Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4_TU1_Unit1

4_TU1_Unit1

Published by เตือนใจ แสวงสุข, 2018-10-12 00:11:15

Description: 4_TU1_Unit1

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 What’s your name?รายวชิ า ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 1กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เวลาเรียน 8 ชั่วโมง1. เป้าหมายของการเรียนรู้ คาถามรวบยอด What information do students exchange with the person whom they meet for the first time? 1.1 ความเข้าใจทคี่ งทน Students should be able to greet and exchange personal information properly. 1.2 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการ พูดและการเขียน ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้นั ๆ ถูกตอ้ ง ตามหลกั การอ่าน ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบุประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธ์กบั ส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียง (non-text information) ท่ีอ่าน ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั18

1.3 สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวนภาษา ประโยคเก่ียวกบั การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลช่วยในการสื่อสารในชีวิตประจาวนั1.4 สาระการเรียนรู้1.4.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsVocabulary: greeting, introducing numbers 1-100 countries and nationalitiesGrammar: subject pronouns be – present simple (affirmative form) possessive adjectives Wh-questions: How…?, How old…?, What…?, Where…?Functions: Greeting and introducing yourself Asking for and giving personal information (name, age, country of origin, nationality)Pronunciation: Word stress2) Language SkillsListening: ฟังและระบุรูปภาพ, ฟังและเติมขอ้ มูลSpeaking: พูดแนะนาตวั เอง, พูดทกั ทายผอู้ ื่น, พดู ขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวั , พดู นาเสนอReading: อ่านขอ้ ความส้ันๆ และตอบคาถาม, อ่านและเติมขอ้ มูล, อา่ นออกเสียงบทสนทนาWriting: เขียนประโยคง่ายๆ เก่ียวกบั บุคคล, เขียน e-mail ง่ายๆ เกี่ยวกบั ตวั เอง1.5 ทกั ษะการคดิ 1.5.2 ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 1.5.1 ทกั ษะการสังเกต 1.5.3 ทกั ษะการระบุ 19

1.6 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.6.1 ใฝ่ เรียนรู้2. หลกั ฐานการเรียนรู้ 2.1 ชิ้นงาน/ภาระงาน งานเด่ยี ว 2.1.1 การอา่ นออกเสียงบทสนทนาท่ีกาหนด 2.1.2 การเขียน e-mail งานกลุ่ม 2.1.3 การพดู ขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวั 2.2 การวดั และประเมินผล 2.2.1 การวดั และประเมินผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจแบบฝึกหดั (Workbook) 2) ประเมินการมีส่วนร่วมในช้นั เรียน 3) ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2.2.2 การวดั และประเมินผลเม่ือสิ้นสุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1) การประเมินก่อนเรียนและหลงั เรียนหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 2) การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน 20

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การพดู โต้ตอบรายกา ดมี าก (4) ระดบั คะแนน / ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (1) นา้ ห ครการป ดี (3) พอใช้ (2) นกั คว ะระเมนิ ามสา แ คญั น น ร ว มความถู ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหม ใชค้ าศพั ทส์ ่ือความหมา ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหม ใชค้ าศพั ทส์ ่ือความหมาย 2 8กตอ้ งข ายตรงกบั เน้ือหาและไ ยตรงกบั เน้ือหาและไวย ายตรงกบั เน้ือหาและไ ไม่ตรงกบั เน้ือหาและไวยองเน้ือ วยากรณ์ถูกตอ้ งทุกปร ากรณ์ถูกตอ้ งเป็ นส่วนใ วยากรณ์ถูกตอ้ งเป็ นบา ากรณ์ไม่ถูกตอ้ งเป็ นส่วนหา ะโยค หญ่ งส่วน ใหญ่การออ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ 28กเสียง ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไมถ่ ูกตอ้ ง ตามหลกั การ ตามหลกั การ ตามหลกั การ ทาใหส้ ่ือสารไม่ได้ ออกเสียงเนน้ หนกั คา/ ออกเสียงเนน้ หนกั คา/ป ออกเสียง ประโยคไดส้ มบูรณ์ ระโยคเป็ นส่วนใหญ่ แตส่ ่วนใหญ่ขาดการ ออกเสียงเนน้ หนกัความค พดู ตอ่ เน่ือง ไมต่ ิดขดั พดู ตะกกุ ตะกกั บา้ ง พดู เป็ นคาๆ พดู ไดบ้ างคา 28 หยดุ เป็ นช่วงๆล่องแค พดู ชดั เจน แตย่ งั พอสื่อสารได้ ทาใหส้ ่ือความหมายไม่ไล่ว ทาใหส้ ื่อสารไดด้ ี ทาใหส้ ่ือสารได้ ด้ ไม่ชดั เจนการแส แสดงท่าทางและพดู ด้ พดู ดว้ ยน้าเสียงเหมาะส พดู เหมือนอ่าน พดู ไดน้ อ้ ยมาก 14ดงท่าท วยน้าเสียงเหมาะสมกั มกบั สถานการณ์แต่ไม่ ไมเ่ ป็ นธรรมชาติาง บสถานการณ์ มีท่าทางประกอบ ขาดความน่าสนใจน้าเสียงประกอบการพูด เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 24-28 ดีมาก ดี 19-23 14-18 พอใช้ 21

ต่ากวา่ 14 ปรับปรุง เกณฑ์การประเมนิ การพูดนาเสนอรายกา ดมี าก (4) ระดบั คะแนน / ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (1) นา้ ห ครการป ดี (3) พอใช้ (2) นกั คว ะระเมนิ ามสา แ คญั น น ร ว มความถู ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหม ใชค้ าศพั ทส์ ่ือความหม ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหมา ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหมาย 2 8กตอ้ งข ายตรงกบั เน้ือหาและไ ายตรงกบั เน้ือหาและไ ยไมต่ รงกบั เน้ือหาและไ ไม่ตรงกบั เน้ือหาและไวยองเน้ือ วยากรณ์ถูกตอ้ งทุกปร วยากรณ์ถูกตอ้ งเป็ นส่ว วยากรณ์ไมถ่ ูกตอ้ งพอส ากรณ์ไม่ถูกตอ้ งเป็ นส่วนหา ะโยค นใหญ่ มควร ใหญ่การออ พดู ไดช้ ดั เจนและออกเ พดู ชดั เจน พดู ชดั เจนและออกเสียง พดู ไม่ชดั เจน และพดู ผิด 2 8กเสียง สียงคาถกู ตอ้ งตลอดกา และออกเสียงคาถูกตอ้ ง ผิดเลก็ นอ้ ย เป็ นส่วนใหญ่ รนาเสนอ เป็ นส่วนใหญ่ความค พดู ต่อเนื่อง ไมต่ ิดขดั พดู ตะกกุ ตะกกั บา้ ง พดู เป็ นคาๆ พดู ไดบ้ างคา 28ลอ่ งแค ทาใหส้ ื่อสารไดด้ ี แตย่ งั พอส่ือสารได้ หยดุ เป็ นช่วงๆ ทาใหส้ ื่อความหมายไมไ่ล่ว ทาใหส้ ื่อสารได้ ด้ ไมช่ ดั เจนภาษาก ยนื ตวั ตรง ยนื ตวั ตรง ยนื ตวั ตรง ยนื ตวั งอ และ/หรือ 14าย/ภาษ มีความมน่ั ใจ และสบสายตาผฟู้ ังเป็ น และสบสายตาผฟู้ ังบา้ งเ ไม่สบสายตาผฟู้ ังาท่าทา มีการสบสายตากบั ผฟู้ ั ส่วนใหญ่ ป็ นบางคร้ังง งตลอดเวลา เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 24-28 ดีมาก 19-23 ดี 14-18 พอใช้ ต่ากวา่ 14 ปรับปรุง 22

ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การเขยี นรายการ ดมี าก (4) ระดบั คะแนน / ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (1) นา้ หนัก คะการประ ดี (3) พอใช้ (2) ความสา แน ใชค้ าศพั ทส์ ่ือความห ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหมาย น เมนิ มายตรงกบั เน้ือหา ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความหมา ใชค้ าศพั ทส์ ื่อความ ไม่ตรงกบั เน้ือหาเป็ นจา คญั รว นวนมาก มการเลือ ตวั สะกดและไวยาก ยตรงกบั เน้ือหาเป็ นส่วน หมายไม่ตรงกบั เน้ือ ตวั สะกดและไวยากรณ์ผิ 2กใชค้ าศั รณ์มีความถกู ตอ้ งส ดเป็ นจานวนมาก 8 มบูรณ์ ใหญ่ หาบา้ ง อา่ นเขา้ ใจยาก 2 พท์ อ่านเขา้ ใจง่าย 8การใชภ้ เขียนอธิบายเน้ือหาไ ตวั สะกดและไวยากรณ์มี ตวั สะกดและไวยาก เขียนอธิบายเน้ือหาไมค่ ร 2 ดต้ รงประเดน็ และค บและไม่ตรงประเดน็ 8 าษา รบถว้ น ความถกู ตอ้ ง รณ์ผดิ เลก็ นอ้ ยเน้ือหา เป็ นส่วนใหญ่ อา่ นเขา้ ใจง่าย เขียนอธิบายเน้ือหาไดค้ ่ เขียนอธิบายเน้ือหา อนขา้ งตรงประเด็นและ ไดพ้ อเขา้ ใจ ครบถว้ น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 20-24 ดีมาก 16-19 ดี 12-15 พอใช้ ปรับปรุง ต่ากวา่ 12 ตวั อย่างเกณฑ์การประเมนิ การอ่านออกเสียง 23

รายการการป ดมี าก (4) ระดบั คะแนน / ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (1) นา้ ห ค ระเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) นักค ะ วาม แ อ่านไดถ้ กู ตอ้ ง อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง อา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง อ่านผิดพลาดบ่อย สาคั นความถกู ตอ้ งใ ครบถว้ น ญนนการอา่ น แต่มีจุดผดิ พลาดเลก็ นอ้ ย แตม่ ีจุดผิดพลาดพอส ร ว ม 28 มควรการออกเสียง อา่ นเสียงดงั ชดั ถอ้ ยชั อ่านเสียงดงั ชดั ถอ้ ยชดั อ่านเสียงดงั ชดั ถอ้ ยชั อา่ นเสียงเบา 28และการแบ่งว ดคาทุกคา คา ดคา ไม่สม่าเสมอ ไม่ชดั ถอ้ ยชดั คารรคตอนในกา และเวน้ วรรคตอนใ และเวน้ วรรคตอนในก และเวน้ วรรคตอนใน และยงั เวน้ วรรคตอรอา่ น นการอา่ นไดถ้ ูกตอ้ ง ารอา่ นไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะ การอา่ นไดพ้ อใช้ นในการอา่ นไมเ่ หม เหมาะสม สม าะสม แต่มีขอ้ ผดิ พลาดเลก็ นอ้ ยการใชน้ ้าเสียง ใชน้ ้าเสียงและท่วง ใชน้ ้าเสียงและท่วงทานอ ใชน้ ้าเสียงและท่วงทา ใชน้ ้าเสียงและท่วง 1 4และทานองเสี ทานองในการอา่ นเห งในการอ่านเหมาะสมกั นองในการอา่ นเหมาะ ทานองในการอ่านไยง มาะสมกบั ขอ้ ความท่ี บขอ้ ความท่ีอ่านเป็ นส่ว สมกบั ขอ้ ความที่อ่าน มเ่ หมาะสมกบั ขอ้ คว อ่าน นใหญ่ พอใช้ ามท่ีอ่านความคลอ่ งแค อา่ นตอ่ เน่ือง อา่ นต่อเนื่องไม่ติดขดั เ อา่ นตะกกุ ตะกกั บา้ ง อ่านเป็ นคาๆ 28ล่ว ไมต่ ิดขดั อยา่ งสม่าเ ป็ นส่วนใหญ่ และหยดุ เป็ นช่วงๆ สมอ ไมต่ อ่ เน่ืองภาษากายหรือ จบั หนงั สืออยา่ งถูก จบั หนงั สืออยา่ งถกู วธิ ี จบั หนงั สือถูกวธิ ีแต่ จบั หนงั สือไม่ถูกวธิ ี 1 4ภาษาท่าทาง วธิ ี และหนงั สือปิ ดหนา้ เป็ หนงั สือปิ ดหนา้ เป็ น และหนงั สือปิ ดหนา้ และหนงั สือไม่ปิ ด นบางคร้ัง ส่วนใหญ่ หนา้ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 27-32 ดีมาก 24

21-26 ดี16-20 พอใช้ต่ากวา่ 16 ปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 Welcome to the Camp! เวลา 2 ชั่วโมงจุดประสงค์ (Objectives)- แนะนาตวั เองและผอู้ ื่นได้- ใชส้ านวนภาษาง่ายๆ ในการทกั ทายและกล่าวลา- ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ช่ือและอายุเนื้อเรื่อง (The story) ในหนังสือเรียน หน้า 14Paolo และ Francesco ซ่ึงเป็นเด็กผชู้ ายฝาแฝดชาวอิตาลี เพิง่ เดินทางมาถึงท่ี Harrow Summer Campและพบกบั เจา้ หนา้ ท่ีของคา่ ยท่ีดา้ นหนา้ ของหอ้ งสมุด Vaughan Library ซ่ึงเป็นหอ้ งสมุดของ HarrowSchool ที่เก่าแก่และมีหนงั สือมากมายและหลากหลาย Mrs Doyle, David และ Sara ประธานของคา่ ยกล่าวตอ้ นรับเด็กท้งั สองคนข้อมูลด้านวฒั นธรรม (Cultural note)คาวา่ public schools ในสหราชอาณาจกั ร (United Kingdom) จะหมายถึงโรงเรียนที่ผปู้ กครองตอ้ งจา่ ยเงินคา่ เล่าเรียนดว้ ยตวั เอง มกั จะเป็นโรงเรียนประจา ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกา (United States) คาวา่ publicschools จะหมายถึงโรงเรียนที่ไม่ตอ้ งเสียค่าเล่าเรียน เพราะรัฐบาลเป็นผจู้ ่ายค่าเล่าเรียนให้ข้อมูลด้านการออกเสียง: ถึงแมต้ วั ละครหลกั ในหนงั สือเรียน เช่น Paolo และ Francesco จะเป็นชาวอิตาลีแต่สาเนียงที่ใชพ้ ดู ของตวั ละครหลกั ก็จะเป็นสาเนียงแบบคนองั กฤษทว่ั ๆ ไป เพ่อื ใหน้ กั เรียนไดฟ้ ังการออกเสียงที่เป็ นมาตรฐาน1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.1/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ันๆ ถูกตอ้ ง 25

ตามหลกั การอา่ น ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวนภาษา ประโยคเก่ียวกบั การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลช่วยในการส่ือสารในชีวิตประจาวนั3. สาระการเรียนรู้3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsVocabulary: greetingsFunctions: Greeting and introducing yourself Asking for and giving personal information (name, age)2) Language SkillsSpeaking: พดู แนะนาตวั เอง, พูดทกั ทายผอู้ ่ืน, พดู ขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวัReading: อ่านออกเสียงบทสนทนา4. ทกั ษะการคิด 4.1 ทกั ษะการนาความรู้มาใช้ – นาสานวนภาษาที่เรียนมาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั บุคคลและกาลเทศะ5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั ที่ 1 Warm up 1. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ตวั เลข 1-30 โดยใหน้ กั เรียนท่องตวั เลข 1-30 เป็นภาษาองั กฤษพร้อมๆ กนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนเล่มเกมบิงโกตวั เลข ดว้ ยการใหน้ กั เรียนทาตาราง 9 ช่อง และเขียนตวั เลขใดก็ไดจ้ าก 1-30 ลงในตารางของนกั เรียน ครูสุ่มขานตวั เลข แลว้ ใหน้ กั เรียนที่มีตวั เลขที่ครูบอกกากบาททบั ตวั เลขในตารางของตนเอง นกั เรียนคนใดกากบาททบั ตวั เลขในตารางได้ 3 ช่องติดกนั ก่อน ใหต้ ะโกนวา่ Bingo 26

2. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 14 แลว้ ครูถามคาถามนกั เรียนเก่ียวกบั ภาพดงั กล่าว โดยอาจใชภ้ าษาองั กฤษหรือภาษาไทยก็ได้ เช่น - Is it raining? (No, it’s a sunny day.) - What’s in the background? (An old building, trees, hedges, flowers, a lawn.) - Are the people dressed formally? (No, they’re wearing blue jeans, trousers, trainers, sunglasses.) - Have the boys got suitcases? (No, they haven’t. They have got rucksacks.) 3. ครูช้ีใหน้ กั เรียนดูสนามหญา้ ในภาพ แลว้ อธิบายเพมิ่ เติมวา่ สวนของชาวองั กฤษ มกั จะไดร้ ับการดูแลอยา่ งดีอยเู่ สมอ จนมองดูเหมือนกบั เป็ นพรมสีเขียว 4. ครูแนะนาตวั ละครและเร่ืองราวพ้นื ฐานให้นกั เรียนทราบคร่าวๆ ดงั น้ี T: Paolo and Francesco, the Italian twin boys who have just arrived at the Harrow Summer Camp, meet the camp staff in front of the Vaughan Library, the old and very well-stocked library at Harrow School. Mrs Doyle, David and Sara, the camp leaders, welcome the two boys.ข้นั ท่ี 2 Presentation 1. ครูใหน้ กั เรียนลองเดาวา่ บทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 14 Ex.1 น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกบั อะไร หรือขอ้ มูลใดที่ตวั ละครในภาพจะพูดคุยกนั จากน้นั ครูเปิ ด CD1/Track 14 ให้นกั เรียนฟังและอ่าน บทสนทนาในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง โดยในคร้ังน้ีหยดุ CD เป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 14 Ex.2 โดยเปิ ด CD1/Track 14 ให้นกั เรียนฟังอีกคร้ัง แลว้ หยดุ CD เป็นระยะ เพอื่ ใหน้ กั เรียนอา่ นตามพร้อมๆ กนั หรือเป็นรายบุคคล 3. ครูนาเสนอสานวนภาษาท่ีใชใ้ นการทกั ทายและกล่าวลาในบทสนทนาใน Ex.1 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งประโยคท่ีพบในบทสนทนา Good morning. Hi! Hello! Nice to meet you. 4. ใหน้ กั เรียนศึกษาขอ้ มูลในหนังสือเรียน หน้า 15 หัวข้อ Hot Tip! ครูอาจอธิบายขอ้ มูลเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี Hello เป็นคาทกั ทายท่ีใชก้ นั บอ่ ยมากที่สุดคาหน่ึง และใชไ้ ดใ้ นทุกสถานการณ์ รวมถึงการรับโทรศพั ท์ Hi กเ็ ป็ นคาทกั ทายที่ใชก้ นั บ่อยเช่นกนั โดย Hello จะเป็นทางการมากกวา่ คาวา่ Hi เลก็ นอ้ ย 27

Good morning เป็ นคาที่คนในครอบครัวหรือคนที่ทางานที่เดียวกนั ใชท้ กั ทายกนั เมื่อพบกนั เป็ นคร้ังแรกของวนั น้นั Good morning สามารถใชใ้ นสถานการณ์ที่เป็นทางการได้ แตถ่ า้ ตอ้ งการทกั ทายแบบ ไมเ่ ป็นทางการ จะใช้ Morning ส้ันๆ เพยี งอยา่ งเดียวจากน้นั ครูใหน้ กั เรียนระบุระดบั ความเป็นทางการของคาทกั ทายของบุคคลต่างๆ ในบทสนทนาในEx.1 เช่น Mrs Doyle ใชค้ าทกั ทายแบบเป็นทางการวา่ Good morning Sara และ David ใชค้ าทกั ทายแบบไมเ่ ป็นทางการวา่ Hiข้นั ที่ 3 Practice 1. สุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยคในหนังสือเรียน หน้า 14 Ex.3 แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุวา่ ประโยคดงั กล่าวถูกหรือผดิ ตามเน้ือเรื่องในบทสนทนาท่ีไดอ้ ่าน เพื่อเป็ นการตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนAnswers 2. T1. F (Paolo is Italian.) 4. T3. F (David is English.) 6. T5. F (Francesco and Paolo are 13.)2. ครูอธิบายวา่ คาทกั ทายในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.4 เป็นคาทกั ทายที่นกั เรียนไดพ้ บแลว้ ในบท- สนทนา จากน้นั ใหน้ กั เรียนสังเกตภาพท่ีใหม้ า แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุวา่ บุคคลในแตล่ ะภาพน่าจะมีความสัมพนั ธ์กนั อยา่ งไร (ภาพแรกคือ เพื่อนกบั เพื่อน ภาพที่สองคือ ครูกบั นกั เรียน) แลว้ ใหน้ กั เรียนเลือกคาทกั ทายมาเติมลงในกรอบคาพูดใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั แต่ละสถานการณ์3. ทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.5 โดยครูเปิ ด CD1/Track 15 ใหน้ กั เรียนฟัง เพอ่ื เฉลยคาตอบใน Ex.4 ครูอาจเปิ ด CD อีกคร้ัง ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกพดู ตามAudio script and answersStella: Hi, James!James: Hi, Stella!Mrs Morse: Hello, everybody. 28

Stella: Good morning, Mrs Morse!4. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหอ้ า่ นตวั เลขท่ีใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.6 จากน้นั ครูอธิบายภาระงานวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง David พูดอธิบายส้ันๆ เก่ียวกบั หมายเลขหอ้ งของบุคคลที่เพิง่ เขา้ มาพกั ใหม่ที่ค่าย ใหน้ กั เรียนฟัง CD และเติมตวั เลขท่ีสมั พนั ธ์กบั ชื่อบุคคลท่ีไดย้ นิ จาก CD โดยจะมีตวั เลข 2 ตวั เลขท่ีเกินมา เมื่อนกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูเปิ ด CD1/Track 16 ให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง และใหน้ กั เรียนทากิจกรรม เสร็จแลว้ ครูเขียนเฉลยคาตอบบนกระดาน Audio script and answers David: Paolo and Francesco. Your room is number thirteen. Here is your key. Natalie. Your room is number eleven. Here’s your key. José. Your room is number nine. Here’s your key. Maria. Your room is number thirty. Here is your key.5. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคในหนังสือเรียน หน้า 15 หัวข้อ Look & Use จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาประโยคเหล่าน้ีในบทสนทนาใน Ex.1 ครูอธิบายวา่ ประโยคเหล่าน้ีเป็นสานวนภาษาที่ใชเ้ พื่อแนะนาตวั เอง และขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวั โดยนอกจาก I’m …. . แลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ เราสามารถแนะนาตวั เองไดอ้ ยา่ งไร จนไดค้ าตอบวา่ My name’s ….6. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.7 เมื่อนกั เรียนทาเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่เพอ่ื เปรียบเทียบคาตอบกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคูอ่ ่านบทสนทนาท่ีเติมคาสมบูรณ์แลว้ ครูเฉลยคาตอบ แลว้ จึงสุ่มเรียกนกั เรียนหลายๆ คู่ ใหอ้ อกมาท่องบทสนทนาที่หนา้ ช้นั เรียน Answers Bob: Hello, I’m Bob. What’s your name? Maria: I’m Maria and I’m American. Bob: Nice to meet you. Maria: How old are you? Bob: I’m 12. And you? 29

Maria: I’m 13.ข้นั ท่ี 4 Production 1. ครูสนทนาส้ันๆ กบั นกั เรียน 1 คน โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคในหนังสือเรียน หน้า 15 Ex.8 และเนน้ การใชก้ ิริยาท่าทาง น้าเสียง และการแสดงบทบาทใหส้ มจริงสมจงั จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียน 5 นาทีทางานคู่เตรียมบทสนทนาของคู่ตนเอง เม่ือนกั เรียนเตรียมเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนออกมาแสดง บทสนทนาที่หนา้ ช้นั เรียน S1: Hi! My name’s (ชื่อ), What’s your name? S2: Hello! I’m (ช่ือ). Nice to meet you. 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 8 Exs.1-2 และหนา้ 9 Exs.1-2 เป็นการบา้ น 3. มอบหมายใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 14 Ex.1 เป็นการบา้ น เสร็จแลว้ ใหผ้ ปู้ กครองเซ็นช่ือรับรองวา่ นกั เรียนไดฝ้ ึกอ่านแลว้7. การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์ประเมินทกั ษะการพูด แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม. 1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CD 30

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 Where is she from? เวลา 2 ชั่วโมงจุดประสงค์ (Objectives) - พดู ใหข้ อ้ มูลวา่ บุคคลมาจากประเทศใด - เรียนรู้เก่ียวกบั ชื่อประเทศและเช้ือชาติเนื้อเร่ือง (The story) ในหนังสือเรียน หน้า 16Sara และ David กาลงั ยงุ่ อยกู่ บั การจดั ทาขอ้ มูลในคอมพวิ เตอร์ นนั่ คือพวกเขากาลงั พิมพร์ ายช่ือของนกั เรียนและขอ้ มูลวา่ พวกเขามาจากประเทศใด1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ันๆ ถูกตอ้ ง ตามหลกั การอา่ น ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั31

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์ สานวนภาษา ประโยคเก่ียวกบั การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลช่วยในการสื่อสารในชีวิตประจาวนั3. สาระการเรียนรู้3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsVocabulary: countries and nationalitiesPronunciation: Word stress (countries and nationalities)Functions: Asking for and giving personal information (country of origin, nationality)2) Language SkillsSpeaking: พูดขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวัReading: อ่านออกเสียงบทสนทนา4. ทกั ษะการคิด 4.1 ทกั ษะการสงั เกต – สังเกตการออกเสียงเนน้ หนกั ในคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ช่ือประเทศและเช้ือชาติ5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั ที่ 1 Warm up 1. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเขียนรายช่ือประเทศท่ีนกั เรียนรู้จกั เป็นภาษาองั กฤษใหไ้ ดม้ ากที่สุดภายในเวล า 1 นาที ครูใหน้ กั เรียนที่เขียนไดม้ ากท่ีสุด อ่านช่ือประเทศใหเ้ พื่อนๆ ฟัง 2. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Hangman ช่ือประเทศ 3. ครูบอกจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรียนน้ีวา่ นกั เรียนจะไดฝ้ ึกฝนการพูดขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ประเทศและเช้ือชาติของตนเองและผอู้ ่ืนข้นั ที่ 2 Presentation 32

1. ครูถามนกั เรียนวา่ จาบุคคลท่ีอยใู่ นภาพในหนังสือเรียน หน้า 16 Ex.1 ไดห้ รือไม่ (Sara and David) จากน้นั เปิ ด CD1/Track 17 ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง โดยหยดุ CD เป็นระยะ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนทาความเขา้ ใจบทสนทนาตามไปดว้ ย เสร็จแลว้ ครูอธิบายวา่ การออกเสียง R ของ Sara กบั David ไมเ่ หมือนกนั เนื่องจาก Sara เป็นคนไอริช (Irish) และ David เป็นคนองั กฤษ (English) ครูอาจเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้ัง เพือ่ สงั เกตความแตกต่างดงั กล่าว 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 16 Ex.2 โดยเปิ ด CD1/Track 17 อีกคร้ัง แลว้ หยดุ CD เป็นระยะๆ เพ่อื ใหน้ กั เรียนฝึ กอา่ นตาม 3. ครูนาเสนอคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาท่ีใชใ้ นการพดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ประเทศและเช้ือชาติ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ งประโยคในบทสนทนาใน Ex.1 Where is Sophie from? She’s from France. Where’s he from? He’s from Spain. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ งประโยคของการพูดใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เช้ือชาติ She’s French. He’s Spanish. They’re Italian. ครูเขียนประโยคที่นกั เรียนบอกบนกระดาน แลว้ กระตุน้ ใหน้ กั เรียนบอกวธิ ีการใชค้ าคุณศพั ทบ์ อกเช้ือชาติ จนไดค้ าตอบวา่ จะอยหู่ ลงั Verb to beข้นั ที่ 3 Practice 1. สุ่มเรียกนกั เรียน 4 คน ใหอ้ ่านประโยคในหนังสือเรียน หน้า 16 Ex.3 คนละ 1 ประโยค พร้อมท้งั ระบุดว้ ยวา่ ประโยคที่อ่านน้นั ถูกหรือผดิ ตามเน้ือเร่ืองในบทสนทนาท่ีไดอ้ า่ นใน Ex.1 โดยประโยคใดท่ีตอบวา่ ผดิ ครูใหน้ กั เรียนแกไ้ ขประโยคใหถ้ ูกดว้ ย Answers 1. F (José is Spanish.) 2. F (He’s from Spain.) 3. F (Paolo’s from Italy.) 4. T 33

2. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพธงชาติในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex.4 หรืออาจใชบ้ ตั รภาพธงชาติในการทากิจกรรมน้ี แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุวา่ แต่ละภาพเป็นธงชาติของประเทศใด จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ คาศพั ทใ์ นกรอบท้งั 2 กรอบ กรอบใดเป็ นคาศพั ทช์ ่ือประเทศและกรอบใดเป็นคาศพั ทช์ ่ือเช้ือชาติ ครูอ่านคาศพั ทเ์ หล่าน้ี แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามครู แลว้ ใหเ้ วลานกั เรียน 3 นาที จบั คูค่ าศพั ทช์ ื่อประเทศและเช้ือชาติกบั ภาพธงชาติใหถ้ ูกตอ้ ง โดยเขียนคาตอบลงในสมุด3. ทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex.5 โดยเปิ ด CD1/Track 18 ใหน้ กั เรียนฟังเพือ่ ตรวจคาตอบใน Ex.4 จากน้นั เปิ ด CD อีกคร้ัง เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลายๆ คน ใหอ้ า่ นชื่อประเทศและเช้ือชาติใน Ex.4 ใหเ้ พื่อนๆ ฟังAudio script and answers the USA American1. Australia Australian2. Spain Spanish3. Ireland Irish4. China Chinese5. Japan Japanese6. Britain British7. Italy Italian8. France French ครูอธิบายเพิ่มเติมวา่ คาวา่ British น้นั หมายถึงคนที่อาศยั อยใู่ นประเทศองั กฤษ, เวลส์, สกอตแลนด์ และไอร์แลนดเ์ หนือ ประเทศท้งั 4 น้ี รวมกนั เรียกวา่ สหราชอาณาจกั รบริเตนใหญ่และไอร์แลนดเ์ หนือ (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland)4. ทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex.6 โดยเปิ ด CD1/Track 19 ใหน้ กั เรียนฟัง และขีดเส้นใตพ้ ยางคท์ ่ีออกเสียงเนน้ หนกั ในชื่อประเทศ/เช้ือชาติท่ีใหม้ า จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน คนละ 1 ชื่อ แลว้ ครูเปิ ด CD1/Track 19 อีกคร้ัง โดยหยดุ หลงั จบ แต่ละชื่อ เพ่ือใหน้ กั เรียนช่วยกนั ฟังวา่ คาตอบที่เพื่อนเขียนบนกระดานถูกตอ้ งหรือไม่ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขคาตอบที่ผดิ ใหถ้ ูกตอ้ ง 34

Audio script and answersFrance, Australian, Spanish, Canada, Canadian, American, Ireland, Japan,Chinese, Irish, Spainครูเปิ ด CD อีกหลายๆ คร้ัง ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามจนคล่อง แลว้ จึงสุ่มเรียกใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงดว้ ยตนเอง เพื่อตรวจสอบวา่ นกั เรียนสามารถออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ต่อมาครูใหน้ กั เรียนอา่ นขอ้ ความในหนังสือเรียน หน้า 17 หวั ข้อ Hot Tip!แลว้ ครูอธิบายเพิม่ เติมวา่ คาคุณศพั ทบ์ อกเช้ือชาติในภาษาองั กฤษน้นั จะข้ึนตน้ ดว้ ยตวั ใหญ่ (capitalletter) เสมอ และถา้ คาคุณศพั ทบ์ อกเช้ือชาติที่ลงทา้ ยดว้ ย –ese หรือ –ish มี the นาหนา้จะหมายถึงพลเมืองที่อาศยั อยใู่ นประเทศน้นั เช่น The Chinese are very hard-working. The Spanish often go to sleep in the afternoon.แตเ่ ม่ือพดู ถึงภาษา ชื่อภาษาเหล่าน้ีจะมีตวั สะกดเหมือนคาคุณศพั ทบ์ อกเช้ือชาติแตท่ าหนา้ ที่เป็นคานามไม่ใช่คาคุณศพั ท์ เช่น English is easy. I can speak Spanish, Italian and German.โดยเมื่อเป็นภาษา จะไม่มี the นาหนา้ (หา้ มใช้ The English is easy.) นอกจากจะมีคาวา่ languageตามมาขา้ งหลงั เช่น The English language is spoken in many parts of the world.5. นกั เรียนอา่ นประโยคในหนังสือเรียน หน้า 17 หัวข้อ Look & Useแลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ ประโยคเหล่าน้ีใชเ้ พอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เร่ืองอะไรครูใหน้ กั เรียนหาประโยคเหล่าน้ีในบทสนทนา อีกคร้ังข้นั 4 Production1. ครูเขียนคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดานName Country Nationalityแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน ใหอ้ ่านตวั อยา่ งบทพูดโตต้ อบส้นั ๆ ที่ใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex.7จากน้นั ครูอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนจบั คู่พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั ประวตั ิของบุคคลที่ใหม้ าก่อนใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูถามวา่ นกั เรียนรู้จกั บุคคลในภาพ 1 และ 2 หรือไม่ ถา้ ไมร่ ู้จกั 35

ครูอาจช่วยเหลือดว้ ยการบอกวา่ พวกเขาอาศยั อยใู่ นประเทศใด แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกเช้ือชาติของบุคคลเหล่าน้ี ต่อมาครูใหเ้ วลานกั เรียนจบั คู่และฝึกพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ประวตั ิของ Eddie Murphy ท่ีใหม้ า เม่ือนกั เรียนถาม-ตอบจนคล่องแลว้ ครูให้นกั เรียนถาม-ตอบเกี่ยวกบั ประวตั ิของบุคคลที่เหลือ Answers 1. Britain, British 2. Italy, Italian 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 17 Ex.8 โดยเขียนส้ันๆ เกี่ยวกบั ดาราที่ตนเองช่ืนชอบ วา่ เป็นคนประเทศใด และเช้ือชาติใด จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ่อื น พดู แลกเปล่ียนขอ้ มูลกนั 3. ครูใหน้ กั เรียนสมมติเหตุการณ์วา่ ถา้ นกั เรียนไมไ่ ดเ้ กิดเป็ นคนไทย นกั เรียนอยากเกิดเป็ นคนในประเทศใด แลว้ ใหน้ กั เรียนวาดธงชาติของประเทศดงั กล่าวลงในกระดาษ A4 และระบายสีใหส้ วยงามตามความเป็นจริง เมื่อนกั เรียนทาเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มยอ่ ย ประมาณกลุ่มละ 5-6 คน แลว้ พดู แนะนาตวั เองภายในกลุ่ม โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคตอ่ ไปน้ี I’m………………… . / My name’s…………………… . I’m from………………………………… . I’m…………………………………… . ขณะที่นกั เรียนแนะนาตวั เอง ครูใหน้ กั เรียนยกภาพธงชาติท่ีนกั เรียนทาให้เพือ่ นๆ ภายในกลุ่มดูดว้ ย ครูเดินสังเกตขณะนกั เรียนทากิจกรรมอยา่ งใกลช้ ิด เพื่อประเมินการพูดของนกั เรียน เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนหลายๆ คน ใหอ้ อกมานาเสนอท่ีหนา้ ช้นั เรียน เมื่อนกั เรียนทากิจกรรมเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนเขียนชื่อประเทศในธงชาติของตนเอง แลว้ ใหห้ วั หนา้ หอ้ งรวบรวม เพ่อื นาไปติดแสดงท่ีบอร์ดของหอ้ งเรียน 4. นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั (Workbook) หนา้ 8 Exs.3-4 และหนา้ 9 Exs.3-5 เป็ นการบา้ น มอบหมายใหน้ กั เรียนฝึกอ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 16 Ex.1 เป็นการบา้ น เสร็จแลว้ ใหผ้ ปู้ กครองเซ็นชื่อรับทราบ 5. ใหน้ กั เรียนเลือกบทสนทนาจากในหนงั สือเรียน หนา้ 14 หรือ 15 มา 1 บท ซ่ึงครูไดม้ อบหมายใหน้ กั เรียนไปฝึกอ่านท่ีบา้ นแลว้ มาทดสอบอ่านกบั ครูนอกเวลาเรียน7. การวดั และประเมนิ ผล 36

วธิ ีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์ประเมินทกั ษะการพดู แบบประเมินการพูดโตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ประเมินการอา่ นออกเสียง แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม. 1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CD 8.5 กระดาษและสีสาหรับทาธงชาติแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 Grammar Focus เวลา 2 ช่ัวโมงจุดประสงค์ (Objectives) - ใช้ subject pronouns, be – Present simple, possessive adjectives และ wh-questions ได้1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดัสาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสารมาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั 37

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจประโยค ขอ้ ความต่างๆ เก่ียวกบั การแลกเปล่ียนขอ้ มูล ช่วยในการสื่อสารในชีวติ ประจาวนั3. สาระการเรียนรู้3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า1) Language Features and FunctionsGrammar: subject pronouns, be – Present simple, possessive adjectives, wh-questions4. ทกั ษะการคิด 4.1 ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ - นาโครงสร้างภาษาท่ีเรียนมาแต่งประโยคตามสถานการณ์ที่กาหนด5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กระบวนการเรียนรู้ข้นั ที่ 1 Warm up 1. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สีและชื่อประเทศ ดว้ ยการพดู สีท่ีอยใู่ นธงชาติในหนงั สือเรียน หนา้ 17 แลว้ ใหน้ กั เรียนทายวา่ เป็นธงชาติของประเทศใด โดยไมใ่ หเ้ ปิ ดหนงั สือเรียน เช่น T: It’s red, white and blue. Class: America. T: No, try again. Class: Australia. T: Yes. 2. ครูแจง้ ให้นกั เรียนทราบวา่ ในบทเรียนน้ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้และฝึกฝนการใชไ้ วยากรณ์ตอ่ ไปน้ี subject pronouns, be – Present simple, possessive adjectives และ wh-questionsข้นั ท่ี 2 Presentation ครูและนกั เรียนศึกษาคาอธิบายเกี่ยวกบั การใช้ Subject pronouns, be – Present simple, Possessive adjectives และ Wh-questions รวมท้งั Hot Tip! ในหนงั สือเรียน หนา้ 18-19 ร่วมกนั 38

และช่วยกนั เติมขอ้ มูลในคาอธิบายดงั กล่าวใหส้ มบูรณ์โดยถา้ ตรงประเด็นไหนในคาอธิบายที่นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจครูยกตวั อยา่ งใหน้ กั เรียนดูบนกระดานเพ่มิ เติม เพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถสรุปกฎเกณฑ์ได้Subject pronounsAnswers subject, you, she, it she, itHot Tip!ในภาษาองั กฤษ โดยปกติจะมีประธานหนา้ คากริยาในประโยคบอกเล่าในภาษาของนกั เรียนก็เป็นเช่นเดียวกนั ใช่หรือไม่I’m Monica.He’s Francesco.We’re twins.หมายเหตุ: ในประโยคคาส่ัง ไม่มีประธานหนา้ คากริยา เพราะละประธาน คือ You ไว้Be – Present simpleAffirmative formAnswers I’m You’re He’s You’re beforePossessive adjectivesAnswers my, our, their 39

ข้นั ท่ี 3 Practice 1. นกั เรียนอ่านประโยคในหนังสือเรียน หน้า 18 Ex.1 แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหบ้ อก Subject pronouns ที่ถูกตอ้ งในแต่ละประโยคAnswers 1. She 2. We 3. They 4. It2. ทบทวนการใช้ Verb ‘to be’ ในรูป Present simple ดว้ ยการใหน้ กั เรียนฝึกร้องเพลง Verb ‘to be’ ตามครู โดยใชท้ านองของเพลง London Bridge เพลง Verb ‘to be’ Verb ‘to be’ มีอยู่ 3 ตวั , มี 3 ตวั , มี 3 ตวั Verb ‘to be’ มีอยู่ 3 ตวั คือ is, am, are He/ She/ It/ คนเดียว ส่ิงเดียว ใชก้ บั is ใชก้ บั isYou/ We/ They/ หลายคน หลายส่ิง ใชก้ บั are ใชก้ บั are ส่วน I ใชก้ บั amPersonal Toolkit  Grammar หน้า 43. ใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคท่ีให้มาในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.2 แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกรูปเตม็ ของ Verb ‘to be’ ในแต่ละประโยคAnswers 1. You are 2. He is 3. It is 4. We are 5. You are 6. They areHot Tip!ในภาษาองั กฤษ การใชค้ าคุณศพั ทแ์ สดงความเป็นเจา้ ของ จะตอ้ งใชร้ ูปท่ีสอดคลอ้ งกบั ผทู้ ี่เป็นเจา้ ของ เช่น He’s British, but his mother is Spanish. 40

Personal Toolkit  Grammar หน้า 5-64. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.3 จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนใหบ้ อกวา่ ในแตล่ ะประโยคจะตอ้ งใชค้ าคุณศพั ทแ์ สดงความเป็ นเจา้ ของคาใ ดAnswers 1. his 2. your 3. my 4. their 5. your 6. our Personal Toolkit  Grammar หน้า 365. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เติมคาถามในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.4 ใหส้ มบูรณ์ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนท้งั ช้นั อ่านคาถามและคาตอบพร้อมๆ กนัAnswers 1. How 2. What 3. Where 4. How old 5. What 6. Whereข้นั ที่ 4 Production 1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ในบทเรียนน้ีร่วมกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ช่วยกนั แต่งประโยคโดยใชโ้ ครงสร้างภาษาที่เรียน ครูสงั เกตขณะนกั เรียนทากิจกรรม เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 3-5 คู่ ออกมานาเสนอที่หนา้ ช้นั เรียน 2. นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10-11 Exs.1-7 เป็นการบา้ น7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ วธิ ีการวดั 41

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม. 1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 8.3 Personal Toolkitแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 Skills (1) เวลา 1 ช่ัวโมงจุดประสงค์ (Objectives) - ฟังและเขา้ ใจบทสนทนาเกี่ยวกบั การขอและใหข้ อ้ มูลส่วนบุคคลได้ - พูดแนะนาตวั เองและใชส้ านวนภาษาง่ายๆ ในการกล่าวทกั ทายและกล่าวลาได้1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอา่ นจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล 42

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.1/1 ระบุหวั ขอ้ เร่ือง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทาน และเรื่องส้นั ต 1.2 ม.1/1 สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษา ช่วยใหจ้ บั ใจความสาคญั จากเร่ืองที่ฟังพร้อมท้งั พูดแลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองได้3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Skills Listening: ฟังและระบุรูปภาพ, ฟังและเติมขอ้ มูล Speaking: พดู แนะนาตวั เอง, พูดทกั ทาย4. ทกั ษะการคดิ 4.1 ทกั ษะการระบุ - ระบุรูปภาพไดต้ รงกบั ขอ้ มูลที่ไดฟ้ ัง5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั ท่ี 1 Warm upนาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการใหน้ กั เรียนเล่นเกมทายช่ือ Famous peopleโดยครูเขียนคาถามใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน ดงั น้ีWhere is he / she from? What is his / her nationality?How old is he / she? What is he / she famous for? (films, sport, songs)แลว้ ครูเป็ นผบู้ อกขอ้ มูลใหก้ บั นกั เรียน เพ่ือใหน้ กั เรียนทายวา่ บุคคลดงั กล่าวเป็นใครตวั อยา่ งเช่นT: He is a man. 43

Class: Where is he from? T: He is from the USA. Class: What is his nationality? T: He is American. Class: How old is he? T: He is ……… . (born June 9, 1963) Class: What is he famous for? T: He is famous for his role in ‘Pirates of the Caribbean’. Class: He is Johnny Depp. T: That’s right!ข้นั ที่ 2 Pre-speaking  ถา้ ครูคิดวา่ เป็ นประโยชน์สาหรับนกั เรียน ครูอาจอธิบายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนทราบวา่ กิจกรรม Ex.1 น้ีเป็นกิจกรรมรูปแบบเดียวกบั ขอ้ สอบ Listening Part 4 ใน Cambridge KET (Key English Test) ซ่ึงเป็นการสอบวดั ระดบั ความสามารถในการใชภ้ าษาองั กฤษในระดบั สากล 1. อธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex. 1 วา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาส้ันๆ 4 บท แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุภาพที่สัมพนั ธ์กบั บทสนทนาที่ไดฟ้ ัง จากน้นั ครูเปิ ด CD1/Track 20 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง คร้ังแรกใหฟ้ ังเพื่อเลือกคาตอบ คร้ังที่ 2 ใหฟ้ ังเพอ่ื ตรวจทานคาตอบของตนเองAudio script1. Room numbersA: What’s your room number? B: It’s number thirteen.2. CountriesA: Hello! What’s your name? B: My name’s Matilde.A: Where are you from Matilde? B: I’m from Italy.3. NationalitiesA: Where is the footballer Ronaldinho from? B: I think he’s from Brazil.A: That’s right. He’s Brazilian.4. ColoursA: What’s your favourite colour? B: Oh! My favourite colour is blue.Answers 44

1. B 2. B 3. A 4. A2. ใหน้ กั เรียนอา่ นหวั ขอ้ และชื่อบุคคลที่ใหม้ าในตารางในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.2 เพ่ือเตรียมความพร้อมในการฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD1/Track 21 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง โดยคร้ังแรกใหน้ กั เรียนฟังและเติมขอ้ มูลลงในตารางตามหวั ขอ้ ที่กาหนดให้ ในคร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรียนฟังเพื่อตรวจทานคาตอบของตนเอง ครูช้ีใหน้ กั เรียนเห็นวา่ ในการพูดบอกอายุ สามารถทาได้ 2 แบบ คือ บอกแค่อายุ เช่น She’s 13. หรือบอกอายแุ ละตามดว้ ย years old เช่น She’s 13 years old. เสร็จแลว้ ครูเขียนตารางเหมือนอยา่ งในหนงั สือเรียนบนกระดาน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน ครูอาจเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้ัง เพอ่ื ความเขา้ ใจAudio scriptA: Yasuko is from Tokyo so she’s Japanese. She’s 13 and her room number is 28.B: Room 3, that’s Lillian Moralez. She’s Spanish and she’s only 11.A: Andreas, who is German, is staying in room 12 and he’s 12 years old.B: What about Louise, the nice Canadian girl. What’s her room number?A: Room 23 and she’s 14 years old.Answers Japanese girl 13 28Yasuko Spanish girl 11 3Lillian German boy 12 12Andreas Canadian girl 14 23Louise3. ก่อนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.3 ครูใหน้ กั เรียนทบทวนตวั อกั ษรในภาษาองั กฤษก่อน จากน้นั ครูเปิ ด CD1/Track 22 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง โดยคร้ังแรกใหน้ กั เรียนฟังและเขียนตามคาบอกตามท่ีไดย้ นิ ในคร้ังท่ี 2 ใหน้ กั เรียนฟังเพอ่ื ตรวจทานคาตอบของตนเองAudio script and answers 45

1. Eighteen E-I-G-H-T- double E-N2. Television T-E-L-E-V-I-S-I-O-N3. Internet I-N-T-E-R-N-E-T4. Wednesday W-E-D-N-E-S-D-A-Y5. Japanese J-A-P-A-N-E-S-E4. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปโครงสร้างประโยคและคาศพั ทท์ ี่ใชใ้ นการพูดขอและใหข้ อ้ มูลส่วนตวั เกี่ย วกบั ชื่อ อายุ และประเทศของตนเองข้นั ที่ 3 Speaking 1. นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.4 โดยจบั คู่ช่วยกนั เติมบทสนทนาที่ใหม้ าใหส้ มบูรณ์ โดยเขียนลงในสมุด จากน้นั ใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ ฝึกอ่านบทสนทนาดงั กล่าว เมื่ออา่ นไดค้ ล่องแลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกพดู สนทนากนั ครูเดินสงั เกตขณะนกั เรียนทากิจกรรม เพ่ือจดบนั ทึกขอ้ ผิดพลาดที่พบบอ่ ยของนกั เรียนAnswersPersonal answers2. ใหน้ กั เรียนแลกเปลี่ยนคู่ แลว้ ฝึกสนทนากนั อีกคร้ัง โดยกาหนดใหแ้ ลกเปลี่ยนอยา่ งนอ้ ย 2 คู่ครูเดินสงั เกตขณะนกั เรียนสนทนากนั อยา่ งใกลช้ ิด ครูเดินสังเกตขณะนกั เรียนทากิจกรรมเพ่ือจดบนั ทึกขอ้ ผิดพลาดที่พบบอ่ ยของนกั เรียนข้นั ที่ 3 Post-speakingครูยกตวั อยา่ งขอ้ ผดิ พลาดที่พบไดบ้ ่อยในการพดู ของนกั เรียน แลว้ เขียนใหน้ กั เรียนดูบนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียนในหอ้ งช่วยกนั แกไ้ ขประโยคดงั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ งจากน้นั ครูพยายามกระตุน้ ใหน้ กั เรียนแสดงบทสนทนาใหเ้ ป็นธรรมชาติมากข้ึน โดยเลือกนกั เรียน 1คู่ ท่ีสามารถแสดง บทสนทนาไดอ้ ยา่ งเป็ นธรรมชาติออกมาแสดงท่ีหนา้ ช้นั เรียนใหเ้ พอ่ื นๆ ดูเป็นตวั อยา่ ง เสร็จแลว้ จึงใหเ้ วลานกั เรียน 10 นาที ฝึกสนทนากนั อีกคร้ังเพื่อแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดที่ครูไดบ้ อกไว้7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ วธิ ีการวดั 46

ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู โตต้ อบ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม. 1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CDแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 Skills (2) เวลา 1 ชั่วโมงจุดประสงค์ (Objectives) - อา่ นขอ้ ความส้ันๆ และตอบคาถามได้ - เขียนประโยคง่ายๆ เกี่ยวกบั บุคคล และเขียนขอ้ ความส้ันๆ เกี่ยวกบั ตนเองได้1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่ือสาร 47

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆมาตรฐาน ต 1.2 และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผลมาตรฐาน ต 1.3 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่างๆ โดยการ ต 1.1 ม.1/1 พดู และการเขียน ต 1.2 ม.1/1 ต 1.3 ม.1/1 ระบุหวั ขอ้ เรื่อง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทาน และเร่ืองส้นั สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจาวนั พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ สานวนภาษา ประโยค ขอ้ ความต่างๆ เกี่ยวกบั การแลกเปล่ียนขอ้ มูลช่วยในการสื่อสารในชีวติ ประจาวนั3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า 1) Language Skills Reading: อา่ นขอ้ ความส้ันๆ และตอบคาถาม, อา่ นและเติมขอ้ มูล Writing: เขียน e-mail ง่ายๆ เก่ียวกบั ตนเอง4. ทกั ษะการคดิ 4.1 ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ - นาคาศพั ท์ สานวนภาษา โครงสร้างประโยคท่ีเรียนมาใชส้ ื่อสาร ในสถานการณ์ท่ีกาหนด 48

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้6. กจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั ท่ี 1 Warm up ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ช่ือประเทศ ดว้ ยการให้นกั เรียนเล่นเกม Hangman บนกระดานข้นั ที่ 2 Pre-writing  กิจกรรม Ex.5 น้ีเป็นประโยชน์สาหรับการเตรียมตวั สอบวดั ระดบั ภาษาองั กฤษของ Trinity (Grade 1) 1. ใหน้ กั เรียนทางานคู่ อ่านขอ้ ความที่ใหม้ าในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.5 จากน้นั ใหน้ กั เรียนตอบคาถามที่ใหม้ าลงในสมุด ครูเฉลยคาตอบร่วมกนั ในช้นั เรียน แลว้ จึงสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน ใหอ้ า่ นขอ้ ความที่ใหม้ าใหเ้ พื่อนๆ ฟังAnswers 1. His name is Hanif. 2. He’s from Delhi in India. 3. He is 12 years old.2. ครูใหน้ กั เรียนเติมขอ้ ความในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.6 ใหส้ มบูรณ์ โดยทาเป็นงานเด่ียวหรือคู่ก็ได้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ โดยครูเขียนคาตอบที่ถูกตอ้ งบนกระดานอีกคร้ัง เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความที่เติมคาสมบูรณ์แลว้ ร่วมกนัAnswersHi!My name’s Toula.I’m from the small island of Corfu in Greece and I’m 13 years old. And you?What’s your name? Where are you from? How old are you?Write to me soon.From(signature) 49

ข้นั ที่ 3 Writing นกั เรียนทากิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.7 โดยใหน้ กั เรียนเลือกเขียนตอบอีเมล จากใน Ex.5 หรือ Ex.6 ก็ได้ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปวา่ ขอ้ มูลที่นกั เรียนจะตอ้ งเขียนในอีเมลของนกั เรียนมีขอ้ มูลอะไร บา้ ง โดยครูอาจใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนโครงร่างของอีเมลร่วมกนั บนกระดาน โดยเวน้ ขอ้ มูลท่ีเป็ นขอ้ มูลส่วนตวั ของนกั เรียนไว้ เสร็จแลว้ จึงใหเ้ วลานกั เรียนเขียนอีเมลของตนเองลงในสมุดข้นั ที่ 4 Post-writing 1. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ่อื น แลกเปล่ียนผลงานกนั ตรวจ ครูเดินสังเกตการทางานของนกั เรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน อา่ นอีเมลของตนเองใหเ้ พ่อื นๆ ฟัง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน หลายๆ คน ออกมาอ่านอีเมลของตนเองให้เพ่ือนฟัง 2. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 12-13 Exs.1-6 ในหอ้ งเรียนหรือเป็นการบา้ นSkills (Workbook pp. 12-13)ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ชื่อประเทศท่ีนกั เรียนเคยไดเ้ รียนมาแลว้ ดว้ ยการแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีมแต่ละทีมผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาเล่นเกม Spelling Bee โดยครูจะพูดคาศพั ท์แลว้ ใหน้ กั เรียนสะกดคาศพั ทด์ งั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ ง ทีมที่ตวั แทนสามารถสะกดคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง จะได้ 1คะแนน สุดทา้ ย ทีมใดที่ไดค้ ะแนนมากท่ีสุดจะเป็นทีมที่ชนะ 50

Wordlist: America, Australia, Canada, China, England, France, Ireland, Italy, Japan, SpainListening อ่านประวตั ิส้ันๆ ของบุคคล (profiles) ในแต่ละภาพท่ีใหม้ าในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 12 Ex.1 จากน้นั ฟัง Student’s Audio CD/Track 3 แลว้ เติมขอ้ มูลที่ขาดหายไปลงในช่องวา่ งReading 1. อ่านขอ้ ความส้นั ๆ ที่ใหม้ าในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 12 Ex.2 แลว้ เติมขอ้ มูลลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ ฟัง Student’s Audio CD/Track 4 เพื่อตรวจคาตอบ 2. นกั เรียนอ่านประวตั ิส้นั ๆ ท่ีนกั เรียนเติมขอ้ มูลไวใ้ น Ex.2 อีกคร้ัง แลว้ ตอบคาถามที่ใหม้ าในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 Ex.3 Writing and Speaking 1. นกั เรียนเติมขอ้ มูลเก่ียวกบั ประวตั ิส้นั ๆ (profiles) ของตนเองในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 Ex.4 จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายส้นั ๆ โดยใชข้ อ้ ความใน Ex.2 เป็นตน้ แบบในการเขียน 2. นกั เรียนเติมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ประวตั ิส้นั ๆ ของบุคคลที่มีช่ือเสียงในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 Ex.5 จากน้นั ใหน้ กั เรียนนาประวตั ิส้ันๆ เหล่าน้ีมาเขียนบรรยาย บุคคลละ 1 ขอ้ ความ 3. ถา้ นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 Ex.6 ในช้นั เรียน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนสรุปโครงสร้างภาษาและคาศพั ทท์ ่ีใชใ้ นการพูดนาเสนอเก่ียวกบั ประวตั ิส้ันๆ ของบุคคลท่ีมีชื่อเสียงบนกระดาน พร้อมท้งั เตรียมคาถามสาหรับถามเกี่ยวกบั บุคคลท่ีมีชื่อเสียงที่เพอ่ื นนาเสนอ จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนผลดั กนั ออกมานาเสนอประวตั ิของบุคคลที่มีช่ือเสียงของตนเองท่ีหนา้ ช้นัStudy Tip นกั เรียนศึกษา Study Tip ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 13 แลว้ ครูอาจกระตุน้ นกั เรียนดว้ ยการถามนกั เรียนวา่ มีใครท่ีไดท้ าตามคาแนะนาเหล่าน้ีแลว้ บา้ ง และใหน้ กั เรียนนาสมุดคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนไดท้ าไวม้ าแสดงใหเ้ พอ่ื นๆ ดู 51

Revision:Tests and Resources: Reinforcement Worksheet Unit 1Formative evaluation: Test and Resources: Test Unit 17. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ วธิ ีการวดั แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ประเมินการเขียน ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบ สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Team Up in English 1 ม. 1 8.2 แบบฝึกหดั Team Up in English 1 ม. 1 8.3 Class Audio CDs 8.4 Student’s Audio CD 52


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook