๒๙๕ ช้ัน ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๓ 1 ศ ๑.๑ ป.๓/๑ บรรยำยรูปรำ่ ง รูปทรงในธรรมชำติ รปู ร่ำง รปู ทรงในธรรมชำติ ส่งิ แวดลอ้ ม 2 ศ ๑.๑ ป.๓/๖ สงิ่ แวดล้อม และงำนทัศนศิลป์ และกำรใช้เสน้ รูปรำ่ ง รปู ทรง สี พ้ืนผิว ในงำนทศั นศลิ ปแ์ ละวำดภำพ วำดภำพถำ่ ยทอดควำมคดิ ควำมรู้สึก ถ่ำยทอดควำมคดิ ควำมรู้สกึ จำกเหตกุ ำรณช์ ีวติ จรงิ โดยใช้เส้น รปู รำ่ ง รูปทรง สี และพื้นผวิ 3 ศ ๑.๑ ป.๓/๒ ระบุ วัสดุ อุปกรณท์ ี่ใช้สร้ำงผลงำน วัสดุ อุปกรณ์ทีใ่ ช้สร้ำงงำนทศั นศิลป์ 4 ศ ๑.๑ ป.๓/๕ เม่อื ชมงำนทศั นศิลป์ ประเภทงำนวำด งำนป้ัน งำนพิมพ์ภำพ และเทคนิควธิ ีกำรในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ มีทักษะพ้นื ฐำน ในกำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สร้ำงสรรคง์ ำนปั้น 5 ศ ๑.๑ ป.๓/๗ บรรยำยเหตุผลและวธิ ีกำร ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ โดยเนน้ ถงึ เทคนิค และวสั ดุ อุปกรณ์ 6 ศ ๑.๑ ป.๓/๓ จำแนกทัศนธำตขุ องสิ่งตำ่ ง ๆ เส้น สี รูปรำ่ ง รปู ทรง พืน้ ผวิ ในธรรมชำติ ในธรรมชำติ ส่ิงแวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ มและงำนทัศนศลิ ป์ และงำนทัศนศิลป์ โดยเน้นเร่ืองเส้น สี รูปรำ่ ง รูปทรง และพน้ื ผวิ 7 ศ ๑.๑ ป.๓/๔ วำดภำพ ระบำยสีส่งิ ของรอบตวั กำรวำดภำพระบำยสีส่ิงของรอบตัว ด้วยสีเทียน ดนิ สอสี และสีโปสเตอร์ 8 ศ ๑.๑ ป.๓/๘ ระบสุ ิง่ ที่ช่นื ชมและสิ่งที่ควรปรบั ปรงุ กำรแสดงควำมคดิ เหน็ ในงำนทัศนศลิ ป์ ในงำนทศั นศลิ ปข์ องตนเอง ของตนเอง 9 ศ ๑.๑ ป.๓/๙ ระบแุ ละจัดกลุม่ ของภำพตำมทัศนธำตุ กำรจดั กลมุ่ ของภำพตำมทัศนธำตุ ทีเ่ นน้ ในงำนทัศนศิลปน์ ัน้ ๆ 10 ศ ๑.๑ ป.๓/๑๐ บรรยำยลักษณะรปู ร่ำง รูปทรง รูปร่ำง รปู ทรง ในงำนออกแบบ ในงำนกำรออกแบบสิ่งต่ำง ๆ ทีม่ ใี นบ้ำนและโรงเรียน 11 ศ ๑.๒ ป.๓/๑ เล่ำถึงท่ีมำของงำนทัศนศิลปใ์ นทอ้ งถิ่น ที่มำของงำนทศั นศิลป์ในท้องถ่ิน 12 ศ ๑.๒ ป.๓/๒ อธิบำยเกี่ยวกับวสั ดอุ ุปกรณ์และวิธีกำร วัสดุ อุปกรณ์ และวธิ ีกำรสร้ำงงำน สรำ้ งงำนทัศนศลิ ป์ในท้องถ่ิน ทศั นศิลป์ในท้องถนิ่ 13 ศ 2.1 ป.3/1 ระบรุ ปู รำ่ งลกั ษณะของเครื่องดนตรี รปู รำ่ งลักษณะของเคร่อื งดนตรี ทเี่ ห็นและได้ยินในชวี ติ ประจำวัน เสยี งของเครื่องดนตรี 14 ศ 2.1 ป.3/2 ใช้รูปภำพหรอื สัญลกั ษณ์แทนเสียง สญั ลกั ษณ์แทนคุณสมบัติของเสยี ง และจังหวะเคำะ (สูง - ต่ำ ดงั - เบำ ยำว - สั้น) สญั ลักษณแ์ ทนรปู แบบจงั หวะ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๖ ชั้น ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 15 ศ 2.1 ป.3/3 บอกบทบำทหน้ำที่ของเพลงท่ีไดย้ นิ บทบำทหนำ้ ท่ีของบทเพลงสำคัญ 16 ศ 2.1 ป.3/4 ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรีงำ่ ย ๆ - เพลงชำติ 17 ศ 2.1 ป.3/6 - เพลงสรรเสรญิ พระบำรมี แสดงควำมคิดเหน็ เก่ียวกับเสยี งดนตรี - เพลงประจำโรงเรยี น 18 ศ 2.1 ป.3/5 เสียงขบั รอ้ งของตนเองและผอู้ ื่น 19 ศ 2.1 ป.3/7 กำรขบั ร้องเดยี่ วและหมู่ 20 ศ 2.2 ป.3/1 เคลอ่ื นไหวท่ำทำงสอดคล้องกับ อำรมณ์ของเพลงท่ฟี งั กำรบรรเลงเคร่ืองดนตรีประกอบจงั หวะ 21 ศ 2.2 ป.3/2 นำดนตรีไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันหรอื 22 ศ 3.1 ป.3/1 โอกำสต่ำง ๆ ได้อยำ่ งเหมำะสม กำรแสดงควำมคิดเหน็ เกย่ี วกับเสียงรอ้ ง และเสยี งดนตรี 23 ศ 3.1 ป.3/2 ระบุลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ - คุณภำพเสียงร้อง 24 ศ 3.1 ป.3/3 ของดนตรีในท้องถนิ่ - คุณภำพเสียงดนตรี 2๕ ศ 3.1 ป.3/4 ระบุควำมสำคัญและประโยชน์ กำรเคลือ่ นไหวตำมอำรมณข์ องบทเพลง ของดนตรีต่อกำรดำเนนิ ชีวติ ของคนในท้องถิน่ กำรใชด้ นตรใี นโอกำสพิเศษ สร้ำงสรรคก์ ำรเคลื่อนไหว - ดนตรใี นงำนรื่นเรงิ ในรูปแบบตำ่ ง ๆ ในสถำนกำรณส์ ้ัน ๆ - ดนตรใี นกำรฉลองวนั สำคัญของชำติ แสดงทำ่ ทำงประกอบเพลง เอกลักษณ์ของดนตรีในท้องถ่ิน ตำมรูปแบบนำฏศิลป์ - ลกั ษณะเสียงร้องของดนตรใี นท้องถิ่น - ภำษำและเน้ือหำในบทร้องของดนตรี เปรยี บเทยี บบทบำทหนำ้ ทข่ี องผู้แสดง ในทอ้ งถ่ิน และผชู้ ม - เครอื่ งดนตรีและวงดนตรใี นท้องถ่นิ มีสว่ นร่วมในกิจกรรมกำรแสดง ทเ่ี หมำะสมกบั วัย ดนตรกี ับกำรดำเนนิ ชีวิตในท้องถ่ิน - ดนตรีในชวี ติ ประจำวนั - ดนตรใี นวำระสำคญั กำรเคลอื่ นไหวในรูปแบบต่ำง ๆ - รำวงมำตรฐำน - สถำนกำรณ์สัน้ ๆ - สถำนกำรณ์ทกี่ ำหนดให้ หลักและวธิ ีกำรปฏิบัตินำฏศลิ ป์ - ภำษำท่ำส่ืออำรมณ์ของมนุษย์ - นำฎยศัพท์ในสว่ นขำ หลักในกำรชมกำรแสดง - ผแู้ สดง - ผ้ชู ม - กำรมสี ว่ นรว่ ม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๗ ชัน้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.3 2๖ ศ 3.1 ป.3/5 บอกประโยชนข์ องกำรแสดงนำฏศลิ ป์ กำรบรู ณำกำรนำฏศลิ ปก์ บั สำระ กำรเรียนรอู้ น่ื ๆ ในชีวติ ประจำวัน กำรแสดงนำฏศลิ ป์พื้นบำ้ นหรือท้องถน่ิ 2๗ ศ 3.2 ป.3/1 เลำ่ กำรแสดงนำฏศลิ ป์ทเ่ี คยเห็น ของตน ๑๒ ๑๗ ในท้องถน่ิ ที่มำของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ 2๘ ศ 3.2 ป.3/2 ระบุสิ่งที่เป็นลกั ษณะเด่นและ เอกลักษณ์ของกำรแสดงนำฏศิลป์ ๒๙ ศ 3.2 ป.3/3 อธิบำยควำมสำคัญของกำรแสดง นำฏศลิ ป์ รวม ๒๙ ตวั ช้ีวดั สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๘ ชัน้ ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 1 ศ ๑.๑ ป.๔/๑ เปรียบเทียบรูปลักษณะของรปู ร่ำง เสน้ สี รูปรำ่ ง รปู ทรง พืน้ ผวิ และพืน้ ทวี่ ่ำง รูปทรง ในธรรมชำติ สง่ิ แวดลอ้ ม และ ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อมและงำนทัศนศิลป์ งำนทศั นศลิ ป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๔/๓ จำแนกทัศนธำตุของสิง่ ต่ำง ๆ ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อม และงำนทัศนศลิ ป์ โดยเนน้ เรื่องเส้น อิทธิพลของสี กำรเลือกใช้สีวรรณะอุ่น สี รูปรำ่ ง รูปทรงพื้นผวิ และพ้ืนท่ีวำ่ ง และวรรณะเย็นเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์ ควำมรู้สึก ผ่ำนกำรวำดภำพถ่ำยทอด 3 ศ ๑.๑ ป.๔/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั อทิ ธิพลของ ควำมรสู้ ึกและจินตนำกำร สีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเยน็ ท่ีมีต่ออำรมณข์ องมนุษย์ กำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ในกำรวำดภำพ และกำรสร้ำงงำนพิมพ์ภำพ 4 ศ ๑.๑ ป.๔/๗ วำดภำพระบำยสี โดยใช้สีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเยน็ ถ่ำยทอดควำมร้สู ึก กำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ และจินตนำกำร ระบำยสี 5 ศ ๑.๑ ป.๔/๙ เลอื กใช้วรรณะสีเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์ กำรจัดระยะควำมลึก น้ำหนัก ควำมรูส้ กึ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ และแสงเงำในกำรวำดภำพ 6 ศ ๑.๑ ป.๔/๔ มที ักษะพ้ืนฐำนในกำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์ ควำมเหมอื นและควำมแตกตำ่ ง สร้ำงสรรคง์ ำนพมิ พภ์ ำพ ในงำนทัศนศิลป์ ควำมคิด ควำมร้สู กึ ท่ถี ่ำยทอดในงำนทัศนศิลป์ 7 ศ ๑.๑ ป.๔/๕ มที กั ษะพืน้ ฐำนในกำรใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ สรำ้ งสรรคง์ ำนวำดภำพระบำยสี งำนทศั นศลิ ป์ในวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ 8 ศ ๑.๑ ป.๔/๖ บรรยำยลกั ษณะของภำพโดยเนน้ งำนทัศนศลิ ป์จำกวฒั นธรรมต่ำง ๆ เร่อื งกำรจัดระยะ ควำมลึก น้ำหนัก และแสงเงำในภำพ โครงสรำ้ งของบทเพลง - ควำมหมำยของประโยคเพลง 9 ศ ๑.๑ ป.๔/๘ เปรยี บเทยี บควำมคิดควำมรู้สึก - กำรแบง่ ประโยคเพลง ทถี่ ำ่ ยทอดผ่ำนงำนทัศนศิลป์ ของตนเองและบุคคลอืน่ 10 ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ระบุ และอภิปรำยเกยี่ วกบั งำนทัศนศิลป์ ในเหตกุ ำรณ์ และงำนเฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรม ในทอ้ งถนิ่ 11 ศ ๑.๒ ป.๔/๒ บรรยำยเก่ยี วกบั งำนทัศนศิลป์ ที่มำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ 12 ศ 2.1 ป.4/1 บอกประโยคเพลงอย่ำงงำ่ ย สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๒๙๙ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ประเภทของเครื่องดนตรี ป.4 13 ศ 2.1 ป.4/2 จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี เสยี งของเครอื่ งดนตรีแต่ละประเภท กำรเคล่ือนท่ขี ้นึ - ลงของทำนอง ที่ใช้ในเพลงทีฟ่ งั รปู แบบจังหวะของทำนองจังหวะ รปู แบบจังหวะ 14 ศ 2.1 ป.4/3 ระบุทศิ ทำงกำรเคลอื่ นทข่ี ึ้น – ลงง่ำย ๆ ของทำนอง รูปแบบจังหวะ และ ควำมเรว็ ของจังหวะในเพลงที่ฟัง 15 ศ 2.1 ป.4/4 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล ควำมชำ้ - เรว็ ของจังหวะ เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี - กญุ แจประจำหลัก - บรรทัดห้ำเสน้ - โน้ตและเคร่อื งหมำยหยุด - เสน้ ก้นั ห้อง 16 ศ 2.1 ป.4/5 รอ้ งเพลงโดยใชช้ ว่ งเสียงท่เี หมำะสม โครงสร้ำงโน้ตเพลงไทย กบั ตนเอง - กำรแบง่ ห้อง - กำรแบ่งจงั หวะ 17 ศ 2.1 ป.4/6 ใชแ้ ละเก็บเครื่องดนตรีอยำ่ งถูกตอ้ ง และปลอดภัย กำรขับร้องเพลงในบันไดเสยี ง ทเี่ หมำะสมกบั ตนเอง 18 ศ 2.1 ป.4/7 ระบวุ ำ่ ดนตรีสำมำรถใชใ้ นกำรสอื่ เร่ืองรำว กำรใชแ้ ละกำรดแู ลรกั ษำเครื่องดนตรี ของตน 19 ศ 2.2 ป.4/1 บอกแหลง่ ทม่ี ำและควำมสัมพันธ์ ของวถิ ชี วี ติ ไทย ทสี่ ะทอ้ นในดนตรี ควำมหมำยของเน้ือหำในบทเพลง และเพลงทอ้ งถิ่น ควำมสมั พนั ธข์ องวิถีชวี ติ กบั ผลงำนดนตรี 20 ศ 2.2 ป.4/2 ระบุควำมสำคัญในกำรอนรุ ักษส์ ง่ เสรมิ วัฒนธรรมทำงดนตรี - เนือ้ หำเรอ่ื งรำวในบทเพลงกบั วถิ ชี ีวติ 21 ศ 3.1 ป.4/1 ระบทุ กั ษะพื้นฐำนทำงนำฏศลิ ป์ - โอกำสในกำรบรรเลงดนตรี และกำรละครท่ีใช้ส่ือควำมหมำยและ กำรอนุรักษ์วฒั นธรรมทำงดนตรี อำรมณ์ - ควำมสำคัญและควำมจำเปน็ 22 ศ 3.1 ป.4/2 ใช้ภำษำท่ำและนำฏยศพั ท์ หรือศพั ทท์ ำงกำรละครง่ำย ๆ ในกำรอนุรักษ์ ในกำรถำ่ ยทอดเรื่องรำว - แนวทำงในกำรอนรุ ักษ์ 23 ศ 3.1 ป.4/3 แสดงกำรเคล่ือนไหวในจังหวะตำ่ ง ๆ ตำมควำมคดิ ของตน หลกั และวธิ กี ำรปฏบิ ัตนิ ำฏศลิ ป์ - ภำษำทำ่ - นำฏยศพั ท์ กำรใช้ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ ประกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระรำชนิพนธ์ กำรใช้ศัพท์ทำงกำรละคร ในกำรถ่ำยทอดเรื่องรำว กำรประดิษฐ์ทำ่ ทำงหรอื ท่ำรำ ประกอบจังหวะพน้ื เมือง สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๐ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 24 ศ 3.1 ป.4/4 แสดงนำฏศลิ ปเ์ ป็นคูแ่ ละหมู่ กำรแสดงนำฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่ 25 ศ 3.1 ป.4/5 เล่ำสิง่ ทชี่ ื่นชอบในกำรแสดง - รำวงมำตรฐำน โดยเน้นจดุ สำคญั ของเรื่อง - ระบำ 26 ศ 3.2 ป.4/1 และลกั ษณะเดน่ ของตัวละคร 27 ศ 3.2 ป.4/4 อธิบำยประวตั ิควำมเป็นมำของ กำรเล่ำเรอ่ื ง 28 ศ 3.2 ป.4/2 นำฏศลิ ป์ หรือชุดกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - จดุ สำคญั ระบุเหตผุ ลทค่ี วรรกั ษำและสืบทอด - ลกั ษณะเด่นของตัวละคร 29 ศ 3.2 ป.4/3 กำรแสดงนำฏศลิ ป์ เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ป์ ควำมเป็นมำของนำฏศลิ ป์ กำรละเล่น กับกำรแสดงที่มำจำกวัฒนธรรมอน่ื ของหลวง และที่มำของชดุ กำรแสดง - คุณคำ่ ของนำฏศลิ ปไ์ ทย อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรแสดง ควำมเคำรพในกำรเรยี นและกำรแสดง กำรชมกำรแสดง นำฏศลิ ป์ - เปรยี บเทียบกำรนำฏศิลป์ กับกำรแสดง รวม ๒๙ ตวั ชวี้ ดั วฒั นธรรมอื่น ควำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์ - กำรทำควำมเคำรพก่อนเรยี น และก่อนแสดงนำฏศิลป์ ๑๕ ๑๔ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๑ ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ จงั หวะ ตำแหน่งของสงิ่ ต่ำง ๆ ป.๕ 1 ศ ๑.๑ ป.๕/๑ บรรยำยเกี่ยวกับจงั หวะ ตำแหน่ง ในสิ่งแวดล้อมและงำนทัศนศิลป์ ของสงิ่ ตำ่ ง ๆ ทป่ี รำกฏในสง่ิ แวดล้อม ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งงำนทัศนศลิ ป์ และงำนทัศนศิลป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๕/๒ เปรียบเทยี บควำมแตกตำ่ งระหว่ำง งำนทศั นศลิ ป์ ท่ีสร้ำงสรรค์ดว้ ยวัสดุ อุปกรณ์และวธิ ีกำรท่ีต่ำงกนั 3 ศ ๑.๑ ป.๕/๓ วำดภำพ โดยใชเ้ ทคนิคของแสงเงำ แสงเงำ นำ้ หนัก และวรรณะสี น้ำหนกั และวรรณะสี 4 ศ ๑.๑ ป.๕/๔ สร้ำงสรรคง์ ำนปน้ั จำกดนิ น้ำมัน กำรสรำ้ งงำนปนั้ เพื่อถำ่ ยทอดจนิ ตนำกำร ดว้ ยกำรใชด้ ินน้ำมนั หรอื ดนิ เหนียว หรอื ดนิ เหนียว โดยเน้นกำรถำ่ ยทอด จินตนำกำร 5 ศ ๑.๑ ป.๕/๕ สร้ำงสรรค์งำนพมิ พภ์ ำพ โดยเน้น กำรจัดภำพในงำนพิมพ์ภำพ กำรจัดวำงตำแหน่งของสิ่งตำ่ ง ๆ ในภำพ 6 ศ ๑.๑ ป.๕/๖ ระบปุ ญั หำในกำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์ กำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์และ กำรสอื่ ควำมหมำยในงำนทัศนศิลป์ และกำรสื่อควำมหมำยในงำนทศั นศิลป์ ของตนเอง และบอกวธิ กี ำรปรบั ปรงุ งำน ใหด้ ีข้นึ 7 ศ ๑.๑ ป.๕/๗ บรรยำยประโยชนแ์ ละคุณค่ำ ประโยชน์และคุณค่ำของงำนทัศนศลิ ป์ ของงำนทัศนศลิ ป์ที่มผี ลต่อชีวิต ของคนในสังคม 8 ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ระบุ และบรรยำยเกีย่ วกับ ลักษณะรปู แบบของงำนทัศนศิลป์ ลักษณะรปู แบบของงำนทศั นศิลป์ ในแหล่งเรยี นรู้หรือนิทรรศกำรศิลปะ 9 ศ ๑.๒ ป.๕/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั งำนทัศนศลิ ป์ งำนทัศนศิลป์ทส่ี ะทอ้ นวัฒนธรรม และภมู ิปญั ญำในท้องถิ่น ทีส่ ะท้อนวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญำ ในท้องถิ่น 10 ศ 2.1 ป.5/1 ระบุองค์ประกอบดนตรใี นเพลง กำรสื่ออำรมณ์ของบทเพลง ทีใ่ ช้ในกำรสอ่ื อำรมณ์ ด้วยองคป์ ระกอบดนตรี - จงั หวะกับอำรมณ์ของบทเพลง - ทำนองกบั อำรมณ์ของบทเพลง 11 ศ 2.1 ป.5/2 จำแนกลกั ษณะของเสยี งขับร้องและ ลกั ษณะของเสียงนักร้องกลุ่มต่ำง ๆ เครือ่ งดนตรีทอี่ ยู่ในวงดนตรีประเภท ตำ่ ง ๆ ลกั ษณะเสยี งของวงดนตรีประเภทต่ำง ๆ 12 ศ 2.1 ป.5/3 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี ๕ ระดับเสียง บนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale โนต้ เพลงในบนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๒ ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 13 ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ ครือ่ งดนตรบี รรเลงจังหวะ กำรบรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ และทำนอง กำรบรรเลงเครื่องดำเนนิ ทำนอง 14 ศ 2.1 ป.5/5 ร้องเพลงไทยหรือเพลงสำกล กำรรอ้ งเพลงไทยในอัตรำจังหวะสองชัน้ หรอื เพลงไทยสำกลท่เี หมำะสมกบั วยั กำรร้องเพลงสำกล หรือไทยสำกล กำรรอ้ งเพลงประสำนเสียงแบบ Canon Round 15 ศ 2.1 ป.5/6 ด้นสดงำ่ ย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบ กำรสร้ำงสรรคป์ ระโยคเพลงถำม - ตอบ ถำม - ตอบ 16 ศ 2.1 ป.5/7 ใชด้ นตรรี ่วมกับกจิ กรรม กำรบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรม ในกำรแสดงออกตำมจินตนำกำร นำฏศลิ ป์ กำรสรำ้ งสรรคเ์ สียงประกอบกำรเลำ่ เรอ่ื ง 17 ศ 2.2 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงดนตรี ดนตรกี ับงำนประเพณี กับประเพณใี นวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ - บทเพลงในงำนประเพณใี นท้องถน่ิ - บทบำทของดนตรใี นแตล่ ะประเพณี 18 ศ 2.2 ป.5/2 อธิบำยคณุ ค่ำของดนตรีทีม่ ำจำก คุณค่ำของดนตรจี ำกแหลง่ วัฒนธรรม วัฒนธรรมทีต่ ่ำงกนั - คุณคำ่ ทำงสงั คม - คุณคำ่ ทำงประวัติศำสตร์ 19 ศ 3.1 ป.5/1 บรรยำยองคป์ ระกอบนำฏศิลป์ องคป์ ระกอบของนำฏศลิ ป์ - จังหวะ - ทำนอง - คำร้อง - ภำษำทำ่ - นำฏยศพั ท์ - อปุ กรณ์ 20 ศ 3.1 ป.5/2 แสดงท่ำทำงประกอบเพลง กำรประดิษฐ์ท่ำทำงประกอบเพลง หรอื เร่อื งรำวตำมควำมคิดของตน หรือท่ำทำงประกอบเรื่องรำว 21 ศ 3.1 ป.5/3 แสดงนำฏศิลป์ โดยเนน้ กำรใช้ กำรแสดงนำฏศิลป์ ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ในกำรสือ่ - ระบำ ควำมหมำยและกำรแสดงออก - ฟ้อน - รำวงมำตรฐำน 22 ศ 3.1 ป.5/4 มสี ว่ นรว่ มในกลมุ่ กบั กำรเขียน องค์ประกอบของละคร เคำ้ โครงเรือ่ งหรอื บทละครสนั้ ๆ - กำรเลือกและเขียนเค้ำโครงเรือ่ ง - บทละครสนั้ ๆ 23 ศ 3.1 ป.5/5 เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ ท่ีมำของกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ นำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พ้ืนเมือง กำรละเล่น ของหลวง กำรแสดงโขน และละคร สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๓๐๓ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 24 ศ 3.1 ป.5/6 บอกประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จำก หลกั กำรชมกำรแสดง กำรถำ่ ยทอดควำมรู้สึกและคุณคำ่ กำรชมกำรแสดง ของกำรแสดงนำฏศิลป์ โขน ละคร 25 ศ 3.2 ป.5/1 เปรียบเทียบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ ของไทยในแตล่ ะท้องถน่ิ กำรแสดงนำฏศิลปป์ ระเภทต่ำง ๆ ๑3 ๑3 26 ศ 3.2 ป.5/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์ พื้นบำ้ นทส่ี ะท้อนถึงวัฒนธรรม และประเพณี รวม ๒๖ ตวั ชวี้ ดั สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๔ ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๖ 1 ศ ๑.๑ ป.๖/๑ ระบสุ ีค่ตู รงข้ำม และอภิปรำยเก่ยี วกับ กำรใช้สคี ู่ตรงข้ำมในกำรถ่ำยทอด กำรสร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ 2 ศ ๑.๑ ป.๖/๒ ควำมคิดและอำรมณ์ 3 ศ ๑.๑ ป.๖/๖ อธบิ ำยหลักกำรจัดขนำดสัดส่วน วงสธี รรมชำติ สีคู่ตรงข้ำม หลกั กำรจัดขนำด ควำมสมดลุ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ สัดสว่ น และควำมสมดุล 4 ศ ๑.๑ ป.๖/๓ สรำ้ งสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ สคี ู่ตรงข้ำมหลักกำรจดั ขนำดสดั ส่วน 5 ศ ๑.๑ ป.๖/๔ และควำมสมดลุ 6 ศ ๑.๑ ป.๖/๕ สร้ำงงำนทศั นศลิ ป์จำกรปู แบบ ๒ มติ ิ 7 ศ ๑.๑ ป.๖/๗ เป็น๓ มิติ โดยใช้หลกั กำรของแสงเงำ งำนทศั นศลิ ป์รูปแบบ ๒ มิติ และ ๓ มติ ิ และน้ำหนัก 8 ศ ๑.๒ ป.๖/๑ สร้ำงสรรคง์ ำนป้ันโดยใชห้ ลกั กำรเพิ่ม กำรใชห้ ลกั กำรเพิม่ และลดในกำร 9 ศ ๑.๒ ป.๖/๒ และลด สร้ำงสรรค์งำนป้ัน สร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์โดยใช้ 10 ศ ๑.๒ ป.๖/๓ หลกั กำรของรูปและพน้ื ที่วำ่ ง รปู และพน้ื ทวี่ ่ำงในงำนทัศนศิลป์ สรำ้ งงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ 11 ศ 2.1 ป.6/1 แผนผัง และภำพประกอบ กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ 12 ศ 2.1 ป.6/2 เพ่อื ถ่ำยทอดควำมคิดหรือเร่ืองรำว แผนผัง และภำพประกอบ เกี่ยวกบั เหตุกำรณต์ ่ำง ๆ 13 ศ 2.1 ป.6/3 บรรยำยบทบำทของงำนทศั นศิลป์ บทบำทของงำนทศั นศิลปใ์ นชีวติ และ ทสี่ ะท้อนชีวติ และสังคม สังคม 14 ศ 2.1 ป.6/4 อภิปรำยเกยี่ วกบั อทิ ธพิ ลของควำมเชื่อ ควำมศรัทธำในศำสนำท่มี ผี ลตอ่ งำน อทิ ธพิ ลของศำสนำและวฒั นธรรม ทัศนศลิ ป์ในท้องถนิ่ ทีม่ ีตอ่ กำรสร้ำงงำนทศั นศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน ระบุและบรรยำยอิทธิพลทำงวัฒนธรรม ในท้องถ่ินที่มผี ลต่อกำรสร้ำงงำน ทัศนศลิ ป์ของบุคคล บรรยำยเพลงที่ฟัง โดยอำศัย องค์ประกอบดนตรแี ละศัพท์สังคีต องคป์ ระกอบดนตรี และศัพท์สงั คีต จำแนกประเภท และบทบำทหนำ้ ที่ เครอ่ื งดนตรีไทยแตล่ ะภำค เครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรี ท่มี ำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ บทบำทและหน้ำท่ขี องเครือ่ งดนตรี อ่ำน เขียนโน้ตไทย และโนต้ สำกล ประเภทของเครื่องดนตรสี ำกล ทำนองง่ำย ๆ เครอ่ื งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี ใช้เคร่อื งดนตรีบรรเลงประกอบ กำร โน้ตบทเพลงไทย อตั รำจงั หวะสองชัน้ ร้องเพลง ดน้ สด ท่ีมีจังหวะ โน้ตบทเพลงสำกลในบันไดเสียง C Major และทำนองง่ำย ๆ กำรร้องเพลงประกอบดนตรี กำรสรำ้ งสรรค์รูปแบบจังหวะและทำนอง ด้วยเครอ่ื งดนตรี สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๕ ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.6 15 ศ 2.1 ป.6/5 บรรยำยควำมรสู้ ึกที่มตี ่อดนตรี กำรบรรยำยควำมรู้สกึ และแสดง 16 ศ 2.1 ป.6/6 แสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกับทำนอง ควำมคิดเห็นท่ีมีต่อบทเพลง - เนื้อหำในบทเพลง จงั หวะ กำรประสำนเสยี ง และ - องค์ประกอบในบทเพลง คุณภำพเสยี งของเพลงที่ฟงั - คณุ ภำพเสยี งในบทเพลง 17 ศ 2.2 ป.6/1 อธบิ ำยเรอ่ื งรำวของดนตรไี ทย ดนตรีไทยในประวัติศำสตร์ - ดนตรีในเหตุกำรณส์ ำคัญ ในประวตั ศิ ำสตร์ 18 ศ 2.2 ป.6/2 จำแนกดนตรที ี่มำจำกยุคสมยั ท่ีต่ำงกนั ทำงประวัติศำสตร์ - ดนตรใี นยุคสมัยตำ่ ง ๆ 19 ศ 2.2 ป.6/3 อภิปรำยอทิ ธิพลของวฒั นธรรม ต่อดนตรใี นทอ้ งถน่ิ 20 ศ 3.1 ป.6/1 สร้ำงสรรคก์ ำรเคล่ือนไหวและกำรแสดง กำรประดิษฐท์ ำ่ ทำงประกอบเพลงปลกุ ใจ โดยเนน้ กำรถำ่ ยทอดลีลำ หรอื อำรมณ์ หรอื เพลงพนื้ เมืองหรือท้องถิ่น เน้นลลี ำ หรืออำรมณ์ 21 ศ 3.1 ป.6/2 ออกแบบเคร่อื งแต่งกำย หรืออปุ กรณ์ กำรออกแบบสร้ำงสรรค์ - เครือ่ งแต่งกำย ประกอบกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - อปุ กรณ์ ฉำกประกอบกำรแสดง 22 ศ 3.1 ป.6/3 แสดงนำฏศิลปแ์ ละละครง่ำย ๆ กำรแสดงนำฏศิลป์และกำรแสดงละคร - รำวงมำตรฐำน - ระบำ - ฟอ้ น - ละครสร้ำงสรรค์ 23 ศ 3.1 ป.6/4 บรรยำยควำมรู้สึกของตนเอง บทบำทและหน้ำที่ในงำนนำฏศิลป์ ทม่ี ตี อ่ งำนนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร และกำรละคร อย่ำงสรำ้ งสรรค์ หลกั กำรชมกำรแสดง 24 ศ 3.1 ป.6/5 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรชมกำรแสดง - กำรวเิ ครำะห์ - ควำมรู้สกึ ชืน่ ชม 25 ศ 3.1 ป.6/6 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงนำฏศิลป์ องคป์ ระกอบทำงนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร และกำรละครกับส่ิงทป่ี ระสบ ในชวี ิตประจำวัน 26 ศ 3.2 ป.6/1 อธิบำยสิ่งท่ีมีควำมสำคัญต่อกำรแสดง ควำมหมำย ควำมเป็นมำ ควำมสำคญั นำฏศิลป์และละคร ของนำฏศิลป์ โขน ละคร และบุคคลสำคัญ ทำงนำฏศิลป์และกำรละคร 27 ศ 3.2 ป.6/2 ระบปุ ระโยชน์ท่ไี ดร้ ับจำกกำรแสดง กำรแสดงนำฏศิลปแ์ ละละคร ในวันสำคัญ หรือกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์ ของโรงเรยี น และละคร รวม ๒๗ ตวั ช้วี ัด ๑7 ๑0 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๖ ชนั้ ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๑ 1 ศ ๑.๑ ม.๑/๑ บรรยำยควำมแตกตำ่ งและ ควำมคล้ำยคลงึ กันของงำนทัศนศิลป์ เอกภำพ ควำมกลมกลนื ควำมสมดลุ 2 ศ ๑.๑ ม.๑/๒ และส่ิงแวดล้อมโดยใชค้ วำมรู้ ควำมแตกตำ่ งและควำมคลำ้ ยคลึงกัน 3 ศ ๑.๑ ม.๑/๔ เร่ืองทัศนธำตุ ของทัศนธำตุในงำนทัศนศลิ ป์ ระบุ และบรรยำยหลักกำรออกแบบ หลักกำรออกแบบและสิง่ แวดล้อม 4 ศ ๑.๑ ม.๑/๓ งำนทศั นศลิ ป์ โดยเน้นควำมเป็นเอกภำพ โดยสำมำรถสร้ำงงำนโดยสอื่ ถึงเรอ่ื งรำว 5 ศ ๑.๑ ม.๑/๕ ควำมกลมกลนื และควำมสมดลุ 6 ศ ๑.๑ ม.๑/๖ รวบรวมงำนปั้นหรือสอื่ ผสมมำสรำ้ ง 7 ศ ๑.๒ ม.๑/๑ เปน็ เรื่องรำว ๓ มิติ โดยเนน้ ควำมเปน็ เอกภำพ ควำมกลมกลืน หลกั กำรวำดภำพแสดงทัศนียภำพ 8 ศ ๑.๒ ม.๑/๒ และกำรส่ือถึงเรื่องรำวของงำน 9 ศ ๑.๒ ม.๑/๓ วำดภำพทัศนียภำพแสดงใหเ้ ห็น กำรออกแบบรูปภำพ สญั ลกั ษณ์ 10 ศ 2.1 ม.1/1 ระยะไกลใกล้ เปน็ ๓ มิติ หรอื งำนกรำฟกิ ออกแบบรูปภำพ สัญลักษณ์ 11 ศ 2.1 ม.1/2 หรอื กรำฟกิ อ่นื ๆ ในกำรนำเสนอ กำรประเมนิ งำนทัศนศิลป์ ควำมคิดและข้อมลู ประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ และบรรยำยถึง ลักษณะ รปู แบบงำนทศั นศิลป์ของท้องถ่ิน วธิ ีกำรปรบั ปรงุ งำนของตนเองและ และของชำติตำมวฒั นธรรมไทยและสำกล ผ้อู น่ื โดยใช้เกณฑท์ ีก่ ำหนดให้ ระบแุ ละบรรยำยเก่ยี วกับลักษณะ รปู แบบงำนทัศนศิลป์ของชำติ และของท้องถ่นิ ตนเองจำกอดีตจนถงึ ปจั จุบนั เครอื่ งหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี ระบุและเปรียบเทียบงำนทศั นศิลป์ - โนต้ บทเพลงไทย อตั รำจังหวะสองช้ัน ของภำคตำ่ ง ๆ ในประเทศไทย - โน้ตสำกล ในกุญแจซอลและฟำ เปรยี บเทยี บควำมแตกตำ่ ง ในบนั ไดเสียง C Major ของจดุ ประสงค์ในกำรสร้ำงสรรค์งำน ทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสำกล เสยี งร้องและเสยี งของเครื่องดนตรี อำ่ น เขียน ร้องโน้ตไทยและโน้ตสำกล ในบทเพลงจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - วธิ กี ำรขบั รอ้ ง เปรียบเทยี บเสยี งรอ้ งและเสยี งของ - เครือ่ งดนตรีทีใ่ ช้ เครอื่ งดนตรีทมี่ ำจำกวฒั นธรรม ทต่ี ำ่ งกนั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๗ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๑ 12 ศ 2.1 ม.1/3 รอ้ งเพลงและใชเ้ ครื่องดนตรบี รรเลง ประกอบกำรร้องเพลง กำรร้องและกำรบรรเลงเครื่องดนตรี 13 ศ 2.1 ม.1/4 ดว้ ยบทเพลงทห่ี ลำกหลำยรูปแบบ 14 ศ 2.1 ม.1/5 ประกอบกำรร้อง 15 ศ 2.1 ม.1/6 จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและ 16 ศ 2.1 ม.1/7 วงดนตรีท่ีมำจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - บทเพลงไทยแบบแผนอัตรำจังหวะ ๒ ช้ัน 17 ศ 2.1 ม.1/8 18 ศ 2.1 ม.1/9 แสดงควำมคิดเห็นทม่ี ีต่ออำรมณ์ - บทเพลงประสำนเสียง ๒ แนว 19 ศ 2.2 ม.1/1 ของบทเพลงที่มีควำมเรว็ ของจงั หวะ 20 ศ 2.2 ม.1/2 และควำมดัง - เบำแตกตำ่ งกัน - บทเพลงประกอบกำรแสดง 21 ศ 3.1 ม.1/1 เปรียบเทียบอำรมณ์ ควำมรูส้ ึก ในกำรฟังดนตรีแต่ละประเภท วงดนตรีพน้ื เมือง 22 ศ 3.1 ม.1/2 นำเสนอตัวอยำ่ งเพลงที่ตนเองชื่นชอบ และอภิปรำยลกั ษณะเดน่ ท่ที ำใหง้ ำนนน้ั วงดนตรไี ทย นำ่ ชน่ื ชม ใชเ้ กณฑ์สำหรบั ประเมนิ คณุ ภำพ วงดนตรีสำกล งำนดนตรหี รอื เพลงท่ีฟงั ใช้และบำรงุ รักษำเครื่องดนตรี กำรถ่ำยทอดอำรมณข์ องบทเพลง อย่ำงระมดั ระวังและรบั ผิดชอบ อธิบำยบทบำทควำมสัมพนั ธแ์ ละ - จงั หวะกับอำรมณ์เพลง อิทธิพลของดนตรีที่มตี ่อสังคมไทย - ควำมดงั - เบำกับอำรมณ์เพลง ระบุควำมหลำกหลำย ขององค์ประกอบดนตรี - ควำมแตกตำ่ งของอำรมณเ์ พลง ในวฒั นธรรมต่ำงกัน อธิบำยอิทธิพลของนักแสดงช่อื ดัง กำรนำเสนอบทเพลงทต่ี นสนใจ ที่มีผลตอ่ กำรโน้มน้ำวอำรมณ์ หรือควำมคิดของผูช้ ม กำรประเมนิ คุณภำพของบทเพลง ใช้นำฏยศัพท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร - คณุ ภำพด้ำนเนื้อหำ ในกำรแสดง - คณุ ภำพด้ำนเสยี ง - คุณภำพดำ้ นองคป์ ระกอบดนตรี กำรใช้และบำรุงรักษำเคร่ืองดนตรีของตน บทบำทและอิทธพิ ลของดนตรี - บทบำทดนตรีในสังคม - อิทธิพลของดนตรใี นสังคม องคป์ ระกอบของดนตรี ในแต่ละวฒั นธรรม กำรปฏิบตั ขิ องผแู้ สดงและผู้ชม ประวตั นิ ักแสดงทีช่ ่นื ชอบ กำรพฒั นำรปู แบบของกำรแสดง อทิ ธิพลของนักแสดงที่มีผลตอ่ พฤติกรรม ของผชู้ ม นำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร ในกำรแสดง ภำษำท่ำ และกำรตบี ท ท่ำทำงเคลอื่ นไหวทแ่ี สดงส่ือทำงอำรมณ์ ระบำเบ็ดเตลด็ รำวงมำตรฐำน สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๘ ช้นั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.1 23 ศ 3.1 ม.1/3 แสดงนำฏศลิ ป์และละคร รปู แบบกำรแสดงนำฏศิลป์ ในรูปแบบงำ่ ย ๆ 24 ศ 3.1 ม.1/4 - นำฏศลิ ป์ โขน ละคร ใชท้ ักษะกำรทำงำนเปน็ กลุ่ม - นำฏศลิ ป์พนื้ บ้ำน 25 ศ 3.1 ม.1/5 ในกระบวนกำรผลิตกำรแสดง - นำฏศลิ ปน์ ำนำชำติ บทบำทและหนำ้ ท่ขี องฝำ่ ยตำ่ ง ๆ 26 ศ 3.2 ม.1/1 ใช้เกณฑ์งำ่ ย ๆ ทกี่ ำหนดให้ ในกำรจัดกำรแสดง 27 ศ 3.2 ม.1/2 ในกำรพิจำรณำคุณภำพกำรแสดงทชี่ ม กำรสรำ้ งสรรค์กิจกรรมกำรแสดงที่สนใจ โดยเน้นเร่ืองกำรใชเ้ สียง กำรแสดงทำ่ โดยแบ่งฝำ่ ยและหน้ำที่ใหช้ ดั เจน 15 12 และกำรเคลื่อนไหว หลักในกำรชมกำรแสดง ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง ของนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พนื้ บำ้ น ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อกำรเปล่ียนแปลง ละครไทย และละครพนื้ บ้ำน ของนำฏศิลป์ นำฏศิลป์พ้นื บ้ำน บรรยำยประเภทของละครไทย ละครไทย และละครพืน้ บ้ำน ในแต่ละยคุ สมัย ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมัย รวม ๒๗ ตัวชวี้ ดั สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๐๙ ชัน้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๒ 1 ศ ๑.๑ ม.๒/๑ อภปิ รำยเก่ียวกับทศั นธำตุในด้ำนรปู แบบ และแนวคดิ ของงำนทัศนศิลป์ทีเ่ ลอื กมำ รูปแบบของทัศนธำตุและแนวคิด 2 ศ ๑.๑ ม.๒/๒ ในงำนทศั นศิลป์ บรรยำยเกีย่ วกับควำมเหมอื นและ 3 ศ ๑.๑ ม.๒/๓ ควำมแตกต่ำงของรปู แบบกำรใช้วสั ดุ ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง 4 ศ ๑.๑ ม.๒/๔ อุปกรณ์ในงำนทัศนศลิ ป์ของศิลปิน ของรูปแบบกำรใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ 5 ศ 1.1 ม.2/5 ในงำนทศั นศิลป์ของศลิ ปิน 6 ศ ๑.๑ ม.๒/๖ วำดภำพด้วยเทคนคิ ที่หลำกหลำย 7 ศ ๑.๑ ม.๒/๗ ในกำรสื่อควำมหมำยและเร่ืองรำวต่ำง ๆ เทคนคิ ในกำรวำดภำพส่ือควำมหมำย สรำ้ งเกณฑ์ในกำรประเมนิ และวจิ ำรณ์ 8 ศ ๑.๒ ม.๒/๑ งำนทัศนศลิ ป์ กำรพัฒนำผลงำนทัศนศิลปแ์ ละ นำผลกำรวิจำรณ์ไปปรับปรงุ แก้ไขและ กำรประเมนิ และวิจำรณ์งำนทัศนศลิ ป์ 9 ศ ๑.๒ ม.๒/๒ พัฒนำงำน วำดภำพแสดงบคุ ลิกลกั ษณะ - กำรจดั ทำแฟ้มสะสมงำนทัศนศิลป์ 10 ศ ๑.๒ ม.๒/๓ ของตวั ละคร กำรวำดภำพถำ่ ยทอดบคุ ลกิ ลักษณะ 11 ศ 2.1 ม.2/1 บรรยำยวิธกี ำรใชง้ ำนทัศนศลิ ป์ ของตัวละคร 12 ศ 2.1 ม.2/2 ในกำรโฆษณำเพ่ือโน้มนำ้ วใจ และนำเสนอตัวอย่ำงประกอบ งำนทศั นศลิ ป์ในกำรโฆษณำ 13 ศ 2.1 ม.2/3 ระบุและบรรยำยเกี่ยวกับวัฒนธรรม ตำ่ ง ๆ ที่สะท้อนถึงงำนทัศนศิลป์ ทัศนศิลปแ์ ละงำนออกแบบในวฒั นธรรมไทย ในปัจจุบนั และสำกลในงำนทศั นศลิ ป์ในแต่ละยคุ สมัย บรรยำยถงึ กำรเปล่ียนแปลงของงำน ทัศนศิลปข์ องไทยในแต่ละยุคสมัย โดยเน้นถงึ แนวคิดและเน้ือหำของงำน เปรยี บเทียบแนวคดิ ในกำรออกแบบ งำนทศั นศิลป์ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมไทย และสำกล องคป์ ระกอบของดนตรจี ำกแหล่ง เปรียบเทียบกำรใช้องค์ประกอบดนตรี วัฒนธรรมตำ่ ง ๆ ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมตำ่ งกนั เครอ่ื งหมำยและสัญลักษณท์ ำงดนตรี อำ่ น เขียนร้องโนต้ ไทยและโน้ตสำกล - โน้ตจำกเพลงไทยอัตรำจงั หวะสองชน้ั ท่มี เี ครื่องหมำยแปลงเสยี ง - โน้ตสำกล (เครอ่ื งหมำยแปลงเสยี ง) ระบุปัจจยั สำคัญท่ีมีอิทธพิ ล ปัจจัยในกำรสรำ้ งสรรค์บทเพลง ต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี - จินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลง - กำรถ่ำยทอดเรื่องรำวควำมคิด ในบทเพลง สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๐ ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 14 ศ 2.1 ม.2/4 รอ้ งเพลง และเลน่ ดนตรเี ดย่ี วและรวมวง เทคนคิ กำรรอ้ งและบรรเลงดนตรี 15 ศ 2.1 ม.2/5 บรรยำยอำรมณข์ องเพลง - กำรรอ้ งและบรรเลงเด่ียว 16 ศ 2.1 ม.2/6 และควำมรสู้ ึกที่มีต่อบทเพลงทฟี่ ัง - กำรรอ้ งและบรรเลงเปน็ วง ประเมินพฒั นำกำรทักษะทำงดนตรี 17 ศ 2.1 ม.2/7 ของตนเองหลงั จำกกำรฝึกปฏิบัติ กำรบรรยำยอำรมณแ์ ละควำมรู้สกึ 18 ศ 2.2 ม.2/1 ในบทเพลง 19 ศ 2.2 ม.2/2 ระบงุ ำนอำชีพต่ำง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ดนตรแี ละบทบำทของดนตรี กำรประเมินควำมสำมำรถทำงดนตรี 20 ศ 3.1 ม.2/1 ในธุรกจิ บนั เทงิ - ควำมถูกต้องในกำรบรรเลง บรรยำยบทบำท และอิทธพิ ลของดนตรี - ควำมแมน่ ยำในกำรอ่ำนเครื่องหมำย 21 ศ 3.1 ม.2/2 ในวฒั นธรรมของประเทศต่ำง ๆ และสัญลักษณ์ 22 ศ 3.1 ม.2/3 บรรยำยอิทธิพลของวัฒนธรรม - กำรควบคมุ คุณภำพเสียงในกำรรอ้ ง 23 ศ 3.1 ม.2/4 และเหตกุ ำรณ์ในประวัตศิ ำสตร์ และบรรเลง ท่ีมตี อ่ รูปแบบของดนตรี ในประเทศไทย อำชีพทำงด้ำนดนตรี อธิบำยกำรบรู ณำกำรศิลปะแขนงอ่ืน ๆ บทบำทของดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ กบั กำรแสดง ดนตรีในวฒั นธรรมตำ่ งประเทศ สรำ้ งสรรค์กำรแสดงโดยใช้ องคป์ ระกอบนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร - บทบำทของดนตรีในวฒั นธรรมต่ำง ๆ วเิ ครำะห์กำรแสดงของตนเอง - อทิ ธพิ ลของดนตรีในวัฒนธรรมต่ำง ๆ และผ้อู ืน่ โดยใช้นำฏยศพั ท์ หรอื ศพั ท์ทำงกำรละครทเี่ หมำะสม เหตุกำรณป์ ระวัตศิ ำสตรก์ ับกำรเปล่ยี นแปลง เสนอขอ้ คดิ เหน็ ในกำรปรบั ปรุง กำรแสดง ทำงดนตรีในประเทศไทย - กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำรเมือง กบั งำนดนตรี - กำรเปลี่ยนแปลงทำงเทคโนโลยี กับงำนดนตรี ศิลปะแขนงอน่ื ๆ กับกำรแสดง - แสง สี เสยี ง - ฉำก - เครือ่ งแตง่ กำย - อุปกรณ์ หลักและวิธกี ำรสร้ำงสรรค์กำรแสดง โดยใช้องค์ประกอบนำฏศลิ ป์ และกำรละคร หลักและวธิ ีกำรวิเครำะห์กำรแสดง วธิ กี ำรวิเครำะห์ วจิ ำรณ์กำรแสดง นำฏศิลป์ โขน และกำรละคร สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๑ ช้ัน ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.2 24 ศ 3.1 ม.2/5 เชื่อมโยงกำรเรียนรู้ระหว่ำงนำฏศิลป์ ควำมสัมพนั ธ์ของนำฏศลิ ปห์ รือกำรละคร และกำรละครกับสำระกำรเรียนรู้อนื่ ๆ กับสำระกำรเรียนรูอ้ น่ื ๆ 25 ศ 3.2 ม.2/1 เปรียบเทยี บลักษณะเฉพำะ นำฏศิลปพ์ ้นื เมือง ของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ - ควำมหมำย จำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - ทมี่ ำ - วัฒนธรรม - ลกั ษณะเฉพำะ 26 ศ 3.2 ม.2/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์ รูปแบบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ นำฏศิลปพ์ ื้นบำ้ น ละครไทย ละครพน้ื บ้ำน หรอื มหรสพอ่ืน - นำฏศลิ ป์ ทเ่ี คยนยิ มกันในอดตี - นำฏศลิ ป์พื้นเมอื ง 27 ศ 3.2 ม.2/3 อธบิ ำยอิทธิพลของวฒั นธรรม ทม่ี ีผลต่อเน้ือหำของละคร - ละครไทย รวม ๒๗ ตัวชว้ี ัด - ละครพ้ืนบำ้ น กำรละครสมยั ตำ่ ง ๆ ๑๗ ๑๐ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๒ ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๓ 1 ศ ๑.๑ ม.๓/๑ บรรยำยส่ิงแวดลอ้ มและงำนทศั นศลิ ป์ วิธกี ำรใชท้ ัศนธำตุ หลกั กำรออกแบบ ท่ีเลอื กมำ โดยใชค้ วำมรู้เร่ืองทัศนธำตุ ในสง่ิ แวดลอ้ มและงำนทัศนศิลป์ และหลักกำรออกแบบ 2 ศ ๑.๑ ม.๓/๓ วิเครำะหแ์ ละบรรยำยวิธกี ำรใช้ ทศั นธำตุ และหลกั กำรออกแบบ ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลป์ของตนเอง ให้มคี ุณภำพ 3 ศ ๑.๑ ม.๓/๗ สร้ำงสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ ส่ือควำมหมำยเป็นเร่ืองรำว โดยประยุกตใ์ ชท้ ัศนธำตุ และหลกั กำรออกแบบ 4 ศ ๑.๑ ม.๓/๒ ระบุและบรรยำยเทคนิค วิธกี ำร เทคนิค วิธกี ำรของศลิ ปินในกำรสรำ้ งงำน ของศิลปินในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์ 5 ศ ๑.๑ ม.๓/๔ มที ักษะในกำรสร้ำงงำนทศั นศิลป์ ทกั ษะกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ อย่ำงน้อย ๓ ประเภท 6 ศ ๑.๑ ม.๓/๕ มีทักษะในกำรผสมผสำนวัสดตุ ่ำง ๆ กำรใชห้ ลกั กำรออกแบบในกำรสรำ้ งงำน สอ่ื ผสม ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ หลักกำรออกแบบ 7 ศ ๑.๑ ม.๓/๖ สร้ำงงำนทศั นศิลป์ ทงั้ ๒ มิติ กำรสร้ำงงำนทัศนศิลปแ์ บบ ๒ มติ ิ และ ๓ มติ ิ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์ และ ๓ มิติ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์ และจินตนำกำร และจนิ ตนำกำร 8 ศ ๑.๑ ม.๓/๘ วิเครำะหแ์ ละอภิปรำยรปู แบบ เนอื้ หำ กำรวิเครำะหร์ ปู แบบ เน้อื หำ และคณุ คำ่ และคณุ ค่ำในงำนทศั นศลิ ป์ของตนเอง ในงำนทัศนศลิ ป์ และผอู้ ื่น หรือของศิลปนิ 9 ศ ๑.๑ ม.๓/๙ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ กำรใชเ้ ทคนิค วิธกี ำรท่ีหลำกหลำย เพอื่ บรรยำยเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ สรำ้ งงำนทศั นศลิ ปเ์ พ่ือสื่อควำมหมำย โดยใช้เทคนิคท่ีหลำกหลำย 10 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๐ ระบุอำชีพท่เี กยี่ วข้องกบั กำรประกอบอำชพี ทำงทัศนศิลป์ งำนทัศนศิลป์และทักษะทจ่ี ำเปน็ ในกำรประกอบอำชีพนน้ั ๆ 11 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๑ เลอื กงำนทศั นศิลป์โดยใช้เกณฑ์ กำรจดั นทิ รรศกำร ทกี่ ำหนดข้ึนอย่ำงเหมำะสม และนำไปจัดนิทรรศกำร สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๓ ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 12 ศ ๑.๒ ม.๓/๑ ศึกษำและอภิปรำยเกี่ยวกบั งำนทศั นศลิ ป์ ทีส่ ะท้อนคุณค่ำ งำนทัศนศลิ ปต์ ำมวฒั นธรรมในแตล่ ะยุคสมัย 13 ศ ๑.๒ ม.๓/๒ ของวฒั นธรรม 14 ศ 2.1 ม.3/1 เปรียบเทยี บควำมแตกต่ำง ของไทยและสำกล ของงำนทศั นศิลป์ในแต่ละยุคสมัยของ 15 ศ 2.1 ม.3/2 วฒั นธรรมไทยและสำกล 16 ศ 2.1 ม.3/3 เปรียบเทยี บองคป์ ระกอบทใ่ี ช้ 17 ศ 2.1 ม.3/4 ในงำนดนตรีและงำนศิลปะอ่ืน กำรเปรียบเทียบองค์ประกอบในงำนศิลปะ 18 ศ 2.1 ม.3/5 รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรีเดีย่ วและรวมวง - กำรใชอ้ งคป์ ระกอบในกำรสร้ำงสรรค์ โดยเนน้ เทคนคิ กำรรอ้ ง กำรเล่น 19 ศ 2.1 ม.3/6 กำรแสดงออก และคุณภำพเสียง งำนดนตรแี ละศิลปะแขนงอื่น แตง่ เพลงสน้ั ๆ จังหวะง่ำย ๆ - เทคนิคทีใ่ ชใ้ นกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี อธิบำยเหตุผลในกำรเลือกใช้ องค์ประกอบดนตรใี นกำรสร้ำงสรรค์ และศลิ ปะแขนงอนื่ งำนดนตรขี องตนเอง เทคนคิ และกำรแสดงออกในกำรขบั ร้อง เปรยี บเทียบควำมแตกตำ่ งระหว่ำง งำนดนตรขี องตนเองและผู้อ่ืน และบรรเลงดนตรีเด่ยี วและรวมวง อธบิ ำยเก่ียวกับอิทธิพลของดนตรี อัตรำจังหวะ ๒ และ ๔ ท่มี ตี อ่ บุคคลและสงั คม ๔๔ กำรประพนั ธ์เพลงในอัตรำจังหวะ ๒ และ ๔ ๔๔ กำรเลือกใช้องคป์ ระกอบในกำรสรำ้ งสรรค์ บทเพลง - กำรเลอื กจังหวะเพื่อสรำ้ งสรรค์ บทเพลง - กำรเรยี บเรียงทำนองเพลง กำรเปรยี บเทียบควำมแตกต่ำง ของบทเพลง - สำเนยี ง - อตั รำจังหวะ - รูปแบบบทเพลง - กำรประสำนเสียง - เครอื่ งดนตรีทบี่ รรเลง อิทธพิ ลของดนตรี - อทิ ธพิ ลของดนตรตี ่อบุคคล - อิทธิพลของดนตรีตอ่ สังคม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๔ ช้ัน ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๓ 20 ศ 2.1 ม.3/7 นำเสนอหรอื จดั กำรแสดงดนตรี กำรจดั กำรแสดงดนตรใี นวำระตำ่ ง ๆ - กำรเลือกวงดนตรี ท่ีเหมำะสมโดยกำรบูรณำกำร กบั สำระกำรเรียนรอู้ ื่นในกลุ่มศิลปะ - กำรเลือกบทเพลง - กำรเลอื กและจัดเตรยี มสถำนที่ - กำรเตรียมบคุ ลำกร - กำรเตรยี มอปุ กรณเ์ ครื่องมือ - กำรจัดรำยกำรแสดง 21 ศ 2.2 ม.3/1 บรรยำยววิ ฒั นำกำรของดนตรี ประวตั ิดนตรีไทยยุคสมัยต่ำง ๆ แต่ละยคุ สมยั ประวัติดนตรตี ะวันตกยุคสมัยต่ำง ๆ 22 ศ 2.2 ม.3/2 อภิปรำยลักษณะเด่นที่ทำให้ งำนดนตรนี ัน้ ไดร้ ับกำรยอมรับ ปจั จยั ทีท่ ำให้งำนดนตรไี ดร้ บั กำรยอมรับ 23 ศ 3.1 ม.3/1 ระบโุ ครงสร้ำงของบทละคร องค์ประกอบของบทละคร โดยใช้ศพั ท์ทำงกำรละคร - โครงเรอ่ื ง - ตวั ละครและกำรวำงลกั ษณะนสิ ัย 24 ศ 3.1 ม.3/2 ใชน้ ำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร ของตวั ละคร ทเ่ี หมำะสม บรรยำยเปรียบเทียบกำร - ควำมคิดหรือแก่นของเรื่อง แสดงอำกปั กิริยำของผู้คน - บทสนทนำ ในชีวติ ประจำวนั และในกำรแสดง ภำษำท่ำหรือภำษำทำงนำฏศิลป์ 25 ศ 3.1 ม.3/4 มที กั ษะในกำรแปลควำม - ภำษำทำ่ ท่ีมำจำกธรรมชำติ และกำรสื่อสำรผ่ำนกำรแสดง - ภำษำท่ำที่มำจำกกำรประดิษฐ์ 26 ศ 3.1 ม.3/3 มีทกั ษะในกำรใช้ควำมคดิ กำรประดิษฐ์ทำ่ รำและท่ำทำง ในกำรพฒั นำรปู แบบกำรแสดง ประกอบกำรแสดง - ควำมหมำย - ควำมเป็นมำ - ท่ำทำงที่ใชใ้ นกำรประดษิ ฐ์ท่ำรำ รูปแบบกำรแสดง - กำรแสดงเป็นหมู่ - กำรแสดงเดีย่ ว - กำรแสดงละคร - กำรแสดงเป็นชดุ เป็นตอน สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๓๑๕ ต้องรู้ ควรรู้ ม.๓ 27 ศ 3.1 ม.3/5 วจิ ำรณ์เปรียบเทยี บงำนนำฏศิลป์ องคป์ ระกอบนำฏศิลป์ ท่ีมคี วำมแตกตำ่ งกัน โดยใช้ควำมรู้ - จังหวะทำนอง เรื่ององคป์ ระกอบนำฏศลิ ป์ - กำรเคลื่อนไหว - อำรมณ์และควำมรู้สึก - ภำษำทำ่ นำฎยศพั ท์ - รูปแบบของกำรแสดง ๑๙ ๑๓ - กำรแตง่ กำย 28 ศ 3.1 ม.3/6 รว่ มจัดงำนกำรแสดงในบทบำทหนำ้ ที่ วิธีกำรเลอื กกำรแสดง ตำ่ ง ๆ - ประเภทของงำน - ข้ันตอน - ประโยชนแ์ ละคณุ คำ่ ของกำรแสดง 29 ศ 3.1 ม.3/7 นำเสนอแนวคิดจำกเนื้อเร่ือง ละครกับชวี ิต ของกำรแสดงท่สี ำมำรถนำไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวนั 30 ศ 3.2 ม.3/1 ออกแบบ และสร้ำงสรรค์อุปกรณ์ กำรออกแบบและสร้ำงสรรค์อุปกรณ์ และเคร่ืองแตง่ กำย เพอ่ื แสดงนำฏศลิ ป์ และเครื่องแตง่ กำยเพือ่ กำรแสดง และละครที่มำจำกวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ นำฏศลิ ป์ 31 ศ 3.2 ม.3/2 อธิบำยควำมสำคัญและบทบำท ควำมสำคญั และบทบำทของนำฏศลิ ป์ ของนำฏศลิ ป์และกำรละคร และกำรละครในชวี ิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั 32 ศ 3.2 ม.3/3 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรอนุรักษ์ กำรอนุรักษน์ ำฏศลิ ป์ รวม ๓๒ ตัวช้วี ัด สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๖ ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 1 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑ วิเครำะหก์ ำรใช้ทศั นธำตุ ทศั นธำตแุ ละหลักกำรออกแบบ และหลักกำรออกแบบในกำรสื่อ ควำมหมำยในรปู แบบต่ำง ๆ 2 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๒ บรรยำยจดุ ประสงค์และเนื้อหำ ศพั ท์ทำงทัศนศลิ ป์ ของงำนทศั นศิลป์ โดยใชศ้ ัพท์ ทำงทศั นศลิ ป์ 3 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์กำรเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ วสั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในกำรแสดงออก ในกำรแสดงออกทำงทัศนศลิ ป์ ทำงทศั นศิลป์ 4 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๔ มที กั ษะและเทคนคิ ในกำรใชว้ สั ดุ เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนกำร อปุ กรณ์ และกระบวนกำรท่สี ูงขน้ึ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์ 5 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๕ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ดว้ ยเทคโนโลยี หลกั กำรออกแบบและกำรจดั ต่ำง ๆ โดยเน้นหลักกำรออกแบบและ องคป์ ระกอบศลิ ปด์ ว้ ยเทคโนโลยี กำรจัดองค์ประกอบศลิ ป์ 6 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ออกแบบงำนทศั นศิลปไ์ ด้เหมำะกับ กำรออกแบบงำนทัศนศลิ ป์ โอกำสและสถำนท่ี 7 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๗ วิเครำะหแ์ ละอธบิ ำยจดุ มุ่งหมำย จุดมุง่ หมำยของศลิ ปินในกำรเลอื กใช้ ของศลิ ปนิ ในกำรเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค และเน้ือหำ เทคนิค และเน้อื หำ เพื่อสร้ำงสรรค์ งำนทศั นศลิ ป์ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ 8 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๘ ประเมินและวจิ ำรณ์งำนทัศนศิลป์ ทฤษฎีกำรวิจำรณ์ศิลปะ โดยใช้ทฤษฎกี ำรวิจำรณ์ศิลปะ 9 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๙ จดั กลุม่ งำนทัศนศิลป์เพ่อื สะท้อน กำรจัดทำแฟม้ สะสมงำนทศั นศิลป์ พฒั นำกำรและควำมก้ำวหน้ำ ของตนเอง 10 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐ สร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปไ์ ทย สำกล กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์จำกแนวคดิ โดยศึกษำจำกแนวคดิ และวธิ กี ำร และวธิ กี ำรของศิลปนิ สร้ำงงำนของศิลปนิ ที่ตนชืน่ ชอบ 11 ศ ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑๑ วำดภำพระบำยสีเปน็ ภำพล้อเลียน กำรวำดภำพล้อเลยี นหรือภำพกำร์ตูน หรือภำพกำร์ตนู เพ่ือแสดงควำมคดิ เห็น เกีย่ วกับสภำพสังคมในปัจจุบัน 12 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๑ วเิ ครำะห์ และเปรียบเทยี บ งำนทศั นศลิ ปร์ ูปแบบตะวันออก งำนทศั นศิลป์ในรปู แบบตะวนั ออก และตะวนั ตก และรูปแบบตะวนั ตก สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๗ ชัน้ ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 13 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๒ ระบุงำนทัศนศิลปข์ องศลิ ปิน งำนทัศนศิลป์ของศลิ ปินที่มชี ือ่ เสียง ท่มี ชี ื่อเสียง และบรรยำยผลตอบรบั ของสังคม 14 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๓ อภิปรำยเก่ยี วกับอทิ ธิพลของ อิทธิพลของวัฒนธรรมระหวำ่ งประเทศ ทม่ี ผี ลต่องำนทัศนศิลป์ วฒั นธรรมระหว่ำงประเทศ ทีม่ ีผลตอ่ งำนทศั นศิลป์ในสังคม 15 ศ ๒.1 ม.4 -6/1 เปรียบเทียบรปู แบบของบทเพลง กำรจัดวงดนตรี และวงดนตรีแต่ละประเภท - กำรใช้เครือ่ งดนตรใี นวงดนตรี ประเภทตำ่ ง ๆ - บทเพลงทีบ่ รรเลงโดยวงดนตรี ประเภทตำ่ ง ๆ 16 ศ ๒.1 ม.4 - 6/2 จำแนกประเภทและรูปแบบ ประเภทของวงดนตรี ของวงดนตรีท้ังไทยและสำกล - ประเภทของวงดนตรีไทย 17 ศ ๒.1 ม.4 - 6/3 อธิบำยเหตผุ ลที่คนต่ำงวฒั นธรรม สร้ำงสรรคง์ ำนดนตรีแตกต่ำงกนั - ประเภทของวงดนตรสี ำกล ปจั จยั ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนดนตรี ในแตล่ ะวัฒนธรรม - ควำมเชื่อกบั กำรสร้ำงสรรคง์ ำนดนตรี - ศำสนำกับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี - วถิ ชี ีวติ กับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี - เทคโนโลยกี ับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี 18 ศ ๒.1 ม.4 -6/4 อำ่ น เขียน โน้ตดนตรไี ทยและสำกล เครื่องหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี ในอตั รำจงั หวะตำ่ ง ๆ - เคร่ืองหมำยกำหนดอตั รำจงั หวะ 19 ศ ๒.1 ม.4 -6/5 รอ้ งเพลง หรือเลน่ ดนตรเี ด่ยี วและรวมวง โดยเน้นเทคนิคกำรแสดงออกและ - เครอ่ื งหมำยกำหนดบนั ไดเสียง คุณภำพของกำรแสดง โนต้ บทเพลงไทยอัตรำจังหวะ ๒ ชัน้ 20 ศ ๒.1 ม.4 - 6/6 สรำ้ งเกณฑ์สำหรบั ประเมินคุณภำพ กำรประพนั ธ์และกำรเลน่ ดนตรี และ ๓ ชน้ั ของตนเองและผู้อ่นื ได้อย่ำงเหมำะสม เทคนิค และกำรถำ่ ยทอดอำรมณ์เพลง 21 ศ ๒.1 ม.4 - 6/7 เปรียบเทยี บอำรมณ์และควำมรสู้ ึก ท่ไี ดร้ บั จำกงำนดนตรีท่ีมำจำก ดว้ ยกำรร้องบรรเลงเครอ่ื งดนตรีเด่ยี ว วัฒนธรรมต่ำงกนั และรวมวง เกณฑ์ในกำรประเมินผลงำนดนตรี - คุณภำพของผลงำนทำงดนตรี - คณุ ค่ำของผลงำนทำงดนตรี กำรถ่ำยทอดอำรมณ์ ควำมร้สู ึก ของงำนดนตรจี ำกแต่ละวฒั นธรรม สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๘ ชนั้ ที่ รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 22 ศ ๒.1 ม.4 - 6/8 นำดนตรไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงำนอน่ื ๆ ดนตรกี บั กำรผ่อนคลำย ดนตรีกบั กำรพฒั นำมนุษย์ 23 ศ 2.2 ม.4 - 6/1 วิเครำะห์รปู แบบของดนตรีไทย และดนตรีสำกลในยุคสมยั ตำ่ ง ๆ ดนตรกี บั กำรประชำสมั พนั ธ์ ดนตรีกบั กำรบำบัดรกั ษำ 24 ศ 2.2 ม.4 - 6/2 วเิ ครำะห์สถำนะทำงสังคมของนกั ดนตรี ในวัฒนธรรมต่ำง ๆ ดนตรีกบั ธุรกจิ ดนตรกี ับกำรศึกษำ 25 ศ 2.2 ม.4 - 6/3 เปรยี บเทยี บลกั ษณะเดน่ ของดนตรี ในวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีไทย แต่ละยคุ สมยั 26 ศ 2.2 ม.4 - 6/4 อธิบำยบทบำทของดนตรี ในกำรสะท้อนแนวควำมคิดและ รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสำกล คำ่ นยิ มที่เปล่ยี นไปของคนในสังคม แตล่ ะยุคสมยั 27 ศ 2.2 ม.4 - 6/5 นำเสนอแนวทำงในกำรส่งเสริมและ ประวัติสังคีตกวี อนุรกั ษ์ดนตรใี นฐำนะมรดกของชำติ ลกั ษณะเดน่ ของดนตรี 28 ศ 3.1 ม.4 - 6/1 มที กั ษะในกำรแสดงหลำกหลำยรปู แบบ ในแตล่ ะวฒั นธรรม - เคร่อื งดนตรี - วงดนตรี - ภำษำ เนือ้ ร้อง - สำเนยี ง - องคป์ ระกอบบทเพลง บทบำทดนตรีในกำรสะท้อนสังคม - คำ่ นิยมของสังคมในผลงำนดนตรี - ควำมเชอื่ ของสงั คมในงำนดนตรี แนวทำงและวิธีกำรในกำรสง่ เสริม อนุรักษ์ดนตรีไทย รปู แบบของกำรแสดง - ระบำ รำ ฟ้อน โขน - กำรแสดงพนื้ เมอื งภำคต่ำง ๆ - กำรละครไทย - กำรละครสำกล สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๑๙ ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 29 ศ 3.1 ม.4 - 6/2 สรำ้ งสรรคล์ ะครสัน้ ในรูปแบบท่ีชน่ื ชอบ ละครสรำ้ งสรรค์ - ควำมเปน็ มำ - องคป์ ระกอบของละครสร้ำงสรรค์ - ละครพูด ละครโศกนำฏกรรม ละครสขุ นำฏกรรม ละครแนวเหมือนจรงิ ละครแนวไมเ่ หมือนจริง 30 ศ 3.1 ม.4 - 6/3 ใช้ควำมคดิ รเิ ร่มิ ในกำรแสดงนำฏศิลป์ กำรประดิษฐ์ท่ำรำท่ีเปน็ คแู่ ละหมู่ เปน็ คแู่ ละหมู่ - ควำมหมำย - ประวตั คิ วำมเปน็ มำ - ทำ่ ทำงท่ใี ช้ในกำรประดษิ ฐท์ ่ำรำ - เพลงท่ใี ช้ 31 ศ 3.1 ม.4 - 6/4 วิจำรณก์ ำรแสดงตำมหลักนำฏศลิ ป์ หลักกำรสร้ำงสรรคแ์ ละกำรวจิ ำรณ์ และกำรละคร หลักกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์ และละคร 32 ศ 3.1 ม.4 - 6/5 วิเครำะหแ์ ก่นของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ ประวัตคิ วำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์ และกำรละครทต่ี ้องกำรสื่อควำมหมำย และกำรละคร ในกำรแสดง - ววิ ัฒนำกำร - ควำมงำมและคุณค่ำ 33 ศ 3.1 ม.4 - 6/6 บรรยำยและวเิ ครำะหอ์ ิทธิพล เทคนคิ กำรจดั กำรแสดง ของเครื่องแตง่ กำย แสง สี เสียง - แสง สี เสยี ง ฉำก อปุ กรณ์ และสถำนท่ีท่ีมีผลต่อ - ฉำก กำรแสดง - อุปกรณ์ - สถำนท่ี - เครื่องแต่งกำย 34 ศ 3.1 ม.4 - 6/7 พฒั นำและใช้เกณฑก์ ำรประเมนิ กำรประเมินคณุ ภำพของกำรแสดง ในกำรประเมนิ กำรแสดง - คณุ ภำพดำ้ นกำรแสดง - คุณภำพองค์ประกอบกำรแสดง 35 ศ 3.1 ม.4 - 6/8 วเิ ครำะหท์ ่ำทำงและกำรเคล่ือนไหว กำรสรำ้ งสรรค์ผลงำน ของผู้คนในชวี ติ ประจำวันและนำมำ - กำรจัดกำรแสดงในวนั สำคัญ ประยกุ ต์ใชใ้ นกำรแสดง ของโรงเรยี น 36 ศ 3.2 ม.4 - 6/1 เปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดง กำรแสดงนำฏศิลป์ในโอกำสตำ่ ง ๆ ไปใชใ้ นโอกำสตำ่ ง ๆ 37 ศ 3.2 ม.4 - 6/2 อภปิ รำยบทบำทของบุคคลสำคญั บคุ คลสำคัญในวงกำรนำฏศิลป์ ในวงกำรนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร ของประเทศไทยในยุคสมยั ต่ำง ๆ และกำรละครของไทยในยุคสมัยต่ำง ๆ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
๓๒๐ ช้ัน ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 38 ศ 3.2 ม.4 - 6/3 บรรยำยววิ ัฒนำกำรของนำฏศิลป์ ววิ ัฒนำกำรของนำฏศลิ ป์ และกำรละครไทย ตั้งแต่อดีตจนถงึ และกำรละครไทยต้ังแตอ่ ดีต ปจั จุบนั จนถึงปจั จุบัน 39 ศ 3.2 ม.4 - 6/4 นำเสนอแนวคิดในกำรอนรุ กั ษ์ กำรอนรุ ักษน์ ำฏศิลป์ ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ นำฏศิลปไ์ ทย รวม ๓๙ ตัวช้ีวัด ๒๗ ๑๒ รวมท้ังหมด ๒๗9 ตัวชวี้ ดั 157 122 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
321 สรุปตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชัน้ ตวั ช้วี ัดท้ังหมด ตอ้ งรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 3 2 1 ป.๒ 3 2 1 ป.๓ 3 3 0 ป.๔ 5 2 3 ป.๕ 6 3 3 ป.๖ 5 4 1 ม.๑ 6 2 4 ม.๒ 6 3 3 ม.๓ 6 4 2 ม.๔ - ๖ 11 4 7 รวม 54 29 25 ข้อมูล ณ วันท่ี 15 สิงหำคม 2559 ยกเลกิ มำตรฐำนกำรเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัดสำระที่ 2 และสำระท่ี 3 คงเหลอื 2 สำระ คือ สำระที่ 1 กำรดำเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสำระท่ี 4 กำรอำชพี และเปลย่ี นช่ือสำระท่ี 4 กำรอำชีพ เปน็ สำระท่ี 2 กำรอำชีพ ตำมคำสั่ง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภำคม 2561 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
322 ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การดารงชวี ิต ประกอบดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ งานธุรกิจ และงานอื่น ๆ แต่ไมไ่ ดก้ าหนดให้ จัดการเรยี นรูค้ รบท้ัง ๕ งาน เปน็ การเปดิ โอกาสให้เลือกตามความเหมาะสม ในท่ีน้ีเปน็ เพียงตวั อย่างของงาน เท่านั้น ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๑ ๑ ง ๑.๑ ป.๑/๑ บอกวธิ ีการทางานเพ่ือช่วยเหลือ ทักษะการทางานอย่างกระตอื รือรน้ ตนเอง ตรงเวลา และปลอดภยั เพอ่ื ชว่ ยเหลือตนเอง 2 ง ๑.๑ ป.๑/๒ ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครือ่ งมือ โดยใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื งา่ ย ๆ ง่าย ๆ ในการทางานอย่างปลอดภัย ในการดารงชีวติ โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน เช่น - รดน้าตน้ ไม้ 3 ง ๑.๑ ป.๑/๓ ทางานเพื่อช่วยเหลอื ตนเอง - ประดษิ ฐ์ของเลน่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ อยา่ งกระตือรอื รน้ และตรงเวลา - ใช้อปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหาร - จัดเกบ็ อุปกรณก์ ารเรยี นและของใช้ ส่วนตัว - ดแู ลตนเองในการแตง่ กาย รวม 3 ตัวช้ีวัด 21 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปล่ยี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสง่ั สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรียนรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
323 ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๒ ๑ ง ๑.๑ ป.๒/๑ บอกวิธกี ารและประโยชน์ ทักษะการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ การทางานเพื่อชว่ ยเหลือตนเอง เพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครวั และครอบครวั เพื่อสร้างลักษณะนิสัยดา้ นความประหยัด 2 ง ๑.๑ ป.๒/๒ ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ ปลอดภยั และสะอาด โดยฝกึ ปฏบิ ตั ิ ในการทางานอยา่ งเหมาะสม ผา่ นงาน เช่น กับงานและประหยัด - ปลูกและดูแลผกั สวนครัว - ประดษิ ฐ์ของเล่น หรอื ของใชส้ ว่ นตัว 3 ง ๑.๑ ป.๒/๓ ทางานเพื่อชว่ ยเหลอื ตนเองและ ครอบครัวอยา่ งปลอดภัย จากวัสดุเหลอื ใช้ - ชว่ ยครอบครวั เตรียมประกอบอาหาร และจัดโต๊ะอาหาร - แยกประเภทอุปกรณก์ ารเรียนและ ของใชส้ ว่ นตัว รวม 3 ตัวชว้ี ัด 21 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชีพ และเปลี่ยนชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาส่ัง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจดั การเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
324 ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๓ ๑ ง ๑.๑ ป.๓/๑ อธบิ ายวธิ ีการและประโยชน์ ทักษะการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือ 2 ง ๑.๑ ป.๓/๒ 3 ง ๑.๑ ป.๓/๓ การทางาน เพ่ือช่วยเหลอื ตนเอง ให้ตรงกบั ลักษณะงานอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 3- ครอบครัว และส่วนรวม เพอื่ ช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และ ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ สว่ นรวม โดยคานึงถึงความสะอาด ตรงกับลักษณะงาน รอบคอบ และอนุรักษส์ งิ่ แวดล้อม โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน เชน่ ทางานอย่างเป็นข้นั ตอน - ปลูกและดแู ลไมด้ อกไม้ประดับ ตามกระบวนการทางาน - บารงุ รักษาหรือซ่อมแซมของเลน่ ด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม หรือของใช้ในครอบครวั และสว่ นรวม - ประดษิ ฐข์ องใช้โดยใชว้ สั ดุในท้องถนิ่ ในโอกาสตา่ ง ๆ - ดูแล ทาความสะอาด และตกแต่ง ห้องเรียนให้สวยงาม - เตรียมอุปกรณเ์ คร่ืองใช้ให้ตรงกับ ลักษณะงาน รวม 3 ตัวช้ีวัด ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั สาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
325 ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๔ ๑ ง ๑.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายเหตผุ ลในการทางาน ทกั ษะการทางานตามข้ันตอนเพ่ือใหบ้ รรลุ ให้บรรลุเปา้ หมาย เปา้ หมาย โดยคานึงถึงการใช้พลงั งานและ 2 ง ๑.๑ ป.๔/๒ ทางานบรรลุเป้าหมายทวี่ างไว้ ทรพั ยากรอย่างประหยดั คุ้มค่า อยา่ งเป็นขนั้ ตอนด้วยความขยัน โดยฝกึ ปฏบิ ัตผิ า่ นงาน เชน่ อดทน รบั ผดิ ชอบ และซ่อื สัตย์ - จดั ตูเ้ สอ้ื ผา้ โตะ๊ เขยี นหนงั สือ 3 ง ๑.๑ ป.๔/๓ ปฏบิ ัติตนอย่างมีมารยาท และกระเป๋านักเรียน ในการทางาน - ขยายพันธุพ์ ชื - ประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุ 4 ง ๑.๑ ป.๔/๔ ใชพ้ ลงั งานและทรัพยากร ธรรมชาติในทอ้ งถิน่ ในการทางานอย่างประหยัด - ทาบัญชรี ับ-จา่ ยสว่ นตัว และค้มุ ค่า มารยาทในการทางานกลุม่ เชน่ - เปน็ ผ้นู า ผ้ตู าม - เคารพข้อตกลงรว่ มกนั - รับผิดชอบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย คณุ ลกั ษณะการทางาน เช่น ขยนั อดทน รับผดิ ชอบ และซื่อสัตย์ 5 ง 2.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายความหมายและ ความหมายและความสาคัญของอาชีพ ความสาคญั ของอาชีพ รวม 5 ตัวช้ีวดั 23 ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชี้วดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปลีย่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสัง่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
326 ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๕ ๑ ง ๑.๑ ป.๕/๑ อธิบายเหตผุ ลในการทางาน ทักษะการจัดการโดยทางานตามขัน้ ตอน แต่ละขนั้ ตอนถูกต้อง อย่างเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล สร้างสรรค์ ตามกระบวนการทางาน ประณตี และมจี ติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน 2 ง ๑.๑ ป.๕/๒ ใช้ทกั ษะการจัดการในการทางาน และทรัพยากรอย่างประหยัดและค้มุ คา่ อยา่ งเป็นระบบ ประณตี เพอ่ื ใหท้ างานสาเรจ็ ตามเป้าหมายอยา่ งมี และมีความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธภิ าพ โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงาน เชน่ 3 ง ๑.๑ ป.๕/๓ ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งมีมารยาท - ซอ่ มแซม ซัก ตาก เก็บ รดี พบั เส้อื ผา้ ในการทางานกับสมาชิก - วางแผนการจัดจาหนา่ ยผลผลติ ในครอบครวั ทางการเกษตร หรืองานประดษิ ฐ์ 4 ง ๑.๑ ป.๕/๔ มจี ิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน - จัดเกบ็ ขอ้ มูลรายรบั -รายจ่าย และทรัพยากรอย่างประหยัด และทาบัญชีครัวเรือน และคุ้มค่า - ออกแบบผลติ ภัณฑ์จากวัสดเุ หลอื ใช้ ทีม่ อี ยู่ในท้องถ่นิ การทางานกับสมาชิกในครอบครวั อย่างมี มารยาท เชน่ การพูดจาสุภาพ การใช้ของ รว่ มกัน การแบ่งปัน 5 ง 2.๑ ป.๕/๑ สารวจข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ สารวจขอ้ มูลและระบุความแตกตา่ งของ ในชมุ ชน อาชีพในชมุ ชนในเรื่อง ลักษณะงาน ประเภทกจิ การ คา่ ตอบแทน เชน่ 6 ง 2.๑ ป.๕/๒ ระบคุ วามแตกต่างของอาชีพ - ค้าขาย - เกษตรกรรม - รบั จา้ ง - รบั ราชการ พนกั งานของรัฐ รวม 6 ตัวช้ีวัด 33 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปลยี่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชีพ เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
327 ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๖ ๑ ง ๑.๑ ป.๖/๑ อภปิ รายแนวทางในการทางาน วางแผนและปรับปรุงการทางาน และปรับปรงุ การทางาน แต่ละขน้ั ตอน โดยใช้ทกั ษะการจดั การ แตล่ ะขน้ั ตอน และการทางานรว่ มกนั ขณะปฏิบตั ิงาน และเม่ือทางานสาเร็จแล้ว โดยฝึกปฏิบัติ ผ่านงาน เช่น - ปลูกผกั เลี้ยงปลาสวยงาม ประกอบอาหาร ประดษิ ฐ์ของเล่น 2 ง ๑.๑ ป.๖/๒ ใช้ทกั ษะการจดั การในการทางาน ของใช้ ของตกแตง่ เพ่อื การจัดจาหน่าย 3 ง ๑.๑ ป.๖/๓ และมีทักษะการทางานร่วมกัน โดยเลอื กตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา - ทาบญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย ปฏิบตั ติ นอยา่ งมีมารยาท ทางานกบั สมาชิกในครอบครัวและผู้อน่ื ในการทางานกับครอบครวั อย่างมีมารยาท เช่น พูดจาสุภาพ ใชข้ อง และผู้อนื่ ร่วมกนั แบง่ ปนั การให้สิทธิผ์ ทู้ ี่มาก่อน และรอคอยตามลาดบั 4 ง 2.๑ ป.๖/๑ สารวจตนเองเพ่ือวางแผน การสารวจตนเอง เพื่อวางแผนในการ ในการเลือกอาชีพ เลือกอาชีพโดยคานึงถึงคุณธรรม ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และ 5 ง 2.๑ ป.๖/๒ ระบุความรู้ความสามารถ และ บคุ ลิกภาพท่สี ัมพนั ธก์ ับอาชพี คุณธรรมทสี่ มั พันธ์กับอาชีพ ท่ีสนใจ ทีส่ นใจ คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี เชน่ - ความซ่อื สัตย์ - ความขยนั อดทน - ความยตุ ธิ รรม - ความรบั ผิดชอบ รวม 5 ตัวชว้ี ัด 41 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
328 ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๑ ๑ ง ๑.๑ ม.๑/๑ วเิ คราะห์ขน้ั ตอนการทางาน ทักษะกระบวนการทางานและการทางาน ตามกระบวนการทางาน รว่ มกนั (กาหนดบทบาทหน้าทส่ี มาชกิ กลุ่ม กาหนดเปา้ หมาย วางแผน แบง่ งาน 2 ง ๑.๑ ม.๑/๒ ใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทางาน ตามความสามารถ ปฏบิ ตั ิตามบทบาท ดว้ ยความเสยี สละ หนา้ ท่ี ประเมินผล และปรับปรงุ งาน) 3 ง ๑.๑ ม.๑/๓ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาการทางาน ภายใต้ความเสยี สละและการตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาอยา่ งมเี หตผุ ล ตามขนั้ ตอน อยา่ งมีเหตผุ ล การทางาน โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่ - เตรยี ม ประกอบ จัด ตกแต่ง และ บรกิ ารอาหาร - แปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร - ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุ ในท้องถิน่ 4 ง 2.๑ ม.๑/๑ อธิบายแนวทางการเลือกอาชีพ แนวทางการเลอื กอาชีพ หรอื การสร้าง อาชพี โดยคานงึ ถึงคุณธรรม จรยิ ธรรม 5 ง 2.๑ ม.๑/๒ มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการประกอบอาชพี เจตคติทีด่ ตี ่อการประกอบอาชพี เช่น เห็นความสาคัญของอาชีพสจุ ริต และ 6 ง 2.๑ ม.1/๓ เห็นความสาคัญของการสร้าง อาชีพในชุมชน อาชพี รวม 6 ตัวช้วี ัด 24 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนนิ ชีวิตและครอบครัว และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปล่ียนชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
329 ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๒ ๑ ง ๑.๑ ม.๒/๑ ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการแสวงหาความรู้ (การศึกษา เพ่ือพัฒนาการทางาน ค้นควา้ รวบรวม สังเกต สารวจ และ บันทกึ ) และทักษะกระบวนการแก้ปญั หา 2 ง ๑.๑ ม.๒/๒ ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา โดยมจี ติ สานกึ ในการทางานและใช้ ในการทางาน ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ 3 ง ๑.๑ ม.๒/๓ มีจิตสานึกในการทางานและใช้ เพ่ือใชใ้ นการพฒั นาการทางาน ทรัพยากรในการปฏบิ ตั ิงาน ฝึกปฏิบตั ผิ า่ นงาน หรือโครงงานอาชพี เชน่ อยา่ งประหยดั และคุ้มค่า - งานชา่ ง (งานไม้ งานช่างยนต์ งานไฟฟา้ และงานอ่ืน ๆ) - งานบา้ น (อาหาร เส้อื ผา้ การดแู ลบา้ น - งานประดิษฐ์ - งานเกษตร - งานธุรกิจ (ออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ ตราสัญลักษณ์ ประชาสมั พนั ธ์) หมายเหตุ ควรส่งเสรมิ เอกลกั ษณไ์ ทย ตามความเหมาะสม 4 ง 2.๑ ม.๒/๑ อธบิ ายการเสริมสร้าง การเตรียมตัวเข้าสู่อาชพี โดยการเสริมสร้าง ประสบการณ์อาชพี ประสบการณ์อาชพี และทักษะพน้ื ฐาน ทจี่ าเป็นสาหรบั การประกอบอาชีพทส่ี นใจ 5 ง 2.๑ ม.๒/๒ ระบุการเตรียมตวั เข้าสู่อาชีพ ทกั ษะและประสบการณท์ จ่ี าเป็น ในการประกอบอาชีพ เช่น - ทกั ษะกระบวนการทางาน - ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา 6 ง 2.๑ ม.๒/๓ มที ักษะพน้ื ฐานท่ีจาเป็น - ทักษะการทางานร่วมกัน สาหรับการประกอบอาชพี - ทักษะการแสวงหาความรู้ ท่สี นใจ - ทักษะการจดั การ รวม 6 ตัวช้วี ัด 33 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัดสาระที่ 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอ่ื สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
330 ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๓ ๑ ง ๑.๑ ม.๓/๑ อภปิ รายข้ันตอนการทางาน ข้นั ตอนการทางานท่ีมปี ระสิทธิภาพ ทีม่ ีประสิทธิภาพ โดยใช้ทกั ษะการทางานรว่ มกันอยา่ งมี คณุ ธรรม และใช้ทกั ษะการจดั การท่ีคานึงถงึ การประหยดั พลังงาน ทรัพยากร และ ส่งิ แวดลอ้ ม โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่ 2 ง ๑.๑ ม.๓/๒ ใชท้ กั ษะในการทางานร่วมกนั - งานชา่ ง (งานไม้ งานชา่ งยนต์ งานไฟฟ้า อยา่ งมีคุณธรรม และงานอืน่ ๆ) 3 ง ๑.๑ ม.๓/๓ อภปิ รายการทางาน โดยใชท้ ักษะการจดั การ - งานบา้ น (อาหาร เสื้อผา้ การดแู ลบ้าน) เพือ่ การประหยดั พลังงาน ทรัพยากร และสง่ิ แวดลอ้ ม - งานประดษิ ฐ์ - งานเกษตร - งานธุรกจิ (การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ การจัดจาหนา่ ย) 4 ง 2.๑ ม.๓/๑ อภิปรายการหางาน วิเคราะห์แนวทางการหางานเพื่อเข้าสู่อาชีพ 2 ดว้ ยวธิ ีทห่ี ลากหลาย ด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลายและประเมิน 5 ง 2.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะห์แนวทางเข้าสอู่ าชีพ ทางเลอื กในการประกอบอาชีพ (แนวทางการประเมิน รูปแบบการประเมิน 6 ง 2.๑ ม.๓/๓ ประเมินทางเลือก เกณฑ์การประเมนิ ) ท่ีสอดคล้องกบั ในการประกอบอาชีพ ความรู้ ความถนัด ความสนใจ และ ที่สอดคล้องกับความรู้ บุคลิกภาพของตนเอง ความถนัดและความสนใจ ของตนเอง รวม 6 ตัวช้วี ัด 4 ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาส่งั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
331 ชนั้ ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ ๑ ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑ อธบิ ายวธิ กี ารทางาน วธิ กี ารทางานอยา่ งมีคณุ ธรรม และ เพ่ือการดารงชวี ิต มลี ักษณะนิสยั การทางาน โดยใช้ 2 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๒ สรา้ งผลงานอย่างมีความคิด ทักษะการจัดการในการทางาน ทักษะ สร้างสรรค์และมีทกั ษะ กระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน การทางานร่วมกัน ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ 3 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๓ มีทักษะการจดั การในการทางาน เพอื่ การดารงชวี ิต และสร้างผลงาน อย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ 4 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๔ มีทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา (ความคิดริเร่ิม ความคล่องในการคิด ในการทางาน ความยดื หยนุ่ ในการคิด และความคดิ 5 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๕ มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ละเอยี ดลออ) คานงึ ถึงการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมอย่างค้มุ ค่า เพ่ือการดารงชีวิต ย่ังยืน โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงานหรอื 6 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๖ มคี ุณธรรมและลกั ษณะนิสัย โครงงานอาชีพ เชน่ - งานชา่ ง (งานไม้ งานไฟฟา้ ช่างยนต์ ในการทางาน 7 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๗ ใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร หรืองานอื่น) - งานบ้าน (อาหาร เส้ือผา้ การดแู ลบา้ น) ในการทางานอย่างค้มุ ค่า - งานประดิษฐ์ และยัง่ ยนื เพื่อการอนรุ ักษ์ - งานเกษตร ส่งิ แวดล้อม - งานธรุ กจิ (การตลาด การจัดการ การโรงแรม การทอ่ งเทยี่ ว) 8 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๑ อภปิ รายแนวทางสอู่ าชีพทส่ี นใจ แนวทางเขา้ สูอ่ าชีพ - ขอบเขตลกั ษณะงานของแตล่ ะกลุ่มอาชพี 9 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/2 เลือกและใช้เทคโนโลยี - คุณลกั ษณะเฉพาะของอาชีพ อยา่ งเหมาะสมกับอาชีพ - ลักษณะความม่ันคงและ ความกา้ วหนา้ ของอาชพี 10 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/3 มีประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีถนัด - การเตรียมตัวเข้าสโู่ ลกอาชีพ และสนใจ (การพัฒนาบุคลิกภาพ การทาแฟม้ สะสมผลงาน การเตรียมทกั ษะ 11 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๔ มคี ุณลกั ษณะทีด่ ตี ่ออาชีพ ภาษาท่ีจาเปน็ ของอาชพี ทสี่ นใจ การใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะกับอาชีพ) - จาลองสถานการณ์อาชีพหรอื กจิ กรรมอาชีพท่ีสนใจ คณุ ลักษณะท่ีดีของผูป้ ระกอบอาชีพ - ความรบั ผิดชอบ - ซอื่ สัตย์ - ขยัน - อดทน - ตรงเวลา รวม 11 ตัวชี้วดั 47 รวมท้ังหมด 54 ตัวชวี้ ดั 29 25 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปล่ยี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชีพ เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสง่ั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)
332 สรุปตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ช้นั ตวั ชวี้ ดั ทั้งหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 16 9 7 ป.๒ 16 ๙ 7 ป.๓ 18 13 5 ป.๔ 20 17 3 ป.๕ 20 19 1 ป.๖ 20 19 1 ม.๑ 20 19 1 ม.๒ 21 19 2 ม.๓ 21 19 2 ม.๔ - ๖ 21 17 4 รวม 193 1๖๐ 33 ข้อมลู ณ วนั ท่ี 15 สิงหำคม 2559 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
333 ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.1 1 ต 1.1 ป.1/1 ปฏิบตั ติ ำมคำสั่งงำ่ ย ๆ ที่ฟัง คำสั่งทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น Stand up./ Sit down./Listen./Repeat./Quiet!/ Stop! etc. 2 ต 1.1 ป.1/2 ระบตุ ัวอักษรและเสียง อ่ำนออกเสียง ตัวอักษร (letter names) เสียงตวั อักษร และสะกดคำง่ำยๆ ถูกต้อง (letter sounds) และสระ (vowel sounds) ตำมหลักกำรอ่ำน และกำรสะกดคำ หลักกำรอ่ำนออกเสียง เช่น - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำ 3 ต 1.1 ป.1/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำยของคำ คำ กลุ่มคำ และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง และกลมุ่ คำที่ฟงั ครอบครวั โรงเรียน ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั อำหำร เครือ่ งดมื่ และนันทนำกำร ภำยในวงคำศัพทป์ ระมำณ ๑๕๐ - ๒๐๐ คำ (คำศัพท์ทีเ่ ป็นรูปธรรม) 4 ต 1.1 ป.1/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังเรื่องใกล้ตวั บทอำ่ นเกี่ยวกับเรือ่ งใกล้ตัวหรือนิทำน ทีม่ ภี ำพประกอบ ประโยคคำถำมและคำตอบ - Yes/No Question เชน่ Is it a/an..? Yes, it is./ No, it is not. etc. - Wh-Question เช่น What is it? It is a/an... etc. 5 ต 1.2 ป.1/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคำสน้ั ๆ ง่ำย ๆ บทสนทนำทใ่ี ชใ้ นกำรทกั ทำย กล่ำวลำ ในกำรสอื่ สำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ข้อควำม ตำมแบบที่ฟัง ทีใ่ ชแ้ นะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/ Good morning/Good afternoon/ Good evening/I am…/Goodbye./ Bye./Thank you./I am sorry. How are you?/I am fine. etc. 6 ต 1.2 ป.1/2 ใชค้ ำส่งั งำ่ ย ๆ ตำมแบบท่ีฟงั คำส่ังท่ีใช้ในหอ้ งเรียน 7 ต 1.2 ป.1/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ ของตนเอง คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ช้ ตำมแบบที่ฟงั บอกควำมต้องกำร เชน่ I want…/Please,… etc. สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
334 ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 8 ต 1.2 ป.1/4 พดู ขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เก่ียวกับ คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยค ตนเองตำมแบบท่ีฟงั ท่ใี ชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/My name is…/ I am… etc. 9 ต 1.3 ป.1/1 พดู ให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง คำและประโยคทใ่ี ช้ในกำรพูดใหข้ ้อมูล และเร่ืองใกล้ตวั เกย่ี วกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเรอ่ื ง ใกลต้ ัว เช่น บอกชอื่ อำยุ รูปร่ำง ส่วนสูง สิ่งตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๒๐ สี ขนำด ตำแหน่งของส่ิงของ 10 ต 2.1 ป.1/1 พดู และทำท่ำประกอบ วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น ตำมวัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ กำรใช้สีหนำ้ ทำ่ ทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับ หรอื ปฏเิ สธ 11 ต 2.1 ป.1/2 บอกช่ือและคำศพั ท์เก่ยี วกับ คำศัพท์เกีย่ วกับเทศกำลสำคัญของ เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ เจ้ำของภำษำ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส วันขนึ้ ปใี หม่ 12 ต 2.1 ป.1/3 เข้ำรว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและ กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น วัฒนธรรมท่ีเหมำะกับวัย กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบท่ำทำง วนั ครสิ ต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่ 13 ต 2.2 ป.1/1 ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของ ตัวอักษรและเสียงตวั อักษรของ ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย 14 ต 3.1 ป.1/1 บอกคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสำระ คำศัพท์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สำระ กำรเรยี นรู้อนื่ กำรเรียนรู้อน่ื 15 ต 4.1 ป.1/1 ฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน งำ่ ย ๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรียน 16 ต 4.2 ป.1/1 ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศเพอ่ื รวบรวม กำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวม คำศัพท์ทเี่ ก่ยี วข้องใกลต้ ัว คำศัพทท์ ่เี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จำกสอื่ ตำ่ ง ๆ รวม 16 ตัวชี้วัด 97 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
335 ชัน้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.2 1 ต 1.1 ป.2/1 ปฏบิ ัติตำมคำส่งั และคำขอร้อง คำสง่ั และคำขอร้องทใ่ี ช้ในห้องเรยี น งำ่ ย ๆ ท่ีฟัง - คำส่ัง เช่น Show me a/an.../ Open your book.. Don’t talk in class. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please come here./ Come here, please. Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc. 2 ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง ตัวอกั ษร เสยี งตวั อักษรและสระ กำรสะกดคำ อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ และอำ่ นประโยคงำ่ ย ๆ ถูกตอ้ ง และประโยค ตำมหลักกำรอำ่ น หลักกำรอำ่ นออกเสยี ง เชน่ - กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ ท้ำยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำในคำ 3 ต 1.1 ป.2/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำย คำ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว (simple sentence) ของคำ กลุ่มคำ และประโยคท่ีฟัง และควำมหมำยเกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกลต้ ัว อำหำร เครอื่ งด่ืม และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพทส์ ะสมประมำณ ๒๕๐ - ๓๐๐ คำ (คำศัพทท์ ่ีเปน็ รูปธรรม) 4 ต 1.1 ป.2/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังประโยค ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนท่ีมภี ำพประกอบ บทสนทนำ หรือนิทำนงำ่ ย ๆ ท่มี ภี ำพประกอบ ประโยคคำถำมและคำตอบ - Yes/No Question เชน่ Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t. etc. - Wh-Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is the…? It is in/on/under… etc. สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
336 ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 5 ต 1.2 ป.2/1 พูดโตต้ อบดว้ ยคำส้นั ๆ งำ่ ย ๆ บทสนทนำท่ใี ชใ้ นกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ ในกำรส่อื สำรระหวำ่ งบคุ คล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำมท่ใี ช้ ตำมแบบที่ฟงั แนะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/ How are you?/I am fine. /I am…/ Goodbye./Bye./Thank you./I am sorry. etc. 6 ต 1.2 ป.2/2 ใช้คำส่งั และคำขอรอ้ งง่ำย ๆ คำส่ังและคำขอร้องทีใ่ ช้ในห้องเรยี น ตำมแบบท่ีฟงั 7 ต 1.2 ป.2/3 บอกควำมตอ้ งกำรง่ำย ๆ คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก ของตนเองตำมแบบทฟี่ งั ควำมตอ้ งกำร เชน่ I want…/Please,… etc. 8 ต 1.2 ป.2/4 พูดขอและให้ข้อมูลง่ำย ๆ คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ชข้ อ เก่ียวกับตนเองตำมแบบท่ีฟงั และใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง เช่น What’s your name?/My name is…/I am… etc. 9 ต 1.3 ป.2/1 พูดให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง คำและประโยคทใี่ ชใ้ นกำรพูดให้ข้อมูลเก่ยี วกับ และเร่ืองใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่ บอกชื่อ อำยุ รูปร่ำง สว่ นสงู ส่ิงตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๓๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของสิ่งของ 10 ต 2.1 ป.2/1 พดู และทำทำ่ ประกอบ วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เชน่ กำรใช้สหี น้ำ ตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ท่ำทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำร ตอบรบั หรือปฏิเสธ 11 ต 2.1 ป.2/2 บอกช่อื และคำศัพทเ์ ก่ยี วกับ คำศัพทเ์ ก่ียวกบั เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ เทศกำลสำคญั ของเจำ้ ของภำษำ เช่น วันคริสต์มำส วันข้นึ ปีใหม่ 12 ต 2.1 ป.2/3 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ และวฒั นธรรมทเี่ หมำะกบั วัย กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนิทำน ประกอบท่ำทำง วันคริสตม์ ำส วันข้ึนปีใหม่ 13 ต 2.2 ป.2/1 ระบุตวั อักษรและเสยี งตวั อกั ษร ตัวอักษรและเสยี งตัวอักษรของ ของภำษำตำ่ งประเทศและ ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย ภำษำไทย 14 ต 3.1 ป.2/1 บอกคำศัพท์ทเี่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ คำศัพทท์ ีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื กำรเรียนรู้อ่ืน 15 ต 4.1 ป.2/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ ทเ่ี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน ท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น 16 ต 4.2 ป.2/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเพอื่ รวบรวม กำรใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ คำศัพท์ที่เก่ียวข้องใกล้ตวั ที่เก่ียวข้องใกลต้ ัวจำกสอ่ื ตำ่ ง ๆ รวม 16 ตัวชวี้ ดั 97 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
337 ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 1 ต 1.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำสัง่ และคำขอร้อง คำสง่ั และคำขอร้องท่ใี ชใ้ นห้องเรยี น ทีฟ่ งั หรืออ่ำน - คำสั่ง เชน่ Give me a/an.../Draw and color the picture./Put a/an…in/on/ under a/an…/Don’t eat in class. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Don’t make a loud noise, please./Please don’t make a loud noise./Can you help me, please? etc. 2 ต 1.1 ป.3/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ คำ กลุ่มคำ ประโยคเดย่ี ว และบทพดู เข้ำจังหวะ อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค และบทพูด และกำรสะกดคำ เข้ำจงั หวะ (chant) ง่ำย ๆ หลักกำรอ่ำนออกเสยี ง เช่น ถกู ต้องตำมหลักกำรอำ่ น - กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสยี งเนน้ หนกั -เบำในคำและกล่มุ คำ 3 ต 1.1 ป.3/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลกั ษณ์ กลุม่ คำ ประโยคเดี่ยว สญั ลักษณ์ และควำมหมำย ตรงตำมควำมหมำยของกลุ่มคำ เกีย่ วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และประโยคทีฟ่ ัง ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั อำหำร เครื่องดืม่ และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๓๕๐ - ๔๕๐ คำ (คำศัพทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม) 4 ต 1.1 ป.3/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังหรืออ่ำน ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนที่มีภำพประกอบ ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำน ประโยคคำถำมและคำตอบ งำ่ ย ๆ - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. etc. - Wh-Question เช่น What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is/are…? It is in/on/under… They are etc. สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
338 ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 5 ต 1.2 ป.3/1 พูดโตต้ อบด้วยคำสน้ั ๆ งำ่ ย ๆ บทสนทนำที่ใช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ ในกำรส่ือสำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำม ตำมแบบท่ีฟงั ทใ่ี ชแ้ นะนำตนเอง เชน่ Hi/Hello/ Good morning /Good afternoon/ Good evening/I am sorry. How are you? I’m fine. Thank you. And you?/ Nice to see you./Nice to see you too./ Goodbye./Bye./See you soon/later./ Thanks./Thank you./Thank you very much./You’re welcome. etc. 6 ต 1.2 ป.3/2 ใช้คำสั่งและคำขอรอ้ งงำ่ ย ๆ คำสั่งและคำขอร้องที่ใชใ้ นห้องเรียน ตำมแบบที่ฟัง 7 ต 1.2 ป.3/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก ของตนเองตำมแบบท่ีฟัง ควำมต้องกำร เชน่ Please,…/May I go out?/ May I come in? etc. 8 ต 1.2 ป.3/4 พูดขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เกี่ยวกบั คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคที่ใชข้ อ ตนเองและเพื่อนตำมแบบท่ีฟัง และให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเองและเพ่ือน เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/ There are… Who is…? He /She is… etc. 9 ต 1.2 ป.3/5 บอกควำมรสู้ กึ ของตนเองเกีย่ วกบั คำและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงควำมรู้สึก เช่น ดใี จ สิง่ ต่ำง ๆ ใกลต้ ัว หรือกจิ กรรมตำ่ ง ๆ เสียใจ ชอบ ไมช่ อบ เช่น Yeah!/Great!/ ตำมแบบท่ีฟงั Cool!/I’m happy./I like cats./ I don’t like snakes. etc. 10 ต 1.3 ป.3/1 พูดให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง คำและประโยคท่ีใช้ในกำรพูดใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับ และเรื่องใกล้ตัว ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่ บอกชื่อ อำยุ รปู รำ่ ง ส่วนสงู ส่งิ ตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๕๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของส่ิงของ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
339 ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 11 ต 1.3 ป.3/2 จัดหมวดหม่คู ำตำมประเภทของ คำ กล่มุ คำท่ีมคี วำมหมำยเก่ยี วกับบุคคล สัตว์ บคุ คล สัตว์ และสง่ิ ของตำมท่ีฟงั และส่งิ ของ เชน่ กำรระบุ/เช่ือมโยง หรืออ่ำน ควำมสมั พันธข์ องภำพกับคำหรือกล่มุ คำ โดยใชภ้ ำพ แผนภูมิ แผนภำพ แผนผงั 12 ต 2.1 ป.3/1 พดู และทำทำ่ ประกอบตำมมำรยำท มำรยำทสังคม/วฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ สังคม/วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใช้สีหนำ้ ท่ำทำง ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับหรือปฏิเสธ 13 ต 2.1 ป.3/2 บอกชื่อและคำศัพท์ง่ำย ๆ เกี่ยวกับ คำศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง เทศกำล/วันสำคัญ/งำนฉลอง และ และชวี ิตควำมเปน็ อยู่ของเจ้ำของภำษำ ชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของเจำ้ ของภำษำ เชน่ วันครสิ ตม์ ำส วนั ขึ้นปีใหม่ เคร่อื งแต่งกำย อำหำร เครื่องด่ืม 14 ต 2.1 ป.3/3 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำ กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ และวฒั นธรรมทเ่ี หมำะกับวยั กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบทำ่ ทำง วนั คริสตม์ ำส วนั ขึ้นปใี หม่ 15 ต 2.2 ป.3/1 บอกควำมแตกตำ่ งของเสยี งตวั อกั ษร ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ คำ กลมุ่ คำ และประโยคง่ำย ๆ และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย 16 ต 3.1 ป.3/1 บอกคำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ คำศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้อนื่ กำรเรยี นรอู้ นื่ 17 ต 4.1 ป.3/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ่ำย ๆ ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี น 18 ต 4.2 ป.3/1 ใช้ภำษำตำ่ งประเทศเพ่ือรวบรวม กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ คำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งใกล้ตัว ที่เกีย่ วข้องใกล้ตัวจำกส่ือต่ำง ๆ รวม 18 ตัวช้ีวดั 13 5 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
340 ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำส่งั คำขอร้อง และ คำสงั่ และคำขอร้องทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน คำแนะนำ (instructions) งำ่ ย ๆ และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ ทฟี่ งั หรืออ่ำน หรอื กำรทำอำหำรและเครื่องดม่ื - คำสั่ง เชน่ Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Can you help me, please? etc. - คำแนะนำ เช่น You should read everyday./Think before you speak./ - คำศพั ทท์ ่ีใช้ในกำรเล่นเกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดับขน้ั ตอน First,... Second,… Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.4/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ คำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อควำม บทพดู เข้ำจังหวะ อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ควำมงำ่ ย ๆ และกำรสะกดคำ และบทพดู เข้ำจังหวะถกู ตอ้ ง กำรใชพ้ จนำนกุ รม ตำมหลกั กำรอ่ำน หลกั กำรอ่ำนออกเสียง เชน่ - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำ ในคำและกลุ่มคำ - กำรออกเสียงตำมระดับเสียงสูง-ต่ำในประโยค 3 ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลักษณ์ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว สัญลกั ษณ์ เคร่ืองหมำย หรอื เครอื่ งหมำยตรงตำมควำมหมำย และควำมหมำยเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั ของประโยคและข้อควำมสน้ั ๆ โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อำหำร เคร่อื งด่ืม ทฟ่ี ังหรืออ่ำน เวลำวำ่ งและนันทนำกำร สุขภำพและสวสั ดิกำร กำรซื้อ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์ สะสมประมำณ ๕๕๐ - ๗๐๐ คำ (คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนำมธรรม) สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
341 ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 4 ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังและอ่ำน ประโยค บทสนทนำ นิทำนท่ีมภี ำพประกอบ ประโยค บทสนทนำ และนทิ ำน คำถำมเก่ียวกับใจควำมสำคญั ของเรื่อง เชน่ ง่ำย ๆ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เชน่ Is this/it a/an…...or a/an…? It is a/an… etc. 5 ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโต้ตอบในกำรส่อื สำร บทสนทนำทใี่ ช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ ระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ กำรพูดแทรกอยำ่ งสภุ ำพ ประโยค/ข้อควำมที่ใช้แนะนำตนเอง เพื่อน และบุคคลใกลต้ วั และสำนวนกำรตอบรับ เชน่ Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/I am sorry./ How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/Hello. I am…/Hello,…I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./Bye./ See you soon/later./Thanks./ Thank you./Thank you very much./ You’re welcome./It’s O.K. etc. 6 ต 1.2 ป.4/2 ใช้คำสงั่ คำขอร้อง และคำขออนุญำต คำสงั่ คำขอรอ้ ง และคำขออนุญำต งำ่ ย ๆ ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น 7 ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงควำมต้องกำร คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้ ของตนเอง และขอควำมชว่ ยเหลือ แสดงควำมต้องกำรและขอควำมชว่ ยเหลือ ในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ ในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ เช่น I want …/ Please…/May…?/I need your help./ Please help me./Help me! etc. สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
342 ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 8 ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้ขอ เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื นและครอบครัว และใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง สง่ิ ใกลต้ ัว เพอื่ น และครอบครัว เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/ There are… Where is the ….? It is in/on/under… etc. 9 ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงควำมรู้สกึ ของตนเอง คำและประโยคที่ใช้แสดงควำมรสู้ กึ เชน่ ดใี จ เกี่ยวกบั เร่ืองต่ำง ๆ ใกล้ตวั และ เสยี ใจ ชอบ ไมช่ อบ รัก ไม่รัก เช่น กจิ กรรมต่ำง ๆ ตำมแบบที่ฟัง I/You/We/They like…/He/She likes… I/You/We/They love…/He/She loves… I/You/We/They don’t like/love/feel… He/She doesn’t like/love/feel… I/You/We/They feel… etc. 10 ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง ประโยคและข้อควำมท่ีใช้ในกำรพูดให้ขอ้ มลู และเรื่องใกล้ตัว เก่ียวกบั ตนเอง บคุ คล สตั ว์ และเร่อื งใกลต้ ัว เชน่ ช่ือ อำยุ รปู ร่ำง สี ขนำด รูปทรง สิง่ ต่ำง ๆ จำนวน ๑ - ๑๐๐ วัน เดือน ปี ฤดกู ำล ตำแหน่งของสิง่ ต่ำง ๆ เคร่ืองหมำยวรรคตอน 11 ต 1.3 ป.4/2 พูด/วำดภำพแสดงควำมสัมพันธ์ คำ กล่มุ คำทีม่ คี วำมหมำยสัมพนั ธ์กบั ส่ิงตำ่ ง ๆ ของส่งิ ต่ำง ๆ ใกล้ตวั ตำมทฟี่ ัง ใกลต้ ัว เช่น กำรระบุ/เชอื่ มโยงควำมสัมพันธ์ หรอื อำ่ น ของภำพกบั คำ หรอื กลุ่มคำ โดยใช้ภำพ แผนภมู ิ แผนภำพ แผนผงั 12 ต 1.3 ป.4/3 พูดแสดงควำมคิดเห็นง่ำย ๆ ประโยคท่ีใช้ในกำรแสดงควำมคดิ เห็นเก่ยี วกับ เกี่ยวกับเรอื่ งตำ่ ง ๆ ใกลต้ ัว เรื่องต่ำง ๆ ใกล้ตัว 13 ต 2.1 ป.4/1 พูดและทำทำ่ ประกอบอย่ำงสุภำพ มำรยำทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรม เชน่ กำรขอบคณุ ขอโทษ กำรใชส้ ีหน้ำท่ำทำง ของเจำ้ ของภำษำ ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ กำรโบกมือ กำรแสดงควำมรู้สกึ ชอบ/ไมช่ อบ กำรแสดงอำกำรตอบรบั หรือปฏิเสธ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
343 ชนั้ ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 14 ต 2.1 ป.4/2 ตอบคำถำมเกี่ยวกบั เทศกำล/ คำศพั ทแ์ ละข้อมลู เกยี่ วกับเทศกำล/วนั สำคัญ/ วันสำคญั /งำนฉลอง และ งำนฉลอง และชวี ิตควำมเป็นอยขู่ องเจ้ำของภำษำ ชวี ติ ควำมเปน็ อยงู่ ำ่ ย ๆ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส วันขึน้ ปใี หม่ เครอ่ื งแต่งกำย ของเจ้ำของภำษำ ฤดกู ำล อำหำร เคร่ืองดม่ื 15 ต 2.1 ป.4/3 เข้ำร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น และวัฒนธรรมท่ีเหมำะกบั วยั กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเลำ่ นทิ ำน ประกอบท่ำทำง วนั คริสต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่ 16 ต 2.2 ป.4/1 บอกควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อกั ษร ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ คำ กลมุ่ คำ ประโยค และข้อควำม และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย 17 ต 2.2 ป.4/2 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำง ควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งเทศกำล ระหว่ำงเทศกำลและงำนฉลอง และงำนฉลองตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ตำมวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ กบั ของไทย กบั ของไทย 18 ต 3.1 ป.4/1 ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ ง กำรคน้ คว้ำ กำรรวบรวม และกำรนำเสนอ กับกลมุ่ สำระกำรเรียนร้อู ื่นและ คำศัพทท์ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่นื นำเสนอดว้ ยกำรพดู /กำรเขยี น 19 ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อำ่ นในสถำนกำรณ์ กำรใชภ้ ำษำในกำรฟังและพดู /อ่ำน ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี นและ ในสถำนกำรณ์ทีเ่ กิดขึ้นในห้องเรียน สถำนศกึ ษำ และสถำนศึกษำ 20 ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรสืบคน้ กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรสบื คน้ และรวบรวมข้อมลู ต่ำง ๆ และกำรรวบรวมข้อมลู ตำ่ ง ๆ รวม 20 ตัวชี้วดั 17 3 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
344 ชั้น ท่ี รหัสตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 1 ต 1.1 ป.5/1 ปฏิบัติตำมคำส่ัง คำขอร้อง และ คำส่งั และคำขอรอ้ งทีใ่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น ภำษำท่ำทำง คำแนะนำง่ำย ๆ ที่ฟังและอำ่ น และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ หรือกำรทำอำหำรและเคร่ืองดม่ื - คำสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./Think before you speak./ - คำศพั ทท์ ่ีใชใ้ นกำรเลน่ เกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดบั ข้นั ตอน First,... Second,… Next,…Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.5/2 อ่ำนออกเสยี งประโยค ข้อควำม ประโยค ขอ้ ควำม และบทกลอน และบทกลอนสั้น ๆ ถกู ต้อง กำรใช้พจนำนกุ รม ตำมหลกั กำรอ่ำน หลกั กำรอำ่ นออกเสียง เช่น - กำรออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสียงเน้นหนัก-เบำในคำและกลมุ่ คำ - กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสูง-ตำ่ ในประโยค - กำรออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในขอ้ ควำม - กำรออกเสยี งบทกลอนตำมจงั หวะ 3 ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วำดภำพ สัญลักษณ์ หรอื กลุม่ คำ ประโยคผสม ข้อควำม สญั ลกั ษณ์ เคร่ืองหมำยตรงตำมควำมหมำย เครอ่ื งหมำย และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง ของประโยคและข้อควำมส้ัน ๆ ครอบครวั โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ ม อำหำร ท่ฟี ังหรืออ่ำน เคร่ืองดื่ม เวลำวำ่ งและนนั ทนำกำร สุขภำพ และสวัสดิกำร กำรซ้ือ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๗๕๐ - ๙๕๐ คำ (คำศัพท์ทเี่ ป็นรปู ธรรมและนำมธรรม) สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378