Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอุบลวรารัตน์พิทยาคม

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอุบลวรารัตน์พิทยาคม

Published by Ja Pichaya, 2021-05-23 13:26:12

Description: หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอุบลวรารัตน์พิทยาคม

Search

Read the Text Version

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐานพุทธศักราช๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาฉะเชงิ เทรา เขต๒ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ประกาศโรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม เรือ่ ง ให้ใชห้ ลกั สูตรโรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ ๒๕๖๐) …………………………… ตามที่โรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พิทยาคมไดป้ ระกาศใช้หลักสูตรโรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคมพุทธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) โดยเริ่มใช้หลักสตู รดงั กล่าวกบั นักเรียนทกุ ระดับช้นั ในปีการศกึ ษา๒๕๖๓ ตอ่ มา ในปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม ได้เพม่ิ รายวิชาเพ่ิมเตมิ เพอื่ ให้สอดคลอ้ งรบั กับนโยบายเรง่ ด่วน ของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารเพ่อื ให้ผ้เู รยี นพัฒนาทักษะกระบวนการคดิ วเิ คราะหม์ ีเวลาในการทากจิ กรรม เพ่ือพฒั นาความรู้ ความสามารถและทกั ษะ การปลูกฝงั คุณธรรมจริยธรรม การสรา้ งวินัย การมีจิตสานกึ รับผิดชอบ ตอ่ สงั คม ยึดมั่น ในสถาบันชาตศิ าสนา พระมหากษตั รยิ ์ และมีความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย ตลอดจนการเรียน การสอนในวชิ าประวัตศิ าสตร์ และหนา้ ทพี่ ลเมอื ง รวมถงึ การสอนศลี ธรรมแก่นกั เรียน โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พทิ ยา- คมได้ดาเนินการจัดทาหลกั สูตรโรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคมสอดคลอ้ งตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เร่อื ง การ บริหารจัดการเวลาเรยี น และปรับมาตรฐานและตัวช้ีวัด สอดคลอ้ งกบั คาสงั่ สพฐ. ท่ี ๑๒๓๙/๖๐ และประกาศ สพฐ. ลงวันท่ี ๘ มกราคม ๒๕๖๔ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทง้ั น้ีหลักสตู รโรงเรยี นอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน เมอ่ื วันท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๖๔ จึงประกาศใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนตง้ั แต่บดั นเี้ ป็นต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี ๒๐ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ลงชอ่ื ลงชื่อ (นางสาวพัชราภา สิงห์ทมุ ) (นางสาวพิชญา เภตรา) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ผู้อานวยการโรงเรียนอุบลวรารตั น์พิทยาคม โรงเรียนอบุ ลวรารัตนพ์ ิทยาคม

คานา กระทรวงศกึ ษาธิการไดป้ ระกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาสงั่ กระทรวงศึกษาธกิ ารท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคาสงั่ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ยี นแปลงมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ัด กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตรแ์ ละ วทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสั่งใหโ้ รงเรียนดาเนินการใช้หลกั สตู รในปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ โดยให้ ใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ และ ๔ ตัง้ แต่ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เป็นตน้ มา ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดย กาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรูเ้ ปน็ เป้าหมายและกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี นมีพัฒนาการ เตม็ ตามศกั ยภาพ มีคุณภาพและมีทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเปา้ หมายของ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานโรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคมจงึ ไดท้ าการปรับปรุงหลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพอ่ื นาไปใชป้ ระโยชน์ และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลกั สูตรของสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการ พัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ให้มีกระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏบิ ัติ โดยมกี ารกาหนดวิสัยทศั น์ จุดหมาย สมรรถนะ สาคัญของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์ การวดั ประเมินผลใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ มีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ีชัดเจนเพ่อื ตอบสนอง นโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการกา้ วสู่สังคมคณุ ภาพ มีความรอู้ ย่างแท้จริง และมที กั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชวี้ ัดท่กี าหนดไว้ในเอกสารนี้ ชว่ ยทาให้หน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ในทกุ ระดบั เหน็ ผลคาดหวงั ทตี่ อ้ งการในการพัฒนาการเรยี นรู้ของผู้เรยี น ที่ชดั เจนตลอดแนว ซ่งึ จะสามารถช่วยให้หน่วยงานทเี่ กี่ยวข้องในระดบั ท้องถ่นิ และสถานศกึ ษาร่วมกันพัฒนาหลักสตู รได้อย่างมั่นใจ ทาใหก้ ารจดั ทาหลักสตู รในระดบั สถานศึกษามคี ณุ ภาพ และมคี วามเปน็ เอกภาพย่ิงข้ึน ดังนัน้ ในการพฒั นาหลกั สูตรในทกุ ระดับ ต้ังแตร่ ะดบั ชาติ จนกระทงั่ ถึงสถานศึกษา จะตอ้ งสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวช้ีวดั ทกี่ าหนดไวใ้ นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน รวมทั้งเปน็ กรอบทศิ ทางในการจดั การศึกษาทุกรปู แบบ และครอบคลุมผเู้ รยี นทุกกลมุ่ เปา้ หมายในระดบั การศกึ ษาข้ัน พ้นื ฐาน การจัดหลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายทคี่ าดหวงั ได้ ทุกฝ่าย ท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครวั และบคุ คลตอ้ งร่วมรบั ผดิ ชอบ โดยร่วมกนั ทางานอยา่ งเปน็ ระบบ และต่อเนอ่ื ง ในการ วางแผน ดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรงุ แก้ไข เพอื่ พัฒนาเยาวชนของชาตไิ ปสู่คุณภาพ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ทีก่ าหนดไว้ (นางสาวพชิ ญา เภตรา) ผ้อู านวยการโรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ิทยาคม

สารบญั หน้า เรื่อง ประกาศโรงเรยี น ๑ คานา ๒ ความนา ๒ วสิ ยั ทศั น์ ๒ หลักการ ๓ จุดหมาย ๓ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๔ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๔ มาตรฐานการเรยี นรู้ ๕ ตัวช้วี ดั ๖ สาระการเรียนรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑๖ โครงสรา้ งหลักสูตรโรงเรยี นอุบลวรารตั นพ์ ิทยาคม ๑๗ -โครงสรา้ งเวลาเรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๑๘ -โครงสรา้ งเวลาเรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ ๑๘ -โครงสร้างเวลาเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๒๐ -โครงสร้างเวลาเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๒๐ -โครงสรา้ งเวลาเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ๒๒ -โครงสร้างเวลาเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ โครงสร้างรายวชิ า ๒๕ คาอธิบายรายวชิ า ๓๒ -กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๓๘ -กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ๔๖ -กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ๖๕ -กล่มุ สาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๗๒ -กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๘๔ -กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ๙๑ -กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๑๐๒ -กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ ๑๐๓ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑๐๓ -กจิ กรรมแนะแนว ๑๐๖ -กิจกรรมนกั เรียน -กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

คาอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑๐๘ คาอธิบายรายวิชากิจกรรมชุมนุม ๑๑๘ เกณฑ์การจบการศึกษา ๑๒๖ การจัดการเรียนรู้ ๑๒๖ สื่อการเรยี นรู้ ๑๒๗ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑๒๘ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ๑๓๐ เอกสารหลักฐานการศึกษา ๑๓๑ การเทยี บโอนผลการศกึ ษา ๑๓๒ การบรหิ ารจดั การการศึกษา ๑๓๒ ภาคผนวก ๑๓๔

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน ๑ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ความนา กระทรวงศกึ ษาธิการไดป้ ระกาศใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตรใ์ นกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ตามคาสง่ั กระทรวงศกึ ษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคาสั่งสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลยี่ นแปลงมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตรแ์ ละ วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคาสงั่ ใหโ้ รงเรียนดาเนินการใช้หลกั สตู รในปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ โดย ให้ ใชใ้ นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปกี ารศึกษา ๒๕๖๑ เป็นตน้ มา ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดย กาหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเป้าหมายและกรอบทศิ ทางในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี นมีพฒั นา-การ เต็มตามศักยภาพ มีคณุ ภาพและมีทักษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑ เพอ่ื ให้สอดคล้องกบั นโยบายและเปา้ หมายของ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐานโรงเรยี นอุบลวรารัตน์พิทยาคมจึงไดท้ าการปรบั ปรุงหลักสตู รแกนกลาง การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ ในกลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ใน กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายในการ พัฒนาคุณภาพผ้เู รียน ใหม้ ี กระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะ สาคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ดั โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์ การวดั ประเมนิ ผลใหม้ คี วามสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เปดิ โอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทศิ ทางในการ จัดทาหลักสตู รการเรียนการสอนในแตล่ ะระดับตามความพรอ้ มและจุดเนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเปน็ แนวทางเพ่ือ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วามพรอ้ มในการกา้ วสู่สังคมคุณภาพ มคี วามร้อู ยา่ งแทจ้ ริง และมที กั ษะ ใน ศตวรรษท่ี ๒๑ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ทีก่ าหนดไว้ในเอกสารน้ีชว่ ยทาใหห้ นว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง ในทกุ ระดับ เห็น ผลคาดหวังทีต่ อ้ งการในการพฒั นาการเรียนรู้ของผูเ้ รยี นท่ีชัดเจนตลอดแนว ซงึ่ จะสามารถช่วยใหห้ น่วยงานท่ี เก่ยี วข้องในระดับท้องถ่ิน และสถานศกึ ษารว่ มกนั พัฒนาหลักสูตรได้อยา่ งมน่ั ใจ ชว่ ยให้เกิดความชัดเจนเร่อื งการวัด และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดังนั้นในการพฒั นาหลกั สูตรในทกุ ระดับตัง้ แต่ระดบั ชาติจนกระทง่ั ถึงสถานศกึ ษา จะต้อง สะทอ้ นคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัดที่กาหนดไว้ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐานรวมทั้ง เป็นกรอบทศิ ทางในการจดั การศกึ ษาทกุ รูปแบบและครอบคลมุ ผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมายในระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืน- ฐาน การจัดหลกั สูตรการศึกษาข้นั พน้ื ฐานจะประสบความสาเรจ็ ตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่าย ที่ เกี่ยวขอ้ งทงั้ ระดับชาติ ชุมชน ครอบครวั และบุคคลต้องร่วมรับผดิ ชอบ โดยร่วมกันทางานอยา่ งเปน็ ระบบ และ ต่อเน่ือง ในการ วางแผน ดาเนนิ การ ส่งเสรมิ สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรงุ แกไ้ ข เพือ่ พัฒนาเยาวชนของ ชาติไปสู่คณุ ภาพ ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่กี าหนดไว้

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ๒ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) วิสัยทศั น์ของโรงเรียน (Vision) โรงเรยี นดีมีคณุ ภาพ สะอาดร่มร่นื สดชื่นดว้ ยภมู ทิ ัศน์เปรอื่ งปราชญว์ ชิ าการ กลา้ หาญมีวนิ ยั ใสใ่ จ มารยาท มีมาตรฐานสากล เป็นพลเมืองดบี นวถิ คี วามเป็นไทย ก้าวไกลเทคโนโลย หลกั การ โรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) มีหลักการท่สี าคัญดังนี้ ๑. เป็นหลักสตู รการศกึ ษาเพ่ือความเปน็ เอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐาน การเรยี นรู้ เป็น เปา้ หมายสาหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชนให้มคี วามรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพนื้ ฐานของความเป็นไทยควบคู่ กับความเปน็ สากล ๒. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาเพือ่ ปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รบั การศึกษา อยา่ งเสมอภาคและมี คณุ ภาพ ๓. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ใหส้ งั คมมสี ่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถน่ิ ๔.เปน็ หลักสูตรการศึกษาทมี่ โี ครงสรา้ งยดื หยนุ่ ท้งั ดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลาและ การจัดการเรียนรู้ ๕. เป็นหลกั สตู รการศึกษาทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ๖. เป็นหลักสตู รการศกึ ษาสาหรบั การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลุมทุก กลุ่มเปา้ หมาย สามารถเทียบโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์ จดุ หมาย โรงเรียนอุบลวรารตั น์พิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ม่งุ พัฒนาผู้เรียนใหเ้ ป็นคน ดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมาย เพื่อให้เกิดกับผู้เรียน เมอ่ื จบการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ดงั นี้ ๑. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ งึ ประสงคเ์ หน็ คุณค่าของตนเอง มีวนิ ัย และปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรม ของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือยดึ หลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๒. มคี วามร้อู ันเป็นสากลและมคี วามสามารถในการสอื่ สาร การคิด การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยีและมี ทักษะชวี ติ ๓. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทด่ี มี สี ขุ นิสัย และรักการออกกาลงั กาย ๔. มคี วามรกั ชาตมิ ีจติ สานกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชวี ติ และการปกครองตาม ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๕. มจี ติ สานกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทย การอนรุ กั ษ์และพัฒนาสงิ่ แวดลอ้ ม มีจติ สาธารณะ ที่มงุ่ ทาประโยชนแ์ ละสร้างสิ่งท่ีดงี ามในสังคม และอยู่ร่วมกนั ในสังคมอย่างมคี วามสขุ

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๓ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน หลกั สูตรโรงเรียนอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) มงุ่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสาคัญ ๕ ประการ ดงั น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง และสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือ การตัดสินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ ได้อยา่ ง ถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีกาตดั สินใจทม่ี ปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่เี กิดขน้ึ ต่อตนเอง สงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนิน ชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการ รู้จกั หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การ แกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ โรงเรียนอุบลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ม่งุ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพ่อื ใหส้ ามารถอยู่รว่ มกบั ผู้อื่นในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ดงั นี้ ๑. รักษ์ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ๓. มวี ินยั ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง ๖. มุ่งม่ันในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตเป็นสาธารณะ

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ๔ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มาตรฐานการเรยี นรู้ การพฒั นาผู้เรยี นใหเ้ กดิ ความสมดลุ ตอ้ งคานึงถงึ หลกั พัฒนาการทางสมองและพหปุ ัญญา โรงเรียนอุบลว รารัตนพ์ ิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) จึงกาหนดใหผ้ ู้เรยี นเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ ดังน้ี ๑. ภาษาไทย ๒. คณิตศาสตร์ ๓. วทิ ยาศาสตร์ ๔. สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๕. สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๖. ศลิ ปะ ๗. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๘. ภาษาตา่ งประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสาคัญของการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม ที่พึงประสงค์เมื่อจบ การศึกษาข้นั พื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยงั เป็นกลไกสาคญั ในการขบั เคลอื่ นพฒั นาการศึกษาทั้งระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมทั้งเป็น เครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการ ประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพื้นที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการ ตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นส่ิงสาคัญที่ช่วยสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพฒั นาผู้เรียนให้มี คุณภาพตามทมี่ าตรฐานการเรยี นรู้กาหนดเพยี งใด ตวั ชว้ี ดั ตัวช้วี ัดระบสุ ่ิงทนี่ กั เรยี นพึงร้แู ละปฏบิ ตั ิได้ รวมท้ังคุณลักษณะของผเู้ รียนในแต่ละระดบั ชนั้ ซง่ึ สะทอ้ นถงึ มาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมคี วามเป็นรปู ธรรม นาไปใช้ในการกาหนดเน้อื หา จดั ทาหน่วยการ เรยี นรู้ จดั การเรยี นการสอนและเป็นเกณฑ์สาคญั สาหรบั การวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบคณุ ภาพผู้เรยี น ตัวชีว้ ดั ช้ัน ปี เป็นเปา้ หมายในการพฒั นาผเู้ รยี นแต่ละช้นั ปีในระดับการศกึ ษาภาคบงั คับ (ประถมศึกษาปที ๑่ี – มธั ยมศึกษาปีที่ ๓) หลักสตู รได้มีการกาหนดรหสั กากบั มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ดั เพ่อื ความเขา้ ใจและให้ส่ือสารตรงกัน ดังนี้ ว ๑.๑ ป.๑/๒ ป.๑/๒ ตัวช้ีวัดชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ขอ้ ท่ี ๒ ๑.๑ สาระท่ี ๑ มาตรฐานขอ้ ที่ ๑ ว กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสต

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๕ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย องคค์ วามรทู้ กั ษะหรอื กระบวนการเรยี นรู้และคณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ซึ่งกาหนดใหผ้ ู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานจาเปน็ ต้องเรียนรู้ โดยแบ่งเปน็ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดงั นี้ ภาษาไทย : ความรู้ ทกั ษะ คณิตศาสตร์ : การนาความรทู้ กั ษะและ วทิ ยาศาสตร์ : การนาความรู้และ และวฒั นธรรมการใช้ภาษา กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ไปใช้ใน เพ่ือการสื่อสาร ความชืน่ ชม แกป้ ญั หา การดาเนินชวี ติ และศึกษาต่อ การ การศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ และ การเหน็ คุณคา่ ภมู ิปญั ญาไทย มีเหตมุ ผี ลมเี จตคติทดี่ ตี อ่ คณิตศาสตร์ แก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบการคิด และภูมใิ จในภาษาประจาชาติ พฒั นาการคิดอย่างเปน็ ระบบและสร้างสรรค์ อย่างเปน็ เหตเุ ป็นผล คิดวิเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ และจิตวิทยาศาสตร์ ภาษาตา่ งประเทศ : องค์ความรทู้ ักษะสาคัญ สงั คมศึกษา ศาสนาและ ความรทู้ กั ษะ เจตคติ และคุณลักษณะ วัฒนธรรม :การอยู่ร่วมกนั ใน และวัฒนธรรม การใช้ สังคมไทยและสังคโลกอยา่ งสนั ติ ภาษาตา่ งประเทศในการ สขุ การเป็นพลเมอื งดีศรทั ธาใน ส่อื สาร การแสวงหา หลกั ธรรมของศาสนาการเห็น ความร้แู ละการประกอบ คณุ คา่ ของทรัพยากรและ อาชีพ สง่ิ แวดลอ้ ม การงานอาชพี และเทคโนโลยี : ศิลปะ : ความรู้และทกั ษะในการ สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ความรู้ ทกั ษะ และเจตคติในการ คดิ ริเร่ิม จินตนาการ สรา้ งสรรค์ ทักษะและเจตคติในการสร้าง ทางาน การจัดการ การด ารงชวี ิต งานศิลปะ สุนทรียภาพและการ เสรมิ สขุ ภาพพลานามยั ขอตนเอง การประกอบอาชีพ และการใช้ เห็นคุณคา่ ทางศลิ ปะ และผู้อ่ืน การป้องกันและปฏิบัติ เทคโนโลยี ต่อสิง่ ตา่ ง ๆ ที่มผี ลต่อสขุ ภาพ อยา่ งถูกวธิ แี ละทักษะในการ ดาเนนิ ชวี ติ

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ๖ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ โรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) กาหนดมาตรฐานการ เรยี นรู้ใน ๘ กลุม่ สาระการเรียนรู้ จานวน ๖๗ มาตรฐาน ดงั นี้ ภาษาไทย สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิตและมีนิสยั รักการอา่ น สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี น เขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเร่อื งราวในรปู แบบ ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรูส้ ึกในโอกาส ต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์ สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่าและนามา ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ คณติ ศาสตร์ สาระที่ ๑ จานวนและการดาเนินการ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใช้จานวนในชวี ิตจริง มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจถึงผลท่เี กดิ ข้นึ จากการดาเนินการของจานวนและความสัมพนั ธร์ ะหว่างการดาเนินการ ต่าง ๆ และใช้การดาเนนิ การในการแก้ปัญหา มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้การประมาณคา่ ในการคานวณและแกป้ ญั หา มาตรฐาน ค ๑.๔ เข้าใจระบบจานวนและนาสมบตั เิ กี่ยวกบั จานวนไปใช้ สาระท่ี ๒ การวัด มาตรฐาน ค ๒.๑ เขา้ ใจพืน้ ฐานเก่ียวกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทตี่ ้องการวดั มาตรฐาน ค ๒.๒ แกป้ ญั หาเกีย่ วกับการวัด สาระท่ี ๓ เรขาคณิต มาตรฐาน ค ๓.๑ อธบิ ายและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณิตสองมติ ิและสามมติ

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอบุ ลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๗ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มาตรฐาน ค ๓.๒ ใช้การนึกภาพ (visualization) ใช้เหตผุ ลเก่ยี วกบั ปรภิ มู ิ (spatial reasoning) และใช้ แบบจาลองทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแกป้ ญั หา สาระที่ ๔ พชี คณิต มาตรฐาน ค ๔.๑ เขา้ ใจและวิเคราะหแ์ บบรูป (pattern) ความสัมพนั ธ์ และฟังกช์ ัน มาตรฐาน ค ๔.๒ ใช้นพิ จน์ สมการ อสมการ กราฟ และตัวแบบเชงิ คณติ ศาสตร์ (mathematical model)อื่น แทนสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนแปลความหมายและนาไปใช้แก้ปญั หา สาระที่ ๕ การวิเคราะห์ขอ้ มลู และความน่าจะเปน็ มาตรฐาน ค ๕.๑ เข้าใจและใช้วธิ กี ารทางสถติ ใิ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล มาตรฐาน ค ๕.๒ ใช้วิธีการทางสถิตแิ ละความรเู้ กย่ี วกบั ความนา่ จะเป็นในการคาดการณไ์ ดอ้ ย่างสมเหตุสมผล มาตรฐาน ค ๕.๓ ใชค้ วามรู้เก่ียวกบั สถติ ิและความนา่ จะเป็นช่วยในการตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา สาระที่ ๖ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ มาตรฐาน ค ๖.๑ มีความสามารถในการแก้ปญั หา การใหเ้ หตุผล การสอื่ สาร การส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรูต้ ่าง ๆ ทางคณติ ศาสตร์และเชอ่ื มโยง คณติ ศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ นื่ ๆ และมีความคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ วทิ ยาศาสตร์ สาระที่ ๑ สิง่ มีชีวิตกับกระบวนการดารงชีวติ มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจหน่วยพนื้ ฐานของสง่ิ มีชวี ติ ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าทีข่ องระบบตา่ งๆ ของ สงิ่ มีชีวิตที่ทางานสมั พนั ธ์กนั มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอื่ สารสิง่ ท่ีเรยี นรู้และนา ความรไู้ ปใช้ในการดารงชีวิตของตนเองและดูแลส่งิ มชี ีวติ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม วิวฒั นาการของ ส่งิ มีชวี ติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใชเ้ ทคโนโลยีชวี ภาพที่มีผลกระทบตอ่ มนษุ ยแ์ ละ สง่ิ แวดล้อม มกี ระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละจติ วทิ ยาศาสตร์ ส่อื สาร สง่ิ ที่เรียนรู้ และนา ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระท่ี ๒ ชีวิตกับสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสิ่งแวดล้อมในทอ้ งถ่ิน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งแวดล้อมกับสง่ิ มชี วี ิต ความสมั พันธ์ ระหวา่ งส่งิ มชี วี ติ ตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ มกี ระบวนการสบื เสาะ หาความรูแ้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสงิ่ ทเ่ี รยี นรแู้ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับทอ้ งถ่นิ ประเทศ และโลกนาความรู้ไปใชใ้ นในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน ทอ้ งถิน่ อย่างย่งั ยนื สาระที่ ๓ สารและสมบตั ิของสาร มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบัตขิ องสารกบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหน่ยี ว ระหวา่ งอนุภาค มกี ระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละจิตวทิ ยาศาสตร์สอ่ื สารสง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ นา

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ๘ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจหลักการและธรรมชาตขิ องการเปลีย่ นแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การ เกิดปฏกิ ิริยา มกี ระบวนการสบื เสาะหาความร้แู ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สื่อสารสง่ิ ท่เี รียนรู้ และ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี ๔ แรงและการเคลือ่ นท่ี มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโนม้ ถ่วง และแรงนิวเคลียร์มกี ระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ สื่อสารส่ิงท่เี รียนรู้และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งถูกตอ้ งและมีคุณธรรม มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจลกั ษณะการเคลื่อนท่แี บบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาตมิ ีกระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ และจติ วิทยาศาสตร์ สอ่ื สารส่ิงท่ีเรยี นรูแ้ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ ๕ พลังงาน มาตรฐาน ว ๕.๑ เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างพลังงานกบั การดารงชวี ิต การเปลยี่ นรปู พลงั งาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระหวา่ งสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลงั งานต่อชวี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม มีกระบวน การ สบื เสาะหาความรู้ สอื่ สารสงิ่ ที่เรียนรแู้ ละ นาความรู้ไป ใชป้ ระโยชน์ สาระที่ ๖ : กระบวนการเปล่ยี นแปลงของโลก มาตรฐาน ว ๖.๑ เขา้ ใจกระบวนการตา่ ง ๆ ที่เกดิ ข้ึนบนผวิ โลกและภายในโลก ความสมั พันธ์ของกระบวนการ ตา่ ง ๆ ที่มผี ลต่อการเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศ ภมู ปิ ระเทศ และสณั ฐานของโลก มีกระบวนการ สบื เสาะหาความรแู้ ละจติ วิทยาศาสตร์ สื่อสารส่ิงท่เี รยี นรแู้ ละนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ สาระที่ ๗ ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ มาตรฐาน ว ๗.๑ เข้าใจววิ ัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซีและเอกภพการปฏสิ มั พันธภ์ ายในระบบสรุ ยิ ะและ ผลตอ่ สงิ่ มีชีวติ บนโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ ละจติ วิทยาศาสตร์ การสือ่ สารสง่ิ ท่ี เรียนรู้และนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๗.๒ เขา้ ใจความสาคัญของเทคโนโลยีอวกาศทน่ี ามาใช้ในการสารวจอวกาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการสื่อสาร มกี ระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สิ่งที่เรยี นร้แู ละนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์อย่างมคี ณุ ธรรมตอ่ ชีวติ และสง่ิ แวดล้อม สาระท่ี ๘ ธรรมชาติของวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๘.๑ ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ในการสบื เสาะหาความรู้การแก้ปญั หา รู้วา่ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขนึ้ ส่วนใหญ่มรี ปู แบบ ท่ีแน่นอน สามารถอธบิ ายและ ตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเคร่ืองมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และส่ิงแวดล้อม มีความเก่ยี วข้องสมั พันธ์กัน สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวัติ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาทถ่ี ูกตอ้ ง ยึดมัน่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่รว่ มกันอยา่ ง สนั ติสุข

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอุบลวรารัตน์พิทยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ๙ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนักและปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนทีด่ ี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือศาสนา ทีต่ นนับถือ สาระที่ ๒ หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทขี่ องการเปน็ พลเมืองดี มคี า่ นิยมท่ดี งี าม และธารงรกั ษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่ร่วมกันในสงั คมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมอื งการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยึดมั่น ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรพั ยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ ทรัพยากรทม่ี ีอยู่ จากัดไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและคุ้มค่า รวมทง้ั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื การ ดารงชีวิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกจิ และความจาเป็น ของการรว่ มมอื กนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก สาระท่ี ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ต่างๆ อย่างเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจั จุบนั ในด้านความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อยา่ งตอ่ เน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถวเิ คราะห์ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขึ้น มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธารง ความเปน็ ไทย สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสิ่งซง่ึ มผี ล ต่อกันและกนั ใน ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรุป และใช้ ข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อใหเ้ กดิ การสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจติ สานกึ และมีส่วนรว่ มในการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม เพอ่ื การพฒั นา ทย่ี ่ังยนื สุขศกึ ษาและพลศึกษา สาระท่ี ๑ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ สาระท่ี ๒ ชวี ติ และครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที ักษะในการดาเนินชีวิต สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน ๑๐ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที ักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏิบัตเิ ป็นประจาอยา่ งสมา่ เสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กฬี า มีจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และช่ืนชมในสนุ ทรยี ภาพ ของการกีฬา สาระที่ ๔ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คณุ ค่าและมีทักษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรคและการ สรา้ งเสริมสมรรถภาพเพือ่ สขุ ภาพ สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ในชวี ิต มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเสย่ี ง พฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสขุ ภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใช้ยาสารเสพติด และความรนุ แรง ศลิ ปะ สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ตามจินตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คุณคา่ งานทศั นศลิ ป์ ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอิสระ ชื่นชม และ ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งทัศนศลิ ป์ ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ ทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล สาระที่ ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษว์ จิ ารณค์ ณุ ค่าดนตรี ถา่ ยทอด ความรู้สกึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ คา่ ของดนตรีที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน ภมู ิปัญญาไทยและสากล สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา่ นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ อย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศลิ ปท์ ี่ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและสากล การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ ๑ การดารงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทางาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทางาน ทักษะ การจัดการ ทักษะ กระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทกั ษะ การแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนสิ ัยในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื การดารงชีวติ และครอบครัว

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ๑๑ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) สาระท่ี ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรา้ งสิ่งของเครือ่ งใช้ หรอื วธิ ีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยีในทางสร้างสรรคต์ ่อ ชวี ิต สังคม ส่งิ แวดล้อม และมสี ่วนร่วมในการจดั การเทคโนโลยีทีย่ ่ังยืน สาระที่ ๓ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร มาตรฐาน ง ๓.๑ เขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบคน้ ข้อมลู การเรียนรู้ การส่อื สาร การแกป้ ญั หา การทางาน และอาชพี อย่างมีประสิทธภิ าพ ประสิทธิผล และมี คณุ ธรรม สาระที่ ๔ การอาชีพ มาตรฐาน ง ๔.๑ เข้าใจมีทักษะที่จาเป็นมปี ระสบการณ์เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยเี พ่ือพัฒนาอาชพี มีคณุ ธรรม และมีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ อาชีพ ภาษาต่างประเทศ สาระท่ี ๑ ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตีความเร่อื งท่ฟี ังและอ่านจากสือ่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล มาตรฐาน ต ๑.๒ มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งต่างๆ โดยการพูดและการ เขยี น สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษา และวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม สาระท่ี ๓ ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรกู้ ับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ื่น และเป็นพ้ืนฐานในการ พฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเปน็ เครื่องมอื พืน้ ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปล่ียนเรียนรู้กับสงั คมโลก

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ๑๒ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ระดับการศกึ ษา ระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ – ๖) การศกึ ษาระดับน้ีเปน็ ช่วงแรกของการศกึ ษาภาคบังคับ มุ่งเนน้ ทกั ษะพืน้ ฐานด้านการอา่ น การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคดิ พื้นฐาน การตดิ ตอ่ ส่อื สาร กระบวนการ เรียนรู้ทางสังคม และพน้ื ฐานความเปน็ มนษุ ย์ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ อยา่ งสมบรู ณ์และสมดลุ ท้ังในดา้ นรา่ งกาย สติปัญญา อารมณ์ สงั คม และวัฒนธรรม โดยเน้น จัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการ การจดั เวลาเรียน โรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ได้กาหนดกรอบ โครงสรา้ งเวลาเรียนข้ันต่าสาหรับกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๘ กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ซงึ่ สถานศกึ ษาสามารถ เพิ่มเติมไดต้ ามความพร้อมและจุดเนน้ โดยสามารถปรับใหเ้ หมาะสมตามบริบทของสถานศกึ ษาและสภาพของผูเ้ รยี น ดงั น้ี ระดับชน้ั ประถมศึกษา (ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ – ๖) ให้จัดเวลาเรยี นเปน็ รายปี โดยมีเวลาเรียนวนั ละ ไม่ เกนิ ๕ ชวั่ โมง การจดั การศึกษาสาหรับกล่มุ เปา้ หมายเฉพาะ การจัดการศึกษาบางประเภทสาหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสาหรับผู้ มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสาหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย สามารถนาหลัก- สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานไปปรับใช้ไดต้ ามความเหมาะสม กับสภาพและบริบทของแตล่ ะกลมุ่ เป้าหมายโดย ให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานท่กี าหนด ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๑๓ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างหลกั สตู ร โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารัตน์พิทยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน ๑๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรียนอุบลวรารัตน์พิทยาคม โครงสรา้ งหลักสูตรเวลาเรยี นโรงเรียนอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม กลุ่มสาระการเรียนร้/ู กจิ กรรม ป. ๑ เวลาเรยี น(ช่ัวโมง/ปี) ระดบั ประถมศึกษา  กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ๒๐๐ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ภาษาไทย ๒๐๐ คณิตศาสตร์ ๘๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วทิ ยาศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วฒั นธรรม ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๑๒๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ภาษาตา่ งประเทศ ๘๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ รวมเวลาเรียน (พนื้ ฐาน) ๘๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐  รายวชิ าเพิ่มเติม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ภาษาองั กฤษ ๑๒๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๔๐ รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เตมิ ) ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐  กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ กิจกรรมแนะแนว ๓๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กจิ กรรมนกั เรยี น ๑๐ - กจิ กรรมลกู เสอื /เนตรนารี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ชุมนุม ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ กิจกรรมสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ รวมเวลาเรยี นท้ังหมด ไมน่ ้อยกว่า ๑,๐๐๐ ช่วั โมง/ปี จานวนชัว่ โมงที่จัดให้นักเรียนระดับประถมศึกษา ( ป.๑-ป.๓ ) เรียนทั้งปี เท่ากับ ๑,๐๔๐ ชั่วโมง ระดับช้ัน ประถมศึกษา ( ป.๔-ป.๖ ) เท่ากับ ๑,๐๐๐ ชั่วโมง แผนการเรียนรู้/จุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนท่ีต้องการเนน้ เป็นพเิ ศษ คือกลุ่มสาระการเรียนรู้ทักษะภาษาไทย คณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาการ อ่านออก เขียนได้ ทักษะกระบวนการทาง

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ๑๕ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คณิตศาสตร์ คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ที่ดี มีประโยชน์ มีความสนใจใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยจัด การเรียน การสอนและวดั ผลประเมินผลเป็นรายปี สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ นั้น จากการประเมินผลระดับโรงเรียน ระดับท้องถิ่น และ ระดับชาติ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีมติร่วมกันให้จัดทาโครงการสอน เสริมประสบการณ์พิเศษเพื่อเพิม่ ศักยภาพนักเรียน จานวนชัว่ โมง ๘๐ ชั่วโมง ตั้งแตช่ ั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ -๖ โดย ไม่นาคะแนนและระดบั ผลการเรยี น ในรายวิชาสอนเสริมไปคดิ รวมและตัดสนิ การเล่ือนช้ันของนกั เรียน ในโครงสร้าง ของหลกั สตู รโรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม มีรายวิชาและจานวนช่ัวโมงดังนี้ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพอื่ เพ่ิมศักยภาพนกั เรียน ชั้น ป.๑-๓ จานวน ๒ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จานวน ๑ ชวั่ โมง ๒. วิชา คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ชั่วโมง โครงการสอนเสริมประสบการณ์พเิ ศษเพอ่ื เพ่ิมศักยภาพนักเรยี น ชนั้ ป.๔-๖ จานวน ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ จานวน ๒ ชั่วโมง ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ช่วั โมง โครงสร้างหลักสูตรชั้นปี เปน็ โครงสร้างท่แี สดงรายละเอียดเวลาเรยี นของรายวชิ าพน้ื ฐาน รายวิชา / กิจกรรม เพ่มิ เติมและกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียนในแตล่ ะช้ันปี

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๑๖ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างหลกั สูตรชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ โรงเรยี นอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม รหัส กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรยี น(ชม./ปี) รายวชิ าพ้นื ฐาน (๘๔๐) ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐ ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๒๐๐ ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑ ๘๐ ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๑ ๘๐ ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๑ ๔๐ พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ ๔๐ ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ ๔๐ ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๑ ๔๐ อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑๒๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๘๐ อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๘๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรยี น ๔๐ • ลกู เสอื เนตรนารี ๓๐ • ชมุ นมุ ๑๐ กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพ่ือเพิ่มศักยภาพนักเรยี น ช้นั ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวเิ คราะห์ จานวน ๑ ชั่วโมง ๑ ชั่วโมง ๒. วิชา คณิตศาสตร์ จานวน

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๑๗ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างหลกั สูตรชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ โรงเรียนอบุ ลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม รหัส กลุม่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น(ชม./ปี) รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐) ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๒๐๐ ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ ๒๐๐ ว ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๒ ๘๐ ส ๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๘๐ ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๒ ๔๐ พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๒ ๔๐ ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒ ๔๐ ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒ ๔๐ อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ ๑๒๐ รายวชิ าเพิ่มเติม ๘๐ อ ๑๒๒๐๒ ภาษาองั กฤษ ๒ ๘๐ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ • ลกู เสือ เนตรนารี ๓๐ • ชุมนมุ ๑๐ กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพื่อเพ่ิมศักยภาพนักเรยี น ช้นั ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ชัว่ โมง / สปั ดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวเิ คราะห์ จานวน ๑ ช่ัวโมง ๑ ชั่วโมง ๒. วิชา คณิตศาสตร์ จานวน

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๑๘ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างหลกั สูตรชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นอบุ ลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม รหัส กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรยี น(ชม./ปี) รายวชิ าพ้นื ฐาน (๘๔๐) ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๒๐๐ ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ ๘๐ ส ๑๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ ๘๐ ส ๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๓ ๔๐ พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๓ ๔๐ ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๔๐ ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๓ ๔๐ อ ๑๓๑๐๓ ภาษาอังกฤษ ๓ ๑๒๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๘๐ อ ๑๓๒๐๓ ภาษาองั กฤษ ๓ ๘๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนกั เรยี น ๔๐ • ลกู เสอื เนตรนารี ๓๐ • ชมุ นมุ ๑๐ กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพ่ือเพิ่มศักยภาพนักเรยี น ช้นั ป.๑ - ๓ จานวน ๒ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวเิ คราะห์ จานวน ๑ ช่ัวโมง ๑ ชั่วโมง ๒. วิชา คณิตศาสตร์ จานวน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๑๙ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสรา้ งหลักสูตรช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม รหัส กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน(ชม./ปี) รายวิชาพนื้ ฐาน (๘๔๐) ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๖๐ ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔ ๑๖๐ ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔ ๘๐ ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ ๘๐ ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔ ๔๐ พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๔ ๘๐ ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๔ ๘๐ ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔ ๘๐ อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ ๘๐ รายวชิ าเพิ่มเตมิ ๔๐ ส ๑๔๒๓๔ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๔ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ • ลกู เสอื เนตรนารี ๓๐ • ชมุ นมุ ๑๐ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพื่อเพ่ิมศักยภาพนกั เรยี น ชั้น ป.๔-๖ จานวน ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ จานวน ๒ ชวั่ โมง ๑ ช่ัวโมง ๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จานวน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๒๐ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสรา้ งหลักสูตรช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม รหัส กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน(ชม./ปี) รายวิชาพนื้ ฐาน (๘๔๐) ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๖๐ ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๑๖๐ ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ ๘๐ ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ๘๐ ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ ๔๐ พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๕ ๘๐ ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๘๐ ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๕ ๘๐ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ ๘๐ รายวชิ าเพิ่มเตมิ ๔๐ ส ๑๕๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ • ลกู เสอื เนตรนารี ๓๐ • ชมุ นมุ ๑๐ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพื่อเพ่ิมศักยภาพนกั เรยี น ชั้น ป.๔-๖ จานวน ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ จานวน ๒ ชวั่ โมง ๑ ช่ัวโมง ๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จานวน

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารตั นพ์ ิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ๒๑ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างหลักสูตรช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ โรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม รหัส กลุ่มสาระการเรียนรู้/กจิ กรรม เวลาเรียน(ชม./ปี) รายวิชาพน้ื ฐาน (๘๔๐) ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐ ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ๑๖๐ ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖ ๘๐ ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ๘๐ ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๔๐ พ ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๖ ๘๐ ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ๘๐ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๖ ๘๐ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ ๘๐ รายวิชาเพม่ิ เติม ๔๐ ส ๑๖๒๓๖ หน้าท่พี ลเมือง ๖ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น (๑๒๐) แนะแนว ๔๐ กจิ กรรมนักเรยี น • ลูกเสือ เนตรนารี ๔๐ • ชุมนุม ๓๐ กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพือ่ เพ่ิมศักยภาพนกั เรียน ชน้ั ป.๔ - ๖ จานวน ๓ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวเิ คราะห์ จานวน ๒ ชว่ั โมง ๑ ชั่วโมง ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ๒๒ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โครงสร้างรายวิชาของโรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าพื้นฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๒๐๐ ช่วั โมง ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ จานวน ๒๐๐ ช่ัวโมง ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๒๐๐ ชัว่ โมง ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จานวน ๑๖๐ ช่ัวโมง **************** กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง รายวิชาพืน้ ฐาน จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ จานวน ๑๖๐ ชั่วโมง ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ จานวน ๑๖๐ ช่ัวโมง ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๖ - **************** กลุ่มสาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑๒๐ ชั่วโมง รายวชิ าพนื้ ฐาน จานวน ๑๒๐ ชัว่ โมง จานวน ๑๒๐ ช่ัวโมง ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑ จานวน ๑๒๐ ช่วั โมง ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๒ จานวน ๑๒๐ ช่ัวโมง ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ จานวน ๑๒๐ ช่วั โมง ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๔ ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖ ***************

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ๒๓ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม จานวน ๘๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพนื้ ฐาน จานวน ๘๐ ช่ัวโมง จานวน ๘๐ ช่วั โมง ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๕ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๖ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส ๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส ๑๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๓ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔ ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๖ จานวน ๔๐ ชั่วโมง รายวิชาเพมิ่ เติม จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส ๑๔๒๓๔ หน้าท่พี ลเมือง ๔ ส ๑๕๒๓๕ หน้าที่พลเมือง ๕ ส ๑๖๒๓๖ หน้าท่พี ลเมอื ง ๖ **************** กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา จานวน ๘๐ ช่ัวโมง รายวิชาพ้นื ฐาน จานวน ๘๐ ชั่วโมง จานวน ๘๐ ช่ัวโมง พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชั่วโมง พ ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง พ ๑๔๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๔ พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๕ พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๖ ****************

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารัตนพ์ ิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๒๔ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง รายวิชาพืน้ ฐาน จานวน ๘๐ ช่ัวโมง จานวน ๘๐ ชั่วโมง ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ศ ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๖ **************** กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี จานวน ๔๐ ช่ัวโมง รายวิชาพื้นฐาน จานวน ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๔๐ ชั่วโมง ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๑ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๒ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๓ จานวน ๘๐ ช่วั โมง ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๔ ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๕ ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๖ **************** กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ(อังกฤษ) จานวน ๑๒๐ ชว่ั โมง รายวชิ าพื้นฐาน จานวน ๑๒๐ ช่วั โมง จานวน ๑๒๐ ชวั่ โมง อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จานวน ๘๐ ชั่วโมง อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ จานวน ๘๐ ช่ัวโมง อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง รายวิชาเพิม่ เตมิ จานวน ๘๐ ชัว่ โมง อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ อ ๑๒๒๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ อ ๑๓๒๐๓ ภาษาองั กฤษ ๓ ****************

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ิทยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๒๕ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน ๒๖ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสั้นๆ บอกความหมายของคาและข้อความ ตอบคาถาม เล่าเรื่องย่อ คาดคะเนเหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ นาเสนอเรื่องที่อ่าน บอก ความหมายของเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สาคัญที่มักพบเห็นในชีวิตประจาวัน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือ ดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขยี นส่อื สารด้วยคาและประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะในการฟัง ฟังคาแนะนา คาสั่งง่ายๆและปฏิบัติตาม ตอบคาถาม เล่าเรื่อง พูดแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกจากเรอ่ื งท่ฟี งั และดู พดู สอ่ื สารไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ เน้นมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบเรยี งคาเปน็ ประโยคง่ายๆ ต่อคาคล้องจองงา่ ยๆ บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก ฝึกท่องจาบท อาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ แสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ ทักษะการฟงั การดูและการพดู พดู แสดงความคิดเหน็ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวติ ประจาวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตัวชวี้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน ๒๗ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ ข้อความที่อ่าน ตั้งคาถาม ตอบคาถาม ระบุใจความสาคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและคาดคะเน เหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และ ปฏบิ ัตติ ามคาส่ังหรือข้อแนะนา มมี ารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องสั้นๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเรื่องสั้นๆ ตาม จินตนาการ มมี ารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง ฟังคาแนะนา คาสั่งที่ซับซ้อนและปฏิบัตติ าม เล่าเรื่อง บอกสาระสาคัญของเรื่อง ตั้ง คาถาม ตอบคาถาม พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทใน การฟงั การดูและการพดู ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบเรียงคาเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร บอกลักษณะคาคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิน่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ฝึกจบั ใจความสาคัญจากเร่อื ง ระบขุ ้อคิดทไี่ ด้จากการอา่ นหรือการฟังวรรณกรรมสาหรบั เดก็ เพ่อื นาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถิ่น ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มี คุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้ง คาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบ ยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ช้ีวดั

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ๒๘ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย๓ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา ฝึกอ่านออกเสียงคา ข้อความ เรื่องสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและข้อความที่ อ่าน ตั้งคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน เพื่อ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิง อธิบาย และปฏิบัติตามคาสั่งหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มี มารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมอื ด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย เขียนบันทึกประจาวัน เขียนเรื่องตามจินตนาการ มี มารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสาคัญ ตั้งคาถาม ตอบคาถาม พูดแสดง ความคิดเหน็ ความรสู้ ึก พดู สอ่ื สารไดช้ ดั เจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ มมี ารยาทในการฟงั การดแู ละการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิด หน้าที่ของคา ใช้ พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคาคล้องจองและคาขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม เพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดีที่อ่าน ท่องจาบทอาขยานตามท่ี กาหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหา ความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการ สรา้ งความคดิ รวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ ับชีวิตประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๑ ตัวช้วี ัด

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอบุ ลวรารตั น์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒๙ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวนจากเร่ืองท่ี อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กาหนดและตอบคาถามจากเรื่องที่อ่าน แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ี อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน เพ่ือ นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อความ จากเรื่องสั้น ๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและมารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เขียนเรื่อง ตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฝึกทกั ษะการฟงั การดแู ละการพูด จาแนกข้อเท็จจริงและขอ้ คดิ เห็นเรือ่ งท่ีฟงั และดู พดู สรุปจากการฟัง และดู พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความร้สู ึกเกีย่ วกบั เรอ่ื งทฟี่ ังและดู ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ล จากเรือ่ งท่ีฟังและดู พดู รายงานเรอ่ื งหรอื ประเดน็ ทศ่ี ึกษาคน้ คว้าจากการฟงั การดูและการสนทนา มีมารยาทในการ ฟงั การดแู ละการพูด ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แตง่ ประโยคได้ถกู ต้องตามหลักภาษา แต่งบทรอ้ ยกรอง และคาขวญั บอกความหมายของสานวน เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถนิ่ ได้ ระบขุ ้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือนทิ านคติธรรมอธิบายข้อคดิ จากการอา่ นเพือ่ นาไปใช้ในชีวติ จริงร้องเพลง พื้นบ้านท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติอธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูดพูดแสดงความคิดเห็นกระบวนการสร้างความคิดรวบ ยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กบั ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตวั ช้วี ัด

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ๓๐ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความที่เป็น การบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัย แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความ คิดเห็น อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม เลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจ มีมารยาทในการอา่ น ฝึกคดั ลายมือด้วยตวั บรรจงเตม็ บรรทัดและครง่ึ บรรทดั เขยี นสอ่ื สาร เขยี นแผนภาพโครงเรื่อง แผนภาพ ความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น กรอกแบบ รายการตา่ ง ๆ เขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ตั้งคาถาม ตอบ คาถาม วิเคราะห์ความ พดู รายงาน มีมารยาทในการฟัง การดแู ละการพูด ระบชุ นดิ และหน้าท่ีของคาในประโยค จาแนกสว่ นประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่นิ ใช้คาราชาศัพท์ บอกคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย แตง่ บท ร้อยกรอง ใชส้ านวนได้ถกู ตอ้ ง สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ระบุความรู้ ข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมที่ สามารถนาไปใช้ในชีวิตจริง อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท ร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือ ความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตง้ั คาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดู และการพูด พูดแสดงความคดิ เหน็ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กับชีวติ ประจาวันได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๓๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย๖ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวชิ า ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความที่เป็น โวหาร อ่านเรื่องสั้น ๆอย่างหลากหลาย แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และแสดงความ คดิ เหน็ เกย่ี วกับเรอ่ื งท่อี ่านเพอ่ื นาไปใช้ในการดาเนนิ ชีวิต อ่านงานเขยี น เชิงอธิบาย คาสง่ั ขอ้ แนะนา และปฏิบัติตาม อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจและ อธบิ ายคณุ คา่ ท่ไี ด้รับ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจน และ เหมาะสม เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพอื่ ใช้พัฒนางานเขยี น เขียนเรียงความ เขียนย่อความจาก เรื่องอา่ น เขียนจดส่วนตวั กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ มมี ารยาทในการเขียน ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรือ่ งที่ฟังและดู ตั้งคาถาม และตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรือ่ งทีฟ่ งั และดู วิเคราะห์ความน่าเชือ่ ถอื จากเรือ่ งทีฟ่ งั และดูส่ือโฆษณาอย่างมีเหตผุ ล พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลและ นา่ เชอ่ื ถอื มีมารยาทในการฟงั การดูและการพดู ฝึกวิเคราะห์ชนิดและหน้าทีข่ องคาในประโยค ใช้คาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและบอก ความหมายของคาภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง วิเคราะห์ เปรยี บเทียบสานวนทเี่ ป็นคาพงั เพยและสภุ าษิต ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทาน พ้นื บา้ นของทอ้ งถิน่ อ่ืน อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี า่ นและนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบท อาขยานตามที่กาหนดและบทร้อย โดยใช้กระบวนการคิดอย่างมี กระบวนการใช้ทักษะทางภาษา การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเหน็ กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กับชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวม ๕ มาตรฐาน ๓๔ ตวั ชวี้ ัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ๓๒ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชา กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ๓๓ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวนส่ิง ต่าง ๆ ตามจานวนทีก่ าหนด อ่านและเขียนตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลกั ค่าของเลขโดดในแต่ ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและน้าหนัก สร้าง โจทย์ปัญหาพร้อมทั้งแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ๑ ทีละ ๑๐ รูปที่หายไปในแบบรูปซ้าของรูป เรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ที่สมาชิกใน แต่ละชุดที่ซ้ามี ๒ รูป วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน จาแนกรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรง สี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมอ่ื กาหนดรปู ๑ รูปแทน ๑ หนว่ ย มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๓.๑ ป.๑/๑ รวมท้ังหมด ๑๐ ตัวชี้วัด

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน ๓๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์๒ กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวน สิ่งต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับที่หลัก ค่าของเลขโดดใน แต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน ๒ หลัก และ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารที่ตัวต้ังไม่เกิน ๒ หลัก ตวั หาร ๑ หลัก โดยที่ผลหารมี ๑ หลกั ทัง้ หารลงตัวและหาร ไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาที่มีหน่วย เดย่ี วและเป็นหนว่ ยเดียว วดั และเปรียบเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร พรอ้ มท้งั แสดงวธิ ีการหาคาตอบของ โจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัม และกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมทั้งแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเก่ียวกับนา้ หนักที่มีหน่วย เปน็ กโิ ลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขดี วดั และเปรยี บเทยี บปริมาตรและความจุเปน็ ลติ ร จาแนกและบอกลกั ษณะของ รูปหลายเหลยี่ มและวงกลม ใชข้ อ้ มูลจากแผนภูมิรปู ภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา เม่อื กาหนดรปู ๑ รปู แทน ๒ หน่วย ๕ หนว่ ยหรอื ๑๐ หนว่ ย มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ค ๓.๑ ป.๒/๑ รวม ๑๖ ตวั ช้วี ดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนอุบลวรารตั นพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ๓๕ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียน เศษส่วนที่แสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่กาหนด เปรียบเทียบเศษส่วนที่ตัวเศษเท่ากัน โดยทตี่ วั เศษน้อยกว่าหรอื เทา่ กับตัวสว่ น หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและการลบของ จานวนนับไมเ่ กนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจานวน ๑ หลัก กับจานวนไมเ่ กิน ๔ หลักและจานวน ๒ หลักกับจานวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดง การหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและแสดงวิธีการหา คาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดงวิธีหาคาตอบของ โจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมทั้งแสดงวิธีหาคาตอบ ของโจทย์ปัญหารการลบของเสษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึ้นหรือ ลดลงทีละเทา่ ๆ กัน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกับเงิน เวลาและระยะเวลา เลือกใช้เครอื่ งมือความยาว ที่เหมาะสม วัดและบอกความยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความ ยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับระหว่าง เซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้าหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบ น้าหนักและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เครื่องตวงที่เหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิเมตร ระบุรูป เรขาคณติ สองมิติท่ีมีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร เขยี นแผนภมู ิรูปภาพและใช้ข้อมลู จากแผนภูมิรูปภาพใน การหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลที่เป็นจานวนนับและใช้ข้อมูลจากตารางทางเดียวใน การหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑ ค ๑.๒ ป.๓/๑ ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑, ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓ ค ๒.๒ ป.๓/๑ ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ รวม ๒๘ ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารัตนพ์ ทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน ๓๖ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา ฝึกทกั ษะการอา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ตวั เลขไทย และตวั หนังสือแสดงจานวนนับที่มากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ พรอ้ มทง้ั เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวนนับทม่ี ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ บอก อา่ น และเขียนเศษส่วน จานวนคละแสดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วน จานวนคละที่กาหนด เปรียบเทียบ เรียงลาดับเศษส่วนและจานวนคละทต่ี ัวส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหูคูณของอีกตวั หน่งึ อ่านและเขยี นทศนิยมไม่ เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงปริมาณของสิ่งต่าง ๆ ตามทศนิยมที่กาหนด เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างสมเหตุสมผล หา คา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการบวก การลบของจานวนนบั ท่มี ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดง การคูณของจานวนหลายหลัก ๒ จานวน ที่มีผลคูณไม่เกิน ๖ หลัก และแสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๖ หลัก ตัวหาร ไม่เกิน ๒ หลัก หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับ และ ๐ พร้อมทั้ง หาคาตอบ หาคาตอบและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบของเศษส่วนและจานวนคละที่ตัว ส่วนตัวหนึ่งเป็นพหูคูณของอีกตัวหนึ่ง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และแสดงวิธีหาคาตอบของ โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ๒ ขัน้ ตอนของทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตาแหนง่ แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกับเวลา วดั และสรา้ งมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวธิ ีหาคาตอบ ของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จาแนกชนิดของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากเมื่อกาหนดความยาวของด้าน และใช้ ขอ้ มูลจากแผนภูมิแทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖ ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ค ๓.๑ ป.๔/๑ รวม ๒๒ ตัวชว้ี ัด

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ๓๗ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา เขียนเศษส่วนที่มีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหา คาตอบของโจทยป์ ัญหาโดยใช้บญั ญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษสว่ นและจานวนคละ แสดง วิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ขั้นตอน หาผลคูณของทศนิยม ที่ผลคูณ เป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง หาผลหารที่ตัวตั้งเป็นจานวนนับหรือทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และตัวหารเป็น จานวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การ หารทศนิยม ๒ ขั้นตอน และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาร้อยละไม่เกนิ ๒ ข้ันตอน แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความยาว นา้ หนกั ทมี่ ีการเปล่ียนหนว่ ยและเขยี นในรูปทศนิยม แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรงสี่เหลี่ยมมุม ฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สร้าง เส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่กาหนดให้ จาแนกรูปสี่เหลี่ยมโดยพิจารณา จากสมบัติของรปู สร้างรูปสเ่ี หลยี่ มชนิดต่าง ๆ เมื่อกาหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุมหรือเมื่อกาหนดความ ยาวของเสน้ ทแยงมมุ และบอกลกั ษณะของปริซึม ใชข้ อ้ มลู จากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา และเขียนแผนภมู ิแท่งจากขอ้ มลู ที่เป็นจานวนนับ มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๑๙ ตัวชีว้ ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พิทยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ๓๘ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า เปรียบเทียบ เรียงลาดับ เศษส่วนและจานวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยที่ปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจานวนนับ หา อตั ราสว่ นท่เี ท่ากบั อัตราสว่ นท่ีกาหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนบั ไม่เกิน ๓ จานวน แสดงวธิ หี าคาตอบ ของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคนของเศษส่วน และจานวนคละ แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจานวนคละ ๒ – ๓ ขน้ั ตอน หาผลหารของทศนิยม ที่ตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนยิ ม ๓ ข้นั ตอน แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาอตั ราสว่ น ปัญหาร้อยละ ๒ – ๓ ขั้นตอน แสดงวิธคี ิด และหาคาตอบของปญั หาเกีย่ วกับแบบรูป แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ประกอบด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุม ฉาก และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม ความยาวรอบ รูปและพื้นที่ของวงกลม จาแนกรูปสามเหลี่ยมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสามเหลี่ยมเมื่อกาหนดความ ยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ ระบุรูปเรข าคณิตสามมิติที่ ประกอบจากรปู คลแี่ ละระบรุ ปู คลข่ี องรปู เรขาคณติ สามมติ ิ ใชข้ อ้ มูลจากแผนภมู ิรูปวงกลมในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑ ค ๑.๒ ป.๖/๑ ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ค ๓.๑ ป.๖/๑ รวม ๒๐ ตัวช้วี ัด

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรุง๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓๙ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารัตน์พิทยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ๔๐ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ระบุชื่อพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณต่างๆที่ได้จากการสารวจบอกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในบริเวณท่ี พืชและสัตว์อาศัยอยู่ในบริเวณที่สารวจบรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์ในกา รทากิจกรรมต่างๆจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ตระหนักถึงความสาคัญของส่วนต่างๆของร่างกายของตนเองและการดูแลส่วนต่างๆอย่างถูกต้องและปลอดภัย อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ทาจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกันโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบชุ นดิ ของวสั ดุและจดั กลุ่มวสั ดตุ ามสมบัตทิ ่ีสงั เกตได้ บรรยายการเกิดเสียงและทศิ ทางการเคลื่อนที่ของเสียงจาก หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุดาวที่ปรากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืนจากข้อมูลที่รวบรวมได้ อธิบาย สาเหตทุ ี่มองไม่เห็นดวงดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวันจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ อธบิ ายลกั ษณะภายนอกของหนิ จาก ลกั ษณะเฉพาะตวั ท่ีสงั เกตได้ มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๒.๓ ป.๑/๑ ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ว ๓.๒ ป.๑/๑ ว ๘.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ รวมท้ังหมด ๑๕ ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอุบลวรารตั น์พทิ ยาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรุง๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ๔๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ว๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ระบุว่าพืชต้องการแสงและน้าเพื่อการเจริญเติบโตโดยใชข้ ้อมูลจากหลักฐานเชงิ ประจักษต์ ระหนักถึงความ จาเป็นที่พืชต้องการได้รับน้าและแสงเพื่อการเจริญเติบโตโดยดูแลพืชให้ได้รับสิ่งดังกล่าวอย่างเหมาะสม สร้าง แบบจาลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก เปรียบเทียบลักษณะสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตจากข้อมูลที่รวบรวมได้ เปรียบเทียบสมบัติการดูดซับน้าของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทาวัสดุในชีวิตประจาวัน อธิบายสมบัติที่นาวัสดุมา ผสมกันโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์การนามาทาเป็นวัสดุในการใช้งานการนากลับมาใช้ใหม่ตระหนักถึงประโยชน์ ของการนาวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ บรรยายแนวทางการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกาเนิดแสงและอธิบายการ มองเห็นวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ตระหนักในการเห็นคุณค่าของความรู้ของการมองเห็นโดยเสนอแนะแนว ทางการปอ้ งกนั อนั ตรายจากการมองเหน็ วัตถุในท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสม ระบุสว่ นประกอบของดินและจาแนกชนิด ของดินโดยใช้ลักษณะเนอื้ ดินและการจับตัวเป็นเกณฑ์ อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ว ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ ว ๑.๓ ป.๒/๑ ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ว ๘.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ รวมทง้ั หมด ๑๖ ตัวช้วี ดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พิทยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน ๔๒ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์๓ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๘๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา บรรยายสิ่งที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตและการเจริญเติบโตโดยใช้ข้อมูลจากที่รวบรวมได้ ตระหนักถึง ประโยชน์ของอาหาร น้าและอากาศโดยการดูแลตนเองและสัตว์ให้ไดร้ ับสิ่งเหล่านี้อย่างเหมาะสม สร้างแบบจาลอง ที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์และเปรียบเทียบวัฏจักรชีวิตของสัตว์บางชนิดคุณค่าของชีวิตสัตว์โดยไม่ทาให้วัฏจักร ชีวิตของสัตว์เปลี่ยนแปลง อธิบายว่าวัตถุประกอบกันเป็นวัตถุชิ้นใหม่ได้โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายการ เปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทาให้ร้อนข้ึนหรือทาให้เย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ระบุผลของแรงเปลี่ยนแปลงการ เคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงสัมผัสที่มีผลต่อการ เคลื่อนที่การจาแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็นเกณฑ์ระบุขั้วแม่เหล็กและพยากรณ์ผลที่เกิ ดขึ้นระหว่าง ขวั้ แมเ่ หลก็ เมือ่ นามาเขา้ ใกลก้ นั จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ยกตวั อยา่ งการเปล่ียนพลงั งานหน่ึงไปเปน็ อีกพลังงานหน่ึง การทางานของเครื่องกาเนิดไฟฟ้าและระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าประโยชน์ของไฟฟ้าโดยการนาเสนอ วิธีการใช้อยา่ งประหยดั และปลอดภัย อธบิ ายแบบรูปเสน้ ทางการขึ้นละตกของดวงอาทติ ย์การเกิดกลางวนั กลางคนื และการกาหนดทศิ โดยใช้ แบบจาลองตระหนกั ถึงความสาคญั ของดวงอาทติ ยป์ ระโยชนข์ องดวงอาทติ ย์ตอ่ สิ่งมีชีวติ รหสั ตัวช้วี ัด ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ว ๘.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ รวมทั้งหมด ๒๕ ตัวชีว้ ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารัตน์พทิ ยาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรับปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ๔๓ พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์๔ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๘๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวิชา บรรยายหน้าที่ของราก ลาต้น ใบและดอกของพืชดอกโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ จาแนกสิ่งมีชีวิตโดยใช้ ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิต ออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์และกลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ จาแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ จาแนกสัตว์ออกเป็น สัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ บรรยายลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทน้าสะเทินบก กลุ่ม สัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลียงลูกด้วยนม และตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในแต่ละกลุ่ม เปรียบเทียบสมบัติทาง กายภาพ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อนและการนาไฟฟ้าของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์จาก การทดลองและระบุการนาสมบัติเรื่องความแข็งสภาพยืดหยุ่นการนาความร้อนและก ารนาไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ใน ชีวิตประจาวันผ่านกระบวนการออกแบบชิ้นงาน แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นโดยการอภิปรายเกี่ยวกับสมบัติทาง กายภาพของวัสดุอย่างมีเหตุผลจากการทดลอง เปรียบเทียบสมบัติของสสารทั้ง ๓ สถานะ จากข้อมูลที่ได้จากการ สังเกตมวล การต้องการที่อยู่รูปร่างและปริมาตรของสสาร ใช้เครื่องมือเพื่อวัดมวล และปริมาตรของสสารทั้ง ๓ สถานะ ระบุผลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ใช้เครื่องชั่งสปริงในการวัดน้าหนักของวัตถุ บรรยายมวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จาแนกวัตถุเป็น ตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสงและวัตถุทึบแสงโดยใช้ลักษณะการมองเห็นสิ่งต่างๆผ่านวัตถุนั้นเป็นเกณฑ์จาก หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ สร้าง แบบจาลองท่อี ธิบายแบบรูปการเปลี่ยนแปลงรปู รา่ งปรากฏของดวงจันทร์และพยากรณ์รปู ร่างของดวงจันทร์ สร้าง แบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะและอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆจาก แบบจาลอง มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ว ๑.๒ ป.๔/๑ ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ว ๒.๓ ป.๔/๑ ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ว ๘.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ รวมทง้ั หมด ๑๘ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นอบุ ลวรารตั น์พิทยาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓(ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ๔๔ พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวิชา บรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดารงชีวิตซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวของ สิ่งมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวติ กับสิ่งมีชีวติ และความสัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ มีชวี ิตกับ สิ่งไม่มีชีวิตเพื่อประโยชน์ต่อการดารงชีวิต เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าที่ของสิ่งสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิตและ ผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตโดยมีส่วนร่วมในการดูแล รักษาสิ่งแวดลอ้ ม อธิบายการเปลีย่ นสถานะของสสารเมื่อทาให้สสารร้อนข้ึนหรือเย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายการละลายของสารในน้า โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสารเมื่อเกิดการ เปลี่ยนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และการ เปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทาต่อวัตถุในกรณีที่ วัตถุอยู่นิ่งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทาต่อวัตถุที่อยู่ในแนวเดียวกันและแรงลัพธ์ที่ กระทาต่อวัตถุ ใช้เครื่องชั่งสปริงในการวัดแรงที่กระทาต่อวัตถุ อธิบายการได้ยินเสียงผ่านตัวกลางจากหลักฐานเชิง ประจักษ์ ระบุตัวแปรทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่า ออกแบบการทดลองและอธิบาย ลักษณะและการเกิดเสียงดัง เสียงค่อย วัดระดับเสียงโดยใช้เครื่องมือวัดระดับเสียง ตระหนักในคุณค่าของความรู้ เรื่องระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเลี่ยงและลดมลพิษทางเสียง เปรียบเทียบความแตกต่างของดาว เคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจาลอง ใช้แผนที่ดาวระบุตาแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บน ท้องฟา้ และอธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นท้องฟ้าในรอบปี เปรียบเทียบปรมิ าณน้าในแต่ ละแหล่งและระบุปริมาณน้าที่มนุษย์สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ตระหนักถึงคุณค่าของน้า โดยนาเสนอแนวทางการใช้น้าอย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้า สร้างแบบจาลองที่อธิบายการหมุนเวียนของน้า ในวัฏจักรน้า เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง และน้าค้างแข็ง จากแบบจาลอง เปรียบเทียบ กระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และลูกเห็บ จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ว ๘.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ รวมทัง้ หมด ๓๒ ตวั ชี้วัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook