บทที่ 1

หนว่ ยที่ 1 สถติ ิและการวจิ ยั ทางธุรกจิ

1.1 ความหมายของสถิตแิ ละการวิจยั ธรุ กิจ สถติ ิ (Statistics) มาจากคาํ วา่ State (รฐั ) ซง่ึ ตรงกบั ภาษาละตนิ วา่ Status เป็นขอ้ มลู ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ คุณลกั ษณะของประชาชนทอ่ี าศยั อยใู่ นรฐั นนั้ ต่อมาไดพ้ ฒั นานําขอ้ มลู มาใชก้ บั หน่วยงานต่าง ๆ เชน่ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ภูมิ ประเทศ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั เศรษฐกจิ เป็นตน้ ความหมายของสถติ สิ ามารถแบง่ เป็น 3 ความหมาย คอื สถติ ิ คอื ตวั เลขทแ่ี สดงเหตุการณ์หรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ของสง่ิ ต่าง ๆ ทส่ี นใจศกึ ษา สถติ ิ คอื ตวั เลขทจ่ี าํ นวนไดจ้ ากตวั อยา่ ง (Sample) เน่อื งจากขอ้ จาํ กดั ทไ่ี มส่ ามารถศกึ ษาสง่ิ ทส่ี นใจได้ ทงั้ หมด จากประชากร (Population) สถติ ิ คอื ศาสตรห์ รอื วชิ าทศ่ี กึ ษาถงึ วธิ กี ารทางสถติ ิ (Statistical Method) ทป่ี ระกอบดว้ ยการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู (Data Collection) การนําเสนอขอ้ มลู (Data Presentation) การวเิ คราะหข์ อ้ มลู (Data Analysis) การแปลความหมาย (Data Interpretation) เป็นตน้ สรปุ ไดว้ า่ “สถติ ”ิ คอื ตวั เลขทแ่ี สดงเหตกุ ารณ์หรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ของสงิ่ ต่าง ๆ ทส่ี นใจศกึ ษา โดยเป็น ตวั เลขทไ่ี ด้ จากประชากรหรอื กลุ่มตวั อยา่ ง เป็นศาสตรห์ รอื วชิ าทศ่ี กึ ษาถงึ วธิ กี ารทางสถติ ิ (Statistical Method) ทป่ี ระกอบดว้ ย การ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู (Data Collection) การนําเสนอขอ้ มลู (Data Presentation) การวเิ คราะหข์ อ้ มลู (Data Analysis) การ แปลความหมาย (Data Interpretation) เป็นตน้

ความหมายของคาํ วา่ “การวจิ ยั ธรุ กจิ ” ไดม้ กี ารใหน้ ิยามความหมายต่าง ๆ ดงั น้ี การวจิ ยั ธุรกจิ หมายถงึ ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ะชว่ ยสนบั สนุนการตดั สนิ ใจในเชงิ จดั การของธุรกจิ ดา้ นตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นดา้ น การเงนิ การตลาด การบญั ชี การบคุ คล การลงทนุ สรปุ “การวจิ ยั ธรุ กจิ ” หมายถงึ การสบื เสาะคน้ หาความจรงิ หรอื การคน้ หาใหมเ่ กย่ี วกบั ธรุ กจิ โดยมี หลกั เกณฑถ์ กู ตอ้ ง บรรลุวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สามารถใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการสนบั สนุนการบรหิ าร และการตดั สนิ ใจสาํ หรบั หน่วยงาน องคก์ รตา่ ง ๆ ทงั้ ทม่ี งุ่ หวงั กาํ ไร (Proft Organization) และไมม่ งุ่ หวงั กาํ ไร (Non-Profit Organization) โดยมตี วั อยา่ งงานวจิ ยั ทาง ธรุ กจิ เชน่ 1. การศกึ ษานโยบายสง่ เสรมิ การลงทุน 2. ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ ความสาํ เรจ็ ของธุรกจิ ออนไลน์ 3. ทศั นคตขิ องผบู้ รโิ ภคทม่ี ตี ่อธุรกจิ ขายสนิ คา้ และบรกิ ารผา่ นออนไลน์ 4. การจดั การธุรกจิ ชุมชนบนพน้ื ฐานปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. การศกึ ษากลยทุ ธท์ างธุรกจิ เพอ่ื เพม่ิ ยอดขายผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ในธุรกจิ ประกนั ภยั

1.2 จุดมงุ่ หมายของการวิจัย จดุ มงุ่ หมายทส่ี าํ คญั ของการวจิ ยั มี 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1.2.1 เพอ่ื การบรรยาย (Description) 1.2.2 เพอ่ื การอธบิ าย (Explanation) 1.2.3 เพอ่ื การทาํ นาย (Prediction) 1.2.4 เพอ่ื การควบคุม (Control)

1.3 ประโยชนข์ องการวิจยั การวจิ ยั เป็นกลไกสาํ คญั ประการหน่ึงในการพฒั นา ในหน่วยเรยี นน้ีจะบอกถงึ ประโยชน์ของการ วจิ ยั 2 ประเภท คอื งานวจิ ยั ทวั่ ๆ ไปและงานวจิ ยั ธรุ กจิ 1.3.1 ประโยชน์ของงานวจิ ยั ทวั่ ๆ ไป มปี ระโยชน์ไมน่ ้อยกวา่ 7 ประการ 1. ชว่ ยใหเ้ กดิ การพฒั นาวทิ ยาการหรอื สง่ิ ประดษิ ฐใ์ หมๆ่ 2. ชว่ ยใหเ้ ลอื กวธิ ี ระบบ กระบวนการ รปู แบบทด่ี หี รอื เหมาะสมทส่ี ดุ 3. ชว่ ยในการกาํ หนดนโยบาย กฎหมาย แนวทาง วางแผน 4.ชว่ ยในการเตรยี มความพรอ้ มรบั สถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต 5.ชว่ ยในการประเมนิ และปรบั ปรงุ พฒั นา 6.ชว่ ยใหท้ ราบสาเหตุและการแกป้ ัญหา 7.ชว่ ยฝึกฝนและพฒั นาบุคลากรจากการทาํ วทิ ยานิพนธห์ รอื ทาํ วจิ ยั

1.3.2 ประโยชนข์ องงานวจิ ยั ธรุ กิจ 1. เพ่ือใหส้ ามารถทางานวจิ ยั และนาผลลพั ธไ์ ปไดถ้ กู หลกั 2. เพ่ือศกึ ษาผลกระทบของการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง 3. ช่วยใหส้ ามารถควบคมุ และประสานงานกบั นกั วิจยั ไดอ้ ยา่ งดี 4. ใชเ้ ป็นเครอื่ งมือในการบรหิ ารธรุ กิจไดอ้ ยา่ งยอดเย่ียม 1.4 ขน้ั ตอนการวจิ ยั การจดั ลาดบั ขนั้ ตอนของการวจิ ยั สามารถแบง่ ออกเป็นขนั้ ตอนตา่ ง ๆ ได้ 8 ขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. กาหนดปัญหาท่ีจะดาเนินการวจิ ยั 2. ทบทวนเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 3. กาหนดแบบการวิจยั 4. กาหนดประชากรและวิธีการสมุ่ ตวั อยา่ ง 5. สรา้ งเคร่อื งมือและหาประสทิ ธิภาพของเครอ่ื งมือ 6. การรวบรวมขอ้ มลู 7. การวิเคราะหข์ อ้ มลู 8. สรุปผลและเขียนรายงาน

1.5 ระเบยี บวธิ ีทางสถติ ิ ระเบียบวิธีทางสถิตแิ บง่ เป็น 2 ประเภท คือ 1.5.1 สถิตเิ ชิงพรรณนา เป็นการศกึ ษาขอ้ มลู ทางสถิติโดยแสดงคา่ ตา่ งๆ ในรูปแบบของตาราง แผนภมู ิ แผนภาพ กราฟ หรอื คาอธิบาย 1.5.2 สถิตเิ ชิงอนมุ าน เป็นการศกึ ษาขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะของประชากรโดยศกึ ษาจากตวั อยา่ ง สมุ่ เม่ือไดข้ อ้ มลู ทางสถิตจิ ากตวั อยา่ งสมุ่ แลว้ จะทาการอนมุ านกลบั ไปยงั ประชากรระเบียบวิธีทางสถิติ ประเภทนีต้ อ้ งอาศยั ทฤษฎีทางสถิติ 1.6 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 1.6.1 ประชากร หมายถงึ หนว่ ยของขอ้ มลู ทงั้ หมดในส่งิ ท่ีตอ้ งการศกึ ษา ประชากรอาจจะเป็นไปได้ ทงั้ สง่ิ ท่ีมีชีวติ และไมม่ ีชีวติ ประชากรแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภท 1. ประชากรท่ีมีจานวนจากดั คือ ประชากรท่ีนบั จานวนได้ เช่น อาจารย์ นกั เรยี น เป็นตน้ 2. ประชากรท่ีนบั จานวนไมไ่ ด้ คอื ประชากรท่ีนบั จานวนไมไ่ ด้ เช่น เมด็ ทราย จาหนว่ ย เสน้ ผม เป็นตน้

1.6.2 กลมุ่ ตวั อยา่ ง หมายถึง หนว่ ยของขอ้ มลู บางสว่ นท่ีผวู้ จิ ยั ไดเ้ ลือกมาเพ่ือใชเ้ ป็นตวั แทน หน่วยขอ้ มลู ทงั้ หมดหรอื ประชากรท่ีจะศกึ ษา เน่ืองจากงานวิจยั บางเรอ่ื งอาจมีขอ้ จากดั ท่ีไมส่ ารวจ ขอ้ มลู จากประชากรทงั้ หมด เช่น เวลา งบประมาณ กาลงั คน เป็นตน้ 1. ลกั ษณะของกลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีดี ท่ีจะนาไปใชส้ รุปหรอื อา้ งองิ แทนประชากรไดน้ นั้ ควรจะขนึ้ อยกู่ บั องคป์ ระกอบ 4 ประการ ไดแ้ ก่ (1) ตอ้ งเป็นตวั แทนท่ีดี (2) ตอ้ งมีขนาดท่ีเหมาะสม (3) มีลกั ษณะตรงกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั (4) ตอ้ งเลอื กวธิ ีการสมุ่ ตวั อยา่ งใหเ้ หมาะสม

2. เภทของการสมุ่ กลมุ่ ตวั อยา่ ง แบง่ เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ (1)กลมุ่ ตวั อยา่ งโดยไมใ่ ชค้ วามน่าจะเป็น ประชากร (ก) การเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ งแบบบงั เอญิ กลมุ่ ตวั อยา่ ง (ข) การเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ งแบบโควตา (ค) การเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ งแบบเจาะจง

(2)กลมุ่ ตวั อยา่ งโดยใชค้ วามนา่ จะเป็น (ข) การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบเป็นระบบ (ก) การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบงา่ ย (ง) การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบกลมุ่ (ค) การสมุ่ ตวั อยา่ งแบบชนั้ ภมู ิ