แหล่งคน้ คว้าเพมิ่ เตมิ นิภาภรณ์ คาเจรญิ , เรยี นรูก้ ารใชง้ านระบบสารสนเทศเพ่ือ การจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ SPC Books, 2548. ไพบลู ย์ เกียรตโิ กมล, รศ.ดร. ระบบสารสนเทศ เพ่ือการจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพซ์ เี อด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2551. วเิ ชียร เปรมชยั สวสั ดิ,์ ดร. ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ ส.ส.ท., 2551 ศรไี พร ศกั ดริ์ ุง่ พงศาสกลุ , ผศ.ดร. ระบบสารสนเทศและ เทคโนโลยีการจดั การความรู,้ กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ ซเี อด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2549. โอภาส เอีย่ มสริ วิ งศ,์ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพซ์ เี อด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2554
หน่วยท่ี 7 การเลอื กใช้ระบบสารสนเทศ เพอ่ื การจัดการในงานธุรกจิ สาระสาคัญ การเลือกใชร้ ะบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การในงานธุรกิจ เป็นการนาระบบ สารสนเทศท่ีถกู พฒั นาขนึ้ เพ่ือสนบั สนนุ ใหก้ ารดาเนินงานของธรุ กิจใหด้ าเนิน การอยา่ งเป็นระบบ โดย ออกแบบและพฒั นาใหป้ ฏิบตั งิ านตามหนา้ ท่ที างธรุ กิจ ตลอดจนชว่ ยสง่ เสรมิ ใหท้ งั้ องคก์ าร สามารถประสานงานและใชข้ อ้ มลู รว่ มกนั อย่างมีประสทิ ธิภาพทงั้ ในระดบั ปฏิบตั ิงานและ ระดบั บรหิ าร ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการและกระบวนการทางธุรกจิ ระบบสารสนเทศสามารถนาเขา้ มาใชใ้ นการดาเนินงานทางธุรกิจดา้ นตา่ ง ๆ ดงั นนั้ ในสว่ น ตอ่ ไปจะเป็นการอธิบายถงึ การนาระบบสารสนเทศเขา้ มาใชเ้ พ่ือการจดั การดา้ นการเงนิ (Financial) การผลิต (Manufactory) การตลาด (Marketing) ดา้ น ทรพั ยากรมนษุ ย์ (Human Resource) และ ดา้ นบญั ชี (Accounting) ระบบจดั การสารสนเทศ (Management Information System หรอื MIS) หน่วยปฏิบตั ิการ ตา่ ง ๆ ภายในองคก์ ารนนั้ ทาหนา้ ท่มี ากมายหลายอยา่ ง งานบางอย่างมี ลกั ษณะท่ีตอ้ งทาซํา้ ๆ เหมอื นกนั หลายหน และงานบางอยา่ งอาจจะทาเป็นครงั้ คราว ยกตวั อย่างเชน่ แผนกทรพั ยากรบคุ คล ทาหนา้ ท่ี วา่ จา้ ง ฝึกอบรม และใหค้ าปรกึ ษาแก่ บคุ ลากร หน่วยปฏบิ ตั ิการหรอื แผนกเหลา่ นีจ้ าเป็นตอ้ งใชร้ ะบบ สารสนเทศท่ีออกแบบและ สนบั สนนุ กิจกรรมภายในเป็นพิเศษ ระบบเหลา่ นีเ้ รยี กวา่ Functional MIS หรอื ระบบ MIS ระบบMIS ในหน่วยงานตา่ ง ๆ นนั้ ไดร้ บั การพฒั นาขนึ้ เพ่ือใหห้ นว่ ยงานสามารถทางานได้ ตาม กลยทุ ธท์ างธุรกิจอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ โดยปกตแิ ลว้ ระบบ MIS ช่วยจดั ทา สารสนเทศเพ่ือเพ่ิมประสทิ ธิภาพ ประสิทธิผล และผลผลติ ของการปฏิบตั ิงาน โดยการดงึ สารสนเทศออกจากฐานขอ้ มลู การแลว้ นามาประมวลผลตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ ระบบ MIS นนั้ บางครงั้ มีผเู้ รยี กวา่ เป็น Tactical System และจดั ทาขนึ้ เพ่ือชว่ ยงานของ ผบู้ รหิ าร
ระดบั กลาง อยา่ งเช่น การวางแผนระยะส้นั การควบคุมการดาเนินงาน และการจดั รูปแบบงาน ยกตวั อยา่ งเช่น การ พยากรณ์การขายตามเขตหรือ ภาค เป็นรายงานท่ีผบู้ ริหารการตลาดอยากทราบและจะหาไดจ้ ากระบบ MIS โดยทว่ั ไป ระบบ MIS สามารถช่วยงานต่อไปน้ีได้ • การหาค่าทางสถิติ • การจดั ทารายงานยกเวน้ • การจดั ทารายงานเป็นรายคาบ หรือรายงานเฉพาะกิจ • การวเิ คราะห์เปรียบเทียบ • การพยากรณ์ • การเตือนปัญหาล่วงหนา้ • การตดั สินใจตามปกติ • การเชื่อมโยงไปยงั ระบบอื่น ระบบสารสนเทศผู้บริหาร (Executive Information System หรือ EIS) ระบบ DSS จานวนมากท่ีพฒั นาข้ึนน้นั มีจุดมุ่งหมายสาหรับช่วยงานผบู้ ริหารระดบั กลาง และ ผเู้ ป็นนกั วิชาชีพหลาย สาขา ระบบ DSS บางระบบจดั ทาข้ึนสาหรับช่วยงานวางแผน งานวเิ คราะห์ งานวิจยั ตลอดจนงานบริหารอ่ืน ๆ ดว้ ย แต่สาหรับ ผบู้ ริหารระดบั สูงแลว้ ความตอ้ งการมีมากกวา่ การสนบั สนุนการตดั สินใจ คือ ตอ้ งการระบบที่สามารถใหข้ อ้ มูลข่าวสารท้งั ใน แบบสรุปและสามารถ จาะลึกไดใ้ นแบบออนไลน์ ระบบที่จดั ทาข้ึนเพ่อื สนบั สนุนงานในลกั ษณะน้ีนิยมเรียกวา่ ระบบ Executive Information System หรือ EIS ระบบ EIS จึงหมายถึงระบบที่ช่วยใหผ้ บู้ ริหารไดร้ ับขอ้ มูลและสารสนเทศไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทนั ที ทนั ใดที่ตอ้ งการ ระบบ EIS ไดร้ ับการพฒั นาใหใ้ ชง้ ่าย สามารถจดั ทารายงานความผดิ ปกติ และ มารถเจาะลึกรายละเอียดได้ นอกจากน้นั ยงั สามารถเชื่อมต่อกบั ระบบบริการขอ้ มูลภายนอก เช่น ขาว และระบบอีเมลดว้ ย ระบบสนบั สนุนการบริหารจดั การที่กล่าวมาน้นั อาจสรุปยอ่ ๆ ได้ ดงั แสดงในตารางตอ่ ไปน้ี
ระบบสารสนเทศท่กี ลา่ วมาขา้ งตน้ ทกุ แบบมีความสาคญั อย่างย่ิงตอ่ การปฏิบตั งิ านและการ บรหิ ารงาน ของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ สาหรบั บรษิ ัทหา้ งรา้ นตา่ ง ๆ ไดเ้ รม่ิ สนใจจดั ทาระบบสารสนเทศขนึ้ ใชก้ นั มากขนึ้ แลว้ ระบบสว่ นใหญ่ท่เี รม่ิ ใชเ้ ป็นระบบ Transaction Processing System และ หลายแห่ง เรม่ิ จดั ทาระบบ MIS ขนึ้ ใชแ้ ลว้ สว่ นระบบ EIS นนั้ มใี ชใ้ นบรษิ ัทขนาดใหญ่ ในสว่ นของ ธุรกิจ ภาคเอกชนท่ีผลิตและใชส้ ารสนเทศจานวนมากนนั้ ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งรูว้ ิธีใชส้ ารสนเทศในกิจกรรม ทาง ธุรกิจทกุ ดา้ น ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งมีความเขา้ ใจการทางานทกุ สว่ นของระบบ เพ่ือท่จี ะไดร้ ูว้ า่ จะมวี ิธี ใดบา้ งท่ี จะควบคมุ คณุ ภาพ ตน้ ทนุ และการใชท้ รพั ยากร หากไมม่ ีสารสนเทศแลว้ ก็ไมอ่ าจจะดาเนิน กิจกรรม เหลา่ นีห้ รอื ตดั สนิ ใจในดา้ นบรหิ ารได้ ในทางปฏิบตั แิ ลว้ ระบบสารสนเทศท่ีธุรกิจสรา้ งขนึ้ มา เพ่ือการใช้ งานนนั้ จาเป็นตอ้ งอาศยั เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นพืน้ ฐาน ดงั นนั้ ผบู้ รหิ ารธุรกิจภาคเอกชน ควรให้ ความสนใจ และตดิ ตามความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศดว้ ย เพ่ือจะทราบทิศทางและ ประโยชนใ์ นการประยกุ ตใ์ ชง้ านใหเ้ หมาะสมกบั องคก์ รหรอื หนว่ ยงานตอ่ ไป ระบบสารสนเทศทางธุรกจิ (Business Information System) ระบบสารสนเทศทางธรุ กิจ (Business Information System) เป็นระบบสารสนเทศท่ีถกู พฒั นาขนึ้ เพ่ือสนบั สนนุ ใหก้ ารดาเนินงานของธุรกิจใหด้ าเนินการอย่างเป็นระบบ โดยออกแบบและ พฒั นาให้ ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ท่ที างธรุ กิจ ตลอดจนช่วยสง่ เสรมิ ใหท้ งั้ องคก์ ารสามารถประสานงานและ ใชข้ อ้ มลู รว่ มกนั อยา่ งมีประสิทธิภาพทงั้ ในระดบั ปฏิบตั งิ านและระดบั บรหิ าร โดยสามารถจาแนกระบบ สารสนเทศตามหนา้ ท่ที างธุรกิจ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ระบบสารสนเทศดา้ นการบญั ชี (Accounting Information System) 2.ระบบสารสนเทศดา้ นการเงนิ (Financial Information System) 3.ระบบสารสนเทศดา้ นการตลาด (Marketing Information System) 4.ระบบสารสนเทศดา้ นทรพั ยากรบคุ คล (Human Resource Information System) 1) ระบบสารสนเทศดา้ นการบญั ชี (Accounting Information System) ระบบสารสนเทศ ดา้ นการบญั ชี (Accounting Information System) หรอื เรยี กวา่ AIS จะ เป็นระบบท่ี รวบรวม จดั ระบบ และนาเสนอสารสนเทศทางการบญั ชีท่ชี ่วยในการตดั สินใจแกผ่ ใู้ ช้ สนเทศทงั้ ภายใน และภายนอกองคก์ ร โดยระบบสารสนเทศทางบญั ชีจะใหค้ วามสาคญั กบั สนเทศท่สี ามารถวดั คา่ ได้ หรอื การประมวลผลเชิงปรมิ าณมากกวา่ การแกป้ ัญหาเชิงคณุ ภาพ ระบบ สนเทศทางดา้ นการบญั ชีจะ ประกอบดว้ ย 2 สว่ น คอื 1. ระบบบญั ชีทางการเงิน (Financial Accounting System) จะเป็นการบนั ทกึ รายการคา้ ท่ีเกิดขนึ้ ในรูปตวั เงิน จดั หมวดหมรู่ ายการตา่ ง ๆ สรุปผล และตีความหมายในงบการเงิน ไดแ้ ก่ งบ กาไร ขาดทนุ งบดลุ และงบกระแสเงนิ สด โดยมีวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั คือ นาเสนอสารสนเทศแกผ่ ใู้ ช้ และผทู้ ่สี น ในขอ้ มลู ทางการเงินขององคก์ าร เชน่ นกั ลงทนุ และเจา้ หนี้ 2. ระบบบญั ชีผบู้ รหิ าร (Managerial Accounting System) เป็นการนาเสนอขอ้ มลู ทาง การเงินแกผ่ บู้ รหิ าร เพ่ือใชใ้ นการตดั สนิ ใจทางธุรกิจ ระบบบญั ชีจะประกอบดว้ ย บญั ชีตน้ ทนุ การ งบประมาณ และการศกึ ษาระบบ 2) ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ นการเงนิ (Financial Information System)
ระบบสารสนเทศเพือ่ การจดั การดา้ นการเงิน ทาหนา้ ที่ในการจดั การสารสนเทศดา้ น การเงินใหแ้ ก่ผบู้ ริหารและกลุ่มบุคคลซ่ึง ตอ้ งการทาการตดั สินใจไดด้ ีข้ึนและช่วยในการหาโอกาสและ ปัญหาที่เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว โดยระบบสารสนเทศดา้ นการเงินนิยมใช้ รวมเขา้ กบั ซอฟตแ์ วร์ ในการ วางแผนทรัพยากรขององคก์ ร (Enterprise Resource Planning : ERP) ซ่ึงเป็นกลุ่มของ โปรแกรมท่ีจดั การ วิเคราะห์และติดตามการ ดาเนินธุรกิจของแหล่งผลิตหรือสาขาตา่ ง ๆ ของ องคก์ ร เพ่อื ใหแ้ น่ใจวา่ สารสนเทศดา้ นการเงินใน การปฏิบตั ิงาน สามารถนาไปใชส้ นบั สนุนความ มารถในการตดั สินใจใหแ้ ก่บุคคลท่ีตอ้ งการได้ เวลา ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ น การเงินมีความสามารถการทางานดงั ตอ่ ไปน้ี 1. รวบรวมสารสนเทศดา้ นการเงินและการดาเนินงานจากแหล่งต่างๆ รวมท้งั จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเขา้ ไวใ้ นระบบสารสนเทศ เพอื่ การจดั การเพยี งระบบเดียว 2. สนบั สนุนผใู้ ชท้ ี่ทางานเก่ียวขอ้ งกบั ดา้ นการเงินและผใู้ ชอ้ ื่นๆ ของบริษทั ใหส้ ามารถ เรียกใชข้ อ้ มูลและสารสนเทศทางดา้ น การเงินผา่ นทางเครือขา่ ย 3. เตรียมขอ้ มูลดา้ นการเงินท่ีมีอยใู่ หพ้ ร้อมต่อการใชง้ าน เพอ่ื ใหส้ ามารถนาไปใชใ้ นการ วิเคราะห์ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มูลดา้ นการเงินไดห้ ลายมิติ เช่น วเิ คราะห์ตามช่วงเวลา ภูมิประเทศ ผลิตภณั ฑ์ โรงงานผลิต หรือลูกคา้ ได้ 5. วิเคราะห์การดาเนินงานดา้ นการเงินท่ีผา่ นมาและที่เป็นอยใู่ นปัจจุบนั ได้ 6. ติดตามและควบคุมการใชเ้ งินทุนไดต้ ลอดเวลา ระบบสารสนเทศดา้ นการเงิน จะเกี่ยวกบั สภาพคล่อง (Liquidity) ในการ ดาเนินงาน เก่ียวขอ้ ง กบั การจดั การเงินสดหมุนเวยี น ถา้ ธุรกิจขาดเงินทุนอาจก่อใหเ้ กิดปัญหาข้ึนท้งั โดยตรงและออ้ ม โดยท่ี การจดั การทาง การเงินจะมีหนา้ ที่สาคญั 3 ประการ ดงั น้ี 1. การพยากรณ์ (Forecast) คือ การศึกษาวเิ คราะห์ การคาดการณ์ การกาหนดทางเลือก และการวางแผนทางดา้ น การเงินของธุรกิจ เพอ่ื ใช้ ทรัพยากรทางการเงินใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด โดย นกั การเงินสามารถใชห้ ลกั การทางสถิติและ แบบจาลอง ทางคณิตศาสตร์มาประยกุ ต์ การพยากรณ์ทางการเงิน จะอาศยั ขอ้ มูลท้งั ภายในและภายนอกองคก์ าร ตลอด จน ประสบการณ์ของผบู้ ริหารในการตดั สินใจ
2. การจดั การด้านการเงิน (Financial Management) คือ การบริหารเงินใหเ้ กิดประโยชน์ สูงสุด เช่น รายรับและรายจ่าย การหาแหล่งเงินทุนจากภายนอก เพื่อท่ีจะเพ่ิมทุนขององคก์ าร โดย วิธี ทางการเงิน เช่น การกยู้ มื การออกหุน้ หรือตราสารทางการเงิน 3. การควบคุมทางการเงนิ (Financial Control) เป็นการติดตามผล ตรวจสอบ และประเมิน ความเหมาะสมในการดาเนินงานวา่ เป็นไปตามแผนท่ีกาหนดหรือไม่ ตลอดจนวางแนวทางแกไ้ ขหรือ ปรับปรุงใหก้ ารดาเนินงานทางการเงินของธุรกิจมีประสิทธิภาพ โดยท่ีการตรวจสอบและการควบคุม ทางการเงินของธุรกิจจะจาแนกได้ 2 ประเภท คือ 3.1 การควบคุมภายใน (Internal Control) 3.2 การควบคุมภายนอก (External Control) ส่วนที่นาเข้าไปยงั ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การด้านการเงนิ 1. แผนกลยทุ ธ์และนโยบายของบริษทั ในแผนกลยทุ ธ์จะประกอบดว้ ย วตั ถุประสงคด์ า้ น ฝน เป้าหมายของผลกาไรท่ีตอ้ งการ อตั ราส่วนของหน้ีสินและเงินกู้ คา่ คาดหวงั ของผลตอบแทนท่ีตอ้ งการ เป็ นตน้ 2. และมวลผลรายการ สารสนเทศดา้ นการเงินท่ีสาคญั จะมาจากโปรแกรมการประมวลผล รายการต่าง ๆไม่วา่ จะเป็นโปรแกรมเงินเดือน โปรแกรมควบคุมสินคา้ คงคลงั โปรแกรมสง่ั ซ้ือสินคา้ โปรแกรมบญั ชีรายรับ-รายจ่าย และโปรแกรมใบสง่ั ซ้ือทว่ั ไป โดยขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากโปรแกรมเหล่าน้ี ไดแ้ ก่คา่ ใชจ้ ่ายดา้ นเงินเดือนรวม เงินลงทุนในคลงั สินคา้ ยอดขายรวม ปริมาณเงินที่จ่ายใหก้ บั แหล่ง ผลิตสินคา้ ปริมาณหน้ีรวมของลูกคา้ ท่ีมีต่อบริษทั และรายละเอียดขอ้ มูลบญั ชีต่างๆ โดยขอ้ มูล เหล่าน้ี -ไปสร้างเป็นรายงานดา้ นการเงินเพื่อใชใ้ นการตดั สินใจต่อไป 3. แหล่งขอ้ มูลภายนอก ไดแ้ ก่ สารสนเทศเก่ียวกบั คูแ่ ข่งขนั อาจไดม้ าจากรายงานประจาปี ของ บริษทั คู่แข่ง หนงั สือพมิ พ์ ส่ือต่าง ๆ เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต นอกจากน้ียงั รวมถึงสารสนเทศ เก่ียวกบั สภาพเศรษฐกิจของประเทศหรือของโลก เช่น สภาวะเงินเฟ้อ อตั ราภาษีเหล่าน้ี เป็นตน้ ระบบย่อยและพลท่ีได้จากระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการด้านการเงนิ ระบบยอ่ ยในระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การดา้ นการเงิน ข้ึนอยกู่ บั องคก์ รและความตอ้ งการ ขององคก์ รน้นั โดยอาจประกอบดว้ ยระบบภายในและระบบภายนอกที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ การประมวลผลทางธุรกิจของบริษทั เช่น ระบบการจดั หา การใช้ และการควบคุมเงินสด ระบบ เงินทุนและแหล่งการเงินอื่น ๆ และอาจจะประกอบดว้ ย ระบบยอ่ ยในการหากาไร/ขาดทุน ระบบบญั ชี คา่ ใชจ้ ่ายและ ระบบการตรวจสอบ โดยระบบต่าง ๆ เหล่าน้ีจะทางาน ประสานกบั ระบบประมวลผล รายการ เพ่อื ใหไ้ ดส้ ารสนเทศที่ ผจู้ ดั การดา้ นการเงินสามารถนาไปใชต้ ดั สินใจไดด้ ีข้ึน ดงั น้นั ผลลพั ธ์ ท่ีไดจ้ ากระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การดา้ นการเงิน ไดแ้ ก่ รายงานดา้ นการเงินต่าง ๆ เช่น รายงาน กาไร/ขาดทุน รายงานระบบค่าใชจ้ ่าย รายงานการตรวจสอบภายในและ ภายนอกและรายงานการใช้ และการจดั การเงินทุน เป็นตน้ ระบบสารสนเทศด้านการตลาด (Marketing Information System) 1.ระบบสารสนเทศสาหรับการขาย จะประกอบดว้ ย 1.1 ระบบสารสนเทศสาหรับสนบั สนุนการขาย จะรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ เพือ่ สนบั สนุน การดาเนินงานของ
ฝ่ายขาย เพ่ือใหก้ ารขายเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ขอ้ มลู ท่ีระบบตอ้ งการอาจจะเก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑท์ ่ีจะ ทาการขายจะทาการขาย รูปแบบ ราคา และการโฆษณาตา่ ง ๆ 1.2 ระบบสารสนเทศสาหรบั วิเคราะหก์ ารขาย จะรวบรวมสารสนเทศในเรอ่ื งของกาไรหรอื ขาดทนุ ของ ผลติ ภณั ฑ์ ความสามารถของพนกั งานขาย ยอดขายของแตล่ ะเขตการขาย รวมทงั้ แนวโนม้ การเติบโตของ สนิ คา้ 1.3 ระบบสารสนเทศสาหรบั การวเิ คราะหล์ กู คา้ จะชว่ ยในการวิเคราะหล์ กู คา้ เพ่ือให้ ทราบถึงรูปแบบของ การซอื้ และประโยชนท์ ่ีลกู คา้ จะไดร้ บั เพ่อื ธรุ กิจจะสามารถใหบ้ รกิ ารลกู คา้ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสมและมี ประสทิ ธิภาพ 2. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจยั ตลาด จะประกอบดว้ ย 2.1 ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจยั ลกู คา้ การวิจยั ลกู คา้ จะตา่ งกบั การวิเคราะหล์ กู คา้ ตรงท่ีวา่ การวิจยั ลกู คา้ จะมขี อบเขตของการใชส้ ารสนเทศกวา้ งกวา่ การวิเคราะหล์ กู คา้ โดยการวจิ ยั ลกู คา้ จะตอ้ งทราบ สารสนเทศท่ีเก่ียวกบั ลกู คา้ ในดา้ นสถานะทางการเงนิ การดาเนินธุรกิจ ความพอใจ รสนิยม และพฤตกิ รรม การบรโิ ภค 2.2 ระบบสารสนเทศสาหรบั การวิจยั ตลาด การวจิ ยั ตลาดจะใหค้ วามสาคญั กบั การหา ขนาดของตลาด ของแตล่ ะผลิตภณั ฑท์ ่จี ะนาออกจาหน่าย ซง่ึ อาจจะครอบคลมุ ทงั้ ในระยะสนั้ และ ระยะยาว สารสนเทศท่ี จาเป็นท่ีตอ้ งการของการวิจยั ตลาดคอื สภาวะและแนวโนม้ ทางเศรษฐกิจ ยอด ขายในอดีตของ อตุ สาหกรรมหรอื ผลติ ภณั ฑช์ นิดเดียวกนั ในตลาด รวมทงั้ ภาวะ การแขง่ ขนั ของ ผลติ ภณั ฑ์ 3. ระบบสารสนเทศสาหรบั การสง่ เสรมิ การขาย เป็นระบบท่ีใหค้ วามสาคญั กบั แผนงานทางดา้ นการโฆษณาและสง่ เสรมิ การขาย โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือ สง่ เสรมิ การขาย เพ่ิมยอดขายสนิ คา้ และเพ่ิมสว่ นแบง่ ตลาดใหส้ งู ขนึ้ สารสนเทศท่ี ตอ้ งการคือ ยอดขาย ของสนิ คา้ ทกุ ชนิดในบรษิ ัท เพ่ือใหร้ ูว้ า่ สนิ คา้ ตวั ใดตอ้ งทาการวางแผนการสง่ เสรมิ การขายอยา่ งไร 4. ระบบสารสนเทศสาหรบั การพฒั นาผลติ ภณั ฑแ์ ละการบรกิ าร เป็นระบบท่ีวเิ คราะหถ์ งึ ความเป็นไปไดข้ องผลติ ภณั ฑใ์ หม่ ๆ ลกั ษณะและความตอ้ งการ ของลกู คา้ ท่มี ีตอ่ ผลิตภณั ฑใ์ หม่ หรอื ผลิตภณั ฑท์ ่เี ป็นท่ีตอ้ งการของลกู คา้ แตย่ งั ไมม่ ีตลาด สารสนเทศ ท่ตี อ้ งการคือ ยอดขายของผลติ ภณั ฑป์ ระเภทเดียวกนั ในอดตี 5. ระบบสารสนเทศสาหรบั การพยากรณก์ ารขาย เป็นระบบท่ีใชใ้ นการวางแผนการขาย แผนการทากาไร จากสนิ คา้ หรอื บรกิ ารในชว่ งเวลาใดเวลาหน่งึ ของบรษิ ัท ซง่ึ จะสง่ ผลไปถึงการวางแผน การผลติ การวาง กาลงั คน และงบประมาณท่ีจะใชเ้ ก่ียวกบั การขาย โดยสารสนเทศท่ีตอ้ งการคอื ยอดขายในอดตี สถานะ ของคแู่ ขง่ ขนั สภาวการณข์ องตลาด และแผนการโฆษณา 6. ระบบสารสนเทศสาหรบั การวางแผนกาไร เป็นระบบท่ีใหค้ วามสาคญั กบั การวางแผนกาไร ทงั้ ในระยะ สนั้ และระยะยาวของธรุ กิจ โดยสารสนเทศตอ้ งการคอื สารสนเทศจากการวิจยั ตลาด ยอดขายในอดีต สารสนเทศของคแู่ ขง่ ขนั การพยากรณก์ ารขาย และการโฆษณา 7. ระบบสารสนเทศสาหรบั การกาหนดราคา การกาหนดราคาทางการตลาด จะตอ้ งคานงึ ถงึ ความ ตอ้ งการของลกู คา้ คแู่ ขง่ ขนั กาลงั ซือ้ ของลกู คา้ โดยปกติแลว้ ราคาสนิ คา้ จะตงั้ ราคาจากตน้ ทนุ รวมกบั รอ้ ย ละของกาไรท่ีตอ้ งการ สารสนเทศท่ีตอ้ งการคอื ตวั เลขกาไรของผลติ ทาการปรบั ปรุงใหไ้ ดส้ ดั สว่ นของกาไร ท่ีตอ้ งการ
8. ระบบสารสนเทศสาหรับการควบคุมค่าใชจ้ ่าย การควบคุมคา่ ใชจ้ ่าย สามารถควบคุมได้ โคคลากราย งานของผลการทากาไรกบั คา่ ใชจ้ ่ายที่เกิดข้ึนจริงหรือสาเหตุของการคลาดเคลื่อน จะวา่ ย ค่าใชจ้ ่ายที่เก่ียวกบั การ ขายรวมถึงคา่ ใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ เช่น เงินเดือน ค่าโฆษณา ค่าส่วนแบ่ง การขาย 4. ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล (Human Resource Information System) ระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การดา้ นทรัพยากรบุคคล หรือทรัพยากรมนุษย์ หรือเรียก อีกช่ือหน่ึงวา่ ระบบสารสนเทศ ดา้ นบุคลากร ไดแ้ ก่ ระบบงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั พนกั งานขององคก์ ร เนื่องจากการทางานของทรัพยากรมนุษยจ์ ะเกี่ยวขอ้ งกบั ทุกส่วน งานขององคก์ ร ดงั น้นั ระบบ สารสนเทศดา้ นบุคลากรจึงมีบทบาทท่ีมีผลต่อความสาเร็จขององคก์ ร โดยระบบสารสนเทศเพ่อื การ จดั การดา้ นทรัพยากรมนุษยค์ วรจะมีคุณสมบตั ิใน การวิเคราะห์และวางแผนภาระงาน การจา้ ง บุคลากร การอบรมพนกั งาน การ กาหนดงานให้ กบั พนกั งานที่เก่ียวขอ้ งกบั บุคลากร โดยระบบท่ี มีประสิทธิภาพควรจะสามารถจดั การเรื่อง ค่าใชจ้ ่ายดา้ นบุคลากร ใหน้ อ้ ยที่สุดในขณะที่ ยงั คงสามารถสนองตอบความตอ้ งการบุคลากร ในการดาเนินงานต่าง ๆ เพือ่ ดาเนินงานใหบ้ รรลุ วตั ถุประสงคข์ ององคก์ รได้ ส่วนทน่ี าเข้าไปยงั ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การด้านทรัพยากรมนุษย์ 1. แผนเชิงกลยทุ ธ์และนโยบายของบริษทั ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลดา้ นวตั ถุประสงคแ์ ละนโยบายในดา้ น บุคลากร เช่น นโยบายใน การควบคุมคุณภาพ โดยมีการฝึกอบรมพนกั งาน มีการกระตุน้ ใหม้ ีส่วนร่วม ในการทางาน มีการสลบั หนา้ ท่ีการทางานและการ กาหนดบทบาทหนา้ ท่ีในการทางานของบุคลากรใน องคก์ ร เป็นตน้ 2. ระบบประมวลผลรายการ ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลเงินเดือน ขอ้ มูลการประมวลผลการสง่ั ซ้ือ ขอ้ มูล บุคลากร ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากระบบ ประมวลผลรายการ ไดแ้ ก่ - ขอ้ มูลเงินเดือน ค่าใชจ้ ่ายท่ีเป็นคา่ จา้ ง คา่ ประกนั สุขภาพ และเงินสวสั ดิการต่างๆ ของบุคลากรในองคก์ ร โดยขอ้ มูลที่ ระบบประมวลผลรายการไดร้ ับอาจไดแ้ ก่ชวั่ โมงการทางาน อตั รา ค่าจา้ งของพนกั งาน และทาการคานวณเงินเดือนค่าจา้ งออกมา ให้ - ขอ้ มูลการสงั่ ซ้ือของพนกั งานขายสามารถนามาใชใ้ นการวางแผนงานการกาหนด บุคลากรได้ โดยพิจารณาจานวน พนกั งานขายท่ีตอ้ งการ ในการใหบ้ ริการหรือขายสินคา้ ขององคก์ รท่ี จะมีการขยายตวั ต่อไปในอนาคต - ขอ้ มูลบุคลากร ใชใ้ นการแบ่งระดบั ทกั ษะในการทางาน โดยพจิ ารณาจากประสบการณ์ การทางาน การประเมิน ประสิทธิภาพในการทางาน และสารสนเทศอ่ืน ๆ ช่วยในการวางแผนงานการ กาหนดงานใหก้ บั พนกั งานในดา้ นต่าง ๆ 3. แหล่งขอ้ มูลภายนอก ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลเงินเดือนขององคก์ รอื่น ขอ้ มูลสถิติการวา่ จา้ ง ซ่ึง ขอ้ มูลเหล่าน้ีสามารถนามาใชใ้ น การกาหนดอตั ราคา่ จา้ งหรือเงินเดือนใหก้ บั พนกั งานในองคก์ รได้ ขอ้ มูลเหล่าน้ีอาจไดจ้ ากบริษทั ท่ีทาการวจิ ยั และพฒั นาในดา้ น เงินรายไดห้ รืออาจไดจ้ ากอินเทอร์เน็ตท่ี มีการสรุปขอ้ มูลของบริษทั ที่ทาการวจิ ยั และพฒั นาทางดา้ นเงินเดือนกไ็ ด้ นอกจากน้ียงั สามารถศึกษา ไดจ้ ากขอ้ กาหนดทางดา้ นกฎหมายเรื่องค่าจา้ งแรงงานข้นั ต่าํ โดยพิจารณาตามแหล่งขอ้ มูลทอ้ งถ่ิน สมาคมดา้ น แรงงานต่าง ๆ เป็นตน้
ระบบย่อยและพลทไ่ี ด้จากระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การด้านทรัพยากรมนุษย์ ระบบยอ่ ยในระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ นทรัพยากรมนุษย์ ไดแ้ ก่ ระบบในการวางแผน ทรัพยากรมนุษย์ การ วา่ จา้ ง การฝึกอบรมและการเสริมทกั ษะและการบริหารเงินเดือนและค่าจา้ ง โดย ผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ากระบบ ไดแ้ ก่ รายงานการ วางแผนทรัพยากรมนุษย์ ประวตั ิการทางาน รายงานการ เสริมทกั ษะบุคลากร การสารวจเงินเดือน โดยรายงานเหล่าน้ีจะช่วย ใหผ้ บู้ ริหารกาหนดงานใหก้ บั พนกั งานเพ่ือใหบ้ ริการแก่ลูกคา้ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และช่วยในการจดั ตารางการ ทางานเพื่อใหไ้ ดง้ านตามที่ตอ้ งการได้ เทคโนโลยที ่ีน่าสนใจในระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ การแลกเปลยี่ นข้อมูลอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ ไดแ้ ก่ การส่ือสารขอ้ มูลในรูปแบบมาตรฐานหรือรูปแบบ ท่ีผรู้ ับอนุญาต เพอื่ ท่ีจะสามารถนาไปดาเนินรายการทางดา้ นธุรกิจตามมาตรฐาน ระหวา่ งบริษทั หรือ ระหวา่ งชุดโปรแกรมกบั ชุดโปรแกรม ของบริษทั ได้ การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ใชร้ ะบบ เครือขา่ ยที่เช่ือมโยงเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในองคก์ รต่าง ๆ และ ดาเนินตามมาตรฐานและกระบวนการ ซ่ึงอนุญาตใหผ้ ลลพั ธ์จากระบบหน่ึงถูกประมวลผลโดยตรงเพอื่ เป็นขอ้ มูลนาเขา้ ไปยงั ระบบอื่น ๆ ได้ โดยไม่ตอ้ งใหม้ นุษยเ์ ป็นผดู้ าเนินการระหวา่ งกระบวนการเหล่าน้ีเลย ดว้ ยการแลกเปล่ียนขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกส์ คอมพวิ เตอร์ของลูกคา้ ผผู้ ลิต และแหล่งผลิต สามารถ ถูกเช่ือมโยงเขา้ ดว้ ยกนั ทาใหส้ ามารถลดจานวนการใชเ้ อกสารที่เป็นกระดาษและลดคา่ ใชจ้ ่ายเรื่อง ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนินงานผดิ พลาดลง ได้ การสงั่ ซ้ือหรือคาร้องขอของลูกคา้ จะถูกส่งจากเคร่ือง คอมพวิ เตอร์ของลูกคา้ ไปยงั เครื่องคอมพวิ เตอร์ของผผู้ ลิตและ เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของผผู้ ลิตเม่ือได้ รับคาสง่ั ซ้ือน้นั สามารถพจิ ารณาไดว้ า่ มีสินคา้ พอหรือไม่ ถา้ ตอ้ งผลิตเพิม่ จะทาการส่ง คาสง่ั ซ้ือไปยงั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ของแหล่งผลิตอยา่ งอตั โนมตั ิ
การพาณชิ ย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ ไดแ้ ก่ การดาเนินรายการ (Transaction) ทางดา้ นธุรกิจผา่ นส่ือทางอิเลก็ ทรอนิกส์ ระหวา่ งฝ่ ายต่าง ๆ เช่น ระหวา่ งบริษทั (Business) คือ ธุรกิจ กบั ธุรกิจ (B to B) ระหวา่ งบริษทั กบั ลูกคา้ (Customer) คือ ธุรกิจกบั ผบู้ ริโภค (B to C) ระหวา่ งธุรกิจกบั ส่วนงาน สาธารณะ (B to C) หรือระหวา่ งลูกคา้ กบั ส่วนสาธารณะ (C to P) คนโดยทวั่ ไปมกั คิดวา่ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์หมายถึงการท่ีผบู้ ริโภคเขา้ ไปยงั เวบ็ ไซตใ์ ด ๆ เพ่อื ทาการซ้ือสินคา้ แบบออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแลว้ การซ้ือขายสินคา้ ผา่ นเวบ็ ไซตเ์ ป็นเพยี งส่วนเลก็ ๆ ส่วนหน่ึงของ พาณิชย์ อิเลก็ ทรอนิกส์เท่าน้นั การใชพ้ าณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์สามารถช่วยใหก้ ารดาเนินงานในการ ายของบริษทั ใหญ่ ๆ ทาได้ ง่ายข้ึน หรือแมก้ ระทงั่ กบั บริษทั เลก็ ๆ เองกม็ ีโอกาสท่ีจะขายสินคา้ ในราคาต่า ในกลุ่มตลาดต่าง ๆ ทว่ั โลก ขอ้ ดีของ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์สาหรับผบู้ ริโภค ไดแ้ ก่ การซ้ือสินคา้ ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเบียดเสียดกบั ฝงู คนมากมายใน หา้ งสรรพสินคา้ สามารถซ้ือสินคา้ ไดต้ ลอดเวลาท่ี การเมื่ออยทู่ ี่บา้ นหรือท่ีทางาน และไดร้ ับสินคา้ โดยตรงถึงบา้ นไม่ ตอ้ งขนส่งเอง ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการสาหรับธุรกจิ ภาคเอกชน ปัจจุบนั ธุรกิจภาคเอกชน ท้งั ที่มีขนาดใหญ่และขนาดเลก็ ลว้ นตอ้ งการสารสนเทศดว้ ยเหตุผลต่าง ๆ กนั ในการ ทาธุรกิจน้นั บริษทั และผบู้ ริหารตอ้ งการสารสนเทศเพื่อการบริหารจดั การ การตดั สินใจ และการ แกป้ ัญหา หากไม่มี สารสนเทศที่เกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองที่จะตอ้ งตดั สินใจหรือแกป้ ัญหาแลว้ การตดั สินใจก็ อาจจะผดิ พลาดและก่อใหเ้ กิดความ เสียหายได้ ดว้ ยเหตุน้ีเองการจดั เกบ็ สารสนเทศที่ถูกตอ้ งและเหมาะสม เอาไวอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพเพื่อใหส้ ามารถคน้ คืนมาใชไ้ ดเ้ ม่ือจาเป็นจึงมีความสาคญั อยา่ งยง่ิ ต่อการท่ีจะทาให้ บริษทั บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ แมว้ า่ การพฒั นาระบบ สารสนเทศส่วนใหญ่จะมีจุดมุ่งหมายเพ่อื ช่วยประกอบ การทางาน และช่วยในการตดั สินใจแกป้ ัญหา นอกจากน้ียงั มี การสร้างระบบสารสนเทศเพอ่ื ใหบ้ ริษทั และ หน่วยงานใชส้ าหรับการวางแผนพฒั นาบริษทั และหน่วยงานในระยะยาว ระบบสารสนเทศแบบน้ีเรียกวา่ ระบบสารสนเทศเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic Information System หรือ SIS) บริษทั และ หน่วยงานสามารถ บรรลุความไดเ้ ปรียบเชิงกลยทุ ธ์ไดโ้ ดยการใชก้ ลยทุ ธใ์ นการเสริมสร้างจุดแขง็ ใหม้ ากที่สุด ความ ไดเ้ ปรียบ ในการแขง่ ขนั (Competitive Advantage) และความไดเ้ ปรียบเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic Advantage) ใน ความหมายเดียวกนั กลยทุ ธท์ างธุรกิจน้นั ปกติหมายถึงการพฒั นาผลิตภณั ฑใ์ หม่ ตลาดใหม่และบริการ แบบใหม่ ซ่ึง รวมแลว้ มีความหมายวา่ พฒั นาผลิตภณั ฑใ์ หส้ อดคลอ้ งตอ่ ความตอ้ งการของลูกคา้ ที่ยงั ไม่มี ใครตอบสนองมาก่อน การ เปล่ียนบริการใหร้ องรับลูกคา้ กลุ่มใหม่ได้ การผกู มดั ใจลูกคา้ เดิมใหภ้ กั ดีต่อ ผลิตภณั ฑห์ รือบริการท่ีเรามีอยู่ หรือการ ดาเนินการใด ๆ ที่เพิ่มคุณค่าใหแ้ ก่บริษทั เม่ือพดู ถึงองคป์ ระกอบ รวมของระบบสารสนเทศกอ็ าจจะกล่าวไดว้ า่ เป็น การทางานท่ีเก่ียวกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงประกอบดว้ ย
1. ฮารด์ แวร์ ซง่ึ ไดแ้ ก่อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ 2. ซอฟตแ์ วร์ ซง่ึ ไดแ้ กโ่ ปรแกรมตา่ ง ๆ สาหรบั ประมวลผลขอ้ มลู 3. ระบบส่อื สารโทรคมนาคม สาหรบั เช่ือมตอ่ อปุ กรณค์ อมพิวเตอรต์ า่ ง ๆ เชน่ ระบบ LAN 4. ขอ้ มลู ซง่ึ เป็นขอ้ เท็จจรงิ เก่ียวกบั สงิ่ ที่เกิดขนึ้ กบั หนว่ ยงาน 5. บคุ ลากร ซง่ึ ทาหนา้ ท่ตี า่ ง ๆ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ระบบสารสนเทศ 6. คมู่ ือและวธิ ีการปฏิบตั ิงาน ซง่ึ จาเป็นสาหรบั ใชเ้ ป็นแนวทางการปฏิบตั ิงานใหส้ าเรจ็ การใช้สารสนเทศเชงิ กลยุทธเ์ ป็ นอาวุธชงิ ความไดเ้ ปรียบ ระบบสารสนเทศเชิงกลยทุ ธ์ (Strategic Information System) เป็นระบบท่ี สนบั สนนุ หรอื ช่วยทาใหเ้ กิดกลยทุ ธใ์ นการแขง่ ขนั ของหนว่ ยงาน ระบบ SIS มีลกั ษณะ สาคญั คอื สามารถเปล่ยี นแปลง วิธีการทาธุรกิจของหน่วยงานไดอ้ ย่างขนานใหญ่ ซง่ึ น่นั กค็ อื สามารถทาใหบ้ รษิ ัทมีความ ไดเ้ ปรยี บใน การแขง่ ขนั ระบบ SIS ทาเชน่ นีไ้ ดโ้ ดยการช่วยกาหนดเปา้ หมายของ หนว่ ยงาน หรอื ในการช่วยเพ่มิ สมรรถนะและผลผลติ ไดอ้ ย่างมาก ระบบSIS อาจมีลกั ษณะมองออกไปขา้ งนอกคือใหค้ วามสนใจตอ่ ลกู คา้ หรอื มองเขา้ มา ขา้ งใน สนใจตอ่ ตวั องคก์ รเอง การมองไปขา้ งนอกเป็นการมงุ่ ท่ีการแขง่ ขนั ในตลาด เช่น การ จดั หา บรกิ ารใหม่ ๆ ใหล้ กู คา้ หรอื การผกู สมั พนั ธก์ บั ผสู้ ง่ ชิน้ สว่ นโดยมีจดุ ประสงคท์ ่ีจะตีคแู่ ขง่ สว่ นระบบ SIS ท่มี องเขา้ ขา้ งในนนั้ จะเนน้ ท่ีการเพ่ิมผลิตภาพของพนกั งาน ปรบั ปรุงการ ทางานเป็นทีม และเสรมิ สรา้ งการสื่อสาร บรษิ ัทและหนว่ ยงานอาจผสมผสานลกั ษณะทงั้ การมองออกไปขา้ งนอกและมอง วงในไวด้ ว้ ยกนั ก็ได้ เชน่ ผสมผสานการพาณิชย์ อิเลก็ ทรอนิกส์ (มองออกไปขา้ งนอก กบั ระบบ Enterprise Resource Planning หรอื ระบบ Customer Resource Management) ใหไ้ ด้ ประโยชนม์ ากท่ีสดุ บทบาทของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การในงานธรุ กิจ ไดก้ ลายเป็นเครอ่ื งมือสาคญั สาหรบั การทา ธรุ กิจ ในยคุ นี้ ระบบสารสนเทศยงั เป็นตวั เรง่ ใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงพืน้ ฐานทงั้ ในโครงสรา้ ง การปฏิบตั งิ าน และการจดั การของหน่วยงานตา่ ง ๆ บทบาทสาคญั ของระบบสารสนเทศมี ดงั นี้ • สามารถคานวณเลขจานวนมาก ๆ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ • ช่วยใหเ้ กิดการส่อื สารท่ีแมน่ ยาระหวา่ งผทู้ ่ีอยภู่ ายในและภายนอกองคก์ ร • จดั เก็บสารสนเทศจานวนมหาศาลไวไ้ ดอ้ ย่างประหยดั เนือ้ ท่ี แตค่ น้ คนื ไดง้ า่ ย • สามารถเขา้ ถงึ สารสนเทศจานวนมากท่ีจดั เก็บอยทู่ ่วั โลกไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และดว้ ยราคา ประหยดั • ชว่ ยเสรมิ สรา้ งประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลใหแ้ กค่ นท่ีทางานเป็นทีมทงั้ ใน สานกั งานเดยี ว หรอื ตา่ งสานกั งาน
• สามารถแสดงสารสนเทศไดอ้ ยา่ งชดั เจนทาใหเ้ กิดแนวคิดไดห้ ลากหลาย • ปรับการทางานที่ใชม้ ือและก่ึงอตั โนมตั ิใหเ้ ป็นงานแบบอตั โนมตั ิได้ • ช่วยทางานที่กล่าวถึงขา้ งบนน้ีไดอ้ ยา่ งประหยดั กวา่ การทาดว้ ยมือ ความสามารถของระบบสารสนเทศที่ช่วยทาใหธ้ ุรกิจบรรลุเป้าหมายต่อไปน้ี คือ ณ • เพ่มิ ผลผลิต • ลดตน้ ทุนและคา่ ใชจ้ ่าย • ปรับปรุงการตดั สินใจใหม้ ีคุณภาพมากข้ึน • เสริมสร้างความสมั พนั ธ์กบั ลูกคา้ และ • พฒั นางานประยกุ ตเ์ ชิงกลยทุ ธใ์ หม่ ๆ ระบบสารสนเทศสามารถช่วยการจดั การเชิงกลยทุ ธ์ไดห้ ลายวิธี เช่น • ช่วยทาใหเ้ กิดงานประยกุ ตท์ ี่ทาใหเ้ กิดขอ้ ไดเ้ ปรียบเชิงกลยทุ ธแ์ ก่หน่วยงาน • ช่วยสนบั สนุนการเปลี่ยนแปลงทางกลยทุ ธ์ เช่น การทารีเอนจิเนียริง (Re-Engineering) • ทาใหไ้ ดร้ ับข่าวกรอง (Intelligence) ทางธุรกิจ ดว้ ยการเกบ็ รวบรวมและวเิ คราะห์ สารสนเทศเกี่ยวกบั นวตั กรรม คู่แข่ง ตลาด และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม การที่องคก์ รจะปฏิบตั ิงานอยา่ งไดผ้ ลน้นั จาเป็นที่จะตอ้ งใชร้ ะบบสารสนเทศ จึงจะสามารถ ดาเนินกิจกรรมไป ดว้ ย และขณะเดียวกนั กส็ ามารถลดขอ้ ผดิ พลาดและความสูญเสียลงไดด้ ว้ ย เป้าหมายหลกั ของการนาคอมพิวเตอร์มาใช้ ในหน่วยงานกค็ ือการทาเหลาก ความไดเ้ ปรียบในการแข่งขนั ดว้ ยการลดตน้ ทุนและปรับบริการใหด้ ีข้ึน การที่องคก์ รจะปฏิบตั ิงานอยา่ งไดผ้ ลน้นั จาเป็นท่ีจะตอ้ งใชร้ ะบบสารสนเทศ จึงจะสามารถ ดาเนินกิจกรรมไป ดว้ ย และขณะเดียวกนั กส็ ามารถลดขอ้ ผดิ พลาดและความสูญเสียลงไดด้ ว้ ย เป้าหมายหลกั ของการนาคอมพวิ เตอร์มาใช้ ในหน่วยงานกค็ ือการทาเหลาก ความไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั ดว้ ยการลดตน้ ทุนและปรับบริการใหด้ ีข้ึน ความสาเร็จขององคก์ รใด ๆ น้นั ส่วนใหญ่ ข้ึนอยกู่ บั คุณภาพในการ ตดั สินใจของฝ่ายจดั การ ถา้ หากการตดั สินใจตอ้ งใชส้ ารสนเทศจานวนมาก และตอ้ งคานวณ หรือประมวลผลท่ีซบั ซอ้ นแลว้ ระบบสารสนเทศจะ
เป็นประโยชนม์ าก ระบบสารสนเทศท่ีช่วยในการตดั สินใจของผบู้ รหิ ารมีอยหู่ ลายแบบ ดว้ ยกนั เชน่ ระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ (DSS) ระบบสารสนเทศผบู้ รหิ าร (EIS) และ ระบบผเู้ ช่ียวชาญ (ES) ไดพ้ ิจารณาระบบสารสนเทศแบบตา่ ง ๆ และความเช่ือมโยงไปยงั ฟังกช์ นั ตา่ ง ๆ ในองคก์ าร ความสมั พนั ธก์ บั ความจาเป็นทางธรุ กิจ และระดบั การจดั การในองคก์ าร โดยปกติเรา สามารถแบง่ ประเภทของระบบสารสนเทศไดต้ ามระดบั ความซบั ซอ้ นของระบบ และ ประเภทของงานท่ีระบบนนั้ ชว่ ยสนบั สนนุ แสดงวา่ หนว่ ยงานตอ้ งการระบบ สารสนเทศ แบบใดบา้ งโดยแยกตามระดบั ของการ ปฏบิ ตั งิ านและการบรหิ ารท่วั ไปแลว้ ความสมั พนั ธน์ ี้ จะเป็นจรงิ แตค่ วามตอ้ งการสารสนเทศจะแตก ตา่ งกนั มาก หากระบบสารสนเทศสามารถ ให้ บรกิ ารสารสนเทศแกผ่ ตู้ อ้ งการในทกุ ระดบั ของหนว่ ยงานไดแ้ ลว้ ความสมั พนั ธแ์ บบนีก้ ็ จะไมค่ อ่ ยถกู ตอ้ งกบั ความจรงิ นกั สรุป ในการดาเนินงานในแตล่ ะองคก์ รหรอื แตล่ ะหนว่ ยงานยอ่ มมคี วามแตกตา่ งกนั หรือแมแ้ ต่ ในองคก์ รหรอื หน่วยงานเดยี วกนั ก็ยอ่ มมีความแตกตา่ งกนั ในลกั ษณะของปฏิบตั ิงานแตล่ ะ ฝ่าย ฉะนนั้ การเลือกใชร้ ะบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การในงานดา้ นตา่ ง ๆ จงึ ตอ้ งมีการ เลอื กใชอ้ ยา่ งเหมาะสม เพราะเทคโนโลยใี นปัจจบุ นั มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ เป็นอย่างมาก มี ใหเ้ ลือกใชอ้ ย่างมากมาย เพยี งแตจ่ ะเลอื กเทคโนโลยีหรอื ระบบสารสนเทศเหลา่ นนั้ มาใชไ้ ด้ อย่าง เหมาะสมเพียงไร จงึ เป็นหนา้ ท่ขี องผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ่รี บั ผิดชอบ จึงตอ้ งตดั สนิ ใจเลอื ก ระบบสารสนเทศ ใหเ้ หมาะสม กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนบอกถงึ ประโยชนข์ องการนาระบบ MIS มาใชง้ านดา้ นตา่ ง ๆ คนละ 1 ดา้ น 2. ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคน อธิบายประเภทของระบบสารสนเทศผบู้ รหิ ารคนละ 1 ประเภท 3. ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคน อธิบายบทบาทของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ คนละ 1 ขอ้
ช่ือเรื่อง การเลอื กใช้ระบบสาระสนเทศ เพอื่ การจัดการในงานธุรกจิ ใบงานที่ 7 (Job Sheet) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพ่ือใหท้ ราบลกั ษณะของงานของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ 2. เพ่ือใหท้ ราบประเภทของระบบสารสนเทศและระดบั การจดั การของผใู้ ช้ 3. เพ่ือใหท้ ราบความสามารถการทางานของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ นการเงิน 4. เพ่ือใหท้ ราบสว่ นท่ีนาเขา้ ไปยงั ระบบสารสนเทศเพ่ือการดา้ นทรพั ยากรมนษุ ย์ 5. เพ่ือใหท้ ราบบทบาทของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ 6. เพ่ือใหท้ ราบคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมท่ีดใี นการใชค้ อมพิวเตอร์ และรูจ้ กั การทางาน เป็นทมี แนวทางปฏบิ ัติ 1. ใหน้ กั ศกึ ษาบอกถงึ ลกั ษณะของงานท่ีระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ (MIS) สามารถชว่ ยงานได้ คนละ 1 ขอ้ 2. ใหน้ กั ศกึ ษาแบง่ ออกเป็น 3 กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน จดั ทาแผนผงั แสดงประเภทของ ระบบแตล่ ะประเภทและอธิบายถงึ สารสนเทศท่ีจดั ใหร้ วมทงั้ ระดบั การจดั การของผูใ้ ช้ 3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธิบายความสามารถการทางานของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ น การเงินคนละ 1ขอ้ 4. ใหน้ กั ศกึ ษาอธิบายสว่ นท่ีนาเขา้ ไปยงั ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การดา้ นทรพั ยากร มนษุ ยค์ นละ 1 ขอ้ 5. ใหน้ กั ศกึ ษาอธิบายถงึ บทบาทของระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การคนละ 1 ขอ้ ระยะเวลาส่งงาน ภายหลงั นาเสนองานและตอบขอ้ ซกั ถามเรยี บรอ้ ยแลว้ การประเมินผล 2. ชิน้ งาน , 3. การนาเสนอและการตอบ 1. พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ขอ้ ซกั ถาม 4. การตอบขอ้ ซกั ถาม 5. การตรงตอ่ เวลา
แหล่งคน้ คว้าเพม่ิ เตมิ นิภาภรณ์ คาเจรญิ . เรยี นรูก้ ารใชง้ านระบบสารสนเทศเพ่ือ การจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ SPC Books, 2548. ไพบลู ย์ เกียรติโกมล, รศ.ดร. ระบบสารสนเทศเพ่ือการ จดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพซ์ ีเอด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2551. วิเชียร เปรมชยั สวสั ดิ,์ ดร. ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ , กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ ส.ส.ท., 2551. ศรไี พร ศกั ดิร์ ุง่ พงศาสกลุ , ผศ.ดร. ระบบสารสนเทศและ เทคโนโลยกี ารจดั การความรู,้ กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ ซีเอด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2549. โอภาส เอ่ยี มสิรวิ งศ.์ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพซ์ เี อด็ ยเู คช่นั จากดั (มหาชน), 2554.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115