Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุป O-NET วิชาภาษาไทย

สรุป O-NET วิชาภาษาไทย

Published by Library Horwang Pahtumthani, 2020-05-25 04:28:15

Description: วิชา : ภาษาไทย
เรื่อง : -
ระดับ : ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
จัดทำโดย : ไออุ่น หอยสังข์
อัพโหลด : ห้องสมุด รร.หอวัง ปทุมธานี
*ห้ามนำไปใช้เชิงพานิชย์ อนุญาตสำหรับการศึกษาเท่านั้น

Search

Read the Text Version

\"\" yhgsgfylhr \" ่ 6สํ่ยใน ภ* าษาวไทยั่ \"\" A 00N Hoisano ไออุ่น หอยสังข์ \" . . v/ * ห้ามนำไปใช้ใน เชิง พาณิชย์ . เสียงในภาษไาทย จำแนก เป็น 3 ประเภท 1 เสียงสระ มี 21 รูป 32 เสียง แบ่งออก เป็น 3 ชนิด อือุ• สระ เดี่ยว มี 18 เสียง คือ อะ อา อิ อิ่ อึ อู เอ เอ แอะ แอ โอย โอ เอาะ ออ เยอะ เออ • สระประสม มี 6 เสียง คือ เอื่ยะ เอ๋ย อัวะ อัว เอือะ 6อือ * ปัจจุบันนับ เป็น 3 พยางค์ เอีย = อิ่ + อา 6อิ๋ อ อั๋= อ -เอา อัว อู= + อา • สระ เกินไม่นับ เป็น สระเนื่อง จากมีเสียงพยัญชนะ ต้น และ มี เสียง ตัวสะกด - พยัญชนะ ต้นได้แก่ ฤถุฦฦา - เสียง ตัวสะกด ได้แก่ อำไอ ไอ เอา 2 เสียง พยัญชนะ • เสียงพยัญชนะ ต้น เดี่ยว มํ่ 44 รูป วา เสี่ยง เช่น แก /ครบ ค ฆ ฃ ฅ /ฟ ทฐฺถฑ ฒ ธ • พยัญชนะประสม คือ พยัญชนะ 2 ตัวที่ประสมกับสระ ตัว เดียวกัน แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ อักษร ควบ ควบ กับ ร ลง และ ประสม สระ เดียว กัน • อักษร ควบ แท้ ม่เ5 รูป แ เสียง เช่น การ ะ ครอบครอง • อักษร ควบไม่ แท้ อักษร 2 ตัวที่ควบกล้ำกับพยัญชนะ ร แต่ ออก เสียง เหมือนพยัญชนะเดี่ยว เช่น ทราย เศร้า จริง ไซร้ เสร็จ • พยัญชนะท้าย คือ พยัญชนะที่ใช้บังคับเสียงท้ายคำ เสียง ตัว สะกด 86สํ่ยง / 8 มาตรา ได้แก่ แม่กก แม่กาน แม่ กด แม่ กง แม่ กบ แม่ กม แม่ เกย แม่ 6กอง 3. เสียงวรรณยุกต์ r เสียงวรรณยุกต์ระดับ 3 เสียง ตรี \" สามัญ , เอก , เสียงวรรณยุกต์เปลี่ยนระดับ 2 เสียง โท จัตวา , i

พาณิชย์BY*แห้าฐมฺน%ไำปฐืใ๋ช้ใน ่ เชิง _ อ. . ศั๋าบุรุษ). ที่\" . อ . อ. . 1| . คือ คำที่ เชื่อมคำหรือ ถล่ม คำให้ สัมพันธ์กันและ เมื่อ เชื่อม แล้วทํให้ทราบ ว่า คำ หรือ กลุ่ม คำที่ เชื่อมกันนั้น มี ความ สัมพันธ์ กันอย่างไร เช่น กัน แต่ ต่อ ด้วย โดย ตาม บ้าง ถึง จาก ใน บน ใต้ สำหรับ นอก เพื่อ 1. แสดง ความสัมพันธ์เกี่ยวกับ สถานที่ เช่น คนใน เมือง 2. แสดง ความ สัมพันธ์ เกี่ยวกับ เวลา เช่น เขา เปิดไฟ จน สว่าง 3. แสดงความ สัมพันธ์เกี่ยวกับการ เป็น เจ้าของ เช่น นี้แหวนวง เป็นของ ฉัน 4. แสดง ความ สัมพันธ์ เกี่ยวกับ เจตนา หรือสิ่งที่มุ่งหวัง เช่น เขาทำเบื่อ ลูก 5. แสดง ความ สัมพันธ์ เกี่ยว กับอาการ เช่น เราเดินไป ตาม ถนน .. . w ชนิด ของ คำบุพบท แบ่ง เป็น 2 ชนิด เ คำบุพบทที่ แสดง ความ สัมพันธ์ ระหว่าง คำต่อ คำ . ใหญ่โตเช่น บ้านของ 6บ แท้ ๆ ( นามกับ สรรพนาม ) แกง หม้อนี้เป็นของ สำหรับใส่บาตร ( นาม กับ กริยา ) 2. คำบุพบท ที่ไม่ มี ความ สัมพันธ์กับคำอื่น ใช้เป็นการทักทาย มักใช้ในคำ ประพันธ์ เช่น ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ข้าแต่ ท่านทั้งหลาย / * ตำแหน่ง ของ คำบุพบท ✓ • นำ หน้า คำนาม เช่น หนังสือของพ่อหาย | อยู่• นำหน้าสรรพนาม เช่น ฉันชอบ ใกล้เธอ l . • นำหน้า กริยา เช่น เขากินเพื่ออยู่ • นำหน้าประโยค เช่น เขา มาตั้งแต่ ฉัน ตื่นนอน ' • นำหน้า คำวิเศษณ์ เช่น เขา เลวสั้น ดื

i ..1A 00N หHอOยสIัSงBขA์ NG \" า\" Y\" // ไออุ่น คําเชิงพาณิชย์ gห้าม .- อุทาน. ก ง . รู้สึก ผู้คือ คเอาท.ี่เปล่ง ออก มา เ\"พื่อ แสดงอารมณ์ หรือความ ของ พูด ผู้รู้สึกมัก จะ เป็นคำที่ไม่มี ความหมาย แต่ เน้นความ และ อารมณ์ของ พูด คำอุทาน แบ่ง ออก เป็น 2 ชนิด 1. อุทานบอก อาการ คือ คำที่ บอก อารมณ์หรือ ความรู้สึก ต่างๆ ของผู้พูด คำอุทานชนิดนี้มัก อยู่หน้าประโยค และ มี เครื่องหมาย อัศเจรีย์ ( ! ) กำกับ อยู่ ท้าย คำ อุทาน น 2. อุทาน เสริมบท คือ คำที่ นำ มา เสริม เฟื่ให้ เกิด ความ สละสลวยขึ้น ตัวอย่าง ! อ้อ ! มา มักเป็นคำ คู่ที่ มี เสียง สัมผัสคล้องจองกัน เช่น นี่ แน่ะ! เฮ้ย ! หนังสือหนังหา อาบน้ำอาบท่า เอ๊ะ ! โอ๊ย ว๊าย ! . กินข้าว กิน ปลา 2. 2 ไม่นิยมใส่ เครื่องหมาย อัศเจรีย์ ย. ) กำกับ ① หน้าที่ ของ คำ อุทาน รู้สึกที่ ผู้1. ทำหน้า แสดง ความ ของ พูด เช่น ญื เธอคง เหนื่อย มาก นะ 2. ทำหน้าที่ เพิ่ม น้ำหนักของ คำ ซึ่งได้แก่ คำอุทาน เสริมบท เช่น เมื่อร น้ำไป ทำลูกจะ อาบ อาบ เสีย ที่ นะ งาน 3. ทำหน้าที่ประกอบข้อควาในคำ ประพันธ์ เช่น กอ เอกไก่

BY 1A 00N HOISANG Z• No เ // . หอยสังข์ G. ⑦ r ไออุ่น ศํ สั่ง สี๋⑨⑦• • * ห้เาชิมงนพำไาปณิใชชย้์ใน ~ กต๊ารมยตกาายร อ. ° zo he • ลักษณะของ คำสมาส ที่ • เป็นคำ สร้าง จาก คำ บาลี - สันสกฤต -ไม่ใช่ไม้ทัณฑฆาต ( ำ- ตรงท้ายคำ หน้า และไม่ใช้ ะ- คั่นระหว่าง คำ 2 คำ แต่ยัง มี อยู่การออก เสียง อะ เช่น ธุระ + กิจ = ธุรกิจ ยุทธ์+ วิธี = ยุทธวิถี - แปล ความหมาย จาก คำหลังไป คำ หน้า เช่น .g l. ราชการ = ราช + การ แปลว่า ±นของ พระเจ้าแผ่นดิน มา - h.nl ' - พุทธศาสนา = พุทธ + ศาสนา แปลว่า ศาสนาของ -พระพุทธเจ้า เก้า - คำบาลี - สันสกฤต ที่ มี คำว่า \" พระ \" ถือ เป็น คำสมาส เช่น พระสงฆ์ พระบัญชร , \"\" นำหน้า คำอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คำบาลี- ถือ เป็น \" คำประสม\" พระ สันสกฤต*ถ้า - มีการ ลงท้าย ด้วย คำว่า กรรม ศาสตร์ ศิลป์ ศึกษา วิทยา คดี เช่น วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ , ,, , ,, นาฏศิลป์ , สุขศึกษา , พยาธิวิทยา , วรรณคดี สมาส แบ บฺ สันสกฤตคือ การ นำคำ จาก ภาษา บาลี - มารวมกัน โดยมีการนำพยางค์ สน หลัง ของ คำแรกมา เชื่อให้กลมกลืนกับคำหลัง แบ่งออก เป็น 3 ประเภท 1. สระ สนธิ ( เสียง\" อ \" ของ ตัว หลัง จะหายไป คือ การกลมกลืน เสียง ระหว่าง สระท้ายของคำแรก VS สระ ตัว แรก ของคำหลัง เช่น ราชา + อธิปไตย → ราชาธิปไตย * อํ่กวิธีหนึ่ง คือให้ ลบ สระของ คำหน้า และเปลี่ยนสระ คำ หลัง วิธีการ สนธิ ง่าย ๆ . . พุทโธเช่น = \" วาท มา จาก อํ → เอ → อู , โอ อุอะ → อา . พุทธ + ญํวาท , ( อ่านว่า พุทธฝูง → ตัด สระจาก คำ แรก + เช่น ฐุ่สุข ¥ลู+ → สุขาภิบาล ที่ตัด้อ \" จากคำ 2 แล้ว เอา มา , น, พุทโธรวมกัน เป็น\" \" 2. พยัญชนะ สนธิ วาท คือ การ เชื่อมคำให้กลมกลืนกัน โดยมีการ เปลี่ยน / ลบพยัญชนะ ออก • - ส + พยัญชนะใด ๆ เปลี่ยน ส โ→- - เช่น รหัส+ ฐานะ รโหฐาน ° พยัญชนะใด ๆ เปลี่ยน ° ° เช่น นํสฺ + โทษ = นิรโทษ + ส ร- • ส- →- 3. นิคหํต สนธิ ( มํ่ 3 เสียง คือ งาน งง โม ) ,, คือ การ เชื่อม คำให้กลมกลืนกันได้ใช้ นิค หํต แบ่ง ออก เป็น 3 แบบ • นํคหํต สนธิกับพยัญชนะ วรรค , • นํคหํต สนธิกับสระ • นํคหํต สนธิ กับ เศษวรรค ,

\" , i.ฐึ๋ เ \" . / _ ๆ ๏ ไนฒื่อ . . . ท. ง ., / i _ แบ่ง ออกเป็น 5 ระดับ ( แบบ ละเอียด ) BY 1A 00N . ไออุ่น HOISANG ประชุม1. พํธั่ การ * สุภาพ สุด ๆ →ใช้ในการ ( นายก) , คำสดุดี , กล่าว คำปราศรัย หอยสังข์ * ห้ามนำไปใช้ใน 2. ทาง การ * เน้นราชการ เป็นหลัก → ใช้ในทางวิชาการ หนังสือ ราชการ เชิง พาณิชย์ , มี การ แสดง ความคิดเห็น / อารมณ์ / ความ รู้สึก กึ่ง ในสุภาพ3. ทาง การ * มักใช้ปนกับ ภาษา พูด แบบ →ใ การ บรรยาย ระหว่าง อาจารย์นักศึกษา 4. ไม่ เป็นทางการ → มักใช้ในการรายงานข่าว บทความ ตาม หน้าหนังสือพิมพ์ การ เขียน จดหมาย ,, 5. กันเอง * ใช้กับ คน สนิท → ใช้กันใน ครอบครัว , กลุ่ม เพื่อน .หลักแต่ ' ถ้าเจอ คำ เหล่านี้ ต้อง เป็น ภาษาระดับ นี้ แน่นอน ตฺ . ที่• ดู สรรพนาม เช่น กระผม ดิฉัน → ระดับ พิธี การ / ทาง การ , 6รา เธอ → ระดับ กัน เอง , • ถ้ามี ลงท้าย ด้วย คำว่า ซํ เถอะ นะ ค่ะ ครับ →- ระดับไม่ เป็นทาง การ /กันเอง , , ., • ถ้ามี กาใช้คำซ้อน หรือมีการ เปรียบเปรย = ระดับไม่ เป็นทาง การ • ดูคำ วิเศษณ์ ถ้าใช้คำว่า อย่างมาก ๆ → ไม่ เป็นทางการ , สุดเยอะมาก , มาก เป็น อันมาก , จำนวนมาก → ระดับ ทาง การ • ถ้ามี คำที่ใช้ไม้ยมก ( ๆ ) + มี จำนวน + มีคำ ขยาย =ไม่ใช่ ทั้งระดับพิธีการ และทางการ ฐู๋:ประทับ ตรา รับประทาน | :|ฆู๊! |ดื่มสุรา กไึภมาษ่า แ่งบบเทางกปารท็นภาษาา แบทบ งากงกาารร ข้าพเจ้า กระผม ดิฉัน ผม ฉัน หนู . เรา บิดา คุณพ่อ พ่อ ตื ตรา ตีตรา ปั๊ม ตรา , กัน กิน ยัด ดื่ม เหล้า , กิน เหล้า ดวงตราไปรษณียากร แสตมป์ แสตมป์ หนังสือรับรอง ใบรับรอง ใบ รับรอง -

× ศื๋ะ ญื่ค่ะฐื๋¢ . ลักษณะของ คำราชาศัพท์ - เป็นคำยืม ภาษา อื่นมใช้ สันสกฤต( ภาษา บาลี - ภาษา เขมร ) , - เติม คำว่า พระ หรือ พระราช หลักการใช้ BY . 1A 00N Hoisano หอยสังข์ ไออุ่น * ห้ามนำไปใช้ใน * เชิง พาณิชย์ king only• พระบรม ราช ① พระบรม ใช้กับ • พระราช ① พระมหา ใช้กับ king + สมเด็จ พระบรม • พระ ① คำนาม ที่ เป็น สิ่งของ หรือ บุคคล * ถ้าเป็นหม่อมเจ้าไม่ ต้องเติม \"พระ \" เช่น พระหัตถ์ , พระแท่นบรื๋รึทม , พระ ฉื๊ พระ น้ฬํ๊ก , • คำประสม ที่ เป็นคำราชาศัพท์อยู่แล้ว ไม่ ต้องส่ \" พระ \" นำหน้า เช่น ฉลองพระเนตร เครื่องพระ สำอาง tip เล็ก ๆ น้อย ๆ , • ราช ① คำ สามัญ เช่น ราชสมบัติ ราชรถ , • ต้น / หลวง จะ ลงท้าย คน / สัตว์ / สิ่งของ เช่น ช้างต้น เรือหลวง ทูลเกล้า VS น้อมเกล้า , * คำ สรรพนาม ราชาศัพท์ * t %ใช้ ของ ใช้กับของ เล็ก ๆ • สรรพนามบุรุษที่ า ( แทน ตัว เอง ) ใหญ่ ๆ ① กับ พระราชา ① ครอบครัว king ใช้ ข้าพระพุทธเจ้า ② กับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ ใช้ เกล้ากระหม่อม ③ กับ หม่อมเจ้า ใช้ กระหม่อม / หม่อมฉัน • สรรพนาม บุรุษที่ 2 ที่( แทนพระราชา หรือ คน เรา พูด ด้วย ) ① แทน king กับ queen ใช้ ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ② แทน ลูก ๆ ของ king ( สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร , . ... ) ใช้ ใต้ฝ่าละอองพระบาท ③ แทนพระราชโอรส / ธํคง ใช้ ใต้ฝ่าพระบาท ④ แทนพระราชวงศ์ อื่น ๆ ใช้ ฝ่า พระบาท คำ ที่ ใช้ \" \" เท่านั้น • คำ เรียก • สําหรับ พระ พระ แทน ตัว เอง ว่า อาตมา ภาพ อาพาธ = ป่วย เรียก king ว่า มหาบพิตร เรียกคนทั่วไป ว่า โยม มรณภาพ . ตาย . ประเคน = ถวาย อาหาร อาสนะ = ที่นั่ง

1 \\ ไปไงมาไง- \"\" \" ° 0N Hasano ความหมอ ไป! ①งก หอยสังข์ . ไออุ่น F * ห้ามนำไปใช้ใน ลุเป็นหน่วย เล็กที่ ใน ภาษา และ มี ความ หมาย คำ จะ ต้อง มี ความหมาย แต่ อาจ มี ความหมาย มา จากวัฒนธรรม ของ ภาษา เชิง พาณิชย์ งlnnnไทงงไไความหมายโดยตร เป็นความหมายที่ใช้พูดจากันตรง ตาม ความ หมาย g,เ เช่น กา อาจ หมายถึง กาน้ำร้อน ( ภาชนะใส่น้ำ ) ' กา หมายถึง นกชนิด หนึ่ง ตัว สืดำ ปนรา้สาทาทองความหมายโดย เป็น ความหมาย แฝง ความหมาย เปรียบเทียบ เช่น กา ถูก นำไปใช้ เปรียบเทียบ หมายถึง คนต่ำ ศักดิ์ ทlnneไไไไงอความหมายในบรับ เมื่อรวมกับ คำอื่น จะมี ความหมายเพิ่มเติม กว้างขึ้นหรือแคบ ลงได้ เช่น คำว่า ดื : เด็กดี หมาย ถึง ว่านอนสอนง่าย เสียง ดื \" ไพเราะ สุขภาพ ดี \" ไม่มีโรค \" * การ เข้าใจ ความหมาย อาจ ต้อง อยู่ในบริบทของ ข้อความ และวัฒนธรรม ของผู้พูด คำที่ มี, ความ หมาย เป็นความหมาย ที่ ต่างกัน และไม่สามารถใช้แทนกันได้ • - ตรงกันข้าม เช่น. ต่ำ - สูง . รวย - จน . ดำขาว - หน้า - หลัง \" ชนะ - แพ้ ยาก - ง่าย \\\\ t คำ จำ กลุ่ม กลุ่มคำจำ เป็นคำที่มี ความหมายครอบคลุมคำอื่น = คำ ลูก กลุ่ม = เช่น เครื่องครัว ตะหลิว ทัพพื ครอบคลุม uwuw , _ ช้อน ตะเกียบ หม้อ q- \"\" uw,umww, ww คำ จำ กลุ่ม เหมือน คล้ายกัน?มา เรียกว่าคำไว สุ , tยnาeก พฺฐื่.สึ คำ ลูกกลุ่ม . ตาย เหมือน , คล้ายกัน ว่า- ใช้ แตกต่าง เนื่อง จากระดับ ภาษา เช่น กัน รับประทาน ทาน ยัด นา ร , ,, - ใช้ในการแต่ง คำประพันธ์ ไม่ให้ เป็นคำ เดิมซ้ำ ๆ กัน เช่น คำ เรียก ผู้หญิง \\- สายสมร คำพ้องความหมายอื่น ๆ ตฺ สุริยา ๖ พระอาทิตย์ ริมนา ตะวัน ธารา นาน บุปผา๖ ดอกไม้ ว้ บุษบา น้ำ € ทินกร ดู oid ดู สมุทร ภาสกร บุหงา G วาร ผกา

พาณิชย์B*Y .1หA้ไ0าอ0อมุN่นนHหไำอOยปIสSังใAข์NชG้ใน อo เชิง ฐฌุ่@ • . ⑧⑥⑧ ฒื@คอํ อ # ฒั๋⑦ ⑧ ฮํ ⑥ท° ิศ@ f . \" ลัก๋ษณ่ะข๋ องภ่ไทย ๆ+ ° .อ สมบูรณ์. ภาษาไทย เป็น คำโดด → มี ความหมาย รูปไม่ ผัน ตาม กาลเวลา , i คำไทย ส่วนหถ่อ เป็นคำที่ มี พยางค์ เดียว + มี ตัว สะกด ตรง ตาม มาตรา ( ก , คง ง , ยุว , นา . คำไทย จะ มี ลักษณะ นาม หลากหลาย + มีการใช้ คำให้ เหมาะ กับฐานะ บุคคล / สถานที่ วรรณยุกต์' มื วรรคตอน + มื จังหวะ + มี + เคร่ง เรื่อง ตำแหน่ง การ เรียงคำในประโยค • คำ เป็น - คำ ตาย • ๒คำ เป็น → คำที่มี สระ เสียงยาในแม่ ก กา . ำไ ใ→ สระ - 6. า พยัญชนะ ต้น ควบ ( ตัว ควบกล้ำ - , ที่ภาษาไทยไม่ มี ฅฺ , แม่ น ม ย อ ๑→ . . . . /ฟร / /พล / \"\" เบล / ไปเช่น เคย , กาง เบา , ยาว / ดร / , , เทป ⑦คำตาย → คำที่มี สระเสียงสั้นในแม่ ก กา เช่น ฟรี ฟลูออไรด์ ดรัมเมเยอร์ , , . แม่ บ→ ด. บรอนซ์ บลูเบอร์รี่ เทรน ก. , , เช่น นก , กบ จะ ขัด , , คำ ภาษา ต่างประเทศ 1. ภาษา บาลี ะ ใช้หลัก ตัว นำ ตัว ตาม ฐื๋ มักจะมีตัวพยัญชนะ ซ้ำกัน เช่น วิญญาณ , ปัญญา คำคฺรุ ญหุ มักใช้ ฟั เช่น กีฬา กาฬ (พยัญชนะที่เจอบ่อย : ฆ, ฌุฏุฐา - i ถ้ณื , ห่ คคำำคลรหุุะอ.ม&ไํ่มใ่ตัมชวี้ใตสัวนะสกกาะดรกแด+ต่ส+งรสฉะัรเนสะีทเยส์ีงยยงาสวั้น → มีคำว่า ปฏิ เช่น ปฏิบัติ , ปฏิวัติ , ปฏิรูป , ปฏิสนธิ 2. ภาษา สันสกฤต วั• จนภาษา . อวัจน ภาษา • *ไม่ใช่คำพูด มี ศษ และ ฑ เช่น ศิลา บุษบา , ครุฑ , กรีฑา , ลำ สัญลักษณำะ ป้าย คำพูด 1 ตัวหนังสือ มีพยัญชนะ ต้นควบ หรือ ใช้ เป็นตัว สะกด ชญ การ ทอ ตร เช่น ปรัชญา จักร จันทร์ ,, ไอศูรย์มักใช้ สระ ไ - , ฤเ - า , , ฤา , ฦา เช่น เสาร์ , พฤกษา , 3. ภาษา เขมร ใช้ รร เช่น ครรภ์ บรรพต , ธรรม , กรรม ง บรรพบุรุษ , เสด็จ , อัญเชิญมัก จะ สะกดด้วย ญจ ร ลง ส เช่น , ตรัส , ตระการ , , , ไม่นิยมใส่รูป วรรณยุกต์ เพราะ ภาษา เขมรไม่มี เช่น ชำนาญสามารถเติม หน่วย คำ ตรง กลางได้ เกิด - กำเนิด ชนญ - , ถ้าเป็นคำ ยืม จะ มี การ แผลง เช่น ข แผลง เป็น กระ เช่น ขจาย → กระจาย สมเด็จ บรรทม คำ รํ ผ แผลง เป็น ประ เช่น ผ กาย → ประกาย ,, มักเจอในคำราชาศัพท์ ฅั

การ สร้าง คำ คำ → เป็นคำ ภาษาอะไรก็ได้ ที่ยืมมาในกาบไทย , มี คำ เกิดขึ้นใหม่ • คำมูล om ดำรงอยู่ และ สูญหายไป เมื่อไม่มี คนนำ มาใช้ เป็นคำที่ มี ความ หมา ใน ตัว เอง ถ้ามี หลาย พยางค์ แยกพยางค์มา แล้ว จะไม่มี ความหมาย เช่น มะละกอ , ขยัน ตะแกรง , กระ → ชื่อ ของ เต่า ชนิดหนึ่ง , กระถาง เถา ๑ → ทำให้ เตือน หรือ ถ้ามีความหมายก็จะไม่ เกี่ยวข้อง กับคำ เช่น ภาชนะ ปากกว้าง ใช้สำหรับ ปลูกต้นไม้หรือส่ง • คำประสม • เป็นการนำ คำมูล ตั้งแต่ 2 คำ ขึ้นไป ^1 มารวมกัน โครงสร้าง * เช่น กันลง น้ำแข็ง ต้นหอม ถั่วเขียว ต้มยำ อ่อนหวาน , , , , คำหลัก + คำ เติม = คำประสม ๏ คำซ้อน ยา การนำคำมูล ตั้งแต่ ว คำขึ้นไปก็มาขยาย ความกัน แบ่ง ออก เป็น 2 ประเภท 1. ซ้อน เพื่อ เสียง * บาง คำ อาจไม่ มีความหมาย หรือ เป็นเสียง ธรรมชาติ เท่านั้น รุ่งริ่งเช่น , เปิดเปิง อัดอั้น เรื่อยเปื่อย บอบบาง ขโมยขโจร , , ,, 2. ซ้อน เพื่อความหมาย เช่น นัยน์ตา , ตัดสิน , เบื่อหน่าย • ความหมาย เหมือนกัน เช่น ข้าวปลา , หน้า ตา • ความหมายใกล้เคียงกัน สูงต่ำ• ความหมาย ตรงข้ามกัน เช่น มากน้อย หนักเบา ,, * คำซ้อน แบบ อื่น ๆ → ซ้ำ คำหน้า เช่น นํ้าหูน้ำตา ๆ กินข้าว กินปลา • คำซํ้ฃ การ นำคำมูลคำ เดียวกันมา กล่าวซ้ำ เพื่อ เน้น น้ำหนักของคำ ทํให้คำ ดูซอฟต์ ลง รวมทั้งการบอก ลักษณะบอกจำนวน ( มักอยูใ่ นรูปของไม้ยมก) เช่น เยอะ ๆ , บน ๆ , หนัก ๆ , ขาว ๆ & คำทีไ่ ม่ใช่ คำซ้ำ คือ คำมูลที่ เป็น ภาษาอื่น หรือ เป็นชื่อ เฉพาะ เช่น นานา ( ภาษาบาลี ) BY 1A 00N HOISANG . หอยสังข์ ไออุ่น ห้ามนำไปใช้ใน * เชิงพาณิชย์

- i. ฐึแง t t l\" อฺ- ะ • . เ . .. ฏ ii t * เป็นประโยคได้ อย่าง น้อย ต้อง มี ประธาน ① กริยา ประโยค ความ เดียว 5① V ① 0 สำคัญ ฮุน ทั้งGมีใจความ เดียว กริยา ตัว เดียว เช่น จ่ กินโลก ใบ .BY . 1Aไอ0อ0ุ่นN หอHยOสัIงSข์AN * ห้ามนำไปใช้ใน สั้น' A อย่า สังเกต จาก ความ ยาว เพราะอาจมา จาก ส่วนขยาย เชิง พาณิชย์ ประโยค ความ รวม ' จะ มีประโยคความ เดียว 2 ประโยคนำ มา เชื่อมกัน ด้วย คำสันธาน . สังเกต เนื้อความ และ คำ เชื่อม สมภาค ช่วย จำแนกชนิดของประโยครวมได้ ก็• คล้อยตามกัน ใช้คำ เชื่อม และ , แล้ว แล้ว พอ จึง , ... , . .. • ขัดแย้งกัน ใช้คำ เชื่อม แต่ แต่ ทว่า กว่า ก็ , , ... oma เลือก อย่าใดอย่างหนึ่ง ใช้คำ เชื่อม หรือ หรือไม่ก็ มิฉะนั้น ก็ , , . . .. • เป็นเหตุเป็นผล ใช้คำ เชื่อม จึง ฉะนั้น , ดังนั้น เพราะ ฉะนั้น , , ปรากฏ* บางครั้งก็ไม่ คำเชื่อม ต้อง สังเกตกริยาหลัก และ สามารถ แยก เป็นประโยค สามัญได้ 2 ประโยค ประโยค ความ ซ้อน ส• ที่ ซึ่ง อัน ว่า ผู้ ,, , , จะมีประโยค หลัก ① คำ เชื่อม ① ประโยคย่อย . ทำ หน้าที่ แบบ คำนาม ประโยค ย่อยทำหน้าที่ เป็นกรรม พ่อเล่า ว่า ท่านไป ทำ งาน ต่าง ประเทศได้ประสบการณ์มากมาย • ทำ หน้าที่ ขยาย คำนามในประโยคหลัก ที่จีฮุนเล่น 0เกม ซื้อ มาจาก เพื่อนชื่อ อูจํน nnnrrrnnnnr หาย กแารนววิเทคารงาะห์ ' . ทำหน้าที่ ขยาย กริยา หรือ วิเศษณ์ w u mw ๐จืฮุนน่ารัก จน ควานลิน รัก และ เกรงใจ สังเกต @กริยา หลัก ° ูย n n n m n m n * ถ้ามีกริยาหลัก > หนึ่ง ตัว ต้อง ดูโครงสร้าง ต่อไป •w * แยกประโยคออก จากกันโดย หา คำ เชื่อม • ดูเนื้อความของประโยคย่อย ๆ

i. f + + BY . 1A 00N HOISANG ปิริริมช่ตบู① ภิๆ ษู . ไออุ่น หอยสังข์ \\ * ห้ามนำไปใช้ใน เชิง พาณิชย์ เ +. +. ① ภาษา คือ อะไร ? เสียงพูด การ สื่อสารของนกแก้ว 0 . o > k เป็นการ เลียนแบบ เสี่ยง เท่านั้น > ส *ไม่นับเป็นภาษา ! เครื่องมือที่ใช้ สื่อความหมาย การสื่อสาร ของสัตว์ เป็นไป มนุษย์⑤ หมาย ถึง \" ภาษาพูดของ \" เท่า นั้น ตาม สัญชาตญาณ เช่น ร้อง เพราะหิว ไม่สามารถสื่อสาร เรื่อง ' ในอดีต หรืออนาคตได้ . :+ io ต้องมีการั๋ เปลี่ยนแปลง \" nnhnnnn . × ระอา ๓ * ภาษา เปลี่ยนแปลงไป ตาม ปัจจัยทาง สังคม ของภ1.ษูๅ. i . . . . . × i. . . i. + ① เปลี่ยนแปลงทาง เสียง * ยุคสมัยของภาษาทำให้ เสียง ต่างกัน รไะ จะ ระบาย เข้า ะ ข้าว สุโขทัย เสียงเช่น สมัย / ฃ และ ฅ ออก เสียงต่าง จาก ข และ ค หรือบางคำ เปลี่ยนแปลง เสียง สระ เป็น สั้น - ยาว ② เปลี่ยนแปลง ความหมายของคำ ขึ้นเปลี่ยนOm ความหมาย แคบ เข้า : เดิม มี ความหมาย กว้าง ๆ แต่ เป็นเจาะจง เฉพาะ มาก .net เช่น กู เดิมใช้ เป็นสรรพนาม บุรุษที่ า แทนตัว ผู้พูดได้ทุกระดับ ต่อมา กลาย เป็น คำไม่สุภาพ • ความหมาย กว้าง ออก อ เดิมมี ความหมาย เดียว ต่อมานำมาใช้ แล้ว มี ความหมาย กว้าง กว่า เดิม .net หมายถึง หัวหน้า , ผู้ เป็นหมอ เช่น แม่ หมาย ถึง ผู้ให้ กำเนิด ต่อมานำคำว่า แม่ มาสร้าง เป็นคำ เช่น แม่ งาน แม่ทัพ • ความหมาย ความหมาย ต่างไป จาก เดิม เช่น แกล้ง สมัยสุโขทัย แปลว่า ตั้งใจ ทำให้ดีขึ้น ปัจจุบันแปลว่า จงทำให้ไม่พอใจ มี การ เลิกใช้คำ - สร้าง คำใหม่ สาเหตุที่t เรา มโืดสิ่ยงในหำเคมมื่่ำอๆเโดลิเมกกิดๆก้ขาึ้ทวนีห่มนี้ตอ้าอยูง่มมสีาร้เราทงวคมคำโกใันนหโใมลห่ยีม่ มี ภาษา . t เช่น สร้าง จากการ เลียน เสียง . เกิดการ เปลี่ยนแปลง ชักโครก , กริ่ง งอ ดำ + ง โป i ① การพูดจา กันในชีวิต ประจำวัน 8 ออก เสียงเร็ว ๆ ทำให้ เสียง เปลี่ยน เช่น อย่าง นี้ อย่างนั้น → อย่างงื้ อย่าง งั้น ② อิทธิพล จาก ภาษาอื่น อ ยํ๋มคำ เสียง สำนวน * เดิมภาษาไทยไม่มี หน่วย เสียง ควบกล้ำ บาง เสียง เช่น บร . เบรก , บล . บลูเบอร์รี่ ③ เปลี่ยนแปลง ตาม สิ่ง แวดล้อม ะ ยุคสมัย เปลี่ยนไป คำก็จะ สูญหายไป ด้วย เช่น หม้อหุงข้าว มาจาก ดงข้าว → วิธีการหุงข้าวในสมัยก่อน

คำทับศัพท์ และศัพท์บัญญัติ BY 1A 00N HOISANG . ไออุ่น หอยสังข์ * ห้ามนำไปใช้ใน เชิงพาณิชย์ คำทับศัพท์ อ การ เขียนคำในภาษา หนึ่ง มา เป็นภาษาไทย ด้วย ตัว อักษรของภาษาไทย กาใช้คำทับศัพท์คงใช้ในกรณีที่ไม่มี คำไทย คำที่บัญญัติ ขึ้นหในภาษาไทย โดย ราชบัณฑิตยสถาน เป็นผู้รับรอง ศัพท์บัญญัติเพื่อ รองรับศัพท์ใหม่ ๆ ที่ เกิดขึ้น ตาม เทคโนโลยี และความก้าวหน้า การ ทับศัพท์ ในกรณีที่ไม่ สามารถหาคำที่ เหมาะสมได้ ทั้ง คำ ภาษาไทย และ คำ ภาษาบาลี - สันสกฤต hp ให้ใช้วิธีทับศัพท์ เช่น คำทับศัพท์ ภาษา อังกฤษ รถจักรยานยนต์ แทน มอเตอร์ไซค์ เบียร์ ะ beer สวัสดี แทน ฮัลโหล คอมพิวเตอร์ อ Computer ตกลง แทน โอเค เค้ก อ Cake โทรทัศน์ แทน ที่วี ช็อกโกแลต 8 Chocolate การ บัญญัติ ศัพท์ แ การคิด คำ ศัพท์ไทให้ ตรง กับ ความหมาย เดิม เช่น leg ศัพท์บัญญัติ ภาษาอังกฤษ นํ้าค้าง แข็ง : Frost ไฟฟ้า ะ dectricity ปื แสง อ Lightyear 1. 2 ถ้าหาคำไทยได้้ไม่ 6หมายผสม ไห' \" สร้างคำใหม่โคใช้คำบาลี - สันสกฤต ศัพท์บัญญัติ ภาษาอังกฤษ วัฒนธรรม 8 Culture กิจกรรม 8 Activity มหาวิทยาลัย อ University SARUP ! KNOWL edge ศัพท์บัญญัติ① : การคิด คำศัพท์โคใช้คำ ภาษาไทย ภาษาบาลี - สันสกฤต แทนคำศัพท์ ② หลักในการบัญญัติ ศัพท์ : ให้ ตรงกับความหมาย เดิม ถ้าไม่ สามารถ หาคำ ที่ เหมาะสมได้ ให้ใช้คำทับศัพท์ ③ คำทับศัพท์ : เกิดจาก คำ ภาษา ต่างประเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook