Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการเรียนรู้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19

การจัดการเรียนรู้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19

Published by Yaow Wiranphatr, 2021-08-26 06:53:27

Description: การจัดการเรียนรู้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19

Search

Read the Text Version

๒๙๕ ช้ัน ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๓ 1 ศ ๑.๑ ป.๓/๑ บรรยำยรูปรำ่ ง รูปทรงในธรรมชำติ  รปู ร่ำง รปู ทรงในธรรมชำติ ส่งิ แวดลอ้ ม  2 ศ ๑.๑ ป.๓/๖ สงิ่ แวดล้อม และงำนทัศนศิลป์ และกำรใช้เสน้ รูปรำ่ ง รปู ทรง สี พ้ืนผิว  ในงำนทศั นศลิ ปแ์ ละวำดภำพ วำดภำพถำ่ ยทอดควำมคดิ ควำมรู้สึก ถ่ำยทอดควำมคดิ ควำมรู้สกึ จำกเหตกุ ำรณช์ ีวติ จรงิ โดยใช้เส้น รปู รำ่ ง รูปทรง สี และพื้นผวิ 3 ศ ๑.๑ ป.๓/๒ ระบุ วัสดุ อุปกรณท์ ี่ใช้สร้ำงผลงำน  วัสดุ อุปกรณ์ทีใ่ ช้สร้ำงงำนทศั นศิลป์  4 ศ ๑.๑ ป.๓/๕ เม่อื ชมงำนทศั นศิลป์ ประเภทงำนวำด งำนป้ัน งำนพิมพ์ภำพ  และเทคนิควธิ ีกำรในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ มีทักษะพ้นื ฐำน ในกำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ สร้ำงสรรคง์ ำนปั้น 5 ศ ๑.๑ ป.๓/๗ บรรยำยเหตุผลและวธิ ีกำร  ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ โดยเนน้ ถงึ เทคนิค และวสั ดุ อุปกรณ์ 6 ศ ๑.๑ ป.๓/๓ จำแนกทัศนธำตขุ องสิ่งตำ่ ง ๆ  เส้น สี รูปรำ่ ง รปู ทรง พืน้ ผวิ ในธรรมชำติ  ในธรรมชำติ ส่ิงแวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ มและงำนทัศนศลิ ป์ และงำนทัศนศิลป์ โดยเน้นเร่ืองเส้น สี รูปรำ่ ง รูปทรง และพน้ื ผวิ 7 ศ ๑.๑ ป.๓/๔ วำดภำพ ระบำยสีส่งิ ของรอบตวั  กำรวำดภำพระบำยสีส่ิงของรอบตัว  ด้วยสีเทียน ดนิ สอสี และสีโปสเตอร์ 8 ศ ๑.๑ ป.๓/๘ ระบสุ ิง่ ที่ช่นื ชมและสิ่งที่ควรปรบั ปรงุ  กำรแสดงควำมคดิ เหน็ ในงำนทัศนศลิ ป์  ในงำนทศั นศลิ ปข์ องตนเอง ของตนเอง 9 ศ ๑.๑ ป.๓/๙ ระบแุ ละจัดกลุม่ ของภำพตำมทัศนธำตุ  กำรจดั กลมุ่ ของภำพตำมทัศนธำตุ  ทีเ่ นน้ ในงำนทัศนศิลปน์ ัน้ ๆ 10 ศ ๑.๑ ป.๓/๑๐ บรรยำยลักษณะรปู ร่ำง รูปทรง  รูปร่ำง รปู ทรง ในงำนออกแบบ  ในงำนกำรออกแบบสิ่งต่ำง ๆ ทีม่ ใี นบ้ำนและโรงเรียน 11 ศ ๑.๒ ป.๓/๑ เล่ำถึงท่ีมำของงำนทัศนศิลปใ์ นทอ้ งถิ่น  ที่มำของงำนทศั นศิลป์ในท้องถ่ิน  12 ศ ๑.๒ ป.๓/๒ อธิบำยเกี่ยวกับวสั ดอุ ุปกรณ์และวิธีกำร วัสดุ อุปกรณ์ และวธิ ีกำรสร้ำงงำน  สรำ้ งงำนทัศนศลิ ป์ในท้องถ่ิน ทศั นศิลป์ในท้องถนิ่ 13 ศ 2.1 ป.3/1 ระบรุ ปู รำ่ งลกั ษณะของเครื่องดนตรี  รปู รำ่ งลักษณะของเคร่อื งดนตรี  ทเี่ ห็นและได้ยินในชวี ติ ประจำวัน  เสยี งของเครื่องดนตรี 14 ศ 2.1 ป.3/2 ใช้รูปภำพหรอื สัญลกั ษณ์แทนเสียง  สญั ลกั ษณ์แทนคุณสมบัติของเสยี ง  และจังหวะเคำะ (สูง - ต่ำ ดงั - เบำ ยำว - สั้น)  สญั ลักษณแ์ ทนรปู แบบจงั หวะ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๖ ชั้น ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 15 ศ 2.1 ป.3/3 บอกบทบำทหน้ำที่ของเพลงท่ีไดย้ นิ   บทบำทหนำ้ ท่ีของบทเพลงสำคัญ 16 ศ 2.1 ป.3/4 ขบั รอ้ งและบรรเลงดนตรีงำ่ ย ๆ - เพลงชำติ  17 ศ 2.1 ป.3/6 - เพลงสรรเสรญิ พระบำรมี  แสดงควำมคิดเหน็ เก่ียวกับเสยี งดนตรี - เพลงประจำโรงเรยี น 18 ศ 2.1 ป.3/5 เสียงขบั รอ้ งของตนเองและผอู้ ื่น  19 ศ 2.1 ป.3/7  กำรขบั ร้องเดยี่ วและหมู่  20 ศ 2.2 ป.3/1 เคลอ่ื นไหวท่ำทำงสอดคล้องกับ  อำรมณ์ของเพลงท่ฟี งั  กำรบรรเลงเคร่ืองดนตรีประกอบจงั หวะ 21 ศ 2.2 ป.3/2 นำดนตรีไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันหรอื  22 ศ 3.1 ป.3/1 โอกำสต่ำง ๆ ได้อยำ่ งเหมำะสม  กำรแสดงควำมคิดเหน็ เกย่ี วกับเสียงรอ้ ง  และเสยี งดนตรี 23 ศ 3.1 ป.3/2 ระบุลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ - คุณภำพเสียงร้อง  24 ศ 3.1 ป.3/3 ของดนตรีในท้องถนิ่ - คุณภำพเสียงดนตรี  2๕ ศ 3.1 ป.3/4  ระบุควำมสำคัญและประโยชน์  กำรเคลือ่ นไหวตำมอำรมณข์ องบทเพลง ของดนตรีต่อกำรดำเนนิ ชีวติ ของคนในท้องถิน่  กำรใชด้ นตรใี นโอกำสพิเศษ สร้ำงสรรคก์ ำรเคลื่อนไหว - ดนตรใี นงำนรื่นเรงิ ในรูปแบบตำ่ ง ๆ ในสถำนกำรณส์ ้ัน ๆ - ดนตรใี นกำรฉลองวนั สำคัญของชำติ แสดงทำ่ ทำงประกอบเพลง  เอกลักษณ์ของดนตรีในท้องถ่ิน ตำมรูปแบบนำฏศิลป์ - ลกั ษณะเสียงร้องของดนตรใี นท้องถิ่น - ภำษำและเน้ือหำในบทร้องของดนตรี เปรยี บเทยี บบทบำทหนำ้ ทข่ี องผู้แสดง ในทอ้ งถ่ิน และผชู้ ม - เครอื่ งดนตรีและวงดนตรใี นท้องถ่นิ มีสว่ นร่วมในกิจกรรมกำรแสดง ทเ่ี หมำะสมกบั วัย  ดนตรกี ับกำรดำเนนิ ชีวิตในท้องถ่ิน - ดนตรีในชวี ติ ประจำวนั - ดนตรใี นวำระสำคญั  กำรเคลอื่ นไหวในรูปแบบต่ำง ๆ - รำวงมำตรฐำน - สถำนกำรณ์สัน้ ๆ - สถำนกำรณ์ทกี่ ำหนดให้  หลักและวธิ ีกำรปฏิบัตินำฏศลิ ป์ - ภำษำท่ำส่ืออำรมณ์ของมนุษย์ - นำฎยศัพท์ในสว่ นขำ  หลักในกำรชมกำรแสดง - ผแู้ สดง - ผ้ชู ม - กำรมสี ว่ นรว่ ม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๗ ชัน้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ป.3 2๖ ศ 3.1 ป.3/5 บอกประโยชนข์ องกำรแสดงนำฏศลิ ป์  กำรบรู ณำกำรนำฏศลิ ปก์ บั สำระ  กำรเรียนรอู้ น่ื ๆ ในชีวติ ประจำวัน   กำรแสดงนำฏศลิ ป์พื้นบำ้ นหรือท้องถน่ิ  2๗ ศ 3.2 ป.3/1 เลำ่ กำรแสดงนำฏศลิ ป์ทเ่ี คยเห็น ของตน ๑๒ ๑๗ ในท้องถน่ิ  ที่มำของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ 2๘ ศ 3.2 ป.3/2 ระบุสิ่งที่เป็นลกั ษณะเด่นและ เอกลักษณ์ของกำรแสดงนำฏศิลป์ ๒๙ ศ 3.2 ป.3/3 อธิบำยควำมสำคัญของกำรแสดง นำฏศลิ ป์ รวม ๒๙ ตวั ช้ีวดั สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๘ ชัน้ ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๔ 1 ศ ๑.๑ ป.๔/๑ เปรียบเทียบรูปลักษณะของรปู ร่ำง  เสน้ สี รูปรำ่ ง รปู ทรง พืน้ ผวิ และพืน้ ทวี่ ่ำง  รูปทรง ในธรรมชำติ สง่ิ แวดลอ้ ม และ ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อมและงำนทัศนศิลป์ งำนทศั นศลิ ป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๔/๓ จำแนกทัศนธำตุของสิง่ ต่ำง ๆ  ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อม และงำนทัศนศลิ ป์ โดยเนน้ เรื่องเส้น  อิทธิพลของสี กำรเลือกใช้สีวรรณะอุ่น  สี รูปรำ่ ง รูปทรงพื้นผวิ และพ้ืนท่ีวำ่ ง และวรรณะเย็นเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์  ควำมรู้สึก ผ่ำนกำรวำดภำพถ่ำยทอด 3 ศ ๑.๑ ป.๔/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั อทิ ธิพลของ ควำมรสู้ ึกและจินตนำกำร สีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเยน็ ท่ีมีต่ออำรมณข์ องมนุษย์  กำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ในกำรวำดภำพ  และกำรสร้ำงงำนพิมพ์ภำพ  4 ศ ๑.๑ ป.๔/๗ วำดภำพระบำยสี โดยใช้สีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเยน็ ถ่ำยทอดควำมร้สู ึก  กำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ  และจินตนำกำร ระบำยสี  5 ศ ๑.๑ ป.๔/๙ เลอื กใช้วรรณะสีเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์  กำรจัดระยะควำมลึก น้ำหนัก  ควำมรูส้ กึ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ และแสงเงำในกำรวำดภำพ  6 ศ ๑.๑ ป.๔/๔ มที ักษะพ้ืนฐำนในกำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์  ควำมเหมอื นและควำมแตกตำ่ ง สร้ำงสรรคง์ ำนพมิ พภ์ ำพ ในงำนทัศนศิลป์ ควำมคิด ควำมร้สู กึ ท่ถี ่ำยทอดในงำนทัศนศิลป์ 7 ศ ๑.๑ ป.๔/๕ มที กั ษะพืน้ ฐำนในกำรใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ สรำ้ งสรรคง์ ำนวำดภำพระบำยสี  งำนทศั นศลิ ป์ในวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ 8 ศ ๑.๑ ป.๔/๖ บรรยำยลกั ษณะของภำพโดยเนน้  งำนทัศนศลิ ป์จำกวฒั นธรรมต่ำง ๆ  เร่อื งกำรจัดระยะ ควำมลึก น้ำหนัก  และแสงเงำในภำพ  โครงสรำ้ งของบทเพลง - ควำมหมำยของประโยคเพลง 9 ศ ๑.๑ ป.๔/๘ เปรยี บเทยี บควำมคิดควำมรู้สึก - กำรแบง่ ประโยคเพลง ทถี่ ำ่ ยทอดผ่ำนงำนทัศนศิลป์ ของตนเองและบุคคลอืน่ 10 ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ระบุ และอภิปรำยเกยี่ วกบั งำนทัศนศิลป์ ในเหตกุ ำรณ์ และงำนเฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรม ในทอ้ งถนิ่ 11 ศ ๑.๒ ป.๔/๒ บรรยำยเก่ยี วกบั งำนทัศนศิลป์ ที่มำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ 12 ศ 2.1 ป.4/1 บอกประโยคเพลงอย่ำงงำ่ ย สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๙ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ประเภทของเครื่องดนตรี  ป.4 13 ศ 2.1 ป.4/2 จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี  เสยี งของเครอื่ งดนตรีแต่ละประเภท  กำรเคล่ือนท่ขี ้นึ - ลงของทำนอง  ที่ใช้ในเพลงทีฟ่ งั  รปู แบบจังหวะของทำนองจังหวะ  รปู แบบจังหวะ 14 ศ 2.1 ป.4/3 ระบุทศิ ทำงกำรเคลอื่ นทข่ี ึ้น – ลงง่ำย ๆ ของทำนอง รูปแบบจังหวะ และ ควำมเรว็ ของจังหวะในเพลงที่ฟัง 15 ศ 2.1 ป.4/4 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล  ควำมชำ้ - เรว็ ของจังหวะ   เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี - กญุ แจประจำหลัก - บรรทัดห้ำเสน้ - โน้ตและเคร่อื งหมำยหยุด - เสน้ ก้นั ห้อง 16 ศ 2.1 ป.4/5 รอ้ งเพลงโดยใชช้ ว่ งเสียงท่เี หมำะสม  โครงสร้ำงโน้ตเพลงไทย  กบั ตนเอง - กำรแบง่ ห้อง - กำรแบ่งจงั หวะ  17 ศ 2.1 ป.4/6 ใชแ้ ละเก็บเครื่องดนตรีอยำ่ งถูกตอ้ ง  และปลอดภัย  กำรขับร้องเพลงในบันไดเสยี ง  ทเี่ หมำะสมกบั ตนเอง 18 ศ 2.1 ป.4/7 ระบวุ ำ่ ดนตรีสำมำรถใชใ้ นกำรสอื่  เร่ืองรำว  กำรใชแ้ ละกำรดแู ลรกั ษำเครื่องดนตรี ของตน 19 ศ 2.2 ป.4/1 บอกแหลง่ ทม่ี ำและควำมสัมพันธ์ ของวถิ ชี วี ติ ไทย ทสี่ ะทอ้ นในดนตรี  ควำมหมำยของเน้ือหำในบทเพลง และเพลงทอ้ งถิ่น  ควำมสมั พนั ธข์ องวิถีชวี ติ กบั ผลงำนดนตรี 20 ศ 2.2 ป.4/2 ระบุควำมสำคัญในกำรอนรุ ักษส์ ง่ เสรมิ วัฒนธรรมทำงดนตรี - เนือ้ หำเรอ่ื งรำวในบทเพลงกบั วถิ ชี ีวติ 21 ศ 3.1 ป.4/1 ระบทุ กั ษะพื้นฐำนทำงนำฏศลิ ป์ - โอกำสในกำรบรรเลงดนตรี  และกำรละครท่ีใช้ส่ือควำมหมำยและ  กำรอนุรักษ์วฒั นธรรมทำงดนตรี อำรมณ์ - ควำมสำคัญและควำมจำเปน็ 22 ศ 3.1 ป.4/2 ใช้ภำษำท่ำและนำฏยศพั ท์ หรือศพั ทท์ ำงกำรละครง่ำย ๆ ในกำรอนุรักษ์ ในกำรถำ่ ยทอดเรื่องรำว - แนวทำงในกำรอนรุ ักษ์ 23 ศ 3.1 ป.4/3 แสดงกำรเคล่ือนไหวในจังหวะตำ่ ง ๆ ตำมควำมคดิ ของตน  หลกั และวธิ กี ำรปฏบิ ัตนิ ำฏศลิ ป์  - ภำษำทำ่ - นำฏยศพั ท์  กำรใช้ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์  ประกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระรำชนิพนธ์  กำรใช้ศัพท์ทำงกำรละคร ในกำรถ่ำยทอดเรื่องรำว  กำรประดิษฐ์ทำ่ ทำงหรอื ท่ำรำ ประกอบจังหวะพน้ื เมือง สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๐ ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 24 ศ 3.1 ป.4/4 แสดงนำฏศลิ ปเ์ ป็นคูแ่ ละหมู่   กำรแสดงนำฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่ 25 ศ 3.1 ป.4/5 เล่ำสิง่ ทชี่ ื่นชอบในกำรแสดง - รำวงมำตรฐำน  โดยเน้นจดุ สำคญั ของเรื่อง - ระบำ 26 ศ 3.2 ป.4/1 และลกั ษณะเดน่ ของตัวละคร  27 ศ 3.2 ป.4/4 อธิบำยประวตั ิควำมเป็นมำของ  กำรเล่ำเรอ่ื ง  28 ศ 3.2 ป.4/2 นำฏศลิ ป์ หรือชุดกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - จดุ สำคญั ระบุเหตผุ ลทค่ี วรรกั ษำและสืบทอด - ลกั ษณะเด่นของตัวละคร 29 ศ 3.2 ป.4/3 กำรแสดงนำฏศลิ ป์ เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ป์  ควำมเป็นมำของนำฏศลิ ป์ กำรละเล่น กับกำรแสดงที่มำจำกวัฒนธรรมอน่ื ของหลวง และที่มำของชดุ กำรแสดง - คุณคำ่ ของนำฏศลิ ปไ์ ทย อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรแสดง ควำมเคำรพในกำรเรยี นและกำรแสดง  กำรชมกำรแสดง  นำฏศลิ ป์ - เปรยี บเทียบกำรนำฏศิลป์ กับกำรแสดง รวม ๒๙ ตวั ชวี้ ดั วฒั นธรรมอื่น  ควำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์  - กำรทำควำมเคำรพก่อนเรยี น และก่อนแสดงนำฏศิลป์ ๑๕ ๑๔ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๑ ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  จงั หวะ ตำแหน่งของสงิ่ ต่ำง ๆ  ป.๕ 1 ศ ๑.๑ ป.๕/๑ บรรยำยเกี่ยวกับจงั หวะ ตำแหน่ง ในสิ่งแวดล้อมและงำนทัศนศิลป์  ของสงิ่ ตำ่ ง ๆ ทป่ี รำกฏในสง่ิ แวดล้อม  ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งงำนทัศนศลิ ป์ และงำนทัศนศิลป์ 2 ศ ๑.๑ ป.๕/๒ เปรียบเทยี บควำมแตกตำ่ งระหว่ำง งำนทศั นศลิ ป์ ท่ีสร้ำงสรรค์ดว้ ยวัสดุ อุปกรณ์และวธิ ีกำรท่ีต่ำงกนั 3 ศ ๑.๑ ป.๕/๓ วำดภำพ โดยใชเ้ ทคนิคของแสงเงำ  แสงเงำ นำ้ หนัก และวรรณะสี  น้ำหนกั และวรรณะสี 4 ศ ๑.๑ ป.๕/๔ สร้ำงสรรคง์ ำนปน้ั จำกดนิ น้ำมัน  กำรสรำ้ งงำนปนั้ เพื่อถำ่ ยทอดจนิ ตนำกำร  ดว้ ยกำรใชด้ ินน้ำมนั หรอื ดนิ เหนียว หรอื ดนิ เหนียว โดยเน้นกำรถำ่ ยทอด จินตนำกำร 5 ศ ๑.๑ ป.๕/๕ สร้ำงสรรค์งำนพมิ พภ์ ำพ โดยเน้น  กำรจัดภำพในงำนพิมพ์ภำพ  กำรจัดวำงตำแหน่งของสิ่งตำ่ ง ๆ ในภำพ 6 ศ ๑.๑ ป.๕/๖ ระบปุ ญั หำในกำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์  กำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์และ  กำรสอื่ ควำมหมำยในงำนทัศนศิลป์ และกำรสื่อควำมหมำยในงำนทศั นศิลป์ ของตนเอง และบอกวธิ กี ำรปรบั ปรงุ งำน ใหด้ ีข้นึ 7 ศ ๑.๑ ป.๕/๗ บรรยำยประโยชนแ์ ละคุณค่ำ  ประโยชน์และคุณค่ำของงำนทัศนศลิ ป์  ของงำนทัศนศลิ ป์ที่มผี ลต่อชีวิต ของคนในสังคม 8 ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ระบุ และบรรยำยเกีย่ วกับ  ลักษณะรปู แบบของงำนทัศนศิลป์  ลักษณะรปู แบบของงำนทศั นศิลป์ ในแหล่งเรยี นรู้หรือนิทรรศกำรศิลปะ 9 ศ ๑.๒ ป.๕/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั งำนทัศนศลิ ป์  งำนทัศนศิลป์ทส่ี ะทอ้ นวัฒนธรรม  และภมู ิปญั ญำในท้องถิ่น ทีส่ ะท้อนวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญำ ในท้องถิ่น 10 ศ 2.1 ป.5/1 ระบุองค์ประกอบดนตรใี นเพลง  กำรสื่ออำรมณ์ของบทเพลง  ทีใ่ ช้ในกำรสอ่ื อำรมณ์ ด้วยองคป์ ระกอบดนตรี - จงั หวะกับอำรมณ์ของบทเพลง - ทำนองกบั อำรมณ์ของบทเพลง 11 ศ 2.1 ป.5/2 จำแนกลกั ษณะของเสยี งขับร้องและ  ลกั ษณะของเสียงนักร้องกลุ่มต่ำง ๆ  เครือ่ งดนตรีทอี่ ยู่ในวงดนตรีประเภท ตำ่ ง ๆ  ลกั ษณะเสยี งของวงดนตรีประเภทต่ำง ๆ 12 ศ 2.1 ป.5/3 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล  เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี  ๕ ระดับเสียง บนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale โนต้ เพลงในบนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๒ ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 13 ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ ครือ่ งดนตรบี รรเลงจังหวะ  กำรบรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ  และทำนอง  กำรบรรเลงเครื่องดำเนนิ ทำนอง 14 ศ 2.1 ป.5/5 ร้องเพลงไทยหรือเพลงสำกล  กำรรอ้ งเพลงไทยในอัตรำจังหวะสองชัน้  หรอื เพลงไทยสำกลท่เี หมำะสมกบั วยั  กำรร้องเพลงสำกล หรือไทยสำกล  กำรรอ้ งเพลงประสำนเสียงแบบ Canon Round 15 ศ 2.1 ป.5/6 ด้นสดงำ่ ย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบ  กำรสร้ำงสรรคป์ ระโยคเพลงถำม - ตอบ  ถำม - ตอบ 16 ศ 2.1 ป.5/7 ใชด้ นตรรี ่วมกับกจิ กรรม  กำรบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรม  ในกำรแสดงออกตำมจินตนำกำร นำฏศลิ ป์  กำรสรำ้ งสรรคเ์ สียงประกอบกำรเลำ่ เรอ่ื ง 17 ศ 2.2 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงดนตรี  ดนตรกี ับงำนประเพณี  กับประเพณใี นวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ - บทเพลงในงำนประเพณใี นท้องถน่ิ - บทบำทของดนตรใี นแตล่ ะประเพณี 18 ศ 2.2 ป.5/2 อธิบำยคณุ ค่ำของดนตรีทีม่ ำจำก  คุณค่ำของดนตรจี ำกแหลง่ วัฒนธรรม  วัฒนธรรมทีต่ ่ำงกนั - คุณคำ่ ทำงสงั คม - คุณคำ่ ทำงประวัติศำสตร์ 19 ศ 3.1 ป.5/1 บรรยำยองคป์ ระกอบนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบของนำฏศลิ ป์  - จังหวะ - ทำนอง - คำร้อง - ภำษำทำ่ - นำฏยศพั ท์ - อปุ กรณ์ 20 ศ 3.1 ป.5/2 แสดงท่ำทำงประกอบเพลง  กำรประดิษฐ์ท่ำทำงประกอบเพลง  หรอื เร่อื งรำวตำมควำมคิดของตน หรือท่ำทำงประกอบเรื่องรำว 21 ศ 3.1 ป.5/3 แสดงนำฏศิลป์ โดยเนน้ กำรใช้  กำรแสดงนำฏศิลป์  ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ในกำรสือ่ - ระบำ ควำมหมำยและกำรแสดงออก - ฟ้อน - รำวงมำตรฐำน 22 ศ 3.1 ป.5/4 มสี ว่ นรว่ มในกลมุ่ กบั กำรเขียน  องค์ประกอบของละคร  เคำ้ โครงเรือ่ งหรอื บทละครสนั้ ๆ - กำรเลือกและเขียนเค้ำโครงเรือ่ ง - บทละครสนั้ ๆ 23 ศ 3.1 ป.5/5 เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ  ท่ีมำของกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ  นำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พ้ืนเมือง กำรละเล่น ของหลวง กำรแสดงโขน และละคร สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๓๐๓ ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.5 24 ศ 3.1 ป.5/6 บอกประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จำก  หลกั กำรชมกำรแสดง  กำรถำ่ ยทอดควำมรู้สึกและคุณคำ่  กำรชมกำรแสดง ของกำรแสดงนำฏศิลป์ โขน ละคร  25 ศ 3.2 ป.5/1 เปรียบเทียบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ  ของไทยในแตล่ ะท้องถน่ิ  กำรแสดงนำฏศิลปป์ ระเภทต่ำง ๆ ๑3 ๑3 26 ศ 3.2 ป.5/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์ พื้นบำ้ นทส่ี ะท้อนถึงวัฒนธรรม และประเพณี รวม ๒๖ ตวั ชวี้ ดั สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๔ ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๖ 1 ศ ๑.๑ ป.๖/๑ ระบสุ ีค่ตู รงข้ำม และอภิปรำยเก่ยี วกับ กำรใช้สคี ู่ตรงข้ำมในกำรถ่ำยทอด  กำรสร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้  2 ศ ๑.๑ ป.๖/๒ ควำมคิดและอำรมณ์ 3 ศ ๑.๑ ป.๖/๖ อธบิ ำยหลักกำรจัดขนำดสัดส่วน วงสธี รรมชำติ สีคู่ตรงข้ำม หลกั กำรจัดขนำด ควำมสมดลุ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ สัดสว่ น และควำมสมดุล 4 ศ ๑.๑ ป.๖/๓ สรำ้ งสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้  สคี ู่ตรงข้ำมหลักกำรจดั ขนำดสดั ส่วน 5 ศ ๑.๑ ป.๖/๔ และควำมสมดลุ  6 ศ ๑.๑ ป.๖/๕ สร้ำงงำนทศั นศลิ ป์จำกรปู แบบ ๒ มติ ิ 7 ศ ๑.๑ ป.๖/๗ เป็น๓ มิติ โดยใช้หลกั กำรของแสงเงำ  งำนทศั นศลิ ป์รูปแบบ ๒ มิติ และ ๓ มติ ิ  และน้ำหนัก 8 ศ ๑.๒ ป.๖/๑ สร้ำงสรรคง์ ำนป้ันโดยใชห้ ลกั กำรเพิ่ม  กำรใชห้ ลกั กำรเพิม่ และลดในกำร  9 ศ ๑.๒ ป.๖/๒ และลด สร้ำงสรรค์งำนป้ัน  สร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์โดยใช้  10 ศ ๑.๒ ป.๖/๓ หลกั กำรของรูปและพน้ื ที่วำ่ ง  รปู และพน้ื ทวี่ ่ำงในงำนทัศนศิลป์ สรำ้ งงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ 11 ศ 2.1 ป.6/1 แผนผัง และภำพประกอบ  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ 12 ศ 2.1 ป.6/2 เพ่อื ถ่ำยทอดควำมคิดหรือเร่ืองรำว แผนผัง และภำพประกอบ เกี่ยวกบั เหตุกำรณต์ ่ำง ๆ 13 ศ 2.1 ป.6/3 บรรยำยบทบำทของงำนทศั นศิลป์  บทบำทของงำนทศั นศิลปใ์ นชีวติ และ  ทสี่ ะท้อนชีวติ และสังคม สังคม  14 ศ 2.1 ป.6/4 อภิปรำยเกยี่ วกบั อทิ ธพิ ลของควำมเชื่อ ควำมศรัทธำในศำสนำท่มี ผี ลตอ่ งำน  อทิ ธพิ ลของศำสนำและวฒั นธรรม ทัศนศลิ ป์ในท้องถนิ่ ทีม่ ีตอ่ กำรสร้ำงงำนทศั นศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน ระบุและบรรยำยอิทธิพลทำงวัฒนธรรม ในท้องถ่ินที่มผี ลต่อกำรสร้ำงงำน  ทัศนศลิ ป์ของบุคคล บรรยำยเพลงที่ฟัง โดยอำศัย  องค์ประกอบดนตรแี ละศัพท์สังคีต  องคป์ ระกอบดนตรี และศัพท์สงั คีต จำแนกประเภท และบทบำทหนำ้ ที่  เครอ่ื งดนตรีไทยแตล่ ะภำค  เครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรี ท่มี ำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ  บทบำทและหน้ำท่ขี องเครือ่ งดนตรี อ่ำน เขียนโน้ตไทย และโนต้ สำกล  ประเภทของเครื่องดนตรสี ำกล ทำนองง่ำย ๆ   เครอ่ื งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี ใช้เคร่อื งดนตรีบรรเลงประกอบ กำร  โน้ตบทเพลงไทย อตั รำจงั หวะสองชัน้ ร้องเพลง ดน้ สด ท่ีมีจังหวะ  โน้ตบทเพลงสำกลในบันไดเสียง C Major และทำนองง่ำย ๆ   กำรร้องเพลงประกอบดนตรี  กำรสรำ้ งสรรค์รูปแบบจังหวะและทำนอง ด้วยเครอ่ื งดนตรี สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๕ ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.6 15 ศ 2.1 ป.6/5 บรรยำยควำมรสู้ ึกที่มตี ่อดนตรี  กำรบรรยำยควำมรู้สกึ และแสดง  16 ศ 2.1 ป.6/6 แสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกับทำนอง ควำมคิดเห็นท่ีมีต่อบทเพลง  - เนื้อหำในบทเพลง จงั หวะ กำรประสำนเสยี ง และ - องค์ประกอบในบทเพลง คุณภำพเสยี งของเพลงที่ฟงั - คณุ ภำพเสยี งในบทเพลง 17 ศ 2.2 ป.6/1 อธบิ ำยเรอ่ื งรำวของดนตรไี ทย  ดนตรีไทยในประวัติศำสตร์  - ดนตรีในเหตุกำรณส์ ำคัญ ในประวตั ศิ ำสตร์ 18 ศ 2.2 ป.6/2 จำแนกดนตรที ี่มำจำกยุคสมยั ท่ีต่ำงกนั ทำงประวัติศำสตร์  - ดนตรใี นยุคสมัยตำ่ ง ๆ 19 ศ 2.2 ป.6/3 อภิปรำยอทิ ธิพลของวฒั นธรรม  ต่อดนตรใี นทอ้ งถน่ิ 20 ศ 3.1 ป.6/1 สร้ำงสรรคก์ ำรเคล่ือนไหวและกำรแสดง  กำรประดิษฐท์ ำ่ ทำงประกอบเพลงปลกุ ใจ  โดยเนน้ กำรถำ่ ยทอดลีลำ หรอื อำรมณ์ หรอื เพลงพนื้ เมืองหรือท้องถิ่น เน้นลลี ำ หรืออำรมณ์ 21 ศ 3.1 ป.6/2 ออกแบบเคร่อื งแต่งกำย หรืออปุ กรณ์  กำรออกแบบสร้ำงสรรค์  - เครือ่ งแต่งกำย ประกอบกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - อปุ กรณ์ ฉำกประกอบกำรแสดง 22 ศ 3.1 ป.6/3 แสดงนำฏศิลปแ์ ละละครง่ำย ๆ  กำรแสดงนำฏศิลป์และกำรแสดงละคร  - รำวงมำตรฐำน - ระบำ - ฟอ้ น - ละครสร้ำงสรรค์ 23 ศ 3.1 ป.6/4 บรรยำยควำมรู้สึกของตนเอง  บทบำทและหน้ำที่ในงำนนำฏศิลป์  ทม่ี ตี อ่ งำนนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร และกำรละคร อย่ำงสรำ้ งสรรค์  หลกั กำรชมกำรแสดง 24 ศ 3.1 ป.6/5 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรชมกำรแสดง - กำรวเิ ครำะห์  - ควำมรู้สกึ ชืน่ ชม 25 ศ 3.1 ป.6/6 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบทำงนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร  และกำรละครกับส่ิงทป่ี ระสบ ในชวี ิตประจำวัน 26 ศ 3.2 ป.6/1 อธิบำยสิ่งท่ีมีควำมสำคัญต่อกำรแสดง  ควำมหมำย ควำมเป็นมำ ควำมสำคญั  นำฏศิลป์และละคร ของนำฏศิลป์ โขน ละคร และบุคคลสำคัญ ทำงนำฏศิลป์และกำรละคร 27 ศ 3.2 ป.6/2 ระบปุ ระโยชน์ท่ไี ดร้ ับจำกกำรแสดง  กำรแสดงนำฏศิลปแ์ ละละคร ในวันสำคัญ  หรือกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์ ของโรงเรยี น และละคร รวม ๒๗ ตวั ช้วี ัด ๑7 ๑0 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๖ ชนั้ ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๑ 1 ศ ๑.๑ ม.๑/๑ บรรยำยควำมแตกตำ่ งและ  ควำมคล้ำยคลงึ กันของงำนทัศนศิลป์  เอกภำพ ควำมกลมกลนื ควำมสมดลุ 2 ศ ๑.๑ ม.๑/๒ และส่ิงแวดล้อมโดยใชค้ วำมรู้ ควำมแตกตำ่ งและควำมคลำ้ ยคลึงกัน  3 ศ ๑.๑ ม.๑/๔ เร่ืองทัศนธำตุ ของทัศนธำตุในงำนทัศนศลิ ป์ ระบุ และบรรยำยหลักกำรออกแบบ หลักกำรออกแบบและสิง่ แวดล้อม 4 ศ ๑.๑ ม.๑/๓ งำนทศั นศลิ ป์ โดยเน้นควำมเป็นเอกภำพ โดยสำมำรถสร้ำงงำนโดยสอื่ ถึงเรอ่ื งรำว 5 ศ ๑.๑ ม.๑/๕ ควำมกลมกลนื และควำมสมดลุ 6 ศ ๑.๑ ม.๑/๖ รวบรวมงำนปั้นหรือสอื่ ผสมมำสรำ้ ง  7 ศ ๑.๒ ม.๑/๑ เปน็ เรื่องรำว ๓ มิติ โดยเนน้ ควำมเปน็ เอกภำพ ควำมกลมกลืน  หลกั กำรวำดภำพแสดงทัศนียภำพ  8 ศ ๑.๒ ม.๑/๒ และกำรส่ือถึงเรื่องรำวของงำน  9 ศ ๑.๒ ม.๑/๓ วำดภำพทัศนียภำพแสดงใหเ้ ห็น  กำรออกแบบรูปภำพ สญั ลกั ษณ์ 10 ศ 2.1 ม.1/1 ระยะไกลใกล้ เปน็ ๓ มิติ หรอื งำนกรำฟกิ  ออกแบบรูปภำพ สัญลักษณ์ 11 ศ 2.1 ม.1/2 หรอื กรำฟกิ อ่นื ๆ ในกำรนำเสนอ  กำรประเมนิ งำนทัศนศิลป์ ควำมคิดและข้อมลู ประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ และบรรยำยถึง  ลักษณะ รปู แบบงำนทศั นศิลป์ของท้องถ่ิน  วธิ ีกำรปรบั ปรงุ งำนของตนเองและ และของชำติตำมวฒั นธรรมไทยและสำกล ผ้อู น่ื โดยใช้เกณฑท์ ีก่ ำหนดให้ ระบแุ ละบรรยำยเก่ยี วกับลักษณะ  รปู แบบงำนทัศนศิลป์ของชำติ  และของท้องถ่นิ ตนเองจำกอดีตจนถงึ ปจั จุบนั  เครอื่ งหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี  ระบุและเปรียบเทียบงำนทศั นศิลป์ - โนต้ บทเพลงไทย อตั รำจังหวะสองช้ัน  ของภำคตำ่ ง ๆ ในประเทศไทย - โน้ตสำกล ในกุญแจซอลและฟำ เปรยี บเทยี บควำมแตกตำ่ ง ในบนั ไดเสียง C Major ของจดุ ประสงค์ในกำรสร้ำงสรรค์งำน ทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสำกล  เสยี งร้องและเสยี งของเครื่องดนตรี อำ่ น เขียน ร้องโน้ตไทยและโน้ตสำกล ในบทเพลงจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - วธิ กี ำรขบั รอ้ ง เปรียบเทยี บเสยี งรอ้ งและเสยี งของ - เครือ่ งดนตรีทีใ่ ช้ เครอื่ งดนตรีทมี่ ำจำกวฒั นธรรม ทต่ี ำ่ งกนั สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๗ ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๑ 12 ศ 2.1 ม.1/3 รอ้ งเพลงและใชเ้ ครื่องดนตรบี รรเลง ประกอบกำรร้องเพลง  กำรร้องและกำรบรรเลงเครื่องดนตรี  13 ศ 2.1 ม.1/4 ดว้ ยบทเพลงทห่ี ลำกหลำยรูปแบบ 14 ศ 2.1 ม.1/5 ประกอบกำรร้อง 15 ศ 2.1 ม.1/6 จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและ 16 ศ 2.1 ม.1/7 วงดนตรีท่ีมำจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - บทเพลงไทยแบบแผนอัตรำจังหวะ ๒ ช้ัน 17 ศ 2.1 ม.1/8 18 ศ 2.1 ม.1/9 แสดงควำมคิดเห็นทม่ี ีต่ออำรมณ์ - บทเพลงประสำนเสียง ๒ แนว 19 ศ 2.2 ม.1/1 ของบทเพลงที่มีควำมเรว็ ของจงั หวะ 20 ศ 2.2 ม.1/2 และควำมดัง - เบำแตกตำ่ งกัน - บทเพลงประกอบกำรแสดง 21 ศ 3.1 ม.1/1 เปรียบเทียบอำรมณ์ ควำมรูส้ ึก ในกำรฟังดนตรีแต่ละประเภท  วงดนตรีพน้ื เมือง  22 ศ 3.1 ม.1/2 นำเสนอตัวอยำ่ งเพลงที่ตนเองชื่นชอบ และอภิปรำยลกั ษณะเดน่ ท่ที ำใหง้ ำนนน้ั  วงดนตรไี ทย นำ่ ชน่ื ชม ใชเ้ กณฑ์สำหรบั ประเมนิ คณุ ภำพ  วงดนตรีสำกล งำนดนตรหี รอื เพลงท่ีฟงั ใช้และบำรงุ รักษำเครื่องดนตรี  กำรถ่ำยทอดอำรมณข์ องบทเพลง  อย่ำงระมดั ระวังและรบั ผิดชอบ อธิบำยบทบำทควำมสัมพนั ธแ์ ละ - จงั หวะกับอำรมณ์เพลง อิทธิพลของดนตรีที่มตี ่อสังคมไทย - ควำมดงั - เบำกับอำรมณ์เพลง ระบุควำมหลำกหลำย ขององค์ประกอบดนตรี - ควำมแตกตำ่ งของอำรมณเ์ พลง  ในวฒั นธรรมต่ำงกัน อธิบำยอิทธิพลของนักแสดงช่อื ดัง  กำรนำเสนอบทเพลงทต่ี นสนใจ  ที่มีผลตอ่ กำรโน้มน้ำวอำรมณ์ หรือควำมคิดของผูช้ ม  กำรประเมนิ คุณภำพของบทเพลง ใช้นำฏยศัพท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร - คณุ ภำพด้ำนเนื้อหำ ในกำรแสดง - คณุ ภำพด้ำนเสยี ง  - คุณภำพดำ้ นองคป์ ระกอบดนตรี  กำรใช้และบำรุงรักษำเคร่ืองดนตรีของตน   บทบำทและอิทธพิ ลของดนตรี  - บทบำทดนตรีในสังคม  - อิทธิพลของดนตรใี นสังคม  องคป์ ระกอบของดนตรี ในแต่ละวฒั นธรรม  กำรปฏิบตั ขิ องผแู้ สดงและผู้ชม   ประวตั นิ ักแสดงทีช่ ่นื ชอบ  กำรพฒั นำรปู แบบของกำรแสดง  อทิ ธิพลของนักแสดงที่มีผลตอ่ พฤติกรรม ของผชู้ ม  นำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร  ในกำรแสดง  ภำษำท่ำ และกำรตบี ท  ท่ำทำงเคลอื่ นไหวทแ่ี สดงส่ือทำงอำรมณ์  ระบำเบ็ดเตลด็  รำวงมำตรฐำน สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๘ ช้นั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.1 23 ศ 3.1 ม.1/3 แสดงนำฏศลิ ป์และละคร  รปู แบบกำรแสดงนำฏศิลป์  ในรูปแบบงำ่ ย ๆ 24 ศ 3.1 ม.1/4 - นำฏศลิ ป์ โขน ละคร  ใชท้ ักษะกำรทำงำนเปน็ กลุ่ม - นำฏศลิ ป์พนื้ บ้ำน 25 ศ 3.1 ม.1/5 ในกระบวนกำรผลิตกำรแสดง - นำฏศลิ ปน์ ำนำชำติ   บทบำทและหนำ้ ท่ขี องฝำ่ ยตำ่ ง ๆ 26 ศ 3.2 ม.1/1 ใช้เกณฑ์งำ่ ย ๆ ทกี่ ำหนดให้ ในกำรจัดกำรแสดง  27 ศ 3.2 ม.1/2 ในกำรพิจำรณำคุณภำพกำรแสดงทชี่ ม  กำรสรำ้ งสรรค์กิจกรรมกำรแสดงที่สนใจ  โดยเน้นเร่ืองกำรใชเ้ สียง กำรแสดงทำ่ โดยแบ่งฝำ่ ยและหน้ำที่ใหช้ ดั เจน 15 12 และกำรเคลื่อนไหว  หลักในกำรชมกำรแสดง ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง ของนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พนื้ บำ้ น  ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อกำรเปล่ียนแปลง ละครไทย และละครพนื้ บ้ำน ของนำฏศิลป์ นำฏศิลป์พ้นื บ้ำน บรรยำยประเภทของละครไทย ละครไทย และละครพืน้ บ้ำน ในแต่ละยคุ สมัย  ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมัย รวม ๒๗ ตัวชวี้ ดั สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๙ ชัน้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๒ 1 ศ ๑.๑ ม.๒/๑ อภปิ รำยเก่ียวกับทศั นธำตุในด้ำนรปู แบบ  และแนวคดิ ของงำนทัศนศิลป์ทีเ่ ลอื กมำ  รูปแบบของทัศนธำตุและแนวคิด 2 ศ ๑.๑ ม.๒/๒ ในงำนทศั นศิลป์  บรรยำยเกีย่ วกับควำมเหมอื นและ 3 ศ ๑.๑ ม.๒/๓ ควำมแตกต่ำงของรปู แบบกำรใช้วสั ดุ  ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง  4 ศ ๑.๑ ม.๒/๔ อุปกรณ์ในงำนทัศนศลิ ป์ของศิลปิน ของรูปแบบกำรใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ 5 ศ 1.1 ม.2/5 ในงำนทศั นศิลป์ของศลิ ปิน 6 ศ ๑.๑ ม.๒/๖ วำดภำพด้วยเทคนคิ ที่หลำกหลำย 7 ศ ๑.๑ ม.๒/๗ ในกำรสื่อควำมหมำยและเร่ืองรำวต่ำง ๆ  เทคนคิ ในกำรวำดภำพส่ือควำมหมำย สรำ้ งเกณฑ์ในกำรประเมนิ และวจิ ำรณ์ 8 ศ ๑.๒ ม.๒/๑ งำนทัศนศลิ ป์  กำรพัฒนำผลงำนทัศนศิลปแ์ ละ  นำผลกำรวิจำรณ์ไปปรับปรงุ แก้ไขและ กำรประเมนิ และวิจำรณ์งำนทัศนศลิ ป์  9 ศ ๑.๒ ม.๒/๒ พัฒนำงำน วำดภำพแสดงบคุ ลิกลกั ษณะ - กำรจดั ทำแฟ้มสะสมงำนทัศนศิลป์ 10 ศ ๑.๒ ม.๒/๓ ของตวั ละคร  กำรวำดภำพถำ่ ยทอดบคุ ลกิ ลักษณะ  11 ศ 2.1 ม.2/1 บรรยำยวิธกี ำรใชง้ ำนทัศนศลิ ป์ ของตัวละคร  12 ศ 2.1 ม.2/2 ในกำรโฆษณำเพ่ือโน้มนำ้ วใจ และนำเสนอตัวอย่ำงประกอบ  งำนทศั นศลิ ป์ในกำรโฆษณำ 13 ศ 2.1 ม.2/3 ระบุและบรรยำยเกี่ยวกับวัฒนธรรม ตำ่ ง ๆ ที่สะท้อนถึงงำนทัศนศิลป์  ทัศนศิลปแ์ ละงำนออกแบบในวฒั นธรรมไทย  ในปัจจุบนั และสำกลในงำนทศั นศลิ ป์ในแต่ละยคุ สมัย บรรยำยถงึ กำรเปล่ียนแปลงของงำน ทัศนศิลปข์ องไทยในแต่ละยุคสมัย  โดยเน้นถงึ แนวคิดและเน้ือหำของงำน เปรยี บเทียบแนวคดิ ในกำรออกแบบ  งำนทศั นศิลป์ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมไทย และสำกล  องคป์ ระกอบของดนตรจี ำกแหล่ง  เปรียบเทียบกำรใช้องค์ประกอบดนตรี วัฒนธรรมตำ่ ง ๆ  ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมตำ่ งกนั  เครอ่ื งหมำยและสัญลักษณท์ ำงดนตรี  อำ่ น เขียนร้องโนต้ ไทยและโน้ตสำกล - โน้ตจำกเพลงไทยอัตรำจงั หวะสองชน้ั ท่มี เี ครื่องหมำยแปลงเสยี ง - โน้ตสำกล (เครอ่ื งหมำยแปลงเสยี ง) ระบุปัจจยั สำคัญท่ีมีอิทธพิ ล  ปัจจัยในกำรสรำ้ งสรรค์บทเพลง ต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี - จินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลง - กำรถ่ำยทอดเรื่องรำวควำมคิด ในบทเพลง สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๐ ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.2 14 ศ 2.1 ม.2/4 รอ้ งเพลง และเลน่ ดนตรเี ดย่ี วและรวมวง   เทคนคิ กำรรอ้ งและบรรเลงดนตรี  15 ศ 2.1 ม.2/5 บรรยำยอำรมณข์ องเพลง - กำรรอ้ งและบรรเลงเด่ียว 16 ศ 2.1 ม.2/6 และควำมรสู้ ึกที่มีต่อบทเพลงทฟี่ ัง - กำรรอ้ งและบรรเลงเปน็ วง  ประเมินพฒั นำกำรทักษะทำงดนตรี 17 ศ 2.1 ม.2/7 ของตนเองหลงั จำกกำรฝึกปฏิบัติ  กำรบรรยำยอำรมณแ์ ละควำมรู้สกึ  18 ศ 2.2 ม.2/1 ในบทเพลง 19 ศ 2.2 ม.2/2 ระบงุ ำนอำชีพต่ำง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ดนตรแี ละบทบำทของดนตรี  กำรประเมินควำมสำมำรถทำงดนตรี 20 ศ 3.1 ม.2/1 ในธุรกจิ บนั เทงิ - ควำมถูกต้องในกำรบรรเลง บรรยำยบทบำท และอิทธพิ ลของดนตรี - ควำมแมน่ ยำในกำรอ่ำนเครื่องหมำย 21 ศ 3.1 ม.2/2 ในวฒั นธรรมของประเทศต่ำง ๆ และสัญลักษณ์ 22 ศ 3.1 ม.2/3 บรรยำยอิทธิพลของวัฒนธรรม - กำรควบคมุ คุณภำพเสียงในกำรรอ้ ง 23 ศ 3.1 ม.2/4 และเหตกุ ำรณ์ในประวัตศิ ำสตร์ และบรรเลง ท่ีมตี อ่ รูปแบบของดนตรี ในประเทศไทย  อำชีพทำงด้ำนดนตรี อธิบำยกำรบรู ณำกำรศิลปะแขนงอ่ืน ๆ  บทบำทของดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ กบั กำรแสดง  ดนตรีในวฒั นธรรมตำ่ งประเทศ  สรำ้ งสรรค์กำรแสดงโดยใช้ องคป์ ระกอบนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร - บทบำทของดนตรีในวฒั นธรรมต่ำง ๆ  วเิ ครำะห์กำรแสดงของตนเอง - อทิ ธพิ ลของดนตรีในวัฒนธรรมต่ำง ๆ และผ้อู ืน่ โดยใช้นำฏยศพั ท์ หรอื ศพั ท์ทำงกำรละครทเี่ หมำะสม  เหตุกำรณป์ ระวัตศิ ำสตรก์ ับกำรเปล่ยี นแปลง เสนอขอ้ คดิ เหน็ ในกำรปรบั ปรุง กำรแสดง ทำงดนตรีในประเทศไทย - กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำรเมือง กบั งำนดนตรี - กำรเปลี่ยนแปลงทำงเทคโนโลยี กับงำนดนตรี  ศิลปะแขนงอน่ื ๆ กับกำรแสดง  - แสง สี เสยี ง - ฉำก - เครือ่ งแตง่ กำย - อุปกรณ์  หลักและวิธกี ำรสร้ำงสรรค์กำรแสดง  โดยใช้องค์ประกอบนำฏศลิ ป์ และกำรละคร  หลักและวธิ ีกำรวิเครำะห์กำรแสดง   วธิ กี ำรวิเครำะห์ วจิ ำรณ์กำรแสดง นำฏศิลป์ โขน และกำรละคร  สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๑ ช้ัน ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.2 24 ศ 3.1 ม.2/5 เชื่อมโยงกำรเรียนรู้ระหว่ำงนำฏศิลป์  ควำมสัมพนั ธ์ของนำฏศลิ ปห์ รือกำรละคร  และกำรละครกับสำระกำรเรียนรู้อนื่ ๆ กับสำระกำรเรียนรูอ้ น่ื ๆ 25 ศ 3.2 ม.2/1 เปรียบเทยี บลักษณะเฉพำะ  นำฏศิลปพ์ ้นื เมือง  ของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ - ควำมหมำย จำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - ทมี่ ำ - วัฒนธรรม - ลกั ษณะเฉพำะ 26 ศ 3.2 ม.2/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์  รูปแบบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ  นำฏศิลปพ์ ื้นบำ้ น ละครไทย ละครพน้ื บ้ำน หรอื มหรสพอ่ืน - นำฏศลิ ป์ ทเ่ี คยนยิ มกันในอดตี - นำฏศลิ ป์พื้นเมอื ง 27 ศ 3.2 ม.2/3 อธบิ ำยอิทธิพลของวฒั นธรรม ทม่ี ีผลต่อเน้ือหำของละคร - ละครไทย รวม ๒๗ ตัวชว้ี ัด - ละครพ้ืนบำ้ น  กำรละครสมยั ตำ่ ง ๆ  ๑๗ ๑๐ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๒ ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้  ม.๓ 1 ศ ๑.๑ ม.๓/๑ บรรยำยส่ิงแวดลอ้ มและงำนทศั นศลิ ป์  วิธกี ำรใชท้ ัศนธำตุ หลกั กำรออกแบบ ท่ีเลอื กมำ โดยใชค้ วำมรู้เร่ืองทัศนธำตุ ในสง่ิ แวดลอ้ มและงำนทัศนศิลป์  และหลักกำรออกแบบ 2 ศ ๑.๑ ม.๓/๓ วิเครำะหแ์ ละบรรยำยวิธกี ำรใช้ ทศั นธำตุ และหลกั กำรออกแบบ ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลป์ของตนเอง ให้มคี ุณภำพ 3 ศ ๑.๑ ม.๓/๗ สร้ำงสรรค์งำนทศั นศลิ ป์  ส่ือควำมหมำยเป็นเร่ืองรำว โดยประยุกตใ์ ชท้ ัศนธำตุ และหลกั กำรออกแบบ 4 ศ ๑.๑ ม.๓/๒ ระบุและบรรยำยเทคนิค วิธกี ำร  เทคนิค วิธกี ำรของศลิ ปินในกำรสรำ้ งงำน  ของศิลปินในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์ 5 ศ ๑.๑ ม.๓/๔ มที ักษะในกำรสร้ำงงำนทศั นศิลป์  ทกั ษะกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์  อย่ำงน้อย ๓ ประเภท 6 ศ ๑.๑ ม.๓/๕ มีทักษะในกำรผสมผสำนวัสดตุ ่ำง ๆ  กำรใชห้ ลกั กำรออกแบบในกำรสรำ้ งงำน  สอ่ื ผสม ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ หลักกำรออกแบบ 7 ศ ๑.๑ ม.๓/๖ สร้ำงงำนทศั นศิลป์ ทงั้ ๒ มิติ  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลปแ์ บบ ๒ มติ ิ  และ ๓ มติ ิ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์ และ ๓ มิติ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์  และจินตนำกำร และจนิ ตนำกำร 8 ศ ๑.๑ ม.๓/๘ วิเครำะหแ์ ละอภิปรำยรปู แบบ เนอื้ หำ  กำรวิเครำะหร์ ปู แบบ เน้อื หำ และคณุ คำ่ และคณุ ค่ำในงำนทศั นศลิ ป์ของตนเอง ในงำนทัศนศลิ ป์ และผอู้ ื่น หรือของศิลปนิ 9 ศ ๑.๑ ม.๓/๙ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์  กำรใชเ้ ทคนิค วิธกี ำรท่ีหลำกหลำย  เพอื่ บรรยำยเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ สรำ้ งงำนทศั นศลิ ปเ์ พ่ือสื่อควำมหมำย โดยใช้เทคนิคท่ีหลำกหลำย 10 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๐ ระบุอำชีพท่เี กยี่ วข้องกบั  กำรประกอบอำชพี ทำงทัศนศิลป์  งำนทัศนศิลป์และทักษะทจ่ี ำเปน็ ในกำรประกอบอำชีพนน้ั ๆ 11 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๑ เลอื กงำนทศั นศิลป์โดยใช้เกณฑ์  กำรจดั นทิ รรศกำร  ทกี่ ำหนดข้ึนอย่ำงเหมำะสม และนำไปจัดนิทรรศกำร สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๓ ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.3 12 ศ ๑.๒ ม.๓/๑ ศึกษำและอภิปรำยเกี่ยวกบั งำนทศั นศลิ ป์ ทีส่ ะท้อนคุณค่ำ  งำนทัศนศลิ ปต์ ำมวฒั นธรรมในแตล่ ะยุคสมัย  13 ศ ๑.๒ ม.๓/๒ ของวฒั นธรรม 14 ศ 2.1 ม.3/1 เปรียบเทยี บควำมแตกต่ำง ของไทยและสำกล ของงำนทศั นศิลป์ในแต่ละยุคสมัยของ 15 ศ 2.1 ม.3/2 วฒั นธรรมไทยและสำกล  16 ศ 2.1 ม.3/3 เปรียบเทยี บองคป์ ระกอบทใ่ี ช้ 17 ศ 2.1 ม.3/4 ในงำนดนตรีและงำนศิลปะอ่ืน  กำรเปรียบเทียบองค์ประกอบในงำนศิลปะ  18 ศ 2.1 ม.3/5 รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรีเดีย่ วและรวมวง - กำรใชอ้ งคป์ ระกอบในกำรสร้ำงสรรค์ โดยเนน้ เทคนคิ กำรรอ้ ง กำรเล่น 19 ศ 2.1 ม.3/6 กำรแสดงออก และคุณภำพเสียง งำนดนตรแี ละศิลปะแขนงอื่น แตง่ เพลงสน้ั ๆ จังหวะง่ำย ๆ - เทคนิคทีใ่ ชใ้ นกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี อธิบำยเหตุผลในกำรเลือกใช้ องค์ประกอบดนตรใี นกำรสร้ำงสรรค์ และศลิ ปะแขนงอนื่ งำนดนตรขี องตนเอง  เทคนคิ และกำรแสดงออกในกำรขบั ร้อง  เปรยี บเทียบควำมแตกตำ่ งระหว่ำง งำนดนตรขี องตนเองและผู้อ่ืน และบรรเลงดนตรีเด่ยี วและรวมวง อธบิ ำยเก่ียวกับอิทธิพลของดนตรี  อัตรำจังหวะ ๒ และ ๔  ท่มี ตี อ่ บุคคลและสงั คม ๔๔  กำรประพนั ธ์เพลงในอัตรำจังหวะ ๒ และ ๔ ๔๔  กำรเลือกใช้องคป์ ระกอบในกำรสรำ้ งสรรค์  บทเพลง - กำรเลอื กจังหวะเพื่อสรำ้ งสรรค์ บทเพลง - กำรเรยี บเรียงทำนองเพลง  กำรเปรยี บเทียบควำมแตกต่ำง  ของบทเพลง - สำเนยี ง - อตั รำจังหวะ - รูปแบบบทเพลง - กำรประสำนเสียง - เครอื่ งดนตรีทบี่ รรเลง  อิทธพิ ลของดนตรี  - อทิ ธพิ ลของดนตรตี ่อบุคคล - อิทธิพลของดนตรีตอ่ สังคม สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๔ ช้ัน ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๓ 20 ศ 2.1 ม.3/7 นำเสนอหรอื จดั กำรแสดงดนตรี  กำรจดั กำรแสดงดนตรใี นวำระตำ่ ง ๆ  - กำรเลือกวงดนตรี ท่ีเหมำะสมโดยกำรบูรณำกำร กบั สำระกำรเรียนรอู้ ื่นในกลุ่มศิลปะ - กำรเลือกบทเพลง - กำรเลอื กและจัดเตรยี มสถำนที่ - กำรเตรียมบคุ ลำกร - กำรเตรยี มอปุ กรณเ์ ครื่องมือ - กำรจัดรำยกำรแสดง 21 ศ 2.2 ม.3/1 บรรยำยววิ ฒั นำกำรของดนตรี  ประวตั ิดนตรีไทยยุคสมัยต่ำง ๆ  แต่ละยคุ สมยั  ประวัติดนตรตี ะวันตกยุคสมัยต่ำง ๆ 22 ศ 2.2 ม.3/2 อภิปรำยลักษณะเด่นที่ทำให้ งำนดนตรนี ัน้ ไดร้ ับกำรยอมรับ  ปจั จยั ทีท่ ำให้งำนดนตรไี ดร้ บั กำรยอมรับ  23 ศ 3.1 ม.3/1 ระบโุ ครงสร้ำงของบทละคร  องค์ประกอบของบทละคร  โดยใช้ศพั ท์ทำงกำรละคร - โครงเรอ่ื ง - ตวั ละครและกำรวำงลกั ษณะนสิ ัย  24 ศ 3.1 ม.3/2 ใชน้ ำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร ของตวั ละคร  ทเ่ี หมำะสม บรรยำยเปรียบเทียบกำร - ควำมคิดหรือแก่นของเรื่อง  แสดงอำกปั กิริยำของผู้คน - บทสนทนำ ในชีวติ ประจำวนั และในกำรแสดง  ภำษำท่ำหรือภำษำทำงนำฏศิลป์ 25 ศ 3.1 ม.3/4 มที กั ษะในกำรแปลควำม - ภำษำทำ่ ท่ีมำจำกธรรมชำติ และกำรสื่อสำรผ่ำนกำรแสดง - ภำษำท่ำที่มำจำกกำรประดิษฐ์ 26 ศ 3.1 ม.3/3 มีทกั ษะในกำรใช้ควำมคดิ  กำรประดิษฐ์ทำ่ รำและท่ำทำง ในกำรพฒั นำรปู แบบกำรแสดง ประกอบกำรแสดง - ควำมหมำย - ควำมเป็นมำ - ท่ำทำงที่ใชใ้ นกำรประดษิ ฐ์ท่ำรำ  รูปแบบกำรแสดง - กำรแสดงเป็นหมู่ - กำรแสดงเดีย่ ว - กำรแสดงละคร - กำรแสดงเป็นชดุ เป็นตอน สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๓๑๕ ต้องรู้ ควรรู้ ม.๓ 27 ศ 3.1 ม.3/5 วจิ ำรณ์เปรียบเทยี บงำนนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบนำฏศิลป์  ท่ีมคี วำมแตกตำ่ งกัน โดยใช้ควำมรู้ - จังหวะทำนอง เรื่ององคป์ ระกอบนำฏศลิ ป์ - กำรเคลื่อนไหว  - อำรมณ์และควำมรู้สึก   - ภำษำทำ่ นำฎยศพั ท์   - รูปแบบของกำรแสดง ๑๙ ๑๓ - กำรแตง่ กำย 28 ศ 3.1 ม.3/6 รว่ มจัดงำนกำรแสดงในบทบำทหนำ้ ที่  วิธีกำรเลอื กกำรแสดง ตำ่ ง ๆ - ประเภทของงำน - ข้ันตอน - ประโยชนแ์ ละคณุ คำ่ ของกำรแสดง 29 ศ 3.1 ม.3/7 นำเสนอแนวคิดจำกเนื้อเร่ือง  ละครกับชวี ิต ของกำรแสดงท่สี ำมำรถนำไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวนั 30 ศ 3.2 ม.3/1 ออกแบบ และสร้ำงสรรค์อุปกรณ์  กำรออกแบบและสร้ำงสรรค์อุปกรณ์ และเคร่ืองแตง่ กำย เพอ่ื แสดงนำฏศลิ ป์ และเครื่องแตง่ กำยเพือ่ กำรแสดง และละครที่มำจำกวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ นำฏศลิ ป์ 31 ศ 3.2 ม.3/2 อธิบำยควำมสำคัญและบทบำท  ควำมสำคญั และบทบำทของนำฏศลิ ป์ ของนำฏศลิ ป์และกำรละคร และกำรละครในชวี ิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั 32 ศ 3.2 ม.3/3 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรอนุรักษ์  กำรอนุรักษน์ ำฏศลิ ป์ รวม ๓๒ ตัวช้วี ัด สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๖ ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 1 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑ วิเครำะหก์ ำรใช้ทศั นธำตุ  ทศั นธำตแุ ละหลักกำรออกแบบ  และหลักกำรออกแบบในกำรสื่อ ควำมหมำยในรปู แบบต่ำง ๆ 2 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๒ บรรยำยจดุ ประสงค์และเนื้อหำ  ศพั ท์ทำงทัศนศลิ ป์  ของงำนทศั นศิลป์ โดยใชศ้ ัพท์ ทำงทศั นศลิ ป์ 3 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์กำรเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์  วสั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ  และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในกำรแสดงออก ในกำรแสดงออกทำงทัศนศลิ ป์ ทำงทศั นศิลป์ 4 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๔ มที กั ษะและเทคนคิ ในกำรใชว้ สั ดุ  เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนกำร  อปุ กรณ์ และกระบวนกำรท่สี ูงขน้ึ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์ 5 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๕ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ดว้ ยเทคโนโลยี  หลกั กำรออกแบบและกำรจดั  ต่ำง ๆ โดยเน้นหลักกำรออกแบบและ องคป์ ระกอบศลิ ปด์ ว้ ยเทคโนโลยี กำรจัดองค์ประกอบศลิ ป์ 6 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ออกแบบงำนทศั นศิลปไ์ ด้เหมำะกับ  กำรออกแบบงำนทัศนศลิ ป์  โอกำสและสถำนท่ี 7 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๗ วิเครำะหแ์ ละอธบิ ำยจดุ มุ่งหมำย  จุดมุง่ หมำยของศลิ ปินในกำรเลอื กใช้  ของศลิ ปนิ ในกำรเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค และเน้ือหำ เทคนิค และเน้อื หำ เพื่อสร้ำงสรรค์ งำนทศั นศลิ ป์ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ 8 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๘ ประเมินและวจิ ำรณ์งำนทัศนศิลป์  ทฤษฎีกำรวิจำรณ์ศิลปะ  โดยใช้ทฤษฎกี ำรวิจำรณ์ศิลปะ 9 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๙ จดั กลุม่ งำนทัศนศิลป์เพ่อื สะท้อน  กำรจัดทำแฟม้ สะสมงำนทศั นศิลป์  พฒั นำกำรและควำมก้ำวหน้ำ ของตนเอง 10 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐ สร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปไ์ ทย สำกล  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์จำกแนวคดิ  โดยศึกษำจำกแนวคดิ และวธิ กี ำร และวธิ กี ำรของศิลปนิ สร้ำงงำนของศิลปนิ ที่ตนชืน่ ชอบ 11 ศ ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑๑ วำดภำพระบำยสีเปน็ ภำพล้อเลียน  กำรวำดภำพล้อเลยี นหรือภำพกำร์ตูน  หรือภำพกำร์ตนู เพ่ือแสดงควำมคดิ เห็น เกีย่ วกับสภำพสังคมในปัจจุบัน 12 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๑ วเิ ครำะห์ และเปรียบเทยี บ  งำนทศั นศลิ ปร์ ูปแบบตะวันออก  งำนทศั นศิลป์ในรปู แบบตะวนั ออก และตะวนั ตก และรูปแบบตะวนั ตก สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๗ ชัน้ ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 13 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๒ ระบุงำนทัศนศิลปข์ องศลิ ปิน  งำนทัศนศิลป์ของศลิ ปินที่มชี ือ่ เสียง  ท่มี ชี ื่อเสียง และบรรยำยผลตอบรบั ของสังคม 14 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๓ อภิปรำยเก่ยี วกับอทิ ธิพลของ  อิทธิพลของวัฒนธรรมระหวำ่ งประเทศ  ทม่ี ผี ลต่องำนทัศนศิลป์ วฒั นธรรมระหว่ำงประเทศ ทีม่ ีผลตอ่ งำนทศั นศิลป์ในสังคม 15 ศ ๒.1 ม.4 -6/1 เปรียบเทียบรปู แบบของบทเพลง  กำรจัดวงดนตรี   และวงดนตรีแต่ละประเภท - กำรใช้เครือ่ งดนตรใี นวงดนตรี  ประเภทตำ่ ง ๆ - บทเพลงทีบ่ รรเลงโดยวงดนตรี ประเภทตำ่ ง ๆ 16 ศ ๒.1 ม.4 - 6/2 จำแนกประเภทและรูปแบบ  ประเภทของวงดนตรี  ของวงดนตรีท้ังไทยและสำกล - ประเภทของวงดนตรีไทย 17 ศ ๒.1 ม.4 - 6/3 อธิบำยเหตผุ ลที่คนต่ำงวฒั นธรรม สร้ำงสรรคง์ ำนดนตรีแตกต่ำงกนั - ประเภทของวงดนตรสี ำกล  ปจั จยั ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนดนตรี  ในแตล่ ะวัฒนธรรม - ควำมเชื่อกบั กำรสร้ำงสรรคง์ ำนดนตรี - ศำสนำกับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี - วถิ ชี ีวติ กับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี - เทคโนโลยกี ับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี 18 ศ ๒.1 ม.4 -6/4 อำ่ น เขียน โน้ตดนตรไี ทยและสำกล  เครื่องหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี ในอตั รำจงั หวะตำ่ ง ๆ - เคร่ืองหมำยกำหนดอตั รำจงั หวะ 19 ศ ๒.1 ม.4 -6/5 รอ้ งเพลง หรือเลน่ ดนตรเี ด่ยี วและรวมวง โดยเน้นเทคนิคกำรแสดงออกและ - เครอ่ื งหมำยกำหนดบนั ไดเสียง คุณภำพของกำรแสดง  โนต้ บทเพลงไทยอัตรำจังหวะ ๒ ชัน้ 20 ศ ๒.1 ม.4 - 6/6 สรำ้ งเกณฑ์สำหรบั ประเมินคุณภำพ กำรประพนั ธ์และกำรเลน่ ดนตรี และ ๓ ชน้ั ของตนเองและผู้อ่นื ได้อย่ำงเหมำะสม  เทคนิค และกำรถำ่ ยทอดอำรมณ์เพลง  21 ศ ๒.1 ม.4 - 6/7 เปรียบเทยี บอำรมณ์และควำมรสู้ ึก ท่ไี ดร้ บั จำกงำนดนตรีท่ีมำจำก ดว้ ยกำรร้องบรรเลงเครอ่ื งดนตรีเด่ยี ว วัฒนธรรมต่ำงกนั และรวมวง  เกณฑ์ในกำรประเมินผลงำนดนตรี  - คุณภำพของผลงำนทำงดนตรี - คณุ ค่ำของผลงำนทำงดนตรี  กำรถ่ำยทอดอำรมณ์ ควำมร้สู ึก ของงำนดนตรจี ำกแต่ละวฒั นธรรม สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๘ ชนั้ ที่ รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้  ม.๔-๖ 22 ศ ๒.1 ม.4 - 6/8 นำดนตรไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงำนอน่ื ๆ  ดนตรกี บั กำรผ่อนคลำย  ดนตรีกบั กำรพฒั นำมนุษย์  23 ศ 2.2 ม.4 - 6/1 วิเครำะห์รปู แบบของดนตรีไทย  และดนตรีสำกลในยุคสมยั ตำ่ ง ๆ  ดนตรกี บั กำรประชำสมั พนั ธ์   ดนตรีกบั กำรบำบัดรกั ษำ 24 ศ 2.2 ม.4 - 6/2 วเิ ครำะห์สถำนะทำงสังคมของนกั ดนตรี  ในวัฒนธรรมต่ำง ๆ  ดนตรีกบั ธุรกจิ   ดนตรกี ับกำรศึกษำ  25 ศ 2.2 ม.4 - 6/3 เปรยี บเทยี บลกั ษณะเดน่ ของดนตรี ในวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ  รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีไทย แต่ละยคุ สมยั 26 ศ 2.2 ม.4 - 6/4 อธิบำยบทบำทของดนตรี ในกำรสะท้อนแนวควำมคิดและ  รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสำกล คำ่ นยิ มที่เปล่ยี นไปของคนในสังคม แตล่ ะยุคสมยั 27 ศ 2.2 ม.4 - 6/5 นำเสนอแนวทำงในกำรส่งเสริมและ  ประวัติสังคีตกวี อนุรกั ษ์ดนตรใี นฐำนะมรดกของชำติ  ลกั ษณะเดน่ ของดนตรี 28 ศ 3.1 ม.4 - 6/1 มที กั ษะในกำรแสดงหลำกหลำยรปู แบบ ในแตล่ ะวฒั นธรรม - เคร่อื งดนตรี - วงดนตรี - ภำษำ เนือ้ ร้อง - สำเนยี ง - องคป์ ระกอบบทเพลง  บทบำทดนตรีในกำรสะท้อนสังคม - คำ่ นิยมของสังคมในผลงำนดนตรี - ควำมเชอื่ ของสงั คมในงำนดนตรี  แนวทำงและวิธีกำรในกำรสง่ เสริม อนุรักษ์ดนตรีไทย  รปู แบบของกำรแสดง - ระบำ รำ ฟ้อน โขน - กำรแสดงพนื้ เมอื งภำคต่ำง ๆ - กำรละครไทย - กำรละครสำกล สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๙ ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 29 ศ 3.1 ม.4 - 6/2 สรำ้ งสรรคล์ ะครสัน้ ในรูปแบบท่ีชน่ื ชอบ  ละครสรำ้ งสรรค์  - ควำมเปน็ มำ - องคป์ ระกอบของละครสร้ำงสรรค์ - ละครพูด  ละครโศกนำฏกรรม  ละครสขุ นำฏกรรม  ละครแนวเหมือนจรงิ  ละครแนวไมเ่ หมือนจริง 30 ศ 3.1 ม.4 - 6/3 ใช้ควำมคดิ รเิ ร่มิ ในกำรแสดงนำฏศิลป์  กำรประดิษฐ์ท่ำรำท่ีเปน็ คแู่ ละหมู่  เปน็ คแู่ ละหมู่ - ควำมหมำย - ประวตั คิ วำมเปน็ มำ - ทำ่ ทำงท่ใี ช้ในกำรประดษิ ฐท์ ่ำรำ - เพลงท่ใี ช้ 31 ศ 3.1 ม.4 - 6/4 วิจำรณก์ ำรแสดงตำมหลักนำฏศลิ ป์  หลักกำรสร้ำงสรรคแ์ ละกำรวจิ ำรณ์  และกำรละคร  หลักกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์ และละคร 32 ศ 3.1 ม.4 - 6/5 วิเครำะหแ์ ก่นของกำรแสดงนำฏศลิ ป์  ประวัตคิ วำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์  และกำรละครทต่ี ้องกำรสื่อควำมหมำย และกำรละคร ในกำรแสดง - ววิ ัฒนำกำร - ควำมงำมและคุณค่ำ 33 ศ 3.1 ม.4 - 6/6 บรรยำยและวเิ ครำะหอ์ ิทธิพล  เทคนคิ กำรจดั กำรแสดง  ของเครื่องแตง่ กำย แสง สี เสียง - แสง สี เสยี ง ฉำก อปุ กรณ์ และสถำนท่ีท่ีมีผลต่อ - ฉำก กำรแสดง - อุปกรณ์ - สถำนท่ี - เครื่องแต่งกำย 34 ศ 3.1 ม.4 - 6/7 พฒั นำและใช้เกณฑก์ ำรประเมนิ  กำรประเมินคณุ ภำพของกำรแสดง  ในกำรประเมนิ กำรแสดง - คณุ ภำพดำ้ นกำรแสดง - คุณภำพองค์ประกอบกำรแสดง 35 ศ 3.1 ม.4 - 6/8 วเิ ครำะหท์ ่ำทำงและกำรเคล่ือนไหว  กำรสรำ้ งสรรค์ผลงำน  ของผู้คนในชวี ติ ประจำวันและนำมำ - กำรจัดกำรแสดงในวนั สำคัญ ประยกุ ต์ใชใ้ นกำรแสดง ของโรงเรยี น 36 ศ 3.2 ม.4 - 6/1 เปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดง  กำรแสดงนำฏศิลป์ในโอกำสตำ่ ง ๆ  ไปใชใ้ นโอกำสตำ่ ง ๆ 37 ศ 3.2 ม.4 - 6/2 อภปิ รำยบทบำทของบุคคลสำคญั  บคุ คลสำคัญในวงกำรนำฏศิลป์  ในวงกำรนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร ของประเทศไทยในยุคสมยั ต่ำง ๆ และกำรละครของไทยในยุคสมัยต่ำง ๆ สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๒๐ ช้ัน ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ 38 ศ 3.2 ม.4 - 6/3 บรรยำยววิ ัฒนำกำรของนำฏศิลป์  ววิ ัฒนำกำรของนำฏศลิ ป์  และกำรละครไทย ตั้งแต่อดีตจนถงึ และกำรละครไทยต้ังแตอ่ ดีต ปจั จุบนั จนถึงปจั จุบัน 39 ศ 3.2 ม.4 - 6/4 นำเสนอแนวคิดในกำรอนรุ กั ษ์  กำรอนรุ ักษน์ ำฏศิลป์ ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ  นำฏศิลปไ์ ทย รวม ๓๙ ตัวช้ีวัด ๒๗ ๑๒ รวมท้ังหมด ๒๗9 ตัวชวี้ ดั 157 122 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

321 สรุปตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ชัน้ ตวั ช้วี ัดท้ังหมด ตอ้ งรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 3 2 1 ป.๒ 3 2 1 ป.๓ 3 3 0 ป.๔ 5 2 3 ป.๕ 6 3 3 ป.๖ 5 4 1 ม.๑ 6 2 4 ม.๒ 6 3 3 ม.๓ 6 4 2 ม.๔ - ๖ 11 4 7 รวม 54 29 25 ข้อมูล ณ วันท่ี 15 สิงหำคม 2559 ยกเลกิ มำตรฐำนกำรเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัดสำระที่ 2 และสำระท่ี 3 คงเหลอื 2 สำระ คือ สำระที่ 1 กำรดำเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสำระท่ี 4 กำรอำชพี และเปลย่ี นช่ือสำระท่ี 4 กำรอำชีพ เปน็ สำระท่ี 2 กำรอำชีพ ตำมคำสั่ง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภำคม 2561 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

322 ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การดารงชวี ิต ประกอบดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ งานธุรกิจ และงานอื่น ๆ แต่ไมไ่ ดก้ าหนดให้ จัดการเรยี นรูค้ รบท้ัง ๕ งาน เปน็ การเปดิ โอกาสให้เลือกตามความเหมาะสม ในท่ีน้ีเปน็ เพียงตวั อย่างของงาน เท่านั้น ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.๑ ๑ ง ๑.๑ ป.๑/๑ บอกวธิ ีการทางานเพ่ือช่วยเหลือ  ทักษะการทางานอย่างกระตอื รือรน้  ตนเอง ตรงเวลา และปลอดภยั เพอ่ื ชว่ ยเหลือตนเอง 2 ง ๑.๑ ป.๑/๒ ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครือ่ งมือ โดยใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื งา่ ย ๆ  ง่าย ๆ ในการทางานอย่างปลอดภัย ในการดารงชีวติ โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน เช่น - รดน้าตน้ ไม้ 3 ง ๑.๑ ป.๑/๓ ทางานเพื่อช่วยเหลอื ตนเอง - ประดษิ ฐ์ของเลน่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่  อยา่ งกระตือรอื รน้ และตรงเวลา - ใช้อปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหาร - จัดเกบ็ อุปกรณก์ ารเรยี นและของใช้ ส่วนตัว - ดแู ลตนเองในการแตง่ กาย รวม 3 ตัวช้ีวัด 21 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปล่ยี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสง่ั สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรียนรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

323 ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๒ ๑ ง ๑.๑ ป.๒/๑ บอกวิธกี ารและประโยชน์  ทักษะการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ  การทางานเพื่อชว่ ยเหลือตนเอง เพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครวั และครอบครวั เพื่อสร้างลักษณะนิสัยดา้ นความประหยัด 2 ง ๑.๑ ป.๒/๒ ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ ปลอดภยั และสะอาด โดยฝกึ ปฏบิ ตั ิ  ในการทางานอยา่ งเหมาะสม ผา่ นงาน เช่น  กับงานและประหยัด - ปลูกและดูแลผกั สวนครัว - ประดษิ ฐ์ของเล่น หรอื ของใชส้ ว่ นตัว 3 ง ๑.๑ ป.๒/๓ ทางานเพื่อชว่ ยเหลอื ตนเองและ ครอบครัวอยา่ งปลอดภัย จากวัสดุเหลอื ใช้ - ชว่ ยครอบครวั เตรียมประกอบอาหาร และจัดโต๊ะอาหาร - แยกประเภทอุปกรณก์ ารเรียนและ ของใชส้ ว่ นตัว รวม 3 ตัวชว้ี ัด 21 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชีพ และเปลี่ยนชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาส่ัง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจดั การเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

324 ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๓ ๑ ง ๑.๑ ป.๓/๑  อธบิ ายวธิ ีการและประโยชน์  ทักษะการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือ  2 ง ๑.๑ ป.๓/๒  3 ง ๑.๑ ป.๓/๓ การทางาน เพ่ือช่วยเหลอื ตนเอง ให้ตรงกบั ลักษณะงานอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 3- ครอบครัว และส่วนรวม เพอื่ ช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และ ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ สว่ นรวม โดยคานึงถึงความสะอาด ตรงกับลักษณะงาน รอบคอบ และอนุรักษส์ งิ่ แวดล้อม โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน เชน่ ทางานอย่างเป็นข้นั ตอน - ปลูกและดแู ลไมด้ อกไม้ประดับ ตามกระบวนการทางาน - บารงุ รักษาหรือซ่อมแซมของเลน่ ด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม หรือของใช้ในครอบครวั และสว่ นรวม - ประดษิ ฐข์ องใช้โดยใชว้ สั ดุในท้องถนิ่ ในโอกาสตา่ ง ๆ - ดูแล ทาความสะอาด และตกแต่ง ห้องเรียนให้สวยงาม - เตรียมอุปกรณเ์ คร่ืองใช้ให้ตรงกับ ลักษณะงาน รวม 3 ตัวช้ีวัด ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั สาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

325 ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๔ ๑ ง ๑.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายเหตผุ ลในการทางาน  ทกั ษะการทางานตามข้ันตอนเพ่ือใหบ้ รรลุ  ให้บรรลุเปา้ หมาย เปา้ หมาย โดยคานึงถึงการใช้พลงั งานและ 2 ง ๑.๑ ป.๔/๒ ทางานบรรลุเป้าหมายทวี่ างไว้ ทรพั ยากรอย่างประหยดั คุ้มค่า  อยา่ งเป็นขนั้ ตอนด้วยความขยัน โดยฝกึ ปฏบิ ัตผิ า่ นงาน เชน่  อดทน รบั ผดิ ชอบ และซ่อื สัตย์ - จดั ตูเ้ สอ้ื ผา้ โตะ๊ เขยี นหนงั สือ 3 ง ๑.๑ ป.๔/๓ ปฏบิ ัติตนอย่างมีมารยาท และกระเป๋านักเรียน ในการทางาน - ขยายพันธุพ์ ชื - ประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุ 4 ง ๑.๑ ป.๔/๔ ใชพ้ ลงั งานและทรัพยากร ธรรมชาติในทอ้ งถิน่  ในการทางานอย่างประหยัด - ทาบัญชรี ับ-จา่ ยสว่ นตัว และค้มุ ค่า  มารยาทในการทางานกลุม่ เชน่ - เปน็ ผ้นู า ผ้ตู าม - เคารพข้อตกลงรว่ มกนั - รับผิดชอบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย  คณุ ลกั ษณะการทางาน เช่น ขยนั อดทน รับผดิ ชอบ และซื่อสัตย์ 5 ง 2.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายความหมายและ  ความหมายและความสาคัญของอาชีพ  ความสาคญั ของอาชีพ รวม 5 ตัวช้ีวดั 23 ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชี้วดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปลีย่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสัง่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

326 ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๕ ๑ ง ๑.๑ ป.๕/๑ อธิบายเหตผุ ลในการทางาน  ทักษะการจัดการโดยทางานตามขัน้ ตอน  แต่ละขนั้ ตอนถูกต้อง อย่างเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล สร้างสรรค์ ตามกระบวนการทางาน ประณตี และมจี ติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน 2 ง ๑.๑ ป.๕/๒ ใช้ทกั ษะการจัดการในการทางาน และทรัพยากรอย่างประหยัดและค้มุ คา่  อยา่ งเป็นระบบ ประณตี เพอ่ื ใหท้ างานสาเรจ็ ตามเป้าหมายอยา่ งมี และมีความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธภิ าพ โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงาน เชน่ 3 ง ๑.๑ ป.๕/๓ ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งมีมารยาท - ซอ่ มแซม ซัก ตาก เก็บ รดี พบั เส้อื ผา้  ในการทางานกับสมาชิก - วางแผนการจัดจาหนา่ ยผลผลติ ในครอบครวั ทางการเกษตร หรืองานประดษิ ฐ์ 4 ง ๑.๑ ป.๕/๔ มจี ิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน - จัดเกบ็ ขอ้ มูลรายรบั -รายจ่าย  และทรัพยากรอย่างประหยัด และทาบัญชีครัวเรือน และคุ้มค่า - ออกแบบผลติ ภัณฑ์จากวัสดเุ หลอื ใช้ ทีม่ อี ยู่ในท้องถ่นิ  การทางานกับสมาชิกในครอบครวั อย่างมี มารยาท เชน่ การพูดจาสุภาพ การใช้ของ รว่ มกัน การแบ่งปัน 5 ง 2.๑ ป.๕/๑ สารวจข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ  สารวจขอ้ มูลและระบุความแตกตา่ งของ  ในชมุ ชน อาชีพในชมุ ชนในเรื่อง ลักษณะงาน ประเภทกจิ การ คา่ ตอบแทน เชน่  6 ง 2.๑ ป.๕/๒ ระบคุ วามแตกต่างของอาชีพ - ค้าขาย - เกษตรกรรม - รบั จา้ ง - รบั ราชการ พนกั งานของรัฐ รวม 6 ตัวช้ีวัด 33 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปลยี่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชีพ เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

327 ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.๖ ๑ ง ๑.๑ ป.๖/๑ อภปิ รายแนวทางในการทางาน  วางแผนและปรับปรุงการทางาน  และปรับปรงุ การทางาน แต่ละขน้ั ตอน โดยใช้ทกั ษะการจดั การ แตล่ ะขน้ั ตอน และการทางานรว่ มกนั ขณะปฏิบตั ิงาน และเม่ือทางานสาเร็จแล้ว โดยฝึกปฏิบัติ ผ่านงาน เช่น - ปลูกผกั เลี้ยงปลาสวยงาม ประกอบอาหาร ประดษิ ฐ์ของเล่น 2 ง ๑.๑ ป.๖/๒ ใช้ทกั ษะการจดั การในการทางาน ของใช้ ของตกแตง่ เพ่อื การจัดจาหน่าย  3 ง ๑.๑ ป.๖/๓ และมีทักษะการทางานร่วมกัน โดยเลอื กตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา - ทาบญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย  ปฏิบตั ติ นอยา่ งมีมารยาท  ทางานกบั สมาชิกในครอบครัวและผู้อน่ื ในการทางานกับครอบครวั อย่างมีมารยาท เช่น พูดจาสุภาพ ใชข้ อง และผู้อนื่ ร่วมกนั แบง่ ปนั การให้สิทธิผ์ ทู้ ี่มาก่อน และรอคอยตามลาดบั 4 ง 2.๑ ป.๖/๑ สารวจตนเองเพ่ือวางแผน  การสารวจตนเอง เพื่อวางแผนในการ  ในการเลือกอาชีพ เลือกอาชีพโดยคานึงถึงคุณธรรม ความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และ 5 ง 2.๑ ป.๖/๒ ระบุความรู้ความสามารถ และ บคุ ลิกภาพท่สี ัมพนั ธก์ ับอาชพี  คุณธรรมทสี่ มั พันธ์กับอาชีพ ท่ีสนใจ ทีส่ นใจ  คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี เชน่ - ความซ่อื สัตย์ - ความขยนั อดทน - ความยตุ ธิ รรม - ความรบั ผิดชอบ รวม 5 ตัวชว้ี ัด 41 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

328 ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๑ ๑ ง ๑.๑ ม.๑/๑ วเิ คราะห์ขน้ั ตอนการทางาน  ทักษะกระบวนการทางานและการทางาน  ตามกระบวนการทางาน รว่ มกนั (กาหนดบทบาทหน้าทส่ี มาชกิ กลุ่ม กาหนดเปา้ หมาย วางแผน แบง่ งาน 2 ง ๑.๑ ม.๑/๒ ใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทางาน ตามความสามารถ ปฏบิ ตั ิตามบทบาท  ดว้ ยความเสยี สละ หนา้ ท่ี ประเมินผล และปรับปรงุ งาน) 3 ง ๑.๑ ม.๑/๓ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาการทางาน ภายใต้ความเสยี สละและการตัดสนิ ใจ  แกป้ ัญหาอยา่ งมเี หตผุ ล ตามขนั้ ตอน อยา่ งมีเหตผุ ล การทางาน โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่ - เตรยี ม ประกอบ จัด ตกแต่ง และ บรกิ ารอาหาร - แปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร - ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุ ในท้องถิน่ 4 ง 2.๑ ม.๑/๑ อธิบายแนวทางการเลือกอาชีพ  แนวทางการเลอื กอาชีพ หรอื การสร้าง  อาชพี โดยคานงึ ถึงคุณธรรม จรยิ ธรรม   5 ง 2.๑ ม.๑/๒ มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการประกอบอาชพี เจตคติทีด่ ตี ่อการประกอบอาชพี เช่น เห็นความสาคัญของอาชีพสจุ ริต และ 6 ง 2.๑ ม.1/๓ เห็นความสาคัญของการสร้าง อาชีพในชุมชน อาชพี รวม 6 ตัวช้วี ัด 24 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนนิ ชีวิตและครอบครัว และสาระที่ 4 การอาชีพ และเปล่ียนชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

329 ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ม.๒ ๑ ง ๑.๑ ม.๒/๑ ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้  ทักษะการแสวงหาความรู้ (การศึกษา  เพ่ือพัฒนาการทางาน ค้นควา้ รวบรวม สังเกต สารวจ และ บันทกึ ) และทักษะกระบวนการแก้ปญั หา 2 ง ๑.๑ ม.๒/๒ ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา โดยมจี ติ สานกึ ในการทางานและใช้  ในการทางาน ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ 3 ง ๑.๑ ม.๒/๓ มีจิตสานึกในการทางานและใช้ เพ่ือใชใ้ นการพฒั นาการทางาน  ทรัพยากรในการปฏบิ ตั ิงาน ฝึกปฏิบตั ผิ า่ นงาน หรือโครงงานอาชพี เชน่ อยา่ งประหยดั และคุ้มค่า - งานชา่ ง (งานไม้ งานช่างยนต์ งานไฟฟา้ และงานอ่ืน ๆ) - งานบา้ น (อาหาร เส้อื ผา้ การดแู ลบา้ น - งานประดิษฐ์ - งานเกษตร - งานธุรกิจ (ออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ ตราสัญลักษณ์ ประชาสมั พนั ธ์) หมายเหตุ ควรส่งเสรมิ เอกลกั ษณไ์ ทย ตามความเหมาะสม 4 ง 2.๑ ม.๒/๑ อธบิ ายการเสริมสร้าง  การเตรียมตัวเข้าสู่อาชพี โดยการเสริมสร้าง  ประสบการณ์อาชพี ประสบการณ์อาชพี และทักษะพน้ื ฐาน ทจี่ าเป็นสาหรบั การประกอบอาชีพทส่ี นใจ 5 ง 2.๑ ม.๒/๒ ระบุการเตรียมตวั เข้าสู่อาชีพ  ทกั ษะและประสบการณท์ จ่ี าเป็น  ในการประกอบอาชีพ เช่น - ทกั ษะกระบวนการทางาน - ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา 6 ง 2.๑ ม.๒/๓ มที ักษะพน้ื ฐานท่ีจาเป็น - ทักษะการทางานร่วมกัน  สาหรับการประกอบอาชพี - ทักษะการแสวงหาความรู้ ท่สี นใจ - ทักษะการจดั การ รวม 6 ตัวช้วี ัด 33 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัดสาระที่ 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอ่ื สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

330 ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๓ ๑ ง ๑.๑ ม.๓/๑ อภปิ รายข้ันตอนการทางาน  ข้นั ตอนการทางานท่ีมปี ระสิทธิภาพ  ทีม่ ีประสิทธิภาพ โดยใช้ทกั ษะการทางานรว่ มกันอยา่ งมี คณุ ธรรม และใช้ทกั ษะการจดั การท่ีคานึงถงึ การประหยดั พลังงาน ทรัพยากร และ ส่งิ แวดลอ้ ม โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่ 2 ง ๑.๑ ม.๓/๒ ใชท้ กั ษะในการทางานร่วมกนั - งานชา่ ง (งานไม้ งานชา่ งยนต์ งานไฟฟ้า  อยา่ งมีคุณธรรม และงานอืน่ ๆ) 3 ง ๑.๑ ม.๓/๓ อภปิ รายการทางาน โดยใชท้ ักษะการจดั การ - งานบา้ น (อาหาร เสื้อผา้ การดแู ลบ้าน)  เพือ่ การประหยดั พลังงาน ทรัพยากร และสง่ิ แวดลอ้ ม - งานประดษิ ฐ์ - งานเกษตร - งานธุรกจิ (การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ การจัดจาหนา่ ย) 4 ง 2.๑ ม.๓/๑ อภิปรายการหางาน  วิเคราะห์แนวทางการหางานเพื่อเข้าสู่อาชีพ  2 ดว้ ยวธิ ีทห่ี ลากหลาย ด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลายและประเมิน 5 ง 2.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะห์แนวทางเข้าสอู่ าชีพ ทางเลอื กในการประกอบอาชีพ  (แนวทางการประเมิน รูปแบบการประเมิน 6 ง 2.๑ ม.๓/๓ ประเมินทางเลือก เกณฑ์การประเมนิ ) ท่ีสอดคล้องกบั ในการประกอบอาชีพ ความรู้ ความถนัด ความสนใจ และ ที่สอดคล้องกับความรู้ บุคลิกภาพของตนเอง ความถนัดและความสนใจ  ของตนเอง รวม 6 ตัวช้วี ัด 4 ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี และเปลย่ี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาส่งั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

331 ชนั้ ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ม.๔-๖ ๑ ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑ อธบิ ายวธิ กี ารทางาน  วธิ กี ารทางานอยา่ งมีคณุ ธรรม และ  เพ่ือการดารงชวี ิต มลี ักษณะนิสยั การทางาน โดยใช้ 2 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๒ สรา้ งผลงานอย่างมีความคิด ทักษะการจัดการในการทางาน ทักษะ  สร้างสรรค์และมีทกั ษะ กระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน การทางานร่วมกัน ทกั ษะในการแสวงหาความรู้ 3 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๓ มีทักษะการจดั การในการทางาน เพอื่ การดารงชวี ิต และสร้างผลงาน  อย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ 4 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๔ มีทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา (ความคิดริเร่ิม ความคล่องในการคิด  ในการทางาน ความยดื หยนุ่ ในการคิด และความคดิ 5 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๕ มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ละเอยี ดลออ) คานงึ ถึงการใชพ้ ลังงาน  ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมอย่างค้มุ ค่า เพ่ือการดารงชีวิต ย่ังยืน โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงานหรอื  6 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๖ มคี ุณธรรมและลกั ษณะนิสัย โครงงานอาชีพ เชน่  - งานชา่ ง (งานไม้ งานไฟฟา้ ช่างยนต์ ในการทางาน 7 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๗ ใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร หรืองานอื่น) - งานบ้าน (อาหาร เส้ือผา้ การดแู ลบา้ น) ในการทางานอย่างค้มุ ค่า - งานประดิษฐ์ และยัง่ ยนื เพื่อการอนรุ ักษ์ - งานเกษตร ส่งิ แวดล้อม - งานธรุ กจิ (การตลาด การจัดการ การโรงแรม การทอ่ งเทยี่ ว) 8 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๑ อภปิ รายแนวทางสอู่ าชีพทส่ี นใจ  แนวทางเขา้ สูอ่ าชีพ  - ขอบเขตลกั ษณะงานของแตล่ ะกลุ่มอาชพี 9 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/2 เลือกและใช้เทคโนโลยี - คุณลกั ษณะเฉพาะของอาชีพ  อยา่ งเหมาะสมกับอาชีพ - ลักษณะความม่ันคงและ ความกา้ วหนา้ ของอาชพี 10 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/3 มีประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีถนัด - การเตรียมตัวเข้าสโู่ ลกอาชีพ  และสนใจ (การพัฒนาบุคลิกภาพ การทาแฟม้ สะสมผลงาน การเตรียมทกั ษะ 11 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๔ มคี ุณลกั ษณะทีด่ ตี ่ออาชีพ ภาษาท่ีจาเปน็ ของอาชพี ทสี่ นใจ การใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะกับอาชีพ) - จาลองสถานการณ์อาชีพหรอื กจิ กรรมอาชีพท่ีสนใจ  คณุ ลักษณะท่ีดีของผูป้ ระกอบอาชีพ - ความรบั ผิดชอบ  - ซอื่ สัตย์ - ขยัน - อดทน - ตรงเวลา รวม 11 ตัวชี้วดั 47 รวมท้ังหมด 54 ตัวชวี้ ดั 29 25 ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี และเปล่ยี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชีพ เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ ตามคาสง่ั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561 สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

332 สรุปตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ช้นั ตวั ชวี้ ดั ทั้งหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ ป.๑ 16 9 7 ป.๒ 16 ๙ 7 ป.๓ 18 13 5 ป.๔ 20 17 3 ป.๕ 20 19 1 ป.๖ 20 19 1 ม.๑ 20 19 1 ม.๒ 21 19 2 ม.๓ 21 19 2 ม.๔ - ๖ 21 17 4 รวม 193 1๖๐ 33 ข้อมลู ณ วนั ท่ี 15 สิงหำคม 2559 สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

333 ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.1 1 ต 1.1 ป.1/1 ปฏิบตั ติ ำมคำสั่งงำ่ ย ๆ ที่ฟัง  คำสั่งทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น Stand up./  Sit down./Listen./Repeat./Quiet!/ Stop! etc. 2 ต 1.1 ป.1/2 ระบตุ ัวอักษรและเสียง อ่ำนออกเสียง  ตัวอักษร (letter names) เสียงตวั อักษร  และสะกดคำง่ำยๆ ถูกต้อง (letter sounds) และสระ (vowel sounds) ตำมหลักกำรอ่ำน และกำรสะกดคำ  หลักกำรอ่ำนออกเสียง เช่น - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำ 3 ต 1.1 ป.1/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำยของคำ  คำ กลุ่มคำ และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง  และกลมุ่ คำที่ฟงั ครอบครวั โรงเรียน ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั อำหำร เครือ่ งดมื่ และนันทนำกำร ภำยในวงคำศัพทป์ ระมำณ ๑๕๐ - ๒๐๐ คำ (คำศัพท์ทีเ่ ป็นรูปธรรม) 4 ต 1.1 ป.1/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังเรื่องใกล้ตวั  บทอำ่ นเกี่ยวกับเรือ่ งใกล้ตัวหรือนิทำน  ทีม่ ภี ำพประกอบ  ประโยคคำถำมและคำตอบ - Yes/No Question เชน่ Is it a/an..? Yes, it is./ No, it is not. etc. - Wh-Question เช่น What is it? It is a/an... etc. 5 ต 1.2 ป.1/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคำสน้ั ๆ ง่ำย ๆ  บทสนทนำทใ่ี ชใ้ นกำรทกั ทำย กล่ำวลำ  ในกำรสอื่ สำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ข้อควำม ตำมแบบที่ฟัง ทีใ่ ชแ้ นะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/ Good morning/Good afternoon/ Good evening/I am…/Goodbye./ Bye./Thank you./I am sorry. How are you?/I am fine. etc. 6 ต 1.2 ป.1/2 ใชค้ ำส่งั งำ่ ย ๆ ตำมแบบท่ีฟงั  คำส่ังท่ีใช้ในหอ้ งเรียน  7 ต 1.2 ป.1/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ ของตนเอง  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ช้  ตำมแบบที่ฟงั บอกควำมต้องกำร เชน่ I want…/Please,… etc. สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

334 ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.1 8 ต 1.2 ป.1/4 พดู ขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เก่ียวกับ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยค  ตนเองตำมแบบท่ีฟงั ท่ใี ชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/My name is…/ I am… etc. 9 ต 1.3 ป.1/1 พดู ให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง  คำและประโยคทใ่ี ช้ในกำรพูดใหข้ ้อมูล  และเร่ืองใกล้ตวั เกย่ี วกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเรอ่ื ง ใกลต้ ัว เช่น บอกชอื่ อำยุ รูปร่ำง ส่วนสูง สิ่งตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๒๐ สี ขนำด ตำแหน่งของส่ิงของ 10 ต 2.1 ป.1/1 พดู และทำท่ำประกอบ  วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น  ตำมวัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ กำรใช้สีหนำ้ ทำ่ ทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับ หรอื ปฏเิ สธ 11 ต 2.1 ป.1/2 บอกช่ือและคำศพั ท์เก่ยี วกับ  คำศัพท์เกีย่ วกับเทศกำลสำคัญของ  เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ เจ้ำของภำษำ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส วันขนึ้ ปใี หม่ 12 ต 2.1 ป.1/3 เข้ำรว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและ  กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น  วัฒนธรรมท่ีเหมำะกับวัย กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบท่ำทำง วนั ครสิ ต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่ 13 ต 2.2 ป.1/1 ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของ  ตัวอักษรและเสียงตวั อักษรของ  ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย 14 ต 3.1 ป.1/1 บอกคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพท์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สำระ  กำรเรยี นรู้อนื่ กำรเรียนรู้อน่ื 15 ต 4.1 ป.1/1 ฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ  กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณ์  ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน งำ่ ย ๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรียน 16 ต 4.2 ป.1/1 ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศเพอ่ื รวบรวม  กำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวม  คำศัพท์ทเี่ ก่ยี วข้องใกลต้ ัว คำศัพทท์ ่เี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จำกสอื่ ตำ่ ง ๆ รวม 16 ตัวชี้วัด 97 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

335 ชัน้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.2 1 ต 1.1 ป.2/1 ปฏบิ ัติตำมคำส่งั และคำขอร้อง  คำสง่ั และคำขอร้องทใ่ี ช้ในห้องเรยี น  งำ่ ย ๆ ท่ีฟัง - คำส่ัง เช่น Show me a/an.../ Open your book.. Don’t talk in class. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please come here./ Come here, please. Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc. 2 ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง  ตัวอกั ษร เสยี งตวั อักษรและสระ กำรสะกดคำ  อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ และอำ่ นประโยคงำ่ ย ๆ ถูกตอ้ ง และประโยค ตำมหลักกำรอำ่ น  หลักกำรอำ่ นออกเสยี ง เชน่ - กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ ท้ำยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำในคำ 3 ต 1.1 ป.2/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำย  คำ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว (simple sentence)  ของคำ กลุ่มคำ และประโยคท่ีฟัง และควำมหมำยเกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกลต้ ัว อำหำร เครอื่ งด่ืม และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพทส์ ะสมประมำณ ๒๕๐ - ๓๐๐ คำ (คำศัพทท์ ่ีเปน็ รูปธรรม) 4 ต 1.1 ป.2/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังประโยค  ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนท่ีมภี ำพประกอบ  บทสนทนำ หรือนิทำนงำ่ ย ๆ ท่มี ภี ำพประกอบ  ประโยคคำถำมและคำตอบ - Yes/No Question เชน่ Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t. etc. - Wh-Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is the…? It is in/on/under… etc. สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

336 ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.2 5 ต 1.2 ป.2/1 พูดโตต้ อบดว้ ยคำส้นั ๆ งำ่ ย ๆ  บทสนทนำท่ใี ชใ้ นกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ  ในกำรส่อื สำรระหวำ่ งบคุ คล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำมท่ใี ช้ ตำมแบบที่ฟงั แนะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/ How are you?/I am fine. /I am…/ Goodbye./Bye./Thank you./I am sorry. etc. 6 ต 1.2 ป.2/2 ใช้คำส่งั และคำขอรอ้ งง่ำย ๆ  คำส่ังและคำขอร้องทีใ่ ช้ในห้องเรยี น  ตำมแบบท่ีฟงั 7 ต 1.2 ป.2/3 บอกควำมตอ้ งกำรง่ำย ๆ  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก  ของตนเองตำมแบบทฟี่ งั ควำมตอ้ งกำร เชน่ I want…/Please,… etc. 8 ต 1.2 ป.2/4 พูดขอและให้ข้อมูลง่ำย ๆ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ชข้ อ  เก่ียวกับตนเองตำมแบบท่ีฟงั และใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง เช่น What’s your name?/My name is…/I am… etc. 9 ต 1.3 ป.2/1 พูดให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง  คำและประโยคทใี่ ชใ้ นกำรพูดให้ข้อมูลเก่ยี วกับ  และเร่ืองใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่ บอกชื่อ อำยุ รูปร่ำง สว่ นสงู ส่ิงตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๓๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของสิ่งของ 10 ต 2.1 ป.2/1 พดู และทำทำ่ ประกอบ  วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เชน่ กำรใช้สหี น้ำ  ตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ท่ำทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำร ตอบรบั หรือปฏิเสธ 11 ต 2.1 ป.2/2 บอกช่อื และคำศัพทเ์ ก่ยี วกับ  คำศัพทเ์ ก่ียวกบั เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ  เทศกำลสำคญั ของเจำ้ ของภำษำ เช่น วันคริสต์มำส วันข้นึ ปีใหม่ 12 ต 2.1 ป.2/3 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ  กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่  และวฒั นธรรมทเี่ หมำะกบั วัย กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนิทำน ประกอบท่ำทำง วันคริสตม์ ำส วันข้ึนปีใหม่ 13 ต 2.2 ป.2/1 ระบุตวั อักษรและเสยี งตวั อกั ษร  ตัวอักษรและเสยี งตัวอักษรของ  ของภำษำตำ่ งประเทศและ ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย ภำษำไทย 14 ต 3.1 ป.2/1 บอกคำศัพท์ทเี่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพทท์ ีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื  กำรเรียนรู้อ่ืน 15 ต 4.1 ป.2/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ  ทเ่ี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน ท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น 16 ต 4.2 ป.2/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเพอื่ รวบรวม  กำรใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์  คำศัพท์ที่เก่ียวข้องใกล้ตวั ที่เก่ียวข้องใกลต้ ัวจำกสอ่ื ตำ่ ง ๆ รวม 16 ตัวชวี้ ดั 97 สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

337 ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 1 ต 1.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำสัง่ และคำขอร้อง  คำสง่ั และคำขอร้องท่ใี ชใ้ นห้องเรยี น  ทีฟ่ งั หรืออ่ำน - คำสั่ง เชน่ Give me a/an.../Draw and color the picture./Put a/an…in/on/ under a/an…/Don’t eat in class. etc. - คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Don’t make a loud noise, please./Please don’t make a loud noise./Can you help me, please? etc. 2 ต 1.1 ป.3/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ  คำ กลุ่มคำ ประโยคเดย่ี ว และบทพดู เข้ำจังหวะ  อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค และบทพูด และกำรสะกดคำ เข้ำจงั หวะ (chant) ง่ำย ๆ  หลักกำรอ่ำนออกเสยี ง เช่น ถกู ต้องตำมหลักกำรอำ่ น - กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสยี งเนน้ หนกั -เบำในคำและกล่มุ คำ 3 ต 1.1 ป.3/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลกั ษณ์  กลุม่ คำ ประโยคเดี่ยว สญั ลักษณ์ และควำมหมำย  ตรงตำมควำมหมำยของกลุ่มคำ เกีย่ วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และประโยคทีฟ่ ัง ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั อำหำร เครื่องดืม่ และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๓๕๐ - ๔๕๐ คำ (คำศัพทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม) 4 ต 1.1 ป.3/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังหรืออ่ำน  ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนที่มีภำพประกอบ  ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำน  ประโยคคำถำมและคำตอบ งำ่ ย ๆ - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. etc. - Wh-Question เช่น What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is/are…? It is in/on/under… They are etc. สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

338 ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 5 ต 1.2 ป.3/1 พูดโตต้ อบด้วยคำสน้ั ๆ งำ่ ย ๆ  บทสนทนำที่ใช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ  ในกำรส่ือสำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำม ตำมแบบท่ีฟงั ทใ่ี ชแ้ นะนำตนเอง เชน่ Hi/Hello/ Good morning /Good afternoon/ Good evening/I am sorry. How are you? I’m fine. Thank you. And you?/ Nice to see you./Nice to see you too./ Goodbye./Bye./See you soon/later./ Thanks./Thank you./Thank you very much./You’re welcome. etc. 6 ต 1.2 ป.3/2 ใช้คำสั่งและคำขอรอ้ งงำ่ ย ๆ  คำสั่งและคำขอร้องที่ใชใ้ นห้องเรียน  ตำมแบบที่ฟัง 7 ต 1.2 ป.3/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก  ของตนเองตำมแบบท่ีฟัง ควำมต้องกำร เชน่ Please,…/May I go out?/ May I come in? etc. 8 ต 1.2 ป.3/4 พูดขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เกี่ยวกบั  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคที่ใชข้ อ  ตนเองและเพื่อนตำมแบบท่ีฟัง และให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเองและเพ่ือน เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/ There are… Who is…? He /She is… etc. 9 ต 1.2 ป.3/5 บอกควำมรสู้ กึ ของตนเองเกีย่ วกบั  คำและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงควำมรู้สึก เช่น ดใี จ  สิง่ ต่ำง ๆ ใกลต้ ัว หรือกจิ กรรมตำ่ ง ๆ เสียใจ ชอบ ไมช่ อบ เช่น Yeah!/Great!/ ตำมแบบท่ีฟงั Cool!/I’m happy./I like cats./ I don’t like snakes. etc. 10 ต 1.3 ป.3/1 พูดให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง  คำและประโยคท่ีใช้ในกำรพูดใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับ  และเรื่องใกล้ตัว ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่ บอกชื่อ อำยุ รปู รำ่ ง ส่วนสงู ส่งิ ตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๕๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของส่ิงของ สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

339 ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.3 11 ต 1.3 ป.3/2 จัดหมวดหม่คู ำตำมประเภทของ  คำ กล่มุ คำท่ีมคี วำมหมำยเก่ยี วกับบุคคล สัตว์  บคุ คล สัตว์ และสง่ิ ของตำมท่ีฟงั และส่งิ ของ เชน่ กำรระบุ/เช่ือมโยง หรืออ่ำน ควำมสมั พันธข์ องภำพกับคำหรือกล่มุ คำ โดยใชภ้ ำพ แผนภูมิ แผนภำพ แผนผงั 12 ต 2.1 ป.3/1 พดู และทำทำ่ ประกอบตำมมำรยำท  มำรยำทสังคม/วฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ  สังคม/วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใช้สีหนำ้ ท่ำทำง ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับหรือปฏิเสธ 13 ต 2.1 ป.3/2 บอกชื่อและคำศัพท์ง่ำย ๆ เกี่ยวกับ  คำศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง  เทศกำล/วันสำคัญ/งำนฉลอง และ และชวี ิตควำมเปน็ อยู่ของเจ้ำของภำษำ ชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของเจำ้ ของภำษำ เชน่ วันครสิ ตม์ ำส วนั ขึ้นปีใหม่ เคร่อื งแต่งกำย อำหำร เครื่องด่ืม 14 ต 2.1 ป.3/3 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่  และวฒั นธรรมทเ่ี หมำะกับวยั กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนทิ ำน ประกอบทำ่ ทำง วนั คริสตม์ ำส วนั ขึ้นปใี หม่ 15 ต 2.2 ป.3/1 บอกควำมแตกตำ่ งของเสยี งตวั อกั ษร  ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ  คำ กลมุ่ คำ และประโยคง่ำย ๆ และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย 16 ต 3.1 ป.3/1 บอกคำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้อนื่  กำรเรยี นรอู้ นื่ 17 ต 4.1 ป.3/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ่ำย ๆ  ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี น 18 ต 4.2 ป.3/1 ใช้ภำษำตำ่ งประเทศเพ่ือรวบรวม  กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์  คำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งใกล้ตัว ที่เกีย่ วข้องใกล้ตัวจำกส่ือต่ำง ๆ รวม 18 ตัวช้ีวดั 13 5 สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

340 ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้ ป.4 1 ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำส่งั คำขอร้อง และ  คำสงั่ และคำขอร้องทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน  คำแนะนำ (instructions) งำ่ ย ๆ และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ ทฟี่ งั หรืออ่ำน หรอื กำรทำอำหำรและเครื่องดม่ื - คำสั่ง เชน่ Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Can you help me, please? etc. - คำแนะนำ เช่น You should read everyday./Think before you speak./ - คำศพั ทท์ ่ีใช้ในกำรเล่นเกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดับขน้ั ตอน First,... Second,… Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.4/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ  คำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อควำม บทพดู เข้ำจังหวะ  อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ควำมงำ่ ย ๆ และกำรสะกดคำ และบทพดู เข้ำจังหวะถกู ตอ้ ง  กำรใชพ้ จนำนกุ รม ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอ่ำนออกเสียง เชน่ - กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำ ในคำและกลุ่มคำ - กำรออกเสียงตำมระดับเสียงสูง-ต่ำในประโยค 3 ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลักษณ์  กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว สัญลกั ษณ์ เคร่ืองหมำย  หรอื เครอื่ งหมำยตรงตำมควำมหมำย และควำมหมำยเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั ของประโยคและข้อควำมสน้ั ๆ โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อำหำร เคร่อื งด่ืม ทฟ่ี ังหรืออ่ำน เวลำวำ่ งและนันทนำกำร สุขภำพและสวสั ดิกำร กำรซื้อ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์ สะสมประมำณ ๕๕๐ - ๗๐๐ คำ (คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนำมธรรม) สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

341 ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 4 ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังและอ่ำน  ประโยค บทสนทนำ นิทำนท่ีมภี ำพประกอบ  ประโยค บทสนทนำ และนทิ ำน คำถำมเก่ียวกับใจควำมสำคญั ของเรื่อง เชน่ ง่ำย ๆ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เชน่ Is this/it a/an…...or a/an…? It is a/an… etc. 5 ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโต้ตอบในกำรส่อื สำร  บทสนทนำทใี่ ช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ  ระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ กำรพูดแทรกอยำ่ งสภุ ำพ ประโยค/ข้อควำมที่ใช้แนะนำตนเอง เพื่อน และบุคคลใกลต้ วั และสำนวนกำรตอบรับ เชน่ Hi/Hello/Good morning/ Good afternoon/Good evening/I am sorry./ How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/Hello. I am…/Hello,…I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too./Goodbye./Bye./ See you soon/later./Thanks./ Thank you./Thank you very much./ You’re welcome./It’s O.K. etc. 6 ต 1.2 ป.4/2 ใช้คำสงั่ คำขอร้อง และคำขออนุญำต  คำสงั่ คำขอรอ้ ง และคำขออนุญำต  งำ่ ย ๆ ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น 7 ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงควำมต้องกำร  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้  ของตนเอง และขอควำมชว่ ยเหลือ แสดงควำมต้องกำรและขอควำมชว่ ยเหลือ ในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ ในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ เช่น I want …/ Please…/May…?/I need your help./ Please help me./Help me! etc. สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

342 ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 8 ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้ขอ  เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื นและครอบครัว และใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง สง่ิ ใกลต้ ัว เพอื่ น และครอบครัว เช่น What’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/ There are… Where is the ….? It is in/on/under… etc. 9 ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงควำมรู้สกึ ของตนเอง  คำและประโยคที่ใช้แสดงควำมรสู้ กึ เชน่ ดใี จ  เกี่ยวกบั เร่ืองต่ำง ๆ ใกล้ตวั และ เสยี ใจ ชอบ ไมช่ อบ รัก ไม่รัก เช่น กจิ กรรมต่ำง ๆ ตำมแบบที่ฟัง I/You/We/They like…/He/She likes… I/You/We/They love…/He/She loves… I/You/We/They don’t like/love/feel… He/She doesn’t like/love/feel… I/You/We/They feel… etc. 10 ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง  ประโยคและข้อควำมท่ีใช้ในกำรพูดให้ขอ้ มลู  และเรื่องใกล้ตัว เก่ียวกบั ตนเอง บคุ คล สตั ว์ และเร่อื งใกลต้ ัว เชน่ ช่ือ อำยุ รปู ร่ำง สี ขนำด รูปทรง สิง่ ต่ำง ๆ จำนวน ๑ - ๑๐๐ วัน เดือน ปี ฤดกู ำล ตำแหน่งของสิง่ ต่ำง ๆ  เคร่ืองหมำยวรรคตอน 11 ต 1.3 ป.4/2 พูด/วำดภำพแสดงควำมสัมพันธ์  คำ กล่มุ คำทีม่ คี วำมหมำยสัมพนั ธ์กบั ส่ิงตำ่ ง ๆ  ของส่งิ ต่ำง ๆ ใกล้ตวั ตำมทฟี่ ัง ใกลต้ ัว เช่น กำรระบุ/เชอื่ มโยงควำมสัมพันธ์ หรอื อำ่ น ของภำพกบั คำ หรอื กลุ่มคำ โดยใช้ภำพ แผนภมู ิ แผนภำพ แผนผงั 12 ต 1.3 ป.4/3 พูดแสดงควำมคิดเห็นง่ำย ๆ  ประโยคท่ีใช้ในกำรแสดงควำมคดิ เห็นเก่ยี วกับ  เกี่ยวกับเรอื่ งตำ่ ง ๆ ใกลต้ ัว เรื่องต่ำง ๆ ใกล้ตัว 13 ต 2.1 ป.4/1 พูดและทำทำ่ ประกอบอย่ำงสุภำพ  มำรยำทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ  ตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรม เชน่ กำรขอบคณุ ขอโทษ กำรใชส้ ีหน้ำท่ำทำง ของเจำ้ ของภำษำ ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ กำรโบกมือ กำรแสดงควำมรู้สกึ ชอบ/ไมช่ อบ กำรแสดงอำกำรตอบรบั หรือปฏิเสธ สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

343 ชนั้ ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.4 14 ต 2.1 ป.4/2 ตอบคำถำมเกี่ยวกบั เทศกำล/  คำศพั ทแ์ ละข้อมลู เกยี่ วกับเทศกำล/วนั สำคัญ/  วันสำคญั /งำนฉลอง และ งำนฉลอง และชวี ิตควำมเป็นอยขู่ องเจ้ำของภำษำ ชวี ติ ควำมเปน็ อยงู่ ำ่ ย ๆ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส วันขึน้ ปใี หม่ เครอ่ื งแต่งกำย ของเจ้ำของภำษำ ฤดกู ำล อำหำร เคร่ืองดม่ื 15 ต 2.1 ป.4/3 เข้ำร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น  และวัฒนธรรมท่ีเหมำะกบั วยั กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเลำ่ นทิ ำน ประกอบท่ำทำง วนั คริสต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่ 16 ต 2.2 ป.4/1 บอกควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อกั ษร  ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ  คำ กลมุ่ คำ ประโยค และข้อควำม และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย 17 ต 2.2 ป.4/2 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำง  ควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งเทศกำล  ระหว่ำงเทศกำลและงำนฉลอง และงำนฉลองตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ตำมวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ กบั ของไทย กบั ของไทย 18 ต 3.1 ป.4/1 ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ ง  กำรคน้ คว้ำ กำรรวบรวม และกำรนำเสนอ  กับกลมุ่ สำระกำรเรียนร้อู ื่นและ คำศัพทท์ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่นื นำเสนอดว้ ยกำรพดู /กำรเขยี น 19 ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อำ่ นในสถำนกำรณ์  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟังและพดู /อ่ำน  ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี นและ ในสถำนกำรณ์ทีเ่ กิดขึ้นในห้องเรียน สถำนศกึ ษำ และสถำนศึกษำ 20 ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรสืบคน้  กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรสบื คน้  และรวบรวมข้อมลู ต่ำง ๆ และกำรรวบรวมข้อมลู ตำ่ ง ๆ รวม 20 ตัวชี้วดั 17 3 สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

344 ชั้น ท่ี รหัสตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้ ป.5 1 ต 1.1 ป.5/1 ปฏิบัติตำมคำส่ัง คำขอร้อง และ  คำส่งั และคำขอรอ้ งทีใ่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น ภำษำท่ำทำง  คำแนะนำง่ำย ๆ ที่ฟังและอำ่ น และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ หรือกำรทำอำหำรและเคร่ืองดม่ื - คำสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./Say it again./Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คำขอร้อง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คำแนะนำ เชน่ You should read everyday./Think before you speak./ - คำศพั ทท์ ่ีใชใ้ นกำรเลน่ เกม Start./ My turn./Your turn./Roll the dice./ Count the number./Finish./ - คำบอกลำดบั ข้นั ตอน First,... Second,… Next,…Then,… Finally,... etc. 2 ต 1.1 ป.5/2 อ่ำนออกเสยี งประโยค ข้อควำม  ประโยค ขอ้ ควำม และบทกลอน  และบทกลอนสั้น ๆ ถกู ต้อง  กำรใช้พจนำนกุ รม ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอำ่ นออกเสียง เช่น - กำรออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ ทำ้ ยคำ - กำรออกเสียงเน้นหนัก-เบำในคำและกลมุ่ คำ - กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสูง-ตำ่ ในประโยค - กำรออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound) ในขอ้ ควำม - กำรออกเสยี งบทกลอนตำมจงั หวะ 3 ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วำดภำพ สัญลักษณ์ หรอื  กลุม่ คำ ประโยคผสม ข้อควำม สญั ลกั ษณ์  เคร่ืองหมำยตรงตำมควำมหมำย เครอ่ื งหมำย และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง ของประโยคและข้อควำมส้ัน ๆ ครอบครวั โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ ม อำหำร ท่ฟี ังหรืออ่ำน เคร่ืองดื่ม เวลำวำ่ งและนนั ทนำกำร สุขภำพ และสวัสดิกำร กำรซ้ือ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๗๕๐ - ๙๕๐ คำ (คำศัพท์ทเี่ ป็นรปู ธรรมและนำมธรรม) สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook