Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore inbound107934093

inbound107934093

Published by Guset User, 2021-09-09 07:51:05

Description: inbound107934093

Search

Read the Text Version

โครงงานวชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ เรอ่ื ง การทำน้ำยาเช็ดกระจกจากมะกรดู จดั ทำโดย 1- ฮาลเี มาะห์ เสะมะรอนงิ เลขที่ 4 2- นะหฮ์ ารนี เจะดอเลาะ เลขที่ 5 3- ซไู ฮดา เจะ๊ อบุ ง เลขท่ี 7 4- อสั รนี า เปาะแว เลขที่ 10 5- วรรณโ์ สราญา ยโู ซะ เลขที่ 13 6- ฮานซี ะห์ มะดเี ยาะ เลขท่ี 16 7- อารอฟัต สเิ ดะ เลขที่ 18 8- ซไู มยะห์ กนู า เลขท่ี 25 9- อนั วา เละ๊ นุ เลขท่ี 33 10- มฮู ำหมดั บดั รี ลาเตะ๊ เลขที่ 40 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ๕/๒ ปี การศกึ ษา ๒๕๖๔ โรงเรยี น ประสานวยิ ามลู นธิ ิ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

ชอ่ื :โครงงานวชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู ้ ชอ่ื เรอ่ื ง : น้ำยาเชค็ กระจก ปี การศกึ ษา: ๒๕๖๔ บทคดั ยอ่ การใชน้ ้ำยาเชด็ กระจกซงึ่ เป็ นสารเคมหี ากสมั ผัสโดยตรง ทำใหเ้ กดิ สารตกคา้ งกบั รา่ งกายของตนเองน้ำยาเชด็ กระจกทใี่ ช ้ กนั ทวั่ ไปมสี ว่ นผสมของบวิ ทลิ เซลโลโซลและแอมโมเนยี มไฮดรอกไซดซ์ งึ่ เป็ นวตั ถอุ นั ตรายชนดิ ที่ ๑ และชนดิ ท่ี ๒ ซงึ่ สารเคมนี มี้ อี นั ตรายตอ่ มนุษยแ์ ละสง่ิ มชี วี ติ อนื่ เพอ่ื มสี ขุ ภาพทดี่ ี จงึ ไดค้ ดิ คน้ หาสมนุ ไพรทส่ี ามารถทำความสะอาดไดเ้ ชน่ มะกรดู มะกรดู เป็ นพชื ทสี่ ามารถหาไดง้ า่ ยและหาไดจ้ ากทอ้ งถน่ิ มี สรรพคณุ มาก ๆ และไมม่ สี ารทจี่ ะเกดิ อนั ตรายกบั รา่ งกายเราได ้ จงึ ไดน้ ำมาทำน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู เพอื่ ใหเ้ กดิ การไม่ สมั ผัสกบั สารเคมใี นรา่ งกายมากเกนิ ไปหากยง่ิ สมั ผัสมากจะเกดิ สารตกคา้ งในรา่ งกายมากสง่ ผลเกดิ โรคมะเร็งผวิ หนังและโรค อนื่ ๆ ได ้ เมอื่ ไดท้ ำการดำเนนิ งานพบวา่ น้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู ไปใชง้ านไดจ้ รงิ และทำใหก้ ระจกสะอาดเงาไมม่ วั และไมส่ ง่ ผล เสยี กบั สขุ ภาพไมว่ า่ จะเป็ นการตม้ หรอื สมั ผัสเนอื่ งจากเป็ น วตั ถดุ บิ สมนุ ไพรและไมเ่ ป็ นอนั ตราย ก

กติ ตกิ รรม ประกาศในการทำโครงงานวขิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ ง องคค์ วามรคู ้ ณะผจู ้ ัดทำขอขอบพระคณุ คณุ ครดู ำรงค์ คนั ธะเรศยท์ ไ่ี ดใ้ หค้ วามอนุเคราะหค์ อยใหค้ ำปรกึ ษาใหค้ วาม สะดวกในการทำโครงงานและขอ้ เสนอแนะเกย่ี วกบั แนวทางใน การทำโครงงานวชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู ้ ขอบคณุ เพอื่ นในกลมุ่ ทกุ คนทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลอื ตลอดจนคำ แนะนำทเี่ ป็ นประโยชนใ์ นการทำโครงงานทา้ ยทสี่ ดุ ขอกราบ ขอบพระคณุ คณุ พอ่ และคณุ แมท่ เี่ ป็ นผใู ้ หก้ ำลงั ใจและใหโ้ อกาส การศกึ ษาอนั มคี า่ ยง่ิ คณะผจู ้ ัดทำโครงงานวชิ าการศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ ความรขู ้ อบพระคณุ ทกุ ทา่ นอยา่ งสงู ทใ่ี หก้ ารสนับสนุนเออ้ื เฟ้ือ และใหค้ วามอนุเคราะหช์ ว่ ยเหลอื จนกระทง่ั โครงงานวขิ าการ ศกึ ษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรสู ้ ำเร็จและสลุ ว่ งไดด้ ว้ ยดี ข

คำนำ โครงงานนมี้ จี ดุ ประสงคเ์ พอ่ื การศกึ ษาหาความรทู ้ ไี่ ดจ้ ากเรอ่ื ง การทำโครงงานซงึ่ โครงงานนมี้ เี นอื้ หาเกย่ี วกบั ความรจู ้ ากโครง งานการออกแบบและเทคโนโลยแี ละคณะผจู ้ ัดทำไดท้ ำโครง งานน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู แทนน้ำยาเชด็ กระจกจากสาร เคมเี นอ่ื งจากสารเคมเี มอ่ื สมั ผัสไปมาก ๆ จะเกดิ ผลเสยี จงึ ไดใ้ ช ้ มะกรดู เป็ นน้ำยาเชด็ กระจกแทนสารเคมซี ง่ึ เป็ นสมนุ ไพรทมี่ าก สรรพคณุ และไมเ่ กดิ ผลเสยี กบั รา่ งกาย หวงั เป็ นอยา่ งยงิ่ วา่ โครงงานนจี้ ะเป็ นประโยชนใ์ หแ้ กผ่ อู ้ า่ น ในการศกึ ษาหาความรเู ้ พม่ิ เตมิ หากโครงงานนขี้ าดตกบกพรอ่ ง ประการใดคณะผจู ้ ัดทำขออภยั มา ณ ทน่ี ด้ี ว้ ย คณะผจู้ ดั ทำ ค

สารบญั หนา้ ก บทท่ี เรอื่ ง ข บทคดั ยอ่ ค กติ ตกิ รรม ๑ คำนำ ๓ ๒๑ ๑ บทนำ ๒๖ ๒ เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง ๒๗ ๓ การดำเนนิ การ ๒๙ ๔ ผลของการดำเนนิ งาน ๓๐ ๕ สรปุ และอภปิ รายผล บรรณานกุ รม ภาคผนวก

บทที่ ๑ บทนำ ทม่ี าและความสำคญั ของโครงงาน ปัจจบุ นั มกี ารใชส้ ารเคมใี นชวี ติ ประจำวนั กนั มากและมสี ารเคมที ม่ี ี พษิ ตอ่ รา่ งกายรวมอยดู่ ว้ ยโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การแกไ้ ขสารพษิ ตกคา้ งทงั้ ในน้ำในอากาศรวมทงั้ อาหารทร่ี ับประทานและใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำมาจากสารเคมไี มว่ า่ จะเป็ นเครอื่ งสำอางน้ำยาลา้ งจาน ผงซกั ฟอกน้ำยาเชด็ กระจกเป็ นตน้ และถา้ เกดิ การสะสมของสารเคมี ไปเรอ่ื ย ๆ ทำใหส้ ง่ ผลเสยี ตอ่ รา่ งกายเชน่ ผวิ ลอกมะเร็งผวิ หนังผด ผน่ื ทผี่ วิ หนังอาการวงิ เวยี นศรี ษะและอกี มากมายอาจสง่ ผลใหเ้ สยี ชวี ติ ไดจ้ งึ มคี วามจำเป็ นอยา่ งยง่ิ ทจี่ ะตอ้ งแกไ้ ขปัญหาสารเคมเี พอ่ื เป็ นการรักษาสขุ ภาพและมคี วามปลอดภยั นำสารในธรรมชาตมิ าทำ ผลติ ภณั ฑข์ จัดคราบทไ่ี มเ่ ป็ นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและสง่ิ แวด ลอ้ ม สาเหตทุ คี่ ณะผจู ้ ัดทำเล็งเห็นการใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ำความสะ อาด น้ำยาเชด็ กระจกทว่ั ๆ ไปตามทอ้ งตลาดซง่ึ มสี ารเคมใี นน้ำยาเชด็ กระจกและมผี ลเสยี ตอ่ รา่ งกายซง่ึ มสี ว่ นผสมของบวิ ทลิ เซา โลโซลและแอมโมเนยี ไฮดรอกไซตแ์ ละเป็ นอนั ตรายหากดดู ซมึ ผา่ นผวิ หนังจะระคายเคอื งคณะผจู ้ ัดทำจงึ เลอื กมะกรตู มาทำ ผลติ ภณั ฑน์ ้ำยาเชด็ กระจกทงั้ ไมเ่ ป็ นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพและสภาพ แวดลอ้ มเป็ นวตั ถดุ บิ ทห่ี าไดง้ า่ ยจากทอ้ งถน่ิ และธรรมชาตแิ ละไม่ เป็ นอนั ตรายตอ่ รา่ งกาย วตั ถปุ ระสงคข์ องการทำโครงงานน้ี ๑.เพอื่ ศกึ ษามะกรดู เสามารถเชด็ กระจกไดส้ ะอาด ๒. เพอ่ื ผลติ น้ำยาเชด็ กระจกจากสมนุ ไพรธรรมชาติ ๓. เพอื่ ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยเพอ่ื การซอื้ น้ำยาเชด็ กระจก ๔. เพอ่ื ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ๕. เพอื่ ศกึ ษาพชื ผักสมนุ ไพรรอบตวั มาใชป้ ระโยชนส์ งู สดุ ๑

สมมตฐิ านของการศกึ ษา น้ำยาเชด็ กระจกทผ่ี ลติ จากมะกรดู สามารถเชด็ กระจกไดส้ ะอาด และปลอดภยั กบั รา่ งกาย ขอบเขตของการทำโครงงานศกึ ษา น้ำยาเชด็ กระจกทที่ ำมาจากมะกรดู เพอ่ื เชด็ กระจกสะอาดและ ปลอดภยั ๒

บทที่ ๒ เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ในการทำโครงงานพัฒนาเว็บไซตเ์ รอ่ื งการทำน้ำยาเชด็ กระจก จากมะกรดู กลมุ่ ผศู ้ กึ ษาไดร้ วบรวมแนวคดิ ทฤษฎแี ละหลกั การตา่ งๆ จากเอกสารและงานวจิ ัยทเี่ กย่ี วขอ้ งดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งกนั อนั ตรายจากสารเคมนี ้ำยาเชด็ กระจกุ ๒. เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั น้ำยาเชด็ กระจก ๓. เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั มะกรดู ๑.เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั อนั ตรายจากสารเคมนี ้ำยาเช็ด กระจก ๑.๑ แบง่ ประเภทสารอนั ตรายจากสารเคมนี ้ำยาเช็ดกระจก ประเภทที่ ๑ พวกสารกดั กรอ่ นเป็ นสารหรอื ไอระเหยจากสารที่ กดั กรอ่ นทำลายเนอ้ื เยอื่ ของรา่ งกายเมอ่ื ไปถกู ตอ้ งเขา้ หรอื กดั กรอ่ น ผวิ ภาชนะหรอื เครอื่ งเรยี นเมอื่ หาไมเ่ ขา้ ประเภทที่ ๒ พวกสารไวไฟสว่ นมากเป็ นของเหลวซง่ึ ตดิ ไฟ งา่ ยทกุ อณุ หภมู พิ งึ ระวงั สะเกด็ ไฟไมใ่ หก้ ระเด็นใส่ ประเภทท่ี ๓ พวกสารกอ่ ปฏกิ รยิ าสารพวกนสี้ ามารถทำ ปฏกิ รยิ ากบั อากาศหรอื น้ำหรอื สารอนื่ แลว้ ทำใหเ้ กดิ ไอพษิ หรอื เกดิ ระเบดิ ตอ้ งเกบ็ ใสภ่ าชนะใหม้ ดิ ชดิ ประเภทที่ ๔ พวกสารพษิ สารพวกนแี้ มจ้ ะขนาดเล็กนอ้ ยก็ สามารถกอ่ พษิ ตอ่ รา่ งกายทำลายเนอื้ เยอื่ จากนอ้ ยไปมากบางชนติ รุ นแรงถงึ ขนาดทำใหต้ ายไดส้ ารพษิ อาจถกู ดดู ซมึ เขา้ รา่ งกายโดย ผา่ นผวิ หนังหรอื โดยสตู ตมเขา้ ไปหรอื โดยดมื่ กนิ เขา้ ไป ๑.๒ สารประเภทตา่ งๆทอี่ าจกอ่ อนั ตรายและวธิ ปี ้ องกนั รกั ษา ๑. น้ำยาทนิ เนอรน์ ้ำยาสารละลายและน้ำมนั สนเป็ นพวกสารไวไฟ และพวกสารพษิ เมอ่ื ใชผ้ สมแลว้ ใหใ้ สใ่ นภาชนะปิดแน่นปลอ่ ยให ้ เศษสตี กตระกอนแลว้ เทน้ำยาสารละลายและน้ำมนั สว่ นทใ่ี สออก เพอ่ื นำไปใชต้ อ่ ไดอ้ กี ๓

๒. น้ำยาทใ่ี ชส้ เปรยฉ์ ดี ฝอยไมว่ า่ จะเพอื่ ฟอกอากาศใหส้ ดชน่ื มี กลนิ่ หอมหรอื ฉดี ผมหรอื ฉดี เพอื่ ดบั กลนิ่ ลว้ น แตเ่ ป็ นพวกสารไวไฟ ทงั้ สน้ิ หากจะหลกี เลย่ี งกใ็ หใ้ ชว้ ธิ อี นื่ ทมี่ ใิ ชพ่ วกสเปรยฉ์ ดี ฝอยเชน่ หากจะใหอ้ ากาศสดชน่ื แทนทจ่ี ะใชส้ เปรยฉ์ ดี กใ็ หเ้ ปิดประตหู นา้ ตา่ ง ใหล้ มพัดผา่ นเป็ นตน้ ๓. แบตเตอรเี่ ป็ นพวกสารพษิ ทำจากสารสงั กะสแี ละคารบ์ อนหรอื โลหะอนื่ และทอี่ นั ตรายมากคอื น้ำกรดเต็มแบตเตอรซ่ี ง่ึ เป็ นสารกดั กรอ่ นเวลาแบตเตอรใี่ หมไ้ ฟจะปลอ่ ยควนั พษิ ออกมาหรอื อาจจะ ระเบดิ ไดจ้ งึ ควรระมดั ระวงั ไมเ่ กบ็ แบตเตอรใ่ี กลไ้ ฟน่าจะเลอื กใช ้ แบตเตอรที่ ชี่ ารจ์ ไฟไดอ้ กี หรอื พลงั งานไฟฟ้าหรอื พลงั งาน แสงอาทติ ยแ์ ทนถา้ มที างเลอื ก ๔. น้ำยาขดั พนื้ และขดั เครอ่ื งเรอื นเป็ นพวกสารไวไฟและพวกสาร พษิ ทางเลอื กคอื ใชน้ ้ำสบลู่ า้ งแลว้ ขดั ดว้ ยผา้ กจ็ ะขนึ้ เงาไดเ้ หมอื นกนั ๕. น้ำยาทาเล็บและน้ำยาลา้ งสเี ล็บลว้ น แตเ่ ป็ นสารพษิ ไมม่ สี าร ทปี่ ลอดภยั อนื่ ใหเ้ ลอื กแทนเสยี ดว้ ยทางทดี่ ใี หง้ ดใชเ้ สยี เลยขอให ้ รักษาเล็บใหส้ ะอาดและตดั ใหส้ นั้ กน็ ่าจะสวยงามตามธรรมชาตแิ ละ ถกู สขุ ลกั ษณะแลว้ ๖. ยาขดั รองเทา้ เป็ นสารไวไฟและเป็ นสารพษิ ดว้ ยหากจะใชก้ ข็ อ ใหห้ ลกี เลยี่ งประเภททผี่ สมสารตอ่ ไปนไ้ี ตรคลอโรเอทลี นี trichloroethylene) เมธทลิ คลอไรดท์ าโ ethyl chloride) และ) หรอื ในโตรเบนซนี nitroker.ne) ๗. น้ำยาขดั เครอ่ื งเงนิ หรอื เครอื่ งทองแดงเป็ นสารไวไฟและเป็ น สารพษิ ควรหลกี เลย่ี งในการใชน้ ้ำยาพวกนแี้ ละใชว้ ธิ อี น่ื แทน-หาก จะขดั เครอ่ื งเงนิ ใหผ้ สมโซดาไฟ ๑ ชอ้ นชาและเกลอื ๑ ชอ้ นชาลง ไปในน้ำอนุ่ ประมาณ 9 ลติ รแชเ่ ครอื่ งเงนิ ในน้ำนแ้ี ลว้ ขดั จะขน้ึ เราได ้ เชน่ กนั -หากจะขดั เครอื่ งทองแดงใหห้ ยดน้ำสม้ สายชแู ละเกลอื แลว้ จัด ๘. ป๋ ยุ เคมกี เ็ ป็ นสารพษิ ใชป้ ๋ ยุ ธรรมชาตหิ รอื ป๋ ยุ หมกั แทนป๋ ยุ พวก นไ้ี มท่ ำลายสง่ิ แวดลอ้ มอกี ดว้ ย ๔

๙. สารเคมฆี า่ หญา้ เป็ นสารพษิ และอาจทำอนั ตรายถงึ ตายแมจ้ ะ เสพเขา้ ไปจำนวนนอ้ ยกต็ ามควรหลกี เลยี่ งการใชส้ ารเหลา่ น้ี ๑๐.ยาฆา่ แมลงทกุ ชนดิ เป็ นพษิ ตอ่ รา่ งกายมากบา้ งนอ้ ยบา้ งควร ใชอ้ นื่ ในการไลห่ รอื กำจัดแมลง ๑๑. ยาเบอื่ หนูเป็ นสารอารเ์ ซนนติ เป็ นสว่ นใหญซ่ งึ่ มพี ษิ มากตอ่ รา่ งกายไมค่ วรซอ้ื หามาใชค้ วรใชว้ ธิ อี น่ื ในการกำจัด ๑๒. ยาฆา่ แมสาบและยาฆา่ มดลว้ นเป็ นพวกสารพษิ เชน่ กนั หาก รักษาบา้ นและครัวเรอื นใหส้ ะอาดแหง้ ไมม่ กี ในกจ็ ะลดแมงสาบและ มตไดม้ าก ๑๓. น้ำยาขดั พน้ื หรอื น้ำยาทำความสะอาดทผ่ี สมแอมโมเนยี เป็ น สารกดั กรอ่ นและเป็ นสารพษิ หากจะขดั หอ้ งน้ำอาจใชน้ ้ำผสม น้ำสม้ สายชหู รอื โซดาไฟ ๑๔. น้ำยาดบั กลนิ่ เป็ นสารกดั กรอ่ นและเป็ นสารพษิ ใหใ้ ชผ้ สมสาร บอแรกซแ์ ทน ๑๕. น้ำยาขดั กระจกเป็ นสารกดั กรอ่ นและสารพษิ ใหใ้ ชน้ ้ำผสม น้ำสม้ สายชแู ลว้ ใชก้ ระดาษหนังสอื พมิ พเ์ ชค็ ขดั ถหู รอื ใชผ้ า้ เนอ้ื ออ่ น เชด็ ถกู ไ็ ด ้ ๑๖. น้ำยาขดั สว้ มเป็ นสารกดั กรอ่ นและเป็ นสารพษิ ใหใ้ ชน้ ้ำสบู่ หรอื โซดาไฟแลว้ ขดั ดว้ ยแปรง ๕

สารพษิ (Poison) สารพษิ หมายถงึ สารเคมที มี่ สี ภาพเป็ นของแข็งของเหลวหรอื กา๊ ชซงึ่ สามารถเขา้ สรู่ า่ งกายโดยการรับประทานการฉดี การหายใจ หรอื การสมั ผัสทางผวิ หนังแลว้ ทำใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ โครงสรา้ งและ หนา้ ทขี่ องรา่ งกายดว้ ยปฏกิ ริ ยิ าทางเคมอี นั ตรายจะมากหรอื นอ้ ยขนึ้ อยกู่ บั คณุ สมบตั ปิ รมิ าณและทางทไี่ ดร้ ับสารพษิ ชนดิ ของสารพษิ สารพษิ ทท่ี ำใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ มนุษยม์ าจาก หลายแหลง่ ดว้ ยกนั อาจเป็ นพษิ จากสตั วเ์ ชน่ งพู ษิ ผงึ้ แมลงปองพษิ จากพชื เชน่ เห็ดพษิ ลำโพงพษิ จากแรธ่ าตตุ า่ ง ๆ เชน่ ตะกว่ั ฟอสฟอรัสสารหนูและพษิ จากสารสงั เคราะหต์ า่ ง ๆ เชน่ ยาฆา่ แมลง ยาปราบวชั พชื ยาอนั ตรายรวมทงั้ สารสงั เคราะหท์ ใ่ี ชใ้ นครัวเรอื นเชน่ น้ำยาฟอกขาวน้ำยาขดั หอ้ งน้ำเป็ นตน้ สารพษิ สามารถจำแนกตามลกั ษณะการออกฤทธไ์ิ ด้ ๔ ชนดิ ดงั น้ี - ชนดิ กดั เนอ้ื (Corrosive) สารพษิ ชนดิ นจี้ ะทำใหเ้ นอ้ื เยอื่ ของ รา่ งกายไหมพ้ อง ไดแ้ ก่ สารละลายพวกกรดและดา่ งเขม้ ขน้ น้ำยา ฟอกขาว - ชนดิ ทำใหร้ ะคายเคอื ง (Cirritants) สารพษิ ชนดิ นจี้ ะทำใหเ้ กดิ อาการปวดแสบปวดรอ้ นและอาการอกั เสบในระยะตอ่ มา ไดแ้ ก่ ฟอสฟอรัสสารหนูอาหารเป็ นพษิ ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ - ชนดิ ทก่ี ตระบบประสาท (Narcotics) สารพษิ ชนดิ นจี้ ะทำให ้ หมดสตหิ ลบั ลกึ ปลกุ ไมต่ น่ื มา่ นตาหดเล็ก ไดแ้ ก่ ฝิ่นมอรพ์ นิ พษิ จาก งบู างชนดิ - ชนดิ ทก่ี ระตนุ ้ ระบบประสาท (NIants) เสารพษิ ชนดิ นจ้ี ะทำให ้ เกดิ อาการเพอ้ คลงั่ ใบหนา้ และผวิ หนังแดงตน่ื เตน้ ชพี จรเตน้ เร็วซอง มา่ นตาขยาย ไดแ้ ก่ ยาตะโทรปืนลำโพง สภาพการณห์ รอื สง่ิ แวดลอ้ มทบี่ ง่ ชถี้ งึ ภาวะการไดร้ บั สารพษิ เกดิ อาการผดิ ปกตขิ น้ึ อยา่ งปัจจบุ นั ทนั ดว่ นโดยทผ่ี ปู ้ ่ วยเป็ นคนท่ี ๖

แข็งแรงสมบรู ณม์ ากอ่ นเกดิ อาการขน้ึ กบั คนหลาย ๆ คนหรอื อยใู่ น สง่ิ แวดลอ้ มเดยี วกนั ในบรเิ วณทพี่ บผปู ้ ่ วยมภี าชนะบรรจสุ ารพษิ หรอื เป็ นแหลง่ ของสตั วม์ พี ษิ เชน่ งพู ษิ แมงป่ องแมงกะพรนุ ไฟมปี ัญหา ทางดา้ นจติ ใจ ไดแ้ ก่ เป็ นโรคเรอ้ื รังรักษาไมห่ ายมปี ระวตั พิ ยายาม ฆา่ ตวั ตายผดิ หวงั ในชวี ติ หรอื การทำงานมศี ตั รปู องรา้ ยออกทาง เหงอ่ื น้ำนมปัสสาวะอจุ จาระน้ำลายลมหายใจ แตห่ ากไดร้ ับสารพษิ มากเกนิ ไปจะเกดิ การสะสมและเกดิ ผลเสยี หายตอ่ ระบบตา่ ง ๆ ของ รา่ งกายทงั้ ในลกั ษณะเฉยี บพลนั หรอื เรอื้ รังดงั น้ี ๑. ผลตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ ซงึ่ เป็ นทางผา่ นของกา๊ ซไอ ระเหยฝ่ นุ ละอองของสารพษิ ทำใหเ้ กดิ ความระคายเคอื งตอ่ ระบบ ทางเดนิ หายใจในสว่ นตน้ ทำลายเนอ้ื เยอื่ ปอตทำลายความยดื หยนุ่ ปอดเกดิ การแพส้ ารหรอื เกดิ มะเร็งหากสมั ผัสสารอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ๆ เป็ นเวลานานเชน่ มะเร็งปอดมะเร็งโพรงจมกู เป็ นตน้ ๒. ผลตอ่ ผวิ หนงั เกดิ การระคายเคอื งชนั้ ตน้ เกดิ การแพแ้ สง ทำลายผวิ หนังอยา่ งถาวรเกดิ มะเร็งผวิ หนัง ๓. ผลตอ่ ตา เกดิ อาการระคายเคอื งแสบตาเยอ่ื บตุ าอกั เสบ ตาพรา่ มวั น้ำตาไหลและอาจตาบอดไดถ้ า้ รับสารในปไมม่ ากเชน่ เม ทานอล ๔. ผลตอ่ ระบบประสาทสว่ นกลาง ทำใหข้ าดออกซเิ จนใน เลอื ดมผี ลกระทบโดยตรงตอ่ ระบบประสาทเชน่ ตาพรา่ มวั กระสบั กระสา่ ยกลา้ มเนอ้ื สนั่ ชกั ขาดความจำกลา้ มเนอ้ื ทำงานไม่ ประสานกนั และการรับความรสู ้ กึ ไมป่ รกติ ๕. ผลตอ่ อวยั วะภายใน - ตบั : แบบเฉยี บพลนั (เซลลต์ าย) แบบเรอื้ รัง (ตบั แข็งมะเร็ง) สารทเ่ี ป็ นพษิ ตอ่ ตบั เชน่ คารบ์ อนเตตระคลอไรดค์ ลอโรฟอรม์ -ไต: สารทเ่ี ป็ นพษิ ตอ่ ไตเชน่ โลหะหนักคารบ์ อนไดซลั ไฟด์ - เลอื ด: กระทบตอ่ ระบบการการสรา้ งเม็ดเลอื ด (ไขกระดกู ) องคป์ ระกอบของเลอื ด (เกล็ดเลอื ดเม็ดเลอื ดแดงเม็ดเลอื ดขาว) หรอื ความสามารถในการขนสง่ ออกซเิ จนของเซลลเ์ ม็ดเลอื ดสารท่ี เป็ นพษิ ตอ่ เลอื ดเชน่ เบนซนิ กมั มนั ตรังสี ๗

- มา้ ม : สารทเี่ ป็ นพษิ ตอ่ มา้ มเชน่ คลอโรฟินในโคนบนซนิ - ระบบสบื พนั ธ:์ เป็ นหมนั อสจุ ผิ ดิ ปกตมิ อี สจุ นิ อ้ ยระบบฮอรโ์ มน ทำงานผดิ ปกตสิ ารทเี่ ป็ นพษิ ตอ่ ระบบสบื พันธเ์ ชน่ โลหะหนักไดออก ซนิ เกดิ อาการอยา่ งไร? เมอื่ ไดร้ บั สารอนั ตราย -แบบเฉยี บพลนั : เป็ นการสมั ผัสทเี่ กดิ ขนึ้ ครัง้ เดยี วในระยะเวลาท่ี คอ่ นขา้ งสนั้ เชน่ หนง่ึ นาทถี งึ สองสามวนั อาการทเ่ี กดิ ขนึ้ ไดแ้ ก่ เกดิ ผลผนคน้ ระคายเคอื งผวิ หนังไหมอ้ กั เสบขาดอากาศหนา้ มดื วงิ เวยี น เกดิ ผดผน่ื คนั ระคายเคอื งผวิ หนังไหมอ้ กั เสบขาดอากาศหนา้ มดื วงิ เวยี น -แบบเรอื้ รงั : เป็ นการสมั ผัสสารทรี่ ะดบั คอ่ นขา้ งต่ำในระยะเวลานาน ตงั้ แตเ่ ป็ นเดอื นถงึ เป็ นปีอาการทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดแ้ ก่ การเกดิ ความพกิ าร ในทารก (Teratogenic) การเกดิ ความผดิ ปกตทิ างสายพันธใ์ นตวั ออ่ นหรอื การผา่ เหลา่ (Uutagenic) การผดิ ปกตทิ างพันธกุ รรมเชน่ การเปลยี่ นแปลงของ DNA การเกดิ มะเร็ง (Carcinogeric) อมั พาต น้ำยาเชด็ กระจกน้ำยาเชด็ กระจกมสี ารลดแรงตงึ ผวิ เป็ นองคป์ ระกอบหลกั ผสมกบั สารเคมี ทใี่ ชเ้ ป็ นตวั ทำละลายโดยทกุ ชนดิ จะใชไ้ อโซโพรพลิ แอลกอฮอล์ (iscgregw alcohol) ในปรมิ าณ ๓.๕-๔.๐% ไฮโซโพรพลิ แอลกอ ฮอลเ์ ป็ นของเหลวใสไมม่ สี ไี วไฟและมกี ลน่ิ ฉุนมากใชใ้ นการ ทำความสะอาดถา้ จะใชฆ้ า่ เชอ้ื ตอ้ งใชท้ ค่ี วามเขม้ ขน้ สงู ถงึ ๒๖- ๗๐% การหายใจเขา้ ไปในปรมิ าณเล็กนอ้ ยจะระคายเคอื งจมกู ลำคอ และระบบทางเดนิ หายใจทำใหป้ วหวั คลนื่ ไสว้ งิ เวยี นอาเจยี นถา้ ได ้ รับปรมิ าณสงู ขนึ้ อาจทำใหห้ มดสตหิ รอื ตายไดก้ ารสมั ผัสนานทำให ้ ผวิ หนังแหง้ และแตกการกลนื กนิ มอี าการคลา้ ยการหายใจอาเจยี น และอาจทำอนั ตรายแกป่ อดและระคายเคอื งตอ่ ตาหา้ มทง้ิ สแู่ หลง่ น้ำ น้ำเสยี หรอื ดนิ สามารถยอ่ ยสลายทางชวี ภาพได ้ สารเคมที นี่ ยิ มใชเ้ ป็ นตวั ทำละลายในน้ำยาเชด็ กระจกอกี ชนดิ ศยี บวิ ทลิ เซลโลโซตพ์ (butyl cellosalve) เป็ นตวั ฟ้าละลายเคมที ี่ ละลายน้ำได ้ water-soluble salvert) มกั ใชก้ นั คราบมนั หรอื ทำให ้ ๘

มนั มชี อื่ ทางเคมวี า่ ๒- บวิ ทอกซเี อทานอล (๒butcryethanol) หรอื เอทาลนี ไกลคอลโมโนบวิ ทลิ อเี ทอร์ (ethylene glycol, monchutyl ether) มคี า่ LD๕๐ (หนู) ๔๙๐ มลิ ลกิ รัม / กโิ ลกรัมเป็ นพษิ หากถกู ดดู ซมึ ผา่ นผวิ หนังกนิ เขา้ ไปทำใหม้ นี เมาไดต้ วั ทำละลายทงั้ ๒ มี ผลกระทบคลา้ ยกนั คอื ระคายเคอื งตอ่ ตาผวิ หนังจมกู ลำคอเกดิ อาการไอคลนื่ ไสว้ งิ เวยี นปวดหวั ตาแดงเจ็บตาเห็นไมช่ ดั ปวด ทอ้ งนอ้ ยทอ้ งเสยี อาเจยี นกดระบบประสาทสว่ นกลางทำให ้ เม็ดเลอื ดแดงแตก แตไ่ มต่ อ้ งกงั วลมากเพราะตวั ทำละลายในน้ำยา เชด็ กระจกมคี วามเขม้ ขน้ นอ้ ยมากคอื เพยี ง ๒.๕-๒๕% เทา่ นัน้ สำหรับสารลดแรงตงึ ผวิ ทใี่ ชใ้ นน้ำยาเชด็ กระจกคอื sodium Lauryl ether sulfate HES) หรอื Sodium sureth Sulfate ใชใ้ นปรมิ าณ ๑๕-๐.๕% โดยน้ำหนัก SLES มคี า่ LD๕๐ (หนู) ๒.๒๐ มลิ ลกิ รัม / ทโ่ี ลกรัมมพี ษิ ปานกลางเป็ นสารทำใหเ้ กดิ ฟองมกั ใชใ้ นผลติ ภณั ฑ์ ทำความสะอาดและแชมพอู าจทำใหเ้ กดิ การระคายเคอื งตาและ ผวิ หนังหากเกดิ อาการหลงั จากใชผ้ ลติ ภณั ฑค์ วรหยดุ ใชท้ นั ทใี น กระบวนการผลติ SLES อาจปนเป้ือนดว้ ย ๑,๔dioxane ซงึ่ อาจเป็ น สารกอ่ มะเร็งในตา่ งประเทศมกี ารหา้ มใชใ้ นผลติ ภณั ฑเ์ กยี่ วกบั อาหารและยา แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามไมม่ หี ลกั ฐานทบี่ ง่ ชว้ี า่ สารชนดิ นเ้ี ป็ น กอ่ มะเร็ง น้ำยาเชด็ กระจกบางชนดิ ทไี่ มใ่ ช ้Modum lauryl ether sulfate เป็ นสารลดแรงตงึ ผวิ จะใช ้cocamidopropyl betaine แทนนซงึ่ เป็ น สารลดแรงตงึ ผวิ ทฉี่ ันกบั ทงั้ aregn และเละ cation ในเวลาเดยี วกนั สาร cocamidopropy betadine เป็ นสารลดแรงตงึ ผวิ แบบออ่ นทไ่ี ม่ ทำใหเ้ กดิ การระคายเคอื งตอ่ ผวิ หนังและเนอื้ เยอื่ ในจมกู นอกจากน้ี มนั ยงั มสี มบตั ฆิ า่ เชอ้ื โรคดว้ ยและเจา้ ไดก้ นั สารลดแรงตงึ ผวิ ชนดิ อนื่ ๆ cocarniscgregy betane ในน้ำยาเชด็ กระจกมคี วามเขม้ ขน้ ต่ำ กวา่ 6% จะไมท่ ำใหเ้ กดิ การระคายเคอื งอยา่ งไร กต็ ามสำหรับทค่ี วามเขม้ ขน้ สงู ขนึ้ ไปอาจทำใหเ้ กดิ การระคายเคอื ง ไดค้ วรหลกี เลย่ี งการเทผลติ ภณั ฑใ์ สม่ อื โดยตรงน้ำยาเชด็ กระจก ๙

บางยห่ี อ้ มกี ารนำ ammonium hydroxide มาใชป้ ระมาณ 2.5% armrmorium hydrtoice ทคี่ วามเขม้ ขน้ สงู กวา่ ๒๕% มคี า่ LD๕๐ (หนู) an๕๐ มลิ ลกิ รัมทโี่ ลกรัมมคี วามเป็ นพษิ มากมฤี ทธทิ์ ำใหเ้ กดิ แผลไหมแ้ ละเป็ นอนั ตรายตอ่ สงิ่ มชี วี ติ ในน้ำสารนม้ี ฤี ทธก์ิ ดั กรอ่ น เป็ นอนั ตรายตอ่ เยอื่ เมอื กระบบทางเดนิ หายใจสว่ นบนดวงตาผวิ หนัง การสดู ลมทำใหเ้ กดิ การระคายเคอื งตอ่ ตาและจมกู ซงึ่ ตอ้ งระวงั อนั ตรายมากกวา่ มกี ารหดเกร็งของกลา้ มเนอ้ื อบั เสบการบวมน้ำของ ถงุ ลมและปอดถา้ เขา้ ตาสามารถทำใหต้ าบอดได ้ การประเมนิ การะการไดร้ บั สารพษิ การไดร้ ับสารพษิ เป็ นภาวะฉุกเฉนิ ทตี่ อ้ งไดร้ ับการปฐมพยาบาลที่ รบี ดว่ นและเฉพาะเจาะจงดงั นัน้ สงิ่ สำคญั ทส่ี ดุ คอื จะตอ้ งประเมนิ จำแนกใหไ้ ดว้ า่ อาการผดิ ปกตติ า่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ผปู ้ ่ วยนัน้ วา่ เกดิ จากสารพษิ ใดนอกจากประเมนิ อาการแลว้ ยงั จำเป็ นตอ้ งสงั เกต สภาพการณส์ ง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ผปู ้ ่ วยรว่ มดว้ ยดงั น้ี -การคลนื่ ไสอ้ าเจยี นปวดทอ้ งน้ำลายฟมู ปากหรอื มรี อยไหมน้ อก บรเิ วณรมิ ฝี ปากมกี ลนิ่ สารเคมบี รเิ วณปาก -เพอ้ ชกั หมดสตมิ อี าการอมั พาตบางสว่ นหรอื ทวั่ ไปขนาดของ มา่ นตาผดิ ปกตอิ าจหดหรอื ขยาย -หายใจขดั หายใจลำบากมเี สมหะมากมอี าการเขยี วปลายมอื ปลายเทา้ หรอื บรเิ วณรมิ ฝี ปากลมหายใจมกี ลน่ิ สารเคมี -ตวั เป็ นเหงอ่ื ออกมากมผี นหรอื จดุ เลอื ดออกตามผวิ หนัง สภาพการณห์ รอื สง่ิ แวดลอ้ มทบี่ ง่ ชถ้ี งึ ภาวะการไดร้ บั สารพษิ -เกดิ อาการผดิ ปกตขิ น้ึ อยา่ งปัจจบุ นั ทนั ดว่ นโดยทผ่ี ปู ้ ่ วยเป็ นคนที่ แข็งแรงสมบรู ณม์ ากอ่ น -เกดิ อาการขนึ้ กบั คนหลาย ๆ คนหรอื อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มเดยี วกนั - ในบรเิ วณทพ่ี บผปู ้ ่ วยมภี าชนะบรรจสุ ารพษิ หรอื เป็ นแหลง่ ของสตั ว์ มพี ษิ เชน่ งพู ษิ แมงป่ องแมงกะพรนุ ไฟ ๑๐

-มปี ัญหาทางดา้ นจติ ใจ ไดแ้ ก่ เป็ นโรคเรอ้ื รังรักษาไมห่ ายมปี ระวตั ิ พยายามฆา่ ตวั ตายผดิ หวงั ในชวี ติ หรอื การทำงานมศี ตั รปู องรา้ ย การปฐมพยาบาลผทู้ ไี่ ดร้ บั สารพษิ • จำแนกได ้ ๓ ทางดงั น้ี - การปฐมพยาบาลผทู ้ ไ่ี ดร้ ับสารพษิ ทางปาก - การปฐมพยาบาลผทู ้ ไี่ ดร้ ับสารพษิ ทางการหายใจ - การปฐมพยาบาลผทู ้ ไี่ ดร้ ับสารพษิ ทางผวิ หนังการ ปฐมพยาบาลผทู้ ไ่ี ดร้ บั สารพษิ ทางปาก ผชู ้ ว่ ยเหลอื ตอ้ งทำการประเมนิ ผทู ้ ไี่ ดร้ ับสารพษิ กอ่ นแลว้ จงึ พจิ ารณาดำเนนิ การชว่ ยเหลอื ดงั นี้ -ทำใหส้ ารพษิ เจอื จางในกรณีรสู ้ กึ ตวั และไมม่ อี าการชกั โดยการดมื่ น้ำชาซงึ่ หาไดง้ า่ ย แตถ่ า้ ไดน้ มจะดกี กวา่ เพราะวา่ จะชว่ ยเจอื จางสาร พษิ แลว้ ยงั ชว่ ยเคลอื บและป้องกนั อนั ตรายตอ่ เยอ่ื บทุ างเดนิ อาหาร - นำสง่ โรงพยาบาลเพอ่ื ทำการลา้ งทอ้ งเอาสารพษิ ออกจาก กระเพาะอาหาร -ทำใหผ้ ปู ้ ่ วยอาเจยี นเพอ่ื เอาสารพษิ ออกจากกระเพาะอาหารใน กรณีทต่ี อ้ งใชเ้ วลานานในการนำสง่ ผปู ้ ่ วยเชน่ ใชน้ ว้ิ ลว้ งคอใชไ้ มพ้ ัน สำลกี วาดคะซงึ่ จะเป็ นการกระตนุ ้ ใหร้ สู ้ กึ อยากจยอ้ นอยากอาเจยี น ขอ้ หา้ มในการทำใหผ้ ปู้ ่ วยอาเจยี น -หมดสติ แสบรอ้ นบรเิ วณปากคลนื่ ไสอ้ าเจยี นซง่ึ อาจสำลกั เขา้ ไปในปอด ทำใหห้ ายใจออกมามกี ลนิ่ น้ำมนั หรอื มกี ลนิ่ น้ำมนั ปีโตเลย่ี มอตั รา การหายใจและชพี จรเพมิ่ อาจมอี าการขาดออกเิ จนซงึ่ อาจรนุ แรง มากมเี ขยี วตามปลายมอื ปลายเทา้ (Cyanosis)) ๑๑

การปฐมพยาบาล - รบี นำสง่ โรงพยาบาล - หา้ มทำใหอ้ าเจยี น-ระหวา่ งนำสง่ โรงพยาบาลถา้ ผปู ้ ่ วยอาเจยี นให ้ จัดศรี ษะต่ำเพอ่ื ป้องกนั การสำลกั น้ำมนั เขา้ ปอด การปฐมพยาบาลผทู้ ไ่ี ดร้ นั ยาแกป้ วดลดไข้ ยาแอสไพรนิ และพาราเซตามอลพบบอ่ ยในเด็กท่ี รเู ้ ทา่ ไมถ่ งึ การณแ์ ละผทู ้ มี่ ปี ัญหาทางดา้ นจติ ใจ อาการและการแสดงอาการของผทู ้ ไี่ ดร้ ับยาแอสไพรนิ หอู อื้ เหมอื นมเี สยี งกระดงิ่ ในในหกู ารไดย้ นิ ลดลงเหงอ่ื ออกมาก ปลายมอื ปลายเทา้ แตงชพี จรเร็วคลน่ื ไสอ้ าเจยี นหายใจเร็วใจสงั่ อาการและอาการแสดงของผทู ้ ไ่ี ดร้ ับฟาราราเซตามอล(ไทรนี อล) ยานจี้ ะถกู ดดู ซมึ เร็วมากโดยเฉพาะในรปู ของสารละลายทำใหเ้ กดิ อาการคลนื่ ไสอ้ าเจยี นงว่ งซมึ เหงอื่ ออกมากความดนั โลหติ ต่ำสบั สน เบอื่ อาหาร การปฐมพยาบาล -ทำใหส้ ารพษิ เจอื จาง -ทำใหอ้ าเซยี น -ใหส้ ารดดู ซบั สารพษิ ทอ่ี าจหลงเหลอื ในระบบทางเดนิ อาหาร -ใหก้ ำลงั ใจเพอ่ื ใหผ้ ปู ้ ่ วยสงบ -นำสง่ โรงพยาบาล การปฐมพยาบาลผทู้ ไี่ ดร้ บั สารพษิ ทางการหายใจ สารพษิ ทเี่ ขา้ สทู่ างการหายใจ ไดแ้ ก่ กา๊ ซพษิ ซง่ึ แบง่ ออกเป็ น ๓ ประมาทดงั นี้ - กา๊ ซทที่ ำใหร้ า่ งกายขาดออกซเิ จนเกดิ อาการวงิ เวยี นหนา้ มดื เป็ นลมหมดสตถิ งึ แกค่ วามตายไดเ้ ชน่ คารบ์ อนมอนนอกไซ ดค์ ารบ์ อนไดออกไซดไ์ ฮโดรเจนไนโตรเจนปัจจบุ นั พบวา่ กา๊ ซที่ ทำใหเ้ กดิ ปัญหาคอ่ นขา้ งบอ่ ย ไดแ้ ก่ คารบ์ อนมอนนอกไซตโ์ ดย ๑๒

เฉพาะในเมอื งใหญ่ ๆ ทมี่ ปี ัญหาการจราจรคบั คงั่ อากาศเป็ นพษิ คารบ์ อนมอนนอกไซดเ์ ป็ นกา๊ ซไมม่ สี ไี มม่ กี ลนิ่ ไมม่ รี สเกดิ จากการ เผาไหมท้ ไ่ี มส่ มบรู ณข์ องน้ำมนั เชอ้ื เพลงิ เมอ่ื หายใจเขา้ ไปใน รา่ งกายกา๊ ซนจี้ ะแยง่ ทก่ี บั ออกซเิ จนในการจับกบั ฮโี มโกลบนิ ใน เม็ดเลอื ดแดงทำใหเ้ ม็ดเลอื ดแดงไมส่ ามารถไปยงั เนอ้ื เยอ่ื ทว่ั รา่ งกายไดร้ า่ งกายจงึ มอี าการของการขาดออกซเิ จนซง่ึ ถา้ ชว่ ยเหลอื ไมท่ นั จะทำใหผ้ ปู ้ ่ วยเสยี ชวี ติ เชน่ ในกรณีทมี่ ผี เู ้ สยี ชวี ติ ในรแยนต์ - กา๊ ซทท่ี ำใหเ้ กดิ การระคายเคอื งตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจ ไดแ้ ก่ คอหลอดลมและปอดถา้ ไดร้ ับในปรมิ าณมากอาจทำใหต้ ายไดเ้ ชน่ ซลั เฟอรไ์ ดออกไซดไ์ มม่ สี ี แตม่ กี ลน่ิ ฉุนพบไดใ้ นโรงงาน อตุ สาหกรรมใชท้ ำกรดกำมะถนั - กา๊ ซทท่ี ำใหอ้ นั ตรายทวั่ รา่ งกาย ไดแ้ ก่ กา๊ ซอารข์ น้ึ ไมม่ กี ลน่ิ คลา้ ยกระเทยี มพบไดใ้ นโรงงานอตุ สาหกรรมใชท้ ำแบตเตอรเ่ี มอื่ เขา้ สรู่ า่ งกายจะทำใหเ้ ม็ดเลอื ดแดงแตกปัสสาวะเป็ นเลอื ดดซี า่ นตา เหลอื งตวั เหลอื ง การปฐมพยาบาล -กลนั้ หายใจและรบี เปิดประตหู นา้ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหอ้ ากาศถา่ ยเทมี อากาศบรสิ ทุ ธเ์ิ ขา้ มาในหอ้ งปิดทอ่ กา๊ ซหรอื ขจัดตน้ เหตขุ องพษิ นัน้ ๆ -นำผปู ้ ่ วยออกจากบรเิ วณทเี่ กดิ เหตไุ ปยงั ทม่ี อี ากาศบรสิ ทุ ธิ์ ประเมนิ การหายใจและการเตน้ ของหวั ใจถา้ ไมม่ ใี หผ้ ายปอดและ นวดหวั ใจ -นำสง่ โรงพยาบาล การปฐมพยาบาลผทู้ ไี่ ดร้ บั สารพษิ ทางผวิ หนงั สารพษิ ทส่ี ามารถเขา้ สรู่ า่ งกายทางผวิ หนังทพี่ บบอ่ ยเกดิ ไดแ้ ก่ สารเคมแี ละสารพษิ ทเ่ี กดิ จากการถกู สตั วม์ พี ษิ กดั หรอื ตอ่ ยเชน่ ตอ่ แตนผงึ้ ตะขาบแมงป่ องแมงกะพรนุ ไฟงพู ษิ ๑๓

การปฐมพยาบาลเมอื่ สารเคมถี กู ผวิ หนงั -ลา้ งดว้ ยน้ำสะอาดนาน ๆ อยา่ งนอ้ ย ๑๕ นาที -อยา่ ใชย้ าแกพ้ ษิ ทางเคมเี พราะความรอ้ นทเ่ี กดิ จากปฏกิ ริ ยิ าอาจ ทำใหเ้ กดิ อนั ตรายมากขนึ้ -บรรเทาอาการปวดและรักษาชอ็ ค -ปิดแผล นำสง่ โรงพยาบาล การปฐมพยาบาลเมอ่ื สารเคมเี ขา้ ตา -ลา้ งตาดว้ ยน้ำนาน ๒๕ นาทโี่ ดยการเปิดน้ำกอ็ ตไหลรนิ คอ่ ย ๆ -อยา่ ใชย้ าแกพ้ ษิ ทางเคมเี พราะความรอ้ นทเ่ี กดิ จากปฏกิ ริ ยิ าอาจ ทำใหเ้ กดิ อนั ตรายมากขน้ึ -บรรเทาอาการปวดและรักษาชอ็ ค -ปิดตาแลว้ นำสง่ โรงพยาบาล ทำอยา่ งไรจงึ จะพน้ ภยั จากสารเคมอี นั ตราย? นคี่ งเป็ นคำถาม ทอี่ ยใู่ นใจประชาชนคนไทยทกุ คนเนอื่ งจากในปัจจบุ นั ไดเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตทุ างดา้ นสารเคมรี นุ แรงขนึ้ หลายครัง้ ผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ แตล่ ะครัง้ มไิ ด ้ จำกดั อยเู่ ฉพาะในโรงงานเทา่ นัน้ แตย่ งั ไดส้ รา้ ง ความเดอื ดรอ้ นตอ่ ประชาชนทว่ั ไปดว้ ยอาทกิ ารร่ัวไหลของสารเคมี ขณะขนสง่ การระเบดิ และการเกดิ เหตเุ พลงิ ไหมข้ องสารเคมใี นโกดงั เป็ นตน้ การไดร้ ับอนั ตรายของประชาชนมสี าเหตสุ ำคญั เนอ่ื งจาก ความรเู ้ ทา่ ไมถ่ งึ การณโ์ ดยการเขา้ ไปสมั ผัสหรอื อยใู่ กลบ้ รเิ วณทเี่ กดิ อบุ ตั เิ หตทุ างดา้ นสารเคมโี ดยไมท่ ราบวา่ มสี ารเคมแี พรก่ ระจายอยู่ หรอื เมอื่ อยใู่ นพนื้ ทเ่ี กดิ เหตไุ มร่ วู ้ า่ ควรปฏบิ ตั ติ นเองอยา่ งไรจงึ จะ เป็ นการแกไ้ ขหรอื ป้องกนั อนั ตรายใหแ้ กต่ นเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม กรมควบคมุ มลพษิ จงึ ไดจ้ ัดทำคมู่ อื เลม่ นขี้ น้ึ ซงึ่ คมู่ อื นจี้ ะเป็ น ประโยชนท์ จ่ี ะชว่ ยชแี้ นะวธิ กี ารจำแนกประเภทสารเคมที เี่ ป็ นอนั ต รายพษิ ภยั ทเี่ กดิ ขนึ้ การปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมาะสมเมอ่ื ประสบ อบุ ตั เิ หตทุ างดา้ นสารเคมรี วมทงั้ วธิ ปี ้องกนั ตนเองใหป้ ลอดภยั ใน เบอ้ื งตน้ ๑๔

ประสบอบุ ตั ภิ ยั สารเคมตี อ้ งทำอยา่ งไร? ๑. พยายามจำแนกวา่ สารเคมดี งั กลา่ วเป็ นสารเคมชี นดิ ไหนโดย พจิ ารณาจากฉลากหรอื แผน่ ป้ายทต่ี ดิ อยขู่ า้ งฝาภาชนะเพอื่ จะ สามารถระมดั ระวงั ตวั เองจากสารเคมอี นั ตรายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๒. อยา่ พยายามกระทำในสง่ิ ทไ่ี มร่ จู ้ รงิ เพราะอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ผล เสยี หายอยา่ งรนุ แรงโดยมไิ ดค้ าดคดิ เชน่ การลา้ งภาชนะบรรจหุ รอื บรเิ วณทม่ี กี รดหกรดอาจทำใหเ้ กดิ ปฏกิ ริ ยิ ารนุ แรงได ้ ๓. โทรศพั ทข์ อความชว่ ยเหลอื จากหน่วยงานทรี่ ับผดิ ชอบ - เกดิ เหตใุ นกรงุ เทพมหานครโทร. ๑๙๙ หรอื ศนู ย์ กรงุ เทพมหานครโทร.๑๕๕๕ หรอื กรมควบคมุ มลพษิ โทร.๑๖๕๐ - เกดิ เหตใุ นตา่ งจังหวดั โทร.๑๙๙๙หรอื กรมควบคมุ มลพษิ โทร.๑๖๕๐ - เกดิ เหตบุ นทางหลวงโทร. ๑๑๙๓ - เกดิ เหตบุ นทางดว่ นโทร. ๑๕๔๓ - เกดิ เหตบุ นทอ้ งถนนแจง้ ศนู ยป์ ลอดภยั คมนาคมโทร. ๐ ๒๒๘๐ ๘๐๐๐ - เกดิ เหตเุ กย่ี วกบั วตั ถกุ มั มนั ตรังสแี จง้ สำนักงานปรมาณูเพอ่ื สนั ตใิ นเวลาราชการโทร. ๐ ๒๕๗๕ ๕๒๙๖๔ ตอ่ ๕๕๒ ๕๕๓, ๓๓๔ นอกเวลาราชการโทร. ๐ ๒๕๗๙ ๕๒๓ ๕ หรอื ๒๕๒๒ - แจง้ ศนู ยร์ ับแจง้ เหตแุ ละประสานงานดา้ นการบรรเทา สาธารณภยั โทร. ๐ ๒๓๕๓ ๒๕๕๐๔ - ศนู ยอ์ ำนวยการบรรเทาสาธารณภยั กรมป้องกนั และ - บรรเทาสาธารณภยั โทร. ๑๘๘๕ - ศนู ยน์ เรนทรโทร. ๓๖๒๙ ๑๕

๔. ขอ้ มลู ทที่ า่ นควรแจง้ เมอ่ื พบเห็นเหตกุ ารณ์ •สถานทเ่ี กดิ เหตุ •ลกั ษณะเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ •ชนดิ ประเภทของสารเคม(ี ถา้ ทราบ) •จำนวนปรมิ าณของสารเคมที หี่ าหรอื ร่ัวไหล (ถา้ ทราบ) •มแี หลง่ น้ำหรอื ชมุ ชนอยใู่ กลเ้ คยี งบรเิ วณทเี่ กดิ เหตหุ รอื ไม่ จะชว่ ยเหลอื ผปู้ ่ วยไดอ้ ยา่ งไร ? ๑. เคลอื่ นยา้ ยผปู ้ ่ วยไปอยใู่ นทอี่ ากาศบรสิ ทุ ธิ์ ๒. ถอดเสอ้ื ทเี่ ปื้อนสารเคมอี อกและแยกไลถ่ งุ หรอื ภาชนะตา่ ง หาก ๓. หากสมั ผัสสารใหล้ า้ งดว้ ยน้ำมาก ๆ อยา่ งนอ้ ย ๒๕ นาที ๔. ไปพบแพทย์ ๒. เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั น้ำยาเช็ดกระจก ๑.๑ น้ำยาทำความสะอาดสารพัดประโยชนแ์ ละน้ำยาเชด็ กระจก หลายยห่ี อ้ มแี อมโมเนยี เป็ นสว่ นผสมแอมโมเนยี มฤี ทธเ์ิ ป็ นตา่ งและ สามารถกดั กรอ่ นมสี ตู รเคมคี อื NH๓ ซง่ึ ปกตจิ ะอยใู่ นสถานะกา๊ ซไม่ มสี ทมี่ กี ลน่ิ ฉุนเฉพาะตวั แตเ่ มอื่ ละลายน้ำจะอยใู่ นรปู สารละลายของ แอมโมเนยี มไฮดรอกไซด์ (H CH) อยา่ งไรกต็ ามแอมโมเนยี สามารถระเหยออกมาเป็ นกา้ ศและอาจเป็ นอนั ตรายตอ่ ทางเดนิ หายใจและดวงตาไดโ้ ดยทว่ั ไปความเขม้ ขน้ ของแอมโมเนยี ใน ผลติ ภณั ฑท์ ใ่ี ชใ้ นครัวเรอื นอยรู่ ะหวา่ ง ๕-๓๐% น้ำหนักตอ่ ปรมิ าตร คณาจารยภ์ าควชิ าเภสชั เคม)ี มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร คณะเภสชั ศาสต ๒๕๕๕) ๑.๒ ประโยชนข์ องน้ำยาเชด็ กระตทำใหก้ ระจกใสสะอาดไมม่ คี ราบสกปรกตติ อยบู่ นกระจก ๑๖

๓. เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั มะกรดู ความหมายของมะกรดู มะกรดู เป็ นพชื ในสกลุ สมั (Crus) ลกั ษณะของมะกรดู เป็ นไม ้ ยนื ตน้ ขนาดเล็กเนอื้ ไมแ้ ข็งลำตน้ และกงิ่ มหี นามยาวเล็กนอ้ ยใบเป็ น ใบประกอบชนดิ ลดรปู มใี บยอ่ ย ๑ ในเรยี งสลบั รปู ไขค่ อื มลี กั ษณะ คลา้ ยกบั ใบไม ้ 6 ใบตอ่ กนั อยคู่ อดกว่ิ ทก่ี ลางใบเป็ นตอน ๆ มกี า้ นแผ่ ออกใหญเ่ ทา่ กบั แผน่ ไบทำใหเ้ ห็นใบเป็ น ๒ ตอนกวา้ ง ๒.๕๔ เซนตเิ มตรยาว ๔๗ เซนตเิ มตรใบสเี ขยี วแกพ่ น้ื ผวิ โบเรยี บเกลย้ี ง เป็ นมนั คอ่ นขา้ งหนามกี ลน่ิ หอมมากเพราะมตี อ่ มน้ำมนั อยซู่ งึ่ ผลแบบ นเี้ รยี กวา่ ผลแบบสมั (heseritham) ในดา้ นบนสเี ขม้ ใตใ้ บสอี อ่ นดอก ออกเป็ นกระจกุ ๓๕ ดอกกลบี ดอกสขี าวเกสรสเี หลอื งรว่ งงา่ ยมกี ลนิ่ หอมมผี ลสเี ขยี วเขม้ คลา้ ยมะนาวผวิ เปลอื กนอกขรขุ ระขวั้ หวั -ทา้ ย ของผลเป็ นจกุ ผลออ่ นมเี ป็ นสเี ขยี วแกเ่ มอ่ื ผลสกุ จะเปลยี่ นเป็ นสี เหลอื งสดพันธทุ์ มี่ ผี ลเล็กผวิ จะขรขุ ระนอ้ ยกวา่ และไมม่ จี กุ ทข่ี วั้ ภายในมเี มล็ดจา้ นวนมาก ๆ สรรพคณุ มะกรดู กบั คณุ ประโยชนท์ างยาทไี่ มค่ วรมองขา้ ม มะกรดู เป็ นพชื สมนุ ไพรโบราณทมี่ คี ณุ ประโยชนท์ างยามากมาย โดยสามารถนำสว่ นตา่ ง ๆ มาใชร้ ักษาอาการตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ ง หลากหลายมะกรดู มสี ารตา้ นอนุมลู อสิ ระสงู จงึ มสี ว่ นชว่ ยสรา้ งเสรมิ ภมู คิ มุ ้ กนั ใหแ้ กร่ า่ งกายและตา้ นทานโรคหลายชนดิ รวมทงั้ มะเร็งบาง ชนดิ ดว้ ยนอกจากนม้ี ะกรดู ยงั มฤี ทธใิ์ นการชว่ ยยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โตของเชอื้ จลุ นิ ทรยี อ์ ยา่ งเชน่ เชอ้ื อโี คไล (Ecol) และซาลโมเนลลา (Saimonella) ไดช้ ว่ ยบำรงุ ประจำเดอื นขบั ระดู และมกั เป็ นสว่ นผสมสำคญั ในยาสตรตี า่ ง ๆ อกี ดว้ ยไมเ่ พยี งแคน่ ัน้ สว่ นตา่ ง ๆ ของมะกรดู ยงั มปี ระโยชนอ์ กี มากมาย รากมะกรดู รากของมะกรตู มรี สจดื เย็นสามารถชว่ ยแกอ้ าการไขถ้ อนพษิ สำแดงแกล้ มจกุ เสยี ดกระทงั่ พษิ ไขแ้ กพ้ ษิ ฝี ภายในและชว่ ยอาการ เสมหะเป็ นพษิ ๑๗

ผวิ มะกรดู - ผวิ ของมะกรดู สามารถชว่ ยแกอ้ าการนอนไมห่ ลบั ไดโ้ ดยผวิ ของ มะกรดู บตรวมกบั รากชะเอมไพลเสยี งพรา้ ขมน้ิ ออ้ ยแลว้ นำมาตม้ น้ำ ดม่ื - เป็ นยาบำรงุ หวั ใจโดนน้ำผวิ มะกรดู ผา่ นสดประมาณ ๓ ขอ้ นโตะ๊ มาผสมกบั พมิ เสนหรอื การบรู ชงในน้ำเดอื ดแลว้ แซท่ งิ้ ไวจ้ ากนัน้ นำ มาดมื่ -ชว่ ยแกอ้ าการเป็ นลมหนา้ มดื วงิ เวยี นศรี ษะโดยนำเปลอื กมะกรดู ผา่ นบาง ๆ ชงกบั น้ำเดอื ดแลว้ เตมิ การบรู เล็กนอ้ ยนำมาดมื่ เพอื่ แก ้ อาการ -ชว่ ยขบั ลมในลำไสแ้ กอ้ าการจกุ เสยี ดทอ้ งอดื แน่นทอ้ งไดช้ ว่ ยขบั สารพษิ ทอี่ ยใู่ นรา่ งกายใหอ้ อกมาทางผวิ หนังโดยการนำผวิ มะกรดู มาใชเ้ ป็ นสว่ นประกอบในการอบซาวน่าสมนุ ไพร ใบมะกรดู -ชว่ ยแกไ้ อแกอ้ าการอาเจยี นเป็ นเลอื ด -ชว่ ยแกอ้ าการซ้ำใน -ใบมะกรดู อดุ มไปดว้ ยเบตา้ แคโรทนี ซง่ึ ชว่ ยในการชะลอการขยาย ตวั ของเซลลม์ ะเร็งและชว่ ยตอ่ ตา้ นมะเร็งได ้ ผลมะกรดู -ชว่ ยแกอ้ าการไอขบั เสมหะโดยการนำมะกรดู ผา่ ครงึ่ และนำไปลน ไฟใหน้ ม่ิ แลว้ คอ่ ย ๆ บบี น้ำมะกรดู ลงคอทลี ะนดิ จะชว่ ยทำใหอ้ าการ บรรเทาลงได ้ -ชว่ ยฟอกโลหติ โดยนำผลมะกรดู สดมาผา่ เป็ น ๒ ซกี แลว้ นำไป ตองกบั เกลอื หรอื น้ำผงึ้ ประมาณ 6 เดอื นแลว้ รนิ เอา -ชว่ ยแกอ้ าการปวดทอ้ งหรอื ใชเ้ ป็ นยาแกป้ วดทอ้ งในเด็กออ่ นโดย การนำผลมะกรดู มาควา้ นไสก้ ลางออสาน่ามหาหงิ คใ์ สแ่ ละปิดจกุ แลว้ นำไปเผาไฟจนดำเกรยี มและบดจนเป็ นผงละลายกบั น้ำผง้ึ ไว ้ รับประทานแกอ้ าการปวดได ้ ๑๘

- ชว่ ยขบั ระดขู บั ลมโดยผลมะกรดู นำมาดองทำเป็ นยาดองเปรยี้ ว ไวร้ ับประทาน -ชว่ ยแกอ้ าการน้ำลายเหนยี ว -แกเ้ ถาตานในทอ้ ง -แกร้ ะดเู สยี ขบั ระดู -ชว่ ยขบั ลมในลำไสน้ อกจากนน้ี ้ำจากผลมะกรดู ยงั สามารถใชแ้ ก ้ อาการเลอื ดออกตามไรฟันไดอ้ กี ดว้ ยโดยใชน้ ้ำมะกรดู ถบู าง ๆ บรเิ วณเหรอื กหลงั แปลงฟันเสร็จจะชว่ ยทำใหอ้ าการเลอื ดออกตาม ไรฟันบรรเทาลงได ้ สรรพคณุ ทางยา ผวิ : ผลสดและผลแหง้ รสปรา่ หอมรอ้ นสรรพคณุ แกล้ มหนา้ มดื แก ้ วงิ เวยี นบำรงุ หวั ใจขบั ลมลำไส ้ ผล : รสเปรยี้ วมสี รรพคณุ เป็ นยาขบั เสมหะแกไ้ อแกน้ ้ำลายเหนยี ว ฟอกโลหติ ใชส้ ระผมทำใหผ้ มตกต่ำขจัดรังแครากรสเย็นจดื แกพ้ ษิ ฝี ภายในแกเ้ สมหะแกล้ มจกุ เสยี ด น้ำมะกรดู : รสเปรยี้ วกดั เสมหะใชด้ องยามสี รรพคณุ เป็ นยา ฟอกโลหติ สำหรับสตรี ใบ : รสปรา่ หอมแกไ้ อแกอ้ าเจยี นเป็ นโลหติ แกช้ ้ำในและตบั กลนิ่ คาว ประโยชนข์ องมะกรดู - ชว่ ยเจรญิ อาหาร -น้ำมนั หอมระเหยจากมะกรดู ชว่ ยผอ่ นคลายความเครยี ดคลาย ความกงั วล -ชว่ ยแกอ้ าการนอนไมห่ ลบั -ชว่ ยแกอ้ าการหนา้ มดื -ชว่ ยยบั ยงั้ การขยายตวั ของเซลลม์ ะเร็ง -ชว่ ยยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โตของจลุ นิ ทรยี ไ์ ดเ้ ป็ นอยา่ งดี ๑๙

-กรดออ่ น ๆ ของมะกรดู ชว่ ยยบั ยงั้ การเกร็งตวั ของกลา้ มเนอ้ื ได ้ -ไลแ่ มลงได ้ -กำจัดกลนิ่ อบั ได ้ ๒๐

บทที่ ๓ วธิ กี ารดำเนนิ งาน ในการทำโครงงานคอมพวิ เตอรเ์ รอื่ งน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู กลมุ่ ผศู ้ กึ ษามวี ธิ กี ารดำเนนิ โครงงานดงั ตอ่ ไปน้ี ๓.๑ วธิ กี ารดำเนนิ โครงงาน ๓.๑.๑ ประชมุ สมาชกิ ในกลมุ่ เพอ่ื ศกึ ษาและเลอื กหวั ขอ้ สนใจใน การทำโครงงาน ๓.๑.๒ นำเสนอหวั ขอ้ โครงงานทไ่ี ดจ้ ากการเลอื กหวั ขอ้ ทสี่ นใจ ของกลมุ่ ทำงานตอ่ ครทู ปี่ รกึ ษาโครงงาน ๓.๑.๓ วางแผนการจัดทำโครงงานโดยเขยี นแบบรา่ งโครงงาน ๓.๑.๔ นำแบบรา่ งโครงงานมาจัดทำโครงงานทสี่ มบรู ณน์ ำโครง งานทสี่ มบรู ณแ์ ลว้ มาจัดทำเว็บไซตโ์ ดยใชโ้ ปรแกรม E-Book จัด ทำสว่ นบนของเว็บไซตต์ กแตง่ ภาพและตวั หนังสอื พัฒนาเว็บไซ ตต์ ามหวั ขอ้ ตามโครงงาน ๓.๑.๕ นำเสนอผลงานตามโครงงานในรปู แบบของเว็บไซต์ ๓.๑.๖ ประเมนิ ผลงานการจัดทำโครงงาน ๓.๒วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ๓.๒.๑ ศกึ ษาจาก www.google.com ๓.๒.๒ สอบถามจากผมู ้ คี วามรู ้ ๓.๒.๓ ศกึ ษาขอ้ มลู เกยี่ วกบั มะกรดู และน้ำยาเชด็ กระจก ๓.๓ วสั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการทำน้ำยาเชด็ กระจก ๑. มะกรดู ๒๕ ลกู ๒. เบกกง้ิ โซดา 2 ชอ้ นชา ๓. กระชอน ๑ อนั ๔. เกลอื ๑ ชอ้ นโตะ๊ ๕. น้ำเปลา่ ๒ ถว้ ยตวง ๖. ขวดสำหรับใสน่ ้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู ๒๑

๓.๔ วธิ กี ารดำเนนิ งานของน้ำยาเช็ดกระจก ๑. นำมะกรดู มาหนั่ ฝานเปลอื กออก แยกเปลอื กและเนอ้ื ๒. ตม้ น้ำใหเ้ ดอื ดเอาเปลอื กไปตม้ จนสกุ ๒๒

๓. นำผลทฝี่ านเปลอื กไปสำเอาน้ำมะกรดู ออกมาหรอื บบี เอาน้ำ ออกนำกระชอนมากรองเพอ่ื ใหไ้ มม่ เี มล็ดป่ นุ มาดว้ ย ๔. กรองน้ำทต่ี ม้ เอาเปลอื กออกใหห้ มด ๒๓

๕. เอาเบกกง้ิ โซดาไดใ้ นถว้ ยทมี่ นี ้ำจากผลของมะกรดู ๖. นำผลทกี่ รองแลว้ มาผสมกบั เปลอื กมะกรดู ทต่ี ม้ และใสเ่ กลอื ลง ไป ๒๔

๗. รอจนเกลอื ละลายและใสข่ วดบรรจภุ ณั ฑห์ รอื ขวดสเปรยแ์ ละนำ ไปใชง้ านได ้ ๒๕

บทที่ ๔ ผลของการดำเนนิ โครงงาน ในการทำโครงงานคอมพวิ เตอรเ์ รอื่ งน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกดู ไดร้ ับผลของการดำเนนิ โครงงานดงั ตอ่ ไปน้ี ตอนที่ ๑ ทำน้ำยาเชด็ กระจก ไดน้ ้ำยาเชด็ กระจกเป็ นสเี ขยี วขนุ่ และมเี นอ้ื ของ มะกรดู เล็กนอ้ ยมกี ลนิ่ เปรย้ี วของมะกรดู ตอนท่ี ๒ หาประสทิ ธภิ าพในการทำความสะอาดของน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู เป็ นดงั นี้ ๒๖

บทที่ ๕ สรปุ ผลและอภปิ รายผลการดำเนนิ งาน การจัดทำโครงงานคอมพวิ เตอรเ์ รอื่ งน้ำยาเชด็ กระจกจาก มะกรดู สามารถสรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงงานและขอ้ เสนอแนะดงั น้ี ๕.๑ การดำเนนิ งานจดั ทำโครงงาน ๑. วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน ๑.๑ เพอ่ื ใหผ้ คู ้ นหนั มาใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำมาจากสมนุ ไพรแทน การใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ที่ ำมาจากสารเคมี ๑.๒ เพอ่ื เผยแพรวธิ กี ารทำน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู ซงึ่ เป็ น พชื สมนุ ไพรใกลต้ วั และหาไดง้ า่ ยตามทอ้ งถน่ิ ทวั่ ไป ๒. วสั ดอุ ปุ กรณ์ ๒.๑ มะกรดู ๒.๒ กลบี ๒.๓ เบคกงิ้ โซดา ๕.๒ สรปุ การดำเนนิ งานโครงาน การดำเนนิ โครงงานนบ้ี รรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ไ่ี ดก้ ำหนดไวค้ อื เพอื่ ใหผ้ คู ้ นหนั มาใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำมาจากสมนุ ไพรแทนการใช ้ ผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำมาจากสารเคมเี ป็ นโครงงานทจี่ ัดทำขน้ึ เพอื่ เผยแพร่ วธิ กี ารทำน้ำยาเชด็ กระจกจากมะกรดู ซง่ึ เป็ นพชื สมนุ ไพรใกลต้ วั และ หาไดง้ า่ ยตามทอ้ งถนิ่ ทวั่ ไปโครงงานนจี้ งึ มปี ระโยชนเ์ ป็ นอยา่ งมาก เนอ่ื งจากเป็ นน้ำยาเชด็ กระจกทท่ี ำมาจากมะกรดู ซงึ่ เป็ นสมนุ ไพร ตามธรรมชาตแิ ละไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ผทู ้ ใ่ี ชผ้ ลติ ภณั ฑ์ ๒๗

๕.๓ ปญั หาและอปุ สรรค ในการทำโครงงานเป็ นผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กบ็ รักษาไดไ้ มน่ านดงั นัน้ ตอ้ งเกบ็ ในอณุ หภมู ทิ เ่ี หมาะสมหรอื ไวใ้ นทไี่ มเ่ กดิ เชอ้ื รางา่ ยเชน่ พนื้ ทไ่ี มม่ คี วามชน้ื ๕.๔ ขอ้ เสนอแนะ ๑. นอกจากสมนุ ไพรมะกรดู แลว้ สามารถนำสมนุ ไพรชนดิ อน่ื ๆ มา เป็ นสว่ นผสมไดอ้ กี ดว้ ย ๒. ควรรณรงคใ์ หผ้ คู ้ นหนั มาใชผ้ ลติ ภณั ฑท์ ที่ ำมาจากสมนุ ไพร ธรรมชาตแิ ทนผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำมาจากสารเคมเี นอ่ื งจากสมนุ ไพร ธรรมชาตไิ มก่ อ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ผวิ หนัง ๒๘

บรรณานกุ รม กระปกุ . (๒๕๕๖). สรรพคณุ มะกรดู . สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๔ แหลง่ ทมี่ า : https://health.kapook.com กรมสง่ เสรมิ สงิ่ แวดลอ้ ม. (๒๕๕๘) สารเคม.ี สบื คน้ วนั ที่ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๖๔ แหลง่ ทม่ี า : https://ku.ac.th อนามยั . (๒๕๖๑).น้ำยาเชด็ กระจก.สบื คน้ วนั ท่ี ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ แหลง่ ทม่ี า : https://productraion.co/th สาธกุ รมไทยสำหรับเยาวชน (๒๕๔๓), ผลกระทบจากสารเคม,ี เสบื คน้ วนั ท่ี ๑๑ กนั ยายน ๒๕๖๔ แหลง่ ทมี่ า : https://kancharapisek.or.th ๒๙

ภาคผนวก ๓๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook