Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore onfarm33

onfarm33

Published by hintsout, 2018-06-19 00:05:10

Description: onfarm33

Keywords: Onfarm

Search

Read the Text Version

กอ่ สรา้ งมหาวิทยาลยั ทกั ษิณ ไม่สามารถเจาะน้าบาดาลได้ และอีกทางหนงึ่ ยงั เป็นการป้องกนั อุทกภยั นา้ทว่ ม และขยายพนื ท่ีเพาะปลกู เพมิ่ ขึน

โครงกำรคลองป่ำบอน ตำ้ บลทุ่งนำรี อำ้ เภอปำ่ บอน จงั หวดั พทั ลุงเรอ่ื งเดมิ เมือ่ วันที่ 14 กนั ยายน 2520 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว ได้เสด็จพระราชด้าเนินไปพระราชทานพันธุ์สัตว์น้าเพ่ือการประมง และทรงเย่ียมราษฎร์ท่อี ้าเภอตากใบ จงั หวัดนราธิวาส ได้มีพระราชด้ารัสกับอธิบดีกรมประมง และอธิบดีกรมชลประทาน สรุปความได้ว่าตามที่ได้ทรงทอดพระเนตรทางเครอื่ งบนิ ปรากฏว่าในเขตจังหวัดพัทลงุ กรมชลประทานได้ก่อสร้างโครงการ ชลประทานครอบคลุมพืนที่รอบทะเลสาปสงขลาไว้เกือบทังหมดแล้ว แต่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งกันเขตแดนระหว่างจังหวัดพัทลุงและจังหวัดตรังนัน ยังไม่มีโครงการชลประทานโดยเฉพาะโครงการประเภทอ่างเก็บน้า จึงให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการอ่างเก็บน้าพร้อมระบบส่งน้า เพื่อส่งน้าให้กับพืนที่เพาะปลูก จนจรดบริเวณเชิงเทือกเขาบรรทัดและเกบ็ กักน้าไว้ช่วยเหลือการเพาะปลกู พชื ฤดแู ลง้ รวมทงั การท้านาครังที่ 2 ในเขตโครงการชลประทานชายทะเลสาบสงขลา ซึ่งก่อสร้างไว้แล้ว นอกจากนันยงั ช่วยบรรเทาอุทกภัยในบรเิ วณดังกลา่ วดว้ ย ซ่งึ ทางกรมชลประทานได้พิจารณาวาง โครงการอ่างเก็บน้า ในเขตจังหวัดพัทลุงเพ่ือสนองพระราชด้าริ รวมจ้านวน 8โครงการ ต่อมาในวันท่ี 24 กันยายน 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชด้าเนินทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้าโคกชะงาย และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณอ่างเก็บน้าโคกชะงาย ในพืนที่ต้าบลชุมพล อ้าเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ได้พระราชทานพระราชด้าริเกี่ยวกับงานชลประทาน สรุป โครงการเขื่อนเก็บกักน้าในเขตจังหวัดพัทลุง ตามพระราชด้าริเม่ือวันที่ 14 กันยายน 2520 จ้านวน 8 โครงการนันควรรีบด้าเนินการก่อสร้างโดยเร่งด่วน เนื่องจากพืนที่เพาะปลูกท้ายเขื่อนเก็บกักน้าดังกล่าว จรดทะเลสาปสงขลาซง่ึ สว่ นใหญ่เปน็ พืนทใ่ี นเขตโครงการฝายทดนา้ ต่างๆ ท่ีกรมชลประทานไดก้ อ่ สรา้ งไว้แล้ว ในปัจจุบันมีสภาพการขาดแคลนน้าเป็นประจ้าเกือบทุกปี โดยเฉพาะอย่างย่ิงในช่วงขาดฝน และในระยะฤดูแล้ง หากเข่ือนเก็บกักน้าทางบริเวณต้นน้าดังกล่าวได้สร้างขึนแล้ว จะสามารถจัดสรรน้าให้แก่พืนท่ีเพาะปลูกในเขตโครงการฝายทดน้าต่างๆ ได้สมบูรณ์ย่ิงขึน และสามารถท้าการเพาะปลูกได้ตลอดปี ควรด้าเนินการก่อสร้างเข่ือนเก็บน้าบริเวณท่ีไม่มีปัญหาเร่ืองที่ดิน หรือมีปัญหาน้อยก่อน ส้าหรับเป็นตัวอย่างให้ราษฎรเห็นประโยชน์ และคุณค่าของอา่ งเกบ็ น้าเพื่อสนบั สนนุ การกอ่ สรา้ งเข่ือนเกบ็ กกั นา้ แห่งอน่ื ๆ ต่อไป อน่ึง อ้าเภอป่าบอนแจ้งว่า ได้รับค้าร้องเรียนจากสภาต้าบลหนองธง โดยราษฎรหมู่ 11ต้าบลหนองธง มีความประสงค์ที่จะให้สร้างฝายน้าล้นในล้าคลองพรุพ้อ และระบบการชลประทาน เพ่ือชว่ ยเหลอื ราษฎรในการท้านาในเขตหมทู่ ี่ 4, 5, 6, 9, 10 และ 11 ต้าบลหนองธงเนือท่ีนาประมาณ 29,500 ไร่ซ่งึ อาศัยน้าฝนประจ้าทุกปี หากฝนทิงช่วงปีใดก็จะไดร้ ับความเดือดร้อนผลผลิตตกต้่า อ้าเภอป่าบอนได้ขอความร่วมมือมายังโครงการชลประทานพัทลุง ให้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปส้ารวจความเป็นไปได้ของโครงการ และดา้ เนินการขนั ตอ่ ไป โครงการชลประทานพัทลุง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปพบราษฎรท่ีร้องเรียน เพอ่ื ส้ารวจข้อมูลและพิจารณาแนวทางช่วยเหลือราษฎรในการขาดแคลนน้าส้าหรับท้านา ในบริเวณพืนที่ดังกล่าว จากการพิจารณาสภาพภูมิประเทศ ปรากฏว่าปริมาณน้าในคลองพรุพ้อมีมากในช่วงฤดูฝน ส่วนในฤดูแล้งมีน้าเพียง

เล็กน้อย และอีกประการหนึ่งบริเวณตอนล่างของคลองพรุพ้อ และฝายคลองทราย ซึ่งโครงการชลประทานขนาดเล็กปิดกันล้าคลองอยู่แล้ว ถ้าหากท้าการก่อสร้างฝายทดน้าแห่งใหม่นี ก็จะกระทบกระเทือนต่อฝายตอนล่าง จะท้าให้ไม่สามารถส่งน้าช่วยเหลือพืนท่ีเพาะปลูกอยู่เดิมได้เต็มที่ จากเหตุผลดังกล่าวจึงเห็นว่าการก่อสร้างอ่างเก็บน้าจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้าในการท้านาของราษฎรได้อย่างเหมาะสมท่ีสุดโดยสร้างอ่างเก็บน้าขึนบริเวณต้นน้าคลองป่าบอน ซึ่งมีปริมาณน้ามากกว่าคลองพรุพ้อ เพ่ือเก็บกักน้าไว้ช่วยเหลือราษฎรให้มีน้าไว้ใช้ท้าการเกษตรในบริเวณพืนท่ีที่เดือดร้อนดังกล่าวและเป็นโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด้าริโครงการหน่ึงของจังหวัดพัทลุง ตามที่กรมชลประทานได้รวบรวมไว้เมื่อวันท่ี 12 กันยายน พ.ศ.2521วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใชเ้ ป็นแหลง่ เก็บกักนา้ ส้าหรบั ชว่ ยเหลอื การเพาะปลูกของราษฎร ท่ีอาศัยอยู่ใน เขตโครงการทงั ฤดูในฝน และฤดูแล้ง 2. เพ่อื ใช้เป็นแหลง่ น้าสา้ หรบั ช่วยเหลือการอปุ โภคในฤดแู ล้งของราษฎร และสตั ว์ เลยี งที่อาศัยอย่ใู นบรเิ วณใกลเ้ คียงโครงการฯ 3. เพื่อเป็นแหลง่ เพาะพนั ธ์สุ ัตว์น้า ใหร้ าษฎรใชบ้ ริโภค และมีรายได้จากการท้า ประมงเพิ่มเติมจากการท้าการเกษตร 4. เป็นแหล่งเก็บกักน้า เพื่อบรรเทาอุทกภัย 5. เปน็ แหล่งท่องเท่ียวพักผ่อนหยอ่ นใจของราษฎรในบรเิ วณโครงการฯ และพนื ที่ ใกล้เคียงทีต่ ังหัวงำนโครงกำรคลองปำ่ บอน โครงการคลองปา่ บอน ตงั อยูท่ ี่ บ้านโหล๊ะหาร หมู่ 7 ต้าบลทงุ่ นารี อ้าเภอป่าบอนจงั หวัดพัทลุง ตามแผนทขี่ องกรมแผนท่ที หารบก มาตราสว่ น 1: 50,000 III 47 NPJ 792 – 620สภำพภูมิประเทศ บริเวณต้นนา้ คลองป่าบอน เปน็ ภูเขาสงู ชนั สภาพป่าบริเวณต้นนา้ ยงั อยู่ในสภาพดี ปกคลมุ ไปดว้ ยป่าเบญจพรรณ สภาพภูมิประเทศบรเิ วณท่ตี ังโครงการฯ เป็นปา่ โปรง่ มคี วามลาดเทจากเทือกเขาบรรทดั ทางทิศตะวนั ตกเฉียวใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนอื โดยประมาณลักษณะของโครงกำรฯ โครงการคลองปา่ บอน เปน็ ประเภทอา่ งเกบ็ นา้ พรอ้ มระบบสง่ น้า

รำยละเอียดโครงกำรคลองป่ำบอน ชื่อ โครงการป่าบอน ท่ีตงั โครงการ บา้ นโหละ๊ หาร หมู่ 7 ต้าบลทงุ่ นารี อ้าเภอปา่ บอน จังหวัดพัทลุง ทต่ี ังตามแผนท่ีกรมแผนทท่ี หารบก มาตราสว่ น 1:50,000 ระวาง 5023 III 47 NPJ 792 –620ละติจดู 7 – 09’ – 57” ลองติจูด 100 – 05’ – 10” ประเภทโครงการ อา่ งเก็บนา้ ขนาดความจุ 20 ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร พืนทผี่ ิวอ่างเกบ็ น้าท่ีระดบั เก็บกกั 1.15 ตารางกโิ ลเมตร พนื ท่ีผิวอ่างเก็บนา้ ท่รี ะดบั นา้ สงู สุด 1.25 ตารางกโิ ลเมตร พนื ทีร่ บั น้าเหนือจุดท่ตี ังหัวงานโครงการฯ 29.70 ตารางกโิ ลเมตร ความยาวของลา้ นา้ จากต้นน้าถงึ หัวงานโครงการฯ 10.00 กโิ ลเมตร ความลาดเทของล้านา้ บริเวณบริเวณหัวงานโครงการฯ 1: 9,000 ปรมิ าณนา้ ไหลผ่านหวั งานโครงการฯปีละประมาณ 33,179,000.00 ลูกบาศก์เมตร ปรมิ าณฝนเฉลย่ี ปลี ะ 2,736.36 ลูกบาศกม์ ลิ ลเิ มตร จา้ นวนวนั ท่ีฝนตกเฉลยี่ ทังปี 102 วนั อัตราการระเหยของน้าเฉลีย่ ทังปี 1,317.40 ลกู บาศกม์ ิลลเิ มตร ท้ำนบดนิ ท้านบดนิ ชนิด Zone Type 10.00 เมตร - สันทา้ นบดนิ กว้าง 46.00 เมตร - ความสูงท้านบดนิ ท่รี ะดบั สงู สดุ 750.00 เมตร - ความยาวทา้ นบดนิ + 69.00เมตร (รทก.) ระดบั ท้องน้าประมาณ + 86.20เมตร (รทก.) ระดบั น้าต้า่ สุด Dead Storage + 110.00 เมตร (รทก.) ระดับนา้ ท่ีระดับเก็บกัก + 112.00 เมตร (รทก.) ระดับน้าท่ีระดบั สูงสุด + 114.00 เมตร (รทก.) ระดับหลังท้านบดิน อาคารระบายน้า (RIVER OUTLET) อำคำรประกอบ - ประเภทท่อกลม (STEEL LINER) - ความยาว 2.50 เมตร - สามารถระบายนา้ ไดส้ งู สดุ 250.00 เมตร 50.00 ลูกบาศก์เมตร/วนิ าที อาคารระบายนา้ ลน้ (SPILLWAY)

- ประเภท SIDE CHANNEL 140.00 ลกู บาศกเ์ มตร/วนิ าที- สามารถระบายนา้ ได้สูงสุดด้ำเนนิ กำรออกแบบก่อสร้ำงโดย สา้ นกั ออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้ำเนนิ กำรก่อสรำ้ งโดย กลมุ่ งานก่อสร้าง 4 โครงการก่อสรา้ ง 2 ส้านกั พฒั นาแหล่งน้า 5 กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระยะเวลำดำ้ เนินกำรกอ่ สร้ำง 7 ปี เริม่ กอ่ สรา้ งปี พ.ศ. 2537 กอ่ สร้างเสรจ็ ปี พ.ศ. 2543ผลกำรดำ้ เนนิ งำนผลงานก้าวหน้าถึงสนิ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2543 ได้ผลงาน 97.79 %ผลงานกา้ วหน้าเฉพาะปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ไดผ้ ลงาน -%ผลงานก้าวหน้าตังแต่เรมิ่ ตน้ จนถงึ สินเดอื น พฤศจิกายน 2544 ได้ผลงาน - %กำรคมนำคม หัวงานโครงการคลองป่าบอนอยหู่ ่างจากอา้ เภอปา่ บอนเปน็ ระยะทาง 20 กโิ ลเมตร และอยูห่ า่ งจากจังหวัดพัทลงุ เปน็ ระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร เส้นทางเดนิ ทางเข้าโครงการฯสามารถเดนิ ทางได้ 3ทาง คอื 1. แยกจากถนนทางหลวงแผน่ ดิน หมายเลข 4 ( พัทลุง – หาดใหญ่ ) ทบี่ า้ นปา่ บอนเลียวขวาไป ตามถนนทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 4122 ( บา้ นปา่ บอน – บ้านพดู ) ถึง กม. 11 เลียวซ้ายไปตามถนน รพช. บา้ นเหมอื งตะกั่ว – บา้ นโหละ๊ หาร รวมระยะทางประมาณ 18 กโิ ลเมตร 2. แยกจากถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 4 (พทั ลงุ – หาดใหญ่) เลยี วขวาไปตามถนน รพช. บา้ นยางขาคมี และเลยี วซา้ ยทบ่ี า้ นเขาจันทร์ รวมระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร 3. แยกจากถนนทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 4 (พทั ลุง – หาดใหญ่) ทีบ่ ้านพรุพ้อเลียวขวาไปตาม ถนน รพช. บ้านพรุพ้อ – บ้านโหล๊ะหาร รวมระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตรกำรตดิ ต่อกบั โครงกำรฯ

1. โดยวิทยุกรมชลประทาน ถึงโครงการคลองปา่ บอน2. โดยทางไปรษณีย์ ถึง โครงการคลองปา่ บอน ตู้ ปณ. 108 อา้ เภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา 901103. โดยทางโทรศพั ท์ หมายเลข (074) 615 – 903 (FAX)

โครงกำรกอ่ สรำ้ งอ่ำงเก็บนำ้ ป่ำพะยอม อันเน่อื งมำจำกพระรำชด้ำริ ตำ้ บลเกำะเตำ่ กงิ่ อ้ำเภอป่ำพะยอม จังหวดั พัทลุง 1. เรอ่ื งเดิม เมอื่ วันท่ี 14 กนั ยายน 2520 พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวไดเ้ สด็จพระราชด้าเนนิ ไปพระราชทานพันธ์ุสัตว์น้าเพ่ือการประมง และทรงเยี่ยมราษฎรอ้าเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสได้มีพระราชดา้ รัสกับอธิบดีกรมชลประทานว่า ตามที่ได้ทอดพระเนตรทางเคร่ืองบินพระท่ีน่ังปรากฎว่าในเขตจังหวัดพัทลุงซึ่งทางกรมช ลประทานได้ก่อส ร้างโ ครงการชล ประทานครอบ คลุมพืนท่ีร าบชายทะเลสาบสงขล าไว้เกือบทังหมดแล้ว แต่ทางบริเวณเชิงเทือกเขาบรรทัด ซ่ึงกันเขตแดนระหว่างจังหวัดพัทลุงและจังหวัดตรังนันยังไม่มีโครงการชลประทาน โดยเฉพาะโครงการประเภทอ่างเก็บน้าจึงให้กรมชลประทานพิจารณา วางโครงการอ่างเก็บน้าพร้อมระบบส่งน้าเพื่อส่งน้าให้กับพืนท่ีเพาะปลูก บริเวณเชิงเขาและเก็บกักไว้ช่วยเหลือการเพาะปลกู พืชฤดแู ลง้ ในเขตโครงการชลประทานชายทะเลสาบสงขลาท่ีก่อสร้างไว้แล้วนอกจากนัน ยงั จะชว่ ยบรรเทาอุทกภัยในบริเวณดังกล่าวไดอ้ ีกด้วย ต่อมาเม่ือวันท่ี 24 กันยายน 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชด้าเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้าโคกชะงาย จังหวัดพัทลุง ได้พระราชทานพระราชด้าริเกี่ยวกับโครงการอ่างเก็บน้าในเขตจังหวัดพัทลุงเพ่ิมเติมว่า สมควรรีบด้าเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้าท่ีเหมาะสมโดยเร่งด่วน เน่ืองจากพืนที่เพาะปลกู ในเขตโครงการฝายทดน้าต่าง ๆ ท่ีกรมชลประทานไดก้ ่อสร้างไว้แล้ว ในปัจจุบันมกี ารขาดแคลนน้าเป็นประจ้าทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะท่ฝี นทิงช่วง และในช่วงฤดแู ล้งหากได้ดา้ เนินการกอ่ สร้างอ่างเก็บน้าในบรเิ วณต้นน้าแล้วจะสามารถจดั สรรนา้ ให้กับพืนทีเ่ พาะปลูกในเขตโครงการฝายทดน้าต่าง ๆ ได้ผลสมบูรณ์ยิ่งขึน และสามารถท้าการเพาะปลูกได้ตลอดปีด้วย จึงสมควรด้าเนินการก่อสรา้ งอ่างเก็บน้าบริเวณทไี่ มม่ ปี ัญหาทด่ี นิ หรือปญั หานอ้ ยกอ่ น สา้ หรบั เป็นตัวอย่างใหร้ าษฎรไดเ้ หน็ ประโยชน์และคุณค่าของอา่ งเก็บน้าต่อไป2. วัตถุประสงค์โครงกำร 2.1 เพือ่ ใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้าไวใ้ ชเ้ สรมิ การเพาะปลกู ในฤดฝู นและการปลูกพชื ใน ฤดแู ล้ง2.2 เพอื่ เป็นแหลง่ เกบ็ กกั น้า ส้าหรับอุปโภค – บรโิ ภคของราษฎร2.3 เพ่ือเป็นแหล่งน้าเพาะพันธุ์สตั ว์นา้ ใหร้ าษฎรใชบ้ ริโภค และมรี ายไดจ้ ากการประมงเพ่ิมเตมิ จากการเกษตรกรรม2.4 เพ่อื เปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี วพักผ่อนหยอ่ นใจ ของราษฎรในบรเิ วณใกลเ้ คียง2.5 เพ่ือเป็นแหล่งเก็บกัก เพื่อบรรเทาการเกิดอุทกภยั

3. ระยะเวลำดำ้ เนนิ กำร 5 ปี เริม่ ปี 2531 เสรจ็ ปี 25354. รำคำค่ำก่อสร้ำง รวม 128,991,400 บาทแยกเปน็ ค่าบรหิ ารโครงการ 1,298,900 บาท คา่ ก่อสรา้ งส่วนประกอบอนื่ 35,294,000 บาท คา่ ก่อสร้างระบบชลประทาน 92,373,000 บาท คำ่ ปรบั ปรงุ สิง่ ก่อสรำ้ ง 25,500 บำท รวม 128,991,400 บาท5. ลกั ษณะโครงกำร เพื่อการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้าในเขตโครงการบ้านพรา้ ว จังหวัดพทั ลงุ กรมชลประทานจึงวางโครงการพิจารณาก่อสร้างโครงการเก็บน้าป่าพยอม อันเนื่องมาจากพระราชด้าริขึนโดยมีลกั ษณะโครงการยอ่ คอื สรา้ งเขือ่ นดนิ ปดิ กันคลองป่าพยอมทางต้นน้าเหนือฝายทดน้าของ โครงการบา้ นพร้าวขึนไปประมาณ 15 กิโลเมตร มีพืนท่ีรับน้าฝนเหนือเขื่อนประมาณ 24 ตารางกิโลเมตร และจากการท้าRESERVIOR OPERATION STUDY เพ่ือหาขนาดความจุของอ่างเก็บน้าท่ีเหมาะสม ปรากฏว่าควรสร้างอ่างเก็บน้ามีความจุประมาณ 20.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ความยาวเขื่อนดิน 255 เมตร ความสูง 33.00เมตร พรอ้ มทังสร้างอาคารระบายน้าและท่อส่งน้าจากอ่างเก็บนา้ ลงสูล่ ้านา้ เดิมด้านท้ายเข่ือนเพ่ือใช้ระบายนา้ ลงสูล่ ้านา้ ใหก้ ับฝายบา้ นพรา้ วทอี่ ยูต่ อนลา่ ง เมื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้าปา่ พยอมเสร็จแล้วจะสามารถช่วยเหลอื พืนท่ีเพาะปลูกในเขตโครงการชลประทานบ้านพร้าว ในพืนที่ชลประทาน 35,700 ไร่ โดยเฉล่ียในระยะฤดูฝนประมาณ 21,500 ไร่ และ ประมาณ 4,000 ไร่ ในระยะฤดูแล้ง แต่ส้าหรับในปีฝนตกชุกบางปีอาจมีน้าเหลือพอส่งไปชว่ ยเหลอื การเพาะปลูกพืชไว้ในฤดูแลง้ ได้ถงึ 19,000 ไร่ (1 ครังในรอบ 10 ปี)6. ท่ตี ังหัวงำน ตงั อยู่ท่ี LATTITUDE 7 – 45 – 31 เหนอื LONGTITUDE 99 – 45 – 35 ตะวนั ออกบ้านวังเลน ตา้ บลเกาะเตา่ ก่งิ อ้าเภอปา่ พยอม จงั หวัดพัทลุง7. พืนทไ่ี ดร้ ับประโยชน์ ในเขตโครงการบ้านพร้าวจา้ นวน 35,700 ไร่ จ้านวน 22 หมู่บา้ น 5 ตา้ บล คอื ต.เกาะเตา่ ต.ป่า บอน ต.บ้านพร้าว ต.แหลมโตนด อ.ป่าพยอม จ.พทั ลงุ และ ต.ขอนหาด อ.ชะอวด จ.นครศรธี รรมราช

8. รำยกำรกอ่ สร้ำง 8.1 กอ่ สร้างส่วนประกอบอ่นื- ถางป่าปรับพืนท่ีบรเิ วณหัวงานและอ่างเก็บน้า 2,300 ไร่- ลอ้ มรัวบริเวณหัวงาน 1,200 ม.- ระบบไฟฟ้า – ประปา 1 แห่ง- กอ่ สร้างถนนภายในบริเวณหัวงาน 1.00 กม.- ก่อสรา้ งถนนท่ีถูกน้าท่วมดา้ เนินการโดยกรมทางหลวง 5.00 กม.8.2 ก่อสร้างท่ีทา้ การอาคารบ้านพกั- ท่ีทา้ การบา้ นพักถาวร8.3 ก่อสรา้ งระบบชลประทานทา้ นบดนิ หวั งานและอาคารประกอบ 1 แหง่ มีรายละเอยี ด คือ- ทต่ี ังเขอื่ น พกิ ดั 47 NNJ 912 – 576 ระวาง 4924 II- พนื ทีร่ บั นา้ ฝนเหนือเขื่อน 24 กม2.- ทา้ นบดนิ สูง 33.00 ม.- ยาว 255 ม.- ระดบั สันท้านบดนิ + 112.500 ม. (รทก.)- ระดับนา้ เก็บกัก + 109.000 ม. (รทก.)- ระดับน้าสูงสดุ + 110.500 ม. (รทก.)- ระดบั ธรณีท่อสง่ นา้ + 91.000 ม. (รทก.)- ความจุนา้ ท่ีระดบั เกบ็ กัก 20.5 ล้าน ม3.- พืนท่ผี วิ น้าที่ระดบั เก็บกัก 2.17 กม2.- RIVER OUTLET ขนาด 1 – 0 1.00 ม. ยาว 195.90 ม.สามารถระบายนา้ ได้ 5.0 ม3./วินาที 1 แห่ง- อาคารทางระบายน้าลน้ ขนาด 2 - 3.00 * 3.35 ม.

ยาว 250.80 ม. สามารถระบายน้าได้ 80 ม3./วนิ าที 1 แห่งทา้ นบดนิ ปิดช่องเขาขาด 1 แห่ง มีรายละเอยี ด คอื- ท้านบดนิ สงู 7.00 ม.- ยาว 350.00 ม.- ระดบั สันท้านบดิน + 112.500 ม. (รทก.)9. งำนปรบั ปรงุ ส่ิงกอ่ สร้ำง 6.7 กม. - บูรณะทอ่ ส่งน้าสายใหญ่ และสายซอย10. กำรคมนำคม โครงการอา่ งเก็บน้าป่าพยอม อยู่หา่ งจากจังหวดั พัทลงุ ประมาณ 41 กม.โดยแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ท่ีส่ีแยกโพธิ์ทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ไปตามทางหลวงจังหวัด หมายเลข 4091ช่วง อ.ควนขนุน - ก่ิง อ.ศรีบรรพต ระยะทางประมาณ 19 กม. ถึงสามแยกเขาปู่แยกขวาไปตามทางหลวงจงั หวัดหมายเลข 4160 ตอน เขาปู่ – ป่าพยอม ระยะทางประมาณ 5 กม. ถึงหัวงานโครงการเส้นทางดังกล่าวสามารถใช้คมนาคมได้ตลอดทงั ปี11. สภำพภมู ิประเทศ สภาพพนื ทโี่ ดยท่วั ไปในเขตโครงการ มีลักษณะเป็นดนิ เหนียวปนทราย เชิงเขามสี ภาพเป็นปา่ ยาง และไมเ้ บญจพรรณขึนหนาแน่น

รำยละเอียดข้อมลู โครงกำรชอื่ โครงกำรอำ่ งเกบ็ น้ำ ป่าพยอมต้ำบล เกาะเต่าอ้ำเภอ ควนขนุนจงั หวดั พทั ลุงสำ้ นกั งำนชลประทำนที่ 2หมำยเลขแผนท่ี สเกล 1:50,000 ระวาง 4924II พิกดั 47 NNJ 583911ละตจิ ูด 7° -45’-31’.เหนอืลองติจูด 99° -45’-31’ ตะวันออก อำ่ งเก็บน้ำ 24 ตารางกโิ ลเมตร ลักษณะอุตุนิยมวทิ ยำ 1,728. มม.พนื ทร่ี บั นา้ ฝนเหนือทต่ี ังเข่ือน - ลบ.ม. ต่อวินาที 16.6 ลา้ น ลบ.ม.ปรมิ าณฝนเฉลี่ย 2.17 ตารางกโิ ลเมตร 2.4 ตารางกโิ ลเมตรปรมิ าณนา้ ไหลในล้านา้ บรเิ วณท่ตี ังเขอ่ื น 50 ปี 0.80 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณนา้ ไหลลงอ่างเก็บนา้ เฉลี่ยปีละ เก็บกัก เมตรพืนทผี่ วิ นา้ ระดับเกบ็ กัก 33.00 เมตร 255พืนท่ีผวิ นา้ ระดบั สงู สุดอายกุ ารใช้งานของเขื่อนความจุของตะกอน เข่ือนเขื่อนประเภท สงู ยาว

สนั เขื่อนกวา้ ง 8.00 เมตรฐานเขือ่ นกว้างทรี่ ะดับทอ้ งนา้ 190 เมตรระดบั สันเข่ือน +.112.50 เมตร (รทก.)ระดบั นา้ สงู สดุ +.110.50 เมตร (รทก.)ระดับนา้ เก็บกัก +.109.00 เมตร (รทก.)OBSERVATIONWELL 2 ท่อ จา้ นวน เมตรอ่ืน ๆ เมตร เมตร อาคารประกอบ แถวอำคำรระบำยน้ำล้นใช้งำน (SERVICE SPILLWAY) เมตร (รทก.) เมตร (รทก.)ประเภท DROP INLET PIPE ลบ.ม. ตอ่ วินาที ปีท่อขนาด 3.00*3.35 เมตรกวา้ ง 7.00 เมตรยาวจ้านวน 2ระดับสันฝาย + 109.00ระดบั นา้ สงู สดุ + 110.50ระบายนา้ สงู สดุ 80RETURE PERIOD 50SERVICE BRIDGEกว้าง 0.80ยาว 25.20

ทางระบายน้าล้นฉกุ เฉนิจา้ นวน 1 แห่งประเภท BROAD CREST เมตร (รทก.) เมตรระดับสนั ฝาย เมตร ลบ.ม. ต่อวินาทีกวา้ ง 8.00 ปียาว - เมตร เมตร (รทก.)ระบายน้าสงู สุด - ล้าน ลบ.ม. ล้าน ลบ.ม.RETURE PERIOD - ล้าน ลบ.ม. ล้าน ลบ.ม.ทอ่ ส่งนำ้ ลงล้ำน้ำเดิม (RIVER OUTLET) ลบ.ม.ประเภทของ INTAKE ล้านบาทอาคารรับนา้ สูงระดับน้าตา้่ สดุ + 110.50ปริมาณนา้ ท่รี ะดับสูงสดุ -ปรมิ าณน้าทีร่ ะดับเกบ็ กัก 20.50ปรมิ าณน้าทร่ี ะดับตา่้ สดุ 0.80ปริมาตรน้าใช้งาน 19.70ปริมาตรตัวเขื่อนออกแบบโดย กรมชลประทานกอ่ สรา้ งโดย กรมชลประทานเร่ิมกอ่ สรา้ งปี 2531สรา้ งเสร็จปี 2535ราคาคา่ กอ่ สร้าง 128,991,400

การตดิ ตงั อุปกรณต์ รวจสอบเข่ือนเคร่ืองมือวดั POREPESSUREPIEZOMETERชนิดจ้านวน 3 แหง่เครื่องมอื วัดการทรุดตัว แถว แถวSURFACE SETTLEMENT POINT ชดุจา้ นวน 11 ชุดFOUNDATION SETTLEMENT POINT เมตร เมตรจา้ นวน 1 นิว เมตรINTERNAL SETTLEMENT GAUGEชนิดจา้ นวนINCLINOMETERชนดิจ้านวน กวา้ งเสน้ ผา่ ศูนย์กลางท่อชนิดของ LINER . STEEL LINER หนา 20 มมความยาวทอ่ ลอดตัวเขื่อน 195.90

ประตูระบายน้าประเภท GATE VALVE เมตรจา้ นวนแถว 1 เมตรขนาด GATE กว้าง 1-0.80 เมตร - เมตร ยาว - ลบ.ม. ต่อวนิ าทีเส้นผ่าศูนยก์ ลางประตู - 5 เมตร ขนาด เมตรระบายน้าสงู สดุ เมตรทอ่ ส่งนำ้ เขำ้ คลองสำยใหญ่ (CANAL OUTLET) ฝั่งขวำ นิว เมตรประเภทของ INTAKE เมตรอาคารรบั นา้ สูง เมตร กว้าง เมตร เมตรเส้นผ่าศนู ย์กลางท่อ ลบ.ม. ต่อวินาทีชนดิ ของ LINER หนาความยาวท่อลอดตวั เขื่อนประตรู ะบายน้าประเภทจ้านวนแถวขนาด GATE กวา้ ง ยาว -เส้นผ่าศูนยก์ ลางประตู -CONTROL HOUSE ขนาดระบายน้าสูงสดุ

พนื ทชี่ ลประทาน ไร่ทอ่ ส่งน้ำเขำ้ คลองสำยใหญ่ (CANAL OUTLET) ฝั่งซำ้ ย เมตร เมตรประเภทของ INTAKE เมตรอาคารรับน้า สงู นิว เมตร กวา้ ง เมตรเสน้ ผา่ ศนู ย์กลางท่อ เมตร เมตรชนิดของ LINER เมตร ลบ.ม. ต่อวนิ าที หนา ไร่ความยาวทอ่ ลอดตัวเขื่อนประตูระบายน้าประเภทจ้านวนแถวขนาด GATE กวา้ ง ยาว -เสน้ ผ่าศูนยก์ ลางประตู -CONTROL HOUSE ขนาดระบายน้าสงู สดุพืนท่ชี ลประทาน

โครงกำรคลองสำมหลกัประวัติโครงกำร เม่อื ปี 2512 นายอาทิตย์ สภุ าไชยกจิ สส.จังหวดั พทั ลงุ และนายอ้าเภอเมือง จงั หวดัพัทลุงไดม้ าตดิ ต่อชลประทานภาคใต้ ขอให้พจิ ารณาวางโครงการคลองหลักสาม อ้าเภอกงหรา จังหวดั พัทลุงเพือ่ช่วยเหลือเนอื ที่เพาะปลูก ประมาณ 32,000 ไร่ ทางชลประทานภาคใตไ้ ด้ส่งช่างออกไปส้ารวจแลว้ เหน็ พอจะพิจารณาเปดิ โครงการขนึ ได้ จึงได้ขออนมุ ัติกรมชลประทานด้าเนินการส้ารวจรายละเอียดภมู ิประเทศ เมื่อปี2523-2524 และได้น้าโครงการมาพิจารณาเบอื งต้นแล้วเห็นวา่ ควรแบ่งการด้าเนินงานโครงการนอี อกเปน็ 2 ระยะคือ ระยะท่ี 1 เป็นการพิจารณาดัดแปลงฝายเดิมของราษฎร และคลองส่งน้าท่ีขุดไว้แล้วโดยการก่อสร้างฝายถาวรในคลองหลักสามแทนฝายเดิมของราษฎรทช่ี ้ารุดแล้ว และต้องซ่อมแซมกันทุกปีพร้อมสร้างอาคารประกอบและขุดคลองสง่ น้าไปบรรจบกับเหมืองเดิมของราษฎร ยาวประมาณ 0.300 กม. ระยะท่ี 2 จะทา้ การปรับปรงุ ระบบสง่ นา้ ให้ดีขนึ เมื่องานกอ่ สร้างระยะท่ี 1 เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้วแต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไมอ่ า้ นวยให้เปิดโครงการนขี นึ ได้ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ระยะที่ 1 ( พ.ศ. 2515-2516) และกรมชลประทานยังมีงานก่อสร้างโครงการขนาดกลางท่กี ้าลังด้าเนินการก่อสรา้ งในจังหวัดพัทลุงอยู่หลายโครงการ จึงได้ระงับการก่อสร้างไว้ระยะหนึ่งประกอบกับการเปิดโครงการจะกระทบกระเทือนต่อการใช้น้าของโครงการควนกุฎที่อยู่ตอนล่าง เพราะปริมาณน้าต้นทุนได้ลดต้่าลงทุกปี จึงจา้ เปน็ ตอ้ งให้กองอทุ กวิทยาสา้ รวจสภาพอทุ กวทิ ยาใหแ้ นน่ อนกอ่ นว่าสมควรจะเปดิ โครงการนขี ึนหรือไม่ ต่อมาในปี 2519 กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอโครงการคลองสามหลัก เข้าไปอยู่ในแผนพัฒนาเน้นหนักของจังหวัดพัทลุง และราษฎรมีปัญหาขาดแคลนน้าในการท้านามากขึน ส้านักงานฯได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจ้าเป็นท่ีจะต้องเปิดโครงการนีขึน เพ่ือจะควบคุมการใช้น้าของพืนที่การเกษตรในลุ่มนีไว้ทังหมด เพราะปัจจุบันราษฎรได้ขยายพืนท่ีต้นน้ามากขึน และมีการปิดกันสาขาต้นล้าธารต่างๆ เพื่อน้าน้าไปใช้ในการเกษตรมากขึน ท้าให้พืนที่ตอนล่างขาดแคลนน้า เพราะทางพืนท่ีตอนบนปิดกันไว้หมด หากปล่อยให้ราษฎรปิดกันคลองหลักสามนีเอง ทางชลประทานจะไม่สามารถควบคุมการใช้น้าของลุ่มน้านีได้ หากปล่อยให้ราษฎรปิด จึงได้เสนอโครงการระยะที่ 1 เข้าไปอยใู่ นแผนงานกอ่ สร้างโครงการขนาดกลางในปี 2523 และ 2524ตามลา้ ดับแตไ่ มไ่ ด้รับอนุมัติ ตอ่ มา คุณคลา้ ย จติ พทิ ักษ์ อดตี สส. จงั หวัดพทั ลุง ได้ติดตอ่ ขอให้กรมชลประทานด้าเนินการขอแปรญัติงบประมาณรายจา่ ยประจา้ ปี 25 เปน็ เงนิ 7,102,000 บาท และขอผูกพันงบประมาณทเี่ หลอื ในปีต่อไป แต่ไม่ได้รับอนุมัติให้ด้าเนินการ ปัจจุบันส้านักงานฯได้จัดซือท่ีดินบริเวณหัวงานไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทังกองออกแบบไดด้ า้ เนินการออกแบบอาคารเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ พร้อมจะด้าเนินการก่อสรา้ งได้

วตั ถุประสงค์ วัตถุประสงค์ในการจัดการสร้างโครงการคลองหลักสาม เพื่อจัดหาน้าชว่ ยเหลือพนื ท่ีเพาะปลูกในเขตตา้ บลคลองเฉลมิ อ้าเภอกงหรา ต้าบลนาโหนด อา้ เภอเมือง และตา้ บลโคกม่วงอ้าเภอเขาชยัสน จังหวดั พัทลุง เนอื ที่ 3,000 ไร่ และเพื่อทจ่ี ะควบคุมการใช้น้าของพืนท่ีการเกษตรในลุม่ น้านไี วท้ งั หมดสภำพภมู ิประเทศ จากการพจิ ารณาสภาพภมู ิประเทศโดยทั่วไปสว่ นมากเป็นนา และมีนาปนป่าอยู่บ้างส่วนทีต่ งับรเิ วณหวั งานเปน็ สวนยางพาราทต่ี งั กำรคมนำคม โครงการคลองหลกั สาม ตังอย่ทู บี่ า้ นควนประกอบ หมู่ที่ 3 ตา้ บลคลองเฉลมิ อา้ เภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ พิกัด 47 NPJ 102-228 แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ระวาง 4924 II , 5024 III, 4923Iและ 5023 IV การคมนาคม สา้ หรบั การเดินทางไปโครงการคลองหลักสาม จังหวดั พัทลงุ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ และรถไฟ จากกรุงเทพฯ ไปลงทจ่ี งั หวัดพัทลงุ เดินทางต่อโดยรถยนต์ไปตามถนนสายเพชรเกษมพัทลุง-หาดใหญ่ เลียวขวาที่ กม. 50-780 (บ้านสแ่ี ยกนาโหนด) ไปตามถนนสายสแี่ ยกนาโหนด - บา้ นคลองเฉลิมระยะทางจากประมาณ 12 กม. จะถึงโครงการฯรวมระยะทางจากจังหวัดพัทลงุ ประมาณ 16 กม. และระยะทางจากกรงุ เทพฯ ถึงโครงการ ประมาณ 16 กม.สภำพทำงธรณแี ละสภำพดนิ สว่ นมากเป็นดินเหนยี วและดินรว่ นปนทรายสภำพอุทกวิทยำ (สภำพฝน) ปริมาณนา้ ฝนโดยเฉล่ียทังปี 1,500 – 2,000 มม.

ลักษณะโครงกำรและกำรกอ่ สรำ้ ง โครงการคลองหลักสามเปน็ โครงการชลประทานขนาดกลาง ประเภทเหมืองฝาย มีรายละเอียดตา่ งๆของโครงการดงั นี.1. กำรกอ่ สร้ำงส่วนประกอบอ่นื ดังนีงานถางป่าบริเวณหวั งาน 60 ไร่- ลอ้ มรวั บรเิ วณหวั งานพร้อมป้อมยามประตเู ขา้ -ออก 2 แห่ง ยาว 1,100 เมตร- กอ่ สร้างท่ีทา้ การบา้ นพักช่ัวคราว 4 หลัง- บูรณะสรา้ งที่ท้าการ 11,7000 กม.2. กำรกอ่ สรำ้ งหัวงำนและอำคำรประกอบ- ฝายคอนกรีตเสรมิ เหล็กขนาดสูง 2.30 ม. ยาว 30.00 ม. พรอ้ มประตรู ะบายทรายขนาดกว้าง 60.00 ม. 1 ช่อง จา้ นวน 1 แห่ง- ทรบ. ปากคลองสง่ นา้ สายใหญ่ฝัง่ ขวา ขนาด 2-□ 1.75x1.50 เมตร ยาว 24.00 ม.- (สง่ น้าได้เต็มที่ 7.590 ม.3/วินาที จา้ นวน 1 แห่ง)- คลองส่งนา้ สายใหญ่ฝง่ั ขวาไปบรรจบกับเหมืองเดมิ ของราษฎร พรอ้ มดาดคอนกรตีคลองถงึ กม. 0+275- สะพานคอนกรีตเสรมิ เหล็กข้ามคลองหลักสาม ขนาดผิวจราจรกว้าง 6.00 ม. ยาว3. ระบบสง่ น้ำใชเ้ หมอื งเดิมของราษฎรที่มีอยแู่ ล้วระยะเวลำดำ้ เนนิ กำรระยะเวลาดา้ เนนิ การ 3 ปี เรม่ิ ปี 2526 เสรจ็ ปี 2528พนื ทไี่ ด้รับประโยชน์ พนื ท่ีได้รับประโยชน์ 30.000 ไร่ จ้านวน 3 ตา้ บล คือ ต้าบลคลองเฉลิม อ้าเภอกงหรา ตา้ บลนาโหนด อา้ เภอเมือง ต้าบลโคกมว่ ง อ้าเภอ เขาชัยสน จงั หวดั พัทลุง

คำ่ ลงทุนกอ่ สรำ้ ง รวมยอดคา่ ก่อสร้างทงั หมด 12,149,273 บาท เฉลีย่ จา้ นวนพนื ที่ได้รับประโยชนต์ ่อค่าลงทุนอตั ราไรล่ ะ 404.97 บาท

บญั ชีอำคำรชลประทำนคลองส่งน้ำสำยใหญ่ฝ่ังขวำ (คลองหลกั สำม) โครงกำรชลประทำนพทั ลุงกม. อำคำร หมำยเลข ก่อสร้ำง ชนิด ขนำด เลขแบบ พ.ศ. รำคำ-บำท บญั ชีรำยละเอียดอำคำร คลองส่งน้ำสำยใหญฝ่ ั่งขวำ (คลองหลกั สำม) ควำมยำว 0.000-0.200 (คลองธรรมชำต)ิสรุป 1 แห่ง 65169 2526 669,165 1. ทรบ.ปำกคลอง 2 1.75x1.75 65158 2527 x24.00 ม. 651700-000 ทรบ.ปำกคลอง

โครงกำรฝำยควนกฎุ ิประวตั โิ ครงกำร เป็นโครงการประเภทเหมืองฝายเดิม ปี พ.ศ. 2492 รัฐบาลไดน้ ้าพวกญวนอพยพเขา้ ไปพกั ในหมู่บา้ นควนกฎุ ิ ตา้ บลควนมะพร้าว อ้าเภอเมือง จงั หวดั พัทลงุ ( ในบริเวณศูนยว์ จิ ัยขา้ วควนกุฎปิ ัจจบุ ัน )เพอื่ ใหญ้ วนไดม้ ีอาชพี ทา้ นา-ท้าสวน พวกญวนไดท้ ้าการขดุ ล้ารางชักน้าจากคลองธรรมชาติ (ปัจจุบนั เปน็คลองสง่ นา้ สายใหญฝ่ ่ังซ้าย) เพอ่ื เข้าไปท้าการเพาะปลกู และต้นน้าดังกลา่ วนมี าจากเทอื กเขานครศรีธรรมราชบนัดาล้านา้ ท่ไี หนผ่านทุ่งราบของจงั หวดั พทั ลุงไหลลงไปทางทิศตะวันออกสู่ทะเลสาบสงขลา ส่วนเรียกชอ่ื คลองทน่ี ้าไหลผา่ นหมูบ่ า้ นใดกเ็ รยี กชือ่ คลองหม่บู า้ นนนั แทน ของทอ้ งท่ีอ้าเภอกงหราและอา้ เภอเมืองพัทลงุ โดยไหลผ่านบา้ นพน คลองใหญ่ คลองหวั หมอน คลองชะรดั สภาพคลองแต่ละสายจะมาบรรจบทางฝงั่ ซ้ายของทร่ี าบชายเขา ต่อจากท่ีราบของคลองชะรดั ก็เรียกคลองบ้านน้าตกหรือคลองสะพานหยี ถึงทร่ี าบทงั สองฝ่ังในทอ้ งท่ีอ้าเภอเขาชยั สนสว่ นตอนปลายคลองเรียกช่ือคลองหารโพธ์ิ คลองดงั กล่าวมคี วามยาวทังสินประมาณ 5.5 กม. เศษ โครงการควนกุฎไิ ด้เร่มิ ก่อสรา้ งฝายและคลองสง่ นา้ ในพืนที่ฝ่งั ซา้ ยของฝายโดยใชร้ ธรรมชาติเปน็ คลองสง่น้าทต่ี ังโครงกำร ตังอยูใ่ นหมทู่ ี่ 9 ตา้ บลควนขนนุ อา้ เภอเขาชัยสน จงั หวัดพัทลุง (ทีพ่ ิกดั 47 NPJ 187-298แผนท-่ี ระวาง 5024 III ) ทางเขา้ โครงการแยกจากถนนเพชรเกษม พัทลุง - หาดใหญ่ ท่ี กม.51+500 ทางฝง่ั ซ้ายระยะทาง 1+300 กม.รำยละเอยี ดโครงกำร ฝายควนกฎุ เดมิ เป็นฝายหินกอ่ สร้างปี พ.ศ. 2492 ขนาดฝายสูง 1.50 เมตร ยาว17.00 เมตร สามารถสง่ น้าใหพ้ ืนท่ีคลองฝั่งซา้ ยโดยใชค้ ลองธรรมชาติเป็นคลองสง่ น้า มี ทรบ.ปากคลองขนาด 3- 0 1.00ยาว 16.00 เมตร ส่งนา้ ไดเ้ นือที่ 16,000 ไร่ และใน พ.ศ. 2524 ไดท้ า้ การปรบั ปรงุ สรา้ งฝายขึนใหม่ ขนาดสูง 1.90 เมตร ยาว 21.70 เมตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2512-2515 ชลประทานส่วนใตเ้ ห็นว่ามีปรมิ าณนา้ ทไี่ หลมาจากฝายควนกุฎมีปรมิ าณเหลอื พอทจ่ี ะทา้ การเปิดงานใหมไ่ ดจ้ ะท้าการก่อสร้าง

รำยงำนสรุปโครงกำรชลประทำนพญำโฮง้1. ความเปน็ มา โครงการชลประทานพญาโฮง้ ซง่ึ ในสมยั นันครถู ดั เป็นผู้แทนราษฎรจังหวดั พัทลงุ ได้ มรี าษฎร3 ตา้ บล ได้แก่ ต้าบลชะรดั , ท่าแค, นาโหนด มีความเดือดรอ้ นเร่ืองน้าในการทา้ นา ราษฎรจงึ ให้ก้านันตา้ บลชะรัด และต้าบลทา่ แค ไดแ้ ก่นายพุ่ม เศรษฐสขุ นายทอง บญุ ร่งุ มาติดต่อผแู้ ทนราษฎรของจงั หวดั พัทลุง ในตอนนันครถู ัดเปน็ ผู้แทนจึงติดตอ่ ชลประทาน ภาคใตใ้ นจงั หวดั พทั ลงุ เพ่ือใหท้ างหน่วยงานของชลประทานด้าเนินการส้ารวจทีม่ าของแหลง่ น้าและออกศกึ ษาภูมิประเทศ เพือ่ หาข้อมลู และทต่ี ังบรเิ วณหวั งานประมาณ พ.ศ. 2498 เพือ่ ให้กรมชลประทานออกแบบของบประมาณของโครงการพญาโฮ้งท่มี าของตน้ นา้ ซง่ึ แหลง่ น้าไหลมาจากน้าตกบ้านไรเ่ หนือ ตา้ บลกงหรา ซึ่งเป็นอ้าเภอกงหราเด่ียวนี สายนา้ ได้ไหล ผา่ นหมู่ท่ี 4, 3, 9 ต.กงหรา และผ่านหมู่ท่ี 3, 4, 5, 6 ต้าบลชะรัด ปลายคลองจดคลองหลกั สามที่บ้านควนสีสกั ต.นาโหนด อ.เมอื ง จ.พัทลงุ2. ทต่ี งั บรเิ วณหวั งาน โครงการชลประทานพญาโฮง้ ตังอยูห่ มทู่ ี่ 6 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง (บ้าน นามะพร้าว)โครงการนีอยู่ห่างจากตัวจังหวดั ไปทางทิศตะวนั ตกเฉียงใตป้ ระมาณ 25 กิโลเมตร จาก อ.กงหรา 9+000 กม.โดยมีทางแยกจากถนนเพชรเกษมระหวา่ ง กม. 57 เขา้ ทาง แยกบา้ นปลวกลอ่ น หมู่ท่ี 3 เปน็ ระยะทาง16+000 กม. ถึงที่ตังโครงการซึง่ อยู่ระหวา่ ง เขาพญาโฮ้ง และเขากรงุ จนี โครงการนีด้าเนินการกอ่ สร้างเมือ่ ปี พ.ศ. 2508 - 2511 โดยท้า การก่อสร้างเป็นระยะติดต่อกัน 4 ปี3. ประเภทโครงการ ฝายนา้ ลน้ เปน็ ฝาย คสล. ยาว 32.75 ม. สูง 1.50 ม. มปี ระตรู ะบายทราย 1 ช่อง กวา้ ง 4.00 ม.4. ทรบ.ปากคลองสง่ น้า ทรบ.สายใหญ่ฝั่งซา้ ยขนาด ท่อ 2 0 1.00 ยาว 11.00 เมตร โดยแยกออก 2 สาย มีบานประตบู ังคบั น้าโดยประมาณน้าผ่านท่อ 1.28 ม3./วนิ าที โดยส่งน้าเข้าสายใหญ่ 2 สาย และคลองซอย 2 สายซ่ึงมเี นือท่ีควบอยู่ในเขตโครงการ 17,000 ไร่ ร่วม 3 ต้าบล ได้แก่ ตา้ บลชะรดั , ท่าแค, นาโหนด โดยมคี ลองส่งน้าสายต่างๆ เช่น

4.1 คลองสง่ น้าสายใหญฝ่ ่ังซ้ายที่ 1 ยาว 11+650 กม. และคลองซอย 1 ซา้ ย ของคลองสาย ใหญ่สายท่ี 1 แยกจาก กม. 5+750 ยาว 7+000 กม. (เป็นคลองดนิ ขุด)4.2 คลองส่งน้าสายใหญฝ่ ั่งซ้ายท่ี 2 ซึง่ อาศัยคลองธรรมชาตติ ลอดสาย แต่ไดป้ รบั ปรุงไป แล้ว เป็นบางส่วนความยาว 10+400 กม. ส่วนคลองซอย 1 ซ้าย ของคลองสาย ใหญ่สายที่ 2 แยกท่ี กม. 6+800 กม. โดยมคี วามยาว 11+060 กม.5.สภาพลกั ษณะทวั่ ไป โครงการชลประทานพญาโฮ้ง ซึง่ กรมชลประทานไดท้ ้าการกอ่ สร้างขึนเพอื่ ใช้ในการเกษตรเพราะพนื ท่สี ว่ นลาดเทจากภเู ขาและเปน็ ทด่ี อนอยมู่ าก พืนทใ่ี นระหวา่ งทีด่ อนและท่ีราบท้านาไดโ้ ดยทวั่ ไปส่วนมากมคี ลองและหว้ ยไหลผ่านหลายสายไหลมาลงห้วยศาลาโหย่งผ่านเขา้ โครงการควนกฎุ ิ และแยกมาลงในเขตต้าบลท่าแคตอนลา่ ง มาเช่ือมตดิ ต่อโครงการนาทอ่ มขยายแล้วเปน็ การช่วยเหลอื พนื ทตี่ อนลา่ งบางสว่ นนอกเขตโครงการ ท้าให้ราษฎรมีการเกษตรเพ่มิ ขึน โดยการปลกู พชื หมนุ เวยี นและท้านาปรังช่วยให้ราษฎรมปี รมิ าณผลผลิตเพิม่ ขึนเป็นส่วนมากสรปุ อาคารชลประทานโครงการพญาโฮ้ง อ.กงหรา จ.พัทลุง1. คลองส่งนา้ สายใหญ่ฝง่ั ซ้าย สายที่ 1 ยาว 11+650 กม.2. คลองส่งน้าสายใหญฝ่ ง่ั ซา้ ย สายที่ 2 ยาว 10+400 กม.3. คลองซอย 1 ซ้าย สายที่ 1 ยาว 7+000 กม.4. คลองซอย 1 ซ้าย สายท่ี 2 ยาว 10+060 กม. รวมยาว 39+110 กม.ฝายคอนกรตี ขนาดยาว 32.75 ม. สูง 1.50 ม.ปรมิ าณน้าผา่ นฝายสงู สดุ 128 ม3./วินาทีทรบ.ปากคลองส่งน้า 3แหง่ ปริมาณน้าผ่าน ทรบ. 1.179 ม3./วินาทีสะพาน คสล. 6 แห่งสะพานไม้ 15 แห่ง

น้าตก 14 แห่งอาคารอัดนา้ กลางคลอง 2 แหง่ทอ่ ลอดถนน -อาคารรับน้า - ทงิ น้า 8 แห่งไซฟอน 7 แห่งบ้านพกั 6 ครอบครัว 1 แหง่บา้ นพกั ช่ัวคราว 1 แหง่ท่อสง่ นา้ เข้านา 46 แหง่ทอ่ ปลายคลอง 4 แห่งปตร.ทราย 1 แห่งSPILLWAY 3 แหง่มรี าษฎรในเขตโครงการ 1,918 ครวั เรอื น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook