Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 01วิเคราะห์หน่วยการเรียนผู้

01วิเคราะห์หน่วยการเรียนผู้

Published by pakdinan somrak, 2021-03-20 03:22:46

Description: 01วิเคราะห์หน่วยการเรียนผู้

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน รหัสวิชา ว 23102 รายวิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ผู้จัดทา นางสาวภกั ดินนั ท์ สมรักษ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนน้าปลีกศึกษา สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต 29

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 23102 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศึกษา 2563 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวภกั ดนิ ันท์ สมรกั ษ์ 1.มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ (รายวิชาพนื้ ฐานมีท้ังมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ัด รายวิชาเพิม่ เติม มีผลการเรียนร)ู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ว2.3เข้าใจความหมายของพลงั งานการเปลยี่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงานปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจาวนั ธรรมชาติของคลืน่ ปรากฏการณ์ทีเ่ กยี่ วข้องกบั เสยี งแสงและคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้ารวมทั้งนา ความรู้ไปใช้ประโยชน์ 1.2ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว2.3ม.3/1วิเคราะหค์ วามสัมพนั ธ์ระหว่างความต่างศักย์กระแสไฟฟ้าและความต้านทานและคานวณปริมาณที่ เกี่ยวขอ้ งโดยใช้สมการV= IRจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ว2.3ม.3/2เขียนกราฟความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า ว2.3ม.3/3ใช้โวลต์มิเตอร์ แอมมิเตอร์ในการวัดปริมาณทางไฟฟ้า ว2.3ม.3/4วิเคราะหค์ วามต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเม่อื ต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมและแบบ ขนานจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ ว2.3ม.3/5เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รมและขนาน ว2.3ม.3/6บรรยายการทางานของชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์อยา่ งงา่ ยในวงจรจากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ ว2.3ม.3/7เขียนแผนภาพและต่อชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์อย่างงา่ ยในวงจรไฟฟ้า ว2.3ม.3/8 อธิบายและคานวณพลงั งานไฟฟ้าโดยใช้สมการW=Pt รวมทั้งคานวณค่าไฟฟ้าของ เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน ว2.3ม.3/9 ตระหนกั ในคุณค่าของการเลือกใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าโดยนาเสนอวธิ ีการใช้เคร่อื งใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและ ปลอดภยั

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด กระแสไฟฟ้า เป็นปริมาณประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่หรือถ่ายเทจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เป็นความ แตกต่างของพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วยประจุระหว่างจุด 2 จุด ซึ่งทาให้เกิดกระแสไฟฟ้า โดยกระแสไฟฟ้าจะ ไหลจากจุดที่มีระดับพลังงานไฟฟ้าสูงกว่าไปยังจุดที่มีระดับพลังงานไฟฟ้าต่ากว่า และจะหยุดไหลเม่ือ ศักย์ไฟฟ้าของทั้งสองจุดเท่ากัน สามารถวัดค่ากระแสไฟฟ้าได้โดยใช้แอมมิเตอร์ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้าและความต่างศกั ย์ เปน็ ไปตามกฎของโอห์ม มีใจความสาคัญว่า เมื่ออณุ หภูมคิ งทีก่ ระแสไฟฟ้า ในตวั นาโลหะจะแปรผนั ตรงกับความตา่ งศกั ย์ระหว่างปลายท้ัง 2 ข้าง ของตวั นานั้น การอา่ นค่าความต้านทานที่แสดงไว้บนตัวต้านทานอ่านได้หลายแบบ เชน่ ตวั ต้านทานค่าคงที่ มักมี แถบสีปรากฏอยู่บนตวั ต้านทานแตกต่างกนั ไปตามค่าความต้านทาน โดยจะมีทั้งแบบ 4 แถบสี และ 5 แถบ สี ซึ่งการอ่านค่าความต้านทานจะต้องนาตัวต้านทานไปเทียบกับตารางแสดงรหัสสีของแถบสีบนตัว ต้านทานแล้วแปลงออกมาเป็นค่าความต้านทาน และอุปกรณ์ไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าแต่ละชิ้นมักจะมีความ ต้านทาน เม่ือนามาต่อเข้ากันเป็นวงจรส่วนใหญ่จะเป็นการต่อแบบอนุกรมและแบบขนานขึ้นอยู่กับการใช้ งาน โดยความต่างศักย์ที่ตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวกับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจรจะมีค่าแตกต่าง กันไปตามรูปแบบการต่อวงจร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุปกรณ์ที่สาคัญอย่างหนึ่งในวงจรไฟฟ้า โดย ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แต่ละอย่างจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น ตัวต้านทาน ทาหน้าที่ควบคุมปริมาณ กระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ไดโอด ทาหน้าทีใ่ ห้กระแสไฟฟ้าผา่ นทางเดียว ทรานซิสเตอร์ ทาหนา้ ที่เป็นสวิตช์ ปิดหรือเปิดวงจรไฟฟ้าและควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ ทาหน้าที่เก็บและคายประจุไฟฟ้า การต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้าในวงจรไฟฟ้าจะต้องทาการต่อให้ถูกต้องและถูกหลักการทางไฟฟ้า จึงจะ ทาให้วงจรไฟฟ้าน้ันทางานได้ตามที่ตอ้ งการและมีประสิทธิภาพ พลังงานไฟฟ้าเป็นงานหรือพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนที่หรือการถ่ายเทของประจุไฟฟ้าจากจุ ดหนึ่ง ไปยังจุดหนึ่ง พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปในหนึ่งหน่วยเวลา เรียกว่า กาลังไฟฟ้า มีหน่วยเป็น วัตต์ หรือจูลต่อ วินาที กล่าวได้ว่า กาลังไฟฟ้า คือ อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้า เคร่ืองมือที่ใช้ในการวัดปริมาณการไหลของ กระแสไฟฟ้าเข้าสู่บ้านเรือนเรียกว่า มาตรไฟฟ้า ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนโดยทั่วไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับมี ความตา่ งศกั ย์ 220 โวลต์ การส่งพลังงานไฟฟ้าเข้าบ้านจะใช้สายไฟฟ้า 2 สาย คือ สายมศี ักย์ เปน็ สายที่มี พลังงานศักย์ไฟฟ้า อาจเรียกว่าสาย L และสายกลาง มีศักย์ไฟฟ้าเป็นศูนย์เม่ือเทียบกับดิน อาจเรียกว่า สาย N วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเคร่ืองใช้ไฟฟ้าแบบขนานเพื่อให้ความต่างศักย์เท่ากัน เคร่ืองใช้ไฟฟ้าใน บ้านเม่ือแบ่งตามลักษณะพลังงานที่ได้รับจากเคร่ืองใช้ไฟฟ้า สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ เคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงสว่างเคร่ืองใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไ ฟฟ้าเป็น พลงั งานความร้อน และเครื่องใช้ไฟฟ้าทีเ่ ปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานกล

การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ามากจะทาให้เสียค่าไฟฟ้าต่อหน่วยมากขึน้ ด้วย เพื่อความประหยัดควรเลือกใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกบั ความตอ้ งการในการใช้งานเท่าทีจ่ าเป็น เพื่อความปลอดภยั ของผใู้ ช้ไฟฟ้าควร ใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่างระมัดระวงั รวมทั้งตรวจสอบสภาพการใชง้ านอย่างสมา่ เสมอ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง/สาระการเรียนรเู้ พิม่ เติม(รายวิชาเพิ่มเติม) 1.เมอ่ื ต่อวงจรไฟฟ้าครบวงจรจะมีกระแสไฟฟ้าออกจากข้ัวบวกผ่านวงจรไฟฟ้าไปยงั ข้ัวลบของแหล่งกาเนิดไฟฟ้า ซึง่ วัดค่า ได้จากแอมมิเตอร์ 2.ค่าทีบ่ อกความแตกต่างของพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วยประจรุ ะหว่างจดุ 2จุด เรียกว่าความต่างศกั ย์ซึ่งวัดค่าได้จากโวลต์ มิเตอร์ 3.ขนาดของกระแสไฟฟ้ามีคา่ แปรผนั ตรงกับความต่างศกั ย์ระหว่างปลายทั้งสองของตัวนาโดยอตั ราส่วนระหว่างความต่าง ศกั ย์และกระแสไฟฟ้ามีคา่ คงที่ เรียกค่าคงที่น้ีวา่ ความต้านทาน 4.ในวงจรไฟฟ้าประกอบด้วยแหล่งกาเนิดไฟฟ้า สายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยอปุ กรณ์ไฟฟ้าแต่ละชิน้ มีความต้านทาน ในการต่อตวั ต้านทานหลายตัวมีท้ังต่อแบบอนกุ รมและแบบขนาน 5.การต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้า ความต่างศักย์ที่คร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวมีค่าเท่ากับผลรวม ของความต่างศกั ย์ทีค่ ร่อมตวั ต้านทานแต่ละตัวโดยกระแสไฟฟ้าทีผ่ ่านตวั ต้านทานแต่ละตัวมีคา่ เท่ากนั 6.การต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบขนานในวงจรไฟฟ้ากระแสไฟฟ้าทีผ่ ่านวงจรมีค่าเท่ากับผลรวมของกระแสไฟฟ้าที่ผา่ น ตัวต้านทานแต่ละตัวโดยความต่างศกั ย์ที่คร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวมีคา่ เท่ากนั 7.ชนิ้ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์มหี ลายชนิดเช่นตัวต้านทานไดโอดทรานซิสเตอร์ ตวั เก็บประจุ โดยชิน้ ส่วนแต่ละชนิดทาหน้าที่ แตกต่างกนั เพื่อใหว้ งจรทางานได้ตามต้องการ 8.ตัวต้านทานทาหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ไดโอดทาหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้าผ่านทางเดียว ทรานซิสเตอร์ทาหน้าที่เป็นสวิตช์ปิดหรือเปิดวงจรไฟฟ้าและควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้า ตัวเก็บประจุทาหน้าที่เก็บและ คายประจุไฟฟ้า 9.เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยชิน้ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลายชนิดทีท่ างานร่วมกัน การต่อวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์โดย เลือกใช้ชนิ้ ส่วนน้ันๆ จะสามารถทาใหว้ งจรไฟฟ้าทางานได้ตามต้องการ 10.เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าจะมีคา่ กาลังไฟฟ้าและความต่างศกั ย์กากบั ไว้ กาลังไฟฟ้ามีหน่วยเปน็ วตั ต์ ความต่างศกั ย์มีหน่วยเปน็ โวลต์ ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่คดิ จากพลังงานไฟฟ้าทใี่ ช้ท้ังหมดซึ่งหาได้จากผลคูณของกาลังไฟฟ้าในหน่วยกิโลวตั ต์ กบั เวลา ในหน่วยชั่วโมงพลงั งานไฟฟ้ามีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ ชั่วโมงหรอื หน่วย

11.วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเคร่อื งใช้ไฟฟ้าแบบขนานเพื่อใหค้ วามต่างศกั ย์เท่ากนั การใช้เคร่อื งใช้ไฟฟ้าใน ชีวติ ประจาวนั ต้องเลือกใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าที่มคี วามต่างศักย์และกาลงั ไฟฟ้าใหเ้ หมาะกบั การใช้งานและการใช้ เคร่อื งใช้ไฟฟ้าและอปุ กรณ์ไฟฟา้ ต้องใช้อย่างถูกต้องปลอดภยั และประหยัด 3.2.สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น(ถา้ มี) - 4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น (เฉพาะท่เี กิดในหน่วยการเรยี นรู้นี)้  4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร  4.2 ความสามารถในการคิด  4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา  4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ( เฉพาะทเ่ี กดิ ในหน่วยการเรยี นรูน้ ี)้ 5.1คุณลกั ษณะอนั พึง่ ประสงค์ (ตามหลกั สูตรแกนกลาง) □ 1) รักชาติศาสน์ กษตั รยิ ์  2) ซือ่ สตั ย์สจุ ริต  3) มีวนิ ยั  4) ใฝเ่ รียนรู้  5) อยู่อย่างพอเพยี ง  6) มุ่งมัน่ ในการทางาน □ 7) รกั ความเปน็ ไทย 8) มีจิตสาธารณะ 5.2คุณลักษณะตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล  1) มีความรู้พ้ืนฐานในยุคดิจติ อลวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ภาษา พหวุ ฒั นธรรมตระหนกั สานึก ระดับโลก  2) สามารถคิดประดิษฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรบั ตวั ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รียนวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรปุ สร้างองค์ความรู้  3) มีทักษะสื่อสารอยา่ งมีประสิทธิภาพ  4) มีความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. ทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs 2Ls) (กาหนดลอยไวถ้ า้ จดั กจิ รรมทีม่ ีการปฏบิ ัต/ิกลุ่ม/ช้นิ งาน/โครงงานจะเกิดอยแู่ ล้ว) 1. ทักษะในสาระวิชาหลกั (3Rs) 1.1 Reading (อ่าน) 1.2 (W)Riting(เขียน) 1.3 (A)Rithemetics(คณิตฯ) 2. ทักษะการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม(8Cs) 2.1 CriticalThinking and Problem Solving(การคิดวิจารณญาณและแก้ปัญหา)

2.2 Creativity and Innovation (การสร้างสรรค์และนวตั กรรม) 2.3 Cross-culturalUnderstanding(ความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม) 2.4  Collaboration, Teamworkand Leadership (การทางานเป็นทีมภาวะผนู้ า) 2.5 Communications, Information,and MediaLiteracy (การสื่อสารสารสนเทศ) 2.6 Computing and ICTLiteracy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลย)ี 2.7 Career and Learning Skills(ทกั ษะอาชีพและการเรยี นรู้) 2.8  Compassion(คณุ ธรรมเมตตากรณุ าระเบียบวินัย) 7. บรู ณาการกิจกรรมสะเตม็ ศึกษา (จาก STEM สู่ STEAM) 1.S (Science) :ระบเุ น้ือหา/กิจกรรม 1. วงจรไฟฟ้าเบอื้ งต้น 2. วงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบอื้ งต้น 3. พลังงานไฟฟ้าและเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน 2.T(Technology) :ระบเุ น้ือหา/กิจกรรม การใช้คอมพิวเตอร์สบื ค้น ออกแบบรายงาน 3.E(Engineering) :ระบเุ นื้อหา/กิจกรรม การออกแบบโครงสร้าง ป้ายนิเทศรายงาน 4.A (Art) :ระบุเนื้อหา/กิจกรรม การออกแบบโครงสร้าง ป้ายนิเทศ 5.M (Mathematics) :ระบเุ น้ือหา/กิจกรรม จานวนนับ

8. การบูรณาการตามพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ (เฉพาะทเ่ี กิดในหน่วยการเรยี นร้นู ี)้  8.1บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  8.2บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.3บูรณาการหอ้ งเรียนสีเขยี ว 8.4อืน่ ๆ(โปรดระบ)ุ 9. การบูรณาการและเตรียมความพร้อมในการสอบ Pre O-NET, O-NET, PISA มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั ตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน .................... - 10. ชิน้ งาน /ภาระงาน (รวบยอด) - ใบงานที่ 5.1 เรือ่ ง กฎของโอห์ม - ใบงานที่ 5.2 เรื่อง ตัวต้านทาน - ใบงานที่ 5.3 เรอ่ื ง ชิน้ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ - ใบงานที่ 5.4 เร่อื ง พลังงานไฟฟ้า - ใบงานที่ 5.5 เรอ่ื ง ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า 11. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1) เอกสารประกอบการเรียน 1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 3) ใบงานที่ 5.1เรอ่ื งกฎของโอหม์ 4) ใบงานที่ 5.2เร่อื งตวั ต้านทาน 5) ใบงานที่ 5.3เร่อื งชิน้ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 6) ใบงานที่ 5.4เรอ่ื งพลงั งานไฟฟ้า 7) ใบงานที่ 5.5เรอ่ื งประเภทเคร่อื งใช้ไฟฟ้า 8) วัสดอุ ปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการปฏบิ ัติกิจกรรมความสัมพนั ธ์ระหวา่ งกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศกั ย์ 9) วัสดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รม 10) วัสดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบขนาน 11)วัสดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์ 12) วัสดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรม FunScienceActivityเรอ่ื งไฟฉายจากขวดพลาสติก

13) PowerPoint เรอ่ื งความสัมพนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศักย์ 14) PowerPointเรอ่ื งตวั ต้านทาน 15) PowerPointเร่อื งวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบอื้ งต้น 16) PowerPointเรอ่ื งพลงั งานไฟฟ้า 17) PowerPointเรอ่ื งวงจรไฟฟา้ และเคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน 18)PowerPoint เร่อื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย 19) สลากหมายเลข 20) ตวั ต้านทานค่าคงที่ 21) บัตรคา 22) บัตรภาพ 23) QRCodeเรอ่ื งระบบการส่งกระแสไฟฟ้า 24) สมุดประจาตัวนกั เรียน 12. การวัดและประเมินผล การวดั และประเมินผล(มีหรอื ไม่ก็ได้ อาจระบุกว้างๆ) รายการวดั วิธีวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ2 12.1 การประเมินชิน้ งาน/ - แบบประเมินชิน้ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ ภาระงาน (รวบยอด) -ตรวจชนิ้ งาน - ออกแบบและ สิ่งประดิษฐ์จากการ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง สร้างชิน้ งาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สิ่งประดิษฐ์จากการ ต่อวงจรไฟฟ้า ไฟฟ้าและ อิเลก็ ทรอนิกส์ ต่อวงจรไฟฟ้า 12.2 การประเมินกอ่ น เรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ ก่อนเรียนหนว่ ยการ ก่อนเรียนหนว่ ยการ เรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้า เรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ และอิเลก็ ทรอนิกส์ อิเลก็ ทรอนิกส์

รายการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 12.3การประเมินระหวา่ ง -ตรวจใบงานที่ 5.1 -ใบงานที่ 5.1 -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ การจัดกิจกรรม - ตรวจสมุดประจาตวั -สมดุ ประจาตวั หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ 1) ความสมั พนั ธ์ แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ระหว่างกระแสไฟฟ้า หรอื แบบฝกึ หดั กบั ความต่างศกั ย์ วิทยาศาสตร์และ และเทคโนโลยี ม.3 เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 2) ผลบนั ทกึ การปฏิบตั ิ กิจกรรม เล่ม 2 - สมุดประจาตัว หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจสมุดประจาตวั แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ความสัมพนั ธ์ ระหว่าง หรอื แบบฝกึ หดั และเทคโนโลยี ม.3 วิทยาศาสตร์และ เล่ม 2 กระแสไฟฟ้ากับ เทคโนโลยี ม.3 ความต่างศักย์ -ใบงานที่ 5.2 -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ 3) ตัวต้านทาน เล่ม 2 -สมดุ ประจาตวั หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ 4) ผลบันทกึ การปฏิบตั ิ -ตรวจใบงานที่ 5.2 กิจกรรมการต่อตัว -ตรวจสมดุ ประจาตวั และเทคโนโลยี ม.3 ต้านทานแบบ เล่ม 2 อนุกรม หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และ -สมดุ ประจาตัวหรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ 5) ผลบันทกึ การปฏิบตั ิ เทคโนโลยี ม.3 แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมการต่อตัว ต้านทานแบบขนาน เล่ม 2 และเทคโนโลยี ม.3 -ตรวจสมดุ ประจาตัว เล่ม 2 หรอื แบบฝกึ หัด -สมดุ ประจาตัวหรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ วิทยาศาสตร์และ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ม.3 และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 -ตรวจสมดุ ประจาตวั หรอื แบบฝกึ หัด วิทยาศาสตร์และ

รายการวัด วิธีวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 6) วงจรอิเลก็ ทรอนิกส์ เบอื้ งต้น เล่ม 2 -ใบงานที่ 5.3 -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ -ตรวจใบงานที่ 5.3 -สมดุ ประจาตวั หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ 7) ผลบันทกึ การปฏิบัติ - ตรวจสมุดประจาตัว แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ กิจกรรมการต่อวงจร ทรานซิสเตอร์ หรอื แบบฝกึ หดั และเทคโนโลยี ม.3 วิทยาศาสตร์และ เล่ม 2 8)พลงั งานไฟฟ้า เทคโนโลยี ม.3 กาลงั ไฟฟ้าและการ -สมุดประจาตวั หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ คานวณค่าไฟฟ้า เล่ม 2 แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ -ตรวจสมดุ ประจาตวั 9) วงจรไฟฟ้าและ และเทคโนโลยี ม.3 เคร่อื งใช้ไฟฟ้าใน หรอื แบบฝกึ หดั เล่ม 2 วิทยาศาสตร์และ บ้าน เทคโนโลยี ม.3 -ใบงานที่ 5.4 -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ - สมุดประจาตัว หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ 10) การใช้ไฟฟ้าอย่าง เล่ม 2 แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ประหยดั และ -ตรวจใบงานที่ 5.4 ปลอดภัย - ตรวจสมุดประจาตัว และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และ -ใบงานที่ 5.5 -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยี ม.3 - สมุดประจาตัว หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ เล่ม 2 -ตรวจใบงานที่ 5.5 และเทคโนโลยี ม.3 -ตรวจสมดุ ประจาตวั เล่ม 2 หรอื แบบฝกึ หดั -สมุดประจาตวั หรอื -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ วิทยาศาสตร์และ แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ม.3 และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 -ตรวจสมดุ ประจาตวั หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และ

รายการวัด วิธีวดั เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน เทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 11) การนาเสนอผลงาน/ -ระดับคณุ ภาพ2 การปฏิบตั ิกิจกรรม เล่ม 2 - แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์ - ประเมินการนาเสนอ นาเสนอผลงาน/การ 12) พฤติกรรมการ ปฏิบตั ิกิจกรรม -ระดบั คณุ ภาพ2 ทางานรายบคุ คล ผลงาน/การปฏิบตั ิ - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ กิจกรรม การทางานรายบุคคล 13) พฤตกิ รรมการ - แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ2 ทางานกลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ การทางานรายบุคคล - แบบประเมิน 14) คุณลกั ษณะอันพึง -สงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คณุ ภาพ2 ประสงค์ คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ การทางานกลุ่ม อนั พึงประสงค์ 12.4 การประเมินหลัง -สังเกตความมีวนิ ัย -ร้อยละ60ผา่ นเกณฑ์ เรยี น รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ -แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 -แบบทดสอบหลงั เรยี น และมุ่งมัน่ ในการ ไฟฟ้าและ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ทางาน อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน หน่วยการ เรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนิกส์

13. กิจกรรมการเรยี นรู้ เรอ่ื งท่ี 1 เรอ่ื ง ความสมั พันธร์ ะหว่างกระแสไฟฟ้ากับความตา่ งศกั ย์ จานวนเวลาเรยี น 3 ชั่วโมง  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค:สบื เสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ชัว่ โมงที่ 1 ขน้ั นำ ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1.ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทราบ จากน้ันครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ วดั ความรู้เดิมของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล ก่อนเข้าสู่กิจกรรม 2.ครถู ามคาถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยใช้คาถาม BigQuestionจากหนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ และร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระโดยครเู ขียนคาตอบของนกั เรียนไว้ แล้วครูจะมา ตรวจสอบคาตอบหลังเรียนเสรจ็ 3. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ CheckforUnderstandingในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยบันทกึ ลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรยี น 4. นักเรียนทากิจกรรม Engaging Activity จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พิจารณาฉลากเครือ่ งใช้ไฟฟ้า แล้วอธิบายว่า ฉลาก เครือ่ งใช้ไฟฟ้าแสดงข้อมูลใดบ้าง โดยบันทึกลงในสมดุ ประจาตวั นักเรียน

ขัน้ สอน ข้นั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1.ครูถามคาถามKeyQuestionจากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพอื่ เป็นการนาเข้าสู่เนื้อหาที่เรียนว่า “ปริมาณทางไฟฟ้ามี อะไรบ้างและมีความสัมพนั ธก์ นั อย่างไร”โดยใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็นอยา่ งอิสระโดย ครเู ขียนคาตอบของนักเรียนไว้ แล้วครจู ะมาตรวจสอบคาตอบหลังเรียนเสรจ็ (แนวตอบ :ปริมาณทางไฟฟ้าประกอบด้วยกระแสไฟฟ้าความตา่ งศักย์ และความต้านทาน โดยอัตราสว่ นระหว่างกระแสไฟฟ้ากับความต่างศกั ย์จะมีคา่ เทา่ กบั ความต้านทาน) 2.นักเรียนแตล่ ะคนศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกบั เรอ่ื งกระแสไฟฟ้าและความต่างศกั ย์ จากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่างๆเช่นอินเทอรเ์ นต็ จากนั้นร่วมกนั สรปุ ความรู้ทไี่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมุด ประจาตวั นกั เรียน 3.ครตู ง้ั ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนกั เรียนโดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหา คาตอบ ดังนี้  ถ้านักเรียนต้องการจะวดั กระแสไฟฟ้ากบั ความตา่ งศักย์ นักเรียนจะเลือกใช้อุปกรณ์ใด และจะต่ออปุ กรณ์อย่างไร” (แนวตอบ :สามารถวดั กระแสไฟฟ้าในวงจรโดยการต่อแอมมิเตอร์เข้าไปในวงจรแบบอนุกรม และความต่างศกั ย์โดยการต่อโวลต์มิเตอร์ แบบขนาน)  กระแสไฟฟ้าเกิดขึน้ ได้อย่างไร (แนวตอบ : เกิดจากการเคลือ่ นทีข่ องประจุไฟฟ้า เมอ่ื ประจไุ ฟฟ้าเกิดการเคลื่อนที่จะ ก่อใหเ้ กิดกระแสไฟฟ้า) ช่ัวโมงที่ 2 4.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ6คนตามความสมัครใจเพอื่ ศกึ ษากิจกรรมความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้ากับความต่างศักย์ จากนั้นใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมารบั วสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใช้ ในการปฏิบตั ิกิจกรรมความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟา้ กับความต่างศักย์ 5.สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาจุดประสงค์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และวิธีปฏิบัติกิจกรรมจากหนงั สือเรียน

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 6.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมตามขั้นตอนในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ จากนั้นสมาชิกแต่ละกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกันภายในกลุ่มเพื่อหาข้อสรปุ ของผลการทดลองและเขียนกราฟแสดง ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากับความต่างศกั ย์ ช่วั โมงที่ 3 ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 7.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมความสัมพนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศักย์หน้าชั้นเรียนในระหว่างทีน่ กั เรียนนาเสนอครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อใหน้ ักเรียนมีความเข้าใจถกู ต้อง 8.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถามท้ายกิจกรรมโดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความ คิดเหน็ เพือ่ หาคาตอบ จากน้ันครสู ุ่มนักเรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม 9.นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายผลท้ายกิจกรรมความสัมพนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากับความต่าง ศกั ย์ และเฉลยคาถามท้ายกิจกรรม 10.นกั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเรอ่ื งกฎของโอหม์ ความต้านทานและตัวอยา่ งการ คานวณหาความสัมพนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าความต่างศักย์ และความต้านทานจากตัวอย่าง ที่ 5.1-5.4ในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เลม่ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ครูอาจแนะนาใหน้ ักเรียนทาตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาดังนี้  ข้ันที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปญั หา  ข้ันที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปัญหา เชน่ สง่ิ ทีโ่ จทย์ต้องการถามหา และจะหาส่งิ ที่โจทย์ ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ขั้นที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปญั หา  ขั้นที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 11.ครสู ุ่มนักเรยี น4คนออกมาหน้าชั้นเรียน จากนั้นครใู หน้ ักเรียนออกมาจับสลากโดยครูเตรียม สลากหมายเลขแล้วใหน้ ักเรยี นแสดงวิธีการคานวณหาผลลัพธ์จากตวั อย่างทีศ่ ึกษาบนกระดาน หน้าช้ันเรียนครอู าจเสนอแนะหรอื อธิบายเพิม่ เติมในตัวอย่างนนั้ ๆเพื่อใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจ ทีถ่ กู ต้อง

 หมายเลข 1 ตัวอย่างที่ 5.1  หมายเลข 2 ตัวอย่างที่ 5.2  หมายเลข 3 ตัวอย่างที่ 5.3  หมายเลข 4 ตัวอย่างที่ 5.4 12.ครูตง้ั ประเด็นคาถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียนโดยใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหา คาตอบ ดงั นี้  ปจั จยั ใดบ้างที่มผี ลต่อความต้านทานของตวั นา (แนวตอบ : ชนิด ความยาว พืน้ ที่หนา้ ตัด และอณุ หภมู ิของตวั นา)  กฎของโอห์มมใี จความสาคัญอย่างไร (แนวตอบ : เม่อื อณุ หภมู คิ งที่ กระแสไฟฟ้าในตัวนาโลหะจะแปรผันตรงกับความตา่ งศกั ย์ ระหว่างปลายทั้ง 2 ข้าง ของตัวนาน้ัน) 13.นกั เรียนแต่ละคนทาใบงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง กฎของโอห์ม จากน้ันครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนจบั คู่กับ เพือ่ นทีน่ ่ังข้างกัน แล้วช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้องของคาตอบในใบงานที่ 5.1เรอ่ื งกฎของ โอหม์ ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 14. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามเน้ือหาเกีย่ วกับเรอ่ื งกระแสไฟฟ้าความต่างศกั ย์ และ ความต้านทานและใหค้ วามรู้เพมิ่ เติมจากคาถามของนกั เรียนโดยครใู ช้ PowerPointเรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากบั ความตา่ งศกั ย์ ในการอธิบายเพิ่มเติม 15.นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หัดเร่อื งกระแสไฟฟ้าความตา่ งศักย์ และความต้านทาน จากแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและ อิเลก็ ทรอนิกส์ ข้ันสรุป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพือ่ ตรวจสอบความเข้าใจก่อนเรียนของนกั เรียน

2.ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าช้ันเรียน 3.ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนกอ่ นเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอนจากกรอบ CheckforUnderstandingในสมดุ ประจาตวั นักเรียน 4.ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกจิ กรรมความสัมพนั ธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศักย์ 5.ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.1เรอ่ื งกฎของโอหม์ 6.ครตู รวจแบบฝกึ หัดเร่อื งกระแสไฟฟ้าความต่างศักย์ และความต้านทานจากแบบฝกึ หัด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 7.นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั เรอ่ื งกระแสไฟฟ้าความต่างศกั ย์ และความต้านทาน

เรื่องที่ 2 เร่อื ง ตัวตา้ นทาน จานวนเวลาเรียน 5 ช่วั โมง  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค:สบื เสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ชว่ั โมงที่ 1 ขัน้ นำ ข้ันท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1.ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกบั เร่อื งกฎของโอหม์ จากน้ันครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคน ออกมารบั บตั รคาหน้าช้ันเรียนซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะได้บตั รคาที่แตกต่างกนั แล้วใหน้ ักเรียน แต่ละคนเขียนอธิบายบตั รคาทตี่ นเองได้รับลงในสมดุ ประจาตัวนักเรยี น 2.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ3คนโดยแต่ละกลุ่มต้องมีสมาชิกที่มบี ตั รคาเกีย่ วกบั ความต่างศกั ย์ กระแสไฟฟ้าและความต้านทานจากน้ันร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพือ่ หาความสมั พนั ธ์ ระหว่างความต่างศกั ย์ กระแสไฟฟ้าและความต้านทาน 3.ครแู จกตวั ตา้ นทานค่าคงท่ีที่มแี ถบสบี นตวั ต้านทานโดยใหน้ กั เรียนแต่ละคนสงั เกตตัวต้านทาน ค่าคงที่ จากน้ันครูตง้ั ประเด็นคาถามกระตุ้นความสนใจนกั เรียนโดยให้นกั เรยี นร่วมกันอภปิ ราย แสดงความคิดเหน็ อย่างอิสระโดยครเู ขียนคาตอบของนักเรยี นไว้ แล้วครูจะมาตรวจสอบคาตอบ หลงั เรียนเสรจ็ ตวั อย่างคาถามเช่น  ตวั ต้านทานคืออะไร และมีความสาคัญอย่างไรในวงจรไฟฟ้า  ทาไมตวั ต้านทานแตล่ ะตวั มีแถบสีทีแ่ ตกต่างกนั  แถบสีบนตวั ต้านทานมคี วามสาคัญอย่างไร

ขั้นสอน ข้นั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1.นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนในช้ันเรียนตามความสมคั รใจจากน้ันร่วมกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเกยี่ วกบั เรอ่ื งตวั ต้านทานและการอ่านค่าแถบสบี นตวั ต้านทานค่าคงที่ จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ ต่างๆ เช่นอินเทอรเ์ น็ตหอ้ งสมุด 2.นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมุดประจาตัวนกั เรียนจากน้ันพิจารณา ตารางรหัสสีของแถบสบี นตัวต้านทานและอ่านค่าแถบสบี นตัวต้านทานจากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.นกั เรียนแต่ละคู่รว่ มกนั ศกึ ษาตวั อย่างที่ 5.5-5.6จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนจดบนั ทึกขน้ั ตอนเเละ วิธีการคานวณหาผลลพั ธล์ งในสมุดประจาตัวนกั เรียนครอู าจแนะนาใหน้ ักเรียนทาตามขั้นตอนการแก้โจทย์ ปัญหา ดังนี้  ข้ันที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปญั หา  ข้ันที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปญั หา เชน่ ส่งิ ทีโ่ จทย์ต้องการถามหา และจะหาส่งิ ที่ โจทย์ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ขั้นที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปญั หา  ขั้นที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 4.ครเู ตรียมตวั ต้านทานค่าคงที่ จากนั้นครูสุ่มนกั เรียน4-5คนออกมาหน้าช้ันเรียนอ่านค่าความต้านทานจาก แถบสีตัวต้านทานโดยครูใหน้ กั เรียนในชั้นเรียนร่วมกนั พิจารณาว่าคาตอบใดถกู ต้อง จากน้ันครูเฉลยคาตอบ ที่ถูกต้องนักเรียน 5.ครสู นทนากบั นักเรียนว่า“นอกจากตวั ต้านทานค่าคงทีแ่ ล้วในวงจรไฟฟ้าโดยทัว่ ไปมักพบ ตวั ต้านทานอืน่ ๆ ซึง่ ขึน้ อยู่กบั ความต้องการในการใช้งาน”จากน้ันครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ4คนตามความสมัครใจร่วมกันศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกบั เร่อื งตวั ต้านทานชนิดต่างๆ จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ โดย ใหส้ มาชิกภายในกลุ่มแบ่งหน้าที่กันศกึ ษาคนละ1เรอ่ื งซึ่งหวั ข้อมีดังนี้  คนที่ 1 ศึกษาตัวต้านทานปรับค่าได้  คนที่ 2 ศึกษาตวั ต้านทานที่เปลี่ยนค่าตามปริมาณแสง

 คนที่ 3 ศึกษาตัวต้านทานทีเ่ ปลี่ยนค่าตามอุณหภมู ิ  คนที่ 4 ศกึ ษาตวั ต้านทานที่เปลี่ยนค่าตามแรงดนั ไฟฟ้า 6.สมาชิกภายในกลุ่มนาเรอ่ื งทตี่ นเองศกึ ษาค้นคว้ามาอธบิ ายใหเ้ พื่อนในกลุ่มฟงั จากนั้นร่วมกนั สรุปความรู้ทไี่ ด้ ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียน ช่วั โมงที่ 2-3 7.นกั เรียนศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกบั เรอ่ื งการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมจากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 8.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ6คนตามความสมคั รใจเพอื่ ศกึ ษากิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบอนุกรมจากนั้น ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนออกมารบั วสั ดุอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการปฏิบตั ิกิจกรรม การต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รม 9.สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันศกึ ษาจดุ ประสงค์ วสั ดอุ ุปกรณ์ และวิธีปฏิบตั ิกิจกรรมจากหนงั สือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 10.นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้ันตอนในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ จากนั้นสมาชิกแต่ละกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่มเพื่อหาข้อสรปุ ของผลการทดลอง 11.นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รม หน้าช้ันเรียนในระหว่างที่นกั เรียนนาเสนอครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อใหน้ กั เรยี นมี ความเข้าใจถกู ต้อง 12.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคาถามท้ายกิจกรรมโดยใหน้ ักเรียนร่วมกันอภปิ รายแสดงความ คิดเห็นเพื่อหาคาตอบ จากน้ันครสู ุ่มนกั เรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม 13.นกั เรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายผลท้ายกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รมและเฉลยคาถาม ท้ายกิจกรรม ชวั่ โมงที่ 4 14.นักเรียนศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกีย่ วกบั เร่อื งการต่อตวั ต้านทานแบบขนานจากหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

15.นักเรียนแบ่งกลุ่ม(กลุ่มเดิม) จากชัว่ โมงทีผ่ ่านมาเพือ่ ศกึ ษากิจกรรมการต่อตัวต้านทานแบบขนานจากน้ันให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมารบั วัสดอุ ปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการตอ่ ตวั ต้านทาน แบบขนาน 16.สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาจดุ ประสงค์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และวิธีปฏิบัติกิจกรรมจากหนงั สือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 17.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้ันตอนในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ จากนั้นสมาชิกแต่ละกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่มเพือ่ หาข้อสรปุ ของผลการทดลอง ช่วั โมงที่ 5 ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 18.นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รม หน้าชั้นเรียนในระหว่างทีน่ ักเรียนนาเสนอครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพือ่ ใหน้ ักเรยี นมี ความเข้าใจถกู ต้อง 19.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคาถามท้ายกิจกรรมโดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความ คิดเห็นเพือ่ หาคาตอบ จากน้ันครูสุ่มนักเรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม 20.นักเรยี นและครูรว่ มกนั อภปิ รายผลท้ายกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบอนุกรมและเฉลยคาถาม ท้ายกิจกรรม 21.นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนในชนั้ เรียนตามความสมัครใจจากนน้ั ร่วมกนั ศกึ ษาตวั อย่างที่ 5.7-5.9 ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ครูอาจแนะนาใหน้ ักเรียนทาตามข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหาดังนี้  ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา  ข้ันที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปัญหา เชน่ ส่งิ ที่โจทย์ต้องการถามหา และจะหาสง่ิ ทีโ่ จทย์ ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ข้ันที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปัญหา  ข้ันที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 22.ครอู ธบิ ายเพิม่ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า“นอกจากการต่อตัวต้านทานแบบอนกุ รมและแบบขนาน

แล้วสามารถนามาต่อเข้ากนั ท้ัง2รูปแบบ เรียกการต่อแบบนวี้ ่าการต่อตวั ต้านทานแบบผสม” 23.ครูตงั้ ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคนร่วมกันอภปิ รายแสดงความ คิดเห็นเพือ่ หาคาตอบ ดังนี้  การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใดที่ทาให้ความต้านทานรวมมคี ่าเพิ่มขนึ้ (แนวตอบ : การตอ่ ตัวต้านทานแบบอนุกรม)  การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบใดทีท่ าให้ความต้านทานรวมมคี ่าลดลง (แนวตอบ : การตอ่ ตวั ต้านทานแบบขนาน) 24.นกั เรียนทาใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง ตัวต้านทานจากนั้นครสู ุ่มนักเรียน5คนออกมาเฉลยคาตอบ ของตนเองหน้าช้ันเรียนโดยใหเ้ พื่อนในชั้นเรียนร่วมกันพิจารณาว่าคาตอบถูกต้องหรอื ไม่ จากน้ัน ครเู ฉลยคาตอบที่ถกู ต้องใหน้ ักเรียน ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 25. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามเนื้อหาเกี่ยวกบั เร่อื งตวั ตา้ นทานและใหค้ วามรเู้ พิ่มเติมจาก คาถามของนักเรยี นโดยครใู ช้ PowerPoint เรอ่ื ง ตวั ต้านทาน ในการอธบิ ายเพิม่ เติม 26.นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ5-6คนตามความสมคั รใจโดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษา กรอบApplicationActivity ในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพอื่ ออกแบบและเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าของ ต้นคริสต์มาสพร้อมทั้งอธบิ ายว่าเปน็ การต่อวงจรไฟฟ้าแบบใดเพราะเหตุใด 27.นักเรียนทาTopicQuestionsเร่อื งวงจรไฟฟ้าเบอื้ งต้นจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 28.นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หัดเร่อื งตัวต้านทานจากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นการบ้านส่งในช่วั โมงถดั ไป ขั้นสรุป ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าช้ันเรียน 2.ครตู รวจสอบผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม 3.ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกจิ กรรมการต่อตัวต้านทานแบบขนาน

4.ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.2เร่อื งตวั ต้านทาน 5.ครูตรวจTopicQuestions เร่อื งวงจรไฟฟ้าเบือ้ งต้นในสมุดประจาตวั นักเรียน 6.ครตู รวจแบบฝกึ หดั เร่อื ง ตวั ต้านทาน จากแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 7.นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั เรอ่ื งตัวต้านทาน

เรื่องที่ 3 เร่อื ง วงจรอเิ ล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้ จานวนเวลาเรียน 4 ชวั่ โมง  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค:สบื เสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นำ ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ CheckforUnderstandingในหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยบันทกึ ลงในสมุดประจาตวั นักเรยี น 2. นักเรียนทากิจกรรม Engaging Activity จากหนงั สือเรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ พิจารณาภาพตัวอย่างแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แล้วบอกชือ่ ชิน้ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทีน่ กั เรียนรจู้ กั ใหไ้ ด้มากที่สุด โดยบันทึกลงในสมุดประจาตัว นักเรียน 3. ครูตั้งประเด็นคาถามกระตุ้นความสนใจนักเรียน จากกิจกรรม Engaging Activity ว่า “นักเรียน คิด ว่าชิน้ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทาหนา้ ที่อะไร” โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนร่วมกันอภปิ รายแสดงความ คิดเห็นอย่างอิสระโดยครูเขียนคาตอบของนกั เรียนไว้ แล้วครจู ะมาตรวจสอบคาตอบหลังเรยี น เสรจ็ (แนวตอบ : ควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า) ขัน้ สอน ขัน้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1.ครถู ามคาถามKeyQuestionจากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ว่า“ชนิ้ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์คืออะไร”

โดยใหน้ กั เรียนแต่ละคนร่วมกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพื่อหาคาตอบ (แนวตอบ :คาตอบขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน) 2.นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ 8กลุ่มกลุ่มละเท่าๆกนั ตามความสมัครใจ จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่ง ตวั แทนออกมาจบั สลากเร่อื งทศี่ กึ ษาโดยครเู ตรียมสลากหมายเลขไว้หน้าชั้นเรียน ซึง่ หมายเลขจะระบุเร่อื งทใี่ หน้ กั เรียนศกึ ษาดงั นี้  หมายเลข 1 และ 2 ศึกษาไดโอด  หมายเลข 3 และ 4 ศกึ ษาทรานซิสเตอร์  หมายเลข 5 และ 6 ศกึ ษาตัวเก็บประจุ  หมายเลข 7 และ 8 ศกึ ษาวงจรรวม 3.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เรอ่ื งที่กลุ่มตนเองจับสลากได้ จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่างๆเช่นอินเทอร์เนต็ หอ้ งสมุดจากน้ันร่วมกนั สรปุ ความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้า ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 4.ครตู งั้ ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนกั เรียนโดยใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็น เพื่อหาคาตอบ ดงั นี้  ถ้านาขั้วลบของไอโอดเปล่งแสงต่อกบั ขั้วบวกของแบตเตอรี่ ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร (แนวตอบ : เนอื่ งจากการต่อไดโอดเปล่งแสงจะต้องต่อให้ถูกข้ัว กระแสไฟฟ้าจงึ จะไหลครบ วงจร ถ้าต่อขว้ั บวกกับขั้วลบสลบั กนั ไดโอดเปล่งแสงจะเกิดความต้านทานสูง กระแสไฟฟ้าจะ ไม่สามารถไหลผ่านได้ ไดโอดจะไม่ทางาน)  ทรานซิสเตอร์ทาหน้าที่สาคัญอย่างไร (แนวตอบ : ขยายสัญญาณของกระแสไฟฟ้าทีอ่ อ่ นให้มีพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น และทาหนา้ ที่ เปน็ สวิตช์เปิด-ปิดในเครื่องใช้ไฟฟ้า)  ชิน้ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ชนิดใดมีสมบตั ิคล้ายกบั ซิลคิ อน (แนวตอบ : ทรานซิสเตอร์)  การตอ่ ตวั เก็บประจุเข้าไปในวงจรไฟฟ้าโดยไม่มีตวั ต้านทานในวงจรจะเกิดผลเสียอย่างไร (แนวตอบ : จะสูญเสียประจุไฟฟ้าเร็วขึ้น) ช่ัวโมงที่ 2-3

5.ครสู นทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับชิน้ ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ว่า“ชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์จะทางานได้ก็ ต่อเม่อื ถูกต่ออยใู่ นวงจรไฟฟ้าอย่างถกู ต้อง” 6.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ3คน ตามความสมัครใจจากนั้นรว่ มกันศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกยี่ วกบั เร่อื งการต่อวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยใหส้ มาชิกภายในกลุ่มแบ่งหน้าที่กนั ศกึ ษา คนละ1เรอ่ื งซึง่ หัวข้อมีดงั นี้  คนที่ 1 ศึกษาการตอ่ วงจรตวั ต้านทาน  คนที่ 2 ศึกษาการตอ่ วงจรไดโอด  คนที่ 3 ศกึ ษาการตอ่ วงจรทรานซิสเตอร์ 7. สมาชิกภายในกลุ่มนาเรื่องทีต่ นเองศกึ ษาค้นคว้ามาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟงั จากน้ันร่วมกัน สรุป ความรทู้ ีไ่ ด้ลงในสมุดประจาตัวนกั เรียน 8.นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ6คนตามความสมัครใจเพอื่ ศกึ ษากิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์ จากน้ันใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมารับวสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการต่อ วงจรทรานซิสเตอร์ 9.สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันศกึ ษาจดุ ประสงค์ วัสดอุ ปุ กรณ์ และวิธีปฏิบตั ิกิจกรรมจากหนงั สือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 10.นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ จากน้ันสมาชิกแต่ละกลุ่มนาผลการ ทดลองที่ได้มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่มเพือ่ หาข้อสรปุ ของผลการทดลอง ชว่ั โมงที่ 4 ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 11.นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการปฏิบัติกิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์หน้าช้ันเรียน ในระหว่างที่นักเรียนนาเสนอครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจถูกต้อง 12.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ตอบคาถามท้ายกิจกรรมโดยใหน้ กั เรียนร่วมกันอภปิ รายแสดงความ คิดเหน็ เพื่อหาคาตอบ จากน้ันครสู ุ่มนกั เรียนใหต้ อบคาถามท้ายกิจกรรม

13.นักเรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายผลท้ายกิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์ และเฉลยคาถามท้าย กิจกรรม 14.นกั เรียนทาใบงานท่ี 5.3 เรอ่ื ง ชิน้ สว่ นอิเลก็ ทรอนิกส์ จากนั้นครสู ุ่มนกั เรียน3คนออกมาเฉลย คาตอบของตนเองหน้าชั้นเรียนโดยใหเ้ พอื่ นในช้ันเรียนร่วมกันพจิ ารณาว่าคาตอบถกู ต้องหรอื ไม่ จากนั้นครเู ฉลยคาตอบทีถ่ กู ต้องใหน้ กั เรียน ขั้นท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 15. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามเน้ือหาเกี่ยวกบั เรอ่ื งวงจรอิเล็กทรอนิกส์เบือ้ งต้นและใหค้ วามรู้ เพิม่ เติมจากคาถามของนกั เรียนโดยครูใช้ PowerPoint เรอ่ื ง วงจรอิเลก็ ทรอนิกสเ์ บื้องต้น ในการอธิบายเพิม่ เติม 16.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ3-4คนตามความสมัครใจโดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศกึ ษา กรอบApplicationActivity ในหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ ออกแบบและสร้างหนุ่ ยนต์ และนาเสนอผลงาน หน้าช้ันเรียน 17.นักเรียนทาTopicQuestionsเร่อื งวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์เบือ้ งต้นจากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ลงในสมุดประจาตวั นักเรียน 18.นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หดั เร่อื งวงจรอเิ ล็กทรอนิกสเ์ บือ้ งต้นจากแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เปน็ การบ้านส่งใน ช่วั โมงถดั ไป ข้นั สรปุ ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมหน้าชั้นเรียน 2.ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนกอ่ นเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอนจากกรอบ CheckforUnderstandingในสมุดประจาตัวนกั เรียน

3.ครูตรวจสอบผลการปฏิบตั ิกิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์ 4.ครูตรวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.3เร่อื งชิน้ ส่วนอิเลก็ ทรอนิกส์ 5.ครูตรวจTopicQuestions เรอ่ื งวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์เบือ้ งต้นในสมดุ ประจาตัวนกั เรยี น 6.ครูตรวจแบบฝกึ หดั เร่อื งวงจรอิเลก็ ทรอนิกสเ์ บือ้ งต้นจากแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 7.นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั เร่อื งวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์เบือ้ งต้น

เรือ่ งที่ 4 เรอ่ื ง พลงั งานไฟฟ้า กาลังไฟฟ้า และการคานวณคา่ ไฟฟ้าจานวนเวลาเรียน 3 ชั่วโมง  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค:สบื เสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ช่วั โมงที่ 1 ขั้นนำ ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. นักเรียนตรวจสอบความเข้าใจของตนเองก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอน จากกรอบ CheckforUnderstandingในหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ โดยบันทกึ ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรยี น 2. นักเรียนทากิจกรรม Engaging Activity จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ พิจารณาภาพทีก่ าหนดให้ ภาพใดมีการใช้ พลังงาน ไฟฟ้ามากกว่ากนั ถ้าเปิดใช้งานในเวลาที่เท่ากัน เพราะเหตุใด โดยบันทึกลงในสมุดประจาตวั นักเรียน 3.ครเู ตรียมบตั รภาพเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทีเ่ ขยี นกากบั ปริมาณกระแสไฟฟ้าและพลงั งานไฟฟ้ามาให้ นกั เรียนดู จากน้ันครูใช้คาถามKeyQuestionในหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ว่า“ตัวเลขทีร่ ะบบุ นเคร่อื งใช้ไฟฟ้าใน บ้านเกี่ยวข้องกบั พลังงานไฟฟ้าอย่างไร”โดยใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็นอย่าง อิสระโดยครูเขียนคาตอบของนกั เรียนไว้ แล้วครจู ะมาตรวจสอบคาตอบหลงั เรียนเสรจ็ (แนวตอบ :ตัวเลขบอกถึงกาลังไฟฟ้าและความต่างศกั ย์ของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าน้ันๆโดยจะทาให้ ทราบถึงพลงั งานไฟฟ้าที่จะต้องใช้ตามเวลาทใี่ ช้งาน) ข้นั สอน ขนั้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore)

1.นกั เรียนจับคู่กับเพือ่ นในช้ันเรียนตามความสมคั รใจจากน้ันร่วมกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกับเรอ่ื งพลงั งาน ไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟ้าจากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่างๆเช่นอินเทอร์เนต็ 2.นักเรียนแตล่ ะคู่รว่ มกันอภปิ รายเรอ่ื งทไี่ ด้ศกึ ษาจากนั้นเขียนสรปุ ความรู้ทไี่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 3.นกั เรียนแต่ละคู่รว่ มกนั ศกึ ษาตัวอย่างที่ 5.10-5.13จากหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม 2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคนจดบันทกึ ข้ันตอนและวิธีการ คานวณหาผลลพั ธ์ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียนครอู าจแนะนาใหน้ กั เรียนทาตามข้ันตอนการแก้โจทย์ปญั หา ดงั นี้  ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา  ขั้นที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปญั หา เชน่ สง่ิ ทีโ่ จทย์ต้องการถามหา และจะหาส่งิ ทีโ่ จทย์ ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ขั้นที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปัญหา  ข้ันที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ ชั่วโมงที่ 2 4.นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกี่ยวกบั เรอ่ื งระบบการส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถงึ บ้านเรอื นจากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่างๆเช่นอินเทอร์เน็ต QR Codeเรอ่ื ง ระบบ การสง่ กระแสไฟฟ้า 5.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ3คนตามความสมัครใจจากนั้นใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั วาด แผนภาพแสดงระบบการส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถึงบ้านเรอื นลงในกระดาษฟลิปชาร์ตที่ครู เตรียมให้ 6.ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มนาผลงานของกลุ่มตนเองไปติดที่หน้ากระดานแล้วใหน้ กั เรียนแต่ละคน เดินชมผลงานของเพือ่ นกลุ่มอื่นๆ จากนั้นใหส้ มาชิกภายในกลุ่มร่วมกันอภปิ รายแสดงความ คิดเห็นว่าผลงานของเพือ่ นกลุ่มไหนมีการนาเสนอที่สวยงามและถกู ต้อง

7.นกั เรียนแบ่งกลุ่ม(กลุ่มเดิม)จากนั้นร่วมกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกีย่ วกบั เร่อื งการคานวณค่าไฟฟ้า จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ อิเลก็ ทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ต่างๆเช่นอินเทอร์เนต็ โดยใหส้ มาชิกภายในกลุ่มแบ่งหน้าที่ กนั ศกึ ษาคนละ1เร่อื งซึง่ หัวขอ้ มีดังนี้  คนที่ 1 ศึกษาค่าไฟฟ้าฐาน  คนที่ 2 ศึกษาค่าบริการ  คนที่ 3 ศกึ ษาค่าภาษีมลู ค่าเพิ่ม 8. สมาชิกภายในกลุ่มนาเรื่องทีต่ นเองศกึ ษาค้นคว้ามาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง จากน้ันร่วมกนั สรุป ความรทู้ ีไ่ ด้ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรียน 9.ครถู ามคาถามท้าทายการคดิ ข้ันสูง(H.O.T.S.) จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ ว่า “ต้นทนุ การผลิตสินค้าต่อหน่วย เกี่ยวกับปัจจยั ใดบ้างและเขียนเปน็ สมการแสดงความสมั พันธ์ได้อย่างไร”โดยใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพื่อหาคาตอบ (แนวตอบ : ค่าวัตถดุ ิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลิต โดยมีความสัมพนั ธ์ดังสมการ ต้นทุนการผลิตตอ่ หนึง่ หน่วย = (ค่าวตั ถดุ ิบ + ค่าแรงงาน + ค่าใช้จ่ายในการผลิต)) จานวนสินค้าที่ผลิตได้ ชัว่ โมงที่ 3 ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 10.นักเรยี นจับคู่กบั เพือ่ นในชน้ั เรียนตามความสมคั รใจจากนนั้ ร่วมกนั ศกึ ษาตัวอย่างการคานวณ ค่าไฟฟ้าจากตัวอย่างที่ 5.14-5.15ในหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนจดบนั ทกึ ข้ันตอนและ วิธีการคานวณหาผลลัพธล์ งในสมุดประจาตัวนกั เรียนครูอาจแนะนาใหน้ กั เรียนทาตามขั้นตอนการ แก้โจทย์ปญั หาดังนี้  ขั้นที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปญั หา

 ข้ันที่ 2 วางแผนการแก้โจทย์ปญั หา เชน่ สิง่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการถามหา และจะหาสิ่งที่โจทย์ ต้องการ ต้องทาอย่างไร  ข้ันที่ 3 ดาเนินการแก้โจทย์ปญั หา  ข้ันที่ 4 ตรวจสอบคาตอบ 11.ครูยกตัวอย่างการคานวณค่าไฟฟ้าโดยครเู ขยี นตัวอย่างและแสดงวิธีการคานวณใหน้ กั เรยี นดบู น กระดาน ดังนี้ ตวั อยา่ ง บ้านของเดก็ ชายปังปอนด์มเี คร่อื งปรบั อากาศขนาด3,000วตั ต์ จานวน2เคร่อื งเปิดใช้ งานวนั ละ6ชวั่ โมงหลอดไฟฟ้าขนาด60วตั ต์ จานวน2หลอดเปิดใช้งานวนั ละ6 ช่วั โมงและโทรทศั น์ขนาด10วตั ต์ จานวน1เคร่อื งเปิดใช้งานวนั ละ3ช่วั โมง จงหาพลงั งานไฟฟ้าทใี่ ช้ทั้งหมดในหนึ่งวัน วิธีทา คานวณหาพลงั งานไฟฟา้ ทีใ่ ช้ท้ังหมดในหนึ่งวนั จากสมการ W  Pt   2  3,000 kW  6 h    2  60 kW  6 h    1,000   1,000   1  90 kW  3 h  1,000  W  36  0.72  0.27 W  36.99 kW h ดงั นน้ั พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมดในหนึ่งวนั เท่ากับ 36.99กโิ ลวัตต์ ช่ัวโมงหรอื 36.99หน่วย 12.ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนคานวณหาค่าไฟฟ้าฐานค่าไฟฟ้าผันแปรและค่าภาษีมูลค่าเพิม่ ในรอบ เดือนธันวาคมของบ้านเดก็ ชายปงั ปอนด์ (กาหนดใหค้ ่า Ft เท่ากับ -11.60สตางค์ตอ่ หน่วย) จากตัวอย่างทีค่ รูเขยี นบนกระดาน โดยแสดงวิธกี ารคานวณหาผลลัพธ์ลงในสมุดประจาตวั นักเรียน 13.นกั เรียนทาใบงานท่ี 5.4เรอ่ื ง พลังงานไฟฟ้า จากน้ันครสู ุ่มนักเรียน5คนออกมาเฉลย คาตอบของตนเองหน้าชั้นเรียนโดยใหเ้ พอื่ นในชั้นเรียนร่วมกันพจิ ารณาว่าคาตอบถูกต้องหรอื ไม่ จากนั้นครเู ฉลยคาตอบทีถ่ กู ต้องใหน้ กั เรียน ข้นั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 14. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามเน้ือหาเกี่ยวกับเรอ่ื งพลังงานไฟฟ้ากาลังไฟฟ้า และการคานวณ

ค่าไฟฟ้าและใหค้ วามรู้เพิม่ เติมจากคาถามของนกั เรียนโดยครใู ช้ PowerPoint เร่อื ง พลงั งาน ไฟฟา้ ในการอธบิ ายเพิม่ เติม 15.ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละคนสารวจเคร่อื งใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของตนเองจากน้ันบนั ทกึ ข้อมลู กาลังไฟฟ้าจากป้ายกากับของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิ้ แล้วนามาคานวณหาค่าไฟฟ้าจากการเปิดใช้ งานจริงโดยแสดงวิธีการคานวณหาผลลัพธ์อย่างละเอียดลงในกระดาษ A4เป็นการบ้านส่งใน ชัว่ โมงถดั ไป 16.นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หัดเร่อื งพลังงานไฟฟ้ากาลงั ไฟฟ้าและการคานวณค่าไฟฟ้า จากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ และ อิเลก็ ทรอนิกส์ ข้ันสรปุ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครูประเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าชั้นเรียน 2.ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนกอ่ นเข้าสู่กิจกรรมการเรียนการสอนจากกรอบ CheckforUnderstandingในสมุดประจาตวั นกั เรียน 3.ครูตรวจแผนภาพแสดงระบบการส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟา้ ถึงบ้านเรอื น 4.ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.4เร่อื งพลงั งานไฟฟ้า 5.ครูตรวจแบบฝกึ หัดเร่อื งพลังงานไฟฟ้ากาลังไฟฟ้าและการคานวณค่าไฟฟ้าจากแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 6.นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกบั เร่อื งพลังงานไฟฟ้ากาลังไฟฟ้าและการคานวณค่าไฟฟ้า (ถ้าเปน็ เร่อื งสุดท้ายของหน่วยการเรียนรู้ อาจมีการทาแบบทดสอบหลังการเรียนหรอื แบบประเมินหลงั เรียนของหน่วยการ เรียนรู้น้ันๆเพือ่ เป็นการประเมินหลงั เรียนสุดท้าย)

เรือ่ งที่ 5 เร่อื ง วงจรไฟฟ้า และเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบา้ น จานวนเวลาเรียน 2 ชวั่ โมง  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค:สบื เสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ช่ัวโมงที่ 1 ข้นั นำ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1.ครทู บทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเกีย่ วกบั เร่อื งพลงั งานไฟฟา้ และกาลงั ไฟฟ้าจากนั้นครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทราบ 2.ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดนกั เรียนว่า“การไฟฟ้าส่งพลงั งานไฟฟ้าเข้าบ้านเรอื นได้อยา่ งไร” โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพื่อหาคาตอบโดยไม่มีการเฉลยว่าถกู หรอื ผดิ (แนวตอบ :คาตอบขึน้ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน) 3.ครใู หน้ ักเรียนแต่ละคนยกตัวอย่างเครอ่ื งใช้ไฟฟ้ามาคนละ1อย่างแบบไม่ซ้ากันใหไ้ ด้มากทสี่ ุด ซึ่งครเู ขียนคาตอบของนกั เรยี นบนกระดานหน้าชั้นเรียน 4.นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ5-6คนตามความสมัครใจจากนั้นใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มแบ่งประเภท เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าตามเกณฑห์ รอื ความคิดเหน็ ของกลุ่มทีค่ รูเขยี นไว้บนกระดานหน้าชั้นเรียน โดยจดบนั ทกึ ลงในกระดาษ A4 ขน้ั สอน ขนั้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) 1.นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ3คนตามความสมคั รใจ จากนั้นรว่ มกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเกยี่ วกับเรอ่ื ง วงจรไฟฟ้าในบ้านอปุ กรณไ์ ฟฟา้ และเคร่อื งใช้ไฟฟ้าจากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรียนรู้ ต่างๆ เช่นอินเทอรเ์ น็ต 2.นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายเร่อื งทไี่ ด้ศกึ ษาจากนั้นเขียนสรปุ ความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงใน สมดุ ประจาตวั นักเรยี น

ช่วั โมงที่ 2 ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 3.นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลจากการศกึ ษาหน้าช้ันเรียนในระหว่างทีน่ กั เรียนนาเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อใหน้ ักเรยี นมีความเข้าใจทีถ่ กู ต้อง 4.ครตู ง้ั ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนกั เรียนโดยใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันอภปิ รายแสดง ความคิดเหน็ เพื่อหาคาตอบ ดงั นี้  สายไฟฟ้าที่ตอ่ เข้าบ้านเรือนมีกี่สาย อะไรบ้าง (แนวตอบ : มี 2 สาย คอื สายมีศกั ย์หรอื สาย L เป็นสายไฟฟ้าที่มพี ลงั งานศักย์ไฟฟ้า 220 โวลต์ และสายกลางหรอื สาย N เปน็ สายที่มีพลังงานศกั ย์ไฟฟ้าเปน็ ศนู ย์เมอ่ื เทียบกบั พืน้ ดิน)  หลังจากที่กระแสไฟฟ้าผ่านมาตรไฟฟ้าแล้ว จะต้องทาการตอ่ อปุ กรณ์ใดก่อนที่กระแสไฟฟ้า จะเดินทางไปถึงเครือ่ งใช้ไฟฟ้าในบ้าน (แนวตอบ : แผงควบคมุ ไฟฟ้า)  แผงควบคมุ ไฟฟ้าในปจั จบุ ันประกอบด้วยอะไรบ้าง (แนวตอบ : ตัวตดั วงจรรวม และตวั ตัดวงจรย่อย) 5. ครถู ามคาถามท้าทายการคิดขนั้ สงู (H.O.T.S.) จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ว่า “เพราะเหตุใดแผงควบคมุ ไฟฟ้า ใน ปจั จบุ นั จงึ ไม่มกี ารตดิ ตั้งฟิวส์” โดยใหน้ ักเรียนรว่ มกันอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพื่อหาคาตอบ (แนวตอบ : ตัวตดั วงจรทีต่ ิดตั้งไว้บนแผงควบคมุ ไฟฟ้าทาหน้าที่เปน็ ท้ังฟิวส์และสะพานไฟ จงึ ไม่ จาเป็นต้องติดตั้งฟิวส์เพิ่มในแผงควบคมุ ไฟฟ้าอีก แต่ก็ยังจาเป็นจะต้องติดตง้ั ไว้ภายในในอปุ กรณ์ ไฟฟ้าบางชนิด เพื่อตัดวงจรไฟฟ้าในเคร่ืองใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ทนั ทีเมอ่ื กระแสไฟฟ้ามากเกินปกติ) 6.ครูอธิบายเพิม่ เติมใหน้ กั เรียนเข้าใจว่า“เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านเมอ่ื แบ่งประเภทตามลกั ษณะ พลังงานทีไ่ ด้รับจากเคร่อื งใช้ไฟฟ้าเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้เปน็ 3ประเภทได้แก่ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า ทีเ่ ปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานแสงสว่างเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทเี่ ปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลงั งาน ความร้อนและเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทีเ่ ปลีย่ นพลังงานไฟฟ้าเปน็ พลังงานกล” 7.ครูสุ่มนักเรียน3คนออกมาหน้าชั้นเรียนยกตัวอย่างเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบ้านมาคนละ2ตวั อย่าง ดงั นี้

 คนที่ 1 ยกตวั อย่างเครือ่ งใช้ไฟฟ้าที่ได้รบั พลงั งานแสงสว่าง  คนที่ 2 ยกตวั อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รบั พลงั งานความรอ้ น  คนที่ 3 ยกตวั อย่างเครือ่ งใช้ไฟฟ้าที่ได้รบั พลังงานกล ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 8.ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามเน้ือหาเกยี่ วกบั เร่อื งวงจรไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน และใหค้ วามรู้เพิม่ เติมจากคาถามของนักเรยี นโดยครใู ช้ PowerPointเร่อื งวงจรไฟฟ้า และเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นในการอธบิ ายเพิม่ เติม 9.นักเรยี นทาใบงานท่ี 5.5เรอ่ื ง ประเภทเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า จากน้ันครสู ุ่มนกั เรยี น3คนออกมา เฉลยคาตอบของตนเองหน้าชั้นเรียน โดยใหเ้ พอื่ นในช้ันเรียนร่วมกันพิจารณาว่าคาตอบถกู ต้อง หรอื ไม่ จากนั้นครูเฉลยคาตอบที่ถูกต้องใหน้ กั เรียน 10.นกั เรยี นแต่ละคนทาแบบฝกึ หดั เร่อื งวงจรไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านจากแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนิกส์ ขน้ั สรุป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าชั้นเรียน 2.ครูตรวจสอบผลการทาใบงานที่ 5.5เร่อื ง ประเภทเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า 3.ครูตรวจแบบฝกึ หดั เร่อื งวงจรไฟฟ้าและเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบา้ นจากแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 4.นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั เรอ่ื งวงจรไฟฟ้าและเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน

เรื่องที่ 6 เรอ่ื ง การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภยั จานวนเวลาเรียน 3 ชว่ั โมง  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ :สืบเสาะหาความรู้ (5EsInstructionalModel) ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นำ ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1.ครทู บทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับเร่อื งเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ในบ้านโดยครยู กตัวอย่าง เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านที่พบเหน็ ในชีวติ ประจาวันแล้วใหน้ ักเรียนแต่ละคนร่วมกนั อภปิ รายแสดง ความคิดเห็นว่า“เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบ้านแต่ละชนิดเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานชนิดใด” (แนวตอบ :คาตอบขึน้ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครูผู้สอน) 2.ครูตงั้ ประเด็นคาถามกระตุ้นความสนใจนักเรยี นว่า“ถ้านกั เรยี นต้องการจะประหยดั พลังานไฟฟ้า นักเรียนจะมีหลกั ในการเลือกใชเ้ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่างไรและทราบหรอื ไม่วา่ พฤติกรรมการใช้ พลงั งานไฟฟ้ามีความเหมาะสมหรอื เกิดการสิน้ เปลอื งอย่างไร”โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ อย่างอิสระโดยไม่มีการเฉลยว่าถกู หรอื ผดิ (แนวตอบ :คาตอบขึน้ อยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน) ขน้ั สอน ข้ันท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) 1.นกั เรียนจบั คู่กบั เพือ่ นในชั้นเรียนตามความสมคั รใจ จากน้ันร่วมกนั ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู เกยี่ วกบั เร่อื งการใช้ ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภยั จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ หรอื แหล่งการเรยี นรู้ต่างๆเช่นอินเทอร์เน็ต 2.นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเร่อื งทีไ่ ด้ศกึ ษาจากนั้นเขียนสรปุ ความรู้ทีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรยี น

3.นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ5-6คนตามความสมัครใจจากน้ันใหส้ มาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั พูดคุยและคิด สถานการณ์จาลองเกีย่ วกบั เรอ่ื งการเกิดอบุ ัติเหตุ เนือ่ งมาจากความประมาทในการใช้เคร่อื งใช้ไฟฟ้าโดย บนั ทึกข้อมลู ทีไ่ ด้ลงในกระดาษ A4ซึ่งมีขอ้ มูลและลาดับเน้ือหาดังนี้  กาหนดชื่อสถานการณ์  สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ  ผลของการเกิดอบุ ตั ิเหตุ  การแก้ไขเมือ่ เกิดอุบัติเหตุ  วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดอบุ ัติเหตุ ชัว่ โมงที่ 2-3 ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) 4.นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอสถานการณ์จาลองหน้าชั้นเรียนในระหว่างทีน่ กั เรยี นนาเสนอ ครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติมเพือ่ ใหน้ กั เรยี นมีความเข้าใจทีถ่ กู ต้อง 5.นกั เรียนแต่ละคนศกึ ษากรอบ ApplicationActivityในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 6. ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามเนื้อหาเกยี่ วกบั เร่อื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย และใหค้ วามรู้เพิ่มเติมจากคาถามของนกั เรยี นโดยครใู ช้ PowerPointเรอ่ื งการใช้ไฟฟา้ อยา่ ง ประหยดั และปลอดภยั ในการอธิบายเพิ่มเติม 7.นกั เรียนทาTopicQuestionsเรอ่ื งพลงั งานไฟฟ้าและเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าในบ้านจากหนงั สือเรยี น วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรียน 8.นกั เรียนแบ่งกลุ่มโดยครเู ตรยี มสลากหมายเลขกลุ่มจากน้ันใหน้ ักเรียนแต่ละคนออกมาหยบิ สลาก ซึ่งนักเรียนที่ได้หมายเลขเดียวกนั จะอยู่กลุ่มเดยี วกันแต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกภายในกลุ่ม5คน 9.ครแู จง้ จุดประสงค์ของกิจกรรมFunScienceActivityเร่อื งไฟฉายจากขวดพลาสติกใหน้ ักเรยี น ทราบเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบตั ิกิจกรรมที่ถกู ต้องจากน้ันใหส้ มาชิกภายในกลุ่มจดั เตรียม วัสดุอปุ กรณท์ ี่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมFunScience Activity เร่อื งไฟฉายจากขวดพลาสติก

จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ 10.สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรมFunScienceActivityเร่อื งไฟฉายจากขวดพลาสตกิ ตามข้ันตอนจากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ หลังจากนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเสรจ็ นักเรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายผล จากกิจกรรมFun Science Activity 11.นักเรยี นแต่ละคนศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกีย่ วกับเร่อื งวิทยาศาสตร์ในชีวติ ประจาวนั จากกรอบ ScienceinRealLife เรอ่ื งหลอดฟลูออเรสเซนต์ ในหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 12.ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า“หลอดฟลูออเรสเซนต์ ประกอบด้วยสตาร์ตเตอร์ ทาหน้าที่ เป็นสวิตช์ตดิ ไฟอัตโนมัติ และบลั ลาสต์ ทาหน้าที่เหนีย่ วนาใหเ้ กิดความต่างศักย์ที่ขว้ั หลอด” 13.นกั เรียนตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองจากกรอบSelfCheckเรอ่ื งไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ จากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ โดยบันทึกลงในสมดุ ประจาตัวนักเรียน 14.ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทาUnitQuestionเร่อื งไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ จากหนงั สือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยทาลง ในสมดุ ประจาตวั นักเรียนเปน็ การบ้านส่งในช่วั โมงถดั ไป 15.นกั เรียนแต่ละคนทาแบบฝกึ หัดเรอ่ื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยจากแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 16.นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนของหน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพือ่ เปน็ การ วดั ความรู้หลงั เรียนของนกั เรียน 17.นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ4-5คนตามความสมคั รใจจากน้ันใหส้ มาชิกภายในกลุ่มร่วมกนั ออกแบบสิ่งประดิษฐ์ชิน้ งานเกยี่ วกับเรอ่ื งการต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้ความรู้วงจรไฟฟ้าอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เพอื่ มาต่อวงจรไฟฟ้าซึง่ วงจรไฟฟ้าต้องมีการต่อทั้งแบบอนกุ รมและแบบขนาน และสามารถนามาใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวันได้ ตัวอย่างเช่นโคมไฟไฟฉายป้ายไฟเปน็ ต้น พร้อมอธิบายวัสดุอุปกรณ์ทใี่ ช้ในการประดิษฐ์ชนิ้ งานหลกั การทางานหรอื วิธีการใช้งาน แล้วนาเสนอชิน้ งานในช่ัวโมงถัดไป

ขั้นสรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1.ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจหลังเรยี นของนักเรียน 2.ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถามพฤติกรรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุ่มและจากการนาเสนอผลการปฏิบัติกจิ กรรมหน้าช้ันเรียน 3.ครูตรวจTopicQuestions เร่อื งพลงั งานไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านในสมดุ ประจาตัว นักเรียน 4.ครปู ระเมินผลการปฏิบตั ิกิจกรรม FunScienceActivityเร่อื งไฟฉายจากขวดพลาสติก 5.ครตู รวจแบบฝกึ หดั เรอ่ื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยจากแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 6.ครูตรวจสอบผลการตรวจสอบความเข้าใจของตนเองจากกรอบ SelfCheckเร่อื งไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ในสมดุ ประจาตวั นกั เรียน 7.ครูตรวจแบบฝกึ หัดUnitQuestionเร่อื งไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ในสมดุ ประจาตวั นกั เรียน 8.ครูวัดและประเมินผลจากชิน้ งานสิง่ ประดิษฐ์ เร่อื งการต่อวงจรไฟฟ้าเปน็ การบ้านและนามาส่งใน ชั่วโมงถดั ไป 9.นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั เร่อื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย 14.สื่อการเรียนรู้ /แหล่งเรียนรู้ 14.1 .สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ 2) แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3เล่ม2หน่วยการเรียนรู้ที่ 5ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 3) ใบงานที่ 5.1เรอ่ื งกฎของโอหม์ 4) ใบงานที่ 5.2เรอ่ื งตัวต้านทาน 5) ใบงานที่ 5.3เร่อื งชิน้ ส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์ 6) ใบงานที่ 5.4เร่อื งพลงั งานไฟฟ้า 7) ใบงานที่ 5.5เรอ่ื งประเภทเคร่อื งใช้ไฟฟ้า 8) วสั ดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในการปฏบิ ัติกิจกรรมความสมั พันธ์ระหวา่ งกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศักย์ 9) วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏบิ ัติกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบอนกุ รม

10) วัสดอุ ปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการปฏิบัติกิจกรรมการต่อตวั ต้านทานแบบขนาน 11)วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรมการต่อวงจรทรานซิสเตอร์ 12) วสั ดุอปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการปฏิบตั ิกิจกรรมFunScienceActivityเร่อื งไฟฉายจากขวดพลาสติก 13) PowerPointเร่อื งความสมั พันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้ากบั ความต่างศกั ย์ 14) PowerPointเรอ่ื งตวั ต้านทาน 15) PowerPointเร่อื งวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบอื้ งต้น 16) PowerPointเร่อื งพลังงานไฟฟ้า 17) PowerPointเร่อื งวงจรไฟฟา้ และเคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้าน 18)PowerPoint เรอ่ื งการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภยั 19) สลากหมายเลข 20) ตัวต้านทานค่าคงที่ 21) บตั รคา 22) บัตรภาพ 23) QRCodeเรอ่ื งระบบการส่งกระแสไฟฟ้า 24) สมุดประจาตัวนกั เรียน 14.2 แหล่งเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) หอ้ งเรียน 3) บริเวณโรงเรียน 4) หอ้ งปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์

บันทึกการนิเทศจากฝ่ายบริหาร(ส่งก่อนจดั การเรยี นรู้ 1 สปั ดาห์) ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้  เหน็ ควรอนญุ าตให้ใชป้ ระกอบการจดั การเรียนรู้ได้ โดยมีข้อเสนอแนะเพิม่ เติม คือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………………………  ไม่เห็นควรอนญุ าตให้ใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ลงชื่อ......................................................... (นางสาวภัทริยา โพธิศรคี ุณ) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ............/......................../.............. ความเหน็ ผบู้ ริหาร/ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย  อนญุ าตให้ใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ได้ โดยมีข้อเสนอแนะเพิม่ เติมคือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………………………  ไม่อนญุ าตใหใ้ ช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ลงชือ่ ......................................................... (นายเถลิงศกั ดิ์ เถาว์โท) ผชู้ ่วยผู้อานวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ............/......................../............

ความเหน็ ผู้บริหาร/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย  อนุญาตให้ใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ได้ โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมคือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………………………  ไม่อนุญาตใหใ้ ช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ลงชือ่ ......................................................... (นายวิทยา ทรวงดอน) รองผอู้ านวยการโรงเรียนน้าปลีกศึกษา ............/......................../............ ความเหน็ ผบู้ ริหาร/ผทู้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย  อนุญาตให้ใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ได้ โดยมีข้อเสนอแนะเพิม่ เติมคือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………………………  ไม่อนุญาตใหใ้ ช้ประกอบการจัดการเรียนรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………………………… ลงชื่อ ......................................................... (นายโชติชัย กิง่ แก้ว) ผอู้ านวยการโรงเรียนน้าปลีกศึกษา ............/......................../............

เอกสารแนบทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ อาจเป็นดังน้ี 1. แบบทดสอบกอ่ นการเรยี น 2. แบบทดสอบหลังการเรยี น

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟ้ำและอิเลก็ ทรอนิกส์ คำชแ้ี จง:ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. เครื่องมอื ที่ใช้วัดความตา่ งศกั ย์ไฟฟ้าคือขอ้ ใด 6. ถา้ ต้องการตอ่ เครือ่ งสบู นา้ กับวงจรไฟฟา้ ท่ีมีความต่าง 1. แอมมิเตอร์ ศักยไ์ ฟฟา้ 220 โวลต์ กระแสไฟฟา้ จะไหลผา่ นได้ 5 2. โวลตม์ ิเตอร์ แอมแปร์ จะมีกาลังไฟฟ้าเทา่ ใด 3.โอหม์ มเิ ตอร์ 1.110วตั ต์ 4. แกลวานอมิเตอร์ 2.225วตั ต์ 3.1,100วตั ต์ 2. ข้อใดเปน็ หน่วยของกาลังไฟฟ้า 4.2,200วตั ต์ 1. วัตต์ 2. กโิ ลวัตต์ 7. ห้องเช่าหอ้ งหนึ่งตดิ เครื่องปรับอากาศขนาด 1,000 วตั ต์ 3. จลู ต่อวินาที จานวน 1 เคร่อื ง เปิดใช้งานวนั ละ 10 ชว่ั โมง จะต้องเสยี คา่ 4. ถูกทกุ ข้อ ไฟฟา้ เดอื นเมษายนเท่าใด ถา้ คา่ ไฟฟา้ ตามห้องเช่าคดิ หนว่ ยละ 7 บาท 3. เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าข้อใดทใี่ ห้พลังงานความร้อนทั้งหมด 1. 1,800 บาท 1. เตาอบไมโครเวฟ เตารีดไฟฟ้า 2. 2,100 บาท 2. เตารดี ไอน้า เครอ่ื งปรบั อากาศ 3. 2,900 บาท 3. เคร่ืองปรบั อากาศ เคร่อื งสูบนา้ 4. 3,200 บาท 4. เครือ่ งเปา่ ผมไฟฟา้ หมอ้ ต้มกาแฟ 8.การตรวจไฟฟา้ ร่ัวทเี่ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ หรอื ไม่ วิธกี ารท่ีเกดิ ความ ปลอดภยั และทางา่ ยทีส่ ดุ คือข้อใด 4. กระแสไฟฟ้าไหลจากบรเิ วณศกั ยไ์ ฟฟา้ สงู ไปยังบรเิ วณ 1.ดทู ีค่ า่ ไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้าต่า หมายความว่าอยา่ งไร 2.ใชม้ เิ ตอร์วดั 1. กระแสไฟฟา้ จากทส่ี งู ไปยังทต่ี า่ 3.ใชม้ ือสมั ผสั 2. กระแสไฟฟ้าไหลจากขัว้ บวกไปยังขั้วลบ 4.ใชไ้ ขควงตรวจสอบไฟฟา้ 3. กระแสไฟฟ้าไหลจากความตา้ นทานมากไปยงั ความ 9.การกระทาของนกั เรยี นคนใดถูกต้องและเหมาะสมท่สี ดุ ต้านทานน้อย 1.สมศรชี อบเลน่ วา่ วใกลส้ ายไฟฟ้า 4. กระแสไฟฟา้ ไหลจากความตา้ นทานน้อยไปยงั ความ 2.สมชายใช้ลวดทองแดงต่อแทนฟิวส์ ต้านทานมาก 3.ธันวาถอดปล๊กั ทกุ ครงั้ หลังจากเลกิ ใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ 4.กาญจนาตดิ ปลก๊ั ไฟฟา้ ไวใ้ นระดับตา่ เพ่อื ไมใ่ ห้เกะกะ 5. การเลือกใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟา้ จะตอ้ งตรวจสอบค่าสิ่งใดเพื่อให้ 10.สายดนิ ป้องกนั กระแสไฟฟ้ารัว่ ไดอ้ ยา่ งไร เหมาะสมกบั ความตอ้ งการ 1.ทาให้ความต่างศักยล์ ดลงครง่ึ หนง่ึ 1. จานวนวตั ต์และค่ากระแสไฟฟา้ 2.ถ้ากระแสไฟฟา้ รวั่ สวติ ช์อัตโนมัติจะตดั เอง 2. จานวนวัตต์และค่าความตา้ นทาน 3.ถา้ กระแสไฟฟา้ ร่ัวความตา้ นทานจะสูงขนึ้ มาก 3. จานวนวัตต์และคา่ ความต่างศักย์ไฟฟ้า 4.ถ้ากระแสไฟฟา้ ร่ัวกระแสไฟฟา้ จะไหลไปทางสายดนิ 4. คา่ ความต่างศกั ย์ไฟฟา้ และคา่ ความตา้ นทานไฟฟ้า เฉลย 1.2 2.1 3.1 4.2 5.3 6.3 7.2 8.4 9.3 10.4

แบบทดสอบหลังเรยี น แบบประเมนิ ช้ินงำน/ภำระงำน (รวบยอด) ไฟฟ้ำและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ่ี 5 คำชี้แจง:ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. อปุ กรณ์ใดจะต้องตอ่ แบบอนกุ รมเขา้ กับวงจรไฟฟ้าเท่าน้นั 7. ค่าความต้านไฟฟา้ ของเส้นลวดเสน้ หน่งึ จะข้ึนอยกู่ ับข้อใด 1. แอมมิเตอร์ 1.แปรผันตรงกบั ความยาวของเสน้ ลวด 2. โวลตม์ เิ ตอร์ 3.โอหม์ มเิ ตอร์ 2.แปรผนั ตรงกบั พน้ื ทภ่ี าคตดั ขวางของเสน้ ลวด 4. แกลวานอมเิ ตอร์ 3.แปรผกผนั กบั ความยาวแต่แปรผนั ตรงกับพื้นที่ 2. อัตราการใช้พลังงานไฟฟา้ คอื ขอ้ ใด ภาคตดั ขวางของเส้นลวด 1. กาลังไฟฟา้ 4.แปรผนั ตรงกบั ความยาวแตแ่ ปรผกผนั กับพนื้ ท่ี 2. ความจุไฟฟา้ 3. ความต่างศกั ย์ ภาคตัดขวางของเสน้ ลวด 4. พลงั งานไฟฟา้ 8. เม่ือนาถา่ นไฟฉายขนาด 1.5 โวลต์ มาต่ออนุกรม 4 ก้อน 3. การตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรมมขี อ้ เสียอย่างไร แล้วนาไปตอ่ ขนานกบั หลอดไฟทม่ี ีความตา้ นทาน 3 โอหม์ 1. ไมป่ ลอดภยั ต่อผใู้ ช้งาน จานวน 3 หลอด กระแสไฟฟ้าทไี่ หลผา่ นทั้งวงจรมีคา่ เทา่ ใด 2. ต้องใช้อปุ กรณใ์ นการตอ่ มาก 3. กระแสไฟฟา้ ในวงจรเดินไมส่ ะดวก 1. 4 แอมแปร์ 4. ถ้าสายไฟขาดจะทาให้วงจรเปดิ ท้ังวงจร 2. 5 แอมแปร์ 3. 6 แอมแปร์ 4. นชิ าต่อวงจรไฟฟา้ โดยต่อแบตเตอร่เี ข้ากับไดโอด แล้วต่อ 4. 7 แอมแปร์ เขา้ กับหลอดไฟ หากนชิ าต่อไดโอดสลับข้ัวจะเกดิ อะไรขึ้น 9.อรอมุ าต่อตู้เยน็ กบั ความตา่ งศกั ย์ 220โวลต์ มีกระแสไฟฟ้า 1. หลอดไฟดับ ไหลผา่ น2.2แอมแปร์ ตเู้ ยน็ เคร่อื งนม้ี ีกาลังไฟฟา้ เทา่ ไร 2. หลอดไฟจะติด ๆ ดบั ๆ 1.264วตั ต์ 3. ไมเ่ กิดการเปลี่ยนแปลง 2.484วตั ต์ 4. หลอดไฟจะสวา่ งมากขน้ึ 3.684วตั ต์ 4.884วตั ต์ 5. เพราะเหตใุ ดจึงนยิ มต่อเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ในบ้านแบบขนาน 10.บา้ นหลงั หน่ึงมีหลอดไฟขนาด50วตั ต์ จานวน10ดวง 1. เมอ่ื เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ชารดุ ไฟฟ้าจะไมด่ บั ทง้ั หมด เปดิ ใช้งานวนั ละ10ชั่วโมงและเครอื่ งปรบั อากาศขนาด 2. สามารถเลือกใช้เครือ่ งใช้ไฟฟา้ ตามตอ้ งการได้ 2,500วตั ต์ จานวน1เครอื่ งเปดิ ใชง้ านวนั ละ8ช่ัวโมง 3. ทาใหค้ วามต่างศกั ย์ของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทกุ ชนดิ มคี ่าเท่ากนั ในเดือนกนั ยายนบ้านหลงั นีจ้ ะต้องชาระคา่ ไฟเท่าใด 4. ถูกทุกขอ้ ทกี่ ลา่ วมา (กาหนดอัตราค่าไฟฟ้าหนว่ ยละ3บาท) 1. 1,500 บาท 6. โวลตม์ เิ ตอร์มวี ธิ กี ารตอ่ กบั ส่งิ ทตี่ ้องการจะวัดในวงจรไฟฟา้ 2. 1,750 บาท แบบใด 3. 2,200 บาท 1. ตอ่ คร่อมขวั้ แบตเตอรี่ 4. 2,250 บาท 2. ต่อสลับข้ัวกับแบตเตอร่ี 3. ตอ่ แบบขนานกับสง่ิ ทจ่ี ะวัด 4. ตอ่ แบบอนุกรมกบั ส่งิ ท่จี ะวัด เฉลย 1.1 2.1 3.4 4.1 5.4 6.3 7.4 8.3 9.2 10.4

แบบประเมินชนิ้ งำนสิ่งประดษิ ฐ์ เรอ่ื ง กำรต่อวงจรไฟฟ้ำ คำชแี้ จง: ให้ผู้สอนประเมินผลงาน/ชิ้นงานของนกั เรยี นตามรายการท่ีกาหนดแล้วขีดลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ 4 3 21 1 การออกแบบชนิ้ งาน 2 การเลอื กใช้วสั ดเุ พอื่ สรา้ งชนิ้ งาน 3 ความสมบรู ณข์ องช้นิ งาน 4 การสรา้ งสรรค์ชนิ้ งาน 5 กาหนดเวลาส่งงาน รวม ลงชอื่ ............................ ผ้ปู ระเมนิ ......../........./.........

เกณฑ์กำรประเมินชนิ้ งำนส่ิงประดษิ ฐ์ เรื่อง กำรตอ่ วงจรไฟฟ้ำ ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ ระดับคะแนน 1. กำรออกแบบชน้ิ งำน 4321 2. กำรเลอื กใช้วสั ดุเพือ่ สร้ำงชน้ิ งำน ชิ้นงานมีความถูกต้องท่ี ช้ินงานมีความถูกต้องที่ ชิ้นงานมีความถูกต้องท่ี ช้ินงานไม่ถูกต้องที่ออกแบบ 3. ควำมสมบูรณข์ อง ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม ออกแบบไว้ มีขนาดเหมาะสม ไว้ มีขนาดไม่เหมาะสม ชนิ้ งำน รูปแบบน่าสนใจ แปลกตา รู ปแบบน่ าสนใจ และ รปู แบบนา่ สนใจ รปู แบบไม่นา่ สนใจ 4. กำรสร้ำงสรรคช์ น้ิ งำน 5. กำหนดเวลำส่งงำน และสรา้ งสรรคด์ ี สรา้ งสรรค์ เลือกใช้วัสดุมาสร้างช้ินงาน เลือกใช้วัสดุมาสร้างชิ้นงาน เลือกใช้วัสดุมาสร้างช้ินงาน เลือกใช้วัสดุมาสร้างชิ้นงาน ตามที่กาหนดไดถ้ ูกต้องและ ตามที่กาหนดได้ถูกต้องและ ต า ม ที่ ก า ห น ด ไม่ตรงตามท่ีกาหนด และ วัสดุมีความเหมาะสมกับการ วัสดุมีความเหมาะสมกับการ แต่วัสดุมีความเหมาะสมกับ วัสดุไม่มีความเหมาะสมกับ สรา้ งชน้ิ งานดีมาก สรา้ งชิ้นงานดี การสร้างช้ินงานที่ออกแบบ การสร้างช้ินงานท่ีออกแบบ ไว้ ไว้ ช้ิ นงานมี ความแข็งแรง ช้ิ นงานมี ความแข็งแรง ช้ินงานไม่มีความแข็งแรงแต่ ช้ินงานไม่มีความแข็งแรง ทนทานสามารถนาไปใช้งาน ทนทานสามารถนาไปใช้งาน สามารถนาไปใชง้ านไดบ้ ้าง และไม่ สามารถนาไปใช้งาน ไดจ้ รงิ และใชไ้ ดด้ มี าก ได้จรงิ และใชไ้ ดด้ ี ได้ ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงามดี ตกแตง่ ชน้ิ งานได้สวยงามดี ตกแต่งชิ้นงานได้สวยงาม ชน้ิ งานไมม่ ีความสวยงาม มาก นอ้ ย ส่งชิ้นงานภายในเวลาที่ ส่งชิ้นงานช้ากว่ากาหนด1-2 ส่งช้ินงานช้ากว่ากาหนดเกิน ส่งช้ินงานช้ากว่ากาหนดเกนิ กาหนด วนั 3 วัน ขึ้นไป 5วันขึน้ ไป เกณฑก์ ำรตดั สนิ คุณภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ 18-20 ดีมาก 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ตา่ กว่า10 ปรับปรงุ

แบบประเมนิ กำรปฏบิ ัตกิ จิ กรรม คำช้แี จง: ใหผ้ สู้ อนประเมินการปฏิบัติกิจกรรมของนักเรียนตามรายการทกี่ าหนดแลว้ ขีดลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 4321 1 การปฏิบตั กิ ารทากจิ กรรม 2 ความคล่องแคลว่ ในขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 3 การบนั ทกึ สรปุ และนาเสนอผลการทากจิ กรรม รวม ลงชอื่ ............................ ผู้ประเมิน ........./........../.......... เกณฑก์ ำรประเมินกำรปฏิบตั ิกิจกรรม ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ ระดับคะแนน 1. กำรปฏบิ ตั ิ 432 1 กิจกรรม ทากิจกรรมตามขัน้ ตอนและ ทากิจกรรมตามขน้ั ตอนและ ต้องให้ความช่วยเหลือบา้ ง ตอ้ งให้ความช่วยเหลอื อย่าง 2. ควำมคลอ่ งแคลว่ มากในการทากจิ กรรมและ ใช้อปุ กรณไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง ใชอ้ ปุ กรณไ์ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง ในการทากจิ กรรมและการ ในขณะปฏิบตั ิ การใชอ้ ุปกรณ์ กจิ กรรม แต่อาจตอ้ งได้รบั คาแนะนา ใช้อุปกรณ์ บา้ ง มคี วามคลอ่ งแคล่วในขณะ มีความคล่องแคลว่ ในขณะ ขาดความคล่องแคลว่ ในขณะ ทากิจกรรมเสรจ็ ไม่ทันเวลา ทากจิ กรรมโดยไมต่ อ้ งไดร้ ับ ทากจิ กรรมแตต่ อ้ งไดร้ บั ทากจิ กรรมจึงทากิจกรรม และทาอุปกรณเ์ สยี หาย คาชี้แนะและทากจิ กรรม คาแนะนาบ้าง และทา กจิ กรรมเสรจ็ ทนั เวลา เสรจ็ ไมท่ นั เวลา เสร็จทนั เวลา 3. กำรบนั ทกึ สรปุ บนั ทึกและสรุปผลการทา บนั ทึกและสรปุ ผลการทา ตอ้ งให้คาแนะนาในการ ตอ้ งใหค้ วามช่วยเหลอื อย่าง กจิ กรรมได้ถูกตอ้ งรดั กมุ กจิ กรรมไดถ้ ูกต้องแต่การ บนั ทกึ สรปุ และนาเสนอผล มากในการบนั ทกึ สรปุ และ และนำเสนอผล นาเสนอผลการทากจิ กรรม นาเสนอผลการทากจิ กรรม นาเสนอผลการทากจิ กรรม กำรปฏบิ ตั ิ การทากจิ กรรม กจิ กรรม เป็นขน้ั ตอนชดั เจน ยังไมเ่ ปน็ ขัน้ ตอน เกณฑก์ ำรตัดสนิ คณุ ภำพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 10-12 ดีมาก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน คำช้ีแจง: ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเน้ือหา   2 ความคิดสรา้ งสรรค์   3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน   4 การนาไปใชป้ ระโยชน์   5 การตรงตอ่ เวลา   รวม ลงชื่อ ............................ ผู้ประเมนิ ......./........../.......... เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 1 คะแนน เกณฑ์กำรตัดสินคณุ ภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล

คำชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียนแลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนน ลำดับท่ี รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเหน็   2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผ้อู ืน่   3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย   4 ความมนี ้าใจ   5 การตรงตอ่ เวลา   รวม ลงช่อื ............................ ผปู้ ระเมนิ ......./.........../......... เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ เกณฑ์กำรตดั สนิ คณุ ภำพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ แบบสังเกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลมุ่ คำชแ้ี จง: ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี นแลว้ ขีดลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดับคะแนน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook