Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทำเกษตร 1

ทำเกษตร 1

Published by somkid honngthong, 2021-04-29 05:24:50

Description: pdf2

Search

Read the Text Version

๑ ทำเกษตร 1 ไร่ มีกิน มขี ำยทง้ั ปี โดย ปา ไชยปญั หา บรรยายในห้องฝึกอบรมวชิ าของแผน่ ดนิ งานมหกรรมในหลวงรักเรา เพอ่ื สบื ทอดพระราชปณธิ าน พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั รัชกาลท่ี 9 วนั ท่ี 4 ธนั วาคม 2559 ปา ไชยปัญหา เป็นเจ้าของไร่อรหันต์ ศูนย์เรียนรู้เกษตรรุ่นใหม่ หัวใจพอเพียง ที่บ้านกุดปลาเข็ง ตาบลโนนค่า อาเภอสูงเนิน จงั หวัดนครราชสีมา ทางานประจา ตาแหน่ง Super Vices ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เรียนรู้และทาการเกษตร อินทรียม์ าแลว้ กวา่ 8 ปี ทีผ่ า่ นมาไดล้ ้มลกุ คลุกคลานลองผิดถูกมาบ้าง ด้วยแนวคิดทวี่ า่ “เราต้องทาเกษตรแบบกษัตริย์ คือ มีการแลกเปล่ียน มีการแบ่งปัน มีการเรียนรู้ มีการให้ สุดท้ายเราจะพบกับคาว่า “พอ” ถ้าทุกคนพบกับคาว่า พอ ก็เพียงพอตามคาพ่อสอน เราต้องปรับ เราต้องเปลี่ยน อนาคตต้องอยู่ในกามือของพวกเรา เพราะเศรษฐกจิ พอเพยี งถอื ได้ว่าเป็นเสาเขม็ ของประเทศไทย” การนาเสนอเกษตร 1 ไร่ มีกนิ มีขายท้ังปี คนทาตอ้ งรู้เรอ่ื งอะไรบา้ ง “ต้องเรียนรู้ตามลาดับ คือ วางแผนบนกระดาษ ต้องรู้จักดิน รู้จักนา รู้จักพลังงาน รู้จักปุ๋ย รู้จักธาตุอาหารพืช รู้จักโรคพืช รู้จักแมลงศัตรูพืช รู้จักนาหมักชีวภาพหรือจุลินทรีย์ รู้จักการขยายพันธุ์พืช การแปรรูป และการตลาด ต้องวาง กลยุทธ์ก่อนลงมือปฏิบตั ิ ต้องเข้าใจทุกอยา่ งอยา่ งถ่องแท้ และตอ้ งเขา้ ใจธรรมชาติ” 1. การวางแผนเร่ิมต้นจากบนกระดาษ กาหนดรูปแบบแปลง กาหนดว่าจะปลูกอะไรบ้าง (ชอบกินอะไรให้ปลูกชนิด นนั ) จัดวางโซนในแปลงปลูก คานวณว่าแตล่ ะโซนจะปลูกพชื ได้ก่ีชนิด ได้กี่ต้น คานวณปริมาณนาที่มีในแปลงว่าเพียงพอกับการ ปลกู พชื หรือไม่ 2. รู้จักดิน ต้องคลุกคลีกับดิน รู้ว่าดินในแปลงมีโครงสร้างเป็นอย่างไร (ดินที่ดีต้องมีอนินทรียวัตถุ 45% อากาศ 2% นา 25% อินทรียวัตถุ 5%) ต้องร้วู ิธกี ารตรวจดนิ การกบ็ ตัวอยา่ งดนิ ต้องเดนิ แบบซิกแซก เพื่อให้ได้ตัวอย่างดินทั่วถึง อย่างน้อย ต้องสุ่มเก็บ 15 จุด โดยขุดลึกลงไป 10 เซนติเมตร ไม่เอาหน้าดิน ร่อนเอาแต่เนือดิน ไม่เอาอินทรียวัตถุ และส่งไปตรวจ ท่ี กรมพัฒนาทดี่ ิน เพ่ือชว่ ยให้เรารคู้ ่า pH ของดิน ธาตุอาหารในดิน เพอื่ จะไดแ้ กไ้ ขหรือบารุงได้ถูกจดุ 3. รู้จกั น้า นาในแปลงเกษตรของเรามาจากไหน นาฝน นาชลประทาน นาคลอง สระนา แหล่งนาสาธารณะ นาใต้ดิน ควรตรวจนาวา่ มคี า่ pH เท่าไหร่ นามีความเคม็ หรือไม่ 4. รู้จักการใช้พลังงาน แปลงเกษตรเราใช้พลังงานจากไหน เช่น โซล่าเซลล์ หรือพลังงานไฟฟ้าความคุ้มทุนในการใช้ ไฟฟ้า (สาหรับแปลงเกษตรของคณุ ปา เนน้ การพลงั งานโซล่าเซลล์ เพราะเป็นพลังงานที่สะอาด ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม ประหยัด ต้นทุนคา่ ไฟฟา้ มีความคมุ้ ทนุ ภายใน 4-5 ป)ี 5. รูจ้ ักเร่อื งของปุ๋ย เป็นส่ิงสาคญั ทีต่ ้องเรยี นรู้ แบ่งได้เป็น ปุ๋ยเม็ด ป๋ยุ ผง ปยุ๋ นา เร่ืองของป๋ยุ ชวี ภาพต้องเข้าใจอยา่ ง ถ่องแท้ โดยเบืองต้นตอ้ งเรยี นร้เู รื่องปุ๋ยตอ่ ไปนี ••ปุ๋ยหัวเชือหรือจุลินทรีย์หัวเชือคือเชือจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพสาหรับกระบวนการหมักและย่อยสลาย อินทรียว์ ตั ถุ จนเกิดการปลดปลอ่ ยธาตอุ าหารออกมาให้แกพ่ ืชได้รวดเร็วขนึ ซงึ่ มีอยหู่ ลายชนดิ ••การนาหัวเชือหรือจุลินทรีย์หัวเชือมาใช้ โดยการทดลองเรียนรู้ เก็บเก่ียวประสบการณ์และปรับประยุกต์ใช้ เชน่

๒ - ทาสารสกัดไล่แมลงเพอ่ื ปอ้ งกนั แมลง โดยใช้เหลา้ ขาว 2 แกว้ หวั เชอื จุลนิ ทรีย์ 1 แกว้ กากนาตาลแก้วครึ่ง ผสมรวมกนั แล้วนาไปฉีดพืชผัก พบว่าตน้ ทฉ่ี ดี ไมม่ ีแมลงมาใกล้ และยังพบว่าไข่แมลงฝ่อไมฟ่ ักเป็นตวั - การหมกั จุลนิ ทรยี ห์ นอ่ กลว้ ย โดยใชห้ น่อกล้วย 3 กโิ ลกรมั กากนาตาล 1 กโิ ลกรมั นาสะอาด 3 ลิตร พด.2 1 ซอง หมักและปิดฝาไว้นาน 7 วนั จะมีฝ้าสีขาว ๆ เกดิ ขึน กรองเอาเฉพาะนา (กากเอาไปใส่โคนต้นไม้) นาจุลินทรีย์หน่อกล้วย 10 ซซี ี ผสมกับนา 20 ลติ ร ฉีดพน่ ทางใบพืชจะงาม - การทาปยุ๋ หมกั โดยการนามูลสัตว์แห้งมาหมกั ซึ่งมสี ดั ส่วนของมูลสัตว์แห้ง 1 กิโลกรัม นาสะอาด 10 ลิตร เติมออกซิเจนระหว่างการหมักนาน 30 วนั กส็ ามารถนาไปใชไ้ ด้ - การทาฮอร์โมนไข่ ใช้ไข่ไก่ 2 กิโลกรัม เอามาทังฟองป่ันให้เข้ากัน กากนาตาล 2 กิโลกรัม นามะพร้าว 2 แกว้ นมสด 2 กล่อง นมเปรียว 2 ขวด แป้งข้าวหมาก 1 กอ้ น หมักไวน้ าน 1 คนื ไดฮ้ อร์โมนไข่ที่เปน็ อาหารใหก้ ับพืช - การทาอาหารตามสั่งให้กับพืช เช่น การนาฮอร์โมนไข่ 1 ลิตร จุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตร นมสด 2 ลิตร กากนาตาล 1 ลติ ร นาหมักมูลสตั ว์ 2 ลิตร หมักรวมกนั นาน 7 วนั ไดอ้ าหารตามสง่ั สาหรบั พืช 6. เรียนรูเ้ รื่องของธาตอุ าหารพชื แบง่ ธาตอุ าหารพืชออกเป็น 3 กล่มุ คอื 1) ธาตุอาหารหลัก ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรสั (P) โพรแทสเซยี ม (K) - N พืชตอ้ งการมากในช่วงแรกของเจริญเตบิ โต พบมากในขวี ัว - P ช่วยในการแตกรากแขนง ติดดอก ติดผล มมี ากในขไี กห่ รอื ขสี ัตว์ปกี - K เปลี่ยนรากเปน็ หวั เปลย่ี นสีเปน็ กล่ิน เปลี่ยนรสชาติ เปล่ียนหวั เป็นแป้ง มมี ากในขีหมู หรือให้จาง่าย ๆ ว่า “ข้ีหมูกนิ หวั ข้ีววั กินใบ ข้ไี กก่ ินผล” 2) ธาตุอาหารรอง เช่น Ca Mg S 3) ธาตอุ าหารเสริม เชน่ Bo Zn Cu Mn Mo Cl และอื่น ๆ 7. เรยี นรู้เรื่องแมลงศตั รูพืช สงั เกตว่าที่แปลงแมงปอมันบนิ หรือไม่ ลมจะเปน็ ตัวนาพาไข่แมลงศัตรูมาตกทีแ่ ปลง แลว้ แมงปอจะโฉมกินไขแ่ มลงเป็นอาหาร แมลงศัตรพู ืชมีสองแบบ คือ 1) แมลงปากกดั เช่น หนอนฝเี สือ ตัก๊ แตน แมลงปีกแข็ง เป็นต้น 2) แมลงปากดดู เชน่ เพลียอ่อน เพลยี จักจั่น เพลยี กระโดด เพลยี ไฟ ไรแดง เป็นต้น ขณะเดยี วกันต้องเรียนรู้เรื่องการกาจัดแมลงศัตรูพืชด้วยสารชีวภาพด้วย เช่น สารเมทตาไรเซี่ยม หรือเชือราบิวเวอร์ เรีย ซึ่งเป็นเชือราท่ีสามารถเข้าทาลายแมลงได้ตามข้อ ปล้อง และสามารถสร้างสปอร์ขึนมาได้ โดยเชือราจะเข้าไปกินนาหรือ Enzyme ในตัวของแมลงส่งผลใหแ้ มลงตายในทส่ี ุด 8. เรียนเรือ่ งของโรคพืช ทมี่ คี วามซับซอ้ นและหลากหลาย เชน่ โรคปม ๆ หรอื ปุ่มปม โรคใบจดุ โรคราแปง้ โรคใบไหม้ โรคแอนแทรคโนส คือ รากเน่า โคนเน่า ใบหยิกใบงอ หรือแคงเกอร์ที่ระบาดมากในมะนาว โรคตายพราย ที่เกิดจากเชือรา ฟูซาเรียมที่ไปอุดตันตามท่อนาเลียง ต้องรู้เรื่องการจัดการกับโรคพืช ตัวอย่างเช่น การใช้สารไตรโคเดอร์มาร์ที่สามารถทา ลายเส้นใยของเชอื โรคได้โดยเขา้ ไปกัดกิน 9. เรียนรู้เร่ืองการขยายพันธ์ุพืช เพ่ือเพิ่มปริมาณของต้นพืชให้มากขึนและเพ่ือดารงสายพันธ์ุหรือพันธุกรรมไว้ไม่ให้ สูญหาย เชน่ เกบ็ เมลด็ พนั ธุ์ การตอน ทาบก่งิ การตดิ ตา การเสียบยอด การปกั ชา

๓ ตวั อยา่ งการจัดการพน้ื ที่ 1 ไรม่ ีกิน มใี ชท้ ง้ั ปี ของไรอ่ รหันต์ 1. การวางกลยทุ ธ์ท่ไี รอ่ รหันต์ แบง่ พืชออกเปน็ กองดังนี้ (1) กองทหารเกณฑ์ 20% คือพืชอายุสัน เช่น ผักสวนครัว พริก มะเขือ หัวหอม กระเทียม ผักชี คะน้า แมงลัก กะเพรา โหรพา เป็นตน้ (2) กองกลางนายสิบ กาหนดไว้ 30% คือพืชอายุไม่เกิน 1 ปีสามารถให้ผลผลิต เช่น กล้วย ข้าวโพด มะละกอ แก่นตะวนั เปน็ ตน้ (3) กลมุ่ นายรอ้ ยกาหนดไว้ 40% เปน็ พชื กล่มุ ไม้ผลชนดิ ตา่ งๆ (4) กลุ่มนายพลกาหนดไว้ 10% คอื กลุ่มไมบ้ านาญหรอื ไม้ยืนตน้ เชน่ ตน้ สัก ตน้ ยางนา มะคา่ และอืน่ ๆ (5) กองกาลงั ทหารเสริม เช่น กบ ปลา เปด็ ไก่ดา ไกแ่ จ้ กิง่ พันธ์ุ เมลด็ พันธ์ุ และอน่ื ๆ 2. การจดั สรรแปลง 1 ไร่ แบง่ ออกเปน็ 4 ส่วน โดยแบ่งเป็นคล้ายๆ เครื่องหมายบวก (+) ตรงกลางเคร่ืองหมายบวก คือบ่อนา ส่วนเส้นเคร่ืองหมายบวก คือ พืนที่ทางเดิน ซ่ึงปลูกพืชผักต่าง ๆ เช่น ฟัก แฟง นาเต้า บวบงู ที่สามารถเก็บกิน เก็บ ขาย เก็บเมล็ดพันธ์ุ (ขายทังท่ีเป็นลูก/ผักหรือขายเมล็ดพันธ์ุ) สัดส่วนการแบ่งเป็นแปลงกาหนดการเพาะปลูกในพืนที่ 20x20 เมตร ทัง 4 แปลง ดงั นี 2.1 แปลงท่ี 1 ปลูกสลิดพันธุ์ดอก โดยปลูกต้นหน่ึงห่างกัน 50 X 50 ซม. ให้ผลผลิต 3 ช่อมีนาหนัก 100 กรมั เก็บขายหนา้ สวนกิโลกรมั ละ 50 บาท ขายได้วันละ 200 บาท 1 ปขี ายได้ 7 เดือน นอกจากนีสามารถนากิ่งสลิดไปชาต่อได้ โดยใช้ 3 กงิ่ ตอ่ ถุง และขายกงิ่ พันธถุ์ ุงละ 30 บาท 2.2 แปลงที่ 2 ปลูกหน่อไม้หวาน 10 กอ เก็บผลผลิตหน่อไม้ขาย แปรรูปขาย ตอนกิ่งไผ่ขาย ปลูกชะอมไร้ หนาม 5 ต้น เนน้ ปลกู ไวก้ นิ และตอนกงิ่ ขายตน้ ละ 40 บาท ปลกู มะเขือพวงไรห้ นาม 20 ต้น ขายผลและเพาะกล้าขาย 2.3 แปลงท่ี 3 ปลกู ไม้ผล ไดแ้ ก่ ฝร่งั แดงทบั ทิมสยาม ตอนกิ่งฝรั่งขาย ต้นละ 100 บาท และสะเดาดา มีฤทธิ์ ช่วยยบั ยงั มะเรง็ ระหวา่ งกอไมผ้ ล หรอื ระหว่างตน้ ปลูกผกั สวนครวั ชนิดตา่ ง ๆ 2.4 แปลงที่ 4 ปลกู พรกิ เพราะทกุ คน ทุกบ้านกินพรกิ กนิ ทังตาบล กินทงั อาเภอ กนิ ทงั ประเทศ กนิ ทงั โลก เลือกปลูกพริกสายพันธุ์แปลกๆ เช่น พริก 7 สี พริกไข่มุก พริกพิโรธ พริกฟักทอง เก็บพริกขาย ทังพริกสด พริกแห้ง และเพาะเมล็ดขาย ขายราคาต้นละ 20 บาท ปลูกมะละกอ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน 10 เดือน ขายลูกมะละกอได้ราคา กิโลกรมั ละ 40-100 บาท แตถ่ ้าเพาะเมล็ดขายตน้ กล้า เท่ากับสามารถเพมิ่ มูลคา่ ของมะละกอ 1 ลูกไดเ้ ปน็ เงินหลายบาท การทาเกษตรต้องมี 4 การ อันประกอบด้วย 1. มีอุดมการณ์ คือ มีความเชอื่ มน่ั วา่ เกษตรอยู่รอด เกษตรเลียงชีพได้ 2. มีวชิ าการ คือ เราตอ้ งรหู้ ลักการ เชน่ การลดตน้ ทุน การเพิ่มผลผลติ การแปรรปู 3. มปี ระสบการณ์ คอื การลงมือปฏบิ ตั ิ ท่มี คี วามเขา้ ใจอย่างถ่องแท้ 4. มีจินตนาการ คือ คาดการณอ์ นาคตว่าตลาดของเกษตรจะเป็นอยา่ งไร ไปในทศิ ทางไหน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook