5.

1 หนงั สือเรียน สาระความรู้พนื ฐาน รายวิชา การอ่าน – เขียน (เลอื ก) รหัส พต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขันพนื ฐาน พุทธศักราช สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สํานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร หนงั สือเรยี นนี้เปน็ ลขิ สิทธิ์ของสำนกั งาน กศน. เอกสารทางวชิ าการลาํ ดบั ที 24/2557 หา้ มนำไปพมิ พ์ เพื่อจำหนา่ ย โดยมไิ ดร้ ับอนุญาต จากสำนกั งาน กศน.

2 หนงั สือเรียน สาระความรู้พนื ฐาน รายวิชา การอ่าน – เขยี น (เลอื ก) รหัส พต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขันพนื ฐาน พทุ ธศักราช สํานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สํานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร เอกสารทางวชิ าการลาํ ดบั ที 24/2557

3 คาํ นํา หนงั สือเรียน การอา่ น-เขียน เป็นหนงั สือเรียน ทีกรมการศึกษานอกโรงเรียนไดเ้ คยจดั ทาํ ตามหลกั สูตรภาษาองั กฤษ พุทธศกั ราช หมวดวิชาภาษาองั กฤษเพือพฒั นาคุณภาพชีวิต เพือพฒั นา ทกั ษะทางภาษาองั กฤษใหม้ ีความเหมาะสมกบั ผเู้ รียน กศน.โดยเน้นการพฒั นาความสามารถในการใช้ ภาษาองั กฤษติดต่อสือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึงในสภาวการณ์ปัจจุบนั ประเทศไทยกาํ ลงั จะเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน สํานักงานส่งเสริ มการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จึงเห็นว่าชุด ภาษาองั กฤษการอา่ น-เขียน จะเป็นประโยชน์กบั ผเู้ รียน กศน.ในปัจจุบนั จึงไดน้ าํ ชุดภาษาองั กฤษดงั กล่าว มาจดั ทาํ เป็นรายวิชาการอ่าน- เขียน เป็ นรายวิชาเลือก ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ในหลกั สูตรการศึกษา นอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั พืนฐาน พทุ ธศกั ราช และไดจ้ ดั ทาํ หนังสือเรียนรายวิชานีขึน เพือใชใ้ น การจดั การเรียนการสอนใหก้ บั ผเู้ รียน กศน. โดย มเี นือหาเกียวกบั การเดินทาง รู้จกั เครืองหมาย สัญลกั ษณ์ เกียวกบั การเดินทาง การรู้จักใช้คาํ ศพั ท์ สาํ นวน บทสนทนาเกียวกับสวสั ดิภาพ การระมดั ระวงั ความ ปลอดภยั เป็นสิงจาํ เป็นในชีวติ ประจาํ วนั เพมิ พนู ทกั ษะในการอ่านเนือหาเรืองสัน เกียวกบั ชีวประวตั ิและ ผลงานของบุคคลสาํ คญั ของโลก การรู้ศพั ทแ์ ละสาํ เนาเกียวกบั เทศกาลต่าง ๆ และการเขียนบนั ทึก จดหมาย การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ มีหลกั การโดยเฉพาะสาํ หรับการเขียนแต่ละรูปแบบ แบ่งเป็น บท ไดแ้ ก่ บทที Would you like to know the signs and signals? บทที “Safety First” is important in daily life. บทที Would like to know the famous persons? บทที Would you like to know the interesting festivals? บทที How can we write good English? สาํ นกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ขอขอบคุณผเู้ ขียนและ คณะกรรมการทุกท่านทีได้ช่วยจดั ทาํ หนงั สือเรียนชุดภาษาองั กฤษการอ่าน-เขียน และผพู้ ฒั นามาเป็ น รายวิชาเลือก การอ่าน-เขียน มา ณ โอกาสนีและหวงั เป็นอยา่ งยงิ วา่ จะเกิดประโยชน์สูงสุดกบั ผเู้ รียน กศน. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั พืนฐาน พุทธศกั ราช ทีเลือกรายวิชาการอา่ น-เขียน เป็นรายวิชาเลือก และผสู้ นใจทวั ไป สาํ นกั งาน กศน. กนั ยายน

4 หน้า 1 สารบญั 2 3 คาํ แนะนําการใช้หนงั สือ โครงสร้างชุดวชิ า 7 แบบทดสอบก่อนเรียน 8 12 บทที Would you like to know the signs and signals? 14 เรืองที Do you know the signs and signals around us? 17 19 เรืองที What time does the train leave Buri Ram? เรืองที Would you like to take a tip to the north? 22 เรืองที Where is the bank? 23 เรืองที Where would you like to eat? 31 37 บทที 2 “Safety First” is important in daily life. เรืองที Did the helicopter rescue all of the sailors? 41 42 เรืองที 2 Is the boy safe? 47 เรืองที 3 What does transportation mean? 51 บทที 3 Would like to know the famous persons? 54 เรืองที He created a cartoon character, Mickey Mouse. 55 เรืองที 2 He found a vaccine for rabies 59 65 . เรืองที 3 He was a famous English dramatist. บทที 4 Would you like to know the interesting festivals? เรืองที When is Loy Kratong Day? เรืองที 2 What is Thanksgiving Day? เรืองที 3 What do they do on Valentine’s Day?

5 7 72 สารบญั (ต่อ) 73 74 บทที How can we write good English? 76 เรืองที Did the helicopter rescue all of the sailors? 80 เรืองที 2 Wiwat’s daily activites. 82 เรืองที 3 What does transportation mean? 84 เรืองที 4 Tell what part of the letter it is. 85 เรืองที 5 Taking a telephone message. เรืองที 6 Pongpat’s new job. 86 เรืองที 7 New Year’s presents. เรืองที 8 This is my neighbour’s family. แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบทดสอบก่อเรียนและหลงั เรียน เฉลยกจิ กรรม บรรณานุกรม

1 คําแนะนําการใชหนงั สือเรียน 1. ผเู้ รียนควรทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน เพือทดสอบตนเองว่ามีความรู้เกียวกับเรืองทีศึกษา เพียงใด 2. ผเู้ รียนควรมีพจนานุกรมภาษาองั กฤษสาํ หรับใชค้ น้ หาความหมายของคาํ เพิมเติม ขณะศึกษา และทาํ กิจกรรม 3. ผเู้ รียนต้องศึกษาและทาํ กิจกรรมทุกขันตอนในชุดวิชานี เพือประเมินว่ามีความรู้เพิมขึน หรือไม่ 4. แต่ละกิจกรรมจะมีเครืองหมายกาํ กบั เพือแสดงว่าผเู้ รียนตอ้ งทาํ อะไร ดงั นี ใหผ้ เู้ รียนอ่านหรือศึกษา ใหผ้ เู้ รียนฟังการอ่านของครู/ครูเปิ ดเสียงการอ่านทีบนั ทกึ ไวแ้ ทนการอา่ นจริง ใหผ้ เู้ รียนฝึกเขียน ใหผ้ เู้ รียนฝึกพดู

2 โครงสร้างวชิ าการอ่าน – เขียน การอ่าน – เขยี น สาระสําคญั การอา่ นและการเขียนภาษาองั กฤษ เป็นทกั ษะทีสาํ คญั ในการเรียนภาษาเพอื การสือสาร ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั ผเู้ รียนสามารถ 1. อ่านเขียนสญั ลกั ษณ์และเครืองหมาย ตารางรถไฟ กาํ หนดการเดินทาง แผนผงั และทีตงั ของ ร้านอาหาร และการบริการได้ 2. อา่ นเรืองสนั เกียวกบั ความปลอดภยั ในการเดินทาง การใชเ้ ครืองมือเครืองใชไ้ ฟฟ้ า และการ ขนส่ง แลว้ ตอบคาํ ถามได้ 3. อ่านชีวประวตั ิ และผลงานของบุคคลสาํ คญั และตอบคาํ ถามได้ 4. อ่านเรืองงานพิธีต่าง ๆ ทงั ของประเทศไทย และประเทศทีใชภ้ าษาองั กฤษเป็นภาษาแมไ่ ด้ 5. เขียนเรืองเกียวกบั ครอบครัวของตนเองและผอู้ นื ได้ 6. เขียนเรืองเกียวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ได้ 7. เขียนบรรยายสถานทีต่าง ๆ เช่น หอ้ งในบา้ นได้ 8. เขียนจดหมายสนั ๆ ถึงเพอื นได้ 9. จดขอ้ ความทางโทรศพั ทใ์ นฐานะเป็นพนกั งานประชาสมั พนั ธไ์ ด้ 10. กรอกแบบฟอร์มสมคั รงานได้ 11. เขียนเรืองสนั ๆ การเลือกซือของขวญั วนั เกิดได้ ขอบข่ายเนือหา ตอนที Would you like to know the signs and signals? ตอนที “Safety first” is important in daily life. ตอนที Would you like to know the famous persons? ตอนที Would you like to know the interesting festivals? ตอนที How can we write good English?

3 แบบทดสอบก่อนเรียน Part I Match the following expressions with the signs and signals. 1. No Parking a. 2. Park the cars here b. 3. No smoking c. 4. Don’t drop litter here d. 5. Turn left e. 6. A school is here f. 7. Make a U. turn g. 8. Turn right h. 9. Bus stop i. 10. There is a telephone here j. Part II Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-j in ( ). A B (……….) 1. Health center a. light waste or worthless material (……….) 2. litter b. reach a place (……….) 3. depart c. everyday (……….) 4. arrive d. closed van for carrying sick people (……….) 5. rescue e. leave, go away

4 (……….) 6. transport f. group of local medical service (……….) 7. character g. the gaining of what is aimed at (……….) 8. success h. a person who is well-known in a novel or play (……….) 9. daily i. carry goods or persons from one place to another (……….) 10. ambulance j. make safe from danger Part III Read this passage. Jim visited John. His cousin, during the holidays. He stayed at John’s house in the country. If the weather was good they went out and played football. If the weather was bad they stayed home and played games or watched the television. Yesterday they watched the television together. It was a story of a farmer. He went to the market and bought some animals : a sheep, a chicken and a fox. On his way he came to a stream. It was wide and deep and he could not walk across it. Then he found a small boat. There was a room in it for the farmer with only one of the animals. He could take the animals only one at a time but not all together. He couldn’t leave the fox with the sheep or the chicken. He thought for a while and at the end he found a way. First he took the fox and left it on the opposite side of the stream. Then he went back and brought the sheep to the other side. He took the fox back into the boat. He brought the fox back to the first side and left it there. He took the chicken away and brought it to the sheep. The last time he took the fox. In this way all animals were safe. A. Put a  in front of the correct answer. 1. If the weather was good Jim and John……… a. Played games b. Watched the television c. Stayed home d. Play football 2. “it” in “There was a room in it for the farmer with only one of the animal,” refers to……… a. The boat b. The stream c. The chicken d. The sheep 3. The farmer could not take the animals at the same time because……… a. The fox was big b. The boat was broken c. The boat was small d. The stream was wide and deep

5 4. Which animal came on the opposite side of the stream first? a. The sheep b. The fox c. The chicken d. The fox and the sheep 5. Which animal came the second? b. The fox a. The sheep d. The fox and the chicken c. The chicken and the sheep 6. Which animal came the third? b. The fox a. The chicken d. The chicken and the fox c. The sheep and the fox 7. Which animal came last? b. The fox a. The chicken d. The chicken and the sheep c. The sheep 8. What happened at the end of the story? a. The fox killed the chicken. b. The fox killed the sheep. c. All the animals arrived the farmer’s house. d. All the animals were drown. 9. Which is the good name of this story? a. A stupid sheep b. A careless chicken c. A clever famer d. A clever fox 10. “On his way” means the way to……… a. John’s house b. The farmer’s house c. Jim’s house d. The market B. Fill in the blanks with underlined words in the passage. 1. In will be ………. If you walk on the footbath. 2. Traffic is so bad ………. The rush hours. 3. This river is very ………. And deep. 4. Let’s sing this song ……….. .

6 5. The hospital is on ………. Side of the bank. 6. What time does the train ………. Bangkok? 7. I like the ………. in the north in the cool season. 8. She lost her handbag yesterday and her sister ………. It this morning. 9. Be careful when you walk ………. the street. 10. Which do you want, coffee ………. tea ? Part IV Fill in the application form. Application form. Name : Sex : Male Female Birthdates : Age : Nationality Christian Religion : Buddhist Muslim others Height : Weight : Education Background : Hobbies : Address : Telephone No :

7 บทที Would you like to know the signs and signals? สาระสําคญั การเดินทางไปยงั ทีต่าง ๆ จาํ เป็ นต้องรู้จักสัญลกั ษณ์และเครืองหมายต่าง ๆ รวมทงั กาํ หนดการ เดินทาง ตารางรถไฟ แผนผงั และประกาศต่าง ๆ ดว้ ย ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั ผเู้ รียนสามารถ 1. อ่านสญั ลกั ษณ์และเครืองหมายการจารจร ขอ้ หา้ ม และประกาศต่าง ๆ ได้ 2. อา่ นตารางการเดินรถไฟ และตอบคาํ ถามได้ 3. อ่านแผนผงั แสดงทีตงั ของสถานทีต่าง ๆ ได้ 4. อ่านประกาศทีตงั ของร้านอาหารและการบริการได้ 5. อา่ นประกาศทีตงั ของร้านอาหารและการบริการได้ ขอบข่ายเนือหา เรืองที Do you know the signs and signals around us? เรืองที What time does the train leave Buri Fam? เรืองที Would you like to take a tip to the north? เรืองที Where is the bank? เรืองที Where would you like to eat?

8 เรืองที Do you know the signs and signals around us? ใหผ้ เู้ รียนดูเครืองหมายสญั ลกั ษณ์ ขอ้ ความทีเป็นความหมายของเครืองหมายและสัญลกั ษณ์นัน ๆ ดงั ต่อไปนี Look listen and read. ดูเครืองหมาย / สญั ลกั ษณ์และฟังขอ้ ความ Turn right. Turn left. Don’t turn right. Don’t turn left. Come along the way. Don’t go in here. Parking. No Parking. No Eating. Don’t wear shoes here. No Smoking. There is a telephone here. Don’t drop litter here. No motorcycle and Do not enter. Bus stop. bicycle.

9 Make a U. turn. Cross the street here. No Parking. Park the cars here. (From 06.00-12.00) A school is here. Do no touch. สาํ หรับเครืองหมายหรือสญั ลกั ษณ์ทีมจี อ้ ความกาํ กบั ไว้ มีดงั นี No Smoking Don’t walk on the Keep our class clean. Put the litter here. No fishing. grass. Wash you hand here. No Swimming. No play football here. Don’t feed the animals.

10 Word Study การจอดรถ keep (v.) รักษาไว้ parking (n.) เลยี วขวา put (v.) ใส่ turn right เลยี วซา้ ย litter (n.) เศษขยะ, เศษกระดาษ turn left ตรงไปขา้ งหนา้ fishing (n.) การตกปลา carry on along wash (v.) ลา้ ง the way การสูบบุหรี, ควนั ไฟ clean (adj.) สะอาด smoking (n.) หยดุ in ทางเขา้ stop (v.) เดิน out ทางอก walk (v.) หญา้ grass (n.) Activity 1 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (………) 1. Parking a. put an end to the movement. (………) 2. smoking b. remain or stay. (………) 3. stop c. light waste or worthless material. (………) 4. litter d. stopping a vehicle at a place and leaving it there for a time. (………) 5. keep e. activity of smoking cigarettes. Activity 2 Write the meaning of these signs or signals. Example Coming or going in 1. 2.

11 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

12 เรืองที What time does the train leave Buri Fam? อ่านตาตางรถไฟต่อไปนี แลว้ ตอบคาํ ถาม Station Dep. Time Arr. 8.00 Buri Ram 8.25 - Lamplaimas 11.55 8.20 Nakhon Ratchasima 13.10 11.45 Kangkoy 13.35 13.05 Saraburi 14.05 13.30 Ayutthaya - 14.00 Bangkok 15.30 time (n.) เวลา Word Study ลาํ ปลายมาศ station (n.) สถานี Lamplaimas แก่คอย depart (dep.) (v.) ออกจาก Kangkoy สระบุรี arrive (arr.) (v.) มาถงึ Saraburi อยธุ ยา Buri Ram บุรีรัมย์ Ayutthaya กรุงเทพ ฯ Bangkok การเดินทางโดยรถไฟ ผเู้ รียนจะพบเห็นสญั ลกั ษณ์และตวั ยอ่ ดงั นี RAP = Repaid Train EXP.DRE = Express Diesel Railcar DRC. = Diesel Railcar ORD. = Ordinary Train EXP. = Express Train SPC.DRC. = Special Diesel Railcar // = No stop 1,2,3 = Classes @ = Ari – conditioned second class coach

13 Activity 3 Answer there questions. 1. What time does the train leave Buri Ram? ……………………………………………………………………………………….. 2. What is the first station? ……………………………………………………………………………………….. 3. If you are at Nakhon Ratchasima you to go to Bangkok by this train, what time will you come to the station? ……………………………………………………………………………………….. 4. How long does the train take from Nakhon Ratchasima to Kangkoy? ……………………………………………………………………………………….. 5. How long does the train take from Saraburi to Ayutthaya? ………………………………………………………………………………………..

14 เรืองที Would you like to take a tip to the north? อ่านโปรแกรมการเดินทางไปท่องเทียวภาคเหนือของ Bob ดงั ต่อไปนี January 5-9 Programme Day One Day Two : Depart Bangkok : Arrive in Chiang Mai by train. See Wat Doy Sutep.Stay Day three the night at Wiang Ping Hotel. Shopping at the Night Bazaar. : Visit Wat Phra Singh. Day four Shopping at the Night Bazaar. : Visit Wat Chiang Mun. Day five Shopping at the Night Bazaar. : Depart Chinag Mai by plane. Arrive in Bangkok. programme (n.) โปรแกรม Word Study เชียงใหม่ depart (n.) ออกจาก Chiang Mai วดั ดอยสุเทพ arrive (v.) มาถึง Wat Doy Sutep โรงแรมเวยี งพงิ ค์ train (v.) รถไฟ Wiang Ping Hotel ศู น ย์ก ล า ง ซื อ ข า ย stay (v.) พกั อยู่ Night Bazaar สิงของพนื เมอื งของ จ. night (n.) กลางคืน เชียงใหม่ shopping (n.) การซือของ Wat Phra Singh วดั พระสิงห์ visit (v.) ไปเยยี ม Wat Chiang Mun วดั เชียงมนั plane (n.) เครืองบิน

15 Activity 4 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (………) 1. programme a. go or come to see a person or a place. (………) 2. depart b. reach a place. (………) 3. arrive c. leave, go away (………) 4. stay d. plan of what is to be done. (………) 5. visit e. remain or continue in the same place. Activity 5 A. Answer there questions. 1. Where will Bob take a trip? ……………………………………………………………………………………….. 2. How long will he stay there? ……………………………………………………………………………………….. 3. How will he go to Chiang Mai? ……………………………………………………………………………………….. 4. Where will he visit on the sixth of January? ……………………………………………………………………………………….. 5. Where will he stay in Chiang Mai? ……………………………………………………………………………………….. 6. Where will he visit in the seventh and eighth of January? ……………………………………………………………………………………….. 7. When will he leave Chiang Mai? ……………………………………………………………………………………….. 8. When will he arrive in Bangkok? ………………………………………………………………………………………..

16 B. สมมตุ วิ ่าผ้เู รียนมเี พอื นชาวต่างประเทศจะมาเทยี วประเทศไทย ให้ผู้เรียนเขียนโปรแกรมการท่องเทียว ไปยงั จงั หวดั เชียงราย เพอื ให้เพอื ได้รับทราบ โดยมรี ายละเอยี ดดังนี - ใชเ้ วลา วนั - จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยรถไฟ - พกั โรงแรม - ไปเยยี มดอยตุง (Doi Tung), สามเหลียมทองคาํ อาํ เถอเชียงแสน (Golden Triangle in Chiang San) - กลบั วนั ที ของการเดินทาง

17 เรืองที Where is the bank? ดูแผนผงั ของชุมชนแห่งหนงึ แล้วทาํ ตามคาํ สังต่อไป Word Study coffee shop (n.) ร้านกาแฟ bank (n.) ธนาคาร health center (n.) โรงเรียน police station (n.) ศนู ยอ์ นามยั school (n.) แม่นาํ bus station (n.) บา้ น post office (n.) สถานีตาํ รวจ river (n.) ถนนวฒั นา สถานีขนส่ง house (n.) ทีทาํ การไปรษณีย์ Wattana Road

18 Activity 6 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. coffee shop a. office of the local police force. (……….) 2. bus station b. small restaurant serving coffee and simple meals. (……….) 3. post office c. group of local medical service. (……….) 4. health center d. place where buses and coaches stop. (……….) 5. police station e. building or room where postal business take place. Activity 7 Fill in the blanks with the given words from B. AB 1. Tongchai’s house in behind…………… a. Wattana Road 2. The bank is on…………… b. The health center 3. Wipawan’s coffee shop is nest to…………… c. Wipawan’s coffee shop 4. The health center is nest to…………… d. The temple 5. The school is in front of…………… e. The post office 6. The temple is between the school and…………… f. The river 7. The bus station is near…………… g. The bank 8. The temple is behind…………… h. The school 9. The bank is next to…………… i. Metta’s house 10. The post office is opposite to…………… j. Kanlaya’s coffee shop

19 เรืองที Where would you like to eat? A. Read these advertisements and study the sentences and words. Do the following activities or exercises.

20 Word Study kidney (n.) ไต dishes (n.) จานอาหาร pie (n.) ทุก ๆ วนั dining (n.) พนมพาย daily (adv.) ยกเวน้ tasty (adj.) ทุกคืน การรับประทานอาหารเยน็ except (prep.) ทาํ ใหม้ รี สชาติ nightly (adv.) Activity 8 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. dishes a. every night (……….) 2. tasty b. everyday (……….) 3. daily c. not including, but not (……….) 4. nightly d. plates, bowls, cups and saucers used for a meal (……….) 5. except e. having a pleasant favour

21 Activity 9 Answer the questions. 1. Which restaurant serves British food? ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 2. Which restaurant serves Greek salad? ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 3. How many days a week is “Hot Beat” open? ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 4. Which restaurant serves Indian food? ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 5. Which restaurant serves special set lunch at the price of 250 ฿ per head from 12.00 – 14.00 a.m.? ……………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………….

22 บทที 2 “Safety First” is important in daily life” สาระสําคญั การใชค้ าํ ศพั ท์ สาํ นวน และบทสนทนาเกียวกบั สวสั ดิภาพ และความระมดั ระวงั ความปลอดภยั เป็นสิงจาํ เป็นในชีวติ ประจาํ วนั ผลการเรียนรู้ทคี าดหวงั ผเู้ รียนสามารถ . อา่ นเรืองสนั เกียวกบั การใชเ้ ฮลคิ อปเตอร์ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอุทกภยั และตอบคาํ ถามได้ . อา่ นเรืองสนั การช่วยเหลอื เด็กทีถกู ไฟฟ้ าดูด และตอบคาํ ถามได้ . อ่านเรืองสนั เกียวกบั การคมนาคม และขอ้ พงึ ระมดั ระวงั ได้ ขอบข่ายเนือหา เรืองที Did the helicopter rescue all of the sailors? เรืองที 2 Is the boy safe? เรืองที 3 What does transportation mean?

23 เรืองที Did the helicopter rescue all of the sailors? Read this passage and do the following activities or exercises. The sailors on the ship were very frightened. The waves were bigger than their ship. Soon a lot of water came into the ship. Slowly the sip began to sink. It began go slide under the water. Then one of them heard a noise in the sky. “I can see a helicopter,” he shouted. “It’s coming to help us. It will rescue us. Here it comes.” The sailors were very glad when they saw the helicopter. It flew over the ship The pilot made the helicopter fly very low over the ship. The other man let down a rope ladder. Then the helicopter flew back to the land. The helicopter quickly flew back to the ship. Two more sailors climbed on the rope ladder. The helicopter took them to the land. Six times the helicopter flew to the ship. Soon all the men were safe. The helicopter rescued all of them. sailor (n.) กลาสี, ลกู เรือ Word Study กลวั ship (n.) เรือเดินทะเล frighten (v.) จม wave (n.) ลกู คลนื sink (v.) เลอื นไถล noise (n.) เสียงอึกทึก slide (v.) ไดย้ นิ sky (n.) ทอ้ งฟ้ า here (v.) (p.t heard) ตะโกน helicopter (n.) เฮลคิ อปเตอร์ shout (v.) ช่วยชีวติ pilot (n.) นกั บิน rescue (v.) บิน rope (n.) เชือก fly (v.) (p.t flew) ปี น ladder (n.) บนั ไดปี น climb (v.) ปลอดภยั rope ladder (n.) บนั ไดเชือก safe (adj.) อยา่ งชา้ ๆ land (n.) พนื ดิน slowly (adv.) อยา่ งเรียบ ๆ (ทีละนอ้ ย) smoothly (adv.)

24 Activity 10 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. noise a. fill with great and sudden fear (……….) 2. ladder b. make safe from danger (……….) 3. frighten c. loud and unpleasant sound (……….) 4. rescue d. go down (……….) 5. sink e. two lengths of wood, metal or rope for crosspieces Activity 11 Underline the correct answer of each question. 1. What happened to the ship? It was going……………………………………………… ……………………………………………………………………………………………. (to land, to sink, to help the sailors, to get on the helicopter) 2. How many men are there on the helicopter? There are……………………….………. ……………………………………………………………………………………………. (two, four, six, twelve) 3. How many sailors are there on the ship? There are ……………………………………. ……………………………………………………………………………………………. (two, four, six, twelve) 4. How many men were safe? ……………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. (two, six, some of them, all of them) 5. It will rescue us, “rescue” means ………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. (make safe, make afraid, was glad, fly over) 6. How many times did the helicopter take the men to the land? ……………………………………………………………………………………………. (two, four, six twelve) 7. The other man let down a rope ladder. “a rope ladder” refers to …………………….. ……………………………………………………………………………………………. (the ship, the ladder which is made of iron, the helicopter, the ladder which is made of a rope,)

25 8. Then one of them heard a noise, “them” refers to the ……………………………..…. ……………………………………………………………………………………………. (sailors, pilots. ships, helicopters) 9. The sailors were frightened, “retightened” means ……………………………………. ……………………………………………………………………………………………. (glad, heard a noise, afraid, flew over) 10. It began to slide under the water. “to slide” means …………………………….……. ……………………………………………………………………………………………. (to move quickly, to move smoothly, to fly back to the land, to climb up the ladder) Activity 12 Rearrange the given sentences in the correct order. Put a-j in ( ). (…) 1. The ship began to sink. (…) 2. They took two more sailors to the land. (…) 3. They were safe. (…) 4. The climbed up the ladder. (…) 5. The helicopter was very low. (…) 6. He let down the rope. (…) 7. The helicopter was coming to help the sailors. (…) 8. They took them to the land. (…) 9. The water came into the shop. (…) 10. The helicopter flew back to the ship. Study about words ใหผ้ เู้ รียนสงั เกตคาํ ศพั ทจ์ ากเรืองทีอ่านดงั ต่อไปนี . การใช้ Suffix คาํ sailor และ frighten เป็นคาํ ทีประกอบดว้ ย ส่วนคือ คาํ หลกั และอกั ษรหรือกลุ่มอกั ษรนาํ มาเติม ขา้ งหลงั ส่วนทีนาํ มาเติมขา้ งหลงั ทีเรียกวา่ suffix หรือ วิภตั ติ ดงั นนั suffix ก็คือ อกั ษรหรือกลุ่มของอกั ษร หรือคาํ ทีนาํ มาเติมในส่วนหลงั ของคาํ หลกั ทาํ ใหม้ ี ความหมายเปลยี นไปจากความหมายเดิม

26 ตวั อย่างHe sails the boat between the island. Example The two sailors climbed up the ladder. wearable, trainable The animals took fright at the sound of a gun. builder, reader, writer The sailors on the ship were very frightened. hopeful, playful, joyful They had a frightened journey. flexible careless, restless, harmless, hopeless ใหส้ งั เกต suffix และความหมายดงั ต่อไปนี visitor, sailor, editor frighten Suffix Meaning able able to be er on who full full of ible able to be less without or one who en fill with 2. คาํ นาม (Nouns) คาํ นามทีปรากฏในเรืองทีอ่านทีตอ้ งการให้ผเู้ รียนไดท้ ราบก็คือ คาํ นามทีนบั ได้ (Countable Noun) เป็นคาํ นามทีสามารถนบั เป็นชิน ๆ ได้ หรือมีรูปร่าง เช่น engineer, kangaroo, radio ส่วนคาํ นามทีนับไม่ได้ (Uncountable หรือ Mass Noun) เช่น milk, water, sugar, ete. จะยงั ไมน่ าํ มากลา่ วในทีนี คาํ นามทีนบั ได้ (Countable Noun) เมอื มจี าํ นวนเป็ นหนึง หรือเอกพจน์ (Singular) ให้ใช้ Article a หรือ a หรือ an นาํ เช่น a dolphin, a barber, a box, an elephant แต่เมือมีจาํ นวนมากกว่าหนึง หรือพหูพจน์ (Plural) จะมรี ูปเปลยี นไป ดงั นี . เตมิ s เช่น a sailor – sailors a ship – ships a pilot – pilots a helicopter – helicopters 2.2 เติม es แต่ถา้ มี y ใหเ้ ปลยี น เป็น i ก่อนแลว้ เติม es เช่น a buffalo – buffaloes a butterfly – butterflies 2.3 เติม es หรือ s เช่น a box – boxes a bus – buses 2.4 เติม s เมือมี e อยแู่ ลว้ เช่น an orange – oranges a wave – waves a time – times

27 2.5 เปลียนรูปไป เช่น a woman – women a child – children a man – men a foot – teet a tooth – teeth a fish – fish 2.6 คงรูปเดิม เช่น a sheep – sheep 3. Synonyms คือคาํ ทีมคี วามหมายเหมือนกนั หรือเกือบเหมอื นกนั เช่น rope – cord shop – store 4. Compound Words คือคาํ ประสม หรือ คาํ ทีเกิดจากนาํ คาํ คาํ มาประสมกนั เช่น out + side = outside rain + drop = raindrop cow + boy = cowboy snow + ball = snowball 5. คาํ วเิ ศษณ์ (Adverbs) คือคาํ ทีขยายกริยา (Verb) เช่น He is slow. (Adjective) He dances slowly. (Adverb) The helicopter is quick. The helicopter quickly flew back. 6. คาํ กริยา (Verbs) คือคาํ ทีแสดงกริยาอาหารของประธานของประโยค คาํ กริยาทีใชป้ ระโยค The Past Simple Tense มีดงั นี . เติม ed เช่น frighten – frightened shout – shouted climb – climbed rescue – rescued 6.2 เปลยี นรูปไป เช่น begin – began hear – heard make – made fly – flew come – came take – took

28 Study about structures 1. ประโยค The Past Simple Tense เป็นประโยคทีแสดงการกระทาํ ทีเกิดขึนในอดีต ส่วนใหญ่เรืองทีนาํ มาให้อ่านจะเป็ นเรืองทีเกิดขึน ในอดีต เป็นเรืองเล่าหรือนิทาน ตวั อยา่ ง The waves were bigger than their ships. Soon a lot of water came into the ship. 2. ประโยค The Present Simple Tense เป็นประโยคทีแสดงการกระทาํ ทีเป็ นอย่ใู นปัจจุบนั หรือเป็ นเหตุการณ์ทีเกิดขึนเป็ นกิจวตั รนิสยั ในเรืองทีอ่านจะปรากฏ The Present Simple Tense ในส่วนทีเป็นคาํ พดู ตวั อยา่ ง “I can see a helicopter” he shouted. “It’s coming to help us.” 3. ประโยค The Future Simple Tense เป็นประโยคทีแสดงการกระทาํ ทีจะเกิดขึนในอนาคต เช่น “….It will rescue us. Here it comes.” Study about cause and effect ผเู้ รียนไดอ้ า่ นเรือง Did the helicopter rescue all of the sailors? มาแลว้ ผเู้ รียนจะเห็นว่ามีประโยค หรือข้อความทีมีความหมายเป็ นเหตุ และมีประโยคหรือขอ้ ความทีมีความหมายสัมพนั ธ์กนั คือเป็ นผล (Cause and effect) เช่น cause effect 1. The waves were bigger The sailors on the ship Than their ship. Were very frightened. 2. A lot of water came Slowly the ship began into the ship. to sink. 3. When they saw the The sailors were very glad. helicopter……..

29 ใหผ้ เู้ รียนเขียนประโยค หรือขอ้ ความทีมีความหมายเป็นผล effect ตาม cause ทีใหไ้ ว้ cause effect 4. A sailor heard a noise in the sky. 5. The helicopter took . them to the land. Study about main idea and details main idea เป็นความคิดทีสาํ คญั ทีสุดในขอ้ ความหนึงซึงตอ้ งการให้ผอู้ ่านทราบ ประโยคหลาย ๆ ประโยคในขอ้ ความหนึง ๆ จะอธิบายถงึ main idea ของขอ้ ความนนั ๆ details เป็ นประโยคต่าง ๆ ทีอธิบายถึง main idea ในขอ้ ความหนึง ๆ และให้รายละเอียดของ ขอ้ ความนนั ๆ Example : 1. Some trains travel under the ground. They are called subway trains. They travel through large tunnels that have been dug in the earth and rock. Often people riding and walking above ground cannot hear the trains. Main Idea - subway trains Details - all the other sentences 2. Some airplanes are huge. They can carry hundreds of people. They may have five or more doorways. One big plane carried our first space shuttle on a test fight. Main Idea _________________________ Details _________________________ 3. The people are on this plane for many different reasons. Some people on the plane are on their way to business meetings. Others are going on vacation. Still others are moving to new homes. Main Idea _________________________ Details _________________________

30 4. Mr. Johnson takes many plane trips. He travels on his job. He went to Chicago, last week. Next week he will go to Ohio. In November he will fly to Washington, D.C. Main Idea _________________________ Details _________________________ 5. Mrs. Jane Brown was a writer of mystery stories. In all, she wrote 90 books, 20 plays, and 10 volumes of stories. Her books have sold over 500 million copies. Main Idea _________________________ Details _________________________

31 เรืองที 2 Is the boy safe? Read this passage and do the following activities or exercises. Yesterday Tongchai walked along a road. He was going to meet his friend. Suddenly a man ran towards him and asked for help. He said that a boy was hurting by the electricity. An electric wire was broken. He put his hands on the post. Tongchai and the man ran to the post. He asked the man to telephone for an ambulance. Tongchai did not touch the boy. He found a rope and made a loop at one end of the rope. He held the other end in his left hand. Then he threw the loop over the boy’s head and shoulders. He pulled hard with both hands and pulled the boy from the post. Soon an ambulance came. They carried him to the ambulance. At the hospital the doctor helped the boy. He was better. After a few days he was well. His parents thanked Tongchai and the other men for saving their son. electricity (n.) ไฟฟ้ า Word Study พบ ambulance (n.) รถพยาบาล find (v.) (p.t. found) ทาํ rope (n.) เชือก make (v.) (p.t. made) ถือ loop (n.) ห่วง hold (v.) (p.t. held) โยน end (n.) ปลาย throw (v.) (p.t. threw) ลาก shoulder (n.) หวั ไหล่ pull (v.) แบก, หาม parents (n.) บิดา มารดา carry (v.) ช่วยใหป้ ลอดภยั wire (n.) สายไฟฟ้ า save (v.) ทีเกียวกบั ไฟฟ้ า post (n.) เสา electric (adj.) หกั , แตก break (v.) (p.p. broken)

32 telephone (n.) โทรศพั ท์ towards (prep.) ไปยงั touch (n.) แตะ hard (adv.) แรง, หนกั both (adj.) ทงั คู่ Activity 13 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. ambulance a. shape produced by a curve crossing itself. (……….) 2. wire b. piece of metal or wood set upright in the ground to (……….) 3. loop (……….) 4. post support something (……….) 5. save c. closed van for carrying sick people d. make or keep somebody from danger e. metal drawn out into in form of thread Activity 14 Rearrange the given sentences in the correct order. Put 1-10 in ( ). (……….) 1. Tongchai threw the loop over the boy’s head and pulled him form the post. (……….) 2. Tongchai walked along a road. (……….) 3. An ambulance came. (……….) 4. The boy put his hands on the post (……….) 5. The doctor helped the boy. (……….) 6. His parents thanked Tongchai and the men. (……….) 7. The boy was better. (……….) 8. A man ran towards Tongchai and asked for help. (……….) 9. Tongchai ran to the post. (……….) 10. The man telephoned for an ambulance.

33 Activity 15 Fill in the blanks with the given words. the post telephone was broken ambulance thanked a loop was hurt helped was better carries 1. An……………… is a van carrying people who are ill. 2. Boon is a hunter. He made ……………… at one end of the rope and threw it over the animal’s head. 3. Doctors and nurses ……………… sick people at the hospital. 4. Chaiya was sick. He took some medicine. After a few day he ……………… 5. There are some electric wires on ……………… 6. Pong will invite me to his birthday party. He ……………… me today. 7. There are a lot of coconuts on the ground. Boonmee ……………… them to his boat. 8. Bob bought me a book. I like it very much. I ……………… him and gave him a pen. 9. He got an accident. He ……………… at his leg. 10. Suchitra dropped a glass of water. It ……………… into pieces. Activity 16 What is the main ides of this passage? Study about words ใหผ้ เู้ รียน สงั เกตคาํ ศพั ทจ์ ากเรืองทีอ่านดงั ต่อไปนี . คาํ นามทีนับไม่ได้ (Uncountable Nouns) เช่นคาํ rice, sugar, water คาํ เหลา่ นีไมใ่ ช้ article a หรือ an และมีรูปเป็นเอกพจนเ์ สมอ เช่น Sugar is sweet. We drink water everyday. สาํ หรับคาํ นามทีมีในบทเรียนนีทีผเู้ รียนควรสนใจก็คือ คาํ electricity เป็ นคาํ นามทีนบั ไม่ได้ ให้ ผเู้ รียนสงั เกตคาํ ทีมีความหมายเป็นประเภทเดียวกนั แต่มหี นา้ ทีหรือเป็นชนิดของคาํ แตกต่างกนั ไป ดงั นี electric (adj.) An electric wire was broken. electricity (n.) A boy was hurting by the electricity. electrical (adj.) This machine has an electrical fault. electrician (n.) An electrician is a person whose job is to install, operate, repair etc. electrician equipment

34 2. คาํ วเิ ศษณ์ (Adverbs) คือคาํ ทีใชป้ ระกอบกริยา (Verb) เช่น She dances well. He walks slowly. Suddenly a man ran towards him. 3. คาํ กริยา (Verbs) คือ คาํ ทีแสดงกริยาอาการของประธานของประโยค เมือเป็ น The Past Simple Tense คาํ กริยาจะเปลยี นไป ดงั นี walk – walked thank – thanked ask – asked find – found pull – pulled make – made run – ran throw – threw say – said come – came help – help carry – carried Study about structures 1. การใช้ประโยค Active Voice และ Passive Voice ใหส้ งั เกตประโยคต่อไปนี   Pong killed the tiger. ประโยค subject + verb + object ประโยคลกั ษณะนีเรียกวา่ ประโยค Active Voice ใหส้ งั เกตประโยคอกี ลกั ษณะหนึงดงั นี The tiger was killed by Pong. ประโยคลกั ษณะทีนาํ กรรมของประโยคมาขนึ ตน้ แลว้ เติม Verb to be ทีเป็น The Past Simple tense ตาม Tense เดิมคือ was แลว้ ทา้ ยหลงั by ส่วนทา้ ยสุด คือ by และประธานอาจะละไวไ้ ด้ ประโยค object + verb to be + past participle + by + subject ประโยคลกั ษณะนีเรียกวา่ ประโยค Passive Voice ในเรืองทีอ่าน จะเห็นประโยค Passive Voice คือ An electric wire was broken.

35 2. การใช้ประโยคทีมี Gerund หรือคาํ ซึงมาจาก Verb + ing และใชเ้ ป็นคาํ นามดงั นี 2.1 ใชท้ าํ หนา้ ทีเป็นประธานของประโยค เช่น Working hard is good for them. 2.2 ใชท้ าํ หนา้ ทีเป็นกรรมของประโยค เช่น They both enjoy playing football 2.3 ใชท้ าํ หนา้ ทีหลงั บุพบท His parents thanked him for saving their son. ในการสะกดคาํ Verb + ing บางคาํ มวี ธิ ีเขียนทีแตกต่างไป เช่น swim + ing swimming (เพมิ m อีก ตวั ) run + ing running (เพมิ n อีก ตวั ) save + ing saving (ตดั e ออก) 3. ประโยคทมี คี าํ คุณศัพท์เปรียบเทยี บ (Comparison) การเปรียบเทียบใชก้ บั คาํ คุณศพั ท์ และคาํ วเิ ศษณ์ได้ มี ลกั ษณะ คือ . การเปรียบเทียบในขนั กวา่ เช่น John is taller than Jim. (เติม er) 3.2 เปรียบเทียบในขนั สูงสุด เช่น Andy is the tallest of all. (เติม est) ให้สังเกตว่า การใชค้ าํ ศพั ท์ในประโยคเปรี ยบเทียบในขันกว่า (Comparative) และ ขันสูงสุด (Superative) มวี ธิ กี ารดังนี . เติม er ทา้ ยคาํ คุณศพั ทเ์ มือเป็นขนั กวา่ และเติม est เมอื เป็นขนั สูงสุด เช่น small smaller smallest 2. ก่อนเติม er เพิมอกั ษรอีก ตวั เช่น big bigger biggest 3. ตวั อกั ษรตวั สุดทา้ ยของคาํ คุณศพั ทล์ งทา้ ยดว้ ย e ใหเ้ ติม r เมือเป็ นขนั กว่า และเติม st เมือเป็ นขนั สูงสุด เช่น brave braver bravest 4. ตวั อกั ษร ตวั สุดทา้ ยของคาํ คุณศพั ท์ คาํ หนึงเป็นพยญั ชนะและตามดว้ ย y ใหเ้ ปลยี น y เป็น i แลว้ จึงเติม er ในขนั กว่า และเติม est ในขนั สูงสุด เช่น easy easier easiest

36 5. คาํ คุณศพั ทบ์ างคาํ เปลียนรูปไป เช่น good better best bad worse worst little less least much more most many more most far farther farthest 6. คาํ คุณศพั ทท์ ีมี พยางคข์ ึนไป ใหใ้ ช้ more นาํ ในขนั กว่า และใช้ most ในขนั สูงสุด เช่น beautiful more beautiful most beautiful Study about cause and effect The boy was hurt by the 1. The boy touched the electricity. broken electric wire. . 2. Tongchai pulled hard with both hands. 3. The man telephoned for an ambulance. 4. The doctor helped . the boy.

37 เรืองที 3 What does transportation mean? Read this passage and do the following activities or exercises. The word transportation comes from the verb to transport. Transport means to carry from one place to another. People always want to move from one part of a city to another. We also carry things such as oil, coal, rice and other kinds of food. What is the most important thing in transportation? Fuel, engines, steel, rubber are not the most important thing. Every kind of transportation uses wheels. Man invented the wheel. People should be careful when theg travel from one place to another. They should always remind themselves “Safety first.” transportation (n.) การขนส่ง Word Study ยาง part (n.) ส่วน rubber (n.) ลอ้ รอ oil (n.) นาํ มนั wheel (n.) ขนส่ง coal (n.) ถ่านหิน transport (n.) เคลอื นยา้ ย fuel (n.) เชือเพลิง move (n.) ใช้ engine (n.) เครืองยนต์ use (n.) ประดิษฐ์ steam (n.) ไอนาํ invent (n.) เพลา (รถยนต)์ exle (n.) Activity 17 Find the correct meaning in B for each word in A. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. transport a. create or design (……….) 2. fuel b. disc or circular from that turns on an exle as on cars, (……….) 3. engine carts or bicycle. (……….) 4. wheel c. carry good or persons from one place to another. (……….) 5. invent d. material for burning for example oil, wood and coal. e. machine produces power or motion.

38 Activity 18 A. Complete these sentences. 1. ……………….. is an important thing in transportation, but the most important is ……………….. . 2. When we transport something we ……………….. from place to another place. 3. We carry things such as ……………….., ……………….., ……………….. and ……………….. . B. Fill in the blanks with the underlined words from the reading passage. 1. She is ……………….. a baby in her arms. 2. They ……………….. out last Saturday. 3. A dictionary tells us what words ……………….. . 4. When was the steam engine ………………..? 5. A hammer is ……………….. for diving in nails. C. What is the main idea of this passage? ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… Study about words ใหผ้ เู้ รียนสงั เกตคาํ ศพั ทจ์ ากเรืองทีอา่ นดงั ต่อไปนี . คาํ transportation เป็นคาํ นามทีนบั ไมไ่ ด้ คาํ นีมาจากคาํ กริยา transport ใหส้ งั เกตวา่ คาํ ทีลงทา้ ยดว้ ย tion เป็นคาํ นาม เช่น Education, occupation, reservation etc. สาํ หรับคาํ transportation นนั ใชเ้ ป็นคาํ นาม ส่วนคาํ transport เป็นไดท้ งั คาํ กริยา และคาํ นาม . คาํ วเิ ศษณ์ (Adverbs) คือคาํ ทีทาํ หนา้ ทีขยายกริยา คุณศพั ท์ บุพบท สนั ธาน และวเิ ศษณ์ดว้ ยกนั ยกเวน้ คาํ นามและสรรพนาม คาํ never, seldom, always, often และ sometimes เป็นคาํ วเิ ศษณ์ (Adverbs) ในลกั ษณะทีบอกความ บ่อย ความถี เพือแสดงว่าการกระทาํ นนั ๆ มีความถี หรือเกิดขึนบ่อยแค่ไหน คาํ วิเศษณ์ชนิดนีเรียกชือว่า Adverb of frequency

39 ใหด้ ตู ารางแสดงความหมายของคาํ วิเศษณ์ดงั นี Pat Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat Jane - - - - - - - never Dave | - - - - - - seldom Jim and Tom | | | | | | | always Andy and Mary | | | | | | | usually John and Ed | | | - | | | often | - - | - - | Sometimes Pat never tells lies. Jane seldom writes letters. Dave always cleans his teeth at night. Jim and Tom usually go to Phuket by plane. Andy and Mary often go to the bank by car. John and Ed sometimes eat chocolate. . คาํ สันธาน (Conjunction) คาํ สนั ธาน คือคาํ หรือกล่มุ คาํ ทีใชเ้ ชือมคาํ วลีและประโยคใหส้ มั พนั ธก์ นั and ใชเ้ ชือมคาํ วลแี ละประโยคทีมีความหมายคลอ้ ยตามกนั ในความหมายวา่ “และ” ตวั อยา่ ง He works hard and he will pass the examination. but ใชเ้ ชือคาํ วลีและประโยคทีมคี วามหมายขดั แยง้ กนั ในความหมายวา่ “แต่” ตวั อย่าง He is a hard working but not very intelligent one. or ใชเ้ ชือมคาํ วลีและประโยคทีมีความหมายใหเ้ ลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง ในความหมายวา่ “หรือ” ตวั อย่าง People always want to move from one part of a city to another or from one part of a country to another, or from one country to another.

40 Study about structures ใหผ้ เู้ รียนสงั เกตว่าประโยคทีใชใ้ นขอ้ ความทีอ่านในเรืองนีเป็ นประโยคทีใช้ The Present Simple Tense เพราะเรืองนีเป็นเรืองทีเป็นความจริงทีเกิดขึนในปัจจุบนั และการใช้ Tense นีมหี ลกั การดงั ต่อไปนี . เป็ นเหตกุ ารณ์ หรือข้อความทีกล่าวในปัจจบุ ัน เช่น What day is today? The word transportation comes from the verb to transport. 2. เป็ นการกระทําทกี ระทําอย่จู นเป็ นนิสัย เช่น I get up at five o’clock everyday. 3. เป็ นเหตกุ ารณ์หรือปรากฏการณ์ตามธรรมชาตทิ เี ป็ นความจริง เช่น The sun always rise in the east. 4. เป็ นเหตกุ ารณ์ทีจะเกดิ ในอนาคตอนั ใกล้ เช่น When does the plane arrive in Bangkok? 5. กล่าวในปัจจบุ ันถงึ สิงทจี ะเกดิ ในอนาคต หรือทํามาแล้ว เช่น My boss says the submitted project was approved. สิงสําคญั ในการใช้ Present Simple Tense มดี งั นี เมอื ประธานเป็นนามหรือสรรพนามเอกพจน์ บุรุษที คาํ กริยาตอ้ งเติม s หรือ es เช่น He goes to school at six. The word transportation comes from the verb to transport. Transport means to carry from one place from one part of a city to another.

41 บทที Would you like to know the famous persons? สาระสําคญั การรู้ศพั ท์ สาํ นวนและเนือหาเรืองสัน เกียวกบั ชีวประวตั ิและผลงานของบุคคลสาํ คญั ของโลก เป็นการเพมิ พนู ทกั ษะในการอา่ น ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั ผเู้ รียนสามารถ . อ่านชีวประวตั ิและผลงานของ Walt Disney ตอบคาํ ถามและทาํ กิจกรรมทีกาํ หนดใหไ้ ด้ . อา่ นชีวประวตั ิและผลงานของ Louis Pasteur ตอบคาํ ถามและทาํ กิจกรรมทีกาํ หนดใหไ้ ด้ . อ่านชีวประวตั ิและผลงานของ William Shakespeare ตอบคาํ ถามและทาํ กิจกรรมทีกาํ หนดใหไ้ ด้ ขอบข่ายเนือหา เรืองที He created a cartoon character, Mickey Mouse. เรืองที 2 He found a vaccine for rabies. เรืองที 3 He was a famous English dramatist.

42 เรืองที He created a cartoon character, Mickey Mouse. Read this story and do the following activities. Many people around the world know the name Walt Disney because he was the man who created Mickey Mouse, Donald Duck and many other cartoon characters. Walt Disney became very rich because of these cartoon characters. When he was young, his family was very poor. Walt started selling newspapers when he was nine years old. When he was twenty years old he got a job drawing cartoons for a farm magazine. While he was working for this magazine, he built a studio and started drawing cartoons in his free time. There were some mice in Walt’s studio. One mouse was brave and Walt liked it because it used to toke food from his hand. He named it Mickey, and then he decided to create a cartoon character named Mickey Mouse. cartoon (n.) การ์ตูน Word Study มาเป็น, กลายเป็น become (v.) (p.l. became) การวาด character (n.) อุปนิสยั , ตวั ละคร drawing (n.) นิตยสาร magazine (n.) เริมตน้ newspaper (n.) หนงั สือพิมพ์ start (v.) ตงั ชือ name (v.) ตดั สินใจ drawing (n.) การวาดภาพ decide (v.) รอบ ๆ around (adv.) studio (n.) หอ้ งศลิ ป์ mouse (n.) (pl. mice.) หนู brave (adj.) กลา้ หาญ create (v.) สร้างขึน

43 Activity 19 Find the correct meaning for each word in B. Put a-e in ( ). AB (……….) 1. character a. make something new or original (……….) 2. magazine b. give a judgement (……….) 3. studio c. a person who is well known in a novel or play. (……….) 4. create d. paper covered with stories or articles by various writers (……….) 5. decide e. room or hall where cinema, plays are acted and photographed Activity 20 A. Put these events in order in order in which they happened. (…….) a. Walt sold newspapers. (…….) b. He built a studio. (…….) c. He named it Mickey. (…….) d. He started drawing cartoons in his red time. (…….) e. Walt liked one mouse because it was brave. (…….) f. He created a cartoon character named Mickey Mouse. (…….) g. He got a job drawing for a farm magazine. B. Fill in the blanks with the underlined words from the passage. 1. He is called the ………………. of bravery. 2. Bob likes to read an article in that ………………. 3. He ………………. not to become a sailor. 4. We could not ………………. up the car. 5. Dickens ………………. Many wonderful characters in his novels. C. Read these sentences and answer the questions. One mouse was brave and Walt liked it1 because it2 used to take food from his hand. What does “it1” and “it2” refer to? it1 refers to …………………………………………. it2 refers to ………………………………………….

44 Study about words ใหผ้ เู้ รียนสงั เกตคาํ ศพั ทจ์ ากเรืองทีอ่านดงั ต่อไปนี . การใช้ Gerund หรือ คาํ ซึงมาจาก V + ing และใชเ้ ป็นคาํ นาม ตวั อยา่ ง He started drawing cartoons in his free time. Walt started selling newspapers when he was nine years old. When he was twenty years old he got a job drawing cartoons. 2. คาํ นามทีนับได้ (Countable nouns) ในรูปเอกพจน์ (singular) และพหูพจน์ (plural) ทีมีรูป เปลียนไป ดงั นี a mouse - mice (เปลียนรูป) a job - jobs (เติม s) a cartoon - cartoons (เติม s) 3. คาํ สันธาน (Conjunction) การใช้ because – for the reason that (เพราะวา่ ) ตวั อย่าง Walt liked it because it used to take food from his hand. Walt Disney became very rich because of this cartoon characters. 4. คาํ สรรพนาม (Pronoun) คาํ สรรพนาม คือ คาํ ทีใชแ้ ทนคาํ นาม มหี ลายชนิด ดงั ขอ้ ความต่อไปนี One mouse was brave, and Walt liked it (1)because it(2)used to take food from his hand. He named it(3) Mickey, and then he decided to create a cartoon character named Mickey Mouse. ใหส้ งั เกตคาํ it ในขา้ งบนนี it คาํ ที , เป็นคาํ สรรพนามทีเป็นกรรม (Object Pronoun) ส่วน it คาํ ที เป็นคาํ สรรพนามทีเป็นประธานของประโยค (Subject Pronoun) ใหผ้ เู้ รียนดชู นิดคาํ สรรพนามชนิดหนึงทีเรียกว่า Personal Pronoun ซึงแบ่งเป็น ชนิด คือ . Subject Pronoun ใชเ้ ป็นประธานของประโยค อาจจะวางไวห้ นา้ หรือหลงั คาํ กริยากไ็ ด้ เช่น How many books has he? He has ten. ใหส้ งั เกตวา่ รูปของสรรพนามทีเป็นประธาน (Subject Pronoun) คือ I, you, he, she, it, we, they

45 2. Object Pronoun ใชเ้ ป็นคาํ กริยาของประโยค แบ่งเป็น ลกั ษณะคือ . กรรมตรง (Direct Object) จะเขียนไวห้ ลงั คาํ กริยา เช่น He is at home. I saw him yesterday. ใหส้ งั เกตวา่ me, you, him, her, it us, them เป็นรูปแบบของกรรมตรง . กรรมรอง (Indirect Object) จะเขียนไวห้ ลงั บุพบท เช่น Siree gave a book to him. ใหส้ งั เกตวา่ me, you, him, her, it us, them เป็นรูปแบบของกรรมรอง Study about structures 1. The Past Continuous Tense มลี กั ษณะสาํ คญั คือ Verb to be (Past Form + V + ing) ใชใ้ นเหตุการณ์ต่อไปนี . เป็ นเหตกุ ารณ์ทีกาํ ลงั กระทาํ อยู่ หรือเกิดขึนตลอดเวลาในอดีต และเสร็จสินลงเรียบร้อยแลว้ เช่น The boys were playing in the field yesterday. . ใช้กบั ประโยค Complex Sentences เป็นเหตุการณ์ทีกาํ ลงั เกิดขึน เมอื มีเหตุการณ์อีกเหตุการณ์ หนึงเกิดขึน ซึงทงั สองเหตุการณ์สินสุดลงแลว้ ใหส้ งั เกตว่าจะมีคาํ เชือมของ ประโยค ดว้ ย when หรือ while เช่น He was reading when I met him. While he was working for this magazine, he built a studio and started drawing cartoons in his free time. 2. The Past Simple Tense ผเู้ รียนไดเ้ รียน Tense นีมาแลว้ ว่า เป็ นประโยคทีแสดงการกระทาํ หรือเหตุการณ์ทีเกิดขึนในอดีต และสินสุดไปแลว้ จะสงั เกตจากการใชค้ าํ กริยาในรูป Past Verb หรือในช่องที เช่น create - created become - became start - started build - built like - liked use - used decide - decided name - named is, am, are - was, were