การสื่อสารการค้าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

33 ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสือ่ สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า ผูท้ ี่มีอานาจในการตัดสินใจซ้ือ អ្កន មានវិទិធវសប្ម្ច (Authority to Buy) เนย๊ี ะ เมียน เซติ๊ ซอ็ ม เรจ็ ผ้บู รโิ ภคคนสดุ ท้าย អ្នកររសិ ោគចុងសប្កាយ (Final Consumer) เนี๊ยะบอริโพก จงกรอย ราคา តម្ម្ៃ (Price) ต็อมไล การส่งเสริมทางการตลาด ការផ្សសពែផ្សាយពប្ងីកទីផ្សារ (Promotion) กาพ ซ็อบ พซาย ป็วง รีก ตี พซา การโฆษณา ការសោវនាពាណជិ ្កជ ម្ម (Advertising) กาโค ซนา เปีย นึจ จะกัม การขายโดยพนักงานขาย ការលកស់ ោយោន ក់ងារលក់ (Personal Selling) การ ล็วก ดอย เพนยี๊ ะ เงีย ลว็ ก สินค้านาเขา้ ទនំ ញិ នាំចលូ (Imported Goods) ตมุ นิญ นว็ มโจล การขายทางโทรศพั ท์ ការលកដ់ ូវតាម្ទូរវ័ពទ (Telemarketing) การ ลว็ ก โด ตาม ตูระซัพ การขายผา่ นสื่อ ការលកត់ ាម្សារពត៌មាន (Media Selling) การ ลว็ ก ตาม พซา ปอ ตาเมียน

ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 34 การขายผา่ นเครอื ข่ายอินเตอร์เน็ต ការលក់តាម្អ្ិនុ ធឺសណត (Internet Selling) การ ล็วก ตาม อนิ เทอ เนต บรรจภุ ัณฑ์ វចិ ខ្រច ់ (Package) วึจ ขจอ็ บ ผลติ ภณั ฑ์ ផ្សលិតផ្សល (Product) พเลิตตะพอ็ ล ราคา តម្ម្ៃ (Price) ต็อมไล การจัดจาหน่าย ការស្ចកចាយ (Place) กา แจก จาย

35 ชุดการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เรอื่ ง การสือ่ สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พูชา กิจกรรม หนว่ ยที่ 2 1. ใหน้ ักศกึ ษาแบง่ กล่มุ ออกเป็น 3 กลมุ่ ศึกษาเนือ้ หาเรอ่ื งท่ี 2.1 - 2.3 แล้วสง่ ตวั แทน ออกมาสรปุ สาระสาคัญเร่ือง 2. ใหน้ กั ศึกษาอธบิ ายและตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 2.1 จงอธิบายความหมายของคาวา่ “การตลาด” (Marketing) ........................................................................................................................ ...................................................................................................................... 2.2 ตลาดทาให้เกิดงานอาชีพใหม่ ๆ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... 2.3 Marketing Mix มอี งคป์ ระกอบอะไรบ้าง. ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... 2.4 Promotion Mix ประกอบไปดว้ ยเคร่อื งมอื กช่ี นดิ อะไรบ้าง ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... 3. ใหเ้ ขียนคาศพั ท์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การตลาด เปน็ ภาษาอังกฤษและภาษาเขมรมา 5 คา 3.1 สินคา้ 3.2 การตลาด 3.3 ราคา 3.4 การจัดจาหน่าย 3.5 ผลติ ภัณฑ์

ชดุ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง เรอื่ ง การส่ือสารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า 36 แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยที่ 2 คาช้แี จง: จงอา่ นคาถามตอ่ ไปน้ี และเลือกคาตอบที่ถกู ที่สุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. ธรุ กิจท่ีมใี ห้เกดิ การนาสินค้าหรือบรกิ ารจาก 5. ขอ้ ใดคอื องค์ประกอบของส่วนประสม ผู้ผลติ ไปสู่ผบู้ รโิ ภค หมายถึงข้อใด ทางการตลาด ก. การตลาด ก. ราคา ข. การบรโิ ภค ข. ผลติ ภัณฑ์ ค. การขนสง่ ค. การจัดจาหนา่ ย ง. พอ่ ค้าคนกลาง ง. ถูกทกุ ขอ้ 2. ประชากรมีรายไดส้ ูงขึ้นมกี ารซอื้ สินค้ามากข้ึน 6. สนิ ค้าท่ีสามารถตอบสนองความตอ้ งการของ จะมผี ลดีตอ่ ระบบใดในตลาด ตลาดได้เราเรยี กว่า ก. ระบบค้าสง่ ก. สนิ ค้านาเขา้ ข. ระบบนายทนุ ข. สินคา้ ส่งออก ค. ระบบเศรษฐกิจ ค. เคมีภณั ฑ์ ง. ระบบสินเชอื่ ง. ผลติ ภัณฑ์ 3. การกาหนดตลาดเปา้ หมายและการ กาหนด 7. ข้อใดเปน็ การส่งเสริมทางการตลาด ก. การโฆษณา สว่ นประสมการตลาด หมายถึงข้อใด ข. การกาหนดราคา ก. การโฆษณา ค. การกาหนดผู้ซอ้ื ข. การส่งเสริมการขาย ง. การกาหนดสินคา้ ค. กาหนดพันธกจิ 8. Marketing คอื ขอ้ ใด ง. กลยุทธก์ ารตลาด ก. การตลาด 4. การกาหนดตลาดเป้าหมายข้อใดถกู ต้อง ข. การซื้อ ก. การกาหนดสินคา้ ค. การขาย ข. การกาหนดทาเลขาย ง. การจาหน่าย ค. การกาหนดราคาขาย ง. การกาหนดกลมุ่ ลกู คา้

37 ชดุ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง เร่อื ง การสอ่ื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พูชา 9. การ ซแวง ยว็ ล ปี ตี พซา คือข้อใด 10. กา พซอ็ บ พซายป็วงรกี ตี พซา ก. การสง่ เสริมการขาย ก. การขายผา่ นสื่อ ข. การจาหนา่ ย ข. การบริการ ค. การกาหนดเปา้ หมาย ค. กลยุทธก์ ารตลาด ง. การตลาด ง. การส่งเสริมทางการตลาด

ชดุ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง เร่ือง การส่อื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พูชา 38 เฉลย - แบบทดสอบก่อนเรียน -หลงั เรยี น และกจิ กรรมหนว่ ย ที่ 2 1. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. ง 2. ก 3. ก 4. ค 5. ก 6. ค 7. ง 8. ง 9. ง 10. ง 2. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ก 2. ค 3. ง 4. ง 5. ง 6. ง 7.ก 8.ค 9. ง 10. ง 3. แนวตอบกิจกรรมหน่วยที่ 2 ขอ้ 1. ไม่มีแนวตอบในกิจกรรม ข้อ 2. ตอบ 2.1 การกระทากิจกรรมต่าง ๆ ในธรุ กจิ ท่ีมีใหเ้ กิดการนาสนิ ค้าหรอื บริการจาก ผู้ผลิตไปสผู่ ้บู รโิ ภคหรือผใู้ ชบ้ ริการ 2.2 งานโฆษณา งานประกันชวี ิต งานวิจยั 2.3 1) ผลติ ภัณฑ์ 3) การสง่ เสริมทางการตลาด 2) ราคา 4) การจัดจาหนา่ ย 2.4 5 ชนิด คือ 1) การโฆษณา 2) การสง่ เสริมการขาย 3) การให้ข่าวและประชาสัมพันธ์ 4) การขายโดยพนักงานขาย 5) การตลาดทางตรงและการตลาดเชือ่ มตรง ข้อ 3. ตอบ 3.1) สินค้า (Product) ตุม นญิ 3.2) การตลาด (Marketing) การ ซแวง ยว็ ล ปตี ี พซา 3.3) ราคา (Price) ต็อมไล 3.4) การจดั จาหน่าย (Place) กา แจก จาย 3.5) ผลติ ภณั ฑ์ (Product) พเลิต ตะพอ็ ล

หน่วยท่ี 3 ผลิตภณั ฑ์สนิ ค้าและชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย

ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสอ่ื สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พูชา 40 3ผลติ ภผณัลติฑภ์สณั ินฑค้า์สแินลคะ้าชแอ่ ลงะทชา่องงกทารางจกดั าจราจหดั นจ่าำ� ยหน่ายหนว่ ยที่ 3หน่วยที่ แนวคดิ การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา มีผลติ ภัณฑ์สินค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งสินค้าใหม่และ สินค้ามือสอง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพหลายระดับราคาข้ึนอยู่กับความต้องการของลูกค้า สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี พื้นท่ีค้าขายนั้นมีความ เหมาะสม ฉะนั้นผู้ประกอบธุรกิจการค้าจะต้องศึกษาถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์สินค้า และ ช่องทางการจัดจาหน่ายสินค้า เพื่อเพ่ิมความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการด้าน การค้า จุดประสงค์ เพื่อใหน้ กั ศึกษาสามารถ 1. อธบิ ายความหมายผลติ ภณั ฑ์สนิ ค้าได้ 2. อธิบายการจัดจาหน่ายและช่องทางการจัดจาหนา่ ยได้ 3. อธิบายคาศัพทท์ เ่ี กี่ยวข้องกับผลิตภัณฑแ์ ละชอ่ งทางการจดั จาหน่ายเปน็ ภาษาองั กฤษและภาษาเขมรได้ ขอบข่ายเนอื้ หา เรื่องท่ี 3.1 ผลติ ภัณฑ์สินค้า เร่ืองที่ 3.2 การจดั จาหนา่ ยและช่องทางการจัดจาหนา่ ย เรื่องท่ี 3.3 คาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกับผลิตภัณฑ์และชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย

41 ชุดการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า กิจกรรมการเรยี นรปู้ ระจาหน่วย 1. ศึกษาเอกสารเนื้อหา เรอื่ งที่ 3.1 – 3.3 ด้วยตนเอง 2. ศึกษาคาศัพทแ์ ละการออกเสยี งภาษาเขมร จากสื่อวีดทิ ัศน์ ในเรอื่ งท่ี 3.3 ประกอบ 3. ปฏิบตั ิกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายตามเอกสารชดุ การเรยี นแตล่ ะหนว่ ยการเรียน ส่อื การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียน 2. สือ่ วีดิทัศน์ประกอบชดุ การเรียน 3. กิจกรรมท่ี 3 4. รปู ภาพ การประเมินผล 1. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. ทากิจกรรมท้ายหน่วยท่ี 3 3. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน เม่ืออ่าน แนวคิด วัตถุประสงค์ ขอบข่ายเน้ือหา หน่วยท่ี 3 ให้ทา แบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเอกสารชุดการเรียน และส่ือวีดิทัศน์คาศัพท์ ภาษาเขมรในเร่ืองที่ 3.3 พร้อมปฏิบัติตามคาแนะนาอย่างต่อเน่ือง และ เม่ือศึกษาจบหน่วยการเรียนแล้วให้ทากิจกรรมในหน่วยท่ี 3 และ แบบทดสอบหลังเรียน

ชุดการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง เร่อื ง การส่อื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กัมพชู า 42 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 3 คาชี้แจง: จงอา่ นคาถามตอ่ ไปน้ี และเลือกคาตอบที่ถกู ทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดยี ว 1. ผลติ ภัณฑ์ หมายถงึ ขอ้ ใด 5. ขอ้ ใดไม่ใชผ่ ลติ ภัณฑ์บรโิ ภค ก. สนิ คา้ ท่ีผลิตขนึ้ ก. รถยนต์ ข. สนิ ค้าทส่ี ามารถจาหน่ายได้ ข. กระเปา๋ ค. ส่งิ ทน่ี กั การตลาดนาเสนอและเป็น ค. ประกนั ชวี ติ สงิ่ ทตี่ ้องการของตลาดได้ ง. ขา้ ว ง. สนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภค 6. การจดั จาหนา่ ย คือข้อใด 2. ผลติ ภณั ฑห์ ลกั คอื ขอ้ ใด ก. การยา้ ยสนิ คา้ จากผูผ้ ลิตไปตลาดเป้าหมาย ก. Core Product ข. การขนยา้ ยสนิ ค้า ข. Product Benefit ค. การขายสินคา้ ถึงผซู้ ้อื โดยตรง ค. Product Feature ง. การขายสนิ คา้ โดยไมผ่ ่านชอ่ งทางใด ง. Product Attribute 7. ชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ยสนิ คา้ มกี ี่ชอ่ งทาง 3. ผลประโยชนข์ องผลติ ภัณฑ์สามารถแบง่ ออกเป็นกี่ ก. 1 ชอ่ งทาง ประเภท ข. 2 ช่องทาง ก. 3 ประเภท ค. 3 ช่องทาง ข. 4 ประเภท ง. 4 ชอ่ งทาง ค. 5 ประเภท 8. ช่องทางการจัดจาหน่าย ภาษาเขมรอา่ นว่า ง. 6 ประเภท ก. อะเตะเทะจ็วน 4. ประเภทของผลติ ภัณฑ์สว่ นใหญแ่ บง่ ออกเป็นกี่ ข. ชมวย กนั ดาล ประเภท ค. มัช เชี๊ยะโยบาย การ แจก จาย ก. 1 ประเภท ง. กรม ฮนุ พเลติ ข. 2 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท

43 ชดุ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การสอื่ สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า 9. คเลียง สตอ็ ก ตมุ นิญ หมายถึง 10. การชาระเงนิ ภาษาเขมร หมายถงึ ก. คลังสนิ คา้ ก. การ จอ็ มนาย ประ๊ ข. บรรจุภัณฑ์ ข. เคลยี ง สตอ็ ก ตมุ นญิ ค. ธนาคาร ค. การ เดิก จนจนู ตุมนิญ ง. บริษทั ขนสง่ ง. การ เร๊ียะซา ตมุ นญิ

ชุดการเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรอื่ ง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กัมพูชา 44 เรอ่ื งท่ี 3.1 ผลติ ภณั ฑ์สินค้า ผลิตภัณฑ์ (Product) หมายถงึ ทุกสิ่งที่นักการตลาดนามาเสนอกับตลาดเพ่ือเรยี กร้อง ความสนใจเพ่ือการได้กรรมสิทธ์ิ หรือเพ่ือการอุปโภคบริโภค ซ่ึงสามารถตอบสนองความ ของการของตลาดได้ องค์ประกอบผลิตภัณฑ์ (Product Component) หรือส่ิงท่ีต้องพิจารณาตัวผลิตภัณฑ์ เป็นการพิจารณาถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ท่ีนักการตลาดต้องนามากาหนดลักษณะ ผลิตภณั ฑ์ ในการตอบสนองความต้องการของตลาด โดยสามารถแบ่งได้ ดงั น้ี 1. ผลติ ภัณฑ์หลกั (Core Product) บรษิ ทั ตอ้ งมีความรู้วา่ อะไรเป็นส่งิ ทตี่ อบสนองความต้องการ ของบริโภคได้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทต้องมีความชัดเจนว่าเป็น สบู่บารุงผิว กาแฟทรีอินวัน น้ายาล้าง จาน รถยนต์ขนาดเล็กเพื่อใช้ในเมือง รถยนต์ขนาดกลางสาหรับครอบครัวฯลฯ ผลิตภัณฑ์ที่ขายเป็น สนิ คา้ บริการบคุ คล สถานท่หี รือแนวความคดิ ตอ้ งกาหนดลงไปใหแ้ นช่ ดั 2. คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ (Product Attribute) เราต้องทราบว่า ผลิตภัณฑ์น้ันผลิต มาจากอะไร มีคุณสมบัติอย่างไร ลักษณะทางกายภาพ ขนาด จุดเด่น ความงาม ความ คงทน ดา้ นรูปร่าง รปู แบบของผลิตภณั ฑ์ทีม่ ีอยู่ในตัวของมนั เอง 3. จดุ เด่นของผลิตภัณฑ์ (Product Feature) เราต้องรู้ว่าสินคา้ ของเรามอี ะไรเด่นเปน็ พิเศษกวา่ สนิ คา้ อนื่ เพ่อื ดงึ ดูดลกู ค้าให้ใช้สนิ คา้ ของเรา เชน่ แปง้ เดก็ จอหน์ สัน มีส่วนประกอบ ที่สามารถปอ้ งกันผดผืน่ ได้ถึง 2 เท่า ไสก้ รอกเรซิน ช่วยลดความกระด้างของนา้ ฯลฯ 4. ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (Product Benefit) ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะ สับสนระหว่างจุดเด่นผลิตภัณฑ์และผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ ซ่ึงจะแตกต่างกัน จุดเด่นผลิตภัณฑ์ คือ ส่ิงท่ีอยู่ในตัวสินค้า ส่วนส่ิงท่ีเป็นผลประโยชน์แก่ลูกค้าที่เกิดขึ้นใน ความรู้สึกของลูกค้า เรียกว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ ตัวอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์ ออร์แกนิกส์ คอนเซนเทรท จุดเด่น คือ มีท่อต่อน้ายาพิเศษเพื่อน้ายาจะตรงผ่านหนังศีรษะ และซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้อย่างสะดวกและทั่วถึง ส่วนประโยชน์ที่ได้รับ คือ ทาความ สะอาดผมและหนังศีรษะทาใหร้ ากผมแข็งแรง ฯลฯ

45 ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสือ่ สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า ผลประโยชนข์ องผลิตภณั ฑส์ ามารถแบ่งออกเปน็ 3 ประเภท คอื 4.1 ผลประโยชน์ ท่ี ผลิตภัณฑ์ พึ งมี (Defensive Benefit) หรือผลิตภัณ ฑ์ หลัก (Core Product) หมายถึง ประโยชน์หลัก หรือประโยชน์พ้ืนฐานที่ผู้ซื้อจะได้รับจากสินค้าแต่ ละชนิด ซึง่ เป็นปัจจยั หลักที่ผู้ซ้อื ใช้ในการพิจารณาตดั สินใจซื้อ เช่น ลิปสติกนอกจากจะมีสี สวยแล้วต้องสร้างความหวัง (สวย) ให้แก่ผู้ซ้ือด้วย นาฬิกาต้องบอกเวลาที่เที่ยงตรง รถยนต์ ตอ้ งเป็นพาหนะในการเดนิ ทางซึ่งมีความปลอดภัยและความสะดวกสบายตามสมควรสบตู่ ้อง สามารถทาความสะอาดใหร้ า่ งกายได้ 4.2 ผลประโยชน์พิเศษ (Extra Benefit) ท่ีทาให้เหนือกว่าคู่แข่งขันเพื่อทาให้ชนะคู่ แขง่ ขนั เชน่ สว่ นผสม (Raw Design) สี(Color) การหีบห่อ (Packaging) ตรา (Brand) รส (Taste) กล่นิ (Smell) และอุปกรณเ์ พมิ่ เตมิ (Accessories) เปน็ ตน้ 4.3 ผลประโยชน์เสริม (Fringe Benefit) ที่ทาให้สินค้าแตกต่างไปจากคู่แข่งขันหรือ หมายถึง ประโยชน์เพ่ิมเติมที่ผู้ซ้ือได้รับนอกเหนือจากสินค้าปกติ เช่น การบริการหลังการขาย (After Sales Service) การรับประกันความเสียหาย (Guarantees) การซ่อม (Repairs) การ ขนส่ง (Delivery) การให้สินเชื่อ (Credit) การมีอะไหล่ (Spare Parts) การซอื้ คืน (Trade – In) ชื่อเสียงและคุณธรรมของบริษัท (Corporate Image and Ethics) และการมีตราสินค้าที่มี ชือ่ เสียง(Well–know Brand Name) ตัวอย่าง ผลิตภัณฑป์ ระเภท ต่าง ๆ

ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การส่ือสารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 46 ประเภทของผลิตภัณฑ์ จัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ ผลิตภัณฑ์บริโภค และผลิตภัณฑ์ อตุ สาหกรรม 1. ผลิตภณั ฑ์บริโภค (Consumer Product) หมายถึง ผลิตภัณฑ์ (สินค้าหรือบริการ) ที่ ซ้ือมาโดยผู้บริโภคในข้ันสุดท้าย มีวัตถุประสงค์ในการซ้ือไปใช้เพื่อบริโภคโดยส่วนตัวหรือ ซอื้ มาเพ่ือบรโิ ภคในหน่วยของครัวเรอื น เปน็ ต้น 2. ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Industrial Product) หมายถึง สินค้าหรือบริการท่ีบุคคล หรือองค์กรธุรกิจซื้อไปเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต แปรรูป หรือใช้ในการประกอบธุรกิจ ซง่ึ ผู้ซอ้ื ส่วนใหญ่จะเป็นผ้ใู ช้ทางอตุ สาหกรรม ผลติ ภัณฑเ์ พ่ือการบริโภค (Consumer Product) 1. ผลิตภัณฑ์สะดวกซ้ือ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้องการซื้อบ่อยคร้ัง เช่น ผงซักฟอก สบู่ นา้ ยาลา้ งจาน ยาสีฟนั แชมพูสระผม เปน็ ต้น ตัวอยา่ ง ผลติ ภณั ฑ์เพอ่ื บริโภค 2. ผลิตภัณฑ์เลอื กซอ้ื หมายถงึ ผลติ ภณั ฑ์ที่ผ้บู ริโภคต้องมกี ารเปรียบเทียบคณุ สมบตั ิ ต่าง ๆ กอ่ นการตัดสินใจซอ้ื เชน่ เสอื้ ผา้ กระเปา๋ รองเท้า เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ เป็นตน้ 3. ผลิตภัณฑ์เจาะจงซ้ือหมายถึง สินค้าหรือบริการท่ีมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ฉพาะตัวเน้น ชื่อเสียง ตราย่ีห้อ เช่น เครื่องประดับ เคร่ืองแต่งกายท่ีเน้นตรายี่ห้อ อาหารเสริมสุขภาพ เคร่ือง บนั ทึกเสียงที่เน้นตรายหี่ อ้ เปน็ ต้น

47 ชดุ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เร่อื ง การส่ือสารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า ตัวอย่าง ผลติ ภณั ฑ์เจาะจงซื้อ 4. ผลิตภัณฑ์ไม่แสวงซอ้ื หมายถงึ สินค้าหรอื บริการทผี่ ู้บรโิ ภคอาจจะรหู้ รอื ไมร่ ้จู กั ก็ ได้ เช่น ประกันภยั ประกันชวี ติ ผลิตภณั ฑเ์ พื่อการอตุ สาหกรรม 1. วัตถุดิบ หมายถงึ สนิ คา้ ท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการทาเกษตรกรรม 2. วัสดุและชิ้นส่วน หมายถึง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมท่ีเป็นช้ินส่วนสาหรับ ผลติ ภัณฑส์ าเรจ็ รปู วสั ดปุ ระกอบจะกลายเปน็ ส่วนหน่ึงของผลิตภัณฑ์ 3. สิ่งติดต้ัง หมายถึง สินค้าประเภททุน มีความสาคัญในกระบวนการผลิตมีอายุการ ใชง้ านนานมลู ค่าสูง เชน่ เคร่อื งจกั ร อาคาร ฯลฯ 4. อุปกรณ์ประกอบ หมายถึง เคร่ืองมือท่ีใช้ในการประกอบการดาเนินการผลิต โดย ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั กระบวนการผลติ 5. วัสดุส้ินเปลือง หมายถึง สินค้าท่ีใช้ในการดาเนินงานซ่ึงมีอายุการใช้งานสั้น มูลคา่ ต่า ผ้ซู อ้ื ใช้ความพยายามในการซอื้ น้อย 6. บริการ หมายถงึ ธรุ กจิ ท่ีสรา้ งความสะดวกสบายไมม่ ีตวั ตนไม่สามารถจบั ตอ้ งได้ ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การส่อื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 48 เรอ่ื งท่ี 3.2 การจัดจาหน่ายและชอ่ งทางการจัดจาหน่าย การจัดจาหนา่ ย การจัดจาหน่าย (Distribution) หมายถึง การเคลื่อนย้ายสินค้าท่ีเป็นการเคลื่อนย้าย ทางกายภาพและการเคล่ือนย้ายกรรมสิทธใ์ิ นสินค้าจากผู้ผลิตหรือผขู้ าย ไปยงั ตลาดเปา้ หมาย ดว้ ยชอ่ งทางสถาบันทางการตลาด ทเ่ี หมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ การจัดจาหน่ายประกอบดว้ ย 1. คนกลาง (Middleman) - พ่อค้าคนกลาง (Merchant Middlemen) - ตัวแทนคนกลาง (Agent Middlemen) 2. ธุรกจิ ทีท่ าหนา้ ท่ีกระจายสินคา้ 3. ธรุ กจิ ทใ่ี ห้บริการทางการตลาด 4. สถาบนั การเงนิ ความหมายของช่องทางการจัดจาหนา่ ย ช่องทางการจัดจาหน่าย (Channel of Distribution) หมายถึง กระบวนการในการ จัดการเกี่ยวกับการเคล่ือนย้ายสิทธิในตัวผลิตภัณฑ์ (และอาจรวมถึงตัวผลิตภัณฑ์) จากผู้ผลิต ไปจนถึงผบู้ รโิ ภค จานวนระดับของชอ่ งทางการจัดจาหน่าย จานวนระดับชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย หมายถึง จานวนระดบั คนกลางภายในเส้นทางทีผ่ ลติ ภณั ฑ์ และหรอื กรรมสทิ ธใิ์ นผลติ ภณั ฑ์เคลื่อนย้ายจากผผู้ ลติ ไปยังตลาดมีดว้ ยกนั 2 ประเภท คอื 1. ช่องทางการจดั จาหน่ายทางตรง ช่องทางการจัดจาหนา่ ยทางตรง หมายถึง การขาย ผลติ ภณั ฑ์จากผู้ผลติ ไปยงั ผบู้ ริโภค หรือผ้ใู ช้ทางอุตสาหกรรมโดยไมม่ คี นกลาง หรือ ช่องทางศูนย์ระดบั ผู้ผลติ > ผ้บู ริโภค ผผู้ ลติ > ผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม

49 ชดุ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เร่ือง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 2. ชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ยทางออ้ ม ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยทางออ้ ม หมายถึงเส้นทางที่สนิ คา้ เคลอื่ นย้ายจากผู้ผลติ โดยตอ้ ง ผา่ นคนกลางไปยงั ผู้บรโิ ภค ช่องทางการจดั จาหน่ายหนึง่ ระดับ ผผู้ ลิต > ผู้คา้ ปลีก > ผู้บรโิ ภค ช่องทางการจัดจาหนา่ ยสองระดับ ผู้ผลิต > ผคู้ า้ ส่ง > ผูค้ า้ ปลีก > ผู้บริโภค ชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ยสามระดบั ผผู้ ลิต > ตัวแทน > ผู้คา้ ส่ง > ผู้ค้าปลีก > ผู้บริโภค ปัจจยั ทม่ี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การกาหนดระดบั ของช่องทางการจดั จาหนา่ ย 1. การพจิ ารณาดา้ นตัวผลิตภณั ฑ์ (Product Considerations) 2. การพิจารณาดา้ นตลาด (Market Considerations) 3. การพจิ ารณาดา้ นคแู่ ข่งขนั (Competition Considerations) 4. พจิ ารณาคนกลาง (Middlemen Considerations) 5. การพิจารณาทางดา้ นบริษัท (Company Considerations)

ชุดการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า 50 เรอ่ื งท่ี 3.3 คาศัพท์ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการจดั จาหนา่ ย และชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย คาชี้แจง เมือ่ ผู้เรยี นศกึ ษาคาศัพท์เรื่องดังกลา่ วแล้ว ให้การฝึกออกเสียงภาษาเขมรจากส่ือ วดี ิทัศน์ประกอบชดุ การเรียน ท่ีถกู ต้องประกอบไปด้วย ผู้ผลิต ក្រុមហុ៊នផលិត (Manufacturer) กรม ฮุนพเลิต คนกลาง ឈ្យមួ រណ្ាដល (Middleman) ชมวย กนั ดาล ชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย មជ្យោបាយការចែរចាយ (Marketing Channels) มัชเช๊ยี ะโยบาย การ แจกจาย คนกลางในรูปแบบรา้ นคา้ ឈ្មួញរណ្ាដលរុងន រូបភាពហាងលរ់ដូរ (Merchants) ชมวย กนั ดาล กนง รปู เพียบ ฮาง ลว็ กดู คนกลางในรปู แบบตัวแทน ឈ្ួមញរណ្ាដលរនុងរូបភាពតណា ្ដង (Agents) ชมวย กนั ดาล กนง รูปเพยี บ ดอ็ มนาง คลังสินค้า ឃ្ល ាងស្ុរត ទនា ញិ (Warehouse) คเลยี ง สต็อก ตมุ นิญ บรษิ ทั ขนส่ง ក្រុមហុ៊នដឹរយញ្ជូន (Transportation Company) กรมฮนุ เด๊ิก จนจูน

51 ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า การจาหนา่ ย ការលរដ់ ូរ (Selling) การ ลว็ กโด ซือ้ สินคา้ ការទិញទនា ិញ (Buying) การ ตญิ ตมุ นญิ แหล่งเงนิ ทนุ ក្បភពជ្ដមើ ទ៊នុ (Investment Source) ปรอพ บเดมี ตนุ การเก็บรักษาสินคา้ ការររាទានញិ (Goods Keeping) การเรย๊ี ะ ซาตมุ นิญ การเคลอื่ นย้ายสนิ คา้ ការដឹរយញ្នូជ ទនា ញិ (Goods Delivery) การ เดกิ จน จูนตมุ นญิ การชาระเงนิ ការែាណ្ដយក្បារ់ (Payment) การ จ็อม นายปร๊ะ ขนาดการซอ้ื ែាននួ ចដលទិញ (Lot Size) จ็อม นวน แดลติญ ความสะดวกในการหาซ้อื ការក្ស្ួលទិញ (Special Convenience) การ ซรวล ตึญ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ការមានជ្ក្ែើនចបបយា៉ ង (Product Variety) การ เมยี น เจรนิ แบบ ยาง

ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เร่ือง การส่ือสารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 52 บริการ ជ្ស្វារមម (Service Backup) เซวา กมั สี ពណ៌ (Color) ปวั การหบี ห่อ ការវែិ ខ្បច ់ (Packaging) การ วจึ ขจ็อบ ตรา យជី ្ហា (Brand) ยี ฮอ การบริการหลังการขาย ជ្ស្វារមជម ្ក្កាយទិញ (After Sales Service) เซวา กมั กรอย ตึญ การรบั ประกันความเสียหาย ការធានាគណុ៊ ភាព (Guarantees) การ เทยี เนีย กุน นะ เพียบ การซอ่ ม ការយួស្យ៊លុ (Repairs) การจ๊วั จลุ การขนส่ง ការដឹរយញ្នូជ (Delivery) การ เดกิ จว็ น จูน การใหส้ ินเช่อื ការផាល់ឥណទាន (Credit) การ พดอ็ ล อินนะเตียน

53 ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรอื่ ง การสอ่ื สารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กัมพชู า การมอี ะไหล่ ការមានជ្ក្គឿងបនាល ស្់ (Spare Parts) การ เมียน กเรือง บนละ๊ การซือ้ คืน ការទិញឡបវ់ ិញ (Trade – In) การ ตึญ ล็อบวึญ ช่ือเสยี งและคุณธรรมของบรษิ ทั ជ្្ម ោះលបីរបស្ក់ ្រមុ ហ៊ុន (Corporate Image and Ethics) ชมั๊วล แบ็ย กรมฮุน การมตี ราสินค้าท่มี ชี ือ่ เสียง ជ្្ម ោះលបីរបស្់យជី្ហា (Well – know Brand Name) ชม๊วั ลแบ็ ยยฮี อ

ชดุ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง เรอ่ื ง การส่อื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กัมพชู า 54 กิจกรรมหน่วย ที่ 3 1. แบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม ให้ศึกษาเนื้อหาเร่ืองที่ 3.1 – 3.2 กลุ่มละ1 เร่ืองแล้วส่ง ตวั แทนออกมาสรุป 2. จงอธบิ ายความหมายต่อไปน้ี 2.1 ผลติ ภัณฑ์หมายถงึ ………………………………………………………………………..………… ……………………………………………………………................................. 2.2 ลักษณะของผลิตภณั ฑ์แบ่งเป็นกป่ี ระเภท .…………………………..……………………………………………………… ………………………………………………………………............................... 2.3 ผลประโยชนข์ องผลิตภัณฑ์ แบง่ ออกเป็น 3 ประเภทคอื …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………................................ 2.4 ลักษณะเดน่ ของการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………................................ 2.5 การจดั จาหน่ายหมายถงึ ………………………………………………………………………..…………. …………………………………………………………….................................... 2.6 จงเขยี นผงั โครงสร้างชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทางตรง ................................................................................................................................ ................................................................................................................................

55 ชุดการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เร่อื ง การสอื่ สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา 3. จงเขยี นคาศัพทท์ ่เี กีย่ วข้องกับผลติ ภณั ฑเ์ ป็นภาษาเขมรมา 5 คา 3.1 คนกลาง (Intermediaries)………………………………………………….. 3.2 ช่องทางการจดั จาหน่าย (Marketing Channels )………………...................... 3.3 คนกลางในรปู แบบร้านค้า (Merchants) ………………………...................... 3.4 คนกลางในรปู แบบตัวแทน (Agents)............................................................... 3.5 คนกลางในรูปแบบสิ่งอานวยความสะดวก (Facilitators) ............................... 4. จงเขยี นคาศัพท์การจดั จาหนา่ ยโดยตรงเปน็ ภาษาองั กฤษ 4 คา 4.1 การขายตรง ……………………………………………………….................. 4.2 การใช้วธิ ีสง่ จดหมายตรง …………………………………………………… 4.3 การขายทางโทรศพั ท์ ....................................................................................... 4.4 การขายผา่ นสือ่ …………………………………........................................... 5. จงเขียนคาศพั ท์ลกั ษณะของผลิตภัณฑเ์ ป็นภาษาอังกฤษและภาษาเขมรมา 5 คา 5.1 สี……………………………………………………………………………... 5.2 การหบี หอ่ …………………………………………………………………… 5.3 ตรา…………………………………………………………………………… 5.4 รส……………………………………………………………………………. 5.5 กลนิ่ ………………………………………………………………………….

ชุดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การส่อื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 56 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยที่ 3 คาคาชแ้ี จง: จงอา่ นคาถามตอ่ ไปนี้ และเลอื กคาตอบท่ถี กู ทส่ี ุดเพียงคาตอบเดยี ว 1. ส่งิ ทน่ี ักการตลาดนาเสนอและเป็น ส่ิงที่ 5. ประกนั ชีวิตเป็นผลิตภัณฑป์ ระเภทใด ตอ้ งการของตลาดได้ หมายถึงขอ้ ใด ก. ผลิตภัณฑ์เพอ่ื การบริโภค ก. สนิ ค้าทีผ่ ลติ ขน้ึ ข. ผลิตภัณฑอ์ ุตสาหกรรม ข. สินคา้ ทีส่ ามารถจาหนา่ ยได้ ค. ผลิตภัณฑ์หลัก ค. สินค้าอปุ โภคบริโภค ง. ผลติ ภัณฑ์รอง ง. ผลิตภณั ฑ์ 6. การย้ายสนิ คา้ จากผผู้ ลิตไปตลาด 2. Core Product คอื ขอ้ ใด เปา้ หมาย หมายถึงขอ้ ใด ก. คุณสมบตั ิของผลิตภัณฑ์ ก. การจัดจาหน่าย ข. ผลติ ภณั ฑ์รอง ข. การขายสนิ ค้าถึงผ้ซู อ้ื โดยตรง ค. จุดเดน่ ของผลติ ภณั ฑ์ ค. การขนยา้ ยสินคา้ ง. ผลติ ภณั ฑห์ ลัก ง. การขายสินคา้ โดยไมผ่ ่านช่องทางใด 3. ขอ้ ใดคือผลประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ 7. ขอ้ ใดคอื ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยทางตรง ก. ผลประโยชนเ์ หมือนคแู่ ขง่ ขนั ก. ผผู้ ลิต > ผคู้ ้าส่ง > ผบู้ รโิ ภค ข. ผลประโยชน์ดอ้ ยกว่าคู่แขง่ ขนั ข. ผผู้ ลิต > ผูค้ ้าปลีก > ผูบ้ รโิ ภค ค. ผลประโยชน์รวม ค. ผผู้ ลิต > ผ้คู า้ ปลกี > ผคู้ ้าสง่ ง. ผลประโยชน์เสรมิ ง. ผูผ้ ลติ > ผู้บริโภค 4. ขอ้ ใดคอื ประเภทของผลติ ภณั ฑ์ 8. มชั เช๊ยี ะโยบาย การ แจก จาย คือข้อใด ก. ผลติ ภัณฑห์ ลกั ก. การจดั จาหน่ายทางอ้อม ข. ผลติ ภัณฑ์รอง ข. การจัดจาหน่ายทางตรง ค. ผลติ ภณั ฑบ์ รโิ ภค ค. ชอ่ งทางการผลิต ง. ผลิตภัณฑ์สินคา้ ง. ช่องทางการจัดจาหน่าย

57 ชดุ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง เรอ่ื ง การสือ่ สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 9. คลงั สนิ คา้ หมายถึง 10. การ จอ็ มนาย ปร๊ะ คือข้อใด ก. กรมฮนุ เด๊ิก จนจนู ก. การเดล่อื นยา้ ยสนิ คา้ ข. คเลียง สตอ็ ก ตมุ นิญ ข. ขนาดการซ้อื ค. การ ล็วก โด ค. การชาระเงิน ง. กรมฮนุ เด๊ิก จน จูน ง. แหล่งเงินทุน

ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า 58 เฉลย - แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรยี น และกิจกรรม หน่วยท่ี 3 1.เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ค 2. ก 3. ก 4. ข 5. ก 6. ก 7. ข 8. ค 9. ก 10. ก 2. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ง 2. ง 3. ง 4. ค 5. ก 6. ก 7. ง 8. ง 9. ข 10. ค 3. แนวตอบกจิ กรรม หนว่ ยที่ 3 ข้อ 2 ตอบ 2.1 ตอบ ทกุ สิ่งทน่ี ักการตลาดนามาเสนอกับตลาด เพอื่ เรียกร้องความสนใจเพอ่ื การได้กรรมสิทธ์ิ 2.2 ตอบ มี 4 ประเภท คอื 1. ผลิตภณั ฑ์หลกั 2. ผลประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากผลติ ภัณฑ์ 3. จดุ เด่นของผลิตภัณฑ์ 4. คุณสมบตั ิผลติ ภัณฑ์ 2.3 ตอบ มี 3 ประเภท 1. ผลประโยชนท์ ่ผี ลิตภณั ฑ์พงึ มี 2. ผลประโยชน์พเิ ศษ 3. ผลประโยชน์เสรมิ 2.4 ตอบ มี 3 ลกั ษณะ 1. คณุ ภาพผลิตภณั ฑ์ 2. รูปลักษณ์ของผลิตภณั ฑ์ 3. การออกแบบผลิตภณั ฑ์ 2.5 ตอบ การซื้อและการขายสินค้า 2.6 ตอบ ผู้ผลิต > ผบู้ รโิ ภค และ ผู้ผลิต > ผู้ใชท้ างอตุ สาหกรรม

59 ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การส่อื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ข้อ 3. ตอบ 3.1 คนกลาง (Intermediaries) ...... ชมวย กนั ดาล 3.2 ช่องทางการจัดจาหน่าย (Marketing Channels )...มชั เชย๊ี ะโยบาย การ แจก จาย 3.3 คนกลางในรูปแบบร้านคา้ (Merchants)ชมวยกันดาลกนงรปู เพยี บฮางล็วกดู 3.4 คนกลางในรูปแบบตัวแทน (Agents)…ชมวย กันดาล กนง รูป เพียบ ด็อม นาง 3.5 คนกลางในรูปแบบส่ิงอานวยความสะดวก (Facilitators). .ชมวย กนั ดาล กนง รูป เพยี บ ซ็อมรอบ ซ็อมรวล ขอ้ 4. ตอบ 4.1 การขายตรง (Direct Sales) 4.2 การใช้วธิ สี ง่ จดหมายตรง (Mail Order) 4.3 การขายทางโทรศพั ท์ (Telemarketing) 4.4 การขายผ่านส่อื (Media Selling) ข้อ 5. ตอบ 5.1 ส…ี ปัว 5.2 การหีบหอ่ …. การ วึจขจอ็ บ 5.3 ตรา….. ยี ฮอ 5.4 รส….. รวั๊ เจียต 5.5 กลนิ่ … กเลิน

หนว่ ยที่ 4 ธรุ กจิ การค้าชายแดน

61 ชดุ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พูชา 4หน่วยที่ หนว่ ยที่ 4 ธุรกจิ การค้าชายแดน ธรุ กิจการค้าชายแดน แนวคิด ในโลกของการแข่งขันบนเส้นทางที่จะประสบความสาเร็จในยุคการค้าเสรี เป็นระบบ ท่ีส่งเสริมเปิดกว้างทางการค้าและการลงทุนให้มีความเสรีมากข้ึน ทาให้ผู้ประกอบธุรกิจค้า ปลีกและค้าส่ง มีโอกาสแข่งขันซ่ึงอยู่ภายใต้กรอบท่ีกาหนดโดยองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) หรือในยุคเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) อีกทั้งความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทาให้ธุรกิจการค้าได้มีส่วนเพ่ิม ความเข้มขน้ ในการแข่งขันและประสิทธิภาพ ให้มีความสะดวกรวดเรว็ ขึน้ จุดประสงค์ เพ่ือให้นักศึกษาสามารถ 1. อธบิ ายความหมายและประเภทการคา้ ปลีกได้ 2. อธิบายความหมายการค้าส่งได้ 3. อธบิ ายและศึกษากลยุทธก์ ารค้าส่งได้ 4. อธิบายศัพทธ์ ุรกิจการคา้ เป็นภาษาอังกฤษและภาษาเขมรได้ ขอบข่ายเนอ้ื หา เรื่องท่ี 4.1 ความหมายและประเภทของธรุ กิจการค้าปลีก เร่อื งที่ 4.2 การศึกษาธรุ กิจการค้าส่ง เรอื่ งที่ 4.3 การศึกษากลยุทธก์ ารคา้ สง่ เรอ่ื งที่ 4.4 คาศัพทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกับธุรกจิ การค้า กจิ กรรมการเรยี นรูป้ ระจาหนว่ ย

ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรอื่ ง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กัมพชู า 62 1. ศกึ ษาเอกสารเน้ือหา เรื่องท่ี 4.1 – 4.4 ด้วยตนเอง 2. ศึกษาคาศัพทแ์ ละการออกเสียงภาษาเขมร จากสอ่ื วดี ิทัศน์ ในเร่อื งท่ี 4.4 ประกอบ 3. ปฏิบตั ิกิจกรรมทไี่ ด้รบั มอบหมายตามเอกสารชดุ การเรียนแต่ละหนว่ ยการเรียน สือ่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี น 2. ส่อื วดี ิทศั น์ประกอบชุดการเรยี น 3. กิจกรรมท่ี 4 4. รปู ภาพ การประเมินผล 1. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 2. ทากิจกรรมทา้ ยหน่วยที่ 4 3. ทาแบบทดสอบหลังเรียน เม่ืออ่าน แนวคิด วัตถุประสงค์ ขอบข่ายเน้ือหา หน่วยท่ี 4 ให้ทา แบบทดสอบ ศึกษาเอกสารชุดการเรียน และสื่อวดี ิทัศน์คาศัพท์ภาษาเขมรใน เรื่องที่ 4.4 พร้อมปฏิบัติตามคาแนะนาอย่างต่อเน่ือง และเม่ือศึกษาจบหน่วย การเรียนแล้วให้ทากิจกรรมท้ายหน่วยในหน่วยที่ 4 และแบบทดสอบ หลงั เรยี น

63 ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กัมพูชา แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ 4 คาชแี้ จง: จงอ่านคาถามตอ่ ไปนี้ และเลือกคาตอบที่ถกู ทีส่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ธรุ กิจการคา้ หมายถึงขอ้ ใด 5. กจิ กรรมทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับการจาหนา่ ยสินค้าและ ก. ธุรกจิ ท่มี ีคนกลางในการซือ้ ขายสินค้า บริการให้แก่ผู้ทซ่ี ือ้ ไปเพื่อขายต่อเราเรยี กว่า ข. ธุรกิจท่ไี มม่ ีคนกลางในการซ้ือขาย ก. การคา้ แผงลอย ค. ธรุ กิจทมี่ ีการซอ้ื ขายสินคา้ โดยตรง ข. การคา้ ปลีก ง. ธรุ กิจนาเขา้ สนิ คา้ ค. การคา้ สง่ 2. ประเภทการคา้ ปลีกมีก่ีประเภท ง. ถกู ทุกขอ้ ก. 7 ประเภท 6. ประเภทผูค้ ้าส่งมี กี่ ประเภท ข. 6 ประเภท ก. 3 ประเภท ค. 5 ประเภท ข. 4 ประเภท ง. 4 ประเภท ค. 5 ประเภท 3. ร้านโชห่วย เปน็ ร้านค้าปลีกประเภทใด ง. 6 ประเภท ก. รา้ นคา้ ปลีกเฉพาะอยา่ ง 6. ข้อใดคอื กลยทุ ธ์การคา้ ส่ง ข. รา้ นคา้ ปลีกขนาดใหญ่ ก. การตดั สินใจด้านตน้ ทุนผลิต ค. ซุปเปอรม์ ารเ์ ก็ต ข. การตัดสนิ ใจด้านตลาดเปา้ หมาย ง. ร้านคา้ ปลกี ขนาดเล็ก ค. การตดั สินใจด้านเวลา 4. Convenience Store คือร้านค้าประเภทใด ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. ร้านคา้ สะดวกซ้อื 7. ขอ้ ใดต่อไปน้ถี กู ตอ้ ง ข. ร้านคา้ ปลกี ขนาดเล็ก ก. ผูค้ า้ ส่งสามารถเลือกกลุม่ เป้าหมาย ค. หา้ งสรรพสนิ ค้า ตนเองได้ ง. ร้านค้าปลกี เฉพาะอย่าง ข. ผคู้ ้าสง่ ไม่สามารถเลือกลกู คา้ ค. ผคู้ า้ สง่ ไมส่ ามารถเลือกทาเลได้ ง. ผู้คา้ สง่ ไม่จาเป็นต้องทาโฆษณา

ชุดการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การส่อื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า 64 8. ข้อใดตรงกบั ธุรกิจค้าปลีก 10. ผ้คู ้าส่ง ภาษาเขมรอา่ นวา่ อะไร ก. Trading Business ก. เนี๊ยะล็วก ดม ข. Wholesale Business ข. เนยี๊ ะลว็ ก เรียย ค. Store Retailing ค. การ ล็วก พต็วล ขลวน ง. Retail Business ง. การ ล็วก เรียย ตาม ซา ปอดา เมียน 9. รา้ นค้าสะดวกซือ้ ภาษาเขมรอ่านวา่ อะไร ก. พซา ทม ข. พซาตมุ เนบี ค. ฮางซะรวลตึญ ง. ฮางลว็ ก เรียยขนาต ทม

65 ชดุ การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสอื่ สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า เรอ่ื งที่ 4.1 ธุรกจิ การค้าและประเภทของรา้ นคา้ ปลกี ธุรกิจการค้า (Trading Business) หมายถึง ธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์ในการซื้อขายสินค้า หรอื เปน็ คนกลางในการซื้อขายสินค้า เช่น ธรุ กิจการคา้ ปลกี ธรุ กิจการค้าส่ง เหล่าน้ีเป็นต้น การคา้ ปลกี เป็นการขายสนิ คา้ และบรกิ ารให้กบั ผู้บรโิ ภคคนสดุ ท้าย (Final Consumers) โดยมี \"รา้ นคา้ ปลกี \" เปน็ องค์กรสาคญั รปู แบบการคา้ ปลกี แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื การค้าปลีกที่ตอ้ งอาศยั หน้าร้าน (Store Retailing) และทไี่ ม่ตอ้ งอาศัยหน้าร้าน (Non-store Retailing) ประเภทของรา้ นค้าปลกี 1. ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก (Small Retailer) หรือเรียกกันติดปากว่า \"ร้านโชห่วย\" เป็น รปู แบบร้านคา้ ปลีกแบบดัง้ เดิมที่บริหารงานโดยเจ้าของคนเดียวใชพ้ ้ืนที่น้อยขายสินค้าที่จาเป็น ในชวี ิตประจาวัน ตัวอย่าง ร้านคา้ ปลีกขนาดเลก็ 2. ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง (Specialty Store) เป็นร้านค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าเฉพาะอย่าง เชน่ รา้ นดอกไม้ ร้านเครอ่ื งเขียน ร้านคา้ วสั ดุก่อสร้าง ร้านขายปนื ร้านขายอุปกรณ์กฬี า

ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า 66 3. ห้างสรรพสินค้า (DepartmentStore) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ตกแต่งหรูหราให้บริการครบ ครันขายสินค้าครบทุกประเภท โดยจัดแบ่งเป็นแผนกและหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจน ทาให้ลูกค้า สนุกสนานและเพลินเพลิน ในการซอื้ สินคา้ ในลกั ษณะ(One - StopShopping) เช่น หา้ งเซ็นทรลั โรบินสัน เดอะมอลล์ 4. ซุปเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) จาหน่ายสินค้าที่จาเป็น ประกอบด้วยสินค้าประเภท อาหารและของใช้จาเป็นในครัวเรอื น ส่วนใหญเ่ ปน็ สินค้าท่มี ีกาไรตา่ จงึ ต้องบรหิ ารอย่างรดั กมุ ลด ความสูญเสีย ใช้พื้นที่ไม่มากมักจะเลือกทาเลท่ีใกล้เคียงกับท่ีอยู่อาศัย หรืออยู่ในเส้นทาง จราจรที่อานวยความสะดวก เช่น ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เคยเป็นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตใน หา้ งสรรพสนิ ค้าเซน็ ทรลั 5. ร้านค้าสะดวกซ้ือ (Convenience Store) เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กท่ีพัฒนารูปแบบ การจัดการให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เน้นความสะดวกท้ังด้านทาเลท่ีตั้ง มีสาขาจานวนมาก และเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง สินค้าที่ขายเน้นประเภท อาหารเคร่ืองดื่ม สินค้าอุปโภค บรโิ ภค เชน่ รา้ น7-ELEVEN ร้านAm - Pm ร้านFamilyMart ร้านสะดวกซ้ือ 6. ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ (Discount Store) ขายสินค้าครบทุกประเภทใช้นโยบายราคา ถูกทุกวัน (Ever day Low Price) หวังยอดขายในปริมาณสูง กาไรต่อหน่วยต่า ไม่เน้นบริการ และความหรูหรา ถึงแม้การลงทุนสูง แต่เป็นประเภทร้านคา้ ปลีกที่กาลงั ได้รับความนิยม เช่น Tesco Lotus Carrefour Big - C Makro 7. ร้านคา้ ปลกี ขนาดใหญท่ ี่เนน้ ขายสินคา้ เฉพาะกลมุ่ (Category Killer) เชน่ เคร่ืองใช้ สานกั งาน วัสดุอุปกรณเ์ กยี่ วกับตกแต่งบา้ นและสวน เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า และอปุ กรณก์ ฬี า อาศยั ความ

67 ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า ชานาญและความได้เปรียบในการจัดหาสินค้าเฉพาะกลุ่ม จึงทาให้สามารถนาเสนอสินค้าได้ ครบถ้วน ราคาถูก และยังมีบริการหลังการขายอีกด้วย เช่น Home Pro ร้านค้าปลีกท่ีชานาญ ด้านอปุ กรณ์แต่งบา้ น และสินค้า DIY Power Buy ร้านค้าปลีกสินค้าประเภทเครื่องใชไ้ ฟฟา้ นอกจากร้านค้าปลีกดังกล่าว ยังมีการค้าปลีกที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน (Non-Store Retailing) เป็นรูปแบบการค้าใหม่ท่ีไม่จาเป็นต้องลงทุนสร้างร้านค้ารูปแบบดังกล่าว ได้แก่ การขายตรง (Direct Sales) การตลาดทางตรง (Direct Marketing) การขายผ่านส่ือ (Media Retailing) เครื่องจาหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automatic Vending Machine) การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E -Commerce) แบบ BZC (Business to Consumer)

ชดุ การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง เรอื่ ง การส่อื สารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 68 เรือ่ งที่ 4.2 ความหมายของการค้าสง่ การจดั การค้าสง่ การค้าส่ง หมายถึง กิจกรรมที่เก่ียวข้องกับการจาหน่ายสินค้าและบริการให้แก่ผู้ท่ีซ้ือ ไปเพื่อขายต่อ หรือเพื่อใช้ในธุรกิจผู้ค้าส่ง (Wholesalers) หรืออาจเรียกว่า ผู้จัดจาหน่าย (Distributors) ต่างจากผู้ค้าปลกี หลายประการ ประการแรก ผู้ค้าส่งให้ความสาคัญกับทาเลที่ต้ังการจัดบรรยากาศ และการส่งเสริม การตลาดนอ้ ยกว่าผู้คา้ ปลีก เพราะไม่ไดเ้ น้นผ้บู รโิ ภคคนสุดทา้ ย ประการท่ีสอง การค้าส่งจะมีขนาดใหญ่กว่าการค้าปลีก และจะครอบคลุมพ้ืนที่กว้างขวางกว่า การค้าปลีกด้วย รูปแบบการค้าส่งแบบดั้งเดิม ในประเทศไทยที่เรียกว่า \"ยี่ป๊ัว\" เช่น บริษัทผลิตสินค้า อุปโภคบรโิ ภครายใหญไ่ ม่ว่าจะเปน็ ยูนลิ เี วอร์ สหพัฒนพบิ ลู ย์ เป็นต้น ตา่ งมียป่ี วั๊ กระจายอยู่ตามจังหวดั ทั่วประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีตัวแทนจาหน่วยอาหารสัตว์ เมล็ดพันธ์ุ และยารักษาโรค ขายสินค้า ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีตัวแทนจาหน่ายรายใหญ่ ท่ีจะกระจายหนังสือพิมพ์ ไปสู่แผงค้าปลีก ในจังหวดั และอาเภอที่รบั ผดิ ชอบภาพของร้านคา้ สง่ เหล่าน้ี บทบาทและหน้าท่ีของการคา้ สง่ ผ้คู า้ ส่งทาหน้าทีห่ ลายอย่างทกี่ ว้างขวางกว่าผูค้ ้าปลกี ได้แก่ 1. การขายและการส่งเสริมการตลาด (Selling and Promoting) การค้าส่งมที ีมงานขายที่ จะช่วยผู้ผลิต ให้สามารถกระจายสินคา้ ส่รู ้านค้าปลีกขนาดเลก็ ได้ดว้ ยค่าใช้จ่ายท่ตี ่ากว่าทีมงาน ขายของผผู้ ลิต เนอ่ื งจากเป็นคนในพน้ื ที่มีความใกล้ชิดกับร้านคา้ ปลีก สามารถติดตามดูแลการ ขาย การสง่ เสรมิ การตลาดได้อยา่ งใกล้ชดิ 2. การซ้อื และสร้างความหลากหลายของผลิตภณั ฑ์ (BuyingandAssortmentBuilding) ผู้ค้าสง่ จะทา หน้าที่คัดเลอื กสินค้าท่ีมีความหลากหลายตามความต้องการของร้านค้าปลกี จงึ เป็นการประหยดั เวลาการหา ซือ้ สนิ คา้ ของรา้ นค้าปลกี

69 ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสื่อสารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา 3. ซอ้ื ปริมาณมากแลว้ แบง่ ขาย (Bulk Breaking) ผ้คู า้ ส่งช่วยแบ่งเบาภาระของผคู้ ้าปลีก โดยซอ้ื สนิ คา้ มาในปรมิ าณมากแบง่ ขายให้ผคู้ ้าปลีกในหน่วยเล็กลง 4. คลังสินค้า (Warehousing) ผู้ค้าส่งรับภาระสินค้าคงคลังและบริหารคลังสินค้าแทน รา้ นคา้ ปลีก 5. การขนส่ง (Transportation) ผู้ค้าส่งสามารถจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้เร็วกว่า โรงงานเน่อื งจากอย่ใู กลก้ วา่ 6. การเงิน (Financing) ผู้ค้าส่งช่วยสนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ค้าปลีกด้วยการให้ เครดติ ซ่ึงผู้ผลติ ไม่สามารถให้ส่วนน้ีแกร่ า้ นคา้ ปลกี ได้ เพราะมจี านวนมากดูแลไม่ทั่วถึง 7. การรับภาระความเส่ียง (Risk Bearing) ผู้ค้าส่งแบกรับภาระความเสี่ยงบางอย่างไว้ เช่น ค่าเกบ็ รกั ษาสนิ คา้ สนิ คา้ สญู หาย เส่อื มสภาพ ภาระดอกเบย้ี 8. ข้อมูลทางการตลาด (Market Information) ผู้ค้าส่งจะเก็บรวบรวมข้อมูลและให้การ สนับสนุนด้านข้อมูลการตลาดแก่ผู้ผลิต เน่ืองจากผู้ใกล้ชิดมองเห็นความเป็นไปของข้อมูลใน ทกุ ๆ ด้าน 9. เปน็ ที่ปรกึ ษาด้านการจดั การ(ManagementServicesandCounseling) ผู้ค้าส่งจะมีความชานาญใน ด้านการจัดการ สามารถช่วยเหลือผู้ค้าปลีกปรับปรุงการดาเนินงานได้ เช่น การฝึกอบรมพนักงานขาย การช่วยจัดตกแตง่ หน้าร้าน จดั ระบบบญั ชี ระบบสนิ ค้าคงคลงั เป็นต้น ประเภทผ้คู ้าสง่ 1. ร้านค้าส่ง(MerchantWholesalers) ธุรกิจค้าส่งท่ีครอบครองกรรมสิทธิ์ในสินค้าอาจเรียกว่า Jobbers หรือ Distributors แบง่ เป็น 2 ประเภท คอื ให้บรกิ ารเตม็ รูปแบบ และจากัดการให้บรกิ าร 2. ร้านค้าส่งเต็มรูปแบบ (Full Service Wholesalers) ให้บริการครบถ้วนตั้งแต่เก็บรักษา สินค้า พนักงานขายให้สินเช่ือจัดสง่ และให้ความชว่ ยเหลือดา้ นการจัดการ รา้ นค้าส่งประเภท นี้มีทั้งประเภท Wholesales Merchants ขายสินค้าให้กับร้านค้าปลีก โดยให้บริการเต็มรูปแบบ และ Industrial Distributors ขายสนิ ค้าอุตสาหกรรมให้กบั โรงงานผลิต

ชดุ การเรียนรูด้ ้วยตนเอง เรอื่ ง การสื่อสารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 70 3. ร้านค้าส่งจากัดบริการ (Limited-Service Wholesalers) เช่น ร้านค้าส่งประเภท Cash-and-Carry ขายสินค้าเป็นเงินสดให้กับร้านค้าปลีก Truck Wholesalers ขายและจัดส่ง สนิ ค้าเฉพาะสายผลิตภัณฑ์ให้แก่ ร้านค้าปลีก และผูป้ ระกอบการ Mail-order Wholesalers ส่ง แคตตาลอ็ กไปยังร้านคา้ ปลกี และผ้ปู ระกอบการตา่ ง ๆ 4. นายหน้าและตัวแทน (Broker and Agents) ไม่ครอบครองกรรมสิทธ์ิในสินค้า แต่ จะเปน็ คนกลางทาหน้าที่ตดิ ตอ่ ใหม้ กี ารซอื้ ขาย โดยไดร้ ับค่านายหน้าเปน็ ผลตอบแทน ตัวอยา่ ง ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่

71 ชุดการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า เรื่องท่ี 4.3 กลยุทธต์ ลาดคา้ สง่ กลยทุ ธต์ ลาดค้าส่ง ประกอบดว้ ย 1. การตัดสินใจด้านตลาดเป้าหมาย ผู้ค้าส่งสามารถตัดสินใจเลือกกลุ่มเป้าหมายของ ตัวเองได้อย่างชัดเจน เช่น การตัดสินใจเลือกขนาดของลูกค้า เช่น กลุ่มลูกค้าท่ีเป็นผู้ค้าปลีก รายใหญ่ ๆ เท่าน้ัน เลือกประเภทลูกค้า เช่น ร้านค้าประเภทร้านอาหาร ประเภทร้านสะดวก ซ้ือ ประเภทลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ผู้ค้าส่งสามารถออกแบบ ข้อเสนอเพ่อื สรา้ งสัมพันธภาพท่ีดกี ับลูกคา้ แตล่ ะกลุม่ 2. การตัดสินใจด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ ผู้ค้าส่งจะต้อง ตัดสินใจว่าสายผลิตภัณฑ์ใดที่มีอัตราการขายสูง และทากาไรได้ดีก็จะสร้างสต็อกสาย ผลิตภัณฑ์น้ันเพื่อไว้บริการลูกค้า มิฉะน้ันผู้ค้าส่งจะต้องแบกภาระต้นทุนอันเนื่องมาจากการ เก็บรักษาสินค้าไว้เป็นจานวนมาก ฉะน้ันผู้ค้าส่งจึงต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอว่าสาย ผลิตภัณฑ์ที่จะสั่งมาไว้ในคลังสินค้าควรจะมีปริมาณเท่าใด และเลือกที่จะเก็บรักษาสาย ผลิตภณั ฑท์ ท่ี ากาไรสงู 3. การตัดสินใจด้านราคา ธุรกิจค้าส่งเป็นธุรกิจทมี่ ีกาไรขั้นต้น (Gross Margin) ต่า แต่ อาศัยปริมาณขายสูง ดังน้ันผู้ค้าส่งจึงพยายามขอให้ผู้ผลิตเสนอส่วนลดในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือ นาไปใช้ในการขยายลูกค้าใหม่ ๆ และส่งผลกาไรใหก้ บั ผู้ค้าส่งในระยะยาว 4. การตัดสินใจดา้ นการส่งเสริมการตลาด กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดของผู้ค้าส่งที่นิยม ใชก้ ็คอื การใช้พนักงานขายของผู้ค้าสง่ เองทาหน้าท่ีตดิ ตอ่ กับลกู ค้า ในความเปน็ จริงผูค้ ้าส่งยัง ต้องการสร้างกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดของตวั เองเพ่มิ เติม เช่น ใชก้ ารโฆษณาร้านคา้ ของตัวเอง (Trade Advertising) การสง่ เสรมิ การขาย การประชาสมั พนั ธ์ ตลอดจนพยายามใชว้ สั ดุ

ชุดการเรยี นรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การสื่อสารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พชู า 72 อุปกรณ์ส่งเสริมการตลาดของผู้ผลิต และอ้างอิงกับภาพพจน์ของบริษัทผู้ผลิต ประกอบด้วย 5 การตัดสินใจด้านสถานท่ี ร้านค้าส่งแตกตา่ งจากร้านคา้ ปลีก คือ ไม่จาเป็นต้องเลือก ทาเลอยู่ในใจกลางเมืองหรือทาเลที่มีผู้คนหนาแน่น เนื่องจากไม่ได้คาดหวังผู้บริโภคคน สุดท้าย การตัดสินใจเลือกสถานท่ีจึงคานึงถึงค่าเช่าพ้ืนท่ี ค่าสิ่งปลูกสร้าง จะต้องมีพ้ืนท่ี สาหรบั สร้างคลังสินคา้ จอดรถขนถ่ายสินค้าสะดวก โดยที่คา่ ใชจ้ า่ ยเกี่ยวกับสถานท่ีไม่สูงมากนัก ตลาดค้าสง่ ด่านพรมแดนชอ่ งจอม อ.กาบเชงิ จ.สุรินทร์

73 ชุดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พูชา เรอื่ งท่ี 4.4 คาศัพทท์ ่ีเกย่ี วข้องกบั ธุรกจิ การค้า คาชแ้ี จง เม่อื ผเู้ รียนศึกษาคาศัพทเ์ ร่อื งดงั กลา่ วแลว้ ให้การฝึกออกเสียงภาษาเขมรจากส่อื วีดิทศั น์ประกอบชดุ การเรียน ท่ถี กู ต้องประกอบไปด้วย ธุรกิจการค้า ពាណជិ ្ជកម្មជ្យួ ដរូ (Trading Business) เปีย นจึ จะ กมั จวย โด ธรุ กิจการค้าปลกี ពាណិជ្ជកម្មលក់រាយ ( Retail Business) เปีย นึจ จะกมั ล็วก เรียย ธรุ กจิ การคา้ สง่ ពាណជិ ្កជ ម្មលក់ដុំ (Wholesale Business) เปีย นจึ จะกัม ล็วก ดม การคา้ ปลกี ทต่ี อ้ งอาศัยหนา้ รา้ น ការលករ់ ាយត្រូវមានហាង (Store Retailing) การ ลว็ ก เรียย ตเริว เมยี นฮาง การค้าปลีกทไี่ มต่ ้องอาศยั หนา้ รา้ น ការលក់រាយម្ិនត្រវូ មានហាង (Non-store Retailing) การ ล็วกเรียย มนึ ตเรวิ เมียนฮาง ร้านค้าปลกี ขนาดเลก็ ហាងឆហូ ួយ ( Small Retailer ) ฮางโชฮวย รา้ นค้าปลีกเฉพาะอย่าง ហាងលក់រាយចពំុ ពាោះម្ខ (Specialty Store) ฮาง ล็วก เรียย จ็อป ป๊วั มุก

ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เร่ือง การส่อื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กมั พชู า 74 หา้ งสรรพสินค้า ផ្សារទុំពនើប ( Department Store ) ซปุ เปอร์มารเ์ ก็ต พซา ตุม เนบี ( Supermarket) รา้ นค้าสะดวกซื้อ ផ្សារធំុ (Convenience Store) รา้ นค้าปลกี ขนาดใหญ่ พซา ทม ( Discount Store) การขายตรง ហាងត្រលួ ទិញ (Direct Sales) การตลาดทางตรง ฮาง ซะ รวลตึญ (Direct Marketing) การขายผ่านสื่อ ហាងលករ់ ាយខ្នា រធុំ (Media Retailing) ผู้ค้าส่ง ฮางลว็ ก เรยี ยขนาต ทม (Wholesalers) ผู้จดั จาหนา่ ย ការលក់ផ្ទា ល់ខលួន (Distributors) การ ลว็ ก พต็วล ขลวน ពាណិជ្កជ ម្កម ារលក់ផ្ទា ល់ខួនល เปียนึจจะกมั การ ลว็ ก พตว็ ล ขลวน ការលក់រាយតាម្សារពរ៌មាន การ ลว็ ก เรียย ตาม ซา ปอดาเมยี น អ្កា លក់ដុំ เนย๊ี ะลว็ ก ดม អ្កា លករ់ ាយ เนี๊ยะล็วก เรียย

75 ชุดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เร่ือง การสอ่ื สารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า กจิ กรรมหน่วยที่ 4 1. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม ให้ศึกษาเน้ือเรื่องที่ 4.1 – 4.3 กลุ่มละ 1 ตอน แล้วสง่ ตัวแทนออกมาสรปุ 2. จงอธิบายความหมายตอ่ ไปนี้ 2.1 จงยกตัวอยา่ งธุรกิจการค้าประเภทการค้าปลกี มา 4 ตวั อยา่ ง 1).......................................................................................................................... 2).......................................................................................................................... 3).......................................................................................................................... 4).......................................................................................................................... 2.2 จงอธิบายประเภทของการคา้ สง่ 1).......................................................................................................................... 2).......................................................................................................................... 3).......................................................................................................................... 4).......................................................................................................................... 2.3 จงอธิบายกลยทุ ธ์การคา้ ส่งมีอะไรบา้ ง 1).......................................................................................................................... 2).......................................................................................................................... 3).......................................................................................................................... 4).......................................................................................................................... 2.4 จงเขยี นศพั ทต์ ่อไปนี้ เป็นภาษาเขมร 1) ธุรกจิ การค้า (Trading Business) .................................................................. 2) ธุรกิจการคา้ ปลกี (Retail Business) ............................................................... 3) ธุรกจิ การค้าส่ง (Wholesale Business)........................................................... 4) ร้านคา้ ปลีกขนาดเล็ก ( Small Retailer ) ........................................................ 5) ห้างสรรพสนิ คา้ ( Supermarket) .................................................................... 6) รา้ นคา้ สะดวกซอื้ (Convenience Store) ........................................................

ชดุ การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง เรือ่ ง การส่ือสารการค้าบรเิ วณชายแดนไทย - กัมพูชา 76 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 4 คาช้ีแจง: จงอา่ นคาถามตอ่ ไปนี้ และเลือกคาตอบที่ถกู ทีส่ ดุ เพียงคาตอบเดยี ว 1. ธรุ กิจท่ีมีคนกลางในการซ้ือขายสินคา้ เรียก 5. ข้อใดคอื การคา้ สง่ วา่ ธุรกิจชนิดใด ก. การจาหน่ายสนิ คา้ ใหแ้ กผ่ ู้ซ้อื ไป ก. ธรุ กจิ เสรี ขายตอ่ ข. ธุรกจิ คา้ ปลกี ข. การขายสินคา้ เฉพาะอยา่ ง ค. ธุรกิจขายตรง ค. การขายสินค้าใหผ้ บู้ ริโภคคนสดุ ท้าย ง. ธรุ กิจการคา้ ง. ถูกทุกข้อ 2. ข้อใดคือประเภทของการค้าปลกี 6. ข้อใดคอื ประเภทผูค้ า้ ส่ง ก. รา้ นคา้ ปลกี ขนาดเล็ก ก. นายหนา้ และตวั แทน ข. การคา้ ปลีกทตี่ ้องอาศัยหนา้ ร้าน ข. การขายไมผ่ ่านคนกลาง ค. การคา้ ปลกี ทไี่ ม่ต้องอาศัยหนา้ ร้าน ค. การขายสินค้าโดยตรง ง. การค้าปลีกทีไ่ มต่ ้องอาศยั และ ง. การขายฝาก อาศยั หน้ารา้ น 7. ผู้ค้าท่ีสามารถเลือกกลุ่มเปา้ หมายตนเองได้ 3. รา้ นค้าปลกี ขนาดเล็กคอื ข้อใด ก. ผูค้ า้ ปลกี ก. รา้ นสะดวกซ้อื ข. ผคู้ ้ารายยอ่ ย ข. ซุปเปอร์มารเ์ ก็ต ค. ผู้ค้าสง่ ค. รา้ นโชห่วย ง. รา้ นคา้ จากัดบรกิ าร ง. ร้านขายสนิ ค้าเฉพาะอย่าง 8. Retail Business คือข้อใด 4.ร้านคา้ สะดวกซ้อื คือขอ้ ใด ก. ธุรกจิ ค้าส่ง ก. Specialty Store ข. ธุรกิจคา้ ปลกี ข. Small Retailer ค. รา้ นคา้ ปลีก ค. ConvenienceStore ง. รา้ นคา้ ส่ง ง. Supermarket

77 ชดุ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสื่อสารการคา้ บรเิ วณชายแดนไทย - กัมพชู า 9. ฮาง ซะรวล ตึญ คือขอ้ ใด 10. เน๊ียะ ลว็ ก ดม คือข้อใด ก. หา้ งสรรพสินค้า ก. ผูค้ า้ ปลีก ข. ซุปเปอรม์ าเก็ต ข. ผคู้ า้ ส่ง ค. รา้ นคา้ สะดวกซื้อ ค. ผจู้ ัดจาหนา่ ย ง. ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ง. การขายตรง

ชุดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสอ่ื สารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พูชา 78 เฉลย - แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน และกิจกรรม หน่วยท่ี 4 1. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. ก 2. ก 3. ง 4. ก 5. ค 6. ข 7. ก 8. ง 9. ค 10. ก 2. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ง 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก 6. ก 7. ค 8. ข 9. ค 10. ข 3. แนวตอบกิจกรรม หนว่ ยท่ี 4 1. ไม่มีแนวเฉลยกจิ กรรม 2. แนวคาตอบข้อ 2.1 – 2.4 กจิ กรรม หนว่ ยที่ 4 2.1 ตอบ 1) รา้ นดอกไม้ 2) รา้ นเครื่องเขียน 3) ร้านขายน้าปลา 4) รา้ นขายอุปกรณ์กฬี า 2.2 ตอบ 1) รา้ นคา้ สง่ หมายถงึ ธุรกจิ คา้ ส่งที่ครอบครองกรรมสทิ ธ์ใิ นสินค้า 2) ร้านค้าส่งเต็มรูปแบบหมายถึงให้บริการครบถ้วนต้ังแต่เก็บรักษา สนิ ค้า พนกั งานขาย ให้สินเช่ือจัดส่ง และใหค้ วามช่วยเหลอื ดา้ นการจดั การ 3) ร้านค้าส่งจากัดบริการ หมายถึงร้านค้าส่งประเภท ขายสินค้าเป็น เงินสดให้กับร้านค้าปลีก 4) นายหน้าและตัวแทน หมายถึงร้านคา้ ทไี่ มค่ รอบครองกรรมสิทธใ์ิ น สินค้าแต่จะเป็นคนกลาง ทาหน้าท่ีติดต่อให้มีการซ้ือขายโดยได้รับค่า นายหนา้ เป็นผลตอบแทน

79 ชดุ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง เรอื่ ง การสื่อสารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กมั พูชา 2.3 ตอบ 1) การตดั สินใจดา้ นตลาดเป้าหมาย 2) การตัดสินใจดา้ นความหลากหลายของผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ าร 3) การตดั สนิ ใจด้านราคา 4) การตดั สนิ ใจดา้ นการสง่ เสริมการตลาด 5) การตัดสินใจด้านสถานที่ 2.4 ตอบ 1) เปีย นจึ จะกัม จวย โด 2) เปยี นึจ จะกมั ล็วก เรียย 3) เปีย นจึ จะกมั ลว็ ก ดม 4) ฮางโชฮวย 5) พซา ตุม เนีบ 6) พซา ทม 7) ฮาง ซะ รวลตญึ

หน่วยท่ี 5 การกาหนดราคาและอัตราแลกเปล่ยี น

81 ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการค้าบริเวณชายแดนไทย - กัมพชู า 5การกาหนดกราราคกาำ� แหลนะดอรตั ารคาาแแลลกะเอปตัลรีย่ านแลกเปลยี่ นหน่วยท่ี 5 หน่วยท่ี แนวคดิ ราคามีความสาคัญตอ่ ระบบเศรษฐกจิ เพราะเป็นพ้ืนฐานในการจัดสรรทรพั ยากร และปัจจัยการผลิต จึงใช้เป็นตัวกาหนดทิศทางของการลงทุนและการเคล่ือนย้ายปัจจัย การผลิต เพราะราคาเป็นตัวกาหนดความต้องการของตลาดเป้าหมาย และอัตราการ แลกเปล่ียนการค้าชายแดนของไทยส่วนใหญ่ ใช้เงินบาทในการค้าขายมากขึ้นย่อมจะ ส่งผลให้การค้าชายแดนกับประเทศเพ่ือนบ้านมีโอกาสจะขยายตัวมากขึ้น เป็นผลดีต่อ การเจรจาต่อรองราคาสินค้า และเพิ่มโอกาสในการขยายการค้ากับประเทศเพ่ือนบ้าน ได้มากขึน้ วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ให้นักศึกษาสามารถ 1. อธบิ ายความหมายของการกาหนดราคาได้ 2. อธิบายวธิ กี ารกาหนดราคาสินคา้ ได้ 3. อธิบายค่าสกุลเงนิ และอัตราแลกเปล่ียนได้ ขอบข่ายเนอื้ หา เร่อื งท่ี 5.1 การกาหนดราคา เร่ืองท่ี 5.2 สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน เรอื่ งท่ี 5.3 คาศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกบั สกุลเงนิ และอัตราแลกเปลี่ยน กจิ กรรมการเรยี นรู้ประจาหน่วย 1. ศกึ ษาเอกสารเนอื้ หา เรอ่ื งที่ 5.1 – 5.3 ด้วยตนเอง 2. ศึกษาคาศัพท์และการออกเสยี งภาษาเขมร จากส่ือวดี ิทศั น์ ในเรื่อง

ชุดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสือ่ สารการคา้ บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา 82 ท่ี 5.3 ประกอบ 3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทไ่ี ด้รับมอบหมายตามเอกสารชุดการเรยี นแตล่ ะหน่วยการ เรียน ส่ือการเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี น 2. สอื่ วีดทิ ศั น์ประกอบชดุ การเรยี น 3. กิจกรรมที่ 5 4. รูปภาพ การประเมนิ ผล 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ทากิจกรรมทา้ ยหนว่ ยที่ 5 3. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เม่ืออ่าน แนวคิด วัตถุประสงค์ ขอบข่ายเนื้อหา หน่วยท่ี 5 ให้ แบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเอกสารชุดการเรียน และส่ือวีดิทัศน์ คาศัพท์ภาษาเขมร ในเรื่องที่ 5.3 พร้อมปฏิบัติตามคาแนะนาอย่าง ต่อเน่ือง และเมื่อศึกษาจบหน่วยการเรียนแล้วให้ทากจิ กรรมในหน่วยที่ 5 และแบบทดสอบหลงั เรยี น