แผนประวัติศาสตร์ ป.3

•ข(Gนั้•aคt•ิดhวe•เิ rคinร•าgะ)•ห์แ•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรียนแบ่งกลุ่ม 2 กล่มุ จบั สลากเลือกศึกษาพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ - เจา้ อยู่หัว ดา้ นสงั คมสงเคราะห์และด้านการกฬี า ทกี่ าหนด จากน้ันสรปุ พระราชกรณยี กจิ ท่สี าคัญของพระองคเ์ ปน็ แผนภาพความคิด พร้อมยกตัวอยา่ งพระราชกรณยี กิจของพระองคม์ า 1 ตวั อย่าง แล้ววเิ คราะหป์ ระโยชน์ท่เี กดิ ขึ้น ดงั ตวั อยา่ ง • กลุม่ ที่ 1 พระราชกรณยี กิจดา้ นสงั คมสงเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอย่หู วั ทรงพระกรณุ าห่วงใยในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของ ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนทด่ี ้อยโอกาสและขาดแคลน ได้ทรงพระอุตสาหะเสด็จ พระราชดาเนนิ ไปทรงเย่ยี มชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ หลายแหง่ เช่น ชุมชนแออดั เขตพระโขนง เขตคลองเตย เขตยานนาวา ทรงพระกรุณาพระราชทานเคร่ืองอุปโภคบริโภค เคร่ืองกฬี า เครอ่ื งดบั เพลงิ โปรดเกลา้ ฯ ใหก้ รมทหารในบังคบั บญั ชาของพระองคร์ ่วมกับประชาชนพฒั นา สิ่งแวดลอ้ ม ทง้ั ยังพระราชทานพระราชทรพั ยส์ นบั สนนุ โครงการของชุมชน เชน่ โครงการพัฒนาเดก็ เลก็ ทขี่ าดแคลน โครงการปราบปรามยาเสพตดิ ในหมเู่ ยาวชนชุมชนแออัดคลองเตย เพ่อื ให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสเหลา่ น้นั เตบิ โตเป็นพลเมอื งดแี ละเป็นทรัพยากรบคุ คลทีม่ ีคณุ คา่ ในการพฒั นา ประเทศตอ่ ไปในอนาคต เม่อื ประเทศชาติประสบกับภัยพิบตั ิธรรมชาติตา่ ง ๆ พระองคไ์ ดท้ รง พระราชทานพระราชานเุ คราะหแ์ ก่ราษฎรผปู้ ระสบภัยมาโดยตลอด ไดเ้ สดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยีย่ มในสถานทป่ี ระสบภัยด้วยพระองค์เอง แม้ในพ้นื ท่ที ีเ่ สย่ี งมาก ทรงตดิ ตามความเป็นอยู่ของ ผูป้ ระสบภัยอย่างใกลช้ ดิ พระราชทานกาลังใจ พระราชทานอาหาร นา้ ถงุ ยงั ชีพ และพระราชทานพระราชปู ถัมภ์แก่เด็กกาพร้าอนั เน่ืองมาจากภัยพบิ ตั ิ ผูข้ าดทพี่ ง่ึ ให้มีบา้ น และการศึกษาทด่ี ี เมอื่ ปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 พายุไซโคลนนารก์ สิ ไดพ้ ดั กระหนา่ เข้าสปู่ ระเทศ สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมา ทาให้มผี เู้ สียชีวิตและสญู หายนบั แสนราย และมีผู้ประสบภยั อีกนับล้านคน ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณปู การเกอื บทั้งหมดไมส่ ามารถใข้การได้ พระองคไ์ ด้ ทรงโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม พระราชทานสิง่ ของบรรเทาทุกข์ ประกอบดว้ ย อาหารและ เคร่อื งอปุ โภคทีจ่ าเป็น และยงั ทรงส่งหน่วยแพทยพ์ ระราชทานพร้อมเครื่องมอื ผ่าตดั ยา และเวชภณั ฑ์ เพ่ือชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภยั พบิ ัติ ไม่เพยี งพอเท่าน้ันในสว่ นของมิตรประเทศ ซงึ่ ประสบภยั พิบตั ิ พระองคไ์ ดพ้ ระราชทานพระราชานเุ คราะห์เช่นกัน เชน่ ไดเ้ สด็จพระดาเนินแทน พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลที่ 9 ไปสาธารณรัฐปากีสถาน พระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากเหตกุ ารณแ์ ผ่นดินไหว เม่ือเดอื นมกราคม พ.ศ. 2549 และพระราชทาน ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั จากคลืน่ ยกั ษ์สนึ ามิ ประเทศญี่ปุ่น เมอื่ พ.ศ. 2554 https://king.kapook.com

ตวั อยา่ ง เสด็จพระราชดาเนนิ ไปทรงเยยี่ ม ชุมชนแออดั ในกรงุ เทพฯ หลายแหง่ ในตา่ งประเทศพระองค์กไ็ ดพ้ ระราชทานสิ่งของ ทรงพระราชทานเครอื่ งอปุ โภคบรโิ ภค ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยจากแผ่นดนิ ไหว เครื่องกฬี า เคร่อื งดับเพลิงใหแ้ ก่ เมอื่ พ.ศ. 2549 ประเทศสาธารณรฐั ปากีสถาน ราษฎรในพน้ื ท่ี และพระราชทานความชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั จากคล่ืนยักษ์สึนามใิ นประเทศญ่ปี นุ่ พ.ศ. 2554 ทรงพระราชทานอาหารและ พระราชกรณียกิจ พระราชทานพระราชทรพั ยส์ นับสนนุ เครื่องอปุ โภคบริโภค หน่วยแพทย์ ด้านสังคมสงเคราะห์ โครงการของชุมชน เชน่ โครงการ ไปช่วยเหลอื ประเทศสาธารณรฐั แห่ง พัฒนาเดก็ เลก็ โครงการปราบปราม สหภาพเมยี นมา ชว่ งพายุไซโคลนนาร์กสี ยาเสพติด เพอ่ื ให้เด็กและเยาวชน ไดพ้ ัดกระหนา่ เตบิ โตเปน็ พลเมืองดีของชาติ ได้เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยย่ี มราษฎรผปู้ ระสบภยั พบิ ัติ ทางธรรมชาติดว้ ยพระองค์เองมาโดยตลอด และทรงตดิ ตาม ความเป็นอยู่ของราษฎรอยา่ งใกล้ชดิ ทรงพระราชทานกาลงั ใจ อาหาร นา้ ถงุ ยังชีพใหแ้ กร่ าษฎรในพ้ืนท่ี พระราชกรณยี กิจด้านสงั คมสงเคราะห์ ประโยชนท์ ีเ่ กิดข้ึน ไดเ้ สดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงเยย่ี มราษฎร ราษฎรได้รบั ความช่วยเหลือและไดร้ ับ ผูป้ ระสบภยั ทางธรรมชาติ ดว้ ยพระองคเ์ อง กาลงั ใจในการตอ่ สกู้ บั ภยั พิบัตทิ างธรรมชาติ มาโดยตลอด และทรงตดิ ตามความเป็นอยู่ ของราษฎรอยูใ่ กลช้ ิด ทรงพระราชทาน กาลังใจ อาหาร นา้ ถงุ ยงั ชีพ ให้แก่ราษฎร ในพน้ื ที่

• กลมุ่ ที่ 2 พระราชกรณียกจิ ดา้ นการกีฬา พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หวั ทรงเลน่ กฬี ามาต้ังแตท่ รงพระเยาว์ และทรงเป็นนกั ฟุตบอลของโรงเรยี น พระองคท์ รงเปน็ ผู้นาดา้ นกฬี า ทรงจกั รยานพระทนี่ ่งั นาข้าราชการ ประชาชน ในกิจกรรม Bike for Mom ป่นั เพ่อื แม่ เม่ือวนั ท่ี 16 สงิ หาคม พ.ศ. 2558 ต่อเนื่องถึงกจิ กรรม Bike for Dad ปัน่ เพือ่ พอ่ วันที่ 11 ธ.ค. ในปีเดียวกนั ซึ่งนอกจากตอ้ งการ ใหป้ ระชาชนชาวไทยได้แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ความรกั ทีม่ ตี อ่ แม่ และพ่อของแผน่ ดิน และเสริมสรา้ งความสามคั คขี องคนในชาติ จุดประสงคอ์ ยา่ งหนึ่งคือตอ้ งการสง่ เสริม สขุ ภาพของประชาชนในการออกกาลังกาย ทาใหส้ ุขภาพแขง็ แรง ปลูกฝังใหค้ นทกุ วัยได้ ออกกาลงั กาย และเสรมิ สร้างความมีนา้ ใจเปน็ นักกีฬา นอกจากน้ี พระองคท์ รงปฏิบัตพิ ระราชกรณียกจิ ทัง้ ในฐานะผู้แทนพระองคแ์ ละส่วนพระองคส์ รา้ งขวญั เปน็ พลงั ใจใหก้ ับนักกฬี าไทยในการนาความสาเร็จและ ความภาคภมู ิมาสปู่ ระเทศชาติ พระราชทานรางวลั เกยี รตยิ ศ ถ้วยพระราชทานในกีฬาประเภทต่าง ๆ อาทิ ฟตุ บอล จกั รยาน ตะกรอ้ ฯลฯ รวมถงึ ถว้ ยพระราชทานให้แกน่ ักมวยไทย ยอดเย่ยี มประจาปีของสมาคมผสู้ ื่อขา่ วกฬี าแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2539 มาจนถึงปจั จุบนั ทั้งทรงรบั สมาคมกีฬาไว้ในพระราชปู ถมั ภ์ ไดแ้ ก่ มวยไทยสมคั รเลน่ และฟนั ดาบ และเม่อื ครั้งทป่ี ระเทศไทยเป็นเจ้าภาพจดั การแข่งขนั กีฬาศลิ ปะการต่อส้ปู อ้ งกันตัวแห่งเอเชยี เอเชียนมาเชยี ลอารต์ เกมส์ ครัง้ ท่ี 1 ระหวา่ งวันท่ี 1-9 สงิ หาคม พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) ได้เสด็จฯ ทรงเปน็ ประธานในพธิ เี ปดิ การแขง่ ขัน https://www.thairath.co.th พระองคท์ รงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณียกิจ พระราชกรณยี กจิ ทรงจัดกจิ กรรมเฉลิมพระเกยี รติ ปนั่ เพื่อแม่ ในการสรา้ งขวญั เป็นกาลงั ใจใหก้ ับ ดา้ นการกฬี า Bike for Mom และปัน่ เพื่อพ่อเพือ่ เปน็ นักกฬี าไทยในการนาความสาเร็จ การแสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดตี ่อสถาบนั และความภาคภมู ใิ จมาสปู่ ระเทศ พระมหากษตั ริย์ และตอ้ งการส่งเสรมิ โดยพระราชทานรางวลั เกยี รตยิ ศ สุขภาพของประชาชนในการออกกาลงั กาย ถว้ ยพระราชทานในกฬี าประเภทต่าง ๆ ทรงรบั สมาคมกฬี าไวใ้ นพระราชูปถมั ภ์ เมอ่ื ครัง้ ประเทศไทยเป็นเจา้ ภาพ ไดแ้ ก่ มวยไทยสมัครเล่นและฟนั ดาบ การแขง่ ขนั กฬี าศิลปะการตอ่ สู้ป้องกนั ตวั แหง่ เอเชยี เอเชียนมาเชียลอารต์ เกมส์ พระราชกรณยี กิจดา้ นการกฬี า ปี พ.ศ. 2552 พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ พระราช ดาเนินเป็นประธานในพธิ เี ปิดการแข่งขนั ทรงปฏิบตั พิ ระราชกรณยี กจิ ในการ สรา้ งขวญั กาลังใจให้กบั นักกีฬาไทย ประโยชน์ที่เกิดขึ้น ในการนาความสาเร็จและความภาคภูมใิ จมาสู่ ประเทศ โดยพระราชทานรางวัลเกียรตยิ ศ สร้างความปลืม้ ปีตแิ ละเป็นขวญั กาลังใจ ถว้ ยพระราชทานในกีฬาประเภทต่าง ๆ ให้แกน่ ักกีฬาไทยในการแข่งขันคร้งั ต่อไป

4. นกั เรยี นคิดประเมนิ เพื่อเพิ่มคุณคา่ แลว้ สรปุ เปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคาถาม ดงั นี้ • นกั เรียนจะช่วยเหลอื สังคมไดโ้ ดยวธิ ใี ดบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ บรจิ าคสง่ิ ของท่ไี ม่ใช้แล้วแก่บุคคลท่ียงั ขาดแคลน) ข้นั ปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรูห้ ลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •5.• น•กั เร•ียน• เลือกศกึ ษาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว ด้านสงั คมสงเคราะห์ หรอื ด้านกีฬา มา 1 ตวั อย่าง แล้วเสนอการนาแบบอยา่ งทด่ี ีของพระองค์ทา่ นไปปฏิบัติ ในชีวติ ประจาวัน ดงั ตวั อย่าง พระราชกรณียกจิ ด้าน (สงั คมสงเคราะห)์ (การพระราชทานเคร่ืองอุปโภคบรโิ ภค เคร่อื งกีฬา และพระราชทานทรพั ย์ เพ่อื ช่วยเหลอื ราษฎรในโอกาสตา่ ง ๆ) การนาแบบอยา่ งท่ีดมี าปฏิบัติในชีวติ ประจาวัน (บริจาคสง่ิ ของท่ไี มใ่ ชใ้ หก้ ับบคุ คลท่ียังขาดแคลน และมสี ว่ นร่วมในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ เพ่ือสว่ นรวม) 6. นกั เรยี นตรวจสอบความถกู ต้อง และความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ให้ถูกตอ้ ง 7. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ส่งิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความร้รู ว่ มกัน ดงั นี้ พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อย่หู ัว มคี วามสาคญั ควรคา่ แกก่ ารศึกษา และปฏบิ ัติตาม เพอ่ื สรา้ งความสขุ ความเจริญให้เกดิ ข้ึนแกต่ นเองและประเทศชาติ • ข•้นั ส•อื่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• 8•.•นักเรยี นนาเสนอผลงานของตน หน้าชนั้ เรียน กจิ กรรมนีส้ ร้างเสรมิ ทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการส่อื สาร

9. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรุปเกีย่ วกบั วิธีการทางานใหเ้ หน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธีการทางาน ท่ีมีแบบแผน • ข•น้ั ป•ระ•เม•นิ เ•พือ่ •เพ•่ิมค•ุณ•ค่า•บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นกั •เร•ียนนาแบบอย่างท่ีดีของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัวไปเป็นแนวทางปฏบิ ัติ ในการดาเนินชีวิต เพือ่ ให้เกิดความสุขแก่ตนเองและผอู้ ืน่ 11. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี • ส่ิงทนี่ ักเรียนได้เรียนรใู้ นวันนีค้ อื อะไร • นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพียงใด • เพ่ือนนกั เรยี นในกลุ่มมสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรยี นพอใจกบั การเรียนในวันนี้หรอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนาความร้ทู ่ีได้น้ีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทัว่ ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนัน้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบข้นั ตอนการทางานทุกขั้นตอนวา่ จะเพิม่ คุณคา่ ไปสู่สังคม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สังคมใหม้ ากขึ้นกวา่ เดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สาหรับการทางานในครัง้ ตอ่ ไป ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. พระบรมฉายาลกั ษณ์ของในหลวงรชั กาลท่ี 10 ในการเสด็จเยีย่ มราษฎร 3. ข้อมูลพระราชกรณียกจิ ดา้ นสังคมสงั เคราะห์ ดา้ นการกฬี า 4. แหล่งการเรยี นรู้ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว : ดา้ นสงั คมสงเคราะห์ ดา้ นการกฬี า (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทางานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม

3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารชีแ้ จง มกี ารชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบตั งิ านร่วมกนั อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบตั งิ าน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 16 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 บคุ คลสำคญั ของไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เร่ือง พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ วั : โครงการจติ อาสาพระราชทาน สอนวันท่ี 24 เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผู้สอน นายพงศธร อยูส่ ขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวช้ีวดั ส 4.3 ป.3/2 อธบิ ายพระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริย์ในรชั กาลปัจจุบนั โดยสงั เขป จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ วั ชว้ี ัด 1. อธบิ ายพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว : โครงการจติ อาสาพระราชทาน (K) 2. วิเคราะห์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าหัวอยู่หัว : โครงการจติ อาสาพระราชทาน ท่ี สง่ ผลตอ่ ประเทศไทย (P) 3. เห็นคุณคา่ และความสำคญั ของการประกอบพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริย์ เพ่ือสง่ ผลใหเ้ กดิ ความสขุ ในประเทศ (A) สาระสำคัญ และปฏบิ ัติตาม เพอื่ สร้างความสขุ ความเจริญให้เกดิ ขนึ้ แก่ตนเองและประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั : โครงการจติ อาสาพระราชทาน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝ่เรียนรู้ คำถามท้าทาย นกั เรยี นจะทำความดีเพอ่ื ชว่ ยเหลอื สังคมอยา่ งไรบ้าง การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขน้ั •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกับกิจกรรมจติ อาสาที่เคยปฏิบัติ โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • นกั เรียนเคยเข้ารว่ มกิจกรรมจติ อาสาหรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบ เคย) • กิจกรรมจติ อาสาทีน่ ักเรยี นเคยเข้ารว่ มคอื อะไร (ตวั อย่างคำตอบ ชว่ ยเกบ็ ขยะ ปลกู ตน้ ไม้ ภายในชมุ ชน) • การเข้ารว่ มกจิ กรรมจิตอาสาดงั กลา่ วสง่ ผลอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำใหช้ มุ ชนสะอาด และร่มรื่น) 2. นักเรยี นร่วมกันสนทนาเก่ียวกบั ความหมายและความสำคญั ของจติ อาสา โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • นกั เรียนทราบความหมายของคำว่า “จติ อาสา” หรือไม่ (ทราบ/ไม่ทราบ) • จิตอาสาตามความเขา้ ใจของนกั เรยี นหมายความวา่ อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ การทำความดี การทำประโยชนเ์ พอื่ สว่ นรวม) • นกั เรยี นคดิ วา่ จติ อาสามคี วามสำคัญอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นการแสดงออกถงึ ความเสยี สละ เพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม) จากนัน้ อธิบายสรปุ ให้นกั เรียนฟงั เพมิ่ เติมเกีย่ วกบั ความหมายและความสำคัญของจติ อาสาวา่ จิตอาสา หมายถึง ผู้ท่ีมจี ติ ใจทเ่ี ปน็ ผใู้ ห้ เชน่ ให้สงิ่ ของ ใหท้ รพั ย์ ให้ความช่วยเหลอื ดว้ ยกำลงั แรงกาย แรงสมอง ซึง่ เปน็ การแสดงออกถึงการเสียสละ สง่ิ ท่ีตนมีแม้กระทัง่ เวลา เพื่อทำประโยชนใ์ หเ้ กดิ ขน้ึ แก่สว่ นรวม 3. นกั เรยี นศกึ ษา และรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ - เจ้าอยูห่ ัว : โครงการจติ อาสาพระราชทาน จากหนังสอื เรยี นและแหล่งการเรียนรูอ้ ืน่ ๆ เพมิ่ เติม

•ข(Gน้ั•aคt•ิดhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 4•. •นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั โครงการจติ อาสาพระราชทาน โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • เพราะเหตุใด พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ให้จดั ตง้ั โครงการจติ อาสา (ตัวอยา่ งคำตอบ เพราะพระองค์ทรงคำนงึ ถงึ ความอยูด่ มี สี ุขของราษฎรเปน็ สำคญั และทรงมี พระปณธิ านทจี่ ะสบื สาน รกั ษา และต่อยอด โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำรขิ องในหลวงรชั กาลท่ี 9 ท่ไี ด้ทรงพระราชทานไวเ้ ปน็ แนวทางสำหรับพัฒนาประเทศ) • โครงการจติ อาสาพระราชทาน มกี ารจดั กิจกรรมภายใต้ชื่อโครงการวา่ อยา่ งไร (“เราทำความดี ดว้ ยหวั ใจ”) ลักษณะกิจกรรมจติ อาสาของโครงการจติ อาสาพระราชทาน แบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง และแตล่ ะประเภทมลี ักษณะสำคญั อยา่ งไร โดยบันทึกคำตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตวั อยา่ ง ประเภทของ จติ อาสาพัฒนา กิจกรรมจิตอาสาทีท่ าเพอื่ พฒั นาพน้ื ที่ของแตล่ ะชมุ ชน ลักษณะกจิ กรรม จติ อาสาเฉพาะกจิ ให้มคี ณุ ภาพชวี ติ และความเป็นอยู่ทดี่ ีขึ้น ไมว่ ่าจะเป็น จิตอาสาภยั พิบัติ กจิ กรรมบาเพญ็ สาธารณประโยชน์ การอานวยความสะดวก จติ อาสา สรา้ งความปลอดภัยในการดารงชวี ติ ประจาวนั หรอื การอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ กจิ กรรมจติ อาสาทถ่ี กู กาหนดขึ้น เพื่อปฏิบัติในงานพระราชพธิ ี หรอื การรับเสดจ็ ในโอกาสต่าง ๆ เช่น จติ อาสาในงานอุน่ ไอรัก คลายความหนาว จิตอาสาในงานพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก กจิ กรรมจติ อาสาทีท่ าเพอื่ เฝ้าระวัง เตรยี มการรองรบั ภยั พบิ ตั ิ และแจ้งเตอื นภัยใหแ้ กป่ ระชาชน ทั้งภัยท่ีเกิดขน้ึ จากธรรมชาติ หรอื ภยั จากสาเหตอุ นื่ ทสี่ ่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นท่ี โดยการเข้าช่วยเหลอื บรรเทาความเดือดรอ้ นของประชาชนท่ี ได้รับผลกระทบจากภัยพบิ ตั ิ เชน่ จิตอาสาในการช่วยเหลอื เด็กตดิ ถ้า

5. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ 3 กลมุ่ จากนั้นส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเลอื กลกั ษณะกจิ กรรมจิตอาสา จากนน้ั ยกตัวอยา่ งกิจกรรมจิตอาสาท่ีกลุ่มตนไดร้ บั มา 1 ตัวอย่าง แลว้ วิเคราะห์ความสำคัญและประโยชน์ ท่ีเกดิ ข้ึน โดยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแผนภาพความคดิ ดังตวั อยา่ ง กลุ่มท่ี 1 กิจกรรมจติ อาสาพัฒนา กลมุ่ ที่ 2 กจิ กรรมจติ อาสาเฉพาะกิจ กลมุ่ ที่ 3 กจิ กรรมจติ อาสาภัยพิบตั ิ ตวั อยา่ ง กิจกรรมจติ อาสาพัฒนา การปลูกตน้ ไมใ้ นชมุ ชน ประโยชนท์ เ่ี กดิ ข้ึน ทาให้ชมุ ชนรม่ ร่ืน มีต้นไมค้ อยให้รม่ เงา 6. นักเรียนคิดประเมินเพ่อื เพิ่มคุณคา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • นกั เรียนจะทำความดเี พอ่ื ชว่ ยเหลอื สังคมอยา่ งไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ ชว่ ยเกบ็ ขยะ ไม่ทง้ิ ขยะลงในแม่นำ้ ลำคลอง) • ข•ัน้ •ปฏ•ิบตั•แิ ล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•้หู ล•ังก•าร•ปฏ•บิ ัต• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• ••••• 7. นกั เรียนศกึ ษาค้นควา้ พระราชประวตั ิและพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้า-เจา้ อย่หู วั แลว้ นำเสนอขอ้ มลู ลงในช้นิ งานที่ 7 เรื่อง พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริยร์ ัชกาลปัจจบุ นั 8. นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้อง และความเรียบรอ้ ยของช้นิ งาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรบั ปรุงแกไ้ ข ใหถ้ กู ต้อง 9. นักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดังนี้

พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว มีความสำคญั ควรแกก่ ารศึกษาและ ปฏบิ ตั ิตาม เพ่อื สรา้ งความสุขความเจรญิ ใหเ้ กิดข้นึ แกต่ นเองและประเทศชาติ • ข•ัน้ ส•่ือส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 10. นักเรียนนำเสนอช้ินงาน เรอื่ ง พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยร์ ัชกาลปัจจบุ นั หน้าชัน้ เรียน กจิ กรรมนี้สรา้ งเสริมทักษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการส่อื สาร 11. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกยี่ วกบั วธิ กี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชิงระบบและวธิ กี ารทำงาน ท่ีมีแบบแผน • ข•้ันป•ระ•เม•นิ เ•พอ่ื •เพ•ิ่มค•ณุ •ค่า•บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นกั •เร•ยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ กึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สงิ่ ทน่ี กั เรยี นได้เรยี นรู้ในวันนีค้ ืออะไร • นกั เรียนมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพ่อื นนักเรียนในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรยี นพอใจกับการเรยี นในวันนห้ี รือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนำความรู้ทไี่ ด้น้ีไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทวั่ ไป ได้อยา่ งไร จากน้ันแลกเปลี่ยนตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกขนั้ ตอนวา่ จะเพิ่มคณุ ค่าไปสสู่ ังคม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมให้มากข้นึ กว่าเดมิ ในขั้นตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในคร้งั ต่อไป สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. แหล่งการเรียนรูท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรือ่ ง พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว : โครงการจติ อาสาพระราชทาน (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ ช้นิ งาน เรอื่ ง พระราชประวตั แิ ละพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัตริยร์ ชั กาลปัจจุบนั (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 4. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชกิ และมีการชี้แจง มกี ารช้ีแจงเปา้ หมาย ไม่มีการชแ้ี จง และไม่มกี ารช้แี จง เป้าหมาย อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แต่ไมม่ ีการประเมนิ ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน อย่างร่วมมือรว่ มใจ พร้อมกับการประเมนิ เป็นระยะ ๆ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 17 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 บุคคลสำคญั ของไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เร่อื ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวนั ที่ 3 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2566 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจ และธำรงความเป็นไทย ตวั ช้ีวัด ส 4.3 ป.3/3 เลา่ วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยทมี่ สี ่วนปกปอ้ งประเทศชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวชวี้ ดั 1. อธบิ ายพระราชประวตั ิและวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (K) 2. วิเคราะห์วีรกรรมการกอบกู้เอกราชของสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช (P) 3. ตระหนกั ถงึ ความเสยี สละของบรรพบุรษุ ไทยท่มี ตี อ่ บ้านเมอื ง (A) สาระสำคัญ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเปน็ บรรพบรุ ษุ ไทยท่กี อบกบู้ า้ นเมอื งใหร้ อดพ้นจากการรกุ ราน จากข้าศึกศตั รู ทำให้บ้านเมืองเกดิ ความสงบสุขและเป็นปึกแผน่ จนถึงปัจจุบนั สาระการเรยี นรู้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝ่เรยี นรู้

คำถามทา้ ทาย พระมหากษตั ริย์ไทยในครง้ั อดตี มคี วามสำคญั ตอ่ ชาติบ้านเมืองอย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขัน้ •สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนสังเกตภาพ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช จากนน้ั รว่ มกนั สนทนา โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • บคุ คลในภาพคือใคร (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) • สมเด็จพระนเรศวรคือใคร (ทรงเปน็ พระมหากษตั รยิ อ์ งค์สำคญั ในสมัยอยธุ ยา) • นักเรียนทราบเกี่ยวกบั พระราชประวัติและวรี กรรมสำคญั ของสมเด็จพระนเรศวรหรือไม่ (ตวั อย่างคำตอบ ยงั ไมท่ ราบ) 2. นักเรยี นศึกษา และรวบรวมข้อมลู เก่ยี วกบั พระราชประวตั ิและวีรกรรมสำคญั ของ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช จากหนงั สือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อ่นื ๆ เพิ่มเตมิ •ข(Gัน้•aคt•ิดhวe•ิเrคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับพระราชประวัติ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีพระราชประวตั ิอยา่ งไร

โดยบนั ทกึ คำตอบของนักเรยี นเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง เสดจ็ ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษตั ริย์ พระราชสมภพ พ.ศ. 2098 ณ พ.ศ. 2133 (ตอนพระชนมายุ 35 ปี) พระราชวงั จันทร์ เมืองพษิ ณุโลก และเสด็จสวรรคต พ.ศ. 2148 พระชนมายุ 50 พรรษา เป็นพระราชโอรสของพระมหาธรรม- ราชากับพระวิสทุ ธกิ ษตั รยิ ์ มพี ระสพุ รรณกัลยาเปน็ พระเชษฐภคนิ ี พระราชประวตั ิ (พี่สาว) มีพระเอกาทศรถเป็น ของสมเด็จ พระอนุชา (นอ้ งชาย) พระนเรศวรมหาราช 4. นักเรียนรว่ มกนั วิเคราะหเ์ ก่ียวกบั วีรกรรมสำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทท่ี รงมตี ่อประเทศชาติ แล้วสรปุ ผลท่ีเกดิ ขึ้นต่อประเทศชาติ โดยบันทกึ คำตอบของนักเรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตวั อยา่ ง วรี กรรมสาคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การทาสงครามปกปอ้ งบ้านเมอื งจาก กองทพั พมา่ หลายครงั้ สงครามครงั้ สาคญั ได้แก่ การทายุทธหัตถีและประกาศ อสิ รภาพจากกรงุ หงสาวดี (พม่า) และพระองคก์ ็ทาสงคราม เพือ่ ขยาย อาณาเขตไปอย่างกวา้ งขวาง ผลทีเ่ กดิ ข้ึนต่อประเทศชาติ ทาใหป้ ระเทศชาตไิ มต่ ้องตกเป็นเมืองข้ึน ของพมา่ และรอดพน้ จากการรุกรานของศตั รู ทาใหบ้ ้านเมืองสงบสขุ และเป็นปึกแผน่ มาจนถึงปจั จุบัน

5. นักเรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งแบบอยา่ งที่ดขี องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มา 1 อยา่ ง แล้วเสนอแนวทางการนำแบบอย่างท่ดี ีไปปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิต โดยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพ ความคดิ บนกระดาน แบบอย่างท่ดี ขี องสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช การนาแบบอย่างท่ดี มี าปรับใช้ ในการดาเนนิ ชวี ติ มคี วามกลา้ หาญ และมีความเสยี สละต่อชาติ บ้านเมอื ง เสียสละช่วยเหลือสงั คมเหน็ แกป่ ระโยชน์ สว่ นรวมมากกวา่ ประโยชน์สว่ นตน 6. นกั เรยี นคดิ ประเมินเพื่อเพ่มิ คณุ ค่า แล้วสรุปเป็นความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • พระมหากษตั รยิ ์ไทยในครั้งอดีตมคี วามสำคัญตอ่ ชาติบา้ นเมืองอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทรงเป็นผูร้ ักษาแผ่นดินไทย เอาไว้ให้ลูกหลานจนมาถงึ ปจั จบุ ัน) ข้ันปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • ••••• 7. นกั เรียนแบง่ กล่มุ วาดภาพระบายสเี กีย่ วกบั การแสดงออกถงึ การทำความดีต่อชมุ ชน สังคม หรอื ประเทศชาติมา 1 ภาพ แล้วเขยี นบรรยายใตภ้ าพสนั้ ๆ ไดใ้ จความเพื่อนำเสนอ 8. นกั เรียนตรวจสอบความถกู ต้องและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรับปรุงแก้ไขให้ ถกู ตอ้ ง 9. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสิ่งทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดังนี้ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชทรงเป็นบรรพบุรษุ ไทยท่กี อบกูบ้ ้านเมืองใหร้ อดพน้ จากการรกุ ราน จากข้าศกึ ศตั รู ทำให้บา้ นเมืองเกิดความสงบสุขและเปน็ ปึกแผน่ จนถึงปัจจบุ นั • ข•้นั ส•ื่อส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 10. นักเรยี นนำเสนอผลงานการวาดภาพเกีย่ วกับการแสดงออกถงึ การทำความดตี อ่ ชมุ ชนสงั คม หรือประเทศหน้าชั้นเรยี น กิจกรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสื่อสาร

11. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรปุ เก่ียวกบั วธิ กี ารทำงานใหเ้ หน็ การคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ที่มีแบบแผน • ข•นั้ ป•ระ•เม•ินเ•พอื่ •เพ•ิ่มค•ุณ•ค่า•บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นัก•เร•ยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรูส้ กึ หลังการเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สง่ิ ท่นี ักเรียนได้เรียนรูใ้ นวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด • เพอื่ นนกั เรยี นในกลุ่มมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพียงใด • นักเรยี นพอใจกับการเรียนในวันน้ีหรือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนำความรทู้ ่ีไดน้ ้ีไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมท่ัวไป ได้อยา่ งไร จากน้ันแลกเปลี่ยนตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทกุ ข้นั ตอนว่าจะเพ่ิมคุณคา่ ไปสู่สงั คม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึน้ กวา่ เดมิ ในขั้นตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครง้ั ตอ่ ไป สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3. แหล่งการเรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง สมดจ็ พระนเรศวรมหาราช (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม

ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารชแ้ี จง มีการชีแ้ จงเป้าหมาย ไม่มกี ารชแี้ จง และไม่มกี ารชแ้ี จง เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏบิ ัตงิ านร่วมกัน รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 18 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 บคุ คลสำคญั ของไทย ภาคเรียนที่ 2/2565 เรอ่ื ง ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรสี ุนทร เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี 10 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2566 ครูผ้สู อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวชี้วัด ส 4.3 ป.3/3 เล่าวรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยที่มสี ่วนปกปอ้ งประเทศชาติ จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ชว้ี ดั 1. อธิบายพระราชประวตั ิและวรี กรรมของท้าวเทพกระษัตรีและทา้ วศรีสนุ ทร (K) 2. วิเคราะห์วีรกรรมของทา้ วเทพกระษตั รแี ละทา้ วศรีสุนทรทีไ่ ด้ปกปอ้ งบ้านเมือง (P) 3. ชน่ื ชมความกลา้ หาญของบรรพบุรุษไทย และนำแบบอยา่ งไปปฏบิ ัติตอ่ บ้านเมือง (A) สาระสำคญั ทา้ วเทพกระษัตรแี ละท้าวศรสี นุ ทรเปน็ บรรพบุรษุ ไทยท่ปี กปอ้ งบา้ นเมอื งจากขา้ ศึก ศัตรรู ุกราน ทำให้บ้านเมืองเกิดความรัก ความสามัคคี และความสงบสขุ จนถงึ ปจั จบุ ัน สาระการเรยี นรู้ ท้าวเทพกระษัตรแี ละทา้ วศรสี นุ ทร สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

คำถามทา้ ทาย นกั เรียนจะมีแนวทางในการสร้างความสงบสขุ ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในสงั คมได้อยา่ งไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ขั้น•สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนสงั เกตภาพ ทา้ วเทพกระษตั รแี ละทา้ วศรสี ุนทร จากนน้ั รว่ มกันสนทนาโดยการตอบคำถาม ดังนี้ • นกั เรียนรจู้ ักบุคคลในภาพหรอื ไม่ (รจู้ กั /ไม่รู้จกั ) • บุคคลในภาพคอื ใคร (ทา้ วเทพกระษตั รแี ละท้าวศรีสุนทร) • นักเรยี นทราบเก่ียวกับพระราชประวตั ิและวรี กรรมสำคัญของทา้ วเทพกระษัตรี และทา้ วศรสี นุ ทรหรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบ ยังไมท่ ราบ) 2. นักเรียนศกึ ษา และรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับพระราชประวัติและวรี กรรมสำคัญ ของท้าวเทพกระษัตรแี ละทา้ วศรสี นุ ทร จากหนงั สอื เรยี นและแหลง่ การเรียนรอู้ น่ื ๆ เพม่ิ เตมิ •(ขGนั้•aคt•ดิhวe•ิเrคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับพระราชประวตั ขิ องทา้ วเทพกระษัตรี และทา้ วศรีสนุ ทร โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรสี นุ ทรมพี ระราชประวตั ิอยา่ งไร

โดยบันทกึ คำตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตวั อย่าง คุณมกุ มีกริ ิยาสภุ าพออ่ นโยน มีสติปัญญา ท่านทัง้ สองเป็นบตุ รีของเจ้าเมือง และความกล้าหาญเดด็ เดย่ี วไม่ยอ่ หยอ่ น ถลาง โดยทา้ วเทพกระษตั รี (จัน) กวา่ คุณจันผู้เปน็ พ่ี เป็นพี่ สว่ นทา้ วศรสี นุ ทร (มุก) เป็นน้อง พระราชประวตั ิ ของทา้ วเทพกระษตั รี เน่ืองจากท่านท้งั สองเปน็ เชื้อสาย เจ้าเมอื งทาให้ได้รับการอบรมฝกึ สอน และท้าวศรสี ุนทร ให้มจี ติ ใจเขม้ แข็ง อดทน รูห้ ลักการปกครอง บคุ ลกิ และอุปนสิ ัยคณุ จันเป็นหญิง ทีม่ บี คุ ลิกสงา่ แคลว่ คล่องมีความรอบรู้ การบ้านการเมอื งดี 4. ตัวแทนนกั เรยี นออกมาอา่ นเกย่ี วกับวีรกรรมสำคญั ของท้าวเทพกระษตั รีและท้าวศรีสนุ ทร ให้เพอ่ื นนกั เรียนฟังหน้าช้ันเรียน และร่วมกนั วเิ คราะหว์ ีรกรรมสำคัญ แลว้ สรุปผลท่เี กิดขึ้นตอ่ ประเทศชาติ โดยบนั ทึกคำตอบของนักเรยี นเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง วีรกรรมสาคัญของท้าวเทพกระษัตรีและทา้ วศรสี นุ ทร ช่วยปกป้องเมอื งถลางให้พน้ จากข้าศกึ ในสงคราม เกา้ ทัพสมัยรตั นโกสนิ ทรต์ อนต้น โดยทา่ นทงั้ สองไดร้ ะดม ขา้ ราชการ ชาวเมืองถลางป้องกนั บ้านเมอื งอย่าง กล้าหาญ ด้วยสตปิ ญั ญาอันชาญฉลาด ทาให้กองทัพ พม่าถอยทพั กลบั ไป ผลท่เี กดิ ขึน้ ต่อประเทศชาติ ดว้ ยพระปรชี าสามารถรวมไปถงึ สตปิ ญั ญา อนั ชาญฉลาดของทา่ นทงั้ สอง ทาให้ไทย ไมต่ อ้ งทาสงครามกบั พมา่ และไมส่ ูญเสยี ดินแดนให้แก่ศตั รู

5. นักเรียนร่วมกันบอกแบบอย่างทีด่ ขี องท้าวเทพกระษตั รีและทา้ วศรสี ุนทร พร้อมเสนอการนำแบบอยา่ งท่ี ดีไปปรบั ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยบันทึกคำตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง แบบอย่างที่ดขี องทา้ วเทพกระษัตรี การนาแบบอย่างทด่ี มี าปรับใช้ และทา้ วศรีสนุ ทร ในการดาเนินชวี ิต ความกลา้ หาญ ความเสยี สละ เสยี สละเพ่ือประโยชน์สว่ นรวมมากกว่า และมสี ติปญั ญาอนั เฉลยี วฉลาด ประโยชนส์ ่วนตน ไมเ่ ห็นแกต่ วั 6. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพื่อเพมิ่ คณุ คา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • นักเรียนจะมีแนวทางในการสรา้ งความสงบสุขใหเ้ กิดข้นึ ในสงั คมได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ปฏิบัติตนเป็นคนดี ไมสรา้ งปัญหาใหก้ ับสังคม และช่วยเหลือสังคม) ขั้นปฏบิ ัติและสรปุ ความร้หู ลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •7.• น•กั เร•ียน• แบ่งกล่มุ ร่วมกิจกรรม “ความดที ี่ฉันทำ” เพอ่ื โรงเรียน ชุมชน และสงั คม แล้วบนั ทกึ ขอ้ มูล ลง ในแบบบนั ทกึ ดังตวั อยา่ ง กิจกรรมความดที ่ฉี ันทำ เพ่อื โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม • ความดที ี่ปฏบิ ตั ิ เพื่อ ✓ โรงเรียน ชุมชน สังคม • ความดที ป่ี ฏิบัติ คอื (เกบ็ ขยะบรเิ วณพน้ื ทโี่ รงเรียนลงในถังขยะ) • ความดที ป่ี ฏบิ ัตสิ ่งผลอยา่ งไร (ทำให้โรงเรียนเกดิ ความสะอาด นา่ อยู่ และสบายตา) ลงชอื่ (คณุ ครพู สิ มัย) ผรู้ บั รอง 8. นักเรียนตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรับปรงุ แกไ้ ข ใหถ้ กู ตอ้ ง

9. นักเรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทเ่ี ข้าใจเป็นความรู้รว่ มกัน ดังนี้ ท้าวเทพกระษตั รแี ละทา้ วศรสี นุ ทรเป็นบรรพบรุ ุษไทยที่ปกป้องบา้ นเมอื งจากขา้ ศึก ศัตรรู ุกราน ทำให้บา้ นเมอื งเกดิ ความรัก ความสามคั คี และความสงบสุขจนถงึ ปัจจบุ ัน • ข•นั้ ส•อื่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• 1•0.•นกั เรยี นนำเสนอผลงานเกย่ี วกบั การทำกจิ กรรม “ความดีที่ฉนั ทำ” เพ่อื โรงเรียน ชุมชน และสังคม หนา้ ชั้นเรียน กิจกรรมนีส้ รา้ งเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสื่อสาร 11. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วิธีการทำงานให้เห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ที่มีแบบแผน • ข•น้ั ป•ระ•เม•ินเ•พื่อ•เพ•ม่ิ ค•ุณ•คา่ •บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นกั •เร•ียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ กึ หลังการเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สงิ่ ทีน่ ักเรยี นไดเ้ รียนรู้ในวนั นี้คืออะไร • นกั เรียนมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • เพ่ือนนักเรียนในกลมุ่ มสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพอใจกับการเรียนในวนั น้หี รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความร้ทู ไี่ ดน้ ้ไี ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไป ได้อยา่ งไร จากนน้ั แลกเปลีย่ นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขัน้ ตอนวา่ จะเพมิ่ คุณคา่ ไปสสู่ ังคม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากขึน้ กว่าเดิมในขัน้ ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพทา้ วเทพกระษัตรแี ละท้าวศรสี ุนทร 3. ขอ้ มูลวีรกรรมของทา้ วเทพกระษตั รีและทา้ วศรสี นุ ทร 4. แหลง่ การเรยี นร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง ท้าวเทพกษตั รแี ละท้าวศรีสนุ ทร (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกล่มุ มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมีการชแ้ี จง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไม่มีการชี้แจง และไมม่ ีการช้ีแจง เป้าหมาย อยา่ งชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏิบตั ิงาน แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏิบัติงานร่วมกนั ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อย่างรว่ มมอื รว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 บคุ คลสำคญั ของไทย ภาคเรียนท่ี 2/2565 เรอื่ ง ชาวบ้านบางระจนั เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันท่ี 17 เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2566 ครูผูส้ อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภมู ใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตวั ชี้วัด ส 4.3 ป.3/3 เลา่ วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยทม่ี ีส่วนปกปอ้ งประเทศชาติ จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวชว้ี ดั 1. อธบิ ายประวตั ขิ องชาวบา้ นบางระจนั (K) 2. วิเคราะห์วรี กรรมสำคญั ของชาวบา้ นบางระจนั ทไ่ี ดท้ ำการปกปอ้ งบา้ นเมอื ง (P) 3. ชืน่ ชมความกลา้ หาญของบรรพบุรษุ ไทย และนำแบบอย่างไปปฏิบตั ติ อ่ บ้านเมอื ง (A) สาระสำคญั ชาวบ้านบางระจนั เปน็ บรรพบุรุษทปี่ กปอ้ งบ้านเมืองจากข้าศึกศตั รรู ุกรานอยา่ งกล้าหาญ และมคี วามเสียสละเพ่อื ชาติบา้ นเมือง ทำใหเ้ กดิ ความรกั ความสามัคคี และความสงบสขุ จนถงึ ปจั จุบัน สาระการเรยี นรู้ ชาวบ้านบางระจันสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝ่เรียนรู้ คำถามท้าทาย

นักเรยี นจะนำแบบอย่างที่ดีของชาวบา้ นบางระจนั มาเป็นแนวทางการปฏิบตั ติ นในชวี ติ ประจำวนั อยา่ งไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ขนั้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นกั เรยี นรว่ มกันร้องเพลงศึกบางระจัน จากนั้นรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับเนือ้ เพลง โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ เพลงศกึ บางระจัน ศึกบางระจนั จำให้มั่นพี่นอ้ งชาตไิ ทย เกียรติประวัติสร้างไว้ แดช่ นชาติไทยรุน่ หลงั แมช้ ีวิต ยอมอทุ ิศเพ่อื ชาติอับปาง เลอื ดไทยต้องมาไหลหล่งั ทาท่วั พน้ื แผน่ ดนิ ทอง ไทย คงเปน็ ไทย มิใช่ชาตเิ ป็นเชลย ไทยมเิ คย ถอยรน่ ชนชาติ ศัตรู บางระจัน แมส้ ้ินอาวธุ จะสู้ สองดาบฟาดฟันศตั รู สู้จน ชีพตนมลาย ตวั ตาย ดีกว่าชาตติ าย เพียงเลอื ด หยาดสดุ ท้าย ขอใหไ้ ทยคงอยู่ แดนทอง ของไทยมิใชศ่ ตั รู แม้ใครรุกรานตอ้ งสู้ เพื่อกู้ แหลมถน่ิ ไทยงาม (ซำ้ 1 รอบ) • เนอื้ เพลงน้กี ลา่ วถึงเรอ่ื งใด (ตัวอยา่ งคำตอบ การต่อสู้ของชาวบา้ นบางระจัน เพื่อปกปอ้ งบ้านเมอื งที่ถูกข้าศึกรกุ ราน) • นกั เรียนร้สู ึกอยา่ งไร เมอ่ื ไดร้ อ้ งเพลงศึกบางระจัน (ตัวอย่างคำตอบ รู้สกึ ภาคภมู ิใจ และชนื่ ชมการกระทำเพื่อรกั ษาแผ่นดนิ ของชาวบ้านบางระจนั ) • นกั เรียนทราบเกีย่ วกับวรี กรรมของชาวบ้านบางระจันหรือไม่ (ตวั อย่างคำตอบ ยงั ไมท่ ราบ) 2. นกั เรยี นศึกษา และรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับชาวบ้านบางระจนั จากหนงั สือเรียนและแหล่งการเรยี นรู้ อนื่ ๆ เพิ่มเติม •ข(G้ัน•aคt•ิดhวe•ิเrคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •ตวั แทนนกั เรียนออกมาอา่ นประวัตขิ องชาวบา้ นบางระจนั ให้เพื่อนฟงั หน้าชนั้ เรียน จากนัน้ รว่ มกนั แสดง ความคดิ เหน็ โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • หม่บู ้านบางระจันต้ังอย่ทู ีใ่ ด (ตำบลบางระจัน อำเภอคา่ ยบางระจัน จังหวดั สิงหบ์ ุรี) • ชาวบ้านบางระจนั ได้ตอ่ สู้เพือ่ ปกป้องบ้านเมืองจากใคร (กองทพั พมา่ ) • แกนนำสำคญั ในการรบกบั พมา่ ครง้ั นมี้ ใี ครบา้ ง

(ตัวอย่างคำตอบ นายพนั เรอื ง นายจันหนวดเขีย้ ว นายทองแสงใหญ่ นายทองแกว้ นายทองเหม็น นาย อิน นายดอก นายแทน่ นายโชติ โดยมขี ุนสรรค์เป็นหวั หนา้ และพระอาจารย์ธรรมโชต)ิ • ชาวบา้ นบางระจันทำประโยชน์ให้กบั ท้องถ่นิ ของตนอย่างไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ไดต้ ่อสกู้ บั กองทัพพมา่ ทำให้กองทพั พมา่ ทีเ่ ขา้ โจมตหี ม่บู ้านบางระจันถงึ 7 ครัง้ ตอ้ งพ้ายแพไ้ ปด้วยสตปิ ญั ญาในการรบและความเข้มแขง็ ของชาวบ้านบางระจนั จนในที่สดุ คร้งั ท่ี 8 หมบู่ า้ น บางระจนั กถ็ ูกพม่าตแี ตก) • จากเรื่องราวประวตั ขิ องชาวบา้ นบางระจนั นกั เรยี นไดข้ ้อคดิ อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เหน็ ถงึ ความกลา้ หาญ เสยี สละ เพ่ือชาติบ้านเมอื งท่จี ะรกั ษาและปกป้องแผน่ ดิน ที่อาศยั อย่อู ยา่ งไมก่ ลวั ตาย) 4. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพ่อื เพม่ิ คณุ คา่ แลว้ สรปุ เปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ นกั เรยี นจะนำแบบอยา่ งท่ีดขี องชาวบา้ นบางระจนั มาเป็นแนวทางการปฏบิ ัตติ นในชีวิตประจำวนั อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ เสียสละทำประโยชนเ์ พอื่ ส่วนรวม และคดิ เห็นประโยชน์ส่วนรวม มากกวา่ สว่ นตน) ข้นั ปฏบิ ตั ิและสรุปความรู้หลังการปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •5.• น•ักเร•ียน• แบง่ กล่มุ ยกตวั อย่างแนวทางการปฏบิ ัตติ นทีส่ อดคล้องกับวีรกรรมของชาวบ้านบางระจันและ สรปุ ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการปฏบิ ตั ิ โดยนำเสนอข้อมูลในรปู แบบแผนภาพความคิด ดังตวั อยา่ ง แนวทางการปฏิบัติตนทสี่ อดคล้อง ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการปฏบิ ตั ิ กบั วรี กรรมของชาวบ้านบางระจัน (ชมุ ชนมคี วามปลอดภัย และมีความสงบสขุ ) (ช่วยดแู ลความเรยี บรอ้ ยของชมุ ชน พบเห็น อะไรไมด่ กี น็ าไปแจง้ ผูใ้ หญบ่ า้ น เพื่อหาแนวทางป้องกัน) 6. นักเรียนตรวจสอบความถกู ต้องและความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดควรปรบั ปรุงแก้ไขให้ ถูกต้อง 7. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน ดังน้ี ชาวบา้ นบางระจัน เปน็ บรรพบุรษุ ทป่ี กป้องบ้านเมืองจากข้าศึกศตั รรู กุ รานอย่างกล้าหาญ และมีความเสยี สละเพอื่ ชาตบิ า้ นเมอื ง ทำให้เกดิ ความรกั ความสามคั คี และความสงบสุขจนถึงปจั จุบัน

• ข•ัน้ ส•อ่ื ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นักเรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น กิจกรรมนี้สร้างเสรมิ ทักษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสื่อสาร 9. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปเกีย่ วกบั วิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ทมี่ ีแบบแผน • ข•ัน้ ป•ระ•เม•นิ เ•พ่ือ•เพ•ม่ิ ค•ุณ•คา่ •บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นัก•เร•ยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียน ในประเด็นตอ่ ไปน้ี • สงิ่ ทน่ี ักเรยี นไดเ้ รยี นรใู้ นวนั นคี้ อื อะไร • นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพื่อนนกั เรยี นในกลุ่มมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • นกั เรยี นพอใจกบั การเรยี นในวันน้หี รอื ไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนำความรทู้ ี่ได้น้ไี ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสังคมท่วั ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากน้ันแลกเปลีย่ นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกข้ันตอนว่าจะเพ่มิ คุณคา่ ไปสสู่ ังคม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมให้มากขึ้นกวา่ เดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครั้งต่อไป สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. เพลงศกึ บางระจนั 3. ประวัติของชาวบ้านบางระจัน 4. แหลง่ การเรียนรู้ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรือ่ ง ชาวบา้ นบางระจนั (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกล่มุ มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารชีแ้ จง มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไม่มีการชแ้ี จง และไม่มกี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งชัดเจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ัตงิ าน แตไ่ ม่มีการประเมนิ ปฏบิ ัตงิ านร่วมกัน ร่วมกนั เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทุกคน อย่างร่วมมือรว่ มใจ พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ