MY PROFILE Name: Mister Tonsak Sanitnam Age: 22 years old Education : Bachelor of Education Social Studies program Phranakhon rajabhat university Motto: never give up อย่ายอมแพ้ TEACHER TONSAK Contact : Doremon Ton
ชน้ั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 Teacher (รหสั วิชา ส 22233) Tonsak 1. แบบฝึ กหดั เรื่อง พลเมอื งดตี ามวิถีประชาธิปไตย มี 4 ตอน 5 คะแนน 2. แบบฝึ กหดั เร่ือง แนวทางการสง่ เสริมการปฏิบตั ติ นเป็ นพลเมอื งดี 5 คะแนน 3. ใบงาน ผงั กา้ งปลาเทคนคิ การสง่ เสริมการปฏิบตั ติ นเป็ นพลเมอื งดี 5 คะแนน 4. สอบกลางภาค 20 คะแนน 5. (6 กลมุ่ ) ผลงาน กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ตนเองและครอบครวั โดยใชผ้ งั กราฟฟิ กใดก็ได้ 8 คะแนน 6. (4 กลมุ่ ) ผลงาน กฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ตนเองและครอบครวั โดยใชผ้ งั กราฟฟิ กใดก็ได้ 100 7 คะแนน points 7. รวบรวมผงั กราฟฟิ กทกุ ประเภท ในรายวิชา หนา้ ที่พลเมอื ง 10 คะแนน 8. จิตพิสยั (สง่ งาน สง่ สมดุ การเขา้ ชน้ั เรียน พฤตกิ รรมในการเรียน) 10 คะแนน 9. สอบปลายภาค 30 คะแนน
• คําวา่ “พลเมือง” หมายถงึ ชาวเมืองหรือประชาชนท่ีปฏิบตั ิตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสงั คม มีความ รับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่และรู้จกั บทบาทหน้าท่ีของตนเอง ปฏิบตั ิตนได้อยา่ งเหมาะสมไมล่ ะเมิดสทิ ธิและ เสรีภาพของบคุ คลอื่น
พลเมอื งดีถอื เปน องคประกอบท่ีสาํ คัญของสงั คม เพราะเปนกําลังสําคญั ในการพัฒนาความ เจริญกาวหนาของประเทศ บทบาทของพลเมืองดจี ึงตอ งปฏบิ ัตติ ามบรรทดั ฐานและขนบธรรมเนียมประเพณขี อง สังคมนนั้ ๆ อาทเิ ชน • มแี นวทางในการดาํ เนินชีวิตทถ่ี กู ตอ งเหมาะสม ประพฤติปฏบิ ัติอยภู ายใตกฎเกณฑแ ละขนบธรรมเนยี ม ประเพณีของสงั คม • รจู กั บทบาทหนาทขี่ องตนเอง และเคารพสิทธขิ องผอู ื่น • ยอมรับความแตกตา ง และเคารพความคดิ เหน็ ของคนสวนใหญ • มีอสิ รภาพและสามารถพึ่งพาตนเองได • มีสว นรวมในการปองกันหรอื แกไขปญ หาสว นรวม เชน ปญ หาเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื งและส่ิงแวดลอ ม
1.1 สถานภาพ หมายถึง ตําแหนงที่บุคคลไดรับจากการเปนสมาชิกของสังคม แบงออกเปนสถานภาพท่ีไดมาโดยกําเนิด เชน ลูก หลาน คนไทย เปนตน และสถานภาพ ทางสงั คม เชน ครู นักเรียน แพทย เปน ตน 1.2 บทบาท หมาย ถงึ การปฏิบัติตามสิทธิ หนาท่ีอันเนื่องมาจากสถานภาพของ บุคคล เน่ืองจากบุคคลมีหลายสถานภาพในคนคนเดียว ฉะนั้นบทบาทของบุคคลจึงตอง ปฏบิ ัตไิ ปตามสถานภาพในสถานการณตามสถานภาพนั้น ๆ 1.3 สิทธิ หมาย ถึง อํานาจหรือผลประโยชนของบุคคลท่ีกฎหมายใหความ คุมครอง เชน สิทธิเลือกตั้ง กฎหมายกําหนดใหบุคคลที่มีอายุ 18 ปบริบูรณมีคุณสมบัติ ถกู ตอ งตามกฎหมายมีสิทธิเลือกสมาชกิ สภาผูแทนราษฎร 1.4 เสรีภาพ หมายถึง ความมีอิสระในการกระทําของบุคคลท่ีอยูในของเขตของ กฎหมาย เชน เสรภี าพในการพูด การเขยี น เปนตน 1.5 หนาที่ หมายถึง ภาระรับผิดชอบของบุคคลท่ีจะตองปฏิบัติ เชน หนาท่ีของ บดิ าทมี่ ีตอบุตร เปนตน
รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 ไดก ลา วถงึ หนา ของชนชาวไทยตามระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษตั ริยท รงเปน ประมุข ซง่ึ เปนหนาทต่ี ามบทบญั ญตั แิ หง กฎหมายสูงสดุ ของประเทศ ซ่ึงทุกคนจะตองรกั ษาและปฏบิ ตั ิ ตามจะหลกี เลี่ยงไมได พอสรปุ ได ดังน้ี การรกั ษาชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย - การรกั ษาชาติ - การรักษาศาสนา - การรกั ษาพระมหากษัตริยและการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท รงเปน ประมุข
2.2 การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย เม่ือเราตองเกี่ยวของหรือสัมพันธกับกฎหมายใดก็ตองปฏิบัติตามกฎหมายนั้นๆ อยางเครงครัด เพราะ กฎหมายแตล ะฉบับน้ันไดม กี ารรางและประกาศใชใ นราชกิจจานเุ บกษาอยา ง เปดเผยตอ หนา สาธารณชน 2.3 การไปใชสิทธิเลือกตั้งสามารถลงช่ือถอดถอน (20,000 คน) แตถาไมมาใชหนาท่ีก็จะไมมี สิทธ์ใิ นการลงสมัครเลอื กตง้ั 2.4 การพัฒนาประเทศ - การปองกันประเทศ - การรบั ราชการทหาร - การเสยี ภาษอี ากร - การชวยเหลือราชการ - การศกึ ษาอบรม - การพิทกั ษป กปองและสบื สานศิลปะ วฒั นธรรมของชาตแิ ละภมู ปิ ญ ญาทองถนิ่ - การอนรุ กั ษทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม
การสืบสาน การนับถือศาสนา Teacher ศลิ ปวัฒนธรรม และปฏิบัติตนตาม Tonsak พธิ ีกรรมศาสนา การเขารับ ทองถิ่น การปฏบิ ัติตนตาม การศกึ ษาอบรม กฎหมาย การปอ งกัน การปฏบิ ตั ติ นเปนพลเมอื งดี ตามสถานภาพ การประกอบ ประเทศ บทบาท สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา ท่ี อาชีพท่ีสุจจริต การรวมมอื อนรุ กั ษ การไปใชสิทธใิ น การประหยัด การปฏิบัติตนตาม ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ การเลือกตั้ง เก็บออม คา นยิ มที่ดงี าม สง่ิ แวดลอม
3.1 ดา นสังคม ไดแก - การแสดงความคิดอยางมีเหตผุ ล - การรับฟง ขอคิดเหน็ ของผูอ ื่น - การยอมรับเมือ่ ผูอน่ื มเี หตผุ ลท่ดี กี วา - การตดั สนิ ใจโดยใชเหตุผลมากกวาอารมณ - การเคารพระเบียบของสงั คม - การมจี ติ สาธารณะ คือ เห็นแกประโยชนของสว นรวมและรักษาสาธารณสมบตั จิ ิตอาสา
3.2 ดานเศรษฐกิจ ไดแ ก - การประหยดั และอดออมในครอบครัว - การซื่อสัตยส จุ ริตตอ อาชีพทีท่ ํา - การพัฒนางานอาชพี ใหก า วหนา - การใชเวลาวางใหเ ปนประโยชนต อ ตนเองและสงั คม - การสรางงานและสรา งสรรคส ่ิงประดษิ ฐใหม ๆ เพอ่ื ใหเ กดิ ประโยชนตอ สงั คมไทยและสงั คมโลก - การเปนผูผลิตและผูบริโภคท่ีดี มีความซื่อสัตย ยึดมั่นในอุดมการณท่ีดีตอชาติเปนสําคัญสถาบัน การเมือง
3.3 ดา นการเมอื งการปกครอง ไดแก - การเคารพกฎหมาย - การรับฟงขอ คดิ เหน็ ของทุกคนโดยอดทนตอความขัดแยง ที่เกิดขนึ้ - การยอมรับในเหตุผลที่ดกี วา
- การกลาเสนอความคิดเห็นตอสวนรวม กลาเสนอตนเองในการทํา หนา ท่สี มาชกิ สภาผูแทนราษฎร หรอื สมาชิกวฒุ ิสภา - การทํางานอยางเตม็ ความสามารถ เต็มเวลา
เกิดความเอ้ืออาทรเผอื่ เกิดความรักและความ เกิดความเปน ยดึ มั่นในหลักยุติธรรม แผมีนา้ํ ใจ สามัคคใี นหมคู ณะ ธรรมในสังคม และปฏิบัตกิ ันอยา ง 1. ความสาํ คญั สงั คมเปนระเบยี บ ของการปฏบิ ตั ิตน ทาํ ใหส งั คมและ สมา่ํ เสมอ เรยี บรอ ย ประเทศชาติพัฒนา มีสวนรว มในกจิ กรรม พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย 2. ลกั ษณะ เคารพสิทธิ ของสังคม เสรภี าพของบคุ คล เคารพในกฎ 3. หลักการของ กตกิ าของสังคม การปกครอง ใชเหตุผลในการ มีนาํ้ ใจเปน ตัดสนิ ปญ หา ประชาธปิ ไตย หหหลลลักักกั อคนธวิปิตามธิไตรเสรยมมเปอน ภขาคองปวงชน หลกั การใชเ หตผุ ล หลักการประนีประนอม หลกั การยอมรับเสียงขา งมาก หลกั สิทธิ เสรีภาพ และหนา ที่ หลกั การยินยอม
การปฏิบตั ติ นเป็ นพลเมอื งดตี ามวฒั นธรรมไทย วัฒนธรรม คือ แบบแผนการกระทํา หรือผลการ กระทําที่พฒั นาจากสภาพเดิมตามธรรมชาติใหด้ ีงามยง่ั ยืน จนเป็ นท่ียอมรบั ของคนในสงั คมตวั อยา่ งแบบแผนการกระทํา เช่น กิริยา มารยาท การพดู การแต่งกาย การรบั ประทาน อาหาร เป็ นต้น ส่วนผลจากการกระทําเช่น เคร่ืองมือ เครอื่ งใช้ เครอื่ งน่งุ ห่ม ที่อยอู่ าศยั เป็ นตน้
คณุ ธรรมจรยิ ธรรม คณุ ธรรมและจริยธรรม คือ ส่ิงที่เป็ นความดีควรประพฤติ ปฏิบัติ เพราะจะนาความสขุ ความเจริญ ความม่ันคงมาสู่ ประเทศชาติ สงั คม และบคุ คล คณุ ธรรมจริยธรรมท่ีสําคญั ๆ มี ดงั ต่อไปน้ี
ลกั ษณะของจรยิ ธรรม คณุ ธรรม (ต่อ) 1. ความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ประเทศชาติ นบั ว่ามีพระคณุ อยา่ งมหาศาล 2. ความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี 3. ความมีระเบียบวินยั 4. ความซ่ือสตั ย์ 5. ความเสียสละ 6. ความอดทน 7. การไมท่ าบาป 8. ความสามคั คี
คณุ ธรรมของการเป็ นพลเมืองดี คณุ ธรรมของการเป็ นพลเมืองดี 1.การเห็นแกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวม 2. การมีระเบียบวินยั และรบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ 3. รบั ฟังความคิดเป็ นขอบกนั และกนั และเคารพในมติของเสยี งสว่ นมาก 4.ความซื่อสตั ยส์ จุ รติ 5. ความสามคั คี 6. ความละอายและเกรงกลวั ในการกระทําชวั่ 7. ความกลา้ หาญและเชื่อมน่ั ในตนเอง 8. การส่งเสริมใหค้ นดีปกครองบ้านเมืองและ ควบคมุ คนไมด่ ีไมใ่ หม้ ีอานาจ
ลกั ษณะของคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ต่อการชมุ นมุ
ยินดตี อ้ นรบั เขา้ สเู่ กม
คาํ ช้ีแจง มีช่องว่างใหเ้ ติมคาํ จาํ นวน15ขอ้ จะ มีอย่5ู ขอ้ ที่มีตวั เลือกใหน้ าํ มาใส่ลงในช่องว่าง ส่วน อีก10ขอ้ ใหอ้ ่านเน้ือหาแลว้ หาคําตอบมาใส่ลงใน ชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง
จงตอบคาํ ถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ งโดยจะมตี วั เลือกให3้ ขอ้ แลว้ นาํ มาใสล่ งในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง 1.ดา้ นการเมืองการปกครอง 2. ดา้ นสงั คม 3. ดา้ นเศรษฐกิจ 1……………………….อนรุ กั ษท์ รพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ ม 2…………………………………………………….ปฏิบตั ติ ามระเบียบขอ้ บงั คบั ของกฎหมาย 3.……………………………ประกอบอาชพี สจุ ริต 4……………………………………พฒั นาสงั คมใหน้ า่ อยู่ เพื่อจงู ใจใหต้ า่ งชาตมิ า เท่ียวชมและมาลงทนุ 5……………………………………………………รกั ษาความสามคั คีภายในประเทศ
อา่ นเนอื้ หาแลว้ หาคาํ ตอบมาใสล่ งในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง 6……ป…ร…ะช…า…ช…น…ท…กุ …ค…น….มสี ทิ ธิเสรีภาพเสมอกนั 7…ป…ร…ะเ…ท…ศ…ไท……ย….เป็ นประเทศท่ีปกครองดว้ ยระบอบ ประชาธิปไตย 8.สมาชกิ ท่ีดจี ะตอ้ ง…ต…ร…ะ…ห…น…กั …ใน…บ…ท…บ…า…ท…ห…น…า…้ ท…ี่ข…อ…ง…ต…น…เ…อ.ง. 9.ประชาชนมสี ทิ ธิเสรีภาพและมหี นา้ ท่ีตามที่บญั ญตั ไิ วใ้ น รฐั ธรรมนญู …พ….ศ….…2…5…6…0.. 10…ป…ฏ…ิบ…ตั…ติ……าม…ร…ะ…เบ…ีย…บ…..กฎขอ้ บงั คบั ของโรงเรียน 11.ในฐานะที่เราทกุ คนมบี ทบาทเป็ น…ส…ม…า…ช…กิ …ใน…ส…งั …ค…ม…และเป็ น…พ…ล…เ…ม…อื …ง…ข…อ…ง…ป…ร…ะเ…ท…ศ…. 12.การพฒั นาชมุ ชนใหม้ คี วามเจริญกา้ วหนา้ สมาชกิ ในชมุ ชนทกุ คน จะตอ้ ง…ร…ว่ …ม…ก…นั …พ…ฒั……น…า…ช…มุ …ช…น…ข…อ…งต……น.
อา่ นเนอื้ หาแลว้ หาคาํ ตอบมาใสล่ งในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง (ตอ่ ) 13.ชว่ ยกนั อนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ คือ…ก…า…ร…ใช…ท้ …ร…พั …ย…า…ก…ร…ท…ี่ม…อี …ย…อู่ …ย…า่ …ง…ป…ร…ะห…ย……ดั … 14…เ…ส…ยี …ส…ล…ะเ…พ…่ือ…ป…ร…ะโ…ย…ช…น…ส์ …ว่ …น…ร…ว…ม….การพฒั นาดา้ นอาคารสถานท่ี 15.อนรุ กั ษส์ ืบสานประเพณีวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาท่ีดงี ามของไทยเป็ นแบบ แผนความประพฤตทิ ี่ไดร้ บั การยอมรบั จาก…ส…ม…า…ช…กิ …ใ…น…ส…งั ค…ม…เป็ นเคร่ืองแสดง ถึง…ค…ว…า…ม…ด…ี…ค…ว…า…ม…เป…็ น…ช…า…ต…ไิ ท…ย…ข…อ…ง…เ…ร…า….
จงตอบคาํ ถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ งโดยจะมตี วั เลือกให3้ ขอ้ แลว้ นาํ มาใสล่ งในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง 1.ดา้ นการเมืองการปกครอง 2. ดา้ นสงั คม 3. ดา้ นเศรษฐกิจ 1…ด……า้ …น…ส…งั …ค…ม….อนรุ กั ษท์ รพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ ม 2…ด…า…้ น……ก…า…ร…เม…ือ…ง…ก…า…ร…ป…ก……ค…ร…อ…ง.ปฏิบตั ติ ามระเบียบขอ้ บงั คบั ของกฎหมาย 3.ด……า้ …น…เศ…ร…ษ……ฐ…ก…ิจ…ประกอบอาชพี สจุ ริต 4……ด…า้ …น…เ…ศ…ร…ษ…ฐ…ก…ิจ………พฒั นาสงั คมใหน้ า่ อยู่ เพ่ือจงู ใจใหต้ า่ งชาตมิ า เที่ยวชมและมาลงทนุ 5…ด…า้ …น…ก…า…ร…เ…ม…ือ…ง…ก…า…ร…ป…ก…ค…ร…อ…ง…รกั ษาความสามคั คีภายในประเทศ
กฎหมาย กฎทส่ี ถาบนั หรอื ผมู อี าํ นาจสูงสดุ ในรัฐตราขน้ึ หรือท่เี กดิ ขนึ้ จากจารตี ประเพณีอันเปน ท่ียอมรับนบั ถอื เพอ่ื ใชในการบรหิ ารประเทศ เพ่ือใชบงั คับบุคคลใหป ฏิบตั ิตาม หรือเพ่ือกําหนด ระเบียบแหง ความสมั พันธระหวา งบุคคล หรอื ระหวางบุคคลกบั รัฐ.
ประเภทของกฎหมาย การแบงประเภทของกฎหมาย อาจแบงไดหลายลักษณะ ขึ้นอยูกับผูแบงวาจะใชอะไร เปนหลัก แตโดยท่ัวไปแลวเราจะแบงอยางคราว ๆ กอนโดยแบงกฎหมายออกเปนสองประเภท ใหญ ๆ ไดแ ก กฎหมายภายใน ซ่ึงเปนกฎหมายที่บัญญัติข้ึนใชโดยองคกรที่มีอํานาจภายในรัฐหรือ ประเทศ และกฎหมายภายนอก ซ่ึงเปนกฎหมายท่ีบัญญัติข้ึนจากสนธิสัญญา หรือขอตกลง ระหวางประเทศ
กฎหมายท่ีเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศชาติ และสงั คมโลก
ความหมายความสาํ คญั ผังการเรียนรู้ ลักษณะของกฎหมาย ประเภทของกฎหมาย 1.ความรู้ กฎหมายท่เี ก่ียวกับตนเอง 2.กฎหมายท่ี พนื้ ฐาน ครอบครัว ชุมชน เก่ียวข้องกับ เก่ียวกับ ตนเองและ กฎหมาย ประเทศชาตแิ ละสังคมโลก ครอบครัว กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ , กฎหมาย อาญา, กฎหมายอ่ืน ๆ ท่สี าํ คัญ และ ข้อตกลงระหว่างประเทศ
ความรพู้ ้ืนฐานเกี่ยวกบั กฎหมาย กฎหมาย (Laws) ขอ้ บงั คบั ของรฐั ท่ีตราข้ึนมาเพื่อใช้ กาํ หนด/ควบคมุ ความประพฤติและ ระเบียบแบบแผนของพลเมืองท่ีเขา้ มา อยรู่ ว่ มกนั เป็ นสงั คม
ความสาํ คัญของกฎหมาย เพ่ือสรา้ งความสงบเรยี บรอ้ ยในสงั คม เพ่ือควบคมุ พฤติกรรมของบคุ คลใน สงั คมใหอ้ ยใู่ นระเบียบแบบแผนที่ดีงาม เพ่ือปกป้ องและรกั ษาชีวิตและทรพั ยส์ นิ ของประชาชน
ลกั ษณะของกฎหมาย 1. เป็ นคําสงั่ หรอื ขอ้ บงั คบั ท่ีใหบ้ คุ คล ปฏิบตั ิ ครอบคลมุ ภายในอาณาเขตของ ประเทศ 2. เป็ นคําสง่ั หรอื ขอ้ บงั คบั ที่ผมู้ ีอํานาจโดย รฐั เป็ นผตู้ ราข้ึน
ลกั ษณะกฎหมาย…… 3. ตอ้ งมีสภาพบงั คบั ผใู้ ดฝ่ าฝื นยอ่ ม ไดร้ บั โทษ เช่น ประหารชีวิต จําคกุ กกั ขงั อาญา มีโทษ 5 สถาน ปรบั รบิ ทรพั ย์ แพ่ง ตอ้ งชดใชค้ า่ เสียหาย หรอื คา่ สินไหมทดแทน
ลกั ษณะของกฎหมาย……. 4. มีผลใชบ้ งั คบั ตลอดไป จนกว่าจะถกู ยกเลกิ เปล่ียนแปลงกฎหมายโดย กฎหมายอ่ืน
ลลกั กัษษณณะขะอ…งก..ฎตหอ่ มาย……. 5. มีความเสมอภาคและยตุ ิธรรม ไมม่ ี การละเวน้ การปฏิบตั ิ หรอื เจาะจง เพ่ือประโยชนต์ ่อผใู้ ด/กลม่ ุ ใด ทกุ คนตอ้ งปฏิบตั ิตาม และจะอา้ งว่า ไมร่ กู้ ฎหมายมิได้
ความผิดเกี่ยวกบั ทรพั ย์ 1. การลกั ทรพั ย์ หยบิ ของผู้อ่ืนไปเป็ นของตน 2. วิ่งราวทรพั ย์ ฉกฉวยของผู้อ่ืนไปซ่งึ หน้า 3. ชิงทรพั ย์ ใชก้ าํ ลงั ประทษุ รา้ ยเพื่อใหไ้ ดท้ รพั ย์ ของผอู้ ่ืน 4. ปลน้ ทรพั ย์ รว่ มกนั กระทําความผิดตงั้ แต่ 3 คนข้ึนไปเพื่อชิงทรพั ยผ์ อู้ ื่น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166