Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศิลปการใช้คนในสามก๊ก

ศิลปการใช้คนในสามก๊ก

Description: ศิลปการใช้คนในสามก๊ก

Search

Read the Text Version

จนีอเยราอื่ กงร� ศิลปะนึกถึง 管 การใช้คนใน 理 理 论 บุคลากรศาสตร จากวรรณคดชี น้ั เยยี่ ม ผสานใชไดกบั ทกุ องคก ร ทกุ ระดับช้ัน ใหล ุถึงการ “ใชค นเปน” อยางแยบยล ºØ- ÈÑ¡´Ôì áʧÃÐÇÕ แปลและเรยี บเรียง

กในารศิลใชปะ้คน บ-ุ ศกั ด์ิ แสงระวี แปลและเรียบเรยี ง

กในารศิลใชปะ้คน บุ- ศกั ด์ิ แสงระวี พิมพ์ครั้งท่ี 4 ปรบั ปรงุ ใหม่ : ตลุ าคม 2557 จัดพิมพ์โดย : สา� นกั พิมพส์ ขุ ภาพใจ บริษทั ตถาตา พบั ลเิ คช่นั จา� กดั ประธานกรรมการบรหิ าร : บญั ชา เฉลมิ ชยั กิจ กรรมการผู้จัดการ : โชนรังสี เฉลมิ ชัยกจิ คณะที่ปรกึ ษา : ถาวร สิกขโกศล, ประชา หตุ านวุ ตั ร, จรัสศรี จริ ภาส ผ่องศรี ลือพร้อมชยั , สงวนศรี ตรเี ทพประติมา ผจู้ ดั การสา� นกั พมิ พ์ : อลีน เฉลิมชยั กจิ บรรณาธกิ ารบรหิ าร : วรตุ ม์ ทองเช้อื บรรณาธกิ าร : ขวญั ชัย สนั ตสิ ขุ คงชยั เลขานุการคณะบรรณาธิการ : กนกพร ถา�้ โคนทอง ออกแบบปก/ศลิ ปกรรม : ณฐั พงษ์ ภาคีแพทย์ ฝา่ ยการตลาด : อคั คณัฐ ชมุ นุม, อรปราง อธหิ ริ ญั วงศ์ ฝา่ ยขาย : มนัญชยา ศริ ิวงษ์, อดุ ร ปัญญาชัย, นธิ วิ ทิ ย์ วรสมภพพล ฝา่ ยโรงพมิ พ์ : ไพบูลย์ ชาคริยานนท์ ข้อมลู ทางบรรณานกุ รมของสา� นักหอสมุดแห่งชาติ ฮว่ั อวี่เจีย. ศิลปะการใชค้ นในสามก๊ก.-- กรุงเทพฯ : ตถาตา, 2557. 288 หน้า. 1. นวนยิ ายจนี --ประวตั แิ ละวจิ ารณ.์ 2. ตวั ละครและลกั ษณะนสิ ยั ในวรรณคด.ี I. บญุ ศักดิ์ แสงระวี, ผู้เแปล. II. ชอ่ื เรือ่ ง. 895.13009 ISBN 978-616-7105-85-7 พิมพท์ ี่ : ฝา่ ยโรงพิมพ์ บรษิ ัท ตถาตา พบั ลิเคช่ัน จา� กดั โทรศพั ท์ 0-2415-6797 จดั จ�าหนา่ ย : สายสง่ สขุ ภาพใจ บรษิ ัท บุ๊ค ไทม์ จ�ากดั 214 ซ. พระรามท่ี 2 ซอย 38 ถ. พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรงุ เทพฯ 10150 โทรศัพท์ 0-2415-2621, 0-2415-6507 โทรสาร 0-2416-7744 แนะนา� เพ่มิ เติมตดิ ตอ่ : [email protected] www.booktime.co.th SukkhapabjaiPUB

เบิกวิถคี ัดทรัพยบุคคล นับแต่บรรพกาลมา ที่มนุษย์มีระบบระบอบการปกครอง การเลือกเฟนบุคลากร เพื่อท�าหน้าท่ีต่าง ๆ ในสังคมก็เริ่มมีมา ดว้ ยแตน่ นั้ สืบต้ังแตอ่ ริยกษัตริย์ฝูซี มาถงึ เหยียนตี้ ถงึ หวางต้ี เร่ือยมาจนถึงพระเจ้าเหยาส่งต่อบัลลังก์ให้พระเจ้าซุ่น เหตุว่า เพียบพร้อมด้วยความกตัญูเปนเลิศ พระเจ้าซุ่นก็สืบต่อบัลลงก์ ให้พระเจ้าอว่ี เพราะแก้ไขอุทกภัยจากแม่น้�าเหลืองได้ เหล่านี้ ลว้ นบอกใหร้ วู้ า่ ผคู้ นในสมยั กอ่ น เลอื กใชค้ นจากความเหมาะสม และคุณสมบัติอันมีอยู่อย่างโดดเด่นในตัวผู้น้ัน ไม่ได้เลือกจาก ความใกล้ชิด สนิทสนม หรือล�าดับอาวุโสก่อนหลังแต่อย่างไร แต่ทว่ากาลต่อมาถึงปัจจุบัน มีอยู่ไม่น้อยทีเดียว ที่การ เลือกสรรใช้คนผิดเพ้ียนไปจากพระเจ้าเหยาและพระเจ้าซุ่น และ การกระท�าดังน้ัน ก็ปรากฏให้เห็นถึงความล้มเหลวมาแล้วนับ ครั้งไม่ถ้วนในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่เว้นแม้แต่ในยุคสมัย อันโด่งดังอย่าง สามกก ! ช่วง สามกก เต็มไปด้วยการศึกสงคราม การเมืองการ ปกครอง การเจรจาการทูต กิจเหล่าน้ีล้วนต้องอาศัยบุคลากรท่ี มีอยู่อย่างมากมาย แต่มีสักกี่คนท่ีรู้จักและเข้าถึงการ “ใช้คน” อย่างแท้จริง เหตุน้ี ศิลปะการใชคนในสามกก จึงกลั่น คัด กรอง แนววถิ แี หง่ การเลอื กใชค้ นของบคุ คลดงั ในยคุ นนั้ เชน่ ขงเบง้ โจโฉ เล่าป ซุนกวน มาแสดงให้เห็นเปนแนวทางการ

4 ศลิ ปะการใชค นในสามกก บริหารจดั การทรพั ยากรมนษุ ย์ ทใ่ี ชไ้ ดก้ บั ทกุ องคก์ ร ทกุ วงการ เปรยี บเปน กระจกส�าหรับนักบริหารและผู้ที่สนใจเข้าถึงการใช้คนให้ประสบผลส�าเร็จ ได้ส่องสะท้อนตนให้น�ามาปรับใช้อย่างถูกต้อง จนเรียกได้ว่า \"ใช้คนเปน\" ศิลปะการใชคนในสามกก ที่ปรากฏแก่สายตานี้ นับเปนยอดยุทธ์ ภูมิปัญญาทางด้านบุคลากรศาสตร์ของจีนโบราณ ท่ีมีมานับพันป และผ่าน การพิสูจน์ปฏิบัติมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น จากผู้คนหลากหลายวงการ ท่ี ต่างก็ยืนยันว่า แนวทางการใช้คนในสามก๊ก เปนศาสตร์เปนศิลปแห่งการ เลือกเฟนคนตามแบบอย่าง ไม่ผิดเพ้ียนไปจากพระเจ้าเหยาและพระเจ้า ซุ่นในอดีตเลย ใช้คนอย่างมีศิลป

คาํ นาํ ผแู ปล ในเมืองไทยเรา นับแต่มีหนังสือพงศาวดารจีนเร่ือง สามกก ฉบับภาษาไทยซ่ึงอ�านวยการแปลโดยเจ้าพระยา พระคลัง (หน) ขึ้น และได้แพร่หลายเปนท่ีต้อนรับโดยทั่วไปแล้ว ก็เข้าใจกันว่า สามกก ฉบับน้ี ก็คือประวัติศาสตร์จริงสมัยสาม ก๊กของจีน และเข้าใจกันอยู่อย่างน้ีจวบจนปัจจุบัน ท่ีแท้แล้ว สามกก มีอยู่ด้วยกัน 2 ฉบับ ฉบับหน่ึงเปน ประวัติศาสตร์จริงของสามก๊ก มีชื่อเรียกเปนภาษาจีนกลางว่า ซานกวอจว้ือ มีความหมายทางภาษาไทยว่า จดหมายเหตุ สามกก ซึ่งบันทึกเรื่องราวของสามก๊กไว้ตามข้อเท็จจริงของยุค นั้น เขียนโดยเฉินโซ่ว อีกฉบับหน่ึงเปนนิยายอิงประวัติศาสตร์ ชื่อ ซานกวอเหย่ียนอ้ี ซึ่งพอจะแปลความหมายในทางภาษา ไทยวา่ ตาํ นานสามกก เขยี นโดยหลวั กว้ นจง ในรปู แบบนวนยิ าย แต่ก็มิได้ละเลยหรือทิ้งข้อเท็จจริงส�าคัญ ๆ ทางประวัติศาสตร์ ของสามก๊กไปแต่ประการใด เมื่อได้ตรวจสอบเปรียบเทียบแล้ว ปรากฏว่า สามกก ฉบับท่ีเจ้าพระยาพระคลัง (หน) อ�านวยการแปลเปนภาษาไทย น้ัน เปน ซานกวอเหยี่ยนอ้ี หรือ ตํานานสามกก นิยายอิง ประวัติศาสตร์ของหลัวก้วนจง ไม่ใช่ ซานกวอจว้ือ หรือ จดหมายเหตุสามกก ของเฉินโซ่ว และเมื่อตรวจสอบเปรียบ

6 ศลิ ปะการใชค นในสามกก เทียบลึกเข้าไปอีก ยังปรากฏว่า แม้แต่ สามกก ฉบับภาษาไทยท่ีเจ้าพระยา พระคลัง (หน) อ�านวยการแปลนั้น ก็ยังมีความคลาดเคล่ือนกับ ซานกวอ เหยี่ยนอ้ี หรือ ตํานานสามกก ของหลัวก้วนจงฉบับภาษาจีนไปไม่น้อย โดยเฉพาะจ�านวนตอน ซ่ึงในฉบับภาษาจีนมี 120 ตอน แต่ของภาษาไทย เหลือเพียง 87 ตอน หายไปถึง 33 ตอน ความคลาดเคลื่อนน้ี อาจมาจากเหตุ 2 ประการ หนึ่งคือ ผู้แปลอาจจงใจตัดข้อความบางตอนท้ิงไปเสียโดยคิดเอา ว่าเยิน่ เย้อไมส่ �าคญั ซง่ึ เปนความเขา้ ใจผิด ซานกวอเหย่ยี นอี้ หรือ ตาํ นาน สามกก ได้ผูกเรื่องไว้ให้ต่อเน่ืองเช่ือมโยงกันโดยพิสดาร เม่ือถูกตัดตอน หนึ่งตอนใดไปแล้ว เร่ืองราวก็จะไม่สอดรับกับเร่ืองราวในตอนหลัง ท่ีได้ ย้อนกลับไปเท้าความถึงตอนต้นในภายหลังต่อมา สองคือ หลังจากหลัวก้วนจงเขียน ซานกวอเหย่ียนอี้ หรือ ตํานาน สามกก เม่ือสมัยราชวงศ์หมิง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างแพร่หลาย ต่อมา มีผู้น�าไปปรับปรุง ตัดต่อ แก้ไข เพ่ิมเติมกันหลายต่อหลายคน ต่างคนต่าง ท�า ซานกวอเหย่ียนอี้ หรือ ตํานานสามกก จึงมีหลายส�านวนที่แตกต่าง กันไป แต่ก็ยังใช้ชื่อหลัวก้วนจงเปนผู้เขียนอยู่อย่างเดิม จึงไม่ทราบว่า ผู้ แปลภาษาไทย ได้น�าส�านวนไหนมาแปล ฉะน้ันจึงคลาดเคลื่อนกับฉบับ ภาษาจีนท่ีนิยมอ่านกันอยู่ในปัจจุบัน ที่ปรับปรุงแก้ไขโดยเหมาจงก่าง นักอักษรศาสตร์ผู้ลือช่ือ ในสมัยราชวงศ์ชิงซึ่งมี 120 ตอน ดังกล่าว ส่วนเรื่องความเปนมาของสามก๊ก และของหนังสือ สามกก ตลอด จนชีวประวัติผู้เขียนทั้งสองคน ท่านผู้อ่านจะดูได้จากบทความเร่ือง สามกกจ่ี และ สามกกเอ้ียนหงี ของอาจารย์ยง อิงคเวทย์ ซ่ึงท่านได้ เขียนความละเอียดไว้หลายแง่หลายมุม อันเปนประโยชน์อย่างยิ่งส�าหรับ ผู้ท่ีสนใจ ซึ่งได้รวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วยแล้ว เพ่ือความสะดวกของ ท่านผู้อ่าน

คาํ นําผูแปล 7 ส�าหรับหนังสือ ศิลปะการใชคนในสามกก เล่มนี้ ฮ่ัวอวี่เจียได้ถือ ซานกวอเหย่ียนอี้ หรือ ตํานานสามกก 120 ตอน ท่ีตรวจแก้ไขโดย เหมาจงก่างเปนต้นฉบับในการวิเคราะห์วิจัย ซ่ึงในขณะแปลเร่ืองนี้ จึงต้อง ประสบกับความยุ่งยากหลายประการจากความคลาดเคล่ือนดังกล่าว ข้างต้น นี่เปนส่วนหน่ึง อีกส่วนหนึ่ง ยังประสบกับความยุ่งยากในการเทียบ ชื่อ สถานที่ และบุคคลในสามก๊ก ซึ่งในฉบับภาษาไทยของเจ้าพระยา พระคลัง (หน) ใช้เปนภาษาฮกเกี้ยนเปนส่วนใหญ่และได้ปะปนภาษาแคะ แต้จ๋ิวเข้าไปบ้าง อันท�าให้เกิดความสับสนเปนอย่างยิ่ง ใช่แต่เท่านั้น แม้แต่ ชอื่ สถานทแี่ ละบคุ คลเดยี วกนั ตอนหนา้ ใชอ้ ยา่ ง ตอนกลางใชอ้ ยา่ ง ตอนหลงั ก็ใช้อีกอย่างบ้าง ในภาษาจีนกล่าวถึง แต่ในภาษาไทยหาไม่พบหายไป เสียเฉย ๆ ก็มี ดังนี้ เปนต้น อย่างไรก็ดี สามกก ฉบับภาษาไทยของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ก็เปนวรรณกรรมแปลชิ้นเอกท่ีไม่อาจปฏิเสธได้ แม้มีข้อบกพร่องดังกล่าว อยู่ก็ตาม ในการแปลเรื่องนี้ ข้อความใดท่ีภาษาจีนได้อ้างไว้ ในภาษาไทย มีตรงกัน ผู้แปลก็ได้อัญเชิญส�านวนของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) มาใส่ไว้ แต่มิได้ระบุว่าหยิบยกมาจากตอนใด ซึ่งก็มีอยู่เท่าท่ีจ�าเปน ส่วนที่ไม่มีหรือ ไม่ตรงกับของภาษาจีน ก็ได้แปลขึ้นมาใหม่ตามเนื้อของความภาษาจีน ส่วนช่ือสถานที่และบุคคลได้ใช้ตามต้นฉบับของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ส�าหรับที่ไม่ปรากฏในภาษาไทย ผู้แปลก็แปลเปนส�าเนียงภาษาจีนกลาง ตามความนิยมในปัจจุบัน ส�าหรับภาพวาดท่ีใช้ประกอบในหนังสือเล่มน้ี ได้เลือกเฟนมาจาก ต้นฉบับ ตํานานสามกก ของหลัวก้วนจงฉบับภาษาจีน ซ่ึงจัดพิมพ์ต้ังแต่ สมัยราชวงศ์ชิงโน้น โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดเปนผู้วาด จึงขอเรียนมาเพ่ือทราบ และขออภัยในความบกพร่องซึ่งก็คงจะมี ในหนังสือเล่มน้ีไว้ ณ ที่นี้ด้วย บุญศักดิ์ แสงระวี

8 ศลิ ปะการใชค นในสามกก สารบัญ สามกกจี่ และ สามกกเอ้ียนหงี ...............................15 สังเขปเหตุการณสมัยสามกก .............................................16 หนังสือ สามกกจ่ี (จดหมายเหตุสามกก).......................... 20 เน้ือหาในหนังสือ สามกกจ่ี.............................................. 21 ประวัติตันซิ่ว ผู้ประพันธ์ จดหมายเหตุสามกก ................22 สามกกจี่เอี้ยนหงี (นิทานสามกก หรือ ตํานานสามกก) .................................................................. 27 ความหมายของชื่อหนังสือ นิทานสามกก (ตํานานสามกก) ............................................................. 27 ประวัติผู้เรียบเรียง นิทานสามกก ....................................29 เนื้อหาส�าหรับเรียบเรียง นิทานสามกก ...........................29 เค้าเร่ือง นิทานสามกก........................................................31 ความส�าเร็จของ นิทานสามกก .......................................35 อิทธิพลของ นิทานสามกก .............................................36 ค�าวิจารณ์หนังสือ นิทานสามกก .....................................37 การจัดพิมพ์หนังสือ สามกกจ่ีเอ้ียนหงี ของล่อกวนตง.......38 ประเมินค่าของ สามกกจ่ี และ สามกกจ่ีเอ้ียนหงี ............39

สารบญั 9 1 นําเร่ือง ............................................................41 2 ความรุงเรืองและความเสื่อมโทรม ของสามกกกับการใชคน ..................................... 55 ใช้คนถูก สามกกเกิด.......................................................... 56 เล่าปเปล่ียนฐานะเม่ือได้ขงเบ้ง ..........................................56 ซุนฮกช่วยโจโฉครองภาคเหนือ .........................................63 ซุนกวนคุมกังต๋ังเม่ือฟังโลซก..............................................71 ใช้คนผิด ทุกกกล่ม ..............................................................77 ราชวงศ์วุยใช้โจซอง เสียอ�านาจแก่ตระกูลสุมา ...................77 เล่าเส้ียนหลงเช่ือฮุยโฮ เสียจ๊กก๊ก ......................................82 ซุนโฮใกล้ชิดคนถ่อย ถูกจิ้นตีแตก......................................86 3 จุดเดนการใชคนของสามกก ...............................91 เพียบพร้อมด้วยศีลธรรมความสามารถ จุดเด่นการใช้คนของขงเบ้ง................................................ 92 เอาแต่ความสามารถเปนท่ีตั้ง จุดเด่นการใช้คนของโจโฉ.................................................. 99 ระแวงไม่ใช้ ใช้ไม่ระแวง จุดเด่นการใช้คนของซุนกวน ............................................109 4 เปรียบเทียบการใชคนในสามกก........................ 115 จุดซ่ึงมีร่วมกัน ...................................................................116 ไม่ถืออาวุโส ไม่ยึดกฎตายตัว........................................... 116 ไม่ถือความใกล้ชิด แยกคุณโทษแจ่มชัด............................ 119

10 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ต่างมีดีมีเสีย...................................................................... 125 เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการใช้คน ระหว่างขงเบ้งกับโจโฉ .....................................................125 เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการใช้คน ระหว่างโจโฉกับซุนกวน ...................................................128 เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการใช้คน ระหว่างซุนกวนกับขงเบ้ง ................................................. 131 5 ศิลปะการปกครองคนในสามกก ........................ 137 ศิลปะการปกครองคนของเล่าป....................................... 138 โยนอาเต๊า .......................................................................139 กระโดดน�้าตาย ................................................................142 เสือกไสขุนพล..................................................................146 ปฏิเสธชีจิ๋ว ......................................................................148 ฝากเล่าเสี้ยน ...................................................................150 ศิลปะการปกครองคนของขงเบ้ง ..................................... 155 เคร่งกฎหมาย ..................................................................155 เอาชนะทางใจ..................................................................159 ถือสัจจะ ......................................................................... 161 ย่ัวยุขุนพลอย่างแยบยล....................................................163 ศิลปะการปกครองคนของโจโฉ........................................ 166 หัวเราะกับร้องไห้ .............................................................167 โกรธกับรัก ...................................................................... 171 เผาจดหมาย ....................................................................173 ตัดผมแทนหัว ..................................................................178 ให้ยศศักดิ์เงินทอง............................................................ 181

สารบัญ 11 ศิลปะการปกครองคนของซุนกวน................................... 183 ดูแผลให้ยา ......................................................................184 แปลงศัตรูให้เปนมิตร .......................................................189 นัดแต่งงาน...................................................................... 191 6 ขอเตือนสติจากการใชคนในสามกก.................... 193 เคารพนักปราชญยกย่องบัณฑิตจึ่งได้บัณฑิต.................. 194 สามัคคีคนทั้งปวง จึงสามารถบรรลุภารกิจ ..................... 198 ใช้คนที่ความสามารถ ไม่ใช่ท่ีแก่หรือหนุ่ม ...................... 201 อย่าเลือกคนแต่รูปร่างหน้าตา .........................................203 ภัยของการปฏิเสธค�าทักท้วง ............................................ 207 จุดจบของการตั้งกลุ่มพรรคพวก...................................... 213 ใช้เล่หได้คน แต่ไม่ได้ใจคน.............................................. 218 ข้อเสียของการเหมางานท�าแทน......................................225 7 ผลรายของการใชคนเอาแตความใกลชิด ในสามกก ....................................................... 229 เลนเต้ใช้ 10 ขันที บ้านเมืองจึงวุ่นวาย............................ 231 ราชส�านักฮ่ันใช้โฮจ๋ินจึงล่มจม..........................................235 ต๋ังโตะใช้ลิโปคอจึงหลุดจากบ่า.........................................239 โจโฉใช้แฮหัวเอี๋ยนจึงเสียฮ่ันตง........................................244 เล่าปใช้กวนอูเสียเกงจิ๋ว ...................................................247

12 ศลิ ปะการใชค นในสามกก 8 เร่ืองนาช่ืนชมในการรูจักคนของสามกก.............. 254 โจโฉอุ่นสุราถกเร่ืองวีรบุรุษ ..............................................255 เล่าปพูดถึงม้าเจก .............................................................258 ชีซีวิเคราะหเล่าเปยว........................................................263 เล่าปเช่ือจูล่งไม่ทรยศ.......................................................266 จูกัดก๋ินรู้จักลูกชายตนเอง................................................268 9 กลวิธีแนะนํานักปราชญในสามกก...................... 270 สุมาเตกโชแนะน�าขงเบ้งอย่างแยบคาย ........................... 271 ชีซีชักม้าหวนกลับมาแนะน�าขงเบ้ง.................................. 274 ขงเบ้งแนะน�าบังทองไม่เห็นแก่ตัว ...................................278 ง�าเตกเอาชีวิตครอบครัวประกันลกซุน............................282 ซุนฮกแนะน�านักปราชญแก่โจโฉ......................................284 นักปราชญในง่อกกแนะน�าซึ่งกันและกัน ......................... 286



โจโฉต้ังตนเป็นอ๋อง

สามกกจ่ี และ สามกก เอ้ียนหงี * หนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สมัยสามก๊กฉบับภาษาจีน ท่ีนับว่ามีความส�าคัญและเปนที่รู้จักกันโดยท่ัวไปมีอยู่ 2 ชุด ชุด หน่ึงเรียกว่า สามกกจี่ เปนจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ในยุค สามก๊ก ส่วนอีกชุดหน่ึงเรียกว่า สามกกจ่ีทงซกเอ้ียนหงี (หรือ สามกกจ่ีเอ้ียนหงี หรือ สามกกเอ้ียนหงี) ชุดน้ีเปนนิทานอิง พงศาวดารสามก๊ก หนังสือเรื่อง สามกก พากย์ไทยเปนฉบับท่ีแปลจาก หนังสือนิทานอิงพงศาวดาร สามกก คือ สามกกจี่เอ้ียนหงี (ตํานานสามกก) *บทความนี้ ตัดต่อมาจากบทความในชื่อเดียวกันของผู้เขียน

16 ศลิ ปะการใชค นในสามกก สังเขปเหตุการณสมัยสามกก สมัยสามก๊กคือระยะเวลาซ่ึงในประเทศจีนมีรัฐอิสระ 3 รัฐ ได้แก่ รัฐวุ่ย รัฐจ๊กฮั่น และรัฐหงอ ต่างยึดครองอาณาเขตของบางมณฑล และต่าง สถาปนาราชวงศ์ของตน เร่ิมต้ังแต่ พ.ศ. 763 (ค.ศ. 220) จนถึง พ.ศ. 823 (ค.ศ. 280) รวมเวลา 60 ป รัฐวุ่ยของโจผีบุตรชายโจโฉมีอาณาเขตกว้าง ใหญ่ทางภาคเหนือ รัฐจ๊กฮ่ันของเล่าปได้ครองอาณาเขตเพียง 2-3 มณฑล ทางภาคตะวันตก ส่วนรัฐหงอของซุนกวนได้ครองอาณาเขตหลายมณฑล ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ต้นเหตุที่ท�าให้เกิดมีสามก๊ก อาจกล่าวได้ว่า สืบเนื่องมาจากอ�านาจ การปกครองของรัฐบาลตอนปลายสมัยราชวงศ์ฮ่ันตะวันออก เร่ิมเส่ือมมา ตั้งแต่แผ่นดินพระเจ้าฮ่ันเต้และพระเจ้าเลนเต้ เพราะพระมหากษัตริย์ท้ัง สองพระองค์ไม่คบหาขุนนางผู้มีธรรมจรรยา กลับเช่ือและวางใจในพวก ขันที ถึงกับปล่อยให้พวกขันทียุ่งเก่ียวกับราชการบ้านเมือง พวกขันทีจึง ถือโอกาสใส่ร้ายขุนนางผู้ใหญ่และร่วมกันฉ้อราษฎร์บังหลวงขายต�าแหน่ง พนักงานให้พวกเหล่านั้นไปรีดนาทาเร้นราษฎร จนประชาชนเดือดร้อนกัน มาก บ้านเมืองจึงเกิดจลาจลอยู่ท่ัวไป ต่อมาเกิดโจรโพกผ้าเหลืองก่อการ กบฏ ตั้งกองทัพต่อสู้กับกองปราบปรามของรัฐบาล บ้านเมืองระส่�าระสาย ลุกลามไปหลายมณฑล เจ้าเมืองตามหัวเมืองต่าง ๆ ก็ถือโอกาสในการ ปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง เสริมสร้างก�าลังทหารของตน ต่อมาในปที่ 6 ของศักราชตงเผ็ง (พ.ศ. 723) พระเจ้าเลนเต้สวรรคต โฮจิ๋นแม่ทัพใหญ่ผู้เปนพ่ีชายของพระมเหสีโฮเฮา ได้เชิญเล่าเปยนโอรส ของโฮเฮาข้ึนครองราชย์ แล้วโฮจิ๋นก็คิดอุบายจะก�าจัดพวกขันที แต่โฮจิ๋น

สามกก จี่ และ สามกกเอ้ียนหงี 17 ไม่ได้ใช้อ�านาจอันอยู่ในมือของตนจับขันทีลงโทษ หากแต่ได้มีหนังสือไป บอกต๋ังโต๊ะขุนพลเมืองซีเหลียงยกกองทัพเข้าปราบปรามพวกขันทีใน นครหลวง พวกขันทีรู้เข้าจึงลวงให้โฮจิ๋นเข้าวังแล้วฆ่าเสีย คร้ันเมื่อตั๋งโต๊ะ มีโอกาสยกกองทัพของตนเข้านครหลวง ตั๋งโต๊ะก็ก�าเริบถอดพระยุวกษัตริย์ เสีย แล้วเชิญเล่าเหียบพระอนุชาต่างมารดาของยุวกษัตริย์ข้ึนครองราชย์ แทน คือพระเจ้าเหี้ยนเต้ และต๋ังโต๊ะยังส่งสมุนของตนไปลอบฆ่ากษัตริย์ องค์ท่ีถูกถอดกับนางโฮเฮาด้วย เน่ืองจากต๋ังโต๊ะใช้อ�านาจถอดพระมหากษัตริย์ แม่ทัพและเจ้าเมือง ภูมิภาคหลายเมืองจึงรวมพลกันยกกองทัพมาปราบตั๋งโต๊ะแต่ไม่ส�าเร็จ ต่อมาต๋ังโต๊ะถูกขุนนางคนอ่ืนใช้อุบายฆ่าตาย หลังจากน้ันเจ้าเมืองที่มีก�าลัง กองทัพต่างก็รุกรานแย่งชิงอาณาเขตของกันและกัน เม่ือโจโฉมีโอกาสได้ เขา้ ไปช่วยปราบสมนุ ของตง๋ั โตะ๊ ในนครหลวงส�าเร็จ โจโฉกก็ ุมอา� นาจราชการ และยกกองทัพไปปราบหัวเมืองต่าง ๆ ทางภาคเหนือจนราบคาบ แล้วสร้าง อิทธิพลของตนเหนือพระเจ้าเห้ียนเต้อยู่หลายป พระเจ้าเห้ียนเต้จ�าต้องตั้ง ให้โจโฉมีศักด์ิเปนวุ่ยกง และเลื่อนขึ้นเปนวุ่ยอองซ่ึงมีศักด์ิเปนรองจาก พระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น เมื่อโจโฉตาย โจผีลูกชายคนโตของโจโฉก็ขึ้นเปนวุ่ยอองต่อจากพ่อ ในปท่ี 25 ศักราชเกี้ยนอันแผ่นดินพระเจ้าเหี้ยนเต้ (พ.ศ. 763) และในป เดียวกันนั้นเอง โจผีก็ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนบังคับพระเจ้าเห้ียนเต้โอน พระราชสมบัติให้แก่ตน สถาปนาตนเองเปนปฐมกษัตริย์ราชวงศ์วุ่ย และ ต้ังให้พระเจ้าเห้ียนเต้เปนซันเอ๋ียงกงไปประทับอยู่ที่เมืองซันเอ๋ียง แล้ว โจผีย้ายเมืองหลวงกลับไปอยู่ในนครลกเอี๋ยง หลังจากโจผีปลดพระเจ้าเห้ียนเต้เพียง 1 ป เล่าปผู้ยึดครองเมือง เอ๊กจ๋ิว (เสฉวนปัจจุบัน) กับเมืองฮ่ันตงได้ข่าวว่า พระเจ้าเห้ียนเต้ถูกชิง ราชสมบัติและถูกท�าร้ายถึงส้ินพระชนม์ เล่าปจึงสถาปนาตนเองข้ึนเปน กษัตริย์ราชวงศ์ฮ่ันต่อจากพระเจ้าเหี้ยนเต้ ต้ังเมืองเซ็งโตเปนเมืองหลวง

18 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ส่วนซุนกวนผู้ปกครองดินแดนตอนใต้ของลุ่มน�้าแยงซีเกียง และเคย ยอมสวามิภักดิ์ต่อโจผี ยอมรับสนองพระราชโองการพระเจ้าโจผีต้ังให้ตน เปนหงออองอยู่ได้ 7 ป ก็สถาปนาตนเปนมหากษัตริย์ราชวงศ์หงอ (พ.ศ. 772) ตั้งเมืองหลวงที่เกี้ยนเงียบ เมื่อก๊กวุ่ย ก๊กฮั่น และก๊กหงอต่างสถาปนาราชวงศ์ของตนข้ึนแล้ว ภาวการณ์บ้านเมืองในสมัยนั้นจึงมีลักษณะเปนสามเส้า คล้ายสามขาท่ีตรง เชิงกระทะโบราณจีน ก๊กทั้งสามดังกล่าวนี้ท�าสงครามรบพุ่งกันเกือบไม่เว้น แต่ละป สงครามสามก๊กส่วนใหญ่เปนสงครามซึ่งก๊กจ๊กน�าทัพไปตีก๊กวุ่ย เพราะขงเบ้งสมุหนายกของก๊กฮั่น (หรือจ๊ก) ถือว่าอุดมการณ์ของราชวงศ์ ฮั่นซึ่งตนรับราชการอยู่ ก็คือต้องปราบดัสกรวุ่ยให้ส�าเร็จ เพราะเหตุว่า โจโฉเปนเสนียดแผ่นดิน และโจผีชิงราชสมบัติของราชวงศ์ฮั่น อีกท้ังพระเจ้า เล่าปก่อนสิ้นพระชนม์ก็มอบหมายให้ขงเบ้งปราบอริราชศัตรูให้ได้ ขงเบ้ง จึงเพียรพยายามยกทัพไปปราบก๊กวุ่ย 5-6 คร้ัง จนตนเองล้มเจ็บตายใน สนามรบ เม่ือขงเบ้งตายแล้วเกียงอุยลูกศิษย์ของขงเบ้งก็ยกทัพไปตีก๊กวุย คร้ังแล้วคร้ังเล่า จนวาระสุดท้ายก๊กจ๊ก (ฮ่ัน) แผ่นดินพระเจ้าเล่าเสี้ยนโอรส ของพระเจ้าเล่าปก็ถูกก๊กวุยพิชิตสลายตัวไปในป พ.ศ. 806 ก๊กจ๊ก (ฮ่ัน) จึงมีกษัตริย์ครองราชย์ต่อกันเพียง 2 แผ่นดิน ด�ารงประเทศอยู่ได้ 43 ป ในกก๊ วยุ่ นนั้ มกี ษตั รยิ ค์ รองราชย์ 5 พระองคส์ บื ตอ่ กนั เปน เวลา 46 ป พระเจ้าโจผีครองราชย์ได้เพียง 7 ป พระเจ้าโจยอยผู้บุตรครองราชย์ได้ 13 ป จากน้ันก็มีกษัตริย์สืบต่ออีก 3 พระองค์ แต่ทุกพระองค์ต้องตกอยู่ ภายใต้อิทธิพลของพ่อลูกตระกูลสุมา 3 คน ได้แก่ สุมาอ้ี สุมาสู และสุมา เจียว กษัตริย์องค์ท่ี 4 พระเจ้าโจเมาถูกสุมาเจียวบุตรคนเล็กของสุมาอ้ีปลง พระชนม์ และองค์สุดท้ายคือโจฮ่วนถูกจ้ินอองสุมาเอี๋ยน (ลูกสุมาเจียว) ขับจากบัลลังก์ และใช้วิธีเดียวกับท่ีโจผีท�ากับพระเจ้าเหี้ยนเต้ คือบังคับให้

สามกก จ่ี และ สามกกเอี้ยนหงี 19 พระมหากษัตริย์โอนราชสมบัติให้แก่ตน ก๊กวุ่ยจึงสิ้นอายุในป พ.ศ. 808 คือ หลังจ๊กก๊ก 2 ป ทางก๊กหงอเร่ิมต้ังแต่ซุนกวนได้เปนหงออองในป พ.ศ. 763 ต่อมา สถาปนาตนเปนกษัตริย์ใน พ.ศ. 771 ด�ารงประเทศได้เปนเวลา 60 ป มี กษัตริย์สืบต่อกัน 4 พระองค์ ในระหว่างที่เปนสามก๊กน้ัน ก๊กหงอนับว่าได้ เปนสัมพันธมิตรกับก๊กจ๊ก (ฮ่ัน) และเคยท�าสัญญาแบ่งครองดินแดนกัน แต่ก๊กง่อช่วยอะไรก๊กจ๊ก (ฮั่น) ไม่ได้มากนัก และก๊กหงอรบกับก๊กวุ่ยไม่กี่ ครั้ง ท้ังน้ีเปนเพราะก�าลังทัพและสภาพภูมิประเทศของก๊กหงอน้ันเหมาะ ที่จะตั้งรับมากกว่ารุกประการหนึ่ง และเหตุผลที่ส�าคัญอีกประการหน่ึงก็ คือ ในก๊กหงอเองมีปัญหาเรื่องชนเผ่าเวียดคอยรังควานชายแดนและก่อ ความยุ่งยากให้แก่ก๊กหงอเสมอ หลังจากพระเจ้าซุนกวนส้ินพระชนม์แล้ว กษัตริย์ของก๊กหงอถัดไปอีก 2 พระองค์ต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลของอัครมหา เสนาบดีซุนหลิม ส่วนซุนโฮกษัตริย์องค์สุดท้ายน้ันก็มีลักษณะเปนทรราช ชอบท�าตามใจตนเอง หลงใหลในความฟุงเฟอ และไม่ยอมเชื่อฟังค�าทัดทาน ของขุนนางผู้มีความรู้และหวังดี ทั้งยังระแวงแม่ทัพผู้เก่งกาจและภักดีอีก ด้วย ฉะน้ันเมื่อพระเจ้าสุมาเอ๋ียนแห่งราชวงศ์จิ้นส่งกองทัพไปปราบก๊กหงอ ซึ่งเหลืออยู่เพียงก๊กเดียว ซุนโฮจึงไม่มีทางต่อสู้ได้ ต้องยอมจ�านนเปนเชลย ของราชวงศ์จิ้นในท่ีสุด เมื่อป พ.ศ. 823 สมัยสามก๊กนับต้ังแต่โจผีขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 763 จนถึงซุนโฮ แห่งก๊กหงอตกเปนเชลยใน พ.ศ. 823 รวมเวลา 60 ป สภาพการณ์ บ้านเมืองก็รวมเปนอาณาจักรเดียวกันอีกคร้ังหน่ึง สภาวการณ์บ้านเมืองสมัยสามก๊กมีย่อ ๆ ดังกล่าวข้างต้น ต่อไปจะ กล่าวถึงความเปนมาของหนังสือ สามกกจ่ี หรือ จดหมายเหตสุ ามกก และหนงั สอื สามกก จเี่ อยี้ นหงี หรือ ตํานานสามกก

20 ศลิ ปะการใชค นในสามกก หนังสือ สามกก จ่ี (จดหมายเหตุสามกก ) หนังสือ สามกกจ่ี เปนจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์สมัยสามก๊ก ผู้ประพันธ์ช่ือตันซ่ิว (เฉินโซ่ว) เปนข้าราชการต้นราชวงศ์จิ้น มีต�าแหน่ง เปนจู้จ้ัวหลาง (ประพันธกร) มีหน้าที่เรียบเรียงหนังสือราชการในราชส�านัก จดหมายเหตุสามกก ที่ตันซิ่วเรียบเรียงมี 65 เล่มสมุด แบ่งเปน 3 ภาค ได้แก่ 1. วุยจ่ี หรือ จดหมายเหตุกกวุย มีจ�านวน 30 เล่ม เปนราชประวัติ กษัตริย์ก๊กวุ่ย 4 เล่ม เล่มท่ี 1 ราชประวัติวุ่ยบู๊เต้โจโฉ เล่มที่ 2 ราชประวัติ วุ่ยบุนเต้โจผี เล่มท่ี 3 ราชประวัติวุ่ยเหม็งเต้โจยอย และเล่มที่ 4 ราชประวัติ ของยุวกษัตริย์ 3 พระองค์ คือ โจฮวง โจมอ และโจฮ่วน ส่วนอีก 26 เล่ม เปนชีวประวัติมเหสีรัชกาลต่าง ๆ ของก๊กวุ่ย ข้าราชการและบุคคลส�าคัญ ต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวเก่ียวกับก๊กวุ่ย เช่น ตั๋งโต๊ะ อ้วนเสี้ยว ลิโป เคาทู ฯลฯ รวม 250 คน (มีประวัติเฉพาะตัว 159 คน ถูกผนวกรวมอยู่ในชีวประวัติ ของผู้อ่ืน 91 คน) นอกจากน้ีก็มีประวัติของชนเผ่าต่าง ๆ ที่มีเหตุการณ์ สัมพันธ์กับก๊กวุย 10 เผ่าชนอีกจ�านวนหลายคน 2. จกจ่ี หรือ จดหมายเหตุกกจก (ฮ่ัน) จ�านวน 15 เล่มสมุด เปน ชีวประวัติของบุคคลต่าง ๆ ในก๊กจ๊ก นับต้ังแต่เล่าเอ๋ียน เล่าเจี้ยง เล่าป เล่าเส้ียน ขงเบ้ง ตลอดจนหญิงชายที่มีความส�าคัญในก๊กจ๊กรวม 86 คน (มีชีวประวัติเฉพาะตัว 67 คน ถูกกล่าวอยู่ในชีวประวัติของผู้อ่ืน 19 คน) 3. หงอจ่ี หรือ จดหมายเหตุกกหงอ จ�านวน 20 เล่มสมุด มี ชีวประวัติของบุคคลส�าคัญต่าง ๆ ในก๊กง่อ นับต้ังแต่ซุนเกี๋ยน ซุนเซ็ก (พ่อ

สามกก จี่ และ สามกกเอีย้ นหงี 21 และพ่ีของซุนกวน) ซุนกวน กษัตริย์องค์หลัง ๆ ของก๊กหงอ และหญิงชาย ที่มีความส�าคัญของก๊กน้ี รวมทั้งหมด 131 คน (มีชีวประวัติเฉพาะตัว 90 คน ถูกกล่าวผนวกอยู่ในชีวประวัติของผู้อื่น 41 คน) เนือ้ หาในหนังสอื สามกก จ่ี ในหนังสือ สามกกจ่ี 65 เล่มสมุดน้ี มีราชประวัติ ชีวประวัติของ บุคคลต่าง ๆ ทั้งหมด 367 คน เปนชีวประวัติเฉพาะตัว 216 คน ผนวกอยู่ ในชีวประวัติบุคคลอื่น 151 คน ทั้งนี้ยังไม่นับประวัติของเผ่าชนนอกประเทศ อีก 10 เผ่าชน และยังไม่ได้นับช่ือบุคคลท่ีอ้างถึงในชีวประวัติของ 367 ดังกล่าวข้างต้น ถึงแม้ตันซิ่วจะเรียบเรียง จดหมายเหตุสามกก ของเขาในรูป ชีวประวัติเปนรายบุคคลแล้วก็ตาม ถ้ามีเหตุการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับบุคคล หลายคนในระยะเวลาเดียวกัน ในชีวประวัติของบุคคลต่าง ๆ เหล่าน้ัน ก็ จะมีเร่ืองราวของเหตุการณ์น้ันปรากฏอยู่ไม่ขาดตกบกพร่อง ตัวอย่างเช่น เมอื่ โจโฉไดเ้ มอื งเกงจ๋ิวแลว้ ยาตราทัพไลต่ ิดตามเลา่ ปไ ปจนประชิดแดนกังตงั๋ มุ่งจะใช้แสนยานุภาพของตนปราบภูมิภาคกังตั๋งของซุนกวนให้อยู่มือ ท�าให้ ขุนนางในกังต๋ังตกอกตกใจถึงกับเสนอให้ซุนกวนยอมสวามิภักด์ิต่อโจโฉ แต่ในที่สุดซุนกวนก็ตกลงใจร่วมมือกับเล่าปตีกองทัพเรือของโจโฉแตกพ่าย ไป ในราชประวัติของวุ่ยบู๊เต้โจโฉมีกล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนี้ และใน ชีวประวัติของบุคคลอ่ืน ๆ เช่น เล่าป ขงเบ้ง ซุนกวน จิวย่ี ฯลฯ ต่างก็มี กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนน้ีตรงกัน แต่วิธีการบรรยายไม่ซ�้าแบบกัน ตันซ่ิวผู้เรียบเรียง สามกกจี่ มีความสามารถเชิงบรรยายเหตุการณ์

22 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ด้วยส�านวนที่กะทัดรัดชัดเจนน่าอ่านมาก แต่เนื่องจากเหตุการณ์สามก๊ก เปนเร่ืองของการสงครามระหว่าง 3 รัฐอิสระต่อเน่ืองกันเปนเวลาถึง 60 ป จะหวังให้ผู้เรียบเรียงเขียนอย่างดีพร้อมโดยตลอดย่อมเปนของยาก และ เน่ืองจากตันซิ่วได้แหล่งวัสดุเอกสารจากทั้งสามก๊กด้วยความล�าบากและ ละเอียดมากน้อยไม่เท่ากัน จึงท�าให้การเขียนเหตุการณ์หลายตอนและ ชีวประวัติของบุคคลหลายคนส้ันและย่นย่อเกินไป เน่ืองด้วย สามกกจี่ ของตันซ่ิวเขียนไว้อย่างย่นย่อมาก หลังจาก ตันซ่ิวตายไปแล้วประมาณ 130 ป ในสมัยซ้องถัดจากรัชสมัยจิ้น พระเจ้า ซ้องบุนตี้ (ระหว่าง พ.ศ. 967-994) จึงส่ังให้ขุนนางคนหนึ่งช่ือผวยซงจือ ผมู้ ตี �าแหน่งเปนอาจารย์ในราชวิทยาลัย เขียนอรรถาธบิ ายเพ่ิมเติมประกอบ จดหมายเหตุสามกก ที่ตันซ่ิวแต่งไว้ ในการน้ีผวยซงจือตั้งอกตั้งใจท�า อย่างจริงจังเปนงานใหญ่ เขาค้นคว้าหนังสือจ�านวนหลายเล่มและค่อยอ่าน ค่อยเขียนอรรถาธิบาย เขียนยืนยันเหตุการณ์หรือค้านข้อความเดิม และ วิจารณ์ข้อความบางตอนใน สามกกจ่ี ของตันซิ่วอย่างละเอียดกว้างขวาง โดยอ้างอิงเอกสารและหนังสือต่าง ๆ จ�านวนมาก ประวัติตันซ่ิว ผูประพันธ จดหมายเหตุสามกก ตันซ่ิว เปนนักศึกษาประวัติศาสตร์ที่ส�าคัญคนหนึ่ง และนับว่าเปน นักเขียนประวัติศาสตร์ที่อาภัพมากคนหนึ่งของประวัติศาสตร์จีน เดิมเขา เปนคนในก๊กจ๊ก (ก๊กเล่าป) เกิดในปที่ 11 ศักราชเกี้ยนเฮ็ง แผ่นดินพระเจ้า เล่าเสี้ยน กษัตริย์องค์ท่ี 2 (องค์สุดท้าย) ของก๊กจ๊ก เวลาที่เขาเกิดบิดา

สามกก จี่ และ สามกกเอย้ี นหงี 23 ของเขาต้องกลายเปนนักโทษถูกกล้อนผม ทั้งนี้เพราะบิดาของเขาเคยเปน ที่ปรึกษาของม้าเจ๊ก ซ่ึงรับอาสาเปนแม่กองระวังหน้าของกองทัพขงเบ้ง ไปรบกบั กองทัพสุมาอี้แห่งก๊กวยุ่ มา้ เจ๊กอวดดีต้งั คา่ ยในยทุ ธภูมิท่ีผดิ แทนที่ จะตั้งค่ายคร่อมทางแยกเส้นทางส�าคัญ ม้าเจ๊กกลับขึ้นไปตั้งค่ายบนเขา โดดโดยไม่ยอมฟังค�าทัดทานของอองเปง เปนโอกาสให้สุมาอ้ีน�ากองทัพ เข้าล้อมเขาไว้ และตัดเส้นทางน้�าส�าหรับกองทหารของตน กองทหารของ ม้าเจ๊กจึงถูกกองทัพสุมาอี้ตีแตกพ่ายยับเยิน เม่ือม้าเจ๊กถูกลงโทษประหาร ชีวิต บิดาของตันซิ่วก็พลอยถูกลงโทษถูกกล้อนผมด้วย ในสมัยนั้นผู้ถูก ลงโทษกล้อนผมต้องถูกลดฐานะเดิมลงเสมอกับช้ันทาส แต่ต่อมาบิดาของ ตันซ่ิวก็ได้รับอภัยโทษเปลี่ยนจากฐานะทาสเปนสามัญชน และเปนคน ว่างงานอยู่กับบ้าน ในวัยเด็ก ตันซ่ิวเคยศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้จากอาจารย์คนเมือง เดียวกันช่ือ เจียวจิว เมื่อโตเปนหนุ่มตันซ่ิวได้รับบรรจุเปนข้าราชการ มี ต�าแหน่งเปนหัวหน้าหอสมุดหลวง แต่ตันซิ่วไม่เปนท่ีพอใจของฮุยโฮขันที ผู้เปนท่ีโปรดปรานของพระเจ้าเล่าเสี้ยน ชีวิตการงานของตันซิ่วจึงมืดมน อยู่มาก ต่อมาบิดาของตันซ่ิวถึงแก่กรรม ตันซ่ิวจึงต้องไว้ทุกข์ให้แก่บิดา อยู่กับบ้าน บังเอิญตัวตันซิ่วเองล้มป่วย จ�าต้องให้เด็กสาวใช้จัดหาหยูกยา ให้ตันซ่ิวรับประทาน เมื่อคนต�าบลเดียวกันรู้เร่ืองท่ีตันซิ่วให้สาวใช้ปรนนิบัติ ตน ต่างก็ต�าหนินินทาว่าตันซ่ิวขาดความกตัญูต่อบิดา ท�าเสื่อมเสีย ศีลธรรม ในที่สุดตันซิ่วต้องถูกถอดจากต�าแหน่งหน้าที่ราชการและเปนท่ี เหยียดหยามของคนทั่วไป เม่ือตันซิ่วมีอายุ 31 ป ก๊กจ๊กก็ถูกกองทัพก๊กวุ่ยพิชิตสลายตัวไป บรรดาข้าราชการและนักศึกษาทั้งหลายในก๊กจ๊ก ส่วนมากได้รับการ ทาบทามชี้ชวนให้หันไปรับราชการกับราชวงศ์ใหม่คือก๊กวุ่ย แต่ทว่า ตันซิ่วไม่ได้รับการทาบทามเพราะเคยถูกตราหน้าว่าเปนคนท�าผิดศีลธรรม จนกระทั่งทายาทของตระกูลสุมาคือจิ้นอองสุมาเอี๋ยนช่วงชิงราชสมบัติของ

24 ศลิ ปะการใชค นในสามกก กษัตริย์ก๊กวุ่ยมาสถาปนาราชวงศ์จ้ินแล้ว จึงมีข้าราชการผู้มีเกียรติศักด์ิ คนหน่ึง ซึ่งนิยมชมชอบงานเขียนของตันซิ่วมากชื่อว่าเตียวหัว ช่วยแก้ข้อ กล่าวหาท่ีตันซิ่วเคยถูกต�าหนิ พร้อมกับเสนอช่ือตันซิ่วให้ได้เปนเห่าเหนียม (หรือเฮ่าเหลียม ภาษาจีนกลางว่า เซี่ยวเหลียน) ค�าว่า เห่า แปลว่า มี ความกตัญูกตเวทีต่อพ่อแม่ เหนียม แปลว่า มีนิสัยรักความสะอาดและ สมถะ สมัยน้ัน เห่าเหนียมเปนค�าเรียกผู้ชายที่ได้รับการเลือกตั้งจากอ�าเภอ หรือจังหวัดไม่ได้มีการสอบ หลังจากนั้นตันซิ่วก็ถูกเรียกตัวเข้าไปในนครลกเอ๋ียง ให้รักษาการ ในต�าแหน่งผู้ช่วยประพันธกร แล้วย้ายไปเปนข้าราชการต�าแหน่งผู้ช่วย ในส่วนภูมิภาค ต่อมาในปท่ี 5 แห่งศักราชไท่ส่ือแผ่นดินพระเจ้าสุมาเอ๋ียน ผู้ซ่ึงเพ่ิงสถาปนาราชวงศ์จ้ินได้ 5 ป ตันซิ่วก็ได้ย้ายกลับไปเปนข้าราชการ ต�าแหน่งลอยที่ภูมิล�าเนาเดิมของตน ช่วงเวลานั้นอาจารย์เจียวจิวของเขา กา� ลงั ปว่ ยรกั ษาตวั อยกู่ บั บา้ น เขาไดร้ บั มรดกสา� หรบั เรยี บเรยี งประวตั ศิ าสตร์ สมัยสามก๊กจากอาจารย์เจียวจิว เช่น วัสดุเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับประวัติ ของก๊กจ๊ก ซึ่งสลายตัวไปเม่ือ 6-8 ปก่อน แม้เอกสารดังกล่าวมีไม่มากนัก แต่ก็เปนจุดเร่ิมต้นของการเรียบเรียงจดหมายเหตุสามก๊กของเขา ตอ่ มาไมน่ าน ตนั ซว่ิ ไดย้ า้ ยเขา้ ไปดา� รงตา� แหนง่ ประพนั ธกรในราชการ สว่ นกลางทนี่ ครลกเอย๋ี ง และไดร้ บั คา� สงั่ จากซนุ หอยราชเลขาธกิ าร และหอ่ เขียวรองราชเลขาธกิ าร ซึง่ เปน ผูบ้ งั คบั บญั ชาของเขา ใหเ้ รยี บเรยี งหนงั สอื รวมวรรณกรรมของขงเบง้ ผลู้ ว่ งลบั ตนั ซว่ิ ใชเ้ วลาเรยี บเรยี งอยู่ 5 ปจ งึ สา� เรจ็ และในระยะเวลาเดยี วกนั นั้น ตันซ่ิวกข็ ะมกั เขมน้ รวบรวมวสั ดเุ อกสารและ หลักฐานตา่ ง ๆ ส�าหรับการเรยี บเรียง จดหมายเหตสุ ามกก ดว้ ย การเรยี บเรยี ง จดหมายเหตสุ ามกก เปน งานทห่ี นกั มาก และตนั ซิ่ว ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ แม้เขาจะอาศัยต�าแหน่งประพันธกร ของราชวงศ์จิ้น สา� รวจเอกสารซง่ึ จะเปน เนอ้ื หาสา� หรบั เขยี น จดหมายเหตุ กกวุย เท่าที่มีอยู่ในหอสมุดหลวงก็ตาม แต่เนื่องด้วยตันซิ่วเปนข้าราชการ

สามกก จี่ และ สามกก เอีย้ นหงี 25 ในต�าแหน่งต่�า การจะหาโอกาสส�ารวจเอกสารราชการของก๊กวุ่ยซ่ึงตกมา เปน สมบตั ขิ องราชวงศจ์ ้ินแลว้ ก็เกือบจะไมไ่ ดร้ ับความสะดวกเลย ก๊กจก๊ ก็ไม่มีจดหมายเหตุอยู่เดิม เพราะไม่มีเจ้าหน้าท่ีบันทึก (ตันซ่ิวเขียนไว้ใน คา� วจิ ารณท์ า้ ยประวตั พิ ระเจา้ เลา่ เสย้ี นวา่ กก๊ จก๊ ไมไ่ ดต้ งั้ พนกั งานพงศาวดาร) ตันซ่ิวมีเน้ือหาเกี่ยวกับก๊กจ๊กเพียงเล็กน้อยที่ได้รับจากอาจารย์เจียวจิว แหล่งเดียว ก๊กง่อยังไม่ได้ถูกปราบให้ราบคาบ ตันซ่ิวจึงยังขาดแคลนวัสดุ เอกสารเกี่ยวกับก๊กหงออย่างย่ิง แม้กระน้ันตันซิ่วก็มานะพยายามเขียน จดหมายเหตุทุกวันทุกคืนเปนเวลาไม่ต�่ากว่า 30 ป ในท่ีสุดงานเขียน จดหมายเหตุสามกกจี่ ของเขาก็ส�าเร็จเปนหนังสือรวม 65 เล่มสมุด (ในสมัยน้ัน เล่มหนังสือมีลักษณะเปนกระดาษม้วน) แต่ว่าเม่ือต้นร่างหนังสือ สามกกจี่ ของตันซิ่วเปนที่เปดเผยข้ึนและ มีคนยืมอ่านกันบ้างแล้ว ในสังคมขุนนางนครลกเอ๋ียงก็เกิดปฏิกิริยาต่อ ตันซิ่วทั้งดีและไม่ดี เวลานั้นมีขุนนางคนหน่ึงช่ือแฮหัวต�าก�าลังเรียบเรียง พงศาวดารก๊กวุ่ยอยู่ แต่เมื่อแฮหัวต�าได้อ่านต้นร่างสามก๊กจี่ของตันซิ่วแล้ว แฮหัวต�าก็ท�าลายต้นร่างพงศาวดารก๊กวุ่ยของตนเองทันที ปฏิกิริยาที่ไม่ดีต่อตันซ่ิวก็มีมาก และท�าให้ตันซ่ิวต้องได้รับความ อัปยศถูกเหยียดหยามเปนอย่างมาก เร่ืองมีอยู่ว่าเมื่อตันซิ่วเปดเผย ต้นร่าง จดหมายเหตุสามกก ของเขาน้ัน ถึงแม้สภาวะบ้านเมืองจะเปลี่ยน จากราชวงศ์วุ่ยเปนราชวงศ์จ้ินแล้วก็ตาม แต่บุคคลส�าคัญบางคนในสมัย สามก๊กยังมีชีวิตอยู่ และทายาทของบุคคลสมัยสามก๊กบางคนก�าลังมี ต�าแหน่งราชการชั้นสูง คนเหล่านั้นต้องการให้ตันซิ่วเขียนประวัติและเชิดชู คุณงามความดีของบรรพบุรุษของเขา แต่ตันซิ่วคงขัดแข็งไม่ยอมโอนอ่อน เอาอกเอาใจบุคคลใดทั้งสิ้น ตันซ่ิวจึงเปนที่เกลียดชังของพวกขุนนางหลาย คน ในงานชุมนุมสโมสรอันมีเกียรติคราวใด หากตันซ่ิวไปร่วมอยู่ด้วย บรรดาพวกขุนนางจะพากันหลีกไปเสียทางอ่ืน ซ้�ายังกล่าววาจาเปนเชิง เย้ยหยันอยู่ในที

26 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ต่อมาไม่นานมารดาของตันซ่ิวถึงแก่กรรม ตันซ่ิวจ�าเปนต้องลาออก จากราชการเพอื่ ไวท้ กุ ขใ์ หม้ ารดา และจดั การฝงั ศพมารดาไวท้ น่ี ครลกเอยี๋ ง ตามค�าสั่งของมารดาก่อนตาย เขาไม่ได้คาดคิดว่า พวกขุนนางในนคร ลกเอ๋ียงอ้างเหตุนี้โจมตีเขาอีกว่าเปนคนอกตัญู ไม่น�าศพมารดากลับไป ฝังยังบ้านเดิม นับต้ังแต่ตันซิ่วเขียนต้นร่าง จดหมายเหตุสามกก ของเขาเสร็จ เปนต้นมา เขาถูกพวกขุนนางโจมตีตลอดเปนเวลาหลายปจนกระทั่งเรื่อง ค่อย ๆ เงียบหายไปเอง ส่วนตัวตันซ่ิวเองเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่อ�านวย แก่เขา กอปรกับต้นร่างของเขายังไม่สมบูรณ์ดี เขาจึงไม่กล้าน�าถวาย พระเจ้าแผ่นดิน เม่ือก๊กหงอถูกพิชิตสลายตัวแล้ว ตันซิ่วจึงเริ่มแก้ไขเพิ่มเติมต้นร่าง อกี ครง้ั หนง่ึ ตอ่ มาเขาไดร้ บั ความสนบั สนนุ จากขนุ นางชอ่ื ออ้ งหนุ่ ผมู้ ตี า� แหนง่ เปนปลัดสมุหนายกกราบทูลพระเจ้าสุมาเอี๋ยนให้แต่งต้ังตันซ่ิวเปนจางวาง ในวังรัชทายาท แต่เวลานั้นตันซิ่วหมดเรี่ยวแรงท่ีจะท�าอะไรได้แล้ว เพราะ ถูกความชราและโรคภัยไข้เจ็บรบกวน ไม่สามารถเข้ารับต�าแหน่งได้ ในป ต่อมาตันซิ่วก็ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 65 ป เม่ือตันซิ่วตายแล้ว จึงมีคนกล่าวขวัญถึงงานนิพนธ์ของเขา และมี ขุนนางหลายคนถวายหนังสือขอให้พระเจ้าแผ่นดินส่งคนไปลอกต้นฉบับ สามกกจี่ ท่ีบ้านของตันซิ่ว หนังสือนี้จึงเปนที่รับรองของทางราชการและ ได้เข้าอยู่ในหอสมุดหลวง ตอนน้ันตันซิ่วตายไปแล้วหลายป

สามกก จี่ และ สามกก เอ้ยี นหงี 27 สามกกจเ่ี อย้ี นหงี (นทิ านสามกก หรอื ตาํ นานสามกก ) ท่ีกล่าวมาแล้วเปนประวัติความเปนมาของหนังสือ จดหมายเหตุ สามกก ซึ่งมีชื่อว่า สามกกจ่ี ต่อไปนี้เปนเรื่องราวและผลสัมฤทธ์ิของ นิทานสามกก หรือ สามกกจ่ีเอี้ยนหงี ซ่ึงเปนต้นฉบับการแปลเปน หนังสือ สามกก พากย์ไทยพอสังเขป ความหมายของชือ่ หนงั สอื นิทานสามกก (ตํานานสามกก ) หนงั สอื ชดุ นเ้ี รยี กชอื่ เตม็ วา่ สามกก จที่ งซกเอยี้ นหงี คา� วา่ “ทงซก” หมายความว่า เหมาะแก่สามัญชนทั่วไป ส่วน “เอ้ียนหงี” หมายความว่า การแสดงความหมายของเหตุการณประวัติศาสตรให้ชัดเจน ช่ือเต็มของ สามกกจ่ีทงซกเอ้ียนหงี จึงมีความหมายว่า นิทานแสดงความหมายของ จดหมายเหตุสามก๊กส�าหรับสามัญชน หรืออาจแปลได้ว่า ต�านานสามก๊ก บางคนเรียกว่า สามกกจ่ีเอ้ียนหงี หรือเรียกให้สั้นข้ึนอีกว่า สามกก เอ้ียนหงี

28 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ขงเบ้งตายใช้หุ่นสู้สุมาอ้ี

สามกกจี่ และ สามกก เอย้ี นหงี 29 ประวตั ิผเู รยี บเรียง นทิ านสามกก ผู้แต่ง สามกกจี่ทงซกเอี้ยนหงี ล่อกวนตง (หลัวก้วนจง) เปนคน ปลายสมัยหงวนและมีชีวิตต่อมาถึงสมัยเหม็ง แต่น่าเสียดายท่ีไม่มีใคร ทราบประวัติของเขาอย่างละเอียด ได้ทราบแต่เพียงว่า เขาเปนศิษย์ของ ซีไน่อ�า ผู้แต่งเรื่อง ซองก๋ัง นิทานท่ีล่อกวนตงแต่งท�านองประวัติศาสตร์ แบบแบ่งตอนมีหลายชุด ท่ีมีคนนิยมอ่านแพร่หลายมากได้แก่เรื่อง สาม กกจี่เอ้ียนหงี เรื่อง ซุยถัง เรื่อง ฮุนจวงเหลา และ กิมเสียถ่าง นักศึกษา คนเก่งปลายสมัยเหม็งเข้าใจว่าเรื่อง ซองกั๋ง ท่ีซีไน่อ�าแต่งไว้ 69 ตอน ตอนท่ี 70 ไปจนถึงตอนจบเปนฝมือแต่งเพิ่มเติมของล่อกวนตง นอกจาก มีฝมือการเขียนนิทานแล้วเขายังเปนนักประพันธ์บทละครร้อง (งิ้วหรือ อุปรากรจีน) ชั้นเย่ียมคนหน่ึงด้วย เนอื้ หาสาํ หรบั เรยี บเรยี ง นิทานสามกก นิทานสามกก ของล่อกวนตงมี 120 ตอน แต่ละตอนยังแบ่งเปน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกและส่วนหลัง ในการเขียน นิทานสามกก ล่อกวนตง ใช้เนื้อหาจากแหล่งต่อไปนี้

30 ศลิ ปะการใชค นในสามกก 1. ใช้เนื้อหาจาก จดหมายเหตุสามกกจี่ ของตันซิ่วเปนแกนด�าเนิน เรื่อง 2. อาศัยบทอรรถาธิบายของผวยซงจือประกอบ เช่น ตอนที่ขงเบ้ง ล้มเจ็บจนตายในกองทัพ (ตรงกับ สามกก พากย์ไทย ตอน 78) เกียงอุย กับเอียวหงีจึงต้องถอนทัพน�าศพของขงเบ้งกลับเมืองฮ่ันตง เหตุการณ์ ตอนน้ี หนังสือ สามกกจี่ ของตันซ่ิว เขียนไว้ในชีวประวัติขงเบ้งเพียงว่า ในเดือน 8 ปนั้น ขงเบ้งเจ็บหนักตายในกองทัพ อายุได้ห้าสิบส่ีป เมื่อ กองทัพ (ขงเบ้ง) ถอยไป ท่านซวนออง (สุมาอี้) ไปตรวจดูรอยที่ต้ังค่าย ของขงเบ้งและชมขงเบ้งว่า “เป็นผู้มีปญญาอัจฉริยะแท้” แต่ในบท อรรถาธิบายของผวยซงจืออ้างหนังสือ ฮ่ันจ้ินชุนชิว ของสิบฉัดช่ี คนรุ่น ตอนปลายสมัยจ้ินเขียนไว้ต่างกัน มีใจความว่า เมื่อขงเบ้งตายในค่ายแล้ว เอียวหงีก็น�าทัพถอยกลับไป มีราษฎรว่ิงไปบอกข่าวแก่สุมาอ้ี สุมาอี้รู้ว่า ขงเบ้งตายจึงน�าก�าลังทหารไล่กวดไป เอียวหงีจึงจัดขบวนทัพหันกลับ คล้ายจะรุกเข้าหาสุมาอ้ี สุมาอ้ีล่าถอยไม่กล้าติดตามไป เอียวหงีจึงจัดขบวน ทัพกลับ เมื่อผ่านหุบเขาแล้วจึงจัดขบวนทัพขงเบ้งอย่างเปดเผย การล่า ถอยของสุมาอี้คร้ังน้ี ท�าให้ราษฎรพากันพูดเปนเร่ืองข�าว่า “จูกัดคนตาย ไล่กวดจ้งตัดคนเป็น” (จ้งตัดเปนชื่อรองของสุมาอี้) มีคนเอาค�าที่ราษฎร พูดเล่นไปเล่าให้สุมาอ้ีฟัง สุมาอ้ีแก้ว่า “ฉันเดาคนเป็นถูก เดาคนตายไม่ ถูก” ล่อกวนตงอาศัยแหล่งอ้างอิงดังกล่าวเขียนบรรยายในนิทานสามก๊ก อย่างสนุกโลดโผนว่า สุมาอ้ีไล่กวดไป พอพบกองระวังหลังของก๊กจ๊ก (ฮ่ัน) เข็นรถซึ่งมีหุ่นไม้รูปขงเบ้งน่ังอยู่เผชิญหน้าเข้ามา สุมาอี้ถึงกับตกใจหนี ล้มลุกคลุกคลาน ต้องเอามือคล�าต้นคอดูว่า ศีรษะของตนยังอยู่หรือเปล่า เปนต้น 3. อาศัยเค้าของต�านานและเรื่องเล่าต่าง ๆ ซึ่งมีผู้เล่านิทานอาชีพ เคยใช้หากินมาตั้งแต่สมัยก่อน ๆ 4. บางตอน ล่อกวนตงก็เพ่ิมเติมเนื้อเรื่องตามจินตนาการตนเองให้ เกิดรสสนุก เช่น เรื่องนางเตียวเสี้ยน (พากย์ไทยตอนที่ 7) เปนต้น

สามกก จี่ และ สามกกเอ้ียนหงี 31 เคาเรือ่ ง นทิ านสามกก นิทานสามกก เร่ิมเรื่องแต่พระเจ้าฮั่นเต้ของราชวงศ์ฮ่ัน สกัดกั้น โอกาสของขุนนางคนดีที่จะรับใช้บ้านเมือง กลับหลงเช่ือแต่ขุนนางขันที (พวกที่ถูกตอน) ปล่อยให้พวกขันทีร่วมกันท�าการทุจริต ครั้นเมื่อพระเจ้า ฮ่ันเต้สวรรคต พระเจ้าเลนเต้ขึ้นเสวยราชย์ พระเจ้าเลนเต้ย่ิงหลงเช่ือพวก ขุนนางขันทีมากขึ้น ต่อมาบ้านเมืองเกิดการจลาจลเนื่องมาจากพวกโจร โพกผ้าเหลืองก่อการก�าเริบ รวมกันเปนกองทัพจะล้มรัฐบาลราชวงศ์ฮ่ัน จลาจลโจรโพกผ้าเหลืองลุกลามไปหลายมณฑล รัฐบาลจึงต้องสั่งให้หน่วย ทหารในมณฑลต่าง ๆ ร่วมกันปราบปรามพวกโจร ระหว่างนั้นมีชายชาตรี ผู้รักชาติบ้านเมืองสามคนช่ือว่า เล่าป กวนอู และเตียวหุย ร่วมสาบาน เปนพี่น้องกันแล้วไปอาสาสมัครเปนทหารปราบปรามเหล่าโจร พร้อมกันน้ัน ก็มีนักการเมืองใจฉกาจอีกคนหน่ึงช่ือโจโฉ ถือโอกาส ในคราวปราบโจรโพกผ้าเหลือง สร้างสมก�าลังทหารของตนจนเปนกองทัพ เข้มแข็ง ต่อมาโจโฉมีโอกาสยกกองทัพเข้าไปปราบปรามจลาจลสมุน ตั๋งโต๊ะในเมืองหลวงได้ส�าเร็จ แล้วยึดองค์พระมหากษัตริย์ (คือพระเจ้า เห้ียนเต้) เปนทางเพิ่มอ�านาจของตน ส�าหรับออกค�าสั่งบังคับเจ้าเมือง ทั้งหลาย และยกกองทัพไปปราบขุนทัพใหญ่ ๆ ในหัวเมืองทางภาคเหนือ ราบคาบไปทลี ะคน บรรดาขนุ พลทม่ี กี า� ลงั ทพั แขง็ แกรง่ เชน่ ลโิ ป อว้ นเสี้ยว อ้วนสุด เหล่าน้ี ต่างต้องปราชัยแก่โจโฉ แล้วโจโฉก็คิดจะใช้ก�าลังทัพของ ตนรวบอ�านาจการปกครองทั้งประเทศให้อยู่ในก�ามือของตนให้ได้ ฝ่ายซุนกวนผู้ได้มรดกตกทอดจากซุนเก๋ียนบิดาและซุนเซ็กผู้พี่ ก็ได้

32 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ยึดอาณาเขตกังต๋ังซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้มีปัญญาความรู้ จ�านวนมากเปนที่ปรึกษา ส่วนเล่าปผู้ถือว่าเปนเชื้อพระวงศ์ห่าง ๆ คนหนึ่งของราชวงศ์ฮ่ัน ตั้งใจจะกู้เมืองและฟนฟูอ�านาจพระมหากษัตริย์ ได้พยายามต่อสู้กับโจโฉ อย่างไม่ยอมหยุดยั้ง แต่ต้องปราชัยแก่โจโฉตลอดเวลา ต่อมามีอาจารย์ดี แนะน�าให้เล่าปไปหาผู้มีความรู้ความสามารถอันแท้จริงคนหน่ึง ช่ือขงเบ้ง เล่าปจึงอุตส่าห์ฝ่าพายุหิมะเดินทางจากเมืองซินเอ๋ียไปหาขงเบ้งยังบ้านไร่ ที่โงลังก๋ัง แต่ไม่พบ ไปครั้งท่ี 2 ก็ไม่พบ เล่าปต้องไปหาอีกเปนคร้ังท่ี 3 จึงได้พบขงเบ้ง เม่ือได้สนทนากันถึงสถานการณ์บ้านเมืองเปนถูกอกถูกใจ กันแล้ว เล่าปนายพลราชนิกุลวัย 47 ขอเชิญอาจารย์ขงเบ้ง หนุ่มบ้านนา อายุ 27 ป ออกมาช่วยกันกู้ชาติบ้านเมือง ขงเบ้งตกลงรับเชิญ ถึงแม้เล่าปจะได้ขงเบ้งเปนเสนาธิการแล้วก็ตาม แต่กองทัพเล่าป มีก�าลังด้อยกว่าโจโฉ จึงถูกโจโฉไล่กวดจนต้องถอยตลอดเวลา ในที่สุด เล่าปจ�าต้องร่วมมือกับซุนกวนเปนกองทัพพันธมิตรโต้การรุกรานของ กองทัพโจโฉ และในสงครามเซ็กเพ็ก (สงครามผาแดง) คร้ังน้ัน ด้วยอุบาย อันแยบยลของขงเบ้งกับจิวย่ีร่วมกัน กองทัพพันธมิตรของเล่าปและ ซุนกวนก็สามารถตีกองทัพมหึมาของโจโฉ แตกพ่ายไปอย่างส้ินเชิง นับเปนสงครามท่ีช่วยให้เล่าปมีโอกาสต้ังตัวได้ และสภาวะการเมืองเวลา นั้น ก็เร่ิมมีเค้าแบ่งออกเปนสามเส้า คือ โจโฉอยู่ทางเหนือ ซุนกวนอยู่แถบ ตะวันออก และเล่าปยึดครองพ้ืนที่แถบเสฉวน และบางส่วนของฮุนหน�า กุยจิ๋ว กับแถบตะวันตกของชานสีเปนอาณาเขต ต่อมาท้ังฝ่ายเล่าปและซุนกวน ซ่ึงเคยเปนพันธมิตรกันได้เกิด เหตุการณ์แตกร้าวอย่างน่าเสียดาย คือฝ่ายซุนกวนชิงเอาเมืองเกงจ๋ิว ฐานทัพส�าคัญของฝ่ายเล่าปจากกวนอูน้องร่วมสาบานของเล่าป กวนอูถูก ลิบองทหารของซุนกวนจับและฆ่าตาย เตียวหุยน้องร่วมสาบานอีกคนหนึ่ง

สามกกจ่ี และ สามกกเอี้ยนหงี 33 ของเล่าปและกวนอู จะยกทัพไปล้างแค้นแทนกวนอู แต่กลับถูกผู้ใต้บังคับ บัญชาของตนลอบฆ่าตาย แล้วฆาตกรสองคนน้ันหนีไปสวามิภักดิ์กับ ซุนกวน เล่าปจึงโกรธแค้นซุนกวนมาก ในระยะเวลาใกล้ ๆ กันน้ัน โจโฉตายลง โจผีบุตรคนโตของโจโฉได้ สืบตา� แหนง่ แทนบิดา และใชอ้ �านาจบังคับใหพ้ ระเจา้ เห้ียนเตส้ ละราชบัลลังก์ โอนราชสมบัติให้ โจผีสถาปนาราชวงศ์วุ่ย ทางฝ่ายเล่าปได้ข่าวว่าพระเจ้า เหี้ยนเต้ถูกปลดจากบัลลังก์และถูกท�าร้ายถึงแก่ชีวิต ขงเบ้งและข้าราชการ ในเมืองฮ่ันตงของเล่าปจึงเชิญฮั่นตงอองเล่าป ขึ้นเสวยราชย์เปนพระมหา กษัตริย์ราชวงศ์ฮ่ันสืบต่อพระเจ้าเห้ียนเต้ พระเจ้าเล่าปไม่ลืมความเคียดแค้นท่ีน้องร่วมสาบานของพระองค์ ถูกฝ่ายซุนกวนฆ่าตาย จึงยาตราทัพมีก�าลังพลถึง 80 หมื่นไปตีเมืองกังตั๋ง โดยไม่ฟังค�าทัดทานของขงเบ้งและข้าราชการบางคน แต่เม่ือท�าศึกแล้ว พระเจ้าเล่าปกลับถูกกลอุบายของลกซุนแม่ทัพกังตั๋งตีพ่ายแตกสลายไป ทั้งกองทัพ พระเจ้าเล่าปเองก็ประชวรหนักและสิ้นพระชนม์ท่ีต�าหนัก ย่งอันหรือเมืองเปกเต้เสีย ระหว่างทางที่ถอยทัพน่ันเอง ก่อนส้ินพระชนม์ พระเจ้าเล่าปได้ฝากฝังพระโอรสคือ เล่าเสี้ยน เล่าเอง เล่าลี ไว้กับขงเบ้ง ท้ังมอบให้ขงเบ้งบริหารราชการแผ่นดินโดย ตลอด ขงเบ้งรู้สึกซาบซ้ึงในพระกรุณาธิคุณที่พระเจ้าเล่าปมีแก่ตน จึงเชิญ เล่าเสี้ยนหรืออาเต๊าขึ้นครองราชย์เปนพระมหากษัตริย์ท่ีเมืองเซ็งตูใน เสฉวน แล้วขงเบ้งก็จัดการบริหารและพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาราษฎร อยู่เย็นเปนสุข และตัวขงเบ้งเองยกกองทัพไปปราบผู้แข็งข้อต่าง ๆ ทาง ชายแดนทิศตะวันตกเฉียงใต้จนส�าเร็จ จากนั้นขงเบ้งก็เร่งบ�ารุงก�าลังทหาร และยกกองทัพไปปราบก๊กวุ่ยของโจผีหลายคร้ัง ต่อมาอีก 7 ป ซุนกวนท�าพิธีราชาภิเษกเปนกษัตริย์ราชวงศ์หงอ ใช้เมืองเก้ียนเงียบเปนเมืองหลวง สภาพการณ์บ้านเมืองของประเทศจีน

34 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ในเวลานน้ั จงึ เปน รปู สามกก๊ อยา่ งชดั เจน คอื มกี ก๊ จก๊ ฮน่ั กก๊ วยุ่ และกก๊ หงอ ทั้ง ๆ ที่ขงเบ้งรู้ดีว่าพระเจ้าเล่าเสี้ยนไม่มีปัญญาความฉลาด ซ้�ายัง สนพระทัยแต่ความสนุกสบาย แต่ขงเบ้งก็ยอมมอบกายเปนราชพลีเพื่อ สนองพระคุณพระเจ้าเล่าป (ขงเบ้งเขียนในหนังสือกราบทูลพระเจ้า เล่าเส้ียนตอนจะออกรบว่า “ข้าบาทขอมอบกายเป็นราชพลีจนชีวิตจะ หาไม่”) ขงเบ้งต้ังใจจะพัฒนาบ้านเมืองจนราษฎรอยู่เย็นเปนสุข ข้าวปลา อุดมสมบูรณ์ บ�ารุงกองทัพให้เข้มแข็ง และออกบัญชาการรบด้วยตนเอง ทุกครั้ง ขงเบ้งบริหารงานทุกอย่างด้วยความระมัดระวังอย่างย่ิง โทษโบย ต้ังแต่ 20 ขึ้นไป ขงเบ้งจะต้องตรวจสอบด้วยตนเองเสมอ ด้วยเหตุน้ี จึงต้องตรากตร�างานมาก เปนเหตุให้ร่างกายทรุดโทรมจนล้มป่วย แล้ว ขงเบ้งยอดกตัญูก็ตายอยู่ในค่ายสมรภูมิน่ันเอง เม่ือขงเบ้งตายแล้ว เกียงอุยศิษย์รักของขงเบ้งเปนแม่ทัพคุม กองทหาร ไปปราบก๊กวุ่ยตามแนวนโยบายของอาจารย์ผู้ล่วงลับถึง 9 คร้ัง แต่เน่ืองจากเกียงอุยถูกขุนนางบางคนในเมืองหลวงกีดกัน เปนเหตุหนึ่งท่ี เกียงอุยไม่สามารถปราบก๊กวุ่ยส�าเร็จ สว่ นกก๊ หงอของซนุ กวนนนั้ บางคราวกส็ รู้ บกบั วยุ แตบ่ างคราวกจ็ า� ต้องคืนดีอ่อนน้อมต่อวุ่ย อย่างไรก็ดีทั้งสามก๊กได้มีการรบพุ่งกันบ่อยคร้ัง เปนเวลาไม่น้อยกว่า 25 ป ในที่สุดก็มีสุมาอ้ี สุมาสู และสุมาเจียว พ่อลูก 3 คนเข้ากุมอ�านาจ ราชการของก๊กวุ่ยไว้ได้ เมื่อสุมาอี้และสุมาสูตายแล้ว สุมาเจียวบุตรคนเล็ก ของสุมาอ้ีส่งกองทัพไปปราบก๊กฮั่นจนส�าเร็จ พระเจ้าเล่าเส้ียนต้องยอมแพ้ และตกเปนเชลย เมื่อสุมาเจียวตาย สุมาเอ๋ียนบุตรสุมาเจียวก็ท�าตาม อย่างโจผี ใช้อ�านาจบังคับให้พระเจ้าโจฮ่วนกษัตริย์ก๊กวุ่ยโอนราชสมบัติ ให้ตน เปนปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จิ้นต่อไป และต่อมาอีก 15 ป กองทัพของ ราชวงศ์จ้ินก็ปราบก๊กหงอจนราบคาบ สภาพการณ์บ้านเมืองซ่ึงแยกออก

สามกก จ่ี และ สามกก เอี้ยนหงี 35 เปนสามก๊กมาเปนเวลา 60 ป (พ.ศ. 763-823) ก็รวมเข้าอยู่ภายใต้การ ปกครองของกษัตริย์องค์เดียวกันอีกวาระหนึ่ง และหนังสือ นิทานสามกก ก็จบลงเพียงเท่าน้ี ความสาํ เรจ็ ของ นทิ านสามกก หนังสือ นิทานสามกก ใช้เหตุการณ์ประวัติศาสตร์เปนภูมิหลัง ส�าหรับการแต่งนิทาน เร่ืองราวส่วนใหญ่ในหนังสือนิทานชุดนี้ จึงด�าเนิน ตามล�าดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เกือบตลอดเรื่อง แต่นิทานจะเขียน ให้เหมือนประวัติศาสตร์คงไม่น่าอ่าน ผู้แต่งนิทานจึงบรรจุส่วนที่สร้างสรรค์ ตามจินตนาการของเขาไม่น้อย อาจกล่าวได้ว่า จดหมายเหตุสามกก ของตนั ซวิ่ มเี หตกุ ารณท เ่ี ปน จรงิ ราว 70 เปอรเ ซน็ ต มสี ว่ นทรี่ ะบายสี 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วน นิทานสามกก มีส่วนที่เปนเหตุการณจริงๆ ราว 30 เปอรเซ็นต แต่มีส่วนท่ีระบายสีถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ล่อกวนตงมีความสัมฤทธิ์ในการเขียน นิทานสามกก อย่างมาก เขารวบรวมเนื้อหาจากหนังสือจดหมายเหตุต่าง ๆ ตลอดจนเกร็ดเล็กเกร็ด น้อยท่ีไม่ปรากฏใน จดหมายเหตุสามกกจี่ แต่มีปรากฏอยู่ในหนังสือ อื่น ๆ มาร้อยกรองให้เข้าอยู่ในเรื่องได้กลมกลืนเปนอย่างดี นอกจากน้ีเขา ยังสามารถบรรยายเรื่องราวให้ผู้อ่านได้เห็นบุคลิกลักษณะ ตลอดจนอุปนิสัย ของบุคคลส�าคัญในเรื่องอย่างชัดเจนและพิมพ์ใจผู้อ่าน ผู้ท่ีได้อ่าน นิทาน สามกก มาแล้วต่างก็นึกออกว่า โจโฉ จิวย่ี เล่าป ขงเบ้ง กวนอู จูล่ง คน ไหนมีลักษณะท่าทางและอุปนิสัยอย่างไร เช่น เล่าปเปนคนมีใจเมตตา

36 ศลิ ปะการใชค นในสามกก กรุณา ขงเบ้งเก่งดังเทวดา ท�านายอะไรไม่มีผิด โจโฉเปนคนคดโกงและ โหดเหี้ยม กวนอูกล้าหาญและซ่ือสัตย์ โลซกเปนสุภาพบุรุษคนซ่ือ เปนต้น อทิ ธิพลของ นทิ านสามกก เน่ืองจากหนังสือ นิทานสามกก มีการบรรยายสงครามกลางแปลง และมีการบรรยายกลศึกซ้อนกลศึก วาทศิลปตอบวาทศิลป อย่างมีความ หมายสนุกพิสดารน่าอ่านและน่าเช่ือ จึงมีอิทธิพลต่อผู้ได้อ่านหรือได้ฟัง เร่ืองสามก๊กอยู่มาก มกี ลา่ วกนั วา่ เมอ่ื ปลายสมยั เหมง็ ราชวงศเ์ หมง็ ปราชยั แกท่ พั แมนจเู รยี แต่ก็มีนายทัพของไต้เหม็งพยายามต่อสู้กับแมนจูเรีย เพราะซ้ึงในความ กตัญูของขงเบ้ง กวนอู ฯลฯ และมีค�ากล่าวว่า องค์ปฐมกษัตริย์ไต้เช็ง (แมนจูเรีย) ถึงกับใช้ นิทานสามกก เปนต�าราพิชัยสงครามในการน�าทัพเข้ายึดครองประเทศ จีนจากราชวงศ์เหม็งได้ส�าเร็จ ทั้งได้ใช้คติธรรมใน นิทานสามกก เปน คู่มือการต่างประเทศ เจริญสัมพันธไมตรีกับมองโกเลีย คือก่อนท่ีแมนจูเรียจะเข้ายึดครองจีนนั้น แมนจูเรียรบชนะมองโกเลีย ก่อน และท�าความสัมพันธ์กับมองโกเลียด้วยการนับถือเปนพี่น้องกับข่าน ของมองโกเลียตามอย่าง สามกก คือให้แมนจูเรียเปนเล่าป (พ่ี) และให้ มองโกเลียเปนกวนอู (น้อง) และระหว่างท่ีแมนจูเรียยึดครองประเทศจีน เปนราชวงศ์เช็งอยู่น้ัน แมนจูเรียยังเปนห่วงมองโกเลียจะท�าความยุ่งยาก ให้ จึงใช้วิธียกย่องเทิดทูนกวนอูอย่างเต็มที่ ถึงกับให้มีศาลเจ้ากวนอูให้

สามกก จี่ และ สามกกเอย้ี นหงี 37 ราษฎรเคารพบูชา ทั้งพระราชทานฐานันดรศักดิ์ให้กวนอูเปนกวนเสี่ย ไต้ต่ี เทียบเท่าราชาธิราช ด้วยเหตุน้ีคนมองโกเลีย นอกจากเลื่อมใสบูชา องค์ลามะแล้ว ยังเคารพนับถือกวนอูเปนท่ีสุด และด้วยเหตุน้ีเอง ตลอด ระยะเวลาสองร้อยกว่าปที่แมนจูเรียปกครองประเทศจีนอยู่ มองโกเลียไม่ เคยท�าความล�าบากใจให้แก่แมนจูเรียเลย คําวจิ ารณห นงั สือ นทิ านสามกก หนังสือ สามกกเอ้ียนหงี เปนหนังสือท่ีอ่านสนุก ใครอ่านใครชอบ จึงเปนท่ีรู้จักกันแพร่หลายในประเทศจีน แม้ชาวไร่ชาวนายายแก่แม่เฒ่า ก็ชอบฟังหรือชอบอ่านนิทานชุดนี้ และสนทนาถึงเรื่องราวในสามก๊ก เสมอ ๆ แตใ่ นหนงั สอื บางเลม่ กป็ รากฏวา่ มคี า� วจิ ารณห์ นงั สอื นทิ านสามกก อยู่บ้าง เช่น วิจารณ์ว่าล่อกวนตงบรรยายบุคลิกลักษณะของคนในสามก๊ก สลักเสลาเกินไปจนผิดธรรมดา เช่น บรรยายความใจดีของเล่าปจนคล้าย กับแสร้งท�า แสดงความมีปัญญาของขงเบ้งจนเหมือนกับพ่อมด ส่วนกวนอู ก็ถกู บรรยายความกลา้ หาญสตั ยซ์ ื่อเข้มแข็งจนกลายเปน คนบุ่มบา่ ม เปน ต้น

38 ศลิ ปะการใชค นในสามกก การจัดพิมพหนังสือ สามกก จเี่ อี้ยนหงี ของลอ กวนตง ประวัติการพิมพ์หนังสือ สามกกจ่ีเอ้ียนหงี มีเพียงย่อ ๆ ดังนี้ หนังสือ นิทานสามกก ของล่อกวนตง แรกพิมพ์ในรัชสมัยเหม็ง อยู่ใน ระหว่าง พ.ศ. 2031-2048 ดูเหมือนจะเปนฉบับท่ีมีบทวิจารณ์ของ จงแปะเก่ง และฉบับที่มีค�าพังเพยของลีโต๊ะอู แต่ไม่สู้แพร่หลายนัก ส่วน ฉบับที่มีพิมพ์ขายในท้องตลาดปัจจุบัน เปนฉบับที่ผ่านการดัดแปลงแก้ไข ของคนในต้นสมัยเช็ง (แมนจูเรีย) ชื่อว่าเหมาจงกัง เขาเปนลูกศิษย์ของ กิมเสี่ยถ่าง เขาอ้างว่า นิทานสามกก ที่เขาปรับปรุงแก้ไขนี้ เปนฉบับ โบราณขนานแท้และดั้งเดิม งานปรับปรุงของเขามีหลายด้าน เช่น ตัดทอน เน้ือเรื่องบางตอนและเพิ่มเนื้อหาบางส่วนลงในนิทาน เปล่ียนแปลงชื่อเรื่อง ของทั้ง 120 ตอนใหม่หมดทุกตอน และแต่งหัวข้อชื่อเร่ืองใหม่ให้เปนกลอน คู่ไพเราะน่าอ่าน แก้ไขส�านวนการบรรยายในบางแห่ง ตัดบทกลอนประกอบ เหตุการณ์ในเร่ืองในฉบับเก่า และหากลอนที่ดีกว่ามาบรรจุแทน เปนต้น นอกจากนี้ ยังมีค�าวิจารณ์ของกิมเส่ียถ่างประกอบด้วย หนังสือ นิทาน สามกก ฉบับแก้ไขของเหมาจงกังจึงเร่ิมแพร่หลายตั้งแต่นั้นมา

สามกกจ่ี และ สามกก เอี้ยนหงี 39 ประเมนิ คา ของ สามกกจี่ และ สามกกจี่เอย้ี นหงี หนังสือ สามกกจ่ี เปนจดหมายเหตุซ่ึงนักศึกษาประวัติศาสตร์จีน ยอมรับว่าเปนหนังสือประวัติศาสตร์ท่ีดีชุดหน่ึง ทั้ง ๆ ท่ีตันซ่ิวต้องประสบ กับความล�าบากในการค้นคว้าหาวัสดุเอกสารมาเรียบเรียงได้ไม่สมบูรณ์ ดีนัก แต่หนังสือชุดนี้ก็ช่วยให้นักศึกษาสมัยต่อมาได้รู้เรื่องราวส�าคัญและ ต้นเหตุของเร่ืองราวในยุคสามก๊กได้มากพอ และถึงแม้จะมีคนต�าหนิว่า ตันซิ่วเชิดก๊กวุ่ยให้เปน “ยุกตประศาสนรัฐ” ท�าตัวอย่างไม่ดีแก่ผู้เขียน ประวัติศาสตร์รุ่นหลัง บิดเบือนความจริงด้วยส�านวนการเขียนเพื่อปกปอง ความผิดให้แก่ก๊กวุ่ยและราชวงศ์จ้ิน แต่ก็น่าเห็นใจตันซ่ิว เพราะตันซิ่ว เปนข้าราชการของราชวงศ์จ้ินย่อมไม่กล้าพอที่จะเขียนความผิดของต้น ตระกูลราชวงศ์ซึ่งตนก�าลังรับราชการอยู่ เช่น ถ้าจะเขียนว่าก๊กวุ่ยได้ ราชสมบัติมาอย่างไม่บริสุทธ์ิ จิ้นได้ราชสมบัติจากวุ่ยก็ต้องถือว่าไม่บริสุทธิ์ เช่นกัน ตันซ่ิวย่อมไม่อาจท�าเช่นน้ันได้ เม่ือเทียบดูข้อดีและข้อเสียแล้ว หนังสือ สามกกจ่ี ก็ยังได้รับการยกย่องรวมเข้าอยู่ในระดับวรรณกรรม ประวัติศาสตร์ท่ีเปนประโยชน์ เพราะนักศึกษาประวัติศาสตร์มีทางที่จะ อาศัยหนังสือ สามกกจี่ ศึกษาเหตุการณ์ ระบบราชการ เศรษฐกิจ และ ภาวการณ์ของสังคมในสมัยสามก๊กได้มาก ส่วนหนังสือ สามกกเอี้ยนหงี ของล่อกวนตง นับว่าเปนหนังสือ อ่านง่ายส�าหรับสามัญชนทั่วไป แฝงอุดมการณ์และคติธรรมที่ดี เปนหนังสือ นิทานที่ช่วยให้ประชาชนชื่นชมคุณค่าของความกตัญูกตเวที คุณธรรม จรรยา และวัฒนธรรมด้ังเดิมของประชาชาติจีน

40 ศลิ ปะการใชค นในสามกก นอกจากนี้ หนังสือ นิทานสามกก ยังพอเหมาะที่จะใช้เปนบทเรียน ประวัติศาสตร์และวรรณคดีส�าหรับนักเรียนและหนุ่มสาวได้อย่างดี ถึงแม้ว่า ปัจจุบันการประเมินค่าของหนังสือ นิทานสามกก จะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่หนังสือ นิทานสามกก ยังเปนท่ีนิยมอ่านของคนท่ัวไปไม่เส่ือมคลาย มีความหมายในด้านการศึกษาพอสมควร ยง อิงคเวทย์ (คดั มาจากหนงั สอื ทรี่ ะลกึ ในงานพระราชทานเพลงิ ศพ ยง องิ คเวทย์ พ.ศ. 2530)

1 นาํ เรื่อง ในประวัติศาสตร์โบราณอันยาวนานของประเทศจีน ปรากฏการณ์ท่ีบุคคลซ่ึงมีสติปัญญาความสามารถ โผล่ผุดขึ้น มาดังดอกเห็ดในฤดูฝนอย่างมากมายหลายหลาก ยากท่ีจะหา ยุคสมัยอื่นใดเทียบได้กับยุคสามก๊ก จอมคนเฉกเชน่ โจโฉ เลา่ ป ซนุ กวน มสี ตปิ ญั ญาหลกั แหลม สายตาเฉียบคมมีความหวังต้ังใจอย่างแรงกล้า มีความมุ่งม่ันท่ี จะบรรลุเปาประสงค์ของตน ชนิดท่ีว่าถ้าไม่ส�าเร็จก็ยอมตาย คนทั้งสาม จึงได้รับการยกย่องจากคนทั้งหลายให้เปนประมุข สามารถทจ่ี ะสมานสามคั คผี กู้ ลา้ ทง้ั ปวงทศี่ รทั ธาในตน ใหห้ อ้ มลอ้ ม อยรู่ อบตัว จนมกี �าลังเข้มแข็ง แยง่ ชงิ กนั ต้งั ตนเปนใหญใ่ นแผ่นดนิ จนกลายเปนต�านานเล่าขานกันมิรู้ลืมตราบชั่วกาลนาน ส่วน ขงเบ้ง ซุนฮก โลซก ก็ได้ใช้ปัญญาอันเฉียบแหลม เหนือคนของเขาช่วยเจ้านายให้ด�ารงอยู่อย่างยิ่งยง ครองอ�านาจ เปนสามก๊กสามแผ่นดินที่ไม่มีใครได้เปรียบใคร ไม่เสียช่ือที่ได้ รับการขนานนามว่า เปนนักการทหารและนักยุทธศาสตร์ผู้ ยิ่งใหญ่ 3 คนในสามก๊ก

42 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ส�าหรับการวางแผนท่ีจะเผด็จศึกอย่างเฉียบขาด ด้วยการกรีธาทัพ ออกไปรบชนะศึกด้วยกลยุทธ์อันเปนที่เกรงขามแก่ศัตรูนั้น ขุนพลที่ลือชื่อก็มี จิวย่ี ลกซุน กุยแก เทียหยก สุมาอ้ี บังทอง ชีซี เปนอาทิ ขุนพลซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยความกล้าหาญและกลอุบาย ก็ต้องนับ กวนอู เตียวหุย ฮองตง จูล่ง เกียงอุย เตียวเลี้ยว ซิหลง ชีเซ่ง จูหวน ฯลฯ ในส่วนทหารเอกซ่ึงกร้าวแกร่งในการน�าทัพผจญศึกนั้น ฝ่ายจ๊กก๊ก มมี า้ เฉยี ว อยุ เอยี๋ น ฝา่ ยวยุ กก๊ มเี คาทู เตยี นอยุ ฝา่ ยงอ่ กก๊ มไี ทสจู ู้ กา� เหลง เปนหลัก ทางด้านการทูตมี เตงจี๋ เตียวอุน ผู้เก่งกล้าสามารถทางอักษรศาสตร์มี ซัวหยง อองซอง ยีเอง โจสิด เอียวส้ิว ฯลฯ บุคลากรในสามก๊กมีอเนกอนันตสุดท่ีจะหยิบยกมากล่าวถึงโดย ครบถ้วนได้ ! ดังนี้ จึงได้เกิดปุจฉาขึ้นมาว่า เหตุไฉนบุคลากรในสามก๊กจึงมี มากมายนัก แต่ในยุคสมัยอ่ืน กลับนับตัวได้ มีน้อยแสนน้อย จะเปนเพราะ ว่า “สวรรค” โปรดปรานยุคสามก๊กย่ิงกว่ายุคสมัยอ่ืนใดทั้งก่อนและหลัง นั้นหรือไฉน วิสัชนา หามิได้ “ใต้หล้าหรือจะไร้ซึ่งหญ้าหอม” จวั่ ซอื กวเี อกสมยั ราชวงศซ์ จี น้ิ เคยเขยี นไวว้ า่ “ไมม่ ยี คุ ใดจะไรค้ นดี แต่แม้จะมี ก็ในเลนตม” อันหมายความว่า ไม่มียุคสมัยใดดอกท่ีจะไม่มี คนดี เพียงแต่มิได้ถูกค้นพบน�ามาใช้งานให้สมกับความสามารถเท่าน้ัน ! จึงมีปุจฉาต่อไปอีกว่า เพราะเหตุใดจึงมิได้ถูกค้นพบเล่า วิสัชนาว่า อาจเพราะไม่มีโอกาสหรือมิฉะน้ันอาจเปนเพราะเจ้านาย

นําเร�อง 43 ใช้คนไม่เปน การปรากฏขึ้นของบุคลากรที่มีความสามารถ มักจะอยู่ในกลียุคหรือ ในยุคเฟองฟู กลียุค เปนระยะเวลาแห่งความปันป่วน ความแตกแยก และความ เปล่ียนแปลงอันใหญ่หลวง ผู้ปกครองเก่าไม่สามารถจะด�าเนินการปกครอง ในแบบเก่าได้ต่อไปอีก รากฐานแห่งการปกครองของยุคนั้น ๆ คือราชส�านักและขุนนาง ใหญ่น้อยท้ังปวง เหลวแหลกเน่าเฟะ ไร้ความสามารถที่จะฝ่าคล่ืนฝนลม กู้สถานการณ์ให้กลับร้ายกลายเปนดี อนาคตของพวกเขามีแต่ความพินาศ รออยู่เพียงอย่างเดียว ในยุคสมัยเช่นนี้น่ีเอง ที่ผู้มีอุดมการณ์ต่างพากันลุกฮือขึ้น บ้างเพ่ือ กอบกู้แผ่นดิน บ้างเพ่ือตั้งตนเปนใหญ่ และเพ่ือความประสงค์ซ่ึงแตกต่าง กัน ดังน้ีจ�าเปนท่ีจะต้องมีผู้มีปัญญามาช่วยเหลือเกื้อกูล ฉะนั้น ผู้ต้ังตน เปนใหญ่จึงมักสามารถสามัคคีผู้มีสติปัญญามาห้อมล้อมอยู่กับตน จึงจะ บรรลุเปาหมายที่ตนได้ต้ังไว้ เร็วบ้างช้าบ้าง มากบ้างน้อยบ้าง ดังน้ัน บุคลากรต่าง ๆ นานา จึงมีโอกาสปรากฏขึ้น และมีโอกาสได้แสดงความ สามารถของตนอย่างเต็มท่ี ประวัติสามก๊กให้การยืนยันแก่สัจธรรมในข้อนี้เป็นอย่างดี หากมิใช่เปนกลียุค เล่าป “คนเข็ญใจไร้ทรัพยทอเส่ือขายเลี้ยงชีพ” ไฉนจะสามารถต่อสู้ถีบตัวข้ึนมาเปนฮ่องเต้อยู่ได้ในจ๊กก๊ก หากมิใช่เปนกลียุค โจโฉผู้เปนเหลนแห่งเหลนของขันที ไฉนจะ สามารถ “บังคับโอรสสวรรคเพ่ือบัญชาเจ้าครองแคว้นได้” หากมิใช่เปนกลียุค ซุนกวนหลานชายขุนนางอ�าเภอตัวเล็ก ๆ ไฉน จักสามารถทรงอ�านาจอยู่ได้ในกังต๋ัง

44 ศลิ ปะการใชค นในสามกก แต่ประวัติศาสตร์จีนโบราณมีความปันป่วนและความแตกแยกมา ถึง 7 ครั้งด้วยกัน ทว่าเหตุใดจึงไม่มีครั้งใดเลยท่ีจะมีผู้คนซ่ึงสูงส่งด้วยสติ ปัญญาความสามารถ ปรากฏตัวข้ึนมาคนแล้วคนเล่าเยี่ยงเดียวกับสมัย สามก๊ก ปัญหายังคงต้องย้อนกลับไปสู่ปัญหาเดิมข้างต้น เพราะเหตุว่าประมุขของสามก๊ก คือ โจโฉ เล่าป ซุนกวน รู้จักและ สันทัดในการใช้คน ! ในเขตท่ีพวกเขาปกครองอยู่ พวกเขาต่างแสวงหา บุคลากรทุกประเภทให้มาช่วยงานการก่อร่างสร้างตัวของตนอย่างสุดก�าลัง คนดีท้ังหลายจึงมิได้ถูกมองข้ามไปง่าย ๆ ไม่น�าพา ดังนั้น ในยุคที่มีผู้ทรงสติปัญญาความสามารถหลากหลายโผล่ผุด ข้ึนมาอย่างมากมายเช่นน้ี หน่ึงคือ มีโอกาสที่เปดกว้างให้ สองคือ เจ้านายสันทัดในการใช้คน จะขาดข้อหน่ึงข้อใดในสองข้อน้ีไม่ได้ท้ังส้ิน และการที่บุคลากรในสามก๊กได้ยังความสนใจเปนอย่างย่ิงแก่คน ท้ังหลาย ย่อมผูกพันอย่างแยกไม่ออกจากการเล่าขานพรรณนาด้วยปลาย พู่กันของผู้เขียน ตํานานสามกก ซึ่งได้บรรจงวาดจินตนาการของเขาจาก ประวัติศาสตร์ให้โลดแล่นไปเหมือนมีชีวิตชีวา ศิลปะการใช้คนในสามก๊ก เป็นมรดกทางบุคลากรศาสตรอันทรง คุณคา่ เปน็ ที่ยง่ิ ของจนี โบราณ การสนใจคน้ ควา้ ศลิ ปะอนั นี้ จะมีคุณประโยชน อย่างใหญ่หลวงแก่การใช้คนของวงการทั่วไปอย่างกว้างขวาง การค้นคว้าศิลปะการใช้คนในสามก๊ก จะต้องเร่ิมต้นจากการประเมิน ตัวบุคคลอย่างถูกต้องก่อนอ่ืน เพราะมีแต่การประเมินตัวบุคคลอย่าง ถูกต้องเท่าน้ัน จึงสามารถใช้คนได้อย่างถูกต้อง และการที่จะประเมินตัวบุคคลได้อย่างถูกต้อง ก่อนอื่นต้องเริ่มต้น

นาํ เรอ� ง 45 จากความเป็นจริง จะถือเอาการรบแพ้หรือชนะ ประสบความส�าเร็จใน ภารกิจหรือไม่ มาประเมินความเป็นเลิศของบุคคลผู้นั้นหาได้ไม่ เล่าปใช้ขงเบ้ง กล่าวได้ว่าเพราะการสันทัดในการรู้จักคนและใช้คน ขงเบ้งเปนอัจฉริยบุคคลในยุคน้ันจริง ๆ เปนวีรบุรุษชั้นยอด แต่ขงเบ้งไม่ สามารถบรรลุเปาประสงค์อันยิ่งใหญ่ของตน ในการกรีธาทัพก�าราบวุยก๊ก ทางภาคเหนือได้ คนทั้งหลายจึงมักมีความเห็นกันไปต่าง ๆ นานาในเรื่อง น้ี บ้างว่า ขงเบ้งยกทัพออกศึกใหญ่ทางเขากิสานถึง 6 คร้ัง แต่ยึดได้พื้นที่ เพียง 3 กุน (กุนเทียบเท่าจังหวัด) เหนื่อยกายเหน่ือยใจจนถึงแก่ชีวิต ในที่สุด ทว่ามิได้รับผลส�าเร็จตามต้องการ แสดงว่าขงเบ้งหาใช่คนเก่งกล้า สามารถอะไรไม่ บ้างก็เยาะเย้ยว่า “จ๊กก๊กไร้ขุนพล เลียวฮัวเป็นทัพหน้า” เห็นว่าขงเบ้งไม่สันทัดในการใช้คน จึงไม่บรรลุเปาประสงค์ตามปณิธานที่ ได้ต้ังไว้ ขงเบ้งเปนบุคคลที่เปนหลักส�าคัญของจ๊กก๊ก เขาช่วยเล่าปในฐานะ ทปี่ รกึ ษาในชนั้ แรกและไดเ้ ปน อคั รมหาเสนาบดใี นชนั้ หลงั เมอ่ื เลา่ ปส นิ้ ชีวิต ไปแล้ว ขงเบ้งก็เปนผู้บริหารราชการแผ่นดินตัวจริง ความเข้มแข็งหรือ อ่อนแอของจ๊กก๊กย่อมผูกพันอยู่กับตัวเขาอย่างใหญ่หลวง แต่เราจะเอา การรบชนะหรือการรบแพ้มาประเมินค่าของขงเบ้ง เอาข้อดีของเขามา กลับตาลปัตรว่าเปนข้อด้อย แล้วปฏิเสธบทบาทส�าคัญของนักยุทธศาสตร์ ท่ีดีเด่นคนน้ีไปส้ินเชิง ย่อมไม่ควร ในด้านการใช้คน ขงเบ้งมิได้ถือกฎระเบียบอย่างตายตัว เขาใช้คน ตามความสามารถ ดังเช่น เคาเจ้งผู้คงแก่เรียนมีช่ือ แต่มิได้มีความสามารถ ที่เด่นชัดนัก เมื่อเล่าปเข้าเสฉวนแล้ว มิได้คิดจะใช้เขา ซึ่งขงเบ้งเห็นว่า เคาเจ้งเปนผู้มีช่ือเสียงกระเดื่องดังอย่างกว้างขวางท้ังในและนอกจ๊กก๊ก ถ้า ใช้เขาก็สามารถท่ีจะส่งผลสะเทือนไปไกล ชักจูงผู้ที่มีสติปัญญาความ สามารถอื่น ๆ เข้ามาร่วมงานสร้างแผ่นดินจ๊กก๊กได้ จึงแนะน�าให้เล่าปรับ เคาเจ้งไว้ใช้งาน เล่าปจึงได้ต้ังเคาเจ้งซึ่งมีอายุถึง 70 แล้วเปนเสนาบดี

46 ศลิ ปะการใชค นในสามกก อุยเอี๋ยนกับเอียวหงี คนทั้งสองนี้ล้วนแต่มีความสามารถ หากแต่ อุยเอี๋ยนมีนิสัย “ยโสโอหัง” เอียวหงีเล่าก็ “คับแคบหุนหัน” ท้ังสองคน ล้วนแต่ไม่สามารถสามัคคีร่วมงานกับคนอื่นได้ แม้ขงเบ้งจะอาศัยคน ท้ังสองซึ่งเก่งทางบู๊คนหน่ึงทางบุนคนหน่ึง เปนแขนซ้ายขวาของตนใน กองทัพก็ตาม แต่เขาก็มิได้ตั้งให้เปนทายาทผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของเขา แตล่ ะครง้ั ทก่ี รธี าทพั ออกศกึ ขงเบง้ กจ็ ะมอบอา� นาจการบรหิ ารจก๊ ก๊ก ให้กับเจียวอ้วน บิฮุย ตังอุน ซ่ึงเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม พุทธิธรรม ซึ่งหลังจากขงเบ้งถึงแก่กรรมไปแล้ว เจียวอ้วนกับบิฮุยก็บริหารจ๊กก๊ก ก่อนหลังตามล�าดับ ท�าให้ศัตรูไม่กล้าแตะต้องจ๊กก๊ก ความสงบสุขทาง ชายแดนจ๊กก๊ก สามารถรักษาไว้ได้นานถึง 29 ป เหตุท่ีขงเบ้งมิได้รับชัยชนะตามประสงค์ ที่ส�าคัญอยู่ที่สถานการณ์ ภววสิ ยั ในขณะนน้ั กา� ลงั ของวยุ กก๊ ทง้ั กา� ลงั ทหารและกา� ลงั คน มากกวา่ จก๊ ก๊ก ถึง 3 เท่า พลังทางเศรษฐกิจก็แข็งกล้าหนาแน่นกว่า แม่ทัพมีสติปัญญา มากด้วยกลอุบาย อันสงครามน้ัน ก็คือการประลองก�าลังในทางก�าลังคน ก�าลังวัตถุ และสติปัญญา แต่ก�าลังคนและก�าลังวัตถุระหว่างวุยก๊กกับจ๊กก๊ก ห่างไกล กันถึงปานน้ัน ส่วนสติปัญญานั้นหาได้ต่�าต้อยน้อยหน้าไปกว่ากันนักไม่ โดยทางภววิสัยแล้ว จ๊กก๊กจึงไม่อยู่ในฐานะท่ีจะได้ชัยชนะอย่างสิ้นเชิง แต่ขงเบ้งก็ใช้ก�าลังเพียง 5 หม่ืนคนของตน รุกรบโรมรัน ท�าให้ทหาร 20 หมื่นของวุยก๊กที่เรียงรายอยู่ตามชายแดนท�าได้เพียงแต่คอยต้ังรับอยู่ ท่าเดียว สุมาอี้แม่ทัพเอกถึงกับยอมรับเส้ือผ้าผู้หญิงท่ีขงเบ้งจงใจส่งไป เย้ยหยันว่า เปนหน้าตัวเมีย ! หากขงเบ้งมิได้มีอัจฉริยะเหนือคนแล้วไซร้ การศึกและประวัติศาสตร์สามก๊กคงมิได้เปนเช่นที่เปนอยู่ ฉะน้ัน การถือเอาการรบชนะหรือรบแพ้มาประเมินค่าของคน จึงไม่ สามารถท่ีจะเข้าใจอัจฉริยบุคคลเย่ียงขงเบ้งได้อย่างถูกต้องถ่องแท้เด็ดขาด

นาํ เร�อง 47 ประการตอ่ มา การทจ่ี ะประเมนิ บคุ ลากรอยา่ งถกู ตอ้ ง พงึ มที ศั นะแยก หน่ึงเปนสอง จะยอมรับหรือปฏิเสธอย่างสมบูรณ์มิได้ การประเมินค่าต่อ บุคลากรมิใช่แต่จะพิจารณาจากด้านมนุษยธรรม จริยธรรมของบุคคลน้ัน แต่ด้านเดียว ที่ส�าคัญยังต้องพิจารณาถึงคุณูปการท่ีเขามีต่อสังคมด้วย โจโฉเปนบุคคลอ�ามหิตร้อยเล่ห์ แต่สติปัญญาเฉียบแหลม มีท้ังข้อดี และข้อเสีย แต่เขาก็มีบทบาทในการผลักดันการพัฒนาของสังคมในระดับ หน่ึง ในด้านการใช้คน เขามีส่วนท่ีล�้าหน้าคนอ่ืนไปหลายก้าว โจโฉไม่ถือ ความแค้นเคืองในอดีตเปนอารมณ์ ให้ความยกย่องแก่ความรู้ความสามารถ ของทุก ๆ คน ศัตรูและผู้อยู่ฝ่ายตรงข้ามในอดีตท่ีมาสวามิภักด์ิอยู่กับเขา รับใช้ให้ข้อเสนอแนะดี ๆ แก่เขาโดยมิได้ปันใจเปนอื่น จนท�าให้เขาสามารถ รวบรวมภาคเหนือให้เปนหนึ่งเดียวภายใต้อ�านาจของเขา มีอยู่มากหน้า หลายตา หากโจโฉครุ่นคิดถึงแต่เรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัว ใช้คนก็คอย แต่หาเร่ืองจับผิดจับถูกอยู่ร่�าไป ก็คงไม่สามารถสามัคคีคนเปนอันมาก ให้มารับใช้ตน จนอาจกลายเปนคนสันโดษอยู่แต่ล�าพัง ท�าอะไรไม่ส�าเร็จ สักอย่าง มีคนเห็นว่าอุปนิสัยโจโฉร้อยเล่ห์พันเหลี่ยม แม้แต่อุดมคติอันย่ิง ใหญ่ และความปรีชาสามารถของเขาก็ถูกโจมตีว่าเปนความช่ัวร้ายไป ท้ังหมด ข้อนี้เห็นทีจะไม่สู้ถูกต้อง อีกประการต่อมา การประเมินบุคคลอย่างถูกต้องนั้น ต้องวิเคราะห์ อย่างเปนรูปธรรม จะเอากรอบหนึ่งกรอบใดมาครอบหรือมาวัดเอาอย่าง ตายตัวมิได้ คนในโลกน้ีไม่มีท่ีสมบูรณ์ไปทั้งหมด บางคนเก่งทางนี้แต่โง่ ทางน้ัน อย่างซุนกวน เราไม่เห็นว่าจะมีกลอุบายท่ีแยบยลอะไรแสดงให้ เห็นชัด แต่เนื่องจากเขาสามารถใช้นักปราชญ์ยกผู้สามารถ รวบรวม “สติ

48 ศลิ ปะการใชค นในสามกก ปญญาและพลังของคนทั้งหลาย” ไว้ในตัว จึงสามารถกลายเปนประมุข ของง่อก๊กได้ จิวย่ีแม้จะมิได้ออกประจัญบานด้วยตนเอง แต่ก็สามารถ “วางแผน อยู่แนวหลัง รบชนะไกลพันลี้” จึงได้รับการยกย่องว่าเปนแม่ทัพผู้เก่งกล้า สามารถ ม้าเจ๊กเปนแม่ทัพเอกไม่ได้ แต่ก็เปนที่ปรึกษาที่มีความหลักแหลม เอาการ ม้าเฉียวอ่อนในกลอุบาย แต่ก็เปนนายทหารผู้แกร่งกล้ายากท่ีจะมี ผู้ต้านทานได้ ฉะนั้น เม่ือจะใช้คนดีก็ต้องใช้ตามความสามารถ อย่าฝนใช้ในสิ่งที่ เขาไม่เปนเอาเสียเลย การใช้คนเป็นหรือไม่ มีความส�าคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองและความ เสื่อมโทรมสูญสลายของประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ความเจริญรุ่งเรือง ของสามก๊ก จึงมีความเกี่ยวพันกับความสันทัดในการใช้คนของโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวนอย่างแยกไม่ออก เล่าป “สามเยือนกระท่อมหญ้า” ขงเบ้งจึงรู้สึกซาบซ้ึงในน�้าใจไมตรี และการให้เกียรติแก่ตน จึงเสนอ “นโยบายหลงจง” รับใช้เล่าปด้วยความ ซ่ือสัตย์เต็มสติก�าลัง เล่าปจึงเปลี่ยนฐานะจากอ่อนแอเปนเข้มแข็ง จน สามารถตั้งตนเปนฮ่องเต้ขึ้นในจ๊กก๊ก ซนุ กวนสนั ทดั ในการใช้ “สตปิ ญ ญาและพลงั ของคนทงั้ หลาย” รบั ฟัง “นโยบายบนยี่ภู่” ของโลซกด้วยความยินดี จึงสามารถยืนตระหง่านอยู่ได้ ในกังตั๋ง โจโฉขอความเห็นจากซุนฮกด้วยความถ่อมตน ให้ความเคารพและ ปฏบิ ตั นิ โยบาย “ตง้ั หลกั เพอ่ื ครองแผน่ ดนิ ” “รกั ษากวั ตอ๋ รอการเปลยี่ นแปลง” จึงสามารถเปนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ

นําเรอ� ง 49 ปลายสมัยราชวงศ์ฮ่ันตะวันออก ผู้ที่ใคร่จะเปนใหญ่ในตงหงวนนั้น มีอยู่มากมาย แต่เหตุใดจึงเหลืออยู่เพียงสามก๊ก คนอ่ืน ๆ ล้วนแต่ถูกท�าลาย ไปส้ินเล่า เร่ืองไม่สันทัดในการใช้คนนับเปนสาเหตุส�าคัญ ดังเช่น อ้วนเส้ียว เปนใหญ่อยู่ใน 4 จ๋ิว (จิ๋วเทียบเท่าจังหวัด) ทหารก็มาก เสบียงอาหารก็ สมบูรณ์ การรบท่ีกัวตอ ก�าลังทหารของอ้วนเส้ียวเข้มแข็งกว่าของโจโฉ ความจริงชัยชนะควรเปนของอ้วนเส้ียว แต่เพราะเขาไม่ฟังค�าเตือนของ เตียนห้องและจอสิว ซ้�ายังไม่ใช้นโยบายของเขาฮิว ระแวงสงสัยในสิ่งที่ ไม่ควรระแวงสงสัย ตัดสินใจในเรื่องท่ีไม่ควรตัดสินใจ จึงสูญเสียโอกาส การรบท่ีดีไป ถูกโจมตีกลายเปนฝ่ายถูกกระท�าพ่ายแพ้ไปในที่สุด เลา่ เปย วครองพนื้ ทซ่ี ง่ึ อยทู่ า่ มกลางสนามรบ กนิ อาณาเขตกวา้ งขวาง ถึง 9 จิ๋ว แต่เพราะ “คนดีก็ใช้ไม่เป็น คนเลวก็ไม่กล้าไล่” ทั้งยังไม่มีปณิธาน อันใหญ่หลวงอะไร พอใจในสภาพท่ีเปนอยู่ จึงเปนได้ก็แต่ก้อนเน้ือท่ีถูกแล่ อยู่บนเขียง การท่ีเกงจ๋ิวถูกเฉือนออกเปนเสี่ยง ๆ จึงเปนเร่ืองที่เลี่ยงไม่พ้น ลิโปเปนขนุ พลผู้พชิ ิต แตด่ อ้ื รั้นทา� หทู วนลมต่อคา� เตอื นและคา� แนะน�า ถูกต้องของตันกงผู้ภักดี กลับไปหลงเช่ือตันกุยกับตันเตงสองพ่อลูก ซ่ึง ยกยอปอปันแต่ทรยศเอาใจออกหากไปเข้ากับศัตรู ในขณะที่ตกอยู่ใน อันตรายถูกโจโฉล้อมไว้อย่างแน่นหนา ก็ไม่คิดจะอาศัยเตียวเลี้ยว ขุนพล เอกของตน ช่วยกันรบฝ่าฟันให้พ้นภัยไป หวังแต่จะพ่ึงทวนขออาวุธคู่มือ และเซ็กเธาว์ม้าคู่ชีพคุ้มครองครอบครัวตนด้วยความทระนง ในที่สุดถูก โจโฉจับได้ หัวต้องหลุดจากบ่าไปในที่สุด ความพนิ าศของสามกก๊ ในตอนปลาย เปน เพราะไมร่ จู้ กั ใชค้ นเชน่ กัน เล่าเสี้ยนแห่งจ๊กก๊กหลงลมปากขันทีฮุยโฮ โจฮองแห่งวุยก๊กใช้โจซอง คนบ้าอ�านาจ ซุนโฮแห่งง่อก๊กฟังแต่ค�าเพ็ดทูลของขันทียิมหุน จึงได้เร่ง ความเสื่อมสลายของสามก๊กให้เร็วขึ้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook