Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2การจัดหาเงินทุนระยะสั้น

บทที่ 2การจัดหาเงินทุนระยะสั้น

Published by r_fork, 2021-11-27 01:27:01

Description: บทที่ 2การจัดหาเงินทุนระยะสั้น

Search

Read the Text Version

บทที่ 2 การจดั หาเงนิ ทุนระยะส้ัน (SHORT – TERM FINANCING) ครูลกั ขณาภรณ์ รอดบน (ผู้สอน)

ความหมายของเงนิ ทุนระยะส้ัน เงินทุนระยะส้ัน หมายถึง เงินทุนท่ีได้จากการก่อหนี้ ระยะส้ัน ซ่ึงมรี ะยะการชําระคืนภายใน 1 ปี การจัดหาเงินทุน ระยะส้ันมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็ นเงินทุนหมุนเวียนในการ ดําเนินงาน โดยนําไปลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียน เช่ น ลูกหนีก้ ารค้า สินค้าคงคลัง และสินทรัพย์น้ันสามารถเปล่ยี น มาเป็ นเงินสดได้ไม่เกิน 1 ปี ซ่ึงสามารถชําระคืนเงินกู้ด้วย ตนเอง

ประเภทของเงนิ ทุนระยะส้ัน เงนิ ทุนระยะส้ันสามารถจาํ แนกออกเป็ น 4 ประเภท 1. สินเช่ือทางการค้า (Trade Credit) 2. เงนิ ลงทุนประเภทสินเชื่อค้างจ่าย (Accruals) 3. ตราสารพาณชิ ย์ (Commercial Paper) 4. เงนิ ก้รู ะยะส้ัน (Short Term Loan)

1. สินเช่ือทางการค้า (Trade Credit) เป็ นสินเชื่อที่เกิดขนึ้ จากการค้าปกติ ผู้ขาย จะเป็ นผู้ให้เครดิตแก่ผู้ซื้อ โดยผู้ขายมีข้อตกลงกับ ผู้ซื้อในเงื่อนไขการชําระเงิน กําหนดเวลาการชําระ เงิน สินเช่ือทางการค้าก็คือ เจ้าหนี้การค้า จะเป็ น รายการทป่ี รากฏใน งบดุลทางด้านหนีส้ ิน และทุน

ปัจจยั ทมี่ ผี ลกระทบต่อสินเช่ือทางการค้า ได้แก่ 1. การแข่งขนั 2. ลกั ษณะของตวั สินค้า 3. ฐานะการเงนิ ของผู้ซื้อสินค้า

ประเภทของสินเช่ือทางการค้า สินเชื่อทางการค้าสามารถจาํ แนกเป็ น 3 ประเภท 1. การเปิ ดบัญชีเงินเชื่อ (Open Account) 2. ตัว๋ สัญญาใช้เงนิ (Promissory Notes) 3 การรับรองตว๋ั เงนิ ทางการค้า (Trade Acceotance)

ประโยชน์ของสินเช่ือทางการค้า 1. มคี วามสะดวกและมีความยืดหย่นุ 2. ไม่ต้องมหี ลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั 3. อาํ นวยประโยชน์สําหรับธุรกจิ ทเ่ี พง่ิ เปิ ดดาํ เนินการ ใหม่หรือธุรกจิ ขนาดเลก็ 4. ธุรกจิ ไม่ต้องจ่ายเงนิ สดค่าสินค้าทนั ที

เง่ือนไขการให้สินเชื่อ 2/10, n/30 หมายความว่า ถ้าชําระหนีภ้ ายใน 10 วนั จะได้ส่วนลดถ้าไม่เอา ส่วนลดต้องชําระให้เสร็จภายใน 30 วนั net 45 หมายความว่า การชําระหนีไ้ ม่มกี ารได้ส่วนลดและต้องชําระให้ เสร็จสิ้นภายใน 45 วนั 1/10 , n/45 EOM หมายความว่า ถ้าชําระหนีภ้ ายใน 10 วนั นับแต่วนั net 10 ROG หมายความว่า สิ้นเดือนจะได้ส่วนลด 1% ถ้าไม่เอา ส่ วนลดจะต้องชําระให้ เสร็จสิ้นภาย ใน 45 วนั นับแต่วนั สิ้นเดือน นับแต่ได้รับสินค้า (Receipt of the Goods = ROG) ต้องชําระให้เสร็จสิ้นภายใน 10 วนั

ต้นทุนของสินเช่ือทางการค้า สินเชื่อทางการค้าเป็ นเงนิ ทุนระยะส้ันทม่ี ตี ้นทุนเหมือนกบั การจัดหาเงินทุนจากแหล่งอ่ืน ๆ ซึ่งเกดิ จากการที่ผู้ขายต้ังราคา ขายบวกไว้แล้วสําหรับการขายเชื่อ ถ้าผู้ซื้อไม่ชําระหนี้ตาม กาํ หนดทไี่ ด้รับส่วนลด ผู้ซื้อจะต้องเสียโอกาสทางธุรกจิ

ตัวอย่าง การเสียโอกาสทางการเงินจากสินเชื่อทางการค้า ผู้ขายให้ส่วนลดการซื้อสินค้า 2/10 n/30 จาํ นวนเงินค่าสินค้าท้งั สิ้น 10,000 บาท กรณี ผู้ซื้อชําระเงินภายใน 10วนั = 9,800 บาท (ได้รับส่วนลด 200 ) ผู้ซื้อไม่ชําระเงินตามกาํ หนดเวลา (ภายใน10วนั ) = 10,000 บาท

นอกจากนีห้ ากผู้ซอื้ ไม่ชาระเงนิ ภายในกาหนดเวลาทไี่ ด้ส่วนลด สามารถ คานวณหาต้นทุนของสนิ เชอ่ื ทางการค้า ได้ดังนี้ ตน้ ทนุ สนิ เช่อื ทางการค้า = %ส่วนลด x 365 100 - %ส่วนลด ระยะเวลาทใี่ หส้ นิ เชอ่ื – ระยะเวลาทไี่ ดร้ ับส่วนลด จากตวั อยา่ งเดมิ =2 x 365 (100-2) (30 – 10) = 2 x 365 98 20 = 0.020 x 18.25 = 0.365 = 36.5%

ตัวอยา่ งสาหรับการตดั สนิ ใจ บริษัทแห่งหน่ึง มีความสามารถกู้ยมื เงนิ ได้ในอัตราดอกเบยี้ 12% และในการซอื้ สินค้าบริษัทได้รับเงอ่ื นไข 1/10, n/60 อยากทราบว่าบริษัท ควรกู้ยมื เงนิ มาชาระหนีก้ ารซอื้ สนิ ค้าเพอื่ ให้ได้รับส่วนลดหรือไม่ วธิ คี ิด ต้นทุนของสนิ เชอื่ การค้า = 1 x 365 100 - 1 60 - 10 = 0.0101 x 7.3 = 0.0737 = 7.37% ต้นทุนของการกู้ยมื = 12% เปรยี บเทยี บ : ต้นทุนของสนิ เชอ่ื การค้า 7.37% ตน้ ทุนของการกู้ยมื 12%

2. เงนิ ลงทุนประเภทสินเชื่อค้างจ่าย (Accruals) สินเช่ือค้างจ่าย หรือค่าใช้ จ่ายค้างจ่ายก็ถือเป็ นแหล่ง เงินทุนโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายท่ีเกิดขึน้ ส่วน ใหญ่ ได้แก่ ภาษีเงินได้ค้างจ่าย ค่าแรงค้างจ่าย ค่าใช้จ่ายเหล่านีถ้ ือ ว่าเกิดขึน้ แล้ว เพยี งแต่กิจการยังไม่จําเป็ นต้องจ่ายเงินสดจนกว่า จะถึงกาํ หนด

3. ตราสารพาณชิ ย์ (Commercial Paper) ตราสารพาณิชย์ คือ ต๋ัวสัญญาใช้เงินที่ไม่มีหลักทรัพย์คํ้า ประกนั ซ่ึงออกโดยบริษัทหรือธุรกจิ ที่มีขนาดใหญ่ มีช่ือเสียงทาง การค้า และฐานะทางการเงนิ ดี จาํ หน่ายให้แก่บริษทั โดยทวั่ ไป

ประโยชน์ของตราสารพาณชิ ย์ 1. มตี ้นทุนทถี่ ูกกว่า 2. ไม่มขี ้อจาํ กดั ด้านเงนิ ทุน 3. ไม่มหี ลกั ประกนั 4. ไม่จาํ เป็ นต้องมีเงนิ ฝากข้นั ต่าํ คงเหลือในบญั ชี

เงนิ ก้รู ะยะส้ัน (Short Term Loan) เมื่อธุรกิจต้องการเงินทุนระยะส้ัน เพ่ือใช้ในการ ดาํ เนินงาน ธุรกจิ สามารถจดั หาเงินทุนได้จากธนาคารพาณชิ ย์ และสถาบนั การเงนิ เงนิ ก้รู ะยะส้ันสามารถ จาํ แนกออกเป็ น 2 ประเภท คือ 1. เงนิ ก้ชู นิดทไ่ี ม่มีหลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั ( Unsecured Loans) 2. เงนิ ก้ชู นิดทม่ี หี ลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั (Secured Loans)

เงนิ ก้ชู นิดทไ่ี ม่มหี ลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั ( Unsecured Loans) ตัวอย่าง ผู้เงนิ 1,000,000 บาท อตั ราดอกเบยี้ 8% เป็ นเวลา 1 ปี และ ต้องมเี งนิ ฝากข้นั ตา่ํ เท่ากบั 10% กจ็ ะใช้เงินได้เพยี ง 900,000 อตั ราดอกเบยี้ ทแี่ ท้จริง = อตั ราดอกเบยี้ x เงนิ กู้ = 8% x 1,000,000 เงินต้นทใี่ ช้ได้ 900,000 = 8.89 % ดังน้ัน อตั ราดอกเบีย้ ทธี่ ุรกจิ ต้องชําระแก่ธนาคารทแี่ ท้จริงคือ 8.89%

วธิ ีคาํ นวณอตั ราดอกเบยี้ (Methods of Computing Interest Rates) วิธีการจ่ายชําระดอกเบี้ยสําหรับเงินกู้ระยะส้ัน อาจใช้ วิธี collect basis หรือ Discount basis เม่ือจ่ายตามวธิ ี collect basis จะจ่ายดอกเบยี้ เม่ือครบกาํ หนด เม่อื จ่ายตามวิธี Discount basis จะหักดอกเบยี้ ออกจากเงินต้น

ตวั อย่าง เงนิ ก้จู ํานวน 10,000 บาท อตั ราดอกเบยี้ 12% ต่อปี อตั ราดอกเบยี้ ทแี่ ท้จริง เมื่อใช้วธิ ี Collect basis = ดอกเบยี้ (บาท) = 1,200 = 12.00% เงินต้นที่ใช้ได้ 10,000 เมื่อใช้วธิ ี Discount basis = ดอกเบยี้ (บาท) = 1,200 = 13.64% เงินต้นท่ีใช้ได้ 8,800 เม่ือใช้วธิ ีนีจ้ ะมอี ตั ราดอกเบยี้ ทแี่ ท้จริงจะสูงกว่า 12%

เงนิ ก้ชู นิดทมี่ ีหลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั (Secured Loans) โดยทว่ั ไปการก้เู งนิ ระยะส้ันทม่ี ีหลกั ทรัพย์คาํ้ ประกนั อาจกระทาํ ได้ ดงั นี้ 1. การก้เู งินโดยใช้บัญชีลูกหนี้ (Account Receivable Loans) 2. การก้เู งนิ โดยใช้สินค้าคงคลงั (Inventory Loans)

การก้เู งนิ โดยใช้บญั ชีลูกหนี้ (Account Receivable Loans) สามารถกระทําได้ใน 2 ลกั ษณะ คือ 1. การก้โู ดยใช้บัญชีลูกหนีค้ าํ้ ประกนั (Pledging of Account Receiveables) 2. การก้เู งนิ โดยขายบญั ชีลูกหนี้ (Factering)

ข้นั ตอนการพจิ ารณาการให้ก้โู ดยใช้ลูกหนีค้ าํ้ ประกนั 1. เลือกบัญชีลูกหนี้ท่ีจะคํ้าประกัน โดยการวิเคราะห์จากการจ่าย ชําระหนีใ้ นอดตี ของลกู ค้าแต่ละรายว่าไม่เส่ียง 2. ปรับปรุงมูลค่าบัญชีลกู หนีใ้ หม่ ก่อนทจ่ี ะให้กู้ 3. กาํ หนดเปอร์เซ็นต์ให้ก้ตู ่อมูลค่าบญั ชีลูกหนีท้ ปี่ รับปรุงแล้ว 4. กําหนดการจ่ายเงินชําระหนี้ 2 แบบ คือ ลูกหนี้ชําระให้ธุรกิจ ตามปกติ แล้วธุรกจิ กน็ ําเงินมาชําระหนีใ้ ห้ผู้ให้กู้ หรืออกี แบบหน่ึง ธุรกจิ แจ้งให้ลกู หนีช้ ําระเงนิ โดยตรงกบั ผู้ให้กู้

การก้เู งนิ โดยขายบญั ชีลูกหนี้ (Factoring) การกู้เงินวิธีนี้ผู้กู้จะต้องนําบัญชีลูกหนี้ของตนไปขายให้แก่ ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ดังน้ันกรรมสิทธ์ิในบัญชีลูกหนี้จึงตก เป็ นของธนาคาร ธนาคารจะมีความเส่ียงทางการเงินเก่ียวกับ บัญชีลูกหนีท้ ้งั ในด้านค่าใช้จ่ายในการเรียกเกบ็ หนี้

การก้เู งนิ โดยใช้สินค้าคงคลงั (Inventory Loans) การก้ยู ืมโดยใช้สินค้าคงคลงั คาํ้ ประกนั สามารถทาํ ได้ 5 ลกั ษณะ คือ 1. การก้ยู ืมแบบไม่ระบุรายละเอยี ดสินค้า (Floating lien Agreements) 2. การก้ยู ืมโดยการจํานองสินค้า (Chattel Mortgage Agreements) 3. การก้ยู ืมแบบทรัสต์รีซีท (Trust Receipts) 4. เงนิ ก้ยู ืมแบบใช้ใบประทวนสินค้าเป็ นหลกั ประกนั (Warehouse Financing Agreements) 5. Packing Credit


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook