ขอ้ มลู สำคญั จังหวัดนครสวรรค์ ประจำปี ๒๕๖๑ สำนกั งำนจังหวดั นครสวรรค์ กลมุ่ งำนยุทธศำสตรแ์ ละข้อมลู เพื่อกำรพัฒนำจงั หวัด โทร./โทรสำร ๐๕๖-๘๐๓๖๐๒
คำนำ ข้อมูลสำคัญจังหวัดนครสวรรค์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับประชำชน นักเรียน นักศึกษำ ผู้ท่ีมี ควำมสนใจภำพรวมของจังหวัดท้ังด้ำนเศรษฐกิจ สังคม กำรเมืองกำรปกครองและส่ิงแวดล้อม โดยเอกสำร ฉบับน้ีมีกำรปรับปรุงข้อมูลเดือนมกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้มีควำมเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้จังหวัดนครสวรรค์ หวงั เปน็ อย่ำงยิ่งวำ่ เอกสำรฉบบั นจ้ี ะเป็นประโยชน์ตอ่ ผู้ท่ีสนใจไม่มำกก็น้อย จังหวัดนครสวรรค์ได้รับควำมอนุเครำะห์ข้อมูลสถิติต่ำงๆ จำกหน่วยงำนส่วนรำชกำรในพ้ืนที่จังหวัด นครสวรรค์ผู้รบั ผิดชอบจดั เกบ็ และวิเครำะห์ขอ้ มูลเป็นอย่ำงดี จงึ ขอขอบคณุ มำ ณ โอกำสน้ี จงั หวดั นครสวรรค์
สารบัญ หน้า ๑ เรื่อง ขอ้ มูลสภาพทั่วไปของจังหวัด ๑ ลกั ษณะทางกายภาพ ๒ ๓ ๑) ทีต่ งั้ ขนาดพ้ืนท่ีและอาณาเขตการปกครอง ๒) ลักษณะภูมิประเทศ ๕ ๓) ลักษณะภูมอิ ากาศ ๖ ขอ้ มูลการปกครอง/ประชากร ๑๐ ๔) การปกครอง ๕) ประชากรและบ้าน ๑๖ ๖) แรงงาน อตุ สาหกรรม อาชีพและการประกนั สงั คม ๑๘ โครงสรา้ งพ้ืนฐาน ๗) การคมนาคม ๑๘ ๘) สาธารณปู โภค ๒๐ สภาพเศรษฐกิจ ๙) โครงสรา้ งทางเศรษฐกิจของจงั หวัด ๒๐ ๑๐) รายได้เฉล่ยี ของประชากร ๒๓ สภาพทางสงั คม ๒๔ ๑๑) สถานภาพทางสงั คม ๒๔ ๑๒) การบรกิ ารดา้ นสงั คมสงเคราะห์ ๒๙ ๑๓) การนับถือศาสนา ๓๒ ๑๔) การศกึ ษา ๑๕) ด้านการสาธารณสุข ๔๖ ๑๖) ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ๕๐ ข้อมูลเชงิ สถติ ิที่สาคญั เชงิ พ้ืนที่ ๕๒ ๑๗) การเกษตรกรรม ๕๒ ๑๘) การประมง ๕๓ ๑๙) การปศุสัตว์ ๕๔ ๒๐) ระบบชลประทาน ๖๑ ๒๑) ด้านอุตสาหกรรม ๖๖ ๒๒) แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วสาคัญ ๖๗ ๒๓) วฒั นธรรมประเพณที ส่ี าคัญ ๒๔) ผลิตภัณฑส์ ินค้า OTOP ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาจงั หวัดนครสวรรค์
๑ ข้อมูลสภาพท่ัวไปของจังหวัด นครสวรรค์ เป็นเมืองโบราณซ่ึงสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นในสมัยกรงุ สุโขทัยเป็นราชธานี โดยมีปรากฏชื่อ ในศิลาจารึกเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านสาคัญในการทาศึกสงครามมาทุกสมัย ต้ังแต่สมัย กรุงสุโขทัย กรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ตัวเมืองดังเดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาขาด (เขาฤาษี) จรดวัดหัวเมือง (วัดนครสวรรค์) ยังมีเชิงเทินดินเป็นแนวปรากฏอยู่ เมืองพระบาง ต่อมาได้เปล่ียนเป็น เมืองชอนตะวัน เพราะตัวเมืองต้ังอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้าเจ้าพระยา และหันหน้าเมืองไปทางแม่น้าซ่ึงอยู่ทางทิศตะวันออก ทาให้แสงอาทิตยส์ อ่ งเขา้ หน้าเมอื งตลอดเวลา แต่ภายหลังได้เปล่ียนเปน็ เมืองนครสวรรค์ เปน็ ศุภนมิ ติ อนั ดี นครสวรรค์ มีช่ือเรียกเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาแต่เดิมว่า ปากน้าโพ โดยปรากฏเรียกกันมา ต้ังแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามประวัติศาสตร์ในคราวท่ีพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา คร้งั สมยั สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กองทัพเรอื จากกรงุ ศรีอยธุ ยาไดย้ กไปรับทพั ข้าศึกท่ี ปากน้าโพ แต่ต้านทัพ ข้าศกึ ไม่ไหว จงึ ลา่ ถอยกลบั ไป ท่ีมาของคาว่า ปากน้าโพ สันนิษฐานได้ ๒ ประการ คือ อาจมาจากคาว่า ปากน้าโผล่เพราะ เป็น ที่ปากน้าปิง ยม และน่าน มาโผล่รวมกันเป็น ต้นแม่น้าเจ้าพระยา หรืออีกประการหน่ึง คือ มีต้นโพธ์ิ ขนาดใหญ่อยู่ตรงปากน้าในบริเวณวัดโพธิ์ ซ่ึงเป็นท่ีตั้งศาลเจ้าพ่อกวนอูในปัจจุบัน จึงเรียกกันว่า ปากน้าโพธิ์ กอ็ าจเป็นได้ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงนาพระพุทธรูปชื่อ พระบาง มาค้างไว้ท่ีเมืองนี้ ต่อมาไทยรบทัพจับศึกกับพม่าและปราบหัวเมืองฝ่ายเหนือท่ีแข็งเมืองยกมาตีกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงเทพฯ กองทัพไทยได้ยกเคล่อื นท่ีขึ้นมาเลอื กนครสวรรค์ (ท่ีเคยเป็นโรงทหารเก่าหลังโรงเหล้า ปัจจุบัน) เป็นท่ีตั้งทัพหลวงแล้วดัดแปลงขุดคูประตูหอรบ จากตะวันตกตลาดสะพานดาไปบ้านสันคูไปถึง ทุ่งสันคูเด๋ียวนี้ ยังปรากฏแนวคูอยู่ เม่ือข้าศึกยกลงมาจากทุ่งหนองเบน หนองสังข์ สลกบาตร และตะวันออก เฉียงใต้ของลาดยาวมาเหนือทุ่งสันคู เมื่อฤดูแล้งเป็นที่ดอนขาดน้า ถ้าฝนตกน้าก็หลากเข้ามาอย่างแรงท่วม ข้าศึก ทพั ไทยยกทพั ตตี ลบหลงั พม่าวง่ิ หนีผ่านชอ่ งเขานจี้ งึ ไดช้ ่อื ว่า เขาช่องขาด มาจนบัดนี้ เมืองนครสวรรค์เป็นหัวเมืองช้ันตรีซึ่งปรากฏอยู่ตามกฎหมายเก่าในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเอกาทศรถ ราว พ.ศ. ๒๑๐๐ ว่าด้วยเรื่องดวงตราประทับหนังสือท่ีให้เสนาบดีเจ้ากระทรวงใช้ในราชการ สภาพทั่วไปของ จงั หวัดนครสวรรค์ ดังนี้ ลักษณะทางกายภาพ ๑) ที่ตงั ขนาดพนื ที่และอาณาเขตการปกครอง จงั หวัดนครสวรรค์ เปน็ จงั หวัดที่ตั้งอยใู่ นภาคเหนอื ตอนล่างของประเทศ ต้ังอยู่ประมาณละติจูดท่ี ๑๕.๕-๑๖.๗ องศาเหนือ และลองจิจูดท่ี ๙๙.๗-๑๐๐.๔ องศาตะวันออก ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัด นครสวรรค์ตามเส้นทางหลวงสายพหลโยธิน (สายท่ี ๑) ๒๓๗ กิโลเมตร หรือระยะทางตามทางรถไฟ ๒๕๐ กโิ ลเมตร พ้ืนท่อี ยู่สูงจากระดับน้าทะเล ๓๐ เมตร พื้นทข่ี องจังหวัด ๙,๕๙๗.๖๗๗ ตารางกิโลเมตร หรือ ๕,๙๙๘,๕๔๘ ไร่ มากเป็นอนั ดบั ๙ ของ ภาคเหนือ
๒ ท่ีตังและอาณาเขต ติดต่อกับจังหวัดต่าง ๆ ดังน้ี ทิศเหนือ ติดต่อกับ อาเภอปางศิลาทอง อาเภอขาณุวรลักษบุรี อาเภอบึงสามัคคี จังหวัด กาแพงเพชร อาเภอบึงนาราง อาเภอโพทะเล อาเภอบางมูลนาก อาเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ทิศตะวันออก ติดต่อกับ อาเภอชนแดน อาเภอบึงสามพัน อาเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ อาเภอโคกเจริญ อาเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ทิศใต้ ติดต่อกับ อาเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อาเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี อาเภอ สรรพยา อาเภอมโนรมย์ อาเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อาเภอเมืองอุทัยธานี อาเภอทัพทัน อาเภอสว่างอารมณ์ อาเภอ ลานสัก อาเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี อาเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ๒) ลักษณะภูมปิ ระเทศ ลักษณะภูมิศาสตร์โดยท่ัวไป ส่วนใหญ่เป็นท่ีราบลุ่มเหมาะแก่การเกษตร เป็นที่ราบประมาณ ๓ ใน ๔ ของพื้นที่จังหวัด มีแม่น้าสายสาคัญคือ แม่น้าปิง แม่น้ายม และ แม่น้าน่าน ไหลมารวมกันเป็นแม่น้า เจ้าพระยา ผ่านช่วงกลางของจังหวัด และมีเพียง ๖ อาเภอท่ีต้ังอยู่บนแม่น้าสายหลัก สภาพภูมิประเทศ ทางด้านทิศตะวันตกของจังหวดั มีภเู ขาสลบั ซบั ซอ้ นและเป็นป่าทบึ ในเขตอาเภอลาดยาว อาเภอแมว่ งก์ อาเภอ แม่เปินและอาเภอชุมตาบง พ้ืนท่ีป่าของจังหวัดเป็นสภาพป่าท่ีเช่ือมโยงติดต่อกับป่าห้วยขาแข้งของจังหวัด อุทัยธานีในส่วนทางใต้ของอาเภอแม่วงก์ ส่วนตอนบนของอาเภอแม่วงก์และอาเภอลาดยาวเป็นส่วนติดต่อกับ ป่าทึบของจังหวัดตากท่ีเชื่อมโยงไปถึงป่าทุ่งใหญ่นเรศวรของจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนด้านตะวันออกของจังหวัด อาเภอหนองบัวและอาเภอไพศาลี เป็นพ้ืนทร่ี าบลาดเทติดต่อกบั เทอื กเขาเพชรบูรณ์ สภาพพื้นท่ีส่วนใหญ่ของจังหวัด เป็นที่ราบค่อนข้างเรียบแคบบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้าโดยเฉพาะ ตอนกลางของจังหวัด ซึ่งอยู่ในเขตอาเภอเมืองนครสวรรค์ อาเภอบรรพตพิสัย อาเภอชุมแสง อาเภอท่าตะโก อาเภอโกรกพระ อาเภอเก้าเล้ียว และอาเภอพยุหะคีรี สภาพพ้ืนที่ทางทิศตะวันตก (เขตอาเภอลาดยาว อาเภอ แม่วงก์ อาเภอแม่เปินและอาเภอชุมตาบง) และทิศตะวันออก (เขตอาเภอหนองบัว อาเภอไพศาลี อาเภอ ตากฟ้าและอาเภอตาคลี) มีลักษณะเป็นแบบลอนลูกคลื่น ยกตัวข้ึนจากตอนกลางของจังหวัดสูงจาก ระดับนา้ ทะเล ปานกลาง ๒๐-๑๐๐ เมตร
๓ ๓) ลักษณะภูมิอากาศ มลี กั ษณะอากาศร้อนชื้น มชี ว่ งฤดูฝนและฤดูแลง้ ทีเ่ ห็นชัดเจน ฤดูฝนได้รบั อิทธิพลจากมรสุม ตะวันตกเฉยี งใต้อยใู่ นชว่ งกลางเดือนพฤษภาคม - กลางเดอื นตลุ าคม และจะมฝี นตกชุกในเดือนกันยายน – ตลุ าคม ส่วนฤดูหนาวได้รบั อิทธพิ ลจากลมมรสุมตะวันออกเฉยี งเหนอื ในช่วงกลางเดือนตุลาคม - กลางเดือน กุมภาพันธ์ และจะมีอากาศหนาวเย็นในชว่ งปลายเดือนธนั วาคม – กลางเดือนมกราคม สาหรบั ปี ๒๕๕๙ เดอื น กุมภาพนั ธ์ มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่าสดุ วัดได้ ๑๐.๔ องศาเซลเซยี ส และช่วงเดอื น เดอื น กรกฎาคม มอี ากาศร้อนถึงรอ้ นจดั อณุ หภมู สิ งู สดุ วดั ได้ ๔๓.๗ องศาเซลเซียส ในเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๙ อณุ หภมู ิเฉลยี่ ๒๙.๐๘ องศาเซลเซียส ปรมิ าณฝนทั้งปีวดั ได้ ๑,๕๓๘.๘ มิลลเิ มตร และมี ฝนตกทง้ั หมด ๑๑๐ วนั ส่วนปี ๒๕๖๐ เดือน ธนั วาคม มีอากาศหนาว อุณหภมู ิต่าสดุ วดั ได้ ๑๑.๕ องศาเซลเซียส และ ช่วงเดือน มีนาคม – เดอื น พฤษภาคม มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมสิ งู สดุ วดั ได้ ๔๑.๒ องศาเซลเซียสใน เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๘ อณุ หภมู ิเฉลยี่ ๒๘.๔๗ องศาเซลเซียส ปรมิ าณฝนทง้ั ปีวัดได้ ๑,๗๖๐.๕ มิลลเิ มตร และมีฝนตกท้งั หมด ๑๓๐ วนั สภาพภูมิอากาศของจังหวัดนครสวรรค์ สมั พนั ธ์กบั ปริมาณน้าฝนในแตล่ ะปี หากปใี ดปริมาณ นา้ ฝนมากกว่า ๑,๒๐๐ มิลลเิ มตรตอ่ ปี จะเกิดปญั หานา้ ท่วม ถา้ ปริมาณฝนตา่ กว่า ๑,๐๐๐ มิลลเิ มตรต่อปี จะประสบปัญหาฝนแล้ง ทง้ั นส้ี ืบเนือ่ งจากสภาพพ้นื ท่ขี องจงั หวดั ทีม่ ลี ักษณะคลา้ ยท้องกระทะ หรอื ผีเส้ือ กางปีกบนิ หมายเหตุ ค่าเฉลีย่ ของปริมาณฝน คาบ ๓๐ ปี (พ.ศ.๒๕๒๔-๒๕๕๓) ฝนรวม ๑,๑๔๙.๗ มลิ ลเิ มตร จานวนวัน ๑๑๒.๑ วัน คา่ ปกติของปริมาณนา้ ฝน (เฉล่ียคาบ ๓๐ ปี : พ.ศ. ๒๕๒๔ -๒๕๕๓) ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รายปี นครสวรรค์ ๔.๓ ๑๑.๙ ๓๓.๑ ๖๓.๗ ๑๕๐.๗ ๑๓๗.๓ ๑๔๘.๐ ๑๗๘.๓ ๒๓๗.๐ ๑๕๓.๔ ๒๗.๔ ๔.๖ ๑,๑๔๙.๗ คา่ ปกตขิ องจ้านวนวันท่มี ีฝนตก (เฉล่ยี ๓๐ ปี : พ.ศ. ๒๕๒๔-๒๕๕๓) ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รายปี นครสวรรค์ ๑.๐ ๑.๔ ๓.๑ ๕.๘ ๑๓.๖ ๑๔.๗ ๑๖.๖ ๑๘.๕ ๑๘.๙ ๑๔.๐ ๓.๖ ๐.๙ ๑๑๒.๑ ขอ้ มลู : สถานีอุตนุ ยิ มวทิ ยานครสวรรค์
๔ อณุ หภูมสิ ูงสุด อุณหภมู ิตา่้ สุด อณุ หภูมิเฉล่ีย ความชืนสัมพัทธ์ รายเดือนของปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และ พ.ศ. ๒๕๕๙ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ ล้าดับ เดอื น อณุ หภูมิ อณุ หภมู ิ อณุ หภมู ิ ความชืน อณุ หภมู ิ อุณหภมู ิ อณุ หภูมิ ความชืน ที่ ต้่าสุด สูงสุด เฉลยี่ สมั พทั ธ์ ตา้่ สุด สูงสดุ เฉล่ยี สมั พทั ธ์ (องศา (องศา (องศา (องศา (องศา (องศา เซลเซียส) เซลเซยี ส) เซลเซียส) (เปอร์เซน็ ) เซลเซียส) เซลเซยี ส) เซลเซยี ส) (เปอร์เซ็น) ๑ มกราคม ๑๔.๐ ๓๗.๖ ๒๕.๘๓ ๖๘.๔๖ ๑๘.๗ ๓๔.๔ ๒๖.๒๐ ๗๔.๐๕ ๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๑๐.๔ ๓๘.๒ ๒๗.๓๖ ๕๗.๑๘ ๑๖.๕ ๓๘.๐ ๒๗.๒๐ ๖๒.๒๔ ๓ มีนาคม ๑๗.๖ ๔๑.๘ ๓๑.๔๖ ๕๗.๒๗ ๒๐.๕ ๓๙.๖ ๓๐.๕๘ ๖๒.๗๔ ๔ เมษายน ๒๔.๓ ๔๓.๔ ๓๔.๒๔ ๕๖.๐๘ ๒๓.๒ ๔๐.๒ ๓๑.๗๕ ๖๑.๐๓ ๕ พฤษภาคม ๒๔.๐ ๔๓.๗ ๓๒.๖๔ ๖๔.๓๕ ๒๔.๑ ๔๑.๒ ๒๙.๘๑ ๗๗.๙๑ ๖ มิถนุ ายน ๒๓.๐ ๓๘.๓ ๓๐.๐๓ ๗๓.๓๕ ๒๓.๙ ๓๖.๔ ๒๙.๒๙ ๘๐.๘๕ ๗ กรกฎาคม ๒๒.๕ ๓๗.๐ ๒๘.๖๓ ๘๐.๓๓ ๒๓.๕ ๓๕.๒ ๒๘.๑๑ ๘๔.๔๐ ๘ สิงหาคม ๒๒.๒ ๓๖.๗ ๒๘.๖๔ ๘๐.๐๕ ๒๔.๒ ๓๖.๐ ๒๘.๗๘ ๘๒.๖๑ ๙ กนั ยายน ๒๓.๐ ๓๕.๗ ๒๘.๑๔ ๘๔.๘๗ ๒๔.๐ ๓๖.๖ ๒๙.๑๒ ๘๒.๘๐ ๑๐ ตลุ าคม ๒๓.๗ ๓๕.๐ ๒๘.๓๘ ๘๓.๗๓ ๒๑.๐ ๓๕.๑ ๒๘.๑๕ ๘๓.๖๒ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐.๒ ๓๕.๖ ๒๗.๗๒ ๗๗.๙๖ ๒๐.๔ ๓๕.๑ ๒๗.๕๖ ๗๗.๒๘ ๑๒ ธนั วาคม ๑๖.๗ ๓๕.๓ ๒๕.๘๔ ๗๒.๖๕ ๑๑.๕ ๓๔.๖ ๒๕.๐๘ ๗๓.๖๐ ขอ้ มูล : สถานีอุตุนิยมวทิ ยานครสวรรค์ ปรมิ าณฝนทตี่ กและจ้านวนวันฝนตกในรอบปี ย้อนหลัง ๓ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๐ จงั หวดั นครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ลา้ ดบั อ้าเภอ จา้ นวน ฝน จา้ นวน จา้ นวน จา้ นวน จา้ นวน จา้ นวน ที่ รวม วนั ฝนตก ฝนรวม วันฝนตก ฝนรวม วันฝนตก (มลิ ลิเมตร) (วัน) (มิลลิเมตร) (วัน) (มิลลเิ มตร) (วัน) ๑ เมอื งนครสวรรค์ ๘๐๔.๓ ๑๑๐ ๑๕๓๘.๘ ๑๑๐ ๑๗๖๐.๕ ๑๓๐ ๒ ตากฟ้า ๑๒๔๑.๖ ๑๐๗ ๑๓๐๐.๓ ๑๐๗ ๑๕๕๔.๒ ๑๓๑ ๓ ท่าตะโก ๘๘๓.๐ ๖๐ ๑๒๘๑.๐ ๗๕ ๑๗๙๔.๐ ๑๐๕ ๔ ลาดยาว ๑๐๕๘.๒ ๘๔ ๑๓๗๔.๘ ๙๕ ๑๕๙๗.๙ ๑๒๕ ๕ โกรกพระ ๗๐๕.๕ ๕๔ ๑๐๕๔.๘ ๗๑ ๑๕๔๙.๐ ๙๒ ๖ ตาคลี ๗๖๕.๔ ๕๔ ๑๓๕๓.๔ ๖๓ ๑๓๓๙.๘ ๗๓ ๗ ชุมแสง ๗๕๑.๓ ๗๒ ๑๓๒๒.๐ ๗๕ ๑๔๙๓.๐ ๑๐๑ ๘ พยุหะครี ี ๑๐๒๐.๓ ๘๐ ๑๑๔๗.๒ ๗๘ ๑๒๔๖.๔ ๑๐๗ ๙ บรรพตพสิ ัย ๗๐๒.๙ ๕๕ ๑๑๔๑.๕ ๗๔ ๑๕๗๕.๓ ๙๔ ๑๐ หนองบัว ๑๐๓๒.๓ ๖๙ ๑๔๗๔.๖ ๙๒ ๑๖๔๕.๐ ๙๓
๕ ล้าดบั อา้ เภอ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ จ้านวน ฝน จ้านวน จา้ นวน จ้านวน จ้านวน จา้ นวน ฝนรวม วันฝนตก ฝนรวม วันฝนตก ๑๑ ไพศาลี รวม วันฝนตก (มิลลเิ มตร) (วนั ) (มลิ ลิเมตร) (วัน) ๑๒ เก้าเลี้ยว (มลิ ลิเมตร) (วัน) ๑๒๖๗.๕ ๘๒ ๑๓๒๒.๐ ๙๗ ๑๓ แม่เปิน ๑๖๑๐.๔ ๗๗ ๑๗๖๒.๖ ๙๒ ๑๔ แม่วงก์ ๙๓๔.๔ ๗๒ ๑๑๗๖.๘ ๙๒ ๑๓๐๒.๐ ๑๐๒ ๑๕ ชุมตาบง ๘๗๒.๐ ๖๑ ๑๓๙๙.๙ ๘๕ ๑๘๔๙.๗ ๑๐๑ ๙๗๕.๗ ๖๔ ๑๖๑๖.๐ ๘๘ ๑๖๔๔.๐ ๙๑ ๑๑๑๕.๓ ๖๕ ๑๒๑๔.๒ ๖๘ ขอ้ มลู : สถานอี ตุ ุนิยมวทิ ยานครสวรรค์ ข้อมูลการปกครอง/ประชากร ๔) การปกครอง จงั หวัดนครสวรรค์ จัดรูปการปกครองตามลักษณะการปกครองส่วนภูมิภาค โดยแบ่งออกเป็น ๑๕ อาเภอ ๑,๔๓๒ หมู่บ้าน ๑๒๘ ตาบล และจัดรูปการปกครองตามลักษณะการปกครองส่วน ท้องถ่ิน ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด ๑ แห่ง เทศบาล ๒๑ แห่ง (เทศบาลนคร ๑ แห่ง เทศบาลเมือง ๒ แห่ง เทศบาลตาบล ๑๘ แห่ง) และองค์การบริหารส่วนตาบล ๑๒๑ แห่ง ตารางแสดงเขตการปกครองส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่ี อา้ เภอ พืนที่ จา้ นวน จา้ นวน จา้ นวน จ้านวน (ตร.กม.) หมู่บ้าน ต้าบล เทศบาล อบต. ๑ เมืองฯ ๗๔๘.๒๖๘ ๑๗๒ ๑๖ ๒ ๑๖ ๒ โกรกพระ ๒๙๗.๑๙๔ ๖๕ ๙ ๓๗ ๓ ชุมแสง ๗๑๖.๗๒๖ ๑๒๖ ๑๑ ๒ ๑๑ ๔ ลาดยาว ๖๙๑.๐๙๖ ๑๔๙ ๑๒ ๒ ๑๒ ๕ บรรพตพิสัย ๖๙๙๐๑๙..๐๘๙๙๖๗ ๑๑๘ ๑๓ ๒ ๑๒ ๖ หนองบัว ๘๑๙.๕๐๕ ๑๐๗ ๙ ๑๙ ๗ ตาคลี ๘๕๔.๐๖๒ ๑๒๕ ๑๐ ๒ ๑๐ ๘ เก้าเลี้ยว ๒๕๖.๗๑๓ ๔๓ ๕ ๑๔ ๙ ท่าตะโก ๖๐๗.๒๒๕ ๑๑๒ ๑๐ ๑ ๑๐ ๑๐ ตากฟ้า ๕๗๐.๖๙๒ ๗๖ ๗ ๒๖ ๑๑ ไพศาลี ๙๗๙.๔๕๗ ๑๐๑ ๘ ๑๘ ๑๒ พยุหะคีรี ๗๔๐.๗๙๔ ๑๒๕ ๑๑ ๒๙
๖ ท่ี อา้ เภอ พืนท่ี จา้ นวน จ้านวน จ้านวน จ้านวน (ตร.กม.) หมู่บ้าน ต้าบล เทศบาล อบต. ๑๓ แม่วงก์ ๑๔ แม่เปิน ๗๖๖.๘๐๘ ๖๖ ๔ - ๔ ๑๕ ชุมตาบง ๒๖๐.๒๐๐ ๒๔ ๑ - ๑ ๓๗๙.๐๔๐ ๒๓ ๒ - ๒ รวม ๙,๕๙๗.๖๗๗ ๑,๔๓๒ ๑๒๘ ๒๑ ๑๒๑ ที่มา : ท่ีทาการปกครองจังหวัดนครสวรรค์ ,ข้อมูลเดือน มกราคม ๒๕๖๑ ๕) ประชากรและบ้าน ประชากรจังหวัดนครสวรรค์ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ จานวน ๑,๐๖๕,๓๗๖ คน เป็นชาย จานวน ๕๒๐,๕๗๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๘๖ เป็นหญิง จานวน ๕๔๔,๗๙๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๑.๑๔อาเภอที่มีประชากรมากที่สุด คือ อาเภอเมืองนครสวรรค์ จานวน ๒๔๔,๐๐๕ คน คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ ๒๒ .๙๐ ของประชากรทั้งจังหวัด อาเภอที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ อาเภอชุมตาบง จานวน ๑๙,๐๔๙ คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๑.๗๘ ตารางจา้ นวนประชากรจา้ แนกตามเขตปกครองรายอ้าเภอและเพศ พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ อ้าเภอ จา้ นวน จ้านวน จ้านวน จ้านวน จ้านวน จ้านวน ประชากรชาย ประชากร ประชากร ประชากรชาย ประชากร ประชากร (คน) หญิง (คน) รวม (คน) หญิง (คน) รวม ๒๔(๓ค,น๑)๒๖ ๑๑๗,๖๑๒ ๑๒๖,๓๙๓ ๒๔(๔ค,น๐)๐๕ เมืองนครสวรรค์ ๑๑๗,๒๐๘ ๑๒๕,๙๑๘ ๓๕,๗๔๓ ๑๗,๓๖๐ ๑๘,๓๐๘ ๓๕,๖๖๘ โกรกพระ ๑๗,๓๗๐ ๑๘,๓๗๓ ๖๕,๑๔๐ ๓๑,๔๐๘ ๓๓,๔๓๕ ๖๔,๘๔๓ ชุมแสง ๓๑,๕๗๒ ๓๓,๕๖๘ ๖๒,๘๒๖ ๓๓,๙๗๙ ๓๕,๐๑๙ ๓๔,๐๙๙ ๒๘,๗๒๗ ๖๘,๙๙๘ หนองบัว ๔๒,๖๑๓ ๔๔,๒๙๒ ๘๖,๙๐๕ ๔๒,๕๑๙ ๔๔,๒๐๒ ๑๗,๐๓๕ ๑๗,๗๘๗ ๘๖,๗๒๑ บรรพตพิสัย ๕๓,๗๖๘ ๕๕,๒๘๑ ๓๔,๘๒๒ ๑๖,๙๙๒ ๑๗,๗๕๑ ๓๔,๗๔๓ เก้าเล้ียว ๓๒,๗๐๔ ๓๔,๔๘๐ ๑๐๙,๐๔๙ ๕๓,๒๖๙ ๕๕,๐๘๔ ตาคลี ๓๕,๔๙๐ ๓๖,๕๑๖ ๑๐๘,๓๕๓ ๒๙,๙๕๔ ๓๑,๘๓๘ ๖๗,๑๘๔ ๓๒,๖๖๙ ๓๔,๓๖๙ ท่าตะโก ๔๓,๑๐๙ ๕,๒๙๗ ๖๗,๐๓๘ ไพศาลี ๑๙,๙๘๕ ๒๐,๖๖๘ ๗๒,๐๐๖ ๓๕,๔๒๐ ๓๖,๔๙๙ ๗๑,๙๑๙ ๖๑,๗๙๒ ๒๙,๙๑๔ ๓๑,๗๘๑ พยุหะคีรี ๖๑,๖๙๕ ๔๘,๔๐๖ ๔๒,๙๓๔ ๔๔,๗๔๒ ลาดยาว ๘๗,๖๗๖ ตากฟ้า ๔๐,๖๕๓ ๑๙,๙๕๗ ๒๐,๖๔๐ ๔๐,๕๙๗
๗ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ อ้าเภอ จ้านวน จา้ นวน จ้านวน จา้ นวน จ้านวน จา้ นวน ประชากรชาย ประชากร ประชากร ประชากรชาย ประชากร ประชากร แม่วงก์ แม่เปิน (คน) หญิง (คน) รวม (คน) หญิง (คน) รวม ชุมตาบง ๒๖,๕๓๐ ๒๖,๕๓๕ ๕๓(ค,๐น๖)๕ ๒๖,๕๔๕ ๒๖,๕๖๖ ๕๓(ค,๑น๑)๑ รวม ๑๐,๔๘๖ ๑๐,๓๕๕ ๒๐,๘๔๑ ๑๐,๕๔๒ ๑๐,๔๑๘ ๒๐,๙๖๐ ๙,๔๒๐ ๙,๕๖๕ ๑๘,๙๘๕ ๙,๔๕๘ ๙,๕๙๑ ๑๙,๐๔๙ ๕๒๑,๓๔๓ ๕๔๕,๑๑๒ ๑,๐๖๖,๔๕๕ ๕๒๐,๕๗๘ ๕๔๔,๗๙๘ ๑,๐๖๕,๓๗๖ ข้อมูล : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ข้อมูล ณ วันท่ี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ หมายเหตุ : ๑. จานวนราษฎรท่ีมีสัญชาติไทย ชาย ๕๑๙,๔๕๒ คน หญิง ๕๔๓,๙๗๔ คน รวม ๑,๐๖๓,๔๒๖ คน ๒. จานวนราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทย ชาย ๑,๑๒๖ คน หญิง ๘๒๔ คน รวม ๑,๙๕๐ คน ๓. รวมราษฎรที่มีสัญชาติไทยและไม่ได้สัญชาติไทย รวมทั้งสิ้น ๑,๐๖๕,๓๗๖ คน จานวนบ้านและความหนาแน่นของประชากร มีแนวโน้มลดลง ปี พ.ศ. ชาย หญิง รวม บา้ น พืนท่จี งั หวดั ความหนาแนน่ (ตร.กม.) (คน/ตร.กม.) ๒๕๕๖ ๕๒๕,๓๕๑ ๕๔๗,๗๙๑ ๑,๐๗๓,๑๔๒ ๓๘๓,๘๖๗ ๙,๕๙๗.๖๘ ๑๑๑.๘๑ ๒๕๕๗ ๕๒๕,๑๔๖ ๕๔๗,๖๑๐ ๑,๐๗๒,๗๕๖ ๓๙๐,๗๗๑ ๙,๕๙๗.๖๘ ๑๑๑.๗๗ ๒๕๕๘ ๕๒๔,๖๘๒ ๕๔๗,๒๖๐ ๑,๐๗๑,๙๔๒ ๓๙๖,๓๒๓ ๙,๕๙๗.๖๘ ๑๑๑.๖๘ ๒๕๕๙ ๕๒๑,๓๔๓ ๕๔๕,๑๑๒ ๑,๐๖๖,๔๕๕ ๔๐๑,๔๓๒ ๙,๕๙๗.๖๘ ๑๑๑.๑๒ ๒๕๖๐ ๕๒๐,๕๗๘ ๕๔๔,๗๙๘ ๑,๐๖๕,๓๗๖ ๔๐๕,๘๖๕ ๙,๕๙๗.๖๘ ๑๑๑.๐๐ ข้อมูล : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
๘ โครงสร้างอายุประชากร จา้ นวนประชากรท่ีมีสัญชาตไิ ทย แยกรายอายุ จังหวัดนครสวรรค์ อายุ ชาย หญงิ รวม ๐-๕ ปี ๓๑,๘๓๘ ๒๙,๗๘๑ ๖๑,๖๑๙ ๖-๑๐ ปี ๓๐,๒๑๓ ๒๘,๔๖๕ ๕๘,๖๗๘ ๑๑-๑๕ ปี ๓๐,๗๖๘ ๒๘,๙๗๘ ๕๙,๗๔๖ ๑๖-๒๐ ปี ๓๓,๐๓๗ ๓๑,๒๐๑ ๖๔,๒๓๘ ๒๑-๒๕ ปี ๓๘,๑๓๒ ๓๖,๐๘๗ ๗๔,๒๑๙ ๒๖-๓๐ ปี ๓๖,๑๙๗ ๓๔,๖๑๕ ๗๐,๘๑๒ ๓๑-๓๕ ปี ๓๗,๕๖๔ ๓๖,๓๙๖ ๗๓,๙๖๐ ๓๖-๔๐ ปี ๓๘,๗๕๙ ๓๘,๒๐๖ ๗๖,๙๖๕ ๔๑-๔๕ ปี ๓๙,๗๗๔ ๔๐,๘๘๙ ๘๐,๖๖๓ ๔๖-๕๐ ปี ๔๑,๘๒๒ ๔๕,๔๓๙ ๘๗,๒๖๑ ๕๑-๕๕ ปี ๔๑,๘๔๗ ๔๖,๗๔๙ ๘๘,๕๙๖ ๕๖-๖๐ปี ๓๕,๐๓๑ ๔๐,๒๕๓ ๗๕,๒๘๔ ๖๑-๖๕ ปี ๒๗,๑๒๔ ๓๑,๕๙๖ ๕๘,๗๒๐ ๖๖-๗๐ ปี ๒๑,๒๐๓ ๒๖,๑๔๑ ๔๗,๓๔๔ ๗๑-๗๕ ปี ๑๓,๓๔๖ ๑๖,๘๐๑ ๓๐,๑๔๗
๙ อายุ ชาย หญงิ รวม ๗๖-๘๐ ปี ๘๑-๘๕ ปี ๑๐,๗๙๕ ๑๔,๘๔๔ ๒๕,๖๓๙ ๘๖-๙๐ ปี ๖,๙๖๐ ๙,๙๐๘ ๑๖,๘๖๘ ๙๑-๙๕ ปี ๓,๒๐๑ ๕,๐๕๑ ๘,๒๕๒ ๙๖-๑๐๐ ปี ๑,๒๘๙ ๑,๘๘๙ ๓,๑๗๘ ๑๐๐ ปีขึน้ ไป ๔๖๔ ๕๕๔ ๑,๐๑๘ ๑๓๑ รวม ๘๘ ๕๔๓,๙๗๔ ๒๑๙ ๕๑๙,๔๕๒ ๑,๐๖๓,๔๒๖ ที่มา : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ สัญชาติ ประชากรทั้งจังหวัดจานวน ๑,๐๖๕,๓๓๔ คน ผู้ที่มีสัญชาติไทย และมีชื่ออยู่ในทะเบียน บ้านจานวน ๑,๐๖๓,๔๒๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๘ ของจานวนประชากรทั้งหมด ผู้ที่ไม่ได้สัญชาติไทย และมีช่ืออยู่ในทะเบียนบ้านจานวน ๑,๙๕๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๑๘ ของจานวนประชากรทั้งหมด ประเภทที่อยู่อาศัย การใช้นา้ และนา้ ดื่ม ประชากรร้อยละ ๘๓.๓ อาศัยอยู่ในบ้านโดด ร้อยละ ๑๑.๔ อาศัยห้องแถว การใช้น้าของ ประชากร ประชากรร้อยละ ๙๔.๕ ใช้น้าประปาภายในบ้าน ส่วนน้าดื่มประชากรร้อยละ ๒๙.๓ ดื่มน้าดื่ม บรรจุขวด ประชากรร้อยละ ๒๘.๘ ดื่มน้าประปาผ่านการบาบัด (ต้ม กรอง) ประชากรร้อยละ ๒๕.๘ ดื่มน้าฝน และประชากรร้อยละ ๑๔.๗ ดื่มน้าประปาภายในบ้าน โดยประชากรเลิกดื่มน้าฝนหันมาดื่ม น้าประปาผ่านการบาบัดและด่ืมน้าดื่มบรรจุขวดเพ่ิมข้ึน ร้อยละของครัวเรือน จ้าแนกตามลักษณะที่ส้าคัญของครัวเรือน จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๘ ลกั ษณะท่ีสา้ คญั ของครัวเรือน ๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘ ประเภทของที่อยู่อาศัย ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ บ้านโดด ๘๗.๕ ๘๔.๙ ๘๓.๓ ห้องแถว ๙.๔ ๑๑.๗ ๑๑.๔ ทาวน์เฮาสห์ รือบ้านแฝด ๓.๐ ๑.๙ ๔.๖ ห้องชุด - ๑.๔ ๐.๘ ห้องภายในบา้ น ๐.๑ ๐.๑ - ทอ่ี ยู่อาศยั ชว่ั คราว --- อ่ืน ๆ - - - การใช้น้า ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ นา้ ประปาภายในบ้าน ๙๐.๒ ๘๘.๑ ๙๔.๕
๑๐ ลกั ษณะที่ส้าคญั ของครวั เรือน ๒๕๕๔ ๒๕๕๖ ๒๕๕๘ นา้ บ่อ/นา้ บาดาลภายในบ้าน ๒.๓ ๔.๓ ๒.๓ นา้ ประปานอกบา้ น ๐.๔ ๓.๔ ๐.๓ นา้ บอ่ /น้าบาดาลภายนอกบา้ น ๕.๔ ๒.๕ ๑.๔ น้าจากแม่น้า ลาธารหรอื คลอง - ๐.๓ ๐.๖ นา้ ฝน ๑.๒ ๐.๗ ๐.๔ นา้ ประปาผา่ นการบาบัด (ต้ม กรอง) ๐.๔ ๐.๖ ๐.๕ นา้ ดม่ื นา้ ด่ืมบรรจขุ วด ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ ๑๐๐.๐ น้าประปาภายในบา้ น ๒๒.๘ ๒๕.๕ ๒๙.๓ นา้ บ่อ/น้าบาดาลภายในบ้าน ๓๐.๗ ๑๔.๕ ๑๔.๗ น้าประปานอกบา้ น ๑.๐ ๑.๔ ๐.๓ นา้ บ่อ/น้าบาดาลนอกบ้าน ๐.๑ ๐.๓ ๐.๑ น้าฝน ๑.๗ ๑.๐ ๑.๐ ๓๓.๐ ๓๔.๒ ๒๕.๘ น้าประปาผ่านการบาบดั (ตม้ กรอง) ๑๐.๗ ๒๓.๑ ๒๘.๘ ท่ีมา: สานักงานสถิติจังหวัดนครสวรรค์ ๖) แรงงาน อุตสาหกรรม อาชีพและการประกันสังคม สถานภาพแรงงาน จากข้อมูลประชากรอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป จาแนกตามสถานภาพแรงงาน เป็นรายไตรมาส พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ ของสานักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าจานวนผู้ว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาตลอด แต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ไตรมาส ๓ เริ่มลดลง และผู้ไม่อยู่ในกาลังแรงงาน อื่นๆ มีแนวโน้มมากขึ้น (ไม่สมัครใจ ทางาน เจ็บป่วยเรื้อรัง พิการ ชรา จนไม่สามารถทางานได้ ทางานโดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือสิ่งตอบแทนให้แก่ บุคคลซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกในครัวเรือนเดียวกัน ทางานให้องค์กรการกุศล ฯ) ประชากรอายุ ๑๕ ปีขึนไป จ้าแนกตามสถานภาพแรงงาน เปน็ รายไตรมาส พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ (หน่วย : พันคน) ก้าลังแรงงาน ผู้ไม่อยู่ในก้าลังแรงงาน ก้าลัง ปี/ไตรมาส รวม ผมู้ งี านท้า ผ้วู า่ งงาน แรงงาน ท้างาน เรยี น อ่นื ๆ ท่ีรอ บ้าน หนังสอื ฤดูกาล ปี ๒๕๕๘ ไตรมาส ๑ ๕๕๓.๕ ๕๔๖.๔ ๔.๒ ๒.๙ ๑๐๑.๒ ๕๘.๕ ๙๖.๘ ปี ๒๕๕๘ ไตรมาส ๒ ๕๔๒.๔ ๕๓๔.๙ ๒.๐ ๕.๔ ๙๘.๗ ๕๗.๑ ๑๑๒.๐ ปี ๒๕๕๘ ไตรมาส ๓ ๕๓๕.๓ ๕๓๑.๙ ๒.๘ ๐.๕ ๙๖.๒ ๕๗.๒ ๑๒๑.๙ ปี ๒๕๕๘ ไตรมาส ๔ ๕๔๙.๘ ๕๔๕.๙ ๓.๔ ๐.๓ ๘๒.๙ ๖๐.๑ ๑๑๘.๑ ปี ๒๕๕๙ ไตรมาส ๑ ๕๕๕.๘ ๕๔๙.๓ ๓.๖ ๒.๗ ๗๕.๑ ๕๔.๖ ๑๒๕.๘
๑๑ กา้ ลังแรงงาน ผู้ไม่อยู่ในกา้ ลังแรงงาน ก้าลัง ปี/ไตรมาส รวม ผมู้ งี านทา้ ผวู้ า่ งงาน แรงงาน ทา้ งาน เรยี น อื่นๆ ที่รอ บ้าน หนงั สือ ฤดูกาล ปี ๒๕๕๙ ไตรมาส ๒ ๕๐๘.๒ ๕๐๕.๔ ๒.๘ ๖.๑ ๙๗.๐ ๖๑.๓ ๑๓๙.๒ ปี ๒๕๕๙ ไตรมาส ๓ ๔๙๒.๓ ๔๘๗.๐ ๕.๒ ๐.๓ ๙๖.๙ ๖๔.๘ ๑๕๗.๙ ปี ๒๕๕๙ ไตรมาส ๔ ๕๓๗.๙ ๕๓๑.๑ ๖.๘ ๑.๖ ๖๖.๐ ๖๑.๒ ๑๔๕.๘ ปี ๒๕๖๐ ไตรมาส ๑ ๕๑๖.๙ ๕๑๑.๐ ๕.๙ ๑๒.๘ ๗๘.๖ ๕๘.๘ ๑๔๕.๗ ปี ๒๕๖๐ ไตรมาส ๒ ๕๐๒.๙ ๔๙๖.๑ ๖.๙ ๑๐.๕ ๙๔.๗ ๕๘.๓ ๑๔๖.๘ ปี ๒๕๖๐ ไตรมาส ๓ ๕๑๗.๕ ๕๑๒.๔ ๕.๑ ๑.๙ ๘๔.๒ ๖๕.๘ ๑๔๔.๑ ท่ีมา : การสารวจภาวะการทางานของประชากร พ.ศ. ๒๕๕๘–๒๕๖๐ ระดับจังหวัด สานักงานสถิติแห่งชาติ ในช่วงไตรมาส ๑ และ ๒ ของแต่ละปี (ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน) เน่ืองจากแรงงาน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตร จึงทาให้กาลังแรงงานท่ีรอฤดูกาล ในชว่ งน้ีสูงกว่าไตรมาสอื่น
๑๒ ประชากรอายุ ๑๕ ปีขึนไปที่มีงานท้า จ้าแนกตามอุตสาหกรรม เป็นรายไตรมาส พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ที่ ๑ ท่ี ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ท่ี ๑ ท่ี ๒ ท่ี ๓ รวมยอด ๕๔๙.๓ ๕๐๕.๔ ๔๘๗.๐ ๕๓๑.๑ ๕๑๑.๐ ๔๙๕.๙ ๕๑๒.๔ ภาคเกษตรกรรม เกษตรกรรม การปา่ ไม้ และการประมง ๒๒๘.๑ ๑๖๕.๕ ๒๐๖.๒ ๒๓๒.๖ ๑๙๕.๙ ๑๘๙.๕ ๒๓๐.๑ นอกภาคเกษตรกรรม การทาเหมืองแร่ และเหมืองหิน - - - ๐.๓ - ๐.๙ ๐.๑ การผลิต ๔๓.๓ ๕๖.๒ ๔๒.๐ ๔๖.๒ ๔๘.๕ ๔๐.๗ ๔๘.๔ ไฟฟา้ กา๊ ซ ไอน้า และระบบปรับ ๐.๒ ๐.๒ ๐.๙ - ๑.๖ ๑.๖ ๑.๙ อากาศ การจดั หาน้า การจดั การ และ ๒.๕ ๒.๐ ๒.๑ ๒.๑ ๔.๑ ๖.๑ ๑.๒ การบาบัดน้าเสีย ของเสยี และส่งิ ปฏกิ ลู การก่อสร้าง ๔๘.๙ ๔๐.๘ ๓๘.๘ ๓๕.๓ ๔๓.๙ ๔๔.๓ ๓๑.๗ การขายสง่ และการขายปลีก ๙๘.๗ ๙๑.๓ ๗๖.๐ ๙๔.๐ ๘๙.๖ ๙๔.๙ ๘๗.๖ การซอ่ มแซมยานยนต์ การขนส่ง และสถานท่เี ก็บสินคา้ ๑๑.๓ ๑๑.๒ ๘.๙ ๕.๓ ๑๐.๗ ๙.๖ ๖.๘ ทพ่ี ักแรมและบรกิ ารด้านอาหาร ๓๔.๕ ๓๖.๔ ๓๓.๘ ๓๐.๖ ๓๙.๒ ๓๗.๙ ๓๔.๘ ขอ้ มลู ขา่ วสารและการสื่อสาร ๐.๔ ๐.๙ ๑.๔ ๐.๙ ๐.๗ ๐.๙ ๑.๕ กิจการทางการเงนิ และการประกนั ภัย ๖.๒ ๗.๘ ๗.๘ ๔.๒ ๔.๙ ๗.๓ ๔.๙ กจิ การอสงั หาริมทรัพย์ ๑.๐ ๑.๔ ๐.๖ ๑.๔ ๑.๘ ๐.๕ ๐.๒ กจิ กรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และ ๐.๖ ๑.๗ ๔.๐ ๓.๓ ๒.๗ ๑.๕ ๒.๓ เทคนิค
๑๓ อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ที่ ๑ ที่ ๒ ท่ี ๓ ท่ี ๔ ท่ี ๑ ท่ี ๒ ที่ ๓ กจิ กรรมการบริหารและการบริการ ๒.๔ ๒.๗ ๓.๔ ๑.๐ ๑.๕ ๑.๔ ๔.๘ สนบั สนนุ การบริหารราชการ การป้องกันประเทศ ๒๑.๗ ๒๖.๓ ๒๐.๒ ๒๓.๑ ๒๓.๓ ๒๑.๕ ๒๒.๔ และการประกนั สงั คม การศกึ ษา ๑๘.๑ ๑๑.๑ ๑๑.๖ ๑๘.๒ ๑๗.๒ ๑๓.๘ ๑๒.๒ กิจกรรมดา้ นสุขภาพ และงานสังคม ๑๓.๔ ๑๒.๒ ๑๑.๑ ๑๒.๘ ๑๐.๓ ๗.๙ ๘.๗ สงเคราะห์ ศลิ ปะ ความบนั เทิง และนันทนาการ ๓.๒ ๓.๖ ๒.๑ ๒.๐ ๑.๙ ๒.๓ ๒.๕ กจิ กรรมบริการดา้ นอ่ืนๆ ๑๓.๓ ๓๑.๐ ๑๕.๔ ๑๕.๑ ๑๑.๐ ๑๐.๒ ๘.๖ กิจกรรมการจา้ งงานในครัวเรือน ๐.๕ ๓.๑ ๑.๗ ๒.๗ ๒.๒ ๓.๐ ๑.๗ สว่ นบคุ คล การผลิตสินค้าและบริการ ทีท่ าข้นึ เองเพื่อใช้ในครวั เรือน ท่ีมา : การสารวจภาวะการทางานของประชากร พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ ระดับจังหวัด สานักงานสถิติแห่งชาติ ประชากรอายุ ๑๕ ปีขึ้นไปที่มีงานทา ในจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนใหญ่อยู่ในสาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง จานวน ๒๓๐,๐๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๙๐ จากผู้มีงานทาในปี พ.ศ.๒๕๖๐ ไตรมาส ๓ (๕๑๒,๓๖๕ คน) ทางานในสาขาการขายส่ง และการขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ จานวน ๘๗,๖๑๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๐๙ ทางานในสาขาการผลิต ๔๘,๔๒๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๙.๔๕ สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหารจานวน ๓๔๖๗๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๗๖ สาขาการก่อสร้าง จานวน ๓๑,๗๔๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๑๙ อาชพี เม่ือจาแนกผู้มีงานทาตามอาชีพ พบว่า ปีพ.ศ. ๒๕๖๐ ไตรมาสที่ ๓ จากจานวนผู้มีงานทา เป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการเกษตร และการประมง มีมากที่สุด ร้อยละ ๔๑.๔ รองลงมา คือ พนักงานบริการและ ผู้จาหน่ายสินค้า (ร้อยละ ๒๐.๓๑) ผู้ปฏิบัติงานด้านความสามารถทางฝีมือ และธุรกิจการค้าท่ีเกี่ยวข้อง (รอ้ ยละ ๑๑.๗๔) และผทู้ ่มี ีอาชีพขั้นพน้ื ฐานตา่ งๆ ในการขายและการใหบ้ รกิ าร (ร้อยละ ๑๑.๔๒)
๑๔ ประชากรอายุ ๑๕ ปขี ึนไปที่มีงานท้า จ้าแนกตามอาชีพ เป็นรายไตรมาส พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ (หน่วย : พันคน) ๒๕๕๙ ๒๕๖๐ อาชีพ ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ท่ี ๔ ท่ี ๑ ที่ ๒ ท่ี ๓ รวมยอด ๕๔๙.๓ ๕๐๕.๔ ๔๘๗.๐ ๕๓๑.๑ ๕๑๑.๐ ๔๙๕.๙ ๕๑๒.๔ ผจู้ ดั การ ขา้ ราชการระดบั อาวุโส และผ้บู ัญญัติ กฎหมาย ๘.๙ ๒๔.๔ ๒๑.๗ ๒๑.๖ ๑๓.๙ ๑๕.๘ ๑๐.๗ ผปู้ ระกอบวชิ าชพี ด้านต่าง ๆ ๒๙.๒ ๒๓.๓ ๒๔.๒ ๓๒.๖ ๒๗.๕ ๑๘.๑ ๒๒.๘ เจา้ หน้าทเ่ี ทคนิคและ ผปู้ ระกอบวขิ าชีพที่ เกี่ยวข้องกบั ดา้ นต่างๆ ๑๗.๗ ๒๔.๕ ๑๒.๗ ๑๓.๙ ๙.๖ ๑๓.๕ ๑๓.๔ เสมยี น ๑๒.๖ ๑๗.๑ ๑๑.๒ ๙.๒ ๑๓.๘ ๑๗.๔ ๑๑.๕ พนักงานบริการและ ผู้จาหนา่ ยสนิ ค้า ๑๐๗.๘ ๑๐๓.๗ ๘๖.๑ ๙๔.๓ ๑๑๐.๓ ๑๐๑.๗ ๑๐๔.๐ ผู้ปฏิบตั ิงานท่ีมีฝมี ือ ๒๐๖.๕ ๑๔๕.๒ ๑๙๐.๙ ๒๐๑.๐ ๑๖๘.๖ ๑๖๒.๒ ๒๑๒.๐ ในด้านการเกษตร ปา่ ไม้ และประมง ช่างฝมี อื และผูป้ ฏิบัติงาน ท่ีเกย่ี วข้อง ๕๘.๐ ๕๘.๖ ๕๔.๓ ๕๑.๙ ๕๐.๒ ๔๗.๐ ๖๐.๒ ผู้ควบคุมเครื่องจกั รโรงงาน และเคร่ืองจกั รและ ผู้ปฏิบตั ิงานด้านการ ประกอบ ๓๑.๐ ๒๕.๒ ๒๖.๑ ๒๕.๙ ๓๘.๙ ๒๗.๗ ๑๙.๑ ผู้ประกอบอาชีพงานพน้ื ฐาน ๗๗.๖ ๘๓.๕ ๕๙.๘ ๘๐.๖ ๗๘.๒ ๙๒.๕ ๕๘.๖ ที่มา : การสารวจภาวะการทางานของประชากร พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๐ ระดับจังหวดั สานักงานสถิติแห่งชาติ ระดับการศึกษาของแรงงาน ไตรมาส ๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ประชากรอายุ ๑๕ ปีขึ้นไปที่มีงานทาสาเร็จการศึกษาต่ากว่า ประถมศึกษาและไม่มีการศึกษา จานวน ๑๘๓,๑๐๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๗๓ สาเร็จการศึกษา ประถมศึกษาจานวน ๙๑,๓๖๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๘๓ และสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตอนปลาย และอุดมศึกษาใกล้เคียงกันท่ีประมาณ ร้อยละ ๑๔ - ๑๖
๑๕ ประชากรอายุ ๑๕ ปีขึนไปที่มีงานทา้ จ้าแนกตามระดับการศึกษาท่ีสา้ เร็จ เป็นรายไตรมาส พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ (หน่วย : พันคน) พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ ระดบั การศึกษาท่สี า้ เรจ็ ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส ที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ รวมยอด ๕๔๙.๓ ๕๐๕.๔ ๔๘๗.๐ ๕๓๑.๑ ๕๑๑.๐ ๔๙๕.๙ ๕๑๒.๔ ไมม่ ีการศึกษา ๑๐.๕ ๑๕.๑ ๘.๑ ๑๑.๘ ๕.๑ ๙.๕ ๑๒.๐ ตา่ กวา่ ประถมศึกษา ๑๗๒.๙ ๑๕๒.๒ ๑๗๐.๑ ๑๗๗.๔ ๑๕๙.๗ ๑๕๗.๕ ๑๗๑.๑ ประถมศกึ ษา ๑๒๙.๐ ๑๑๒.๕ ๑๐๑.๗ ๙๙.๔ ๑๒๒.๖ ๑๐๑.๕ ๙๑.๔ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ๗๔.๗ ๖๙.๘ ๖๗.๑ ๘๔.๕ ๘๑.๔ ๗๔.๖ ๘๑.๑ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ๘๒.๘ ๖๘.๙ ๖๗.๕ ๗๙.๔ ๖๙.๕ ๘๖.๐ ๘๒.๓ สายสามัญ ๖๒.๐ ๕๖.๙ ๕๖.๑ ๖๗.๙ ๕๕.๒ ๖๖.๕ ๖๓.๐ สายอาชีวศึกษา ๒๐.๘ ๑๒.๐ ๑๑.๔ ๑๑.๕ ๑๔.๓ ๑๙.๕ ๑๙.๓ อุดมศึกษา ๗๙.๓ ๘๖.๙ ๖๕.๖ ๗๘.๗ ๗๒.๔ ๖๕.๔ ๗๔.๕ สายวชิ าการ ๓๙.๔ ๔๙.๔ ๓๒.๘ ๔๘.๕ ๔๔.๙ ๔๒.๑ ๔๒.๐ สายวชิ าชพี ๒๓.๓ ๒๘.๔ ๒๒.๓ ๑๙.๑ ๑๓.๘ ๑๓.๐ ๒๑.๕ สายวิชาการศึกษา ๑๖.๖ ๙.๑ ๑๐.๕ ๑๑.๑ ๑๓.๗ ๑๐.๓ ๑๑.๐ ไมท่ ราบ ๐.๒ - ๐.๓ - ๐.๑ ๑.๒ - ท่ีมา : การสารวจภาวะการทางานของประชากร พ.ศ. ๒๕๕๙- ๒๕๖๐ ระดับจังหวัด สานักงานสถิติแห่งชาติ การประกันสังคม จานวนแรงงานในระบบประกันสังคม ในปี ๒๕๕๙ จานวน ๙๘,๖๐๐ คน เพิ่มขึ้นจาก ปี ๒๕๕๘ จานวน ๔๓๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๔๙ โดยเป็นผู้ประกันตามมาตรา ๓๓ มากที่สุด จานวน ๕๒,๘๗๙ คน รองลงมา มาตรา ๔๐ จานวน ๓๔,๕๙๖ คน และมาตรา ๓๙ จานวน ๑๑,๑๒๕ คน ตามลาดับ ตารางจ้านวนผู้ประกันสังคม ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๙ ปี จ้านวนผู้ประกันสังคม (คน) มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ รวม ๒๕๕๔ ๔๗,๘๔๑ ๘,๑๔๓ ๗,๔๗๘ ๖๓,๔๖๒ ๒๕๕๕ ๔๙,๑๕๓ ๙,๒๕๔ ๑๘,๘๖๓ ๗๗,๒๗๐ ๒๕๕๖ ๕๐,๖๑๑ ๑๐,๐๘๘ ๒๓,๙๐๖ ๘๔,๖๐๕ ๒๕๕๗ ๕๐,๙๖๐ ๑๐,๔๒๗ ๓๕,๒๓๘ ๙๖,๖๒๕
๑๖ ปี จา้ นวนผู้ประกันสังคม (คน) มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ รวม ๒๕๕๘ ๕๓,๙๖๐ ๑๐,๖๗๗ ๓๓,๕๒๕ ๙๘,๑๖๒ ๒๕๕๙ ๕๒,๘๗๙ ๑๑,๑๒๕ ๓๔,๕๙๖ ๙๘,๖๐๐ ข้อมูล : สานักงานประกันสังคมจังหวัดนครสวรรค์ การประกันสังคม จานวนแรงงานในระบบประกันสังคม ในปี ๒๕๕๘ จานวน ๙๘,๓๐๕ คน เพิ่มขึ้นจาก ปี ๒๕๕๗ จานวน ๑,๖๘๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑.๗๔ โดยเป็นผู้ประกันตามมาตรา ๓๓ มากที่สุด จานวน ๕๐,๙๗๑ คน รองลงมา มาตรา ๔๐ จานวน ๓๖,๖๙๑ คน และมาตรา ๓๙ จานวน ๑๐,๖๔๓ คน ตามลาดับ ตารางจ้านวนผู้ประกันสังคม ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ ปี จา้ นวนผู้ประกันสังคม (คน) มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ รวม ๒๕๕๔ ๔๗,๘๔๑ ๘,๑๔๓ ๗,๔๗๘ ๖๓,๔๖๒ ๒๕๕๕ ๔๙,๑๕๓ ๙,๒๕๔ ๑๘,๘๖๓ ๗๗,๒๗๐ ๒๕๕๖ ๕๐,๖๑๑ ๑๐,๐๘๘ ๒๓,๙๐๖ ๘๔,๖๐๕ ๒๕๕๗ ๕๐,๙๖๐ ๑๐,๔๒๗ ๓๕,๒๓๘ ๙๖,๖๒๕ ๒๕๕๘ ๕๐,๙๗๑ ๑๐,๖๔๓ ๓๖,๖๙๑ ๙๘,๓๐๕ ข้อมูล : สานักงานประกันสังคมจังหวัดนครสวรรค์ ข้อมูล วันท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘ โครงสรา้ งพืนฐาน ๗) การคมนาคม จังหวัดนครสวรรค์อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางหลวงแผ่นดินสายเอเชีย ๒๓๗ กิโลเมตร จังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่เป็นประตูสู่ภาคเหนือ การเดินทางติดต่อกับจังหวัดต่าง ๆ นับได้ว่าสะดวกมาก เส้นทางการติดต่อทางถนนระหว่างจังหวัดต่าง ๆ มีเส้นทางสายหลัก ๆ ดังนี้ การคมนาคมทางรถยนต์ ๑. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑ (พหลโยธิน) จากกรุงเทพฯ ผ่านนครสวรรค์ไป ส้ินสุดท่ีเชียงราย เป็นเส้นทางสายหลักและสายด้ังเดิมที่ใช้ในการคมนาคมเช่ือมระหว่างภาคเหนือกับ ภาคกลาง เส้นทางสายนี้ส่วนใหญ่เป็นเส้นทาง ๒ เลน ขณะน้ีถนนช่วงนครสวรรค์ – กาแพงเพชร เป็น ๔ เลน แล้ว กาลังมีการขยายไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ๒. ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๓๒ (บางปะอิน – นครสวรรค์) เป็นเส้นทางหลวง แผ่นดินที่แยกออกจากเส้นทางหมายเลข ๑ เริ่มจากอาเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลัดสู่ นครสวรรค์ เส้นทางสายนี้เป็นเส้นทาง ๘ เลน ทาให้การเดินทางสู่จังหวัดนครสวรรค์สะดวกและรวดเร็วมาก
๑๗ ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงครึ่ง ในระยะทาง ๒๓๗ กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ถึงนครสวรรค์ เส้นทางน้ีประสาน ต่อกับเส้นทางหมายเลข ๑ ท่ีจังหวัดนครสวรรค์มุ่งสู่จังหวัดเชียงราย ๓. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑ เป็นทางหลวงที่แยกจากเส้นทางหมายเลข ๓๒ (อินทร์บุรี –เขาทราย) ตรงอาเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ผ่านอาเภอตากฟ้า ท่าตะโก หนองบัว จังหวัด นครสวรรค์ เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลก ไปสิ้นสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามเส้นทางสายนี้มีถนนเชื่อมเข้าตัวอาเภอ ไพศาลี ตาคลี ท่าตะโก อาเภอเมืองฯ และอาเภอชุมแสง และมีถนนเครือข่ายเช่ือมอาเภอต่าง ๆ ท่ีกล่าวด้วย ๔. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๑๗ เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดนครสวรรค์กับ จังหวัดพิษณุโลก โดยผ่านทางอาเภอเก้าเลี้ยว อาเภอบรรพตพิสัย ออกทางอาเภอโพทะเลของจังหวัดพิจิตร ไปสู่จังหวัดพิษณุโลก ทาให้การติดต่อไปยังจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตรสะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก (ระยะทาง ประมาณ ๑๓๑ กิโลเมตร) ๕. ทางหลวงแผ่นดิน ๒๒๕ (นครสวรรค์–ชัยภูมิ) เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง นครสวรรค์กับจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคอีสาน เส้นทางนี้ผ่านทางอาเภอชุมแสง อาเภอหนองบัว ตัดผ่านเส้นทาง หลวงหมายเลข ๑๑, ๒๑ ท่ีอาเภอหนองบัว อาเภอบึงสามพัน (จังหวัดเพชรบูรณ์) สู่จังหวัดชัยภูมิ การเดินทางติดต่อกับจังหวัดข้างเคียง มีเส้นทางเชื่อมต่อผ่านอาเภอต่างๆ มากมายพอสรุป เป็นหลักใหญ่ ๆ ได้ดังน้ี ๑. กรุงเทพฯ (ผ่านสระบุรี - ลพบุรี - ชัยนาท) ตามเส้นทางหมายเลข ๑ ๒. กรุงเทพฯ (ผ่านบางบัวทอง - สุพรรณบุรี - ชัยนาท) ตามเส้นทางหมายเลข ๓๔๐ เข้าสู่ เส้นทางหมายเลข ๑ ชัยนาท ผ่านเข้าพยุหะคีรี หรือเส้นทางสายเอเชีย (บางปะอิน - นครสวรรค์) ตามเส้นทางหมายเลข ๓๒ ๓. ชัยนาท – อาเภอเมืองนครสวรรค์ ประมาณ ๖๐ กโิ ลเมตร ๔. อุทัยธานี – อาเภอเมืองนครสวรรค์ ผา่ นทางอาเภอโกรกพระ (หมายเลข ๓๒๒๐, ๓๓๑๙ และ ๓๐๐๕) ประมาณ ๓๖ กิโลเมตร ผ่านทางถนนสายเอเชีย (หมายเลข ๓๓๓ และ ๓๒) ประมาณ ๔๗ กิโลเมตร ๕. พิษณุโลก – อาเภอเมืองนครสวรรค์ ประมาณ ๑๓๑ กิโลเมตร ๖. พิจิตร – อาเภอเมืองนครสวรรค์ ประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร ๗. สุพรรณบุรี (ผ่านถนนหมายเลข ๓๔๐) ประมาณ ๑๕๕ กิโลเมตร ๘. สิงห์บุรี (ผ่านถนนเอเชีย หมายเลข ๓๒ , ๑) ประมาณ ๙๕ กิโลเมตร ๙. ลพบุรี (ผ่านถนนเอเชีย หมายเลข ๓๒ , ๑) ประมาณ ๑๓๕ กิโลเมตร ๑๐. กาแพงเพชร (ผ่านถนนพหลโยธิน หมายเลข ๑) ประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตร ๑๑. ตาก (ผ่านถนนพหลโยธิน หมายเลข ๑) ประมาณ ๑๘๐ กิโลเมตร ๑๒. เพชรบูรณ์ (ผ่านทางถนนหมายเลข ๒๒๕ และแยกเข้าถนนหมายเลข ๒๑) ประมาณ ๑๙๒ กิโลเมตร คมนาคมทางรถไฟ จังหวัดนครสวรรค์มีเส้นทางรถไฟ มีสถานีรถไฟ ๑๕ สถานี ผ่านตัวอาเภอต่างๆ ได้แก่ อาเภอตาคลี อาเภอเมืองนครสวรรค์ และอาเภอชุมแสง การคมนาคมทางอากาศ จังหวัดนครสวรรค์ ไม่มีสนามบินพาณิชย์ มีแต่สนามบินของกองบิน ๔ อาเภอตาคลี ซึ่งเดิมเคยใช้เป็นสนามบินของกองทัพอเมริกัน ที่มีศักยภาพสูงสาหรับเครื่องบินไอพ่น และสนามบินเกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศักยภาพของสนามบินเหล่าน้ีสามารถปรับเป็นสนามบินพาณิชย์ได้
๑๘ ๘) สาธารณูปโภค ด้านการไฟฟ้า การให้บริการด้านกระแสไฟฟ้าภายในจังหวัด ของสานักงานการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคจังหวัดนครสวรรค์ จานวนผู้มีไฟฟ้าใช้ จานวน ๓๓๖,๕๗๘ ราย ยังไม่มีไฟฟ้าใช้และสารวจเข้า โครงการไม่มีไฟฟ้าใช้แล้ว จานวน ๓๖๑ ครัวเรือน ด้านการประปา ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ การประปาจังหวัดนครสวรรค์มีกาลังการ ผลิต รวมทั้งสิ้น ๓๓,๙๔๕,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้าที่ผลิตได้ ๒๔,๗๒๗,๕๙๕ ล้านลูกบาศก์เมตร จานวน ผู้ใช้น้าประปา ๗๙,๖๙๒ ราย มีผู้ใช้ประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จานวน ๑,๕๙๓ หมู่บ้าน ประปา ๑,๗๑๒ แห่ง ๓๔๒,๗๒๓ ครัวเรือน โทรศัพท์และการสื่อสารอื่นๆ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เลขหมายโทรศัพท์ (TOT) มี ๗๙ ชุมสาย จานวน ๗๙,๑๓๓ เลขหมาย จากการสารวจประชากรที่มีอายุ ๖ ปีขึ้นไปจานวน ๙๒๒,๐๐๕ คน ประชากรท่ีใช้คอมพิวเตอร์ ๒๘๐,๖๔๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๔๔ ของประชากรท่ีทาการสารวจ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ๒๘๖,๔๑๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๐๖ และมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ๗๐๑,๒๔๓ คน คิดเป็น ร้อยละ ๗๖.๐๖ สภาพเศรษฐกิจ ๙) โครงสร้างทางเศรษฐกิจของจังหวัด ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จังหวัดนครสวรรค์ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (Gross Provincial product : GPP) ณ ราคาประจาปี เท่ากับ ๙๗,๗๒๔ ล้านบาท โครงสร้างเศรษฐกิจหลักของจังหวัดมาจาก ภาคการเกษตร ผลผลิตหลัก ได้แก่ ข้าว อ้อยโรงงาน มันสาปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การผลิต อตุ สาหกรรม และการค้าสง่ คา้ ปลีก โดยมูลคา่ ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจงั หวดั มาจากภาคการเกษตร ๒๙,๔๖๘ ลา้ นบาท หรือคิดเป็นรอ้ ยละ ๓๐.๑๕ และนอกภาคการเกษตร ๖๘,๒๕๗ ลา้ นบาท หรือคิดเป็นรอ้ ยละ ๖๙.๘๕ เม่อื พจิ ารณาตามโครงสร้างเศรษฐกจิ ของจังหวัด ๕ อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์และการป่าไม้ มีมูลค่า ๒๘,๐๑๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๘.๖๖ รองลงมาคือ สาขาการผลิต อุตสาหกรรม ๑๔,๘๙๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๕.๒๔ สาขาการขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมรถยนต์ ๑๓,๕๔๐ ล้านบาท คิดเปน็ ร้อยละ ๑๓.๘๕ สาขาการศกึ ษา ๗,๙๓๔ ลา้ นบาท คิดเปน็ รอ้ ยละ ๘.๑๒ และ สาขาตัวกลางทางการเงิน ๖,๗๕๕ ลา้ นบาท คิดเป็นร้อยละ ๖.๙๑ ตามลาดบั ตารางผลิตภัณฑม์ วลรวมของจงั หวดั จ้าแนกตามสาขาการผลิต ปี ๒๕๕๔ – ๒๕๕๘ : ลา้ นบาท สาขาการผลิต ๒๕๕๔ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๔๒,๓๔๙ ๔๗,๗๐๓ ๓๘,๙๗๗ ๒๙,๔๖๘ ภาคการเกษตร ๒๗,๐๓๙ ๔๑,๐๘๖ ๔๖,๓๑๔ ๓๗,๖๐๓ ๒๘,๐๑๒ ๑ เกษตรกรรมการล่าสัตว์และการ ๒๕,๘๒๒ ป่าไม้
๑๙ สาขาการผลิต ๒๕๕๔ ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๗,๐๓๙ ๔๒,๓๔๙ ๔๗,๗๐๓ ๓๘,๙๗๗ ๒๙,๔๖๘ ภาคการเกษตร ๑,๒๑๖ ๑,๒๖๓ ๑,๓๘๙ ๑,๓๗๔ ๑,๔๕๖ ๒ การประมง ๖๔,๖๗๘ ๗๑,๔๕๑ ๖๘,๙๐๙ ๖๗,๘๐๐ ๖๘,๒๕๗ ภาคนอกเกษตร ๑,๒๗๔ ๑,๖๐๑ ๑,๗๓๑ ๒,๐๐๘ ๒,๓๐๒ ๒๓,๑๐๐ ๑๘,๗๗๖ ๑๗,๔๑๖ ๑๖,๘๕๐ ๑๔,๘๙๗ ๓ การทาเหมืองแร่และเหมืองหิน ๑,๒๔๓ ๑,๔๑๘ ๑,๕๙๕ ๑,๖๗๓ ๑,๕๙๐ ๒,๓๑๓ ๓,๗๓๕ ๒,๗๑๒ ๒,๖๙๘ ๓,๗๒๔ ๔ การผลิตอุตสาหกรรม ๑๐,๑๗๘ ๑๓,๖๐๖ ๑๔,๑๕๕ ๑๓,๘๑๒ ๑๓,๕๔๐ ๕ การไฟฟ้า ก๊าซ และประปา ๖ การก่อสร้าง ๗ การขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมรถยนต์ฯ ๘ โรงแรมและภัตตาคาร ๔๐๙ ๔๑๑ ๔๙๖ ๔๙๗ ๗๓๕ ๙ การขนส่งสถานีเก็บสินค้าและ ๓,๐๑๕ ๔,๖๕๐ ๒,๙๐๙ ๒,๘๐๒ ๓,๑๔๘ การคมนาคม ๑๐ ตัวกลางทางการเงิน ๔,๕๑๔ ๕,๑๖๓ ๕,๙๙๒ ๖,๔๑๗ ๖,๗๕๕ ๑๑ บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ ๓,๔๗๔ ๔,๐๔๕ ๓,๘๔๓ ๓,๔๑๐ ๓,๖๐๗ การให้เช่า และบริการทางธุรกิจ ๑๒ การบริหารราชการแผ่นดิน ๕,๑๙๖ ๖,๙๑๑ ๖,๔๑๖ ๕,๒๐๘ ๕,๕๑๙ การป้องกันประเทศฯ ๖,๕๓๔ ๗,๔๑๑ ๗,๕๙๒ ๘,๒๑๑ ๗,๙๓๔ ๑๓ การศึกษา ๒,๕๙๘ ๒,๘๒๐ ๓,๐๖๘ ๓,๒๗๔ ๓,๕๓๔ ๑๔ การบริการด้านสุขภาพ และ ๖๕๙ ๗๗๑ ๘๕๖ ๘๑๖ ๘๓๔ งานสังคมสงเคราะห์ ๑๗๒ ๑๓๔ ๑๒๘ ๑๒๔ ๑๓๘ ๑๕ การให้บริการชุมชนสังคมและ ๙๑,๗๑๖ ๑๑๓,๘๐๐ ๑๑๖,๖๑๒ ๑๐๖,๗๗๘ ๙๗,๗๒๔ บริการส่วนบุคคลอ่ืน ๆ ๙๒,๕๙๑ ๑๑๕,๑๗๗ ๑๑๘,๓๒๒ ๑๐๘,๖๓๐ ๙๙,๗๒๔ ๑๖ ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล ๙๙๑ ๙๘๘ ๙๘๖ ๙๘๓ ๙๘๐ ผลิตภัณฑ์จังหวัด (GPP) (ล้านบาท) มูลค่าเฉล่ียต่อคน (บาท) ประชากร (๑,๐๐๐ คน) ที่มา : สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๑๐) รายได้เฉล่ียของประชากร ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จังหวัดนครสวรรค์มีรายได้เฉลี่ย จานวน ๗๙,๗๘๐ บาทต่อคนต่อปี อาเภอ ท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงสุด คือ อาเภอเมืองนครสวรรค์ จานวน ๙๔,๗๘๖ บาทต่อคนต่อปี รองลงมาคือ อาเภอตากฟ้า จานวน ๘๖,๕๕๕ บาทต่อคนต่อปี อาเภอชุมตาบง จานวน ๘๓,๐๓๕ บาทต่อคนต่อปี
๒๐ อาเภอพยุหะคีรี จานวน ๘๑,๑๔๓ บาทต่อคนต่อปี อาเภอไพศาลี จานวน ๘๐,๗๑๖ บาทต่อคนต่อปี อาเภอ ชุมแสง จานวน ๗๙,๘๐๑ บาทต่อคนต่อปี ตามลาดับ รายได้ของประชากรเฉลยี่ ต่อคนตอ่ ปี จ้าแนกรายอา้ เภอ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๐ อา้ เภอ รายได้เฉลย่ี ตอ่ คนตอ่ ปี (บาท) เมอื งนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๗๕,๔๘๒ ๘๕,๐๘๓ ๙๓,๑๓๑ ๙๗,๙๘๙ ๙๔,๗๘๖ หนองบวั ๗๓,๘๔๓ ๘๒,๓๗๗ ๘๖,๙๕๖ ๙๐,๔๘๒ ๗๗,๓๘๔ ชุมแสง ๘๖,๙๘๗ ๘๕,๙๒๘ ๘๖,๓๙๕ ๘๓,๒๗๒ ๗๙,๘๐๑ บรรพตพิสัย ๗๙,๒๗๔ ๘๐,๐๖๕ ๘๑,๑๑๑ ๘๒,๔๔๐ ๗๕,๗๕๗ ลาดยาว ๗๒,๕๖๒ ๗๖,๖๔๑ ๗๗,๑๙๑ ๗๗,๐๖๕ ๖๙,๓๖๐ พยหุ ะครี ี ๘๒,๙๒๔ ๘๑,๓๒๕ ๘๓,๑๙๑ ๘๓,๒๖๒ ๘๑,๑๔๓ โกรกพระ ๖๙,๓๑๖ ๗๒,๓๒๘ ๖๙,๔๗๗ ๗๐,๑๔๓ ๗๓,๒๘๔ ท่าตะโก ๘๐,๕๔๙ ๙๒,๓๒๑ ๘๗,๓๖๗ ๘๔,๐๙๗ ๗๕,๘๖๕ ตาคลี ๘๙,๙๓๖ ๘๓,๕๓๘ ๘๓,๕๖๘ ๗๗,๗๖๘ ๗๙,๖๙๗ ไพศาลี ๘๒,๗๕๖ ๗๔,๗๘๗ ๗๘,๒๕๙ ๗๕,๐๐๖ ๘๐,๗๑๖ เกา้ เลีย้ ว ๗๔,๔๔๗ ๗๕,๒๔๕ ๗๖,๖๐๑ ๖๙,๑๔๒ ๖๘,๒๖๙ ตากฟา้ ๘๙,๒๖๘ ๑๑๐,๐๗๙ ๑๐๑,๓๓๙ ๘๘,๔๒๙ ๘๖,๕๕๕ แมว่ งก์ ๗๔,๒๑๕ ๗๖,๕๖๗ ๗๗,๔๒๓ ๗๐,๕๕๙ ๖๖,๕๙๘ แม่เปิน ๖๔,๑๗๓ ๗๓,๘๔๖ ๘๓,๙๔๙ ๗๓,๗๑๕ ๖๗,๓๒๖ ชมุ ตาบง ๙๔,๗๓๗ ๖๔,๕๘๑ ๗๗,๓๙๖ ๖๔,๒๖๔ ๘๓,๐๓๕ รวมเฉล่ีย ๗๙,๑๑๖ ๘๒,๒๐๗ ๘๔,๑๘๓ ๘๒,๙๒๔ ๗๙,๗๘๐ ทมี่ า : สานกั งานพัฒนาชมุ ชนจังหวดั นครสวรรค์ , กรกฎาคม ๒๕๖๐ สภาพทางสังคม ๑๑) สถานภาพทางสังคม ในปี ๒๕๖๐ มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของประชากรจงั หวัดนครสวรรค์ ลดลงรอ้ ยละ ๐.๑๐ โดยมีอัตราเกิด ร้อยละ ๐.๗๙ อัตราการตาย ร้อยละ ๐.๗๗ อัตราการย้ายเข้า ร้อยละ ๓.๗๖ และอัตราการ ย้ายออก รอ้ ยละ ๓.๘๕ มีจานวนการจดทะเบยี นสมรสจานวน ๓,๕๙๙ คู่ และมีการจดทะเบยี นหย่า ๑,๗๑๘ คู่
๒๑ ตารางจา้ นวนและการเกดิ ตายย้ายเข้า ยา้ ยออก การจดทะเบียนสมรส และการหย่า ปี ๒๕๕๘-๒๕๖๐ รายการ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ จา้ นวน ร้อยละ จ้านวน รอ้ ยละ จา้ นวน รอ้ ยละ การเกิด ๘,๖๙๙ ๐.๘๑ การตาย ๙,๔๒๖ ๐.๘๘ ๘,๙๖๑ ๐.๘๔ ๘,๔๓๓ ๐.๗๙ การยา้ ยเขา้ ๘,๕๑๓ ๐.๗๙ ๔๐,๕๖๘ ๓.๘๐ ๘,๒๖๒ ๐.๗๗ การย้ายออก ๔๓,๓๓๖ ๔.๐๔ ๔๒,๙๗๔ ๔.๐๓ ๔๐,๐๓๒ ๓.๗๖ การจดทะเบียนสมรส ๔๕,๑๗๗ ๔.๒๑ ๓,๖๖๓ ๐.๓๔ ๔๑,๐๔๑ ๓.๘๕ การจดทะเบียนหย่า ๓,๘๗๔ ๐.๓๖ ๑,๘๔๔ ๐.๑๗ ๓,๕๙๙ ๐.๓๓ ๑,๗๓๘ ๐.๑๖ ๑,๗๑๘ ๐.๑๖ ท่มี า : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ความมัน่ คงปลอดภัยในชีวิต การรับแจ้งคดีอาญาส่วนใหญ่เป็นคดีท่ีรัฐเป็นผู้เสียหาย รองลงมาได้แก่ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ คดีที่น่าสนใจ คดีประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ และคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ตามลาดับ เม่ือเทียบระหว่างการรับแจ้งและการจบั กุมพบว่าคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ และคดีท่ีน่าสนใจ จับกุมไดน้ ้อยกว่า คดีประเภทอ่ืน นอกจากน้ีเกือบทุกประเภทความผิดมีแนวโน้มการรับแจ้งลดลงยกเว้นคดคี ดีท่ีรฐั เป็นผู้เสียหาย เพอ่ื ข้ึนจากปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เล็กน้อย สถติ ิคดีอาญาทนี่ ่าสนใจ จา้ แนกตามประเภทความผิด พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ ประเภทความผดิ รับแจง้ จับกมุ รบั แจง้ จบั กุม รบั แจง้ จบั กมุ (ราย) (คน) (ราย) (คน) (ราย) (คน) คดอี ุกฉกรรจแ์ ละสะเทอื นขวญั ๕๓ ๔๙ ๕๐ ๔๔ ๓๑ ๓๑ คดปี ระทุษร้ายต่อชวี ติ ร่างกาย และเพศ ๔๒๐ ๓๓๒ ๔๓๑ ๓๔๓ ๓๖๖ ๓๔๒ คดีประทุษรา้ ยต่อทรัพย์ ๗๕๖ ๔๑๗ ๗๒๓ ๓๕๙ ๕๐๐ ๓๙๓ คดที นี่ ่าสนใจ ๔๗๙ ๒๔๐ ๔๖๖ ๒๐๙ ๓๑๗ ๒๒๗ คดที รี่ ัฐเปน็ ผเู้ สียหาย ๓,๖๒๗ ๖,๘๘๖ ๔,๗๑๔ ๔,๗๐๖ ๓,๘๒๗ ๕,๐๒๔ ทม่ี า: ตารวจภธู รจงั หวัดนครสวรรค์ สถานะทางเศรษฐสังคมของครัวเรือน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ รายได้เฉล่ียต่อเดือนของครัวเรือนในนครสวรรค์มีจานวน ๒๑,๘๕๒ บาท ค่าใช้จ่ายเฉล่ียต่อเดือนจานวน ๑๗,๑๒๘ บาท และหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนจานวน ๑๘๘,๙๔๑ บาท โดย ครัวเรือนผู้ปฏิบัติงานวชิ าชีพ นักวิชาการ และนกั บรหิ าร มีหนส้ี นิ เฉลย่ี ต่อครัวเรือนสงู ถงึ ๘๔๑,๗๖๕ บาท
๒๒ ครัวเรือนส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายต่อรายได้สูงกว่าร้อยละ ๘๐ ยกเว้นครัวเรือนผู้ถือครองทาการเกษตร ซึ่งเป็นเจา้ ของทีด่ ินและผู้ปฏิบตั ิงานวิชาชีพ นักวชิ าการ และนักบรหิ าร ดังนนั้ ครัวเรือนสองประเภทหลังแมจ้ ะ มีการกู้ยืมเงินสูงแต่ความเสี่ยงท่ีจะไม่สามารถใช้คืนเงินกู้ได้จะต่ากว่าครัวเรือนประเภทอื่น ค่าใช้จ่ายของ ครัวเรือนส่วนใหญ่เกิดจากค่าอาหารและเครื่องด่ืมท่ีไม่ใช่แอลกอฮอล์ ค่าที่พักอาศัย เคร่ืองแต่งบ้านและ เครื่องใช้ ค่าเดินทางและการส่ือสาร ด้านหน้ีสินครัวเรือน ครัวเรือนผู้ถือครองทาการเกษตร/เพาะเล้ียง มีหนีส้ ินจากการใช้ทาการเกษตรสงู ครวั เรอื นผู้ดาเนนิ ธรุ กิจของตนเองทีไ่ ม่ใชก่ ารเกษตรมหี น้ีสินเกิดจากการทา ธุรกิจและใช้จ่ายอุปโภค บริโภคอ่ืนๆ ในครัวเรือน ครัวเรือนผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพ นักวิชาการ และนักบริหาร หน้ีสินเกิดจากใช้ซ้ือ/เช่าซื้อบ้านและ/หรือท่ีดิน และใช้จ่ายอุปโภค บริโภคอ่ืนๆ ในครัวเรือน ครัวเรือน ทกุ ประเภทเป็นหน้ีในระบบมากกวา่ หน้ีนอกระบบ ยกเวน้ ครัวเรือนคนงานท่ัวไปมีจานวนหนนี้ อกระบบสงู กว่า ครวั เรอื นอื่นๆ แสดงถงึ การขาดความนา่ เชอื่ ถอื /ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้น้อยกว่าครวั เรอื นอื่น รายได้ คา่ ใช้จา่ ยเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรอื น และหนีสนิ เฉล่ียต่อครัวเรือน จ้าแนกตามสถานะทาง เศรษฐสังคมของครัวเรอื น พ.ศ. ๒๕๕๘ รายได้เฉล่ยี ค่าใชจ้ ่าย รอ้ ยละของ สถานะทางเศรษฐสังคม ต่อเดอื น เฉลย่ี ต่อเดอื น หนสี นิ เฉลยี่ คา่ ใชจ้ า่ ยต่อ ของ ของครัวเรือน ตอ่ ครัวเรอื น รายได้ ครวั เรอื น ครัวเรือนทังสิน ๒๑,๘๕๒ ๑๗,๑๒๘ ๑๘๘,๙๔๑ ๗๘.๔๐ ผถู้ อื ครองทา้ การเกษตร สว่ นใหญ่เปน็ เจ้าของท่ีดิน ๒๗,๘๑๖ ๑๘,๓๖๑ ๒๐๗,๘๗๖ ๖๖.๐๐ ๑๕,๕๙๒ ๑๒,๕๓๑ ๒๑๔,๑๖๗ ๘๐.๔๐ ส่วนใหญเ่ ชา่ ท่ดี นิ / ทาฟรี ๑๓,๗๙๙ ๑๑,๓๗๗ ๒๗,๕๔๒ ๘๒.๔๐ ประมง,ปา่ ไม้,ลา่ สตั ว์,หาของป่า บริการทางการเกษตร ๒๓,๒๗๕ ๑๙,๔๔๒ ๑๙๘,๕๒๑ ๘๓.๕๐ ผดู้ ้าเนนิ ธุรกจิ ของตนเองท่ีไม่ใช่ การเกษตร ลกู จ้าง ๔๔,๒๙๔ ๒๖,๖๖๑ ๘๔๑,๗๖๕ ๖๐.๒๐ ผ้ปู ฏิบัตงิ านวิชาชีพ นกั วชิ าการ ๑๑,๓๘๕ ๙,๕๙๔ ๒๐,๘๙๘ ๘๔.๓๐ และนกั บรหิ าร ๑๖,๖๘๔ ๑๓,๔๐๕ ๘๐,๘๔๖ ๘๐.๓๐ คนงานเกษตร ๑๙,๐๔๙ ๑๖,๖๑๓ ๗๙,๖๔๓ ๘๗.๒๐ คนงานท่วั ไป เสมียนพนกั งาน พนักงานขาย ๑๙,๘๕๐ ๑๖,๘๔๑ ๖๖,๑๘๒ ๘๔.๘๐ และใหบ้ รกิ าร ๑๔,๑๖๒ ๑๓,๒๔๕ ๙๐,๙๑๙ ๙๓.๕๐ ผู้ปฏบิ ตั งิ านในกระบวนการผลติ ผู้ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิงานเชิงเศรษฐกิจ ท่มี า : สานักงานสถติ จิ ังหวดั นครสวรรค์
๒๓ ๑๒) การบริการด้านสังคมสงเคราะห์ ในปี ๒๕๖๐ ประชากรเด็ก (อายุตา่ กว่า ๑๕ ปี) จานวน ๑๗๙,๓๑๙ คน คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ ๑๖.๘๓ ของประชากรทั้งจังหวัด ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า ๖๐ ปีขึ้นไป) จานวน ๑๙๔,๕๙๙ คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๑๘.๒๖ ของประชากรทั้งจังหวัด คนพิการที่จดทะเบียนกับสานักงานพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ ในปี ๒๕๖๐ จานวน ๓,๑๐๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๐.๒๙ ของประชากรทั้งจังหวัด มีผู้ที่รับการความช่วยเหลือตามประเภทงานที่ให้ความสงเคราะห์ทุกประเภท จานวน ๕,๔๖๔ คน ตารางจา้ นวนและร้อยละของประชากร ตามประเภทการจดทะเบียน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ ประเภท พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ เด็ก (อายุตา่ กว่า ๑๕ ปี) ๑๘๖,๐๗๙ ๑๗.๓๕ ๑๘๒,๓๕๖ ๑๗.๐๙ ๑๗๙,๓๑๙ ๑๖.๘๓ ผู้สูงอายุ ๑๘๒,๖๐๒ ๑๗.๐๓ ๑๘๗,๔๓๖ ๑๗.๕๗ ๑๙๔,๕๙๙ ๑๘.๒๖ (อายุมากกว่า ๖๐ ปี ขึ้นไป) คนพิการ ๒,๙๕๐ ๐.๒๗ ๓,๕๐๗ ๐.๓๒ ๓,๑๐๕ ๐.๒๙ (ท่ีจดทะเบียนคนพิการ) ตารางจ้านวนการบริการดา้ นสังคมสงเคราะห์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๐ ประเภทงาน จา้ นวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ (คน) พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ.๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ สงเคราะห์ครอบครัวยากจน/คนพิการ ๑,๙๙๖ ๗๘๙ ๙๕๒ ๘๗๓ ๑,๐๒๐ ผู้สูงอายุ สงเคราะห์ผู้ติดเช้ือเอดส์ ๖๐ ๑๐ ๓๕ ๑๐ ๑๖๐ สงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ๔๒ ๗๔ ๒๑๔ ๕๒๙ ๕๒๙ จดทะเบียนคนพิการ ๒,๐๙๓ ๒,๐๓๓ ๒,๙๕๐ ๓,๕๐๗ ๓,๑๐๕ จัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี ๒,๔๙๖ ๓,๙๓๙ ๓,๘๓๗ ๑๐๙ ๓๘ ส่งราษฎรกลับภูมิลาเนาเดิม ๒๐ ๒๒ ๕๒ ๓๙ ๓๑ รับคนไร้ท่ีพึ่ง (เร่ร่อน,ขอทาน) ๘ ๒ ๕๐ ๑๕๖ ๑๙๕ ผู้ขออุปการะเด็ก ๔๕ ๒๖ ๓๘ ๑๘ ๘ ผู้ประสบภัยธรรมชาติ/อุบัติภัย ๑๐๐ ๔ ๖ - ๑๖ ฝึกอาชีพให้กับผู้สูงอายุ - - ๑๖๐ ๙๐ ๑๓๕ ฝึกอาชีพให้กับคนพิการ ๒๕ - ๔๐ ๔๐ ๑๐๐ ฝึกอาชีพให้กับคนด้อยโอกาส ๘๐ ๑๐๐ ๑๖๐ ๙๐ ๔๖ ซ่อมแซมปรับสภาพแวดล้อมท่ีอยู่อาศัย ๙๗ ๙๕ ๓๐ ๘๑ ๘๑ ผู้ด้อยโอกาส พิการ สูงอายุ (หลัง) รวม ๗,๐๖๒ ๗,๐๙๔ ๘,๕๒๔ ๕,๕๔๒ ๕,๔๖๔ ท่ีมา : สานักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ , ธันวาคม ๒๕๖๐
๒๔ ๑๓) การนับถือศาสนา ประชากรของจังหวัดนครสวรรค์ร้อยละ ๙๙.๗๖ นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ร้อยละ ๐.๑๘ และ ๐.๐๖ ตามลาดับ จานวนศาสนาสถาน รวม ๘๓๙ แห่ง เป็นวัด ๘๑๑ นิกายมหายาน ๗๙๓ วัด นิกายธรรมยุติ ๑๘ วัด โบสถ์คริสต์ ๒๕ แห่ง มัสยิด ๕ แห่ง พระอารามหลวง ๔ แห่ง คือวัดโพธาราม วัดนครสวรรค์ วัดวรนาถบรรพต อาเภอเมืองนครสวรรค์ และวัดตากฟ้า อาเภอตากฟ้า โดยท้ัง ๔ วัดเป็นมหานิกาย ๑๔) การศึกษา ข้อมลู การศึกษาของจังหวัดนครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จังหวัดนครสวรรค์มสี ถาบันการศึกษา จานวน นาเสนอเกี่ยวกับจานวน ๖๖๖ แห่ง มีจานวนนักเรียน ๑๘๔,๒๐๙ คน จานวนครูและผู้บริหาร ๑๐,๒๘๘ คน จานวนนักเรียนด้อยโอกาส ๖๒,๕๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๔๙ ของนักเรียนทั้งหมด ปีพ.ศ. ๒๕๕๙ มีนักเรียนออกกลางคันเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. ๒๕๕๘ คะแนนเฉลี่ย O-NET จังหวัดนครสวรรค์ ชั้น ป.๖และ ม.๖ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ (รวม ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้) มีคะแนนเฉลี่ยลดลงจากคะแนนปี การศึกษา ๒๕๕๘ คะแนนเฉลี่ย O-NET จังหวัดนครสวรรค์ ชั้น ม.๓ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ มีคะแนนเฉลี่ย เพิ่มข้ึน จากการประเมินของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ,๒ และ ๓ นักเรียนประถมศึกษาในสังกัดมีความสามารถด้านการอ่านผ่านเกณฑ์จานวน ๓๗,๗๓๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๙๕(จากนักเรียนช้ันประถมศึกษา ๑-๖ จานวน ๓๙,๗๒๔ คน) ความสามารถด้านการเขียน ผ่านเกณฑ์จานวน ๓๕,๐๘๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๓๓ มีนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ อ่านไม่ออก จานวน ๕๓๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๑.๓๔ นักเรียนที่เขียนไม่ได้จานวน ๑,๐๓๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๖ ของนักเรียนประถม ท้ังหมด ตารางท่ี ๑ จานวนสถานศกึ ษา นกั เรียน ครู และบุคคลกรทางการศึกษา ของสถานศึกษาภาครัฐและเอกชนทุก สังกัด ท่ี หน่วยงาน จ้านวน จา้ นวนนกั เรียน จ้านวนครู สถานศึกษา นักศกึ ษา และผูบ้ ริหาร ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ๕๕๕ ๙๘,๙๕๐ ๖,๗๓๗ ๒ สานักงานคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษาเอกชน ๕๒ ๓๓,๖๘๐ ๑,๓๑๐ ๓ สานกั งานบริหารงานการศึกษาพิเศษข้นั พ้นื ฐาน ๑ ๓๗๐ ๓๔ ๔ สถาบนั การอาชีวศกึ ษาภาคเหนือ ๔ ๑๑ ๑๑,๕๒๑ ๖๘๗ ๕ สานักงานคณะกรรมการอุดมศกึ ษา ๔ ๑๒,๓๖๐ ๖๕๖ ๖ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ ๑๖ ๑๖,๐๔๐ ๒๐๕ การศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั นครสวรรค์ ๘ ๘๕๕ ๑๐๕ ๗ สานกั งานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์
๒๕ ที่ หน่วยงาน จ้านวน จา้ นวนนกั เรียน จา้ นวนครู สถานศึกษา นกั ศึกษา และผบู้ รหิ าร ๘ สถาบนั การพลศึกษา ๙ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ๑ ๓๐๐ ๒๘ ๑๐ การศกึ ษาแบบ Home school ๑๖ ๙,๖๕๑ ๕๐๐ รวมทังหมด ๒๓๒ ๖๖๖ ๑๘๔,๒๐๙ ๑๐,๒๘๘ ท่มี า : สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาเขต ๔๒ จังหวดั นครสวรรค์, สานักงานศึกษาธิการจงั หวดั นครสวรรค,์ สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓ ข้อมูล มกราคม ๒๕๖๑ จ้านวนนักเรยี นดอ้ ยโอกาส จา้ แนกตามประเภทความดอ้ ยโอกาส ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ท่ี สพป./ จา้ นวน ประเภทความด้อยโอกาส คิดเป็น รวม รอ้ ยละ สพม. นกั เรียน เด็กถูก เดก็ ท่ี เด็ก เดก็ ใน เด็ก ผล ชน เดก็ ท่ีถกู เด็กยากจน เด็กที่มี ก้าพรา้ ทา้ งาน อน่ื ทังหมด บงั คับ อยู่ ถกู ทอด สถาน เร่ กระทบ กลมุ่ ท้าร้าย ปัญหา รับผิดชอบ ๑๔,๘๔๙ ๖๙.๕๙ ให้ขาย ใน ทิง พนิ จิ ร่อน จาก นอ้ ย ทารุณ เกี่ยวกบั ตนเอง ๆ ๑๖,๔๙๖ ๗๑.๔๖ ๑๕,๑๙๒ ๖๗.๘๕ แรงงาน ธรุ กจิ และ เอดส์ ยาเสพ และ ๑๖,๐๑๖ ๓๖.๔๗ ๖๒,๕๕๓ ๕๖.๔๙ ทาง คมุ้ ครอง ตดิ ครอบครัว เพศ เยาวชน ๑ สพป.นว. ๒๑,๓๓๙ ๐ ๐ ๒ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑ ๑๔,๘๔๒ ๑ ๓ ๐ ๐ เขต ๑ ๒ สพป.นว. ๒๓,๐๘๔ ๐ ๐ ๑๔ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑๑ ๑๖,๔๐๒ ๒ ๖๖ ๑ ๐ เขต ๒ ๓ สพป.นว. ๒๒๓๙๑ ๐ ๐ ๓ ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ ๑๕๐๓๙ ๐ ๗๓ ๗๗ ๐ เขต ๓ ๔ สพม. ๔๓,๙๑๘ ๐ ๐ ๕ ๐ ๐ ๑ ๒ ๔ ๑๕,๙๒๐ ๒ ๕๙ ๒๓ ๐ ๔๒ รวม ๑๑๐,๗๓๒ ๐ ๐ ๒๔ ๐ ๐ ๑ ๒ ๑๖ ๖๒,๒๐๓ ๕ ๒๐๑ ๑๐๑ ๐ ทัง้ หมด ท่ีมา : สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ จังหวัดนครสวรรค์ , สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓
๒๖ จ้านวนนักเรียนออกกลางคนั ปีการศึกษา ๒๕๕๗ – ๒๕๕๙ ท่ี สพป./สพม. จ้านวนนกั เรียนออกกลางคัน ปกี ารศึกษา ๑. สพป.นครสวรรค์ เขต ๑ พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๒. สพป.นครสวรรค์ เขต ๒ ๓. สพป.นครสวรรค์ เขต ๓ ๑- - ๔ สพม.๔๒ ๑๓ ๑๑ ๑๑ รวม ๓๒ ๘ ๓๒ ๒๔๔ ๕๗ ๑๐๒ ๒๙๐ ๗๖ ๑๔๕ ทีม่ า : สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ จงั หวัดนครสวรรค์ , สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓ การเปรยี บเทยี บคะแนนเฉลีย่ O-NET จงั หวัดนครสวรรค์ ชัน ป.๖ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ (รวม ๕ กลมุ่ สาระการเรียนร้)ู สพป./สพม. ปีการศึกษา ปีการศึกษา การ สรปุ ผล ระดับ ระดับ ระดับประเทศ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ พฒั นา การพฒั นา จงั หวัด สังกดั (๕๘) สพป.นครสวรรค์ (+/-) (๕๘) (๕๘) เขต ๑ ลดลง ๔๓.๑๙ สพป.นครสวรรค์ ๔๕.๔๕ ๔๔.๙๖ -๐.๔๘ ๔๑.๙๗ ๔๑.๔๒ เขต ๒ สพป.นครสวรรค์ ๔๑.๘๒ ๔๐.๔๔ -๑.๓๘ ลดลง เขต ๓ ๔๑.๕๑ ๔๐.๔๙ -๑.๐๒ ลดลง ทมี่ า : สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ จงั หวัดนครสวรรค์ : สานักทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาติ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ , สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓
๒๗ การเปรียบเทยี บคะแนนเฉลย่ี O-NET จงั หวดั นครสวรรค์ ชัน ม.๓ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ (รวม ๕ กลุม่ สาระการเรียนร้)ู สพป./สพม. ปกี ารศกึ ษา ปีการศึกษา การพฒั นา สรปุ ผล ระดบั ระดับสงั กดั ระดบั ประเทศ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ (+/-) การพฒั นา จังหวดั (๕๘) (๕๘) สพป.นครสวรรค์ (๕๘) เขต ๑ ๓๖.๑๙ ๓๗.๔๑ ๑.๒๒ เพม่ิ ขึ้น ๓๘.๔๔ ๓๘.๒๙ สพป.นครสวรรค์ ๓๘.๓๒ เขต ๒ สพป.นครสวรรค์ ๓๔.๒๒ ๓๔.๒๙ ๐.๐๗ เพม่ิ ขึ้น เขต ๓ สพม.๔๒ ๓๓.๔๒ ๓๓.๕๗ +๐.๑๕ เพม่ิ ขึน้ ๓๗.๐๑ ๓๙.๑๓ +๒.๑๑ เพ่ิมขึ้น ท่ีมา : สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ จงั หวัดนครสวรรค์ : สานักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ปกี ารศึกษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ , สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓ การเปรียบเทยี บคะแนนเฉลีย่ O-NET จงั หวดั นครสวรรค์ ชัน ม.๖ ปีการศกึ ษา ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๘ (รวม ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู)้ ปี ปี การ สรุปผล ระดับ ระดับ ระดบั ประเทศ การศึกษา การศึกษา พฒั นา การ สพม. ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ (+/-) พฒั นา จงั หวดั สงั กดั (๕๘) (๕๘) สพม.๔๒ ๓๔.๔๖ ๓๓.๙๔ -๐.๕๒ ลดลง (๕๘) -- - ทม่ี า : สานกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต ๔๒ จังหวดั นครสวรรค์ : สานกั ทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙
๒๘ ขอ้ มูลสรุปการประเมินความสามารถดา้ นการอ่าน การเขียน ระดับประถมศึกษา ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๙ สพป. นครสวรรค์ เขต ๑ – ๓ ความสามารถด้านการอา่ น ความสามารถดา้ นการเขียน ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ ที่ สพป.สพม. จ้านวน ผ่าน ปรับปรุง อา่ นไม่ ผ่าน ปรบั ปรงุ อ่านไม่ นกั เรยี น เกณฑ์ / ออก เกณฑ์ / ออก ปรับปรุง ปรับปรงุ เรง่ ดว่ น เรง่ ด่วน ๑ สพป.นว. จานวน(คน) ๑๓,๑๖๘ ๑๒,๘๐๓ ๑๙๔ ๑๗๑ ๑๒,๑๘๘ ๗๐๓ ๒๗๗ เขต ๑ ร้อยละ ๙๗.๒๓ ๑.๔๗ ๑.๓๐ ๙๒.๕๖ ๕.๓๔ ๒.๑๐ ๒ สพป.นว. จานวน(คน) ๑๒,๕๔๖ ๑๑,๖๗๗ ๖๓๓ ๑๘๙ ๑๐,๗๙๔ ๑,๔๒๑ ๒๘๔ เขต ๒ รอ้ ยละ ๘๖.๖๓ ๕.๐๕ ๑.๕๑ ๘๖.๐๔ ๑๑.๓๓ ๒.๒๖ ๓ สพป.นว. จานวน(คน) ๑๔,๐๑๐ ๑๓,๒๕๕ ๕๘๑ ๑๗๔ ๑๒,๑๐๗ ๑,๔๓๒ ๔๗๑ เขต ๓* รอ้ ยละ ๙๔.๖๑ ๔.๑๕ ๑.๒๔ ๘๖.๔๒ ๑๐.๒๒ ๓.๓๖ รวม จ้านวน(คน) ๓๙,๗๒๔ ๓๗,๗๓๕ ๑,๔๐๘ ๕๓๔ ๓๕,๐๘๙ ๓,๕๕๖ ๑,๐๓๒ ร้อยละ ๙๕.๐๐ ๓.๕๔ ๑.๓๔ ๘๘.๓๓ ๙.๐๐ ๒.๖๐ ที่มา : สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษาเขต ๔๒ จงั หวดั นครสวรรค์ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๒ ๓ ข้อมูล สพป. นว. เขต ๓ เป็นของปีการศึกษา ๒๕๕๘
๒๙ ๑๕) ด้านการสาธารณสุข สถานบรกิ ารสาธารณสุขภาครฐั โรงพยาบาลภาครัฐ จ้าแนกระดบั สถานบริการ สังกัดสา้ นักงานสาธารณสุขจงั หวัดนครสวรรค์ จ้านวนโรงพยาบาล รพศ. รพช. (จ้าแนกตามขนาดเตยี ง) จา้ นวน รพ.สต. ๑๒๐ เตยี ง ๙๐ เตยี ง ๖๐ เตียง ๓๐ เตยี ง ๑๐ เตยี ง ๑/๖๕๙ เตยี ง ๑ ๒ ๔ ๕ ๑ ๑๘๙ ทม่ี า : กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวัดนครสวรรค์ ปี ๒๕๖๐ หนว่ ยงาน/สถานบริการสาธารณสุขภาครัฐ นอกสงั กัดสา้ นกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ จงั หวัด ชื่อหน่วยงาน/สถานบริการสาธารณสขุ นอกสงั กัด สป., นอกกระทรวง สธ. นครสวรรค์ ศูนย์วชิ าการสงั กัดกระทรวงสาธารณสขุ รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ๑.สานักงานป้องกันควบคมุ โรคท่ี ๘ ๑.รพ.สง่ เสริมสุขภาพ (แมแ่ ละเดก็ ) ๒.ศูนย์อนามยั ที่ ๘ ๒.รพ.จิตเวชนครสวรรคร์ าชนครินทร์ ๓.ศนู ย์สุขภาพจิตท่ี ๘ รพ.สงั กดั กระทรวงกลาโหม ๔.สานักงานสนับสนุนบรกิ ารสุขภาพท่ี ๓ ๑.รพ.คา่ ยจริ ประวตั ิ (กรมแพทยแ์ ละ ๕.ศูนยว์ ิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ ี่ ๓ ทหารบก) ๖.วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สปร.ฯ ๒.รพ.กองบนิ ๔ (กองพลบนิ ท่ี ๓ กองบัญชาการยุทธท์ างอากาศ) ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาล ๔ แหง่ ทม่ี า : กลุม่ งานพฒั นายุทธศาสตรส์ าธารณสุข สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวัดนครสวรรค์ ปี ๒๕๖๐ สถานบรกิ ารสาธารณสุขของเอกชน ขอ้ มูลสถานบริการสาธารณสขุ และรา้ นขายยาสังกดั ภาคเอกชน จงั หวดั นครสวรรค์ รพ. คลินิก คลนิ ิก สถาน รา้ น รา้ นขาย ร้านขาย สถานที่ แพทย์ ทันตกรรม พยาบาล ขายยา ยาบรรจุ ยาแผน ผลิตยา ปัจจุบนั เสรจ็ โบราณ แผนโบราณ ๗ ๑๓๔ ๗๘ ๑๒๒ ๑๖๙ ๙๗ ๗๐ ๑๖ ที่มา : กลุ่มงานคุ้มครองผ้บู รโิ ภค สานกั งานสาธารณสุขจังหวดั นครสวรรค์ ปี ๒๕๖๐ อัตรากา้ ลังบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
๓๐ อัตราส่วนแพทย์ต่อประชากร ๑: ๓,๕๓๘ อัตราส่วนพยาบาลต่อประชากร ๑ : ๗๔๙ คลินิกแพทย์ จานวน ๑๓๔ แห่ง คลินิกทันตกรรม ๗๘ แห่ง สถานพยาบาล ๑๒๒ แห่ง ร้านขายยา แผนปัจจุบัน ๑๖๙ แห่ง และร้านขายยาแผนโบราณ ๗๐ แห่ง จ้านวนสถานบริการสาธารณสุขของรัฐและเอกชน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ รายการ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ แพทย์ ๒๔๑ ๒๙๘ ๓๐๓ ทันตแพทย์ ๕๘ ๘๖ ๘๖ เภสัชกร ๑๑๘ ๑๔๔ ๑๔๖ พยาบาลวิชาชีพและพยาบาลเทคนิค ๑,๔๗๕ ๑,๕๙๖/๒๐ ๑,๔๓๒/๒๐ ผู้ช่วยพยาบาล ๑๑๘ ๑๑๘ ๑๑๘ โรงพยาบาล ๒๒ ๒๕ ๒๕ ภาครัฐ ๑๕ ๑๘ ๑๘ เอกชน ๗ ๗ ๖ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล (รพ.สต.) ๑๘๙ ๑๘๙ ๑๘๙ จานวนเตียง ๑,๙๗๑ ๒,๐๔๔ ๒,๐๔๔ ศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง (ศสม) ๕ ๕๕ คลินิกแพทย์และทันตแพทย์ ๒๑๒ ๒๑๒ ๒๑๒ จา้ นวนบุคลากรทางการแพทย์ต่อประชากร ปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ พ.ศ. ๒๕๖๐ จ้านวน อัตราส่วน บุคลากร จา้ นวน อัตราส่วน : จา้ นวน อัตราส่วน : ประชากร ประชากร : ประชากร แพทย์ ๒๙๘ ๑ : ๓๕๒๐ ทันตแพทย์ ๒๔๑ ๑ : ๔,๔๔๖ ๒๙๘ ๑ : ๓๕๙๖ ๘๖ ๑ : ๑๒๔๕๙ เภสัชกร ๑๔๔ ๑ : ๗๓๐๔ พยาบาลวิชาชีพ ๕๘ ๑ : ๑๘,๔๗๕ ๘๖ ๑ : ๑๒๔๕๙ ๑,๖๑๖ ๑ : ๗๔๕ ๑๑๘ ๑ : ๙,๐๘๑ ๑๔๔ ๑ : ๗๔๔๑ ๑,๔๗๕ ๑ : ๘๓๗ ๑,๖๑๖ ๑ : ๖๗๑ ท่ีมา : สานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ ข้อมูล ณ วันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ สาเหตกุ ารตายที่สา้ คญั สาเหตุการตายท่ีสาคัญของประชากรจังหวัดนครสวรรค์ ๓ ลาดับแรก ได้แก่ มะเร็งทุกชนิด โรคติดเชื้อและปรสิต หลอดเลือดสมอง พบว่า ส่วนใหญ่เพศชายเสียชีวิตด้วยโรคต่างๆ มากกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะอุบัติเหตุจากการขนส่งเพศชายเสียชีวิตมากว่าเพศหญิงถึง ๔ เท่า เพศหญิงเสียชีวิตมากกว่าเพศชาย ด้วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน การตาย จ้าแนกตามสาเหตุที่สา้ คญั และเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๕๙ สาเหตุตาย จ้านวนการตาย
๓๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ รวม ชาย หญงิ รวม ชาย หญิง รวมยอด ๔,๑๒๕ ๒,๓๑๙ ๑,๘๐๖ ๔,๖๑๖ ๒,๕๙๖ ๒,๐๒๐ มะเร็งทุกชนดิ ๑,๔๓๐ ๘๑๗ ๖๑๓ ๑,๒๗๔ ๗๔๐ ๕๓๔ อุบัติเหตจุ ากการขนสง่ ๒๗๓ ๒๑๐ ๖๓ ๒๓๐ ๑๘๕ ๔๕ โรคหวั ใจขาดเลอื ด ๑๖๔ ๙๐ ๗๔ ๓๘๒ ๒๑๔ ๑๖๘ ความดันโลหติ สงู ๑๙๐ ๘๘ ๑๐๒ ๑๖๔ ๖๔ ๑๐๐ ปอดอักเสบและโรคอ่ืนๆ ของปอด ๒๔ ๑๒ ๑๒ ๗๓๘ ๔๑๙ ๓๑๙ โรคตดิ เชอ้ื และปรสติ ๗๗๗ ๔๔๑ ๓๓๖ ๗๕๐ ๓๘๖ ๓๖๔ หลอดเลือดสมอง ๗๕๘ ๓๘๘ ๓๗๐ ๗๔๐ ๔๑๓ ๓๒๗ เบาหวาน ๔๑ ๑๕ ๒๖ ๑๗๐ ๖๘ ๑๐๒ วัณโรคทุกชนดิ ๑๓๖ ๙๔ ๔๒ ๑๐๗ ๗๓ ๓๔ โรคภมู คิ ุ้มกนั บกพร่องเนื่องจากไวรสั ๑๐๓ ๖๓ ๔๐ ๖๑ ๓๔ ๒๗ ที่มา: รายงานการตายรายจังหวดั กองยุทธศาสตรแ์ ละแผน กระทรวงสาธารณสุข ๒๕๖๐ ๑๖) ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ๑) ทรัพยากรดิน พนื้ ท่ีส่วนใหญ่ของจงั หวัดนครสวรรคเ์ ปน็ แอ่งตรงกลาง ยกตัวสงู ขน้ึ ไปทางทศิ ตะวนั ตกและ ทิศตะวันออก ดินท่เี กิดข้นึ จากวัตถุตน้ กาเนิดในลกั ษณะหรือสภาพพ้นื ทป่ี ระเภทตา่ ง ๆ กนั ซึง่ แบ่งออกได้เป็น ๘ ประเภท คอื ที่ราบน้าท่วมถึง (Flood Plain) เป็นพื้นท่ีส่วนใหญ่ทางตอนกลางของพื้นที่จังหวัด นครสวรรค์ เป็นผลจากการไหลของน้าตะกอนท่ีมีเน้ือหยาบจะอยู่ใกล้ลาน้าทาให้เกิดสันริมน้าตะกอน เนื้อละเอียดถูกพัดพาไปในที่ลุ่ม (River Basin) ความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลาง ส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ ในการทานา และปลกู ไม้ผลต่าง ๆ ในบรเิ วณสันรมิ นา้
๓๒ ลานตะพกั ล้าน้ากลางเก่ากลางใหม่ (Semi Recent Terrace) เป็นบรเิ วณทม่ี ีอายมุ ากกว่า อยู่สูงกว่าและไกลจากแม่น้ามากกว่าบริเวณท่ีราบน้าท่วมถึง น้าจากแม่น้าท่วมไม่ถึง พบเป็นบริเวณกว้าง ทางตอนเหนือของอาเภอบรรพตพิสัย อาเภอท่าตะโก ทางทิศตะวันออกของอาเภอหนองบัว และบริเวณ ตอนกลางของอาเภอลาดยาว ดินบริเวณน้ีจึงมีวัตถุต้นกาเนิดมาจากตะกอนที่มีเน้ือละเอียดหรือปานกลาง พน้ื ที่บรเิ วณนี้ใช้ประโยชน์ในการทานาในที่ลุ่มและปลูกพชื ไร่บนท่ีดอน ลานตะพักล้าน้าระดับต้่า (Low Terrace) เป็นบริเวณที่มีอายุมากกว่าที่ราบน้าท่วมถึง และลานตะพักลาน้ากลางเก่ากลางใหม่ ปัจจุบันใช้ประโยชน์ในการทานา ซึ่งบางบริเวณเปลี่ยนสภาพมาจาก ป่าแดง และบางสว่ นท่ยี งั คงเป็นสภาพปา่ แดงทเี่ สือ่ มโทรมอยู่ พบในเขตอาเภอหนองบัว อาเภอไพศาลี ลานตะพักน้าระดับสูง (High Terrace) เป็นบริเวณท่ีเกิดจากการทับถมของตะกอนจาก ลาน้าเก่าท่มี อี ายมุ ากที่สุด สว่ นใหญ่อยใู่ นเขตอาเภอหนองบวั และอาเภอไพศาลี การระบายน้าอยู่ในระดบั ดถี งึ ดี มาก ความอุดมสมบรู ณ์ต่า ในปัจจุบันถกู ใชป้ ระโยชน์ในการปลูกพชื ไร่ เปน็ ปา่ เส่อื มโทรมและท่ีรกร้างวา่ งเปลา่ เนินตะกอนรูปพัดติดต่อกัน (Coalescing Fans) เกิดจากน้าของลาห้วยและลาธารต่าง ๆ ที่พัดพาเอาตะกอนมาทับถมในบริเวณปากทางของหุบเขาต่าง ๆ พบเป็นบริเวณกว้างทางด้านทิศตะวันตกของ อาเภอลาดยาวซ่ึงมีเทือกเขาสูงและมีลาห้วยมาก ลักษณะของดินส่วนใหญ่เน้ือดินเป็นดินร่วนเหนียวปนทราย ดินร่วนเหนียวปนกรวด มีการระบายน้าดี ความอุดสมบูรณ์ ค่อนข้างต่า ปัจจุบันถูกใช้ประโยชน์ในการปลูก พชื ไร่ และบางสว่ นเป็นป่า ลานตะพักปูนมาร์ล (Mid Terrace) พบเป็นบริเวณกว้างอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ จังหวัดนครสวรรค์ บริเวณเขตอาเภอตาคลี อาเภอตากฟ้า ลักษณะดินมีเน้ือดินเป็นดินเหนียว ดินร่วนเหนียว ดินร่วน ดินเหนียวปนกรวดหิน การระบายน้าดี ความอุดมสมบูรณ์สูงปัจจุบันใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชไร่ พืนท่ีผิวที่เหลือค้างจากการกัดกร่อน (Dissected Erosion Surface) บริเวณน้ีมีการปรับ พ้ืนท่ีให้ราบเรียบลง โดยการชะล้างพังทลายของหินพื้นฐานต่าง ๆ ลักษณะของดินมีเนื้อดินเป็นดินเหนียวดิน ร่วมเหนียว ดินร่วนดินเหนียวปนกรวดหิน การระบายน้าดี ความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลางถึงสูง ปัจจุบัน ถกู ใชป้ ระโยชน์ในการปลกู พืชไร่ ดินภูเขา (Mountain) เป็นบริเวณท่ีมีความลาดชันมากกว่าร้อยละ ๓๕ พบมากทางด้าน ทศิ ตะวนั ตกของจงั หวัดเขตติดต่อกับจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดตากทางดา้ นตะวันออก ซึ่งสว่ นใหญ่ดินบริเวณ นี้เนื้อดินมีลักษณะเป็นดินร่วนดินเหนียวและดินเหนียว ท่ีมีการระบายน้าได้ดีในปัจจุบันมีบางส่วนยังคงมี สภาพเปน็ ปา่ ไม้ ซึ่งมีลกั ษณะหินโผลอ่ ยู่โดยทว่ั ไปและบางส่วนถกู บกุ รุกทาลายใชเ้ พาะปลูกพืชไร่ ๒) ทรัพยากรธรณแี ละแร่ธาตุ แร่ธาตุ จากสภาพธรณีวิทยาท่ีพบบริเวณที่มีหินมีอายุเก่าแก่มากของจังหวัดนครสวรรค์ อยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัด และทางตอนกลางและทิศตะวันออก แร่ธาตุต่างๆ ท่ีมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สว่ นใหญ่จงึ พบในบริเวณที่มีหนิ มีอายเุ กา่ แกด่ งั กล่าว โดยมีแหล่งแรเ่ ศรษฐกิจที่พบในจงั หวดั นครสวรรค์ ดังน้ี แร่ยิปซัม (Gypsjm) พบที่อาเภอหนองบัว ซ่ึงส่วนใหญ่นาไปใช้เพื่อการผลิตปูนซีเมนต์ (Portand Cement) แผน่ ยปิ ซัมอดั (Gypsum Board) เปน็ ต้น แรเ่ หล็ก (Iron) พบท่ตี าบลหวั หวาย อาเภอตาคลี และเขาบอ่ เหลก็ เขาบอ่ แกว้ อาเภอพยุหะคีรี
๓๓ หนิ อ่อน (Marble) พบท่อี าเภอบรรพตพิสัย ส่วนใหญน่ าไปใชป้ ระดับทอี่ ยู่อาศัยและอาคาร สานักงาน หินแกรนิต (Granite) พบท่ีอาเภอบรรพตพิสัย ส่วนใหญ่นาไปใช้ประดับท่ีอยู่อาศัยและ อาคารสานักงาน ดินมาร์ล (marl) หรือดินสอพอง พบท่อี าเภอตาคลี หินปูน (Limestone) กระจายอยู่ท่ัวไปในจังหวดั จังหวดั นครสวรรค์เป็นแหลง่ ผลิตหินปูน แหล่งเดียวของภาคเหนอื ส่วนใหญน่ าไปใช้ในอตุ สาหกรรมปูนซีเมนต์ และอตุ สาหกรรมอ่นื ๆ เชน่ อุตสาหกรรม นา้ ตาล อตุ สาหกรรมแคลเซยี มคารไ์ บด์ อตุ สาหกรรมเครื่องหนงั และอตุ สาหกรรมปนู ขาว ทราย (Sand) พบทว่ั ไปตามบรเิ วณลุ่มแมน่ า้ ปิง ๓) ทรัพยากรนา้ ทรพั ยากรน้าตามธรรมชาติของจังหวัดนครสวรรค์ไดม้ าจากแหลง่ ทส่ี าคญั ๒ แหล่ง ไดแ้ ก่ แหล่งนา้ ผวิ ดิน และแหล่งน้าใตด้ ิน ดงั น้ี แหลง่ นา้ ผวิ ดิน แหล่งน้าผิวดิน ได้แก่ น้าในแม่น้าและลาห้วยลาคลองสายต่าง ๆ ซ่ึงมีต้นกาเนิดจากภูเขา ทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของจังหวัด มีต้นกาเนิดจากท่ีอ่ืนแล้วไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ แม่น้า สายใหญ่ท่ีมีประโยชน์และมีความสาคัญต่อความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประชากร ได้แก่ แม่น้าเจ้าพระยา แม่น้าปิง และแม่น้าน่าน นอกน้ันเป็นลาน้าสายเล็ก ซ่ึงส่วนใหญ่จะไหลลงสู่แม่น้าดังกล่าวเกือบท้ังสิ้น ดังนั้น แหลง่ นา้ ผวิ ดนิ ในจงั หวดั นครสวรรคท์ ่สี าคญั ๆ จึงได้แก่ ๑. แมน่ า้ เจา้ พระยา เกดิ จากการไหลมารวมกันของแม่นา้ ปงิ และแม่นา้ น่านทบี่ รเิ วณ ปากน้าโพ ในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ แล้วไหลลงทางทศิ ใต้ส่ภู าคกลางตอนใต้และออกสู่ทะเลท่ีอา่ วไทย เป็นแม่นา้ สายสาคญั ท่ีมปี ระโยชนท์ ั้งทางดา้ นการเกษตร การคมนาคม การอตุ สาหกรรม การอุปโภคบรโิ ภค ของบรเิ วณริมสองฝงั่ แม่น้ามาเปน็ เวลาช้านานแล้ว และยงั เป็นแหลง่ ประมงน้าจดื ที่สาคญั อกี ด้วย ๒. แม่น้าปิง เป็นแม่น้าสายใหญ่ที่มีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขาภาคเหนือ ไหลผ่านท้องท่ี อาเภอบรรพตพิสัย อาเภอเก้าเลี้ยว มาบรรจบกับแม่น้าน่านเป็นแม่น้าเจ้าพระยา บริเวณตาบลปากน้าโพ เป็นแหล่งนา้ ธรรมชาติที่สาคัญอีกสายหน่ึง ท้ังในด้านการเกษตรอุตสาหกรรม การอุปโภคบริโภคของประชากร บริเวณสองฝ่ังแม่นา้ ๓. แม่น้าน่าน เป็นลาน้าสายใหญ่ มีต้นกาเนิดมาจากเทือกเขาผีปันน้า จังหวัดน่าน ไหลผ่าน จังหวดั สาคญั คือ พิษณุโลก พิจิตร และผ่านทองที่อาเภอชุมแสง เข้าอาเภอเมอื งนครสวรรค์ ก่อนมาบรรจบกับ แมน่ ้าปงิ ทีต่ าบลปากน้าโพ เปน็ แหลง่ น้าทใ่ี ชป้ ระโยชนท์ ง้ั ดา้ นการเกษตร การคมนาคม การอุปโภคบริโภค ๔. แม่น้ายม ต้นกาเนิดจากเทือกเขาในจังหวัดแพร่ ไหลผ่านจังหวัดสุโขทัยและจังหวัด กาแพงเพชร ในภาคเหนือลงมาจนบรรจบกับแม่น้าน่าน ท่ีตาบลเกยไชย อาเภอชุมแสง สามารถใช้ประโยชน์ ในด้านการเกษตรและการอปุ โภคบริโภคของประชากรบรเิ วณสองฝั่งแมน่ า้ ได้เป็นอย่างดี ๕. ล้าแม่น้าวงก์ ต้นกาเนิดจากเทือกเขาสูงจังหวัดตาก ไหลผ่านทางอาเภอลาดยาว ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดนครสวรรค์ เป็นแม่น้าวังม้าไหลลงสู่แม่น้าสะแกกรังที่จังหวัดอุทัยธานี สามารถใหป้ ระโยชน์ด้านเพาะปลูกไดด้ ีและอาจมีปริมาตรน้าเกิดความต้องการในฤดฝู น ซ่งึ ทาใหเ้ กิดนา้ ทว่ มได้
๓๔ ๖. คลองโพธิ์ มีต้นกาเนิดจากเทือเขาสูงในท้องท่ีอาเภอแม่เปิน ทางด้านทิศตะวันตกของ จังหวัดนครสวรรค์ และไหลเลียบเขตจังหวัดมารวมกับลาน้าแม่น้าวงก์ในอาเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เปน็ ลาน้าที่มีนา้ ไหลผา่ นตลอดทัง้ ปี สามารถใช้ประโยชน์ในดา้ นการเพาะปลกู และ การอุปโภคบริโภค ๗. คลองบางไผ่-บางประมุง แยกจากแม่น้าปิงท่ีอาเภอบรรพตพิสัย ผ่านตาบลท่าซุด ไหลออกแมน่ ้าเจ้าพระยาท่ีตาบลบางมะฝ่อ อาเภอโกรกพระ ๘. บึงบอระเพ็ด เป็นบึงท่ีมีขนาดใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย มีอาณาเขตครอบคลุม ๓ อาเภอ ของจังหวัดนครสวรรค์ คือ อาเภอเมืองนครสวรรค์ อาเภอชุมแสง และอาเภอ ท่าตะโก มีเน้ือที่ประมาณ ๑๓๒,๗๓๗ ไร่ ๕๖ ตารางวา แหล่งน้าใตด้ นิ แหล่งน้าใต้ดินของจังหวัดนครสวรรค์ ประกอบด้วยชั้นดินเหนียวสลับดินทรายจากแม่น้า ปิง แม่น้าน่านในลุ่มแม่น้าแคบๆ ขนานไปกับสายลาน้ากว้างไม่เกิน ๓๐ กิโลเมตร แบ่งออกได้เป็น ๒ ส่วน คือ ๑. อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้าเจ้าพระยา ซึ่งพบช้ันของน้า น้าช้ันแรกอยู่ลึกประมาณ ๒๐ เมตร จากผิวดินช้ันสอง ๓๐ - ๔๐ เมตร จากผิวดินชั้นสาม ๖๐ - ๗๐ เมตร และอาจพบอยู่ลึกถึง ๑๒๐ เมตร จากผิวดิน ชั้น หิ นท่ี รองรับ ข้างใต้เป็ นหิ น พ วก Andesile , Limestone , Phylite, Rhyolite ๒. อยู่ใต้บึงบอระเพ็ดบริเวณต้ังแต่ตาบลปากน้าโพ ในเขตอาเภอเมืองนครสวรรค์ลงมา พบช้ันน้าช้ันแรกอยู่ลึกประมาณ ๑๕ เมตร จากผิวดิน ชั้นที่สองประมาณ ๓๓ เมตร จากผิวดิน หินที่รองรับ ข้างใต้ ไดแ้ ก่ หินแปร หนิ ชนวน (Slate) และพบความเค็มของนา้ ในพืน้ ที่อาเภอชมุ แสง แหล่งน้าบาดาลในภาคเหนือเป็นแหล่งน้าบาดาลท่ีเป็นหินร่วนโดยเฉพาะท่ีดินแถบบริเวณ ท่ีราบลุ่มแม่น้ายมและแม่น้าน่าน (อุตรดิตถ์-นครสวรรค์ ตามลักษณะของธรณีวิทยาจัดอยู่ในแหล่งเจ้าพระยา ตอนบน สภาพแหล่งน้าบาดาลที่เป็นหินร่วนบริเวณดังกล่าวให้น้ามาก) คุณภาพน้าส่วนใหญ่เป็นน้าจืด แตบ่ รเิ วณน้มี ีปริมาณของสารละลายเหล็กอย่สู งู ถา้ จะนาไปใช้บรโิ ภคจาต้องมีวิธีขจัดเหล็กออกเสยี ก่อน ๔) ทรัพยากรป่าไม้ จงั หวดั นครสวรรค์ มีพน้ื ทป่ี ่าไมป้ ระมาณ ๕๑๖,๓๓๗.๕๐ ไร่ หรือ ๘๒๖.๑๔ ตร.กม. ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีที่ได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ เป็น ป่าสงวนแห่งชาติ จานวน ๖ ป่า เน้ือท่ีรวมท้ังสิ้น ๑,๓๑๙,๒๙๓.๒๕ ไร่ โดยได้กาหนดเป็น ๑) อุทยานแห่งชาติ ๒๗๙,๗๐๐ ไร่ ๒) มอบพน้ื ท่ีให้ สปก. ๓๖๙,๔๐๒.๕๖ ไร่ ๓) พื้นทปี่ า่ สงวน ๖๒๖,๕๑๕.๖๙ ไร่ ไดแ้ ก่ ป่าเขาคอก ป่าเขาโลมนาง ป่าเขาสอยดาว เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามประกาศ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑,๐๑๓ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ อยู่ในท้องที่ตาบลวังน้าลัด ตาบลโคกเดื่อ ตาบลวังข่อย และ ตาบลตะคร้อ อาเภอไพศาลี จังหวดั นครสวรรค์ ครอบคลุมพนื้ ทปี่ ระมาณ ๑๐๕,๖๐๐ ไร่ ป่าเขาสนามชัย เป็นป่าสงวนตามประกาศกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๕๙ พ.ศ. ๒๕๐๖ ออกตามความในพระราชบญั ญัติคุ้มครองและสงวนปา่ พ.ศ. ๒๔๘๑ อยใู่ นทอ้ งท่ีตาบลเขากะลา อาเภอ พยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อที่ ๑๗.๓๗ ตารางกิโลเมตร โดยพบไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ไม้มะค่าโมง ฯลฯ ขึ้นอยู่ในพื้นทเี่ ป็นปริมาณมาก ป่าเขาสูง ป่าเขาลวก ป่าช้างฟุบ เป็นป่าสงวนตามประกาศกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๕ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ. ๒๔๘๑ อยู่ในท้องที่ตาบลธารทหาร ตาบลหนองบัว ตาบลหนองกลับ อาเภอหนองบัว และตาบลโคกเดื่อ ตาบลตะคร้อ อาเภอไพศาลี จังหวัด นครสวรรค์ เน้ือท่ีประมาณ ๑๖๑๖ ตารางกิโลเมตร โดยพบไม้แดง ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้เหียง ไม้ชิงชัง ซ่ึงเป็นไม้ มีค่าขึน้ อยู่ในพื้นท่ีเป็นปรมิ าณมาก
๓๕ ป่าเขาสูงและป่าเขาพระ เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามประกาศกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑,๒๓๙ เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๘ อยู่ในท้องท่ีตาบลทุ่งทอง ตาบลหนองกลับ ตาบลหนองบัว ตาบลวังบ่อ ตาบลธารทหาร อาเภอ หนองบวั ตาบลวงั นา้ ลัด อาเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ เน้ือท่ีประมาณ ๖๕,๘๐๐ ไร่ ป่าเขาหลวง เป็นป่าสงวนแห่งชาติตาม ประกาศกฎ กระทรวง ฉบับที่ ๗๐๓ เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ อยู่ในท้องที่ตาบลวังม้า อาเภอลาดยาว ตาบลหนองกรด อาเภอเมอื งนครสวรรค์ และตาบลบางประมงุ ตาบลนากลาง ตาบลศาลาแดง ตาบลเนนิ ศาลา อาเภอโกรกพระ จงั หวดั นครสวรรค์ เนอ้ื ที่ประมาณ ๕๕,๓๑๒ ไร่ พบไม้เตง็ ไมร้ งั ไมป้ ระดู่ ไม้แดง ไม้ชิงชงั และไม้ชนิดอืน่ ทม่ี คี ่าจานวนมาก ป่าดงยางห้วยพลบั เป็นป่าสงวนตามประกาศกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๙ พ.ศ. ๒๕๐๑ ออกตามความในพระราชบัญญตั ิคมุ้ ครองและสงวนป่า พ.ศ. ๒๔๘๑ อยู่ในท้องท่ีตาบลบา้ นแดน อาเภอ บรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เน้ือทีป่ ระมาณ ๑.๖ ตารางกโิ ลเมตร (๑,๐๐๐ ไร่) ปัจจุบนั ไดม้ อบพืน้ ทใี่ ห้กับ สปก. ท้ังหมด ป่าแมว่ งก์ – แมเ่ ปนิ เป็นป่าสงวนตามประกาศกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๑ ออกตามความในพระราชบัญญตั ิคุ้มครองและสงวนปา่ พ.ศ. ๒๔๘๑ อย่ใู นท้องท่ตี าบลห้วยน้าหอม อาเภอ ลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ๑,๗๒๙.๑๖ ตารางกโิ ลเมตร พบไม้สกั ยาง ตะเคยี น มะค่า และไมม้ คี ่าอ่นื ๆ สรปุ พืนทปี่ ่าในพืนท่จี งั หวัดนครสวรรค์ ลา้ ดบั ป่า เนือท่ตี าม พืนท่ีอุทยาน พนื ทที่ ี่มอบให้ พนื ท่ปี ่าสงวน กฎกระทรวง (ไร่) แห่งชาติฯ (ไร่) สปก. (ไร)่ คงเหลือ (ไร)่ ๑ ปา่ แม่วงก์ – แม่เปนิ ๑,๐๘๐,๗๒๕.๐๐ ๒๗๙,๗๐๐.๐๐ ๓๑๖,๓๐๐.๔๙ ๔๘๔,๗๒๔.๕๑ ๒ ปา่ เขาหลวง ๕๕,๓๑๒.๐๐ ๔๒,๔๓๐.๐๐ ๖,๓๔๓.๗๕ ๖,๕๓๘.๒๕ ๓ ปา่ เขาสนามชยั ๑๐,๘๕๖.๒๕ - ๗,๑๕๐.๕๐ ๓,๗๐๕.๗๕ ๔ ป่าเขาสูงและปา่ เขาพระ ๖๕,๘๐๐.๐๐ - ๒๖,๗๗๐.๐๐ ๓๙,๐๓๐.๐๐ ๕ ป่าเขาคอก ป่าเขาโลม ๑๐๕,๖๐๐.๐๐ ๑,๔๖๕.๐๐ ๑๑,๘๓๗.๘๒ ๙๒,๒๙๗.๑๘ นาง ป่าเขาสอยดาว ๖ ป่าดงยางหว้ ยพลบั ๑,๐๐๐.๐๐ - ๑,๐๐๐.๐๐ - รวม ๑,๓๑๙,๒๙๓.๒๕ ๓๒๓,๕๙๕.๐๐ ๓๖๙,๔๐๒.๕๖ ๖๒๖,๒๙๕.๖๙ จากการสารวจทรัพยากรป่าไม้โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม พบว่าข้อมูลล่าสุด ในปี ๒๕๕๖ จังหวัดนครสวรรค์มีเนื้อที่ป่าทั้งสิ้น ๘๘๑.๑๐ ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ ๙.๑๘ ของเน้ือท่ี จังหวัด ดังนี้ เนือที่ปา่ ไม้ของจังหวัดนครสวรรค์ ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ - ๒๕๕๖ ปี พ.ศ. พนื ที่ (ตร.กม.) % ของพนื ทจ่ี ังหวดั ๒๕๔๗ ๘๔๘.๒๕ ๘.๘๔ ๒๕๔๘ ๘๑๘.๑๓ ๘.๕๒ ๒๕๔๙ ๘๑๗.๘๕ ๘.๕๒ ๒๕๕๑ ๘๘๑.๑๐ ๙.๑๘ ๒๕๕๖ ๘๘๑.๑๐ ๙.๑๘
๓๖ ๒๕๕๗ ๘๘๑.๘๔ ๙.๒๖ ๒๕๕๘ ๘๘๖.๕๔ ๙.๓๑ ๒๕๕๙ ๘๙๓.๙๖ ๙.๓๘ ที่มา : http://www.forest.go.th/ , สารสนเทศกรมปา่ ไม้ ชนิดป่าไม้ของจังหวัดนครสวรรค์ เป็นป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous forest) ป่าดงดิบ (Evergreen forest) แ ล ะ ป่ า เต็ ง รั ง (Deciduous dipterocarp forest) พั น ธุ์ ไม้ มี ค่ า ท า ง เศ ร ษ ฐ กิ จ ท่สี าคัญ ได้แก่ ไม้สัก ท่ีมีอยู่ในป่าเบญจพรรณท้องท่ีอาเภอแม่วงกแ์ ละอาเภอแม่เปิน นอกจากนีย้ ังมีไมม้ ีค่าทาง เศรษฐกจิ ชนดิ อ่นื อกี เชน่ ไม้ยาง มะค่าโมง ตะเคยี นทอง แดง ประดู่ เสลา กระบาก เต็ง รัง เหียง หลวง ฯลฯ พืชพรรณไม้ พชื พรรณไม้ธรรมชาตใิ นท้องทีจ่ ังหวัดนครสวรรค์ประกอบด้วย สังคมพืชปา่ ทข่ี ึน้ อยู่ในปา่ ชนดิ ตา่ งๆ ดงั นี้ - ป่าดงดิบเขา พันธุ์ไม้ที่พบได้ส่วนมากเป็นต้นไม้วงศ์ไม้ก่อ ได้แก่ ก่อเคือบ ก่อล้ิน ก่อหนาม นอกจากน้ียังมีไม้ชนิดอ่ืนๆ ที่เป็นไม้เด่น เช่น กะเพราต้น จาปาป่า อบเชย เหมือดคน และดาดง เป็นตน้ และตามบริเวณลาตน้ และก่งิ ของต้นไมใ้ หญ่ตา่ งๆ เหล่านจ้ี ะมพี วกไลเคนและมอสขึน้ ปกคลุมอยู่ทวั่ ไป - ป่าดงดิบแล้ง พันธุ์ไม้ท่ีอยู่ในป่าชนิดนี้ที่เป็นไม้เรือนยอดเด่น ซ่ึงเป็นไม้ในวงศ์ยาง ได้แก่ ยางแดง ยางนา กระบาก พะยอม มะหาด กระบากลัก พลวง และลาดวน สังคมป่าดงดิบแล้งมีไม้ผล ให้รับประทานหลายชนิดและเป็นอาหารของสัตว์ในพื้นท่ี เช่น ลาไยป่า คอแลน และมะไฟป่า เป็นต้น - ป่าเบ ญ จพ รรณ พัน ธุ์ไม้ที่สาคัญ ที่พ บ ใน ป่าช นิดนี้ เป็น ไม้มีค่าท างเศรษ ฐกิจ หลายชนิด ได้แก่ ไม้สัก มะค่าโมง ประดู่ ชิงชัง แดง ซ้อ และเสลาและนอกจากนี้ ยังมีไม้พื้นล่างซึ่งเป็น ไผ่ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่ได้แก่ ไผ่ป่า ไผ่ไร่ ไผ่ซางนวล และไผ่รวก เป็นต้น - ป่าเต็งรัง พันธ์ุไม้มีค่าท่ีพบในป่าชนิดนี้ ได้แก่ เต็ง รัง ยางตราด พะยอม มะขามป้อม สมอไทย ไมพ้ น้ื ล่าง ไดแ้ ก่ ไผ่เพก็ ปรง เปน็ ต้น ความหลากหลายทางชีวภาพของพรรณไม้ จากการสารวจพรรณไมใ้ นจงั หวัดนครสวรรคพ์ บพรรณพืช ๑๕๘ ชนดิ เช่น กรวยป่า กระเจาะ กระเจยี ว กระโดน กระถิน กระถนิ พมิ าน กระทกรก กระทอ้ น กระทุม่ เนิน กระบก กระเบากลกั กุ๊ก เกด็ แดง กระพี้เขาควาย กระพี้จั่น กระเจียน กางขี้มอด กาสามปีก ขนุน ขว้าว ข่อย ข่อยหนาม ขันทองพยาบาท ขี้หนอน ข้หี นู ขี้เหล็ก ขอ้ี า้ ย ข้ีเหล็กเลอื ด คนทา คอแลน คามอกหลวง คารอก คาแสด แคขาว แคทราย แคหัวหมู แคหางค่าง ง้วิ ป่า จักหัน จามจุรี จิก แจง ช้าพลู ชิงช่ี ซ้อ แดง ตะโกนา ตะโกพนม ตะขบป่า ตะคร้อ เปน็ ตน้ ในจานวนนพ้ี บพรรณพืช ๑ ชนิด เป็นพชื ถูกคุกคาม ทจี่ ัดอย่ใู นสถานภาพมีแนวโนม้ ใกล้ สูญพันธุ์ ได้แก่ ปรงเหลย่ี ม และ ๑ ชนดิ เป็นพชื ถน่ิ เดียว ได้แก่ มะลวิ ัลยเ์ ถา พรรณไม้ท้องถิ่นของจังหวัดนครสวรรค์ ท่ีได้สารวจพบในคร้ังน้ีได้ถูกนาไปใช้ประโยชน์ ในหลายด้าน ทั้งการใช้เน้ือไม้เพ่ือการก่อสร้างท่ีอยู่อาศัย ประดิษฐ์เครื่องมืออุปกรณ์ซึ่งใช้ในชีวิตประจาวันของ คนในท้องถิ่น การใช้ประโยชน์พรรณพืชที่คุณสมบัติทางยารักษาโรค เป็นสมุนไพร บารุงสุขภาพและรักษา อาการเจ็บป่วย และพืชส่วนใหญ่สามารถรับประทานเป็นอาหารได้ เช่น ดอกสลิด นาไปต้มรับประทานกับ น้าพริก ใบอ่อนเม่าสร้อยใช้รับประทานเป็นผักสด เป็นต้น อีกท้ังการใช้ประโยชน์จากพรรณไม้หลายๆ ชนิด
๓๗ ก่อให้เกิดภูมิปัญญาของท้องถิ่นที่ส่ังสมมาช้านาน เกิดความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในการใช้ประโยชน์ ทรัพยากรน้นั ๆ อีกด้วย สตั ว์ปา่ สัตวป์ า่ ท่ีสารวจพบในจังหวดั นครสวรรค์ ได้แก่ สมเสร็จ และเลยี งผา ซึง่ เป็นสตั ว์ป่าสงวน นอกจากน้ี ยังมี สั ตว์ป่ าขนาดใหญ่ ที่ ใกล้จะสูญ พั น ธุ์อีกหลายชนิ ด เช่ น ช้างป่ า กระทิ ง วัวแดง เสือโคร่ง เสื อ ดาว หมี ลิง คา่ ง ชะนี รวมท้ังสตั วจ์ าพวกนก ได้แก่ นกเหยีย่ ว และนกอนิ ทรีบางชนิด เปน็ ตน้ ความหลากหลายทางชวี ภาพของสัตว์ป่า ความหลากชนิดและรายช่ือสัตวป์ ่าท่สี ารวจพบในจังหวัดนครสวรรค์ มดี งั ตอ่ ไปน้ี สัตว์เลียงลูกด้วยนม สารวจพบสัตว์เล้ียงลูกด้วยนม ท้ังหมด ๔ อันดับ ๔ วงศ์ ๗ ชนิด คือ กระต่ายปา่ กระรอกทอ้ งแดง กระรองปลายหางดา กระเล็นขนปลายหยู าว กระจอ้ น กระแตเหนอื และหมปู า่ นก สารวจพบนก ทง้ั หมด ๑๓ อันดบั ๓๑ วงศ์ ๑๑๒ ชนดิ เช่น นกคุ้มอกดา นกแก๊ก นกจาบคาเครานา้ เงนิ นกข้ีเถ้าใหญ่ และนกกินปลีคอสนี ้าตาล เป็นต้น สตั วเ์ ลอื ยคลาน สารวจพบสตั ว์เลื้อยคลาน ท้ังหมด ๑ อันดับ ๕ วงศ์ ๙ ชนิด คอื จ้ิงจกหางหนาม จิ้งจกหางแบน ตุ๊กแกบ้าน กิ้งก่าสวน ก้ิงก่าหัวแดง แย้เหนือ จิ้งเหลนหลากลาย จ้ิงเหลนบ้าน และงสู งิ บา้ น ความหลากหลายทางชีวภาพของปลา แหล่งน้าในจังหวัดนครสวรรค์ส่วนใหญ่เป็นแหล่งน้าที่มาจากสาขาของแม่น้าเจ้าพระยา ลกั ษณะทางกายภาพของแหล่งน้าจึงมคี วามแตกต่างกัน โดยพบว่าแหล่งนา้ สว่ นใหญ่เปน็ ดนิ ปนทรายหรือทราย ปนเลน มพี ชื ชายนา้ อยรู่ ิมฝง่ั และปลาสว่ นใหญ่จะนาไปบริโภคภายในครวั เรอื น ท้ังนาไปปรุงอาหาร และ แปรรูป เชน่ ปลาแห้ง ปลารา้ เปน็ ตน้ การสารวจปลาในพื้นท่ีจังหวัดนครสวรรค์พบปลาทั้งสิ้น ๑๕ วงศ์ ๓๙ สกุล ๕๔ ชนิด ได้แก่ ปลาซวิ เจา้ ฟ้า ปลาตะเพยี น ปลาไส้ต้นตาขาว ปลาตะโกก ปลาไสต้ น้ ปลาซวิ หนวดยาว ปลาเลยี หิน ปลากระสูบขีด ปลาสร้อยหลอด ปลาสร้อยขาว ปลาตะพาก ปลาซ่า ปลาขี้ยอก ปลาสร้อยนกเขา ปลาแปบ ปลาตะเพียนจดุ ปลาตะเพียนทราย ปลานางอ้าว ปลาซวิ หางแดง ปลาซิวควาย ปลาซิวควายแถบดา ปลาตะเพยี นนา้ ตก ปลาแก้มช้า ปลาจงิ้ จก ปลาผีเส้ือตดิ หนิ ปลาคอ้ ปลารากกล้วยแคระ ปลารากกลว้ ย ปลาอีด ปลาสายทอง ปลากดเหลือง ปลาแขยงข้างลาย ปลาแขยงหิน ปลาชะโอน ปลาเข็ม ปลากระทุงเหว ปลากินยุง ปลาหลดลาย ปลาหลดจุด ปลากระทิงลาย ปลาแป้น ปลาแป้นแก้ว ปลาหมอช้างเหยียบ ปลานิล ปลาบู่แคระ ปลาบู่ใส ปลากระด่ีหม้อ ปลามกริม ปลาก้างและปลาช่อน ปลาท่ีพบบ่อยในแหล่งน้าจังหวัด นครสวรรค์ คือ ปลากระดี่หมอ้ ปลาขี้ยอก ปลากรมิ ควาย ปลาเขม็ และปลาบู่แคระ ความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์พนื ทอ้ งน้า ลักษณะของพื้นท้องน้าในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นแหล่งน้าท่ีมีน้าไหลเอื่อย มีพ้ืนเป็นกรวด ทราย มีพืชชายนา้ กระจายอยทู่ ่ัวไปตามริมฝั่งลานา้ และสารอนิ ทรยี ์อยู่รมิ ฝงั่ การสารวจสัตว์พ้ืนท้องน้าในจังหวัดนครสวรรค์ พบสัตว์พื้นท้องน้าท้ังสิ้น ๔๓ ชนิด ซง่ึ ส่วน ใหญ่เป็นกลุ่มหอยและกลุ่มตัวอ่อนแมลงน้าที่เหลือเป็นกลุ่มกุ้ง-ปู เห็บปลา ได้แก่ ตัวอ่อนชีปะขาว ตัวอ่อน แมลงปอ มวนน้า มวนวน ด้วงดิ่ง ตัวอ่อนยุง ตัวอ่อนหนอนแดง ตัวอ่อนเหลือบ กุ้งฝอย ปู เห็บปลา หอยขม หอยเชอรี่ หอยก้นแหลม หอยเจดีย์น้าจืด หอยเจดีย์ หอย หอยคัน หอยกาบและหอยทราย โดยมีสัตว์พ้ืนท้อง
๓๘ น้าท่ีสามารถใช้เป็นดัชนีหรือตัวบ่งชี้สภาพสิง่ แวดล้อมในด้านการบ่งบอกถึงสภาพน้าวา่ แหลง่ นา้ ยงั มนี ้าคุณภาพ ดีมากเพียงกลุ่มเดียว คือ แมลงชีปะขาว สัตว์พื้นท้องน้าท่ีพบมากในแหล่งน้าจังหวัดนครสวรรค์ คือ กุ้งฝอย หอยขม ปู และหอยฝาเดียว ท้ังนี้เพราะสัตว์พ้ืนท้องน้าเหล่าน้ีสามารถปรับตัวให้เข้ากับถ่ินท่ีอยู่อาศัยได้ทั่วไป ท้ังแหล่งน้าไหลและนา้ นงิ่ ซง่ึ มกั พบสตั วพ์ นื้ ท้องนา้ เหลา่ นบี้ ริเวณรมิ ฝง่ั ความหลากหลายทางชีวภาพของพรรณไม้น้า ลักษณะริมฝ่ังน้าโดยทั่วไปของจังหวัดนครสวรรคเ์ ป็นทรายปนเลนหรือทรายปนเลนหรือทราย ปนกรวดพ้ืนที่มีความลาดชันไม่มากนัก มีบางแห่งที่เป็นดินโคลนและมีความลาดชันสูง ซ่ึงช่วยในการยึดเกาะ ของรากพรรณไม้น้า โดยมีตะกอนสารอินทรีย์จากน้าหลากและมีแสงสว่างส่องทั่วถึง พรรณไม้น้าในจังหวัด นครสวรรค์พบพรรณไม้น้าท้ังสิ้น ๒๑ วงศ์ ๓๔ ชนิด โดยเป็นพืชชายน้า ๓๒ ชนิด พืชลอยน้า ๑ ชนิด และพืช โผล่พ้นน้า ๑ ชนิด ได้แก่ ผักเป็ด บอน กระเม็ง แหนแดง ผักปอด กุ่มน้า ผักปราบใบกว้าง ผักปราบใบแคบ ผักบุ้ง กกตุ้มหู หญ้าใบคม กกขนาก กกทราย หญ้าตะกรับ กกเล็ก หญ้าแห้วหมู หญ้าหนวดปลาดุก หญ้า หนวดแมว ไคร้นา้ ดีปลาไหล ผักแวน่ ไมยราบยักษ์ บัวสาย เทียนนา แพงพวยน้า หญา้ รกั นา หญา้ ขน พง แขม ผักไผ่น้า หญ้าลิ้นงู หญ้าเงี่ยงป่า หญ้ากาบหอยและธูปฤาษี พรรณไม้น้าที่พบบ่อยในแหล่งน้าของจังหวัด นครสวรรค์ คือ ผักเป็ดเทียนนา ผักบุ้ง และผักไผ่น้า ท้ังน้ีเพราะพรรณไม้น้าเหล่านี้สามารถปรับตัวให้เข้ากับ สภาพแหล่งน้าทั้งแหล่งน้าไหลและน้าน่ิงได้ดี กล่าวคือข้ึนอยู่ตามริมน้าท่ีมีกระแสน้าไหลค่อยในช่วงน้าหลาก และอย่เู หนอื น้าบนฝ่ังในชว่ งหนา้ แลง้ ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม สถานการณด์ ้านคณุ ภาพน้า ปัญหาคุณภาพแหล่งน้าเสื่อมโทรมลง เน่ืองจากแหล่งน้ามีความสกปรกไม่เหมาะสมต่อการใช้ ประโยชน์ท้ังด้านอุปโภคและบริโภค นอกจากจะส่งผลกระทบต่อทรพั ยากรและระบบนิเวศแหล่งน้า โดยทาให้ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตลดลงแล้วยังส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงประชาชน อีกทั้งยังก่อให้เกดิ ผลเสียหลักต่อ สุขภาพอนามัย หากมีการสัมผัสแหล่งน้าท่ีมีความสกปรกหรือมีการบริโภคอาหารที่มีการปนเป้ือน โดยสาเหตุ หลักท่ีทาให้คุณภาพน้าเส่ือมโทรม ส่วนใหญ่มาจากน้าเสียชุมชนรองลงมาเป็นน้าเสียอุตสาหกรรมและ เกษตรกรรม ตามลาดับ ซ่งึ น้าเสยี จากชมุ ชนมีองค์ประกอบสาคญั เป็นอินทรีย์สาร เมื่อระบายลงสู่แหล่งนา้ ทาให้ ปริมาณออกซเิ จนในแหลง่ น้าลดลง(DO) หรือมีความสกปรกในรูปสารอินทรยี ์เพมิ่ ขึ้น(BOD) และแบคทเี รีย ในน้ามีปริมาณสูงขึ้น(TCB) จากสาเหตุหลักท่ีมาจากการการปล่อยน้าเสียจากชมุ ชน เมื่อจาแนกตามที่ต้ังพบว่า มีเทศบาล/อบต. ในจังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่ริมแม่น้าสายหลักจานวนมากถึง ๔๔ แห่ง (แม่น้าปิง จานวน ๑๙ แหง่ แมน่ ้านา่ นจานวน ๑๑ แหง่ และแมน่ า้ เจ้าพระยา จานวน ๑๔ แหง่ ) แม่นา้ ชอ่ื องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ /อ้าเภอ ท่ตี ดิ ริมแมน่ า้ สายหลัก ปิง ๑. เทศบาลต.บรรพตพิสยั / บรรพตพิสัย ๒. อบต.บางแก้ว / บรรพตพิสยั ๓. อบต.ตาขดี / บรรพตพสิ ัย ๔. เทศบาลต.บ้านแดน / บรรพตพิสยั
๓๙ แม่น้า ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน/อ้าเภอ ๕. อบต.ตาสังทข์ตี่ /ดิ บรรมิ รแพมตน่ พา้ สิ สัยายหลกั น่าน ๖. อบต.เจริญผล / บรรพตพสิ ัย เจา้ พระยา ๗. อบต.ทา่ ง้ิว / บรรพตพสิ ัย ๘. อบต.บางตาหงาย / บรรพตพสิ ยั ๙. อบต.หกู วาง / บรรพตพสิ ยั ๑๐. เทศบาลต.เกา้ เลีย้ ว / เกา้ เลีย้ ว ๑๑. อบต.หวั ดง / เกา้ เลย้ี ว ๑๒. อบต.เขาดนิ / เกา้ เลีย้ ว ๑๓. อบต.มหาโพธิ / เกา้ เลยี้ ว ๑๔. เทศบาลนครนครสวรรค์ / เมอื งฯ ๑๕. อบต.บ้านแก่ง / เมอื งฯ ๑๖. อบต.บ้านมะเกลอื / เมอื งฯ ๑๗. อบต.บางม่วง / เมืองฯ ๑๘. อบต.วัดไทรย์ / เมืองฯ ๑๙. อบต.บงึ เสนาท / เมอื งฯ ๑. อบต.แควใหญ่ / เมืองฯ ๒. อบต.เกรยี งไกร / เมืองฯ ๓. เทศบาลเมืองชุมแสง / ชุมแสง ๔. เทศบาลต.ทบั กฤช / ชมุ แสง ๕. อบต.ฆะมัง / ชมุ แสง ๖. อบต.พกิ ลุ / ชุมแสง ๗. อบต.เกยไชย / ชมุ แสง ๘. อบต.พนั ลาน / ชมุ แสง ๙. อบต.โคกหม้อ / ชุมแสง ๑๐. อบต.ทับกฤช / ชมุ แสง ๑๑. อบต.ทบั กฤชใต้ / ชมุ แสง ๑. อบต.นครสวรรค์ออก / เมืองฯ ๒. อบต.นครสวรรคต์ ก / เมอื งฯ ๓. อบต.ตะเคยี นเลื่อน / เมอื งฯ ๔. อบต.กลางแดด / เมอื งฯ ๕. เทศบาลต.บางมะฝอ่ / โกรกพระ ๖. เทศบาลต.โกรกพระ / โกรกพระ ๗. อบต.ยางตาล / โกรกพระ ๘. อบต.โกรกพระ / โกรกพระ ๙. เทศบาลต.ทา่ นา้ ออ้ ย / พยุหะคีรี ๑๐. เทศบาลต.พยุหะ / พยหุ ะครี ี
๔๐ แมน่ ้า ชอ่ื องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน/อา้ เภอ ๑๑. อบต.ยางทขีต่าวดิ ร/มิ พแยมุห่นะ้าคสีราี ยหลกั ๑๒. อบต.ยา่ นมทั รี / พยุหะครี ี ๑๓. อบต.พยุหะครี ี / พยุหะครี ี ๑๔. อบต.นา้ ทรง / พยุหะคีรี การดาเนินการเฝ้าระวังคุณภาพแหล่งน้าท่ีสาคัญในเขตพ้ืนที่จังหวัดนครสวรรค์ สานักงาน ส่ิงแวดล้อมภาคที่ ๔ นครสวรรค์ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษได้ดาเนินการเฝ้าระวังคุณภาพน้าในแหล่งน้าผิวดิน ได้มีการเฝ้าระวังในแม่น้าสายหลัก จานวน ๑๔ สถานี ได้แก่ แม่น้าปิง ๒ สถานี ยม ๑ สถานี น่าน ๒ สถานี เจ้าพระยา ๒ สถานี บึงบอระเพ็ด ๕ สถานี และลาน้าสาขา ได้แก่ คลองบางประมุง ๑ สถานี มีการเก็บ ตัวอย่างและวิเคราะห์คุณภาพน้า จานวน ๔ ครั้งต่อปี แบ่งเป็น การเฝ้าระวังในช่วงฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ.) ฤดูร้อน (มี.ค.-เม.ย.) และฤดูฝน (พ.ค.-ส.ค.) และในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ สานักงานสิ่งแวดล้อมภาคท่ี ๔ ได้ดาเนินโครงการลดของเสียในแหล่งน้าวิกฤตและการจดั การคณุ ภาพน้าในแหลง่ น้าหลักภายใตโ้ ครงการบูรณา การงบประมาณการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ปี ๒๕๖๐ ซึ่งได้ดาเนินการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวัง คุณภาพแหล่งน้าสายหลัก (แม่น้าเจ้าพระยา) ในพ้ืนท่ีจังหวัดนครสวรรค์เพ่ิมเติม ๕ สถานี และดาเนินการ ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้าในลานา้ สาขาทีไ่ หลลงสู่ แมน่ า้ ปงิ ๓ สถานี แม่นา้ นา่ น จานวน ๕ สถานี แม่น้าเจา้ พระยา ๕ สถานี และบึงบอระเพด็ จานวน ๔ สถานี ซง่ึ ดาเนนิ การเฝ้าระวัง จานวน ๒ ครง้ั ต่อปีซ่ึงมีผลประเมินคุณภาพน้าแหล่งน้าโดยรวมและนามาเปรียบเทียบกับมาตรฐานคณุ ภาพน้า ในแหล่งนา้ ผิวดิน ได้ดังนี้ แมน่ ้าสายหลกั : แมน่ า้ ปงิ จังหวัดนครสวรรค์ โดย สานกั งานสิ่งแวดล้อมภาคท่ี ๔ นครสวรรค์ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ได้ดาเนินการเฝา้ ระวังคุณภาพนา้ ผวิ ดนิ โดยมีสถานีตดิ ตามตรวจสอบและเฝา้ ระวงั คณุ ภาพน้าในดาเนนิ การ เฝ้าระวงั คุณภาพนา้ แมน่ ้าปิงในเขตพืน้ ท่จี งั หวดั นครสวรรค์ จานวน ๒ สถานี ผลการตรวจวัดคุณภาพน้าปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ พบว่ามีคุณภาพแหล่งน้าผิวดินในระดับ ดีถึงเสื่อมโทรม (ระดับคุณภาพน้า ๒ - ๔) มีค่าดัชนีช้ีวัดคุณภาพน้า Water Quality Index (WQI) ใน ๔ ไตรมาส เท่ากบั ๖๖.๕ ซึ่งอยใู่ นระดบั พอใช้ (WQI = ๖๑ – ๗๐ คะแนน) มีดัชนีท่ีเป็นปัญหาสาคัญที่ควรเฝ้าระวัง คือ การปนเปื้อนของแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มแบคทีเรียทั้งหมดและ แบคทีเรยี กลุ่มฟีคัลโคลิฟอร์ม ปริมาณออกซเิ จนที่ละลายในน้า(DO) และปริมาณออกซิเจนที่แบคทีเรียต้องการ ใชใ้ นการยอ่ ยสลายสารอนิ ทรีย์ (BOD) แม่น้าสายหลกั : แมน่ ้านา่ น การดาเนินการเฝ้าระวังคุณภาพน้าแม่น้าน่านในพื้นท่ีจังหวัดนครสวรรค์ ได้มีสถานีติดตาม ตรวจสอบและเฝ้าระวงั คณุ ภาพน้า จานวน ๓ สถานี ผลการตรวจวดั คณุ ภาพนา้ โดยรวม มีเกณฑ์คุณภาพน้าในระดบั พอใช้ถงึ เสื่อมโทรม (ประเภท ๓-๔) พบวา่ มี
๔๑ ค่า WQI (Water Quality Index) ใน ๔ ไตรมาส เท่ากับ ๖๔.๗๕ ซึ่งอยู่ในระดับพอใช้ (WQI = ๖๑ – ๗๐ คะแนน) แมน่ า้ สายหลัก : แม่น้ายม ในการดาเนินการเฝ้าระวังคณุ ภาพน้าแมน่ ้ายมในเขตพืน้ ที่จงั หวัดนครสวรรค์ จานวน ๑ สถานี ผลการตรวจวัดคุณภาพแหล่งน้า พบว่าแม่น้ายม มีเกณฑ์คุณภาพน้าในระดับพอใช้ (ประเภทที่ ๓) มีค่าระดับคุณภาพน้า WQI (Water Quality Index) ใน ๔ ไตรมาส เท่ากับ ๖๔.๕ ซ่ึงอยู่ในระดับพอใช้ (WQI = ๖๑ – ๗๐ คะแนน) ดัชนีที่เป็นปัญหาสาคัญที่ควรติดตามเฝ้าระวัง คือ การปนเปื้อนของแบคทีเรีย กลุ่มฟคี ัลโคลฟิ อรม์ ปรมิ าณออกซิเจนทีล่ ะลายในน้า (DO) ปรมิ าณออกซิเจนทแ่ี บคทีเรยี ตอ้ งการใช้ในการย่อย สลายสารอินทรยี ์ (BOD) สาเหตหุ ลักคาดว่ามาจากการชะล้างหน้าดินในชว่ งฤดูฝนจากพ้ืนท่ีเกษตรกรรม ได้แก่ นาข้าว รวมไปถงึ การระบายนา้ ทิง้ จากชุมชนท่ปี ลอ่ ยลงสู่แหลง่ นา้ โดยตรงโดยไม่มีการบาบัดน้าเสยี แม่นา้ สายหลัก : แม่น้าเจ้าพระยา มี ส ถ า นี ด า เนิ น ก า ร เฝ้ า ร ะ วั ง คุ ณ ภ า พ น้ า แ ม่ น้ า เจ้ า พ ร ะ ย า ใน พื้ น ท่ี จั ง ห วั ด น ค ร ส ว ร ร ค์ จานวน ๒ แห่ง และมีจุดเก็บน้าตัวอย่างในการติดตามโครงการลดของเสียในแหล่งน้าวิกฤตและการจัดการ คุณภาพน้าในแหล่งน้าหลักภายใต้โครงการบูรณาการงบประมาณการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ปี ๒๕๖๐ จานวน ๓ แห่ง รวมสถานีเฝ้าระวังท้ังสิ้น ๕ สถานี ผลการตรวจวัดคุณภาพน้าโดยรวม พบว่าแม่น้าเจ้าพระยา คุณภาพน้าโดยรวมอยู่ในมีเกณฑ์คุณภาพน้าในระดับพอใช้จนถึงระดับเสื่อมโทรม (ประเภทที่ ๓-๔) ค่า WQI (Water Quality Index) ใน ๔ ไตรมาส เท่ากับ ๖๙.๙ ซึ่งอยู่ในระดับพอใช้ (WQI = ๖๐ – ๗๐ คะแนน) ทั้งนี้เน่ืองจากแม่น้าเจ้าพระยามีชุมชนขนาดใหญ่และหนาแน่นติดริมแม่น้า เช่น เทศบาลตาบลบางมะฝ่อ เทศบาลตาบลโกรกพระ เทศบาลตาบลพยุหะ เทศบาลตาบลท่าน้าอ้อย เป็นต้น ซ่ึงแต่ละแห่งไม่มีระบบบาบัด นา้ เสียรวมของชุมชน รวมทั้งมีท่อระบายน้าท้ิงของชุมชนลงสู่แหล่งน้าโดยตรง ทาให้ไม่สามารถควบคุมของเสีย ท่ีระบายลงสู่แม่น้าได้ ประกอบกับแม่น้าเจ้าพระยาเป็นแม่น้าที่เกิดจากการรวมกันของแม่น้าปิงและแม่น้าน่าน จากการนป้ี ริมาณของเสยี ในลาน้าแม่นา้ ปิงและแม่นา้ นา่ นจะมาไหลรวมกันในแมน่ า้ เจา้ พระยา ทาใหเ้ กดิ ของเสียจานวนมากและทาใหส้ ง่ ผลต่อคณุ ภาพนา้ ทล่ี ดลง ล้านา้ สาขาท่ีไหลลงสู่แม่นา้ เจ้าพระยา : คลองบางประมงุ จังหวัดนครสวรรค์ โดย สานักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๔ นครสวรรค์ร่วมกับกรมควบคุม มลพิษ ได้ดาเนินการเฝ้าระวังคุณภาพน้าผิวดิน โดยมีสถานีติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้าในคลอง บางประมงุ จานวน ๑ สถานี และ มีสถานีติดตามโครงการลดของเสยี ในแหล่งน้าวิกฤตและการจัดการคุณภาพ น้าในแหล่งน้าหลักภายใต้โครงการบูรณาการงบประมาณการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ปี ๒๕๖๐ จานวน ๒ สถานี ผลการตรวจวดั คุณภาพน้าพบวา่ คลองบางประมงุ มีคณุ ภาพน้าโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ เสื่อมโทรม(ประเภทที่ ๔ ) ค่า WQI (Water Quality Index) เฉลี่ยของท้ัง ๓ สถานี เท่ากับ ๕๖ ซง่ึ อยู่ในระดับ เสอื่ มโทรม (WQI = ๓๑ – ๖๐ คะแนน) มีดัชนีท่ีเป็นปัญหาสาคัญท่ีควรเฝ้าระวัง คือ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้า(DO) และ ปริมาณออกซิเจนทีแ่ บคทีเรยี ต้องการใช้ในการย่อยสลายสารอนิ ทรยี ์ (BOD) สาเหตุหลักมาจากการใชป้ ระโยชน์ทดี่ ินสว่ นใหญบ่ รเิ วณรมิ คลองเปน็ การใชพ้ ้ืนทเี่ พื่อ การเกษตรกรรมและเป็นท่ตี ง้ั ชมุ ชนประเภทชมุ ชนชนบท อาจมีการชะลา้ งหนา้ ดนิ และปยุ๋ หรอื การชะลา้ ง
๔๒ น้าเสียท่ีเกิดจากการเน่าเสียของวัสดุเหลือใช้ในพื้นท่ีเกษตรกรรมร่วมกับน้าท้ิงชุมชนที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้า โดยตรงโดยไม่มีการบาบดั น้าเสยี จากสาเหตุดังกล่าวเป็นผลให้แหล่งน้าต้องรบั ภาระความสกปรกจน เกนิ ความสามารถในการรองรบั ของลาน้าจนเกิดปัญหาคณุ ภาพน้าเนา่ เสยี ได้ แหลง่ น้าผิวดินขนาดใหญ่ : บึงบอระเพด็ บึงบอระเพ็ด เป็นทะเลสาบน้าจืดขนาดใหญ่ของจังหวัดนครสวรรค์ น้าในบึงบอระเพ็ด ได้รับจาก น้าฝนธรรมชาติและน้าจากที่ราบลมุ่ โดยรอบบึงบอระเพ็ด มเี นอ้ื ที่ทงั้ หมด ๑๓๒,๗๓๗ ไร่ ๕๖ ตารางวา อาณาเขตครอบคลุมในพ้นื ที่ ๓ อาเภอ ไดแ้ ก่ อาเภอเมอื งนครสวรรค์ อาเภอทา่ ตะโก และอาเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ โดยสานักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๔ ได้มีการดาเนินการเฝ้าระวังคุณภาพน้า ในบึงบอระเพ็ด ในพนื้ ทีอ่ าเภอเมืองนครสวรรค์ และอาเภอท่าตะโก จงั หวัดนครสวรรค์ จานวนรวม ๕ สถานี ผลการตรวจวัดคณุ ภาพนา้ โดยรวม พบว่าบึงบอระเพ็ด ระดับดถี ึงเสอ่ื มโทรม (ประเภทท่ี ๒ - ๔ ) ค่าดชั นีช้ีวัดคณุ ภาพนา้ (WQI) ใน ๔ ไตรมาส เท่ากบั ๖๖.๒๕ ซ่ึงอยใู่ นระดับพอใช้ (WQI = ๖๑ – ๗๐ คะแนน) สาเหตหุ ลกั คาดว่ามาจากเนื่องมาจากในชว่ งฤดรู อ้ นและฤดหู นาวปรมิ าณนา้ ค่อนข้างนอ้ ยประกอบกับ เป็นแหลง่ น้านิ่ง ไม่มีไหลเวียนถา่ ยเท สัตว์น้าทอ่ี าศัยอยตู่ ามธรรมชาตอิ าจมีการขบั ของเสียลงส่แู หล่งน้าและ บรเิ วณใกล้เคียงมกี ารประกอบกิจการเพาะพันธุ์สตั ว์น้า ได้แก่ ปลาและกบ อาจสง่ ผลให้ปริมาณเกลือและ สารละลายอนนิ ทรียต์ ่างๆ ทมี่ ีการระบายจากแหลง่ เพาะพันธลุ์ งในบึงบอระเพ็ด สง่ ผลให้ในนา้ มีปรมิ าณเกลือ และสารละลายอนินทรีย์ตา่ งๆ คอ่ นข้างสูง ได้ แมน่ ้าปิง : คณุ ภาพนา้ ระดับพอใช้ถงึ แม่นา้ ยม : คุณภาพนา้ ระดบั พอใช้ เสื่อมโทรมมาก(ประเภทท่ี 3 - 5) (ประเภทท่ี 3) ดชั นคี วรเฝา้ ระวัง: FCB ,TCB, DO ,BOD ดชั นคี วรเฝา้ ระวัง: DO ,BOD แม่น้าเจา้ พระยา : คณุ ภาพนา้ ระดับพอใช้ถึง แมน่ า้ นา่ น : คุณภาพนา้ ระดับพอใชถ้ ึง เส่อื มโทรม (ประเภทที่ 3 - 4) เสือ่ มโทรม (ประเภทที่ 3 - 4) ดัชนคี วรเฝา้ ระวัง: FCB ,TCB, DO ,BOD, ดัชนคี วรเฝา้ ระวัง:FCB ,TCB, DO ,BOD บงึ บอระเพ็ด : คณุ ภาพนา้ ระดับดถี งึ เส่ือมโทรม (ประเภทที่ 2 - 4) ดชั นคี วร สรปุ แนวทางการแก้ไขปญั หาแหล่งน้าโดยรวม เฝ้าระวงั : DO ,BOD,Mn,As คุณภาพน้าผิวดินในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ เมื่อพิจารณาจากค่า WQI ในแต่ละลาน้า มีแนวโนม้ ทดี่ ีขึน้ แตย่ งั อยู่ในเกณฑ์คงเดิมจากปีท่ีผ่านมา ซง่ึ สาเหตุสาคญั ท่ีคงทาใหค้ ุณภาพน้าเส่อื มโทรม ไดแ้ ก่
๔๓ การปนเป้ือนแบคทีเรียกลุ่มฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย (FCB) ,การปนเปื้อนแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด (TCB) และ แอมโมเนยี (NH๓) สาเหตุโดยรวมทเี่ ป็นปจั จัยหลักส่วนใหญม่ าจากน้าท้ิงชุมชน รวมทงั้ นา้ ทง้ิ จากกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ กิจกรรมด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ซึ่งมีการระบายน้าทิ้งลงสู่แหลง่ น้าโดยไม่มี การบาบัดน้าเสียก่อน สาเหตุส่วนใหญ่ท่ีทาให้คุณภาพน้าเส่ือมโทรม เกิดจากการเพิ่มขึ้นของจานวนประชากร การขยายตวั ทางเศรษฐกจิ และมกี ารใชป้ ระโยชน์ที่ดนิ เพม่ิ มากข้ึน ได้แก่ โรงแรม รสี อร์ท ร้านอาหาร รวมทั้งการพัฒนาที่ดินท่ีติดลาน้าเพ่ือทาการเกษตร รวมถึงการชะล้างปุ๋ยหน้าดินในพื้นท่ีเกษตรกรรม ลงสแู่ หล่งน้า จงึ เปน็ ผลให้แหลง่ น้าตอ้ งรับภาระความสกปรกในภาพรวมจากการพัฒนาดงั กล่าว สาหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาแหล่งน้าในภาพรวม คือ สนับสนุนการจัดสร้างระบบบาบัดน้า เสียรวมชุมชน เสริมสร้างศักยภาพให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการน้าเสีย มีกิจกรรมการรณรงค์และสร้างจิตสานึกให้แก่ประชาชนในการดูแลรักษาความสะอาดและการดูแลรักษาลาน้า อย่างต่อเน่ืองและยั่งยืนโดยชุมชน และโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีตั้งอยู่ริมแม่น้าสายหลัก ส่งเสริมให้ ผู้ประกอบการจัดการน้าเสียจากกิจการของตนเอง สนับสนุนให้มีการบาบัดน้าเสียในบ้านเรือนเบื้องต้น โดยใช้ถงั สาเร็จรปู และติดต้ังถังดักไขมัน การส่งเสริมให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการเฝ้าระวังคุณภาพน้าและร่วม รกั ษาแหลง่ นา้ รวมทงั้ การบังคับใชก้ ฎหมายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ การจดั การนา้ เสยี ชุมชน จังหวัดนครสวรรค์มีระบบบาบัดน้าเสียชุมชน จานวน ๓ แห่ง ได้แก่ เทศบาลนครนครสวรรค์ เทศบาลเมืองชุมแสง และเทศบาลตาบลทา่ ตะโก โดยมีรายละเอียดในแตล่ ะพื้นทด่ี ังนี้ ระบบบาบดั นา้ เสยี เทศบาลนครนครสวรรค์ โรงปรับปรุงคุณภาพน้าของเทศบาลนครนครสวรรค์ ใชร้ ะบบบาบดั นา้ เสียทางชวี วทิ ยา แบบตะกอนเร่งแบบ MSBR (Modified Sequencing Batch Reactor) เนื่องจากเป็นระบบท่ีใช้ขนาดพื้นท่ี น้อยที่สดุ และมปี ระสทิ ธิภาพสงู สดุ ขนาดของระบบทอ่ี อกแบบ มขี นาด ๓๖,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน และในปัจจบุ ันน้าเสยี เขา้ สรู่ ะบบจรงิ ประมาณ ๒๐,๐๐๐ – ๓๐,๐๐๐ ลูกบาศกเ์ มตร/วนั แลว้ แคช่ ว่ งฤดูกาล แต่สามารถเดนิ ระบบได้ตามปกติ ระบบบาบดั น้าเสียเทศบาลเมอื งชมุ แสง เป็นระบบบาบัดท่ีมีการรวบรวมน้าเสียแบบท่อระบายรวม (Combined sewer) มีความยาว ทงั้ หมด ๖,๔๑๒ เมตร มีสถานสี ูบน้าเสียจานวน ๒ แหง่ อาคารดักน้าเสีย ๑ แห่ง โดยมีระบบบาบัดน้าเสียเป็น แบบบ่อปรับเสถียร (Stabilization ponds ) ขนาดของระบบที่ออกแบบ มีขนาด ๑,๗๕๐ ลูกบาศก์เมตร/วัน และในปจั จบุ นั น้าเสียไมม่ กี ารสบู นา้ เขา้ สรู่ ะบบบาบดั เนอ่ื งจากการเกดิ ความเสียหายของสถานีสบู นา้ เสยี และท่อรองรับน้าเสียจากผลกระทบจากมหาอุทกภัย ปี ๒๕๕๔ อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบรวบรวมน้าเสีย เข้าระบบ ระบบบาบัดน้าเสยี เทศบาลตาบลท่าตะโก ระบบบาบัดน้าเสียของเทศบาลตาบลท่าตะโกเป็นระบบบาบัดน้าเสียแบบบึงประดิษฐ์ (constructed wetland) ร่วมกับบ่อผง่ึ (Oxidation pond) โดยขนาดของระบบทอ่ี อกแบบสามารถรองรับน้า เสียได้ ๕๐ ลกู บาศกเ์ มตร/วนั และในปัจจุบันยงั ไม่มกี ารสูบนา้ เสียเขา้ ส่รู ะบบบาบดั เนอ่ื งจากมนี า้ เสียเขา้ สู่ บอ่ รวบรวมนา้ เสยี จากเทศบาลตา่ กว่าทอ่ี อกแบบไว้ (๑๐-๑๕ ลบ.ม./วนั ) ปัจจุบันเทศบาลอยู่ระหว่าง การปรบั ปรุงวางระบบรวบรวมน้าเสยี ใหมเ่ พอ่ื ใหน้ ้าเสียเขา้ สรู่ ะบบใหม้ ากขน้ึ สถานการณ์ดา้ นขยะมูลฝอยและการบรหิ ารจัดการ
๔๔ ในปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ในการสารวจฐานข้อมูลขยะมลู ฝอยชมุ ชนของทั้งประเทศ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดย องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ เป็นผดู้ าเนนิ การสารวจข้อมูลและรายงาน ผลไปยังกระทรวงมหาดไทยผ่านระบบออนไลน์ตามแบบรายงานผลการบริหารจัดการขยะมูลฝอยขององค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (แบบรายงาน มฝ.๑ และ มฝ.๒) พบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอย ชมุ ชนเกดิ ขนึ้ ท้ังหมด ๕๘๕ ตัน/วัน เป็นปริมาณขยะท่ีถกู นากลับมาใชป้ ระโยชนใ์ หมไ่ ด้ ๑๕๒.๔๖ ตนั /วนั และ สานักงานส่ิงแวดลอ้ มภาคท่ี ๔ และสานักงานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครสวรรค์ จงึ ดาเนนิ การสารวจปรมิ าณขยะมูลฝอยตกคา้ งสะสมในพ้นื ที่จังหวัดนครสวรรคป์ ระจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยมปี ริมาณขยะตกคา้ งสะสมปี ๒๕๖๐ ทั้งสิ้น ๓,๓๓๗ ตนั ลดลงจากปี ๒๕๕๘ จานวน ๒๔,๒๕๓ ตนั ทม่ี า : สานกั งานทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มจังหวดั นครสวรรคแ์ ละสานกั งานสง่ิ แวดลอม- ภาคท่ี ๔,๒๕๖๐ infographic โดย : ส่วนขยะมูลฝอยและสิง่ ปฏิกลู สานักจัดการกากของเสียและสารอนั ตราย กรมควบคุมมลพิษ การกา้ จัดขยะมูลฝอยในปัจจบุ นั การกาจัดขยะมูลฝอยในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการกาจัด ขยะมลู ฝอยทัง้ แบบถูกหลักวิชาการและไม่ถูกหลกั วิชาการ ดงั นี้
๔๕ ๑. กาจดั แบบถกู หลกั วิชาการ ๑.๑ กาจัด ณ สถานท่ีจากัดขยะแบบฝงั กลบอยา่ งถูกหลกั สขุ าภิบาล (Sanitary Landfill) จานวน ๔ แห่ง ไดแ้ ก่ เทศบาลนครนครสวรรค์ , เทศบาลเมอื งตาคลี , เทศบาลเมืองชุมแสง ,เทศบาลตาบล ท่าตะโก ๑.๒ กาจัด ณ สถานทก่ี าจดั ขยะแบบเทกองควบคมุ (Control Dump) ขนาดนอ้ ยกวา่ ๕๐ ตัน/วนั จานวน ๑๒ แห่ง ได้แก่ เทศบาลตาบลหนองเบน , เทศบาลตาบลบางประมุง , เทศบาลตาบล- ท่าน้าอ้อยม่วงหัก, เทศบาลตาบลศาลเจ้าไก่ต่อ , อบต.เขาทอง , อบต.สระทะเล , อบต.สระแก้ว , อบต.วังม้า, อบต.วังเมือง, อบต.เขาชนกัน , อบต.แม่เลย่ ์ , อบต.ชมุ ตาบง ๒. กาจดั แบบไม่ถูกหลกั สุขาภิบาล จัดการแบบการเทกอง (Open Dump) จานวน ๙ แห่ง ได้แก่ อบต.แม่เปิน , อบต.หนองปลิง , เทศบาลตาบลเกา้ เลี้ยว , เทศบาลตาบลพยุหะ , เทศบาลตาบลลาดยาว , อบต.หัวดง , อบต.ตะคร้อ, อบต.จันเสน, อบต.นคิ มเขาบ่อแก้ว สถานการณ์คณุ ภาพอากาศ จังหวัดนครสวรรค์มีการตรวจคุณภาพอากาศจานวน ๑ สถานี คือ บริเวณโครงการ ชลประทานนครสวรรค์ (ตรวจวัดโดยสถานตี รวจคณุ ภาพอากาศอัตโนมตั ขิ องกรมควบคมุ มลพิษ) โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ การตรวจวดั คุณภาพอากาศของจงั หวดั นครสวรรค์ พบค่าฝ่นุ ละออง ขนาดเลก็ กว่า ๑๐ ไมครอน (Particulate Matter less than ๑๐ micron หรอื PM๑๐) เกินมาตรฐานท่ี ๑๒๐ ไมโครกรมั /ลูกบาศกเ์ มตร ในเดือนธนั วาคม ๒๕๕๙ – กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ มีค่าเกินมาตรฐานทัง้ ส้ิน ๑ วัน ในวนั ท่ี ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๖๐ นับตง้ั แตป่ งี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ – ๒๕๕๙ จงั หวดั นครสวรรคม์ กั พบปริมาณฝนุ่ ละออง
๔๖ ขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน(PM๑๐) เกนิ มาตรฐานท่ีกาหนด (๑๒๐ ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์เมตร) ซ่งึ พบในชว่ ง ฤดูหลงั การเก็บเกยี่ วผลติ ผลทางการเกษตร (เดือน ธันวาคม ถงึ มีนาคม) ได้แก่ ข้าวและอ้อย ซึง่ มผี ลกระทบท่ี ก่อใหเ้ กิดปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มด้านฝนุ่ ละอองในอากาศ เช่น เกดิ ความสกปรกตามบ้านเรือนทอ่ี ยู่อาศัย การบดบงั ทัศนวสิ ัยในการขับขี่ รวมถงึ ผลกระทบต่อสขุ ภาพประชาชนอีกดว้ ย แต่ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ สถานการณ์ด้านคณุ ภาพอากาศมีแนวโนม้ ดีข้นึ เนื่องจากมีการรณรงค์ใหม้ กี ารลดปรมิ าณการเผาเศษวสั ดเุ หลือ ใช้ทางการเกษตรในท่ีโลง่ ลดการเผาขยะ เปน็ ต้น ปริมาณฝนุ่ ละอองขนาดเล็กกวา่ ๑๐ ไมครอนในพืนทจ่ี งั หวัดนครสวรรค์ทเ่ี กินมาตรฐานท่กี ้าหนด ปงี บประมาณ จ้านวนวันที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน เกนิ มาตรฐาน (วัน) พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑๖ พ.ศ. ๒๕๕๗ ๒๘ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑ ทมี่ า : สานักงานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมจงั หวัดนครสวรรค์ ,๒๕๖๐ ข้อมูลเชิงสถิติที่สา้ คัญเชิงพืนที่ ๑๗) การเกษตรกรรม การใช้พื้นที่ทาการเกษตร ส่วนใหญ่เป็นที่นา รองลงมาเป็นพืชไร่ และไม้ยืนต้น ไม้ผล โดยมีลักษณะการถือครองเนื้อที่ถือครองทาการเกษตรเป็นเน้ือท่ีของตนเอง ร้อยละ ๓๘.๗๔ และเป็นเน้ือท่ีของผู้อ่ืน ร้อยละ ๖๑.๒๖ ตารางการใช้ที่ดินท้าการเกษตร ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๘ (ไร่) ปี รวม ท่ีนา พืชไร่ พืชยืน สวนผัก อื่นๆ ต้นและ และไม้ ไม้ผล ดอก ๒๕๕๓ ๔,๔๒๑,๐๒๐ ๒,๗๒๙,๗๖๗ ๑,๔๑๙,๔๘๖ ๗๗,๑๓๘ ๒๗,๘๗๘ ๑๖๖,๗๕๑ ๒๕๕๔ ๔,๓๘๒,๐๒๒ ๒,๖๔๓,๓๓๐ ๑,๔๖๑,๖๔๖ ๘๑,๘๔๔ ๒๙,๐๗๙ ๑๖๖,๑๒๓ ๒๕๕๕ ๔,๓๘๑,๒๖๘ ๒,๖๔๓,๙๐๘ ๑,๔๕๙,๘๐๙ ๘๒,๑๖๒ ๒๙,๐๓๒ ๑๖๖,๓๕๗ ๒๕๕๖ ๔,๓๘๑,๑๒๔ ๒,๖๔๓,๕๖๐ ๑,๔๕๙,๙๔๐ ๘๑,๙๙๘ ๒๙,๐๖๒ ๑๖๖,๕๖๕ ๒๕๕๗ ๔,๓๘๐,๖๐๐ ๒,๖๔๓,๙๑๐ ๑,๔๕๙,๒๖๕ ๘๒,๓๓๐ ๒๘,๙๘๖ ๑๖๖,๑๐๙ ๒๕๕๘ ๔,๓๘๓,๕๗๙ ๒,๖๔๒,๗๗๒ ๑,๔๖๓,๑๔๙ ๘๒,๔๙๑ ๒๘,๙๗๕ ๑๖๖,๑๙๒ ที่มา : สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข้อมูลเดือน มกราคม ๒๕๖๑ พืชเศรษฐกิจท่ีสา้ คัญ ไดแ้ ก่ ๑. ข้าวนาปี จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สาคัญ ของจังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นท่ีเพาะปลูกข้าว
๔๗ ทุกอาเภอ แต่อาเภอที่มีพื้นที่เพาะปลูกมากในลาดับต้นๆ ได้แก่ อาเภอบรรพตพิสัย,ท่าตะโก,หนองบัว ,ลาดยาว และ ชุมแสง ซึ่งมีการเพาะปลูกข้าวพันธุ์ที่ทางราชการส่งเสริม เช่น พันธุ์ชัย นาท ๑ , กข. ๓๑, กข. ๔๑ และ ขาวดอกมะลิ ๑๐๕ เป็นหลัก ประกอบกับสภาพภูมิอากาศ และ ศักยภาพของดินเอ้ืออานวย ต่อการเพาะปลูกข้าวพ้ืนท่ีปลูกข้าวอยู่ในเขตอาศัยนา้ ฝนและเขตชลประทาน ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งน้ี ข้ึนอยู่กับปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น ฝนแล้ง น้าท่วม และศัตรูพืช ๒. ข้าวนาปรัง จังหวัดนครสวรรค์ มีพ้ืนท่ีปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งจะทาการเพาะปลูกตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี พื้นที่เพาะปลูกในแต่ละปีขึ้นอยู่กับปริมาณน้าที่จะใช้ในการเพาะปลูก แหล่งน้าที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ เขตชลประทาน สูบน้าด้วยไฟฟ้า และ น้าบาดาล อาเภอที่มี การเพาะปลูกมากในลาดับต้น ได้แก่ อาเภอบรรพตพิสัย,ชุมแสง,ตาคลี,ท่าตะโก,ลาดยาว และอาเภอ เมืองนครสวรรค์ ผลผลิตเฉล่ียอยู่ในเกณฑ์ดี ๓. อ้อยโรงงาน จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่เพาะปลูกอ้อยโรงงานอยู่ในลาดับต้น ๆ ของประเทศ ท้ังนี้ เนื่องจากมีโรงงานแปรรูป (โรงานนา้ ตาล) ท่ีใหญ่ที่สุดในระดับประเทศ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดและ มีการส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกร่วมกันระหว่างภาคราชการและเอกชน ทั้งในเรื่องของการใช้พันธุ์ดี และปฏิบัติดูแลพันธุ์ท่ีใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ พันธุ์ขอนแก่น ๓ ซ่ึงเป็นพันธุ์ของทางราชการ และ พันธุ์ LK - ๒- ๑๑ ซึ่งเป็นพันธ์ุส่งเสริมของสานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย ผลผลิตเฉล่ียต่อไร่ อยู่ในเกณฑ์ท่ีรวมท้ังเปอร์เซ็นต์ความหวาน (ค่า CCS) อาเภอท่ีมีพ้ืนที่เพาะปลูกมากในลาดับต้น ๆ ได้แก่ อาเภอตาคลี,ตากฟ้า,พยุหะคีรี และ อาเภอแม่เปิน ๔. มันส้าปะหลัง จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่เพาะปลูกมันสาปะหลังอยู่ในลาดับต้นๆ ในเขต ภาคเหนือรองจากจังหวัดกาแพงเพชร พันธุ์ที่ใช้เพาะปลูก ได้แก่ ระยอง ๑๑ , ระยอง ๕ , ระยอง ๗ , ห้วยบง ๖๐ , ห้วยบง ๘๐ และเกษตรศาสตร์ ๕๐ ซ่ึงเป็นพันธุ์ที่ทางราชการส่งเสริมและเหมาะสมที่จะใช้ปลูก ในเขตพื้นที่จังหวัด ผลผลิตเฉล่ียอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเปรียบเทียบกับจังหวัดใกล้เคียง อาเภอที่มีการเพาะปลูกมาก ได้แก่ อาเภอแม่วงก์,ไพศาลี,ลาดยาว,หนองบัว,ชุมตาบง และ แม่เปิน แนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมการผลิตพืชเศรษฐกิจท่ีสา้ คัญของจังหวัดนครสวรรค์ ๑. ด้านการเพาะปลูกข้าว มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวนามีการรวมกลุ่มจัดตั้ง เป็นศูนย์ข้าวชุมชนในระดับพ้ืนท่ี ต้ังแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นต้นมา เพ่ือให้เกิดกลุ่มเครือข่าย ในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกและปัจจัยการผลิต โดยมีศูนย์ข้าวชุมชนในระดับจังหวัด รวมท้ังส้ิน ๒๒๗ ศูนย์ สมาชิกรวม ๕,๐๐๐ คน ในพื้นท่ี ๑๕ อาเภอ มีการสนับสนุนให้ศูนย์ข้าวชุมชน มีการผลิตเมล็ดพันธ์ข้าวพันธุ์ดีกระจายสู่สมาชิก เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าว ทั้งน้ี โดยการสนับสนุนงบประมาณจากทางราชการโดยเฉพาะงบพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ในด้านปัจจัย การผลิตและการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรเพ่ือเป็นการพัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ผลิตและดาเนินธุรกิจ ด้านเมล็ดพันธุ์ข้าวเพ่ือสร้างมูลค่าเพ่ิมให้แก่ผลผลิต รวมท้ังพัฒนาคุณภาพผลผลิตข้าวให้ได้มาตรฐาน ตามระบบ GAP เพ่ือเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AEC) ในอนาคตต่อไป ๒. ด้านการเพาะปลูกอ้อยโรงงาน มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีการเพาะปลูก อ้อยโรงงาน ท่ีมีปริมาณและคุณภาพเพื่อแปรรูปเป็นนา้ ตาลทรายและวัสดุอื่น รวมท้ังเป็นการส่งเสริม เพ่ือให้เป็นพืชพลังงานทดแทนในอนาคต ท้ังนี้ โดยการสนับสนุนจากทางภาคราชการและเอกชน(โรงงาน) ในการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยโรงงานมีการใช้ต้นพันธ์ุดี การป้องกันกาจัดแมลงศัตรูอ้อย และการรวมกลุ่มเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยงบประมาณพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เพ่ือมุ่งเน้น ในการเพ่ิมปริมาณผลผลิตต่อไร่ และคุณภาพ โดยเฉพาะเปอร์เซ็นต์ความหวาน (CCS) และรณรงค์
Search