99 ครั้งน้ัน ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราชถึง ๒ พระองค์ ทรงด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการอ�ำนวยการและ อปุ ถมั ภ์ ได้แก่ สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฺาย)ี สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดมกุฏ กษัตริยาราม ขณะทรงด�ำรงสมณศักดิ์ที่ พระศาสนโศภน และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ วัด ราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ขณะทรงด�ำรงสมณศักดิ์ท่ี พระธรรมปาโมกข์ นอกจากน้ี ยังได้รับเมตตาจาก พระสาสนโสภณ (เอื้อน ชินทตฺโต) วัดเทพศิรินทราวาส ขณะด�ำรงสมณศักด์ิท่ี พระราชกวี เป็นกรรมการอ�ำนวยการ และอุปถัมภ์ด้วย ท้ังนี้ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง ชินวราลงกรณ ทรงด�ำรงต�ำแหน่งประธานกรรมการฝ่าย บรรพชิตอีกต�ำแหน่งหนึ่ง และพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการฝ่ายบรรพชิต ส่วนกรรมการฝ่าย ฆราวาส มีนายสงั วาลย์ เสมือนโพธ์ิ เปน็ ประธาน วัดแสงธรรมสุทธารามบังเกิดขึ้นได้ด้วยพระเมตตา ของสมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงชินวราลงกรณ ซึง่ ทรง ผลักดันให้สร้างวัดได้จนส�ำเร็จ ทั้งยังทรงส่งพระเถระวัด ราชบพิธสถิตมหาสีมารามมาดูแลวัดอย่างใกล้ชิด ทรงน�ำ พระเถระและอุบาสกอุบาสิกาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มาร่วมสร้างและบ�ำรุงวัดแสงธรรมสุทธารามเสมือนเป็น วดั พีว่ ัดนอ้ งกบั วดั ของพระองค์
อโุ บสถวดั แสงธรรมสุทธาราม
101 สิ่งที่ขาดไม่ได้คือความร่วมแรงร่วมใจของชาวชุมแสง ท่ีด�ำริและด�ำเนินการให้มีวัดนี้ขึ้น ตลอดจนบริจาคทรัพย์ เพื่อให้วัดแสงธรรมสุทธารามมีเสนาสนะพอท่ีพระภิกษุ สามเณรจะพักอาศัย และมีปัจจัยยังวัดให้พัฒนาได้ อาทิ นางบุญเรือน จันทรนุช นางสมบุญ มีสุคนธ์ นางกลีบ อุณณาโลม นายบิน ศรีสมาน และนางพันธ์ ศรีสมาน ได้ ถวายเรือนของตนให้เป็นสมบัติวัดแสงธรรมสุทธาราม วัด ได้น�ำมาดัดแปลงสร้างใหม่เป็นกุฏิพระ และยังมีอุบาสก อบุ าสกิ าถวายปจั จยั คา่ ภตั ตาหารเพลเป็นประจำ� ทกุ เดอื น สรา้ งอุโบสถ เม่ือแรกสร้างวัด ได้มีอาการสร้างอาคารชั้นเดียว ข้ึนหมู่หน่ึง หันหน้าไปทางถนนแสงราษฎรใต้ ซึ่งเป็นทิศ ตะวันตกของวัด สร้างด้วยไม้ ยกใต้ถุนสูง ตรงกลางเป็น ศาลาการเปรียญ ประดิษฐานพระพุทธศรีสุคต ล้อมด้วย กุฏิสงฆ์ ๓ ด้าน มีชานเชื่อมถึงกัน กุฏิด้านตะวันออกเป็น ห้องใหญ่ สร้างเป็นกุฏิเจ้าอาวาส กุฏิด้านเหนือและด้านใต้ แบ่งเป็นห้องส�ำหรับภิกษุสามเณร ส่วนด้านตะวันตกปล่อย เป็นชานโล่ง อุโบสถหลังแรกของวัดแสงธรรมสุทธารามเป็นอุโบสถ ไม้ช้ันเดียว ขนาดกะทัดรัด ต่อมาถูกเพลิงไหม้เสียหาย ท้ังหลงั เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร พระราชโสภณ (ละออ นิรโช)
จึงด�ำริให้สร้างอุโบสถหลังใหม่ แต่การยังไม่แล้วเสร็จก็ มรณภาพเสยี กอ่ น พระรชั มงคลญาณ (สวุ รรณ กาญฺจนวณโฺ ณ) เจ้าอาวาสยุคต่อมา จึงได้ด�ำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยเร่ิมวางผัง ตีเสาเข็มหลุมต้นเสาเอก ทิศเหนือ ด้าน ตะวันออก เมื่อวันท่ี ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เสริมศิลา ดว้ ยหนิ ทอง ทรายทอง หินเงนิ ทรายเงนิ หินนาก ทรายนาก เวลา ๙ นาฬิกา ๙ นาที และลงเสาเข็มท่ีเสาอุโบสถต้นเอก จนถึงเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๙ นาที ต่อมา การก่อสรา้ งอโุ บสถ เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง ชินวราลงกรณ ทรงยกช่อฟ้าอุโบสถช่อหนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เริ่มปิดทองฝังลูกนิมิต และสวด ถอนเขต เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ ในวันฝังลูกนิมิต สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรงเป็น ประธานอปุ สมบทนาค ๑๒ นาค ฉลองอโุ บสถ เมือ่ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ เวลา ๑๖ นาฬกิ า และทำ� การตดั ลกู นมิ ิต เวลา ๒๒ นาฬิกา ๙ นาที ต่อมา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ อุโบสถหลังใหม่มีขนาดกว้าง ๗ เมตร ยาว ๑๔ เมตร รอบก�ำแพงแก้วกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร สร้างเป็น อุโบสถ ๒ ช้ัน หลังแรกในจังหวัดนครสวรรค์ กระเบ้ือง หลังคาเป็นกระเบ้ืองดินเผาด่านเกวียน ซ่ึงเป็นที่นิยมใน 102
พระพทุ ธชนิ ราช พระประธานอโุ บสถ
ยุคนั้น หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างประดับอักษรพระนาม ยอ่ ว.ว.น. ในสมเดจ็ พระสังฆราชเจา้ กรมหลวงชนิ วราลงกรณ (วาสน์ วาสโน นิลประภา) ภายในเศวตฉัตร ๓ ช้ัน ตาม พระอิสริยยศขณะน้ัน ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ถวายนาม ว่า พระพุทธชินราช มีพุทธลักษณะเช่นเดียวกับพระพุทธ- ชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก กล่าวคือ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ประดับด้วย ซุ้มเรือนแก้ว แต่ไม่มีรูปหล่ออาฬวกยักษ์และท้าวเวสสุวรรณ การสรา้ งอโุ บสถหลงั ใหมส่ ำ� เรจ็ ลงไดด้ ว้ ยพระเมตตาคณุ ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์นั้น ด้วยได้เสด็จโดยรถไฟ มาทรงติดตามการด�ำเนินงานอย่างใกล้ชิด ทรงน�ำคณะ พุทธบริษัทร่วมโดยเสด็จพระกุศลทอดผ้าป่าและทอดกฐิน เพ่ือน�ำปัจจัยสมทบทุนสร้างอุโบสถ ทรงส่งพระมหามนัส มนสฺสุโภ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม มาเป็นผู้รับผิดชอบ งาน โดยมีพระธรรมสิริวัฒน์ (ทองค�ำ กมฺพุวณฺโณ) ขณะ ด�ำรงสมณศักดิ์ พระเทพวราภรณ์ เลขานุการสมเด็จ พระสังฆราช มาเป็นผู้สนับสนุน วัดแสงธรรมสุทธาราม จึงมีอุโบสถที่ม่ันคงแข็งแรง เป็นศรีสง่าแห่งอ�ำเภอชุมแสง และจงั หวดั นครสวรรค์ 104
พระพทุ ธศรสี คุ ต
ศาลาและต�ำหนักสมเด็จพระสังฆราช พระธรรมสิริวัฒน์ (ทองค�ำ กมฺพุวณฺโณ) บันทึกไว้ว่า ”การสร้างวัดแม้จะด�ำเนินถึงมีอุโบสถ กุฏิที่พักของพระภิกษุ สามเณรพอสมควร แต่ยังมีสิ่งท่ีควรจะปรับปรุงแก้ไขให้ ดีข้ึนอีกหลายอย่าง ต้องท�ำไปตามก�ำลังทุนท่ีมี„ จึงได้สร้าง ศาลาสมเด็จพระสังฆราช เม่ือพ.ศ. ๒๕๒๘ ส�ำหรับใช้เป็น สถานท่ีบ�ำเพ็ญกุศลเช่นศาลาการเปรียญ ลักษณะเป็นอาคาร ก่ออิฐถือปูนช้ันเดียว หน้าบันและซุ้มประตูหน้าต่างประดับ อักษรพระนาม ว.ว.น. ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง ชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน นิลประภา) ภายในเศวตฉัตร ๓ ชั้น ตามพระอิสริยยศขณะนั้น ภายในประดิษฐาน พระพทุ ธรปู ส�ำคญั ๓ องค์ ได้แก่ - พระพุทธศรีสุคต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย นางเนื่อง อิ่มสมบัติ อุบาสิกาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถวายไว้เป็นพระพุทธรูปประจ�ำวัดแสงธรรมสุทธารามตั้งแต่ แรกสรา้ งวดั สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงชนิ วราลงกรณ ถวายนามพระพทุ ธรปู องค์นว้ี ่า พระพุทธศรีสคุ ต - พระพุทธปฏิมาวาสนัฏฐารสม์ มีความหมายว่า ”พระพุทธผู้มีบุญองค์ที่ ๑๘„ สื่อความหมายถึง สมเด็จ พระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราช 106
(หนา้ ) พระพุทธปฏิมาวาสนฏั ฐารสม์ (หลัง) พระพทุ ธรปู ปางมารวชิ ัย และพระอัครสาวก
พระองค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระพุทธรูปชุดนี้ โปรดให้สร้างข้ึนในมงคลสมัยทรงเจริญพระชนมายุ ๗ รอบ พ.ศ. ๒๕๒๕ ทงั้ สิน้ ๑๘ องค์ ส�ำหรับประทานแกห่ นว่ ยงานที่ เก่ียวเน่ืองกับพระองค์ ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย บริเวณผ้าทิพย์ประดับอกั ษรพระนาม ว.ว.น. - พระพุทธรูปปางมารวิชัย พร้อมพระอัครสาวก และ ยังประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า องค์อุปถัมภ์ อาราม รูปหล่ออดีตเจ้าอาวาส และรูปหล่อพระเถระผู้ สนองงานสมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงชนิ วราลงกรณองค์ อุปถมั ภอ์ าราม ดงั น้ี - พระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรา ลงกรณ ขนาด ๑ เท่าครึ่งของพระองค์จริง ซ่ึงพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเททองหล่อ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ณ ลานหน้าพระอุโบสถ วดั ราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม - รูปหล่อพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) เจ้าอาวาส ยคุ ท่ี ๑ - รูปหล่อพระเทพสิทธิโมลี (ประสิทธิ์ ฉนฺทสิทฺโธ) อดีตผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 108
พระธรรมสริ ิวฒั น์ (ทองค�ำ กมฺพวุ ณฺโณ) วัดราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม พระเทพสิทธิโมลี พระราชรชั มงคลเมธี (ประสิทธ์ิ ฉนฺทสทิ โฺ ธ) (เจียร เขมาจาโร) วัดราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม วัดราชบพธิ สถิตมหาสมี าราม
- รูปหล่อพระราชรัชมงคลเมธี (เจียร เขมาจาโร) อดตี ผูช้ ว่ ยเจ้าอาวาสวดั ราชบพิธสถติ มหาสีมาราม ปัจจุบัน ศาลาแห่งนี้เป็นสถานที่ประกอบสังฆกรรม ของคณะสงฆ์ เช่น แสดงและสดับพระปาติโมกข์ของคณะ สงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ (ธรรมยุต) ตลอดจนเป็นสถานที่ บ�ำเพญ็ กุศลของพุทธศาสนกิ ชน ส่วนต�ำหนักสมเด็จพระสังฆราช เป็นอาคารก่ออิฐ ถือปูนสองช้ัน บริเวณจ่ัวประดับอักษรพระนาม ว.ว.น. ใน สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน นิลประภา) ภายในเศวตฉตั ร ๓ ชัน้ ตามพระอสิ รยิ ยศ ขณะนั้น ต�ำหนักหลังนี้ใช้เป็นที่ประทับคราวเสด็จมาทรง เยี่ยมและติดตามการด�ำเนินงานของวัดแสงธรรมสุทธาราม อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรม- ราชโองการโปรดสถาปนาพระอัฐิสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงมีด�ำริเปล่ียนนาม ศาลาและต�ำหนักเพ่ือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระองค์นั้น ว่า ศาลาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง ชินวราลงกรณ และต�ำหนักสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง ชินวราลงกรณ 110
ศาลาสมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงชินวราลงกรณ
การศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม ยุคพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ครองวัด ได้เริ่ม จัดการศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจังตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยเร่ิมเปิดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมก่อน มี ภิกษุสามเณรสอบได้นักธรรมเป็นจ�ำนวนมาก ต่อมาได้ เปิดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ มีพระมหาปรุง สุปญฺโ เป็นอาจารย์ประจ�ำส�ำนักเรียน ท�ำให้การศึกษาพระปริยัติธรรมเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว และสามารถผลติ พระมหาเปรียญได้ในอกี ๕ ปีตอ่ มา ต่อมา ได้ขยายการศึกษาไปยังโรงเรียนในพื้นท่ีอ�ำเภอ ชุมแสง โดยพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) และพระภิกษุวัด แสงธรรมสุทธารามเดินทางไปสอนท่ีโรงเรียนด้วยตนเอง แต่ เวลาสอบให้มาสอบที่ศาลาวัด เมื่อถึงคราวรับประกาศนียบัตร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรง พระเมตตาเสด็จมาประทานประกาศนียบัตร ณ ศาลาวัด แสงธรรมสุทธาราม ถือว่าได้ประทานก�ำลังใจแก่อาจารย์และ นกั เรียนของสำ� นกั เรยี นไปพร้อม ๆ กัน 112
113 โรงเรยี นเทศบาล สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรง พระด�ำริร่วมกับพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ว่า ควรสร้าง โรงเรียนคู่กับวัด เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับบุตร หลานอุบาสกอุบาสิกาในพ้ืนที่ จึงทรงชักชวนประชาชน ผู้มีจิตเป็นวิทยาทานร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้างโรงเรียน มี นายหลุย สุวรรณเวช อุบาสกวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นก�ำลังส�ำคัญในการหาทุน ได้รับเงินบริจาคทั้งสิ้น ๑๔๗,๘๓๗.๙๐ บาท กระทรวงศึกษาธิการสบทบให้อีก ๗๒,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินท้ังส้ิน ๒๑๙,๘๓๗.๙๐ บาท เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จได้ ส่งมอบอาคารให้แกเ่ ทศบาลเมอื งชุมแสง จงั หวัดนครสวรรค์ เพ่ือเปิดการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา มีนามว่า โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดแสงธรรมสุทธาราม) เริ่มเปิดท�ำ การสอนเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๖ มีนายศุภชัย ช่างเพชร ปฏิบัติหน้าที่ครูใหญ่คนแรก และได้ขยายการเรียน การสอนธรรมศกึ ษามายงั โรงเรยี นแหง่ น้ดี ้วย ต่อมา มีนักเรียนเพิ่มมากข้ึน จึงได้ก่อสร้างอาคาร เพิ่มเติม และขยายการศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาท่ีปี ๓ เพือ่ เพ่มิ โอกาสทางการศึกษาของชาวชุมแสง
สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจ้า กรมหลวงชนิ วราลงกรณ ทรงปฏบิ ตั พิ ระกรณียกิจ ณ วัดแสงธรรมสทุ ธาราม 114
115 พระสังฆราชปู ถัมภ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรง เป็นพระมหาเถระท่ีคุณูปการแก่วัดแสงธรรมสุทธารามเป็น อย่างมาก ทรงด�ำเนินการในส่วนของคณะสงฆ์เพื่อให้การ ก่อต้ังวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้มีอุปสรรคใด ๆ ก็ มิได้ทรงย่อท้อ เมื่อสร้างวัดได้เป็นรูปเป็นร่าง ก็ยังเสด็จมา ทรงเย่ียมวัดแสงธรรมสุทธารามทางรถไฟ ด้วยทรงใส่พระทัย ในความเป็นไปในการด�ำเนินงานของวัดอยู่เสมอ แม้ว่าการ เดินทางในยุคนั้นจะไม่ได้สะดวกสบายก็ตาม เมื่อทรงได้รับ พระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ท่ี ๑๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงกล่าวได้ว่า วัดแสงธรรมสุทธาราม เป็นวดั ในพระสงั ฆราชูปถมั ภโ์ ดยปรยิ าย
โดยเหตุท่ีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรา ลงกรณ ทรงเป็นสัทธิวิหาริกในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวง ชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เช่นเดียวกับ พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) เจ้าอาวาสยุคแรก และได้ทรง ชุบเลี้ยง ทั้งยังทรงเป็นพระกรรมวาจาจารย์คราวอุปสมบท พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ด้วย จึงทรงพระเมตตา พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) เป็นพิเศษ คร้ันพระราชโสภณ (ละออ นิรโช) มรณภาพขณะอายุเพียง ๕๙ ปี เป็นเหตุ ให้ทรงอาลัยในอันเตวาสิกผู้นี้อย่างยิ่ง มีพระด�ำรัสคราว พระราชทานเพลิงศพว่า ”เหมือนพ่อต้องมาเผาลูก„ และยัง ทรงเป็นห่วงกิจการของวัดแสงธรรมสุทธาราม ซ่ึงริเริ่มไว้ ด้วยดีแลว้ ดังลายพระหัตถ์ว่า ”ศิษยานุศิษย์ และญาติมิตรของพระราชโสภณ (นิรโช) ควรจะร่วมใจเป็นสามัคคีธรรม ให้เป็นเกียรติยศช่ือเสียง ปรากฏแก่ประชาชนทั้งหลาย ว่ายังเต็มใจยอมเสียสละ ประโยชนส์ ว่ นตนออกมารว่ มกนั รกั ษาขนบธรรมเนยี มประเพณี ของวัดแสงธรรมสุทธารามไว้จนสุดสามารถเช่น การท�ำวัตร สวดมนต์ การรักษากติกาของวัด การศึกษาธรรมวินัย การ ประพฤติตนตามระเบียบสิกขาวินัย การอุปการะโรงเรียน เทศบาลในวัด การเรียนธรรมศึกษาของเยาวชน เหล่าน้ี อย่าให้ล้มละลายสูญหายเสีย ... ส่วนอุโบสถ ก็ควรปรารภ สร้างตามฐานะก�ำลังทุน อย่าหลงสร้างให้ใหญ่โตเกินก�ำลัง 116
117 ประดับประดาเพื่อความสวยงามโดยใช่เหตุ เป็นการ สิ้นเปลืองทุนโดยไมคุ้มค่า เพราะอุโบสถจะอาศัยใช้สอยก็ มงุ่ เฉพาะกิจกรรมตามพระวินัย„ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรง ก�ำกับติดตามกิจการของวัดแสงธรรมสุทธาราม ด้วยทรง มุ่งหวังให้กิจการที่ริเริ่มไว้ดีแล้ว มีผู้สืบทอดธ�ำรงต่อไป รวมท้ังการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งได้ด�ำเนินการตาม พระด�ำริจนส�ำเร็จลุล่วงและได้เสด็จมาทรงยกช่อฟ้าอุโบสถ ราว พ.ศ. ๒๕๒๕ และสร้างศาลาสมเด็จพระสังฆราช เป็น ศาลาบ�ำเพญ็ กศุ ลเชน่ ศาลาการเปรียญราว พ.ศ. ๒๕๒๘ ดว้ ย เมื่อสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สน้ิ พระชนม์ คณะศษิ ยานุศษิ ย์ไดส้ รา้ งพระรปู หลอ่ ขน้ึ ๕ องค์ ส�ำหรับอัญเชิญไปประดิษฐานยังสถานท่ีส�ำคัญอันเน่ืองด้วย พระองค์ หน่ึงในนั้น ได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ศาลา สมเดจ็ พระสังฆราช วดั แสงธรรมสทุ ธาราม เพ่ือใหพ้ ุทธบรษิ ทั ได้ระลึกถึงพระคุณูปการในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ผู้ทรง เปน็ รม่ ธรรมของชาวชุมแสงสืบไป
เจา้ อาวาส วัดแสงธรรมสุทธารามมีเจ้าอาวาสปกครองวัดมาแล้ว ๓ ยุค ได้แก่ พระราชโสภณ (ละออ นริ โช) เจา้ อาวาส ยคุ ท่ี ๑ เกิดเมื่อวนั ท่ี ๓ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๕๙ เปน็ บตุ รของ นายเมยี้ น กลิ่นเจริญ และนางทบั กลิ่นเจรญิ เป็นชาวลพบุรี โดยก�ำเนิด แต่ได้ย้ายตามครอบครัวมาอาศัย ณ อ�ำเภอ ชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ จนเรียนจบชั้นประถมศึกษา และได้มีผู้พาไปถวายตัวเป็นศิษย์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ขณะทรงด�ำรงสมณศักดิ์ที่ พระจุลคณิศร ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ได้บรรพชา เป็นสามเณร เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๘ โดยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เป็น พระอุปัชฌาย์ มีนางสาวขนมต้ม อมาตยกุล ซ่ึงเป็นโยม อุปัฏฐากในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็นผอู้ ปุ การะ เม่ืออายุครบอุปสมบท ได้อุปสมบท ณ วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม เม่ือวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๐ โดย มีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จ พระสังฆราชเจา้ เปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ และสมเดจ็ พระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับ 118
119 ประทานฉายาว่า ”นิรโช„ มีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า อาทรทิพยนิภา ทรงเป็นอุปฏั ฐายกิ า พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ได้พากเพียรศึกษา พระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม ๗ ประโยค ต่อมาได้เป็นครูสอนบาลีในส�ำนักเรียนวัด ราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นกรรมการสนามหลวงแผนก ธรรม กรรมการสนามหลวงแผนกบาลี และได้สนองงาน สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณในต�ำแหน่ง ผชู้ ว่ ยเจ้าอาวาสวดั ราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม และเลขานุการ สังฆมนตรชี ่วยวา่ การองค์การสาธารณปู การ เมื่อมีการก่อสร้างวัดแสงธรรมสุทธาราม พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ได้รับความไว้วางพระทัยจากสมเด็จพระ- สังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณให้ไปติดตามการ ด�ำเนินงานต่างพระเนตรพระกรรณ และด�ำรงต�ำแหน่ง กรรมการวัดฝ่ายบรรพชิต ต่อมา ได้รับพระบัญชาให้ด�ำรง ต�ำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแสงธรรมสุทธาราม สมเด็จพระ สังฆราชเจา้ กรมหลวงชินวราลงกรณ ทรงบันทึกถึงคณุ ูปการ ไว้ว่า ”เพราะพระราชโสภณ (นิรโช) ได้เสยี สละความสุขสบาย ส่วนตนจากวัดราชบพิธ มาก่อสร้างวัดแสงธรรมสุทธาราม ต้ังแต่ยังเป็นพ้ืนนาให้ปรากฏเป็นรูปอาราม มีเสนาสนะ พอเป็นที่อาศัยของภิกษุสามเณรภายในระยะเวลา ๑๐ ปี
เร่ิมต้นจะต้ังวัด ก็ต้องฝ่าฟันอุปสัคนานาประการ ทั้งภายใน ภายนอก แต่อาศัยน้�ำใจมั่นคงของพระราชโสภณ ท่ีมุ่ง คุณประโยชน์ส่วนใหญ่คือการแนะน�ำสั่งสอนเยาวชน ตลอดจนประชาชนให้มีความรู้เฉลียวฉลาดในการนับถือ พระพุทธศาสนา ให้กว้างขวางแพร่หลายน่ีเอง จึงเป็นเหตุ บ�ำรุงก�ำลังใจให้เกิดความมานะ อดทน ต่อสู้ จนอุปสัค ท้ังหลายค่อยคลายห่างจางหายไป กลับปรากฏคุณงาม ความดีชัดข้ึนชวนให้พุทธศาสนิกชนมีศรัทธาเล่ือมใส ถวายความเคารพบูชาเป็นล�ำดับมา„ ต่อมา ได้รับพระบัญชาแต่งต้ังให้ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าคณะ จังหวัดนครสวรรค์-ชัยนาท (ธรรมยุต) เป็นเหตุให้การคณะ สงฆ์คณะธรรมยตุ ประดษิ ฐานมัน่ คงในจังหวัดดงั กลา่ ว พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ได้รับพระราชทาน สมณศักด์ิเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนาม พระชินวงศเวที เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ (ราชทินนามน้ี อนุวัตมาจากพระนามพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า) และ พระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนาม พระราชโสภณ เมื่อ วนั ที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) มรณภาพเนื่องจาก เสน้ โลหิตในสมองแตก ณ โรงพยาบาลนครสวรรค์ เม่อื วนั ที่ 120
121 ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ สิริอายุ ๕๙ ปี พรรษา ๓๙ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณทรงเป็น ประธานในการพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ณ ฌาปนสถานวดั แสงธรรมสุทธาราม พระรชั มงคลญาณ (สวุ รรณ กาญจฺ นวณโฺ ณ) เจา้ อาวาส ยุคท่ี ๒ เดิมเป็นพระภิกษุสังกัดวัดกันมาตุยาราม กรุงเทพ- มหานคร ได้รับพระบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ให้มาครองวัดแสงธรรมสุทธาราม เม่ือวันท่ี ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ประมาณ ๓ สัปดาห์ หลังจากรับพระบัญชา ท่านได้เริ่มสานต่อการสร้างอุโบสถ หลังใหม่ ซึ่งค้างมาแต่ยุคก่อน โดยเร่ิมประชุมกรรมการวัด เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว ด�ำเนินการก่อสร้างอุโบสถจนส�ำเร็จ เรียบร้อย ท้ังยังได้ปรับปรุงวัดให้มีทัศนียภาพท่ีงดงามและ ถกู สุขลักษณะ ดงั นี้ - ขุดสระน้�ำภายในวัด เม่ือวันท่ี ๑๘-๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๒ สระดังกล่าวมีขอบบนกว้าง ๓๔ เมตร ยาว ๕๘ เมตร พ้ืนกว้าง ๑๒.๙ เมตร ยาว ๓๓.๓ เมตร ลึก ๔ เมตร ใชเ้ วลาขุดทงั้ สิน้ ๔๓ ชัว่ โมง ๕ นาที - สร้างถนนดินลูกรังจากประตูทางเข้าวัดถึงตลอด ภายในวัด เมื่อวนั ท่ี ๑ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๒๔
พระรัชมงคลญาณ (สุวรรณ กาญจฺ นวณฺโณ) เจ้าอาวาสวดั แสงธรรมสุทธาราม ยคุ ท่ี ๒ 122
123 - สรา้ งซุ้มประตูทางเข้าวดั - สรา้ งก�ำแพงวดั ด้านหน้า ตดิ ถนนแสงราษฎรใต้ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ยังได้จัดงานงานสมโภชครบ ๓๐ ปี วัด แสงธรรมสุทธาราม ในวันที่ ๑๖-๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ มีงานบ�ำเพ็ญกุศลในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชนิ วราลงกรณ และมหรสพสมโภช นับว่าพระรัชมงคลญาณ (สุวรรณ กาจนวณฺโณ) เป็นพระเถระอีกรูปหน่ึงที่ได้พัฒนาวัดแสงธรรมสุทธาราม ใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) เจ้าอาวาส ยคุ ที่ ๓ เกิดเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นบุตรของ นายหวาด ทิมทองค�ำ และนางเม้ียน ทิมทองค�ำ เป็นชาว ชมุ แสงโดยก�ำเนดิ บรรพชาเปน็ สามเณร เม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๐ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และอุปสมบท เป็นภิกษุ เม่ือวันท่ี ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ วัด แสงธรรมสุทธาราม อ�ำเภอชมุ แสง จงั หวดั นครสวรรค์ โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็น
พระอุปัชฌาย์ พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) ส�ำเร็จการ ศึกษานักธรรมช้ันเอก และเปรียญธรรม ๓ ประโยค จาก ส�ำนักเรียนวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ได้สนองงานวัด ราชบพิธสถิตมหาสีมารามในต�ำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาส เมื่อ วัดแสงธรรมสุทธารามขาดเจ้าอาวาสปกครอง พระราช มงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) ได้รับความไว้วางใจจาก คณะสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามให้ไปดูแลวัด แสงธรรมสุทธาราม ต่อมา ได้รับบัญชาจากให้ด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดแสงธรรมสุทธาราม เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ (ธรรมยุต) และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ (ธรรมยุต) ตามล�ำดับ เม่ือแรกครองวัด พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) มีนโยบายท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยการฟื้นฟู ประเพณีส�ำคัญของวัด จัดให้มีการเรียนการสอนธรรมศึกษา สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมของภิกษุสามเณร ตั้งกองทุนศพผู้ยากไร้ และกองทุนฟื้นฟูวัฒนธรรม เป็นต้น พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) ได้รบั พระราชทาน สมณศักด์ิเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนาม พระสิริรัตนสุธี เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ใน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พระบาทสมเด็จ 124
125 พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชาคณะช้ันราช ในราชทินนาม พระราชมงคลโสภณ เม่ือวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนี พันปหี ลวง พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) มรณภาพเม่ือ วนั ที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ สริ อิ ายุ ๗๘ ปี พรรษา ๕๗ สืบสานพระปณิธาน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมพฺ โร) สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดให้พระสงฆ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเดินทางไปรักษาวัดแสงธรรม สุทธาราม และพัฒนาวัดแสงธรรมสุทธารามให้เป็นศูนย์กลาง พระพุทธศาสนาของอ�ำเภอชุมแสงดังพระปณิธานในสมเด็จ พระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ โดยวัดแสงธรรม สุทธารามได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพ้ืนท่ีจัดให้มีกิจกรรม ส�ำคัญ เช่น ตักบาตรดอกไม้เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา การบ�ำเพ็ญกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระ อริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก
เม่ือชาวชุมแสงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ วัดแสงธรรมสุทธาราม ได้จัดโรงทาน มอบถุงยังชีพแก่ประชาชน สนองพระด�ำริ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพ่ือบรรเทาความ เดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ยังได้ด�ำเนินการ ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงเชิงรุก โดย ติดตามเยี่ยมและมอบถุงยังชีพถงึ บ้านเรอื น ท้งั น้ี ยอ่ มแสดง ให้เห็นว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด วัดก็ยังเป็น แดนบญุ ของบ้านเสมอ ปัจจุบัน พระครูวิจิตรธรรมคุณ (ประจวบ สุทฺธจิตฺโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส แม้วัดแสงธรรมสุทธารามจะมีอายุใกล้ ๗๐ ปี มี เจ้าอาวาสปกครองมาแล้ว ๓ ยุค ก็ยังคงมุ่งม่ันสืบสาน พระปณิธานในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรา ลงกรณ เพ่ือให้วัดเป็นศูนย์กลางบ่มเพาะศีลธรรมให้ชุมชน สมกับค�ำกล่าวท่ีว่า “วัดเป็นแดนบุญของบ้าน” และเป็น “แสงธรรม” ของชาวชมุ แสงตราบกาลนาน 126
บรรณานกุ รม นธิ วิ ดั แสงธรรมสทุ ธาราม อ.ชมุ แสง จ.นครสวรรค์ ปที ี่ ๑ พ.ศ. ๒๕๐๘. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวทิ ยาลยั , ๒๕๐๘. ทัศนีย์ ทานตวณิช, วัดแสงธรรมสุทธาราม. เอกสารยังไม่ตีพิมพ์. พระณัฐ จิรวิชฺโช และพระมหาสิริชัย สุขาโณ, บรรณาธิการ. ราชสรรี านุสรณีย์. กรุงเทพฯ : อมรนิ ทร์พร้นิ ตง้ิ แอนด์พบั ลชิ ชง่ิ , ๒๕๖๐. (วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามพิมพ์ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล เน่ืองในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ๒๖ ตลุ าคม ๒๕๖๐). ”รายนามกรรมการวดั แสงธรรมสทุ ธาราม„, วัดแสงธรรมสุทธาราม. ”ลิขิตพระธรรมปาโมกข์ (วาสน์ วาสโน) กราบเรียนเจ้าคณะธรรมยุตต์ ภาค ๑-๒-๖ เรื่องขอสร้างวัดธรรมยุตต์ในอ�ำเภอชุมแสง นครสวรรค์„, ๑๐ เมษายน ๒๔๙๗, วดั แสงธรรมสุทธาราม. วดั แสงธรรมสทุ ธาราม อ�ำเภอชุมแสง จงั หวดั นครสวรรค.์ กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พม์ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั , ๒๕๒๗. (พมิ พใ์ นงานสมโภชครบ ๓๐ ปี วัดแสงธรรมสทุ ธาราม ๑๖-๑๗-๑๘ มนี าคม ๒๕๒๗). สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณ (วาสนมหาเถระ), วาทแหง่ วาสน.์ กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์แพร่การช่าง, ๒๕๐๙. (พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชโสภณ (ละออ นิรโช) ๑๘ มีนาคม ๒๕๑๙). สัมภาษณ์ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน), ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช, ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๓
พมิ พเ์ ปน็ บรรณานุสรณเ์ น่อื งในงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชมงคลโสภณ (ทรงยศ ชยยโส) ท่ีปรึกษาเจา้ คณะจังหวัดนครสวรรค์ (ธรรมยตุ ) เจา้ อาวาสวดั แสงธรรมสทุ ธาราม อดีตผู้ช่วยเจา้ อาวาสวัดราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม ณ เมรุวดั มกฏุ กษัตรยิ าราม กรงุ เทพมหานคร วันพฤหสั บดี ท่ี ๒๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ พมิ พเ์ ดือน : ตุลาคม ๒๕๖๓ จาํ นวนพิมพ์ : ๑,๐๐๐ เล่ม พมิ พท์ ่ี : สาละพมิ พการ ๙/๖๐๙ ถ.พุทธมณฑลสาย ๔ ต.กระทุ่มลม้ อ.สามพราน จ.นครปฐม ๗๓๒๒๐ โทร. ๐-๒๔๒๙๒๔๕๒, ๐๖๑-๒๓๒๕๙๒๘, ๐๙๖-๙๐๑๘๘๘๕ e-mail : [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132