1 ชอ่ื งานวิจัย นกั ร้องเกาหลี : เสน้ ทางและเบื้องหลังของชีวิตการเป็นนักรอ้ ง ชื่อผู้วิจยั อรรณพ บารุงธนสารกจิ รหัสนกั ศึกษา 05520519 อาจารยท์ ี่ปรกึ ษา อาจารย์นาตยา อย่คู ง สาขาวิชา เอเชียศกึ ษา คณะอกั ษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ปีการศึกษา 2555 คาสาคญั นกั ร้อง, ออดชิ ั่น, นกั รอ้ งฝึกหัด, เดบิวต์, บอยแบนด์, เกริ ์ลกร๊ปุ , ไอดอล บทคัดย่อ (Abstract) งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปล่ียนแปลงของนักร้องเกาหลีตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจบุ ัน รวมถึงเบื้องหลังเส้นทางข้ันตอนสู่การเป็นนักร้องเกาหลี เพ่ือให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลง ของนักร้องเกาหลีผลการวิจัยพบว่าบริบททางสังคมและโครงสร้างทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา น้ันเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของนักร้องเกาหลีทั้งสงคราม การถูกครอบงาโดยต่างชาติ หรือนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรม ปัจจุบันนักร้องเกาหลีถูกจัดเป็นแหล่งทารายได้มหาศาลแก่ ประเทศเกาหลแี ละหนทางการเป็นนักร้องเกาหลีไม่ใช่เรื่องท่ีง่ายอย่างท่ีหลายๆคนเข้าใจ แต่จะต้อง ผา่ นขน้ั ตอนตา่ งๆมากมายจากการคดั เลอื กผสู้ มคั รจานวนนบั พนั คน แสดงความสามารถทั้งร้อง เต้น และการแสดง จนเข้ามาเป็นนักร้องฝึกหัดและฝึกอย่างต่อเน่ืองเป็นเวลาหลายปีจนกว่าจะพร้อมจึง จะได้เดบวิ ตเ์ ป็นศลิ ปิน ท่ีมีชอ่ื เสียงและไดร้ ับความนิยมจากกลุ่มแฟนคลบั ท่วั ท้งั เกาหลีและทวั่ โลก
สารบัญ 2 บทคดั ยอ่ หนา้ สารบัญ 1 บทนา 2 ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา 3-5 วัตถุประสงค์ 5 ขอบเขตการศกึ ษา 5 วธิ กี ารศกึ ษา 5 ขอบเขตการศึกษา 5 ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั 5 เอกสารและบทความที่เกีย่ วข้อง 5-22 ผลการวจิ ยั การเปลย่ี นแปลงของนกั ร้องเกาหลี 22-34 ข้นั ตอนการเป็นนกั รอ้ งเกาหลี 34-48 บทสรปุ 48-49 บรรณานุกรม 50-51 ประวัติผูศ้ ึกษา 52
3 1. บทนา (Introduction) 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา ในช่วงปี พ.ศ. 2540 เกิดวิกฤตการเงินข้ึนท่ีเรียกว่าต้มยากุ้ง วิกฤตดังกล่าวได้ส่งผลกระทบ ไปสู่ประเทศต่างในเอเชีย สาหรับประเทศเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบกับปัญหาช่วง วิกฤตการเงินคร้ังใหญ่ จากวิกฤตดังกล่าวจาเป็นต้องหาทางแก้ไขเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจท้ัง โครงสร้างอุตสาหกรรมการเงิน และการลงทุน สาหรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมได้ใช้แผน นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมหนักและมุ่งพัฒนากาลังคนให้มีความรู้ความสามารถท่ีเป็นแรงงานมี ฝีมือ จนทาใหเ้ กาหลใี ต้ลุกข้ึนยืนอีกคร้ังในฐานะประเทศท่ีครองตลาดอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ (จติ ิศักดิ์ , 2555 : ออนไลน)์ ต่อมาประเทศสหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีทาให้ เกาหลี ตัดสินใจเลือกอุตสาหกรรมดา้ นบันเทิงเพื่อเป็นเคร่ืองมือในการส่งออกเชิงวัฒนธรรม อีกท้ังรัฐบาล เกาหลีผลักดันนโยบายในการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมบันเทิงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็น 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมหลักของประเทศนับแต่ปี 1980 เป็นต้นมาเพื่อต้องการเผยแพร่และ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของเกาหลีไปยังประเทศต่างๆในเอเชียโดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภาพยนตร์ ดาราและนกั ร้อง (ปองพล, 2553 : ออนไลน)์ แม้วา่ ช่วงแรกศิลปินเกาหลอี าจไม่ดังไม่เด่น สักเท่าไหร่เหมือนกับวงการของอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศอเมริกา แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี กลุ่มผู้บริโภคเป็นวัยรุ่นในเอเชียเช่น จีน ไทย ญี่ปุ่นก็ชื่นชอบ คล่ังไคล้นักร้องนักแสดงของเกาหลี ใต้อย่างคาดไม่จนนาไปสู่กระแส K- Pop หรือเกาหลีฟีเวอร์หรือโคเรียนเวฟ เหมือนเช่นกับกระแส ความนยิ มJ-Pop กระแส K-Pop เปน็ ปรากฏการณ์ท่ีไม่ได้ทาให้ประเทศเกาหลีใต้มีบทบาทในอุตสาหกรรม บันเทิงในระดับโลก และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ทาให้ศิลปินนักร้องเป็น อาชีพที่มีความสาคัญมากกว่าในอดีตและโดดเด่นที่สุด เห็นได้จากคากล่าวท่ีว่า “ดนตรีคือ ภาษาสากล” คากล่าวนี้ดเู หมือนจะชว่ ยยนื ยนั ความสาเร็จของวงการเพลงเกาหลีในประเทศไทยและ ท่ัวโลกได้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ภาษาที่ใช้ส่ือสารจะมีความแตกต่างกัน แต่นักฟังเพลงก็ยังคงให้ การสนับสนุนนักร้องชาวเกาหลอี ยา่ งไม่กังวลถึงอุปสรรคของความแตกต่างนั้น (nonguknow, 2552 : ออนไลน์) ในอดีตการแสดงออกผ่านเสียงเพลงของคนเกาหลีนั้นแฝงไปด้วยความทุกข์ ความสุข ความลาบาก และมีความหมายมากกว่าเพลงที่ให้แค่การจรรโลงใจ แนวเพลงส่วนใหญ่จะเป็น เพลงป๊อป เพลงร็อค ศิลปินท่ีมีช่ือเสียงมีจานวนไม่มาก และมีจานวนนักร้องน้อยเมื่อเทียบกับ ปัจจุบัน (Jae Won Bae , 2555) ต่อมาเม่ือเข้าสู่ยุคปี 2000 นักร้องเกาหลีก็ได้กาเนิดขึ้นหลายวงเช่น Girl’s Generations, BIGBANG, Super Junior, 2NE1, 2PM, CN BLUE, T-ARA, KARA, SISTAR
4 เป็นต้น ศิลปินในยุคปัจจุบันจะมีหลายคน เป็นบอยแบนด์ และเกิร์ลกรุ๊ป มีแนวเพลงส่วนใหญ่เป็น เพลงปอ๊ ปฟงั สบายๆ ทั้งนศ้ี ลิ ปินเหลา่ นส้ี ามารถสร้างช่ือเสียงและได้รับความนิยมจากประชาชนทั่ว โลก เห็นได้จากยอดขายขายบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตที่หมดภายในไม่ก่ีนาทีและมีแฟนคลับมาชมเต็ม ทุกที่น่ัง หรือจะเป็นยอดขายแผ่นเพลงของศิลปินรวมไปถึงยอดดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ตัวอย่างเช่นวงดงบังชินกิสามารถขายอัลบ้ัมได้วันเดียวถึง 200,000 แผ่น หรือจะเป็นวง Girl’s Generation ท่ีสามารถทายอดขายแผ่นซีดีได้มากถึง 655,861 แผ่นจากทั้งหมด 8 อัลบ้ัม (ชอรอม, 2554 : ออนไลน์) ท้ังนี้เน่ืองจากการที่นักร้องเกาหลีได้มีบทบาทมากขึ้นในสังคมเกาหลี ทาให้เรา สามารถพบเห็นรายการประกวดรอ้ งเพลงต่างๆเพือ่ หาคนท่ีมีความสามารถในด้านการร้องเพลงเพื่อ มาเปน็ นกั ร้อง รวมถงึ มีประชาชนท่ีมีความฝนั อยากจะเข้าวงการบันเทิงอยากจะเป็นนักร้องเพ่ิมมาก ขึ้น ส่งิ นี้แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความคึกคักมีชีวิตชีวาของวงการเพลงนักร้องเกาหลีที่เข้ามาโลดแล่นอยู่ไม่ แค่ในเมืองไทยแต่สามารถครองใจแฟนคลับทว่ั โลกได้อย่างประสบความสาเรจ็ การเปลยี่ นแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจดังกล่าวทาให้อาชีพนักร้องเกาหลีได้เปล่ียนแปลงไป จากสังคมอดีต ซึ่งในอดีตการร้องเพลงจะร้องแต่ในเฉพาะชนช้ันสูงและชนช้ันผู้ปกครองจะมีการ ร้องเพลงและเล่นดนตรีพ้ืนเมืองเพ่ือประกอบในพิธีกรรม เช่นพิธีทรงเจ้าซ่ึงเป็นพิธีกรรมเก่ียวกับ ความเชื่อนอกเหนือธรรมชาติ(ผี)และศาสนาพุทธและการร้องเพลงเพื่อสร้างความบันเทิงแก่ชน ชั้นสูง (สานักงานสารนิเทศภาคโพ้นทะเล สาธารณรัฐเกาหลี, 2536 : 140 ) ส่วนในปัจจุบันนักร้อง จะรอ้ งเพ่อื ตัวเอง ร้องเปน็ อาชีพสร้างงานสร้างรายได้แก่ตนเอง และเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งเน้นเพ่ือความ บันเทิงแก่ผฟู้ งั เปน็ หลักโดยนักร้องเกาหลีจะไม่ได้แค่ร้องเพลงเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องเต้น แสดง เอนเตอร์เทนคนดูให้ความสนุกสนานสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้ฟัง (ข้อมูลทางบรรณานุกรมของ หอสมดุ แหง่ ชาติ,2551 : 20 ) นอกจากนีม้ นี กั ร้องท่ีผันตัวไปเป็นนักแสดงละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ หรือเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าโฆษณาต่างๆ โดยถูกใช้เป็นเคร่ืองมือเชิงพาณิชย์เพ่ือสร้างแรงจูงใจใน การเลือกซ้อื ผลติ ภณั ฑ์น้นั ๆ ทง้ั นี้เน่ืองจากนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศเกาหลีที่ มุ่งเนน้ การสรา้ งภาพลักษณ์ของดารา นักร้องที่มีหน้าตาดี และตัวเพลงที่สามารถทาให้ผู้ฟังติดหูได้ ง่าย จงึ ทาใหน้ ักรอ้ งโดง่ ดังและไม่ได้มีบทบาทแตเ่ พียงแค่ภายในประเทศเท่าน้ัน แต่ยังทาให้นักร้อง เกาหลียังเป็นท่ีรู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้างท่ัวโลกมากข้ึนเพราะใครๆก็ชอบเพลงเกาหลี และนักร้องเกาหลี ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกท่ีดูดีบวกท้ังความสามารถจึงทาให้หลายๆคนใฝ่ฝัน อยากจะเป็นนกั รอ้ งเพ่ิมมากข้ึน จากที่กล่าวข้างต้นเห็นว่าการเปล่ียนแปลงการร้องเพลงและบทบาทของนักร้องที่มีความ แตกตา่ งกนั ตามบริบทของสงั คมและมคี วามน่าสนใจ จึงทาใหข้ ้าพเจ้าสนใจศึกษาการเปลี่ยนแปลง ของนักร้องเกาหลีจากอดีตจนถึงปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง อย่างไร และกระบวนการ
5 เป็นนักร้องเกาหลีในปัจจุบันว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซ่ึงประเด็นการศึกษาดังกล่าวยังยังไม่มีใคร ศึกษาเป็นที่มาของบทความวิจยั เรอ่ื ง นักรอ้ งเกาหลี : เส้นทางและเบ้อื งหลังของชวี ิตการเปน็ นักรอ้ ง 2 วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่อื ศึกษาการเปลยี่ นแปลงของนกั รอ้ งเกาหลจี ากอดตี จนถงึ ปจั จุบัน 2.2 เพื่อศึกษากระบวนการเป็นนักร้องเกาหลใี นปัจจุบัน 3 ขอบเขตของการศกึ ษา 3.1 ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของนักร้องเกาหลใี ตต้ ั้งแตส่ มัยยุคสามอาณาจกั รจนถึงปจั จบุ ัน 3.2 ศึกษากระบวนการเป็นนักรอ้ งเกาหลีในยุคปจั จุบนั 4 วิธีดาเนนิ การวจิ ัย 4.1 ศกึ ษาเอกสารทีเ่ ก่ียวข้องกับดนตรี นักร้องเกาหลีตลอดจนแนวความคดิ ต่างๆ 4.2 เก็บรวบรวมข้อมูลจากหนังสือ บทความ ฐานข้อมูลทางอินเทอร์เน็ท ข่าว ท้ังข้อมูลที่เป็น ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ 4.3 วิเคราะห์และเรยี บเรียงผลการศึกษาในรูปแบบของบทความวิจัย 4.4 สรุปผลการศึกษา 5. ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั 5.1 ทาให้ทราบถึงการเปลีย่ นแปลงของนักร้องเกาหลีใต้ต้งั แตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จุบนั 5.2 ทาใหท้ ราบถงึ กระบวนการเป็นนักรอ้ งเกาหลี 5.3 ทาให้เกิดกระบวนการคดิ วิเคราะห์ เรยี บเรียงและจดั การความคิดอยา่ งเปน็ ระบบ 6. เอกสารและบทความทเี่ กี่ยวข้อง ผู้วิจัยได้ยึดตัวหนังสือและบทความในอินเทอร์เน็ตเป็นตัวต้ังในส่วนของเอกสารและ บทความที่เกยี่ วขอ้ งเพอื่ ให้สอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ 6.1 กรอบแนวความคิด
6 6.1.1 แนวความคดิ เรื่องการเปล่ียนแปลงทางวฒั นธรรม สมศักด์ิ ศรีสันติสุข (2536) เขียนหนังสือเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ วัฒนธรรม กล่าวา่ ปจั จัยของการเปลี่ยนแปลงทางสงั คมและวัฒนธรรมแบง่ ไดเ้ ป็น2ปัจจยั คอื 1. ปัจจัยภายใน หมายถึง ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมใน สังคมซึง่ สามารถมองได้2ลกั ษณะ คือ 1.1 ปัจจัยที่แสดงอย่างเปิดเผยหรือตั้งใจกระทาการเปลี่ยนแปลง ได้แก่กระบวนการ เคล่ือนไหวทางสังคม การประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ การวางแผนทางสังคม การกระทา ของปัจเจกบคุ คลสังคมเชน่ ผู้นา เปน็ ต้น 1.2 ปัจจยั ทไ่ี มไ่ ด้แสดงอย่าเปิดเผยหรือตั้งใจ ได้แก่ ความตึงเครียดภายในระบบสังคม และการขาดแคลนทรพั ยากร ทาให้มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็น ต้น 2. ปัจจยั ภายนอก เปน็ ปัจจัยท่ีเกิดขึ้นภายนอกสังคม ซ่งึ ปัจจยั ท่ีเห็นไดช้ ัดคือ 2.1 การเปล่ยี นแปลงลักษณะของประชากร ไดแ้ ก่ การย้ายถ่ินฐานของประชากร ความ แตกต่างขององคป์ ระกอบของประชากรเชน่ อายุ เพศ และการศกึ ษาเป็นตน้ 2.2 การเปลีย่ นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ ได้แก่ สภาพสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ เปลย่ี นไป เช่นภูมอิ ากาศตามธรรมชาติ แผน่ ดนิ ไหว ภเู ขาไฟระเบดิ เป็นตน้ 2.3 กลุ่มผลกระทบจากภายนอก ได้แก่ การล่าอาณานิคม และการโจมตีจากชาตอิ ่ืน 2.4 การยืมวัฒนธรรม ได้แก่ การแลกเปล่ียนวัฒนธรรมกับชนชาติอ่ืน หรือการรับ วัฒนธรรมอื่นมาใช้ วัฒนธรรมที่ได้รับจากการยืมทาให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ทางสงั คมและวฒั นธรรม ส่วนผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวฒั นธรรมมอี ยดู่ ว้ ยกนั 2ด้วน คือ ด้านบวก คือก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น มีการประดิษฐ์คิดค้นส่ิงใหม่ๆ มีการเปล่ียนแปลงระบบการ ทางานท่ีดีขน้ึ และมกี ารพฒั นาประเทศทาใหป้ ระชาชนอยดู่ ีกินดี เปน็ ต้น
7 ด้านลบ คอื กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หา ถา้ อตั ราการเปล่ียนแปแลงไม่ตรงกัน เช่น วัฒนธรรมทางวัตถุก้าวหน้า กวา่ วัฒนธรรมทางจติ ใจ ทาให้เกิดปญั หาทางสังคม ปัญหาของการเพิ่มประชากร ปัญหาการว่างงาน ปญั หาโสเภณี เปน็ ต้น จากบทความดังกล่าวผู้วิจัยสามารถนามาใช้อธิบายถึงการเปล่ียนแปลงของนักร้องเก าหลี ในวัตถุประสงคข์ ้อท่ี1 ว่าสาเหตมุ าจากท้ังปจั จยั ภายในและปจั จัยภายนอก ซึ่งปัจจัยภายในได้แก่การ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัญหาสงครามเกาหลี เป็นต้น ส่วนปัจจัยภายนอกได้แก่การเข้ามาให้ ความช่วยเหลอื ประเทศเกาหลจี ากสหรฐั อเมรกิ า การรับเทคโนโลยีการผลติ ต่างๆจากอเมริกา การค้า ขายกบั ตา่ งประเทศ การเผยแพร่วัฒนธรรมของชาติตะวันตก ซ่ึงท้ังหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งปัจจัย ภายในและภายนอกตา่ งก็เปน็ สว่ นเสริมซ่งึ กันและกันทก่ี อ่ ให้เกดิ การเปลีย่ นแปลง สนิท สมัครการ (2538) เขียนหนังสือเร่ือง การเปล่ียนแปลงทางวัฒนธรรมกับการพัฒนา ทางสังคม กล่าวว่า สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเราอาจสรุปได้ว่าวัฒนธรรมอาจจะเปล่ียนแปลงไป เพราะสาเหตุสาคญั 2 ประการคือ 1. การประดิษฐ์คิดค้น ซ่ึงรวมทั้งการสร้างเทคนิควิทยาการใหม่ๆด้วยเทคนิควิทยาการ หรือธรรมเนียมประเพณี รวมท้ังความเช่ือใหม่ๆเม่ือได้มีการยอมรับและนาไป แพร่หลายในสังคมแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นแผนการดาเนินชีวิตใหม่เกิดข้ึนและถ้าแบบ แผนน้ันมีความคงทนอยู่นานมากกว่าหนึ่งช่ัวอายุคนข้ึนไปก็นับว่าได้มีการเปล่ียนแป แปลงทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นแล้วอย่างแท้จริง เพราะว่าวัฒนธรรมน้ันตามปกติย่อม จะต้องมีอายุยืนยาวมากกว่าหน่ึงชั่วอายุคนข้ึนไป ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการถ่ายทอด ทางวฒั นธรรมได้มโี อกาสดาเนนิ ไปได้ 2. วัฒนธรรมอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยการขอยืมหรือลอกเลียนกัน การหยิบยืมทาง วัฒนธรรม หรือการลอกเลียนแบบแผนวิธีการดาเนินชีวิตมาจากวัฒนธรรมอื่นน้ัน ปรากฏว่าอยู่มาเสอมนั้นสังคมมนุษย์ต่างๆที่มีการติดต่อสัมพันธ์กับสังคมอื่น การ ติดตอ่ ทางวฒั นธรรมอาจเกิดขน้ึ ได้ทง้ั ทางตรงและทางอ้อม การติดต่อทางตรงคือการท่ี คนต่างวัฒนธรรมกันได้พบปะสังสรรค์และแลกเปลี่ยนความคิด ค่านิยมและ พฤติกรรมต่อกัน ซ่ึงอาจจะเป็นไปได้หลายรูปแบบ อาทิ การทูต การค้า การศึกษาใน
8 ตา่ งประเทศ รวมถงึ การเผยแพรศ่ าสนาของคณะทูตต่างๆและการอพยพเข้ามาทามาหา กนิ ของคนต่างสงั คมและวัฒนธรรม นอกจากน้ีวัฒนธรรมยังอาจติดต่อกันได้โดยผ่านสื่อต่างๆที่มิใช่ตัวบุคคล สื่อสาคัญใน ปัจจุบันท่ีเป็นตัวการทาให้วัฒนธรรมติดต่อกันได้คือสื่อสารมวลชน ซ่ึงรวมท้ังหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์และภาพยนตร์เป็นต้น โดยเราจะเห็นว่าการแพร่กระจายของเทคนิควิทยาการสมัยใหม่ ดนตรีมวลชน แฟชัน่ ทรงผมและการแต่งกายต่างๆ ได้มีการแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก เพราะ อิทธิพลของส่ือมวลชนต่างๆซ่ึงได้ปรับปรุงเทคนิควิธีการเสนอข่าวได้รวดเร็ว ทันใจและมี ประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึนจนทาให้เราทราบถึงความเปล่ียนแปลงในเหตุการณ์ต่างๆของโลกใน ระยะเวลาอันส้ัน อย่างไรก็ดีในเรื่องของการหยิบยืมหรือการลอกเลียนแบบทางวัฒนธรรมนั้น เป็นที่น่า สังเกตอยู่ประการหนึ่งว่า ตามปกติแล้วคนเราจะไม่ยอมรับเอาวัฒนธรรมที่จนถือว่ามีสถานภาพต่า กวา่ วัฒนธรรมของตน แต่มีความโนม้ เอียงรบั เอาแบบแผนทางวัฒนธรรมทีค่ นเห็นว่ามีคุณค่าสูงกว่า ของตนเข้า โดยวัฒนธรรมตะวันตกปัจจุบันเป็นวัฒนธรรมที่เด่นมากจึงมีการแพร่ขยายตัวเข้าไปยัง วัฒนธรรมอ่ืนๆทั่วโลก โดยวัฒนธรรมของสังคมต่างๆท้ังในเอเชียและแอฟริกาต่างก็พยายามจะ ลอกเลียนแบบหรือขอยืมแบบแผนการดาเนินชีวิตของคนตะวันตกในหลายๆประการมาปรับใช้ ภายในแต่ละสังคมของตน มากน้อยบ้างแล้วแต่กรณี บางคร้ังก็ได้มีการต่อต้านวัฒนธรรมตะวันตก เกิดข้ึน แต่การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมโดยใช้วิธีขอยืมหรือลอกเลียนแบบปัจจุบันนับว่าเป็นวิธีท่ี แพรห่ ลายมากที่สุด จากบทความนี้ผู้วิจัยสามารถนามาใช้อธิบายถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของนักร้องตาม วัตถุประสงค์ข้อท่ี1ได้ว่าสาเหตุการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ของนักร้องเกาหลีนั้นมาจากวัฒนธรรม ของตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาเป็นการหยิบยืมวัฒนธรรมอื่นซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก โดย ในชว่ งยคุ อาณานิคม เกาหลีถูกตกเปน็ อาณานิคมของญป่ี ุน่ พร้อมท้ังถกู ครอบงาด้วยวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ต่อมาภายหลังได้รับเอกราชเกาหลีก็เข้าสู่ช่วงภาวะสงครามเกาหลี ซึ่งเกาหลีใต้เองได้รับความ ชว่ ยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ซ่ึงการเข้ามาของสหรัฐอเมริกานั้นก็ได้นาเอาวัฒนธรรมแบบตะวันตก เข้ามาเผยแพร่ด้วย ส่วนปัจจุบันในยุคโลกาภิวัตน์นั้นเกาหลีใต้เองยังคงรับเอาวัฒนธรรมจาก ตะวนั ตกผา่ นสื่อสารมวลชนมาปรับใช้ทาใหผ้ ลการเปลย่ี นแปลงทางวัฒนธรรมเป็นแบบผสมผสาน
9 เช่นแนวเพลงปจั จุบันมหี ลากหลายแนวมากยง่ิ ขน้ึ ท่เี ป็นแบบตะวนั ตก แตก่ ย็ ังมีการผสมผสานดนตรี เกาหลีเขา้ ไปอย่างเชน่ เพลงของศลิ ปินวง T-ARA ท่ีนยิ มทาเพลงดนตรีแนวผสมผสานระหว่างความ เปน็ เกาหลีกบั ความเป็นตะวันตก เสนาะ ติเยาว์ (2543) เขียนบทความทางอินเทอร์เน็ตกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงว่าการ เปลี่ยนแปลง คือความพยายามในการแปรเปล่ียนจากภาพที่เป็นอยู่ไปสู่สภาพที่องค์กรพึงประสงค์ เพอื่ ให้สามารถดารงอย่ไู ดภ้ ายใตส้ งิ่ แวดล้อมที่เปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่จะเอาชนะธรรมชาติ เพื่อให้ได้มาซึ่งส่ิงใหม่ ๆ ท่ีจะนามาใช้บารุงความสุข หรือเพื่อให้อยู่ดีกินดีมากข้ึนกว่าเดิม หรือจะ เปน็ ความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละการลงทุนค้นคว้าวิจยั ท่ีทาใหเ้ กิดมิง่ ที่เปน็ นวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดข้ึน ตลอดเวลา เชน่ การบริการขา่ วสารอนิ เตอร์เนต็ ดว้ ยเครอื ข่ายใยแก้วนาแสงท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ เปน็ ต้น โดยเป็นเร่ืองปกติท่ีต้องเกิดข้ึนกับสังคมทุกสังคม แต่อัตราท่ีไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัจจัย ภายในและภายนอกของแต่ละสงั คมซ่ึงแตกตา่ งกันออกไปอย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางสังคม มีทั้งการเปลี่ยนแปลงท่ีสมาชิกไปสู่ชีวิตท่ีดีขึ้นและเลวลงบางคร้ังสมาชิกจาเป็นต้องเปลี่ยนแปลง บางสงิ่ ตามการเปล่ียนนั้นให้ทัน เพ่ือให้ระบบสังคมสามารถดารงอยู่ร่วมกันอย่างปกติและสามารถ ตอบสนองบางสิ่งตามการเปล่ียนแปลงน้ันให้ทัน โดยการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเน้นการ ประดิษฐ์ของสังคม ท้ังที่เป็นการประดิษฐ์ทางวัตถุ เช่น รถยนต์ ไอที และไม่ใช่วัตถุ เช่น ภาษา ศลิ ปะ ศีลธรรม ดนตรี การเล่นอันเป็นประเพณีต่าง ๆ รวมถึงความรู้ ความเช่ือ ค่านิยม และบรรทัด ฐานทางสังคม ซ่ึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจะมีความเกี่ยวข้องระหว่างกัน เป็น กระบวนการต่อเนื่อง เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจาวัน กระทบต่อแบบแผนการ ดาเนินชวี ติ จา ก บ ท ค ว า ม ดั ง กล่ า ว ผู้ วิ จั ย ไ ด้ ใ ช้แ น ว คิ ด น้ี ศึ ก ษ า ถึง ก า รเ ป ลี่ ย น แ ปล ง ข อง นั ก ร้ อง ใ ห้ สอดคล้องกับวตั ถุประสงคใ์ นข้อ1 เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึนได้ตลอดเวลา เหมือนกับนักร้องที่ อดีตกับปัจจุบันได้มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เกิดข้ึนจากการเปล่ียนแปลงไปตามกาล สมยั เพ่อื เปน็ การพฒั นาให้ดขี ึน้ 6.1.2 แนวความคิดเรื่อง Bio-Power ของมิเชล ฟูโกต์
10 ธีรยุทธ์ บุญมี (2551) เขียนหนังสือเร่ืองมิเชล ฟูโกต์ ได้กล่าวถึงการก่อตัวของแนวคิด ประชากร และบคุ คลทาให้เกิดเทคนคิ วิธอี านาจสาคัญท่ีสุดอีกอย่างหนึ่ง ซ่ึงฟูโกต์เสนอแนวคิดรวบ ยอดไวเ้ ป็นการเมอื งชวี ะ (bio-politic) หรืออานาจชีวะ (bio-power) ซ่ึงอานาจชีวะเป็นสิ่งจาเป็นหรือ เป็นเหตุผลแห่งรัฐเป็นเป้าหมายแห่งรัฐที่จะต้องทะนุบารุงเกื้อกูลคือการควบคุมประชาชนด้วย เป้าหมายเพ่อื เพ่มิ ความมั่งคั่ง อายุ สุขภาพ ประสิทธิภาพในการผลิต ฯลฯ แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนแรกเกี่ยวพันกับประชากรในฐานะบุคคล ซ่ึงกลไกหลักคือวินัยและเรื่องเพศ กับอีกส่วนหน่ึง คอื การควบคมุ ประชากรโดยองคร์ วมเพือ่ เพมิ่ อายุ อัตราการเกิด ระดับสขุ ภาพ เป็นต้น ทัศนะของฟูโกต์มองว่าทุกสังคมทุกยุคสมัยต้องมีเครือข่ายอานาจอย่างใดอย่างหน่ึงมา ครอบงา การครอบงาก็คอื การควบคมุ มิตติ า่ งๆ ในสงั คมน้นั ๆซึ่งหน่วยทางการเมืองในแต่ละยุคสมัย จะตอ้ งควบคมุ สิ่งต่างๆ มากหรอื น้อยต่างกันดงั ตอ่ ไปน้ีคือ 1. การควบคมุ คน (รา่ งกาย แรงงาน การเคล่อื นท่ี อพยพ เคลอ่ื นยา้ ย) 2. การควบคมุ ความคิด 3. การควบคมุ พ้ืนที่ 4. การควบคุมเทคโนโลยี และยงั มกี ารควบคมุ กจิ กรรมนุษย์ซงึ่ ฟูโกตแ์ บ่งอยา่ งกวา้ งๆเป็น 4 อย่าง คอื 1. แรงงานหรอื การผลิตทางเศรษฐกจิ 2. เพศ ครอบครวั หรอื อกี นบั หนึง่ การผลติ ซ้าของสงั คม 3. ภาษา การพูด 4. การละเลน่ การบนั เทิง เชน่ กีฬา เทศกาล ฟูโกตม์ องวา่ การลงทุนสร้างระเบียบวนิ ยั ในร่างกายคน มีความสาคญั พอๆกับการสะสมทุน และเป็น2ปัจจัยหลักท่ีทาให้สังคมสมัยใหม่ที่เป็นทุนนิยมและอุตสาหกรรมนิยมสร้างตัวเองข้ึนมา ได้ ฟูโกตม์ องวา่ สงั คมสมัยใหม่จะเกิดข้ึนได้ก็ต่อเมื่อมีการจัดการต่อประชากร (ร่างกายของบุคคล) ใหม้ วี ินัย ประสิทธิภาพ สขุ ภาพดี มีทกั ษะ ขยนั เอาการเอางาน ยอมรับกฎระเบียบ เพื่อให้เป็นแหล่ง แรงงานหรอื เป็นพลังการผลิตท่ดี ี และว่าทจ่ี ริงการเกดิ สังคมวินยั เกดิ ข้ึนกอ่ นสงั คมแห่งทุน ฟูโกต์สรปุ แนวทางการทางานของวินยั ไว้ 5 ด้านด้วยกันคือ
11 1. วินัยทางานโดยผ่านร่างกายคนเป็นหลัก จุดมุ่งหมายเพ่ือให้เกิดร่างกายท่ีเช่ืองเชื่อ วิธี ทางานก็คือแบ่งร่างกายเป็นส่วนๆตามอวัยวะหรือระบบ เป็นหัว แขน ขา หลัง ไหล่ มี การศึกษา การตรวจสอบ จุดมงุ่ หมายเพือ่ ควบคุมทั้งส่วนย่อยและส่วนรวมท้ังหมดของ ร่างกาย เพอ่ื เพิม่ ประสทิ ธิภาพในงานเฉพาะแต่ละดา้ น 2. ร่างกายในฐานะตัวแทนหรือส่ือแทนของความหมาย เช่น ความกล้าของทหาร ถูกลด ความสาคัญลงในยุคคลาสสิก แต่ร่างกายในฐานะส่วนที่อานาจเชิงวินัยจะทางานเพ่ิม ความสาคัญอย่างเงียบๆ ในกองทัพ โรงเรียน ร่างกายจึงเปล่ียนฐานะจากสัญลักษณ์มา เปน็ สญั ญะ 3. วิธีการแบบจุลภาคของอานาจยังทางานในมิติของเวลา ฟูโกต์ชี้ว่าถ้าอานาจจะทางาน เหนือร่างกายอย่างได้ผล จะต้องมีการควบคุมเชิงเวลา คือการให้ร่างกายยอมต่อการ ควบคุมต่อเน่ืองตลอดเวลา ไม่ใช่เป็นชว่ งๆ ไมใ่ ช่เป็นช่วงๆ จึงจะต้องมีการจัดการเรื่อง มาตรฐานของการทางานและประสิทธภิ าพ ซง่ึ บังคบั ใชอ้ ย่างมกี ฎเกณฑอ์ ย่างต่อเนื่อง 4. การควบคุมเทศะหรือพ้ืนท่ีก็เป็นมิติท่ีสาคัญย่ิงของวินัย วินัยทางานโดยการควบคุม ร่างกายบนพ้ืนท่ี จึงต้องการควบคุมพื้นท่ีปิดที่เฉพาะเจาะจง เช่น โรงเรียน ค่ายทหาร โรงงาน คุก เป็นต้น มีการแบ่งพื้นท่ีเป็นส่วนๆหรือตาราง ซึ่งจะมีการกระจายร่างกาย คนไปตามส่วนตา่ งๆ อยา่ งมรี ะเบยี บแบบแผน 5. การจัดการควบคุมพ้ืนท่ีและร่างกายดังกล่าวยังเปิดทางให้มีการตรวจตรา การสังเกต หรือเพ่งมอง เพ่ือประเมิน เปรียบเทียบ เช่ือมโยงความสัมพันธ์อย่างต่อเน่ือง เพ่ือ ประสิทธิภาพการในการควบคุม และการผลิต รวมท้ังเพ่ือกาจัดความขี้เกียจ การบ่อน ทาลาย การเจ็บปว่ ย ฯลฯ ผ้วู จิ ัยไดใ้ ชแ้ นวความคิดเรื่องอานาจของฟูโกต์ในการศึกษากระบวนการเป็นนักร้องเกาหลี เพื่อสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ข้อที่2 ทั้งน้ีการเป็นนักร้องก็มีอานาจต่อแฟนคลับอย่างเช่นไม่ว่าตัว นักร้องจะทาอะไร บริโภคสินค้าอะไรก็มีอิทธิพลต่อแฟนคลับให้กระทาตาม แต่ในทางเดียวกัน แฟนคลับเองก็มีอานาจต่อนักร้อง เพราะถ้าแฟนคลับไม่สนับสนุนนักร้อง นักร้องก็ไม่สามารถอยู่ ไดอ้ านาจจงึ มีอยทู่ ุกแห่งของสงั คม นอกจากนก้ี ระบวนการเปน็ นกั รอ้ งจะต้องผ่านการฝึกฝน การฝึก ด้านทักษะต่างๆ โดยมีบริษัทต้นสังกัดเป็นผู้มีอานาจในการควบคุมตัวศิลปินให้ประพฤติตนตาม กฎระเบียบท่วี างไว้ เพ่อื ทจ่ี ะได้เปน็ ศิลปนิ ในอนาคต อย่างเชน่ รายการอะคาเดมแี ฟนทาเชยี 6.1.3 แนวความคิดเรื่องการสร้างภาพลกั ษณ์
12 เจอรัลด์ ดี แบรีแมน (2549) เขียนหนังสือเร่ืองเบ้ืองหลังหน้ากาก ได้กล่าวถึง กระบวนการสร้างภาพลักษณ์ว่าคือความพยายามของมนุษย์ในการควบคุมผู้อ่ืน เพราะภาพลักษณ์ คอื สิง่ ทก่ี าหนดวา่ แตล่ ะฝา่ ยควรจะปฏิบัติตัวต่อกันอย่างไร ถ้ายังต้องการรักษาภาพลักษณ์นั้นอยู่เรา กต็ อ้ งทาในสง่ิ ที่เราอ้างว่าเราเป็นและต้องเล่นตามบทที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์นั้นๆ และการสร้าง ภาพพจน์เปน็ ลักษณะหนึ่งของการปฏสิ ัมพันธ์ทางสังคม ทกุ ประเภทและเป็นเง่ือนไขจาเป็นสาหรับ การปฏสิ มั พันธ์ที่ต่อเน่อื ง ความเข้าใจธรรมชาติของการสร้างภาพพจน์ และการแสดงออกท่ีเป็นผล ของมันเป็นสิ่งท่ีจาเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการศึกษาชาติพันธ์ุวรรณนาอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการของ งานสนามจะต้องสามารถเปิดเผยท้ังการแสดงท่ีจัดไว้ให้ผู้สังเกตการณ์ชมและยังต้องสามารถตีแผ่ ให้เห็นลักษณะของการลงทุน ลงแรงที่ใช้จัดเตรียมการแสดง ตลอดถึงสถานการณ์หลังฉากท่ีการ แสดงนน้ั ปกปิดไวด้ ว้ ย ผู้วิจัยไดใ้ ช้แนวความคิดเรื่องภาพลักษณ์ในการศึกษาคร้ังน้ี เน่ืองจากการเป็นนักร้องก็ต้อง ปฏิบัติตนตามภาพลักษณ์ของตนเป็นการทาตามหน้าท่ีบทบาทให้เหมาะสม แม้ในความเป็นจริง แล้วเบ้ืองหลังกับเบื้องหน้าอาจแตกต่างกันอย่างมาก แต่นักร้องก็ยังคงต้องรักษาภาพลักษณ์นั้นไว้ เสมอเพือ่ เป็นการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและต้องปกปิดเบ้ืองหลังฉากตัวตนที่แท้จริงของตนเองด้วย เช่นกนั 6.2 บทความวชิ าการและงานวิจยั ทเี่ กีย่ วขอ้ ง 6.2.1 การเปล่ียนแปลงเก่ยี วกับดนตรแี ละอาชพี นกั รอ้ ง ศุลีมาน (นฤมล) วงศ์สุภาพ (2531) เขียนหนังสือเรื่อง นางงามตู้กระจก การศึกษา กระบวนการกลายเป็นหมอนวดไทย พูดถึงการได้สถานภาพเป็นหมอนวดนั้นเป็นสถานภาพท่ี ไม่ใช่สถานภาพทต่ี ิดตัวมาตั้งแต่กาเนิด แตเ่ ปน็ สภาพที่ได้มาภายหลงั ซงึ่ ตอ้ งอาศัยการเรียนรู้บทบาท ตามสถานภาพนั้น การได้รับสถานภาพหน่ึงๆจึงต้องผ่านข้ันตอนเพื่อเรียนรู้ถึงบทบาทตาม สถานภาพท่ีตนได้รับ จากการศึกษาพบว่ามีข้ันตอนการได้รับสถานภาพหมอนวดตามข้อกาหนด ของสถานบรกิ ารดงั นี้คอื การสมคั รงาน การฝึกนวด การขึน้ ทะเบียนประวตั ิ การลงงาน การสมัครเข้าเป็นพนักงานนวดต้องผ่านฝ่ายบุคคลเหมือนอาชีพท่ัวๆไปในสังคม แต่การ สมคั รจะต้องผา่ นการยอมรับจากมาดามก่อน มาดามจะเป็นผู้รับสมัครพนักงานใหม่ด้วยตัวเองก่อน ส่งเข้าฝ่ายบุคคล และแบ่งประเภทของผู้หญิงที่ทางานน้ีเป็นเด็กใหม่ กับเด็กเคยงาน ในกลุ่มของ ผู้หญิงท่ีก้าวเข้ามาสู่โลกของการค้าประเวณี คือ ทุกๆคนมีบุคคลที่ชักนา ชักชวนมาเข้าสู่อาชีพ ทง้ั สนิ้
13 การฝึกนวดเพ่ือให้เป็นหมอนวดเต็มตัวนั้น ความสามารถในการนวดคือสิ่งท่ีทาให้หมอ นวดแตกตา่ งไปจากหญงิ ตามโรงแรม ทุกๆคนตอ้ งผ่านการฝกึ ข้นั ตอนน้ีเป็นเวลาสามวัน และเสียค่า ฝึกจานวนสามร้อยบาท โดยทีม่ าดามในฐานะครฝู ึกจะเป็นผู้สัมภาษณ์ประวัติการทางานคร่าวๆแล้ว ให้ลองนวดดู ถา้ นวดไดแ้ ล้วก็จะให้ลงงานเลย การขึ้นทะเบียนประวัติน้ันหลังจากฝึกนวดแล้ว มาดามจะให้เด็กไปขอรับเบอร์ซ่ึงเป็น ตัวแทนของตนเองท่ีฝ่ายบุคคล โดยเด็กจะต้องนารูปมาให้ 6 ใบและมีบัตรประชาชนมาเป็น หลักฐานตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทมีปัญหาพ้นผิดจาก ข้อหาคา้ ประเวณี การลงงาน คือ การเสร็จส้ินการฝึกนวดไปสู่การปฏิบัติงานจริง โดยพนักงานใหม่จะต้อง ผ่านขัน้ ตอนในการฝกึ นวด ไดเ้ บอรซ์ ่ึงใช้แทนตาแหน่งของตนเองในสถานบริการ และเข้าไปอยู่ใน ตู้เพือ่ ปฏบิ ัตงิ านเหมือนหมอนวดคนอืน่ ๆ ผวู้ จิ ัยไดใ้ ชแ้ นวทางจากหนังสือเล่มน้ีมาใช้ในงานวิจัยให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ข้อท่ี2 เพราะกระบวนการเป็นโสเภณีมีหลายขั้นตอนเหมือนกับกระบวนการเป็นนักร้อง ท่ีจะต้องเรียนรู้ ฝกึ ฝนขน้ั ตอนต่างๆจนชานาญและให้ความบนั เทิงแก่ผมู้ าใชบ้ ริการ พอมพะนอ (2542) เขยี นหนังสอื เรอ่ื ง ว่าแตว่ ่า...กว่าจะเป็นศลิ ปนิ กล่าวไว้ว่าศลิ ปนิ สาหรับ คนไทยก็หมายถึงพวกเต้นกินรากิน เป็นคาพูดในทานองท่ีดูแคลนว่าไม่มีศักด์ิศรี พวกไส้แห้ง แต่ ศิลปินในวันนี้ดูเหมือนจะมีอยู่ความหมายเดียวก็คือนักร้องที่คนรุ่นเก่าจะมาดูแคลนไม่ไ ด้ง่ายๆ เพราะรายได้แต่ละวันของพวกเขามีอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นที่รู้จัก เป็นแบบอย่างของวัยรุ่นท่ัว ประเทศ ไปไหนก็มีเสียงกรี๊ดต้อนรับน่าปลาบปล้ืม น่าหลงใหล ซึ่งหลายครั้งยังชวนให้หลงผิดอีก ต่างหาก ความสาเร็จในฐานะศิลปินของคนบางคนเป็นเหมือนภาพมายาที่ถูกสร้างข้ึน จาก กระบวนการผลิตในระบบทุนนิยม ที่มองว่าศิลปินคือสินค้า น่ันหมายถึงว่า ถ้าถูกใจผู้บริโภคก็ สามารถอยู่ได้นาน ถ้าไม่ถูกใจก็ไปเร็ว และโลกเราปัจจุบันนี้เรามันจะพบเห็นศิลปินในประเภท หลังๆอยู่บ่อยๆนั่นคือไปเร็ว เหตุการณ์อย่างนี้คงไม่ใช่เร่ืองแปลกเท่าไหร่ เพราะวันพรุ่งนี้ก็จะมี ศิลปินหน้าใหม่ๆเข้ามาแทนที่อยู่เสมอ แต่กับศิลปินช่วงส้ันที่กาลังจะถูกลืมนั้น เขาและเธอจะทา อย่างไรกับชือ่ เสียงท่ไี หลมาเหมอื นนา้ ป่าแล้วเหือดหาย เพราผลของการสาลักช่ือเสียงแบบตั้งตัวไม่ ทนั น้นั มนั พัดพาเอาความเชอ่ื มันในตวั เอง ความสดใสในวยั เยาว์ใหห้ ่างหายไป แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุก วันนี้ก็จะมีศิลปินหน้าใหม่ๆทยอยขึ้นมาให้เราจดจากันอยู่ทุกวัน กว่าที่เขาและเธอจะข้ึนมายืนอยู่ แถวหน้า มาเปน็ ศลิ ปนิ ของประชาชนน้ัน เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นสิ่งที่ยากมากกว่าเบ้ืองหน้าเสียอีก
14 เพราะกรเป็นศิลปินคือการที่คนหมู่มากท้ังเบื้องหน้า เบื้องหลังช่วยกันคิด ช่วยกันสร้าง ช่วยกัน ผลักดันใหส้ ่งิ ท่ตี นทาประสบความสาเรจ็ ไปไดด้ ้วยดี นากจากนี้เขาพูดถึงกระบวนการสร้างศิลปินโดยเน้นไปท่ีเบ้ืองหลังว่าสิ่งแรกที่ต้องทาคือ สร้างคอนเซ็ปต์ (Concept) โดยทีมงานโปรดิวเซอร์ (Producer) คอนเซ็ปต์จะเกิดจากตัวนักร้อง บคุ ลกิ ทา่ ทาง อปุ นิสยั รสนยิ ม ประวตั ิการศึกษา ชีวิตท่ีผ่านมาตกระกาลาบาก ฝ่าลมฝ่าฝนมาก่ีร้อน ก่ีหนาวถึงจะมาเอาดีทางด้านนี้ ตลอดจนไปถึงความนิยมในท้องตลาด การจะมาเป็นศิลปินต้องมี ท่ีมาทไี่ ปถึงจะดงั เมือ่ โปรดวิ เซอร์มีความเข้าใจตรงกันกับผู้ทรงคุณวุฒิในการคัดเลือกศิลปินแล้ว ก็ จะแจกจ่ายงานให้กับคนเขียนทานอง คนเขียนเนื้อร้อง คนเรียบเรียงเสียงประสานไปทาหน้าท่ีของ ตนเอง เมื่อได้เพลงมาแล้วก็จะต้องนาเข้าห้องอัด ห้องอัดเป็นคาย่อมาจากห้องอัดเสียง เอาไว้ใช้ อัดเสยี งเพลง ให้นกั ร้องรอ้ งเพลงเปน็ ขัน้ ตอนแห่งการเป็นศิลปนิ ในอนาคต ต่อมา ครีเอทีฟ (Creative) จะเป็นคนควบคุมดูแล ปลุกปั้น เพิ่มเติมเสริมแต่งให้กับศิลปิน ให้ดูดี เป็นกลุ่มคนท่ีคอยรับหน้าที่ต่อจากโปรดิวเซอร์ตอนเพลงใกล้เสร็จ เร่ิมกระบวนการต้ังแต่ ศรีษะจรดปลายเท้า ให้กลายเป็นภาพท้ังภาพนิ่ง ภาพเคล่ือนไหว และภาพประทับใจจนถึงช่วงโป รโมท หลังจากน้ันเมื่อได้บุคลิก ได้เพลง ก็ถึงขัน้ตอนการถ่ายทา Music Vedio หรือภาพประกอบ เพลงเพื่อให้คนสามารถฟังเพลงและจดจาใบหน้าเน้ือร้อง หรือเร่ืองราวในบทเพลงๆน้ันได้ จะมี แผนกประชาสัมพันธ์ตัวศิลปินโดยเฉพาะให้เป็นท่ีรู้จักมากข้ึนท้ังทางวิทยุ โทรทัศน์ ส่ือส่ิงพิมพ์ อนิ เทอร์เนต็ และเมอ่ื เป็นที่รู้จักมีชอื่ เสยี งในคนหมูม่ าก กจ็ ะต้องมีผู้จัดการส่วนตัวคอยจัดตารางเวลา งาน ตารางการใช้ชีวิต ควบคุมรายรับ รายจ่ายไปในตัว ถ้าศิลปินคนๆน้ันมีช่ือเสียงมากๆ ก็จะมี โอกาสได้จัดคอนเสิรต์ เปน็ ของตวั เองด้วยเช่นกนั จากบทความดังกล่าวผู้วิจัยสามารถนามาใช้กับวัตถุประสงค์ในข้อท่ี2 กระบวนการเป็น นักร้องได้ว่า นักร้องเกาหลีก็ต้องผ่านกระบวนการท่ีมีคนผลิตเพลง เขียนเพลง แต่งเพลง พัฒนา บุคลกิ ภาพ เข้าหอ้ งอดั ถา่ ยทามวิ สิควีดีโอ ตลอดจนกลายเปน็ นักร้องทม่ี ชี อื่ เสียง แต่ถึงกระน้ันก็ตาม เมื่อมีดาวรุ่ง ก็ต้องมีดาวร่วงเป็นไปตามกาลเวลา หรือถ้าเพลงไม่ประสบความสาเร็จ ประชาชนไม่ นยิ มช่ืนชอบ ศลิ ปินก็อาจขายไมอ่ อกและหายไปได้เชน่ กนั สมบูรณ์ อิชยาวรกูล (2551) เขียนหนังสือเร่ือง ป้ันน้องรักให้เป็นนักร้อง กล่าวไว้ว่า เพลง เป็นบทกวีท่ีมีชีวิต ทาให้อารมณ์คล้อยตามไปกับท่วงทานอน ไม่ว่าจะเป็นยุคใด สมัยไหน อาชีพ นกั ร้องจึงเปน็ มากกว่าการเป็นนกั รอ้ ง หลายคนเลือกนักร้องเป็นไอดอลในดวงใจ เลือกเป็นต้นแบบ ในการร้องเพลง นักร้องบางคนกลายเป็นตานาน เป็นตัวแทนความคลาสสิกของยุคสมัย ที่สาคัญ เป็นอาชีพทใ่ี ครตอ่ ใครใฝ่ฝัน แต่การจะเปน็ นกั รอ้ งนนั้ ไมไ่ ด้งา่ ยเลย
15 ปัจจุบันมีเวทีประกวดสาหรับคนมีฝันมากมาย ทั้งเพลงลูกทุ่ง เพลงป๊อป เพลงสากล บาง เวทีผู้สมัครต้องฝ่าด่านหินมากมาย คาวิจารณ์ท่ีอาจระคายหู ต้องฝึกฝนอย่างหนักเพ่ือให้ตนเองไป ถึงเป้าหมายว่าสักวันจะต้องเป็นนักร้องให้ได้ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ก่อนอื่น การเป็นนักร้องจะต้อง เกิดจากความรักที่จะร้องเพลงอย่างแท้จริง หลายคนอยากเป็นนักร้องเพราะเพ่ือเป็นศิลปินที่มี ช่อื เสียง เงินทอง มีแฟนคลับมากมาย จนลืมไปว่าแท้จริงอาชีพนักร้องคือการร้องเพลงท่ีไพเราะแก่ ผูฟ้ งั ดังนนั้ คนทอ่ี ยากเป็นนักร้องจริงๆจึงควรมีพื้นฐานจากความรักในการร้องเพลง การเรียนรู้การ ร้องเพลงอยู่ตลอดเวลา จึงจะทาให้อาชีพนักร้องสามารถอยู่ได้นานและอยู่ทน เหมือนกับนักร้อง คณุ ภาพหลายๆคนของโลกทไ่ี ม่วา่ เวลาจะผา่ นไปนานแค่ไหน กย็ งั มคี นฟงั เพลงอยเู่ สมอ ว่ากันว่ากว่าจะเป็นนักร้องท่ีดีได้นั้นต้องมาจากการเป็นผู้ฟังท่ีดีก่อน มีหูดี ฟังโน้ตไม่ ผิดเพ้ียนทาให้ร้องเพลงไมเ่ พ้ยี น และคนที่จะเป็นนักร้องที่ดีได้ต้องสามารถร้องเพลงได้หลากหลาย แนว ทั้งปอ็ ป รอ็ ค ลูกทงุ่ ลกู กรุง คลาสสิก แจ๊ส ฮิพฮอพ เป็นต้น เรียกว่ามีเพลงสไตล์ไหนในโลกน้ี ต้องหัดฟังให้หมด และการท่ีมีเนื้อเสียงท่ีดีอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการเป็นนักร้อง ต้องยอมรับว่า คนที่จะเข้าสู่วงการเพลงเป็นนักร้องของประชาชนต้องมีคุณสมบัติมากกว่าน้ัน ไม่ว่าจะเป็น บุคลิกภาพทเี่ หมาะกบั ความเป็นศลิ ปินบนเวที การเป็นนักเอนเตอร์เทนท่ีดี สามารถสื่ออารมณ์เพลง ให้กับคนฟังได้ และท่ีสาคัญรูปร่างหน้าตามีส่วนมากๆในเร่ืองของโอกาสท่ีจะเป็นนักร้อง และ จะตอ้ งหม่ันฝกึ ซ้อมทเี่ กิดจากความพากเพียร นักร้องท่ีดีมีคุณภาพจะต้องผ่านการฝึกทักษะ ฝึกซ้อม การร้องเพลงทุกวัน เกบ็ เอาเทคนิคการรอ้ งจากครมู าใช้ ถึงจะได้เป็นนักร้องเสียงดีที่มีคุณภาพ ร้องดี หรือไม่คนตัดสินคือผู้ฟัง อยู่ได้นาน อยู่ทน จะเป็นนักร้องตัวจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเป็นผู้ กาหนด จากบทความข้างต้นผู้วิจัยนามาใช้กับวัตถุประสงค์ข้อท่ี2 ในเรื่องของกระบวนการเป็น นักร้อง การเป็นนักร้องน้ันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครก็จะเป็นได้ จะต้องมีหน้าตาท่ีดี เสียงดี มีประสาม สัมผัสเสียงท่ีดี และต้องมีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อม ทั้งน้ีไม่เพียงแต่พรสวรรค์ในการจะ เปน็ จะต้องมีพรแสวงดว้ ยเช่นกัน ถึงจะเป็นสิง่ คู่คอยผลักดันให้ประสบความสาเรจ็ ในอาชีพนกั ร้อง สุวรรณา เกรียงไกรเพช็ ร์ และคณะ (2553) ได้เขยี นหนังสอื รวมบทความและบทเสวนาจาก การประชมุ ประจาปี ครัง้ ที่ 8 เรอื่ ง ผคู้ น ดนตรี ชีวิต เล่ม2 เสียงของประเทศไทย กล่าวไว้ว่า รายการ ปฏบิ ัติการลา่ ฝัน อะคาเดมีแฟนเตเชีย เร่ิมต้นจากการตระเวนคัดเลือกเยาวชนจากทั่วทุกภูมิภาคของ ประเทศให้เหลือ 50 คน แล้วให้มีการแสดงโชว์ในรอบคัดเลือกที่เข้มข้นข้ึน นาไปสู่ผู้เข้ารอบ 12 คนสดุ ท้าย ซง่ึ จะมาใชช้ วี ติ อยู่ร่วมกันในบ้านท่ีเปรียบเสมือนโรงเรียนประจาท่ีมีการจัดสอน การใช้ เสียงร้องและการแปลความหมายของเพลง ทักษะทางการแสดง การเต้น รวมไปถึงทักษะต่างๆที่ จาเป็นในการแสดงออกบนเวที ซ่ึงในแต่ละสัปดาห์ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับโจทย์เพลงเพื่อข้ึนไปร้อง
16 เพลงในคืนวันเสาร์ โดยแต่ละสัปดาห์ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับคะแนนนิยมผ่านระบบส่งข้อความส้ัน (sms) ทางโทรศัพท์เคล่ือนทเ่ี ปน็ จานวนน้อยที่สุดก็จะตอ้ งตกรอบออกจากบา้ นไป ความพิเศษของรายการนี้อยู่ที่การถ่ายทอดสดตลอด 24ชั่วโมง เป็นเวลาตลอดท้ัง 9-13 สัปดาห์ของการแข่งขัน ทาให้ผู้ชมสามารถมองชีวิตจริงของนักล่าฝัน แต่ละคนได้ตลอดเวลาผ่าน กล้องวงจรปิดกวา่ 70 ตัวทที่ มี งานนาไปตดิ ตั้งไวใ้ นบรเิ วณตา่ งๆของบา้ น โดยไม่มีการตัดต่อ มีเพียง เลอื กมุมกล้องที่นามาออกอากาศเท่าน้ัน และการให้สิทธ์ิขาดแก่ผู้ชมในการลงคะแนนเสียงอันเป็น การตัดสินอนาคตของผู้เข้าแข่งขันผ่านการส่งข้อความสั้น รายการปฏิบัติการล่าฝันจึงเป็นการพลิก บทบาทผู้ชมจากเดิมท่ีต้องเป็นฝ่ายยอมรับผลการตัดสินในการแข่งขันต่างๆ ให้กลายมาเป็นผู้ท่ีมี อานาจสงู สุดในการตัดสินชะตากรรมของผูเ้ ข้าแขง่ ขันแต่ละคนได้ในทุกๆสัปดาห์ จากบทความดังกล่าวผู้วิจัยสามารถนามาใช้อธิบายกระบวนการเป็นนักร้องตาม วัตถุประสงค์ข้อที่2 ได้เพราะว่าปัจจุบันมีเวทีประกวดต่างๆมากมายเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้มีโอกาส แสดงความสามารถในด้านการรอ้ งเพลง และถา้ ชนะกม็ โี อกาสที่จะได้เป็นศิลปินเต็มตัว แต่การท่ีจะ เข้ามาประกวดนั้นก็ไมใ่ ชเ่ รือ่ งง่ายเสียทีเดียว และด้วยรูปแบบรายการใหม่ๆ ทาให้ประชาชนทุกคน สามารถมีส่วนตัดสินในการโหวตผู้เข้าแข่งขันท่ีตนชื่นชอบให้ชนะ เป็นการท้าทายการรับรู้ร่วม แบบเดมิ ๆและทาให้ผู้ชมสามารถรับรู้ถึงอานาจในมือของตน แม้ว่าจะเป็นเพียงอานาจในเชิงวัตถุท่ี ใช้ซ้ือผลการแข่งขันก็ตาม และการท่ีผู้เข้าแข่งขันต้องเข้าไปอยู่ในบ้านโดยมีกล้องวงจรปิดคอยดู ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงก็เป็นเหมือนอานาจในการควบคุมของบริษัทที่ต้องการทาให้ผู้เข้าประกวด กลายเป็นสนิ ค้า ยิ่งมปี ระชาชนโหวตใหผ้ ู้เขา้ แขง่ ขนั มากเทา่ ไหร่ บรษิ ัทย่งิ ได้เงินมากเท่าน้นั 6.3 ขอ้ มลู เก่ียวกับประเทศเกาหลีและดนตรี นักรอ้ งเกาหลี สานักงานภาคโพ้นทะเลร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2536) กล่าว วา่ ดนตรปี ระจาชาติของเกาหลีแบง่ ออกเป็นสองประเภทคือ ชงอัก และมินชงอัก ดนตรีชงอักได้แก่ ดนตรที ีเ่ ร่ิมใช้ในพิธีหลวงเชน่ พิธีบวงสรวง บรรเลงให้คนในราชสานักและคนในงานเลี้ยงฟัง ส่วน ดนตรมี ินชงอกั เป็นดนตรีพื้นเมืองหรอื ดนตรขี องสามญั ชน ประกอบด้วยเพลงในพิธีกรรมเก่ียวกับผี และพทุ ธศาสนา สว่ นดนตรตี ะวันตกปรากฏคร้งั แรกในเพลงสวดของคริสต์ศาสนาแล้วแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ในหมู่ชาวเมืองและสังคมของปัญญาชน เพลงโบงซอนฮวาโดยนักประพันธ์ ฮองนันพา นับเป็น งานดนตรีชิ้นแรกในประวัติศาสตร์การดนตรีซึ่งแต่งตามแบบตะวันตกเกาหลีท่ีได้รับความนิยม อยา่ งมากมาย การมเี พลงนี้ทาให้วงการดนตรีเกาหลเี บนออกจากอิทธพิ ลของดนตรแี บบเกา่ เรอ่ื ยๆ
17 ในส่วนของหนังสือจากสานักงานภาคโพ้นทะเลร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และสานักงานข่าวสารเกาหลีนั้น ผู้วิจัยได้นาเนื้อหามาใช้กับวัตถุประสงค์ข้อที่1 ท่ี กล่าวถึงข้อมูลของดนตรีเกาหลีและการร้องเพลงในอดีตว่าเป็นอย่างไร แล้วมีความสาคัญอย่างไร เพื่อใชใ้ นการอธิบายถึงการเปลีย่ นแปลงทเ่ี กดิ ข้ึน ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล (2539) เขียนหนังสือเร่ือง ลมหายใจ...ดนตรี...ชีวิต กล่าวถึง ดนตรีว่าเป็นสิ่งที่มีความผูกพันธ์กับชีวิตมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิด มารดาร้องเพลงกล่อมลูก จนกระท่ัง มนุษย์เจริญเติบโตขึ้น กิจกรรมต่างๆไม่ว่าการทางาน การกีฬาและพิธีกรรมต่างๆ ล้วนมี ความสัมพันธ์กับดนตรีท้ังสิ้น แม้กระมั่งสุดท้ายแห่งชีวิต ดนตรีก็ยังมีบทบาทสาคัญเช่นในบาง ศาสนา มีการขับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและส่งวิญญาณผู้วายชนม์ หรือการปฏิบัติเป็นธรรม เนยี มของผคู้ นทีม่ ักจะบรรเลงเพลงในงานศพ ดนตรีมีบทบาทสาคัญต่อผู้คนในสังคม ดนตรีมิใช่เป็นเพียงความพอใจอันเป็นส่วนเกินท่ี มนุษยแ์ สวงหา เพอ่ื ตกแตง่ ชีวติ ให้วิจิตรและมีสีสันและดนตรีมิได้มีไว้เพียงเพ่ือความสวยงามความ ไพเราะในแง่ของเสียงเท่าน้ันแต่ดนตรีมีบทบาทที่แน่นอนและสาคัญในชีวิตประจาวันที่จาเป็นต่อ การดารงชีวิตของมนุษย์ อย่างเช่นการฟังวิทยุ ฟังเพลงเพ่ือความผ่อนคลาย ฟังเพลงจากโทรทัศน์ เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล ยังได้กล่าวถึงต้นกาเนิดของดนตรีนั้นเกิดข้ึนจาก การท่มี นษุ ย์พยายามรอ้ งเพลง ร้องเลยี นแบบเสียงสัตว์ต่างๆรวมทั้งนกนานาชนิดเพ่ือจุดประสงค์ใน การลา่ จดุ นเี้ องทาใหน้ ักล่าสตั ว์เหลา่ นั้นเรยี นรู้ทจ่ี ะทาเสยี งจากการเปา่ หรือหวีดเสยี ง ผิวเสียงจากเขา สัตว์ กระดูกสัตว์ หรือปล้องไม้ไผ่เกิดเป็นนกหวีดอย่างง่ายๆซ่ึงก็นับได้ว่าเป็นเคร่ืองดนตรีช้ินแรก ของมนุษย์ โดยต่อมาเม่ือวิถีชีวิตมนุษย์พัฒนามีระบบระเบียบที่แน่นอนย่ิงข้ึน มนุษย์ก็พบว่าดนตรี สามารถใช้ในการประกอบกิจกรรมต่างๆได้แก่ 1. การกล่อมเด็กด้วยดนตรี นานเทา่ นานมาแล้วมนุษย์รู้ดวี ่าวธิ ที ี่ดีท่ีสุดในการชักจูงให้เด็ก เล็กๆนอนหลับน่ันก็คือการขับกล่อมด้วยเสียงเพลงที่ร้องสงบและอ่อนโยน อาจกล่าว ได้ว่าเพลงกล่อมเด็กเป็นดนตรีท่ีแสดงอารมณ์อันลึกซึ้งของมนุษย์ได้ดีที่สุดลักษณะ หน่งึ ท่ีมนษุ ยจ์ ะสร้างสรรคข์ ึน้ มาได้ 2. การนาดนตรีมาประกอบการทางาน ใช้เสียงเพลงประกอบการทางานบางอย่าง การ หว่านพืช การเก็บเก่ียวพืชผล การขนย้ายของขนาดใหญ่ท่ีต้องใช้คนหมู่มาก การ ทางานร้องเพลงไปก็ทาใหก้ ารออกแรงเปน็ ไปอยา่ งพร้อมเพรียงและใหง้ านเหล่าน้ันลด ความน่าเบ่อื ลงได้
18 3. การนาดนตรีมาใช้ในการส่ือสาร มนุษย์เราใช้เครื่องดนตรีประเภทเคาะ เช่น ระฆัง กลอง เป็นเคร่อื งดนตรใี นการสอ่ื สารเพอื่ การตา่ งๆเช่น สื่อสารเพื่อป้องกันภัย เพื่อบอก โมงยาม และเพ่อื สง่ ขอ้ ความสญั ญาณต่างๆเวลาฉุกเฉนิ 4. การนาดนตรีมาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทหาร ในสมัยก่อนเราส่งข้อความหรือคาสั่งใน ระยะทางไกลๆด้วยสัญญาณจากแตร เพลงปลุกใจใช้ประกอบการเดินทางไกลของ กองทัพ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตที่ต้องมีระเบียบวินัยเช่น การใช้แตรปลุก และแตรนอน ในคา่ ยทหาร 5. การนาดนตรีมาใช้ประกอบพิธีการ ในแอฟริกาชนเผ่าหลายเผ่าใช้กลองเป็นเคร่ือง ดนตรีศักด์ิสิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และสูงศักดิ์ ในบางประเทศก็จะใช้ ดนตรี นักร้องมาร้องเพลงประกอบพิธีกรรมต่างๆเช่นงานศพ หรืองานพระราชพิธี ต่างๆสาคัญภายในพระราชวังเพื่อเป็นส่ิงบันเทิงแก่ชนช้ันสูง ขุนนาง และ พระมหากษัตรยิ ์ 6. การนาดนตรีมาใช้ประกอบการแข่งขันกีฬา ก็เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกัน ปัจจุบนั มกี ารประพนั ธ์เพลงขึ้นเพ่ือใช้ในการแข่งขนั กีฬาระดบั โลกเช่นกีฬาโอลมิ ปกิ 7. การนาดนตรีมาใช้ประกอบพิธีบูชาทางศาสนา ในศาสนาโรมันคาทอลิกนั้นเพลงสวด มนต์มีบทบาทสาคัญต่อพิธีการทางศาสนา ส่วนลัทธิฮินดูพระกฤษณะทรงขลุ่ยเพื่อ ความงอกงามของพืชพันธ์ุ 8. การใช้ดนตรเี พอ่ื การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ เมอื่ เสร็จภาระจากงานประจาวนั มนษุ ย์เราก็ยังใช้ ดนตรีเพ่ือการพกั ผ่อนหยอ่ นใจ 9. ในวาระสดุ ทา้ ยของชวี ิต ดนตรกี เ็ ข้ามามบี ทบาทสาคัญพอสมควร จะเป็นพิธีงานศพใน หลายๆศาสนาเช่น โรมันคาทอลิก หรือโปรแตสแตนท์ ก็มีการขับร้องเพลงสรรเสริญ พระผู้เป็นเจ้า และสวดส่งวิญญาณผู้วายชนม์ในลัทธิเต๋า พิธีกงเต็กในงานศพก็ใช้บท เพลงเปน็ บทสวดสาหรับนกั บวช จากหนังสอื เล่มเดียวกันของดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล (2539) ยังได้กล่าวถึงการประกวด ร้องเพลงต่างๆว่าเป็นการพัฒนานักร้องให้มีมาตรฐาน และเพ่ือยกระดับค่านิยมของเยาวชนและ ประชาชนท่ีมีต่ออาชพี นักร้อง มากกว่าจะจัดเพื่อส่งเสริมประโยชน์ทางการค้าหรือโฆษณา แต่ทั้งนี้ การประกวดร้องเพลงเวทีตา่ งๆกม็ ีท้ังขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ตอ่ ผู้เขา้ ประกวดเชน่ กนั ในส่วนด้านดีท่ีอาจจะ เกิดข้นึ คือ
19 1. เปน็ สือ่ ในการกระตนุ้ ใหเ้ ยาวชนไดใ้ ช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์และมีงานอดิเรกในเชิง สร้างสรรค์ 2. เยาวชนไดฝ้ ึกฝนความรู้ความสามารถทางด้านทักษะการขับร้องและการแสดงต่อหน้า สาธารณะชน กระตุ้นความสามารถในการขับร้องให้พัฒนาได้อย่างรวดเร็วใน ระยะเวลาอันสั้น 3. เป็นการยกระดบั ความสามารถในการขบั ร้องเพลงประเภทต่างๆให้สูงข้ึน 4. ทาให้เยาวชนต้องเอาใจใส่ในการฝึกซ้อม มีความอดทนขยันหม่ันเพียรและรู้จักรักษา ระเบยี บวนิ ัย 5. เสริมสรา้ งมิตรภาพระหวา่ งเยาวชนท่ีมาจากตา่ งสถาบันไดม้ โี อกาสรู้จักกัน แลกเปล่ียน ความรู้ความสามารถซึ่งกันและกัน มิตรภาพท่ีดีจะก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่ดีใน อนาคต ชว่ ยใหเ้ ยาวชนเตบิ โตเป็นบคุ คลที่มคี ุณภาพ 6. พฒั นาน้าใจนกั กีฬา รแู้ พร้ ้ชู นะ ยอมรับสภาพความสมหวังและผิดหวัง และเรียนรู้ท่ีจะ นาความรู้สึกไม่สมหวังน้ันกลับมาเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดพลังในการพัฒนาตนเองให้ ได้ดีย่งิ ขน้ึ ในส่วนดา้ นลบทีอ่ าจเกดิ ขึน้ คือ 1. ถ้าผู้เข้าประกวดไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของการประกวด ขาดความมีน้าใจนักกีฬาอาจทา ใหเ้ กิดความชิงดีชิงเด่น หรอื อจิ ฉารษิ ยากนั ได้ 2. เม่ือผู้ชนะเลิศไมได้มีเพียงแค่คนเดียว “ผู้แพ้” อาจเกิดอาการความรู้สึกท้อถอย หมด อาลัยตายอยาก หมดกาลังใจทจี่ ะบากบ่ันสตู้ ่อไป 3. หมกมุ่นกับการฝึกซ้อมมากเกินไป จนไม่สามรถแบ่งยกเวลาเร่ืองเรียน หรือเรื่อง สว่ นตวั ทาให้เสยี การเรยี น เสียงาน 4. มองแค่เปลือกนอกของการแข่งขันประกวด ให้ความสาคัญทางรูปแบบมากกว่าสาระ เชน่ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับเส้ือผ้าเคร่ืองแต่งกาย ทาให้หมด เปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ บาง รายอาจสร้างหนี้สินใหก้ ับตวั เองดว้ ย จากบทความดังกลา่ วผูว้ ิจัยสามารถนามาใชส้ อดคล้องกับวตั ถปุ ระสงคท์ ัง้ ในข้อท่ี1และ2ได้ ในส่วนของการเปล่ียนแปลงของนักร้อง เราต้องดูว่าในอดีตมีการนาดนตรีมาใช้อย่างไรบ้าง ดนตรี
20 มีทีม่ าอยา่ งไร และการขบั รอ้ งดนตรีมีไวเ้ พ่อื อะไร มนุษย์เราใช้ดนตรีเพ่ือส่ืออารมณ์ต่างๆแห่งความ เป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์แห่งความรัก อารมณ์ความห่วงหาอาลัย ความอึดอัดกระวนกระวาย ใจ ความโศกเศร้าและความสุข ส่ิงเหล่าน้ี เราต้องใช้ดนตรีจากนักร้องในการขับกล่อมเพ่ือบรรเทา ความทุกข์ สร้างความสุขแก่มนุษย์เรา และการเป็นนักร้องปัจจุบันสามารถทาได้โดยเข้าร่วม ประกวดร้องเพลงบนเวทีประกวดต่างๆ เป็นการเปิดกว้าง เปิดโอกาสมากข้ึน แต่ทั้งนี้ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียในตัวของมันเองเช่นเดียวกัน ซึ่งน่ันอาจเป็นปัญหาและอุปสรรคของการเป็นนักร้องก็ เป็นได้ ชูพินิจ เกษมณี (2546) เขียนหนังสือเรื่องสาระน่ารู้เกี่ยวกับเกาหลี กล่าวว่าดนตรีเป็นวิถี บวงสรวงในศาสนาและธรรมเนียมประเพณีสืบเนื่องมาตลอดยุคสามอาณาจักร ในสมัยโคคูรยอมี ดนตรีสามประเภทคือ ดังกกั หมายถึงดนตรจี ากราชวงศ์ถังของจีน เฮียนกัก หรือดนตรีหมู่บ้าน และ อัก หรือดนตรีในราชสานัก ดนตรีสมัยโคคูรยอนิยมเล่นในงานพิธีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพิธี เคารพบรรพบุรุษ ระหว่างยุคโชซอน ดนตรีถือกันว่าเป็นส่วนประกอบท่ีสาคัญในการทาพิธีใน ศาสนา และการประกอบพธิ ตี า่ งๆ นาฏศิลป์พื้นบ้านรวมถึงระบาของชาวนา ระบาของหมอผีและระบาของพระ กลายเป็นท่ี นิยมสมัยโชซอน รวมท้ังระบาหน้ากากที่เป็นการผสมผสานระหว่างการเต้นและการเล่าเรื่อง รวมทั้งมีเร่ืองราวของการเข้าทรง จึงสามารถเข้าถึงชนชั้นระดับล่างได้มาก การแสดงนี้จะเน้นการ เสียดสีล้อเลียนพวกผู้ดีซึ่งชาวบ้านจะชอบมาก นาฏศิลป์แบบด้ังเดิมเหล่าน้ีได้รับอิทธิพลจากขงจื๊อ และพุทธศาสนา หนังสือเรียนวิชาภาษาเกาหลี มหาวิทยาลัยอีฮวา (2553) กล่าวถึงเพลงป๊อปของประเทศ เกาหลเี ร่ิมต้นถอดแบบจากเพลงของฝั่งตะวนั ตกแล้วนามาร้องตง้ั แต่ปลายศตวรรษที่ 19 เช่น แดนซ์ บัลลาด(เพลงช้า) ร็อค โฟ้ค ทรอท เป็นต้น เม่ือเข้าสู่ปี 1980 วงการเพลงก็ได้เกิดวัฒนธรรมรูปแบบ ใหม่ที่เรียกว่า “บูแดโอปป้า (กลุ่มพี่ชาย)” เป็นจุดเร่ิมต้นของพายุเพลงแดนซ์ นักร้องที่เป็นตัวที่ วัฒนธรรม “โอป้าบูแด” คือ โจยงพิล ซึ่งเป็นนักร้องที่ช่วยปลูกฝังความรู้สึกร่วมของคนเกาหลีโดย ใช้ความรู้สึกใหม่ๆกับจังหวะท่ีแตกต่างจากดนตรีดั้งเดิมและไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ที่ ได้รับการตอบรับจากวัยรุ่นทุกคน มีกลุ่มแฟนคลับข้ึนเป็นคร้ังแรกของเกาหลี การเพ่ิมข้ึนของแฟน คลับเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ท่ีเรียกว่า พายุดนตรีแดนซ์ ในวงการเพลง เกาหลีและถือกาเนิดนักร้องที่มีความสามารถในการเต้นและจังหวะที่สะดุดตาขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ เสียงเพลงเท่าน้ัน แตย่ งั รวมถงึ ความนยิ มของเคร่อื งแต่งกายและการเตน้ อกี ด้วย ส่งอิทธิพลอย่างมาก ต่อวัยรุ่นโดยมีความหมายมากกว่าการเป็นนักร้อง เขาเป็นความใฝ่ฝันของนักร้องส่วนใหญ่ที่มี
21 ชอ่ื เสียงอยู่ในปัจจุบัน จนถึงตอนน้ีเขายังคงเป็นนักร้องที่มีอิทธิพลอย่างมากจนกลายเป็นแบบอย่าง ให้กับคนจานวนมากทีม่ คี วามฝนั อยากจะเป็นนักร้อง ครึง่ หลังของปี 1990 เปน็ ตน้ มา ได้ถือกาเนิด TVXQ S.E.S. H.O.T. ท่ีได้รับการฝึกฝนตั้งแต่ อายุยังน้อยผ่านบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านบันเทิง รวมไปถึงการปรากฏตัวของกลุ่มไอดอล อย่าง 2PM SNSD BigBang ด้วย ไม่เพียงแต่จะแสดงโชว์และรูปลักษณ์ภายนอกท่ีโดดเด่นใน ประเทศเกาหลี แต่ยังไดร้ บั ความสนใจจานนวนมากไปถึงประเทศภายนอก จากหนงั สือเล่มนี้ผู้วจิ ยั ไดท้ ราบขอ้ มลู เกย่ี วกับพฒั นาการของเพลงเกาหลีและนักร้องเกาหลี ในชว่ งปี1980จนถงึ ปัจจบุ นั วา่ มีพฒั นาการเริ่มต้นจากตะวันตกและค่อยๆเปล่ียนแปลงแนวเพลงไป ในทิศทางต่างๆจนกระท่ังกลายเป็นวัฒนธรรมK-POPอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซ่ึงสอดคล้องกับ วตั ถปุ ระสงค์ข้อ1 สุวรรณา เกรียงไกรเพช็ ร์ และคณะ (2553) ได้เขยี นหนงั สอื รวมบทความและบทเสวนาจาก การประชุมประจาปี ครั้งท่ี 8 เร่ือง ผู้คน ดนตรี ชีวิต เล่ม2 เสียงของประเทศไทย กล่าวไว้ว่า เสียง เปน็ เรอ่ื งใกลต้ ัวและอยูใ่ นชวี ิตประจาวนั ของผู้คน ทง้ั นี้เพราะเสยี งไมใ่ ช่เปน็ เร่ืองของการได้ยินเพียง อย่างเดียว หากเป็นการสื่อสารสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในวัฒนธรรมต่างๆ ด้วยกัน เช่น ในสังคมอาจมีเครื่องดนตรีและการร้องเพลงซึ่งใช้เสียงเรียบง่ายสอดคล้องกับระบบ นิเวศนร์ อบตัว ขณะทกี่ ารก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนการเกิดข้ึนของดนตรีแนวใหม่ต่างๆเพื่อ รองรับกบั การไหลบ่าของผคู้ นต่างวฒั นธรรม ที่กลายเปน็ แรงงานในเมืองใหญ่ เป็นตน้ ในโลกสมัยใหม่ เสียง ย่ิงมีบทบาทสาคัญและส่งอิทธิพลต่อมนุษย์อย่างมาก ท้ังในด้าน สร้างสรรคแ์ ละการก่อให้เกิดปัญหา ในด้านสังสรรค์เราจะพบว่าเริ่มมีการใช้เสียงเพลงเป็นส่ือแทน ความคิดและตัวตนของผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือกลุ่มวัฒนธรรมย่อยต่างๆมากข้ึน หรือการท่ีใน วงการแพทย์นาเสยี งดนตรมี าใชเ้ ยยี วยาบาบัดผูป้ ว่ ยซึง่ นับเป็นวธิ กี ารทสี่ ร้างสรรคเ์ ช่นกัน สาหรบั ในดา้ นปญั หาน้ัน เสียง ได้กลายมาเป็นมลภาวะอย่างหน่ึงที่เข้ามาก่อกวนชีวิตความ เป็นอยู่ของคน อาทิ การเคลื่อนไหวของชุมชนใกล้สนามบิน เสียงจราจรบนท้องถนน รวมไปถึง เสียงระเบิดและปืน ดังนั้น การทาความเข้าใจเกี่ยวกับเสียงท้ังในลักษณะที่เรียบเรียงเป็นดนตรีและ เสียง ในลักษณะท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ หรือเกิดข้ึนจากเทคโนโลยีของมนุษย์ จึงกลายเป็น สะพานเชื่อมเราไปทาความรู้จักกับตัวของเราเอง รู้จักผู้คนต่างวัฒนธรรม และเข้าใจถึงมิติต่างๆซ่ึง ซอ่ นเรน้ อยรู่ อบตัวในชวี ิตประจาวนั ของเรา
22 นอกจากน้ี ดนตรกี บั การเมอื งเปน็ สนุ ทรียภาพอย่างหนึ่งที่มีมิติทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีและอานาจ ท้ังในด้านการครอบงาและ ต่อต้านขัดขืนผ่านมุมมองต่างๆ ตลอดจนประสบการณ์ทางดนตรีพื้นบ้านไอริช ซึ่งถือเป็นบทเรียน สาคัญของดนตรีต่อต้านโลกท่ีสาคัญ ในมุมมองทางมานุษยวิทยา และการเช่ือมโยงอานาจของสื่อ สมัยใหม่กับดนตรีให้สัมพันธ์กัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ร่วมสมัยท่ีสาคัญในปัจจุบัน อาทิเช่น ปรากฏการณ์รายการอะคาเดมแี ฟนทาเชีย เปน็ ต้น จากบทความขา้ งตน้ ผ้วู ิจัยสามารถนามาอธบิ ายถึงวตั ถุประสงค์ในข้อท่ี1 คือเสียงและดนตรี น้ันมีอยู่รอบๆตัวเรา ในชีวิตประจาวันของเราน้ันต้องมีเสียงดนตรีเป็นส่วนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา และ เม่อื เทคโนโลยีกา้ วไกล ไดม้ กี ารพัฒนาเสียง ตลอดจนพัฒนาเครื่องดนตรีต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับ วัฒนธรรม และเสียงก็ยังมีบทบาทท้ังด้านดีและด้านเสีย ท้ังยังแสดงให้เห็นถึงอานาจของดนตรี อย่างในอดีตของเกาหลี จะมีการร้องเพลงเพื่อให้กษัตริย์ฟังเท่าน้ัน จะร้องเพลงใช้ประกอบการทา พิธีกรรมตา่ งๆ เปน็ ต้น จาก www.kapook.com โดย allkpop.com (2555) พูดถึงค่ายเพลงว่าเป็นปัจจัยสาคัญในการ ขยายตลาดของวงการบนั เทงิ เกาหลี เพราะค่ายจะทาหน้าที่ผลิตศิลปินออกมาสู่ท้องตลาด ซึ่งกว่าจะ ออกมาได้นั้น ก็ต้องผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี และได้กล่าวถึงขั้นตอนการเป็น นักร้องเกาหลีซึ่งประกอบไปด้วยกระบวนการท้ังหมด 7 ข้ันตอนได้แก่ การคัดตัว ลบข้อด้อยทาง ความสามารถ ลบข้อด้อยทางกายภาพ ซ้อมเพลงโชว์ เปิดตัว ออกอัลบ้ัมและสร้างกลุ่มศิลปินใหม่ ทดแทน บทความน้ีได้พูดถึงกระบวนการการเป็นนักร้องซ่ึงมีความคล้ายกับหนังสือเรื่อง กระบวนการเป็นโสเภณที ่กี ล่าวถงึ ขั้นตอนการเปน็ นกั รอ้ งเกาหลี ผู้วิจัยได้ใช้แนวคิดนี้เป็นส่วนหนึ่ง ในการวิจัยเพอื่ ให้สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงคใ์ นขอ้ ท่ี2 7. ผลการวจิ ัย/ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู (Analysis Results) วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ที่1การเปลยี่ นแปลงของนกั รอ้ งเกาหลจี ากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั สามารถจัดแบง่ ชว่ งเวลาออกเปน็ ห้ายุคดังน้ี 1 ยุคดนตรกี ับพิธีกรรม (ราชวงศชิ ินลา-ราชวงศ์โชซอน)
23 สังคมเกาหลีในอดีตต้ังแต่อาณาจักรชินลาจนถึงสมัยอาณาจักรโชซอนยังเป็นสังคม เกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวนาปลูกพืช เล้ียงสัตว์ และมีระบบการปกครองแบบเผด็จ การ มีการจัดลาดับช้ันของคนในสังคม โดยมีศาสนาและความเช่ือเป็นหลักในการดาเนินชีวิต นักร้องในยุคแรกของเกาหลีน้ันจึงจะเป็นท่ีนิยมในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา(งานศพ)และ ธรรมเนยี มประเพณีสบื เน่อื งมา เพื่อเป็นการรอ้ งเพลงให้ผูต้ ายไดไ้ ปสสู่ ขุ คติ และดนตรีในราชสานัก เพือ่ สร้างความบันเทิงในงานเลี้ยงแกข่ นุ นางและกษัตริย์ ความสาคญั ของนักร้องเกาหลีในยุคนี้ส่วน ใหญ่จะเป็นการร้องเพลงในราชสานัก เพ่ือขับกล่อมบรรเลงเพลงแก่กษัตริย์และใช้ประกอบ พิธีกรรมต่างๆ ส่ิงเหล่านี้ทาให้นักร้องเกาหลีในยุคน้ีมีหน้าที่ร้องเพ่ือตอบสนองความต้องการของ ผู้อ่ืน และทาไปเพ่ือรูปแบบพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนการร้องเพลงเพื่อความสุข ความบันเทิงแก่ ตนเองนั้นก็จะเป็นการร้องเพลงเกี่ยวข้าว เพื่อเรียกขวัญกาลังใจ และสร้างความสามัคคีกันในหมู่ คณะ 1.1 ลกั ษณะ ในยคุ นย้ี ังไม่มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับนักร้องเกาหลีปรากฏแน่ชัด แต่จาก การศกึ ษาพบวา่ มกี ารแบ่งดนตรอี อกเปน็ 2ประเภท คือ - ชองอกั คอื ดนตรใี นราชสานกั ของชนช้นั ปกครอง เล่นเพื่อความบันเทิงในงานเล้ียงแก่คน ในราชสานัก(ขุนนาง,กษตั รยิ ์) โดยมีคนเลน่ ดนตรแี ละร้องเพลงไปด้วย - มนิ ซกอัก คอื ดนตรีพนื้ เมอื งสามญั ชน ประชาชนจะรว่ มกันร้องราทาเพลงในการเก็บเก่ียว พืชผลทางการเกษตร, พิธีกรรมทางศาสนา(งานศพ) โดยผู้ขับร้องเพลงในพิธีกรรมทางศาสนาจะ เรียกว่า ”มูดงั ”โดยจะรอ้ งเพลงประกอบกับเลน่ เครื่องดนตรีหลากหลายชนิด นอกจาน้ีหลักฐานที่ถูกค้นพบคือเคร่ืองดนตรีมากกว่า 30 ชนิดโดยเฉพาะเครื่องดนตรีท่ี เรยี กวา่ เฮียนฮกั กึม หรอื ทีเ่ รยี กกันว่าขิมนกกระเรียนดา ซ่ึงประดิษฐ์ขึ้นโดยการประยุกต์ขิมเจ็ดสาย ของราชวงศ์ฉินของประเทศจีน และเครื่องดนตรีท่ีเรียกว่าคายากึมก็มีชื่อเสียงอย่างมากเช่นกัน ซึ่ง เครอ่ื งดนตรเี หล่าน้ีล้วนถกู ใชใ้ นการร้องราทาเพลงเพ่อื ความบันเทิงแก่กษัตริย์ (สานักงานสารนิเทศ ภาคโพน้ ทะเล สาธารณรฐั เกาหลี, 2536 : 140 ) ในสมัยโครยอน้นั มีธรรมเนียมการดนตรีอย่างสมัยชินลาในยุคแรกๆ แต่มีการเปล่ียนแปลง พัฒนาในเวลาต่อมา ซึ่งในสมัยโครยอมีดนตรีแบ่งออกเป็น3ประเภท คือ ดังกัก คือรูปแบบดนตรี ท่มี าจากราชวงศ์ถงั ของจนี เฮยี นกักหรอื ดนตรีหมู่บ้าน และ อัก ดนตรีในราชสานัก ดนตรีเหล่าน้ีใช้ เล่นในงานพิธีต่างๆโดยเฉพาะอย่างย่ิงในพิธีเคารพบรรพบุรุษ และต่อมาในสมัยโชซอนมีการ
24 ผสมผสานความหลากหลายด้วยการนาเอานาฏศิลป์ของราชสานักและศาสนาจากราชวงศ์ซ้องของ จีนเข้ามาด้วย ดนตรีจึงถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สาคัญในการทาพิธีในศาสนา และการประกอบ พิธีกรรมต่างๆ ในตอนปลายของยุคนี้มีการเข้ามาของดนตรีตะวันตกซ่ึงเข้ามาพร้อมกับเพลงสวด ของศาสนาครสิ ตแ์ ต่ก็ไมไดส้ ่งอิธิพลตอ่ วงการดนตรีเกาหลีเท่าใดนัก โดยความสัมพันธ์ของนักร้อง และผู้ฟังในยุคน้ีจะเป็นแบบตัวต่อตัว คือมีการร้องราทาเพลงให้เห็นต่อหน้าและนักร้องจะได้ สงิ่ ของหรือเงนิ เล็กๆนอ้ ยๆตอบแทน 2. ยคุ เกาหลภี ายใต้การปกครองของญ่ีปุ่น (1910-1945) ในยคุ น้ีเกาหลีถูกญ่ีปุ่นเข้ามารุกรานภายในประเทศ โดยฝ่ายญ่ีปุ่นผู้รุกรานมีโทโยโทมิ ฮิเด โยชเิ ป็นผู้นาประเทศญ่ีปุ่นที่เพิ่งจะเป็นปึกแผ่นอีกคร้ังหลังผ่านช่วงยุคสงครามกลางเมือง เป้าหมาย ของฝา่ ยญ่ปี ่นุ ในการทาสงครามครง้ั น้ี คือการยึดครองเกาหลี นอกจากความสญู เสียชีวิตของพลเรือนแล้ว เกาหลียังประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ต่อวัฒนธรรม, เศรษฐกิจ และสาธารณูปโภคมูลฐาน รวมไปถึงพ้ืนท่ีเกษตรกรรมจานวนมากท่ี เสียหายจนมิอาจจะทาการเพาะปลกู ได้ มงี านศิลปะ, เคร่อื งมือ และเอกสารทาคัญทางประวัติศาสตร์ ของเกาหลีมากมายถูกยึดครองและทาลาย ช่างเทคนิกและช่างฝีมือของเกาหลีหลายคนถูกลักพาตัว ในชว่ งสงครามนี้ ราชวังสาคัญอย่าง คยองบกกุง, ชางโตกกุง และ ชางกยอนกุงถูกเผาทาลาย ทาให้ ต้องมีการสร้างราชวังชังดอกกุงขึ้นมาเพื่อใช้งานชั่วคราว นอกจากนี้พ้ืนที่คาบสมุทรส่วนใหญ่ถูก ทาลาย สมบัตแิ ละเคร่อื งมือท่ีมีค่าทางวัฒนธรรมจานวนหนึ่งถูกปล้น ญ่ีปุ่นสนับสนุนนโยบายผสม กลมกลืนเพ่ือให้ชาวเกาหลียอมรับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ภาษาญ่ีปุ่นถูกนามาใช้ในโรงเรียนเกาหลี และ ชาวญ่ปี นุ่ ถูกบังคับให้เปลี่ยนชื่อเป็นแบบญี่ปุ่น รวมท้ังระบบการปกครองแบบกษัตริย์ราชสานักได้ หายไป ทาให้ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆรูปแบบพิธีกรรมทางราชสานักก็ได้หายไปด้วย ใน ระหวา่ งช่วงเวลาน้ีสมบัติและเครื่องมือท่ีมีค่าทางวัฒนธรรมถูกนาไปญี่ปุ่นและบัดน้ียังไม่ได้รับคืน มา การเข้ามามีอานาจของญี่ปุ่นต่อเกาหลีคร้ังน้ีทาให้เกิดความเครียดแก่ประชาชนคนเกาหลี อย่างมาก ดังน้ัน ญ่ีปุ่นจึงได้ก่อต้ังระบบวิทยุกระจายเสียงข้ึนท่ีประเทศเกาหลี และได้นาเอาแนว เพลงแบบญี่ปุ่นมาใช้ในการบันทึกแผ่นเสียงเพลงในประเทศเกาหลี จึงทาให้เกิดเป็นนักร้องสไตล์ ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นญ่ีปุ่นกับความเป็นเกาหลีท่ีเรียกว่าแนวTrot หรือภาษาเกาหลี เรียกกันว่า มินโย และยังมีแนวเพลงโฟล์ก หรือเพลงFolk song ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก โดย นักรอ้ งหญิงคนแรกคือ Yun Sim Deok ไดร้ ับความนยิ มอยา่ งมาก ณ ขณะนัน้ 2.1 ลักษณะ
25 จากบรบิ ทดงั กล่าวทาใหว้ ฒั นธรรมเก่าๆรูปแบบขนบธรรมเนยี มประเพณีต่างๆหายไป รวม ไปถึงมูดังก็ได้ถูกทาลายหายไปด้วย ทาให้ในยุคน้ีมีนักร้องใหม่เกิดขึ้นเรียกว่า “คาซู” โดยจะเป็น นักร้องเดี่ยว ไม่ได้เป็นนักร้องอาชีพท่ีร้องเพลงเพื่อหาเงินจริงๆจังๆ แต่เป็นเพียงแค่นักร้องผู้ให้ ความบันเทิงแก่ผู้อื่น อยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ของนักร้องกับผู้ฟังในยุคน้ีแตก ตากจากในยุคก่อน เนื่องจากเมื่อมีการก่อต้ังวิทยุกระจายเสียงทาให้นักร้องสามารถร้องเพลงให้คน ฟังไดอ้ ยา่ งท่วั ถึงมากข้ึนกว่าเดิม แต่อยา่ งไรก็ตามเปน็ การร้องเพลงผ่านส่ือกระจายเสียงท่ีทาให้ผู้ฟัง ไมส่ ามารถมปี ฏสิ มั พนั ธ์หรอื มองเห็นหนา้ นกั ร้องได้ตัวต่อตัวแบบการร้องเพลงในราชสานัก จะมีก็ แต่เหล่าทหารเทา่ นั้นท่สี ามารถมองเหน็ และสมั ผสั ถึงการโชวข์ องนักรอ้ งได้ 2.2 บทบาท เนื่องจากเกิดความเครียดแก่ประชาชนคนเกาหลีอันเป็นผลมาจากการที่เกาหลีถูกญ่ีปุ่นเข้า ปกครอง และเหล่าทหารญีป่ นุ่ กต็ ้องการสิ่งบนั เทิงเพ่อื ผ่อนคลายความเหนือ่ ยล้าและความกดดันจาก ภาวะทางการเมือง ดังนั้นจึงเกิดนักร้องขึ้นมาท่ีคอยร้องเพลงเพื่อตอบสนองต่อความเครียดของคน เหล่าน้ี นกั ร้องในยคุ นจ้ี ึงร้องเพลงเพ่อื ตอบสนองความบนั เทงิ แก่ผูอ้ ื่นเป็นหลัก ร้องให้ประชาชนฟัง และทส่ี าคัญเปน็ การร้องเพอื่ ทหารญีป่ ่นุ 2.3 ตวั อยา่ งนกั ร้องในยุคน้ี ขอ้ มลู รายละเอยี ดของนกั ร้องในยุคนไี้ ม่มปี รากฏมากนัก - Yun Sim Deok - Lee Aerisoo - Son Seouk U - Nam In Su - Han Myeong Suk - Jung Hoon Hee - Hyun In
26 3.ยุคสงครามเกาหลี (1950-1970) ช่วงเวลานั้นได้เกิดสงครามเกาหลีข้ึนซึ่งเป็นความขัดแย้งทางทหารระหว่างสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) กับสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยเกาหลีเหนือ ได้รับการสนับสนุนทางการทหารจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียต ส่วนเกาหลีใต้ ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ ระหว่างสงคราม ทั้งเกาหลี เหนือและเกาหลีใต้ต่างก็ได้รับการสนับสนุนจากชาติมหาอานาจ ทาให้สงครามดังกล่าวแปรสภาพ จากสงครามกลางเมืองไปสู่สงครามตัวแทนระหว่างข้ัวอานาจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเย็น (korean01 , 2552 : ออนไลน)์ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทาให้เกาหลีใต้ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจาก สหรัฐอเมรกิ าไมเ่ พยี งแตท่ างดา้ นกองกาลังทหารเท่าน้ัน อเมริกายังนาเอาวิทยาการเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาและเงินทุนนามาซึ่งเพ่ือพัฒนาประเทศเกาหลี รวมไปถึงศิลปะความบันเทิง แนวเพลงต่างๆก็ มีความเป็นตะวันตกมากขึ้น เช่น แนวเพลง Jazz, Ballad, Blue, Cha Cha Cha, Dance เป็นต้น ย่ิงไป กว่าน้ันมีการก่อต้ังโรงเรียนดนตรีเกาหลีแห่งแรก และมีเพลงแนวตะวันตกเพลงแรกซ่ึงคือเพลงพา ซนฮวา นับเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การมีเพลงนี้ทาให้วงการเพลงเกาหลีเบนออกจาก อทิ ธิพลของดนตรแี บบเก่ามากขนึ้ เมือ่ เพลงดนตรีไดร้ บั ความนยิ มมาก ทาให้เกิดอาชีพนักร้องท่ีร้อง เพลงเพ่ือหาเงิน ไม่ได้ทาเพราะให้ความบันเทิงอย่างเดียว สิ่งนี้ทาให้นักร้องเกาหลีได้มีความ แตกตา่ งไปจากเดมิ 3.1 ลกั ษณะ นักร้องในยุคน้ีเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นเพราะแนวเพลงมีความหลากหลายอัน เน่ืองมาจากการรับเอาแนวเพลงตามแบบอเมริกาเข้ามา เกิดเป็นนักร้องอาชีพขึ้น ยังคงรูปแบบ ศิลปินเดี่ยวอยู่ ความสัมพันธ์ของนักร้องในยุคน้ีกับผู้ฟังก็มีทั้งแบบเห็นหน้าต่อหน้า เห็นผ่าน โทรทศั นแ์ ละได้ยินเพียงแค่เสียงผา่ นวทิ ยุ เมื่อเทคโนโลยเี ปลยี่ น ความสัมพันธ์ของนักร้องกับคนฟัง ก็เปลยี่ นตามไปดว้ ยเช่นกนั 3.3 บทบาท นักร้องในยุคน้ียังคงมีความคล้ายคลึงกับยุคก่อนหน้าตรงท่ีนักร้องจะร้องเพลงเพ่ือความ บันเทิงแก่ผู้อื่นเป็นหลัก โดยจะร้องเพื่อมอบความบันเทิงแก่ประชาชนและทหารอเมริกา มีการจัด คอนเสริ์ตเกิดข้ึนของเหล่าทหารอเมริกาท่ีเรียกว่า US Army shows เพ่ือคลายเครียดจากภาวะทาง การเมืองและสงครามอยู่ แต่ก็เร่ิมมีนักร้องอาชีพเกิดข้ึนในยุคนี้เช่นกัน เป็นการร้องเพลงเพื่อตัวเอง
27 สืบเนื่องมาจากมีการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์และเดิมท่ีมีวิทยุกระจายเสียง ทาให้เกิดการขยายตัวของ ส่ือมากยิ่งขึ้น ประชาชนก็สามารถบริโภคสื่อได้ง่ายขึ้น จึงเกิดเป็นอาชีพนักร้องเพ่ือสร้างรายได้แก่ ตนเอง 3.4 ตัวอยา่ งนกั ร้องในยุคนี้ Gil Ok Yun Lee Bong Jo Shin Jung hyun Kim Choo Ja Kim min gi Han Dae Soo 4. ยคุ ฟ้นื ฟวู ฒั นธรรมเกาหลี (1960-1995) ภายหลงั จากเหตกุ ารณค์ วามไมส่ งบต่างๆในประเทศเกาหลีได้ก่อให้เกิดผลกระทบเสียหาย อย่างมากตอ่ ประเทศเกาหลี เกาหลีจึงเร่งผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจอย่างจริงจัง อุตสาหกรรมต่าง ๆ ต่ืนตัวและพร้อมที่จะเดินหน้าเพ่ือทัดเทียมกับนานาประเทศ จุดเปลี่ยนแปลงที่ ทาให้เกิดความสาเร็จจุดน้ี ทาให้ประเทศเกาหลีได้รับการยอมรับว่าเป็นดินแดนท่ีเกิดความ \"มหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจบนลุ่มแม่น้าคัง\" ซึ่งหมายถึงแม่น้าท่ีไหลผ่านกรุงโซลนั่นเอง เกาหลีต้อง หันมาให้ความสนใจตอ่ การเรง่ ฟืน้ ฟปู ระเทศและฟื้นฟวู ัฒนธรรมตา่ งๆที่เสียหายไป ดังน้ันเกาหลีจึง ได้ตัดสินใจเลือกอุตสาหกรรมด้านบันเทิงเพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งออกเชิงวัฒนธรรม อีกท้ัง รัฐบาลเกาหลผี ลกั ดนั นโยบายในการสง่ ออกสินค้าอุตสาหกรรมบันเทิงด้านเทคโลยีสารสนเทศเป็น 1 ใน 5 ของอตุ สาหกรรมหลักของประเทศนบั แต่ปี 1970 เปน็ ต้นมา ในวันนี้ อุตสาหกรรมบันเทิง แหง่ ประเทศเกาหลี กม็ คี วามเจริญเตบิ โตไม่แพอ้ ตุ สาหกรรมชนิดอื่น ด้วยนโยบายก้าวหน้าที่รัฐบาล เกาหลสี ร้างขน้ึ มาเพอื่ ส่งเสริมสนบั สนุนการผลิตสือ่ บันเทงิ อย่างจริงจงั และเม่ือนโยบายเหล่านั้นได้ รวมตัวกับลกั ษณะนสิ ัยที่มคี วามพยายามและต้ังใจจริงของชาวเกาหลี ทาให้คาตอบของความสาเร็จ ชดั เจนข้นึ (จิติศักด์ิ , 2555 : ออนไลน)์ ถา้ แบ่งการเปลี่ยนแปลงเพลง และนักร้องเกาหลอี อกเป็นตามชว่ งเวลา สามารถแบง่ ได้ดงั นี้
28 1960 เข้าสู่ปี 1970 เพลงป๊อปของเกาหลีก็ได้เกิดการเปล่ียนแปลงคร้ังยิ่งใหญ่ เป็นเป็นการ เปลีย่ นแปลงอยา่ งฉบั พลนั ทางด้านสงั คมและเศรษฐกิจ และวัยรุ่นในยุคน้ีต้องการจะพิสูจน์การมีอยู่ ของตนเองผ่านวัฒนธรรม เรียกส่ิงน้ีว่าวัฒนธรรมสมัยใหม่(วัฒนธรรมวัยรุ่น) วัยรุ่นสมัยใหม่กับ สถานการณ์การเมืองท่ีไม่ค่อยดีนักรับเอาวัฒนธรรมฮิปปี้ของเมริกาและวัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ามา เริ่มตน้ ตอ่ ต้านระบบเดิมทมี่ อี ยูก่ ่อนหน้าและโต้เถียงกับวัฒนธรรมด้ังเดิม วัฒนธรรมสมัยใหม่เช่นนี้ ถูกแทนที่ด้วย กีตาร์ กางเกงยีนส์และเบียร์สด เน่ืองจากส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา จึงเปิดเข้าสู่ยุคสมัย ของดนตรีโฟล์คแบบใหม่โดยมีศูนย์กลางเป็นมหาวิทยาลัย เพลงป๊อปจึงกลายเป็นดนตรีท่ีคนวัยรุ่น ชอบฟงั และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของคนสมัยใหม่ตั้งแต่สมัยน้ีเป็นต้นมา ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรม เพลงปอ๊ ปเกิดข้นึ เมื่อเข้าสู่ปี 1980 วงการเพลงก็ได้เกิดวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “บูแดโอป้า (กลุ่ม พี่ชาย)” ทเ่ี รียกแฟนเพลงในยคุ 80 และเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสเพลงแดนซ์ โดยนักร้องที่เป็นตัวท่ี วัฒนธรรม “โอป้าบูแด” คือ โจยงพิลท่ีร้องเพลง ทลลาวาโย พูซันฮังเง เป็นนักร้องท่ีฟังดนตรี หลากหลายแนวโดยเน้นที่เพลงร็อค เป็นนักร้องท่ีช่วยปลูกฝังความรู้สึกร่วมของคนเกาหลีโดยใช้ ความรู้สึกใหม่ๆกับจังหวะที่แตกต่างจากดนตรีดั้งเดิมและไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ทาให้ เขาได้รับการตอบรับจากวยั รุ่นทกุ คน เขาประสบความสาเรจ็ ขนาดที่มีกลุม่ แฟนคลับเกิดข้ึนเป็นครั้ง แรกของเกาหลี โดยเป็นผู้บุกเบิก “โอป้า บูแด” ที่ถูกแสดงถึงวัฒนธรรมสังคมปัจจุบัน การเพ่ิมข้ึน ของแฟนคลับเป็นไปอย่างต่อเน่ืองและเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เรียกว่า พายุดนตรีแดนซ์ ใน วงการเพลงเกาหลแี ละถือกาเนดิ นกั ร้องทมี่ คี วามสามารถในการเตน้ และจังหวะทสี่ ะดุดตาขนึ้ นอกจากน้ีศิลปินกลุ่มวง ซอแทจิและเด็กๆท่ีปรากฏตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 1990 ส่ง อิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อสังคมด้วยเพลงป๊อปที่มีจังหวะเพลงฟังสนุกสนาน สามารถเต้นตามได้ อย่างง่ายๆ ในช่วงระยะเวลานั้นมีการแต่งเพลงเก่ียวกับปัญหาของวัยรุ่นหรือไม่ก็ความเป็นหน่ึง เดียวกันผ่านประเภทเพลงที่เรียกว่า แร๊พ เป็นการเปลี่ยนแปลงของแนวเพลงในยุคน้ีท่ีแต่เดิมใน วงการเพลงเคยมีแคเ่ พลงรัก แตป่ จั จบุ นั มีแนวเพลงหลากหลายมากข้ึน ซึ่งก็สามารถสร้างกระแสให้ เป็นที่สนใจต่อวัยรุ่นเกาหลีได้อย่างมากทั่วประเทศ อัลบ้ัมแรกของซอแทจิและเด็กๆกับเพลง “ฉัน รู้” ไดส้ ร้างปรากฏการณใ์ หม่ทีค่ รองอันดบั 1 เป็นระยะเวลา 17 สัปดาห์ในการออกอากาศ หลังจาก นั้นแผ่นเสียงทั้งหมดที่ขายโดยซอแทจิและเด็กๆ ก็มีช่ือเสียงอย่างมาก นี่ไม่ใช่เพียงแค่เสียงเพลง เท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงความนิยมของเคร่ืองแต่งกายสไตล์การแต่งตัวของศิลปินและการเต้นก็มี อิทธิพลต่อกลุ่มแฟนคลับอีกด้วย เพราะเหตุนี้ทาให้ซอแทจิจึงได้รับสมญานามว่า “ประธานาธิบดี แห่งวัฒนธรรม” เพราะส่งอิทธิพลอย่างมากต่อวัยรุ่นโดยมีความหมายมากกว่าการเป็นนักร้อง ซอแทจิเป็นความใฝ่ฝันของนักร้องส่วนใหญ่ที่มีช่ือเสียงอยู่ในปัจจุบัน จนถึงตอนนี้ซอแทจิยังคง
29 เป็นนักร้องท่ีมีอิทธิพลอย่างมากจนกลายเป็นแบบอย่างให้กับคนจานวนมากท่ีมีความฝันอยากจะ เปน็ นักร้องเชน่ กัน คร่ึงหลังของปี 1990 เป็นต้นมา ได้ถือกาเนิดศิลปินกลุ่มต่างๆมากมายเช่น H.O.T., Baby V.O.X., S.E.S, Fin.K.L ,Shinhwa ,G.O.D. ท่ีได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อยผ่านบริษัทที่มีความ เชี่ยวชาญในด้านบันเทิง ศิลปินกลุ่มเหล่านี้นับเป็นศิลปินกลุ่มรุ่นบุกเบิกของวงการเพลงเกาหลีที่มี การออกมาเป็นกลุ่มมากกว่าหนึ่งคนข้ึนไป ท้ังน้ีเนื่องจากเกาหลีมองเห็นว่านักร้องไม่จากัดแค่คน เดยี ว ควรจะมีศลิ ปนิ หลายๆคนในวงเพื่อเป็นการช่วยกันร้องเพลง ช่วยกันเต้น และในวงแต่ละคนก็ อาจมหี น้าทีไ่ ม่เหมอื นกนั เช่นในวงจะสองคนทีม่ หี นา้ ท่เี ป็นนักร้องนา มีหนึ่งคนที่คอยคอรัส และมี อกี หน่ึงคนทค่ี อยเปน็ ผ้รู ้องทอ่ นแรพ็ สง่ิ น้แี สดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของวงการนักร้อง เกาหลีจากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ซึง่ การกาเนิดศิลปินกลุ่มเหล่านี้นับได้ว่าประสบความสาเร็จอย่างมาก เพราะมจี านวนกลุ่มแฟนคลับเกดิ ขึ้น เพลงกเ็ ป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นติดชาร์ตเพลงต่างๆ ยอดขายเทป ซีดีก็เพ่ิมสูงขึน้ 4.1 ลกั ษณะ นักร้องเกาหลีในยุคนี้เร่ิมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดจากแต่ก่อนท่ีนักร้องจะเป็น เพียงศิลปินแบบเด่ียว นักร้องเด่ียว แต่ในยุคน้ีเริ่มมีศิลปินกลุ่มปรากฏขึ้น ลักษณะนักร้องมีทั้งเพศ ชายและหญิง ภาพลักษณ์ภายนอกของศิลปินยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก ไม่เน้นรูปร่างหน้าตา โดย ความสัมพันธ์ของนักร้องกับผู้ฟังในยุคนี้มีทั้งผู้ฟังสามารถเห็นนักร้องแบบหน้าต่อหน้าได้ตามเวที คอนเสิร์ตต่างๆ และผู้ฟังกับนักร้องไม่มีปฏิสัมพันธ์กันผ่านการร้องเพลงอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ วทิ ยุ 4.3 บทบาท จากบริบททางสังคมและการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจทาให้บทบาทที่โดดเด่นท่ีสุดในยุคน้ี คงจะหนีไม่พ้นด้านเศรษฐกิจเนื่องจากนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมทาให้ประเทศเกาหลีต้องการ พัฒนาเศรษฐกจิ ตามไปด้วย นักรอ้ งเกาหลีในยคุ นี้จงึ มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจ เม่ือเศรษฐกิจมีการ เจริญเติบโต ธุรกิจด้านต่างๆขยายกิจการมากขึ้น ประชาชนคนเกาหลีเร่ิมมีรายได้สามารถบริโภค อุปโภคตามความต้องการ นักร้องอาชีพที่ว่านี้จะร้องเพลงเพื่อต้องการหาเงินเล้ียงชีพ เล้ียง ครอบครวั เปน็ หลัก เป็นความใฝฝ่ ันของใครหลายๆคนที่อยากจะเป็นนกั รอ้ งเพื่อทจี่ ะได้มีรายได้ เกิด การซือ้ ขายเทปเพลง ซีดีเพลง ทาให้มีการใช้เงินในประเทศ เศรษฐกิจภายในประเทศก็ขยายตัวมาก ขึ้น และอกี บทบาทหน่ึงของนกั รอ้ งที่มีเหมอื นกันคือรอ้ งเพื่อความบันเทิงแก่คนอื่น ไม่ว่านักร้องใน ยุคไหนๆต่างก็ต้องร้องเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย คลายความเครียด เป็นการฟังเพลงเพื่อ
30 พักผ่อนหย่อนใจ หน้าท่ีของนักร้องคือต้องถ่ายทอดเสียงเพลงออกมาให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกอารมณ์ ร่วมตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามนักร้องก็มีโอกาสเลือกร้องเพลงเพ่ือตนเอง เป็นการเดินทางตาม ความฝนั อยากจะเป็นนักร้องเพื่ออาชพี เพื่อรายไดเ้ ช่นกนั 4.4 ตัวอยา่ งศิลปิน Cho Yong Pil (Male) Lee Moon Sae (Male) Lee yong ( Female) Choi Sung Soo (Male) Lee Seung chul (Female) So taji and kids (Group) H.O.T (Group) G.O.D (Group) Shinhwa (Group) S.E.S (Group) Fin.k.l (Group) Baby V.O.X (Group) จากการศกึ ษาพบวา่ การที่ศลิ ปนิ กลุ่มบอยแบนด์ เกิลกรุ๊ปของเกาหลีนั้นมีจานวนสมาชิกใน วงมากกว่าสองคนขน้ึ ไปนนั้ มสี าเหตจุ าก - สมาชิกในวงมีหน้าท่ไี ม่เหมือนกัน อย่างเช่นวง Baby V.O.X มีสมาชิกห้าคน ประกอบด้วย นักรอ้ งนาสองคน นักร้องคอรสั สองคน และนกั รอ้ งแร็พหนึง่ คน ท่ีเป็นเช่นนี้เพราะเป็นการ กระจายหน้าท่ีของแต่ละคนให้สามารถทาหน้าท่ีของตนได้อย่างเต็มท่ี และเมื่อแต่ละคน รวมความสามารถเป็นหนง่ึ เดียวไดก้ ็จะทาใหว้ งมศี กั ยภาพและประสบความสาเรจ็ ในทีส่ ดุ
31 - คนแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อมีสมาชิกในวงจานวนมากๆ โดยแต่ละ สมาชิกก็จะมีรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะนิสัยแตกต่างกันออกไป ส่ิงน้ีทาให้ผู้ฟังหรือ แฟนคลับมีทางเลอื กทจี่ ะชอบศิลปินได้หลากหลายมากขน้ึ - ทางด้านการจัดรูปแบบการยืน การแสดงบนเวที ถ้าจานวนนักร้องหรือนักแสดงมีจานวน เป็นเลขคี่ จะสามารถจัดรูปแบบได้หลากหลายกว่าแบบจานวนคนคู่ เพราะจะมีคนเด่นสุด อยตู่ รงกลางเสมอ 5. ยคุ ไอดอลสตาร์โคเรียนเวฟ (2000-2012) เนื่อง จาก นโยบ ายก ารพั ฒนาเ ศรษ ฐกิจ ของป ระเ ทศเ กาหลี พร้อ ม กับ การเ ติบโตทา ง เทคโนโลยีท่ีทันสมัย ส่งผลให้วิทยาการใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น การติดต่อส่ือสารไร้ พรมแดนเปน็ เรือ่ งง่ายขึ้น การส่งออกของวัฒนธรรมเป็นเรื่องง่ายผ่านระบบสื่อสารมวลชนโซเชียล เนต็ เวิรก์ ดงั นน้ั นักรอ้ งเกาหลจี ึงไม่จากัดอยู่แค่เพียงภายในประเทศ แต่ถูกส่งออกไปยังทั่วโลก เห็น ไดจ้ ากรายการทวี ีโทรทศั น์ การรับชมผา่ นระบบอนิ เทอร์เน็ต ยูทูป หรือเฟสบุค แค่เพียงใช้เวลาไม่กี่ วินาที เราก็สามารถรับชมรับฟังนักร้องเกาหลีได้ทุกเมื่อทุกเวลา ไม่เพียงแต่แค่ในประเทศเกาหลี เทา่ นัน้ เม่ือการเตบิ โตของอตุ สาหกรรมบนั เทิง เพลง หนัง ละคร นักร้องสงู ขึน้ เร่ือยๆ ทางค่ายเพลง ต้นสังกัดต่างๆก็เกิดการแข่งขันสูงมากข้ึน จึงมีการเดบิวท์ศิลปินหน้าใหม่ๆขึ้นมาเพ่ือตอบสนอง และแข่งขันกับตลาดความต้องการของผู้บริโภค จึงเกิดเป็นศิลปินต่างๆมากมาย เราอาจสรุปได้ว่า การเปลย่ี นแปลงของนกั ร้องในยคุ นีค้ ือเน้นรูปร่างหนา้ ตาและนกั รอ้ งมีความโกอินเตอร์ไปทัว่ โลก 5.1 ลกั ษณะ ในยุคน้ีการเปล่ียนแปลงของนักร้องกับยุคก่อนหน้าไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก แต่จะเป็นการเปล่ียนแปลงในรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่า ท้ังรูปร่างหน้าตา รวมถึงจานวนศิลปิน สมาชิกในวง และแนวเพลงต่างๆที่มีความหลากหลายแบบตะวันตกท้ังแนว ฮิพฮอพ แร็พ แด๊นซ์ เปน็ ต้น ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของนักร้องเกาหลีในยุคนี้คงหนีไม่พ้นรูปลักษณ์ภายนอก ความ สวยงามหลอ่ เหลาของศิลปนิ ทั้งชายและหญิง ล้วนเป็นจุดดึงดูดให้แฟนคลับมาสนใจ นักร้องในยุค น้ีมกั ปรากฏตัวเป็นกลุ่มจานวนตั้งแต่ 3-13 คน หรือที่เรียกกันว่าบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป เสื้อผ้าเครื่อง แต่งกายก็จะมีความทันสมัยเป็นแฟชั่นแบบตะวันตกมากข้ึน และที่สาคัญนักร้องในยุคน้ีจะต้องไม่
32 เพียงแต่มีดีในด้านการร้องเพลงเท่าน้ัน แต่จะต้องสามารถเต้น เล่นละคร เล่นตลก หรือเอนเตอร์เท นคนดแู ฟนคลับไดด้ ว้ ยเช่นกัน 5.3 บทบาท บทบาทของนักร้องในยุคนี้ก็ไม่ต่างจากยุคก่อนหน้าสักเท่าไหร่ โดยเน้นไปที่บทบาท ทางด้านเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นบทบาทสาคัญและบทบาทหลักของนักร้องเลยก็ว่าได้ เพราะการท่ี นักร้องได้รับความนิยมชมชอบจากแฟนเพลงทั่วประเทศและได้รับการตอบรับการสนับสนุนท่ีดี จากประชาชนทั่วโลก ทาให้มีการซื้อขายแผ่นซีดีเพลง ดีวีดี รวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตทั้งในและ นอกประเทศ ส่ิงเหล่านี้ลว้ นเปน็ ส่งิ ทสี่ ร้างรายได้มหาศาลแกป่ ระเทศเกาหลีอย่างนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ว่ากนั ว่าความสาเร็จของ “บอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ป” จากเกาหลีนั้น มีหัวใจหลัก อยู่ท่ีรูปร่างหน้าตาที่ดูน่ารัก สดใส เต้นราเก่ง ขณะท่ีคุณภาพของเสียงร้องกลายเป็นประเด็นรองที่ ไม่ใช่เร่ืองสาคญั ที่สดุ ดงั นนั้ นักรอ้ งเกาหลใี นยคุ น้จี ึงไม่ไดม้ ีดแี ค่เสียงร้องเพียงแคอ่ ยา่ งเดียว แต่กลับ ต้องมีใบหน้า รูปร่างหน้าตา และบุคลิกภาพที่ดูดีตามไปด้วยเพื่อเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งท่ีสามารถ ดึงความรักและความสนใจจากแฟนคลับได้ทั่วทั้งเกาหลี เป็นตัวสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจเกาหลี อย่างมาก สิ่งน้ีคือที่มาของธุรกิจท่ีกาลังฮอตฮิตอินเทรนด์อยู่ในขณะน้ี น่ันก็คือ“บิวตี้ทัวร์” หรือ “ทัวร์ศัลยกรรมเกาหลี” ท่ีพร้อมจะพาเหล่าบรรดานักท่องเท่ียวที่อยากสวย ไปเที่ยว ไปชม ไปชิม ไปช็อป และไปทาศัลยกรรมกันที่กรุงโซล บิวตี้ทัวร์นี้กาลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ นักท่องเที่ยวชาวญ่ีปุ่นและชาวไทยท่ีต่างพากันถือรูปดารานักร้องเกาหลีเข้าคิวรอทาศัลยกรรม พลาสติกในแบบฉบบั “สวยตามสง่ั ” ไมว่ า่ จะเปน็ การเจาะ เคาะ กรีด ผ่า เพ่ือให้ได้มาซึ่งดวงตากลม โตและใบหน้าแบ๊วตามแบบฉบับของ “Korea Look” ยิ่งกว่านั้น นักร้องเกาหลียังสร้างกระแส รุนแรงต่อวัฒนธรรมของผู้บริโภค ตั้งแต่ อาหาร แฟช่ัน แนวการแต่งหน้า และการศัลยกรรมเสริม สวย ไม่ใช่เร่ืองผิดปกติท่ีเห็นวัยรุ่นชาวเอเชียตกแต่งกระเป๋าเป้ สมุด และห้องของพวกเขาด้วยรูป นักร้องเกาหลี นักร้องหญิงที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ ช่ือนักร้องหญิง จนมีข่าวว่าคนท่ีคลั่งไคล้ อยากเหมือนนักร้องเหล่าน้ีถึงกับขอให้หมอทาศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนดาราท่ีตนช่ืนชอบ (Join.com, 2001; Straits Times, 2002a and 2002b) ส่ิงนี้ทาให้นักร้องเกาหลีในยุคนี้มีบทบาทเป็น เคร่ืองมือทางเศรษฐกิจในการทาให้ประชาชนมีความสนใจอยากจะสวย หล่อ เหมือนอย่างนักร้อง เกาหลีท่ีตนชื่นชอบ จึงเกิดเป็นธุรกิจทัวร์ศัลยกรรม และร้านศัลยกรรมต่างๆซ่ึงสามารถทารายได้ อย่างมหาศาลแกป่ ระเทศเกาหลมี ากเลยทีเดยี ว ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกของศิลปินนักร้องที่ดูดีในยุคนี้ ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทาให้กระแส เคป๊อปโดง่ ดังไปท่ัวโลก แฟนคลับของศลิ ปนิ ตา่ งๆชนื่ ชอบตัวศิลปินทีร่ ูปรา่ งหน้าตาเป็นหลัก ธุรกิจ
33 ตา่ งๆในประเทศเกาหลีจึงไดค้ ิดการตลาดที่หากินกับรูปลักษณ์ภายนอกของศิลปิน จึงก่อให้เกิดการ นาเอานักรอ้ งไปใช้เปน็ พรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆเพ่ือสร้างภาพลักษณ์ และเพ่ือดึงดูดใจสินค้ามากข้ึน อย่างเช่น โฆษณาเคร่ืองสาอางค์ยี่ห้ออีทูด้ี ก็จะมีสินค้าท่ีเป็นรูปหน้านักร้องเป็นพรีเซนเตอร์ติดอยู่ เปน็ ตน้ เพราะเมื่อเหล่าแฟนคลับหรอื ประชาชนเห็นสินค้าที่มีใบหน้าของศิลปินท่ีตนช่ืนชอบเป็นพ รีเซนเตอร์อยู่ก็เกิดความสนใจท่ีอยากได้ครอบครอง และมีความคิดว่าถ้าใช้สินค้าชนิดน้ีก็จะทาให้ สวยหลอ่ เหมอื นนกั รอ้ งเช่นกนั สร้างมูลคา่ รายได้ให้แก่บรษิ ทั เจ้าของผลิตภณั ฑ์และสินค้าดังกล่าวก็ สามารถนาไปขายได้ทัว่ โลกเชน่ กนั แต่อยา่ งไรก็ตามนักร้องเกาหลีในยุคนี้กย็ ังคงรอ้ งเพลงเพื่อตอบสนองความบันเทิงของผู้อื่น โดยจะต้องดาเนินรูปแบบตามท่ีบริษัทต้นสังกัดวางไว้ว่าจะต้องร้องเพลงแบบน้ี แนวน้ี แต่งตัว สไตล์น้ีเท่าน้ัน โดยตัวศิลปินไม่มีโอกาสแสดงความเห็นหรือคิดเพลงที่อยากจะแต่งเองได้เลย เพราะต้นสังกัดน้ันต่างก็ทาไปเพราะความต้องการของตลาดทั้งส้ิน ทาให้นักร้องไม่มีโอกาสทาใน ส่ิงท่ีตนเองอยากทา แต่เม่ือแลกกับรายได้เม่ือประสบความสาเร็จก็นับว่าเป็นสิ่งที่นักร้องคุ้มที่จะ ยอมแลกกบั การอดทนเป็นศลิ ปินท่ีมชี อื่ เสียง 5.4 ตัวอยา่ งศลิ ปนิ Girls’ Generation (Female Group) SHINEE (Male Group) Wonder Girls (Female Group) BIGBANG (Male Group) 2PM (Male Group) SUPER JUNIOR (Male Group) T-ara (Female Group) KARA (Female Group) 4MINUTE (Female Group) After school (Female Group) 2ne1 (Female Group)
34 Miss A (Female Group) Seven (Male) Aliee (Female) วัตถุประสงค์ขอ้ ท่ี2 กระบวนการเป็นนกั รอ้ งเกาหลี นักรอ้ งเกาหลี หรือท่เี รียกกันตดิ ปากว่า Idol เป็นที่นยิ มอยา่ งมากทัง้ ในเกาหลใี ต้และใน ตา่ งประเทศ เพราะนอกจากรูปร่างหนา้ ตาท่ดี แี ลว้ นักรอ้ งเหล่านยี้ ังมีความสามารถดา้ นการร้องเพลง และการเต้นอีกดว้ ย ซงึ่ บริษทั หรือค่ายเพลงยักษใ์ หญ่ของเกาหลีให้ความสาคัญกบั การสรา้ งและ พัฒนา Idol เปน็ อย่างมาก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ บริษัทยักษใ์ หญ่ 3 บรษิ ัท ท่ีมชี ่ือคุ้นหูอยา่ ง JYP Entertainment ผูส้ รา้ ง Rain 2PM 2AM และ Wonder Girls บรษิ ทั YG Entertainment ผู้สรา้ ง Seven Big Bangและ2NE1 และบรษิ ัท SM Entertainment ผู้สร้าง Super Junior และ Girls’ Generation ซึ่งทั้งสามบรษิ ัทมแี นวทางการสรา้ งและพฒั นาไอดอลทม่ี ีความคลา้ ยคลงึ กันอยา่ งมาก โดยมีกระบวนการเปน็ นักร้องมี 3 ชว่ ง ดงั น้ี 2.1 ชว่ งไล่ล่าตามความฝัน : การเปน็ เด็กฝึกหัดทีเ่ ตรียมตัวเป็นนักร้องฝกึ หัด กระบวนการเป็นนกั ร้องในขั้นตอนแรกน้ัน คือ การเขา้ มาสกู่ ารเป็นนกั ร้องตามความฝนั ที่ ต้องการมีขั้นตอนดงั น้ี 2.1.1 การฝกึ ฝนสาหรบั การร้องเพลง ท่เี กาหลีก็มโี รงเรียนหรือสถาบนั สอนทักษะพวกนีอ้ ยู่จานวนมาก ตวั อย่างเช่นสถาบัน Born star training center ซงึ่ เป็นสถาบนั สอนการรอ้ งเพลงและการเต้นที่มชี ่ือเสยี งเป็นอันดับต้นๆของ ประเทศเกาหลี การเขา้ มาเรียนทสี่ ถาบันเหลา่ นี้นน้ั เป็นการเตรยี มพร้อมกอ่ นจะไปสมคั รรบั การ คดั เลอื กเป็นเด็กฝึกหัดของคา่ ยเพลงตา่ งๆในอนาคต โดยค่าใชจ้ ่ายในการสมคั รเรียนจะคดิ ราคาเปน็ คอรส์ เรียน เช่น คอรส์ การแสดงราคา 550,000วอน คอร์สเรียนเต้นราคา 500,000วอน คอรส์ เรยี น รอ้ งเพลงราคา 450,000 วอน เป็นต้น โดยจะใช้เวลา6เดือนตลอดระยะเวลา1คอร์ส 2.1.2 เขา้ มาในค่ายเพลง
35 คา่ ยเพลงมีบทบาทสาคัญในการพัฒนาและสรา้ งนักรอ้ งอาชีพ โดยทุกๆปีค่ายเพลงเหลา่ น้ี จะเปดิ รบั สมัครใหป้ ระชาชนท้ังคนเกาหลแี ละชาวต่างชาติสามารถเข้ารบั การสมคั รเพอื่ มาลองออดชิ ัน่ เป็น นกั ร้อง ซ่ึงสว่ นใหญ่จะจากดั อายุในการรับสมัครคือในช่วงอายุระหวา่ ง 12-20ปี เพราะช่วงเวลานี้ หนา้ ตาและลกั ษณะทางกายภาพสามารถเตบิ โตและแกไ้ ขได้อีกมาก และถือเป็นช่วงเวลาที่ไมแ่ ก่ เกินไปสาหรบั การเปน็ ไอดอล เพราะถ้านาเดก็ ๆ มาฝึกก็จะมชี ว่ งของการพัฒนาไดม้ าก อีกทัง้ หาก นาเด็กผู้ชายมาฝกึ ในชว่ งอายุมาก กจ็ ะตดิ ในเร่อื งของการเกณฑท์ หาร ซง่ึ จะทาใหก้ ารฝึกไมต่ ่อเนื่อง เช่นกัน สาหรบั การสู่ตน้ สังกัดค่ายเพลงมี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ - การทีม่ แี มวมอง พบเจอชาย หญงิ ที่มลี ักษณะ บคุ ลิกโดนตาโดนใจ จงึ เขา้ ไปทาบทามมา ติดต่อให้ออดิชั่นหรือติดต่อให้เข้ามาเปน็ เด็กในสงั กดั ของตน ตัวอย่างเช่นกรณีของนิชคณุ ซึง่ เขา้ วงการเกาหลีได้เพราะมีแมวมองไปเห็นเขาขณะท่ดี คู อนเสริ ์ตกับและติดต่อทาบทามใหไ้ ปลอง ออดชิ ั่น จนในทสี่ ุดก็ไดเ้ ข้าไปเป็นเด็กฝกึ และไดเ้ ป็นศลิ ปนิ หนึง่ ในสมาชกิ ของวง 2PM จนถึง ปจั จุบนั - เขา้ ร่วมการคัดเลือกผ่านเวทปี ระกวดต่างๆ ของค่ายเพลง ทเี่ รียกวา่ การออดิช่ัน มี ข้นั ตอนต่อไปนี้ 2.1.3 การสมคั รเข้าประกวด มี 2 รูปแบบคือ - สมัครผา่ นทางระบบอนิ เทอร์เน็ตผา่ นการกรอกข้อมลู ใบสมคั รระบบออนไลน์ และตอ้ งส่งคลปิ วิดีโอของผู้เข้าสมคั รร้องเพลงดว้ ย - การสมัครทางตรงน่ันก็คอื เดินไปสมคั รกบั สถานทท่ี ่ีรับสมัคร สาหรับเวทปี ระกวดทน่ี ิยมสมคั รคือ Kpop Star เป็นรายการของสถานโี ทรทศั น์ SBS ของเกาหลซี ึ่ง รายการ Kpop Star นี้กเ็ พ่ิงจะออกอากาศไปได้เพยี งซซี น่ั เดยี ว แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างลน้ หลาม ทเี ดยี ว จรงิ ๆแลว้ รายการประเภทออดิช่ันเพ่ือเฟ้นหาศลิ ปินนั้นมมี ากมายหลายรายการมากในเกาหลี แตจ่ ดุ เด่นของรายการ Kpop Star นีอ้ ยตู่ รงที่กรรมการของการแข่งขันคือตวั แทนจากสามบรษิ ทั คา่ ย เพลงยกั ษ์ใหญอ่ ยา่ ง YG Entertainment, JYP Entertainment และ SM Entertainment ซ่ึงกค็ อื สอง
36 โปรดวิ เซอร์ ยางฮยอนซอกและ ปาร์ค จนิ ยอง จากวายจแี ละเจวายพี กบั อีกหนึ่งศลิ ปินระดับโลก BoA ในฐานะตัวแทนของคา่ ยเอสเอม็ อีกหน่ึงความไมเ่ หมือนใครของรายการ Kpop Star นีก้ ค็ อื ทางรายการมีจุดประสงคห์ ลักท่ี จะเลอื ก “กลมุ่ ผมู้ คี วามสามารถ” จากผู้เข้าแขง่ ขันเดยี่ ว เพื่อให้ได้เดบิวตเ์ ป็นศิลปนิ กลมุ่ เพราะ รายการอ่ืนๆในเกาหลีอย่าง “Superstar K” หรือ “The Great Rebirth” น้นั มักจะเลือกผชู้ นะและเด บวิ ตใ์ ห้แคค่ นเดียว หรือไม่ก็หาผู้ชนะท่ีมาแขง่ ขนั เป็นกลมุ่ อยู่แล้วเช่นรายการ “Top Band” ซึง่ โปรดวิ เซอรใ์ หญ่ของรายการ Kpop Star เขาก็บอกว่า รายการออดชิ ่นั มกั จะมขี อ้ จากัดที่พอจบ รายการแลว้ ก็จบกันไป เค้าก็เลยต้องการสร้าง “ดาว” ดวงใหมจ่ ริงๆ สาหรบั การคดั เลอื กแตล่ ะด่านทีผ่ ู้เข้าแข่งขันจะต้องผา่ นไปใหไ้ ด้นั้นก็ไมใ่ ชเ่ ร่ืองง่ายๆ เพราะจะต้องผา่ นการคัดเลือกถงึ 3 รอบ ก่อนจะไดเ้ ขา้ รบั การฝกึ กับท้ังสามบรษิ ัท และยงั ต้อง แข่งขนั กนั อีก 2 รอบเพื่อทีจ่ ะไดเ้ ปน็ 10 ผูเ้ ขา้ รอบสดุ ทา้ ยไปชงิ ชยั กนั ในรายการสดแต่ละสปั ดาหจ์ น เหลือสุดทา้ ยเพยี งคนเดียวเท่าน้ัน 2.1.4 การประกวด ผู้เขา้ ประกวดก็ต้องแสดงความสามารถต่อหนา้ คณะกรรมการ ไมเ่ พยี งแต่เหลา่ คณะกรรมการผทู้ ี่มี ความเชี่ยวชาญด้านทกั ษะการร้อง การเตน้ การแสดงแล้ว ยังมที มี โปรดิวเซอร์ และแมวมองมาดู ดว้ ย โดยผสู้ มคั รจะต้องทาการแสดงร้องเพลง เตน้ ให้กรรมการดูและตัดสินใจว่าสมควรผ่าน เข้ารอบต่อไปหรือไม่ ถา้ ผา่ นเข้ารอบแรกก็จะนาตัวไปให้ประธานบริษัทเป็นผู้ตัดสินใจดอู ีกที ถา้ ประธานบรษิ ัทบอกใหผ้ ่าน กถ็ อื ว่าผ่าน 2.1.5 เด็กฝกึ หัด คือ การผา่ นเขา้ รอบการประกวดจากผคู้ นนบั พันคนแลว้ เราก็จะไดช้ ือ่ ว่าเป็นเด็กฝกึ หดั แตก่ ารเป็น เดก็ ฝึกหดั นยี้ ังไมถ่ ือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคา่ ยเพลง เพราะเป็นแค่เดก็ ฝึกหดั เฉยๆ อาจจะได้ไปต่อ หรือไม่ได้ไปต่อขึ้นอยูก่ บั ความสามารถและความอดทนพัฒนาการในทักษะต่างๆของตัวเดก็ ฝกึ การเป็นเด็กฝกึ หดั มขี ้อปฏบิ ัติของคา่ ยเพลงดงั น้ี 1.เซน็ ตส์ ัญญากบั ทางบริษัทเพลงเพอื่ เป็นเดก็ ฝกึ เป็นระยะเวลาประมาณ4-8 ปี
37 2. โดยแต่ละปีน้ีจะตอ้ งเรยี นร้องเพลง เรียนเต้นและเรยี นการแสดง 3.มีการจดั สอบวัดระดับความสามารถทุกๆ6เดือน ต้องสอบให้ผา่ น ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ที่ทาง ค่ายเพลงกาหนดต้องออก หมายความวา่ ในชว่ งนจ้ี ะยังไม่มคี วามแน่นอนว่าจะได้เปน็ ศลิ ปินหรอื เปลา่ ตอ้ งแขง่ ขันกบั คนอื่นๆดว้ ยเชน่ กนั โดยตลอดระยะเวลาที่เป็นเด็กฝึกน้ันจะมีโปรดวิ เซอร์คอย ดพู ฒั นาการตลอดวา่ เปน็ อยา่ งไรม่ัง บางคนอาจจะต้องใชเ้ วลา2-4ปจี นกว่าจะไดเ้ ดบวิ ตก์ ็มี 4. มคี วามร้คู วามสามารถตามมาตรฐานของค่ายเพลง เมือ่ เขาเห็นสมควรว่าเรามีดพี อแล้ว ในระดบั หนง่ึ และมบี ุคลกิ (คาแรคเตอร์)ตรงกบั ที่ตอ้ งการ เราก็จะผา่ นเขา้ รอบได้เป็นเดก็ ฝึกหัดเพ่ือ เตรยี มเดบิวต์เปน็ ศลิ ปินต่อไป กล่าวไดว้ ่าในช่วงน้ีนน้ั จดั เป็นขน้ั ตอนแรกสดุ ของการพฒั นาเตรียมตัวเพอื่ ทจ่ี ะเป็นศิลปนิ เร่มิ จากพฒั นาความสามารถของตวั เองในดา้ นทักษะการร้องเพลงก่อน ซ่ึงแตล่ ะคนจะมี ความสามารถไมเ่ ท่ากัน บางคนมพี รสวรรคม์ าต้ังแต่เด็กๆ บางคนไม่มี แตก่ ส็ ามารถเรียนรไู้ ด้จาก สถาบนั สอนร้องเพลงเสริมความสามารถตา่ งๆทม่ี อี ยมู่ ากมาย เมอื่ มั่นใจในความสามารถของตนเอง ท่มี อี ยแู่ ลว้ กเ็ ข้ารับการสมคั รเพ่ือประกวด โดยคนท่ีมอี านาจตัดสินในช่วงน้คี ือเหล่าคณะกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยทมี โปรดิวเซอร์ของค่ายเพลง แมวมอง ประธานบริษัท บคุ คลเหล่านี้มีอานาจใน การตัดสินใจ และเลอื กผู้เขา้ สมัครทม่ี คี วามสามารโดดเด่นและตรงกับความตอ้ งการของตนเพอื่ เอา ผู้แขง่ ขันท่มี คี ณุ สมบัติเหมาะสมทส่ี ดุ ไปเปน็ ศลิ ปนิ ฝึกหัดต่อไป เมือ่ ได้ศิลปนิ ฝึกหัดมาแล้วในช่วงนี้ อานาจผู้ดแู ลควบคุมจะเป็นของทางค่ายเพลงท่จี ะคอยดวู ่าศลิ ปินฝกึ หดั มคี วามสามารถพฒั นาได้ มากน้อยแคไ่ หนโดยวดั จากการสอบทกุ ๆเดือน ซงึ่ ถ้าไม่ผา่ นการสอบก็จะต้องออกจากการเป็น ศิลปินฝึกหัด สาหรบั กฎเกณฑใ์ นการคัดเลือกท่ผี ่านการเปน็ เดก็ ฝึกหดั เพือ่ ไปสอู่ กี ระดบั หนึ่งสามารถ แบ่งไดเ้ ปน็ ข้อๆคอื 1. มที กั ษะการร้องเพลงท่ดี ีมาก 2. มีการเต้นทแี่ ข็งแรง นา่ สนใจและพร้อมเพรียง 3. บุคลิกลกั ษณะตรงกบั ท่โี ปรดวิ เซอร์กาหนดไว้
38 ถ้านกั ร้องฝกึ หัดคนไหนมีคุณสมบตั คิ รบทั้งสามขอ้ ดงั กล่าวก็กล่าวไดว้ ่ามีโอกาสท่จี ะสามารถเด บวิ ต์เตรียมตัวเปน็ ศลิ ปนิ ได้ต่อไปในอนาคต 2.2 ชว่ งการเข้าสวู่ งการนกั รอ้ ง : การเป็นนกั ร้องฝึกหดั มาสกู่ ารเตรยี มตัวเป็นศิลปิน(เดบวิ ต์) 2.2.1 ลักษณะการเปน็ นกั ร้อง เม่อื เดก็ ฝกึ หัดไดแ้ สดงความสามารถจนเป็นท่ยี อมรบั ของค่ายเพลงตามมาตรฐานทีก่ าหนด ก็เปลยี่ น สถานภาพของตนเองจากเดก็ ฝึกหัดมาสูก่ ารเปน็ น้องร้องฝึกหดั ซ่ึงเป็นกระบวนการท่ีสองของการ เปน็ น้องร้อง ซ่งึ ในชว่ งน้ีมีลักษณะสาคญั ดังน้ี คอื การทาสัญญาระหวา่ งนกั ร้องกบั คา่ ยเพลง การ เซน็ ต์สัญญากบั ทางบริษทั คา่ ยเพลงเพอ่ื ทจี่ ะไดช้ อ่ื วา่ เปน็ เด็กเตรียมเปน็ ศิลปินในสงั กดั คา่ ยเพลง โดยเมื่อเซน็ ตส์ ัญญาแลว้ เดก็ ฝกึ จะต้องย้ายข้าวของเคร่ืองใช้ออกจากบา้ นมาพักอาศัยอยู่ในสถานท่ที ่ี ทางค่ายเพลงจดั ไวใ้ ห้ ซงึ่ สว่ นใหญ่จะเป็นอาพาร์ทเมนทข์ นาดเลก็ หรือจะเป็นพกั ทต่ี วั บริษัทเพลง เลย 2.2.2 ข้อปฏบิ ตั กิ ารเป็นนกั ร้อง การเซน็ ต์สัญญาข้อตกลงครง้ั น้ีจะตอ้ งแลกกับอิสระทจ่ี ะหายไป เพราะบรษิ ัทจะวางกฏระเบียบ ต่างๆ เชน่ - ขอ้ ห้ามของการนกั ร้อง ศิลปนิ จะตอ้ งอยู่ในวนิ ัยอยา่ งเคร่งครัดไมว่ ่าจะเป็น หา้ มมีแฟน ห้ามหนี เที่ยว ห้ามดื่มเหลา้ เพอื่ ผลต่อตัวศิลปนิ และทางคา่ ยน่ันเอง - การฝกึ ฝนความสามารถ ค่ายเพลงจะมตี ารางการฝึกซ้อมในแตล่ ะวันให้เด็กฝกึ ทกุ คนได้รับทราบ และปฏิบัติตามกันอยา่ งจรงิ จังดว้ ย โดยชว่ งเวลาการฝกึ ฝนค่อนขา้ งยาวนานตั้งแต่ 2-4 ปขี ึน้ ไป มี การฝกึ ฝนเรื่องตา่ งๆ ดงั นี้ ความรูค้ วามสามารเก่ียวกับการเป็นน้องร้อง คือ 1.การร้องเพลง และการเตน้ ถ้านกั รอ้ งฝึกหัดคนไหนเก่งเร่ืองร้องเพลง กจ็ ะต้องฝึกทักษะ การเต้นการแสดงมากข้นึ ไปอกี และคนไหนเก่งเร่ืองเตน้ กจ็ ะต้องฝกึ การร้องเพลงการแสดงให้ ย่ิงข้นึ ไปเท่าๆกัน โดยจะม่งุ เนน้ การเรยี นเพิ่มเตมิ ในส่วนทกั ษะที่ตนเองออ่ นเพม่ิ เขา้ ไปมากกว่าปกติ
39 2.การแสดง นักร้องฝึกหดั ทุกคนนอกจากจะตอ้ งมีความสามารถทางดา้ นการ้องเพลงแล้ว ยังจะตอ้ งมคี วามสามารถทางการแสดงหรือการเรยี นแอคติ้ง เพ่ือเป็นทักษะขั้นพนื้ ฐานและตดิ ตัวเอา ไปใช้เมอื่ ตอนเดบิวตืเปน็ ศลิ ปนิ ในอนาคต เพราะปัจจุบันมกี รณที นี่ ักรอ้ งผันตวั ไปเล่นละคร เป็น นักแสดงจานวนมาก ดงั นนั้ จึงต้องมีการเรียนการแสดงเพอื่ เพิ่มทักษะใหแ้ กต่ วั เดก็ ฝกึ หัดน่ันเอง 3. บคุ ลกิ ภาพและรา่ งกาย การเสริมสรา้ งความแข็งแกรง่ ของรา่ งกาย เช่น การออกกาลงั กาย เสรมิ สร้างกลา้ มเนื้อ เพื่อทาใหร้ ูปรา่ งดดู ี มบี ุคลกิ ทีด่ ี ซ่ึงจะมสี ่วนช่วยใหก้ ารแสดงบนเวทมี คี วาม โดดเด่นยิง่ ขน้ึ มบี คุ ลกิ ภาพทมี่ คี วามอ่อนน้อมถ่อมตน ไมเ่ ยอ่ หยิง่ มีความจรงิ ใจ เป็นสุภาพบุรษุ ไม่ มเี ร่ืองอื้อฉาว และดูแลเอาใจใสแ่ ฟนคลบั เป็นตน้ 4. ความเป็นมืออาชีพ นักรอ้ งฝกึ หดั จะต้องไดร้ ับการปลูกฝังนสิ ยั ความเปน็ มืออาชีพ ความ เป็นมืออาชพี น้นั เป็นสงิ่ ท่ี Idol ทุกคนจะต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิง่ ความมรี ะเบียบวนิ ยั มีความ รบั ผิดชอบ ท้ังการตรงตอ่ เวลา การมสี มั มาคารวะ ความขยัน อดทนและท่มุ เทในการฝึกซ้อม ซง่ึ หลังจากไดเ้ ปน็ นกั ร้องอาชพี แล้วการฝกึ ซ้อมกย็ งั ต้องดาเนินต่อไป และจะทวคี วามเข้มงวดมากขนึ้ กว่าเดิม โดยเฉลย่ี แลว้ Idol จะใชเ้ วลาฝกึ ซอ้ มวนั ละไมต่ ่ากว่า 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว 5. ภาษา นักร้องฝึกหัดจาเป็นท่ีจะต้องเรยี นรูภ้ าษาเพม่ิ เตมิ ทัง้ ภาษาองั กฤษซึ่งเป็น ภาษาสากลข้ันพืน้ ฐานและภาษาญี่ปุ่น เพราะประเทศเกาหลีใตม้ สี ภาพภมู ปิ ระเทศอยใู่ กล้กับ ประเทศญ่ปี ุ่น ดังนัน้ ทาใหก้ ารสง่ ออกเพลง หรอื การขยายตลาดเพลงไปยงั ญี่ปนุ่ สามารถทาไดง้ ่าย และคนญีป่ ุ่นท่ชี นื่ ชอบวัฒนธรรมเคป๊อปกม็ ีจานวนมาก ดังน้ันนักร้องฝึกหดั จึงจะตอ้ งมีชวั่ โมงเรยี น ภาษาเพ่มิ เติมในแตล่ ะวนั นอกเหนอื จากการเรยี นร้องเพลง เรียนเต้นและเรียนการแสดงดว้ ย 2.2.3 การทดสอบ/วดั ผลและประเมินผล หลงั จากการฝกึ ซ้อมอยา่ งเต็มที่กจ็ ะมกี ารทดสอบทกั ษะดา้ นต่างๆ เปน็ ระยะ เพอื่ ดูความพรอ้ ม และ ทดสอบการแสดงบนเวทีโดยมผี ู้เขา้ ชมจานวนหน่ึง ซึ่งต้องทาให้ได้ตามมาตรฐานท่ีต้ังเอาไว้ซึง่ ค่อนข้างสูง การแขง่ ขันระหว่างนกั รอ้ งฝกึ หัดด้วยกันจึงสูงตามไปดว้ ย หากใครทาได้ไมด่ กี ็จะต้อง ถกู คดั ออกไป แต่ทง้ั น้ีไม่ได้หมายความวา่ จะหมดโอกาสในการเป็นศิลปิน แต่จะต้องไปเรียนซ้าชน้ั เรม่ิ ฝึกใหมซ่ ึ่งเป็นการเสยี เวลาอย่างมากเลยทีเดียว ดังน้นั นักร้องฝกึ หัดจะต้องขยนั ฝึกซ้อมและ ทุ่มเทอย่างหนักเพ่ือความอยูร่ อด เมอ่ื บรษิ ทั เหน็ ว่า นกั ร้องฝึกหัดมีความพรอ้ มแล้วกจ็ ะ debut เปน็
40 นกั ร้องอาชีพ โดยการจะพิจารณาใหเ้ ป็นนักร้องเด่ยี วหรือกลุ่มน้นั ข้ึนอยู่กับการตัดสนิ ใจของบริษัท ซึง่ จะต้องผา่ นการวิเคราะหผ์ ลดีผลเสยี ทบี่ ริษัทจะได้รับจากนักร้องผู้นั้นอย่างละเอียดถ่ถี ้วน 2.2.4 การปรับเปลยี่ น/เสริมสรา้ งรูปรา่ งหน้าตา เมอื่ นักรอ้ งฝึกหัดมที ักษะความสามารถ ครบในทกุ ๆด้านแล้ว จะต้องมาลบขอ้ ด้อยหรอื ปรับปรงุ ในด้านสดุ ท้ายก็คือลบขอ้ ดอ้ ยทางกายภาพ นน่ั เอง ศิลปินบางคนน้ันมคี วามสามารถมาก แต่ดอ้ ยในเรือ่ งของหน้าตาจนน่าเสียดาย ทาง คา่ ยกจ็ ะนาไปปรกึ ษาแพทย์ทางการศลั ยกรรมเพื่อลดข้อด้อยดงั กล่าว จะเสริมจมกู ทาตาสองชั้น ลด ไขมนั หนา้ ท้อง ทาขาใหเ้ รยี วเล็ก หรืออะไรก็ตาม ซงึ่ สว่ นนีจ้ ะเป็นการลงทนุ ของทางต้นสงั กดั ทีจ่ ะ ออกทนุ ใหก้ ับศิลปนิ ดังกลา่ ว แล้วคอ่ ยมาเรียกเก็บในภายหลงั ที่ออกอลั บ้มั และทารายได้แลว้ น่ันเอง โดยศลิ ปินเกาหลที ่ีเราเห็นในทุกวันนี้ 99% ล้วนผา่ นการศัลยกรรมมาแล้วทงั้ สิ้น มสี ่วนนอ้ ยมากท่ี ไมท่ าศัลยกรรมใด ๆ เลย และมีการปรบั เปลี่ยนอปุ นสิ ยั การรบั ประทานอาหารเพื่อรักษารปู ร่าง หลงั จากศิลปนิ ฝกึ หดั ผา่ นการลบข้อด้อยทงั้ หมด ทางค่ายก็จะเรม่ิ แต่งเพลงและคดิ การ แสดงข้ึน เพ่ือใหศ้ ิลปนิ ฝกึ หดั ทาการรอ้ ง และฝึกซอ้ มเต้นเพ่อื นาขึ้นแสดง ซึง่ เพลงท่ีซ้อมน้ันมี จานวนไมเ่ กิน 2 เพลง แต่ซอ้ มกันเป็นปี เพอ่ื ให้ชินกับเพลงและเตน้ ได้อย่างเปน็ ธรรมชาติ พร้อม เพรียง และออกมาสมบรู ณ์แบบทีส่ ุด ซ่งึ ศลิ ปินฝึกหัดต่างบอกวา่ นเี่ ป็นกระบวนการทีท่ รมานมาก เพราะจะต้องซ้อมเพลงเดมิ ซ้า ๆ อยูเ่ รอ่ื ย ๆ ซึง่ เมอื่ ซอ้ มจนเปน็ ท่พี อใจตามมาตรฐานของทางค่าย แล้ว จงึ จะทาออกมาเป็น Music Video สู่สายตาผู้คนนน่ั เอง 2.2.5 คา่ ตอบแทนและสวัสดกิ ารของการเปน็ นกั ร้องฝึกหัด จากการศกึ ษาพบว่าเปน็ เรอื่ งยากและยังไม่มีการเปิดเผยรายไดห้ รือเงินเดอื นของนกั ร้องฝึกหดั วา่ ใน แตล่ ะเดอื นได้รบั เทา่ ไหร่ แต่เทา่ ท่ีทราบคอื นักรอ้ งฝึกหัดจะได้รบั สวัสดิการต่างๆนอกเหนือจาก เงินเดือนได้แก่ที่พัก สระว่ายนา้ ฟติ เนท คา่ รถ คา่ เดนิ ทาง คา่ เรยี นทกั ษะตา่ งๆ เป็นตน้ 2.2.6 อานาจการควบคมุ ของนักรอ้ งฝึกหัด
41 จากทกี่ ล่าวข้างตน้ เห็นได้ว่าช่วงนเ้ี มื่อได้นักร้องฝกึ หัดมาแลว้ ก็จะต้องซอ้ มอยา่ งหนกั เพ่ือพัฒนา ทักษะรอบดา้ น โดยจะยงั ไมม่ ีการแบง่ ประเภทของนกั ร้องหรอื แบ่งหมวดหมูน่ กั ร้อง จะเป็นเพียงแค่ การซอ้ มทกั ษะทัว่ ๆไปทง้ั ดา้ นการร้องเพลง การเต้นและการแสดง โดยผู้ท่ีมอี าจควบคมุ ก็คือบรษิ ทั คา่ ยเพลงทจี่ ะจบั จอ้ งตาดแู ลนกั รอ้ งฝึกหดั อยู่ตลอดเวลา เนือ่ งจากตัวนกั ร้องฝึกหดั จะตอ้ งมาอยู่ในท่ี พกั ท่ที างบริษัทค่ายเพลงจดั หาให้ และออกกฏระเบยี บต่างๆให้ปฏิบัติตาม ถา้ ไมท่ าตามก็จะถกู ลงโทษโดยการกล่าวตกั เตือน หรอื กรณรี า้ ยแรงคือไล่ออกจากการเป็นนกั ร้องฝกึ หดั เลยกม็ ีเชน่ กนั นอกจากนี้ตัวทีมงานโปรดวิ เซอรจ์ ะมอี านาจในการคัดเลือกนักร้องฝกึ หัดว่าคนไหนมีคุณสมบตั ิ เหมาะกับเพลง คาแรกเตอร์ท่วี างไวก้ ็จะเลือกคนๆนน้ั มาร้องเพลงที่แต่งและซอ้ มเต้นจนชินเพื่อทจี่ ะ เตรียมรอเปิดตวั เป็นศิลปนิ ต่อไป ในชว่ งน้มี ีความแตกตา่ งกับชว่ งกอ่ นหนา้ ตรงที่อานาจการควบคมุ ในชว่ งก่อนเป็นเด็ก ฝกึ หดั นน้ั ก็คือเหลา่ คณะกรรมการ โปรดิวเซอร์ ทมี งานค่ายเพลง และประธานบรษิ ทั จะเปน็ ผ้เู ลือก ตดั สินใจว่าใครควรเขา้ มาเป็นเดก็ ฝกึ หัด ต่อมาเมื่อกลายมาเปน็ เดก็ ฝกึ หัดแลว้ ก็จะมีค่ายเพลงเปน็ ผู้ อานาจในการควบคุมตัวนักร้องฝึกหัดให้อยู่ในกฏระเบยี บทีว่ างไวน้ ั่นเอง 2.3 ชว่ งเปน็ นักร้องอาชีพหรือศิลปิน(เดบิวต์) 2.3.1 ลาดบั ของการเป็นศลิ ปนิ มดี ังนี้ 1. การจัดทา Music Video ออกมา เม่ือนกั ร้องฝกึ หัดผา่ นการคัดเลอื กต่างๆแล้วก็จะไดร้ ับการ ฝกึ ซอ้ มรอ้ งเพลงและเต้นโดยโปรดวิ เซอร์เป็นคนแต่งและคิดให้ ก็จะซ้อมจนชนิ และถงึ ขนั้ ตอนการ ถ่ายทามวิ สคิ วดี ีโอซงึ่ เรยี กได้ว่าเป็นเคร่ืองมือในการโปรโมทศลิ ปินทีด่ อี ยา่ งหน่ึง เพราะคนดจู ะได้ รบั ชมทั้งภาพและเสียง รวมไปถึงความสามารถของตัวศลิ ปนิ เองที่นาเสนอออกมาผ่านมวิ สิควิดโี อ 2. การแสดงในพนื้ ทจ่ี ริง/คอนเสิรต์ ศลิ ปินกจ็ ะขึน้ แสดงเปดิ ตัว โดยออกไปตามรายการคอนเสริ ์ต ทางชอ่ งสถานรโทรทัศน์ตา่ งๆอยา่ งเช่นรายการ Music Bank. MNET, Music Core ซึ่งนับไดว้ ่าสาม รายการน้ีเป็นรายการเพลงทไี่ ดร้ ับความนยิ มจากคนเกาหลีอยา่ งมาก การที่ศลิ ปนิ มาเปิดตวั บนเวทนี ี้ กเ็ ปน็ การโปรโมทท้งั ตวั สลิ ปินเองและตวั เพลงดว้ ย แตก่ ารขน้ึ แสดงหาใช่ว่าเป็นศลิ ปินนักร้องโดย สมบูรณ์ แตม่ ันเป็นการชมิ ลางตลาดวา่ มาถกู ทางหรือไม่ ถา้ ไม่ถกู ทางกต็ ้องนาไปปรบั ปรุงแก้ไข สว่ นที่เปน็ จุดบกพรอ่ ง เพ่อื ใหต้ รงกับความตอ้ งการของตลาด ถ้าหากแก้ไข แลว้ ยังไมเ่ ปน็ ที่พอใจ
42 ของตลาดหรอื ผู้ชม ก็ต้องล้มเลกิ ถอื วา่ ลงทุนลม้ เหลว ซงึ่ กม็ ีนกั ร้องหลายวงที่ประสบความสาเร็จ และมีอกี หลายวงท่ีตอ้ งหายไป 2.3.2 การประชาสมั พนั ธ์และการสร้างกระแสความนิยมของศลิ ปิน สามารถแบง่ เป็ประเดน็ ยอ่ ยได้สามประเดน็ ดงั น้ี 1. ทางคา่ ยจะมกี ารวางตาแหนง่ พรีเซ็นเตอร์ประจากลมุ่ อยู่ ซ่ึงมคี วามสาคัญมาก คนท่ีประจา ตาแหน่งน้ี จะเป็นศลิ ปินท่มี ีชอ่ื เสียงเป็นท่ีร้จู กั อยู่แล้ว หรือหน้าตาดี เพื่อทาให้เกดิ จุดสนใจ และเปน็ การโปรโมท ทาใหผ้ ู้ชมรู้จักกบั วงไปในตัว หากจะยกตัวอยา่ งใหเ้ หน็ ก็เชน่ Ahn So Hee (Wonder Girls), นิชคุณ (2pm) หรอื ยุนอา (Girl’s Generation) 2. การสร้างจดุ ขายของคา่ ยเพลงตา่ งๆ จะพจิ ารณาแนวโน้มความต้องการของผฟู้ ังในตลาดเพลงทัง้ ในและตา่ งประเทศแลว้ นาข้อมูลดงั กล่าวมาใช้ประกอบการแตง่ เพลงรวมทง้ั การออกแบบทา่ เต้น ต่อมาทมี งานจะนามาคดั เลือกเพือ่ ใหเ้ หมาะกบั นักรอ้ งแต่ละคน ซึ่งท่ีผา่ นมาเกาหลใี ต้ประสบ ความสาเร็จอยา่ งยิง่ ในการแต่งเพลงและออกแบบทา่ เต้นท่ีได้รบั ความนยิ มอยา่ งแพร่หลาย เช่น เพลง Nobody ของ Wonder Girls ซึ่งเป็นเพลงที่ทงั้ เนื้อร้องและท่าเต้นได้รบั ความนิยมไปทัว่ โลก เลยทเี ดียว นอกจากน้ียงั มเี พลง Tell me your wish ของ Girls’ Generation ทีไ่ ด้ ริโนะ นากาโซเนะ นักเต้นชั้นนาของวงการที่เคยได้รับรางวัลจากรายการ American’s Best Dance Crew อกี ทั้งยังเคย เป็นนกั เตน้ แบค็ อัพให้กบั Gwen Stefani มาชว่ ยออกแบบท่าเตน้ ให้อกี ดว้ ย 3. สิ่งทเี่ ป็นกลไกสาคญั ทส่ี ุดคือการส่งเสริมการขาย จดั เป็นสุดยอดทางการตลาดของเกาหลีใต้ในยคุ น้ี ซ่งึ การส่งเสรมิ การขายของเพลงเกาหลีจะอย่ใู นรูปแบบการประชาสมั พันธผ์ ่านส่ือตา่ งๆ เชน่ โทรทัศน์ วทิ ยุ สอื่ สิง่ พมิ พ์ตา่ งๆ รวมไปถึงส่อื ออนไลน์ เพอ่ื เป็นการโปรโมท Idol ในชว่ งกอ่ นที่ ผลงานเพลงจะออกวางจาหน่าย รวมทัง้ การเปิดตัวในงานต่างๆ รวมท้ังการจัดทัวรค์ อนเสิร์ตเพอ่ื โป รโมท Idol และงานเพลงให้เป็นท่รี จู้ ักทง้ั ในและตา่ งประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย อีกท้งั บรษิ ัทหรือคา่ ยเพลงต่างๆ ยินยอมให้นกั ร้องในสังกัดตนเองเขา้ รว่ มรายการวาไรต้ี ทัง้ เป็นพิธีกรและ แขกรับเชิญ เช่น รายการ Star King ทมี่ ี Idol รับเชิญมาเปน็ กรรมการพจิ ารณาความสามารถของผู้ เข้าแข่งขนั จากทางบา้ น รายการ We got Married ที่นา Idol แต่ละคนมาทดลองใช้ชีวิตรว่ มกัน เหมอื นคู่แตง่ งาน รายการเพลง Inkigayo เป็นต้น รวมทัง้ การเปน็ พรีเซนเตอร์โฆษณา เพราะ
43 นอกจากจะเป็นการโปรโมทท่ดี ีแล้ว บรษิ ัทยังได้รบั สว่ นแบง่ รายไดจ้ ากค่าตัวของ Idol แต่ละคน ด้วย มกี ารเปดิ เผยตัวเลขคา่ จ้าง Idol ของเกาหลีท่เี ป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาในปี 2554 ซึง่ มีมูลค่าสูง มาก ยกตวั อยา่ งเชน่ Rain และ Bigbang ค่าจ้างอยทู่ ่ี 1-1.5 ล้านเหรยี ญสหรัฐ 2PM Girl Generation ลี เฮยี ว ริ และวง 2NE1 คา่ จา้ งจะอยทู่ ี่ 8-9 แสนเหรียญสหรฐั เป็นต้น นอกจากนี้ยังเปน็ การ ประชาสัมพนั ธท์ ่มี ปี ระสิทธิภาพอย่างหนงึ่ ในการขยายฐานแฟนเพลงออกไปทั่วเอเชียอีกด้วย รายการตา่ งๆ เหลา่ นไ้ี ด้ออกฉายไปยงั ประเทศตา่ งๆ ทัว่ เอเชียและได้รบั ความนิยมเป็นอยา่ งมาก สิ่ง นท้ี าใหเ้ หน็ วา่ กว่าจะเป็นนกั รอ้ งเกาหลีนั้นจะต้องผา่ นการฝกึ ร้องเพลง การเต้น และการแสดง เพ่ือใหส้ ามารถนาไปสร้างเป็นจุดขายทารายได้แก่ตนเองและบรษิ ัท 2.3.3 การจัดจาหน่ายผลงาน เม่ือวดั กระแสตอบรับของศลิ ปนิ แลว้ ผลการตอบรับดี ก็จะเป็นเคร่อื งยนื ยันใหก้ บั ทางค่ายว่ามาถกู ทาง ทางค่ายกจ็ ะออกชงิ เกล้ิ (เพลง)ตวั ต่อๆ ไปให้กบั ศิลปนิ เพอื่ ออกโชว์ จนเพลงมจี านวนมาก พอทจ่ี ะออกเปน็ อัลบั้ม จงึ จะทาเป็นอัลบม้ั วางขาย ซงึ่ อัลบม้ั กจ็ ะมีรูปลกั ษณท์ ส่ี วยงามนา่ เกบ็ สะสม ดงึ ดดู ใจแฟนเพลงไดเ้ ป็นอย่างดี โดยทัว่ ไปการจัดจาหน่ายเพลงมี 2 ชอ่ งทาง คอื การจาหน่ายแบบ ปกติ (Physical Sale) เช่น CD ทั้งแบบ Single และอลั บั้มเพลง มิวสคิ วิดีโอในรปู แบบ DVD เป็นต้น และการจาหนา่ ยแบบดิจติ ัล (Digital Sale) เช่น การดาวน์โหลดเพลงผา่ นเว็บไซต์เพลงออนไลน์ (Online Music) และการดาวน์โหลดผา่ นโทรศัพทม์ ือถอื (Mobile Music) สาหรับเกาหลีใตน้ น้ั จัด จาหน่ายท้ังสองรูปแบบ โดยบรษิ ัทหรือค่ายเพลงขนาดใหญ่ เชน่ JYP Entertainment บรษิ ัท YG Entertainment และบริษัท SM Entertainment จะเปน็ ผู้ผลติ และจัดจาหน่ายเอง แตแ่ นวโน้มสัดสว่ น การจาหนา่ ยในรูปแบบดิจติ ลั เพิม่ ข้นึ อย่างต่อเนอ่ื ง เน่อื งจากได้รับความนยิ มควบคู่กนั กับยอด จาหน่ายโทรศพั ทม์ ือถือที่เพ่ิมสูงขึ้น ทาให้ยอดการดาวน์โหลดเพลงผา่ นโทรศัพท์มอื ถือเพิม่ ข้นึ ตาม ไปดว้ ย โดยบรษิ ทั คา่ ยเพลงจะทาสญั ญาซือ้ ขายลขิ สทิ ธ์ิกบั บริษทั ผูใ้ หบ้ รกิ ารเครือข่าย โทรศพั ทม์ ือถอื ปจั จบุ ันบริษทั ผใู้ ห้บรกิ ารดาวนโ์ หลดเพลงผ่านมอื ถอื และเพลงออนไลน์ทเ่ี ป็นท่ี นิยมทง้ั ในเกาหลีและในอกี หลายประเทศทัว่ โลก มอี ยู่ 2 บริษทั ไดแ้ ก่ LG Telecom เปิดเว็บไซต์ชอื่ Musicpn และบริษัท SK Telecom เปดิ เวบ็ ไซตช์ ื่อ Melon และนอกจากจะผลิตเพลงและจาหน่ายไป ยงั ผูบ้ รโิ ภคโดยตรงแล้ว ยังมกี ารผลิตเพลงเพือ่ ใช้ในภาพยนตร์ และส่อื บนั เทงิ ชนิดอ่ืนด้วย และ
44 นอกจากน้ีศลิ ปินจะตระเวนออกรายการทีววี าไรตี้ต่าง ๆ เพ่ือตอ่ กระแสโปรโมทใหก้ ับทางคา่ ยและ กับตวั เองอยู่เรอื่ ย ๆ ไมใ่ หก้ ระแสตกด้วยเชน่ กนั อกี ชอ่ งทางหนึ่งท่ีไดร้ บั ความนิยมอย่างมากในการกระจายตลาดเพลงเกาหลสี ูผ่ ฟู้ ังน่ันก็คือ การเช่าเพลงออนไลน์ หรือการจ่ายค่าดาวน์โหลดเพลง ซึ่งนกั ฟังเพลงในประเทศตา่ งๆ โดยเฉพาะ ในสหรัฐอเมริกานน้ั คนุ้ ชินกับการดาวน์โหลดเพลงออนไลนผ์ ่าน iTunes Store มาพอสมควรแล้ว ประเทศไทยเราเองกเ็ รม่ิ เปิดให้ดาวน์โหลดกันเม่อื เร็วๆ นี้ โดยสามารถโหลดเพลงเปน็ อัลบ้มั หรือ จะโหลดเฉพาะเพลงที่อยากฟงั ไดใ้ นราคาเพลงละประมาณ 0.99$ หรือประมาณ 30 กวา่ บาท จาก ราคาท่ีเราจา่ ยไปน้ี ประมาณ 70% จะถูกหักให้แกค่ า่ ยเพลงและศลิ ปินนกั ฟงั เพลงในเกาหลนี ิยม สมคั รเปน็ สมาชิกและโหลดเพลงมาฟังในชว่ งระยะเวลาทกี่ าหนด ในเกาหลกี ็นิยมการดาวน์โหลดเพลงออนไลน์เชน่ เดยี วกัน แต่มีวิธกี ารท่ีแตกตา่ งกันไป โดยระบบทไี่ ด้รับความนิยมสูงคอื ระบบทใ่ี หน้ ักฟงั เพลงสมัครเปน็ สมาชกิ และโหลดเพลงมาฟัง ในชว่ งระยะเวลาทีก่ าหนด โดยสมาชกิ จะตอ้ งจ่ายเงนิ ประมาณ 9,000 วอน หรือประมาณ 240 บาท และสามารถโหลดเพลงมาฟังได้ 150 เพลงในระยะเวลา 1 เดือน ระบบ \"เช่าเพลงออนไลน์\" ท่ีวา่ น้ี เป็นที่นิยมมากและทาใหต้ ลาดเพลงเกาหลีเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2554 2.3.4.คา่ ตอบแทนของการเป็นศิลปิน โดยศลิ ปินท่ัวๆไปจะแบง่ รายได้กับทางคา่ ยเพลงประมาณ 20/80 กล่าวคอื ทางบริษัทจะได้ 80% ส่วนตวั สิลปินนัน้ จะไดแ้ ค่เพียง 20% มากน้อยลดหลน่ั กนั ไปตามระดับความดังช่อื เสยี งของศิลปิน น่ันเอง นอกจากนถี้ า้ แบ่งรายได้ตามประเภทของงานแล้ว สามารถแบ่งไดด้ ังน้ี รายไดจ้ ากการขายสินค้า - รายได้จากการนาเพลงไปขายลิขสทิ ธทิ์ ี่ตา่ งประเทศและการโชว์ตวั หรือทากจิ กรรมอย่าง อ่ืนนอกประเทศ นกั ร้องจะได้ 70% - อัลบ้ัมภาพหรือสินคา้ เกย่ี วกับตัวนักร้อง นักรอ้ งจะได้ 60% - รายไดจ้ ากยอดดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ นกั รอ้ งจะได้ 10% ของยอดดาวน์โหลด - รายไดจ้ ากการขายอัลบั้ม ซีดี ดวี ีดี นักรอ้ งจะได้ 5% ของยอดขาย
45 รายได้จากการออกส่อื - งานโชว์ตัวภายในประเทศ ออกโทรทศั น์ วทิ ยุ นกั รอ้ งจะได้ 100% - รายการวาไรต้ี รายการประจา นกั ร้องจะได้ 65% แตอ่ ยา่ งไรก็ตามกล่มุ ศลิ ปินทกุ กลมุ่ กย็ อ่ มมวี ันเหนือ่ ยล้า วนั หมดแรง วันทีแ่ ยกวง และมี วันทก่ี ระแสความนยิ มน้ันหมดไป จึงเปน็ เหตใุ ห้ทางคา่ ยต้องปัน้ ศลิ ปินใหมอ่ อกมาอยเู่ ร่ือย ๆ ซง่ึ การ ทท่ี างคา่ ยมีศิลปินท่ีประสบความสาเรจ็ อยแู่ ล้ว กเ็ ป็นเรื่องง่ายทจี่ ะทาการโปรโมทศิลปนิ กลมุ่ ใหม่ เพราะนอกเหนือจากการออกโชวก์ ารแสดงแลว้ ทางคา่ ยจะจดั ทากิจกรรมร่วมกนั ระหวา่ งศิลปิน กลุม่ เก่ากบั ศิลปินกลุม่ ใหม่ และจดั ทาเป็นรายการโปรโมทออกสูท่ างรายการทีวี เพ่ือสร้างกระแส ความนิยมให้กบั ศิลปินกลุม่ ใหม่ และต่อความนิยมใหก้ ับศิลปินกล่มุ เก่า และตอ่ ยอดโอกาสทาง ธุรกิจใหก้ บั ทางค่ายเพลงน่ันเอง 2.3.5 อานาจการควบคมุ ของความเป็นศลิ ปนิ การเปน็ ศิลปินเตม็ ตัวตงั้ แต่การสมคั รเขา้ รับการออดชิ ่นั จนเม่ือได้เป็นนักร้องฝกึ หดั และในทสี่ ดุ ก็ ออกมาเป็นศิลปนิ เตม็ ตัว ล้วนผา่ นขัน้ ตอนมากมายทีไ่ มใ่ ช่เรื่องงา่ ยๆ ผ่านความกดดนั และความ เขม้ งวดทั้งกฏตา่ งๆของบรษิ ัทและการแขง่ ขันกนั เองของตัวศิลปินฝึกหดั ด้วยกัน เมอื่ ถงึ ชว่ งนไี้ ด้ เป็นศิลปินอย่างเต็มตัวก็จะเป็นทีร่ จู้ ักกนั ว่าเป็นวงนอ้ งใหม่ทเ่ี กิดขึน้ พบว่าอานาจการควบคุมท่ีทาให้ ความเปน็ ศลิ ปนิ มีลกั ษณะแตกตา่ งกับช่วงท่หี นง่ึ และชว่ งท่ีสอง คอื 1.อานาจของผูช้ ม อานาจในช่วงนี้จะเป็นของประชาชนคนดทู ัง้ คนเกาหลีและท่ัวโลกที่ สามารถเลือกฟังหรือเลอื กได้ว่าศลิ ปินกลมุ่ ทอ่ี อกมาใหมน่ ั้น นา่ สนใจมากน้อยแคไ่ หน คนดจู ะเป็น ตัวกาหนดจากกระแสการพดู ถึงบนอินเทอร์เน็ตทง้ั Facebook, Twitter, Youtube เป็นต้น เม่อื ปล่อย มวิ สิควดี ีโอออกมาแล้วประชาชนก็สามารถรบั ฟงั และรับชมเพอ่ื เป็นการตัดสินใจได้วา่ จะชอบและ อยากสนบั สนนุ ผลงานหรือไม่ ส่ิงทเี่ ป็นตัววัดความสาเร็จของศิลปินนอ้ งใหมอ่ กี อยา่ งหนง่ึ ก็คือยอด ดาวนโ์ หลดและยอดขายซดี ี ดีวดี เี พลงต่างๆ ซ่งึ ถา้ ยอดขายน้อยหรือกระแสจากคนดูไมค่ ่อยดี ไม่ ค่อยได้รับความนยิ ม นอกจากนคี้ นดมู อี านาจในการควบคมุ ศิลปนิ ถ้าศลิ ปนิ ทาผิดหรือทาอะไรใหค้ นดไู มพ่ อใจก็ จะไม่สนบั สนุนผลงานหรือแบนศิลปนิ อย่างเช่นกรณศี ลิ ปินSeven นกั ร้องชายชือ่ ดังโดนแบนจาก
46 กลมุ่ แฟนคลับเพราะเปิดตัวว่ามีแฟน หรอื โดนแอนต้แี ฟนต่อตา้ น ทาให้ยอดจานวนแฟนคลับของ เขาจากเดิม 500,000 คน ลดลงเหลอื 200,000 คนภายในค่าคืนเดยี ว หรอื กรณขี องจงฮยอน แหง่ วง SHINee เคยบอกวา่ ชนิ เซ คยอง นกั แสดงสาวจากเรื่อง ราชนิ ีซอน ต๊อก (รบั บทเป็นเจ้าหญิงชอนมยองวัยเดก็ ) เป็นผหู้ ญงิ ทต่ี รงสเป๊กมากทีส่ ดุ ในขณะท่ี ดาราสาวเองก็ยอมรับวา่ วง SHINee เปน็ วงบอยแบนดท์ เ่ี ธอชื่นชอบมากทส่ี ุด ผ่านรายการ สถานโี ทรทัศน์ต่างๆ และลา่ สุด มีข่าวยนื ยนั อยา่ งเปน็ ทางการว่าทัง้ ค่เู ริ่มออกเดทกันรว่ มเดอื นแลว้ โดยพวกเค้าพบกันครัง้ แรกเม่อื เดือนพฤษภาคมทผี่ า่ นมาในงานคอนเสริ ์ตหนึง่ ซึง่ ทง้ั คู่ตา่ งก็มา ร่วมงานด้วย ความสัมพันธข์ องคนทงั้ สองพัฒนาจากความเปน็ เพ่ือนกระท่ังมาเป็นคนรู้ใจในทีส่ ุด หลงั จากที่ข่าวน้ไี ดร้ ับการยนื ยันจากตน้ สังกัดของทง้ั คู่ กเ็ กดิ ปฏกิ รยิ ารุนแรงของบรรดาชาวเนต็ ทนั ที โดยส่วนใหญเ่ ป็นพวกแฟนคลบั ของ \"จงฮยอน\" ซงึ่ ไมเ่ ห็นด้วยกบั การคบหาของคนท้งั คู่ บาง คนถงึ กบั โพสตข์ อ้ ความลงในรูปของดาราสาวพร้อมกับไลใ่ ห้ไปตาย หน่ึงในสมาชิกเวบ็ แฟนคลบั ของ SHINee กลา่ ววา่ \"ร้สู ึกขมขน่ื มากๆ ยงิ่ ไปกว่านัน้ พวกเรากลวั ว่านกั ข่าวจะใช้จุดนีเ้ ปลยี่ นชอ่ื เรยี กของ \"จงฮยอน\" ว่า \"แฟนหน่มุ ของ ชิน เซ คยอง\" ซึ่งพวกเรารับไมไ่ ด้\" และได้แบนศิลปิน ดังกล่าว ไม่สนบั สนุนผลงานและไม่ตดิ ตามผลงานอีกต่อไป แตอ่ ีกดา้ นหนึง่ กย็ งั มีแฟนคลับ บางส่วนที่สนบั สนุนการคบหากันครัง้ น้ี (เซาะเปยี , ออนไลน์) 2.อานาจของธุรกจิ ส่ือสารมวลชน ศิลปนิ เหลา่ นน้ั ก็จัดไดว้ า่ ไมป่ ระสบความสาเร็จและ อาจจะต้องพกั เร่ืองการออกเพลงไปก่อน นอกจากน้สี ื่อต่างๆท้งั วทิ ยุ โทรทัศน์ ก็เปน็ ผทู้ ม่ี ีอานาจใน การควบคมุ ศลิ ปนิ น้องใหมโ่ ดยสอื่ เปน็ ตัวช่วยในการโปรโมท ประชาสัมพันธ์ตวั ศิลปนิ ผา่ นการออ รายการวาไรต้ี เกมโชว์ หรือเปดิ เพลงของศิลปินตา่ งๆเพ่ือเปน็ การโปรโมใหค้ นทวั่ ไปได้รู้จักและได้ ฟงั ผลงานของศลิ ปนิ มากข้ึน ถ้าไมม่ สี ือ่ ดังกลา่ ว ช่องทางในการกระจายผลงานหรือการโปรโมทก็ อาจจะน้อยลงไปด้วยอาจทาใหต้ ัวศลิ ปินไม่ได้รับความนยิ มมากนักกเ็ ป็นได้ อกี ท้งั สอื่ ยังมีอานาจในการเลือกนาเสนอหรือไม่นาเสนอผลงานของนกั ร้องก็ได้หากว่า นักรอ้ งน้นั ประพฤตติ นไมเ่ หมาะสมหรอื กระทาผิดต่างๆซ่ึงเปน็ แบบอยา่ งไม่ดตี อ่ เยาวชนหรือ ประชาชน ส่อื กจ็ ะทาการถอดทอนโฆษณา รายการ มวิ สิควดี โี อที่ศิลปินคนนั้นมีสว่ นออกทันที อย่างเช่นกรณขี องนิชคุณนักร้องชาวไทยแหง่ วงทพู ีเอ็ม (2 PM) บอยแบนด์เกาหลชี ่ือดงั ถูก ดาเนินคดีขอ้ หาเมาแล้วขับ หลงั ประสบอบุ ตั เิ หตุขับรถเก๋งโฟลก์ สวาเก้นชนรถจักรยานยนตท์ าให้
47 คู่กรณีได้รบั บาดเจบ็ บริเวณสแ่ี ยกกลางเมอื ง ตอนตี 3 หลงั เกดิ เหตุ 1 วัน เว็บไซตอ์ อลเคป๊อป เวบ็ ข่าวบนั เทิงช่ือดังของเกาหลีใต้ รายงานวา่ สวนนา้ คาริเบยี นเบย์ ซึ่งเปน็ สวนน้าที่ใหญท่ ี่สุดของ เกาหลใี ต้ ลบรูปนิชคุณออกจากป้ายโฆษณาออนไลน์หนา้ เว็บไซต์ อยา่ งรวดเรว็ โดยรปู เดิมเป็นรปู ท่ี มนี ักรอ้ งวง ทูพีเอ็มครบทัง้ วง สวมกางเกงขาสน้ั และไมส่ วมเส้อื ยนื เรยี งแถวอวดรา่ งกายา ซึ่งนิช คณุ ยนื อยูร่ ะหว่างจุนโฮและชานซอง โดยมซี ูซี่ ดารานางแบบ ช่อื ดงั ยนื อยตู่ รงกลาง แตร่ ปู ใหม่น้ัน ลบรูปนชิ คุณทิง้ โดยเหลอื เพียงจุนซู แทคยอน อูยอง ซูซ่ี จุนโฮ และชานซอง และทางตน้ สังกัด JYP Entertainment ไดส้ ัง่ พักงานนิชคณุ เป็นระยะเวลากวา่ สามเดือน งดโชวต์ วั งดขนึ้ คอนเสิรต์ ทวั ร์ ตา่ งๆ และงดรบั งานอย่างอืน่ ดว้ ย กรณขี องสมาชกิ แหง่ วงฮิปฮอปสุดดงั Bigbang อยา่ งหน่มุ G-Dragon ทีเ่ พลงในงานชดุ Heartbreaker อลั บ้ัมเดยี่ วของเขาถูกหนว่ ยงานด้านเยาวชน ของกระทรวงสาธารณะสขุ เกาหลี ออกมาแบนห้ามเผยแพรต่ ่อเดก็ คาสง่ั ดงั กล่าวออกมาอยา่ งเปน็ ทางการ เมือ่ วนั ท่ี 3 พ.ย. หลงั จากมี การวิเคราะห์เน้ือเพลงของ G-Dragon ในเพลง She's Gone กม็ ีการประกาศออกมาอยา่ งเป็นทางการ แลว้ ว่า สือ่ ไปถงึ เร่ืองของการใชย้ าเสพติด ขณะยังที่อกี หลายเพลงในอลั บั้มชดุ นี้ ท่ีใชค้ าคอ่ นขา้ ง หยาบคาย งานชดุ ดงั กล่าวจงึ มีเนอ้ื หาไมเ่ หมาะสาหรับเยาชน ซงึ่ ตามกฎหมายของเกาหลีก็คือ บุคคล อายตุ า่ กวา่ 19 ปี จากการประกาศ งานเพลงเหลา่ นข้ี อง G-Dragon สามารถเผยแพรท่ างโทรทศั นท์ ่ัวไป ได้ตั้งแต่ เวลา 22.00 น. เป็นต้นไปเท่านัน้ ขณะทอี่ ลั บั้มชดุ Heartbreaker ของนักร้องหนุม่ ผู้นี้ กไ็ มส่ ามารถ ขายให้กบั ผมู้ ีอายุ 19 ปไี ดอ้ กี ตอ่ ไป โดยแผ่น CD ทกุ แผน่ ท่ีวางจาหนา่ ย จะต้องติดสติกเกอร์ Only 19 กากับไว้ด้วย ซึ่งถ้าผจู้ ัดจาหน่ายฝ่าฝืน จะตอ้ งถูกโทษปรบั ซง่ึ น่ีไมใ่ ชค่ ร้ังแรกทเ่ี นื้อเพลงจาก ศลิ ปนิ เกาหลถี กู ตคี วามว่ามเี น้ือหาไม่เหมาะสมกบั วัยรนุ่ ในกรณีท่เี กดิ ขึ้นเร็วๆ นกี้ ็คอื ในเดือน ส.ค. ท่ีผ่านมา เมอื่ เพลง Won't Give ของกลุม่ ศลิ ปินเกิรล์ แบนด์ 4minute ถูกสถานีโทรทัศน์ KBS แบนด์ หลังจากมีการตีความวา่ เนื้อเพลง เนอื้ เพลงดงั กล่าวมเี น้ือหาเกี่ยวข้องกบั การบรรยายความรู้สกึ ของ ผู้หญงิ ต่อเร่ืองกิจกรรมทางเพศ ในครัง้ น้ันต้นสังกดั ของ 4minute ออกมาแสดงถึงความผิดหวังในการตัดสินใจของ สถานโี ทรทัศน์ครงั้ นวี้ า่ “เพลง Won't Give แค่แสดงให้เห็นถงึ ความรสู้ ึกอันบริสทุ ธ์ิต่อผู้หญิง ถึง
48 ผูช้ ายเทานัน้ ” แต่สาหรับสาวๆ วง 4minute ได้ออกมายอมรับว่าแม้จะเสียใจท่ีเพลงของพวกเธอโดน แบน แตม่ ันทาใหห้ ลายๆ คนร้จู ักเพลงของเธอมากยงิ่ ขึ้น สว่ นในรายของศลิ ปินสาวกลุ่ม Brown Eyed Girls กบั เพลงมิวสคิ วดี ีโอเพลง Sign ท่ถี งึ แม้ ยงั จะไมโ่ ดนแบนในขณะน้ี แต่ก็ถกู วจิ ารณ์อย่างหนกั ในขอ้ หาสง่ เสรมิ ความรุนแรง ที่มีท้งั ภาพการ ทารา้ ย และทรมาน ซ่ึงดูเหมือนได้รับอิทธพิ ลมาจากภาพยนตร์เร่ือง Saw จากอเมริกา (news.zubzip.com, ออนไลน์) ส่ิงเหลา่ นแ้ี สดงใหเ้ ห็นอย่างชัดเจนมากย่งิ ขน้ึ ว่าสอ่ื และคนดูก็มีอานาจที่สามารถควบคมุ ตัว ศิลปนิ และสง่ั หา้ มงดการออกสื่อ การฉายสื่อได้ ทาให้นักร้องต้องประพฤติตนให้เหมาะสม ทาตัว เป็นแบบอยา่ งทดี่ ีแกค่ นในสังคม เพราะถา้ ไมป่ ระพฤตติ ามก็จะถกู สังคมลงโทษตอ่ ไป อานาจของ คนดูหรือกลุ่มแฟนคลับก็มีส่วนในการควบคมุ ตวั ศิลปินเช่นกนั ไม่เพยี งแตเ่ ป็นการควบคมุ ภายใต้ ค่ายเพลงหรอื โปรดิวเซอร์เหมอื นแตก่ อ่ น 6. สรปุ และอภิปรายผล (Discussion / Conclusion) เม่ือบริบททางสังคมและเศรษฐกิจของแต่ละยุคสมัยเปลี่ยนแปลงได้ทาให้นักร้องเ กาหลี เปล่ียนแปลงตามไปด้วย ข้ึนอยู่กับเหตุการณ์ขณะน้ันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรข้ึนบ้างและใครเป็นผู้มี อานาจในการปกครอง นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชนชาติอื่น หรือการรับวัฒนธรรม อ่ืนมาใช้ วัฒนธรรมท่ีได้รับจากการยืมทาให้มีผลต่อการเปล่ียนแปลงนักร้องเช่นกัน จึงจะเห็นได้ จากผลการวิจัยว่าในแต่ละยุคน้ัน นักร้องเกาหลีมีความแตกต่างกัน ยุคแรกเกาหลียังคงรูปแบบ ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบเดิมอยู่ แต่ต่อมาเมื่อถูกญี่ปุ่นเข้ามาครอบครองประเทศทาให้ วัฒนธรรมเก่าๆหายไปและก่อให้เกิดรูปแบบใหม่ข้ึนมา และพัฒนาเรื่อยๆไปตามแต่ละยุคสมัยจน กลายเป็นนกั รอ้ งเกาหลี(ไอดอล)ท่เี ราเห็นทุกวันน้ี ในส่วนของข้ันตอนการเป็นนักร้องเกาหลีในปัจจุบันนั้นต้องผ่านขั้นตอนต่างๆมากมาย รวมไปถงึ อุปสรรคต่างๆจนกว่าจะออกสสู่ ายตาสาธาระไดเ้ ชน่ ทกุ วันนี้ โดยในส่วนของข้ันตอนน้ัน จะเริ่มจากเข้าเรียนท่ีโรงเรียนสอนร้องเพลงหรือทักษะต่างๆก็ได้เปิดขึ้นเพื่อให้บุคคลที่ใฝฝัน อยากจะเป็นนักร้องมาเรียนเพ่ือตามหาความฝัน ผ่านขั้นตอนการสมัคร การประกวด การออดิช่ัน การเก็บตัวฝึกหัด การเรียนทักษะร้อง เต้น เล่นละคร สิ่งเหล่าน้ีล้วนเป็นไปได้ด้วยความยากลาบาก และต้องอดทนต่อสภาวะความกดดัน การแข่งขันจากบุคคลรอบข้าง หลายๆคนท้อและยอมแพ้ไป แต่ผู้ที่อดทนจนมีความสามารถพอท่ีจะเป็นศิลปินก็จะต้องฝึกพัฒนาทักษะตัวเองให้ดีขึ้นอย่าง
49 ตลอดเวลา และที่สาคญั ภาพลกั ษณข์ องไอดอลหรือศลิ ปนิ เกาหลีน้นั เป็นสิ่งสาคัญที่จะทาให้ประสบ ความสาเร็จ มีช่ือเสียงและสร้างรายได้แก่ตัวนักร้อง ค่ายเพลง และประเทศเกาหลี ทาให้นักร้อง เกาหลไี ดป้ ระสบความสาเร็จและมชี ่อื เสียงไปท่ัวโลก
50 บรรณานกุ รม หนงั สอื และเอกสารตพี มิ พ์ภาษาไทย เจอรัลด์ ดี แบรีแมน. (2549). เบ้ืองหลังหน้ากาก. แปลโดยอู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรงุ เทพฯ : โอ.เอส. พร้นิ ติง้ เฮาส์. ชพู นิ จิ เกษมณี, บรรณาธกิ าร. (2546). สาระนา่ รู้เกีย่ วกับเกาหลี. พิมพค์ รั้งท่ี 2. กรุงเทพฯ : แดยอง แพค็ ก้งิ แอนด์ พร้นิ ต้ิง. ดารงค์ ฐานดี. (2538). สังคมและวัฒนธรรมเกาหลี. กรุงเทพฯ : ภาควิชาสังคมวิทยาและ มานุษยวทิ ยา คณะ มนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล. (2539). ลมหายใจ...ดนตรี...ชีวิต. กรุงเทพฯ : บ้านเพลง. ธีรยทุ ธ์ บุญม.ี (2551). มเิ ชล ฟูโกต์ (Michel Foucault). กรงุ เทพฯ : วภิ าษา. พอมพะนอ (นามแฝง). (2542). ว่าแต่ว่า...กว่าจะเป็นศิลปิน. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พบั ลิชชงิ่ . ศุลีมาน (นฤมล) วงศ์สุภาพ. (2531). นางงามตู้กระจก การศึกษากระบวนการกลายเป็นหมอนวด ไทย.พมิ พค์ ร้ังท่ี 4. กรุงเทพฯ : สยาม. สนิท สมัครการ. (2538). การเปลี่ยนแปลงทางวฒั นธรรมกับการพัฒนาทางสังคม. พิมพ์คร้งั ท่ี 2. กรุงเทพฯ : โครงการส่งเสรมิ เอกสารวิชาการ สถาบนั บัณฑติ พัฒนบรหิ ารศาสตร์. สมบูรณ์ อิชยาวรกูล, บรรณาธิการ. (2551). ป้ันน้องรักให้เป็นนักร้อง. กรุงเทพฯ : วัฏฏะ คลาสสฟิ ายด์ส. สมศักดิ์ ศรีสันติสขุ . (2536). การเปล่ยี นแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม : แนวทางการศกึ ษา วิเคราะห์แและการวางแผน. ขอนแกน่ : โรงพมิ พค์ ลังนานาธรรมวิทยา. สุวรรณา เกรยี งไกรเพ็ชร์ และคณะ. (2553). ผ้คู น ดนตรี ชีวติ เล่ม2 เสยี งของประเทศไทย. กรงุ เทพฯ : ศูนย์มานุษยวทิ ยาสริ นิ ธร(องค์การมหาชน). สานักงานสารนิเทศภาคโพ้นทะเล สาธารณรัฐเกาหลีร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . (2537). ความจรงิ เกี่ยวกับเกาหลี. กรุงเทพฯ : ม.ป.พ.
Search