Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 12 รักเมืองไทย

หน่วยที่ 12 รักเมืองไทย

Description: 12 รักเมืองไทย

Search

Read the Text Version

แผนการจัดประสบการณ์ ชน้ั อนบุ าล 3 สปั ดาหท์ ี่ 12 รักเมืองไทย นางสาวอาภาพร ลือทองจนั ทร์

การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจัดประสบการณ์ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หน่วยท่ี ๑๒ รกั เมอื งไทย ช้นั อนุบาลปีท่ี ๑ – ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ รายการ อนบุ าลปที ่ี ๑ อนบุ าลปีที่ ๒ อนุบาลปที ่ี ๓ สาระที่ควรเรียนรู้ ๑. เพลงชาติและธงชาติไทย ๒. พระมหากษตั ริย์ ๑. ประเทศไทยสภ่ี าค ๑. พระมหากษัตริยไ์ ทย มาตรฐาน ๓. สตั วป์ ระจาชาติไทย ตวั บ่งช้ี ๔. การละเลน่ พืน้ บ้านของไทย ๒. ดอกไม้ประจาชาติไทย ๒. วนั สาคญั ตามประเพณไี ทย สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ๕. การทกั ทายและการไหว้แบบไทย ๓. ภาษาและพยัญชนะไทย ๓. บ้านไทย มฐ 1 ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๑) ๔. สถานทส่ี าคญั ในท้องถิ่น ๔. หน้าทข่ี องเด็กในการเป็นพลเมอื งดี ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑) ๕. ของหวาน ขนมไทย ๕. ผลไม้เมอื งไทย มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓) มฐ ๗ ตบช ๗.๒ (๗.๒.๑) (๗.๒.๓) ๖. มารยาทไทย การอยู่รว่ มกันกบั ผู้อืน่ มฐ.๘ ตบช. ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ 1 ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) มฐ 1 ตบช ๑.๓(๑.๓.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) มฐ ๒ ตบช ๒.1 (๒.1.4) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๑) (๒.๑.๓) (๑๐.๑.๔) 2.2 (2.2.3) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑) (๒.๒.๓) มฐ 3 ตบช 3.2 (3.2.1) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๓) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓) มฐ ๗ ตบช ๗.๑ (๗.๒.๑) มฐ ๖ ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) มฐ.๘ ตบช ๘.๑ (๘.๑.๑) มฐ ๗ ตบช ๗.๒ (๗.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) (๙.๑.๒) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) (๙.๒.๒) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) (๑๐.๑.๒) (๑๐.๑.๔) มฐ ๑๑ ตบช ๑๑.๑ (๑๑.๑.๑)

รายการ อนุบาลปีที่ ๑ อนบุ าลปีท่ี ๒ อนุบาลปีที่ ๓ ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย รา่ งกาย ร่างกาย ๑.๑.๑ การใชก้ ลา้ มเน้ือใหญ่ ๑.๑.๑ การใช้กล้ามเน้ือใหญ่ ๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ (๑) การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ที่ (๒) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ (๑) การเคลอ่ื นไหวอยู่กบั ที่ (๑) การเคล่อื นไหวอยกู่ ับท่ี ๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเน้อื เลก็ (๒) การเขยี นภาพและเลน่ กับสี (๒) การเคลื่อนไหวเคล่อื นท่ี (๒) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี (๓) การปนั้ (๕) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉีก (๓) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์ (๓) การเคลื่อนไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์ การตัด การปะ และการร้อย 1.1.4 การรกั ษาความปลอดภยั (๔) การเคล่ือนไหวที่ใชก้ ารประสาน (๔) การเคลอ่ื นไหวท่ีใชก้ ารประสาน (1) การปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภัยในกจิ วัตร ประจาวนั สมั พันธข์ องการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ สมั พนั ธข์ องการใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ ในการ (2) การฟังนทิ าน (3) การเลน่ เครอ่ื งเลน่ อยา่ งปลอดภยั ในการขวา้ ง การจบั การโยน การเตะ ขว้าง การจบั การโยน การเตะ (4) การเลน่ บทบาทสมมติ ๑.๑.๒ การใช้กล้ามเนือ้ เลก็ (๕) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนามอย่างอิสระ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี ๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนือ้ เลก็ (3) การปั้น (๒) การเขียนภาพและเลน่ กับสี (๔) การประดิษฐ์สิง่ ตา่ งๆ ด้วยเศษ (๓) การปั้น วสั ดุ (๔) การประดิษฐส์ ่ิงตา่ งๆ ด้วยเศษวสั ดุ (๕) การหยิบจบั การใชก้ รรไกร (๕) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉกี การตดั การปะ และการรอ้ ยวัสดุ การฉีก การตัด การปะ และ การร้อยวสั ดุ ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภัย ๑.๑.๔ การรกั ษาความปลอดภยั (3) การเล่นเครอ่ื งเล่นอยา่ งปลอดภยั (๑) การปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ใน ชีวิตประจาวนั (๓) การเล่นเครื่องเล่นอย่างปลอดภยั ๑.๑.๕ การตระหนกั รเู้ ก่ยี วกับรา่ งกาย ตนเอง (๑) การเคลื่อนไหวโดยควบคมุ ตนเองไป ในทศิ ทาง ระดับและพื้นท่ี

รายการ อนุบาลปที ี่ ๑ อนบุ าลปที ี่ ๒ อนุบาลปที ี่ ๓ อารมณ์ อารมณ์ ๑.๒.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี ๑.๒.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี อารมณ์ ๑.๒.๑ สุนทรยี ภาพ ดนตรี (๑) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และ (3) การเคลอื่ นไหวตามเสียงเพลง/ การแสดง ปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี ดนตรี (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (5) การทากจิ กรรมศลิ ปะตา่ งๆ (๑) การพดู สะทอ้ นความรู้สกึ ของ (๓) การเคลอื่ นไหวตามเสียงเพลง/ ตนเองและผู้อน่ื ดนตรี สังคม ๑.๒.๒ การเล่น ๑.๓.๓ การปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมท้องถ่นิ และ (5) การทางานศิลปะ ความเป็นไทย (๒) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย สงั คม กลุม่ ใหญ่ (๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ติ นใน ๑.๓.๓ การปฏิบัตติ ามวัฒนธรรมท้องถ่ิน ความเปน็ ไทย และความเป็นไทย (๓) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์/ มุมเล่นต่างๆ (๒) การปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมท้อง (๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบัติ ถน่ิ ท่อี าศัย และประเพณีไทย ตนใน ความเป็นไทย (๔) การเลน่ นอกห้องเรียน ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๕) การละเลน่ พน้ื บา้ นของไทย (๓) การประกอบอาหารไทย (4) การศกึ ษานอกสถานท่ี (๔) การรอ้ งเพลง (5) การละเลน่ พ้ืนบ้านของไทย (๕) การทางานศิลปะ สงั คม ๑.๓.๒ การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ ม (๓) การทางานศลิ ปะทีน่ าวสั ดหุ รอื สิ่งของเครอ่ื งใช้ทใี่ ชแ้ ลว้ มาใช้ซา้ หรอื แปร รปู แลว้ นากลับมาใช้ใหม่ ๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ิตามวัฒนธรรมท้องถน่ิ และความเป็นไทย (๑) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบัตติ น ในความเปน็ ไทย

รายการ อนบุ าลปที ่ี ๑ อนบุ าลปีที่ ๒ อนุบาลปที ่ี ๓ (๒) การปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมทอ้ ง 1.3.4 การมีปฏิสมั พนั ธ์ มีวินยั มสี ว่ น ถ่ินทอี่ าศัยและประเพณีไทย ร่วม และบทบาทสมาชกิ ของสงั คม (๕) การละเล่นพ้นื บา้ นของไทย (3) การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติ กิจกรรมตา่ ง ๆ สติปญั ญา สตปิ ัญญา สติปญั ญา ๑.๔.๑ การใชภ้ าษา ๑.๔.๑ การใช้ภาษา ๑.๔.๑ การใช้ภาษา (2) การฟังและปฏบิ ัติตามคาแนะนา (3) การฟงั เพลง นิทาน คาคล้องจอง (๓) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง (๔) การพดู แสดงความคดิ ความร้สู ึก และ บทร้อยกรอง หรอื เรอ่ื งราวต่าง ๆ บทร้อยกรองหรือเรอื่ งราวต่างๆ ความตอ้ งการ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล (4) การพูดแสดงความคิด ความรสู้ กึ (๔) การพูดแสดงความคิดเห็น การตดั สนิ ใจ และแกป้ ัญหา และความต้องการ ความร้สู ึกและความต้องการ (๕) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจาแนก สง่ิ ต่าง ๆตามลักษณะและรปู รา่ ง รูปทรง (๕) การพดู กับผู้อืน่ เกยี่ วกับ (๕) การพดู กบั ผู้อื่นเกย่ี วกับ (6) การต่อของชน้ิ เลก็ เติมในช้นิ ใหญ่ให้ ประสบการณ์ของตนเองหรือพูดเล่า ประสบการณ์ของตน หรือพูดเล่าเร่ืองราว สมบูรณแ์ ละแยกช้นิ สว่ น เรือ่ งราวเกีย่ วกบั ตนเอง เกีย่ วกับตนเอง (8) การนับและแสดงจานวนของสิ่งตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน (10) การอา่ นหนงั สอื ภาพ นทิ าน (๘) การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพดู (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบ และ หลากหลายประเภท/รปู แบบ (๑๐) การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ าน การเรียงลาดับส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ ความยาว/ หลากหลายประเภท/รูปแบบ ความสงู (11) การอ่านอยา่ งอสิ ระตามลาพัง (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่าน (14) การบอก และเรียงลาดบั กจิ กรรมหรือ การอ่านรว่ มกัน การอ่านโดยมีผู้ชแ้ี นะ ตวั อักษร คา และข้อความ เหตกุ ารณ์ตามช่วงเวลา (๑๗) การคาดเดาคา วลี หรอื ประโยคที่ (12) การเหน็ แบบอย่างของการอา่ นที่ มโี ครงสร้างซา้ ๆกันจากนิทาน ถกู ต้อง (๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขยี นท่ี ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอดการคิดเชงิ เหตุผล ถกู ต้อง การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและการแกป้ ญั หา

รายการ อนบุ าลปที ่ี ๑ อนบุ าลปีท่ี ๒ อนุบาลปที ี่ ๓ คณติ ศาสตร์ ๑. การนับปากเปล่า ๑ - ๕ (๑) การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ (๑) การสังเกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ วทิ ยาศาสตร์ ๒. นบั และแสดงจานวน ๑ - ๒ การเปลี่ยนแปลง และความสัมพนั ธข์ อง การเปล่ียนแปลง และความสัมพันธ์ของสงิ่ พฒั นาการทางภาษาและ ๓. จับคู่ของจรงิ ส่งิ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสมั ผัสอยา่ ง ตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสมั ผัสอย่าง การรู้หนงั สอื ทกั ษะการสังเกต เหมาะสม เหมาะสม ๑. การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา ๒. การฟงั เพลง นิทาน คาคล้องจอง (6) การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ (๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และ ๓. การอ่านหนังสอื ภาพ ให้สมบูรณ์ และการแยกช้ินสว่ น การเรยี งลาดบั ส่งิ ต่างๆ ตามลักษณะ ความยาว/ความสงู นา้ หนักปริมาตร (8) การนบั และแสดงจานวนของสิง่ ต่าง ๆในชีวติ ประจาวัน (๘) การนบั และแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวัน (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ และ ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ การเรยี งลาดับสิง่ ต่างๆ ตามลักษณะ ความยาว/ความสูง นา้ หนักปรมิ าตร (๓) การสรา้ งสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รูปทรง จากวสั ดุทหี่ ลากหลาย ๑. การนับปากเปลา่ ๑ - ๑๐ ๑. การนับปากเปล่า ๑ - ๒๐ ๒. การนบั และแสดงจานวน ๕ ๒. นับและแสดงจานวน ๘ ๓. เปรยี บเทียบ จาแนก ๓. เปรียบเทยี บ จาแนก ๔. ตาแหนง่ ทศิ ทาง ทักษะการสังเกต ๑. ทักษะการสงั เกต ๒. อธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตุและผลทีเ่ กิดข้ึน ๑. การฟงั และปฏิบัตติ ามคาแนะนา ในเหตุการณ์หรือการกระทา ๒. การอา่ นหนงั สือภาพ นิทาน ๑. การฟังและปฏิบัตติ ามคาแนะนา ๓. การเห็นแบบอยา่ งการอ่านท่ถี ูกต้อง ๔. การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมในการพูด ๒. การคาดคะเน เร่ืองจากปกหนงั สอื ๓. การอา่ นหนงั สอื ภาพ นิทาน ๔. การเห็นแบบอย่างการอ่านทถ่ี กู ต้อง

รายการ อนบุ าลปที ี่ ๑ อนุบาลปีท่ี ๒ อนุบาลปที ี่ ๓ ๕. ร้จู ักส่วนประกอบหนงั สอื ปกหนา้ ๕. การรอจงั หวะทีเ่ หมาะสมในการพูด ปกใน ชอื่ ผแู้ ต่ง ผวู้ าดภาพ เนื้อเร่อื ง ๖. รูจ้ กั สว่ นประกอบหนังสอื ปกหนา้ ปก ๖. การเหน็ แบบอย่างการเขียนที่ถกู ต้อง ใน ชื่อผแู้ ต่ง ผวู้ าดภาพ เน้อื เรอื่ ง ๗. การตง้ั คาถามในเรือ่ งที่สนใจ ๘. การเห็นแบบอยา่ งการเขยี นท่ถี กู ต้อง

หนว่ ยการจัดประสบการณ์ ท่ี ๑๒ รักเมอื งไทย ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๓ แนวคิด ประเทศไทยมีประวตั ิศาสตร์มายาวนาน ทดี่ ารงไดม้ าจนถึงทกุ วันน้ีเพราะบรรพบรุ ษุ ได้เสียสละปกป้องดแู ลผืนแผน่ ดินมา พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศที่ เปน็ ศนู ย์รวมจิตใจของคนไทย ลกู หลานคนไทยต้องชว่ ยกนั สบื สานวัฒนธรรมและประเพณีที่ดงี าม มีความรักและสามัคคีกนั ดารงตนเปน็ คนดีมีความรับผดิ ชอบ เพ่ือทจ่ี ะได้อยู่กัน อย่างสงบสขุ และประเทศจะไดม้ ีความเจรญิ กา้ วหน้าต่อไป มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ 1. เล่น ทากิจกรรมในการเลน่ ประสบการณ์สาคัญ มาตรฐานที่ 1 และปฏบิ ตั ิกับผู้อน่ื อย่าง ร่างกายเจรญิ เตบิ โต 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เล่นทากิจกรรม ปลอดภัย ๑.๑.๑ การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ เรื่องราวเกีย่ วกบั บุคคล ตามวัยและมสี ุขนิสยั ทีด่ ี ปลอดภยั ของตนเอง และปฏบิ ตั กิ บั ผู้อื่น อย่าง ๒. เคล่ือนไหวรา่ งกายใน (๑) การเคลอ่ื นไหวอยูก่ ับที่ และสถานทแ่ี วดลอ้ มเดก็ กจิ กรรมต่างๆโดยใช้การ มาตรฐานท่ี ๒ และผู้อน่ื ปลอดภยั ประสานสัมพนั ธ์กล้ามเน้ือ (๒) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี ๑. พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย กลา้ มเนื้อใหญแ่ ละ และทรงตัวได้ กลา้ มเน้ือเล็ก (๓) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวสั ดุ ๒.วันสาคญั ตาม แข็งแรง ใช้ได้อยา่ ง คล่องแคลว่ และ อุปกรณ์ ประเพณีไทย ประสานสมั พันธก์ นั (๔) การเคลื่อนไหวที่ใช้การ ๓.บ้านไทย ประสานสัมพันธข์ องการใชก้ ล้ามเนอื้ ๔. หน้าท่ีของเด็กในการ ใหญ่ ในการขว้าง การจับ การโยน เปน็ พลเมืองดี การเตะ ๕. ผลไม้เมอื งไทย (๕) การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนามอย่าง อสิ ระ ๒.๑ เคลอ่ื นไหว ๒.๑.๑ เดินตอ่ เท้าถอย ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภยั ร่างกายคล่องแคล่ว หลงั เปน็ เส้นตรงได้ โดยไม่ ประสานสมั พนั ธ์และ ต้องกางแขน (๑) การปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัยใน ทรงตัวได้ ชวี ิตประจาวนั (๓) การเล่นเครื่องเลน่ อยา่ ง ปลอดภัย ๑.๑.๕ การตระหนกั รูเ้ ก่ียวกบั รา่ งกาย

มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สภาพทพ่ี ึงประสงค์ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ตัวบง่ ช้ี ประสบการณส์ าคัญ ตนเอง ๒.๒ ใช้มอื -ตาประสาน ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตัด ๓. การมีทกั ษะใช้เคร่ืองมือ (๑) การเคล่ือนไหวโดยควบคุม ตนเองไปในทิศทาง ระดับและพืน้ ที่ สมั พนั ธ์กนั กระดาษตามแนวเสน้ โค้ง อปุ กรณ์ต่างๆ ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเน้ือเล็ก (๒) การเขียนภาพและเลน่ กบั สี ได้ (๓) การปนั้ (๔) การประดษิ ฐ์สิ่งต่างๆ ด้วย มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจ มคี วามสุข ๔.๑.๓ สนใจ มีความสขุ ๔. เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย เศษวัสดุ ประกอบเพลง ได้ (๕) การหยิบจบั การใช้กรรไกร ชน่ื ชมและแสดงออก และแสดงออกผา่ นงาน และแสดงทางทาง/การ การฉกี การตัด การปะ และ การรอ้ ยวสั ดุ ทางศลิ ปะ ดนตรี ศลิ ปะ ดนตรแี ละการ เคลือ่ นไหวประกอบเพลง ๑.๒.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และ และการเคลอ่ื นไหว เคลือ่ นไหว จังหวะและดนตรี การแสดงปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ ดนตรี ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๔) การร้องเพลง (๕) การทางานศลิ ปะ มาตรฐานที่ ๗ ๗.๒ มีมารยาทตาม ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ิตนตาม ๕. มีมารยาทและปฏิบัตติ น ๑.๓.๓ การปฏบิ ัติตามวฒั นธรรม รักธรรมชาติ วัฒนธรรมและความ มารยาทไทยได้ตาม ตามวัฒนธรรมประเพณีไทย ทอ้ งถ่ินและความเปน็ ไทย ส่งิ แวดลอ้ ม เปน็ ไทย กาลเทศะ ได้ (๑) การเลน่ บทบาทสมมติการ ปฏิบัตติ นในความเปน็ ไทย

มาตรฐาน มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย สภาพที่พึงประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ วัฒนธรรมและความ ตวั บ่งช้ี ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ (๒) การปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรม เปน็ ไทย ทอ้ งถ่ินทีอ่ าศยั และประเพณีไทย (๕) การละเล่นพืน้ บ้านของไทย มาตรฐานท่ี ๘ ๘.๑ ยอมรับความ ๘.๑.๑ เลน่ และทา ๖. สามารถอย่รู ว่ มในสงั คมกับ ๑.๒.๒ การเล่น อยู่รว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้ เหมอื นและความตา่ ง กจิ กรรมรว่ มกับเด็กที่ ผู้อน่ื ได้ (๒) การเล่นรายบุคคล กลุ่มยอ่ ย อย่างมีความสุขและ ระหวา่ งบคุ คล แตกต่างไปจากตน ปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิก ๘.๒.๑ เล่นหรือทางาน กลุ่มใหญ่ ทด่ี ีของสงั คมใน รว่ มมอื กบั เพื่อนอย่างมี ระบอบ เป้าหมาย ๗. สามารถปฏิบัตติ นเปน็ (๓) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์/ ประชาธิปไตย อันมี สมาชกิ ทีข่ องสงั คม มุมเล่นต่างๆ พระมหากษัตริยเ์ ป็น ประมุข (๔) การเล่นนอกห้องเรียน มาตรฐานที่ ๙ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบ ๙.๑.๑ ฟังผู้อืน่ พูดจนจบ ๘. สื่อสาร สนทนาโตต้ อบ ๑.๔.๑ การใช้ภาษา ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้ และเล่าเร่อื งให้ผอู้ ่ืน (๓) การฟงั เพลง นทิ าน คาคลอ้ ง เหมาะสมกับวัย เข้าใจ และสนทนาโตต้ อบอยา่ ง อยา่ งเข้าใจความหมาย จอง บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ ตอ่ เนื่องเชอ่ื มโยงกบั เร่ืองท่ี (๔) การพดู แสดงความคิดเห็น ฟัง ความรู้สึกและความต้องการ (๕) การพูดกบั ผู้อ่ืนเก่ยี วกับ ๙.๑.๒ เล่าเปน็ เรอ่ื งราว ๙.เลา่ เป็นเรอื่ งราวได้อย่าง ประสบการณ์ของตน หรอื พดู เล่า ตอ่ เน่ืองได้ ต่อเน่ืองให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจได้ เรอื่ งราวเกย่ี วกับตนเอง 9.2.1 อา่ นภาพสัญลกั ษณ์ ๑๐.อ่านภาพ สัญลักษณ์ (๘) การรอจังหวะทีเ่ หมาะสมใน คาพร้อมท้ังชี้หรอื กวาดตา คาพร้อมชี้หรอื กวาดตามอง การพดู มองจุดเริ่มต้นและจดุ จบ จุดเริ่มตน้ และจุดจบของ (๑๐) การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ าน

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ขอ้ ความได้ หลากหลายประเภท/รูปแบบ ของขอ้ ความ (๑๓) การสงั เกตทศิ ทางการอา่ น ๑๑.เขียนชอื่ ของตนเองตาม ตัวอักษร คา และข้อความ ๙.๒.๒ เขียนช่ือของ แบบ เขียนข้อความดว้ ยวิธีที่ (๑๗) การคาดเดาคา วลี หรอื ตนเองตามแบบ เขียน คิดขนึ้ เองได้ ประโยคท่มี ีโครงสรา้ งซ้าๆกันจาก ข้อความด้วยวธิ ีทคี่ ดิ ขึ้น เอง นิทาน (๑๙) การเห็นแบบอยา่ งของการ เขียนที่ถูกตอ้ ง มาตรฐานที่ ๑๐ ๑๐.๑ มีความสามารถ ๑๐.๑.๑ บอกลักษณะ ๑๒. สงั เกตและเปรยี บเทยี บ ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชิง มีความสามารถใน ในการคดิ รวบยอด สว่ นประกอบ การ หาความสัมพนั ธ์ของสง่ิ ต่างๆ เหตุผล การตดั สนิ ใจและการแก้ปัญหา การคิดที่เป็นพน้ื ฐาน เปล่ยี นแปลงหรือ ได้ การเรยี นรู้ ความสัมพันธข์ องส่ิงตา่ งๆ ๑๓. มที กั ษะเชิงคณิตศาสตร์ (๑) การสงั เกตลกั ษณะ จากการสังเกตโดยใช้ ในการนับ แสดงจานวน ส่วนประกอบ การเปล่ียนแปลง และ ประสาทสัมผัส ความสัมพันธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ โดยใช้ ประสาทสัมผสั อยา่ งเหมาะสม ๑๐.๑.๒ จบั คแู่ ละ ๑๔.จับคู่และเปรียบเทยี บ (๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ เปรียบเทยี บความแตกต่าง ความแตกตา่ งหรือความ และการเรียงลาดับส่งิ ต่างๆ ตาม ลักษณะ ความยาว/ความสงู นา้ หนัก หรอื ความเหมือนของสงิ่ เหมอื นของสิ่งตา่ งๆ โดย ปรมิ าตร ตา่ งๆ โดยลักษณะที่สงั เกต ลักษณะท่สี ังเกตพบสอง (๘) การนับและแสดงจานวนของส่งิ ต่างๆ ในชีวติ ประจาวัน พบสองลักษณะขึ้นไป ลักษณะขน้ึ ไป

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ (๑๔) การบอกและเรยี งลาดับ ๑๐.๑.๔ เรยี งลาดับส่ิงของ ๑๕. เรียงลาดบั เหตุการณ์ กจิ กรรมหรือเหตุการณ์ตามช่วงเวลา หรือเหตุการณอ์ ยา่ งนอ้ ย ประเพณสี งกรานต์ได้ ๕ ลาดับ มาตรฐานที่ ๑๑ ๑๑.๑ ทางานศลิ ปะ ๑๑.๑.๑ สรา้ งผลงาน ๑๖.สรา้ งผลงานศลิ ปะเพื่อ ๑.๓.๒ การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ มีจนิ ตนาการและ ตามจนิ ตนาการและ ศลิ ปะเพ่อื สื่อสารความคิด ส่อื สารความคดิ ความรสู้ ึกของ ส่งิ แวดล้อม ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ ความรสู้ กึ ของตนเอง โดย ตนเองต่อผู้อ่นื ได้ มีการดดั แปลงและแปลก (๓) การทางานศลิ ปะทน่ี าวัสดหุ รอื ใหม่จากเดิมหรือมี ส่งิ ของเคร่อื งใช้ท่ีใช้แล้วมาใช้ซา้ หรือ รายละเอยี ดทเี่ พิ่มขึ้น แปรรปู แลว้ นากลบั มาใชใ้ หม่ ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (๓) การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานโดยใช้ รูปทรงจากวสั ดทุ ีห่ ลากหลาย

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ ช้ันอนุบาลปที ี่ ๓ หนว่ ยรกั เมืองไทย วันที่ เคลื่อนไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสร้างสรรค์ กิจกรรม เลน่ ตามมุม กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา เล่นเครอ่ื งเล่นสนาม เกมภาพตัดต่อประเพณี การฝึกทาท่าทางเปน็ ความรพู้ นื้ ฐานเก่ียวกับ การประดิษฐ์เครอื่ งเขย่า มมุ ประสบการณ์ใน ไทย ผู้นา ผู้ตาม หนงั สือและตวั หนังสือ จากเศษวัสดุ หอ้ งเรียน นิทานเรื่องเท่ียว ๑ เมืองไทย ๒. พระราชกรณียกจิ ของในหลวง ร.๙ และ ร.๑๐ การเคลอ่ื นไหวเชงิ วันสาคญั ตามประเพณี ๑. การสร้างภาพดว้ ย มมุ ประสบการณ์ใน การเล่นน้า เล่นทราย เกมเรียงลาดบั เหตุการณ์ประเพณี สร้างสรรคป์ ระกอบ ไทย เช่นวันสงกรานต์ การฉกี ตดั ปะ หอ้ งเรียน สงกรานต์ ๒ อปุ กรณ์ ๒. วาดภาพอิสระด้วย สไี ม้ การปฏิบตั ิตามคาสั่ง ๑. บ้านไทยมีความ ๑. การสานกระดาษ มมุ ประสบการณ์ใน เกมการละเลน่ พื้นบ้าน เกมจบั คูภ่ าพเหมือน และข้อตกลง สวยงามและมีประโยชน์ หอ้ งเรยี น ของไทย ตวี งล้อ บา้ นไทยลกั ษณะต่างๆ ใช้สอย ๓ ๒. การนับ การจาแนก และเปรียบเทียบ ๑-๘

วนั ท่ี เคล่อื นไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสร้างสรรค์ กจิ กรรม เลน่ ตามมุม กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา การละเล่นพื้นบา้ นของ เกมจับคภู่ าพกบั การเคลอื่ นไหวแสดง วนั สาคัญตามประเพณี การทาวา่ วไทย มมุ ประสบการณใ์ น สญั ลกั ษณ(์ บัตรคา) ไทย เลน่ ว่าว ทา่ ทางตามคาบรรยาย ไทย หอ้ งเรยี น พร้อมบตั รตรวจสอบ ๔ การเคลอ่ื นไหวตามบท หน้าที่ของเดก็ ใน การป้นั ผลไม้ไทย มุมประสบการณ์ใน การเล่นห่วงฮูลาฮูป เกมจบั คภู่ าพกบั จานวน หอ้ งเรียน ร่วมใจ ที่เท่ากนั 1 – ๘ เพลง การเปน็ พลเมืองไทยทดี่ ี ๕

ผังความคิดแผนการจัดประสบการณ์หน่วย รกั เมืองไทย ชน้ั อนบุ าลปีที่ ๓ ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ ๑. การฝกึ ทาท่าทางเป็นผู้นา ผ้ตู าม ๑. พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ๑. การประดษิ ฐ์เครื่องเขย่าจากเศษวสั ดุ ๒.ประเพณีไทย ๔ ภาค ๒. การสรา้ งภาพด้วยการ ฉกี ตดั ปะ ๒. การเคล่ือนไหวเชิงสรา้ งสรรคป์ ระกอบ ๓. บ้านไทย ๓. การสานกระดาษ อุปกรณ์ ๔. วันสาคญั ตามประเพณไี ทย ๔. การทาว่าวไทย ๓. การปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั และข้อตกลง ๖. หนา้ ทขี่ องเด็กในการเป็นพลเมืองดี ๕. การปนั้ ผลไมไ้ ทย ๔. การเคล่อื นไหวแสดงทา่ ทางตามคาบรรยาย ๕. การเคล่อื นไหวตามบทเพลง หนา้ ท่ีของเดก็ หนว่ ย ๖. กจิ กรรมเกมการศึกษา รกั เมอื งไทย ๔. กิจกรรมเล่นตามมุม ๑. เกมภาพตดั ต่อประเพณีไทย ๕. กจิ กรรมกลางแจ้ง ๒. เกมเรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ประเพณสี งกรานต์ มุมประสบการณ์ ๓. เกมจบั คภู่ าพเหมือนบ้านไทยลกั ษณะต่างๆ ๑. มมุ หนังสอื ๑. เลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม ๔. เกมจับคภู่ าพกับสัญลกั ษณ์(บัตรคา)พร้อมบัตร ๒. มุมบล็อก ๒. การเลน่ นา เลน่ ทราย ตรวจสอบ ๓. มุมธรรมชาติ ๓. การละเลน่ พนื้ บ้านของไทย ๕. เกมจับคภู่ าพกับจานวนท่ีเท่ากัน ๑ - ๘ ๔. มุมบา้ น ตวี งลอ้ ๔. การละเล่นพน้ื บ้านของไทย การเลน่ ว่าวไทย ๕. การเล่นหว่ งฮูลาฮปู รว่ มใจ

แผนการจัดประสบการณช ั้นอนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๑๒ รกั เมอื งไทย สัปดาหท ่ี ๑๒ คร้ังที่ ๑ วันท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ สังเกต การทากจิ กรรมปฏิบตั ิ กิจกรรม (๑) การเคล่ือนไหวอยู่ ๑. ครสู าธิตการทากจิ กรรม ฉันเป็นพระราชา โดย มงกุฎกระดาษ ตามคาสั่งและข้อตกลง เคลอ่ื นไหวและ กับท่ี ครมู ีมงกฏุ กระดาษ ๑ อัน ถา้ ครูนาไปสวมท่ีใคร การเปน็ ผนู้ า ผตู้ ามกับ จงั หวะ (๒) การเคลื่อนไหว คนน้ันต้องคิดและทาท่าทางใหเ้ พื่อนทาตาม เมื่อ ผอู้ ืน่ อยา่ งปลอดภยั เล่น ทากจิ กรรม เคลือ่ นท่ี ได้ยินสัญญาณหยุดให้ทุกคนหยดุ และให้นามงกฎุ ปฏิบัติตามคาส่ัง (๓) การเคลื่อนไหว ไปสวมใหเ้ พื่อนคนใหม่ คดิ ทา่ ทางไม่ใหซ้ ้าคนเดมิ และข้อตกลงการ พร้อมอุปกรณ์ หมุนเวียนเปลีย่ นสลบั ให้เดก็ มาเป็นพระราชา เปน็ ผูน้ า ผูต้ ามกบั ๒. ทาเชน่ น้อี ีก 4 - 5 คร้ัง ผู้อน่ื อย่างปลอดภยั ๓. เดก็ น่ังผ่อนคลายสบาย ๆ กิจกรรมเสรมิ (๓) การฟังเพลง ๑. ความรู้พ้นื ฐาน ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือจาก ๑. นิทานเรื่องเทีย่ ว สงั เกต ประสบการณ์ นิทาน เก่ียวกบั หนังสอื และ นิทานเรื่องเทย่ี วเมอื งไทย เมอื งไทย ๑. การสือ่ สาร สนทนา ๑.สื่อสาร สนทนา (๔) การพูดแสดง ตัวหนังสอื นทิ านเรอ่ื ง ๒. ภาพพระบรมฉายา โตต้ อบอย่างเข้าใจ โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ ความคิดเห็น เทีย่ วเมอื งไทย 1.๑ นาหนังสือนทิ านเรอ่ื งเท่ียวเมอื งไทย ลกั ษณ์และภาพพระราช ความหมาย ความหมายได้ ความรู้สกึ และ ๒. พระมหากษตั รยิ ์ไทย มาให้เดก็ ดูหน้าปกหนงั สือ กรณยี กิจของในหลวง ๒. การกลา้ พดู กล้า ๒. กล้าพดู กลา้ ความต้องการ ๓. พระราชกรณียกิจ รชั กาลที่ ๙ และ แสดงออกอยา่ งมีเหตผุ ล แสดงออกอย่างมี (๘) การรอจังหวะที่ ๑.๒ ให้เด็กคาดคะเน เรอ่ื งจากปกว่าเป็นเร่ือง รัชกาล เหตุผลได้ เหมาะสมในการพดู เก่ยี วอะไร ท่ี ๑๐ (๑๗) การคาดเดา คา วลหี รือประโยค ที่มี ๑.๓ จดบันทึกชื่อเด็กพรอ้ มขอ้ ความทเ่ี ด็ก โครงสรา้ งซา้ ๆกนั จาก คาดคะเน นทิ าน ๑.๔ ครูอา่ นหนังสอื นิทานเรือ่ งเทยี่ วเมืองไทย จนจบ โดยช้คี าตรงกบั เสยี งอ่าน ๑.๕ ครูอา่ นขอ้ ความทเี่ ด็กคาดคะเนไว้และ ถามความเห็นเร่ืองช่ือของนทิ านอกี ครง้ั หนง่ึ

จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ๒. สนทนาซักถามเด็กสบื เนอ่ื งจากนิทาน ใน นิทานเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และเมืองไทยเรามี อะไรที่เรารักและภมู ิใจบา้ ง ๓. ครแู สดงภาพพระราชกรณียกิจของในหลวง รชั กาลท่ี ๙ และรัชกาลท่ี ๑๐ ใหเ้ ด็กดู และให้เดก็ บอกสิ่งทส่ี งั เกตเหน็ ๔. เราควรปฏบิ ตั ิตนทีแ่ สดงถึงความเคารพ ในหลวงอยา่ งไร และใหท้ ุกคนแสดงความเคารพ ตอ่ พระบรมฉายาลักษณ์ กิจกรรมศลิ ปะ (๔) การประดษิ ฐ์ส่งิ การประดิษฐ์เครื่องเขย่าจากเศษวสั ดุ ๑. วสั ดุเหลอื ใช้ เชน่ สังเกต สร้างสรรค์ ตา่ งๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ ๑.สร้างผลงานศิลปะ (๓) การทางานศลิ ปะที่ ๑. ใหเ้ ดก็ หาเศษวัสดุท่ีไม่ใชแ้ ล้วมาจากบ้าน เชน่ กล่องนม กระป๋อง ขวด การสร้างผลงานศิลปะเพ่ือ เพอื่ ส่ือสารความคดิ นาวัสดุหรอื สง่ิ ของ ความรู้สึกของตนเอง เคร่อื งใชท้ ี่ใชแ้ ลว้ มาใช้ กลอ่ งนม กระป๋อง ขวดนา้ ฯลฯ เมลด็ ถั่วเขียวหรือ น้าดื่มพลาสติกฯลฯ ส่อื สารความคิดความร้สู ึก ต่อผอู้ ื่นได้ ซ้าหรอื แปรรปู แล้วนา กลับมาใช้ใหม่ สงิ่ อืน่ ทคี่ ลา้ ยกัน ๒. เมลด็ ถ่ัวเขยี วหรือสิ่ง ของตนเองต่อผู้อื่นได้ (๓) การสร้างสรรค์ ช้ินงานโดยใช้รปู ทรง ๒. เด็กตกแตง่ เครือ่ งเขย่าของตนให้สวยงามตาม อ่นื ที่คลา้ ยกนั จากวัสดทุ ่หี ลากหลาย (๑๙) การเห็น จินตนาการ ๓. ผ้า แบบอย่างของการ ๓. ใส่เมล็ดถัว่ เขียวหรอื ส่งิ อนื่ ทีค่ ล้ายกัน ลงข้างใน ๔. หนงั ยาง เครอ่ื งเขยา่ ๕. เศษกระดาษสสี าหรบั ๔. ปดิ ชอ่ งว่างด้วยเศษผ้ารัดด้วยหนังยาง พรอ้ ม ตกแต่ง เขยา่ ได้ ๕. เด็กนาผลงานมาส่ง ครเู ขียนช่อื ใหเ้ ด็กเขยี น ตาม และนาไปเกบ็ ทแี่ สดงผลงาน

จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ การเรียนรู้ 4. เดก็ เก็บอปุ กรณ์เข้าท่ีได้เรียบรอ้ ย ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ เขยี นทีถ่ ูกตอ้ ง กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (๒) การเลน่ รายบคุ คล มุมประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย ๔ มมุ อุปกรณ์มุมประสบการณ์ สังเกต ๑. สามารถอยรู่ ว่ มใน กลมุ่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ สังคมกับผู้อ่ืนได้ (๓) การเล่นตามมุม เดก็ เลือกกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณต์ ามความ ในหอ้ งเรยี น การเล่นมมุ ประสบการณ์ ๒. สามารถปฏิบตั ิตน ประสบการณ์ เป็นสมาชกิ ทขี่ อง สนใจ ไดแ้ ก่ ตามความสนใจ สังคมได้ 1.๑ มุมหนงั สือ แนะนาหนังสอื นทิ านเรื่องตวั อะไรกาลงั มาและหนังสอื เกย่ี วกับสัตว์เลี้ยง ๑.๒ มมุ สรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์ สัตว์จาลอง ตา่ งๆ ๑.๓ มมุ บล็อก ๑.๔ มุมวิทยาศาสตร์ 2. เม่อื หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าทีใ่ ห้เรียบร้อย กิจกรรมกลางแจ้ง (๕) การเลน่ เคร่ืองเลน่ ๑. ครูพาเดก็ ไปสนามเลน่ ทบทวนกตกิ าในการ เคร่อื งเลน่ สนาม สังเกต เล่น ตดั สนิ ใจและ สนามอย่างอิสระ เลอื กเล่นเคร่ืองเล่นได้ (๓) การเลน่ เคร่ืองเล่น เลน่ เครื่องเลน่ การเลน่ และทากจิ กรรม อย่างอสิ ระและ อยา่ งปลอดภัย ปลอดภัย ๒. ให้เดก็ เลน่ เครือ่ งเลน่ อย่างอสิ ระ พรอ้ มกับผอู้ ่ืนอยา่ ง ๓. เมือ่ หมดเวลา ชว่ ยกนั เก็บทาความสะอาด ปลอดภยั สนาม ล้างมือ กลบั เข้าห้องเรียน

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ เรยี นรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ๑. ครแู นะนาและสาธิตวิธีการเล่นเกมภาพตดั ต่อ เกมภาพตัดตอ่ ประเพณีไทย เกมการศกึ ษา ประเพณีไทย สังเกต สงั เกตและ (๒) การเลน่ รายบคุ คล การเล่นภาพตดั ต่อ 2. แบ่งเด็กเป็นกลมุ่ 2 - 3 คน ตามความสมัครใจ การเลน่ เกมภาพตดั ต่อ เปรยี บเทยี บหา กลมุ่ ย่อย กลุ่มใหญ่ มอบเกมใหม่ใหเ้ ดก็ 1 กลุ่ม กลุม่ อน่ื ๆ เล่นเกม ประเพณไี ทย ความสัมพนั ธ์ของ (๖) การต่อของช้นิ เล็ก ทีม่ อี ยู่แล้ว สงิ่ ต่างๆ ได้ เติมในช้นิ ใหญ่ให้ 3. หมุนเวยี นการเลน่ จนหมดเวลา สมบรู ณ์ 4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าทเ่ี ดมิ ใหเ้ รียบร้อย

แผนการจดั ประสบการณชนั้ อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๑๒ รักเมอื งไทย สปั ดาหที่ ๑๒ คร้งั ท่ี ๒ วนั ท่.ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ กจิ กรรมเคลอ่ื นไหว (๑) การเคลื่อนไหว ๑. เดก็ ถอื เคร่ืองเขย่าจากเศษวสั ดุท่ีเดก็ ประดิษฐ์ ๑. เครือ่ งเขยา่ จากเศษ สงั เกต ขึน้ เอง วสั ดุ การเคล่อื นไหวร่างกาย และจังหวะ อยกู่ ับที่ ๓. ครูตกี ลองหรือใช้เครอื่ งเคาะจังหวะให้สัญญาน ๒. กลองหรือเคร่ืองเคาะ พรอ้ มอปุ กรณ์โดยใช้การ ให้เดก็ ๆ เคล่ือนที่อย่างอิสระไปรอบหอ้ งพร้อม จงั หวะ ประสานสมั พันธ์กล้ามเนอ้ื ๑. เคลื่อนไหว (๒) การเคล่ือนไหว เขยา่ อุปกรณ์ของตนเอง ๔. เม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้เดก็ หยดุ อยู่กับท่ี รา่ งกายในกจิ กรรม เคล่ือนที่ ๕. เริม่ สญั ญาณใหม่ใหเ้ ปลี่ยนทา่ ทางใหมท่ าเช่นน้ี 4 - 5 คร้งั หรอื จนกว่าจะครบกาหนดเวลา ต่างๆโดยใช้การ (๓) การเคลื่อนไหว ประสานสัมพันธ์ พร้อมวัสดุอปุ กรณ์ กล้ามเนอ้ื และทรงตวั (๔) การเคล่ือนไหวที่ ได้ ใชก้ ารประสาน ๒. เคลอ่ื นไหวพรอ้ ม สัมพนั ธข์ องการใช้ ๖. เดก็ นัง่ ผอ่ นคลายสบาย ๆ อปุ กรณ์ได้ กลา้ มเน้ือใหญ่ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ (๓) การฟังเพลง ๑. ความรู้พื้นฐาน ๑. ความรู้พ้นื ฐานเกยี่ วกับหนังสือและตัวหนงั สือ ๑. ภาพหรือแบบจาลอง สังเกต ๑. สอ่ื สาร สนทนา จากหนงั สอื เร่ืองเท่ียวเมืองไทย บา้ นทรงไทยแบบต่างๆ ๑. การส่ือสาร สนทนา โต้ตอบอย่างเขา้ ใจ (๔) การพูดแสดง เกี่ยวกับหนังสือและ ๒. หนงั สือนิทาน เท่ียว โตต้ อบอยา่ งเขา้ ใจ ความหมายได้ 1.๑. เด็กและครูอา่ นหนังสือเรอื่ งเท่ียว เมืองไทย ความหมาย ๒. มีมารยาทและ ความคดิ ความรู้สึก ตัวหนงั สอื นทิ านเรอ่ื ง เมอื งไทยพรอ้ มกนั จนจบ ๑ รอบ ๒. การมมี ารยาทและ ปฏบิ ัติตนตาม ปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรม วฒั นธรรมประเพณี และความต้องการ เท่ียวทวั่ ไทย ๑.๒ ครูแนะนาส่วนประกอบหนงั สอื ทีละหน้า ประเพณไี ทยได้ ไทยได้ ได้แก่ ปกหนา้ ปกใน ช่ือผแู้ ต่ง ผูว้ าดภาพ (๕) การพูดกับผู้อ่ืน ๒. วันสาคญั ตาม ๑.๓ ครชู ักชวนให้เด็กตัง้ คาถามเกยี่ วกบั เกยี่ วกับ ประเพณไี ทย เชน่ วัน หนงั สอื เรอื่ งเทยี่ วเมืองไทย มีใครทาอะไรบา้ ง ไปท่ี ไหน เดก็ ๆเคยทาอะไรเหมือนในนิทานบ้างหรือไม่ ประสบการณ์ของตน สงกรานต์ ๒. ครนู าภาพประเพณไี ทยมาใหเ้ ดก็ ดู สนทนา เรือ่ งความสาคัญของประเพณีไทยและประเพณีใน หรือพูดเล่าเร่ืองราว ท้องถน่ิ ของเรา เราควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไรบ้าง เกีย่ วกับตนเอง

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ การสร้างภาพดว้ ยการ ฉกี ตัด ปะ ๑. กระดาษสาหรบั สงั เกต ๑. นาภาพประเพณแี ละหนังสือนิทาน วาดเขยี น การสรา้ งผลงานศิลปะเพ่ือ กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพและ เทยี่ วเมืองไทยมาให้เด็กดู ๒. กระดาษเหลอื ใช้สี ส่ือสารความคดิ ความรู้สึก ๒. ให้เด็กสรา้ งภาพดว้ ยการ ฉกี ตัด ปะ โดยฉกี ตา่ งๆ ของตนเอง สร้างสรรค์ การเลน่ กบั สี กระดาษสเี ปน็ ชิน้ เลก็ ๆ แลว้ สร้างเปน็ ภาพตาม ๓. กาว จินตนาการ การสร้างผลงาน (๔) การประดษิ ฐ์ส่ิง ๓. เดก็ นาผลงานมาส่ง ครเู ขียนชอื่ ใหเ้ ด็กเขียน ตาม และนาไปเกบ็ ที่แสดงผลงาน ศลิ ปะอย่างอสิ ระเพ่ือ ตา่ งๆ ด้วยเศษวัสดุ สอ่ื สารความคิด (๕) การหยบิ จบั การใช้ ความรู้สึกของตนได้ กรรไกร การฉีก การตัด การปะ (๑๙) การเห็น แบบอยา่ งของ การเขยี นท่ีถูกต้อง กิจกรรมเล่นตามมุม (๒) การเลน่ รายบคุ คล มุมประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย ๔ มมุ อปุ กรณ์มุมประสบการณ์ สงั เกต ๑. สามารถอย่รู ่วมใน กลมุ่ ย่อย กลุ่มใหญ่ 1. เดก็ เลือกกจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ตาม สงั คมกบั ผู้อ่นื ได้ (๓) การเล่นตามมมุ ความสนใจ ไดแ้ ก่ ในห้องเรียน การเลน่ มมุ ประสบการณ์ ๒. สามารถปฏบิ ตั ิ ประสบการณ/์ ตนเป็นสมาชกิ ทข่ี อง มมุ เล่นตา่ งๆ 1.๑ มมุ หนังสอื แนะนาหนงั สือเรอื่ งเทีย่ ว ตามความสนใจ สงั คมได้ เมอื งไทยและหนังสอื เก่ียวกบั เมอื งไทยเชน่ รปู พระราชกรณยี กจิ ประเพณไี ทย ผลไมไ้ ทย หน้าท่ีเด็กไทยท่ีมมุ หนงั สือ ๑.๒ มุมสรา้ งสรรค์ จัดวางอุปกรณ์เกี่ยวกับ การสรา้ งภาพ ตกแตง่ ภาพ ๑.๓ มุมบล็อก ๑.๔ มุมวทิ ยาศาสตร์ 2. เม่ือหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รียบร้อย

จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ๑. ครูพาเด็กไปสนาม ทบทวนขอ้ ตกลง เล่นนา้ - เล่นทราย และแบ่งเดก็ เป็น 2 กลุ่ม เล่นน้า เลน่ กจิ กรรมกลางแจ้ง (๕) การเล่นเครื่อง ทราย และแจกอุปกรณข์ องแต่ละกลุ่ม ๑. บ่อทราย สงั เกต ๒. ครูให้เดก็ เลือก เล่นนา้ เล่นทราย ตามความ เล่นและทา เลน่ สนามอย่างอสิ ระ สนใจ ๒. บอ่ น้า การเล่นและทากจิ กรรม ๓. เม่อื หมดเวลา ช่วยกันเกบ็ ทาความสะอาด กจิ กรรมการเลน่ น้า (๓) การเลน่ เคร่ือง อุปกรณ์ และทาความสะอาดตนเอง กลับเขา้ ๓. สนามเล่น พร้อมกับผอู้ น่ื อย่าง หอ้ งเรยี น เลน่ ทรายอยา่ ง เลน่ อยา่ งปลอดภัย ๔. อปุ กรณใ์ นการเล่นน้า ปลอดภยั ปลอดภัยได้ เลน่ ทราย เชน่ วสั ดจุ ม ลอย พล่ัวตกั ทราย เกมการศึกษา (๑๓) การจับคู่ การเรียงลาดบั เหตุการณ์ ๑. ครูแนะนาและสาธิตวธิ กี ารเล่นเกมเรียงลาดับ เกมเรยี งลาดบั เหตุการณ์ สังเกต เลน่ เกมเรียงลาดับ การเปรยี บเทยี บ และ เหตกุ ารณ์ประเพณสี งกรานต์ ประเพณสี งกรานต์ การเล่นเกมเรยี งลาดบั เหตกุ ารณป์ ระเพณี การเรยี งลาดับสงิ่ ๒. ครูแบ่งเดก็ เปน็ กลุ่มยอ่ ยๆ แล้วใหเ้ ด็กเลน่ เกม สงกรานต์ได้ ต่างๆ ๓. เม่อื ครบกาหนดเวลา ครนู าเด็กสนทนาบอก เหตกุ ารณ์ประเพณี ความรูส้ กึ เกีย่ วกับเกมที่เลน่ สงกรานตไ์ ด้ ๔. ครูให้เด็กชว่ ยกันเกบ็ เกมเข้าทีใ่ ห้เรียบร้อย

แผนการจดั ประสบการณช นั้ อนุบาล ๓ หนวยที่ ๑๒ รกั เมืองไทย สัปดาหท ี่ ๑๒ ครั้งที่ ๓ วันที.่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๑. เครอื่ งเคาะจงั หวะ สังเกต ๒. บัตรตวั เลข ๑ - ๓ การเคล่ือนไหวได้อย่าง กจิ กรรม (๑) การเคล่ือนไหว ๑. ครอู ธิบายกฏกติกาในการทากิจกรรม คลอ่ งแคลว่ และการปฏิบัติ เคลอ่ื นไหวและ ๑. ภาพหรอื ตามคาส่งั และข้อตกลง จังหวะ อยกู่ ับท่ี ๒. เม่ือครูเคาะจังหวะชา้ ให้เด็กค่อยๆ เคล่ือนทไี่ ป แบบจาลองบ้านไทย ๑. เคล่อื นไหว แบบต่างๆ สงั เกต ร่างกายได้อยา่ ง (๒) การเคล่ือนไหว อย่างช้าๆ ถา้ ครเู คาะจงั หวะเร็วให้เด็กเคล่ือนทไี่ ป ๒. บัตรตวั เลข ๑ - ๘ ๑.การสอ่ื สาร สนทนา คลอ่ งแคล่ว ๓. หนงั สอื นิทาน โต้ตอบอยา่ งเขา้ ใจ ๒. การปฏิบตั ติ าม เคลื่อนท่ี อย่างเรว็ เท่ียวเมอื งไทย ความหมาย คาสง่ั และขอ้ ตกลง ๒. การมีทกั ษะเชงิ ได้ (1) การเคลือ่ นไหว ๓. ครกู าหนดคาส่ังเพิ่มเติม โดยครจู ะมีบัตรภาพ คณติ ศาสตร์ ในการนบั แสดงจานวน กจิ กรรมเสรมิ โดยควบคุมตนเองไป ตวั เลข ๑ - ๓ ถา้ ครชู เู ลข ๑ ใหเ้ ด็กหยดุ ยืนตรง ถ้าครู ประสบการณ์ ๑.สอ่ื สาร สนทนา ในทศิ ทาง ระดับและ ชูเลข ๒ ใหเ้ ด็กวิ่งไปจบั คู่กบั เพอื่ น ถ้าครูชูเลข ๓ ให้ โตต้ อบอยา่ งเขา้ ใจ ความหมายได้ พืน้ ท่ี เดก็ นง่ั ลง ๒. มที ักษะเชิง คณติ ศาสตร์ ๔. ทาเช่นน้อี ีก 4 - 5 ครั้ง ในการนบั แสดงจานวน ๕. เดก็ นง่ั ผอ่ นคลายสบาย ๆ (๑) การปฏบิ ัตติ นใน ๑. ความรูพ้ ้ืนฐานเก่ยี วกบั ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนังสอื ความเปน็ คนไทย หนังสอื และตวั หนังสือ จากนทิ านเร่ืองเท่ียวเมืองไทย (๑๐) การอ่าน นทิ านเรอื่ งเที่ยวทั่วไทย ๑.๑. เดก็ และครูอา่ นหนังสอื นทิ านเรอ่ื งเท่ียว หนงั สือภาพ นทิ าน ๒. บ้านไทยมคี วาม เมอื งไทยพรอ้ มกนั จนจบ ฝึกเติมคาดว้ ยปากเปล่าเม่ือ หลากหลายประเภท สวยงามและมปี ระโยชน์ อ่านถึงคาที่พบบ่อย รูปแบบ ใชส้ อย ๑.๒ ทากิจกรรมเติมตวั อักษรในคาที่พบบ่อย (๑๓) การสังเกตทิศ ๓. การนบั การจาแนก เช่นเทยี่ วเมอื ง ไ_ย (เที่ยวเมืองไทย) ทางการอา่ นตัวอักษร และเปรยี บเทียบ ๒. ครูทบทวนประสบการณ์เดิมของเดก็ เกี่ยวกับบา้ น คา และข้อความ ๑ - ๘ ไทย จากนิทานโดยใชค้ าถามเช่น บา้ นของแตล่ ะคน เปน็ อย่างไร ๒. ครูติดบัตรภาพบา้ นไทยบนกระดานและใหเ้ ด็ก

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ (๑๔) การอ่านและชี้ ๒. ครูติดบัตรภาพบ้านไทยบนกระดานและใหเ้ ด็ก ขอ้ ความโดยกวาด ออกมาเลือกบา้ นไทยท่ีรจู้ กั คนละภาพ สายตาตามบรรทดั ๓. ครูใหเ้ ด็กเลน่ เกมจับคบู่ ้านแฝด เด็กถือบา้ น จากซ้ายไปขวา ไทยที่เลือกไว้ ครูเคาะสัญญาณหาคูแ่ ฝด ใหเ้ ด็กไป จากบนลงล่าง หาบ้านทเ่ี หมือนกนั แล้วนงั่ ลง และช่วยกนั นับวา่ มี (๘) การนับและ ก่หี ลงั เมอื่ นับครบทุกกลุม่ แล้วให้นาภาพมาเรยี ง แสดงจานวนของสิ่ง กนั จนครบ และให้ไปหยบิ ตัวเลขจากตะกร้า มา ตา่ งๆใน วางคกู่ บั ภาพบ้าน ชวี ติ ประจาวนั ๔. ทาซ้าอกี ๔ - ๕ครัง้ ให้หมุนเวียนในจานวน ๑-๘ กิจกรรมศิลปะ ๑. กระดาษสาหรับสาน สังเกต การสานกระดาษ ๒. กาว การสรา้ งผลงานศิลปะเพ่ือ สร้างสรรค์ (๒) การเขยี นภาพ ๑. ครูเตรยี มกระดาษสีทต่ี ัดเป็นเสน้ ยาวหลากสี สอ่ื สารความคดิ ความร้สู กึ ๒. ให้เดก็ สานตามแบบเป็นลายขัด ของตนได้ การสรา้ งผลงาน และการเลน่ กบั สี ๓. เด็กสานลายตามจินตนาการของตนเอง ศลิ ปะอย่างอิสระเพื่อ ๕) การหยบิ จบั การ ๔. เด็กนาผลงานมาสง่ ครเู ขียนชือ่ ใหเ้ ด็กเขียน สอื่ สารความคิด ใชก้ รรไกร การฉีก ตาม และนาไปเกบ็ ท่แี สดงผลงาน ความรสู้ ึก การตดั การปะ และ การร้อยวัสดุ กิจกรรมเล่นตามมุม (๑) การเล่นอิสระ มมุ ประสบการณ์ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ อุปกรณ์มุมประสบการณ์ สงั เกต สามารถปฏิบัตติ น (๓) การเลน่ ตามมมุ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตาม เป็นสมาชิกทีข่ อง ประสบการณ์ ความสนใจ ไดแ้ ก่ ในห้องเรยี น การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ สังคม 1.๑ มุมหนงั สอื แนะนาหนังสอื เรือ่ งเท่ยี ว ทด่ี ขี องสังคม เมอื งไทยและหนงั สอื เกยี่ วกบั เมืองไทยเช่น

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมกลางแจ้ง (๕) การละเล่น รูปพระราชกรณียกิจ ประเพณีไทย ผลไม้ไทย สังเกต การมีความสุขในการ พ้ืนบ้านของไทย หนา้ ที่เด็กไทยที่มมุ หนงั สือ การเลน่ เกมการละเล่น เลน่ และสารวจ พื้นบา้ นของไทย ตวี งล้อ ธรรมชาติ ๑.๒ มุมสรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์เก่ยี วกบั การการสร้างภาพ ตกแต่งภาพ ๑.๓ มุมบลอ็ ก ๑.๔ มุมวิทยาศาสตร์ 2. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทใ่ี หเ้ รียบร้อย ๑. การเลน่ เกมการละเล่นพืน้ บา้ นของไทย ตวี งล้อ เกมการละเลน่ พื้นบ้าน ๒. เมอ่ื เดก็ เล่นครบทกุ คนแลว้ ให้เล่นอสิ ระใน ของไทย ตวี งล้อ สนามเด็กเล่นต่อไป ๓. เล่นเสรจ็ แล้วเก็บอปุ กรณ์ทาความสะอาด และ ทาความสะอาดตนเอง เกมการศกึ ษา (๑๒) การจบั คู่การ การจับคู่ภาพเหมือน ๑. ครแู นะนาและอธิบายการเลน่ เกมจบั คู่ เกมจับคภู่ าพเหมือน สังเกต จบั ค่แู ละ เปรียบเทียบสง่ิ บา้ นไทยลกั ษณะตา่ งๆ การจับค่ภู าพเหมือนบ้าน เปรยี บเทียบความ ต่าง ๆ ภาพเหมอื นบ้านไทยลักษณะต่างๆ บา้ นไทยลกั ษณะต่างๆ ไทยลกั ษณะตา่ งๆ แตกตา่ งหรือความ เหมอื นของสง่ิ ต่างๆ 2. แบ่งเด็กเป็นกลุ่ม 2 - 3 คน ตามความสมัครใจ โดยลักษณะท่สี งั เกต พบสองลักษณะข้ึน มอบเกมใหม่ให้เด็ก 1 กลุ่ม กลุ่มอ่ืน ๆ เล่นเกมทีม่ ี ไป อยแู่ ล้ว 3. หมุนเวยี นการเล่นจนหมดเวลา 4. เด็กเก็บเกมภาพศึกษาเขา้ ท่เี ดิม

แผนการจัดประสบการณชนั้ อนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๑๒ รักเมอื งไทย สัปดาหที่ ๑๒ ครั้งที่ ๔ วนั ท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ สังเกต กจิ กรรมเคลื่อนไหว (๑) การเคล่ือนไหว ๑. กิจกรรมเคลอ่ื นไหวพ้นื ฐานใหเ้ ด็กเคลื่อนไหว ๑. เครือ่ งเสยี ง การเคลอื่ นไหวร่างกาย ร่างกายไปทวั่ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระตามจังหวะเมอ่ื ได้ ๒. เพลงราวง แสดงทา่ ทางตามคา และจังหวะ อยกู่ บั ที่ ยินสัญญาณหยดุ ให้หยุดเคล่อื นไหวในท่าน้ันทันที บรรยายโดยใช้การ ๒. ครกู าหนดพ้นื ที่ในหอ้ งให้เป็นสองฝั่งแม่นา้ ประสานสมั พนั ธ์กล้ามเน้อื เคลอ่ื นไหวร่างกาย (๒) การเคล่ือนไหว หากครพู ูดว่าลอยกระทงใหเ้ ด็กวงิ่ ไปอยู่ฝงั่ หน่งึ และทรงตัวได้ และทาท่าราวง หากครูพูดวา่ สงกรานตใ์ หเ้ ด็กวิ่ง แสดงทา่ ทางตามคา เคลอื่ นที่ ไปอีกฝั่งหน่ึงและทาทา่ สาดน้า ๔. ครเู ริ่มต้นโดยเปิดเพลงราวงแลว้ ให้เด็ก บรรยายโดยใช้การ (๑) การเคล่ือนไหว เคลือ่ นท่ีอสิ ระไปเรอื่ ยๆ เมอื่ ครูปดิ เพลงพร้อมออก คาส่ังให้รีบปฏบิ ัตใิ หเ้ รว็ ทสี่ ดุ ประสานสัมพนั ธ์ โดยควบคุมตนเองไป ๕. เล่นซา้ สลับไปมาจนหมดเวลา กล้ามเนื้อและทรงตัว ในทศิ ทาง ระดับ ได้ และพ้ืนที่ กิจกรรมสร้างเสรมิ (๑๒) การเหน็ ๑. ความร้พู ้ืนฐาน ๑. พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนงั สอื จาก ๑. นิทานเรือ่ งเท่ยี ว สังเกต ประสบการณ์ แบบอยา่ งการอ่านท่ี เกยี่ วกบั หนังสือและ นิทานเร่ืองเทยี่ วเมอื งไทย เมอื งไทย การอา่ นภาพ สญั ลกั ษณ์ อ่านภาพ สัญลกั ษณ์ ถูกต้อง ตัวหนงั สือ นิทานเรอื่ ง ๑.๑ เด็กและครูอา่ นหนงั สือนทิ านเร่ืองเทยี่ ว ๒. ภาพเทศกาลสาคัญ คาพร้อมชีห้ รือกวาดตา คาพร้อมชี้หรอื กวาด (๑๓) การสังเกตทิศ เทย่ี วทัว่ ไทย เมอื งไทยพรอ้ มกันจนจบ๑รอบ ตา่ งๆ ของไทย มองจดุ เร่ิมต้นและจดุ จบ ตามองจุดเริม่ ต้นและ ทางการอ่าน ๒. วนั สาคัญตาม ๑.๒ อ่านพรอ้ มกันอกี ครง้ั โดยครใู ช้กระดาษปดิ ๓. อปุ กรณ์ สิ่งของตา่ งๆ ของขอ้ ความได้ จดุ จบของขอ้ ความ ตวั อกั ษร คา และ ประเพณไี ทย คาใหเ้ ด็กทาย เม่ืออ่านคาที่ทายแล้ว ให้เด็กเปดิ ดู สาหรบั จาลองเหตุการณ์ ได้ ข้อความ ๓. การปฏิบตั ติ นอยา่ ง วา่ ถกู ต้องหรือไม่ เทศกาล (๑๗) การคาดเดาคา เหมาะสมในโอกาสวนั ๑.๓ ให้เดก็ เลอื กปดิ คาเองและใหเ้ พอื่ นทาย วลี หรอื ประโยคทม่ี ี สาคัญตา่ งๆ 2. สนทนากบั เด็กจากนิทานเรือ่ งเที่ยวเมืองไทย โครงสรา้ งซา้ ๆกัน มีวันสาคญั อะไรอีกบ้างทเ่ี ด็กรู้จัก จากนิทาน ๓. ครูนาภาพกิจกรรมในเทศกาลสาคญั ตา่ งๆเชน่

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ (๑) การเลน่ บทบาท สมมติ การปฏบิ ัติตน วนั สงกรานต์ ลอยกระทง ใหเ้ ด็กสงั เกต และ ในความเป็นไทย สนทนาถงึ ประสบการณเ์ ดมิ ของเด็กเกย่ี วกับ เทศกาลสาคญั ตา่ งๆ ๕. หาอาสาสมัครมาแสดงบทบาทสมมติใน ประเพณตี ่างๆ กิจกรรมศิลปะ (๕) การหยบิ จบั การ ว่าวไทย ๑. กระดาษสีขนาดเอ ๔ สังเกต สรา้ งสรรค์ ใช้กรรไกร การฉีก ๑. ครสู าธติ การทาวา่ วไทย ให้เด็กดู สาหรับตวั ว่าว หลากสี การสรา้ งผลงานศิลปะเพื่อ การสร้างผลงาน การตดั การปะ ๒. ใหเ้ ด็กเลอื กกระดาษสีตามความชอบ ๒. ไม้ทางมะพรา้ วทา ส่ือสารความคิดความรู้สึก ศิลปะอย่างอสิ ระเพ่ือ (๕) การทางาน ๓. เด็กประกอบโครงวา่ วโดยใชล้ วดมดั ครูอาจ โครงว่าว ของตนเองได้ สอื่ สารความคดิ ศิลปะ ช่วยเพื่อให้มดั แนน่ ๓. กาวหรือแป้งเปยี ก ความร้สู ึก ๔. เมือ่ ทาเสรจ็ แล้ว ให้เด็กนาว่าวของตนลงไปเลน่ ๔. เชือกสาหรับทาสาย ในสนาม วา่ ว ๕. ลวดเส้นเลก็ กจิ กรรมเล่นตามมุม (๓) การเล่นตามมุม มุมประสบการณ์ควรมีอยา่ งน้อย ๔ มมุ อุปกรณ์มมุ ประสบการณ์ สังเกต สามารถอย่รู ว่ มใน ประสบการณ์ สังคมกับผู้อืน่ ได้ 1. เด็กเลอื กกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตาม ในห้อง การเล่นมมุ ประสบการณ์ ความสนใจ ไดแ้ ก่ ตามความสนใจ 1.๑ มุมหนังสือ แนะนาหนงั สอื เร่อื งเที่ยว เมอื งไทยและหนงั สอื เกย่ี วกบั เมอื งไทยเช่น รปู พระราชกรณยี กิจ ประเพณีไทย ผลไมไ้ ทย หน้าท่ีเด็กไทยท่ีมุมหนังสือ ๑.๒ มมุ สรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์เกี่ยวกบั การ การสรา้ งภาพ ตกแต่งภาพ ๑.๓ มุมบลอ็ ก ๑.๔ มุมวทิ ยาศาสตร์

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ ๑. ว่าว สังเกต การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ๑.การเลน่ เกมการละเล่นของไทย เลน่ ว่าว ๒. อปุ กรณ์เลน่ ทราย การเล่น ทากจิ กรรมใน ๒. เมอ่ื เดก็ เล่นแลว้ ให้เดก็ ไปก่อเจดีย์ทรายใน การเล่นว่าวและปฏบิ ัติกบั กิจกรรมกลางแจ้ง (๔) การเลน่ นอก สนามเดก็ เล่นต่อไป เกมจบั คภู่ าพกับ ผอู้ ื่น อยา่ งปลอดภยั ๒. เด็กสร้างสรรค์เจดียท์ ราย (หรือตามแบบที่ สญั ลักษณ(์ บัตรคา) เล่น ทากจิ กรรม หอ้ งเรียน ร่วมกนั กาหนด) ตามจนิ ตนาการ พรอ้ มบัตรตรวจสอบ สังเกต ๓. ครูใหเ้ ด็กชว่ ยกนั ลงความเห็นวา่ ชืน่ ชอบเจดยี ์ การเล่นเกมจบั คภู่ าพกับ และปฏบิ ัติตอ่ ผู้อ่ืน (๒) การเล่นและ ทรายของกล่มุ ใดมากทส่ี ดุ และคดิ วิธแี สดงความ สัญลักษณ์(บัตรคา) พรอ้ ม ชนื่ ชมเพ่ือนๆ บตั รตรวจสอบ อยา่ งปลอดภัยได้ ทางานรว่ มกับผู้อน่ื ๔. เด็กช่วยกันเกบ็ อุปกรณใ์ หเ้ รยี บร้อย ๕. ครูใหเ้ ด็กล้างมือทาความสะอาดร่างกาย (๕) การละเล่น ๑. ครูแนะนาและสาธติ วิธกี ารเลน่ เกมใหม่ เกม จับคภู่ าพกับสัญลักษณ์(บัตรคา) พร้อมบัตร พื้นบา้ นของไทย ตรวจสอบ ๒. ครแู บง่ เด็กเป็นกลุ่มยอ่ ยๆ แลว้ ใหเ้ ด็กเลน่ เกม เกมการศึกษา (๑๓) การจบั คู่ การ เกมจบั คภู่ าพกับ ๓. เมอ่ื ครบกาหนดเวลา ครนู าเดก็ สนทนาบอก จับคแู่ ละ เปรียบเทยี บและการ สัญลักษณ(์ บัตรคา) ความรู้สึกเก่ียวกับเกมทีเ่ ล่น เปรยี บเทียบความ เรยี งลาดบั สงิ่ ตา่ งๆ พรอ้ มบัตรตรวจสอบ ๔. ครใู หเ้ ด็กช่วยกันเกบ็ เกมเข้าทีใ่ หเ้ รียบรอ้ ย แตกต่างหรือความ ตามลกั ษณะ ความ เหมือนของส่งิ ยาว ความสงู นา้ หนัก ต่างๆ โดยลักษณะ ปรมิ าตรเรยี งลาดับ ท่ีสังเกตพบสอง กิจกรรมหรือ ลักษณะขึ้นไป เหตกุ ารณต์ าม ชว่ งเวลา

แผนการจัดประสบการณช ัน้ อนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๑๒ รกั เมืองไทย สัปดาหท ี่ ๑๒ ครงั้ ท่ี ๕ วนั ท.ี่ ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ สังเกต กจิ กรรม การเคล่ือนไหวร่างกาย เคลื่อนไหวและ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่ ๑. กิจกรรมเคลอ่ื นไหวพ้นื ฐานให้เด็กเคลื่อนไหว ๑. เพลงหนา้ ท่ีของเดก็ ประกอบเพลง ได้ จังหวะ ๑. เคลือ่ นไหว กับท่ี รา่ งกายไปทวั่ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะเมอ่ื ได้ ๒. วิทยเุ ทป สงั เกต ร่างกายประกอบ ๑.การอ่านภาพ สัญลักษณ์ เพลง ได้ (๒) การเคล่ือนไหว ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในทา่ น้นั ทันที คาพร้อมชี้หรอื กวาดตา มองจุดเร่ิมตน้ และจดุ จบ กิจกรรมเสรมิ เคลอื่ นท่ี ๒. ครเู ปิดเพลงหนา้ ทขี่ องเด็ก เด็ก ให้เด็กฟงั ๑ ของข้อความได้ ประสบการณ์ ๒.เขยี นชือ่ ของตนเอง ๑. อ่านภาพ (๑) การฟังเพลง การ รอบ และใหร้ ้องตาม ๑ รอบ รอบต่อๆไปใหเ้ ด็ก ตามแบบ เขยี นข้อความ สญั ลักษณ์ ด้วยวธิ ที คี่ ดิ ข้นึ เองได้ คาพร้อมชี้หรือ รอ้ งเพลง และการ แสดงท่าทางประกอบเพลง กวาดตามอง จุดเริ่มตน้ และจดุ แสดงปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบ ๓. ทาเช่นนี้อกี 4 - 5 ครง้ั จบของข้อความได้ ๒. เขยี นชอื่ ของ เสยี งดนตรี ๔. เดก็ นงั่ ผอ่ นคลายสบาย ๆ ตนเองตามแบบ เขยี นข้อความด้วย (๓) การเคล่ือนไหว วิธีท่ีคิดขนึ้ เองได้ ตามเสยี งเพลง/ดนตรี (๑๔) การอา่ นและชี้ ๑. ความรพู้ น้ื ฐาน ๑.พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสอื จาก ๑. เพลงหน้าท่ขี องเดก็ ขอ้ ความโดยกวาด เกี่ยวกับหนังสอื และ นทิ านเรอ่ื งเทีย่ วเมอื งไทย ๒. หนังสือนทิ าน สายตาตามบรรทัด ตวั หนังสอื นิทานเรอื่ ง ๑.๑ เด็กและครูอา่ นหนังสือนิทานเรื่องเทีย่ ว เท่ียวเมืองไทย จากซา้ ยไปขวา จาก เที่ยวทว่ั ไทย เมืองไทยพรอ้ มกนั จนจบ๑รอบ บนลงลา่ ง ๒. หนา้ ทขี่ องเด็กใน ๑.๒ ใหเ้ ด็กอาสาออกมาอ่านพร้อมชี้ข้อความ (๑๒) การเหน็ แบบ การเป็นพลเมืองไทยทดี่ ี ให้เพ่อื นอ่านไปพร้อมกัน อยา่ งการอา่ นที่ถูกต้อง ๒. ฝึกการเขียนอิสระ ตามความสนใจ คา วลหี รือ (๑๙) การเห็นแบบ ประโยคท่ีชอบจากหนังสือนิทาน อยา่ งการเขียนที่ ๓. สนทนากบั เด็กภาพในนิทานมเี ดก็ ดีหรือไม่ ถกู ต้อง ๑. ครสู นทนากับเด็กถึงเน้ือเพลง เดก็ ดหี มายถึง อะไร ใครทาข้อไหนบ้าง

จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมศลิ ปะ (๒๑) การเขยี นคาทมี่ ี ๒.เดก็ รู้ไหมอะไรเปน็ สมบัติของชาติ สรา้ งสรรค์ ความหมายกับตวั เดก็ ๓.เรามวี ธิ ีดูแลสมบตั ิของชาติอยา่ งไร การสร้างผลงาน คาคุ้นเคย ศลิ ปะอย่างอิสระ การปั้น ๑. ดนิ นา้ มัน สังเกต เพ่อื ส่ือสาร (๕) การทางานศลิ ปะ ๑. ครูเตรยี มอุปกรณ์การปัน้ ๓อยา่ ง ดนิ น้ามัน ๒. ดนิ เหนียว การสรา้ งผลงานศิลปะเพื่อ ความคิดความรสู้ กึ (๑) การรบั รูแ้ ละแสดง ดนิ เหนยี ว แปง้ โด มาใหเ้ ด็กตดั สนิ ใจเลือก ๓. แปง้ โด สอ่ื สารความคิดความรู้สึก ของตนได้ ความคิด ความร้สู ึก ๒. นาผลไมไ้ ทยของจริงหรือจาลองมาวางใหเ้ ด็ก ๔. แผ่นรองปั้น ของตนเองได้ ผ่านส่อื วัสดุ ของเล่น จับต้อง สมั ผสั ๕. ผลไมจ้ ริงหรอื ผลไม้ และช้ินงาน ๓. เดก็ เลอื กปัน้ ผลไม้ไทย ตามความสนใจและ จาลอง จานวนตามชอบ กจิ กรรมเลน่ ตาม ๑.๒.๒ การเล่น มมุ ประสบการณ์ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ อปุ กรณ์มุมประสบการณ์ สงั เกต มมุ (๑) การเลน่ อสิ ระ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ตาม สามารถเลือกมมุ (๓) การเล่นตามมมุ ความสนใจ ได้แก่ ในห้องเรยี น การเลน่ มุมประสบการณ์ ประสบการณ์ตาม ประสบการณ์ ความสนใจของ 1.๑ มุมหนังสือ แนะนาหนังสอื เรอื่ งเทีย่ ว ตามความสนใจ ตัวเองได้ เมอื งไทยและหนังสอื เก่ียวกบั เมอื งไทยเช่น รูปพระราชกรณียกจิ ประเพณไี ทย ผลไมไ้ ทย หน้าทีเ่ ดก็ ไทยท่ีมมุ หนงั สือ ๑.๒ มุมสร้างสรรค์ จดั วางอุปกรณ์เกี่ยวกับ การการสร้างภาพ ตกแต่งภาพ ๑.๓ มมุ บล็อก ๑.๔มมุ วทิ ยาศาสตร์

จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ 2. เมอื่ หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าทีใ่ หเ้ รียบร้อย กจิ กรรมกลางแจง้ (๓) การเคล่ือนไหว ๑. ครแู นะนากติกา ในการทากจิ กรรม หว่ งร่วมใจ ห่วงฮูลาฮูปหรือหว่ ง สงั เกต เลน่ ทากิจกรรม พรอ้ มวสั ดุอปุ กรณ์ ๒. ครูแบง่ เด็กเปน็ สองแถวยาว ให้เดก็ ยืนเว้น เชอื กขนาดใหญ่ การเล่นห่วงฮูลาฮูปร่วมใจ และปฏิบัติตอ่ ผู้อ่ืน (๒) การเลน่ และ ระยะหา่ งกันพอสมควรกับขนาดของหว่ งฮูลาฮูป อย่างปลอดภยั ได้ ทางานร่วมกบั ผู้อ่ืน ๓. ครใู หห้ ่วงฮลู าฮปู กบั คนหวั แถวโดยคลอ้ ง เข้าท่ีรา่ งกาย แลว้ ให้สง่ ตอ่ ไปยังคนถัดไปโดยใช้ (3) การเลน่ เคร่ืองเล่น รา่ งกายแตล่ ะสว่ นขยับ อยา่ งปลอดภัย ๔. แถวใดท่สี ่งห่วงไปถึงคนสุดทา้ ยก่อนเป็นผู้ชนะ เกมการศึกษา (๘) การนบั และแสดง จบั คู่ภาพกบั จานวนที่ ๑. ครูแนะนาและสาธติ วิธีการเล่นเกมใหม่ เกมจับค่ภู าพกบั จานวน สงั เกต มีทักษะเชงิ จานวนของสงิ่ ตา่ งๆ เทา่ กัน 1 – ๘ เกมจับคู่ภาพผลไม้กบั จานวนที่เท่ากัน 1 – ๘ ที่เทา่ กนั 1 – ๘ การเลน่ เกมจับคภู่ าพกับ คณิตศาสตร์ ใน ในชีวิตประจาวัน ๒. ครูแบง่ เด็กเปน็ กลุ่มย่อยๆ แลว้ ใหเ้ ดก็ เล่นเกม จานวนทีเ่ ทา่ กัน 1 – ๘ การนบั แสดง (๑๓) การจบั คู่ ๓. เมือ่ ครบกาหนดเวลา ครนู าเด็กสนทนาบอก จานวน การเปรียบเทียบ ความร้สู ึกเก่ยี วกับเกมท่เี ล่น ๔. เดก็ ช่วยกนั เก็บเกมเข้าท่ใี หเ้ รยี บร้อย

๑. เลขที่ ชอ่ื ๒. ๓. ๔. ๕. 6. 7. 8. 9. 10. 1. การเล่นทากิจกรรมในการเล่นและปฏิบตั กิ บั ผอู้ ่นื อย่าง รา่ งกาย ปลอดภยั ๒. การเคลอ่ื นไหวร่างกายในกิจกรรมต่างๆโดยใช้การประสาน อารมณ์ สมั พนั ธ์กล้ามเน้ือและทรงตวั ๓. การมีทักษะใชเ้ คร่อื งมอื อุปกรณต์ ่างๆ ประเมนิ พฒั นาการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ สงั คม แผนการจดั ประสบการณช ั้นอนุบาล ๓ หนวยที่ ๑๒ รกั เมืองไทย ๔. การเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลง สติปญั ญา ๕. การมมี ารยาทและปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมประเพณไี ทย ๖. การสามารถอยรู่ ว่ มในสังคมกบั ผอู้ น่ื ๗. การสามารถปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทีข่ องสังคม ๘. การส่ือสาร สนทนาโต้ตอบอยา่ งเข้าใจความหมาย ๙. การเลา่ เปน็ เรื่องราวไดอ้ ย่างตอ่ เน่ืองใหผ้ อู้ ืน่ เข้าใจ ๑๐. การอ่านภาพ สญั ลักษณ์ คาพร้อมชี้หรือกวาดตามอง จดุ เรม่ิ ตน้ และจดุ จบของข้อความได้ ๑๑. การเขยี นชือ่ ของตนเองตามแบบ เขียนขอ้ ความด้วยวิธีท่ี คดิ ขึ้นเอง ๑๒. การสังเกตและเปรยี บเทยี บหาความสมั พันธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ ๑๓. การมที กั ษะเชงิ คณติ ศาสตร์ ในการนับ แสดงจานวน ๑๔. การจบั คแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ งหรอื ความ เหมอื นของสิ่งต่างๆ โดยลกั ษณะทส่ี ังเกตพบสองลักษณะ ขึน้ ไป ๑๕. การเรยี งลาดับเหตุการณ์ประเพณสี งกรานตไ์ ด้ ๑๖. การสร้างผลงานศิลปะเพอื่ ส่ือสารความคดิ ความรสู้ ึกของ ตนเองต่อผ้อู ืน่ หมายเหตุ

1๑. เลขท่ี ช่ือ 1๒. 1๓. 1. การเล่น ทากจิ กรรมในการเลน่ และปฏบิ ตั กิ บั ผอู้ นื่ อย่าง 1๔. ปลอดภยั 1๕. ๒. การเคล่ือนไหวรา่ งกายในกิจกรรมต่างๆโดยใช้การประสาน 16. สัมพนั ธก์ ล้ามเน้ือและทรงตวั ได้ 17. ๓. การมีทกั ษะใชเ้ คร่ืองมืออุปกรณ์ต่างๆ 18. 19. ๔. การเคล่อื นไหวร่างกายประกอบเพลง 20. ๕. การมมี ารยาทและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมประเพณไี ทย คาอธิบาย ๖. การสามารถอยรู่ ว่ มในสงั คมกบั ผอู้ ่ืน ระดับ ๓ ดี ครสู ังเกตพฤติกรรมเด็กรายบคุ คล จดบันทึกสรุปเป็นรายสัปดาห์ระบุระดับคุณภาพเป็น ๓ ระดบั คือ ร่างกาย ๗. การสามารถปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกทีข่ องสงั คม อารมณ์ ๘. การสอื่ สาร สนทนาโต้ตอบอย่างเขา้ ใจความหมาย ระดับ ๒ พอใช้ ประเมนิ พัฒนาการ ๙. การเลา่ เปน็ เรอ่ื งราวไดอ้ ยา่ งต่อเนอ่ื งใหผ้ ้อู ่ืนเข้าใจ สงั คม ระดบั ๑ ตอ้ งส่งเสริม ๑๐. การอ่านภาพ สญั ลกั ษณ์ คาพร้อมชห้ี รอื กวาดตามอง สติปัญญา จุดเรม่ิ ตน้ และจดุ จบของขอ้ ความ ๑๑. การเขยี นชอื่ ของตนเองตามแบบ เขียนขอ้ ความด้วยวธิ ที ี่ คดิ ข้ึนเอง ๑๒. การสงั เกตและเปรยี บเทียบหาความสมั พนั ธ์ของส่ิงตา่ งๆ ๑๓. การมที ักษะเชิงคณติ ศาสตร์ ในการนบั แสดงจานวน ๑๔. การจับคแู่ ละเปรยี บเทียบความแตกตา่ งหรอื ความ เหมือนของสิ่งต่างๆ โดยลกั ษณะทส่ี งั เกตพบสองลกั ษณะ ขนึ้ ไป ๑๕. การเรยี งลาดบั เหตุการณป์ ระเพณีสงกรานต์ ๑๖. การสร้างผลงานศลิ ปะเพือ่ สอ่ื สารความคิดความรสู้ ึกของ ตนเองต่อผู้อื่น หมายเหตุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook