Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือฐานการเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม

คู่มือฐานการเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม

Description: คู่มือฐานคุณธรรม จริยธรรม

Search

Read the Text Version

1

ก คำนำ ค่มู ือฐานการเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง “ฐานการเรยี นรู้คณุ ธรรมจรยิ ธรรม” จดั ทำขึ้นเพือ่ เป็นการขบั เคล่อื นหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา การรักษาและพัฒนา สมรรถนะศนู ย์การเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงดา้ นการศึกษาของโรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔ ใหต้ ่อเน่ืองและย่งั ยนื คู่มอื เลม่ นี้ ใช้ประกอบการดำเนินกิจกรรมสง่ เสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม ตามหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สำหรบั ครูหรือบุคลากรผู้รับผิดชอบและนักเรยี นแกนนำประจำฐานการเรยี นรู้ “คุณธรรมจริยธรรม ” โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาบรู ณาการในการจัดการเรียนรู้ เพอื่ เสริมสรา้ งอปุ นสิ ัยอย่อู ยา่ งพอเพียงของนักเรียน นำไปส่กู ารพัฒนาคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐานของผู้เรียนต่อไป คณะผู้จดั ทำ

ข สารบัญ เรือ่ ง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข แผนผงั ทีต่ ง้ั ฐานการเรียนรู้ 1 รูปแบบการขับเคลอื่ นหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสู่ฐานการเรียนรู้ 2 ความสำคญั ของการนอ้ มนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศึกษา 4 กรอบแนวคิดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5 แผนภมู กิ ารขบั เคลื่อนหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 11 ฐานการเรียนรูค้ ุณธรรม จริยธรรม 12 แผนการจดั การเรยี นรู้ประจำฐานการเรยี นรู้ 13 ภาคผนวก 78 79 ใบงาน : การวเิ คราะห์หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 80 แนวทาง : การวเิ คราะหห์ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 81 คำสั่งแต่งตงั้ คณะกรรมการขับเคลื่อนหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศกึ ษา (กิจกรรม การรักษาและพัฒนาสมรรถนะศนู ย์การเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งด้านการศึกษาใหต้ ่อเนื่องและยงั่ ยืน)

หน้า |๑ แผนผงั ที่ต้งั ฐานการเรียนรู้คณุ ธรรม จริยธรรม โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกดุ จับ จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๒ รปู แบบการขบั เคล่ือนหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่สถานศึกษา โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 4 ................................................................................................... การขบั เคลอื่ นหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสูส่ ถานศึกษา โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอุดรธานี ดำเนินการดังน้ี ระยะที่ 1 ขับเคลื่อนหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสฐู่ านการเรียนรู้/กจิ กรรมการเรียนรู้ เพอื่ พฒั นาสถานศึกษาพอเพียงกา้ วสูก่ ารเป็นศนู ย์การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด้านการศึกษา ดำเนินการดงั นี้ 1. ตรวจสอบทบทวน การดำเนินงานสถานศกึ ษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ และการบริหารจดั การตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง “สถานศึกษาพอเพียง” ทั้ง ๕ ด้าน คอื ดา้ นท่ี 1 การบรหิ ารจัดการสถานศึกษา ด้านท่ี 2 ด้านหลักสูตรและการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ด้านที่ 3 ด้านการจัดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ดา้ นท่ี 4 ดา้ นการพฒั นาบุคลากรของสถานศึกษาและ ดา้ นที่ 5 ดา้ นผลลัพธ์/ภาพความสำเร็จของสถานศึกษา เพอ่ื วเิ คราะห์สภาพปัจจุบนั และปญั หา การนอ้ มนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสสู่ ถานศกึ ษา 2. แต่งตง้ั คณะกรรมการขับเคล่ือนหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของโรงเรียน มีหนา้ ท่ี รบั ผิดชอบ พฒั นาความรู้ ความเข้าใจ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แกน่ ักเรยี น ครู และบคุ ลากร ทางการศึกษาของโรงเรยี น เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ท่ถี ูกต้อง ชดั เจน และครู บุคลากร สามารถวางแผนการจัดการเรียนร้บู ูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง นำสู่ห้องเรียนทุกกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ทุกรายวชิ า โดยโรงเรียนมีนโยบายให้ครผู ู้สอนบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี งในการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ั้งในห้องเรยี นและนอกห้องเรียน 3. ครผู ู้รับผดิ ชอบและนกั เรยี นแกนนำประจำฐานการเรียนรู้ ดำเนินการพฒั นาฐานการเรียนรู้ ร่วมวางแผนออกแบบนวัตกรรมการเรยี นรู้ วางแผนจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ และเตรยี มสอ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ ในการดำเนินกิจกรรมบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. นักเรียนร่วมกิจกรรมการเรียนร้ปู ระจำฐานการเรยี นรู้ สรุปบทเรียนทีไ่ ดจ้ ากการเรียนรู้และ ถอดบทเรยี นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื ให้สามารถนำความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนต์ ่อ ตนเอง ครอบครัว และสงั คมได้ ตลอดจนแนะนำใหค้ วามร้แู ก่ผทู้ ส่ี นใจโดยมงุ่ เน้นให้เกิดผลกับผเู้ รียน อยา่ งยัง่ ยนื จนเป็นวิถีชีวติ โดยมคี รผู ู้รบั ผิดชอบและนักเรยี นแกนนำประจำฐานการเรยี นร้เู ปน็ วิทยากร 5. ประเมินผลการจดั กจิ กรรมของฐานการเรียนรู้ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผเู้ รียน สรุปผลและรายงานผลการดำเนินงานของแต่ละฐานการเรียนรู้ โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๓ ระยะท่ี 2 ขบั เคลอ่ื นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสูส่ ถานศึกษา เพื่อพฒั นาศนู ย์ การเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงดา้ นการศึกษา อย่างต่อเนื่อง ดำเนนิ การดงั นี้ 1. ตรวจสอบทบทวน การดำเนนิ งานสถานศกึ ษาแบบอย่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ และการบริหารจดั การตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และแนวทางการพฒั นาศูนยก์ ารเรียนรู้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา 2. ดำเนนิ งานตามแนวทางระยะที่ 1 ข้อ 2 - ข้อ 5 และพัฒนาฐานการเรยี นร้/ู กิจกรรม การเรยี นรูท้ มี่ ปี ระสิทธภิ าพย่งิ ขึ้นและเพม่ิ จำนวนฐานการเรียนรู้มากข้ึน ระยะท่ี 3 ขับเคล่อื นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาเพ่ือการรักษาและ พฒั นาสมรรถนะศูนย์การเรยี นรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงดา้ นการศึกษาให้ตอ่ เนื่องและ ย่งั ยืนดำเนินการตามแนวทางการพฒั นา ดังน้ี 1. การพฒั นาหลักสูตร/แนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื บ่มเพาะอุปนิสัยอยู่อย่างพอเพียง ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพอื่ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาท่ียัง่ ยนื แหง่ สหประชาชาติ(SDGs) ทีส่ อดคล้องกบั บรบิ ทการจดั การศกึ ษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ 2. การผลิต/ จัดหาและจดั ทำสือ่ การเรียนรู้ วัสดุ อุปกรณ์ทีเ่ กยี่ วกับการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ท่ีสอดคล้องกับบรบิ ทการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ เพอื่ บ่มเพาะอปุ นสิ ยั อยู่อย่างพอเพียง ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อบรรลุเปา้ หมาย การพัฒนาทีย่ ง่ั ยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) 3. การรวบรวมแนวทางการดำเนนิ งานและแนวการปฏบิ ัติที่เป็นเลิศของศนู ย์การเรยี นร้ฯู ท่ี แสดงถงึ การประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ในการบรหิ ารและการจัดกระบวนการเรียนรู้ ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ 4. การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์แนวทางการบรหิ าร แนวการจดั การเรียนรู้ และแนวการปฏิบัติ ทเี่ ป็นเลศิ ของศูนย์การเรยี นรู้ ฯ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สอดคล้องกบั บริบทและสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด ของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา ๒0๑๙ เชน่ การจดั ทำเวบ็ ไซต์ การเผยแพรผ่ ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ฯลฯ 5. การปรบั ปรุงและพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฯ เชงิ กายภาพ เช่น การปรับปรุงและพฒั นาสถานที่ ฐานการเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้ ส่ือและอปุ กรณ์การจัดกระบวนการเรียนร้ทู ่สี อดคลอ้ งกบั หลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งสู่สถานศึกษาและการบรรลุเปา้ หมายการพฒั นาที่ยัง่ ยนื แห่งสหประชาชาติ (SDGs) 6. การประสานหนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในท้องถนิ่ ชมุ ชนและ ผ้เู กี่ยวข้องเพื่อพัฒนารักษาระดบั คณุ ภาพ และเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพใหพ้ ร้อมขับเคลอ่ื นหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งส่สู ถานศึกษาและการบรรลุเปา้ หมายการพัฒนาที่ยง่ั ยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) ท่สี อดคล้องกับบริบทและสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกดุ จบั จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๔ ความสำคัญของการน้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสสู่ ถานศกึ ษา การขับเคลื่อนหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งดา้ นการศึกษา หมายถึง การดำเนนิ การ สง่ เสริมและสนบั สนุนให้บุคลากรในภาคการศกึ ษาทุกระดับน้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และการปฏิบัติภารกิจ เชน่ การบริหารการศกึ ษา การบรหิ ารจัดการงบประมาณ การศกึ ษา การจดั สถานศึกษา การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ การจัดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น การจัดกจิ กรรม นักเรยี น เปน็ ต้น เพ่ือทีท่ ้ายที่สุดแลว้ เกดิ กระบวนการปรับเปลย่ี นวิธคี ดิ และวิถีปฏบิ ตั จิ นเป็นวถิ ีชีวิต เพอื่ ผลให้เกิดการปลูกฝังและบ่มเพาะผู้เรียน เดก็ และเยาวชนใหม้ จี ิตสำนึกและอุปนสิ ัย “พอเพยี ง” (Sufficiency Mindset and Behavior) เพ่ือจะไดส้ ามารถดำรงตนและดำเนินชีวติ ใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ไปได้อยา่ งสมดลุ และพร้อมรบั ต่อการเปลย่ี นแปลงตา่ งๆ จุดเร่มิ ต้นของการขบั เคลื่อน เนอื่ งมาจากกระแส พระราชดำรัส“เศรษฐกิจพอเพียง”ที่ปวงชนชาวไทยไดเ้ รม่ิ รับร้แู ละเรียนรมู้ าต้งั แต่ ปี พ.ศ.๒๕๔๐ และ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งพระราชดำรสั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร รัชกาลท่ี ๙ เม่ือวนั ศกุ ร์ท่ี ๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ ความตอนหน่ึงวา่ “…คนเราถา้ พอในความต้องการ กม็ คี วามโลภนอ้ ย เมื่อมีความโลภนอ้ ยก็เบยี ดเบยี นคนอน่ื น้อย ถา้ ทุกประเทศมคี วามคิด ‘อันน้ี ไมใ่ ช่ เศรษฐกจิ ’ มคี วามคดิ ว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโตง่ ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อย่เู ป็นสุข พอเพยี งน้ีอาจจะมีมาก อาจจะมขี องหรูหรากไ็ ด้ แต่วา่ ต้องไม่ไปเบยี ดเบียนคนอนื่ ตอ้ งให้พอประมาณตามอัตภาพ พดู จากพ็ อเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัตติ นก็พอเพยี ง ฉะน้นั ความพอเพยี งนีก้ ็แปลว่า ความพอประมาณ และความมเี หตุผล..” จงึ เปน็ ท่มี าของความเข้าใจวา่ “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” เป็นหลักคิดหลกั ปฏิบัตใิ นการดำเนินชีวติ ท่ที ุกคนทุกประเทศสามารถนำไปใช้ ในทกุ กิจกรรม ทุกสาขาอาชพี และทกุ ระดบั เพ่ือใหเ้ กิดการพัฒนาทส่ี มดุล มั่นคงและย่ังยืน หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ มจี ุดเนน้ ท่สี ำคัญในการพฒั นา ผูเ้ รยี นให้เป็นคนดี มปี ญั ญา มีความสุข มศี ักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ จงึ กำหนด เปน็ จุดหมาย เพื่อใหเ้ กิดกบั ผูเ้ รียนเม่ือจบการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานดังนี้ ๑) มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นิยม ท่ีพงึ ประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มวี นิ ยั และปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ตี นนบั ถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒) มคี วามรูอ้ นั เป็นสากลและมคี วามสามารถ ในการสอ่ื สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทักษะชวี ิต ๓) มีสุขภาพกายและ สขุ ภาพจิตที่ดี มีสุขนิสยั และรักการออกกำลงั กาย ๔) มีความรกั ชาติ มจี ติ สำนึกในความเป็นพลเมือง และพลโลก ยดึ มน่ั ในวิถชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมขุ ๕) มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนุรักษแ์ ละพัฒนาสิ่งแวดลอ้ ม มีจิตสาธารณะท่ีมุ่งทำประโยชนแ์ ละสรา้ งสิง่ ทดี่ งี ามในสังคมและอย่รู ่วมกันในสงั คมอย่างมคี วามสขุ อกี ทั้งยังมุ่งพฒั นาให้ผูเ้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่อื ให้สามารถอยู่รว่ มกบั ผู้อื่นในสงั คมได้อยา่ ง มคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและเปน็ พลโลก ประกอบดว้ ย ๑) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒) ซ่อื สตั ย์ สุจริต ๓) มวี นิ ัย ๔) ใฝ่เรยี นรู้ ๕) อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ๖) มุ่งมนั่ ในการทำงาน ๗) รักความเป็นไทย ๘) มีจิตสาธารณะ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน. ๒๕๕๓ : ๒-๕) โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวัดอดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๕ การจัดการเรียนรู้เปน็ กระบวนการที่สำคัญในการนำหลักสตู รสกู่ ารปฏบิ ัติ กระบวนการ จัดการเรยี นรู้จึงต้องสง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความ แตกต่างระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรแู้ ละคุณธรรมโดยยึดหลัก ผ้เู รียนสำคญั ทส่ี ุด เชื่อว่าทุกคนมคี วามสามารถเรยี นรู้และพัฒนาตนเองได้ ซึง่ การเรียนร้ทู ี่เน้นบทบาท และการมีสว่ นรว่ มของผู้เรียนหรือการเรยี นรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning) เป็นกระบวนการเรยี นรู้ ผา่ นการปฏิบตั หิ รอื การลงมือทำ“ความรู้”ทเ่ี กิดขึ้นได้จากประสบการณ์ จากกระบวนการในการจัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผู้เรยี นมีโอกาสลงมือกระทำมากกว่าการฟงั เพยี งอย่างเดยี ว ผู้เรยี นได้เรยี นรู้ โดยการอา่ น การเขยี น การโตต้ อบ และการวเิ คราะห์ปัญหา ไดใ้ ช้กระบวนการคดิ ข้ันสงู ได้แก่ การวเิ คราะห์ การสังเคราะห์และการประเมนิ ค่า ซึง่ นักวิชาการได้กล่าวถึงลกั ษณะของการจัดการเรียน การสอนแบบ Active Learning ไว้วา่ (ไชยยศ เรอื งสวุ รรณ, ๒๕๕๓) ๑) เป็นการเรยี นการสอนทพี่ ฒั นา ศกั ยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแกป้ ัญหาและการนำความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ ๒) เปน็ การเรยี น การสอนท่ีเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนรสู้ ูงสดุ ๓) ผเู้ รยี นสร้างองค์ความรแู้ ละ จดั กระบวนการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง ๔) ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทัง้ ในดา้ นการสรา้ งองค์ ความรู้ การสรา้ งปฏสิ มั พันธ์ร่วมกัน ร่วมมอื กนั มากกวา่ การแขง่ ขนั ๕) ผเู้ รียนเรียนร้คู วามรับผิดชอบ ร่วมกัน การมีวินัยในการทำงาน และการแบ่งหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบ ๖) เป็นกระบวนการสรา้ ง สถานการณ์ให้ผ้เู รยี นอา่ น พูด ฟงั คดิ อยา่ งลมุ่ ลกึ ผู้เรียนจะเปน็ ผูจ้ ัดระบบการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ๗) เป็นกิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีเน้นทักษะการคดิ ขั้นสงู ๘) เป็นกิจกรรมทเี่ ปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี น บรู ณาการข้อมูลขา่ วสาร หรือสารสนเทศ และหลกั การความคิดรวบยอด ๙) ผสู้ อนจะเป็นผู้อำนวย ความสะดวกในการจดั การเรยี นรูเ้ พ่อื ให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง ๑๐) ความรเู้ กิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้และการสรปุ ทบทวนของผู้เรยี น ซ่ึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้หนงึ่ ทีค่ รจู ะ สามารถนำหลกั สูตรสู่การปฏิบัตโิ ดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในกระบวนการ จดั การเรยี นรูส้ ู่การพัฒนาคุณลักษณะอนั ถึงประสงค์ของผูเ้ รียนได้ กรอบแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ หลักในการดำเนินชวี ติ ไปสูค่ วามเจริญก้าวหน้า พร้อมกับความสมดลุ และมน่ั คง เมื่อนำไปใชบ้ ริหารจดั การตนเอง และภารกิจงานที่บุคคลน้นั กำลงทำอยูอ่ ย่างสม่ำเสมอ ยอ่ มสำเรจ็ ประโยชน์และนำไปสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นกรอบแนวคิดท่ตี อ้ งใชค้ วามรู้ควบคู่ไปกบั คุณธรรมในการ ตดั สนิ ใจ โดยคำนึงถึง 3 หลกั การ ได้แก่ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ลและการมีภูมคิ มุ้ กันในตวั ทด่ี ี และมุง่ ทจี่ ะทำให้ผลท่เี กดิ ข้นึ นำไปสคู่ วามเจริญก้าวหนา้ ท่ีสมดุลและพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลงใน 4 มิติ ไดแ้ ก่ ด้านวตั ถุ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม โรงเรียนบา้ นสร้างก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวัดอดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๖ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสู่การพฒั นาที่ยัง่ ยนื การทำงานใดๆ ทีม่ ุ่งให้ประสบผลสำเร็จอย่างราบรื่น แตล่ ะบุคคลจำเปน็ ต้องใช้ความรคู้ วบคกู่ ับคณุ ธรรมเปน็ พ้ืนฐาน ความรู้ คุณธรรม ความรอบรู้เก่ียวกบั วชิ าการต่างๆ ท่ีเกยี่ วข้องและ ต้องเสริมสรา้ งเปน็ พนื้ ฐานจิตใจให้มคี วาม ความรอบคอบท่จี ะนำความรู้เหลา่ นั้นมาพิจารณา ตระหนักในคุณธรรม มคี วามซอื่ สัตยส์ จุ ริต ให้เช่อื มโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผนและความ และมีความอดทน มีความเพียรใช้สติปัญญา ระมดั ระวงั ในข้นั ตอนการปฏิบัติ ในการดำเนนิ ชีวติ การตัดสินในและการดำเนนิ การใดๆ จำเป็นต้องยึด 3 หลกั การพอเพียงทุกคร้ัง พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี - พอเหมาะ พอดี กับสภาพ -รู้สาเหตุ ทำไม/เพราะเหตุใด -เตรียมความพร้อมรบั การ ของตน (ปจั จัยภายใน) -รปู้ ัจจัยทีเ่ กยี่ วข้อง วิชาการ เปลยี่ นแปลงในด้านต่าง ๆ -พอควร สอดคลอ้ งกับ กฎหมาย ความเช่อื ประเพณี -วางแผน รอบคอบ ไมป่ ระมาท ภูมิสังคม (ปัจจยั ภายนอก) -รผู้ ลกระทบทจ่ี ะเกิดขน้ึ ในด้าน เพอื่ ป้องกนั อันตรายหรือ ตา่ ง ๆ กวา้ งแคบ ใกล้ไกล ปญั หาท่ีอาจจะเกดิ ข้ึน มุ่งให้เกดิ ความสมดลุ และพร้อมต่อการรองรับการเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเร็วและกวา้ งขวาง ท้งั ดา้ นวตั ถุสังคม ส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรม จากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี วัตถุ สมดุลและพร้อมรับ สงั คม ใช้วัตถุ สิ่งของ เงินทอง ตอ่ การเปล่ยี นแปลง เหน็ คณุ คา่ ของการอยู่รว่ มกับผู้อืน่ ทรพั ยากรอยา่ งประหยดั และคุ้มค่า โดยไม่เบียดเบียนกนั และ วัฒนธรรม มคี วามเอื้อเฟื้อเผื่อแผต่ ่อกนั เหน็ คุณค่าและร่วมอนรุ ักษ์ วัฒนาธรรม ค่านยิ ม สงิ่ แวดล้อม เอกลกั ษณ์ท้องถน่ิ /ความเป็นไทย มจี ิตสำนึก รวู้ ิธกี ารและ มสี ่วนรว่ มในการอนุรักษ์ ธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๗ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน็ ปรชั ญาในการดำเนินชีวิตท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชดำรัสชแี้ นะแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 30 ปี ดว้ ย สายพระเนตรท่ยี าวไกลและลึกซง้ึ ย่งิ กว่านักพฒั นาหรือนกั วิชาการใดๆ จะมีสติปญั ญาเสมอเหมือนได้ ดังพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั ของพระองค์นักตง้ั แตป่ ี 2516 เปน็ ต้นมาที่ทรงเนน้ ยำแนวทาง การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้รอดพน้ วิกฤต และแนวทางการพฒั นาใหก้ ้าวหน้าไปอย่างเป็นขั้นเปน็ ตอน บนหลักแนวคดิ ที่พึ่งตนเอง มีคุณธรรมกำกับความรู้ เพอ่ื ให้คนสว่ นใหญ่ พออยู่ พอกิน พอมี พอใช้และ ทำใหส้ งั คมมคี วามเจริญกา้ วหน้าไปอยา่ งสมดลุ ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ที่มากบั การเปลี่ยนแปลง ในรูปแบบต่าง ๆ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีพระราชทานมาใหข้ อ้ คิดเกยี่ วกบั เงื่อนไขสำคัญท่จี ะทำให้ การตดั สนิ ใจและการกระทำเปน็ ไปอย่างพอเพยี ง นน่ั คือจะต้องอาศยั ทั้งคณุ ธรรมและความร้ขู องคน เป็นสำคัญในการพฒั นาสคู่ วามพอเพียง โดยอาจสรปุ ได้ดังนี้ เง่ือนไขความรู้ ประกอบดว้ ยการฝกึ ตนให้มีความรอบรูเ้ ก่ยี วกบั วิชาการต่างๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง อย่างรอบด้าน มคี วามรอบคอบ และความระมัดระวงั ท่จี ะนำความรู้ตา่ ง ๆ เหล่านน้ั มาพจิ ารณาให้ เช่อื มโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผนและในข้นั ปฏิบัติ ความรู้ เปน็ องคป์ ระกอบสำคัญในการตดั สินใจ อย่างถูกต้องและเปน็ ประโยชน์ จึงตอ้ งมีการแสวงหาความรู้ เพ่มิ พนู ความรู้ จดั การความรู้ ต่อยอด ความรอู้ ย่ตู ลอดเวลา ให้เทา่ ทันการเปลยี่ นแปลงในโลก เง่ือนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องสร้างเสรมิ ให้เป็นพน้ื ฐานจติ ใจของคนในชาติ ประกอบดว้ ย ด้านจิตใจ คอื การตระหนักในคณุ ธรรม รผู้ ดิ ชอบชัว่ ดี ซอ่ื สัตยส์ ุจริต ใชส้ ตปิ ญั ญาอยา่ งถูกต้องและ เหมาะสมในการดำเนนิ ชีวิต และด้านการกระทำ คือมีความขยันหมน่ั เพียร อดทน ไมโ่ ลภ ไมต่ ระหน่ี รู้จกั แบง่ ปัน และรับผิดชอบในการอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนในสังคม เศรษฐกจิ พอเพียง เป็นท้ังหลักคิด และแนวทางปฏบิ ัตติ นของแต่ละบุคคลและองค์กร ในทุกระดบั โดยคำนึงถึง 3 หลักการ ได้แก่ (1) ความพอประมาณกบั ศักยภาพของตนเอง และสภาวะ แวดล้อมตามความเป็นจรงิ (2) ความมเี หตุมีผล บนพ้ืนฐานความถูกตอ้ ง และ (3) การมภี มู คิ ุ้มกันท่ดี ี ในตวั เอง คือ ไมป่ ระมาทในการดำเนนิ ชวี ติ ทต่ี อ้ งประสบกับความเปลยี่ นแปลงตา่ งๆ ตลอดเวลาและ การทจ่ี ะคิด พดู ทำ อย่างพอเพยี งไดน้ ั้น จำเป็นจะต้องใช้ความรตู้ า่ งๆ อยา่ งถกู หลักวชิ าการดว้ ยความ รอบรู้ รอบคอบและระมัดระวัง ควบคไู่ ปกับการมคี ุณธรรมเปน็ พื้นฐานของจิตใจและการดำเนินชีวิต คอื สามารถร้จู ักแยกแยะผิดชอบชว่ั ดี ละอายที่จะทำความชั่ว เกรงกลัวต่อผลจากการกระทำที่ไม่ถกู ต้อง ตามทำนองคลองธรรม ใช้สติ ปญั ญา พจิ ารณาอย่างรอบคอบ ในการทำอะไรไมเ่ บียดเบียนหรอื ก่อโทษ ใหเ้ กดิ กบั ผู้อื่นหรอื สงั คม เห็นคุณคา่ ของการแบ่งปัน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผ่อื แผ่ แก่ผอู้ นื่ และชีวิตอนื่ ๆ เหน็ ความสำคญั ของการรว่ มมือปรองดองกันในสงั คม ซึ่งจะชว่ ยเสรมิ สรา้ งสายใยเช่อื มโยงคนในภาค ส่วนตา่ ง ๆ ของสังคมใหม้ ีความสามคั คี มคี วามเพียรทจี่ ะร่วมสรา้ งสรรคพ์ ลังในทางบวก อนั จะนำไปสู่ ความเจรญิ กา้ วหนา้ ที่สมดุลและยั่งยืนพร้อมรบั ต่อการเปลย่ี นแปลงทางด้านวตั ถุ เศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ชุมชน ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และด้านวฒั นธรรม ประเพณี คา่ นยิ ม ตา่ งๆ ดงั ได้กล่าวในขา้ งต้นวา่ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ ท้ังหลกั คดิ และแนวปฏิบตั ิตน โดยยึด 3 หลกั การ ความพอประมาณ มีความมเี หตุมผี ล และการมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีดีในตัว การบรหิ าร จัดการทรพั ยากรที่มคี ่า ทั้ง 4 ด้าน ให้เป็นไปอยา่ งสมดุล เพ่อื การพฒั นาท่ยี งั่ ยืนก็ต้องยึด 3 หลกั การน้ี เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการกระทำ ดังนี้ โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๘ 1. ความพอประมาณ หมายถงึ การใช้ทรัพยากรท่มี ีอยู่เปน็ ทุนเดิมของตนเอง หรอื ภายใน ทอ้ งถิน่ ใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ก่อนที่จะแสวงหาทรัพยากร แหล่งทนุ วัตถดุ ิบ หรอื ส่งิ ของ บริการตา่ งๆ จากภายนอก จึงจะเปน็ การใช้ทรพั ยากรอยา่ งพอเหมาะ พอควรกับสภาวะทางเศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั วฒั นธรรมในแตล่ ะทอ้ งถ่นิ ใช้ทรัพยากรตามความจำเป็น ตามสถานะของตนเอง สถานการณ์แวดลอ้ มต่าง ๆ ว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยรกั ษาระดบั ความพอประมาณไมม่ ากเกินศักยภาพ และไม่น้อยเกนิ ไป หรือไม่เพยี งพอทจี่ ะดำเนนิ การให้เกดิ ประโยชนไ์ ด้ โดยการใช้อยา่ งมธั ยัสถ์ รคู้ ณุ ค่า ดแู ลรกั ษา พฒั นาต่อยอด ใหเ้ พมิ่ พนู และดยี ่ิง ๆ ข้นึ ซ่ึงการจะตดั สินว่าอยใู่ นระดับพอประมาณน้ี จำเปน็ ต้องคำนึงถึงทรัพยากรทีม่ ีอยู่ และจำเปน็ ต้องใช้ท้งั 4 ด้าน โดยอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ ในการวางแผนและตัดสินใจ และตอ้ งอยบู่ นพื้นฐานของคุณธรรมดว้ ย เช่น ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อ่นื ไมท่ ำให้สังคมเดือนร้อน และไมท่ ำลายธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อม ต้ังอยูบ่ นพืน้ ฐานความซ้ือสัตยส์ จุ รติ เปน็ ตน้ 2. ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสนิ ใจดำเนินการเร่ืองต่าง ๆ อย่างมเี หตผุ ลบนพนื้ ฐาน ความถูกต้อง ความเปน็ จรงิ ตามหลกั วิชาการ หลกั กฎหมาย หลักศีลธรรม จรยิ ธรรม และวฒั นธรรม คา่ นยิ มท่ดี ีงาม โดยพจิ ารณาจากเหตปุ จั จยั ทเี่ กีย่ วขอ้ ง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดวา่ จะเกิดขน้ึ จากการ กระทำน้นั ๆ ทัง้ ในระยะสั้น ระยะยาว ทง้ั ต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและสว่ นรวม อยา่ งรอบคอบ การคิดพจิ ารณาแยกแยะ ใหเ้ หน็ ถึงความเชอื่ มโยงของเหตุปจั จยั ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างเปน็ ระบบ จะช่วยให้บรรลเุ ป้าหมายได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ มีข้อผดิ พลาดน้อย และการวางแผน ดำเนินการอย่างสมเหตสุ มผลตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความขยนั หมัน่ เพยี ร ความอดทน ท่ีจะจดั เก็บขอ้ มูล อยา่ งเปน็ ระบบ และแสวงหาความรทู้ ี่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ มคี วามรอบคอบในการคิด พจิ ารณา ตัดสนิ ใจ โดยใชส้ ติ ปญั ญา ด้วยความตงั้ มน่ั ของจิต ท่ีมคี ุณภาพ ในทางที่ถูกทคี่ วร 3. การสร้างคุม้ กันในตัวท่ดี ี หมายถึง การเตรียมตวั ให้พร้อมรบั ต่อผลกระทบและการ เปล่ียนแปลงในดา้ นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม เพื่อให้สามารถ ปรับตัวและรับมือได้อยา่ งทนั ทว่ งที กลา่ วโดยย่อคือ การท่ีเห็นวา่ ทุกอย่างไม่แน่นอนมคี วามเป็นไปได้ ทีจ่ ะแปรปรวน ผนั ผวน เปลย่ี นแปลงตลอดเวลา ฉะนน้ั การที่จะทำอะไร ต้องไม่เสี่ยง ไม่ประมาท คดิ ถงึ ความเปน็ ไปได้ของสถานการณ์ต่างๆท่ีอาจจะเกิดขนึ้ แลว้ เตรียมตนเองและผู้ท่ีเกย่ี วข้องให้มี ภูมติ ้านทานทีจ่ ะคุ้มกนั ตวั เองได้ เตรยี มวิธีการทำงานในรูปแบบต่างๆ ให้พร้อมทจี่ ะรบั มือกับการ เปลยี่ นแปลงตา่ งๆ จะไดส้ ามารถดำเนินภารกิจต่อได้ โดยไมข่ ลุกขลัก ต้องหยุดชะงกั กลางคนั และนำมาซ่ึงความต่อเนื่องของการพฒั นาในระยะยาว กรอบแนวคดิ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เนน้ การพฒั นาที่ต้องคำนึงถึง องค์ประกอบใน 4 ด้าน ได้แก่ วตั ถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรม อยา่ งเป็นองค์รวม คอื ไมค่ ดิ แยกสว่ นแตเ่ ชอ่ื มโยง สมั พันธ์กนั อย่างเป็นเหตุเปน็ ผล ซึ่งองค์ประกอบทัง้ 4 ด้าน เปน็ ทง้ั ปจั จยั ทใ่ี ชใ้ นกระบวนการผลิต การบริการ และในขณะเดยี วกนั ก็เปน็ ปจั จัยทไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากการพฒั นา จงึ กลา่ วได้วา่ คนเปน็ ศนู ย์กลางของการพฒั นา คือทั้งเปน็ ผู้กระทำ และได้รบั ผลของการกระทำ จากการ มีปฏิสมั พนั ธ์กับองคป์ ระกอบเหล่าน้ี รายละเอยี ดของแต่ละองคป์ ระกอบมีดังนี้ โรงเรียนบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อดุ รธานี สังกัด สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

หน้า |๙ 1. วตั ถุ หมายถึง วัตถุต่างๆ เชงิ กายภาพ ที่มนุษย์สร้าง หรอื ประดิษฐข์ ึ้น เช่น วตั ถุดบิ สิ่งของ วสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องใช้ไม้สอย อาหาร เสอ้ื ผา้ อาภรณ์ ทีอ่ ยู่อาศยั ต่างๆ เป็นตน้ ซึ่งนอกจาก จะผลติ ไว้ใชเ้ องได้หรือใชว้ ิธกี ารแลกเปลย่ี นกนั ดงั เชน่ ในอดีตในยคุ ปัจจบุ ัน กส็ ามารถซ้ือหามาเพ่ือ บรโิ ภคได้ โดยเงนิ ทนุ องค์ประกอบนีจ้ งึ เปน็ ปจั จัยทเี่ ก่ยี วข้องกับด้านเศรษฐกจิ หรอื เงินทุน (ในความหมายแคบ) เป็นหลัก แต่ในกระบวนการผลิตวัตถุตา่ งๆ เหล่าน้ี จำเป็นตอ้ งอาศัยทรัพยากร ด้านอืน่ ๆ ท่ีมีอยู่อย่างจำกดั เป็นปจั จยั ประกอบรว่ มด้วย 2. สงิ่ แวดลอ้ ม รวมถงึ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแลดลอ้ มของชุมชน สังคม ประเทศชาติ และโลกโดยรวม ได้แก่ ความอุดมสมบูรณข์ องทรัพยากรดนิ นำ้ ป่า แร่ธาตุ ความหลากหลายทาง ชวี ภาพ ความเปน็ ปกติของภูมอิ ากาศ กระแส/ทิศทางลม คลน่ื พลงั งานแสงอาทติ ย์ เปน็ ต้น ซึ่งส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาตินี้ นอกจากจะเปน็ ปัจจยั ในการผลติ และการบริหารแล้ว ยังเป็นสภาพ แวดลอ้ มที่สำคัญและจำเป็นในการดำรงชวี ิต และการดำเนินชีวิตของมนษุ ย์ และสิ่งมีชีวิตทง้ั หลาย บนโลก การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม จังควรเนไปด้วยความรอบคอบ และระมดั ระวงั ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบตอ่ คนรุน่ หลังทีจ่ ำเป็นต้องพง่ึ พิงทรพั ยากรตา่ งๆ เหล่านี้ ในการดำรงชวี ติ 3. สงั คม หมายถึง สภาพการอยรู่ ่วมกันของคนในสังคม ความสัมพันธ์ของคนในสงั คม เชน่ การไวเ้ นือ้ เชอ่ื ใจกนั การชว่ ยเหลือแบง่ ปนั เออ้ื เฟ้ือเผ่อื แผ่ การมีวนิ ัย เคารพ กฎ เกณฑ์ ระเบียบ กติกา การอย่รู ่วมกนั ในสังคมอย่างเคร่งครัด การมีกฎหมาย และระบบยุติธรรม ที่เชื่อถือได้วา่ เป็นธรรมและมีประสทิ ธิภาพ การมีความผกู พนั รกั ใคร่ สามัคคี ปรองดองของ หมคู่ ณะและในสังคม การมสี ถาบันทางสคั มทเี่ ข้มแข็ง เช่น ครอบครวั อบอุ่น เครือญาตสิ ามคั คี การจัดระบบสวสั ดกิ ารทางสงั คมในรปู แบบต่างๆ ท้งั เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ ท่พี ัฒนาขนึ้ มา เพื่อสรา้ งภมู ิค้มุ กันทดี่ ีในยามวิกฤติให้กับสมาชิกในสังคม เปน็ ตน้ ซ่ึงท้ังหมดนี้เปน็ องค์ประกอบ ทสี่ ำคญั ย่ิงในการพัฒนาท่ยี ั่งยืน 4. วัฒนธรรม หมายถึง วิถีการดำเนนิ ชีวติ และการดำรงชวี ติ ซึ่งรวมถึง ความเชอ่ื ศาสนา ระบบคณุ ค่า ภมู ปิ ญั ญา การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมการกิน อาหารพ้นื บ้าน การอยู่ของผู้คน การรกั ษาสุขภาพ การแตง่ ตัว ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปะ การแสดงโบราณสถานต่างๆ เปน็ ต้น วฒั นธรรมมคี วามสำคัญอย่างมากในการบ่งบอกถงึ เอกลักษณ์ความเปน็ ตวั ตน การดำรงชวี ิตอย่ใู นสังคม ทมี่ คี วามหลากหลาย อยา่ งมศี ักด์ศิ รี นอกจากวฒั นธรรมจะเป็นตน้ ทุนท่ีสำคัญทเ่ี ป็นเอกลักษณ์ของแต่ละ ท้องถ่ิน ทงั้ ในการผลิต การให้บริการ เพ่ือใหผ้ ลิตภณั ฑม์ ีคณุ ลักษณะเฉพาะแลว้ ในระยะยาว การพฒั นา ทสี่ มดุลน้ันสอดคล้องกับวถิ คี วามเป็นอยู่คา่ นยิ ม ความเชอ่ื ของคนในท้องถ่นิ แล้วจงึ คอ่ ยๆพัฒนาต่อยอด ปรับปรุงให้เหมาะสมกบั การเปล่ยี นแปลงต่างๆ อย่างเหมาะสม เพ่ือไมใ่ หว้ ิถกี ารพัฒนาสรา้ งความแตก แยกหรอื ความแปลกแยกขึน้ ในสงั คม และในขณะเดียวกันก็มีความจำเปน็ อยา่ งยงิ่ ที่ต้องมกี ารพฒั นาท่ี ดำรงไว้ซงึ่ วฒั นธรรมเพ่ือคงความเป็นเอกลักษณข์ องท้องถิ่น/ชมุ ชน/ชนชาติ ไม่ใหถ้ กู กลืนหายไป ทมี่ า ตามรอยพ่อ ชีวติ พิ อเพียง....สกู่ ารพฒั นาทยี่ งั่ ยืน ดร.จริ ายุ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา ดร.ปรียานุช ธรรมปยิ า โรงเรยี นบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จงั หวัดอุดรธานี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๐ ที่มา ตามรอยพ่อ ชวี ติ ิพอเพียง....ส่กู ารพัฒนาทย่ี ง่ั ยืน ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ดร.ปรียานุช ธรรมปยิ า โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๑ แผนภูมกิ ารขบั เคลอื่ นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่ฐานการเรยี นรู้ โรงเรยี นบา้ นสรา้ งก่อ โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จังหวดั อุดรธานี สังกดั สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๒ ฐานการเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใชเ้ ป็นแหล่งเรียนร้ใู หน้ ักเรียนใชศ้ กึ ษาหาความรู้ ให้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจการปฏบิ ัตติ น อย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นคนนิสัยดี มคี วามรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มมี ารยาทท่ีดี 2. เพ่อื สง่ เสริมการฝึก การปฏิบัติตน ด้านคุณธรรม จริยธรรม มารยาทไทย มารยาทในสงั คม 3. เพอ่ื นักเรียนไดฝ้ ึกการทำงานอย่างมรี ะบบ การใช้เวลาอยา่ งคุ้มค่า และการใชเ้ วลาวา่ ง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการเรียนรู้ 4. เพอื่ บม่ เพาะอปุ นสิ ัยอยู่อยา่ งพอเพียงของนักเรยี น วธิ ใี ช้ฐานการเรยี นรู้ 1. ศึกษาดว้ ยตัวเองเป็นรายบุคคลหรอื กลุ่มจากเอกสารตำรารูปภาพและป้ายนเิ ทศ 2. ศกึ ษาเอกสารความรภู้ าคทฤษฎีและฝกึ ปฏิบัตจิ รงิ ตามกิจกรรมของฐานการเรียนรู้ 3. นักเรยี นร่วมกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแผนการจัดการเรยี นรู้ประจำฐาน จำนวน 8 ชัว่ โมง โดยมนี ักเรยี นแกนนำและครผู รู้ ับผิดชอบประจำฐานการเรยี นรู้ เปน็ วทิ ยากร ขน้ั ตอนการดำเนินกิจกรรม 1. นักเรียนลงช่ือเข้าร่วมกจิ กรรมประจำฐานการเรียนรู้ 2. นกั เรยี นศกึ ษาเอกสารตำรารปู ภาพและปา้ ยนเิ ทศเกย่ี วกบั ฐานการเรยี นรู้ โดยการสังเกต สอบถามและเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 3. นกั เรียนร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ จากวิทยากรประจำฐาน 4. นกั เรียนซกั ถามปัญหาวพิ ากษ์ และสรุปบทเรียนจากการเรยี นรู้รว่ มกนั กับนักเรยี นแกนนำ ประจำฐานการเรยี นร้แู ละครูประจำฐานการเรียนรู้ 5. นักเรยี นสรุปองค์ความรู้ บันทึกผลการเรียนรู้ท่ีไดจ้ ากฐานการเรียนรู้ และถอดบทเรียน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 6. นักเรยี นประเมินผลการจดั กจิ กรรมของฐานการเรยี นรู้ 7. ครผู รู้ บั ผดิ ชอบประเมนิ ผลการเรียนรแู้ ละประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรยี น สรปุ ผลและรายงานผลการดำเนินกิจกรรมการเรียนร้ขู องแตล่ ะฐานการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๓ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูป้ ระจำฐานการเรียนรูค้ ุณธรรมจริยธรรม ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มารยาทไทย เวลา ๘ ช่ัวโมง แผน่ ที่ ๑ ผังโครงสร้างหน่วยการเรยี นรู้เพอ่ื เสริมสร้างคณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง แผนที่ ๑ การแสดงความเคารพ เวลา ๒ ชั่วโมง แผนที่ ๑ (๒ ช่วั โมง) เรอื่ ง การแสดงความ แผนที่ ๒ (๒ ชัว่ โมง) เคารพ เรื่อง การส่งและการรับสงิ่ ของ เป้าหมาย : ๑. กราบเบญจางคประดิษฐ์ และ เป้าหมาย : ๑.ส่งสิ่งของใหผ้ ้ใู หญ่และ กราบผู้ใหญไ่ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง รับส่ิงของจากผ้ใู หญ่ได้ ๒. ไหว้พระ ไหวผ้ ู้ใหญ่ไดอ้ ย่างถกู ต้อง ๒. ประเคนสง่ิ ของแด่พระภิกษุและ ๓. รบั ความเคารพ รับไหว้ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง รับสิ่งจากพระภกิ ษุได้ สาระการเรียนรู้ : การกราบ การไหว้ สาระการเรียนรู้ :การสง่ และการรบั สิ่งของ การรบั ความเคารพ หนว่ ยการเรยี นรู้ : มารยาทไทย ๘ ชั่วโมง สาระสำคญั : มารยาทไทย หมายถงึ กิริยา วาจา ทส่ี ภุ าพเรยี บรอ้ ยทบ่ี ุคคลพงึ ประพฤติปฏบิ ัติ ในสงั คม โดยมีระเบียบแบบแผนอนั เหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาทไทยครอบคลุมถึงกิริยา วาจาตา่ ง ๆ เช่น การแสดงความเคารพการสง่ และการรับสิ่งของ การยืน การเดิน การน่ัง การนอน การแสดงกริ ิยาอาการการรบั ประทานอาหาร การใหแ้ ละรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้ คำพูดการฟัง การใช้เคร่ืองมือส่ือสาร รวมทง้ั การประพฤติปฏิบัติในพธิ ีการตา่ ง ๆ แผนท่ี ๓ ( ๑ ชวั่ โมง) แผนที่ ๔ ( ๒ ช่ัวโมง) เร่อื ง มารยาทท่ัวไปในสังคม เรอื่ ง การยืน การเดนิ การน่ัง เป้าหมาย : มีมารยาททว่ั ไปในสงั คม ไดแ้ ก่ มมี ารยาท เป้าหมาย : ๑.มมี ารยาทในการยืน ในสังคมโดยรวม มมี ารยาทในทส่ี าธารณะ มีมารยาท ๒. มมี ารยาทในการเดิน ในการรบั ประทานอาหาร มีมารยาทในการตอ้ นรบั ๓. มมี ารยาทในการนั่ง ผ้มู าเยือนและมารยาทในการเปน็ ผ้เู ย่ียมเยียน เป็นต้น สาระการเรยี นรู้ :การยืน การเดิน การนงั่ สาระการเรยี นรู้ : มารยาททว่ั ไปในสังคม สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ภาระงาน/ช้ินงาน ๑. มีความสามารถในการส่ือสาร ๑.รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑. ใบงาน เรอื่ ง การแสดง ๒. มีความสามารถในการคดิ ๒.ซ่อื สตั ย์ สุจริต ความเคารพ ๓. มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา ๓.มีวนิ ยั ๒. ใบงาน เรื่อง การส่งและ ๔. มีความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ๔.ใฝเ่ รียนรู้ การรบั ส่ิงของ ๕. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕.อยู่อย่างพอเพยี ง ๓. ใบงานเรื่อง การยืน ๖. ม่งุ ม่ันในการทำงาน การเดนิ การน่ัง ๗. รักความเป็นไทย ๓. ใบงาน เรอ่ื ง มารยาททวั่ ไป ๘. มจี ติ สาธารณะ ในสงั คม โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๔ แผน่ ที่ ๒ การออกแบบการเรยี นรู้แบบยอ้ นกลับ (Blackward Design) แผนที่ ๑ เรือ่ ง การแสดงความเคารพ เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. เปา้ หมายการเรียนรู้ ๒. หลักฐานการเรยี นรู้ เปา้ หมาย ภาระงาน/ช้ินงาน : การแสดงความเคารพ ๑. กราบเบญจางคประดิษฐ์ และกราบผู้ใหญไ่ ด้อย่างถกู ตอ้ ง ๒. ไหวพ้ ระ ไหวผ้ ู้ใหญไ่ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง การวดั ประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ประเมนิ ๓. รบั ความเคารพ รับไหว้ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ประเด็น วิธกี าร ผ่านร้อยละ ๙๐ สาระสำคญั แบบประเมนิ ดา้ น K แบประเมนิ ผลงาน ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ การแสดงความเคารพ มหี ลายลกั ษณะ เช่น การประนมมอื ผลงาน ผ่านรอ้ ยละ ๙๐ การไหว้ การกราบ การคำนบั การถวายความเคารพ การท่ีจะ แบบสังเกต แสดงความเคารพในลกั ษณะใดนนั้ ต้องพิจารณาผทู้ ่จี ะรบั ดา้ น P แบบสงั เกต แบบสังเกต ความเคารพดว้ ยว่าอยู่ในฐานะเช่นใด หรือในโอกาสใด แล้วจงึ ด้าน A สังเกต พฤตกิ รรม แสดงความเคารพให้ถูกตอ้ งและเหมาะสม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ พฤตกิ รรม ๑. อธิบายการกราบ การไหว้และการรับไหว้ได้ถูกต้อง (K) ๒. สามารถกราบ ไหว้ และรบั ไหวไ้ ด้ถกู ต้อง สวยงาม (P) ๒ ๓. ตระหนักถงึ ความสำคญั ในการอนุรกั ษค์ วามเป็นไทย (A) ๑ สาระการเรียนรู้ ๑. การกราบ – การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ ช่อื แผน การแสดงความเคารพ การกราบผใู้ หญ่ ๒. การไหว้ – การไหว้พระ การไหวผ้ ู้ใหญ่ ๓ ๓.การรับความเคารพ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ๓. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ความสามารถในการส่อื สาร(นำเสนออยา่ งมีขั้นตอนเขา้ ใจง่าย) กิจกรรมการเรยี นรู้ : ๒. ความสามารถในการคิด (การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การตีความอย่างมเี หตุผล) ๑. นักเรยี นดูวีดที ัศน์ เร่ืองการกราบ การ ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต (มที ักษะในการสำรวจ ไหว้ การรบั ไหว้ การสบื คน้ ข้อมลู กระบวนการทำงานกล่มุ และการแก้ปญั หา) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. นกั เรียนการฝกึ การกราบ การไหว้ ๑.รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ (จงรกั ภกั ดตี ่อสถาบนั ) การรับไหว้ การรับความเคารพ ๒. ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ (ซอื่ สตั ยใ์ นผลงานของตน) ๓.มีวนิ ยั (รบั ผดิ ชอบในหนา้ ทีท่ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ปฏิบตั ติ าม ๓. นักเรียนทำใบงาน กฎระเบยี บของกลุม่ ) สอื่ เรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ : ๔. ใฝเ่ รียนรู้ (ค้นคว้าหาความรจู้ ากสอื่ ตา่ งๆในการทำใบงาน) ๕.อยอู่ ย่างพอเพียง( ปฏบิ ัติตนอยา่ งเหมาะสม มีการวางแผน ๑. วีดีทัศน์ เรื่องการกราบ การไหว้ การปฏบิ ัติงานอยา่ งเปน็ ระบบ) การรบั ไหว้ การรับความเคารพ ๖.มุง่ มั่นในการทำงาน(ตัง้ ใจฝึกปฏบิ ัตดิ ้วยความมุ่งมน่ั และ ทำใบงานใหส้ ำเรจ็ ) ๒. ใบความร้เู รือ่ งกราบ การไหว้ การรับไหว้ ๗.รักความเปน็ ไทย(สืบทอดการเขยี นเรียงความ)บงาน การรบั ความเคารพ ๘.มจี ติ สาธารณะ(ชว่ ยเหลือเพื่อนในกลุ่ม ๓. ฐานการเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม เวลา : 2 ชั่วโมง โรงเรียนบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกุดจบั จังหวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๕ แผน่ ท่ี ๓ กจิ กรรมการเรยี นรู้เพื่อเสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพียง แผนที่ ๑ การทำความเคารพ เวลา ๒ ช่ัวโมง ................................................................................................... กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน ๑. ครทู ักทายนกั เรยี นและนักเรียนทกั ทายครู โดยการไหว้ ครูรับไหว้นกั เรียน ครูใช้คำถาม Q๑ ๒. ครสู นทนากบั นกั เรียนถึงมรรยาทของชาวพุทธ นกั เรยี นมวี ธิ กี ารกราบพระพุทธรูปอย่างไร ครูใช้คำถาม Q๒ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปวธิ กี ารกราบพระหรือการกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ทถ่ี กู ตอ้ งและสวยงาม เป็นการอนุรักษว์ ฒั นธรรมไดเ้ ปน็ อย่างดี ครูใชค้ ำถาม Q๓ ๓. ให้นักเรียนสรปุ ขั้นตอน “การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์” จากรปู ภาพ ครูใช้คำถาม Q๔ ขนั้ การจัดการเรียนรู้ ๔. นักเรยี นร่วมกนั แบ่งกลมุ่ ๆ ละ ๔ – ๖ คน และกำหนดหนา้ ที่ของสมาชิกภายในกลุ่ม เปน็ หวั หน้ากลมุ่ เลขานกุ ารกลมุ่ และสมาชกิ ภายในกล่มุ ๕.นักเรยี นศึกษาใบความรู้ หรือดวู ดี ที ศั น์การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ การกราบผู้ใหญ่ แลว้ ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัตจิ รงิ ครูใช้คำถาม Q๕ ๖. นักเรียนศึกษาใบความรู้หรือดูวดี ที ศั น์การไหว้ การไหว้พระ การไหวผ้ ้ใู หญ่ การรรับไหว้ การรับความเคารพ แล้วให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มฝึกปฏิบตั ิจริง ครูใช้คำถาม Q๖, ๗. แต่ละกลุม่ เลอื กวธิ กี ารแสดงความเคารพ ๑ วิธี สง่ ตัวแทนกลมุ่ สาธติ กลุม่ อนื่ รว่ มอธิบาย ซกั ถาม เพือ่ ความรู้ ความเข้าใจที่ความถกู ต้องและสมบูรณ์ ) ครูใช้คำถาม Q๗ ข้นั สรุป ๘. นักเรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกันทำใบงาน สรุปความรหู้ รือจัดทำแผนภาพความคิด การแสดงความเคารพ ครูใช้คำถาม Q๘ Q๙ ๘. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปประโยชนข์ องการแสดงความเคารพ และวิเคราะห์การนำ ความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน การปฏิบัตติ นเป็นผ้มู สี มั มาคารวะ Q๑๐ โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอดุ รธานี สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๖ แผ่นท่ี ๔ ชุดคำถามกระตุ้นเพื่อปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียง แผนที่ ๑ เรอ่ื ง การทำความเคารพ เวลา ๒ ชว่ั โมง ................................................................................................................ คำถามกระตนุ้ เพือ่ ปลูกฝังหลักคิดพอเพยี งก่อนเรยี น Q๑. เมอื่ ครูแตล่ ะวิชาเข้ามาสอนนักเรียนมีวิธีแสดงความเคารพครู อย่างไรบ้าง ครูแสดงตอบนกั เรยี นอย่างไร ทำไมจงึ เปน็ เช่นนั้น (พอประมาณ มีเหตผุ ล) Q๒. นกั เรยี นมวี ิธกี ารกราบพระพุทธรปู อยา่ งไร เรียกวธิ กี ารกราบนัน้ ว่าอย่างไร (กราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์) วิธกี ารกราบทถี่ ูกตอ้ งควรปฏิบัติอยา่ งไร (มีภมู คิ ุ้มกันในตัวที่ดี) Q๓.นักเรยี นเคยกราบคุณพ่อ คณุ แม่ หรือครู อาจารยห์ รือไม่ อยา่ งไร ปฏบิ ัตอิ ย่างไร (เหตผุ ล,พอประมาณ ) Q๔ การกราบผู้ใหญ่ท่ีถกู ต้องมีวิธีการกราบโดยปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร) (มีภมู ิค้มุ กันในตัวทดี่ )ี คำถามกระตนุ้ เพอื่ ปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพยี งระหวา่ งเรียน Q๕ จากการศึกษาศึกษาใบความรู้ หรอื ดวู ีดที ศั น์การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ การกราบผใู้ หญ่ ท่ีถกู ตอ้ งหรือเป็นผ้ทู ่มี ีมารยาทงามควรปฏบิ ัติอย่างไร (มีภูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ีด)ี Q๖ นักเรียนศึกษาใบความรู้หรอื ดวู ีดีทัศน์การไหว้ การไหว้พระ การไหวผ้ ูใ้ หญ่ การรรับไหว้ การรบั ความเคารพ แลว้ ได้ความรู้ ข้อคดิ ในการปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบา้ ง (พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู คิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี) Q๗ นักเรียนวางแผนการฝกึ และมีวธิ กี ารนำเสนอการแสดงความเคารพอย่างไร นักเรียนจะอนุรักษ์มารยาทได้อย่างไร (พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวที่ดี) คำถามกระตุ้นเพอื่ ปลูกฝังหลักคิดพอเพียงหลังเรียน Q๘ นกั เรียนคดิ ว่าการปฏบิ ัติตนตามมารยาทไทย ในการกราบเบญจางคประดิษฐ์ และการกราบผใู้ หญ่ อยา่ งถูกต้องสรปุ ได้อย่างไร มปี ระโยชน์อยา่ งไร (พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมิคมุ้ กนั ในตัวที่ดี) Q๙ นกั เรยี นคดิ ว่าการปฏิบัติตนตามมารยาทไทย ในการไหวพ้ ระ การไหว้ผู้ใหญ่ การรับไหว้ อยา่ งถูกต้องสรปุ ได้อยา่ งไร มปี ระโยชน์อยา่ งไร (พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ ุม้ กนั ในตวั ทีด่ ี) Q๑๐ นกั เรียนจะนำความรทู้ ี่ไดไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวันอย่างไร (พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ที่ด)ี และนกั เรยี นจะมีสว่ นในการอนุรักษ์ความเปน็ ไทยได้อยา่ งไร (พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิคุม้ กันในตวั ท่ีดี) โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกดุ จับ จังหวดั อดุ รธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๗ แผน่ ท่ี ๕ แนวทางท่ีครนู ำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้จัดการเรียนรู้ แผนที่ ๑ เร่อื งการทำความเคารพ ๒ ชัว่ โมง ครูนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้จดั การเรยี นรู้ ดงั น้ี ความรูท้ คี่ รตู อ้ งมีก่อนสอน คุณธรรมของครูในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑.การกราบเบญจางคประดิษฐ์ การกราบผูใ้ หญ่ ๑.ความอดทน ๒. ไหว้พระ ไหวผ้ ู้ใหญไ่ ด้อย่างถูกต้อง ๒.ความพยายาม ๓. รับความเคารพ รบั ไหวไ้ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง ๓.ความรบั ผดิ ชอบ ๔.จติ วิทยาการเรียนการสอน ๔.ความเมตตา ๕.การวดั ผลประเมินผล ๕.ความยตุ ธิ รรม ประเดน็ พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิคุ้มกนั ในตัวท่ีดี เนอื้ หา จดั เน้ือหาใหเ้ หมาะสมกับ เพือ่ จดั การเรียนรูต้ ามหลักสตู ร ออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ เวลาในการจดั การเรียนรู้ แกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน เขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ เหมาะสมกับมาตรฐาน บูรณาการหลักปรัชญาของ เตรยี มสื่อ/แหล่งเรยี นรใู้ ห้ ตัวช้ีวดั เหมาะสมกบั เศรษฐกิจพอเพียงให้ผู้เรยี นเกิด พรอ้ มวางแผนการทำงาน ระดบั ช้ัน และเหมาะสมกับ ความรแู้ ละมีความสามารถตาม และการจัดกจิ กรรมการ ศักยภาพของผเู้ รยี น มาตรฐานและตัวชี้วัดท่ีกำหนด เรียนการสอนให้เป็นข้ันตอน เวลา เวลา ๒ ชั่วโมง ทีใ่ ช้ในการ เพอ่ื การดำเนนิ กจิ กรรมไดต้ าม ใช้เวลาไดค้ ้มุ ค่าในการจดั จัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม แผนที่กำหนด ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ กิจกรรมตรงตามเวลาท่ี กับเน้อื หาและกิจกรรม ทุกกิจกรรมอย่างท่วั ถงึ และ กำหนด ไม่ส่งผลกระทบ เปน็ ระบบ ตอ่ ครูและผูเ้ รยี น การจดั จัดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ ห้ เพอื่ กระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความ มแี ผนการจดั การเรียนรแู้ ละ กิจกรรม เหมาะสมกับเนื้อหาในแต่ละ สนใจในการเรียนเกิดการเรยี นรู้ กำหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นตอนโดยเริม่ จากง่าย อย่างเป็นระบบ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและ ไปหายาก ตัวช้วี ัดเป็นระบบ ขั้นตอน สอื่ /อุปกรณ์ เตรียมสอ่ื การเรยี นรู้ ใบงาน เพอื่ ใหก้ ารจดั กิจกรรมการ จัดเตรยี ม ทดลองใชส้ อื่ ใหเ้ หมาะสมกับเนื้อหาและ เรียนรู้เปน็ ไปตามแผนการ (วีดีทศั น)์ และใบงานให้ เพยี งพอกบั จำนวนผู้เรียน จดั การเรยี นรูท้ ่ีกำหนด พร้อมในการจดั กจิ กรรม แหลง่ เรยี นรู้ จดั เตรียมแหลง่ เรยี นรทู้ ี่อยู่ เพอ่ื ให้ผู้เรียนไดศ้ ึกษาจาก สำรวจสถานท่ี ตรวจสอบ ในโรงเรียนและชมุ ชนให้ แหล่งเรยี นร้แู ละได้รับความรู้ ความพร้อมของแหล่งเรียนรู้ เหมาะสมกับเนอ้ื หา ที่ถกู ต้อง ก่อนจะใช้งาน ประเมินผล กำหนดเกณฑ์การประเมนิ เพอ่ื ให้ผลการประเมินตรง ใช้วิธีการประเมินท่ี และออกแบบการประเมิน ตามตัวชว้ี ัดเหน็ พฒั นาการ หลากหลายและมีการวาง ผลใหส้ อดคล้องกับการจดั ของผเู้ รียนนำผลการประเมิน แผนการประเมินอย่างเปน็ กจิ กรรมการเรียนรแู้ ละ ไปพฒั นาและปรับปรุงต่อไป ระบบเปน็ ข้ันตอน ศกั ยภาพของผู้เรียน โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๘ แผน่ ท่ี ๖ ผลท่จี ะเกิดขน้ึ กับผู้เรยี นจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนท่ี ๑ เรือ่ ง ทำความเคารพ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. ผเู้ รยี นจะได้ฝกึ คดิ และฝกึ ปฏิบตั ิตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดงั นี้ ความรูท้ ่ีนกั เรียนต้องมี คุณธรรมของนกั เรยี นที่จะทำใหก้ ารเรยี นรู้สำเรจ็ ๑. ทกั ษะการสังเกต จดจำ ๑.มคี วามรบั ผิดชอบ ๔.ขยัน ๒. การแสดงความเคารพ ได้แก่ การกราบ ๒.ใฝเ่ รียนรู้ ๕. ซอ่ื สัตย์ การไหว้ การรบั ความเคารพ ๓.มีความพยายาม ๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกันในตวั ท่ดี ี ๑.ผู้เรียนใช้เวลาในการเขียน ๑.เพ่ือให้ผู้เรยี นได้รบั ความร้ตู รง ๑.มกี ารศกึ ษาหาความรู้กอ่ นการจัด เรยี งความเหมาะสมกับเนือ้ หา ตามมาตรฐานและตวั ช้ีวัดของ กิจกรรมการเรยี นรู้ และเวลาทก่ี ำหนดให้ หลกั สตู รและเข้าใจหลักปรชั ญา ๒.ในขณะจัดกิจกรรมการเรยี นรผู้ ู้เรียน ๒.ผเู้ รยี นเลอื กเพื่อนในกลมุ่ ได้ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง มีการวางแผนการเรียนรู้ อย่างเหมาะสมกับงานท่ีได้รับ ๒.เพอื่ ใหป้ ฏบิ ัตกิ จิ กรรมได้ การทำงานเปน็ กลมุ่ มอบหมาย ครบถ้วนดว้ ยความรอบคอบ เห็น ๓.มกี ารตรวจสอบและประเมินผลงาน ๓.ผ้เู รยี นใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ ส่ือ ประโยชน์และสามารถนำความรู้ไป ของตนเองก่อนสง่ ผลงานใหค้ รูตรวจ แหลง่ เรียนรู้ได้อย่างคุ้มค่า ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ ๒. ผู้เรยี นจะไดเ้ รยี นรู้การใช้ชวี ิตทส่ี มดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง ๔ มติ ติ ามหลัก ปศพพ. ดงั นี้ ด้าน สมดลุ และพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม ได้รบั ความรู้กราบแบบ มีมนษุ ยสมั พันธท์ ด่ี ี เสนอแนวทางการ สืบทอด และ ความรู้ เบญจางคประดษิ ฐแ์ ละ ระหว่างผ้เู รียนกับผเู้ รยี น แก้ปัญหามารยาท อนุรักษ์ การกราบผูใ้ หญ่ทถ่ี ูกต้อง และผูเ้ รียนกบั ครูผู้สอน ในสังคมไทย มารยาทไทย ทักษะกราบ การไหว้ มที กั ษะการทำงาน มีส่วนร่วมในการ การยอมรบั ฟงั ทกั ษะ และการรับความเคารพ ร่วมกับผู้อน่ื ได้ รกั ษาสิ่งแวดล้อม ความคิดเหน็ -ใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ให้คมุ้ คา่ อยา่ งมีความ สุข และการอนรุ กั ษ์ ของผู้อนื่ และเหมาะสมกบั เวลา ทรัพยากรธรรมชาติ -ตระหนักถงึ ความสำคัญ ชื่นชมผลงานของตนเอง ตระหนักถึง ศรทั ธาในการ ค่านิยม ของการทำความเคารพ และอ่ืน เห็นคุณคา่ ของ ความสำคญั ในการ นำหลกั ปรัชญา -ใช้สอ่ื แหล่งเรียนรู้ การทำงานร่วมกัน ให้ รักษาความสะอาด ของเศรษฐกิจ อย่างคุ้มคา่ เหมาะสม เกยี รติรบั ฟงั ความคิด ของแหลง่ เรียนรู้ พอเพยี งมาใช้ เกิดประโยชนส์ ูงสุด เหน็ ของผู้อ่ืน ก่อนใชแ้ ละหลงั ใช้ เห็นคณุ คา่ ของ วฒั นธรรมไทย โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จับ จงั หวัดอดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๑๙ ใบความรู้ การแสดงความเคารพ ความหมาย “มารยาทไทย” “มารยาทไทย” หมายถึง กริ ยิ า วาจา ทสี่ ภุ าพเรียบร้อยที่บุคคลพึงประพฤติปฏิบัตใิ นสังคม โดยมีระเบยี บแบบแผนอนั เหมาะสมตามกาลเทศะมารยาทไทยครอบคลมุ ถึงกิรยิ า วาจาตา่ ง ๆ เชน่ การแสดงความเคารพ การสง่ และการรบั ส่งิ ของ การยืน การเดิน การนัง่ การนอน การแสดงกริ ิยา อาการ การรบั ประทานอาหาร การใหแ้ ละรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใชค้ ำาพดู การฟัง การใช้เครื่องมือส่อื สาร รวมท้ัง การประพฤติปฏิบตั ิในพธิ กี ารตา่ ง ๆ มารยาทไทย มารยาทไทยเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ควรกำาหนดขนึ้ ไว้ เป็นแนวทางประพฤตปิ ฏิบตั ิ ดังนี้ ๑. การแสดงความเคารพ การแสดงความเคารพมีหลายลักษณะ เชน่ การประนมมือ การไหว้ การกราบ การคำนบั การถวายความเคารพ การทจี่ ะแสดงความเคารพในลกั ษณะใดน้นั ตอ้ งพจิ ารณา ผู้ที่จะรับความเคารพด้วยวา่ อยใู่ นฐานะเชน่ ใด หรอื ในโอกาสใด แล้วจึง แสดงความเคารพใหถ้ ูกต้องและ เหมาะสม การแสดงความเคารพแบง่ ได้ดังนี้ คือ ๑.๑ การไหว้ (วนั ทนา หรือ วันทา) การปฏบิ ัตใิ นท่าไหว้ประกอบด้วยกริ ยิ า ๒ ส่วน คอื การประนมมือ และการไหว้ การประนมมือ (อัญชลี) เปน็ การแสดงความเคารพ โดยการกระพุ่มมือเลก็ นอ้ ย ใหป้ ลายน้ิวมอื ทั้ง สองข้างชดิ กัน ฝา่ มอื ท้ังสองประกบเสมอกนั แนบหว่างอก ปลายนิว้ เฉียงขึ้น พอประมาณ แขนแนบลำตวั ไม่กางศอก ทง้ั ชายและหญิงปฏบิ ตั เิ หมอื นกัน การประนมมือนี้ ใชใ้ นการสวดมนต์ ฟงั พระสวดมนต์ ฟงั พระธรรมเทศนาขณะสนทนากับพระภิกษุ รบั พรจากผู้ใหญ่ และรบั ความเคารพ จากผู้มีอายนุ อ้ ยกวา่ เป็นต้น โรงเรียนบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๐ การไหว้ (วนั ทนา หรือ วันทา) เป็นการแสดงความเคารพโดยการประนมมือ แล้วยกมอื ทั้งสองขา้ งขึน้ จรดใบหนา้ ใหเ้ ห็นว่าเปน็ การแสดงความเคารพอย่างสูงการไหว้แบบไทย แบง่ ออกเปน็ ๓ ระดับ ตามระดบั ของบุคคล ระดับที่ ๑ การไหว้พระ ได้แก่ การไหวพ้ ระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมท้งั ปูชนียสถาน ปชู นียวัตถุ ท่ีเก่ยี วข้องกบั พระพุทธศาสนา ในกรณีท่ีไมส่ ามารถกราบ แบบเบญจางคประดิษฐไ์ ด้ให้ประนมมือ แลว้ ยกขนึ้ พร้อมกับคอ้ มศรี ษะลง ใหห้ วั แม่มือจรด หว่างคิ้ว ปลายนิ้วชแี้ นบส่วนของหน้าผาก โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๑ ระดับที่ ๒ การไหว้ผู้มีพระคณุ และผู้ทมี่ ีอายุมาก ไดแ้ ก่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ครู อาจารย์ และผู้ทีเ่ ราเคารพนบั ถือ ให้ประนมมือแล้วยกขึ้น พรอ้ มกับ ค้อมศรี ษะลง ให้หัวแมม่ อื จรดปลายจมูก ปลายนว้ิ ชี้แนบหว่างค้ิว โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๒ ระดบั ที่ ๓ การไหว้บคุ คลทว่ั ไปที่เคารพนับถือ หรือผู้ทมี่ ีอายุมากกว่าเลก็ นอ้ ย ใหป้ ระนมมือ แลว้ ยกข้นึ พร้อมกับค้อมศรี ษะลง ใหห้ วั แม่มือจรดปลายคาง ปลายนิ้วช้แี นบปลายจมกู สำหรับการไหวใ้ นระดบั ท่ี ๓ น้ี จะใช้แสดงความเคารพผู้ท่ีมีอายุเท่ากัน หรอื เพ่ือนกัน ไดด้ ้วย โดยยืนตรงไหวไ้ ม่ต้องค้อมศรี ษะลง โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๓ โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๔ ๑.๒ การกราบ (อภิวาท) เป็นการแสดงความเคารพอยา่ งสงู มี ๒ แบบ ๑.๒.๑ การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ เป็นการใช้อวยั วะทั้ง ๕ คือ หนา้ ผาก มือ และข้อศอกท้ัง ๒ เข่าทงั้ ๒ สัมผัสกบั พน้ื การกราบมี ๓ จังหวะ คือ ท่าเตรยี ม ชาย น่ังคุกเขา่ ตวั ตรงปลายเท้าตั้ง ปลายเท้าและส้นเท้าชิดกนั นัง่ บนสันเทา้ เข่าทง้ั สองห่างกนั พอประมาณ มอื ท้ังสองวางควำ่ เหนือเขา่ ท้ังสองขา้ งนวิ้ ชดิ กนั (ทา่ เทพบุตร) หญิง นง่ั คกุ เขา่ ตวั ตรงปลายเท้าราบ เขา่ ถึงปลายเท้าชดิ กนั นง่ั บนสนั เทา้ มอื ทง้ั สอง วางคว่ำเหนือเข่าท้ังสองข้าง นิ้วชิดกัน (ท่าเทพธดิ า) ท่ากราบ จงั หวะท่ี ๑ (อัญชล)ี ยกมือข้ึนในทา่ ประนมมือ จังหวะที่ ๒ (วันทนา หรือ วันทา) ยกมือขึน้ ไหว้ตามระดับท่ี ๑ การไหวพ้ ระ จงั หวะท่ี ๓ (อภวิ าท) ทอดมือท้งั สองพรอ้ ม ๆ กัน ให้มือและแขนท้งั สองขา้ งราบ กบั พ้นื ควำ่ มือห่างกนั เล็กน้อย พอให้หน้าผากจรดพืน้ ระหวา่ งมือท้งั สอง ชาย ศอกท้ังสองขา้ งวางต่อจากเข่าราบไปกบั พนื้ หลังไม่โก่ง หญงิ ศอกทั้งสองข้างคร่อมเขา่ เล็กน้อย ราบไปกับพืน้ หลังไม่โก่ง ทำสามจังหวะใหค้ รบท้งั ๆ ครั้ง ยกมือข้ึนไหว้ในทา่ ไหว้พระแลว้ วางมือคว่ำเหนอื เขา่ ทง้ั สองข้าง เหมือนในทา่ เตรียมกราบ จากน้ันใหเ้ ปลย่ี นอริ ิยาบถตามความเหมาะสม โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๕ ๑.๒.๒ การกราบผูใ้ หญ่ เป็นการกราบผมู้ ีพระคุณและผู้ท่ีมีอายมุ าก ได้แก่ ปู้ ยา่ ตา ยาย พอ่ แม่ ครู อาจารยแ์ ละผู้ท่ีเราเคารพ ผูก้ ราบทัง้ ชายและหญิงนงั่ พบั เพียบทอดมือท้ังสองข้างลงพรอ้ มกนั ให้แขนท้ังสองคร่อมเข่าที่อยู่ด้านลา่ งเพียงเขา่ เดยี ว มือประนมตง้ั กบั พน้ื ไม่แบมือ ค้อมตัวลงให้สันจมกู แตะนิ้วแม่มือในขณะกราบ ไมก่ ระดกน้วิ ขึ้นรบั หนา้ ผาก กราบเพยี งครั้งเดยี ว จากนนั้ เปล่ียนอิรยิ าบถ โดยการนั่งสำรวมประสานมือ แลว้ เดนิ เข่า\" ถอยหลังพอประมาณ จงึ ลุกข้ึนจากไป โรงเรยี นบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สังกดั สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๖ ๑.๒.๓ การรบั ความเคารพ เมื่อผนู้ อ้ ยมาทำาความเคารพ ควรรับความเคารพ ดว้ ยการประนมมอื หรือค้อมศีรษะรบั ตามควรแกก่ รณี โรงเรยี นบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อุดรธานี สังกัด สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๗ ใบงาน การแสดงความเคารพ ๑. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ฝึกปฏบิ ัตกิ ารแสดงความเคารพ ( ๑๕ นาที ) ๑.๑ การกราบ ๑) การกราบแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ ๒) การกราบผ้ใู หญ่ ๑.๒ การไหว้ ๑) การไหว้พระ ๒) การไหว้ผู้ใหญ่ ๑.๓ การรับไหว้ การรับความเคารพ ๒. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มสรุปวธิ ีการแสดงความเคารพ ( ๑๐ นาที ) ๒.๑ การกราบ ๑) การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ๒) การกราบผใู้ หญ่ ๒.๒ การไหว้ ๑) การไหว้พระ ๒) การไหว้ผู้ใหญ่ ๒.๓ การรบั ไหว้ การรับความเคารพ ๓. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอการแสดงความเคารพ ๑ วธิ ี โดยการอธบิ ายและสาธติ ( กลุ่มละ ๕ นาที ) (แตล่ ะกลุ่มไมซ่ ำ้ กนั อาจใช้วิธีจบั สลาก) โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกดุ จับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๘ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรปู้ ระจำฐานการเรียนรู้คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มารยาทไทย เวลา ๘ ชวั่ โมง แผ่นที่ ๑ ผงั โครงสร้างหน่วยการเรียนรเู้ พอ่ื เสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง แผนท่ี ๒ การสง่ และการรับส่งของ เวลา ๒ ชั่วโมง แผนที่ ๑ (๒ ชัว่ โมง) เรอ่ื ง การแสดงความเคารพ แผนที่ ๒ (๒ ชวั่ โมง) เป้าหมาย : ๑. กราบเบญจางคประดษิ ฐ์ และ เรอื่ ง การส่งและการรบั ส่ิงของ กราบผใู้ หญไ่ ด้อยา่ งถกู ต้อง เป้าหมาย : ๑.สง่ สง่ิ ของให้ผใู้ หญแ่ ละ ๒. ไหวพ้ ระ ไหวผ้ ้ใู หญไ่ ด้อยา่ งถกู ต้อง รบั ส่ิงของจากผู้ใหญ่ได้ ๓. รับความเคารพ รับไหวไ้ ดอ้ ย่างถกู ต้อง ๒. ประเคนสิ่งของแด่พระภิกษุและ สาระการเรียนรู้ : การกราบ การไหว้ รับสง่ิ จากพระภิกษุได้ การรับความเคารพ สาระการเรียนรู้ :การส่งและการรบั สง่ิ ของ หน่วยการเรยี นรู้ : มารยาทไทย ๘ ช่ัวโมง สาระสำคัญ : มารยาทไทย หมายถึง กริ ยิ า วาจา ท่สี ุภาพเรยี บร้อยท่ีบุคคลพงึ ประพฤติปฏิบัติ ในสงั คม โดยมีระเบยี บแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาทไทยครอบคลมุ ถึงกิรยิ า วาจาตา่ ง ๆ เช่น การแสดงความเคารพการสง่ และการรบั สิง่ ของ การยืน การเดนิ การนัง่ การนอน การแสดงกริ ยิ าอาการการรบั ประทานอาหาร การให้และรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้ คำพดู การฟัง การใชเ้ ครื่องมือส่ือสาร รวมท้ัง การประพฤติปฏบิ ัตใิ นพิธกี ารตา่ ง ๆ แผนที่ ๓ ( ๑ ช่วั โมง) แผนท่ี ๔ ( ๒ ชั่วโมง) เรอ่ื ง มารยาทท่ัวไปในสงั คม เรื่อง การยนื การเดิน การนั่ง เป้าหมาย : มีมารยาททัว่ ไปในสังคม ไดแ้ ก่ มมี ารยาท เปา้ หมาย : ๑.มีมารยาทในการยนื ในสงั คมโดยรวม มีมารยาทในท่สี าธารณะ มีมารยาท ๒. มมี ารยาทในการเดนิ ในการรบั ประทานอาหาร มีมารยาทในการต้อนรบั ๓. มีมารยาทในการน่ัง ผู้มาเยือนและมารยาทในการเปน็ ผู้เยี่ยมเยียน เปน็ ต้น สาระการเรยี นรู้ :การยนื การเดนิ การนงั่ สาระการเรียนรู้ : มารยาททว่ั ไปในสงั คม สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ภาระงาน/ช้นิ งาน ๑. มีความสามารถในการสอื่ สาร ๑.รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๑. ใบงาน เร่ือง การแสดงความ ๒. มีความสามารถในการคิด ๒.ซือ่ สัตย์ สจุ ริต เคารพ ๓. มีความสามารถในการแก้ปัญหา ๓.มีวนิ ัย ๒. ใบงาน เรือ่ ง การส่งและการ ๔. มคี วามสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๔.ใฝเ่ รยี นรู้ รับส่ิงของ ๕. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕.อยอู่ ย่างพอเพียง ๓. ใบงานเรือ่ ง การยืน ๖. มุ่งมนั่ ในการทำงาน การเดิน การนงั่ ๗. รกั ความเป็นไทย ๓. ใบงาน เร่อื ง มารยาททว่ั ไป ๘. มจี ิตสาธารณะ ในสงั คม โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๒๙ แผน่ ท่ี ๒ การออกแบบการเรยี นรแู้ บบยอ้ นกลับ (Blackward Design) แผนที่ ๒ เรือ่ ง การสง่ และการรับสงิ่ ของ เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. เปา้ หมายการเรียนรู้ ๒. หลักฐานการเรยี นรู้ เป้าหมาย ภาระงาน/ช้นิ งาน : การส่งและการรับสิงของ ๑. ประเคนสิ่งของแดพ่ ระภิกษแุ ละการรับสิง่ ของจากพระภิกษุ การวดั ประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ประเมนิ ได้อย่างถกู ตอ้ ง ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ ๒.สง่ สงิ ของใหผ้ ้ใู หญ่และการรับสง่ิ ของจากผู้ใหญ่ได้ถกู ต้อง ประเดน็ วธิ ีการ แบบประเมิน สาระสำคัญ ผลงาน ผา่ นร้อยละ ๙๐ ๑. การประเคนสิ่งของแดพ่ ระภิกษุ หมายถึง การถวายสิ่งของ ด้าน K แบประเมนิ ผ่านรอ้ ยละ ๙๐ โดยส่งใหต้ ามวิธีการทางวนิ ยั ถ้าเปน็ สง่ิ ของทพ่ี อยกได้ ใช้สองมือ ผลงาน แบบสงั เกต ยกแล้วประเคนในระยะหตั ถบาส (หตั ถบาส หมายถงึ บว่ งมือ) แบบสงั เกต ถา้ เปน็ ส่งิ ของใหญเ่ กินกวา่ ท่จี ะยกได้ เช่น เรอื รถ หรือกฏุ ิ ดา้ น P แบบสงั เกต พฤตกิ รรม ให้กล่าวคำาถวาย หรือถวายเอกสารประกอบสงิ่ นนั้ ดา้ น A สงั เกต ๒. สิ่งของทจี่ ะสง่ หรอื รับมี ๒ ลกั ษณะ คอื ส่ิงของหนักและสง่ิ ของ เบาสิ่งของหนกั ให้ถอื สองมอื สง่ิ ของเบาใหถ้ อื มอื เดียว โดยถือ พฤติกรรม ด้วยมือขวา มือซ้ายแนบลำาตัว สง่ิ ของทีจ่ ะส่งหรอื รบั ควรถือตาม ขวาง ถา้ เป็นสมดุ หรือหนังสอื ควรหันทางสันไปทางผรู้ บั ๒ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑ ๑. บอกวิธกี ารสง่ และการรับสิง่ ของได้ถูกต้อง (K) ๒. สามารถสง่ และการรบั สงิ่ ของได้ถูกต้อง (P) ช่ือแผน การส่งและการรบั สิ่งของ ๓. ตระหนักถงึ ความสำคัญในการอนุรกั ษ์ความเป็นไทย (A) สาระการเรียนรู้ ๓ ๑.การประเคนส่งิ ของแด่พระภิกษแุ ละการรบั สงิ่ ของจากพระภิกษุ ๒. การส่งสงิ ของใหผ้ ู้ใหญ่ และการรับสิ่งของจากผูใ้ หญ่ ๓. กจิ กรรมการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ : ๑. ความสามารถในการสื่อสาร(นำเสนออยา่ งมขี น้ั ตอนเข้าใจง่าย) ๑. นกั เรยี นศึกษาใบความรูห้ รือดวู ดี ที ศั น์ ๒. ความสามารถในการคิด (การคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ เร่อื งการส่งและการรับสงิ่ ของ การตีความอย่างมีเหตผุ ล) ๒. นักเรียนการฝึกปฏิบตั ิ เรอ่ื ง การส่งและ ๓. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (มีทกั ษะในการสำรวจ การรับสิ่งของ การสบื ค้นขอ้ มูล กระบวนการทำงานกลุม่ และการแก้ปัญหา) ๓. นักเรยี นทำใบงาน การส่งและการรับส่งิ ของ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สื่อเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้ : ๑.รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ (จงรักภกั ดีตอ่ สถาบัน) ๑. วีดีทศั น์ เรื่องการสง่ และการรบั สิ่งของ ๒. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ (ซอ่ื สตั ย์ในผลงานของตน) ๒. ใบความรู้เรือ่ งการสง่ และการรบั สง่ิ ของ ๓.มวี นิ ยั (รับผดิ ชอบในหน้าท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย) ๓. ฐานการเรียนร้คู ณุ ธรรม จริยธรรม ๔. ใฝเ่ รียนรู้ (คน้ ควา้ หาความรจู้ ากสือ่ ต่างๆในการทำใบงาน) เวลา : 2 ช่วั โมง ๕.อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง( ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสม) ๖.ม่งุ มั่นในการทำงาน(ต้งั ใจฝึกปฏบิ ัติและทำใบงานใหส้ ำเรจ็ ) ๗.รกั ความเป็นไทย(สืบทอดการเขยี นเรยี งความ)บงาน ๘.มีจติ สาธารณะ(ช่วยเหลือเพอื่ นในกลุ่ม) โรงเรยี นบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจับ จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๐ แผ่นท่ี ๓ กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พอื่ เสริมสร้างคุณลักษณะอยู่อยา่ งพอเพียง แผนที่ ๒ เร่ือง การส่งและการรับสิ่งของ เวลา ๒ ชั่วโมง ................................................................................................... กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูสรา้ งสถานการณใ์ ห้นักเรียนไดป้ ฏบิ ตั ใิ นการ “การสง่ และการรับสง่ิ ของ” ให้เพ่อื น ๆ สงั เกตพฤติกรรม ครูใชค้ ำถาม Q๑ ๒. ครูและนักเรียนร่วมกนั เสนอข้อคดิ เหน็ ในการสง่ และการรับสงิ่ ของจากครู บิดา มารดา หรอื ผู้ใหญค่ นอนื่ ๆ วา่ ตอ้ งปฏิบตั ิเป็นอย่างไร ครใู ชค้ ำถาม Q๒ ๓. ให้นกั เรียนเล่าประสบการณ์ในการประเคนของแด่พระภิกษุ และการรับของจากพระภกิ ษุ ว่านักเรียนทำอยา่ งไร หรือเห็นผู้ปกครองปฏบิ ัติอย่างไร ครูใชค้ ำถาม Q๓ ๔. ครูและนักเรียนรว่ มกันวธิ ีการประเคนของแด่พระภิกษุ และการรบั ของจากพระภกิ ษุ จากประสบการณ์ทท่ี ำหรือทเี่ คยเหน็ ครูใช้คำถาม Q๔ ข้นั การจัดการเรยี นรู้ ๔. นักเรียนรว่ มกนั แบง่ กลุม่ ๆ ละ ๔ – ๖ คน และกำหนดหน้าท่ขี องสมาชกิ ภายในกลุ่ม เปน็ หัวหนา้ กลุ่ม เลขานกุ ารกลมุ่ และสมาชิกภายในกลมุ่ ๕.นักเรียนศึกษาใบความรู้ หรือดวู ีดที ศั น์ เร่ือง ประเคนของแด่พระภกิ ษแุ ละการรับของจากพระภิกษุ แล้วให้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ฝึกปฏบิ ตั จิ ริง ครใู ชค้ ำถาม Q๕ ๖. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้หรือดวู ดี ีทัศน์ เรื่อง การรับและส่งของจากผู้ใหญ่ แลว้ ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ฝกึ ปฏบิ ัติจริง ครูใชค้ ำถาม Q๖, ๗. แต่ละกลุ่มเลือกวิธกี ารสง่ และรับของจากผู้ใหญ่ ๑ วิธี หรอื วิธีประเคนของแด่พระภิกษุและการรับ ของจากพระภิกษุ ส่งตวั แทนกลมุ่ สาธติ เพ่ือนๆกลมุ่ อ่ืนร่วมอธบิ าย แลกเปล่ียนเรียนรู้ เพือ่ ความรู้ ความเขา้ ใจทค่ี วามถกู ต้องและสมบรู ณ์ ครูใชค้ ำถาม Q๗ ขน้ั สรปุ ๘. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันทำใบงาน สรุปความรู้ประเคนของแด่พระภิกษุและการรับ ของจากพระภิกษุ การส่งและรบั ของจากผ้ใู หญ่ ครูใชค้ ำถาม Q๘ Q๙ ๘. นักเรียนและครูร่วมกันวิเคราะห์การนำความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจำวนั การปฏิบตั ิตน อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และประโยชน์ท่ีได้รบั จากการเรยี นรู้ และการนำไปใช้ Q๑๐ โรงเรียนบ้านสร้างก่อ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๑ แผน่ ที่ ๔ ชุดคำถามกระตุ้นเพือ่ ปลูกฝังหลักคิดพอเพียง แผนที่ ๒ เรอื่ ง การสง่ และการรับสิ่งของ เวลา ๒ ช่ัวโมง ................................................................................................................ คำถามกระต้นุ เพอ่ื ปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพยี งก่อนเรยี น Q๑. พฤตกิ รรมการรบั ของจากครู การสง่ ของให้ครขู องเพ่ือนเปน็ อยา่ งไรบา้ ง ถ้าเป็นนักเรียนจะทำแบบเดียวกันหรือไม่อย่างไร (พอประมาณ มีเหตผุ ล) Q๒. นักเรยี นคิดวา่ วิธกี ารรบั ของจากบิดา มารดา หรือผูใ้ หญ่คนอนื่ และการส่งของ ทถ่ี ูกตอ้ ง ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร (มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี) Q๓. นักเรยี นเคยประเคนของหรือเคยเห็นผปู้ กครองแด่พระภกิ ษแุ ละรับของจากพระภิกษุทำอยา่ งไร (เหตผุ ล,พอประมาณ ) Q๔ วธิ กี ารประเคนของแด่พระภกิ ษุและรบั ของจากพระภิกษุ ควรปฏบิ ัติอยา่ งไร (มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี) คำถามกระตนุ้ เพือ่ ปลูกฝงั หลักคิดพอเพียงระหวา่ งเรียน Q๕ จากการศึกษาศึกษาใบความรู้ หรือดวู ีดที ัศน์การประเคนแด่พระภิกษุและรบั ของจากพระภิกษุ มีวธิ กี ารปฏิบตั ทิ ีถ่ กู ต้องเหมาะสมอยา่ งไร (พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตัวที่ดี) Q๖ จากการศึกษาศกึ ษาใบความรู้ หรอื ดูวีดีทัศน์การส่งของใหผ้ ูใ้ หญแ่ ละรบั ของจากผ้ใู หญ่ วิธกี ารปฏิบตั ทิ ี่ถกู ต้องเหมาะสมเปน็ อย่างไร (พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุม้ กนั ในตวั ท่ีด)ี Q๗ นกั เรยี นวางแผนการฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ และวางแผนการนำเสนอผลการทำใบงานอย่างไร (พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคมุ้ กันในตัวท่ีดี) คำถามกระตุ้นเพือ่ ปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงหลังเรียน Q๘ นักเรียนคดิ ว่าการปฏบิ ัติตนตามมารยาทไทย ในการการประเคนแด่พระภกิ ษุและรับของ จากพระภกิ ษุอยา่ งถูกต้องเหมาะสมอย่างไร (พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กันในตัวทด่ี )ี Q๙ นักเรยี นคดิ ว่าการปฏบิ ัติตนตามมารยาทไทย ในการส่งและรับส่ิงของอย่างถูกต้องเหมาะสมอย่างไร (พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมิคมุ้ กนั ในตัวที่ดี) Q๑๐ นักเรยี นจะนำความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ในชีวิตประจำวนั อย่างไร การปฏบิ ัตเิ ชน่ น้นั มีประโยชนอ์ ย่างไร (พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี) โรงเรียนบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จังหวดั อดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๒ แผ่นท่ี ๕ แนวทางท่ีครนู ำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้จดั การเรียนรู้ แผนที่ ๒ เรอื่ ง การสง่ และการรบั สงิ่ ของ เวลา ๒ ชั่วโมง ครนู ำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้จดั การเรียนรู้ ดังน้ี ความร้ทู ่ีครตู ้องมกี ่อนสอน คุณธรรมของครใู นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. การประเคนแด่พระภิกษแุ ละรบั ของจากพระภิกษุ ๑.ความอดทน ๒. การส่งและรบั สง่ิ ของ ๒.ความพยายาม ๓. การพูดกบั พระภิกษุ ๓.ความรบั ผิดชอบ ๔.จติ วทิ ยาการเรียนการสอน ๔.ความเมตตา ๕.การวัดผลประเมนิ ผล ๕.ความยตุ ิธรรม ประเดน็ พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวท่ีดี เน้อื หา จดั เนื้อหาให้เหมาะสมกบั เพอ่ื จัดการเรยี นร้ตู ามหลักสูตร ออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ เวลาในการจดั การเรียนรู้ แกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน เขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ เหมาะสมกับมาตรฐาน บรู ณาการหลกั ปรชั ญาของ เตรยี มสื่อ/แหล่งเรยี นรใู้ ห้ ตวั ชวี้ ัด เหมาะสมกบั เศรษฐกิจพอเพียงให้ผเู้ รียนเกิด พร้อมวางแผนการทำงาน ระดบั ชน้ั และเหมาะสมกับ ความร้แู ละมีความสามารถตาม และการจัดกจิ กรรมการ ศกั ยภาพของผูเ้ รยี น มาตรฐานและตวั ช้วี ดั ที่กำหนด เรยี นการสอนให้เป็นข้ันตอน เวลา เวลา ๒ ช่ัวโมง ที่ใช้ในการ เพอ่ื การดำเนินกิจกรรมไดต้ าม ใชเ้ วลาไดค้ ้มุ ค่าในการจดั จดั กิจกรรมมีความเหมาะสม แผนทีก่ ำหนด ผูเ้ รียนได้เรยี นรู้ กจิ กรรมตรงตามเวลาท่ี กับเนอื้ หาและกจิ กรรม ทกุ กิจกรรมอย่างทวั่ ถงึ และ กำหนด ไม่ส่งผลกระทบ เป็นระบบ ตอ่ ครแู ละผูเ้ รยี น การจัด จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ เพื่อกระตนุ้ ให้ผู้เรยี นเกดิ ความ มีแผนการจดั การเรียนรแู้ ละ กิจกรรม เหมาะสมกบั เนอ้ื หาในแต่ละ สนใจในการเรยี นเกิดการเรยี นรู้ กำหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันตอนโดยเริ่มจากง่าย อยา่ งเปน็ ระบบ สอดคล้องกับมาตรฐานและ ไปหายาก ตัวชีว้ ัดเป็นระบบ ขั้นตอน สอ่ื /อปุ กรณ์ เตรยี มสื่อการเรียนรู้ ใบงาน เพ่อื ใหก้ ารจดั กิจกรรมการ จดั เตรยี ม ทดลองใชส้ อื่ ใหเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาและ เรยี นรู้เปน็ ไปตามแผนการ (วีดที ศั น)์ และใบงานให้ เพยี งพอกับจำนวนผู้เรียน จดั การเรียนรทู้ ่ีกำหนด พร้อมในการจดั กจิ กรรม แหลง่ เรยี นรู้ จัดเตรียมแหลง่ เรียนรทู้ ่ีอยู่ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นไดศ้ ึกษาจาก สำรวจสถานท่ี ตรวจสอบ ในโรงเรยี นและชมุ ชนให้ แหล่งเรียนรู้และไดร้ ับความรู้ ความพร้อมของแหล่งเรียนรู้ เหมาะสมกับเน้อื หา ที่ถูกต้อง กอ่ นจะใช้งาน ประเมินผล กำหนดเกณฑ์การประเมิน เพื่อให้ผลการประเมินตรง ใช้วิธกี ารประเมินท่ี และออกแบบการประเมิน ตามตวั ชี้วัดเหน็ พฒั นาการ หลากหลายและมีการวาง ผลใหส้ อดคล้องกบั การจัด ของผูเ้ รียนนำผลการประเมนิ แผนการประเมินอย่างเปน็ กจิ กรรมการเรียนรูแ้ ละ ไปพัฒนาและปรบั ปรงุ ต่อไป ระบบเป็นข้ันตอน ศกั ยภาพของผู้เรยี น โรงเรียนบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๓ แผน่ ที่ ๖ ผลทจ่ี ะเกดิ ขึ้นกับผู้เรียนจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง แผนที่ ๒ เรื่อง การส่งและการรบั สิง่ ของ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. ผู้เรยี นจะไดฝ้ กึ คดิ และฝึกปฏบิ ัติตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ ความรทู้ ีน่ ักเรยี นตอ้ งมี คุณธรรมของนกั เรยี นทจ่ี ะทำให้การเรียนรสู้ ำเร็จ ๑. ทักษะการสังเกต การจดจำ การพดู การเขียน ๑.มีความรับผิดชอบ ๔.ขยนั ๒. การประเคนแด่พระภิกษุและรับของ ๒.ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ซอื่ สตั ย์ จากพระภกิ ษุ ๓.มคี วามพยายาม ๖. มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๓. การสง่ และรับสงิ่ ของ พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ุม้ กนั ในตวั ท่ดี ี ๑.ผู้เรยี นใช้เวลาในการเขียน ๑.เพ่อื ให้ผูเ้ รียนได้รับความรตู้ รง ๑.มีการศกึ ษาหาความรู้กอ่ นการจัด เรียงความเหมาะสมกับเนอ้ื หา ตามมาตรฐานและตวั ช้ีวัดของ กิจกรรมการเรยี นรู้ และเวลาทกี่ ำหนดให้ หลักสตู รและเขา้ ใจหลกั ปรชั ญา ๒.ในขณะจดั กิจกรรมการเรียนรผู้ ูเ้ รียน ๒.ผเู้ รียนเลอื กเพื่อนในกลุม่ ได้ ของเศรษฐกิจพอเพียง มีการวางแผนการเรยี นรู้ อยา่ งเหมาะสมกบั งานที่ไดร้ บั ๒.เพื่อใหป้ ฏิบตั ิกิจกรรมได้ การทำงานเปน็ กลุ่ม มอบหมาย ครบถ้วนด้วยความรอบคอบ เห็น ๓.มกี ารตรวจสอบและประเมินผลงาน ๓.ผู้เรยี นใช้วัสดุอุปกรณ์ สอ่ื ประโยชน์และสามารถนำความรูไ้ ป ของตนเองกอ่ นส่งผลงานใหค้ รูตรวจ แหล่งเรยี นรไู้ ด้อย่างคุ้มคา่ ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ ๒. ผเู้ รยี นจะได้เรียนรูก้ ารใชช้ วี ิตที่สมดลุ และพรอ้ มรับการเปล่ียนแปลง ๔ มติ ติ ามหลัก ปศพพ. ดังน้ี ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในด้านต่าง ๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม ได้รับความรู้ เกย่ี วกบั มีมนุษยสัมพันธท์ ีด่ ี เสนอแนวทางการ สืบทอด รักษา ความรู้ การรบั และการสง่ สิ่งของ ระหวา่ งผเู้ รียนกับผเู้ รยี น แก้ปัญหามารยาท มารยาทไทย อยา่ งถูกต้องเหมาะสม และผูเ้ รียนกบั ครูผสู้ อน ในสงั คมไทย ทกั ษะการรบั จากผใู้ หญ่ มีทกั ษะการทำงาน มสี ่วนร่วมในการ การรบั ฟงั ความ ทักษะ และส่งสงิ่ ของให้ผู้ใหญ่ ร่วมกับผู้อน่ื ได้ รกั ษาสง่ิ แวดล้อม คิดเห็นของผูอ้ ่ืน การประเคนของแด่พระ อย่างมีความสุข และการอนรุ กั ษ์ ภกิ ษุและรับของจากพระ ทรัพยากรธรรมชาติ ภกิ ษุอยา่ งเหมาะสม -ตระหนกั ถึงความสำคัญ ชนื่ ชมผลงานของตนเอง ตระหนักถึงความ เหน็ คุณคา่ ของ ค่านิยม คุณคา่ ของมารยาทไทย และอื่น เห็นคุณคา่ ของ สำคัญในการรักษา การปฏิบัติตน -ใชส้ ื่อ แหล่งเรียนรู้ การทำงานรว่ มกัน ให้ ความสะอาดของ ตามมารยาท อยา่ งคุ้มค่า เหมาะสม เกยี รตริ บั ฟงั ความคิด ฐานการเรยี นรู้ ของไทย เกดิ ประโยชน์สงู สดุ เห็นของผู้อ่นื กอ่ นใชแ้ ละหลงั ใช้ โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๔ ใบความรู้ เรื่อง การสง่ และการรับสง่ิ ของ ๑. การประเคนสง่ิ ของแด่พระภิกษุ และการรับส่ิงของจากพระภกิ ษุ ๑.๑ การประเคนส่ิงของแดพ่ ระภกิ ษุ หมายถึง การถวายส่งิ ของโดยสง่ ให้ตามวิธกี ารทางวินยั ถา้ เป็นสิ่งของท่ีพอยกได้ ใชส้ องมือยกแลว้ ประเคนในระยะหตั ถบาส (หัตถบาส หมายถงึ บ่วงมอื ) ถ้าเป็น ส่งิ ของใหญเ่ กนิ กวา่ ทีจ่ ะยกได้ เช่น เรือ รถ หรือกฎุ ให้กลา่ วคำถวาย หรือถวายเอกสารประกอบสิง่ นน้ั วิธกี ารประเคนส่ิงของ ชายและหญงิ ปฏิบตั ิ ดงั นี้ กรณีท่ีพระภกิ ษุนั่งกบั พืน้ ถือสง่ิ ของเดนิ เข่าเข้าไปในระยะหัตถบาสแลว้ ยกส่ิงของขนึ้ ประเคน ชายจะประเคนสิง่ ของแด่พระภกิ ษุในลักษณะมอื ตอ่ มอื ได้เลย สว่ นหญิงจะตอ้ งวางบนผ้าทพ่ี ระภิกษทุ อด ออกมา จะไหว้หรอื กราบแล้วแตก่ าลเทศะ ถอยโดยวิธีเดนิ เขา่ เมื่อหา่ งพอประมาณจงึ ลุกข้ึนหันหลังกลับ โรงเรยี นบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๕ กรณีพระภิกษนุ งั่ บนเกา้ อ้ีหรืออาสนะไม่ต้องเดินเขา่ แตเ่ ข้าไปให้ไดร้ ะยะหตั ถบาส และประเคน ตามวิธดี ังกลา่ วข้างต้น ถ้ามีสงิ่ ของถวายหลายอยา่ งควรประเคนทลี ะอย่างแต่ถ้ามีภาชนะใสไ่ ว้ กป็ ระเคน ทง้ั ภาชนะได้ ๑.๒. การรับสงิ่ ของจากพระภกิ ษุ ก่อนรับสงิ่ ของใหเ้ ขา้ ไปใกล้ในระยะพอประมาณแลว้ แสดง ความเคารพ จะกราบหรือไหว้ตามความเหมาะสม ชายใหย้ ่นื สองมอื รับทงั้ สิ่งของเบาและสงิ่ ของหนัก แลว้ ถอยกลบั หญงิ พระภิกษจุ ะวางสงิ่ ของไว้ตรงหน้า อาจวางไวบ้ นผ้า ถา้ เป็นส่ิงของเบาใหเ้ อ้ือมมือขวา ไปหยิบ หากเป็นของหนัก ให้ใช้ท้ังสองมือยกของออกจากผ้าดว้ ยอาการสำรวม แล้วถอยกลับ โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๖ ๒. การส่งสง่ิ ของให้ผใู้ หญแ่ ละการรบั สิ่งของจากผใู้ หญ่ สิ่งของท่จี ะส่งหรือรับมี ๒ ลักษณะ คอื สงิ่ ของหนักและส่งิ ของเบา สงิ่ ของหนักใหถ้ ือสองมือ สิ่งของเบาให้ถือมือเดยี ว โดยถือดว้ ยมือขวา มือซ้ายแนบลำตัวสงิ่ ของทีจ่ ะสง่ หรือรบั ควรถือตามขวาง ถา้ เป็นสมดุ หรอื หนังสอื ควรหันทางสนั ไปทางผู้รับ ๒.๑ การสง่ และรับสิ่งของอยา่ งเปน็ พิธีการ คำวา่ \"พิธีการ\" ในทีน่ ค้ี ือ การกระทำทเี่ ปน็ พิธี มีกำหนดการและมีระเบียบปฏิบตั ิ ซ่ึงอาจไมเ่ หมือนกบั วธิ ีปฏบิ ัตทิ ่เี ป็นสว่ นตัว ๑) การส่งส่งิ ของขณะผ้ใู หญ่ยืน ชาย ถอื ส่ิงของเดินเข้าไปหา่ งจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรง ก้าวเท้าขวาไปข้างหนา้ พร้อมกบั ค้อมตัวเล็กน้อย ส่งสิ่งของแลว้ ถอยเท้าขวากลับ แสดงความเคารพ โดยการไหว้ ๑ ครงั้ แล้วถอยพอประมาณ จึงหนั หลงั กลบั โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๗ โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๘ หญิง ถือสิง่ ของเดนิ เข้าไปหา่ งจากผใู้ หญ่พอประมาณ ยนื ตรง ก้าวเท้าขวา ไปข้างหนา้ พรอ้ มกับย่อตวั เลก็ น้อย ส่งสง่ิ ของ ไหว้ในขณะท่ยี ่อตัวอยู่ แล้วถอยเทา้ ขวากลับ ยนื ตรง ถอยพอประมาณ จงึ หันหลังกลบั โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อุดรธานี สังกัด สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๓๙ ในกรณีท่ีใชพ้ านสง่ ส่ิงของ ให้จบั คอพานท้ังสองมอื เดนิ เขา้ ไป ระยะพอประมาณ ทำความเคารพ (ชาย คำนับ หญงิ ค้อมศรี ษะเล็กน้อย) ยกพานส่งสงิ่ ของให้ เม่ือผู้ใหญ่รับสิ่งของไปแลว้ ลดพานลงถือในลกั ษณะเดิม ชายและหญิง ทำความเคารพ ถอยพอประมาณ จงึ หันหลังกลบั ๒) การส่งส่ิงของ ขณะผู้ใหญ่นงั่ เก้าอี้ ชาย ถือสง่ิ ของเดนิ เข้าไปห่างจากผใู้ หญ่พอประมาณ ยืนตรง กา้ วเทา้ ขวาลงเข่าซา้ ย สง่ สิง่ ของ เสร็จแล้วยนื ตรง ไหว้ ๑ ครง้ั ถอยหลงั พอประมาณจงึ หนั หลงั กลับ โรงเรียนบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จังหวัดอดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๐ หญงิ ถือสิ่งของเดินเขา้ ไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยนื ตรง กา้ วเท้าขวา ไปขา้ งหน้า ลงเขา่ ซ้าย สง่ สิ่งของ ไหวข้ ณะท่ลี งเข่า เสร็จแล้วยืนตรง ถอยพอประมาณจึงหนั หลงั กลับ ในกรณที ่ใี ช้พานสง่ สง่ิ ของ ถือพานเดินเข้าไปห่างจากผใู้ หญ่พอประมาณ ยนื ตรง ทำความเคารพโดย ชาย คำนับ หญิง คอ้ มศีรษะ กา้ วเท้าขวาไปขา้ งหน้าลงเขา่ ซา้ ยส่งส่ิงของ เสร็จแล้วยนื ตรง ทำาความเคารพอีก ๑ ครง้ั ถอยพอประมาณจึงหันหลงั กลบั ๓) การสง่ ส่ิงของ ขณะผใู้ หญ่นัง่ กับพื้น ชายและหญิงปฏิบตั เิ หมอื นกนั ถา้ เปน็ ผู้ใหญ่ ทม่ี พี ระคุณ หรือผ้ทู ่ีมีอายุมาก ให้ผูท้ ี่เขา้ ไปส่งสง่ิ ของเดนิ เขา่ ถือส่งิ ของหา่ งจากผู้ใหญ่พอประมาณ นง่ั พับเพียบขาขวาทับขาซา้ ย (ให้หวั เข่าซา้ ย ตรงผู้ใหญ่) วางสงิ่ ของเยื้องเขา่ ขวาเลก็ น้อย กราบผใู้ หญ่ ๑ ครง้ั สง่ สิง่ ของให้ผูใ้ หญ่ ถ้าเปน็ สงิ่ ของเบาใหส้ ง่ ด้วยมือขวา มอื ซ้ายวางควำ่ อยเู่ หนือเขา่ ซ้าย ถ้าเปน็ สิ่งของหนักให้ใชท้ งั้ สองมือส่งสิ่งของ ถ้าผู้ใหญ่สนทนาดว้ ยก็ให้น่ังลกั ษณะสำารวม เม่ือจะลากลับ กราบ ๑ ครงั้ ถอยโดยวิธีเดินเข่าหา่ งจากผใู้ หญพ่ อประมาณ ลกุ ขน้ึ ยนื จงึ หนั หลงั กลับ ในกรณีท่ีผู้ใหญ่อายุไม่มากให้แสดงความเคารพด้วยการไหว้ตามระดับ โรงเรยี นบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๑ โรงเรยี นบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๒ ๔) การรบั สงิ่ ของ ขณะผูใ้ หญ่ยืน ชาย เดินเขา้ ไปห่างจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรงไหว้ ๑ ครง้ั ตามระดับ กา้ วเท้าขวา ไปขา้ งหนา้ เปดิ ส้นเท้าซา้ ย รับสง่ิ ของ ถอยเท้าขวากลับยืนตรง ถอยหลงั พอประมาณ จึงหนั หลังกลับ อกี แบบหนึง่ เดินเข้าไปหา่ งจากผใู้ หญ่พอประมาณ ยืนตรง คำนบั ก้าวเท้าขวาไปข้างหนา้ เปดิ สน้ เท้าซ้าย โนม้ ตวั ไปข้างหนา้ เล็กน้อย รับสงิ่ ของดว้ ยมือขวา มอื ซา้ ยแนบลำตัว แลว้ ถอยเท้าขวา กลบั ยืนตรงคำนบั อกี ๑ ครง้ั ถอยพอประมาณ จงึ หันหลงั กลับ โรงเรยี นบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จับ จังหวัดอดุ รธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๓ หญงิ เดนิ เข้าไปหา่ งจากผ้ใู หญ่พอประมาณ ไหว้ตามระดับของผู้สง่ สิ่งของ ก้าวเทา้ ขวา ไปข้างหน้าย่อตัวรบั สิ่งของ แล้วถอยเท้าขวากลับ ยืนตรง ถอยพอประมาณ จึงหนั หลังกลบั โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๔ ๕) การรบั สิง่ ของ ขณะผู้ใหญ่นั่งเกา้ อี้ ชาย เดนิ เขา้ ไปหา่ งจากผู้ใหญ่พอประมาณ ยืนตรงคอ้ มตวั ไหว้ตามระดับ ก้าวเทา้ ขวา ไปข้างหน้า ลงเข่าซา้ ย รับสิ่งของ ถอยเท้าขวากลับยนื ตรง ถอยพอประมาณ จึงหันหลงั กลบั ถา้ เป็นสง่ิ ของหนัก ใหร้ บั ด้วยมอื ขวา แล้วใชม้ ือซ้ายช่วยประคอง อกี แบบหน่ึง เดนิ เข้าไปหา่ งจากผ้ใู หญ่พอประมาณ ยนื ตรง คำนับ กา้ วเท้าขวา ไปขา้ งหนา้ ลงเขาซา้ ย รับสงิ่ ของดว้ ยมือขวา มือซ้ายแนบลำตัว ถอยเท้าขวากลบั ยืนตรง คำนบั อีก ๑ ครั้ง ถอยพอประมาณ จงึ หันหลังกลบั หญิง เดินเขา้ ไปหา่ งจากผ้ใู หญ่พอประมาณ ยนื ตรง กา้ วเทา้ ขวาไปข้างหน้า ลงเข่าซ้าย เปดิ สน้ เท้าขวาเลก็ น้อยพร้อมกับไหวต้ ามระดับ รับส่งิ ของด้วยมือขวา มือซ้ายแนบลำตวั ถอยเท้าขวา กลบั ยืนตรง ถอยพอประมาณ จงึ หันหลงั กลับ ถ้าเปน็ สิง่ ของหนัก ใหร้ ับสิ่งของสองมือ โรงเรียนบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๕ ๖) การรบั ส่งิ ของ ขณะผู้ใหญ่นง่ั กับพืน้ ชายและหญงิ ปฏบิ ัติเหมือนกัน ถา้ เป็นผู้ใหญท่ ม่ี พี ระคุณหรอื อายุมาก ให้เดนิ เข่าเข้าไป ใกล้ผู้ใหญพ่ อประมาณ นง่ั พับเพยี บขาขวาทับขาซา้ ย กราบผู้ใหญ่ ๑ ครัง้ แลว้ รับส่งิ ของ วางส่งิ ของเย้ือง เขา่ ขวาเล็กน้อย ถา้ ผ้ใู หญส่ นทนาด้วย ให้นัง่ ในลักษณะสำรวม กอ่ นจะลากลับให้กราบ ๑ ครั้ง ถอื สงิ่ ของ เดินเข่าถอยพอประมาณ ลุกขึ้น ถอยพอประมาณ จงึ หันหลังกลับ ในกรณีทผ่ี ู้ใหญอ่ ายไุ ม่มากใหแ้ สดงความเคารพดว้ ยการไหวต้ ามระดับ โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๖ ๒.๒ การสง่ และการรับส่ิงของอย่างงไมเ่ ปน็ พธิ ีการ การสง่ และการรับสิ่งของอยา่ งไม่เป็นพิธีการ หมายถึง การส่งและรบั ส่ิงของ เป็นการส่วนตัว ขณะทผ่ี ใู้ หญ่ยนื หรอื นั่งบนเก้าอ้ี หรอื นั่งบนพื้นในบา้ นทง้ั ชายและหญิงควรปฏิบัติดว้ ยกริ ิยานอบน้อม ดว้ ยการทำความเคารพตามระดับเม่ือจะสง่ สงิ่ ของ ให้สง่ ส่งิ ของกอ่ นแลว้ จึงไหว้ และเม่ือจะรบั สงิ่ ของให้ ไหวก้ ่อนแลว้ จงึ รับท้ังน้ี พึงปฏิบัติให้เหมาะสมตามกรณี เม่ือจะลากลบั ให้ไหว้อีกครง้ั หน่งึ โรงเรยี นบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จงั หวัดอดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔

ห น ้ า | ๔๗ ใบงาน เร่ือง การส่งและการรบั สง่ิ ของ ๑. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มฝึกปฏิบตั ิการสง่ และการรบั สิ่งของ ( ๒๐ นาที ) ๑.๑ การประเคนของแด่พระภิกษแุ ละการรับของจากพระภิกษุ ๑.๒ การสง่ สิ่งของใหผ้ ใู้ หญ่และการรบั ส่งิ ของจากผใู้ หญ่อยา่ งเป็นพิธีการ ๑) ขณะผใู้ หญย่ ืน ๒) ขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ ๓) ขณะผใู้ หญ่น่งั กับพนื้ ๑.๓ การสง่ สิง่ ของใหผ้ ู้ใหญแ่ ละการรับสิ่งของจากผูใ้ หญ่อย่างไม่เป็นพธิ ีการ ๒. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสรุปวิธีการการส่งสิ่งของให้ผูใ้ หญแ่ ละ การรบั สงิ่ ของจากผู้ใหญ่อยา่ งเปน็ พิธีการและไม่เปน็ พธิ ีการ ( ๑๐ นาที ) ๓. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอการส่งสง่ิ ของให้ผูใ้ หญ่และ การรับสง่ิ ของจากผู้ใหญ่ ๑ วิธี โดยการอธิบายและสาธิต ( กลมุ่ ละ ๕ นาที ) (แตล่ ะกลุ่มไมซ่ ำ้ กัน อาจใชว้ ิธีจับสลาก) โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จังหวดั อุดรธานี สังกดั สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔