Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 4 แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล

เล่ม 4 แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล

Published by boonsong kanankang, 2019-10-01 04:08:24

Description: แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล

Search

Read the Text Version

คำชแี้ จง เอกสารชุดน้ีแบ่งเน้ือหาออกเป็น 3 หน่วยการเรียน ให้ผู้ศึกษาได้ศึกษาอย่างละเอียดทีละเรื่อง ในแต่ละหน่วยการเรียนและให้ทบทวนองค์ความรู้ โดยการตอบคาถามท้ายเร่ืองอย่างต้ังใจและให้ถูกต้อง มากท่ีสุด หากยังตอบคาถามได้ยังไม่ชัดเจน ให้กลับไปอ่านทบทวนทาความเข้าใจเพ่ิมเติมและกลับไป ตอบคาถามเดมิ อกี ครั้ง จนแน่ใจว่าตนตอบคาถามไดด้ แี ละชดั เจนแลว้ จงึ ศกึ ษาในเรื่องต่อ ๆ ไป หากผู้ศึกษาตอ้ งการศึกษารายละเอียดเก่ียวกบั การจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคลในเชิงลึก ไปจนถึงการลงมือปฏิบัติการ ระเบียบ กฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ผู้ศึกษา สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก “คู่มือการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล” ท่ีจัดพิมพ์และเผยแพร่ โดยสานักบริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร คณะทางาน

สำรบัญ หน้ำ คำนำ คำชแ้ี จง แนวทำงกำรใชช้ ดุ ศึกษำด้วยตนเอง หน่วยท่ี 1 ประวตั ิควำมเป็นมำ ความเป็นมาของการจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล..................................... 1 ความหมายของแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล...................................................... 3 หลักการจดั ทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล........................................................ 4 วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล………………………………… 7 องค์ประกอบของของแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล.............................................. 8 กลุ่มเปา้ หมายที่ได้รับประโยชนจ์ ากแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล........................ 9 หนว่ ยที่ 2 กระบวนกำรจดั ทำแผนกำรจัดกำรศกึ ษำเฉพำะบคุ คล ขน้ั เตรยี มการ ............................................................................................................. 11 ข้ันจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล ............................................................... 11 ขั้นการนาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลไปใช้...................................................... 12 ขั้นการประเมนิ ผลตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล.......................................... 12 ขน้ั การสรปุ และรายงานผล………………………………………………………………………………… 13 ข้นั การสง่ ต่อ (Transfer) ........................................................................................... 13 หน่วยท่ี 3 วธิ กี ำรจดั ทำแผนกำรจัดกำรศกึ ษำเฉพำะบุคคล องค์ประกอบของแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล .................................................. 16 ตวั อย่างแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ตามทักษะการเรียนรู้ .................... 17 แผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามทักษะการเรียนรู้ ................................................. 25 ตัวอยา่ งการวิเคราะหง์ านเพื่อจดั ทาแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามทักษะ การเรยี นร.ู้ .................................................................................................................. 27 ตัวอยา่ งแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ตามกลุม่ สาระการเรยี นรู้…………... 28 ตวั อย่างแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ .............................. 43 สรปุ สำระสำคัญ ........................................................................................................................ 46 แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมท่ตี อ้ งศึกษำ บรรณำนกุ รม แบบทดสอบท้ำยบท แบบเขียนสะทอ้ นคิด ภำคผนวก

แนวทำงกำรใชช้ ุดเอกสำรศกึ ษำดว้ ยตนเอง ทำ่ นที่ศกึ ษำเอกสำรควรปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ 1. ศึกษาขอบข่ายของเน้ือหา สาระสาคัญ และจดุ ประสงค์ 2. ศึกษาขอบข่ายของเนื้อหาและทาความเข้าใจเนื้อหาอย่างละเอยี ด 3. ศกึ ษาแหล่งความร้เู พิ่มเติม 4. โปรดระลึกไวเ้ สมอว่าการศกึ ษาจากเอกสารด้วยตนเองเป็นเพียงส่วนหน่งึ ของการพัฒนาความรู้ ด้านการศึกษาพเิ ศษเท่านั้น ควรศึกษาคน้ คว้าและหาประสบการณ์ตรงจากแหล่งความรู้อื่น ๆ เพม่ิ เตมิ

หน่วยท่ี 1 ประวตั ิความเป็นมา ความเปน็ มาของการจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลมีต้นกาเนิดที่สหรัฐอเมริกาโดยมีพัฒนาการตามลา ดับ ดังนี้ ในปี ค.ศ. 1975 รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมาย Education For All Handicapped Children Act of 1975 (Public Law 94 - 142 หรือ PL 94 - 142) ซ่ึงมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 1977 สาระสาคัญของกฎหมาย ฉบบั นี้ กาหนดใหร้ ัฐจดั สรรงบประมาณสนับสนนุ การจัดการศึกษาแก่เด็กพิการอายุระหว่าง 3 – 21 ปี เพิ่มมากข้ึน ต่อมาในเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 1990 รัฐบาลกลางได้ออกกฎหมาย Individuals with Disabilities Education Act : IDEA 1 (PL 101 - 476) ซ่ึงกฎหมายฉบับนี้ได้กาหนดให้จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลแก่ เด็กพิการทกุ คน โดยให้ความสาคัญกับผู้ปกครองเป็นอย่างยิ่งเพราะเช่ือว่าผู้ปกครองเป็นบุคคลสาคัญในการนา เด็กพกิ ารเข้าถงึ บริการทางการศกึ ษาตามท่กี ฎหมายให้สิทธิไว้และมีส่วนสาคัญในการพัฒนาเด็กพิการร่วมกับ นกั การศกึ ษา ปจั จบุ ันสงั คมโลกเกิดกระแสการยอมรบั ความเทา่ เทยี มกนั ของทุกคนเป็นอย่างมาก ข้อบ่งชี้สาคัญ ของ ความเทา่ เทียมกนั คอื “สิทธิทางการศึกษา” ซ่ึงประกาศไว้ในปฏิญญาโลกว่าด้วยการศึกษาเพ่ือปวงชน (World Declaration on Education for All) ระบุว่าผู้ด้อยโอกาสทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับการศึกษาตามท่ีพวกเขา ต้องการ พ่อ แม่ผู้ปกครองมีสิทธิโดยชอบธรรมท่ีจะได้รับคาปรึกษาแนะนาเก่ียวกับรูปแบบการศึกษา ท่ีเหมาะสมที่สุดกับสภาพแวดล้อมและตามความต้องการพิเศษของคนพิการ (สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาแห่งชาติ : 2543) กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกบั คนพกิ ารใหไ้ ดร้ บั สทิ ธิทางการศึกษา ซึ่งประกอบด้วยกฎหมายสาคญั ดังนี้ 1. พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี กไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 10 ระบุว่า การจัดการศึกษาต้องจัดให้มีบุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษา ขัน้ พน้ื ฐานไม่น้อยกว่าสบิ สองปีทรี่ ัฐตอ้ งจัดใหอ้ ยา่ งทวั่ ถึง และมีคุณภาพโดยไมเ่ กบ็ ค่าใชจ้ า่ ย การจัดการศึกษาสาหรับบุคคลซ่ึงมีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม การส่ือสารและการ เรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ หรือบุคคลไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแลหรือด้อยโอกาส ตอ้ งจัดใหบ้ คุ คลดงั กลา่ วมสี ทิ ธิและโอกาสได้รบั การศึกษาข้ันพนื้ ฐานเป็นพเิ ศษ การศึกษาสาหรับคนพิการในวรรคสอง ให้จัดต้ังแต่แรกเกิดหรือพบความพิการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาตาม หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการท่ีกาหนดในกระทรวง มาตรา 22 การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และ ถอื ว่าผ้เู รียนมคี วามสาคญั ทส่ี ดุ กระบวนการจดั การศึกษาต้องสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและ เต็มศักยภาพ

มาตรา 24 (1) การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและหน่วยงานจัดเน้ือหาสาระและกิจกรรม ใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนดั ของผู้เรียน โดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบคุ คล มาตรา 28 (1) หลกั สูตรการศึกษาระดับตา่ ง ๆ รวมท้ังหลักสูตรการศึกษาสาหรับบุคคลตามมาตรา 10 วรรคสอง และวรรคสาม ต้องมีลักษณะหลากหลาย ทั้งน้ี ให้จัดตามความเหมาะสมของแต่ละระดับโดยมุ่ง พฒั นาคุณภาพชีวติ ของบุคคลให้เหมาะสมกบั วัยและศักยภาพ มาตรา 60 ใหร้ ฐั จดั สรรงบประมาณแผ่นดินให้กับการศึกษาในฐานะท่ีมีความสาคัญสูงสุดต่อการ พัฒนา ท่ียั่งยืนของประเทศไทย .โดยการจัดสรรเป็นเงินง บประมาณและทรัพยากรทางการศึกษาอื่น เป็นพิเศษ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความจาเป็นในการจัดการศึกษาสาหรับผู้เรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ แต่ละกลุ่มตามมาตรา 10 วรรคสอง และวรรคสาม โดยคานึงถึงความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษาและ ความเป็นธรรม ทงั้ นใ้ี ห้เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง 2. พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 มาตรา 12 ให้กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และสถานศึกษา จัดการศึกษาเปน็ พเิ ศษสาหรับเดก็ ทม่ี คี วามบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาอารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพหรือเด็กซึ่งไม่สามารถพ่ึงตนเองได้ หรือไม่มี ผู้ดูแล หรือด้อยโอกาส หรือเด็กท่ีมีความสามารถพิเศษให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับด้วยรูปแบบ และวิธีการ ท่ีเหมาะสม รวมท้ังการได้รับส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดตามความจาเป็น พเิ ศษ เพอ่ื ประกนั โอกาสและความเสมอภาคในการได้รับการศกึ ษาภาคบงั คับ 3. พระราชบัญญัติการจัดการศกึ ษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 คนพิการมสี ทิ ธทิ างการศึกษาดงั นี้ 1) ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต พร้อมทั้งได้รับ เทคโนโลยี สง่ิ อานวยความสะดวก ส่อื บริการและความชว่ ยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา 2) เลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยคานึงถึง ความสามารถ ความสนใจ ความถนดั และความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษของบคุ คลนน้ั 3) ได้รับการศึกษาท่ีมีมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา รวมท้ังการจัดหลักสูตร กระบวนการ เรียนรู้ การทดสอบทางการศึกษา ที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของคนพิการแต่ละ ประเภทและบุคคล มาตรา 8 ใหส้ ถานศึกษาในทกุ สงั กัดจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล วรรคสอง ให้สถานศึกษา ในทกุ สังกดั และศนู ยก์ ารเรียนเฉพาะความพิการจัดการศึกษาในรูปแบบท่ีหลากหลาย วรรคสาม ให้สถานศึกษา ในทุกสังกัดจดั สภาพแวดล้อมและระบบสนับสนุนการเรียนการสอน วรรคส่ี ให้สถานศึกษาในระดับอุดมศึกษา มีหน้าท่ีรับคนพิการในสัดส่วนหรือจานวนที่เหมาะสม วรรคห้า สถานศึกษาใดปฏิเสธไม่รับคนพิการเข้าศึกษา ให้ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามกฎหมาย วรรคหก ให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือ จากชุมชนและนักวชิ าชีพเพอื่ ใหค้ นพิการได้รับการศึกษาทุกระดบั

4. กฎกระทรวง กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา พ.ศ. 2550 ออกตามความในมาตรา 10 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซ่ึงกาหนดให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความสะดวก สอื่ บริการ และความชว่ ยเหลอื อนื่ ใดทางการศึกษาตามทก่ี าหนดไว้ในแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล 5. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2552 ได้กาหนดองค์ประกอบ กระบวนการจัดทา บุคคลที่เกี่ยวข้อง การนาแผนไปสูก่ ารปฏิบัติ การทบทวน ปรับปรงุ และความสาคญั ของแผนการส่งตอ่ ไวอ้ ย่างชัดเจน 6. แผนพัฒนาการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560–2564) เป็นแผนยุทธศาสตร์ ทีจ่ ัดทาขึน้ เพื่อเปน็ กรอบและแนวทางในการดาเนนิ งานพฒั นาการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการโดยมีเป้าหมาย สงู สดุ คือ คนพกิ ารทุกประเภทมสี ิทธิได้รับการศึกษาและได้รับความช่วยเหลือทางการศึกษาตั้งแต่แรกเกิดหรือ แรกพบความพิการ มีสิทธิได้รับสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา และการจัดบรกิ ารทางการศกึ ษาใหก้ ับเด็กพิการต้องจัดให้อยา่ งมีคณุ ภาพ และประสิทธภิ าพ ด้วยเหตุจาก พระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง แผนพัฒนาการจัดการศึกษาสาหรับ คนพิการดังกลา่ วขา้ งตน้ หน่วยงานทจี่ ดั การศึกษาสาหรับคนพกิ าร จึงต้องจัดการศึกษาให้เป็นไปตามท่ีกฎหมาย กาหนด เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนพิการให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษ โดยการจัดทาแผน การจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคลให้กับคนพิการในวยั เรยี นทุกคน ความหมายแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program: IEP) ผดุง อารยะวิญญู (2542) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ว่าเป็นแผนการจัด การศึกษาสาหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษที่ทางโรงเรียนจัดทาข้ึนโดยได้ร่วมมือและ ความยินยอมจาก ผู้ปกครองของนักเรียนท่ีมีความต้องการพิเศษ แผนน้ีบรรจุเนื้อหาสาระของแต่ละคน เป็นแผนในระยะ 1 ปี และมีการทบทวนแผนทุกภาคเรยี น เบญจา ชลธาร์นนท์ (2543) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลสาหรับ คนพิการ ดังน้ี แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเป็นแผนการจัดการศึกษาซ่ึงกาหนดแนวทางการศึกษา ที่สอดคล้องกบั ความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของบุคคลพิการแต่ละบุคคล ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวยความสะดวก สือ่ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาให้เป็นเฉพาะบคุ คล สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (2546) ได้ให้ความหมายของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ว่าเป็นแผนซ่ึงกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับความต้องการ จาเป็นพิเศษของคนพิการ ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาเฉพาะบุคคล ซ่ึงแผนดังกล่าวเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการท่ีจะทาให้การจัดการศึกษาที่มี ประสิทธภิ าพในการจดั การเรียนการสอนคนพกิ ารทุกประเภท

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (2548) ให้ความหมายว่า แผนการจัดการศึกษา เฉพาะบุคคล หมายถึง แผนการให้บริการทางการศึกษาพิเศษรายปี ท่ีจัดทาข้ึนเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับ นักเรียนพิการหรือที่มีความบกพร่องเป็นรายบุคคล โดย พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดทา ซ่ึงจะต้องมีรายละเอียดเก่ียวกับระดับความสามารถในปัจจุบัน ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวยสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาให้เป็นเฉพาะบุคคล รวมทั้งแนวทางการจัดการเรียน การสอนและ การวัดผลประเมินผล พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ให้นิยามไว้ว่า แผนการจัดการศึกษา เฉพาะบุคคล หมายถึง แผนซึ่งกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษ ของคนพิการ ตลอดจนกาหนดเทคโนโลยี ส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใด ทางการศึกษาเฉพาะบคุ คล มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา (2556) กล่าวว่า แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หมายถึง แผน ซึ่งกาหนดแนวทางการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของคนพิการ ตลอดจน กาหนด เทคโนโลยี ส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาเฉพาะบุคคล กล่าวโดย สรุป แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หมายความว่า แผนการจัดการศึกษาท่ีจัดทาขึ้น ให้สอดคล้องกับ ความตอ้ งการพิเศษของคนพกิ ารรายบุคคลโดยเฉพาะ โดยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร สถานศึกษา ผู้ปกครอง ครูและคณะสหวิชาชพี ทีเ่ ก่ียวข้องร่วมกันจัดแผนการศึกษาให้คนพิการเป็น ลายลักษณ์อักษร ซ่ึงในแผนจะต้อง ระบุความสามารถในปจั จบุ นั เป้าหมายระยะยาว 1 ปี จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เกณฑ์และวิธีการวัดประเมินผล กาหนดสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความ สะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใด ทางการศึกษา ตลอดจนมีการทบทวนปรบั ปรุงแผนตามความเหมาะสม หลักการจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล กฎหมายการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ (Individual with Disabilities Education Act: IDEA) ดังกล่าวเบื้องต้น ระบุให้จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเพื่อการพัฒนาเด็กพิการทุกคน โดยแผนการ จัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะต้องได้รับการปรับให้ตอบสนองความต้องการพิเศษของผู้เรียนเป็นรายบุคคลตาม กระบวนการจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ในกฎหมายฉบับดังกล่าวยังระบุถึงหลักการเบื้องต้นตาม กฎหมายในการจดั การศึกษาสาหรับคนพกิ าร 6 ประการ (Heward, 2006) ได้แก่ 1. เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา (Zero reject) เป็นการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคน รวมถึงคนพิการ ต้องได้รบั การประเมินคน้ หาอยา่ งเป็นระบบ การคัดกรอง และประเมินตงั้ แต่แรกเกดิ หลักการนี้เป็นการประกัน ความเทา่ เทยี มทางการศึกษารวมไปถึงคนพิการด้วย ผเู้ รียนทกุ คนจะได้รับบริการท่ีเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ตามความต้องการจาเป็นพเิ ศษ 2. การไม่เลือกปฏิบัติในการตรวจวัดและประเมิน (Nondiscriminatory identification and evaluation) โดยนักเรียนจะต้องได้รับการประเมินต่างๆ โดยปราศจากอคติและ นักการศึกษาจะต้องใช้ กระบวนการและเครอื่ งมอื ทีห่ ลากหลายในการประเมิน ซ่ึงจะทาให้สามารถประเมินเด็กได้สอดคล้องกับ สภาพ ทแี่ ท้จรงิ มากทีส่ ดุ

3. การให้บริการทางการศึกษาแบบให้เปล่าที่เหมาะสม (Free Appropriate Public Education: FAPE) โดยเด็กพิการทกุ คนจะต้องมีแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ที่สนองตอบต่อความต้องการจาเป็น โดย ไม่ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ยและมีเอกสารตา่ ง ๆ ท่ีถูกต้องตามกฎหมาย ท่ีสามารถตรวจสอบกระบวนการจัดการศึกษา ของครไู ด้ดว้ ย 4. การจัดการศกึ ษาในสภาพแวดล้อมท่ีมีขีดจากัดน้อยท่ีสุด (Least Restrictive Environment: LRE) ผู้เรยี นพิการควรได้รับการจัดการศกึ ษาในห้องเรียนรวมกบั เด็กทวั่ ไปโดยสถานศึกษา จะตอ้ งจัดวางและมีบริการ การช่วยเหลือท่ีเป็นทางเลือกให้กับผู้เรียน ซึ่งจะทาให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ รวมท้ังทักษะสังคม และเรียนรู้ในสถานการณ์จริงท่ีสอดคล้องกับวัยวุฒิ เป็นการให้เด็กได้เรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตในสถานการณ์จริง อกี ทัง้ ยังเปน็ ประโยชน์กบั นกั เรยี นท่ัวไปที่จะได้เรยี นรู้ซงึ่ กนั และกนั อีกดว้ ย 5. การพิทักษ์สิทธิในการรับบริการ (Procedural Due Process) เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบ กระบวนการขั้นตอน การจัดวาง และสามารถที่จะตรวจสอบ รวมถึงพิทักษ์สิทธิของคนพิการ ระบบ ดังกล่าว เป็นการรบั ผดิ ชอบรว่ มกันระหว่างสถานศกึ ษากบั ผู้ปกครอง 6. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและคนพิการ (Parental and Student Participation) เป็นการให้ ผู้ปกครองและผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผน การดาเนินการในการรับบริการการศึกษาพิเศษ และการ ตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับพวกเขากฎหมายดังกล่าวให้ความสาคัญกับคนพิการ ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ ผู้ปกครองและคนพิการในการจัดการศึกษา และได้มีการกล่าวถึงแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ซ่ึงเป็น เครอื่ งมือที่จะน าไปส่กู ารได้รับสทิ ธิตา่ ง ๆ โดยคานึงถึงความต้องการพเิ ศษของคนพิการแต่ละคนเป็นหลัก นอกจากน้ยี ังมนี กั การศึกษาไดใ้ หห้ ลักการของแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คลไว้ ดังต่อไปน้ี ซีเกล กลา่ วถึงหลกั การในการจัดทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคลวา่ มหี ลักการดังต่อไปนี้ (Siegel : 2002) 1. ผู้ปกครองจะมีสว่ นรว่ มในการจดั การเรยี นการสอน 2. เม่ือเดก็ ไดร้ ับสิทธใิ นการจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ผู้ปกครองจะต้องเข้า ร่วมประชุม จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยเน้นท่ีการจัดการศึกษาพิเศษว่าเป็นอย่างไร และจะมีการ ปรบั เปลี่ยนอย่างไร 3. ผปู้ กครองและสถานศกึ ษาจะต้องลงความเหน็ และลงนามร่วมกันในการจัดทาแผนการจัดการศึกษา เฉพาะบุคคล 4. ถ้าผู้ปกครองต้องการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการจัดการศึกษาต้องมีการนัดประชุมหารือและ ลงความเหน็ 5. ผู้ปกครองสามารถร้องขอให้มีการนัดประชุมได้ตลอดหากพบปัญหาที่เกี่ยวกับ พัฒนาการของเด็ก ปัญหาในห้องเรยี นหรือบรกิ ารต่าง ๆ 6. สถานศกึ ษาท่ใี หบ้ ริการตอ้ งดาเนนิ การจดั หาบรกิ ารหรือสื่อเพ่ือสนบั สนุนการจดั การศึกษา ศรียา นิยมธรรม (2546) กล่าวถึง แนวคิดในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล มีหลักการ เบอื้ งตน้ คอื

1..ทกุ คนมโี อกาสเท่าเทียมกนั ในการที่จะไดร้ ับบริการทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนท่ัวไป เม่ือรฐั จดั การศกึ ษาใหแ้ กน่ กั เรยี นทั่วไปแล้ว ก็ควรจัดการศึกษาใหแ้ กน่ ักเรยี นท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษด้วย หากนักเรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษไม่สามารถเรียนในโปรแกรมการศึกษาที่รัฐจัดให้นักเรียนทั่วไปได้ ก็เป็นหน้าท่ขี องรฐั ทจ่ี ะจดั การศึกษาใหส้ นองตอ่ ความตอ้ งการของนักเรียนดังกล่าว 2..นักเรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษควรได้รับการศึกษาควบคู่ไปกับการบาบัด การฟื้นฟู สมรรถภาพทุกด้านโดยเร็วท่ีสุด ในทันทีที่ทราบว่านักเรียนมีความต้องการพิเศษ ท้ังนี้เพ่ือเป็นการเตรียม นกั เรยี นให้พร้อมทีจ่ ะเรียนตอ่ ไป และมีพฒั นาการทกุ ด้านถึงขีดสูงสดุ 3..การจัดการศึกษาพิเศษควรคานึงถึงการอยู่ร่วมกันกับสังคมทั่วไปอย่างมีประสิทธิภาพการเรียน การสอนนักเรยี นที่มีความต้องการจาเปน็ พิเศษจงึ ควรให้เรียนรว่ มกบั นักเรียนท่ัวไปใหม้ ากที่สดุ 4..การจัดการศึกษาพิเศษ ต้องปรับให้เหมาะกับสภาพความเสียเปรียบของนักเรียนท่ีมีความต้องการ จาเป็นพเิ ศษแตล่ ะประเภท 5..การศึกษาพิเศษและฟ้ืนฟูบาบัดทุกด้าน ควรจัดเป็นโปรแกรมให้เป็นรายบุคคลในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนบางอย่างอาจจดั เป็นกล่มุ เลก็ สาหรบั นักเรยี นทมี่ ีความบกพร่อง หรอื มคี วามต้องการคล้ายคลึง กนั และอยูใ่ นระดับความสามารถใกล้เคยี งกัน 6..การจัดโ ปรแกรมการส อนนักเรียนท่ีมีความต้องการ จา เป็นพิเศษควรเน้นที่ความส ามารถของ นักเรียน และให้นักเรียนได้มีโอกาสประสบความสาเร็จมากกว่าที่จะคานึงถึงความพิการ หรือความบกพร่อง เพอื่ ใหน้ ักเรียนมคี วามม่นั ใจว่า แม้ตนจะมีความบกพร่อง แต่ก็ยังมีความสามารถ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถ ปรับตวั ได้ดีขึ้น 7..การศึกษาพิเศษควรมุ่งให้นักเรียนมีความเข้าใจ ยอมรับตนเอง มีความเช่ือมั่นช่วยตนเองได้ ตลอดจนมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสังคม สุทธิพร วิจิตรพันธ์ุ (2549) กล่าวว่า ลักษณะสาคัญของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลที่จัดทา ให้กบั เดก็ พกิ ารนั้น มีลกั ษณะดังต่อไปน้ี 1. เด็กพกิ ารแต่ละคนมแี ผนการจัดการศึกษาท่ีไมเ่ หมือนกนั และอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ 2. การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลน้ันจะมีเป้าหมายรายปี โดยกาหนดจุดประสงค์ ระยะยาวและจุดประสงค์ระยะสน้ั 3. ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะเชื่อมโยงการบริการท่ีเกี่ยวข้องกับความต้องการจาเป็น พเิ ศษ ของเด็กพกิ ารแต่ละคน เช่น การบรกิ ารทางด้านการฟ้นื ฟสู มรรถภาพ การบรกิ ารทางการศกึ ษา 4. ในแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคลจะต้องมีวิธกี ารประเมินผลประจาปเี พื่อพจิ ารณาความก้าวหน้า 5. ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลจะต้องระบุระดับความสามารถทางการศึกษาและพฤติกรรม ของเด็ก โดยการประเมนิ ผลทุก ๆ ดา้ น 6. มีการแสดงกาหนดเวลาท่ีเริ่มตน้ และสิน้ สดุ การใหบ้ ริการ 7. แสดงเกณฑ์ วตั ถปุ ระสงค์ ขนั้ ตอนการประเมินผลอยา่ งเหมาะสมตามแผน

8. แผนการศึกษาเฉพาะบุคคลเป็นเอกสารท่ีพิสูจน์การยินยอมของโรงเรียนในการจัดการศึกษาให้กับ เดก็ พิการ 9. เป็นเครื่องมือส่ือสารในการกาหนดการจัดการศึกษาพิเศษให้กับเด็ก โดยเป็นที่ยอมรับของ ผู้ปกครองและผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง ประคอง ผลพิชญานันท์ (2552) กล่าวว่า แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล คือ การจัดการศึกษา ให้กับนักเรียนท่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ โดยยึดหลักที่ว่านักเรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้และ พัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด การจัดการศึกษาต้องมุ่งเน้นส่งเสริมให้ ผู้เรียนสามารถ พฒั นาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ การจัดการเรียนรู้จะต้องจัดเนื้อหา สาระ และกิจกรรม ให้สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจของผู้เรยี น โดยคานงึ ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคลเป็นสาคัญ มหี ลกั การในการจัดทา ดังตอ่ ไปน้ี 1. ตอ้ งยดึ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ 2.dต้ อ งก า ห น ด กร ะบ ว น ก า ร พั ฒ น า คว า ม ส า มา ร ถข อง นั ก เ รี ย น ที่มี คว า มต้ อง กา ร จ า เ ป็ น พิ เ ศ ษ ให้สอดคล้องกบั ความต้องการจาเปน็ แตล่ ะคน 3. มงุ่ พฒั นานกั เรยี นที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษอยา่ งเต็มศักยภาพทกุ ดา้ น 4. บคุ คลทุกฝุายท่เี กี่ยวข้องตอ้ งมีส่วนรว่ มในการจดั ทาแผน 5. ต้องดาเนินการจัดทาตามกระบวนการอย่างครบถ้วนตามลาดับ ตั้งแต่การสารวจ ศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ประเมินและคัดแยก ประสานหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง การวางแผนและจัดทา แผนการเตรียม ความพร้อม และการประเมินผล 6. ดาเนินการด้านการจัดกระบวนการเรียนการสอน การจัดประสบการณ์เรียนรู้ การจัดกิจกรรมและ การประเมินผลใหเ้ ป็นไปอยา่ งมีระเบยี บแบบแผน ตลอดจนมกี ารตรวจสอบได้ ดงั นัน้ หลักการของการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลนั้น จะต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ กฎหมายต่าง ๆ ที่คานึงถึงสิทธิของคนพิการ ต้องมีการประเมิน และวางแผนการจัดการศึกษาท่ีเหมาะสมกับ ความต้องการพิเศษของคนพกิ ารแตล่ ะคน ภายใตค้ วามรว่ มมอื ของครู นกั การศึกษา คณะสหวิชาชีพ ผู้ปกครอง และคนพิการเอง เพื่อให้คนพิการได้รับการพัฒนาอย่างเป็นกระบวนการ สามารถตรวจสอบ ปรับเปลี่ยน และ ประเมนิ ผลโดยคานึงถงึ ศักยภาพที่แทจ้ ริงของคนพิการเปน็ หลกั วัตถุประสงค์ของการจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล 1. เพอ่ื ให้คนพกิ ารไดร้ บั การจดั การศกึ ษาให้สอดคล้องความต้องการพิเศษเปน็ รายบุคคล โดยเฉพาะ 2. เพือ่ ใช้เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้การตรวจสอบความก้าวหน้าทางการเรียนและพัฒนาการของ ผเู้ รียน 3. เพ่ือให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง ครู และคณะสหวิชาชีพ มีส่วนร่วมในการวางแผนการจัด การศึกษาใหผ้ เู้ รียนแต่ละคนได้รับพัฒนาเตม็ ศักยภาพ 4. เพ่อื ใหส้ ถานศึกษาสามารถวางแผนจัดบรกิ ารทางการศึกษา ตลอดจนจัดหา ส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับความ ต้องการพิเศษของผเู้ รียน

องคป์ ระกอบของแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เป็นแผนให้บริการทางการศึกษาพิเศษ ที่จัดทาเป็นลายลักษณ์ อักษรให้กับผู้เรียนที่มีความบกพร่องเป็นรายบุคคล โดยความร่วมมือของบุคลากรที่เก่ียวข้องและได้รับความ เหน็ ชอบจาก บดิ า มารดา ผู้ปกครอง หรอื ผู้เรียน และมกี ารทบทวนแผนทุกภาคเรยี น กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศกระทรวงเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษา เฉพาะบคุ คลระดับการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2552 โดยมีองค์ประกอบดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ข้อมูลท่ัวไปเป็นข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยชื่อ-สกุล เลขประจาตัว ประชาชน การจดทะเบียนคนพิการ วันเดือนปีเกิด ประเภทความพิการ ชื่อ-สกุลบิดา-มารดา ช่ือ-สกุล ผู้ปกครองและท่อี ยขู่ องผู้เรยี นหรอื ผปู้ กครองท่ตี ิดตอ่ ได้ 2..ข้อมูล ด้าน การ แพท ย์หรื อด้า นสุ ข ภ าพ เป็น ข้อมู ล ของ ผู้ เรี ยนซึ่ งเกี่ ยว ข้ องกั บกา รเจ็ บป่ ว ยแล ะ การรักษา ประกอบด้วย โรคประจาตัว ประวัติการแพ้ยา โรคภูมิแพ้ ข้อจากัดอ่ืน ๆ และผลการตรวจ ทางการแพทยต์ ่าง ๆ 3..ข้อ มู ล ด้ า น กา ร ศึก ษ า เ ป็ น ข้อ มู ล ท่ีผู้ เ รี ย น ไ ด้ รั บ ห รื อ ไ ม่ไ ด้ รั บ ก า ร ศึก ษ า บ ริ ก า ร ท า ง ก า ร ศึ ก ษ า ประกอบด้วย การได้รับการศึกษาหรือบริการทางการศึกษาจาก ศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนเฉพาะความพิการ โรงเรียนเรียนร่วม การศึกษาด้านอาชีพ การศึกษานอกระบบ การศกึ ษาตามอัธยาศยั และอนื่ ๆ 4..ข้อมูลอื่น ๆ ที่จาเป็น เป็นข้อมูลความสามารถพิเศษ บุคลิกภาพเฉพาะบุคคลหรือข้อมูลบุคคล ทม่ี ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ตลอดจนพ้ืนฐานสถานภาพครอบครัว 5..กาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษา พิเศษเป็นข้อมูลของผู้เรียนในการ วางแผนการจัดการศึกษา ประกอบด้วย ระดับความสามารถในปัจจุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรม (เป้าหมายระยะส้นั ) เกณฑแ์ ละวิธีประเมนิ ผลและผรู้ บั ผิดชอบ 6. ความต้องการด้านสิ่งอานวยความสะดวกเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อบริการ และ ความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษา เป็นการระบุรายการ รหัส สิ่งที่มีอยู่แล้ว ส่ิงท่ีต้องการ จานวนเงินที่ขอ อดุ หนนุ เหตผุ ลและความจาเป็น และผู้ประเมิน 7..คณะกรรมการจัดทาแผนเป็นการระบุองค์คณะบุคคลในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บคุ คล ประกอบดว้ ย ผ้บู ริหาร บิดา/ผ้ปู กครอง ครปู ระจาชัน้ หวั หนา้ งานวชิ าการ สหวทิ ยาการ 8..ความเห็นของบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้เรียนการลงความเห็นขอบในการจัดทาแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคล องค์ประกอบของแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลทั้ง 8 ข้อ เป็นข้อมูลสาคัญพ้ืนฐานเพ่ือนาไปสู่ การวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล อันจะนาไปสู่กระบวนการวางแผนอย่างมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ใหส้ อดคล้องและเหมาะสมตามความต้องการพเิ ศษของผเู้ รยี น

กลุ่มเป้าหมายทไี่ ดร้ บั ประโยชนจ์ ากแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล จัดทาข้ึนเพ่ือให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทางด้านการศึกษา เต็มศกั ยภาพและสอดคล้องกับความต้องการพเิ ศษของแต่ละบคุ คล โดยเกิดประโยชนต์ ่อผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งดงั น้ี ประโยชนต์ ่อผเู้ รยี น 1. ผู้เรียนได้รับการช่วยเหลือบาบัด ฟื้นฟูสมรรถภาพ บริการทางการศึกษาเต็มศักยภาพอย่างเป็นระบบ และเหมาะสมกับความต้องการพเิ ศษของแต่ละบุคคล 2. ผู้เรียนได้รับสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความ ชว่ ยเหลืออนื่ ใดทางการศึกษาตามกฎกระทรวง 3. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษา การพัฒนาศักยภาพ การวัดและประเมินผล ตลอดจนการปรับปรุงเปูาหมายในการจัดการศกึ ษาของตน 4. ผูเ้ รียนไดร้ ับบรกิ ารช่วงเชอื่ มตอ่ (Transition) ทางการศึกษา และด้านอ่ืน ๆ อยา่ งเหมาะสม ประโยชน์ตอ่ ครูผูส้ อน 1. ครูผสู้ อนมีข้อมูลในการวางแผนการจดั การศึกษาใหส้ อดคล้องกับความต้องการพเิ ศษของผ้เู รียน 2. ครูผสู้ อนร้ขู อบเขตความรับผิดชอบการจดั การเรยี นการสอนของตนเอง 3. ครผู สู้ อนมขี ้อมูลในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกบั ศกั ยภาพของผ้เู รียน 4. ครูผู้สอนวดั และประเมินผลการพัฒนาได้สอดคล้องกบั เป้าหมายที่กาหนดไว้ 5. ครผู ้สู อนสามารถปรบั ปรุงแผนการจัดการศึกษาให้เหมาะสมสอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของผเู้ รยี น 6. ครูผู้สอนสามารถจัดสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ส่ือ บริการและ ความชว่ ยอ่ืนใดทางการศกึ ษาที่เหมาะสมกับผู้เรียน ประโยชนต์ อ่ ผ้ปู กครอง 1. ผปู้ กครองมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนการจัดการศึกษาและรับรเู้ ป้าหมายในการพัฒนาบตุ รหลาน 2. ผปู้ กครองสามารถขอรับส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และ ความชว่ ยอื่นใดทางการศึกษา เพ่ือนาไปใช้ในการพัฒนาบตุ รหลานท่ีบ้านไดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง 3. ผู้ปกครองมีความรู้ ความเข้าใจและมสี ่วนร่วมในการพัฒนาการศกึ ษาของบตุ รหลานไดอ้ ย่างถูกต้อง 4. ผูป้ กครองมสี ่วนรว่ มในการวดั และประเมินผล การปรับปรุงแผนการจดั การศึกษาให้สอดคล้อง เหมาะสมกับศักยภาพของบตุ รหลาน 5. ผู้ปกครองรับทราบความก้าวหน้าและพัฒนาการของบุตรหลานซ่ึงสามารถนามาวางแผนพัฒนา คุณภาพชวี ติ บุตรหลานไดอ้ ย่างมีเปา้ หมาย ประโยชน์ตอ่ สถานศกึ ษา 1. สถานศึกษามขี อ้ มูลในการจดั ผู้เรยี นเข้าศกึ ษาในรปู แบบ ระบบ และระดบั ท่ีเหมาะสม 2. สถานศกึ ษามขี ้อมูลในการวางแผนบริหาร จัดงบประมาณ การพัฒนาหลักสูตร และแนวทางในการ จดั การเรียนการสอนแกผ่ เู้ รียน

3. สถานศึกษาสามารถวางแผนจัดบริการทางการศึกษา ตลอดจนจัดหาส่ิงอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยอ่ืนใดทางการศึกษาที่เก่ียวข้องสอดคล้องกับ ความตอ้ งการพเิ ศษของผเู้ รียน 4. สถานศึกษามีข้อมูลในการกาหนดทิศทางการจัดการ การประสานความร่วมมือ และการส่งต่อ ผเู้ รียนให้กับหนว่ ยงานทเี่ ก่ยี วขอ้ ง 5. สถานศกึ ษามขี ้อมลู เพอ่ื ใช้ในการปรบั ปรุง พฒั นา สง่ เสริมการจดั การศึกษาของผ้เู รยี น ประโยชนต์ ่อผูบ้ ริหาร 1. ผู้บรหิ ารมีส่วนร่วมในการวางแผนการจัดการศึกษา การวัดผล ประเมินผลและการปรับปรุงการจัด การศึกษาให้กับผู้เรยี นอยา่ งเหมาะสม 2. ผู้บริหารมีข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการสถานศึกษาด้านบริหารงานทั่วไป แผนงานและ งบประมาณ วิชาการ และบคุ ลากร ทเ่ี อือ้ ต่อการจดั การเรยี นรู้ และพฒั นาศกั ยภาพของผ้เู รยี น ประโยชน์ตอ่ คณะสหวชิ าชพี คณะสหวิชาชีพแต่ละด้านสามารถวิเคราะห์ วางแผน และประเมินผู้เรียนได้อย่างเหมาะสมและ สอดคล้องเพอ่ื ร่วมพัฒนาผเู้ รยี นให้เตม็ ศกั ยภาพ

หน่วยที่ 2 กระบวนการจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) เป็นแผนการจัด การศึกษาท่ีจัดทาข้ึนให้สอดคล้องกับความต้องการพิเศษของผู้เรียนแต่ละคนโดยเฉพาะความร่วมมือของ ผู้ปกครอง ผู้สอน และคณะสหวิชาชีพท่ีเก่ียวข้องร่วมกันจัดแผนการศึกษาให้ผู้เรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาให้เป็นการเฉพาะ บุคคล ซึ่งมขี น้ั ตอนการดาเนินการ ดังน้ี ขัน้ เตรยี มการ เมอ่ื พบวา่ ผเู้ รยี นมีปญั หาทางดา้ นการศึกษา สถานศึกษาควรดาเนินการดงั นี้ 1. การรวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมูลของผู้เรียนจากบุคคลที่เก่ียวข้องกับผู้เรียนไม่ว่าจะเป็น ผู้ปกครอง แพทย์ ครู หรือบุคคลอ่ืน ๆ ท่ีพอจะสอบถามข้อมูลได้ การรวบรวมข้อมูลอาจใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การสัมภาษณ์ การสอบถาม การสังเกต และเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนทาความเข้าใจกับผู้ปกครอง และผ้ทู ่ีเกีย่ วขอ้ งเกย่ี วกบั สภาพปัญหาและร่วมกันหาแนวทางช่วยเหลือผู้เรยี น 2. การคัดกรองประเภทความพิการทางการศกึ ษา ขออนุญาตผู้ปกครองคัดกรองผู้เรียน โดยใช้แบบคัดกรองคนพิการทางการศึกษาของกระทรวง ศึกษาธิการ และอาจใช้แบบคัดกรองของหน่วยงานอ่ืน ๆ เพ่ิมเติมตามความเหมาะสมเพ่ือให้ได้ ข้อมูลของ ผู้เรียนท่ลี ะเอียดมากยิง่ ข้นึ กรณีพบว่าผู้เรียนมีแนวโน้มว่ามีความบกพร่องต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบว่า โรงเรียนค้นพบอะไร เกีย่ วกบั ผเู้ รยี นและแนะนาให้ผปู้ กครองนาสง่ แพทย์หรือนกั วิชาชพี วนิ ิจฉยั เพิ่มเติม ขน้ั การจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล 1. แต่งตัง้ คณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล แต่งต้ังคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2552 ประกอบดว้ ย ผู้บรหิ าร บดิ า มารดา ผปู้ กครอง ครู ครูประจาชั้น หรือหัวหน้างานวิชาการ หรือคณะสหวิชาชีพ ตามความต้องการจาเปน็ พิเศษของผู้เรียน 2. การตรวจสอบความสามารถพน้ื ฐาน (Assessment of Basic skill) ตรวจสอบเพ่ือประเมินความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน (Students) ตามหลักสูตร สถานศึกษา ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้/ทักษะการเรียนรู้ เพ่ือให้ทราบจุดเด่นและจุดด้อย (ระดับความสามารถใน ปัจจบุ นั ) - จดุ เดน่ คอื ความสามารถหรือศกั ยภาพปัจจุบันที่ผู้เรียนสามารถทาได้ในสาระการ เรียนรู้/ทักษะ การเรียนรู้

- จุดดอ้ ย คือ สิ่งท่ีผู้เรียนไม่สามารถทาได้ในสาระการเรียนรู้/ทักษะการเรียนรู้ ทั้งน้ีควรตรวจสอบ จากสภาพจริงในหลายสถานการณ์ ให้ครอบคลุมถึงบริบทด้านส่ิงแวดล้อม (Environment) ซ่ึงประกอบด้วย ส่ิงแวดล้อมด้านบุคคลและส่ิงแวดล้อมด้านกายภาพท่ีเอ้ือหรือเป็นอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ด้าน กิจกรรม (Tasks) ท่ีผู้เรียนปฏิบัติได้หรือไม่ได้ หรือยังไม่ได้รับการส่งเสริมในการทากิจกรรม กิจกรรมนั้น เหมาะสมกับผู้เรียนหรือไม่ และด้านเทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออ่ืนใด ทางการศึกษา (Tools) ที่ผูเ้ รยี นได้รับหรือ ยังไม่ได้รับก่อนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล เพ่ือให้ ได้ข้อมลู ทีถ่ กู ต้อง และน าข้อมูลมา วิเคราะห์จัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลตามความต้องการพิเศษ ของแตล่ ะบคุ คล กรณีสถานศึกษาตรวจสอบความสามารถพ้ืนฐานแล้ว พบว่าผู้เรียนมีความพร้อมตามกลุ่มสาระ การเรียนร/ู้ ทักษะการเรียนรู้ หรอื ผ่านเกณฑ์ตามท่กี าหนดไวใ้ นแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หรือผ่านการ พจิ ารณาจากคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คลแล้ว เห็นว่าผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียน ในช้ันระดับทสี่ ูงขึน้ หรอื สมควรจะฝึกทักษะด้านอื่น ๆ ให้ดาเนนิ การเข้าส่กู ระบวนการชว่ งเช่ือมตอ่ (Transition) 3. การจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program) คณะกรรมการนาขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากการรวบรวมและข้อมูลจากผลการตรวจสอบความสามารถพ้ืนฐาน มาจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล ตามองค์ประกอบที่กาหนดไว้ในประกาศกระทรวง เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. 2552 เพ่ือกาหนด แนวทางการจัดการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ ตลอดจนกาหนดส่ิงอานวยความสะดวก ส่ือ บรกิ าร และความชว่ ยเหลืออนื่ ใดทางการศึกษาตามความต้องการจาเปน็ พเิ ศษของผู้เรียน โดยให้คานึงถึงบริบท ดา้ นผเู้ รียน (Students) ดา้ นสิง่ แวดล้อม (Environment) ด้านกิจกรรม (Tasks) และด้านเทคโนโลยีส่ิงอานวย ความสะดวก สือ่ บริการ และความ ช่วยเหลอื อนื่ ใดทางการศึกษา (Tools) ดว้ ย ข้นั การนาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คลไปใช้ 1. การจัดทาแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan) ครูผู้สอนวิเคราะห์จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เป้าหมายระยะส้ัน) ท่ีกาหนดในแผนการจัดการศึกษา เฉพาะบคุ คล มาดาเนนิ การออกแบบแผนการสอนเฉพาะบคุ คลตามองค์ประกอบของแผนการสอนเฉพาะบุคคล ให้เหมาะสมกบั ความต้องการจาเป็นพิเศษของผู้เรียนแต่ละคน โดยการวิเคราะห์งานหรือกิจกรรมจากกิจกรรม ที่ง่ายไปสกู่ จิ กรรมทย่ี ากข้นึ หรือจากกิจกรรมที่เปน็ รปู ธรรมไปสกู่ ิจกรรมท่ีเปน็ นามธรรมตามลาดบั เป็นต้น 2. การนาแผนการสอนเฉพาะบุคคลไปใช้ ครูผู้สอนนาแผนการสอนเฉพาะบุคคลไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามท่ีกาหนดไว้ในแต่ละ ขั้นตอน/วธิ ีสอน พร้อมทัง้ บันทึกหลงั สอนและประเมินผลการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนในแต่ละครัง้ ขน้ั การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล คณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลประชุมเพื่อประเมิน ทบทวนและปรับแผน พรอ้ มจัดทารายงานผลการเรยี นรอู้ ย่างนอ้ ยปีการศึกษาละ 2 คร้งั โดยประเมินตามขั้นตอนดังน้ี

1. การประเมนิ ผลการเรียนร้ตู ามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล การประเมินผลการเรียนรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล เป็นการประเมินผลการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ ให้ทราบวา่ ผเู้ รียนมพี ฒั นาการตามท่ีระบุไว้ในแผนการสอนเฉพาะบคุ คลฉบับน้ันหรือไม่ โดยประเมิน ตามวิธกี าร เครื่องมือ และเกณฑร์ ะดับคุณภาพท่รี ะบุไวใ้ นแผนการสอนเฉพาะบุคคล 2. การประเมนิ ผลการเรียนรูต้ ามจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (เปา้ หมายระยะสน้ั ) การประเมินผลการเรียนรู้ตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ทาได้โดยประมวลผลการผ่านของจานวน แผนการสอนเฉพาะบุคคล และนามาเทียบกับเกณฑ์และวิธีประเมินผลการผ่านจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เป้าหมายระยะส้นั ) ท่กี าหนดไวใ้ นแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล 3. การประเมินผลการเรียนรตู้ ามเป้าหมายระยะยาว 1 ปี การประเมินผลการเรียนรู้ตามเปูาหมายระยะยาว 1 ปี โดยประมวลผลการผ่าน/ไม่ผ่าน (จานวน) จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม (เป้าหมายระยะสน้ั ) ของผเู้ รียน และนามาเทียบเกณฑก์ ารผ่านตามท่สี ถานศึกษากาหนด 4. การประเมินผลการเรยี นรแู้ ละระดับคณุ ภาพตามแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล การประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ทาได้โดยประมวลผลการผ่าน/ไม่ ผ่านจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เป้าหมายระยะส้ัน) ของทุกเป้าหมายระยะยาว 1 ปี มาคานวณหาค่าร้อยละ และนามาเทียบเกณฑ์การผ่านตามเกณฑ์ระดับคุณภาพของหลักสูตรการให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม สาหรับเด็กพกิ าร ศูนย์การศึกษาพิเศษ พุทธศกั ราช 2556/หลักสตู รสถานศึกษา ใ น ก ร ณี ท่ี ผู้ เ รี ย น มี พั ฒ น า ก า ร ห รื อ ผ ล ก า ร เ รี ย น รู้ ต่ า ก ว่ า ห รื อ สู ง ก ว่ า เ ป้ า ห ม า ย ที่ ก า ห น ด ไ ว้ คณะกรรมการฯ สามารถทบทวนปรับแผนการสอนเฉพาะบุคคล จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เป้าหมายระยะยาว 1 ปี เพือ่ ให้ผ้เู รยี นไดร้ ับการพฒั นาเตม็ ศกั ยภาพ ขัน้ การสรุปและรายงานผล การสรุปและรายงานผลการจัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลนั้น สถานศึกษาต้องรายงานผลความก้าวหน้าของผู้เรียนตามแบบรายงานผลการพัฒนาผู้เรียน เพ่ือให้ผู้ปกครอง ผ้ทู เี่ ก่ยี วขอ้ งรับทราบอย่างน้อยปกี ารศกึ ษาละ 2 ครั้ง ขั้นการสง่ ตอ่ (Transfer) การส่งต่อผู้เรียนที่จบการศึกษาแต่ละระดับชั้น หรือย้ายสถานศึกษา ให้สถานศึกษานาส่งแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคล รายงานผลการพัฒนาผูเ้ รียน เพือ่ เปน็ ขอ้ มลู ในการจดั การศึกษาต่อไป หากผู้เรียนต้องการรับบริการด้านอ่ืน เช่น ด้านอาชีพ ด้านการแพทย์ ด้านสังคม เป็นต้น ให้ สถานศกึ ษานาส่งแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล รายงานผลการพัฒนาผู้เรียน เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับ หน่วยงานที่เก่ียวข้อง และให้สถานศึกษาพิจารณาดาเนินการจัดทาแผนการให้บริการช่วงเช่ือมต่อ(Individual Transition Plan) ตามความตอ้ งการพิเศษของผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล จากข้ันตอนในการดาเนินการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลดังกล่าวข้างต้น สามารถสรุป เป็นแผนภาพการดาเนนิ การไดด้ งั นี้





16 หนว่ ยท่ี 3 วธิ กี ารจัดทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล องคป์ ระกอบของแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ให้ศูนย์การศึกษาพิเศษ สถานศึกษาเฉพาะความพิการ สถานศึกษาท่ีจัดการเรียนร่วม ดาเนินการจัดทาการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2552 โดยมีองค์ประกอบดังตอ่ ไปนี้ 1..ข้อมูลท่ัวไปเป็นข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยช่ือ-สกุล เลขประจาตัว ประชาชน การจดทะเบียนคนพิการ วันเดือนปีเกิด ประเภทความพิการช่ือ - สกุลบิดา - มารดา ชื่อ - สกุล ผูป้ กครองและทีอ่ ยขู่ องผูเ้ รียนหรอื ผูป้ กครองที่ติดตอ่ ได้ 2..ข้อมูลด้านการแพทย์หรือด้านสุขภาพเป็นข้อมูลของผู้เรียนซ่ึงเก่ียวข้องกับการเจ็บป่วย และการรักษา ประกอบด้วย โรคประจาตวั ประวตั ิการแพ้ยา โรคภูมิแพ้ ข้อจากัดอื่น ๆ และผลการตรวจทางการแพทย์ต่าง ๆ 3..ข้อมูลด้านการศึกษาเป็นข้อมูลท่ีผู้เรียนได้รับหรือไม่ได้รับการศึกษา บริการทางการศึกษา ประกอบด้วย การได้รับการศึกษาหรือบริการทางการศึกษาจากศูนย์การศึกษาพิเศษ โรงเรียนเฉพาะความพิการ โรงเรียนเรียนรว่ ม การศึกษาด้านอาชีพ การศึกษานอกระบบ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั และอ่ืน ๆ 4..ข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีจาเป็น เป็นข้อมูลความสามารถพิเศษ บุคลิกภาพเฉพาะบุคคลหรือข้อมูลบุคคลที่มี ส่วนเก่ียวขอ้ ง ตลอดจนพืน้ ฐานสถานภาพครอบครัว 5..กาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษเป็นข้อมูลของผู้เรียนในการ วางแผนการจัดการศึกษา ประกอบด้วย ระดับความสามารถในปัจจุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงค์ เชิงพฤติกรรม (เป้าหมายระยะสั้น) เกณฑแ์ ละวธิ ปี ระเมินผล และผู้รับผดิ ชอบ 6..ความต้องการด้านส่ิงอานวยความสะดวกเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความ ช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา เป็นการระบุรายการ รหัส ส่ิงท่ีมีอยู่แล้ว ส่ิงท่ีต้องการ จานวนเงินที่ขออุดหนุน เหตผุ ลและความจาเป็น และผู้ประเมิน 7..ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร จั ด ท า แ ผ น เ ป็ น ก า ร ร ะ บุ อ ง ค์ ค ณ ะ บุ ค ค ล ใ น ก า ร จั ด ท า แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า เฉพาะบคุ คล ประกอบดว้ ย ผบู้ รหิ าร บิดา มารดา ผปู้ กครอง ครูประจาชั้น หัวหน้างานวิชาการ คณะสหวชิ าชีพ 8..ความเห็นของบดิ า มารดา ผ้ปู กครอง หรอื ผเู้ รียน เป็นการลงความเหน็ ชอบในการจัดทาแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบคุ คล อย่างไรก็ตามวิธีการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลสาหรับสถานศึกษาอาจมีคว ามแตกต่าง กันเน่ืองจากความแตกต่างในส่วนของเนื้อหาตามโครงสร้างของหลักสูตรท่ีสถานศึกษาใช้ ดังน้ัน วิธีการจัดทา แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล แผนการสอนเฉพาะบุคคล รวมไปถึงการวัดและประเมินผลตามแผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคลในสถานศึกษาประเภทต่าง ๆ จะมีความแตกต่างกันไป ดังจะเห็นได้จากตัวอย่าง แผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคลท่ีจัดทาตามทักษะการเรียนรู้ และสาระการเรยี นรู้ดงั ต่อไปนี้

ตวั อย่าง (ตามทักษะการเรยี นรู้) แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล (Individualized Education Program: IEP ) ช่อื สถานศกึ ษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดมหาสารคาม ระดับ เตรียมความพรอ้ ม สงั กดั สานักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ เริม่ ใชแ้ ผนวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2555 สนิ้ สดุ แผนวนั ที่ 15 พฤษภาคม 2556 1. ขอ้ มูลทว่ั ไป ชือ่ -ชื่อสกุล เด็กชายสดุ หล่อ ข้นั เทพ เลขประจาตวั ประชาชน 4-7105-00701-00-9 การจดทะเบียนคนพิการ  ไมจ่ ด  ยงั ไม่จด  จดแล้ว วัน/เดือน/ปเี กดิ 10 พฤศจกิ ายน 2551 อายุ 3 ปี 6 เดอื น ศาสนา พุทธ ประเภทความพกิ าร บุคคลออทิสติก ลักษณะความพกิ าร ไม่พูด กระตุน้ ตนเอง เล่นกับผ้อู ื่นไมเ่ ปน็ มีพฤติกรรมซ้า ๆ ชื่อ-ช่ือสกลุ บิดา นายร่ารวย ขนั้ เทพ ชื่อ-ชอ่ื สกุลมารดา นางสดุ สวย ขน้ั เทพ ช่อื -ชอ่ื สกลุ ผ้ปู กครอง นายรา่ รวย ข้นั เทพ เกยี่ วข้องเป็น บดิ า ท่อี ย่ผู ปู้ กครองท่ีติดต่อได้ บ้านเลขที่ 166 ตรอก/ซอย 12 หมทู่ ี่ - ชื่อหมูบ่ ้าน/ถนน นครสวรรค์ ตาบล/แขวง ตลาด อาเภอ/เขต เมือง จังหวดั มหาสารคาม รหัสไปรษณยี ์ 44000 โทรศพั ท์ 043-711111 โทรศัพท์เคลอ่ื นที่ 088 -5559559 โทรสาร 043-711111 e-mail address - 2. ขอ้ มูลดา้ นการแพทย์ หรอื ดา้ นสุขภาพ  โรคประจาตวั (ระบ)ุ .....................หอบหดื ........................................  ประวตั ิการแพ้ยา (ระบ)ุ .....................................................................  โรคภูมิแพ้ (ระบ)ุ ..................................................................................  ขอ้ จากดั อืน่ ๆ (ระบ)ุ ................ทานยาตามแพทย์ส่ัง.........................  ผลการตรวจทางการแพทย์ (ระบ)ุ พัฒนาการชา้ มีภาวะออทิซมึ 3. ข้อมูลด้านการศกึ ษา  ไมเ่ คยได้รบั การศกึ ษา / บรกิ ารทางการศึกษา  เคยได้รับการศกึ ษา / บริการทางการศึกษา  ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ เขตฯ 5 จังหวดั สุพรรณบรุ ี ระดบั เตรยี มความพร้อม พ.ศ. 2553

 โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร ....................ระดบั .................... พ.ศ. .............  โรงเรียนเรียนรว่ ม ............................... ระดบั .................... พ.ศ. ..............  การศกึ ษาด้านอาชีพ ......................... ระดับ ..................... พ.ศ. ............  การศึกษานอกระบบ ......................... ระดับ .................... พ.ศ. ............  การศึกษาตามอัธยาศัย .................... ...ระดับ ...................... พ.ศ. ...........  อน่ื ๆ................................................... ระดับ ...................... พ.ศ. ........... 4. ขอ้ มูลอ่นื ๆ ทจี่ าเปน็ - ฐานะทางเศรษฐกิจยากจน บดิ า มารดา มอี าชพี ค้าขาย - กลวั เสียงดังทีเ่ ปน็ เสยี งแหลม เชน่ เสียงสวา่ น เสยี งเล่ือยไฟฟ้า เสียงกบไสไม้ เสียงกรงิ่ เป็นต้น - กลัวสตั ว์ และสิง่ ของท่ีมีลักษณะเปน็ ขนปยุ เช่น สุนขั ขนปุย แมว ไม้กวาดขนไก่ เปน็ ต้น - ชอบรถของเล่น (รถฮอตวิลล์) มาก ต้องเอามาโรงเรยี นด้วยทกุ วัน - มีความสามารถในการต่อเลโกเ้ ปน็ รูปตา่ ง ๆ และประกอบหนุ่ ยนต์ของเลน่ - มีปัญหาเร่ืองการรับประทานอาหาร คือ ไม่รับประทานอาหารที่เป็นลักษณะราดแกง ต้องแยกเป็น ข้าวและกับ

5. กาหนดแนวทางการศกึ ษาและการวางแผนการจัดการศกึ ษาพเิ ศษ ระดบั ความสามารถในปจั จุบัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี จดุ ประสงค์เชงิ 1. ทักษะกลา้ มเนอื้ มัดใหญ่ - มีพฒั นาการสมวยั 2. ทักษะกลา้ มเนือ้ มัดเล็ก 1. ภายในปกี ารศกึ ษา 2555 1.1 ภายในเดือน ทักษะยอ่ ย การใชม้ ือ เดก็ ชายสดุ หลอ่ สามารถหมุน ของเลน่ ทมี่ ีปุ่มต่า เนอื้ หา การใช้นิ้ว เปิด-ปดิ วตั ถไุ ด้ หรอื หมนุ ปุ่มตา่ ง จดุ เด่น 1.2 ภายในเดือน เดก็ ชายสุดหลอ่ ข้ันเทพ สามารถ สถานการณ์ให้เป กาและบดิ วตั ถไุ ด้ หยิบวัตถโุ ดยใช้ สุดหลอ่ สามารถห นิว้ หัวแมม่ อื ร่วมกบั นวิ้ อ่นื ๆได้ 1.3 ภายในเดือน จุดด้อย กาหนดให้วตั ถุท่มี เดก็ ชายสุดหล่อ ขั้นเทพ ไม่สามารถ เดก็ ชายสดุ หลอ่ หมุนเปดิ -ปดิ วตั ถไุ ด้ ทักษะยอ่ ย การประสานสมั พันธ์ 1. ภายในปีการศึกษา2555 1.1 ภายในเดอื น ระหว่างตากบั มอื เดก็ ชายสุดหลอ่ สามารถ ใช้มือคลงึ ดนิ น้ า เนื้อหา การปน้ั ปั้นดินน้ามันแล้วคลึงเป็น เคล่ือนไหวมือเป็น จดุ เดน่ ก้อนกลมได้ 1.2 ภายในเดือน เดก็ ชายสดุ หลอ่ ขัน้ เทพ สามารถ กาหนดใหป้ น้ั ดนิ ปั้นดินน้ามันแล้วคลึงเปน็ เสน้ ยาวได้ เด็กชายสุดหล่อส จุดด้อย กอ้ นกลมได้ เดก็ ชายสุดหล่อ ขนั้ เทพ ไม่สามารถ ป้นั ดินน้ามนั แลว้ คลงึ เปน็ กอ้ นกลมได้

งพฤติกรรม (เป้าหมายระยะสัน้ ) เกณฑ์และวิธปี ระเมินผล 19 -- ผรู้ บั ผิดชอบ - นธันวาคม พ.ศ.2555 เม่ือกาหนด สามารถปฏิบตั ิได้ ร้อยละ นางน่มิ นวล โสภา างๆ ให้เด็กชายสุดหล่อสามารถบิด 70 ของจานวนแผนการสอน ครูประจาชน้ั ๆ จากของเล่นได้ เฉพาะบุคคลทัง้ หมด นมกราคม พ.ศ.2556 เมื่อกาหนด สามารถปฏิบัติได้ ร้อยละ นางน่มิ นวล โสภา ปิดหรอื ปิดประตูลูกบิด เด็กชาย 70 ของจานวนแผนการ ครูประจาชน้ั หมนุ ลกู บิดเพ่อื เปดิ -ปดิ ประตูได้ สอนเฉพาะบุคคลทง้ั หมด นพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมอื่ สามารถปฏิบัติได้ รอ้ ยละ นางน่ิมนวล โสภา มฝี าเกลียวขนาดตา่ งๆกันให้ 70 ของจานวนแผนการ ครูประจาชัน้ สามารถหมนุ เปดิ -ปดิ วัตถุได้ สอนเฉพาะบคุ คลท้ังหมด นตุลาคม พ.ศ.2555 เมอ่ื กาหนดให้ สามารถปฏิบัตไิ ด้ รอ้ ยละ นางนมิ่ นวล โสภา ามัน เดก็ ชายสุดหล่อ สามารถ 70 ของจานวนแผนการ ครูประจาชั้น นวงกลมได้ สอนเฉพาะบคุ คลทั้งหมด นพฤษภาคม พ.ศ. 2556 เมื่อ สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ รอ้ ยละ นางนม่ิ นวล โสภา นนา้ มันโดยคลึงเปน็ ก้อนกลม 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชัน้ สามารถคลงึ ดินนา้ มนั เปน็ สอนเฉพาะบคุ คลทง้ั หมด

ระดบั ความสามารถในปัจจบุ ัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงคเ์ ชงิ 3. ทักษะการช่วยเหลือตนเองใน - 1.1 ภายในเดอื น รูปปาก อา อี อู ชวี ติ ประจาวนั มพี ัฒนาการสมวัย เลียนแบบรูปปาก 4. ทักษะการรับรู้ และแสดงออก 1. ภายในปกี ารศกึ ษา2555 1.2 ภายในเดอื น เสียง อา อี อู โอ ทางภาษา เดก็ ชายสดุ หล่อ สามารถ ออกเสียงเลยี นแบ ทักษะย่อย การแสดงสหี นา้ ท่าทาง ออกเสยี งคาได้ถูกต้อง 1.3 ภายในเดือน กาหนดรูปภาพพ และคาพูด อู โอ โดยไม่มตี วั ออกเสียงได้ถูกต้อ เนือ้ หา การออกเสียงคาและ การใชค้ าพูด จุดเดน่ เด็กชายสดุ หลอ่ ขน้ั เทพ สามารถ แสดงสหี นา้ ทา่ ทางต่อคาพูด หรอื อารมณ์ต่อส่งิ เร้าภายนอก และ ภายในได้เหมาะสม จดุ ด้อย เด็กชายสดุ หล่อ ขัน้ เทพ ไม่ สามารถออกเสียงคาได้ถูกต้อง 5. ทักษะสังคมมีพฒั นาการสมวัย - 6.ทกั ษะทางสติปัญญาหรอื - เตรียม ความพร้อมทางวชิ าการ มพี ัฒนาการสมวยั

งพฤติกรรม (เป้าหมายระยะสั้น) เกณฑ์และวิธีประเมินผล 20 -- ผ้รู ับผิดชอบ - นสงิ หาคม พ.ศ.2555 เมอื่ กาหนด สามารถปฏบิ ตั ิได้ ร้อยละ นางนิ่มนวล โสภา โอ ให้ เด็กชายสุดหล่อ สามารถ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชนั้ ก อา อี อู โอ ได้ สอนเฉพาะบุคคลทั้งหมด นธันวาคม พ.ศ.2555 เม่อื กาหนด สามารถปฏิบัติได้ ร้อยละ นางน่ิมนวล โสภา อ ให้ เด็กชายสดุ หลอ่ สามารถ 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาช้นั บบ อา อี อู โอ ได้ สอนเฉพาะบุคคลท้งั หมด นพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมือ่ สามารถปฏิบตั ไิ ด้ ร้อยละ นางนิม่ นวล โสภา พร้อมออกเสยี งคาทผี่ สมสระ อา อี 70 ของจานวนแผนการ ครปู ระจาชัน้ วสะกด เด็กชายสดุ หล่อ สามารถ สอนเฉพาะบุคคลท้งั หมด อง - -- - --

ระดบั ความสามารถในปจั จุบัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี จุดประสงคเ์ ชิง 7. ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะสาหรับ 1. ภายในปีการศึกษา 2555 1.1 ภายในเดอื น เด็กออทิสติก เดก็ ชายสุดหล่อ สามารถบอก ส่งิ ของ เด็กชายส ทกั ษะยอ่ ย การแสดงออกทาง ความตอ้ งการของตนเองได้ ได้ ภาษา เนือ้ หา การแสดงออกทางภาษา 1.2 ภายในเดอื น จดุ เดน่ สามารถปฏบิ ัตติ ามคาสัง่ ต้องการสิ่งของ เ ได้ นาบัตรภาพมาแล จดุ ด้อย ไม่สามารถบอกความ ต้องการของตนเองได้

งพฤติกรรม (เป้าหมายระยะสั้น) เกณฑ์และวิธปี ระเมนิ ผล 21 นสงิ หาคม พ.ศ.2555 เมื่อ ต้องการ สามารถปฏิบตั ิได้ ร้อยละ 70 สุดหลอ่ สามารถ ชส้ี ่งิ ของทตี่ ้องการ ของจานวนแผนการ สอน ผู้รบั ผดิ ชอบ นางนม่ิ นวล โสภา เฉพาะบคุ คลทั้งหมด ครูประจาชั้น นพฤษภาคม พ.ศ.2556 เมื่อ สามารถปฏิบตั ิได้ ร้อยละ 70 นางนม่ิ นวล โสภา เด็กชายสดุ หล่อสามารถ ของจานวนแผนการ สอน ครปู ระจาชัน้ ลกส่ิงของท่ตี ้องการได้ เฉพาะบคุ คลท้งั หมด

6. ความต้องการดา้ นสงิ่ อานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่งิ อานวยความสะดวก ส่ือ บร สง่ิ ท่ีมีอยู่แลว้ ที่ รายการ รหสั ผจู้ ัดหา วิธกี าร ผ (1) (2) (3) (1) (2) (3) (1) 1. รายการตามบญั ชี ก AN0106 เครอ่ื งช่วยสอ่ื สาร(โอภา) 2. รายการตามบัญชี ข BM0115 เวลโก้ 3. รายการตามบัญชี ค CS0802 บริการฝึกพดู โดยครู 4. รายการอืน่ ๆ - ------- รวมรายการท่ีขอรบั การอดุ หนุน 2 รา รวมจานวนเงนิ ทข่ี อรบั การอุดหนนุ (สองพนั บา

ริการ และความชว่ ยเหลืออื่นใดทางการศกึ ษา 22 สิ่งทตี่ ้องการ จานวนเงนิ ผู้จัดหา วิธกี าร ทข่ี อ เหตุผลและความจาเปน็ ผู้ประเมนิ (2) (3) (1) (2) (3) อดุ หนุน  - ผู้เรียนมีความสามารถในการฟัง แต่ไม่สามารถพูดส่ือสารได้ จึง เหมาะสาหรับเป็นการส่ือสาร ทางเลือก  1,000 ใช้ในการผลิตสื่อ เพื่อใช้ในการ นางนิ่มนวล โสภา สอนการบอกความต้องการของ ครปู ระจาชนั้ ผูเ้ รียน  1,000 เพื่อพัฒนาความสามารถในการ พูดเป็นคาเพื่อให้สอดคล้องกับ ----- - แผนการสอนเฉพาะบคุ คล - ายการ าทถ้วน)

7. คณะกรรมการจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ลายมอื ชื่อ ชื่อ ตาแหน่ง งดงาม 7.1นายพุฒิภทั ร จุฑาเทพ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ขยนั 7.2 นายร่ารวย ขัน้ เทพ บิดา หรอื ผปู้ กครอง 7.3 นางน่มิ นวล โสภา ครูประจาช้นั 7.4 นางดอกฟูา น่าดมดอม ครกู ารศกึ ษาพเิ ศษ 7.5 นางสาวงดงาม อย่างไทย นักกจิ กรรมบาบัด 7.6 นายขยัน หม่นั เพยี ร ครูศิลปะ ประชุมวันท่ี 10 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2555 8. ความเห็นของบดิ า มารดา ผู้ปกครองหรอื ผเู้ รยี น การจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ฉบบั น้ี ข้าพเจา้  เหน็ ด้วย  ไมเ่ หน็ ด้วย ลงชอ่ื …………………………………… (นายร่ารวย ขัน้ เทพ) บิดา วนั ที่ 16 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ตัวอยา่ ง (ตามทกั ษะการเรียนรู้) แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan: IIP) ชื่อ-สกลุ เด็กชายสดุ หล่อ ขั้นเทพ ประเภทความพกิ าร บุคคลออทสิ ติก ปกี ารศกึ ษา 2555 ทักษะที่สอน การใช้กล้ามเนือ้ มัดเล็ก เนอื้ หา การใช้น้ิว เปา้ หมายระยะยาว 1 ปี ภายในปีการศึกษา 2555 เดก็ ชายสุดหล่อสามารถหมนุ เปดิ -ปดิ วตั ถไุ ด้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมขอ้ ที่ 1. ภายในเดือนธนั วาคม พ.ศ.2555 เม่ือกาหนดของเลน่ ทม่ี ีปุ่มตา่ ง ๆ ใหเ้ ดก็ ชายสดุ หล่อสามารถบิดหรอื หมุนปุ่มต่าง ๆ จากของเลน่ ได้ ******************************************************************************* แผนที่ 1 เรม่ิ ใชแ้ ผนวันท่ี 16 พ.ค.2555 วันสน้ิ สุดแผน 15 มิ.ย .พ.ศ. 2555 ใชเ้ วลาคร้งั ละ 30 นาที สาระสาคัญ การบิดหรอื หมุนไปในทศิ ทางตา่ ง ๆ จุดประสงค์ เดก็ ชายสุดหล่อ สามารถบิดหรอื หมนุ ปุ่มไปทางซ้ายและขวาได้ กจิ กรรมการเรียนการสอน ขน้ั นา 1. ผู้สอนกล่าวทกั ทายผู้เรยี น และพาผเู้ รียนร้องเพลง “ชูมอื ข้ึน แล้วหมนุ ” พร้อมกับทาท่าประกอบเพลง 2. ผู้สอนนาสติกเกอร์รูปรถฮอตวิลล์มาให้ผู้เรียนดู แล้วตกลงเง่ือนไขกับผู้เรียนว่า “ถ้าผู้เรียนสามารถ หมุนปุ่มตามทผี่ ู้สอนบอกได้ จะใหส้ ติกเกอร์ 1 แผ่น เพื่อตดิ ลงในสมุดสะสมฮอตวิลล์” ขัน้ สอน 1. ผสู้ อนนาของเล่นท่ีมีปุ่มสาหรับบิดหรอื หมุนท่ีมีแสง สี เสยี ง มาใหผ้ เู้ รียนดู พร้อมกบั สาธิตการ หมนุ ปุม่ ไปทางดา้ นซา้ ยและด้านขวา 2. ผูส้ อนฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นบิดหรือหมุนของเลน่ ตา่ งๆทีม่ ีปุ่ม โดยมีลาดับการฝกึ ดังนี้ 1) จับมอื ทา 2) ลดการช่วยเหลือลง 3) ใหท้ าดว้ ยตนเอง 3. ผูส้ อนให้ผ้เู รยี นบิดหรือหมุนของเล่นตา่ ง ๆ ทมี่ ปี มุ่ ด้วยตนเอง เมื่อผเู้ รยี นทาไดใ้ ห้กล่าวคาชมว่า “เก่งมาก” พร้อมกับปรบมือชมเชย ข้นั สรุป 1. ผู้สอนสรุปกิจกรรมโดยทบทวนว่า “วันน้ีสุดหล่อทากิจกรรมอะไร” พร้อมบอกว่า “บิดหรือหมุน ปุ่ม” และให้ผู้เรียนบิดหรือหมุนปุ่มของเล่นตามที่ผู้สอนกาหนดให้ แล้วสรุปว่าทาได้หรือไม่ได้ ถ้าได้ให้สติกเก อรร์ ปู รถฮอตวลิ ลต์ ามข้อตกลง พรอ้ มกับปรบมือชมเชย

สอ่ื /อปุ กรณ์ 1. ของเลน่ ทีม่ ีปมุ่ ชนดิ ต่าง ๆ เช่น วทิ ยุ เครือ่ งมอื ช่าง ฯลฯ 2. เพลง “ชมู ือขนึ้ แล้วหมนุ ” 3. สติกเกอร์รูปรถฮอตวลิ ล์พรอ้ มสมดุ สะสม การวดั และประเมินผล วธิ ีการ – การทดสอบโดยการปฏบิ ตั จิ รงิ เครื่องมอื – แบบบันทึกผลการปฏิบตั ิ เกณฑก์ ารประเมินผล – สามารถปฏิบตั ไิ ดใ้ นระดบั คุณภาพ 4 ขนึ้ ไป ลงชื่อ ...............นิม่ นวล ..................... (นางน่ิมนวล โสภา) ครูประจาช้ัน ความคดิ เห็นหัวหน้ากลุม่ บริหารงานวิชาการ ตรวจสอบแผนการสอนเฉพาะบคุ คลแลว้ สามารถนำไปใชส้ อนได้ ลงชื่อ ........................................... (นางจริงจัง ตรวจละเอยี ดมาก) หวั หน้างานวิชาการ

ตัวอยา่ งการวเิ คราะห์งานเพ่ือจัดทาแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (ตามทกั ษะการเรียนรู้) ทกั ษะท่ีสอน ทักษะการชว่ ยเหลอื ตนเอง - การใส่เส้ือยดื คอกลมสวมหัว จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมอ่ื ครใู ห้ ด.ช.............. ใส่เสือ้ ยืดคอกลมสวมหวั ด.ช........ จะใสเ่ สื้อยืดคอกลมได้เอง ลาดับการวิเคราะห์ 1. จดั เสอ้ื ดา้ นหนา้ – หลงั 2. จับคอเสื้อสวมหัว 3. ดงึ คอเส้ือลงมาระดับคอ 4. ยกแขวนขวาใส่ในแขนเสอ้ื ข้างขวา 5. ยกแขนซ้ายใส่ในแขนเส้อื ข้างซ้าย 6. จัดชายเส้อื เมือ่ ใส่แขนทงั้ สองขา้ งแล้ว 7. จบั ชายเสือ้ ดว้ ยแขนท้งั สองข้าง 8. ดงึ ชายเส้อื ลงใหเ้ รียบรอ้ ย

ตวั อยา่ ง (ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้) แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) ชอ่ื สถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านริมนา้ น่าน ระดับชั้น ป. 3 สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานา่ น เขต 1 เริม่ ใชแ้ ผน วนั ท่ี 16 พฤษภาคม 2556 สิ้นสุดแผน วันท่ี 15 พฤษภาคม 2557 1. ข้อมลู ท่วั ไป ชอ่ื -ช่อื สกุล ด.ญ.ลลี า ขาวใส เพศ  ชาย  หญิง เลขประจาตวั ประชาชน 1- 1001-00101 – 00-1 การจดทะเบยี นคนพกิ าร  ไมจ่ ด  ยังไม่จด  จดแลว้ วัน/เดอื น/ปเี กิด 1 มถิ ุนายน 2546 อายุ 9 ปี 11 เดอื น ศาสนา พุทธ ประเภทความพกิ าร บคุ คลทม่ี ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ลกั ษณะความพิการ ปัญหาด้านการอา่ น เขียน และคณติ ศาสตรเ์ รื่องการบวก ลบ เลข ช่อื – ชื่อสกลุ บดิ า นายราพนั ขาวใส ชื่อ – ชอ่ื สกลุ มารดา นางมาลา ขาวใส ชื่อ – ชอ่ื สกุลผปู้ กครอง นางมาลา ขาวใส เก่ียวขอ้ งเป็น มารดา ทอี่ ยผู่ ูป้ กครองท่ีตดิ ต่อได้บ้านเลขที่ 3 ซอย - หมทู่ ี่ 11 ถนน นา่ น - พะเยา ตาบล ไชยสถาน อาเภอ เมือง จงั หวัด น่าน รหสั ไปรษณยี ์ 55000 โทรศัพท์ 054-775690 โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี - โทรสาร - e-mail address - 2. ข้อมลู ด้านการแพทย์หรอื ดา้ นสขุ ภาพ  โรคประจาตวั (ระบ)ุ โรคหอบหดื  ประวัตกิ ารแพ้ยา (ระบ)ุ ................…........................................................................  โรคภูมแิ พ้ (ระบ)ุ .....................……...........................................................................  ข้อจากดั อื่นๆ (ระบ)ุ ............................……................................................................  ผลการตรวจทางการแพทย์ (ระบ)ุ แพทย์วินิจฉัยวา่ เปน็ เดก็ ทมี่ คี วามบกพร่อง ทางการเรียนรู้และมี ภาวะสมาธสิ ้นั ร่วมด้วย 3. ข้อมูลด้านการศึกษา  ไมเ่ คยไดร้ ับการศกึ ษา / บริการทางการศกึ ษา  เคยได้รับการศกึ ษา / บริการทางการศกึ ษาจาก

 ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ……………….. ระดับ……………………..พ.ศ…...……..….  โรงเรียนเฉพาะความพกิ าร ระดับ……………………..พ.ศ……………..  โรงเรียนเรยี นรว่ ม โรงเรียนบา้ นริมน้านา่ น ระดบั ป.2 พ.ศ. 2555  การศกึ ษาดา้ นอาชีพ……..………….ระดบั ……………………..พ.ศ……………..  การศกึ ษานอกระบบ…….………….ระดบั ……………………..พ.ศ……………..  การศึกษาตามอธั ยาศัย…...……….ระดบั ……………………..พ.ศ……………..  อน่ื ๆ……………………...………..…….ระดับ……………………..พ.ศ……………. 4. ขอ้ มูลอืน่ ๆทจี่ าเป็น 1. พ่อแม่แยกกันอยู่ 2. มคี วามสามารถในการวาดรูป และสนใจดา้ นศิลปะเปน็ อยา่ งมาก 3. มนี ้าใจ ชอบช่วยเหลอื ครู และเพื่อน

5. การกาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพเิ ศษ ระดบั ความสามารถในปจั จบุ ัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภายในวนั ท่ี 31 มนี าคม ภา สาระที่ 1 การอา่ น เด็กหญงิ ลลี า สามารถอา่ น เม มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้ คาพื้นฐานในระดบั ชนั้ ป1.ภ และความคดิ เพือ่ น าไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ป. 1 ทีม่ ตี วั สะกดตรงตาม ใน ดาเนนิ ชวี ิต และมีนิสัยรกั การอ่าน มาตราในแม่ กบ กด กก เด ชั้น ป.1 กม กน ได้ 100 คา ทุก ตวั ชว้ี ัด 1 การอา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจองและ ข้อความสั้นๆ ตวั ช้ีวัด 2 บอกความหมายของคาและข้อความ ที่อา่ น จุดเดน่ 1. สามารถบอกชื่อพยัญชนะ ก-ฮ โดยให้ดูแบบสุ่ม ได้ถกู ตอ้ ง 44 ตวั 2. สามารถอ่านคาพ้นื ฐานหนังสือภาษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 แม่ ก กา ได้ จดุ ด้อย 1. ไมส่ ามารถอา่ นคาพื้นฐานในระดบั ชน้ั ประถม ศึกษาปีท่ี 1 ที่มีตัวสะกดทัง้ 8 แม่ ตรงตามมาตราได้ (แม่ กน กก กม กง กบ กด เกย เกอว)

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เกณฑแ์ ละวธิ ีประเมินผล 30 (เป้าหมายระยะสน้ั ) ผ้รู ับผดิ ชอบ ายในวนั ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 วธิ กี าร/เคร่ืองมอื การประเมิน มอ่ื ให้อ่านคาพ้ืนฐานในระดับช้นั การทดสอบ/แบบทดสอบ นางใจดี เมตตา .ภ1ายทใมี่นตีวัวนสทะ่ี ก1ด0ตกรรงกตฎามาคมมาตพร.าศ. เวกิธณกี าฑร์ก/เาครรผอื่ ่างนมอื การประเมิน นคารงปู ใจรดะีจาวิชา นแม่ กบ จานวน 20 คา แบบสมุ่ 1. อา่ นคาไดร้ อ้ ยละ 70 ด็กหญิงลีลา สามารถอา่ นได้ถกู ตอ้ ง จากจานวน 20 คา กคา 2. แต่ละคาต้องอา่ นถกู ต้อง

ระดบั ความสามารถในปจั จุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี 2. 25 ชน้ั ใน เด ทุก 3. 25 ป. แม เด ทกุ 4. เม ทมี่ กน เด ทุก

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เกณฑแ์ ละวิธีประเมินผล ผู้รบั ผดิ ชอบ (เป้าหมายระยะสัน้ ) นางใจดี เมตตา ภายในวันท่ี 10 กันยายน พ.ศ. วธิ กี าร/เคร่ืองมือการประเมิน ครูประจา กลุม่ สาระ 556 เม่อื ใหอ้ ่านคาพืน้ ฐานในระดบั การทดสอบ/แบบทดสอบ การเรยี นรู้ น ป. 1 ที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา เกณฑก์ ารผา่ น นแม่ กม จานวน 20 คา แบบสุ่ม 1. อา่ นคาไดร้ อ้ ยละ 70 จาก นางใจดี ด็กหญิงลีลา สามารถอา่ นได้ถกู ตอ้ ง จานวน 20 คา เมตตา กคา 2. แต่ละคาตอ้ งอา่ นถูกต้อง ครปู ระจา กลมุ่ สาระ ภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. วิธกี าร/เครื่องมอื การประเมิน การเรยี นรู้ 556 เม่อื ใหอ้ า่ นคาพน้ื ฐานในระดบั ช้นั การทดสอบ/แบบทดสอบ . 1 ทมี่ ตี ัวสะกดตรงตามมาตรา ใน เกณฑ์การผ่าน ม่ กก จานวน 20 คา แบบส่มุ 1. อ่านคาไดร้ ้อยละ 70 จาก ดก็ หญงิ ลลี า สามารถอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง จานวน 20 คา กคา 2. แตล่ ะคาตอ้ งอ่านถูกตอ้ ง ภายในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557 วิธีการ/เครอื่ งมือการประเมนิ ม่ือใหอ้ า่ นคาพนื้ ฐานในระดับชั้น ป.1 การทดสอบ/แบบทดสอบ มตี ัวสะกดตรงตามมาตรา ในแม่ เกณฑ์การผา่ น น จานวน 20 คา แบบสมุ่ 1. อา่ นคาได้ร้อยละ 70 จาก ดก็ หญงิ ลีลา สามารถอา่ นได้ถูกตอ้ ง จานวน 20 คา กคา 2. แต่ละคาตอ้ งอา่ นถูกต้อง

ระดับความสามารถในปัจจบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี 5.ภายใ เมื่อใหอ้ ที่มีตัวส กด เดก็ หญ สาระท่ี 2 การเขียน ภายในวันท่ี 31 มีนาคม 1แป.เม.ม่1อื่ กใบท 2556 เด็กหญิงลีลา แบบส มาตรฐานท่ี 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขยี นสื่อสาร สรภะาาดมยบัาในรชถวั้นเันปขทีย.่ีน13คท1าี่มพมตี น้ื ีนัวฐาสาคะนมกใดน เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราวใน รปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและ ตรงตามมาตราในแม่ กบ กด ได้ถูกต รายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ชน้ั ป.1 กก กม กน ได้ 100 คา ตัวชวี้ ัด 1. คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ตัวช้ีวดั 2. เขียนส่ือสารดว้ ยคาและประโยคงา่ ยๆ จุดเดน่ 1. สามารถเขยี นพยัญชนะ ก - ฮ ตามคาบอก แบบสมุ่ ได้ 2. สามารถเขียนคาพืน้ ฐานหนงั สอื ภาษาไทย ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 แม่ ก กา ได้ จุดอ่อน 1. ไมส่ ามารถเขียนคาพื้นฐานในระดับชัน้ ป. 1 ที่มี

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เกณฑ์และวิธีประเมนิ ผล ผรู้ ับผดิ ชอบ (เปา้ หมายระยะส้ัน) วธิ กี าร/เคร่ืองมือการประเมนิ นางใจดี การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา ในวันท่ี 31 มีนาคม พ.ศ.2557 เกณฑ์การผา่ น ครปู ระจา กล่มุ อ่านคาพ้ืนฐานในระดบั ชั้นป. 1 1. อา่ นคาไดร้ อ้ ยละ 70 สาระการเรยี นรู้ สะกดตรงตามมาตรา ในแม่ จากจานวน 20 คา จานวน 20 คา แบบสุม่ 2. แต่ละคาตอ้ งอา่ นถกู ตอ้ ง ญงิ ลีลา สามารถอา่ นได้ถกู ต้อง ใบทหี่มเ้จขตี าียัวนนสวคะนกาพด2ตนื้0รฐคงาาตนาใตมนามรมะาคตดารบับาชอ้นัใกน วเกิธกาีกณราทฑรด/ก์ เสคาอรรผบ่อื า่/งนแมบอื กบาทรดปสรอะบเมนิ นนคารางปูงใใจรจดะดีจี าเมวชิตาตา สมุ่ เด็กหญงิ ลลี า สามารถเขยี น 1. เขียนคาได้ร้อยละ 70 จาก ตอ้ งทกุ คา จานวน 20 คา 2. แตล่ ะคาต้องเขียนถูกตอ้ ง

ระดับความสามารถในปัจจุบัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี ตัวสะกดทง้ั 8 แม่ ตรงตามมาตราได้ (แม่ กน 2. เม่อื กก กม กง กบ กด เกย เกอว) ป. 1 ท ในแม่ บอกแ เขียนไ 3. เม่ือ ป. 1 ท ใน แม บอกแ เขยี นไ 4.เมือ่ 1 ทีม่ ตี กม จ สมุ่ เด ถกู ต้อ

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธปี ระเมินผล ผู้รบั ผดิ ชอบ (เป้าหมายระยะสั้น) นางใจดี วิธกี าร/เครือ่ งมือการประเมิน เมตตา อใหเ้ ขยี นคาพน้ื ฐานในระดับชน้ั การทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจาวชิ า ท่ีมตี วั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผ่าน กด จานวน 20 คา ตามคา 1. เขียนคาได้ร้อยละ 70 นางใจดี แบบสุ่มเดก็ หญิงลลี า สามารถ จากจานวน 20 คา เมตตา ไดถ้ กู ตอ้ งทุกคา 2. แตล่ ะคาต้องเขยี นถกู ต้อง ครปู ระจาวชิ า วิธกี าร/เครอ่ื งมือการประเมนิ อใหเ้ ขยี นคาพืน้ ฐานในระดับชน้ั การทดสอบ/แบบทดสอบ นางใจดี ท่ีมตี วั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผา่ น เมตตา ม่ กก จานวน 20 คา ตามคา 1. เขยี นคาไดร้ อ้ ยละ 70 ครูประจาวิชา แบบส่มุ เด็กหญงิ ลีลา สามารถ จากจานวน 20 คา ได้ถูกต้องทกุ คา 2. แต่ละคาตอ้ งเขียนถูกตอ้ ง อให้เขียนคาพืน้ ฐานในระดบั ช้ันป. วิธกี าร/เครอ่ื งมอื การประเมนิ ตัวสะกดตรงตามมาตรา ในแม่ การทดสอบ/แบบทดสอบ จานวน 20 คา ตามคาบอกแบบ เกณฑก์ ารผา่ น ด็กหญงิ ลลี า สามารถเขยี นได้ 1. เขียนคาไดร้ อ้ ยละ 70 จาก องทกุ คา จานวน 20 คา 2. แต่ละคาตอ้ งเขยี นถกู ต้อง

ระดับความสามารถในปจั จบุ ัน เปา้ หมายระยะเวลา 1 ปี สาระที่ 3 การฟงั 5. เมอ่ื สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษา ป. 1 ท สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม ในแม่ บอกแ เขยี นไ กาหนดตามสาระ มาตรฐาน กาหน การเรยี นร้ตู ามระดับชน้ั ของ เรียนร ผู้เรียน (ป.3) ผเู้ รียน

จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวธิ ปี ระเมินผล ผู้รับผิดชอบ (เป้าหมายระยะสัน้ ) วธิ ีการ/เคร่อื งมอื การประเมนิ นางใจดี อให้เขยี นคาพ้นื ฐานในระดับช้ัน การทดสอบ/แบบทดสอบ เมตตา ท่มี ตี วั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑก์ ารผา่ น ครูประจาวชิ า กน จานวน 20 คา ตามคา 1. เขยี นคาไดร้ อ้ ยละ 70 จาก แบบสุ่ม เดก็ หญงิ ลลี า สามารถ จานวน 20 คา นางใจดี ได้ถูกตอ้ งทุกคา 2. แตล่ ะคาตอ้ งเขียนถูกต้อง เมตตา วิธีการ/เครื่องมือการประเมิน ครปู ระจาวิชา นดตามตวั ช้ีวัดและสาระการ 1. ทาชิ้นงาน,โครงงาน/แบบ ร้แู กนกลางตามระดับชน้ั ของ ประเมินชนิ้ งาน,แบบประเมิน น (ป.3) โครงงาน 2. ทดสอบ/แบบทดสอบ - ขยายเวลาในการสอบให้มีเวลา มากข้นึ - จดั แยกหอ้ งสอบที่เหมาะสม - อ่านข้อสอบใหฟ้ ัง - คาท่ใี ช้ในการสร้างแบบทดสอบ ควรเป็นคาพ้ืนฐานทีก่ าหนดไวใ้ น สาระท่ี 1 เกณฑก์ ารผา่ น เหมอื นนักเรียนระดับชั้นเดียวกนั

ระดับความสามารถในปจั จุบัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ภายในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. ภายใน สาระท่ี 1 จานวนและการดาเนนิ การ ภ25า5ย7ในเวดนั ็กทหี่ ญ3ิง1ลีลมานี าคม 125. 5ภ6า มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจถงึ ผลท่เี กิดข้นึ จากการ สามารถบวกเลขท่มี กี ารทด ผลลัพ ดาเนนิ การของจานวนและความสมั พนั ธร์ ะหว่างการ และมผี ลลพั ธไ์ ม่เกิน 100 ได้ สามาร ดาเนินการต่างๆ และสามารถใช้การดาเนินการใน การแกป้ ญั หา 2. ภา การบวก 2556 จดุ เด่น ผลลัพ 1. ร้คู วามหมายของการบวกและการใช้ สามาร เคร่ืองหมายบวก 2. สามารถบวกเลข โดยไมม่ ีการทด ผลลัพธ์ ไม่เกนิ 100 จดุ ด้อย 1. ไมส่ ามารถบวกเลขทมี่ กี ารทดและ มผี ลลพั ธ์ไมเ่ กนิ 100

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เกณฑ์และวิธีประเมินผล ผู้รับผิดชอบ (เป้าหมายระยะส้นั ) นวันท่ี 10 กรกฎาคม พ.ศ. วธิ กี าร/เครอ่ื งมือการประเมิน นางใจดี ายเใมนอ่ื วใันหทบ้ ่ีว1ก0เลกขรทกมี่ ฎีกาาครมทดพ.ศ. วกิธากีรทารด/สเคอรบอื่ /งแมบอื บกทาดรสปอระบเมิน นเมาตงตใจาดี พธไ์ ม่เกิน 50 เด็กหญิงลลี า เกณฑก์ ารผ่าน ครูประจากลมุ่ รถทาได้ รอ้ ยละ 80 ผลลัพธถ์ ูกตอ้ งร้อยละ 80 สาระการเรียนรู้ ายในวนั ที่ 10 กนั ยายน พ.ศ. วิธีการ/เครื่องมือการประเมิน การทดสอบ/แบบทดสอบ เมือ่ ใหบ้ วกเลขทม่ี กี ารทด เกณฑ์การผ่าน พธไ์ มเ่ กนิ 100 เดก็ หญงิ ลีลา ผลลัพธ์ถกู ตอ้ งร้อยละ 80 รถทาได้ร้อยละ 80

ระดับความสามารถในปจั จบุ ัน เป้าหมายระยะเวลา 1 ปี สาระที่ 2 การวดั นักเรยี นเรยี นรูต้ ามสาระ นักเรยี สาระท่ี 3 เรขาคณติ มาตรฐานการเรยี นร้ตู าม การเร สาระท่ี 4 พชี คณติ ระดบั ชน้ั ป.3 สาระที่ 5 การวเิ คราะหข์ ้อมูลและความนา่ จะเป็น สาระท่ี 6 ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook