4-1 หน่วยท่ี 4 อปุ กรณ์ควบคมุ เคร่ืองกลไฟฟ้า สาระท่ี 4 งานควบคมุ ไฟฟ้า มาตรฐานท่ี 1 ควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าดว้ ยสวติ ซ์และแมกเนติคคอนแทกเตอร์ มาตรฐานท่ี 3 ควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าดว้ ยอุปกรณ์อิเลค็ ทรอนิกส์ แนวคิด/หลกั การ การควบคมุ เครอ่ื งกลไฟฟ้า ประกอบดว้ ยอุปกรณ์หลายชนิดทน่ี ามาใชป้ ระกอบกนั เพอ่ื ใช้ ควบคุมคอนแทกเตอรใ์ หท้ างานตามเงอ่ื นไขทก่ี าหนดไดอ้ ยา่ งเป็นไปอยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั อุปกรณ์ประเภทน้ไี ดแ้ ก่สวติ ชป์ ่มุ กด สวติ ชโ์ ยก รเี ลยต์ งั้ เวลา สวติ ชเ์ ลอื กยา่ นวดั และลมิ ติ สวติ ช์ เป็นตน้ สาระการเรียนรู้ 1. อุปกรณ์แสดงสญั ญาณ 2. สวติ ชค์ วบคุมแบบต่าง ๆ 3. อุปกรณ์ตงั้ เวลา 4. คอนแทคเตอรแ์ ละรเี ลย์ ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 1.บอกหน้าทก่ี ารใชง้ านของอุปกรณ์ควบคุมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2.ใชอ้ ุปกรณ์ควบคมุ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
4-2 1. อปุ กรณ์แสดงสญั ญาณ (Signal lamp) เป็นอุปกรณ์แสดงผลการทางานของ คอนแทคเตอรใ์ นวงจร หรอื แสดงผลการทางานของ over load relay หลอดสญั ญาณ มหี ลายสี หลายแบบบางชนดิ ใชร้ ว่ มกบั สวติ ชป์ ่มุ กด สวติ ชค์ ณุ แจ หลอด สญั ญาณทใ่ี ชโ้ ดยทวั่ ไปมแี บบทใ่ี ชห้ มอ้ แปลง แปลงแรงดนั ใหต้ ่าลง และไมใ่ ชห้ มอ้ แปลงโดยการต่อตรง เขา้ กบั ขวั้ หลอด -หลอดสญั ญาณแบบไม่มีหม้อแปลง หลอดสญั ญาณแบบไมม่ หี มอ้ แปลง หลอดสญั ญาณแบบน้ี เมอ่ื นามาใชง้ านจะตอ้ งคานงึ ถงึ แรงดนั ทใ่ี ชใ้ น วงจร ตอ้ งตรงกบั พกิ ดั แรงดนั ของไสห้ ลอดของหลอดสญั ญาณ ดงั รปู ท่ี 4.1 รปู ท่ี 4.1หลอดสญั ญาณแบบไมม่ หี มอ้ แปลง -หลอดสญั ญาณแบบมหี ม้อแปลง หลอดสญั ญาณแบบมหี มอ้ แปลง เป็นหลอดทใ่ี ชก้ บั แรงดนั ต่าๆ หมอ้ แปลงจะอยดู่ า้ นทา้ ยของขวั้ หลอดไฟ หมอ้ แปลงจะทาหน้าทแ่ี ปลงแรงดนั ใหต้ ่าลง ดงั รปู ท่ี 4.2 รปู ท่ี 4.2 หลอดสญั ญาณแบบมหี มอ้ แปลง
4-3 -สีของหลอดสญั ญาณ - ความหมายของสหี ลอดสญั ญาณทใ่ี ชโ้ ดยทวั่ ไปคอื หลอดสญั ญาณไฟ สแี ดง แสดงหยดุ การทางานของวงจร STOP หลอดสญั ญาณไฟ สเี ขยี ว แสดงการทางานของวงจร RUN หลอดสญั ญาณไฟ สเี หลอื ง แสดงการเกดิ Over load ของวงจร หลอดสญั ญาณไฟ สขี าว แสดงการทางานของวงจร POWER 2. สวิตชค์ วบคมุ แบบต่าง ๆ - TPDT สวิทช์ (Triple Pole Double Throw Switch) เป็นสวติ ชท์ ใ่ี ชใ้ นการสตารท์ มอเตอร์ แบบลดกระแส แบบสตาร-์ เดลตา้ TPDT สวติ ชจ์ ะใชไ้ ดก้ บั มอเตอรท์ ม่ี ขี นาดแรงมา้ ต่าๆ สวติ ชแ์ บบน้จี ะนิยมใชม้ าก เพราะสะดวกในการใชง้ าน และราคาถูก -การต่อใชง้ าน TPDT สวติ ช์ L1 L2 L3 CB F1 T.P.D.T STAR OFF DELTA W1 V2 V1 M U2 U1 3 ~ W2 รปู ท่ี 4.3 การต่อใชง้ าน TPDT สวทิ ช์ แบบ สตาร-์ เดลตา้
4-4 -สวิตชโ์ ยก (Drum Switch) สวติ ซโ์ ยก (Drum switch) เป็นสวติ ซท์ ่ีใชใ้ นการสลบั หรือเปล่ียนคอนแทค สามารถเลือกการ ทางานไดโ้ ดยการโยกคนั โยก ทว่ั ไปใชใ้ นงานควบคุมการกลบั ทางหมุนมอเตอร์ ขอ้ ควรระวงั ใน การใชส้ วติ ซ์ชนิดน้ีใชไ้ ดก้ บั โหลดท่ีมีกระแสไม่สูงมาก ดงั รูป 4.4 รปู ท่ี 4.4 สวติ ชโ์ ยกควบคุมการกลบั ทางหมนุ ของมอเตอร์ -การต่อใชง้ าน ของสวติ ชโ์ ยก(Drum Switch) L1 L2 L3 CB F1 DRUM SWITCH F OFF R U VW M 3~ รปู ท่ี 4.5 การต่อใชง้ าน Drum Switch ในการกลบั ทศิ ทางการหมนุ ของมอเตอร์
4-5 -สวิตชก์ ลบั ทางหมนุ (Reversing Switch) โครงสรา้ งและหลกั การทางานของสวติ ชก์ ลบั ทางหมนุ คอื ทาหน้าทใ่ี นการกลบั คสู่ ายของมอเตอรค์ ่ใู ดคู่ หน่งึ เหมอื นสวติ ชโ์ ยก (Drum Switch) -การต่อใชง้ านสวติ ชก์ ลบั ทางหมนุ (Reversing Switch) L1 L2 L3 CB F1 Reverse OFF Forward UV W M 3~ รปู ท4่ี .6 การต่อใชง้ านสวติ ชก์ ลบั ทางหมนุ (Reversing Switch)
4-6 -สตาร-์ เดลต้าสวิตช์ สตาร-์ เดลตา้ สวติ ช์ เป็นสวติ ชท์ ใ่ี ชใ้ นการสตารท์ แบบลดกระแสของมอเตอร์ ขณะเรม่ิ สตารท์ มอเตอรก์ นิ กระแสประมาณ 5-7 เท่า สตาร-์ เดลตา้ สวติ ช์ จะใชไ้ ดก้ บั มอเตอรท์ ม่ี ขี นาดแรงมา้ ต่าๆขอ้ ควรระวงั เมอ่ื ต่อวงจรแลว้ ควรตรวจสอบใหมอ่ กี ครงั้ เพ่อื ใหแ้ น่ใจแลว้ คอ่ ยจา่ ยไฟ -การต่อไปใชง้ านดูรปู ท่ี 4.3 -สวิตชเ์ ลือกย่าน (Selector Switch) โวลต์ – แอมป์ สวติ ชเ์ ลอื กยา่ น (Selector Switch) โวลต์ – แอมป์ เป็นสวติ ชเ์ ลอื กทอ่ี านวยความสะดวก ความ ปลอดภยั แก่ผใู้ ช้ สวติ ชเ์ ลอื กยา่ นจะใชร้ ว่ มกบั เครอ่ื งวดั ไดแ้ ก่โวลทม์ เิ ตอร์ แอมป์ มเิ ตอร์ และหมอ้ แปรง กระแส -การต่อไปใช้งาน ของ Selector Volt และการตรวจเชค็ Selector Volt 1.ดกู ารกาหนดขวั้ ของ Selector Volt แต่ละยห่ี อ้ แลว้ ทาการเขยี นตาแหน่งและจดุ ต่อต่างๆลงใน กระดาษ 2.ดโู ครงสรา้ งภายนอกของ Selector Volt ว่าตาแหน่งใดต่อกนั บา้ งแลว้ เขยี นลงในกระดาษท่ี กาหนดเอาไวจ้ ากขอ้ 1 3.นามเิ ตอรต์ งั้ ยา่ นวดั โอหม์ แลว้ ทาการตรวจเชค็ แต่ละขวั้ ว่าขวั้ ใดต่อกนั ถงึ บา้ ง แลว้ บนั ทกึ ลงในกระดาษ ทก่ี าหนดขวั้ ไวแ้ ลว้ ขา้ งตน้ 4.บดิ Selector Volt ไปอกี ตาแหน่งหน่งึ ในทศิ ทางไหนกไ็ ดแ้ ต่จะตอ้ งไปในทศิ ทางเดยี วกนั เมอ่ื ตอ้ งการบดิ ครงั้ ต่อไป 5.ทาการตรวจเชค็ เหมอื นขอ้ 1-3 โดยจะตอ้ งเขยี นตาแหน่งของ Selector Volt ลงในกระดาษ ทุกตาแหน่งใหค้ รบ 7 ตาแหน่ง ซง่ึ มี R-S, S-T, R-T, OFF, R-N, S-N, T-N 6.เมอ่ื เชค็ ไดท้ กุ ตาแหน่งแลว้ นามาตรวจสอบใหม่อกี ครงั้ แลว้ กาหนดขวั้ ของแหล่งจา่ ยจากนนั้ ใหต้ ่อ Voltmeter ยา่ นวดั 0-500 V ลงไป ดงั รปู ตวั อยา่ ง 4.7 หมายเหตุ เมอ่ื ตรวจสอบวงจรแลว้ มขี วั้ ต่อถงึ กนั โดยไม่ผ่าน Voltmeter ยา่ นวดั 0-500 V ท่ี กาหนดขวั้ แหล่งจา่ ยแลว้ ใหท้ าการตรวจเชค็ ใหมอ่ กี ครงั้
4-7 รปู ท่ี 4.7 การต่อ Selector Volt -การต่อใช้งาน ของแอมป์ มเิ ตอรเ์ ขา้ กบั Current Transformer (กรณวี งจรไฟ 3 เฟส) ใน กรณขี องวงจรไฟ 3 เฟส ตอ่ Current Transformer แลว้ วดั กระแสโดยใชแ้ อมมเิ ตอร์ 1 ตวั กบั Ammeter Selector ในการวดั กระแสในเฟส R.S.T. ตอ้ งระวงั ไมใ่ หข้ วั้ ทางดา้ นทตุ ยิ ภมู ขิ อง CT เปิดวงจร ในขณะหมนุ AS การเลอื กใช้ Ammeter จะตอ้ งมอี ตั ราส่วนเทา่ กบั Current Transformer ดว้ ย
4-8 รปู ท่ี 4.8 การต่อ Selector Amp -การตรวจเชค็ Selector Amp เพอ่ื นาไปใชง้ านทาการตรวจเชค็ เหมอื นกบั Selector Volt แต่จดุ ทต่ี ่อสองจดุ มคี ่าเป็น 0 เพราะฉะนนั้ ค่ากระแสทว่ี ดั ไดจ้ ะเป็นเฟสทต่ี ่อผา่ นAmmeter ดงั รปู ท่ี 4.8 -Current Transformer (C T) Current Transformer เป็นหมอ้ แปลงกระแสทใ่ี ชใ้ นการแปลงกระแสสงู ๆ ในวงจร ไฟฟ้าแรงสงู หรอื แรงต่าใหเ้ ป็นกระแสทม่ี คี ่าต่าลงเป็นอตั ราสว่ นเพอ่ื ใชก้ บั เครอ่ื งวดั หรอื รเี ลยก์ ารทางาน ของ Current Transformer เมอ่ื กระแสไหลในขดลวดปฐมภมู จิ ะทาใหก้ ระแสในขดลวดทตุ ยิ ภมู มิ ี คา่ เป็น 1 ต่อ อตั ราส่วน การพนั ขดลวดคณู ดว้ ยกระแสทไ่ี หลในขดลวดปฐมภมู แิ ละกระแสน้ีจะถูกสง่ ไป ใชก้ บั เครอ่ื งวดั หรอื รเี ลยต์ ่ออยู่ โครงสรา้ งภายในของ Current Transformer แบบรอ้ ยสายผา่ นเหมอื น คอยลโ์ ชค๊ Current Transformer แบบรอ้ ยสายผ่าน คอื CT แบบทพ่ี นั ขดลวดทุตยิ ภูมกิ บั แกน เหลก็ สาหรบั ทางดา้ นปฐมภมู นิ นั้ ในการรอ้ ยสายผ่านไฟผ่านช่องเปิดทะลุทท่ี าไว้ Current Transformer แบบรอ้ ยสายผ่านทม่ี ชี ่องรอ้ ยสายเป็นช่องรอ้ ยสายเป็นชอ่ งกลมมี เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางตงั้ แต่ 26-40 มม. Current Transformer แบบช่องกลม เป็นแบบทใ่ี ชก้ บั สายไฟหรอื สายเคเบลิ โดยการรอ้ ย ผา่ นโดยตรง CT แบบน้ีขวั้ K และ L ทางดา้ นปฐมภมู จิ ะอยดู่ า้ นเดยี วกบั ขวั้ k และ l ของดา้ น ทตุ ยิ ภูมิ CTแบบรอ้ ยสายผ่านสามารถจะเปลย่ี นอตั ราการแปลงกระแสโดยวธิ กี ารแปลงกระแสโดยการ รอ้ ยสายผ่าน ดงั รปู ท่ี 4.8 รูปท่ี 4.8 Current Transformer แบบช่องร้อยสายเป็นช่องกลม Current Transformer แบบร้อยสายผ่านแบบช่องสี่เหล่ียม
4-9 Current Transformer แบบน้เี ป็นแบบทใ่ี หต้ วั นาทางดา้ นปฐมภมู ผิ ่านมรี ปู เป็นรปู สเ่ี หลย่ื มเหมาะ สาหรบั ใชก้ บั ตวั นาทางดา้ นปฐมภมู ทิ เ่ี ป็นรปู แถบทองแดงดงั รปู ท่ี 4.9 รปู ท่ี 4.9 Current Transformer แบบชอ่ งรอ้ ยสายเป็นชอ่ งสเ่ี หลย่ี ม คา่ โหลดพกิ ดั ตอ้ งมคี ่ามากกว่ากาลงั ไฟฟ้าของเครอ่ื งวดั หรอื รเี ลยร์ ว่ มกนั และจะตอ้ งคดิ กาลงั ไฟฟ้าทจ่ี ะตอ้ งสญู เสยี ไปในสายดว้ ย โดยทวั่ ไปจะกาหนดใหค้ า่ โหลดพกิ ดั มคี ่าประมาณ 2 เทา่ ของโหลดทใ่ี ชต้ ามตารางท่ี 1 แสดงการเลอื กใชข้ นาดของ Current Transformer ตารางการเลือกขนาด Current Transformer Burden Primary Secondary Ampere Dai. of Turns window (VA) current current (AT) ( mm) (A) (A)
4-10 5 10 5 100 26 15 120 Burden 15 Secondary 150 Dai. Of (VA) 20 Current 100 Window 20 (A) 120 ( mm) 30 120 30 150 40 120 40 200 50 150 60 120 75 150 100 100 Primary Ampere Current Turns (AT) (A)
4-11 120 5 120 150 150 200 200 250 250 300 300 30 400 400 500 5 500 40 600 600 15 10 150 26 15 150 20 160 20 180 30 150 30 180 26 5 40 5 160 26 40 200 30 50 150 26 50 200 30 60 180 26 75 150 100 200 30 150 150 26 200 200 30 250 250 300 300 400 400 500 500 40 600 600 ตารางท่ี 4.1 -สวิตชป์ ่ มุ กด (Push button Switch) สวิตช์ (Switch) มใี ช้กนั อย่หู ลายแบบ
4-12 สวติ ชเ์ ป็นอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการควบคมุ การทางานของรเี ลยเ์ พอ่ื ทค่ี วบคุมการทางานของมอเตอรโ์ ดย การกดป่มุ ทช่ี ดุ ควบคมุ สวติ ชซ์ ง่ึ สวติ ชอ์ าจจะมคี อนแทคมากกว่า 1 ตวั ในชุดเดยี วกนั เพ่อื ทจ่ี ะ สามารถควบคุมการทางานของมอเตอรไ์ ดห้ ลายจดุ หลายตาแหน่งการทางานของสวติ ชแ์ ต่ละ ชนิดโดยปกตมิ อี ยู่ 2 ลกั ษณะคอื ปกตปิ ิดและปกตเิ ปิด อยใู่ นตวั เดยี วกนั ตวั อยา่ งของสวติ ชด์ ไู ด้ ในรปู ท่ี 4.10 ซง่ึ มอี ยดู่ ว้ ยกนั หลายชนดิ รปู ท4่ี .10 -สวติ ชป์ ่มุ กด (Push button switch) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าทท่ี าหน้าทใ่ี นการตดั ต่อวงจรควบคมุ มอเตอร์ โดยสวติ ชป์ ่มุ กดน้ี จะตดั และต่อ วงจรไฟฟ้าควบคุมการทางานของขดลวดคอนแทคเตอร์ และคอนแทคเตอรจ์ ะทาหน้าทต่ี ดั และต่อ วงจรไฟฟ้ากาลงั ควบคมุ การทางานของมอเตอร์ สวติ ชแ์ บบน้ใี ชม้ อื กดควบคมุ การทางานซง่ึ แบง่ ออกเป็น 2 ชนิด 1.1 สวติ ชป์ ่มุ กดแบบกดคา้ ง (Maintain contact) ซง่ึ หมายถงึ เมอ่ื ใชม้ อื กดป่มุ หน่งึ ป่มุ ใดแลว้ หน้าสมั ผสั ของสวติ ชจ์ ะต่อวงจรตลอดเวลา เมอ่ื ตอ้ งการจะตดั วงจรออก ตอ้ งกดป่มุ อกี ป่มุ หน่งึ เพ่อื ให้ สวติ ช์ กลบั คนื สภาพเดมิ ดงั รปู ท่ี 4.10
4-13 1.2 สวติ ชป์ ่มุ กดชวั่ ขณะ (Momentary contact) สวติ ชแ์ บบน้ี จะมชี ุดหน้าสมั ผสั แบบปกตเิ ปิด 1 ชดุ หน้าสมั ผสั ปกตปิ ิด 1 ชดุ หรอื มากกวา่ 1 ชุดทงั้ หน้าสมั ผสั ปกตเิ ปิดและปกตปิ ิด อยใู่ นสวติ ชต์ วั เดยี วกนั เมอ่ื ใชม้ อื กดป่มุ หน้าสมั ผสั จะสลบั หน้าทก่ี นั เมอ่ื ปล่อยมอื หน้าสมั ผสั ทงั้ คจู่ ะกลบั ตาแหน่งเดมิ ดงั รปู ท่ี 4.11 รปู ท่ี 4.11 สวติ ชป์ ่มุ กด นาไปใชค้ วบคุมการทางานของมอเตอร์ ไดห้ ลายหน้าท่ี เชน่ การสตารท์ การหยดุ การกลบั ทางหมนุ ของมอเตอร์ สวติ ชป์ ่มุ กดน้ี เมอ่ื กดป่มุ หน้าสมั ผสั จะเปลย่ี นจาก หน้าสมั ผสั ปกตปิ ิด เป็น หน้าสมั ผสั ปกตเิ ปิด หรอื เปลย่ี นจากหน้าสมั ผสั ปกตเิ ปิดมาเป็นหน้าสมั ผสั ปกตปิ ิด เมอ่ื ปล่อยมอื หน้าสมั ผสั จะกลบั สสู่ ภาพเดมิ ดว้ ยแรงสปรงิ หน้าสมั ผสั ของสวติ ชป์ ่มุ กดอยใู่ นตาแหน่งเปิด สวติ ชป์ ่มุ กด ใชก้ บั ไฟฟ้ากระแสสลบั 220 - 240 โวลต์ กระแสไฟฟ้าทไ่ี หลผ่านหน้าสมั ผสั ไดส้ งู สุดประมาณ 3-5 แอมป์ -สวิตชแ์ บบบิดเลือกตาแหน่ง (Selector switch) สวติ ชแ์ บบน้ใี ชค้ วบคุมมอเตอรใ์ นลกั ษณะการทางาน เช่นเดยี วกบั สวติ ชป์ ่มุ กด จะแตกต่างกบั สวติ ชแ์ บบ ป่มุ กด สวติ ชช์ นดิ น้ใี ชว้ ธิ บี ดิ เลอื กตาแหน่งจะเป็นแบบบดิ คา้ ง เมอ่ื ตอ้ งการเปลย่ี นตาแหน่งตอ้ งบดิ กลบั ท่ี เดมิ ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.12 รปู ท่ี 4.12 สวติ ชแ์ บบบดิ เลอื กตาแหน่ง
4-14 - สวิตซจ์ ากดั ระยะ (Limit switch) เป็นสวติ ซท์ ใ่ี ชใ้ นการควบคุมระยะทางหรอื จากดั ระยะ มใี ชใ้ นงานทวั่ ไป ไมว่ า่ เป็นระบบไฟฟ้ากาลงั นวิ เมตกิ ส์ ไฮดรอลกิ ส์ Limit switch ใชร้ ว่ มกนั คอนแทคเตอร์ การเลอื กใชจ้ ะตอ้ งคานงึ ถงึ โหลดทใ่ี ช้ ลกั ษณะงาน ความเหมาะสม สถานทใ่ี ช้ ดงั รปู ท่ี 4.13 รปู ท่ี 4.13 การทางานของคอนแทค Contacts Standard type Snap action Make-before Extended stroke (Normal stroke) Contacts break Contacts Contacts diagram 2 4 24 2 4 24 Contacts travel Contacts closed 13 13 13 13 Contacts open 1.5 (mm) 1.4 (mm) 3 (mm) ลมิ ติ สวติ ชจ์ ะตดิ ตงั้ ในวงจรควบคุม เพอ่ื ทาหน้าทต่ี ดั และต่อวงจรไฟฟ้าทป่ี ้อนใหข้ ดลวดของคอนแทค เตอร์ เพ่อื ใหม้ อเตอรท์ างาน และหยดุ ทางาน กลบั ทางหมนุ เรง่ ความเรว็ หรอื ลดความเรว็ ของมอเตอร์ ลมิ ติ สวติ ชน์ าไปใชง้ านควบคุมต่าง ๆ เช่น ควบคุมการเคล่อื นทไ่ี ปและกลบั ของเคร่อื งไส ลฟิ ท์ เครน ประตู แนวนอน แนวตงั้ เป็นตน้
4-15 -Plugging Switch Plugging Switch เป็นสวติ ชท์ ใ่ี ชใ้ นการเบรกมอเตอรจ์ ะตดิ ตงั้ ไวท้ เ่ี พลาของมอเตอร์ การ ทางานของ Plugging Switch เมอ่ื มอเตอรเ์ รมิ่ หมุนมคี วามเรว็ พอสมควร คอนแทคของ Plugging Switch ท่ี เป็นNO จะต่อวงจร คอนแทค NC จะเปิดวงจร ส่วนมากจะใชใ้ นการ เบรกมอเตอร์ 3. อปุ กรณ์ตงั้ เวลา -Electronic Time Relay รเี ลยต์ งั้ เวลาแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รเี ลยต์ งั้ เวลาแบบน้ปี ระกอบดว้ ย อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสป์ ระเภท ตวั ตา้ นทาน คาปาซเิ ตอร์ ทรานซสิ เตอร์ เอส ซี อาร์ ไดโอด และไอซเี ป็นตน้ อาศยั หลกั การทางาขอ อารซ์ แี ทมคอนสแตมซ์ รเี ลยต์ งั้ เวลาแบบน้บี รรจอุ ยใู่ นกลอ่ งพลาสตกิ (Socket) มขี า 8 ขา เหมอื นกบั รเี ลยท์ วั่ ไป เพ่อื นาไปเสยี บกบั ซอ็ กเกต็ ต่อไปใชง้ าน รปู ท่ี 4.14 แสดง Relay ตงั้ เวลาแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รเี ลยต์ งั้ เวลา (Time relay) เป็นรเี ลยท์ ส่ี ามารถตงั้ เวลาทางานของคอนแทคได้ มหี ลาย ชนดิ การทางานของคอนแทค มี 3 แบบคอื 1.หน่วงเวลาหลงั จากเอาไฟเขา้ เมอ่ื จ่ายไฟใหก้ บั รเี ลยต์ งั้ เวลา คอนแทคจะอยใู่ นตาแหน่งเดมิ ก่อน เมอ่ื ถงึ เวลาทต่ี งั้ ไวแ้ ลว้ คอนแทคจงึ จะเปลย่ี นไปทส่ี ภาวะตรงขา้ ม และจะคา้ งอยใู่ นตาแหน่งนนั้ จนกว่าจะ หยดุ การจ่ายไฟใหก้ บั รเี ลย์ 2. หน่วงเวลาหลงั จากเอาไฟออก เมอ่ื จา่ ยไฟใหก้ บั รเี ลยต์ งั้ เวลาคอนแทคจะเปลย่ี นสภาวะทนั ที หลงั จากทเ่ี อาไฟออกจากขดลวดแลว้ และถงึ เวลาทต่ี งั้ จงึ จะยอ้ นกลบั มาอยสู่ ภาวะเดมิ 3. หน่วงเวลาหลงั จากเอาไฟเขา้ และหน่วงเวลาหลงั จากเอกไฟออกในตวั เดยี วกนั การทางาน เหมอื นกบั แบบท่ี 1-2
4-16 รปู ท่ี 4.15 รเี ลยช์ นิดหน่วงเวลา -รีเลย์ต้งั เวลาด้วยของเหลวหรือนา้ มนั รีเลยต์ ้งั เวลาแบบน้ีจะพบมากในระบบไฮดรอลิกส์ หลกั การ ทวั่ ไปของรีเลยเ์ ม่ือจา่ ยไฟเขา้ ท่ีคอยลข์ องรีเลยจ์ ะเกิดอานาจแมเ่ หลก็ ดูดกระบอกสูบท่ีบรรจุของเหลวหรือ น้ามนั พร้อมท้งั คอนแทคให้ทางาน ระยะเวลาที่ตอ้ งข้ึนอยกู่ บั แรงดนั ภายในกระบอกสูบการปรับต้งั เวลาเป็ น การควบคุมแรงดนั ภายในกระบอกสูบดงั รูปที่ 4.16 รปู ท่ี 4.16 แสดงรเี ลยต์ งั้ เวลาดว้ ยของเหลว -Pneumatic time Relay รเี ลยต์ งั้ เวลาดว้ ยลม จะใชก้ ะเปาะลมเป็นตวั ควบคมุ การทางานของสวติ ชป์ ิดหรอื เปิดการทางานของ รเี ลยต์ งั้ เวลาดว้ ยลมเรมิ่ ตน้ ดว้ ยการป้อนไฟเขา้ ทค่ี อยล์ จะทาใช้ โซลนี อยดท์ างานดงึ แกนเหลก็ เลอ่ื น เขา้ มาตดิ เป็นผลใหก้ า้ นสบู เคล่อื นตวั ออกดว้ ยแรงดนั ของสปรงิ ทอ่ี ยใู่ นกระเปาะลม เมอ่ื กา้ นสบู เคลอ่ื นตวั พงุ่ ขน้ึ ขา้ งบนกจ็ ะไปดงึ กา้ นต่อ ให้ เคล่อื นทต่ี ามไปดว้ ย เป็นผลใหแ้ ผน่ ทม่ี หี น้าสมั ผสั ตดิ อยู่ เปลย่ี นจะเดมิ ปกตปิ ิดไปเป็นปกตเิ ปิดการตงั้ เวลานานกป็ รบั ใหจ้ า่ ยลมเขา้ ไปน้อย ในทางกลบั กนั ถา้
4-17 ตอ้ งการตงั้ เวลาใหเ้ รว็ ขน้ึ กป็ รบั ลมใหเ้ ขา้ ไปมาก ๆ จะทาใหก้ า้ นสบู เคล่อื นทเ่ี รว็ ขน้ึ จะใชม้ ากในงาน ระบบนิวแมตกิ ส์ ไฮดรอลกิ ส์ -Motor Timer Relay โครงสรา้ งภายใน ของรเี ลยต์ งั้ เวลาแบบน้ี ใชม้ อเตอรข์ นาดเลก็ (Motor driven) ไปควบคุม เพลาชง่ึ มลี กู เบย้ี วตดิ อยู่ ตวั ลกู เบย้ี วจะไปควบคุมหน้าคอนแทคใหท้ างงาน ปิด-เปิดวงจร การนาไปใชง้ าน นิยมใชใ้ นเครอ่ื งซกั ผา้ จะใชค้ วบคุมมอเตอรข์ นาดใหญ่ๆ 4. คอนแทคเตอรแ์ ละรเี ลย์ คอนแทกเตอรแ์ ละรเี ลย์ เป็นสวติ ชแ์ มเ่ หลก็ ไฟฟ้าทอ่ี าศยั อานาจแมเ่ หลก็ ทใ่ี ชใ้ นการตดั -ต่อวงจร กาลงั มหี ลายขนาดตงั้ แต่ขนาด 00 ถงึ - 6 และ ในตวั ของมนั เองนอกจากจะมคี อนแทคสาหรบั วงจร กาลงั แลว้ จะมคี อนแทคชว่ ยทงั้ ปกตปิ ิดและปกตเิ ปิดอกี ดว้ ย ซง่ึ อาจจะมอี ยอู่ ย่างละ 1 หรอื 2 คอนแทค ใหเ้ ลอื กใชต้ ามความจาเป็นของวงจรควบคุมดงั รปู ท่ี 4.17 และ 4.18 -รเี ลย์ (Relays) รเี ลย์ หมายถงึ สวติ ชท์ ท่ี างานดว้ ยอานาจแมเ่ หลก็ ช่วยการตดั และต่อวงจรควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น คอยลข์ องคอนแทกเตอร์ รเี ลยต์ วั อ่นื ๆ โซลนิ อยด์ เป็นตน้ แต่ในขณะเดยี วกนั กใ็ ชเ้ ป็นตวั ตดั ต่อวงจร ขนาดเลก็ ได้ เชน่ วงจรหลอดสญั ญาณ และมอเตอรข์ นาดเลก็ ได้ โดยปกตจิ ะใชใ้ นวงจรควบคุม ทม่ี ี อตั ราการไหลของกระแสไมเ่ กนิ 15 แอมป์ และแรงดนั ไฟฟ้าทใ่ี ชก้ บั กระแสสลบั ได้ สงู ถงึ 600 โวลต์ ส่วนไฟฟ้ากระแสตรงใชก้ บั แรงดนั ไฟฟ้า 12 - 110 โวลต์ ทงั้ น้ขี น้ึ อยกู่ บั ขนาดของคอยลท์ ่ี ผลติ ขน้ึ ดงั แสดงใหเ้ หน็ รปู ของรเี ลยช์ นิดต่าง ๆ ในรปู ท่ี 4.14 รูปท่ี 4.17 แสดงภาพ Relay แบบต่าง ๆ
4-18 รปู ท่ี 4.18 คอนแทคเตอรแ์ ละรเี ลย์ ขอ้ ดขี องการใชค้ อนแทคเตอร์ เมอ่ื เทยี บกบั สวติ ชก์ าลงั อ่นื ๆ ดงั น้ี 1) สะดวกในการใชง้ านเพราะสามารถใชร้ ว่ มกบั อุปกรณ์อ่นื ๆ เชน่ สวติ ชป์ ่มุ กด สวติ ชแ์ รง ดนั สวติ ชล์ กู ลอยเป็นตน้ ในการควบคุมวงจรต่าง ๆ เชน่ วงจรควบคุมมอเตอรป์ ัม๊ ลม ใหแ้ รงดนั อยใู่ น ระดบั ความดนั ทต่ี อ้ งการ เพยี งกดป่มุ สตารท์ เพยี งครงั้ เดยี ว แลว้ ปัม๊ ลมจะทางานปิด เปิด วงจรเอง โดย อตั โนมตั แิ ละสามารถออกแบบตดิ ตงั้ เพม่ิ เตมิ ไดส้ ะดวก 2) ใหค้ วามปลอดภยั กบั ผคู้ วบคุมการตดั และต่อวงจร ทม่ี กี ระแสไฟฟ้าสงู มาก ๆ ไหลผ่าน เชน่ การสตารท์ มอเตอรข์ นาดใหญ่ทม่ี ขี นาดแรงมา้ สงู ๆ ทาใหเ้ กดิ การอารค์ ทห่ี น้าสมั ผสั ของ คอนแทคเตอรข์ ณะเรมิ่ เดนิ มอเตอร์ เมอ่ื ใชค้ อนแทคเตอรจ์ ะใชก้ ระแสและแรงดนั ไฟฟ้าขนาดต่า ๆ ไป ควบคุมขดลวดของคอนแทคเตอร์ ทาใหเ้ กดิ การตดั และต่อวงจร ในวงจรกาลงั ทาหน้าทส่ี มั ผสั ของ คอน แทคเตอรแ์ ทนการสบั สวติ ชก์ าลงั ดว้ ยมอื โดยตรง เชน่ สะพานไฟ เบรกเกอร์ และสามารถยา้ ยจดุ ควบคุมใหห้ ่างจากวงจร กาลงั (คอนแทคเตอร)์ ไดเ้ พอ่ื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั ขณะปฏบิ ตั งิ าน
4-19 3) ประหยดั เมอ่ื เทยี บกบั การควบคมุ ดว้ ยมอื ในดา้ นการตดิ ตงั้ และเดนิ สายไฟฟ้า เพราะบาง กรณโี หลดทใ่ี ชง้ าน เช่นมอเตอร์ ทต่ี อ้ งการควบคุมจาเป็นตอ้ งห่างจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า และจดุ ควบคมุ จากนนั้ ตอ้ งเดนิ ไปยงั มอเตอร์ แต่เมอ่ื ใชค้ อนแทคเตอร์ จะประหยดั สายไฟวงจรกาลงั ลง ทงั้ น้ี เพราะสามารถเดนิ สายไฟกาลงั จากแหล่งจา่ ยไฟฟ้าต่อผา่ นคอนแทกเตอรไ์ ปยงั มอเตอรโ์ ดยตรง สว่ น สายไฟฟ้าทเ่ี ดนิ ไปยงั จดุ ควบคุมมขี นาดเลก็ จงึ เกดิ ความประหยดั ทางดา้ นอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการควบคุม ดา้ นกาลงั จะต่ากว่าในกรณที ค่ี วบคุมมอเตอรแ์ รงมา้ สงู ๆ โครงสร้างและการทางานของคอนแทคเตอร์ คอนแทคเตอรแ์ ละรเี ลย์ มโี ครงสรา้ งและการทางาน เหมอื นกนั แต่การนาไปใชง้ านจะแตกต่าง กนั เลก็ น้อยคอนแทคเตอรจ์ ะทางานในลกั ษณะควบคมุ Load ทม่ี กี ระแสสงู ๆ โครงสรา้ งประกอบดว้ ย แผ่นเหลก็ วางอดั ชอ้ นกนั เป็น รปู ตวั E วางซอ้ นกนั 2 ชุด ชดุ หน่งึ ยดึ อยกู่ บั ท่ี ทข่ี ากลางของแกน เหลก็ จะมขี ดลวดซง่ึ พนั อยู่ บนบอบบน้ิ สวมอยใู่ นสว่ นขาตวั E เป็นตวั สรา้ งเสน้ แรงแมเ่ หลก็ ดงึ หน้า คอนแทค สว่ นดา้ นผวิ ดา้ นบนทงั้ 2 ขา้ ง จะมขี ดลวดวงแหวน (Shaded ring) ฝังอยบู่ รเิ วณ ผวิ หน้าของแกนเหลก็ สาหรบั แกนเหลก็ ตวั E อกี ชดุ หน่งึ จะเป็นส่วนทเ่ี คล่อื นทจ่ี ะมหี น้าสมั ผสั ยดึ ตดิ อยู่ ดงั แสดงในรปู ท่ี 4.19 รปู ท่ี 4.19 คอนแทคเตอร์ การทางานของ Contactor สภาวะปกติ เมอ่ื ไมจ่ า่ ยไฟฟ้าเขา้ ขดลวดของคอนแทคเตอร์ แกนเหลก็ ทงั้ สองชุด จะถูกดนั ออกใหจ้ ากกนั ดว้ ยแรงสปรงิ ทาใหห้ น้าสมั ผสั บางตวั ต่อวงจรของจดุ สมั ผสั ถงึ กนั เรยี กชดุ หน้าสมั ผสั น้วี ่า หน้าสมั ผสั ปกตปิ ิด (morally close) เขยี นยอ่ ว่า NC ในขณะเดยี วกนั จะมหี น้าสมั ผสั บางตวั ไมไ่ ดต้ ่อยกู่ บั จดุ สมั ผสั เรยี กหน้าสมั ผสั ชุดน้วี ่า หน้าสมั ผสั ปกติ เปิด (normally open) เขยี นยอ่ วา่ NO เมอ่ื จา่ ยไฟเขา้ coil ของ contactor ตามพกิ ดั แรงดนั จะเกดิ อานาจแมเ่ หลก็ ขน้ึ มา แรงดงึ จากอานาจแมเ่ หลก็ จะชนะแรงดนั ของสปรงิ ดงึ แกนเหลก็ จะ
4-20 ทาให้ ชุดทเ่ี คล่อื นทล่ี งมาหน้าสมั ผสั ทงั้ สองชุด จะเปลย่ี นสภาวะการทางาน คอื หน้าสมั ผสั ปกตปิ ิด จะ เปิดวงจรของจดุ สมั ผสั ออก และหน้าสมั ผสั แบบปกตเิ ปิด จะต่อวงจรของจดุ สมั ผสั เมอ่ื งดจา่ ยไฟเขา้ ขดลวดหน้าสมั ผสั ทงั้ 2 ชดุ น้ีจะกลบั ไปอยสู่ ภาวะเดมิ อกี ครงั้ ขอ้ ควรระวงั การนาเอา contactor มา ใชง้ านจะตอ้ งคานึงถงึ แรงดนั ท่ี coil ของ คอนแทคเตอรแ์ ละ คอนแทคทส่ี ามารถทนกระแสได้ คอนแทคเตอร์ เป็นอุปกรณ์ทท่ี างานในดา้ น Power โดยคอนแทคสามารถทนกระแสไดส้ งู คอน แทคแยกออกเป็น 2 สว่ น สว่ นแรกเป็นคอนแทคหลกั (main contact) คอนแทคจะเป็นสภาวะ ปกตเิ ปิด (normally open) เฉพาะควบคมุ ดา้ น Power สามารถทนกระแสไดถ้ งึ 600 A ขอ้ สงั เกตดู main contact ดไู ดจ้ ากสกรทู ่ี คอนแทคจะมขี นาดใหญ่กว่า คอนแทคชว่ ยหรอื ตวั อกั ษร ทก่ี ากบั เป็น L1,L2,L3 – R,S,T คอนแทคสว่ นท่ี 2 เป็นคอนแทคชว่ ย (auxiliary contact) คอนแทคจะเป็น NO หรอื NC แลว้ แต่ความตอ้ งการของผใู้ ช้ auxiliary contact ทนกระแสน้อยกว่า main contact ขอ้ สงั เกตดคู อนแทคช่วย จะเลก็ กวา่ main contact อุปกรณ์ตดั ตอนไฟฟ้าทุกชนิดเมอ่ื ตดั ต่อวงจร แต่ละครงั้ ทม่ี กี ระแสมากๆ จะเกดิ การอารค์ ทห่ี น้าสมั ผสั จะทาใหห้ น้าสมั ผสั ชารดุ เสยี หายเรว็ คอนแทค เตอรก์ เ็ ชน่ เดยี วกนั ดงั นนั้ จงึ มวี ธิ กี ารแกไ้ ขการลดประกายไฟ (arc) วธิ แี กไ้ ขและลดการเกดิ ประกายไฟ น้เี รยี กว่า วธิ แี มกเนตกิ โบลว์ เอาต์ (magnetic blowout) ซง่ึ เป็นวธิ กี ารแกป้ ัญหาเพ่อื ป้องกนั หน้าสมั ผสั ชารดุ เสยี หายจากประกายไฟ และช่วยทาใหอ้ ายกุ ารใชง้ านของหน้าสมั ผสั นานยงิ่ ขน้ึ รปู ท่ี 4.20 แสดงหน้าสมั ผสั หลกั และหน้าสมั ผสั ช่วยของคอนแทคเตอร์ ชนิดและขนาดของคอนแทคเตอรไ์ ฟสลบั
4-21 คอนแทคเตอรท์ ใ่ี ชก้ บั ไฟกระแสสลบั แบง่ ออกเป็น 4 ชนิด ตามลกั ษณะของโหลด และการใชง้ าน คอื AC1 เป็นคอนแทคเตอรท์ ใ่ี ชก้ บั โหลดทเ่ี ป็นความตา้ นทาน AC 2 เป็นคอนแทคเตอรท์ ใ่ี ชก้ บั โหลด ทเ่ี ป็นสลปิ รงิ มอเตอร์ AC3 เป็นคอนแทคเตอรโ์ หลดทเ่ี ป็นมอเตอรก์ รงกระรอก และ AC 4 ใชไ้ ดก้ บั งานทวั่ ไปทท่ี างานบ่อยครงั้ ขนาดของคอนแทคเตอรแ์ บง่ เป็น Size 0, Size 1, Size 2 ... เป็น ตน้ Size ซง่ึ ตามตวั เลขทม่ี คี ่ามากกว่าจะแสดงถงึ ขนาดของคอนแทคเตอรท์ ใ่ี หญ่กวา่ การเลอื กใช้ contactor ใหเ้ หมาะสมกบั มอเตอรห์ รอื โหลดทต่ี อ้ งการควบคุมจะตอ้ งคานงึ ถงึ แรงดนั ทจ่ี า่ ยใหก้ บั coil ของ contactor กาลงั ไฟฟ้าของโหลด กระแสของโหลด ความถ่ี ดไู ดจ้ าก data ขา้ งตวั contactor ถา้ เลอื กใชไ้ มถ่ ูกตอ้ งจะทาให้ contactor เสยี หาย ตารางท่ี 3 แสดงขนาดแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ พกิ ดั โหลดมอเตอร์ AC1 พกิ ดั กระแส ขนาดคอนแทคเตอร์ จานวนคอนแทคชว่ ย AC 3/AC 4 AC 3 (380/415 380/415/440 A NO NC 16 /440 VAC) -1 VAC kW HP A 00 1 - 4 5.5 8.5 11 22 5.5 7.5 16 11.5 -1 7.5 10 20 16 0 1- 11 11 15 32 22 22 18.5 25 40 37 0 11 22 30 60 44 22 30 40 90 60 37 50 100 70 1 11 45 60 120 85 22 55 75 150 185 75 100 210 120 2 22 110 150 280 125 2 22 160 220 420 360 3 22 350 340 600 475 3 22 3 22 4 22 4 22 5 22 6 22 6 22
4-22 ตารางท่ี 3 แสดงขนาดแมกเนตกิ คอนแทคเตอร์ RELAY TABLE เป็นตารางบอกจานวนคอนแทคทน่ี ามาใชใ้ นวงจร และเป็นตวั บอกชนิดของ คอนแทคว่าเป็นคอนแทคเมน หรอื คอนแทคช่วยมที งั้ หมดกต่ี วั มอี ยใู่ นแถวทเ่ี ท่าไรบา้ ง ตวั เลขในตางราง เป็นตวั บอกแถวของรเี ลย์ RELAY TABLE จะตอ้ งเขยี นใหต้ รงกบั ตวั ของรเี ลย์ เครอ่ื งหมาย (-) แสดงว่าคอนเทคมอี ยู่ ในวงจรแต่ไมไ่ ดน้ ามาใชง้ าน 135 13 23 31 41 K1 14 24 32 42 246 11 3 2 คอนแทค NO แถวท่ี 2 11 5 - คอนแทค NO มแี ตไ่ มไ่ ดใ้ ช้งาน 11 คอนแทค NO,NC ไมม่ ี คอนแทค NC แถวท่ี 3,5 คอนแทค MAIN 3 ตวั -โซลิดสเตตรีเลย์ โซลดิ สเตตรเี ลย์ เป็นรเี ลยท์ ค่ี วบคมุ การทางานโดยใชอ้ ุปกรณ์อเิ ลคทรอนิกสค์ วบคุม เชน่ ทรานซสิ เตอร์ ไทรแอก เป็นรเี ลยท์ น่ี ิยมใชม้ าก -การนาไปใชง้ าน ใชก้ บั งานทวั่ ๆไปในการปิด เปิดวงจร คอนแทคทนกระแสได้ 5-25 A วงจรการ ทางานดงั รปู ท่ี 4.21 LOAD INPUT 120 V AC
4-23 รปู ท่ี 4.21 ใชไ้ ทรแอกควบคุมโหลดไฟฟ้ากระแสสลบั แบบฝึ กหดั บทที่ 4 1.หลอดสญั ญาณสอี ะไรทแ่ี สดงผลการทางานของวงจร …………………………………………………………………………………………………………………. 2.หลอดสญั ญาณสอี ะไรทแ่ี สดงการเกดิ Over load ของวงจร …………………………………………………………………………………………………………………. 3.จงบอกสวติ ชท์ ใ่ี ชใ้ นงานควบคมุ มอเตอรแ์ ละการทางานมา 5 ชนิด 1……………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………. 2……………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………. 3……………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………. 4……………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………. 5……………………………………………………………………………………………………… ………………………………….……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………. 4.จงใหค้ วามหมายของ Relay ..……………………….………………...…………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………. 5.Contactor หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………………………… ……….………………………………………………………………………………………………………… 6. จงเปรยี บเทยี บขอ้ ดี ขอ้ เสยี ในการใช้ Relay และ Contactor เมอ่ื เทยี บกบั สวติ ชก์ าลงั อ่นื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………….
4-24 …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 7.จงบอกโครงสรา้ งการทางานของ Relay และ Contactor …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 8. Contactor ทางานโดยอาศยั หลกั การอะไร …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 9. Contact ของ Contactor แบง่ เป็น กช่ี นดิ อะไรบา้ งอธบิ ายการสงั เกตดู Contact …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 10. การเลอื กใช้ Contactor จะตอ้ งคานึงถงึ อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 11. แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ทน่ี ยิ มนามาใชค้ วบคมุ คอยล์ Contactor มแี รดนั เท่าไร ………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 12. Push button switch ทาหน้าทอ่ี ะไรในวงจรควบคุมมอเตอร์ ………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. 13.จงบอกประโยชน์ของ Time delay relay ในการนาไปใชง้ านควบคมุ เครอ่ื งกลไฟฟ้า …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………….
4-25 ………………………………………………………………………………………………………………….
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: