ข้อมูลตัวชี้วัดที่1

ตาํ บลทาํ ไม๎ 1. สภาพทวั่ ไปของตาํ บลทาํ ไม๎ ในอดีตตําบลทําไม๎นั้น สันนิษฐานวํามาจากลักษณะของพ้ืนที่โดยท่ัวไปในสมัยกํอนเป็นทําขนสํงไม๎เน่ืองจาก เป็นเขตติดตํอกับแมํน้ําแมํกลอง จึงอาศัยพื้นที่สํวนนี้เป็นที่ขนถํายไม๎ซุงชาวบ๎านเลยเรียกกันวํา “ทําไม๎” มาจนถึง ปัจจบุ นั เขตการปกครองของตําบลทําไม๎ มีเขตการปกครอง จํานวน 10 หมํูบ๎าน มีสํวนราชาการที่อยํูในเขตการ ปกครองในพื้นท่ี คือ เทศบาลตําบลทําไม๎ มีเขตพื้นที่ท่ีรับผิดชอบ 10 หมูํบ๎าน ตําบลทําไม๎ ต้ังอยํูในเขตการ ปกครองของเขตเทศบาลตําบลทําไม๎จํานวนท้ังส้ิน 13,005 ไรํ อําเภอทํามะกา จ.กาญจนบุรี มีพ้ืนท่ี 10.2 ตารางกิโลเมตร อยูํหํางจากท่ีวําการอําเภอทํามะกา 8 กิโลเมตร หํางจากกรุงเทพมหานคร 92 กิโลเมตร และอยํู หาํ งจากจงั หวดั กาญจนบรุ ี 33 กโิ ลเมตร เทศบาลตําบลทําไม๎ เดิมมีฐานะเป็นสุขาภิบาล มีชื่อวํา “สุขาภิบาลทําไม๎” ได๎จัดตั้งข้ึน เมื่อวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน 2533 ซ่ึงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลํมที่ 107 ตอนท่ี 222 หน๎า 9300 ตํอมาได๎รับการ เปล่ยี นแปลงฐานะจากสุขาภิบาลเป็น “ เทศบาลตําบลทําไม๎ ” ตามพระราชบัญญัติเปล่ียนแปลงฐานะของสุขาภิบาล เป็นเทศบาล พ.ศ. 2552 โดยได๎ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เลํม 116 ตอนที่ 9 ก. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 โดยมผี ลบังคบั ใช๎เม่อื วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 และประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง การรวมองค์การบริหารสํวน ตําบลกับเทศบาล ให๎องค์การบริหารสํวนตําบลทําไม๎รวมกับเทศบาล ตําบลทําไม๎ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี 9 กรกฎาคม2547 ปัจจุบัน สํานักงานต้ังอยํูท่ี 99 หมํูที่ 9 ตําบลทําไม๎ อําเภอทํามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีพืน้ ท่ี 17.712 ตารางกิโลเมตร แผนทต่ี าํ บลทาํ ไม๎

2. ดา๎ นการปกครอง บ๎านลาดปลากราย จํานวนหมบํู ๎าน 10 หมูํ บา๎ นกระตาํ ยเตน๎ บา๎ นทงํุ ฝดื หมูทํ ี่ 1 บา๎ นทําหวา๎ หมทูํ ี่ 2 บา๎ นทําไม๎ หมทูํ ี่ 3 บ๎านศาลาทาํ ไม๎ หมํทู ี่ 4 บา๎ นครอ๎ พนัน หมทูํ ่ี 5 บา๎ นรางโปงุ หมูํท่ี 6 บ๎านดอนแจง หมทํู ี่ 7 บ๎านโรงหบี เลก็ หมํูท่ี 8 หมูํที่ 9 หมํทู ี่ 10 ชุมชนของตําบลทําไม๎ ดงั นี้ ชุมชนภายในเขตเทศบาล มีจาํ นวน 11 ชุมชน ประกอบด๎วย 1. ชุมชนหมูํ 1 พัฒนา หมทูํ ี่ 1 พ้นื ทปี่ ระมาณ 1.649 ตารางกโิ ลเมตร 2. ชมุ ชนบ๎านกระตํายเตน๎ หมูทํ ่ี 2 พนื้ ทป่ี ระมาณ 2.09 ตารางกิโลเมตร 3. ชมุ ชนทงํุ พัฒนา หมูํที่ 3 พื้นทป่ี ระมาณ 3.31 ตารางกโิ ลเมตร 4. ชมุ ชนบา๎ นทาํ หว๎าพฒั นา หมทูํ ่ี 4 พื้นที่ประมาณ 1.234 ตารางกิโลเมตร 5. ชมุ ชนพัฒนาห๎ารํงุ เรือ่ ง หมูํที่ 5 พื้นที่ประมาณ 0.42 ตารางกิโลเมตร 6. ชุมชนริมคลองรวํ มใจพัฒนา หมทูํ ี่ 6 พื้นทป่ี ระมาณ 1.12 ตารางกโิ ลเมตร 7. ชุมชนศาลาทําไมร๎ วํ มใจพัฒนา หมทํู ี่ 7 8. ชุมชนคร๎อพนันพฒั นา หมูํท่ี 8 พื้นที่ประมาณ 1.58 ตารางกิโลเมตร 9. ชมุ ชนรางโปงุ หัวหินรวํ มใจพฒั นา หมูํท่ี 9 พ้ืนทป่ี ระมาณ 0.653 ตารางกโิ ลเมตร 10. ชุมชนรวํ มมือพัฒนา หมูํที่ 10 พื้นท่ปี ระมาณ 0.683 ตารางกโิ ลเมตร 11. ชมุ ชนก๎าวหน๎าพฒั นา หมทํู ี่ 11 พ้ืนท่ปี ระมาณ 2.26 ตารางกิโลเมตร 3. ดา๎ นประชากร มีประชากร 9,172 คน แยกเป็นชาย 4,438 คน และเป็นหญงิ 4,734 คน มจี ํานวนครัวเรือนท้งั ตําบลประมาณ 3,854 ครวั เรือน แยกเป็นหมํบู ๎านไดด๎ งั น้ี

จาํ นวนประชากรแยกเป็นรายหมบูํ า๎ น หมบูํ า๎ น หมทูํ ี่ ครวั เรอื น จาํ นวนประชากร รวม ชอื่ ผน๎ู าํ หมบูํ า๎ น ชาย หญิง บ๎านดอนแจง 1 403 608 647 1,255 นายคนึง สุขศรี บ๎านกระตํายเตน๎ 2 271 427 424 851 นายสุพจน์ เพยี งน้ัน บ๎านทุํงฝดื 3 256 386 433 819 นายบญุ ทงิ้ เสมทับ บ๎านทาํ หวา๎ 4 322 209 248 457 นายสมหวงั สงเคราะห์ บ๎านทําไม๎ 5 463 271 292 563 นายฉัตรชัย ฉุนฟงุู บา๎ นทาํ ไม๎ 6 700 726 736 1,462 นายบนั ลือศักด์ิ สรอ๎ ยทอง บา๎ นคร๎อพนัน 7 551 734 758 1,492 นายถาวร ใจเยน็ บ๎านรางโปุง 8 303 281 308 589 นายสากล เจตสกิ พัฒ บ๎านหลงั วดั คาทอลิก 9 295 383 381 764 นายบุญสม บุญลอ๎ บา๎ นโรงหีบเล็ก 10 248 440 532 972 นายวานิตย์ โพธช์ิ ืน่ รวม 3,812 4,465 4,759 9,224 4. ด๎านการศึกษา ขอ๎ มลู ดา๎ นการศกึ ษาของตาํ บล 1. โรงเรียนวดั คร๎อพนนั ......................สงั กัด......สพฐ...............................................จาํ นวน......1......แหํง 2. โรงเรียนวัดกระตํายเตน๎ .................สงั กดั ......สพฐ................................................จาํ นวน......1.....แหํง 3. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ .........................สงั กดั ....เทศบาลตําบลทาํ ไม.๎ .........................จาํ นวน......2.....แหงํ 4. กศน.ตาํ บลทาํ ไม๎.............................สังกัด....สาํ นกั งาน กศน.จังหวดั กาญจนบรุ ี....จํานวน......1....แหงํ 5. ศนู ย์การเรียนชุมชน............-...........สงั กัด........................-....................................จาํ นวน......-.....แหํง 5. ดา๎ นสาธารณสขุ 1. สุขภาพอนามยั ของประชาชนอยํูในระดับปานกลางไมํมีโรคติดตํอทรี่ ๎ายแรงระบาดในตาํ บล 2. โรคทเี่ ปน็ กันมากไดแ๎ กํ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เชนํ ไข๎หวดั ในเดก็ เล็กเน่ืองจากความ แตกตาํ งทางอากาศ โรคอุจจาระรํวง โรคปอดอักเสบ ไข๎เลอื ดออก โรคอาหารเป็นพิษ นอกจากนีย้ ังมี โรคเกยี่ วกับชอํ งปาก เชนํ โรคฟันผุและเหงือกอักเสบ 3. ดา๎ นการวางแผนครอบครวั ประชาชนสํวนใหญํใหค๎ วามสนใจและขอรับบรกิ าร 4. ด๎านสขุ าภบิ าลและสาธารณสุขมลู ฐานในเคหะสถานและชีวติ ประจาํ วันประชาชนยังขาดความรู๎และการ ปฏิบัติทด่ี ี เชนํ การจดั บ๎านเรือน คอกสัตว์ สภาพแวดล๎อมและการกาํ จดั ของเสียและสิง่ ปฏิกูลทถี่ ูกวิธี 5. การบริการสุขภาพอนามัยของประชาชนในเขตเทศบาลตําบลทําไม๎ มีสถานบรกิ ารสาธารณสขุ เพียงแหงํ เดยี วคอื โรงพยาบาลสํงเสริมสุขภาพตําบลกระตาํ ยเต๎น โดยให๎การบริการพยาบาลเบื้องต๎นและให๎ คาํ แนะนําด๎านสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ในเขตเทศบาล คอื เจ๎าหน๎าท่อี นามัยประจําตําบล

6. ผู๎ส่อื สารสาธารณสขุ (ผสส.) และอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน (อสม.) ซ่ึงคัดเลือกจากประชาชนใน หมูบํ า๎ นประจาํ หมูํบ๎านทกุ หมํูบ๎าน 7. ดา๎ นการสาธารณสขุ เทศบาลตําบลทําไม๎ ได๎จดั ต้งั กองทนุ หลักประกนั สขุ ภาพ (สปสช.) เพื่อสงํ เสรมิ สุขภาพใหก๎ บั ประชาชน ในชมุ ชนในกลมุํ โดยทํางานรํวมกับโรงพยาบาลสงํ เสริมสุขภาพตําบลกระตําย เตน๎ และ อสม. อยูํเป็นประจํา 8. เทศบาลตําบลทาํ ไม๎ไดม๎ ีโครงการเทศบาลเคลื่อนท่ี และได๎ออกตรวจสุขภาพเบ้ืองตน๎ ให๎กับประชาชน เดอื นละ 1 คร้ัง โดยใหบ๎ ริการในเร่อื งของการตรวจวัดความดนั เบาหวาน การนวดแผนไทย การ บรกิ ารตัดผมฟรีให๎กับประชาชน และใหค๎ วามรู๎ดา๎ นสขุ ภาพกบั ชุมชน ซง่ึ จดั ทําโครงการเป็นประจําทุกปี 9. กองสาธารณสุข เทศบาลตาํ บลทําไม๎ไดด๎ าํ เนินการจดั ทาํ โครงการผส๎ู งู วัย สุขภาพดี ชวี ผิ อํ งใส เป็น ประจาํ ทกุ เดอื น เพื่อดแู ลเอาใจใสผํ สู๎ ูงอายใุ นเขตเทศบาล และใหผ๎ ๎สู งู อายรุ ๎วู ธิ กี ารดูแลสขุ ภาพตนเองได๎ อยํางถูกต๎อง 6. ด๎านศาสนา วฒั นธรรม เทศกาลประเพณ/ี เศรษฐกจิ /อาชพี 1. ศาสนา ประชากรในเขตเทศบาลตาํ บลทําไม๎สวํ นใหญนํ ับถือศาสนาพทุ ธ มนี ับถอื ศาสนาครสิ ตบ์ า๎ งประมาณ ร๎อยละ 8 ซงึ่ ในเขตเทศบาลมศี าสนสถานท่ีสําคัญเป็นวัดพุทธ ๒ แหํง วดั คริสต์ 1 แหํง สสุ านอีก 11 แหํง 1. วดั กระตํายเต๎น ต้ังอยูหํ มํทู ่ี บ๎านกระตาํ ยเต๎น ตาํ บลทาํ ไม๎ 2. วัดคร๎อพนัน ต้งั อยํหู มูํท่ี 7 บา๎ นครอ๎ พนนั ตาํ บลทาํ ไม๎ 3. วัดโรมนั คาทอลกิ ทาํ หวา๎ ตัง้ อยหํู มูํท่ี 9 บ๎านดอนแจง ตาํ บลทําไม๎ 2. วฒั นธรรม /ประเพณี ประชาชนตาํ งใชว๎ ัดเป็นศูนย์รวมจิตใจในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา งานบุญ บวชสามเณรภาค ฤดูร๎อน งานประเพณี เชํน วันเข๎าพรรษา วันลอยกระทง วันขึ้นปีใหมํ วันวิสาขบูชา วังสงกรานต์ และฯลฯ นอกจากนยี้ ังใช๎เป็นสถานทสี่ ําหรบั ประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนาตาํ ง ๆ ของประชาชนในเขตเทศบาล โครงสรา๎ งทางเศรษฐกจิ อาชีพของประชาชนในเขตเทศบาลท่ีสําคัญ ได๎แกํ การค๎าขาย ซึ่งมีท้ังการค๎าปลีกและการค๎าสํง การประกอบอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ เชนํ อซํู ํอมรถ และ การรบั จ๎างท่วั ไป การเกษตรกรรม เนื่องมาจากสภาพของดินในเขตเทศบาลตําบลทําไม๎ เป็นดินท่ีมีศักยภาพสูงปานกลางถึงสูงมาก ลักษณะ ของดินเปน็ ดินเหนียวและรํวนซง่ึ เกิดจากการทบั ถมของตะกอนน้ําพดั มา จงึ มีความอดุ มสมบูรณ์มาก มีการระบายน้ํา เร็ว ลักษณะดินดังกลําวครอบคลุมพื้นที่สํวนใหญํของอําเภอทํามะกาเหมาะแกํการปลูกข๎าว พืชไรํ ผักและผลไม๎ ประชากรในเขตเทศบาลตําบลทําไม๎ จึงปลูกพืชดังกลําวเป็นอาชีพหลัก แรงงานในภาคเกษตรกรรมสํวนใหญํได๎มา จากสมาชิกในครัวเรือน ญาติพ่นี อ๎ งและเพ่อื นบา๎ นทว่ี ํางเว๎นจากฤดเู ก็บเกย่ี วในพื้นท่ีของตนเอง โดยการนําเครื่องจักร มาชํวยในการเพาะปลูก สําหรับแรงงานนอกภาคเกษตรกรรมสํวนใหญํได๎มาจากพี่น๎องท่ีวํางเว๎นจากฤดูทํานาหรือ เกษตรกรรมอ่ืนๆและแรงงานของประชากรในท๎องถ่ินภายในเทศบาลหรือตําบลหรืออําเภอและจังหวัดอื่น ๆ ที่ ใกลเ๎ คียง

การอตุ สาหกรรม ในเขตเทศบาลตําบลทําไม๎มีอุตสาหกรรมที่สําคัญคือ อตุ สาหกรรมนา้ํ ตาลซ่งึ ปจั จบุ ันมีอยํู จํานวน 2 โรงงาน คอื บริษัทโรงงานน้ําตาลนวิ กรุงไทย จํากัด และบรษิ ัทโรงงานนาํ้ ตาลไทยกาญจนบุรี และอุตสาหกรรม ขนาดยอํ มประเภทตํางๆ การพาณชิ ยแ์ ละการบรกิ าร สถานประกอบการในเขตเทศบาลตาํ บลทาํ ไม๎ สํวนใหญจํ ะอยํใู นเขตหมทํู ี่ 6,7 และ 8 สวํ นใหญํจะเป็น กิจการประเภทค๎าขายของเบ็ดเตล็ด รองลงมาได๎แกํกิจการจําหนํายวัสดุกํอสร๎างและและการผลิตนํ้าด่ืมเพื่อนสตรี ของชุมชน หมํู 6 และการผลิตนาํ้ ดม่ื วรพล หมํู 7 1) สถานประกอบการดา๎ นพาณิชยกรรม - สถานีบรกิ ารนา้ํ มนั 3 แหงํ - ตลาดนัด 5 แหงํ - ร๎านค๎าปลีกและขายสํง 40 แหงํ - โรงงานนํ้าตาล 2 แหงํ - โรงงานปยุ๋ 1 แหํง - โรงงานถาํ นหิน 1 แหํง - โรงงานน้ําดื่ม 2 แหํง 2) สถานประกอบการดา๎ นบริการ - ร๎านตัดผม/เสรมิ สวย 6 แหํง - รา๎ นซํอมเครอ่ื งยนต/์ มอเตอรไ์ ซด์ 10 แหํง - รา๎ นอินเตอร์เน็ต 5 แหงํ 7. ด๎านการคมนาคม การคมนาคม เทศบาลตาํ บลทาํ ไม๎ใชย๎ านพาหนะทางบกเปน็ หลัก เชนํ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์โดยมีเสน๎ ทางคมนาคมท่ี สําคัญ ดังน้ี - ทางหลวงแผนํ ดนิ หมายเลข 323 โดยตัดผํานทางตอนใต๎ของเทศบาลในแนวทิศตะวันตก - ทางรถไฟสายตะวนั ตก จากกรุงเทพมหานคร (ธนบรุ )ี ถงึ สถานีนํา้ ตกผาํ นเทศบาลตาํ บลลูกแก เขา๎ สเํู ทศบาลตําบลทําไม๎ แตํไมมํ ีสถานรี ถไฟภายในเทศบาลต๎องลงทสี่ ถานีบา๎ นลูกแก เทศบาลตาํ บลลูกแก การโทรคมนาคม สํานักงานบรกิ ารโทรศพั ท์ โทรศัพทส์ าธารณะในเขตเทศบาลมใี ห๎บรกิ ารอยาํ งทวั่ ถึง ซึ่งเทศบาลฯได๎ดําเนนิ การประสานกบั ทาง องค์การโทรศัพท์เพอ่ื ติดตง้ั โทรศพั ทส์ าธารณะทุกพืน้ ที่ เพื่อเป็นประโยชน์กบั ประชาชนในท๎องถิ่น

บรษิ ทั ไปรษณยี ์ไทย จํากัด เทศบาลไมํมที ่ีทําการไปรษณียโ์ ทรเลขเป็นของตนเอง มีเพียงต๎ูไปรษณยี บ์ ริการ หากจะใชบ๎ ริการ โทรเลข ธนาณัติ หรอื บรกิ ารอนื่ สามารถไปใช๎บริการได๎ที่ทีท่ าํ การไปรษณียโ์ ทรเลขสาขาทํามะกาในเขตเทศบาล ตําบลทํามะกา หรือทที่ ําการไปรษณีย์สาขาลูกแกในเขตเทศบาลตาํ บลลูกแก ระบบกระจายเสียง ในปัจจบุ นั เทศบาลตาํ บลทําไม๎มีระบบเสยี งตามสายเพื่อทําการเผยแพรปํ ระชาสัมพันธ์ข๎อมูลขาํ วสารให๎กบั ประชาชนในเขตพนื้ ท่ี และได๎ดําเนนิ การวางแผนทจี่ ะติดต้ังในครอบคลมุ ทว่ั ทุกเขตพนื้ ที่ ระบบกล๎องวงจรปิด เทศบาลตาํ บลทําไม๎ มกี ารติดตัง้ กลอ๎ งวงจรปดิ ภายในชุมชนเขตเทศบาล 26 จุด และใหบ๎ ริการติดตง้ั ทุก ชมุ ชน หนงั สือพิมพ์ท๎องถ่นิ ทม่ี กี ารบรกิ ารประชาสัมพันธใ์ นเขตเทศบาลตาํ บลทําไม๎ คือ ยอดแหลมนวิ ส์ มตกิ าญจน์ ทอ๎ งถิน่ กาญจน์ ขาํ วภูมิภาค ขาํ วอาชญากรรม การไฟฟาู การใหบ๎ รกิ ารไฟฟูาในเขตเทศบาลตําบลทําไม๎ นบั วาํ พอเพียงทง้ั ในปัจจบุ นั และอนาคต โดยมสี ถานท่ีทํา การไฟฟาู ตงั้ อยํูในบรเิ วณชมุ ชนใหบ๎ ริการไฟฟูากับประชาชนครอบคลุมพ้ืนท่ีเทศบาล และได๎ดําเนนิ การตดิ ต้งั ไฟฟูา สาธารณะแนวเขตถนนและแนวเลียบคลองชลประทานทกุ พน้ื ท่ี การประปา เทศบาลตําบลทําไม๎มปี ระปาเป็นของตนเอง และอีกสวํ นหน่งึ ไดร๎ บั บรกิ ารน้ําประปาจากการประปาสํวน ภูมิภาคเปน็ ผู๎ดําเนนิ การผลิตและจาํ ยนํ้าประปา 1.9 ดา๎ นการทํองเทีย่ ว การทํองเที่ยว ภายในตาํ บลทําไม๎ ไมํมีสถานที่ทอํ งเทีย่ ว แตํคนในชุมชนมักจะพักผอํ นหยํอนใจโดยการเข๎า วัด โดยมีวดั ในชมุ ชนจาํ นวน 2 วดั คือวัดกระตํายเตน๎ และวัดคร๎อพนนั 8. ด๎านแหลงํ เรยี นรูใ๎ นชมุ ชน ชื่อ ทต่ี งั้ ประเภท วดั กระตํายเตน๎ หมํู 2 บ๎านกระตํายเต๎น โบราณสถาน วดั คร๎อพนัน หมํู 7 บ๎านคร๎อพนัน โบราณสถาน วดั เมพํ ระเปน็ ท่พี ่ึงทําหวา๎ หมํู 4 บ๎านทาํ หวา๎ นาํ้ ดมื่ เพ่ือนสตรี หมํู 1 บ๎านลาดปลากราย สถานที่ ดอกไมป๎ ระดิษฐจ์ ากก๎านกล๎วย หมูํ 7 บา๎ นคร๎อพนัน สถานที่ การนวดแผนไทย หมํู 7 บา๎ นครอ๎ พนัน สถานท่ี สถานที่

9. ดา๎ นภมู ปิ ญั ญาทอ๎ งถนิ่ /ปราชญช์ าวบ๎าน ตําแหนํง สาขาวชิ า - เครอื่ งดนตรีไทย ลาํ ดับที่ ช่ือ - สุกล - นํา้ หมกั ชวี ภาพ 1 นายธนกร สนุ ทรวภิ าค - สมนุ ไพรไทย 2. นางจาํ เนยี ร เพยี งน้นั 3 นายพบิ ูลย์ นยิ มไทย 10. ดา๎ นภาคเี ครอื ขาํ ย ทีต่ ง้ั /ทีอ่ ยํู วดั ใหมํเจริญผล ตําบลทาํ เรอื ช่ือ ภาคเี ครอื ขาํ ย ม. 7 บ๎านคร๎อพนนั กศน.อาํ เภอทํามะกา ม. 2 บ๎านกระตํายเต๎น เทศบาลตําบลทาํ ไม๎ ม.1-10 โรงพยาบาลสงํ เสรมิ สุขภาพตําบล ตาํ บลทาํ เรอื ตะคร้าํ เอน ดอนชะเอม อโุ ลกสีห่ มื่น พระแทํน ผูน๎ าํ ชมุ ชน หนองลาน สนามแย๎ ยางมวํ ง ดอนขมน้ิ ทําเสา โคกตะบอง กศน.ตําบลจํานวน 16 ตาํ บล เขาสามสิบหาบ พงตกึ แสนตอ หวายเหนยี ว หมูํ 2 บา๎ นกระตาํ ยเต๎น วดั กระตาํ ยเต๎น หมํู 4 บา๎ นทาํ หวา๎ วดั แมพํ ระเป็นท่ีพึง่ ทาํ หวา๎ หมูํ 7 บ๎านคร๎อพนนั วดั คร๎อพนัน



ตาํ บลยางมวํ ง สภาพท่ัวไปและข๎อมลู พน้ื ฐาน 1. ดา๎ นกายภาพ 1.1 ทตี่ ง้ั ของหมบูํ า๎ นในเขตตาํ บลยางมวํ ง ประกอบดว๎ ย หมทํู ่ี 1 บ๎านห๎วยกระดาน หมทํู ่ี 2 บา๎ นยางมวํ ง หมูํท่ี 3 บ๎านหว๎ ยตะเคียน หมํูที่ 4 บ๎านห๎วยตะเคยี น หมทูํ ่ี 5 บา๎ นหนองกรด หมูทํ ี่ 6 บ๎านหนองโรง หมทํู ่ี 7 บ๎านหว๎ ยเจรญิ หมูํท่ี 7 บ๎านหว๎ ยรางพง หมทํู ่ี 9 บา๎ นไรํรวํ มเจรญิ แผนทต่ี าํ บลยางมวํ ง 1.2 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ภูมปิ ระเภทของตาํ บลยางมํวง มีลักษณะเป็นท่รี าบลุํม ต้ังอยูํทางภาคตะวนั ตก เปน็ พ้ืนท่ีสําหรับท่ีอยูํ อาศยั ประมาณ 40% เป็นพ้ืนท่ีสําหรบั การเกษตร 55 % และมีพ้ืนที่สวํ นอน่ื 5%

1.3 ลกั ษณะภมู อิ ากาศ ลักษณะอากาศมลี กั ษณะร๎อนช้ืน อากาศเปลยี่ นแปลงไปตามฤดู ซึง่ มี 3 ฤดู ดังนี้ ฤดูร๎อน เริ่มตัง้ แตํกลางเดอื นกุมภาพนั ธ์ไปจนถึงกลางเดอื นพฤษภาคม อากาศร๎อนและแห๎งแร๎ง แตํ บางครั้งอาจมีอากาศเย็น บ๎างครั้งเกิดพายุฝนฟูาคะนองและลมกระโชกแรงหรืออาจมีลูกเห็บตก อากาศร๎อน จะมี อุณหภมู ริ ะหวําง 35 – 40 องศาเซลเซียส รอ๎ นจัด มอี ณุ หภมู ิประมาณ 41 องศาเซลเซียสขึ้นไป ฤดูฝน เริ่มต้ังแตํกลางเดือนพฤษภาคม ฝนตกมากในชํวงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม แตํอาจเกิด “ชํวงฝนทิ้ง” ซ่ึงอาจนานประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หรือบางปีอาจเกิดข้ึนรุนแรงและมีฝนน๎อยนานนับเดือน ในเดือน กรกฎาคม แตใํ นเขตตาํ บลยางมํวงไมํเคยเกดิ อทุ กภัยรนุ แรง ฤดหู นาว เรมิ่ ตงั้ แตํกลางเดอื นตลุ าคมถึงกลางเดอื นกมุ ภาพันธ์ ในชํวงกลางเดือนตุลาคม นานราว 1- 2 สัปดาห์ เป็นชํวงเปล่ียนฤดูจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว อากาศแปรปรวนไมํแนํนอน อาจเร่ิมมีอากาศเย็นหรืออาจยังมี ฝนฟูาคะนอง อากาศหนาวอณุ หภมู ิตํ่าสดุ ประมาณ 25 องศา 1.4 ลกั ษณะของดนิ ลักษณะดินโดยทั่วไปเป็นดินรํวนปนทราย ประมาณ 75% ลักษณะดินในพ้ืนท่ีเป็นดินเหนียว ประมาณ 25 % 1.5 ลกั ษณะของแหลงํ นํา้ มแี หลํงน้าํ ที่ใช๎สาํ หรับ อปุ โภค-บรโิ ภค เปน็ แหลํงนํ้าทเี่ กดิ ขนึ้ ตามธรรมชาติและองค์การบริหารสํวน ตําบลยางมวํ งไดด๎ าํ เนินการปรับปรุงกอํ สรา๎ งขน้ึ ใหมเํ พื่อเพยี งพอกับการอุปโภคและบรโิ ภคของประชาชน 1.6 ลกั ษณะของไมแ๎ ละปาุ ไม๎ ในเขตตําบลยางมํวงไมํมีปาุ ไม๎ แตมํ ีตน๎ ไม๎ทชี่ าวบา๎ นปลกู ลักษณะของไม๎เปน็ ไม๎ยนื ต๎น ผลัดใบ 2. ด๎านการเมือง/การปกครอง 2.1 เขตการปกครอง ตําบลยางมํวง อําเภอทํามะกา มีระยะหํางจากอําเภอทํามะกาในพื้นที่สํวนท่ีใกล๎ท่ีสุด 10 กิโลเมตร และสวํ นท่ีไกลทสี่ ดุ 12 กิโลเมตร มอี าณาเขตติดตอํ ดงั นี้ ทศิ เหนือ เขตตดิ ตํอกับ ตาํ บลสนามแย๎ อาํ เภอทํามะกา จงั หวดั กาญจนบรุ ี ทิศใต๎ เขตตดิ ตํอกบั ตําบลดอนขม้ิน อาํ เภอทํามะกา จังหวัดกาญจนบรุ ี ทศิ ตะวันออก เขตติดตํอกบั ตําบลกรบั ใหญํ อําเภอบ๎านโปงุ จงั หวัดราชบุรี ทศิ ตะวนั ตก เขตตดิ ตํอกับ ตําบลทาํ ไม๎ อําเภอทํามะกา จงั หวดั กาญจนบรุ ี ตาํ บลยางมํวง ตง้ั อยทูํ ่ี หมูํ 6 ตาํ บลยางมํวง อําเภอทํามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีเนื้อท่ีท้ังหมด ประมาณ 12,031 ไรํ หรอื ประมาณ 19.25 ตารางกิโลเมตร 2.2 การเลอื กตงั้ ประชาชนผ๎มู ีสทิ ธเิ ลือกต้งั ในเขตองคก์ ารบริหารสวํ นตาํ บลยางมํวง สวํ นใหญรํ วํ มกจิ กรรมทางการ เมอื งเสมอมาและประชาชนในเขตองค์การบริหารสวํ นตํายลยงั มีสํวนรํวมในการบริหารงาน การชํวยเหลืองานองค์การบริหารสํวนตาํ บล เสนอแนะในกิจกรรมขององคก์ ารบริหารสํวนตําบลในการดําเนนิ งาน

ตาํ งๆ เชํน การประชุมประชาคมในการจัดแผนพัฒนาทอ๎ งถ่ิน ประชมุ ประชาคมแก๎ไขปัญหาความยากจน ฯลฯ จาํ นวนผู๎มสี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ (ขอ๎ มลู เดอื น มนี าคม พ.ศ. 2562) - จํานวนผมู๎ ีสิทธิเลือกตงั้ 5,122 คน 3. ประชากร 3.1 ขอ๎ มลู เกย่ี วกบั จาํ นวนประชากร จํานวนประชากรแยกเป็นรายหมูบํ า๎ น หมบํู า๎ น หมทํู ี่ ครวั เรอื น จาํ นวนประชากร รวม ชือ่ ผนู๎ าํ หมบํู า๎ น บา๎ นหว๎ ยกระดาน 1 283 ชาย หญงิ 1,095 นายแสวง ฟกั แก๎ว บา๎ นยางมวํ ง 2 152 529 566 498 นายโยธิน สุขศรี บา๎ นห๎วยตะเคียน 3 221 244 254 847 นายประยรู บรรณาการ บ๎านหว๎ ยตะเคียน 4 233 415 432 970 นายดําเนนิ เชดิ แสง บา๎ นหนองกรด 5 198 476 494 764 นายเรืองฤทธ์ิ เปรมศกั ด์ิ บ๎านหนองโรง 6 266 344 420 1,290 นายเสถียร โพธเิ์ ย็น บ๎านห๎วยเจรญิ 7 204 448 842 707 นายจักรพงศ์ บตุ ดาพวง บ๎านห๎วยรางพงษ์ 8 82 341 366 409 นายณัฐพล ทองร๎อยยศ บ๎านไรํรวํ มเจริญ 9 90 205 204 356 นายณรงค์ อึ้งจว๋ิ 173 183 6,936 รวม 1,729 3,175 3,761 4. สภาพทางสงั คม การศกึ ษา - ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ (อนบุ าล 3 ขวบ) 3 แหํง - โรงเรียนประถมศึกษา 3 แหํง - กศน.ตาํ บลยางมวํ ง 1 แหงํ สถาบนั และองค์กรทางศาสนา - วดั 2 แหงํ - ศาลเจ๎า 2 แหงํ สาธารณสขุ - โรงพยาบาลสงํ เสรมิ สขุ ภาพตําบล 1 แหงํ อัตราการมีและใชส๎ ว๎ มราดนํ้า จํานวน รอ๎ ยละ 100

ความปลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สนิ (อาชญากรรม และ ยาเสพติด) - ท่พี กั สายตรวจ 1 แหํง - ศูนยร์ กั ษาความปลอดภัยประจําทอ๎ งถ่ิน 1 ศนู ย์ - ศูนย์ อปพร. 1 ศูนย์ การสังคมสงเคราะห์ - จํายเบีย้ ยงั ชพี ให๎แกํผู๎สงู อายุ ผ๎ูพิการ และผ๎ูปุวย - โครงการสงํ เสรมิ และพฒั นาศักยภาพผูส๎ งู อายุ ผพู๎ ิการ 5. ระบบบรกิ ารพน้ื ฐาน การคมนาคม ตาํ บลยางมวํ ง มเี ขตพืน้ ทต่ี ิดตํอกับถนนทางหลวงแผํนดินสายทําไม๎ – ตะคร้าํ เอน เสน๎ ทางการ คมนาคมสวํ นใหญภํ ายในหมํูบา๎ นจะเปน็ ถนนลาดยางและถนนคอนกรีตเสริมเหลก็ สําหรบั เสน๎ ทางท่ีเป็นถนนผิวจราจร ลูกรังน้ันกอ็ ยํูในสภาพท่ีใช๎การได๎ดี เนื่องจากไดด๎ าํ เนินการดูแลและบํารุงรักษาทุกปี จงึ ทําใหส๎ ามารถใชเ๎ สน๎ ทางในเขต พ้นื ทีข่ ององค์การบรหิ ารสํวนตาํ บลยางมวํ ง สัญจรไปมากับตําบลใกลเ๎ คยี งได๎อยํางสะดวก การไฟฟูา ประชาชนในเขตพืน้ ท่ีองค์การบรหิ ารสํวนตาํ บลยางมํวงมไี ฟฟูาใชค๎ รบทุกครวั เรือน การประปา ประชาชนในเขตพื้นที่องค์การบรหิ ารสํวนตําบลยางมํวงมนี าํ้ ประปาใชค๎ รบทุกครวั เรือน โทรศพั ท์ - ต๎ู - ตโ๎ู ทรศัพท์สาธารณะ 1 แหงํ - อนิ เตอร์เน็ตประจําตาํ บล ไปรษณียห์ รอื การสอื่ สารหรอื การขนสํง และวสั ดุ ครภุ ณั ฑ์ ในพืน้ ท่ีไมํมีสํานกั งานไปรษณยี ์ 6. ระบบเศรษฐกจิ อาชีพ ประชากรที่อาศัยอยํูในเขตองค์การบริหารสํวนตําบล จํานวนร๎อยละ 70 ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เชํน ทํานา ทําไรํ ข๎าวโพดฝักอํอน หนํอไม๎ฝร่ัง อ๎อย เป็นต๎น และทําสวนผลไม๎ร๎อยละ 10 ประกอบ อาชีพอื่นๆ และร๎อยละ 20 ประกอบอาชีพรับจ๎างและรับจ๎างท่ัวไป เนื่องจากองค์การบริหารสํวนตําบลยางมํวง มพี น้ื ทใ่ี กล๎เคียงกบั โรงงานอตุ สาหกรรม หนวํ ยธุรกจิ ในองค์การบริหารสวํ นตําบลยางมํวง - แหํง - ธนาคาร - แหํง - โรงแรม - แหงํ - ปมั๊ น้าํ มนั และกา๏ ซ 2 แหงํ - โรงงานอตุ สาหกรรม(ขนาดเล็ก)

7. ศาสนา ประเพณี วฒั นธรรม 7.1 การนับถือศาสนา - ผู๎ทน่ี บั ถือศาสนาพุทธ ร๎อยละ 99 วัด 2 แหํง สํานกั สงฆ์ 1 แหํง - ผท๎ู นี่ บั ถือศาสนาคริตส์ ร๎อยละ 1 7.2 ประเพณแี ละงานประจาํ ป/ี สถานทที่ ํองเทยี่ ว - ประเพณวี นั ขน้ึ ปีใหมํ ประมาณเดอื น มกราคม - ประเพณีวนั สงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณลี อยกระทง ประมาณเดือน ตลุ าคม พฤศจกิ ายน - ประเพณีวนั เข๎าพรรษา ออกพรรษา ประมาณเดอื น กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจิกายน - รอยพระพทุ ธบาทจาํ ลอง 28 พระองค์(วดั หนองโรง) ประมาณเดอื น กุมภาพันธ์ 7.3 ภมู ปิ ญั ญาทอ๎ งถน่ิ ภาษาถ่ิน ภมู ปิ ัญญาท๎องถน่ิ วธิ ีการจับปลาธรรมชาติ การทาํ การเกษตร ภาษาถ่นิ สวํ นมากร๎อยละ ๙5 % พดู ภาษาภาคกลาง 7.4 สนิ คา๎ พนื้ เมืองและของทร่ี ะลกึ สนิ ค๎าโอท๏อป น้าํ พริกแมํจิ๋ม 7.5 แหลงํ เรียนรใ๎ู นชุมชน สินคา๎ โอทอ๏ ป นํ้าพริกแมจํ ิม๋ รอยพระพุทธบาทจําลอง 28 พระองค(์ วัดหนองโรง) 8. ทรพั ยากรธรรมชาติ 8.1 น้ํา ที่ใชํในการอุปโภค-บริโภค เป็นนํ้าที่ได๎จากนํ้าใต๎ดิน ซ่ึงจะต๎องนํามาผํานกระบวนการของระบบ ประปา จึงสามารถใชบ๎ ริโภคและอปุ โภคได๎ 8.2 ปาุ ไม๎ ในเขต อบต. ไมํมีปาุ ไม๎ 8.3 ภเู ขา ในเขต อบต. ไมมํ ีภูเขา 8.4 คุณภาพของทรพั ยากรธรรมชาติ ในพ้ืนท่ีของ ตําบลยางมํวง สํวนมากเป็นพื้นที่สําหรับเพาะปลูก ที่อยํูอาศัย ร๎านค๎า สถาน ประกอบการ ตามลําดับ และมีพื้นที่เพียงเล็กน๎อยที่เป็นพื้นท่ีสาธารณะ ทรัพยากรธรรมชาติในพ้ืนท่ี ก็ได๎แกํ ดิน น้ํา ตน๎ ไม๎ ได๎จัดโครงการปลูกต๎นไม๎ในวันสําคัญตํางๆ ในพื้นท่ีของตนเองและท่ีสาธารณะรวมทั้งปรับปรุงสภาพภูมิ ทศั นข์ องเมืองใหร๎ มํ รนื่ สวยงาม ให๎เป็นเมืองนาํ อยูํ เปน็ ท่พี ักผอํ นหยอํ นใจของประชาชน 9. ด๎านภาคีเครือขําย - องค์การบริหารสํวนตําบลยางมํวง - รพ.สต.ตาํ บลยางมวํ ง



ตาํ บลสนามแย๎ ขอ๎ มูลทว่ั ไปของตาํ บล สนามแย๎ ประวตั คิ วามเปน็ มาของตาํ บล ที่มาของช่ือตําบลสนามแย๎จากตํานานเลําขานกันวํา บริเวณท๎องทุํงได๎มีการทํานาท่ีเนินดิน เป็นลานกว๎างขวาง โดยรอบเนินดนิ เป็นบริเวณปาุ ไผํ และทแี่ หํงนั้นมีสัตว์เลื้อยคลานชนิดหน่ึงซ่ึงชาวบ๎านเรียกกันวํา “แย๎” มาอาศัยอยูํ เป็นจํานวนมาก ชาวบ๎านจึงเรียกวํา “สนามแย๎” จึงนําคําน้ีมาต้ังช่ือเป็นชื่อตําบลจนถึงปัจจุบัน โดยมี นายชุน รํุงเรอื งศกั ดิ์ เป็นกาํ นันตําบลสนามแยเ๎ ปน็ คนแรก ตาํ นานเรื่องเลาํ ในตาํ นานมเี ร่อื งเลําสบื ตอํ ๆ กันมาวํา บริเวณหมํูบ๎านท่ี 2 ของตําบลสนามแย๎มีเขาโทนลูกหน่ึงมีชื่อวํา ” เขาน๎อยดง” สมัยต๎นกรุงรัตนโกสินทร์บริเวณน้ีเป็นปุาดงดิบ มีสัตว์ปุาทุกชนิดชุกชุมมาก และเคยเป็นที่อยํูของ มนุษย์สมัยทาราวดี หลักฐานยืนยันได๎คือ ขุดพบวัตถุโบราณยุคกํอนประวัติศาสตร์ (อารยธรรมยุคหินใหมํ) เชํน มโหระทึก เครื่องสัมฤทธ์ิ ลูกปดั เคร่อื งปัน้ ดินเผา และเคร่อื งใชอ๎ ืน่ ๆ แตํไมํมีใครใหค๎ วามสนใจมากนักของที่ขุดพบ สํวนมากจะนําไปเป็นสมบัติสํวนตัวจนกระท่ัง พ.ศ 2519 เจ๎าอาวาสวัดเขาสะพายแร๎ง พระครูสมณธรรมนิวิฐ (หลวงพํอจํนุ ) พรอ๎ มด๎วยคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาหมบํู า๎ น ไดไ๎ ถดินเพื่อปรับท่ีดนิ บริเวณเชิงเขา ได๎พบหม๎อดิน ที่อยูํในสภาพดี และของท่ีชํารุดอีหลายอยํางเชํน ลูกปัด เคร่ืองสัมฤทธิ์ รวมทั้งกระดูกคนจํานวนหนึ่ง ศึกษานิเทศก์กรมสามัญศึกษาในขณะน้ัน (นายนิวิฐ ดวงสงค์) ได๎นําหม๎อดินเผา กระดูก และส่ิงของอื่น ๆ ท่ีขุด พบได๎ไปใหผ๎ เู๎ ช่ียวชาญกรมศิลปากรตรวจสอบ และได๎ให๎ความเห็นวําโบราณวัตถุที่ขุดพบเป็นวัตถุกํอนสมัยทวาราวดี แตํอยูํยุคหลังบ๎านเชียงและได๎นําวัตถุเหลํานี้ไปเก็บรักษาไว๎ ที่วิหารบนยอดเขาน๎อยกลางดง เมื่อโรงเรียนนิวิฐราฎร์ อุปถัมป์ ได๎สร๎างพิพิธภัณฑ์โรงเรียนข้ึน จึงได๎ขออนุญาตทํานเจ๎าอาวาส เพ่ือนําโบราณวัตถุตําง ๆ มาเก็บไว๎ให๎ นักเรียน และประชาชนได๎ศึกษา ชาวบ๎านได๎เลําประวัติความเป็นมาในสมัยท่ีพมํา (เมียนมํา) กับไทยทําสงครามใน ตอนตน๎ กรุงรตั นโกสนิ ทร์ นายทหารพมําคนหนง่ึ ถูกฝุายไทยฟันขาดสะพายแลงํ ทีเ่ ชิงเขาลูกหนี้ จึงเรียกภูเขาลูกน้ี เป็น อนสุ รณ์วาํ “เขาสะพายแลํง” ในสมัยตํอ ๆ มามีการถํายเสียงจากภาษาพูดของชาวไทยพื้นเมืองเชื้อสายเวียงจันทร์ ซ้ึงต้ังถ่ินฐานอยูํในละแวกนี้มาเป็นภาษาไทยกลางผิดพลาดไป เลยเพ้ียนเสียงจาก “เขาสะพายแลํง” มาเป็น “เขา สะพายแร๎ง” จนทุกวันน้ี สภาพพนื้ ที่ทวั่ ไป ท๎องถิ่นสนามแย๎ อยูํในเขตการปกครองขององค์การบริหารสํวนตําบลสนามแย๎ อําเภอทํามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีพ้ืนที่ประมาณ 1,636 ตารางกิโลเมตร เป็นท๎องถิ่นที่มีอาณาเขตติดตํอกับจังหวัดราชบุรี และจังหวัดนครปฐม จึงได๎ชอ่ื วาํ “เขตกันชน 3 จังหวัด” อาณาเขต กศน.ตาํ บลสนามแย๎ตั้งอยูํหาํ งจากทว่ี าํ การอําเภอทาํ มะกา ประมาณ 15.50 กโิ ลเมตร อาณาเขตตดิ ตอํ ทศิ เหนือ ตดิ ตอํ ตําบลดอนชะเอม อําเภอทํามะกา จงั หวดั กาญจนบุรี และ

ตําบลทงุํ ลูกนก อําเภอกาํ แพงแสน จงั หวดั นครปฐม ทิศตะวนั ออก ตดิ ตํอ ตาํ บลทงุํ ลูกนก อําเภอกาํ แพงแสน จังหวัดนครปฐม และ ตาํ บลกรบั ใหญํ อําเภอบา๎ นโปุง จังหวัดราชบรุ ี ทศิ ใต๎ ตดิ ตํอ ตาํ บลยางมวํ ง อําเภอทาํ มะกา และตําบลกรับใหญํ อาํ เภอ บา๎ นโปงุ จงั หวดั ราชบุรี ทิศตะวนั ตก ตดิ ตํอ ตําบลดอนชะเอม อําเภอทาํ มะกา จงั หวัดกาญจนบุรี และ ตาํ บลยางมวํ ง อําเภอทาํ มะกา จงั หวดั กาญจนบุรี ภมู ปิ ระเทศ สภาพภูมิประเทศของท๎องถ่ินสนามแย๎ ประกอบด๎วยพื้นท่ีหลายประเภท มีท้ังท่ีราบสูง ที่ราบลํุม และ ภูเขา พื้นท่ีสวํ นใหญํใช๎ในการเกษตรกรรม เชนํ ปลกู อ๎อย ทํานา ปลูกข๎าวโพดฝักอํอน และปลูกพชื ไรตํ าํ ง ๆ การปกครอง แบํงการปกครองออกเปน็ 7 หมูบํ า๎ น หมูํ 1 บา๎ นเดนํ หมูํ 2 บ๎านเขาสะพายแร๎ง หมูํ 3 บา๎ นทุํงขี้ววั หมํู 4 บา๎ นหนองปลาไหลเผือก หมูํ 5 บา๎ นออ๎ กระทุง หมูํ 6 บ๎านสนามแย๎ หมูํ 7 บ๎านสนามแย๎ แผนทต่ี าํ บลสนามแย๎

ประชากรตําบล......สนามแย.๎ ............... มปี ระชากรทัง้ ส้นิ 5.555 คน แยกเปน็ ชาย 2,741 คน และเปน็ หญงิ 2,814 คน มจี ํานวนครวั เรือน ท้งั ตําบลประมาณ 1,400 ครัวเรอื น แยกเปน็ หมูํบา๎ นไดด๎ ังน้ี จาํ นวนประชากรแยกเปน็ รายหมบํู า๎ น หมบํู า๎ น หมทูํ ่ี ครวั เรอื น จาํ นวนประชากร รวม ชือ่ ผน๎ู าํ หมบํู า๎ น ชาย หญงิ บ๎านเดนํ 1 241 470 485 955 นายอภชิ าต สายครา้ํ บา๎ นเขาสะพายแรง๎ 2 265 498 524 1,022 นายสมเกียรติ โรจนเ์ จรญิ ชยั บา๎ นทุํงขว้ี วั 3 145 324 309 633 นายสมหมาย บัณฑิตพรรณ บา๎ นห๎วยกระบอก 4 196 373 387 760 นายวันชยั ปักษาสวุ รรณ บ๎านออ๎ กระทงุ 5 160 302 307 609 นายปถัมภ์ รุํงเรือง บ๎านสนามแย๎ 6 183 290 328 618 นายวโิ รจน์ พฒุ ศรี บ๎านสนามแย๎ 7 210 484 474 958 นายสุกิจ สังคม๎ุ (ตํอประด)ูํ 1,217 2,741 2,814 5,555 รวม ข๎อมลู ดา๎ นการศกึ ษาของตาํ บล 1. โรงเรียนระดบั ประถม สังกัด สพฐ 2 จาํ นวน 2 แหงํ 2. โรงเรยี นระดับมธั ยม สังกัด สพม 8 จํานวน 1 แหํง 3. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก....................สงั กัด องค์การบรหิ ารสํวนตาํ บล จาํ นวน......2....แหํง 4. กศน.ตําบลสนามแย๎...................สังกดั กศน.อาํ เภอทํามะกา จํานวน.....1......แหงํ 5. ศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชน..........-.......สงั กัด.....................-......................จาํ นวน...-.........แหงํ ข๎อมูลด๎านการศึกษาของประชากร ประชากร จาํ นวน (คน) รวม ชาย หญงิ ลาํ ดบั การศึกษา 199 214 413 98 105 203 ๑ ผูไ๎ มรํ ๎หู นังสอื 139 179 318 2 อนุบาล/ศูนยเ์ ด็กเล็ก 1}248 1,272 2,520 3 ต่าํ กวาํ ประถมศึกษา 486 417 903 4 ประถมศึกษา 338 327 665 5 มัธยมศกึ ษาตอนตน๎ 80 60 140 6 มัธยมศึกษาตอนปลาย / ปวช. 7 อนปุ ริญญา / ปวส.

8 ปริญญาตรี 146 236 382 9 สูงกวาํ ปริญญาตรี 74 11 2,741 2,814 5,555 รวม ประชากรกลํมุ เปาู หมาย กลมุํ วยั เรยี น มปี ระชากรที่อยูํในกลํมุ วัยเรยี นการศกึ ษาภาคบงั คับ แตํอยํูนอกระบบโรงเรียน ชํวงอายุ 6 -14 ปี ในตําบลสนามแย๎ จาํ นวนท้งั หมด 590 คน ชาย 295 คน หญิง 295 คน แยกเป็นประชากรในแตลํ ะหมูบํ า๎ นดังตอํ ไปน้ี ลาํ ดับ หมบํู า๎ น ชาย หญิง รวม 1 บา๎ นเดนํ 55 54 110 2 บา๎ นเขาสะพายแรง๎ 34 31 69 3 บา๎ นทุํงขี้ววั 43 32 75 4 บ๎านไผํแถว 58 49 107 5 บ๎านอ๎อกระทุง 33 31 64 6 บ๎านสนามแย๎ 31 34 65 7 บา๎ นสนามแย(๎ ตํอประดูํ) 41 64 105 รวม 295 295 590 กลมํุ ประชากรวยั แรงงาน แบงํ เปน็ 2 กลมุํ ยํอย 1.ประชากรวยั แรงงาน ชํวงอายุ 15- 49 ปี มีประชากรวยั แรงงาน ในตาํ บล สนามแย๎ จํานวนทัง้ หมด 3,094 คน ชาย 1,569 คน หญิง3,094 คน แยกเป็นประชากรในแตลํ ะหมูบํ ๎านดงั ตํอไปน้ี ลาํ ดับ หมบํู า๎ น ชาย หญงิ รวม 1 บา๎ นเดํน 277 268 545 2 บ๎านเขาสะพายแร๎ง 310 284 594 3 บา๎ นทุํงข้ีวัว 182 175 357 4 บ๎านไผแํ ถว 195 211 406 5 บา๎ นออ๎ กระทุง 182 185 367 6 บ๎านสนามแย๎ 165 164 329 7 บา๎ นสนามแย๎(ตํอประดํู) 285 241 526 รวม 1,569 1,525 3,094

2.ประชากรวยั แรงงาน ชํวงอายุ 50-60ปี มปี ระชากรวยั แรงงาน ในตาํ บล สนามแย๎ จาํ นวนทัง้ หมด 794 คน ชาย 365 คน หญงิ 429 คน แยกเป็นประชากรในแตลํ ะหมูบํ ๎านดงั ตํอไปนี้ ลาํ ดับ หมบํู า๎ น ชาย หญิง รวม 118 1 บา๎ นเดนํ 53 65 169 88 2 บา๎ นเขาสะพายแร๎ง 75 94 120 74 3 บา๎ นทํงุ ขีว้ วั 50 38 94 131 4 บ๎านไผแํ ถว 51 69 794 5 บ๎านอ๎อกระทุง 34 40 6 บ๎านสนามแย๎ 36 58 7 บ๎านสนามแย(๎ ตํอประดูํ) 66 65 รวม 365 429 ประชากรกลํุมผส๎ู งู อายุ ไดแ๎ กํ คน หญิง 434 คน แยกเป็น 1.กลมุํ ผส๎ู งู อายุ ชวํ งอายุ 60 ปขี ้ึนไป มีผ๎ูสูงอายุในตําบลสนามแย๎ จํานวนทั้งหมด 784 คน ชาย 350 รวม 115 ประชากรในแตํละหมํูบา๎ นดงั ตอํ ไปนี้ 171 96 ลาํ ดบั หมบูํ า๎ น ชาย หญงิ 95 1 บ๎านเดํน 54 61 72 2 บ๎านเขาสะพายแร๎ง 68 103 95 3 บา๎ นทํุงขี้วัว 43 53 140 4 บ๎านไผแํ ถว 51 44 784 5 บ๎านอ๎อกระทงุ 37 35 6 บา๎ นสนามแย๎ 36 59 7 บ๎านสนามแย(๎ ตํอประดํู) 61 79 รวม 350 434 กลมุํ ผด๎ู ๎อยโอกาส เปน็ กลํมุ ที่มีโอกาสในการทีจ่ ะเข๎ารบั บริการทางการศึกษา รวํ มกิจกรรมการเรยี นร๎ดู อ๎ ยกวาํ คนปกติ ทว่ั ไป อันเนื่องจาก 1.ขอ๎ จํากัดทางราํ งกาย จิตใจ สติปญั ญาหรอื ความสามารถในการเรียนร๎ู 2.ข๎อจํากัดดา๎ นฐานะทางเศรษฐกจิ หรอื ความยากจน 3.ข๎อจํากัดด๎านการติดตํอส่ือสารอนั เน่อื งมาจากความตํางทางภาษา วัฒนธรรม มี 3 กลมํุ ยํอย ได๎แกํ

1.ผพู๎ กิ าร ในตําบล...สนามแย๎.... จํานวนทง้ั หมด ....86..คน ชาย....63.......คนหญิง ..23..... คน แยกเป็นประชากรในแตํละหมบูํ า๎ นดังตํอไปนี้ ลําดับ หมบูํ ๎าน ชาย หญิง รวม 1 บา๎ นเดํน 9 3 12 2 บา๎ นเขาสะพายแรง๎ 9 4 13 3 บา๎ นทํงุ ขว้ี ัว 11 3 14 4 บา๎ นไผแํ ถว 8 2 10 4 บ๎านออ๎ กระทงุ 9 2 11 6 บ๎านสนามแย๎ 11 4 15 7 บา๎ นสนามแย๎(ตํอ 6 5 11 ประด)ํู รวม 63 23 63 ภาษาท่ีใช๎ ภาษาที่ใช๎ สวํ นใหญใํ ช๎ภาษาไทย ด๎านโครงสร๎างพ้ืนฐาน 1. การคมนาคม ตําบลสนามแย๎ อําเภอทํามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นท่ีประมาณ 1,636 ตารางกิโลเมตร เป็น ท๎องถิ่นทีม่ อี าณาเขตตดิ ตอํ กับจังหวดั ราชบุรี และจงั หวดั นครปฐม จึงได๎ชื่อวํา “ เขต กัน ชน 3 จังหวัด” กศน. ตาํ บลสนามแย๎ ตั้งอยูํหาํ งจากทว่ี ําการอาํ เภอทาํ มะกา ประมาณ 15.50 กโิ ลเมตร สามารถเดินทางโดย ทางรถยนต์ มที างหลวงแผนํ ดินสายทาํ ไม๎ – ตะคร้ําเอน เปน็ เสน๎ ทางสายหลกั ตดั ฝุายเขตท๎องถิน่ สนามแย๎ บางสวํ น นอกจากน้ีถนนสายในหมูบํ า๎ นบางหมูํบ๎านเป็นถนนลกู รัง สวํ นถนนเชือ่ มตํอระหวํางหมูํบา๎ น เป็น ถนนลาดยางสํวนใหญํ 2. การโทรคมนาคม มีโทรศพั ท์สาธารณะไวบ๎ รกิ ารประชากร 8 แหํง ยังไมํมโี ทรศัพทป์ ระจําหมํบู า๎ นและยังไมํมีท่ีทาํ การไปรษณยี ์โทร เลข ตําบลสนามแย๎ขอรับบริการจากไปรษณีย์หว๎ ยกระบอก ตําบลกรับใหญํ อําเภอบา๎ นโปงุ จังหวัดราชบุรี 3. การไฟฟาู ตาํ บลสนามแย๎มมี ีทัง้ หมด 7 หมํบู ๎านไฟฟาู เข๎าถึงทุกหมํบู า๎ น ทุกครวั เรือน 7 หมูํบ๎าน มไี ฟฟาู ใช๎ครบทกุ ครวั เรอื น

4. การประปา ตําบลสนามแย๎มีทั้งหมด 7 หมูํบ๎านประปาของ อบต.สนามแย๎ ให๎บริการทั้ง 7 หมํูบ๎านมีนํ้าประปาใช๎ครบทุก ครัวเรือนโดยมที ัง้ ประปาให๎บริการทง้ั หมด 17 จุด เป็นแบบถังแชมเปญ ที่หมํู 1 จํานวน 4 จุด และหมูํ 2 จํานวน 3 จดุ หมูํ 3 จาํ นวน 2 จุด หมํู 4 จาํ นวน 2 จดุ หมูํ 5 จาํ นวน 2 จุด หมูํ 6 จํานวน 1 จุด หมูํ 7 จํานวน 3 จดุ ด๎านเศรษฐกิจ 1. โครงสร๎างทางเศรษฐกิจ ของทอ๎ งถิน่ ยังไมํมธี ุรกิจธนาคาร โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญํ มีเพยี ง โรงสีข๎าว และปัม๊ นํ้ามัน 1 แหํง และก๏าซ 1 แหงํ 2. การพาณิชและการบรกิ าร 1) สถานประกอบการด๎านพาณชิ ยกรรม - สถานบี ริการน้าํ มัน 3 แหํง - ตลาดนดั 2 แหงํ - รา๎ นคา๎ ปลกี และขายสํง 21 แหํง - โรงนม 5 แหํง 2) สถานประกอบการด๎านบรกิ าร - ร๎านตัดผม/เสริมสวย 1 แหํง - รา๎ นซอํ มเครอ่ื งยนต์/มอเตอร์ไซด์ 5 แหํง ด๎านสังคม 1. ศาสนา ท๎องถนิ่ สนามแย๎มีวัดพุทธศาสนา 2 วดั ได๎แกํ วัดเขาสะพายแร๎ง และวดั สนามแย๎ และมศี าลเจา๎ 2 แหํง คือ ศาลเจ๎าพํอปเุู ขาสะพายแรง๎ และศาลเจา๎ พอํ สินณรงค์ ไว๎ให๎พุทธศาสนกิ ชนได๎ไปทําบุญตกั บาตร ในวันสําคญั และ ประกอบกิจกรรมตามความเช่ือของครอบครัวเกษตรกรรมในท๎องถนิ่ ประชาชนนบั ถือศาสนาพุทธ 2. วฒั นธรรม /ประเพณี ตําบลสนามแยม๎ ีการสืบสานวฒั นธรรม/ประเพณี เชํน ลอยกระทง การทําบุญตกั บาตรในวนั พระและวันสําคัญตาํ งๆ ของศาสนาและประกอบกิจกรรมตาํ งๆที่ทางชมุ ชนได๎จัดขึ้นอยํางพร๎อมเพยี ง 3. การสาธารณสุข ตาํ บลสนามแย๎มโี รงพยาบาลสงํ เสริมสุขภาพตําบลสนามแย๎ของรฐั ประจาํ ตําบล 1 แหงํ ไว๎บรกิ ารประชาชนท่ี เจบ็ ปุวย เจ๎าหน๎าทแี่ ละ อสม. คอยแนะนาํ ให๎ความรท๎ู างด๎านสขุ ภาพอนามยั แกํผ๎ูทไี่ ปปรึกษา ประชาชนทุกครวั เรือน มีส๎วมราดน้าํ ใช๎ 100 % แสดงใหเ๎ ห็นวาํ ในตาํ บลสนามแย๎ มีความเจริญก๎าวหนา๎ ทางด๎านสาธารณะสขุ และการ บริหารงานทด่ี ีขององค์การบริหารสวํ นตาํ บลสนาม

ดา๎ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ๎ ม 1.ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ สภาพภูมิประเทศของท๎องถิ่นสนามแย๎ ประกอบด๎วยพ้ืนท่ีหลายประเภท มีทั้งท่ีราบสูง ที่ราบลํุม และภูเขา พ้นื ทีส่ ํวนใหญใํ ชใ๎ นการเกษตรกรรม เชนํ ปลูกอ๎อย ทํานา ปลูกข๎าวโพดฝกั อํอน และปลูกพชื ไรตํ ําง ๆ 2.แหลงํ นํา้ ตาํ บลสนามแยป๎ ระกอบดว๎ ยพนื้ ท่ีหลายประเภท มที ัง้ ทรี่ าบสูง ท่รี าบลุํม และภูเขามแี หลงนํ้าธรรมชาติ จํานวน 2 แหงํ คอื ลําหว๎ ยสนามแย๎ และ ลาํ หว๎ ยหนองปลาไหล ขอ๎ มลู ภมู ปิ ญั ญาทอ๎ งถนิ่ และปราชญช์ าวบา๎ น / แหลงํ เรยี นร๎ู ภมู ปิ ญั ญาท๎องถิน่ /ปราชญช์ าวบา๎ น ลาํ ดบั ท่ี ช่อื - สุกล ตําแหนํง สาขาวิชา 1 นางจติ ร แขํงขัน ภมู ปิ ัญญาท๎องถน่ิ นวดแผนไทย แหลงํ เรยี นรใู๎ นชมุ ชน ภาคเี ครือขําย 1. องค์การบริหารสํวนตําบลสนามแย๎ 2. โรงพยาบาลสงํ เสริมสุขภาพตําบลสนามแย๎ 3. วดั สนามแย๎ 4. วัดเขาสะพายแรง๎ เกยี รตยิ ศชอื่ เสยี ง/ผลงานดเี ดนํ /ความภาคภมู ิใจของ กศน.ตาํ บล ผเู๎ รียนอาชพี ระยะสั้น จาก กศน.ตําบลสนามแยส๎ ามารถนําความรู๎ทไ่ี ดร๎ ับไปประกอบอาชพี หลังจาก ท่ีเรยี นจบแล๎วจนมาเป็นสินค๎า OTOP ของตาํ บลสนามแย๎ (กลว๎ ยอบวงแหวน) ผลิตและจาํ หนํายโดยกลมํุ สตรีแปรรูป หมํู 2 ตาํ บลสนามแย๎ อ.ทํามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ปัญหาและความต๎องการทางการศึกษาของประชาชนทจี่ าํ แนกตามลักษณะของกลมํุ เปาู หมาย ดา๎ นการร๎หู นงั สือ ดา๎ นการศึกษาระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน (สายสามญั และ ปวช.) ดา๎ นอาชีพ ดา๎ นการ พัฒนาทกั ษะชีวติ ด๎านการพัฒนาสงั คมและชุมชน ด๎านปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดา๎ นการศึกษาตามอัธยาศัย



ตาํ บลเขาสามสบิ หาบ ประวตั คิ วามเปน็ มาของตําบลเขาสามสบิ หาบ มีประชาชนท่หี นจี ากเรอื ลม่ ไดอ้ พยพมาแลว้ แบกทองคามาถงึ พนื้ ทีแ่ หง่ หนงึ่ แล้วนบั หาบทองคาได้30 หาบจึงเรียกบ้าน นั้นวา่ เขาสามสบิ หาบจนถงึ ปจั จุบัน สภาพพน้ื ที่ทว่ั ไป พน้ื ทีส่ วํ นใหญเํ ปน็ ท่รี าบสงู และราบลํุม มภี เู ขาเต้ยี ๆ และมีคลองชลประทานผาํ นทุกหมูํบ๎านเหมาะแกกํ าร ทําการเกษตรทุกประเภท ตําบลอยูํหํางจากที่วําการอาํ เภอทํามะกาประมาณ 5 กิโลเมตร การตดิ ตอํ กบั พื้นที่อน่ื เป็นไปด๎วยความสะดวก มีถนนลาดยางเชื่อมทุกหมูํบ๎าน เกษตรกรสวํ นใหญปํ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม รองลงมาคือ ค๎าขาย อาณาเขต ทิศเหนือ ตดิ กับตาํ บลหวายเหนยี ว อาํ เภอทาํ มะกา จังหวัดกาญจนบุรี ทิศใต๎ จรดกับ อาํ เภอจอมบึง จงั หวัดราชบรุ ี ทิศตะวนั ออกจรดตําบลพงตึกอาํ เภอทาํ มะกาจังหวัดกาญจนบรุ ีและตาํ บลเขาสามสิบหาบ ทศิ ตะวนั ตก จรดตําบลแสนตอ อําเภอทาํ มะกา จงั หวดั กาญจนบรุ ี แผนทต่ี าํ บลเขาสามสบิ หาบ

1.3 การปกครอง ตาํ บลเขาสามสิบหาบตงั้ อยํูในเขตการปกครองของอาํ เภอทาํ มะกาประกอบดว๎ ย8หมูํบา๎ นคือ 1) หมํูที่ 1 บ้านหนองหนิ 2) หมูํที่ 2 บ้านเขาข่ีคราด 3) หมํทู ี่ 3 บ้านเขาสามสบิ หาบ 4) หมํูที่ 4 บา้ นเขาสามสบิ หาบ 5) หมํูที่ 5 บ้านหนองแหน 6) หมทํู ี่ 6 บ้านเขาชอ่ ง 7) หมํูที่ 7 บ้านเขากะอาง 8) หมทํู ี่ 8 บา้ นหนองเกวยี นหัก 1.4 ด๎านประชากร ประชากรตาบลเขาสามสบิ หาบ มีประชากรท้ังส้ิน 4,282คน แยกเป็นชาย 2,122 คน และเป็นหญิง 2,160 คน มีจํานวนครัวเรือนท้ัง ตําบลประมาณ 1,200 ครวั เรอื น แยกเปน็ หมํบู า๎ นไดด๎ งั น้ี จาํ นวนประชากรแยกเป็นรายหมูบํ า๎ น หมบูํ า๎ น หมทูํ ่ี ครวั เรอื น จาํ นวนประชากร รวม ช่อื ผนู๎ าํ หมบูํ า๎ น บา๎ นหนองหิน 1 202 ชาย หญงิ 687 นายวินยั สวัสดมิ์ งคล บา๎ นเขาพระ 2 100 321 316 340 นายจรูญ จนั ทรม์ า บ๎านเขาสามสิบหาบ 3 120 170 170 433 นายอดิศักด์ิ ฟักโต บ๎านเขาสามสิบหาบ 4 165 203 230 497 นายเรอื ง ละเภท บ๎านหนองพงษ์ 5 224 237 260 588 นายอทุ ัย มํวงน๎อย บา๎ นเขาชอํ ง 6 147 284 304 866 นายสมเกยี รติ จติ ประเสริฐ บ๎านเขากะอาง 7 95 436 430 361 นายบุญทิ้ง พมิ พา บ๎านหนองเกวียนหัก 8 147 193 168 560 นายวรวัช ศระรรมรงค์ 278 282 4,332 รวม 1,200 2,122 2,160 1.5 ด๎านการศึกษา 3 แหํง ได๎แกํ 1. โรงเรียนวัดเขาสามสบิ หาบ โรงเรยี นวดั เขาช่อง โรงเรยี นบ้านหนองหนิ โรงเรียนท่ามะกาปญุ สริ วิ ทิ ยา สังกดั ....สพฐ........จานวน....4...แห่ง 2. ศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเล็ก อบต.เขาสามสบิ หาบศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กวดั เขากะอาง...............สงั กัด อบต.... จานวน ....2....แหง่ 3. กศน.ตาบลเขาสามสิบหาบ........สังกัด....ศนจ.กจ. จานวน....1....แห่ง ศูนย์การเรยี นชุมชน............-..............สงั กัด......................-..............................จานวน......-......แห่ง

2. กศน.ตําบลเขาสามสบิ หาบ .สงั กัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาํ เภอทํามะกาจาํ นวน 1 แหงํ ตงั้ อยูหํ มูํท่ี 3 บ๎านเขาสามสิบหาบ ปัญหาและความต๎องการทางการศึกษาของประชาชนทจ่ี าํ แนกตามลกั ษณะของกลมํุ เปาู หมาย ดา๎ นการร๎หู นงั สือ ด๎านการศึกษาระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน (สายสามญั และ ปวช.) ด๎านอาชพี ด๎านการพัฒนาทกั ษะ ชวี ิต ดา๎ นการพัฒนาสงั คมและชมุ ชน ดา๎ นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดา๎ นการศึกษาตามอธั ยาศัย 1. ดา๎ นการศึกษาระดบั การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กลมุํ เปูาหมาย ประชากรวยั แรงงาน จํานวน 64 คน ปญั หาและอปุ สรรค ประชาชนขาดความตระหนกั และไมํคอํ ยให๎ความสนใจด๎านการศึกษาเรยี นรโ๎ุ ดยมีข๎ออ๎างในดา๎ น เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมีความจาํ เปน็ ฯลฯ ความต๎องการและแนวทางการดําเนนิ กจิ กรรม ปญั หาและความต๎องการทางการศึกษาของประชาชนทจ่ี าํ แนกตามลกั ษณะของกลมํุ เปาู หมาย ดา๎ นการรู๎หนงั สือ ด๎านการศึกษาระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน (สายสามัญ และ ปวช.) ดา๎ นอาชีพ ดา๎ นการพฒั นาทกั ษะ ชวี ติ ดา๎ นการพัฒนาสังคมและชมุ ชน ด๎านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ด๎านการศึกษาตามอัธยาศัย 1. ดา๎ นการศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กลมุํ เปูาหมาย ประชากรวัยแรงงาน จาํ นวน 64 คน ปญั หาและอปุ สรรค ประชาชนขาดความตระหนัก และไมํคํอยใหค๎ วามสนใจด๎านการศกึ ษาเรียนรโ๎ุ ดยมีข๎ออ๎างในด๎าน เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมคี วามจาํ เปน็ ฯลฯ ความต๎องการและแนวทางการดาํ เนนิ กจิ กรรม มีการประชาสัมพันธ์เพ่ือให๎ประชาชนตระหนักถึงความสําคัญของการจัดการศึกษาโดยการออก หนํวยประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ รับสมัครนักศึกษาครอบคลุมทุกพื้นที่ ซ่ึงในภาคเรียนท่ี2/2560 กศน.ตําบล เขา สามสิบหาบ มีนักศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 จํานวน 64 คนแบํงเป็น ระดับ ประถมศึกษา จาํ นวน- คน มัธยมศกึ ษาตอนต๎นจาํ นวน 27 คนและมยั ธมศกึ ษาตอนปลายจํานวน 37 คน 2. ดา๎ นการจดั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาอาชพี แบํงเปน็ 2.1 หลกั สตู รอาชีพระยะสน้ั (กลมํุ สนใจ 30 ชว่ั โมง) จาํ นวน 4 กลมุํ กลมุํ เปาู หมาย ประชากรผูท๎ ี่สนใจเข๎ารวํ มกจิ กรรม 8 คน / 1 กลมํุ 2.2 หลักสตู รพฒั นาอาชพี (50 ชวั่ โมง) จาํ นวน 2 กลมํุ ประชากรผูท๎ สี่ นใจเข๎ารํวมกจิ กรรม 13 คน / 1 กลุํม

ปัญหาและอปุ สรรค 1). มขี อ๎ จาํ กัดด๎านงบประมาณ ขาดแคลนสื่อ วสั ดุอุปกรณ์ สถานที่ทเี่ หมาะสมในการพฒั นากศน. ตาํ บลใหเ๎ ปน็ ศนู ยก์ ลางการให๎บรกิ ารการเรียนร๎ูอยาํ งมีคณุ ภาพแกํประชาชนในพ้นื ท่ี 2). ประชาชนขาดความตระหนัก และไมํคํอยใหค๎ วามสนใจดา๎ นการศึกษาเรียนร๎ุโดยมีข๎ออา๎ งในด๎าน เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมีความจาํ เป็น ฯลฯ ความต๎องการและแนวทางการดาํ เนนิ กจิ กรรม จดั สงํ เสริม และพัฒนาการจดั การศกึ ษาอาชีพ เพ่ือการพัฒนาความรู๎ ความสามารถ และทกั ษะใน การประกอบอาชพี ของบคุ คลและกลมํุ บุคคล เปน็ การแก๎ปัญหาการวํางงาน และสงํ เสรมิ ความเข็มแข็งให๎กบั เศรษฐกิจ ชมุ ชน โดยการจดั เวทีประชาคมเพ่ือสํารวจความต๎องการของประชาชนในพนื้ ท่ี และจดั อาชพี ตามความสนใจของ ประชาชน ซึ่งในงบประมาณน้ี ประชาชนในตําบลมคี วามสนใจในการเรยี นหลกั สูตรอาชพี ระยะส้ัน(กลุมํ สนใจ) วิชา ผลิตภณั ฑจ์ ากเชือกรมํ ผลิตภณั ฑผ์ ๎าควิลท์ และการผูกผ๎าในงานพิธตี ํางๆ หลักสตู รชาํ งพ้ืนฐาน วิชา ชํางเสริมสวย(ตดั ผมชาย) และชาํ งทําเล็บ 3. การจดั การศกึ ษาพฒั นาทักษะชวี ติ (2 กลมุํ ) กลมํุ เปูาหมาย นกั ศึกษากศน.และประชาชนท่วั ไป จาํ นวน 17 คน/1กลํุม ปญั หาและอปุ สรรค 1. ประชาชนขาดความตระหนกั และไมํคํอยให๎ความสนใจด๎านการศึกษาเรียนรู๎โดยมีขอ๎ อา๎ งในด๎าน เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมคี วามจาํ เปน็ ฯลฯ ความตอ๎ งการและแนวทางการดําเนนิ กจิ กรรม จดั สํงเสริม และสนบั สนุนการศกึ ษาในรปู แบบตําง ๆ ท่มี สี าระสอดคล๎องกับบริบทของชุมชน เพ่ือ พฒั นาทกั ษะพนื้ ฐานของบุคคลใหส๎ ามารถดํารงชีวติ อยูํในชุมชนได๎อยํางมีความสขุ โดยเนน๎ ทักษะชวี ิตพืน้ ฐานที่ จาํ เป็น 4 ดา๎ น คือ 1. ด๎านสุขภาพอนามยั และการปูองกนั โรคภัย ฯลฯ 2. ดา๎ นความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ นิ การบรรเทาและปูองกันสาธารณภัย และการรกั ษา ความสงบเรียบรอ๎ ยในชมุ ชน การจราจร ฯลฯ 3. ดา๎ นทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ๎ ม การอนรุ ักษ์ ทํานบุ ํารุง ฯลฯ 4. ด๎านคุณธรรม จริยธรรม คํานิยม และคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ในการจดั กจิ กรรมใช๎กระบวนการเรยี นร๎แู บบมสี ํวนรวํ ม ใหก๎ ลมุํ เปูาหมายไดฝ๎ ึกคดิ วเิ คราะห์ ปฏิบัติ และการแก๎ปญั หา เพอ่ื ใหส๎ ามารถพฒั นาทกั ษะชวี ติ ของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสงั คม โดย จัดในรูปแบบกลํมุ สนใจ เขา๎ คําย การอบรมประชาชน และการจัดกิจกรรมชุมชน 4. ด๎านการจดั การศึกษาเพอื่ พฒั นาสงั คมและชมุ ชน (2 กลมุํ ) กลมํุ เปาู หมาย นกั ศกึ ษากศน.และประชาชนทว่ั ไป จํานวน 25 คน/1กลํุม

ปัญหาและอปุ สรรค 1). มขี ๎อจํากัดดา๎ นงบประมาณ ขาดแคลนสื่อ วัสดอุ ปุ กรณ์ สถานที่ทเี่ หมาะสมในการสรา๎ ง กระบวนการเรยี นร๎ูท่เี หมาะสมกบั สภาพชุมชน ทอ๎ งถ่ินและการใหบ๎ ริการการเรียนรอ๎ู ยาํ งมีคณุ ภาพแกํประชาชน 2). ประชาชนขาดความตระหนัก และไมคํ ํอยให๎ความสนใจด๎านการศึกษาเรยี นร๎ูโดยมีขอ๎ อ๎างในดา๎ น เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมีความจาํ เป็น ฯลฯ ความต๎องการและแนวทางการดาํ เนนิ กจิ กรรม สงํ เสรมิ การมีสวํ นรวํ มในการพฒั นาสงั คมโดยใช๎ชมุ ชนเปน็ ฐาน โดยให๎ประชาชน ชุมชนรวํ มกนั รับผิดชอบและเหน็ ถึงความสําคัญในการฟืน้ ฟูพฒั นาสงั คมและชมุ ชนของตนเอง เพื่อสงํ เสริมให๎ประชาชนเกิดการ เรยี นร๎ู บรู ณาการความรู๎ ประสบการณ์ และทักษะอาชพี เขา๎ มาใชใ๎ ห๎เกิดประโยชน์ตํอการพฒั นาสงั คมและชุมชน โดยรวม ทําใหเ๎ กิดสังคมแหํงการเรยี นร๎ู นาํ ไปสูํสังคมที่เข๎มแข็ง มคี วามเอื้ออาทรตอํ กนั และพึ่งพาตนเองได๎อยาํ ง ยั่งยนื 5. ด๎านการจดั การศึกษาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 กลุมํ ) กลมํุ เปูาหมาย นกั ศกึ ษากศน.และประชาชนท่ัวไป จาํ นวน 13 คน/1กลุมํ ปญั หาและอปุ สรรค 1. มขี อ๎ จํากดั ดา๎ นงบประมาณ ขาดแคลนส่ือ วัสดอุ ปุ กรณ์ สถานท่ีทเี่ หมาะสมในการสรา๎ ง กระบวนการเรียนร๎ูทีเ่ หมาะสมกับสภาพชุมชน ทอ๎ งถนิ่ และการให๎บริการการเรียนร๎ูอยํางมีคุณภาพแกํประชาชน 2. ประชาชนขาดความตระหนัก และไมคํ ํอยให๎ความสนใจด๎านการศึกษาเรยี นร๎โู ดยมีขอ๎ อ๎างในด๎าน เวลา การประกอบอาชีพ ไมํมคี วามจาํ เปน็ ฯลฯ 3. การรบั เอาวฒั นธรรมด๎านวตั ถนุ ยิ มมาใชใ๎ นการดาํ เนนิ ชีวิต เนอ่ื งจากสื่อท่ีหลากหลาย รวดเร็ว เป็นอุปสรรคสําคัญในการสรา๎ งความตระหนักในการนอ๎ มนาํ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชโ๎ ดยเฉพาะในกลุํมเยาวชน ความตอ๎ งการและแนวทางการดาํ เนนิ กจิ กรรม 1. พัฒนาบุคลากร กศน. ให๎มีความร๎ู ความเข๎าใจ และมีเจตคติเกย่ี วกับการดาํ เนนิ การ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพยี งสํูชุมชน และสามารถนาํ สกํู ารปฏิบัติไดอ๎ ยาํ งเปน็ รูปธรรม 2.บรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในกิจกรรมการเรยี นรู๎ทุกหลกั สูตร กศน.ท้งั หลักสูตรการศึกษา ขนั้ พืน้ ฐาน บรู ณาการในหลกั สตู รวิชาชีพ ทกั ษะชีวติ 3. จดั กิจกรรมการเรยี นรตู๎ ามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียง ด๎วยรูปแบบการเรยี นที่หลากหลาย เชนํ เรียนร๎ูจากภมู ิปัญญา ปราชญ์ ศกึ ษาตามโครงการพระราชดํารทิ ่ใี หม๎ ีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู๎ จนสามารถนาํ สํูการปฏิบัติ ในชวี ติ ประจําวนั 6. ด๎านการศึกษาตามอธั ยาศยั กลมํุ เปูาหมาย นกั ศกึ ษากศน.และประชาชนทวั่ ไป จํานวน 300 คน ปญั หาและอปุ สรรค การจดั กจิ กรรมในพื้นที่ยังมีน๎อยเกินไป ทาํ ให๎ประชาชนยงั ไมํได๎รบั การบริการดา๎ นการศึกษาตาม อธั ยาศยั ที่ทวั่ ถงึ

ความตอ๎ งการและแนวทางการดําเนนิ กจิ กรรม การจดั การศึกษาตามอธั ยาศัยไมํมรี ูปแบบการศึกษา หรือการเรยี นร๎ทู ตี่ ายตวั ไมํมหี ลักสตู รเป็น ตัวกําหนดกรอบกิจกรรม หรอื ขอบขํายสาระการเรียนรู๎ การเรียนรูข๎ น้ึ อยํกู บั ความต๎องการ และแรงจูงใจใฝุร๎ูของแตํละ บคุ คล อยาํ งไรก็ดี เราสามารถจดั กจิ กรรม เพื่อเสริมใหเ๎ กิดการเรียนร๎ตู ามอัธยาศยั ได๎ ดังนี้ 1.จัดกจิ กรรมในแหลํงการเรียนรปู๎ ระเภทตํางๆ เชํนหอ๎ งสมุดประชาชน การเรยี นรู๎ดว๎ ยระบบ คอมพวิ เตอร์ออนไลน์ การจัดกิจกรรมการเรียนร๎จู ากภูมิปัญญาชาวบ๎าน การจัดกลํมุ เสวนา หรอื การอภปิ ราย กิจกรรม ทางศาสนาและวัฒนธรรม กิจกรรมสํงเสริมการอาํ น การเผยแพรขํ ําวสารข๎อมูล และความร๎ตู ํางๆ ฯลฯ 2.สํงเสริมสนับสนนุ และพัฒนาการจดั การศกึ ษาตามอัธยาศยั สํงเสริมกิจกรรมบ๎านหนังสอื อจั ฉรยิ ะ สชํู มุ ชน เปน็ ตน๎ ข๎อมลู ดา๎ นการศกึ ษาของประชากร ลาดับ การศกึ ษา ประชากร จานวน (คน) รวม 1 ผไู๎ มํร๎ูหนังสอื 3 ชาย หญงิ 12 2 ตํา่ กวําประถมศึกษา 108 94 202 3 ประถมศึกษา 957 989 1.946 4 มัธยมศึกษาตอนตน๎ 372 317 689 5 มัธยมศึกษาตอนปลาย / ปวช. 204 175 379 6 อนปุ รญิ ญา / ปวส. 77 70 147 7 ปรญิ ญาตรี 124 169 293 8 สงู กวําปริญญาตรี 7 7 14 รวม 2,122 2,160 4,282 3. การสาธารณสขุ ประชาชนในตาํ บลเขาสามสิบหาบมีการตรวจสขุ ภาพทุกปีจากโรงพยาบาลสงํ เสริมสุขภาพตําบลบ๎านเขาชํองตาํ บลเขา สามสบิ หาบจงึ ได๎มีสุขภาพดีกันถว๎ นหนา๎ 1.7 ศาสนา ประชาชนในตาํ บลเขาสามสิบหาบร๎อยละ 99.77 นับถอื ศาสนาพทุ ธ ศาสนาครสิ ตร์ อ๎ ยละ 0.16 ศาสนาอิสลามร๎อยละ 0.07 วฒั นธรรม /ประเพณี เทศกาลประเพณี ไดแ๎ กํ ในเขตพ้ืนท่ีตาํ บลเขาสามสิบหาบ มีประเพณีท๎องถิ่นที่สาํ คัญซึ่งเทศบาลตาํ บลรับผิดชอบดําเนนิ การ จํานวน 3 งาน ดังนี้ 1. ประเพณวี ันขึ้นปีใหมํ ตาํ บลเขาสามสิบหาบรํวมกบั วดั เขาสามสิบหาบ ได๎ประชาสมั พันธ์เชญิ ชวน ประชาชนมารํวมทาํ บุญตักบาตร อาหารแหง๎ ณ วัดเขาสามสิบหาบ ในเชา๎ วันที่ 1 มกราคม ของทกุ ปี

2. งานประเพณีสงกรานต์ ตําบลเขาสามสบิ หาบ ได๎จัดพธิ ีรดนา้ํ ขอพรผู๎ใหญํในชวํ งวนั ที่ 13 – 14 เมษายน ของทกุ ปี 3. งานประเพณีแหเํ ทยี นเข๎าพรรษาตาํ บล จัดการแหเํ ทียนไปวัดเขาชํองชํวงวนั เขา๎ พรรษา ของทุกปี ด๎านเศรษฐกจิ /อาชพี 1. การเกษตรกรรม สภาพทางเศรษฐกจิ ทวั่ ไปของตาํ บลเขาสามสบิ หาบ อาชีพหลักของประชากรในตาํ บล คือ การทาํ นาขา๎ ว การทาํ สวนผลไม๎ การเลี้ยงสตั ว์ รบั จา๎ ง การคา๎ ขาย พนักงานของรัฐ มีรายไดโ๎ ดยเฉลยี่ ประมาณปีละ 60,000 บาท/ครวั เรอื น การผลิตที่สําคัญของตาํ บล 1.การประกอบอาชพี เกษตรกรรม - การกสิกรรม ได๎แกํ การทํานา การเพาะปลกู เป็นตน๎ - การปศสุ ัตว์ ไดแ๎ กํ โค สุกร ไกํ เป็นตน๎ - การประมง ได๎แกํ การเพาะเลย้ี งปลา กงุ๎ กบ เป็นต๎น 2. การประกอบอตุ สาหกรรม จะมีความสัมพนั ธก์ บั การผลิตทางการเกษตรในตําบล หมทูํ ี่ บา๎ น พ้ืนที่ทง้ั หมด พื้นทที่ าํ การเกษตร ร๎อยละของ (ไรํ) (ไร)ํ พน้ื ทีท่ งั้ หมด 1 บ๎านหนองหิน 1,908 1,030 2 บา๎ นเขาขี่คราด 952 531 53.98 3 บา๎ นเขาสามสิบหาบ 1,572 1,510 55.78 4 บา๎ นเขาสามสบิ หาบ 2,328 1,609 96.06 5 บา๎ นหนองพงษ์ 2,896 2,736 69.12 6 บา๎ นเขาชอํ ง 2,264 1,595 94.48 7 บา๎ นเขากะอางค์ 1,244 625 70.45 8 บา๎ นหนองเกวยี นหัก 2,211 1,244 50.24 56.26 รวม 10,880 70.76

2. พนื้ ท่ีเพาะปลกู ของตาํ บลเขาสามสบิ หาบ อําเภอทาํ มะกา จงั หวัดกาญจนบรุ ี หมทูํ ี่ ขา๎ ว พชื ไรํ พชื ผกั ไมด๎ อก/ ไมผ๎ ล/ พืชอนื่ ๆ รวมพน้ื ที่ ไร/ํ (รอ๎ ยละ) ทง้ั หมด ไร/ํ (ร๎อยละ) ไมป๎ ระดบั ไมย๎ นื ตน๎ 1,030 10 (100%) 1 992 - 10 - 18 (0.97%) 531 (100%) (96.31%) (0.97%) (1.75%) 6 1,510 (1.13%) (100%) 2 525 - - - - 1,609 5 (100%) (98.87%) (0.33%) 2,736 (100%) 3 1,481 - - - 24 14 1,595 (0.87%) (100%) (98.08%) (1.59%) 625 24 (100%) 4 1,463 - 25 47 60 (0.88%) 1,244 (100%) (90.93%) (1.55%) (2.92%) (3.73%) 5 10,880 (0.31%) (100%) 5 2,502 20 - - 190 15 (91.45%) (0.73%) (6.94%) (2.40%) 6 1,400 130 - - 60 11 (0.88%) (87.77%) (8.15%) (3.76%) 90 7 578 - 12 - 20 (0.83%) (92.48%) (1.92%) (3.20%) 8 965 58 60 - 150 (77.57%) (4.66%) (4.82%) (12.06%) รวม 9,906 208 60 47 522 (91.05%) (1.91%) (0.98%) (0.43% (4.80%) 3. การปศสุ ตั ว์ หมทํู ี่ ดา๎ นปศสุ ัตว์ หมาย โคเนอ้ื เหตุ (ตัว/ราย) โคนม กระบอื สุกร สตั วป์ ีก เปด็ (ตวั /ราย) (ตวั /ราย) 1 283/21 (ตวั /ราย) (ตัว/ราย) (ตัว/ราย) 1,388/17 48/2 2 469/28 1,930/25 42/3 3 333/33 -- 231/10 1,752/40 137/15 4 1,083/23 1,411/26 100/2 5 452/25 56/1 - 135/9 1,599/23 107/7 6 384/28 1,522/26 140/14 7 129/15 22/1 4 165/17 1,929/28 61/5 8 117/13 1,462/21 13/4 รวม 3,250/186 -- 170/13 12,993/206 348/52 -- 38/3 -8 78/6 -- 98/18 -- 65/4 78/2 12 980/80

4. การประมง หมทูํ ่ี ด๎านประมง หมายเหตุ ปลากนิ พชื /ปลากนิ เน้ือ อืน่ ๆ (ราย/ไร)ํ (บํอ/ไร)ํ 1 7/12.25 - 2 12/12.25 - 3 6/6 - 4 19/87 - 5 15/35 - 6 3/2.5 - 7 5/3.75 - 8 2/8 - รวม 69/16/.75 - 1.8 ด๎านการคมนาคม ด๎านโครงสรา๎ งพื้นฐาน ๑. การคมนาคม มเี ส๎นทางสะดวกเขา๎ ถึงทกุ พืน้ ท่ี ๒. การโทรคมนาคม มสี ัญญานโทรศัพทเ์ ขา๎ ถึงทุกเครือขําย ๓. การไฟฟาู มีไฟฟาู เข๎าถึงทุกหมบํู า๎ น ๔. การประปา มีประปาเขา๎ ถึงทุกหมบํู ๎าน การไฟฟาู 1) มไี ฟฟูาเข๎าถึงทั้ง 8 หมบํู า๎ น ประชากรทุกครัวเรือนมไี ฟฟูาใช๎ทุกหลัง 2) ไฟฟาู สาธารณะยังมีไมเํ พยี งพอกับเขตพน้ื ท่ี การประปา หมบํู า๎ นท่ีใชป๎ ระปาเขตพน้ื ทตี่ ําบลโคกตาํ บลเขาสามสิบหาบ มีครบ 8 หมูํบ๎าน จาํ นวนประชากรทใ่ี ช๎ไฟฟาู ประมาณ 923 ครวั เรือน 1.9 ดา๎ นการทํองเทยี่ ว วดั เขาสงู แจมํ ฟูา วัดเขาสงู แจมํ ฟูา ต.เขาสามสิบหาบ อ.ทาํ มะกา จ.กาญจนบุรี สถานทีท่ อํ งเทยี วศาสนา อีกแหงํ หน่ึง ในจังหวัดกาญจนบรุ ี เงยี บสงบเหมาะแกํการมาทํองเท่ียว หรอื ปฎบิ ตั ธิ รรม มีกฎุ ริ ับรองพรอ๎ มห๎องน้ํา

1.11 ด๎านภมู ปิ ญั ญาท๎องถิ่น/ปราชญ์ชาวบ๎าน ลําดบั ช่อื ปราชญ์ชาวบ๎าน หมายเลข บ๎าน หมํู บ๎าน ตาํ บล อําเภอ จังหวัด ความร๎ู/ ที่ โทรศพั ท์ เลขที่ ท่ี ความสามารถ ปราชญ์ ชาวบา๎ น 1 นางละเมยี ด สจุ ริต 084- 59 4 บ๎านเขา เขา ทํามะกา กาญจนบรุ ี เกษตรผสมผสาน/ 3173955 สามสิบ สามสิบ การทาํ ป๋ยุ หาบ หาบ 2 นายจรูญ จนั ทรม์ า 084- 49 2 เขาพระ เขา ทํามะกา กาญจนบรุ ี เกษตรกรรม/การ 8211006 สามสิบ เล้ยี งวัวลาน หาบ 3 นายอทุ ยั มวํ งนอ๎ ย 083- 43 5 บ๎านหนอง เขา ทาํ มะกา กาญจนบรุ ี เกษตรกรรม/ไรํนา 3122452 พงษ์ สามสบิ หาบ 4 นางเตอื น คล๎ายทอง 061- 50 4 บ๎านเขา เขา ทาํ มะกา กาญจนบุรี หตั ถกรรมจักสาน 4745559 สามสบิ สามสบิ หาบ หาบ ลาํ ดับ ชอ่ื ปราชญ์ชาวบา๎ น หมายเลข บ๎าน หมูํ บ๎าน ตาํ บล อาํ เภอ จังหวัด ความร/ู๎ ท่ี โทรศพั ท์ เลขท่ี ท่ี ความสามารถ ปราชญ์ ชาวบา๎ น 5 นางสํารวย รักสาย 089- 52 4 บ๎านเขา เขา ทาํ มะกา กาญจนบุรี แปรรูปต๎นหมามยุ๎ 9156587 สามสิบ สามสบิ หาบ หาบ 6 นางสาวอรชร อํอนนิ่ม 087- 137 4 บ๎านเขา เขา ทํามะกา กาญจนบรุ ี แปรรปู ผลผลติ 1520438 สามสิบ สามสบิ ทางการเกษตร หาบ หาบ 1.12 ดา๎ นภาคเี ครือขาํ ย 1. องคก์ ารบริหารสวํ นตาํ บลเขาสามสิบหาบ 2. โรงพยาบาลสํงเสริมสุขภาพตําบลบา๎ นเขาชํอง 3. วัดเขาสงู แจมํ ฟูา 4. วดั เขาสามสบิ หาบ 5. โรงเรียนวดั เขาสามสิบหาบ 6. โรงเรียนทาํ มะกาปุญสริ ิวทิ ยา 7. โรงเรียนบา๎ นหนองหิน 8. กาํ นนั -ผูใ๎ หญบํ า๎ นตําบลเขาสามสบิ หาบ 9. อสม.ตําบลเขาสามสบิ หาบ 10.วดั เขากะอางค์















สรุปข้อมูลภูมิปัญญา ตาบลท่าไม้ อาเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบรุ ี ลาดับ ชื่อ – สกลุ ภมู ิปัญญา ด้านความ อายุ ทอี่ ยู่ ที่ ประเภทดา้ น 1 นายธนกร สนุ ทรวิภาต ศิลปพน้ื บ้าน ชานาญ (ปี) 2 นางจาเนยี ร เพียงนน้ั การเล่นดนตรี 78 1/16 ม.6 บา้ นทา่ ไม้ ต.ทา่ ไม้ ไทย เกษตรกรรม การทาน้าหมัก 60 71/1 ม.2 บ้านกระต่ายเตน้ ต.ท่าไม้ ชวี ภาพ รวม 2 คน สรุปขอ้ มลู ภมู ิปญั ญา ตาบลยางมว่ ง อาเภอทา่ มะกา จงั หวัดกาญจนบรุ ี ลาดับ ชอ่ื – สกลุ ภูมิปัญญา ดา้ นความ อายุ ทอี่ ยู่ ที่ ประเภทด้าน ชานาญ (ป)ี 58 18/4 ม.3 บา้ นห้วยตะเคียน ต.ยา่ งม่วง 1 นางสุชนิ ชื่นแสง อาหาร การทา 68 25/2 ม.3 บ้านห้วยตะเคียน ต.ยางม่วง นา้ พริกเผา 53 18/1 ม.7 บ้านห้วยเจริญ ต.ยางมว่ ง 37 33/1 ม.8 บ้านห้วยรางพง ต.ยางมว่ ง สตู รต่างๆ 57 37/2 ม.6 บ้านหนองโรง ต.ยางมว่ ง 2 นายวิชาญ สขุ พันธ์ เศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกิจ พอเพยี ง 3 นายบุญธรรม บุตดาพวง เกษตรกรรม การเลี้ยงววั นม 4 นายณัฐพล ทองร้อยยศ เกษตรกรรม การปลกู ขา้ วโพดฟัก ออ่ น/ หนอ่ ไมฝ้ รงั่ 5 นางจาปี คุดกญั ญา อาหาร การแปรรูป กลว้ ย รวม 5 คน

สรุปข้อมูลภมู ปิ ัญญา ตาบลสนามแย้ อาเภอท่ามะกา จังหวดั กาญจนบรุ ี ลาดับ ชือ่ – สกลุ ภมู ิปัญญา ด้านความ อายุ ท่ีอยู่ ท่ี ประเภทด้าน ชานาญ (ป)ี 1 นางสาคร ย๋องเกย๊ี ด นวดแผนไทย การนวดคลาย 61 1 ม.1 บ้านเด่น ต.สนามแย้ 2 นางพวงทอง อนิ ตุ่น เสน้ 3 นางระเบยี บ พลู เดช เกษตรกร การทาอาหาร 48 24 ม.2 บา้ นเขาสะพายแร้ง ต.สนามแย้ สตั ว์ (โคนม) เกษตรกร การทาฟารม์ 57 25/1 ม.4 บา้ นหนองปลาไหลเผอื ก โคนม ต.สนามแย้ รวม 3 คน สรปุ ข้อมูลภูมปิ ัญญา ตาบลเขาสามสิบหาบ อาเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ลาดับ ชอ่ื – สกลุ ภมู ปิ ญั ญา ดา้ นความ อายุ ทอ่ี ยู่ ที่ ประเภทด้าน ชานาญ (ปี) 1 นางละเมยี ด สจุ รติ เศรษฐกจิ พอเพยี ง การทาปยุ๋ 45 59 ม.4 บ้านเขาสามสิบหาบ หมกั ชีวภาพ ต.เขาสามสบิ หาบ รวม 1 คน

แบบสำรวจขอ้ มลู ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น/ปรำชญ์ชำวบำ้ น กศน.ตำบลท่ำไม้ กศน.อำเภอทำ่ มะกำ สังกดั สำนกั งำน กศน.จงั หวดั กำญจนบุรี ประเภทด้ำน..............ศลิ ปพน้ื บ้ำน......................... *********************** 1. ภมู ิปัญญำ/ปรำชญ์ชำวบ้ำน ช่ือ ............นายธนกร................... สกุล ...............สนุ ทรวิภาต........................ อายุ ........78......... ปี ทีอ่ ยู่ปจั จบุ ัน (ทส่ี ามารถตดิ ต่อได้) บ้านเลขท่ี .........1/16........... บา้ น ..........ท่าไม.้ ..... หม่ทู ี่ ........6........... ตาบล .......ทา่ ไม้........ อาเภอ …...ทา่ มะกา........ จงั หวัด ……….กาญจนบุร.ี ...... รหัสไปรษณีย์ ............71120.................. เบอร์โทรศัพท์ ......... 034-542491...................... E–mail ............-................................................................................................................ 2. ควำมชำนำญ/หลกั สตู รด้ำน ..........การเลน่ ดนตรไี ทย และการทาเครื่องดนตรีไทย……………………………………………......... 3. ผลงำน/รำงวัลเกยี รติยศ ..........สอนใหน้ ักเรยี นในโรงเรียนรู้จักการใชเ้ ครื่องดนตรีไทย และการซ่อมแซมดูแลรักษาเคร่ืองดนตรไี ทย..... 4. ภำพกจิ กรรมประกอบ เก็บข้อมลู เม่ือวันที่...8 พฤศจิกายน 2564 ผรู้ ายงาน........นางสาวชนญั ชดิ า ทองเมือง.... ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบลทา่ ไม้………………. โทรศพั ท.์ ...064-9925358………………

แบบสำรวจขอ้ มูลภมู ิปญั ญำทอ้ งถนิ่ /ปรำชญช์ ำวบ้ำน กศน.ตำบลทำ่ ไม้ กศน.อำเภอทำ่ มะกำ สงั กดั สำนกั งำน กศน.จังหวัดกำญจนบรุ ี ประเภทดำ้ น......เกษตรกรรม................... *********************** 1. ภูมปิ ัญญำ/ปรำชญ์ชำวบ้ำน ช่อื ............นางจาเนียร................... สกลุ ...............เพยี งนนั้ ......... อายุ .......60......... ปี ทีอ่ ยปู่ ัจจุบนั (ทส่ี ามารถตดิ ต่อได้) บ้านเลขที่ .........71/1........... บา้ น .........กระต่ายเตน้ ...... หม่ทู ี่ ........ 2........... ตาบล .......ทา่ ไม.้ ....... อาเภอ …...ทา่ มะกา........ จังหวดั ……….กาญจนบรุ .ี ...... รหสั ไปรษณยี ์ ............71120.................. เบอรโ์ ทรศัพท์ ......... 081-7637388...................... E–mail ............-................................................................................................................ 2. ควำมชำนำญ/หลกั สตู รด้ำน ..........การทานา้ หมักชวี ภาพ การทาฮอรโ์ มน และเศรษฐกิจพอเพียง………......... 3. ผลงำน/รำงวัลเกยี รติยศ ..........ให้ความรู้กบั คนในชุมชน และเป็นวทิ ยากรให้ความรู้เรือ่ งการทาน้าหมักชวี ภาพ การทาฮอรโ์ มน........ 4. ภำพกจิ กรรมประกอบ เกบ็ ข้อมูลเม่ือวันที.่ ..8 พฤศจิกายน 2564 ผู้รายงาน........นางสาวชนญั ชดิ า ทองเมือง.... ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบลทา่ ไม้………………. โทรศัพท์....064-9925358………………

แบบสำรวจขอ้ มูลภูมิปญั ญำท้องถนิ่ /ปรำชญช์ ำวบำ้ น กศน.ตำบลยำงม่วง กศน.อำเภอท่ำมะกำ สังกดั สำนกั งำน กศน.จงั หวัดกำญจนบรุ ี ประเภทด้ำน..............อำหำร..................... *********************** 1. ภมู ปิ ัญญำ/ปรำชญ์ชำวบ้ำน ช่ือ ............สุชิน.............................. สกลุ ................ชนื่ แสง................................... อายุ .........58......... ปี ท่อี ยู่ปจั จบุ นั (ทส่ี ามารถติดต่อได้) บ้านเลขที่ .........18/4.................. บา้ น ...........ห้วยตะเคยี น.................. หมทู่ ี่ ......3........... ตาบล ....ยางมว่ ง........................... อาเภอ ทา่ มะกา จังหวดั กาญจนบุรี รหัสไปรษณยี ์ ............71120.................................. เบอรโ์ ทรศัพท์ ............................................... E – mail ............................................................................................................................ 2. ควำมชำนำญ/หลักสูตรด้ำน ..........การทานา้ พรกิ เผาสตู รต่างๆ................................................................................................................. 3. ผลงำน/รำงวลั เกียรติยศ ...........ผลิตภณั ฑโ์ อทอป 3 ดาว.................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................ 4. ภำพกิจกรรมประกอบ เก็บข้อมูลเมื่อวนั ที.่ ..2 พฤษภาคม 2562 ผูร้ ายงาน........นายสรุ สทิ ธิ์ บญุ เสนันท.์ ... ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบลยางม่วง โทรศัพท์....086-1024507

แบบสำรวจขอ้ มลู ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น/ปรำชญ์ชำวบ้ำน กศน.ตำบลยำงมว่ ง กศน.อำเภอท่ำมะกำ สังกดั สำนกั งำน กศน.จังหวดั กำญจนบรุ ี ประเภทดำ้ น...........เศรษฐกจิ พอเพียง.............. *********************** 1. ภมู ปิ ัญญำ/ปรำชญ์ชำวบ้ำน ชื่อ ............นายวิชาญ.............................. สกุล ................สขุ พนั ธ.์ .................... อายุ .........68......... ปี ท่อี ยู่ปัจจบุ นั (ท่ีสามารถติดต่อได้) บา้ นเลขที่ .........25/2.................. บ้าน ...........ห้วยตะเคยี น.................. หมู่ท่ี ......3........... ตาบล ....ยางมว่ ง........................... อาเภอ ท่ามะกา จงั หวดั กาญจนบุรี รหสั ไปรษณีย์ ............71120.................................. เบอร์โทรศัพท์ ............................................... E – mail ............................................................................................................................ 2. ควำมชำนำญ/หลักสตู รด้ำน ..........เศรษฐกจิ พอเพยี ง................................................................................................................. 3. ผลงำน/รำงวัลเกยี รติยศ ................................................................................................ ............................... ............................................................................................................................. ............................................ 4. ภำพกจิ กรรมประกอบ เกบ็ ข้อมลู เมื่อวนั ที่...2 พฤษภาคม 2562 ผรู้ ายงาน........นายสุรสทิ ธิ์ บญุ เสนันท์.... ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบลยางม่วง โทรศัพท์....086-1024507