Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore น้ำส้มควันไม้

น้ำส้มควันไม้

Description: น้ำส้มควันไม้

Search

Read the Text Version

น้าสม้ ควนั ไมใ้ ชท้ าอะไรไดบ้ า้ ง? 29 วิธีใชป้ ระโยชน์ จากน้าสม้ ควนั ไมเ้ พ่ือการเกษตร

น้าสม้ ควนั ไมค้ ืออะไร นา้ สม้ ควนั ไมน้ น้ั ผลิตไดจ้ ากกระบวนการเผาไหมไ้ ม้ เพ่ือการทาถ่านหงุ ตม้ ในขณะท่ีไมน้ นั้ กาลงั จะเปล่ียนไปเป็ น ถ่าน หากมีการทาของเหลวท่ีเกิดขึ้นในขน้ั ตอนนี้ใหเ้ ย็นตัว ลง ก็จะไดข้ องเหลวท่ีกลัน่ ตัวเป็ นหยดนา้ มีสีนา้ ตาล-แดง จากนนั้ จึงนาเจา้ นา้ สีนา้ ตาลแดงท่ีได้ ไปผา่ นขนั้ ตอนการทา ใหต้ กตะกอนอีกประมาณ 3 เดือนเพ่ือแยกชน้ั นา้ มนั เบา,ชนั้ ของนา้ สม้ ควนั ไม้ และ ชน้ั ของนา้ มนั ทาร์ ออกจากกนั จึงจะ ไดน้ า้ สม้ ควนั ไม้ ที่บริสทุ ธิ์ ซึ่งมคี ่าความเป็ นกรดสงู นาไปใช้ ประโยชนไ์ ดห้ ลากหลาย ไม่ว่าจะแกเ้ หา เห็บ ท่อตัน รักษา แผล ใชใ้ นอุตสาหกรรม ฯลฯ นั้นทาไดห้ มด แต่ ณ ที่น้ี ผเู้ ขยี นจะขอกลา่ วถึงแตก่ ารนาไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร ท่ีตอ้ งขอเนน้ ยา้ ว่า ก่อนนาไปใชง้ านตอ้ งนานา้ สม้ ควันไมไ้ ป เจือจางตามวัตถปุ ระสงค์การใชง้ านเสียก่อน เพื่อลดผล เสยี หายที่อาจเกดิ ขนึ้ ไดก้ บั พืชและสตั ว์

29 วิธีใชป้ ระโยชนจ์ ากน้าสม้ ควนั ไม้ เพ่ือการเกษตร 1. กาจดั แมลงศตั รมู ะนาวไดต้ ลอดปี ใชน้ า้ สม้ ควนั ไมเ้ ขม้ ขน้ 50 ซีซีเทใส่ในขวดนา้ ดื่มขนาดเล็ก ท่ีเจาะรูด้านข้างโดยรอบ 6-8 รู ผกู เชอื กท่ีคอขวด แลว้ นาไปตดิ ตง้ั ไวต้ ามก่ิงกา้ นของ ต้นมะนาว กล่ินของน้าส้มควันไม้จะช่วยขับ ไล่ ใหแ้ มลงศตั รพู ืชถอยห่างออกไปได้ เมื่อนา้ สม้ ควนั ไม้ แหง้ ใหเ้ ติมเขา้ ไปใหม่ เพียงเท่าน้ี ก็สามารถป้ องกัน แมลงศัตรพู ืชมะนาวไดต้ ลอดทงั้ ปี

2. บงั คบั มะนาวใหม้ ีผลผลติ นอกฤด ู การใชน้ ้าสม้ ควันไมเ้ ป็ นตัวกระตนุ้ แทน สารเคมี ซึ่งเกษตรกรควรจะลงมอื บงั คบั มะนาวให้ ออกผลนอกฤดใู นช่วงประมาณวันที่ 10-15 เดือนกันยายนของทกุ ปี จึงจะไดผ้ ลผลิตมะนาวที่ ออกในชว่ งปี ใหม่ ซึ่งจะไดร้ าคาสงู โดยจะใชน้ า้ สม้ ควันไม้ 60-75 ซีซี + นา้ 20 ลิตร ฉีดพ่นใหท้ ัว่ ตน้ มะนาว ทกุ ๆ 3 วัน จนครบ 9 วัน (3คร้ัง) แลว้ ใบมะนาว จะเริ่มร่วงหล่น จากน้ันใหใ้ ส่ป๋ ุย บ า รุง ม ะ น า ว ด้ว ย สูต ร ป ก ติ ห รื อ สูต ร 15-15-15 จนมะนาวแตกตาดอกและพัฒนาไป เ ป็ น ผ ล ใ ห้ ดูแ ล ข้ั น ต อ น ต่ อ ไ ป ต า ม ป ก ติ

3. ใชป้ ้ องกนั กาจดั หนอนและแมลงศตั ร ู ขา้ ว-ขา้ วไร่ ใชน้ ้าส้มควันไม้ 1 ลิตร + น้าเปล่า 200 ลิตร ฉีดพ่นในแปลงขา้ วไร่ที่พบแมลงและหนอน ระบาด เพียง 1 ครง้ั ในฤดฝู น และควรฉีดพ่นในชว่ ง เช้า แต่ถ้าเป็ นช่วงหน้าแล้ง ให้ฉีด พ่น 2 คร้ัง เพียงเท่านก้ี ็สามารถทาลายหนอนและแมลงศัตรขู า้ ว ไดเ้ ป็ นอย่างดี

4. ใชป้ ้ องกนั แมลงสงิ แมลงบว่ั เพล้ียไฟ เพล้ีย กระโดด และ แมลงปากดดู อื่นๆ ในนาขา้ ว ในระยะขา้ วตง้ั ทอ้ งไปจนถึงเร่ิมออกรวงมัก พบกว่ามีแมลงสิงและมวนเขา้ มาทาลายดดู กินนา้ เล้ียงจากตน้ ขา้ ว และเมล็ดขา้ วในระยะนา้ นม ทาให้ เมล็ดลีบ หรือเมล็ดไมส่ มบรู ณ์ สง่ ผลใหผ้ ลผลิตขา้ ว ลดลง ใหใ้ ชน้ า้ สม้ ควันไม้ 600 ซีซี + นา้ 20 ลิตร ฉีดพ่นในนาขา้ วเพื่อขบั ไล่แมลงปากดดู อาทิ แมลง สิง แมลงบั่ว เพล้ียไฟ เพล้ียจักจั่นสีเขียว ฯลฯ ในช่วงที่พบการระบาด หรือฉีดพ่นในนาขา้ วอย่าง นอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 1 คร้งั เม่ือแมลงปากดดู ดงั กล่าวได้ กล่ินของนา้ สม้ ควนั ไมแ้ ลว้ จะไมเ่ ขา้ มาทาลายขา้ ว

5. ป้ องกนั โรคไหมค้ อรวงขา้ ว โรคไหมค้ อรวง จะส่งผลทาใหเ้ มล็ดขา้ วลีบ แห้ง ผลผลิตเสียหายหากไม่เร่งหาทางแก้ให้ ทันท่วงที จะสามารถทาลายผลผลิตได้ 100% วิธีการป้ องกนั ความเสียหายจากโรคดังกล่าว ตาม แนวทางเกษตรอินทรีย์ ใหใ้ ชน้ า้ สม้ ควันไม้ 1 ลิตร + นา้ 50 ลิตร ฉีดพ่นใบและรวงขา้ วในช่วงเย็น ทกุ ๆ 3- 5 วัน ในช่วงที่พบว่ามีอาการของโรค(ยังไม่ ระบาดมาก) **ควรใชส้ ตู รนี้ฉีดคมุ ป้ องกันโรคไว้ ก่ อ น จ ะ ดี ม า ก เ พ ร า ะ โ ร ค นี้ แ ก้ ไ ข ย า ก

6. กาจดั เช้ือโรคและแมลงศตั รพู ืชท่ีตกคา้ งใน ดินปลกู ใชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 500 ซีซี ตอ่ นา้ 20 ลติ ร ฉีด พ่นลงบนดินก่อนจะทาการเพาะปลูกพืช 10 วัน โดยเฉพาะแปลงปลกู ที่พบว่าเคยมีการระบาดของ โรค-แมลงศตั รพู ืชมากอ่ น

7. กาจดั หอยทาก ในสภาพอากาศรอ้ นช้นื จะพบว่ามีหอยทากสี นา้ ตาลแพร่กระจายพันธไ์ุ ดด้ ี ใน หนึ่งปี หอยชนิดนี้ จะวางไขไ่ ด้ 6 ครั้ง (ครั้งละ 80 ฟอง) ซึ่งหอยทาก นนั้ จะเขา้ กัดกินพืชปลกู เช่น พืชผกั ไมด้ อก และ ไม้ ประดบั จนเกลยี้ งเตยี น การป้ องกนั กาจดั ใหใ้ ช้ นา้ สม้ ควันไม้ 1 ลิตร + ปูนแดง/ปูนขาว 200 กรัม + นา้ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณที่มีหอยทาก ทุก 7 วัน ตดิ ตอ่ กนั 3 ครงั้ แลว้ หอยทากจะค่อยๆ ตายหายไป ภายใน 2 วัน **ซึ่งสตู รนสี้ ามารถนาไปใชก้ าจดั หอย เชอรี่ไดผ้ ลดเี ชน่ กนั

8. ป้ องกนั มดคนั ไฟเขา้ ทาลายรากมะนาว มักพบว่ามดคันไฟเข้าทาลายระบบราก มะนาวไดต้ ลอดการเพาะปลกู ทาให้รากเสียหาย ชะงกั การเจริญเติบโต การป้ องกัน ใชน้ า้ สม้ ควันไม้ 1 ลิตร เจือจางน้า 50 ลิตร แลว้ นาไปรดโคนตน้ มะนาว ตน้ ละ 3 ลิตร ทกุ ๆ 1 เดือน จะชว่ ยป้ องกนั ไมใ่ หม้ ดคนั ไฟมาทาลายกดั กนิ รากของตน้ มะนาวได้ 9. ป้ องกนั มด-แมลงเขา้ ทาลายตน้ กลา้ เพาะชา น า ถุง เ พ า ะ ช า ที่ ป ลูก ต้น ไ ม้เ ส ร็ จ แ ล้ว ไปชปุ นา้ สม้ ควัน(เตรียมจาก นา้ สม้ ควันไม้ 500 ซีซี ต่อนา้ 50 ลิตร)นาน 30 วินาที แลว้ ยกขึ้นไปไวใ้ น แปลงเพาะชาตามปกติ จะไม่มีมดหรือแมลงใดๆ มา รบกวนตน้ กลา้ นน้ั อีกเลย

10. ผลิตมงั คดุ ผิวมนั ใชน้ า้ สม้ ควันไม้ 1 ลิตร+ นา้ เปล่า 200 ลิตร ฉีด พ่นบริเวณพ่มุ ตน้ มังคดุ ใหท้ ัว่ เพ่ือป้ องกันเพล้ียหอยดดู ผิว มังคดุ ควรฉีดช่วงก่อนดอกมังคดุ บานเพ่ือใหไ้ ดป้ ระโยชน์ สงู สดุ ควรฉีดพ่น 2-3 คร้ัง เวน้ ระยะห่างการฉีดพ่น 15 วนั ตอ่ 1 ครงั้ กอ่ นที่ดอกมงั คดุ จะบาน หลงั จากนน้ั ก็ปลอ่ ย ไวต้ ามธรรมชาติ เพียงเท่าน้ีชาวสวนมงั คดุ ก็จะไดม้ งั คดุ ผิว มัน ผิวสวย ขายได้ราคาดีเป็ นที่ต้องการของตลาด มาตรฐานคณุ ภาพสง่ ออก 11. ป้ องกนั กาจดั เพล้ียไฟ-ไรแดง-เพล้ียอ่อน สาเหต ุ ท่ีทาใหพ้ รกิ ใบหงิกในสวนพรกิ ใชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 1 ลิตรตอ่ นา้ 200 ลิตร ฉีดพ่นทกุ 3 วัน นับจากวันปลกู ไปจนกระทัง่ พริกออกดอกจึงหยดุ การฉีดพ่น หลังจากน้ันให้นาป๋ ุยคอกใส่บริเวณโคนต้น หาทะลายปาลม์ หรือฟางมาคลมุ ดินใหท้ ัว่ แปลง เพียงเท่านี้ ผลผลิตที่ไดก้ ็จะมีคณุ ภาพจาหนา่ ยไดร้ าคา และไม่มีปัญหา เรื่องเพลีย้ มาทาลายพริกใหเ้ สยี หาย

12. กาจดั วชั พืชใบกวา้ ง-ใบแคบ ในขน้ั ตอนการผลิตนา้ สม้ ควันไมจ้ ะไดน้ า้ มนั ทาร(์ นา้ มนั ดิน) ที่เป็ นพิษต่อพืชและมีความเป็ นกรดสงู มาดว้ ย ซ่ึงนามาใช้ ประโยชน์ในการกาจัดหญา้ วัชพืช ระหว่างแถวช่องว่างของ ยางพารา ไมผ้ ล หรือ ไมย้ ืนตน้ อื่นๆ ทดแทนการใชส้ ารเคมีได้ วิธีการคือ นานา้ สม้ ควันไมท้ ี่ผลิตไดเ้ อง ไปกรองเอาเฉพาะนา้ โดยไม่ตอ้ งทาใหต้ กตะกอน แลว้ นานา้ สม้ ควันไม้ ท่ีกรองได้ ไป ฉีดพ่นที่หญา้ วัชพืชใหเ้ ปี ยกชมุ่ โดยไมต่ อ้ งนาไปผสมนา้ แตค่ วร ระมดั ระวังไมใ่ หฉ้ ีดพ่นถกู ตน้ พืชที่ปลกู เนื่องจากนา้ สม้ ควันไมท้ ่ี ผลิตไดน้ ้ีมีความเป็ นกรดสงู เมื่อรวมเขา้ กับนา้ มันทาร์(นา้ มัน ดิน) ที่ยังไม่ไดแ้ ยกออก ในขนั้ ตอนการตกตะกอนนัน้ จะไปชว่ ย ปิ ดกั้นระบบการดดู ซึมธาตอุ าหารและการสังเคราะห์แสงของ หญ้าวัชพืช ทาให้หญ้าวัชพืชในสวนยางแห้งตายไดภ้ ายใน 15-20 วัน โดยไม่ต้องพ่ึงพาการใช้สารเคมี กาจัดวัชพืช

13. กาจดั วชั พืชใบแคบ-ใบกวา้ ง-หญา้ คา ไดถ้ ึงราก ถึงโคน ตม้ นา้ สม้ ควันไม้ 5 กก. แลว้ ผสมเกลือแกง 2 กก. ลงไปคน จนกว่าเกลือจะละลาย จากนนั้ ผสมโซดาไฟ 1 กก. ลงไปคนใหล้ ะลาย ตามลาดบั ยกลงจากเตารอใหเ้ ย็น จะไดห้ ัวเชอ้ื กาจดั วชั พืชอยา่ งดี ใชห้ ัว เชื้อดงั กล่าว 1 ส่วน ผสมกับนา้ 1 ส่วน คนใหเ้ ขา้ กันจากนั้นนาไปพ่น บนคันนาขา้ วท่ีมีปัญหาวัชพืช ซ่ึงพ่นเพียงครั้งเดียว สามารถกาจัด วชั พชื ใหต้ ายไดถ้ ึงรากถึงโคน 14. กระตนุ้ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ วใหง้ อกดีข้ึน ผสมนา้ สม้ ควันไม้ 350 ซีซี + นา้ 100 ลิตร แลว้ แช่เมล็ด พันธ์ขุ า้ ว ไว้ 1 คืน (อัตราดังกล่าวใชก้ ับเมล็ดพันธ์ขุ า้ ว 30 กก. ) กอ่ นจะนาไปปลกู แค่นกี้ ็สามารถชว่ ยกระตนุ้ ใหเ้ มล็ดพันธง์ุ อกไดด้ ีขน้ึ มีเปอร์เซ็นตก์ ารงอกสงู ถึง 90% และยังช่วยป้ องกันแมลงศัตรขู า้ ว ในชว่ งระยะตน้ กลา้ ไดอ้ ีกดว้ ย 15. บารงุ ขา้ วใหม้ ีเมล็ดสวย เต่งตึง ไมล่ บี ไดน้ ้าหนกั ดี เพ่อื ใหไ้ ดข้ า้ วมนี า้ หนกั รวงดไี มล่ บี ใชน้ า้ สม้ ควนั ไมฉ้ ีดพน่ ใน อตั รา 100 ซีซี + นา้ 20ลิตร ฉีดพน่ ใหท้ วั่ แปลงนา ทกุ 7-10 วนั ก็จะ ทาฝใหไ้ ดข้ า้ วท่ีเมล็ดสวย เมล็ดไมด่ า ไมม่ เี มล็ดลีบ หากมกี ารใสใ่ ส่ ป๋ ุยเคมสี ตู ร 13-13-21 ในปริมาณ 15 กิโลกรมั ตอ่ ไร่ (ใสเ่ พยี งครงั้ เดยี วเทา่ นน้ั ) รว่ มดว้ ยก็จะทาใหข้ า้ วมนี า้ หนกั รวงดยี ่ิงขนึ้

16. เพ่ิมความหวานกรอบและตา้ นทาน โรคแมลงในพืชผกั -ผลไม้ ใชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 10 ซีซี + นา้ 100 ลติ ร ฉีดพน่ ไปกบั ระบบการใหน้ า้ พืชผกั /ไมผ้ ลชว่ งเชา้ -เย็น จะชว่ ย ใหพ้ ืชมคี วามตา้ นทานโรคและรสชาตหิ วานกรอบ อรอ่ ย ขน้ึ 17. ดแู ลทเุ รยี นใหม้ ีผลสวย หนามไม่ ติดกนั หลงั ดอกทเุ รียนบานแลว้ 1 อาทิตย์ ใหใ้ ชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 1 ลิตร + นา้ 200 ลิตร ฉีดพ่นใตท้ รงพมุ่ /โคน ตน้ ทเุ รียน ในชว่ งเวลาเย็น(ไมค่ วรฉีดในชว่ งอากาศรอ้ น เพราะจะทาใหใ้ บไมแ้ ละผวิ ทเุ รียนแหง้ กรา้ นได)้ ทกุ ๆ 14 วนั ไปจนกว่าจะเก็บเกยี่ วผลผลติ เพียงเทา่ นก้ี ็จะได้ ทเุ รียนผลสวย หนามไมต่ ดิ และขายไดร้ าคาดเี ป็ นที่ ตอ้ งการของตลาด

18. กระตนุ้ กอ้ นเช้ือเห็ดเกา่ ใหอ้ อกดอก กอ้ นเพาะเห็ดท่ีเก็บดอกจนหมดแลว้ เกษตรกร ส่วนใหญ่จะท้ิงไปเลยหรือนาไปทาป๋ ุยหมกั แตม่ ีเทคนคิ วิธี ทาใหก้ อ้ นเห็ดเหลา่ นส้ี ามารถออกดอกไดอ้ ีกครั้ง ดว้ ยการ นากอ้ นเพาะเห็ดเก่ามาตัดพลาสติกบริเวณส่วนปากถงุ ออก แลว้ ใชน้ า้ สะอาดลา้ งราดาบริเวณปากกอ้ นเชอ้ื เห็ดให้ สะอาด จากนั้นนา้ กอ้ นเชื้อเห็ดวางบนชั้นในโรงเรือนเปิ ด ดอกเหมือนเดิม นานา้ สม้ ควันไม้ 15 ซีซี + กากนา้ ตาล 250 มิลลิลิตร + นา้ เปล่า 100 ลิตร ฉีดพ่นใหท้ ัว่ กอ้ น เพาะเห็ด (เป็ นการฆา่ เชอ้ื รา และ กระตนุ้ ใหเ้ ห็ดออกดอกได้ อีกครั้ง) จากน้ันทิ้งไว้ 3-5 วัน กอ้ นเพาะเห็ดจะเริ่มออก ดอกไดอ้ ีกครงั้ นานประมาณ 1 เดอื น

19. ป้ องกนั โรครากเนา่ และโคนเนา่ จากเช้ือรา ใชน้ า้ สม้ ควันไมผ้ สมนา้ ฉีดพ่นลงดินก่อนปลกู พืช 15 วัน ในอัตรา นา้ สม้ ควันไม้ 1,500 ซีซี(1.5 ลิตร) ต่อนา้ 100 ลิตร หรือ 15 ซีซี ต่อ นา้ 1 ลิตร 20. ช่วยในการสังเคราะห์น้าตาลของพืช (ชว่ ยใหพ้ ืชผกั และผลไมม้ ีรสหวาน) ใชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 20 ซีซี + นา้ 20 ลิตร ฉีดพ่น พืชหลงั ตดิ ผลแลว้ 2 สปั ดาห์ และ ฉีดพ่นอีกคร้ังกอ่ น เก็บเกี่ยวผลผลิต 20 วัน จะช่วยกระตนุ้ ใหเ้ กิดการ สังเคราะห์นา้ ตาลในพืช ทาใหผ้ ลผลิตท่ีไดม้ ีรสชาติ หวานอรอ่ ย

21. ป้ องกนั โรคหนา้ ยางตายน่ึงหรอื เช้ือราข้ึนหนา้ ยาง กรดี ใชน้ า้ สม้ ควนั ไม้ 70 ซีซี + นา้ 1 ลติ ร ทาหนา้ ยาง หลงั กรีดเป็ นประจา จะทาใหห้ นา้ ยางแข็งแรง ไมเ่ กดิ อาการ ตายนงึ่ หรือเชอ้ื ราขน้ึ หนา้ ยางได้

การผลติ น้าส้มควนั ไม้ ขอ้ ควรระวงั : 1. นา้ สม้ ควนั ไมท้ ่นี ามาใชต้ ามสตู รตอ้ งเป็ นนา้ สม้ ควนั ไม้ บริสทุ ธ์ิ (ผา่ นการตกตะกอน แยกชนั้ มาไมต่ า่ กวา่ 3 เดอื น)**ยกเวน้ ในสตู รการนาไปใชก้ าจดั หญา้ วชั พชื 2. ขณะใชง้ านควรระวงั อยา่ ใหน้ า้ สม้ ควนั ไมท้ ่ียงั ไมผ่ า่ นการ เจอื จางสมั ผสั ถกู ผวิ หนงั หรือดวงตา เพราะอาจทาใหห้ นงั ไหม้ หรือ ตา บอดได้ 3. นา้ สม้ ควนั ไมม้ คี ณุ สมบตั ใิ นการเร่งปฏกิ ริยาตา่ งๆ ใหด้ ี ขนึ้ จึงไมส่ ามารถใชแ้ ทนป๋ ุยและไมใ่ ชป่ ๋ ุยทีเ่ หมาะสมตอ่ พชื 4. การนามาใชก้ บั ดนิ ปลกู เพื่อการฆา่ เชอื้ โรคหรือไขแ่ มลงท่ี ตกคา้ งในดนิ จะตอ้ งทากอ่ นลงมอื ปลกู พชื 10-15 วนั เพ่อื ใหเ้ กิดการ เจอื จางและลดผลกระทบทเ่ี กิดจากความเขม้ ขน้ ของนา้ สม้ ควนั ไม้ ซ่ึง อาจทาใหพ้ ืชไมง่ อกหรือตายได้ 5. ทกุ ครง้ั ทีน่ านา้ สม้ ควนั ไมไ้ ปใชง้ าน จะตอ้ งทาการเจือจาง กอ่ นทกุ ครง้ั 6. การใชน้ า้ สม้ ควนั ไมเ้ พื่อกระตนุ้ ใหด้ อกตดิ ผลดขี นึ้ หรือเพือ่ ป้ องกนั ศตั รพู ืช ควรทากอ่ นดอกบาน หรือ หลงั จากดอกตดิ ผลไปแลว้ เพราะกลน่ิ ของนา้ สม้ ควนั ไมจ้ ะไปขบั ไลแ่ มลงที่จะมาชว่ ยผสมเกสร จงึ อาจส่งผลตอ่ การตดิ ลกู ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook