Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์

Published by Guset User, 2022-01-06 11:58:18

Description: ไวรัสคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

ไวรัสคอมพิวเตอร์ นางสาว จันทร์จิรา สุวรรณ์สูงเนิน ชั้นม.5/1 เลขที่17

คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการศึกษาระบบรักษา ความปลอดภัย เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องราวของระบบรักษาความ ปลอดภัย โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งความรู้ต่างๆ เช่น หนังสือ แหล่งความรู้จาก เว็บไซต์ต่างๆ โดยรายงานเล่มนี้ต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความหมายไวรัส คอมพิวเตอร์ ประเภทของไวรัส ความเสียหายที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์ วิธีในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำเอกสารฉบับนี้จะมีข้อมูลที่ เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาวรรณกรรมไทยเป็นอย่างดี จันทร์จิรา สุวรรณ์สูงเนิน

สารบัญ เรื่อง หน้า ก คำนำ ข 1 สารบัญ ความหมายไวรัสคอมพิวเตอร์ ประเภทของไวรัส 2 ความเสียหายที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์ 3 4 วิธีในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ 5 โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

ความหมายไวรัสคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หรือเรียกสั้นว่าไวรัสคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ส่วนมากมักจะมีประสงค์ ร้ายและสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆในเชิงเทคโนโลยีความ มั่นคงของระบบคอมพิวเตอร์นั้นไวรัสเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำสำเนาของตัวเอง เพื่อแพร่ออกไปโดยการสอดแทรกตัวสำเนาไปในรหัสคอมพิวเตอร์ส่วนที่สามารถปฏิบัติการได้ หรือข้อมูลเอกสารดังนั้นไวรัสคอมพิวเตอร์จึงมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกับไวรัสในทาง ชีววิทยาซึ่งสามารถแพร่กระจายไปในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตในลักษณะเดียวกันนี้คำอื่นๆที่ใช้กับ ไวรัสในทางชีววิทยายังขยายขอบข่ายของความหมายครอบคลุมถึงไวรัสในทางคอมพิวเตอร์ เช่น การติดไวรัส(infection)แฟ้มข้อมูลที่ติดไวรัสนี้จะเรียกว่าโฮสต์(host)ไวรัสนั้นเป็นประเภท หนึ่งของโปรแกรมประเภทมัลแวร์(malware)หรือโปรแกรมที่มีประสงค์ร้ายในความหมายที่ใช้ กันทั่วไปนั้นไวรัสยังใช้หมายรวมถึงเวิร์ม(worm)ซึ่งก็เป็นโปรแกรมอีกรูปแบบหนึ่งของมัลแวร์ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์นั้นสับสนเมื่อคำไวรัสนั้นใช้ในความหมายที่เฉพาะเจาะจง คอมพิวเตอร์ไวรัสนั้นโดยทั่วไปจะไม่ส่งผลก่อให้เกิดความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์โดยตรงแต่จะ ทำความเสียหายต่อซอฟต์แวร์ในขณะที่ไวรัสโดยทั่วไปนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย(เช่นทำลาย ข้อมูล)แต่ก็มีหลายชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายเพียงแต่ก่อให้เกิดความรำคาญเท่านั้นไวรัส บางชนิดนั้นจะมีการตั้งเวลาให้ทำงานเฉพาะตามเงื่อนไข เช่น เมื่อถึงวันที่ที่กำหนดหรือเมื่อ ทำการขยายตัวได้ถึงระดับหนึ่งซึ่งไวรัสเหล่านี้จะเรียกว่าบอมบ์ (bomb)หรือระเบิดระเบิดเวลา จะทำงานเมื่อถึงวันที่ที่กำหนดส่วนระเบิดเงื่อนไขนั้นจะทำงานเมื่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีการกระทำ เฉพาะซึ่งเป็นตัวจุดชนวนไม่ว่าจะเป็นไวรัสชนิดที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือไม่ก็ตามก็จะมีผล เสียที่เกิดจากการแพร่ขยายตัวของไวรัสอย่างไร้การควบคุมซึ่งจะเป็นการบริโภคทรัพยากร คอมพิวเตอร์อย่างไร้ประโยชน์หรืออาจจะบริโภคไปเป็นจำนวนมาก

ประเภทของไวรัส 1.บูตไวรัส บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้า สู่ เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูต เครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ ด ิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ ติดไวรัสนี้ไปใช้ กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื ่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเ ตอร์ตอนเริ่ม ทำงานทันทีบูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วน หัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะ เริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 2.ไฟล์ไวรัส ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเ ทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น 3.มาโครไวรัส มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่ างๆ ซึ่งมีความสามารถใน การใส่คำสั่ง มาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติด ไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น 4.หนอน หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเค รื่อง คอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรร ดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบ อินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่ คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมาก ขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้น 5.โทรจัน ม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแ บบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำ การบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจาก ตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทร อยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะ กระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะ ถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือ โปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตา มอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสแล ะเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเ รา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่ รู้ตัวนั่นเอง

ความเสียหายที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์เมื่อเข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็มักจะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือก่อกวนทำให้เกิดความรำคราญ ซึ่งผลจากการที่โปรแกรมไวรัสเข้ามาทำงานมีดังนี้ - ทำลายข้อมูล คือ ทำลายข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ไฟล์ข้อมูลที่อยู่ใน เครื่องเกิดความเสียหา ไม่สามารถเปิดใช้งานได้หรือสูญหาย - ขโมยข้อมูลสำคัญ คือ ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องรั่วไหลออกไปสู่ผู้ที่ปล่อยไวรัส ทำให้ ข้อมูลที่เป็นความลับถูกเปิดเผยจะมีความเสียหายมากโดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจหาก ข้อมูลที่รั่วไหลออกไปนั้นเป็นข้อมูลที่เป็นความลับทางด้านการค้าเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ข้อมูลส่วนผสมของยาหรือเครื่องสำอางที่ กำลังขายดี ซึ่งก็ให้เกิดความเสียหายแก่คู่แข่งทางการค้า - ฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ คือ การลบข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ออกทั่งหมดเหมือนกับ การติดตั่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมดมักจะใช้กับกรณีที่ไวรัสมีการแพร่กระจายใน เครื่องเป็นจำนวนมากหรือเครื่องคอมพิวเตอร์มีอาการผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมเครื่อง ได้ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นหายไปทั้งหมด - ทำให้โปรแกรมทำงานผิดพลาด คือ โปรแกรมที่มีการทำงานผิดปกติเช่นผู้ใช้ไม่ได้ สั่งให้โปรแกรมทำงานแต่โปรแกรมทำงานเองหรือทำงานไม่ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น ไม่ได้ สั่งให้เครื่องพิมพ์ทำงาน แต่เครื่องพิมพ์ทำงา นเอง สั่งให้บันทึกไฟล์งานแต่โปรแกรมไม่ บันทึกให้ - ก่อความรำคาญ คือ โปรแกรมก่อกวนทำให้เกิดความรำคราญเช่น มีเสียงที่ไม่พึง ประสงค์ดังอยู่ตลอดเวลา มีหน้าต่างที่pop-up ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานขึ้นมาถามตลอด เวลาหรือบ่อยๆ ทำสำเนาข้อความมูลให้เป็นจำนวนมากโดยไม่ได้สั่งให้โปรแกรมทำ ยุบหน้า จอขณะที่ผู้ใช้ทำงานในโปรแกรมนั้นอยู่ - ทำให้เครื่องทำงานช้า/ทำงานต่อไม่ได้ คือ เครื่องทำงานช้าผิดปกติ หรือประมลผล ช้ากว่าที่ค่อยเป็นเวลานานจนไม่สามารถทำงานอื่นต่อได้ - ทำให้ระบบเครือข่ายขององค์กรช้า คือ รบกวนระบบเครือข่ายภายในองค์กรให้ ทำงานได้ช้าลงส่งผลให้ไม่สามารถสงไฟล์ข้อมูลออกไปยังเครื่องอื่นได้ ไม่สามารถแชร์ ข้อมูลหรือดึงข้อมูลจากเครื่องอื่นมาได้

วิธีในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ - อย่าเปิดอ่านอีเมลแปลก ๆ เวลาที่คุณเช็กอีเมลถ้าเผอิญเจออีเมล์ชื่อแปลกที่ไม่รู้จักให้ สงสัยไว้ก่อนเลยว่าต้องมีไวรัสแน่นอน แม้ว่าชื่อหัวข้ออีเมลจะดูเป็นมิตรแค่ไหนก็อย่าเผลอกด เข้าไปเด็ดขาดล่ะ - ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส (Anti-virus) ต้องยอมรับว่าไม่มีโปรแกรม ตรวจจับและกำจัดไวรัสโปรแกรมใดสมบูรณ์แบบจะต้องอัพเดตโปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและ กำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ครอบคลุมถึงไวรัสชนิดใหม่ ๆ​ - อย่าโหลดเกมส์มากเกินไป เกมคอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีไวรัสซ่อนอยู่ไม่ ควรโหลดมาเล่นมากเกินไปและควรโหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นบางทีเว็บไซต์จะมี เครื่องหมายบอกว่า \"No virus หรือ Anti virus\" อยู่แบบนี้ถึงจะไว้ใจได้ - สแกนไฟล์ต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท ควรทำการสแกนไฟล์ รวม ทั้งข้อมูลจากภายนอกก่อนเข้ามาใช้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CD, Diskette หรือ Handydrive ต้องใช้โปรแกรมค้นหาไวรัสเสียก่อน - หมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างสม่ำเสมอ เช่น หน่วยความจำ, การติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ลงไป, อาการแฮงค์ (Hang) ของเครื่องเกิดจากสาเหตุใด บ่อยครั้งหรือไม่ ซึ่งคุณอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกบริการ (Utilities) ต่าง ๆ เพิ่มเติมในเครื่องด้วย

โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ โปรแกรมป้องกันไวรัส หรือ แอนติไวรัส (อังกฤษ: antivirus software) เป็นโปรแกรม ที่สร้างขึ้นเพื่อคอยตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์ ซึ่งหมายถึง ไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ แอดแวร์ และซอฟต์แวร์คุกคามประเภทอื่น ๆ โปรแกรมป้องกันไวรัสมี 2 แบบหลักๆ คือ 1. แอนติไวรัส (Anti-Virus) เป็นโปรแกรมโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่ว ๆ ไป จะค้นหาและ ทำลายไวรัสในคอมพิวเตอร์ของเรา 2. แอนติสปายแวร์ (Anti-Spyware) เป็นโปรแกรมป้องกันการโจรกรรมข้อมูล จากไวรัส สปายแวร์ และจากแฮ็กเกอร์ รวมถึงการกำจัด Adsware ซึ่งเป็นป๊อปอัพโฆษณาอีกด้วย โปรแกรมป้องกันไวรัสจะค้นหาและทำลายไวรัสที่ไฟล์โดยตรง แต่ในทุก ๆ วันจะมีไวรัส ชนิดใหม่เกิดขึ้นมาเสมอ ทำให้เราต้องอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสตลอดเวลาเพื่อให้ คอมพิวเตอร์ของเราปลอดภัย โดยแอนติไวรัสของแต่ละบริษัทอาจมีรูปแบบการทำงานและ หน้าตาของโปรแกรมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงอาจจะมีการอัปเดตและการป้องกันที่ไม่ เหมือนกัน ซึ่งในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวไม่ควรมีแอนติไวรัส 2 โปรแกรมหรือมากกว่านั้น เพราะอาจจะทำให้โปรแกรมขัดแย้งกันเองจนไม่สามารถใช้งานได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook