Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กำหนดการสอน ชีววิทยา3 ม.5

กำหนดการสอน ชีววิทยา3 ม.5

Published by Sudaporn Suboonpiam, 2023-04-14 05:28:08

Description: กำหนดการสอน ชีววิทยา3 ม.5

Search

Read the Text Version

บันทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 22 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ที่ ………………………………… วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนมุ ัตใิ ช้โครงการสอนในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 เรียน ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 ด้วยข้าพเจ้า นางสาวสุดาภรณ์ สืบบุญเปี่ยม ครูผู้สอน ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 รับผิดชอบสอนรายวิชาชีววิทยา3 รหัสวิชา ว32243 ชั้นมัธยมศึกษาปีที 5/1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะหท์ ่ี ๒๒ บัดน้ี ได้จัดทำโครงการสอนในรายวิชาดงั กลา่ วขา้ งตน้ เสร็จสนิ้ เรียบรอ้ ยแลว้ ผู้สอนจงึ ขออนุมัตกิ าร ใช้โครงการสอนดังกล่าวเป็นแนวทางในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนตอ่ ไป จึงเรียนมาเพอื่ โปรดอนมุ ัติ ลงชอ่ื ................................................................ (นางสาวสุดาภรณ์ สืบบุญเปี่ยม) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย ความเห็นหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ความเห็นรองผอู้ ำนวยการ  อนมุ ัติ  ไมอ่ นุมัติ  อนุมตั ิ  ไมอ่ นุมัติ ลงชื่อ............................................................ ลงชือ่ ................................................................ (นางพิลาสลักษณ์ ตาปินตา) (นายกิตตธิ ัช จนั ทรา) หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการ  อนุมตั ิ  ไมอ่ นมุ ตั ิ ลงชอ่ื ................................................................ (นางสาววาสนา จนิ ดาสวัสดิ์) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๒๒

คำอธบิ ายรายวิชา รายวิชา ชีววิทยา3 รหสั วชิ า ว32243 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 เวลา 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของพืชดอก เนื้อเยื่อพืช โครงสร้างและหน้าที่ของราก โครงสร้างและหน้าที่ของ ลำต้น โครงสร้างและหน้าที่ของใบ การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายน้ำของพืช การลำเลียงน้ำของพืช ธาตุอาหาร ของพืช การลำเลียงอาหารของพืช ศึกษาการสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ ดว้ ยแสง การคน้ คว้าท่เี ก่ียวข้องกับกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง โครงสร้างของใบ พชื C3 และใบพืช C4 วัฏจักรคาร์บอนของพชื C4 ศกึ ษาการสบื พนั ธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต วัฏจักรชีวิตของ พืชดอก การสรา้ งเซลล์สืบพันธ์ขุ องพืชดอก การปฏิสนธขิ องพืชดอก การงอกของเมลด็ พืช ศกึ ษาการตอบสนองของพืช การตอบสนองของพชื ตอ่ สารเคมี และการตอบสนองของพืชต่อสงิ่ แวดลอ้ ม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การสงั เกต การวิเคราะห์ การอภิปราย และการสรุปผล เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ และความเข้าใจ มคี วามสามารถใน การตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเก่ียวกบั ชนดิ และลักษณะของเน้ือเยือ่ พชื และเขียนแผนผงั เพอื่ สรปุ ชนิดของเนอ้ื เยื่อพืช 2. สังเกต อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดยี่ วและรากพชื ใบเลี้ยงคู่จากการ ตดั ตามขวาง 3. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทยี บโครงสรา้ ง ภายในของลำต้นพืชใบเล้ยี งเดี่ยวและลำตน้ พชื ใบเลี้ยงค่จู าก การตัดตามขวาง 4. สังเกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพชื จากการตัดตามขวาง 5. สืบคน้ ข้อมูล สังเกต และอธิบายการแลกเปลีย่ นแกส๊ และการคายนำ้ ของพืช 6. สืบค้นขอ้ มูล และอธบิ ายกลไกการลำเลยี งน้ำและธาตอุ าหารของพืช 7. สืบคน้ ข้อมูล อธิบายความสำคัญของธาตอุ าหาร และยกตัวอย่างธาตุอาหารที่สำคญั ทมี่ ีผลต่อการ เจรญิ เตบิ โตของพชื 8. อธบิ ายกลไกการลำเลียงอาหารในพืช 9. สบื ค้นขอ้ มูล และสรปุ การศกึ ษาท่ไี ด้จากการทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์ในอดตี เกีย่ วกบั กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง 10. อธบิ ายขนั้ ตอนท่ีเกดิ ขนึ้ ในกระบวนการ สงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื C3

11. เปรยี บเทยี บกลไกการตรึงคารบ์ อนไดออกไซด์ ในพืช C3 พชื C4 และ พชื CAM 12. สบื คน้ ขอ้ มูล อภิปราย และสรุปปัจจยั ความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคารบ์ อนไดออกไซดแ์ ละ อุณหภูมิ ที่มีผลตอ่ การสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื 13. อธบิ ายวัฏจักรชวี ติ แบบสลับของพืชดอก 14. อธิบาย และเปรยี บเทียบกระบวนการสร้างเซลลส์ ืบพันธเุ์ พศผู้และเพศเมยี ของพชื ดอก และอธบิ ายการ ปฏสิ นธขิ องพชื ดอก 15. อธบิ ายการเกดิ เมล็ดและการเกิดผลของพืช ดอกโครงสรา้ งของเมล็ดและผลและยกตัวอย่างการใช้ ประโยชนจ์ ากโครงสรา้ งต่างๆ ของเมลด็ และผล 16. ทดลอง และอธบิ ายเกย่ี วกบั ปัจจัยตา่ ง ๆ ท่มี ีผลตอ่ การงอกของเมล็ด สภาพพักตัวของเมลด็ และบอก แนวทางในการแกส้ ภาพพักตัวของเมล็ด 17. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายบทบาทและหน้าท่ีของออกซนิ ไซโทไคนนิ จบิ เบอเรลลิน เอทลิ ีน และกรดแอบไซซิก และอภิปรายเกี่ยวกับการนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 18. สบื ค้นขอ้ มูล ทดลอง และอภิปรายเกี่ยวกบั ส่ิงเร้าภายนอกท่ีมีผลต่อการเจริญเตบิ โตของพชื รวมท้ังหมด 18 ผลการเรยี นรู้

ผงั มโนทศั น์ รายวิชา ชีววิทยา3 รหัสวชิ า ว32243 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 ช่อื หน่วยท่ี 1 โครงสรา้ งและหน้าทีข่ องพืชดอก ช่ือหนว่ ยท่ี 2 การสังเคราะห์ด้วยแสง จำนวน 26 ช่วั โมง : 40 คะแนน จำนวน 16 ช่วั โมง : 30 คะแนน รายวชิ า ชีววิทยา3 ชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 60 ช่ัวโมง ชอ่ื หนว่ ยท่ี 3 การสืบพันธขุ์ องพชื ดอกและ ชื่อหน่วยที่ 4 การตอบสนองของพชื การเจริญเติบโต จำนวน 6 ชวั่ โมง : 10 คะแนน จำนวน 12 ช่ัวโมง : 20 คะแนน

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ า ชีววิทยา3 รหัสวิชา ว32243 ช่อื หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 โครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องพชื ดอก ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 ท่ี ชือ่ หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน (ชม.) รวม K P A 1 โครงสรา้ ง 1. อธิบายเกย่ี วกบั พืชดอกประกอบดว้ ยอวยั วะตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ราก ลำ 26 40 10 20 10 และ ชนดิ และลักษณะ ต้น ใบ และดอก ซึ่งอวัยวะเหล่านี้ประกอบไปด้วย หน้าท่ี ของเนอื้ เยอื่ พืช เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน โดยเนื้อเยื่อพืชแบ่ง ของพชื และเขียนแผนผัง ออกได้เป็น 2 ประเภท คือเนื้อเยื่อเจริญและเน้ือเยอ่ื ดอก เพื่อสรปุ ชนิดของ ถาวร โดยเนอ้ื เยือ่ เจริญแบ่งออกได้เปน็ เนือ้ เยอื่ เจริญ เนอื้ เยื่อพชื ส่วนปลาย เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ และเนื้อเยื่อเจรญิ 2. สังเกต อธิบาย ด้านข้าง ส่วนเนื้อเยื่อถาวรเปลี่ยนแปลงจากเนื้อเยือ่ และเปรียบเทยี บ เจริญเพื่อทำหน้าที่เฉพาะ แบ่งออกได้เป็น 3 ระบบ โครงสร้างภายใน คือ ระบบเนื้อเยื่อผิว ระบบเนื้อเยื่อพื้น และระบบ ของรากพืชใบเดี่ยว เนอื้ เย่ือทอ่ ลำเลยี ง และรากพืชใบเล้ียง คู่จากการตัดตาม รากพืชประกอบดด้วย เนื้อเยื่อเจริญปลายราก ขวาง และเนื้อเยื่อลำเลียง ทำหนาที่ดูดน้ำและธาตุอาหาร ภายในดิน และทำหน้าที่พิเศษ เช่น รากหายใจ ราก สะสมอาหาร 3. สงั เกต อธิบาย ลำตน้ พืชประกอบด้วย เน้ือเยอ่ื ดา้ นข้าง ทำให้ลำ และเปรยี บเทยี บ ต้นขยายขนาดใหญ่ขึ้น และภายในลำต้นมีเนื้อเย่ือ โครงสรา้ งภายใน ลำเลียงทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและอาหาร นอกจากนี้ ของรากพืชใบเดยี่ ว พืชบางชนิดมลี ำตน้ ใตด้ นิ ทำหนา้ ที่สะสมอาหาร และรากพชื ใบเล้ียง ใบเป็นอวัยวะที่เจริญออกไปบริเวณด้านข้าง คจู่ ากการ ตัดตาม อยบู่ ริเวณด้านข้าง อยู่บรเิ วณขอ้ ปล้องของลำต้นและ ขวาง กิ่งทำหน้าที่หลักในการสร้างอาหารโดยการ 4. สังเกตและ สงั เคราะหด์ ้วยแสง อธบิ ายโครงสรา้ ง ภายในของใบพืช จากการตดั ตาม ขวาง

ท่ี ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 1 การ สืบพันธุ์ 5. สืบค้นขอ้ มูล ใ น ก า ร ส ร ้ า ง อ า ห า ร พ ื ช ต ้ อ ง ก า ร แ ก๊ ส ของพืช ดอก สังเกต และอธิบาย คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นสารตั้งต้น ใน การแลกเปล่ียน กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง รากพืชดูดน้ำจากดิน แกส๊ และการคาย และลำเลียงไปยังส่วนต่าง ๆทางไซเล็ม ส่วนแก๊ส น้ำของพชื คาร์บอนไดออกไซด์นั้นพืชได้รับจากกระบวนการ แลกเปลี่ยนแก๊ส โดยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ใน 6. สบื คน้ ขอ้ มูล บรรยากาศจะแพร่ผ่านเข้าไปในพืชทางรูป ากใบ และอธบิ ายกลไก เรยี กวา่ การคายน้ำ การลำเลียงน้ำและ พืชมีระบบลำเลียงเพ่ือใช้ลำเลยี งน้ำ แร่ธาตุต่างๆ ธาตอุ าหารของพชื จากดินไปสู่สว่ นต่างๆ ของพชื โดยการลำเลยี งน้ำใช้ท่อ ลำเลียง เรียกว่า ไซเลม ( Xylem) เมื่อพืชสร้างอาหาร 7. สบื คน้ ขอ้ มูล แล้วก็จะลำเลียงไปสู่ส่วนต่างๆของพืชโดยอาศัยท่อ อธิบายความสำคญั ลำเลียง เรียกว่า โฟลเอม ( Phloem ) โดยระบบการ ของธาตุอาหาร ลำเลียงน้ำ และอาหารแตกต่างกันระหว่างพืชใบเลี้ยงคู่ และยกตัวอยา่ ง และพืชใบเลี้ยงเดี่ยว การคายน้ำ มีส่วนช่วยในการ ธาตอุ าหารที่สำคญั ลำเลียงน้ำ ของพืช ทมี่ ีผลตอ่ การ พืชจำเปน็ ต้องมกี ารใช้ธาตอุ าหาร ซง่ึ ดูดมาจากดิน เจริญเตบิ โตของพชื โดยรากและลำเลียงผ่านไปกับน้ำ เพื่อนำไปสร้าง อาหารในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ดังนั้นธาตุ 8. อธิบายกลไก อาหารมคี วามสำคัญต่อการดำรงชวี ิตของพชื การลำเลยี งอาหาร การสร้างอาหารของพืชเกิดจากกระบวนกร ในพชื สังเคราะห์ด้วยแสงจนได้ผลผลิตเป็นน้ำตาล และมัก สะสมอยใู่ นรูปของแปง้ ซง่ึ เปน็ คาร์โบไฮเดรต การสร้าง อาหารของพืชส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ใบ แล้วลำเลียง อาหารไปยงั สว่ นต่าง ๆ ของพชื

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ า ชีววทิ ยา3 รหสั วิชา ว32243 ชอื่ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน (ชม.) รวม K P A 2 การ สงั เคราะห์ 9. สบื ค้นข้อมูล การสังเคราะห์ด้วยแสง เป็นกระบวนการสร้าง 16 30 8 15 7 ดว้ ยแสง และสรุปการศกึ ษา อาหารของพืช โดยมีใบเป็นอวัยวะสำคัญ ภายในใบ ท่ไี ดจ้ ากการทดลอง ของพืชมีสารคลอโรฟิลล์ที่สามารถนำพลังงานแสงมา ของนกั เปลี่ยนให้เป็นพลังงานเคมี และมีเอนไซม์ที่สามารถ วิทยาศาสตรใ์ น ตรงึ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศมาผลิตอาหาร อดตี เก่ียวกับ เกบ็ ไวใ้ นรปู สารอินทรยี ์ได้ กระบวนการ คลอโรพลาสต์ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลมรี มคี วามยาว สงั เคราะห์ ประมาณ 5 ไมโครเมตร กว้าง 2 ไมโครเมตร หนา 1-2 ดว้ ยแสง ไมโครเมตร พบมากในเซลล์ของใบ ซงึ่ แต่ละเซลล์ของ พืชจะมีจำนวนคลอโรพลาสต์แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ 10. อธบิ ายข้ันตอน กับชนดิ ของเซลลแ์ ละชนิดของพืช ทเ่ี กดิ ขึน้ ใน พืชต้องการแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็น กระบวนการ วัตถุดิบในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยมีครอ สงั เคราะห์ด้วยแสง โรพลาสต์เป็นออแกเนลล์สำคัญพบในทุกเซลล์ของ ของพชื C3 อวัยวะพืชที่มีสีเขียว กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของพืชสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ข้ันตอน คือ 11. สังเกต ป ฏ ิ ก ิ ร ิ ย า แ ส ง ( Light reaction) แ ล ะ ก า ร ตรึง เปรยี บเทยี บกลไก คาร์บอนไดออกไซด์พืชแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพใน การตรงึ การตรึง CO2 ไม่เท่ากัน พืชที่มีการตรึง CO2 ในวัฏ คารบ์ อนไดออกไซด์ จกั รคลั วนิ แลว้ ได้ ในพชื C3 พืช C4 สารประกอบคาร์บอนที่เสถียรชนิดแรกเป็นสารที่ และ พชื CAM มีคาร์บอน 3 อะตอมเรียกว่าพืช C3 ตอ่ มามีการศึกษา พบว่าพืชบางชนิดสามารถสร้างสารประกอบคาร์บอน ที่เสถียรชนิดแรกเป็นสารที่มีคาร์บอน 4 อะตอม ด้วย กลไกที่นอกเหนือไปจากวฏั จักรคัลวิน เรียกพืชกลุ่มน้ี ว่า C4

ท่ี ช่อื หนว่ ย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 2 โครงสร้าง 12. สืบคน้ ข้อมูล การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชมีความสำคัญ และการ อภปิ ราย และสรุป อย่างมากเพราะไม่เพียงแต่ผลิตอาหารให้แก่ผู้บริโภค เจรญิ เตบิ โต ปัจจยั ความเข้มของ แต่ยังเป็นการลดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่ม ของพืช แสง ความเข้มข้น แก๊สออกซิเจนให้แก่ระบบนิเวศอีกด้วย ดังนั้น ดอก ของ การศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการสังเคราะห์ด้วย คารบ์ อนไดออกไซด์ แสงจึงมีความสำคัญ จากการศึกษาพบว่า อัตราการ และอุณหภมู ิทมี่ ีผล สงั เคราะห์ดว้ ยแสงข้ึนอยกู่ ับปัจจัยหลายประการ ตอ่ การสังเคราะห์ ด้วยแสงของพืช

โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ชวี วิทยา3 รหัสวิชา ว32243 ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การสบื พนั ธุข์ องพืชดอกและการเจรญิ เติบโต ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ท่ี ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน A (ชม.) รวม KP 5 3 การสบื พันธุ์ 13. อธิบายวัฏ 5 10 ของพืช จกั รชีวิตแบบ พชื แต่ละตน้ ไมว่ ่าจะเป็นพืชดอกหรือพืชไร้ดอก 12 20 ดอกและ สลับของพชื ดอก การ จะมีช่วงระยะที่แตกต่างกัน 2 ระยะสลบกัน คือ เจรญิ เติบโต 14. อธิบาย และ เปรยี บเทียบ ระยะที่ สร้างสปอร์ เรียกว่า ระยะสปอโรไฟต์ กระบวนการ สร้างเซลล์ (Sporophyte) แล้วระยะที่สร้างเซลล์สืบพันธ์ุ สืบพนั ธ์ุเพศผู้ และเพศเมยี ของ เรยี กวา่ ระยะแกมโี ทไฟต์ (Gametophyte) พชื ดอก พชื ดอก และ อธบิ ายการ เปน็ พชื ที่มวี วิ ัฒนาการสงู ทส่ี ดุ ในอาณาจกั รพชื มกี าร ปฏสิ นธขิ องพชื ดอก สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยมีดอกเป็นอวัยวะที่ทำ 15. อธบิ าย และ หน้าที่สร้างสปอร์ แล้วเจริญเป็นแกมีโทไฟต์ที่ทำ เปรียบเทยี บ กระบวนการ หน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ ดังนั้นวัฏจักรชีวิตของพชื สร้างเซลล์ สืบพนั ธ์เุ พศผู้ ดอกจึงเป็น วัฏจักรชีวิตแบบสลับ (Alternation of และเพศเมยี ของ พชื ดอก และ generation) อธบิ าย การ ปฏิสนธิของพืช การสืบพันธุ์เป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้พืช ดอก สามารถดำรงพันธุ์ได้ โดยพืชดอกจะมีดอกเป็น อวัยวะสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิด จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันไปตามชนิดของพืช ซึ่ง ดอกจะมีโครงสร้างหลักสำคัญ 4 ส่วนที่ติดอยู่บน ฐานดอก ได้แกก่ ลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และ เกสรเพศเมยี การปฏิสนธิ (Fertilization) คือกระบวนการที่ เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (ละอองเรณู) ผสมกับเซลล์ สืบพันธุ์เพศเมีย (ไข่อ่อน) เมื่อเกิดการถ่ายละออง เรณู ละอองเรณจู ะตกอยู่ท่ีบรเิ วณไมโครไพล์ซึ่งจะมี สารกึ่งเหลวคอยดักจับเรณูไว้ เมื่อมีสภาพท่ี เหมาะสม ละอองเรณจู ะงอกและมกี ารเจริญของท่อ เรณูเพอ่ื เขา้ ไปผสมกับเซลล์ไข่ (Egg cell)

ท่ี ช่ือหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน A (ชม.) รวม KP 3 การ 16. ทดลอง ลำเลยี ง และอธิบาย การงอกของเมล็ด ต้องได้รับสภาพแวดล้อม ของพืช เกี่ยวกบั ปจั จยั ต่าง ๆ ท่ีมผี ล ภายนอกทีเ่ หมาะสมมากระตุ้นการเปล่ียนแปลงภายใน ต่อการงอกของ เมล็ด สภาพพกั เมล็ด เอ็มบริโอจะเจริญเป็นต้นพืช ซึ่งกระบวนการท่ี ตวั ของเมล็ด และบอก เอ็มบริโอในเมล็ดเจริญเป็นต้นพืช เรียกว่า การงอก แนวทางในการ แกส้ ภาพพกั ตวั (Germination) ของเมลด็

โครงสร้างรายวิชา รายวิชา ชวี วิทยา3 รหัสวิชา ว32243 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การตอบสนองของพชื ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 ท่ี ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน A (ชม.) รวม K P 2 4 การ 17. สืบคน้ ข้อมูล สารเคมีที่พืชผลิตขึ้นเองตามส่วนต่างๆ ของพืชเป็นสง่ิ 6 10 3 5 ตอบสนอง อธิบายบทบาท เร้าภายในที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เป็นสิ่งเร้า ของพชื และหน้าทขี่ อง ภายในที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช มนุษย์จึงศึกษา ออกซนิ ไซโทไค โครงสรา้ งและหน้าทข่ี องสารเคมเี หล่านี้และสงั เคราะห์สาร นนิ จิบเบอ เหลา่ นขี้ ึ้นมาประยกุ ต์ใช้กบพชื เพ่ือควบคุมการเจริญเติบโต เรลลิน เอทิลีน เพิม่ ผลผลิต และยดื อายผุ ลิตของพืช และกรดแอบไซ ซิก และอภปิ ราย เกย่ี วกับการ นำไปใช้ประโยชน์ ทางการเกษตร 18. สบื คน้ ข้อมูล ทดลอง และ อภิปรายเกยี่ วกบั ส่งิ เรา้ ภายนอกที่ มผี ลตอ่ การ เจริญเติบโตของ พืช กลางภาค (การสบื พนั ธุ์ของพชื ดอก โครงสรา้ งและการเจรญิ เตบิ โตของพืชดอก 30 และการลำเลยี งของพืช) 30 ปลายภาค (การสงั เคราะห์ด้วยแสง และการควบคมุ การเจรญิ เติบโตและการตอบสนอง) 100 100 26 50 24 รวมท้ังสนิ้

การวิเคราะห์มาตรฐานและตัวช้ีวัด รายวิชา ชีววทิ ยา3 รหัสวิชา ว32243 ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 โครงสรา้ งและหนา้ ที่ของพชื ดอก ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 ผลการเรยี นรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลกั ษณะ คณุ ลักษณะ ของวชิ า อันพงึ ประสงค์ 1. อธบิ าย ร้อู ะไร ชน้ิ งานท่ี 1 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. มุ่งมัน่ เกย่ี วกับชนิด และลกั ษณะ พชื ดอกประกอบดว้ ย แบบทดสอบก่อนเรียน การคิด รอบคอบ ในการทำงาน ของเน้อื เย่ือ พืชและเขียน อวยั วะตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ราก ลำ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 2. ความสามารถใน 2. กระบวนการ แผนผงั เพื่อ ต้น ใบ และดอก ซึง่ อวยั วะ เร่ือง โครงสรา้ ง การแกป้ ญั หา สรปุ ชนิดของ เหล่านป้ี ระกอบไปดว้ ย และหนา้ ทข่ี องพืชดอก กล่มุ เนื้อเยื่อพชื เนอ้ื เย่อื ที่ทำหน้าทแ่ี ตกต่าง กนั โดยเน้ือเยอ่ื พืชแบ่งออก ชน้ิ งานที่ 2 ได้เปน็ 2 ประเภท คือ ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง เนื้อเยอ่ื เจริญและเนือ้ เย่ือ เน้อื เย่อื เจริญของพชื ถาวร โดยเน้อื เย่ือเจรญิ แบง่ ออกได้เปน็ เน้ือเยื่อเจรญิ ชิน้ งานท่ี 3 สว่ นปลาย เนอื้ เย่ือเจรญิ ใบกิจกรรม เรอ่ื ง เหนอื ขอ้ และเนอ้ื เย่ือเจรญิ ระบบเนือ้ เยอ่ื ถาวรของ ด้านข้าง สว่ นเนือ้ เยอื่ ถาวร พืช เปลีย่ นแปลงจากเน้ือเยอื่ เจริญเพ่ือทำหน้าทเี่ ฉพาะ แบง่ ออกได้เปน็ 3 ระบบ คอื ระบบเนอื้ เยื่อผิว ระบบ เนือ้ เยื่อพน้ื และระบบ เนอื้ เยื่อท่อลำเลยี ง ทำอะไร - อธิบายเก่ียวกับชนิดและ ลักษณะของเนอื้ เยือ่ พชื ได้ - เปรยี บเทียบความแตกต่าง ระหว่างชนดิ และลกั ษณะ ของเน้อื เย่อื พชื ได้ - จำแนกประเภทและเขยี น แผนผงั สรปุ ชนดิ ของเน้อื เย่อื พชื ได้ - รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทแ่ี ละ งานท่ีได้รับมอบหมาย

ผลการเรียนรู้ รู้อะไร ทำอะไร ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ของวชิ า อันพึงประสงค์ 2. สังเกต รู้อะไร ชิ้นงานที่ 4 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. ม่งุ มัน่ การคิด อธิบาย และ รากพืชประกอบดว้ ย ใบกิจกรรม เร่ือง 2. ความสามารถใน รอบคอบ ในการทำงาน การแก้ปญั หา เปรียบเทยี บ เนือ้ เยื่อเจริญปลายราก โครงสร้างภายในของ 2. กระบวนการ โครงสรา้ ง ภายในของราก และเน้อื เยอื่ ลำเลียง ทำ ราก กลุ่ม พืชใบเด่ียวและ หนาทดี่ ดู น้ำและธาตุ รากพืชใบเล้ยี งคู่ อาหารภายในดนิ และทำ ชนิ้ งานที่ 5 จากการตดั หน้าทีพ่ ิเศษ เช่น ราก ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ตามขวาง หายใจ รากสะสมอาหาร ประเภทของราก ทำอะไร 1. อธบิ ายโครงสร้าง ภายในของรากพืชใบ เล้ยี งเด่ยี วและรากพชื ใบ เล้ยี งคจู่ ากการตัดตาม ขวาง 2. เปรียบเทยี บ โครงสร้างภายในของ รากพืชใบเลยี้ งเดี่ยวและ รากพชื ใบเลยี้ งคูไ่ ด้

ผลการเรยี นรู้ รูอ้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะ คณุ ลักษณะ ของวชิ า อันพงึ ประสงค์ 3. สังเกต รู้อะไร ชิน้ งานท่ี 4 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. มงุ่ มั่น การคดิ อธบิ าย และ ลำตน้ พืช ใบกิจกรรม เรอ่ื ง 2. ความสามารถใน รอบคอบ ในการทำงาน เปรียบเทียบ ประกอบดว้ ย เนอ้ื เยอื่ หนา้ ที่และชนดิ ของลำ การแกป้ ญั หา โครงสรา้ ง ดา้ นขา้ ง ทำใหล้ ำตน้ ตน้ 2. กระบวนการ ภายในของราก ขยายขนาดใหญข่ น้ึ และ พืชใบเด่ียวและ ภายในลำตน้ มีเน้อื เยือ่ กลมุ่ รากพืชใบเลย้ี งคู่ จากการตดั ตาม ลำเลียงทำหนา้ ที่ลำเลยี ง ขวาง น้ำและอาหาร นอกจากนี้ พชื บางชนิดมี ลำต้นใต้ดนิ ทำหน้าท่ี สะสมอาหาร ทำอะไร 1. อธิบายโครงสร้าง ภายในของรากพืชใบ เล้ยี งเดี่ยวและรากพชื ใบ เลี้ยงค่จู ากการตัดตาม ขวาง 2. เปรยี บเทยี บ โครงสร้างภายในของ รากพชื ใบเลี้ยงเดีย่ วและ รากพชื ใบเล้ยี งคไู่ ด้

ผลการเรียนรู้ รู้อะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสำคัญ คุณลกั ษณะ คุณลักษณะ ของวชิ า อันพึงประสงค์ 4. สังเกตและ รูอ้ ะไร ชนิ้ งานที่ 5 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. ม่งุ มนั่ อธบิ าย ใบเปน็ อวัยวะท่ี ใบกิจกรรม เรือ่ ง การคิด โครงสร้าง เจรญิ ออกไปบริเวณ ชนิดและหน้าทีข่ อง 2. ความสามารถใน รอบคอบ ในการทำงาน ภายในของใบ ด้านขา้ ง อยู่บรเิ วณ ใบพืช การแกป้ ญั หา พชื จากการตดั ดา้ นข้าง อย่บู รเิ วณขอ้ 2. กระบวนการ ตามขวาง ปล้องของลำต้นและกง่ิ กลมุ่ ทำหน้าที่หลกั ในการ สร้างอาหารโดยการ สังเคราะห์ดว้ ยแสง ทำอะไร 1. อธิบายโครงสรา้ ง ภายในใบพืชจากการตดั ตามขวางได้ 2. อธบิ ายโครงสรา้ ง ภายนอกของใบพชื ได้ 3. เปรียบเทียบการ จัดเรยี งของเสน้ ใบของ พชื แตล่ ะชนิดได้

ผลการเรยี นรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคญั คุณลักษณะ คุณลักษณะ 5. สืบคน้ ร้อู ะไร 1. ความสามารถใน ของวชิ า อันพึงประสงค์ ขอ้ มูล สงั เกต ในการสร้างอาหาร การคิด และอธบิ าย พชื ตอ้ งการแกส๊ 2. ความสามารถใน 1. ความ 1. มุง่ มั่น การ คารบ์ อนไดออกไซด์และ การแก้ปัญหา แลกเปล่ียน นำ้ เป็นสารตง้ั ตน้ ใน รอบคอบ ในการทำงาน แกส๊ และการ กระบวนการสังเคราะห์ คายนำ้ ของพืช ดว้ ยแสง รากพืชดดู น้ำ 2. กระบวนการ จากดนิ และลำเลียงไปยงั กล่มุ สว่ นต่าง ๆทางไซเล็ม ส่วนแก๊ส คาร์บอนไดออกไซดน์ ั้น พชื ไดร้ บั จาก กระบวนการแลกเปล่ียน แก๊ส โดยแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซดใ์ น บรรยากาศจะแพรผ่ า่ น เขา้ ไปในพืชทางรปู ากใบ เรียกว่าการคายน้ำ ทำอะไร 1. อธิบายการ แลกเปลยี่ นแก๊สและการ คายนำ้ ของพืชได้ 2. วเิ คราะหป์ ัจจยั ท่ีมผี ล ต่อการคายนำ้ ของพชื ได้

ผลการเรยี นรู้ ร้อู ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลักษณะ คุณลักษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค์ 6. สืบค้น รอู้ ะไร ชิ้นงานท่ี 6 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. มุง่ มัน่ การคดิ ขอ้ มูล และ พืชมรี ะบบลำเลยี ง ใบกิจกรรม เร่อื ง 2. ความสามารถใน รอบคอบ ในการทำงาน การแกป้ ญั หา อธบิ ายกลไก เพือ่ ใชล้ ำเลยี งน้ำ แร่ธาตุ การลำเลียงน้ำของพชื 2. กระบวนการ การลำเลยี งน้ำ ตา่ งๆจากดนิ ไปสู่สว่ น กลุ่ม และธาตุ ต่างๆ ของพืช โดยการ อาหารของพืช ลำเลยี งนำ้ ใชท้ ่อลำเลยี ง เรียกวา่ ไซเลม ( Xylem) เมื่อพชื สรา้ ง อาหารแลว้ ก็จะลำเลียง ไปสูส่ ว่ นตา่ งๆของพืช โดยอาศยั ท่อลำเลยี ง เรียกวา่ โฟลเอม ( Phloem ) โดยระบบ การลำเลียงนำ้ และ อาหารแตกตา่ งกัน ระหว่างพชื ใบเลย้ี งค่แู ละ พชื ใบเล้ยี งเดย่ี ว การคาย น้ำ มสี ่วนชว่ ยในการ ลำเลยี งนำ้ ของพืช ทำอะไร 1. อธบิ ายกลไกการ ลำเลยี งนำ้ ของพืชได้ 2. เปรียบเทียบรูปแบบ การลำเลียงนำ้ แบบอ โพพลาสตแ์ ละแบบ ซมิ พลาสต์ได้

ผลการเรียนรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสำคญั คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ ของวชิ า อนั พงึ ประสงค์ 7. สืบคน้ ร้อู ะไร ช้นิ งานที่ 7 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. มุง่ มน่ั ขอ้ มลู อธิบาย พชื จำเปน็ ตอ้ งมีการ ใบกิจกรรมผงั มโนทัศน์ การคิด ความสำคญั เรือ่ ง 2. ความสามารถใน รอบคอบ ในการทำงาน ของธาตุ ใชธ้ าตอุ าหาร ซึ่งดูดมา ธาตอุ าหารของพืช การแก้ปัญหา อาหาร และ จากดนิ โดยรากและ 2. กระบวนการ ยกตัวอย่าง ลำเลียงผ่านไปกบั น้ำ ธาตอุ าหารที่ เพอ่ื นำไปสรา้ งอาหารใน กลุ่ม สำคญั ทีม่ ีผล กระบวนการสงั เคราะห์ ตอ่ การ ดว้ ยแสง ดงั น้ันธาตุ เจรญิ เติบโต อาหารมีความสำคัญตอ่ ของพชื การดำรงชีวิตของพืช ทำอะไร 1. อธบิ ายความสำคญั ของธาตุอาหารที่มตี อ่ พชื ได้ 2. เปรียบเทียบลักษณะ ของพืชทีข่ าดธาตอุ าหาร ชนิดตา่ ง ๆ ได้

ผลการเรียนรู้ รูอ้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ช้นิ งาน สมรรถนะสำคญั คุณลักษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวิชา อนั พึงประสงค์ 8. อธิบาย รู้อะไร ช้นิ งานท่ี 8 1. ความสามารถใน 1. ความ 1. มงุ่ มั่น กลไกการ การสรา้ งอาหาร แบบทดสอบหลงั เรียน การคิด รอบคอบ ในการทำงาน ลำเลียงอาหาร ของพืชเกดิ จากกระบวน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 2. ความสามารถใน 2. กระบวนการ ในพืช กรสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงจน การแก้ปัญหา กลุ่ม ได้ผลผลิตเป็นนำ้ ตาล ชิ้นงานที่ 9 และมักสะสมอยูใ่ นรูป แผน่ พับ เรอื่ ง ของแป้ง ซ่ึงเป็น กลไกการลำเลียงอาหา คารโ์ บไฮเดรต การสร้าง รของพชื อาหารของพืชสว่ นใหญ่ และพืชสร้างอาชพี จะเกิดข้ึนท่ีใบ แลว้ ลำเลยี งอาหารไปยังสว่ น ชิน้ งานที่ 10 ตา่ ง ๆ ของพชื แผนผังมโนทัศน์ เรอื่ ง โครงสรา้ งและหน้าทข่ี ทำอะไร องพชื ดอก 1. อธบิ ายกลไกการ ลำเลยี งอาหารของพืชได้ 2. วเิ คราะห์กลไกการ ลำเลียงอาหารของพชื ได้

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายวิชา ชวี วทิ ยา3 รหัสวชิ า ว32243 ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 โครงสรา้ งและหน้าที่ของพชื ดอก ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วดั ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ 40 สาระสำคญั ช้นิ งานท่ี 1 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ คะแนน พชื ดอก แบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ กอ่ นเรียนหนว่ ยการ ก่อนเรียนหนว่ ย ร้อยละ 70 ของคะแนนท่ี ประกอบด้วยอวยั วะตา่ ง ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง เรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง การเรยี นรทู้ ่ี 1 ไดโ้ ดยดคู วาม ถูกต้องของ ๆ ได้แก่ ราก ลำต้น โครงสรา้ ง โครงสร้าง เร่ือง โครงสรา้ ง เนือ้ หาที่ ผเู้ รยี นบันทกึ ใบ และดอก ซงึ่ อวัยวะ และหนา้ ที่ของพชื ดอก และหนา้ ท่ขี องพชื และหนา้ ที่ของพืช และความ ตงั้ ใจในการทำ เหลา่ นป้ี ระกอบไปดว้ ย ดอก ดอก กิจกรรม เนื้อเยื่อท่ีทำหน้าที่ ช้นิ งานท่ี 2 แตกตา่ งกัน โดยเนอ้ื เย่อื ใบกิจกรรม เร่อื ง 2. ตรวจใบกิจกรรม 2. แบบบันทึก เรื่อง เน้ือเยื่อเจริญ กจิ กรรม เรอื่ ง เนอื้ พืชแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 เน้อื เยือ่ เจริญของพชื ของพืช เยอ่ื เจรญิ ของพืช ประเภท คอื เนอ้ื เยอ่ื เจริญและเนื้อเยอื่ ถาวร ชนิ้ งานที่ 3 โดยเนอ้ื เย่อื เจรญิ แบ่ง ใบกิจกรรม เรอ่ื ง 3. ตรวจใบกจิ กรรม 3. แบบบันทกึ เรอ่ื ง ระบบเนอื้ เย่อื กจิ กรรม เรือ่ ง ออกได้เป็น เนือ้ เย่อื ระบบเน้ือเยอื่ ถาวรของพืช ถาวรของพชื ระบบเนอ้ื เยอ่ื ถาวร ของพืช เจริญสว่ นปลาย เนอื้ เยือ่ เจริญเหนือขอ้ และ เน้ือเย่ือเจรญิ ด้านข้าง สว่ นเนือ้ เย่อื ถาวร เปล่ยี นแปลงจากเน้ือเยื่อ เจรญิ เพ่อื ทำหนา้ ที่ เฉพาะ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 ระบบ คือ ระบบ เนื้อเยื่อผิว ระบบ เนื้อเยอื่ พ้ืน และระบบ เน้ือเยอื่ ทอ่ ลำเลียง

เป้าหมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน วิธวี ัด เครอื่ งมอื วดั ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ชน้ิ งานที่ 4 1. ตรวจใบกจิ กรรม 1. ใบกิจกรรม เรอื่ ง เรื่อง โครงสรา้ ง โครงสรา้ งภายใน คะแนน รากพชื ประกอบดว้ ย ใบกิจกรรม เรือ่ ง ภายในของราก ของราก รอ้ ยละ 70 ของคะแนนท่ี เน้อื เยอ่ื เจริญปลายราก โครงสร้างภายในของราก 2. ตรวจใบกจิ กรรม 2. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง ไดโ้ ดยดคู วาม เร่อื ง ประเภทของ ประเภทของราก ถูกตอ้ งของ และเนอื้ เย่อื ลำเลยี ง ทำ ราก เนื้อหาที่ ผ้เู รียนบันทกึ หนาทดี่ ูดนำ้ และธาตุ ช้นิ งานท่ี 5 และความ ตง้ั ใจในการทำ อาหารภายในดินและทำ ใบกิจกรรม เรือ่ ง กิจกรรม หนา้ ทพี่ เิ ศษ เช่น ราก ประเภทของราก หายใจ รากสะสมอาหาร เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวัด ประเด็น/ คะแนน เกณฑ์การให้ สาระสำคญั ช้นิ งานท่ี 4 1. ตรวจใบกจิ กรรม 1. ใบกจิ กรรม เร่ือง เร่ือง หน้าที่และ หน้าท่ีและชนดิ ของ คะแนน ลำต้นพชื ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ชนิดของลำตน้ ลำตน้ ร้อยละ 70 ของคะแนนท่ี ประกอบดว้ ย เน้อื เยื่อ หนา้ ท่แี ละชนดิ ของลำต้น ได้โดยดคู วาม ถูกต้องของ ด้านข้าง ทำให้ลำต้น เนื้อหาท่ี ผเู้ รยี นบนั ทึก ขยายขนาดใหญ่ขนึ้ และ และความ ตั้งใจในการทำ ภายในลำต้นมีเนื้อเยื่อ กจิ กรรม ลำเลยี งทำหน้าท่ีลำเลยี ง น้ำและอาหาร นอกจากนี้ พชื บางชนดิ มี ลำตน้ ใต้ดนิ ทำหน้าที่ สะสมอาหาร

เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื วัด ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ชิน้ งานที่ 5 1. ตรวจใบกิจกรรม 1. ใบกจิ กรรม เรื่อง ใบเปน็ อวยั วะท่ี ใบกจิ กรรม เรื่อง เรื่อง ชนดิ และ ชนิดและหน้าทีข่ อง คะแนน ชนิดและหน้าท่ีของ หน้าทข่ี องใบพชื ใบพชื รอ้ ยละ 70 เจรญิ ออกไปบรเิ วณ ใบพืช ของคะแนนที่ ดา้ นขา้ ง อยู่บรเิ วณ ไดโ้ ดยดูความ ดา้ นขา้ ง อยู่บรเิ วณข้อ ถกู ต้องของ ปลอ้ งของลำตน้ และกง่ิ เนื้อหาท่ี ทำหนา้ ที่หลักในการ ผเู้ รียนบนั ทกึ สร้างอาหารโดยการ และความ สังเคราะห์ด้วยแสง ตงั้ ใจในการทำ กิจกรรม เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน วิธวี ัด เครือ่ งมอื วดั ประเด็น/ คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ช้นิ งานท่ี 6 1. ตรวจใบกจิ กรรม 1. ใบกิจกรรม เรื่อง การลำเลยี งนำ้ ของ คะแนน พืชมรี ะบบลำเลยี งเพ่อื ใช้ ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง เรอื่ ง การลำเลียง พืช ร้อยละ 70 ของคะแนนที่ ลำเลยี งน้ำ แร่ธาตุตา่ งๆจากดนิ การลำเลียงนำ้ ของพชื น้ำของพืช ไดโ้ ดยดคู วาม ถูกตอ้ งของ ไปสู่สว่ นต่างๆ ของพืช โดยการ เนอื้ หาที่ ผู้เรยี นบนั ทกึ ลำเลียงน้ำใช้ท่อลำเลียง และความ ตงั้ ใจในการทำ เรียกวา่ ไซเลม ( Xylem) เมอื่ กจิ กรรม พชื สรา้ งอาหารแลว้ กจ็ ะ ลำเลียงไปสู่สว่ นต่างๆของพืช โดยอาศัยท่อลำเลียง เรยี กวา่ โฟลเอม ( Phloem ) โดย ระบบการลำเลียงนำ้ และ อาหารแตกต่างกันระหว่างพืช ใบเลี้ยงคูแ่ ละพืชใบเลี้ยงเด่ยี ว การคายน้ำ มีส่วนช่วยในการ ลำเลยี งนำ้ ของพืช

เป้าหมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วดั ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ช้นิ งานที่ 7 1. ตรวจใบกจิ กรรม 1. ใบกจิ กรรมผงั พืชจำเปน็ ตอ้ งมีการใช้ ใบกจิ กรรมผงั ผังมโนทัศน์ เร่อื ง มโนทศั น์ เรอ่ื ง คะแนน มโนทศั น์ เรอ่ื ง ธาตอุ าหารของพืช ธาตอุ าหารของพืช ร้อยละ 70 ธาตอุ าหาร ซ่งึ ดูดมาจากดนิ ธาตอุ าหารของพืช ของคะแนนที่ โดยรากและลำเลยี งผ่านไปกบั ได้โดยดคู วาม นำ้ เพือ่ นำไปสร้างอาหารใน ถูกตอ้ งของ กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วย เนือ้ หาท่ี แสง ดังน้นั ธาตอุ าหารมี ผู้เรยี นบนั ทึก ความสำคญั ต่อการดำรงชวี ิต และความ ของพชื ตัง้ ใจในการทำ กิจกรรม เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้นิ งาน วธิ วี ัด เคร่อื งมือวัด ประเด็น/ คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ชน้ิ งานที่ 8 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ การสรา้ งอาหารของพืช แบบทดสอบหลงั เรียน หลงั เรยี น หลงั เรียน หน่วย คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 การเรยี นรู้ที่ 1 รอ้ ยละ 70 เกดิ จากกระบวนกรสังเคราะห์ ของคะแนนที่ ด้วยแสงจนไดผ้ ลผลติ เป็น ช้นิ งานท่ี 9 2. ตรวจแผน่ พับ 2. แผ่นพบั เรื่อง ได้โดยดูความ นำ้ ตาล และมักสะสมอยู่ในรูป แผน่ พบั เร่ือง เรอ่ื ง กลไกการ กลไกการ ถกู ต้องของ ของแป้ง ซึ่งเป็นคารโ์ บไฮเดรต กลไกการลำเลียง ลำเลียงอาหาร ลำเลียงอาหาร เนอ้ื หาท่ี การสรา้ งอาหารของพืชสว่ น อาหารของพืช ของพชื และ ของพืช และ ผเู้ รยี นบันทกึ ใหญ่จะเกดิ ขึ้นท่ใี บ แล้ว และพชื สร้างอาชพี พชื สรา้ งอาชพี พชื สร้างอาชพี และความ ลำเลยี งอาหารไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ต้ังใจในการทำ ของพืช ชิ้นงานท่ี 10 3. ตรวจแผนผัง 3. แผนผงั กจิ กรรม แผนผงั มโนทศั น์ เรอ่ื ง มโนทศั น์ เรอ่ื ง มโนทศั น์ เร่อื ง โครงสรา้ งและหน้าที่ข โครงสรา้ งและหน้าที่ โครงสร้างและหนา้ องพืชดอก ของพชื ดอก ท่ขี องพชื ดอก

การวิเคราะหม์ าตรฐานและตัวชวี้ ัด รายวชิ า ชวี วทิ ยา3 รหสั วชิ า ว32243 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 โครงสรา้ งและการเจรญิ เติบโตของพชื ดอก ชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 ผลการเรียนรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะ คณุ ลกั ษณะ คุณลกั ษณะ สำคัญ ของวิชา อันพึง 9. สืบคน้ ข้อมูลและสรุป รอู้ ะไร ช้นิ งานที่ 1 ประสงค์ การศึกษาทีไ่ ด้จากการ 1. ความ 1. ความ ทดลองของ การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง เปน็ แบบทดสอบก่อนเรยี สามารถใน รอบคอบ 1. มงุ่ มัน่ นักวิทยาศาสตร์ในอดีต กระบวนการสร้างอาหารของพชื นหน่วยการเรยี นรู้ การคิด 2. กระบวน ในการทำงาน เก่ียวกับกระบวนการ 2. ความ การกลมุ่ สังเคราะห์ดว้ ยแสง โดยมีใบเปน็ อวัยวะสำคัญ เรือ่ ง การสังเคราะห์ สามารถใน ภายในใบของพชื มสี าร ด้วยแสง การแก้ปญั หา คลอโรฟลิ ล์ที่สามารถนำ พลังงานแสงมาเปลีย่ นให้เปน็ ชน้ิ งานที่ 2 พลงั งานเคมี และมีเอนไซมท์ ่ี ใบงาน เรื่อง สามารถตรึงแก๊ส การทดลองการ คารบ์ อนไดออกไซด์จากอากาศ สงั เคราะห์ดว้ ยแสง มาผลติ อาหารเกบ็ ไวใ้ นรูป สารอินทรียไ์ ด้ ทำอะไร 1. อธิบายและสรปุ การทดลอง ของนักวิทยาศาสตรใ์ นอดีตท่ี เก่ยี วขอ้ งกบั กระบวนการ สังเคราะหด์ ้วยแสงได้ 2. เปรียบเทียบผลการทดลอง กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง ของนักวิทยาศาสตรใ์ นอดีตได้

ผลการเรียนรู้ รูอ้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะ คณุ ลกั ษณะ คุณลักษณะ สำคัญ ของวิชา อันพงึ 10. อธิบายขน้ั ตอนท่ี รู้อะไร ชน้ิ งานที่ 3 ประสงค์ เกดิ ขึน้ ในกระบวนการ คลอโรพลาสต์ส่วนใหญ่ ใบงาน เร่ือง 1. ความ 1. ความ สงั เคราะห์ดว้ ยแสงของ สามารถใน รอบคอบ 1. มงุ่ มนั่ พชื C3 มีรูปร่างกลมรี มีความยาว โครงสร้างและหน้าท่ี การคิด 2. กระบวน ในการทำงาน ประมาณ 5 ไมโครเมตร ของคลอโรพลาสต์ 2. ความ การกลมุ่ กว้าง 2 ไมโครเมตร หนา สามารถใน 1-2 ไมโครเมตร พบมากใน การแกป้ ญั หา เซลล์ของใบ ซึ่งแต่ละเซลล์ ของพืชจะมีจำนวนคลอโรพ ลาสต์แตกต่างกัน ทั้งน้ี ขึ้นอยู่กับชนดิ ของเซลล์และ ชนดิ ของพชื ทำอะไร 1. อธบิ ายข้นั ตอนทีเ่ กิดขึ้น ในกระบวนการสงั เคราะห์ ด้วยแสงของพืชได้ 2. วเิ คราะห์ผลิตภัณฑท์ ไี่ ด้ ในแตล่ ะข้ันตอนของ กระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ย แสงได้

ผลการเรียนรู้ ร้อู ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะ คณุ ลักษณะ คุณลกั ษณะ สำคญั ของวชิ า อันพึง 10. อธบิ ายขนั้ ตอนท่ี รูอ้ ะไร ประสงค์ เกดิ ขึ้นในกระบวนการ พืชต้องการแกส๊ ชิ้นงานท่ี 4 1. ความ 1. ความ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของ รอบคอบ 1. มุง่ มน่ั พืช C3 คาร์บอนไดออกไซด์และนำ้ ใบงาน เร่ือง สามารถใน 2. กระบวน ในการทำงาน เป็นวตั ถุดบิ ในกระบวนการ การกลุ่ม สังเคราะห์ดว้ ยแสง โดยมีค ปฏิกริ ยิ าแสง การคดิ รอโรพลาสตเ์ ปน็ ออแกเนลล์ สำคัญพบในทกุ เซลลข์ อง ช้ินงานท่ี 5 2. ความ อวยั วะพืชทม่ี สี ีเขียว ใบงาน เร่ือง สามารถใน กระบวนการสังเคราะห์ด้วย การตรงึ แกส๊ คาร์บอน การแก้ปญั หา แสงของพืชสามารถแบง่ ออกได้เปน็ 2 ขนั้ ตอน คือ ไดออกไซด์ ปฏกิ ิรยิ าแสง (Light reaction) และการ ตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ ทำอะไร 1. อธิบายโครงสร้างของใบ พืช C3 และ C4 ได้ 2. เปรียบเทียบกลไกการ ตรงึ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ได้

ผลการเรยี นรู้ ร้อู ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะ คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ สำคัญ ของวชิ า อนั พึง 11. เปรยี บเทยี บกลไก รู้อะไร ชิ้นงานที่ 6 ประสงค์ การตรึงคาร์บอน 1. ความ 1. ความ ไดออกไซด์ในพืช C3 พชื พืชแตล่ ะชนดิ มี ใบงาน เร่อื ง สามารถใน รอบคอบ 1. ม่งุ ม่ัน C4 และ พืช CAM การคิด 2. กระบวน ในการทำงาน 2. ความ การกลุ่ม ประสทิ ธิภาพในการตรงึ กลไกการตรึงแก๊สคา สามารถใน การแกป้ ญั หา CO2 ไม่เทา่ กนั พชื ที่มกี าร ร์บอนไดออกไซด์ของ ตรึง CO2 ในวฏั จักรคลั วนิ พืช CAM แล้วไดส้ ารประกอบ คารบ์ อนท่ีเสถยี รชนิดแรก ชิน้ งานที่ 7 เป็นสารที่มีคารบ์ อน 3 แบบจำลองโครงสร้า อะตอมเรยี กว่าพชื C3 ต่อมา งของใบพชื C3 และ มกี ารศกึ ษา พบวา่ พืชบาง C4 ชนิดสามารถสร้าง สารประกอบคารบ์ อนท่ี เสถียรชนดิ แรกเปน็ สารที่มี คารบ์ อน 4 อะตอม ด้วย กลไกทน่ี อกเหนอื ไปจากวฏั จักรคัลวนิ เรยี กพืชกลมุ่ น้วี ่า C4 ทำอะไร 1. อธิบายโครงสรา้ งของใบ พชื C3 และ C4 ได้ 2. เปรยี บเทียบกลไกการ ตรึงแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ได้

ผลการเรียนรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ช้นิ งาน สมรรถนะ คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ สำคัญ ของวิชา อันพงึ 12. สบื คน้ ข้อมูล ร้อู ะไร ช้นิ งานท่ี 8 ประสงค์ อภปิ ราย และสรปุ ปัจจัย การสังเคราะหด์ ้วย แบบทดสอบหลังเรีย 1. ความ 1. ความ ความเข้มของแสง ความ สามารถใน รอบคอบ 1. มงุ่ ม่ัน เข้มข้นของ แสงของพืชมีความสำคัญ น หน่วยการเรียนรู้ การคิด 2. กระบวน ในการทำงาน คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละ อยา่ งมากเพราะไมเ่ พยี งแต่ ที่ 2 เร่อื ง การ 2. ความ การกลุ่ม อณุ หภมู ิทม่ี ีผลต่อการ ผลติ อาหารใหแ้ ก่ผ้บู ริโภค สงั เคราะหด์ ้วยแสง สามารถใน สงั เคราะห์ดว้ ยแสงของ แต่ยังเปน็ การลดแกส๊ การแกป้ ัญหา พชื คาร์บอนไดออกไซด์ และ เพมิ่ แกส๊ ออกซิเจนให้แก่ ระบบนเิ วศอกี ด้วย ดังนน้ั การศึกษาเกย่ี วกับปัจจัยท่มี ี ผลต่อการสังเคราะหด์ ้วย แสงจงึ มคี วามสำคัญ จาก การศกึ ษาพบวา่ อัตราการ สงั เคราะห์ดว้ ยแสงขึ้นอยู่กับ ปจั จัยหลายประการ ทำอะไร 1. อธบิ ายโครงสร้างของใบ พชื C3 และ C4 ได้ 2. เปรียบเทียบกลไกการ ตรงึ แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ได้

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ รายวิชา ชีววทิ ยา3 รหัสวิชา ว32243 ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2566 ประเด็น/ เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ วี ัด เครื่องมอื วดั เกณฑ์การให้ คะแนน 30 คะแนน สาระสำคัญ ชิน้ งานท่ี 1 ร้อยละ 70 การสงั เคราะห์ แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบกอ่ น ของคะแนนที่ ดว้ ยแสง เปน็ หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง ก่อนเรียนหนว่ ยการ เรยี นหน่วยการเรยี นรู้ ได้โดยดคู วาม กระบวนการสร้าง การสังเคราะห์ เรยี นรู้ เร่ือง การ เรือ่ ง การสงั เคราะห์ ถกู ต้องของ อาหารของพืช โดยมี ดว้ ยแสง สังเคราะห์ ด้วยแสง ดว้ ยแสง เนอ้ื หาที่ ใบเป็นอวัยวะสำคัญ ช้นิ งานที่ 2 2. ตรวจใบงาน เรอื่ ง 2. ใบงาน เรอ่ื ง การ ผู้เรยี นบันทกึ ภายในใบของพืชมี ใบงาน เรือ่ ง การทดลองการ ทดลองการ และความ สารคลอโรฟลิ ล์ที่ การทดลองการ สงั เคราะห์ดว้ ยแสง สังเคราะหด์ ว้ ยแสง ตง้ั ใจในการทำ สามารถนำพลงั งาน กจิ กรรม แสงมาเปล่ยี นให้เป็น สังเคราะหด์ ้วยแสง พลังงานเคมี และมี เอนไซมท์ สี่ ามารถ ตรึงแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ จากอากาศมาผลิต อาหารเกบ็ ไวใ้ นรปู สารอนิ ทรีย์ได้

เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ ีวดั เครื่องมอื วัด ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ชิน้ งานที่ 4 1. ใบงาน เรอ่ื ง ปฏิกริ ยิ า แสง คะแนน พืชตอ้ งการแก๊ส ใบงาน เรือ่ ง 1. ตรวจใบงาน เร่ือง รอ้ ยละ 70 ปฏกิ ิริยาแสง 2. ใบงาน เรื่อง การตรึง ของคะแนนที่ คาร์บอนไดออกไซด์ ปฏิกริ ิยาแสง แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ ได้โดยดูความ 2. ตรวจใบงาน เร่อื ง ถูกตอ้ งของ และน้ำเป็นวัตถดุ บิ ใน การตรงึ แกส๊ เน้อื หาท่ี คารบ์ อนไดออกไซด์ ผเู้ รยี นบันทกึ กระบวนการ ช้ินงานท่ี 5 และความ ตั้งใจในการทำ สังเคราะหด์ ้วยแสง ใบงาน เรอ่ื ง กจิ กรรม โดยมคี รอโรพลาสต์ การตรงึ แกส๊ คารบ์ อนไ เปน็ ออแกเนลล์ ดออกไซด์ สำคัญพบในทุกเซลล์ ของอวยั วะพชื ทม่ี สี ี เขียว กระบวนการ สังเคราะหด์ ว้ ยแสง ของพืชสามารถแบ่ง ออกได้เปน็ 2 ขั้นตอน คอื ปฏกิ ิริยา แสง (Light reaction) และการตรงึ คารบ์ อนไดออกไซด์

เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิน้ งาน วิธวี ดั เครือ่ งมอื วัด ประเดน็ / คะแนน เกณฑก์ ารให้ สาระสำคัญ ชน้ิ งานที่ 6 1. ใบงาน เรือ่ ง กลไก การตรึงแก๊ส คะแนน พชื แต่ละชนดิ มี ใบงาน เรื่อง 1. ตรวจใบงาน เรือ่ ง คารบ์ อนไดออกไซด์ของ รอ้ ยละ 70 พชื CAM ของคะแนนที่ ประสิทธิภาพในการ กลไกการตรงึ แก๊สคาร์ กลไกการตรึงแกส๊ ได้โดยดคู วาม 2. แบบจำลอง ถูกตอ้ งของ ตรงึ CO2 ไมเ่ ทา่ กัน บอนไดออกไซดข์ องพืช คาร์บอนไดออกไซด์ของ โครงสร้างของใบพชื C3 เนื้อหาที่ และ C4 ผู้เรยี นบนั ทึก พชื ทม่ี กี ารตรงึ CO2 CAM พืช CAM และความ ต้ังใจในการทำ ในวัฏจักรคลั วิน แล้ว กิจกรรม ได้สารประกอบ ช้ินงานท่ี 7 2. ตรวจแบบจำลอง คารบ์ อนทเ่ี สถียร แบบจำลองโครงสรา้ งข โครงสร้างของใบพืช C3 ชนิดแรกเป็นสารท่มี ี องใบพืช C3 และ C4 และ C4 คารบ์ อน 3 อะตอม เรยี กวา่ พชื C3 ต่อมา มกี ารศกึ ษา พบว่าพชื บางชนิดสามารถ สร้างสารประกอบ คารบ์ อนที่เสถยี ร ชนดิ แรกเปน็ สารท่มี ี คารบ์ อน 4 อะตอม ด้วยกลไกท่ี นอกเหนอื ไปจากวัฏ จักรคัลวนิ เรยี กพืช กลุม่ นวี้ ่า C4

ประเดน็ / เป้าหมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน วธิ วี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารให้ คะแนน คะแนน สาระสำคญั ช้นิ งานที่ 8 รอ้ ยละ 70 การสงั เคราะห์ แบบทดสอบหลังเรยี น 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบหลังเรียน ของคะแนนที่ หลังเรยี น ด้วยแสงของพืชมี หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ ได้โดยดคู วาม ท่ี 2 เรือ่ ง การ ความสำคัญอย่างมาก ที่ 2 เร่อื ง การ สังเคราะห์ดว้ ยแสง ที่ 2 เรื่อง การ ถูกต้องของ เพราะไม่เพียงแต่ สังเคราะห์ดว้ ยแสง สงั เคราะหด์ ว้ ยแสง เนอื้ หาที่ ผลติ อาหารใหแ้ ก่ ผู้เรยี นบนั ทึก ผูบ้ รโิ ภคแต่ยังเปน็ และความ การลดแกส๊ ตง้ั ใจในการทำ คารบ์ อนไดออกไซด์ กจิ กรรม และเพิม่ แกส๊ ออกซิเจนใหแ้ ก่ระบบ นิเวศอกี ด้วย ดงั นั้น การศกึ ษาเก่ยี วกบั ปัจจยั ท่มี ีผลต่อการ สงั เคราะห์ด้วยแสงจึง มีความสำคญั จาก การศึกษาพบวา่ อตั ราการสังเคราะห์ ด้วยแสงขึ้นอยู่กบั ปัจจยั หลายประการ

การวเิ คราะหม์ าตรฐานและตัวชีว้ ัด รายวิชา ชวี วทิ ยา3 รหสั วชิ า ว32243 ชอื่ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การสืบพนั ธุ์ของพืชดอกและการเจรญิ เติบโต ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 ผลการเรยี นรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชนิ้ งาน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลักษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวชิ า อนั พึง 13. อธิบายวฏั รอู้ ะไร ชน้ิ งานท่ี 1 1. ความสามารถใน ประสงค์ การคดิ 1. ความ จักรชีวิตแบบ พืชแต่ละต้นไม่ว่าจะเป็น แบบทดสอบ 2. ความสามารถใน กระตอื รอื รน้ 1. มุ่งมั่น การสอ่ื สาร 2. ความ ในการ สลับของพืชดอก พืชดอกหรือพืชไร้ดอกจะมีช่วง กอ่ นเรยี น เร่ือง 3. ความสามารถใน รอบคอบ ทำงาน การแกป้ ัญหา 3. กระบวน ระยะที่แตกต่างกัน 2 ระยะ การสบื พันธ์ขุ อง การกลุ่ม สลบกัน คือ ระยะ ที่สร้าง พชื ดอกและการ สปอร์ เรยี กวา่ ระยะสปอโรไฟต์ เจรญิ เติบโต ( Sporophyte) แ ล ้ ว ร ะ ยะ ท่ี สร้างเซลล์สืบพันธุ์ เรียกว่า ชิน้ งานท่ี 2 ร ะ ย ะ แ ก ม ี โ ท ไ ฟ ต์ ใบกจิ กรรม เรื่อง (Gametophyte) พืชดอกเป็น วัฏจกั รชวี ิตของ พืชที่มีวิวัฒนาการสูงที่สุดใน พืชดอก อาณาจักรพืช มีการสืบพันธ์ุ แบบอาศัยเพศ โดยมีดอกเป็น อวัยวะที่ทำหน้าที่สร้างสปอร์ แล้วเจริญเป็นแกมีโทไฟต์ที่ทำ ห น ้ า ท ี ่ ส ร ้ า ง เ ซ ล ล ์ ส ื บ พ ั น ธุ์ ดังนั้นวัฏจักรชีวิตของพืชดอก จึงเป็น วัฏจักรชีวิตแบบสลับ (Alternation of generation) ทำอะไร 1. สืบค้นข้อมูลและอธิบายวัฏ จกั รชวี ติ ของพืชดอกได้ 2. ว ิ เ ค ร า ะ ห ์ แ ล ะ ส รุ ป เก่ียวกับวัฎจกั รชีวิตของพืชได้

ผลการเรียนรู้ รู้อะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชน้ิ งาน สมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวชิ า อนั พงึ 14. อธิบาย และ รูอ้ ะไร ชิ้นงานที่ 3 1. ความสามารถใน ประสงค์ 1. ความ เปรยี บเทียบ การสืบพันธเ์ุ ป็น ประเภทของดอก การคดิ กระตอื รอื ร้น 1. มุ่งมนั่ 2. ความ ในการ กระบวนการ กระบวนการสำคัญที่ทำใหพ้ ชื 2. ความสามารถใน รอบคอบ ทำงาน 3. กระบวน สรา้ งเซลล์ สามารถดำรงพนั ธ์ไุ ด้ โดยพืช ช้ินงานท่ี 4 การสอ่ื สาร การกลุม่ สืบพันธเ์ุ พศผู้ ดอกจะมดี อกเป็นอวยั วะ การสรา้ งเซลล์สืบพัน 3. ความสามารถใน และเพศเมียของ สบื พันธแ์ุ บบอาศยั เพศ ซึ่ง ธขุ์ องพชื ดอก การแก้ปญั หา พืชดอก และ ดอกไมแ้ ตล่ ะชนิดจะมี อธบิ ายการ โครงสรา้ งที่แตกตา่ งกันไปตาม ช้ินงานที่ 5 ปฏิสนธิของพืช ชนิดของพชื ซ่งึ ดอกจะมี การปฏิสนธิของ ดอก โครงสร้างหลกั สำคัญ 4 ส่วนท่ี พืชดอก ตดิ อย่บู นฐานดอก ได้แก่ กลบี เล้ียง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ และ เกสรเพศเมีย ทำอะไร 1. อธิบายกระบวนการสร้าง เซลล์สืบพันธุ์และการปฏิสนธิ ของพืชดอกได้ 2. เปรียบเทียบกระบวนการ สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และ เพศเมียของพชื ดอกได้

ผลการเรยี นรู้ ร้อู ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะ คณุ ลักษณะ ของวิชา อันพงึ 15. อธิบาย และ รู้อะไร ชนิ้ งานที่ 6 1. ความสามารถใน ประสงค์ การคดิ 1. ความ เปรียบเทียบ การปฏิสนธิ (Fertilization) ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง 2. ความสามารถใน กระตอื รอื ร้น 1. มงุ่ มั่น การสือ่ สาร 2. ความ ในการ กระบวนการ คือกระบวนการทเี่ ซลลส์ บื พันธ์ุ โครงสร้างของ 3. ความสามารถใน รอบคอบ ทำงาน การแกป้ ญั หา 3. กระบวน สร้างเซลล์ เพศผู้ (ละอองเรณ)ู ผสมกบั เมล็ดพชื การกลุ่ม สบื พนั ธุเ์ พศผู้ เซลลส์ ืบพนั ธเ์ุ พศเมยี (ไขอ่ อ่ น) และเพศเมียของ เมอื่ เกดิ การถ่ายละอองเรณู พชื ดอก และ ละอองเรณูจะตกอยทู่ ี่บริเวณไม อธิบาย การ โครไพลซ์ ่งึ จะมีสารกงึ่ เหลวคอย ปฏสิ นธขิ องพชื ดักจับเรณไู ว้ เม่ือมีสภาพที่ ดอก เหมาะสม ละอองเรณูจะงอก และมกี ารเจรญิ ของท่อเรณูเพื่อ เขา้ ไปผสมกับเซลล์ไข่ (Egg cell) ทำอะไร 1. อธิบายการเกิดเมล็ดและผล ของพชื ดอกได้ 2. สร้างแบบจำลองโครงสร้าง ของผลได้ 3. ประยุกต์โครงสร้างต่าง ๆ ข อ ง เ ม ล ็ ด แ ล ะ ผ ล ไ ป ใ ช้ ประโยชน์ได้

ผลการเรียนรู้ รู้อะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิน้ งาน สมรรถนะสำคญั คุณลกั ษณะ คณุ ลกั ษณะ ของวิชา อันพงึ 16. ทดลอง ร้อู ะไร ชิ้นงานท่ี 7 1. ความสามารถใน ประสงค์ การคิด 1. ความ และอธบิ าย การงอกของเมลด็ ต้อง แบบทดสอบ 2. ความสามารถใน กระตอื รอื ร้น 1. มุ่งมน่ั การสือ่ สาร 2. ความ ในการ เก่ียวกบั ปัจจยั ไดร้ ับสภาพแวดลอ้ มภายนอกท่ี หลังเรยี น 3. ความสามารถใน รอบคอบ ทำงาน การแกป้ ัญหา 3. กระบวน ต่าง ๆ ทม่ี ีผลตอ่ เหมาะสมมากระตุน้ การ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การกลมุ่ การงอกของ เปล่ียนแปลงภายในเมล็ด การสืบพนั ธข์ุ อง เมล็ด สภาพพกั เอ็มบริโอจะเจริญเปน็ ตน้ พชื ซ่ึง พืชดอกและการ ตวั ของเมล็ดและ กระบวนการทีเ่ อม็ บริโอในเมล็ด เจรญิ เตบิ โต บอกแนวทางใน เจรญิ เปน็ ต้นพืช เรียกว่า การ การแกส้ ภาพพกั งอก (Germination) ตัวของเมล็ด ทำอะไร 1. อธิบายเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่ อ ก า ร ง อ ก ขอ ง เ ม ล็ ด สภาพพักตัวของเมลด็ ได้ 2. บอกแนวทางในการแก้สภาพ พักตัวของเมลด็ ได้

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ รายวชิ า ชีววิทยา3 รหัสวชิ า ว32243 ชอื่ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การสืบพนั ธุ์ของพืชดอกและการเจริญเตบิ โต ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 เปา้ หมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธวี ดั เคร่อื งมือวัด ประเดน็ /เกณฑ์ คะแนน การใหค้ ะแนน 20 สาระสำคญั ชิน้ งานท่ี 1 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ของ คะแนนท่ไี ด้โดย พืชแต่ละต้นไม่ว่าจะ แบบทดสอบ กอ่ นเรียน เรอ่ื ง การ ก่อนเรยี น เรอื่ ง การ ดคู วามถกู ต้อง ของเนื้อหาที่ เปน็ พชื ดอกหรือพืชไร้ดอก กอ่ นเรยี น เรื่อง สบื พันธข์ุ อง สืบพนั ธข์ุ อง ผเู้ รยี นบันทึก และความต้งั ใจ จะมีช่วงระยะที่แตกต่าง การสืบพันธ์ขุ อง พชื ดอกและการ พชื ดอกและการ ในการทำ กจิ กรรม กัน 2 ระยะสลบกัน คือ พชื ดอกและการ เจรญิ เตบิ โต เจรญิ เติบโต ร ะ ยะ ที่สร ้าง สปอร์ เจรญิ เติบโต เรียกว่า ระยะสปอโรไฟต์ (Sporophyte) แล้วระยะ ชนิ้ งานที่ 2 2. ตรวจใบกจิ กรรม 2. ใบกิจกรรม เร่ือง เรอื่ ง วัฏจักรชวี ติ ของ วัฏจักรชวี ิตของ ที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ ใบกิจกรรม เรื่อง พืชดอก พชื ดอก เรียกว่า ระยะแกมีโทไฟต์ วัฏจักรชวี ติ ของ (Gametophyte) พืชดอก พืชดอก เป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูง ที่สุดในอาณาจักรพืช มี การสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศ โดยมีดอกเป็นอวัยวะที่ทำ หน้าที่สร้างสปอร์ แล้ว เจริญเป็นแกมีโทไฟต์ที่ทำ หน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ ดังนั้นวัฏจักรชีวิตของพืช ดอกจึงเป็น วัฏจักรชีวิต แบบสลับ (Alternation of generation)

เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน วธิ วี ัด เคร่อื งมือวดั ประเด็น/เกณฑ์ คะแนน การให้คะแนน สาระสำคัญ ชน้ิ งานท่ี 3 รอ้ ยละ 70 ของ คะแนนทไี่ ด้โดย การสบื พนั ธ์ุเปน็ ใบกิจกรรม เร่อื ง 1. ตรวจใบกิจกรรม 1. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง ดูความถูกตอ้ ง เรือ่ ง ประเภทของ ประเภทของดอก ของเนือ้ หาที่ กระบวนการสำคัญท่ีทำให้ ประเภทของดอก ดอก ผเู้ รยี นบันทกึ และความต้ังใจ พชื สามารถดำรงพนั ธุไ์ ด้ ในการทำ กจิ กรรม โดยพชื ดอกจะมีดอกเป็น ชิน้ งานท่ี 4 อวัยวะสบื พนั ธุ์แบบอาศัย ใบกจิ กรรม เรื่อง 2. ตรวจใบกิจกรรม 2. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง เร่อื ง การสร้างเซลล์ การสร้างเซลล์ เพศ ซงึ่ ดอกไม้แต่ละชนดิ การสรา้ งเซลล์สืบพนั ธุ์ สบื พันธุ์ของพืชดอก สืบพนั ธข์ุ องพืชดอก จะมโี ครงสรา้ งที่แตกต่าง ของพืชดอก กนั ไปตามชนิดของพืช ซึ่ง ดอกจะมโี ครงสร้างหลัก ชิ้นงานท่ี 5 สำคัญ 4 สว่ นทีต่ ดิ อยู่บน ใบกจิ กรรม เรื่อง 3. ตรวจใบกิจกรรม 3. ใบกิจกรรม เร่ือง เรอ่ื ง การปฏิสนธขิ อง การปฏิสนธิของ ฐานดอก ได้แก่ กลบี เล้ียง การปฏิสนธขิ อง พืชดอก พืชดอก กลีบดอก เกสรเพศผู้ และ พชื ดอก เกสรเพศเมีย เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธีวดั เคร่อื งมือวดั ประเดน็ /เกณฑ์ คะแนน การใหค้ ะแนน สาระสำคญั ช้นิ งานท่ี 6 1. ตรวจใบกจิ กรรม 1. ใบกิจกรรม เรือ่ ง ร้อยละ 70 ของ การปฏิสนธิ (Fertilization) ใบกิจกรรม เรื่อง เรือ่ ง โครงสร้างของ โครงสรา้ งของ คะแนนทไ่ี ดโ้ ดย โครงสรา้ งของ เมล็ดพชื เมลด็ พชื ดูความถกู ตอ้ ง คอื กระบวนการท่เี ซลล์สบื พันธ์ุ เมลด็ พชื ของเนือ้ หาที่ เพศผู้ (ละอองเรณู) ผสมกับ ผู้เรยี นบันทกึ เซลล์สืบพันธ์เุ พศเมยี (ไข่อ่อน) และความต้ังใจ เม่อื เกิดการถา่ ยละอองเรณู ในการทำ ละอองเรณูจะตกอยทู่ ่ีบรเิ วณไม กิจกรรม โครไพล์ซ่ึงจะมีสารกึง่ เหลวคอย ดักจับเรณไู ว้ เม่ือมีสภาพที่ เหมาะสม ละอองเรณจู ะงอก และมีการเจริญของทอ่ เรณูเพื่อ เขา้ ไปผสมกับเซลล์ไข่ (Egg cell)

เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ช้ินงาน วธิ ีวัด เครอื่ งมือวดั ประเด็น/เกณฑ์ คะแนน การให้คะแนน สาระสำคัญ ชน้ิ งานท่ี 7 รอ้ ยละ 70 ของ คะแนนที่ได้โดย การงอกของเมลด็ ต้อง แบบทดสอบ 1. ตรวจ 1. แบบทดสอบ ดคู วามถกู ตอ้ ง ของเนอ้ื หาที่ ไดร้ ับสภาพแวดล้อมภายนอกที่ หลงั เรียน แบบทดสอบ หลังเรยี น หน่วย ผเู้ รียนบนั ทกึ และความต้ังใจ เหมาะสมมากระตุ้นการ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 หลังเรยี น หนว่ ยการ การเรียนรทู้ ่ี 3 การ ในการทำ กจิ กรรม เปล่ยี นแปลงภายในเมล็ด การสบื พันธ์ุของ เรยี นรทู้ ี่ 3 การ สืบพันธุ์ของ เอม็ บริโอจะเจรญิ เป็นต้นพชื ซึง่ พชื ดอกและการ สืบพนั ธขุ์ อง พืชดอกและการ กระบวนการท่เี อ็มบรโิ อในเมล็ด เจรญิ เติบโต พืชดอกและการ เจรญิ เตบิ โต เจริญเป็นตน้ พชื เรียกว่า เจริญเตบิ โต การงอก (Germination)

การวเิ คราะหม์ าตรฐานและตัวช้วี ัด รายวิชา ชีววิทยา3 รหัสวิชา ว32243 ชือ่ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การตอบสนองของพชื ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2566 ผลการเรยี นรู้ รู้อะไร ทำอะไร ภาระงาน/ชิ้นงาน สมรรถนะสำคญั คณุ ลกั ษณะ คุณลกั ษณะ ของวชิ า อันพึง 17. สบื ค้นข้อมูล รูอ้ ะไร ชน้ิ งานที่ 1 1. ความสามารถ ประสงค์ อธิบายบทบาทและ สารเคมีที่พืชผลิตขึ้น แบบทดสอบ ในการคดิ 1. ความ หน้าทข่ี องออกซิน 2. ความสามารถ กระตอื รอื ร้น 1. มุ่งมัน่ ไซโทไคนนิ จบิ เบอ เองตามส่วนต่างๆ ของพืช ก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 4 ในการส่อื สาร 2. ความ ในการ เรลลนิ เอทิลนี และ เป็นสิ่งเร้าภายในที่มีผลต่อ เร่ือง การตอบสนอง 3. ความสามารถ รอบคอบ ทำงาน กรดแอบไซซกิ และ การเจริญเติบโตของพืช ของพชื ในการแก้ปัญหา 3. กระบวนการ อภิปรายเกี่ยวกับการ เป็นสิ่งเร้าภายในที่มีผลต่อ กลุม่ นำไปใชป้ ระโยชนท์ าง การเจริญเติบโตของพืช ชิ้นงานท่ี 2 การเกษตร มนุษย์จึงศึกษาโครงสร้าง ใบกิจกรรม เร่ือง และหน้าที่ของสารเคมี ฮอร์โมนพชื เหล่านี้และสังเคราะห์สาร เหล่านี้ขึน้ มาประยกุ ต์ใช้กบ พืชเพื่อควบคุมการ เจริญเติบโต เพิ่มผลผลิต และยดื อายผุ ลติ ของพชื ทำอะไร 1. อธิบายบทบาทหน้าที่ ของออกซนิ ไซโทไคนิน จิบ เบอเรลลิน เอทิลีน และกรด แอบไซซิกได้ 2. สามารถประยุกต์ใช้ สารเคมีที่มีโครงสร้างคล้าย ฮอร์โมนพืชกับพืช เพื่อ ประโยชน์ทางการเกษตรได้

ผลการเรียนรู้ รอู้ ะไร ทำอะไร ภาระงาน/ช้ินงาน สมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะ คุณลกั ษณะ ของวิชา อันพงึ 18. สืบค้นข้อมูล รู้อะไร ชิ้นงานที่ 3 ประสงค์ ทดลอง และอภิปราย ปจั จัยท่มี ีผลต่อการ แบบทดสอบ เก่ียวกบั ส่งิ เร้า หลังเรียน หนว่ ยที่ 4 1. ความสามารถ 1. ความ 1. มุ่งมั่น ภายนอกที่มผี ลตอ่ เจรญิ เตบิ โตของพชื การตอบสนอง การเจรญิ เตบิ โตของ แบง่ เป็น 2 ประเภทใหญๆ่ ของพืช ในการคิด กระตอื รอื ร้น ในการ พืช คือ ปจั จยั จากภายในและ ปัจจัยทางด้านสง่ิ แวดลอ้ ม 2. ความสามารถ 2. ความ ทำงาน พชื จะเจริญเตบิ โตไดด้ นี ้ัน ต้องอาศัยการพง่ึ พาท้ัง 2 ในการสื่อสาร รอบคอบ ปจั จยั จึงจะทำให้เกดิ การ เปล่ียนแปลงทางสรรี วทิ ยา 3. ความสามารถ 3. กระบวนการ พชื สามารถตอบสนองตอ่ ปจั จยั ภายนอกได้ ในการแกป้ ัญหา กลมุ่ เช่นเดียวกับส่ิงมีชวี ติ อนื่ ๆ โดยอาจเรียกปจั จัยเหลา่ นี้ ว่า ส่ิงเร้า (Stimulus) ทำอะไร 1. สืบค้นข้อมูล ทดลอง และอภิปรายเกี่ยวกับสิ่งเร้า ภายนอกที่มีผลต่อการ เจริญเตบิ โตของพชื ได้ 2. เปรียบเทียบผลก าร ทดลองกระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสงของ นักวิทยาศาสตร์ในอดตี ได้

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ รายวชิ า ชวี วทิ ยา3 รหัสวิชา ว32243 ช่อื หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 การตอบสนองของพืช ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 เป้าหมายการเรยี นรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื วดั ประเดน็ /เกณฑ์ คะแนน 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ การใหค้ ะแนน 10 สาระสำคัญ ชนิ้ งานท่ี 1 กอ่ นเรยี น หนว่ ยที่ 4 กอ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี 4 ร้อยละ 70 ของ เรือ่ ง การตอบสนอง เรือ่ ง การตอบสนอง คะแนนทไ่ี ดโ้ ดย สารเคมีที่พืชผลติ ขึน้ แบบทดสอบ ของพืช ของพืช ดูความถูกต้อง ของเนื้อหาท่ี เองตามส่วนต่างๆ ของ กอ่ นเรียน หน่วยที่ 4 2. ตรวจใบกิจกรรม 2. ใบกจิ กรรม เรื่อง ผเู้ รียนบนั ทกึ เรื่อง ฮอร์โมนพืช ฮอรโ์ มนพืช และความตัง้ ใจ พืชเป็นสิ่งเร้าภายในที่มี เร่อื ง การตอบสนอง ในการทำ กิจกรรม ผลต่อการเจริญเติบโต ของพืช ของพชื เป็นส่งิ เรา้ ภายใน ท ี ่ ม ี ผ ล ต ่ อ ก า ร ชิน้ งานท่ี 2 เจร ิญ เติบโตของพืช ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง มนษุ ยจ์ ึงศกึ ษาโครงสร้าง ฮอรโ์ มนพชื และหน้าที่ของสารเคมี เหล่านี้และสังเคราะห์ สารเหล่านี้ขึ้นมา ประยุกต์ใช้กบพืชเพ่ือ ควบคุมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิต และยืดอายุ ผลิตของพืช

เปา้ หมายการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วิธวี ัด เคร่ืองมือวัด ประเด็น/เกณฑ์ คะแนน การให้คะแนน สาระสำคญั ชิ้นงานที่ 3 1. ตรวจแบบทดสอบ 1. แบบทดสอบ ร้อยละ 70 ของ หลงั เรียน หนว่ ยท่ี 4 หลังเรยี น หนว่ ยที่ 4 คะแนนที่ได้โดย ปัจจยั ทีม่ ผี ลตอ่ การ แบบทดสอบ การตอบสนอง การตอบสนอง ดคู วามถกู ตอ้ ง ของพืช ของพชื ของเนอ้ื หาที่ เจรญิ เติบโตของพืช หลงั เรียน หน่วยท่ี 4 ผู้เรียนบนั ทกึ และความต้ังใจ แบ่งเป็น 2 ประเภท การตอบสนอง ในการทำ กิจกรรม ใหญ่ๆ คอื ปัจจัยจาก ของพชื ภายในและปจั จัย ทางดา้ นส่งิ แวดล้อมพืช จะเจริญเติบโตได้ดีนั้น ต้องอาศัยการพ่ึงพาทงั้ 2 ปัจจัยจึงจะทำใหเ้ กิดการ เปลยี่ นแปลงทาง สรีรวิทยา พชื สามารถ ตอบสนองต่อปัจจัย ภายนอกได้เช่นเดยี วกบั สิ่งมชี ีวิตอื่นๆ โดยอาจ เรียกปจั จยั เหลา่ นี้วา่ สงิ่ เร้า (Stimulus)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook