chapter 1 ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี

Chapter 1 Laboratory Safety And Skills ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เคมี - สื่ อ ก า ร ส อ น วิ ช า เ ค มี สา ห รั บ นั ก เ รี ย น ช้ั น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ท่ี 4 B y : T . P a t t a r a n u n C h u e n r o u n g -

Content 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี 2 อุบัติเหตุจากสารเคมี 3 การวัดปริมาณสาร 4 หน่วยวัด 5 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี ฉลากของสารเคมี (Labelling) มีข้อมูลดังนี้ 1. ช่อื ผลิตภัณฑ์ 2. รปู สัญลกั ษณ์ แสดงความเปน็ อันตรายของสารเคมี 3. คาเตือน ขอ้ มลู ความเปน็ อนั ตรายและขอ้ ควรระวัง 4. ขอ้ มลู ของบรษิ ทั ผผู้ ลติ สารเคมี บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี ตวั อย่างของฉลากสารเคมี ชอ่ื ผลติ ภณั ฑ์ สญั ลกั ษณแ์ สดง ความเปน็ อันตราย ขอ้ มูลของ บริษัทผ้ผู ลิต ของสารเคมี สารเคมี คาเตอื น ขอ้ มลู ความ เป็นอนั ตราย และข้อควรระวัง บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

ระบบ GHSPart 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี สัญลกั ษณแ์ สดงความเปน็ อนั ตราย จะกล่าวถงึ 2 ระบบ ที่มีการใช้กนั อยา่ งแพร่หลาย คอื 1. ระบบ GHS (Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals) จะแสดงสัญลกั ษณใ์ น สเ่ี หลยี่ มกรอบสีแดง พื้นสีขาว ลักษณะดงั รปู บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี องคป์ ระกอบ ก ตัวอยา่ ง ขค สญั ลกั ษณ์แสดงความเปน็ อนั ตราย 1. ระบบ GHS ของสารเคมี (Hazard Pictogram) ระบบ GHS คาเตือนและขอ้ ความทชี่ ้รี ะดบั ความรุนแรง คาสญั ญาณ (Signal word) อันตราย อนั ตราย ระวัง ของอันตราย (Danger) (Danger) (Warning) ละอองลอย ว เช่น \"Danger” หรอื “Warning” ขอ้ ความแสดงความเป็นอันตราย ทาให้ผิวหนัง หม้ - อาจกอ่ ใหเ้ กดิ การแพ้ท่ี (Hazard Statement) และทาอนั ตรายต่อดวงตา ผิวหนงั สาหรับกรณีท่ตี อ้ งการเน้นอนั ตรายหรอื , อาจกดั กรอ่ น ลหะ แบ่งแยกระหวา่ งระดบั อันตราย ขอ้ ควรป บิ ัตเิ พอ่ื ปองกนั อันตราย - เกบใหห้ า่ งจากเปลว - ใชอ้ ุปกรณ์ปองกันอันตราย - ใชถ้ งุ มือปองกนั เกบรกั ษา กาจดั กาก และจัดการเมื่อ แสงแดดหรือทอี่ ุณหภูมิ เช่น ถุงมอื เสอ หนา้ กาก และ มเี หตุฉุกเฉิน (Precautionary Statement) สงู กว่า 50oC แว่นเพ่ือความปลอดภยั - ห้ามสูบบหุ รี่ - เกบใหม้ ิดชดิ บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ตา สั ญ ลั ก ษ ณ์ แ สGด Hง อSั น ต ร า ย (Hazard Pictogram) มระบบสากล • เปน็ อันตรายถึงชวี ิต • กัดกร่อน ระบบ GHS • สาร ว • สารออก ิ ดส • ระคายเคืองผิวหนงั และดวงตา • ก่อมะเรง • สารท่ีทาป ิกิริยา ดด้ ว้ ย • สารเปอร์ออก ดอ์ นิ ทรีย์ • ทาให้เกิดการแพ้ท่ีผิวหนัง • หากสูดเขา้ ปทาให้เกิด • เป็นพิษเฉียบพลนั ตนเอง • กา ภายใต้ความดนั • เปน็ พิษต่อระบบอวัยวะ การแพ้หรือหอบหดื หรือ • สารทล่ี กุ ตดิ ด้เอง หายใจลาบาก • สารทเี่ กดิ ความร้อน ด้เอง เปาหมาย • เปน็ พษิ ตอ่ ระบบสบพันธ์ุ • สารทใ่ี หก้ า ว • เปน็ อันตรายตอ่ อ นในชน้ั • เป็นพษิ ตอ่ ระบบอวัยวะ เปาหมาย • วัตถุระเบิด บรรยากาศ • ก่อใหเ้ กิดการกลายพนั ธ์ุ • สารท่ีทาป ิกิริยา ด้ดว้ ย • อนั ตรายจากการสาลกั • เป็นอนั ตรายต่อสง่ มชี ีวิตในน้า ตนเอง • สารเปอรอ์ อก ด์อนิ ทรยี ์ บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

ระบบ NFPAPart 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี 2. ระบบ NFPA (National Fire Protection Association Hazard Identification System) ใช้สแี ทนความเปน็ อนั ตรายในด้านตา่ งๆ ด้แก่ สแี ดง แทน ความ ว สนี ้าเงนิ แทน ความเปน็ อันตรายต่อสุขภาพ สีเหลอื ง แทน ความวอ่ ง วในการเกิดป กิ ริ ยิ าเคมี สขี าว แทน รหัสเฉพาะสาหรบั อนั ตรายต่อ สขุ ภาพอนามยั บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี สีแดง = ความ ว 4 = สารท่สี ามารถระเหยได้อย่างรวดเรว็ มีจดุ วาบไฟตา่ กวา่ 23°C ระบบ NFPA 3 = ของแขง็ หรอื ของเหลวทสี่ ามารถลกุ ตดิ ไฟได้ จดุ วาบไฟอยู่ 2 ระหว่าง 38 - 23°C = สารที่ตอ้ งให้ความร้อนปานกลางถึงสูงจึงสามารถลกุ ตดิ ไฟได้ 1 จุดวาบไฟอยู่ระหวา่ ง 93 - 38°C = สารทตี่ ้องใหค้ วามรอ้ นสูงเป็นเวลานานจึงสามารถลุกติดไฟได้ บอกเป็นระดับตวั เลขตั้งแต่ 0 0 = สารทไ่ี ม่ตดิ ไฟ จุดวาบไฟสงู กวา่ 93°C ( ม่มีอันตราย เปน็ สารธรรมดา) ถงึ 4 (มอี นั ตรายมากทส่ี ดุ ) บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี สนี า้ เงนิ = ความเปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ ระบบ NFPA บอกเป็นระดับตวั เลขตั้งแต่ 0 4 = ไดร้ บั เพยี งชว่ งเวลาสนั้ ๆ อาจถึงตายไดห้ รอื อาการสาหสั ( มม่ อี นั ตราย เป็นสารธรรมดา) 3 = ไดร้ ับเพยี งชว่ งเวลาสนั้ ก็จะเป็นอันตรายร้ายแรงชวั่ คราวหรือถาวร ถงึ 4 (มีอนั ตรายมากทส่ี ดุ ) 2 = ได้รบั เป็นชว่ ง ๆ หรือตอ่ เน่อื งแต่ไมป่ ระจา อาจเป็นสาเหตใุ หไ้ ร้ ความสามารถชวั่ ขณะ หรอื เปน็ อันตรายแบบถาวรได้ 1 = ไดร้ ับแลว้ อาจทาให้เกดิ ระคายเคือง และอาจทาให้เกิดแผลเปน็ 0 เลก็ น้อยเทา่ นั้น = ได้รบั ขณะร้อนไมเ่ กิดอนั ตรายเทา่ ไร บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี สเี หลอื ง = ความวอ่ ง วในการเกดิ ป กิ ริ ยิ าเคมี ระบบ NFPA บอกเป็นระดบั ตวั เลขต้ังแต่ 0 4 = ระเบิดได้ ( มม่ ีอนั ตราย เป็นสารธรรมดา) 3 = ความร้อนและการกระแทกอาจเกดิ การระเบดิ ได้ ถงึ 4 (มอี นั ตรายมากทส่ี ุด) 2 = ปฏกิ ิริยาเคมรี นุ แรง 1 = ไม่เสถยี รถา้ โดนความร้อน และความดนั 0 = เสถียร บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ความปลอดภัยในการทางานกับสารเคมี สขี าว = รหสั เฉพาะสาหรบั อันตรายต่อสขุ ภาพอนามยั ระบบ NFPA บอกเป็นระดับตัวเลขตัง้ แต่ 0 ( มม่ ีอนั ตราย เป็นสารธรรมดา) ถงึ 4 (มอี นั ตรายมากที่สุด) บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 เปรียบเทียบระบบ GHS กับ NFPA ? ระบบ GHS ระบบ NFPA VS บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ตรวจสอบความเข้าใจ จากสญั ลักษณ์ความเปน็ อนั ตราย NFPA ของ “กรดไฮโดรคลอรกิ (Hydrochloric acid)” หมายความวา่ อย่างไร ? บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ตรวจสอบความเข้าใจ - ความไวไฟ : - ความอันตรายตอ่ สุขภาพ : - ความว่องไวในการเกดิ ปฏกิ ิรยิ า : - สัญลักษณ์ : chemistry บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ตรวจสอบความเข้าใจ เฉลย ความไวไฟ : เปน็ สารทีไ่ มต่ ิดไฟ ความอันตรายตอ่ สขุ ภาพ : เปน็ อันตรายรา้ ยแรง ความว่องไวในการเกดิ ปฏิกริ ิยา : เกิดปฏิกิรยิ าเคมรี นุ แรง สัญลักษณ์ : ACID = เป็นกรด chemistry

Assignment มารบั บทเป็น นักข่าวกนั ! บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

ล้งิ ค์ขา่ ว : https://www.youtube.com/watch?v=jFMPi-Le-RI&ab_channel=THESTANDARD เกดิ เหตรุ ะเบดิ ใหญ่ 2 คร้ัง ในกรงุ เบรุต เมอื งหลวงเลบานอน คาดว่ามีผ้บู าดเจ็บจานวนมาก! ฮัสซัน ดิอาบ นายกรัฐมนตรีเลบานอน ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ทาเนียบ ประธานาธิบดีเลบานอนว่า สงิ่ ที่ทาให้การระเบิดครั้ง นร้ี ุนแรงมาจากแอมโมเนยี มไนเตรทประมาณ 2,750 ตนั ที่เก็บไว้ในคลังสินค้าบริเวณท่าเรือเป็นเวลา 6 ปี โดยแอมโมเนียมไนเตรทเป็นส่วนประกอบสาคัญ สาหรับทาปุ๋ย รวมถึงระเบิดบางชนิด ส่วนสาเหตุท่ี ทาให้เกิดการระเบิดนั้นยังไม่แน่ชัด และยังอยู่ใน ระหว่างสอบสวน แต่จากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาด วา่ อาจมาจากเปลวไฟทลี่ ุกไหม้ บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Assignment : ให้นักเรียนวิเคราะห์ข่าวเหตุระเบดิ Start : 1. หาขอ้ มลู เก่ียวกับ “แอมโมเนยี มไนเตรต” • สูตรเคมี, คุณสมบัติ • การนาไปใช้ประโยชน์ 2. หาข้อมูลเกย่ี วกบั สัญลักษณ์ NFPA ของแอมโมเนียมไนเตรต 3. วเิ คราะหจ์ ากสัญลกั ษณ์ NFPA พรอ้ มอธบิ ายความหมายตามช่องทงั้ 4 สี บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

แหลง่ ที่มา : Chemistry IPST เมือ่ พิจารณาจากสัญลักษณ์ NFPA ของสาร แอมโมเนยี มไนเตรทแลว้ จะพบว่า  เปน็ สารทีไ่ มต่ ดิ ไฟ  ระคายเคอื งหรอื มีผลตอ่ สุขภาพปานกลาง  เป็นสารออกซิไดส์ และเกิดการระเบดิ หากได้รบั การจดุ ชนวนแรงกระแทกหรือไดร้ บั ความร้อน ดังนน้ั ตอ่ ให้สารตวั นอี้ ยใู่ นท่อี บั อากาศก็สามารถจุด ตดิ ไฟได้ และอาจติดไฟด้วยตัวเองจากการจัดเกบ็ ที่ อดั แน่นจนเกดิ ความรอ้ น จนเปน็ สาเหตุที่ทาให้เกิด เหตุระเบิดท่ีมอี านภุ าพการทาลายล้างสงู บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

ท่มี า : My ID is Gangnam Beauty EP 3 บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 1.1 ข้อควรป บิ ตั กิ อ่ น การทดลอง บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 1.2 การแต่งกายขณะ ทาป ิกิริยา บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 1.3 ขอ้ กาหนดขณะ ทาป ิกริ ยิ า บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 1.4 ข้อกาหนดหลงั ทา ป ิกิรยิ า บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ข้อป ิบัติ ในการใช้ สารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ขอ้ ป บิ ตั ิ *สารเคมที เ่ี หลอื จากการเทหรือตกั ในการใชส้ ารเคมี ออกจากขวด ห้ามเทกลบั เขา้ ขวดเด็ดขาด! ให้เทใสภ่ าชนะทง้ิ สารทจี่ ดั เตรยี มไว้ บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ขอ้ ป บิ ตั ิ ในการใชส้ ารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ขอ้ ป บิ ตั ิ ในการใชส้ ารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ขอ้ ป บิ ตั ิ ในการใชส้ ารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

การทดสอบกล่ินของ สารเคมีท่ีถูกต้อง บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 1 ขอ้ ป บิ ตั ิ ในการใชส้ ารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

อุบัติเหตุจากสารเคมี บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 2 อุบตั เิ หตุ จากสารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 2 อุบตั เิ หตุ จากสารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 2 อุบัติเหตุ จากสารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 2 อุบัติเหตุ จากสารเคมี บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 ก า ร วั ด ป ริ ม า ณ ส า ร ในป ิบัติการเคมีจาเป็นต้องมีการชั่ง ตวง และวัดปริมาณสาร ึ่งอาจเกิดความคลาดเคลื่อน ด้ สง่ ผลให้การทดลองที่ ด้อาจมีค่ามากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ ค่าจริง ความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู สามารถพจิ ารณา ด้จาก 2 ส่วน ดงั น้ี 1 ความเท่ียง (precision) คือ ความใกล้เคียงกัน ของคา่ ที่ ด้จากการวดั ้า 2 ความแม่น (accuracy) คือ ความใกล้เคียงของ คา่ เฉลีย่ จากการวดั ้าเทียบกบั คา่ จริง บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 การวัดปริมาณสาร ความเทย่ี ง (precision) VS ความแมน่ (accuracy) บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี



Part 3 การวัดปริมาณสาร ความเท่ียงและความแมน่ ของข้อมูลท่ี ด้จากการวัดข้นึ อยู่กับทกั ษะของผู้ที่ทาการวัด ึ่งมีระดบั ความ และความละเอยี ดของอุปกรณท์ ใี่ ช้ อปุ กรณก์ ารวดั ทีใ่ ช้ ดยทั่ว ปในป บิ ัตกิ ารเคมี ละเอยี ดของอุปกรณ์ ด้แก่ อปุ กรณว์ ัดปรมิ าตร และ อปุ กรณว์ ดั มวล และวิธกี ารใชท้ ี่ แตกตา่ งกนั 1. อุปกรณว์ ัดมวล - เครื่องชงั่ แบบสามคาน (triple beam) - เครื่องชง่ั า (electronic balance) บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 2. อุปกรณ์วัดปริมาตร บีกเกอร์ หลอดหยดสาร หลอดทดลอง ขวดรปู กรวย ใช้สาหรบั เตรยี มสารละลาย ใชห้ ยดสารละลาย ใชใ้ ส่สารเพ่ือการทดลอง ใชใ้ ส่สารละลายตัวอยา่ งในการ ทเทรต ขวดวดั ปรมิ าตร กระบองตวง ปเปตตแ์ บบปรมิ าตร ปเปตตแ์ บบตวง ใช้เตรยี มสารละลายมาตรฐาน ใชต้ วงสารละลาย ึ่งต้องการวัดปริมาตรทแี่ นน่ อน ใชด้ ดู ปริมาตรอย่างแมน่ ยาของสารละลาย ใช้ดดู สารละลายทตี่ อ้ งการปรมิ าตร ทแี่ นน่ อน ดห้ ลายปรมิ าตร ดเ้ พียงปรมิ าตรเดียว Volumetric pipette Graduated pipette บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

VSปิเปตตแ์ บบ ปรมิ าตร ปเิ ปตต์แบบ ตวง • จะมขี ีดบอกปริมาตร ขดี เดยี ว • จะมขี ีด แบง่ ยอ่ ย ไมม่ ีการแบง่ ปรมิ าตรยอ่ ย • สามารถใช้ตวง ? • จะใช้เมอื่ ? ตามขดี ยอ่ ยของปเิ ปตต์ได้ ตอ้ งการตวงสารตามปรมิ าตรของปเิ ปตต์ บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 เครื่องแก้วและอุปกรณ์พ้ืนฐาน บิวเรต แทง่ แกว้ คนสาร กรวยแกว้ ขวดฉดี นา้ กลนั่ ใช้บรรจสุ ารละลาย สาหรบั การ ทเทรต ใชค้ นสารละลาย ใชก้ รอกสาร หรอื เทสาร ใชใ้ สน่ ้ากลน่ั เพอื่ ใชใ้ นการทดลอง เพอื่ หาความเข้มข้น ถดดู ความชนื้ ขาตง้ั สามเหลย่ี ม ใชด้ ดู ความชนื้ ออกจากสารเคมี ใช้เป็นขาตง้ั สาหรบั วางอุปกรณ์ เพ่อื เผาหรอื ตม้ ดว้ ยตะเกยี งบุนเสน หรือตะเกยี งแอลกอฮอล์ บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 การเผาหรือต้มด้วยตะเกียงบุนเสน ห รื อ ต ะ เ กี ย ง แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ หรอื ใช้เปน็ บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 หลักในการอ่านปริมาตรของสารละลาย เวลาอ่านตอ้ งใหส้ ายตา อยใู่ นระดบั เดียวกนั กับ ที่ ถู ก ต้ อ ง จุดต่าสดุ ของสว่ น คง้ เว้า (meniscus) *meniscus คือ ผิวหน้าสารละลายในหลอดแก้วมองเหนเป็นเสน ค้ง อุปกรณ์วัดปริมาตร ของสารละลายท่ีสาคัญ ด้แก่ ขวดปริมาตร บวิ เรตต์ ปเปตต์ และกระบอกตวง เมื่อบรรจุสารละลาย ลงในอปุ กรณ์วดั ปริมาตรเหลา่ นี้ ระดบั สารละลายตอนบนจะมีลกั ษณะ ค้งเว้าเกิดขึ้น ส่วน ค้งเว้านี้เกิด จากแรงดึงดูดผิวระหวา่ งผิวแกว้ กบั สารละลาย บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 อ่านปริมาตรแบบ หนถึงจะถูก ? แบบที่ 1 แบบท่ี 2 แบบที่ 3 บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

แลว้ ถ้าเปน็ แบบนล้ี ะ่ จะอา่ นอยา่ งไงดี ? ? บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี

Part 3 เลขนัยสาคัญ ตวั เลขท่ีวดั ด้จรงิ ตัวเลขที่ประมาณขนึ้ มา ตวั เลขท่ี ด้จากการวัด ดยใช้ = 2.30 = 0.07 เคร่อื งมอื ทเี่ ปน็ สเกล รวมกบั ตวั เลข บ ท ที่ 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี ท่ี ดจ้ ากการประมาณอกี 1 ตัว ึ่งขน้ึ อยกู่ บั อปุ กรณ์ทีเ่ ราเลือกใช้ สรปุ ! เลขนยั สาคัญประกอบด้วยตวั เลขทุกตวั ที่ แสดงความแนน่ อน (certainty) รวมกบั ตัวเลขอกี ตัวหนง่ึ ทแ่ี สดงความ มแ่ นน่ อน (uncertainty)

Part 3 คาตอบ = 66.5 ml เลขนยั สาคญั ตัวเลขทวี่ ดั ดจ้ ริง = 66 ml ตัวเลขทีป่ ระมาณขนึ้ มา = ml บ ท ท่ี 1 : ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย แ ล ะ ทั ก ษ ะ ใ น ป ฏิ บั ติ ก า ร เ ค มี