Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน

ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน

Published by Esan NFE E-Book, 2021-10-29 02:04:14

Description: ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน เป็นหลักสูตรระยะสั้น 36 ชั่วโมง ที่จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไปและกลุ่มภาคีเครือข่าย กศน.ในการเรียนรู้การประกอบอาชีพโดยได้ดำเนินการตามโครงการผลิตสื่อส่งเสริมการเรียนรู้การประกอบอาชีพการค้าชายแดน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนการศึกษาต่อเนื่อง

Keywords: ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ม,การสื่อสารการประกอบอาชีพม,การค้าชายแดนม,สู่ประชาคมอาเซียนม,หลักสูตรระยะสั้นม,การศึกษาต่อเนื่องม

Search

Read the Text Version

ชดุ การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซยี น สถาบนั พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

(2)

(3) (3) คำนำ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซียน เป็นหลักสูตรระยะส้ัน 36 ช่ัวโมง ท่ีจัดทาเพ่ือตอบสนองความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไปและกลุ่มภาคีเครือข่าย กศน. ในการเรียนรู้ เพื่ อ การป ระก อบ อ าชีพ โดยได้ด าเนิ น ก ารต าม โค รงก ารผ ลิต ส่ื อ ส่ งเส ริม ก ารเรียน รู้ การประกอบอาชีพการค้าชายแดน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนการศึกษา ต่อเน่ือง ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหา ความรู้ท่ัวไปการค้าชายแดน การเลือกอาชีพในการ ประกอบธุรกจิ การนาเทคโนโลยไี ปใชใ้ นการพัฒนาอาชีพ การสร้างความตระหนักกับ การใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ การส่ือสารและการสนทนาในการซ้ือขายสินค้า โดย กาหนดแนวทางการเรียนรู้ได้หลากหลายท้ังแบบอัธยาศัย แบบช้ันเรียนและแบบ ทางไกล เสริมทักษะการเรียนรู้ให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ การค้าชายแดน สถาบัน กศน. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอขอบคุณ สานักงาน กศน.จังหวัด และสถานศึกษาในพ้ืนท่ีบริเวณชายแดน ท่ีให้ความร่วมมือดาเนินการพัฒนา ชุดการ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง จนสาเรจ็ ลลุ ่วง และสามารถนาสู่การปฏิบัติได้ สถาบัน กศน. ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

(4) (2) สารบญั หน้า เร่อื ง (3) (4) คำนำ (6) สำรบญั (9) รำยละเอยี ดชุดกำรเรียนรู้ (11) คำ� แนะน�ำกาำรใชช้ ุดกาำรเรยี นรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน 1 หน่วยท่ี 1. ความรทู้ ว่ั ไปการคา้ ชายแดน 2 4 แนวคดิ วัตถปุ ระสงค์ ขอบขำ่ ยเน้อื หำ 7 เรื่องท่ี 1.1 ควำมรู้เกี่ยวกบั กำรคำ้ ชำยแดน เรื่องที่ 1.2 เขตเศรษฐกจิ พิเศษ 10 กจิ กรรมหนว่ ยที่ 1 11 หนว่ ยที่ 2. การเลอื กอาชีพในการประกอบธุรกจิ 12 แนวคิด วัตถุประสงค์ ขอบข่ำยเนื้อหำ 14 เรื่องท่ี 2.1 กำรตัดสนิ ใจเลอื กอำชีพ 17 เรือ่ งที่ 2.2 ประเภทของอำชีพ เรอ่ื งที่ 2.3 กำรพัฒนำอำชพี 2109 เร่อื งที่ 2.4 ควำมพร้อมในกำรพฒั นำอำชีพ 2221 กิจกรรมหนว่ ยท่ี 2 2243 หน่วยท่ี 3. การนาเทคโนโลยีไปใช้ในการพฒั นาอาชีพ 2265 แนวคดิ วัตถุประสงค์ ขอบขำ่ ยเนอ้ื หำ 2276 เรอ่ื งที่ 3.1 ควำมรูเ้ บ้ืองต้น E-Commerce 2298 เรอื่ งท่ี 3.2 องคป์ ระกอบของ E-Commerce 3332 เรอ่ื งที่ 3.3 เทคนิคกำรพฒั นำข้อมูลสนิ ค้ำเพือ่ กำรขำยออนไลน์ 3376

(3) ( 5 ) เรอื่ งที่ 3.4 ตวั อยำ่ งตลำดกลำงพำณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนิกส์ 4309 กิจกรรมหนว่ ยท่ี 3 4432 หนว่ ยที่ 4. การสรา้ งความตระหนกั กับการใช้งานส่ือสังคมออนไลน์ 4443 และพระราชบัญญัตวิ า่ ด้วยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 4454 แนวคดิ วัตถปุ ระสงค์ ขอบขำ่ ยเน้อื หำ 4476 เรือ่ งท่ี 4.1 รเู้ ท่ำทนั สือ่ ในยคุ ไอซีที เรอื่ งท่ี 4.2 พระรำชบญั ญัตวิ ำ่ ดว้ ยกำรกระทำควำมผิดเกีย่ วกับ 49 คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 48 กจิ กรรมหนว่ ยท่ี 4 5510 หหนนว่ ยท่ี 55..กกาารรสสอื่ อ่ืสสาราแรลแะลกะากราสรนสทนนทาในนากใานรกซาื้อรขซาอ้ืยขายสนิ คา้ 5521 แนวคิด วตั ถุประสงค์ ขอบข่ำยเน้ือหำ 5532 เรอ่ื งท่ี 5.1 คำศพั ทท์ เี่ กย่ี วข้องกบั กำรค้ำชำยแดน 554 เรื่องที่ 5.2 กำรสนทนำในกำรซอ้ื ขำยสนิ คำ้ 5587 กจิ กรรมหนว่ ยท่ี 5 6509 แบบทดสอบหลงั เรยี น 6621 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี นแนวตอบกจิ กรรมท้ายหนว่ ย 6654 บรรณานุกรม 76769108 คณะผจู้ ดั ทา

( 6 ) ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซยี น (4) รายละเอียดชดุ การเรียนรดู้ ้วยตนเอง เรือ่ ง การส่อื สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน จานวน 36 ชัว่ โมง คาอธบิ ายชุดการเรยี นรู้ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซียน แบ่งออกเปน็ 5 หน่วยการเรยี น จานวน 36 ช่ัวโมง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. เป็นชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อการประกอบอาชีพธุรกิจการค้าบริเวณชายแดน ให้เกดิ การเรียนรแู้ ละพัฒนา หลกั การคา้ ขายและภาษาทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร 2. เป็นการฝึกทักษะเรียนรู้และการใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ในการประกอบ ธุรกจิ และการคา้ เพื่อรองรบั ประชาคมอาเซยี น 3. เป็นการฝึกทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสร้างโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และบริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในประชาชนทุกกลุ่มวัย อยา่ งเหมาะสม และรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม จดุ ประสงค์ 1. ผู้เรียนมีข้อมูลและความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการค้าชายแดนเพ่ือประกอบ อาชีพบริเวณชายแดน 2. ผู้เรียนสามารถตัดสินใจในการเลือกประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องและตรง ตามความตอ้ งการในการประกอบอาชีพ 3. ผู้เรียนมีความตระหนักกับการใช้งานส่ือสังคมออนไลน์ และพระราชบัญญัติ วา่ ด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 4. ผู้เรียนสามารถฝึกการออกเสียง ฝึกทักษะ คาศัพท์ สานวน และประโยคพื้นฐานท่ี เกีย่ วขอ้ งกับอาชีพการคา้ ชายแดนท่ัวไปภาษาเวยี ดนาม

ชดุ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรอ่ื ง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดนสปู่ ระชาคมอาเซียน (5) (7) ขอบข่ายเนอื้ หา ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ประกอบด้วย เนื้อหา 5 หน่วยการเรียน ใช้เวลาเรียนท้ังหมด 36 ชั่วโมง แบง่ ออกได้ ดังนี้ 3 ชว่ั โมง หนว่ ยที่ 1. ความร้ทู ัว่ ไปการคา้ ชายแดน เรอื่ งท่ี 1.1 ความรู้เกี่ยวกับการคา้ ชายแดน เรื่องท่ี 1.2 ความรูเ้ กีย่ วกับเขตเศรษฐกจิ พิเศษ หน่วยที่ 2. การเลอื กอาชีพในการประกอบธุรกิจ 9 ชัว่ โมง เรอ่ื งท่ี 2.1 การตดั สินใจเลอื กอาชพี เร่อื งที่ 2.2 ประเภทของอาชีพ เรื่องที่ 2.3 การพัฒนาอาชพี เรื่องที่ 2.4 ความพรอ้ มในการพัฒนาอาชพี หนว่ ยที่ 3. การนาเทคโนโลยไี ปใชใ้ นการพฒั นาอาชีพ 15 ชัว่ โมง เร่ืองท่ี 3.1 ความรเู้ บ้ืองต้น E-Commerce เร่ืองท่ี 3.2 องค์ประกอบของ E-Commerce เรอ่ื งที่ 3.3 เทคนคิ การพฒั นาข้อมลู สนิ ค้าเพอ่ื การขายออนไลน์ เร่ืองท่ี 3.4 ตัวอยา่ งตลาดกลางพาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์ หนว่ ยท่ี 4. การสร้างความตระหนักกบั การใชง้ านสื่อสงั คมออนไลน์ และพระราชบญั ญตั ิ ว่าด้วยการกระทาความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 3 ชวั่ โมง เร่อื งที่ 4.1 รูเ้ ทา่ ทันส่ือในยุคไอซที ี เร่ืองที่ 4.2 พระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการกระทาความผดิ เกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หนว่ ยที่ 5. การสอ่ื สารและการสนทนาในการซื้อขายสินค้า 6 ช่ัวโมง เรอ่ื งท่ี 5.1 คาศัพทท์ เ่ี กย่ี วข้องกับการคา้ ชายแดน เรือ่ งที่ 5.2 การสนทนาในการซ้อื ขายสินค้า

( 8 ) ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรอื่ ง การสอ่ื สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดนสปู่ ระชาคมอาเซียน (6) การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. จัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การสื่อสารการ ประกอบอาชีพการค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซียน สาหรับนักศึกษานอกระบบและ ประชาชนทอี่ ยู่บรเิ วณชายแดน หรือผู้ทีเ่ กย่ี วข้องกบั การคา้ ชายแดน และให้ทาการศกึ ษาดว้ ย ตนเอง จานวน 36 ช่ัวโมง 2. ฝึกการออกเสียง ฝึกทักษะ คาศัพท์ สานวน และประโยคพื้นฐานท่ัวไปภาษา เวยี ดนาม ท่เี กีย่ วขอ้ งกับอาชีพการค้าชายแดน 3. เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้มีการพบกลุ่ม โดยครู กศน. ในการประกอบ อาชีพการค้าบริเวณชายแดนโดยใช้บทบาทสมมติ สถานการณ์จาลอง หรือสถานการณ์จริง และให้ความร้เู พมิ่ เตมิ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง 2. ส่ือวีดิทัศน์ 3. กิจกรรมท้ายหนว่ ย 4. อนิ เตอร์เนต็ การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความรจู้ ากแบบทดสอบก่อนและหลังเรยี น 2. ประเมนิ ความรู้จากกิจกรรมท้ายหนว่ ย 3. ประเมนิ ระหวา่ งเรียนจากการปฏิบตั ิ 4. ประเมนิ จากผลงานของผ้เู รยี น

(9) คำแนะนำกำรใช้ชุดกำรเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เรือ่ ง กำรส่ือสำรกำรประกอบอำชีพกำรค้ำชำยแดนสู่ประชำคมอำเซียน ชุดการเรยี นร้ดู ้วยตนเองเรือ่ ง การสอ่ื สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซยี น ประกอบดว้ ย 1. เนือ้ หาในชุดการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง จานวน 5 หนว่ ยการเรียนรู้ 2. สอ่ื วีดิทัศน์ การออกเสียงคาศพั ท์ภาษาเวียดนาม 3. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ของชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 4. กิจกรรมท้ายหน่วยในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารศกึ ษาดว้ ยตนเอง การศึกษาด้วยตนเองมีความแตกต่างจากการศึกษาโดยช้ันเรียนเป็นอย่างมาก นักศึกษา จะต้องฝึกตนเองโดยการอ่านเน้ือหาในชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทุกหน่วยตามลาดับ ในการศกึ ษาแต่ละหน่วย นักศกึ ษาควรใช้เวลาตามทกี่ าหนดหรอื 5 หน่วยภายใน 1 สัปดาห์ และ ศึกษาคาศัพท์จากวีดิทัศน์ประกอบชุดการเรียน การออกเสียงภาษาเวียดนามในหน่วยท่ี 5 ให้ครบถ้วนตามที่กาหนดไว้ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจในเน้ือหาได้ดีขึ้น และผู้เรียนสามารถศึกษา เพ่ิมเติมการออกเสียง คาศัพท์ภาษาเวียดนามในหน่วยท่ี 5 จาก youtube.com/results?search query =ไพจิตร ผดุ เพชรแก้ว 2. การประเมินผลก่อนเรียนและหลังเรยี น ก่อนที่นักศึกษาจะเร่ิมศึกษาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง นักศึกษาจะต้องทาแบบทดสอบ ก่อนเรียนของชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งน้ีเพ่ือให้นักศึกษาประเมินความเข้าใจในเร่ืองน้ัน ๆ ก่อนศึกษาว่ามีความเข้าใจมากน้อยเพียงใด แล้วจึงศึกษาเนื้อหาในหน่วยการเรียนรู้ด้วยตนเอง เมื่อศึกษาจบแล้วนักศึกษาจะต้องทาแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อทดสอบตนเองว่ามีความเข้าใจ เน้ือหามากขึ้นเพียงใด โดยมีแบบทดสอบของชุดการเรียนดว้ ยตนเอง แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ ใชเ้ วลา 20 นาที ตรวจคาตอบจากเฉลยทา้ ยหน่วยการเรยี น

( 10 ) เพื่อประเมินผลเปรียบเทียบความรู้ก่อนและหลังเรียนว่ามีความรู้เพิ่มขึ้นหรือไม่ และนักศึกษา จะได้กลับไปทบทวนในเน้ือหาท่ียังไม่เข้าใจ หากผู้เรียนทาคะแนนได้ต่ากว่าร้อยละ 80 ขอได้ โปรดศกึ ษาในเรือ่ งนั้นซ้าอีกจนกว่าสามารถทาคะแนนเพิ่มขึน้ 3. การศึกษาเอกสารชุดการเรียนรดู้ ้วยตนเองและการทากจิ กรรม 3.1 ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซียน เป็นชุดการเรียนท่ีประกอบด้วย เอกสารชุดการเรียน แบบทดสอบก่อน เรียนและหลงั เรียนของชุดการเรียน กิจกรรมท้ายหน่วยของหน่วยการเรียน สื่อวีดทิ ัศน์การออก เสียงคาศัพท์ภาษาเวียดนามในหน่วยท่ี 5 ซ่ึงสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง เอกสารประกอบการ เรียนการสอน ในเล่มประกอบด้วยเน้ือหา 5 หน่วยการเรียน โดยใช้เวลาในการศึกษาตลอดชุด การเรียน 36 ชั่วโมง 3.2 ศึกษาคาแนะนาการใช้ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพ่ือทราบขอบข่ายเน้ือหาของชุด การเรียน และวิธกี ารศึกษา จะไดว้ างแผนการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3.3 ในการศกึ ษาแต่ละหนว่ ยควรใหป้ ฏิบัตดิ ังนี้ 3.3.1 แบบทดสอบก่อนเรียน ของชุดการเรียน จานวน 20 ข้อ แล้วตรวจเฉลย ท่ใี หไ้ วท้ ้ายกจิ กรรม 3.3.2 อ่านและทาความเขา้ ใจเอกสารชุดการเรียน ก่อน 1 รอบ 3.3.3 อ่านแต่ละหน่วยการเรียน ซ่ึงประกอบด้วย แนวคิด วัตถุประสงค์ ขอบขา่ ยเนอื้ หา ในแต่ละหน่วยให้เขา้ ใจเพือ่ ใหท้ ราบว่าในแต่ละหนว่ ยน้ันมจี ุดเน้นอะไร 3.3.4 อา่ นเน้อื หาทุกหนว่ ยการเรยี นให้เข้าใจ และศกึ ษาคาศัพท์ จากสือ่ วีดทิ ัศน์ การออกเสียงภาษาเวียดนาม ในหน่วยท่ี 5 ที่แนบมากับสื่อเอกสารประกอบชุดการเรียน จนมี ความเข้าใจ และพูดออกเสยี งภาษาเวยี ดนามได้ 3.3.5 ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น จานวน 20 ขอ้ และกจิ กรรมท้ายหน่วยทุกหนว่ ย การเรยี น โดยมเี ฉลยและแนวตอบท้ายหนว่ ยการเรียน 3.3.6 เม่ือศึกษาจบแล้วหากยังไม่เข้าใจในเน้ือหาให้นักศึกษาทบทวนความเข้าใจด้วยตนเองใน เร่ืองนั้น ๆ เพราะอาจมีรายละเอียดและแง่มุมต่าง ๆ ท่ีจะทาให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ กว้างขวางยิ่งขน้ึ

( 11 ) แบบทดสอบก่อนเรียน คำช้ีแจง : ให้ผเู้ รียนอ่ำนคำถำมแล้วทำเครอ่ื งหมำยวงกลม ในคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง ผเู้ รยี นมเี วลำ กำรทำแบบทดสอบก่อนเรียน ชดุ น้ี 20 นำที 1. กำรค้ำชำยแดนมีก่ีลกั ษณะ 5. ปจั จัยภำยนอกหมำยถึงข้อใด ก. 3 ลักษณะ ก. แรงจงู ใจใฝ่สมั ฤทธิ์ ข. 4 ลักษณะ ข. กำรสมัครงำนกบั นำยจำ้ ง ค. 1 ลกั ษณะ ค. สอบขอ้ เขียน ง. 2 ลกั ษณะ ง. สอบสัมภำษณ์ 2. ข้อใดไม่ถกู ต้องจำกกำรจดั ต้งั เขตเศรษฐกิจพิเศษ 6. องค์ประกอบกำรตัดสินใจประกอบอำชีพมีก่ี ก. กำรจ้ำงงำนเพมิ่ ขึน้ ประกำร ข. ศนู ยก์ ลำงกำรกระจำยสนิ คำ้ ก. 2 ประกำร ค. คำ่ แรงงำนแพงข้นึ ข. 3 ประกำร ง. สง่ เสรมิ กำรลงทุนในประเทศ ค. 4 ประกำร ง. 5 ประกำร 3. ประเทศใดทไ่ี ทยสง่ สนิ คำ้ ผำ่ นแดน ก. ประเทศ เวียดนำม 7. อำชพี กำรคำ้ แบ่งได้กป่ี ระเภท ข. ประเทศสปป.ลำว ก. 5 ประเภท ค. ประเทศมำเลเซีย ข. 4 ประเภท ง. ประเทศกมั พชู ำ ค. 3 ประเภท ง. 2 ประเภท 4. กำรค้ำชำยแดน หมำยถงึ ก. กำรขำยสนิ ค้ำจำเป็นท่ีใช้ในชีวติ 8. e - Commerce มีกปี่ ระเภท ประจำวนั ก. 3 ประเภท ข. กำรซือ้ ขำย แลกเปลี่ยนสนิ ค้ำระหว่ำง ข. 4 ประเภท กนั กับประเทศเพอ่ื นบ้ำน ค. 5 ประเภท ค. กำรขำยสนิ คำ้ ท่หี ำไดจ้ ำกธรรมชำติ ง. 6 ประเภท ง. ถกู ทุกข้อ

( 12 ) 14. กำรรู้เทำ่ ทันสื่อ หมำยถึง ก. กำรท่เี รำหลงเช่ือเน้ือหำทไ่ี ดอ้ ่ำน 9. ข้อใดคืองำนธรุ กจิ ข. กำรท่ีเรำหลงเชื่อเน้อื หำทีไ่ ดย้ ิน ก. พณชิ ยกรรม ข. ธุรกจิ กำรเงนิ ค. กำรท่ีเรำสำมำรถคิด วิเครำะห์สงสยั ได้ ค. กำรธนำคำร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ง. กำรท่ีเรำหลงเชอื่ เน้ือหำทไ่ี ด้ฟงั 10. . ข้อใดไมใ่ ช่ประโยชน์ E – commerce 15. ธุรกจิ ออนไลน์ต้องควำมพร้อมในเรือ่ งใด ก. สนับสนุนกำรซ้ือ – ขำย ก. เวลำ ข. เพิ่มโอกำสทำงกำรตลำด ข. เงินหมนุ เวยี น ค. เพ่ิมต้นทุนในกำรจัดซื้อ ค. ต้องหำของใหม่เร่ือย ๆ ง. ส่งเสริมกำรขำย ง. ถกู ทุกข้อ 11. ขอ้ ใดคือสว่ นประกอบของขอ้ มูลสินคำ้ 16. กำรสง่ ข้อมูลใหผ้ ูอ้ น่ื จนทำให้ผูร้ ับรำคำญ ก. รถยนต์ ข. แว่นตำ บทลงโทษคือ ค. ภำพถำ่ ย ง. โทรศัพท์ ก. ตกั เตอื น 12. กระบวนกำรทำงอเิ ล็กทรอนิกส์ คอื ข้อใด ข. จำคุก 5 ปี ก. กำรคน้ หำขอ้ มูล ข. กำรสั่งซอ้ื สนิ ค้ำ ค. ปรับไมเ่ กนิ 1 แสน ค. กำรชำระเงนิ ง. ถกู ทกุ ข้อ ง. ไมม่ คี วำมผิด 13. ข้อใดคอื พำณชิ ย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 17. กำรแอบเข้ำไปแกไ้ ขขอ้ มูลของผอู้ ่ืนตอ้ งมี ก. กำรซอื้ ขำยสนิ คำ้ ผ่ำนโทรศัพท์ ข. กำรซ้ือขำยสนิ คำ้ ผำ่ นโทรทศั น์ โทษคือ ค. กำรซือ้ ขำยสินค้ำผำ่ นวิทยุ ง. ถูกทกุ ขอ้ ก. ประหำรชีวติ ข. จำคกุ ตลอดชีวิต ค. จำคุกไมเ่ กิน 5 ปี ง. จำคุกไมเ่ กนิ 2 ปี

18. Trading Business คือ ( 13 ) ก. ธรุ กิจค้ำปลีก ข. ธุรกจิ กำรค้ำ 20. บ๋ำน ห่ำง กวำ หมำ่ ง คอื ขอ้ ใด ค. ธุรกิจส่งออก ก. กำรจำหนำ่ ย ง. กำรขำยตรง ข. ซือ้ สินค้ำ ค. กำรขำยผ่ำนเครือขำ่ ยอินเทอรเ์ นต็ 19. ขอ้ ใดคือกำรคำ้ ชำยแดน (ภำษำเวยี ดนำม) ง. กำรขำยโทรศัพท์ ก. ตญ๋ิ เจด๊ิ ดกั เบยี ด ข. เถ่อื ง จรึก หวงึ จก๊ั ค. เทอื ง หม่ำย เบียน เสย ง. เทอื ง หม่ำย กวำ เบียน เสย

หนว่ ยท่ี 1 ความรทู้ ั่วไปการคา้ ชายแดน

ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง การส่ือสารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซียน 2 1หน่วยที่ หน่วยทคี่ 1วามรู้ทว่ั ไปการค้าชายแดน ความร้ทู วั่ ไปการค้าชายแดน แนวคิด การค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการเติบโตสูงข้ึนอย่าง ต่อเน่ืองซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการท่ีประเทศเพ่ือนบ้านเหล่านี้มีการปรับเปลี่ยนมา ดาเนินนโยบายเศรษฐกิจและการค้าเสรีมากขึ้น รวมไปถึงพัฒนาการของกรอบ ความร่วมมือและความตกลงทางการค้าในรูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนภายในกลุ่มอนุภูมิภาค ซ่ึงปัจจัยเหล่าน้ีล้วนมีส่วนช่วยส่งเสริมให้มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มสูงข้ึนอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งประโยชน์ท่ีเกิดจากการค้าชายแดนน้ันไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อผู้คนท่ีอาศัยอยู่ ในบริเวณชายแดนเท่าน้ัน แต่ยังส่งผลต่อความใกล้ชิดและความร่วมมือระหว่างกันใน ด้านตา่ ง ๆ มากข้ึนอกี ดว้ ย วตั ถุประสงค์ เพ่อื ให้นกั ศึกษาสามารถอธบิ าย 1. อธิบายความหมายการคา้ ชายแดน 2. อธิบายความหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขอบข่ายเนอ้ื หา เรื่องท่ี 1.1 ความรเู้ ก่ียวกับการคา้ ชายแดน เรื่องที่ 1.2 ความรู้เกี่ยวกับเขตเศรษฐกจิ พิเศษ กิจกรรมการเรียนรปู้ ระจาหน่วย 1. ศกึ ษาเอกสารเนอื้ หา เร่ืองท่ี 1.1 – 1.2 2. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมทีไ่ ด้รบั มอบหมายตามเอกสารชดุ การเรียนร้ขู องแต่ละหนว่ ย

3 ชุดการเรียนรูด้ ้วยตนเอง เรอ่ื ง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซียน ส่อื การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียน 2. รูปภาพ 3. ศกึ ษาจากแหลง่ เรยี นรู้ในชุมชน การวัดและประเมินผล 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. การประเมินผลจากกิจกรรมและแนวตอบกิจกรรมท่ี 1

ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การส่อื สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซยี น 4 เเรร่ือือ่ งงทท่ีี่ 11..11 คคววาามมรร้ทูทู้ วัั่่วไไปปเเกก่ยี่ียววกกบับั กกาารรคค้้าาชชาายยแแดดนน กกาารรคคา้า้ ชชาายยแแดดนน คคออืื ออะะไไรร กกเทแทเแใเก ปปปชลลาาี่ี่าใใ็็นนลรรใ้รกกชชนตต่ียคคคเเ้้ใใปปนน้น้ช้้้าาานนลลทททวีสกกชชกี่ย่ียติ่ีม่ีี่มมินาาีีาววนนปรรีภีีรภภคิิตตสสคครคูมูู้ามมปปินินะ้้าาร้าิลิิลลรรจชชคคชะ�ำะะำาา�้้าาาาหาเวเเนจจรรยยยนนวนัะะาาแแาแ่าาาววหหหดดเดงหหชัันนววกรนนนน่รรา่า่ือันเเืืงงออชชเเสพเโปปกกปพพ่่นนนิดรนััน็็นน็นรรมคยโโสสกกมมกมา้แดดิินนอาาาแแีมดยยรรรปุคคดดมมูลนคคคโ้้าานนมีมีคต้้าา้าภออูู่ลลาใใตติใดคุุปปคนนคคนิิตดดรสโโา่า่รรร่อตตั้งคคภภนิููปปูปก่่ออลรรคคคแแแับะกก้ังงั้ า้ บบบลลสสไััปบบเกมะะบิิบบนนรปปษไไ่มะตตตคครรมมตาเ่่่าาา้้าาทะะ่ม่มกรงงงเเเเกกศาานสททกกๆๆๆษษเักนิพศศนนตตขขคเเข่ือัักกสพพรรา้อออน่วทื่ื่อองงสสงสสบนหี่ปปนนปิิว่ว่นน้าใารรบบนนรนหคคไะะะ้้ใใาาด้้ญาาชชชหหนนไททจ้ ่จาาดาญญา่ี่ีหหชชชะก้ทไไจ่่จเาานนนธป�ำดดะะไไรกเเ้้็นททดดหหปปรหา้้สจจมาาร็น็นรรรกกาาชิืืนซออือสสกกาาาผผื้อคผิินนรรตธธูู้้ปป้าู้ปคคซซิรรขจรรร้า้ารรื้้ืเออ�ำาปจจะะะมมเยปาาน็กกกแชชขขเเ็นปปอออตลาาาา็็นนน้ทบบบตตกยยิิี่ กกาารรคค้้าาชชาายยแแดดนนมมอีีอยยูู่่ 22 ลลกกัั ษษณณะะ คคืืออ คคกกแแลลนนลละะุุ่่มมใใททนนผผีี่อ่อพพูู้้คคนื่ืน่ 2121ืน้ื้น้้าา....ภภททๆๆมมมมาา่ีทท่ี ีีีีรรเลลเยยขขี่อีอูู่ปปใใัักกา้า้าานนแแษษมมศศพพบบาาณณยยัั ดด้้ืืนนบบออะะาายยททคคททเเ่บูู่บนนลลี่่ีบบั้ั้งงรรนนิิ้้าาใใรรเเิิยยนนกกววิิเเววกกณณาารรณณัับบรรููปปจจคคกกจจงงััแแา้า้ัังงาาหหบบขขรรหหววาาคคบบววยยัดดั ้้าากกััดดผผชชรราาชช่่าาะะาารรนนาายยหหคคยยแแชชวว้้าาแแดดาา่่าาชชดดยยนนงงาานนแแปปยยดดเเรรแแททนนะะดด่่าาเเนนนนทท้ั้ัททนนศศี่่ีแแแแซซททตตึึ่่งง้้จจ่่ปปไไรรรรมมิิงงะะ่่ไไคคกกดดืืออออ้้มมบบีีกกเเปปดดาา็็นนรร้้ววททยยกกผผาาาากกูู้้คครราาซซ้้าารรจจ้ืื้ออคคาาขขกก้้าาาาขขสสยยาา่่ววรรยยนนะะเเฉฉหหกกพพลลววาาาา่่าางงะะงง กกาารรคคา้้าชชาายยแแดดนนไไททยย –– กกัมมั พพชชูู าาตตลลาาดดชชอ่่องงจจออมม ออ..กกาาบบเเชชงิิง จจ..สสุรรุ ินินททรร์์

5 ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การส่อื สารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซียน การคา้ ผ่านแดนไทย – เวียดนาม การค้าผ่านแดน หมายถึง การค้าที่เกิดข้ึนในรูปแบบต่าง ๆ ที่ประชาชนหรือ ผู้ประกอบการค้าจากประเทศที่หนึ่งส่งผ่านประเทศท่ีสองไปยังประเทศท่ีสาม หรือจาก ประเทศที่สามผ่านแดนประเทศท่ีสองมายังประเทศท่ีหนึ่ง ท้ังนี้ แต่ละประเทศจะต้อง ยินยอมให้มีการขนส่งสินค้าผ่านแดนกันได้ ตลาดการค้าประเทศใกล้เคียงกับประเทศ ที่อยู่ถัดไป เช่น จีน อินเดีย บังคลาเทศ และเวียดนาม ซ่ึงมีประชากรรวมกันกว่าหน่ึง พันล้านคนนับว่าเป็นตลาดการค้าท่ีสาคัญ ที่น่าสนใจการขนส่งสินค้าทางบกผ่านแดน ไปยังประเทศดังกล่าวสามารถย่นระยะทางการขนส่งสินค้า เป็นการลดต้นทุนค่าขนส่ง ไดเ้ ป็นจานวนมาก และยังช่วยสง่ เสริมความสามารถในการแข่งขนั ของสนิ คา้ ไทย การค้าชายแดนไทยไป สปป.ลาว และการค้าผ่านแดน สปป.ลาว ไปจีน และ เวียดนามมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสาคัญ กับเส้นทางขนส่งทางถนนท่ีเชื่อมต่อระหว่าง สี่ประเทศ กฎเกณฑ์แนวนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เก่ียวข้องโดยพบว่า ในทางปฏิบัติ การค้าระหว่างกันจะมีการใช้เส้นทางสายหลัก รวมท้ังสิ้น 4 สาย ประกอบด้วย เส้นทาง ถนนสาย R3A R8 R9 และ R12 ซ่ึงจะข้ามพรมแดนจากไทยไปยัง สปป.ลาว โดยอาศัย สะพานขา้ มพรมแดน (สะพานมติ รภาพไทย - ลาว) ซงึ่ ในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แหง่ ได้แก่ 1. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 ระหว่าง จังหวัดหนองคาย - นครหลวง เวียงจันทน์ 2. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งท่ี 2 ระหว่างจงั หวัดมุกดาหาร - แขวงสะหวัน นะเขต 3. สะพานมติ รภาพไทย - ลาว แหง่ ที่ 3 ระหว่างจงั หวดั นครพนม - แขวงคามว่ น 4. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งท่ี 4 ระหว่างจังหวัดเชียงราย - แขวงบ่อแก้ว และกาลงั ดาเนนิ การก่อสรา้ งอีก 2 แหง่ 5. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 จงั หวัดบงึ กาฬ - เมอื งปากซนั 6. สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 6 จงั หวัดอุบลราชธานี - แขวงสาละวัน

ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซียน 6 ในขณะที่มจี ุดผา่ นแดนถาวรและจดุ ผ่อนปรนทางการคา้ ตลอดแนวทางชายแดน ซึ่ง ณ เดือนกรกฎาคม 2558 จุดผ่านแดนของไทยบริเวณชายแดนไทย-สปป.ลาว ประกอบด้วยจุดผ่านแดนถาวร 19 แห่ง และจุดผ่อนปรนทางการค้า 29 แห่ง ทั้งน้ีหากมี การเช่ือมตอ่ ทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มประสทิ ธภิ าพ สาหรับประเทศ ไทยและเวียดนามมีจังหวัดชายแดนไทยท่ีมีพ รมแดน ติดกับ สปป.ลาว ผ่านแดน ไปเวยี ดนาม 6 จงั หวัด ไดแ้ ก่ มุกดาหาร บงึ กาฬ นครพนม หนองคาย อุบลราชธานี เลย จังหวัดที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ นครพนม รองลงมา ได้แก่ มกุ ดาหาร บงึ กาฬ สระแกว้ หนองคาย ตราด สินค้าส่งออกผ่านแดนไปเวยี ดนามท่ีสาคัญ ได้แก่ เคร่อื งดื่มไม่มแี อลกอฮอล์ (นม ยูเอสที นมถ่ัวเหลือง เคร่ืองดื่มชูกาลัง น้าชา-กาแฟพร้อมด่ืม ฯลฯ) ผลไม้สดแช่เย็น แช่ แข็งและแห้ง ผลติ ภัณฑ์เหล็กและเหลก็ กลา้ ผ้าผืนและดา้ ย วงจรพิมพ์ ต้เู ยน็ ต้แู ชแ่ ขง็ และ ส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบเตาอบไมโครเวฟและ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน ยางยานพาหนะ และเคร่ืองสูบ เช้ือเพลิงของเหลวและ เคร่ืองสูบลม สินค้านาเข้าผ่านแดนไปเวียดนามที่สาคัญ ได้แก่ ส่วนประกอบและ อุปกรณ์รวมทั้งโครงรถและตัวถัง

7 ชุดการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสือ่ สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น เรอ่ื งท่ี 1.2 เขตเศรษฐกิจพิเศษ เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone (SEZ) คืออะไร เขตเศรษฐกิจพิเศษ หมายถึง เขตพ้ืนท่ีท่ีจัดต้ังข้ึนเป็นการเฉพาะตามกฎหมาย เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมสนับสนุน และอานวยความสะดวก รวมท้ังให้สิทธิพิเศษ บางประการในการดาเนินกิจการต่าง ๆ เช่น การอุตสาหกรรม การพาณิชยกรรม การ บริการ หรอื กิจการอื่นใดท่ีเป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ สิทธิประโยชน์ที่ผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม การพาณชิ ยกรรม หรือกิจการอื่นใด ที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ ได้รบั อยู่แล้วตามกฎหมายที่ใช้บงั คับอย่ใู น ปัจจุบัน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 การนิคมอุตสาหกรรม ตามพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2522 และเขตปลอดอากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2496 โดยมี สาระสาคัญการให้สทิ ธิประโยชน์ ดงั น้ี ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการจดั ตัง้ เขตเศรษฐกจิ พิเศษ การท่ีประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี พ.ศ.2558 และประเทศไทยมีสภาพทางภูมิศาสตรเ์ ป็นศนู ย์กลางของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ การจดั ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากตอ่ ประเทศไทย เพราะเป็นการ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย ในตลาดประเทศเพอื่ นบ้าน โดยมปี ระโยชนท์ จ่ี ะไดร้ ับ ดงั น้ี 1. เป็นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น 2. เป็นการส่งเสริมการส่งออก เพราะช่วยลดต้นทุนในการประกอบการต่าง ๆ เช่น คา่ แรงงานราคาถกู จากประเทศเพื่อนบ้าน

ชดุ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 8 3. เป็นการส่งเสริมให้มีการนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตสินค้าจาก ตา่ งประเทศเข้าดาเนนิ การในประเทศไทย 4. เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าจากประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ไปสู่ ภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้และประเทศอนื่ ๆ 5. ก่อให้เกิดการจ้างงานเพ่ิมขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ท่ีมีการจัดตั้งเขต เศรษฐกิจพเิ ศษ พ้ืนที่เป้าหมายในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 5 ภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับ การพัฒนาเส้นทางทางหลวงเช่ือมโยงระหว่างประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือ อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง (Greater Mekong Subregion Cooperation : GMS) โดยการ พัฒนาเส้นทางทางหลวงเช่ือมโยงระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ลุ่มแม่นา้ โขง มี 3 แนวพื้นทห่ี ลัก ๆ ไดแ้ ก่ 1. แนวตะวันออก - ตะวันตก(East-West Economic Corridor: EWEC) เช่อื มโยง พม่า -ไทย - ลาว - เวียดนาม ระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ได้แก่ เมาะละแหม่ง – เมียวดี / แมส่ อด - พิษณโุ ลก – ขอนแก่น - กาฬสนิ ธุ์ มกุ ดาหาร / สะหวันนะเขต - ดองฮา - ดานงั 2. แนวเหนือ -ใต้ (North-South Economic Corridor: NSEC) มี 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1) เชื่อมโยงจีน – พม่า / ลาว -ไทย (คุนหมิง-เชียงรุ่ง – ต้าหลั่ว – เชียงตุง - ท่าข้ีเหล็ก / แม่สาย - กรุงเทพฯ และคุนหมิง – เชียงรุ้ง – บ่อเต้น – หลวงน้าทา – หว้ ยทราย / เชียงของ - กรงุ เทพฯ) ระยะทางประมาณ 1,280 กิโลเมตร 2) จนี -เวยี ดนาม (คุนหมงิ - ฮานอย - ไฮฟอง) 3. แนวตอนใต้ (Southern Economic Corridor:SEC) เช่ือมโยงไทย – กัมพูชา - เวียดนาม 3 เสน้ ทางไดแ้ ก่ 1) กรุงเทพฯ - อรญั ประเทศ/ปอยเปต – พนมเปญ – โฮจมิ นิ ห์ซิตี้ - วังเตา ระยะทาง 1,005 กิโลเมตร 2) กรุงเทพฯ - ตราด/เกาะกง – สแรแอมปึล – กัมปอต – ฮาเตียน – กามู - นาเชา ระยะทาง 907 กโิ ลเมตร

9 ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสือ่ สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 3) กรุงเทพฯ – เสียมราฐ – สตรึงเตร็ง – รัตนคีรี – Oyadav - Play Ku - Quy Nhon ระยะทาง 1,150 กิโลเมตร พื้นท่เี ขตเศรษฐกิจพเิ ศษ

ชุดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น 10 กจิ กรรมหหนนว่ ่วยยทท่ี 1่ี 1 จงอธบิ ายความหมายตอ่ ไปนี้ 1. การคา้ ชายแดน หมายถึง ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 2. การคา้ ผา่ นแดน หมายถงึ ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... 3. รปู แบบการค้าชายแดนมีก่แี บบ ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 4. เขตเศรษฐกิจพิเศษ หมายถึง ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... .....................................................................................................................................

หน่วยที่ 2 การเลือกอาชีพในการประกอบธุรกจิ

ชดุ การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรือ่ ง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 12 2การเลอื กอากชาีพรหเนใลนอืว่ กยกาทอราี่ป2ชรีพะใกนอกบาธรรุปกริจะกอบหธนุร่วกยจิที่ แนวคิด ในการดารงชีวิตปัจจุบันต้องสร้างมาตรฐานที่ดีให้แก่ตนเองและครอบครัว และสังคม อาชีพมีอยู่มากมาย ควรพิจารณาในการเลือกอาชีพ ตามความถนัด ความ สนใจ สจุ รติ มคี วามมั่นคง การตดั สินใจเลือกอาชีพ นับเป็นขั้นตอนท่ีสาคัญ เพราะถ้า ตัดสินใจเลือกอาชีพเหมาะสมกับตนแล้ว จะทาให้เรามีความสุขและมีความก้าวหน้า ในชีวิตประจาวนั จุดประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาสามารถ 1.อ ธิ บ า ยก ารตั ด สิ น ใจใ น ก ารเลื อ ก อ าชี พ ไ ด้ น าค วาม รู้แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใน ก า ร ประกอบอาชีพ สามารถสรา้ งรายไดม้ น่ั คงและการทางานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. อธิบายประเภทของอาชีพสามารถประยุกต์ใช้ความร้เู ก่ียวกับงานอาชีพเพื่อ การพฒั นาตนและงานอาชีพ 3. อธิบายการพัฒนาอาชีพและมีเจตคติที่ดีต่องานอาชีพและหลักการ บรหิ ารงานใหม้ คี ณุ ภาพและประสทิ ธิภาพ. 4. สามารถศึกษา วิเคราะห์ ให้เป็นไปตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผปู้ ระกอบการอาชีพจาเปน็ ตอ้ งพัฒนาตนเองให้ทนั กับการเปลยี่ นแปลง ขอบข่ายเนอ้ื หา เรอื่ งท่ี 2.1 การตัดสนิ ใจเลือกอาชีพ เรื่องท่ี 2.2 ประเภทของอาชีพ

13 ชดุ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง เร่ือง การสอ่ื สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซียน เรื่องท่ี 2.3 การพัฒนาอาชีพ เรอื่ งที่ 2.4 ความพรอ้ มในการพฒั นาอาชีพ การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเนอ้ื หาเอกสารชุดการเรยี นรู้ด้วยตนเอง เรอ่ื งท่ี 2.1-2.4 2. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมท่ีไดร้ ับมอบหมายตามเอกสาร ชุดการเรียนร้ดู ้วยตนเอง ส่ือการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบชดุ การเรียนรูด้ ้วยตนเอง 2. รปู ภาพ การวัดและประเมินผล การประเมินผลจากกิจกรรมท่ี 2

ชุดการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การสอ่ื สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซียน 14 เรอื่ งท่ี 2.1 การตัดสินใจเลอื กอาชีพ การตัดสนิ ใจเลอื กอาชพี กกาารรตตัดัดสสินิ ใจเลือกอาชีพ นับเป็นข้ันตอนท่ีส�ำาคัญ เพราะถ้าตัดสินใจเลือก ออาาชชพีีพเหเหมมาะาสะมสกมบั กตับนตแลนว้ แจละ้ทวจำ� ใะหทเ้ ราาใมหคี ้ เวราามมสีคขุ วแาลมะมสคีุขวแาลมกะา้มวีคหวนาา้ มในกช้าวีวติหปนร้าะใจนำ� ชวันีวิตจปึงรตะ้อจงารวู้หันลักจกึงตาร้องวริธู้หีกลารักกขาั้นรตวอิธนีกเาพร่ือขจ้ันะตไดอ้ตนัดเสพิน่ือใจจะใไหด้ด้ตีทัด่ีสสุดินอใจาจใกหล้ด่าีทวี่สไดุด้ อว่าาจ“กงลา่านวคไดือ้วช่าีว“ิตง”านดคังือนช้ันีวจิต�ำ”เปด็นังนตน้ั ้อจงามเปีก็นารตเ้อริ่มงมตีก้นาดรเ้ารนิม่ กตา้นรดว้าานงกแาผรนวชางีวแิตผดน้าชนีวอิตาดช้าีพน อสางิ่ ชสีพำ� คสัญ่ิงสในาคกัญารใตนดักสารนิ ตใัดจสเลนิ ือใกจอเลาือชกพี อขาชึ้นีพอยขูก่ึ้นับออยูก่งคับ์ปองรคะ์ปกอระบกทอสี่ บ�ำทคี่สญั าค2ัญปร2ะปกราะรกคาอื ร คือ ประการที่ 1 ปัจจยั ภายนอกไดแ้ ก่ ข้อมลู ดา้ นอาชีพพอสรปุ ได้ดังนี้ 1. แนวโน้มของตลาดแรงงาน เป็นข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการผู้ทางานใน ด้านตา่ ง ๆ ปจั จบุ ัน และการพยากรณค์ วามต้องการในอนาคต 2. ลักษณะงาน งานที่ต้องทาเป็นประจามีลักษณะอย่างไร ผู้ทางานจะต้องทา อะไรบา้ งเป็นงานที่ทาให้เกดิ ความเพลดิ เพลนิ หรอื เบ่อื หน่าย งานใหญ่ หรือ งานเลก็ มี ความรับผดิ ชอบทส่ี าคญั มากหรือไม่ ฯลฯ 3. สภาพแวดล้อมของงาน ไดแ้ กส่ ภาพแวดล้อม บรรยากาศ ของงาน เชน่ รอ้ น สกปรก ฝุ่นมาก เสียงดัง มสี ารพษิ มีความขดั แย้งตา่ ง ๆ ในหนว่ ยงาน ฯลฯ

15 ชดุ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เรือ่ ง การสือ่ สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซียน 4. คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ อายุ ได้มีการกาหนดอายุก่อนเกษียณ อยา่ งไร เพศ อาชพี น้ัน ๆ 5. การเข้าประกอบอาชีพต้องมีวิธีการอย่างไร โดยการสมัครงานกับนายจ้าง หรือสอบข้อเขยี น สอบสัมภาษณ์ดว้ ย 6. รายได้ ในการประกอบอาชีพมรี ายไดโ้ ดยเฉลีย่ เทา่ ไหร่ 7. ความกา้ วหนา้ อาชีพนั้น ๆ มีความก้าวหน้าเพียงใด ต้องมกี ารอบรมเพิ่มเติม และมีความสามารถเท่าไหร่ถงึ จะเลื่อนขัน้ 8. การกระจายของผู้ประกอบอาชีพ มีผู้ประกอบอาชีพมากน้อยเพียงใด กระจายอย่ทู ่วั ประเทศหรือมีอยู่เพียงบางจังหวดั 9. ขอ้ ดีและข้อเสีย อาชีพแตล่ ะอย่างมีท้ังข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความพอใจ และความตอ้ งการของผู้ประกอบอาชพี นัน้ ประการที่ 2 ปัจจัยภายในได้แก่ ปัจจัยส่วนบุคคล ความสนใจ บุคลิกภาพ สติปัญญา ความถนัดทักษะ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ความรบั ผิดชอบ ความอุตสาหะ เพศ เช้ือชาติ อายุ ความแข็งแรง สุขภาพ ความปลอดภัย ความมั่นคง การทางานเป็น ประโยชนต์ อ่ ผอู้ น่ื หรือไม่ ฯลฯ ลักษณะของงานอาชพี งานทั่วไปท่ีนิยมทาเป็นอาชีพมีลักษณะของงานตามที่พ้ืนฐานการงานอาชีพ กาหนดไวใ้ ห้ดังนี้ 1. งานเกษตรกรรม เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ งานท่ีเก่ียวข้องคือ การ ปลูกพืชสวน พืชไร่ การปศุสัตว์ และการประมง ประเทศไทยมีพ้ืนที่เป็นท่ีราบลุ่ม และมีสภาพภูมิอากาศรอ้ นชื้นเหมาะสมต่อการเพาะปลูก เลย้ี งสัตว์ และการทาประมง เปน็ งานอาชพี ของประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศ

ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การส่ือสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซยี น 16 2. งานธุรกิจ เป็นงานท่ีเก่ียวกับธุรกิจและการค้า พณิชยกรรม ธุรกิจการเงิน การธนาคาร การทาบัญชี การจัดการธุรกิจ การเก็บเอกสาร การติดต่อส่ือสารและ เทคโนโลยีสารสนเทศ และอื่น ๆ 3. งานอุตสาหกรรม เป็นงานท่ีเก่ียวกับความต้องการผลิตสินค้า ด้วยงาน ทางด้านการช่างและเคร่ืองจักรกลโรงงาน เคร่ืองมอื เครอ่ื งจักรอุตสาหกรรม พนักงาน จะได้รับค่าจ้าง เป็นค่าแรงงานที่เหมาะสมกับระดับความรู้ ความสามารถและ ประสบการณ์แต่ต้องไมน่ อ้ ยกวา่ ข้นั ตา่ ตามทกี่ ระทรวงแรงงานไดก้ าหนดไว้ 4. งานคหกรรม เป็นงานที่เก่ียวกับการจัดการบ้านเรือน การตกแต่งสถานท่ี การประกอบอาหาร การเย็บปักถกั ร้อย การตัดเย็บเส้ือผ้า เป็นต้น ถ้างานน้ันมีรายได้ก็ ถือว่าเปน็ งานอาชพี ได้ 5. งานศิลปกรรม เป็นงานอาชีพที่เก่ียวกับงานช่างฝีมือท่ีมีความสุนทรี ละเอียดอ่อน ความคิดสรา้ งสรรค์ ท้ังด้านศิลปกรรมและการประยุกต์ การตกแต่ง การ ออกแบบในด้านงานหัตถกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม เป็นต้น โดยให้ผลผลิต สามารถไปประกอบอาชพี

17 ชดุ การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซียน เร่ืองที่ 2.2 ประเภทของอาชพี ประเภทของอาชีพ ไดแ้ ก่ 1. อาชีพรับราชการ คือ พนักงานที่ได้รับการจ้างงานจากรัฐบาล เรียกช่ือว่า ข้าราชการในปัจจุบันเปล่ียนมาเป็นพนักงานของรัฐ มีหน้าที่ในการให้บริการ ประชาชนในด้านต่าง ๆ ตามตาแหน่งและหนา้ ที่งานในกระทรวงนั้นรบั ผิดชอบ 2. อาชีพลูกจ้าง ลูกจ้างหรือพนักงานเป็นการประกอบอาชีพท่ีไม่ได้เป็น เจา้ ของกิจการหรือผู้ประกอบการ แต่เป็นลูกจา้ งหรือพนักงานขององค์การธุรกิจหรือ หน่วยงานต่าง ๆ โดยปฏิบัติงานตามคาสั่งหรือตามที่ได้รับมอบหมาย ค่าตอบแทนที่ ได้รับคือ เงนิ เดือน หรือรายได้ประจาวัน 3. อาชีพส่วนตัว การประกอบอาชีพส่วนตัวหรืออาชีพอิสระ หมายถึง การ ประกอบอาชีพที่มีการลงทุนด้วยตนเอง หรือร่วมกับบุคคลอ่ืน ลักษณะการทางานมี ความเป็นอิสระ เป็นนายจ้างตนเอง แต่การจะเป็นนายตนเองนั้นต้องมีองค์ประกอบ อ่ืน ๆ อีกหลายประการ เช่น จะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเทกาลัง กาลังกาย มานะ และอดทนในการทางาน การประกอบอาชีพส่วนตัว หรืออาชพี อสิ ระ ลกั ษณะของการประกอบการในอาชพี ดงั น้ี 1. อาชีพการสร้างผลผลิต (Production Processing Sector) เป็นอาชีพที่ ดาเนินการเพื่อให้เกิดผลผลิตสาหรับจาหน่ายให้แก่ ผู้บริโภค อาชีพการสร้างผลผลิต แบง่ ได้เปน็ ธุรกิจ 2 ประเภท คอื

ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 18 1.1 ธรุ กิจการเกษตร (Agricultural Processing) เรียกผู้ประกอบอาชพี ว่า เกษตรกร ผลผลติ ท่ีไดเ้ ป็นผลผลติ ข้ันพืน้ ฐานจะถกู นาไปขายในลักษณะทเี่ ป็นวัตถดุ ิบ เพ่อื แปรรปู เปน็ สนิ ค้าตอ่ ไป 1.2 ธรุ กิจอุตสาหกรรม (Industrial Business) เป็นอาชพี ท่ีนาผลผลิต ทางการเกษตรมาผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม เพ่ือแปรรูปให้เป็นสินค้าหรือ ผลติ ภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด การประกอบอาชพี ธุรกิจอุตสาหกรรมมีหลาย รปู แบบ เช่น รูปแบบอุตสาหกรรมโรงงานท่ีต้องจ้างแรงงาน หรือรูปแบอุตสาหกรรม ในครัวเรือน 2. อาชีพการค้า (Trading Sector) เป็นอาชีพที่ผู้ประกอบการทาหน้าที่นา สนิ ค้าหรือซอ้ื สนิ ค้าจากผูผ้ ลิตแล้วนาไปจาหน่ายขายต่อ มลี กั ษณะของการซือ้ และการ ขายสินค้าโดยมีรายได้เป็นกาไรจากการขายสินค้าเหล่าน้ัน อาชีพการค้าแบ่งออกได้ เปน็ 2 ประเภทคือ 2.1 ธุรกิจค้าส่ง (Wholesale Business) เป็นการซ้ือสินค้าจากผู้ผลิต จานวนมากมาขายต่อให้กับผู้ค้าปลีกที่มีร้านค้า อาจมีการตั้งเป็นศูนย์รับสั่งสินค้าให้ เช่น ห้างแม็คโคร ตลาดสาเพ็ง ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ห้างร้านขายส่งบนตึก ใบหยก 2.2 ธุรกิจค้าปลีก (Retail Business) คือ ผู้ซ้ือสินค้าจากผู้ผลิตหรือ ผู้ค้าส่ง แล้วนาไปขายต่อให้กับผู้บริโภคคนสุดท้าย เช่น ร้านขายของชาใกล้บ้าน รา้ นขายกว๋ ยเตย๋ี ว ร้านขายยา รา้ นเซเวน่ อีเลฟเว่น หรืออาจเป็นการคา้ ปลีกที่ให้บรกิ าร ถงึ บา้ น 3. อาชีพการให้บริการ (Service Sector) เป็นอาชีพที่ผู้ประกอบการ มีสินคา้ เป็นการบริการ เพื่ออานวยความสะดวกให้แกผ่ ู้ซื้อบริการหรือลูกค้า คุณภาพ ของสินค้าบริการ คือความพึงพอใจจากการใชบ้ รกิ ารนั้น ๆ รายได้ คือ คา่ ตอบแทนท่ี ได้จากการบริการ การประกอบอาชพี ประเภทนี้ตอ้ งการเงินลงทุนไม่มากนักเม่ือเทียบ กบั การลงทุนดา้ นการผลิตสินคา้

19 ชุดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เรอ่ื ง การสือ่ สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซียน เรือ่ งท่ี 2.3 การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาอาชีพ หมายถึง การพัฒนาทักษะอาชีพด้านต่าง ๆ ให้ทันต่อการ เปลยี่ นแปลงของตลาด การพฒั นาอาชพี มคี วามสาคัญ ดังน้ี ด้านเศรษฐกิจ มีการพัฒนาสินค้าให้สามารถเข้าสู่ตลาดการแข่งขัน และเป็นที่ ยอมรบั ของตา่ งประเทศ ด้านสังคม ประเทศที่มีเศรษฐกิจดีจะส่งผลให้สภาพของสังคมดีข้ึน ด้าน การศึกษา ครอบครัวท่ีมเี ศรษฐกจิ ดีจะสามารถมุง่ ส่งบตุ รหลานเขา้ รบั การศึกษาไดต้ าม ความต้องการ การพัฒนาอาชีพจึงมีความจาเป็นในการพัฒนากระบวนการผลิต และ กระบวนการตลาดโดยการนาภมู ปิ ญั ญา นวตั กรรมเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ กระบวนการผลติ เป็นการบริหารจัดการด้านทุน แรงงาน ท่ีดนิ หรือสถานทีใ่ ห้ เกิดผลผลติ ทมี่ ีการพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง กระบวนการตลาด เป็นการบริหารจัดการด้านการตลาด เริ่มต้ังแต่การศึกษา ความต้องการของลูกค้า การกาหนดเป้าหมาย การทาแผนการตลาด การส่งเสริมการ ขาย การกาหนดราคาขาย การขาย การส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า เพื่อนาข้อมูลมาใช้ พฒั นาอาชพี ภูมิปัญญา หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ความชาญฉลาด อันเกิดจากพื้น ความรู้ท่ีผ่านกระบวนการสืบทอด ปรับปรุง พัฒนา สะสมมาเป็นเวลานานอย่าง เหมาะสม นวัตกรรม หมายถงึ ความคิด การปฏบิ ัติ หรือสงิ่ ประดษิ ฐใ์ หม่ หรือเปน็ การ พัฒนา มาจากของเดิมท่ีมอี ยู่แลว้

ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เร่อื ง การส่อื สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น 20 เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พฒั นาขน้ึ เพอ่ื ชว่ ยในการทางานหรือ แก้ปัญหาตา่ ง ๆ ต้องพิจารณาประสิทธภิ าพของนวัตกรรมเทคโนโลยี ดจู าก องค์ประกอบ 4 ดา้ น คือ 1. ความสามารถในการทางาน 2. ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย 3. ทางานได้รวดเรว็ 4. ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม

21 ชุดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เรอ่ื ง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซยี น เรอ่ื งท่ี 2.4 ความพร้อมในการพฒั นาอาชพี สาหรับการประกอบอาชีพจาเป็นต้องมีการศึกษา วิเคราะห์ ให้เป็นไปตาม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผู้ประกอบการอาชีพจาเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ทันกับ การเปล่ียนแปลงอยู่เสมอ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่หาประสบการณ์ เพ่ือ ความสาเรจ็ ในงานอาชีพ การฝกึ ทกั ษะเพื่อพัฒนาอาชพี ก่อนท่ีจะฝึกทักษะเพ่ือพัฒนาอาชีพ จะต้องวางแผนการฝึกว่าจะฝึกอย่างไร ทไ่ี หน เมื่อไร วเิ คราะห์ทักษะทจ่ี าเป็น และตอ้ งฝึกอย่างถถ่ี ้วน ให้ครอบคลุมทักษะที่ ต้องการฝึก และมองเป็นภาพรวมของการพัฒนาอาชีพท้ังระบบ และสามารถ วางแผนในการเลือกสถานที่ฝึก และวิธีการฝึกได้เมื่อได้มีแผนการฝึกทักษะเพื่อ พัฒนาอาชีพแล้ว ต้องดาเนินการฝึกทักษะอาชีพตามแผนท่ีกาหนดไว้ ควรมีการ บันทกึ องคค์ วามร้เู กบ็ ไว้ศกึ ษา และเมอ่ื ปฏิบัตเิ สรจ็ แล้วตอ้ งไดค้ วามรู้เพมิ่ ขึ้น การจดั การการตลาด การจัดการการตลาดมีบทบาทสาคัญในการดาเนินธุรกิจ จึงจาเป็นต้องมี ความรู้ความสามารถเข้าใจในการตลาด สามารถศึกษาวิเคราะห์ตลาด ก่อนตัดสินใจ ลงทุน เพ่ือจะได้ดาเนินธุรกิจไปในทิศทางท่ีถูกต้อง การจัดการการตลาดเป็นการ ดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ด้านธุรกิจต้องมีการวางแผนการผลิต การโฆษณา การ ประชาสัมพันธ์ การวิจัยตลาด การส่งเสริมการขาย การทาข้อมูลฐานลูกค้า การ กระจายสินค้า การกาหนดราคา การจัดจาหน่าย เพ่ือสนองความต้องการ และบริการ ให้แก่ผ้ซู อ้ื หรอื ผูบ้ ริโภคพอใจทง้ั ในเร่ืองราคาและบรกิ าร

ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรื่อง การส่อื สารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 22 การขบั เคลอื่ นเพอื่ พฒั นาธรุ กจิ การขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาธุรกิจมุ่งเน้นการส่งเสริมการแก้ปัญหา การแสวงหา ความรู้ การบริหารจัดการทรัพยากร พัฒนาชุมชน และ การจัดทาแผนและ การ ขับเคลื่อนแผน ด้วยกระบวนการผลิต วิเคราะห์ จนบรรลุความเข้มแข็งยั่งยืน เศรษฐกิจพอเพียงและมีการดารงชีวติ ในสิ่งแวดลอ้ มท่ีดี การวเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้ ของแผนพัฒนาอาชีพ เป็นการสร้างความเช่ือม่ันว่าแผนพัฒนาอาชีพมีทิศทางการ พัฒนาถูกต้องมีความเป็นไปได้สูง การพัฒนาอาชีพของชุมชน สิ่งสาคัญที่ต้อง วิเคราะห์คือ ความสามารถของชุมชน เก่ียวกับความรู้ การผสมผสานความชานาญ และเทคโนโลยีการผลิตท่ีหลากหลายเข้าด้วยกัน การทาแผนธุรกิจ มีขั้นตอนที่สาคัญ 8 ข้นั ตอน คือ 1. กาหนดแผนการจดั ทาธุรกิจ 2. การพฒั นาวสิ ยั ทัศนข์ องชุมชนและรายครวั เรอื น 3. การกาหนดค่านยิ มของชุมชนและรายครวั เรือน 4. การกาหนดพันธกิจของชุมชนและรายครัวเรอื น 5. กาหนดนโยบาย 6. การวเิ คราะหศ์ ักยภาพของชุมชน 7. การกาหนดกลยุทธข์ องชุมชน 8. การกาหนดแผนปฏบิ ัติการ

23 ชุดการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เร่อื ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น กิจกรรมท้ายบท หนว่ ยที่ 2 กจิ กรรม หน่วยท่ี 2 จงอธบิ ายความหมายต่อไปน้ี 1. ยกตวั อย่างองค์ประกอบที่สาคญั ของปัจจยั ภายนอกมา 3 ข้อ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 2. จงอธบิ ายประเภทของอาชพี ไดแ้ ก่ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 3. อาชพี การสร้างผลผลิตแบ่งได้เปน็ ธรุ กิจ 2 ประเภท ได้แก่ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… 4. นวัตกรรม หมายถงึ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………

ชุดการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง เรือ่ ง การสอ่ื สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซยี น 24 5. การทาแผนธุรกิจ มขี ัน้ ตอนที่สาคญั 8 ขน้ั ตอน คือ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………

หน่วยท่ี 3 การนาเทคโนโลยไี ปใช้ในการพฒั นาอาชพี

ชดุ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การส่อื สารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 26 หน่วยที่ 3 3การนาเทกคาโรนนโ�ำลเทยคไี ปโนใชโลใ้ ยนไี กปาใรชพ้ในัฒกนาราพอฒัาชนีพาอาชีพหน่วยท่ี แนวคดิ การดาเนินการซื้อขายสินค้าและบริการด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการซ้ือขายกันแบบออนไลน์ การค้า ในรูปแบบ E-Commerce น้ัน จะช่วยให้การดาเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุน และ กระบวนการดาเนินงานให้น้อยลง เพ่ิมประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าได้อย่าง ทว่ั ถงึ ขยายตลาดไดก้ ว้าง สามารถซอ้ื ขายไดท้ ุกที่ ทุกเวลา จดุ ประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมคี วามร้ใู นการซื้อขายสนิ ค้าและบริการดว้ ยส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ ผ่าน ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ หรอื การซอื้ ขายกันแบบออนไลน์ การคา้ ในรปู แบบ E-Commerce 2. เพื่อให้ผูเ้ รียนไดเ้ รยี นรู้ถึงประโยชนข์ อง E – Commerce สาหรับการประกอบ ธรุ กิจได้อยา่ งรวดเร็วและมีคุณภาพ 3. เพื่อใหผ้ ้เู รียนมที ักษะและเทคนิคการพฒั นาข้อมูลสนิ ค้าเพ่อื การขายออนไลน์ได้ ขอบขา่ ยเนอื้ หา เรอ่ื งท่ี 1 ความรู้เบ้ืองต้น E-Commerce เรอ่ื งท่ี 2 องค์ประกอบของ E-Commerce เรือ่ งที่ 3 เทคนคิ การพัฒนาข้อมูลสินค้าเพ่ือการขายออนไลน์

27 ชุดการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เร่ือง การส่อื สารการประกอบอาชพี การค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น เรื่องที่ 4 ตวั อย่างตลาดกลางพาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ กจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระจาหน่วย 1. ศกึ ษาเอกสารชดุ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง ทัง้ 4 เรือ่ ง 2. ทากิจกรรมและตอบคาถามทา้ ยหน่วย ส่ือการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาเอกสาร 2. ศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรใู้ นชุมชน /วิทยากร /อินเตอรเ์ น็ต การวดั และประเมินผล 1. การประเมินผลจากกิจกรรมและแนวตอบกิจกรรมท่ี 3

ชดุ การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง เรอื่ ง การสอื่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซยี น 28 เร่อื งที่ 3.1 ความรู้เบอ้ื งต้น E-Commerce E-Commerce คอื อะไร E-Commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดาเนินธุรกิจโดย ใช้ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่องค์กรได้วางไว้ เช่น การซื้อขาย สินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพ ขององคก์ ร โดยการลดบทบาทองค์ประกอบทางธรุ กิจลง เช่น ทาเลท่ีตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนาสินค้า พนักงาน ต้อนรับลูกค้า เปน็ ตน้ จงึ ลดขอ้ จากัดของระยะทาง และเวลาลงได้ ประเภทของ E-Commerce 1. ผู้ประกอบการ กับ ผบู้ ริโภค (Business to Consumer - B2C) คือการค้าระหว่างผู้ค้าโดยตรงถึงลูกค้าซ่ึงก็คือผู้บริโภค เช่น การขายหนังสือ ขาย วดี โี อ ขายซีดีเพลง เปน็ ตน้ 2. ผู้ประกอบการ กบั ผปู้ ระกอบการ (Business to Business – B2B)

29 ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เร่ือง การสือ่ สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น คือการค้าระหว่างผู้ค้ากับลูกค้าเช่นกัน แต่ในท่ีนี้ลูกค้าจะเป็นในรูปแบบของ ผปู้ ระกอบการ ในทน่ี ี้จะครอบคลมุ ถึงเรือ่ ง การขายส่ง การทาการส่ังซ้ือสินคา้ ผ่านทางระบบ อิเล็กทรอนิกส์ ระบบห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain Management) เป็นต้น ซึ่งจะมีความ ซบั ซ้อนในระดบั ตา่ งๆกนั ไป 3. ผู้บรโิ ภค กับ ผู้บรโิ ภค (Consumer to Consumer - C2C) คือการตดิ ตอ่ ระหว่างผู้บรโิ ภคกับผบู้ ริโภคน้ัน มีหลายรูปแบบและวตั ถุประสงค์ เช่น เพอ่ื การติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ในกล่มุ คนที่มีการบริโภคเหมอื นกนั หรอื อาจจะทา การแลกเปลี่ยนสินคา้ กันเอง เป็นตน้ 4. ผ้ปู ระกอบการ กบั ภาครัฐ (Business to Government – B2G) คือการประกอบธุรกิจระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ท่ีใช้กันมากก็คือเรื่องการจัดซ้ือ จัดจ้างของภาครัฐ หรือที่เรียกว่า e-Government Procurement ในประเทศที่มีความก้าวหน้า ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว รัฐบาลจะทาการจัดซ้ือจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็น สว่ นใหญ่เพอื่ ประหยัดค่าใชจ้ า่ ย เช่นการประกาศจัดจา้ งของภาครัฐในเวบ็ ไซต์ 5. ภาครัฐ กบั ประชาชน (Government to Consumer-G2C) การบริการของภาครัฐผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงปัจจุบันในประเทศไทยเองก็มี ให้บริการแล้วหลายหน่วยงาน เช่นการคานวณและเสียภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต, การให้บริการ ข้อมูลประชาชนผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น เช่นข้อมูลการติดต่อการทาทะเบียนต่างๆของ กระทรวงมหาดไทย ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบา้ งในการ ทาเรอื่ งน้นั ๆ และสามารถดาวน์โหลดแบบฟอรม์ บางอยา่ งจากบนเวบ็ ไซตไ์ ด้ด้วย ประโยชนข์ อง E – Commerce 1. เพ่ิมโอกาสทางการตลาด  ขยายโอกาสในการเขา้ ถงึ ตลาด เพิ่มชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ยมากย่งิ ขึ้น  สนองความตอ้ งการของตลาด และขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว  นาเทคโนโลยีมาใช้ สรา้ งผลกาไรแก่องค์กร ตามทันสื่อการตลาดยุคใหม่  เพ่มิ โอกาสโลกตลาดออนไลน์ รทู้ ันพฤตกิ รรมผู้บริโภคในปัจจุบัน  สามารถเกบ็ ขอ้ มูลลูกคา้ เพอ่ื การทาการตลาดทางตรง

ชุดการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง เร่อื ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซียน 30  สรา้ งการรับรู้ได้อยา่ งรวดเร็ว ยน่ ระยะเวลาการนาสินค้าเข้าสูต่ ลาด  เปดิ บริการตลอด 24 ช่ัวโมง 7 วนั สะดวกในการคน้ หาขอ้ มูล และติดตอ่ ซ้อื - ขาย  นาเสนอข้อมูลสินค้าไดเ้ ป็นจานวนมาก และสามารถส่อื สารกับลกู คา้ ไดใ้ นลกั ษณะ Interactive Market (การตลาดเชงิ ตอบโต้)  เพ่มิ โอกาสทางการตลาดในการบริหารขอ้ มลู ลูกค้าจากระบบอิเลก็ ทรอนิกส์  ปรบั ปรงุ หรอื Update ขอ้ มลู เก่ยี วกบั สนิ คา้ และบรกิ ารได้ตลอดเวลา 2. ลดต้นทุนในการจัดซื้อ  ช่วยลดค่าใชจ้ ่ายในการจดั ซือ้ ทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม ไม่วา่ จะเปน็ ราคาสินคา้ ตลอดจนคา่ ใช้จ่ายในกระบวนการ  การซื้อที่ลดลง  สามารถควบคุมขั้นตอนการจัดซ้ือจัดจ้างได้ ขั้นตอนไม่ซับซ้อนสะดวกและรวดเร็ว ข้ึน  สามารถเลือก ผู้ผลิต/ผู้จาหน่ายสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย ประหยัดเวลา ในการเปรียบเทียบสินค้าและผู้ขายเป็นผลให้ได้สินค้าคุณภาพดี และราคาเป็นที่น่า พอใจ ตรงกับความตอ้ งการทีส่ ดุ 3. สนับสนุนการซ้ือ - ขาย  มีระบบค้นหาสนิ ค้าจาก “คาค้นหาสนิ ค้า” และชอ่ งทางการเข้าถึงข้อมูลทาง“สารบัญ ข้อมูล” แบ่งออกเป็นหมวดหมู่และประเภทอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกในการ คน้ หาเลอื กดูสนิ ค้า หรือบรษิ ทั ไดต้ ามความต้องการ  ระบบผู้ติดต่อ และระบบข้อความทางหน้าเว็บไซต์ เพ่ิมความสะดวกรวดเร็วในการ ตดิ ตอ่ ส่ือสารระหวา่ งกัน  สง่ เสริมการเข้าถึงข้อมูลของผู้เขา้ ชมเว็บไซต์จานวนมาก สามารถมองเห็นสนิ คา้ และ บรษิ ทั ของคุณไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย ผา่ นทางหน้าเวบ็ ไซต์  สามารถทากาไรได้มากกว่าระบบการซื้อ - ขายแบบเดิม เนื่องจากต้นทุนการจัดซ้ือ และจัดจาหน่ายต่ากว่าทาให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงและ กาไรจากการขายต่อหน่วย เพิม่ ข้ึน

31 ชดุ การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง เร่ือง การสอ่ื สารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน สู่ประชาคมอาเซยี น 4. ส่งเสริมการขายการโฆษณาและประชาสัมพันธ์  ลดต้นทุนการส่งเสริมการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์ เช่น ลดต้นทุนการ โฆษณาผ่านสื่อปกติอื่น ๆ ลดต้นทุนการจัดกจิ กรรมทางการตลาด ซ่ึงสามารถใช้สื่อ อิเลก็ ทรอนิกส์บรหิ ารจดั การได้  สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร ในเร่ืองของความทันสมัย และเป็น โอกาสทจี่ ะทาใหส้ นิ ค้าหรอื บรกิ ารเป็นทร่ี ู้จกั อยา่ งรวดเร็วในวงกว้าง 5. ลดการใช้ทรัพยากร  ลดเวลาในการหาข้อมลู สินคา้ หรอื ผขู้ าย และย่นเวลาในการนาสินคา้ เขา้ สตู่ ลาด  ลดขั้นตอนทางการตลาด  ลดพลังงานในการเดินทาง  ลดการใชท้ รัพยากรดา้ นองคป์ ระกอบทางธรุ กจิ เช่น พน้ื ท่ีการขาย อาคาร ประกอบการ ทาเลที่ตง้ั โกดังเก็บสินค้า เปน็ ต้น  ลดต้นทุนด้านช่องทางจาหน่ายในรูปแบบร้านค้า ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมท้ังค่าเช่าพื้นที่ขายหรือการลงทุนในการสร้างร้าน ซ่ึงจะชว่ ยให้ต้นทุนของธุรกิจ ต่าลง

ชุดการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง เรื่อง การสอ่ื สารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สูป่ ระชาคมอาเซยี น 32 เร่อื งท่ี 3.2 องคป์ ระกอบของ E-Commerce กระบวนการทางอิเลก็ ทรอนิกส์ - การค้นหาขอ้ มลู - การส่งั ซอ้ื สินคา้ - การชาระเงนิ - การสง่ มอบสินคา้ - การให้บริการหลงั การขาย

33 ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรอ่ื ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซยี น ลักษณะทด่ี ีของ เว็บ E-Commerce 1. ท่ีระบบหน้ารา้ นหรือหน้าเวบ็ ไซต์ตอ้ งมีการออกแบบทสี่ ่ือถึงสนิ ค้าภายในร้าน ใช้ งานง่าย ไมร่ กสายตาผู้ท่ีเขา้ มาเย่ียมชมสินค้าภายในเว็บ 2. ท่รี ะบบหลังรา้ นจะตอ้ งมีแผงควบคุมหรือว่าเมนูในการเข้าถงึ การจดั การตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งสะดวกและรวดเร็ว จดจาไดง้ า่ ย 3. การสั่งซื้อสินค้าต้องมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรือหลายข้ันตอน เพราะมัน จะทาให้ลูกคา้ ของทา่ นนน้ั พาลเสียอารมณใ์ นการส่ังซ้อื สนิ ค้าของทา่ นได้ 4. มีการแสดงรายละเอียดสินค้าท่ีครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นช่ือสินค้า รายละเอียด ออฟชั่นต่าง ๆ ตลอดจนพนื้ ท่ใี หล้ กู คา้ ได้เขียนรีวิวสนิ ค้า เปรยี บเทียบสนิ คา้ 5. ต้องมีการแสดงสถานะสินค้าในระบบตะกร้าสินค้าแบบ Real Time แก้ไข ปรับปรงุ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างรวดเรว็ และแม่นยา สะดวก 6. ในส่วนของการจ่ายเงิน หรือว่าการชาระสินค้าต้องระบุให้ชัดเจนว่าลูกค้าจะต้อง ทาอยา่ งไร และเจา้ ของเว็บไซต์จะตอ้ งทาอย่างไร 7. สุดท้ายของการสั่งซ้ือต้องมีการสรุปรายการส่ังซื้อสินค้าในรอบน้ัน ๆ ด้วยเช่น ราคาต่อรายการ คา่ จดั สง่ ราคาทง้ั หมด ฯลฯ การเตรยี มตวั เบอื้ งตน้ ในการทาธรุ กจิ E-Commerce กาลังเบ่งบานสุดๆ และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไปอีก สาหรับ SME แล้ว นี่คือโอกาสอันย่ิงใหญ่ในการขยายธุรกิจเพ่ิมยอดสั่งซื้อ และรายได้ โดยไม่ต้องแบก

ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสอ่ื สารการประกอบอาชีพการคา้ ชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซียน 34 ตน้ ทนุ หน้ารา้ นเหมือนร้านคา้ ปกติ แต่E-Commerce กม็ ีต้นทุนของตวั เอง และมีความท้าทาย ท่ีกาลังรอนกั ธรุ กิจออนไลน์อยู่ เช่นกัน ซ่งึ จะต้องมกี ารเตรยี มความพรอ้ มในเรื่องตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1) เวลา คอื ส่ิงที่มีคา่ มากสาหรบั SME ท่กี าลังทา E-Commerce เพราะ SME มกั จะมี กาลังคนนอ้ ย เพ่อื ให้สะดวกและคล่องตวั ในการทางาน แต่ E-Commerce ท่ลี งมือทาหลาย ๆ อย่างด้วยตัวเอง กาลังดูดเวลาเหล่านั้นไป และทาให้โอกาสในการโฟกัสการขยายธุรกิจ ลาบากขนึ้ 2) เงนิ หมนุ เวยี น พอทาการค้า E-Commerce แล้ว สิ่งหน่ึงท่จี าเปน็ คอื Inventory และ Fulfillment ซ่ึงมีผลต่อเงินหมุนเวียนอยา่ งยิ่ง ถ้าสนิ คา้ ใน Inventory มีมากเกนิ ไปเงินก็จม ถ้า การทา Fulfillment ไม่ไหลลืน่ ก็เก็บเงินได้ช้า เปน็ อปุ สรรคหน่งึ ของ SME เช่นกนั 3) คู่แข่งเกิดได้ทุกวัน เพราะเป็น E-Commerce มีอินเทอร์เน็ต สามารถเปิดร้านได้ ทนั ที ทาการตลาดนดิ หน่อยกเ็ ริม่ หาลูกค้าไดแ้ ลว้ ดงั น้ันคแู่ ข่งในธรุ กจิ จึงเกดิ ขนึ้ ไดท้ ุกวนั จะ ทาอยา่ งไรให้รา้ นค้าของเราโดดเดน่ และแตกตา่ ง 4) ต้องหาของใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้วัตถดุ ิบท่ีดีและราคาต่า หรือ ได้แหล่งสินคา้ ใหม่ ท่ีมีคุณภาพและราคาต่า เพ่ือให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ ถือเป็นอีกความท้าทายของ E-Commerce ใน ยุคปัจจุบัน และยิ่งในข้อ 4 มีคู่แข่งใหม่ ๆ เกิดข้ึนทุกวัน การหาแหล่ง วัตถดุ ิบหรือสินคา้ ท่ลี ดตน้ ทนุ ได้ จึงจาเปน็ อย่างมาก 5) การจัดส่ง หัวใจหน่ึงของ E-Commerce คือ การจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้ซ้ืออย่าง ถกู ตอ้ ง และถูกใจ สามารถเกบ็ เงนิ ได้ และสร้างโอกาสในการซือ้ ขายให้เกดิ ขน้ึ 6) ตอบอีเมลลูกค้า เพราะการซื้อขายอาจจะเกิดข้ึนได้ตลอดเวลา หลายครั้งท่ีลูกค้า อีเมล ไลน์ หรือ อินบ็อกซ์ มาเพ่ือสอบถามข้อมูล และส่ังซื้อสินค้า ดังนั้นการตอบอีเมลจึง เปน็ หน่ึงในหน้าที่การดแู ลลกู ค้าของ E-Commerce ทไี่ ม่ควรช้าและบกพร่อง 7) ของหาย สินค้ามีโอกาสหาย ท้ังใน Inventory และระหว่างจัดส่ง ก่อนจะถึงมือผู้ ซอื้ มีโอกาสท่ีสินค้าจะหาย และกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มข้ึนทันที ดงั น้ันการเลือกบริษทั จัดส่ง ท่ีนา่ เชื่อถือ และมมี าตรฐานและการรบั ประกัน เปน็ อีกหนงึ่ ทางเลอื กท่ชี ่วยลดปัญหานไ้ี ด้

35 ชดุ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรือ่ ง การสื่อสารการประกอบอาชีพการค้าชายแดน ส่ปู ระชาคมอาเซียน 8) บุคลากร ทั้งบุคลากรระดับบริหาร ที่ปัจจุบัน คน E-Commerce ถือว่าขาดแคลน อยู่แล้ว รวมถึงบคุ ลากรระดบั พนักงาน ท่ีต้องมกี ารฝึกอบรมเพื่อพัฒนาคณุ ภาพ แตต่ อ้ งถอื ว่า มีการ Turn Over พอสมควร 9) ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ เมื่อมียอดการส่ังซื้อสินค้าประมาณ 1,500 Transaction ต่อสัปดาห์ เม่ือนั้นการทางานด้วยระบบมือ (Manual) จะเร่ิมรับมือไม่ไหว ต้องการ ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยบริหารจัดการ แต่การเลือกซอฟต์แวร์ที่ถูกต้อง และการใช้งานอย่าง ถกู ตอ้ ง กจ็ ะเป็นโจทย์ท่ีตอ้ งคดิ ตามมา

ชดุ การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง เรือ่ ง การส่ือสารการประกอบอาชพี การคา้ ชายแดน สปู่ ระชาคมอาเซยี น 36 เรื่องท่ี 3.3 เทคนิคการพฒั นาขอ้ มูลสินค้าเพ่ือการขายออนไลน์ ส่วนประกอบของข้อมูลสินค้าทีจ่ าเปน็ ตอ้ งมี 1) ชื่อสินค้า - สนั้ กระชบั และแสดงคณุ สมบัติหลกั ของสนิ คา้ เท่านนั้ ไม่ควรเกนิ 80 ตัวอกั ษร - สามารถใส่ชอื่ ยี่ห้อ รุ่น รปู แบบ ประเภทของสินคา้ สีได้ - ระบุจานวนชิน้ หากสินค้าประกอบด้วยสินค้ายอ่ ยหลายช้ิน 2) ภาพถ่ายสินค้า - รูปภาพหลกั ควรแสดงตัวสินคา้ ชดั เจน - รูปภาพหลักควรมีพืน้ หลังสีขาว - รปู ภาพหลักไม่มอี ุปกรณเ์ สริมหรือวตั ถุอน่ื ๆ อยู่ในรูป - ไม่ควรมีข้อความ โลโก้ หรอื ลายนา้ บนรูปสนิ คา้ - แสดงรูปเสรมิ ของสินค้าในหลายมุม - ภาพท่ีสวยงามจะชว่ ยดึงดูดผูท้ ีเ่ ขา้ ชมหน้าเวบ็ รา้ นคา้ ให้ดูสินคา้ ในช้ินถัด ๆไปได้ - ภาพสินค้าสามารถแสดงรายละเอยี ดแตล่ ะดา้ นแต่ละมมุ ของสินค้าได้ดี