต่อศาลตามมาตรา ๒๗ วรรคหน่งึ น้ัน ใหศ้ าลไต่ สวน หากคดมี มี ูลว่าเปน็ ทรพั ยส์ ินทเี่ กยี่ วเนอื่ งกบั การกระทาความผดิ เก่ียวกบั ยาเสพติดให้ศาลสั่ง รบิ ทรพั ย์สนิ น้ันเว้นแต่บคุ คล ซึ่งอา้ งวา่ เปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ ินได้ยืน่ คาร้องขอคนื กอ่ นคดถี ึงท่ีสุดและแสดงให้ศาลเหน็ ว่า (๑) ตนเป็นเจ้าของทีแ่ ท้จรงิ และทรพั ยส์ ินนน้ั ไมไ่ ด้เกีย่ วเน่อื งกับการกระทาความผิดเกยี่ วกับยาเสพตดิ หรอื (๒) ตนเปน็ ผู้รบั โอนหรอื ผูร้ ับประโยชนแ์ ละได้ทรพั ยส์ ินนัน้ มาโดยสุจรติ และมคี ่าตอบแทน หรอื ไดม้ าตาม สมควรในทางศีลธรรมอันดี หรอื ในทางกศุ ลสาธารณะ เพอ่ื ประโยชน์แหง่ มาตรานี้ ถ้าปรากฏหลักฐานว่าจาเลยหรือผูถ้ ูกตรวจสอบเป็นผู้เกี่ยวข้องหรอื เคยเก่ียวขอ้ งกับ การกระทาความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพตดิ มาก่อน ให้สันนิษฐานไวก้ อ่ นวา่ บรรดาเงนิ หรอื ทรัพยส์ นิ ท่ผี นู้ น้ั มอี ยู่หรอื ไดม้ าเกินกวา่ ฐานะ หรอื ความสามารถในการประกอบอาชีพหรอื กจิ กรรมอยา่ งอนื่ โดยสุจริตเป็นทรัพย์สนิ ท่ี เก่ียวเนอ่ื งกับการกระทาความผดิ เกีย่ วกับ ยาเสพติด (๑๒)มาตรา ๓๐ บรรดาเครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ ยานพาหนะ เครื่องจกั รกล หรอื ทรัพยส์ ินอ่ืนใดท่ใี ช้ในการกระทา ความผิดเก่ียวกบั ยาเสพติด หรือใชเ้ ป็นอุปกรณ์ให้ไดร้ ับผลในการกระทาความผดิ เก่ยี วกบั ยาเสพติด หรือมีไว้ เพ่ือใช้ในการกระทาความผิดเก่ียวกับยาเสพตดิ ให้ริบเสียทัง้ สน้ิ ไม่ว่าจะมผี ู้ถกู ลงโทษตามคาพิพากษา หรือไม่ก็ ตาม ให้พนกั งานอัยการยืน่ คาร้องต่อศาลที่พจิ ารณาคดีนน้ั เพอ่ื ขอให้ศาลสงั่ ริบทรัพย์สินตามวรรคหน่ึง และเมอ่ื ศาล สงั่ รบั คารอ้ งแล้ว ใหศ้ าลส่งั ให้ประกาศในหนงั สือพมิ พ์ท่มี ีจาหน่ายแพร่หลายในทอ้ งถ่ินสองวันติดตอ่ กนั เพอ่ื ให้ บคุ คลซึ่งอาจอา้ งว่า __________________________ (๑๐) และ(๑๑) ขอ้ ความเดิมถูกยกเลกิ โดย พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเกย่ี วกบั ยา เสพตดิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ และให้ใช้ข้อความทีพ่ ิมพ์ไว้นแี้ ทน (๑๒) ขอ้ ความเดิมถกู ยกเลกิ โดย พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผกู้ ระทาความผดิ เก่ียวกับยาเสพติด (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๕ และให้ใช้ขอ้ ความท่ีพิมพ์ไวน้ ้ีแทน เป็นเจ้าของทรัพย์สนิ มายนื่ คารอ้ งขอเข้ามาในคดีกอ่ นศาลช้ันต้นมีคาพพิ ากษา หรอื คาสั่ง ทั้งนี้ ไม่วา่ ในคดี ดังกลา่ วจะปรากฏตวั บคุ คลซึ่งอาจเช่อื ได้ว่าเป็นเจ้าของหรอื ไมก่ ็ตาม คา่ ใช้จ่ายในการประกาศ ให้จา่ ยจากเงนิ ของกองทุน
ในกรณีท่ไี ม่มผี ใู้ ดอ้างตัวเป็นเจา้ ของกอ่ นศาลชั้นตน้ มีคาพิพากษาหรอื คาส่ัง หรอื ในกรณีทป่ี รากฏเจ้าของ แต่ เจา้ ของไมส่ ามารถพสิ ูจนไ์ ด้วา่ ตนไมม่ โี อกาสทราบหรอื ไมม่ เี หตุอนั ควรสงสยั วา่ จะมกี ารกระทาความผิด และจะ มกี ารนาทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในการกระทาความผดิ หรือได้ใช้เป็นอปุ กรณ์ให้ได้รับผลในการกระทาความผิด หรอื มไี ว้เพ่อื ใชใ้ นการกระทาความผดิ ให้ศาลส่ังริบทรพั ย์สินดงั กล่าวไดเ้ มอ่ื พ้นกาหนดสามสิบวัน นบั แต่วนั ท่ี เรมิ่ ประกาศในหนงั สอื พมิ พ์รายวนั ตามวรรคสอง และ ในกรณนี ี้มิให้นามาตรา ๓๖ แหง่ ประมวลกฎหมาย อาญามาใชบ้ ังคับ มาตรา ๓๑ ทรัพยส์ ินทศ่ี าลมคี าส่ังใหร้ บิ ตามมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๐ ให้ตกเปน็ ของกองทุน มาตรา ๓๒ ในกรณีท่มี คี าสงั่ เดด็ ขาดไม่ฟอ้ งคดี หรอื มีคาพิพากษาถงึ ท่ีสดุ ให้ยกฟ้องผตู้ อ้ งหาหรอื จาเลยรายใด ใหก้ ารยึดหรอื อายดั ทรพั ย์สินของผูต้ ้องหาหรอื จาเลยรายนนั้ รวมทงั้ ทรพั ยส์ นิ ของผอู้ ื่นท่ีไดย้ ึดหรอื อายัดไว้ เน่อื งจากเกย่ี วเน่ืองกับการกระทาความผิดของผู้ต้องหาหรือจาเลยรายน้นั สิน้ สดุ ลง ส่วนทรพั ยส์ นิ ท่ไี มป่ รากฏ ตวั เจ้าของทีไ่ ดย้ ดึ หรอื อายัดไว้เน่ืองจากการกระทาความผิดของผู้ต้องหาหรือจาเลยรายนน้ั ถา้ ไมม่ ีผูใ้ ดมาขอรบั คนื ภายในหน่ึงปีนบั แตว่ นั ทมี่ ีคาสงั่ เด็ดขาดไมฟ่ อ้ งคดหี รือมีคาพิพากษาถงึ ท่ีสุดใหย้ กฟ้อง ให้ตกเปน็ ของ กองทนุ ในกรณที ไ่ี ม่อาจดาเนนิ คดไี ด้ภายในสองปนี ับแตว่ ันทก่ี ารกระทาความผิดเกิดและไมอ่ าจจบั ตัวผู้ตอ้ งหาหรือ จาเลยได้ ใหท้ รพั ยส์ ินที่ไดย้ ึดหรืออายดั ไวเ้ น่ืองจากการกระทาความผดิ ของผูต้ อ้ งหาหรือจาเลยรายนนั้ ตกเป็น ของกองทนุ แตถ่ ้าไม่อาจดาเนินคดตี ่อไปไดเ้ พราะเหตทุ ่ีผูต้ ้องหาหรอื จาเลยรายใดถงึ แก่ความตายให้ทรัพยส์ ิน ตกเปน็ ของกองทุน เว้นแต่ภายในสองปี นบั แตว่ นั ท่ผี ตู้ อ้ งหาหรอื จาเลยรายนนั้ ถึงแก่ความตาย และทายาทของ ผู้ตอ้ งหาหรอื จาเลยรายนน้ั สามารถพิสูจนไ์ ดว้ า่ ทรพั ยส์ ินน้ันไม่เกีย่ วเน่อื งกบั การกระทาความผดิ เกย่ี วกับยาเสพ ติด หรือผตู้ อ้ งหาหรอื จาเลยรายน้ันได้ทรพั ย์สินดังกล่าวมาโดยสุจริตและมคี ่าตอบแทน หรือได้มาตามสมควร ในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางกศุ ลสาธารณ กใ็ ห้คืนทรพั ย์สินน้นั ใหแ้ กท่ ายาทของผู้ตอ้ งหาหรอื จาเลยรายน้นั มาตรา ๓๓ การขอรับทรพั ย์สินคนื ให้ยื่นคารอ้ งพร้อมท้งั เอกสารหลกั ฐานต่อคณะกรรมการ การขอรบั ทรัพยส์ ินและการคืนทรัพย์สนิ ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการและเงื่อนไขทก่ี าหนดใน กฎกระทรวง(๑๓) หมวด ๓ กองทุนปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด มาตรา ๓๔ ให้จัดตัง้ กองทุนปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติดข้นึ กองทุนหนึง่ ในสานักงาน เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ใน การป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด มาตรา ๓๕ กองทุนตามมาตรา ๓๔ ประกอบดว้ ยทรพั ยส์ นิ ดงั ต่อไปนี้ (๑) ทรัพยส์ ินท่ีตกเป็นของกองทนุ ตามมาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๒ (๒) ทรัพยส์ นิ ท่ีมผี ใู้ ห้ __________________________ (๑๓) ดกู ฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๓๕) ออกตามความใน พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผ้กู ระทา ความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔
(๓) ทรพั ย์สินท่ไี ด้รบั จากรัฐบาล (๔) ผลประโยชน์ที่เกิดจากทรพั ย์สินตาม (๑) (๒) และ (๓) มาตรา ๓๖ กองทุนตามมาตรา ๓๕ ให้เป็นของสานกั งานโดยไมต่ ้องนาสง่ คลงั เป็นรายไดแ้ ผ่นดิน มาตรา ๓๗ การรับเงิน การจา่ ยเงนิ และการเก็บรักษาเงนิ ของกองทุนให้เปน็ ไปตามระเบยี บทคี่ ณะกรรมการ กาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั มาตรา ๓๘ การจดั หาผลประโยชน์ การจดั การและการจาหนา่ ยทรพั ยส์ นิ ของกองทุนให้เป็นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั มาตรา ๓๙ ภายในหกเดือนนับแตว่ ันส้นิ ปปี ฏิทนิ ใหเ้ ลขาธิการเสนองบดลุ และรายงานการรบั จา่ ยเงนิ ของ กองทนุ ในปีทีล่ ่วงมาแล้ว ซึ่งสานกั งานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองตอ่ รฐั มนตรเี พอื่ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ในกรณีท่ีคณะรฐั มนตรเี หน็ วา่ เงินกองทุนมีมากพอสมควร ซง่ึ เมอื่ นาไปใชป้ ระโยชนต์ ามวัตถปุ ระสงค์ ของ กองทนุ แล้วยงั คงมเี งนิ เหลืออยอู่ กี เปน็ จานวนมาก คณะรัฐมนตรจี ะมีมตใิ ห้ส่งเงนิ กองทนุ จานวนใดจานวนหนึ่ง เขา้ คลังเป็นรายได้แผน่ ดนิ ก็ได้ หมวด ๔ บทกาหนดโทษ มาตรา ๔๐ ผูใ้ ดไมม่ าให้ถ้อยคา หรอื ไมส่ ่งคาชแี้ จงเปน็ หนงั สือ หรอื ไม่สง่ บญั ชีเอกสาร หรอื หลักฐานตาม มาตรา ๒๕(๒) หรือขดั ขวาง หรอื ไมใ่ หค้ วามสะดวกตามมาตรา ๒๕(๓) ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หกเดือน หรือปรบั ไมเ่ กินหนึ่งหมน่ื บาท หรือท้งั จาทั้งปรับ มาตรา ๔๑ ผู้ใดรหู้ รอื อาจร้คู วามลับในราชการเก่ียวกบั การดาเนนิ การตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กระทาด้วย ประการใดๆ ใหผ้ อู้ ่ืนรูห้ รืออาจร้คู วามลบั ดงั กล่าว เวน้ แตเ่ ปน็ การปฏิบัติการตามหน้าทห่ี รือตามกฎหมาย ต้อง ระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หกเดอื น หรอื ปรับไม่เกนิ หนงึ่ หมนื่ บาท หรอื ทั้งจาทง้ั ปรบั มาตรา ๔๒ ผู้ใดยักยา้ ย ซอ่ นเรน้ เอาไปเสยี ทาให้เสยี หาย ทาลาย ทาให้สญู หาย หรอื ไร้ประโยชน์ หรอื รับไว้ โดยมชิ อบดว้ ยประการใดซ่ึงทรพั ย์สินทีม่ คี าส่ังยึดหรืออายัด หรือทตี่ นรวู้ ่าจะถกู ยดึ หรอื อายดั ตาม พระราชบัญญตั ินี้ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมนื่ บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรับ ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ อานนั ท์ ปนั ยารชนุ นายกรฐั มนตรี หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญัตฉิ บบั น้ี คอื เพ่ือใหก้ ารปราบปรามผกู้ ระทาความผดิ เก่ียวกับยาเสพติดมี ประสิทธภิ าพยิง่ ขน้ึ จาเป็นต้องมีการกาหนดมาตรการตา่ งๆ เพือ่ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทด่ี าเนนิ การปราบปราม ผู้กระทาผดิ ตามกฎหมายดังกล่าวขึ้นโดยเฉพาะ จงึ จาเป็นต้องตราพระราชบัญญตั นิ ้ี หากผู้ใดสนใจโปรดตดิ ต่อขอรายละเอียดไดท้ ี่ กองนิติการ เลขที่ 5 ถนนดินแดง แขวงสามเสนใน
เขตพญาไท กรงุ เทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ (662) 245-9087 โทรสาร (662) 245-9413 หรือสานักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ท่ี http://www.krisdika.go.th
เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๙๒ ก หน้า ๑ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา พระราชบญั ญตั ิ การบริหารทุนหมนุ เวยี น พ.ศ. ๒๕๕๘ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๑๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เปน็ ปีที่ ๗๐ ในรชั กาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการให้อํานาจกระทรวงการคลังรวมหรือยุบเลิก ทนุ หมนุ เวียน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของ สภานติ บิ ัญญัติแห่งชาติ ดังตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญตั นิ ้เี รียกว่า “พระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบญั ญัตใิ ห้อาํ นาจกระทรวงการคลังรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั นิ ้ี “ทุนหมุนเวียน” หมายความว่า กองทุน กองทุนหมุนเวียน เงินทุน เงินทุนหมุนเวียน ทุน หรือทุนหมุนเวียน ท่ีต้ังข้ึนเพื่อกิจการที่อนุญาตให้นํารายรับสมทบทุนไว้ใช้จ่ายได้ โดยไม่ต้องนําส่งคลัง เป็นรายได้แผ่นดิน
เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หนา้ ๒ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืน และมีฐานะเป็นกรม ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา หรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐท่ีคณะกรรมการประกาศกําหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมนุ เวยี น “คณะกรรมการบริหาร” หมายความวา่ คณะกรรมการบรหิ ารทุนหมนุ เวยี น “ผู้บริหารทุนหมุนเวียน” หมายความว่า ผู้อํานวยการ ผู้จัดการ หรือผู้ทําหน้าที่บริหารทุนหมุนเวียน ทเี่ รยี กชื่ออยา่ งอนื่ “พนักงาน” หมายความว่า พนกั งานของทนุ หมนุ เวียน “ลูกจ้าง” หมายความวา่ ลูกจ้างของทุนหมุนเวียน “รัฐมนตร”ี หมายความว่า รฐั มนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ินี้ มาตรา ๕ ทุนหมุนเวียนใดท่ีมีกฎหมายกําหนดบทบัญญัติในเร่ืองใดไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ให้การดําเนินงานของทุนหมุนเวียนนั้นเป็นไปตามท่ีกฎหมายกําหนด เว้นแต่ในกรณีท่ีกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ ใหน้ าํ บทบญั ญตั แิ หง่ พระราชบญั ญัตนิ ม้ี าใช้บังคับ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มี อาํ นาจออกประกาศเพ่อื ปฏบิ ัติการตามพระราชบญั ญตั ินี้ ประกาศน้นั เม่ือได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแล้วใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ หมวด ๑ คณะกรรมการนโยบายการบริหารทนุ หมุนเวยี น มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการบรหิ ารทุนหมนุ เวยี นคณะหน่ึง ประกอบด้วย (๑) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั เป็นประธานกรรมการ (๒) ปลดั กระทรวงการคลงั เปน็ รองประธานกรรมการ (๓) ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้วา่ การธนาคารแห่งประเทศไทย เปน็ กรรมการ (๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนสามคนซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเช่ียวชาญ และประสบการณ์ดา้ นการเงิน การคลงั เศรษฐศาสตร์ บรหิ าร หรอื กฎหมาย ใหอ้ ธบิ ดกี รมบญั ชีกลางเปน็ กรรมการและเลขานุการ และใหอ้ ธบิ ดีกรมบัญชกี ลางแต่งต้ังข้าราชการ ในกรมบัญชีกลาง จาํ นวนสองคน เป็นผ้ชู ว่ ยเลขานุการ มาตรา ๘ กรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒติ อ้ งมคี ุณสมบัติและไม่มีลกั ษณะต้องหา้ ม ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) มีสญั ชาติไทย (๒) มอี ายไุ ม่เกนิ หกสบิ หา้ ปบี ริบูรณ์
เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หน้า ๓ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา (๓) เปน็ หรือเคยเปน็ ผดู้ าํ รงตําแหน่งไม่ตํ่ากว่าอธิบดีหรือเทียบเท่า หรือผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษา ซ่ึงมีตําแหน่งทางวิชาการไม่ตํ่ากว่ารองศาสตราจารย์ หรือผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงาน ธรุ กจิ ภาคเอกชน (๔) ไม่เป็นบุคคลลม้ ละลาย คนไรค้ วามสามารถ หรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (๕) ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด ท่ไี ดก้ ระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๖) ไม่เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติช่ัว อย่างร้ายแรง (๗) ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถ่ิน หรือกรรมการ หรือผู้ดํารงตําแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของ พรรคการเมอื ง (๘) ไมเ่ ปน็ ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ในการดําเนนิ งานของทุนหมนุ เวียนไม่วา่ โดยตรงหรือโดยออ้ ม มาตรา ๙ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิมวี าระการดาํ รงตาํ แหน่งคราวละส่ปี ี ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้ผู้ได้รับแต่งต้ังแทนตําแหน่งท่ีว่าง อย่ใู นตาํ แหนง่ เทา่ กบั วาระทีเ่ หลืออยู่ของกรรมการซง่ึ ได้แตง่ ตั้งไวแ้ ลว้ เมื่อครบกําหนดตามวาระในวรรคหน่ึง หากยังมิได้มีการแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการซ่ึงพ้นจากตําแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตําแหน่งเพื่อดําเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับ แตง่ ตัง้ ใหมเ่ ข้ารับหนา้ ที่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจากตําแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่จะดํารงตําแหน่ง ตดิ ตอ่ กนั เกนิ สองวาระไมไ่ ด้ มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒพิ น้ จากตาํ แหน่งเม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะบกพรอ่ งตอ่ หน้าที่ มคี วามประพฤตเิ ส่อื มเสีย หรือหยอ่ นความสามารถ (๔) ขาดคณุ สมบัตหิ รือมลี ักษณะต้องหา้ มตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๑ คณะกรรมการมอี าํ นาจหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) กําหนดนโยบายและแผนการบริหารทุนหมนุ เวยี นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (๒) พจิ ารณากลั่นกรองการขอจัดตัง้ ทนุ หมนุ เวยี น (๓) กํากบั ตดิ ตามการบริหารทุนหมุนเวียน (๔) เสนอให้มีหลักเกณฑ์ในการกําหนดจํานวนเงินสะสมสูงสุดสําหรับทุนหมุนเวียนต่าง ๆ ตามความเหมาะสมต่อคณะรฐั มนตรี โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา (๕) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการรวมหรอื ยบุ เลกิ ทนุ หมนุ เวยี น
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หน้า ๔ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา (๖) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการนําทุนหรือผลกําไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็น รายได้แผน่ ดิน ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ท่ตี ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา (๗) ประกาศกําหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลทุนหมุนเวียนและการจัดทํารายงานทางการเงิน ของทนุ หมุนเวยี น (๘) กําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การพัสดุ ตลอดจนการกําหนด ค่าตอบแทน สทิ ธิประโยชน์หรือสวัสดิการต่าง ๆ ของคณะกรรมการบริหาร ผู้บรหิ ารทุนหมุนเวียน พนักงาน และลูกจา้ ง (๙) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการหรือตามที่ คณะรัฐมนตรีมอบหมาย มาตรา ๑๒ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่งของ จํานวนกรรมการทัง้ หมดจึงจะเปน็ องค์ประชมุ ในการประชุมของคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้ารองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติ หนา้ ที่ได้ ให้ทปี่ ระชุมเลอื กกรรมการคนหน่งึ เปน็ ประธานในทีป่ ระชุม การวินิจฉัยช้ีขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหน่ึง ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากนั ให้ประธานในที่ประชุมออกเสยี งเพิม่ ขนึ้ อีกเสียงหน่งึ เปน็ เสียงชข้ี าด มาตรา ๑๓ คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพ่ือปฏิบัติการ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย การประชุมของคณะอนุกรรมการ ใหน้ ําบทบัญญตั ิมาตรา ๑๒ มาใชบ้ งั คับโดยอนโุ ลม หมวด ๒ ทุนหมนุ เวยี นที่ไม่มีสถานะเปน็ นิติบุคคล ส่วนท่ี ๑ การขอจัดตงั้ มาตรา ๑๔ ให้หน่วยงานของรัฐทปี่ ระสงค์จะขอจัดต้ังทุนหมุนเวียนที่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการเพอ่ื พิจารณาเสนอความเหน็ ต่อคณะรัฐมนตรี หลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขในการขอจัดตั้งทนุ หมุนเวยี นตามวรรคหน่ึงให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มาตรา ๑๕ ทุนหมุนเวียนท่ีหน่วยงานของรัฐขอจัดต้ังตามมาตรา ๑๔ จะต้องมีลักษณะ ดังตอ่ ไปน้ี
เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หนา้ ๕ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา (๑) มคี วามจาํ เปน็ ต้องจัดตัง้ ตามนโยบายของรัฐบาล (๒) ไม่มีการดําเนินการในลักษณะเดียวกับภารกิจปกติของหน่วยงานของรัฐท่ีขอจัดต้ัง และไม่ซํ้าซ้อน กับหน้าท่ีของหนว่ ยงานของรัฐอ่ืนหรอื ทนุ หมนุ เวียนท่ไี ด้ดาํ เนนิ การอยู่แลว้ (๓) ไม่เป็นการประกอบกิจการแข่งขันกับภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ หรือกิจกรรมที่เอกชน หรอื รัฐวิสาหกิจสามารถดําเนินการได้ (๔) มลี ักษณะอนื่ ตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาํ หนด สว่ นท่ี ๒ การบรหิ าร มาตรา ๑๖ ให้หน่วยงานของรัฐที่มที นุ หมนุ เวยี นที่ไม่มีสถานะเปน็ นติ ิบุคคลกําหนดโครงสร้าง การบริหารทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการดําเนินงานด้านต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่คณะกรรมการ ประกาศกําหนด มาตรา ๑๗ ให้ผู้บริหารทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลจัดทําแผนการดําเนินงาน ประจําปี ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยผลการดําเนินงานของปีที่ผ่านมา แผนการปฏิบัติงาน ประมาณการ รายรับรายจ่ายประจําปี และประมาณการกระแสเงินสด ท้ังน้ี ตามแบบท่ีกระทรวงการคลังกําหนด เพื่อนาํ เสนอคณะกรรมการบรหิ ารพิจารณาอนมุ ตั อิ ย่างน้อยหกสิบวันก่อนวันเร่ิมต้นปีบัญชีของทุกปี และให้ส่ง กระทรวงการคลังอย่างน้อยสามสิบวันก่อนวันเริ่มต้นปีบัญชีของทุกปีเพ่ือใช้ประกอบการกํากับดูแล การบริหาร ทุนหมนุ เวยี นและตดิ ตามการประเมินผลการดาํ เนนิ งาน สว่ นที่ ๓ คณะกรรมการบรหิ ารทุนหมนุ เวียน มาตรา ๑๘ ในแต่ละทุนหมุนเวียน ให้มีคณะกรรมการบริหารทุนหมุนเวียนคณะหนึ่ง ประกอบดว้ ย (๑) หวั หน้าหน่วยงานของรฐั ที่มีทุนหมนุ เวยี น เปน็ ประธานกรรมการ (๒) ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสํานักงบประมาณ และผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่มีทุนหมุนเวียน ที่ไมม่ สี ถานะเปน็ นติ บิ คุ คล เป็นกรรมการ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนไม่เกินสามคนซึ่งประธานกรรมการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบ ของกระทรวงการคลัง จากผู้มีความรู้ความเช่ียวชาญและประสบการณ์ ด้านการเงิน เศรษฐศาสตร์ การลงทนุ กฎหมาย หรือดา้ นอื่นท่เี ก่ียวขอ้ ง ให้ผบู้ ริหารทุนหมนุ เวยี นเปน็ กรรมการและเลขานกุ าร
เลม่ ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หน้า ๖ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๑๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารต้องไม่เป็นผู้ประกอบกิจการ ท่ขี ัดหรือแยง้ กับวตั ถุประสงคข์ องทนุ หมุนเวียน และให้นําบทบัญญัติมาตรา ๘ (๑) (๒) (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) และมาตรา ๙ มาใช้บังคับกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และวาระการดํารงตําแหน่งของ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิในคณะกรรมการบรหิ าร มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ บรหิ ารพ้นจากตาํ แหนง่ เมอ่ื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ประธานกรรมการให้ออกโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสอ่ื มเสีย หรอื หยอ่ นความสามารถ (๔) ขาดคณุ สมบตั หิ รือมลี กั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๘ มาตรา ๒๑ คณะกรรมการบรหิ ารมีอํานาจหน้าท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) กําหนดนโยบาย กํากับดูแลการบริหารจัดการ และติดตามการดําเนินงานให้เป็นไป ตามวัตถุประสงคข์ องทุนหมนุ เวยี น (๒) กําหนดข้อบงั คบั ว่าดว้ ยการบริหารงานบุคคล การเงิน การพัสดุ ตลอดจนการกําหนดค่าตอบแทน สิทธิประโยชนห์ รอื สวสั ดิการต่าง ๆ ของผ้บู ริหารทนุ หมุนเวยี น พนักงาน และลกู จ้างใหส้ อดคล้องกับมาตรฐาน ทีค่ ณะกรรมการกาํ หนดตามมาตรา ๑๑ (๘) (๓) พจิ ารณาอนุมตั ิแผนการดาํ เนนิ งานประจําปี (๔) แตง่ ตั้งผู้บริหารทุนหมนุ เวยี น มาตรา ๒๒ คณะกรรมการบริหารมีอํานาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ือปฏิบัติการตามที่ คณะกรรมการบริหารมอบหมาย การประชุมของคณะกรรมการบริหารและคณะอนุกรรมการ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๑๒ มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม มาตรา ๒๓ ใหก้ รรมการบริหารและอนุกรรมการ ได้รับเบ้ียประชุมหรือประโยชน์ตอบแทนอ่ืน ตามหลกั เกณฑท์ ี่คณะกรรมการกําหนดตามผลการประเมนิ ผลการดาํ เนนิ งาน สว่ นท่ี ๔ ผู้บริหารทุนหมนุ เวียน พนักงาน และลกู จ้าง มาตรา ๒๔ ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารแตง่ ตั้งผู้บริหารทุนหมุนเวียนทําหน้าท่ีบริหารทุนหมุนเวียน ทไี่ มม่ ีสถานะเปน็ นิตบิ ุคคลให้เปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของทุนหมุนเวียน โดยให้คํานึงถึงลักษณะการดําเนินงาน ของทนุ หมุนเวียน ความรับผิดชอบ ความประหยัด และความคุ้มค่า ท้ังน้ี ตามมาตรฐานที่คณะกรรมการ กําหนดตามมาตรา ๑๑ (๘)
เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๙๒ ก หน้า ๗ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๕ ในกรณที ่ีผ้บู ริหารทนุ หมนุ เวียนมใิ ชเ่ จา้ หน้าท่ีในหน่วยงานเจ้าของทุนหมุนเวียน ให้การดํารงตําแหน่ง การพ้นจากตําแหน่ง และเง่ือนไขการจ้างเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการบริหาร กาํ หนด มาตรา ๒๖ การกําหนดตําแหน่ง คุณสมบัติของตําแหน่ง อัตราเงินเดือน ค่าตอบแทน อํานาจหน้าที่ ระยะเวลาการจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเลิกจ้างพนักงานและลูกจ้าง ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ บังคบั ทคี่ ณะกรรมการบริหารกําหนด ส่วนท่ี ๕ การบญั ชแี ละการตรวจสอบ มาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการบริหารวางและรักษาไว้ซึ่งระบบบัญชีท่ีเหมาะสมเพ่ือให้สามารถ จัดทํารายงานการเงิน แสดงฐานะทางการเงิน และผลการดําเนินงานของทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็น นติ บิ คุ คลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั การบญั ชีทีร่ บั รองโดยทวั่ ไป มาตรา ๒๘ ให้คณะกรรมการบริหารจัดทํารายงานการเงินของทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะ เป็นนติ ิบคุ คลสง่ ผู้สอบบญั ชภี ายในหกสบิ วนั นับแต่วนั สนิ้ ปีบญั ชี ปีบัญชีของทุนหมุนเวียนให้เป็นไปตามปีงบประมาณ เว้นแต่คณะกรรมการบริหารจะประกาศกําหนด เป็นอยา่ งอ่ืนโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ มาตรา ๒๙ ให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือบุคคลท่ีสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีของทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล และให้ทําการตรวจสอบ รบั รองบญั ชแี ละการเงนิ ทกุ ประเภทของทุนหมนุ เวยี นทุกรอบปีบญั ชี ให้ผู้สอบบัญชีของทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลทํารายงานการสอบบัญชีเสนอต่อ คณะกรรมการบรหิ ารภายในหน่ึงรอ้ ยห้าสิบวันนบั แตว่ ันส้นิ ปีบญั ชี ให้คณะกรรมการบรหิ ารนาํ สง่ รายงานการเงินพร้อมด้วยรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีต่อ กระทรวงการคลังภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ไดร้ บั รายงานจากผู้สอบบญั ชี มาตรา ๓๐ ให้หน่วยงานของรัฐที่มีทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลจัดให้มีระบบ การตรวจสอบภายในเพ่ือตรวจสอบการดําเนินงานต่าง ๆ ของทุนหมุนเวียน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ คณะกรรมการประกาศกาํ หนด สว่ นที่ ๖ การประเมินผล มาตรา ๓๑ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีประเมินผลการดําเนินงานทุนหมุนเวียนที่ไม่มีสถานะ เปน็ นติ ิบคุ คลเป็นประจาํ ทกุ ปี โดยต้องประเมินในดา้ นตอ่ ไปนี้
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หนา้ ๘ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา (๑) การเงิน (๒) การปฏิบตั ิการ (๓) การสนองประโยชนต์ อ่ ผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (๔) การบรหิ ารจัดการทนุ หมนุ เวียน (๕) การปฏบิ ัติงานของคณะกรรมการบริหาร ผบู้ ริหารทนุ หมุนเวยี น พนักงาน และลกู จ้าง (๖) ด้านอน่ื ๆ ตามทีค่ ณะกรรมการประกาศกําหนด การประเมินผลตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการ ประกาศกาํ หนด ให้กรมบัญชีกลางรายงานการประเมินผลทุนหมุนเวียนต่อคณะกรรมการภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแตว่ นั สิน้ ปบี ญั ชขี องทนุ หมุนเวียน มาตรา ๓๒ ในกรณีที่ทุนหมุนเวียนที่ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลมีกฎหมายกําหนดระบบ การประเมินผลการดําเนินงานไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ให้คณะกรรมการบริหารจัดทํารายงานผลการประเมินผล การดาํ เนนิ งานเสนอตอ่ กรมบญั ชีกลางภายในหกสิบวันนับแตว่ นั สิ้นปบี ญั ชี หลักเกณฑ์การจัดทํารายงานของทุนหมุนเวียนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ประกาศกาํ หนด มาตรา ๓๓ ให้กรมบัญชีกลางรวบรวมและจัดทํารายงานสรุปผลการดําเนินงานในภาพรวม ของทุนหมุนเวียนท้ังหมดต่อคณะกรรมการ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพอ่ื ทราบต่อไป หมวด ๓ ทุนหมุนเวยี นที่มีสถานะเป็นนิติบคุ คล มาตรา ๓๔ ให้นําบทบัญญัติในส่วนท่ี ๑ การขอจัดต้ัง ของหมวด ๒ ทุนหมุนเวียนที่ไม่มี สถานะเป็นนติ บิ ุคคล มาใชบ้ งั คบั กบั ทุนหมนุ เวยี นทม่ี ีสถานะเป็นนติ บิ ุคคลดว้ ย มาตรา ๓๕ ให้นําบทบัญญัติในส่วนท่ี ๒ การบริหาร ส่วนที่ ๓ คณะกรรมการบริหาร ทุนหมนุ เวยี น สว่ นท่ี ๔ ผบู้ รหิ ารทุนหมนุ เวียน พนกั งาน และลกู จ้าง สว่ นท่ี ๕ การบัญชแี ละการตรวจสอบ และส่วนท่ี ๖ การประเมินผล ของหมวด ๒ ทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล มาใช้บังคับกับ ทุนหมนุ เวียนที่มสี ถานะเปน็ นติ ิบุคคลซ่ึงกฎหมายมิได้บญั ญัตเิ รื่องดงั กลา่ วไว้เป็นการเฉพาะโดยอนุโลม มาตรา ๓๖ ในกรณีมีปญั หาในการปฏบิ ตั ติ ามมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕ ให้คณะกรรมการ เป็นผวู้ ินิจฉัยช้ขี าด
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หนา้ ๙ ๒๕ กนั ยายน ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๔ การรวมหรือยุบเลิกทนุ หมุนเวยี น มาตรา ๓๗ บทบญั ญัติในหมวดน้ใี หใ้ ช้บงั คบั กับการรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียนท่ีไม่มีสถานะ เป็นนติ บิ คุ คลและทุนหมนุ เวียนที่มีสถานะเป็นนิตบิ คุ คล มาตรา ๓๘ ให้คณะกรรมการมีอํานาจรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียนได้ตามหลักเกณฑ์ท่ีกําหนด ในพระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี โดยไดร้ บั อนุมตั ิจากคณะรฐั มนตรี มาตรา ๓๙ การรวมทุนหมุนเวียน ให้กระทําได้เม่ือทุนหมุนเวียนท่ีจะรวมกันนั้นมีวัตถุประสงค์ เดียวกันหรือสามารถดําเนินการร่วมกันได้ และจะต้องไม่มีผลเป็นการขยายวัตถุประสงค์เกินกว่าวัตถุประสงค์เดิม ของทนุ หมนุ เวยี นทน่ี าํ มารวมกันนั้น การรวมทุนหมุนเวียนตามวรรคหนึ่ง อาจเป็นการรวมกับทุนหมุนเวียนใดทุนหมุนเวียนหนึ่ง หรอื รวมกนั เปน็ ทุนหมุนเวียนใหม่ก็ได้ มาตรา ๔๐ การยบุ เลิกทุนหมนุ เวียน ใหก้ ระทําไดใ้ นกรณีดังตอ่ ไปนี้ (๑) หมดความจําเป็นทีจ่ ะต้องดาํ เนินการตามวัตถปุ ระสงค์ในการจัดตงั้ ทนุ หมนุ เวยี นนน้ั แล้ว (๒) ทนุ หมนุ เวียนไดห้ ยดุ การดาํ เนนิ งานโดยไม่มีเหตผุ ลอนั สมควร (๓) มีผลการประเมินผลการดําเนินงานต่ํากว่าเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการกําหนดเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน และคณะกรรมการเหน็ สมควรให้ยุบเลิกทนุ หมนุ เวยี นน้ัน (๔) มีเหตุอ่ืนอนั สมควรตอ้ งยุบเลิกทุนหมุนเวียนตามทีค่ ณะกรรมการประกาศกาํ หนด มาตรา ๔๑ ในการเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน ให้คณะกรรมการเสนอข้อเท็จจรงิ และความเห็นเพอื่ ประกอบการพจิ ารณาของคณะรฐั มนตรดี ว้ ย เมอื่ คณะรัฐมนตรีมมี ติใหย้ ุบเลกิ ทุนหมุนเวยี นใด ให้ถือวา่ เปน็ การยุบเลิกทุนหมุนเวยี นน้นั ตามกฎหมาย เว้นแตใ่ นกรณที ีท่ ุนหมนุ เวยี นใดจัดตง้ั ขึน้ โดยกฎหมายเฉพาะ ใหด้ ําเนินการยกเลิกหรือแก้ไขเพ่ิมเติมกฎหมาย เพ่อื ยบุ เลกิ ทุนหมนุ เวียนน้นั มาตรา ๔๒ เม่ือคณะรฐั มนตรีมมี ติอนมุ ตั ิใหร้ วมทุนหมุนเวียนใด ให้มีผลเป็นการโอนทรัพย์สิน หน้ีสิน ภาระผูกพัน สิทธิ หน้าท่ี พนักงานและลูกจ้างของทุนหมุนเวียนเดิมไปเป็นของทุนหมุนเวียนที่คงอยู่ ภายหลังการรวมทุนหมุนเวียนหรือของทุนหมุนเวียนใหม่ เว้นแต่ในกรณีท่ีทุนหมุนเวียนใดจัดตั้งข้ึน โดยกฎหมายเฉพาะ ใหด้ าํ เนินการยกเลกิ หรอื แก้ไขเพ่ิมเตมิ กฎหมายเพือ่ รวมทุนหมุนเวยี นนั้น มาตรา ๔๓ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอ่ืน การจัดการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ ของผู้บริหารทุนหมุนเวียน พนักงาน และลูกจ้างของทุนหมุนเวียนที่รวมหรือยุบเลิกให้เป็นไปตามท่ีรัฐมนตรี ประกาศกาํ หนด
เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๙๒ ก หนา้ ๑๐ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๔๔ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอ่ืน เม่ือยุบเลิกทุนหมุนเวียน ให้หัวหน้า หน่วยงานของรัฐท่ีมีทุนหมุนเวียนหรือท่ีเป็นผู้กํากับดูแลทุนหมุนเวียนแต่งต้ังผู้ชําระบัญชีเพ่ือชําระบัญชี ของทุนหมุนเวียน และให้นําบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการชําระบัญชี ห้างห้นุ สว่ นจดทะเบยี น หา้ งหนุ้ สว่ นจาํ กดั และบริษัทจาํ กดั มาใช้บงั คับโดยอนโุ ลม ในระหว่างการชําระบัญชี ให้ถือว่าทุนหมุนเวียนน้ันยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาท่ีจําเป็น เพ่ือการชาํ ระบัญชี ในกรณียุบเลิกทุนหมุนเวียน หากภายหลังจากการจัดการทรัพย์สินและหน้ีสินตามวรรคหน่ึง เสร็จสน้ิ แลว้ มีเงินคงเหลือ ใหน้ าํ สง่ คลังเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด บทเฉพาะกาล มาตรา ๔๕ ในระหว่างที่ยังไม่มีข้อบังคับ ประกาศ และหลักเกณฑ์เก่ียวกับทุนหมุนเวียน ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นํากฎ ข้อบังคับ ประกาศ ระเบียบ และหลักเกณฑ์เก่ียวกับทุนหมุนเวียนซ่ึงใช้ บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ มาใช้บังคับไปพลางก่อน เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับ พระราชบัญญตั ินจ้ี นกวา่ จะไดอ้ อกขอ้ บงั คบั ประกาศ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกบั ทนุ หมุนเวยี นตามพระราชบัญญตั นิ ี้ ซ่ึงตอ้ งดาํ เนนิ การภายในเวลาไมเ่ กินสองปนี ับแตว่ นั ท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มาตรา ๔๖ ให้กรรมการบริหารของทุนหมุนเวียน ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าท่ีในฐานะกรรมการบริหารทุนหมุนเวียนตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะครบวาระ การดํารงตําแหนง่ มาตรา ๔๗ ให้ผู้บริหารทุนหมุนเวียน พนักงาน และลูกจ้างตามสัญญาจ้างซึ่งปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในวันท่พี ระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ชบ้ งั คบั ปฏิบตั หิ น้าทีต่ ่อไปไดจ้ นกวา่ สัญญาจ้างจะสน้ิ สุดลง ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๙๒ ก หนา้ ๑๑ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ราชกิจจานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เน่ืองจากพระราชบัญญัติให้อํานาจ กระทรวงการคลังรวมหรือยุบเลิกทนุ หมนุ เวียน พ.ศ. ๒๕๔๓ มีบทบัญญัติท่ียังไม่ครอบคลุมการบริหารทุนหมุนเวียน ทั้งกระบวนการ ประกอบกับปัจจุบันได้มีการจัดต้ังทุนหมุนเวียนข้ึนเป็นจํานวนมากเพ่ือเป็นทุนในการใช้จ่าย บริหารกิจการของหน่วยงานของรัฐให้เกิดความคล่องตัวทางการเงิน โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน แต่การบริหารทุนหมุนเวียนยังขาดประสิทธิภาพและไม่สามารถดําเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง ดงั นั้น เพอ่ื ใหก้ ารบรหิ ารทนุ หมนุ เวียน มปี ระสทิ ธิภาพ ลดความเส่ียง และเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ ดา้ นการเงินการคลังของรัฐ สมควรกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดต้ังกํากับและบริหารทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ และบงั เกดิ ผลอยา่ งเป็นรปู ธรรม จงึ จําเป็นต้องตราพระราชบัญญตั นิ ้ี
ระเบยี บคณะกรรมการตรวจสอบทรพั ยส์ นิ วา่ ดว้ ยกองทนุ ป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. 2536 ------------ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 16(5) และมาตรา 37 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติ มาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534คณะกรรมการตรวจสอบ ทรัพย์สนิ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั ออกระเบยี บไว้ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า `ระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินว่าด้วยกองทุนป้องกัน และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ. 2536' ข้อ 2 ระเบียบนีใ้ หใ้ ช้บังคับตง้ั แต่วันท่ี 11 มีนาคม พ.ศ. 2536 เปน็ ต้นไป ขอ้ 3 ในระเบียบนี้ `คณะอนกุ รรมการกองทุน' หมายความวา่ คณะอนกุ รรมการ กองทนุ ปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด `พนักงานกองทุน' หมายความวา่ ผู้ซึ่งเลขาธกิ ารแตง่ ต้งั ให้ปฏบิ ัติการ ตามระเบียบนี้ ข้อ 4 ให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอาํ นาจออกระเบียบหรอื คาํ สง่ั เพอ่ื ปฏิบตั ิการตามระเบียบน้ี ในกรณีที่มีปัญหาเก่ียวกับการปฏิบตั ติ ามระเบียบน้ีให้เลขาธิการเสนอให้คณะกรรมการวินิจฉัย ชี้ขาด หมวด 1 บททว่ั ไป ขอ้ 5 เม่อื ทรัพยส์ นิ ใดตกเปน็ ของกองทุน ให้ปฏบิ ตั ดิ งั นี้ (1) ให้ผู้ซึ่งมีหน้าท่ีเกี่ยวข้องนําทรัพย์สินพร้อมท้ังหนังสือนําส่งจํานวน2 ชุดมอบแก่ ผู้อํานวยการกองตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดหรือพนักงานกองทุนซ่ึงผู้อํานวยการกองตรวจสอบ ทรพั ย์สินคดยี าเสพตดิ มอบหมายให้เปน็ ผตู้ รวจรับทรพั ยส์ นิ (2) ให้ผู้ตรวจรบั ทรพั ยส์ ินดําเนินการดังต่อไปนี้ (ก) ทําการสํารวจทรัพย์สินและบันทึกรายละเอียดเก่ียวกับจํานวน ประเภทรวมทั้ง มูลค่าของทรัพย์สินน้ัน โดยอาจมีรายละเอียดอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได้ แล้วรายงานและเสนอ ความเห็นต่อคณะอนกุ รรมการกองทนุ วา่ สมควรดาํ เนนิ การแกท่ รัพยส์ ินนัน้ ต่อไปอย่างไร (ข) ตรวจสอบทรพั ย์สนิ ให้ถกู ต้องตามรายละเอยี ดในหนงั สอื นําสง่ แล้วให้ผู้นําส่งและ ผู้ตรวจรับทรพั ย์สนิ ลงนามกาํ กบั ไวเ้ ป็นหลักฐานและเก็บรกั ษาหนงั สือนําสง่ ไว้เป็นหลกั ฐานฝ่ายละหนึ่ง ชุด หากทรพั ยส์ นิ นน้ั ไม่ครบถว้ น หรอื มีความชาํ รดุ เสียหาย ให้บันทกึ ไว้โดยชดั แจ้งดว้ ย ขอ้ 6 เมือ่ ได้มกี ารตรวจรบั ทรัพยส์ นิ ตามข้อ 5 แลว้ ใหด้ าํ เนินการดังต่อไปนี้ (1) ถ้าเป็นเงิน ให้นําส่งผู้รับเงินตามข้อ 11 ทันที ทั้งนี้ต้องช้ากว่าวันทําการวันแรกที่อาจ นําสง่ ได้ (2) ทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์ ให้นําไปเก็บรักษาไว้ท่ีสถานท่ีเก็บรักษาทรัพย์สินของ
กองทุน หรือจะฝากเก็บรกั ษาไวท้ สี่ ถานท่เี ก็บรกั ษาทรพั ยส์ นิ ของสํานกั งานตามระเบียบคณะกรรมการ ตรวจสอบทรพั ย์สนิ ว่าด้วยการเก็บรักษาทรัพยส์ ินทถี่ กู ยึดหรอื อายดั ก็ได้ (3) ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์หรือเป็นทรัพย์สินท่ีมีลักษณะตามข้อ 7 จะมอบให้ บุคคลซ่ึงได้ดูแลรักษาทรัพย์สินในระหว่างการยึดหรืออายัดดูแลรักษาต่อไป หรือจะจ้างบุคคลอ่ืนให้ ดูแลรักษาทรพั ยส์ นิ หรือเช่าสถานทเ่ี ก็บรักษาทรพั ย์สินน้นั ไปพลางก่อนในระหว่างท่ีคณะอนุกรรมการ กองทนุ ยังไมม่ มี ตเิ กยี่ วกบั ทรพั ยส์ ินน้นั กไ็ ด้ เม่อื ได้ดาํ เนินการตามวรรคหนึ่งแล้วให้รายงานคณะอนุกรรมการกองทุนโดยเร็ว และในกรณีท่ี เป็นทรัพย์สินที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้เลขาธิการจัดการเก่ียวกับหลักฐานทางทะเบียนดังกล่าวให้ เรยี บร้อยด้วย ข้อ 7 ให้ผู้ตรวจรับทรัพย์สินตามข้อ 5 รายงานคณะอนุกรรมการกองทุนโดยด่วนที่สุดเม่ือ ปรากฏว่า (1) ทรัพย์สินนั้นมีสภาพเป็นของสด ของเสียได้ หรือถ้าหน่วงช้าไว้จะเป็นการเสี่ยงต่อ ความเสยี หายหรอื คา่ ใชจ้ า่ ยจะเกินสว่ นแห่งคา่ ของทรพั ยส์ นิ นัน้ (2) ทรัพย์สินนั้นมีลักษณะท่ีอาจทําให้สกปรกเลอะเทอะ หรือมีกลิ่นหรืออาจรบกวนหรือ กอ่ ความราํ คาญ (3) ทรัพย์สินน้ันมีน้ําหนักมาก หรือไม่สะดวกต่อการเคล่ือนย้าย หรือมีขนาดใหญ่มาก หรือเปลืองเนอื้ ทใ่ี นการเก็บรกั ษา (4) ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินซ่ึงโดยสภาพอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย เช่น สารเคมี หรอื สิง่ ท่ีเปน็ เช้อื เพลิง (5) ทรพั ย์สนิ ท่ตี ้องเกบ็ รกั ษาไวใ้ นสถานที่โดยเฉพาะเพื่อรกั ษาคุณภาพของตัวทรพั ย์ หมวด 2 การบรหิ ารกองทุน ขอ้ 8 ใหค้ ณะกรรมการแตง่ ต้ังคณะอนกุ รรมการกองทุนคณะหน่งึ ประกอบด้วยเลขาธิการเป็น ประธานอนุกรรมการ ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนกรมตํารวจ ผู้แทนกรมศุลกากร ผู้แทน กรมบัญชีกลาง และผู้ทรงคุณวุฒิอื่นไม่เกินสองคนเป็นอนุกรรมการ และผู้อํานวยการกองตรวจสอบ ทรพั ยส์ นิ คดยี าเสพตดิ เปน็ อนกุ รรมการและเลขานุการ คณะอนุกรรมการจะแตง่ ตงั้ ขา้ ราชการคนหน่งึ หรือหลายคนในสํานักงานเป็นผชู้ ่วยเลขานุการก็ ได้ อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้มีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสองปี อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่ง พ้นจากตาํ แหน่งอาจไดร้ บั แต่งต้งั อีกได้ ข้อ 9 ให้คณะอนกุ รรมการกองทนุ มีอาํ นาจหนา้ ท่ีดังตอ่ ไปน้ี (1) พจิ ารณาอนุมัตใิ ห้จา่ ยเงินกองทุนตามหลกั เกณฑ์ทีก่ าํ หนดในระเบียบน้ี (2) ควบคมุ ดูแลเกีย่ วกับการรับ การจ่าย และการเก็บรักษาเงิน (3) ควบคุมดูแลเก่ียวกับการจดั การและการจัดหาผลประโยชนจ์ ากทรพั ยส์ นิ ของกองทนุ (4) วางระเบียบโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ กําหนดหลักเกณฑ์ในกรณี ดังต่อไปน้ี
(ก) การนําทรพั ยส์ นิ ของกองทนุ ไปใช้ประโยชน์ (ข) การจาํ หน่ายทรพั ยส์ นิ ของกองทนุ (ค) การจ่ายเงนิ หรอื ทรัพยส์ ิน เพื่อสนบั สนุนหรอื เพอื่ ช่วยเหลอื บุคคลหรอื หน่วยงานท่ี เก่ียวขอ้ งหรอื ที่ได้รับความเดือดรอ้ นจากการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ง) การจา่ ยเงนิ สนิ บนและเงินรางวลั (5) ปฏบิ ัตหิ น้าทีอ่ น่ื ตามทกี่ ฎหมายกาํ หนดหรอื ตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย การจ่ายเงินหรือทรัพย์สินจากกองทุนคร้ังหน่ึงถ้ามีจํานวนหรือมูลค่าเกินห้าล้านบาทจะต้อง ได้รบั ความเห็นชอบของคณะกรรมการก่อน ข้อ 10 การใชจ้ ่ายเงนิ กองทนุ เพื่อประโยชน์ตามมาตรา 34 ไดแ้ ก่กรณี ดังต่อไปนี้ (1) สนับสนุนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การบําบัดรักษาและการฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพตดิ (2) สนับสนุนหรือจัดให้มีการศึกษา ฝึกอบรม หรือสัมมนาเก่ียวกับการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพตดิ การบําบัดรักษา และการฟน้ื ฟสู มรรถภาพผู้ติดยาเสพติด (3) สนับสนุนหรือจัดให้มีวิทยากรซึ่งมีความรู้หรือความเช่ียวชาญในด้านต่าง ๆ ทั้งใน ประเทศหรือต่างประเทศ เพื่อทําหน้าที่ให้คําปรึกษา แนะนํา ฝึกอบรมหรือสัมมนาเก่ียวกับการ ป้องกนั และปราบปรามยาเสพติด การบําบดั รกั ษา และการฟื้นฟสู มรรถภาพผ้ตู ิดยาเสพตดิ (4) สนับสนุนหรือจัดให้มีการให้บริการหรือจัดกิจกรรมอันก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพตดิ การบําบัดรักษา และการฟน้ื ฟสู มรรถภาพผู้ตดิ ยาเสพตดิ (5) สนับสนุนการประสานงานระหว่างหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องหรือมีส่วนช่วยเหลือหรือ สนับสนนุ การปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพติด การบําบัดรักษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพ ตดิ ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ (6) กิจการอ่ืนท่ีจําเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการ ปราบปรามผกู้ ระทําความผิดเก่ยี วกบั ยาเสพติด หมวด 3 การรบั เงิน ข้อ 11 การรับเงินของกองทุนให้เลขาธิการหรือพนักงานกองทุนต้ังแต่ระดับ 7 ซ่ึงเลขาธิการ มอบหมาย ร่วมกับผู้อํานวยการกองตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดหรือพนักงานกองทุนต้ังแต่ระดับ 6 ซึ่งผู้อํานวยการกองตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดมอบหมาย เป็นผู้รับเงินและออกหลักฐานการ รบั เงิน แลว้ ดาํ เนินการตามข้อ 15 (1) หมวด 4 การจ่ายเงิน ข้อ 12 เงินของกองทุนให้จ่ายได้ตามจํานวนที่คณะอนุกรรมการกองทุนพิจารณาอนุมัติ สาํ หรบั กรณดี ังตอ่ ไปน้ี (1) ค่าใช้จ่ายในการบรหิ ารกองทนุ ตามหลกั เกณฑท์ คี่ ณะอนุกรรมการกองทุนกําหนด
(2) ค่าใช้จา่ ยในการตรวจสอบทรพั ยส์ ิน ค่าใชจ้ ่ายในการยดึ อายดั และการขายทอดตลาด ทรัพย์สิน (3) คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รักษาทรพั ยส์ ินที่ถูกยดึ หรืออายดั (4) ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาทรัพย์สินตามมาตรา 23 และค่าใช้จ่ายในการประเมิน ค่าเสยี หายและค่าเส่ือมสภาพตามมาตรา 24 (5) คา่ เสียหายและค่าเสอื่ มสภาพตามมาตรา 24 (6) เงนิ สินบนตามขอ้ 19 และเงนิ รางวลั ตามข้อ 20 (7) ค่าใชจ้ ่ายอ่ืนเพือ่ ให้เปน็ ไปตามวตั ถุประสงคข์ องกองทนุ การจ่ายเงินกองทุนเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสําหรับกรณีอ่ืน นอกจากที่กําหนดไว้ในวรรคหน่ึง ให้คณะอนุกรรมการกองทุนกระทําได้โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ ข้อ 13 วิธีการจ่ายเงินท่ีได้รับอนุมัติตามข้อ 12 แล้ว ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ แต่ถา้ ไม่มรี ะเบียบท่เี กี่ยวกับกรณีดังกล่าวใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บทเ่ี ลขาธกิ ารกําหนด ขอ้ 14 ให้กองทนุ มีเงินทดรองจ่ายภายในวงเงนิ ท่คี ณะกรรมการกาํ หนด หมวด 5 การเกบ็ รกั ษาทรพั ยส์ ิน ขอ้ 15 ทรัพยส์ นิ ของกองทุนใหเ้ กบ็ รกั ษาไวด้ ังน้ี (1) ในกรณีที่เป็นเงนิ ใหฝ้ ากไวก้ บั ธนาคารทเ่ี ป็นรัฐวิสาหกจิ (2) ในกรณีที่เป็นทรัพย์สินอ่ืน ให้เก็บรักษาไว้ตามระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบ ทรพั ยส์ นิ วา่ ด้วยการเก็บรกั ษาทรพั ยส์ นิ ทีถ่ ูกยดึ หรืออายดั หมวด 6 การจดั หาผลประโยชน์ ข้อ 16 คณะอนุกรรมการกองทุนอาจนาํ เงนิ ของกองทนุ ไปจดั หาผลประโยชน์ ได้ดังนี้ (1) ซอ้ื พันธบัตรรัฐบาล พันธบตั รรฐั วสิ าหกจิ หรือตว๋ั เงนิ คลัง (2) ลงทุนอย่างอื่น โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและต้องได้รับความเห็นชอบจาก กระทรวงการคลงั ข้อ 17 คณะอนุกรรมการกองทุนอาจนําทรัพย์สินอื่นไปจัดหาผลประโยชน์ได้ตามหลักเกณฑ์ เดียวกันกับการนําทรัพย์สินท่ีเก็บรักษาไว้ในระหว่างการยึดหรืออายัดไปจัดหาผลประโยชน์ แต่ถ้ามี กรณีจําเป็นและสมควรนอกเหนือไปจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้กระทําได้โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ หมวด 7
เงินสนิ บนและเงินรางวลั ข้อ 18 ในกรณีที่มเี หตุอันสมควร คณะอนกุ รรมการกองทุนอาจพิจารณามีมติให้มีการจ่ายเงิน สนิ บนหรอื เงนิ รางวัลไดต้ ามหลกั เกณฑท์ ่ีกําหนดไวใ้ นหมวดนี้ การจ่ายเงินสินบนหรือเงินรางวัลตามที่กําหนดไว้ในหมวดนี้ เป็นเพียงหลักเกณฑ์ที่กําหนดไว้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามท่ีคณะอนุกรรมการกองทุนเห็นสมควรมิใช่เป็นการโฆษณาหรือให้ คาํ มัน่ ตามกฎหมายแกบ่ ุคคลใดในอนั ท่ีจะยกขึน้ กล่าวอา้ งเพอ่ื เรียกรอ้ งสทิ ธใิ นเงนิ ดงั กล่าว ข้อ 19 คณะอนุกรรมการกองทุนมีอํานาจพิจารณาจ่ายเงินสินบนแก่ผู้ซ่ึงช้ีแนะให้พนักงาน เจ้าหน้าท่ีทราบถึงตัวทรัพย์สิน แหล่งท่ีมา หรือสถานท่ีตั้งของทรัพย์สินที่เก่ียวเนื่องกับการกระทํา ความผิดเก่ียวกับยาเสพติด โดยมีข้อมูลหรือพยานหลักฐานพอสมควรที่สามารถใช้เป็นประโยชน์ใน การตรวจสอบทรัพยส์ นิ จนมีผลใหท้ รพั ย์สินนั้นตกเปน็ ของกองทนุ เงินสนิ บนที่จะจา่ ยตามวรรคหน่ึงให้คณะอนุกรรมการกองทุนกําหนดโดยพิจารณาถึงประโยชน์ ของข้อมูลและพยานหลักฐานที่ได้รับจากผู้ช้ีแนะ และมูลค่าของทรัพย์สิน โดยให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ สิบของเงินท่ีคํานวณได้จากราคาทรัพย์สินท่ีประเมินได้ในวันที่ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน หรือของราคาที่ ได้จากการขายทอดตลาด แล้วแต่กรณี หักด้วยค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาทรัพย์สินหรือขาย ทอดตลาดทรพั ย์สนิ นน้ั ข้อ 20 คณะอนุกรรมการกองทุนมีอํานาจพิจารณาจ่ายเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้ทํา หน้าที่ตรวจสอบ ยึดหรืออายัดทรัพย์สินท่ีเกี่ยวเนื่องกับการกระทําความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ผู้ซึ่งทํา หนา้ ท่ีสบื สวน สอบสวน หรือจับกุมผู้กระทาํ ความผดิ เก่ยี วกับยาเสพตดิ จนมีผลให้ทรพั ย์สินนนั้ ตกเป็น ของกองทุน โดยให้จา่ ยได้ไม่เกินร้อยละห้าของเงนิ ท่คี ํานวณได้จากราคาทรัพย์สินที่มีการประเมินได้ใน วันที่ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน หรือของราคาท่ีได้จากการขายทอดตลาด แล้วแต่กรณี หักด้วยค่าใช้จ่าย ในการประเมินราคาทรัพย์สินหรือขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น แต่ท้ังนี้ต้องไม่เกินจํานวนเงินข้ันสูงที คณะกรรมการกาํ หนด ข้อ 21 เงินสินบนหรือเงินรางวัลให้จ่ายหลังจากนําทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดหรือ นําไปใช้ประโยชน์แล้ว หากไม่มีการนําทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดหรือไม่มีการนําไปใช้ประโยชน์ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันท่ีทรัพย์สินนั้นตกเป็นของกองทุน ให้คณะอนุกรรมการกองทุนประเมินราคา ทรพั ย์สนิ นั้นตามทีเ่ ห็นสมควร เพือ่ นํามาเปน็ เกณฑ์ในการกําหนดเงินสินบนหรือเงนิ รางวลั ข้อ 22 ถ้าผู้มีสิทธิได้รับเงินสินบนหรือเงินรางวัลมีหลายคน ให้แบ่งเงินนั้นคนละส่วนเท่า ๆ กัน เวน้ แตค่ ณะอนกุ รรมการกองทุนจะเห็นสมควรกาํ หนดเป็นอย่างอืน่ หมวด 8 การบัญชี ข้อ 23 ให้กองตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติดจัดทําบัญชี ตามระบบบัญชีท่ีได้รับความ เห็นชอบจากกระทรวงการคลงั ข้อ 24 ให้สํานักงานจัดทํางบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนในปีที่ล่วงมาแล้ว ภายใน 90 วัน นับแต่วันส้ินปีปฏิทิน เพื่อรายงานคณะกรรมการและส่งให้สํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบรับรองและดาํ เนนิ การต่อไปตามมาตรา 39 ข้อ 25 ให้สํานักงานจัดให้มีการตรวจสอบภายในเก่ียวกับการเงินและการบัญชีของกองทุน และรายงานคณะอนุกรรมการกองทุนอย่างน้อยทุกหกเดือน เว้นแต่คณะอนุกรรมการกองทุนจะเห็น
ควรกําหนดเป็นอยา่ งอน่ื ประกาศ ณ วันท่ี 11 มีนาคม พ.ศ. 2536 ศักดิ์ สนองชาติ ประธานกรรมการตรวจสอบทรพั ย์สิน
ระเบยี บคณะอนกุ รรมการกองทนุ ปอ งกนั และปราบปรามยาเสพติด วา ดว ยการจัดการทรัพยส นิ ของกองทุน พ.ศ. ๒๕๓๗ อาศัยอํานาจตามความใน ขอ ๙ (๔) แหงระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบทรัพยสิน วาดวย กองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๖ คณะอนุกรรมการกองทุนปองกันและปราบปราม ยาเสพติด โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการตรวจสอบทรพั ยสิน ออกระเบยี บไว ดังตอ ไปน้ี ขอ๑ ระเบียบน้ีเรียกวา “ระเบียบคณะอนุกรรมการกองทุนปองกันและปราบปราม ยาเสพติด วา ดว ยการจดั การทรพั ยสินของกองทนุ พ.ศ. ๒๕๓๗” ขอ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ ชบ ังคบั ตง้ั แตวันท่ี ๒๒ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ เปน ตน ไป ๑ขอ ๓ ในระเบยี บนี้ “หนวยงานของรัฐ” หมายความวา กระทรวง ทบวง กรม กอง หรือท่ีมีช่ือเรียกเปน อยางอนื่ หนวยงานราชการสว นทอ งถิน่ และหนว ยงานรัฐวิสาหกจิ “หนวยงานของเอกชน” หมายความวา สมาคม มูลนิธิ หรือนิติบุคคลอ่ืนที่มิไดมี วัตถุประสงคเพื่อแสวงหากําไร และดําเนินการเก่ียวของกับการปองกันและปราบปรามยาเสพติด การบาํ บัดรักษา และการฟน ฟสู มรรถภาพผูต ดิ ยาเสพตดิ “ผูอํานวยการ” หมายความวา ผอู าํ นวยการสํานักตรวจสอบทรพั ยส นิ คดยี าเสพตดิ ขอ ๔ ใหผูอํานวยการรักษาการตามระเบียบนี้ และใหมีอํานาจออกขอบังคับหรือคําส่ัง เพ่ือใหการปฏบิ ตั กิ ารเปนไปตามระเบียบน้ี ในกรณีท่มี ปี ญ หาเก่ยี วกบั การดําเนินการตามระเบยี บนีใ้ หผูอาํ นวยการเสนอคณะอนุกรรมการ กองทุนเพือ่ พิจารณา หมวด ๑ การนาํ ทรัพยสนิ ของกองทนุ ไปใชประโยชน ขอ ๕ การนําทรัพยสินของกองทุนไปใชประโยชนใหกระทําไดเฉพาะหนวยงานของรัฐ หรือ หนวยงานของเอกชน ที่เกี่ยวของกับการปองกันและปราบปรามยาเสพติด การบําบัดรักษา และการ ฟน ฟสู มรรถภาพผตู ิดยาเสพตดิ การอนุญาตใหหนวยงานของเอกชนนําทรัพยสินของกองทุนไปใชประโยชนใหอนุญาต ไดเ ฉพาะทรัพยสนิ ของกองทุนที่เปนอสงั หารมิ ทรพั ยเทาน้ัน ๑ขอความเดิมถูกยกเลกิ โดยระเบียบคณะอนกุ รรมการกองทนุ ปอ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วาดว ยการจัดการทรัพยส นิ ของกองทุน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ขอ ๓ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชขอความที่พมิ พไ วนแ้ี ทน
๒ ขอ ๖ หนวยงานของรัฐท่ีประสงคจะนําทรัพยสินของกองทุนไปใชประโยชนใหหัวหนา หนวยงานของรฐั น้ันมหี นงั สอื ถึงประธานอนุกรรมการกองทุน โดยมรี ายละเอยี ดดงั ตอไปนี้ (๑) หนาที่และความรับผิดชอบของหนวยงานนั้น โดยเฉพาะอยางย่ิงในสวนที่ประสงค จะนาํ ทรัพยส ินน้ันไปใชป ระโยชน (๒) ประเภทของทรพั ยส นิ ทจี่ ะขอนาํ ไปใชประโยชน (๓) เหตผุ ลและความจําเปน ที่จะขอนาํ ทรพั ยสนิ ไปใชป ระโยชน (๔) ลักษณะและระยะเวลาของการใชประโยชน (๕) การดูแลรักษาและความรับผิดชอบในกรณีท่ีเกิดความชํารุดบกพรองเสียหาย หรือ สญู หาย ขอ ๗ หนวยงานของเอกชนที่ประสงคจะนําทรัพยสินของกองทุนไปใชประโยชน ใหหัวหนา หนวยงานของเอกชน จัดทําแผนงาน หรือโครงการเสนอตอประธานอนุกรรมการกองทุน โดยมี รายละเอียดดงั ตอไปน้ี (๑) สว นของงานท่ีจะนาํ ทรพั ยสนิ นัน้ ไปใชป ระโยชน (๒) ประเภทของทรัพยส นิ ท่จี ะนาํ ไปใชประโยชน (๓) เหตุผลและความจําเปน ทจ่ี ะขอนาํ ทรพั ยส นิ ไปใชประโยชน (๔) ลกั ษณะและระยะเวลาของการใชป ระโยชน (๕) การดูแลรักษาและความรับผิดชอบในกรณีท่ีเกิดความชํารุดบกพรองเสียหาย หรือ สญู หาย ขอ ๘ การพิจารณาอนุญาตใหนําทรัพยสินใดไปใชประโยชนใหคณะอนุกรรมการกองทุน พิจารณา โดยคํานึงถึงเหตุผลและความจําเปนที่จะตองนําทรัพยสินนั้นไปใชประโยชนระยะเวลาที่จะ นําไปใชประโยชน การดูแลรักษาและความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความชํารุดบกพรองเสียหายหรือ สูญหาย หนวยงานของรัฐ หรือหนวยงานของเอกชนท่ีไดรับอนุญาตใหนําทรัพยสินของกองทุนไปใช ประโยชนตองดูแลและบํารุงรักษาทรัพยสินนั้นอยางนอย ตามระเบียบของทางราชการและ คณะอนกุ รรมการกองทุนอาจกําหนดเงือ่ นไขอยางใดอยางหน่งึ ตามท่ีเหน็ สมควรอกี กไ็ ด ขอ ๙ เม่ือมีการอนุญาตใหหนวยงานของรัฐหรือหนวยงานของเอกชนนําทรัพยสินใดไปใช ประโยชนใหผูอํานวยการจัดใหมีการทําหนังสือสงมอบและรับมอบทรัพยสินน้ันไวเปนหลักฐาน และมีหนังสอื แจงใหส าํ นกั งานการตรวจเงนิ แผน ดินทราบ ขอ ๑๐ ในกรณีทรัพยสินที่นําไปใชประโยชนนั้นเกิดความชํารุดบกพรองเสียหายหรือ สูญหาย เพราะความผิดของเจาหนาที่ของหนวยงานที่ไดรับอนุญาต ใหหนวยงานดังกลาวรับผิดชอบ ในความชํารุดบกพรอ ง เสยี หาย หรือสูญหายน้ัน ขอ ๑๑ เม่ือหมดความจําเปนที่จะใชประโยชนจากทรัพยสินนั้นตอไป หรือเม่ือครบกําหนด ท่ีไดรับอนุญาตแลว หรือเม่ือคณะอนุกรรมการกองทุนเพิกถอนการอนุญาตใหหนวยงานที่ไดรับอนุญาต
๓ จัดสงทรัพยสินน้ันคืนพรอมหลักฐานการสงคืนเปนหนังสือภายใน ๑๕ วัน หรือภายในเวลา ท่คี ณะอนกุ รรมการกองทุนกําหนด ทรัพยสินตามวรรคหน่ึงใหสงคืนในสภาพท่ีเปนอยูในขณะท่ีไดรับมอบทรัพยสินนั้นไป เวนแตจะเส่ือมไปโดยสภาพแหงทรัพยสินนั้นเอง ในกรณีท่ีไมอาจสงคืนในสภาพเดิมได ใหคณะอนกุ รรมการกองทุนพิจารณาดําเนินการตามทีเ่ หน็ สมควร การเพิกถอนการอนุญาตตามวรรคหนึ่งใหคณะอนุกรรมการกองทุนพิจารณาเพิกถอน การอนุญาต เมื่อหนวยงานที่ไดรับอนุญาตผิดเงื่อนไขที่กําหนดไวตามระเบียบนี้หรือตามที่ คณะอนกุ รรมการกองทนุ พจิ ารณาเห็นสมควร ขอ ๑๒ ในกรณีที่หนวยงานที่ไดรับอนุญาตใหนําทรัพยสินไปใชประโยชน เห็นวามีความ จําเปนที่จะตองนําทรัพยสินนั้นไปใชประโยชนตอไปอีก ใหหัวหนาหนวยงานน้ันมีหนังสือถึงประธาน อนุกรรมการกองทุน แจงถึงเหตุผลและความจําเปนที่ยังตองนําทรัพยสินนั้นไปใชประโยชน ทั้งนี้ กอ นครบกาํ หนดเวลาดงั กลาวไมนอยกวา สิบหา วัน การพิจารณาอนุญาตใหนําทรัพยสินน้ันไปใชประโยชนไดตอไป ใหคณะอนุกรรมการ กองทุนพิจารณาหลักเกณฑตามขอ ๘ และในกรณีท่ีคณะอนุกรรมการกองทุนไมอนุญาตใหนําทรัพยสินนั้น ไปใชประโยชนตอไป ใหหนวยงานน้ันคืนทรัพยสินพรอมหลักฐานการสงคืนเปนหนังสือภายในเวลา ทีก่ ําหนด และใหนาํ ความในขอ ๑๑ วรรคสองมาใชบังคับ หมวด ๒ การจาํ หนายทรพั ยส นิ ของกองทุน ขอ ๑๓ การจําหนา ยทรพั ยส นิ ของกองทุนใหดาํ เนินการได โดยวิธีการดงั ตอไปนี้ (๑) ขาย (๒) ให (๓) แปรสภาพหรอื ทาํ ลาย (๔) จําหนา ยเปนสูญ ขอ ๑๔ การขาย โดยปกติใหดําเนินการขายโดยวิธีขายทอดตลาดโดยใหปฏิบัติตามระเบียบ สํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามยาเสพติด วาดวยการดําเนินการขายทอดตลาด ทรัพยส นิ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยอนุโลม ในกรณีที่ทรัพยสินใดท่ีไดดําเนินการขายทอดตลาดไมเปนผล หรือเปนทรัพยสิน ท่ีคณะอนุกรรมการกองทุนเห็นวาไมสมควรดําเนินการขายโดยวิธีขายทอดตลาด ใหคณะอนุกรรมการ กองทุนกาํ หนดวิธกี ารขายโดยวิธกี ารอ่ืนตามที่เห็นสมควร ขอ ๑๕ การให คณะอนุกรรมการกองทุนอาจพิจารณานําทรัพยสินที่มีลักษณะดังตอไปน้ี ใหห นวยงานของรฐั หรือหนว ยงานของเอกชนใดก็ได ตามทีเ่ หน็ สมควร (๑) ทรพั ยสนิ ทีโ่ ดยสภาพไมอาจซอ มแซมใหกลบั สูสภาพเดมิ ได (๒) ทรพั ยส ินทโ่ี ดยสภาพอาจซอ มแซมใหก ลับสสู ภาพเดิมได แตคาใชจ ายสงู เกนิ สมควร
๔ (๓) ทรัพยสินนั้นหากใหหนวยงานของรัฐ หรือหนวยงานของเอกชนนําไปใชจะเปน ประโยชนมากกวาเกบ็ รักษาไวเ ปน ทรัพยส นิ ของกองทุน และไมเปนภาระกับกองทนุ ขอ ๑๖ การแปรสภาพหรือทาํ ลายใหก ระทําไดตามทค่ี ณะอนุกรรมการกองทุนกาํ หนด ขอ ๑๗ การจําหนายเปนสูญ ใหกระทําไดตามท่ีคณะอนุกรรมการกองทุนกําหนด เม่ือปรากฏวาทรัพยสินสูญหายไปโดยไมปรากฏตัวผูรับผิดชอบ หรือมีตัวผูรับผิดแตไมสามารถชดใชตาม ระเบียบกระทรวงการคลัง วาดวยการรับผิดทางแพงของเจาหนาที่สวนราชการ หรือมีตัวทรัพยสินอยูแตไม สามารถนําออกจาํ หนายไดใหก องทนุ เสนอตอคณะอนกุ รรมการกองทนุ เพ่อื จําหนายเปนสูญ หมวด ๓ การจายเงนิ หรอื ทรพั ยส นิ เพอื่ สนับสนนุ หรือชวยเหลือบุคคลหรือ หนว ยงานทีเ่ กยี่ วขอ งหรือที่ไดรับความเดอื ดรอ นจากการ ปองกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ขอ ๑๘ การจายเงินหรือทรัพยสินของกองทุนใหแกหนวยงานของรัฐ หรือหนวยงานของ เอกชนใหด าํ เนินการไดในกรณีดงั ตอไปน้ี (๑) สนับสนุนการปองกันและปราบปรามยาเสพติด การบําบัดรักษา และการ ฟนฟสู มรรถภาพผตู ดิ ยาเสพติด (๒) สนับสนุนหรือจัดใหมีการศึกษา ฝกอบรม หรือสัมมนาเก่ียวกับการปองกันและ ปราบปรามยาเสพตดิ การบําบดั รักษา และการฟน ฟสู มรรถภาพผตู ิดยาเสพตดิ (๓) สนับสนุนหรือจัดใหมีวิทยากร ซึ่งมีความรูหรือความเช่ียวชาญในดานตางๆ ท้ังใน และตางประเทศ เพื่อทําหนาที่ใหคําปรึกษา แนะนํา ฝกอบรม หรือสัมมนาเกี่ยวกับการปองกันและ ปราบปรามยาเสพตดิ การบําบดั รักษา และการฟนฟูสมรรถภาพผตู ดิ ยาเสพติด (๔) สนับสนุนหรือจัดใหมีการใหบริการหรือจัดกิจกรรมอันจะกอใหเกิดประโยชนตอการ ปอ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ การบําบดั รักษา และการฟนฟูสมรรถภาพผูต ดิ ยาเสพติด (๕) สนับสนุนการประสานงานระหวางหนวยงานที่เก่ียวของหรือมีสวนชวยเหลือ หรือสนับสนุนการปองกันและปราบปรามยาเสพติด การบําบัดรักษา และการฟนฟูสมรรถภาพผูติด ยาเสพติด ทงั้ ในประเทศและตางประเทศ (๖) กิจการอื่นท่ีจําเปนเพื่อใหบรรลุวัตถุประสงคของกฎหมายวาดวยมาตรการ ในการ ปราบปรามผูกระทาํ ความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ขอ ๑๙ ใหหนวยงานของรัฐหรือหนวยงานของเอกชนท่ีจะขอรับการสนับสนุนตามขอ ๑๘ จัดทําแผนงาน โครงการ หรือภารกิจที่มีเปาหมาย ขั้นตอนและระยะเวลาในการดําเนินการท่ีชัดเจน เสนอตอ ประธานอนุกรรมการกองทนุ ๒ขอ ๒๐ แผนงาน โครงการ หรือภารกิจท่ีกองทุนจะใหการสนับสนุนตองเปนแผนงาน โครงการ หรือภารกิจที่ไมไดรับการสนับสนุนจากงบประมาณตามปกติของทางราชการหรือจากแหลงอ่ืน ๒ ขอความเดิมถูกยกเลิกโดยระเบียบคณะอนุกรรมการกองทุนปอ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดว ยการจดั การทรพั ยสินของกองทนุ
๕ ในกรณีท่ีไดรับการสนับสนุนจากงบประมาณปกติของทางราชการหรือจากแหลงอื่น แตไมเพียงพอ ตอ การปฏบิ ตั ิงานอยางมีประสิทธภิ าพใหอ ยูในดลุ ยพินิจของคณะอนกุ รรมการกองทุน ขอ ๒๑ การพิจารณาใหการสนับสนุนใหคณะอนุกรรมการกองทุนพิจารณาโดยคํานึงถึง ประโยชนแ ละความเปนไปได ตลอดจนการตดิ ตามผลการดําเนินการตามแผนงาน โครงการ หรอื ภารกจิ ขอ ๒๒ แผนงาน โครงการ หรือภารกิจที่มีระยะเวลาดําเนินการเกินกวา ๓ เดือน คณะอนุกรรมการกองทุนอาจพิจารณาใหการสนับสนุนเงินเปนงวด ๆ ตามท่ีเห็นสมควรและอาจระงับการ สนับสนุนงวดใดงวดหนึ่งหรือท้ังหมดก็ได หากแผนงาน โครงการ หรือภารกิจนั้นไมสามารถ ดําเนินการตอไปได หรือไมเปนประโยชนตอการปองกันและปราบปรามยาเสพติด หรือไมเปนไปตาม วตั ถุประสงคแ หงการนนั้ ขอ ๒๓ เมื่อแผนงาน โครงการ หรือภารกิจไดรับการพิจารณาอนุมัติใหการสนับสนุน และอนุมัติวงเงินแลวใหผูอํานวยการแจงใหหนวยงานดังกลาวทราบ และเม่ือหนวยงานท่ีไดรับการ สนับสนุนดําเนินการตามแผนงาน โครงการ หรือภารกิจส้ินสุดลง หรือตามเง่ือนไขท่ีคณะอนุกรรมการ กองทนุ กาํ หนด ใหหนวยงานน้นั รายงานผลการดาํ เนินการตอ ประธานอนกุ รรมการกองทุนทราบ ๓ขอ ๒๔ คณะอนุกรรมการกองทุนอาจพิจารณาจายเงินหรือทรัพยสินของกองทุน เพ่ือชวยเหลือบุคคลใดไดตอเม่ือบุคคลน้ันเปนเจาหนาที่ หรือผูซึ่งมีสวนชวยเจาหนาท่ีในการปองกันและ ปราบปรามยาเสพติด และเจาหนาที่หรือบุคคลดังกลาวไดรับความเดือดรอนหรือไดรับอันตรายตอชีวิต รางกาย หรอื ทรพั ยสนิ อันเน่ืองมาจากการดาํ เนนิ การน้ัน การพิจารณาจายเงินหรือทรัพยสินของกองทุนตามวรรคหน่ึง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ ดงั ตอ ไปนี้ (๑) ผเู สยี ชวี ติ รายละไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยพิจารณาจายเปนเงินชวยเหลือใหแก ทายาท ซงึ่ ตองขาดไรอ ุปการะเพราะเหตทุ บ่ี ุคคลนัน้ เสียชวี ติ (๒) กรณีบาดเจ็บจนถึงทุพพลภาพ หรือเสียอวัยวะสวนหน่ึงสวนใด พิจารณาจายเงิน ชวยเหลือรายละไมเกิน ๗๐,๐๐๐ บาท (๓) กรณีไดรับบาดเจ็บจนประกอบกรณียกิจตามปกติไมไดเกินกวา ๒๐ วัน พิจารณา จายเงินชวยเหลือรายละไมเกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท (๔) กรณีไดรับความเสียหายหรือสูญเสียตอทรัพยสิน พิจารณาจายเงินชวยเหลือ รายละ ไมเกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท (๕) กรณีไดรับบาดเจ็บแตไมเขาหลักเกณฑตาม (๒) และ (๓) พิจารณาจายเงิน ชวยเหลอื รายละไมเ กิน ๒๐,๐๐๐ บาท ๔ขอ ๒๕ การขอรบั เงนิ ชว ยเหลือตามขอ ๒๔ ใหสงหลักฐานตามรายการดังตอ ไปน้ี (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ขอ ๔ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชข อ ความทพ่ี ิมพไ วนแี้ ทน ๓ ขอ ความเดมิ ถกู ยกเลกิ โดยระเบียบคณะอนุกรรมการกองทุนปองกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วาดว ยการจัดการทรพั ยสินของกองทุน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ขอ ๕ ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชข อความทีพ่ มิ พไ วนแี้ ทน ๔ ขอความเดิมถกู ยกเลกิ โดยระเบยี บคณะอนุกรรมการกองทุนปอ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วา ดวยการจัดการทรัพยสินของกองทนุ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐ ขอ ๓ ประกาศ ณ วันที่ ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ ชขอความที่พมิ พไ วนแี้ ทน
๖ (๑) แบบขอรบั เงนิ ชวยเหลอื (๒) คาํ สัง่ มอบหมายใหป ฏิบัตงิ านและรายงานการปฏบิ ัตงิ าน (๓) สําเนาใบมรณะบัตรกรณีเสียชวี ติ หรือใบรบั รองแพทยกรณไี ดร ับบาดเจบ็ (๔) หลักฐานการเปน ทายาทของผูเสียชีวิต เชน สาํ เนาทะเบยี นบาน สาํ เนาสูตบิ ตั ร หรอื สาํ เนาทะเบียนสมรส สาํ เนาคาํ พิพากษาหรือคําสงั่ ศาล (๕) สาํ เนาบันทึกการจบั กุม (ถา มี) (๖) หลักฐานอืน่ ๆ (ถามี) การยื่นคําขอใหยื่นภายใน ๑๘๐ วัน นับแตวันที่ไดรับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือทรัพยสิน เสียหายหรอื สูญเสีย แบบเอกสารตามขอ ๒๕ (๑) ใหเปนไปตามแบบทายระเบยี บน้ี หมวด ๔ การจา ยเงนิ สนิ บนและเงนิ รางวัล ๕ขอ ๒๖ ใหจายเงินสินบนใหแกผูชี้แนะใหพนักงานเจาหนาที่ทราบถึงตัวทรัพยสิน แหลง ท่ีมา หรือสถานที่ตั้งของทรัพยสินท่ีเก่ียวเนื่องกับการกระทําความผิดเก่ียวกับยาเสพติด โดยมีขอมูลหรือ พยานหลกั ฐานพอสมควรทส่ี ามารถใชเปนประโยชนในการตรวจสอบทรัพยสิน จนมีผลใหทรัพยสินนั้นตก เปนของกองทุน โดยบุคคลนั้นแจงขอมูลดังกลาวตอพนักงานเจาหนาท่ี หรือพนักงานสอบสวนที่มีอํานาจ สอบสวนคดีผูกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามกฎหมายวาดวยมาตรการในการปราบปรามผูกระทํา ความผิดเกยี่ วกับยาเสพตดิ และไดล งบันทึกในใบแจงขอมูลตามทายระเบียบน้ี โดยใหพนักงานเจาหนาท่ี หรือพนักงานสอบสวนผูรับแจงขอมูลรายงานการรับแจงขอมูลตอผูอํานวยการ ท้ังน้ีผูแจงขอมูลตองมิใช ผูซ่ึงมอี าํ นาจหนา ทปี่ ราบปรามตามกฎหมายทเี่ ก่ยี วกบั ยาเสพติด ๖ขอ ๒๗ เงินสินบนใหจ ายตามหลักเกณฑ และเงอ่ื นไข ดงั นี้ (๑) ใหจา ยไดไ มเกนิ อตั ราท่คี ณะกรรมการกาํ หนดของเงนิ ทค่ี าํ นวณไดจากราคาทรพั ยสิน ที่ประเมินไดใ นวันท่ียึด หรอื อายดั ทรพั ยส นิ หรือของราคาทไ่ี ดจ ากการขายทอดตลาดแลว แตกรณี หักดวย คาใชจ า ยในการประเมินราคาทรพั ยสนิ หรอื ขายทอดตลาดทรพั ยสนิ นน้ั (๒) ทรัพยสินที่แจงขอมูลเพื่อขอรับเงินสินบนตองเปนทรัพยสินท่ีไมมีหลักฐานทาง ทะเบียน หรือในกรณีมีหลักฐานทางทะเบียน แตถูกโอนโยกยาย ซุกซอน แปรสภาพ เพื่ออําพราง การมอี ยู หรือไดมาของทรัพยส นิ นนั้ (๓) เปนทรัพยสินที่แจงขอมูลเพ่ือขอรับเงินสินบนตามประกาศชี้ชวนของ คณะอนกุ รรมการกองทุน ใหแ จงขอ มูลของทรัพยส ินท่เี กีย่ วเนอ่ื งกบั การกระทําความผดิ เกี่ยวกับยาเสพติด ๕ ขอความเดมิ ถูกยกเลิกโดยระเบยี บคณะอนุกรรมการกองทนุ ปอ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ วา ดว ยการจดั การทรัพยสนิ ของกองทนุ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๓ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชขอ ความท่พี มิ พไ วนแี้ ทน ๖ ขอ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดยระเบียบคณะอนุกรรมการกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดว ยการจัดการทรพั ยสินของกองทนุ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๔ ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชข อ ความทีพ่ มิ พไ วน ้แี ทน
๗ ๗ขอ ๒๘ ทรพั ยส ินรายใดมีผูแจง ขอมลู หลายคน โดยรว มกนั ชีแ้ นะใหพนักงานเจาหนา ท่หี รอื พนักงานสอบสวนท่ีมีอํานาจสอบสวนคดีผูกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทราบ ตามขอ ๒๖ ใหแบง สินบนคนละเทา ๆ กัน เวนแตค ณะอนุกรรมการกองทุนจะเห็นสมควรกาํ หนดเปนอยา งอืน่ ๘ขอ ๒๙ ใหจายเงินรางวัลใหพนักงานเจาหนาที่ผูทําหนาท่ีตรวจสอบยึดหรืออายัด ทรัพยสินท่ีเก่ียวเนื่องกับการกระทําความผิดเก่ียวกับยาเสพติด ผูซึ่งทําหนาที่สอบสวน สืบสวน หรือ จับกุมผูกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือตรวจคนขยายผลเพ่ือหาหลักฐานและทรัพยสินในการ กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจนมีผลใหทรัพยสินนั้นตกเปนของกองทุน โดยจายไมเกินอัตราท่ี คณะกรรมการกําหนดของเงินที่คํานวณไดจากราคาทรัพยสินท่ีมีการประเมินไดในวันยึดหรืออายัด ทรัพยสิน หรือของราคาท่ีไดจากการขายทอดตลาดแลวแตกรณี หักดวยคาใชจายในการประเมินราคา ทรพั ยส ิน หรือขายทอดตลาดทรพั ยส ินนน้ั ๙ขอ ๓๐ การจายเงินรางวัล ตามขอ ๒๙ ใหแบงเงินรางวัลออกเปน ๑๐ สวนเทา ๆ กัน โดยใหจา ยตามหลักเกณฑและเงอื่ นไขดังตอ ไปนี้ (๑) พนักงานเจาหนาที่ ผูซึ่งไดรับมอบหมายจากคณะกรรมการตรวจสอบทรัพยสิน หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. แลวแตกรณีใหดําเนินการตรวจสอบ ยึดหรืออายัดทรัพยสินไดรับ ๔ สวน ถาพนักงานเจาหนาท่ีมีหลายคนใหแบงคนละเทา ๆ กัน เวนแตพนักงานเจาหนาที่ซึ่งไดเขาเบิกความเปน พยานในคดรี อ งขอใหร บิ ทรัพยสินนัน้ ใหไดร บั เปน ๒ เทาของเจาหนาทีอ่ ่นื ในจํานวน ๔ สวน ๑๐(๒) เจาหนาที่ผูซึ่งไดทําการสืบสวนหรือจับกุมผูกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือ ตรวจคนขยายผลเพ่ือหาหลักฐานและทรัพยสินในการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จนมีผลทําให ทรัพยสินตกเปนของกองทุนไดรับ ๕ สวน ถาเจาหนาท่ีมีหลายคนใหแบงคนละเทา ๆ กัน เวนแต เจาหนาที่ซงึ่ เปน พยานโจทกในคดีน้นั ใหไดร บั เปน ๒ เทา ของเจา หนาทอ่ี ่นื ในจาํ นวน ๕ สวน (๓) พนักงานสอบสวนผูซ่ึงไดทําการสอบสวนในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จนมีผล ทาํ ใหท รัพยสินตกเปน ของกองทนุ ไดร บั ๑ สวน ถาพนักงานสอบสวนมีหลายคนใหแบง คนละเทา ๆ กนั ในกรณีมีผูอยูในเกณฑจะไดรับเงินรางวัล ตาม (๑) (๒) หรือ (๓) หลายฐานะใหไดรับ เงินรางวัลเพยี งฐานะเดยี ว ขอ ๓๑ การรับเงนิ สนิ บนเงินรางวลั ใหสง หลักฐานตามรายการ ดงั ตอ ไปน้ี (๑) แบบคาํ ขอรับเงนิ สินบน หรือเงนิ รางวลั แลวแตก รณี ๗ ขอ ความเดิมถูกยกเลิกโดยระเบียบคณะอนกุ รรมการกองทุนปอ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วาดวยการจดั การทรพั ยสินของกองทุน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๕ ประกาศ ณ วันท่ี ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชขอความทพ่ี มิ พไ วน ีแ้ ทน ๘ ขอความเดิมถกู ยกเลกิ โดยระเบยี บคณะอนุกรรมการกองทุนปอ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดวยการจดั การทรัพยส ินของกองทุน (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๖ ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชขอความทพี่ ิมพไ วน ้แี ทน ๙ ขอความเดิมถกู ยกเลิกโดยระเบียบคณะอนกุ รรมการกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพตดิ วาดว ยการจดั การทรัพยส นิ ของกองทนุ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ขอ ๖ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใ ชขอความทพ่ี มิ พไวน ้ีแทน ๑๐ ขอ ความเดิมถกู ยกเลิกโดยระเบียบคณะอนุกรรมการกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดวยการจัดการทรพั ยสินของกองทุน (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๗ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชขอ ความที่พิมพไ วน้แี ทน
๘ (๒) แบบใบแจงความชี้แนะถึงตัวทรัพย แหลงที่มาหรือสถานที่ต้ังของทรัพยสิน ที่เก่ยี วเนือ่ งกับการกระทําความผิดเก่ยี วกับยาเสพติด (เฉพาะกรณขี อรับเงนิ สินบน) (๓) หนังสือรับรองวาไดปฏิบัติหนาที่สืบสวนในคดีท่ีขอรับเงินรางวัลของผูบังคับบัญชา ระดับผอู าํ นวยการกอง ผบู ังคับการตํารวจหรือเทียบเทาขน้ึ ไป แลวแตกรณี (๔) สําเนาบนั ทึกการจบั กมุ ของเจาหนา ที่ผูจบั กุม (๕) หนังสอื รบั รองการเปนพนักงานสอบสวนในคดีที่ขอรับเงินรางวลั ของผบู งั คับบัญชา (๖) สําเนาคําสั่งมอบหมายใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนินการตรวจสอบทรัพยสินแทน ในคดีนนั้ (๗) สําเนาคําพิพากษาหรือคําสั่งคดีถึงที่สุดของศาลใหริบทรัพยสิน ใหตกเปนของ กองทนุ (๘) ใบมอบฉันทะใหร บั เงนิ สินบน หรือเงินรางวัลแทน (ถา มี) ขอ ๓๒ การขอรับเงินสินบนหรือเงินรางวัล ตามขอ ๓๑ ใหยื่นเอกสารตามทายระเบียบน้ี พรอมทั้งแจงดวยวาจะขอรับเงินดวยตนเองหรือขอรับผานบัญชีเงินฝากของผูมีสิทธิไดรับเงินสินบน เงินรางวัล โดยแจงเลขท่ีบัญชีเงินฝากมาพรอมน้ี ตอประธานอนุกรรมการกองทุนภายใน ๑๘๐ วัน หลังจากไดรับแจงสิทธิในการขอรบั เงินสินบนเงินรางวลั ในกรณีท่ีมีปญหาเกี่ยวกับการพิจารณาจายเงินสินบน เงินรางวัลตามระเบียบนี้ ใหผ ูอาํ นวยการเสนอคณะอนุกรรมการกองทุนเพือ่ พิจารณาดาํ เนนิ การตามทเ่ี ห็นสมควร หมวด ๕ ขอกาํ หนดในการจา ยเงนิ ขอ ๓๓ หลักฐานการจายเงินของกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพติดใหเปนไปตาม ระเบียบการเก็บรักษาเงินและการนําเงินสงคลังของสวนราชการ พ.ศ.๒๕๒๐ โดยอนุโลมหรือตามท่ี คณะอนกุ รรมการกองทนุ เห็นสมควร ขอ ๓๔ การอนุมัติจายเงินตามขอ ๙ (๑) แหงระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบทรัพยสิน วาดวยกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๖ ใหประธานอนุกรรมการกองทุน หรือ ผูอํานวยการแลวแตกรณีลงลายมือชื่ออนุมัติในหลักฐานการจายเงินหรือใบสําคัญคูจายหรือหลักฐานการ ขอรบั ชาํ ระหนี้ หรอื งบหนา หลกั ฐานการจายหรอื ใบสําคัญคจู ายก็ได ขอ ๓๕ การจายเงินของกองทุน ใหพนักงานกองทุนจัดใหมีหลักฐานการจายเงินไว เพอื่ ประโยชนใ นการตรวจสอบ ขอ ๓๖ การจายเงินของกองทุนใหแกผูรับเงินทุกรายการ พนักงานกองทุนตองบันทึก รายการจายเงินนั้นไวในบัญชีเงินสดจายหรือบัญชีเงินฝากธนาคารแลวแตกรณีในวันท่ีจายเงิน พรอ มทัง้ จดั ทํารายงานเงนิ คงเหลอื ประจาํ วนั ใหผ อู าํ นวยการทราบ ขอ ๓๗ ในการจายเงินของกองทุนใหจายเปนเช็ค ยกเวนในกรณีจายจากเงินทดรองจาย ซ่งึ เก็บไวเปน เงินสด ขอ ๓๘ การเขยี นเชค็ สัง่ จา ยเงินใหป ฏบิ ัติดังนี้
๙ (๑) การจายเงินใหแกผูมีสิทธิรับเงิน ใหออกเช็คสั่งจายในนามของผูมีสิทธิน้ัน ขีดฆา คําวา “หรือตามคาํ ส่งั ” หรอื “หรอื ผถู อื ” ออกและขีดครอมดวย (๒) ในกรณีสั่งจายเงินเพ่ือนํามาเปนเงินทดรองจาย ใหออกเช็คส่ังจายในนามพนักงาน กองทนุ และขีดฆาคาํ วา “หรือตามคําสง่ั ” หรอื “หรอื ผถู อื ” ออก ขอ ๓๙ การอนุมตั ิจายเงินทดรองจายของกองทนุ ใหเ ปน อาํ นาจของผูอํานวยการและใหจาย ไดภายในวงเงนิ ทีค่ ณะกรรมการกําหนดตามประเภทรายจายดังตอ ไปน้ี (๑) คา ใชในการบรหิ ารกองทุนตามหลกั เกณฑท่ีคณะอนุกรรมการกองทุนกาํ หนด (๒) คาใชจายในการตรวจสอบทรัพยสิน คาใชจายในการยึด อายัดและการขาย ทอดตลาดทรัพยสนิ (๓) คา ใชจา ยในการเก็บรักษาทรัพยสนิ ทถี่ ูกยึดหรอื อายดั (๔) คาใชจายในการประเมินราคาทรัพยสินตามมาตรา ๒๓ และคาใชจายในการประเมิน คา เสียหายและคา เสือ่ มสภาพตามมาตรา ๒๔ (๕) คาใชจายอ่ืนเพื่อใหเปนไปตามวัตถุประสงคของกองทุน ตามท่ีคณะอนุกรรมการ กองทนุ กําหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ๑๑ขอ ๔๐ เงนิ ทดรองจา ยที่ไดรับอนมุ ัตจิ ากคณะกรรมการใหเก็บรกั ษาไวใ นตนู ิรภัย โดยตั้งไว ณ ทีท่ าํ การของกองทนุ วนั ละไมเกนิ ๒๐,๐๐๐ บาท ใหผูอํานวยการรายงานการจายเงินทดรองจายตอคณะอนุกรรมการกองทุนทุกคราวที่มีการ ประชุม เพ่ือขออนุมัติเบิกเงินทดรองจายมาทดแทนจํานวนเงินที่ไดจายไป และใหประธานอนุกรรมการ กองทนุ เสนองบการเงนิ ตอ คณะกรรมการเพ่ือรับทราบ เมอ่ื สิน้ ปปฏทิ ิน ๑๒ขอ ๔๑ กุญแจและรหัสตูนิรภัยใหแยกกันเก็บรักษาไว โดยใหผูอํานวยการเก็บรักษารหัส และใหพ นกั งานกองทุนตง้ั แตร ะดับ ๖ ขน้ึ ไปจาํ นวน ๒ คน เก็บรักษากญุ แจคนละหนึ่งดอก ขอ ๔๒ การจายเงินทดรองจายใหพนักงานกองทุนจัดใหมีใบสําคัญคูจายไวเปนหลักฐาน เพ่อื ประโยชนในการตรวจสอบและขออนุมตั เิ บิกเงินจากคณะอนกุ รรมการกองทุน เพอ่ื ชดใชเงินทดรองจา ย ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ (ลงชอ่ื ) พลตํารวจเอก ชวลติ ยอดมณี (ชวลติ ยอดมณี) ประธานอนุกรรมการกองทนุ ปองกันและปราบปรามยาเสพตดิ ๑๑ ขอ ความเดมิ ถูกยกเลกิ โดยระเบยี บคณะอนุกรรมการกองทุนปองกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดว ยการจัดการทรัพยส นิ ของกองทนุ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๘ ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ ชขอความท่พี มิ พไวน ี้แทน ๑๒ขอ ความเดมิ ถกู ยกเลิกโดยระเบยี บคณะอนกุ รรมการกองทุนปอ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ วา ดว ยการจัดการทรัพยส ินของกองทุน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ๗ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ และใหใชข อความที่พิมพไ วน แี้ ทน
๑๐
Search