คำนำ รายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2562 ของโรงเรียนน้าปลีกศึกษา จัดท้าขึนเพ่ือ รายงานผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนในรอบปีที่ผ่านมา เสนอต่อหน่วยงานที่เก่ียวข้องและ เปิดเผยต่อ สาธารณชน ใหเ้ หน็ ภาพรวมของการจัดการศึกษาทังระบบ ด้านผเู้ รยี น ครู บุคลากร องคก์ รและ ชมุ ชน ทม่ี ีสว่ นใน ความร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพ ในการส่งเสริมสนับสนุนให้การจัดการศึกษาของโรงเรียนน้าปลีกศึกษา พัฒนา คุณภาพอย่างต่อเน่ืองและย่ังยืน โดยมงุ่ ให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน การศกึ ษาขนั พืนฐาน อีกทงั ยังใช้เป็นข้อมูล ส้าคัญในการก้าหนดนโยบายและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาของโรงเรียนในอนาคต การรายงานผล การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษานัน ได้แบ่งการรายงานออกเป็น 9 ตอน ได้แก่ (1) ความ เป็นมาของสถานศึกษา (2) ข้อมูลพืนฐานสถานศึกษา (3) ผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา (4) ข้อมูลอาคารเรียน อาคารประกอบ และอาคารช่ัวคราว(5) โครงสร้างการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา โรงเรียนน้าปลีกศึกษา (6) นโยบายและกรอบแนวคิดการด้าเนินการที่เกี่ยวข้อง (๗) ทิศทางการพัฒนาคุณภาพ สถานศึกษา (๘) กรอบการด้าเนินงานแผนงานโครงการ (๙) การขับเคล่ือนแผนสู่การปฏิบัติ ขอขอบคุณ คณะกรรมการสถานศึกษาขันพืนฐาน ผู้ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน ภาครัฐ/เอกชน และ ผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ให้การส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษา ของสถานศึกษาไว้ ณ ท่ีนี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ใน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างโรงเรียนให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ จะ ส่งผลให้เด็กนักเรียนเป็น เยาวชนที่มคี ุณภาพ พรอ้ มดว้ ยสติปัญญา เปน็ คนดมี คี วามสุข มศี ักยภาพท่สี ูงขนึ และ เป็นก้าลังของชาติสืบไป นายสุเมธ หนอ่ แกว้ ผู้อา้ นวยการโรงเรียนนา้ ปลกี ศึกษา มนี าคม 2563
สารบญั หนำ้ เรอื่ ง ก ข ค้าน้า 1 สารบญั 5 ตอนท่ี 1 ความเป็นมาของสถานศกึ ษา 11 ตอนที่ 2 ข้อมูลพืนฐานสถานศึกษา 25 ตอนท่ี 3 ผลการพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา 27 ตอนท่ี 4 ข้อมูลอาคารเรยี น อาคารประกอบ และอาคารช่ัวคราว 28 ตอนที่ 5 โครงสรา้ งการบรหิ ารงานบคุ คลในสถานศกึ ษา โรงเรยี นน้าปลกี ศึกษา 61 ตอนท่ี 6 นโยบายและกรอบแนวคดิ การดา้ เนนิ การที่เกย่ี วข้อง 79 ตอนที่ 7 ทศิ ทางการพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษา 80 ตอนท่ี 8 กรอบการด้าเนนิ งานแผนงานโครงการ ตอนที่ 9 การขับเคล่อื นแผนสู่การปฏบิ ัติ ภาคผนวก คา้ สั่งแตง่ ตังคณะท้างาน/คณะกรรมการการประเมินคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา
ตอนที่ 1 ควำมเป็นมำของสถำนศกึ ษำ 1. ประวัติของโรงเรียน โรงเรียนน้าปลีกศึกษา ส้านักงานเขตพืนที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตัง ขึนเม่ือวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 โดยรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จ้านวน 2 ห้องเรียนมีจ้านวนนักเรียน 81 คน โดยคณะกรรมการสภาต้าบลน้าปลีกไดบ้ ริจาคท่ดี ินใหเ้ ป็นสถานที่ตังโรงเรียนเนอื ที่ทังหมด 35 ไร่ และได้ สร้างอาคารเรียนช่ัวคราวขนาด 3 ห้องจ้านวน 1 หลัง ในระยะแรกของการบริหารโรงเรียน นายนุ่ม เถาว์โท อาจารย์ใหญ่ โรงเรียนชุมชนบ้านน้าปลีกเป็นผู้รับผิดชอบ และได้ส่งครูจ้านวน 2 คน มาช่วยท้าการสอนช่ัวคราว จนกระท่ังวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2522 กรมสามัญศึกษาส่งครู มาปฏิบัติราชการ จ้านวน 3 คน ในขณะนัน อาคารเรียนช่ัวคราวสร้างยังไม่เรียบร้อยและวัสดุอุปกรณ์ ยังไม่พร้อมจึงต้องอาศัยอาคารเรียนของโรงเรียนชุมชน บ้านนา้ ปลกี และเม่ือวนั ท่ี 10 สงิ หาคม 2522 จงึ ไดย้ า้ ยมาตงั อยู่ในท่ปี จั จบุ นั ปีการศึกษา 2535 กรมสามัญศึกษา อนุมัติให้จัดตังโรงเรียนสาขาขึนท่ีบ้านนายม ต้าบลนายม โดยใหน้ กั เรียนชนั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จา้ นวน 1 หอ้ ง ได้รับบรจิ าคท่ีดนิ บริเวณตลาดนัด โคกระบือ จาก สภาต้าบลนาหมอม้า จ้านวน 50 ไร่เศษ เป็นสถานที่ด้าเนินการก่อสร้างอาคารเรียนช่ัวคราว 1 หลัง จ้านวน 4 หอ้ ง ปีการศึกษา 2536 โรงเรียนได้รับการอนุมัติจากกรมสามัญศึกษาให้ด้าเนินการเปิดสอนในระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ในปกี ารศกึ ษา 2561 มแี ผนจดั ชันเรยี นเปน็ 3/3/3 - 2/2/2 รวม 15 หอ้ งเรียน จ้านวน นักเรยี น 444 คน ฝา่ ยบรหิ าร 2 คน ครู 28 คน พนกั งานราชการ 1 คน ลูกจ้างประจ้า 1 คน ลกู จ้างช่วั คราว 1 คน พนักงานธรุ การ 1 คน ครูพ่ีเลียงเดก็ พกิ าร 1 คน รวม 35 คน ปัจจบุ นั มี นายสุเมธ หนอ่ แก้ว เปน็ ผู้อา้ นวยการ โรงเรียน ปรชั ญำของโรงเรียน “ ทรงปัญญา ศรทั ธาธรรม น้าสงั คม ” “ Wisdom , Fitch in Dhamma and Community Leadership ” คติธรรมของโรงเรยี น “ นตถิ ปญญา สมาอาภา ” “ แสงสวา่ งเสมอด้วยปัญญาไมม่ ี ” “ No Light is as Precious as Wisdom ” คำขวญั ของโรงเรียน “ ใฝจ่ รรยา วชิ าเย่ยี ม เปยี่ มสามัคคี มพี ลัง ” อตั ลักษณ์ “ คณุ ธรรม น้าชีวติ มจี ติ สาธารณะ”
เอกลกั ษณ์ “ อทุ ยานรม่ รนื่ ” อกั ษรย่อของโรงเรยี น “ น.ป. ” สีประจำโรงเรียน “ นา้ เงิน – แดง ” ต้นไมป้ ระจำโรงเรียน “ ล้าดวน ” ดอกไม้ประจำโรงเรียน “ ดอกคูณ ” ตรำสญั ลกั ษณ์โรงเรียน 2. ขนำดและทตี่ ้ังของโรงเรียน โรงเรียนนา้ ปลีกศึกษามีเนือท่ีทังสิน 35 ไร่ ตงั อยู่ท่หี มู่ 9 ต้าบลน้าปลกี อา้ เภอเมือง จังหวดั อา้ นาจเจริญ รหัสไปรษณีย์ 37000 โทรศพั ท์ 0-4554-0411 โทรสาร 0-4554-0411 กำรเดินทำงมำโรงเรียนน้ำปลกี ศกึ ษำ มีหลายเสน้ ทาง 1. อ. เมือง – นา้ ปลกี ระยะทาง 25 กิโลเมตร 2. อ. หัวตะพาน – นา้ ปลกี ระยะทาง 15 กโิ ลเมตร 3. อ. ปา่ ตวิ – น้าปลีก ระยะทาง 12 กิโลเมตร 4. เส้นทางระหว่างหมู่บา้ นต่างๆ อกี หลายเสน้ ทาง ส่ิงอำนวยควำมสะดวก 1. มรี ะบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค 2. ระบบประปาของเทศบาล และระบบประปาบาดาลภายในโรงเรยี น 3. สภาพชุมชน 3.1 สภำพภมู ศิ ำสตร์ ที่ต้ัง ต้าบลน้าปลีกเป็นต้าบลหน่ึงในจังหวัดอ้านาจเจริญ แต่ก่อนมีชื่อว่า “น้าหลีก”ตังอยู่บนที่สูง มแี มน่ า้ หลกี ไปทางทิศใตข้ องหมบู่ ้านมอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับพืนทใ่ี นเขตตา่ ง ๆ ดังนี คือ ทิศเหนอื ตดิ ตอ่ กับถนนอรุณประเสรฐิ ซง่ึ เป็นทางหลวงจากจังหวดั อ้านาจเจริญ ไปจงั หวดั ยโสธร
ทิศใต้ ตดิ ต่อกบั บ้านยางค้า ซึ่งเป็นหมบู่ า้ นหนึง่ ในต้าบลน้าปลกี ทิศตะวนั ออก ติดตอ่ กับบา้ นดงบงั บา้ นค้าสร้างบอ่ และบา้ นดอนดู่ซง่ึ เป็นหมูบ่ ้าน ท่ีขึนกับต้าบลน้าปลกี ทศิ ตะวันตก ตดิ ต่อกับบา้ นเซโนนมว่ ง อ้าเภอปา่ ตวิ จงั หวดั ยโสธร ตำบลนำ้ ปลกี ประกอบด้วย 5 หมู่บ้าน ซ่ึงแบง่ ออกเปน็ 9 หมู่ คือ 1. บ้านนา้ ปลกี มี 4 หมู่ ได้แก่ หมู่ที่ 1 , หมู่ที่ 2 , หมู่ที่ 8 และหม่ทู ี่ 9 2. บา้ นยางคา้ หมู่ท่ี 6 3. บ้านดงบังพัฒนา หมูท่ ่ี 3 และหมู่ 10 4. บา้ นค้าสร้างบอ่ หมทู่ ่ี 4 และหมู่ท่ี 5 5. บา้ นดอนดู่ หมทู่ ่ี 7 3. ลักษณะภมู ิประเทศ โดยลักษณะทั่วไปของต้าบลน้าปลีกเป็นท่ีสูง มีน้าล้าคลองและห้วยหลายแห่ง ได้แก่ ล้าเซบาย หว้ ยปลาแดก ห้วยผีบา้ และทางด้านทศิ ตะวันตกติดกบั ล้าน้าชี เขตอ้าเภอปา่ ติว จงั หวดั ยโสธร 3.1 ประเพณีและวฒั นธรรม ค่านิยมในจริยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมท่ัวไปประชากรในต้าบลน้าปลีก ส่วนใหญ่เป็นคนพืนเมืองของภาคอีสานจะมีคนไทยเชือสายจีน อาศัยปะปนอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก ประชากร โดยท่ัวไปของต้าบลนับถือศาสนาพุทธจึงมีความเอือเฟื้อเผ่ือแผ่ในด้านขนบธรรมเนีย มประเพณีนัน ลัทธิพราหมณ์ปะปนอยู่ไม่ใช่น้อย เมื่อมีงานมงคล เช่น ขึนบ้านใหม่ การแต่งงาน การประกอบพิธีบายศรี ส่ขู วญั กย็ งั มีพิธีพราหมณเ์ ข้ามาผสมดว้ ย ประเพณีวฒั นธรรมตา่ งๆ มีดงั นี 1. กำรกินดอง หมายถึง งานพิธีสมรส ซ่ึงมีความแตกต่างจากเขตพืนท่ีอ่ืนๆ ในส่วนปลีกย่อย ท่ีต้าบลน้าปลีกมักเรียกว่า “กินดอง” ซ่ึงมีลักษณะผูกพันเกี่ยวดอง ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะได้มาอยู่ร่วม เป็นครอบครัวเดียวกัน ถือเสมือนเครือญาติ บิดา มารดา ทางฝ่ายหญิงกับฝ่ายชายจะเก่ียวดองซ่ึงกันและกันเรียก “พอ่ ดอง” “แม่ดอง” 2. กำรทำบุญประจำปี ซ่ึงมักเรียกว่า “บุญบ้าน” ซ่ึงถือเป็นประเพณีเก่าแก่ท่ีถือปฏิบัติกันสืบเน่ือง มานาน “บุญบ้าน” มักจะตรงกับวันท่ี 27-28 มกราคม ของทกุ ปี หลงั จากท่ชี าวบา้ นเกบ็ เกย่ี วขา้ วเสร็จเรียบร้อย แล้ว พอถึงวันลงบุญชาวบ้านก็จะลงขันกันทังเงินและข้าว เพื่อน้ามาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน โดย จะมกี ารจัดหามหรสพ เช่น ภาพยนตร์ หมอลา้ มาแสดงใหช้ าวบ้านดชู มกัน
3. กำรทำบุญบ้ังไฟ หมายถึง การท้าบุญเดือนหก ท้าขึนเพ่ือบูชาอารักษ์เหศักดิ์หลักเมือง คือ เป็นประเพณีขอฝนท่ีได้ท้ามาตังแต่บรรพกาล บังไฟเป็นกระบอกไม้ไผ่ที่น้าดินมาบรรจุดินประสิวผสมกับ ถ่านไฟบดให้ละเอียดแล้วอัดลงไปในกระบอกไม้ไผ่ มี 3 ขนาด คือ บงั ไฟน้อย บงั ไฟหมน่ื บงั ไฟแสน การแห่บังไฟ มักจดั เปน็ ขบวนฟ้อนร้าหรอื ล้าเซิงมีลีลางดงาม และมกี ารประกวดในดา้ นความสวยงาม 4. กำรทำบุญข้ำวประดับดิน นิยมท้ากันในวันแรม 13 - 14 ค่้า เดือนเก้า โดยการห่ออาหาร หรือของ ขบเคียวเปน็ ห่อไปถวายทานบา้ งนา้ ไปห้อยตามต้นไม้บา้ ง 5. กำรทำบุญข้ำวสำก นิยมท้ากันในวันขึนสิบค้่าเดือนเก้า การเรียกข้าวสากมาจากค้าว่า “สลาก” เพราะเวลาถวายพระสงฆ์ไม่เจาะจงว่าถวายรูปใด จึงจัดให้ท้าเป็นสลาก ซ่ึงเจ้าภาพจับได้ของใครก็น้าไปถวาย ตามนัน 3.2 เศรษฐกจิ การเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของประชากรทังต้าบลน้าปลกี โครงสร้างเศรษฐกิจหลกั ของต้าบลนีพจิ ารณาตามสาขาเศรษฐกิจหลัก ดังนี 1. กำรกสิกรรม พืนทสี่ ่วนใหญข่ องต้าบลน้าปลีกจะเป็นพนื ที่ส้าหรับท้าการเกษตร โดยเฉพาะพนื ที่ การ ท้านา นอกจากนันจะเป็นพืนที่ส้าหรับปลูกพืชไร่ สวนผัก เลียงสัตว์ พืชเศรษฐกิจที่ส้าคัญได้แก่ ข้าว ปอแก้ว มัน สา้ ปะหลงั ถ่วั ลิสง และพืชผักตา่ งๆ 2. ปศุสัตว์ พืนที่ต้าบลน้าปลีกบางพืนที่มีสภาพเป็นป่าโปร่งและทุ่งกว้าง จึงเหมาะแก่การเลียงสัตว์ อยู่บ้าง ปัจจุบันการเลียงสัตว์เป็นการเลียงควบคู่ไปกับการใช้งาน สัตว์ท่ีนิยมเลียงกันมากได้แก่ วัว กระบือ สุกร เป็ด และไก่ 3.3 อุตสำหกรรม เน่ืองจากสภาพต้าบลน้าปลีก เป็นสภาพของชุมชนชนบท จะเป็นอุตสาหกรรม ในครัวเรือน นอกจากนนั จะเปน็ อตุ สาหกรรมประเภทให้การบริการ เช่น ร้านซอ่ มรถยนต์ ร้านกลึง – เช่ือมโลหะ ร้านผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จ้าเป็นพืนฐาน ร้านท้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ โรงงานท้าม้าหินอ่อน โรงงานผลิตฟูกนอน เป็นต้น
ตอนท่ี 2 ขอ้ มูลพน้ื ฐำนสถำนศกึ ษำ 1. ข้อมูลเกี่ยวกับบคุ ลำกร ตำรำง 1 แสดงขอ้ มลู ทำเนยี บผู้บรหิ ำรโรงเรยี นนำ้ ปลกี ศกึ ษำ ลำดับ ชื่อ – สกลุ วุฒกิ ำรศึกษำ ตำแหน่ง ระยะเวลำ ท่ี กศ.บ. 1 นายศรสี มบตั ิ ภูมเิ ขยี ว ค.บ. ครใู หญ่ 2522-2524 กศ.บ.,น.บ.,กศ.ม. 2 นายบัญชา สุขดี กศ.บ.,น.บ.,ค.ม. อาจารย์ใหญ่ 2524-2535 ค.บ.,พบ.ม. 3 นายพทิ ยา รักพรม กศ.บ.,น.บ.,พบ.ม. อาจารยใ์ หญ/่ ผู้อ้านวยการ 2535-2541 พบ.ม. 4 นายเดชณรงค์ สุภมิ ารส ศษ.ม. ผู้อ้านวยการ 2541-2541 ค.ม. 5 นายกติ ติศักดิ์ ศรดี า ศษ.ม. ผอู้ ้านวยการ 2542-2544 6 วา่ ที่ร.ท.วเิ ศษ แกว้ มีศรี ผู้อา้ นวยการ 2544-2547 7 ว่าที่ร.ต.กมล สาดศรี ผอู้ า้ นวยการ 2547-2548 8 นายสุมิตร เรืองบุตร ผู้อ้านวยการ 2548-2554 9 นายสุพรรณ พนั ธ์สวุ รรณ ผอู้ ้านวยการ 2554-14 ต.ค.2559 10 นายสุเมธ หนอ่ แกว้ ผูอ้ า้ นวยการ 15 ต.ค. 2559-ปจั จุบนั
ตำรำง 2 แสดงขอ้ มูลบุคลำกรของโรงเรียนนำ้ ปลกี ศึกษำ จำแนกตำมเพศและวฒุ กิ ำรศึกษำ เพศ วุฒิทำงด้ำนกำรศึกษำ ตำแหนง่ ชำย หญิ รวม ตำ่ กว่ำ ปริญญำ ปรญิ ญำโท ปรญิ ญำ รวม ง ปรญิ ญำตรี ตรี เอก 1 ผอู้ ้านวยการโรงเรียน 1 - 1 - -1 - - 2 รองผ้อู ้านวยการโรงเรยี น - - - - -- - 24 - ครูผชู้ ว่ ย 112 - 2- - 1 - ครู 10 15 25 - 12 12 - 2 1 พนักงานราชการ --- - -- - - 1 ครูธุรการ - 11 - 1- - 33 ครอู ัตราจา้ ง --- - -- - ลกู จ้างชัว่ คราว 112 2 -- - พเ่ี ลียงเด็กพกิ าร - 11 1 -- - นกั การภารโรง --- - -- - ช่างไม้ 1-1 1 -- - รวม 14 20 33 4 15 13 -
ตำรำง 3 แสดงขอ้ มลู จำนวนครู (ตำม จ.18) จำแนกตำมกลุ่มสำระกำรเรียนรู้และวุฒิกำรศึกษำ เพศ วฒุ กิ ำรศึกษำ กลุ่มสำระ/งำน ชำย หญงิ รวม ต่ำกวำ่ ป.ตรี ป. โท รวม ปริญญำตรี บรหิ าร 1-1 - - 11 ภาษาไทย 213 - 2 1 3 สังคมศึกษา 134 - 2 2 4 สุขศึกษาและพลศึกษา 1-1 - - 11 วทิ ยาศาสตร์ 257 - 4 3 7 คณิตศาสตร์ 224 - 3 1 4 ภาษาอังกฤษ 134 - 2 2 4 ศลิ ปศึกษา 1-1 - 1 -1 เกษตรกรรม - 11 - - 11 คหกรรม --- - - -- อตุ สาหกรรม 1-1 - - 11 คอมพวิ เตอร์ - 11 - 1 -1 รวม 12 16 28 - 15 13 28
สำขำวชิ ำทีจ่ บกำรศกึ ษำและภำระงำนสอน สำขำวิชำ จำนวน (คน) ภำระงำนสอนของครเู ฉล่ีย 1 คน ในแตล่ ะสปั ดำห์ (ชม./สัปดำห์) 1.บริหำรกำรศกึ ษำ 10 2.คณติ ศำสตร์ 4 23.25 3.วทิ ยำศำสตร์ 7 23.14 4.ภำษำไทย 5 23.67 5.ภำษำองั กฤษ 3 23.00 6.สงั คมศกึ ษำ 4 22.50 7.กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี 3 27.33 8.สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ 1 22.00 9.ศิลปะ 1 21.50 10.แนะแนว 00 11.บรรณำรักษ์ 00 12.ครธู ุรกำร 10 รวม 30 186.39 ข้อมูลกำรบรหิ ำรงำนโรงเรียนน้ำปลีกศกึ ษำ โรงเรียนนา้ ปลีกศึกษา ส้านักงานเขตพืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 29 มีการแบ่งสว่ นราชการภายใน 5 กล่มุ งาน ดังนี 1. กลมุ่ บรหิ ารแผนและงบประมาณ 2. กลุม่ บรหิ ารงานบุคคล 3. กลุ่มบรหิ ารวชิ าการ 4. กลมุ่ บริหารกิจการนักเรยี น 5. กลุ่มบรหิ ารงานท่วั ไป
2. ขอ้ มูลนกั เรียน ตำรำง 4 แสดงขอ้ มูลจำนวนชน้ั เรยี น ห้องเรียน เพศ จำนวนนกั เรยี น ปีกำรศึกษำ 2562 ระดบั กำรศึกษำขั้นปีที่ จำนวนห้อง เพศ รวม ช่วงชน้ั ที่ 3 ม.1 3 ชำย หญงิ 93 ม.2 3 45 48 87 46 41 100 ม.3 3 49 51 280 140 140 69 รวม 9 40 29 51 19 32 55 ชว่ งช้ันท่ี 4 ม.4 2 24 31 175 ม.5 2 83 92 455 223 232 ม.6 2 รวม 6 รวมทง้ั หมด 15
ตอนท่ี 3 ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำของสถำนศึกษำ 1.ข้อมูลผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นระดบั สถำนศึกษำ ร้อยละของนกั เรียนท่ีมีเกรดเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นแต่ละรำยวิชำในระดบั 3 ขึ้นไป ระดับชน้ั มธั ยมศึกษำปที ่ี 1-6 ปกี ำรศึกษำ 2561 ภำษำอังกฤษ t31.43 กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี t78.54 ศิลปะ t79.52 สขุ ศกึ ษำ t77.14 สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม t61.88 วิทยำศำสตร์ t32.47 คณติ ศำสตร์ t47.98 ภำษำไทย t57.92 ๐ ๑๐ ๒๐ ๓๐ ๔๐ ๕๐ ๖๐ ๗๐ ๘๐ ๙๐ ๑๐๐ รอ้ ยละ
2. ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำตขิ ้นั พื้นฐำน (O-NET) ระดับ/รำยวชิ ำ ภำษำไทย คณติ ศำสตร์ วิทยำศำสตร์ ภำษำองั กฤษ 50.59 26.02 34.14 27.60 คะแนนเฉลย่ี 54.47 ของโรงเรียน 29.73 36.18 28.49 55.04 คะแนนเฉลีย่ 54.42 30.28 36.43 29.10 30.04 36.10 29.45 ระดับเขตพ้ืนที่ฯ คะแนนเฉลี่ย ระดบั สพฐ. คะแนนเฉลี่ย ระดบั ประเทศ
ระดับ/รำยวชิ ำ ภำษำไทย คณติ ศำสตร์ วิทยำศำสตร์ สังคมศึกษำ ภำษำอังกฤษ 43.40 21.10 28.38 33.63 24.18 คะแนนเฉลี่ย ของโรงเรยี น 44.80 26.55 29.13 34.12 27.51 คะแนนเฉลยี่ 48.16 31.04 30.75 35.48 31.15 ระดบั เขตพื้นท่ฯี 47.31 30.72 30.51 35.16 31.41 คะแนนเฉล่ีย ระดับ สพฐ. คะแนนเฉล่ยี ระดับประเทศ
เปรียบเทยี บผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำตขิ ั้นพ้ืนฐำน (O-NET) ประจำปกี ำรศึกษำ 2560-2561 ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติขน้ั พน้ื ฐำน ปีกำรศกึ ษำ ๒๕60 - ๒๕61 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ ๑๐๐ ๙๐ ๘๐ คะแนนแฌ ่ลีย ๗๐ ๖๐ t50.73t50.59 ๕๐ t24.21 t26.02 t32.28 t34.14 t27.22t27.60 ๔๐ ๓๐ ๒๐ ๑๐ ๐ ภำษำไทย คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์ ภำษำอังกฤษ ปี ๒๕60 ปี ๒๕61 ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดับชำติขนั้ พื้นฐำน ปกี ำรศึกษำ ๒๕60 - ๒๕61 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี ๖ ๑๐๐ ๙๐ ๘๐ ๗๐ คะแนนเฉ ่ลีย ๖๐ t42.64t43.40 ๕๐ t18.15t21.10 t24.11t28.38 t31.62t33.64 ๔๐ t20.23t24.18 ๓๐ ๒๐ ๑๐ ๐ ภำษำไทย คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ สงั คมศึกษำฯ ภำษำองั กฤษ ปี ๒๕60 ปี ๒๕61
ขอ้ มลู อำคำรสถำนที่ แหล่งเรียนรภู้ ำยในและภำยนอกโรงเรยี น ปกี ำรศึกษำ 2562 1) อำคำรสถำนที่ อำคำรสถำนที่ จำนวน อำคำรสถำนท่ี จำนวน 3 หลงั อำคำรเรียน 216 ค. 1 หลัง อาคารเรียนชั่วคราว 1 หลัง 1 หอ้ ง โรงฝกึ งำนอตุ สำหกรรม 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลงั โรงฝึกงำนเกษตร 1 หลัง ห้องฟสิ ิกส์ 2 หลงั โรงฝกึ งำนคหกรรม 1 หลงั สวนป่าเล็ก 1 1 ห้องนำฎศลิ ป์ 1 หลัง สวนปา่ ใหญ่ 5 หลงั 1 ห้อง ห้องปฏิบัตกิ ำรวทิ ยำศำสตร์ 1 ห้อง อาคารห้องประชมุ 1 ห้อง 1 ห้อง หอ้ งปฏิบตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ 2 หอ้ ง ศาลาประดิษพระพุทธรูป ห้องจริยธรรม 1 หอ้ ง สวนคณติ ศาสตร์ ห้องโสตทศั นศกึ ษำ 1 หอ้ ง สวนวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด 1 หอ้ ง บา้ นพกั ครู สนำมบำสเกตบอล 1 สนาม ห้องประชาสัมพนั ธ์ ห้องน้ำห้องส้วม 21 ห้อง ห้องดนตรี สนำมวอลเลยบ์ อล 1 สนาม ห้องพยาบาล สนำมฟตุ บอล 1 สนาม สนำมฟตุ ซอล 1 สนาม
2) แหล่งเรียนรภู้ ำยในโรงเรียน อำคำรสถำนที่ จำนวน อำคำรสถำนท่ี จำนวน อาคารเรียนชั่วคราว 3 หลงั อำคำรเรียน 216 ค. 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลัง หอ้ งฟสิ ิกส์ 1 หอ้ ง โรงฝกึ งำนอตุ สำหกรรม 1 หลงั สวนป่าเลก็ สวนปา่ ใหญ่ 1 หลงั โรงฝึกงำนเกษตร 1 หลัง อาคารห้องประชมุ 2 หลงั โรงฝึกงำนคหกรรม 1 หลัง ศาลาประดิษพระพุทธรูป 1 สวนคณติ ศาสตร์ 1 ห้องนำฎศิลป์ 1 หลงั สวนวิทยาศาสตร์ 5 หลัง บ้านพักครู 1 หอ้ ง ห้องปฏิบตั ิกำรวิทยำศำสตร์ 1 ห้อง 1 ห้อง หอ้ งประชาสัมพนั ธ์ 1 ห้อง หอ้ งปฏิบัติกำรคอมพวิ เตอร์ 2 ห้อง ห้องดนตรี ห้องจริยธรรม 1 หอ้ ง ห้องพยาบาล หอ้ งโสตทศั นศกึ ษำ 1 หอ้ ง ห้องสมดุ 1 หอ้ ง สนำมบำสเกตบอล 1 สนาม ห้องนำ้ ห้องส้วม 21 ห้อง สนำมวอลเลย์บอล 1 สนาม สนำมฟตุ บอล 1 สนาม สนำมฟตุ ซอล 1 สนาม
3) แหลง่ เรียนรูภ้ ำยนอกโรงเรยี น แหล่งเรียนรภู้ ำยในโรงเรยี น สถติ กิ ำรใช้ ช่ือแหล่งเรยี นรู้ (จำนวนครั้ง/ปี) 1. สวนวรรณคดี 2. สวนปำ่ ใหญ่ 34 3. สวนปำ่ เล็ก 164 95 แหล่งเรยี นรู้ภำยนอกโรงเรยี น สถิติกำรใช้ ช่อื แหล่งเรียนรู้ (จำนวนครั้ง/ปี) 1. ศูนยค์ อมพิวเตอร์หมูบ่ ำ้ น 19 2. บือบ้ำน 5 3. วัดโนนสำโรง 5 4. วัดกลำง 5 5. วดั ศรีมงคล 5 6.วดั ดงเฒ่ำเก่ำ 2 7.สถำนปี ระมงน้ำจืดจงั หวดั อำนำจเจริญ 11 8.ผลงำนดีเด่น ปกี ำรศกึ ษำ 2561 1) ผลงำนดีเด่นของโรงเรยี น ไดร้ ับคดั เลือกเปน็ โรงเรยี นคุณภาพประจ้าตา้ บล (1 ตา้ บล 1 โรงเรยี นคุณภาพ) 2) ผลงำนดเี ด่นของผูบ้ รหิ ำร นายสุเมธ. หนอ่ แก้ว รางวัลผู้บริหารดีเดน่ สพม.29 3) ผลงำนดีเดน่ ของครู
รำงวลั ครดู ีเด่น สพม.29 1. ผูบ้ รหิ ารดเี ดน่ นายสเุ มธ. หน่อแก้ว 2. ครูภาษากล่มุ สาระภาษาตา่ งประเทศดีเด่น นางสมหมาย สอ่ ยสีแสง 3. ครจู ติ อาสาดีเดน่ นางกญั ญาวรี ์ เศวตวงศ์ 4. ครธู ุรการดเี ดน่ นางสาวนันท์พร สองสี รำงวัลครูดเี ด่นสำนักงำน สกสค.อำนำจเจรญิ 1. ผูบ้ รหิ ารท่ีทภี าวะผู้น้าดเี ดน่ นางรัชนีย์ ทองโพธ์ศิ รี 2. ครูท่ปี ฏิบัติงานตามมาตรฐานดเี ด่น นางกฤตพร จันทร์แดง 3. ครศู ิลปะดเี ดน่ นายยทุ ธนาว.ี เมอื งซอง 4. ครูสุขศกึ ษา/พลศึกษาดีเด่น. วา่ ที่ ร.ต.สดุ สาคร นามสุวรรณ 5. ครกู ารงานอาชีพดเี ด่น นายไกรสร ค้าชลี อง รำงวลั ครูดีเด่น สมป.อำนำจเจรญิ 1. ครูวทิ ยาศาสตรด์ ีเดน่ นางสาวภญิ ญดา วงศป์ ัดสา 2. ครูสงั คมศึกษาดเี ด่น นางสาวมณรี ัตน์. อาจหาญ 3. ครภู าษาไทยดเี ดน่ นายสนุ ทร ศรเี ดช วจิ ยั ในชน้ั เรยี นท่ีผ่ำนกำรประเมนิ ของศูนยพ์ ัฒนำวิชำชพี ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำจงั หวดั อำนำจเจริญ 1. นางสาวภัทรยิ า โพธ์ิศรีคณุ ตา้ แหนง่ ครูช้านาญการพเิ ศษ 2. นางเสงีย่ ม หิรญั สิงห์ ต้าแหน่ง ครูช้านาญการพเิ ศษ 3. นางสาวจารวุ ัลย์ ประพิณ ต้าแหนง่ ครูชา้ นาญการพเิ ศษ 4. นางสาวโฉมสุดา บุญลอ้ ม ต้าแหน่ง ครูช้านาญการพิเศษ 5. นายเถลิงศกั ด์ิ เถาว์โท ตา้ แหนง่ ครชู ้านาญการพเิ ศษ 6. นางสมหมาย ส่อยสแี สง ตา้ แหน่ง ครูช้านาญการพิเศษ 7. นางขวัญใจ จันทนะชาติ ต้าแหน่ง ครชู า้ นาญการพิเศษ 8. นางกฤตพร จนั ทร์แดง ตา้ แหนง่ ครูชา้ นาญการ 9. นางวรรณี บญุ สุภากลุ ตา้ แหนง่ ครูช้านาญการ 10.นางสาวภญิ ญดา วงศป์ ดั สา ต้าแหนง่ ครู 11.นายณรงค์ฤทธิ์ ประดษิ ฐ์แท่น ตา้ แหนง่ ครูผชู้ ว่ ย 12.นายบดี ทะนอก ต้าแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย 13.นางสาวมณรี ตั น์ อาจหาญ ต้าแหนง่ ครผู ชู้ ่วย 14.นางสาวภักดนิ ันท์ สมรักษ์ ตา้ แหน่ง ครูผชู้ ว่ ย
ผำ่ นกำรทดสอบ เรือ่ ง มำตรฐำนควำมรู้ 11 มำตรฐำนตำมทค่ี รุ ุสภำกำหนด 1. นางรัชนยี ์ ทองโพธิศ์ รี ตา้ แหน่ง ครชู ้านาญการพเิ ศษ 2. นางสาวจารุวัลย์ ประพิณ ต้าแหน่ง ครชู า้ นาญการพเิ ศษ 3. นางสาวโฉมสดุ า บญุ ล้อม ตา้ แหนง่ ครูชา้ นาญการพเิ ศษ 4. นางสมหมาย ส่อยสีแสง ตา้ แหน่ง ครชู า้ นาญการพเิ ศษ 5. นางขวัญใจ จนั ทนะชาติ ตา้ แหนง่ ครชู ้านาญการพิเศษ 6. นางกฤตพร จนั ทร์แดง ต้าแหนง่ ครชู า้ นาญการ 7. นางวรรณี บญุ สุภากุล ตา้ แหนง่ ครูช้านาญการ 8. นางสาวภญิ ญดา วงศ์ปดั สา ต้าแหนง่ ครู 9. นางสาวมณีรัตน์ อาจหาญ ต้าแหนง่ ครูผู้ช่วย 10.นางสาวภักดนิ นั ท์ สมรกั ษ์ ต้าแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย 11.นางนราจนั ทร์ กมลรตั น์ ต้าแหน่ง ครพู ่ีเลยี งเด็กพิการเรียนรวม 4) ผลงำนดีเด่นของนักเรยี น - โครงการโอลิมปิกวิชาการ สอวน. เด็กหญงิ นัชชา เวยี งศิริ - รางวัลการแขง่ ขนั มหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนักเรยี น ประจา้ ปีการศกึ ษา 2561 สังกัดเขตพืนท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 29 กลุ่มที่ 6 จังหวดั อ้านาจเจรญิ ณ โรงเรียนอา้ นาจเจริญ จงั หวัดอา้ นาจเจรญิ ระหวา่ ง วนั ท่ี 30-31 เดือน ตลุ าคม พ.ศ.2561 5) ขอ้ มูลนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ ทีส่ อบผ่ำนคดั เลอื กเขำ้ ศกึ ษำตอ่ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ นกั เรยี น ม.๓ ทงั หมด จ้านวน ๙๗ คน สอบเขา้ เรยี นต่อที่สถาบนั การศึกษา จ้านวน ๙๕ คน - เรยี นตอ่ ทโ่ี รงเรยี นนา้ ปลีกศึกษา จา้ นวน ๘๔ คน - เรยี นต่อทโี่ รงเรยี นนายมวทิ ยาคาร จา้ นวน ๑ คน - เรยี นต่อที่โรงเรยี นอ้านาจเจริญ จา้ นวน ๓ คน - เรียนต่อทว่ี ิทยาลยั เทคนิคอา้ นาจเจรญิ จ้านวน ๕ คน - เรียนต่อท่ีวทิ ยาลัยหัวตะพาน จ้านวน ๑ คน - เรียนตอ่ ทว่ี ิทยาลัยเทคโนโลยี จา้ นวน ๑ คน - อื่นๆ จ้านวน 2 คน
๖) ข้อมลู นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ท่สี อบผ่านคดั เลอื กเขา้ ศกึ ษาตอ่ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ นักเรียน ม.๖ ทง้ั หมด จำนวน ๔๒ คน สอบเขำ้ เรียนตอ่ ทส่ี ถำบนั กำรศกึ ษำ จำนวน ๓๔ คน คดิ เป็นร้อยละ ๘๐.๙๕ มีรำยชื่อดงั ต่อไปนี้ ๑. มหาวิทยาลัยขอนแก่น จานวน ๑ คน ๑. นางสาวพรทพิ ย์ บุญพฒุ คณะเกษตรศาสตร์ สาขาเอกพชื ไร่ ๒. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จานวน ๖ คน ๑. นำงสำวกนกอร ปอ้ งสุข คณะวิศวกรรมศำสตร์ ๒. นำงสำวชยำภรณ์ ศรสี ำร คณะวศิ วกรรมศำสตร์ ๓. นำงสำวปลำยตะวนั วงศภ์ ูดร คณะวศิ วกรรมศำสตร์ ๔. นำงสำววิรัญญำ เรอื งบตุ ร คณะวศิ วกรรมศำสตร์ สำขำวิศวกรรมไฟฟ้ำ ๕. นำงสำวศริ ินภำ งวิ้ ลำย คณะบริหำรศำสตร์ สำขำบัญชี ๖. นางสาวพัชรา พิลาชยั คณะรฐั ศาสตร์ สาขารฐั ประศาสนศาสตร์ เอกบรหิ ารองค์การ ๓. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จานวน ๒ คน 1. นายสกนธ์ เนินทราย คณะวทิ ยาสารสนเทศ สาขานิเทศศาสตร์ ๒. นางสาวปิยธดิ า เถาว์โท คณะรฐั ศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ๔. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตศรีราชา) จานวน ๑ คน 1. นายอดศิ ร ศรีค้ามลู คณะวศิ วกรรมศาสตร์ สาขาวิชาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ๕. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จานวน ๕ คน ๑. นำงสำวณฐั ชนนั จนั ทะโสม คณะมนุษยศำสตร์ สำขำกำรท่องเทยี่ ว ๒. นำงสำวชลดิ ำ สยุ ะดำ คณะเทคโนโลยอี ุตสำหกรรม ๓. นางสาวสุดารตั น์ เสนาจนั ทร์ คณะมนุษศาสตร์และสงั คมศาสตร์ สาขาการปกครองท้องถ่ิน ๔. นางสาวกัญญาณัฐ ธารเพ่ิม คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชวี วิทยา ๕. นายคชราช จติ รมาตย์ คณะบรหิ ารธุรกิจและการจัดการ สาขาการจดั การธุรกิจระหวา่ งประเทศ ๖. มหาวิทยาลัยราชภฏั เทพสตรี จานวน ๑ คน 1. นางสาวกุลธดิ า ผารวิ งษ์ คณะมนุษยศาสตร์เเละสงั คมศาสตร์ สาขาภาษาไทย ๗. มหาวิทยาลัยราชภัฏภเู กต็ จานวน ๑ คน 1. นางสาวจริ าภรณ์ นรศรี คณะวิทยาการจัดการ สาขาบัญชบี ัณฑิต
๘. มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ธนบุรี จานวน ๒ คน 1. นางสาวกรรณกิ าร์ ปญั ญานันท์ คณะครศุ าสตร์ สาขานาฏศลิ ป์ ๒. นำงสำวอรพรรณ คำพิมพ์ คณะครุศาสตร์ สาขาสังคมศึกษา ๙. โรงเรยี นชมุ พลทหารเรือ จานวน ๑ คน 1. นายพเิ ชษฐ์ ทองหนิ ๑๐. เทคนคิ อุบลราชธานี จานวน ๒ คน 1. นางสาวลาวลั ย์ ภมู แิ สง สาขาการบัญชี 2. นางสาวพชิ ญส์ นิ ี แผนสุพฒั น์ สาขาการบญั ชี ๑๑. เทคนคิ อานาจเจรญิ จานวน ๔ คน 1. นายดษุ ฎี คุม้ ผล สาขาโยธา 2. นายรฐั ตกิ าล เบ้าทอง สาขาโยธา 3. นางสาวสภุ าพร สุมาลา สาขาการบญั ชี ๔. นำยวีระศักด์ิ แกว้ ลี สำขำอเิ ล็กทรอนิกส์ ๑๒. เทคนคิ หัวตะพาน จานวน ๑ คน 1. นางสาวสทุ ธดิ า พนั ธง์ อก สาขาวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ๑๓. วิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์ จานวน ๖ คน ๑. นำยตะวนั บพุ ชำติ สำขำเทคนคิ ยำนยนต์ ๒. นำยวรพล โมรำ สำขำเทคนิคยำนยนต์ ๓. นำยศุภณฐั ภูลำยยำว สำขำเทคนิคยำนยนต์ ๔. นำยกิตติธัธ ทองไทย สำขำเทคนิคยำนยนต์ ๕. นำงสำวจิรำรัตน์ บญุ ค่ำ สำขำกำรจดั กำรสำนักงำน ๖. นำงสำวสริ ธิ ร บุญภำย สำขำกำรจดั กำรสำนักงำน ๑๔. วทิ ยาลัยเทคโนโลยอี านาจเจริญ (CP ALL) จานวน ๑ คน ๑. นำงสำวอรอนงค์ มำรัตน์ สำขำธรุ กิจคำ้ ปลกี
ผลกำรประเมินคณุ ภำพภำยนอกรอบ 3 (พ.ศ. 2555) ผลการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาแสดงในตารางสรุปผลดงั นี ระดับการศึกษาขนั พืนฐาน : มธั ยมศึกษา ตัวบ่งชที ม่ี ีคุณภาพระดับดีขนึ ไป ได้แก่ ลำดับที่ ตัวบง่ ช้ีท่ี ช่ือตัวบง่ ชี้ ระดบั คุณภำพ 1 1 ผู้เรียนมีสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ดี ี ดมี าก 2 2 ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ มท่ีพึงประสงค์ ดมี าก 3 7 ประสิทธิภาพของการบรหิ ารจดั การและพัฒนาสถานศึกษา ดมี าก 4 8 พัฒนาการของการประกันคุณภาพภายในโดยสถานศึกษา ดีมาก และตน้ สงั กัด 5 9 ผลการพัฒนาใหบ้ รรลุตามปรัชญา ปณิธาน พันธกจิ ดมี าก และวตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดตังสถานศกึ ษา 6 10 ผลการพัฒนาจุดเน้นและจุดเด่นท่ีส่งผลสะท้อนเป็น ดีมาก เอกลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา 7 11 ผลการการด้าเนินงานโครงการพิเศษเพื่อส่งเสริมบทบาท ดมี าก ของสถานศกึ ษา 8 3 ผเู้ รยี นมีความใฝร่ ู้และเรียนร้อู ยา่ งตอ่ เนือ่ ง ดีมาก 9 4 ผเู้ รียนคดิ เปน็ ทา้ เปน็ ดี 10 6 ประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็น ดี สา้ คญั 11 12 ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับมาตรฐาน ดี รักษามาตรฐาน และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศท่ีสอดคล้องกับ แนวทางการปฏิรปู การศึกษา ตวั บ่งช้ที ี่มีคณุ ภำพต่ำกว่ำระดับดี ไดแ้ ก่ ลำดับที่ ตวั บ่งชท้ี ่ี ชื่อตัวบ่งช้ี ระดับคณุ ภำพ 1 5 ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของผู้เรียน ปรบั ปรุง
ข้อเสนอแนะเพ่ือกำรพัฒนำตำมกฎกระทรวงว่ำด้วยระบบ หลักเกณฑ์และวิธีกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ. 2553 1. ด้ำนผลกำรจัดกำรศกึ ษำ ให้ครูผูส้ อนน้าผลคะแนนตามมาตรฐานการเรียนรู้ยอ่ ยของแต่ละกลมุ่ สาระท่ีถูกวิเคราะห์ตามผล สอบ O-NET ฉบับท่ี 2 มาเป็นข้อมูลใช้ ในการปรับปรุงพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอน ครูผู้สอนในแต่ละกลุ่ม สาระการเรียนรู้ควรจัดท้าบัญชรี ายชอื่ แหล่งเรียนรู้ หรือเว็บไซต์ที่มีเนือหาสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นร้ขู อง กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือจดั ท้าบทเรียนส้าเรจ็ รปู เพ่ือใหผ้ ้เู รยี น ศึกษาค้นควา้ เพิ่มเตมิ ด้วยตนเองได้ 2. ด้ำนกำรบริหำรจดั กำรศึกษำ สถานศึกษาควรมีการดา้ เนินการส่งเสริมการประเมนิ ผลการเรียนของผเู้ รยี นเป็นไป ตามระเบียบและวิธีการวัดประเมินผลการเรียน จัดท้าเอกสารการรายงานเกี่ยวกับการวัดผลประเมินผลการเรียน ให้คลอบคลุมและชัดเจนตามก้าหนดระยะเวลา 3. ดำ้ นกำรจดั กำรเรียนกำรสอนท่เี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคญั 1. ควรนา้ ผลการประเมินแผนการจดั การเรียนรู้ แบบวดั แบบทดสอบ การ ประเมินการจัดการเรียนการสอนไปพัฒนาครูแต่ละคนอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากากรน้าข้อมูลจากการประเมิน มาวิเคราะห์หาสาเหตุ ร่วมประชุมกับผู้มีส่วนเก่ียวข้องเกี่ยวข้องเพ่ือวางแผนและหาแนวทางในการแก้ไข และ พัฒนาครูแต่ละคนต่อไป โดยควรมีการติดตาม ประเมินผลการพัฒนาและน้าผลการพัฒนามาใช้เป็นข้อมูลในการ พฒั นาในปีตอ่ ไป 2. สถานศึกษาควรน้าผลคะแนนเฉล่ียมาตรฐานการเรียนรู้ของสาระการเรียนรู้ย่อยตามผลสอบ O- NET ฉบับที่ 2 และ 5 ให้พิจารณาค่าสถิติ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มัธยฐานนิยม มาเป็นข้อมูลเพ่ือใช้ในการ ปรับปรุงพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ และตรวจสอบประสิทธิภาพการจัดการ เรยี นรขู้ องครูในแตก่ ล่มุ สาระการเรยี นรู้ 3. ครูควรพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการคิดหลากหลายรูปแบบโดยการฝึกให้นักเรียน ใช้แผนที่ความคิด (Mind mapping) และ ผังมโนทัศน์ (Concept mapping) หรือฝึกฝนให้นักเรียนใช้กิจกรรม อ่ืนๆเพ่ือพัฒนากระบวนการคิดของผู้เรียนและครูควรออกแบบการจัดการเรียนรใู้ หค้ รอบคลมุ วงจร PDCA พัฒนา ครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้โดยยึดนักเรียนเป็นส้าคัญโดยเฉพาะเน้นการสอนคิด เช่น การสอนแบบ โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (PBL) การสอนแบบโครงงาน การสอนแบบอริยสัจ 4 การสอนแบบโยนโิ สมนัสการฯลฯ
ตอนที่ 4 ขอ้ มูลอำคำรเรียน อำคำรประกอบ และอำคำรช่วั ครำว แสดงอำคำรเรียน อำคำรประกอบ และอำคำรช่วั ครำว ปกี ำรศึกษำ 2562 สรำ้ งเมือ่ สภำพอำคำร พ.ศ. ลำดับทอ่ี ำคำร แบบ จำนวน งบประมำณ ดี พอใ ชำรดุ ช้ อำคำรเรยี น หลงั ที่ 1 216 ค 1 หลัง 3,900,000 2524 16 ห้อง เอนกประสงค์ หลังที่ 1 อาคารกึ่งถาวร 8 หอ้ ง 108,000 2544 หลงั ที่ 2 อาคารกึ่งถาวร 6 ห้อง 108,000 2545 หลงั ท่ี 3 อาคารกึ่งถาวร 6 ห้อง 108,000 2546 หลังที่ 4 หอประชมุ 1 หลงั 4,240,000 2543 โรงอาหาร 100/27 สว้ ม หลังที่ 1 หอ้ งสว้ ม 7 หอ้ ง 44,000 2522 หลงั ที่ 2 ห้องส้วม 6 ห้อง 90,000 2530 หลงั ที่ 3 หอ้ งสว้ ม 6ที/่ 27 6 ห้อง 189,000 2545 อาคาร เอนกประสงค์ หลังท่ี 1 -โรงฝึกงาน 1 หลงั 513,700 2529 อุตสาหกรรมศลิ ป์
หลังที่ 1 -โรงฝึกงาน 1 หลงั 400,000 2529 หลงั ท่ี 1 เกษตรกรรม 1 หลัง 400,000 2529 -โรงฝึกงาน คหกรรมศิลป์ บำ้ นพักครู หลังท่ี 1 บ้านพักครู 2 ห้อง 1 หลงั 100,000 2522 1 หลัง 140,000 2524 หลังท่ี 2 บ้านพักครู 2 หอ้ ง 1 หลัง 218,000 2526 1 หลัง 209,000 2528 หลังที่ 3 202ก 1 หลงั 210,000 2531 หลังท่ี 4 204/27 111,000 2533 หลงั ที่ 5 203/27 บ้ำนพกั นักกำร หลงั ที่ 1 บ้านพักครู 2 หอ้ ง
ตอ โครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรงำนบคุ คลใน หนว่ ยตรวจสอบภำยใน นำยสุเม ผูอ้ ำนว คณะกรรมกำรบรหิ ำรโรงเรยี น รองผู้อ โร โรงเรยี น ผู้ช่วยผูอ้ ำนวย ผ้ชู ว่ ยผูอ้ ำนวยกำรกลุ่มบริหำร ผู้ชว่ ยผู้อำนวยกำรกลุ่มบริหำร งำน วชิ ำกำร แผนและงบประมำณ นำยมงคล สำยธนู นำงรชั นยี ์ นำยเถลิงศกั ดิ์ เถำวโ์ ท - นำยบญุ ถิน ไชยอตุ ม์ - นำงวรรณี บญุ สุภำกลุ - นำงสำวจำรวุ ัล - นำงกฤตพร จันทร์แดง - ว่ำท่ี ร.ต สดุ สำคร นำมสวุ รรณ - นำงขวัญใจ จันทนะชำติ - *นำยบรรจบ - นำยไกรสร คำชลี อง - นำงสำวนันทพ์ - นำงสมหมำย ส่อยสแี สง - นำงสำวภญิ ญดำ วงศป์ ดั - นำยรัตน์ แส - นำงสำวโฉมสดุ ำ บุญล้อม สำ - นำยสมัคร อ - นำงเสงีย่ ม หิรญั สงิ ห์ - นำยยุทธนำวี เมืองซอง - นำงมณรี ัตน์ สทุ ธกำร - นำยเอกชัย จันทรภ์ ริ กั ษ์ - นำยรตั น์ แสนชำติ - นำงสำวภกั ดินนั ท์ สมรกั ษ์ -- นำยรัตน์ แสนชำติ - นำยสมัคร อนิ ลุเพท - นำยสมคั ร อินลุเพท
อนที่ 5 นสถำนศึกษำ โรงเรียนนำ้ ปลกี ศึกษำ มธ หน่อแก้ว คณะกรรมกำรสถำนศึกษำข้ันพ้นื ฐำน วยกำรโรงเรยี น - ผชู้ ว่ ยผู้อำนวยกำรกลมุ่ บริหำร ผ้ชู ่วยผู้อำนวยกำรกล่มุ บริหำร อำนวยกำร งำนท่ัวไป กจิ กำรนกั เรียน รงเรียน นำงลำวัลย์ สีหะวงษ์ นำงกัญญำวรี ์ เศวตวงศ์ ยกำรกลุม่ บรหิ ำร นบคุ คล ทองโพธ์ิศรี ลย์ ประพณิ - นำยสุนทร ศรีเดช - นำงสำวภัทริยำ โพธ์ศิ รคี ณุ - นำงนำลอน ศรวี ะลักษณ์ *- นำยไกรสร คำชลี อง บุพชำติ - นำงสุมำลี สำยธนู - นำยณรงคฤ์ ทธ์ิ ประดิษฐ์แทน่ พร สองสี - นำยบดี ทะนอก - นำยรัตน์ แสนชำติ สนชำติ -* นำงสำวนันท์พร สองสี อินลุเพท -นำงนรำจนั ทร์ กมลรัตน์ - นำยสมคั ร อินลเุ พท - นำยรัตน์ แสนชำติ - นำยสมัคร อนิ ลเุ พท หมำยเหตุ * หมายถงึ สงั กดั กล่มุ งานหลัก
ตอนท่ี 6 นโยบำยและกรอบแนวคดิ กำรดำเนินกำรท่ีเกยี่ วข้อง นโยบายและกรอบแนวคิดการด้าเนินการท่ีเกี่ยวข้อง โรงเรียนน้าปลีกศึกษาได้น้านโยบาย กรอบ แนวคิด ยุทธศาสตร์ จุดเน้นของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมาร่วมบูรณาการและจัดท้าแผนปฏิบัติการประจ้าปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖2 โดยมีรายละเอียด ดังตอ่ ไปนี ๑. รฐั ธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มำตรำ 54 รฐั ตอ้ งดา้ เนินการให้เดก็ ทกุ คนได้รับ การศึกษาเป็นเวลาสิบสองปีตังแต่ ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รฐั ต้องดา้ เนินการให้เด็กเลก็ ได้รบั การดแู ลและพัฒนาก่อนเขา้ รบั การศึกษาตามวรรคหนึ่งเพื่อ พัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ และภาคเอกชนเขา้ มสี ่วนร่วมในการดา้ เนินการดว้ ย รฐั ต้องดา้ เนนิ การใหป้ ระชาชนไดร้ บั การศกึ ษาตามความต้องการในระบบตา่ ง ๆ รวมทังสง่ เสรมิ ให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และจัดให้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ภาคเอกชนในการจัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าที่ด้าเนินการ ก้ากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัด การศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทังนี ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งอย่างน้อย ต้องมีบทบัญญัติเก่ียวกับการจัดแผนการศึกษาแห่งชาติ และการด้าเนินการและตรวจสอบการด้าเนินการให้ เป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติด้วย การศึกษาทังปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชย่ี วชาญได้ตามความถนัดของตน และมคี วามรบั ผิดชอบต่อครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ ในการด้าเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาตามวรรคสอง หรือให้ประชาชนได้รบั การศึกษาตามวรรค สาม รัฐต้องด้าเนินการใหผ้ ู้ชาดแคลนทุนทรัพย์ได้รับการสนบั สนุนค่าใชจ้ า่ ยในการศึกษาตามความถนดั ของตน ให้จัดตังกองทุนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้าในการศึกษา และเพื่อ เสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธภิ าพครู โดยให้รัฐจัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุน หรือใช้มาตรการ หรือกลไกทางภาษีรวมทังการให้ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุนได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ทังนี ตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องก้าหนดให้การบริหารจัดการ กองทุน เป็นอิสระและ ก้าหนดให้มีการใช้จ่ายเงินกองทุน เพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ส้านักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน พืนฐานได้น้าร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 นโยบายรัฐบาล นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2558-2564 ยุทธศาสตร์ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ้าปี งบประมาณ พ.ศ. 2561 จุดเน้นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแผนพัฒนาการศึกษาของ กระทรวงศึกษาธิการ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ.2560-2564) แผนปฏิบัติราชการประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ของกระทรวงศึกษาธิการ และบริบท ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงกับอ้านาจหน้าท่ีของส้านักงาน คณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐานและ ก้าหนดเป็นกรอบแนวทางในการจัดท้าแผนปฏิบัติราชการประจ้า ปี งบประมาณ พ.ศ. 2561 ของส้านักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน (ส้าหรับการจัดท้าค้าขอ งบประมาณรายจ่ายประจ้า ปี พ.ศ. 2561) ๒. รำ่ งกรอบยทุ ธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) วสิ ัยทัศน์
“ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง” และเป็นคตพิ จน์ประจา้ ชาตวิ ่า “มัน่ คง มง่ั คงั่ ยั่งยนื ” เป้าหมาย 1. ความมนั่ คง 1.1 การมีความม่ันคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงทังภายในประเทศและภายนอกประเทศ ในทุกระดับ ทังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความม่ันคงในทุกมิติทังมิติ เศรษฐกจิ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม และการเมอื ง 1.2 ประเทศมีความม่นั คงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริยท์ ี่เข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ระบบการเมือง มีความมั่นคงเป็นกลไกท่ีน้าไปสู่การบริหาร ประเทศทต่ี ่อเน่อื งและโปร่งใสตามหลกั ธรรมาภิบาล 1.3 สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกก้าลังเพ่ือพัฒนาประเทศชุมชน มีความ เข้มแขง็ ครอบครัวมคี วามอบอนุ่ 1.4 ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคงพอเพียงกับการด้ารงชีวิต มีที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในชีวิตทรพั ยส์ นิ 1.5 ฐานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มคี วามมัน่ คงของอาหาร พลงั งาน และน้า 2. ความมั่งคั่ง 2.1 ประเทศไทยมีการขยายตวั ของเศรษฐกจิ อย่างตอ่ เน่ือง ยกระดับเปน็ ประเทศในกลุ่ม รายได้สูง ความเหลื่อมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่า เทียมกันมากขึน 2.2 เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสร้างรายได้ทังภายในและภายนอกประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแหง่ อนาคต และเป็นจุดส้าคัญของการเช่ือมโยง ในภูมิภาคทังการคมนาคมขนสง่ การผลิต การคา้ การลงทนุ และการทาธรุ กจิ มบี ทบาทสา้ คญั ในระดบั ภมู ภิ าคและระดับโลก เกดิ สายสัมพนั ธ์ทาง เศรษฐกจิ และการค้าอยา่ งมีพลงั 2.3 ความสมบูรณ์ในทนุ ทจี่ ะสามารถสร้างการพฒั นาคนอยา่ งต่อเนื่อง ไดแ้ ก่ ทนุ มนษุ ย์ ทุนทางปัญญา ทนุ ทางการเงิน ทุนทเ่ี ป็นเคร่ืองมือเครื่องจักร ทุนทางสงั คม และทนุ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 3. ความยั่งยนื 3.1 การพัฒนาท่ีสามารถสรา้ งความเจรญิ รายได้ และคุณภาพชวี ิตของประชาชน ให้เพิ่มขึนอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่ สร้างมลภาวะตอ่ ส่งิ แวดล้อมจนเกินความสามารถในการองรับและเยยี วยาของระบบนิเวศน์ 3.2 การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก ซ่ึงเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึน คนมีความ รบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม มีความเออื อาทร เสยี สละเพอื่ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 3.3 ประชาชนทกุ ภาคสว่ นในสงั คมยดึ ถอื และปฏิบัติตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ สรา้ งความปรองดองสมานฉนั ท์
2. เพอื่ เพ่มิ กระจายโอกาสและคุณภาพการใหบ้ ริการของรัฐอยา่ งทวั่ ถึง เทา่ เทียม เป็นธรรม 3. เพอื่ ลดต้นทุนให้ภาคการผลิตและบริการ 4. เพ่อื เพิม่ มลู คา่ สินคา้ เกษตร อตุ สาหกรรม และบรกิ ารด้วยนวัตกรรม ร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มี 6 ยุทธศาสตร์ ซ่ึงเก่ียวข้องกับ สา้ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขันพนื ฐาน 6 ยทุ ธศาสตร์ ดังนี ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความมน่ั คง ยทุ ธศาสตร์ที่ 1.3 การรักษาความมัน่ คงภายใน และความสงบเรยี บร้อยภายใน ตลอดจนการบริหารจดั การความมัน่ คงชายแดนและชายฝ่ังทะเล ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2.5 การลงทนุ พฒั นาโครงสร้างพืนฐาน ในด้านการขนส่ง ดา้ นพลังงาน ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารและการวจิ ยั และพัฒนา ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคน ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 3.1 การพฒั นาศกั ยภาพคนตลอดช่วงชีวิตใหส้ นบั สนุนการเจริญเตบิ โตของประเทศ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3.2 การยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาและการเรยี นรใู้ หม้ ีคณุ ภาพเท่าเทยี มและทั่วถงึ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3.3 การปลกู ฝังระเบยี บวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มทีพ่ ึงประสงค์ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 4 ดา้ นการสรา้ งโอกาสบนความเสมอภาคและความเทา่ เทยี มกนั ทางสงั คม ยทุ ธศาสตร์ที่ 4.1 การสร้างความม่ันคงและการลดความเหล่ือมล้าทางดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คม ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5 ด้านการสรา้ งการเติบโตบนคณุ ภาพชีวติ ที่เปน็ มติ รต่อสิง่ แวดล้อม ยุทธศาสตร์ท่ี 5.1 การจดั ระบบอนุรักษ์ ฟ้นื ฟูและปอู งกันการทาลายทรพั ยากรธรรมชาติ ยุทธศาสตร์ท่ี 6 ด้านการปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ยทุ ธศาสตร์ที่ 6.1 การปรับปรงุ โครงสร้าง บทบาท ภารกจิ ของหน่วยงานภาครฐั ให้มีขนาดทีเ่ หมาะสม ยุทธศาสตรท์ ่ี 6.4 การต่อต้านการทจุ รติ และประพฤตมิ ิชอบ ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 6.5 การปรับปรงุ กฎหมายและระเบยี บตา่ ง ๆ ให้ทนั สมยั เป็นธรรมและเป็นสากล ๓. แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) ส้านักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทา้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) สาหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทย ในระยะ 5 ปี ซ่ึงเป็นการแปลงยุทธศาสตร์ ชาติ ระยะ 20 ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือเตรียมความพร้อมและวางรากฐานในการยกระดับ ประเทศไทยให้เป็นประเทศทพี่ ัฒนาแล้ว มคี วามมนั่ คง มง่ั คง่ั ยั่งยืน ดว้ ย การพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) มหี ลักการที่สา้ คญั คอื 1) ยึด “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” เพือ่ ให้เกดิ บูรณาการการพัฒนาในทุกมิติ อย่างสมเหตุสมผล มีความพอประมาณ และมีระบบภูมิคุ้มกันและการบรหิ ารจัดการความเสยี่ งท่ีดี ซ่ึง เป็นเงอื่ นไขทจ่ี า้ เป็นสาหรบั การพัฒนาทีย่ ่ังยนื ซึง่ มุง่ เน้นการพัฒนาคน มคี วามเปน็ คนทสี่ มบรู ณ์ สังคมไทย เป็นสังคมคุณภาพ มีท่ียืนและเปิดโอกาสให้กับทุกคนในสังคมได้ดาเนินชีวิตท่ีดีมีความสุข และอยู่ ร่วมกันอยา่ งสมานฉันท์
2) ยดึ “คนเป็นศนู ยก์ ลางการพัฒนา “มุง่ สรา้ งคณุ ภาพชีวิต และสขุ ภาวะที่ดี สาหรบั คน ไทยพัฒนาคนให้มีความเป็นคนที่สมบูรณ์ มีวินัย ใฝ่รู้ มีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ มี ทัศนคตทิ ด่ี รี ับผิดขอบต่อสังคม มีจริยธรรมและคุณธรรม พัฒนาคนทกุ ช่วงวยั และเตรยี มความพร้อมเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการสรา้ งคนให้ใชป้ ระโยชน์และอยู่กับส่งิ แวดล้อมอย่างเกือกูล อนุรักษ์ ฟื้นฟูใช้ ประโยชนท์ รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งเหมาะสม 3) ยึด “วสิ ัยทศั น์ภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี” มาเป็นกรอบของวสิ ัยทศั น์ ประเทศไทย ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความ มน่ั คงมง่ั คั่ง ย่งั ยนื เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ ดว้ ยการพฒั นาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรอื เป็นคติ พจนป์ ระจาชาตวิ า่ “มัน่ คง มงั่ คัง่ ย่ังยืน” 4) ยึด “เป้าหมายอนาคตประเทศไทย ปี 2579” ท่ีเป็นเป้าหมายในยทุ ธศาสตรช์ าติ ระยะ20 ปี มาเป็นกรอบในการก้าหนดเป้าหมายที่จะบรรลุใน 5 ปีแรกและเป้าหมายในระดับย่อยลง มาควบคู่กับกรอบเป้าหมายที่ยัง่ ยนื (SDGs) 5) ยึด “หลักการเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจทล่ี ดความเหลื่อมล้าและขับเคลื่อนการเจริญเติบโตจากการ เพมิ่ ผลิตภาพการผลติ บนฐานของการใช้ภมู ปิ ัญญาและนวัตกรรม” 6) ยึด “หลักการนา้ ไปสู่การปฏิบตั ิให้เกิดผลสัมฤทธ์ิอย่างจรงิ จงั ใน 5 ปี ท่ตี ่อยอดไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่เป็น เป้าหมายระยะยาว” วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือวางรากฐานให้คนไทยเป็นคนที่สมบูรณ์ มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวิจัยค่านิยมท่ีดี มีจิต สาธารณะ และมีความสุข โดยมสี ุขภาวะและสุขภาพที่ดี ครอบครวั อบอุน่ ตลอดจนเป็นคนเก่งที่มีทักษะความรู้ ความสามารถและพฒั นาตนเองได้ต่อเนื่องตลอดชวี ิต 2. เพอื่ ให้คนไทยมคี วามม่ันคงทางเศรษฐกจิ และสงั คม ไดร้ บั ความเปน็ ธรรมในการเขา้ ถึง ทรัพยากรและบริการทางสังคมที่มีคุณภาพ ผู้ด้อยโอกาสได้รับการพัฒนาศักยภาพ รวมทังชุมชนมี ความเข้มแขง็ พง่ึ พาตนเองได้ . 3. เพ่ือให้เศรษฐกิจเข้มแข็ง แข่งขันได้ มีเสถียรภาพ และมีความย่ังยืน สร้างความเข้มแข็ง ของฐานการผลติ และบรกิ ารเดมิ และขยายฐานใหม่โดยการใชน้ วัตกรรมทเ่ี ข้มข้นมากขนึ สรา้ งความเขม้ แข็งของ เศรษฐกิจฐานราก และสรา้ งความมัน่ คงทางพลังงาน อาหาร และนา้ 4. เพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้สามารถสนับสนุนการเติบโตท่ี เปน็ มิตรกับสง่ิ แวดลอ้ มและการมีคณุ ภาพชีวิตทดี่ ขี องประชาชน 5. เพ่ือให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพ โปร่งใส ทันสมัย และมีการท้างานเชิงบูรณาการ ของภาคกี ารพฒั นา 6. เพ่ือให้มีการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคโดยการพัฒนาภาคและเมืองเพ่ือรองรับการพัฒนา ยกระดับฐานการผลติ และบริการเดมิ และขยายฐานการผลติ และบรกิ ารใหม่ 7. เพ่ือผลักดันให้ประเทศไทยมีความเชื่อมโยง (Connectivity) กับประเทศต่าง ๆ ทังในระดับ อนุภูมิภาค ภูมภิ าค และนานาชาตไิ ดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์และมีประสิทธิภาพ รวมทงั ใหป้ ระเทศไทยมี บทบาทน้าและสร้างสรรค์ในด้านการค้า การบริหาร และการลงทุนภายใต้กรอบความร่วมมือ ต่าง ๆ ทังในระดับอนภุ มู ิภาคภูมภิ าค และโลก
เป้าหมายรวม เพ่ือให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ได้ก้าหนดเป้าหมายรวมการพัฒนาของ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ประกอบด้วย 1. คนไทยมคี ุณลกั ษณะเปน็ คนไทยท่ีสมบรู ณ์ มวี ินยั มที ัศนคตแิ ละพฤติกรรมตามบรรทัด ฐานที่ดีของสังคม มีความเป็นพลเมืองต่ืนรู้ มีความสามารถในการปรับตัวได้อยา่ งรู้เท่าทันสถานการณ์ มคี วามรับผิดชอบและท้าประโยชนต์ ่อสว่ นรวม มีสขุ ภาพกายและใจท่ีดี มีความเจริญงอกงามทางจิตวิญญาณมี วิถชี วี ติ ท่ีพอเพยี ง และมคี วามเป็นไทย 2. ความเหลื่อมล้าทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งประชาชน ทุกคนมีโอกาสในการเข้าถงึ ทรัพยากร การประกอบอาชพี และบรกิ ารทางสงั คมที่มีคุณภาพอย่างท่วั ถึงและเป็น ธรรม 3. ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐานบริการและ ดิจิทลั มผี ูป้ ระกอบการรุ่นใหม่และเปน็ สงั คมผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาด เล็กที่เข้มแข็งสามารถใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างสรรค์คุณค่าสินค้าและบริการมี ระบบการผลิตและให้บรกิ ารจากฐานรายได้เดมิ ทม่ี มี ลู ค่าเพม่ิ สูงขนึ และมกี ารลงทุนในการผลิตและบรกิ าร ฐานความรู้ชันสูงใหม่ ๆ ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและชุมชน รวมทังกระจายฐานการผลิตและการ ใหบ้ รกิ ารสูภ่ ูมิภาคเพ่อื ลดความเหลอื่ มลา้ โดยเศรษฐกิจไทยมีเสถยี รภาพ 4. ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพส่ิงแวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มี ความม่ันคงทางอาหาร พลังงาน และนา้ ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ ประกอบดว้ ย 10 ยทุ ธศาสตร์ ซ่ึงเกย่ี วข้องกบั สา้ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาขนั พนื ฐาน 6 ยทุ ธศาสตร์ ดงั นี 1. ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 การเสริมสร้างและพฒั นาศักยภาพทนุ มนษุ ย์ ให้ความสา้ คญั กับการ วางรากฐาน การพัฒนาคนให้มีความ สมบูรณ์ เริ่มตังแต่กลุ่มเด็กปฐมวัยที่ต้องพัฒนาให้มีสุขภาพกาย และใจทด่ี ีมที ักษะทางสมอง ทักษะการเรยี นรู้ และทักษะชีวติ เพ่อื ให้เติบโตอย่างมีคณุ ภาพ ควบคู่กับการพฒั นา คนไทยในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี มีสุขภาวะท่ีดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย มีจิตส้านึกที่ดีต่อสังคม ส่วนรวม มีทกั ษะความรู้ และความสามารถปรับตวั เท่าทันกับการเปลย่ี นแปลงรอบตัวท่ีรวดเร็ว บนพนื ฐานของ การมีสถาบันทางสังคมท่ีเข้มแข็งทังสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบันชุมชนและ ภาคเอกชนที่ร่วมกันพัฒนาทุนมนุษย์ให้มีคุณภาพสูง อีกทังยังเป็นทุนทางสังคมส้าคัญ ในการขับเคล่ือนการ พัฒนาประเทศ 1. วตั ถุประสงค์ 1.1 เพื่อปรบั เปล่ยี นใหค้ นในสงั คมไทยมคี า่ นิยมตามบรรทัดฐานทดี่ ีทางสังคม 1.2 เพ่อื เตรียมคนในสงั คมไทยใหม้ ีทกั ษะในการดารงชีวิตสาหรบั โลกศตวรรษที่ 21 2. เป้าหมายและตวั ชีวดั 2.1 เป้าหมายการพัฒนา 2.1.1 คนไทยส่วนใหญ่มที ศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมตามบรรทดั ฐานที่ดีของสงั คมเพมิ่ ขึน 2.1.2 คนในสงั คมไทยทกุ ชว่ งวัยมีทกั ษะ ความรู้ และความสามารถเพิม่ ขึน 2.1.3 คนไทยได้รับการศึกษาทม่ี คี ณุ ภาพสงู ตามมาตรฐานสากล และสามารถเรียนรู้ ด้วยตนเองอย่างต่อเนือ่ ง
2.2 ตวั ชวี ัด เป้าหมาย 1 คนไทยสว่ นใหญม่ ีทศั นคติและพฤตกิ รรมตามบรรทดั ฐานท่ีดีของสงั คม ตัวชีวัด 1.1 ประชากรอายุ 13 ปีขึนไป มีกิจกรรมการปฏิบัติตนที่สะท้อนการมีคุณธรรม จริยธรรม เพม่ิ ขึน เปา้ หมาย 2 คนในสังคมไทยทกุ ช่วงวยั มีทักษะ ความรู้ และความสามารถเพมิ่ ขนึ 2.1 เดก็ ปฐมวัยมพี ฒั นาการเตม็ ตามศักยภาพ ตัวชีวัด 1 เดก็ มีพฒั นาการสมวยั ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 90 2.2 เดก็ วัยเรยี นและวัยรนุ่ มสี ตปิ ญั ญาและความฉลาดทางอารมณ์เพิม่ ขึน ตัวชวี ดั 2 คะแนน IQ เฉลยี่ ไมต่ ่้ากวา่ เกณฑ์มาตรฐาน ตวั ชวี ดั 3 เดก็ รอ้ ยละ 70 มีคะแนน EQ ไมต่ ้า่ กวา่ เกณฑ์มาตรฐาน เปา้ หมาย 3 คนไทยมีการศกึ ษาท่มี ีคณุ ภาพตามมาตรฐานสากล และมี ความสามารถ เรียนรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง ตัวชวี ัด 3.1 ผลคะแนนสอบ PISA ในแตล่ ะวิชาไมต่ ้า่ กว่า 500 ตวั ชวี ัด 3.2 การใชอ้ ินเทอร์เนต็ เพอ่ื การอา่ นหาความรู้เพ่มิ ขึน ตัวชีวดั 3.3 การอา่ นของคนไทยเพิ่มขึนเปน็ รอ้ ยละ 85 3. แนวทางการพฒั นา 3.1 ปรับเปล่ียนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมท่ีพึง ประสงค์ 3.1.2 ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนทังในและนอกห้องเรียนท่ีสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม ความมวี ินยั จิตสาธารณะ รวมทงั เร่งสรา้ งสภาพแวดล้อมภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอดจากอบายมุข อย่างจริงจัง 3.2 พัฒนาศกั ยภาพคนให้มที ักษะความรู้และความสามารถในการด้ารงชีวติ อย่างมีคุณคา่ 3.2.1 สง่ เสริมใหเ้ ดก็ ปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะทางสมองและทักษะทางสงั คมท่ีเหมาะสม 3.2.2 พัฒนาเด็กวัยเรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบมีความคิด สร้างสรรค์ มีทกั ษะการท้างานและการใชช้ ีวิตทพ่ี ร้อมเขา้ สู่ตลาดงาน 1) ปรับกระบวนการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้เด็กมีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง สอดคล้องกับพัฒนาการ ของสมองแต่ละช่วงวัย และเน้นพัฒนาทักษะพืนฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้าน คณติ ศาสตร์ ดา้ นศิลปะ และดา้ นภาษาตา่ งประเทศ 2) สนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมทังในและนอกห้องเรียนท่ีเอือต่อการพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะ การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง อาทิ การอ่าน การบ้าเพ็ญ ประโยชน์ทางสังคม การดูแลสุขภาพ การท้างานร่วมกัน เป็นกลุ่ม การวางแผนชีวติ 3) สร้างแรงจูงใจให้เด็กเข้าสู่การศึกษาในระบบทวิภาคีและสหกิจศึกษาท่ีมุ่งการฝึก ทักษะอาชีพให้ พร้อมเข้าสตู่ ลาดงาน 3.3 ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาและการเรียนรูต้ ลอดชวี ติ 3.3.2 ปรบั หลกั สตู รการผลติ ครูที่เน้นสมรรถนะ มีจิตวญิ ญาณความเป็นครูเป็นผู้แนะน้า และสามารถ กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน สร้างมาตรการจูงใจให้ผู้มีศักยภาพสูงเข้ามาเป็นครูปรับระบบประเมินวิทยฐานะ
ทางวิชาชีพให้เช่ือมโยงกับพัฒนาการของผู้เรียน และสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัดการเรียนการ สอนท่ีเปน็ การพฒั นาสมรรถนะของครอู ยา่ งตอ่ เนื่อง 3.3.3 ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางทมี่ ีศักยภาพ เข้ารว่ มระบบทวิ ภาคีหรือสหกิจศึกษา สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ ครูฝึกหรือครูพี่เลียงให้ร่วมวางแผนการ จดั การเรยี นการสอน การฝกึ ปฏิบตั ิ และการตดิ ตามประเมนิ ผลผูเ้ รยี น 3.3.6 จัดท้าสื่อการเรียนรู้ท่ีเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสามารถใช้งานผ่านระบบ อุปกรณ์ สื่อสาร เคลอื่ นที่ใหค้ นทุกกลุ่มสามารถเขา้ ถงึ ไดง้ ่าย สะดวก ทว่ั ถงึ ไมจ่ ้ากดั เวลาและสถานที่ และใช้ มาตรการทางภาษี จูงใจให้ภาคเอกชนผลิตหนงั สือ ส่อื การอ่านและการเรยี นรู้ทม่ี ีคุณภาพและราคาถกู 3.3.7 ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และมีชีวิต อาทิ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด โบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ โรงเรียนผู้สูงอายุ รวมทังส่งเสริมให้มีระบบการจัดการความรู้ที่ เปน็ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ 3.7 ผลกั ดนั ใหส้ ถาบันทางสงั คมมีส่วนรว่ มพฒั นาประเทศอยา่ งเขม้ แข็ง 3.3.7 สง่ เสริมสถาบันการศกึ ษาให้เปน็ แหลง่ บริการความรทู้ างวชิ าการท่ที กุ คน สามารถเข้าถึงได้ รวมทังสนับสนุนให้มีการท้าวิจัยร่วมกับชุมชนในการแก้ปัญหาและตอบโจทย์การ พัฒนาในพนื ท่ี 2. ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การสร้างความเป็นธรรมลดความเหล่ือมล้าในสังคมให้ความส้าคัญกับการ ด้าเนินการยกระดับคุณภาพบริการทางสังคมให้ทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านการศึกษาและ สาธารณสุข รวมทังการปิดช่องว่างการคุ้มครองทางสงั คมในประเทศไทย ซ่ึงเป็นการด้าเนินงานตอ่ เน่ืองจากท่ีได้ ขับเคลื่อน และผลักดันในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 11 และมุ่งเน้นมากขึน ในเร่ืองการเพ่ิมทักษะแรงงานและ การใช้ นโยบายแรงงานท่ีสนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและเสริมสร้างรายได้สูงขึน และการสร้างโอกาส ทาง เศรษฐกิจและสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนในเร่ืองการสร้างอาชีพ รายได้ และให้ความช่วยเหลื อที่ เชื่อมโยง การเพิ่มผลิตภาพส้าหรับประชากรกลุ่มร้อยละ 40 รายได้ต้่าสุด ผู้ด้อยโอกาสสตรีและผู้สูงอายุ อาทิ การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจเพื่อสังคม การพัฒนา องค์กรการเงิน ฐานรากและการเข้าถึงเงินทุนเพื่อสร้างอาชีพ และการสนับสนุนการเข้าถึงปัจจัยการผลิต คุณภาพดีท่ีราคาเปน็ ธรรม เปน็ ตน้ และในขณะเดยี วกันก็ตอ้ งเพ่มิ ประสทิ ธิภาพ การใชง้ บประมาณเชิงพืนที่และ บูรณาการ เพอ่ื การลดความเหล่อื มลา้ 1. วัตถุประสงค์ 1.2 เพื่อให้คนไทยทกุ คนเขา้ ถึงบริการทางสงั คมที่มีคุณภาพได้อยา่ งท่ัวถงึ 2. เป้าหมายและตัวชีวัด เปา้ หมายท่ี 2 เพ่มิ โอกาสการเข้าถงึ บริการพนื ฐานทางสงั คมของภาครัฐ ตัวชีวดั 2.1 อตั ราการเข้าเรยี นสุทธิ (ที่ปรับปรงุ ) ในระดบั การศึกษาขนั พนื ฐานเทา่ กบั ร้อยละ 90 โดยไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มนักเรียน/นักศึกษาที่ครอบครัวมีฐานะทางเศรษฐกิจ สังคมและระหว่างพืนท่ี ตวั ชวี ัด 2.2 สัดสว่ นนกั เรียนทมี่ ีผลสัมฤทธท์ิ างการศกึ ษาทุกระดบั ชนั ผา่ นเกณฑ์ คะแนน ร้อยละ 50 มีจานวนเพิ่มขึน และความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธ์ิระหว่างพืนที่ และ ภูมิภาคลดลง
3. แนวทางการพฒั นา 3.1 การเพิ่มโอกาสให้กับกลมุ่ เปา้ หมายประชากรร้อยละ40 ท่ีมรี ายได้ต้่าสดุ ให้ สามารถเข้าถึงบริการท่ีมีคุณภาพของรัฐ และมีอาชีพ ทังในด้านการศึกษาในระดับท่ีสูงขึน การได้รับขยายการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ท่ีเหมาะสมอย่างท่ัวถึง และเปน็ ธรรมและการพฒั นาทักษะฝมี อื เพอื่ ประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ โดย 3.1.1 ขยายโอกาสการเข้าถงึ การศึกษาท่มี คี ณุ ภาพให้แกเ่ ด็กและเยาวชนที่ดอ้ ย โอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกจากัดศักยภาพจากสภาพครอบครัว พืนท่ี และสภาพ ร่างกายการดูแลนกั เรยี นยากจนท่ีอาศยั ในพืนทีห่ ่างไกลทคี่ รอบคลุมตงั แตก่ ารสร้างรายได้ของครัวเรอื นการ สนบั สนนุ คา่ เดนิ ทางไปยงั สถานศึกษา การปรบั ปรงุ ระบบคัดกรองและการให้เงนิ อดุ หนนุ ปจั จัยพืนฐาน นักเรยี นยากจนของ สพฐ. ให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากขึน และการให้ทุนการศึกษาต่อระดับสูง เพอื่ ปอู งกนั ไม่ให้เด็ก นักเรยี นออกจากโรงเรียนกลางคนั 3.2 การกระจายการให้การบริการภาครัฐทงั ด้านการศึกษา สาธารณสขุ และ สวสั ดกิ ารที่มคี ณุ ภาพให้ ครอบคลุมและทวั่ ถึง 3.2.1 ส่งเสริมให้มกี ารกระจายการบรกิ ารดา้ นการศึกษาทีม่ คี ุณภาพให้มีความ เท่าเทยี มกนั มากขึนระหวา่ งพนื ที่ โดย 1) กา้ หนดมาตรการสร้างแรงจูงใจให้บคุ ลากรครมู ีการกระจาย ตัวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึน ทังมาตรการท่ีเป็นตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน อาทิ สวัสดิการบ้านพักครู เส้นทาง ความก้าวหน้าทางอาชพี ที่ชัดเจน เพิ่มโอกาสในการพฒั นาครู 2) สร้างระบบความรับผิดชอบ (Accountability) ของการจัดการศึกษา โดยน้าผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษามาประกอบการประเมินผล ครู และ โรงเรียน 3) ขยายการจัดการศึกษาทางไกลโดยใช้โครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพ่ือ ชว่ ยเหลือโรงเรยี นทอ่ี ยู่หา่ งไกลและขาดแคลนครูผูส้ อน 3.2.4 สง่ เสรมิ ให้ประชากรกล่มุ ต่างๆ โดยเฉพาะกล่มุ เด็ก เยาวชน สตรี ผพู้ ิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม สามารถเข้าถึงบริการของรัฐ และโอกาสทางสังคมได้อย่างเท่า เทียมพร้อมทัง ส่งเสริมบทบาทของกลุ่มข้างต้นในระดับการบริหารและการตัดสินใจทังในระดับชาติและระดับ ทอ้ งถน่ิ เพือ่ สนบั สนนุ การพัฒนาประเทศ 3. ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 การเตบิ โตทเ่ี ป็นมติ รกับส่ิงแวดล้อมเพ่ือการพฒั นาอย่างยั่งยนื ประเด็น ท้าทายท่ีต้องเร่งด้าเนินการในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี 12 ได้แก่ การสร้างความมั่นคงของฐาน ทรัพยากร ธรรมชาติ และยกระดับคุณภาพส่ิงแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการเติบโตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและ คุณภาพ ชีวิตของประชาชน เร่งแก้ไขปัญหาวิกฤติส่ิงแวดล้อมเพื่อลดมลพิษท่ีเกิดจากการผลติ และการบริโภค พัฒนา ระบบบริหารจดั การทโ่ี ปร่งใสเปน็ ธรรม ส่งเสริมการผลิตและการบรโิ ภคท่ีเป็นมติ รกบั ส่ิงแวดล้อมเป็นวง กว้าง มากขึน ต้องเร่งเตรียมความพร้อมในลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพ่ิมขีดความสามารถในการ ปรับตัว ต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทังบรหิ ารจัดการเพือ่ ลดความเสย่ี งดา้ นภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1.3 บรหิ ารจัดการสง่ิ แวดล้อม และลดมลพษิ ใหม้ คี ุณภาพดขี นึ 2. เป้าหมายและตวั ชวี ัด เป้าหมายที่ 3 สร้างคณุ ภาพสิง่ แวดล้อมทีด่ ี ลดมลพิษ และลดผลกระทบต่อสุขภาพ
ของประชาชนและระบบนเิ วศ โดยให้ความส้าคัญเป็นล้าดบั แรกกบั การจัดการขยะมลู ฝอยและของเสีย อันตรายฟน้ื ฟูคณุ ภาพแหล่งนา้ ส้าคัญของประเทศ และแก้ไขปัญหาวิกฤตหมอกควนั ตัวชีวัด 3.1 สัดส่วนของขยะมูลฝอยชุมชนได้รับการจัดการอย่างถูกต้องและน้าไปใช้ประโยชน์ไม่นอ้ ย กว่าร้อยละ 75 สัดส่วนของเสียอันตรายชุมชนที่ได้รับการก้าจัดอย่างถูกต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 และกาก อุตสาหกรรมอนั ตรายทังหมดเขา้ สรู่ ะบบการจัดการท่ีถกู ต้อง 3. แนวทางการพฒั นา 3.3 แก้ไขปญั หาวกิ ฤตส่ิงแวดล้อม ดว้ ยการเร่งรดั การควบคุมมลพษิ ทงั ทางอากาศขยะ นา้ เสยี และของ เสียอันตรายที่เกิดจากการผลิตและบริโภค สร้างเมืองท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมหรือเมืองสีเขียวเพื่อสร้าง คุณภาพสิง่ แวดลอ้ มทด่ี ใี ห้กับประชาชน โดยมีแนวทางด้าเนนิ งาน ดงั นี 3.3.1 เร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะตกค้างสะสมในพืนท่ีวิกฤต ผลักดัน กฎหมายและกลไกเพ่ือ การคัดแยกขยะ สนับสนุนการแปรรปู เปน็ พลงั งาน ใชม้ าตรการทางเศรษฐศาสตรเ์ พ่ือให้เกดิ การลดปริมาณขยะ รวมทงั สรา้ งวนิ ยั คนในชาตเิ พอื่ การจัดการขยะอย่างย่งั ยืน 4. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและย่ังยืน ให้ความส้าคญั ต่อการฟ้ืนฟพู ืนฐานด้านความมนั่ คงที่เป็นปจั จัยส้าคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศ โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติของผู้มีความเห็นต่างทางความคิดและอุดมการณ์บน พืนฐานของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุขและการเตรียม การรับมือกับภัย คุกคามข้ามชาติซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยยะส้าคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะ 20 ปขี ้างหน้า 1. วตั ถุประสงค์ 1.1 เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และเสริมสร้างความม่ันคงภายใน รวมทังป้องกันปัญหาภัย คุกคามทีเ่ ป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกจิ สังคม และการเมอื งของชาติ 1.2 เพ่ือสร้างความพร้อมและผนึกก้าลังของทุกภาคส่วน ให้มีขีดความสามารถในการบริหาร จัดการ ด้านความมั่นคง และมีศักยภาพในการปูองกันและแก้ไขสถานการณ์ท่ีเกิดจากภัยคุกคามทังภัยทางทหารและ ภยั คุกคามอน่ื ๆ 1.3 เพ่ือเสริมสร้างความร่วมมือด้านความม่ันคงกับมิตรประเทศในการสนับสนุน การรักษาความสงบ สุขและผลประโยชน์ของชาติ 2. เป้าหมายและตัวชีวดั เป้าหมายภาพรวมคอื ผลประโยชนข์ องชาตวิ ่าด้วยความม่นั คง มั่งค่งั ย่งั ยนื เป้าหมายที่ 1 ปกปอ้ งและเชดิ ชูสถาบนั พระมหากษตั ริยใ์ ห้เป็นสถาบนั หลกั ของ ประเทศ ตัวชวี ดั 1.1 จานวนกิจกรรมเทิดพระเกียรตแิ ละเชดิ ชสู ถาบนั พระมหากษัตริย์ เพ่ิมขึน ตัวชีวัด 1.2 จานวนกิจกรรมทมี่ ีความเกย่ี วข้องกบั โครงการพระราชดาริเพิ่มขึน เป้าหมายที่ 3 ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินมีโอกาสใน การศกึ ษาและการประกอบอาชีพทส่ี ร้างรายไดเ้ พ่มิ ขนึ
ตัวชีวัด 3.2 รายได้ครัวเรือนเฉล่ียต่อคนและจ้านวนปีการศึกษาเฉลี่ยในพืนท่ี 3 จังหวัดชายแดน ภาคใตเ้ พ่ิมขนึ เป้าหมายที่ 4 ประเทศไทยมีความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความม่ันคง ในกลุ่มประเทศ สมาชิก อาเซียน มิตรประเทศ และนานาประเทศในการป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการรักษา ผลประโยชน์ของชาติ ตัวชวี ดั 4.4 จ้านวนคดีท่ีเก่ียวข้องกับยาเสพตดิ ลดลง 3. แนวทางการพฒั นา 3.1 การรกั ษาความมนั่ คงภายใน เพ่ือใหเ้ กิดความสงบในสงั คมและธ้ารงไวซ้ งึ่ สถาบนั หลกั ของชาติ 3.1.1 สรา้ งจิตส้านึกของคนในชาติใหม้ คี วามหวงแหน และธ้ารงรกั ษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ โดยปลูกฝงั และสรา้ งความตระหนักถึงความสา้ คัญ พรอ้ มทังก้าหนดมาตรการ เพือ่ ป้องกันการกระทา้ ท่ีมีแนวโน้มท่ีจะสง่ ผลกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ 3.1.2 เสริมสร้างความปรองดองของคนในชาติและมีกลไกในการตรวจสอบและพัฒนาภาคการเมือง โดยปลูกฝังค่านิยมและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจของการอยู่ร่วมกันบนพืนฐานความแตกต่างทางความคิด และอุดมการณ์ทางการเมือง ภายใต้สิทธิและหน้าท่ีตามระบอบประชาธิปไตย และค้านึงถึงความมั่นคงและ ผลประโยชน์ของชาตอิ ย่างแท้จริง 3.1.3 ป้องกนั และแก้ไขปญั หาความไม่สงบในจังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดยกระบวนการสันติสขุ แนวทางสนั ติวธิ ี และกระบวนการมสี ่วนร่วมของประชาชนในพืนที่ บนพนื ฐาน ความแตกต่างทางอัตลักษณ์และชาติพันธุ์ เพื่อขจัดความขัดแย้ง ลดความรุ่นแรงตามแนวทาง “เข้าใจ เข้าถึง พฒั นา” พรอ้ มทังสร้างโอกาสในการพฒั นาเศรษฐกจิ และความเปน็ ธรรมทางสังคมในพืนที่ 3.2 การพัฒนาเสรมิ สรา้ งศักยภาพการป้องกันประเทศ เพอ่ื เตรียมความพร้อมในการรบั มือภยั คุกคาม ทังการทหารและภยั คกุ คามอน่ื ๆ 3.2.7 ด้าเนินบทบาทเชิงรุก และใช้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศทังระดับภูมิภาคและพหุภาคี เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของไทย ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถแลกเปลี่ยนและเรียนรู้แนว ปฏิบัติที่เป็นเลิศและร่วมมือในการรับมือภัยคุกคามด้านความม่ันคงระหว่าง ประเทศ อาทิ ปัญหายาเสพติด การก่อการร้าย การโยกย้ายถิ่นฐาน การลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์ ความม่ันคงด้าน ไซเบอร์ ภัยพิบัติ โรค ระบาดโรคตดิ ตอ่ ร้ายแรง โรคอุบตั ิใหม่ โรคอบุ ตั ซิ า้ และสถานการณ์ ฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสุขอ่นื ๆ 5. ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 การบริหารจดั การในภาครัฐ การป้องกนั การทจุ รติ ประพฤตมิ ชิ อบ และธรรมาภิบาลในสังคมไทย เป็นช่วงเวลาส้าคัญที่ต้องเร่งปฏิรูป การบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดผล สัมฤทธิ์อย่างจริงจัง เพ่ือให้เป็นปัจจัยสนับสนุนส้าคัญท่ีจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศในทุกด้านให้ประสบ ผลส้าเร็จบรรลุเป้าหมาย ทังการบริหารจัดการภาครัฐให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบตรวจสอบได้อย่าง เป็นธรรม และประชาชนมีส่วนร่วม มีการกระจายอ้านาจ และแบ่งภารกิจรับผิดชอบ ท่ีเหมาะสมระหว่าง สว่ นกลาง ภูมิภาค และทอ้ งถน่ิ และวางพืนฐานเพือ่ ให้บรรลตุ ามกรอบเปา้ หมายอนาคต ในปี 2579 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1.1 เพอื่ ใหภ้ าครัฐมขี นาดเลก็ มกี ารบริหารจดั การที่ดี และไดม้ าตรฐานสากล 1.3 เพ่ือลดปัญหาการทจุ รติ และประพฤตมิ ชิ อบของประเทศ
1.4 เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการทางกฎหมายให้สามารถอ้านวยความสะดวกด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรมแก่ประชาชน 2. เปา้ หมายและตวั ชีวดั เปา้ หมายที่ 3 เพิม่ คะแนนดัชนีการรับรกู้ ารทุจริตใหส้ งู ขึน ตัวชีวัด 3.1 ระดับคะแนนของดัชนกี ารรบั ร้กู ารทุจรติ สงู กว่าร้อยละ 50 เม่ือสินสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับ ท่ี 12 3. แนวทางการพฒั นา 3.1 ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจ และคุณภาพบุคลากรภาครัฐให้มีความโปร่งใส ทันสมยั คล่องตัว มขี นาดท่ีเหมาะสม เกดิ ความคมุ้ คา่ 3.1.1 กา้ หนดภารกิจ ขอบเขตอ้านาจหนา้ ท่ีของราชการบริหารสว่ นกลางสว่ นภูมิภาค และท้องถ่ินให้ ชดั เจนและไมซ่ ้าซ้อน 3.5 ป้องกนั และปรามปรามการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบ 3.5.1 ปลูกฝังให้คนไทยไมโ่ กง 1) สง่ เสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมุ่งสรา้ งจติ สานกึ ในการรักษาประโยชนส์ าธารณะ ทศั นคตเิ ชงิ บวก รวมทังคุณธรรม จริยธรรม และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับทุกกลุ่มในสังคม ผ่านกลไกครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สื่อมวลชน และเครือข่ายทางสังคม ควบคู่กับการปลูกฝังจิตสานึกความ ซ่ือสัตย์ ค่านิยมท่ีถูกต้อง สร้างความตระหนักถึงภัยร้ายแรงของการทุจริตและการรู้เท่าทันการทุจริตของ สังคมไทย โดยอาศยั กลไกทางสงั คมเป็นมาตรการในการลงโทษผู้กระท้าผดิ หรอื ผกู้ ระท้าการทจุ รติ และประพฤติ มิชอบ 2) พัฒนากลไกและระบบการดาเนินงานท่ีทาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ดารงต้าแหน่งทางการเมือง ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและมาตรฐานจริยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน ภาคเอกชน และส่ือมวลชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังพฤติกรรมของข้าราชการและผู้ดารงต้าแหน่ง ทางการเมืองในการใช้ต้าแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ และก้าหนดขันตอนการลงโทษผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าผืน ประมวลจรยิ ธรรมตามความร้ายแรงแห่งการกระท้าอย่างจริงจัง 7) พฒั นาสรา้ งเครือข่ายและค้มุ ครองการแจง้ เบาะแสการทุจริตและประพฤตมิ ิชอบในกลมุ่ ประชาชน. 3.5.2 ป้องกนั การทจุ ริต 3) เร่งรัดหน่วยงานภาครัฐให้มีการดาเนินงานในการก้าหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการ ทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเคร่งครัด โดยติดตามผลการด้าเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา การทจุ ริตและประพฤติมชิ อบของทุกหนว่ ยงานของรัฐอย่างตอ่ เน่ือง 4) เสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตให้สามารถเป็น หน่วยงานหลักของภาครัฐในการเฝ้าระวัง ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบที่บูรณาการ การทา้ งานร่วมกันอย่างมกี ลยทุ ธ์ 7. ยุทธศาสตร์ที่ 8 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ให้ความส้าคัญการใช้องค์ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัยและพัฒนา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์อย่างเข้มข้นทังในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม รวมทังให้ความส้าคัญกับการพัฒนา สภาวะแวดล้อมหรือปัจจัยพืนฐานท่ีเอืออานวยทังการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากรวิจัย
โครงสร้างพืนฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบรหิ ารจัดการเพ่ือช่วยขบั เคล่ือนการพัฒนาประเทศ ใหก้ า้ วสู่เปา้ หมายดงั กล่าว 1. วัตถปุ ระสงค์ 1.1 เพ่อื สร้างความเข้มแขง็ และยกระดับความสามารถดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ขันกา้ วหน้า ให้สนับสนนุ การสร้างมูลคา่ ของสาขาการผลิตและบรกิ ารเป้าหมาย 2. เปา้ หมายและตัวชีวดั เปา้ หมายท่ี 1 เพิ่มความเข้มแข็งด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องประเทศ ตัวชวี ัดที่ 1.3 สดั สว่ นการลงทนุ วิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมยทุ ธศาสตร์และ เป้าหมายของประเทศ : งานวิจัยพืนฐานเพื่อสร้าง/สะสมองค์ความรู้ : ระบบโครงสร้างพืนฐาน บคุ ลากรและระบบมาตรฐาน ตวั ชวี ัด 1.4 จา้ นวนบุคลากรด้านการวิจัยและพฒั นาเพ่ิมเปน็ 25 คนต่อประชากร 10,000 คน 3. แนวทางการพัฒนา 3.1 เรง่ ส่งเสริมการลงทุนวจิ ัยและพัฒนาและผลักดันสู่การใช้ประโยชน์ในเชงิ พาณิชยแ์ ละเชงิ สังคม 3.1.3 ลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสังคมเพ่ือลดความเหล่ือมล้าและยกระดับ คุณภาพชวี ติ ของประชาชน อาทิ เทคโนโลยกี ารศกึ ษา เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีเพื่อผู้พิการ เทคโนโลยีเพ่ือผู้สูงอายุ เทคโนโลยีทางการแพทย์ (ยาและวัคซีน) โดยอาศัย กลไก ด้าเนินงานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันการวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาชนหรอื ชุมชน 3.3 พัฒนาสภาวะแวดล้อมของการพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจยั และนวตั กรรม 3.3.1 ด้านบุคลากรวิจัย 1) เร่งการผลิตบคุ ลากรสายวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีที่มคี ุณภาพและสอด คล้องกับความต้องการโดยเฉพาะในสาขา STEM (วิทยาศาสตร์ (Science : S) เทคโนโลยี (Technology:T) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineer : E) และคณิตศาสตร์ (Mathematics : M) 2) เร่งสร้างนักวิจยั มอื อาชีพ 3) พัฒนาศกั ยภาพนกั วจิ ัยใหม้ ีทังความเข้าใจในเทคโนโลยี ๒.๔. แผนกำรศกึ ษำแห่งชำติ พ.ศ. 2560-2579 ส้านักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทา แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 เพ่ือใช้เป็น แผนยุทธศาสตรร์ ะยะยาวสาหรบั หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องกับการศึกษาของประเทศ ได้นาไปใช้เป็นกรอบและแนว ทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตังแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ี สา้ คัญของแผน คอื การมุ่งเน้นการประกนั โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการศึกษาเพ่ือการมีงาน ทาและสร้างงานได้ ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลก ท่ีขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมและ ความคิดสร้างสรรค์ รวมทังวามเป็นพลวัตร เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปาน กลาง ไปสูป่ ระเทศที่พฒั นาแลว้ ซง่ึ ภายใต้กรอบแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560-2579 ได้ก้าหนดสาระส้าคัญส้าหรับบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Access) ความเท่าเทียมทางการศึกษา (Equity) คุณภาพ
การศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และตอบโจทย์บริบทท่ีเปล่ียนแปลง (Relevancy) ในระยะ 15 ปี ข้างหน้า ดังนี วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ด้ารงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคลอ้ งกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และเปลย่ี นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื พัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมปี ระสทิ ธิภาพ 2. เพือ่ พัฒนาคนไทยให้เปน็ พลเมืองดี มคี ุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะทสี่ อดคล้อง กับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และ ยทุ ธศาสตร์ชาติ 3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้จัก สามัคคีและร่วมมือ ผนึกกาลังมงุ่ สกู่ ารพัฒนาประเทศอย่างยงั่ ยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. เพ่ือนาประเทศไทยก้าวข้ามกับดกั ประเทศทม่ี ีรายได้ปานกลาง และความเหลอ่ื มลา้ ภายในประเทศ ลดลง ยุทธศาสตร์ 1. การจัดการศึกษาเพอื่ ความม่นั คงของสงั คมและประเทศชาติ 2. การผลิตและพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพ่ือสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ ประเทศ 3. การพัฒนาศักยภาพคนทุกชว่ งวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 4. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศกึ ษา 5. การจัดการศกึ ษาเพอื่ สร้างเสริมคุณภาพชีวติ ทีเ่ ปน็ มิตรกับส่ิงแวดล้อม 6. การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบรหิ ารจดั การศึกษา ปจั จัยและเงื่อนไขความสา้ เรจ็ การด้าเนินการตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ตามท่ีก้าหนดไว้ใน แผนการศึกษา แห่งชาติจะประสบผลส้าเร็จตามที่ระบุไว้ในแต่ละยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนา หน่วยงานทังระดับ นโยบายและระดับปฏิบัติการ ทังในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จังหวัด เขตพืนท่ีการศึกษาและสถานศึกษาต้อง ยึดถือเปน็ แนวทางในการดาเนินงาน และมกี ารทบทวน ปรบั ปรุงมาตรการ เป้าหมาย ความสา้ เร็จใหท้ ันต่อการ เปลี่ยนแปลงทเ่ี กดิ ขึนในแตล่ ะพืนที่เพือ่ การพฒั นาศักยภาพผูเ้ รยี นในทุกชว่ งวยั ต้อง ดา้ เนนิ การดงั นี 1. การสร้างการรับรู้ ความเขา้ ใจและการยอมรบั จากผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสยี และประชาสังคม ในการสนบั สนุนสง่ เสริมการพฒั นาการศึกษาในลักษณะตา่ ง ๆ อยา่ งกว้างขวาง มนุ่ เนน้ ที่การจัดระบบ การศกึ ษาท่มี ีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมุง่ เน้นการพัฒนาคุณภาพของผู้เรยี นในทุกระดบั 2. การสร้างความเข้าใจในเป้าหมายและยุทธศาสตร์การดาเนินงานของแผนฯของผู้ปฏิบัติทุก หน่วยงานทกุ ระดับ เพ่อื ให้การขับเคลือ่ นแผนฯ ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ มีการบรหิ ารจัดการและ การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาให้บรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของการจัดการศึกษา มคี ณะกรรมการกากบั ดูแลแต่ละยุทธศาสตร์ใหเ้ กดิ การนาไปปฏิบัติ โดยมีระบบงบประมาณเป็นกลไกสนับสนุน ใหบ้ รรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม
3. การปรบั เปล่ียนกระบวนทัศน์ของการจดั การศึกษา จากการเปน็ ผจู้ ดั การศกึ ษาโดยรฐั มาเปน็ การจัด การศึกษาโดยทกุ ภาคสว่ นของสงั คม ที่มุ่งการจัดการศกึ ษาเพือ่ ความเท่าเทยี มและทัว่ ถึง (Inclusive Education) ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรับทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมาย การพฒั นาที่ย่ังยนื (Sustainable Development Goals) 4. การจัดให้แผนการศกึ ษาแหง่ ชาตเิ ปน็ เสมอื นแผนงบประมาณดา้ นการจดั การศกึ ษา ของรัฐ ระบบการจัดสรรงบประมาณประจาปีให้ยึดแผนงาน โครงการและเป้าหมายการพัฒนาท่ี ก้าหนดไว้ในยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาของแผน ฯ เป็นหลักในการพิจารณา เพื่อให้การด้าเนินงาน พฒั นา การศึกษาเป็นไปทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาผเู้ รียนแต่ละชว่ งวยั และการพัฒนากา้ ลังคนตามความ ตอ้ งการของตลาดงานและประเทศ เพอื่ การจดั การศกึ ษาบรรลผุ ลตามยทุ ธศาสตร์ ตัวชวี ดั ในช่วงเวลาทกี่ า้ หนด 5. การปรบั ระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ โดยปรับโครงสร้างการบริหารงานให้มี ความชัดเจนในด้านบทบาท หน้าท่ีและการกระจายอ้านาจและการตัดสินใจจากส่วนกลางสู่ระดับภูมิภาคและ สถานศึกษา รวมทังการปรับระบบการบริหารจัดการ และการบริหารงานบุคคลในแต่ละระดับให้ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ผู้เรียนได้รับบริการการศึกษาท่ีมีมาตรฐาน อย่างเสมอภาคและเท่าเทยี ม 6. การสร้างระบบข้อมลู และสารสนเทศท่บี รู ณาการและเช่ือมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายใน และการประเมนิ คุณภาพภายนอกผา่ นระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการรายงานต่อสาธารณชนจะเปน็ กลไก ในการสร้างการรับรู้ของผู้จัดการศึกษาและผู้เรียน เพ่ือการปรับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความ รบั ผิดชอบต่อผเู้ รยี น ผา่ นระบบการกากบั ตรวจสอบ ตดิ ตามประเมินผล 7. การปฏิรูประบบทรัพยากรและการเงินเพื่อการศึกษา เพ่ือให้รัฐสามารถใช้เครื่องมือทางการเงินใน การกากับการดาเนนิ งานของสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ ไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติและนโยบายรฐั บาล ๒.๕ นโยบำยรัฐบำล (พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี) นายกรฐั มนตรไี ดแ้ ถลงนโยบาย รัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 โดยได้กาหนดนโยบายไว้ 11 ด้าน เพ่ือให้ สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 19 ที่ระบุให้ รัฐบาลมีหน้าท่ีในการบริหารราชการแผ่นดิน ด้าเนินการให้มีการปฏิรูปด้านต่าง ๆ และส่งเสริมความสามัคคี และความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ โดยมีนโยบายท่ีเก่ียวข้องกับภารกิจส้านักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขันพนื ฐาน ดงั นี นโยบายท่ี 1 การปกป้องและเชดิ ชสู ถาบันพระมหากษตั ริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็น องค์ประกอบส้าคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยรัฐบาล จึงถือเป็นหน้าท่ีส้าคัญย่ิงยวดใน อนั ที่จะเชดิ ชสู ถาบนั นไี วด้ ้วยความจงรักภกั ดี และปกปอู งรกั ษาพระบรมเดชานภุ าพ เผยแพรค่ วามรูค้ วามเข้าใจ ท่ีถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ทังจะสนับสนุน โครงการทังหลายอนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ สง่ เสรมิ ให้เจ้าหน้าที่สถานศึกษา ตลอดจนหน่วยงานทงั หลายของ รัฐเรียนรู้เข้าใจหลักการทรงงาน สามารถน้าหลักดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการและการพัฒนา ตลอดจนเรง่ ขยายผลตามโครงการและแบบอยา่ งทีท่ รงวางรากฐานไว้ให้แพร่หลาย นโยบายที่ 2 การรกั ษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ โดยเร่งแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายุทธศาสตรเ์ ข้าใจ เข้าถงึ และพัฒนา มาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติ
วิธี ส่งเสริมการพูดคุย สันติสุขกับผู้มีความคิดเห็นต่างจากรัฐ สร้างความเชื่อม่ันในกระบวนการยุติธรรมตาม หลกั นติ ิธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนโดยไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ ควบคกู่ ับการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมที่สอดคล้องกับ ความต้องการของประชาชนในพืนที่ซ่ึงเปน็ พหุสังคม ขจัดการฉวยโอกาส ก่อความรุนแรงแทรกซ้อนเพ่ือซ้าเติม ปัญหาไม่ว่าจากผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง ทังจะเพ่ิมระดับปฏิสัมพันธ์กับต่างประเทศ และองคก์ ารระหวา่ งประเทศท่ีอาจชว่ ยคลี่คลายปญั หาได้ รวมทังเสรมิ สร้างความสมั พันธ์อนั ดกี ับนานาประเทศ เช่น การคมุ้ ครองดูแลคนไทยและผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดน การแลกเปล่ยี นทางการศึกษา วฒั นธรรม การคา้ การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ และการเปดิ โลกทัศนใ์ หม้ ีลกั ษณะสากล เป็นต้น 2.1 ในระยะเร่งด่วน รัฐบาลให้ความส้าคัญต่อการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมการเมืองและความ ม่ันคงอาเซียน ในกิจการ 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการชายแดน การสร้างความมั่นคงทางทะเล การแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การสร้างความไว้วางใจกับประเทศเพ่ือนบ้าน และการเสริมสร้างศักยภาพในการ ปฏิบัติการทางทหารร่วมกันของอาเซียน โดยเน้นความร่วมมือเพ่ือปูองกันแก้ไขข้อพิพาทต่าง ๆ และการแก้ไข ปัญหาเส้นเขตแดนโดยใช้กลไก ทังระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทังจะจัดระเบียบการพัฒนาตามกรอบประชาคม เศรษฐกจิ อาเซียน และการบริหารจัดการพนื ทชี่ ายแดนทงั ทางบก และทางทะเลรองรบั การพัฒนาเขตเศรษฐกิจ พิเศษ ตามแนวชายแดน โดยใช้ระบบเฝ้าตรวจท่ีมีเทคโนโลยีทันสมัย ก้าหนดให้ปัญหายาเสพติด การค้าอาวุธ การค้ามนุษย์ การกระทาอันเป็นโจรสลัด การก่อการร้าย สากลและอาชญากรรมข้ามชาติเป็นปัญหาเฉพาะ หน้าท่ีต้องได้รับการปูองกันและแก้ไขโดยการบังคับใช้กฎหมายท่ีเข้มงวด และจัดการปัญหาอ่ืน ๆ ที่เชื่อมโยง ต่อเน่ืองให้เบ็ดเสร็จ เช่น ปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล การปรับปรุงระบบ การเข้าเมือง การจัดระเบียบ แรงงานต่างดา้ ว เปน็ ต้น 2.2 เร่งแก้ไขปญั หาการใชค้ วามรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายทุ ธศาสตร์ เข้าใจเข้าถงึ และ พัฒนามาใช้ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสันติวิธี ส่งเสริมการพูดคุย สันติสุขกับผู้มีความคิดเห็นต่างจากรัฐ สร้างความเชื่อม่นั ในกระบวนการยตุ ิธรรมตามหลกั นิตธิ รรมและหลักสทิ ธิมนุษยชนโดยไมเ่ ลือกปฏิบัติ ควบคูก่ ับ การพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมทีส่ อดคลอ้ งกับความตอ้ งการของประชาชนในพืนท่ีซึง่ เป็นพหุสังคม ขจัดการฉวย โอกาสก่อความรุ่นแรงแทรกซ้อน เพ่ือซ้าเติมปัญหาไม่วา่ จากผู้มีอิทธพิ ลในท้องถิ่นหรอื เจา้ หน้าท่ี ฝ่ายบ้านเมือง ทังจะเพมิ่ ระดับปฏสิ ัมพันธก์ ับตา่ งประเทศ และองค์การ ระหว่างประเทศท่อี าจชว่ ยคล่ีคลายปญั หาได้ นโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบ้ารงุ ศาสนา ศิลปะและวฒั นธรรม นโยบายท่ี 4.1 การปฏริ ูปการศึกษาและการเรยี นรู้ โดยให้ความสา้ คัญทงั การศกึ ษา ในระบบและการศึกษาทางเลือกไปพร้อมกัน เพอ่ื สรา้ งคุณภาพของคนไทยให้สามารถเรียนรู้พฒั นาตน ได้เต็มตามศักยภาพ ประกอบอาชีพและดารงชีวิตได้โดยมีความใฝ่รู้และทักษะที่เหมาะสมเป็นคนดีมีคุณธรรม สร้างเสริมคณุ ภาพการเรียนรู้ โดยเน้นการเรยี นรเู้ พ่ือสร้างสัมมาชีพในพืนที่ ลดความเหลือ่ มล้าและพัฒนากาลัง คนให้เปน็ ท่ตี ้องการเหมาะสมกับพนื ที่ ทังในดา้ นการเกษตร อุตสาหกรรม และธรุ กิจบริการ นโยบายท่ี 4.2 ในระยะเฉพาะหนา้ จะปรับเปลี่ยนการจดั สรรงบประมาณสนับสนนุ การศึกษา ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความจา้ เปน็ ของผู้เรยี นและลักษณะพนื ท่ขี องสถานศกึ ษา และปรับปรุงและ บูรณาการระบบการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ เพ่ือเพ่ิมโอกาสแก่ผู้ยากจนหรือด้อยโอกาส จัดระบบการสนบั สนุนให้เยาวชนและประชาชนทว่ั ไปมีสิทธิเลือกรบั บรกิ ารการศึกษา ทังในระบบโรงเรียนและ นอกโรงเรียนโดยจะพจิ ารณาจดั ให้มีคปู องการศกึ ษาเปน็ แนวทางหนงึ่
นโยบายท่ี 4.3 ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ทัว่ ไปมโี อกาสรว่ มจดั การศกึ ษาทมี่ ีคณุ ภาพ ท่ัวถงึ และรว่ มในการปฏิรูปการศกึ ษา การเรียนรู้กระจายอ้านาจการบริหารจัดการศึกษาสู่สถานศึกษา เขตพืนท่ีการศึกษา และองค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่ินตามศักยภาพและความพร้อม โดยใหส้ ถานศกึ ษาสามารถเปน็ นิติบุคคล และบริหารจดั การ ได้อยา่ งอสิ ระและคลอ่ งตวั ขึน นโยบายที่ 4.4 พัฒนาคนทุกชว่ งวัยโดยสง่ เสริมการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ เพ่ือใหม้ ี ความรแู้ ละทักษะใหม่ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามแนวโน้มการจ้างงานในอนาคต ปรบั กระบวนการเรยี นร้แู ละหลกั สตู รให้เช่อื มโยงกับภูมิสังคม โดยบูรณาการความรู้และคุณธรรมเขา้ ดว้ ยกนั เพ่ือให้เอือต่อ การพัฒนาผู้เรียนทังในด้านความรู้ ทักษะ การใฝ่เรียนรู้ การแก้ปัญหา การรับฟัง ความเห็นผู้อื่น มีคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมืองดี โดยเน้นความร่วมมือระหว่างผู้เก่ียวข้องทังใน และนอกโรงเรียน นโยบายท่ี 4.6 พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครู ท่ีมีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู เน้นครผู ู้สอนให้มวี ฒุ ติ รงตามวชิ าทส่ี อน นาเทคโนโลยสี ารสนเทศและเครือ่ งมือทเ่ี หมาะสมมาใชใ้ นการเรียนการ สอน เพ่ือเปน็ เครอื่ งมือช่วยครูหรอื เพอ่ื การเรยี นรู้ด้วยตนเอง เช่น การเรยี นทางไกล นโยบายที่ 8 การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนา และนวตั กรรม นโยบายที่ 8.2 เร่งเสริมสร้างสังคมนวัตกรรม โดยส่งเสริมระบบการเรียนการสอนท่ีเชื่อมโยงระหว่าง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ การผลิตก้าลัง คนในสาขาที่ขาดแคลน การ เชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้กับการทางาน การให้บุคลากรด้านการวิจัยของภาครัฐสามารถไปทางานใน ภาคเอกชน และการให้อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมมีช่องทางได้เทคโนโลยีโดยความร่วมมือจาก หน่วยงานและสถานศึกษาภาครัฐ นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการ ใชป้ ระโยชน์อย่างยง่ั ยนื นโยบายที่ 9.5 เรง่ รัดการควบคมุ มลพิษทงั ทางอากาศ ขยะ และนา้ เสยี ทีเ่ กิดจากการผลติ และบริโภค เพ่ือสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมท่ีดีให้แก่ประชาชน โดยให้ความส้าคัญในการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการจัดการขยะ เป็นล้าดับแรก ส่งเสริมให้เกิดกลไกการคัดแยกขยะเพื่อนากลับมาใช้ใหม่ให้มากท่ีสุด เร่งก้าจัดขยะมูลฝอย ตกค้างสะสมในสถานที่กาจัดขยะในพนื ทวี่ ิกฤตซิ ่ึงจะใช้ที่ดนิ ของรัฐเป็นหลักในพืนทใี่ ด ท่สี ามารถจัดการขยะมูล ฝอยโดยการแปรรูปเป็นพลังงาน ก็จะสนับสนุนให้ดาเนินการ ส่วนขยะอุตสาหกรรมนัน จะวางระเบียบ มาตรการการบริหารจัดการเป็นพิเศษ โดยก้าหนดให้ทิงในบ่อขยะอุตสาหกรรมท่ีสร้างขึนอย่างถูกต้องตาม มาตรฐานและให้แยกเป็นสัดส่วนจากบ่อขยะชุมชน สาหรับขยะของเสียอันตราย ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และขยะ ติดเชือจะพัฒนาระบบกากับติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบทิง รวมทังจัดการสารเคมีโดยลด ความเส่ียงและอันตรายที่เกิดจากการรั่วไหล และการเกิดอุบัติเหตุให้ความส้าคัญในการจัดการอย่างครบวงจร และใชม้ าตรการทางกฎหมายและการบงั คับใชก้ ฎหมายอย่างเด็ดขาด นโยบายที่ 10 การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดนิ ทีม่ ีธรรมาภบิ าล และการป้องกนั ปราบปรามการ ทุจรติ และประพฤตมิ ิชอบในภาครฐั
นโยบายที่ 10.5 ใช้มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมและจิตสานึกใน การรักษาศักดิศ์ รขี องความเป็นข้าราชการและความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต ควบคู่กบั การบรหิ าร จัดการภาครัฐท่ีมีประสิทธิภาพ เพื่อปูองกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของ เจา้ หน้าที่ของรัฐทุกระดับอยา่ งเคร่งครดั ยกเลกิ หรอื แกไ้ ขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับตา่ ง ๆ ท่ไี ม่จ้าเปน็ สร้าง ภาระแก่ประชาชนเกินควร หรือเปิดช่องโอกาสการทุจริต เช่น ระเบียบการจัดซือ จัดจ้าง การอนุญาต อนุมัติ และการขอรับบริการจากรัฐ ซึ่งมีขันตอนยืดยาวใช้เวลานาน ซ้าซ้อน และเสียค่าใช้จ่ายทังของภาครัฐและ ประชาชน ๒.๖ นโยบายความม่ันคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2558-2564) นโยบายความม่ันคงแหง่ ชาติ ก้าหนดขึนเพื่อ เป็นกรอบในการดาเนินการด้านความม่ันคงของภาครัฐในระยะ 7 ปี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนท่ี 1 นโยบาย เสริมสร้างความมั่นคงท่ีเป็นแก่หลักของชาติและส่วนท่ี 2 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติท่วั ไป โดยก้าหนดกรอบ ความคดิ หลกั จากการก้าหนดนโยบาย ได้ค้านงึ ถงึ คา่ นิยมหลักของชาติ 12 ประการ ดังนี วิสัยทัศน์ “ชาติมีเสถียรภาพและเป็นปึกแผ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต ประเทศมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องปลอดภัยจากภัยคุกคามข้ามพรมแดน พร้อมเผชิญวิกฤตการณ์ มีบทบาทเชิงรุก ในประชาคม อาเซียนและดาเนินความสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างมดี ุลยภาพ นโยบายความมนั่ คงทเี่ ก่ียวข้องกับสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขันพืนฐาน มดี ังนี ส่วนท่ี 1 นโยบายส้าคัญเพ่ือเสริมสร้างความม่ันคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ (ศธ.เป็นหน่วยหลัก) เกย่ี วขอ้ งใน 3 นโยบาย 1. นโยบายที่ 1 เสริมสร้างความมั่นคงของสถานบันหลักของชาติ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข 1.1 เสรมิ สร้างความรู้ ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกยี่ วกบั สถาบนั ชาติศาสนา พระมหากษตั ริย์ 2. นโยบายท่ี 2 สร้างความเปน็ ธรรม ความปรองดอง และความสมานฉันท์ในชาติ 2.4) ส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของชาติ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรัก ความ ภาคภมู ใิ จในความเป็นชาติและเปน็ สงั คมพหุวฒั นธรรมท่เี ขม้ แข็ง 3. นโยบายที่ 3 ป้องกนั และแกไ้ ขการกอ่ ความไม่สงบในขังหวดั ชายแดนภาคใต้ 3.3 เสริมสร้างสันติสุขและการพัฒนาอย่างย่ังยืนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็น พลังในการเขา้ ถงึ ประชาชน ๒.๗ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ยุทธศาสตร์การ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ.2561 จัดท้าขึน เพ่ือให้หน่วยงานของรัฐน้าไปใช้เป็น แนวทางในการก้าหนดล้าดับความส้าคัญของภารกิจหน่วยงานและใช้เป็น เคร่ืองมือในการจัดท้าค้าขอ งบประมาณรายจ่ายประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ.2561 และใช้เป็นกรอบในการจัดสรรงบประมาณให้เกิด ประสทิ ธิภาพประสิทธิผลและเป็นการวางรากฐานเพ่อื รองรบั การพัฒนาที่ยั่งยนื ของประเทศในระยะยาวต่อไป ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ้าปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ได้ก้าหนดไว้ 6 ยทุ ธศาสตรแ์ ละ 1 รายการค่าด้าเนนิ การภาครฐั คือ 1. ยทุ ธศาสตรด์ ้านความมนั่ คง 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
3. ยทุ ธศาสตรด์ ้านพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของคน 4. ยุทธศาสตรด์ ้านการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้า และสร้างการเตบิ โต จากภายใน 5. ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้าและสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมอย่าง ยั่งยืน 6. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั 7. รายการค่าด้าเนินการภาครัฐโดยในส่วนของส้านักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐานมี ยุทธศาสตร์ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง มีดงั นี 1. ยทุ ธศาสตรด์ ้านความม่ันคง ไดแ้ ก่ 1.1 การเสรมิ สร้างความม่ันคงของสถาบันหลักของชาติ 1.2 การสรา้ งความปรองดองและสมานฉันท์ 1.3 การขบั เคล่ือนการแกไ้ ขปญั หาจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ 1.5 การปอ้ งกนั ปราบปรามและบา้ บัดรกั ษาผู้ตดิ ยาเสพตดิ 2. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ไดแ้ ก่ 2.6 การพฒั นาเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั 2.7 การสง่ เสริมการวจิ ัยและนวตั กรรม 3. ยุทธศาสตรด์ า้ นการพัฒนาและเริมสรา้ งศกั ยภาพคน ได้แก่ 3.1 การพัฒนาศกั ยภาพคนตามช่วงวยั 3.2 การยกระดับคุณภาพการศกึ ษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวิต 4. ยุทธศาสตร์ด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหล่ือมล้า และสร้างการเติบโตจากภายใน ได้แก่ 4.4 การเสริมสร้างการดา้ เนนิ งานตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5. ยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้าและสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่าง ย่ังยนื ไดแ้ ก่ 5.2 การบรหิ ารจดั การขยะและส่งิ แวดล้อม 6. ยุทธศาสตรด์ า้ นการปรับสมดุลและพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การภาครัฐ ได้แก่ 6.1 การปอ้ งกนั ปราบปรามการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ รายละเอียด เปา้ ประสงค์ ตัวชีวดั นโยบายการจัดสรรงบประมาณทเ่ี กี่ยวข้อง มีดงั นี 1. ยุทธศาสตรด์ า้ นความม่ันคง 1.1 การเสรมิ สรา้ งความมัน่ คงของสถานบนั หลักของชาติ นโยบายการจัดสรรงบประมาณ 1.1.1 สร้างจิตส้านึกของคนในชาติให้มีความหวงแหนและธ้ารงไว้ซ่ึงการเทดิ ทนู พิทักษ์ รักษาถวายพระเกียรติและถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทัง พั ฒ น า ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ค ว า ม เ ข้ ม แ ข็ ง ข อ ง ก ล ไ ก เ พื่ อ ปู อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร ล่ ว ง ล ะ เ มิ ด ส ถ า บั น พระมหากษัตรยิ ์ตลอดจนสนับสนนุ การดาเนินงานตามพระราชประสงค์ 1.1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความส้าคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อ สงั คมไทย รวมทังหลักการทรงงานและแนวทางพระราชดาริกับทุกภาคส่วนและต่างประเทศ
1.2 การสรา้ งความปรองดองและสมานฉันท์ เป้าหมายเชิงยทุ ธศาสตร์ - สงั คมมคี วามสมานฉนั ท์ ผ้เู หน็ ต่างทางความคิดของคนในชาติสามารถอยูร่ ่วมกนั ได้อย่างสันติ รว่ มกนั สรา้ งความรกั ความสามคั คี เพื่อนาไปสู่ความมนั่ คงของชาตแิ ละประโยชนส์ ขุ ของประชาชน ตัวชีวัด - ความขัดแย้งของประชาชนในมิตทิ ่ีเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและส่งิ แวดล้อม ลดลงไม่ นอ้ ยกว่าร้อยละ 5 นโยบายการจดั สรรงบประมาณ 1.2.1 ปลูกฝัง สร้างความรู้ความเข้าใจในทัศนคติความเป็นไทยและวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ประมุข โดยคา้ นงึ ถึงผลประโยชน์ของชาติเปน็ หลัก 1.2.2 ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและความส้าคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อ สังคมไทย รวมทงั หลกั การทรงงานและแนวพระราชด้าริกับทุกภาคส่วนและต่างประเทศ 1.2.3 สร้างความรู้ความเข้าใจส้าหรับประชาชนในการอยู่ร่วมกันบนพืนฐานความแตกต่างทาง ความคดิ และอุดมการณ์ทางการเมือง 1.2.4 ส่งเสริมการให้ความรู้และสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องควบคู่กับการด้าเนินมาตรการ ทางกฎหมายเพอื่ ควบคมุ การบดิ เบอื นและนาเสนอข้อมูลซ่ึงจะสง่ ผลกระทบต่อความมัน่ คง 1.3 การขับเคล่ือนการแก้ไขปัญหาจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ - ประชาชนในพืนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 อ้าเภอของสงขลา ทังใน เขตเมือง ชุมชน และ หมบู่ า้ นเป้าหมาย มคี วามปลอดภัยในชวี ิตและทรัพย์สิน - ประชาชนในพืนท่ีกลุ่มเป้าหมายมีโอกาสทางการศึกษาและความรู้ ความเช้าใจหลักศาสนาที่ถูกต้อง สามารถดา้ เนินชีวติ ร่วมกนั ได้อย่างปกตสิ ุข - ภาคประชาชน เอกชน และภาคส่วนอืน่ ๆ มคี วามเข้าใจและใหค้ วามรว่ มมือภาครฐั ในการแก้ไขความ ขดั แย้งโดยสันติวิธี ตวั ชีวัด - จ้านวนนักเรียนและเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ศึกษาต่อในสถาบันของรัฐในทุกระดับชัน เพิ่มขนึ ร้อยละ 20 - ร้อยละของชมุ ชนในพนื ที่เป้าหมายสามารถจดั กิจกรรมรว่ มกนั แบบสงั คมพหวุ ฒั นธรรม นโยบายการจดั สรรงบประมาณ 1.3.2 สนับสนุนการเพ่ิมประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนางาน ด้านการอานวยความยุติธรรม และช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม 1.3.4 พัฒนาการศึกษาให้ได้มาตรฐานสอดคล้องกับตลาดแรงงานในพืนท่ีและการเสริมสร้างความ ม่นั คงของชาติ รวมทงั เสรมิ สรา้ งการเรียนรูใ้ นลักษณะทวิภาษา
Search