Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบบันทึกหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑

แบบบันทึกหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑

Published by กิติศักดิ์ ส., 2019-11-11 09:24:57

Description: แบบบันทึกหน่วยการเรียนรู้ที่ ๑

Search

Read the Text Version

ครัง้ ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด ทีค่ ร สาม ข ๓. ค จาก จาก กลา จาก อกั ษ ๖. ค พยัญ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ จากน้ันครพู ูดวรรณยกุ ต์ไทย และนักเรยี นเขยี นวรรณยกุ ต์ รอู อกเสียงบนอากาศ และนกั เรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกบั อักษร มหมู่ และครนู ำเขา้ สู่บทเรียน เร่อื ง หลกั การเขียนสะกดคำ ข้ันพฒั นาการเรียนรู้ (๔๐ นาท)ี ครเู ปดิ สไลด์ Power Point ตัวอยา่ งคำ ดังน้ี กนนั้ ครถู ามคำถามนักเรียน ดงั น้ี - คำว่า “แก้ว” พยญั ชนะตน้ เปน็ อักษรใด - คำวา่ “สาด” คอื คำเปน็ หรือคำตาย - คำวา่ “นอ้ ง” คือ พยัญชนะตน้ เป็นอักษรใด - คำว่า “ตอบ” เป็น คำเปน็ หรือคำตาย - คำวา่ “แต้ม” ใช้รูปวรรณยุกตใ์ ด - คำว่า “ชา้ ง” มีเสียงวรรณยุกตใ์ ด ๔. ครูเปดิ สไลด์หลักการใช้วรรณยุกต์ ดงั น้ี กนั้นนักเรียนสรุปจากตัวอย่างหลักการใช้วรรณยุกต์ พยัญชนะอักษร าง ใช้รูปวรรณยกุ ต์ใด ออกเสียง วรรณยกุ ต์นั้น ๕. ครเู ปิดสไลดห์ ลักการใช้วรรณยุกต์ ดงั น้ี กนัน้ นกั เรียนสรปุ จากตัวอยา่ งหลักการใช้วรรณยกุ ต์ พยญั ชนะ ษรสูง ใช้รูปวรรณยุกต์ใด ออกเสียง วรรณยกุ ต์นั้น ครเู ปดิ สไลดห์ ลกั การใชว้ รรณยุกต์ ดังน้ี จ า ก น ั ้ น น ั ก เ ร ี ย น ส ร ุ ป จ า ก ต ั ว อ ย ่ า ง ห ล ั ก ก า ร ใ ช ้ ว ร ร ณ ย ุ ก ต์ ญชนะอกั ษรตำ่ ใชร้ ปู วรรณยกุ ตใ์ ด ออกเสียง วรรณยุกต์น้ัน

คร้งั ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด ใช้ร รูปว ไม้ต ตรง กระ จาก อยา่ ๙. น ในป เรียก ขนั้ ส ๑ ตาร กำก

กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ ๗. นกั เรียนสรุปความรู้ ดงั น้ี “พยัญชนะต้นเป็นอักษรกลาง รูปวรรณยุกต์ตรงกบั เสียงวรรณยกุ ต์ พยัญชนะต้นเป็นอักษรสูง ใช้ วรรณยุกต์เอกและโทตรงกับเสียงวรรณยุกต์ และอักษรสูงจะไม่ใช้ ตรีและไม้จัตวา และพยัญชนะต้นเป็นอักษรต่ำ ใช้รูปวรรณยุกต์ไม่ งกับเสียงวรรณยุกต์” จากนั้นครูเขียนสรุปความรู้ของนักเรียนบน ะดาน ๘. ครูยกตัวอย่างประโยคในสไลด์ ดงั นี้ กน้นั ให้นกั เรียนพจิ ารณาประโยคข้างต้น และครูถามคำถาม ดังน้ี “ขนั ” เปน็ ชนดิ ของคำใด “สมขัน” เปน็ ชนิดของคำใด มีความหมายว่าอยา่ งไร “ขนั ” เป็นชนิดของคำใด มคี วามหมายว่าอยา่ งไร “แข็งขัน” เปน็ ชนดิ ของคำใด มคี วามหมายวา่ างไร นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ จากตัวอย่างประโยคข้างตน้ ดังนี้ “คำ ประโยคมีการออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายของคำต่างกัน กว่า คำพ้องเสยี ง” สรปุ การเรียนรู้ (๕ นาท)ี ๑๐. นกั เรยี นเลน่ เกมบงิ โก “คำพอ้ งเสียง” โดยมีกติกา ดงั นี้ กติกา ๑. นักเรยี นจับกลมุ่ ๓ คน ตามโต๊ะท่ีนักเรยี นน่งั และครูแจก รางบิงโก “คำพ้องเสียง” ซึ่งตาราง บิงโก จะมีคำพ้องเสียง และ กบั ดว้ ยชนดิ ของคำ

ครั้งที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนร้/ู ตวั ชีว้ ัด ครูอ หรือ คำใ ในต นกั เ ๑๑. ดงั น ๑ ในค ๙ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๓ ใชร้ ะดับภาษาได้เหมาะสมแกโ่ อกาส ขนั้ น (๑ ชว่ั โมง) ใช้ภาษาเหมาะสมแก่ (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๓) คำถ โอกาส กาลเทศะ คำถ และบคุ คล รวมทงั้ คำ

กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้/ แหลง่ การเรียนรู้ ๒. ครูเปน็ คนจับสลากในกล่อง ซึง่ ในสลากมีประโยคจากน้ัน อ่านประโยค และให้นักเรียนฟังว่ามีคำในตารางบิงโกที่ครูอ่าน อไม่ ถ้ามีให้นักเรียนยกมือ และครูสอบถามว่า คือคำใด ชนิดของ ใด เมื่อคำตรงกับตารางบิงโกและตอบคำถามถูกต้อง ให้วางหมาก ตารางบงิ โก ๓. ครูหยิบสลากจากกล่อง จนกว่านักเรียนจะบิงโก และเม่ือ เรยี นบงิ โก ใหต้ ะโกนว่า “คำพอ้ งบิงโก” ๔. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งของกลุ่มทบี่ งิ โก . นักเรียนละครรู ่วมกนั สรปุ “การเขียนสะกด” จากประเดน็ คำถาม น้ี - พยญั ชนะอักษรใด ออกเสียงวรรณยกุ ต์ไดค้ รบทกุ เสียง - พยัญชนะอกั ษรใด ออกเสียงวรรณยกุ ต์โท แต่รปู เอก - พยัญชนะอักษรใด เขียนรปู โท แต่เสยี งตรี ๑๒. นักเรียนทำแบบฝึกหัด การใช้คำพ้องในการสร้างประโยค ส่ง คาบถัดไป นำเขา้ สู่บทเรียน (๕ นาที) ๑. หนังสือเรยี น ๑. ครเู ปิดวิดีโอ “การกล่าวเปิดงาน” ให้นกั เรยี นดแู ละถาม ภาษาไทยพน้ื ฐาน ชั้น ถาม ดังนี้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ถาม ๒. วดิ ีโอ “การกล่าว เปิดงาน” - จากวดิ โี อนัน้ พธิ ีกรมีลักษณะการยนื อยา่ งไร

คร้งั ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด จาก ราชาศพั ทอ์ ย่าง กลา่ เหมาะสม นักเ คำน ข้นั พ หนงั ชั้นม ภาษ นกั เ ๑บ พูดภ ชาร

กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ - จากวิดีโอ มกี ารใช้เสียงอยา่ งไร ๓. อปุ กรณ์กลุ่ม - กริ ยิ าทา่ ทาง การยืน การพดู เปน็ อย่างไร กระดาษฟลิบชาร์ท ๒. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ คำตอบ จากการตอบคำถาม และปากกาเคมี กนน้ั ครสู าธติ การพดู กล่าวเปิดงานใหน้ กั เรียนดซู ง่ึ สาธติ ตัวอย่างการ าวรายงานท่ถี ูกตอ้ ง และการกล่าวรายงานที่ไม่ถกู ตอ้ ง และให้ เรยี นรว่ มกนั สรปุ ลกั ษณะการกล่าวเปิดงาน โดยครูให้นกั เรียน นึงถงึ ระดบั ของการใชภ้ าษา และนำเข้าสู่บทเรียนเรือ่ ง ระดบั ภาษา พฒั นาการเรียนรู้ (๔๐ นาที) ๓. นักเรยี นจบั กลุ่ม ๘ คน และจบั สลากหวั ข้อท่ีศึกษา จาก งสอื เรยี นวชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ หน้า ๕๓ – ๕๕ และ ดังนี้ ๑. ภาษาระดบั พิธีการ ๒. ภาษาระดับทางการ ๓. ภาษาระดบั กึ่งทางการ ๔. ภาษาระดบั สนทนา ๕. ภาษาระดับกนั เอง ๔. เมอ่ื นักเรียนศกึ ษาประเด็นจากหนงั สือเรียนวิชา ษาไทยพืน้ ฐานแล้ว ให้นกั เรยี นหาบทความท่เี กี่ยวกบั ประเด็นที่ เรยี นศกึ ษา และเขียนขอ้ ความตามประเดน็ ทีศ่ ึกษา โดยเลอื กเพยี ง บทความ เชน่ ภาษาระดับพธิ กี าร ใหย้ กตัวอย่างสถานการณ์ในการ ภาษาระดบั พิธกี าร ๑ ตัวอยา่ ง เป็นต้น และเขียนลงกระดาษฟลบิ รท์

ครงั้ ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนรู/้ ตวั ชี้วัด ๕. ค ขอ้ ค ข คำถ ๑๐ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๓ ใชร้ ะดบั ภาษาไดเ้ หมาะสมแก่โอกาส ข้นั เ ภาษ (๑ ชว่ั โมง) ใช้ภาษาเหมาะสมแก่ (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๓) โอกาส กาลเทศะ และบคุ คล รวมทง้ั คำ ราชาศพั ทอ์ ย่าง เหมาะสม

กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของแต่ละกล่มุ เกีย่ วกับการเขียน ความตามประเด็นท่ศี ึกษา ขนั้ สรปุ การเรียนรู้ (๕ นาที) ๖. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ ระดบั ภาษา จากการตอบ ถาม ดงั น้ี - ระดบั ภาษามีความสำคัญอยา่ งไร - ภาษาระดบั พธิ กี าร มกี ารใชก้ ับสถานการณ์ใด - ภาษาระดบั ทางการ มีการใชก้ บั สถานการณใ์ ด - ภาษาระดับกึ่งทางการ มีการใชก้ ับสถานการณใ์ ด - ภาษาระดับสนทนา มกี ารใชก้ บั สถานการณ์ใด - ภาษาระดบั กนั เอง มีการใชก้ ับสถานการณ์ใด ๗. นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เร่อื ง ระดบั ภาษา เตรียมการสาธิต ( ๕ นาที) ๑. หนังสอื เรยี น ๑. ครูทบทวนความรู้ เกี่ยวกับ การเขียนข้อความจากระดับ ภาษาไทยพื้นฐาน ชน้ั ษา จากการสุ่มนกั เรียน ๕ – ๗ คน ตอบคำถาม ดังนี้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ - ระดับภาษามีความสำคญั อยา่ งไร ๒. วดิ ีโอ “การกล่าว - ภาษาระดบั พธิ ีการ มีการใชก้ บั สถานการณใ์ ด เปิดงาน” - ภาษาระดบั ทางการ มีการใชก้ บั สถานการณ์ใด - ภาษาระดับกึ่งทางการ มกี ารใช้กับสถานการณ์ใด - ภาษาระดบั สนทนา มีการใช้กับสถานการณใ์ ด - ภาษาระดบั กนั เอง มกี ารใชก้ ับสถานการณใ์ ด

คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด มาร เขีย นำเ ข ๔. ค จาก และ การ จาก บอก การ กลุ่ม การ ทำต อาจ และ

กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ - มารยาทในการพูดมีอะไรบ้าง ให้นักเรียนยกตัวอย่าง รยาทในการพูดท่ีถูกตอ้ งและไม่ถกู ตอ้ ง ๒. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้จากการตอบคำถาม และ ยนแผนภูมิขั้นตอนการสาธิตของแต่ละกลุ่มบนกระดาน และครู เขา้ สู่บทเรียน เรื่อง ระดับภาษา ขั้นสาธิต (๓๕ นาที) ๓. ครูเปดิ วดิ โี อ “การกล่าวเปิดงาน” และถามคำถามนกั เรียน ครใู ห้นักเรียนบอกลกั ษณะของการกลา่ วเปิดงาน มีลักษณะอย่างไร กการสุ่มนักเรียน ๕ – ๗ คน บอกลักษณะของการกล่าวเปิดงาน ะใหบ้ อกการกล่าวเปดิ งานทถี่ ูกต้องและไม่ถกู ต้อง ๕. ครูสาธิตการกล่าวรายงานใหน้ ักเรียนดู โดยครยู ึดตามขั้นตอน รสาธิตที่ได้กำหนดไว้ในแผนภูมิขั้นตอนการสาธิตบนกระดาน กนน้ั สาธิตการกล่าวเปิดงาน การกล่าวปราศรัย เป็นข้ันตอน และครู กขัน้ ตอนที่ถกู ต้องเกี่ยวกับการพูด และข้นั ตอนทีไ่ ม่ถูกต้องเก่ียวกับ รพดู มารยาทในการพูด กริ ยิ าทา่ ทางขณะพดู ๖. นักเรียนสังเกตการณ์สาธิตของครู ทุกขั้นตอนแลว้ ให้ตัวแทน มโดยสมัครใจ ออกมาร่วมสาธิตกับครู เพื่อความเข้าใจในขั้นตอน รสาธิต ๗. นกั เรยี นออกมานำเสนอโดยความสมคั รใจของแต่ละกลุ่ม โดย ตามขั้นตอนในแผนภูมิขั้นตอนการสาธิตบนกระดาน โดยนักเรียน จจะส่งตวั แทนกลุ่มหรือท้งั กล่มุ อาจจะออกมาแสดงบทบาทสมมติ ะครคู อยสังเกตการสาธิตของนกั เรียนจนครบทกุ กลมุ่

ครัง้ ที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนร้/ู ตัวช้วี ัด ๑๑ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๓ ใช้คำนามราชาศพั ทไ์ ดถ้ ูกต้อง รว่ ม (๑ ช่ัวโมง) ใช้ภาษาเหมาะสมแก่ เหมาะสม (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๓) ตระ ขั้นส โอกาสกาลเทศะ และ บคุ คล รวมทัง้ คำราชา จาก เป็น ศัพท์อยา่ งเหมาะสม ภาษ ทุกร ขน้ั น ทบท นกั เ นาม ข บรม พระ

กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ การเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ ๘. ครูค่อยเน้นย้ำขั้นตอนการพูดนำเสนอในระดับภาษาต่าง ๆ มกับนักเรียน เพอ่ื เป็นการทบทวนและ ะหนักถงึ ความสำคัญของระดบั ภาษา ทัง้ การเขยี นและการพดู สรปุ และวัดผล (๑๐ นาท)ี ๙. นักเรียนและครูร่วมกันเล่าเรื่องระดับภาษา ทั้ง ๕ ระดับ กนั้นครูสุ่มนักเรียนสาธิตขั้นตอนสำคัญหรือขั้นตอนที่ครูเน้น เพ่ือ นการทบทวนและครสู งั เกตความเข้าใจของนักเรยี น เก่ยี วกับ ระดับ ษา และครูทบทวนเกี่ยวกบั สถานการณ์ที่ใช้กับระดับภาษา ระดบั นำเขา้ สู่บทเรียน (๕ นาท)ี ๑. หนังสือเรียน ๑. ครูสนทนาและทบทวน “คำนาม” และ “คำสรรพนาม” ภาษาไทยพนื้ ฐาน ชน้ั ทวนเกีย่ วกับความหมายหน้าที่ในการใชข้ องแตล่ ะคำ แลว้ ให้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เรียนยกตัวอยา่ ง คำนามและสรรพนามที่นกั เรยี นเคยเรียนมา ๒. แบบฝึกหัด เรอ่ื ง ๒. นกั เรียนและครูสรปุ ความหมายและการใช้คำนามและสรรพ คำนามราชศัพท์ ม แลว้ นำเข้าสู่บทเรยี น เรอื่ ง คำนามและสรรพนามราชาศพั ท์ ข้นั พัฒนาการเรยี นรู้ (๔๐ นาที) ๓. ครูยกตวั อยา่ งคำและนักเรียนตอบคำถาม ดังน้ี ตัวอยา่ ง พระบรมมหาราชวัง, พระบรมราชโองการ, พระ มราโชวาท, พระบรมเดชานภุ าพ, ะบรมราชูปถมั ภ์ คำถาม

ครัง้ ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด ควา “พร สาม เฉพ ควา ใด ที่มีค ศัพท ภาษ สำห

กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู/้ แหล่งการเรียนรู้ ๑. คำท่ีครยู กตัวอยา่ งมาน้ัน เมื่อนกั เรียนสงั เกตแลว้ น้นั ามหมายของคำ คอื คำชนดิ ใด ๒. คำว่า “วงั ” มคี วามหมายว่าอะไร และเปน็ ชนดิ ของคำใด นกั เรยี นสรุปความรู้จากขอ้ คำถาม ดังนี้ ระบรมมหาราชวงั , พระบรมราช, และพระบรม นำหน้าคำนาม มัญส่วนมากเปน็ คำภาษาสนั สกฤต เพือ่ แสดงเกยี รตพิ ิเศษ ใช้ พาะพระเจ้าแผ่นดนิ ” ๔. ครูยกตวั อย่างคำและนกั เรยี นตอบคำถาม ดงั น้ี ตวั อย่าง พระราชวงั , พระราชดำรสั , พระราชประสงค์ คำถาม ๑. คำท่ีครยู กตวั อยา่ งมานนั้ เม่อื นกั เรียนสงั เกตแลว้ นนั้ ามหมายของคำ คือชนดิ ของคำใด ๒. คำวา่ “วัง” มคี วามหมายวา่ อย่างไร และเปน็ ชนดิ ของคำ นกั เรยี นสรปุ จากขอ้ ความ ดังน้ี “พระราช ใช้นำหน้าคำนาม ความสำคัญอันดับรอง เพื่อเน้นให้เห็นความแตกต่างกับคำราชา ท์ทใ่ี ช้กบั เจา้ นายท่วั ไป ส่วนมากเป็นคำภาษาบาลี – สันสกฤต และ ษาเขมร พระราช ใช้สำหรับพระเจ้าแผ่นดินเป็นส่วนใหญ่ และใช้ หรับเจา้ นายท่ไี ดร้ ับสถาปนาพระยศชั้นสูง” ๕. ครูยกตัวอย่างและนกั เรียนตอบคำถาม ดังนี้ ตัวอยา่ ง พระภูษา, พระมาลา, พระหตั ถ,์ พระขนง

ครั้งที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด นั้น คำ สาม สำห ตน้ , หลัง ข้าง สตั ว คำต ข

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นร้/ู แหล่งการเรียนรู้ คำถาม ๑. คำที่ยกตวั อย่างมานนั้ เมือ่ นักเรียนแปลความหมายแลว้ เปน็ ชนิดของคำใด ๒. คำว่า “มาลา” เมอ่ื แปลความหมายแล้วนั้น คือ ชนิดของ ๓. คำวา่ “มาลา” เป็นชนดิ ของคำนานชนิดใด นกั เรียนสรุปความรู้ ดังน้ี “พระ ใชน้ ำหน้าคำนามท่ีเปน็ มญั ท่วั ไป ซึ่งส่วนมากเป็นคำบาลี – สนั สกฤต และภาษาเขมร ใช้ หรบั พระเจา้ แผน่ ดิน และพระราชวงศ”์ ๖. ครยู กตัวอย่างและนกั เรียนตอบคำถาม ดงั นี้ ตัวอยา่ ง ลูกหลวง, หลานหลวง, แพทย์หลวง, ช้างต้น, มา้ , เคร่ืองต้น คำถาม ๑. คำท่ีครยู กตวั อย่างมานั้น คำวา่ “หลวง” หรอื “ต้น” อยู่ งคำใด นักเรียนสรปุ ความรู้ ดังนี้ “หลวง” หรือ “ต้น” ใช้ประกอบ งท้ายคำสามัญ ใช้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่ง “หลวง” ใช้กับ คน ว์ และสง่ิ ของทว่ั ไป ส่วน “ตน้ ” ใช้กบั สตั ว์และสิ่งของซึ่งเปน็ ชัน้ ด”ี ๗. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง คำนามราชาศัพท์ และเฉลย ตอบรว่ มกบั ครแู ล้วสรุป “คำนามราชาศัพท์” ขั้นสรุปการเรยี นรู้ (๕ นาที) ๘. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

ครั้งท่ี มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด ๑๒ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๓ ใช้คำกรยิ าราชาศัพท์ได้ถกู ต้อง วชิ า (๑ ช่ัวโมง) ใช้ภาษาเหมาะสมแก่ เหมาะสม (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๓) ขนั้ น โอกาสกาลเทศะ และ ครใู บคุ คล รวมทงั้ คำราชา ดรู ูป ศพั ท์อยา่ งเหมาะสม จาก ข ตัวอ มาก มคี ว สาม เป็น

กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ - ความหมายของคำนามราชาศัพท์ - วธิ ีเปลยี่ นคำนามสามญั ใหเ้ ป็นคำนามราชาศพั ท์ ๙. นกั เรียนทบทวนบทเรียน “คำนานราชาศพั ท์” จากหนงั สือเรียน าภาษาไทยพืน้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ นำเข้าสู่บทเรียน (๕ นาท)ี ๑. หนงั สอื เรียน ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเกีย่ วกับ “คำกริยา” จากนั้น ภาษาไทยพื้นฐาน ชน้ั ใหน้ กั เรยี นดรู ูปภาพ เชน่ กิน, นงั่ , วิ่ง, พดู , เดนิ , คลาน เมอ่ื นกั เรยี น มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ปภาพจากที่ครูให้ดูแล้วนน้ั ให้นักเรยี นแต่งประโยคจากรปู ภาพ ๒. แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง ๒. นักเรียนร่วมกันสรุปความหมายของคำกริยา จากภาพและ คำกรยิ าราชาศพั ท์ กการแตง่ ประโยค และครูนำเข้าสูบ่ ทเรยี น เรอ่ื ง คำกริยาราชาศัพท์ ๓. รปู ภาพ ข้นั พัฒนาการเรยี นรู้ (๔๐ นาท)ี “คำกรยิ า” ๓. ครยู กตวั อย่างคำและถามคำถาม ดงั นี้ ตัวอย่าง กรวิ้ , ประทบั , เสวย, บรรทม, ประทาน (ซึง่ อยา่ งทค่ี รยู กตวั อย่างมาน้นั เปน็ คำทน่ี กั เรียนค้นุ เคยและเคยได้ยนิ กอ่ น) คำถาม ๑. คำศพั ท์ทค่ี รูกำหนดหรอื ยกตัวอยา่ งน้ัน แตล่ ะคำ วามหมายวา่ อย่างไร เช่น กริว้ บรรทม ๒. คำศพั ท์ทน่ี ักเรียนแปลความหมายนัน้ นกั เรียน มารถเขา้ ใจได้เลยหรอื ไม่ ว่าเมือ่ แปลแลว้ น้ันหมายถึงอะไร ๔. นักเรียนสรุปความรู้จากคำถาม ดังนี้ “คำกริยาที่บัญญัติขึ้น นคำราชาศัพท์โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นคำที่มาจากภาษาเขมร

ครัง้ ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนรู้/ตัวชว้ี ัด ภาษ เจ้าน เป็น เป็น มคี ว หนค พระ ทรง ชนดิ นำห คำก

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ ษาบาลี – สันสกฤต จะบัญญัติขึ้นใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน และ นายเท่านั้น เป็นคำกริยาราชาศัพท์ที่ไม่ใช้ “ทรง” นำหน้าซ่ึง นราชาศัพท์อยู่แล้ว” ๕. ครยู กตัวอยา่ งคำและถามคำถาม ดงั นี้ ตวั อยา่ ง ทรงจับ, ทรงถอื , ทางสัง่ สอน, ทรงเมตตา คำถาม ๑. คำศัพท์ทีค่ รกู ำหนดหรอื ยกตัวอยา่ งนัน้ แตล่ ะคำ นชนิดของคำใด ๒. คำศัพท์ท่ีครกู ำหนดหรือยกตัวอยา่ งนนั้ แต่ละคำ วามหมายวา่ อย่างไร เชน่ จับ ถือ เมตตา เปน็ ต้น ๖. นักเรยี นสรปุ ความรู้จากการตอบคำถาม ดังนี้ “ทรง” ใช้นำ คำกริยาสามัญ สำหรับพระเจา้ แผน่ ดนิ พระราชวงศ์ และสมเดจ็ ะสงั ฆราช วิธีน้ีจะเปลี่ยนคำกรยิ าสามญั ให้เปน็ คำกรยิ าราชาศพั ท์” ๗. ครูยกตวั อยา่ งและถามคำถาม ดงั นี้ ตัวอยา่ ง ทรงประประชวร, ทรงพระกรณุ า, ทรงพระดำร,ิ งพระเมตตา คำถาม - จากตวั อยา่ งที่ครูกำหนดใหน้ ัน้ คำทีข่ ีดเสน้ ใต้ คือ ดของคำใดของคำราชาศพั ท์ ๘. นักเรียนสรุปความรู้จากการตอบคำถาม ดังนี้ “ทรง” ใช้ หน้าคำนามราชาศัพท์ โดยเปลี่ยนคำนามที่เป็นราชาศัพท์ เป็น กริยาราชาศัพท์ และคำนามที่ตามหลัง นิยมใช้ คำว่า “พระ”

คร้ังที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด นำห และ คำร โอร ชนิด ราช หรือ คำก ข

กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ หน้า คำกริยาราชาศัพท์จะใช้สำหรับพระเจ้าแผ่นดิน พระราชวงศ์ ะพระสังฆราช ยกเว้น สำหรับกริยา “เป็น” และ “มี” ถ้านำหน้า ราชาศัพท์อยูแ่ ล้ว จะไม่ใชค้ ำว่า “ทรง” นำหน้า เช่น เป็นพระราช รส, มพี ระราชโองการ เป็นตน้ ๙. ครยู กตัวอยา่ งและถามคำถาม ดังนี้ ตัวอยา่ ง เสด็จไป เสดจ็ มา เสด็จกลบั คำถาม - จากตัวอย่างที่ครูกำหนดใหน้ ้ัน คำที่ขดี เส้นใต้ คือ ดของคำใด ๑๐. นกั เรียนสรปุ ความรู้จากการตอบคำถาม ดงั น้ี “คำกริยา ชาศพั ท์ทใ่ี ช้ คำว่า เสด็จ นำหน้าคำกรยิ าท่ีตามหลังจะเป็นคำสามัญ อคำราชาศัพทก์ ไ็ ด”้ ๑๑. นกั เรียนทบทวนความรู้โดยการทำแบบฝึกหัด เร่ือง กรยิ าราชาศพั ท์ ขน้ั สรปุ การเรียนรู้ (๕ นาที) ๑๒. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั หวั ขอ้ น้ี - ความหมายของคำกรยิ าราชาศัพท์ - คำกริยาทบ่ี ญั ญตั ขิ น้ึ เป็นคำกริยาราชาศัพท์โดยเฉพาะ - คำกรยิ าราชาศพั ท์ทใี่ ช้คำวา่ “ทรง” นำหน้า - คำกรยิ าราชาศพั ท์ที่ใช้คำ “เสด็จ” นำหน้า

คร้งั ที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด ๑๓ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๖ ๑. อธิบายหลกั การสรา้ งคำใน ภาษ (๑ ชว่ั โมง) ขน้ั น อธบิ ายและวิเคราะห์ ภาษาไทยได้ (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๖) หลักการสร้างคำใน ๒. วเิ คราะห์หลักการสรา้ งคำใน ภาษ ภาษาไทย ภาษาไทยได้ (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๖) เก่ีย อักษ นักเ บทเ ข ๓. ค ดังน คำถ

กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ ๑๓. นักเรียนทบทวนคำกริยาราชาศพั ท์ จากหนงั สอื เรยี นวชิ า ษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ นำเข้าสบู่ ทเรียน (๕ นาที) ๑. หนังสอื เรยี น ๑. ครูสนทนาเกี่ยวกบั ความเป็นมาของภาษาไทย ต้นกำเนิดของ ภาษาไทยพื้นฐาน ษาไทย และอกั ษรท่ีใชใ้ นแต่ละยุคสมัย จากน้ันครูเสรมิ ความรู้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ยวกับ ความเปน็ มาของภาษาไทย ตน้ กำเนินของภาษาไทย และ ๒. บงิ โก ษรท่ใี ชใ้ นแต่ละยุค “คำไทยแท”้ ๒. นักเรียนทบทวนเกี่ยวกบั เร่ืองทีส่ นทนากับครู ซึ่งครสู มุ่ ๓. Power Point เรยี นตอบคำถาม ๓ – ๕ คน ดังน้ี คำไทยแท้ - ต้นกำเนิดของภาษาไทยเกิดข้นึ สมัยใด - ความเป็นมาของภาษาไทยเกิดขน้ึ ในสมยั ใด - อกั ษรทีเ่ ร่ิมใช้ในภาษาไทยคืออักษรใด จากน้ันครูสรุปความรจู้ ากคำตอบของนกั เรียน และนำเข้าสู่ เรยี น เร่อื ง คำไทยแท้ ข้ันพฒั นาการเรียนรู้ (๔๐ นาที) ครูเปดิ สไลดใ์ ห้นักเรยี นดูและสังเกตคำในสไลด์ แลว้ ตอบคำถาม นี้ ถาม - คำทยี่ กตวั อย่างมานน้ั มีก่พี ยางค์ - คำท่ียกตัวอย่างมานน้ั มชี นดิ ของคำครบทุกคำหรือไม่ - คำท่ียกตัวอยา่ งมานัน้ สะกดตรงตามมาตราหรอื ไม่

คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด “ลกั ๔. ค คำถ เดยี เดีย และ คำถ พยัญ เสยี กร่อ พยา กรอ่ ๕. ค คำถ สาม

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ จากน้นั นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ จากการตอบคำถาม กษณะของคำไทยแท้ เป็น คำพยางค์เดียว มใี ช้ครบทัง้ ๗ ชนดิ ” ครเู ปดิ สไลดใ์ ห้นกั เรียนดู และตอบคำถาม ดังน้ี ถาม - จากคำทีย่ กตวั อย่าง “หมากม่วง” และ “มะมว่ ง” คือคำ ยวกนั หรือไม่ - จากคำท่ียกตัวอยา่ ง “ตาวัน” และ “ตะวนั ” คอื คำ ยวกันหรอื ไม่ - คำวา่ “ตวั เขบ็ ” และ “ตะเข็บ” มกี ารตดั คำใดออกไป ะเพิ่มคำใดเขา้ มาแทนในคำนัน้ จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้จากการตอบ ถาม ดังนี้ “ คำว่า หมากม่วง มีการตัดพยัญชนะ ห สระ อา และ ญชนะท้าย ก ออก เหลือแต่ “ม” และเพิ่มสระ อะ จึงอ่านออก ยงวา่ มะมว่ ง ซง่ึ มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งคำเหลา่ นี้ เรยี กว่า การ อนเสียงของคำไทยแท้ คือ คำมี ๒ พยางค์ บางคำแต่เดิมมาจากคำ างค์เดียว ๒ คำเรียงกัน เมื่อมีการออกเสยี งเร็ว ทำให้เสียงคำแรกจึง อนเหลือแต่พยญั ชนะตน้ ” ครเู ปิดสไลดใ์ หน้ ักเรียนดู และตอบคำถาม ดงั นี้ ถาม - จากคำทยี่ กตวั อย่างมานน้ั คำว่า “ลกู กระดุม” มารถออกเสยี งว่า ลกู ดมุ ไดห้ รอื ไม่

คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด จาบ ตอบ และ พยา เพอื่ จึงก คำถ ออก มาต และ กลุ่ม พยญั พยัญ ข้นั ส

กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ - คำท่ยี กตัวยา่ ง คำว่า “นกกะจาบ” และ “นก บ” มคี วามหมายเหมือนกันหรือไม่ จากน้นั นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรจู้ ากการ บคำถาม ดงั น้ี คำว่า “ลูกดมุ ” และ “ลกกะดมุ ” มอี ะไรท่ีแตกต่าง ะ ๒ คำน้มี คี วามหมายเหมือนกันหรอื ไม่ จงึ สามารถสรุปไดว้ า่ คำ างค์เดียวเรยี งกัน ๒ คำ ต่อมามกี ารแทรกเสยี ง อะ เขา้ ตรงกลาง อต้องการกลมกลนื เสยี งตวั สะกดของคำหน้า คำทีแ่ ทรกเข้ามาใหม่ กลายเปน็ พยางค์หนา้ ของคำหลงั ซง่ึ เรยี กว่า “การแทรกเสียง” ๖. ครเู ปิดสไลดใ์ หน้ ักเรยี นดู และตอบคำถาม ดงั น้ี ถาม - คำทย่ี กตัวอยา่ งมานัน้ พยญั ชนะทีต่ อ้ งการไมใ่ ห้ กเสยี งหรอื ไม่ - คำท่ียกตวั อย่างสีส้ม มีพยัญชนะตัวสะกดหรอื - คำท่ยี กตัวอย่างสมี ่วง มีพยญั ชนะตัวสะกดหรือไม่ - คำที่ยกตวั อยา่ งสีม่วง มีพยัญชนะตัวสะกดตรงตาม ตราหรือไม่ จากนน้ั นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุป จากการตวั อย่าง ะการตอบคำถาม ดงั นี้ “คำที่อยใู่ น มคำสสี ้ม ไมม่ ีตัวสะกด อยู่ในมาตราแม่ ก กา ส่วนกลุ่มคำสีมว่ ง มี ญชนะตวั สะกด สะกดตรงตามมาตราตวั สะกด เชน่ ชม มี ญชนะตวั สะกด คือ “ม” เป็นต้น สรปุ การเรยี นรู้ (๕ นาที)

คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด ตอบ คน เขยี แม่ ทแย ข้อ ตรว

กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู/้ แหล่งการเรียนรู้ ๗. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปลักษณะของคำไทยแท้ จากการ บคำถาม ดงั นี้ - คำไทยแท้แต่ละคำมกี พี่ ยางค์ - ลักษณะของคำไทยแท้ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง - คำไทยแท้สะกดตรงตามมาตราหรือไม่ พรอ้ มยกตวั อย่าง ๘. นกั เรยี นเล่นเกม “บงิ โกไทยแท้” มกี ตกิ า ดงั นี้ (๑) ครแู จกตารางบงิ โกคำไทยแทใ้ หน้ ักเรียน ๑ ช้ิน ตอ่ ๓ (๒) ครูให้นกั เรียนหยิบคำไทยแท้ในโหลท่ีครกู ำหนดให้และ ยนลงในแผน่ บิงโก (๓) ครูหยบิ คำจากในโหลจากนน้ั อา่ นใหน้ ักเรียน เช่น พอ่ ฯ และใหน้ กั เรียนกากบาทในช่องแผ่น บงิ โก ครูหยิบจนกวา่ จะมผี ู้ชนะ คือ เรยี งคำเปน็ แนวตรง หรือแนว ยงซา้ ยหรอื ขวา (๔) นักเรยี นคนใดสามารถกากบาทเรียงกนั ตามทก่ี ำหนดใน (๓) ให้ออกเสียง “บิงโกคำไทยแท”้ และครูให้นักเรยี นบอกคำที่กากบาทโดยครูเป็นผู้ วจสอบความถกู ต้องโดยครูถามถงึ ลักษณะเฉพาะของคำไทยแทน้ ้นั ๆ ๙. นักเรียนทำแบบฝกึ หดั “การสร้างคำในภาษาไทย”

คร้งั ที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ ข้นั น (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด ๑. อธิบายหลักการสรา้ งภาษาบาลี- ออก ๑๔ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๖ สนั สกฤตในภาษาไทยได้ (๑ ชวั่ โมง) อธิบายและวิเคราะห์ (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๖) สรปุ หลกั การสรา้ งคำใน ๒. วเิ คราะหห์ ลักการสรา้ งคำภาษา ภาษาไทย บาลี-สนั สกฤตในภาษาไทยได้ ๒. น (ท ๔.๑ ม. ๔ – ๖/๖) นำเ ข ดังน คำถ ในภ พยา สรุป นั้นเ และ

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ นำเข้าสบู่ ทเรียน (๕ นาท)ี ๑. หนงั สือเรียน ๑. นักเรียนทำกิจกรรมทบทวน “คำไทยแท้” ดังน้ี ภาษาไทยพืน้ ฐาน ช้ัน (๑) นกั เรยี นอ่านคำชี้แจง และทำแบบบันทึกกจิ กรรม ซง่ึ แบ่ง มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ กเป็น ๓ ตอน ๒. โทรศพั ท์มือถอื ใช้ (๒) เมื่อนักเรยี นทำครบท้ัง ๓ ตอนแล้วน้ัน ให้นักเรียนเขียน ในการสบื คน้ ข้อมูล ปความรแู้ ตล่ ะตอน ๓. แบบบันทึก (๓) นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ และเฉลยแบบบนั ทึกกิจกรรม กจิ กรรม เร่ือง คำ นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายและสรุป “คำไทยแท้” และครู ไทยแท้ เขา้ ส่บู ทเรยี น เร่อื ง “ภาษาบาลี-สนั สกฤต” ๔. Power Point คำ ขั้นพัฒนาการเรียนรู้ (๔๐ นาท)ี บาลี-สันสกฤต ๓. ครูยกตัวอยา่ งคำใน Power Point และนกั เรียนตอบคำถาม ๕. เกม “ทายคำ” น้ี ถาม (๑) คำว่า “บิดา มารดา ภรรยา” เป็นชนิดของคำใด ภาษาไทย เมอ่ื นกั เรียนแปล ความหมายของคำนนั้ (๒) คำว่า “กรุณา สงั เคราะห์ มารดา” มจี ำนวนก่ี างค์ใน ๑ คำ ๔. ครกู ระต้นุ ให้นักเรยี นสงั เกตจากการตอบคำถามและนักเรียน ปความรู้จากการสังเกตการตอบคำถาม ดังนี้ “คำที่ยกตัวอย่างมา เป็นคำที่มีจำนวนหลายพยางค์และเป็นชนิดของคำนาม คำกริยา ะ คำวเิ ศษณ”์

คร้งั ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด ดงั น คำถ ตัวส ตัวส ๖ การ คำว เสีย ตาม จาก ขอบ ศึกษ บาล ประ (๑)

กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ ๕. ครูยกตัวอย่างคำใน Power Point และนักเรียนตอบคำถาม น้ี ถาม (๑) คำว่า “สงฆ์ วงศ์” อย่ใู นมาตรา สะกดใดในภาษาไทย (๒) คำว่า “บญุ สวรรค์ ทันต์” อยู่ในมาตรา สะกดใดในภาษาไทย ๖. ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนสังเกตจากการตอบคำถาม “คำแต่ละคำมี รสะกดดว้ ยมาตราตัวสะกดตรงตามตัวสะกดของไทยหรือไม่ สว่ น วา่ “สงฆ”์ ไม่มกี ารออกเสยี ง “ฆ” เพราะตัวการันต์กำกบั ไมใ่ ห้ออก ยง ดังน้นั จึงสรปุ ไดว้ า่ คำท่มี าจากภาษาบาลี-สันสกฤต สะกดไมต่ รง มมาตราตวั สะกด และสว่ นใหญม่ ีการันต์” ๗. ครูกำหนดประเดน็ ใหน้ กั เรียนศึกษา “คำบาลี-สนั สกฤต” กน้นั ใหน้ กั เรยี นเลือกประเดน็ ทีน่ กั เรยี นสนใจศกึ ษาซงึ่ อยใู่ น บข่ายของ “คำบาลี-สนั สกฤต” จากน้นั ใหน้ ักเรียนสรุปประเดน็ ท่ี ษา เพียง ๑ ประเด็น ๘. ครนู ำประเด็นทนี่ ักเรยี นศกึ ษาค้นคว้า เชน่ “พยัญชนะของคำ ลี-สันสกฤต” ให้นักเรยี นรวมกลุ่มเดยี วกนั และรว่ มกนั อภปิ รายใน ะเด็นนั้นอย่างละเอยี ด ๙. นักเรียนเลน่ เกมทายคำ โดยมีกติกา ดังนี้ ครูยกบัตรคำหรอื บัตรภาพ เชน่ กีฬา กรีฑา

คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ คำท (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด - บาล ๑๕ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๑ ถา้ ต (๑ ชวั่ โมง) ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๒ คะแ ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๓ ข ท ๔.๑ ม.๔ – ๖/๖ ทาย ทย่ี งั คำบ ภาษ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ (๒) นักเรยี นกลุ่มทศ่ี ึกษาเกย่ี วกบั ประเด็นท่ีใกล้เคียงกบั บัตร ท่ีครยู ก ใหย้ กมือและบอกหลกั การสงั เกตของบัตรคำดงั กล่าว (คำ วัสดอุ ุปกรณท์ ่ีใช้ทำ ลี-สนั สกฤต) ช้นิ งาน (๓) นกั เรยี นกลุ่มทต่ี อบคำถามได้รบั คะแนน ๒ คะแนน แต่ ตอบผิดไดร้ ับคะแนน ๐ คะแนน (๔) ครูยกแผน่ ปา้ ยจนหมดและรวบรวมคะแนนกลมุ่ ที่ได้รับ แนนสงู เป็น “กลมุ่ ชนะ” ขัน้ สรุปการเรียนรู้ (๕ นาท)ี ๑๐. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปหลักการสังเกตจากการเลน่ เกม ยคำ และครยู กบตั รภาพให้นักเรยี นดู ๑ ภาพซ่งึ ภาพนนั้ เปน็ ส่ิงใหม่ งไม่ได้รบั ชอื่ เป็นภาษาไทย คอื “โดรน” ใหน้ ักเรยี นสรา้ งคำโดยนำ บาลี-สันสกฤตมาสรา้ งคำใหม่ ๑๑. นักเรียนเขยี นตอบคำถาม แบบฝกึ หัด เรอื่ ง หลกั การสร้าง ษาบาลี – สนั สกฤตในภาษาไทย ปฏบิ ัตภิ าระงานรวบยอด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook