สมองกับการเรียนรู้ (1)

สมองกบั การเรยี นรู้

อุปสรรคการเรียนรู้ 1. การไมไ่ ดเ้ รียนรู้ เพราะขาดการกระตุน้ หรือสง่ เสริมการเรียนรนู้ ้ัน 2. การเรียนรผู้ ิด ซึ่งมผี ลต่อไปจนถึงวยั ผใู้ หญ่ 3. ความเครียด ความกดดนั สง่ ผลต่อการหลงั่ สารเคมใี นสมอง

คล่ืนสมองกบั การเรียนรู้ หากเด็กถกู กระตุน้ มากเกินไป คลื่นสมองจะเป็ นลกั ษณะที่ไมเ่ หมาะ กบั การเรียนรทู้ ่ีแทจ้ ริง ความเครียด ความวนุ่ วาย ความสบั สน อปุ สรรคตอ่ การเรยี นรู้

ครูตอ้ งทาอยา่ งไรคะ ? ครตู อ้ งมีกิจกรรม หรือสรา้ งบรรยากาศท่ี ต่ืนตวั และผ่อนคลาย  ครตู อ้ งส่งเสริมใหเ้ ด็กฝึกความสนใจและจดจอ่

คล่ืนสมองทค่ี วรทาใหเ้ กิดข้ ึน คลื่นอลั ฟา คลื่นธีตา ผ่อนคลายความเครียด ออกกาลงั กาย การฟังเพลง ....................... การเรยี นรู้

สารเคมีในสมองกบั การเรียนรู้ ผลงานวจิ ยั ต่างๆพบวา่ การเรียนรมู้ ีความเก่ียวขอ้ ง กบั ความสุขและการหลงั่ ของสารเคมีในสมอง

สารเคมีในสมองแบ่งออกเป็ น 2 กลมุ่ กลมุ่ กระตนุ้ สมอง กลมุ่ กดการ ทางานของสมอง

กลมุ่ กระตนุ้ สมอง ทาหนา้ ที่… 1. ควบคุมการประพฤติ การแสดงออก อารมณ์ 2. ทาให้สมองตนื่ ตวั และมคี วามสุข 3. ทาให้อ่านข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว และง่ายขนึ้ 4. ทาให้ร่างกายรู้สึกดี มคี วามสุข 5. ทาให้เพม่ิ ภูมจิ ้านทาน สุขภาพแขง็ แรง

จะหลง่ั มากเม่อื ใด ? ออกกาลงั กาย การชมเชย สิ่งแวดลอ้ มใน หอ้ งเรยี นท่ีดี การรอ้ งเพลง/เลน่ เลน่ /ทางาน ไดร้ บั สมั ผสั ที่ ดนตรี/ศิลปะ เป็ นกลมุ่ อบอุ่น มองเห็นคณุ คา่ ของตนเอง/ รูส้ ึกดตี อ่ ตนเอง

กลมุ่ กด การทางานของสมอง คิดไม่ออก สง่ ผลให้ ยบั ย้งั การ ภมู ิตา้ นทานตา่ เจรญิ เติบโตของ สมองและใยประสาท ทาให้เดก็ กงั วล เครียด ควบคุมตนเองไม่ได้ความสามารถ ในการเรียนรู้ลดลง เดก็ เป็ น Hyperactive

หลกั ในการจดั การเรยี นรูท้ ี่สอดคลอ้ งกบั การทางานของสมอง 1. หลกั ในการพกั ผ่อน สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ให้เป็ นลกั ษณะ ผ่อนคลาย และท้าทาย 2. หลกั ในการตระหนัก จดจ่อ ผ่านการใช้ประสาทสัมผสั ท้งั 5 / ให้เด็กได้ แก้ปัญหา /ฝึ กการค้นหาคาตอบ 3. หลกั ในการจัดประสบการณ์ทเ่ี ป็ นกระบวนการอย่างกระตือรืนร้น ( Active learning) / ฝึ กให้ตดั สินใจในช่วงวกิ ฤต

เทคนิคการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่สอดคลอ้ งกบั พฒั นาการของสมอง 1. จัดการเรียนรู้โดยไม่แยกเป็ นส่วนๆเพราะสมองสามารถทางานได้ หลายอย่างในเวลาเดียวกนั 2. จัดการเรียนรู้โดยให้เดก็ ได้มีปฏิสัมพนั ธ์กบั สิ่งแวดล้อม 3. จัดการเรียนรู้โดยการสารวจและเรียนรู้สิ่งต่างๆ

เทคนิคการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่สี อดคลอ้ งกบั พฒั นาการของสมอง 4. จัดการเรียนรู้โดยเปิ ดโอกาสให้ผู้เรียนได้กาหนดรูปแบบในการเรียนรู้ และทาความเข้าใจของตนเอง 5. จดั บรรยากาศทเี่ หมาะสมทเ่ี ออื้ ต่อการเรียนรู้ (อารมณ์มีผลต่อการเรียนรู้) 6. จดั การเรียนรู้ท้งั การเรียนรู้ทเี่ ป็ นภาพรวมและภาพย่อย

เทคนิคการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่สี อดคลอ้ งกบั พฒั นาการของสมอง 7. จัดการเรียนรู้โดนใส่ใจต่อส่ิงแวดล้อมในการเรียนรู้ในทุกแง่มุม 8. ออกแบบการจัดกจิ กรรมทเี่ ออื้ ให้ผู้เรียนค่อยๆเรียนรู้ 9. จัดการเรียนรู้จากส่ิงทม่ี คี วามหมายต่อผู้เรียน

เทคนิคการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่สี อดคลอ้ งกบั พฒั นาการของสมอง 10. จัดการเรียนรู้ทเี่ หมาะสมกบั หน้าต่างแห่งโอกาสการเรียนรู้ 11. จดั บรรยากาศทป่ี ราศจากความกลวั 12.จดั การเรียนรู้ทเ่ี หมาะสมกบั ความแตกต่างของเด็กแต่ละบุคคล

กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พื่อพฒั นาสมอง

ใบกิจกรรมกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พื่อพฒั นาสมอง 1. แบง่ กลุ่มออกเป็ น 6 กลุ่มๆละเท่าๆกนั 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ศึกษาเอกสารท่ีจดั เตรียมให้ พรอ้ มท้งั สรุป สาระสาคญั ดงั น้ ี กลุ่มท่ี 1 อ่านใหห้ นูฟังหน่อย กลุ่มที่ 2 การเคลื่อนไหวรา่ งกาย กลุ่มที่ 3 การพฒั นาสมองผ่านศิลปะ กลุ่มที่ 4 กระตุน้ ใหส้ มองเรียนรู้ กลุ่มท่ี 5 สมองเรียนรคู้ ณิตศาสตรด์ ว้ ยวธิ ีไหนและสอน คณิตศาสตรส์ มองอนุบาล กลุ่มท่ี 6 ดนตรีพฒั นาสมอง 3. สรุปสาระสาคญั ที่ไดล้ งกระดาษปรุฟ๊ พรอ้ มท้งั คิดกิจกรรมในหวั ขอ้ ดงั กล่าว เตรียมนาเสนอ

ใบกิจกรรม 4. ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาเสนอสาระสาคญั ที่ไดศ้ ึกษาและแลกเปล่ียนความ คิดเห็น ตอบคาถามขอ้ สงสยั ของสมาชกิ กลุ่มอ่ืนๆ และนาเสนอในคร้งั ต่อไป