1 คานา แผนการจดั การเรียนรู้รายภาคเรยี น ประจาภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือสาคัญสาหรับครูท่ีจะทาให้การจัดการเรียนรู้บรรลุเปูาหมายที่ต้องการ เป็นการ วางแผนไว้ล่วงหน้าโดยศึกษาในเร่ือง สาระพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๕) หมวด ๓ ระบบการศึกษา และ หมวด ๔ แนวการจัดการศึกษา ทุกมาตรากรอบของการจัดการศึกษาตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เอกสารเกี่ยวกับการประกันคุณภาพ การศกึ ษา โดยจดั กระบวนการเรยี นรใู้ หส้ อดคล้องกับมาตรฐานเอกสารเกี่ยวกับเนื้อหาในรายวิชาที่จัดการเรียนรู้ และ ศึกษาหาขอ้ มูลจากแหล่งเรยี นรูต้ ่าง ๆ วิธีการจดั การเรยี นรแู้ บบต่าง ๆ ซึ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญและรูปแบบการเรียนรู้ โดยกาหนดให้ใชร้ ปู แบบการจดั กระบวนการเรยี นรู้ กศน. (ONIE MODEL) ซง่ึ มี ๔ ขั้นตอน ไดแ้ ก่ ขั้นตอนท่ี ๑ การกาหนดสภาพ ป๎ญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation ) ขั้นตอนท่ี ๒ การแสวงหาข้อมูลและจัดการ เรียนรู้ (N : New ways of learning) ข้ันตอนท่ี ๓ การปฏิบัติและนาไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) ข้ันตอน ที่ ๔ การประเมินผล (E : Evaluation) แผนการเรียนรู้จะทาให้ครูได้คู่มือการจัดการเรียนรู้ ทาให้ดาเนินการจัดการ เรียนรูไ้ ดค้ รบถว้ นตรงตามหลกั สูตรและจดั การเรยี นรไู้ ด้ตรงเวลา ขอขอบคณุ ผู้มีสว่ นเก่ยี วข้องทุกท่าน ที่ให้ความรู้ คาแนะนาและให้คาปรึกษาเป็นแนวทาง ทาให้แผนจัดการ เรียนรู้รายภาคเรียนเล่มนจี้ นสาเรจ็ เป็นรูปเล่มสมบรู ณ์ ผจู้ ัดทาหวังเปน็ อย่างยิง่ วา่ เอกสารเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ สาหรับ ผู้นาไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากพบข้อผิดพลาดหรือ มีข้อเสนอแนะประการ ใด ผ้จู ัดทาขอน้อมรบั ไว้แก้ไข ปรับปรุงด้วยความขอบคณุ ย่งิ นางเลิศดาราวรรณ ตาคา ครู กศน.ตาบล
2 สารบัญ หน้า ก คานา ข สารบญั ค ปฏทิ ินการจดั การเรยี นรู้ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น จ แผนการกาหนดการจดั การเรยี นการสอน ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 1 แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าพัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง ครงั้ ที่ 1 9 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาพัฒนาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง ครง้ั ที่ 2 21 แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย คร้งั ท่ี 3 30 แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายวิชาประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย คร้ังท่ี 4 40 แผนการจัดการเรียนร้รู ายวิชาภาษาไทย ครั้งที่ 5 48 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าภาษาไทย ครงั้ ที่ 6 61 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าภาษาไทย ครง้ั ท่ี 7 69 แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาไทย ครัง้ ที่ 8 78 แผนการจัดการเรียนรรู้ ายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ครั้งที่ 9 88 แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ครั้งที่ 10 98 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ครง้ั ท่ี 11 106 แผนการจัดการเรยี นร้รู ายวิชาวทิ ยาศาสตร์ คร้ังที่ 12 115 แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายวชิ าทักษะการพฒั นาอาชพี ครัง้ ท่ี 13 124 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าทักษะการพฒั นาอาชพี คร้งั ที่ 14 131 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ คร้ังท่ี 15 141 แผนการจัดการเรียนรรู้ ายวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ครง้ั ที่ 16 148 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าทักษะการเรียนรู้ ครง้ั ที่ 17 157 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง ครั้งที่ 18 คณะผู้จัดทา
3 แผนการจัดการเรียนร้รู ายวิชาพฒั นาอาชีพใหม้ ีความเข้มแข็ง คร้งั ท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ กศน.ตาบลดงแดง 1. สัปดาห์ท่ี 2 วนั ที่ 18 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00น. 2. วชิ า พฒั นาอาชีพให้มคี วามเขม้ แข็ง รหัสวิชา อช21003 จานวน 2 หนว่ ยกิต 3. มาตรฐานท่ี 3.4 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ ีความมน่ั คง 4. หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอื่ ง ศกั ยภาพธรุ กจิ 5. สาระสาคญั มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาอาชพี ให้มผี ลิตภัณฑ์หรืองานบรกิ าร สร้างรายได้พอเพียงต่อการดารงชวี ติ มเี งนิ ออมและมีทนุ ในการขยายอาชีพ 6. เน้อื หา 1. การวิเคราะหต์ าแหนง่ ธรุ กิจ - ระยะเริม่ ต้น - ระยะสร้างตัว - ระยะทรงตัว - ระยะตกต่าหรอื สูงขน้ึ 2. การวิเคราะหศ์ ักยภาพธุรกิจบนเส้นทางของเวลา 7. จุดประสงคก์ ารเรยี นร/ู้ ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง 1. สามารถวเิ คราะหต์ าแหนง่ ธุรกจิ ในระยะต่าง ๆได้ 2. สามารถวิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจบนเสน้ ทางของเวลาได้ 8. การบรู ณาการกับหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพียง (2 เงอ่ื นไข 3 หลกั การ การเช่ือมโยงสู่ 4 มติ ิ) ความรู้ การวเิ คราะห์ตาแหนง่ ธุรกิจ การวิเคราะห์ศกั ยภาพธรุ กิจบนเสน้ ทางของเวลา คณุ ธรรม - มีความขยัน - มีความสามคั คีในการทางานร่วมกนั - มคี วามต้ังใจและมุ่งม่ัน พอประมาณ - การวางแผนทีค่ วามเหมาะสมในการทาธุรกจิ - ต้นทุนและทรัพยากร - เวลาในการประกอบธรุ กิจ มเี หตผุ ล - มีข้อมูลในการตดั สนิ ใจในการประกอบธรุ กิจ - แนวทางการขยายธรุ กิจ
4 มภี มู ิคุม้ กนั - ลดความเสีย่ งในการตดั สนิ ใจที่ทาให้ขาดทุน - สามารถกาหนดทิศทางการตลาดในอนาคตได้ วตั ถุ - สินค้ามีมาตรฐานตรงกับความตอ้ งการของตลาด - มีขอ้ มูลในการลงทุนครั้งต่อไป สงั คม - มกี ารทางานรว่ มกนั เปน็ กลุ่มแลกเปลย่ี นความคดิ และวเิ คราะห์ร่วมกนั สง่ิ แวดล้อม - มีธรุ กจิ ทเี่ หมาะสมกับทต่ี ง้ั ให้ไม่ทาใหเ้ กดิ ความเสียหากบั สิ่งแวดลอ้ ม วฒั นธรรม - สง่ เสรมิ ธุรกจิ ที่รกั ษาวัฒนธรรม ใหค้ นในชุมชนใชท้ รพั ยากรทม่ี ใี นชุมชน 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ 1 กาหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้(O : Orientation) 1. ครูและผู้เรยี นร่วมกันกาหนดสภาพปญ๎ หา ความต้องการในการเรียนรูเ้ ร่อื งวเิ คราะหต์ าแหน่งธุรกจิ ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรยี นรู้(N : New ways of learning) 1. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2. ครูอธบิ ายความหมายของตาแหนง่ ธรุ กจิ ในระยะตา่ ง ๆ และมอบหมายให้ผเู้ รียนทาแบบสอบถามอาชีพที่ ผเู้ รยี นสนใจ 1อาชพี ขั้นที่ 3 การปฏิบตั ิและการนาไปใช้(I : Implementation) 1. ผูเ้ รียนศกึ ษาเนอ้ื หาเพิม่ เติมจากสื่ออนิ เตอรเ์ น็ต 2. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกนั แลกเปล่ยี นเรยี นรู้และสรุปความรู้เบ้ืองต้นท่ีได้จากแบบสอบถาม เพ่อื นามา วเิ คราะห์สรุปผล และจัดทารายงานรวบรวมเป็นแฟมู สะสมงาน ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้(E : Evaluation) 1. ผูเ้ รียนสามารถนาความรู้ และประสบการณใ์ นการประกอบอาชีพทผ่ี ู้เรียนสนใจมาประยกุ ตใ์ ช้ได้ 10. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ - หนังสอื แบบเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - ส่ืออินเตอรเ์ น็ต
5 11. การวดั และประเมนิ ผล 11.1วธิ กี ารวดั และประเมินผล- ใบงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรยี น 11.2 เคร่อื งมือวดั และประเมินผล - ผลจากการตรวจใบงาน - คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน 11.3 เกณฑก์ ารวัดและการประเมนิ ผล - ใบงานคะแนนเต็ม 10คะแนน - แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียนเกณฑ์การประเมนิ ผา่ นและไม่ผา่ น กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................................................................... .................................................. ลงชอื่ …………………………………………….ครผู ู้สอน (นางเลิศดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................................................................................................................. .......................................................... ลงช่อื ………………………………………………………ผู้อนุมัตแิ ผน (นางป๎ทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอจตรุ พกั ตรพิมาน
6 บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ กศน.ตาบลดงแดง ครัง้ ที่ 2 วัน/เดอื น/ปีวันที่ วนั ท่ี 18 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ครผู ้สู อนนางเลิศดาราวรรณ ตาคา ระดับ มธั ยมศึกษาตอนต้น เวลา 09.00-12.00 น. สาระการประกอบอาชีพ รายวชิ า พฒั นาอาชีพให้มคี วามเข้มแข็ง รหสั วชิ า อช21003 จานวนผเู้ รยี นทั้งหมด ............... คนเข้าเรียน…………………คน ไม่เขา้ เรยี น……………………….คน 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้การประเมนิ โดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรยี น พบวา่ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น มากกว่ากอ่ นเรียนจานวน ........ คนคดิ เปน็ ร้อยละ............ คะแนนการทดสอบหลงั เรยี น น้อยกวา่ ก่อนเรียนจานวน ......... คนคิดเปน็ รอ้ ยละ............ 2. เนอ้ื หา/สาระ/รายวชิ า ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน ........................................................................................................................... ........................................ ............................................................................................................................. ...................................... 4. ปญั หา/อปุ สรรคการเรยี นการสอน ................................................................................................................................................. .................. ................................................................................................................ ................................................... 5. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .........................................................(ผบู้ นั ทึก) (นางเลิศดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล วนั ท.่ี ......../................/........... ความเห็น/ข้อเสนอของผ้บู รหิ าร ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................................................................................ ........... ลงชื่อ.................................................. (นางปท๎ มาภรณ์ ศรีเนตร) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอจตรุ พักตรพิมาน
7 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รายวชิ า การพัฒนาอาชพี ให้มีความเข้มแข็ง รหสั อช21003 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น คาช้ีแจง ใหผ้ ูเ้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน จงเลอื กกากบาทในขอ้ ทผี่ ู้เรยี นเหน็ วา่ ถกู ท่สี ดุ เพียงหนึง่ ขอ้ 1.ความจาเป็นของการพฒั นาอาชีพคือข้อใด ก. ต้องสรา้ งอาชีพใหม่ ข. ทาให้อาชพี มกี ารพัฒนา¬ขน้ึ ค. มีผลต่อการลงทุน การตลาด การผลติ ง. ผ้ปู ระกอบการสามารถเลือกอาชีพได้อย่างอิสระ 2. การวเิ คราะห์ศกั ยภาพเศรษฐกิจมีความจาเป็นเพราะเหตใุ ด ก. ช่วยใหผ้ ปู้ ระกอบการทาธุรกิจไดด้ ีขน้ึ ข. ช่วยให้ผู้ประกอบการรจู้ ักตนเองและคูแ่ ขง่ ค. วเิ คราะห์หรือไมว่ เิ คราะห์ก็สามารถทาธรุ กจิ ได้ ง. ไมม่ ีความจาเป็นในการวเิ คราะห์คิดประกอบธรุ กิจ 3. ตาแหน่งธุรกิจหมายถึง ก. การเรม่ิ ตน้ ประกอบอาชีพ ข. ช่วงเวลาในการประกอบอาชพี ค. ระยะสดุ ท้ายของการประกอบอาชีพ ง. ชว่ งใดชว่ งหนึง่ ของการประกอบอาชีพ 4. เส้นทางของเวลาหมายถงึ ก. การเรม่ิ ตน้ ประกอบอาชีพ ข. วฏั จักรของการประกอบอาชพี ค. การนบั เวลาในการดาเนินงานดา้ นอาชีพ ง. การเดินทางไปสจู่ ดุ หมายในการประกอบอาชีพ 5. การกาหนดทิศทางและเปูาหมายการตลาดช่วยอะไรในการทาธุรกจิ ใดบ้าง ก. รู้จักกลมุ่ ลกู ค้ามาก ข. สินคา้ จะได้รับความสนใจ ค. ชว่ ยให้สามารถดาเนนิ ธุรกิจไดค้ ลอ่ งตัวยิง่ ขึ้น ง. สามารถกาหนดเปาู หมายการตลาด 6. การศกึ ษาการตลาดของผู้ประกอบการต้องทาความเขา้ ใจเรอื่ งใดบ้าง ก. ตลาดต้องการอะไร ข. ผู้รบั บรกิ ารคือใคร ค. ลูกค้าต้องการอะไร ง. กลุ่มเปาู หมายมีมากน้อยเพียงใด 7. มขี อ้ พิจารณาเพื่อการกาหนดกลยทุ ธ์สเู่ ปาู หมายการพัฒนาตลาดอยา่ งใดบ้าง ก. ลงทนุ สงู ทาสนิ ค้ามาก ข. อยู่ท่ีการตัดสินใจของผู้ประกอบการ ค. ตอ้ งประเมนิ ความต้องการของตลาดกอ่ นลงทุน ง. ลงทนุ ต่าท่ีสุด ทาสนิ คา้ จานวนนอ้ ยแล้วค่อยเพม่ิ ขน้ึ
8 8. วิธีการโดยทว่ั ไปที่ใชใ้ นส่งเสรมิ การตลาดท่นี ้อย ส่วนมากจะใชว้ ิธใี ด ก. ทาการวิจยั ตลาด ข. ใชพ้ นกั งานเดินตลาด ค. การโฆษณาประชาสมั พันธ์ ง. สารวจความต้องการของผู้บริโภค 9. ในการทาธรุ กจิ ส่ิงจาเป็นอย่างยิ่งทีส่ รา้ งความพึงพอใจใหก้ บั ลกู คา้ คอื คุณภาพ คณุ ภาพหมายถึงอะไรในการทา ธุรกิจและบรกิ าร ก. ลูกค้าคือพระเจา้ ข. บรกิ ารที่เข้าใจผูบ้ ริโภค ค. พนักงานบริการ ง. สถานทใ่ี หบ้ รกิ าร 10. ในการทาธรุ กจิ ด้านการบริการ ผูร้ ับบรกิ ารจะให้ความสาคญั ในเรื่องใดมากท่ีสดุ ก. พนักงานบริการ ข. สถานท่ใี ห้บรกิ าร ค. ราคาค่าใช้บรกิ าร ง. กระบวนการบรกิ าร
9 ใบความรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ศกั ยภาพธุรกิจ ศกั ยภาพ คือ ความสามารถภายในรา่ งกายทซี่ อ่ นเรน้ และยังไมถ่ ูกนามาใชใ้ นการพฒั นาธุรกจิ หรอื ดาเนินการ ในสิ่งต่างๆ การพฒั นา คือ การเปลี่ยนแปลงอยา่ งมีกระบวนการโดยมีจุดม่งุ หมายกาหนดไว้ การพฒั นาศักยภาพ คอื การนาเอาความสามารถทซี่ ่อนเร้นภายในมาใชป้ ระโยชน์อย่างมีกระบวนการ เพือ่ ใหไ้ ดผ้ ลงานเกิดประสิทธภิ าพทีด่ ที ส่ี ดุ การวเิ คราะห์ คือ การแยกแยะส่ิงทจ่ี ะพิจารณาออกเปน็ ส่วนย่อย ทีม่ ีความสัมพนั ธ์กนั รวมถงึ สืบค้น ความสัมพนั ธส์ ว่ นยอ่ ยเหล่าน้ัน การวิเคราะห์ศักยภาพธรุ กิจ คอื การแยกแยะส่วนย่อยของความสามารถทซ่ี ่อนเรน้ ใยตวั ตนนามาใช้ประโยชน์ อยา่ งมีกระบวนการ เพ่ือผลงานทด่ี ีทีส่ ุด คณุ ค่าและความจาเป็นของการวิเคราะห์ศักยภาพธุรกจิ 1. ผูป้ ระกอบการร้จู ักตวั เอง, คแู่ ข่งขัน 2. ผู้ประกอบการสามารถวางกลยทุ ธท์ างธุรกจิ ได้หลายระดับ และแบง่ แยกหนา้ ท่ีไดช้ ัดเจน เหมาะสมกับ ความถนดั 3. ผ้ปู ระกอบการสามารถมองหาลทู่ างการลงทนุ ได้ดีข้ึน ตัวอย่างการวเิ คราะหศ์ ักยภาพธรุ กจิ คณุ พงษ์ศักดิ์ ชยั ศิริ เจา้ ของร้านเฟอรน์ ิเจอรเ์ คร่ืองเรือนไม้ 1. มใี จรักด้านการค้าเฟอร์นเิ จอร์ ชอบบริการงานด้านการขาย 2. มมี นษุ ย์สัมพนั ธ์ทด่ี ี ยิ้มแย้มแจ่มใส เปน็ กันเอง ออ่ นน้อมถอ่ มตน 3. มีความซื่อสัตยต์ ่อลูกคา้ ขายสินค้าเหมาะสมกับราคา ไมเ่ อาเปรียบลูกคา้ 4. มีความรดู้ ้านเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนไม้เป็นอย่างดี 5. ทาเลท่ตี ัง้ รา้ นมีความเหมาะสม 6. มีเงนิ ทุนหมนุ เวยี นคล่องตัว 7. มสี ว่ นแบง่ ตลาดในท้องถิ่นประมาณ 30% 8. ลูกค้าสว่ นใหญ่อาชีพพนกั งานบริษทั , ขา้ ราชการ ระดับรายไดป้ านกลาง ในหมู่บา้ นจัดสรรบรเิ วณใกล้เคียง ประมาณ 7 หมู่บ้านแถบชานเมือง 9. ในท้องถน่ิ มผี ู้ประกอบกิจการค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้เช่นเดียวกนั 3 ราย 10. ทศิ ทางในอาชีพน้ี ยังมีอนาคตอีกยาวไกลจะมีจานวนหมู่บา้ นจัดสรรเพ่มิ ขึน้ ในแถบนีอ้ กี ประมาณ 5 หมูบ่ า้ น จะเหน็ ได้ว่า การวิเคราะห์ศักยภาพมคี วามสาคญั และจาเป็นตอ่ การพฒั นาอาชีพให้เข้มแข็งมาก หากได้ วิเคราะหแ์ ยกแยะศกั ยภาพของตนเองอย่างรอบด้าน ปจ๎ จยั ภายในตวั ตนผู้ประกอบการ ป๎จจยั ภายนอกของ ผู้ประกอบการ โอกาสและอุปสรรคในการประกอบธุรกิจการค้า ยง่ิ วเิ คราะห์ไดม้ ากและถูกตอ้ งแม่นยามาก จะทาให้ ผปู้ ระกอบการรู้จกั ตนเอง อาชีพของตนเองไดด้ ยี ิ่งขึ้นเหมือนคากลา่ ว รเู้ ขา รเู้ รา รบรอ้ ยครงั้ ชนะทง้ั ร้อยคร้ัง
10 ใบงานท่ี 1 เร่อื ง ศกั ยภาพธรุ กิจ คาชี้แจง ใหผ้ ูเ้ รยี นเขยี นอธบิ ายความหมาย ความสาคญั และความจาเป็นของการพัฒนาอาชพี เพ่อื ให้มคี วาม เขม้ แข็ง ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................... .............................................. ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................. ........................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................ ................................. .................................................................................................. ....................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ชือ่ ............................................................................................รหสั นักศึกษา.......................................................
11 แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายวิชาพฒั นาอาชีพใหม้ ีความเข้มแข็ง คร้ังที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น กศน.ตาบลดงแดง 1. สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00น. 2. วชิ า พัฒนาอาชีพให้มคี วามเขม้ แข็ง รหัสวิชา อช21003 จานวน2หนว่ ยกติ 3. มาตรฐานท่ี 3.4 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชพี ให้มคี วามม่นั คง 4. หนว่ ยการเรยี นรู/้ เรื่อง การจัดทาแผนพฒั นาการตลาด 5. สาระสาคญั กาหนดทศิ ทางการตลาด เปาู หมายการตลาดกลยุทธส์ ่เู ปูาหมายวิเคราะห์กลยทุ ธแ์ ละกาหนดกจิ กรรมและ แผนการพัฒนาการตลาด 6. เน้อื หา 1. การกาหนดทิศทางการตลาด 2. การกาหนดเปาู หมายการตลาด 3. การกาหนดกลยทุ ธส์ ูเ่ ปาู หมาย 4. การวิเคราะหก์ ลยุทธ์ 5. กจิ กรรมและแผนการพฒั นาการตลาด 7. จดุ ประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั 1. กาหนดทศิ ทางการตลาดได้ 2. กาหนดเปูาหมายการตลาดได้ 3. กาหนดกลยุทธส์ ่เู ปาู หมายได้ 4. สามารถวิเคราะห์กลยุทธ์ได้ 5. กาหนดกิจกรรมและแผนการพฒั นาการตลาดได้ 8. การบูรณาการกบั หลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ การเช่ือมโยงสู่ 4 มิติ) ความรู้ การกาหนดทศิ ทางการตลาด การกาหนดเปาู หมายการตลาดการกาหนดกลยทุ ธส์ ูเ่ ปาู หมาย การวเิ คราะห์กลยุทธ์ คุณธรรม - มคี วามขยนั - มีความสามคั คใี นการทางานรว่ มกนั - มีความตั้งใจและมงุ่ มั่น พอประมาณ - มกี ารวางแผนในการผลติ สนิ คา้ ทีเ่ หมาะสมกบั ความต้องการของตลาด - สามารถวางแผนการลงทนุ ได้ มเี หตุผล - ไดส้ นิ คา้ ท่ีตรงกับความต้องการของตลาด - สร้างผลกาไรใหก้ ับธุรกิจ
12 มภี ูมคิ ุม้ กัน - นาขอ้ มูลมาใชเ้ พื่อการลดความเสีย่ งในการขาดทนุ - สามารถกาหนดทิศทางการตลาดในอนาคตได้ วัตถุ - สนิ คา้ มีมาตรฐานตรงกับความตอ้ งการของตลาด - มีข้อมูลในการลงทนุ ครง้ั ต่อไป สังคม - มีการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มแลกเปลย่ี นความคิดและวเิ คราะห์รว่ มกนั สิ่งแวดล้อม - มสี นิ ค้าที่ตรงกับความตอ้ งการ มคี ุณภาพ ให้กบั ผู้บริโภคในตลาดการขายสินค้า วฒั นธรรม - สง่ เสรมิ ใหค้ นในชมุ ชนนิยมการใชส้ นิ ค้าท่ีมีอยใู่ นชุมชนนั้นๆ 9. กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรยี นรู้(O : Orientation) 1. ครูและผูเ้ รียนร่วมกันกาหนดสภาพป๎ญหา ความต้องการกาหนดทศิ ทางการตลาด เปูาหมายการตลาด และกลยุทธ์สู่เปูาหมาย และการวิเคราะหก์ ลยุทธ์ ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรยี นรู้(N : New ways of learning) 1. ครูอธบิ ายความหมายและวธิ กี ารจัดทาแผนพฒั นาการตลาด และมอบหมายใบงานโดยใหผ้ ้เู รียนวิเคราะห์ กลยุทธโ์ ดยการวเิ คราะห์จุดอ่อน จดุ แขง็ โอกาส และอปุ สรรคทางการตลาดของอาชีพทผ่ี ู้เรียนสนใจ โดยให้วิเคราะห์ แยกเปน็ รายด้าน ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ัติและการนาไปใช้(I : Implementation) 1. ผเู้ รียนศึกษาเน้ือหาเพ่มิ เติมจากสือ่ อนิ เตอร์เนต็ 2.ครูและผูเ้ รียนรว่ มกันแลกเปลยี่ นเรียนรู้และวิเคราะห์กลยุทธ์โดยการวเิ คราะหจ์ ดุ ออ่ น จุดแขง็ โอกาส และ อปุ สรรคทางการตลาดของอาชีพที่ผ้เู รียนสนใจ ขนั้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้(E : Evaluation) ผูเ้ รียนสามารถนาความรู้ และประสบการณ์ในการประกอบอาชพี ที่ผ้เู รยี นสนใจมาประยุกต์ใชไ้ ด้ 10. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ - หนงั สือแบบเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน - ใบงานโดยใหผ้ ูเ้ รยี นวิเคราะหก์ ลยทุ ธโ์ ดยการวเิ คราะหจ์ ุดอ่อน จุดแขง็ โอกาส และอุปสรรคทางการตลาด ของอาชีพทผ่ี ู้เรยี นสนใจ โดยให้วิเคราะหแ์ ยกเป็นรายดา้ น
13 11. การวัดและประเมินผล 11.1วธิ ีการวดั และประเมินผล - ใบงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรยี น 11.2 เคร่ืองมือวดั และประเมินผล - ผลจากการตรวจใบงาน - คะแนนแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น 11.3 เกณฑก์ ารวดั และการประเมนิ ผล - ใบงานคะแนนเต็ม 10คะแนน - แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียนเกณฑ์การประเมนิ ผ่านและไมผ่ ่าน กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................ ......................................... ......................................................................................... ................................................................................................ ลงชือ่ …………………………………………….ครูผสู้ อน (นางเลิศดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ………………………………………………………ผอู้ นมุ ัตแิ ผน (นางป๎ทมาภรณ์ ศรเี นตร) ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอจตุรพกั ตรพิมาน
14 บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ กศน.ตาบลดงแดง ครั้งท่ี 3 วนั /เดอื น/ปวี ันท่ี 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อนนางเลิศดาราวรรณ ตาคา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เวลา 09.00-12.00 น. สาระการประกอบอาชีพ รายวชิ า พฒั นาอาชีพให้มีความเข้มแข็ง รหสั วชิ า อช21003 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้การประเมินโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น พบวา่ คะแนนการทดสอบหลงั เรยี น มากกวา่ กอ่ นเรยี นจานวน ........ คนคดิ เป็นร้อยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น น้อยกว่าก่อนเรียนจานวน ......... คนคดิ เป็นร้อยละ............ 2. เนื้อหา/สาระ/รายวิชา ............................................................................................................................. ...................................... ........................................................................................................................................... ........................ 3. กิจกรรมการเรียนการสอน ................................................................................. .................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... 4. ปัญหา/อุปสรรคการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 5. แนวทางการแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ.........................................................(ผ้บู นั ทกึ ) (นางเลิศดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล วนั ท.ี่ ......../................/........... ความเหน็ /ข้อเสนอของผบู้ ริหาร ................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ.................................................. (นางป๎ทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอจตุรพกั ตรพิมาน
15 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รายวชิ า การพัฒนาอาชพี ให้มคี วามเข้มแข็ง รหสั อช21003 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น คาช้ีแจง ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จงเลือกกากบาทในขอ้ ทผี่ ู้เรียนเห็นว่าถกู ทส่ี ุดเพียงหนึ่งข้อ 1. คาวา่ “ทนุ ” ในการประกอบอาชีพหรือในการดาเนนิ ธุรกจิ หมายถึงอะไร ก. เงินสด ข. เงินกู้ ค. ที่ดิน ง. เงนิ ลงทุนในการดาเนนิ ธรุ กิจ 2. ปจ๎ จัยทีส่ ง่ ผลให้การดาเนนิ ธุรกิจประสบผลสาเรจ็ นั้นประกอบด้วยอะไรบา้ ง ก. ทราบแหลง่ ท่ีอยู่ของลกู ค้า ข. ทราบความต้องการของลกู คา้ ค. การเตรียมพร้อมในการดาเนนิ งาน ง. การกาหนดกลุ่มลูกค้าทเี่ ปูาหมายชัดเจน 3. การกาหนดกลยทุ ธใ์ นการพัฒนาอาชีพผลติ ภัณฑใ์ หม่ มีข้อควรพจิ ารณาอย่างใดบ้าง ก. คานงึ ถงึ ปริมาณเพื่อลูกคา้ พึงพอใจ ข. รูปแบบของผลติ ภัณฑต์ อ้ งเป็นทีส่ นใจ ค. ผลติ ภัณฑส์ ามารถสคู้ ู่แขง่ ขันในตลาดได้ ง. ผลติ ภณั ฑใ์ หมอ่ อกมาตอ้ งสนองลกู ค้า 4. ทาไมถงึ ต้องมีการทาบญั ชีครัวเรือนและบัญชีอาชีพ ก. เพ่อื เป็นระบบ ข. เพ่ือทราบรายรบั ค. เพื่อทราบรายจา่ ย ง. เพือ่ ใหท้ ราบงบดลุ เชน่ กาไร ขาดทุน 5. ความสาคญั ของโครงการพัฒนาอาชีพ คือ ก. ชว่ ยให้ประหยัดทนุ ในการประกอบอาชีพ ข. กาหนดทศิ ทางของการดาเนนิ งานอย่างชดั เจน ค. ทาให้การประกอบอาชีพเป็นไปตามจดุ มงุ่ หมาย ง. ชว่ ยใหผ้ ปู้ ระกอบการสามารถเลอื กกิจกรรมการพฒั นาอาชพี ได้อยา่ งเหมาะสม 6. การศกึ ษาการตลาดของผู้ประกอบการต้องทาความเขา้ ใจเร่อื งใดบ้าง ก. ตลาดตอ้ งการอะไร ข. ผรู้ บั บรกิ ารคือใคร ค. ลูกค้าต้องการอะไร ง. กลุม่ เปูาหมายมีมากน้อยเพียงใด 7. มีข้อพจิ ารณาเพื่อการกาหนดกลยุทธ์ส่เู ปาู หมายการพัฒนาตลาดอยา่ งใดบ้าง ก. ลงทุนสูงทาสินค้ามาก ข. อย่ทู กี่ ารตัดสนิ ใจของผู้ประกอบการ ค. ตอ้ งประเมินความต้องการของตลาดกอ่ นลงทนุ ง. ลงทุนตา่ ทส่ี ุด ทาสนิ ค้าจานวนน้อยแล้วคอ่ ยเพม่ิ ข้ึน
16 8. วิธีการโดยทั่วไปที่ใชใ้ นสง่ เสริมการตลาดที่น้อย สว่ นมากจะใช้วิธีใด ก. ทาการวิจยั ตลาด ข. ใชพ้ นักงานเดนิ ตลาด ค. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ง. สารวจความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค 9. ในการทาธรุ กิจ ส่ิงจาเปน็ อย่างยิ่งทส่ี รา้ งความพึงพอใจให้กับลูกคา้ คือคุณภาพ คณุ ภาพหมายถึงอะไรในการทา ธรุ กจิ และบริการ ก. ลูกค้าคือพระเจ้า ข. บรกิ ารท่ีเขา้ ใจผูบ้ ริโภค ค. พนกั งานบริการ ง. สถานทใี่ ห้บริการ 10. ในการทาธรุ กจิ ด้านการบรกิ าร ผ้รู ับบริการจะใหค้ วามสาคัญในเร่ืองใดมากที่สดุ ก. พนกั งานบริการ ข. สถานที่ให้บรกิ าร ค. ราคาคา่ ใชบ้ ริการ ง. กระบวนการบรกิ าร
17 ใบความรูท้ ี่1 การกาหนดทิศทางและเป้าหมายการตลาด การกาหนดทศิ ทางธุรกิจ เป็นการคิดให้มองเหน็ อนาคตการขยายอาชพี ให้มีความพอดจี ะตอ้ งกาหนดใหไ้ ดว้ า่ ในชว่ งระยะขา้ งหน้าควร จะไปถงึ ไหนอยา่ งไร การกาหนดเปา้ หมายการตลาด เปูาหมายการตลาดเพื่อการขยายอาชีพคือการบอกให้ทราบว่าสถานประกอบการนัน้ สามารถทาอะไรได้ ภายในระยะเวลาเท่าใดซึง่ อาจจะกาหนดไว้เป็นระยะสั้นหรอื ระยะยาว3ปหี รือ5ปกี ็ได้การกาหนดเปาู หมายของการ พฒั นาอาชีพตอ้ งมคี วามชัดเจนสามารถวัดและประเมนิ ผลได้การกาหนดเปูาหมายหากสามารถกาหนดเป็นจานวน ตัวเลขไดก้ ็จะยิ่งดีเพราะทาให้มคี วามชดั เจนจะชว่ ยให้การวางแผนมคี ุณภาพย่ิงขน้ึ และจะส่งผลในทางปฏบิ ัติไดด้ ยี ่ิงขน้ึ การบริหารการตลาด (Marketing Management) เป็นกระบวนการตัดสนิ ใจท่ีเกี่ยวกับการวางแผน การปฏิบตั ิการและการควบคุมกิจกรรมต่างๆท่ีทาให้ธรุ กิจบรรลเุ ปูาหมายทีต่ งั้ ไวป้ ระกอบดว้ ย3ส่วน 1. การวางแผนวิธกี ารเพื่อบรรลุเปาู หมาย 2. การปฏิบัติตามแผน 3. การควบคุมและตรวจสอบ การตลาดในยุคโลกาภิวัฒนม์ ีการเปลย่ี นแปลงเรว็ มากซึง่ ขึ้นอยกู่ ับกระแสของสังคมกาลังซอ้ื ของผู้บริโภคและ ส่วนแบ่งของตลาดดงั น้ันผปู้ ระกอบอาชีพจาเปน็ ต้องศึกษากระบวนการตลาดอยู่ตลอดเวลาเพอื่ นามากาหนดทิศทาง และเปูาหมายทางการตลาดโดยพยายามผลติ สินคา้ หรือบริการขน้ึ มาท่ีจะสามารถตอบสนองความพึงพอใจของ ผู้บรโิ ภคให้ได้มากท่สี ดุ ดังนั้นจาเป็นทีจ่ ะต้องมีการกาหนดทศิ ทางและเปาู หมายทางการตลาดมาใช้ทางการตลาดเพือ่ เอาชนะคู่แขง่ ขันทางการตลาดและเปน็ ผูป้ ระสบความสาเร็จในทสี่ ุด การกาหนดทศิ ทางและเปูาหมายทางการตลาดจะตอ้ งตอบคาถามเหลา่ น้ีใหไ้ ดด้ ังน้ี 1. ตลาดต้องการซ้ืออะไรหมายถงึ สินคา้ ทีผ่ ูบ้ ริโภคต้องการ 2. ทาไมจึงซื้อหมายถึงจดุ ประสงค์ในการซ้ือสนิ คา้ ไปทาไม 3. ใครคือผ้ซู ื้อหมายถึงกลุ่มเปาู หมายทจี่ ะซอ้ื คือกล่มุ ใด 4. ซื้ออยา่ งไรหมายถึงกระบวนการซื้ออย่างไรเชน่ ซือ้ แบบตั้งคณะกรรมการการประมลู 5. ซอ้ื เมื่อไรหมายถึงโอกาสท่ีจะซือ้ สนิ ค้าเมื่อไรเชน่ ทุกวันทุกเดอื น 6. ซอ้ื ที่ไหนหมายถงึ สินค้าทจี่ ะซื้อมขี ายตามรา้ นค้าประเภทใดเชน่ รา้ นขายของเบ็ดเตล็ดร้านขายท่วั ไป ผู้ประกอบการจะต้องสรปุ ใหไ้ ดว้ ่าผู้บริโภคตอ้ งการสินค้าชนิดใดนาไปใชท้ าอะไรกลุ่มเปูาหมายทตี่ ้องซ้ือเปน็ กลุ่มท่มี ีกาลงั ซื้อหรือไมว่ ิธกี ารที่ซอ้ื เชน่ ซื้อได้ทว่ั ไปหรือตอ้ งผ่านคณะกรรมการซื้อใชเ้ ม่ือใดและควรซอ้ื แหลง่ ใดสิ่ง เหลา่ นจ้ี ะเปน็ ทศิ ทางในการผลิตสินค้าแลว้ นามากาหนดเปูาหมายทจ่ี ะผลิตสินค้าเช่นผลติ ผกั อนิ ทรยี ผ์ ซู้ ้ือต้องการกนิ อาหารปลอดสารเคมคี ือกลุ่มเปูาหมายผสู้ งู อายุในหมบู่ า้ นซ้ือปลีกใชท้ ุกวัน ตามร้านคา้ ในชุมชนนอกจากนอี้ าจจะต้องวเิ คราะห์สิ่งต่างๆดงั นเี้ พื่อนามาพจิ ารณากาหนดทศิ ทางดว้ ย
18 ตัวอย่าง การวเิ คราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลกู ค้าสายการบิน 1. ตลาดตอ้ งการซ้ืออะไร : การเดินทางที่สะดวกสบายรวดเรว็ การบริการท่ีประทับใจมเี ท่ียวบินใหเ้ ลือกมากมี เท่ยี วบนิ ตรง 2. ทาไมจึงซ้ือ : ตอ้ งการประหยัดเวลาต้องการเดนิ ทางอย่างรวดเร็วมคี วามภมู ิใจ 3. ใครคือผซู้ ้อื : นกั ธุรกิจนกั ทอ่ งเท่ยี ว 4. ซ้อื อยา่ งไร : ซอ้ื ซ้าซื้อเมื่อมธี รุ ะดว่ นและจาเปน็ ซื้อจากความประทับใจ 5. ซอ้ื เมื่อไร : ซื้อสม่าเสมอซ้ือเร่งด่วนเป็นครง้ั คราวซื้อเมื่อตอ้ งการเดนิ ทางทอ่ งเท่ยี ว 6. ซือ้ ท่ีไหน : ตวั แทนจาหน่ายสานกั งานขายของสายการบิน การเลือกตลาดเปาู หมาย (Target Market) นั้นเปน็ องคป์ ระกอบท่สี าคญั ของกลยุทธท์ างการตลาด ซง่ึ นกั การตลาดจะเลือกตลาดเปาู หมายไดจ้ ะต้องทาการวเิ คราะหส์ ง่ิ ต่างๆดังต่อไปนี้ 1. ผู้ที่คาดว่าจะเปน็ ลกู คา้ ในอนาคตมีลกั ษณะการบริโภคอยา่ งไรมีความต้องการสนิ ค้าชนิดใดมีรูปแบบ พฤติกรรมการบริโภคอย่างไร? และผูท้ ่ีคาดว่าจะเปน็ ลูกคา้ ในอนาคตเปน็ ใครอยทู่ ี่ไหน 2. ส่วนผสมทางการตลาดและความสามารถในการจัดสว่ นผสมทางการตลาดให้เข้าถงึ เปูาหมายทางการ ตลาดทไ่ี ดว้ างไว้ 3. เปาู หมายของกจิ การโดยวิเคราะห์ถึงการแสวงหาโอกาสทางการตลาดทีเ่ หน็ ว่าพอมีชอ่ งทาง 4. ป๎จจยั อ่ืนๆซ่งึ ส่วนมาไดแ้ ก่ตวั แปรหรอื สภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ควบคุมไม่ได้เพราะปจ๎ จัยนม้ี ีผลตอ่ การเลอื กตลาดเปูาหมายเช่นกัน 5. การแบง่ ส่วนตลาดเพ่ือทจ่ี ะได้กลยทุ ธ์และยุทธวธิ ีทางการตลาดใหเ้ หมาะสมกบั ตลาดแต่ละส่วน เปูาหมายทางการตลาดเปน็ การคัดเลือกกลุม่ ลกู ค้าท่เี ป็นเปูาหมายโดยต้องคานึงถึงปจ๎ จัยสาคญั คือส่วนผสมทาง การตลาดผ้ทู คี่ าดหวังว่าจะเป็นลูกคา้ ในอนาคตและกรณีมสี ่วนแบ่งในการตลาด หลักการกาหนดเป้าหมายทางการตลาดมดี งั น้ี 1. เปาู หมายท่ีกาหนดต้องมีความเปน็ ไปได้ 2. เปูาหมายต้องชดั เจน 3. การกาหนดเปูาหมายต้องมคี วามละเอยี ดเพียงพอ ตวั อยา่ ง 1. ตอ้ งการเพิ่มสนิ คา้ อีก25% จากปกี ่อน 2. ตอ้ งการกาไรต่อยอดขายสูงกวา่ คู่แข่งอย่างนอ้ ย2% 3. ตอ้ งการเพิ่มจุดกระจายสินคา้ จาก10จดุ เปน็ 15จดุ
19 ใบความรทู้ ่ี 2 การกาหนดและวิเคราะห์กลยทุ ธส์ เู่ ปา้ หมาย การกาหนดกลยทุ ธเ์ ป็นการพัฒนาแผนระยะยาวบนพ้นื ฐานของโอกาสและอปุ สรรคภายในสภาพแวดลอ้ ม ภายนอกจุดแขง็ และจุดอ่อนภายในสภาพแวดล้อมภายในของบริษัทการกาหนดกลยทุ ธ์จะต้องรวมทงั้ การรุกการรบั การกาหนดเปาู หมายก่อนการพฒั นากลยุทธแ์ ละการกาหนดนโยบายของบริษทั การกาหนดกลยทุ ธ์เปน็ การทาให้ธุรกจิ เจรญิ เติบโตเพ่ือความอยรู่ อดเปน็ สาคญั การสรา้ งความเจริญเตบิ โต อย่างต่อเน่อื งอันจะนามาซึ่งยอดขายที่สงู ขน้ึ ตน้ ทนุ ต่อหน่วยลดลงและเปน็ ผลเน่ืองจากประสบการณ์ในการผลิตและ เปน็ ผลทาให้กาไรสงู ขน้ึ อีกดว้ ยถอื ว่าได้เป็นกลยุทธก์ ารเจริญเตบิ โตโดยวิธีทางลัดเพอื่ ตัดลดคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ ทางดา้ น การเงนิ และการบริหารจัดการกลยทุ ธ์ กลยทุ ธก์ ารพัฒนาการตลาดเปน็ กลยทุ ธท์ นี่ ามาใชเ้ พื่อเพ่ิมยอดขายและขยายการเตบิ โตโดยใชผ้ ลติ ภัณฑ์ ทมี่ อี ยู่ออกจาหน่ายในตลาดใหม่กลุม่ ลูกคา้ ในพ้นื ทีแ่ หง่ ใหม่เพ่อื ให้สามารถครอบคลุมใหค้ รบทุกพื้นที่ท้ังในประเทศและ ต่างประเทศ กลยุทธ์เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิเพื่อใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ กลยุทธ์คือหลักวิธีการและแนวทางในการปฏบิ ตั ิเพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์ซึง่ จะใช้กลยทุ ธ์ ในระดบั ปฏิบัติการ การวเิ คราะห์กลยุทธ์สู่เป้าหมาย อาจใช้วธิ ีการวเิ คราะหจ์ ุดอ่อนจดุ แขง็ (SWOT Analysis) ซงึ่ มอี งคป์ ระกอบดังน้ี SWOT Analysis จุดแข็ง จดุ ออ่ น โอกาส อุปสรรค SWOT Analysis เปน็ การวเิ คราะหส์ ารวจสภาพภายในองค์กรและสภาพแวดล้อมภายนอกเพ่ือนามา สงั เคราะห์ว่าองค์กรมีจุดออ่ น (S) จุดแข็ง (W) อปุ สรรค (T) และโอกาส (O) อยา่ งไร ปจั จัยภายในคอื สงิ่ ทีเ่ ราควบคมุ ไวไ้ ด้แก่จุดอ่อนจดุ แข็ง ปจั จัยภายนอกคือสง่ิ ทีเ่ ราควบคมุ ไมไ่ ด้ไดแ้ กอ่ ปุ สรรคและโอกาส จดุ แข็ง (Strengths) มลี ักษณะดังนี้ 1. เปน็ งานทเ่ี ราถนดั ทาแลว้ มคี วามสขุ 2. เป็นงานทโี่ ดดเดน่ ชุมชนชื่นชอบ 3. ทรพั ยากรและเคร่อื งมือมีความพร้อม จุดอ่อน (Weakness) มลี กั ษณะดังนี้ 1. เป็นงานท่เี ราไม่สบายใจท่ีจะทา 2. ตอ้ งการรับความชว่ ยเหลือจากคนอนื่ 3. ทักษะบางอย่างทเี่ รายงั ไม่มั่นใจ 4. ขาดทรัพยากรในการทางานให้บรรลเุ ปูาหมาย
20 อปุ สรรค (Threats) มลี ักษณะดังน้ี 1. ใครคือคู่แขง่ ขันท่ีทาได้ดีกว่าเรา 2. ถ้าสภาพแวดล้อมเปล่ียนจะทาให้แผนโครงการเรามีปญ๎ หา 3. ความขัดข้องทจี่ ะเกดิ จากเราเอง โอกาส (Opportunities) มีลกั ษณะดงั นี้คือ 1. โอกาสที่กาลงั จะเกิดขึ้นท่จี ะทาใหเ้ ราประสบความสาเรจ็ 2. มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รบั การสนับสนุน 3. มีส่วนแบง่ ของตลาดทเี่ รามองเหน็ 4. บุคลากรมีศกั ยภาพทาให้งานสาเร็จไดง้ ่ายขึน้ ศึกษาความเป็นไปได้ดังนี้คือ 1. ความเปน็ ไปได้ทางการเงนิ 2. ความเป็นไปได้ทางการตลาด 3. ความเป็นไปได้ทางการผลติ 4. ความเปน็ ไปได้ทางเทคโนโลยี การกาหนดกลยุทธ์ 1. ลงทนุ ต่าท่ีสดุ ซึ่งมคี วามเป็นไปได้ทางการเงนิ 2. ทาในสงิ่ ที่ทาได้ดซี ึง่ มีความเปน็ ไปได้ในการผลติ 3. ทาจานวนนอ้ ยแล้วค่อยๆเพ่มิ ไปสูจ่ านวนมาก 4. เปน็ ธรุ กจิ ท่ีสามารถทาได้ในระยะยาวซงึ่ มีความเปน็ ไปได้ทางการตลาด ความสามารถในการแขง่ ขัยอาจพจิ ารณาในส่ิงตา่ งๆดังน้ี 1. อะไรทีเ่ ราทาได้ดีทสี่ ดุ เมื่อเทียบกับผู้อื่น 1.1ดีกว่า 1.2เร็วกว่า 1.3ถูกกวา่ 1.4แตกตา่ งกว่าเดน่ กวา่ 2. มองจดุ เด่นท่ีเรามี 2.1สินคา้ / บริการของเราดีอย่างไร 2.2ใครคือลกู คา้ ของเรา 2.3ขนาดตลาดมีมลู คา่ เท่าไร 2.4เทคโนโลยใี นการผลิตสดุ ยอดเพยี งใด 2.5ถ้าคู่แข่งทาไดจ้ ะใช้เวลาอีกนานเทา่ ไร
21 กลยทุ ธ์การตลาดโดยใช4้ P กลยุทธก์ ารตลาดนนั้ มีอยูม่ ากมายแต่เป็นทร่ี จู้ ักและเปน็ พนื้ ฐานคือการใช4้ P เป็นการวางแผนในแตล่ ะส่วนให้ เข้ากันในบางครง้ั อาจจะไมส่ ามารถปรับเปล่ียนท้ัง4P ไดท้ ้ังหมดในระยะสั้นก็ไมเ่ ป็นไรแต่จะค่อยๆปรบั จนสมดลุ ครบ ทงั้ 4P ในที่สุด 1. สินค้าหรือบรกิ าร (Product) กาหนดสนิ คา้ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของลูกคา้ เช่นลูกคา้ สูงอายุต้องการ นา้ ผลไมท้ ี่มรี สหวานเลก็ น้อย 2. ราคาสินค้า (Price) เปน็ การตั้งราคาทเ่ี หมาะสมกบั สินคา้ หรอื บริการและกาลงั ซ้ือของลกู ค้าพิจารณาจาก ราคาของคู่แข่งบางครัง้ อาจลดราคาต่ากว่าค่แู ข่งก็ไดโ้ ดยลดคณุ ภาพบางตวั ทไี่ ม่จาเปน็ ก็จะทาให้สินค้ามีราคาต่ากวา่ ค่แู ขง่ หรือกาหนดราคาสูงกว่าคแู่ ขง่ ก็ได้ถ้าสินคา้ ของเราดีกวา่ คูแ่ ข่งดา้ นใดเพ่ือใหล้ ูกค้ามีโอกาสเปรยี บเทยี บ 3. สถานทีข่ ายสินคา้ (Place) ควรเลอื กทาเลขายใหเ้ มาะสมกบั ลกู ค้าหรือคิดหาวธิ ีการสง่ ของสินค้าให้ถึงมือ ลูกคา้ ได้อย่างไร 4. การสง่ เสริมการขาย (Promotion) เปน็ การทากิจกรรมต่างๆเพ่อื ใหล้ ูกคา้ รู้จักสินค้าและอยากทีจ่ ะซื้อมา ใช้เชน่ การแจกให้ทดลองใช้การลดราคาในช่วงแรกการแถมไปกับสินค้าอืน่ ๆ
22 ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง การจดั ทาแผนพฒั นาการตลาด คาสง่ั ใหผ้ เู้ รยี นรวมกลุ่มกัน 5คน ร่วมกันกาหนดเปูาหมายทางการตลาดประเภทสนิ คา้ เส้ือผา้ สาเร็จรูป โดย กาหนดกลยุทธ์แล้วสรุปลงในแบบบันทกึ สมาซกิ ในกลุ่ม 1. .................................................................................................... 2. .................................................................................................... 3. .................................................................................................... 4. ................................................................................................... 5. ................................................................................................... กลยุทธ์ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ใหว้ เิ คราะห์กลยุทธ์ โดยการวเิ คราะหจ์ ุดอ่อน จุดแขง็ โอกาส และอปุ สรรคทางการตลาดในชุมชนแลว้ วเิ คราะห์แยกเป็นรายดา้ น ดังน้ี 1. จุดแขง็ ........................................................................................................................ .................................................... ............................................................................................................................. ............................................... 2. จดุ ออ่ น ..................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................ ................................................................ 3. โอกาส ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ 4. อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... สรุปผลการวิเคราะห์ ............................................................................................................................................................................. ............ ....................................................................................................................... ..................................................................
23 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย ครัง้ ที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ กศน.ตาบลดงแดง 1. สปั ดาห์ที่ 4 วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วชิ า ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย รหัสวชิ า สค22020 จานวน 3 หนว่ ยกติ 3. มาตรฐานท่ี 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสาคญั เก่ียวกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนามาปรับใช้ในการดารงชวี ติ 4. หนว่ ยการเรียนร้/ู เรอ่ื งความภมู ิใจในความเป็นไทย 5. สาระสาคญั การสร้างความภูมิใจในความเป็นชาตขิ องคนทวั่ โลก ทกุ คนในชาตจิ ะต้องเร่ิมจากการศึกษาเรยี นรู้ ประวตั ิศาสตร์ รากเหง้าความเป็นมาของชาติ และการรวมชาตใิ หเ้ ปน็ ปกึ แผ่น สานกึ ความยากลาบากของเหลา่ บรรพ ชนทีไ่ ด้พลีชพี เพื่อการสรา้ งชาติสร้างแผ่นดนิ ซงึ่ ในประเทศไทย ถือเปน็ ประเทศท่ีมปี ระวตั ิศาสตรย์ าวนาน มี ขนบธรรมเนยี ม วัฒนธรรม ภาษาของตนเองและมีบูรพมหากษตั รยิ ์ท่ีมพี ระปรีชาสามารถ เคยเป็นศูนยร์ วมและมหาอา นาจท้งั ทางด้านการเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจ ที่ไม่แพ้ชาตใิ ดในโลก ซงึ่ คนไทยทุกคนควรภูมใิ จ ในหน่วยการ เรยี นรู้เพอื่ สร้างความภูมใิ จในความเปน็ ไทยใหก้ ับทุกคนนี้ จะมเี น้ือหาทีเ่ กีย่ วข้องกบั สถาบันหลักของชาติไทย ซง่ึ ประกอบด้วย สถาบนั ชาติ สถาบนั ศาสนา ทีไ่ มม่ ปี ระเทศใดเสมอเหมือน โดยเฉพาะอย่างย่ิงสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ซงึ่ เปรยี บเสมอื นศนู ย์รวมใจของคนในชาติ ชาติไทยและผนื แผน่ ดนิ ไทย ทดี่ ารงคงอยูไ่ ด้ เพราะบุญคณุ ของ พระมหากษัตริยไ์ ทยตั้งแต่สมัยกรงุ สโุ ขทยั กรงุ ศรีอยธุ ยา กรุงธนบรุ ี และกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ซ่ึงถือเป็นบุญคณุ ของ แผน่ ดนิ ที่ลกู หลานไทยทุกคนต้องเรียนรแู้ ละซาบซึง้ ท้งั น้ี เพ่อื ใหเ้ กดิ ความภาคภมู ิใจในความเปน็ ชาติไทยสืบต่อไป 6. เนื้อหา เรอ่ื งท่ี 1 สถาบนั หลกั ของชาติ เร่ืองท่ี 2 บญุ คุณของแผน่ ดิน 7. จุดประสงคก์ ารเรียนร/ู้ ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวัง 1. อธบิ ายความหมายของชาติ 2. อธิบายความเป็นมาของชนชาติไทย 3. บอกพระปรชี าสามารถของพระมหากษตั ริยไ์ ทยกบั การรวมชาติ 4. อธิบายประวัติความเปน็ มาของศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม 5. อธบิ ายความสาคญั ของสถาบนั ศาสนา 6. ระบบุ ทบาท และความสาคัญของสถาบันพระมหากษตั ริย์ 7. อธิบายบุญคณุ ของพระมหากษตั รยิ ์ไทยในอดตี 8. บอกพระปรีชาสามารถ คุณงามความดี และวรี กรรม ของสมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ่ี 1 (สมเด็จพระเจ้าอทู่ อง) สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเดจ็ พระนารายณ์-มหาราช และสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช 9. บอกคุณงามความดขี องสมเดจ็ พระสุรโิ ยทัย พระสพุ รรณกลั ยา ขนุ รองปลดั ชู ชาวบ้านบางระจนั และพระ ยาพิชยั ดาบหัก
24 8.การบูรณาการกับหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพยี ง (2 เงือ่ นไข 3 หลักการ การเชื่อมโยงสู่ 4 มติ )ิ ความรู้ เร่ืองท่ี 1 สถาบันหลกั ของชาติ เรอื่ งท่ี 2 บุญคุณของแผ่นดนิ คุณธรรม - มคี วามกตัญํตู ่อแผ่นดิน - มีความสามัคคี - มีความรกั ในชาติ พอประมาณ - การใชช้ วี ติ ประจาวันอย่างรอบครอบและเหมาะสม - เหน็ คุณคา่ ทรัพยากรของชาติ มเี หตุผล - เพอ่ื ตระหนักถึงความสาคัญของสถาบันหลกั ของชาติ บุญคุณของพระมหากษัตรยิ ์ - สรา้ งความสามัคคีของคนในชาติ มีภูมคิ ้มุ กัน - เกิดการรกั และหวงแหนชาติลดการเกิดคอรปั ชัน่ - เกิดความมั่นคงของสถาบันหลกั ของชาติ วัตถุ - คนในชาติทมี่ คี วามรักสามัคคีกัน - คนในชาตมิ คี วามกตัญํูต่อชาติ สังคม - มีการทางานรว่ มกันเป็นกลุ่มแลกเปลยี่ นความคดิ และวิเคราะห์ร่วมกัน - มีสงั คมทช่ี ่วยเหลอื เก้อื กูลกันเหน็ อกเหน็ ใจกนั สิ่งแวดล้อม - สภาพสง่ิ แวดล้อมเต็มไปด้วยความยิ้มแย้มดแู ลกันดารงชีวติ ร่วมกนั ได้อยา่ งมีความสุข วฒั นธรรม - คนมีคา่ นยิ มอันดีงามและสืบทอดวฒั นธรรมอันดีต่อไป 9. กระบวนการจดั การเรยี นรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 กาหนดสภาพปัญหาการเรยี นรู้(O : Orientation) 1. ครเู ปดิ ตวั อยา่ งภาพยนตร์เร่อื งตานานสมเด็จพระนเรศวรให้ผู้เรยี นดู และสนทนากบั ผู้เรยี นเรือ่ ง สถาบนั หลักของชาติ 2. ครแู ละผู้เรียนร่วมกันวเิ คราะห์ความสาคัญเกีย่ วกบั สถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรยี นรู้(N : New ways of learning) 1. ครอู ธิบายเรื่องบุญทุนของแผน่ ดิน พรอ้ มยกตัวอยา่ งพระมหากษัตรยิ ์ท่สี าคัญ และใหผ้ เู้ รียนศึกษาจาก สอ่ื อินเตอร์เนต็ และใบความรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง สถาบันหลักของชาติ และบุญคุณของแผน่ ดิน
25 2. ครใู หผ้ เู้ รียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลมุ่ ย่อย ๆ 5 กลมุ่ ๆ ละ 4–5 คน คน้ ควา้ ในหวั ข้อดังต่อไปน้ี 1)บญุ คุณของพระมหากษตั ริยไ์ ทยตัง้ แตส่ มยั กรงุ สุโขทัย กรุงศรีอยธุ ยา กรุงธนบรุ ี และกรุง รัตนโกสนิ ทร์ 2)พระมหากษัตริย์ไทยในสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยาและกรงุ ธนบรุ ี 3) วีรกษตั รยิ ์ไทยสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา 4) วีรกษัตริย์ไทยสมยั กรุงธนบุรี 5) วรี บุรษุ และวรี สตรไี ทยในสมยั กรงุ ศรีอยธุ ยาและกรุงธนบุรี และสรปุ องคค์ วามรใู้ นกระดาษบร๊ฟู พร้อมนาเสนอหน้าช้ันเรียน 3. ผู้เรยี นศึกษาเน้ือหาเพิ่มเตมิ จากสื่ออินเตอรเ์ นต็ ขน้ั ที่ 3 การปฏิบัติและการนาไปใช้(I : Implementation) 1. ใหต้ วั แทนกลุ่มนาเสนอผลงานที่ศึกษาคน้ คว้าให้กลมุ่ อ่ืนฟง๎ 2. ผู้เรยี นทาใบงาน 3. ครูและผู้เรียนชว่ ยกนั สรุปเนอื้ หาสาระสาคัญของเร่ืองและจดบนั ทึก ขน้ั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้(E : Evaluation) 1. ประเมนิ ผลจากการทาใบงาน 2. ทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น 10. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ - ชุดวิชาประวตั ิศาสตรช์ าติไทย รหสั รายวชิ า สค22020 - สมุดบันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ประกอบชุดวชิ า 11. การวดั และประเมินผล 11.1 วิธกี ารวดั และประเมินผล - ทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน - สมุดบันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ประกอบชุดวชิ า 11.2 เครื่องมอื วดั และประเมินผล. - ทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน - ผลจากการตรวจสมุดบันทกึ กิจกรรมการเรียนรูป้ ระกอบชุดวิชา 11.3 เกณฑ์การวัดและการประเมินผล - ทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรยี น - สมดุ บนั ทึกกจิ กรรมการเรยี นรู้ประกอบชดุ วชิ าคะแนนเต็ม 10 คะแนน
26 กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน (นางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ………………………………………………………ผู้อนุมตั แิ ผน (นางปท๎ มาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอจตรุ พักตรพมิ าน
27 บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ กศน.ตาบลดงแดง ครัง้ ที่ 18 วัน/เดือน/ปีวันท่ี 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ครผู ู้สอนนางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ เวลา 09.00-12.00 น. สาระการพัฒนาสังคม รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย รหัสวชิ า สค22020 จานวนผ้เู รียนท้ังหมด ............... คนเขา้ เรยี น…………………คน ไมเ่ ขา้ เรียน……………………….คน 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้การประเมินโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น พบวา่ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น มากกวา่ กอ่ นเรยี นจานวน ........ คนคดิ เปน็ รอ้ ยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น น้อยกว่าก่อนเรยี นจานวน ......... คนคิดเปน็ ร้อยละ............ 2. เนือ้ หา/สาระ/รายวชิ า ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... 3. กิจกรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 4. ปญั หา/อปุ สรรคการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... 5. แนวทางการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................ ... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ.........................................................(ผู้บนั ทึก) (นางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล วันท.่ี ......../................/........... ความเหน็ /ข้อเสนอของผู้บรหิ าร ................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ.................................................. (นางป๎ทมาภรณ์ ศรเี นตร) ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอจตรุ พกั ตรพมิ าน
28 แบบทดสอบก่อนเรียน คาสงั่ ให้ผูเ้ รียนเลอื กคาตอบที่ถกู ทสี่ ดุ แล้วทาเครือ่ งหมาย × หนา้ ข้อที่ถูกทส่ี ดุ 1. พระมหากษัตรยิ พ์ ระองคใ์ ดท่ีถือเป็นปฐมกษัตรยิ ์ของชนชาติไทย ต้งั แต่สมัยกรุงสุโขทัย ก. พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ ข. พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ค. สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ง. สมเดจ็ พระรามาธบิ ดที ี่ 1 (พระเจา้ อู่ทอง) 2. ข้อใดต่อไปน้ีไม่ถูกต้อง ก. กรุงศรอี ยุธยามพี ระมหากษัตรยิ ์ ปกครองรวม 5 ราชวงศ์ ข. กรุงศรอี ยธุ ยา มีพระมหากษตั ริยป์ กครอง 33 พระองค์ ค. กรงุ ศรอี ยธุ ยา เป็นราชธานีของไทยยาวนานถึง 417 ปี ง. กรงุ ศรีอยุธยาถูกปกครองโดยกษตั ริย์พมา่ 3. ข้อใดบอกความหมายของ “ชาติ” ตามพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน ไดถ้ ูกต้องที่สุด ก. ชาติ หมายถึง คนและแผ่นดิน ข. ชาติ หมายถงึ แผน่ ดินท่ีกลุ่มคนอาศัยอยู่ ค. ชาติ หมายถึง การประกอบกันของ 3 สถาบันหลกั คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ง. ชาติ หมายถงึ ประเทศ ประชาชนทเี่ ปน็ พลเมืองของประเทศ ท่มี ีความรสู้ กึ ในเรื่อง เชอื้ ชาติ ศาสนา ภาษา ประวัตศิ าสตร์ความเปน็ มา ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมอยา่ งเดียวกันหรืออยใู่ นปกครองรฐั บาลเดยี วกนั 4. ข้อใดอธิบายการรวมชาติให้เป็นปกึ แผ่นได้ดีทีส่ ดุ ก. พอ่ ขุนผาเมอื ง รว่ มกบั พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์ รวบรวมไพรพ่ ล สถาปนากรงุ สโุ ขทัยให้ เปน็ อาณาจักรของชนชาตไิ ทย ข. สมเดจ็ พระรามาธิบดที ี่ 1 (สมเดจ็ พระเจ้าอ่ทู อง) ผนวกเมืองตา่ ง ๆ เข้าด้วยกนั แล้ว สถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยา เป็นราชธานีของชนชาติไทย ค. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กอบกเู้ อกราชบ้านเมอื งและประกาศอิสรภาพให้กรุงศรี อยุธยา หลงั จากทเ่ี สียกรุงศรคี รงั้ ที่ 1 ใหก้ บั พม่า ง. ถูกทกุ ข้อ 5. พระพุทธศาสนาท่เี ผยแผเ่ ขา้ มาสู่ชนชาติไทย ครง้ั แรกในสมยั กรงุ สุโขทยั เป็นนิกายอะไร ก. นกิ ายเถรวาท ข. นิกายมหายาน ค. นิกายลังกาวงศ์ ง. ท้งั 2 นิกายคอื เถรวาท และมหายาน
29 6. ในรชั สมัยใด ที่มีการหล่อพระพทุ ธรูป “พระศรสี รรเพชญ์” ซ่งึ เปน็ พระพทุ ธทองคาที่ ใหญท่ ่สี ุดในโลก ก. ในสมยั สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ข. ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ค. ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ง. ในสมยั สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวบรมโกศ 7. ข้อใดไม่ใชค่ วามสาคัญของสถาบนั กษัตรยิ ์ตัง้ แต่อดีตจนถึงป๎จจุบนั ที่มีต่อแผ่นดินไทย ก. เป็นประมุขแหง่ รฐั เชงิ สัญลกั ษณ์เท่าน้นั ข. เป็นผู้รวบรวมชนชาตไิ ทยใหเ้ ปน็ ปึกแผ่น ค. เป็นผูน้ าทพั ในการออกศึกสงคราม ง. เป็นศูนย์รวมใจของคนในชาติ 8. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีไม่ถูกต้อง ก. ชนชาวไทยเสยี กรงุ ศรีอยธุ ยาใหก้ ับพมา่ ครั้งที่ 1 เมอื่ ปี พ.ศ. 2121 ข. ชนชาวไทยเสียกรงุ ศรอี ยุธยาให้กบั พมา่ ครง้ั ที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310 ค. สงครามยุทธหตั ถีเกิดขน้ึ ก่อนท่ีสมเด็จพระนเรศวร จะขึ้นครองราชย์ ง. สมเดจ็ พระนเรศวร ประกาศอิสรภาพ ณ เมอื งแครง เม่ือปี พ.ศ. 2127 9. ข้อใดไมใ่ ช่เหตุการณ์ท่เี กิดขน้ึ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก. ส่งคณะทตู ไปเจริญไมตรกี ับประเทศฝร่งั เศส ข. กอบกู้เอกราช หลงั จากเสียกรงุ ศรีอยธุ ยาให้กบั พมา่ ค. กวเี อกนาม ศรีปราชญ์ แต่งหนงั สอื กาศรวลศรปี ราชญ์ ง. แตง่ ตั้งเจา้ พระยาวชิ เยนทร์ ซึ่งเปน็ ชาวตา่ งชาติใหเ้ ขา้ รับราชการ 10. ข้อใดต่อไปนีไ้ มถ่ ูกตอ้ ง ก. ขุนรองปลัดชู เป็นทหารเอกของสมเดจ็ พระเจ้าตากสิน ข. พระสพุ รรณกลั ยาถูกถวายตัวใหบ้ เุ รงนองเพอื่ เปน็ ตวั ประกัน ค. สมเด็จพระสุริโยทยั สิ้นพระชนมบ์ นหลงั ชา้ งในการตอ่ สู่กับพระเจ้าแปร ง. ชาวบา้ นบางระจันตอ่ สศู้ ึกตา้ นกองทพั พม่าได้ถงึ 8 คร้ัง ชว่ งกอ่ นเสียกรงุ ศรีอยุธยา ครง้ั ที่ 2
30 ใบงานท่ี 1 ความภมู ใิ จในความเป็นไทย กิจกรรมท้ายเร่อื งที่ 1 สถาบันหลกั ของชาติ กจิ กรรมท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1. ให้อธบิ ายความหมายของ “ชาติ” ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ใหอ้ ธิบายความเปน็ มาของชนชาติไทย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ให้ยกตวั อยา่ งพระปรชี าสามารถของพระมหากษัตรยิ ์ไทยในการรวบรวมชาติ มา 1 พระองค์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ให้บอกความสาคญั ของสถาบนั ศาสนาที่มีต่อสงั คมไทย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ใหอ้ ธบิ ายความสาคญั ของสถาบนั พระมหากษัตริยท์ ี่มตี ่อคนไทย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. ใหบ้ อกพฤตกิ รรมทแ่ี สดงถึงความภูมใิ จในความเป็นไทย และพฤตกิ รรมที่แสดงออกถึงการรกั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ มาอยา่ งน้อย 3 พฤติกรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
31 ใบงานท่ี 2 บุญคุณของแผน่ ดนิ กจิ กรรมท่ี 1 จงจบั คู่พระราชกรณียกิจ วรี กรรม หรือพระปรีชาสามารถของพระมหากษตั รยิ ์ วีรชน กับช่ือ พระมหากษัตรยิ ์หรอื วรี ชนให้ถกู ต้อง โดยนาตวั เลขมาไวใ้ นชอ่ งด้านหน้า เชน่ สมเดจ็ พระเจ้าอู่ทอง ตรงกับข้อที่ 1. การสถาปนากรงุ ศรอี ยุธยาขนึ้ เปน็ ราชธานีของไทย สมเดจ็ พระเจ้าอูท่ อง 1 การสถาปนากรงุ ศรีอยธุ ยาข้นึ เปน็ ราชธานขี องไทย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ 2 รัชสมัยที่เสียกรุงศรีอยธุ ยา ครัง้ ท่ี 1 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ 3 ต่อสศู้ กึ ต้านกองทัพพม่าไดถ้ ึง 8 ครัง้ ชว่ งกอ่ นเสยี กรุงศรีอยุธยา ครงั้ ท่ี 2 สมเด็จพระมหนิ ทราธิราช 4 กอบกูเ้ อกราช หลังการเสียกรุงศรอี ยธุ ยา ครง้ั ท่ี 1 สมเดจ็ พระธรรมราชาธริ าช 5 ถูกถวายให้บเุ รงนองเพ่ือเป็นตัวประกัน สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช 6 มีการตั้งสมณวงศใ์ นลงั กา ทเ่ี รียกวา่ สยามวงศ์ หรอื อุบาลีวงศ์ สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช 7 กอบกูเ้ อกราช หลังการเสียกรุงศรอี ยธุ ยา ครัง้ ที่ 2 สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกศ 8 รัชสมยั ท่ีเสยี กรุงศรีอยธุ ยา คร้งั ท่ี 2 สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ 9 ส้ินพระชนม์บนหลังช้างในการต่อสู่กับพระเจ้าแปร สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช 1 ไดร้ ับการแตง่ ต้งั ใหเ้ ปน็ กษัตริย์ครองกรงุ ศรีอยุธยาจากบเุ รงนอง 0 พระสรุ โิ ยทยั 1 รวบรวมพลได้ 400 คน ต่อสู้ศกึ พม่า 1 พระสุพรรณกลั ยา 1 ปฏริ ปู การปกครองแบบจตสุ ดมภ์ 2 ขุนรองปลัดชู 1 มกี ารแต่งต้งั คณะทตู ไปเจริญไมตรกี บั ประเทศฝร่งั เศส ในสมยั พระเจา้ 3 หลยุ ส์ ที่ 14 ชาวบ้านบางระจัน 1 สงครามชา้ งเผือก 4 1 สถาปนากรงุ ธนบรุ ีเป็นราชธานี 5 1 ประกาศอิสรภาพ ณ เมอื งแครง 6
32 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย ครง้ั ที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ กศน.ตาบลดงแดง 1. สปั ดาห์ที่ 5 วนั ที่ 8 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วชิ า ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย รหัสวิชา สค22020 จานวน 3 หน่วยกติ 3. มาตรฐานท่ี 5.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสาคัญเกีย่ วกบั ภมู ศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง สามารถนามาปรบั ใชใ้ นการดารงชวี ติ 4. หนว่ ยการเรียนรู้/เร่อื ง มรดกไทยสมยั กรุงศรีอยธุ ยา และกรงุ ธนบุรี 5. สาระสาคัญ มรดกไทยสมยั กรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบรุ ี เป็นการศกึ ษาเกี่ยวกับความหมายมรดกไทย ประเภทของ ประเพณไี ทยทีส่ าคญั วฒั นธรรมไทยในเร่ืองการแตง่ กาย ภาษา อาหาร การละเล่นตา่ ง ๆ ตลอดจนการเรียนรเู้ กยี่ วกบั ศิลปะไทยดา้ นวรรณกรรม สถาปต๎ ยกรรม ประตมิ ากรรม อันล้าค่าทต่ี ้องมีการอนรุ ักษ์เป็นมรดกของชนชาวไทยสืบต่อ ยังลกู หลานเพ่ือความภาคภมู ิใจ 6. เน้ือหา เรื่องที่ 1 ความหมาย/นิยาม “มรดกไทย” เรื่องท่ี 2 ประเพณีไทย เรอ่ื งที่ 3 วัฒนธรรมไทย เรอ่ื งท่ี 4 ศิลปะไทย 7. จุดประสงค์การเรียนร/ู้ ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั 1 .อธิบายความหมาย/นยิ าม “มรดกไทย” 2. อธิบายถึงคณุ ค่าของประเพณีไทย 3. บอกเลา่ วัฒนธรรมไทยสมัยกรงุ ศรีอยุธยา และกรงุ ธนบุรี การแต่งกาย การใชภ้ าษา อาหารไทย และ การละเล่น เป็นตน้ 4. ยกตัวอยา่ งวรรณกรรมในสมยั กรุงศรีอยธุ ยา และกรุงธนบรุ ี 5. ระบุลักษณะเด่นของสถาป๎ตยกรรม ประติมากรรมไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี 6. อธบิ ายความภาคภมู ิใจในมรดกไทย 7. ยกตวั อย่างพฤติกรรมท่แี สดงถึงความภาคภมู ใิ จในมรดกไทย อย่างนอ้ ย 3 ตัวอย่าง 8. การบรู ณาการกับหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 เง่ือนไข 3 หลักการ การเช่อื มโยงสู่ 4 มิต)ิ ความรู้ เรือ่ งท่ี 1 ความหมาย/นยิ าม “มรดกไทย” เร่ืองที่ 2 ประเพณีไทย เรือ่ งที่ 3 วฒั นธรรมไทย เรอ่ื งท่ี 4 ศิลปะไทย
33 คุณธรรม - มคี วามภูมใิ จในประเพณีและวฒั นธรรมไทย - มีความสามัคคี พอประมาณ - การดาเนินชวี ิตอย่างเหมาะสมตามวฒั นธรรมและประเพณไี ทย - ใช้ทรพั ยากรอยา่ งคุมค่า มเี หตผุ ล - ปรบั ตวั ให้เข้ากับวฒั นธรรมและประเพณี - สร้างความสามคั คีของคนในชาติ มภี ูมคิ มุ้ กนั - ดาเนนิ ชวี ิตไดอ้ ย่างเหมาะสมตามวัฒนธรรมไม่รับวฒั นธรรมต่างชาติมากเกนิ ไป วัตถุ - ประชากรสามารถปรบั ตัวกับวัฒนธรรมที่เข้ามาได้ - ประชากรเปน็ พลเมืองทีด่ ี สังคม - มีการทางานร่วมกันเปน็ กลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดและวเิ คราะห์รว่ มกัน - มสี งั คมทีร่ ักความเป็นไทยปฎบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมและประเพณี สง่ิ แวดล้อม - สภาพสงิ่ แวดลอ้ มเต็มไปด้วยความยมิ้ แย้มดแู ลกันดารงชวี ติ รว่ มกันได้อยา่ งมีความสุข - วัฒนธรรม - คนมีค่านิยมอันดงี ามและสืบทอดวัฒนธรรมอนั ดีต่อไป 9. กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้(O : Orientation) 1. ครูเปิดตวั อยา่ งมรดกไทย ประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย และศลิ ปะไทย จากสื่ออินเตอร์เนต็ ใหผ้ ้เู รียนดู และสนทนากับผูเ้ รียนเรือ่ งมรดกไทยสมยั กรุงศรีอยุธยา และกรงุ ธนบุรี 2. ครูและผเู้ รียนรว่ มกันวิเคราะห์ความสาคัญเกยี่ วกับมรดกไทย ประเพณีไทย วฒั นธรรมไทย และศลิ ปะ ไทย
34 ข้ันท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และจัดการเรยี นรู้(N : New ways of learning) 1. ครอู ธิบายเรื่องมรดกไทยสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา และกรุงธนบุรพี รอ้ มยกตัวอยา่ งมรดกไทย ประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย และศลิ ปะไทยทสี่ าคัญ และใหผ้ ู้เรยี นศึกษาจากสือ่ อินเตอรเ์ น็ตและใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง มรดกไทยสมยั กรุงศรีอยธุ ยา และกรุงธนบุรี 2. ครูให้ผเู้ รียนแบง่ กลุม่ ออกเปน็ กลมุ่ ย่อย ๆ 5 กลุ่มๆ ละ 4–5 คน ค้นควา้ ในหัวข้อดงั ต่อไปน้ี 1)มรดกไทย 2)ประเพณไี ทย 3) วัฒนธรรมไทย 4) ศิลปะไทย และสรปุ องค์ความร้ใู นกระดาษบร๊ฟู พร้อมนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3. ผู้เรียนศึกษาเนือ้ หาเพ่ิมเตมิ จากส่ืออนิ เตอรเ์ นต็ ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละการนาไปใช้(I : Implementation) 1. ให้ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานทศี่ ึกษาคน้ ควา้ ให้กลุม่ อ่นื ฟ๎ง 2. ผ้เู รียนทาใบงาน 3. ครแู ละผเู้ รียนชว่ ยกันสรปุ เนอื้ หาสาระสาคัญของเรื่องและจดบันทึก ข้ันท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้(E : Evaluation) 1. ประเมินผลจากการทาใบงาน 10. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ - ชดุ วิชาประวตั ิศาสตร์ชาติไทย รหัสรายวิชา สค22020 - สมุดบนั ทึกกิจกรรมการเรยี นรปู้ ระกอบชดุ วชิ า - สื่อ Internet 11. การวัดและประเมินผล 11.1 วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล - ใบงาน - สมดุ บันทกึ กิจกรรมการเรยี นร้ปู ระกอบชดุ วิชา 11.2 เคร่ืองมือวดั และประเมินผล. - ใบงาน - ผลจากการตรวจสมดุ บนั ทึกกจิ กรรมการเรยี นรู้ประกอบชุดวชิ า 11.3 เกณฑ์การวัดและการประเมินผล - ทดสอบก่อนเรยี น – หลังเรยี น - สมดุ บันทึกกจิ กรรมการเรียนรปู้ ระกอบชดุ วิชาคะแนนเต็ม 10 คะแนน
35 กจิ กรรมเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ลงชือ่ …………………………………………….ครูผ้สู อน (นางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ลงชือ่ ………………………………………………………ผู้อนุมัติแผน (นางป๎ทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอจตรุ พักตรพิมาน
36 บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ กศน.ตาบลดงแดง ครั้งท่ี 5 วนั /เดอื น/ปีวันท่ี 8 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2565 ครผู สู้ อนนางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น เวลา 09.00-12.00 น. สาระการพฒั นาสังคม รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย รหัสวชิ า สค22020 จานวนผู้เรยี นทั้งหมด ............... คนเขา้ เรยี น…………………คน ไมเ่ ข้าเรียน……………………….คน 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้การประเมนิ โดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น พบวา่ คะแนนการทดสอบหลงั เรียน มากกว่าก่อนเรียนจานวน ........ คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ คะแนนการทดสอบหลงั เรียน นอ้ ยกวา่ ก่อนเรียนจานวน ......... คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ 2. เน้อื หา/สาระ/รายวิชา .............................................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ...................................... 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 4. ปัญหา/อปุ สรรคการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... 5. แนวทางการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................ ... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชอ่ื .........................................................(ผูบ้ นั ทกึ ) (นางเลิศดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล วันที.่ ......../................/........... ความเห็น/ข้อเสนอของผบู้ รหิ าร ................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ.................................................. (นางป๎ทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอจตุรพักตรพมิ าน
37 ใบงานที่ 1 มรดกไทยสมยั กรุงศรอี ยธุ ยาและกรุงธนบุรี กจิ กรรมท้ายเร่ืองที่ 1 ความหมาย นิยาม มรดกไทย กจิ กรรมที่ 1 ตอบคาถามต่อไปนี้ 1. จงบอกความหมายของ “มรดกไทย” พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................
38 ใบงานท่ี 2 กจิ กรรมท้ายเร่ืองที่ 2 ประเพณีไทย กจิ กรรมที่ 1 จงอธบิ ายประเพณไี ทยต่อไปนีใ้ นสมัยกรุงศรอี ยุธยาและกรงุ ธนบุรีมาพอสังเขป 1) พระราชพธิ ีพยุหยาตราทางชลมารค ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 2) พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวญั ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 3) ประเพณีสงกรานต์ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 4) ประเพณลี งแขกทานา ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 5) ประเพณีเดือน 11 การแข่งเรอื ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 6) ประเพณีเดือน 12 พิธจี องเปรยี งตามประทปี (ชกั โคม) ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................
39 ใบงานที่ 3 กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 วัฒนธรรมไทย กจิ กรรมท่ี 1 จงอธิบายวัฒนธรรมไทยในสมัยกรุงศรอี ยธุ ยาและกรุงธนบรุ ีด้านต่อไปน้ีมาพอสังเขป 1) ด้านการแต่งกาย ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 2) การใช้ภาษา ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................
40 ใบงานท่ี 4 กจิ กรรมท้ายเรอื่ งท่ี 4 ศลิ ปะไทย กิจกรรมท่ี 1 จงบอกศลิ ปะไทยในสมัยกรงุ ศรีอยุธยาและกรุงธนบุรดี ้านตอ่ ไปนี้ มาพอสงั เขป 1) ด้านวรรณกรรม ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 2) ดา้ นสถาปต๎ ยกรรม ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ 3) ดา้ นประตมิ ากรรม ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................
41 ใบงานที่ 5 กิจกรรมทา้ ยเรอื่ งท่ี 5 การอนรุ กั ษม์ รดกไทย กจิ กรรมท่ี 1 จงบอกความภาคภมู ิใจในมรดกไทยพรอ้ มยกตวั อย่าง อยา่ งน้อย 3 ตัวอย่าง ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………....................................................
42 แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายวิชาภาษาไทย ครัง้ ท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ กศน.ตาบลดงแดง 1. สปั ดาห์ท่ี 6 วันท่ี 15 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00น. 2. วิชา ภาษาไทย รหสั วิชา พท21001 จานวน 4 หน่วยกิต 3. มาตรฐานที่ 2.1 มีความรู้ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเก่ยี วกับภาษาและการสื่อสาร 4. หนว่ ยการเรียนรู้/เร่อื ง การฟง๎ การดู 5. สาระสาคัญ สรุปความ จบั ประเดน็ สาคัญ วิเคราะห์ แยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คดิ เหน็ แสดงความคดิ เห็นตอ่ ผูพ้ ดู อยา่ งมี เหตผุ ล ตลอดจนมารยาทในการฟง๎ และดู 6. เนื้อหา 1. สรุปความ จับประเด็นสาคัญของเรอื่ งท่ีฟง๎ และดู 2. หลักการจับใจความสาคัญของเร่ืองท่ฟี ง๎ และดู 7. จดุ ประสงค์การเรียนรู/้ ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั (ดจู ากผังการออกข้อสอบ) 1. สรุปความ จบั ประเดน็ สาคญั ของเรอ่ื งท่ีฟง๎ และดู 2. วเิ คราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือจาการฟง๎ และดูสื่อโฆษณาและข่าวสาร 8. การบรู ณาการกบั หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง (2 เงอ่ื นไข 3 หลักการ การเชื่อมโยงสู่ 4 มติ )ิ ความรู้ สรุปความ จับประเด็นสาคญั ของเร่อื งทีฟ่ ๎งและดู หลกั การจบั ใจความสาคญั ของเร่ืองที่ฟง๎ และดู คณุ ธรรม - มคี วามตั้งใจ - มีความขยัน - มคี วามรับผิดชอบ พอประมาณ - ความเหมาะสมของเวลากบั เนื้อหาท่ีอา่ น - การเหลือเร่อื งทอี่ า่ นใหเ้ หมาะสมกับตนเอง มเี หตผุ ล - สามารถจับประเด็นความสาคญั เรอื่ งทอ่ี า่ น - สามารถวเิ คราะห์เร่ืองที่อา่ น มีภมู คิ ุ้มกนั - แยกเร่ืองทีจ่ ริงและปลอมได้ - ไม่เชือ่ ข้อมูลเทจ็ วัตถุ - ผู้เรยี นมคี วามรูส้ ามารถอา่ นจับประเดจ็ และใจความสาคญั ได้ - ผู้เรียนวิเคราะห์เร่อื งท่ีอา่ นและความน่าเช่อื ถือได้
43 สังคม - มีการทางานรว่ มกันเปน็ กลุ่มแลกเปลีย่ นความคิดและวเิ คราะหร์ ว่ มกนั สิง่ แวดล้อม - ผเู้ รยี นมีเจตคติท่ีดตี ่อการอา่ นทาให้บรรยากาศเตม็ ไปด้วยความสนกุ วัฒนธรรม - ผเู้ รียนไดเ้ รียนรูว้ ฒั นธรรมตา่ งในเรอ่ื งทีอ่ า่ น ท่มี ีความหลากหลาย - ผู้เรียนได้สรา้ งวัฒนธรรมในการรกั การอ่านในห้องเรยี น 9. กระบวนการจดั การเรยี นรูแ้ ละกิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี 1 กาหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ครูกลา่ วทกั ทายผ้เู รียน และซักถามผู้เรยี นเปน็ รายบุคคลเก่ียวกบั การสภาพป๎ญหาหรือเรื่องเกดิ ข้นึ ใน ชุมชน หรือในสงั คมปจ๎ จุบนั ท่ีไดร้ ับรจู้ ากสื่อตา่ งๆ ที่คดิ วา่ มีความสาคญั 2. ผ้เู รียนเล่าเรื่องราวต่าง ๆท่ีนา่ สนใจที่ไดพ้ บเห็นและแสดงความคดิ เห็นในเรอื่ งราวท่ีไดเ้ ลา่ ออกมาใหค้ รู และเพ่ือนไดร้ บั ฟง๎ (ฝึกทักษะการคดิ ) ขั้นท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 1. ครูอธิบายความหมายการฟ๎งและการดู 2. ให้ผู้เรียนเลือกเรอื่ งที่ผู้เรียนสนใจและให้ฟง๎ เพื่อจับใจความและดเู พ่ือใหเ้ กิดภาพและใหข้ ้อคิดอะไรกบั เราบ้าง 3. ผู้เรยี นศกึ ษาเน้อื หาเพ่ิมเติมจากใบความรู้และสอื่ อนิ เตอรเ์ น็ต 4. ใหผ้ ู้เรยี นแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 5 – 7 คน จานวน 4 กลมุ่ ดงั นี้ 4.1 กล่มุ การฟง๎ 4.2 กลุ่มการดู โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ เขยี นเรยี งความเพื่อทีจ่ ะนาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น 5. ครใู หผ้ เู้ รียนนาเสนอหน้าชนั้ เรยี นในหัวข้อเรยี งความของผเู้ รยี นทกุ กลมุ่ 6. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมและมอบหมายใบงาน ขนั้ ที่ 3 การปฏิบัติและการนาไปใช้ (I : Implementation) 1.ครใู หผ้ ูเ้ รียนแบง่ กลุม่ ออกเป็นกลุ่มยอ่ ย ๆ 5 กลุ่มๆ ละ 4–5 คน ค้นคว้าตามหัวข้อที่กาหนดและระดม ความคดิ ถอดบทเรยี นเร่ืองที่อา่ นใหส้ อดคล้องกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพียง พร้อมนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) 1. ใหน้ ักศึกษาออกมาหน้าช้นั เรยี น เพ่ือนาเสนอการถอดบทเรยี นเร่อื งที่อ่าน ให้สอดคล้องกบั หลักเศรษฐกิจ พอเพยี ง จากนนั้ ครูใหค้ ะแนน 2. แบบทดสอบหลงั เรยี น
44 10. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน 2. แบบฝกึ หัด 3. สื่ออนิ เตอร์เน็ต 11. การวดั และประเมนิ ผล - ใบงานคะแนนเตม็ 10คะแนน กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ .................................................................................................................................................................. ....................... ลงชอ่ื …………………………………………….ครผู ้สู อน (นางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ............................................................................................................................. ...................................………….............. ............................................................................................................................. ........................................................... ลงช่ือ………………………………………………………ผู้อนุมัตแิ ผน (นางป๎ทมาภรณ์ ศรเี นตร) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอจตรุ พักตรพมิ าน
45 บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ กศน.ตาบลดงแดง ครงั้ ท่ี 6 วนั /เดือน/ปวี ันที่ 15 เดือน มิถนุ ายน พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อนนางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เวลา 09.00-12.00 น. สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา พท 21001 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้การประเมินโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรยี น พบวา่ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น มากกวา่ ก่อนเรียนจานวน ........ คนคดิ เป็นร้อยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรียน น้อยกว่าก่อนเรียนจานวน ......... คนคดิ เป็นร้อยละ............ 2. เนอ้ื หา/สาระ/รายวิชา ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... 3. กจิ กรรมการเรียนการสอน .................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ...................................... 4. ปัญหา/อุปสรรคการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 5. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ.........................................................(ผู้บนั ทึก) (นางเลศิ ดาราวรรณ ตาคา) ครู กศน.ตาบล วันที่........./................/........... ความเห็น/ข้อเสนอของผู้บริหาร ........................................................................................ ........................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ.................................................. (นางป๎ทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอจตรุ พกั ตรพิมาน
46 ใบความรู้ เรอ่ื ง สรุปความ จับประเดน็ สาคญั ของเร่ืองที่ฟงั และดู การฟังและดเู พอ่ื จับประเดน็ และสรุปความ การจับประเด็นหมายถงึ การจับข้อความสาคญั หรือใจความสาคัญของเร่ือง ความหมายของการสรุปความ การสรปุ ความ คือ การหยิบยกเอาความคดิ หลักหรอื ประเด็นท่สี าคญั ของเรื่องมากล่าวย้าใหเ้ ด่นชดั โดยใช้ ประโยคสัน้ ๆ แลว้ เรยี บเรียงใหเ้ ปน็ ระเบียบ มารยาทในการฟังและดู 1. มองสบตาผู้พดู ไม่มองออกนอกห้องหรอื มองไปทอ่ี ื่น อนั เป็นการแสดงว่าไม่สนใจเรอื่ งท่ีพูดและไม่เอา หนังสอื ไปอ่านขณะท่ีฟง๎ หรือดู 2. รักษาความสงบ ไม่ส่งเสยี งรบกวนผอู้ ่ืน ไมเ่ อาของขบเคย้ี วเขา้ ไปทาลายสมาธิของผู้อ่ืน การชม ภาพยนตรค์ วรปิดโทรศัพทม์ ือถือจะได้ไม่รบกวนความสขุ ของผูอ้ ่ืน ไมค่ วรพาเด็กเล็กๆไปในโรงภาพยนตรห์ รอื ในที่ท่ี ตอ้ งการความสงบ 3. แสดงกริ ยิ าอาการท่เี หมาะสม วัยรนุ่ ไมค่ วรน่ังเกย้ี วพาราสีกนั ในท่ีสาธารณชนทตี่ อ้ งการความสงบในการ ฟ๎งและการดู เพราะนอกจากจะรบกวนสายตาคนอ่นื แลว้ ยังเปน็ การแสดงกริ ยิ าท่ีขดั ต่อขนบธรรมเนยี มของไทยอีก ดว้ ย 4. ในการดภู าพไม่ควรขดี เขียนหรือฉีกภาพซึ่งแสดงถึงความไม่มวี ฒั นธรรมทด่ี ีงาม หลักการฟังและดูเพ่ือสรปุ ความและจบั ประเดน็ การฟง๎ และดเู พือ่ จับประเดน็ และสรปุ ความ เปน็ ทักษะเบ้อื งตน้ ทท่ี ุกคนจะต้องฝกึ ฝน เราจะต้องตดิ ตามฟง๎ ดู เร่อื งราวโดยตลอด ดงั น้ันจึงตอ้ งมีสมาธิในการฟง๎ และสามารถแยกแยะไดว้ า่ ข้อความใดเป็นใจความสาคญั และ ขอ้ ความใดเป็นพลความ ถา้ เราเข้าใจเรอื่ งราวไดโ้ ดยตลอดแลว้ เรายอ่ มจดจาเรื่องราวท่ีฟ๎งและสามารถถ่ายทอดให้คน อน่ื ฟ๎งไดด้ ้วย ในการฟ๎งแตล่ ะครั้ง เราตอ้ งจับประเดน็ ของเรื่องที่ฟง๎ ได้ คือ ร้วู ่าผู้พดู ต้องการสือ่ สารอะไร เปน็ ประเด็น สาคัญ และรจู้ ักวา่ อะไรคือประเด็นรองซึง่ ขยายประเด็นสาคญั การฟ๎งเชน่ น้ีเปน็ การฟง๎ เพ่ือจบั ใจความสาคัญและ ใจความรองและรายละเอียดของเรื่อง มีวธิ ีการฟง๎ ดังนี้ 1. ฟ๎งเรื่องราวให้เขา้ ใจ พยายามจับใจความสาคัญของเรื่องเป็นตอนๆ วา่ เรื่องอะไร ใครทาอะไร ที่ ไหน เมอ่ื ไร อยา่ งไร 2. ฟง๎ เร่ืองราวที่เปน็ ใจความสาคญั แล้วหารายละเอียดของเร่ืองท่ีเป็นลักษณะปลีกยอ่ ยของใจความ สาคญั หรือท่เี ปน็ ส่วนขยายใจความสาคัญ
47 สรุปความโดยรวบรวมเนอ้ื หาสาระสาคญั อยา่ งครบถ้วน วธิ ีการสรปุ ความจากการฟ๎งนั้น เราจะตอ้ งคน้ หาให้พบวา่ สารใดเป็นความคดิ สาคญั ในเร่อื งนัน้ ๆ แลว้ สรุปไว้ เฉพาะใจความสาคัญ โดยเขียนชอื่ เรอื่ ง ผู้พดู โอกาสทฟี่ ๎ง วนั เวลา และสถานที่ท่ีได้ฟง๎ หรือดไู ว้เป็นหลักฐาน เครอื่ งเตือนความทรงจาต่อไป การฟง๎ และดเู พอื่ จับประเด็นและสรุปความ เปน็ การฟง๎ ในชีวิตประจาวันเพื่อใหไ้ ด้สาระสาคัญของเรือ่ งท่ี ฟง๎ เช่น ฟ๎งการสนทนา ฟง๎ เร่ืองราวข้อมลู ขา่ วสารตา่ งๆ ฟ๎งโทรศัพท์ ฟง๎ ประกาศ ฟ๎งการบรรยาย ฟ๎งการ อภิปราย ฟ๎งการเลา่ เร่ือง เปน็ ต้น วิธสี รปุ ความตามลาดับข้ัน 1. ขนั้ อ่าน ฟัง และดู - อ่าน ฟง๎ และดใู หเ้ ข้าใจอยา่ งน้อย 2 เที่ยว เพื่อใหไ้ ด้แนวคิดทสี่ าคญั 2. ขนั้ คดิ - คดิ เปน็ คาถามวา่ อะไรเปน็ จดุ สาคญั ของเรอ่ื ง - คดิ ตอ่ ไปวา่ จดุ สาคัญของเรื่องมคี วามสัมพนั ธก์ ับส่งิ ใดบา้ ง จดสิง่ นน้ั ๆ ไว้เปน็ ขอ้ ความสนั้ ๆ - คิดวธิ ีท่ีจะเขียนสรุปความใหก้ ะทัดรัดและชดั เจน 3. ขั้นเขยี น - เขยี นรา่ งข้อความสัน้ ๆท่ีจดไว้ - ขัดเกลาและตบแต่งร่างข้อความท่สี รปุ ให้เปน็ ภาษาทดี่ ีสอื่ ความหมายไดแ้ จม่ แจง้ ชัดเจน ตวั อยา่ งการสรุปความ เรอ่ื ง เราคอื บทเรียนของเด็ก การศึกษาเปน็ เรื่องสาคญั ของชีวติ ทกุ คนเกดิ มาจะโง่ จะฉลาด จะดีจะช่ัวข้นึ อยู่กับการศึกษา พอ่ แมท่ ุกคน ปรารถนาจะให้บุตรหลานของตนเป็นคนดี จนถงึ กับยอมทนลาบากตรากตราทาการงานหาทรพั ยส์ ินเงนิ ทองมาเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ย เพื่อการศกึ ษาของบตุ รหลาน นบั ว่าเปน็ หนา้ ที่และส่ิงทค่ี วรไดร้ บั การยกย่องในการเสยี สละนั้น แตย่ ังมสี ิง่ ที่มคี ุณค่าที่สดุ ในชวี ติ เด็ก ก็คอื บทเรยี นอันเป็นจริยศึกษาซึ่งเกิดจากการปฏิบัตติ ัวของพ่อแม่ ผู้ปกครองของเดก้ นน่ั คอื การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิดีงาม เพราะสง่ิ ทเี่ ดก็ ไดย้ นิ ได้ฟง๎ ไดร้ ไู้ ดเ้ ห็นจากพ่อแม่ผ้ปู กครองของ ตน เชน่ การพดู จาไพเราะ การงานเปน็ ระเบียบเรียบร้อยเป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรยี นอย่างสาคัญ ทีจ่ ะซึมซาบเขา้ ไปในจติ ใจของเดก็ ดยี ิ่งกวา่ หนงั สอื บทเรียนอื่นๆ นัน้ เป็นการใหก้ ารศึกษาที่มคี ่าย่ิง เปน็ การปลกู สร้างนสิ ัยที่ดีให้แกเ่ ด็ก ถา้ พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นคนดี มีนสิ ยั ดี เอื้อเฟื้อเผ่อื แผ่ มีเมตตา มคี วามยุตธิ รรม มีความรัก ความสามัคคี ในครอบครวั เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี กจ็ ะทาให้เด็กเอาอยา่ งในทางดี เป็นคนดีของพ่อ แม่ ผ้ปู กครอง สมความปรารถนา ทุกประการ ถา้ ปรารถนาดี หวงั ดตี อ่ บตุ รหลาน อยา่ เพียงแต่จะให้ทุนการศกึ ษาอยา่ งเดยี ว ต้องทาตนให้เปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ี เปน็ บทเรียนที่มีค่าของบตุ รหลานดว้ ย แล้วความปรารถนาของเราก็จะสมหวัง
48 การสรปุ ความ 1. ขน้ั อ่าน ฟัง และ คิด จบั แนวคิดได้ดงั นี้ “ พอ่ แม่ หาเงินทองมาให้ลกู เรยี นอย่างเดยี วยงั ไม่พอ ต้อง ปฏบิ ัติตนเป็นตัวอย่างทด่ี ีแก่ลูกดว้ ยจงึ จะนบั วา่ ได้ให้การศึกษาท่ีถูกตอ้ งแกล่ ูก” 2. ขน้ั เขยี น 2.1 ขอ้ ความทจี่ ดไวช้ ่วยจา “การศึกษา เรือ่ งสาคัญ – คนจะดจี ะช่วั โง่ ฉลาดเพราะ การศกึ ษา พ่อแมห่ าเงินมาให้ลกู เรยี นเสยี สละควรยกย่อง สง่ิ ท่ีมคี ่าต่อเด็ก – บทเรยี นจริยศกึ ษา คณุ ธรรม การ ปฏบิ ตั ิตนดีงาม เป็นตวั อย่างท่ีดี รกั ลูกต้องทาใหเ้ ป็นตวั อย่างทดี่ ดี ้วย” 2.2 ข้อความทส่ี รปุ แล้ว “การศึกษามีความสาคญั ต่อชีวิตเด็ก เพราะสามารถทาให้เด็กฉลาดและ เปน็ คนดไี ด้ พอ่ แมท่ ร่ี ักลกู อยากให้ลกุ เปน็ คนดีนัน้ ไม่ควรจะพอใจเพียงการทาหนา้ ท่หี าเงนิ มาใหล้ กู เรียนเท่านนั้ แต่ ควรคานงึ ถงึ บทเรยี น จรยิ ศกึ ษาอันมีคณุ คา่ ยิง่ ต่อชีวิตของเดก็ อันได้แก่การที่พอ่ แมเ่ ปน็ ผมู้ คี ณุ ธรรมและปฏบิ ตั ติ นเป็น แบบอย่างในทางทีด่ งี ามแก่ลูกดว้ ย”
49 ใบงาน เรอ่ื งการฟัง ดู คาช้แี จง 1. ใหผ้ เู้ รียนแบ่งกล่มุ ๆ 5 – 7 คน โดยใหม้ ที งั้ วัยรุ่น ผูส้ งู วัย และเพศหญิง เพศชาย ในกล่มุ ตามความ เหมาะสมและแต่งตง้ั คณะกรรมการการทางานร่วมกัน 2. ให้ผเู้ รียนแต่ละกลุม่ ได้ศกึ ษาเน้ือหาสาระจากเรื่องการฟ๎ง ดู ในบทเรียนหรือจาก ส่ือการเรียนรู้ทม่ี ี จากนั้นให้ปฏบิ ตั ิดงั น้ี 2.1 ศึกษาขา่ วจากหนงั สือพิมพ์ 1 ข่าว 2.2 ศึกษาบทรอ้ ยกรองทีส่ นใจ 1 เรอ่ื ง 2.3 ศึกษาละครจาก VCD ทส่ี นใจ 1 เรอ่ื ง 3. ให้สรปุ และวิเคราะหเ์ รื่องที่ศกึ ษา ตามหลักการที่ไดเ้ รียนรู้มา 4. ให้ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงาน
50 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาภาษาไทย คร้ังท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น กศน.ตาบลดงแดง 1. สัปดาห์ที่ 7 วนั ที่ 22 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.00-12.00น. 2. วิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า พท21001 จานวน4หน่วยกิต 3. มาตรฐานที่ 2.1 มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ และทกั ษะพน้ื ฐานเกีย่ วกบั ภาษาและการสอื่ สาร 4. หน่วยการเรียนร/ู้ เร่อื ง หลกั การใช้ภาษา 5. สาระสาคญั ชนดิ และหนา้ ทขี่ องคา พยางค์ วลี ประโยค การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอน อกั ษรย่อ พจนานุกรม คาราชาศัพท์ ความแตกตา่ ง และความหมายของสานวน สภุ าษติ คาพงั เพย 6. เนอ้ื หา 1. ความหมายของคา พยางค์ วลี ประโยค และการสะกดคา 2. หลักในการสะกดคา 3. การใชค้ าและการสร้างคาในภาษาไทย 3.1 การสร้างคา 3.2 คาประสม 3.3 คาซ้อน 3.4 คาสมาส คาสนธิ 3.5 หลกั การสงั เกตคาภาษาอน่ื ๆ ที่ใช้ในภาษาไทย 7. จดุ ประสงค์การเรยี นรู/้ ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง (ดูจากผงั การออกข้อสอบ) 1. อธิบายความแตกต่างของคาพยางค์ วลี ประโยค การสะกดคาได้ถกู ต้อง 2. อธิบายความแตกต่างระหวา่ งภาษาพูดและภาษาเขยี น 8. การบรู ณาการกับหลกั แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพยี ง (2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ การเชื่อมโยงสู่ 4 มติ )ิ ความรู้ สรปุ ความ จับประเดน็ สาคญั ของเรอื่ งการใชห้ ลักภาษา คณุ ธรรม - มีความตั้งใจ - มีความขยัน - มคี วามรับผิดชอบ พอประมาณ - เนือ้ หาวชิ าที่เรยี นรู้สอดคล้องกบั เวลาเรียนในแตล่ ะชั่วโมง - เน้ือหาทเ่ี หลือใหจ้ ดั การเรียนการสอนแบบ กรต.ได้ มเี หตผุ ล - ผ้เู รียนมคี วามรูใ้ นเรื่องหลักการใช้ภาษา - สามารถวิเคราะห์และสงั เคราะห์เรือ่ งการใช้หลักภาษาได้อยา่ งถูกต้อง มภี ูมคิ ุ้มกนั - การใช้คาท่ีถูกต้องตามหลักภาษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117