Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดที่ 5 การหาคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินผล

ชุดที่ 5 การหาคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินผล

Published by dengwansri31, 2020-07-21 09:38:34

Description: ชุดที่ 5 การหาคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินผล

Search

Read the Text Version

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่อื งมือวัดและประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ เลม่ ที่ 5 การตรวจสอบคณุ ภาพของข้อสอบ นางสาวนุชจิรา แดงวันสี สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เลม่ ท่ี 5 การตรวจสอบคุณภาพของขอ้ สอบ นางสาวนุชจิรา แดงวนั สี สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ คำนำ การวัดและประเมินมีเคร่ืองมือวัดผลท่ีใช้เป็นสิ่งสำคัญในการวัดผลประเมินการ จัดการเรียนรู้ว่าบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่เพียงใด ซึ่งเคร่ืองมือวัดผลที่ดีจะต้องเป็นเคร่ืองมือที่มี คุณภาพจึงจะช่วยให้การวัดผลมีความถูกต้องเช่ือถือได้ และผลการประเมินท่ีได้ย่อมเช่ือถือได้ด้วย ดังนั้นเคร่ืองมือท่ีครูสร้างข้ึนเอง ก่อนจะนำไปใช้จริงจึงควรตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือก่อนทุกคร้ัง การตรวจสอบคุณภาพ เคร่ืองมือเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของเครื่องมือในเร่ืองความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่น ความยาก อำนาจจำแนก และความเป็นปรนัย เป็นต้น จึงได้จัดทำชุดเอกสารการสร้าง เคร่ืองมือวัดและประเมินผลขึ้น สำหรับครูวิทยาศาสตร์เพ่ือเป็นแนวทางในการดำเนินการวัดและ ประเมินผล โดยเฉพาะการหาคุณภาพและการตรวจสอบคุณของเคร่ืองมือวัดและประเมินผล ใน ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่อื งมือวดั และประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน 2551 เป็นเอกสารให้ครูศึกษาด้วยตนเอง ชดุ ฝึกอบรมมี ทั้งหมด 5 เลม่ ได้แก่ คู่มือ การใชช้ ุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสร้างเครือ่ งมอื วดั และประเมินผล เลม่ ที่ 1 แนวทางการจัดการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เล่มที่ 2 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกบั การวัดและประเมนิ ผล เลม่ ที่ 3 การสรา้ งขอ้ สอบแบบเลอื กตอบ เลม่ ที่ 4 การสรา้ งขอ้ สอบแบบเขยี นตอบ เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครอื่ งมือวัดและประเมนิ ผล เอกสารเล่มนี้ เป็นเอกสารเล่มที่ 5 ผู้จัดทำหวงั วา่ ชุดฝึกอบรมด้วยตนเองเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาครผู ู้สอนวิทยาศาสตร์ ในด้านการหาคณุ ภาพและการตรวจสอบคณุ ของเคร่ืองมือวัดและ ประเมินผล นำไปสู่เปา้ หมายคือการประเมินผู้เรยี นดว้ ยความถกู ต้อง พฒั นาผเู้ รียนไดต้ รงจดุ ยกระดับ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิทยาศาสตร์ให้สูงขึ้นได้ ขอให้ผู้ศึกษาได้ศึกษาใบความรู้และใบกิจกรรมให้ ครบทุกใบกจิ กรรม เพือ่ นำความร้ไู ปใช้พฒั นาผู้เรียนใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดตอ่ ไป ก เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล วิชาวทิ ยาศาสตร์ สารบญั หน้า ก คำนำ ข สารบญั 1 คำช้ีแจง 2 คำแนะนำในการศกึ ษา 3 วตั ถปุ ระสงค์ 3 ขอบขา่ ยเนอ้ื หา 3 สาระสำคญั 4 แนวคดิ 5 แบบทดสอบกอ่ นศกึ ษาชุดฝกึ อบรม 7 ตอนที่ 1 ลกั ษณะของแบบทดสอบท่ีดี 8 ใบความรทู้ ี่ 1.1 ความเทย่ี งตรง หรอื ความตรง 10 ใบกจิ กรรมที่ 1.1 11 ใบความรทู้ ี่ 1.2 ความเช่ือมัน่ 12 ใบกิจกรรมท่ี 1.2 13 ใบความรู้ท่ี 1.3 ความยากง่าย 14 ใบกิจกรรมท่ี 1.3 15 ใบความร้ทู ่ี 1.4 อำนาจจำแนก 16 ใบกิจกรรมท่ี 1.4 17 ใบความร้ทู ี่ 1.5 ความเป็นปรนัย 18 ใบกิจกรรมที่ 1.5 19 ตอนที่ 2 การตรวจสอบคุณภาพเครอ่ื งมือ 20 ใบความรู้ท่ี 2.1 การความเทย่ี ง 23 ใบกิจกรรมที่ 2.1 ข เลม่ ท่ี 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเคร่อื งมือวัดและประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ สารบญั (ตอ่ ) หนา้ ใบความรู้ท่ี 2.2 การตรวจสอบคา่ ความยากงา่ ย 25 ใบกิจกรรมที่ 2.2 32 ใบความรู้ท่ี 2.3 การตรวจสอบคา่ อำนาจจำแนก 33 ใบกจิ กรรมที่ 2.3 37 ใบความรู้ที่ 2.4 สรุปสตู รที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมอื 42 แบบทดสอบหลงั ศกึ ษาชดุ ฝกึ อบรม 44 บรรณานกุ รม 47 คณะทำงาน 48 ค เลม่ ที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครื่องมือวัดและประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ คำช้แี จง ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ เล่มที่ 5 การหาคุณภาพ ของเครื่องมอื วดั และประเมินผล ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 2551 เป็นเอกสารฝึกอบรม ให้ครไู ด้ศกึ ษาดว้ ยตนเอง มเี นือ้ หาที่เกยี่ วข้องและตอ่ เนอ่ื งกัน ผูศ้ กึ ษาควรทำความเขา้ ใจศึกษาเอกสารโดย ละเอียด พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ชุดฝึกด้วยตนเองทุกขั้นตอน ผู้รับการฝึกอบรบควรศึกษา ตามข้ันตอนดงั ตอ่ ไปน้ี ศึกษาภาพรวมเอกสาร/คำแนะนำ ศึกษาวัตถปุ ระสงค์ ขอบขา่ ยเนื้อหา และสาระสำคัญ ศึกษารายละเอียดการดำเนนิ ใช้ชดุ ฝึกอบรม ประเมนิ ตนเองด้วยการทดสอบก่อนใชช้ ดุ ฝกึ อบรม ศึกษาใบความรู้และทำใบกจิ กรรม สรุปองคค์ วามร้ดู ้วยตนเองด้วยผงั ความคดิ ไม่ผา่ น ประเมนิ ตนเองดว้ ยการทดสอบหลังฝึกอบรม ผ่าน เปรียบเทียบคะแนนกอ่ นและหลงั ของทกุ ชดุ ฝกึ อบรมเพ่ือดคู วามก้าวหนา้ ของการพฒั นา แผนภาพ ขน้ั ตอนการศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง 1 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครือ่ งมือวดั และประเมินผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเครื่องมอื วดั และประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ คำแนะนำในการศึกษา การศกึ ษาชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง เร่ืองการหาคุณภาพของเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ เล่มน้ีพัฒนาข้นึ สำหรบั ครวู ทิ ยาศาสตร์ เพอ่ื เป็นแนวทางการออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ผู้ศึกษาควรปฏบิ ัติดงั น้ี 1. การเตรยี มตวั เพอ่ื ศึกษาชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง 1.1 กำหนดเวลาในการศึกษาชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง แนวทางการจดั การเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ 1.2 ศึกษาเอกสารเพิ่มเตมิ ท่ีระบุในชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง จะทำให้ผู้ศกึ ษามคี วามรู้และเข้าใจ เร็วขึ้น 2. การศึกษาชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง 2.1 ทำแบบทดสอบก่อนศึกษา และตรวจคำตอบด้วยตนเองจากเฉลยแบบทดสอบโดยให้ คะแนน 1 คะแนน สำหรับคำตอบทถี่ ูกตอ้ งและให้ 0 คะแนนสำหรับคำตอบท่ผี ดิ 2.2 ควรอา่ นเนอ้ื หาสาระในใบความรใู้ นแตล่ ะเล่มอยา่ งน้อย 1 จบ แลว้ สรุปความคิดรวบยอด 2.3 ทำกิจกรรมในใบงานแต่ละตอนและตรวจคำตอบด้วยตนเองจากแนวคำตอบในใบความรู้ โดยใหค้ ะแนน 1 คะแนนสำหรับคำตอบที่ถกู ตอ้ ง ให้ 0 คะแนนสำหรับคำตอบท่ผี ิด 2.4 ทำแบบทดสอบหลังศึกษาชุดฝึกอบรมด้วยตนเองและตรวจคำตอบด้วยตนเองจาก แบบทดสอบโดยใหค้ ะแนน 1 คะแนนสำหรับคำตอบท่ถี กู ตอ้ ง ให้คะแนน 0 คะแนน สำหรับคำตอบท่ผี ิด 2.5 ใหศ้ กึ ษาชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเองตอ่ เนื่องให้จบเล่ม 2.6 ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเองนี้ เป็นชุดฝกึ อบรมด้วยตนเองทศี่ ึกษาดว้ ยตนเองได้ทุกสถานท่ี ทุกเวลา 3 การประเมินผล 3.1 ในตอนทา้ ยของชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง จะมีการประเมนิ ผลเพื่อวดั ความรคู้ วามเข้าใจแล้ว ตรวจสอบคำตอบดว้ ยตนเองจากเฉลย ให้คะแนน 1 คะแนน สำหรบั คำตอบท่ีถูก และ 0 คะแนน สำหรบั คำตอบทผ่ี ดิ โดยต้องผา่ นเกณฑ์ 80% ขึน้ ไป 3.2 เปรยี บเทยี บความแตกต่างของค่าเฉลยี่ คะแนนก่อนศกึ ษาและหลงั ศกึ ษาชดุ ฝึกอบรม 2 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ วัตถุประสงค์ 1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั การตรวจสอบคุณภาพของขอ้ สอบ 2. มีความสามารถในการตรวจสอบคณุ ภาพของขอ้ สอบ ขอบข่ายเน้ือหา 1. ลกั ษณะของแบบทดสอบที่ดี 1.1 ความเที่ยงตรง หรือความตรง 1.2 ความเชอ่ื ม่ัน 1.3 ความยากง่าย 1.4 อำนาจจำแนก 1.5 ความเปน็ ปรนัย 2. การตรวจสอบคณุ ภาพเครอ่ื งมือ 2.1 การตรวจสอบความเที่ยงตรง หรอื ความตรง 2.2 การตรวจสอบค่าความยากง่ายของข้อสอบ 2.3 การตรวจสอบคา่ อำนาจจำแนก 2.4 สรปุ สตู รทใี่ ช้ในการตรวจสอบคณุ ภาพเคร่ืองมือ สาระสำคัญ การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนา เครื่องมือให้มีประสิทธิภาพก่อนนำไปใช้ โดยในลำดับแรกผู้ออกข้อสอบต้องประเมินว่าผู้สอบมีความรู้ใน เนื้อหาและทักษะเพียงพอในการตอบคำถามข้อนั้นหรือไม่ รวมทั้งการใช้ภาษาในการสื่อความหมาย แล้ว จึงดำเนินการตรวจสอบค่าความเที่ยงตรง (Validity) โดยการพิจารณาความสอดคล้องของข้อคำถามกับ ตัวชวี้ ดั โดยผเู้ ชย่ี วชาญ (IOC) หาคณุ ภาพของข้อคำถามรายข้อ ไดแ้ ก่ ค่าความยาก (Difficulty) ค่าอำนาจ จำแนก (Discrimination) และหาคุณภาพรายฉบับได้แก่ ค่าความเชือ่ มัน่ (Reliability) 3 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครื่องมือวดั และประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมือวัดและประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ แนวคิด การพัฒนาครูโดยชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง ใช้แนวคิดการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Construction Knowledge) ครูเป็นผู้ศึกษาเรียนรู้และลงมือทำกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Learning by Doing) ไม่มีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ การปฏิบัติกิจกรรมเป็นไปตามขั้นตอนที่ออกแบบ ไว้ เป็นขั้นตอนหลักของการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ตามกระบวนการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA MODEL) เริ่มจากการทบทวนความรู้เดิมในเรื่องที่จะเรียนรู้ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากชุดฝึกอบรม แล้วนำความรู้เดิม ไปเชื่อมโยงกับความรู้ใหม่ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ก่อนที่จะสรุปความรู้ ความเข้าใจของ ตนเอง เปน็ ทฤษฎีการเรยี นรู้ที่เนน้ ผศู้ ึกษาเป็นผ้สู รา้ งองคค์ วามร้ดู ว้ ยตนเอง ประสบการณ์ใหม่ / ความรูใ้ หม่ + ประสบการณ์เดมิ / ความรเู้ ดิม = องค์ความรใู้ หม่ โดยเริ่มจากการทบทวนความรู้เดิมในเรื่องที่จะเรียนรู้การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่ง เรียนรู้ต่าง ๆนำความเข้าใจข้อมูลเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่และเปลี่ยนเรียนรู้ก่อนที่จะสรุปองค์ ความรู้และทำความเขา้ ใจดว้ ยตนเอง 4 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล วิชาวทิ ยาศาสตร์ แบบทดสอบกอ่ นศึกษาชดุ ฝกึ อบรม คำช้ีแจง ใหท้ า่ นเลอื กคำตอบท่ีท่านเห็นว่าถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดียว จงใช้ตวั เลอื กต่อไปน้ีตอบคำถามข้อ 1-5 ก. คณุ สมบัตคิ วามคงท่ขี องคะแนนทีไ่ ด้จากการสอบนกั เรยี นคนเดยี วกันหลายๆครง้ั ข. คณุ สมบตั ิทแี่ สดงถงึ ความสามารถของคนเก่งทำได้ คนอ่อนทำไมไ่ ด้ ค. คุณสมบัตขิ องการวดั ไดต้ รงตามลกั ษณะหรอื จดุ ประสงค์ทีตอ้ งการวัด ง. คณุ สมบัติของเครอ่ื งมือท่สี ามารถแยกคนเกง่ กบั คนออ่ นได้ จ. คุณสมบตั ขิ องเครื่องมือที่แสดงถึงความชดั เจนของคำถาม และการตรวจใหค้ ะแนน 1. ความเท่ียงตรง (Validity) คือขอ้ ใด (ตอบข้อ ………….) 2. อำนาจจำแนก (Discrimination) คือขอ้ ใด (ตอบขอ้ ………….) 3. ความเชื่อมั่น (Reliability) คือขอ้ ใด (ตอบขอ้ ………….) 4. ความยากงา่ ย (Difficulty) คือขอ้ ใด (ตอบข้อ ………….) 5. ความเปน็ ปรนยั คอื ข้อใด (Objectivity) (ตอบขอ้ ………….) 6. คณุ สมบตั ขิ องเครือ่ งมือวดั ผลในข้อใดท่ีมคี วามสำคญั และจำเปน็ ท่สี ดุ 1. ความเช่อื มั่น (Reliability) 2. ความเท่ยี งตรง (Validity) 3. ความยากงา่ ย (Difficulty) 4. อำนาจจำแนก (Discrimination) 5 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสร้างเคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ คำช้ีแจง พจิ ารณาขอ้ มูลทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปนแ้ี ล้วตอบคำถามขอ้ 7 ตาราง ผลการตรวจสอบความสอดคล้องของขอ้ คำถามกบั จุดประสงค์ จุดประสงค์ ขอ้ สอบขอ้ ที่ คะแนนความคิดเหน็ ของผู้เช่ยี วชาญ /มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด 1 23 4 5 1 +1 +1 0 0 +1 -1 +1 1 2 0 -1 -1 0 +1 3 +1 0 -1 0 +1 +1 -1 2 4 +1 +1 +1 5 +1 -1 0 7. ข้อสอบข้อใดใชไ้ ด้ 1. ข้อ 1 และ 3 2. ขอ้ 2 และ 3 3. ขอ้ 1, 4 4. ใชไ้ ดท้ กุ ข้อ คำชี้แจง พจิ ารณาขอ้ มลู ท่ีกำหนดใหต้ ่อไปนแี้ ลว้ ตอบคำถาม ขอ้ 8 -10 ผลการสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ผู้สอบจำนวน 40 คน ขอ้ ท่ี จำนวนคนท่ีตอบถกู ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก กลมุ่ สงู กลุ่มต่ำ ……………. 1 22 14 ……………. ……………. ……………. 2 14 12 ……………. ……………. 3 5 4 ……………. 4 16 8 ……………. 8. ขอ้ สอบท่มี คี ุณภาพ คือข้อใด 1. ข้อ 1 2. ข้อ 2 3. ขอ้ 3 4. ขอ้ 4 9. ขอ้ สอบทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ ในเรื่องของความยากง่าย คอื ข้อใด 1. ข้อ 1 2. ข้อ 2 3. ขอ้ 3 4. ขอ้ 4 10. ข้อสอบทต่ี อ้ งปรบั ปรุงในเรอื่ งของอำนาจจำแนก คอื ข้อใด 1. ข้อ 1 และ ข้อ 2 2. ข้อ 1 และ ขอ้ 3 3. ขอ้ 2 และ ข้อ 3 4. ขอ้ 3 และ ข้อ 4 6 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครอ่ื งมือวัดและประเมินผล

ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ตอนท่ี 1 ลักษณะของแบบทดสอบทีด่ ี แบบทดสอบเป็นเคร่ืองมือที่ใช้วัดความรู้ความสามารถของผู้เรียน ผลที่ได้จากการวัดนำมาใช้เพอื่ ตัดสินคุณค่าหรือความสามารถของผู้เรียน ผลการวัดจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ ได้ของผลการทดสอบซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพและแบบทดสอบเป็นสำคัญ (เยาวดี วิบูลย์ศรี, 2545 : 31- 36) ลักษณะของเครื่องมือวัดผลที่ดี เครื่องมือวัดผลที่ดีจะต้องเป็นเครื่องมือที่มีคุณภาพจึงจะช่วยให้การ วัดผลมีความถูกต้องเชื่อถือได้และผลการประเมินที่ได้ย่อมเชื่อถือได้ด้วย ดังนั้นเครื่องมือที่ครูสร้างขึ้นเอง ก่อนจะนำไปใช้จริง จึงควรตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือก่อนทุกครั้ง การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือเป็น การตรวจสอบคุณสมบัติของเครื่องมือ ในเรื่องของความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่น ความยากอำนาจจำแนก และความเป็นปรนัย เครื่องมือวัดบางชนิดจำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพให้ครบทั้ง 5 ประการ แต่ เครื่องมือบางชนิดอาจตรวจสอบเพียงบางประการ แบบทดสอบที่ดีมีคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ น้ัน สามารถศกึ ษาไดจ้ ากใบความร้ดู ังนี้ ลกั ษณะของแบบทดสอบท่ดี นี ั้น สามารถศกึ ษาไดจ้ ากใบความรู้ ดังน้ี…… 7 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสร้างเครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบความรู้ท่ี 1.1 ความเท่ยี งตรงหรือความตรง ความเที่ยงตรงหรอื ความตรง (Validity) เปน็ คณุ สมบัติของแบบทดสอบ ทส่ี ามารถวัดได้ตรงตามลักษณะหรอื จดุ ประสงคท์ ่ีต้องการวัดซง่ึ เป็นคณุ สมบตั ิ ที่สำคัญของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ แบบทดสอบทุกฉบับจะต้องมีคุณภาพด้านความ เที่ยงตรง จึงจะเชื่อได้ว่าเป็นแบบทดสอบที่ดีและผลที่ได้จากการวัดจะถูกต้องตรงตามที่ต้องการความ เที่ยงตรงในการวัดจำแนกคุณลักษณะหรือจุดประสงค์ที่ต้องการวัด (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2543) ความเท่ยี งตรงแบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท (พชิ ติ ฤทธจ์ิ รูญ (2556) ดงั นี้ 1. ความตรงตามเนอ้ื หา (Content Validity) เป็นคณุ สมบตั ขิ องคำถามท่ีสามารถ วัดได้ สอดคล้องกับเนื้อหาที่ต้องการวัดและพฤติกรรมที่ต้องการวัด สามารถวัดได้ครอบคลุมเนื้อหา ทั้งหมด ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เพราะ แบบทดสอบที่มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาต่ำ นักเรียนไม่สามารถแสดงความรู้หรือพฤติกรรมที่เขามีอยู่ได้ เพราะความรหู้ รือพฤตกิ รรมทเ่ี ขามีอยูไ่ ม่ไดถ้ ูกวดั ข้อสอบวดั ในสิง่ ทีค่ รูไมไ่ ด้สอนหรือครสู อนแต่ไม่ไดว้ ัดผล ที่ตามมาคือผู้สอบตอบข้อสอบไม่ถูกเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้คะแนนที่ได้จากการวัดครั้งนั้น ๆ ขาดความ เชื่อถือ วัดในสิ่งที่ต้องการจะวัดจริง ๆ ไม่ได้ และเมื่อนำผลการวัดครั้งนั้น ๆ ไปประเมินผล ผลการประเมินคร้ัง น้ัน ๆ ก็ขาดความเชื่อถอื ตามไปด้วย 2. ความตรงตามโครงสร้าง (Construct Validity) เปน็ คุณสมบัตขิ องเครอ่ื งมือที่สามารถ วดั ไดต้ รงตามทฤษฎี และแนวคิดของโครงสร้างท่ตี ้องการจะวัด หรอื สามารถวัดคุณลักษณะหรอื พฤติกรรม ที่ต้องการจะวัดได้ถูกต้องตามมิติโครงสร้างหรือทฤษฎีทางจิตวิทยา (สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2557 ) คำว่าโครงสร้างมีความหมายในเชิงนามธรรม ที่ใช้อธิบายตัวแปรที่ศึกษาและเขียนไว้ในรูปข้อสันนิษฐาน หรือสมมุติฐานสามารถอธิบายและค้นหาข้อเท็จจริงมาสนับสนุนได้ เช่น ความเสียสละอาจให้ความหมาย ในเชงิ โครงสรา้ งวา่ หมายถึงการกระทำทไ่ี มเ่ อาเปรยี บผอู้ ื่น การเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ื่นการช่วยเหลือผู้อ่นื การเหน็ แก่ประโยชน์สว่ นรวม การอดทน เพอื่ ใหค้ นอื่นมีความสุข 3. ความเท่ยี งตรงตามเกณฑท์ เี่ กย่ี วขอ้ ง (Criteria relative Validity) เป็นคุณสมบัติของเครื่องมือที่สามารถวัดได้สอดคล้องกับเกณฑ์ภายนอกบางอย่าง ความเที่ยงตรงตาม เกณฑ์ท่เี ก่ียวขอ้ ง แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทคือ 8 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครือ่ งมอื วัดและประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3.1 ความตรงตามสภาพ (Concurrent Validity) เป็นคุณสมบัติที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องมือสามารถวัดแล้วได้ผลการวัดสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของผู้ตอบ เช่นแบบทดสอบวัด ความเสียสละถ้านำไปสอบกับนักเรียนคนหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเด็กคนนี้มีความเสียสละมาก ผล การสอบปรากฏว่าได้คะแนนความเสียสละสูงมาก หมายความว่าเป็นคนเสียสละ ซึ่งตรงกับสภาพความ เป็นจรงิ ของนกั เรยี นคนน้ันจริง ๆ แสดงวา่ แบบทดสอบวัดความเสยี สละฉบบั นน้ั มคี วามเทีย่ งตรงเชิงสภาพ 3.2 ความเที่ยงตรงตามพยากรณ์ (Predictive Validity) เป็นคุณสมบัติที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องมือสามารถวัดได้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง และผลที่ได้นั้นสามารถนำไปใช้ทำนายอนาคตได้ ถูกตอ้ ง (สำนกั ทดสอบทางการศกึ ษา, 2557) สามารถวดั ไดต้ รงกบั สภาพทเ่ี ป็นจริงท่เี กิดข้ึนในอนาคต เช่น แบบทดสอบความถนัดทางการเรียน เมื่อนำไปใช้สอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสถาบันแห่งหนึ่งปรากฏว่า นักเรียน ก สอบคัดเลือกได้และได้คะแนนความถนัดสูงมาก เมื่อนักเรียน ก เข้าไปเรียนในสถาบันแห่งนั้น ปรากฏว่าเรียนได้ผลการเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม แสดงว่าแบบทดสอบความถนัดทางการเรียนฉบับนั้นมี ความเที่ยงตรงเชิงพยากรณ์ ความเที่ยงตรงของเครื่องมือวัดผลมีหลายประเภท แต่ความเที่ยงตรงที่ต้องตรวจสอบเป็น อับดับแรกคือความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) ซึ่งการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของ แบบทดสอบ ตามวิธีของโรวิแนลลี่ (Rovinelli) และแฮมเบิลตัน (Hambleton) เรียกว่า ดัชนีความ สอดคลอ้ งระหวา่ งข้อสอบกับจุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (IOC: Index of item Objective Congruence) (สำนัก ทดสอบทางการศกึ ษา, 2561 อ้างถงึ ใน พวงรตั น์ ทวรี ตั น์. 2543: 137) ดังนน้ั สรุปได้ว่าความเท่ยี งตรงหรอื ความตรง เป็นคณุ สมบัตขิ องแบบทดสอบ ท่ีสามารถวัดไดต้ รงตามมาตรฐานและตัวชีว้ ัดหรอื จุดประสงคท์ ี่ต้องการวดั 9 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมท่ี 1.1 จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ความเท่ียงตรง หมายถึง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ความเท่ียงตรง ควรมีลักษณะอย่างไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 3. จงระบุปัจจัยทส่ี ง่ ผลตอ่ ความเทยี่ งตรงของเคร่ืองมือวดั ผล มาพอเขา้ ใจ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ....ไมย่ ากใช่ไหมคะ..งั้นไปศึกษา ใบความรทู้ ่ี 1.2 ต่อไปกนั เลยคะ่ .. 10 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเคร่อื งมือวดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบความรู้ที่ 1.2 ความเช่อื ม่นั ความเชื่อมั่น (Reliability) เป็นคุณภาพของแบบทดสอบหมายถึง ความคงที่ของคะแนนที่ได้ จากการสอบนักเรียนคนเดียวกันหลายๆ ครั้ง ในแบบทดสอบชุดเดิม เช่น นายมานะ ทำแบบทดสอบวิชา วิทยาศาสตร์ นายมานะสอบครั้งแรก ทำได้คะแนน 25 คะแนน เว้นไปประมาณ 1 สัปดาห์ นำ แบบทดสอบฉบับเดิมมาสอบกับนายมานะอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังได้คะแนน 25 คะแนนเหมือนเดิม แสดงว่า แบบทดสอบชุดนั้นมีความเชื่อมั่นได้ แต่ถ้าปรากฏว่านำแบบทดสอบชุดเดิมไปทดสอบกับนายมานะซ้ำอีก ครัง้ หนึง่ และนายมานะได้คะแนนเปลย่ี นไปจากเดิม แสดงว่าแบบทดสอบขาดความเช่อื มน่ั ทำให้ผลการสอบมี ความคลาดเคลื่อนไปจากการแทนความรู้จริงของนักเรียน ความคลาดเคลื่อนชนิดนี้เรียกว่าความคลาดเคลื่อน ในการวดั (Error of measurement) และในการวัดผลน้ัน จะตอ้ งสร้างเคร่อื งมือทีต่ อ้ งการนำไปวดั ผลใหม้ ี คุณภาพที่มีความเชื่อมั่นได้ (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2543) หรือเป็นคุณสมบัติที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องมือสามารถวัดแล้ว ให้ผลคงเส้นคงวาหรือการให้ผลการวัดที่คงที่แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะวัด ซ้ำก่ีครง้ั เวลาใด (ถา้ สิ่งที่ถกู วัดคงท)ี่ (สำนักทดสอบทางการศกึ ษา, 2561) การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้านความเชื่อมั่น กระทำโดยการคำนวณสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์ความเชื่อมั่น ค่าที่คำนวณได้จะมีค่าตั้งแต่ -1 ถึง +1 ค่าความเชื่อมั่นที่เหมาะสมควรมีค่าเป็น บวกและมคี ่าสงู โดยแบบทดสอบท่ีครสู ร้างขนึ้ เพื่อใชใ้ นชนั้ เรียนนัน้ ควรมีค่าสัมประสทิ ธคิ์ วามเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.60 ขนึ้ ไป (เยาวดี วบิ ูลย์ศร,ี 2545: 102) ดงั นัน้ สรุปไดว้ ่าความเชอื่ มั่นเป็นคุณสมบัตขิ องเครอื่ งมือวัดท่แี สดงใหเ้ ห็นวา่ เครื่องมอื น้นั วัดกีค่ รั้งกไ็ ด้ผลเหมอื นเดมิ กบั กลุ่มเดิมในเวลาท่ตี ่างกัน 11 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอื่ งมอื วัดและประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมท่ี 1.2 ความเชอ่ื มนั่ 1. จงบอกความหมายของความเชือ่ มน่ั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. จากรปู ภาพ เป้าการยงิ ธนูเปรยี บเสมือนผลจากการใช้เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล กค ขง จงอธิบายค่าความเช่อื ม่ันและความเทย่ี ง ของภาพ ก ข ค และ ง ............................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ....ตอบไดใ้ ชไ่ หมคะ..เยย่ี มเลยคะ่ .. ไปศึกษาใบความรู้ต่อไปกนั เลยนะคะ… 12 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบความร้ทู ี่ 1.3 ความยากง่าย ความยากงา่ ย (Difficulty) เปน็ คณุ สมบัตทิ ่ีชี้ใหเ้ ห็นว่าเคร่อื งมอื มีความยากง่าย เหมาะสมกับ ความรู้ความสามารถของผเู้ รยี นหรือไม่ (สำนกั ทดสอบทางการศกึ ษา, 2557)หรือเปน็ สดั สว่ นของจำนวน คนทีต่ อบขอ้ สอบข้อนน้ั ถกู ตอ้ ง ซ่งึ มคี ่าอยรู่ ะหวา่ ง 0 – 1.00 ตวั อย่างเชน่ การสอบคร้ังหนงึ่ มคี นสอบ 100 คนขอ้ สอบขอ้ ที่ 1 มคี นตอบตอบ ถูก 55 คน แสดงว่าข้อสอบข้อนี้มรี ะดับความยากงา่ ยเท่ากบั .55 หรือรอ้ ยละ 55 (55%) ดังน้นั สรุปได้ว่าความยากงา่ ย เปน็ คณุ สมบตั ทิ ่ีชีใ้ ห้เห็นบอกไดว้ ่าเครือ่ งมอื นั้นมคี วามยากงา่ ยเพียงใด คนเกง่ ทำได้ คนอ่อนทำไม่ได้ 13 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมท่ี 1.3 ความยากง่าย 1. จงบอกความหมายของความยากง่าย ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 2. ความยากง่าย ควรมลี ักษณะอยา่ งไร ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ....ไม่ยากใช่ไหมคะ..ง้ันไปศึกษา ใบความรตู้ อ่ ไป กนั เลยคะ่ .. 14 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอื่ งมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ใบความรู้ท่ี 1.4 อำนาจจำแนก ค่าอำนาจจำแนก (Discrimination) เป็นความสามารถของข้อสอบแต่ละข้อ ในการจำแนก คนที่อยู่ในกลุ่มเก่งออกจากคนที่อยู่ในกลุ่มอ่อนได้ ข้อสอบข้อใดมีอำนาจจำแนกดี คนเก่งจะตอบถูก คน อ่อนจะตอบผิด เป็นคุณสมบัติที่ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือสามารถแบ่ง หรือแยกกลุ่ม ผู้ตอบออกจากกันตาม คุณลักษณะที่ถูกวัดจำแนกผู้เรียนได้ตาม ความแตกต่างของบุคคล ว่าใครเก่ง ปานกลาง อ่อน ใครรอบรู้ ไม่รอบรู้ โดยยึดหลักการว่าคนเก่งจะต้องตอบข้อสอบข้อนั้นถูก คนไม่เก่งจะต้องตอบผิด ข้อสอบที่ดี จะต้องแยกคนเก่งกับคนไม่เก่งออกจากกันได้ อำนาจจำแนกมีความสัมพันธ์กับความเที่ยงตรงเชิงสภาพ ถา้ เครอ่ื งมอื ใดมีอำนาจจำแนกสงู เครื่องมอื น้ันกจ็ ะมคี วามเที่ยงตรงเชงิ สภาพสงู ด้วย ดังนนั้ สรุปไดว้ ่า อำนาจจำแนก เป็นเครื่องมือที่สามารถแยกคนเกง่ กับคนออ่ นได้ บอกได้ว่าใครเกง่ ใครออ่ นกวา่ กัน 15 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครื่องมือวดั และประเมินผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอื่ งมือวัดและประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมที่ 1.4 คา่ อำนาจจำแนก 1. จงบอกความหมายของ คา่ อำนาจจำแนก ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. อำนาจจำแนกทดี่ คี วรมีลกั ษณะอยา่ งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .... ไปศึกษาใบความรตู้ ่อไปกนั เลยค่ะ.. 16 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเครื่องมอื วดั และประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ใบความร้ทู ี่ 1.5 ความเป็นปรนัย ความเป็นปรนัย (Objectivity) หมายถึง ความชัดเจน ความถูกต้องตามหลักวิชาการและ ความเข้าใจตรงกัน เครื่องมือสามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนและมีความหมายเดียวกัน เป็นคุณลักษณะ ของเครอื่ งมอื วัดทแ่ี สดงลกั ษณะ 3 ประการดังนี้ (พิชิต ฤทธจิ์ รญู , 2556 ) 1) ความชัดเจนของคำถาม ข้อคำถามตอ้ งชดั เจน รัดกมุ ไม่วนไมก่ ำกวม ทุกคนอา่ นคำถาม แล้วเข้าใจตรงกัน ว่าคำถามน้นั ถามถงึ อะไร และภาษาที่ใช้ต้องเหมาะสมกับวยั ของผตู้ อบ 2) ความชดั เจนในการใหค้ ะแนน หมายถงึ การตรวจใหค้ ะแนนมีคำเฉลยตรงกนั เช่น เมื่อตอบถกู ได้1 คะแนน และตอบผิดได้ 0 คะแนน ใครเปน็ ผ้ตู รวจกต็ ามสามารถตรวจใหค้ ะแนนไดต้ รงกัน หรอื เฉลยได้ตรงกนั มเี กณฑก์ ารตรวจใหค้ ะแนนท่ีชดั เจนตรงกนั 3) ความชัดเจนในการการแปลความหมายของคะแนน หมายถึง การแปลความหมายของ คะแนนได้ชัดเจนไม่ว่าใครจะเปน็ ผแู้ ปลความหมายของคะแนนก็ใหผ้ ลเป็นอยา่ งเดยี วกนั ดงั นนั้ สรปุ ไดว้ า่ ความเปน็ ปรนยั เปน็ คณุ สมบัตสิ ำหรับเครอื่ งมอื ทกุ ชนดิ เพ่อื ตรวจสอบความเทยี่ งตรงและความเชอ่ื มัน่ ความเขา้ ใจตรงกันของผ้ตู รวจ ในการแปลความหมายคะแนน 17 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเครื่องมอื วัดและประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมที่ 1.5 ความเปน็ ปรนยั 1. จงบอกความหมายของ ความเปน็ ปรนยั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ความเป็นปรนยั ท่ดี คี วรมีลักษณะอยา่ งไร ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 18 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ตอนที่ 2 การตรวจสอบคณุ ภาพเครอื่ งมือ การตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมอื ในการวดั และประเมินผลในช้นั เรยี นนนั้ สามารถทำได้ 2 ลักษณะ คือ การตรวจสอบคณุ ภาพโดยไมใ่ ชว้ ธิ กี ารทางสถติ ิ กบั การตรวจสอบคณุ ภาพโดยใชว้ ิธีการทางสถิติ โดยการ ตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมือโดยไม่ใช้วิธีการทางสถิติ ครูผู้สอนสามารถพจิ ารณาคณุ ภาพของเครอื่ งมือใน 2 ดา้ น คือ การตรวจสอบความถูกต้องและครอบคลมุ ของเนื้อหาวิชาและจุดมุ่งหมาย และการตรวจสอบ ภาษาและความสอดคลอ้ งกับเทคนคิ การเขียนคำถาม โดยมีรายละเอียดดังน้ี 1) การตรวจสอบความถูกตอ้ งและครอบคลุมของเนื้อหาวิชาและจดุ มงุ่ หมาย 2) การตรวจสอบภาษาและความสอดคล้องกับเทคนิคการเขียนคำถาม ประเดน็ ในการพิจารณา - การเขียนขอ้ ความสามารถสอ่ื ความหมายไดด้ เี พยี งไร - การเขยี นข้อคำถามน้นั มคี วามถกู ตอ้ งตามเทคนิคในการเขยี นข้อคำถามทดี่ ีหรือไม่ วธิ กี ารพจิ ารณา - ตรวจสอบโดยผู้เชยี่ วชาญในเน้ือหาวชิ านนั้ ๆ - ตรวจสอบโดยการเปรยี บเทยี บตารางกำหนดจำนวนข้อคำถาม (test Blueprint) และการตรวจสอบคณุ ภาพเครอ่ื งมอื โดยใช้วิธีการทางสถิติ ครูผู้สอนสามารถพจิ ารณาคณุ ภาพ ของเครือ่ งมอื ใน 3 ด้าน คือ การตรวจสอบความสอดคล้องระหวา่ งขอ้ สอบกับจดุ ประสงค์ การตรวจสอบ คา่ ความยากง่ายของขอ้ สอบ และการตรวจสอบคา่ อำนาจจำแนกของข้อสอบ ซึ่งจะได้กลา่ วในใบความรู้ ถดั ไป ดงั น้ันสรุปไดว้ า่ การตรวจสอบคณุ ภาพเคร่ืองมอื โดยไมใ่ ช้วิธกี ารทางสถติ ิ เป็นการตรวจสอบ ทางด้านเน้ือหา การสือ่ ความหมาย ความถูกตอ้ งของขอ้ คำถาม และตรวจสอบโดยผูเ้ ชี่ยวชาญดา้ นนั้น ๆ และการตรวจสอบคณุ ภาพเคร่อื งมอื โดยใช้วธิ กี ารทางสถติ ิ เป็นการตรวจสอบคุณภาพของเครือ่ งมือ ด้าน การตรวจสอบความสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ สอบกบั จุดประสงค์ คา่ ความยากงา่ ย และคา่ อำนาจจำแนกของ ข้อสอบ 19 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอ่ื งมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ใบความรู้ท่ี 2.1 การตรวจสอบความเท่ียงตรง การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือสามารถทำการตรวจสอบโดยใช้วิธีการ ทางสถิติได้ โดยเครื่องมือนั้นต้องมีลักษณะเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบหรือ แบบถูกผิด หรือแบบเติมคำสั้นๆ แต่ต้องมีรปู แบบเดยี วกนั ท้งั ฉบับ การหาความเที่ยงหรือความตรง (Validity) เป็นการวิเคราะห์คุณภาพ ขอ้ สอบรายขอ้ หมายถึง กระบวนการตรวจสอบคําตอบของผสู้ อบในแตล่ ะข้อ เพื่อพจิ ารณาว่าขอ้ สอบแต่ละ ข้อมีระดบั ความยาก และค่าอำนาจจำแนกเพยี งใด รวมทั้งพิจารณาถึงประสิทธิภาพของตัวลวงในตัวเลอื ก ของข้อสอบข้อนั้นด้วย ข้อสอบที่จะทำการวิเคราะห์คุณภาพในข้อนี้ ต้องเป็นข้อสอบแบบตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน แสดงรายละเอยี ดดงั น้ี การตรวจสอบความสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ สอบกับจดุ ประสงค์ (IOC: Index of item Objective Congruence) การหาค่าความเท่ียงตรงเชงิ เน้ือหาของแบบทดสอบ ตามวิธีของโรวิแนลลี่ (Rovinelli) และแฮมเบิลตัน (Hambleton) เรียกว่า ดัชนีความ สอดคลอ้ งระหวา่ งข้อสอบกับจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม (IOC: Index of item Objective Congruence) (สำนัก ทดสอบทางการศึกษา, 2561 อ้างถึงใน เยาวดี วิบูลย์ศรี, 2545) ดำเนินการโดยให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย จำนวน 3 คน ประเมินความสอดคล้องของข้อสอบแต่ละข้อกับจุดประสงค์หรือตัวชี้วัด และพิจารณาให้ คะแนนแตล่ ะขอ้ ดังน้ี ให้ +1 ถ้าแน่ใจว่า ข้อคำถามหรือข้อความสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์ ให้ 0 ถ้าไม่แน่ใจว่า ข้อคำถามหรือข้อความสอดคล้องกับจุดประสงค์ ให้ -1 ถา้ แนใ่ จว่าข้อคำถามหรือข้อความไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ 20 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมินผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ จากนั้น นำคะแนนของผเู้ ช่ยี วชาญทุกคน ทปี่ ระเมินมาคำนวณหาคา่ IOC ตามสตู รแปล ความหมายค่า IOC ท่คี ำนวณได้ ดังนี้ IOC = R N เม่อื IOC แทน คา่ ดัชนคี วามสอดคล้องระหวา่ งข้อสอบกับจุดประสงค์ (Index of item Objective Congruence) R แทน ผลรวมของคะแนนความคดิ เห็นของผู้เช่ียวชาญทัง้ หมด N แทน จำนวนผูเ้ ชย่ี วชาญทั้งหมด เกณฑ์การแปลความหมายค่า IOC IOC ≥ 0.5 แสดงว่า ขอ้ คำถามหรอื ขอ้ ความวดั ไดต้ รงตามเนอื้ หาและสอดคลอ้ งกับ วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ต้องการวดั IOC < 0.5 แสดงว่า ข้อคำถามหรือขอ้ ความวดั ไมต่ รงตามเน้ือหาและไมส่ อดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ทต่ี อ้ งการวัด ตัวอยา่ ง แบบตรวจสอบความสอดคลอ้ งของขอ้ สอบกับจุดประสงค์ (รายบุคคล) คำชแ้ี จง โปรดพิจารณาข้อสอบแต่ละข้อทแ่ี นบมาให้ว่าวัดไดต้ รงกบั จุดประสงค์/ตวั ชีว้ ดั หรอื ไม่ พรอ้ มท้ังแสดงความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะ โดยทำเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่องความคดิ เห็นของ ผเู้ ช่ียวชาญ ซึ่งมีความหมายดงั นี้ +1 ถ้าแนใ่ จวา่ ขอ้ คำถามหรอื ขอ้ ความสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์หรอื ตวั ช้ีวดั ท่ีต้องการวดั 0 ถ้าไมแ่ น่ใจวา่ ข้อคำถามหรอื ข้อความสอดคล้องกบั จุดประสงค์หรอื ตวั ชี้วัดทต่ี ้องการวัด -1 ถา้ แน่ใจวา่ ขอ้ คำถามหรือข้อความไมส่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์หรือตัวช้วี ดั ทต่ี อ้ งการวัด จดุ ประสงค์ ข้อสอบข้อท่ี ความคดิ เหน็ ของ ความคดิ เหน็ / /มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ผเู้ ชี่ยวชาญ ขอ้ เสนอแนะ +1 0 -1 21 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเครอื่ งมอื วัดและประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ ตวั อยา่ งแบบสรปุ ผลการตรวจสอบความสอดคลอ้ งของข้อคำถามกับจุดประสงค์ ตวั อย่าง แบบสรุปผลการตรวจสอบความสอดคล้องของขอ้ สอบกับจุดประสงค์ (สรปุ รวม) จดุ ประสงค์ ขอ้ สอบขอ้ ที่ คะแนนความคดิ เหน็ ของผูเ้ ช่ยี วชาญ รวม ค่า IOC แปลผล (มาตรฐาน/ ตัวช้วี ดั ) 1 123 4 5 3 0.60 ใช้ได้ ว1.2 ป 6/1 2 51 ใชไ้ ด้ ว1.2 ป 6/1 3 +1 +1 0 0 +1 4 0.80 ใช้ได้ ว1.2 ป 6/1 4 +1 +1 +1 +1 +1 2 0.20 ใช้ไม่ได้ 5 +1 0 +1 +1 +1 -2 -.40 ใช้ไมไ่ ด้ ว2.2 ป 6/1 6 +1 0 0 0 0 ว2.2 ป 6/1 0 -1 -1 -1 +1 5 1.0 ใชไ้ ด้ ว2.3 ป 6/2 +1 +1 +1 +1 +1 ข้อสอบท่คี วรคดั เลอื กไว้ได้แก่ขอ้ 1, 2, 3,6 22 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมท่ี 2.1 1.ค่าดัชนคี วามสอดคล้องระหว่างข้อสอบกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (IOC) ควรมคี ่าเท่าใดจงึ ใชไ้ ด้ จงอธบิ าย ...................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 2. จงหาดชั นคี วามสอดคลอ้ งระหวา่ งข้อสอบกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ IOC โดยใหผ้ ูเ้ ชยี่ วชาญ 3 คน ให้คะแนนแตล่ ะขอ้ ผลการพจิ ารณาของผู้เชี่ยวชาญสรุปได้ดงั นี้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้/ ข้อสอบข้อท่ี ผลการพิจารณา ∑R ค่า ตัวชีว้ ดั คนท่ี คนท่ี คนที่ IOC 12 3 สาระที่ 2 ชีวิตกับ 1.การกระทำใดช่วยรักษาพืน้ ท่ีป่าให้ +1 +1 0 สง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน มีความอุดมสมบูรณเ์ พิ่มขนึ้ ว 2.2 ก การทำไรเ่ ลือ่ นลอย ตัวชีว้ ัดท่ี 4. อภิปราย ข. การตัง้ อุทยานแห่งชาติ แนวทางในการดแู ลรักษา ค การสร้างเขือ่ น ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ง. การขยายเขตอุตสาหกรรม สิง่ แวดลอ้ ม คำสัง่ เลอื กคำตอบท่ี 2.ข้อใดเปน็ วธิ ีการอนุรกั ษ์ +1 +1 +1 ถูกต้องที่สดุ ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งยั่งยืน ก. เพ่มิ โทษแก่ผู้กระทำความผิด ข. ปลูกตน้ ไม้ทดแทนทีส่ ูญเสยี ไป ค. จัดหนว่ ยเฝา้ ระวงั ทรัพยากร ง. สรา้ งจติ สำนึกในการอนุรกั ษแ์ ละ หวงแหนทรัพยากร 3.ขอ้ ใดเปน็ การบำรงุ ดแู ลรกั ษาดิน +1 0 +1 ก ฝงั ขยะทุกประเภทลงในดนิ ข ใสป่ ยุ๋ เคมีลงในดินมาก ๆ ค การปลูกพชื ตระกลู ถ่ัวสลบั กบั พืช ชนิดอื่น ง เผาหญ้าที่ข้ึนปกคลมุ ดิน 23 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่อื งมือวดั และประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเครื่องมือวัดและประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นร้/ู ขอ้ สอบข้อท่ี ผลการพิจารณา ∑R ค่า ตัวชีว้ ดั คนท่ี คนท่ี คนที่ IOC 12 3 4.ข้อใดเปน็ การดแู ลรักษาทรัพยากร 0 -1 +1 น้ำ ก ไมท่ ้ิงสิ่งปฏิกลู ลงแหล่งน้ำ ข .ใช้น้ำอยา่ งประหยัด ค จัดระบบบำบดั น้ำเสียในชุมชน ง ถูกทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา ข้อสอบที่ควรคดั เลือกไวไ้ ด้แก่ขอ้ …………………………………………………………………………………… 24 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเคร่อื งมือวดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครื่องมือวัดและประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบความรู้ท่ี 2.2 การตรวจสอบคา่ ความยากง่าย ความยากของข้อสอบ หมายถงึ กระบวนการตรวจสอบคำตอบของผู้สอบในแต่ละข้อเพอื่ พิจารณา ว่าแต่ละขอ้ มีระดับความยากเพียงใด และรวมถึงประสิทธิภาพของตัวลวงในตัวเลือกของขอ้ สอบขอ้ น้นั ดว้ ย เช่น จำนวนรอ้ ยละหรอื สดั สว่ นของคนตอบถูกในข้อน้นั ซ่ึงมีค่าอยู่ระหว่าง 0 – 1.00 ตวั อย่าง เชน่ การสอบคร้งั หนึ่งมคี นสอบ 100 คน ข้อสอบข้อที่ 1 มีคน ตอบถกู 55 คน แสดงวา่ ขอ้ สอบขอ้ นม้ี รี ะดบั ความ ยากงา่ ยเท่ากบั 0.55 หรอื ร้อยละ 55 (พิชิต ฤทธ์ิจรญู , 2556) สำนกั ทดสอบทางการศึกษา, 2557 กล่าวา่ มีสูตรในการคำนวณคา่ ความยากงา่ ย 2 ลักษณะคอื 1. การคำนวณคา่ ความยากงา่ ยของข้อสอบทใ่ี ห้คะแนนแบบทวิภาค (คะแนนมี 2 ค่า คือ ตอบถกู ได้ 1 คะแนนและตอบผิดได้ 0 คะแนน ) มขี นั้ ตอนดงั นี้ 1) ตรวจให้คะแนนนกั เรยี นแลว้ รวมคะแนน และแบง่ กล่มุ นกั เรียนออกเปน็ 2 กลุม่ (กลุม่ สูงกบั กลุม่ ต่ำ ) 2) พิจารณาผลการเลือกตวั เลอื กในแตล่ ะข้อของนักเรยี นกลมุ่ สงู และกลุ่มตำ่ 3) คำนวณหาค่าความยากง่ายของขอ้ สอบแตล่ ะข้อโดยใชส้ ตู ร คำนวณหาค่าความยากงา่ ยของข้อสอบรายข้อ โดยใชส้ ตู ร Pi = RH + RL NH + NL P คือ ค่าความยาก RH คือ จำนวนคนทต่ี อบข้อสอบถกู ในกลุม่ สูง RL คือ จำนวนคนทต่ี อบขอ้ สอบถกู ในกลุ่มต่ำ NH คือ จำนวนคนทั้งหมดในกลุม่ สูง NL คือ จำนวนคนทั้งหมดในกล่มุ ต่ำ 4) นำคา่ ความยากงา่ ยของข้อสอบท่ีคำนวณไดไ้ ปเทยี บกบั เกณฑ์ (ลว้ น สายยศและ อังคณา สายยศ, 2543 : 185) 25 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเคร่อื งมอื วัดและประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครื่องมือวัดและประเมนิ ผล วิชาวิทยาศาสตร์ 0.80 - 1.00 แสดงวา่ เป็นขอ้ สอบง่ายมาก ควรตัดทิ้งหรือปรับปรงุ 0.60 - 0.80 แสดงว่า เป็นข้อสอบงา่ ยพอใชไ้ ด้ (ดี) 0.40 - 0.60 แสดงวา่ เปน็ ข้อสอบยากง่ายปานกลาง (ดีมาก) 0.20 - 0.40 แสดงว่า เป็นข้อสอบคอ่ นข้างยาก (ด)ี 0.00 - 0.20 แสดงวา่ เป็นข้อสอบยากมาก ควรตดั ทงิ้ หรือปรบั ปรุง ข้อสอบที่มคี า่ P มาก ขอ้ สอบข้อนั้นมีคนตอบถูกมาก แสดงวา่ ขอ้ สอบง่าย ขอ้ สอบทีม่ ีคา่ P นอ้ ย ขอ้ สอบข้อนน้ั มคี นตอบถูกนอ้ ย แสดงว่าขอ้ สอบยาก นำค่าความยากง่ายของขอ้ สอบที่คำนวณได้ไปเทียบกบั เกณฑ์ คือ หากค่าที่คำนวณได้อยู่ในชว่ งที่ 0.2 ถึง 0.8 ถือว่าเป็นข้อสอบที่มีความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ ซึ่งหากข้อสอบข้อใดมีค่าความยากง่าย เท่ากับ 0.5 จะถือว่าเปน็ ขอ้ สอบมคี วามยากงา่ ยเหมาะสมท่ีสดุ 2. คำนวณคา่ ความยากงา่ ยขอ้ สอบที่ใหค้ ะแนนแบบพหุภาค ( มีมากกวา่ สองค่า คือ มีคะแนนเตม็ ตั้งแต่ 2 คะแนนข้ึนไป) แสดงรายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี 1) ตรวจให้คะแนนนักเรียนแล้วรวมคะแนน และแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 2 กลมุ่ (กล่มุ สงู กบั กลุ่มต่ำ) 2) คำนวณสัดส่วนของคะแนนรวมรายข้อที่ได้จำแนกของกลุ่มสูงและกลุ่มต่ำ โดยใช้สตู ร สัดส่วนกลมุ่ สูง (PH) = ∑ ������ สัดสว่ นกลมุ่ ต่ำ (PL) = ∑ ������ ∑ ������ ∑ ������ โดย H คอื รวมคะแนนกลุ่มสูง L คอื รวมคะแนนกลุม่ ตำ่ T คือ รวมคะแนนเต็ม (จำนวนคนในกลมุ่ x คะแนนเต็มในขอ้ น้นั ) 3) คำนวณหาคา่ ความยากง่ายของขอ้ สอบแต่ละขอ้ โดยใช้สตู ร Pi = PH + PL 2 PH คอื สัดส่วนกลมุ่ สงู PL คอื สดั สว่ นกลุ่มตำ่ 4) นำค่าความยากงา่ ยของขอ้ สอบที่คำนวณไดไ้ ปเทยี บกับเกณฑ์ คือ หากคา่ ท่ี คำนวณได้อยู่ในชว่ ง 0.2 ถึง 0.8 ถือว่าเปน็ ข้อสอบทมี่ คี วามเหมาะสมต่อการนำไปใช้ ซง่ึ หากข้อสอบข้อใด มคี า่ ความยากงา่ ยเทา่ กับ 0.5 จะถอื ว่าเปน็ ขอ้ สอบมีความยากง่ายเหมาะสมที่สดุ 26 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเคร่ืองมอื วดั และประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครื่องมอื วดั และประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบอิงกลุม่ การวดั ความรู้ความสามารถของผู้เรียน โดยมุง่ เนน้ ที่การเปรียบเทียบความสามารถของผู้เรียนกันเองภายในกลุ่มผู้เรียนแต่ละคนมีความรู้มากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับกลุ่มใครเก่งกว่ากัน ดังนั้นการตรวจสอบคุณภาพทำได้โดยการวิเคราะห์คุณภาพรายข้อและ คุณภาพท้งั ฉบบั (พรทพิ ย์ ไชยโส 2535 อ้างถงึ ใน สุดารตั น์ นนทค์ ลัง, 2549) ดงั น้ี 1. การวิเคราะหค์ ณุ ภาพรายข้อ ตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบข้ันต้นแล้วนำแบบทดสอบไป ทดลองใชก้ บั นักเรยี นกล่มุ ทดลอง แล้วซักถามปัญหาอปุ สรรคของผู้สอบจากการทำแบบทดสอบ ตลอดจน ความเปน็ ปรนัยของข้อคำถาม หรือความชัดเจนของภาษา กเ็ ปน็ การตรวจสอบคณุ ภาพของข้อสอบเช่นกัน หลังจากที่นำแบบทดสอบไปทดลองใช้กับกลุ่มผู้เรียน แล้วนำผลการสอบมาวิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบ เปน็ รายขอ้ (Item analysis) ซึ่งเปน็ การตรวจสอบคณุ ภาพในดา้ นความยากงา่ ย อำนาจจําแนก และ การวิเคราะหข์ ้อสอบรายข้อ มีขน้ั ตอนการดำเนินการดังนี้ 1. ตรวจกระดาษคำตอบของผู้เรยี นแล้วรวมคะแนนของแตล่ ะคนไว้ 2. นำกระดาษคำตอบของผเู้ รยี นมาเรยี งลำดับหมายโดยจัดเรียงมากไปนอ้ ย 3. แบง่ กระดาษคำตอบของผู้เรียนตอ่ เป็น 2 กลุม่ คือ กลุ่มเกง่ กลมุ่ ออ่ น โดยใชเ้ ทคนิค 25% หรือ 27 % หรือ 33 % หรือ 50 % แล้วแต่ความเหมาะสม จึงพิจารณาจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างการกระจายของ คะแนนโดยยึดหลักว่าจะต้องมีความแตกต่างระหว่าง กลุ่มเก่งและกลุ่มอ่อนมากที่สุด โดยทั่วไปจะใช้ เทคนิค 27 % (พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2556) ถ้าผู้เข้าสอบมีจำนวนมาก 300-400 ขึ้นไปเพื่อสะดวกในการ วิเคราะห์สามารถใช้เทคนิค 25 ได้ (พรทิพย์ ไชยโส, 2535) แต่ถ้าการแจกแจงไม่เป็นปกติควรใช้เทคนิค 33% จึงจะให้ค่าที่ใกล้เคียงกับที่ทำการวิเคราะห์ ส่วนเทคนิค 50% ใช้น้อยมากจะใช้ในกรณีที่กลุ่ม ตัวอย่างมจี ำนวนน้อยมากประมาณ 40 คน หรือนอ้ ยกว่า 40 (บญุ เรยี ง ขจรศิลป์, 2543 ) การวเิ คราะหข์ ้อสอบรายข้อแบบอิงกลมุ่ (พชิ ติ ฤทธิ์จรญู , 2556) ซ่ึงเปน็ วิธี ท่ีนิยมกนั มากอกี วิธีหนึง่ ก็คือการใชเ้ ทคนิค 27 % ซง่ึ มวี ิธีวิเคราะห์ดังนี้ 27 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเคร่อื งมอื วดั และประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมือวัดและประเมนิ ผล วิชาวิทยาศาสตร์ 1) นำข้อสอบไปสอบตรวจให้คะแนน และเรียงกระดาษคำตอบตามลำดับคะแนนมากไปถงึ นอ้ ย 2) แบ่งกระดาษคำตอบออกเปน็ 2 กลุม่ กลมุ่ แรกเรยี กว่ากล่มุ สูง (PH) โดยนบั คะแนนจากสงู ลงมาประมาณ 27% ของกระดาษคำตอบทั้งหมดและกลุ่มหลังเรียกว่ากลุ่มต่ำ (PL) โดยนับจากคะแนน ต่ำสุดขึ้นไปประมาณ 27% ของกระดาษคำตอบทั้งหมด การใช้เทคนิค 27% สำหรับคัดเลือกกลุ่มสูงและ กลุ่มต่ำนี้ ใช้ในกรณีที่กลุ่มตัวอย่างหรือผู้สอบมีจำนวนมากและคะแนนมีการแจกแจงแบบปกติแต่ถ้า คะแนนไม่มีการแจกแจงปกติควรใช้เทคนิค 35% 3) หาจำนวนคนท่ีตอบถกู ของแตล่ ะคนในกลมุ่ สงู กลุ่มตำ่ 4) หาความยาก (P) ของแต่ละขอ้ โดยรวมจำนวนทีต่ อบถกู ในกลุม่ สูง และกล่มุ ตำ่ แลว้ หารดว้ ยจำนวนคนในกลุ่มสงู และกลุ่มตำ่ รวมกนั 5) ค่าอำนาจจำแนก (R) ของแต่ละข้อ โดยเอาจำนวนคนที่ตอบถูกในกลุ่มศูนย์ตั้งลบด้วย จำนวนคนทต่ี อบถกู ในกลุม่ ตำ่ แลว้ หารด้วยจำนวนคนในกล่มุ สงู หรือตำ่ ความยากของข้อสอบ P = จำนวนคนท่ตี อบถกู จำนวนคนท้งั หมดทีท่ ำขอ้ สอบในแต่ละข้อ คำนวณหาค่าความยากง่ายของขอ้ สอบแต่ละขอ้ โดยใชส้ ตู ร P = PH + PL 2n P คอื คา่ ความยาก PH คือ จำนวนคนที่ตอบขอ้ สอบถกู ในกลุ่มสงู PL คือ จำนวนคนท่ตี อบข้อสอบถูกในกลุม่ ต่ำ n คือ จำนวนคนสูงหรอื กลมุ่ ตำ่ 28 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ การวเิ คราะห์ค่าความยากง่ายและอำนาจจำแนกของขอ้ สอบแบบอัตนยั ดำเนินการไดด้ ังนี้ 1. ตรวจให้คะแนนขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ แล้วรวมคะแนนทุกขอ้ 2. เรียงกระดาษคำตอบจากคะแนนสูงสุดลงมาหาต่ำสุด ถ้าใช้เทคนิค 25% ให้คัดเอา เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 25% ของทั้งหมดเป็นกลุ่มสูง และผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุด 25% ของทั้งหมดเป็น กลุม่ ตำ่ กลุ่มทเ่ี หลือเป็นกลมุ่ กลางมีจำนวน 50% ของท้ังหมด ไม่นำมาใชใ้ นการวเิ คราะห์ 3. บันทึกคะแนนของแต่ละคนในแต่ละข้อลงในตาราง โดยแยกตามกลุ่ม จากนั้นให้รวม คะแนนแต่ละข้อของแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้อาจใช้แบบฟอร์มดังตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อสอบแบบอัตนัยวิชา วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ดงั น้ี ตวั อย่าง ตารางการเคราะห์ข้อสอบแบบอัตนยั วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 กลุ่ม ผสู้ อบ 1 ข้อสอบข้อท่ี 4 5 รวม กลุ่มสูง 23 42 กลุ่มตำ่ 1 9 8 7 8 10 38 37 ผลการ 2 8 8 6 7 10 36 วเิ คราะห์รวม 3 8 7 67 9 27 25 4 8 7 66 9 22 16 รวม 33 30 25 28 38 1 5 5 57 5 2 5 5 38 4 3 4 6 36 3 4 2 3 27 2 รวม 16 19 13 28 14 p .61 .61 .47 .70 .65 r .42 .27 .30 .00 .60 สรุป ใช้ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ใชไ้ มไ่ ด้ ใชไ้ ด้ 4. จากตารางจะเห็นว่าข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์มีจำนวนทั้งหมด 5 ข้อ คะแนนเต็ม ข้อละ 10 คะแนน นกั เรยี นทส่ี อบมจี ำนวนทัง้ หมด 16 คน จงึ มีกล่มุ สูงและกลุม่ ต่ำกลุ่มละ 4 คน ซึ่งเท่ากับ 25% ของ 16 คน ผทู้ ี่ไดค้ ะแนนสงู สดุ ทำได้ 42 คะแนน ตอบขอ้ 1 ถงึ ข้อ 5 ได้คะแนนตามลำดับดังนี้ 9, 8, 7, 8, 10 ผูท้ ไ่ี ด้คะแนนตำ่ สุดทำได้ 16 คะแนน ตอบขอ้ 1 ถึงข้อ 5 ไดค้ ะแนนตามลำดับดังน้ี 2, 3, 2, 7, 2 ข้อ 1 มกี ลุ่มสงู ทำไดค้ ะแนนรวมทั้งหมด 33 คะแนน กลุ่มตำ่ ทำได้ 16 คะแนน 29 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครื่องมอื วดั และประเมินผล

ชดุ ฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ 5. คำนวณคา่ ความยากง่ายและอำนาจจำแนก โดยใชส้ ูตรดังนี้ ค่าความยากง่ายหาจากสูตร p = H+ L 2NM ค่าอำนาจจำแนกหาจากสูตร r = H−L NM เม่อื p แทน ค่าความยาก r แทน คา่ อำนาจจำแนก H แทน ผลรวมของคะแนนกลุ่มสงู  L แทน ผลรวมของคะแนนกลมุ่ ตำ่ N แทน จำนวนคนในแตล่ ะกลุ่ม M แทน คะแนนเต็มของข้อสอบขอ้ นั้น หรืออาจเขียนสูตรในรูปขอ้ ความได้ดงั น้ี ค่าความยาก = ผลรวมของคะแนนกล่มุ สงู + ผลรวมของคะแนนกลุ่มต่ำ จำนวนคนทั้งสองกลุ่ม × คะแนนเต็มของขอ้ สอบข้อนั้น คา่ อำนาจจำแนก = ผลรวมของคะแนนกล่มุ สงู - ผลรวมของคะแนนกล่มุ ตำ่ จำนวนคนในแตล่ ะกล่มุ × คะแนนเตม็ ของข้อสอบขอ้ นนั้ ตวั อย่าง การหาค่าความยากของขอ้ 1 33 + 16 49 p = 8 x 10 = 80 = .61 ตัวอย่าง การหาค่าอำนาจจำแนกของข้อ 1 33 − 16 17 r = 4 x 10 = 40 = .42 6. นำค่าความยากและค่าอำนาจจำแนกที่คำนวณได้บันทึกลงในตาราง และสรุปคุณภาพ ขอ้ สอบขอ้ น้ันว่าใช้ไดห้ รือไม่ โดยขอ้ สอบท่ีใชไ้ ดต้ ้องมคี า่ ทเี่ หมาะสมทง้ั คา่ ความยากง่ายและอำนาจ 30 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล วิชาวทิ ยาศาสตร์ 7. จากตัวอย่างวิเคราะห์ข้อสอบแบบอัตนัยดังกล่าวข้างต้น แสดงว่าข้อ 1, 2, 3, และ 5 มี คณุ ภาพเหมาะสม ส่วนข้อ 4 ถึงแม้วา่ คา่ ความยากจะใช้ได้ แตไ่ มม่ อี ำนาจจำแนก จึงเปน็ ขอ้ ทีใ่ ช้ไม่ได้ ประโยชนข์ องการวเิ คราะห์ข้อสอบคุณภาพขอ้ สอบรายขอ้ 1) ทำให้ทราบคุณภาพของข้อสอบว่าขอ้ สอบข้อนั้นมีความยากเพียงใดสามารถแยกคนเกง่ ออกจากคนไม่เกง่ หรอื แยกคนท่รี บั รอู้ อกจากคนทีไ่ มร่ ับรู้ได้หรือไม่เพ่ือคดั เลอื กเอาไปใชห้ รือนำไปปรับปรุง ขอ้ คำถามหรือตวั เลอื กใหม้ คี ุณภาพมากข้ึน 2) ทำให้ประหยัดเวลาในการออกข้อสอบระยะเวลายาวระยะยาวเพราะสามารถคัดเลือก ข้อสอบทีด่ ีแต่ละขอ้ นำไปรวมเป็นฉบบั เพื่อเก็บไว้ใชอ้ นาคตได้อีก 3) เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างข้อสอบมาตรฐานและเป็นแนวทางในการสร้างคลังข้อสอบ ในอนาคต 4) ช่วยให้ข้อสอบมีคณุ ภาพสามารถนำไปวัดและประเมินผลไดอ้ ย่างเทยี่ งตรงและ เชือ่ มน่ั ได้ 5) ใชเ้ ป็นข้อมูลในการวเิ คราะห์คุณภาพข้อสอบทั้งฉบบั ต่อไป 6) ช่วยให้ครูเขียนข้อสอบได้ดีขึ้นเพราะผลการวิเคราะห์จะย้อนกลับมายังผู้ออกข้อสอบ อีกครงั้ หนึ่ง 7) เปน็ ขอ้ มูลในการปรบั ปรุงการเรยี นการสอนเพราะการวเิ คราะหข์ อ้ สอบจะชว่ ยให้ทราบ จดุ บกพร่องของการเรยี นการสอน 8) ช่วยให้การสร้างแบบทดสอบได้หลายฉบับในเวลาเดียวกันและในอนาคตสามารถ เลอื กข้อสอบนำไปสร้างแบบทดสอบคขู่ นานได้ 31 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครือ่ งมือวดั และประเมินผล

ชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเครื่องมอื วดั และประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบกจิ กรรมที่ 2.2 การตรวจสอบค่าความยากง่ายของขอ้ สอบ 1.จงบอกความหมายของ ค่าความยากง่ายของข้อสอบ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ผลการวเิ คราะหข์ ้อสอบแบบอัตนยั วชิ าวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ดงั น้ี ตัวอย่าง ตารางการเคราะห์ขอ้ สอบแบบอัตนยั วชิ าวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 กลุ่ม ผู้สอบ 1 ขอ้ สอบข้อที่ 5 รวม 2 34 กลมุ่ สูง 1 9 9 87 9 กลมุ่ ต่ำ ผลการ 2 7 7 7 5 10 วิเคราะห์ รวม 3 7 7 65 9 4 8 5 56 9 รวม 1 4 4 57 5 2 4 4 38 3 3 4 5 36 3 4 2 3 26 2 รวม p r สรุป ข้อสอบทมี่ ีคณุ ภาพเหมาะสมไดแ้ ก.่ .......................................................................................... ขอ้ สอบไม่เหมาะสมได้แก่ ......................................................................................ต.....อ่...ไ.ไ.ปป..ก.ศ..ันึก..เ.ษล..า.ยใคบะ่ ค..วามรู้ 32 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ใบความรูท้ ี่ 2.3 การตรวจสอบค่าอำนาจจำแนก คา่ อำนาจจำแนก (Item Difficulty: P) หมายถึง ประสิทธิภาพของข้อสอบ ในการแบ่งผสู้ อบออกเปน็ 2 กลุ่ม คือ กลมุ่ ทไี่ ด้คะแนนสงู หรอื กลมุ่ เก่ง กบั กลมุ่ ทีไ่ ด้ คะแนนตำ่ หรือกลุม่ อ่อน ค่าอำนาจจำแนกของขอ้ สอบ จำแนกใหเ้ หน็ ถงึ ความ แตกตา่ งของผู้สอบที่มคี ณุ ลักษณะทีต่ อ้ งการวดั ตา่ งกันเพยี งไร เช่น การวดั ผลสมั ฤทธิต์ อ้ งการจำแนกคน เรียนเกง่ กบั คนเรียนออ่ นออกจากกัน ซึ่งมีคา่ อยรู่ ะหว่าง -1.00 ถึง 1.00 สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2557 กล่าว่ามสี ตู รในการคำนวณคา่ อำนาจจำแนก 2 ลักษณะคอื 1. การคำนวณคา่ อำนาจจำแนกของขอ้ สอบทใี่ หค้ ะแนนแบบทวิภาค (คะแนนมี 2 คา่ คือ ตอบถูกได้ 1 คะแนน และตอบผดิ ได้ 0 คะแนน) มขี น้ั ตอนดังต่อไปน้ี 1) ตรวจใหค้ ะแนนนักเรยี นแลว้ รวมคะแนน และแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออก เป็น 2 กลุ่ม (กลุม่ สงู กับกลมุ่ ตำ่ ) 2) พิจารณาผลการเลอื กตัวเลือกในแต่ละขอ้ ของนักเรยี นกลุ่มสูงและกลมุ่ ต่ำ 3) คำนวณหาคา่ อำนาจจำแนกของขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ โดยใชส้ ูตร ri = RH − RL NH orNL RH คือ จำนวนคนที่ตอบขอ้ สอบถูกในกลุ่มสูง RL คือ จำนวนคนทต่ี อบข้อสอบถูกในกลุ่มตำ่ NH คือ จำนวนคนท้งั หมดในกลุม่ สูง NL คือ จำนวนคนทัง้ หมดในกล่มุ ตำ่ 33 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครื่องมือวดั และประเมนิ ผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ การคำนวณหาค่าอำนาจจำแนกของขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ (พิชติ ฤทธ์ิจรญู , 2556) โดยใช้สตู ร r = PH − PL n PH คือ จำนวนคนทต่ี อบข้อสอบถกู ในกลุ่มสูง PL คอื จำนวนคนท่ตี อบขอ้ สอบถกู ในกลมุ่ ต่ำ n คือ จำนวนคนทงั้ หมดสงู หรอื กลมุ่ ต่ำ 4) นำค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบที่คำนวณได้ไปเทียบกับเกณฑ์ คือ หากค่าที่คำนวณ ได้มีค่าตั้งแต่ 0.2 ขึ้นไป ถือว่าเป็นข้อสอบที่มีความเหมาะสมต่อการนำไปใช้ ซึ่งหากข้อสอบข้อใดมีค่า อำนาจจำแนกเท่ากบั 1.00 จะถือวา่ เปน็ ขอ้ สอบมีอำนาจจำแนกเหมาะสมทสี่ ดุ 2. การคำนวณค่าอำนาจจำแนกขอ้ สอบที่ใหค้ ะแนนแบบพหวุ ภิ าค (คะแนนมีมากกว่า 2 ค่า คอื มีคะแนนเตม็ ตงั้ แต่ 2 คะแนนข้ึนไป) มขี น้ั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ตรวจให้คะแนนนกั เรียนแลว้ รวมคะแนน และแบง่ กลมุ่ นกั เรยี นออกเปน็ 2 กล่มุ (กลุ่มสูงกบั กลุ่มต่ำ) 2) คำนวณสดั สว่ นของคะแนนรวมรายขอ้ ท่ไี ดจ้ ำแนกของกลุ่มสูงและกลมุ่ ตำ่ โดยใชส้ ตู ร สัดส่วนกลมุ่ สูง (PH) = ∑ ������ สดั สว่ นกล่มุ ต่ำ (PL) = ∑ ������ ∑ ������ ∑ ������ โดย H คอื รวมคะแนนกลุ่มสงู L คือ รวมคะแนนกลมุ่ ตำ่ T คอื รวมคะแนนเตม็ (จำนวนคนในกล่มุ x คะแนนเตม็ ในขอ้ นั้น) 34 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครือ่ งมือวัดและประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3) คำนวณหาค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบแต่ละข้อ โดยใช้สูตร Ri = PH - PL PH คือ สดั ส่วนกลุ่มสงู PL คอื สัดสว่ นกลุม่ ตำ่ 4) นำค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบที่คำนวณไดไ้ ปเทียบกับเกณฑ์ คือ หากค่าที่คำนวณได้ มีคา่ ตงั้ แต่ 0.2 ขึ้นไป ถอื ว่าเป็นข้อสอบทีม่ คี วามเหมาะสมต่อการนำไปใช้ ซง่ึ หากขอ้ สอบข้อใดมีค่าอำนาจ จำแนกเท่ากับ 1.00 จะถอื ว่าเป็นข้อสอบมอี ำนาจจำแนกเหมาะสมทีส่ ุด คา่ อำนาจจำแนกของข้อสอบทค่ี ำนวณได้ไปเทียบกับเกณฑ์มคี วามหมายดงั น้ี 0.60 - 1.00 แสดงว่า อำนาจจำแนกไดด้ มี าก 0.40 - 0.59 แสดงวา่ อำนาจจำแนกไดด้ ี 0.20 - 0.39 แสดงว่า อำนาจจำแนกพอใชไ้ ด้ 0.10 - 0.19 แสดงว่า อำนาจจำแนกไดค้ ่อนข้างต่ำควรปรบั ปรุง 0.00 - 0.09 แสดงวา่ จำแนกไดต้ ่ำมากควรปรับปรุง ภาพ แสดงการกระจายของข้อสอบตามผลการวเิ คราะห์ 35 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเครอื่ งมือวดั และประเมินผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครื่องมอื วดั และประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ ตัวอยา่ ง ในการสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ข้อสอบเป็นปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 5 ข้อมีผู้สอบ จำนวน 50 คน ตรวจให้คะแนนและเรียงคะแนนจากสูงไปต่ำเรียบร้อยแล้ว และนำมาแบ่งเป็นกลุ่มสูง 27 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 14 คนและกลุ่มต่ำ 27 ประมาณ 14 คนผลการวิเคราะห์จำนวนคนท่ีตอบถกู ในกลมุ่ สงู กลุ่มตำ่ ปรากฏดงั ตารางดังนี้ ตาราง ผลการวิเคราะหข์ อ้ สอบรายข้อวชิ าวิทยาศาสตร์ ข้อท่ี PH PL PH+PL PH-PL P r 18 2 14 8 16 0 0.57 0.00 3 14 46 0 14 14 0.50 1.00 5 12 14 28 0 1.00 0.00 10 16 -4 0.57 -0.28 5 17 7 0.61 0.50 จากตัวอยา่ งขา้ งต้นจะเห็นว่า ข้อที่ 1 ผู้สอบทั้งสองกลุ่มตอบถูกเท่ากัน แปลว่าข้อสอบข้อนี้ไม่สามารถจำแนกนักเรียนทั้งสอง กลมุ่ ไดเ้ ลย แมว้ า่ ความยากจะดมี าก 0.57 เปน็ ขอ้ สอบที่ต้องปรับปรุง ข้อที่ 2 ผู้สอบกลุ่มสูงตอบถูกหมดและกลุ่มต่ำตอบผิดหมด มีค่าความยากเท่ากับ 0.50 แปลว่ามี ความยากปานกลางและคา่ อำนาจจำแนกเท่ากับ 1 เปน็ ข้อสอบท่ดี ีมาก ข้อ 3 ผู้สอบกลุ่มสูงกับกลุ่มต่ำตอบถูกหมด แสดงว่าข้อสอบง่ายมากและไม่สามารถจำแนก นกั เรยี นไดเ้ ปน็ ขอ้ สอบทต่ี ง้ั ตดั ทง้ิ ข้อ 4 ข้อสอบข้อน้ีความยากเท่ากับ 0.57 น่าจะใช้ได้ แต่ค่าอำนาจจำแนก ติดลบ นั่นคือ คนกลมุ่ สูงตอบไม่ค่อยได้ คนกลุ่มตำ่ ตอบได้มากกว่าเปน็ ข้อสอบทต่ี ้องปรบั ปรุง ข้อที่ 5 ความยากเท่ากับ 0.60 ค่าอำนาจจำแนกเท่า 0.50 มีค่าความยากและค่าอำนาจจำแนก อยใู่ นเกณฑ์ดีเป็นข้อสอบท่ีดี ข้อสอบที่ต้องปรับปรุง ผู้สร้างต้องกลับมาพิจารณาว่าเกิดจากสาเหตุใด ข้อคำถามไม่มีความเป็น ปรนัยหรือไม่ รวมทั้งพจิ ารณาทีต่ ัวเลือกว่าเป็นไปตามหลักการเขียนข้อสอบที่ดีหรือไม่ แล้วจงึ ปรับแก้และ นำไปทดลองใช้อีกคร้ัง 36 เล่มท่ี 5 การหาคุณภาพของเครื่องมอื วดั และประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครื่องมอื วดั และประเมินผล วิชาวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมที่ 2.3 จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงหาความยากและค่าอำนาจจำแนก ของขอ้ สอบแบบอิงกลมุ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ จำนวน 5 ข้อ ซ่ึงมี จำนวนผู้เขา้ สอบกลุ่มสงู และกลมุ่ ต่ำทท่ี ำถูก ดงั น้ี ขอ้ ที่ กลุ่มสูง (30) กลมุ่ ต่ำ (30) p r 1 23 4 2 22 6 3 20 22 4 25 20 5 26 9 2. แบบทดสอบฉบับหน่งึ ทดสอบกบั ผูส้ อบ 20 คน ก่อนทจ่ี ะทำการสอน ปรากฏว่า ข้อสอบข้อ หนงึ่ มีผู้สอบทำถูก 5 คน และเมอ่ื ทำการสอนแล้ว นำแบบทดสอบฉบับน้ี มาทดสอบกบั ผู้สอบอีกคร้งั หนง่ึ ปรากฏว่ามผี สู้ อบทำถูก 18 คนจงหาคา่ อำนาจจำแนกของขอ้ สอบขอ้ นี้ ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 37 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่ืองมอื วัดและประเมนิ ผล วิชาวทิ ยาศาสตร์ 3. จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ให้ท่านวิเคราะหค์ ุณภาพของข้อสอบแบบเลือกตอบเป็นรายข้อ โดยการคำนวณค่าความยากง่าย และ อำนาจจำแนก และพิจารณาคา่ สถิติที่ไดจ้ ากการคำนวณในข้อ 1 และตอบคำถามทา้ ยแบบบันทึกกจิ กรรม ตอนที่ 1 ขอ้ สอบแบบเลอื กตอบ (ข้อ 1-5) (กลมุ่ สงู และกลุม่ ตำ่ กลุ่มละ 20 คน) ขอ้ ตวั เลือก จำนวนคนกล่มุ จำนวนคน คา่ ความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก แปลผล (ผา่ น/ไม่ผา่ น) สงู ที่เลอื ก(H) กลุม่ ตำ่ ที่ p= H+L r= H−L เลอื ก (L) ค่า คา่ 2N N ความยากงา่ ย อำนาจจำแนก (p) (r) 1ก 4 6 ข* 9 3 ค3 5 ง 4 6 2 ก* 11 9 ข2 4 ค3 5 ง4 2 3ก 1 5 ข2 1 ค9 4 ง* 8 10 4ก 7 4 ข7 9 ค* 2 6 ง4 1 5 ก* 12 3 ข2 5 ค5 8 ง1 4 สรุป 1) ข้อสอบท่มี คี ณุ ภาพ คอื ..................................................................................................... 2) ข้อสอบทีต่ อ้ งปรับปรงุ ในเรือ่ งของความยากง่าย คอื ......................................................... 3) ข้อสอบทต่ี อ้ งปรับปรงุ ในเร่อื งของอำนาจจำแนก คอื ........................................................ 4) ขอ้ สอบทไ่ี มม่ ีคุณภาพ คอื ................................................................................................ 38 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝึกอบรมด้วยตนเอง การสรา้ งเคร่ืองมือวัดและประเมินผล วิชาวทิ ยาศาสตร์ แผนภูมิ กราฟแสดงตำแหนง่ ของขอ้ สอบแต่ละขอ้ ตามคา่ ความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกทไี่ ด้จากการ คำนวณ ค่าความยากงา่ ย (p) 1.0 0.9 0.8 0.7 0.6 0.5 0.4 0.3 0.2 0.1 -1.0 -0.9 -0.8 -0.7 -0.6 -0.5 -0.4 -0.3 -0.2 -0.1 0 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 0.6 0.7 0.8 0.9 1.0 หมายเหตุ บรเิ วณพน้ื ทข่ี องข้อสอบทมี่ คี ุณภาพ ค่าอำนาจจำแนก (r) สรุป 1) ข้อสอบที่ไม่มีคุณภาพคอื ..................................................................................................... 2) ข้อสอบทตี่ อ้ งปรบั ปรุงในเรอื่ งของอำนาจจำแนก คอื ........................................................ 3) ข้อสอบท่ีตอ้ งปรบั ปรุงในเรื่องของความยากงา่ ย คือ....................................................... 4) ขอ้ สอบทมี่ คี ณุ ภาพ คอื ............................................................................................... 39 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสร้างเคร่อื งมอื วัดและประเมินผล วชิ าวทิ ยาศาสตร์ 4 จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ให้ท่านวิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบแบบเขียนตอบ ข้อมูลจากผลการสอบวิชาวิทยาศาสตร์มี จำนวนทั้งหมด 5 ข้อ คะแนนเต็ม ข้อละ 10 คะแนน นักเรียนที่สอบมีจำนวนทั้งหมด 40 คน จึงมีกลุ่มสูง และกลมุ่ ตำ่ กลุม่ ละ 10 คน ซงึ่ เทา่ กบั 25% ของ 40 ตารางท่ี 1 แสดงผลการวิเคราะหค์ ่าความยากง่ายและคา่ อำนาจจำแนก ผสู้ อบ ข้อ 1 2 3 4 5 รวม กลุ่มสูง 1 9 10 10 7 8 44 2 10 9 9 8 8 44 3 9 10 9 7 8 43 4 8 9 8 9 9 43 5 8 9 9 8 8 42 6 9 10 7 8 7 41 7 7 10 7 8 8 40 8 7 10 8 8 7 40 9 8 8 8 7 8 39 10 7 8 8 7 8 38 รวม 82 93 83 77 79 กลมุ่ ต่ำ 1 7 5 7 7 4 30 2 6 4 7 7 5 29 3 5 6 6 7 2 26 4 6 4 5 5 6 26 5 5 4 7 6 4 26 6 3 4 6 7 5 25 7 4 4 6 6 4 24 8 2 4 5 7 5 23 9 4 3 6 7 2 22 10 2 5 5 8 2 22 รวม 44 43 60 67 39 p r สรุป 40 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครื่องมือวัดและประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล วิชาวิทยาศาสตร์ แผนภูมิ กราฟแสดงตำแหนง่ ของขอ้ สอบแต่ละข้อตามค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกทีไ่ ด้จากการ คำนวณ ค่าความยากงา่ ย (p) 1.0 0.9 0.8 0.7 0.6 0.5 0.4 0.3 0.2 0.1 -1.0 -0.9 -0.8 -0.7 -0.6 -0.5 -0.4 -0.3 -0.2 -0.1 0 0.1 0.2 0.3 0.4 0.5 0.6 0.7 0.8 0.9 1.0 คา่ อำนาจจำแนก (r) หมายเหตุ บริเวณพน้ื ทข่ี องขอ้ สอบทมี่ คี ุณภาพ สรุป 1) ขอ้ สอบท่ีไมม่ ีคุณภาพคอื ..................................................................................................... 2) ขอ้ สอบทีต่ อ้ งปรบั ปรงุ ในเร่ืองของอำนาจจำแนก คอื ........................................................ 3) ขอ้ สอบทีต่ อ้ งปรบั ปรุงในเรือ่ งของความยากง่าย คอื ....................................................... 4) ข้อสอบท่ีมคี ณุ ภาพ คอื ............................................................................................... 41 เล่มที่ 5 การหาคุณภาพของเคร่อื งมอื วดั และประเมินผล

ชดุ ฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเครอื่ งมอื วัดและประเมนิ ผล วิชาวิทยาศาสตร์ ใบความรูท้ ่ี 2.4 สรปุ สตู รท่ใี ชใ้ นการตรวจสอบคุณภาพเคร่อื งมือ 1. ความตรงเชิงเนื้อหา จากสูตร IOC ของ Rovinelli and Hambleton (พวงรตั น์ ทวีรัตน.์ 2543: 137) IOC =  R N IOC แทน คา่ ดัชนคี วามสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ สอบกบั จดุ ประสงค์ (Index of item Objective Congruence) R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเหน็ ของผ้เู ชย่ี วชาญท้งั หมด N แทน จำนวนผเู้ ชีย่ วชาญท้ังหมด 2. ค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยง ของผู้ตรวจให้คะแนนกระบวนการและผลงานของ Pearson Product Moment Correlation Coefficient จากสูตร (rxy) (ประภาพร ศรีตระกูล, 2549) rxy = N xy −  x y [N  x2 − ( x)2 ][N  y 2 − ( y)2 ] rxy แทน คา่ สมั ประสทิ ธส์ิ หสมั พันธใ์ นท่นี ค้ี ือคา่ ความเทยี่ ง N แทน จำนวนผสู้ อบ ∑xy แทน ผลบวกของผลคูณคะแนนครัง้ แรกและครง้ั ท่ีสองเป็นคู่ ๆ ∑x แทน ผลบวกของคะแนนการสอบครัง้ แรก ∑Y แทน ผลบวกของคะแนนการสอบคร้งั ท่สี อง X2 แทน กำลงั สองของคะแนนคร้งั แรก Y2 แทน กำลังสองของคะแนนครง้ั ที่สอง 42 เล่มที่ 5 การหาคณุ ภาพของเคร่ืองมือวัดและประเมนิ ผล

ชุดฝึกอบรมด้วยตนเอง การสร้างเคร่ืองมอื วัดและประเมินผล วชิ าวิทยาศาสตร์ 3. คา่ ความเทยี่ ง (Reliability) 3.1 การหาความเทย่ี งแบบใช้สตู รของ คเู ดอรร์ ิชารด์ สัน K – R 20 กรณกี ารให้คะแนนถ้า ตอบถกู ให้ 1 คะแนน และตอบผิดให้ 0 คะแนน และข้อสอบมคี วามเป็นเอกพันธ์ (Homogeneous) คอื วดั คุณลักษณะเดยี วกนั ใช้สูตร ดังนี้ rt = n n 1 1 − S2tpq  −    S2t = N X2N−2( X)2 เมอ่ื rt คือ สัมประสทิ ธิข์ องความเชื่อม่นั ของแบบทดสอบทงั้ ฉบบั n คอื จำนวนข้อของแบบทดสอบ p คอื สัดสว่ นของผู้เรียนท่ีทำขอ้ สอบขอ้ นัน้ ถกู กับผเู้ รียนทัง้ หมด q คือ สัดสว่ นของผู้เรยี นทท่ี ำขอ้ สอบขอ้ น้นั ผดิ กบั ผ้เู รยี นทง้ั หมด S2t คอื ความแปรปรวนของคะแนนสอบท้ังฉบับ N คือ จำนวนผูเ้ รียน 3.2 การหาความเที่ยงแบบใชส้ ูตรสมั ประสทิ ธิ์แอลฟา ( - Coefficient) ใชก้ ับ เครอ่ื งมือบางประเภท เชน่ แบบทดสอบเลอื กตอบ แบบวัดเจตคติ หรือเป็นการใหค้ ะแนนแบบ หลายคา่ ทมี่ ากว่า 1 การหาค่าความเทีย่ งใช้สูตรสัมประสทิ ธ์ิแอลฟาของครอนบาค (Cronbach, อ้าง ถึงใน ชูศรี วงศ์รตั นะ, 2530: 113) ดังนี้ s2tsi2 n n 1 1 −  −  =   เมื่อ  คอื คา่ สมั ประสิทธคิ์ วามเท่ยี งของแบบทดสอบ n คือ จำนวนข้อของแบบทดสอบ S2i คอื ความแปรปรวนของแบบทดสอบรายขอ้ S2t คือ ความแปรปรวนของแบบทดสอบทงั้ ฉบับ 43 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครือ่ งมอื วดั และประเมินผล

ชุดฝกึ อบรมดว้ ยตนเอง การสรา้ งเคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล วชิ าวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบหลังศกึ ษาชุดฝกึ อบรม คำช้ีแจง ให้ทา่ นเลือกคำตอบที่ท่านเหน็ ว่าถูกตอ้ งที่สุดเพยี งคำตอบเดียว จงใชต้ วั เลอื กต่อไปน้ตี อบคำถามขอ้ 1-5 ก. คุณสมบตั คิ วามคงที่ของคะแนนท่ไี ดจ้ ากการสอบนักเรยี นคนเดยี วกนั หลายๆครง้ั ข. คณุ สมบัติทแ่ี สดงถงึ ความสามารถของคนเกง่ ทำได้ คนออ่ นทำไมไ่ ด้ ค. คุณสมบัตขิ องการวดั ไดต้ รงตามลักษณะหรอื จดุ ประสงคท์ ตี ้องการวดั ง. คณุ สมบัติของเครื่องมอื ท่ีสามารถแยกคนเกง่ กับคนออ่ นได้ จ. คณุ สมบัตขิ องเคร่ืองมอื ท่แี สดงถงึ ความชัดเจนของคำถาม และการตรวจใหค้ ะแนน 1. ความเทยี่ งตรง (Validity) คือขอ้ ใด (ตอบข้อ ………….) 2. อำนาจจำแนก (Discrimination) คือขอ้ ใด (ตอบขอ้ ………….) 3. ความเช่ือม่นั (Reliability) คือขอ้ ใด (ตอบข้อ ………….) 4. ความยากง่าย (Difficulty) คือขอ้ ใด (ตอบข้อ ………….) 5. ความเป็นปรนัย คือขอ้ ใด (Objectivity) (ตอบขอ้ ………….) 6. คณุ สมบัตขิ องเคร่ืองมอื วัดผลในขอ้ ใดทม่ี คี วามสำคญั และจำเปน็ ทส่ี ดุ 1. ความเช่อื มนั่ (Reliability) 2. ความเทย่ี งตรง (Validity) 3. ความยากง่าย (Difficulty) 4. อำนาจจำแนก (Discrimination) คำช้ีแจง พจิ ารณาข้อมลู ทก่ี ำหนดใหต้ อ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคำถามขอ้ 7 ตาราง ผลการตรวจสอบความสอดคล้องของข้อคำถามกับจดุ ประสงค์ จุดประสงค์ คะแนนความคดิ เหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญ /มาตรฐาน/ ขอ้ สอบขอ้ ที่ 123 4 5 ตัวชี้วัด 1 +1 +1 0 0 +1 1 2 0 -1 -1 -1 +1 3 +1 0 -1 0 +1 2 4 +1 +1 +1 0 +1 5 +1 -1 0 +1 -1 44 เล่มท่ี 5 การหาคณุ ภาพของเครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook