อารัมภบทในการเรียน

อารัมภบท หลกั สตู รรฐั ประศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ

สวสั ดี ความยนิ ดี และการเปลยี่ นแปลง ● สวสั ดแี ละขอแสดงความยนิ ดที ไี่ ดม้ าพบกนั ทเี่ ราจะมฐี านะเป็ นลูกศษิ ย-์ อาจารยก์ นั ตอ่ ไป ● ประมาณกวา่ สองถงึ สามปี ทผี่ า่ นมา แนวคดิ วธิ ที างานของทุกภาคส่วน เปลยี่ นแปลงไปอยา่ งไม่เคยคาดคดิ มากอ่ น ● ในสงั คมและการทางานเกดิ มคี าศพั ทท์ ไี่ ม่เคยไดย้ นิ เชน่ social distancing, work from home, new normal, current abnormal, next normal, health & hygiene demand, shopper’s psychology เป็ นตน้ ● การเปลยี่ นแปลงทมี่ ผี ลตอ่ การจดั การเรยี นการสอน เนือ้ หาของวชิ าซงึ่ สาขาวชิ ารฐั ประศาสนศาสตรก์ จ็ าเป็ นตอ้ งปรบั เปลยี่ นไปดว้ ย

คาถามเบื้องต้นขอถามทุกคนว่า “คุณมาเรียนทาไม?”

คาถามเบอื้ งตน้ • ทาไมท่านจงึ มาศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญามหาบณั ฑติ (ปรญิ ญาโท) • ทาไมท่านจงึ มาศกึ ษาในหลกั สูตรรฐั ประศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ (ปรญิ ญาโท รปศ. หรอื MPA)

เป้ าหมายในชวี ติ ของคณุ คอื อะไร ?

ทาไมถงึ ถามคาถามนี้ ?

คาถามทถี่ ามเพอื่ ทาความเขา้ ใจ ‘Mindset’ • “Mindset” เกิดข้ึนมาพร้อมๆ กบั ตวั เรา เป็นลกั ษณะเฉพาะตวั ของแตล่ ะ คน ท่ีเกิดข้ึนมาจากประสบการณ์ที่ผา่ นมาตลอดท้งั ชีวิตของเขา ซ่ึงจะ ส่งผลใหเ้ ขาตดั สินใจและมีพฤติกรรมตอ่ เร่ืองต่างๆ ที่แตกต่างกนั ไปในแต่ ละคน

คาถามทถี่ ามเพอื่ ทาความเขา้ ใจ ‘Mindset’ • Mindset หรือ กรอบความคิด เกิดจากการนาสิ่งหรือเหตุการณ์ที่เรา ไดร้ ับรู้มา ผา่ นการประมวลผลและแปรความ จากประสบการณ์ ความรู้ มุมมอง ทศั นคติ ความเชื่อ ปัจจยั ส่วนบุคคลแลว้ ถูกแปรออกมาเป็น ความคิด ความเห็น มุมมองของบุคคลน้นั ๆ

Mindset มี กี่ ประเภท? Mindset Fixed Mindset Growth Mindset Carol Dweck (นักวชิ าการ ด้านจติ วทิ ยาจากมหาวทิ ยาลยั สแตนฟอร์ด)

การวเิ คราะห์ Mindset ของตวั เรา Carol Dweck (นักวชิ าการ ด้านจติ วทิ ยาจากมหาวทิ ยาลยั สแตนฟอร์ด) เหตุการณ์ Mindset การตอบสนองต่อเหตุการณ์ Fixed Mindset Growth Mindset จะชอบหลกี เลยี่ งความท้าทาย ด้านความท้าทาย มองความท้าทาย น่าลอง น่าตื่นเต้น จะยอมแพ้ง่ายๆ เมื่อเจออปุ สรรค มองว่าต้องผ่านไปให้ได้ จะลุยต่อ ไม่เห็นต้องพยายามเลย เพราะถ้าพยายาม แสดงว่ายัง ด้านความพยายาม ความพยายามเป็ นสิ่งทสี่ าคญั เป็ นส่วนหนึ่ง ไม่ดพี อ ด้านการวจิ ารณ์ ของความสาเร็จ ไม่ยอมรับการวจิ ารณ์เจากฝ่ ายตรงข้าม เปิ ดรับ และเรียนรู้จากการวจิ ารณ์ ถากถางความสาเร็จของผ้อู ื่น ด้านความสาเร็จของผู้อื่น เรียนรู้และหาแรงบนั ดาลใจ จากความสาเร็จ ตดิ กบั ความคดิ แบบเดมิ ทมี่ ี ของผู้อื่น รักในการเรียนรู้ พฒั นาตนเอง มองหาโอกาส

ลองอ่านข้อความต่อไปนีด้ ู

น่ีไง Post card ท่วี ่าไว้

ในการปฐมนเิ ทศเม่ือ ปี การศึกษา 2563 รศ.ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ ● ความแตกตา่ งในวธิ กี ารคดิ และmindsetระหวา่ งบุคคล อธิการบดีกิตติคณุ ทว่ั ไป การเรยี นระดบั ป.ตรี ป.โท และป.เอก มหาวิทยาลยั ธรุ กิจบณั ฑิตย์ ● คนทว่ั ไปจะชอบพูดเรอื่ งของคน ● ระดบั ป.ตรี จะพูดถงึ เหตุการณ์ (เหตกุ ารณน์ น้ั เป็ น อยา่ งไร) ● ระดบั บณั ฑติ ศกึ ษาจะพูดถงึ idea(แนวคดิ )(มนั เกดิ อะไร ขนึ้ ถงึ เกดิ เหตุการณน์ นั้ มเี หตกุ ารณร์ อบขา้ ง สงั คมเป็ น อยา่ งไร) ● ประเดน็ ที่ 2 คอื New Normal ● ความรูส้ กึ ในตวั เองทแี่ ตกตา่ งในเรอื่ งความเสยี่ งจากภาวะ ทตี่ า่ งไปจากเดมิ คอื โรคระบาด ● การออม ● ความจาเป็ นในการทางานทบี่ า้ น ● ชอ่ งทางการทามาหากนิ การทาใหผ้ ูอ้ นื่ เหน็ คุณคา่ ของ งาน/อาชพี นนั้

เรยี นบณั ฑติ ศกึ ษาไปเพอื่ อะไร มคี วามรู้ ทกั ษะหลากหลาย ทาให้มชี ่องทางในการทางานได้หลายทาง มิตริ ัฐประศาสนศาสตร์ในระดบั บัณฑติ ศึกษา เพ่ือการเข้าใจทหี่ ลากหลายเน่ืองจากความซับซ้อนทมี่ ใี นโลกโดยการ ปัจจุบัน เรียนรู้ เน้นให้ผู้เรียนมคี วามสามารถ ในการคดิ วเิ คราะห์ ทาให้การตดั สินใจดขี นึ้ โดยมหี ลกั วชิ าเป็ นที่ยดึ (ไม่ใช่เป็ นการเดา หรือ ในศตวรรษท2่ี 1นีม้ ี 4 ส่ิงคือ อาศัยความเคยชิน) Critical thinking การคดิ เป็ น เข้าใจสถานะทเ่ี ป็ นอยู่ พยากรณ์ได้ เน้นให้ผู้เรียนสามารถตดิ ตามความก้าวหน้า แก้ไขปัญหา ทางวชิ าการและเหตุการณ์จริง Collaboration ความร่วมมือกนั เน้นการสร้างนิสัยใฝ่ รู้แก่นักศึกษา Communication ตดิ ต่อส่ือสาร รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพดู พูดให้คนรู้ การสอนให้ผ้เู รียนมีความต่ืนเต้นกบั บทเรียน เร่ือง เน้นให้ผ้เู รียนทางานอย่างมีระบบ และ Creativity ความคดิ สร้างสรรค์ ความคดิ ริเริ่ม เพ่ือสร้างคุณค่าให้ตนเอง การลงทนุ ให้ตวั เอง ถ้าตวั เองมคี ุณค่ายงิ่ ขนึ้ ก็ มีผลงานทีด่ กี ว่าคนอื่น ทาอะให้มคี ณุ ภาพยงิ่ ขนึ้ สร้างฐานานุภาพให้ตวั เอง ให้มคี ุณภาพ ภูมคิ ้มุ กนั

การเพมิ่ คุณค่าแก่เจ้าตวั • เพม่ิ คุณค่าให้มีทกั ษะมากขนึ้ • มคี วามรู้ • ทัศนคติ • พฤตกิ รรม • ค่านิยม จริยธรรม

สภาพการณ์ ● สภาพการณเ์ หลา่ นีน้ บั วา่ เป็ นคณุ ประโยชนแ์ กผ่ ูศ้ กึ ษารุน่ นีเ้ ป็ นอยา่ งยงิ่ ● การพบปะในวนั นีจ้ งึ เปรยี บเสมอื นการเรมิ่ ตน้ ความสมั พนั ธข์ อง “นก กบั รงั นก” ● หลกั สูตรไดอ้ อกแบบเพอื่ สรา้ งความสามารถมองอนาคตใหแ้ กน่ กั ศกึ ษา ● หลกั สูตรเน้นการสรา้ งพรมแดนความรูใ้ หส้ ามารถมองไปขา้ งหนา้ ● หลกั สูตรมุง่ ตอบสนองการดาเนินชวี ติ ในชว่ ง 3, 5, 10 ปี ขา้ งหน้าที่ ทา่ นจะดอ้ งพบ ● ขอใหท้ า่ นเกบ็ เกยี่ วความรูแ้ ละประสบการณจ์ ากการมาศกึ ษาใหค้ มุ้ คา่

A new mindset for public sector leadership in 2029 https://www2.deloitte.com ● STAY ON TOP OF NEW TECHNOLOGIES AND THEIR POSSIBILITIES ● EMBODY A GREAT PLACE TO WORK, WITH A SENSE OF PURPOSE AND INCLUSION ● INVEST ENERGY IN YOUR OWN SUPPORT ● DEVELOP YOUR INFLUENCE AND DELIVERY NETWORK ● RE-THINK YOUR VISIBILITY ● 5 mindset นีเ้ ป็ นสงิ่ ทผี่ ูศ้ กึ ษารฐั ประศาสนศาสตรต์ อ้ งเสรมิ สรา้ งเพอื่ เผชญิ กบั อนาคต

ขอ้ ตกลงขนั้ ตน้ ในการเรยี นใหค้ มุ้ คา่ หลกั การ หลกั การเรียน หลกั ในการปฏิบตั ิราชการ หลกั ค้มุ ค่า การเขา้ เรียนถือวา่ สมั พนั ธก์ บั เงินที่ ต้องใช้มอื อาชีพในการบริหาร ขยายวิธีคิด คณุ ต้องเสียไป ต้องกระจายงานบางอย่างให้เอกชนทา การอ่านตาราท่ีมอบหมาย สรา้ งวินัย การทากิจกรรมการศึกษาการส่งงาน นาหลกั การของการจดั การภาคธรุ กิจ มีส่วนรว่ ม ตรงเวลาการตรงต่อเวลา เข้ามาประยกุ ต์ บรรลุเป้าหมาย ถกแถลงและเสนอแนวคิด ต้องส่งเสริมให้มีการแข่งขนั กนั ใน ตวั ชี้วดั ภาครฐั คะแนนตามท่ีได้แจ้งไว้ควบค่กู บั ผล ต้องให้ความสาคญั กบั ผลผลิตที่ได้รบั การสอบปลาย Module ทกุ อย่างมีการประเมิน ต้องมีตวั ชี้วดั ความสาเรจ็ ที่ชดั เจน

ขอ้ ตกลงในการเรยี นสมั พนั ธก์ บั วชิ ารฐั ประศาสนศาสตรอ์ ย่างไร

แนวคดิ การบรหิ ารจดั การภาครฐั แนวใหม่จงึ กาหนดให้ ● กจิ กรรม/โครงการของภาครฐั มกี ารกาหนดตวั ชวี้ ดั หลกั (Key Performance Indicators - KPI) มากกวา่ 1 ชดุ ตามลกั ษณะ 5 ประการ ดงั นี้ ● 1. ทรพั ยากรทนี่ ามาใชบ้ รหิ าร (Input Indicators) ● 2. ภาระงาน (Workload) หรอื การแสดงจานวนผลผลติ ทไี่ ด้ (Output Indicators) ● 3. การรายงานผลลทั ธข์ องโครงการเชงิ คณุ ภาพ (Outcome Indicators) ● 4. การแสดงถงึ คา่ ใชจ้ า่ ยตอ่ หน่วยของผลผลติ และผลลทั ธ ์ (Efficiency and Cost - Effectiveness Indicators) ● 5. แสดงลกั ษณะเป็ นขอ้ มูลสารสนเทศเชงิ อธบิ าย (Explanatory Information Indicators)

คาถามทา้ ยบท ในการปฏิบตั ิงานของท่าน ท่านทราบหรอื ไมว่ ่าหน่วยงานของท่านต้องดาเนินการตามตวั ชี้วดั อะไรบา้ ง ชื่อตวั ชี้วดั ค่าเป้าหมาย ผลการดาเนิ นงาน