Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนการขายเบื้องต้น.docx

แผนการสอนการขายเบื้องต้น.docx

Description: แผนการสอนการขายเบื้องต้น.docx

Keywords: แผนกการตลาด

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ บรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ บบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขน้ั วิชา การขายเบือ้ งตน้ หลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 จัดทำโดย นางสาววันเพ็ญ พรง้ิ เพราะ วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาสรุ ินทร์ สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

ก หลักสูตรรายวชิ า วชิ า การขายเบือ้ งตน้ รหัสวชิ า 20200-1003 ทฤษฎี 1 ปฎบิ ตั ิ 2 หน่วยกติ 2 จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. เขา้ ใจความรู้พ้ืนฐานของงานขายและกระบวนการขาย 2. มีทกั ษะในการวางแผนการขายและการเสนอขายสินคา้ และบริการ 3. มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการทํางานด้วยความรับผิดชอบ ความซ่ือสัตย์สุจริต ความเช่ือมันใน ตนเองและความมมี นุษยส์ ัมพันธ์ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับความร้พู ื้นฐานของงานขายและกระบวนการขายตามหลักการ 2. วางแผนการขายและการเสนอขายสนิ คา้ และบริการ 3. ปฏบิ ตั งิ านขายตามกระบวนการขาย คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบตั ิเก่ียวกับหลักการขาย แนวคิดทางการขายวิวฒั นาการการขาย หน้าท่ีทางการขาย ประเภทและลักษณะของงานขาย ความรู้เกี่ยวกับตนเอง ความรู้เก่ียวกับกิจการ ความรู้เก่ียวกบผลิตภัณฑ์ ความรเู้ กี่ยวกบั ลูกค้า และความรู้เกยี่ วกับคูแ่ ขง่ ขนั คณุ สมบตั ิของนักขาย โอกาสและความก้าวหนา้ ของนักขาย และเทคโนโลยีทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับการขาย คำอธิบายรายวิชา (ปรบั ปรงุ ) ศึกษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกับหลักการขาย แนวคิดทางการขายวิวัฒนาการการขาย หน้าที่ทางการขาย ประเภทและลักษณะของงานขาย ความรู้เกี่ยวกับตนเอง ความรู้เก่ียวกับกิจการ ความรู้เก่ียวกบผลิตภัณฑ์ ความรเู้ ก่ียวกับลูกค้า และความรเู้ กี่ยวกับคแู่ ขง่ ขัน คุณสมบตั ิของนักขาย โอกาสและความก้าวหนา้ ของนักขาย และเทคโนโลยที ี่เกย่ี วข้องกับการขาย และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ขก ก ตารางวิเคราะหห์ น่วยการเรยี น วชิ า การขายเบือ้ งต้น รหัสวิชา 20200-1003 ท-ป-น 1-2-2 จำนวนชัว่ โมงสอน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ ระดับชัน้ ปวช. คำอธิบายรายวชิ า ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการขาย 1. หลกั การขาย แนวคิดทางการขายวิวัฒนาการการขาย หน้าท่ี 2. แนวคิดทางการขายววิ ฒั นาการการขาย ทางการขาย ประเภทและลักษณะของงานขาย 3. หนา้ ทีท่ างการขาย ความร้เู กยี่ วกับตนเอง ความร้เู กี่ยวกับกิจการ ความรู้ 4. ประเภทและลกั ษณะของงานขาย เกี่ยวกบผลิตภัณฑ์ ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า และความรู้ 5. ความรู้เกีย่ วกับตนเอง เก่ียวกับคู่แข่งขัน คุณสมบัติของนักขาย โอกาสและ 6. ความรูเ้ กย่ี วกบั กิจการ ความก้าวหน้าของนักขายและเทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้อง 7. ความรเู้ กี่ยวกบผลิตภัณฑ์ กับการขาย และบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ 8. ความรู้เกย่ี วกบั ลูกค้า พอเพยี ง 9. ความรู้เกี่ยวกับคแู่ ข่งขัน 10.คณุ สมบัติของนักขาย 11.โอกาสและความก้าวหน้าของนักขายและ เทคโนโลยที ่ีเกย่ี วข้องกบั การขาย

ค ค ตารางวเิ คราะห์หลักสูตรรายวชิ า วชิ า การขายเบ้ืองตน้ รหัสวชิ า 20200-1003 ความสอดคลอ้ งระหวา่ งเนื้อหากับคำอธิบายรายวิชา จุดประสงค์รายวิชา และสมรรถนะรายวิชา ความสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรรายวชิ า หน่วยการ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ คำอธิบายรายวิชา จุดประสงค์ สมรรถนะรายวิชา เรยี นรู้ท่ี รายวิชา หลักการขาย 1 แนวคิดทางการขาย 12312345 2 วิวัฒนาการการขาย หนา้ ที่ทางการขาย หลักการขาย  3 ประเภทและลกั ษณะของงาน 4 ขาย แนวคดิ ทางการขาย  ความรเู้ กีย่ วกับตนเอง 5 ความรเู้ กยี่ วกับกจิ การ ววิ ัฒนาการการขาย 6 ความรเู้ ก่ยี วกบผลิตภณั ฑ์ 7 ความรู้เกย่ี วกบั ลกู คา้ หนา้ ท่ที างการขาย  8 ความรูเ้ กีย่ วกบั คแู่ ขง่ ขนั 9 คณุ สมบตั ขิ องนกั ขาย ประเภทและลกั ษณะของงาน     10 โอกาสและความกา้ วหน้าของ 11 นักขายและเทคโนโลยีท่ี ขาย เก่ยี วข้องกับการขาย ความรู้เกี่ยวกับตนเอง   ความรเู้ กี่ยวกบั กจิ การ   ความรเู้ กย่ี วกบผลิตภณั ฑ์     ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า   ความรู้เก่ียวกบั คแู่ ขง่ ขนั     คุณสมบตั ขิ องนกั ขาย  โอกาสและความก้าวหนา้ ของ    นักขายและเทคโนโลยีที่ เก่ียวขอ้ งกับการขาย

ง แหลง่ ข้อมลู ในการวเิ คราะหห์ ลักสตู ร ชือ่ วิชา วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื พัฒนาอาชพี ธรุ กิจและบรกิ าร รหสั วชิ า 2000-1303 ท-ป-น. 1-2-2 จำนวนชวั่ โมงสอน 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ ระดับชัน้ ปวช. หน่วยท่ี ชื่อหน่วย จำนวน ที่มา 1 ชวั่ โมง A B C D E 2 3 หลกั การขาย 6   4 5 แนวคดิ ทางการขายววิ ฒั นาการการขาย 5   6 7 หน้าท่ที างการขาย 5   8 9 ประเภทและลกั ษณะของงานขาย 5   10 11 ความรเู้ กีย่ วกบั ตนเอง 5   ความรู้เกีย่ วกบั กจิ การ 5   ความร้เู กี่ยวกบผลิตภณั ฑ์ 5   ความรเู้ กี่ยวกับลกู คา้ 5   ความรเู้ กย่ี วกบั คแู่ ข่งขนั 5   คณุ สมบัติของนกั ขาย 4   โอกาสและความก้าวหน้าของนกั ขายและ 4      เทคโนโลยที ี่เกี่ยวข้องกบั การขาย 54      หมายเหตุ A = คำอธิบายรายวิชา B = ตำรา/เอกสาร C = ผเู้ ช่ียวชาญ D = ประสบการณ์ E = สถานประกอบการ/ผู้ชำนาญการ

จ กำหนดการสอน/หนว่ ยการเรยี นรู้ หน่วยที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ จำนวนชว่ั โมง สัปดาหท์ ่ี 1 1-2 2 หลกั การขาย 6 3-4 3 5-6 4 แนวคดิ ทางการขายววิ ฒั นาการการขาย 5 7-8 5 9-10 6 หน้าทที่ างการขาย 5 11-12 7 12-13 8 ประเภทและลักษณะของงานขาย 6 13-14 9 14-15 10 ความร้เู ก่ียวกบั ตนเอง 4 16-17 11 17-18 ความรเู้ กยี่ วกบั กิจการ 5 ความรู้เก่ียวกบผลิตภัณฑ์ 5 ความรู้เกย่ี วกับลกู คา้ 5 ความรู้เกีย่ วกับคู่แขง่ ขัน 5 คุณสมบัตขิ องนกั ขาย 4 โอกาสและความกา้ วหนา้ ของนกั ขายและเทคโนโลยี 4 ท่เี ก่ยี วข้องกบั การขาย

ฉ หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจำหน่วย กจิ กรรมการเรียนรู้ และแนวทางการประเมนิ แนวทางการประเมิน หน่วย รายการสอน สมรรถนะ กิจกรรมการเรียนรู้ ทดสอบความ ู้ร ท่ี ประจำหนว่ ย ประเ ิมนการปฏิบั ิตงาน ประเ ิมนผลงาน ประเ ิมนพฤ ิตกรม อ่ืน ๆ (ระบุ) พฤ ิตกรรม 1 หลักการขาย แสดงความรแู้ ละอธบิ ายเกย่ี วกบั บรรยายและทดสอบ      หลักการขาย เกีย่ วกับการใช้หลกั 4 P’s ทางการขาย ในการสร้างสือ่ โฆษณาผลิตภณั ฑ์ 2 แนวคิดทางการขาย แสดงความรู้และอธบิ ายเกยี่ วกับแนวคิด บรรยาย  วิวัฒนาการการขาย ทางการขายววิ ัฒนาการการขาย 3 หน้าทท่ี างการขาย แสดงความรู้และประยุกต์ใช้หนา้ ท่ี บรรยายและบทบาท      ทางการขาย สมมตุ ิ 4 ประเภทและลกั ษณะ แสดงความรู้และจำแนกประเภทและ บรรยายและสาธิต      ของงานขาย ลกั ษณะของงานขาย 5 ความรเู้ กี่ยวกบั แสดงความรู้และอธบิ ายเกย่ี วกบั ความรู้ บรรยาย  ตนเอง เกี่ยวกบั ตนเอง 6 ความร้เู กี่ยวกับ แสดงความรแู้ ละอธิบายเกีย่ วกบั ความรู้ บรรยาย  กจิ การ เกย่ี วกบั กจิ การ 7 ความรเู้ ก่ียวกับ แสดงความรู้และอธบิ ายเกย่ี วกับความรู้ บรรยายและสาธิต      ผลติ ภัณฑ์ เกย่ี วกบผลติ ภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ 8 ความรูเ้ กี่ยวกบั ลกู ค้า แสดงความรู้และอธบิ ายเก่ยี วกบั ความรู้ บรรยาย  เก่ยี วกบั ลกู ค้า 9 ความรูเ้ กย่ี วกบั คู่ แสดงความรู้และอธบิ ายเก่ยี วกบั ความรู้ บรรยาย  แขง่ ขนั เกีย่ วกับคู่แข่งขนั 10 คุณสมบตั ิของนักขาย แสดงความรู้และจำแนกเก่ียวกับ บรรยายและบทบาท      คณุ สมบัติของนกั ขาย สมมตุ ิ 11 โอกาสและ แสดงความรแู้ ละประยกุ ตใ์ ช้เกีย่ วกบั บรรยายและสาธติ      ความก้าวหน้าของนกั โอกาสและความกา้ วหน้าของนกั ขาย ขายและเทคโนโลยที ่ี และเทคโนโลยีทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การขาย เกยี่ วข้องกบั การขาย

ช วชิ า การขายเบ้อื งตน้ ตารางวิเคราะหห์ ลกั สตู รเชิงพฤตกิ รรม หน่วยกติ 2 รหัสวิชา 20200-1003 ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธิพิสยั พฤตกิ รรม ความรู้ ความเข้าใจ ชือ่ หน่วย นำไปใ ้ช ิวเคราะ ์ห 1. หลกั การขาย ัสงเคราะห์ ประเ ิมน ่คา ัทกษะพิ ัสย ิจตพิ ัสย รวม ร้อยละ ลำ ัดบความสำ ัคญ จำนวน ่ัชวโมง 6741 7 10 35 11.66 1 6 6 8 28 9.33 2 5 2.แนวคิดทางการขายววิ ฒั นาการ 4 6 4 การขาย 3.หนา้ ทที่ างการขาย 4642 6 8 30 10 2 5 6 8 32 10.66 1 6 4.ประเภทและลักษณะของงาน 5 7 4 2 ขาย 5.ความร้เู ก่ยี วกับตนเอง 444 5 8 25 8.33 3 4 5 8 25 8.33 2 5 6.ความรูเ้ กี่ยวกับกจิ การ 444 5 8 25 8.33 2 5 5 8 25 8.33 2 5 7.ความรู้เก่ยี วกบผลติ ภัณฑ์ 444 5 8 25 8.33 2 5 5 8 25 8.33 3 4 8.ความรเู้ กย่ี วกับลกู ค้า 444 5 8 25 8.33 3 4 9.ความรูเ้ กี่ยวกบั ค่แู ขง่ ขัน 444 10.คณุ สมบัติของนกั ขาย 444 11.โอกาสและความก้าวหนา้ ของ 4 4 4 นกั ขายและเทคโนโลยที ีเ่ กีย่ วขอ้ ง กับการขาย 44 5 34 รวม 47 54 60 90 300 100 54 ปานกลาง ลำดับความสำคญั 21 หมายเหตุ นำ้ หนกั คะแนนความสำคญั มากท่ีสดุ 9-10 มาก 7-8 4-6 น้อย 2-3 น้อยทีส่ ุด 0-1 จำนวนชว่ั โมงสอน = 6

ซ การวัดผลและการประเมินผล เกณฑก์ ารวัดผลประเมินผล 100 คะแนน 1. สัดสว่ นคะแนน (80 :20) 30 คะแนน 1.1 คะแนนระหวา่ งภาค 80 คะแนน ประกอบดว้ ย 50 คะแนน 1.1.1 คะแนนคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 20 คะแนน 1.1.2 คะแนนการประเมินผลตามสภาพจรงิ 1.2 คะแนนปลายภาค 2. การตัดสนิ ผลการเรยี น ใช้แบบอิงเกณฑ์ เกรด 4 คะแนนระหวา่ ง 80-100 คะแนน 75-79 คะแนน เกรด 3.5 คะแนนระหว่าง 70-74 คะแนน 65-69 คะแนน เกรด 3 คะแนนระหวา่ ง 60-64 คะแนน 55-54 คะแนน เกรด 2.5 คะแนนระหว่าง 50-54 คะแนน 0-49 คะแนน เกรด 2 คะแนนระหว่าง เกรด 1.5 คะแนนระหวา่ ง เกรด 1 คะแนนระหว่าง เกรด 0 คะแนนระหวา่ ง

ฒ แผนจัดการเรยี นการสอนเพอื่ ประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รียนอาชวี ศกึ ษา ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ วิชา การขายเบ้อื งตน้ รหัสวิชา 20200-1003 ทฤษฎี 1 ปฎบิ ตั ิ 2 หน่วยกติ 2 รายการประเมิน พฤติกรรมที่แสดงออก พฤตกิ รรม ประจำ ทีจ่ ะวดั หน่วยท่ี 1. มีความรกั ชาติ ศาสนา 1.1 รว่ มกจิ กรรมเขา้ แถว ยืนตรง เคารพธงชาติ  1-11 พระมหากษตั ริย์ รอ้ งเพลงชาติ 1.2 รว่ มกจิ กรรมวนั สำคัญทางศาสนาท่ีตนนับถอื  1-11 1.3 ร่วมกจิ กรรมวันสำคญั ที่เกีย่ วกับการเทิดทนู  1-11 สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ 2. ซ่อื สัตย์ เสยี สละ อดทน 2.1 ประพฤติ ปฏบิ ัติตนตามความเป็นจริงที่แสดง ถงึ การยดึ มน่ั ในความถูกต้อง ยอมรับผลการ  1-11 กระทำของตนเองและผอู้ ่นื 2.2 เสยี สละกำลังกาย ทรพั ย์ สตปิ ัญญา ในการ  1-11 ชว่ ยเหลือผอู้ ื่นและสังคม 2.3 ควบคมุ ตนเองเม่อื ประสบความยากลำบาก  1-11 และไม่กอ่ ให้เกิดความเสียหาย 3. กตญั ญตู อ่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง 3.1 รู้จักบุญคุณพ่อแมผ่ ู้ปกครอง ครูบาอาจารย์  1-11 ครบู าอาจารย์ และผู้มีพระคุณ 3.2 เอาใจใส่ ดูแลชว่ ยเหลอื ภารกิจการงาน  1-11 ปฏิบตั ิตนตามคำสัง่ สอนท่ีถกู ต้องและเหมาะสม 3.3 ตอบแทนบญุ คุณของพอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครู  1-11 บาอาจารย์และผมู้ ีพระคุณ 4. ใฝ่หาความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่า 4.1 แสวงหาความรู้ท้ังทางตรงและทางออ้ ม  1-11 เรยี น ทั้งทางตรงและทางอ้อม 4.2 มุง่ ม่นั ต้ังใจเพยี รพยายามในการศึกษาและ  1-11 ปฏิบตั งิ าน 4.3 แก้ปัญหาและพฒั นาสงิ่ ใหม่ ๆ จนบรรลุผล  1-11 สำเรจ็ 5. รกั ษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย 5.1 เข้ารว่ มโครงการหรอื กิจกรรมทเี่ ป็นไทย  1-11 อันงดงาม 5.2 ภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย  1-11 5.3 อนรุ ักษ์สืบทอดวัฒนธรรมและประเพณไี ทย  1-11 อนั งดงาม

ญ รายการประเมนิ พฤติกรรมที่แสดงออก พฤตกิ รรม ประจำ ที่จะวดั หนว่ ยที่ 6. มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั 6.1 ประพฤติตนตามหลกั ศลี ธรรมอนั ดีงาม 1-11  1-11 ดตี ่อผูอ้ ่ืนเผอ่ื แผแ่ ละแบ่งปนั 6.2 ปฏบิ ตั ิโดยยึดตามกติกาขอ้ ตกลง/กฎ/  1-11 ระเบยี บของสถานศกึ ษา  1-11  1-11 6.3 หวังดี โอบอ้อมอารีช่วยเหลือผูอ้ ่นื ตาม  1-11  1-11 โอกาส  1-11  1-11 6.4 ให้แบง่ ปนั เออื้ เฟ้ือ และชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืน  1-11  1-11 7. เข้าใจเรยี นร้กู ารเปน็ ประชาธปิ ไตย 7.1 เขา้ รว่ มกิจกรรมเกี่ยวกบั ประชาธิปไตย  1-11  อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ท่ี อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข 1-11  ถกู ตอ้ ง 7.2 เคารพสิทธขิ องผูอ้ ่นื 1-11  7.3 ปฏบิ ตั ิตนตามระบอบประชาธิปไตยอนั มี 1-11  พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข 1-11  8. มรี ะเบยี บ วนิ ยั เคารพกฎหมาย 8.1 ตรงตอ่ เวลา 1-11  ผนู้ อ้ ยร้จู กั เคารพผใู้ หญ่ 8.2 ประพฤติตรงตามคำสั่งหรือขอ้ บงั คับของ สถานศึกษา 8.3 เคารพและนอบนอ้ มต่อผใู้ หญ่ 9. มีสติ รู้ตัว รู้คิด รทู้ ำ รู้ 9.1 คดิ ดี พูดดี ทำดี ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของ 9.2 สุภาพ เรยี บร้อย อ่อนนอ้ มถ่อมตน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ฯ ตามสถานภาพและกาลเทศะ 9.3 รอบคอบเหมาะสมกับวยั สถานการณ์และ บทบาทของตนเองตามแนวพระราชดำรสั ฯ 10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลัก 10.1 ใชว้ ัสดถุ ูกตอ้ งพอเพียงและเหมาะสม ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงตาม กบั งาน พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระ 10.2 เกบ็ ออมถนอมใช้ทรัพย์สินส่งิ ของให้เกดิ เจ้าอยู่หัวฯ รู้จกั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่ือยาม ประโยชน์คมุ้ ค่า จำเปน็ มไี ว้พอกนิ พอใช้ ถ้าเหลอื ก็ แจกจา่ ยจำหนา่ ยและพร้อมทจี่ ะขยาย 10.3 ปฏิบตั ิตามที่ได้รบั มอบหมายสำเรจ็ ตาม กจิ การเม่ือมีความพร้อมเมอ่ื มี กำหนดโดยคำนงึ ถึงความปลอดภัยของตนเอง ภูมิคุม้ กันท่ดี ี และผอู้ น่ื 11. มคี วามเข็มแขง็ ทั้งรา่ ยกาย และ 11.1 ดูแล รักษาสุขภาพร่างกายตาม จติ ใจไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือ สุขอนามยั

กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อบาป 11.2 ไมเ่ ก่ยี วขอ้ งกับอบายมุข  1-11  1-11 ตามหลกั ของศาสนา 11.3 ไมน่ ำทรพั ยส์ ิน ของผูอ้ น่ื เป็นของตนเอง  1-11  1-11 11.4 หลีกเล่ยี งแหล่งมั่วสมุ  1-11 12. คำนงึ ถึงผลประโยชนข์ อง 12.1 มีจติ อาสา อุทิศตนเพอื่ ประโยชนต์ อ่ สว่ นรวมและของชาติมากกวา่ สงั คมและส่วนรวม ผลประโยชน์ของตนเอง 12.2 เสียสละความสุขส่วนตน เพอ่ื ทำ ประโยชนแ์ ก่ผู้อน่ื

แผนการจัดการเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 1 โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรูว้ ัฏจักรการเรียนรู้ 5 ข้นั สอนครง้ั ที่ 1 ชื่อหนว่ ย หลักการขาย ชัว่ โมงรวม 1-2 จำนวนช่ัวโมง 2 ชือ่ เรื่อง ความสำคัญของการขายและแนวความคิดทางการตลาด 1. สาระสำคัญ การขายถือเป็นวิถีแห่งชีวิตเพราะเป็นกิจกรรมท่ีบุคคลต้องเก่ียวข้องด้วยในชีวิตประจำวัน เช่น ใน การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างความเข้าใจในหมู่มิตรสหาย การอยู่ในสังคมให้คนอื่นยอมรับ ส่วนการขายในทางธุรกิจเป็นการช่วยเหลือชักจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าหรือบริการท่ีนำเสนอ การขายมี บทบาทหลายประการคือ เป็นการใหบ้ ริการ เป็นการชักจูงใจการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ร่วมมือ การสร้างความพึง พอใจ การขายในระบบธุรกิจเร่ิมจากการแลกเปล่ียนของต่อของ พัฒนาเป็นการแลกเปล่ียนส่ิงของด้วย เงนิ ตราและพัฒนาเป็นการใช้ระระบบเครดิต แต่ทั้ง 3 ระบบกย็ ังใชอ้ ยู่จนถงึ ปจั จุบันน้ี การขายมีความสำคัญ ทางธุรกิจเพราะเป็นแหล่งรายได้และผลกำไร การขายมีความสำคัญต่อเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยเฉพาะอย่าง ยิง่ ในระบบการค้าระหวา่ งประเทศ การขายทำให้สังคมเจริญขน้ึ เพราะมีการผลิตสินค้าทที่ ันสมัยเพอื่ ใข้อำนวย ความสะดวกและยกระดบั มาตรฐานการครองชพี การขายมคี วามสำคัญทุกหนว่ ยงานในสงั คม 2. สมรรถนะประจำหน่วย มีความรแู้ ละเข้าใจความสำคญั ของการขายและแนวความคิดทางการตลาด วิวัฒนาการของการขาย ความหมายของการขาย และหนา้ ท่ที างการตลาด 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1. บอกวิวฒั นาการของการตลาดได้ 2. อธิบายความหมายของการขายได้ 3. อธิบายการตลาดและบอกหน้าทีท่ างการตลาดได้ 3.2 ด้านทักษะ 1. นักเรยี นรคู้ วามหมายของการขายและการตลาด 2. นกั เรยี นรู้ความสำคัญของการขายและการตลาดตอ่ สังคมและเศรษฐกิจ 3. นักเรียนรหู้ นา้ ทขี่ องการขายและการตลาดตอ่ สังคมและเศรษฐกิจ 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ มีความซ่ือสัตยต์ ่อข้อมูล มคี วามสามัคคใี นกล่มุ รักษาความสะอาด และมีความรบั ผดิ ชอบ 4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. ววิ ัฒนาการของการขาย 2. ความหมายของการขาย

- การขายหมายถึงการให้บรกิ าร - การขายหมายถึงการชักจูงใจ - การขายหมายถงึ การตดิ ตอ่ สื่อสาร - การขายหมายถงึ การแกป้ ญั หาและการสร้างความพงึ พอใจ - การขายหมายถึงการใหค้ วามรู้ 3. การตลาดและหนา้ ทที่ างการตลาด - กิจกรรมที่เกี่ยวกบั ตวั สนิ ค้า - กจิ กรรมทเ่ี ก่ียวกับการจดั จำหนา่ ย - กิจกรรมทีเก่ียวกับการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 4. แนวความคดิ ในการทำธุรกิจแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง - ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง - การประยุกต์ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนนิ ธุรกิจ 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ครูช้ีนำให้นักเรียนเห็นถึงความจำเป็นในการซื้อขายท่ีมีความเก่ียวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา ทกุ คน 2. ครูชี้แจงเร่ืองการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยให้นักเรยี นแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ละ 6-7 คน และให้แต่ ละกลุม่ เลอื กหวั หนา้ กลุ่มเพ่อื เปน็ ตวั แทนในการนำเสนอหน้าชัน้ เรยี น 5.2 ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration) (60 นาท)ี 1. ครูบอกวิวฒั นาการขายในแตล่ ะชว่ งเวลาพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ 2. ครซู ักถามนักเรียนถึงความหมายของการขายว่าคืออะไร โดยให้นักเรียนตอบตามความ เข้าใจของตนเองเป็นรายบคุ คล ซ่งึ ผสู้ อนจะสุ่มเรียกช่ือข้ึนมา 5.3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (30 นาที) 3. ครสู รุปความหมายของ “การขาย” ที่ถูกตอ้ ง ใหผ้ ูเ้ รยี นบนั ทึกลงสมุด เพื่อส่งใหค้ รตู รวจ 4. ให้ผู้เรียนที่จัดกลุ่มไว้แล้วแต่ละกลุ่มร่วมอภิปรายกลุ่มย่อยถึงความสำคัญของการตลาด และหน้าท่ีทางการตลาด ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง และการประยุกต์ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดำเนิน ธรุ กิจ โดยสง่ ตัวแทนกกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรียน 5. ครูสรุปประเด็นที่ผู้เรียนอภิปรายเพิ่มเติมในส่วนที่ผู้เรียนยังไม่กล่าวถึง และให้ผู้เรียน บนั ทกึ ลงสมดุ เพอื่ สง่ ให้ครตู รวจ 5.4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาท)ี 1. ครซู กั ถามเพ่ิมเตมิ 5.5 ขน้ั ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาที) 15) นักเรียนทำใบงาน 16) นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 1 โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้วฏั จักรการเรียนรู้ 5 ขัน้ สอนครัง้ ที่ 2 ชอ่ื หนว่ ย หลกั การขาย ชั่วโมงรวม 2-3 จำนวนช่ัวโมง 3 ชอื่ เรือ่ ง การใชห้ ลัก 4 P’s ทางการขาย 6. สอ่ื การเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อส่งิ พมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบกจิ กรรม 3. ใบงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรียน 5. แบบทดสอบหลงั เรียน 6.2 สือ่ โสตทัศน์ (ถา้ มี) PowerPoint สรปุ เน้อื หาการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 1. สาระสำคญั การขายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างยอดขายและเพิ่มกำไรให้แก่ธุรกิจ โดยการนำหลักส่วนประสม ทางการตลาดมาใช้ คือใช้หลัก 4 P’s เข้ามาสร้างความรู้ ความเข้าใจและความเชื่อม่ันของผลิตภัณฑ์ทางการ ขายมากย่ิงขึ้น เราสามารถตรวจสอบประสิทธิผลการโฆษณาการขายสินค้าด้วยเครื่องมือทางขาย โดยการใช้ หลัก 4 P’s ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งโดยการใช้หลัก 4 P’s สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย ไดแ้ ก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจดั จำหนา่ ย และการสง่ เสริมการตลาด 2. สมรรถนะประจำหน่วย แสดงความรู้และตรวจสอบประสิทธิผลการขายสินค้า ด้วยการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย ในการ สรา้ งสอื่ โฆษณาผลติ ภณั ฑ์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ อธิบายวิธีการตรวจสอบประสทิ ธิผลการโฆษณาการขายสินค้าดว้ ยเคร่อื งมือทางขาย โดยการใช้ หลัก 4 P’s ได้แก่ ผลติ ภณั ฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจดั จำหนา่ ย และการสง่ เสรมิ การตลาดได้ 3.2 ด้านทกั ษะ ทดลองการตรวจสอบประสิทธิผลการโฆษณาผลิตภัณฑ์ในการขายสนิ คา้ ดว้ ยเครอ่ื งมือทางขาย โดยการใชห้ ลกั 4 P’s ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย และการสง่ เสริมการตลาดได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มคี วามซือ่ สัตยต์ อ่ ขอ้ มลู มคี วามสามคั คใี นกลุม่ รกั ษาความสะอาด และมีความรับผิดชอบ

4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้ 1. การตรวจสอบการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 2. การตรวจสอบการสรา้ งสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์โดยการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 3. การตรวจสอบการใชผ้ ลิตภัณฑ์ 4. การตรวจสอบการใช้ราคา 5. การตรวจสอบการใชช้ อ่ งทางการจดั จำหนา่ ย 6. การตรวจสอบการใช้การสง่ เสริมการตลาด 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1) ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละ 5 – 6 คน คละนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน นักเรียนใน กลุ่มรว่ มกนั กำหนดหนา้ ทขี่ องสมาชิกใหเ้ หมาะสมกับความสามารถ 2) ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือทบทวนเก่ียวกับการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย เพ่ือ เช่ือมโยงความรู้เดมิ กบั เน้อื หาใหม่ โดยครูยกตวั อย่างผลิตภัณฑ์ให้รว่ มกนั วเิ คราะห์ ด้วยคำถามต่อไปน้ี - ถ้านักเรียนจะซอ้ื สินคา้ ในชีวติ นกั เรยี นคิดสินค้าอะไรทจ่ี ำเปน็ ทส่ี ุดคะ 3) ครูใชค้ ำถามกระต้นุ ให้นกั เรียนรเู้ ปา้ หมายการเรยี น โดยใช้คำถามตอ่ ไปน้ี - นักเรียนจะทราบได้อย่างไรว่าสินค้านั้นๆมีความสำคัญและคุ้มค่ากับที่เราซื้อไป ตามที่ นักเรยี นกลา่ วมา และสนิ คา้ น้ันๆสามารถนำมาทดสอบการขายโดยการใชห้ ลกั 4 P’s ได้หรอื ไม่ - นักเรียนคิดว่า วิธีการทดสอบการสร้างส่ือโฆษณาผลิตภัณฑ์ในการขายสินค้าได้ถูกต้อง จะมีประโยชนต์ อ่ นักเรยี นอย่างไร 5.2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) (60 นาท)ี 4) นักเรียนแตล่ ะคนศกึ ษาใบกจิ กรรมที่ 2.1 เรือ่ งการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 5) ครูตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของนักเรียน ท่ีได้จากการศึกษาใบกิจกรรมก่อนท่ีจะ ปฏิบัตกิ ารทดสอบการขายโดยการใช้หลัก 4 P’s โดยให้นักเรียนรว่ มกันอธิบายวิธีการทดสอบการขายโดยการ ใช้หลัก 4 P’s แต่ละประเภท ดว้ ยคำถามตอ่ ไปนี้ - จากการศึกษาใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่อง การใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย จะต้องใช้วัสดุ อปุ กรณอ์ ะไรบ้าง - มวี ธิ ีการทดสอบอย่างไร - สังเกตผลการทดสอบไดอ้ ย่างไร 6) ครูช้ีแจงแนวทางการปฏิบัติกิจกรรม ข้อควรระวังตามเงื่อนไขท่ีกำหนดในใบกิจกรรม โดยใช้ คำถามตอ่ ไปน้ี - นักเรียนวางแผนแบ่งหน้าท่ีการทำงานภายในกลุ่มอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการ ของสมาชกิ และใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมายทันเวลาทกี่ ำหนด - การปฏิบัติกิจกรรมให้สำเร็จตามท่ีได้รับมอบหมายจากกลุ่มนักเรียนจะต้องปฏิบัติตน อยา่ งไร

- การบันทึกผลการทดลองตามผลการทดลองที่ได้ โดยไม่ลอกผลการทดลองของกลุ่มอื่น จะ สง่ ผลดีอย่างไร 7) ให้นักเรยี นวางแผนการทำงานและร่วมกันอภิปรายถึงการมีสว่ นร่วมภายในกลุ่มที่จะทำให้ งานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายประสบความสำเรจ็ ตามเวลาทีก่ ำหนด 8) นักเรียนทุกกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมการตรวจสอบหา การใช้หลัก 4 P’s ทางการขายมาใช้ใน การโฆษณาผลิตภัณฑ์ในการขายสนิ คา้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการตลาด วัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบ ท่ีนักเรียนเลือกมา โดยครูแนะนำช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา และสังเกตพฤติกรรมการ เรียนรู้ของนักเรยี น 5.3 ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (30 นาที) 9) นักเรียนร่วมกันอภิปรายภายในกลุ่มเกี่ยวกับผลการทดลองที่ได้สรุปผล และบันทึกผลการ ทดลอง 10) สุ่มตวั แทนนักเรียน นำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน จำนวน 4 กลุ่ม กลุ่มละ 5 นาที โดยนักเรียนแต่ละกลุม่ ต้องวางแผนและออกแบบวิธีการนำเสนอในเวลาที่กำหนด 11) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุป โดยใช้คำถามต่อไปน้ี - การใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย มีวิธีการทดสอบอย่างไร และจะสังเกตผลการทดลอง อย่างไร - การสร้างส่อื โฆษณาผลิตภัณฑ์ โดยการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย อยา่ งไร 5.4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาที) 12) ครูซักถามเพิ่มเติมเกี่ยวกบั การใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย จะสามารถนำมาทดสอบในใช้ ชีวิตไดห้ รอื ไมแ่ ละให้ตวั แทนนักเรยี นออกมาสาธติ ให้เพ่อื นดู 13) นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ท่ี 2.1 เรอ่ื งการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 14) นักเรียนศึกษาใบกิจกรรมท่ี 2.2 เร่ืองการสร้างสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์โดยใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 5.5 ข้นั ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาท)ี 15) นักเรยี นทำใบงานท่ี 2.1 เรือ่ งการใชห้ ลกั 4 P’s ทางการขาย 16) นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ชุดท่ี 2 เรอื่ งการใชห้ ลัก 4 P’s ทางการขาย 6. สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื สงิ่ พิมพ์ 1. ใบความรู้ที่ 2.1 เร่อื งการใชห้ ลัก 4 P’s ทางการขาย 2. ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรือ่ งการใช้หลกั 4 P’s ทางการขาย 3. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื งการใช้หลกั 4 P’s ทางการขาย 4. ใบกิจกรรมที่ 2.2 เรื่องการสรา้ งส่ือโฆษณาผลติ ภัณฑ์ การใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 5. แบบทดสอบก่อนเรียน เรอื่ งการใช้หลกั 4 P’s ทางการขาย 6. แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื งการใชห้ ลัก 4 P’s ทางการขาย

6.2 สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี PowerPoint สรปุ เนอ้ื หาการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 6.3 อุปกรณ์การทดลอง ชุดตรวจสอบการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริมการตลาด 7. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวชิ าอืน่ 7.1 การบรู ณาการสะเต็มศึกษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • หลักการขาย • ใชอ้ ินเทอร์เน็ตสบื ค้น • ใ ช้ ก ร ะ บ ว น ก า ร • การคำนวณหลัก 4 • หลักการใช้ 4 P’s ขอ้ มูล ออกแบบเชิงวศิ วกรรม P’s ทางการขาย ทางการขาย • ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ยี 6 ข้ัน ในการออกแบบ • การคำนวณปริมาณ • ทักษะกระบวนการ ออกแบบส่ือโฆษณา ส่ือโฆษณาผลิตภัณฑ์ ของวัสดุ อุปกรณ์ ทางก ารขายและ ผลิตภั ณ ฑ์ โดยใช้ โ ด ย ใช้ ห ลั ก 4 P’s สื่อ ที่ ใช้ ตั วอ ย่าง การสร้างสื่อโฆษณา หลัก 4 P’s ทางการ ทางการขาย เพ่ือใช้ทดลอง ผลิตภัณฑ์ โดยใช้ ขาย 1. ร ะ บุ ปั ญ ห า (ใช้ ส่ื อ • การออกแบบตาราง หลกั 4 P’s ทางการ • ใช้เทคโนโลยีในการ อะไร) เพ่ื อ บั น ทึ ก ผ ล ก า ร ขาย นำเสนอผลงาน 2. รวบรวมข้อมูล (วิธีการ ทดลอง ส่ือ, ส่วนประกอบของ 4 • ก า ร วั ด ป ริ ม า ณ P’s ทางการขาย) วัตถุดิบที่ใช้ในการ 3. อ อ ก แ บ บ วิ ธี ก า ร ทดลอง แก้ปัญหา (ระดมความคิด เพ่ื อ ห าวิธี ก ารคำน ว ณ ปริมาณของวัสดุ อุปกรณ์ ส่ือ ที่ใช้ตัวอย่าง เพ่ือใช้ ทดลองในการการสร้างส่ือ โฆษณา โดยใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย) 4. วางแผนและดำเนินการ แ ก้ ปั ญ ห า (วิ เค ร าะ ห์ ส่วนประกอบของ 4 P’s ในการสร้างส่ือโฆษณ า โดยใช้หลัก 4 P’s ท่ีเลือก และคำนวณการคำนวณ

ปริมาณของวัสดุ อุปกรณ์ สื่อ ท่ีใช้ตัวอย่าง เพื่อใช้ ทดลองในการโฆษณา 5. ท ด ส อ บ แ ล ะ ประเมินผล (นำข้อมูลที่ วิเคราะห์ และคำนวณมา ต ร ว จ ส อ บ ค ว า ม ถู ก ต้ อ ง หรอื ปรึกษาผ้เู ชีย่ วชาญ 6. เสนอผลงานจัดทำสื่อ นำเสนอผลงานหน้าชนั้ 8. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสูก่ ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผ้สู อน ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ต่อไปนี้ 3 หว่ ง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา้ งภูมคิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ เนือ้ หา - เน้ือหาวิธีการทดสอบใช้หลัก 4 P’s - ต้องการให้ผู้เรียนรู้วิธีการทดสอบ - สรปุ เนอื้ หาให้อา่ นเขา้ ใจง่าย - การตรวจสอบโดย ทางการขาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่อง หาการใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย มีภาพประกอบเน้อื หา ใ ช้ ห ลั ก 4 P’s ทางการจัดจำหน่าย และการส่งเสริม ได้แก่ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการ - เรียงเน้ือหาตามลำดับการ ทางการขาย ได้แก่ การตลาดในการสรา้ งสื่อโฆษณาผลิตภณั ฑ์ จัด จ ำห น่ าย แ ล ะก าร ส่ งเส ริม เรยี นรู้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ร าค า สอดคลอ้ งกับสมรรถนะ ตัวชี้วัด เหมาะสม การตลาดในการสร้างส่ือโฆษณา ช่ อ ง ท า ง ก า ร จั ด กบั เวลาทก่ี ำหนดและวยั ผลิตภัณ ฑ์ และนำไป ปรับใช้ใน จำหน่าย และการ ของผเู้ รียน ชีวติ ประจำวัน สง่ เสริมการตลาดใน การสร้างส่ือโฆษณา ผลิตภณั ฑ์ เวลา - กำหนดเวลาในแต่ละกิจกรรมเหมาะสม - จัดการเรียนรู้ได้ครบถ้วนตามท่ี - กำหนดเวลาในแต่ละกิจกรรม 3 ช่ัวโมง กับกิจกรรม และวยั ของผเู้ รียน ออกแบบไว้ ไว้เกินจริงเล็กน้อยเพ่ือรองรับ การเป ลี่ยนแปล งที่อาจ เกิด ระหว่างจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรม - แบ่ งกลุ่มผู้เรียนให้ พอดีกับจำนวน - ต้องการให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรม - แบ่งกลุ่มคละความสามารถ นักเรยี น อยา่ งท่วั ถึงตามความสามารถ ของนักเรยี น - กำหนดกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ - เพื่อต้องการให้ผู้เรียนเกิดการ - เตรียมชุดคำถามให้ พร้อม เวลาทก่ี ำหนด เรียนร้ตู ามเป้าหมายทีก่ ำหนด ตามลำดบั กจิ กรรมการเรียน - ม อ บ ห ม ายภ าร ะงาน แ ล ะชิ้ น งาน - ผู้เรียนนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับ - สังเกตพฤติกรรมและให้ความ เหมาะสมกับความสามารถผู้เรียนและ ภาระงานได้ ชว่ ยเหลอื เมอื่ นกั เรียนมปี ญั หา สอดคลอ้ งกบั เป้าหมายการเรยี นรู้ สอ่ื /อปุ กรณ์ - จำนวนใบ ค วามรู้ ใบ งานแล ะวัสดุ - ต้องการให้ นักเรียนได้ปฏิบัติ - เตรียมสื่ออุปกรณ์ให้พร้อม อุปกรณ์ เหมาะสมกับกิจกรรม และ กิจกรรมได้จริงตามจุดประสงค์การ กอ่ นการจดั กิจกรรม

ปรมิ าณเพยี งพอกบั จำนวนนักเรยี น เรียนรทู้ ก่ี ำหนดไว้ - มีลำดับขั้นตอนการใช้สื่อและ จัดเกบ็ อยา่ งเปน็ ระบบ - มีความชำนาญในการใช้ส่ือ อปุ กรณ์ แหลง่ เรียนร้/ู - ห้องป ฏิบั ติการตลาดเห มาะสมกับ - ต้องการให้นักเรยี นใช้วัสดุอุปกรณ์ - เตรยี มห้องปฏิบัติการให้พร้อม ฐานการเรยี นรู้ กจิ กรรมทีก่ ำหนด ท่มี ีความพร้อมในห้องปฏิบัติการ มา ก่อนการทดลอง ปฏบิ ัตกิ ารทดลองตามตัวชวี้ ัด การประเมินผล - จัดทำแบบประเมินผลงานและประเมิน - ต้องการประเมินผลการเรยี นรู้ตาม -วางแผนการวัด/ประเมินผล พฤติกรรมได้เหมาะสมกับเป้าหมายการ เป้าหมายท่ีกำหนด ตามขน้ั ตอนของกจิ กรรม เรียนรู้ - แ บ บ ป ร ะ เมิ น ผ ล มี ก า ร ตรวจสอบความเที่ยงตรงในการ วดั ตามตัวช้ีวดั เงือ่ นไขความรูท้ ค่ี รตู ้องมกี อ่ นสอน 1. หลัก 4 P’s ทางการขาย 3. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. การใชอ้ ปุ กรณ์ วตั ถุดบิ สือ่ ประกอบ 4. จติ วิทยาในการสอน เงอื่ นไขคุณธรรมของครู 1. มีความรักเมตตาศษิ ย์ 3. มคี วามยตุ ิธรรม 2. มีความรบั ผดิ ชอบ 4. ตรงตอ่ เวลา 8.2 คุณลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี งทเ่ี กิดกบั ผ้เู รยี น พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมิค้มุ กันในตวั ทีด่ ี 1. นักเรียนกำหนดหน้าที่ของสมาชิก 1. นัก เรียน น ำข้อ มูลการ 1. วางแผน ก ารทำงาน กลุ่ มอย่าง ภายในกลุ่มได้เหมาะสมกับศักยภาพของ ทดลองมาวิเคราะห์ได้อย่าง ละเอียดเปน็ ขัน้ ตอน แตล่ ะคน เป็นเหตุเป็นผลเพื่ออธิบาย 2. เตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองได้ 2. นักเรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในการทดลอง สรุปการทดลอง ครบถ้วน และตรงตามกิจกรรมการ ได้เหมาะสมกับกจิ กรรมการทดลอง 2. นักเรียนสามารถข้อมูลมา ทดลอง 3. นักเรียนทดสอบการใช้หลัก 4 P’s วิเคราะห์ ตอบคำถามในชุด 3. ศึกษาวิธีการทดลองให้เข้าใจก่อน ทางก ารขายใน การสร้างสื่อโฆ ษณ า คำถามได้อย่างเป็นเหตุเป็น ทดลอง ผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสมกับวัสดุอุปกรณ์ ผล 4. วางแผนป้องกันอันตรายจากการ สอดคลอ้ งกบั ผลิตภณั ฑ์ทมี่ ีในทอ้ งถ่นิ ทดลอง เง่ือนไขความรู้ 1. การใชห้ ลัก 4 P’s ทางการขายในการสร้างส่อื โฆษณาผลิตภณั ฑ์ 2. การจัดทำรายงานการทดสอบ 3. พื้นฐานวิธีการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ สอ่ื เง่อื นไขคุณธรรม 1. ความสามคั คใี นกลมุ่ 2. ความรบั ผิดชอบ 3. แบง่ ปันและเออ้ื เฟอ้ื เผื่อแผ่

สง่ ผลต่อความสมดลุ ม่ันคง ย่ังยืนใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดลุ และพรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลงในดา้ นตา่ งๆ วตั ถุ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม องคป์ ระกอบ ความรู้ - ความรูใ้ นการใชว้ ัสดุ - มีความรู้ในการจดั แบ่ง - มีความรู้ในการดแู ล - มีความรเู้ กย่ี วกับการใช้ อปุ กรณ์ ส่อื ในการทดสอบ หน้าทภ่ี ายในกลุ่มได้ รกั ษาความสะอาด หลัก 4 P’s ทางการขาย การใช้หลัก 4 P’s ทางการ อย่างเหมาะสม การจดั การขยะอย่าง ในการสร้างส่อื โฆษณา ขายในการสรา้ งสื่อโฆษณา - มคี วามร้ใู นการปฏิบัติ ถกู ต้องของ ผลติ ภัณฑ์ของทอ้ งถิน่ ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกตอ้ ง ตนทีจ่ ะทำงานรว่ มกับ หอ้ งปฏิบัตกิ ารหลงั และประหยดั ผ้อู ื่น ทดลอง ทกั ษะ - มีทักษะในการใช้วัสดุ - ทำงานรว่ มกนั ภายใน - รักษาความสะอาด - ทดสอบหาการใช้หลกั อปุ กรณอ์ ย่างปลอดภยั และ กลุ่มตามทีไ่ ดร้ ับ ของห้องปฏิบตั ิการ 4 P’s ทางการขายใน ประหยัด มอบหมายจนสำเร็จและ หลงั การทดลอง การสร้างสือ่ โฆษณา มคี วามสขุ ผลิตภัณฑ์ท่เี หมาะสม ใน ทอ้ งถิน่ ได้ คา่ นิยม - เห็นความสำคัญของการ - มีความรับผดิ ชอบต่อ - มจี ิตสำนึกในการ - ตระหนักถึงคณุ คา่ ของ ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ในการ การทำงานของกลุ่ม รักษาสภาพแวดลอ้ ม การขายที่มตี อ่ ผลิตภัณฑ์ ทดลองอย่างประหยัดคุ้มค่า - ยอมรบั ความคิดเหน็ ซง่ึ ของหอ้ งปฏบิ ตั ิการ ในท้องถนิ่ กันและกันมคี วาม ให้สะอาดเปน็ เสยี สละอดทน ระเบยี บ 9. การวดั และประเมนิ ผล รายการประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ น การทดสอบก่อน การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น - เรียน จำนวน 10 ขอ้ ก า ร ป ร ะ เ มิ น การสังเกต แบบประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น ไดร้ ะดบั 2 ข้นึ ไป ระหวา่ งเรียน การซักถาม ตั้งคำถามให้ครอบคลุมจุดประสงค์ ตอบคำถามทุกขอ้ การทำแบบฝึกปฏิบัติ แบบฝึกปฏบิ ัติที.่ .......... ได้ระดับ 2 ขน้ึ ไป การประเมินหลัง การทดสอบ แบบทดสอบหลงั เรียน ตอบถกู 5 ข้อขนึ้ ไป เรยี น จำนวน 10 ขอ้ งานที่มอบหมาย มอบหมายให้เสนอ - สามารถเสนอสอื่ โฆษณา สือ่ โฆษณาผลติ ภณั ฑ์ โดย ผลติ ภัณฑ์ โดยใช้หลัก 4 ใช้หลัก 4 P’s ทางการ P’s ทางการขาย ผ่าน ขาย ความเหน็ ชอบจากครทู ี่ ปรกึ ษาภายใน 1 สัปดาห์

10. บนั ทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้นี้เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติ ซึ่งสามารถดำเนนิ การสอนได้ตามแผนอย่างครบถว้ นตามเวลาทีก่ ำหนด 10.2 ผลการเรยี นรู้ของนักเรียน นกั ศกึ ษา นักเรียนสามารถเรียนรู้ และปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างทั่วถึง มีส่วนร่วมทุกคน และสามารถ สรุปผลการทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง ทนั เวลา และนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นกจิ กรรมได้เหมาะสม 10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ นักเรียนสามารถนำความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้ในหน่วยน้ีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และ เชือ่ มโยงกบั วชิ าชพี ได้อยา่ งเหมาะสม ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การสรา้ งสอ่ื โฆษณาผลิตภณั ฑ์ โดยการใชห้ ลกั 4 P’s ทางการขาย ชอื่ กลุม่ ....................................................................... แผนก/ชนั้ ................................................. สมาชิกในกลุ่ม 1. ................................................................................................................. ประธาน 2. ................................................................................................................. รองประธาน 3. ................................................................................................................. สมาชิก 4. ................................................................................................................. สมาชกิ 5. ................................................................................................................. สมาชกิ 5. ................................................................................................................. เลขานุการ คำชแ้ี จง 1. ใหน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มูลเร่ืองการสร้างสื่อโฆษณาผลติ ภณั ฑ์ การใช้หลัก 4 P’s ทางการขาย 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกหลัก 4 P’s มา 1 P นำส่วนประกอบของ P น้ันๆมา (ผลิตภัณฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจดั จำหนา่ ย การส่งเสริมการตลาด) เพ่ือตรวจสอบหาความถกู ต้อง ความเหมาะสมของวสั ดุ อปุ กรณ์ และสอ่ื ตา่ งๆ ของ P น้ันๆ 3. จัดทำสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ โดยเน้น P ที่เลือก มาทำการตรวจสอบหาความถูกต้อง ความ เหมาะสมของวัสดุ อุปกรณ์ และส่อื ตา่ งๆ ของ P นน้ั ๆ เพื่อนำมาเสนอต่อเพ่ือนในชนั้ เรยี น

วนั ที่ เดอื น พ.ศ. ชอ่ื กลุ่ม แผนก/ชน้ั สมาชิกในกลุม่ 1. ประธาน 2. รองประธาน 3. สมาชกิ 4. สมาชกิ 5. สมาชิก 6. เลขานกุ าร

แผนการจดั การเรียนรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 1 โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้วฏั จกั รการเรยี นรู้ 5 ขน้ั ชอ่ื หน่วย หลกั การขาย สอนคร้งั ท่ี 3 ชว่ั โมงรวม 2-3 ช่อื เรือ่ ง ความสำคัญของการขายและแนวความคดิ ทางการตลาด จำนวนช่ัวโมง 3 1. สาระสำคัญ การขายถือเป็นวิถีแห่งชีวิตเพราะเป็นกิจกรรมที่บุคคลต้องเก่ียวข้องด้วยในชีวิตประจำวัน เช่น ใน การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างความเข้าใจในหมู่มิตรสหาย การอยู่ในสังคมให้คนอ่ืนยอมรับ ส่วนการขายในทางธุรกิจเป็นการช่วยเหลือชักจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าหรือบริการท่ีนำเสนอ การขายมี บทบาทหลายประการคือ เป็นการให้บริการ เป็นการชักจูงใจการให้ความช่วยเหลอื รว่ มมือ การสร้างความพึง พอใจ การขายในระบบธุรกิจเร่ิมจากการแลกเปลี่ยนของต่อของ พัฒนาเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วย เงินตราและพัฒนาเป็นการใช้ระระบบเครดิต แต่ทั้ง 3 ระบบก็ยังใช้อยจู่ นถงึ ปัจจบุ ันน้ี การขายมีความสำคัญ ทางธุรกิจเพราะเป็นแหลง่ รายได้และผลกำไร การขายมีความสำคัญต่อเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในระบบการคา้ ระหวา่ งประเทศ การขายทำให้สังคมเจรญิ ขึ้นเพราะมีการผลติ สนิ ค้าทที่ ันสมัยเพื่อใข้อำนวย ความสะดวกและยกระดับมาตรฐานการครองชพี การขายมคี วามสำคญั ทุกหน่วยงานในสงั คม 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. นกั เรยี นรคู้ วามหมายของการขายและการตลาด 2. นกั เรียนรคู้ วามสำคัญของการขายและการตลาดตอ่ สังคมและเศรษฐกิจ 3. นกั เรียนรู้หน้าทีข่ องการขายและการตลาดต่อสงั คมและเศรษฐกจิ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1. บอกววิ ัฒนาการของการตลาดได้ 2. อธิบายความหมายของการขายได้ 3. อธิบายการตลาดและบอกหนา้ ทที่ างการตลาดได้ 3.2 ดา้ นทักษะ มคี วามรู้และเขา้ ใจความสำคัญของการขายและแนวความคิดทางการตลาด วิวัฒนาการของการ ขาย ความหมายของการขาย และหนา้ ที่ทางการตลาด 3.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มคี วามซือ่ สตั ยต์ ่อขอ้ มลู มคี วามสามคั คใี นกลุ่ม รักษาความสะอาด และมีความรับผดิ ชอบ 4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ 5. วิวฒั นาการของการขาย 6. ความหมายของการขาย

- การขายหมายถงึ การให้บรกิ าร - การขายหมายถงึ การชกั จงู ใจ - การขายหมายถึงการตดิ ตอ่ สื่อสาร - การขายหมายถึงการแกป้ ญั หาและการสรา้ งความพึงพอใจ - การขายหมายถงึ การใหค้ วามรู้ 7. การตลาดและหน้าทท่ี างการตลาด - กจิ กรรมทีเ่ กีย่ วกับตวั สนิ ค้า - กิจกรรมทเ่ี กีย่ วกับการจดั จำหนา่ ย - กจิ กรรมทีเกย่ี วกับการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 8. แนวความคิดในการทำธรุ กจิ แบบเศรษฐกิจพอเพียง - ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - การประยุกต์ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนนิ ธุรกิจ 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 5.1 ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (20 นาท)ี 3. ครูช้ีนำให้นักเรียนเห็นถึงความจำเป็นในการซ้ือขายท่ีมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา ทุกคน 4. ครูช้ีแจงเร่ืองการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ โดยให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ ละ 6-7 คน และให้แต่ ละกลุ่มเลือกหวั หนา้ กลุม่ เพือ่ เป็นตวั แทนในการนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น 5.2 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาท)ี ครูบอกววิ ฒั นาการขายในแต่ละช่วงเวลาพรอ้ มยกตัวอย่างประกอบ 1. ครซู ักถามนกั เรยี นถึงความหมายของการขายว่าคืออะไร โดยใหน้ กั เรียนตอบตามความเข้าใจของ ตนเองเปน็ รายบุคคล ซงึ่ ผู้สอนจะสมุ่ เรยี กชื่อข้ึนมา 2. ครสู รปุ ความหมายของ “การขาย” ทถี่ กู ต้อง ให้ผู้เรยี นบันทกึ ลงสมดุ เพ่ือส่งใหค้ รตู รวจ 5.3 ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (30 นาท)ี 1. ให้ผู้เรียนท่ีจัดกลุ่มไว้แล้วแต่ละกลุ่มรว่ มอภปิ รายกลุ่มย่อยถึงความสำคญั ของการตลาด และ หนา้ ที่ทางการตลาด ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการประยุกต์ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดำเนนิ ธรุ กิจ โดยสง่ ตวั แทนกกลมุ่ ออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 2. ครูสรุปประเด็นท่ีผู้เรียนอภิปรายเพ่ิมเติมในส่วนที่ผู้เรียนยังไมก่ ล่าวถึง และให้ผู้เรียนบันทึก ลงสมุดเพ่อื ส่งให้ครตู รวจ 5.5 ขั้นประเมินผล (Evaluation) (30 นาที) 15) นักเรยี นทำใบงาน 16) นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน

6. ส่อื การเรยี นร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น 5. แบบทดสอบหลงั เรียน 6.2 ส่อื โสตทัศน์ (ถา้ มี) PowerPoint

แผนการจดั การเรยี นร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 2 โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้วฏั จกั รการเรียนรู้ 5 ขนั้ สอนคร้งั ที่ 4 ชอื่ หนว่ ย แนวคิดทางการขายววิ ฒั นาการการขาย ชัว่ โมงรวม 1-2 จำนวนชว่ั โมง 2 ชอ่ื เรือ่ ง ประเภทและลักษณะของงานขาย 1. สาระสำคัญ งานขายเปน็ หัวใจของการดำเนนิ กิจการด้านธุรกิจ ผู้ท่ีประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายจะต้องรู้จัก ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ท่ีจะดำเนินกิจกรรมด้านการขายให้ประสบผลสำเร็จ โดยการจูงใจให้ลูกค้าสนใจและ ตัดสินใจซ้ือสินค้าแต่เนื่องจากสินค้าและบริการที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันมีหลากหลายประเภท งานขายสินค้า และบริการจงึ มีวิธีการแตกต่างกันไปตามชนิดและประเภทของสนิ คา้ ขึน้ อยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของพนักงานขายแต่ละ คนจะสรรค์สร้างแนวทางหรอื วิธีการมาเสนอขายใหป้ ระสบความสำเร็จ 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. นักเรยี นรูค้ วามแตกต่างของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” 2. นกั เรียนรูแ้ ละเข้าใจงานขายแต่ละประเภท 3. นกั เรียนรู้ชอ่ งทางการจำหนา่ ยแต่ละชอ่ งทาง 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1. แยกความแตกต่างของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ได้ 2. บอกประเภทของงานขายได้ 3. อธิบายชอ่ งทางการจำหนา่ ยได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ มีนักเรียนรู้และเข้าใจความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” ประเภทของงานขาย และช่องทางการจำหนา่ ยได้ถูกตอ้ ง 3.3 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ มีความซ่อื สัตยต์ ่อข้อมลู มคี วามสามัคคีในกลุ่ม รกั ษาความสะอาด และมคี วามรบั ผิดชอบ 4. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของ”พนกั งานขาย” และ “งานขาย” “พนักงานขาย” หมายถงึ ผู้ท่ีมีหนา้ ที่ในการขายสินค้าหรือบรกิ ารใหล้ ูกคา้ หรอื ผูท้ ี่ตอ้ งการสินคา้

“งานขาย” หมายถงึ งานท่ีเกดิ ขน้ึ ในกิจกรรมการขายและต้องการพนกั งานขายท่ีมีคณุ สมบัติแตกตา่ งกันไปตาม ชนดิ และประเภทของสนิ คา้ ทีท่ ำการขาย 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ผสู้ อนชี้นำให้ผู้เรยี นเห็นความสำคญั ของพนกั งานขายที่มตี อ่ การดำเนินชีวติ และสังคมของบคุ คล ในชวี ิตประจำวัน 2. ผู้สอนช้ีแจงเร่ืองการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนจัดเป็นกลุ่ม ๆละ 4-5 คน และให้เลือก ประธานกลุ่ม เลขากลมุ่ เพือ่ อภิปรายกลุ่มย่อย 5.2 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาท)ี 1. ให้ผู้เรียนที่จัดกลุม่ ไว้แล้วอภิปรายกลุม่ ย่อยหาความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” พร้อมทงั้ เปรยี บเทยี บความแตกต่าง เพือ่ ออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 2. หลังจากที่แต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าช้ันเรียนแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปล่ียน เรียนรู้ และซกั ถาม ข้อข้องใจซึ่งกันและกัน 5.3 ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (30 นาที) 1. ผูส้ อนสรปุ ความหมาย “พนักงานขาย” และ “งานขาย” จากการนำเสนอของผู้เรียนและให้ ผู้เรยี นแต่ละกล่มุ ไปศึกษาประเภทของงานขายตามทกี่ ลมุ่ สนใจ 2. ให้ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนองานขายประเภทท่ีแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นควา้ มาให้เพื่อน ๆ ฟังหน้าช้นั เรียนและเปิดโอกาสใหซ้ กั -ถามแลกเปลย่ี นเรยี นรูซ้ ึ่งกันและกนั 3. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมโดยแยกประเภทของงานขายบนกระดานดำพร้อมทั้งนำเสนอ ความหมายของชอ่ งทางการจำหนา่ ยหน้าชน้ั เรียน 5.5 ขน้ั ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาท)ี 1) นักเรียนทำใบงาน 2) นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 6. สื่อการเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สอ่ื ส่ิงพิมพ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรียน 5. แบบทดสอบหลงั เรยี น 6.2 สอื่ โสตทัศน์ (ถ้ามี) PowerPoint

แผนการจัดการเรยี นรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ น่ 2 โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรวู้ ัฏจกั รการเรียนรู้ 5 ขน้ั สอนครงั้ ท่ี 5 ช่ือหน่วย แนวคิดทางการขายววิ ฒั นาการการขาย ชว่ั โมงรวม 2-3 จำนวนชวั่ โมง 3 ชอื่ เรือ่ ง ประเภทและลกั ษณะของงานขาย 1. สาระสำคัญ งานขายเป็นหัวใจของการดำเนินกิจการด้านธุรกิจ ผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายจะต้องรู้จัก ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ท่ีจะดำเนินกิจกรรมด้านการขายให้ประสบผลสำเร็จ โดยการจูงใจให้ลูกค้าสนใจและ ตัดสินใจซื้อสินค้าแต่เน่ืองจากสินค้าและบริการท่ีมีอยู่ในสังคมปัจจุบันมีหลากหลายประเภท งานขายสินค้า และบริการจงึ มวี ธิ กี ารแตกต่างกันไปตามชนิดและประเภทของสนิ ค้าขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพนิ ิจของพนักงานขายแตล่ ะ คนจะสรรค์สรา้ งแนวทางหรือวธิ ีการมาเสนอขายใหป้ ระสบความสำเร็จ 2. สมรรถนะประจำหน่วย นกั เรียนรูค้ วามแตกตา่ งของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” นักเรยี นรู้และเข้าใจงานขายแต่ละประเภท นกั เรียนร้ชู อ่ งทางการจำหนา่ ยแตล่ ะช่องทาง 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ แยกความแตกตา่ งของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ได้ บอกประเภทของงานขายได้ อธบิ ายช่องทางการจำหน่ายได้ 3.2 ด้านทกั ษะ มีนักเรียนรู้และเข้าใจความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” ประเภทของงานขาย และช่องทางการจำหน่ายได้ถกู ตอ้ ง 3.3 คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มีความซื่อสตั ย์ต่อข้อมูล มคี วามสามคั คใี นกลมุ่ รักษาความสะอาด และมีความรับผดิ ชอบ 4. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้ 2. ประเภทของงานขาย - งานขายที่แบง่ ตามลักษณะงานขาย - งานขายทใ่ี ช้พนักงานขาย (Personal Selling) - งานขายทไ่ี มใ่ ช้พนกั งานขาย ( Non – Personal Selling)

- งานขายอตุ สาหกรรม (Industrial Selling) - พนกั งานขายอุตสาหกรรมทว่ั ไป (The General Industrial Salesman) - วศิ วกรขาย (The Sales Engineer) - พนกั งานขายบรกิ าร The Service Salesman) - งานขายสง่ (Wholesale Selling) - พนักงานขายบุกเบกิ ( The Pioneer Salesman) - พนักงานขายบรกิ ารพ่อค้า (The Dealer Service Salesman) - พนกั งานขายแก่พ่อค้า (The Jobber Salesman) - พนักงานขายรายละเอียด (The Detail Salesman) - งานขายปลีก (Retail Selling) - พนักงานขายหน้าร้าน (The Store Salesman) - พนกั งานขายสนิ คา้ พิเศษ (The Specialty Salesman) - พนักงานขายตามบา้ น (The Door to Door Salesman) - พนกั งานขายตามเส้นทาง (The Route Salesman) 3. ความหมายของช่องทางการจำหนา่ ย หมายถงึ ช่องทางหรือเส้นทางท่ีสินค้าจะเคล่ือนย้ายผ่านจากมอื ผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย (Ultimate consumer) หรือผใู้ ช้ทางอุตสาหกรรม (Industrial User) โดยอาจเป็นการผา่ นโดยตรงจากผู้ผลิต ไปยังผบู้ รโิ ภค หรอื มีตัวกลางอน่ื ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 3. ผ้สู อนช้ีนำให้ผู้เรยี นเหน็ ความสำคัญของพนกั งานขายท่ีมีตอ่ การดำเนินชวี ติ และสังคมของบคุ คล ในชวี ติ ประจำวัน 4. ผู้สอนชี้แจงเร่ืองการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนจัดเป็นกลุ่ม ๆละ 4-5 คน และให้เลือก ประธานกลุ่ม เลขากลุ่ม เพ่ืออภิปรายกลุม่ ย่อย 5.2 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาที) 1. ให้ผู้เรียนท่ีจัดกลุ่มไว้แล้วอภิปรายกลุ่มย่อยหาความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งาน ขาย” พรอ้ มทั้งเปรยี บเทียบความแตกตา่ ง เพือ่ ออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน 2. หลังจากที่แต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปล่ียน เรียนรู้และซักถาม ข้อข้องใจซึง่ กันและกนั

5.3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (30 นาท)ี 1. ผสู้ อนสรปุ ความหมาย “พนักงานขาย” และ “งานขาย” จากการนำเสนอของผู้เรียนและให้ ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไปศึกษาประเภทของงานขายตามทีก่ ล่มุ สนใจ 2. ให้ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนองานขายประเภทท่ีแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นควา้ มาให้เพื่อน ๆ ฟังหนา้ ชน้ั เรยี นและเปิดโอกาสใหซ้ กั -ถามแลกเปลยี่ นเรยี นร้ซู ึง่ กันและกัน 3. ผู้สอนอธิบายเพ่ิมเติมโดยแยกประเภทของงานขายบนกระดานดำพร้อมทั้งนำเสนอ ความหมายของชอ่ งทางการจำหน่ายหน้าชัน้ เรยี น 5.5 ขัน้ ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาท)ี 1) นักเรียนทำใบงาน 2) นกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน 6. ส่อื การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สอื่ ส่งิ พมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น 5. แบบทดสอบหลังเรยี น 6.2 สื่อโสตทศั น์ (ถ้ามี) PowerPoint

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรวู้ ัฏจักรการเรียนรู้ 5 ข้นั สอนคร้งั ท่ี 6 ชื่อหน่วย หนา้ ท่ีทางการขาย ช่ัวโมงรวม 1-2 จำนวนช่วั โมง 2 ชอื่ เรือ่ ง หน้าทท่ี างการขาย 1. สาระสำคญั หน้าทีท่ างการขายถือเป็นวิถีแห่งชีวติ เพราะเป็นกิจกรรมทบ่ี ุคคลต้องเก่ียวข้องด้วยในชวี ติ ประจำวัน เช่น ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างความเข้าใจในหมู่มิตรสหาย การอยู่ในสังคมให้คนอ่ืน ยอมรับ ส่วนการขายในทางธุรกิจเป็นการช่วยเหลือชกั จูงใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าหรือบริการที่นำเสนอ การ ขายมีบทบาทหลายประการคือ เป็นการให้บริการ เป็นการชักจูงใจการให้ความช่วยเหลือร่วมมือ การสร้าง ความพึงพอใจ การขายในระบบธุรกิจเริ่มจากการแลกเปล่ียนของต่อของ พัฒนาเป็นการแลกเปลี่ยนส่ิงของ ด้วยเงินตราและพัฒนาเป็นการใช้ระระบบเครดิต แต่ทั้ง 3 ระบบก็ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบันน้ี การขายมี ความสำคัญทางธุรกิจเพราะเป็นแหล่งรายได้และผลกำไร การขายมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในระบบการค้าระหว่างประเทศ การขายทำให้สังคมเจริญข้ึนเพราะมีการผลิตสินค้าที่ ทนั สมัยเพือ่ ใช้อำนวยความสะดวกและยกระดับมาตรฐานการครองชพี การขายมีความสำคัญทุกหน่วยงานใน สังคม 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย นกั เรียนรู้หนา้ ทีท่ างการขาย นกั เรยี นรู้และเขา้ ใจงานขายแต่ละประเภท 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ รู้บทบาทหนา้ ทีท่ างการขายได้ เข้าใจงานขายแต่ละประเภทได้ 3.2 ดา้ นทักษะ มนี กั เรยี นรแู้ ละเขา้ ใจหน้าท่ีทางการขาย ประเภทของงานขายได้ถูกตอ้ ง 3.3 คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ มคี วามซ่ือสตั ยต์ ่อข้อมลู มคี วามสามคั คใี นกลมุ่ รักษาความสะอาด และมีความรับผดิ ชอบ 4. เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ - ความหมายและความสำคัญของการขาย - หลักพน้ื ฐานของการขาย

- แนวคิดในการทำธุรกิจแบบเศรษฐกจิ พอเพียง - หนา้ ทขี่ องการขาย - หนา้ ทข่ี องการตลาด - ความสัมพันธ์ระหว่างการขายและการตลาด 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ครูเล่าเร่ืองการขายในอดีตให้นักเรียนฟัง ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เพื่อเปรียบเทียบกับ การขายในปัจจบุ ันซ่งึ มีการเปลย่ี นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ 2. นักเรียนยกตัวอย่างการขายในธุรกิจแต่ละประเภทตามขนาดของผู้ประกอบการ ซ่ึงมีความ จำเป็นและสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลในสังคมท่ีพัฒนาไปตามยุคสมัย พร้อมกับการขับเคล่ือน ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ 5.2 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาที) ครูกล่าวถงึ การตลาดในปัจจุบนั ซ่ึงเป็นกจิ กรรมของระบบการดำเนินงานทางธุรกิจท้ังหมด ท่ีเก่ียวขอ้ งกับการ วางแผน การกำหนดราคา การจัดจำหน่ายสินคา้ หรือบรกิ าร เพ่ือให้ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าท้ังใน ปัจจบุ นั และผทู้ ่คี าดว่าจะเปน็ ลกู ค้าในอนาคต 1. ให้นักเรยี นเลา่ ประสบการณ์เกยี่ วกับการตลาดตามความเข้าใจ ซ่ึงนักเรียนได้พบเหน็ กิจกรรม การตลาดท่ัวไปของการดำเนินธุรกิจ ท่ีมีขั้นตอนและมีการวางแผนเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพ่ือตอบสนอง ความจำเปน็ และความต้องการของผบู้ ริโภค โดยอาศัยกระบวนการของการแลกเปลี่ยน 2. ครูผู้สอนใชเ้ ทคนิคการสอนโดยใช้การบรรยาย (Lecture) เพ่ือช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ ตามวัตถุประสงค์ท่ีกำหนด โดยการพูด บอก เล่า อธิบาย ในสิ่งท่ีต้องการสอนแก่ผเู้ รียน ให้ผเู้ รียนซักถาม แล้ว ประเมนิ การเรยี นรูข้ องผู้เรียนด้วยวธิ ใี ดวิธหี น่งึ ซ่ึงมอี งคป์ ระกอบสำคัญทข่ี าดไม่ไดข้ องวธิ สี อน ได้แก่ 3. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม กลุ่มละ 4-5 คน โดยแตล่ ะกลุ่มหาบทความในนิตยสาร หรอื สอ่ื สิ่งพมิ พธ์ ุรกจิ มากลุม่ ละ 2 บทความ ดงั น้ี 3.1 บทความแนวคดิ เกย่ี วกับการขาย “Selling Concept” 3.2 บทความแนวคิดเก่ียวกบั การตลาด “Marketing Concept’ 5.3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (30 นาที) ครูอธบิ ายและใหค้ ำแนะนำเพื่อแกไ้ ขขอ้ ท่ไี มถ่ ูกตอ้ ง หรอื ใหน้ ักเรียนอภิปรายซกั ถามข้อสงสยั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นำบทความทหี่ ามาไดน้ นั้ นำเสนอหน้าช้นั เรียน ตามสาระสำคญั ดงั น้ี 1. บทความนัน้ เก่ยี วกบั แนวคิดการขายอย่างไรบา้ ง 2. บทความนั้นเกี่ยวกับแนวคิดการตลาดอย่างไรบ้าง ประธานกลุ่มสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงาน กลมุ่ จดบนั ทกึ คะแนน

5.4 ขัน้ ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาท)ี 1) นกั เรยี นทำใบงาน 2) นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 6. สื่อการเรียนรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น 5. แบบทดสอบหลงั เรียน 6.2 ส่อื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี PowerPoint

แผนการจดั การเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้วัฏจกั รการเรียนรู้ 5 ขนั้ สอนครง้ั ท่ี 7 ชอื่ หนว่ ย หน้าทีท่ างการขาย ชว่ั โมงรวม 2-3 จำนวนชวั่ โมง 3 ชื่อเรือ่ ง หนา้ ทท่ี างการขาย 1. สาระสำคญั หน้าที่ทางการขายถือเป็นวิถีแห่งชีวติ เพราะเป็นกิจกรรมทีบ่ ุคคลต้องเก่ยี วข้องด้วยในชีวติ ประจำวัน เช่น ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างความเข้าใจในหมู่มิตรสหาย การอยู่ในสังคมให้คนอ่ืน ยอมรับ ส่วนการขายในทางธรุ กิจเป็นการช่วยเหลือชักจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าหรือบริการท่ีนำเสนอ การ ขายมีบทบาทหลายประการคือ เป็นการให้บริการ เป็นการชักจูงใจการให้ความช่วยเหลือร่วมมือ การสร้าง ความพึงพอใจ การขายในระบบธรุ กิจเร่ิมจากการแลกเปล่ียนของต่อของ พัฒนาเป็นการแลกเปลี่ยนส่ิงของ ด้วยเงินตราและพัฒนาเป็นการใช้ระระบบเครดิต แต่ทั้ง 3 ระบบก็ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบันน้ี การขายมี ความสำคัญทางธุรกิจเพราะเป็นแหล่งรายได้และผลกำไร การขายมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการค้าระหว่างประเทศ การขายทำให้สังคมเจริญขึ้นเพราะมีการผลิตสินค้าที่ ทนั สมัยเพ่อื ใช้อำนวยความสะดวกและยกระดับมาตรฐานการครองชพี การขายมีความสำคัญทุกหน่วยงานใน สงั คม 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย นกั เรียนรู้หนา้ ท่ีทางการขาย นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจงานขายแตล่ ะประเภท 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ รูบ้ ทบาทหนา้ ทีท่ างการขายได้ เขา้ ใจงานขายแต่ละประเภทได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ มนี กั เรียนรู้และเข้าใจหนา้ ทที่ างการขาย ประเภทของงานขายไดถ้ ูกต้อง 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ มคี วามซ่อื สัตย์ตอ่ ขอ้ มลู มคี วามสามัคคีในกลุ่ม รกั ษาความสะอาด และมีความรบั ผดิ ชอบ

4. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ - ความหมายและความสำคัญของการขาย - หลกั พ้นื ฐานของการขาย - แนวคดิ ในการทำธุรกจิ แบบเศรษฐกิจพอเพียง - หน้าทขี่ องการขาย - หน้าทีข่ องการตลาด - ความสัมพนั ธ์ระหว่างการขายและการตลาด 5. กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ครูเล่าเรื่องการขายในอดีตให้นักเรียนฟัง ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เพ่ือเปรียบเทียบกับ การขายในปจั จบุ ันซง่ึ มีการเปล่ียนแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว 2. นักเรียนยกตัวอย่างการขายในธุรกิจแต่ละประเภทตามขนาดของผู้ประกอบการ ซ่ึงมีความ จำเป็นและสำคัญตอ่ การดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลในสังคมท่ีพัฒนาไปตามยุคสมัย พร้อมกับการขับเคล่ือน ระบบเศรษฐกิจของประเทศ 5.2 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาที) ครูกล่าวถงึ การตลาดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกจิ กรรมของระบบการดำเนินงานทางธุรกิจทั้งหมด ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการ วางแผน การกำหนดราคา การจัดจำหนา่ ยสินคา้ หรือบริการ เพ่ือให้ตอบสนองความต้องการให้กบั ลกู ค้าท้ังใน ปจั จบุ ัน และผทู้ ่ีคาดวา่ จะเปน็ ลูกคา้ ในอนาคต 1. ให้นกั เรยี นเล่าประสบการณ์เกยี่ วกับการตลาดตามความเข้าใจ ซ่ึงนักเรียนได้พบเหน็ กจิ กรรม การตลาดทั่วไปของการดำเนินธุรกิจ ท่ีมีขั้นตอนและมีการวางแผนเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพ่ือตอบสนอง ความจำเปน็ และความตอ้ งการของผูบ้ ริโภค โดยอาศัยกระบวนการของการแลกเปล่ียน 2. ครูผ้สู อนใชเ้ ทคนิคการสอนโดยใช้การบรรยาย (Lecture) เพ่ือช่วยให้นักเรียนเกดิ การเรียนรู้ ตามวตั ถุประสงคท์ ี่กำหนด โดยการพูด บอก เล่า อธบิ าย ในสิ่งทต่ี ้องการสอนแก่ผเู้ รียน ให้ผ้เู รียนซักถาม แล้ว ประเมนิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี นด้วยวิธีใดวิธหี น่งึ ซึ่งมีองค์ประกอบสำคญั ทีข่ าดไมไ่ ด้ของวิธีสอน ไดแ้ ก่ 3. ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม กลุ่มละ 4-5 คน โดยแต่ละกลุ่มหาบทความในนิตยสาร หรือสือ่ ส่ิงพมิ พธ์ ุรกิจมากลุ่มละ 2 บทความ ดังน้ี 3.1 บทความแนวคดิ เก่ียวกับการขาย “Selling Concept” 3.2 บทความแนวคิดเกี่ยวกับการตลาด “Marketing Concept’ 5.3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (30 นาที) ครอู ธบิ ายและให้คำแนะนำเพือ่ แกไ้ ขขอ้ ท่ไี มถ่ ูกตอ้ ง หรอื ให้นกั เรยี นอภปิ รายซกั ถามขอ้ สงสัย ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำบทความทห่ี ามาได้นั้น นำเสนอหน้าช้ันเรยี น ตามสาระสำคัญดังน้ี

1. บทความนัน้ เกีย่ วกับแนวคดิ การขายอยา่ งไรบา้ ง 2. บทความนั้นเก่ียวกับแนวคิดการตลาดอย่างไรบ้าง ประธานกลุ่มสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ าน กลุ่มจดบันทึกคะแนน 5.4 ขนั้ ประเมินผล (Evaluation) (30 นาที) 1) นกั เรียนทำใบงาน 2) นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 6. ส่ือการเรียนรู/้ แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรียน 5. แบบทดสอบหลงั เรยี น 6.2 สื่อโสตทัศน์ (ถา้ ม)ี PowerPoint

แผนการจัดการเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4 โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรูว้ ฏั จกั รการเรยี นรู้ 5 ขน้ั สอนครัง้ ท่ี 8 ชอื่ หนว่ ย ประเภทและลักษณะของงานขาย ชัว่ โมงรวม 1-2 จำนวนชั่วโมง 2 ชือ่ เรอื่ ง ประเภทและลกั ษณะของงานขาย 1. สาระสำคญั งานขายเป็นหัวใจของการดำเนนิ กิจการด้านธุรกิจ ผู้ท่ีประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายจะต้องรู้จัก ใช้ท้ังศาสตร์และศิลป์ท่ีจะดำเนินกิจกรรมด้านการขายให้ประสบผลสำเร็จ โดยการจูงใจให้ลูกค้าสนใจและ ตัดสินใจซื้อสินค้าแต่เน่ืองจากสินค้าและบริการท่ีมีอยู่ในสังคมปัจจุบันมีหลากหลายประเภท งานขายสินค้า และบริการจึงมวี ธิ ีการแตกต่างกนั ไปตามชนิดและประเภทของสนิ คา้ ขน้ึ อยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของพนกั งานขายแต่ละ คนจะสรรคส์ รา้ งแนวทางหรือวธิ กี ารมาเสนอขายใหป้ ระสบความสำเรจ็ สังคม 2. สมรรถนะประจำหน่วย 1. นักเรียนรคู้ วามแตกตา่ งของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” 2. นักเรยี นร้แู ละเขา้ ใจงานขายแตล่ ะประเภท 3. นักเรียนรู้ชอ่ งทางการจำหน่ายแตล่ ะช่องทาง 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 1. แยกความแตกตา่ งของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ได้ 2. บอกประเภทของงานขายได้ 3. อธบิ ายชอ่ งทางการจำหนา่ ยได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ นักเรยี นรู้และเข้าใจความหมายของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ประเภทของงานขาย และ ช่องทางการจำหนา่ ยได้ถูกตอ้ ง 3.3 คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มีความซื่อสัตยต์ อ่ ข้อมูล มคี วามสามัคคีในกล่มุ รักษาความสะอาด และมคี วามรับผดิ ชอบ 4. เนอื้ หาสาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของ”พนักงานขาย” และ “งานขาย” “พนกั งานขาย” หมายถงึ ผูท้ ม่ี หี นา้ ทใี่ นการขายสนิ ค้าหรอื บริการใหล้ กู ค้าหรือผู้ที่ต้องการสนิ ค้า “งานขาย” หมายถงึ งานทเ่ี กดิ ขึน้ ในกิจกรรมการขายและตอ้ งการพนักงานขายที่มคี ณุ สมบัตแิ ตกตา่ งกันไปตาม ชนิดและประเภทของสนิ ค้าทท่ี ำการขาย

2. ประเภทของงานขาย - งานขายท่แี บง่ ตามลักษณะงานขาย - งานขายทีใ่ ชพ้ นักงานขาย (Personal Selling) - งานขายท่ีไม่ใช้พนกั งานขาย ( Non – Personal Selling) - งานขายอตุ สาหกร (Industrial Selling) - พนักงานขายอุตสาหกรท่วั ไป (The General Industrial Salesman) - วศิ วกรขาย (The Sales Engineer) - พนักงานขายบรกิ าร The Service Salesman) - งานขายส่ง (Wholesale Selling) - พนักงานขายบุกเบิก ( The Pioneer Salesman) - พนักงานขายบริการพอ่ ค้า (The Dealer Service Salesman) - พนกั งานขายแก่พอ่ คา้ (The Jobber Salesman) - พนกั งานขายรายละเอียด (The Detail Salesman) - งานขายปลกี (Retail Selling) - พนักงานขายหนา้ รา้ น (The Store Salesman) - พนกั งานขายสนิ คา้ พิเศษ (The Specialty Salesman) - พนกั งานขายตามบ้าน (The Door to Door Salesman) - พนกั งานขายตามเสน้ ทาง (The Route Salesman) 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 5.1 ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ผู้สอนชี้นำให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของพนักงานขายที่มีต่อการดำเนินชีวิต และสังคมของ บคุ คลในชวี ติ ประจำวัน 2. ผู้สอนชี้แจงเร่อื งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยให้ผู้เรียนจัดเป็นกลมุ่ ๆละ 4-5 คน และให้เลือก ประธานกลมุ่ เลขากลมุ่ เพอ่ื อภิปรายกล่มุ ย่อย 5.2 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาท)ี 1. ให้ผเู้ รียนที่จัดกลุม่ ไว้แล้วอภิปรายกลุ่มยอ่ ยหาความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” พร้อมท้ังเปรยี บเทียบความแตกต่าง เพอ่ื ออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น 2. หลังจากท่ีแต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปล่ียน เรียนรู้ และซักถาม ข้อขอ้ งใจซึง่ กนั และกัน 3. ผู้สอนสรุปความหมาย “พนักงานขาย” และ “งานขาย” จากการนำเสนอของผู้เรียนและให้ ผ้เู รยี นแตล่ ะกล่มุ ไปศกึ ษาประเภทของงานขายตามทกี่ ลุม่ สนใจ 4. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนองานขายประเภทท่ีแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นคว้ามาให้เพ่ือน ๆ ฟงั หน้าชนั้ เรยี นและเปิดโอกาสให้ซัก-ถามแลกเปล่ยี นเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

5.3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (30 นาที) ผสู้ อนอธิบายเพ่ิมเติมโดยแยกประเภทของงานขายบนกระดานดำพร้อมทั้งนำเสนอความหมาย ของชอ่ งทางการจำหนา่ ยหนา้ ชน้ั เรยี น 5.4 ขัน้ ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาที) 1) นักเรียนทำใบงาน 2) นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น 6. สื่อการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อสงิ่ พิมพ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น 5. แบบทดสอบหลังเรยี น 6.2 สอ่ื โสตทศั น์ (ถา้ ม)ี PowerPoint

แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4 โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรวู้ ัฏจกั รการเรียนรู้ 5 ขั้น สอนครั้งท่ี 9 ชือ่ หน่วย ประเภทและลกั ษณะของงานขาย ชว่ั โมงรวม 2-3 จำนวนชั่วโมง 3 ช่อื เรอื่ ง ประเภทและลกั ษณะของงานขาย 1. สาระสำคัญ งานขายเป็นหัวใจของการดำเนินกิจการด้านธุรกิจ ผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายจะต้องรู้จัก ใช้ท้ังศาสตร์และศิลป์ท่ีจะดำเนินกิจกรรมด้านการขายให้ประสบผลสำเร็จ โดยการจูงใจให้ลูกค้าสนใจและ ตัดสินใจซื้อสินค้าแต่เน่ืองจากสินค้าและบริการที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันมีหลากหลายประเภท งานขายสินค้า และบรกิ ารจึงมีวธิ ีการแตกต่างกนั ไปตามชนิดและประเภทของสนิ ค้าขึน้ อย่กู ับดุลยพินจิ ของพนกั งานขายแต่ละ คนจะสรรค์สร้างแนวทางหรือวธิ กี ารมาเสนอขายให้ประสบความสำเร็จสงั คม 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. นกั เรียนรู้ความแตกต่างของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” 2. นักเรียนร้แู ละเข้าใจงานขายแต่ละประเภท 3. นักเรียนรู้ช่องทางการจำหน่ายแตล่ ะชอ่ งทาง 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1. แยกความแตกต่างของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ได้ 2. บอกประเภทของงานขายได้ 3. อธิบายช่องทางการจำหนา่ ยได้ 3.2 ด้านทักษะ นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของ “พนกั งานขาย” และ “งานขาย” ประเภทของงานขาย และ ชอ่ งทางการจำหน่ายได้ถกู ตอ้ ง 3.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ มคี วามซือ่ สัตย์ต่อขอ้ มูล มีความสามัคคีในกลุ่ม รักษาความสะอาด และมคี วามรับผดิ ชอบ 4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ 3. ความหมายของช่องทางการจำหน่าย หมายถึง ช่องทางหรือเส้นทางท่ีสนิ ค้าจะเคลือ่ นย้ายผ่านจากมอื ผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคคนสุดท้าย (Ultimate consumer) หรือผใู้ ช้ทางอุตสาหกรรม (Industrial User) โดยอาจเป็นการผ่านโดยตรงจากผู้ผลิต ไปยงั ผบู้ ริโภค หรือมตี วั กลางอืน่ ๆ เขา้ มาเกี่ยวข้อง

5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ผู้สอนช้ีนำให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของพนักงานขายท่ีมีต่อการดำเนินชีวิต และสังคมของ บุคคลในชวี ติ ประจำวัน 2. ผ้สู อนช้ีแจงเรอื่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนจัดเป็นกล่มุ ๆละ 4-5 คน และให้เลือก ประธานกลุ่ม เลขากลมุ่ เพอ่ื อภปิ รายกลุ่มยอ่ ย 5.2 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาท)ี 5. ให้ผู้เรียนท่ีจดั กลมุ่ ไว้แล้วอภิปรายกล่มุ ย่อยหาความหมายของ “พนักงานขาย” และ “งานขาย” พร้อมท้ังเปรยี บเทียบความแตกต่าง เพอื่ ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน 6. หลังจากท่ีแต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าช้ันเรียนแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปล่ียน เรียนรู้ และซกั ถาม ขอ้ ข้องใจซึ่งกันและกนั 7. ผู้สอนสรุปความหมาย “พนักงานขาย” และ “งานขาย” จากการนำเสนอของผู้เรียนและให้ ผ้เู รยี นแตล่ ะกลมุ่ ไปศกึ ษาประเภทของงานขายตามท่กี ล่มุ สนใจ 8. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนองานขายประเภทท่ีแต่ละกลุ่มไปศึกษาค้นคว้ามาให้เพื่อน ๆ ฟังหนา้ ชั้นเรยี นและเปดิ โอกาสใหซ้ กั -ถามแลกเปล่ียนเรียนรู้ซ่ึงกันและกนั 5.3 ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (30 นาที) ผสู้ อนอธิบายเพ่ิมเติมโดยแยกประเภทของงานขายบนกระดานดำพร้อมทั้งนำเสนอความหมาย ของชอ่ งทางการจำหน่ายหนา้ ชั้นเรยี น 5.4 ขนั้ ประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาท)ี 1) นักเรียนทำใบงาน 2) นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 6. สือ่ การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ สง่ิ พิมพ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกจิ กรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรียน 5. แบบทดสอบหลงั เรยี น 6.2 ส่ือโสตทศั น์ (ถ้ามี) PowerPoint

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5 โดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรวู้ ัฏจกั รการเรยี นรู้ 5 ขน้ั สอนครงั้ ท่ี 10 ช่ือหน่วย ความรู้เก่ียวกบั ตนเอง ช่ัวโมงรวม 1-2 จำนวนชวั่ โมง 2 ช่อื เรอ่ื ง ความรูเ้ กยี่ วกบั ตนเอง 1. สาระสำคัญ บุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง คุณลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลซึ่งไม่เหมือนกัน ได้แก่ รปู ร่าง หน้าตา กิริยา ท่าทาง การพูด การแต่งกาย บุคลิกภาพจึงเป็นส่ิงสำคัญ เพราะความประทับใจท่ีลูกค้า ได้รับก่อนสง่ิ ใดคอื บุคลิกภาพของพนกั งานขายนัน่ เอง พนกั งานขายจึงควรเอาใจใสแ่ ละปรับปรุงบุคลกิ ภาพของ ตนเองใหด้ ียงิ่ ขน้ึ 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 1. นักเรียนรู้ความรูเ้ ก่ยี วกับตนเอง 2. นักเรียนรแู้ ละเขา้ ใจด้านบุคลกิ ภาพ 3. นักเรยี นรู้การพฒั นาบคุ ลิกภาพ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1. นกั เรียนรู้ความรู้เก่ยี วกับตนเองได้ 2. นกั เรียนรู้และเขา้ ใจดา้ นบุคลกิ ภาพได้ 3. นกั เรียนร้กู ารพัฒนาบุคลิกภาพได้ 3.2 ดา้ นทักษะ นกั เรียนรแู้ ละเข้าใจความรเู้ ก่ยี วกับตนเอง เข้าใจด้านบคุ ลกิ ภาพและการพัฒนาบุคลกิ ภาพ 3.3 คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ มคี วามซ่ือสตั ย์ตอ่ ขอ้ มลู มีความสามัคคีในกลมุ่ รักษาความสะอาด และมคี วามรับผิดชอบ 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ บคุ ลิกภาพภายนอก บคุ ลกิ ภาพ (Personality) หมายถึง คณุ ลักษณะเฉพาะตวั ของแต่ละบุคคลซ่ึงไม่เหมือนกัน ไดแ้ ก่ รูปร่าง หน้าตา กิริยา ท่าทาง การพูด การแต่งกาย บุคลิกภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความประทับใจท่ีลูกค้าได้รับ ก่อนสิ่งใดคือบุคลิกภาพของพนักงานขายนั่นเอง พนักงานขายจึงควรเอาใจใส่และปรับปรุงบุคลิกภาพของ ตนเองใหด้ ีย่งิ ข้ึน ดงั น้ี

1. รปู รา่ งหนา้ ตา (Appearance) พนักงานขายสามารถปรบั ปรุงหนา้ ตาของตนเองได้ ด้วยการรักษา สุขภาพให้แข็งแรงปราศจากโรคภยั ไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรงย่อมมีผลทำให้รูปร่างหน้าตาแจ่มใส ผวิ พรรณสดชื่น สุขภาพรา่ งกายทีด่ ีจะทำให้การทำงานเกิดความกระฉับกระเฉงว่องไว 2. การแต่งกาย Clothing) เสื้อผ้าการแต่งกายเป็นสิ่งที่เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีอีกวิธีหน่ึงการแต่ง กายท่ีเหมาะสมจะสามารถสร้างความเชื่อถือให้แก่ผู้พบเห็นโดยเฉพาะกับลกู ค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจ และต้องการท่จี ะเขา้ รว่ มสนทนาดว้ ย 3. กิริยาท่าทาง (Manner) สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ กิริยาท่าทางของพนักงานขายต้อง สามารถสร้างความประทับใจกับลูกค้าและผู้ที่พบเห็นได้ การเดิน การนั่ง การยืน และการไหว้ กิริยาท่าทาง ต่างๆ พนักงานขายจำเป็นตอ้ งสรา้ งความสุภาพออ่ นน้อมและแสดงถงึ ความจรงิ ใจอยเู่ สมอ 4. การพูด (Speech) พนักงานขายตอ้ งสามารถปรับปรุงและพัฒนาตนเองอยู่เสมอเก่ียวกับการพูด เพราะพนักงานขายจะต้องพบปะพูดคุยและนำเสนองานขายให้ลูกค้า การพูดของพนักงานขายจึงต้องมีความ ชัดเจนและเข้าใจงา่ ย การออกเสียงถกู ตอ้ ง นำ้ เสียงชดั เจนแจม่ ใส กิรยิ าท่าทางประกอบให้มคี วามเหมาะสม บุคลิกภาพภายใน มีมนุษยสัมพันธ์ (Human Relation) เป็นส่ิงท่ีทกุ คนต้องกระทำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับอาชีพ การขายจำเป็นต้องใช้มนุษยสัมพันธ์มากกว่าอาชีพอื่นหลายเท่า เน่ืองจากพนักงานขายต้องพบปะผู้คนอยู่ ตลอดเวลา ดังนนั้ พนกั งานขายจึงตอ้ งสามารถปรับตนเองใหเ้ ขา้ กบั ทุกคนใหไ้ ด้ 1. ความซื่อสัตย์ (Honesty) พนักงานขายที่ดีต้องมีความซ่ือสัตย์สุจริต มีความจริงใจต่อลูกค้า ต่อ กจิ การและตอ่ ตนเอง การตอบคำถามของลูกคา้ ตอ้ งตอบด้วยความจรงิ ใจ และตรงไปตรงมา จะทำใหล้ ูกค้าเกิด ความไว้วางใจและเกดิ ความเช่ือมน่ั 2. ความร่าเริงแจ่มใส (Cheerfulness) พนักงานขายจำเป็นต้องเป็นคนร่าเริงแจ่มใส ย้ิมง่ายดู อารมณ์ดี ซ่ึงเป็นสาเหตุสำคัญท่ีจะทำให้งานขายประสบผลสำเร็จได้ ความร่าเริงแจ่มใสอาจแสดงออกมาด้วย คำพูด ท่าทาง และอารมณ์ 3.ความเสียสละ (Donation) การปฏิบัติงานขายบางครงั้ อาจจะไม่สามารถกำหนดเวลาท่ีแน่นอนได้ น้ันเป็นเหตุผลหนึ่งท่ีพนักงานขายต้องรู้จักการเสียสละ ความเสียสละของพนักงานขายที่มุ่งเน้นจะทำให้การ ทำงานประสบกับความสำเรจ็ และทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองและอยูร่ อดได้ 4. ความรับผิดชอบ (Responsibility) พนักงานขายท่ีมีคุณภาพต้องเป็นบุคคลท่ีมีความรับผิดชอบ เพราะความรับผิดชอบของพนักงานขายจะสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริหารงานขายได้ ทำให้งาน ตา่ งๆ ทไี่ ด้รบั มอบหมายมาสำเรจ็ ได้ตามเป้าหมายทวี่ างไว้ 5. ความยับยั้งชั่งใจ (Inhibition) หมายถึง การที่พนักงานขายสามารถควบคุมอารมณ์ให้เป็นไป ตามปกติในทุกสถานการณ์ ซึ่งความยับย้ังชงั่ ใจเป็นสงิ่ ท่ีพนักงานขายควรปฏิบัติอย่างยงิ่ จะทำให้พนักงานขาย มีพฒั นาทางจติ ใจทีด่ แี ละมผี ลตอ่ การทำงาน ทำใหป้ ระสบกับความสำเร็จในอาชพี ทางการขายไดด้ ีขน้ึ 6. ความคิดรเิ ริ่ม (Creative) อาชพี งานขายเป็นงานที่มีการแข่งขนั กันอย่ตู ลอดเวลา พนักงานขายจึง ตอ้ งพัฒนาตนเองและคิดคน้ รูปแบบและวิธกี ารต่างๆ เพื่อนำเสนอขายทีส่ ร้างสรรค์อย่เู สมอ การใช้คำพูด การ สาธิต และการปดิ การขาย ต้องสามารถใสค่ วามคิดสรา้ งสรรค์ลงไปในส่ิงเหลา่ นั้นได้

7. ความกระตือรือร้น ( Enthusiasm) หมายถึง ความพยายามที่จะปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว้ ด้วยความกระฉับกระเฉงวอ่ งไว มีความต้งั ใจในการทำงานทุกครง้ั ความกระตือรือร้นในการทำงานจะเป็นพลัง อยา่ งหนง่ึ ที่ทำใหพ้ นักงานขายสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆลงได้ 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน 5.1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) (20 นาที) 1. ผ้สู อนชี้นำให้ผู้เรียนเหน็ ถึงความรูเ้ กีย่ วกบั ตนเอง 2. ผ้สู อนชี้แจงเร่ืองการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยให้ผู้เรียนจัดเป็นกลมุ่ ๆละ 4-5 คน และให้เลือก ประธานกลมุ่ เลขากล่มุ เพอ่ื อภปิ รายกล่มุ ยอ่ ย 5.2 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (60 นาท)ี ให้ผู้เรียนท่ีจัดกลุ่มไว้แลว้ อภปิ รายกลุ่มย่อยพูดประวัติของตนเอง พรอ้ มทัง้ เปรียบเทียบความแตกต่าง ในอดีตถงึ ปัจจบุ ันเพือ่ ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรยี น หลังจากที่แต่ละกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียนแล้ว ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และซกั ถาม ขอ้ ขอ้ งใจซงึ่ กันและกัน 5.3 ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) (30 นาท)ี ผสู้ อนอธิบายเพมิ่ เตมิ บนกระดานดำพรอ้ มท้งั นำเสนอหน้าชั้นเรยี น 5.4 ข้ันประเมนิ ผล (Evaluation) (30 นาที) 1) นกั เรยี นทำใบงาน 2) นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน 6. ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สอื่ ส่ิงพมิ พ์ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน 3. ใบกิจกรรม 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น 5. แบบทดสอบหลังเรียน 6.2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้าม)ี PowerPoint

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 5 โดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้วฏั จักรการเรียนรู้ 5 ขน้ั สอนคร้ังที่ 11 ช่อื หน่วย ความร้เู ก่ยี วกับตนเอง ชวั่ โมงรวม 2-3 จำนวนช่ัวโมง 3 ช่ือเรอ่ื ง ความรู้เกยี่ วกับตนเอง 1. สาระสำคัญ บุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง คุณลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลซึ่งไม่เหมือนกัน ได้แก่ รปู ร่าง หน้าตา กริ ิยา ท่าทาง การพูด การแต่งกาย บุคลิกภาพจึงเป็นส่ิงสำคญั เพราะความประทับใจที่ลูกค้า ไดร้ บั ก่อนสงิ่ ใดคอื บคุ ลิกภาพของพนักงานขายนนั่ เอง พนักงานขายจงึ ควรเอาใจใสแ่ ละปรบั ปรงุ บุคลิกภาพของ ตนเองใหด้ ยี ิง่ ขน้ึ 2. สมรรถนะประจำหน่วย 1. นักเรยี นรู้ความร้เู ก่ียวกบั ตนเอง 2. นักเรยี นรูแ้ ละเข้าใจด้านบุคลิกภาพ 3. นกั เรียนรู้การพฒั นาบุคลกิ ภาพ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ 1. นกั เรยี นรคู้ วามรู้เกี่ยวกบั ตนเองได้ 2. นกั เรยี นรแู้ ละเข้าใจด้านบคุ ลกิ ภาพได้ 3. นกั เรียนรกู้ ารพฒั นาบคุ ลกิ ภาพได้ 3.2 ดา้ นทักษะ นกั เรียนรู้และเขา้ ใจความรู้เก่ียวกบั ตนเอง เข้าใจดา้ นบคุ ลกิ ภาพและการพฒั นาบุคลิกภาพ 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ มคี วามซ่ือสตั ย์ต่อขอ้ มลู มีความสามัคคใี นกลมุ่ รกั ษาความสะอาด และมคี วามรับผดิ ชอบ 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ บุคลกิ ภาพ คือ การแสดงออกท่ที ำใหผ้ พู้ บเห็นเกดิ ความเช่ือถือ ศรัทธา ประทบั ใจ อยากท่ีจะสมาคมดว้ ย บคุ ลิกภาพที่สรา้ งความประทับใจครงั้ แรกให้กบั ลูกค้า จะมีผลต่อความรู้สกึ ของลูกค้าที่จะซื้อ หรือไมซ่ ้ือสินค้าได้ บคุ ลิกภาพท่ีดีจะช่วยให้พนักงานขายสามารถ “ ขายตนเอง” นั่นคือ สร้างความไว้วางใจ ความรู้สกึ ท่ีดีกับลูกคา้ ชว่ ยใหก้ ารขายประสบความสำเรจ็ มากขน้ึ

1. รูปรา่ ง สามารถสร้างพมิ พ์ใจแรก ( Good Impression ) แก่ลกุ ค้า ดังนั้นเสือ้ ผ้า แสดงถงึ การ มีรสนยิ มดี คือ ตอ้ งสภุ าพเรียบร้อย ทันสมยั ถกู กาลเทศะ และต้องสะอาด ประหยดั และประณีต 2. หน้าตาและเน้ือตัว ใบหนา้ สะอาดหมดจด มีสุขภาพฟันดี ผมไม่เหม็นและจัดทรงดี เล็บสะอาด ไม่มีกลน่ิ ตวั กลนิ่ ปาก เน้ือตัวอาบน้ำและสะอาด 3. ลักษณะรา่ งกาย แขง็ แรง สง่าผา่ เผย แคล่วคล่องวอ่ งไว 4. เสยี ง สำเนียงนา่ ฟัง พดู ชดั เจน มีหางสียง ใช้คำพดู ใหถ้ ูกตอ้ ง ทนั สมยั หัดพูดภาษาท้องถ่นิ 5. การย้มิ เปน็ การลงทุนท่ีน้อยทส่ี ุดแต่ได้กำไรงาม 6. กิรยิ า และกริ ิยาซ้ำซาก (การแสดงกริ ยิ าอย่างใดอย่างหน่ึงซ้ำ ๆ ซาก ๆ 7. พนักงานขายไมค่ วรสูบบหุ ร่ี ขณะเขา้ พบลูกค้า การขายตนเองก่อนขายสนิ คา้ ผู้ประกอบอาชีพขาย หรอื พนกั งานขาย ไม่วา่ จะประกอบอาชีพส่วนตัว หรอื เป็นลูกจา้ งกจิ การต่างๆ จะ ประสบความสำเรจ็ ในงานอาชีพ ย่อมตอ้ งการคณุ สมบตั ิหลายประการสนบั สนนุ ดงั เชน่ 1 มีความกระตือรือร้น เป็นคนกระฉับกระเฉง ว่องไว กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ในการที่จะค้นหา โอกาสในการเสนอขายสินคา้ และบรกิ ารต่างๆ อยตู่ ลอดเวลา 2 มีมนุษยสัมพันธ์ดี พนักงานท่ีดีต้องสามารถเข้ากับคนอื่นๆ ได้อย่างดี รู้จักใช้หลักจิตวิทยาในการ เรียนรู้ลูกค้า และเสนอสิง่ ที่จะเรียกรอ้ งความสนใจและตัดสินใจซ้ือ เปน็ ผูม้ คี วามสามารถในการติดตอ่ ตา่ งๆ 3 มีวาทศิลป์ดี พนักงานขายต้องใช้ปากเป็นเครื่องมือสำคัญ ดังนั้นจึงต้องรู้จักกาลเทศะในการพูด พูด เป็นสันๆ แต่ไดใ้ จความ เป็นที่เข้าใจดีของลูกค้า สามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าคล้อยตามได้ พนักงานขายต้องเป็น ทง้ั นกั พดู ทด่ี ี นกั ฟังที่ดี และเปน็ นกั แสดงท่ดี ดี ว้ ย 4 มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ พนักงานขายจะต้องเสนอขายสินค้าและบริการด้วยความต้องการ ให้ลูกค้า ไดร้ ับแต่สินค้าและบริการท่ดี ี มีประโยชน์คมุ้ ค่าเงนิ ของลกู ค้าท่ีจ่าย 5 มีสุขภาพดที ้ังรา่ งกายและจิตใจ เป็นผู้ทม่ี ีความเปน็ มติ รกับทุกคน อารมณ์แจ่มใสรา่ เริง ยมิ้ แย้มกับทุก คนทพี่ บปะ การมีอารมณ์ขันช่วยใหก้ ารพบปะกบั บคุ คลอน่ื ๆ การเสนอขายสินค้าไม่เคร่งเครยี ดจนเกนิ ไป 6 มีบุคลิกภาพดี พนักงานขายควรมกี ิริยา ท่าทาง เรียบร้อย น้ำเสียงมจี ังหวะ ทุ้ม น่าฟัง ตลอดจนการ แต่งกาย ควรจะเรยี บรอ้ ยอยู่ในระเบียบและแสดงถงึ ความมีรสนิยม 7 เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ พนักงานท่ีมีความคิดสร้างสรรค์ มักจะแสวงหาความรู้พิเศษเพ่ิมเติมอยู่เสมอ อัน เป็นประโยชนต์ ่อการปฏบิ ัติงานขาย การมคี วามรู้เก่ียวกับสินค้าอย่างละเอยี ด รจู้ ักสินคา้ คู่แขง่ ขัน รูจ้ ักลกั ษณะ ของลูกค้าไดด้ ี ยอ่ มจะเปน็ ความไดเ้ ปรยี บในตลาดสินคา้ นนั้ ๆ 8 มีความเชื่อมั่นในงานอาชีพการขาย เชื่อว่าจะขายสินค้าได้ เชื่อว่างานขายเป็นงานที่ให้โอกาสดี เป็น งานที่จะทำรายได้ ให้ผลประโยชน์ที่ดี ผลตอบแทนสูงกับพนักงานขายมาก นอกจากเชื่อมั่นในงานขาย ยงั ตอ้ ง มคี วามมน่ั ใจในตนเองดว้ ย อยากเห็นความเจริญกา้ วหน้าออยู่เสมอ

9 มีความอดทน พร้อมจะต่อสู้กับงานหนัก มีความขยันขนั แข็ง การขายสินค้าจะต้องเอาอกเอาใจลกู ค้า ให้ดี สร้างความพึงพอใจให้กับลกู ค้า ดังน้ัน การมคี วามอดทน จะช่วยให้มีโอกาสในการขายสงู ขน้ึ รวมท้ังต้อง เสยี สละเวลาความสุขสว่ นตัว ไปติดตอ่ หรอื ตดิ ตามลูกค้าอยตู่ ลอดเวลา คุณสมบตั ทิ จี่ ำเป็นของพนกั งานขาย 1)พนักงานแต่ละคนตอ้ งมีความฝันที่ชัดเจนในตัวเอง ฝนั อยากเหน็ ตัวเองประสบความสำเร็จในอาชพี ท่ี เลอื กเข้ามา 2) พนกั งานตอ้ งมใี จรักในสิ่งทที่ ำ รกั ในอาชพี ของตนเอง มคี วามต้งั ใจจรงิ ทจ่ี ะทำอาชพี ของตนเอง 3) มจี ดุ ม่งุ หมาย เป้าหมายที่ชดั เจน ในการทำงานแต่ละวนั 4) วางแผนการทำงาน 5) ทำงานหนัก อดทน ทมุ่ เท ขยนั 6) เตรยี มตวั เอง เตรยี มงานตวั เองใหพ้ รอ้ มก่อนทำงานร่วมกับผูอ้ น่ื 7) รบั ผิดชอบสูงตอ่ ตนเอง และตอ่ ทมี 8) แขง่ ขนั กบั ตนเอง 9) ซอื่ สตั ย์ตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื 10) ทำงาน 150% ของท่ีวางแผนไว้ 11) มรี ะเบยี บวินยั และตรงตอ่ เวลา ร้จู กั รักษาเวลา 12) ใส่ใจในรายละเอียดของงาน 13) ใฝ่เรียนใฝ่รู้ หาความรูเ้ พม่ิ เตมิ 14) เปน็ คนน่ารัก ไม่หยงิ่ ไมถ่ ือตวั มีความเปน็ กันเอง 15) มีความอ่อนน้อมถ่อมตน 16) เอาชนะใจตนเองโดยควบคมุ อารมณ์ (Self Management) 17) มคี วามมัน่ ใจในตนเอง 18) เปดิ ใจยอมรับฟังความคดิ เหน็ ที่แตกตา่ ง 19) ให้เกียรติ และรกั ษาสัญญากบั ตวั เองและผูอ้ น่ื อย่างสมำ่ เสมอ 20) กลา้ พูดในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ ดว้ ยวิธกี ารท่ีเหมาะสม 21) มคี วามสมำ่ เสมอในการหมน่ั หาความรู้ ความเข้าใจในงาน ในธุรกิจขององคก์ ร 22) มคี วามมุ่งมน่ั (Commitment) 23) รจู้ ักบริหารเวลา (Time Management) 24) มสี มาธใิ นการทำงาน 25) กำจดั จดุ อ่อนตัวเอง และเรยี นรูจ้ ุดแข็งท่ีจะสร้างเสรมิ ใหเ้ ด่นขน้ึ 26) เรยี นร้จู ากการเป็น “มืออาชพี ” กบั มอื อาชีพ หาความรู้จากผู้ทเ่ี ก่งกวา่ เพ่อื พัฒนาตนเอง 27) หาประสบการณ์ แลกเปลย่ี นความรู้ ประสบการณ์ กบั เพอื่ นรว่ มวชิ าชพี ตา่ งองค์กร 28) มีความคดิ สรา้ งสรรค์ เปดิ โลกทศั น์ 29) มรี ปู แบบการทำงานท่ีหลากหลาย ไม่ยดึ ติด

30) กล้ายอมรับผิด จากการกระทำของตนเอง โดยไม่กล่าวโทษสถานการณ์ หรือบุคคลอ่ืน และนำเอา ความผดิ พลาดมาเปน็ บทเรยี น 31) เตรยี มตวั ให้พร้อมกับการเปลีย่ นแปลงอยเู่ สมอๆ 32) ทำทกุ บทบาทและหนา้ ท่ใี หด้ ที ่สี ุด 33) มตี น้ แบบ หรือ Role Model เพ่ือจะได้มแี รงบนั ดาลใจ 34) Trust ในตัวผู้นำและเพ่อื นร่วมงาน 35) มกี ารถ่ายทอด แบง่ ปันความรตู้ อ่ เพื่อนร่วมงาน 36) Life Long Learning 37) พัฒนาศกั ยภาพของตนเองอยูเ่ สมอ (Continuous Improvement) 38) ยดึ ถือคา่ นิยมร่วมและวัฒนธรรมขององค์กร 39) ผนึกพลงั ประสานความต่าง (Synergy) 40) มีความภูมิใจในตวั เองและองคก์ ร คุณสมบัตทิ ี่ดขี องพนกั งานขายที่นายจา้ งพงึ ปรารถนา พนักงานขายมีส่วนสำคัญที่จะเป็นผู้นำเสนอให้กับลูกค้า ดังน้ัน พนักงานขายที่นายจ้างพึง ปรารถนาโดยทัว่ ไป จึงมคี ุณสมบตั ดิ ังน้ี 1.ไวว้ างใจได้ (Reliability) หมายถึง คณุ สมบตั ิของพนกั งานขายทน่ี ายจ้างมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการ ทำงานว่าต้องปฏิบตั ิได้เปน็ ผลสำเรจ็ โดยไม่ตอ้ งควบคุม ผลงานต้องสามารถเสรจ็ ทนั ตามกำหนดเวลาและบรรลุ เป้าหมายตามท่ีต้องการได้ 2. ความจำดี ( Good Memory) พนักงานขายท่ีดีต้องเป็นบุคคลมีความจำดี คือ สามารถจำช่ือและใบหน้า ของลูกค้าทุกคนที่เคยพบเห็น สามารถเรียกช่ือลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ซ่ึงเป็นการให้เกียรติลูกค้า ลูกค้าจะเกิด ความพงึ พอใจและเปน็ กนั เองกบั พนกั งานขาย 3. ความซ่ือสัตย์ ( Honesty ) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างย่ิงของพนักงานขายที่จะต้องมีต่อทุกๆคน ความ ซ่ือสตั ยข์ องพนักงานขายจะนำมาซง่ึ ความไว้วางใจทำให้ทุกคนรอบขา้ งต้องการคบหาสมาคมด้วย 4. ความตื่นตวั (Alertness ) พนักงานขายจะต้องตื่นตัวตอ่ สถาณการณ์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา โดยการติดตาม ความเคล่ือนไหวต่างๆ ที่เกิดข้ึนในปจั จุบันแล้วศกึ ษาหาวิธกี ารแกไ้ ข 5. การตัดสินใจที่ดี (Good Judgement ) หมายถึง ความสามารถตอบการตัดสินใจหรือเลือกระหว่างส่ิงท่ี น่าจะเป็นไปได้สองอยา่ ง หรือมากกวา่ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกับเวลาและสถาณการณ์ 6. ความสามารถทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Ability ) พนักงานขายทุกคนจำเป็นต้องมีความสามารถหรือ ทกั ษะทางคณิตศาสตรม์ าบา้ ง เพอ่ื ใชใ้ นการคิดรอ้ ยละ 7. มีจิตนาการ (Imagination ) หมายถึง ความสามารถในการใช้ประสบการณ์โดยพัฒนาเป็นความคิดใหม่ แล้วนำมาใช้จดั การกับปัญหาทเี่ กิดข้ึน หรอื ความคิดสร้างสรรค์มาใช้ในการทำงาน เพ่ือกอ่ ใหเ้ กิดงานขายใหม่ๆ เพอ่ื ดึงดูดความสนใจของลูกค้า

คณุ สมบตั ทิ ด่ี ีของพนักงานขายที่ลูกค้าพึงปรารถนา 1. ซื่อสัตย์สุจริต (Honesty ) ลูกค้าต้องการให้พนักงานขายมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อตนเอง ในการเสนอขาย สนิ คา้ ใหก้ บั ลูกค้าโดยไม่หลอกลวงผู้บริโภค 2 .ความจริงใจ (Sincerity ) ลูกค้าต้องการให้พนักงานขายมีความจริงที่จะช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับ ลกู คา้ ได้ดว้ ยความจรงิ ใจอยูเ่ สมอ 3. การบริการด้วยใจ (Service Mind ) ลกู ค้าต้องการให้พนกั งานขายบริการดว้ ยความเต็มใจ ทงั้ บรกิ ารกอ่ น ขาย ระหว่างการขาย และหลงั การขาย เป็นต้น 4 .การตรงต่อเวลา มีความสำคัญต่อพนักงานขายค่อนขา้ งมาก เพราะเป็นการสร้างความเช่ือถือให้กับลูกค้า ได้ และตรงต่อเวลาตามทนี่ ดั หมายทำใหล้ กู คา้ ประทบั ใจ 5. มีความรู้สึกทดี่ ีตอ่ งาน พนักงานขายต้องสร้างความรกั และศรัทธาในอาชพี งานขายของตนเอง ถ้าพนักงาน ขายเชอื่ ถือในอาชพี กจ็ ะทำใหล้ ูกคา้ เช่อื ถือ 6. มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดี การที่พนักงานขายมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้ลูกค้าสร้างความรู้สึกเป็นกันเองกับ พนกั งานขาย 7.มีบุคลิกภาพท่ีดี โดยสว่ นมากการแต่งการท่ีดี รูปรา่ งหน้าตาดี มคี วามสภุ าพอ่อนน้อม จะทำใหล้ ูกคาพบปะ คุยดว้ ยการของลกู คา้ ได้ 8. ความสามารถในการใชค้ ำถามและคำตอบ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความตอ้ งการของลูกค้าได้ ดังนั้น พนักงานขายจงึ ตอ้ งใช้คำท่มี คี วามสภุ าพออ่ นนอ้ มเพ่อื ให้ลูกค้ายนิ ดีท่จี ะตอบคำถามน้นั ๆ ได้อย่างดี 9. ความสามารถในการสนทนา พนักงานขายที่ดตี ้องมคี วามสามารถในการสนทนาได้ดกี ับลูกคา้ และพร้อมที่ จะสนทนากับลูกคา้ ได้ทกุ เร่ือง 10. มีความมั่นใจในตนเอง พนักงานขายท่ีมีความม่ันใจในตนเองดีจะทำให้ลูกค้าเช่ือถือในตัวพนักงานขาย และนำไปสู่ความเช่ือถอื ของสนิ ค้าและบรกิ ารอีกดว้ ย 11. การยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นคณุ สมบัติท่ีสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่พนักงานขายปฏบิ ัติงานขายดว้ ย ใบหน้าท่ีมีแต่รอยยม้ิ 12. ความเป็นผู้นำ หมายถึง ผู้นำมีส่วนในการตัดสินใจได้ในงานขาย เพราะลูกค้า เม่ือต้องการซื้อสินค้า จะต้องถามข้อสงสยั บางอย่างในสินคา้ นน้ั ๆ 13. การมีจรรยาบรรณท่ีดีต่อลูกค้า พนักงานขายตอ้ งระลึกอยูเ่ สมอวา่ ลูกคา้ คอื บุคคลท่สี ำคัญท่ีสุดท่ีจะทำให้ ธุรกจิ ประสบความสำเรจ็ เทคนิคการชนะใจลูกค้า ผทู้ ป่ี ระกอบอาชีพการขายจะต้องรจู้ กั การสร้างเสนห่ ์ให้กับตนเอง เพื่อพชิ ติ ใจลกู ค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าน้นั ๆ ผมู้ อี าชพี ขายจะสร้างเสน่ห์ใหก้ ับตนเองได้จะตอ้ งปรบั ปรุงตนเองในเรื่องตอ่ ไปนี้ 1. บุคลิกภาพ การมีบุคลิกภาพท่ีดี เหมาะสมกับอาชีพการขาย คือ แตง่ กายดี เข้ากับสังคมได้เหมาะสม เป็น ทีน่ า่ เช่อื ถอื จรงิ ใจ มไี หวพรบิ ดี ความจำดี 2. ไม่โจมตผี อู้ ่ืนหรือผู้แข่งขนั พนักงานขายที่ดมี ีจรรยาบรรณต่ออาชีพทจ่ี ะตอ้ งทำงานกับเพือ่ นร่วมงานทกุ คน ไดด้ ้วยดี มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่