กรมสง เสรมิ การเกษตร 2548
หนา 1 ตําลงึ เปนผักพื้นบานท่ีคนทวั่ ไปรจู กั กันมานาน เปน ผกั ทมี่ ี คุณคาทางโภชนาการมาก สามารถนาํ ไปปรุงอาหารไดหลากหลายชนดิ เชน แกงจดื ตม จิ้มน้ําพรกิ ใสกวยเต๋ียวและตมเลือดหมู เปน ตน ในอดตี นัน้ เราไม จาํ เปน ตอ งปลกู ตาํ ลึงเอาไวร ับประทานเอง เน่อื งจากตําลึงมกั พบเหน็ ท่ัวไป ตามเถาไมเลอื้ ยอ่ืน ตามพุมไมเตีย้ หรอื พุมไมแหง ตาย รวมทั้งขึ้นตามริม รวั้ บาน จนมีคํากลา วถงึ “ ตาํ ลึงรมิ รั้ว ” อยเู สมอ แตใ นปจ จบุ นั เราไมค อยพบตําลึงตามรมิ ร้ัวอีกแลว จะเห็นกเ็ ฉพาะ ในทีร่ กรา งวางเปลา หรอื ไมก ต็ ามสวนทปี่ ลกู ตาํ ลึงไวเพอ่ื การคา ซึง่ สามารถ ทํารายไดอยางงามแกผ ปู ลูกตาํ ลงึ ขายเปนอยา งดี การปลูกตาํ ลงึ
หนา 2 ⇒ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ตําลงึ เปน ไมเถาเลื้อย เถาตําลึงมี ลักษณะกลม แยกเพศกันอยูคนละตน ปลายดอก แยกออกเปน 5 แฉก โคนตดิ กันเปนกรวย ผลมรี ูปรา ง กลมรคี ลา ยแตงกวาแตมีขนาดเล็กกวา ผลออนมี สีเขยี วลายขาว เมอ่ื แกก ลายเปน สแี ดง ตาํ ลึงเปน พชื ทีช่ อบนา้ํ จะสังเกตเหน็ วา ในหนาแลง ใบตําลงึ จะ แคระแกร็น แตใ นหนาฝนยอดตาํ ลงึ จะออนอวบอ่ิม นา รับประทาน ตําลึงออกดอกประมาณ เดือนมถิ นุ ายน - กรกฎาคม ⇒ คุณคาทางอาหาร ตาํ ลึงเปนผกั ใบเขียวเขมมคี ุณคาทางอาหารสูงมที งั้ เบตา – แคโรทีน ทชี่ ว ยลดอัตราเส่ียงในการเกดิ โรคมะเรง็ โรคหวั ใจขาดเลือด ทั้งในแคลเซียม และสารอาหารอนื่ ๆ ทพ่ี รอมกันมาชวยใหสขุ ภาพรางกายสมบรู ณแ ข็งแรง นอกจากนยี้ ังพบวา ตําลงึ ยงั ประกอบไปดวยเสน ใย ท่ีมคี วามสามารถในการจบั ไนไตรทไดด ที ี่สุด เมือ่ เทียบกบั พืชชนดิ อน่ื นเี่ ปน คุณลักษณะพเิ ศษของตําลึง ท่มี ีเสน ใยคอยจับไนไตรทเ พราะจะเปนการลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งใน กระเพาะอาหารได ⇒ การปลูกและการขยายพันธุ ตําลงึ มีการปลูกและขยายพนั ธุได 2 วิธี คือ • เพาะเมลด็ • ปกชาํ ดว ยเถา Document Title การปลูกตําลึง
หนา 3 การเพาะเมลด็ มวี ธิ กี ารงา ย ๆ ดังนี้ เตรียมดนิ เหมอื นปลกู ผักทวั่ ไปผสมปุยชวี ภาพหรือปยุ คอกกไ็ ด นํา ผลตําลึงแกส ีแดงแกะเอาเมล็ดออกมาโรยบนดนิ ทเ่ี ตรียมไว โรยดินกลบหรือ ใชใ บไมแหง กลบบาง ๆ รดน้ําใหชมุ เชาเย็น ตําลงึ ชอบดนิ ชมุ แตอ ยา ใหแ ฉะ เพราะจะเกิดโรคโคนเนา ได เมือ่ ตนงอกขนึ้ มาสกั ประมาณ 5 ซม. เร่มิ มีมือเกาะใหทาํ คา ง ( เนือ่ งจากตําลงึ เปนไมเ ล้อื ย จําเปนตอ งใชค า ง เพ่ือใหตาํ ลงึ ไตขึ้นสูท่สี งู เพอ่ื รับแสงแดด ) เหมาะท่สี ุดคอื ความสงู ระดบั 1 เมตรขนึ้ ไป แตไ มค วรสงู เกิน 3 เมตร เพราะจะไมส ะดวกในการเก็บยอดตาํ ลงึ โดยใชไ มไ ผตน เล็ก 3 ตน ปก เปน 3 เสา รอบปลายเชอื กเขาไวด วยกนั ผูกดว ยเชือกกลวยหรือเชือกปอ ใช วสั ดุท่ียอ ยสลายไดตามธรรมชาติ เพอื่ ชวยกนั อนุรักษส ง่ิ แวดลอมอีกทางหนึ่ง หรอื หากมีรว้ั ไมระแนง กถ็ อื โอกาสใชประโยชนโ ดยโรยเมล็ดไปตามริมรั้วเลย ทีเดยี ว ตําลึงตอ งไดรับแสงแดดตลอดทั้งวัน ลมโกรกผา นได ตําลึงจะ สงั เคราะหแสงแดดคายไอน้าํ ไดเ ตม็ ที่ ควรปลอ ยใหม ดแดงขึน้ เพราะจะชวยกิน เพลย้ี และแมลงทีจ่ ะมากัดกินตําลึง ปกชําดว ยเถา การปลูกตําลงึ เพอ่ื การคา น้นั นิยมขยายพันธุดว ยวิธีนี้ เนื่องจาก ตําลงึ จะเจรญิ เติบโตเร็วกวาการเพาะดวยเมล็ด วิธีการปกชํา ใหน าํ เถาท่ีแกพอสมควรมาตดั ใหยาว 15 – 20 ซม. ปก ชาํ ในหลุม ปลูกทไี่ ดเ ตรยี มไวแ ลว( ลกั ษณะข้ันตอนการปลูกเหมือนกับหวั ขอ การเพาะ เมล็ด ) พอเจรญิ เติบโตเต็มที่ประมาณ 1 เดือน ก็สามารถเกบ็ ยอดมาปรุงอาหาร ได การปลูกตําลึง
หนา 4 ทัง้ นี้ เพอื่ ใหต ําลงึ แตกยอดใหมทยอยออกมาตลอดป ตอ งหมั่น เกบ็ มาบรโิ ภคอยเู สมอ ในขณะเดียวกันใหใสป ยุ คอก ชวยเพิ่มเติมอาหารในดนิ ประมาณเดอื นละคร้ัง ตอ งหมน่ั รดนาํ้ สม่ําเสมอในหนาแลง และหนาหนาว สวนหนา ฝนจะเวนไดบา งแตต อ งชว ยรดน้ําในขณะทฝ่ี นทิง้ ชว ง จัดทํา/เผยแพรโดย : กลมุ ส่ือสงเสรมิ การเกษตร สํานักพฒั นาการถา ยทอดเทคโนโลยี กรมสง เสรมิ การเกษตร การปลูกตาํ ลึง
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: