พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงเป็นพระมหากษตั ริยผ์ ูส้ ถาปนา กรงุ รตั นโกสนิ ทร์เปน็ ราชธานี เมอื่ พ.ศ. 2325 และเปน็ พระมหากษตั รยิ ์พระองคแ์ รกแห่งราชวงศจ์ กั รี • ข•้นั ส•่ือส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นักเรยี นนำเสนอผลงานการเรยี งลำดบั พระนามพระมหากษตั ริย์แห่งราชวงศ์จกั รี หน้าชั้นเรยี น กจิ กรรมน้สี รา้ งเสรมิ ทักษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการส่อื สาร 9. นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปเก่ยี วกบั วิธกี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ กี ารทำงาน ที่มีแบบแผน • ข•นั้ ป•ระ•เม•ินเ•พอื่ •เพ•ิ่มค•ุณ•คา่ •บร•กิ า•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นกั •เร•ียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความร้สู ึกหลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ • สง่ิ ที่นักเรียนได้เรยี นร้ใู นวนั นค้ี อื อะไร • นักเรยี นมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพอใจกับการเรียนในวนั นีห้ รือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรูท้ ไ่ี ด้น้ีไปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมทัว่ ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนน้ั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนว่าจะเพ่มิ คณุ คา่ ไปสู่สงั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กว่าเดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครัง้ ตอ่ ไป 1. หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. พระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช 3. ข้อมลู พระราชประวัตขิ องพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช 4. แหลง่ การเรียนร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง พระราชประวตั ิของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ และมีการชี้แจง มีการช้ีแจงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชี้แจง และไม่มกี ารชแ้ี จง เป้าหมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เปา้ หมาย สมาชกิ การทำงาน ปฏิบตั ิงานร่วมกัน อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั รว่ มกัน เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อย่างร่วมมือร่วมใจ พร้อมกบั การประเมิน เปน็ ระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรยี นท่ี 2/2565 เรอ่ื ง สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช 2 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวนั ท่ี 16 เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตัวชวี้ ดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั ริยไ์ ทยทเี่ ป็น ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สตู่ ัวชว้ี ดั 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั พระราชกรณยี กิจทีส่ ำคัญของสมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช (K) 2. วิเคราะหพ์ ระราชกรณยี กิจทสี่ ำคัญของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (P) 3. เหน็ ความสำคัญของการศกึ ษาพระราชกรณียกิจท่สี ำคัญของพระมหากษตั รยิ ผ์ ูส้ ถาปนาอาณาจักรไทย (A) สาระสำคัญ สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราชทรงกอบกเู้ อกราชจากพมา่ ภายหลังการเสยี กรุงศรอี ยธุ ยาครงั้ ที่ 2 โดยขับไล่ทหารพมา่ ออกจากราชธานี และยังทำสงครามเพอ่ื รวบรวมแผน่ ดินให้เป็นปกึ แผน่ เช่นเดยี วกับ การขยายพระราชอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังทรงมุ่งมน่ั ทจ่ี ะฟ้ืนฟูประเทศในดา้ นต่าง ๆ ใหก้ ลับคืนส่ภู าวะปกติหลงั สงคราม สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณยี กจิ ของสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู - คำถามทา้ ทาย การเรียนรปู้ ระวัติศาสตรช์ าติไทยมคี วามสำคญั ตอ่ นกั เรียนหรือไม่ อยา่ งไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ขน้ั •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนร่วมกันร้องเพลง “อยธุ ยารำลกึ ” จากน้นั ร่วมกนั สนทนาโดยการตอบคำถาม ดังน้ี อยุธยาเมอื งเก่าของเราแตก่ อ่ น จิตใจอาวรณม์ าเลา่ สกู่ ันฟงั อยธุ ยาแต่ก่อนนยี้ งั เป็นดงั เมอื งทอง ของพี่น้องเผ่าพงศ์ไทย เดี๋ยวนซ้ี เิ ปน็ เมืองเกา่ ชาวไทยแสนเศรา้ ถูกขา้ ศกึ รุกราน ชาวไทยทกุ คนหัวใจรา้ วราน ขา้ ศกึ เผา่ ผลาญ แหลกลาญวอดวาย เยาวชนช้ันหลังมองแล้วเศรา้ ใจ อนุสรณเ์ ตือนให้ชาวไทยจงมน่ั สมัครสมานรว่ มใจกันสามัคคี คงจะไม่มใี ครกลา้ ราวชี าติไทย (ซ้ำทงั้ เพลง) • บทเพลงน้เี กี่ยวข้องกับอาณาจกั รใด (อาณาจักรอยธุ ยา) • จากบทเพลง อาณาจกั รอยธุ ยามีเหตุการณใ์ ดเกิดข้นึ (ข้าศึกรุกราน) • เหตกุ ารณ์ดงั กลา่ วส่งผลตอ่ อาณาจกั รอยุธยาอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ข้าศกึ ไดเ้ ผาทำลายกรุงศรอี ยุธยา) • จากบทเพลง นักเรยี นคดิ วา่ เหตุการณท์ ี่เกิดข้ึนเกิดจากสาเหตุใด (คนไทยขาดความสามัคคี) 2. นกั เรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกยี่ วกับพระราชกรณียกจิ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จาก หนังสือเรียนและแหล่งการเรียนร้อู ่นื ๆ เพมิ่ เตมิ
•(ขGน้ั•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าgะ)•ห์แ•ล•ะส•รปุ •คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรยี นดูวดิ ีโอเก่ยี วกับการเสียกรงุ ศรอี ยธุ ยาคร้งั ที่ 2 จากน้ันรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยการตอบ คำถาม ดงั น้ี • กรุงศรีอยธุ ยาทำสงครามกับใคร (พมา่ ) • การทำสงครามดงั กลา่ วมสี าเหตมุ าจากอะไร (ตัวอย่างคำตอบ พระเจา้ บเุ รงนองตอ้ งการกรุงศรีอยธุ ยาเป็นประเทศราช หรือเป็นเมืองข้ึน) • ผลจากการทำสงครามกบั พมา่ ส่งผลใหก้ รงุ ศรอี ยธุ ยาเปน็ อยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำใหก้ รุงศรอี ยธุ ยาแตกและตกเป็นเมอื งข้นึ ของพมา่ ) • หลังจากกรุงศรีอยุธยาตกเป็นเมืองข้นึ ของพม่า พระมหากษตั ริยพ์ ระองคใ์ ดไดก้ อบก้เู อกราชจากพม่า (สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช) • สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราชทรงกอบกู้เอกราชจากพมา่ อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ หลงั จากกรุงศรอี ยุธยาแตก พระเจ้าตากกร็ วบรวมผ้คู น เสบียงอาหาร เรือและอาวธุ และไดย้ กทัพไปตคี ่ายพมา่ ที่เมืองธนบุรแี ตกเป็นคา่ ยแรก แลว้ จึงยกทพั ไปตคี ่ายพมา่ ทก่ี รงุ ศรอี ยธุ ยาไดส้ ำเรจ็ ) • หลังจากกอบกูเ้ อกราชจากพมา่ ไดส้ ำเรจ็ สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชทรงวางแผนพัฒนา อาณาจกั รอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ พระองคท์ รงเหน็ ว่ากรุงศรอี ยธุ ยายากทจี่ ะบูรณะซ่อมแซมได้ เพราะไดร้ บั ความเสยี หาย อย่างมาก พระองค์จงึ ทรงใหส้ ร้างราชธานขี ้นึ ใหม่ที่เมืองธนบรุ ี และเสดจ็ ข้นึ ครองราชยส์ ถาปนาอาณาจกั รธนบรุ ีเป็น ราชธานี เม่อื พ.ศ. 2310) จากนนั้ อธบิ ายสรุปเก่ียวกับสาเหตทุ ่สี มเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราชทรงตดั สนิ พระทัยเลือก กรงุ ธนบรุ เี ป็นราชธานีแห่งใหม่วา่ กรงุ ศรีอยุธยา กรุงธนบุรี 1. กรงุ ศรอี ยธุ ยาถูกทำลายจนชำรดุ ทรดุ โทรม 1. กรุงธนบุรีเปน็ เมอื งขนาดเลก็ เหมาะสมกับ ยากที่จะบูรณะให้ดขี ึน้ กองกำลังทีม่ ีอยู่ 2. กรงุ ศรอี ยธุ ยามอี าณาเขตกวา้ งขวางเกนิ กว่า 2. กรุงธนบรุ ตี ้งั อยู่บริเวณปากแม่นำ้ เจา้ พระยา กองกำลังทม่ี ีอยู่ จึงยากแกก่ ารป้องกันบ้านเมอื ง จึงสะดวกในการตดิ ต่อคา้ ขายกับตา่ งประเทศ 3. ข้าศกึ รู้ทิศทางและภูมปิ ระเทศเปน็ อยา่ งดี ทำให้ 3. ถ้าหากข้าศกึ ยกทพั มาเกนิ กวา่ กำลังของกรุงธนบรุ ี เสยี เปรียบดา้ นการทำศกึ สงคราม จะต้านทานได้ กส็ ามารถยา้ ยไปตัง้ มนั่ ทีเ่ มือง จนั ทบุรีได้สะดวก
4. นักเรยี นแบ่งกลุ่มศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ ที่สำคัญของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช แลว้ สถาปนาอาณาจกั รธนบุรเี ปน็ ราชธานีทก่ี ำหนด แลว้ สรุปพระราชกรณยี กจิ ท่ีสำคญั ของพระองค์ เปน็ แผนภาพความคดิ ดงั ตัวอยา่ ง พระราชกรณยี กจิ ท่สี ำคญั ของสมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช ด้านการปกครอง ยงั คงใชร้ ะบบการปกครองแบบกรุงศรีอยธุ ยา ส่วนดา้ นกฎหมาย เมอ่ื ครง้ั กรุงแตกกฎหมาย บ้านเมืองกระจัดกระจายหายสญู ไปมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำการสบื เสาะคน้ หา มารวบรวมไวไ้ ด้ประมาณ 1 ใน 10 และให้ชำระกฎหมายเหล่าน้นั ฉบับใดยงั เหมาะแก่กาลสมัยกใ็ ห้คงไว้ และเป็นการแก้ไข เพอื่ ใหร้ าษฎรไดร้ บั ผลประโยชนม์ ากขนึ้ ดา้ นเศรษฐกจิ เนอ่ื งจากสมัยกรงุ ธนบรุ เี ป็นระยะเวลาที่ สร้างบา้ นเมอื งกนั ใหม่ การคา้ เจรญิ รงุ่ เรอื งท้งั ของหลวงและของราษฎร สมเดจ็ พระเจ้าตากสิน-มหาราชทรงทำนุ บำรงุ การค้าขายทางเรืออยา่ งเต็มท่ี ทรงแตง่ สำเภาหลวงออกไปคา้ ขายทางดา้ นตะวันออกไปถงึ เมอื งจีน ทางดา้ น ตะวันตกเฉยี งเหนือถึงอินเดียตอนใต้ ผลประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการคา้ ของหลวงช่วยบรรเทาภาระภาษีของราษฎรไป ได้มาก ดา้ นการคมนาคม ในยามว่างจากศกึ สงคราม จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ดั ถนนและขุดคลองมากขนึ้ ดา้ นศลิ ปกรรม ในสมยั น้ี แมส้ มเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราชจะมกี ารงาน ศกึ สงครามแทบจะมิไดว้ า่ งเวน้ ก็ตาม แต่ก็ทรงหาโอกาสฟนื้ ฟแู ละบำรงุ ศิลปกรรมไทย โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ทางด้านนาฏดรุ ยิ างค์และวรรณกรรม ดา้ นนาฏดรุ ยิ างคท์ รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหฟ้ ื้นฟูอยา่ งเตม็ ท่ี เพอ่ื สรา้ ง บรรยากาศที่ร่ืนเริงครึกคร้นื เหมือนครั้งกรงุ เกา่ นบั เป็นวิธีบำรงุ ขวัญที่ใกลต้ ัวราษฎรทส่ี ุด ดา้ นการศาสนา ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ฏสิ ังขรณว์ ดั วาอารามต่าง ๆ ทรี่ กรา้ งปรกั หกั พงั ตง้ั แตค่ รง้ั พม่าเขา้ เผาทำลายและ นำเอาทรพั ย์สินไปพมา่ แลว้ ให้อาราธนาพระภกิ ษุสงฆ์เข้าจำวัดตา่ ง ๆ สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช เสดจ็ สวรรคตเม่อื พ.ศ. 2325 (48 พรรษา) การทานบุ ารุงการคา้ ขายทางเรือโดยมี ปกครองแบบกรุงศรีอยุธยา การคา้ ขายกับจนี และอนิ เดยี ด้านเศรษฐกจิ ด้านการปกครอง มีการชาระกฎหมายเพ่อื ให้ ราษฎรได้รบั ประโยชน์มากข้นึ ดา้ นศาสนา พระราชกรณยี กิจ ดา้ นการคมนาคม ท่สี าคญั ของ สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ด้านศิลปกรรม โปรดใหต้ ัดถนน ให้ปฏิสังขรณ์วดั วาอารามตา่ ง ๆ และขุดคลองมากขึ้น ที่ปรักหักพงั และอาราธนา พระภกิ ษุสงฆเ์ ขา้ จาวดั ทานุบารุงศิลปกรรมไทยและวรรณกรรม
5. นกั เรียนคดิ ประเมนิ เพือ่ เพิม่ คุณค่า แล้วสรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • การเรยี นรปู้ ระวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทยมคี วามสำคัญตอ่ นกั เรียนหรอื ไม่ อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มคี วามสำคัญมาก เพราะจะทำให้เราเรียนร้อู ดีตและทำปจั จบุ นั ใหด้ ีข้นึ และร้สู ึกรักและ หวงแหนชาติของตน) ขัน้ ปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • 6•. • น•ักเร•ียน• วาดภาพระบายสเี ก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงออกถึงความรกั ชาติ แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้ • ภาพน้ีคือภาพอะไร (การยืนตรงเคารพธงชาติ) • การปฏบิ ัติตนในภาพแสดงถงึ ความรกั ชาติอยา่ งไร (เปน็ การสร้างความภาคภมู ใิ จใน ความเป็นไทย และทาใหเ้ กิดความสานกึ รกั บา้ นเกดิ ของตน และเปน็ การแสดงถงึ ความเคารพ ตอ่ บรรพบรุ ุษไทย) 7. นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้องและความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรบั ปรงุ แก้ไขให้ ถกู ต้อง 8. นักเรียนร่วมกนั สรุปส่งิ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั ดงั นี้ สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชจากพมา่ ภายหลงั การเสยี กรุงศรอี ยธุ ยาครง้ั ที่ 2 โดยขบั ไลท่ หารพม่าออกจากราชธานี และยังทำสงครามเพื่อรวบรวมแผ่นดนิ ใหเ้ ป็นปึกแผน่ เช่นเดยี วกบั การขยายพระ ราชอาณาจกั รออกไปอย่างกวา้ งขวาง นอกจากนยี้ งั ทรงมงุ่ มนั่ ที่จะฟ้นื ฟปู ระเทศในด้านตา่ ง ๆ ให้กลับคืนสภู่ าวะปกติ หลงั สงคราม
• ข•น้ั ส•่อื ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 9. นกั เรยี นนำเสนอผลงานการวาดภาพระบายสกี ารปฏบิ ตั ติ นทีแ่ สดงถงึ ความรักชาติหน้าชัน้ เรยี น กจิ กรรมนีส้ รา้ งเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสื่อสาร 10. นกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปเกยี่ วกับวิธกี ารทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน • ข•้ันป•ระ•เม•นิ เ•พอ่ื •เพ•มิ่ ค•ุณ•ค่า•บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 11•. •นกั •เร•ียนนำแนวทางการปฏิบัติตนในการแสดงออกถงึ ความรกั ชาตไิ ปปฏิบตั ิในชีวติ ประจำวันและแนะนำ ให้ผอู้ ่นื ปฏิบตั ิตาม 12. นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สกึ หลงั การเรยี น ในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิง่ ท่ีนกั เรียนได้เรียนรู้ในวนั น้คี ืออะไร • นักเรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพ่ือนนกั เรยี นในกลมุ่ มีส่วนรว่ มกิจกรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรยี นพอใจกับการเรยี นในวันนี้หรอื ไม่ เพียงใด • นักเรยี นจะนำความรู้ท่ไี ดน้ ไ้ี ปใช้ให้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่ัวไป ได้อย่างไร จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกข้ันตอนวา่ จะเพิ่มคุณค่าไปส่สู งั คม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในขัน้ ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครัง้ ต่อไป สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน ประวตั ิศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. เพลงอยธุ ยารำลึก 3. วิดโี อเกี่ยวกบั การเสียกรงุ ศรอี ยุธยาครง้ั ท่ี 2 4. ข้อมลู พระราชกรณียกจิ ของสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช 5. แหล่งการเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่ือง พระราชกรณยี กจิ ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลมุ่ มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารช้ีแจง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้แี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง เป้าหมาย อยา่ งชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบัตงิ านรว่ มกนั อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏบิ ัตงิ าน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านร่วมกัน รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งรว่ มมอื ร่วมใจ พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การสถาปนาอาณาจกั รไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เรอื่ ง พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 2 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวนั ที่ 6 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตวั ช้วี ัด ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษตั ริยไ์ ทยที่เปน็ ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้สู ตู่ วั ชว้ี ัด 1. อธิบายเก่ยี วกบั พระราชกรณียกจิ ทสี่ ำคัญของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (K) 2. วิเคราะห์พระราชกรณยี กจิ ท่สี ำคัญของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช (P) 3. เห็นความสำคัญของการศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ ทส่ี ำคัญของพระมหากษตั ริยผ์ ู้สถาปนาอาณาจกั รไทย (A) สาระสำคัญ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชทรงเปน็ ผู้สถาปนากรงุ รัตนโกสินทรเ์ ป็นราชธานี หลังจากการสถาปนาราชธานี พระองค์ได้ประกอบพระราชกรณียกจิ มากมาย ซึ่งเปน็ การวางรากฐานในดา้ นตา่ ง ๆ มาจนถึงปัจจุบนั สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้ - คำถามท้าทาย จากการศึกษาพระราชประวัตแิ ละพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั ริยไ์ ทย นกั เรยี นได้ประโยชนอ์ ย่างไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขั้น•สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกับการสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์ เพ่ือทบทวนความรเู้ ดมิ โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • บคุ คลท่ีสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์คือใคร (พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช) • พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เปน็ ราชธานี เมอ่ื พ.ศ.ใด (พ.ศ. 2325) • การสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์เป็นราชธานีส่งผลตอ่ อาณาจกั รไทยอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ส่งผลใหบ้ ้านเมอื งเป็นปึกแผน่ มาจนถงึ ปจั จบุ ัน) 2. นกั เรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั พระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จุฬา-โลก มหาราช จากหนังสอื เรียนและแหล่งการเรยี นร้อู นื่ ๆ เพิ่มเตมิ •ข(G้ัน•aคt•ิดhวe•เิ rคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นกั เรยี นดูวดิ ีโอเกย่ี วกบั เหตุการณก์ อ่ นและหลังการสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทรเ์ ปน็ ราชธานี จากนั้นร่วมกันแสดงความคิด โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • ก่อนการสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานมี ีเหตกุ ารณใ์ ดเกิดข้ึน (ตัวอย่างคำตอบ เกิดจลาจลขึน้ ในกรงุ ธนบุร)ี
• หลงั จากการปราบจลาจลในกรุงธนบุรีแล้ว เพราะเหตุใดพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ - จฬุ าโลกมหาราชจงึ ทรงยา้ ยราชธานมี าอยู่ทางฝัง่ ตะวนั ออกของแม่นำ้ เจ้าพระยา (ตวั อย่างคำตอบ 1. พระราชวังเดิมของกรงุ ธนบรุ มี ีความคับแคบ 2. พระองค์ไม่เห็นด้วยท่จี ะให้พระนคร แบง่ ออกเป็น 2 ส่วน โดยมแี มน่ ำ้ เจ้าพระยาผา่ กลางเป็นเสมอื นเมืองอกแตก 3. พ้ืนทท่ี างฝงั่ ตะวนั ออกเปน็ ทีร่ าบลุ่ม สามารถขยายเมืองออกไปได้ 4. ทางฝ่ังตะวันตกของแม่นำ้ เจ้าพระยามพี นื้ ทีท่ อ้ งทงุ่ น้ำกัดเซาะตลง่ิ พงั ทลายอยเู่ สมอ จงึ ไม่เหมาะแก่การสรา้ งอาคาร) • พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหย้ า้ ยเมอื งหลวงมาอยู่ บรเิ วณใด เพราะเหตใุ ด (ตวั อย่างคำตอบ ทางฝ่ังตะวันออกของแม่นำ้ เจ้าพระยา โดยตง้ั อยูพ่ ้นื ทร่ี าบกวา้ งขวาง และสามารถ อาศัยลำน้ำเจา้ พระยาเป็นคูพระนคร เหมาะแก่การป้องกันภยั จากการรุกรานของข้าศกึ ศัตรู) • พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงพระราชทานนามพระนครใหม่วา่ อะไร (พระราชทานนามพระนครใหมน่ ี้วา่ “กรงุ เทพมหานคร อมรรตั นโกสนิ ทร์ มหินทรายุธยา- มหาดิลกภพ นพรตั น์ราชธานีบรุ รี มย์ อดุ มราชนเิ วศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถติ สกั กะทัตตยิ วษิ ณกุ รรม- ประสิทธ์”ิ หรือทเ่ี รยี กขานกนั โดยท่วั ๆ ไปวา่ “กรงุ เทพมหานคร”) • พระราชกรณยี กจิ ท่ีสำคญั ของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ด้านพระพุทธศาสนามอี ะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหส้ ร้างวดั พระศรรี ัตนศาสดาราม (วดั พระแกว้ ) ในพระบรมมหาราชวงั พร้อมทั้งอันเชญิ พระแก้วมรกตจากธนบุรมี าประดษิ ฐานและพระราชทานนามใหมว่ ่าพระ พุทธมหามณรี ัตนปฏมิ ากร) 4. นกั เรียนคดิ ประเมินเพอื่ เพม่ิ คณุ คา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • จากการศกึ ษาพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย นักเรียนได้ประโยชน์ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ไดท้ ราบประวัติความเป็นมาของอาณาจกั รไทย รวมไปถึงพระปรีชาสามารถของ พระมหากษตั รยิ ์ไทยทกุ พระองค์ท่ีทรงเสยี สละเพอ่ื แผน่ ดนิ ไทย จนถึงปัจจุบัน) ขนั้ ปฏบิ ัติและสรุปความรู้หลงั การปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • •5.• น•กั เร•ยี น• แบ่งกลมุ่ แต่ละกลมุ่ เลือกศกึ ษาพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ -จฬุ าโลก มหาราช มา 1 ตวั อย่าง แลว้ เขยี นพระราชกรณยี กิจดงั กลา่ วลงในสมดุ เพอ่ื นำเสนอ 6. นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องและความเรียบรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรับปรุงแก้ไขให้ ถูกต้อง 7. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั นี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงเป็นผูส้ ถาปนากรุงรัตนโกสนิ ทรเ์ ป็นราชธานี หลังจากการสถาปนาราชธานี พระองคไ์ ด้ประกอบพระราชกรณียกิจมากมาย ซึง่ เป็นการวางรากฐานในด้าน ตา่ ง ๆ มาจนถึงปจั จบุ ัน • ข•้นั ส•อื่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 8. นกั เรียนนำเสนอผลงานการศกึ ษาพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก- มหาราชหนา้ ช้นั เรยี น กจิ กรรมนีส้ รา้ งเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสอ่ื สาร 9. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวธิ ีการทำงานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวธิ กี ารทำงาน ทม่ี แี บบแผน • ข•้ันป•ระ•เม•ินเ•พือ่ •เพ•่มิ ค•ณุ •คา่ •บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 10•. •นัก•เร•ียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สง่ิ ทีน่ กั เรียนได้เรยี นรู้ในวนั นค้ี อื อะไร • นักเรยี นมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพอ่ื นนกั เรียนในกลุ่มมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรียนพอใจกบั การเรยี นในวันนหี้ รือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนำความรู้ทีไ่ ด้น้ไี ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไป ได้อยา่ งไร จากนนั้ แลกเปลีย่ นตรวจสอบขัน้ ตอนการทำงานทกุ ข้ันตอนวา่ จะเพ่มิ คณุ ค่าไปสสู่ ังคม เกดิ ประโยชน์ตอ่ สงั คมให้มากขน้ึ กว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในคร้ังตอ่ ไป ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. วดิ โี อการสถาปนากรงุ ธนบุรี
3. แหลง่ การเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกลมุ่ มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า บทบาทสมาชกิ และมีการชีแ้ จง มกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย ไม่มกี ารชี้แจง และไม่มกี ารชีแ้ จง เปา้ หมาย อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกัน อยา่ งชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั งิ าน แต่ไม่มีการประเมนิ ปฏบิ ัติงานรว่ มกัน ร่วมกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งร่วมมือร่วมใจ พร้อมกับการประเมนิ เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การสถาปนาอาณาจักรไทย ภาคเรียนที่ 2/2565 เรื่อง สรุปการสถาปนาอาณาจกั รไทย เวลา 1 ชวั่ โมง สอนวันที่ 13 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชีว้ ดั ส 4.3 ป.3/1 ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กจิ โดยสังเขปของพระมหากษตั รยิ ์ไทยทเ่ี ป็น ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สตู่ วั ชว้ี ัด 1. อธิบายสรุปเกยี่ วกบั พฒั นาการของอาณาจักรไทยจากอดีต-ปจั จุบนั (K) 2. วเิ คราะห์พระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริย์ไทยท่ีสง่ ผลต่อสังคมไทย (P) 3. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการศกึ ษาพฒั นาการของอาณาจักรไทย (A) สาระสำคญั อาณาจกั รไทยมีการพฒั นาการสบื เน่อื งมายาวนานตงั้ แตส่ มัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี จนถึงรตั นโกสนิ ทร์ เน่ืองจาก มพี ระมหากษตั ริย์ท่ีทรงพระปรชี าสามารถในการวางรากฐานชาติไทยใหเ้ จริญร่งุ เรอื งสืบเนอื่ งตอ่ มาจนถึงปจั จบุ ัน สาระการเรยี นรู้ สรปุ การสถาปนาอาณาจกั รไทย สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ - คำถามท้าทาย นกั เรยี นจะชว่ ยรกั ษาความเป็นชาตไิ ทยได้อย่างไร การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขัน้ •สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั พฒั นาการของอาณาจักรไทย โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • อาณาจกั รไทยมอี าณาจกั รใดบา้ ง (อาณาจกั รสุโขทยั อาณาจกั รอยธุ ยา อาณาจกั รธนบรุ ี และอาณาจักรรตั นโกสนิ ทร์) • อาณาจกั รใดเป็นอาณาจกั รแรกของอาณาจักรไทย (อาณาจกั รสุโขทยั ) • อาณาจกั รสโุ ขทยั เรมิ่ ตน้ เม่ือ พ.ศ. ใด (พ.ศ. 1792) • บคุ คลใดคอื ผู้สถาปนาอาณาจักรสโุ ขทยั (พ่อขนุ ศรอี นิ ทราทิตย์) • จากอาณาจกั รแรกจนถึงอาณาจกั รปัจจบุ นั อาณาจักรมพี ฒั นาการอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ เร่มิ ตน้ ที่อาณาจักรสุโขทัย อาณาจกั รอยธุ ยา อาณาจกั รธนบรุ ี อาณาจกั รรัตนโกสนิ ทร์) • การเริม่ ต้นอาณาจกั รไทยจนถึงปัจจุบันผ่านมาแล้วกป่ี ี (ตวั อยา่ งคำตอบ 771 ปี) 2. นกั เรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั พระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัติรยไ์ ทยผู้ทรงสถาปนา อาณาจกั รไทย จากหนงั สือเรียนและแหลง่ การเรียนรอู้ ่นื ๆ เพ่ิมเติม •ข(Gัน้•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรยี นแบง่ กลุม่ 4 กลมุ่ จับสลากศึกษาพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั ริยไ์ ทยผู้ทรงสถาปนา อาณาจกั รไทยมา 1 พระองค์ แลว้ วิเคราะหผ์ ลท่ีเกดิ ขน้ึ ต่อสงั คมไทย
• กลุม่ ท่ี 1 พ่อขนุ ศรอี ินทราทิตย์ • กลุ่มท่ี 2 สมเดจ็ พระรามาธบิ ดีที่ 1 (พระเจ้าอทู่ อง) • กลมุ่ ที่ 3 สมเดจ็ พระเจ้าตากสินมหาราช • กลุ่มท่ี 4 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช โดยนำเสนอขอ้ มูลเปน็ แผนภาพความคิด ดังตัวอยา่ ง พระราชกรณยี กิจของ ผลต่อสังคมไทย สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช อาณาจกั รไทยมีอานาจในการ ทรงกอบกูเ้ อกราชของกรงุ ศรอี ยธุ ยา ปกครองตนเอง โดยไมต่ กเป็น จากพมา่ เมอื งข้นึ ของใคร และรกั ษาไวซ้ ึ่ง แผ่นดนิ ไทยจนมาถงึ ปัจจบุ ัน 4. นกั เรยี นแตล่ ะคนสรุปเก่ียวกบั ความสำคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ท์ ่มี ตี ่อสงั คมไทยมาคนละ 1 ขอ้ จากนน้ั บนั ทกึ คำตอบของนักเรียนเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ชาตไิ ทยยงั คงมคี วามเปน็ เปน็ ศนู ยร์ วมจิตใจ เอกราช ไมต่ กเปน็ เมืองขึ้น ของคนไทย ของชาตอิ ืน่ ความสาคัญ ของสถาบนั พระ- มหากษัตริยท์ มี่ ีต่อ สังคมไทย สร้างความเปน็ ปกึ แผ่นให้ เปน็ การสรา้ งความรกั และ อาณาจกั ร ความสามคั คใี ห้เกิดขนึ้ ใน สังคมไทย 5. นกั เรียนคดิ ประเมนิ เพื่อเพมิ่ คณุ คา่ แล้วสรปุ เป็นความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • นกั เรยี นจะชว่ ยรักษาความเป็นชาติไทยได้อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เคารพรกั ศรทั ธาในสถาบนั พระมหากษัตริย)์
• ข•ั้น•ปฏ•บิ ตั •ิแล• ะส• รุป• ค•วา•มร•ูห้ ล•ังก•าร•ปฏ•ิบัต• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •6.• น•ักเร•ยี น• ยกตัวอย่างพระราชกรณียกิจทสี่ ำคญั ของพระมหากษตั รยิ ท์ ี่เป็นผู้สถาปนาอาณาจักรไทย 1 พระองค์ แลว้ อธิบายผลท่ีเกดิ ขนึ้ จากพระราชกรณียกิจนั้น แลว้ บนั ทึกลงในช้นิ งานที่ 6 เรอื่ ง พระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั รยิ ์ไทย 7. นักเรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเรียบรอ้ ยของชนิ้ งาน หากพบขอ้ ผดิ พลาดควรปรบั ปรุงแก้ไข ให้ถกู ต้อง 8. นักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี อาณาจกั รไทยมีการพฒั นาการสืบเนือ่ งมายาวนานต้ังแตส่ มยั สุโขทยั อยุธยา ธนบุรี จนถงึ รตั นโกสนิ ทร์ เน่อื งจากมีพระมหากษตั รยิ ์ที่ทรงพระปรชี าสามารถในการวางรากฐานชาตไิ ทยใหเ้ จริญรุ่งเรอื งสืบเนอื่ งตอ่ มาจนถงึ ปจั จุบัน • ข•น้ั ส•ือ่ ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• 9•.•นกั เรียนนำเสนอชิน้ งาน เรอื่ ง พระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทยหน้าช้ันเรียน กจิ กรรมนสี้ ร้างเสริมทักษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการสือ่ สาร 10. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เกย่ี วกับวธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวิธกี ารทำงาน ท่มี แี บบแผน • ข•้นั ป•ระ•เม•ินเ•พอ่ื •เพ•่ิมค•ณุ •ค่า•บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 11•. •นัก•เร•ยี นร่วมกันรักษาไวซ้ ่งึ เอกลักษณ์ของชาติไทย ซ่งึ เป็นสิง่ ทบ่ี รรพบุรษุ ไดเ้ สยี สละชวี ิตปกป้องและ รักษาความเปน็ ชาตไิ ทยเอาไวม้ าจนถึงปัจจุบัน 12. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความร้สู ึกหลงั การเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี • สงิ่ ทนี่ ักเรียนได้เรยี นรู้ในวันน้ีคอื อะไร • นกั เรียนมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพอ่ื นนกั เรียนในกลุ่มมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพอใจกบั การเรยี นในวนั นห้ี รือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ท่ีไดน้ ี้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป
ไดอ้ ยา่ งไร จากนนั้ แลกเปลีย่ นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกข้ันตอนว่าจะเพ่มิ คณุ ค่าไปสู่สังคม เกดิ ประโยชน์ตอ่ สังคมให้มากขนึ้ กว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครั้งตอ่ ไป สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. แหล่งการเรยี นรูท้ งั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง สรปุ การสถาปนาอาณาจักรไทย (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมินช้นิ งาน เร่ือง พระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริย์ไทย (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 4. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารช้ีแจง มีการชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารช้แี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบัติงานร่วมกัน อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ตั ิงาน แตไ่ ม่มีการประเมิน ปฏิบัตงิ านร่วมกัน รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อย่างรว่ มมอื รว่ มใจ พร้อมกบั การประเมนิ เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 บคุ คลสำคญั ญของไทย ภาคเรยี นท่ี 2/2565 เร่ือง พระราชประวัตขิ องพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี 3 เดือน กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2566 ครูผู้สอน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวช้วี ัด ส 4.3 ป.3/2 อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั ริยใ์ นรัชกาลปัจจุบัน โดยสังเขป จุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ตู่ ัวชว้ี ัด 1. ระบพุ ระนามของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรตั นโกสินทร์พระองคป์ ัจจบุ นั (K) 2. วิเคราะหพ์ ระราชประวตั ขิ องพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หัว (P) 3. เห็นความสำคัญของการศึกษาพระราชประวัติของพระมหากษตั รยิ แ์ หง่ ราชวงศ์จักรี (A) สาระสำคัญ การศกึ ษาพระราชประวตั ิของบคุ คลสำคญั ของไทยจะทำใหเ้ กิดความภาคภมู ใิ จ และช่วยเป็นแบบอยา่ งท่ีดี เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สาระการเรยี นรู้ พระราชประวตั ขิ องพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู - คำถามท้าทาย นักเรยี นจะปฏิบัติตนในการแสดงความเคารพตอ่ พระบรมฉายาลกั ษณข์ องพระบาทสมเดจ็ - พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั อย่างไร การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ •ข้ัน•สัง•เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั อาณาจกั รไทยในปจั จบุ ัน โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • อาณาจกั รไทยในปัจจบุ นั คือ อาณาจกั รใด (อาณาจักรรตั นโกสนิ ทร)์ • อาณาจกั รรตั นโกสนิ ทร์มพี ระมหากษตั ริย์กพ่ี ระองค์ (ตัวอยา่ งคำตอบ 10 พระองค์) • นกั เรยี นทราบหรือไมว่ า่ พระมหากษตั ริยแ์ ห่งอาณาจักรรัตนโกสนิ ทร์ พระองค์ปัจจุบันคอื ใคร (ตัวอย่างคำตอบ ยงั ไมท่ ราบ) 2. นกั เรียนสงั เกตพระบรมฉายาลกั ษณเ์ ก่ยี วกบั พระมหากษตั ริย์แห่งอาณาจกั รรตั นโกสนิ ทรพ์ ระองค์ ปัจจบุ นั จากนนั้ รว่ มกนั สนทนาโดยการตอบคำถาม ดังนี้
• นักเรียนเคยเห็นบุคคลในภาพ หรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ เคยเห็น) • นกั เรยี นเคยเห็นบุคคลในภาพสถานทใ่ี ด (ตวั อย่างคำตอบ หน่วยงานราชการ ทวี ตี อนขา่ วพระราชสำนกั ) • บุคคลในภาพคือใคร (พระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ) • พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงเปน็ พระมหากษัตริย์พระองค์ทเ่ี ท่าใดแห่งอาณาจักร รตั นโกสนิ ทร์ (พระองคท์ ่ี 10 แหง่ อาณาจกั รรัตนโกสนิ ทร)์ • นกั เรียนทราบพระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัวหรือไม่ (ตวั อยา่ งคำตอบ ยงั ไมท่ ราบ) 3. นกั เรียนศึกษา และรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับพระราชประวัตขิ องพระบาทสมเดจ็ - พระวชริ เกล้าเจ้าอยูห่ วั จากหนังสอื เรียนและแหลง่ การเรยี นรอู้ ่ืน ๆ เพ่ิมเตมิ •ข(Gนั้•aคt•ดิhวe•เิ rคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 4•. •นักเรียนแบง่ กลุ่มศกึ ษาพระราชประวัตขิ องพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจ้าอย่หู ัวที่กำหนด จากนน้ั สรปุ พระราชประวตั ิของพระองค์เปน็ แผนภาพความคดิ ดังตัวอยา่ ง
พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั รัชกาลที่ 10 พระมหากษตั ริยไ์ ทยแห่งราชวงศ์จกั รี พระราชโอรสพระองค์เดยี วในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจา้ สริ ิกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอยูห่ วั เสดจ็ พระราชสมภพ ณ พระที่น่ังอมั พรสถาน พระราชวังดสุ ติ เมือ่ วันจันทร์ท่ี 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น. พระนามเดมิ วา่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หวั มหาวชริ า-ลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู มพี ระเชษฐภคนิ ี คอื ทูลกระหมอ่ มหญงิ อบุ ลรตั นราชกญั ญา สริ ิวัฒนาพรรณวดี และพระ ขนิษฐภคินีสองพระองค์ คอื สมเดจ็ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า เจ้าฟา้ มหา-จักรีสริ นิ ธร มหา วชิราลงกรณวรราชภกั ดี สริ กิ ิจการณิ พี รี ยพัฒน รฐั สมี าคุณากรปยิ ชาติ สยามบรมราชกมุ ารี และสมเด็จพระเจา้ น้อง นางเธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกมุ ารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตยิ ราชนารี ทรงเรม่ิ การศกึ ษาต้งั แต่ พ.ศ. 2499 จนถงึ พ.ศ. 2506 ทรงสำเรจ็ ขน้ั ต้นในระดบั อนุบาล รนุ่ ที่ 2 จาก โรงเรียนจติ รลดา แล้วจงึ เสดจ็ ฯ ไปทรงศกึ ษาตอ่ ในระดบั ประถมศกึ ษาทโี่ รงเรียนคงิ ส์มดี แคว้นซัสเซกส์ และศกึ ษา ระดับมธั ยมศกึ ษาที่โรงเรยี นมิลฟลิ ด์ แคว้นซอมเมอรเ์ ซท ประเทศองั กฤษ ต้งั แต่ พ.ศ. 2509 จนถึง พ.ศ. 2513 หลังจากนัน้ ทรงศกึ ษาตอ่ วิชาทหารทโ่ี รงเรยี นคงิ ส์สกูลซดิ นีย์ ประเทศออสเตรเลยี เสรจ็ แลว้ ทรงศกึ ษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาอักษรศาสตร์ (ด้านการทหาร) จากมหาวิทยาลยั นวิ เซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลยี เมอื่ พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว เสดจ็ ขน้ึ ครองราชสมบตั ิ เปน็ รัชกาลท่ี 10 แหง่ ราชวงศ์จกั รี โดยมี พระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก เม่อื วนั ท่ี 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัว ทรงมพี ระราชโอรส และพระราชธิดา 3 พระองค์ 1. สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ พัชรกติ ิยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ ีสริ พิ ชั ร มหาวชั รราชธดิ า 2. สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟ้าสริ ิวัณณวรี นารรี ัตนราชกัญญา 3. สมเดจ็ พระเจ้าลกู ยาเธอ เจ้าฟา้ ทปี ังกรรัศมโี ชติ มหาวชโิ รตตมางกรู สริ วิ บิ ูลยราชกมุ าร
พระราชโอรสองค์เดียวในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ล- อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปีหลวง พระราชโอรสและพระราชธดิ า เสด็จพระราชสมภพ ณ พระท่ีน่ัง 3 พระองค์ อัมพรสถานพระราชวงั ดสุ ิต เมอ่ื วัน 1. สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17.45 น. เจา้ ฟ้าพชั รกิติยาภาฯ 2. สมเด็จพระเจ้าลกู เธอ พระราชประวัติ พระนามเดมิ คอื สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ของพระบาทสมเดจ็ มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู เจา้ ฟา้ สริ ิวณั ณวรฯี 3. สมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอ พระวิชรเกลา้ เจา้ อยู่หวั เจา้ ฟา้ ทีปงั กรรศั มโี ชตฯิ เสดจ็ ขนึ้ ครองราชสมบัติเป็นรชั กาล พระเชษฐภคินี คือ ทลู กระหมอ่ มหญงิ ท่ี 10 แห่งราชวงศ์จกั รี โดยมีพระราช อุบลรัตนราชกัญญา สริ ิวฒั นาพรรณวดี พธิ ีบรมราชาภิเษก เมื่อวนั ที่ 4 และพระขนษิ ฐภคินี คือ สมเด็จ พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ- รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี และสมเดจ็ เจา้ ฟา้ ฯ กรมพระศรี สวางควัฒน วรขตั ติยราชนารี
การศกึ ษา ระดับปรญิ ญาตรี ทรงศึกษาทมี่ หาวิทยาลยั พ.ศ. 2499- 2506 สาเรจ็ การศึกษา นวิ เซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลยี ขัน้ ตน้ ในระดบั อนบุ าลรนุ่ 2 โรงเรยี นจติ รลดา สาขาอกั ษรศาสตร์ (ดา้ นการทหาร) ดา ระดบั มัธยมศึกษาทรงศกึ ษาทโ่ี รงเรยี น ระดบั ประถมศึกษาทรงศกึ ษาทโ่ี รงเรยี น มิลฟิลด์ ประเทศองั กฤษ ต้งั แต่ คงิ สม์ ีด แควน้ ซสั เซกส์ พ.ศ. 2509-2513 5. นักเรยี นคดิ ประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่า แล้วสรปุ เป็นความคดิ รวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังนี้ • นักเรยี นจะปฏบิ ัตติ นในการแสดงความเคารพตอ่ พระบรมฉายาลกั ษณ์ของพระบาทสมเด็จ-พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หวั อยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำความเคารพโดยการยกมอื ไหว)้ • ข•ั้น•ปฏ•บิ ตั•ิแล• ะส• รุป• ค•วา•มร•ู้หล•งั ก•าร•ปฏ•บิ ัต• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• ••••• 6. นกั เรยี นยกตัวอย่างเก่ียวกับแนวทางการปฏิบตั ิตนท่ีแสดงถงึ ความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ มา 1 ตวั อยา่ ง แล้ววิเคราะห์ผลทเ่ี กิดขนึ้ โดยใช้แผนภาพความคิดในการนำเสนอขอ้ มลู ดังตวั อยา่ ง การปฏบิ ัตติ นทแี่ สดงถงึ ผลท่ีเกดิ ข้นึ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษตั ริย์ (แสดงความเคพารรพะมโดหยากกาษรตัไหรวยิ ้์ (สถาบนั พระมหากษตั ริยจ์ ะอยู่กับ ใชว้ าจาอยา่ งสภุ าพ เมอื่ กล่าวถงึ สถาบนั คนไทยตลอดไป) พระมหากษตั รยิ ์)
7. นักเรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรบั ปรุงแก้ไข ใหถ้ ูกต้อง 8. นักเรยี นร่วมกันสรุปส่งิ ทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดังนี้ การศกึ ษาพระราชประวตั ิของบุคคลสำคัญของไทยจะทำให้เกดิ ความภาคภูมิใจและชว่ ยเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี เพอ่ื นำไปเปน็ แนวทางในการดำเนินชีวติ • ข•้นั ส•ื่อส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• •• 9. นกั เรยี นนำเสนอผลงานเกยี่ วกับการปฏบิ ตั ิตนทแ่ี สดงถงึ ความจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษัตริย์หนา้ ชน้ั เรยี น กิจกรรมน้สี ร้างเสรมิ ทักษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสอื่ สาร 10. นกั เรียนร่วมกันอภิปรายสรปุ เกี่ยวกบั วธิ กี ารทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ท่มี ีแบบแผน • ข•นั้ ป•ระ•เม•ินเ•พ่ือ•เพ•มิ่ ค•ุณ•คา่ •บร•ิกา•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 11•. •นัก•เร•ยี นนำแนวทางการปฏิบัติตนในการแสดงถงึ ความจงรักภักดีต่อสถาบนั พระมหากษัตริย์ ไปปฏิบตั ใิ นชีวติ ประจำวนั 12. นักเรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิง่ ทนี่ ักเรยี นไดเ้ รียนรใู้ นวันนี้คอื อะไร • นักเรียนมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพือ่ นนกั เรยี นในกล่มุ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพอใจกบั การเรยี นในวนั นหี้ รอื ไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ท่ีได้นไ้ี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสังคมทัว่ ไป ได้อยา่ งไร จากนัน้ แลกเปลีย่ นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกขนั้ ตอนว่าจะเพมิ่ คุณค่าไปสูส่ งั คม เกิดประโยชนต์ อ่ สังคมให้มากข้นึ กว่าเดมิ ในขัน้ ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครั้งต่อไป
ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. พระบรมฉายาลกั ษณ์ รชั กาลที่ 10 3. ข้อมลู ราชประวตั ิ รชั กาลท่ี 10 4. แหลง่ การเรียนรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรอื่ ง พระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน ๒. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตัง้ แต่ ๒ รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า บทบาทสมาชิก และมกี ารช้ีแจง มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง และไม่มกี ารชีแ้ จง เป้าหมาย อย่างชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน อย่างชัดเจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบัตงิ าน แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อย่างรว่ มมือรว่ มใจ พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 บุคคลสำคญั ของไทย ภาคเรียนที่ 2/2565 เรื่อง พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั : ดา้ นการทหาร และดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุข เวลา 1 ชว่ั โมง สอนวนั ท่ี 27 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2566 ครูผสู้ อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จ และธำรงความเป็นไทย ตัวช้ีวัด ส 4.3 ป.3/2 อธบิ ายพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ในรชั กาลปจั จุบัน โดยสงั เขป จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ วั ชวี้ ัด 1. อธิบายพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัว : ดา้ นการทหาร และดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุข (K) 2. วิเคราะหพ์ ระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว : ดา้ นการทหาร และดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุขทีส่ ง่ ผลต่อประเทศไทย (P) 3. เห็นคณุ คา่ และความสำคญั ของการประกอบพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ เพือ่ สง่ ผลให้เกดิ ความสขุ ในประเทศไทย (A) สาระสำคญั พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว มคี วามสำคญั ควรคา่ แกก่ ารศึกษา และปฏิบตั ติ ามเพือ่ สร้างความสขุ ความเจรญิ ใหเ้ กิดแกต่ นเอง และประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจา้ อยูห่ ัว : ดา้ นการทหาร และดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุข สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ คำถามท้าทาย พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อย่หู วั ด้านการทหาร และดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุข ส่งผลตอ่ ประเทศชาติอย่างไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ข้นั •สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นกั เรยี นรว่ มกันอ่าน พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จากนัน้ รว่ มกันสนทนาโดยการตอบคำถาม ดงั น้ี “เราจะสบื สาน รกั ษา และต่อยอด และครองแผน่ ดินโดยธรรม เพอื่ ประโยชน์สขุ แห่งราษฎรตลอดไป” • จากพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัวหมายความวา่ อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ พระบาทสมเดจ็ พระวชริ าเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงให้ความสำคญั กับการพัฒนาคุณภาพชวี ติ และความเปน็ อยูข่ องราษฎร โดยจะเน้นการสืบสานและตอ่ ยอดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ของพระบาทสมเดจ็ พระมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เพอ่ื ให้เกดิ ประโยชนส์ ุขแกร่ าษฎร ในการดำเนินชวี ิต และทรงใชห้ ลักธรรมเพอื่ ปกครองประเทศ) • จากพระปฐมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยูห่ วั นกั เรยี นคดิ วา่ จะส่งผลตอ่ ประเทศชาตอิ ย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำใหร้ าษฎรของประเทศอยูร่ ว่ มกันอยา่ งมคี วามสุข) 2. นักเรียนศกึ ษา และรวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้า- เจา้ อยู่หวั : ดา้ นการทหาร และด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากหนงั สอื เรียนและแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ๆ เพ่มิ เตมิ ข้ันคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) •(G•at•he•rin•g)• • • • • • • • • • • • • ••
3. นักเรียนแบง่ กลุ่มวิเคราะห์เกยี่ วกับพระราชกรณยี กจิ ด้านการทหารของพระบาทสมเด็จ- พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หวั ทก่ี ำหนด แล้วสรปุ ข้อมูลพระราชกรณยี กจิ ดา้ นการทหารเปน็ แผนภาพความคดิ ดงั ตวั อยา่ ง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเข้ารับราชการทหารตง้ั แตว่ นั ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2518 เปน็ ต้นมา ทรงดำรงพระยศทางการทหารของ 3 เหลา่ ทพั คือ พลเอก พลเรอื เอก และพลอากาศเอก พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกจิ ทสี่ ำคญั ดา้ นการทหาร โดยเข้ารว่ มปฏิบัตกิ ารในเหตกุ ารณ์ ยุทธการภขู วาง ณ บา้ นหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ดา่ นซ้าย จ.เลย โดยวนั ท่ี 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 ในหลวงรัชกาลท่ี 9 โปรดเกลา้ ฯ ให้พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทท่ี รงดำรงตำแหน่งรอ้ ยเอก ในขณะนน้ั เสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทรงเยย่ี มทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และราษฎรในพ้นื ที่ เนอื่ งจากถกู ผูก้ อ่ การรา้ ยโจมตใี นการเสดจ็ ไปร่วมรบครัง้ น้นั พระองคท์ รงมกี ารวางแผนในการรบอย่างรดั กมุ เพอ่ื ให้เกดิ ความ สูญเสยี นอ้ ยท่สี ุด จนกระท่ังผู้ก่อการรา้ ยต้องล่าถอยออกไป เหตกุ ารณใ์ นครัง้ นน้ั สรา้ งขวัญและกำลังใจใหแ้ กต่ ำรวจ ตระเวนชายแดนทหาร และราษฎรในพ้นื ท่อี ย่างหาทีส่ ุดมิได้ ในปี พ.ศ. 2522 เกดิ สงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชา ทำให้มีผู้อพยพล้ีภัยเขา้ มาทางชายแดนของ ประเทศไทยผ่านทางจงั หวดั ปราจีนบรุ ี จันทบรุ ี และตราด พระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ก็ได้เสดจ็ ดำเนนิ ไปทรงเยย่ี ม และทรงวางนโยบายในการจดั การระวงั ป้องกัน และปกปอ้ งชวี ิตชาวกัมพูชาทอ่ี พยพเขา้ มาในไทย โดยมี การจดั ระเบียบคา่ ยต่าง ๆ และพฒั นาภมู ิประเทศบริเวณน้ันให้มคี วามปลอดภยั และเหมาะกับการตั้งรับการถกู โจมตมี ากข้ึน ในปี พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ ัว ทรงพระกรณุ าปฏิบัติหน้าทีค่ รกู ารบนิ เคร่อื งบินขับไล่ F-5 E/F ฝึกสอนนกั บินขับไลข่ องกองทัพอากาศทงั้ ภาควชิ าการและการบนิ โดยไดท้ รงนำความรู้ ดา้ นการบินที่พระองค์ไดท้ รงสั่งสมมาตลอดหลายปจี ากการเรียนทงั้ ในและตา่ งประเทศมาสอน เพอื่ พัฒนากองทพั ไทยให้แขง็ แกร่งและมีประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ ปี พ.ศ. 2552 พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั ทรงปฏบิ ัตหิ น้าท่นี กั บินที่ 1 เคร่อื งบนิ โบอ้งิ 737- 400 ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภยั และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทยส์ ำหรบั โรงพยาบาลใน 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้
พระราชกรณยี กจิ รับราชการทหาร ปี พ.ศ. 2518 ทรงดารงพระยศทางทหารของ 3 เหลา่ ทพั ดา้ นการทหาร คือ พลเอก พลเรือเอก และพลอากาศเอก ของพระบาทสมเด็จ พระวชริ เกลา้ เจ้าอย่หู ัว ปี พ.ศ. 2519 ได้เข้ารว่ มปฏิบตั ิการในเหตุการณ์ ยทุ ธการภูขวาง ณ บา้ นหมากแข้ง จังหวดั เลย ทรงเสด็จพระราชดาเนินไปทรงเย่ียมทหาร ตารวจตระเวนชายแดน และราษฎรในพนื้ ที่ เนอ่ื งจากถูกผกู้ ่อการร้าย โจมตี พระองคท์ รงมีการวางแผนในการรบอย่างรดั กมุ จนผกู้ อ่ การร้าย ต้องถอยออกไปจากพนื้ ที่ ปี พ.ศ. 2522 เกดิ สงครามกลางเมอื งในประเทศกมั พูชาทาใหม้ ีผอู้ พยพล้ีภัย เขา้ มาทางชายแดนของจงั หวดั ปราจนี บรุ ี จันทบุรี และตราด พระองคก์ ไ็ ด้ เสด็จดาเนนิ ไปทรงเย่ียม และวางนโยบายป้องกัน และปกปอ้ งชีวติ ชาวกัมพชู า โดยมกี ารจดั ระเบยี บคา่ ยตา่ ง ๆ และพัฒนาภมู ิประเทศ ใหม้ คี วามปลอดภยั และเหมาะกับการตง้ั รับการถกู โจมตีมากขนึ้ ปี พ.ศ. 2537 ทรงพระกรณุ าปฏบิ ัติหนา้ ท่ีครูการบนิ เครือ่ งบนิ ขับไล่ Fi-5 E/F ฝึกสอนนักบนิ ขบั ไล่ของกองทพั อากาศทงั้ ภาควชิ าและการบินเพอ่ื พัฒนา กองทพั ไทยใหแ้ ข็งแกร่งและมีประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ปี พ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหนา้ ทีน่ ักบินท่ี 1 เครื่องบินโบอ้ิง 737-400 ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอปุ กรณด์ า้ นการแพทยส์ าหรับ โรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4. นักเรียนยกตวั อย่างพระราชกรณยี กจิ ดา้ นการทหารของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั มา 1 ตวั อยา่ ง แลว้ วิเคราะห์ผลท่เี กดิ ขน้ึ ต่อประเทศไทย ดงั ตัวอยา่ ง พระราชกรณียกิจดา้ นการทหาร ผลทีเ่ กิดขึ้น สามารถรกั ษาอธิปไตยของประเทศไว้ได้ เข้าร่วมปฏิบตั กิ ารในเหตกุ ารณ์ ยทุ ธการภูขวาง ณ บา้ นหมากแข้ง จงั หวัดเลย
5. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับพระราชกรณยี กิจดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ โดยใชค้ ำถาม ดังนี้ • พระราชกรณยี กิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัวมี อะไรบา้ ง โดยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตัวอยา่ ง ทรงตดิ ตามกจิ การและผลการ พระราชกรณยี กจิ พระราชทานพระราชทรพั ย์ ดาเนินงานของโรงพยาบาลอย่าง ด้านการแพทย์ ส่วนพระองค์สนบั สนุนให้มีเครอ่ื งมอื สม่าเสมอ เพอ่ื ศกึ ษาปัญหา และ และสาธารณสุข อุปกรณก์ ารแพทย์ท่ีทันสมยั แนวทางการพัฒนาโรงพยาบาล ให้มีประสทิ ธิภาพ ทรงตรวจเยีย่ มราษฎรในพน้ื ทตี่ ่าง ๆ และให้การชว่ ยเหลอื ดา้ นการแพทย์ และสาธารณสุขแก่ราษฎรท่ีมาเฝ้ารบั เสดจ็ 6. นกั เรยี นคดิ ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณค่า แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบยอดโดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ วั ดา้ นการทหาร และด้านการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ สง่ ผลต่อประเทศชาติอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ประชากรอยดู่ ีมีสุข และไดร้ ับการรกั ษาพยาบาลทีม่ ีประสิทธภิ าพ) • ข•้นั •ปฏ•บิ ตั•ิแล• ะส• รปุ• ค•วา•มร•ู้หล•ังก•าร•ปฏ•บิ ตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •7.• น•กั เร•ยี น• เลือกศกึ ษาเกี่ยวกบั พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว ด้านการทหาร หรือดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ มา 1 ตวั อยา่ ง แล้ววิเคราะห์ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อประเทศไทย 8. นกั เรียนตรวจสอบความถกู ต้องและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดควรปรับปรุงแก้ไขให้ ถกู ตอ้ ง 9. นักเรียนรว่ มกันสรุปส่งิ ทเี่ ข้าใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดงั น้ี
พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั มีความสำคญั ควรคา่ แกก่ ารศึกษาและ ปฏิบัติตามเพอื่ สร้างความสุข ความเจริญใหเ้ กดิ แก่ตนเอง และประเทศชาติ • ข•ั้นส•อ่ื ส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• 1•0.•นกั เรยี นนำเสนอผลงานการศกึ ษา พระราชกรณยี กิจด้านการทหาร และด้านการแพทย์ และสาธารณสขุ หนา้ ชัน้ เรียน กจิ กรรมนสี้ รา้ งเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการส่อื สาร 11. นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายสรปุ เกยี่ วกบั วิธีการทำงานให้เห็นการคดิ เชิงระบบและวิธกี ารทำงาน ที่มแี บบแผน • ข•้ันป•ระ•เม•ินเ•พอ่ื •เพ•ม่ิ ค•ุณ•ค่า•บร•กิ า•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นกั •เร•ียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ • ส่งิ ทีน่ กั เรยี นได้เรียนรใู้ นวนั น้ีคืออะไร • นักเรยี นมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพ่ือนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพอใจกบั การเรยี นในวนั น้ีหรอื ไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ทไ่ี ด้น้ีไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อยา่ งไร จากนั้นแลกเปลีย่ นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทกุ ขนั้ ตอนว่าจะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชน์ต่อสงั คมใหม้ ากขน้ึ กว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในคร้งั ตอ่ ไป ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. พระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว 3. ขอ้ มลู พระราชกรณยี กจิ ด้านการทหาร 4. แหลง่ การเรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมินผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง พระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยูห่ วั : ดา้ นการทหาร และดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ใฝ่เรียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เครื่องมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ บทบาทสมาชกิ และมีการช้ีแจง มกี ารชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้แี จง และไมม่ ีการชีแ้ จง เปา้ หมาย อย่างชัดเจนและ เปา้ หมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏบิ ัติงานร่วมกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบัตงิ าน แตไ่ มม่ ีการประเมิน ปฏิบัติงานรว่ มกนั รว่ มกัน เป็นระยะ ๆ ไมค่ รบทกุ คน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ พร้อมกับการประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 13 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 บคุ คลสำคญั ของไทย ภาคเรยี นท่ี 2/2565 เรอื่ ง พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว : ดา้ นเกษตรกรรม ดา้ นการศกึ ษา สอนวันท่ี 3 เดือน กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นายพงศธร อยู่สุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมใิ จ และธำรงความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ดั ส 4.3 ป.3/2 อธบิ ายพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั รยิ ใ์ นรชั กาลปัจจุบนั โดยสงั เขป จุดประสงค์การเรียนรูส้ ตู่ ัวชวี้ ดั 1. อธบิ ายพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั : ด้านเกษตรกรรม ดา้ นการศกึ ษา (K) 2. วิเคราะห์พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว : ดา้ นเกษตรกรรม และดา้ นการศกึ ษาที่สง่ ผลตอ่ ประเทศไทย (P) 3. เหน็ คุณค่าและความสำคญั ของการประกอบพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตรยิ ์ เพอ่ื ส่งผลให้เกดิ ความสขุ ในประเทศไทย (A) สาระสำคญั พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยูห่ วั มคี วามสำคญั ควรคา่ แกก่ ารศกึ ษา และปฏบิ ัตติ าม เพ่ือสรา้ งความสุขความเจริญให้เกิดขึน้ แก่ตนเองและประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ วั : ดา้ นเกษตรกรรม ดา้ นการศึกษา สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ คำถามทา้ ทาย พระราชกรณยี กิจด้านเกษตรกรรม และการศกึ ษาของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยหู่ วั มีความสำคัญตอ่ นกั เรยี นหรอื ไม่ อย่างไร การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ •ข้ัน•สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับการประกอบอาชีพของประชาชนในประเทศ โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • ประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศประกอบอาชพี อะไร (ตวั อย่างคำตอบ เกษตรกรรม) • การประกอบอาชีพดังกลา่ วสง่ ผลตอ่ ประชากรอยา่ งไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้ประชากรมีอาชพี สรา้ งรายไดใ้ ห้กบั ตนเองและครอบครัว) 2. นกั เรียนศกึ ษา และรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ - เจ้าอยหู่ วั : ด้านเกษตรกรรม และดา้ นการศึกษา จากหนงั สอื เรยี นและแหลง่ การเรียนรอู้ ่นื ๆ เพ่ิมเตมิ •ข(Gั้น•aคt•ดิhวe•ิเrคinร•าg)ะ•ห์แ•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั พระราชกรณยี กิจดา้ นเกษตรกรรม โดยการตอบคำถามดงั น้ี พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ ัวดา้ นเกษตรกรรมมีอะไรบา้ ง โดยสรปุ คำตอบของนกั เรยี นเป็นแผนภาพความคดิ บนนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง
พระราชทานทดี่ นิ ส่วนพระองค์ใหก้ บั ทรงตดิ ตามความก้าวหนา้ ดา้ นการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพอ่ื พฒั นา ชลประทาน การสร้างเขอ่ื นต่าง ๆ ใหม้ นี า้ ใช้ เป็นศนู ย์การเรียนรู้ดา้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ในการเกษตรอย่างอดุ มสมบูรณ์ และช่วยบรรเทาปัญหาอทุ กภัยในฤดูฝน และฤดแู ล้ง พระราชกรณยี กจิ ด้านเกษตรกรรม ทรงเสด็จพระราชดาเนินเย่ียมเยยี น เกษตรกรในจังหวัดตา่ ง ๆ เพือ่ รบั ฟังปญั หา และทรงหาทางแก้ไขอยา่ งถูกต้องเหมาะสม 4. นกั เรียนกตัวอย่าง พระราชกรณยี กิจดา้ นการเกษตรกรรมของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้า-เจ้าอยหู่ ัว มา 1 ตัวอยา่ ง แล้ววเิ คราะห์ประโยชน์ทเ่ี กิดข้นึ ตอ่ เกษตรกรในประเทศ โดยบันทกึ คำตอบ ของนักเรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตวั อย่าง พระราชกรณียกิจดา้ นเกษตรกรรม ประโยชน์ทีเ่ กดิ ข้ึนตอ่ เกษตรกร ทรงเสดจ็ พระราชดาเนนิ เยี่ยมเยอื นเกษตกร ราษฎรได้เล่าถงึ ปญั หาในการทาเกษตรกรรม ในจงั หวัดตา่ ง ๆ เพื่อรบั ฟังปญั หา และไดร้ ับพระกรณุ าในการเรง่ หาทางแก้ไข ดา้ นเกษตรกรรม สง่ ผลให้เกษตรกรทาการเกษตรได้อยา่ งยั่งยืน 5. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับพระราชกรณียกจิ ดา้ นการศึกษา โดยการตอบคำถามดงั นี้ • พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั ดา้ นการศึกษามีอะไรบา้ ง จากนัน้ บนั ทกึ คำตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง
ทรงกอ่ ตง้ั โรงเรียนมัธยมศึกษา พระราชกรณยี กจิ พระราชทานวัสดกุ ารศกึ ษา ในถน่ิ ทุรกันดารและทรงรับ ดา้ นการศึกษา อันทนั สมัยและทรงส่งเสริมให้ โรงเรยี นไว้ในพระราชูปถัมภ์ โรงเรียนดาเนินโครงการอันเปน็ ประโยชน์ เพอื่ ใหส้ ามารถ ประกอบอาชีพได้ ทรงใหจ้ ัดต้ังมลู นิธิทนุ การศกึ ษา ทรงพระกรณุ าเสด็จพระราชดาเนินไป พระราชทาน เพ่ือเสรมิ สร้างโอกาส พระราชทานปริญญาบตั รแก่บัณฑติ ทางการศกึ ษา แก่เยาวชนผยู้ ากไร้ เรยี นดี ของมหาวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ ความประพฤตดิ ี 6. นักเรียนยกตวั อยา่ ง พระราชกรณยี กิจดา้ นการศกึ ษาของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อย่หู ัว มา 1 ตวั อยา่ ง แลว้ วเิ คราะหป์ ระโยชน์ทเ่ี กดิ ขึ้นตอ่ ราษฎรในประเทศ โดยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนเปน็ แผนภาพ ความคดิ บนกระดาน ดงั ตัวอย่าง พระราชกรณียกจิ ดา้ นการศกึ ษา ประโยชน์ที่เกิดขนึ้ ต่อราษฎร ทรงจดั ต้งั มูลนธิ ทิ นุ การศกึ ษาพระราชทาน ราษฎรที่มีฐานะยากจนสามารถศกึ ษาเล่าเรียน เพ่ือสง่ เสริมโอกาสทางการศึกษา แก่เยาวชน และมโี อกาสทางการศกึ ษา เทา่ กบั คนอนื่ ๆ ผู้ยากไร้ เรยี นดี ความประพฤตดิ ี ส่งผลใหเ้ กดิ ความเท่าเทยี มกนั ในสังคม 7. นกั เรียนคิดประเมินเพ่ือเพิม่ คณุ ค่า แล้วสรุปเปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • พระราชกรณยี กิจด้านเกษตรกรรม และดา้ นการศึกษาของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้า-เจ้าอยูห่ วั มีความสำคญั ตอ่ นักเรียนหรือไม่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ มีความสำคญั โดยเฉพาะด้านการศึกษา การที่พระองค์ทรงมอบทุนทางการศกึ ษาให้ เด็กดแี ละเดก็ เรยี นดี หรอื ดอ้ ยโอกาส ทำใหเ้ ราไดร้ ับโอกาสทางการศกึ ษาอยา่ งทัดเทยี มกับบคุ คลอื่น) • ข•นั้ •ปฏ•บิ ตั•แิ ล• ะส• รุป• ค•วา•มร•ู้หล•ังก•าร•ปฏ•ิบตั• ิ (•A•pp•lyi•ng• an• d•C•on•str•uc•tin• g•th•e •Kn•ow•le•dg•e)• •••••
8. นกั เรียนแบง่ กล่มุ เลอื กศึกษาเกย่ี วกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดา้ น เกษตรกรรม หรอื ดา้ นการศกึ ษาท่ีสนใจมา 1 ตัวอย่าง แล้ววิเคราะหค์ วามสำคัญ และผลท่เี กดิ ขึ้น ดังตวั อยา่ ง พระราชกรณียกิจ ดา้ น (เกษตรกรรม) (การตดิ ตามความกา้ วหนา้ ดา้ นการชลประทาน การสรา้ งเขื่อน) ความสาคัญ (เพื่อจะได้มนี ้าในการทาเกษตรกรรม และชว่ ยบรรเทาปญั หาอทุ กภัยในฤดแู ล้ง และฤดฝู น) ผลที่เกดิ ขน้ึ (ประชาชนมนี ้าไวใ้ ชใ้ นการทาการเกษตร ส่งผลให้พชื ผลทางการเกษตรให้ผลผลิต ที่มคี ณุ ภาพ) 9. นกั เรียนตรวจสอบความถกู ต้อง และความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบขอ้ ผดิ พลาดควรปรับปรงุ แก้ไข ใหถ้ ูกตอ้ ง 10. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงทเี่ ขา้ ใจเป็นความรูร้ ว่ มกนั ดงั นี้ พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอย่หู วั มคี วามสำคญั ควรคา่ แก่การศกึ ษาและ ปฏบิ ัติตาม เพ่อื สรา้ งความสขุ ความเจรญิ ใหเ้ กดิ ขึ้นแก่ตนเองและประเทศชาติ • ข•้ันส•ื่อส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• ••
11. นกั เรียนนำเสนอผลงานการศกึ ษาพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจา้ อย่หู วั ดา้ น เกษตรกรรม และดา้ นการศกึ ษา หน้าชน้ั เรยี น กจิ กรรมน้ีสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสอ่ื สาร 12. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับวิธีการทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชิงระบบและวิธกี ารทำงาน ที่มแี บบแผน • ข•ัน้ ป•ระ•เม•นิ เ•พ่อื •เพ•มิ่ ค•ุณ•ค่า•บร•กิ า•รส•งั ค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 13•. •นัก•เร•ียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สกึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปนี้ • ส่งิ ทนี่ กั เรยี นไดเ้ รียนรใู้ นวนั น้คี อื อะไร • นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • เพ่ือนนกั เรยี นในกลมุ่ มีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพอใจกับการเรยี นในวนั นหี้ รือไม่ เพยี งใด • นักเรยี นจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ี้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมท่วั ไป ได้อย่างไร จากน้ันแลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทกุ ขนั้ ตอนว่าจะเพ่ิมคณุ ค่าไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชน์ต่อสังคมใหม้ ากข้นึ กว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในคร้งั ต่อไป สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. แหลง่ การเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่ือง พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หวั : ดา้ นเกษตรกรรม ดา้ น การศกึ ษา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
3. เกณฑ์การประเมนิ การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลุ่ม มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมกี ารชีแ้ จง มกี ารชแี้ จงเปา้ หมาย ไม่มีการชแ้ี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง เปา้ หมาย อย่างชดั เจนและ เป้าหมาย เป้าหมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งชดั เจน ต่างคนตา่ งทำงาน มีการปฏิบตั งิ าน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ร่วมกนั เปน็ ระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ พรอ้ มกบั การประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 14 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ส 13102 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 บุคคลสำคญั ของไทย ภาคเรยี นที่ 2/2565 เรื่อง พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั : ดา้ นการตา่ งประเทศ ด้านศาสนา สอนวันที่ 10 เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 1 ชวั่ โมง ครูผ้สู อน นายพงศธร อยู่สขุ …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภูมิใจ และธำรงความเป็นไทย ตัวชวี้ ดั ส 4.3 ป.3/2 อธิบายพระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริย์ในรัชกาลปจั จุบนั โดยสงั เขป จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ตู่ ัวชวี้ ัด 1. อธิบายพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หวั : ดา้ นการตา่ งประเทศ ดา้ นศาสนา (K) 2. วิเคราะหพ์ ระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว : ดา้ นการตา่ งประเทศ ด้านศาสนา ท่สี ่งผลตอ่ ประเทศไทย (P) 3. เห็นคณุ คา่ และความสำคญั ของการประกอบพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตริย์ เพอ่ื ส่งผลให้เกดิ ความสุขในประเทศ (A) สาระสำคัญ พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หัว มีความสำคญั ควรคา่ แก่การศกึ ษา และปฏบิ ัติตาม เพอื่ สรา้ งความสขุ ความเจริญใหเ้ กิดขนึ้ แก่ตนเองและประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอย่หู วั : ดา้ นการตา่ งประเทศ ด้านศาสนา
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู)้ - คำถามทา้ ทาย นกั เรียนจะนำแบบอย่างท่ีดขี องพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว ด้านศาสนาไปปรบั ใช้ ในชีวติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งไร การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ •ขน้ั •สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ข้อ•มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นักเรยี นสงั เกตพระบรมฉายาลกั ษณ์เกย่ี วกบั การประกอบพระราชกรณียกจิ ในการเสด็จเยอื น ตา่ งประเทศ จากน้นั ร่วมกนั สนทนาโดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • พระราชกรณียกิจนค้ี ืออะไร (การเสด็จเยือนต่างประเทศของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว)
• เพราะเหตใุ ด พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อยู่หวั จึงทรงประกอบพระราชกรณียกจิ เยือน ต่างประเทศ (ตวั อย่างคำตอบ เพ่อื เจรญิ สัมพันธไมตรกี ับประเทศต่าง ๆ) • นกั เรยี นคิดวา่ การเสดจ็ เยือนต่างประเทศของพระองคท์ ่านมผี ลตอ่ ประเทศไทยอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำให้ประเทศไทยเป็นทร่ี ู้จักผคู้ นท่ัวโลก และเป็นการสรา้ งความสัมพนั ธ์ทด่ี ีกบั ประเทศ ต่าง ๆ ในโลก) 2. นักเรยี นศกึ ษา และรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับพระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ - เจ้าอยู่หวั : ดา้ นการต่างประเทศ ดา้ นศาสนา จากหนงั สอื เรยี นและแหลง่ การเรยี นรอู้ ืน่ ๆ เพิ่มเติม •(ขG้ัน•aคt•ิดhวe•เิ rคinร•าg)ะ•หแ์•ล•ะส•รุป•คว•าม•รู้ •(P•ro•ce•ssi•ng•) 3•. •นกั เรยี นร่วมกนั อา่ นเก่ยี วกบั พระราชสาสน์ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว จากน้นั แสดงความคดิ เห็น โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยู่หัว มีพระราชสาส์นอำนวยพร วันชาตเิ วียดนาม เม่อื วันท่ี 2 กนั ยายน พ.ศ. 2562 พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรด เกลา้ ฯ ให้ส่งขอ้ ความพระราชสาสน์ อำนวยพรไปยังประธานาธิบดแี หง่ สาธารณรัฐสงั คมนิยมเวียดนาม ในโอกาสวันชาตขิ องสาธารณรัฐสงั คมนยิ มเวียดนาม ซงึ่ ตรงกบั วนั ท่ี 2 กันยายน พ.ศ. 2562 ความวา่ ฯพณฯ นายเหวยี น จอ่ ง ประธานาธบิ ดแี ห่งสาธารณรฐั สงั คมนิยมเวยี ดนาม กรุงฮานอย ในโอกาสวนั ชาตขิ อง สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม ขา้ พเจ้าของส่งคำอวยพรและความปรารถนาดดี ้วยใจจรงิ เพ่ือทา่ น ประธานาธิบดีมพี ลานามยั สมบรู ณแ์ ละประสบความสขุ สวัสดิ์ ทัง้ เพอื่ ความก้าวหน้าของประชาชนและ ความวฒั นาถาวรยงิ่ ขึน้ ของสาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม ประเทศและประชาชนของเรา ทั้งสองมีความสัมพนั ธ์อนั ดีมายาวนานและช่วยเหลือเกอื้ กูลกันเสมอมา ขา้ พเจา้ เชื่อเปน็ อย่างยง่ิ วา่ ด้วย ความต้งั ใจมุ่งมัน่ รว่ มกนั ประเทศไทยและสาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวียดนาม จะรว่ มมอื ในกิจการทกุ ๆ ด้าน และกระชับความสมั พันธ์ฉันมติ รให้แนน่ แฟ้นย่งิ ขนึ้ ไปในภายภาคหนา้ (พระปรมาภไิ ธย) มหาวชริ าลง กรณ พระวชิรเกล้าเจา้ อย่หู ัว www.matichon.co.th • จากพระราชสาส์นนี้ แสดงถึงพระราชกรณียกิจดา้ นการตา่ งประเทศอย่างไร
(ตวั อย่างคำตอบ พระองคท์ รงให้ความสำคญั ในการกระชบั ความสมั พนั ธ์อนั ดที ่ีมีมาอยา่ งยาวนาน กับ สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม โดยการส่งพระราชสาส์นอำนวยพรเนื่องในโอกาสวันชาตขิ องสาธารณรัฐสงั คมนิยม เวียดนาม ซึ่งตรงกบั วนั ท่ี 2 กนั ยายน พ.ศ. 2562) • การประกอบพระราชกรณยี กจิ ดังกลา่ วสง่ ผลต่อประเทศไทยอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปน็ การสรา้ งความสัมพนั ธ์อนั ดรี ะหวา่ งประเทศใหม้ ีความแนน่ แฟ้นข้นึ ) จากน้ันอธิบายสรปุ เกยี่ วกบั พระราชกรณียกิจดา้ นการตา่ งประเทศให้นักเรยี นฟังเพ่ิมเติมวา่ นอกจากน้ี พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั กท็ รงเสดจ็ เยือนประเทศท่วั ทกุ ทวปี อย่างเปน็ ทางการ เป็นประจำทกุ ปี เนือ่ งจากทรงมุ่งมน่ั เจรญิ พระราชไมตรี และสนพระทยั ทจี่ ะทอดพระเนตรกิจการดา้ นต่าง ๆ เพือ่ นำ กลับมาปรับและประยกุ ต์ใช้ใหเ้ กิดผลประโยชนส์ งู สุดแก่ประเทศ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคณุ อยา่ ง หาทีส่ ุดมไิ ด้ 4. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ - เจา้ อยหู่ ัวดา้ นศาสนา โดยการตอบคำถาม ดังน้ี พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงประกอบพระราชกรณยี กิจดา้ นศาสนาอะไรบ้าง แล้วบนั ทกึ คำตอบของนกั เรยี นเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตวั อยา่ ง พระองค์ทางแสดงตนเปน็ พระราชกรณยี กจิ ทรงออกผนวชในพระบวร พุทธมามกะทวี่ ดั พระศรรี ตั น- ดา้ นศาสนา พระพทุ ธศาสนา ศาสดาราม เม่ือวันท่ี 6 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2521 ทรงบาเพญ็ พระราชกุศลในวนั สาคญั ทาง ทรงเปลี่ยนเครอ่ื งทรงพระพทุ ธมหามณี พระพทุ ธศาสนาและทรงบรจิ าคพระราช- รัตนปฏมิ ากร (พระแกว้ มรกต) ณ ทรพั ยท์ านบุ ารงุ พระพทุ ธศาสนา วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม ตามฤดกู าล 5. นกั เรยี นยกตวั อยา่ งพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดา้ นศาสนา มา 1 ตัวอยา่ ง แล้ววิเคราะหป์ ระโยชนท์ ่ีเกดิ ขึ้นตอ่ พระพทุ ธศาสนา โดยนำเสนอข้อมูลในรปู แบบแผนภาพความคดิ ดังตัวอยา่ ง พระราชกรณียกิจด้านศาสนา ประโยชน์ทเ่ี กดิ ข้ึนตอ่ พระพุทธศาสนา พระองคท์ รงแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เป็นการรกั ษาและสง่ เสรมิ ให้พระพุทธศาสนา ที่วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม ดารงอยตู่ อ่ ไป และพระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง ในการดารงไว้ซง่ึ พระพุทธศาสนาและ การทาความดี
6. นักเรยี นคิดประเมินเพ่อื เพิ่มคุณคา่ แล้วสรปุ เปน็ ความคิดรวบยอด โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • นกั เรียนจะนำแบบอย่างท่ีดีของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว ด้านศาสนาไปปรบั ใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำนุบำรุงพระพทุ ธศาสนาด้วยการบรจิ าคเงนิ ในการบูรณะวัด และเขา้ รว่ มกิจกรรมทางพระพทุ ธศาสนาทกุ ครงั้ เมือ่ มโี อกาส) ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) • • • • • • • • • • • • • • • • •• • • • • • • • • • • • • • • • • • • ••••• 7. นักเรยี นแบง่ กล่มุ วาดภาพระบายสีเกี่ยวกับการทำความดี เพอื่ ถวายเปน็ พระราชกศุ ล แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจา้ อย่หู ัว 1 ภาพ โดยการตอบคำถาม ดงั ตวั อยา่ ง (ภาพวาดพัฒนาชุมชน) • ภาพนี้คือ (การทำกจิ กรรมพัฒนาชุมชน) • การปฏิบัตติ นในภาพสง่ ผลอย่างไร (ทำให้ชุมชนเกิดความสะอาด นา่ อย่)ู 8. นักเรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความเรยี บรอ้ ยของผลงาน หากพบข้อผดิ พลาดควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข ใหถ้ ูกต้อง 9. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สิง่ ทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดังนี้ พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกลา้ เจ้าอย่หู วั มีความสำคญั ควรคา่ แกก่ ารศกึ ษาและ ปฏบิ ตั ติ าม เพอื่ สรา้ งความสขุ ความเจรญิ ใหเ้ กิดขนึ้ แกต่ นเองและประเทศชาติ
• ข•น้ั ส•่ือส•าร•แล•ะน•าเ•สน•อ •(A•pp•ly•ing• th• e•Co• m• m• u•nic•at•ion• S•kil•l)• 1•0.•นักเรียนนำเสนอผลงานการวาดภาพเก่ียวกับการทำความดี เพอ่ื ถวายเป็นพระราชกศุ ล แดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยูห่ ัว หน้าชน้ั เรียน กจิ กรรมน้สี รา้ งเสรมิ ทักษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการสือ่ สาร 11. นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เกีย่ วกับวธิ ีการทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มแี บบแผน • ข•ั้นป•ระ•เม•นิ เ•พือ่ •เพ•มิ่ ค•ุณ•ค่า•บร•กิ า•รส•ังค•มแ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณะ• (S•el•f-R•eg•ul•at•ing•) 12•. •นกั •เร•ยี นนำแนวทางการปฏบิ ตั ิตนในการทำความดไี ปใช้ในการดำเนนิ ชีวิต เพ่อื ใหเ้ กดิ ความสขุ แก่ตนเองและผูอ้ ื่น 13. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลงั การเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • สิง่ ท่ีนักเรยี นไดเ้ รียนรูใ้ นวนั นีค้ ืออะไร • นกั เรยี นมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนักเรยี นในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นกั เรยี นพอใจกบั การเรียนในวนั นีห้ รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความรทู้ ่ไี ด้นีไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทัว่ ไป ได้อยา่ งไร จากนนั้ แลกเปลีย่ นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทกุ ขน้ั ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณค่าไปสสู่ งั คม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากขน้ึ กว่าเดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในคร้ังตอ่ ไป ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. พระบรมฉายาลกั ษณ์ของในหลวงรชั กาลท่ี 10 ในการเสด็จเยือนตา่ งประเทศ 3. พระราชสาส์นอำนวยพร วันชาตเิ วยี ดนาม 4. แหลง่ การเรียนรู้ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว : ด้านการตา่ งประเทศ ดา้ นศาสนา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน 2. เคร่ืองมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ่าน แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ กระบวนการ 4321 ทำงานกลมุ่ มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มกี ารกำหนด สมาชกิ ชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ บทบาทสมาชกิ และมีการช้ีแจง มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชแ้ี จง และไมม่ กี ารช้ีแจง เป้าหมาย อยา่ งชัดเจนและ เป้าหมาย เปา้ หมาย สมาชิก การทำงาน ปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อย่างชดั เจน ตา่ งคนตา่ งทำงาน มกี ารปฏบิ ัติงาน แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ปฏิบัตงิ านร่วมกัน ร่วมกัน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทุกคน อยา่ งรว่ มมอื รว่ มใจ พร้อมกบั การประเมิน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 15 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ส 13102 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 บคุ คลสำคญั ของไทย ภาคเรียนที่ 2/2565 เรื่อง พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจา้ อยหู่ ัว : ดา้ นสงั คมสงเคราะห์ ดา้ นการกฬี า สอนวันที่ 17 เดือน กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 1 ชวั่ โมง ครผู สู้ อน นายพงศธร อยสู่ ุข …………………………………….............…………………………………………………………………………………………… มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจ และธำรงความเป็นไทย ตวั ชว้ี ดั ส 4.3 ป.3/2 อธบิ ายพระราชประวตั ิและพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั ริย์ในรัชกาลปจั จบุ ัน โดยสงั เขป จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ ัวชวี้ ัด 1. อธบิ ายพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หวั : ดา้ นสงั คมสงเคราะห์ ดา้ นการกฬี า (K) 2. วเิ คราะห์พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หัว : ดา้ นสังคมสงเคราะห์ ดา้ นการกีฬา ทีส่ ่งผลตอ่ ประเทศไทย (P) 3. เหน็ คุณค่าและความสาคญั ของการประกอบพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั ริย์ เพื่อสง่ ผลใหเ้ กดิ ความสุข ในประเทศ (A) สาระสำคัญ พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอย่หู ัว มีความสาคญั ควรคา่ แกก่ ารศึกษา และปฏิบตั ิตาม เพ่ือสรา้ งความสขุ ความเจริญให้เกดิ ข้ึนแกต่ นเองและประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หัว : ดา้ นสงั คมสงเคราะห์ ดา้ นการกีฬา สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ คำถามทา้ ทาย นักเรียนจะช่วยเหลอื สังคมไดโ้ ดยวธิ ใี ดบ้าง การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ •ข้ัน•สงั •เก•ต ร•วบ• ร•วม•ขอ้ •มลู • (G• a•th•eri•ng•) 1. นกั เรยี นสังเกตภาพพระราชกรณียกจิ ดา้ นสังคมสงเคราะหข์ องพระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ -เจา้ อยู่หัว จากนนั้ ร่วมกนั สนทนา โดยการตอบคาถาม ดังน้ี • พระราชกรณยี กจิ นี้ คือ พระราชกรณียกจิ ดา้ นใด (ด้านสังคมสงเคราะห์) • พระราชกรณียกจิ ดงั กลา่ วคืออะไร (ตัวอยา่ งคาตอบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจ้าอย่หู วั ทรงออกเยยี่ มราษฎร และทรงพระราชทานถุงยงั ชีพใหแ้ กร่ าษฎร) • เพราะเหตใุ ดพระบาทสมเด็จพระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ ัวจงึ ต้องเสดจ็ เย่ียมเยอื นประชาชน ด้วยพระองค์เอง (ตัวอยา่ งคาตอบ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยถึงการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของราษฎร และทรงตอ้ งการรบั รถู้ งึ ปญั หาของราษฎรด้วยตวั พระองค์เอง) • การเสดจ็ เยี่ยมเยือนราษฎรของพระองค์ทา่ นส่งผลดอี ยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ทาให้คณุ ภาพชวี ิตของราษฎรไดร้ ับการพฒั นา และมีคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ขี ้นึ เป็นการสรา้ งขวัญและกาลงั ใจให้แก่ราษฎร) 2. นักเรยี นศึกษา และรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับพระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเด็จ- พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั : ดา้ นสังคมสงเคราะห์ ดา้ นการกีฬา จากหนงั สือเรียนและแหล่งการเรยี นรอู้ ื่น ๆ เพ่มิ เติม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130