Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบวัดผล64

ระเบียบวัดผล64

Published by samai.c, 2021-05-25 08:58:42

Description: ระเบียบวัดผล64

Keywords: โรงเรียนนครสวรรค์

Search

Read the Text Version

เกณฑ์พจิ ารณาสรปุ ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ที่ ๔ ใฝเ่ รยี นรู้ ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา ดีเยี่ยม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยย่ี มทกุ ตวั ช้ีวัด หรอื ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม และดี ระดับละ ๑ ตวั ชี้วัด ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดี ทุกตวั ช้วี ัด หรอื ผ่าน (๑) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ ม และระดบั ผา่ น ระดบั ละ ๑ ไมผ่ ่าน (๐) ตวั ชว้ี ดั ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดับผ่าน ทกุ ตัวชีว้ ัด หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี และระดบั ผ่าน ระดบั ละ ๑ ตัวชวี้ ดั มีผลการประเมินตวั ชว้ี ัดขอ้ ใดขอ้ หนึ่งได้ระดับ ไม่ผา่ น ขอ้ ที่ ๕ อยอู่ ย่างพอเพียง นยิ าม อยู่อยา่ งพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะท่แี สดงออกถึงการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี และปรบั ตวั เพื่อยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข ผ้ทู ่อี ยูอ่ ย่างพอเพียง คอื ผู้ทดี่ าเนินชวี ิตอย่างประมาณตน มเี หตุผล รอบคอบ ระมดั ระวัง อยรู่ ่วมกบั ผูอ้ ื่นด้วยความรับผดิ ชอบ ไมเ่ บียดเบยี นผู้อืน่ เห็นคุณค่าของทรพั ยากรตา่ งๆ มีการวางแผนป้องกนั ความเส่ยี งและพร้อมรับการเปลยี่ นแปลง ตวั ช้วี ดั ๕.๑ ดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม ๕.๒ มีภูมคิ ้มุ กนั ในตัวทีด่ ี ปรบั ตวั เพ่ือยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๕.๑ ดาเนนิ ชวี ิตอย่าง พอประมาณ มเี หตุผล ๕.๑.๑ ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น เงิน สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ รอบคอบ มคี ุณธรรม อย่างประหยัด คุ้มค่าและเก็บรักษาดูแลอย่างดี รวมทัง้ การใชเ้ วลา อย่างเหมาะสม ๕.๒ มภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ท่ดี ี ๕.๑.๒ ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเก็บ ปรบั ตวั เพอื่ ย่ใู นสงั คมได้อย่างมี รักษาดแู ลอยา่ งดี ความสุข ๕.๑.๓ ปฏบิ ัตติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล ๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรียบผู้อ่ืน และไม่ทาใหผ้ อู้ ืน่ เดือนร้อน พร้อมให้อภยั เมอ่ื ผู้อื่นกระทาผดิ พลาด ๕.๒.๑ วางแผนการเรียน การทางาน และการใช้ชีวติ ประจาวันบน พื้นฐานของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ๕.๒.๒ รูเ้ ท่าทนั การเปลยี่ นแปลงของสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรบั ตัวอยรู่ ว่ มกับผอู้ น่ื ได้อย่างมีความสขุ

เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ตวั ชี้วัดท่ี ๕.๑ ดาเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๕.๑.๑ ใช้ทรัพยส์ ินของ ใชเ้ งินและของใช้ ใช้ทรัพยส์ ินของ ใช้ทรพั ย์สินของ ใช้ทรัพย์สินของ ตนเองและ ตนเอง เชน่ เงนิ ส่วนตัวอยา่ งไม่ ตนเองและ ตนเองและ ทรัพยากรของ สว่ นรวม อย่าง สง่ิ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ ประหยดั ทรพั ยากรของ ทรัพยากรของ ประหยดั คมุ้ ค่า เก็บรักษาดแู ลอย่าง อย่างประหยดั คุ้มค่า ส่วนรวมอย่าง ส่วนรวม อย่าง ดี รอบคอบ มเี หตุผล ไม่เอา และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี ประหยัด คุ้มค่า ประหยัด คุ้มค่า เปรยี บผอู้ ่นื และไม่ ทาให้ผูอ้ ่ืนเดือดร้อน รวมท้งั การใชเ้ วลาอย่าง เกบ็ รักษาดแู ลอย่าง เกบ็ รักษาดูแลอย่าง และใหอ้ ภัยเมอื่ ผู้อนื่ กระทาผดิ พลาด เหมาะสม ดี รอบคอบ ดี รอบคอบ ๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของ มเี หตุผล มเี หตุผล ไม่เอา สว่ นรวมอยา่ งประหยดั เปรียบผอู้ ่นื และไม่ คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดูแล ทาให้ผอู้ ื่นเดือดร้อน อยา่ งดี ๕.๑.๓ ปฏิบัตติ นและ ตดั สนิ ใจด้วยความ รอบคอบ มเี หตผุ ล ๕.๑.๔ ไม่เอาเปรยี บผู้อน่ื และไม่ทาใหผ้ ู้อ่ืนเดือน รอ้ นพร้อมให้อภยั เม่ือ ผู้อ่ืนกระทาผิดพลาด ตวั ชี้วดั ท่ี ๕.๒ มีภมู ิคุ้มกันในตัวทด่ี ี ปรบั ตวั เพื่อยูใ่ นสังคมได้อย่างมีความสุข พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ย่ียม (๓) ๕.๒.๑ วางแผนการ ไมว่ างแผนการเรียน ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล ใชค้ วามรู้ ข้อมูล ใช้ความรู้ ขอ้ มูล เรยี น การทางาน และ และการใช้ ข่าวสาร ในการวาง ข่าวสาร ในการวาง ข่าวสารในการวาง การใชช้ วี ติ ประจาวันบน ชวี ติ ประจาวัน แผนการเรยี น การ แผนการเรยี น การ แผนการเรยี น การ พื้นฐานของความรู้ ทางานและใชใ้ น ทางานและใช้ใน ทางาน และใชใ้ น ข้อมูล ข่าวสาร ชวี ิตประจาวันรบั รู้ ชีวติ ประจาวนั ชวี ิตประจาวัน ๕.๒.๒ รู้เทา่ ทนั การ การเปล่ียนแปลง ยอมรบั การ ยอมรบั การ เปลี่ยนแปลงของสังคม ของครอบครัว เปลย่ี นแปลงของ เปลยี่ นแปลงของ และสภาพแวดลอ้ ม ชุมชน และ ครอบครัว ชมุ ชน ครอบครัว ชุมชน ยอมรบั และปรบั ตวั อยู่ สภาพแวดล้อม สงั คม และ สังคมสภาพแวดล้อม ร่วมกับผูอ้ ื่นไดอ้ ยา่ งมี สภาพแวดลอ้ ม และปรบั ตวั อยู่ ความสขุ รว่ มกบั ผู้อ่ืนได้ ร่วมกับผ้อู ืน่ ได้อยา่ ง อยา่ งมีความสุข มีความสุข

เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ ้อท่ี ๕ อยู่อยา่ งพอเพียง ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดเี ย่ยี ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม ทกุ ตัวช้วี ดั หรือ ดี (๒) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม และดี ระดับละ ๑ ตวั ชีว้ ดั ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี ทุกตวั ช้ีวัด หรอื ผ่าน (๑) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยีย่ ม และระดับผ่านระดับละ ๑ ตัวชีว้ ดั ไม่ผ่าน (๐) ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดับผา่ น ทกุ ตวั ช้วี ัด หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดี และระดับผา่ น ระดบั ละ ๑ ตวั ชีว้ ดั มผี ลการประเมินตัวชีว้ ดั ข้อใดข้อหนึง่ ได้ระดับ ไมผ่ า่ น เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตวั ชวี้ ดั ที่ ๕.๑ ดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ย่ยี ม (๓) ๕.๑.๑ ใช้ทรัพย์สนิ ของ ใช้เงินและของใช้ ใช้ทรัพยส์ นิ ของ ใช้ทรพั ย์สนิ ของ ใชท้ รัพยส์ นิ ของ ตนเองและ ตนเอง เช่น เงนิ สว่ นตวั อย่างไม่ ตนเองและ ตนเองและ ทรพั ยากรของ ส่วนรวม อยา่ ง สิ่งของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ ประหยัด ทรัพยากรของ ทรพั ยากรของ ประหยดั คุ้มค่า เกบ็ รักษาดแู ลอย่าง อย่างประหยดั คุ้มค่า ส่วนรวมอย่าง ส่วนรวม อยา่ ง ดี รอบคอบ มี เหตุผล ไมเ่ อา และเก็บรักษาดูแลอย่างดี ประหยัด คมุ้ ค่า ประหยดั คุ้มค่า เปรียบผู้อ่นื และไม่ ทาให้ผอู้ ืน่ เดือดร้อน รวมท้ังการใช้เวลาอยา่ ง เก็บรักษาดแู ลอย่าง เกบ็ รักษาดแู ลอย่าง และใหอ้ ภยั เมอ่ื ผู้อ่ืน กระทาผิดพลาด เหมาะสม ดี รอบคอบ มี ดี รอบคอบ มี ๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของ เหตผุ ล เหตผุ ล ไมเ่ อา ส่วนรวมอย่างประหยัด เปรยี บผู้อ่ืน และไม่ คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษา ทาใหผ้ ู้อ่นื เดือดร้อน ดแู ลอย่างดี ๕.๑.๓ ปฏบิ ัติตนและ ตดั สนิ ใจดว้ ยความ รอบคอบ มเี หตผุ ล ๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืน และไมท่ าให้ผู้อื่นเดือน รอ้ นพร้อมให้อภยั เม่อื ผอู้ ื่นกระทาผิดพลาด

ตวั ชวี้ ัดท่ี ๕.๒ มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวทดี่ ี ปรบั ตวั เพ่ือยูใ่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (0) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยย่ี ม (๓) ๕.๒.๑ วางแผนการเรียน ไมว่ างแผนการเรยี น ใช้ความรู้ ขอ้ มูล ใช้ความรู้ ขอ้ มูล ใช้ความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสารในการวาง การทางาน และการใช้ และการใช้ ข่าวสาร ในการวาง ขา่ วสารในการวาง แผนการเรยี น การ ทางาน และการใช้ ชวี ติ ประจาวนั บนพนื้ ฐาน ชวี ิตประจาวนั แผนการเรยี น การ แผนการเรียน การ ในชวี ติ ประจาวัน รู้เท่าทนั กับการ ของความรู้ ข้อมูล ทางาน และการใช้ ทางาน และการใช้ เปลย่ี นแปลงของ ครอบครัว ชุมชน ขา่ วสาร ในชวี ติ ประจาวัน ในชวี ิตประจาวัน สังคม และ สภาพแวดลอ้ ม ๕.๒.๒ รู้เท่าทันการ และยอมรับการ ยอมรับการ และปรับตวั เพื่ออยู่ ร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้อยา่ ง เปลีย่ นแปลงของสังคม เปลี่ยนแปลงของ เปลีย่ นแปลงของ มีความสุข และสภาพแวดล้อม ครอบครัว ชมุ ชน ครอบครวั ชุมชน ยอมรับและปรบั ตวั อยู่ และสภาพแวดลอ้ ม สังคม และ รว่ มกับผูอ้ ื่นได้อยา่ งมี สภาพแวดลอ้ ม ความสุข และปรบั ตวั อยู่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ ง มคี วามสุข เกณฑพ์ จิ ารณาสรุปผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ ้อท่ี ๕ อยู่อยา่ งพอเพียง ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา ดีเยีย่ ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ ม ทุกตัวช้วี ดั หรือ ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม และดี ระดับละ ๑ ตัวชี้วัด ผา่ น (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี ทกุ ตัวชวี้ ัด หรือ ไม่ผ่าน (๐) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยยี่ ม และระดบั ผา่ นระดบั ละ ๑ ตวั ช้ีวัด ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ทกุ ตวั ชว้ี ัด หรือ ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี และระดบั ผ่าน ระดับละ ๑ ตัวชว้ี ดั มผี ลการประเมินตวั ช้วี ัดขอ้ ใดขอ้ หนึ่งไดร้ ะดับ ไมผ่ ่าน ข้อท่ี ๖ มุ่งมน่ั ในการทางาน นิยาม มงุ่ มัน่ ในการทางาน หมายถงึ คณุ ลักษณะที่แสดงออกถึงความต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการทาหนา้ ท่ีการ งาน ด้วยความเพียรพยายาม อดทน เพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย ผ้มู ุ่งมัน่ ในการทางาน คอื ผ้ทู ่มี ีลักษณะซง่ึ แสดงออกถึงความตง้ั ใจปฏบิ ตั หิ น้าทที่ ่ีได้รับมอบหมายด้วย ความเพยี รเพียรพยายาม ทุ่มเทกาลังกาย กาลงั ใจ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆให้สาเร็จลลุ ่วงตามเปา้ หมายท่ี กาหนดด้วยความรับผิดชอบ และมีความภาคภมู ิใจในผลงาน ตวั ชว้ี ัด ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบหนา้ ท่กี ารทางาน ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายาม และอดทนเพ่อื ให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย

ตวั ชว้ี ัด พฤติกรรมบ่งช้ี ๖.๑ ตง้ั ใจและรับผิดชอบหน้าที่ การทางาน ๖.๑.๑ เอาใจใส่ต่อการ ปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ่ี ได้รบั มอบหมาย ๖.๑.๒ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบใน การทางานให้ สาเรจ็ ๖.๒ ทางานด้วยความเพยี ร ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และ พฒั นาการทางานดว้ ยตนเอง พยายาม และอดทนเพื่อให้งาน สาเร็จตามเปา้ หมาย ๖.๒.๑ ทุ่มเททางาน อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่อปัญหา และ อุปสรรคในการทางาน ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทางานให้สาเรจ็ ๖.๒.๓ ชืน่ ชมผลงานด้วยความภาคภูมิใจ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ตัวชวี้ ัดที่ ๖.๑ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัติหนา้ ที่การงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเย่ยี ม (๓) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ การ ไม่ต้ังใจปฏิบตั หิ น้าที่ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผิดชอบ ปฏิบัติหนา้ ทที่ ี่ ไดร้ ับ การงาน ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ มอบหมาย ทไ่ี ด้รบั มอบหมายให้ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายให้ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายให้ ๖.๑.๒ ตงั้ ใจและ สาเรจ็ มกี าร สาเร็จ มีการ สาเร็จ มกี าร รับผดิ ชอบใน การทางาน ปรับปรงุ การทางาน ปรบั ปรงุ และ ปรบั ปรงุ และ ให้ สาเร็จ ใหด้ ขี ้นึ พฒั นาการทางานให้ พัฒนาการทางานให้ ๖.๑.๓ ปรับปรุงและ ดขี ้นึ ดีขนึ้ ดว้ ยตนเอง พฒั นาการทางาน ด้วยตนเอง ตัวชี้วดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ย ความเพียรพยายาม และอดทนเพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (0) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓) ๖.๒.๑ ทมุ่ เททางาน ไม่ขยนั อดทน ทางานดว้ ยความ ทางานดว้ ยความ ทางานด้วยความ อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหา ในการทางาน ขยนั อดทน และ ขยันอดทน และ ขยันอดทน และ และอปุ สรรคในการ พยายามให้งาน พยายามให้งาน พยายามให้งาน ทางาน สาเร็จตามเปา้ หมาย สาเร็จตามเปา้ หมาย สาเร็จตามเปา้ หมาย ๖.๒.๒ พยายาม และช่นื ชมผลงาน ไมย่ ่อท้อตอ่ ปญั หา ภายในเวลาท่ี แกป้ ญั หาและอุปสรรคใน ดว้ ยความภาคภูมิใจ ในการทางาน และ กาหนดไม่ย่อท้อต่อ การทางานใหส้ าเร็จ ชืน่ ชมผลงานด้วย ปญั หาอุปสรรคใน ๖.๒.๓ ช่ืนชมผลงานด้วย ความภาคภมู ใิ จ การทางาน และช่ืน ความภาคภูมใิ จ ชมผลงานดว้ ยความ ภาคภูมิใจ

เกณฑ์พจิ ารณาสรปุ ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อท่ี ๖ มุง่ มนั่ ในการทางาน ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดเี ย่ียม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเย่ียม ทกุ ตัวชี้วัด หรือ ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม และดี ระดับละ ๑ ตัวช้ีวดั ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ทุกตวั ชวี้ ัด หรอื ผา่ น (๑) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม และระดับผา่ น ระดับละ ๑ ไมผ่ ่าน (๐) ตวั ช้ีวดั ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผ่าน ทกุ ตัวชวี้ ดั หรือ ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดี และระดบั ผ่าน ระดับละ ๑ ตัวชีว้ ัด มีผลการประเมินตวั ช้วี ดั ข้อใดข้อหนงึ่ ไดร้ ะดับ ไม่ผ่าน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ตวั ชว้ี ดั ที่ ๖.๑ ต้ังใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบัติหน้าท่ีการงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (0) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ๖.๑.๑ เอาใจใสต่ อ่ การ ไม่ตงั้ ใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ ต้ังใจและรับผิดชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ที ี่ ได้รับ การงาน ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี มอบหมาย ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายให้ ที่ไดร้ บั มอบหมายให้ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายให้ ๖.๑.๒ ตั้งใจและ สาเรจ็ มีการ สาเรจ็ มีการ สาเร็จ มีการ รับผิดชอบใน การทางาน ปรบั ปรงุ และ ปรบั ปรงุ และ ปรับปรงุ และ ให้ สาเรจ็ พฒั นาการทางานให้ พฒั นาการทางานให้ พัฒนาการทางานให้ ๖.๑.๓ ปรับปรุงและ ดขี ึน้ ดีขึน้ ด้วยตนเอง ดีขึน้ ด้วยตนเอง และ พัฒนาการทางาน เป็นแบบอยา่ งท่ีดี ด้วยตนเอง ตวั ชว้ี ัดท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ย ความเพยี รพยายาม และอดทนเพอื่ ให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยยี่ ม (๓) ๖.๒.๑ ทุม่ เททางาน ไมข่ ยัน อดทน ทางานดว้ ยความ ทางานดว้ ยความ ทางานด้วยความ อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปญั หา ในการทางาน ขยนั อดทน และ ขยันอดทน และ ขยนั อดทน และ และอปุ สรรคในการ พยายามให้งาน พยายามให้งาน พยายามให้งาน ทางาน สาเรจ็ ตามเปา้ หมาย สาเรจ็ ตามเป้าหมาย สาเร็จตามเปา้ หมาย ๖.๒.๒ พยายาม ไมย่ อ่ ท้อตอ่ ปญั หา ภายในเวลาท่ี กอ่ นเวลาท่ีกาหนด แกป้ ัญหาและอปุ สรรคใน ในการทางาน และ กาหนดไม่ยอ่ ท้อต่อ ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหา การทางานให้สาเร็จ ชน่ื ชมผลงานดว้ ย ปัญหา แกป้ ญั หา อุปสรรคในการ ๖.๒.๓ ชน่ื ชมผลงานด้วย ความภาคภมู ิใจ อปุ สรรคในการ ทางาน และชน่ื ชม ความภาคภมู ใิ จ ทางาน และชืน่ ชม ผลงานดว้ ยความ ผลงานดว้ ยความ ภาคภมู ิใจ ภาคภมู ิใจ

เกณฑพ์ ิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ขอ้ ที่ ๖ มุง่ มนั่ ในการทางาน ระดับ เกณฑ์การพิจารณา ดีเยีย่ ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยี่ยม ทุกตวั ชว้ี ดั หรือ ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ ม และดี ระดับละ ๑ ตวั ชวี้ ัด ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี ทกุ ตวั ชว้ี ดั หรือ ผ่าน (๑) ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยีย่ ม และระดับผ่าน ระดับละ ๑ ไมผ่ ่าน (๐) ตัวชวี้ ดั ๑. ได้ผลการประเมินระดบั ผา่ น ทุกตวั ชี้วดั หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี และระดบั ผา่ น ระดบั ละ ๑ ตัวชวี้ ัด มผี ลการประเมินตวั ช้ีวัดข้อใดข้อหนึง่ ได้ระดับ ไม่ผ่าน ข้อท่ี ๗ รกั ความเป็นไทย นิยาม รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะท่แี สดงออกถึงความภาคภูมิใจ เหน็ คณุ คา่ ร่วมอนุรักษ์ สบื ทอด ภมู ปิ ัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารไดอ้ ย่างถกู ต้องและ เหมาะสม ผู้ทร่ี กั ความเปน็ ไทย คือ ผู้ทมี่ คี วามภาคภมู ิใจ เห็นคณุ ค่า ชนื่ ชม มสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษส์ ืบทอด เผยแพร่ภมู ิปัญญาไทย ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทย ในการสอื่ สารอย่างถูกต้องเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรม และมีความกตัญญกู ตเวที ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๗.๓ อนรุ กั ษ์ และสืบทอดภมู ปิ ญั ญาไทย ตวั ชี้วดั พฤติกรรมบ่งช้ี ๗.๑ ภาคภูมใิ จใน ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ ๗.๑.๑ แต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย มีสมั มาคารวะ และวฒั นธรรม และมคี วาม กตญั ญูกตเวทีต่อผู้มพี ระคุณ กตญั ญูกตเวที ๗.๑.๒ รว่ มกจิ กรรมทีเ่ ก่ยี วข้องกับประเพณศี ิลปะ และวัฒนธรรม ๗.๑.๓ ชักชวนแนะนาให้ผู้อ่ืนปฏบิ ตั ติ ามขนบธรรมเนียมประเพณี ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใช้ ศลิ ปะ และวฒั นธรรม ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม ๗.๒.๑ ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ๗.๓ อนุรักษ์ และสบื ทอดภูมิ ๗.๒.๒ ชักชวน แนะนาให้ผู้อื่นเห็นคณุ คา่ ของการใช้ภาษาไทยที่ ปญั ญาไทย ถกู ต้อง ๗.๓.๑ นาภมู ปิ ัญญาไทยมาใชใ้ ห้เหมาะสมในวิถชี วี ติ ๗.๓.๒ ร่วมกิจกรรมทเ่ี กีย่ วข้องกบั ภูมิปัญญาไทย ๗.๓.๓ แนะนา มสี ว่ นร่วมในการสบื ทอดภมู ิปญั ญาไทย

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ตวั ชว้ี ดั ๗.๑ ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและวฒั นธรรม และมคี วามกตัญญกู ตเวที พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓) ๗.๑.๑ แตง่ กายและ ไมม่ ีสมั มาคารวะตอ่ ปฏิบตั ติ นเป็นผ้มู ี ปฏิบัติตนเป็นผ้มู ี ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้มู ี มีมารยาทงดงาม ผูใ้ หญ่ มารยาทแบบไทยมี มารยาทแบบไทย มี มารยาทแบบไทย มี แบบไทย มสี มั มา สมั มาคารวะ สัมมาคารวะ กตญั ญู สัมมาคารวะ กตญั ญู คารวะ กตญั ญู กตัญญูกตเวทีต่อผู้มี กตเวทีตอ่ ผผู้ ูม้ ี กตเวทีต่อผ้ผู ู้มี กตเวทีตอ่ ผู้มพี ระคุณ พระคณุ และแตง่ พระคณุ และแต่ง พระคณุ แตง่ กาย ๗.๑.๒ ร่วม กายแบบไทยเข้า กายแบบไทยด้วย แบบไทยดว้ ยความ กจิ กรรมที่เกย่ี วข้อง รว่ มหรือมสี ว่ นร่วม ความภาคภมู ิใจเข้า ภาคภมู ิใจเข้าร่วม กับประเพณีศิลปะ ในกิจกรรมที่ รว่ ม หรือมีส่วนร่วม หรอื มสี ว่ นรว่ มใน และวัฒนธรรม เกีย่ วข้องกบั ในกิจกรรมท่ี การจัดกจิ กรรมท่ี ๗.๑.๓ ชักชวน ประเพณี ศิลปะ เกยี่ วขอ้ งกับ เกีย่ วขอ้ งกับ แนะนาใหผ้ ู้อืน่ และวฒั นธรรมไทย ประเพณี ศลิ ปะ ประเพณี ศลิ ปะ ปฏิบัตติ าม และวัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมไทย ขนบธรรมเนียม ชกั ชวน แนะนา ประเพณศี ลิ ปะ เพ่อื น และคนอืน่ และวฒั นธรรม ปฏิบตั ติ าม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย ตัวชวี้ ดั ๗.๒ เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยี่ยม (๓) ๗.๒.๑ ใช้ภาษาไทย ไมส่ นใจใชภ้ าษาไทย ใช้ภาษาไทยเลขไทย ใช้ภาษาไทย เลข ใช้ภาษาไทย เลข และเลขไทยในการ อยา่ งถูกต้อง ในการสอื่ สารได้ ไทยในการสื่อสารได้ ไทยในการส่ือสารได้ ส่อื สารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม และแนะนาให้ผู้อนื่ และแนะนา ชักชวน และแนะนา ชักชวน ๗.๒.๒ ชกั ชวน ใชภ้ าษาไทยที่ ให้ผูอ้ ืน่ ใชภ้ าษาไทย ให้ผอู้ ื่นใชภ้ าษาไทย แนะนา ใหผ้ ้อู ่นื เหน็ ถูกต้อง ท่ถี ูกต้อง ทีถ่ ูกต้องเป็นประจา คณุ คา่ ของการใช้ เปน็ แบบอย่างท่ีดี ภาษาไทยทีถ่ ูกตอ้ ง ด้านการใช้ ภาษาไทย

ตวั ชีว้ ดั ๗.๓ อนุรักษ์ และสบื ทอดภูมิปัญญาไทย พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเย่ียม (๓) ๗.๓.๑ นาภมู ิ ไมส่ นใจภมู ิปญั ญา สบื คน้ ภมู ิปญั ญาไทย สบื ค้นภูมปิ ญั ญาไทย สืบคน้ ภูมิปัญญาไทย ปญั ญาไทยมาใช้ให้ ไทย ท่ีใช้ในทอ้ งถ่ิน เข้า ทม่ี ีอยู่ในทอ้ งถ่นิ เข้า เข้าร่วม และชกั ชวน เหมาะสมในวิถีชีวติ รว่ ม และชกั ชวนคน รว่ ม และชกั ชวนคน คนในครอบครัว ๗.๓.๒ รว่ ม ในครอบครวั หรือ ในครอบครวั เพ่อื น เพือ่ น และผูอ้ นื่ เข้า กจิ กรรมทเี่ กย่ี วข้อง เพอื่ นเข้าร่วม และผู้อน่ื เข้ารว่ ม ร่วมกิจกรรมที่ กบั ภูมิปญั ญาไทย กจิ กรรมที่เกย่ี วข้อง กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เก่ียวขอ้ งกับภมู ิ ๗.๓.๓ แนะนา มี กับภูมปิ ัญญาไทยใน กับภูมปิ ญั ญาไทย ใช้ ปัญญาไทย ใชแ้ ละ ส่วนร่วมในการสบื ชวี ติ ประจาวัน และแนะนาใหเ้ พอื่ น แนะนาใหเ้ พ่ือนใช้ ทอดภมู ิปญั ญาไทย ใชภ้ ูมปิ ญั ญาไทยใน ภมู ปิ ัญญาไทยใน ชวี ติ ประจาวัน ชวี ิตประจาวนั และมี สว่ นร่วมในการสืบ ทอดภูมิปญั ญาไทย เกณฑ์พจิ ารณาสรปุ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ขอ้ ท่ี ๗ รักความเป็นไทย ระดับ เกณฑ์การพิจารณา ดีเยีย่ ม (๓) ๑. ได้ผลการประเมินระดับดีเยีย่ ม ทกุ ตัวชี้วดั หรือ ดี (๒) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยย่ี ม จานวน ๒ ตวั ชี้วัด และ ผา่ น (๑) ไม่มีผลการประเมนิ ตวั ชว้ี ัดใดต่ากวา่ ระดับผ่าน ไมผ่ ่าน (๐) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ๒ ทุกตวั ชว้ี ัด หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จานวน ๑ ตวั ชว้ี ัด และ ไมม่ ผี ลการประเมินตัวชว้ี ัดใดต่ากว่าระดับผ่าน ๑. ได้ผลการประเมินระดับผ่าน ทกุ ตัวชว้ี ัด หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี และไมม่ ผี ลการประเมินตวั ชวี้ ัดใดต่ากว่า ระดบั ผ่าน มผี ลการประเมินตวั ช้ีวัดขอ้ ใดข้อหนึ่งได้ระดับ ไมผ่ ่าน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ตัวช้ีวดั ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและวฒั นธรรม และมีความกตญั ญกู ตเวที พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยี่ยม (๓) ๗.๑.๑ แต่งกายและ ไมม่ ีสัมมาคารวะต่อ ปฏิบัตติ นเป็นผมู้ ี ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ ี ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ ี มมี ารยาทงดงาม ผใู้ หญ่ มารยาทแบบไทย มี มารยาทแบบไทย มี มารยาทแบบไทย มี แบบไทย มีสมั มา สัมมาคารวะ กตัญญู สมั มาคารวะ กตัญญู สัมมาคารวะ กตัญญู คารวะ กตญั ญู กตเวทีตอ่ ผู้มี กตเวทีต่อผู้มี กตเวทตี อ่ ผู้มี กตเวทตี อ่ ผู้มี พระคณุ และแตง่ พระคณุ และ แต่ง พระคณุ แตง่ กาย พระคณุ กายแบบไทยเข้า กายแบบไทยดว้ ย แบบไทยดว้ ยความ ๗.๑.๒ ร่วม รว่ ม หรือมีส่วนรว่ ม ความภาคภูมิใจเข้า ภาคภมู ิใจเขา้ ร่วม กิจกรรมทเ่ี กีย่ วข้อง ในกจิ กรรมท่ี ร่วม หรอื มีส่วนร่วม หรอื มีสว่ นร่วมใน กับประเพณีศลิ ปะ เกย่ี วขอ้ งกับ ในจัดกิจกรรมท่ี การจดั กิจกรรมท่ี และวฒั นธรรม ประเพณี ศิลปะ เกี่ยวข้องกบั เกย่ี วข้องกับ ๗.๑.๓ ชกั ชวน และวัฒนธรรมไทย ประเพณี ศลิ ปะ ประเพณี ศลิ ปะ แนะนาให้ผู้อนื่ และวัฒนธรรมไทย และวฒั นธรรมไทย ปฏบิ ตั ิตาม ชักชวน แนะนาผู้อ่นื ขนบธรรมเนยี ม และเปน็ ผนู้ าหรือ ประเพณศี ลิ ปะ แกนนาในการปฏบิ ัติ และวัฒนธรรม ตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย ตวั ชว้ี ดั ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทย ไม่สนใจใชภ้ าษาไทย ใช้ภาษาไทยเลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลข ใชภ้ าษาไทย เลข และเลขไทยในการ อย่างถูกต้อง ในการส่อื สารได้ ไทยในการสื่อสารได้ ไทยในการสอื่ สารได้ สอื่ สารได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม และแนะนา ชักชวน และแนะนา ชกั ชวน และแนะนา ชักชวน ๗.๒.๒ ชกั ชวน ให้ผอู้ ่นื ใชภ้ าษาไทย ใหผ้ อู้ ่ืนเหน็ คุณคา่ ใน ให้ผู้อนื่ เหน็ คณุ คา่ ใน แนะนา ใหผ้ ูอ้ นื่ เห็น ทถ่ี ูกต้อง การใช้ภาษาไทยที่ การใช้ภาษาไทยที่ คุณค่าของการใช้ ถกู ต้อง ถูกต้องเปน็ ประจา ภาษาไทยท่ีถูกต้อง เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี ดา้ นการใช้ ภาษาไทย

ตัวชว้ี ัด ๗.๓ อนรุ ักษ์ และสืบทอดภูมิปญั ญาไทย พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ๗.๓.๑ นาภูมิ ไม่สนใจภูมิปัญญา สืบคน้ ภมู ปิ ญั ญาไทย สืบค้นภมู ิปัญญาไทย สบื ค้นภมู ปิ ญั ญาไทย ปัญญาไทยมาใชใ้ ห้ ไทย ท่ีมีอยู่ในทอ้ งถน่ิ เข้า ท่ีมอี ยู่ในท้องถ่ิน เข้า ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เข้า เหมาะสมในวิถชี วี ิต ร่วม และชักชวนคน ร่วม และชักชวนคน ร่วม และชักชวนคน ๗.๓.๒ ร่วม ในครอบครวั เพอ่ื น ในครอบครัว เพ่ือน ในครอบครัว เพื่อน กิจกรรมท่ีเกยี่ วข้อง และผอู้ น่ื เขา้ ร่วม และผอู้ ืน่ เขา้ ร่วม และผอู้ ่นื เขา้ รว่ ม กบั ภูมิปญั ญาไทย กิจกรรมทเี่ ก่ียวข้อง กจิ กรรมทีเ่ กี่ยวข้อง กิจกรรมที่เก่ียวข้อง ๗.๓.๓ แนะนา มี กบั ภมู ิปัญญาไทย ใช้ กับภูมิปัญญาไทย ใช้ กบั ภูมปิ ัญญาไทย ใช้ ส่วนร่วมในการสืบ และแนะนาให้เพอ่ื น และแนะนาให้เพื่อน และแนะนาให้ผอู้ น่ื ทอดภูมิปัญญาไทย ใช้ภมู ิปญั ญาไทยใน ใชภ้ มู ปิ ญั ญาไทยใน ใช้ภูมปิ ัญญาไทยใน ชวี ิตประจาวัน ชวี ติ ประจาวนั และมี ชวี ิตประจาวันและมี สว่ นรว่ มในการสืบ สว่ นรว่ มในการสบื ทอดภูมปิ ัญญาไทย ทอดและเผยแพร่ภมู ิ ปญั ญาไทย เกณฑพ์ จิ ารณาสรุปผลการประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ขอ้ ท่ี ๗ รกั ความเป็นไทย ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา ดเี ย่ียม (๓) ๑. ได้ผลการประเมินระดบั ดีเย่ยี ม ทุกตวั ชีว้ ดั หรือ ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมินระดับดีเยย่ี ม จานวน ๒ ตวั ชีว้ ัด และ ผ่าน (๑) ไมม่ ีผลการประเมนิ ตัวชีว้ ดั ใดต่ากว่าระดบั ผา่ น ไม่ผ่าน (๐) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ๒ ทกุ ตวั ช้ีวัด หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยี่ยม จานวน ๑ ตัวชวี้ ดั และ ไม่มผี ลการประเมินตัวชี้วัดใดต่ากวา่ ระดับผา่ น ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ทุกตัวชี้วดั หรือ ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี และไมม่ ีผลการประเมินตวั ชวี้ ดั ใดตา่ กว่า ระดบั ผา่ น มผี ลการประเมินตัวชว้ี ดั ขอ้ ใดข้อหนึ่งไดร้ ะดับ ไมผ่ ่าน ขอ้ ท่ี ๘ มีจิตสาธารณะ นิยาม มีจติ สาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถงึ การมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมหรือสถานการณ์ท่ี ก่อให้เกดิ ประโยชน์แกผ่ อู้ ่นื ชมุ ชน และสงั คม ดว้ ยความเต็มใจ กระตือรือร้น โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ทมี่ จี ติ สาธารณะ คอื ผูท้ ีม่ ีลักษณะเปน็ ผใู้ ห้และช่วยเหลอื ผ้อู น่ื แบง่ ปนั ความสุขส่วนตนเพอ่ื ทา ประโยชนแ์ กส่ ่วนรวม เขา้ ใจ เหน็ ใจผู้ทม่ี ีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลอื สงั คม อนรุ ักษส์ ิ่งแวดลอ้ มด้วยแรงกาย สตปิ ญั ญา ลงมอื ปฏิบัตเิ พ่ือแก้ปัญหา ลงมอื ปฏบิ ัติเพื่อแก้ปญั หา หรือรว่ มสรา้ งสรรคส์ ่ิงทด่ี ีงามใหเ้ กดิ ในชุมชน โดยไมห่ วังส่ิงตอบแทน ตวั ชว้ี ัด ๘.๑ ช่วยเหลือผู้อ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจโดยไม่หวังผลตอบแทน ๘.๒ เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลอื ผ้อู ่นื ดว้ ยความ เต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๑.๑ ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างานดว้ ยความเต็มใจ ๘.๑.๒ อาสาทางานให้ผู้อื่นด้วยกาลังกาย กาลงั ใจ และ ๘.๒ เข้ารว่ มกิจกรรมที่เปน็ กาลงั สติปญั ญา ด้วยความสมคั รใจ ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน ๘.๑.๓ แบ่งปันสง่ิ ของทรัพย์สิน และสังคม และอน่ื ๆและชว่ ยแก้ปัญหา หรือสร้างความสขุ ใหก้ ับผู้อ่ืน ๘.๒.๑ ดแู ลรกั ษา สาธารณะสมบัติ และสงิ่ แวดล้อมด้วยความเต็มใจ ๘.๒.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชุมชน และ สังคม ๘.๒.๓ เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพื่อแก้ปัญหาหรอื รว่ มสรา้ งส่งิ ที่ดงี ามของ สว่ นรวมตามสถานการณ์ท่เี กิดขนึ้ ด้วยความกระตือรอื รน้ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ตัวช้ีวดั ๘.๑ ชว่ ยเหลือผูอ้ ื่นดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓) ๘.๑.๑ ชว่ ยพ่อแม่ ไมช่ ว่ ยเหลอื พ่อแม่ ชว่ ยพอ่ แม่ ช่วยพ่อแม่ ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครองและครู ผปู้ กครอง และครู ผู้ปกครอง และครู ผปู้ กครอง และครู ผ้ปู กครอง และครู ทางานดว้ ยความเต็ม ทางาน อาสาทางาน ทางาน อาสาทางาน ทางาน อาสาทางาน ใจ และแบง่ ปนั ส่ิงของ ชว่ ยคดิ ช่วยทา และ ชว่ ยคดิ ช่วยทา ๘.๑.๒ อาสาทางาน ให้ผู้อน่ื ดว้ ยความ แบง่ ปนั สง่ิ ของให้ แบ่งปนั ส่งิ ของและ ใหผ้ ู้อื่นด้วยกาลงั เตม็ ใจ ผู้อืน่ ดว้ ยความเตม็ ช่วยแก้ปัญหาให้ กาย กาลงั ใจ และ ใจ ผู้อนื่ ดว้ ยความเต็ม กาลงั สติปญั ญา ใจ ดว้ ยความสมัครใจ ๘.๑.๓ แบง่ ปนั สง่ิ ของทรัพยส์ นิ และอืน่ ๆและชว่ ย แกป้ ญั หา หรอื สรา้ ง ความสุขให้กบั ผู้อน่ื

ตัวชี้วัด ๘.๒ เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ๘.๒.๑ ดแู ลรกั ษา ไม่สนใจดูแลรกั ษา ดูแลรกั ษาทรัพย์ ดูแลรกั ษาทรัพย์ ดูแลรกั ษาทรัพย์ สาธารณะสมบัติ ทรพั ยส์ นิ และ สมบัติ สงิ่ แวดล้อม สมบตั ิ สิ่งแวดลอ้ ม สมบัติ สิ่งแวดล้อม และส่ิงแวดลอ้ มดว้ ย ส่ิงแวดล้อมของ ของห้องเรยี น ของห้องเรยี น ของห้องเรียน ความเต็มใจ โรงเรียน โรงเรยี น และเขา้ โรงเรยี น ชมุ ชน และ โรงเรียน ชมุ ชน และ ๘.๒.๒ เขา้ ร่วม รว่ มกจิ กรรมเพื่อ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อ เข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อ กิจกรรมทเ่ี ป็น สงั คมและสาธารณะ สังคมและสาธารณะ สงั คมและสาธารณะ ประโยชน์ต่อ ประโยชนข์ อง ประโยชนข์ อง ประโยชน์ของ โรงเรยี น ชมุ ชน โรงเรียนดว้ ยความ โรงเรยี นดว้ ยความ โรงเรียนดว้ ยความ และสังคม เตม็ ใจ เตม็ ใจ เตม็ ใจ ๘.๒.๓ เข้าร่วม กิจกรรมเพื่อ แก้ปญั หาหรือร่วม สร้างสิง่ ท่ีดงี ามของ ส่วนรวมตาม สถานการณ์ ทีเ่ กิดข้นึ ดว้ ยความ กระตือรอื ร้น เกณฑ์พิจารณาสรุปผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ข้อที่ ๘ มจี ติ สาธารณะ ระดบั เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดีเยยี่ ม (๓) ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม ทุกตวั ชวี้ ัด หรอื ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมินระดบั ดีเย่ยี ม และดี ระดบั ละ ๑ ตวั ชีว้ ัด ผา่ น (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ทุกตัวชี้วัด หรอื ไมผ่ า่ น (๐) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ ม และระดับผา่ น ระดับละ ๑ ตัวชีว้ ดั ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ทกุ ตวั ชว้ี ดั หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี และระดับผ่าน ระดับละ ๑ ตวั ช้ีวดั มผี ลการประเมินตวั ช้ีวดั ข้อใดข้อหน่งึ ได้ระดับ ไมผ่ า่ น

เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตัวช้ีวัด ๘.๑ ช่วยเหลือผอู้ ่ืนดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเย่ยี ม (๓) ๘.๑.๑ ช่วยพ่อแม่ ไม่ชว่ ยเหลอื พ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครู ผู้ปกครองและครู ผปู้ กครอง และครู ผูป้ กครอง และครู ผู้ปกครอง และครู ทางาน อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา ทางานดว้ ยความเต็ม ทางาน อาสาทางาน ทางาน อาสาทางาน แบ่งปนั ส่งิ ของ ทรัพยส์ นิ และอน่ื ๆ ใจ ชว่ ยคิด ช่วยทาและ ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และเตม็ ใจช่วย แกป้ ัญหาหรือสร้าง ๘.๑.๒ อาสาทางาน แบ่งปันสง่ิ ของให้ แบง่ ปันส่งิ ของ ความสขุ ใหแ้ ก่ผู้อืน่ โดยไม่หวังผล ให้ผูอ้ ่ืนด้วยกาลัง ผู้อ่นื ดว้ ยความเตม็ ทรัพย์สิน และอื่น ๆ ตอบแทน เป็น แบบอย่างทีด่ ี กาย กาลงั ใจ และ ใจ และชว่ ยแก้ปญั หา กาลงั สติปญั ญา ใหผ้ อู้ น่ื ด้วยความ ดว้ ยความสมคั รใจ เตม็ ใจ ๘.๑.๓ แบ่งปัน สิ่งของทรัพย์สิน และอนื่ ๆและช่วย แกป้ ัญหา หรือสรา้ ง ความสุขให้กบั ผู้อน่ื ตวั ชี้วดั ๘.๒ เข้าร่วมกิจกรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผา่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๘.๒.๑ ดูแลรกั ษา ไม่สนใจดูแลรกั ษา ดูแลรักษาทรัพย์ ดแู ลรกั ษาทรัพย์ ดแู ลรกั ษาทรัพย์ สาธารณะสมบตั ิ ทรัพย์สินและ สมบตั ิ สง่ิ แวดล้อม สมบัติ ส่ิงแวดลอ้ ม สมบัติ สิง่ แวดลอ้ ม และสิ่งแวดลอ้ มดว้ ย ส่งิ แวดล้อมของ ของห้องเรียน ของห้องเรียน ของห้องเรียน ความเต็มใจ โรงเรียน โรงเรยี น โรงเรยี น ชุมชน และ โรงเรยี น ชุมชน และ ๘.๒.๒ เขา้ รว่ ม ชุมชน และเขา้ รว่ ม เขา้ รว่ มกิจกรรมเพ่ือ เป็นผู้นา หรือเขา้ กจิ กรรมทีเ่ ปน็ กิจกรรมเพ่ือสังคม สังคมและ รว่ มกิจกรรมเพื่อ ประโยชนต์ ่อ และ สาธารณประโยชน์ สงั คมและ โรงเรยี น ชมุ ชน สาธารณประโยชน์ ของโรงเรยี นและ สาธารณประโยชน์ และสงั คม ของโรงเรยี นดว้ ย ชมุ ชน หรอื รว่ ม ของโรงเรยี น ชมุ ชน ๘.๒.๓ เขา้ ร่วม ความเต็มใจ กิจกรรมเพ่ือ และรว่ มกจิ กรรม กจิ กรรมเพ่ือ แก้ปัญหาหรือรว่ ม เพ่ือแก้ปัญหาหรือ แกป้ ัญหาหรือร่วม สร้างสิ่งท่ดี งี ามตาม ร่วมสร้างสง่ิ ทด่ี งี าม สรา้ งสิง่ ท่ดี งี ามของ สถานการณ์ท่ีเกดิ ข้ึน ตามสถานการณ์ท่ี ส่วนรวมตาม เกดิ ขน้ึ สถานการณ์ ทีเ่ กิดขึน้ ด้วยความ กระตือรอื ร้น

เกณฑ์พิจารณาสรุปผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ท่ี ๘ มจี ติ สาธารณะ ระดับ เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดีเยยี่ ม (๓) ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ ม ทกุ ตัวช้วี ัด หรือ ดี (๒) ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม และดี ระดับละ ๑ ตัวชวี้ ัด ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี ทุกตัวชีว้ ดั หรือ ผา่ น (๑) ๒. ได้ผลการประเมินระดับดีเย่ยี ม และระดับผ่าน ระดับละ ๑ ไม่ผา่ น (๐) ตัวช้ีวดั ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ผา่ น ทุกตวั ชวี้ ัด หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดี และระดบั ผา่ น ระดับละ ๑ ตัวชี้วดั มีผลการประเมินตัวช้ีวัดขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ไดร้ ะดับ ไมผ่ า่ น เกณฑพ์ ิจารณาสรปุ ผลการประเมนิ รวมทกุ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ รายภาค ระดับ เกณฑก์ ารพิจารณา ดีเยีย่ ม (๓) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยี่ยม จานวน ๕-๘ คณุ ลกั ษณะ และ ดี (๒) ไม่มีคณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมินต่ากว่าระดบั ดี ผ่าน (๑) ๑. ได้ผลการประเมินระดับเย่ียม จานวน ๑-๔ คุณลกั ษณะและไมม่ ี ไม่ผ่าน (๐) คุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินตา่ กว่าระดบั ดี หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียมจานวน ๔ คณุ ลกั ษณะ และไม่มี คุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ากว่าระดบั ผ่านหรอื ๓. ไดผ้ ลการประเมินระดับ ดี จานวน ๕ – ๘ คุณลักษณะ และไม่มี คุณลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดบั ผ่าน ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ผ่าน จานวน ๕ – ๘ คุณลักษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากวา่ ระดบั ผ่าน หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี จานวน ๔ คณุ ลกั ษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมนิ ตา่ กว่าระดบั ผา่ น ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับไม่ผ่าน ต้งั แต่ ๑ คณุ ลักษณะ

ภาคผนวก ง การประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น

การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น หลกั สตู รโรงเรียนนครสวรรค์ พทุ ธศกั ราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ถือเปน็ ความสามารถหลกั ที่สาคัญซ่งึ จาเป็นต้องปลกู ฝงั และ พฒั นาใหเ้ กิดขนึ้ กับผู้เรียนด้วยกระบวนการจัดการศึกษาตามหลักสูตร ในทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ขณะเดยี วกนั ก็จาเป็นต้องตรวจสอบวา่ ความสามารถดังกล่าวเกดิ ขนึ้ แลว้ หรอื ยัง เนอ่ื งจากการพฒั นา ความสามารถด้านการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ผู้เรียนจะไดร้ ับการพัฒนาตามลาดับอยา่ งต่อเนอ่ื ง ในกระบวนการจัดการเรยี นรู้ตามกลุม่ สาระการเรียนรู้ หรือกจิ กรรมต่าง ๆ กระบวนการตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ ที่เกดิ ขน้ึ ทงั้ ความรคู้ วามเข้าใจในการปฏิบตั ิ จะดาเนินการไปดว้ ยกันในกระบวนการ ความหมาย การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน เป็นการประเมนิ ศกั ยภาพของผู้เรียนในการอา่ น จากหนงั สือ ตาราเรียน เอกสาร และสือ่ ต่าง ๆ เพ่ือหาและหรือเพิม่ พูนความรู้ ประสบการณ์ ความ สนุ ทรยี ์ และประยุกต์ใช้ แล้วนาเน้อื หาสาระทอ่ี ่านมาคดิ วิเคราะห์ นาไปสกู่ ารแสดงความคดิ เหน็ การ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ การแก้ปญั หาในเรอ่ื งต่าง ๆ และถา่ ยทอดความคดิ นัน้ ด้วยการเขียนที่มีสานวน ภาษาถูกต้อง มีเหตุผลและลาดบั ข้ันตอนในการนาเสนอ สามารถสร้างความเขา้ ใจแก่ผอู้ ่านไดอ้ ยา่ ง ชัดเจนตามระดบั ความสามารถในแต่ละระดับช้นั

ขอบเขตการประเมินและตัวชว้ี ัดท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓ ขอบเขตการประเมนิ การอา่ นจากส่อื สิง่ พิมพแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทใี่ ห้ขอ้ มูลสารสนเทศ ข้อคดิ ความรู้เกยี่ วกับ สังคมและส่งิ แวดลอ้ มที่เอ้ือให้ผ้อู ่านนาไปคดิ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ สรปุ แนวคิดคุณค่าที่ได้ นาไป ประยกุ ตใ์ ชด้ ว้ ยวจิ ารณญาณ และถ่ายทอดเป็นขอ้ เขยี นเชิงสรา้ งสรรค์หรือรายงานดว้ ยภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสม เชน่ อ่านหนงั สือพิมพ์ วารสาร หนงั สอื เรียน บทความ สุนทรพจน์ คาแนะนาคาเตอื น แผนภมู ิ ตาราง แผนที่ ตัวชวี้ ดั ความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ๑. สามารถคัดสรรสือ่ ทตี่ ้องการอ่านเพื่อหาข้อมลู สารสนเทศไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ สามารถ สร้างความเขา้ ใจและประยุกต์ใช้ความรจู้ ากการอา่ น ๒. สามารถจบั ประเด็นสาคัญและประเด็นสนับสนุน โตแ้ ยง้ ๓. สามารถวเิ คราะห์ วิจารณ์ ความสมเหตสุ มผล ความน่าเช่ือถอื ลาดับความและความ เปน็ ไปได้ของเรอ่ื งทอี่ ่าน ๔. สามารถสรุปคุณคา่ แนวคดิ แง่คิดที่ได้จากการอ่าน ๕. สามารถสรปุ อภิปราย ขยายความ แสดงความคดิ เห็น โตแ้ ย้ง สนับสนุน โนม้ นา้ ว โดยการ เขยี นส่ือสารในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ผังความคดิ เปน็ ตน้ เกณฑพ์ จิ ารณาสรปุ ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน รายภาค ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา ดีเยี่ยม (๓) ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จานวน ๔-๕ ตวั ชวี้ ดั และไม่ ดี (๒) มตี ัวชี้วดั ใดไดผ้ ลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับดี ผา่ น (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จานวน ๑-๓ ตวั ช้ีวัดและไม่มี ไม่ผา่ น (๐) ตวั ชวี้ ัดใดไดผ้ ลการประเมินต่ากว่าระดบั ดี หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยีย่ มจานวน ๔ ตวั ชี้วัด และไม่มี ตวั ชวี้ ดั ใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากวา่ ระดบั ผ่านหรือ ๓. ได้ผลการประเมินระดับ ดี จานวน ๕ ตัวชวี้ ดั และไมม่ ีตวั ชว้ี ัดใด ได้ผลการประเมนิ ต่ากว่าระดับ ผา่ น ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น จานวน ๕ ตวั ช้ีวดั และไมม่ ีตวั ชีว้ ดั ใดได้ผลการประเมินต่ากว่าระดบั ผา่ น หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี จานวน ๑-๒ ตัวชวี้ ดั และไมม่ ี ตัวช้วี ดั ใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่าระดับ ผา่ น ได้ผลการประเมินระดบั ไม่ผ่าน ตั้งแต่ ๑ ตวั ช้วี ดั

ขอบเขตการประเมนิ และตัวชวี้ ดั ท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ ขอบเขตการประเมิน การอา่ นจากสือ่ สงิ่ พมิ พ์และสื่ออเิ ล็กทรอนิกสท์ ีใ่ ห้ข้อมลู สารสนเทศ ความรู้ ประสบการณ์ แนวคดิ ทฤษฎี รวมทัง้ ความงดงามทางภาษาทเ่ี ออื้ ใหผ้ ูอ้ ่านวเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ แสดงความ คิดเห็นโต้แย้งหรือสนับสนนุ ทานาย คาดการณ์ ตลอดจนประยกุ ต์ใช้ในการตดั สินใจ แก้ปญั หา และ ถ่ายทอด เป็นข้อเขียน เชิงสรา้ งสรรค์ รายงาน บทความทางวชิ าการอยา่ งถกู ต้องตามหลกั วชิ า เช่น อ่านบทความวชิ าการ วรรณกรรมประเภทตา่ ง ๆ ตัวช้ีวดั ความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ๑. สามารถอ่านเพื่อการศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่มิ พูนความรู้ ประสบการณ์ และการประยกุ ต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน ๒. สามารถจับประเด็นสาคญั ลาดบั เหตุการณ์จากการอา่ นสอ่ื ท่ีมีความซบั ซ้อน ๓. สามารถวเิ คราะหส์ งิ่ ที่ผเู้ ขียนต้องการสือ่ สารกับผู้อ่าน และสามารถวิพากษ์ ให้ ขอ้ เสนอแนะในแง่มุมต่าง ๆ ๔. สามารถประเมนิ ความน่าเช่ือถือ คุณค่า แนวคิดท่ีได้จากส่ิงทอ่ี ่านอย่างหลากหลาย ๕. สามารถเขยี นแสดงความคิดเหน็ โต้แย้ง สรุป โดยมขี อ้ มลู อธบิ ายสนับสนนุ อยา่ งเพยี งพอ และสมเหตุสมผล เกณฑ์พจิ ารณาสรุปผลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน รายภาค ระดบั เกณฑก์ ารพิจารณา ดีเยย่ี ม (๓) ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเยี่ยม จานวน ๔-๕ ตวั ชว้ี ดั และไม่ ดี (๒) มีตัวช้ีวดั ใดได้ผลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับดี ผา่ น (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเยยี่ ม จานวน ๑-๓ ตวั ช้ีวัดและไม่มี ไมผ่ ่าน (๐) ตัวช้ีวดั ใดได้ผลการประเมนิ ต่ากว่าระดบั ดี หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเยยี่ มจานวน ๔ ตวั ชว้ี ัด และไม่มี ตวั ช้วี ัดใดไดผ้ ลการประเมินต่ากว่าระดบั ผ่านหรือ ๓. ได้ผลการประเมินระดับ ดี จานวน ๕ ตัวชว้ี ดั และไม่มีตวั ชว้ี ดั ใด ได้ผลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับ ผา่ น ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน จานวน ๕ ตวั ชว้ี ัด และไมม่ ตี วั ชี้วัด ใดได้ผลการประเมินต่ากวา่ ระดับผา่ น หรอื ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี จานวน ๑-๒ ตวั ชว้ี ัด และไมม่ ี ตวั ชี้วัดใดได้ผลการประเมินต่ากว่าระดบั ผ่าน ได้ผลการประเมนิ ระดบั ไมผ่ ่าน ต้งั แต่ ๑ ตัวชีว้ ดั

เกณฑก์ ารประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาตอนตน้ เกณฑ์การประเมิน ดีเย่ียม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผา่ น (0) ๑. สามารถคดั สรร สามารถคัดสรรสอื่ ที่ สามารถคดั สรรสอ่ื ที่ สามารถคัดสรรสือ่ ท่ี ไมส่ ามารถคดั สรรสอื่ ที่ สอ่ื ทตี่ ้องการอ่าน ตอ้ งการอา่ นเพื่อหา ต้องการอา่ นเพอื่ หา ตอ้ งการอ่านเพ่ือหา ต้องการอ่านเพอ่ื หา เพื่อหาข้อมลู ข้อมูลสารสนเทศได้ ข้อมูลสารสนเทศได้ ข้อมลู สารสนเทศได้ ขอ้ มลู ได้ สารสนเทศได้ตาม ตามวัตถปุ ระสงค์ ตามวัตถุประสงค์ ตามวัตถุประสงค์ วัตถปุ ระสงค์ สามารถสรา้ งความ สามารถสรา้ งความ ไม่สามารถจบั ประเด็น สามารถสรา้ งความ เขา้ ใจและ เขา้ ใจและ สามารถจบั ประเด็น สาคญั ได้ เข้าใจและ ประยุกต์ใช้ความรู้ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ สาคญั ได้ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ จากการอ่าน จากการอ่าน ไมส่ ามารถวเิ คราะห์ จากการอ่าน สามารถวิเคราะห์ วิจารณเ์ ร่อื งทอ่ี า่ นได้ ๒. สามารถจบั สามารถจบั ประเดน็ สามารถจบั ประเดน็ วจิ ารณเ์ ร่อื งที่อา่ นได้ ประเด็นสาคญั และ สาคัญและประเดน็ สาคัญและประเด็น ไม่สามารถสรปุ คุณคา่ ประเดน็ สนบั สนนุ สนบั สนนุ โต้แย้ง ได้ สนบั สนุน โต้แยง้ ได้ สามารถสรปุ คณุ คา่ แงค่ ดิ ที่ไดจ้ ากการอ่าน โตแ้ ย้ง อยา่ งครอบคลุม จากการอ่านไก้ ๓. สามารถวิเคราะห์ สามารถวเิ คราะห์ สามารถวิเคราะห์ ไม่สามารถสรปุ วจิ ารณ์ ความ วจิ ารณ์ ความ วจิ ารณ์ ความ สามารถสรปุ อภปิ ราย ขยายความ สมเหตสุ มผล ความ สมเหตุสมผล ความ สมเหตุสมผล ความ อภปิ ราย โดยการ แสดงความคดิ เหน็ นา่ เช่อื ถอื ลาดับ นา่ เชอ่ื ถือ ลาดับ น่าเชอื่ ถอื ลาดบั เขียนสอื่ สารใน โต้แย้ง สนับสนนุ โน้ม ความและความ ความและความ ความและความ รปู แบบตา่ ง ๆ น้าว โดยการเขยี น เป็นไปได้ของเรอ่ื งที่ เป็นไปได้ของเรอ่ื งที่ เปน็ ไปได้ของเรื่องที่ ส่อื สารในรูปแบบต่าง ๆ อ่าน อา่ นได้อย่าง อา่ น ครอบคลมุ ๔. สามารถสรปุ สามารถสรปุ คณุ คา่ สามารถสรปุ คณุ คา่ คณุ ค่า แนวคิด แง่ แนวคิด แงค่ ิดท่ไี ด้ แนวคดิ แงค่ ดิ ทไ่ี ด้ คดิ ท่ไี ด้จากการอ่าน จากการอ่านได้อย่าง จากการอา่ น ครอบคลมุ ๕. สามารถสรุป สามารถสรปุ สามารถสรปุ อภิปราย ขยายความ อภิปราย ขยายความ อภปิ ราย ขยายความ แสดงความคดิ เห็น แสดงความคดิ เหน็ แสดงความคดิ เหน็ โตแ้ ยง้ สนบั สนุน โตแ้ ยง้ สนับสนุน โต้แยง้ สนับสนนุ โน้มนา้ ว โดยการ โน้มนา้ ว โดยการ โนม้ นา้ ว โดยการ เขียนสือ่ สารใน เขียนส่ือสารใน เขยี นสอ่ื สารใน รปู แบบต่าง ๆ รปู แบบตา่ ง ๆ รูปแบบตา่ ง ๆ

เกณฑก์ ารประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย เกณฑก์ ารประเมิน ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ ่าน (0) ๑. สามารถอ่านเพอ่ื สามารถอ่านเพ่อื ไม่สามารถอ่านเพื่อ การศกึ ษาค้นควา้ สามารถอา่ นเพ่ือ สามารถอา่ นเพอื่ การศึกษาค้นควา้ ได้ การศกึ ษาค้นคว้าได้ เพิ่มพนู ความรู้ ประสบการณ์ และ การศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ พกูนารศึกษาคน้ ควา้ สามารถจับประเดน็ ไม่สามารถจับประเด็น การประยกุ ตใ์ ช้ใน สาคัญได้ สาคัญ ชวี ติ ประจาวัน ความรู้ ประสบการณ์ เพิม่ พนู ความรู้ ๒. สามารถจับ สามารถวเิ คราะหส์ งิ่ ไม่สามารถวเิ คราะหส์ งิ่ ท่ี ประเดน็ สาคญั ลาดับ และการประยุกตใ์ ช้ ประสบการณ์ ที่ผเู้ ขยี นตอ้ งการ ผู้เขียนตอ้ งการสื่อสาร เหตุการณ์จากการ สอ่ื สารกบั ผู้อ่าน กบั ผู้อา่ น อา่ นส่อื ท่มี ีความ ในชวี ิตประจาวันเป็น ซับซอ้ น สามารถประเมนิ ไม่สามารถประเมนิ อย่างดี ความน่าเชือ่ ถือ จาก ความนา่ เชือ่ ถือ จากสิ่งท่ี ๓. สามารถวิเคราะห์ ส่ิงทีอ่ ่านได้ อา่ นได้ สิง่ ที่ผเู้ ขียนต้องการ สามารถจับประเดน็ สามารถจับประเด็น สือ่ สารกบั ผ้อู า่ น และ สามารถเขียนแสดง ไม่สามารถเขียนแสดง สามารถวิพากษ์ ให้ สาคญั ลาดับ สาคัญลาดับ ความคิดเห็นโต้แย้ง ความคิดเห็นโตแ้ ยง้ ได้ ข้อเสนอแนะในแงม่ ุม ได้ ตา่ ง ๆ เหตุการณจ์ ากการ เหตุการณไ์ ด้ ๔. สามารถประเมนิ อ่านสื่อทม่ี คี วาม ความน่าเช่อื ถอื คณุ ค่า แนวคดิ ทไ่ี ด้ ซับซ้อนไดอ้ ยา่ ง จากสงิ่ ทอี่ ่านอยา่ ง หลากหลาย ครอบคลมุ ๕. สามารถเขียน แสดงความคดิ เห็น สามารถวเิ คราะหส์ งิ่ สามารถวเิ คราะหส์ งิ่ โต้แย้ง สรปุ โดยมี ขอ้ มลู อธิบาย ทีผ่ ูเ้ ขยี นตอ้ งการ ท่ีผเู้ ขยี นต้องการ สนับสนุนอยา่ ง เพียงพอและ สื่อสารกับผู้อ่าน ส่ือสารกบั ผู้อ่าน สมเหตุสมผล และสามารถวพิ ากษ์ และสามารถวิพากษ์ ใหข้ อ้ เสนอแนะใน ให้ขอ้ เสนอแนะใน แง่มมุ ต่าง ๆไดอ้ ยา่ ง แงม่ มุ ตา่ ง ๆ ครอบคลมุ สามารถประเมิน สามารถประเมิน ความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อถอื คุณค่า แนวคิดทไ่ี ด้ คณุ คา่ แนวคิดทไ่ี ด้ จากส่งิ ท่อี ่านอย่าง จากสงิ่ ที่อ่านได้ หลากหลาย สามารถเขียนแสดง สามารถเขียนแสดง ความคิดเห็นโตแ้ ย้ง ความคดิ เหน็ โตแ้ ยง้ สรุป โดยมีข้อมลู สรุป โดยมขี อ้ มลู อธบิ ายสนับสนนุ อธิบายสนับสนนุ อย่างเพยี งพอและ สมเหตสุ มผล

ภาคผนวก จ การประเมนิ สมรรถนะของผู้เรยี น

กรอบการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นของหลักสูตรโรงเรียนนครสวรรค์ พุทธศักราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประกอบด้วย 5 สมรรถนะ 16 ตวั ชี้วดั โดยมีรายละเอยี ดดังนี้ สมรรถนะ คาอธบิ าย จานวนตัวชี้วดั 1 ความสามารถ ความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอด 4 ในการส่ือสาร ความคดิ ความรู้ความเข้าใจ ความรสู้ ึก และทศั นะของตนเอง เพื่อ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร และประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ต่อการ พัฒนาตนเองและสงั คม รวมท้ังการเจรจาต่อรอง เพื่อขจดั และลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลอื กรบั หรือไมร่ ับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้วิธกี าร สื่อสาร ที่มีประสิทธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม 2.ความสามารถ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอย่าง 2 ในการคิด สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคดิ เปน็ ระบบเพอื่ นาไปสู่ การสรา้ งองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพ่ือการตดั สนิ ใจเก่ียวกบั ตนเอง และสงั คมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถ ความสามารถในการแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อยา่ ง 2 ในการแก้ปัญหา ถกู ต้องเหมาะสมบนพน้ื ฐานของหลกั เหตุผล คณุ ธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปล่ยี นแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความร้มู าใชใ้ นการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตดั สนิ ใจท่ีมีประสทิ ธภิ าพ โดยคานงึ ถึงผลกระทบที่ เกดิ ขนึ้ ต่อตนเองสังคมและส่งิ แวดลอ้ ม 4 ความสามารถ ความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ 6 ในการใช้ทักษะชวี ิต ประจาวนั การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเนอื่ ง การทางาน และการอยูร่ ่วมกนั ในสงั คม ด้วยการสรา้ งเสริมความสมั พันธอ์ นั ดี ระหว่างบุคคล การจัดการปญั หาและความขัดแยง้ ต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทนั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม การ รู้จกั หลกี เลยี่ งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงคท์ ส่ี ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่นื 5. ความสามารถ ความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี ้านต่าง ๆ และมีทักษะ 2 ในการใช้เทคโนโลยี กระบวนการทางเทคโนโลยเี พอ่ื การพฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ น การเรยี นรู้ การสอ่ื สาร การทางาน การแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ถกู ต้อง เหมาะสมและมีคุณธรรม หมายเหตุ รายละเอียดเกย่ี วกับตัวชีว้ ัดในแต่ละสมรรถนะระบุไวใ้ นรายละเอยี ดโครงสร้างเคร่อื งมอื ประเมนิ

รายละเอยี ดของโครงสรา้ งเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน สมรรถนะ ตัวช้ีวดั หมายเหตุ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 ใช้ภาษาถา่ ยทอดความรู้ความเขา้ ใจความคิด ความรูส้ กึ และทัศนะของตนเองดว้ ยการพูดและการเขยี น เคร่อื งมือท่ีใช้ 2. ความสามารถในการคดิ คอื แบบ 1.2 พดู เจรจาต่อรอง ประเมนิ 3. ความสามารถในการ คณุ ภาพ แก้ปัญหา 1.3 เลอื กรับหรือไม่รบั ข้อมลู ขา่ วสารได้อย่างมเี หตผุ ลและ (Rubric) 4. ความสามารถในการใช้ ถูกต้อง 4 ระดับ ทักษะชีวติ 1.4 เลือกใช้วิธกี ารส่ือสารโดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ตนเอง 5. ความสามารถในการใช้ และสงั คม เทคโนโลยี 2.1 จดั ความสาคัญของแนวคิดในบริบทของการดาเนิน ชวี ติ ประจาวนั 2.2 มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ อย่างมีวิจารณญาณ สร้างสรรค์ สง่ิ ใหม่ เพื่อประโยชนต์ ่อตัวเองและสังคมโดยใชเ้ กณฑ์ที่ เหมาะสม 3.1 ใช้กระบวนการแก้ปญั หาโดยการวเิ คราะหป์ ญั หา วางแผนใน การแก้ปัญหาดาเนนิ การแก้ปัญหา ตรวจสอบและสรปุ ผล 3.2 คุณภาพของผลงานการแก้ปัญหาและทาไป ประยุกต์ใช้ 4.1 นาความรู้ ทกั ษะ และกระบวนการที่หลากหลาย มาสรา้ งผลงาน/โครงงานทีเ่ ป็นระบบ มขี ั้นตอนชดั เจน และ มปี ระสทิ ธิภาพ ไปใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั 4.2 มวี ิธีการในการศึกษาความร้เู พ่มิ เติมเพ่ือขยาย ประสบการณ์ไปสู่การเรยี นร้สู ่ิงใหม่ และสรา้ ง องค์ความรู้ ตามความสนใจอย่างตอ่ เน่ือง 4.3 ปฏิบัติงาน ในสว่ นรวม อยา่ งมีความสขุ 4.4 วิเคราะห์ สถานการณ์ ปัญหาและมีการจดั การ ไดเ้ หมาะสม 4.5 ปรับตวั ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม สภาพแวดลอ้ ม 4.6 จดั การกับอารมณแ์ ละความเครยี ดได้อยา่ งถกู ต้อง และเหมาะสม 5.1 การเลอื กและใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอย่าง สรา้ งสรรค์และมีคุณธรรม 5.2 การออกแบบ ปรับปรงุ แกไ้ ขงาน และประเมนิ ผล

การประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนสาหรบั ครผู สู้ อนประเมินผ้เู รียน ในการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน หลกั สตู รโรงเรียนนครสวรรค์ พุทธศักราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบดว้ ย สมรรถนะท่ี 1 ความสามารถในการสือ่ สาร สมรรถนะท่ี 2 ความสามารถในการคดิ สมรรถนะที่ 3 ความสามารถในการแก้ปญั หา สมรรถนะท่ี 4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต สมรรถนะท่ี 5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกณฑก์ ารตัดสนิ และแปลผล เกณฑ์การตดั สินในการประเมินสมรรถนะสาตัญของผเู้ รียนตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 มเี กณฑ์การตัดสนิ ผลการประเมินในภาพรวมของสมรรถนะ พิจารณาจากระดับ คณุ ภาพของแตล่ ะสมรรถนะท้ัง 5 สมรรถนะ แลว้ นามาเทียบกับเกณฑ์การตดั สินสมรรถนะในภาพรวมได้แบ่งระดับ คณุ ภาพออกเป็น 4 ระดับ คือ ปรับปรงุ พอใช้ ดี และดเี ยี่ยม โดยในแตล่ ะระดับคณุ ภาพ มีเกณฑ์ในการตัดสิน ดงั ต่อไปนี้ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ดเี ยีย่ ม มผี ลการประเมินในระดับดี ครบท้ัง 5 สมรรถนะ ดี มผี ลการประเมินในระดับดี 4 สมรรถนะ ผ่าน มผี ลการประเมินในระดับดี 3 สมรรถนะ ไม่ผา่ น มผี ลการประเมินในระดับดี น้อยกว่า 3 สมรรถนะ การบนั ทึกข้อมูล ให้ครผู ู้สอนทาการประเมินสมรรถนะผเู้ รยี นแต่ละคน โดยพจิ ารณาจากเกณฑ์คณุ ภาพ (Rubric) ในแตล่ ะตัวช้ีวัดและสมรรถนะต่อไปน้ี แล้วทาการบันทึกผลการประเมินลงโปรแกรมเพ่ืบันทกึ ผลการประเมิน สมรรถนะผเู้ รยี น โดยมรี ายละเอยี ดในการบันทึกดงั นี้ ถา้ ผู้เรยี นมคี ุณภาพในระดบั ดีเยี่ยม ให้กรอกหมายเลข 3 ในช่องประเมิน ผู้เรยี นมคี ณุ ภาพในระดบั ดี ให้กรอกหมายเลข 2 ในชอ่ งประเมนิ ผเู้ รยี นมีคุณภาพในระดับพอใช้ ให้กรอกหมายเลข 1 ในชอ่ งประเมิน ผูเ้ รยี นมีคุณภาพในระดับปรับปรุง ให้กรอกหมายเลข 0 ในช่องประเมิน

เกณฑค์ ณุ ภาพในการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (Rubric) สมรรถนะที่ 1 ความสามารถในการสื่อสาร ตวั ชวี้ ัดที่ 1 ใช้ภาษาถา่ ยทอดความรคู้ วามเขา้ ใจ ความคิด ความรสู้ ึกและทัศนะของตนเองดว้ ยการพูด และการเขียน ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) ใช้ภาษาถา่ ยทอด ใช้ภาษาถ่ายทอด ข้นั ต่า (1) ไมเ่ คยปฎิบตั ิ ความรคู้ วามเข้าใจ ความรคู้ วามเข้าใจ พฤติกรรมการใช้ ความคดิ ความคดิ ความรสู้ ึก ใชภ้ าษาถา่ ยทอด ใช้ภาษาถา่ ยทอด ภาษาถ่ายทอด ความรูส้ กึ และ และทัศนะของ ความรคู้ วามเข้าใจ ทศั นะของตนเอง ตนเอง ด้วยการพูด ความรูค้ วามเข้าใจ ความรคู้ วามเข้าใจ ความคดิ ความรู้สึก ด้วยการพูดและ และการเขียนโดยมี และทัศนะของ การเขียน พฤติกรรมท่ปี ฎิบัติ ความคดิ ความรู้สึก ความคดิ ความรสู้ ึก ตนเอง ดว้ ยการพูด ชดั เจนและ และการเขยี น สมา่ เสมอ และทัศนะของ และทศั นะของ ตนเอง ด้วยการพูด ตนเอง ด้วยการพูด และการเขยี นโดยมี และการเขยี นโดยมี พฤติกรรมทชี่ ดั เจน พฤติกรรมทีป่ ฎิบตั ิ และบอ่ ยครง้ั เปน็ บางคร้ัง ตวั ชวี้ ดั ท่ี 2 พดู เจรจาต่อรอง ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยยี่ ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ (0) พดู เจรจาต่อรอง พดู เจรจาตอ่ รอง ขนั้ ตา่ (1) ชดั เจนได้เหมาะสม กับทุกสถานการณ์ พดู เจรจาต่อรอง พูดเจรจาต่อรอง ไม่เคยพดู เจรจา ชดั เจนได้เหมาะสม ชดั เจน ต่อรองได้เลย บางสถานการณ์ เป็นบางครง้ั ได้ ตวั ชี้วดั ท่ี 3 เลอื กรบั หรือไมร่ ับขอ้ มลู ขา่ วสารไดอ้ ยา่ งมเี หตุผลและถกู ตอ้ ง ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรุง (0) เลือกรับหรอื ไม่รับ ตัดสินใจเลอื กรับ ข้ันตา่ (1) ไม่เคยเลือกรบั ขอ้ มูลขา่ วสารได้ หรือไม่รบั ขอ้ มูล หรือไม่รบั ขอ้ มลู อย่างมเี หตุผลและ ขา่ วสารจากแหลง่ ตัดสินใจเลือกรบั ตดั สินใจเลอื กรับ ข่าวสาร ถูกต้อง ต่าง ๆ ได้อยา่ ง หรือไมร่ ับขอ้ มลู หรอื ไม่รบั ข้อมลู สมเหตสุ มผลและ ถกู ต้องทุกครงั้ ขา่ วสารจากแหล่ง ขา่ วสารจากแหล่ง ตา่ ง ๆ ได้อย่าง ตา่ ง ๆ ได้อยา่ ง สมเหตสุ มผลและ สมเหตุสมผลและ ถูกต้องเกือบ ถกู ต้องเปน็ บางครั้ง ทุกคร้งั

ตัวชี้วดั ท่ี 4 เลอื กใชว้ ธิ ีการสื่อสารโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ตนเองและสังคม ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) ขัน้ ต่า (1) ไมส่ ามารถเลอื กใช้ วธิ ีการสอ่ื สารได้ เลือกใชว้ ิธกี าร เลอื กใช้วิธกี าร เลือกใชว้ ธิ ีการ เลอื กใชว้ ธิ กี าร ส่อื สาร ส่ือสารท่ีทาใหเ้ กิด สอ่ื สารท่ีทาให้เกดิ สอ่ื สารท่ีโดยไมเ่ กิด โดยคานงึ ถึง ความเหมาะสมและ ความเหมาะสมและ ผลกระทบต่อตนเอง ผลกระทบต่อ คมุ้ ค่าโดยไมเ่ กิด คุ้มคา่ โดยไม่เกิด และสังคม ตนเองและสงั คม ผลกระทบต่อตนเอง ผลกระทบต่อตนเอง และสังคม และสงั คมได้เป็น ไดท้ ุกคร้ัง บางคร้งั สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคิด ตวั ชว้ี ดั ท่ี 1 จดั ความสาคัญของแนวคิดในบรบิ ทของการดาเนินชีวติ ประจาวัน ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ ปรับปรุง (0) ขนั้ ตา่ (1) จดั ความสาคญั ของ จดั ความสาคัญของ จดั ความสาคญั ของ จัดความสาคัญของ จดั ความสาคญั ของ แนวคิดในบริบท แนวคิดในบริบทของ แนวคดิ ในบริบทของ แนวคิดในบรบิ ทของ แนวคิดในบริบทของ ของการดาเนนิ การดาเนิน การดาเนิน การดาเนิน การดาเนิน ชวี ิตประจาวนั ชวี ิตประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ชวี ิตประจาวันได้ ชีวติ ประจาวนั ไม่ อยา่ งถูกต้องและ อย่างถูกต้องแต่ไม่ ถูกต้องบางสว่ นและ ถูกต้อง ครบถว้ น ครบถว้ น ไมค่ รบถ้วน ตัวชว้ี ัดท่ี 2 มีความคิดสร้างสรรค์ อย่างมวี จิ ารณญาณ สร้างสรรค์สง่ิ ใหม่ เพื่อประโยชน์ตอ่ ตัวเองและสังคม โดยใช้เกณฑ์ทเ่ี หมาะสม พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยย่ี ม (3) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (0) มีความคิด มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ไม่มีความคดิ สร้างสรรค์ อย่างมี สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหม่ ได้ ขนั้ ตา่ (1) สรา้ งสรรค์ วจิ ารณญาณ อยา่ งถูกต้อง สร้างสรรค์สิง่ ใหม่ เหมาะสมและมี มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ เพอื่ ประโยชนต์ อ่ ประสทิ ธภิ าพต่อ สร้างสิ่งใหมไ่ ด้อย่าง สร้างสิ่งใหม่ได้อยา่ ง ตวั เองและสังคม ตนเองและสงั คม ถกู ต้อง เหมาะสม ถกู ต้อง เหมาะสม โดยใช้เกณฑ์ที่ อยา่ งชดั เจนและ และมีประสทิ ธิภาพ และมีประสิทธิภาพ เหมาะสม สม่าเสมอ ตอ่ ตนเองและสงั คม ต่อตนเองและสงั คม ชดั เจนเปน็ บางครง้ั ไม่ชดั เจน นานๆ ครัง้

สมรรถนะที่ 3 ความสามารถในการแก้ปัญหา ตวั ชี้วดั ที่ 1 ใช้กระบวนการแก้ปญั หาโดยการวิเคราะห์ปัญหา วางแผนในการแก้ปัญหาดาเนนิ การแกป้ ัญหา ตรวจสอบและสรปุ ผล ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) ใชก้ ระบวนการ ขนั้ ตา่ (1) แก้ปัญหาโดย การวเิ คราะห์ ใช้กระบวนการ ใชก้ ระบวนการ ใชก้ ระบวนการ ไมเ่ คยใช้ ปัญหา วางแผนใน การแกป้ ัญหา แกป้ ัญหาโดยการ แก้ปญั หาโดยการ แกป้ ญั หาโดยการ กระบวนการ ดาเนินการ แก้ปัญหา วิเคราะหป์ ญั หา วิเคราะห์ปัญหา วิเคราะหป์ ญั หา แกป้ ญั หาโดยการ ตรวจสอบและ สรปุ ผล วางแผนในการ วางแผนในการ วางแผนในการ วเิ คราะห์ปัญหา แก้ปญั หาดาเนินการ แกป้ ัญหาดาเนนิ การ แกป้ ัญหาดาเนนิ การ วางแผนในการ แก้ปัญหา ตรวจสอบ แกป้ ญั หา ตรวจสอบ แกป้ ัญหา ตรวจสอบ แกป้ ัญหาดาเนนิ การ และสรุปผลโดยมี และสรปุ ผล และสรุปผล แก้ปญั หา ตรวจสอบ พฤติกรรมที่ปฎบิ ัติท่ี โดยมีพฤติกรรมที่ โดยมีพฤติกรรมที่ และสรปุ ผล ชดั เจนและ ปฎบิ ัตทิ ่ีชัดเจนและ ปฎิบตั ิเป็นบางครั้ง สม่าเสมอ บ่อยครั้ง ตัวช้ีวดั ท่ี 2 คณุ ภาพของผลงานการแกป้ ัญหาและทาไปประยกุ ตใ์ ช้ ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเยี่ยม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรงุ (0) คณุ ภาพของ ขัน้ ตา่ (1) ผลงานการ แกป้ ญั หาและทา ผลงานท่ีเกดิ จากการ ผลงานทีเ่ กดิ จากการ ผลงานทเี่ กดิ จากการ ผลงานทีเ่ กดิ จาการ ไปประยุกต์ใช้ แก้ปญั หามีความ แหป้ ัญหามคี วาม แห้ปัญหามคี วาม แก้ปญั หาไมถ่ ูกต้อง ถกู ต้องและนาไป ถูกต้องและนาไป ถกู ต้องและนาไป ไม่ดาเนนิ การ ตาม ประยกุ ตใ์ ช้ในการ ประยกุ ตใ์ ช้ในการ ประยุกต์ใช้ในการ ข้นั ตอน ไม่ แกป้ ัญหาใน แกป้ ญั หาใน แกป้ ญั หาใน สมเหตสุ มผล สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ อ่นื ๆ ตามข้ันตอนท่ี อนื่ ๆ ตามขนั้ ตอนท่ี อ่ืน ๆ ตามขั้นตอนท่ี กาหนดอยา่ งชดั เจน กาหนดอย่างชัดเจน กาหนดไมช่ ัดเจน และสมเหตุสมผล และไมส่ มเหตสุ มผล และไมส่ มเหตุสมผล

สมรรถนะที่ 4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ตัวชีว้ ดั ที่ 1 นาความรู้ ทักษะ และกระบวนการท่หี ลากหลายมาสรา้ งผลงาน/โครงงานท่เี ป็นระบบ มขี ั้นตอน ชดั เจน และมีประสิทธิภาพ ไปใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ย่ียม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรุง (0) นาความรู้ ทกั ษะ นาความรู้ ทกั ษะ ข้ันต่า (1) นาความรู้ / ทกั ษะ และกระบวนการที่ และกระบวนการท่ี และเทคนิควิธีตา่ ง หลากหลาย หลากหลายมาสรา้ ง นาความรู้ ทกั ษะ นาความรู้ / ทกั ษะ ๆ มาใช้สร้างสรรค์ มาสรา้ งผลงาน/ ผลงาน/โครงงานท่ี งานไม่ได้ โครงงานท่ีเป็น เป็นระบบ มขี ั้นตอน และกระบวนการที่ และเทคนิควธิ ตี า่ ง ๆ ระบบ มขี ั้นตอน ชัดเจน และมี ชดั เจน และมี ประสิทธภิ าพ ไปใช้ หลากหลายมาสรา้ ง มาใช้สรา้ งสรรค์งาน ประสทิ ธภิ าพ ไปใช้ ในการดาเนนิ ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั ผลงาน/โครงงานท่ี ได้แต่ไมม่ ี ชีวิตประจาวัน เปน็ ระบบ มขี ั้นตอน ประสทิ ธภิ าพและไม่ ชดั เจน และมี สาเรจ็ ในเวลาท่ี ประสิทธิภาพ ไปใช้ กาหนด ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวันใน เวลาทีก่ าหนดและ สามารถนาไปใช้ใน การดาเนนิ ตัวชีว้ ดั ที่ 2 มีวธิ ีการในการศึกษาความรู้เพิม่ เติมเพื่อขยายประสบการณ์ไปสกู่ ารเรยี นรู้ส่ิงใหม่ และสร้างองค์ ความรู้ ตามความสนใจอย่างต่อเนื่อง ระดับคุณภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) มวี ธิ ีการใน ขัน้ ต่า (1) มวี ธิ กี ารใน การศึกษา การศกึ ษาค้นคว้า ความรู้เพม่ิ เติมเพื่อ มีวิธกี ารท่ี มีวิธีการท่ี มวี ธิ ีการใน ขอ้ มูล ข่าวสาร แต่ ขยายประสบการณ์ ไม่สามารถ ไปสกู่ ารเรยี นร้สู ง่ิ หลากหลายในการ หลากหลายในการ การศึกษาคน้ คว้า สรา้ งประเดน็ การ ใหม่ และสรา้ ง เรียนรูใ้ หมๆ่ องค์ความรู้ ตาม ศกึ ษาค้นคว้า ข้อมูล ศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู ข้อมลู ขา่ วสารท่ีไม่ ความสนใจอย่าง ตอ่ เน่อื ง ข่าวสารเพือ่ สรา้ ง ขา่ วสารเพ่อื สรา้ ง หลากหลาย เพอื่ ประเดน็ การเรยี นรู้ ประเด็นการเรียนรู้ สร้างประเด็นการ ใหม่ๆ ท่ีเปน็ ใหม่ๆ ที่เป็น เรยี นร้ใู หม่ ๆ ท่ีเปน็ ประโยชน์ ตาม ประโยชน์ ตาม ประโยชน์ตามความ ความสนใจอยา่ ง ความสนใจได้ สนใจ ต่อเนอื่ ง

ตวั ชว้ี ัดท่ี 3 ปฏิบัติงาน ในส่วนรวม อยา่ งมีความสุข ระดบั คุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ียม (3) ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ (0) ขนั้ ต่า (1) แยกตนเองจากการ ปฏบิ ตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน ใน เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกิจกรรม มคี วามกังวลอยู่บา้ ง ร่วมกบั ผูอ้ นื่ มา สว่ นรวม ส่วนรวมได้ ทางานแต่ผเู้ ดยี ว อยา่ งมีความสขุ เปน็ อนั หนง่ึ อัน ส่วนรวมได้ เมื่อต้อง เดยี วกนั ในฐานะ ผู้นา เปน็ อนั หนึ่งอนั ปฏิบตั ิงานกับผู้อ่นื หรือผตู้ าม เดยี วกนั สมรรถนะที่ 4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ (ต่อ) ตวั ชี้วดั ที่ 4 วเิ คราะห์ สถานการณ์ ปญั หาและมีการจัดการไดเ้ หมาะสม ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรงุ (0) วเิ คราะห์ ขั้นต่า (1) สถานการณ์ ปญั หาและมีการ มีวุฒิภาวะทาง มวี ุฒิภาวะทาง ควบคุมตนเองให้ รับรู้ปัญหา/ความ จดั การ ได้เหมาะสม อารมณ์ในการ อารมณ์ในการ รับรู้ปญั หา/ความ ขดั แย้งที่กาลงั ควบคุมตนเองให้ ควบคมุ ตนเองให้ ขัดแย้งที่กาลัง ประสบ แตไ่ ม่ รบั รู้ปัญหา/ความ รับรูป้ ญั หา/ความ ประสบ และแก้ไข สามารถแก้ไข ขดั แย้งที่กาลัง ขัดแย้งที่กาลัง ปญั หาโดยไม่ ปญั หาได้ ประสบมกี ารเก็บ ประสบมีการ ประเมินทางเลือกใน ขอ้ มูลเพอ่ื ประเมิน สอบถามหรือเก็บ การแก้ปัญหา ทางเลือกในการ ข้อมลู เพ่อื ประเมิน แก้ปญั หาของตนเอง ทางเลอื กในการ และผูอ้ น่ื แลว้ จึง แกป้ ัญหาของตนเอง ลงมือแก้ไขปญั หาได้ หรือผู้อนื่ แลว้ จงึ ลง ประสบผลสาเร็จทกุ มือแกไ้ ขปัญหาได้ คร้งั ประสบผลสาเรจ็ เปน็ นางครง้ั

ตวั ชีว้ ัดท่ี 5 ปรบั ตัวต่อการเปล่ยี นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม ระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเย่ียม (3) ดี (2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) ปรับตวั ต่อการ ขนั้ ตา่ (1) รับรูส้ ถานการณ์ที่ เปล่ียนแปลงทาง เปล่ยี นแปลงทาง สังคม ปรับตัวให้ทันกบั การ ปรับตัวเขา้ กับการ ปรับตวั เขา้ กบั การ สงั คมและ สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมแต่ไม่ เปลย่ี นแปลงของ เปล่ยี นแปลงของ เปลี่ยนแปลงใน ใส่ใจ ท่ีจะปรับตวั สังคมและ สงั คมและ สงั คม และ สภาพแวดลอ้ มได้ สภาพแวดล้อมได้ สภาพแวดลอ้ มได้ อยา่ งเหมาะสม โดย อย่าง โดยมีพฤติกรรม ไมม่ ีพฤติกรรม เหมาะสมโดยมี ขดั แย้งกับ ขัดแยง้ กับ พฤติกรรมขัดแยง้ กบั วัฒนธรรมทาง วัฒนธรรมของ วฒั นธรรมทาง สงั คมไทย สงั คมไทย สงั คมไทยเปน็ บางครั้ง ตวั ชี้วดั ท่ี 6 จัดการกับอารมณ์และความเครียดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) ข้นั ตา่ (1) แสดงความ ฉนุ เฉยี วหรอื ไม่ จดั การกับอารมณ์ จดั การกบั อารมณ์ จัดการกบั อารมณ์ จัดการกับอารมณ์ พอใจด้วยคาพูด กริยา อาการตอ่ และความเครียดได้ และความเครยี ดได้ และความเครียดได้ และความเครยี ดได้ หน้าผู้อ่นื อยา่ ง อย่างถูกต้องและ อยา่ งถูกต้องและ เหมาะสมเป็น ถกู ต้องและ เหมาะสม เหมาะสมเป็น บางครง้ั เหมาะสม ทุกครง้ั บางครัง้

สมรรถนะท่ี 5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ตวั ช้วี ัดท่ี 1 การเลือกและใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และมคี ณุ ธรรม ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเยยี่ ม (3) ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรุง (0) ขนั้ ตา่ (1) เลือกและใช้ เทคโนโลยี การเลอื กและใช้ เลือกและใช้ เลอื กและใช้ เลอื กและใช้ ในการแกป้ ญั หาได้ โดยต้องมผี ู้ เทคโนโลยใี นการ เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี ในการ แนะนา แก้ปญั หาอยา่ ง ท่ีเหมาะสม ในการ ท่ีเหมาะสม ในการ แกป้ ัญหาไดด้ ว้ ย สร้างสรรคแ์ ละมี แก้ปญั หา แก้ปญั หา ตนเอง คุณธรรม อยา่ งสรา้ งสรรค์ได้ อยา่ งสร้างสรรค์ได้ ทาให้เกดิ ประโยชน์ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ตอ่ ตนเอง ทาใหเ้ กิดประโยชน์ ทาใหเ้ กิดประโยชน์ หรอื สงั คม ต่อตนเอง ตอ่ ตนเอง และสังคม โดยไม่ทา และสงั คม ใหผ้ ูอ้ น่ื เดือดร้อน ไม่มี ผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม และ สามารถ แนะนาผอู้ ื่นได้ ตัวชวี้ ดั ที่ 2 การออกแบบ ปรับปรงุ แก้ไขงาน และประเมินผล ระดบั คุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรุง (0) ข้นั ตา่ (1) ไม่สามารถใช้ เทคโนโลยเี พ่อื การออกแบบ ใช้เทคโนโลยใี นการ ใช้เทคโนโลยีในการ ใชเ้ ทคโนโลยีในการ ประเมินผลและ ปรบั ปรงุ แก้ไขงาน ประมวล สรุปผลการ และประเมินผล ผลจนเกดิ ชน้ิ งาน/ ประมวล ประมวล ดาเนนิ งาน ภาระงาน ผลจนเกดิ ช้ินงาน/ ผลจนเกิดชิ้นงาน/ ที่สามารถแกป้ ญั หา หรือความ ภาระงาน ภาระงาน ต้องการได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ท่ีสามารถแก้ปญั หา แตไ่ ม่สามารถ หรือความ แก้ปญั หาหรือ ตอ้ งการได้ ความต้องการได้

ภาคผนวก จ - ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรอื่ ง การเทยี บโอนผลการเรียนการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ากว่าปรญิ ญา - แนวปฏิบตั ิเกีย่ วกับการเทียบโอนผลการเรียนเข้าสู่การศึกษาในระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน

ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรอ่ื ง การเทียบโอนผลการเรียนการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาระดับอดุ มศึกษา ระดบั ต่ํากวาปริญญา ……….………………..… เพื่อใหส ถานศกึ ษาระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน และระดับอุดมศึกษา ระดบั ต่าํ กวา ปริญญาสามารถดาํ เนินการเทียบโอนผลการเรียน โดยการเชื่อมโยงผลการเรียนระหวาง การศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย รวมท้ังผลการเรียนรูจาก นอกระบบ ตามอธั ยาศยั การฝก อาชพี หรอื จากประสบการณก ารทาํ งาน เพ่ือใหเปนสวนหน่งึ ของการศกึ ษาตอ เนือ่ งในหลักสูตรใดหลักสตู รหน่ึงในสถานศกึ ษา จึงกาํ หนดหลักการและ แนวทางในการเทียบโอนผลการเรียนการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน และการศึกษาระดบั อดุ มศึกษา ระดบั ตา่ํ กวา ปริญญา ดังนี้ ๑. หลักการเทียบโอนผลการเรียน ๑.๑ ยึดหลกั การกระจายอํานาจไปสูสถานศึกษา โดยดาํ เนนิ การเทยี บโอนผล การเรยี นในรูปคณะกรรมการ ๑.๒ คํานงึ ถึงหลักความยตุ ธิ รรม โปรงใส และมีมาตรฐานเปนที่ยอมรับ ๑.๓ การเทยี บโอนผลการเรยี นใหพิจารณาจากเอกสาร หลักฐานการศึกษา หรือหลกั ฐานอนื่ หรอื ประเมินจากความรู ความสามารถ ทกั ษะ หรือประสบการณข องผูเ รียน ดวยเครอื่ งมือและวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย ไมซ ับซอ น ทัง้ น้ใี หค ํานึงถงึ ประโยชนข องผูเทียบโอน ผลการเรยี นเปน สําคัญ ๑.๔ พจิ ารณาเทยี บโอนผลการเรียนเพ่ือการศึกษาตอ โดยพิจารณารปู แบบ การศึกษาและหลักสูตรท่ีอยูใ นระดับเดียวกนั ๒. แนวทางการเทียบโอนผลการเรียน ๒.๑ การเทียบโอนผลการเรยี นใหพ ิจารณาจากรูปแบบการจดั การศึกษา ลกั ษณะการจัดหลักสูตร และสาระการเรยี นรู ซ่ึงมีความแตกตางหลากหลาย โดยเทียบเคยี ง กบั หลักเกณฑแ ละวิธีการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษาทรี่ บั เทยี บโอน ๒.๒ ชว งเวลาในการเทียบโอนผลการเรียน ดาํ เนนิ การได ๒ กรณี ดังนี้ ๒.๒.๑ กรณที ่ี ๑ การเทียบโอนผลการเรยี นทเี่ กิดข้ึนจากสภาพการณ ตางๆ ไดแก การยา ยสถานศกึ ษา การเปล่ียนรูปแบบการศึกษา การยา ยหลักสตู ร การละทง้ิ

-๒- การศกึ ษาและขอกลบั เขาศึกษาตอ การศกึ ษาจากตางประเทศ และขอเทียบโอนเขาศึกษาตอ ในประเทศ ใหดาํ เนนิ การในชวงกอนเปดภาคเรียนแรกหรือตนภาคเรยี นแรกที่สถานศึกษารับผู ขอเทยี บโอนเปนนักเรยี น/นกั ศกึ ษา เพอื่ การวางแผนการเรยี น ทั้งน้ี สถานศกึ ษาควร ดาํ เนินการเทยี บโอนผลการเรยี นใหแ ลวเสร็จภายใน ๑ ภาคเรยี น ถามเี หตุจาํ เปนผขู อเทียบ โอนไมสามารถขอเทียบโอนไดภายในชวงเวลาทก่ี ําหนด ใหอ ยใู นดุลยพนิ ิจของสถานศึกษา ๒.๒.๒ กรณีท่ี ๒ การเทยี บโอนความรู ทักษะ หรอื ประสบการณจ าก แหลงเรียนรูอื่นๆ เชน สถานประกอบการ สถานประกอบอาชีพอิสระ สถาบนั ทางศาสนา สถาบันฝกอบรมวิชาชพี บา นเรียน (Home School) ฯลฯ ใหดําเนินการตนภาคเรยี นหรอื กอน ภาคเรยี น โดยสถานศึกษาทร่ี ับเทียบโอนกาํ หนดรายวิชา/หมวดวิชา จํานวนหนวยกติ /หนว ย การเรียน ทจี่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม รวมทัง้ กรณีของผูกําลงั เรยี นและประสงคจ ะไป ศึกษาจากแหลง เรยี นรูอื่นๆ ซ่งึ จะตอ งไดรับอนุญาตจากหวั หนา สถานศึกษากอน ๒.๓ การกาํ หนดอายุของผลการเรยี นทขี่ อเทียบโอน ใหอยใู นดุลยพินิจของ สถานศกึ ษาท่ีรับเทยี บโอน โดยพิจารณาบนพ้ืนฐานของธรรมชาตวิ ิชา ความทันสมัย ทันตอ เหตกุ ารณ และสอดคลอ งกับการเปล่ียนแปลงในโลกปจจบุ ัน ๒.๔ การพิจารณาใหผ ลการเรียนในรายวชิ า/หมวดวิชาท่ไี ดจากการเทียบโอน ผลการเรยี นใหผลการเรียนตามหลกั ฐานเดิมที่ปรากฏหรือใหผลการเรียนใหมทีไ่ ดจากการ ประเมินดวยเครือ่ งมอื และวิธกี ารที่หลากหลาย ๒.๕ นักเรียน/นักศึกษาที่ไดรับการเทียบโอนผลการเรียนตองศึกษา ตอเน่ืองในสถานศกึ ษาท่รี ับเทียบโอน อยา งนอย ๑ ภาคเรียน ๒.๖ การจบหลกั สูตรของผูข อเทียบโอน การใหหนว ยกติ /หนว ยการเรียนให เปนไปตามเกณฑก ารจบหลักสูตรของสถานศึกษาทร่ี บั เทียบโอนกําหนด ๒.๗ การเทียบโอนผลการเรยี นสาํ หรับนักเรยี นที่เขา รว มโครงการแลกเปลีย่ น เยาวชน/วฒั นธรรมในตางประเทศเปนเวลา ๑ ปก ารศึกษา ใหถ อื ปฏบิ ตั ติ ามแนวทางการเทียบ ชั้นการศกึ ษาทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารไดมปี ระกาศกําหนดไวแ ลว ๒.๘ การเทียบโอนผลการเรียนเขาสูหลักสูตรเดมิ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ให ถือปฏบิ ัติตามแนวทางการเทียบโอนผลการเรยี นท่ีกระทรวงศึกษาธกิ ารไดม รี ะเบยี บ/คําสัง่ กาํ หนดไวแลว ๒.๙ สถานศึกษาเปนผูจัดทาํ เอกสาร/หลักฐานการศึกษาท่ีเกี่ยวของกับการ เทยี บโอนผลการเรียนโดยบันทึกผลการเทียบโอนไวเปนหลักฐาน และออกใบแจงผลการเทียบ โอนใหแ กผ ยู ่ืนความจํานงและจดั เกบ็ เอกสาร/หลกั ฐานทเี่ ก่ียวขอ งกับการเทยี บโอน พรอมท้งั จัดทาํ ทะเบยี นผขู อเทียบโอนผลการเรียนไวเพ่อื การอางองิ สถานศึกษาสามารถบนั ทกึ ขอมลู การเทียบโอนไวในชองหมายเหตโุ ดยไมตอ งกรอกผลการเรยี นเดิมในระเบยี นแสดงผลการเรียน และแนบเอกสารแสดงผลการเรียนจากแหลงเรียนรเู ดมิ ท่ีนํามาขอเทยี บโอนไวด วยกัน

-๓- ๒.๑๐ ผูที่ประสงคจะขอเทียบโอนผลการเรียนจะตองสมัครเขาเปนนักเรียน/ นักศึกษาของสถานศึกษาท่รี ับเทยี บโอนผลการเรียน ทั้งน้ี กระทรวงศึกษาธิการไดจัดทําแนวปฏบิ ัติและรายละเอียดในการเทียบโอนผล การเรยี นระหวางหลักสตู รและระหวา งรูปแบบการศึกษา เพอื่ ประกอบการพิจารณาเทยี บโอน ผลการเรียนสาํ หรับสถานศึกษาไวแลว ดังปรากฏใน \"เอกสารแนวดําเนินการเทยี บโอนผลการ เรยี นการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานและการศกึ ษาระดับอุดมศกึ ษา ระดบั ตา่ํ กวาปริญญา\" ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ปองพล อดิเรกสาร ( นายปองพล อดเิ รกสาร ) รัฐมนตรีวา การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แนวปฏิบัตเิ กีย่ วกับ การเทยี บโอนผลการเรียน เขา สูการศกึ ษาในระบบ ระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน สํานกั ทดสอบทางการศกึ ษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

แนวปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั การเทียบโอนผลการเรียน เขา สกู ารศกึ ษาในระบบ ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน สาํ นักทดสอบทางการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

สารบัญ หนา คาํ นํา แนวปฏิบัตเิ กีย่ วกับการเทยี บโอนผลการเรียนเขาสูการศกึ ษาในระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน ๑ ความหมายของคาํ ทเ่ี กยี่ วของ ๒ หลกั การพืน้ ฐานในการเทียบโอนผลการเรียน ๒ แนวทางการดาํ เนินการเทยี บโอนผลการเรยี นของสถานศึกษาในระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ๖ รปู แบบการเทยี บโอนผลการเรียน ๗ แนวปฏิบัตกิ ารเทียบโอนผลการเรียนเขา สกู ารศกึ ษาในระบบระดบั การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ๑๐ ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เรือ่ ง การเทยี บโอนผลการเรยี นการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน และการศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษาระดับตาํ่ กวาปรญิ ญา คณะผจู ดั ทํา



แนวปฏิบตั เิ ก่ียวกบั การเทียบโอนผลการเรยี น เขา สกู ารศกึ ษาในระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน สืบเน่ืองจากการที่กระทรวงศึกษาธิการไดประกาศหลักการและแนวทางการดําเนินงาน เทียบโอนผลการเรียนการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ํากวาปริญญา (รายละเอียด ดงั ประกาศแนบทา ย) สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐานไดจ ัดทาํ เอกสารแนวดาํ เนนิ การเทียบโอน ผลการเรียนการศึกษาขั้นพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับต่ํากวาปริญญา เพ่ือเปนแนวทาง ใหสถานศึกษาสามารถดําเนินงานเทียบโอนผลการเรียนไดอยางเปนระบบดวยน้ัน จากการติดตาม การดาํ เนนิ งานปรากฏวา แนวทางในบางประเด็นไมไ ดก ําหนดรายละเอยี ดไวเพอื่ ถอื ปฏบิ ตั เิ ปน แนวทางกลาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอน สถานศึกษาสามารถจัดทํารายวิชาในแตละกลุมเพื่อให ครบถวนตามมาตรฐานที่กําหนดไวในหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน หรือสามารถจัดทําสาระการเรียนรู เพิ่มเติมเปน หนวยการเรียนรรู ายวชิ าใหม ๆ รายวิชาท่ีมีความเขมขึ้นไดอยางหลากหลาย จึงทําใหการจัดการ เรียนการสอน จํานวนเวลา หรือจํานวนหนวย มีความแตกตางกันในแตละสถานศึกษา ดังน้ัน สํานักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐานจงึ ไดจ ัดทาํ แนวปฏิบัตเิ ฉพาะการเทียบโอนผลการเรียนเขาสูการศึกษา ในระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐานข้ึนเปนแนวทางกลางเก่ียวกับการใหจํานวนหนวย การใหผลการเรียน การบันทกึ ผลการเรยี น/ผลการเทยี บโอน และการคดิ ผลการเรยี นเฉล่ีย เพ่ือใหเกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนดังกลาวใหเปนดุลยพินิจของสถานศึกษาท่ี รับเขาเรียน โดยพิจารณาใหเหมาะสมกับคุณสมบัติของนักเรียนแตละคน และคํานึงถึงคุณภาพของ ผูเรียนเปน สาํ คัญ ความหมายของคาํ ทีเ่ กยี่ วขอ ง การเทียบโอนผลการเรียน หมายถึง การนําผลการเรียน ผลการเรียนรู ซึ่งเปนความรู ทักษะ หรือประสบการณการทํางาน การฝกอาชีพ มาเทียบโอนเปนสวนหน่ึงของการศึกษาตอเนื่อง ตามหลักสตู รของสถานศึกษาท่ีรบั เทยี บโอนผลการเรียน การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน หมายถึง การศึกษากอนระดบั อดุ มศึกษา การศึกษาในระบบ หมายถึง การศึกษาท่ีกําหนดจุดมุงหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และประเมินผล ซ่ึงเปน เง่อื นไขของการสําเรจ็ การศึกษาท่ีแนน อน การศึกษานอกระบบ หมายถึง การศึกษาที่มีความยืดหยุนในการกําหนดจุดมุงหมาย รปู แบบ วิธกี ารจัดการศกึ ษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซ่ึงเปนเง่ือนไขสําคัญของ

๒ การจัดการศึกษา โดยเน้ือหาและหลักสูตรจะตองมีความเหมาะสม สอดคลองกับสภาพปญหาและความ ตองการของแตล ะบุคคลและแตละกลุม การศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง การศึกษาที่ใหผูเรียนไดเรียนรูดวยตนเองตามความ สนใจ ศักยภาพ ความพรอม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ สังคม สภาพแวดลอม สื่อ หรอื แหลงความรอู น่ื ๆ การจัดการศึกษาโดยครอบครัว หมายถึง การจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานแกผูเรียนโดย บดิ ามารดา หรอื บดิ าหรือมารดาซึ่งเปนผูใชอํานาจปกครองหรือผูปกครองตามประมวลกฎหมายแพงและ พาณชิ ย การจัดการศึกษาโดยศูนยการเรียน หมายถึง การจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานที่ศูนยการเรียน ซ่ึงสถานประกอบการจดั ตั้งข้นึ การศึกษาหลักสูตรระยะส้ัน หมายถึง การศึกษาตามหลักสูตรเฉพาะ หรือหลักสูตร ฝกอบรมตามความตองการของกลมุ เปา หมาย การศึกษาหลักสูตรเฉพาะ หมายถึง การศึกษาเฉพาะทางท่ีจัดโดยกระทรวง ทบวง กรม รฐั วิสาหกจิ หรือหนว ยงานอ่ืน ที่จัดตามความตองการและความชาํ นาญของหนวยงานน้นั การฝกอาชีพ หมายถึง การฝกปฏิบัติเพ่ือเพ่ิมพูนความรู ฝมือ และทัศนคติ จนทําใหผูรับ การฝกสามารถทํางานในสาขาอาชีพที่รับการฝกไดอยางมีประสิทธิภาพ อาจเปนการฝกทางดานอาชีพ ในรูปแบบตาง ๆ เชน ทางดานชาง ทางดานธุรกิจ เปนตน สําหรับผูที่มีงานทําอยูแลวหรือผูที่ไมมีงาน ทํา หรือเปนนักเรียน/นักศึกษา ทําการฝกในสถานประกอบการ ในหนวยงานของรัฐและเอกชน หรือ จากแหลง การเรยี นรูตา ง ๆ ประสบการณการทํางาน หมายถึง ความสามารถ ทักษะ ท่ีสะทอนถึงคุณคาที่เกิดขึ้นจาก การสง่ั สมประสบการณในการทาํ งาน หลักการพน้ื ฐานในการเทียบโอนผลการเรียน ๑. กระจายอาํ นาจไปสูสถานศึกษา ๒. คํานึงถึงผลทจ่ี ะเกดิ กบั ผูเรียนเปนสําคัญ ๓. ยอมรับผลการดาํ เนินงานของโรงเรยี นเดิม ๔. ยดึ หลักความเปนธรรม โปรง ใส และมีความเปนไปไดในทางปฏิบตั ิ แนวทางการดําเนนิ การเทียบโอนผลการเรยี นของสถานศึกษาในระบบระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน การดําเนินการเทียบโอนผลการเรียนสามารถพจิ ารณาไดดงั น้ี

๓ ๑. พิจารณาจากเอกสารแสดงผลการเรียน/ผลการเรียนรู เชน ระเบียนแสดงผลการเรียน ประกาศนียบัตร ใบรับรองผลการศึกษา สมุดบันทึกผลการเรียนรู หรือหลักฐานอ่ืนที่แสดงถึง ความรู ความสามารถ ทักษะ ประสบการณของผขู อเทียบโอน ๒. ประเมนิ ความรู ความสามารถ ทกั ษะ และประสบการณท ี่มมี ากอ น ของผขู อเทยี บโอน การดําเนินงานเทยี บโอนผลการเรยี นใหพ ิจารณาในแนวทาง ดังน้ี ๑. การพิจารณาระดับชั้นการศึกษา การพิจารณาเทียบโอนเขาสูช้ันเรียนในระดับการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน ใหพ ิจารณาเทียบโอนจากผลการเรยี นเดมิ โดยยดึ หลกั การเทยี บชน้ั ตอชัน้ ปท ่เี รยี นตามผลการเรียน ท่ีผูเรียนมีอยู ต้ังแตช้ันประถมศึกษาปท่ี ๑ จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปที่ ๓ หรือชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๖ ตัวอยา งเชน ๑.๑ เทียบโอนผลการเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๒ เพ่ือเขาเรียนชั้นประถมศึกษาปท่ี ๓ หรอื เทียบโอนผลการเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี ๕ เพอ่ื เขาเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ ๖ ๑.๒ เทียบโอนผลการเรียนเกรด ๒ จากหลักสูตรตางประเทศ เพ่ือเขาเรียนชั้น ประถมศึกษาปท่ี ๓ หรอื เทยี บโอนผลการเรียนเกรด ๕ เพอื่ เขาเรียนชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๖ ๑.๓ เทียบโอนผลการเรียนเกรด ๖ จากหลักสูตรตางประเทศ เพื่อเขาเรียนช้ันมัธยมศึกษา ปท่ี ๑ หรือเทียบโอนผลการเรียนเกรด ๙ เพื่อเขาเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี ๔ ในกรณีน้ี หากผูเรียน ตองการขอใบเทียบความรู/ใบเทียบวุฒิการศึกษา ใหนําหลักฐานการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนตนจาก ตางประเทศไปขอเทยี บความร/ู เทยี บวุฒิการศกึ ษาท่สี าํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ๒. บทบาทหนาทข่ี องสถานศกึ ษา เพ่ือใหระบบการดําเนินงานเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษามีมาตรฐานเปนที่ ยอมรับและใหความม่ันใจตอสังคม สถานศึกษาที่รับนักเรียนเขาเรียนในฐานะผูท่ีทําหนาที่เทียบโอนผล การเรียน และสถานศึกษาที่ผูเรียนนําความรู/ผลการเรียนรูมาขอโอนในฐานะผูสงตอ จึงตองดําเนินการใน สวนตาง ๆ ที่เกี่ยวของกับการเทียบโอนดวย เชน การจัดทําระเบียบ/แนวปฏิบัติการเทียบโอนของ สถานศึกษา การแตงตั้งคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน การจัดทําเอกสาร/หลักฐานการศึกษา การจัดทําเอกสาร/หลกั ฐานการเทยี บโอน มวี ธิ ีการดาํ เนนิ งานดงั น้ี ๒.๑ จัดทําระเบียบหรือแนวปฏิบัติในการเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษา เพ่อื เปน หลกั ในการดาํ เนนิ การเทยี บโอนผลการเรยี น และสาํ หรับผทู ต่ี องการเขา ศกึ ษาตอเนอื่ งจะไดทราบ ขอ กาํ หนดของสถานศกึ ษาและใชเปนแนวทางประกอบการตดั สนิ ใจสมัครเขาเรยี น ๒.๒ แตงต้ังคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียนซึ่งเปนบุคลากรภายในสถานศึกษา เพื่อทําหนาที่ในการพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนและประเมินความรู ความสามารถ ทักษะ และ ประสบการณของผูขอเทียบโอน โดยหัวหนาสถานศึกษาเปนผูอนุมัติผลการเทียบโอน สถานศึกษาอาจ แตงตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ิมเติมได และกรรมการหรืออนุกรรมการควรมีความรูพื้นฐานที่สอดคลองกับ สาระการเรียนรูที่จะเทียบโอน หากมีความจําเปนสถานศึกษาสามารถเชิญผูมีประสบการณหรือ

๔ ผูเชี่ยวชาญเฉพาะดานจากภายนอกเขารวมเปนกรรมการหรืออนุกรรมการ ท้ังนี้ การพิจารณาเทียบโอน ผลการเรียนควรมรี ะบบ หลักเกณฑ และวิธีการทชี่ ดั เจน ๒.๓ จัดทําเอกสาร/หลักฐาน เพ่ือใชประกอบการพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนและ การประเมนิ สถานศึกษาเดิมที่ผูเรียนไดเรียนจนมีความรู ทักษะ ประสบการณ และนําไป ขอเทยี บโอนที่สถานศกึ ษาแหง ใหม จะตองจัดทําเอกสาร หลักฐาน ที่แสดงผลการเรียน / ผลการเรียนรู ทผี่ ูเรยี นไดรับ และขอมลู อนื่ ๆ ท่ีจําเปน เพอ่ื การสง ตอ ไปยงั สถานศึกษาที่รับเทียบโอนใหสามารถพิจารณา เทยี บโอนผลการเรยี นไดอยางเหมาะสมกับตวั นักเรยี น สถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนจะตองจัดทําเอกสารเพื่อใชประกอบการพิจารณา เทียบโอน เชน แบบคํารองหรือแบบยื่นความจํานงขอเทียบโอน แบบประเมิน แบบเสนอขออนุมัติผล การเทียบโอน ใบแจงผลการเทียบโอน ทะเบียนผูขอเทียบโอน เปนตน นอกจากน้ัน ยังตองจัดทํา เอกสาร/หลกั ฐานการศกึ ษาทแ่ี สดงผลการเรยี นของนกั เรยี นขณะท่ีไดเ รยี นอยใู นโรงเรียน ๒.๔ กาํ หนดคณุ สมบตั ิของผูข อเทยี บโอนผลการเรียน สถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนผลการเรียนเปนผูกําหนดคุณสมบัติของผูขอเทียบโอน โดยผูขอเทียบโอนจะตอ งสมคั รเขาเปนนกั เรียนในสถานศกึ ษาทร่ี บั เทยี บโอนกอนยื่นความจํานงขอเทียบโอน และมคี ณุ สมบัติเฉพาะตามทส่ี ถานศึกษาทีร่ ับเทียบโอนกาํ หนด ๒.๕ กาํ หนดชวงเวลาในการย่ืนความจํานงขอเทียบโอนผลการเรียน (๑) สถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนผลการเรียนควรกําหนดชวงเวลาการเทียบโอน ผลการเรียนในชวงตนปการศึกษากอนเปดภาคเรียน หรือในชวงตนภาคเรียนแรกที่รับสมัครนักเรียน เขาเรียน เพ่ือการวางแผนการเรียนรวมกันท่ีเหมาะสมกับนักเรียน หากผูขอเทียบโอนมีความจําเปน ไมสามารถ ยื่นความจํานงขอเทียบโอนไดตามเวลาที่สถานศึกษากําหนด ใหอยูในดุลยพินิจของสถานศึกษา ท่รี ับเทียบโอน และในการเทยี บโอนผลการเรียนใหเ ทยี บโอนใหเ สรจ็ สนิ้ ภายในภาคเรยี นนั้น ๆ (๒) ในระหวางที่ศึกษาอยู หากนักเรียนประสงคจะไปศึกษาหรือเสริมความรู ทักษะ ประสบการณจากแหลงการเรียนรูอื่น ๆ เปนการเพ่ิมเติมในภายหลัง นักเรียนจะตองแสดงความจํานง ตอสถานศึกษาและตองไดรับอนุญาตจากหัวหนาสถานศึกษากอน การไปศึกษาจากแหลงการเรียนรูอ่ืน อาจมีการประเมินผลการเรียนรูรวมกันระหวางสถานศึกษาและแหลงการเรียนรู ทั้งนี้ การเทียบโอน ผลการเรียนรูใหอยูในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่รับเทียบโอน และเปนไปตามหลักเกณฑการไปศึกษาหรือ เสริมความรู ทักษะจากแหลง การเรียนรอู ่นื และตามชวงเวลาที่สถานศึกษากาํ หนด ๒.๖ พจิ ารณาอายุของผลการเรยี น/ผลการเรยี นรูที่นักเรียนนาํ มาขอเทียบโอน ใหสถานศึกษาท่รี บั เทียบโอนพจิ ารณาวา เปน ผลการเรียนทนี่ กั เรยี นไดร ับมาเมอ่ื ใด หากเปนผลการเรยี นทไ่ี ดศึกษาเปนระยะเวลานานมาแลวและมิไดร บั การพัฒนาหรอื เสรมิ เพิ่มเตมิ ความรู

๕ ทักษะแตอ ยางใด สถานศึกษาอาจไมรับเทียบโอนได ท้ังน้ี ใหพิจารณาบนพ้ืนฐานธรรมชาติของวิชา ความทันสมัยของวิชา ทันตอเหตุการณ และสอดคลองกับการเปลี่ยนแปลงในโลกปจจุบัน เพ่ือท่ีจะนํามา เช่อื มตอกบั ความรูตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา ๓. การประเมนิ การประเมินความรู ความสามารถ ทักษะ และประสบการณของผูขอเทียบโอน สามารถ ประเมินดวยเครื่องมือและวิธีการท่ีหลากหลาย เชน การประเมินแฟมสะสมผลงาน การทดสอบ มาตรฐาน การสอบปากเปลา การปฏิบัติจริง เปนตน สถานศึกษาตองมีระบบการประเมินท่ีมีมาตรฐาน มีความเทย่ี งตรง ถูกตอ งตามหลกั วิชา เช่ือถือได สถานศึกษาท่ีเทียบโอนอาจขอความรวมมือจากองคกร หรือหนวยงานท่ีมีหนาที่ประเมินในสวนท่ีเกี่ยวของกับเครื่องมือและวิธีการ หรือขอความรวมมือจาก ผปู ระเมนิ ท่ีมีความรู ประสบการณ ในสาขาวชิ าทต่ี องการประเมนิ ๔. วิธีปฏิบตั ิและการจดั เขา ชั้นเรยี น ๔.๑ ในกรณีท่ีเปนการเทียบโอนจากหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเขาสูหลักสูตร การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ใหพิจารณาพืน้ ความรชู นั้ สุดทา ยท่ีไดเ รยี นและจดั เขาเรยี นตอ เน่อื งในช้ันท่ีไดเ รยี นอยูเดิม ๔.๒เม่ือนักเรียนไดรับการเทียบโอนผลการเรียนแลว หากสถานศึกษาท่ีรับเทียบโอน เห็นวายังมีสาระ/รายวิชา/กิจกรรมใดที่ตองจัดใหเรียนเสริมเพ่ือใหมีความรูพื้นฐานดีขึ้น หรือเปนรายวิชา ท่ีสถานศึกษาเนนความเปนเลิศ หรือมีความจําเปนตองเรียนเพ่ือใหครบตามเงื่อนไขการจบชวงช้ันหรือ ครบตามโครงสรางของหลักสูตร สถานศึกษาอาจจัดสอนเสริมหรือใหลงทะเบียนเรียนเพ่ิมเติมตามความจําเปน และจัดในชวงเวลาท่ีเหมาะสม การจัดสอนเสริมหรือจัดใหเรียนเพ่ิมเติมจะตองคํานึงถึงประโยชน ที่จะนําไปใชในการศึกษาตอในระดับที่สูงขึ้นหรือในระดับอุดมศึกษาดวย หรือหากปรากฏวาเปนรายวิชา ท่ีไมตรงกับที่ปรากฏในโครงสรางหลักสูตรท่ีรับเขาเรียน อาจกําหนดและขอบรรจุช่ือรายวิชานั้นไว ในหลักสูตรได ทั้งน้ี ผูขอเทียบโอนจะตองเรียนตอเน่ืองและจบการศึกษาตามเกณฑการจบชวงช้ันของ หลักสตู รสถานศกึ ษาท่รี ับเทียบโอน สําหรับรายวิชาท่ียังไมมีการตัดสินผลการเรียน ใหสถานศึกษาท่ีรับ เทียบโอนพิจารณาวาสามารถจัดเปนรายวิชาใดในหลักสูตรของสถานศึกษาเพื่อจัดใหเรียนเพ่ิมเติม หรือ ดําเนนิ การประเมนิ ตามเกณฑท ีส่ ถานศกึ ษากาํ หนด ๔.๓ จํานวนหนวยกิต/หนวยการเรียน/หนวยน้ําหนัก ท่ีผูขอเทียบโอนไดรับจาก การเทียบโอนผลการเรียน ใหพิจารณาความรแู ละทกั ษะสาํ คญั ท่ีไดเรียน เพ่ือประกอบการพจิ ารณาเทยี บโอน ทัง้ นี้ เพือ่ ใหครบตามเกณฑการจบชว งชั้นของหลกั สตู รสถานศึกษาท่รี บั เทยี บโอน ๔.๔ ผขู อเทียบโอนจะตอ งมีเวลาเรียนอยูในสถานศึกษาที่รับเทียบโอน อยางนอย ๑ ภาคเรียน เพื่อการศึกษาอบรมบมเพาะตามจุดเนนและปรัชญาการศึกษาของสถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนและจบชวงช้ัน ตามเกณฑข องสถานศกึ ษาทร่ี บั เทียบโอน ๕. การเทยี บโอนผลการเรียนสําหรับนกั เรยี น โครงการแลกเปลี่ยน ใหถ ือปฏบิ ัตติ ามแนวทางท่ีกระทรวงศึกษาธิการไดก าํ หนดไวแ ลว

๖ ๖. การใหจ าํ นวนหนว ย การใหผลการเรยี น การบันทึกผลการเรียน และการคดิ ผลการเรยี นเฉลีย่ การใหจํานวนหนวยกิต/หนวยการเรียน/หนวยน้ําหนัก การใหผลการเรียน การบันทึก ผลการเรียน และการคดิ ผลการเรยี นเฉล่ียในรายวิชา/สาระ/กิจกรรม ท่ีไดจากการเทียบโอนผลการเรียนจาก หลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน หลกั สตู รเดิมของกระทรวงศึกษาธิการ หลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน หลักสูตรเฉพาะ หลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรตางประเทศ จากการศึกษาที่จัดโดยครอบครัว ประสบการณ การทาํ งาน การฝกอาชพี ฯลฯ เพ่อื เขาศึกษาตอการศึกษาในระบบระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษา สามารถพิจารณาจากรปู แบบการเทยี บโอนผลการเรยี นได ดงั นี้ รปู แบบการเทียบโอนผลการเรียน ผลการเรียน/ผลการเรยี นรูของผูขอเทยี บโอนอาจเกดิ จากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ หรือการศึกษาตามอัธยาศัย สําหรับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยสามารถจําแนกออกเปน การศกึ ษาในลกั ษณะตา ง ๆ ไดแก การศึกษาตามหลักสูตรระยะส้ัน หลักสูตรเฉพาะ การศึกษาท่ีจัดโดย ครอบครัว ศูนยการเรียน การฝกฝมือ การฝกอาชีพ รวมทั้งประสบการณการทํางานจากแรงงานไทย ในประเทศและ ตางประเทศ เปนตน สามารถนํามาสรุปแนวทางการพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนเขาสู การศกึ ษาในระบบในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีการใหจ าํ นวนหนว ย การใหผ ลการเรยี น การบนั ทกึ ผลการเรยี น และการคดิ ผลการเรียนเฉลี่ยได ดังนี้ ๑. การพิจารณาเทียบโอนผลการเรยี นจากการศกึ ษาในระบบเขา สกู ารศึกษาในระบบ ๒. การพิจารณาเทยี บโอนผลการเรียนจากการศึกษานอกระบบเขา สูการศึกษาในระบบ ๓. การพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนจากการจัดการศึกษาโดยครอบครัว เขาสูการศึกษาในระบบ ๔. การพิจารณาเทยี บโอนผลการเรยี นจากการจัดการศึกษาโดยศูนยการเรียน การศึกษาหลกั สูตรระยะส้นั หลักสูตรเฉพาะ การฝก อาชพี ประสบการณก ารทาํ งาน เขาสกู ารศกึ ษาในระบบ ๕. การพิจารณาเทียบโอนผลการเรียนจากการศกึ ษาตามหลักสตู รตา งประเทศเขา สู การศกึ ษาในระบบ หมายเหตุ ๑. สถานศึกษาเดมิ หมายถึง สถานศกึ ษาทีน่ กั เรียนไดเรยี นมากอนและมีผลการเรียน ทจี่ ะนํามาขอรบั การเทียบโอน ๒. สถานศึกษาใหม หมายถึง สถานศึกษาที่รับเทียบโอนผลการเรียน เปน สถานศกึ ษาทีน่ ักเรยี นประสงคจะเขาศึกษาตอเนอ่ื ง สําหรับแนวปฏิบัติในการเทียบโอนผลการเรียนเขาสูการศึกษาในระบบระดับการศึกษา ขน้ั พืน้ ฐาน ใหเปน ไปตามตารางดังตอ ไปน้ี

แนวปฏิบัติการเทียบโอนผลการเรยี นเขา สกู ารศึก แนวทาง การเทียบโอนจากการศกึ ษาในระบบ การเทยี บโอนจากการศกึ ษานอกระบบ การพจิ ารณา เขาสกู ารศึกษาในระบบ เขา สกู ารศึกษาในระบบ วิธีปฏิบัติในการ ๑. เทียบโอนรายวิชา/สาระ/กิจกรรม ท่ี เทียบโอนหมวดวิชา/สาระ/กิจกรรม ที่ จดั เขาชั้นเรียน ผ า น ก า ร ตั ด สิ น ผ ล ก า ร เ รี ย น จ า ก ผ า น ก า ร ตั ด สิ น ผ ล ก า ร เ รี ย น จ า ก สถานศึกษาเดิมไดทั้งหมด และจัดเขา สถานศกึ ษาเดมิ จํานวนหนวย ช้ันเรยี นตอ เน่ืองจากท่เี รยี นอยูเดิม เชน ๑. เรียนผานอยางนอย ๓ หมวดวิชา กติ /หนว ยการ จบ ป.๑ จัดเขาเรียน ป.๒ สถานศึกษา จัดให เรีย น ปท่ี ๒ ของ ชวงช้ั น แล ะ เรยี น/หนว ย อาจประเมินบางรายวิชาที่จําเปนเพ่ือ ลงทะเบยี นเรียนตอ ไปตามปกติ นํา้ หนัก การตรวจสอบความรูพื้นฐาน ๒. เรียนผานอยางนอย ๖ หมวดวิชา ๒.รายวิชา/สาระ/กิจกรรม ที่ยังไมได จัด ใ ห เ รี ย น ป ท่ี ๓ ข อ ง ช ว ง ช้ั น แ ล ะ ตัดสินผลการเรียน ใหประเมินตาม ล ง ท ะ เ บี ย น เ รี ย น ต อ ใ น ร า ย วิ ช า ที่ เกณฑที่สถานศึกษากําหนด หากไม จําเปนตองเรียนเพื่อใหครบตามเกณฑ ผ า น ต า ม เ ก ณ ฑ ใ ห ล ง ท ะ เ บี ย น เ รี ย น ก า ร จ บ ช ว ง ช้ั น ต า ม ห ลั ก สู ต ร ข อ ง เพม่ิ เตมิ สถานศึกษาใหมทรี่ ับเขา เรยี น พิจารณาแลวเห็นวาเทียบโอนผลการ พิ จ า ร ณ า แ ล ว เ ห็ น ว า เ ที ย บ โ อ น ผ ล ก า ร เรียนไดจํานวนหนวยใหเปนไปตาม เ รี ย น ไ ด จํ า น ว น ห น ว ย ใ ห เ ป น ไ ป ต า ม โครงสรางหลักสูตรของสถานศึกษา โ ค ร ง ส ร า ง ห ลั ก สู ต ร ข อ ง ส ถ า น ศึ ก ษ า เดมิ ใหม

กษาในระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน การเทยี บโอนจากการจดั การเทยี บโอนจากการจัดการศกึ ษา การเทียบโอนจากการศกึ ษา การศกึ ษาโดยครอบครวั เขา โดยศนู ยก ารเรยี น การศกึ ษาตาม ตามหลกั สตู รตางประเทศ หลักสูตรระยะสัน้ หลกั สูตรเฉพาะ สูการศกึ ษาในระบบ ประสบการณการทํางาน การฝก เขา สูการศกึ ษาในระบบ ๑ .ใ ห นํ า ผ ล ก า ร วั ด แ ล ะ อาชพี เขาสกู ารศึกษาในระบบ ๑.สําเร็จการศกึ ษาภาคเรียนใด ป ร ะ เ มิ น ข อ ง เ ข ต พื้ น ท่ี พจิ ารณาความรู ทกั ษะ ประสบการณ ช้ันปใด ใหพิจารณาเทียบโอน ก า ร ศึ ก ษ า ม า ป ร ะ ก อ บ ก า ร ท่ีขอเทียบโอนวาตรงกับรายวิชา/ ภาคเรียนตอภาคเรียน ปตอ พิจารณา ส า ร ะ /กิ จ ก ร ร ม ใ ด จึ ง ทํ า ก า ร ป โ ด ย นํ า พ้ื น ค ว า ม รู ส า มั ญ ๒.ใ ห ส ถ า น ศึ ก ษ า ปร ะเ มิ น ประเมิน หากปรากฏวาช่ือไมตรง เดิมมาประกอบการพิจารณา ความรู ทักษะ ประสบการณ กบั ท่ีปรากฏในโครงสรางหลักสูตร หรืออาจประเมินเพิ่มเติมเพ่ือ เพอ่ื การจดั เขา ช้ันเรียน ใหกําหนดและบรรจุช่ือน้ันไวใน ตรวจสอบความรพู นื้ ฐาน หลักสตู ร ๒. รายวิชา/สาระ/กิจกรรม ที่ จํานวนหนว ยใหเปนไปตาม ยั ง ไ ม ไ ด เ ที ย บ โ อ น เ นื่ อ ง จ า ก เ ก ณ ฑ ที่ ส ถ า น ศึ ก ษ า ใ ห ม ใหจํานวนหนวยของรายวิชา/สาระ ยังไมตัดสินผลการเรียน ให กาํ หนด ตามเกณฑข องสถานศกึ ษาใหม ป ร ะ เ มิ น ต า ม เ ก ณ ฑ ที่ สําหรบั กจิ กรรมไมใหจาํ นวนหนว ย สถานศึกษากาํ หนด จํ า น ว น ห น ว ย ใ ห เ ป น ไ ป ต า ม โ ค ร ง ส ร า ง ห ลั ก สู ต ร ข อ ง สถานศึกษาทีร่ บั เขาเรยี น ๗

แนวปฏิบตั ิการเทียบโอนผลการเรียนเขา สูการศกึ แนวทาง การเทียบโอนจากการศกึ ษา ใน การเทยี บโอนจาก การเทยี บโอน การพจิ ารณา ระบบ เขาสกู ารศกึ ษา ในระบบ การศึกษานอกระบบ การศกึ ษาโดย เขาสกู ารศกึ ษาในระบบ เขา สูก ารศกึ ษ ผลการเรยี น / ยอมรับผลการเรียนของสถานศึกษา ไมตองใหผลการเรียนใน ยอมรับผลการ ผลการประเมิน เดิม รายวิชา/สาระ/กิจกรรม ท่ี เ ข ต พ้ื น ที่ ม า ไดจ ากการเทยี บโอน ประกอบในกา ก า ร บั น ทึ ก ผ ล ๑.ไมต อ งนาํ รายวิชาและผลการเรยี น ก า ร เ รี ย น ใ น ใ บ เดิมกรอกในใบแสดงผลการเรียน ไ ม ต อ ง นํ า ห ม ว ด วิ ช า แ ล ะ ไมตองนําราย แสดงผลการ ของสถานศึกษาใหม แตใหแนบใบ ผลการเรียนเดิมกรอกใน เ รี ย น /ผ ล ก า เรยี น แ ส ด ง ผ ล ก า ร เ รี ย น เ ดิ ม ไ ว กั บ ใ บ ใบแสดงผลการเรียนของ ประเมินเดิมข แสดงผลการเรียนใหมและบันทึก ส ถ า น ศึ ก ษ า ให ม แต ใ ห กรอกในใบแ จํานวนหนวยท่ีไดรับการเทียบโอน แนบใบแสดงผลการเรียน เรียนของสถา ต า ม โ ค ร ง ส ร า ง ห ลั ก สู ต ร ข อ ง เดิมไวกับใบแสดงผลการ แตใหแนบเอก สถานศกึ ษาเดิมไวในชองหมายเหตุ เ รี ย น ใ ห ม แ ล ะ บั น ทึ ก กั บ ใ บ แ ส ด ง ผ ๒.รายวิชา/สาระ/กิจกรรมที่ยังไมได จํานวนหนวยท่ีไดรับการ ใหมและบันท ตัดสินผลการเรียน และไดรับการ เทียบโอนตามโครงสราง จํานวนหนวย ป ร ะ เ มิ น ใ ห นํ า ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น หลักสูตรของสถานศึกษา เ ที ย บ โ อ น ไ กรอกในชองหมายเหตุ ใหมไวใ นชองหมายเหตุ หมายเหตุ

กษาในระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน (ตอ) นจากการจดั การเทียบโอนจากการจัดการศึกษา การเทยี บโอนจากการศกึ ษาตาม ยครอบครัว โดยศนู ยก ารเรยี น การศกึ ษาตาม หลักสตู รตา งประเทศ ษาในระบบ หลกั สูตรระยะสน้ั หลกั สูตรเฉพาะ เขาสกู ารศึกษาในระบบ รประเมินของ ประสบการณก ารทํางาน การฝก ผลการปร ะเมินเพิ่ม เ ติม ใหเป นไปตามที่ า เ ป น ส ว น อาชีพ สถานศกึ ษากาํ หนด ารพิจารณา ยวิชา ผลการ เขา สูก ารศกึ ษาในระบบ ๑ .ใ ห ก ร อ ก ร า ย ชื่ อ แ ล ะ จํ า น ว น ห น ว ย ต า ม า ร วั ด แ ล ะ ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม รู ทั ก ษ ะ รายวิชาของสถานศึกษาท่ีรับเขาเรียนในใบ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ ใ ห เ ป น ไ ป ต า ม ท่ี แสดงผลการเรียนของสถานศึกษาท่ีรับเขา ของเขตพ้ืนที่ สถานศึกษาใหมก ําหนด เรียนโดยไมตอ งกรอกผลการเรียน และแนบ แสดงผลการ ใ บ แ ส ด ง ผ ล ก า ร เ รี ย น จ า ก ส ถ า น ศึ ก ษ า เ ดิ ม านศึกษาใหม นํ า ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ความรู ทั กษะ แ ล ะ ส ถ า น ศึ ก ษ า ที่ รั บ เ ข า เ รี ย น ไ ว ด ว ย กั น ประสบการณ ก ร อ ก ใ น ใ บ แ ส ด ง ผ ล และบันทึกผลการเทียบโอนไวในชองหมาย กสารเดิมไว การเรยี น เหตุ ผ ล ก า ร เ รี ย น ๒.รายวิชาท่ียังไมไ ดต ดั สนิ ผลการเรียนและ ทึกขอมูลและ สถานศกึ ษาท่ีรับเขา เรยี นไดประเมินผลการ ยที่ไดรับการ เรียนแลว ใหนาํ ผลการประเมนิ กรอกไวใน ไ ว ใ น ช อ ง ชองหมายเหตุ ๘


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook