Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โรคโซเชียล2

โรคโซเชียล2

Published by www.nangfa021, 2018-08-11 22:16:50

Description: โรคโซเชียล2

Search

Read the Text Version

โรคติดโซเชยี ล

สาเหตุการเกดิ โรคตดิ โซเชียล ยุคสังคมออนไลน์ที่แทบทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟน คุยกับเพื่อนผ่านเฟซบุ๊กหรือไลน์แทนการโทรศัพท์ สไลด์หน้าจอรับข่าวสารรอบตัวแบบไม่ให้ตกยุค พฤติกรรมแบบนี้แหละท่ีหอบเอาปัญหาสุขภาพจากความอินเทรนด์มาถึงตัวแบบยกเซต ทาให้หลายๆคนเป็นโรคติดโซเชยี ลแบบไมร่ ตู้ วั ..

5โรคฮิตของคนตดิ โซเชียล1. โรคซึมเศรา้ จากเฟซบุ๊ก (Facebook DepressionSyndrome) หลายคนอาจสงสัยวา่ เลน่ เฟซบกุ๊ กม็ ีเพ่อื นตงั้มากแล้วจะเปน็ โรคซมึ เศร้าได้อย่างไร แต่อาการนี้เกดิ ขนึ้ ไดจ้ ริง ๆ เพราะคนเราเมอ่ื ติดอย่แู ตห่ นา้ จอจิ้ม ๆ กด ๆ คยุ กบั คนในโลกออนไลน์ กก็ ลายเป็นไปเพกิ เฉยตอ่ คนในโลกจรงิ มากยิ่งข้นึ แถมหลายคนใชเ้ ฟซบุ๊กเป็นเคร่อื งระบายความร้สู ึกมากขึ้นโดยเฉพาะเวลาเราว้าเหว่ เหงา เดยี วดาย ก็ยิ่งโพสต์เยอะ

2. ละเมอแชท (Sleep-Texting) อาการนี้ก็คือ ถึงแม้เราจะนอนแต่ก็ยังลุกขึ้นมาพิมพ์เหมือนกับคนละเมอนั่นเอง สาเหตุก็มาจากพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟนเกินเหตุ ทาให้สมองยึดติดกับโทรศพั ท์อยทู่ กุ ขณะจติ แม้กระท่ังเวลานอน หากมขี ้อความเข้ามา สมองก็จะปลุกร่างกายที่หลับใหลให้อยู่ในสภาวะละเมอ แล้วกดส่งข้อความไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราอาจไม่รู้สึกตัวด้วยซ้าว่าเขียนอะไรไปหรือส่งไปหาคน เพราะอยู่ในสภาวะก่ึงหลับก่ึงตื่นแบบนก้ี ็เสี่ยงตอ่ ความเข้าใจผดิ ไดเ้ ลยทเี ดียว นอกจากนี้แล้ว อาการละเมอแชทยังกระทบสุขภาพด้วย เพราะเมื่อสมองปลุกให้เราต่ืนในช่วงน้ีร่างกายกจ็ ะนอนหลับไม่สนิทเต็มท่ี ทาใหเ้ ป็นผลเสียที่กระทบกับร่างกายของเรา

3. โรควนุ้ ในตาเส่ือม ปกติเราก็ใช้งานดวงตาหนักอยู่แล้ว และถ้าย่ิงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเพ่งข้อความในจอสี่เหล่ียมเล็ก ๆ ก็ย่ิงทาให้ดวงตาของเราก็ทางานหนักขึ้นแบบคูณสอง ถ้าปล่อยไปนาน ๆ จนมองเห็นหยากไย่ ตาข่าย หรือเส้นอะไรวนไปวนมาเหมือนยุงปัดเท่าไรก็ไม่โดนสักที แบบน้ีต้องรีบหาหมอแล้วเพราะนีค่ ือ \"โรควนุ้ ในตาเสอ่ื ม\" โรคน้ีมักพบในผู้สูงอายุ เพราะใช้งานดวงตามานานจนเสื่อมไปตามวัย แต่น่าตกใจทีเดียวที่ปัจจุบันพบคนอายุน้อย ๆ เป็นโรคน้ีมากขึ้น สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการแชททั้งวัน จ้องจอท้ังคืน เล่นเกมใชค้ อมพิวเตอร์ตดิ ต่อกนั นาน ๆ ไมว่ ่างเว้น

4. โนโมโฟเบยี (Nomophobia) โรคกลัวไม่มีมือถือใช้ เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหน่ึงที่จัดอยู่ในกลุ่มวิตกกังวล ยกตัวอย่างคือ.. คดิ ดูวา่ ถา้ เราอยใู่ นท่ีที่ไมม่ สี ญั ญาณโทรศพั ท์ ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือจู่ ๆ แบตเตอรี่โทรศัพท์ดันหมดซะงั้น แล้วเรารู้สึกหงุดหงิดกระวนกระวาย แสดงว่าเข้าเค้าอาการโนโมโฟเบียแล้วล่ะ ในบางคนเป็นมาก ๆ อาจมีอาการเครียดตัวสั่น เหงื่อออก คลื่นไส้ได้เลย ซ่ึงอาการจะหนักเบาขนาดไหนขึน้ อยู่กับแตล่ ะคน

5. โรคสมาร์ทโฟนเฟซ (Smartphone face) โรคฮติ ของคนติดแชทที่พบได้บอ่ ยเป็นอนั ดับ 5ก็คือ โรคสมาร์ทโฟนเฟซ (Smartphone face)หรือโรคใบหน้าสมาร์ทโฟน เกิดจากการท่ีเราก้มลงมองหน้าจอ หรือจ้องสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตเป็นเวลานานเกินไป ทาให้กล้ามเนื้อคอเกิดอาการเกร็งและไปเพิ่มแรงกดบรเิ วณแกม้ เมื่อแก้มถูกแรงกดนาน ๆ เข้า ก็จะทาให้เส้นใยอิลาสติกบนใบหน้ายืด จนแก้มบริเวณกรามย้อยลงมา แถมกล้ามเน้ือบริเวณมุมปากก็จะตกไปทางคางด้วย จนใบหน้าอาจดูผิดแปลกไปจากเดิม และจะเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์ของตัวเองหากใครเป็นมาก ๆ เข้าก็ถึงกับต้องศัลยกรรมกันเลยทเี ดยี ว

วิธกี ารรกั ษา ยอมรบั ว่าตัวเองตดิ โลกโซเชยี ลมากเกินไป ทาความเข้าใจว่าโลกความจริงสาคัญกว่าโลก โซเชยี ล จากัดเวลาเลน่ หางานอดิเรกใหม่ ๆ ทา อยา่ จดจ่อกบั โลกโซเชียลมากเกินไป

ทาไง? ใหต้ ิดโลกโซเชยี ลน้อยลง✓ เพ่ือไม่ให้ติดจนเกินไป คุณก็ควรจัดเวลาไว้ เลยว่า จะเล่นวันละกี่ชั่วโมงก็ว่าไป โดยค่อย ๆ ลดลงมาเร่ือย ๆ ตามความเหมาะสม✓ มองหางานอดิเรกใหม่ ๆ มาทาแทน โดย จะไปเขา้ คอร์สเรียนพิเศษสิ่งท่ีตัวเองสนใจ หรือ จะหนั ไปออกกาลังกายเลน่ กีฬากับเพ่ือน ๆ ท้งั นท้ี กุ อยา่ งกม็ ีทั้งขอ้ ดีข้อเสียทง้ั น้ัน ถ้ารู้จักใชใ้ หเ้ ปน็ และเหมาะสม โซเชยี ลมีเดียกม็ ปี ระโยชน์และไม่ทาใหค้ ณุ หา่ งไกลจากคนรอบข้างอย่างทุกวันน้ีดว้ ย เพราะฉะนั้น เตอื นตัวเองไวว้ ่าต้องเลน่ แต่พอดแี ล้วกนั นะครับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook