๒๔๕ ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๑๕ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๕ วเิ ครำะหค์ ุณค่ำและ วิธกี ำรศึกษำและค้นควำ้ ควำมสำคญั ของกำรสังคำยนำ พระไตรปฏิ ก และคมั ภีร์ พระไตรปิฎก หรือคัมภรี ์ ของศำสนำอ่ืน ๆ กำรสงั คำยนำ ของศำสนำทตี่ นนบั ถือ และกำรเผยแพร่พระไตรปิฏก และกำรเผยแผ่ ควำมสำคญั และคุณค่ำ ของพระไตรปิฏก ๑๖ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๖ เชอ่ื มน่ั ต่อผลของกำรทำควำมดี ตวั อย่ำงผลท่เี กดิ จำกกำรทำควำมดี ควำมช่วั สำมำรถวิเครำะห์ ควำมชวั่ สถำนกำรณ์ทต่ี อ้ งเผชิญ โยนิโสมนสิกำร และตัดสนิ ใจเลือกดำเนนิ กำร ดว้ ยวิธคี ดิ แบบอริยสัจ หรอื ปฏิบตั ิตนไดอ้ ยำ่ งมเี หตุผล หลักธรรมตำมสำระกำรเรียนรู้ ถกู ต้องตำมหลักธรรม ข้อ ๑๓ จริยธรรม และกำหนดเป้ำหมำย บทบำทกำรดำเนนิ ชวี ติ เพอ่ื กำรอยูร่ ว่ มกนั อย่ำงสนั ติสุข และอยู่ร่วมกันเป็นชำติ อย่ำงสมำนฉนั ท์ ๑๗ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๗ อธิบำยประวตั ิศำสดำ ประวตั ิพระพุทธเจ้ำ มุฮมั มัด ของศำสนำอ่ืน ๆ โดยสงั เขป พระเยซู ๑๘ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๘ ตระหนักในคณุ ค่ำและ คุณค่ำและควำมสำคัญ ควำมสำคญั ของคำ่ นิยม ของคำ่ นิยมและจริยธรรม จริยธรรมทีเ่ ปน็ ตวั กำหนด กำรขจัดควำมขัดแย้ง ควำมเชือ่ และพฤติกรรม เพ่ืออยรู่ ่วมกนั อย่ำงสันตสิ ขุ ทแ่ี ตกตำ่ งกนั ของศำสนกิ ชน กำรอย่รู ่วมกัน ศำสนำตำ่ ง ๆ เพื่อขจัด ในสงั คมพหุวัฒนธรรม ควำมขดั แย้งและอยู่ร่วมกนั และกำรพง่ึ พำซึ่งกนั และกัน ในสังคมอยำ่ งสนั ติสขุ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๔๖ ชน้ั ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๑๙ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๙ เหน็ คุณค่ำ เชื่อมั่น และมุง่ มัน่ พัฒนำกำรเรยี นรูด้ ว้ ยวธิ ีคดิ แบบโยนโิ สมนสิกำร ๑๐ วิธี พฒั นำชีวิตด้วยกำรพฒั นำจิต (เน้นวิธีคดิ แบบแยกแยะ ส่วนประกอบ แบบสำมญั และพัฒนำกำรเรียนรู้ ลกั ษณะ แบบเป็นอยู่ในขณะ ปจั จุบนั และแบบวภิ ัชชวำท) ด้วยวิธคี ิดแบบโยนโิ สมนสิกำร 1.วธิ ีคดิ แบบสืบสำวเหตุปัจจัย 2.วธิ ีคดิ แบบแยกแยะ หรอื กำรพัฒนำจิต สว่ นประกอบ 3.วธิ ีคดิ แบบสำมญั ลักษณะ ตำมแนวทำงของศำสนำ 4.วธิ คี ิดแบบอรยิ สจั 5.วิธีคดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธ์ ทีต่ นนับถือ 6.วิธคี ดิ แบบคุณค่ำแท้ – คณุ คำ่ เทยี ม ๒๐ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๐ สวดมนต์ แผ่เมตตำ และ 7.วิธคี ิดแบบคุณ-โทษ บริหำรจติ และเจริญปัญญำ และทำงออก ตำมหลกั สติปัฏฐำน หรือ 8.วธิ คี ิดแบบอุบำย ปลุกเรำ้ ตำมแนวทำงของศำสนำ คณุ ธรรม ท่ีตนนับถือ 9.วธิ คี ิดแบบเป็นอยู่ในขณะ ปัจจบุ นั 10. วิธคี ดิ แบบวภิ ชั ชวำท สวดมนตแ์ ปล และแผ่เมตตำ วิธปี ฏิบัติและประโยชน์ของ กำรบริหำรจิตและเจริญปญั ญำ ฝึกกำรบริหำรจิตและ เจรญิ ปัญญำตำมหลกั สติปัฎฐำน นำวธิ ีกำรบรหิ ำรจิตและ เจรญิ ปัญญำไปใช้ ในกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ คุณภำพชวี ิตและสังคม สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๔๗ ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๒๑ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๑ วเิ ครำะห์หลักธรรมสำคัญ หลกั ธรรมสำคัญในกำรอยูร่ ว่ มกัน ในกำรอยู่ร่วมกันอยำ่ งสนั ตสิ ขุ อยำ่ งสันติสุข ของศำสนำอ่ืน ๆ และชักชวน o คริสต์ศำสนำ ไดแ้ ก่ ส่งเสรมิ สนบั สนุนใหบ้ ุคคลอนื่ บญั ญัติ ๑๐ ประกำร เห็นควำมสำคญั ของ (เฉพำะท่ีเก่ยี วข้อง) กำรทำควำมดตี ่อกัน o ศำสนำอิสลำม ไดแ้ ก่ หลักจริยธรรม (เฉพำะท่ีเก่ียวข้อง) ๒๒ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒๒ เสนอแนวทำงกำรจัดกจิ กรรม สภำพปัญหำในชมุ ชน และสงั คม ควำมรว่ มมือของทุกศำสนำ ในกำรแก้ปญั หำและพฒั นำ สงั คม ๒๓ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๑ ปฏิบตั ติ นเปน็ ศำสนิกชน ปฏิบัติตนเป็นชำวพุทธท่ีดี ทีด่ ีต่อสำวก สมำชิก ต่อภิกษุ ในครอบครวั และคนรอบขำ้ ง o กำรเข้ำใจในกจิ ของพระภกิ ษุ เช่น กำรศึกษำ กำรปฏิบัติธรรม และกำรเปน็ นักบวชที่ดี o คณุ สมบตั ิของทำยกและ ปฏิคำหก o หนำ้ ที่และบทบำทของพระภกิ ษุ ในฐำนะพระนกั เทศน์ พระธรรมทตู พระธรรมจำริก พระวิทยำกร พระวปิ ัสสนำจำรย์ และพระนักพัฒนำ o กำรปกป้องคมุ้ ครอง พระพุทธศำสนำของพุทธบริษัท ในสงั คมไทย o กำรปฏบิ ตั ติ นต่อพระภิกษุ ทำงกำย วำจำ และใจ ทป่ี ระกอบด้วยเมตตำ o กำรปฏิสันถำรทเ่ี หมำะสม ต่อพระภิกษุ ในโอกำสต่ำง ๆ ปฏิบัติตนเปน็ สมำชิกท่ดี ี ของครอบครวั และสงั คม o กำรรักษำศลี ๘ o กำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม และเป็นสมำชิกขององค์กร ชำวพุทธ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๔๘ ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 o กำรเป็นชำวพทุ ธทด่ี ี ตำมหลกั ทศิ เบอื้ งบน ในทิศ ๖ o กำรปฏบิ ตั ติ นทีเ่ หมำะสม ในฐำนะผู้ปกครอง และผู้อยู่ในปกครอง ตำมหลักทิศเบ้อื งล่ำง ในทศิ ๖ o กำรปฏิสันถำรตำมหลักปฏสิ นั ถำร ๒ o หนำ้ ที่และบทบำท ของอุบำสก อุบำสิกำ ที่มีต่อสังคมไทยในปัจจุบัน o กำรปฏบิ ตั ิตนเป็นสมำชกิ ทดี่ ี ของครอบครัว ตำมหลัก ทศิ เบื้องหลัง ในทิศ ๖ o กำรบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อ ครอบครัว ชมุ ชน ประเทศชำติ ๒๔ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ปฏบิ ตั ิตนถูกต้อง และโลก ตำมศำสนพธิ ี พธิ ีกรรม ประเภทของศำสนพิธี ในพทุ ธศำสนำ ตำมหลักศำสนำทีต่ นนับถือ o ศำสนพธิ ีเนื่องดว้ ยพุทธบญั ญัติ เช่น พิธแี สดงตนเปน็ พุทธมำมกะ พิธเี วยี นเทยี น ถวำยสังฆทำน ถวำยผ้ำอำบน้ำฝน พิธีทอดกฐนิ พิธีปวำรณำ เป็นตน้ o ศำสนพธิ ที น่ี ำพระพุทธศำสนำ เข้ำไปเกี่ยวเนื่อง เชน่ กำรทำบญุ เลีย้ งพระในโอกำสต่ำง ๆ ควำมหมำย ควำมสำคัญ คติธรรม ในพิธกี รรม บทสวดมนต์ของนักเรียน งำนพิธี คุณค่ำ และประโยชน์ พธิ บี รรพชำอุปสมบท คุณสมบัติ ของผู้ขอบรรพชำอุปสมบท เคร่อื ง อฏั ฐบริขำร ประโยชนข์ องกำร บรรพชำอุปสมบท บุญพิธี ทำนพธิ ี กุศลพิธี คุณคำ่ และประโยชน์ ของศำสนพธิ ี สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๔๙ ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ ๒๕ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓ แสดงตนเปน็ พุทธมำมกะ กำรแสดงตนเปน็ พทุ ธมำมกะ หรอื แสดงตนเป็นศำสนกิ ชน o ขนั้ เตรยี มกำร ของศำสนำท่ตี นนบั ถือ o ขน้ั พิธีกำร ๒๖ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔ วเิ ครำะห์หลกั ธรรม หลักธรรม/คตธิ รรมทเ่ี ก่ยี วเนื่อง คตธิ รรมท่ีเก่ียวเนื่อง กับวันสำคัญ และเทศกำล กบั วันสำคัญทำงศำสนำ ที่สำคัญในพระพทุ ธศำสนำ และเทศกำลทีส่ ำคญั หรือศำสนำอ่ืน ของศำสนำทตี่ นนบั ถือ และปฏบิ ตั ติ นไดถ้ ูกต้อง กำรปฏิบตั ิตนทถี่ ูกต้อง ในวันสำคัญ และเทศกำล ทสี่ ำคัญในพระพุทธศำสนำ หรือศำสนำอื่น ๒๗ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๕ สัมมนำและเสนอแนะ กำรปกปอ้ ง คุ้มครอง ธำรงรักษำ แนวทำงในกำรธำรงรักษำ พระพทุ ธศำสนำของพุทธบริษัท ศำสนำที่ตนนับถือ ในสงั คมไทย อนั ส่งผลถึงกำรพฒั นำตน กำรปลกู จิตสำนกึ พัฒนำชำติ และโลก และกำรมีส่วนรว่ ม ในสังคมพทุ ธ ๒๘ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๑ วิเครำะห์และปฏิบตั ิตน กฎหมำยแพง่ เก่ียวกบั ตนเอง ตำมกฎหมำยที่เก่ียวข้อง และครอบครัว กบั ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน ประเทศชำติ และสงั คมโลก กฎหมำยแพ่งเกี่ยวกับนิตกิ รรม สัญญำ เชน่ ซื้อขำย ขำยฝำก เช่ำ ทรัพย์ เช่ำซื้อ กยู้ ืมเงิน จำนำ จำนอง กฎหมำยอำญำ เชน่ ควำมผิดเกย่ี วกับทรัพย์ ควำมผดิ เก่ียวกับชีวติ และรำ่ งกำย กฎหมำยอนื่ ทส่ี ำคัญเชน่ รฐั ธรรมนูญ แหง่ รำชอำณำจักรไทยฉบับปจั จุบนั กฎหมำยกำรรับรำชกำรทหำร กฎหมำยภำษีอำกร กฎหมำยคุ้มครองผูบ้ ริโภค ข้อตกลงระหวำ่ งประเทศ เช่น ปฏิญญำสำกลว่ำดว้ ย สทิ ธิมนุษยชน สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๐ ชั้น ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๒๙ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๒ วิเครำะห์ควำมสำคัญ โครงสรำ้ งทำงสังคม ของโครงสร้ำงทำงสังคม - กำรจดั ระเบียบทำงสังคม กำรขัดเกลำทำงสงั คม - สถำบันทำงสังคม และกำรเปลี่ยนแปลง กำรขัดเกลำทำงสังคม ทำงสังคม กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคม กำรแกป้ ญั หำและแนวทำง กำรพัฒนำทำงสังคม ๓๐ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๓ ปฏบิ ัติตนและมีสว่ นสนับสนุน คุณลกั ษณะพลเมืองดี ใหผ้ ูอ้ ืน่ ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ของประเทศชำติและสงั คมโลก เพ่ือเป็นพลเมืองดี เช่น ของประเทศชำติ และสังคมโลก o เคำรพกฎหมำย และกตกิ ำสังคม o เคำรพสทิ ธิเสรีภำพของตนเอง และบุคคลอื่น o มเี หตผุ ล รบั ฟงั ควำมคิดเหน็ ของผู้อน่ื o มีควำมรบั ผิดชอบต่อตนเอง สังคม ชมุ ชน ประเทศชำติ และสงั คมโลก o เข้ำร่วมกิจกรรมทำงกำรเมือง กำรปกครอง o มีสว่ นร่วมในกำรป้องกัน แก้ไขปัญหำเศรษฐกิจ สังคม กำรเมืองกำรปกครอง สิ่งแวดล้อม o รทู้ นั ส่อื o มที กั ษะควำมเปน็ ผ้นู ำและผู้ตำม o แก้ไขควำมขัดแย้งอย่ำงสันตวิ ิธี o มีควำมกลำ้ หำญทำงจริยธรรม สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๑ ชน้ั ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๓๑ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔ ประเมินสถำนกำรณ์ ควำมหมำย ควำมสำคัญ แนวคิด สิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย และหลักกำรของสิทธิมนุษยชน และเสนอแนวทำงพฒั นำ บทบำทขององค์กร ระหว่ำงประเทศ ในเวทีโลก ทม่ี ผี ลต่อประเทศไทย สำระสำคัญของปฏิญญำสำกล ว่ำด้วยสิทธิมนุษยชน บทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนูญ แหง่ รำชอำณำจักรไทย ฉบบั ปัจจุบันเกีย่ วกับ สทิ ธมิ นุษยชน ปัญหำสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศ และแนวทำงแก้ปัญหำและพฒั นำ ๓๒ ส ๒.๑ ม.๔-๖/๕ วิเครำะห์ควำมจำเป็น ควำมหมำยและควำมสำคญั ทจี่ ะต้องมีกำรปรับปรุง ของวฒั นธรรม ลักษณะและควำมสำคญั เปลีย่ นแปลงและ ของวฒั นธรรมไทยท่ีสำคญั อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย กำรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและ แนวทำงอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทย และเลอื กรับวฒั นธรรมสำกล ควำมแตกต่ำงระหว่ำง วัฒนธรรมไทยกับวฒั นธรรมสำกล วธิ ีกำรเลือกรับวัฒนธรรมสำกล ๓๓ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๑ อตั ลกั ษณ์และควำมหลำกหลำย ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรม สถำนกำรณ์กำรเมือง วิเครำะห์ปัญหำกำรเมือง กำรปกครองของสงั คมไทย ที่สำคัญในประเทศ จำกแหลง่ ข้อมลู ต่ำง ๆ อิทธิพลของระบบกำรเมอื ง พร้อมทง้ั เสนอแนวทำงแก้ไข กำรปกครองทม่ี ีผลต่อ กำรดำเนินชีวิต ปญั หำกำรเมืองสำคัญ ท่เี กดิ ข้นึ ภำยในประเทศ สำเหตุและแนวทำงแก้ไข ๓๔ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๒ กำรประสำนประโยชนร์ ่วมกนั เสนอแนวทำง ทำงกำรเมืองกำรปกครอง ระหว่ำงประเทศ เชน่ ทนี่ ำไปสู่ควำมเขำ้ ใจ และ กำรสร้ำงควำมสมั พนั ธ์ กำรประสำนประโยชน์ร่วมกัน ระหวำ่ งไทยกบั ประเทศต่ำง ๆ กำรแลกเปลี่ยนเพอื่ ชว่ ยเหลือ ระหว่ำงประเทศ และสง่ เสริมดำ้ นวัฒนธรรม กำรศกึ ษำ เศรษฐกจิ สังคม สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๒ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วดั รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๓๕ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์ควำมสำคญั และควำมจำเป็นท่ตี ้อง กำรปกครองตำมระบอบ ๓๖ ส ๒.๒ ม.๔-๖/๔ ธำรงรักษำไว้ซ่งึ กำรปกครอง ประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั รยิ ์ ตำมระบอบประชำธิปไตย ทรงเป็นประมขุ ๓๗ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๑ อันมีพระมหำกษัตรยิ ์ - รูปแบบของรัฐ ทรงเป็นประมขุ - ฐำนะและพระรำชอำนำจ เสนอแนวทำงและมีส่วนร่วม ของพระมหำกษตั รยิ ์ ในกำรตรวจสอบกำรใช้ อำนำจรฐั กำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจรัฐ ตำมรัฐธรรมนูญแหง่ อภิปรำยกำรกำหนดรำคำ รำชอำณำจักร ไทยฉบับปจั จบุ นั และค่ำจำ้ งในระบบเศรษฐกิจ ท่ีมผี ลตอ่ กำรเปลยี่ นแปลง ทำงสงั คม เชน่ กำรตรวจสอบ โดยองคก์ รอสิ ระ กำรตรวจสอบ โดยประชำชน ระบบเศรษฐกจิ ของโลก ในปัจจบุ นั ผลดีและผลเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบต่ำง ๆ ตลำดและประเภทของตลำด ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของตลำด ประเภทตำ่ ง ๆ กำรกำหนดรำคำตำมอปุ สงค์ และอุปทำน กำรกำหนดรำคำ ในเชิงกลยทุ ธท์ ี่มีในสงั คมไทย กำรกำหนดคำ่ จ้ำง กฎหมำย ทเ่ี ก่ยี วข้องและอตั รำคำ่ จำ้ ง แรงงำนในสังคมไทย บทบำทของรฐั ในกำรแทรกแซง รำคำ และกำรควบคุมรำคำ เพอ่ื กำรแจกจ่ำย และจดั สรร ในทำงเศรษฐกจิ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๓ ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตัวช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ ๓๘ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๒ ตระหนักถึงควำมสำคัญ กำรประยุกต์ใช้เศรษฐกิจ ของปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ในกำรดำเนนิ ชีวติ พอเพียงทีม่ ีต่อเศรษฐกจิ ของตนเอง และครอบครัว สังคมของประเทศ กำรประยุกตใ์ ชเ้ ศรษฐกิจ พอเพียงในภำคเกษตร อุตสำหกรรม กำรคำ้ และ บรกิ ำร ปญั หำกำรพัฒนำประเทศ ทีผ่ ำ่ นมำ โดยกำรศึกษำ วิเครำะห์แผนพัฒนำเศรษฐกจิ และสังคมฉบับท่ีผ่ำนมำ กำรพัฒนำประเทศทนี่ ำปรัชญำ ของเศรษฐกจิ พอเพียงมำใช้ ในกำรวำงแผนพัฒนำเศรษฐกจิ และสังคมฉบับปจั จุบนั ๓๙ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๓ ตระหนักถึงควำมสำคัญ ววิ ัฒนำกำรของสหกรณ์ ของระบบสหกรณ์ ในกำรพฒั นำเศรษฐกิจ ในประเทศไทย ในระดับชมุ ชนและประเทศ ควำมหมำย ควำมสำคัญ ๔๐ ส ๓.๑ ม.๔-๖/๔ วิเครำะหป์ ัญหำทำงเศรษฐกจิ ในชุมชนและเสนอแนวทำง และหลักกำรของระบบสหกรณ์ แก้ไข ตวั อย่ำงและประเภท ของสหกรณ์ในประเทศไทย ควำมสำคัญของระบบสหกรณ์ ในกำรพัฒนำเศรษฐกจิ ในชมุ ชนและประเทศ ปัญหำทำงเศรษฐกจิ ในชุมชน แนวทำงกำรพฒั นำเศรษฐกิจ ของชุมชน ตวั อย่ำงของกำรรวมกลุ่ม ทป่ี ระสบควำมสำเร็จ ในกำรแกป้ ัญหำทำงเศรษฐกิจ ของชุมชน สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๔ ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ ๔๑ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๑ อธบิ ำยบทบำทของรฐั บำล นโยบำยกำรเงิน กำรคลงั เกีย่ วกับนโยบำยกำรเงนิ ในกำรพฒั นำเศรษฐกิจ กำรคลัง ในกำรพัฒนำ ของประเทศ เศรษฐกจิ ของประเทศ บทบำทของนโยบำยกำรเงนิ และกำรคลังของรัฐบำลในด้ำน - กำรรกั ษำเสถียรภำพ ทำงเศรษฐกิจ - กำรสร้ำงกำรเจรญิ เติบโต ทำงเศรษฐกิจ - กำรรกั ษำดลุ กำรค้ำ ระหว่ำงประเทศ - กำรแทรกแซงรำคำ และกำรควบคุมรำคำ รำยรับและรำยจ่ำยของรัฐ ทมี่ ีผลต่องบประมำณ หนี้สำธำรณะ กำรพฒั นำ ทำงเศรษฐกิจและคณุ ภำพชีวิต ของประชำชน - นโยบำยกำรเก็บภำษปี ระเภท ต่ำง ๆ และกำรใช้จำ่ ยของรัฐ - แนวทำงกำรแก้ปัญหำ กำรวำ่ งงำน ตวั ช้วี ดั ควำมเจริญเติบโต ทำงเศรษฐกิจ เช่น GDP, GNP รำยไดเ้ ฉล่ียต่อบุคคล ๔๒ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๒ วิเครำะห์ผลกระทบของ วิวัฒนำกำรของกำรเปิดเสรี กำรเปดิ เสรีทำงเศรษฐกิจ ในยคุ โลกำภวิ ตั น์ทมี่ ผี ลต่อ ทำงเศรษฐกิจในยคุ โลกำภวิ ัตน์ สงั คมไทย ของไทย ปัจจยั ทำงเศรษฐกจิ ทีม่ ีผล ต่อกำรเปิดเสรีทำงเศรษฐกิจ ของประเทศ ผลกระทบของกำรเปิดเสรี ทำงเศรษฐกิจของประเทศ ทม่ี ีต่อภำคกำรเกษตร ภำคอุตสำหกรรม ภำคกำรค้ำ และบริกำร สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๕ ชั้น ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๔๓ ส ๓.๒ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์ผลดี ผลเสยี แนวคิดพ้ืนฐำนทเ่ี กี่ยวข้อง ของควำมรว่ มมือทำงเศรษฐกิจ กบั กำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศ ระหว่ำงประเทศในรูปแบบ บทบำทขององค์กำรควำมรว่ มมือ ต่ำง ๆ ทำงเศรษฐกิจท่ีสำคญั ในภมู ภิ ำค ต่ำง ๆ ของโลก เชน่ WTO , NAFTA , EU , IMF , ADB , OPEC , FTA , APEC ในระดับต่ำง ๆ เขตสเี่ หลีย่ ม เศรษฐกิจ ปจั จยั ตำ่ ง ๆ ท่ีนำไปส่กู ำรพ่ึงพำ กำรแข่งขัน กำรขดั แย้ง และ กำรประสำนประโยชน์ ทำงเศรษฐกิจไทยกับต่ำงประเทศ ตวั อยำ่ งเหตุกำรณ์ทนี่ ำไปสู่ กำรพ่งึ พำทำงเศรษฐกิจ ผลกระทบจำกกำรดำเนิน กจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ ระหว่ำงประเทศ ปัจจัยต่ำง ๆ ทนี่ ำไปสู่ กำรพ่ึงพำ กำรแขง่ ขนั กำรขัดแย้ง และกำรประสำน ประโยชน์ทำงเศรษฐกิจ วธิ กี ำรกีดกันทำงกำรค้ำ ในกำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศ ๔๔ ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ตระหนักถึงควำมสำคัญ เวลำและยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์ ของเวลำและยุคสมัย ทำงประวัติศำสตร์ ท่ีปรำกฏในหลักฐำน ทแ่ี สดงถึงกำรเปล่ียนแปลง ของมนุษยชำติ ทำงประวตั ิศำสตร์ไทย และประวัติศำสตรส์ ำกล ตัวอย่ำงเวลำและยุคสมัย ทำงประวัติศำสตร์ ของสังคมมนุษย์ท่ีมปี รำกฏ ในหลักฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ (เชื่อมโยงกบั มฐ. ส ๔.๓) ควำมสำคญั ของเวลำ และยุคสมยั ทำงประวตั ศิ ำสตร์ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๖ ชนั้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตัวชี้วัด รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 ๔๕ ส ๔.๑ ม.๔-๖/๒ สรำ้ งองค์ควำมรใู้ หม่ ขน้ั ตอนของวธิ ีกำรทำงประวตั ศิ ำสตร์ 46 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๑ ทำงประวัตศิ ำสตร์ โดยนำเสนอตัวอย่ำงทลี ะข้ันตอน โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ศิ ำสตร์ อย่ำงชดั เจน 47 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๒ อยำ่ งเป็นระบบ คุณคำ่ และประโยชนข์ องวิธกี ำร 48 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๓ ทำงประวัตศิ ำสตรท์ ม่ี ตี ่อ ๔9 ส ๔.๒ ม.๔-๖/๔ กำรศึกษำทำงประวตั ิศำสตร์ ผลกำรศึกษำหรือโครงงำน วเิ ครำะห์อิทธิพลของ ทำงประวัติศำสตร์ อำรยธรรรมโบรำณ อำรยธรรมของโลกยุคโบรำณ ได้แก่ อำรยธรรมลุ่มแมน่ ้ำ และกำรตดิ ต่อระหว่ำง ไทกรีส-ยเู ฟรตีส ไนล์ ฮวงโห โลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตก สนิ ธุ และอำรยธรรมกรีก โรมัน ทีม่ ีผลต่อพฒั นำกำร กำรติดต่อระหวำ่ งโลกตะวันออก และกำรเปล่ยี นแปลงของโลก กบั โลกตะวนั ตก และอิทธิพล วิเครำะหเ์ หตุกำรณส์ ำคญั ตำ่ ง ๆ ทำงวฒั นธรรมที่มีต่อกันและกัน ที่สง่ ผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง เหตุกำรณส์ ำคัญตำ่ ง ๆ ทส่ี ่งผลตอ่ ทำงสงั คม เศรษฐกิจและ กำรเปลี่ยนแปลงของโลก กำรเมืองเข้ำสูโ่ ลก ในปัจจุบัน เชน่ ระบอบศกั ดินำ สมยั ปัจจบุ นั สวำมิภักด์ิ สงครำมครเู สด วิเครำะห์ผลกระทบของกำร กำรฟนื้ ฟูศลิ ปวิทยำกำร ขยำยอิทธิพลของประเทศ กำรปฏิวตั ิทำงวิทยำศำสตร์ ในยุโรปไปยังทวีปอเมริกำ กำรสำรวจทำงทะเลกำรปฏริ ูปศำสนำ แอฟริกำและเอเชีย กำรปฏิวตั อิ ตุ สำหกรรม แนวคดิ เสรีนยิ ม วิเครำะห์สถำนกำรณ์ ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๒๑ แนวคิดจักรวรรดินิยม แนวคดิ ชำตนิ ิยม กำรขยำย กำรลำ่ อำณำนิคม และผลกระทบ ควำมร่วมมือ และควำมขดั แยง้ ของมนุษยชำติในโลก ในคริสตศ์ ตวรรษท่ี ๒๐ สถำนกำรณ์สำคัญของโลก ในครสิ ต์ศตวรรษที่ ๒๑ เช่น - เหตกุ ำรณ์กำรระเบิดตกึ World Trade Centre (เวิลดเ์ ทรด เซน็ เตอร์) ๑๑ กนั ยำยน ๒๐๐๑ - กำรขำดแคลนทรัพยำกร - กำรก่อกำรร้ำยและกำร ตอ่ ตำ้ นกำรก่อกำรรำ้ ย ควำมขัดแย้งทำงศำสนำ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๗ ชนั้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 50 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๑ วเิ ครำะห์ประเดน็ สำคญั ประเด็นสำคัญของประวัติศำสตร์ไทย 51 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๒ ของประวัตศิ ำสตร์ไทย เชน่ แนวคดิ เกย่ี วกับ ควำมเป็นมำของชำติไทย 52 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์ควำมสำคัญของ อำณำจกั รโบรำณในดินแดนไทย สถำบันพระมหำกษตั รยิ ์ และอิทธิพลทีม่ ีต่อสังคมไทย 53 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๔ ต่อชำติไทย ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อกำรสถำปนำ อำณำจักรไทยในชว่ งเวลำต่ำง ๆ วเิ ครำะหป์ ัจจยั ทส่ี ่งเสริม สำเหตุและผลของกำรปฏริ ูป กำรสร้ำงสรรค์ภมู ิปญั ญำไทย กำรปกครองบ้ำนเมือง กำรเลิกทำส และวฒั นธรรมไทย ซึ่งมผี ล เลิกไพร่ กำรเสดจ็ ประพำสยโุ รป ตอ่ สงั คมไทยในยคุ ปัจจบุ ัน และหัวเมืองสมยั รัชกำลท่ี ๕ แนวคิดประชำธิปไตย วเิ ครำะห์ผลงำนของ ตั้งแตส่ มัยรชั กำลท่ี ๖ บุคคลสำคญั ท้ังชำวไทย จนถงึ กำรเปล่ียนแปลง และต่ำงประเทศ ที่มีสว่ น กำรปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ สรำ้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทย สมัยรัชกำลท่ี ๗ และประวัติศำสตร์ไทย บทบำทของสตรีไทย บทบำทของสถำบันพระมหำกษัตรยิ ์ ในกำรพัฒนำชำติไทยในดำ้ นตำ่ ง ๆ เชน่ กำรป้องกันและรักษำเอกรำช ของชำติ กำรสร้ำงสรรค์วัฒนธรรมไทย อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวนั ตก และตะวนั ออกท่มี ีต่อสงั คมไทย ผลงำนของบุคคลสำคัญ ทง้ั ชำวไทยและต่ำงประเทศ ที่มสี ่วนสรำ้ งสรรค์วัฒนธรรมไทย และประวตั ิศำสตร์ไทย เช่น - พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำ นภำลยั - พระบำทสมเด็จพระนัง่ เกลำ้ เจำ้ อย่หู ัว - พระบำทสมเดจ็ พระมงกุฎ เกลำ้ เจ้ำอย่หู วั - สมเด็จพระมหำสมณเจ้ำ กรมพระยำวชิรญำณวโรรส - พระเจำ้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษำธริ ำชสนิท สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๘ ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตวั ช้ีวดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ - สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอ เจำ้ ฟ้ำจติ รเจริญ กรมพระยำ นรศิ รำนวุ ัตติวงศ์ - สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยำดำรงรำชำนภุ ำพ - หม่อมรำโชทัย หม่อมรำชวงศ์ กระต่ำย อศิ รำงกรู - สมเดจ็ เจำ้ พระยำบรม มหำศรสี รุ ยิ วงศ์ (ชว่ ง บนุ นำค) - บำทหลวงปำ เลอกวั ซ์ - พระยำกัลยำณไมตรี (Dr.Francis B.Sayre ดร.ฟรำนซีส บี แซร์) - ศำสตรำจำรย์ศิลป์ พรี ะศรี - พระยำรษั ฎำนุประดิษฐมหิศร ภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ปัจจัยและบุคคลท่ีส่งเสริม สรำ้ งสรรคภ์ มู ปิ ัญญำไทย และวฒั นธรรมไทย ซึ่งมผี ลต่อ สังคมไทยในยคุ ปัจจบุ นั เช่น - พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยู่หวั ภมู ิพลอดลุ ยเดช - สมเด็จพระนำงเจ้ำสิรกิ ติ ิ์ พระบรมรำชนิ นี ำถ - สมเด็จพระศรีนครินทรำ บรมรำชชนนี - สมเดจ็ พระเจ้ำภคนิ ีเธอ เจ้ำฟ้ำเพชรรตั นรำชสดุ ำ สริ โิ สภำพณั ณวดี - สมเด็จพระเจ้ำพน่ี ำงเธอ เจ้ำฟ้ำกัลยำณิวฒั นำ กรมหลวงนรำธวิ ำส รำชนครินทร์ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๕๙ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวช้ีวัด รายละเอียดสาระการเรียนรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 54 ส ๔.๓ ม.๔-๖/๕ วำงแผนกำหนดแนวทำง สภำพแวดลอ้ มที่มีผลต่อ และกำรมสี ่วนรว่ มกำรอนรุ ักษ์ กำรสร้ำงสรรค์ภูมิปัญญำ ภมู ิปญั ญำไทยและวัฒนธรรมไทย และวฒั นธรรมไทย วิถชี วี ิตของคนไทยในสมยั ตำ่ ง ๆ กำรสบื ทอดและเปลยี่ นแปลง ของวฒั นธรรมไทย แนวทำงกำรอนรุ ักษภ์ ูมิปัญญำ และวฒั นธรรมไทยและ กำรมสี ว่ นรว่ มในกำรอนรุ ักษ์ วิธีกำรมีส่วนร่วมอนุรักษ์ ภูมปิ ญั ญำและวฒั นธรรมไทย 55 ส 5.1 ม.4-6/1 วเิ ครำะห์กำรเปลี่ยนแปลง กำรเปลยี่ นแปลงทำงกำยภำพ ทำงกำยภำพในประเทศไทย (ประกอบดว้ ย ๑. ธรณีภำค และภูมภิ ำคตำ่ ง ๆ ของโลก ๒. บรรยำกำศภำค ๓. อุทกภำค ซง่ึ ได้รับอทิ ธิพลจำกปจั จัย ๔. ชีวภำค) ของพืน้ ที่ในประเทศไทย ทำงภมู ศิ ำสตร์ และภูมภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รับอิทธิพลจำกปจั จัย ทำงภมู ศิ ำสตร์ กำรเปลีย่ นแปลงทำงกำยภำพ ท่ีส่งผลตอ่ ภูมิประเทศ ภมู อิ ำกำศ และทรัพยำกรธรรมชำติ 56 ส 5.1 ม4-6/2 วิเครำะห์ลักษณะทำงกำยภำพ ปัญหำทำงกำยภำพและภัยพบิ ัติ ซ่งึ ทำให้เกิดปัญหำและ ทำงธรรมชำติในประเทศและ ภยั พิบตั ิทำงธรรมชำติ ภูมภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก ในประเทศไทยและ ภมู ิภำคต่ำง ๆ ของโลก 57 ส 5.1 ม.4-6/3 ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือ แผนท่ีและองคป์ ระกอบ ทำงภมู ศิ ำสตร์ในกำรคน้ หำ กำรอ่ำนแผนที่เฉพำะเรื่อง วิเครำะห์ และสรปุ ข้อมลู กำรแปลควำมหมำยรูปถ่ำย ตำมกระบวนกำรทำงภมู ิศำสตร์ ทำงอำกำศ และภำพจำกดำวเทยี ม และนำภูมิสำรสนเทศมำใช้ กำรนำภูมสิ ำรสนเทศไปใช้ ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน ในชวี ิตประจำวนั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๐ ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 58 ส 5.2 ม.4-6/1 วเิ ครำะห์ปฏสิ ัมพันธร์ ะหวำ่ ง ปฏิสัมพันธ์ระหวำ่ งสิ่งแวดลอ้ ม สิ่งแวดล้อมทำงกำยภำพกบั ทำงกำยภำพกับวถิ ีกำรดำเนนิ กจิ กรรมของมนษุ ย์ ชีวติ ภำยใต้กระแสโลกำภิวัตน์ ในกำรสร้ำงสรรค์วิถี ได้แก่ กำรดำเนนิ ชีวติ ของท้องถ่ิน - ประชำกรและกำรตัง้ ถ่นิ ฐำน ทั้งในประเทศไทยและ (กำรกระจำย และ ภมู ภิ ำคต่ำง ๆ ของโลก กำรเปล่ยี นแปลงประชำกร และเห็นควำมสำคญั ของ ชมุ ชนเมืองและชนบท และ ส่ิงแวดล้อมทม่ี ีผลต่อ กำรกลำยเป็นเมือง) กำรดำรงชีวิตของมนุษย์ - กำรกระจำยของกิจกรรม ทำงเศรษฐกจิ (เกษตรกรรม อตุ สำหกรรมกำรผลิต กำรบริกำร และกำรท่องเทยี่ ว) 59 ส 5.2 ม.4-6/2 วิเครำะห์สถำนกำรณ์ สถำนกำรณก์ ำรเปลี่ยนแปลง สำเหตุ และผลกระทบ ดำ้ นทรพั ยำกรธรรมชำติ ของกำรเปล่ียนแปลง และสงิ่ แวดล้อม ไดแ้ ก่ ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ และ กำรเปลยี่ นแปลงสภำพภมู ิอำกำศ ส่ิงแวดล้อมของประเทศไทย ควำมเสื่อมโทรมของสงิ่ แวดล้อม และภูมิภำคตำ่ ง ๆ ของโลก ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ และภัยพิบตั ิ สำเหตุ และผลกระทบของ กำรเปล่ยี นแปลงดำ้ น ทรพั ยำกรธรรมชำติและ สิง่ แวดลอ้ มของประเทศไทย และภูมิภำคต่ำง ๆ ของโลก กำรจดั กำรภยั พิบตั ิ 60 ส 5.2 ม.4-6/3 ระบมุ ำตรกำรปอ้ งกนั และแก้ไข มำตรกำรป้องกันและแก้ไข ปญั หำ กฎหมำยและนโยบำย ปญั หำทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละ ดำ้ นทรัพยำกรธรรมชำติ และ สิ่งแวดล้อมในประเทศและ สิง่ แวดล้อม บทบำทของ ระหว่ำงประเทศ ตำมแนวทำง องค์กำรทเ่ี กยี่ วข้อง กำรพฒั นำท่ียัง่ ยนื ควำมมนั่ คง และกำรประสำนควำมรว่ มมือ ของมนุษย์ และกำรบริโภค ท้ังในประเทศและระหว่ำง อย่ำงรับผิดชอบ ประเทศ กฎหมำยและนโยบำย ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ และ สงิ่ แวดล้อมทั้งในประเทศและ ระหว่ำงประเทศ บทบำทขององคก์ ำร และกำร ประสำนควำมรว่ มมือท้งั ใน ประเทศและระหว่ำงประเทศ สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๑ ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั รายละเอียดสาระการเรยี นรู้ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 61 ส 5.2 ม.4-6/4 วเิ ครำะห์แนวทำงและ แนวทำงกำรจัดกำร มสี ว่ นรว่ มในกำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำติ และ ทรพั ยำกรธรรมชำติ และ สิง่ แวดล้อม สิง่ แวดล้อม เพื่อกำรพฒั นำ กำรมสี ่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำ ท่ีย่ังยืน และกำรดำเนนิ ชวี ติ ตำมแนวทำง กำรจดั กำรทรัพยำกรและ ส่งิ แวดล้อมเพ่ือกำรพัฒนำ ที่ยง่ั ยนื รวม 61 ตัวชี้วดั 31 30 รวมท้ังหมด 418 ตวั ช้ีวัด 194 224 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
262 สรปุ ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชั้น ตัวช้ีวัดทัง้ หมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 15 8 7 ป.๒ 21 11 10 ป.๓ 18 9 9 ป.๔ 19 13 6 ป.๕ 25 12 13 ป.๖ 22 6 16 ม.๑ 23 17 6 ม.๒ 25 15 10 ม.๓ 24 12 12 ม.๔-๖ 29 12 17 รวม 221 115 106 ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 15 สิงหาคม 2559 สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๓ ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ชนั้ ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 1 พ 1.1 ป.1/1 อธบิ ำยลกั ษณะและหนำ้ ท่ี ลกั ษณะและหนำ้ ทข่ี องอวยั วะภำยนอก ของอวัยวะภำยนอก ท่ีมีกำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร ไปตำมวัย - ตำ หู คอ จมกู ผม มือ เทำ้ เล็บ ผวิ หนงั ฯลฯ - อวัยวะในช่องปำก (ปำก ล้ิน ฟนั เหงือก) 2 พ 1.1 ป.1/2 อธิบำยวิธดี ูแลรกั ษำอวัยวะ กำรดแู ลรักษำอวัยวะภำยนอก ภำยนอก - ตำ หู คอ จมูก ปำก ลนิ้ ฟัน ผม มอื เทำ้ เล็บ ผิวหนัง ฯลฯ - อวยั วะในชอ่ งปำก (ปำก ลนิ้ ฟัน เหงือก) 3 พ 2.1 ป.1/1 ระบสุ มำชิกในครอบครัว สมำชกิ ในครอบครวั และควำมรักควำมผูกพัน ของสมำชิกที่มีต่อกัน ควำมรักควำมผูกพันของสมำชกิ ในครอบครัว 4 พ 2.1 ป.1/2 บอกส่ิงทช่ี ื่นชอบ และภำคภูมิใจ สงิ่ ท่ีชืน่ ชอบและควำมภำคภมู ิใจ ในตนเอง ในตนเอง (จุดเดน่ จุดด้อยของตนเอง) 5 พ 2.1 ป.1/3 บอกลักษณะควำมแตกต่ำงระหว่ำง ลกั ษณะควำมแตกต่ำงของเพศชำย เพศชำยและเพศหญงิ เพศหญิง - ร่ำงกำย - อำรมณ์ - ลกั ษณะนสิ ยั 6 พ 3.1 ป.1/1 เคลอ่ื นไหวร่ำงกำยขณะอยูก่ บั ท่ี ธรรมชำติของกำรเคลื่อนไหวร่ำงกำย เคล่อื นท่ีและใช้อุปกรณ์ประกอบ ในชวี ติ ประจำวัน - แบบอยกู่ บั ที่ เช่น น่งั ยืน ก้มเงย เอียงซ้ำย - ขวำ เคล่ือนไหวข้อมือ ข้อเท้ำ แขน ขำ - แบบเคลื่อนที่ เชน่ เดิน วิ่ง กระโดด กลงิ้ ตวั - แบบใช้อุปกรณ์ประกอบ เช่น จับ โยน เตะ เคำะ 7 พ 3.1 ป.1/2 เลน่ เกมเบ็ดเตล็ดและเข้ำรว่ ม กจิ กรรมทำงกำยท่ีใชใ้ นกำรเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทำงกำยท่ีใช้กำรเคลอ่ื นไหว ตำมธรรมชำติ ตำมธรรมชำติ - กำรเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
ช้ัน ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๒๖๔ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.1 8 พ 3.2 ป.1/1 ออกกำลงั กำย และเล่นเกม กำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นเกม เบด็ เตล็ด ตำมคำแนะนำอยำ่ งสนุกสนำน กฎ กตกิ ำ ข้อตกลงในกำรเลน่ เกม 9 พ 3.2 ป.1/2 ปฏิบตั ติ นตำมกฎ กติกำ ข้อตกลง เบ็ดเตลด็ ในกำรเลน่ เกมตำมคำแนะนำ กำรปฏบิ ตั ิตนตำมหลกั สุขบัญญัติ แหง่ ชำติ 10 พ 4.1 ป.1/1 ปฏบิ ตั ติ นตำมหลักสุขบญั ญตั ิ ลักษณะอำกำรเจ็บป่วยท่ีเกิดขนึ้ แห่งชำติตำมคำแนะนำ กบั ตนเอง - ปวดศรี ษะ 11 พ 4.1 ป.1/2 บอกอำกำรเจบ็ ปว่ ยทีเ่ กิดขน้ึ - ตัวรอ้ น - มนี ำ้ มกู กับตนเอง - ปวดทอ้ ง - ผ่ืนคัน (หนงั ศีรษะ ผิวหนัง) 12 พ 4.1 ป.1/3 ปฏิบตั ิตนตำมคำแนะนำ - ฟกชำ้ ฯลฯ เม่ือมีอำกำรเจบ็ ปว่ ย วิธีปฏบิ ัตติ นเมื่อมีอำกำรเจบ็ ปว่ ย 13 พ 5.1 ป.1/1 ระบสุ ง่ิ ทีท่ ำให้เกิดอันตรำย ทเ่ี กิดข้นึ กับตนเอง ทบี่ ำ้ น โรงเรยี น และกำรป้องกัน สิ่งทท่ี ำให้เกิดอันตรำยภำยในบำ้ น และโรงเรยี น กำรปอ้ งกนั อนั ตรำยภำยในบำ้ น และโรงเรียน 14 พ 5.1 ป.1/2 บอกสำเหตุและกำรปอ้ งกนั อันตรำยจำกกำรเลน่ อันตรำยทเี่ กิดจำกกำรเล่น - สำเหตุท่ที ำใหเ้ กิดอนั ตรำย จำกกำรเลน่ - กำรปอ้ งกนั อันตรำยจำกกำรเล่น 15 พ 5.1 ป.1/3 แสดงคำพดู หรอื ท่ำทำง กำรขอควำมชว่ ยเหลอื เมื่อเกิดเหตุร้ำย ขอควำมชว่ ยเหลอื จำกผอู้ ่นื ที่บำ้ นและโรงเรยี น เม่ือเกิดเหตุรำ้ ยทีบ่ ำ้ นและโรงเรยี น - บุคคลทีค่ วรขอควำมชว่ ยเหลือ - คำพูดและทำ่ ทำงกำรขอควำมชว่ ยเหลือ รวม 15 ตัวช้วี ดั 8 7 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๕ ชน้ั ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 1 พ 1.1 ป.2/1 อธิบำยลักษณะ และหนำ้ ที่ ลักษณะและหน้ำท่ีของอวยั วะภำยใน ของอวัยวะภำยใน ที่มกี ำรเจรญิ เตบิ โตและพัฒนำกำร ไปตำมวัย (สมอง หวั ใจ ตบั ไต ปอด กระเพำะอำหำร ลำไส้ ฯลฯ) 2 พ 1.1 ป.2/2 อธบิ ำยวิธดี แู ลรกั ษำอวัยวะภำยใน กำรดแู ลรักษำอวัยวะภำยใน - กำรระมดั ระวงั กำรกระแทก - กำรออกกำลังกำย - กำรกินอำหำร 3 พ 1.1 ป.2/3 อธิบำยธรรมชำตขิ องชีวิตมนษุ ย์ ธรรมชำติของชีวติ มนุษยต์ ั้งแต่เกดิ จนตำย 4 พ 2.1 ป.2/1 ระบบุ ทบำทหน้ำที่ของตนเอง บทบำทหน้ำท่ีของสมำชิกในครอบครวั และสมำชกิ ในครอบครวั - ตนเอง - พอ่ แม่ - พ่นี อ้ ง - ญำติ 5 พ 2.1 ป.2/2 บอกควำมสำคญั ของเพ่ือน ควำมสำคัญของเพ่ือน (เชน่ พูดคยุ ปรึกษำ เล่น ฯลฯ) 6 พ 2.1 ป.2/3 ระบุพฤติกรรมท่ีเหมำะสมกับเพศ พฤติกรรมที่เหมำะสมกับเพศ - ควำมเปน็ สภุ ำพบรุ ุษ - ควำมเป็นสภุ ำพสตรี 7 พ 2.1 ป.2/4 อธิบำยควำมภำคภมู ิใจในควำมเปน็ ควำมภำคภมู ิใจในเพศหญิงหรือเพศชำย เพศหญิงหรือเพศชำย 8 พ 3.1 ป.2/1 ควบคมุ กำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำย ลกั ษณะและวธิ กี ำรของกำรเคล่อื นไหว ขณะอยูก่ ับท่ี เคล่ือนท่ี ร่ำงกำยแบบอยกู่ ับที่ เชน่ กระโดด และใช้อปุ กรณป์ ระกอบ บดิ ตวั ดงึ ผลัก แบบเคลือ่ นท่ี เช่น กระโดดเขย่ง กำ้ วชดิ ก้ำว ว่ิงตำมทศิ ทำง ทก่ี ำหนด และแบบใช้อุปกรณ์ประกอบ เช่น คบี ขว้ำง ตี 9 พ 3.1 ป.2/2 เล่มเกมเบด็ เตล็ดและเขำ้ ร่วม กำรเล่นเกมเบ็ดเตล็ด และเข้ำร่วม กจิ กรรมทำงกำยที่วธิ ีเลน่ อำศัยกำร กิจกรรมทำงกำยทว่ี ิธีเล่นอำศัยกำร เคล่อื นไหวเบื้องต้นท้ังแบบอยู่กบั ท่ี เคล่ือนไหวเบื้องตน้ ท้ังแบบอยู่กับท่ี เคลื่อนทแ่ี ละใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ เคลือ่ นท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ 10 พ 3.2 ป.2/1 ออกกำลงั กำย และเล่นเกม กำรออกกำลังกำยและเลน่ เกมเบด็ เตล็ด ได้ด้วยตนเองอย่ำงสนุกสนำน ประโยชนข์ องกำรออกกำลังกำย และกำรเลน่ เกม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๖ ชน้ั ท่ี รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.2 11 พ 3.2 ป.2/2 ปฏบิ ตั ิตำมกฎ กติกำและข้อตกลง กฎ กตกิ ำ ข้อตกลงในกำรเล่นเกม ในกำรเลน่ เกมเปน็ กลุ่ม เป็นกลุ่ม 12 พ 4.1 ป.2/1 บอกลักษณะของกำรมีสขุ ภำพดี ลักษณะของกำรมีสขุ ภำพดี - ร่ำงกำยแขง็ แรง - จติ ใจร่ำเริง แจม่ ใส - มคี วำมสุข - มคี วำมปลอดภัย 13 พ 4.1 ป.2/2 เลือกกินอำหำรที่มปี ระโยชน์ อำหำรท่มี ปี ระโยชน์และไมม่ ีประโยชน์ 14 พ 4.1 ป.2/3 ระบุของใชแ้ ละของเลน่ ทม่ี ีผลเสยี ของใชแ้ ละของเล่นทม่ี ผี ลเสียตอ่ สุขภำพ ต่อสขุ ภำพ 15 พ 4.1 ป.2/4 อธบิ ำยอำกำรและวิธีป้องกนั อำกำรและวิธีปอ้ งกันกำรเจ็บป่วย กำรเจ็บป่วย กำรบำดเจ็บ - ตำแดง ทอ้ งเสยี ฯลฯ ท่อี ำจเกิดข้นึ อำกำรและวธิ ีปอ้ งกันกำรบำดเจบ็ - ถูกของมคี ม แมลงสัตวก์ ดั ต่อย หกลม้ ฯลฯ 16 พ 4.1 ป.2/5 ปฏบิ ตั ิตำมคำแนะนำเมื่อมีอำกำร วธิ ปี ฏบิ ัตติ นเมื่อเจบ็ ปว่ ยและบำดเจ็บ เจบ็ ป่วยและบำดเจบ็ 17 พ 5.1 ป.2/1 ปฏบิ ตั ิตนในกำรป้องกันอบุ ัติเหตุ อุบัติเหตทุ ำงนำ้ และทำงบก ท่อี ำจเกดิ ข้ึนทำงนำ้ และทำงบก - สำเหตุของอุบตั ิเหตุทำงน้ำและทำงบก - วธิ กี ำรป้องกันอุบตั ิเหตุทำงน้ำ และทำงบก 18 พ 5.1 ป.2/2 บอกชื่อยำสำมัญประจำบ้ำน ยำสำมญั ประจำบ้ำน และใช้ยำตำมคำแนะนำ - ชอื่ ยำสำมญั ประจำบ้ำน - กำรใชย้ ำตำมควำมจำเปน็ และลักษณะอำกำร 19 พ 5.1 ป.2/3 ระบโุ ทษของสำรเสพติด สำรอันตรำย สำรเสพติดและสำรอันตรำยใกล้ตวั ใกล้ตวั และวธิ กี ำรป้องกัน - โทษของสำรเสพติดและ สำรอันตรำยใกล้ตวั - วิธีป้องกัน 20 พ 5.1 ป.2/4 ปฏิบัติตนตำมสัญลกั ษณ์และ สญั ลักษณแ์ ละปำ้ ยเตือนของส่ิงของ ป้ำยเตือนของสงิ่ ของหรือสถำนที่ หรอื สถำนท่ที ี่เปน็ อันตรำย ทเ่ี ป็นอันตรำย - ควำมหมำยของสญั ลักษณ์ และป้ำยเตือน 21 พ 5.1 ป.2/5 อธิบำยสำเหตุ อันตรำย วธิ ีปอ้ งกนั อคั คีภยั อัคคีภยั และแสดงกำรหนีไฟ - สำเหตุของกำรเกิดอัคคีภัย - อันตรำยซ่ึงไดร้ ับจำกกำรเกิดอคั คภี ยั - กำรปอ้ งกันอัคคภี ยั และกำรหนไี ฟ รวม 21 ตัวช้ีวัด 11 10 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๗ ชัน้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 1 พ 1.1 ป.3/1 อธิบำยลักษณะและกำรเจริญเตบิ โต ลักษณะกำรเจรญิ เติบโตของร่ำงกำย ของร่ำงกำยมนุษย์ มนุษย์ทม่ี ีควำมแตกตำ่ งกนั ในแต่ละบุคคล - ลักษณะรปู รำ่ ง - น้ำหนกั - ส่วนสูง 2 พ 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทียบกำรเจรญิ เติบโต เกณฑ์มำตรฐำนกำรเจริญเตบิ โต ของตนเองกบั เกณฑ์มำตรฐำน ของเด็กไทย 3 พ 1.1 ป.3/3 ระบปุ จั จยั ที่มผี ลต่อกำรเจรญิ เติบโต ปัจจัยทมี่ ีผลตอ่ กำรเจรญิ เติบโต - อำหำร - กำรออกกำลงั กำย - กำรพักผ่อน 4 พ 2.1 ป.3/1 อธิบำยควำมสำคญั และควำมแตกตำ่ ง ควำมสำคัญของครอบครวั ของครอบครวั ท่มี ตี ่อตนเอง ควำมแตกต่ำงของแตล่ ะครอบครัว - เศรษฐกจิ - สังคม - กำรศกึ ษำ 5 พ 2.1 ป.3/2 อธิบำยวิธีสรำ้ งสัมพันธภำพ วิธกี ำรสรำ้ งสัมพนั ธภำพในครอบครัว ในครอบครวั และกลุ่มเพ่ือน และกลุม่ เพื่อน 6 พ 2.1 ป.3/3 บอกวิธหี ลีกเลย่ี งพฤติกรรม พฤติกรรมทน่ี ำไปสกู่ ำรถูกล่วงละเมิด ทน่ี ำไปส่กู ำรถูกล่วงละเมิดทำงเพศ ทำงเพศ (กำรแตง่ กำย กำรเท่ยี วกลำงคืน กำรคบเพื่อน กำรเสพสำรเสพติด ฯลฯ) วธิ หี ลีกเลยี่ งพฤตกิ รรมที่นำไปสู่ กำรถกู ล่วงละเมิดทำงเพศ (ทักษะปฏเิ สธและอื่น ๆ ) 7 พ 3.1 ป.3/1 ควบคุมกำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำย กำรเคลอื่ นไหวรำ่ งกำยแบบอย่กู ับท่ี ขณะอยู่กับท่ี เคลื่อนที่ และใช้ เชน่ ย่อยดื เขยง่ พับตัว เคลื่อนไหว อุปกรณ์ประกอบอยำ่ งมที ศิ ทำง ลำตวั กำรเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนที่ เชน่ เดนิ ตอ่ เท้ำ เดินถอยหลัง กระโจน และแบบใช้อุปกรณ์ประกอบ โดยมกี ำรบงั คบั ทิศทำง เช่น ดดี ขว้ำง โยน และรบั วธิ ีกำรควบคุมกำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำย แบบตำ่ ง ๆ อยำ่ งมีทิศทำง 8 พ 3.1 ป.3/2 เคล่ือนไหวรำ่ งกำยที่ใชท้ ักษะ กิจกรรมทำงกำยท่ใี ชท้ กั ษะกำรเคล่ือนไหว กำรเคลอื่ นไหวแบบบงั คบั ทิศทำง แบบบังคับทิศทำง ในกำรเลน่ เกม ในกำรเลน่ เกมเบ็ดเตลด็ เบ็ดเตลด็ สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๘ ช้นั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 9 พ 3.2 ป.3/1 เลือกออกกำลงั กำย กำรละเลน่ แนวทำงกำรเลือกออกกำลังกำย พน้ื เมือง และเล่นเกมทเ่ี หมำะสมกับ กำรละเล่นพน้ื เมืองและเลน่ เกม จดุ เด่น จุดดอ้ ย และขอ้ จำกดั ทเ่ี หมำะสมกับจุดเดน่ จุดด้อย ของตนเอง และข้อจำกดั ของแตล่ ะบุคคล 10 พ 3.2 ป.3/2 ปฏบิ ัติตำมกฎ กติกำและข้อตกลง กำรออกกำลังกำย เกม และกำรละเล่น ของกำรออกกำลังกำย กำรเล่นเกม พ้ืนเมือง กำรละเล่นพนื้ เมืองได้ดว้ ยตนเอง กฎ กตกิ ำและข้อตกลง ในกำร ออกกำลังกำย กำรเลน่ เกม และกำรละเล่นพืน้ เมือง 11 พ 4.1 ป.3/1 อธบิ ำยกำรตดิ ต่อและวิธีกำร กำรติดต่อและวิธีกำรป้องกัน ปอ้ งกนั กำรแพร่กระจำยของโรค กำรแพร่กระจำยของโรค 12 พ 4.1 ป.3/2 จำแนกอำหำรหลัก ๕ หมู่ อำหำรหลกั ๕ หมู่ 13 พ 4.1 ป.3/3 เลือกกินอำหำรท่ีหลำกหลำย กำรเลือกกินอำหำรที่เหมำะสม ครบ ๕ หมู่ ในสดั ส่วนทเี่ หมำะสม - ควำมหลำกหลำยของชนิดอำหำร ในแต่ละหมู่ - สัดส่วนและปริมำณของอำหำร (ตำมธงโภชนำกำร) 14 พ 4.1 ป.3/4 แสดงกำรแปรงฟนั ให้สะอำด กำรแปรงฟนั ใหส้ ะอำดอย่ำงถูกวธิ ี อยำ่ งถูกวธิ ี (ครอบคลมุ บริเวณขอบเหงือกและคอฟัน) 15 พ 4.1 ป.3/5 สร้ำงเสรมิ สมรรถภำพทำงกำยได้ กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย ตำมคำแนะนำ เพ่ือสุขภำพ - วิธีกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย - วธิ ีกำรสรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพ เพ่อื สขุ ภำพ โดยกำรออกกำลังกำย กำรพักผ่อน และกิจกรรมนนั ทนำกำร 16 พ 5.1 ป.3/1 ปฏิบตั ิตนเพื่อควำมปลอดภยั วิธีปฏิบัติตนเพือ่ ควำมปลอดภัย จำกอุบัติเหตุในบำ้ น โรงเรยี น จำกอุบตั ิเหตุในบ้ำน โรงเรียน และกำรเดินทำง และกำรเดินทำง 17 พ 5.1 ป.3/2 แสดงวิธีขอควำมชว่ ยเหลือ กำรขอควำมชว่ ยเหลือจำกบุคคล จำกบุคคลและแหล่งต่ำง ๆ และแหลง่ ตำ่ ง ๆ เม่ือเกดิ เหตุร้ำย เมอื่ เกิดเหตุร้ำย หรืออุบัตเิ หตุ หรอื อบุ ัติเหตุ 18 พ 5.1 ป.3/3 แสดงวิธีปฐมพยำบำล เมือ่ บำดเจ็บ กำรบำดเจ็บจำกกำรเล่น จำกกำรเล่น - ลกั ษณะของกำรบำดเจ็บ - วิธีปฐมพยำบำล (บำดเจบ็ หำ้ มเลือด ฯลฯ) รวม 18 ตวั ชี้วัด 99 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๖๙ ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 พ 1.1 ป.4/1 อธิบำยกำรเจรญิ เติบโตและ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร พฒั นำกำรของร่ำงกำยและจิตใจ ของร่ำงกำยและจติ ใจตำมวยั ตำมวยั (ในชว่ งอำยุ ๙ – ๑๒ ปี) 2 พ 1.1 ป.4/2 อธิบำยควำมสำคัญของกล้ำมเนือ้ ควำมสำคัญของกลำ้ มเนื้อ กระดกู กระดูกและข้อทมี่ ีผลตอ่ สุขภำพ และข้อทีม่ ผี ลต่อสุขภำพ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร กำรเจริญเตบิ โตและพัฒนำกำร 3 พ 1.1 ป.4/3 อธิบำยวธิ ดี ูแลกลำ้ มเนอื้ กระดูก วิธดี แู ลรกั ษำกล้ำมเน้ือ กระดูกและขอ้ และขอ้ ให้ทำงำนอยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ ใหท้ ำงำนอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ 4 พ 2.1 ป.4/1 อธิบำยคุณลักษณะของควำมเปน็ คุณลกั ษณะของควำมเปน็ เพื่อนและ เพือ่ นและสมำชกิ ทีด่ ขี องครอบครัว สมำชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั 5 พ 2.1 ป.4/2 แสดงพฤตกิ รรมที่เหมำะสมกับเพศ พฤติกรรมทเ่ี หมำะสมกบั เพศของตน ของตนตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวัฒนธรรมไทย 6 พ 2.1 ป.4/3 ยกตวั อยำ่ งวิธกี ำรปฏเิ สธกำรกระทำ วิธีกำรปฏิเสธกำรกระทำท่ีเป็นอนั ตรำย ทเี่ ปน็ อนั ตรำยและไม่เหมำะสม และไม่เหมำะสมในเรื่องเพศ ในเร่อื งเพศ 7 พ 3.1 ป.4/1 ควบคมุ ตนเองเม่ือใชท้ ักษะกำร กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยแบบผสมผสำน เคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสำนได้ ทั้งแบบอยู่กับที่ เช่น กระโดดหมุนตวั ท้งั แบบอยกู่ ับที่ เคล่ือนที่ และใช้ กระโดดเหยยี ดตวั แบบเคลอ่ื นที่ เช่น อุปกรณ์ประกอบ ซกิ แซ็ก วิง่ เปลีย่ นทิศทำง ควบมำ้ และ แบบใช้อปุ กรณป์ ระกอบ เช่น บอล เชือก 8 พ 3.1 ป.4/2 ฝกึ กำยบริหำรท่ำมอื เปลำ่ ประกอบ กำยบรหิ ำรทำ่ มือเปลำ่ ประกอบจังหวะ จังหวะ 9 พ 3.1 ป.4/3 เล่นเกมเลยี นแบบและกจิ กรรม เกมเลยี นแบบและกจิ กรรมแบบผลดั แบบผลดั 10 พ 3.1 ป.4/4 เล่นกีฬำพ้ืนฐำนอย่ำงน้อย ๑ ชนิด กีฬำพื้นฐำน เชน่ แชรบ์ อล แฮนด์บอล หว่ งข้ำมตำขำ่ ย 11 พ 3.2 ป.4/1 ออกกำลงั กำย เลน่ เกม และกีฬำ กำรออกกำลงั กำย เล่นเกม ตำมควำมชอบ ที่ตนเองชอบและมีควำมสำมำรถ ของตนเองและเล่นกีฬำพนื้ ฐำนรว่ มกับ ในกำรวเิ ครำะห์ผลพฒั นำกำรของ ผ้อู ืน่ ตนเองตำมตัวอย่ำงและแบบปฏิบัติ กำรวเิ ครำะห์ผลพฒั นำกำรของตนเอง ของผู้อืน่ ในกำรออกกำลังกำย เลน่ เกม และ เลน่ กฬี ำตำมตวั อยำ่ งและแบบปฏิบตั ิ ของผู้อ่นื คณุ ค่ำของกำรออกกำลงั กำย เลน่ เกม และเลน่ กีฬำที่มีต่อสขุ ภำพ สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๐ ชนั้ ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 12 พ 3.2 ป.4/2 ปฏบิ ัติตำมกฎ กติกำกำรเลน่ กฬี ำ กำรปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กติกำ กำรเล่นกีฬำ พืน้ ฐำนตำมชนดิ กีฬำทีเ่ ลน่ พื้นฐำนตำมชนิดกีฬำทเ่ี ล่น 13 พ 4.1 ป.4/1 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำง ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสิ่งแวดล้อม ส่ิงแวดล้อมกับสุขภำพ กับสุขภำพ กำรจัดส่ิงแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะ และเอ้ือต่อสุขภำพ 14 พ 4.1 ป.4/2 อธบิ ำยสภำวะอำรมณ์ ควำมรู้สกึ สภำวะอำรมณ์และควำมรสู้ ึก เช่น ท่ีมีผลตอ่ สขุ ภำพ โกรธ หงดุ หงดิ เครียด เกลยี ด เสยี ใจ เศร้ำใจ วิตกกงั วล กลวั กำ้ วร้ำว อิจฉำ ริษยำ เบื่อหน่ำย ท้อแท้ ดใี จ ชอบใจ รัก ช่นื ชม สนกุ สขุ สบำย ผลที่มีตอ่ สุขภำพ ทำงบวก : สดชืน่ ย้มิ แยม้ แจม่ ใส รำ่ เริงฯลฯ ทำงลบ : ปวดศรี ษะ ปวดท้อง เบ่อื อำหำร ออ่ นเพลยี ฯลฯ 15 พ 4.1 ป.4/3 วิเครำะหข์ ้อมูลบนฉลำกอำหำรและ กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลบนฉลำกอำหำร ผลติ ภณั ฑส์ ุขภำพ เพื่อกำรเลอื กบรโิ ภค และผลิตภัณฑ์สุขภำพ 16 พ 4.1 ป.4/4 ทดสอบและปรบั ปรงุ สมรรถภำพ กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำงกำยตำมผลกำรตรวจสอบ สมรรถภำพทำงกำย กำรปรบั ปรุงสมรรถภำพทำงกำยตำมผล กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย 17 พ 5.1 ป.4/1 อธิบำยควำมสำคัญของกำรใช้ยำ ควำมสำคญั ของกำรใช้ยำ และใช้ยำอยำ่ งถูกวิธี หลักกำรใช้ยำ 18 พ 5.1 ป.4/2 แสดงวธิ ปี ฐมพยำบำลเม่ือไดร้ ับ วธิ ปี ฐมพยำบำล อนั ตรำยจำกกำรใช้ยำผดิ สำรเคมี - กำรใช้ยำผิด แมลงสตั วก์ ดั ต่อย และกำรบำดเจบ็ - สำรเคมี จำกกำรเลน่ กีฬำ - แมลงสัตวก์ ัดตอ่ ย - กำรบำดเจบ็ จำกกำรเลน่ กีฬำ 19 พ 5.1 ป.4/3 วิเครำะหผ์ ลเสยี ของกำรสูบบุหรี่ ผลเสยี ของกำรสบู บหุ ร่ี กำรด่ืมสุรำ และกำรดื่มสุรำที่มตี ่อสขุ ภำพ และกำรป้องกนั และกำรป้องกนั รวม 19 ตวั ช้ีวดั 13 6 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๑ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 1 พ 1.1 ป.5/1 อธิบำยควำมสำคัญของระบบ ควำมสำคญั ของระบบย่อยอำหำร ยอ่ ยอำหำร และระบบขับถ่ำย และระบบขับถ่ำยท่ีมีผลตอ่ สุขภำพ ท่ีมผี ลต่อสุขภำพ กำรเจรญิ เติบโต กำรเจริญเตบิ โต และพฒั นำกำร และพฒั นำกำร 2 พ 1.1 ป.5/2 อธบิ ำยวิธีดแู ลระบบยอ่ ยอำหำรและ วิธีดูแลรกั ษำระบบย่อยอำหำรและ ระบบขบั ถ่ำยให้ทำงำนตำมปกติ ระบบขบั ถำ่ ยให้ทำงำนตำมปกติ 3 พ 2.1 ป.5/1 อธบิ ำยกำรเปลย่ี นแปลงทำงเพศ กำรเปล่ยี นแปลงทำงเพศ และปฏบิ ตั ติ นได้เหมำะสม กำรดแู ลตนเอง กำรวำงตวั ทเ่ี หมำะสมกับเพศ ตำมวัฒนธรรมไทย 4 พ 2.1 ป.5/2 อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรมคี รอบครัว ลักษณะของครอบครัวที่อบอุ่น ที่อบอุ่นตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวฒั นธรรมไทย (ครอบครวั ขยำย กำรนับถือญำต)ิ 5 พ 2.1 ป.5/3 ระบุพฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ และ พฤติกรรมที่พึงประสงค์และ ไมพ่ ึงประสงค์ในกำรแก้ไขปญั หำ ไมพ่ ึงประสงคใ์ นกำรแก้ไขปัญหำ ควำมขดั แย้งในครอบครวั และ ควำมขัดแย้งในครอบครวั กลุ่มเพ่ือน 6 พ 3.1 ป.5/1 จดั รูปแบบกำรเคลื่อนไหว กำรจดั รปู แบบกำรเคล่อื นไหวรำ่ งกำย แบบผสมผสำน และควบคมุ ตนเอง แบบผสมผสำน และกำรปฏบิ ัติ เม่ือใชท้ ักษะกำรเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทำงกำย ทั้งแบบอยกู่ ับที่ ตำมแบบท่ีกำหนด เคลอ่ื นท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ ตำมแบบท่ีกำหนด เชน่ กำรฝกึ กำยบรหิ ำร ยดื หยนุ่ ขนั้ พืน้ ฐำน เป็นตน้ 7 พ 3.1 ป.5/2 เลม่ เกมนำไปสกู่ ีฬำทีเ่ ลือกและ เกมนำไปสกู่ ีฬำและกิจกรรมแบบผลดั กจิ กรรมกำรเคลื่อนไหวแบบผลดั ทม่ี ีกำรตี เขี่ย รบั –ส่งส่ิงของ ขวำ้ ง และวิ่ง 8 พ 3.1 ป.5/3 ควบคุมกำรเคล่อื นไหวในเรือ่ ง กำรเคลอื่ นไหวในเรือ่ งกำรรับแรง กำรรบั แรง กำรใช้แรง และควำมสมดุล กำรใช้แรง และควำมสมดุล 9 พ 3.1 ป.5/4 แสดงทกั ษะกลไกในกำรปฏบิ ัติ ทักษะกลไกที่ส่งผลต่อกำรปฏิบัติ กจิ กรรมทำงกำยและเลน่ กีฬำ กจิ กรรมทำงกำยและเล่นกีฬำ 10 พ 3.1 ป.5/5 เลน่ กฬี ำไทยและกีฬำสำกล กำรเลน่ กีฬำไทย เชน่ ตะกร้อวง ประเภทบคุ คลและประเภททีม ว่งิ ชกั ธง และกฬี ำสำกล เชน่ กรีฑำ อยำ่ งละ ๑ ชนดิ ประเภทลู่ แบดมนิ ตัน เปตอง ฟุตบอล เทเบลิ เทนนสิ วำ่ ยน้ำ 11 พ 3.1 ป.5/6 อธิบำยหลกั กำร และเข้ำร่วม หลักกำรและกิจกรรมนนั ทนำกำร กิจกรรมนนั ทนำกำรอย่ำงน้อย ๑ กิจกรรม สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๒ ชน้ั ที่ รหัสตัวชี้วดั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 12 พ 3.2 ป.5/1 ออกกำลงั กำยอยำ่ งมรี ปู แบบ หลกั กำรและรปู แบบกำรออกกำลงั กำย เลน่ เกมที่ใชท้ ักษะกำรคิดและ ตัดสินใจ กำรออกกำลังกำย และกำรเลน่ เกม เชน่ เกมเบ็ดเตลด็ เกมเลยี นแบบ เกมนำ และกำรละเล่นพื้นเมือง 13 พ 3.2 ป.5/2 เลน่ กีฬำท่ีตนเองชอบอยำ่ งสม่ำเสมอ กำรเล่นกฬี ำไทย และกีฬำสำกล โดยสรำ้ งทำงเลอื กในวิธีปฏบิ ตั ิ ประเภทบคุ คลและทีมที่เหมำะสม ของตนเองอย่ำงหลำกหลำย กบั วยั อยำ่ งสมำ่ เสมอ และมีนำ้ ใจนักกีฬำ กำรสร้ำงทำงเลือกในวธิ ปี ฏิบตั ิ ในกำรเล่นกีฬำอย่ำงหลำกหลำย และมนี ำ้ ใจนักกีฬำ 14 พ 3.2 ป.5/3 ปฏิบัติตำมกฎ กติกำกำรเล่นเกม กฎ กติกำในกำรเล่นเกมกีฬำไทย กฬี ำไทยและกีฬำสำกล และกีฬำสำกลตำมชนดิ กีฬำท่ีเลน่ ตำมชนิดกีฬำท่เี ลน่ วธิ กี ำรรุกและวิธปี อ้ งกนั ในกำรเล่น กีฬำไทยและกีฬำสำกลทเ่ี ล่น 15 พ 3.2 ป.5/4 ปฏบิ ัติตนตำมสิทธขิ องตนเอง สิทธขิ องตนเองและผอู้ ่นื ในกำรเลน่ เกม ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิผอู้ ื่นและยอมรับ และกีฬำ ในควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล ในกำรเล่นเกมและกีฬำไทย ควำมแตกตำ่ งระหว่ำงบุคคล กีฬำสำกล ในกำรเล่นเกมและกีฬำ 16 พ 4.1 ป.5/1 แสดงพฤติกรรมที่เห็นควำมสำคัญ ควำมสำคญั ของกำรปฏิบัตติ น ของกำรปฏบิ ัตติ นตำมสุขบัญญตั ิ ตำมสุขบญั ญตั ิแหง่ ชำติ แห่งชำติ 17 พ 4.1 ป.5/2 คน้ หำขอ้ มูลขำ่ วสำรเพ่ือใช้ แหล่งและวิธีค้นหำข้อมลู ขำ่ วสำร สรำ้ งเสรมิ สขุ ภำพ ทำงสขุ ภำพ กำรใช้ข้อมลู ข่ำวสำรในกำรสร้ำงเสรมิ สขุ ภำพ 18 พ 4.1 ป.5/3 วิเครำะห์สื่อโฆษณำในกำรตัดสินใจ กำรตดั สินใจเลือกซ้ืออำหำรและ เลือกซื้ออำหำรและผลิตภณั ฑ์สขุ ภำพ ผลติ ภัณฑ์สุขภำพ (อำหำร อย่ำงมีเหตุผล เคร่อื งสำอำง ผลติ ภัณฑ์ดูแลสขุ ภำพ ในช่องปำก ฯลฯ) 19 พ 4.1 ป.5/4 ปฏบิ ัตติ นในกำรป้องกันโรคที่พบบอ่ ย กำรปฏิบัติตนในกำรปอ้ งกนั โรค ในชวี ิตประจำวนั ทพ่ี บบ่อยในชวี ติ ประจำวัน - ไข้หวัด - ไข้เลือดออก - โรคผิวหนัง - ฟันผุและโรคปรทิ ันต์ ฯลฯ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๓ ชนั้ ที่ รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 20 พ 4.1 ป.5/5 ทดสอบและปรับปรงุ สมรรถภำพ กำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ กำรปรับปรุงสมรรถภำพทำงกำย สมรรถภำพทำงกำย ตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย 21 พ 5.1 ป.5/1 วเิ ครำะหป์ จั จยั ที่มีอทิ ธิพล ปจั จัยทีม่ อี ิทธพิ ลต่อกำรใช้สำรเสพติด ต่อกำรใช้สำรเสพติด (สรุ ำ บหุ รี่ ยำบ้ำ สำรระเหย ฯลฯ) - ครอบครวั สงั คม เพอื่ น - คำ่ นยิ ม ควำมเชื่อ - ปัญหำสขุ ภำพ - สอ่ื ฯลฯ 22 พ 5.1 ป.5/2 วิเครำะหผ์ ลกระทบของกำรใชย้ ำ ผลกระทบของกำรใชย้ ำและสำรเสพติด และสำรเสพติดที่มผี ลต่อร่ำงกำย ทมี่ ีตอ่ ร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สงั คม จิตใจ อำรมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญำ และสตปิ ัญญำ 23 พ 5.1 ป.5/3 ปฏิบัตติ นเพ่อื ควำมปลอดภยั กำรปฏิบัตติ นเพื่อควำมปลอดภัย จำกกำรใชย้ ำและหลกี เล่ยี ง จำกกำรใช้ยำ สำรเสพตดิ กำรหลีกเลี่ยงสำรเสพติด 24 พ 5.1 ป.5/4 วเิ ครำะหอ์ ิทธพิ ลของส่อื อทิ ธิพลของสื่อที่มีต่อพฤติกรรมสุขภำพ ท่ีมตี ่อพฤติกรรมสุขภำพ (อินเทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) 25 พ 5.1 ป.5/5 ปฏิบตั ิตนเพ่ือป้องกันอนั ตรำย กำรปฏิบตั ิเพ่ือป้องกนั อนั ตรำย จำกกำรเล่นกีฬำ จำกกำรเลน่ กีฬำ รวม 25 ตวั ช้วี ดั 12 13 สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๔ ชัน้ ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.6 1 พ 1.1 ป.6/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของระบบสืบพันธุ์ ควำมสำคัญของระบบสบื พันธ์ุ ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหำยใจ ระบบไหลเวยี นโลหิต และระบบหำยใจ ที่มีผลตอ่ สุขภำพ กำรเจริญเติบโต ท่ีมผี ลต่อสุขภำพ กำรเจรญิ เติบโต และพัฒนำกำร และพฒั นำกำร 2 พ 1.1 ป.6/2 อธบิ ำยวธิ กี ำรดูแลรักษำระบบสบื พนั ธุ์ วิธีดูแลรกั ษำระบบสืบพนั ธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบหำยใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบหำยใจ ใหท้ ำงำนตำมปกติ ใหท้ ำงำนตำมปกติ 3 พ 2.1 ป.6/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรสร้ำง ควำมสำคญั ของกำรสร้ำงและรักษำ และรกั ษำสัมพนั ธภำพกับผ้อู ื่น สัมพันธภำพกับผู้อน่ื ปัจจัยที่ชว่ ยใหก้ ำรทำงำนกลุม่ ประสบควำมสำเร็จ - ควำมสำมำรถสว่ นบุคคล - บทบำทหนำ้ ทข่ี องสมำชกิ ในกลมุ่ - กำรยอมรับควำมคิดเหน็ และ ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งบุคคล - ควำมรบั ผดิ ชอบ 4 พ 2.1 ป.6/2 วิเครำะห์พฤตกิ รรมเสย่ี งทอ่ี ำจนำไปสู่ พฤติกรรมเส่ียงทน่ี ำไปสกู่ ำรมเี พศสมั พนั ธ์ กำรมีเพศสมั พันธ์ กำรตดิ เชื้อเอดส์ กำรติดเช้ือเอดส์ และกำรต้งั ครรภ์ และกำรตั้งครรภก์ ่อนวยั อันควร กอ่ นวัยอันควร 5 พ 3.1 ป.6/1 แสดงทกั ษะกำรเคล่ือนไหวรว่ มกบั กำรเคลือ่ นไหวรว่ มกับผู้อื่นแบบผลดั ผู้อืน่ ในลกั ษณะแบบผลัด และแบบ ในลักษณะผสมผสำน ในกำรร่วม ผสมผสำนได้ตำมลำดบั ทั้งแบบ กิจกรรมทำงกำย เชน่ กจิ กรรมแบบ อย่กู ับที่ เคลือ่ นที่ และใช้อปุ กรณ์ ผลัด กำยบรหิ ำรประกอบเพลง ประกอบและกำรเคลื่อนไหว ยืดหย่นุ ขนั้ พ้ืนฐำนท่ีใชท้ ่ำต่อเนอ่ื ง ประกอบเพลง และกำรต่อตวั ทำ่ ง่ำย ๆ 6 พ 3.1 ป.6/2 จำแนกหลกั กำรเคล่ือนไหว กำรเคล่ือนไหวในเร่ืองกำรรับแรง ในเรือ่ งกำรรบั แรง กำรใช้แรง กำรใช้แรง และควำมสมดลุ และควำมสมดลุ ในกำรเคล่อื นไหว กับกำรพัฒนำทักษะกำรเคล่อื นไหว ร่ำงกำยในกำรเล่นเกม เลน่ กีฬำ ในกำรเลน่ เกมและกฬี ำ และนำผลมำปรับปรุง เพ่ิมพูนวิธี ปฏิบัติของตนและผู้อ่ืน 7 พ 3.1 ป.6/3 เล่นกีฬำไทย กีฬำสำกลประเภทบุคคล กำรเล่นกฬี ำไทย กฬี ำสำกล ประเภท และประเภททมี อยำ่ งละ ๑ ชนิด บคุ คลและประเภททีม เช่น กรีฑำ ประเภทลูแ่ ละลำน เปตอง ว่ำยนำ้ เทเบลิ เทนนิส วอลเลยบ์ อล ฟุตบอล ตะกร้อวง สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๕ ชน้ั ที่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.6 8 พ 3.1 ป.6/4 ใช้ทกั ษะกลไกเพือ่ ปรับปรุงเพิ่มพนู กำรใช้ข้อมูลด้ำนทักษะกลไกเพ่ือปรับปรุง ควำมสำมำรถของตนและผู้อ่ืน และเพิ่มพูนควำมสำมำรถในกำร ในกำรเล่นกีฬำ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทำงกำยและเล่นกฬี ำ 9 พ 3.1 ป.6/5 ร่วมกจิ กรรมนันทนำกำร อย่ำงนอ้ ย กำรนำควำมรู้และหลักกำรของ ๑ กิจกรรม แลว้ นำควำมร้แู ละ กจิ กรรมนนั ทนำกำรไปใช้เปน็ ฐำน หลักกำรที่ได้ไปใชเ้ ป็นฐำนกำรศกึ ษำ กำรศึกษำหำควำมรู้ หำควำมรเู้ ร่อื งอ่ืน ๆ 10 พ 3.2 ป.6/1 อธิบำยประโยชนแ์ ละหลกั กำร ประโยชน์และหลักกำรออกกำลังกำย ออกกำลังกำยเพื่อสขุ ภำพ เพื่อสุขภำพ สมรรถภำพทำงกำยและ สมรรถภำพทำงกำยและ กำรสร้ำงเสริมบคุ ลิกภำพ กำรสร้ำงเสรมิ บุคลิกภำพ 11 พ 3.2 ป.6/2 เล่นเกมท่ีใช้ทักษะกำรวำงแผน กำรเลน่ เกมท่ใี ช้ทักษะกำรวำงแผน และสำมำรถเพ่มิ พนู ทักษะ กำรออกกำลังกำยและเคล่อื นไหว กำรเพิ่มพนู ทักษะกำรออกกำลงั กำย อยำ่ งเป็นระบบ และกำรเคล่อื นไหวอยำ่ งเปน็ ระบบ 12 พ 3.2 ป.6/3 เลน่ กฬี ำทต่ี นเองช่ืนชอบและ กำรเล่นกฬี ำประเภทบุคคลและ สำมำรถประเมนิ ทักษะกำรเล่น ประเภททีมทช่ี น่ื ชอบ ของตนเป็นประจำ กำรประเมินทกั ษะกำรเล่นกีฬำของตน 13 พ 3.2 ป.6/4 ปฏบิ ัตติ ำมกฎ กติกำตำมชนิดกีฬำ กฎ กติกำในกำรเลน่ กีฬำไทย กีฬำสำกล ทเี่ ล่น โดยคำนงึ ถงึ ควำมปลอดภยั ตำมชนิดกีฬำท่ีเล่น ของตนเองและผู้อ่นื 14 พ 3.2 ป.6/5 จำแนกกลวธิ กี ำรรุก กำรปอ้ งกัน กลวิธีกำรรุก กำรป้องกันในกำรเล่นกีฬำ และนำไปใช้ในกำรเลน่ กฬี ำ 15 พ 3.2 ป.6/6 เล่นเกมและกฬี ำด้วยควำมสำมัคคี กำรสร้ำงควำมสำมัคคีและควำมมีน้ำใจ และมีน้ำใจนักกีฬำ นกั กีฬำในกำรเลน่ เกมและกีฬำ 16 พ 4.1 ป.6/1 แสดงพฤติกรรมในกำรป้องกันและ ควำมสำคญั ของสง่ิ แวดล้อมท่ีมผี ล แกไ้ ขปญั หำสง่ิ แวดล้อมท่ีมีผล ต่อสขุ ภำพ ตอ่ สขุ ภำพ ปญั หำของสิ่งแวดล้อมทม่ี ีผล ตอ่ สขุ ภำพ กำรปอ้ งกันและแก้ไขปัญหำ ส่ิงแวดลอ้ มที่มผี ลต่อสขุ ภำพ 17 พ 4.1 ป.6/2 วิเครำะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ จำก โรคตดิ ต่อสำคัญท่รี ะบำดในปัจจบุ นั กำรระบำดของโรคและเสนอ ผลกระทบทเี่ กิดจำกกำรระบำดของโรค แนวทำงกำรป้องกันโรคตดิ ต่อ กำรป้องกันกำรระบำดของโรค สำคญั ท่ีพบในประเทศไทย สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๖ ชัน้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.6 18 พ 4.1 ป.6/3 แสดงพฤติกรรมทบี่ ง่ บอกถึง พฤตกิ รรมท่ีแสดงออกถึงควำมรบั ผิดชอบ ควำมรับผิดชอบต่อสขุ ภำพ ต่อสขุ ภำพของสว่ นรวม ของสว่ นรวม 19 พ 4.1 ป.6/4 สรำ้ งเสริมและปรบั ปรงุ สมรรถภำพ วิธีทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำงกำยเพ่ือสขุ ภำพอย่ำงต่อเน่ือง กำรสร้ำงเสรมิ และปรับปรุงสมรรถภำพ ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบสมรรถภำพ ทำงกำย 20 พ 5.1 ป.6/1 วิเครำะห์ผลกระทบจำกควำมรุนแรง ภยั ธรรมชำติ ของภัยธรรมชำติทมี่ ีต่อรำ่ งกำย - ลกั ษณะของภยั ธรรมชำติ จิตใจ และสงั คม - ผลกระทบจำกควำมรุนแรงของ ภยั ธรรมชำตทิ ม่ี ตี ่อร่ำงกำย จิตใจ และสังคม 21 พ 5.1 ป.6/2 ระบุวธิ ีปฏิบัติตน เพ่ือควำมปลอดภัย กำรปฏบิ ัตติ นเพื่อควำมปลอดภัย จำกธรรมชำติ จำกภยั ธรรมชำติ 22 พ 5.1 ป.6/3 วเิ ครำะหส์ ำเหตขุ องกำรตดิ สำรเสพติด สำเหตขุ องกำรตดิ สำรเสพติด และชกั ชวนให้ผอู้ ืน่ หลกี เลีย่ ง ทกั ษะกำรส่ือสำรให้ผ้อู ืน่ หลีกเลย่ี ง สำรเสพติด สำรเสพติด รวม 22 ตวั ชี้วัด 6 16 สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๗ ชัน้ ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.1 1 พ 1.1 ม.1/1 อธบิ ำยควำมสำคัญของระบบประสำท ควำมสำคัญของระบบประสำทและ และระบบต่อมไร้ทอ่ ทม่ี ีผลตอ่ สขุ ภำพ ระบบต่อมไร้ท่อทมี่ ีผลต่อสขุ ภำพ กำรเจรญิ เติบโต และพฒั นำกำรของ กำรเจรญิ เติบโต และพฒั นำกำรของ วัยรุ่น วยั รนุ่ 2 พ 1.1 ม.1/2 อธบิ ำยวิธีดูแลรักษำระบบประสำท วิธีดแู ลรกั ษำระบบประสำท และ และระบบต่อมไร้ท่อใหท้ ำงำนตำมปกติ ระบบต่อมไร้ทอ่ ให้ทำงำนตำมปกติ 3 พ 1.1 ม.1/3 วิเครำะห์ภำวะกำรเจริญเตบิ โต กำรวเิ ครำะหภ์ ำวะกำรเจริญเตบิ โต ทำงร่ำงกำยของตนเองกบั เกณฑ์ ตำมเกณฑ์มำตรฐำนและปัจจัย มำตรฐำน ทเี่ กี่ยวข้อง 4 พ 1.1 ม.1/4 แสวงหำแนวทำงในกำรพัฒนำตนเอง แนวทำงในกำรพฒั นำตนเอง ใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวัย ให้เจริญเติบโตสมวัย 5 พ 2.1 ม.1/1 อธิบำยวธิ กี ำรปรบั ตัวตอ่ กำร กำรเปลี่ยนแปลงทำงรำ่ งกำย จติ ใจ เปล่ยี นแปลงทำงร่ำงกำย จิตใจ อำรมณ์ และพฒั นำกำรทำงเพศ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ - ลกั ษณะกำรเปล่ียนแปลง อยำ่ งเหมำะสม ทำงรำ่ งกำย จิตใจ อำรมณ์ และพัฒนำกำรทำงเพศ - กำรยอมรบั และกำรปรับตัว ตอ่ กำรเปลีย่ นแปลงทำงร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ และพฒั นำกำร ทำงเพศ - กำรเบ่ียงเบนทำงเพศ 6 พ 2.1 ม.1/2 แสดงทกั ษะกำรปฏิเสธเพื่อป้องกัน ทกั ษะปฏเิ สธเพ่ือป้องกันกำรถกู ตนเองจำกกำรถูกล่วงละเมิด ล่วงละเมิดทำงเพศ ทำงเพศ 7 พ 3.1 ม.1/1 เพ่มิ พูนควำมสำมำรถของตน หลกั กำรเพิ่มพนู ควำมสำมำรถ ตำมหลกั กำรเคลอื่ นไหวที่ใชท้ ักษะ ในกำรเคล่ือนไหวที่ใชท้ ักษะกลไก กลไกและทักษะพ้นื ฐำนทนี่ ำไปสู่ กำรพัฒนำทักษะกำรเลน่ กฬี ำ และทักษะพนื้ ฐำนทีน่ ำไปสู่กำรพัฒนำ ทกั ษะกำรเลน่ กีฬำ 8 พ 3.1 ม.1/2 เล่นกีฬำไทยและกีฬำสำกลประเภท กำรเล่นกีฬำไทย และกีฬำสำกล บุคคลและทมี โดยใช้ทักษะพืน้ ฐำน ท่เี ลือก เช่น กรีฑำประเภทลู่และลำน ตำมชนิดกีฬำ อย่ำงละ ๑ ชนดิ บำสเกตบอล กระบี่ เทเบิลเทนนสิ เทนนิส ว่ำยน้ำ 9 พ 3.1 ม.1/3 รว่ มกจิ กรรมนันทนำกำรอยำ่ งนอ้ ย กำรนำควำมร้แู ละหลกั กำรของ ๑ กจิ กรรม และนำหลักควำมรทู้ ี่ได้ กิจกรรมนันทนำกำรไปใช้เชื่อมโยง ไปเช่อื มโยงสมั พนั ธก์ บั วิชำอ่นื สมั พนั ธก์ บั วชิ ำอ่นื สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๗๘ ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.1 10 พ 3.2 ม.1/1 อธิบำยควำมสำคัญของกำร ควำมสำคญั ของกำรออกกำลงั กำยและ ออกกำลังกำยและเลน่ กีฬำ เลน่ กฬี ำจนเปน็ วถิ ชี วี ติ ที่มีสขุ ภำพดี จนเปน็ วิถชี วี ติ ทมี่ ีสขุ ภำพดี 11 พ 3.2 ม.1/2 ออกกำลงั กำยและเลอื กเข้ำรว่ ม กำรออกกำลังกำย เชน่ กำยบรหิ ำร เลน่ กีฬำตำมควำมถนัด ควำมสนใจ แบบต่ำง ๆ เต้นแอโรบกิ โยคะ อยำ่ งเต็มควำมสำมำรถ พร้อมทง้ั รำมวยจนี มีกำรประเมินกำรเลน่ ของตน กำรเล่นกีฬำไทย และกีฬำสำกล และผอู้ ื่น ทั้งประเภทบุคคลและทมี กำรประเมนิ กำรเล่นกีฬำของตนเอง และผูอ้ ่ืน 12 พ 3.2 ม.1/3 ปฏิบตั ติ ำมกฎ กติกำ และข้อตกลง กฎ กตกิ ำกำรเล่นเกมและกำรแข่งขัน ตำมชนดิ กฬี ำท่ีเลือกเล่น กีฬำท่ีเลอื กเลน่ 13 พ 3.2 ม.1/4 วำงแผนกำรรกุ และกำรป้องกัน รูปแบบ วิธกี ำรรุก และป้องกัน ในกำรเล่นกีฬำทเี่ ลือกและนำไปใช้ ในกำรเลน่ กีฬำท่เี ลือก ในกำรเล่นอย่ำงเป็นระบบ 14 พ 3.2 ม.1/5 ร่วมมอื ในกำรเลน่ กฬี ำและกำรทำงำน กำรเล่น กำรแข่งขนั กฬี ำ และกำรทำงำน เป็นทีมอย่ำงสนกุ สนำน เป็นทีม 15 พ 3.2 ม.1/6 วเิ ครำะห์ เปรียบเทยี บ และยอมรับ กำรยอมรบั ควำมสำมำรถและ ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งวิธีกำรเลน่ กีฬำ ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งบุคคล ของตนเองกบั ผอู้ นื่ ในกำรเลน่ กีฬำ 16 พ 4.1 ม.1/1 เลือกกนิ อำหำรท่ีเหมำะสมกับวยั หลักกำรเลอื กอำหำรท่ีเหมำะสมกบั วยั 17 พ 4.1 ม.1/2 วเิ ครำะหป์ ญั หำท่ีเกดิ จำก ปัญหำท่เี กิดจำกภำวะโภชนำกำร ภำวะโภชนำกำรที่มผี ลกระทบ ตอ่ สขุ ภำพ - ภำวะกำรขำดสำรอำหำร - ภำวะโภชนำกำรเกิน 18 พ 4.1 ม.1/3 ควบคุมน้ำหนักของตนเอง เกณฑ์มำตรฐำนกำรเจริญเตบิ โต ให้อยู่ในเกณฑ์มำตรฐำน ของเด็กไทย วิธีกำรควบคมุ น้ำหนักของตนเอง ใหอ้ ยู่ในเกณฑ์มำตรฐำน 19 พ 4.1 ม.1/4 สรำ้ งเสริมและปรบั ปรงุ สมรรถภำพ วิธีทดสอบสมรรถภำพทำงกำย ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ วธิ สี รำ้ งเสรมิ และปรับปรงุ สมรรถภำพ ทำงกำยตำมผลกำรทดสอบ สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
ชน้ั ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๒๗๙ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.1 20 พ 5.1 ม.1/1 แสดงวธิ ปี ฐมพยำบำลและเคลื่อนย้ำย กำรปฐมพยำบำลและเคลื่อนยำ้ ย ผู้ปว่ ยอย่ำงปลอดภัย ผู้ป่วยอยำ่ งปลอดภัย - เป็นลม - บำดแผล 17 6 - ไฟไหม้ - กระดกู หัก - น้ำรอ้ นลวก ฯลฯ 21 พ 5.1 ม.1/2 อธบิ ำยลักษณะอำกำรของ ลักษณะของผ้ตู ิดสำรเสพติด ผตู้ ดิ สำรเสพติดและกำรป้องกัน อำกำรของผตู้ ิดสำรเสพติด กำรติดสำรเสพตดิ กำรป้องกันกำรติดสำรเสพตดิ 22 พ 5.1 ม.1/3 อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ของกำรใช้ ควำมสัมพนั ธข์ องกำรใช้สำรเสพตดิ สำรเสพตดิ กบั กำรเกิดโรคและ อุบตั ิเหตุ กับกำรเกิดโรคและอุบตั เิ หตุ 23 พ 5.1 ม.1/4 แสดงวธิ ีกำรชกั ชวนผู้อืน่ ใหล้ ด ละ ทกั ษะท่ใี ชใ้ นกำรชกั ชวนผอู้ ่ืนใหล้ ด เลกิ สำรเสพติด โดยใชท้ ักษะต่ำง ๆ ละ เลกิ สำรเสพติด - ทกั ษะกำรคิดวเิ ครำะห์ - ทกั ษะกำรสื่อสำร - ทกั ษะกำรตัดสนิ ใจ - ทกั ษะกำรแก้ปัญหำ ฯลฯ รวม 23 ตัวช้ีวดั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๐ ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 1 พ 1.1 ม.2/1 อธิบำยกำรเปลีย่ นแปลงด้ำนร่ำงกำย กำรเปลี่ยนแปลงด้ำนร่ำงกำย จติ ใจ จติ ใจ อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ อำรมณ์ สงั คม และสติปัญญำในวัยรุ่น ในวยั รนุ่ 2 พ 1.1 ม.2/2 ระบปุ จั จัยทม่ี ีผลกระทบ ปัจจัยท่ีมีผลกระทบต่อกำรเจริญเติบโต ตอ่ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร และพัฒนำกำรดำ้ นรำ่ งกำย จิตใจ ด้ำนร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม อำรมณ์ สังคม และสติปัญญำ และสติปญั ญำในวยั รุน่ - พนั ธุกรรม - สง่ิ แวดลอ้ ม - กำรอบรมเลี้ยงดู 3 พ 2.1 ม.2/1 วเิ ครำะหป์ ัจจัยที่มีอิทธิพล ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อเจตคติในเรื่องเพศ ต่อเจตคติในเรื่องเพศ - ครอบครัว - วฒั นธรรม - เพ่ือน - ส่อื 4 พ 2.1 ม.2/2 วิเครำะห์ปญั หำและผลกระทบ ปญั หำและผลกระทบท่เี กิดจำก ท่เี กิดจำกกำรมเี พศสัมพันธ์ กำรมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรียน ในวยั เรียน 5 พ 2.1 ม.2/3 อธิบำยวธิ ปี ้องกันตนเอง โรคติดต่อทำงเพศสมั พนั ธ์ และหลกี เลีย่ งจำกโรคติดต่อ โรคเอดส์ ทำงเพศสมั พันธ์ เอดส์ และ กำรตงั้ ครรภโ์ ดยไม่พงึ ประสงค์ กำรต้งั ครรภ์โดยไม่พงึ ประสงค์ 6 พ 2.1 ม.2/4 อธิบำยควำมสำคัญของควำม ควำมสำคัญของควำมเสมอภำคทำงเพศ เสมอภำคทำงเพศและวำงตัว กำรวำงตัวต่อเพศตรงข้ำม ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ปญั หำทำงเพศ แนวทำงกำรแกไ้ ขปัญหำทำงเพศ 7 พ 3.1 ม.2/1 นำผลกำรปฏิบัตติ นเก่ียวกับทักษะ กำรนำผลกำรปฏบิ ตั ิตนเกย่ี วกบั กลไกและทักษะกำรเคล่ือนไหว ทักษะกลไกและทักษะกำรเคล่ือนไหว ในกำรเลน่ กีฬำจำกแหลง่ ข้อมูล ในกำรเลน่ กีฬำจำกแหลง่ ข้อมูลท่ี ท่ีหลำกหลำยมำสรปุ เป็นวธิ ี หลำกหลำยมำสรปุ เป็นวธิ ที ี่เหมำะสมใน ทเ่ี หมำะสมในบริบทของตนเอง บรบิ ทของตนเองในกำรเลน่ กฬี ำ 8 พ 3.1 ม.2/2 เล่นกฬี ำไทยและกีฬำสำกล กำรเล่นกฬี ำไทย กฬี ำสำกลตำมชนิด ทั้งประเภทบุคคลและทีม กฬี ำท่ีเลือก เช่น กรีฑำประเภทลู่และ อยำ่ งละ ๑ ชนิด ลำน บำสเกตบอล กระบี่ เทนนสิ ตระกร้อลอดบว่ ง ฟตุ ซอล วำ่ ยนำ้ เทควนั โด สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๑ ช้ัน ท่ี รหัสตัวช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 9 พ 3.1 ม.2/3 เปรยี บเทยี บประสิทธภิ ำพของ ประสิทธิภำพของรูปแบบกำรเคล่ือนไหว รปู แบบกำรเคลื่อนไหวท่ีส่งผล ทส่ี ่งผลต่อกำรเล่นกีฬำและกิจกรรม ต่อกำรเล่นกีฬำและกิจกรรม ในชีวติ ประจำวัน ในชีวติ ประจำวนั 10 พ 3.1 ม.2/4 ร่วมกจิ กรรมนนั ทนำกำร อย่ำงน้อย กำรนำประสบกำรณจ์ ำกกำรร่วม ๑ กจิ กรรม และนำควำมรแู้ ละหลักกำร กิจกรรมนนั ทนำกำรไปปรบั ใช้ ท่ีได้ไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจำวัน ในชวี ิตประจำวนั อยำ่ งเปน็ ระบบ 11 พ 3.2 ม.2/1 อธิบำยสำเหตุกำรเปล่ยี นแปลง สำเหตุกำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนรำ่ งกำย ทำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ สังคม จติ ใจ อำรมณ์ สังคมและสตปิ ัญญำ และสติปญั ญำ ท่เี กดิ จำก จำกกำรออกกำลังกำยและกำร กำรออกกำลังกำยและเลน่ กีฬำ เล่นกีฬำอยำ่ งสม่ำเสมอจนเป็นวถิ ชี วี ติ เปน็ ประจำจนเป็นวถิ ชี ีวติ กำรสร้ำงวิถชี วี ิตทม่ี ีสขุ ภำพดี โดยกำรออกกำลงั กำย และเล่นกฬี ำ เป็นประจำ 12 พ 3.2 ม.2/2 เลือกเข้ำร่วมกิจกรรมกำรออกกำลงั กำย กำรออกกำลังกำยและกำรเล่นกีฬำไทย เล่นกฬี ำตำมควำมถนดั และ กีฬำสำกลทัง้ ประเภทบุคคลและ ควำมสนใจ พร้อมทั้งวิเครำะห์ ประเภททีม ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล กำรวิเครำะห์ควำมแตกต่ำง เพ่ือเป็นแนวทำงในกำรพัฒนำตนเอง ระหวำ่ งบุคคลเพอื่ เปน็ แนวทำง ในกำรพัฒนำกำรร่วมกจิ กรรม กำรออกกำลังกำยและเลน่ กีฬำ 13 พ 3.2 ม.2/3 มวี นิ ัย ปฏบิ ัตติ ำมกฎ กตกิ ำ และ วินัยในกำรฝึก และกำรเล่นกฬี ำ ขอ้ ตกลงในกำรเล่นกีฬำทเี่ ลือก ตำมกฎ กติกำและข้อตกลง 14 พ 3.2 ม.2/4 วำงแผนกำรรุกและกำรป้องกัน รปู แบบ กลวิธีกำรรกุ กำรป้องกนั ในกำรเล่นกีฬำที่เลือกและนำไปใช้ ในกำรเลน่ กีฬำเปน็ ทีม ในกำรเล่นอย่ำงเหมำะสมกับทีม ประโยชน์ของกำรเลน่ และกำรทำงำน เปน็ ทมี หลกั กำรใหค้ วำมรว่ มมอื ในกำรเล่น กำรแขง่ ขันกีฬำและกำรทำงำนเปน็ ทีม 15 พ 3.2 ม.2/5 นำผลกำรปฏิบัติในกำรเล่นกีฬำ กำรพัฒนำวธิ เี ล่นกีฬำที่เหมำะสม มำสรุปเปน็ วิธีทีเ่ หมำะสมกับตนเอง กับตนเอง ด้วยควำมมงุ่ มนั่ - กำรเลือกวธิ เี ล่น - กำรแกไ้ ขข้อบกพร่อง - กำรเพ่มิ ทักษะ กำรสร้ำงแรงจูงใจและกำรสร้ำง ควำมมงุ่ มนั่ ในกำรเล่นและแข่งขนั กีฬำ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๒ ช้ัน ที่ รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 16 พ 4.1 ม.2/1 เลือกใชบ้ ริกำรทำงสุขภำพ กำรเลอื กใช้บรกิ ำรทำงสขุ ภำพ อยำ่ งมีเหตุผล 17 พ 4.1 ม.2/2 วิเครำะห์ผลของกำรใชเ้ ทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยที ีม่ ีต่อสุขภำพ ทม่ี ีตอ่ สุขภำพ 18 พ 4.1 ม.2/3 วิเครำะห์ควำมเจรญิ กำ้ วหนำ้ ควำมเจริญก้ำวหน้ำทำงกำรแพทย์ ทำงกำรแพทย์ทม่ี ีผลตอ่ สุขภำพ ที่มีผลต่อสุขภำพ 19 พ 4.1 ม.2/4 วิเครำะหค์ วำมสัมพนั ธข์ อง ควำมสมดุลระหว่ำงสุขภำพกำยและ ภำวะสมดุลระหวำ่ งสขุ ภำพกำย สขุ ภำพจติ และสขุ ภำพจิต 20 พ 4.1 ม.2/5 อธบิ ำยลักษณะอำกำรเบ้ืองต้น ลักษณะอำกำรเบ้ืองต้นของผู้มปี ัญหำ ของผมู้ ปี ัญหำสุขภำพจิต สขุ ภำพจติ 21 พ 4.1 ม.2/6 เสนอแนะวธิ ปี ฏบิ ัตติ นเพ่ือจดั กำร วธิ ปี ฏิบัตติ นเพื่อจัดกำรกับอำรมณ์ กับอำรมณ์และควำมเครยี ด และควำมเครยี ด 22 พ 4.1 ม.2/7 พัฒนำสมรรถภำพทำงกำยตนเอง เกณฑ์สมรรถภำพทำงกำย ให้เป็นไปตำมเกณฑท์ ี่กำหนด กำรพัฒนำสมรรถภำพทำงกำย 23 พ 5.1 ม.2/1 ระบวุ ิธกี ำร ปจั จยั และแหล่ง วิธีกำร ปจั จยั และแหลง่ ที่ชว่ ยเหลือ ที่ชว่ ยเหลอื ฟ้ืนฟูผตู้ ิดสำรเสพตดิ ฟ้นื ฟูผู้ติดสำรเสพตดิ 24 พ 5.1 ม.2/2 อธบิ ำยวิธีกำรหลีกเล่ียงพฤติกรรม กำรหลีกเลีย่ งพฤตกิ รรมเสย่ี งและ เสี่ยงและสถำนกำรณ์เสย่ี ง สถำนกำรณ์เสีย่ ง - กำรมว่ั สุม - กำรทะเลำะวิวำท - กำรเข้ำไปในแหลง่ อบำยมุข - กำรแข่งจกั รยำนยนต์บนท้องถนน ฯลฯ 25 พ 5.1 ม.2/3 ใช้ทกั ษะชีวิตในกำรป้องกันตนเอง ทักษะชีวติ ในกำรป้องกันตนเอง และหลกี เล่ียงสถำนกำรณ์คบั ขนั (ทักษะปฏเิ สธ ทกั ษะกำรต่อรอง ฯลฯ) ทอี่ ำจนำไปสูอ่ ันตรำย และหลีกเล่ียงสถำนกำรณ์ คับขนั ทอ่ี ำจนำไปสู่อันตรำย รวม 25 ตัวชว้ี ัด 15 10 สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๓ ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 1 พ 1.1 ม.3/1 เปรียบเทยี บกำรเปล่ยี นแปลง กำรเปล่ยี นแปลง ดำ้ นรำ่ งกำย จติ ใจ ทำงด้ำนร่ำงกำย จติ ใจ อำรมณ์ อำรมณ์ สงั คมและสตปิ ัญญำ สงั คมและสติปัญญำแตล่ ะชว่ ง ในแต่ละวัย ของชีวิต - วยั ทำรก - วยั ก่อนเรียน - วยั เรียน - วยั รุ่น - วยั ผใู้ หญ่ - วัยสูงอำยุ 2 พ 1.1 ม.3/2 วเิ ครำะห์อิทธพิ ลและควำมคำดหวัง อทิ ธิพลและควำมคำดหวังของสังคม ของสงั คมต่อกำรเปล่ียนแปลง ท่ีมตี อ่ กำรเปลย่ี นแปลงของวัยร่นุ ของวัยรุน่ 3 พ 1.1 ม.3/3 วิเครำะหส์ ่ือโฆษณำท่ีมอี ิทธพิ ล สือ่ โฆษณำท่ีมีอิทธพิ ลต่อกำรเจริญเติบโต ตอ่ กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำร และพฒั นำกำรของวัยรนุ่ ของวัยรุ่น - โทรทัศน์ - วิทยุ - สอื่ สง่ิ พมิ พ์ - อินเทอร์เนต็ 22 พ 5.1 ม.3/3 วิเครำะห์อิทธพิ ลของสอ่ื ตอ่ อิทธพิ ลของส่ือต่อพฤตกิ รรมสุขภำพ พฤติกรรมสขุ ภำพและควำมรุนแรง และควำมรุนแรง (คลปิ วดิ ีโอ กำรทะเลำะววิ ำท อนิ เทอร์เน็ต เกม ฯลฯ) 4 พ 2.1 ม.3/1 อธบิ ำยอนำมยั แมแ่ ละเด็ก องค์ประกอบของอนำมัยเจริญพันธ์ุ กำรวำงแผนครอบครวั และวิธีกำร - อนำมัยแม่และเด็ก ปฏิบัตติ นที่เหมำะสม - กำรวำงแผนครอบครวั 5 พ 2.1 ม.3/2 วิเครำะหป์ จั จยั ที่มผี ลกระทบ ปจั จัยทมี่ ผี ลกระทบตอ่ กำรต้งั ครรภ์ ตอ่ กำรตั้งครรภ์ - แอลกอฮอล์ - สำรเสพตดิ - บหุ รี่ - สภำพแวดลอ้ ม - กำรตดิ เชื้อ - โรคทเ่ี กิดจำกภำวะกำรตง้ั ครรภ์ 6 พ 2.1 ม.3/3 วิเครำะห์สำเหตุ และเสนอแนวทำง สำเหตุควำมขัดแย้งในครอบครัว ปอ้ งกัน แกไ้ ขควำมขัดแย้ง แนวทำงป้องกัน แกไ้ ขควำมขัดแย้ง ในครอบครวั ในครอบครัว สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๔ ชนั้ ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 7 พ 3.1 ม.3/1 เลน่ กฬี ำไทยและกีฬำสำกล เทคนคิ และวิธีกำรเลน่ กีฬำไทยและ อยำ่ งละ ๑ ชนดิ โดยใช้เทคนิค กีฬำสำกลทเี่ ลือก เชน่ กรีฑำประเภทลู่ ทเี่ หมำะสมกบั ตนเองและทีม และลำน วอลเลยบ์ อล บำสเกตบอล ดำบสองมือ เทนนสิ ตะกร้อขำ้ มตำข่ำย ฟุตบอล 8 พ 3.1 ม.3/2 นำหลกั กำร ควำมรู้ และทักษะ กำรนำหลักกำร ควำมรู้ ทกั ษะ ในกำรเคล่ือนไหว กิจกรรมทำงกำย ในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกำรเล่นกีฬำไปใช้ กำรเล่นเกม กำรเล่นกีฬำไปใช้ สร้ำงเสริมสุขภำพอย่ำงต่อเน่ือง เปน็ ระบบสรำ้ งเสรมิ สขุ ภำพ เปน็ ระบบ อยำ่ งต่อเน่อื ง 9 พ 3.1 ม.3/3 ร่วมกิจกรรมนันทนำกำร อย่ำงน้อย กำรจดั กจิ กรรมนันทนำกำรแกผ่ ู้อ่นื ๑ กิจกรรมและนำหลักควำมรูว้ ธิ กี ำร ไปขยำยผลกำรเรยี นรู้ให้กบั ผู้อ่ืน 10 พ 3.2 ม.3/1 มมี ำรยำทในกำรเลน่ และดูกีฬำ มำรยำทในกำรเล่นและกำรดูกีฬำ ดว้ ยควำมมีนำ้ ใจนักกีฬำ ดว้ ยควำมมนี ้ำใจนักกีฬำ 11 พ 3.2 ม.3/2 ออกกำลงั กำยและเลน่ กฬี ำ กำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นกฬี ำ อย่ำงสม่ำเสมอและนำแนวคดิ ประเภทบคุ คลและประเภททีม หลกั กำรจำกกำรเล่นไปพฒั นำ คณุ ภำพชวี ิตของตนด้วยควำม กำรนำประสบกำรณ์ แนวคิดจำกกำร ภำคภูมิใจ ออกกำลงั กำยและเล่นกฬี ำไปประยกุ ตใ์ ช้ ในกำรพัฒนำคุณภำพชวี ติ 12 พ 3.2 ม.3/3 ปฏิบัติตนตำมกฎ กติกำ และขอ้ ตกลง กฎ กติกำและข้อตกลงในกำรเลน่ กฬี ำ ในกำรเลน่ ตำมชนดิ กฬี ำที่เลือก ทเี่ ลือกเล่น และนำแนวคิดท่ไี ด้ไปพฒั นำ คณุ ภำพชวี ติ ของตนในสังคม กำรประยุกต์ประสบกำรณ์กำรปฏิบัติ ตำมกฎ กติกำ ข้อตกลงในกำรเลน่ กฬี ำ ไปใช้พัฒนำคุณภำพชวี ิตของตนในสังคม 13 พ 3.2 ม.3/4 จำแนกกลวธิ กี ำรรุก กำรปอ้ งกนั วิธีกำรประยกุ ตใ์ ช้กลวิธีกำรรกุ และใช้ในกำรเล่นกฬี ำทเี่ ลอื กและ และกำรป้องกันในกำรเลน่ กฬี ำ ตัดสินใจเลอื กวิธีท่เี หมำะสมกับทมี ไดต้ ำมสถำนกำรณ์ของกำรเล่น ไปใช้ไดต้ ำมสถำนกำรณ์ของกำรเลน่ 14 พ 3.2 ม.3/5 เสนอผลกำรพฒั นำสุขภำพของ กำรพัฒนำสขุ ภำพตนเองทีเ่ กิดจำก ตนเองทเี่ กิดจำกกำรออกกำลังกำย กำรออกกำลังกำยและกำรเล่นกีฬำ และกำรเลน่ กฬี ำเปน็ ประจำ เปน็ ประจำ สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๕ ชนั้ ที่ รหัสตัวชี้วดั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.3 15 พ 4.1 ม.3/1 กำหนดรำยกำรอำหำรท่เี หมำะสม กำรกำหนดรำยกำรอำหำรท่เี หมำะสม กบั วยั ตำ่ ง ๆ โดยคำนึงถึงควำม กบั วยั ตำ่ ง ๆ ประหยดั และคุณค่ำทำงโภชนำกำร - วยั ทำรก วยั เด็ก (วัยกอ่ นเรียน วัยเรียน) วยั รุ่น วัยผใู้ หญ่ วยั สูงอำยุ โดยคำนึงถงึ ควำมประหยัดและ คณุ คำ่ ทำงโภชนำกำร 16 พ 4.1 ม.3/2 เสนอแนวทำงป้องกนั โรคทีเ่ ป็น โรคทีเ่ ป็นสำเหตสุ ำคัญของกำรเจบ็ ปว่ ย สำเหตุสำคญั ของกำรเจบ็ ปว่ ยและ และกำรตำยของคนไทย กำรตำยของคนไทย โรคตดิ ตอ่ เช่น - โรคท่ีเกดิ จำกกำรมเี พศสมั พันธ์ - โรคเอดส์ - โรคไข้หวัดนก ฯลฯ โรคไม่ติดตอ่ เชน่ - โรคหวั ใจ - โรคควำมดันโลหติ สงู - เบำหวำน - มะเร็ง ฯลฯ 17 พ 4.1 ม.3/3 รวบรวมขอ้ มลู และเสนอแนวทำง ปัญหำสขุ ภำพในชุมชน แกไ้ ขปัญหำสขุ ภำพในชุมชน แนวทำงแก้ไขปัญหำสขุ ภำพในชมุ ชน 18 พ 4.1 ม.3/4 วำงแผนและจดั เวลำในกำร กำรวำงแผนและจัดเวลำในกำร ออกกำลงั กำย กำรพกั ผ่อนและ ออกกำลังกำย กำรพักผ่อน และ กำรสรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพทำงกำย กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย 19 พ 4.1 ม.3/5 ทดสอบสมรรถภำพทำงกำย กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย และพัฒนำได้ตำมควำมแตกต่ำง แบบต่ำง ๆ และกำรพฒั นำ ระหวำ่ งบคุ คล สมรรถภำพเพ่ือสุขภำพ 20 พ 5.1 ม.3/1 วเิ ครำะหป์ ัจจยั เสีย่ งและพฤติกรรม ปัจจัยเสย่ี งและพฤตกิ รรมเสยี่ ง เสีย่ งทมี่ ีผลต่อสขุ ภำพและแนวทำง ตอ่ สุขภำพ ป้องกัน แนวทำงกำรป้องกันควำมเสยี่ ง ตอ่ สุขภำพ 21 พ 5.1 ม.3/2 หลกี เลี่ยงกำรใชค้ วำมรุนแรงและ ปัญหำและผลกระทบจำกกำรใช้ ชักชวนเพ่ือนใหห้ ลีกเลี่ยงกำรใช้ ควำมรนุ แรง ควำมรุนแรงในกำรแก้ปัญหำ วธิ หี ลีกเลย่ี งกำรใช้ควำมรนุ แรง 23 พ 5.1 ม.3/4 วิเครำะหค์ วำมสัมพนั ธ์ของกำรด่มื ควำมสัมพนั ธ์ของกำรด่ืมเคร่ืองดมื่ เครอื่ งดื่มทมี่ ีแอลกอฮอลต์ ่อสุขภำพ ทีม่ แี อลกอฮอลต์ อ่ สุขภำพและ และกำรเกดิ อุบตั ิเหตุ กำรเกิดอุบตั ิเหตุ 24 พ 5.1 ม.3/5 แสดงวิธีกำรช่วยฟนื้ คนื ชพี วธิ ีกำรชว่ ยฟน้ื คนื ชพี อยำ่ งถูกวธิ ี อย่ำงถูกวิธี รวม 24 ตัวชว้ี ัด 12 12 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๖ ชัน้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.4-6 1 พ 1.1 ม.4-6/1 อธิบำยกระบวนกำรสรำ้ งเสริม กระบวนกำรสรำ้ งเสริมและดำรง และดำรงประสิทธิภำพกำรทำงำน ประสิทธภิ ำพกำรทำงำนของระบบ ของระบบอวยั วะตำ่ ง ๆ อวยั วะตำ่ ง ๆ - กำรทำงำนของระบบอวัยวะตำ่ ง ๆ - กำรสร้ำงเสริมและดำรงประสิทธภิ ำพ ของอวยั วะต่ำง ๆ (อำหำร กำรออกกำลงั กำย นันทนำกำร กำรตรวจสุขภำพ ฯลฯ) 2 พ 1.1 ม.4-6/2 วำงแผนดแู ลสุขภำพตำมภำวะ กำรวำงแผนดแู ลสุขภำพของตนเอง กำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำร และบคุ คลในครอบครวั ของตนเองและบุคคลในครอบครัว 3 พ 2.1 ม.4-6/1 วเิ ครำะหอ์ ิทธพิ ลของครอบครัว อิทธพิ ลของครอบครวั เพอ่ื น สงั คม เพื่อน สงั คม และวัฒนธรรม และวฒั นธรรมท่ีมตี ่อพฤตกิ รรม ท่มี ผี ลตอ่ พฤติกรรมทำงเพศและ ทำงเพศและกำรดำเนนิ ชวี ติ กำรดำเนนิ ชวี ิต 4 พ 2.1 ม.4-6/2 วเิ ครำะหค์ ่ำนิยมในเรื่องเพศ คำ่ นิยมในเรื่องเพศตำมวัฒนธรรมไทย ตำมวัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรม และวัฒนธรรมอ่ืน ๆ อื่น ๆ 5 พ 2.1 ม.4-6/3 เลอื กใช้ทักษะที่เหมำะสม แนวทำงในกำรเลือกใชท้ ักษะตำ่ ง ๆ ในกำรปอ้ งกนั ลดควำมขัดแย้ง ในกำรป้องกัน ลดควำมขดั แย้ง และ และแกป้ ัญหำเร่ืองเพศและ แกป้ ญั หำเร่ืองเพศและครอบครวั ครอบครวั - ทักษะกำรส่อื สำรและสรำ้ งสมั พนั ธภำพ - ทกั ษะกำรต่อรอง - ทกั ษะกำรปฏเิ สธ - ทกั ษะกำรคดิ วิเครำะห์ - ทกั ษะกำรตดั สินใจและแก้ไขปญั หำ ฯลฯ 6 พ 2.1 ม.4-6/4 วิเครำะหส์ ำเหตุและผลของ ควำมขดั แย้งทอี่ ำจเกดิ ข้ึนระหวำ่ ง ควำมขดั แย้งที่อำจเกิดขึน้ ระหว่ำง นกั เรยี นหรือเยำวชนในชุมชน นักเรียนหรอื เยำวชนในชมุ ชน - สำเหตขุ องควำมขัดแย้ง และเสนอแนวทำงแก้ไขปญั หำ - ผลกระทบทเี่ กดิ จำกควำมขัดแย้ง ระหว่ำงนกั เรียนหรอื เยำวชน ในชมุ ชน - แนวทำงในกำรแกป้ ัญหำท่ีอำจเกิดจำก ควำมขัดแย้งของนักเรียนหรือ เยำวชนในชุมชน สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๗ ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 7 พ 3.1 ม.4-6/1 วิเครำะห์ควำมคิดรวบยอดเก่ียวกบั ควำมคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั กำรเคล่ือนไหว กำรเคลอ่ื นไหวรปู แบบต่ำง ๆ รูปแบบต่ำง ๆ ในกำรเลน่ กฬี ำ ในกำรเลน่ กีฬำ กำรวเิ ครำะห์ควำมคิดรวบยอด เกีย่ วกับกำรเคลื่อนไหวรปู แบบตำ่ ง ๆ ในกำรเล่นกีฬำ 8 พ 3.1 ม.4-6/2 ใช้ควำมสำมำรถของตน เพื่อเพ่มิ กำรใช้ควำมสำมำรถของตน ศักยภำพของทมี คำนงึ ถึงผล ในกำรเลน่ กีฬำ เพื่อเพม่ิ ศักยภำพ ที่เกิดต่อผู้อืน่ และสงั คม ของทมี โดยคำนึงถึงผลท่ีเกิดตอ่ ผู้อื่น และสังคม 9 พ 3.1 ม.4-6/3 เลน่ กีฬำไทย กีฬำสำกล ประเภท กีฬำประเภทบุคคล/คู่ ประเภททมี เช่น บคุ คล/คู่ กีฬำประเภททมี ฟตุ ซอล รักบฟี้ ุตบอล ยิมนำสติก ลลี ำศ อย่ำงน้อย ๑ ชนิด ซอฟท์บอล เทนนิส เซปักตะกร้อ มวยไทย กระบี่กระบอง พลอง ง้ำว 10 พ 3.1 ม.4-6/4 แสดงกำรเคลื่อนไหวได้อย่ำง กำรเคลื่อนไหวที่สร้ำงสรรค์ เชน่ สร้ำงสรรค์ กิจกรรมเข้ำจังหวะ เชยี ร์ลีดเดอร์ 11 พ 3.1 ม.4-6/5 เข้ำรว่ มกจิ กรรมนันทนำกำร กำรนำหลักกำรและแนวคิดของ นอกโรงเรียน และนำหลักกำร กจิ กรรมนันทนำกำร ไปปรบั ปรุงและ แนวคดิ ไปปรบั ปรุงและพฒั นำ พัฒนำคณุ ภำพชวี ิตของตนและสังคม คุณภำพชีวิตของตนและสงั คม 12 พ 3.2 ม.4-6/1 ออกกำลงั กำยและเล่นกีฬำ กำรออกกำลังกำยดว้ ยวิธีทีช่ อบ เชน่ ท่ีเหมำะสมกบั ตนเองอย่ำงสมำ่ เสมอ ฝกึ กำยบริหำรแบบต่ำงๆ ขจี่ ักรยำน และใชค้ วำมสำมำรถของตนเอง กำรออกกำลังกำยจำกกำรทำงำน เพิ่มศักยภำพของทมี ลดควำมเปน็ ในชีวิตประจำวนั กำรรำกระบอง ตัวตน คำนงึ ถึงผลที่เกดิ ต่อสังคม รำมวยจนี กำรเลน่ กฬี ำประเภทบุคคลและ ประเภททมี กำรใชค้ วำมสำมำรถของตนในกำร เพมิ่ ศักยภำพของทมี ในกำรเล่นกฬี ำ และกำรเล่นโดยคำนึงถึงประโยชน์ ต่อสงั คม กำรวำงแผนกำหนดกจิ กรรม กำรออกกำลังกำยและเล่นกีฬำ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๘ ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 13 พ 3.2 ม.4-6/2 อธิบำยและปฏิบัติเก่ียวกับสทิ ธิ สิทธิ กฎ กติกำกำรเล่นกีฬำ กฎ กติกำ กลวิธตี ำ่ ง ๆ ในระหวำ่ ง กลวธิ ี หลักกำรรุก กำรป้องกนั กำรเล่น กำรแข่งขันกีฬำกับผู้อื่น อย่ำงสร้ำงสรรคใ์ นกำรเล่น และนำไปสรุปเป็นแนวปฏบิ ตั ิและ และแข่งขันกีฬำ ใช้ในชีวิตประจำวนั อย่ำงต่อเน่ือง กำรนำประสบกำรณ์จำกกำรเล่นกีฬำ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน 14 พ 3.2 ม.4-6/3 แสดงออกถึงกำรมีมำรยำทในกำรดู กำรปฏิบตั ิตนในเรื่องมำรยำท กำรเล่น และกำรแขง่ ขันกีฬำ ในกำรดู กำรเล่น กำรแขง่ ขัน ดว้ ยควำมมนี ำ้ ใจนกั กฬี ำ ควำมมีน้ำใจนักกีฬำ และนำไปใช้ปฏิบัติทุกโอกำส บคุ ลิกภำพท่ีดี จนเปน็ บคุ ลกิ ภำพทีด่ ี 15 พ 3.2 ม.4-6/4 ร่วมกิจกรรมทำงกำยและเล่นกีฬำ ควำมสขุ ท่ีไดจ้ ำกกำรเข้ำร่วมกิจกรรม อย่ำงมีควำมสุข ชื่นชมในคุณค่ำ ทำงกำยและเลน่ กีฬำ และควำมงำมของกำรกีฬำ คณุ คำ่ และควำมงำมของกำรกีฬำ 16 พ 4.1 ม.4-6/1 วิเครำะหบ์ ทบำทและควำม บทบำทและควำมรบั ผิดชอบของ รบั ผิดชอบของบุคคลที่มตี ่อกำร บุคคลทม่ี ีต่อกำรสร้ำงเสรมิ สขุ ภำพ สร้ำงเสริมสุขภำพและกำรป้องกนั และกำรป้องกันโรคในชุมชน โรคในชุมชน 19 พ 4.1 ม.4-6/4 วเิ ครำะหส์ ำเหตุและเสนอแนวทำง สำเหตุของกำรเจบ็ ปว่ ยและกำรตำย กำรปอ้ งกันกำรเจ็บปว่ ยและ ของคนไทย เชน่ โรคจำกกำรประกอบ กำรตำยของคนไทย อำชีพ โรคทำงพันธกุ รรม แนวทำงกำรป้องกันกำรเจ็บป่วย 25 พ 5.1 ม.4-6/3 วิเครำะห์ปัจจัยท่ีมผี ลต่อสุขภำพ ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อสขุ ภำพหรือ หรือควำมรุนแรงของคนไทย ควำมรนุ แรงของคนไทย และเสนอแนวทำงป้องกัน และเสนอแนวทำงป้องกัน 17 พ 4.1 ม.4-6/2 วเิ ครำะห์อิทธิพลของส่อื โฆษณำ อิทธิพลของส่ือโฆษณำเก่ียวกับสุขภำพ เก่ยี วกบั สขุ ภำพเพ่อื กำรเลอื กบริโภค แนวทำงกำรเลือกบรโิ ภคอย่ำงฉลำด 18 พ 4.1 ม.4-6/3 20 พ 4.1 ม.4-6/5 และปลอดภัย 22 พ 4.1 ม.4-6/7 ปฏบิ ตั ติ นตำมสิทธขิ องผ้บู รโิ ภค สทิ ธิพื้นฐำนของผบู้ รโิ ภคและกฎหมำย ท่ีเก่ียวข้องกับกำรคุ้มครองผู้บรโิ ภค วำงแผนและปฏบิ ตั ิตำมแผน กำรวำงแผนกำรพัฒนำสุขภำพ กำรพฒั นำสขุ ภำพของตนเอง ของตนเองและครอบครวั และครอบครัว วำงแผนและปฏบิ ตั ติ ำมแผน กำรวำงแผนพัฒนำสมรรถภำพ กำรพฒั นำสมรรถภำพกำย ทำงกำยและสมรรถภำพกลไก และสมรรถภำพกลไก สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๘๙ ชนั้ ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.4-6 21 พ 4.1 ม.4-6/6 มสี ่วนร่วมในกำรสง่ เสริมและ กำรมีสว่ นรว่ มในกำรสง่ เสริม พฒั นำสขุ ภำพของบคุ คลในชุมชน และพัฒนำสุขภำพของบุคคล ในชมุ ชน 23 พ 5.1 ม.4-6/1 มสี ว่ นรว่ มในกำรป้องกันควำมเส่ยี ง กำรจัดกิจกรรมป้องกนั ควำมเสีย่ ง ต่อกำรใช้ยำ กำรใชส้ ำรเสพติด ต่อกำรใช้ยำ สำรเสพตดิ และ และควำมรุนแรง เพ่ือสุขภำพ ควำมรุนแรง ของตนเอง ครอบครวั และสังคม 24 พ 5.1 ม.4-6/2 วิเครำะห์ผลกระทบที่เกดิ จำก กำรวเิ ครำะหผ์ ลกระทบทเี่ กดิ จำก กำรครอบครอง กำรใช้และ กำรครอบครอง กำรใช้ และกำร กำรจำหนำ่ ยสำรเสพตดิ จำหนำ่ ยสำรเสพตดิ (ตนเอง ครอบครวั เศรษฐกิจ สังคม) โทษทำงกฎหมำยท่ีเกิดจำก กำรครอบครอง กำรใช้และกำร จำหน่ำยสำรเสพตดิ 26 พ 5.1 ม.4-6/4 วำงแผน กำหนดแนวทำง กำรวำงแผน กำหนดแนวทำง ลดอบุ ัติเหตุ และสรำ้ งเสริม ลดอบุ ตั เิ หตุ และสร้ำงเสรมิ ควำมปลอดภัยในชมุ ชน ควำมปลอดภัยในชุมชน 27 พ 5.1 ม.4-6/5 มสี ว่ นรว่ มในกำรสรำ้ งเสรมิ กจิ กรรมกำรสรำ้ งเสริมควำมปลอดภัย ควำมปลอดภยั ในชุมชน ในชุมชน 28 พ 5.1 ม.4-6/6 ใชท้ ักษะกำรตัดสนิ ใจแกป้ ัญหำ ทักษะกำรตัดสินใจแก้ปัญหำ ในสถำนกำรณท์ ่ีเส่ียงต่อสขุ ภำพ ในสถำนกำรณท์ ี่เส่ยี งต่อสขุ ภำพ และควำมรนุ แรง 29 พ 5.1 ม.4-6/7 แสดงวธิ ีกำรช่วยฟืน้ คืนชีพ วธิ กี ำรช่วยฟ้นื คืนชพี อย่ำงถกู วิธี อย่ำงถูกวิธี รวม 29 ตัวชีว้ ดั 12 17 รวมทั้งหมด 221 ตวั ช้ีวดั 115 106 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
290 สรุปตัวชี้วัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ชนั้ ตัวช้ีวัดท้ังหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 18 10 8 ป.๒ 25 12 13 ป.๓ 29 12 17 ป.๔ 29 15 14 ป.๕ 26 13 13 ป.๖ 27 17 10 ม.๑ 27 15 12 ม.๒ 27 17 10 ม.๓ 32 19 13 ม.๔ - ๖ 39 27 12 รวม 279 157 122 ข้อมลู ณ วนั ท่ี 15 สงิ หำคม 2559 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๑ ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลางตอ้ งรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ชัน้ ที่ รหัสตวั ชี้วัด ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๑ 1 ศ ๑.๑ ป.๑/๑ อภปิ รำยเกย่ี วกบั รูปรำ่ ง ลักษณะ และขนำดของส่ิงตำ่ ง ๆ รอบตัว รูปรำ่ ง ลักษณะ และขนำดของส่งิ ตำ่ ง ๆ 2 ศ ๑.๑ ป.๑/๒ ในธรรมชำตแิ ละสิ่งทีม่ นุษย์สร้ำงขนึ้ รอบตวั ในธรรมชำตแิ ละสงิ่ ทม่ี นุษย์สรำ้ ง 3 ศ ๑.๑ ป.๑/๓ บอกควำมรสู้ กึ ที่มีต่อธรรมชำติ ขน้ึ แสดงควำมรสู้ ึกทม่ี ตี ่อธรรมชำติและ และสิ่งแวดล้อมรอบตวั ส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั 4 ศ ๑.๑ ป.๑/๔ มีทกั ษะพน้ื ฐำนในกำรใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ 5 ศ ๑.๑ ป.๑/๕ สรำ้ งงำนทัศนศิลป์ กำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เช่น ดนิ เหนยี ว 6 ศ ๑.๒ ป.๑/๑ ดนิ นำ้ มัน ดนิ สอ พู่กนั กระดำษ สีเทยี น 7 ศ 2.1 ป.1/1 สรำ้ งงำนทศั นศลิ ป์โดยกำรทดลองใชส้ ี สนี ำ้ ดินสอสี สรำ้ งงำนทศั นศิลป์ ดว้ ยเทคนิคง่ำย ๆ 8 ศ 2.1 ป.1/2 วำดภำพระบำยสีภำพธรรมชำติ กำรทดลองสดี ้วยกำรใชส้ ีนำ้ สีโปสเตอร์ 9 ศ 2.1 ป.1/3 ตำมควำมรู้สึกของตนเอง สีเทยี นและสีจำกธรรมชำติท่ีหำได้ 10 ศ 2.1 ป.1/4 ระบุงำนทัศนศลิ ปใ์ นชีวติ ประจำวนั ในทอ้ งถิ่นโดยกำรวำดภำพระบำยสี รู้วำ่ สง่ิ ต่ำง ๆ สำมำรถก่อกำเนิดเสียง ตำมควำมร้สู กึ ของตนเอง 11 ศ 2.1 ป.1/5 ที่แตกต่ำงกัน งำนทศั นศิลป์ในชวี ิตประจำวนั 12 ศ 2.2 ป.1/1 บอกลักษณะของเสยี งดงั - เบำ 13 ศ 2.2 ป.1/2 และควำมช้ำ - เรว็ ของจังหวะ กำรกำเนดิ ของเสียง ท่องบทกลอน ร้องเพลงงำ่ ย ๆ - เสยี งจำกธรรมชำติ - แหลง่ กำเนิดของเสยี ง มีส่วนร่วมในกจิ กรรมดนตรี - สีสนั ของเสียง อย่ำงสนกุ สนำน ระดบั เสียงดัง-เบำ (Dynamic) บอกควำมเกย่ี วข้องของเพลง อัตรำควำมเร็วของจงั หวะTempo ทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน กำรอำ่ นบทกลอนประกอบจังหวะ เล่ำถงึ เพลงในทอ้ งถ่นิ กำรร้องเพลงประกอบจังหวะ ระบุส่งิ ท่ชี ืน่ ชอบในดนตรที อ้ งถ่นิ กจิ กรรมดนตรี - กำรรอ้ งเพลง - กำรเคำะจงั หวะ เพลงทใี่ ช้ในชีวิตประจำวนั - เพลงเดก็ - บทเพลงประกอบกำรละเล่น - เพลงสำคัญ (เพลงชำตไิ ทย เพลงสรรเสรญิ พระบำรมี) ทีม่ ำของบทเพลงในทอ้ งถ่ิน ควำมนำ่ สนใจของบทเพลงในทอ้ งถน่ิ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
ช้นั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๒๙๒ ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 14 ศ 3.1 ป.1/1 เลียนแบบกำรเคล่ือนไหว กำรเคลอ่ื นไหวลกั ษณะต่ำง ๆ - กำรเลยี นแบบธรรมชำติ - กำรเลียนแบบคน สัตว์ สิ่งของ 15 ศ 3.1 ป.1/2 แสดงท่ำทำงงำ่ ย ๆ เพื่อสอื่ ควำมหมำย กำรใช้ภำษำทำ่ และกำรประดิษฐ์ แทนคำพูด ๑๐ ๘ ทำ่ ประกอบเพลง กำรแสดงประกอบเพลงท่ีเกยี่ วกับ ธรรมชำตสิ ัตว์ 16 ศ 3.1 ป.1/3 บอกส่ิงที่ตนเองชอบ จำกกำรดู กำรเปน็ ผูช้ มทีด่ ี หรือร่วมกำรแสดง 17 ศ 3.2 ป.1/1 ระบุและเลน่ กำรละเลน่ ของเด็กไทย กำรละเล่นของเด็กไทย - กำรเล่นของเด็กไทย 18 ศ 3.2 ป.1/2 บอกสิง่ ที่ตนเองชอบในกำรแสดง กำรแสดงนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์ รวม ๑๘ ตัวชี้วัด สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๓ ชั้น ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 1 ศ ๑.๑ ป.๒/๑ บรรยำยรปู ร่ำง รปู ทรงท่ีพบ เสน้ สี รปู ร่ำง รปู ทรงในธรรมชำติ ในธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดล้อม 2 ศ ๑.๑ ป.๒/๒ ระบุทัศนธำตุที่อยู่ในสง่ิ แวดล้อม และ และสิ่งแวดล้อม และงำนทัศนศลิ ป์ งำนทศั นศิลป์ โดยเนน้ เร่ืองเส้น สี ประเภทต่ำง ๆ เชน่ งำนวำด งำนปัน้ 3 ศ ๑.๑ ป.๒/๓ รปู รำ่ ง และรูปทรง และงำนพิมพภ์ ำพ 4 ศ ๑.๑ ป.๒/๔ สรำ้ งงำนทัศนศิลปต์ ่ำง ๆ 5 ศ ๑.๑ ป.๒/๕ โดยใช้ทศั นธำตุที่เน้นเสน้ รปู รำ่ ง กำรใช้วัสดุ อุปกรณ์ สร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ 6 ศ ๑.๑ ป.๒/๖ มที กั ษะพืน้ ฐำนในกำรใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ ๓ มติ ิ 7 ศ ๑.๑ ป.๒/๗ สรำ้ งงำนทัศนศิลป์ ๓ มติ ิ 8 ศ ๑.๑ ป.๒/๘ ภำพปะติดจำกกระดำษ 9 ศ ๑.๒ ป.๒/๑ สร้ำงภำพปะติดโดยกำรตัด 10 ศ ๑.๒ ป.๒/๒ หรือฉีกกระดำษ เนอื้ หำเร่ืองรำวในงำนทัศนศลิ ป์ วำดภำพเพื่อถำ่ ยทอดเรื่องรำวเก่ยี วกับ และกำรวำดภำพถ่ำยทอดเร่ืองรำว 11 ศ 2.1 ป.2/1 ครอบครวั ของตนเองและเพ่อื นบำ้ น 12 ศ 2.1 ป.2/2 เลือกงำนทัศนศิลป์ และบรรยำยถงึ งำนโครงสร้ำงเคลอ่ื นไหว 13 ศ 2.1 ป.2/3 ส่ิงท่ีมองเหน็ รวมถงึ เน้ือหำเรื่องรำว 14 ศ 2.1 ป.2/4 สร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์เปน็ รูปแบบ งำนทัศนศลิ ปใ์ นชวี ติ ประจำวนั 15 ศ 2.1 ป.2/5 งำนโครงสร้ำงเคลื่อนไหว และงำนทัศนศิลป์ในทอ้ งถิน่ บอกควำมสำคญั ของงำนทัศนศลิ ป์ ทีพ่ บเหน็ ในชวี ิตประจำวัน สีสนั ของเสียงเคร่ืองดนตรี อภิปรำยเกีย่ วกบั งำนทัศนศิลป์ สสี นั ของเสียงมนุษย์ ประเภทต่ำง ๆ ในท้องถิ่นโดยเน้นถึง กำรจำแนกเสยี ง สงู - ตำ่ ดงั - เบำ วิธีกำรสรำ้ งงำนและวสั ดอุ ปุ กรณ์ทีใ่ ช้ จำแนกแหลง่ กำเนิดของเสียงท่ีไดย้ ิน ยำว - สน้ั จำกกำรฟัง กำรเคล่ือนไหวประกอบเนอ้ื หำในบทเพลง จำแนกคุณสมบัตขิ องเสยี งสูง - ตำ่ กำรเล่นเคร่ืองดนตรปี ระกอบจงั หวะ ดงั - เบำ ยำว - ส้นั ของดนตรี กำรขบั ร้อง ควำมหมำยและควำมสำคัญของเพลง เคำะจังหวะหรอื เคลื่อนไหวร่ำงกำย ให้สอดคล้องกบั เนื้อหำของเพลง ที่ได้ยนิ - เพลงปลกุ ใจ ร้องเพลงงำ่ ย ๆ ท่เี หมำะสมกับวัย - เพลงสอนใจ บอกควำมหมำยและควำมสำคัญของ เพลงที่ได้ยิน สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๔ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 16 ศ 2.2 ป.2/1 บอกควำมสมั พันธ์ของเสียงร้อง บทเพลงในท้องถ่นิ - ลกั ษณะของเสยี งร้องในบทเพลง เสยี งเคร่อื งดนตรใี นเพลงทอ้ งถิ่น - ลกั ษณะของเสยี งเคร่ืองดนตรี ที่ใชใ้ นบทเพลง โดยใช้คำง่ำย ๆ กิจกรรมดนตรีในโอกำสพเิ ศษ 17 ศ 2.2 ป.2/2 แสดงและเข้ำร่วมกิจกรรมทำงดนตรี - ดนตรกี บั โอกำสสำคญั ในโรงเรยี น ในทอ้ งถิน่ - ดนตรีกับวนั สำคญั ของชำติ 18 ศ 3.1 ป.2/1 เคล่ือนไหวขณะอย่กู ับท่ีและเคลอ่ื นท่ี กำรเคลอ่ื นไหวอย่ำงมรี ปู แบบ - กำรนั่ง 19 ศ 3.1 ป.2/2 แสดงกำรเคลื่อนไหวท่สี ะท้อนอำรมณ์ - กำรยนื ของตนเองอย่ำงอิสระ - กำรเดิน 20 ศ 3.1 ป.2/3 แสดงทำ่ ทำง เพ่ือสื่อควำมหมำย เพลงทีเ่ ก่ยี วกับส่ิงแวดล้อม แทนคำพูด ๑2 ๑3 หลักและวธิ กี ำรปฏบิ ตั นิ ำฏศลิ ป์ 21 ศ 3.1 ป.2/4 แสดงท่ำทำงประกอบจังหวะ - กำรฝึกภำษำท่ำสอื่ ควำมหมำย อยำ่ งสร้ำงสรรค์ แทนอำกัปกริ ิยำ - กำรฝึกนำฏยศัพท์ในสว่ นลำตัว 22 ศ 3.1 ป.2/5 ระบุมำรยำทในกำรชมกำรแสดง กำรใชภ้ ำษำท่ำและนำฏยศัพท์ 23 ศ 3.2 ป.2/1 ระบแุ ละเล่นกำรละเลน่ พ้ืนบำ้ น ประกอบจงั หวะ 24 ศ 3.2 ป.2/2 เชื่อมโยงสิ่งท่พี บเหน็ ในกำรละเลน่ มำรยำทในกำรชมกำรแสดง กำรเข้ำชม พนื้ บำ้ นกบั ส่งิ ทพ่ี บเห็นในกำรดำรงชีวติ หรอื มีสว่ นรว่ ม ของคนไทย 25 ศ 3.2 ป.2/3 ระบุสงิ่ ท่ีชนื่ ชอบและภำคภมู ิใจ กำรละเล่นพืน้ บ้ำน ในกำรละเลน่ พืน้ บ้ำน - กำรละเล่นพื้นบำ้ น - คุณค่ำของกำรละเล่นพนื้ บำ้ น รวม ๒๕ ตวั ชวี้ ัด - ควำมภำคภมู ิใจ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378