Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา ระบบรักษาความปลอดภัย

วิชา ระบบรักษาความปลอดภัย

Published by pomza292, 2022-08-24 08:02:44

Description: หนังสือระบบรักษาความปลอดภัย

Keywords: วิชา ระบบรักษาความปลอดภัย

Search

Read the Text Version

คอมพวิ เตอร์โน๊ตบ๊คุ ท่ีมีจำหนำ่ ยในท้องตลำดมกั ได้รบั กำรตดิ ตงั ้ ชิปเซต็ (Chipset) ทท่ี ำหน้ำทเ่ี ป็นตวั รับสง่ สญั ญำณ Wi-Fi ไปในตวั ทำให้สะดวก ต่อกำรนำไปใช้งำนมำกขนึ ้ กำรติดตอ่ สอื่ สำรด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ทำได้ทงั ้ แบบเช่อื มตอ่ โดยตรง ระหวำ่ งเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยไมต่ ้องผ่ำน อปุ กรณ์ตวั กลำง (Ad-hoc) และแบบทผี่ ่ำนอปุ กรณ์จดุ เช่ือมต่อ (Access Point)





นำโนเทคโนโลยี (องั กฤษ: Nanotechnology) คือ เทคโนโลยีทเี่ กี่ยวข้องกบั กระบวนกำรจดั กำร กำรสร้ำงหรือกำร วเิ ครำะห์ วสั ดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองจกั รหรือผลติ ภัณฑ์ที่มีขนำดเล็กมำก ๆ ในระดบั นำโนเมตร (ประมำณ 1-100 นำโนเมตร) รวมถงึ กำรออกแบบหรือกำรประดษิ ฐ์เครื่องมอื เพอ่ื ใช้สร้ำงหรือวเิ ครำะห์วสั ดใุ นระดบั ทีเ่ ลก็ มำก ๆ เช่น กำรจดั อะตอมและ โมเลกลุ ในตำแหนง่ ทีต่ ้องกำรได้อย่ำงถกู ต้องแม่นยำ สง่ ผลให้โครงสร้ำงของวัสดุ หรืออปุ กรณ์ มีสมบัตพิ เิ ศษขนึ ้ ไม่วำ่ ทำงด้ำนกำยภำพ เคมี หรือชีวภำพ และสำมำรถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ นำโนศำสตร์ (Nanoscience) คอื วิทยำศำสตร์แขนงหนง่ึ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั กำรศกึ ษำ วสั ดุ อนิ ทรีย์ อนินทรีย์ และรวมไป ถงึ สำรชีวโมเลกลุ ทมี่ ีโครงสร้ำงในสำมมิติ (ด้ำนยำว ด้ำนกว้ำง ด้ำนสงู ) ด้ำนใดด้ำนหนงึ่ หรือทงั ้ 3 ด้ำน มขี นำดอยู่ ระหว่ำง 1-100 นำโนเมตร โดยวัสดทุ ่มี ีมิติทงั ้ สำมเลก็ กว่ำ 100 นำโนเมตร วสั ดชุ นิดนนั ้ เรียกวำ่ วัสดนุ ำโนสำมมิติ (3- D nanomaterial) ถ้ำมี สองมิติ หรือ หนง่ึ มิติ ที่เล็กกว่ำ 100 นำโนเมตร เรียกว่ำ วสั ดนุ ำโนสองมติ ิ (2-D) และ วสั ดนุ ำโนหนง่ึ มิติ (1-D) ตำมลำดบั สมบัตขิ องวสั ดนุ ำโนจะแตกต่ำงจำกวสั ดทุ ี่มขี นำดใหญ่ (bulk material) ไมว่ ำ่ จะเป็นสมบตั ทิ ำงกำยภำพ เคมี และชีวภำพ ล้วนแล้วแตม่ ีสมบตั เิ ฉพำะตวั ดังนนั ้ ถ้ำกลำ่ วถงึ นำโนศำสตร์ กจ็ ะเป็นกำร สร้ำงหรือศกึ ษำวัสดทุ ่ีมโี ครงสร้ำงในระดบั นำโนเมตร โดยผลลพั ธ์ที่ได้กค็ อื วสั ดชุ นิดใหม่ หรือทรำบสมบตั ิทแี่ ตกต่ำงและ นำ่ สนใจ โดยสมบตั ิเหลำ่ นนั ้ สำมำรถอธิบำยได้ด้วยทฤษีทำงควอนตมั (quantum theory)

ประโยชน์ของนำโนเทคโนโลยี ประโยชน์ของนำโนเทคโนโลยเี ป็นควำมหวังท่ีจะฝ่ำวกิ ฤติปัจจบุ นั ของมนษุ ยชำติได้หลำกหลำยอย่ำงดังนี ้ 1.พบทำงออกทจ่ี ะได้ใช้พลงั งำนรำคำถกู และสะอำดเป็นมิตรกบั สงิ่ แวดล้อม 2.มนี ำ้ ทส่ี ะอำดเพียงพอสำหรบั ทุกคนในโลก 3.ทำให้มนษุ ย์สขุ ภำพแข็งแรงและอำยยุ ืนกวำ่ เดิม (มนษุ ย์อำจมีอำยเุ ฉล่ยี ถงึ ปี) 4.สำมำรถเพ่มิ ผลผลติ ทำงกำรเกษตรได้อย่ำงพอเพยี งกบั ประชำกรโลก 5.เพ่ิมศกั ยภำพในกำรตดิ ต่อสอ่ื สำรของผ้คู นทงั ้ โลกอยำ่ งทว่ั ถงึ ทดั เทียม 6.สร้ำงหนุ่ ยนต์นำโนที่สำมำรถซ่อมแซมควำมบกพร่องของเซลล์เม็ดเลอื ดแดง คอยทำลำยเซลล์แปลกปลอมตำ่ ง ๆ 7.มคี วำมสำมำรถในกำรประกอบตวั เอง และทำสำเนำตวั เอง 8.กำรใช้เทคโนโลยใี นเทคโนโลยีเพ่อื สขุ ภำพ 9.กำรใช้นำโนเทคโนโลยีในกำรผลติ ภณั ฑ์อำหำรเสริมเพื่อสขุ ภำพและทำงกำรแพทย์ 10.ในอนำคตเรำอำจใช้นำโนเทคโนโลยสี ร้ำงอวยั วะเทียม

สำขำย่อยของนำโนเทคโนโลยี คำร์บอนนำโนทบู ในโครงสร้ำงสำมมิติ นำโนอิเลก็ ทรอนิกส์ (Nanoelectronics) นำโนเทคโนโลยีชีวภำพ (Bionanotechnology) นำโนเซนเซอร์ (Nanosensor) กำรแพทย์นำโน (Nanomedicine) ทอ่ นำโน (Nanotube) นำโนมอเตอร์ (Nanomotor) โรงงำนนำโน (Nanofactory) แมแ่ บบ:งำนด้ำนนำโนเทคโนโลยี งำนด้ำนวัสดนุ ำโนเฉพำะทำงและนำโนเทคโนโลยีขนั ้ สงู กำรพฒั นำวสั ดนุ ำโนเฉพำะทำงเพ่อื ให้มคี ณุ สมบตั ิพิเศษเฉพำะด้ำน ทม่ี ่งุ เน้นกำรประยกุ ต์ใช้งำนด้ำนผลิตภัณฑ์สง่ิ ทอ ผลติ ภณั ฑ์ในครัวเรือน รวมถงึ กำรใช้ประโยชน์จำกทรัพยำกรธรรมชำติ เพอื่ เพ่ิมคณุ ภำพชีวิตที่ดี งำนด้ำนกำรเกษตรนำโนและสิ่งแวดล้อมกำรวิจยั และพฒั นำนำโนเทคโนโลยีด้ำนนวตั กรรมอำหำร เกษตรและสงิ่ แวดล้อม โดยกำรประยกุ ต์ใช้นำโนเทคโนโลยกี ำรดัดแปลงโครงสร้ำงและพืน้ ผวิ รวมทงั ้ กำรเตรียมนำโนคอมพอสติ ี เพอื่ เสริมสร้ำง ควำมเข้มแขง็ ด้ำนเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไทย ร่วมกบั กำรจดั กำรสง่ิ แวดล้อมอยำ่ งยงั่ ยืน

ตวั อย่ำงผลงำนจำกนำโนเทคโนโลยี คอนกรีตชนิดหนง่ึ ใช้เทคโนโลยนี ำโน ใช้ Biochemical ทำปฏิกิริยำย่อยสลำยกบั มลภำวะทเ่ี กิดจำกรถยนต์ เชน่ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ในประเทศอังกฤษได้เริ่มมีกำรใช้เทคโนโลยีนีใ้ นกำรสร้ำงถนนและอโุ มงค์ต่ำงๆ เพ่อื ลดมลภำวะบน ท้องถนน และขณะเดียวกนั เทคโนโลยีนำโน ทำให้อนภุ ำคคอนกรีตมขี นำดเลก็ มำก ฝ่นุ และแบคทีเรีย ไม่สำมำรถฝังตัวใน เนือ้ คอนกรีตได้ ทำให้อำคำรท่ีใช้คอนกรีตชนิดนี ้ดใู หมเ่ สมอ และยงั คงไม่สะสมเชอื ้ โรคเสอื ้ นำโน ด้วยกำรฝังอนภุ ำคนำโน เงิน (silver nanoparticle) ทำให้เกิดปฏิกิริยำกบั กำรเจริญเตบิ โตของแบคทีเรีย หรือกำรใช้อนภุ ำคสงั กะสอี อกไซด์ระดบั นำโนเมตรท่ีสำมำรถทำงำนได้เม่ือถูกกระต้นุ ด้วยแสงท่ตี ำมองเห็น หรือแสงขำวมำกเคลอื บเส้นใยหรือสง่ิ ทอ ทำให้เกดิ อนมุ ลู อิสระที่สำมำรถกำจัดสำรอินทรีย์ตำ่ งๆ โดยกำรแตกสลำยตัว ทำให้ยบั ยงั ้ กำรเจริญเติบโตของเชอื ้ จลุ นิ ทรีย์และลด กลน่ิ อบั ทีเ่ กดิ ขนึ ้ ได้ โดยมกี ำรนำมำพฒั นำผลติ ภัณฑ์เสอื ้ นำโนหลำยรูปแบบ เช่น เสอื ้ กีฬำนำโนยบั ยงั ้ เชอิ ้ จลุ นิ ทรีย์และ กลนิ่ ไม้เทนนิสนำโนผสมท่อคำร์บอนนำโน เป็นตวั เสริมแรง (reinforced) ทำให้แข็งแรงขนึ ้ (อำ่ น วสั ดผุ สม)ชดุ นกั เรียน ปลอดเชอื ้ และกลน่ิ อนั เป็นควำมร่วมมือระหวำ่ งนกั วจิ ยั สวทช. กบั บริษัท สยำมชดุ นกั เรียน จำกดั ในกำรพฒั นำเทคโนโลยี กำรเคลอื บผ้ำด้วยอนภุ ำคไทเทเนียมไดออกไซด์ ซง่ึ ใช้แสงเป็นตวั กระต้นุ ให้เกดิ ปฏิกิริยำยอ่ ยสลำย หรือท่เี รียกว่ำ โฟโต แคตลสิ ต์ (photocatalyst) โดยไทเทเนียมไดออกไซด์ทโ่ี ดนกระต้นุ ด้วยแสงยวู ี จะเกิดกำรแตกตวั และทำปฏิกริ ิยำกบั นำ้ จนได้เป็นอนมุ ลู อสิ ระซง่ึ จะสำมำรถไปยอ่ ยสลำยโปรตีนหรือสำรเคมตี ำ่ งๆ จนทำให้เชอื ้ แบคทเี รียและกลน่ิ อบั หมดไป จงึ มี กำรนำเทคโนโลยีกำรเคลอื บผ้ำด้วยอนภุ ำคไทเทเนียมไดออกไซด์นีไ้ ปใช้กบั กระบวนกำรผลติ ชดุ นกั เรียนตอ่ ไป

บลทู ธู (Bluetooth) เป็นข้อกำหนดสำหรับอตุ สำหกรรมเครือขำ่ ยสว่ นบคุ คล (Personal Area Networks - PAN) แบบไร้สำย บลทู ธู ช่วยให้อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์สำมำรถ เชื่อมตอ่ กนั ได้ เชน่ โทรศพั ท์มอื ถือ พดี ีเอ คอมพวิ เตอร์สว่ นบคุ คล โดยผ่ำนทำงคลน่ื วทิ ยุ ที่มำของชอื่ บลทู ธู นนั ้ นำมำจำกพระนำมพระเจ้ำฮำรัลด์บลทู ทู ของประเทศเดนมำร์ก[1] เพอื่ เป็นกำรรำลกึ ถงึ กษัตริย์บลทู ทู ผ้ปู กครองประเทศกลมุ่ สแกนดเิ นเวยี ซงึ่ ในปัจจบุ นั เป็นกลมุ่ ผ้นู ำ ในด้ำนกำรผลติ โทรศพั ท์มอื ถอื ปอ้ นสตู่ ลำดโลก และระบบบลทู ธู นี ้กถ็ กู สร้ำงขนึ ้ มำเพ่ือใช้กบั โทรศพั ท์มือถอื และเร่ิมต้นจำกประเทศในแถบนดี ้ ้วยเช่นกนั

รำยละเอียดทำงเทคนิค บลทู ธู จะใช้สญั ญำณวิทยคุ วำมถ่ีสงู 2.4 GHz. (จิกะเฮิร์ซ) แตจ่ ะแยกย่อยออกไป ตำมแตล่ ะประเทศ อยำ่ งในแถบยโุ รปและอเมริกำ จะใช้ชว่ ง 2.400 ถงึ 2.4835 GHz. แบง่ ออกเป็น 79 ช่องสญั ญำณ และจะใช้ชอ่ งสญั ญำณท่ีแบ่งนี ้เพ่ือสง่ ข้อมลู สลบั ช่องไปมำ 1,600 ครงั้ ตอ่ 1 วนิ ำที สว่ นท่ีญ่ีป่ นุ จะใช้ ควำมถี่ 2.402 ถงึ 2.480 GHz. แบง่ ออกเป็น 23 ชอ่ ง ระยะทำกำรของบลทู ธู จะอยทู่ ่ี 5-100 เมตร โดยมีระบบปอ้ งกนั โดยใช้กำรป้อนรหสั กอ่ นกำรเช่ือมตอ่ และ ป้องกนั กำรดกั สญั ญำณระหวำ่ งสอ่ื สำร โดย ระบบจะสลบั ช่องสญั ญำณไปมำ จะมคี วำมสำมำรถในกำรเลือกเปลยี่ นควำมถที่ ี่ใช้ในกำรติดตอ่ เอง อตั โนมตั ิ โดยที่ไมจ่ ำเป็นต้องเรียงตำมหมำยเลขชอ่ ง ทำให้กำรดกั ฟังหรือลกั ลอบขโมยข้อมลู ทำได้ยำกขนึ ้ โดยหลกั ของบลทู ธู จะถกู ออกแบบมำเพื่อใช้กบั อปุ กรณ์ท่มี ขี นำดเลก็ เน่ืองจำกใช้กำรขนสง่ ข้อมลู ใน จำนวนท่ีไมม่ ำก อยำ่ งเช่น ไฟลภ์ ำพ, เสยี ง, แอปพลเิ คชนั ตำ่ งๆ และสำมำรถเคลอ่ื นย้ำยได้งำ่ ย ขอให้อยใู่ น ระยะที่กำหนดไว้เท่ำนนั้ (ประมำณ 5-100 เมตร) นอกจำกนีย้ งั ใช้พลงั งำนต่ำ กนิ ไฟน้อย และสำมำรถใช้ งำนได้นำน โดยไมต่ ้องนำไปชำร์จไฟบอ่ ยๆ ด้วย

ระยะทำกำร ควำมสำมำรถในกำรสง่ ข้อมลู ของบลทู ธู นนั ้ ขนึ ้ กบั แต่ละ class ท่ใี ช้ ซงึ่ มี 4 class ดงั นี ้ Class 1 กำลงั สง่ 100 มลิ ลวิ ตั ต์ ระยะประมำณ 100 เมตร Class 2 กำลงั สง่ 2.5 มลิ ลวิ ตั ต์ ระยะประมำณ 10 เมตร Class 3 กำลงั สง่ 1 มิลลิวตั ต์ ระยะประมำณ 1 เมตร Class 4 กำลงั สง่ 0.5 มิลลวิ ตั ต์ ระยะประมำณ 0.5 เมตรรุ่น ข้อกำหนด และคุณสมบตั ขิ อง Bluetooth แบ่งเป็นรุ่นต่ำงๆ ดงั นี ้ Bluetooth 1.0 Bluetooth 1.1 Bluetooth 1.2 z Bluetooth 2.0 Bluetooth 2.0 EDR Bluetooth 2.1 EDR Bluetooth 3.0 Bluetooth 4.0 Bluetooth 4.1

Bluetooth 4.2 Bluetooth 5 Bluetooth 5.1 Bluetooth 7 ระบบ EDR : Enhanced Data Rate เพ่มิ ควำมเร็วในกำรสง่ ข้อมลู สงู สดุ เป็น 3 Mbps

บลทู ธู (Bluetooth) เป็นข้อกำหนดสำหรบั อตุ สำหกรรมเครือขำ่ ยสว่ นบคุ คล (Personal Area Networks - PAN) แบบไร้สำย บลทู ธู ชว่ ยให้อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์สำมำรถเช่ือมตอ่ กนั ได้ เช่น โทรศพั ท์มือถือ พีดเี อ คอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คล โดยผำ่ นทำงคลน่ื วทิ ยุ ที่มำของชื่อบลทู ธู นนั้ นำมำจำกพระนำมพระเจ้ำฮำรัลด์บลทู ทู ของประเทศเดนมำร์ก[1] เพื่อเป็น กำรรำลกึ ถึงกษัตริย์บลทู ทู ผ้ปู กครองประเทศกลมุ่ สแกนดเิ นเวีย ซง่ึ ในปัจจบุ นั เป็นกลมุ่ ผ้นู ำในด้ำนกำรผลติ โทรศพั ท์มือถือปอ้ นสตู่ ลำดโลก และระบบบลทู ธู นี ้กถ็ กู สร้ำงขนึ ้ มำเพ่ือใช้กบั โทรศพั ท์มือถือ และเร่ิมต้นจำก ประเทศในแถบนีด้ ้วยเช่นกนั



มำตรฐำนไอพีแอดเดรสท่ใี ช้กนั ทกุ วนั นีค้ อื โพรโทคอลอินเทอร์เนต็ รุ่นที่ส่ี (IPv4) ซึง่ เป็นมำตรฐำนในกำรสง่ ข้อมลู ในเครือขำ่ ยอินเทอร์เนต็ ตงั้ แตป่ ี ค.ศ. ๑๙๘๑ ทงั้ นีก้ ำรขยำยตวั ของเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เนต็ ในช่วงท่ีผำ่ น มำมอี ตั รำกำรเติบโตอยำ่ งรวดเร็ว และจำนวนหมำยเลขไอพีแอดเดรส ของ IPv4 กำลงั จะถกู ใช้หมดไป ไม่ เพียงพอกบั กำรใช้งำนอินเทอร์เนต็ ในอนำคต ซง่ึ หำกเกิดขนึ ้ กห็ มำยควำมวำ่ เรำจะไมส่ ำมำรถเช่ือมตอ่ เคร่ือขำ่ ยเข้ำกบั ระบบอนิ เทอร์เนต็ เพ่ิมขนึ ้ ได้อีก ดงั นนั้ คณะทำงำน IETF (The Internet Engineering Task Force) จึงได้พฒั นำโพรโทคอลอินเทอร์เนต็ รุ่นใหมข่ นึ ้ คอื โพรโทคอลอินเทอร์ เน็ตรุ่นที่หก (IPv6) เพ่ือทดแทนโพรโทคอลอนิ เทอร์เนต็ รนุ่ เดมิ โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพื่อปรับปรุงโครงสร้ำง ของตวั โพรโทคอล ให้รองรับไอพีแอดเดรสจำนวนมำก และปรบั ปรุงคณุ ลกั ษณะอื่นๆ อีกหลำยประกำร ทงั้ ในแง่ของประสทิ ธิภำพและควำมปลอดภยั รองรับระบบแอพพลเิ คชน่ั ใหมๆ่ ทจ่ี ะเกดิ ขนึ ้ ในอนำคต และเพิ่ม ประสิทธิภำพในกำรประมวลผลแพก็ เกต็ ให้ดีขนึ ้ ทำให้สำมำรถตอบสนองตอ่ กำรขยำยตวั และควำม ต้องกำรใช้งำนเทคโนโลยีบนเครือขำ่ ยอนิ เทอร์เน็ตในอนำคตได้เป็นอยำ่ งดี

อนิ เทอร์เน็ตสญั ญำกำรเช่ือมตอ่ ท่ีไม่ จำกดั แตก่ ำรเชื่อมตอ่ ดงั กลำ่ วต้องกำรให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์และ อปุ กรณ์หำคนอืน่ ผำ่ นกำรวำงแผนที่อยรู่ ่วมกนั แผนปัจจบุ นั ในสถำนที่ตงั้ แตป่ ี 1970 จะวง่ิ ออกจำกท่ีอยู่ เปิดและรูปแบบใหมท่ ี่เรียกวำ่ IPv6 จะถกู วำงในตำแหนง่ ที่มอี ำนำจอินเทอร์เน็ตขนั้ ตอนตอ่ ไปของกำร เจริญเตบิ โต สำหรบั ธรุ กิจขนำดเลก็ ที่วำงแผนลว่ งหน้ำกำรเปลยี่ นแปลงนีส้ ำมำรถเพ่ิมกำรรกั ษำควำม ปลอดภยั และกำรประยกุ ต์ใช้คอมพิวเตอร์ควำมน่ำเชื่อถือและประสิทธิภำพกำรทำงำนแตร่ อจนนำที สดุ ท้ำยทจ่ี ะทำให้คณุ scrambling สำหรับกำรปรับปรุงอปุ กรณ์คำ่ ใช้จ่ำยหำยไปมีโอกำสท่ีจะทำให้ กำรเปล่ียนแปลงทจ่ี ำเป็นในกำรสง่ เสริมธรุ กจิ IPv6 ได้รบั รอบและ touted โดยอตุ สำหกรรมเครือขำ่ ย เป็น \"เร็ว ๆ นี\"้ เป็นเวลำหลำยปียงั มีแกรนด์วนั ที่เปิดตวั ไมท่ ว่ั โลกบำงสว่ นของโลกโดยเฉพำะเอเชยี และบำง ผ้ใู ห้บริกำรอนิ เทอร์เน็ต (ISP) และ บริษัท ทีเ่ ก่ียวข้องกบั คนอื่น ๆ เป็นผ้นู ำในกำรเปลยี่ นแปลงขณะนีแ้ ม้วำ่ จะได้รบั กำรยอมรบั อยำ่ งกว้ำงขวำงวำ่ วนั แหง่ กำรชำระบญั ชจี ะมำภำยในสองปีถดั ไปเป็นกองกำลงั ขำด แคลนท่ีอยู่ IP ที่สำคญั มำกขนึ ้ กำรเปลย่ี นแปลงอยำ่ งรวดเร็ว

Wi-Fi ยอ่ มำจำก wireless fidelity) หมำยถงึ ชดุ ผลติ ภณั ฑ์ต่ำงๆ ท่สี ำมำรถใช้ได้กบั มำตรฐำนเครือขำ่ ยคอมพิวเตอร์แบบไร้สำย (WLAN) ซงึ่ อยบู่ นมำตรฐำน IEEE 802.11 เดิมทวี ำยฟำยออกแบบมำใช้สำหรับอปุ กรณ์พกพำตำ่ งๆ และใช้เครือข่ำย LANเท่ำนนั ้ แต่ ปัจจบุ นั นยิ มใช้วำยฟำยเพ่อื ตอ่ กบั อินเทอร์เน็ต โดย อปุ กรณ์พกพำต่ำงๆ สำมำรถเชอ่ื มตอ่ กบั อินเทอร์เน็ตได้ผ่ำนอปุ กรณ์ที่เรียกวำ่ แอคเซสพอยต์ และบริเวณท่รี ะยะทำกำรของแอค เซสพอยต์ครอบคลมุ เรียกว่ำ ฮอตสปอตแต่เดมิ คำว่ำ Wi-Fi เป็นช่ือที่ตงั ้ แทนตวั เลข IEEE 802.11 ซง่ึ งำ่ ยกว่ำในกำรจดจำ โดยนำมำจำก เครื่องขยำยเสยี งHi-Fi อยำ่ งไรก็ตำมใน ปัจจบุ นั ใช้เป็นคำย่อของ Wireless-Fidelity โดยมีแสดงในเว็บไซต์ของ Wi-Fi Alliance โดยใช้ชื่อวำย ฟำยเป็นเคร่ืองหมำยกำรค้ำเทคโนโลยี Wi-Fi ใช้คลน่ื วิทยคุ วำมถ่ี สงู สำหรับรับสง่ ข้อมลู ภำยในเครือข่ำยคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ สำมำรถใช้งำน Wi- Fi ได้ต้องมีกำรติดตงั ้ แผงวงจรหรืออปุ กรณ์รับสง่ Wi-Fi ซง่ึ มีช่อื เรียกว่ำ Network Interface Card

คอมพิวเตอร์โน๊ตบ๊คุ ที่มจี ำหนำ่ ยในท้องตลำดมกั ได้รับกำรตดิ ตงั ้ ชิปเซต็ (Chipset) ทีท่ ำ หน้ำที่เป็นตวั รับสง่ สญั ญำณ Wi-Fi ไปในตวั ทำให้สะดวก ต่อกำรนำไปใช้งำนมำกขนึ ้ กำร ตดิ ต่อสอื่ สำรด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ทำได้ทงั ้ แบบเช่อื มตอ่ โดยตรงระหวำ่ งเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ โดยไมต่ ้องผ่ำน อปุ กรณ์ตวั กลำง (Ad-hoc) และแบบที่ผำ่ นอปุ กรณ์จดุ เชือ่ มตอ่ (Access Point)

อยำ่ งไรก็ตำม อตั รำเร็วที่แท้จริงในกำรรับสง่ ข้อมลู ผ่ำนอปุ กรณ์ AP ของผ้ใู ช้งำนแต่ ละคนอำจมีคำ่ ไมเ่ ทำ่ กนั ขนึ ้ อยกู่ บั สภำพแวดล้อมใน กำรใช้งำน และจำนวนผ้ใู ช้งำน ที่แบง่ กนั รับสง่ ข้อมลู ผ่ำนอปุ กรณ์ AP ร่วมกนั นอกจำกนนั้ ยงั ขอึ ้ ยกู่ บั รูปแบบในกำร รับสง่ ข้อมลู ของแตล่ ะคน อีกด้วย แม้กำรวำงเครือขำ่ ยส่อื สำรไร้สำยแบบ Wi-Fi จะ มีพนื ้ ท่ีให้บริกำรจำกดั ในระยะไมม่ ำกนกั แต่กำรติดตงั้ อปุ กรณ์ AP เพ่อื สร้ำงพนื ้ ที่ บริกำรให้ต่อเนื่องกนั ก็ทำให้เพมิ่ ขอบเขตในกำรให้บริกำรได้ ปัจจบุ นั มีกำรพฒั นำ รูปแบบกำรวำงเครือขำ่ ยอปุ กรณ์ AP ชนิดพเิ ศษซง่ึ มีกำร ใช้งำนร่วมกบั สำยอำกำศ ขยำยควำมแรงสญั ญำณ ทำให้สำมำรถให้บริกำร Wi-Fi ในพนื ้ ที่กว้ำงขนึ ้ และ AP แตล่ ะชดุ ตำ่ งก็สำมำรถรับสง่ ข้อมลู หำกนั ได้ โดยตำ่ งทำหน้ำทเ่ี ป็นวงจรส่ือสญั ญำณ (Transmission) ให้แก่กนั และกนั เรียกเทคโนโลยดี งั กลำ่ ววำ่ Wireless- Mesh ในทำงปฏิบตั ิมกั มีควำมเข้ำใจกนั วำ่ เทคโนโลยี Wi-Fi กบั มำตรฐำน WLAN เป็นสิง่ เดียวกนั แตแ่ ท้จริงแล้ว WLAN มีควำมหมำยถึงกำรให้




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook